กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์  (อ่าน 100795 ครั้ง)

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
วันเวลาของความสุขผ่านไป สิ่งที่ตามมาคือความปวดใจ ที่ได้ไกล้คนที่เรารัก แต่...ก็เหมือนอยู่แสนใกล :o12:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
มาแล้วค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  ตอบจบ

พาแม่ไปเที่ยวมา :กอด1:

ตอนที่.20
ผมนั่งมองวินที่ตอนนี้หลับอยู่บนโชฟาที่หน้าทีวี ก่อนจะออกมายืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยตรงระเบียงซึ่งมันกลายเป็นมุมโปรดของผมไปเสียแล้ว

ตอนนี้ใกล้จะเช้าแล้ว ความเย็นของอากาศรอบๆกายตอนฟ้าใกล้ๆสว่างทำให้ผมต้องยืนกอดอกตัวเอง

กลิ่นของน้ำค้างยามเช้าทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่ง และสดชื่นขึ้นมาบ้าง แต่ก้อยังอดคิดไม่ได้อยู่ดีว่า วันนี้จะเกิดอะไรบ้าง คงต้องกลับไปเหมือนเดิมแล้ว

จะมีสักกี่คนที่ต้องเจ็บปวดกับการปล่อยใจไปตามความต้องการของตัวเองในช่วงเวลาไม่นานที่ผ่านมานี้ ยิ่งคิดก้อยิ่งวุ่นวายใจ

ผมหลับตาลงช้าๆสูดอากาศรอบๆตัว หวังเพียงให้ความหนาวเย็นรอบๆตัวทำให้ใจของผมหายร้อนรนได้

“คิดอะไรอยู่....หือม์” วินเดินมายืนที่ข้างหลังของผม เราสองคนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนที่ผมเอามาให้วินเมื่อคืน

ริมฝีปากของวินกดลงมาเบาๆที่ลำคอของผม เพียงเท่านี้ความอบอุ่นก้อแผ่ซ่านไปทั้งตัว

“ยังเจ็บอยู่มั๊ย” ผมส่ายหัวแทนคำตอบ

“วิน..รู้มั๊ยว่าวันนี้ทุกอย่างจะต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิม”

“ไม่รู้สิ สำหรับเรา วันนี้มันก้อยังคงเหมือนเดิมนะสำหรับเรา”

“เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ” ผมถามวิน

“แล้วนายล่ะ นายไม่เสียใจเหรอ แล้วรู้ใจตัวเองหรือยัง” วินถามผมแล้วกอดผมแน่นขึ้น มันอาจดูเหมือนจะเห็นแก่ตัว แต่ผมขอแค่ครั้งเดียว ขอแค่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น แค่เท่านั้น ไม่ได้คิดจะเหนี่ยวรั้ง

“ เสียใจสิ เราคงเจ็บปวดมากถ้า....ถ้า......” ในที่สุดผมก้อพูดไม่ออก

“ถ้ามันทำแล้วต้องเสียใจ แล้วนายยังจะคิดมากทำไม รอน ทำตามที่ใจนายต้องการเถอะ เราแน่ใจว่าเราสองคนใจตรงกันนะ”

มันเป็นคำพูดที่ผมหวังอยากได้ยินมากที่สุด

“แล้วน้องลินล่ะ น้องเค้าไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนะ มันเหมือนกับหักหลังน้องเค้าเลย ต่อไปจะมองหน้ากันยังงัย จะอยู่กันยังงัยโดนที่ไม่ถูกคนรอบข้างมองพวกเราว่าเป็นคนเลว”

ผมถามวินถึงสิ่งที่ผมกลัวที่สุดเหมือนกัน

“เอ่าน่า นายอย่าคิดมากน่า นอนให้สบายเถอะนะ วันนี้คงไปเรียนไม่ไหวหรอก เดี๋ยวเราโทรบอกให้โอ๊ตกับลินมาที่นี่ตอนสายๆแล้วกัน” แล้ววินก้อลากผมมานอนต่อจนได้

แสงแดดที่ลอดเข้ามาทางระเบียงทำให้ผมรู้สึกตัว เสียงของวินกำลังคุยอยู่กับใครบางคนทำให้ผมเดินออกมาผมเห็นโอ๊ตกับน้องลินนั่งอยู่หน้าทีวี หน้าตาสดใส

ไม่รู้ทำไมผมกลับไม่กล้าสู้หน้าพวกเค้าได้ กำลังจะกลับเข้าห้อง แต่วินก้อดันเห็นซะก่อน

“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ กินน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก สิ ไอ้โอ๊ตมันซื้อมาฝาก” ทันทีที่สองคนนั้นเห็นผมก้อพุ่งมาที่ผมทั้งคู่ ผมนึกว่าทั้งสองคนคงจะเข้ามาต่อว่าผมแน่ๆ แต่ก้อป่าว

“เป็นงั๊ยบ้างว่ะ หน้าช้ำเหมือนกันนะ ใครมันฝากรอยบ้าๆบนหน้านายว่ะ บอกมาเลยเดี๋ยวให้พวกเพื่อนๆเราจัดการให้”โอ๊ตถามผมด้วยความเป็นห่วง

“ยังเจ็บอยู่หรือป่าวค่ะ พี่รอน เนี้ยะพอพี่วินโทรไปบอก ลินตกใจแทบแย่ นึกว่าจะเป็นอะไรมากหรือป่าว” ความห่วงใยจากเพื่อนๆ มันทำให้เราอดที่จะซาบซึ้งไม่ได้

“ไม่เป็นไรมากหรอกจ๊ะ ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว เลยกลายเป็นว่าโดดเรียนกันหมดทุกคนเลย”

“ก้อพี่วินนั้นแหละ...บอกว่าต้องมาคุยกันวันนี้ บอกว่าคนแถวนี้คิดมากจะแย่แล้ว” น้องลินบอกพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์ มันทำให้ผมร้อนวูบขึ้นมาทันที นี่แหละมั๊งที่เค้าเรียกว่าร้อนตัว

“เราคุยกันหมดแล้วนะรอน เรื่องทุกอย่างจะมีคนรู้แค่พวกเรา กับไอ้ป๋อมมัน”วินบอกผม

“งั้นลินก้อรู้เรื่องเมี่ยงแล้วสินะ มันจบแล้วล่ะ พวกเราก้อไม่ต้องเล่นละครอีกแล้วสิน่ะ” ผมถามน้องลิน

“พี่รอนแน่ใจเหรอค่ะว่าที่ผ่านมาเราเล่นละครกันอยู่ ลินว่าก่อนนั้นต่าหากที่พี่รอนต้องเล่นละคร ทำไมมีอะไรไม่คุยกับลินล่ะค่ะ

เราเหมือนเป็นพี่น้องกันแท้ๆถ้าพวกเรารู้ใจตัวเองให้ไวกว่านี้มันคงไม่ต้องมีคนเสียใจหรอกค่ะ”

“พี่ขอโทษนะ พี่จะไม่แก้ตัวอะไรเลย ลินอยากว่าอะไรพี่ก้อว่ามาเถอะจ๊ะพี่ขอโทษที่วันนี้พี่ต้องทำให้เราเสียใจ” ผมได้แต่พร่ำคำขอโทษน้องลิน เพราะนึกว่าลินคงเสียใจเรื่องของวิน

“ช่างมันเถอะค่ะ เพราะว่ายังงัยวันนี้พวกเราก้อรู้ใจตัวเองกันสักที” น้องลินยิ้ม ให้ผม ส่วนไอ้วินมันก้อเดินมาโอบไหล่ผม

“เลิกคิดมากได้แล้วนะ นายน่ะไม่เห็นเหรอว่าไอ้โอ๊ตมันหน้าบานจะแย่อยู่แล้วที่วันนี้มันจะได้ไม่ต้องแอบลักเค้ากินขโมยเค้ากินอีก” วินยังไม่วายแซวโอ๊ต

“เงียบเลยมึง....มึงต่างหากหน้าบานกว่ากูอีก” โอ๊ตหน้าแดงแต่ก้อยังปากดีกัดวินกลับ ผมดึงน้องลินเข้ามากินน้ำเต้าหู้ด้วยกัน แล้วก้อถามเรื่องของโอ๊ต

“ลินกับโอ๊ตชอบกันเมื่อไหร่เหรอ แล้วกับไอ้วินมันล่ะก้อไม่ได้ทะเลาะกันนี่นา” ผมถามน้องเค้า

“มันก้อไม่รู้เหมือนกันอยู่ใกล้ๆพี่โอ๊ตแล้วสบายใจดี พอคิดว่าต้องกลับไปทำตัวเหมือนเดิม ไม่เห็นกันทุกๆเย็น ไม่ได้กลับหอด้วยกันมันก้อเหมือนจะเสียใจ

ส่วนพี่วินมันเหมือนเราเป็นพี่น้องกันมากกว่า เพราะตลอดมาเหมือนพี่วินยังคงคิดถึงใครบางคนอยู่มั๊ง เลยทำให้เราไม่รู้ตัวว่านั้นไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาว

แต่มันเหมือนพี่ชายน้องสาวมากกว่าค่ะ พี่รอนยังจำเรื่องรูปของลินที่ติดรถพี่วินได้มั๊ยค่ะ ที่ลินบอกว่าน่าจะเอารูปพี่รอนมากกว่า

แต่จริงๆแล้วลินเห็นว่ามีรูปพี่รอนอยู่ในรถ ลินเลยเอารูปลินมาติดบ้าง ตั่งแต่วันนั้นมั๊งค่ะ ที่เราต่างไม่กล้าให้ความรู้สึกกับอีกฝ่ายมากไปกว่าที่เป็นอยู่”

เราสองคนเปิดใจคุยกันและผมก้อเล่าความรู้สึกที่มีต่อวินให้น้องลินฟัง น้องลินเข้าใจและไม่ว่าอะไรเรื่องของเรา เพียงเท่านี้ แค่เพื่อนของเรารับเราได้ก้อทำให้เราดีใจมากแล้ว

เราตกลงจะไม่บอกเรื่องเมี่ยงกับเพื่อนๆคนอื่นแต่จะบอกกับไอ้ป๋อมคนเดียวเพราะมันก้อเป็นเพื่อนสนิท และมันคงจะช่วยทำให้ไม่มีใครรู้เรื่องผมกับวินได้

เที่ยงๆลินกับโอ๊ตก้อขอตัวกลับ จะเลยไปหาข้าวกินด้วย ส่วนผมกับวินเราก้อขับรถไปหาอะไรกินบ้างโดยที่เอารถวินไปเพราะโอ๊ตมันไม่ยอมเอาไปใช้อีกแล้ว พอดีกับที่สภาพผมเป็นแบบนี้ด้วยเลยไม่อยากขี่มอเตอร์ไซด์


หลังจากที่ผมกับวินกินข้าวเสร็จวินก้ออยากจะไปที่ไร่ของบ้านพ่อผม แต่ผมก้อไม่เห็นด้วยเพราะไม่อยากให้ญาติๆต้องตกใจที่เห็นหน้าของผม แต่วินก้อไม่ฟัง

“น่า..นะรอน...เราอยากไปนั่งเล่นที่ฝายกั้นน้ำอีกครั้งนะ เพราะว่าที่นั้นมันมีความทรงจำดีๆระหว่างเราสองคน แล้วเย็นๆค่อยกลับก้อได้ถ้านายไม่นายไปที่ไร่”

สุดท้ายมก้อต้องยอมอยู่ดีทั้งที่ในใจลึกๆแล้วก้ออยากไปเหมือนกันที่ที่เราได้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกันและกัน ที่ที่เราตกลงจะอยู่ข้างๆกันตลอดไป แต่วันนั้นมันในฐานะเพื่อน แต่วันนี้มันไม่ใช่


ภาพของสายน้ำเบื้องหน้ายังคงเหมือนเดิม เฉกเช่นวันวาน คงมีแต่ใจของคนที่เปลี่ยนไป มันคงเหมือนที่โบราณเค้าว่าเอาไว้วันเวลามันสามารถเปลี่ยนใจคนได้จริงๆ

วันนี้ผมกับวินเรายืนอยู่หน้าสายน้ำแห่งนี้ด้วยความสุข แต่ในวันข้างหน้าเล่าใครจะรู้ว่าเราทั้งสองจะยังคงรักษาความสุขเหมือนวันนี้ได้

“คิดอะไรอยู่รอน เห็นเงียบตั่งแต่มาถึงแล้ว” เสียงของวินปลุกผมให้ตื่นจากความคิด

“เรากำลังนึกว่า ในวันข้างหน้า ถ้าเรามาที่นี่อีก เราจะยังคงรักษาความรู้สึกดีๆแบบนี้ไว้ได้มั๊ย” วินเดินมายืนข้างๆผม แล้วดึงมือของผมมาจับไว้

“อย่าเพิ่งไปกลัวกับเรื่องที่มันยังไม่เกิดเลยนะรอน แค่วันนี้เราทำสิ่งที่ดีๆให้กันและกันวันหน้ามันจะเป็นยังงัยคงต้องให้เราสองคนเรียนรู้ไปพร้อมๆกันนะ” ผมและวินเราต่างหันมายิ้มให้กัน

“นี่พวกเราเคยบอกรักกันหรือยัง” วินถามผมพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้

“ เราพูดไม่เก่ง แต่ความรักมันไม่ใช่คำพูด...มันคือการกระทำ และ เราก้อกำลังทำมัน เรารักนายนะวิน” ผมบอกกับวินและหันหน้ากลับมามองยังสายน้ำเบื้องหน้า

“เราบอกนายแล้วว่า เราสองคนนะใจตรงกัน เราเองก้อรักนายมากไม่แพ้กันนะรอน ขอบใจนะที่ไม่ทอดทิ้งกันไป”

“ชีวิตเรายังต้องเดินไปอีกไกลนะวิน ถ้าเราสองคนไม่เข้มแข็งพอ ความรักแบบพวกเราคงหาความสุขได้ไม่นานนัก

ทั้งครอบครัวนาย ครอบครัวเรา และอีกหลายๆอย่างที่มันพร้อมจะทำลายเราเรากลัวเหมือนกันนะว่าความสุขมันจะอยู่กับเราได้นานเท่าไรกัน” ผมอดจะพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจไม่ได้

“มันไม่ยากหรอก แค่เราจะรักกัน แค่ที่คนสองคนจะหาความสุขในชีวิต”วินดึงให้เราหันหน้ามาหากัน

“ อย่ากังวลเลยนะ มันง่ายจะตายที่เราจะรักใครสักคน แค่เราทำตามใจเราทำสิ่งที่เราคิดแค่นั้นเอง”

นั่นสินะ การรักใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องยากแต่การที่จะทำให้ใครสักคนมารักเรามันกลับยากยิ่งกว่า

“ เราว่ามันคงต้องเปลี่ยนที่ใส่แล้วมั๊ง” วินดึงมือผมขึ้นมาแล้วลูบเบาๆที่แหวนบนมือข้างขวาของผม

“ไม่ต้องหรอก...เราชินที่มันจะอยู่ข้างนี้แล้วล่ะ มันจะอยู่ข้างไหนความรู้สึกเราก้อไม่ต่างกันหรอกนะ”

“ก้อแล้วแต่นายแล้วกัน เอาไว้สักวันเราจะหาสิ่งที่มันดีกว่ามาเปลี่ยนให้นะเราสัญญา”

“ไม่ต้องหรอก ตอนนี้นายก้อให้สิ่งที่มันสำคัญกับเรามาแล้วงั๊ย ขอแค่อย่าเอามันคืนก้อแล้วกัน”

“อือม์....เราสัญญาว่าจะไม่มีวันเอามันคืน มันจะอยู่กับนายตอลอดไป ไม่ว่าต่อไปพวกเราจะเป็นยังงัยถึงแม้ว่าสักวันตัวเราจะไม่อยู่ใกล้กัน แต่ใจของเราอยู่กับนายเสมอ................................เราสัญญา”

เพียงเท่านี้ใจของเราก้ออิ่มเอมและมีความสุขมากแล้ว มันดีจริงๆที่มีใครสักคนอยู่ข้างๆเรา คอยจับมือเรา

..................................เรารักนายนะวิน.....................................................

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: ขอบคุณที่เอาเรื่องดีดีมาให้อ่านคับ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m13: :m13: ซึม ทำไมมันจบเร็วงี้อ่ะ


ไงก็ขอบคุณคับ ที่นำเรื่องราวดีดี ที่จบแบบ happy มาให้เราอ่าน

ไงก็เป็นกำลังใจให้นะค๊าบ รออ่านเรื่องต่อไปอยู่นะค๊าบ......  :m4: :m4: :m4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2: :L2:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

........สุดท้าย...เส้นขนานก็ไม่ได้ห่างดังเดิม.......... :L2: :L2:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
เด๋วรอให้พี่รันมาลงภาค 2 น้า


เด๋วเพียวจาแอบมาแย่งซีนอีก  :laugh:


ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านเช่นกันค๊าบ


ถึงแม้จะน้อยนิด  แต่ก็ยังมีคนอ่าน  ถึงจาอ่านแค่คนเดียวก็ลงคับ


ไปแว้วววววววววววว  :oni1:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ต้องสารภาพกับผู้แต่งเรื่องนึง.........ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มา เพิ่งมีตอนนี้แหล่ะที่รู้สึกว่าอ่านแล้ว อบอุ่น ..สบายใจ

เพราะก่อนหน้านั้น  :sad2:

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่จบนะครับ

เพราะว่าเรื่องราวของ วินกับรอน

จะดำเนินต่อไปเช่นไร

หลังจบจากมหาวิทยาลัย

มาเป็นกำลังใจให้เค้าทั้งคู่

เดินไปบนทางซึ่งเต็มไปด้วยความรัก กันนะคับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2008 19:21:40 โดย ranaways »

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m4: :m4: อ้าว ยังไม่จบหรอเนี่ย ซึม  :m4: :m4:

เป็นกำลังใจใจภาคต่อไปคับ   :mc4: :mc4: :mc4:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nanalonely

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอความรัก :a1: ในภาคต่อไปคับ.....อยากให้รอนเจอความรักที่งดงามมั่งจัง :o8:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ( = ___ = )

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1


เข้ามาเป็นกำลังจายยยให้พี่รันกะน้องเพียวและก็คุณพีฯคนแต่งจ้ะ :L2:
เค้ามะถูกโรคกะเรื่องเศร้าอ่า แงๆ

แต่ไม่ว่ายังงายก็จะติดตามต่อปาย :a1:







PakBeob

  • บุคคลทั่วไป

ranaways

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m4: :m4:  เย้ ๆ ๆ ๆ จะได้อ่านภาคสองแร้ว  :m4: :m4:

 :pig4: :pig4: ขอบคุณนะคับ จะรออ่านน๊า......

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ไหนบอกว่าพรุ้งนี้จามาลงไง รอตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืน หมดไปอีกวัน ชิสส์ คนโกหก  งอล

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นกำลังใจให้คนโพสครับ

ชอบเรื่องนี้ครับ

อ่านแล้วเช้ามาตาบวมไปทำงานเลย  :sad2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคับ

ที่บ้านตอนนี้มีปัญหานิดหน่อย

คือ เน็ต ที่บ้านไม่สามาถรเปิด hotmail ได้

เพราะไฟล์ที่จะเอามาลง มันอยู่ในเมลล์อ่ะคับ

 :m23: :m23: :m23: :m23:

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป

abcd

  • บุคคลทั่วไป


คลิ๊กที่รูปโปสเตอร์เพื่อเข้าสู่กระทู้





ปล. คิดตึ๋งน้องเพียวเพียว  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2008 23:56:57 โดย »-(¯`v´¯)-» »

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่.1
แสงแดดยามบ่ายแก่ๆ ปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนๆ สงสัยจะยังไม่สร่างจากงานเลี้ยงเมื่อคืนเท่าไหร่นัก
ผมหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ

แผ่นอกที่เปลือยเปล่าของวินสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปปัดไรผมที่มันปกหน้าของวินอย่างเบามือ

“จะลูบหน้าเราเล่นอีกนานป่ะห๊ะ รู้มั๊ยว่าเพิ่งตื่นนอนแบบนี้แล้วมาลูบไล้ตัวเรามันจะเป็นยังงัย”

คนถามยังไม่ยอมลืมตา แต่เอื้อมมือมาจับมือผมไว้

“ไอ้ทะลึ่ง ปล่อยเลย จะไปอาบน้ำแล้ว”ผมบอกกับวินพร้อมกับดึงมือออก วินยิ้มนิดๆก่อนจะดึงมือขึ้นมาแตะกับริมฝีปากเบาๆ

หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก้อเดินออกมาแกะของขวัญที่เพื่อนๆนำมาแสดงความยินดีกับผมในวันสำคัญ

เพราะเมื่อวานเป็นวันซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้ายของการซ้อมรับปริญญา ในวันรับจริงพวกเราคงต้องถ่ายรูปอยู่กับญาติๆ และเพื่อนเก่าๆ

พวกเพื่อนๆกับรุ่นน้องต่างคณะเลยพากันมาแสดงความยินดีกับพวกเราวันนี้เสียเป็นส่วนใหญ่

“วิน ไปอาบได้แล้ว มันบ่ายแล้วนะ เดี๋ยวเอารูปไปอัดและจะได้เลยไปหาอะไรกินกัน” วินนอนบิดไปบิดมาแต่ก้อลุกไปอาบน้ำแต่โดยดี

เมื่อคืนเราไปฉลองกับเพื่อนๆมา กว่าจะกลับมาก้อเกือบสว่าง ทั้งผมและวินกว่าจะพากันกลับมาถึงห้องได้ก้อแทบอ้วก

“จะออกไปกันเลยมั๊ย หิวเหมือนกัน” วินเดินมานั่งข้างผมหลังจากอาบน้ำเสร็จ

“ อือม์...ไปดิ เดี๋ยวเราเอารถเราไปนะ จะได้เอาไปไว้ที่ไร่เลย ขี้เกียจเอากลับกรุงเทพ เอาไว้ให้คนในไร่ไว้ใช้ดีกว่า”

“ก้อแล้วแต่ แสดงว่าจะเลยไปที่บ้านพ่อนายด้วยล่ะสิ”

“อือม์...จะไปลาคนที่ไร่ก่อนกลับกรุงเทพน่ะ เห็นป้าบอกว่าปู่กับย่าถามว่าจะรับปริญญาวันไหน จะได้เตรียมตัวถูก” ผมกับวินเราออกไปกินข้าวที่ร้านประจำ

วินต้องอยู่รอรับรูปที่พวกเราถ่ายกันเมื่อวาน เพราะจะได้เอาไปให้ญาติๆผมดูด้วย ผมเลยขี่รถไปยังไร่ของพ่อผมคนเดียว

เส้นทางสายที่คุ้นเคย คงไม่ผิดนักที่ผมจะเรียกถนนสายนี้ว่า เส้นทางรัก เพราะมันเป็นถนนสายที่ทำให้ทั้งผมและวินผูกพันกันมาจนถึงทุกวันนี้

ไม่นานผมก้อมาถึงไร่ เลยเข้าไปสวัสดีปู่กับย่าและญาติของผม พร้อมกับบอกว่าอีก2-3 วันถึงจะเข้าเข้ารับพราะราชทานปริญญาบัตร

ปู่กับย่าอยากให้ผมอยู่ช่วยงานที่ไร่ แต่ผมยังไม่ได้รับปากอะไร ได้แต่บอกว่าถ้าว่างๆจะขึ้นมาเยี่ยม

ผมนั่งเล่นนอนเล่นจนเย็นก้อยังไม่เห็นวิน เลยคว้าเวสป้าคู่ใจไปยังที่ที่ผมกับวินมักชอบไปอยู่เสมอ ที่ที่มีความผูกพันของเราสองคน

ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกเมื่อไหร่ นึกถึงวันที่ผมกับวินเราต่างรับรู้ถึงความรู้สึกของกัน จากวันนั้นมาเราต่างก้อคอยดูแลกันและกันมาตลอด

ถึงแม้ว่าเราจะทะเลาะกันบ้าง แต่ทุกครั้งที่เราสามารถผ่านมันมาได้ ความสัมพันธ์ของเรายิ่งเหนียวแน่นกว่าเดิม

จวบจนวันนี้ ที่พวกเราต้องออกไปเผชิญกับโลกกว้าง ตามเส้นทางที่เราเลือก ความทรงจำเหล่านี้มันจะติดตามผมไปตลอด

พื่อให้ความอบอุ่น และ เป็นกำลังใจในยามที่เราท้อแท้เมื่อเจอกับอุปสรรคในวันข้างหน้า ผมหยิบของขวัญที่ตั้งใจจะให้วินขึ้นมาดู

มันเป็นแหวนที่ผมสั่งให้เค้าสลักลายรูปพระจันทร์ลงไปบนเนื้อของแหวน ผมอดยิ้มให้กับเรื่องราวของผมกับวินที่ผ่านมาไม่ได้

คนเราทุกคนคงมีเรื่องราวความทรงจำที่เพียงแค่นึกถึง ไม่ว่าเมื่อไหร่ กลิ่นอายของความสุข ก้อจะโชยมาให้หัวใจเราได้อิ่มเอมกับเรื่องราวเหล่านั้น

การที่เราได้รักใครสักคนเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ แต่มันกลับดียิ่งกว่าที่ได้กลายเป็นที่รักของใครคนนั้น

“บ้าป่าวเนี้ย ยิ้มคนเดียวก้อเป็น” วินเดินมาข้างๆผม

“นึกแล้วว่านายต้องมาที่นี่ ” วินยื่นบางอย่างให้กับผม “

รอนเรายินดีด้วยนะ” มันเป็นโหลแก้วใบใหญ่ที่ข้างในมีดาวกระดาษพับอยู่ครึ่งนึง ผมอึ้งไม่คิดว่าวินมันจะทำอะไรแบบนี้ด้วย

“ขอบใจนะวิน เราเองก้อยินดีกับนายด้วยนะ” ผมเองก้อยื่นกล่องเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกให้กับวิน

วินเองก้อดูอึ้งไปเหมือนกันคงไม่นึกว่าเราจะใจตรงกัน แต่ก้อเรียกรอยยิ้มสดใสให้เกิดขึ้นบนใบหน้าขี้เล่นทันที่เห็นว่าข้างในเป็นอะไร

“ ใส่พอดีเลยอ่ะ” วินสวมมันลงไปที่นิ้ว พลางลูบมันเล่น

“ทำมัยไม่เป็นรูปดาวเหมือนกันล่ะ” วินถามผม

“เพราะทุกครั้งที่เราแหงนดูดวงดาว เราก้อต้องเห็น ดวงจันทร์ทุกครั้ง ท้องฟ้ายามกลางคืนคงไม่สวยหรอกถ้าไม่มีเงาของดวงจันทร์”

วินเอื้อมมือมากอดผมเบาๆ

“ขอบใจนะรอน ดีใจนะที่มีนายอยู่ข้างๆ” แค่คำพูดที่ออกมาจากความรู้สึกที่จริงใจ ไม่ต้องเพราะมากมายแต่ก้อทำให้คนให้มีความสุข

ผมมองดาวที่อยู่ในโหลก่อนจะเห็นว่าลายมันดูแปลกๆ คลายๆตัวหนังสือ เลยหยิบมันขึ้นมาดู

“ดาวทุกดวงมีตำนานนะรอน ถ้าอยากรู้ ก้อลองแกะดูแล้วกัน” ผมงงกับคำบอกของวิน แต่ก้อลองแกะมันออกมาดู

“ 14 มีนาคม 47 วันนี้เราไปไหว้พระที่ดอยสุเทพกัน คำอธิฐานของผมในวันนั้น ขอให้คนนี้อยู่ข้างๆเราตลอดไป”

ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งตัว เมื่อผมได้อ่านข้อความนั้นผมหยิบขึ้นมาอีกดวง

“10 ตุลาคม 48 หลังกลับจากฉลองฝึกงานเสร็จ รอนเช็ดตัวให้ก่อนจะแอบมาจุ๊บเรา ดีใจเพราะมันเป็นครั้งแรกที่รอนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” ผมกำลังจะเปิดดวงต่อไป วินก้อมาจับมือผมไว้

“ทุกเรื่องราวระหว่างเรา มันจะอยู่ในใจของเราตลอดไป แต่ เราว่าเอาไว้อ่านตอนหลังเถอะนะ....เราอายว่ะ” หน้าของวินตอนมันเขินดู ตลกๆน่ารักดี

“เราหวังว่านายคงจะเติมดาวที่มันขาดไปอีกครึ่งให้เต็มนะรอน เก็บมันไว้ด้วยกันเถอะนะเรื่องราวระหว่างเราน่ะ”

“อือม์...เราจะใส่มันวันล่ะดวงแล้วกัน จะใส่จนกว่าจะเต็ม เราสัญญา”วินยิ้มให้กับผม

“แล้วจะไม่จูบขอบใจหน่อยเหรอ” วินมันยื่นหน้ามาถาม

“ไอ้บ้า ทะลึ่งไม่เลือกสถานที่เลยนะเนี้ยะ”

“น่านะ ลองเล่นๆก้อยังดี” มันยังตื้อไม่เลิก ผมส่ายหน้าระอากับมัน แล้วหันไปหอมแก้มมันแทน

“แค่นี้พอล่ะกันน่ะ.....”

ตอนนี้ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว อากาศก้อเริ่มเย็นลง แต่มีกลับคนสองคนที่ไม่รับรู้ถึงความเย็นรอบๆตัว

เพราะต่างสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในใจของกันและกัน ความอบอุ่นที่เกิดจากความรู้สึกดีๆ ที่เราทุกคนเรียกมันว่า “รัก”

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
มาจิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ ได้อ่านภาคสองแร้ว


marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็ได้สมใจอยากแล้ว หลังจากที่ตั้งใจรอมานาน
อยากเห็นความอบอุ่นจากเรื่องนี้ พอเริ่มตอนแรก อ่านไปก็ยิ้มไป
อยากให้ฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกันน่ะ

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

............"การที่เราได้รักใครสักคนเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ แต่มันกลับดียิ่งกว่าที่ได้กลายเป็นที่รักของใครคนนั้น".........



ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
คนอ่านน้อยจัง  กาซิก ๆๆๆ :m15: :m15:

ยังไงก็ลงคับ กาซิก ๆๆๆๆๆๆ


ตอนที่.2
“น๊า...นะรอน...นะ ให้เราอาบด้วย เดี๋ยวจะไม่ทันแล้ว ขี้เกียจโดนไอ้ป๋อมมันด่าเอา” เสียงทุบประตูห้องน้ำของไอ้วินยังคงดังต่อเนื่อง

หลังจากที่เราเดินสายฉลองรับตำแหน่งบัณฑิตใหม่ กับเพื่อนๆทั้งที่คณะเดียวกันและต่างคณะ แต่คืนนี้มันจะเป็นการฉลองเฉพาะกลุ่มของพวกเรา

“รอนเปิดให้เราหน่อยดิ น๊า ถ้าไม่เปิดนะ เราจะไปตะโกนที่ระเบียงเอาให้คนที่อยู่ที่นี่มารอดูหน้าเจ้าของห้องเลยนะคอยดูสิ”

ผมทนรำคาญไม่ไหวเลยเปิดประตูให้วินเข้ามาในห้องน้ำ” วินเดินยิ้มกริ่มเข้ามา

“มา เดี๋ยวเราช่วยขัดหลังให้ ผลัดกันนะ” วินช่วยขัดหลังกับสระผมให้ แต่ก้อออกจะไปในแนวทะลึ่งซะมากกว่า หลังจากนั้นผมก้อช่วยวินสระผมกับขัดหลังให้เหมือนกัน

“รอน ขัดตรงนี้ด้วยสิ” วินดึงมือผมไปจับกับวินน้อย

“ป๊าบ” ผมตบกบาลวินมันไปทีนึง

“ไอ้หื่นเอ๊ย....” ผมว่ามันแล้วหยิบผ้าขนหนูมาพันตัวแล้วออกมาจากห้องน้ำ วินมันหัวเราะ แต่ก้อเดินตามออกมา

“เป่าผมเราให้หน่อยนะรอน” ผมเดินไปหยิบไดร์มาเป่าผมให้วิน พวกเรามักจะทำให้กันอยู่บ่อยๆ

“อะ...เสร็จแล้ว ไปแต่งตัวไป สายแล้วพวกไอ้ป๋อมมันด่าแล้วเนี้ย” ผมลยเดินจะไปแต่งตัวบ้าง แต่วินมันดึงมือผมไว้

“มา เดี๋ยวเราทาครีมให้” มันคงเป็นความเคยชินไปซะแล้ว เพราะความเย็นของอากาศที่นี่ทำให้ผมต้องทาครีมอยู่เสมอ และก้อเป็นสิ่งที่วินมันชอบที่จะทำให้ผมอยู่บ่อยๆ

มือที่ชุ่มไปด้วยเนื้อครีมบำรุงผิวกลิ่นหอมอ่อนๆ แตะลงมาที่แขนเบาๆ ก่อนจะค่อยๆไล่ขึ้นไปตามต้นแขน และผ่านมายังช่วงอก นิ้วหัวแม่มือของวินยามที่กดลงบนผิวแล้วคลึงเบาๆเพื่อให้เนื้อครีมซึมได้ดีขึ้น

ทำให้ใจผมหวั่นไหว แต่ ในขณะเดียวกันผมเองก้อไม่อยากให้มันหยุด แม้วินมันจะทาให้ผมบ่อยๆแต่ก้อไม่ยอมชินกับสัมผัสแบบนี้สักที วินหันไปกดครีมเพิ่มก่อนจะแตะมันลงมาที่ข้อเท้า

แล้วลูบไล้จากข้อเท้าขึ้นมาจนถึงน่องก่อนจะมาหยุดนวดเบาๆบริเวณต้นขาด้านบน วินทาให้ผมจนเสร็จทั้งสองข้างก่อนจะหยุดมองหน้าผม

“พลั๊ว” เสียงมันตบกบาลผมคืน “ แค่ทาครีมทำไมต้องหน้าแดงด้วยว่ะ คิดลามกอยู่ล่ะสิ”

“ไอ้บ้าวิน” ผมต่อยมันเบาๆก่อนจะเดินไปใส่เสื้อผ้า เราสองคนมักเสียเวลาในการอาบน้ำแต่งตัวนานแบบนี้เสมอ.......
*
*
ทันทีที่ผมกับวินเดินเข้ามาในร้าน เสียงโห่ ปน เสียงด่าของไอ้เพื่อนตัวดีทั้งหลายก้อดังขึ้น

“กว่าจะเสด็จได้นะพวกมึง”เสียงไอ้ป๋อมลอยมา

“มึงอย่าไปว่าพวกมัน บ้านพวกมันแม่งอยู่ซะไกล๊ ไกล เวลาจะไปจะมาก้อต้องเดินเอานะมึง ถนนยังเข้าไม่ถึง” ความจริงร้านที่พวกมันมากันคืนนี้มันเปิดใหม่อยู่หลังคอนโดผมนี่เองพวกเราเลยเดินมา

คืนนี้มีแต่พวกเรากันเองทั้งนั้น กับ บรรดาแฟนๆของพวกเรา มันเลยทำให้ผมสนุกกว่าทุกคืน เลยดื่มมากกว่าทุกคืนที่ผ่านมา

ยิ่งดึกน้ำสีเหลืองอำพันยิ่งไหลลงคอพวกเรามากขึ้น ผมเองก้อเริ่มจะตึงๆเหมือนกัน จนน้องลินต้องหันมาเตือน

“พอได้แล้วมั๊งค่ะพี่รอน ดูสิพี่วินเองก้อใช่ย่อยแล้วนะนั่น” ผมหันไปมองวิน ก้อเจอกับสายตาที่มันมองมาทางผมเหมือนกัน เราต่างมองกันอยู่แบบนั้น จนเสียงเพื่อนๆแซว

“เอ้ย...พวกมึงยังไม่เลิกเล่นละครสลับคู่ผัวเมียอีกเหรอว่ะ” ความจริงเรื่องของพวกผม 4 คน มีแค่พวกเรากับไอ้ป๋อมเท่านั้นที่รู้ดี

“ไอ้เชี่ยนี่ เมาแล้วปากหมานะเนี้ย เกรงใจน้องลินมั่ง” โอ๊ตออกโรงปกป้องแฟน ส่วนน้องลินก้อนั่งยิ้มแก้มแทบฉีกอยู่ข้างผม

“เอ่อ...พวกมึง กูมีเรื่องจะบอก ยังงัยพวกเราก้อจะจบกันแล้ว กูเองก้อไม่อยากจะโกหกพวกมึงแบบนี้หรอกว่ะ ความจริงกูกับไอ้รอนเป็นแฟนกันจริงๆว่ะ ส่วนน้องลินกับไอ้โอ๊ต ก้อเหมือนคู่พวกกู”

วินมันลุกบอกกับเพื่อนในกลุ่มจะด้วยเพราะเมาหรือมึน แต่ผมเองก้อนิ่งเพราะตกใจไม่คิดว่ามันจะทำแบบนี้

“พวกกูว่าแล้ว แม่งถึงพวกมึงจะยังกัดกัน ทำตัวเหมือนเดิม แต่เวลาที่พวกกูเห็นเวลาที่พวกมึงมองตากันที่นะ พวกกูล่ะขนลุก ..... แต่ไม่ว่ายังงัยพวกเราก้อเป็นเพื่อนกันนะโว้ย

ดีแล้วล่ะที่พวกมึงบอกพวกกู แล้วมันก้อไม่ทำให้มิตรภาพของพวกเรามันเปลี่ยนไปสักนิด” เหล่าเพื่อนๆของผมพร้อมที่จะเข้าใจเรา

และคืนนี้มิตรภาพของคำว่าเพื่อน ก้อพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่ามันยิ่งใหญ่ และ งดงามแค่ไหน

ผ่านไปค่อนคืน ผมก้อชวนวินกลับเพราะพรุ่งนี้ พ่อ แม่ และบรรดาญาติๆของทั้งวินและผมก้อจะ ขึ้นมาที่เชียงใหม่เพื่อร่วมยินดีกับเราในวันมะรื่น

ถนนค่อนข้างเงียบเพราะเวลานี้ผู้คนส่วนใหญ่ คงกำลังซุกตัวอยู่บนที่นอนนุ่มภายใต้ผ้าห่มอุ่น ผมกับวินเราเดินจับมือกันมาเงียบๆ

“ไวจังเลยนะ...แป๊ปเดียวมันก้อผ่านมาตั้ง4ปีแล้ว” อยู่ๆวินก้อพูดขึ้น

“มันไม่สำคัญหรอกว่าจะไว หรือ ว่านาน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านไปมันให้อะไรเราบ้าง แต่ สำหรับเรามันให้ประสบการณ์ที่ดี เพื่อนที่ดี ” ผมหยุดพูดก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ “แล้วก้อ.. คนรักที่ดี” วินยิ้มก่อนที่จะมาย่อตัวอยู่ข้างหน้า

“ขี่หลังเราป่าว” วินหันมาถาม

“นึกยังงัย” ผมถาม เพราะวินมันไม่ค่อยทำอะไรแบบนี้

“ไม่รู้ อารมณ์มันพาไปมั๊ง อย่าถามมากสิ จะขี่ป่าวล่ะ” ผมหัวเราะแต่ก้อกระโดดไปขี่หลังมัน

“โอ้ย..เบาๆดิ เดี๋ยวหลังหักพอดี” ผมกอดคอของวินไว้เอาหน้าแนบกับแก้มของวิน

“ทำมั๊ยวันนี้มาเอาใจจังว่ะ”ผมอดถามไม่ได้

“ไม่รู้สิ อยากทำก้อทำ” ผมอดยิ้มกับคำตอบไม่ได้ หลังจากนั้นวินก้อพาผมขี่คอกลับไปที่คอนโดเงียบๆ

กลิ่นเหงื่อเจื่อแอลกอฮอล์จางๆจากตัวของวินทำให้ใจของผมเต้นแรง ผมกระชับวงแขนกอดวินให้แน่นขึ้น

มีคำพูดมากมาย แต่ไม่รู้จะใช้คำไหนมาบรรยายความรู้สึกของเราทั้งสองคนตอนนี้ได้

“รักนะ” เสียงกระซิบเบาๆของวินๆที่ลอยมาพร้อมกับสายลม

เราเดินกลับมาถึงคอนโด เสียงโทรศัพท์ของวินก้อดังขึ้น วินปล่อยผมลงหน้าคอนโดก่อนจะกดรับโทรศัพท์

“รอน เดี๋ยวเราเข้าไปเอากุญแจรถก่อนนะ ไอ้โอ๊ตโทรมาพวกไอ้ป๋อมมันเมามากกลับบ้านไม่ไหว เดี๋ยวเราเอารถไปรับพวกมันก่อนล่ะกัน” วินกับผมเดินเข้ามาในห้อง

และเมื่อพวกเราเปิดประตูเข้ามา ภาพของผู้ชายที่แสนดี และ คอยห่วงใยผมอยู่เสมอ ที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา ก้อทำให้ผมทั้งตกใจและดีใจ

ผมหันไปมองวิน เพราะรู้สึกว่าวินจะบีบมือผมแน่นกว่าเดิม

“เดี๋ยวเราไปรับไอ้พวกนั้นก่อนนะ แล้วคืนนี้เรานอนที่ห้องของเราก้อแล้วกัน” ผมได้แต่พยักหน้าตอบกลับไป แม้จะสัมผัสได้ถึงความกังวลใจของวิน..........................................

joypluss

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด