ตอนที่.6
หวัดดี.........ไอ้คุณชาย
วันนี้ฝึกงานเป็นยังงัยบ้าง โปรเจ็คใหม่ที่ว่าจะเริ่มทำได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาหรือยัง พรุ่งนี้เราเองก้อจะเริ่มไปทำงานกับพ่อนายเป็นวันแรกหลังจากที่ปล่อยเวลาผ่านไปเกือบๆเดือน
ได้ไปเที่ยวหลายที่เลยล่ะ เออนี่...ไอ้โอ๊ตเองก้อได้งานแล้วนะ ส่วนไอ้ป๋อมมันยังคงเป็นลูกที่ดีเกาะพ่อเกาะแม่กินอยู่ เห็นมันว่าอยากจะเรียนต่อเหมือนกัน
ส่วนที่เหลือก้อเรียนบ้าง เที่ยวบ้างตามสันดานของพวกมันไปเรื่อย อยู่ทางโน้นเป็นงัยสบายดีหรือป่าว ใจดำจังไม่ยอมตอบเมมล์เพื่อนเลยนะโว้ย
สาวๆที่นั่นเป็นงัยบ้างสวยถูกใจหรือป่าว หรือว่ามั่วแต่เหล่หนุ่มๆอยู่ (555 เราล้อเล่นน๊า อย่าคิดมาก) ยังงัยก้อดูแลตัวเองดีๆนะ เพื่อนๆฝากความคิดถึงมากันหลายคนโดยเฉพาะคนเขียน ง่วงแหละไปนอนดีกว่าแล้วพรุ่งนี้เราจะมาคุยใหม่นะ
รีบกลับมาไวๆนะมีคนรอการกลับมาของนายอยู่
คิดถึงเสมอ.........................รอน..
มันคงเป็นกิจวัตรประจำตัวไปซะแล้วที่ผมต้องเมลล์ไปหาวินมันก่อนนอนทุกๆคืน นี่ก้อเกือบๆเดือนแล้วที่ผมได้รู้จากลุงกิติพ่อของวินว่าวินได้ไปออสเตเลียแล้ว
ทุกครั้งที่ผมเปิดเมลล์ ก้อจะลุ้นทุกครั้งว่ามีเมลล์จากวินตอบกลับมามั๊ย แต่ตลอดระยะเวลาที่ผมเพียรส่งไปหามันทุกวัน
ผมไม่เคยได้รับเมลล์ตอบกลับมาเลยสักฉบับเดียว หลังจากที่วินได้จากไปแล้วผมเองก้อใช้เวลาที่ผ่านมาไปเที่ยวในหลายๆที่
พี่นัทเองตอนแรกก้อจะไม่ยอมกลับสิงค์โปร์ เพราะมัวแต่เป็นห่วงผม ต้องฝืนทำตัวเข้มแข็งอยู่หลายวันกว่าพี่นัทจะยอมเชื่อและกลับไปที่สิงค์โปร์
และทุกวันนี้ผมเองก้อยังไม่รู้ว่าทำไมวินมันถึงยอมที่จะปล่อยมือจากผมไปง่ายๆแบบนี้ทั้งๆที่มันเป็นคนที่บอกผมเองว่าอย่าไปฟังพ่อของมัน
แต่ผมเองก้อคงทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ดึคงได้แต่รอ.......รอว่าเมื่อไหร่ที่วินมันจะกลับมาแล้วมาให้คำตอบว่า.........ทำไม
*
*
*
*
วันนี้ผมได้มาทำงานที่บริษัทของลุงกิติวันแรก พี่ๆที่นี่ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดีคงเพราะเกรงใจลุงกิติด้วยมั้งเพราะแกเล่นพาผมเดินดูแต่ล่ะแผนกด้วยตัวเอง
“ลุงขอบใจเรามากนะที่ยอมมาช่วยงานของลุง” ลุงกิติเอ่ยขอบคุณผมหลังจากที่เราเดินดูแผนกต่างๆในบริษัทจนเกือบๆบ่ายลุงแกเลยพาผมออกมากินข้าวกลางวันกัน
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก้อเต็มใจ จะได้ถือโอกาสหาประสบการ์ณไปในตัว”
“เราโกรธลุงเรื่องของวินมันหรือป่าวลูก”ผมชะงักนิดหน่อยที่ลุงกิติเอ่ยถึงลูกชายของแก
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”นั่นคงเป็นคำตอบที่ผมคิดว่าคงจะดีที่สุดในตอนนั้น หลังจากที่ลุงแกฝากฝังผมกับผู้จัดการและพี่ๆที่บริษัทแล้วแกก้อจะไปทำธุระที่ต่างประเทศประมาณ2อาทิตย์
งานที่ผมได้รับมอบหมายนั้นแทบจะไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่นักเรียกว่ามานั่งๆนอนๆเสียมากกว่า วันเวลาแต่ล่ะวันผ่านไปแบบเหงาๆ ทุกๆคืนผมยังคงส่งเมลล์ไปหาวินอย่างสม่ำเสมอ
แต่ก้อยังไม่ได้รับการตอบกลับมาเหมือนเดิม ลุงกับแม่ก้อไม่ค่อยจะอยู่บ้านเท่าไหร่นัก จนวันนึงลุงกับแม่ก้อเรียกผมมาคุยด้วย
“รอนพักนี้เป็นยังงัยบ้างลูก มีความสุขดีมั๊ย มีอะไรคุยกับแม่ได้นะลูก”
“ก้อดีครับแม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
“แล้วเรื่องงานล่ะเป็นงัยบ้างไปทำมาได้กี่วันกันแล้ว นี่ไม่เห็นเล่าให้แม่ฟังบ้างเลย”
“ก้อดีครับ พี่ๆที่ทำงานก้อเป็นกันเองทุกคน งานก้อไม่มีอะไรมากเพราะผมเพิ่งไปได้แค่ไม่กี่วันเอง ดูแล้วก้อม่น่าจะมีปัญหาอะไร แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ว่าแต่วันนี้ทำมั๊ยให้ผมรีบกลับล่ะครับมีอะไรหรือป่าว”
“ทำไม แม่ก้ออยากกินข้าวเย็นกับลูกชายบ้างมันแปลกเหรองัยเรา” ความรักความห่วงใยที่แม่มีให้ยังคงยิ่งใหญ่เสมอ
“รอน แม่กับลุงคุยกันแล้ว ลุงเค้าอยากจะย้ายไปอยู่ที่สิงค์โปร์นะลูกธุรกิจที่โน้นดูท่าว่าจะไปได้ดีกว่าที่นี่ ลุงเค้าจะขายหุ้นที่นี่ให้กับเพื่อนๆที่ถือหุ้นอยู่แล้วย้ายไปลงที่โน้นแบบเต็มตัว
อีกอย่างแม่กับลุงก้อแก่แล้วต้องเทียวบินไปๆมาๆไม่ไหวเดี๋ยวนี้มันเหนื่อยไม่เหมือนแต่ก่อน ลูกก้อมีแค่สองคน คิดว่าถึงแม่กับลุงต้องจากไปก้อไม่ทำให้เราลำบากแน่นอน เราอยากจะตามแม่ไปอยู่ที่โน้นมั๊ย พี่นัทเค้าก้อดูแลงานอยู่ทางโน้นอยู่แล้ว”
ผมเองตกใจที่ได้ยินแบบนั้น ตอนนี้ผมยังไม่อยากจากเมืองไทยไปไหน คงเพราะใจของผมยังคงรอใครบางคนอยู่ที่นี่
“ผมเองก้อแล้วแต่แม่กับลุงแล้วกันนะครับ แต่ผมยังอยากจะอยู่ที่นี่ก่อน แม่จะว่าอะไรหรือป่าวครับ”
“ไม่หรอกแม่เองก้อคิดเหมือนกันว่าเราคงจะขออยู่ที่นี่”
“แล้วแม่จะย้ายไปเมื่อไหร่ครับ”
“เดือนหน้าจ๊ะ หลังจากทำอะไรที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน ส่วนบ้านที่นี่ลุงเค้าโอนเป็นชื่อของเรากับนัทแล้วนะจ๊ะ รวมทั้งบ้านที่หัวหินด้วย แต่ที่นั้นเป็นชื่อของเราคนเดียว เดี๋ยวยังงัยเราก้อไปที่สำนักงานที่ดินกับลุงเค้าหน่อยนะ ต้องไปทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย”
“แต่แม่ครับ ผมไม่กล้ารับไว้เลยครับ”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ลุงนนท์ก้อเดินเข้ามาซะก่อน
“อย่าปฎิเสธเลยลูก รอนก้อเหมือนลูกลุงอีกคน ตั่งแต่ที่เรากับแม่เข้ามาในชีวิตลุงมันก้อทำให้ลุงทีความสุขและมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น ว่าแต่เราเถอะเห็นว่าลุงเป็นพ่ออีกคนของเราหรือเปล่า” ลุงเดินมานั่งข้างๆผม
“เห็นสิครับ ผมเห็นว่าลุงคือพ่ออีกคนของผมเสมอ ลุงให้โอกาสหลายอย่างกับผมและแม่ ผมเองก้อรักและเคารพลุงมากครับ”
“งั้นต่อไปก้อเรียกลุงล่าพ่อเลยแล้วกันนะ”
“ครับ พ่อ” ผมก้มลงไปกราบที่ตักของลุงนนท์
“งั้นก้อรับของจากพ่อได้นะลูก พ่อให้ลูกไม่เห็นจะเป็นไรเลยยังงัยสักวันมันก้อจะเป็นของเราทั้งสองอยู่ดี”
ลุงนนท์หยิบเอกสารหลายๆอย่างมาให้ผมอ่าน รวมถึงกรรมสิทธิของบ้านและที่ดินด้วย ในนั้นมีซองสีขาวที่ผมเปิดดูก้อไม่กล้าที่จะรับไว้ ผมมองหน้าของลุงแต่ลุงนนท์ก้อทำหน้าหน้าให้รับมันเอาไว้
ข้างในเป็นเช็คเงินสดที่ ระบุชื่อของผม แต่จำนวนเงินมันมากเหลือเกิน แค่เงินจำนวนนี้ผมก้อแทบจะไม่ต้องทำงานอะไรก้อมีกินมีใช้ไม่ลำบากอะไร ผมมองหน้าแม่ทีลุงนนท์ที
“เก็บเอาไว้ใช้นะลูก ขาดเหลืออะไรก้อบอก แล้วถ้าวันไหนอยากตามไปอยู่ด้วยกันที่โน้นก้อบอกพ่อกับแม่นะลูก”
วันนี้ผมรู้สึกว่าผมเองนั้นโชคดีเหลือเกินที่มีครอบครัวที่รักและอบอุ่นแบบนี้
*
*
*
*
“ รอน วันนี้เดี๋ยวพวกพี่จะพากันไปเลี้ยงต้อนรับเรา กันนะยังงัยก้ออย่าเพิ่งรีบกลับนะ” พี่วัตเดินมาบอกกับผม เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด
หลังจากที่ผมเข้ามาทำงานที่นี่ได้ครบอาทิตย์ สถานที่ที่พี่ๆเค้าพาผมไปมันเป็นผับแถวๆสาธร คงเพราะมันเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์
ผู้คนเลยเบียดเสียดกันมาก เสียงเพลงดังแสบแก้วหูกับแสงวูบวาบทำเอาผมชักๆจะมึนเหมือนกัน
ทั้งๆที่บรรยากาศรอบๆตัวสนุกสนานอึกทึกแบบนี้แต่ผมกลับคิดถึงสถานที่ที่เงียบสงบกับใครบางคนที่จากผมไปแสนไกล
ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะมากขึ้น มีหลายคนที่ดูเหมือนจงใจเต้นมากระทบผมบ้าง ที่กล้าหน่อยก้อเข้ามาขอเบอร์เลยก้อมี ไม่นึกว่าสาวๆที่กรุงเทพจะกล้ากันขนาดนี้
พี่ๆที่ทำงานก้อพยายามชวนผมคุย แต่มันก้อไม่ทำให้ผมนึกสนุกขึ้นมาเท่าไหร่จนดึกเราเลยต่างแยกย้ายกันกลับ ตอนนี้ใกล้จะตีสองแล้ว
ผมยืนอยู่ข้างหน้าผับ ใจผมนึกถึงวันที่ผมกับวินเราฉลองจบกับเพื่อนๆที่เชียงใหม่ คืนที่ผมยังจดจำสัมผัสของวินได้เป็นอย่างดี
และมันก้อทำให้ผมต้องเสียน้ำตาให้กับความหลังครั้งเก่าที่แม้ว่าเวลาที่เรานึกถึงมันอาจจะทำให้มีน้ำตา แต่ที่ริมฝีปากของเราจะยังคงมีรอยยิ้มเสมอ
“อกหักมาเหรอพี่” เสียงของใครบางคนทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะหันไปเจอ เด็กหนุ่มหน้ากวนๆ แต่ก้อจัดว่าเป็นคนที่น่าตาดีมากๆทีเดียว
ผมจำได้ว่าเป็นเด็กเสริฟ์ของผับที่ผมเพิ่งจะเดินออกมา เพราะครั้งที่เค้ามารินเครื่องดื่มให้แล้วผมสั่งแต่แป๊ปซี่ มันทำให้เค้ามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ