พิมพ์หน้านี้ - กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ranaways ที่ 16-07-2008 18:49:47

หัวข้อ: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 16-07-2008 18:49:47
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4. ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
ให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่า

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ โดยพี่รันกะน้องเพียว 16 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 16-07-2008 18:56:12
ตอนที่.1
ก๊อกๆๆ..ก๊อกๆๆ...เสียงแม่ของผมเคาะประตูห้องนอน ผมไม่อยากที่จะลืมตาขึ้นมาแล้วรับรู้ว่า วันนี้แม่ของผมจะพาใครบางคนเข้ามาในครอบครัวของเรา วันนี้เป็นวันเกิดครบ13ปีของผม
“รอน...ตื่นได้แล้วนะลูก เดี๋ยว ลุงนนท์ เค้าจะรอเรานานนะจ๊ะ”
“ครับแม่...ตื่นแล้วครับ” ตอนนี้ผมกลัวว่าอีกไม่นานแม่จะลืมพ่อไป และ คงจะไม่สนใจผมอีกแล้ว
เพราะตั่งแต่ที่ พ่อจากเราไป แม่ก็ดูแลผมอย่างดีมาตลอด ผมไม่เคยรู้สึกว่าผมจะเป็นเด็กมีปัญหาอย่างที่ปู่กับย่ากังวล...แต่ก็มีบ้างที่รู้สึกว่าความรัก ความอบอุ่น ระหว่างพ่อกับลูกชาย เป็นสิ่งที่ผมโหยหามาตลอด แต่พักหลังแม่เริ่มกลับบ้านดึกขึ้น ทำให้ผมแอบน้อยใจไม่ได้
“เสร็จแล้วครับแม่...แต่นี่เราจะไปที่ไหนกันครับ”
“หัวหินจ๊ะ...ลูก นั่นงัยลุงนนท์มาพอดี” แล้วผมก็เห็นรถเก๋งคันใหญ่เลี้ยวมาจอดที่หน้าบ้านผม
ลุงนนท์นั้นเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40ปี แกเป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์ เค้าเป็นนักธุรกิจที่เก่งและมีชื่อเสียงมาก ครอบครัวเค้ามีฐานะร่ำรวย ผมเองก็เคยเจอเค้า 2-3 ครั้ง ดูแกก็เอ็นดูผมมากเช่นกัน แกมีลูกชายวัยไล่เลี่ยกับผม และในวันที่แกได้ลูกชายแกแต่ก็ต้องสูญเสียภรรยาไปในวันนั้น ....... ลุงนนท์เดินมาที่ผมกับแม่ยืนรออยู่ แกเอามือมาลูบหัวผม แล้วก้อยิ้มให้ผม
“ว่างัยครับ...รอน อยากไปเที่ยวที่ไหนครับ วันนี้ลุงตามใจหนู กับ แม่เต็มที่เลย”แล้วแกก็หันไปเรียกใครบางคนให้ลงมาจากรถ
“นัท...นัท...มานี่มะ มารู้จักกับคุณป้า และน้องเร็ว”แล้วผมก็เห็นเด็กผู้ชายคนนึงเดินลงมาจากรถ
โห่......เด็กที่ไหนเนี่ยะน่ารักมากๆๆ ผมเค้าเป็นสีน้ำตาลอ่อนรับกับดวงตาที่เป็นสีเดียวกัน ผิวขาวมาก( ขนาดผมว่าขาวแล้วนะ นี่กินผมขาดเลย ) ผมเค้าเป็นรอนๆเข้ากับขนตาที่ยาวและงอน “นัท ไหว้คุณป้าซิลูก แล้วนี่น้อง...รอนนะลูก น้องน่ารักอย่างที่พ่อบอกหรือเปล่า”ผมแอบเห็นหน้าเค้าแดงนิดหน่อย แต่เค้าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังหัวหิน บ้านพักต่างอากาศของคุณลุง ตลอดทางแม่กับลุงนนท์ คุยกันอย่างมีความสุข ผมเห็นแล้วก็มีความสุขไปกับแม่ผมด้วย

แต่ก็แอบน้อยใจนิดหน่อยกลัวแม่จะไม่สนใจผมเหมือนเดิม พอคิดแล้วขอบตาก็เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา.......แล้วตอนนั้นก็มีของบางอย่างถูกโยนมาที่ตักของผม มันคือ game boy นั่นเอง ผมเลยหันไปมองข้างๆ เด็กคนนั้นก็ไม่หันมาคุยกับผมแต่มองออกไปนอกรถแทน จนเรามาถึงที่หัวหิน ลุงนนท์ ก็พาเราไปกินข้าวเย็น และในระหว่างที่เรากินข้าวอยู่นั้นแม่ผมก็พูดขึ้นมา
“รอน วันเกิดปีนี้แม่มีของขวัญให้ลูกด้วยนะ แม่รู้ว่าลูกอยากได้มานานแล้ว”
“อะไรครับแม่” แม่ผมหันไปยิ้มกับลุงนนท์
“แม่รู้ว่าลูกอยากมีพ่อมาตลอด เอ่อ...แม่กับลุง เราจะแต่งงานกันจ๊ะ”
แล้วสิ่งที่ผมนึกไว้ในใจมาตลอดมันก็เป็นจริง ผมได้แต่ยิ้มแต่ในใจผมนั้นใคร่เล่าจะรู้บ้าง.....
หลังจากที่เราทานข้าวเสร็จ ผมก็ขอออกมาวิ่งเล่นที่ชายหาด ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้ที่จะลาลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเป็นสีแสด ลมทะเลพัดมาเอื่อย แล้วผมก็นั่งร้องไห้อยู่ตรงโขดหินนั้นไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ก็มีมือใครบางคนมาจับที่ไหล่ ผมสะดุ้งด้วยความตกใจแล้วเงยหน้าขึ้นไปดู เป็นเด็กคนนั้นเอง...
“อย่าร้องไห้ไปเลยน่ะ....ตอนนี้นายเป็นน้องของพี่ พี่จะดูแลนายเอง)แล้วก็ดึงผมเข้าไปกอดมือเค้าก็ลูบที่หัวผมเพื่อปลอบโยน ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก......................

“รอน...รอน..ตื่นไปโรงเรียนได้แล้วลูกเดี๋ยวสายนะจ๊ะ สายวันแรกมันไม่ดีนะลูก”
วันนี้เป็นวันที่ผมขึ้นม.4 แล้วผมก็ย้ายโรงเรียนใหม่ ....หลังจากวันนั้นแม่กับลุงนนท์ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันทำให้ผมมีพ่อคนใหม่และได้พี่ชายแถมมาคนนึง พี่ผมเค้าอายุมากกว่าผม2ปีแต่เพราะเค้ามาเรียนที่เมืองไทยช้าเพราะอยู่กับญาติที่ฟิลิปปินส์ เลยทำให้เค้าอยู่ม.5และที่สำคัญโรงเรียนใหม่ที่ผมกำลังจะไปนี้ก็เป็นโรงเรียนเดี๋ยวกันซะด้วย เซ็งเละไม่รู้จะโดนแกล้งอะไรบ้าง ไหนบอกว่าจะดูแลเรา...........แต่เอ๊ะทำมัยหนักๆ
“เฮ้ย........พี่นัทมานอนทับผมทำมัยเนี๊ยะ หนักนะ ลุกไปเลย”
“เอะอะ.......อารายอ่ะ ขอนอนอีกแป๊ปนึงน่า”
“ไม่ได้...เดี๋ยวผมไปสาย เค้ามีปฐมนิเทศตอนเช้าด้วย แล้วมานอนห้องผมทำมัย ห้องตัวเองก็มี โตแล้วนะ ตัวก็ใหญ่ เตียงผมเล็กนิดเดียวเอง” จริงสินะ ตอนนี้ไอ้พี่นัทกับผมเราก็โตกันแล้ว ผมอายุ15ปี สูง 176 หน้าตาผมก็ธรรมดามั๊ง แต่ไปไหนก็มักมีคนมองนะ ตอนอยู่ที่โรงเรียนเก่ารุ่นพี่ก้อแซวๆกัน อาจจะเพราะผมผิวขาวมั๊งเพราะพ่อเป็นคนทางเหนือและที่สำคัญผมมีคิ้วที่ดำและหนามาก แม่บอกว่าตอนผมเกิดยายเอาก้านพลูมาเขียนคิ้วให้เลยรู้สึกภูมิใจกับคิ้วของตัวเอง ส่วนตามีคนบอกว่าผมได้มาจากแม่ ผมว่าแม่ผมตาเศร้ามากแต่ยิ้มที่ก็ อือม์...โลกสดใสล่ะ ส่วนไอ้พี่นัท ก็ธรรมดาพ่อลูกครึ่ง แม่เป็นคนฮ่องกง ( ลุงบอกเจอกันที่ฟิลิปปินส์) สรุปคือ หล่อมาก........สูง181มั๊งประมาณเนี๊ยะ ปากแดงจมูกโด่ง แต่ที่ผมชอบคือผมที่เป็นลอนๆสีน้ำตาลเข้ากับสีของดวงตา ......
“ก็นายตัวนิ่มดีอ่ะ...แล้วตอนเด็กๆนายเองนั่นแหละที่ชอบมาขอนอนกับพี่ เฮ่อ...ขี้เกียจเถียงล่ะไปอาบน้ำดีกว่า”
*************************************

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 16-07-2008 18:59:22
มาบวกหนึ่งให้คนโพสต์  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 16-07-2008 19:05:18
+ 1 ให้คนเม้นต์คนแรกเหมือนกัน

บ้ากันอยู่สองคน 5555 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ โดยพี่รันกะน้องเพียว 16 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 16-07-2008 19:12:24
ตอนที่.2
“ไปแล้ว..นะครับคุณลุง... หวัดดีครับแม่”
“นัท...ดูแลน้องให้ดีนะลูกอย่าทิ้งน้อง” ลุงนนท์สั่งไอ้พี่นัท ตั่งแต่ลุงนนท์เข้ามาในชีวิตของพวกเรา แม่กับผมก็มีความสุขกันมาก แกใจดีกับผม ตามใจผมทุกอย่าง คงเพราะผมเรียบร้อย และ ชอบอ้อน แกกับแม่อยู่บ่อยๆละมั๊ง
“ครับ....พ่อ ไปแล้วครับคุณน้า” แล้วพวกเราก็ไปโรงเรียนกัน ผมตื่นเต้นน่าดู โรงเรียนใหม่ของผมนั้นเป็นโรงเรียนเอกชนที่ใหญ่และมีชื่อเสียง ที่นี่เค้าให้นักเรียนไว้ผมรองทรงได้ ผมเองก็เริ่มไว้มาตั่งแต่จบม.3 ผมมองดูตัวเอง กางเกงสีน้ำเงินสด เข้ากับเสื้อสีขาวตัดกับตัวหนังสือสีแดง แม่กับลุงบอกว่าผมใส่เครื่องแบบแล้วน่ารักมาก.....และในที่สุดพวกเราก็มาถึงหน้าโรงเรียน โอ้โห! คนเยอะมากๆ ตอนที่ผมเดินเข้ามาในโรงเรียน มีคนหันมามองพวกเรากันใหญ่ ผมเองรู้สึกว่าตัวเองสั่นๆเลยเดินก้มหน้าตามหลังไอ้พี่นัทของผม
“เฮ้ย...ไอ้นัท”เสียงตะโกนของเพื่อนพี่นัท ทำให้ผมหันไปมอง โห...น่ารักมาก พี่เค้าสูงพอๆกับพี่นัท เลย แล้วแกก็มาหยุดแล้วจ้องมาที่ผม
“นี่น้อง..รอน ที่เอ็งเล่าให้ข้าฟังเปล่าว่ะ...น่ารักกว่าที่คิดเยอะเลยนะ หวัดดีครับพี่ชื่อ วานะครับ”
พี่วายิ้มหวานมาหั้ย ผมรู้สึกเขินๆ เลยได้แต่ยิ้มแบบอายๆให้แก
“รอนเดี๋ยว นายเดินไปรายงานตัวที่ห้องประชุมเลยนะ แล้วตอนเที่ยงพี่จะมารับไปกินข้าว”
แล้วไอ้พี่นัทก็เดินกอดคอพี่วา ทิ้งผมไปเลย ผมเลยก้มหน้าก้มตาเดินไปรายงานตัว
หลังจากผมเข้าปฐมนิเทศตอนเช้าเราก็ต้องมาเข้าห้องเรียน โดยที่อาจารย์เค้าได้ประกาศให้เรารู้แล้วว่าเราอยู่ห้องไหนกันบ้าง ผมเดินหาอยู่นานมากกว่าจะเจอ พอเดินเข้ามาในห้องก็มากันเกือบครบแล้ว ส่วนมากที่มากันช้าจะเป็นเด็กใหม่ทั้งนั้น แต่ห้องผมส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเก่าที่เรียน ม.ต้นที่นี่
ทันทีที่ผมเดินเข้ามามีเสียง ฮือฮา และต่างก็มองมาทางผม ผมเองหาที่ว่างได้ก็รีบเดินไปนั่ง สักพักพอนักเรียนมากันครบ อาจารย์ที่ปรึกษาของห้องเราก็มาแนะนำและบอกระเบียบอะไรมากมาย แล้วก็ให้พวกเราออกมาแนะนำตัวกันที่ละคน ส่วนใหญ่นักเรียนที่นี่จะเป็นลูกของคนมีฐานะ เลยมีแต่น่ารักทั้งนั้น ผมเองรู้สึกว่ามีคนมองผมอยู่แต่ก็ไม่กล้าหันไปมอง แล้วอาจารย์ก็ปล่อยให้พวกเราทำความรู้จักกันเอง หลายคนเดินเข้ามาคุยกับผม คงเพราะส่วนใหญ่เค้าเป็นเด็กเก่ากันเลยรู้จักกันบ้างแล้ว พวกผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ถามว่าผมเป็นอะไรกับไอ้พี่นัทเห็นตอนเช้าเดินลงมาจากรถพร้อมกัน คุยไปสักพักผมก็เพิ่งรู้ว่า พี่นัท กับพี่วา ฮ๊อตมาก แกเป็นนักกีฬาของโรงเรียนด้วย หมั่นไส้ไอ้พี่นัทจัง
“นาย...ไปกินข้าวกัน” มีเสียงหนึ่งเรียกผม เลยหันไปมอง อ้อ..คนที่ชื่อ ภีม นั่นเองผมจำได้ตอนแนะนำตัว ก็น่ารักขนาดนี้ ภีมสูงกว่าผมนิดหน่อย แต่ไม่ขาวเท่าผม แต่ก็ถือว่าขาว แต่จมูกสวยมาก
และที่สำคัญ ตาคมมากมองที่ผมสั่นๆเลยล่ะ ผมเองก็เริ่มมีเพื่อนบ้างแล้ว ก็กลุ่มของภีมนั่นแหละ แต่ตอนที่ผมคุยกันภีมไม่ค่อยคุยเท่าไหร่
“ขอบใจนะ แต่ว่าพี่เราบอกว่าจะมารับน่ะ” ผมเห็นหน้าเค้าผิดหวังนิดๆ
“เหรอ...น่าจะไปกินด้วยกัน จะได้รู้จักกับเพื่อนๆในกลุ่มเรามากขึ้นน่ะ” ผมคิดดูแล้วก็จริงนะเลยตอบตกลง แล้วผมก็โทรไปบอกไอ้พี่นัทว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อน
“พี่นัท..เดี๋ยวรอนไปกินข้าวกับเพื่อนนะ ไม่ต้องมารับก็ได้”
“ทำมั๊ยล่ะ ไม่อยากมากินกับพี่เหรอ”แกทำเสียงดุๆ
“เปล่าครับ แต่พอดีเพื่อนๆชวนน่ะ จะได้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น”
“แล้วมีเพื่อนแล้วเหรอ ผู้หญิง หรือ ผู้ชายล่ะ”
“เออน่า มีแล้วกัน”แล้วผมก็วางไปเลย ผมเห็น ภีมมองอยู่เลยยิ้มๆให้
“พี่นายนี่ท่าทางหวงน้องน่าดู แต่อย่างว่าถ้าเรามีน้องอย่างนาย เราก็คงหวงเหมือนกัน แต่นายกับพี่นี่หน้าไม่ค่อยเหมือนกันเลยนะ พี่นายออกจะเหมือนฝรั่ง” ผมเองก็ไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มตามเคย
ตอนนี้กลุ่มผมเริ่มที่จะสนิทกันมากขึ้นแล้ว(ความจริงเค้าสนิทกันอยู่แล้ว) กลุ่มผมมี ผม,ภีม,เจน,อั้ง
แต่ละคนก็น่ารักกันทั้งนั้น อั้งเป็นลูกคนจีน ก็ขาวตี๋ แต่เวลายิ้ม มีสักยิ้มด้วย เจนเป็นคนใต้ พ่อมีโรงแรม กับสวนยาง อยู่ที่โน้น แต่คนใต้อะไรไม่รู้ ขาวได้ใจมั๊กๆ คิ้วเข้ม ตาโต เลยทำให้กลุ่มผมเป็นที่สนใจของคนข้างๆ
“เออ..ไอ้ภีม มึงจะเอายังงัยว่ะ ไอ้ตาร์มันไปออสเตเลียแล้ว อย่างนี้วงเราก็ขาดนักร้องนำดิว่ะ” ไอ้เจนพูดขึ้น
“ก็ ให้ไอ้รอนมันร้องแทนดิ อย่างมันนะ สาวๆคงกรี๊ดกันทั้งโรงเรียน”ไอ้อั้งพูดเสริม
“เฮ้ย.....รัยว่ะเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย ร้องอะไร”ผมทำหน้างง
“พอดีพวกเราตั้งวงกันเล่นๆน่ะ นายมาเป็นนักร้องให้หน่อยดิ” ภีมมันข้อร้องผม
“เราไม่เคยน่ะ อย่างมากก็คาราโอเกะที่บ้านน่ะ ไอ้พี่นัทยังบอกเลยว่า ฟังดนตรีเปล่าๆยังเพราะกว่าให้เราร้องอีก”
“ไม่หรอก ภีมฟังรอนพูด ก็ว่าเสียงดีนะ การเว้นวรรค การหายใจก็สม่ำเสมอดี”
“เออ..ลองดูก็ได้เราก็ชอบร้องเพลงนะ แต่โดนพี่แซวบ่อยๆ พักหลังเลยไม่ค่อยได้ร้องเพลง”ผมตอบตกลง วันนั้นเราก็ไม่ค่อยได้เรียนกันเท่าไหร่ อาจารย์แจกตารางสอน แล้วก็ปล่อยให้เราคุยกันมากกว่า วันนั้นพวกเราเลยสนิทกันมากขึ้น ก่อนกลับกลุ่มผมเราก็มาแลกเบอร์โทรกัน....
ตอนเย็นผมก็มานั่งรอพี่นัทที่โต๊ะม้าหินอ่อนข้างสนามบาส ภีมกันไอ้เจนมานั่งรอเป็นเพื่อนเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ ตอนคุยกัย ภีมชอบมาลูบหัวผมเล่นผมเองก็ไม่ถืออะไรสักพักพี่นัทก็เดินมา
“ไป...รอนกลับบ้าน” เสียงดุมาเชียว ผมเลยหันไปลาเพื่อนๆ ระหว่างที่ไอ้พี่นัทขับรถอยู่ ผมก็พูดนั่นพูดนี่ไปเรื่อยๆ เอ๊ะ...ทำมั๊ยไอ้พี่นัทมันเงียบๆว่ะ
“พี่นัท วันนี้เพื่อนผมมันชวนให้ผมไปเป็นนักร้องนำวงพวกมันด้วย”ผมรู้สึกว่ารถมันกระตุกนิดหน่อย
“ไม่ได้...”พี่นัทพูดเสียงดัง
“ทำมั๊ยล่ะ ผมชอบร้องเพลงนะ ไม่รู้ล่ะ ผมจะร้อง”
“นายต้องไปอยู่ชมรมเดี๋ยวกับพี่ แล้วเพื่อนคนไหนชวน”
“ก้อคนที่นั่งด้วยกันเมื่อเย็นงัย”
“อ้อ..โดนมันลูบหัวหน่อย หัวอ่อนตามมันไปเลยนะ”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย แล้วจะให้ผมเข้าชมรมอะไรเหรอ”
“ชมรม ดาราศาสตร์ น่ะ แต่ถ้านายไม่อยากจะมาดูดาวกับพี่พี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก”เสียงพี่นัทเศร้ามาก
ผมรู้สึกแปลกๆ ไม่อยากได้ยินเสียงเศร้าๆแบบนี้เลย
“พวกผมซ้อมดนตรีกันวันหยุด เดี๋ยวผมไปเข้าชมรมเดี๋ยวกับพี่นัทก็ได้ ผมก็อยากดูดาวดวงเดียวกับพี่นัทเหมือนกัน”
“ดีมาก เพราะไม่ว่ายังงัยพี่ก็จะลากนายมาอยู่ข้างๆพี่อยู่ดี”พี่นัทยิ้มแล้วเอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ
แล้วเราก็คุยเล่นกันมาตลอดทางกับบ้าน
“รอน...เดี๋ยวคืนนี้ไปนอนที่ห้องพี่นะ”
“อ้าว..มั๊ยล่ะ” ผมหันมาถาม
“ก็ พี่จะสอนนายดูดาวก่อนงัย ที่ระเบียงห้องพี่มันเห็นชัดกว่าห้องนาย เอ่าน่าอย่าถามมาก”
คืนนั้นผมเลยต้องไปนอนที่ห้องไอ้พี่นัท แล้วพี่นัทก็สอนผมดูดาว ผมมีความสุขมากเวลาเราดูหน้าผมกับของพี่นัทจะสัมผัสกัน คืนนี้มองเห็นดาวเยอะพอสมควร ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าการดูดาวมันมีความสุขแบบนี้เอง ในระหว่างที่ผมดูอยู่พี่นัทก็เอาผ้าห่มมาห่มให้ผมด้วย ตอนนี้พี่นัทยืนกอดผมจากข้างหลัง เราสองคนอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกัน ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะพี่นัทชอบกอดผมอยู่บ่อยๆ
“รอน รู้มั๊ยทำมัยพี่ชอบดูดาว”
“ไม่รู้ซิครับ ทำมัยละ”
“ไม่ว่า เราจะไปอยู่ที่ไหน แค่เราเงยหน้าขึ้นไปมอง เราก็สามารถมองเห็นมันได้ เค้าบอกว่าคนเราเมื่อตายไปจะมีดาวเพิ่มขึ้นมาแทนคนนั้น พี่เองก็กำลังมองแม่ของพี่อยู่ ....ถ้าสักวันพี่ต้องจากนายไป นายต้องพยายามหาพี่ให้เจอนะ”พี่นัทพูดเสียงเศร้าๆ และแกก็มาหอมแก้มผม ผมรู้สึกอบอุ่นมากเลยเอนหัวไปพิงกับอกของพี่นัท ...................


*************************************

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 16-07-2008 19:15:11
 :mc4:  เย้ๆ  เรื่องใหม่ 


ต้องสนุกแน่ๆเลย อิอิอิ   ..... ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 16-07-2008 19:37:05
เข้ามาสนับสนุนเรืองนี้

อยากบอกว่าชอบทุกเรืองที่นักเขียนคนนี้เขียน

แต่เฮ้ออออออออออออออออ เรืองที่ค้างไว้ ไม่เห็ฯมาต่อเลย

อยากอ่านนนนนนนนนน

เรืองนี้เคยอ่านจนจบแล้ว สนุกๆๆ ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o13

ขอบคุณ คนโพสต์

ปล.แล้วน้องเพียวกับรันเป็นอะไรกันเนี่ย

ทำไมต้องมาแพ็คคู่

น้องเพียววววววววว เดียวนี้ๆ   

เชิดใส่น้องเพียววววววววว :o12:

+ ให้แพ็คคู่
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 16-07-2008 19:42:09
ป้า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ป้าโกดเค้าหรออออออออออออออออ


ม่ายน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 16-07-2008 20:39:56
เรื่องใหม่ ๆ ๆ


รอติดตามผลงานยุน๊า




เอิ๊ก ก ก
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 16-07-2008 20:44:23
ยินดีต้อนรับการกลับมาของ รอน กะ วินครับ เย้ ๆ ๆ  แล้วมาต่อไว ๆ นะครับ  :oni2:  :oni2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 16-07-2008 20:49:32
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ ได้อ่านเรื่องใหม่แล้ว

ว่าแต่เรื่องมันจะเป็นยังไงน๊า.....

รักกันตั้งแต่ต้นเรื่องเลย อิอิ......

+1 เป็นกำลังใจให้ค๊าบ.........

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 16-07-2008 21:17:39
ใช้ภาษาวิบัติเยอะมากครับ ถึงจะเป็นบทสนทนา แต่ถ้ามันมีความหมาย เช่น ไง (ยังไง,อย่างไร) ก็ดันเขียนเป็น "นั้นงัย" ทั้งๆ ที่ต้องใช้คำว่า "ไง" (จะพูดว่า งาย ก็ได้ ถ้าเป็นการบ่งบอกว่าคนพูดลากเสียงยาว)

แล้วก้อ นี่ก็เป็นอีกคำหนึ่ง... ก็ พิมพ์ง่ายกว่าเยอะ ไม่รู้จักใช้ ทำไมต้องพิมพ์ทีละหลายตัวแบบนั้นด้วย

โห่......เด็กที่ไหนเนี่ยะน่ารักมากๆๆ ถ้าจะอุทาน ต้องบอกว่า โห.. โห่... เป็นอาการของความไม่ชอบใจมากกว่านะครับ

ผมเค้าเป็นรอนๆ ลอนๆ ครับ ตรงนี้คงพิมพ์ตก เพราะคล้ายกับชื่อตัวเอก หุๆ


ทำมัย ซื้อหวยก็ถูกว่าถ้ามีคำนี้ก็ต้องผิด ทำไม นี่พิมพ์ยากกว่าจริงด้วยแฮะ

มั๊ง อักษรต่ำ ไม่ใช้ไม้ตรีนะครับ ไม่โทก็ออกเสียงอย่างที่ต้องการได้แล้ว

ทำมั๊ยล่ะ วุ้ย... ถ้าหมายถึง ทำไม จะเอาไม้ตรีมาใส่ทำไมเนี่ย แต่ถ้าออกเสียงได้ตามไม้ตรีแล้ว ทำมั้ย นี่จะชวนเขาทำอะไรครับ

----------------------------------
กลิ่นอายเศร้าๆ โชยมาแต่ไกลเลยแฮะ เอิ๊กๆ


ก็สนุกดีครับ แต่ผิดหวังเล็กน้อยในเรื่องภาษาวิบัติ ขอโทษนะครับ เห็นแล้วหงุดหงิดใจ



ถ้าติดต่อเจ้าของเรื่องได้ก็ฝากเอาไปบอกเขาทีนะครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 16-07-2008 21:24:36
หนุกๆเคย เคยอ่านแย้วรอบนึงเรื่องนี้ สนุกมากเลย  :laugh:
ขอบคุณผู้โพสกะผู้แต่งมากนะคับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-07-2008 21:39:43
คอนเฟริ์ม เรื่องนี้สนุกมาก  o13 o13 o13

ปล. ขออนุญาตคนแต่งแล้วใช่มั๊ยจ๊ะ  :oni2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 16-07-2008 21:57:14
 :o12: ทำมั๊ย ทำมั้ย ต้องมาที่หลังทิพย์ทุกที่เลย

แง แง แล้วก็หอบผ้าขุนแมวหนี้
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 17-07-2008 02:46:17
 :m4: :m4:นิยายใหม่

มารอตอนต่อไปด้วยคน

 :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 17-07-2008 04:19:43
เย่ๆๆๆๆ เอาเรื่องนี้มาลงแล้ว  o7

เคยอ่านเรื่องนี้แล้ว แต่ยังอ่านไม่จบเลย

ขอบคุณ คุณ ranaways  มากเลยฮับ :oni2: :oni2:


 :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 17-07-2008 07:05:08
 :m13: นิยายใหม่  :m13:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 17-07-2008 11:02:14

ตามรอยเข้ามาอ่าน จาก PM

ขยันโพสต์หน่อยนะคะ  อิอิ

ปล. สนับสนุน เม้นต์ นังกระต๊อบศรี คะ

แก้ไขนิดหน่อยก็น่าจะดีมาก  ขอบคุณล่วงหน้าเลย
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: beboy ที่ 17-07-2008 13:35:44
เรื่องนี้สนุกมากครับ 
ออกแนวดราม่านิดๆ  มี 2 ภาคครับ
ขอบคุณครับ  ที่เอามาให้ได้อ่านอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 17-07-2008 16:33:00
joypluss  ****  คอยติดตามละกันนะครับ รัน จะลงให้เพื่อนๆได้อ่านเรื่อยๆ

RN          ****  ชอบผลงานหรือว่าชอบคนเขียนอ่ะป้า 
 
                            แล้วรันกับน้องเพียวเพิ่งจะได้รู้จักกันในเล้าเอง ยังไม่ได้เป็นไรกันเลย  อิอิอิอิ

G-NaF     ****   เข้ามาอ่านบ่อยนะครับ  รันก้อจะลงบ่อยๆเหมือนกัน

paulla     ****   ก้ออยากให้พื่อนๆในเล้าเป็ดได้อ่านกันบ้างอ่ะนะ

zandwizz ****  ลองเดาดูสิครับ   ว่ามันจะเป็นยังไง

ก ร ะ ต๊ อ บ ™ ****  ขอขอบคุณ คุณก ร ะ ต๊ อ บ ™  มากๆเลยนะครับ แต่ถ้าจะฝากบอกพี่พี เนี่ย ยากกกกกกกก

                            เพราะพี่เค้าติดต่อยาก ต้องให้น้องเพียวจัดการครับ  ยังไงแล้ว ตอนต่อไปรันจะตรวจทาน

                            ดูอีกรอบก่อนลงละกัน ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยแทนพี่พี มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

ChiiCaLorz  ****  ขอบคุณเช่นกันครับ

THIP          ****  คือเรื่องนี้ น้องเพียวเค้าขอไว้แล้วครับ แล้วก้อคุยกัน น้องเพียวก้อเลยให้รันลง แต่ถ้ารันไม่ว่าง

                              น้องเพียวก้อจะมาลงให้ครับ

ไต๋               ****  วันหลังก้อมาก่อนสิครับ  จะได้ไม่มาทีหลัง

nana lonely****  คอยติดตามละกันนะครับ รัน จะลงให้เพื่อนๆได้อ่านเรื่อยๆ

 PakBeob   ****  อาจจะอ่านไม่จบอีกครั้งนะครับ  อิอิอิ

oaw_eang  ****  จะพยายามนะครับ  เจ๊สอง


beboy ****  ภาค2 อาจจะช้าหน่อยนะครับ  เพราะว่าต้องแบ่งกันพิมพ์คนละครึ่งกะน้องเพียว
 

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว ตอนที่3 17July 08
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 17-07-2008 16:57:47
ตอนที่.3
ตอนนี้ผมเองสนิทกับเพื่อนๆแล้วโดยเฉพาะ กับไอ้ภีม มันแทบจะกลายเป็นเงาของผมไปแล้ว ส่วนเรื่องชมรมนั้นไอ้พี่นัทก็บังคับผมให้เข้าจนได้ ส่วนเพื่อนๆของผมก็เข้าชมรมดนตรี พวกมันบ่นผมใหญ่เลยที่ไม่ยอมมาเข้าชมรมเดียวกัน แต่ผมก็ไปซ้อมดนตรีกับพวกมันบ่อยๆเท่าที่จะหาเวลาว่างได้
“เออ...ภีม เสาร์นี้เราไปซ้อมกับพวกนายไม่ได้ว่ะ”
“มั๊ยอ่ะ”มันทำเสียงโกรธๆ
“เราต้องไปเชียงใหม่น่ะ พอดีแม่เราจะไปเยี่ยมปู่กับย่าน่ะ” ปู่กับย่ารักผมกับแม่มากถึงแม้ว่าแม่จะแต่งงานใหม่แล้วก็ตาม แกคงคิดถึงหลานมั๊งเพราะผมก็ไม่ได้ขึ้นไปนานแล้ว
“เออ..ก็ได้ว่ะ แต่ต้องมาซ้อมชดเชยวันหลังนะ”แล้วมันก็เอามือมาขยี้หัวผมเล่น
“รอน...กลับบ้าน”เสียงดุมาเลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร………………….
แล้ววันนี้ผมกับครอบครัวก็ขึ้นไปเชียงใหม่กันเพราะลุงนนท์บอกว่าจะได้ถือโอกาสพักผ่อนด้วย
ตอนแรกพวกเรากะจะพักที่โรงแรมกัน แต่ย่าบอกว่าบ้านก็กว้างให้พักกันที่นี่เลย บ้านย่าผมทำไร่ส้ม ที่นี่อากาศดีมากตอนกลางคืนค่อนข้างหนาว คืนนี้ผมกับพี่นัทเราตกลงกันว่าจะไปนอนบนหอดูไฟ ที่ไร่มีหอไว้คอยดูไฟป่า,ขโมย
 คืนนี้ดาวสวยมากแค่มองด้วยตาเปล่าก็สวยสุดบรรยายแล้ว ผมนอนกับพี่นัทเราห่มผ้ากันคนละผืน โชคดีที่ลมแรงทำให้ไม่ค่อยมียุง
“รอนพี่ว่าเราเอาผ้ามาซ้อนกันเถอะ พี่หนาว ผ้ามันบางน่ะ”
“โห..ผ้าผืนเล็ก เดี๋ยวก็เบียดกันหรอก”
“ก็ดี จะได้อุ่นงัย” ผมก็ต้องทำตามอยู่ดี ไม่รู้จะถามทำมัย แล้วพี่นัทก็เอามือมากอดผมไว้ คืนนั้นผมหลับภายใต้อ้อมกอดของพี่นัททั้งคืน รู้ตัวอีกที่ก็ได้ยินเสียงไก่ขัน และฟ้าก็เริ่มจะสว่างมากแล้ว
พี่นัทยังไม่ตื่น แต่ผมรู้สึกว่าบางอย่างของพี่นัทมันตื่นแล้วเพราะมันทิ้มอยู่แถวๆหน้าขาผมอยู่ ผมพยายามจะเอามือพี่นัทออก แต่เหมือนพี่นัทจะตื่นแล้ว เลยแกล้งกอดผมแน่นกว่าเดิม มันยิ่งทำให้ผม
เขินมากกว่าเดิม ผมรู้สึกว่าหน้าผมร้อนๆ พอเงยหน้ามองไอ้พี่นัท ก็เห็นพี่นัทยิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์มองผมอยู่
“ยิ้มทำมั๊ยอ่ะพี่นัท”
“ก็ ยิ้มให้เด็กที่คิดลามกอยู่อ่ะ”แล้วแกก็เอาจมูกมาป้วนเปี้ยนแถวๆแก้มของผม
“พี่นัททำอะไรอ่ะ เดี๋ยวมีคนเห็น”
“ไม่เห็นหรอก เราอยู่สูงจะตาย จะมีก็แต่นกเท่านั้นแหละที่จะเห็น”
“นั้นแหละ ไม่เอาจั๊กจี้นะ” แล้วแกก็หยุดแล้วมามองหน้าผมแทน”
“นายน่ารักจังตอนทำหน้าเวลาอาย 555 ตลกดี” แล้วเราก็ลงไปอาบน้ำเพื่อที่จะออกไปเที่ยวกัน วันนี้ผมไปเที่ยวหลายที่ ทั้งบ่อน้ำพุ ไปดูกุหลาบที่สันกำแพง และสุดท้ายที่ดอยสุเทพ แต่มันก็เย็นมากแล้ว เราเลยไหว้อยู่ข้างล่างแทน
“พี่นัทรู้มั๊ยเค้าบอกว่าถ้ามาแล้วไม่ขึ้นไปไหว้ คนๆนั้นจะได้กลับมาใหม่”
“ก็ดี พี่จะได้มากับนายอีกไง ไว้คราวหน้าเรามากันอีกนะ”
แล้วเย็นนั้นพวกเราก็ลาปู่กับย่าเพื่อที่จะกลับกัน ผมรู้สึกว่าผมกับพี่นัทเรามีความทรงจำที่สวยงามเกิดขึ้นที่เชี่ยงใหม่ เชียงใหม่ดูสวยกว่าทุกครั้งที่ผมเคยมาเยือน---------------------------------------
นี่ก็ใกล้วันที่ผมจะสอบปลายภาคแล้ว ทำให้ช่วงนี้ผมกันพี่นัทเราไม่ค่อยได้ไปดูดาวด้วยกันเท่าไหร่ แต่พี่นัทก้อยังเอาใจใส่ผมเหมือนเดิม
“รอน...เดี๋ยวสอบเสร็จ เราไป ดูดาวที่บ้านที่หัวหินกันป่ะ”พี่นัทถามผม ดูแกเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้
“อือม์...ไปดิ” ผมบอกพี่นัทกลับไป และผมก็ยุ่งกับการสอบจนผมสอบเสร็จ วันนี้ที่บ้านเราออกมากินข้าวกันข้างนอก ลุงนนท์กับแม่ผม ก็ดูรักกันเหมือนเดิม ผมเองก็รู้สึกมีความสุขด้วย
“ว่าไง รอน...สอบ ยากมั๊ยลูก”แม่ผมถามผมทุกครั้งที่ผมสอบเสร็จ ท่านก็ยังห่วงใยผมเสมอแม้ว่าช่วงหลังๆงานแม่เยอะมาก ต้องออกงานกับลุงบ่อยๆ
“ก็ไม่เท่าไหร่ครับ”
“เห็นเจ้านัทมันบอกลุงว่าจะไปดูดาวที่บ้านที่หัวหินเหรอลูก”ลุงนนท์ถามผมกับพี่นัท
“ครับ...ลุงกับแม่จะไปด้วยกัน หรือป่าวครับ”
“พอดีลุงต้องไปทำธุระที่ญี่ปุ่นน่ะ แล้วก้อว่าจะเลยไปดูเรื่องเรียนต่อให้ พี่นัทเราด้วย เหลืออีกแค่ปีเดียว ถ้าไม่รีบจัดการเดี๋ยวไม่ทัน” ผมช็อคไปเลยครับ นี่ผมไม่ได้ฟังผิดใช่มั๊ยเนี่ย  ผมหันไปมองพี่นัท แต่พี่นัทมองผมอยู่ก่อนแล้ว แววตาของพี่นัทมันบอกผมว่าแกเองก็เสียใจ ที่ต้องไป….
คืนนี้พี่นัทมานอนกับผมที่ห้อง ก็คุยเรื่องที่จะไปหัวหินกันผมเองยังไม่กล้าถามเรื่องที่จะไปญี่ปุ่น
ไม่อยากฟังมั๊งครับไม่อยากรับรู้ว่าเราจะต้องจากกัน แล้วเราก็เข้านอน พี่นัทก้อมากอดผมเหมือนเดิม
“เฮ่อ...ต่อไปถ้าพี่ไม่อยู่แล้ว อย่าให้ใครมากอดนะรู้ป่าว”
“พี่นัทต้องไปจริงๆเหรอครับ แล้วจะไปนานแค่ไหน ไหนว่าจะอยู่กับผม นี่ไม่ทันไหรก็ทิ้งผมซะแล้ว” ตอนนี้ผมเริ่มจะร้องไห้แล้ว
“พี่ก็ไม่อยากไปหรอก แต่พ่อพี่เค้าอยากให้ไปเรียนที่โน้น เราก็รู้ว่าพี่ติดเราแค่ไหน เพื่อนพี่ยังแซวเลยว่าพี่หลงรักน้องตัวเอง”
“แล้วพี่นัทจะไปเมื่อไหร่ครับ”ตอนนี้ผมสะอื้นแล้วครับ มันกลั้นไม่ไหวจริง
“อย่าร้องไห้สิ มันทำให้พี่ใจไม่ดีเลย ก็จบ ม.6 ก่อน อีกตั้ง 1ปี ช่วงนี้เราก็มาสร้างความทรงจำที่ดีกันดีกว่า เอาไว้ให้เราใช้มัน ในยามที่เรารู้สึกเหงา และ คิดถึงกัน” อีกแค่1ปี เราก็ต้องจากกันแล้ว ถ้าตอนนั้นมาถึงผมจะทนได้มั๊ยนะ แล้ววันรุ่งขึ้นผมก็ไปบ้านที่หัวหินกับพี่นัท โดยมีคนขับรถไปกับเราด้วย ผมคิดมากมาทั้งคืน อีก 1 ปีที่เหลือ ผมจะต้องมีความสุขกับพี่นัทให้มากที่สุด ผมไม่อยากให้พี่นัทต้องเป็นห่วง ในเมื่อเวลาที่เราต้องจากกันมันยังมาไม่ถึง ผมไม่ควรมานั่งเศร้าแบบนี้
เรามาถึงหัวหินกันก็บ่ายๆ พวกเราไปหาอะไรกินแล้ว ก้อไปขี่รถมอเตอร์ไซด์เล่น วันนั้นเราไปที่เขาตะเกียบด้วย เพราะมันห่างจากบ้านเราไม่เท่าไหร่ ที่นี่บรรยากาศดี แดดไม่แรงมาก สายลมอ่อนๆ
เราเดินคุยกันไปเรื่อยเปื่อย พอตอนเย็นเราก็กลับมาที่บ้าน พี่นัทชวนผมเล่นน้ำ เราสนุกกันมาก
ตอนกลางคืนเราก็มานอนดูดาวกันวันนี้เราดูกันด้วยตาเปล่า เพราะจริงๆแล้วอยากคุยกันมากกว่า
“พี่นัท ถ้าไปอยู่ที่โน้น เวลาผมเหงาผมจะทำยังงัยดีครับ”
“นายก็หาแฟนสักคนสิ” พี่นัทพูด แล้วก็หัวเราะ
“มันถึงเวลาที่เราต้องหาใครสักคนแล้วเหรอครับ และพี่นัทเองก็คงต้องหาเหมือนกันสินะ”ผมถามแบบน้อยใจ แล้วพี่นัทก็เอามือมาลูบหัวผมเบาๆ
“ในตอนนี้อะไรมันก็ยังไม่แน่นอน พี่ไม่อยากจะให้เราผูกรั้งกันด้วยคำสัญญา แต่อยากให้เราผูกพันกันด้วยรักมากกว่า ไม่อยากให้เราต้องมาผิดคำสัญญากัน พี่เชื่อว่าความรักและความผูกพันของพวกเรา จะส่งผ่านมาถึงพี่กับรอนได้ ไม่ว่าต่อไปรอนจะมีใครยืนอยู่ข้างๆ แต่อีกข้างนึงมันจะเป็นของพี่เสมอ”
“ผมเองก็เหมือนกัน ที่ว่างข้างๆพี่อีกข้างนึงมันก็เป็นของผมเหมือนกัน”
คืนนั้นเราเอาผ้ามาปูที่ระเบียง และนอนดูดาวกันเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรแต่เราก็สัมผัสถึงความรักที่เรามีให้แก่กันผ่านมือที่เราประสานกันไว้ ผมจะจำคืนนี้ไว้ยามที่เราต้องไกลกันนะครับ พี่นัท พี่ชายที่ผมรักมากที่สุด...

*************************************


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว ตอนที่3 17July 08
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 17-07-2008 17:04:46
เริ่มออกแนวเศร้า

 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 17-07-2008 17:37:19
อย่าแกล้งเค้าจิ คุณรันอ่า  :sad2:

จำได้ว่าอ่านถึงตอน 7 เองมั้ง มันนานแล้วอ่า...

คิดถึงพี่นัท อิอิ :o8:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 17-07-2008 17:55:13
 :m15:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 17-07-2008 20:38:58
 :เฮ้อ: น่านไง ตั้งเค้ามาแล้วไง  :เฮ้อ:

จะเศร้าตั้งแต่ต้นเรื่องเลยหรือคุณรัน

แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคับ

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 17-07-2008 23:08:39
แวะมาอีกรอบ แบบว่า มะกี้ลืม

ถามฮับ... ไอ้โพลโหวตของพี่นี่ ยังงัยอ่ะฮับ

ปรารถนากับความรัก หมายถึง อยากให้ความรักตัวเองเป็นแบบไหน หรือ ความปรารถนาในความรัก???

โอ้ย งง :serius2: แล้วยิ่งมาเจอตัวเลือกที่ให้โหวตยิ่งแล้วใหญ่เลยอ่ะ  o2

ไม่เข้าใจ ภาษาไทยไม่แตกฉาน  :a6:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 17-07-2008 23:29:34
 :m1:
จำไม่ได้ว่าไปอ่านมาจากที่ไน๋...แต่ที่แน่ ๆ หนุกหนาน ๆๆๆ
อย่าเพิ่งรีบเศร้ากันไปจิ...เรื่องนี้น่าประทับใจหลายเรื่องอยู่
อ่านแล้วก็ลืม ๆ ติดตามกันอีกรอบในเล้านี่ละกันคับบบบบ

+1 เป็นกะลังจายยยยย กับนิยายดี ๆ จ้ะ... :L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 18-07-2008 06:18:38
 :เฮ้อ: จะจากกันซะแล้ว
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 18-07-2008 10:03:36
 :L2:มาอ่านด้วยคนค่ะ:L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 18-07-2008 18:20:02
คอยติดตาม และให้กำลังใจกันด้วยนะคับ  น้องเพียว พี่รันกลัวน้องเพียวไม่ว่าง  พี่รันเลยมาลงเองละกัน

ตอนที่.4
เวลาที่เรามีความสุขมันมักจะผ่านไปไวเสมอ อีกไม่กี่อาทิตย์พี่นัทก็ต้องไปญี่ปุ่นแล้ววันนี้เราเลยตกลงกันว่าจะเราจะไปเขาใหญ่กัน พวกเราไปกันหลายคนมีผม พี่นัท พี่วา และเพื่อนๆที่อยู่ห้องเดียวกับพี่นัท เพราะว่าจบ ม.6 แล้วต่างคนก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางที่ตัวเองเลือกไว้…
ตั้งแต่ที่เรารู้ว่าพี่นัทต้องไปเรียนที่ญี่ปุ่น ผมกับพี่นัทเราก็ไปเที่ยวกันทุกวันหยุด หลายๆที่จึงมีความทรงจำระหว่างเรา
ผมเองก็ทำใจได้บ้างแล้ว ไม่อยากมานั่งเศร้าเพราะกลัวว่าพี่นัทจะเป็นห่วง คืนนี้เรามานั่งคุยกันหลายคน รุ่นพี่บางคนก้อเริ่มมึนๆกันบ้างแล้วเพราะดื่มน้ำเมากันตั่งแต่หัวค่ำ พี่นัทกับพี่วาก็ดูหน้าแดงๆ แต่ผมหมดสิทธิ์ เพราะพี่นัทห้ามเด็ดขาด เราคุยกันไปเรื่อย รุ่นพี่ต่างก็ พูดถึงอนาคตที่ตัวเองเลือกให้เพื่อนๆในกลุ่มฟัง ผมรู้สึกว่าพี่ๆเค้าสนิทกันมากบรรยากาศมันอบอุ่น แต่มันก็แฝงความเหงาในเวลาเดียวกัน
“เออ รอนร้องเพลงหน่อยสิ เห็นว่าตั้งวงกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวให้ไอ้บอยมันเล่นกีตาร์ให้”เสียงพี่นัทบอกผม สรุปว่าคืนนั้นผมต้องรับหน้าที่ นักร้องไปโดยปริยาย ผมร้องไปหลายเพลง จนดึกแล้วผมเลยบอกว่าขอเป็นเพลงสุดท้ายแล้วกันเพราะดึกแล้วแล้วผมก็เดินไปบอกพี่บอยว่าผมจะร้องเพลงอะไร

ต้องไปแล้วใช่ไหม.....ต้องลาแล้วใช่ไหม
อยากให้รู้ว่าฉันใจหาย...และเป็นห่วง
จะคิดถึงฉันไหม...จะเขียนถึงฉันไหม
อยู่ไกลไกลจะเป็นอย่างไร...ไม่อาจรู้ได้เลย
คงมีเพียงภาพเรา...ถ่ายครั้งที่เธอยังอยู่
ให้เธอไว้ดู...เมื่อเวลาที่เราคิดถึงกัน
** เก็บเอาไว้ดีดี...ใส่กระเป๋าสตางค์ เอาวางไว้ใกล้ตัว **
** เก็บเอาไว้ดีดี...เก็บเอาไว้นานๆ ให้ฉันได้ใกล้เธอ **
ใส่กระเป๋าสตางค์ เก็บเอาไว้กับตัว...เหมือนเราได้ใกล้กัน
เผื่อเวลาที่เธอเดียวดาย...อยากให้เธอได้มองดูฉันเหมือนในวันก่อน
ต้องลาแล้วใช่ไหม...ต้องไปแล้วใช่ไหม
จับมือฉันอีกทีได้ไหม...ฉันเป็นห่วง
ส่งเธอแค่นี้นะ...บอกลาแค่นี้นะ
ไม่ต้องการให้เธอได้เห็น ฉันต้องเสีย...น้ำตา

เก็บไว้ดีดี/เนื้อร้อง สีฟ้า /ทำนอง โกมล ร้องเจนนี่

ผมพยายามกลั้นน้ำตาไว้ให้ร้องเพลงนี้ให้จบ เพราะไม่อยากทำให้พี่นัทกังวล แล้วเราก็แยกย้ายกันเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ก็กลับกันแล้ว
“รอนเดี๋ยวไปนอนก่อนนะ พวกพี่จะนั่งคุยกันสักพักนะ”ตอนนี้เหลือ พี่นัท พี่วา พี่บอย พี่กุ้ง ผมเลยเข้ามานอนก่อน ผมหลับไปสักพัก คงเพราะอากาศมันหนาวเลยจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่พี่นัทกับพี่วาก็ยังไม่เข้ามา ผมเลยเดินออกมาที่พี่นัทนั่งกันก่อนที่ผมจะเข้าไปนอน ตอนนี้เหลือแค่พี่นัทกับพี่วา 2 คนเท่านั้น พี่วาเอาหัวพิงไหล่พี่นัท โดยที่พี่นัทเอามือกอดคอพี่วา อากาศตอนนี้มันหนาวจนผมสั่นไปทั้งตัวแต่ภาพที่เห็นมันและสิ่งที่ผมได้ยินทำให้ผมสะท้านไปทั้งใจ
“ นัท อย่าลืมเรานะ เราอยากให้นายรู้ว่ายังมีเราอีกคนที่รอนายกลับมา”
“อือม์.... เราไม่ลืมนายหรอก เราสัญญา” ตอนนี้ภาพพี่นัทกับพี่วามันดูเลือนลางเพราะหยาดน้ำตาของผมมันไหลออกมาเต็ม 2 ตา สัญญาที่พี่นัทไม่ยอมให้กับผม แต่เพราะต้องมาให้กับคนพิเศษ คือพี่วา ผมถอยหลังกลับไปที่เต็นท์ จริงสินะพี่นัทบอกว่าผมคือคนสำคัญ คนในครอบครัวย่อมสำคัญอยู่แล้วแต่ไม่ใช่ คนพิเศษ ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกได้แต่พยายามข่มตาให้หลับเท่านั้น
เช้านี้ ผมตื่นเช้ากว่าปกติเพราะพี่บอยมาชวนไปดูหมอกตอนเช้า พี่นัทกับพี่วาไม่ไปเพราะกลับเข้ามานอนก็จะเช้าแล้ว ผมเลยไปกับพวกพี่ๆเค้า ที่ๆเราพักเรียกว่าผากล้วยไม้ แต่ที่เราไปดูหมอก
ต้องขับรถย้อนลงมาตรงที่ทำการแล้วขับขึ้นไปทางเขาเขียว มันอยู่ข้างทาง เห็นพี่เค้าบอกว่าชื่อ
ผ่าถีบเมีย ( ไม่รู้จริงป่าว ) ภาพที่อยู่ตรงหน้า คือหน้าผาสูง ขุนเขาอยู่ข้างหน้าเรา มีหมอกปกคลุมที่ยอดเขา มันไม่มากเท่าทางภาคเหนือ แต่ก็สวยไม่น้อยไปกว่ากัน ลมไม่แรงแต่ก็รู้ได้ถึงความเย็นของอากาศ ผมยืนคิดอะไรไปเรื่อยๆ พี่บอยก็เดินมาทางผม
“ ว่าไงรอน เมื่อคืนร้องไห้เหรอเรา ตาบวมมาเลยนะ” แกเดินมาถามยิ้มๆผมรู้สึกว่าแกมองผมแปลกๆ
“ความรักความผูกพันของพี่น้องมันยั่งยืนนะ มันเป็นรักที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย มันไม่ใช่รักที่ต้องใกล้ชิดตลอดเวลา แต่ ก็ไม่ห่างใกล้เกินเอื้อมถึง” พี่บอยเอามือมากอดคอผมไว้
“พี่บอย เออ...พี่...เออ” ผมพูดอะไรไม่ออก นี่พี่บอยรู้อะไร พี่เห็นอะไร
“พี่คงไม่ให้นายเข้าใจภายในวันนี้หรอกนะ แต่หวังว่าสักวัน รอนเองจะเข้าใจ ถ้าเรารักใครสักคน เราคงอยากเห็นเค้ามีรอยยิ้มของความสุข ไม่อยากให้เค้าต้องมาลำบากใจเพื่อเรา” ขอบคุณครับพี่บอย ถึงผมจะยังทำใจไม่ได้มากนักแต่มันก้อไม่เจ็บปวดสักเท่าไหร่แล้วครับ ผมขอบคุณแกในใจ........
ตลอดเวลาที่เหลือผมคิดทบทวนมาตลอด มันอาจจะเป็นผมเองที่รักพี่นัทมากเกินไป ผมหวงแหนความรักที่ผมขาดหายไปตั่งแต่ที่ผมเสียพ่อไป แล้วผมจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอที่จะเก็บพี่นัทไว้กับผมคนเดียว ผมไม่อยากให้ความรักของผมต้องทำร้ายพี่นัท วันนี้เรามาส่งพี่นัทกันที่สนามบิน แต่ลุงนนท์จะไปด้วย แกคงเป็นห่วง พี่วาเองก็มาส่งพี่นัทด้วย ถึงผมจะทำใจได้บ้างแล้ว แต่ก็ไม่สามารถห้ามน้ำตาได้ น้ำตาที่เต็มตื้นไปด้วยความรู้สึก
“อย่าร้องไห้สิ...รอน อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง ปิดเทอมพี่จะกลับมาหานะ”พี่นัทเองก็ตาแดงๆเหมือนกัน
“วา....เราฝากรอนด้วยนะ ถ้านายว่างๆมาพาเจ้านี่ไปดูดาวแทนเราทีนะ”แล้วพี่นัทก็ดึงผมกับพี่วาเข้าไปกอด เรา3 คนยืนกอดกันนานมาก พี่วาเองก็ร้องไห้ซะมากมายไม่ต่างจากผม
“พี่นัท รีบกลับมานะ รู้ไว้ว่ายังมีผมกับพี่วารอพี่นัทอยู่เสมอนะ และ เออ...เรื่องใครบางคนที่พี่นัทบอกว่าสักวันเราจะเจอนั้น ผมรู้ว่าพี่นัทเจอเค้าคนนั้นแล้ว ไม่ว่ายังงัยตอนนี้รอบข้างพี่นัทมันเต็มไปด้วยความรักความห่วงใยของผมกับพี่วานะ” พี่นัทดูตกใจกับสิ่งที่ผมพูดออกไป
“รอน....นายเออ....”แล้วพี่นัทก็หันไปมองพี่วา ผมได้แต่พยักหน้า และยิ้มให้พี่นัท เวลานี้สิ่งที่ผมทำให้ได้คงมีเพียงสิ่งนี้ ไปเถอะครับพี่นัท อย่าต้องมากังวลเพราะผมเลย แล้วเสียงเรียกผู้โดยสารที่จะไปญี่ปุ่นก็ดังขึ้น ผมมองดูพี่นัทเดินหายเข้าไปยังห้องพักผู้โดยสาร ก่อนที่จะเข้าไปพี่นัทหันมาโบกมือให้เรา
ลาก่อนครับรักครั้งแรกของผม ผมสัญญาว่าเมื่อพี่นัทกลับมา ผมจะเป็นน้องชายที่ดีของพี่นัทตลอดไป.............


*บางครั้งความรักมันก็มาหาเรา....แต่...มันมาเพื่อให้เราเรียนรู้ มิ ใช่ให้เราครอบครอง*

*************************************


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 17 July 08
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 18-07-2008 18:59:18
*บางครั้งความรักมันก็มาหาเรา....แต่...มันมาเพื่อให้เราเรียนรู้ มิ ใช่ให้เราครอบครอง*

สงสารรอนจัง

 :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4 + 5
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 18-07-2008 19:01:13
ติมตาม ตอนที่5 ต่อได้เลยนะครับ  ถ้ามีเวลาว่าง รันมามาตอบ เม้นท์ นะคับ

ตอนที่..5
ชีวิตช่วง ม.6 เป็นอะไรที่สนุสนานมาก มันทำให้ผมหายเศร้าเรื่องพี่นัทไปได้บ้าง พี่นัทยังโทรมาหาผมอย่างสม่ำเสมอ แต่เราก้อ เอ็ม คุยกันแทบจะทุกวัน โชคดีที่ผมมีเพื่อนๆ พวกมันคอยแหย่เวลาที่ผมเศร้า ตอนนี้ ไอ้เจน กับ ไอ้อั้งมันมีแฟนกันหมดแล้วครับ เหลือแต่ผมกับไอ้ภีมที่ยังไม่สนใจใคร
“เฮ้ย...พวกมึง เย็นนี้ไปเดินสยามกันป่ะ เพื่อนๆเด็กกูไปกันเยอะนะโว้ย เด็ดๆเพียบ”ไอ้อั้งครับมันชวนผมกับไอ้ภีม ส่วนไอ้เจนมันตีท้ายครัว จีบน้องสาวไอ้อั้งครับ เลยต้องไปรับน้องเค้าที่โรงเรียนหญิงล้วน ข้างๆกันเป็นเอกชนเหมือนกัน แถวๆสะพานกรุงธน
“เอางัยวะ นายไปป่ะ”ผมหันมาถามไอ้ภีม
“แล้วแต่ว่ะ นายไป เราก้อไป” ผมเองก็เบื่อๆเลย เซเยสมันไป แล้วเย็นนั้นเราก้อไปเดินสยามกัน เพื่อนๆของเด็กไอ้อั้มมันก็น่ารักกันทุกคน แต่ผมเองก็เฉยๆนะ ไม่รู้ใจตัวเอง ผมเองก้อชอบนะเวลาที่มีผู้ชายหน้าตาดีๆมาจีบ แต่ก้ออยากดูดีในสายตาสาวๆที่น่ารักนะ (ไม่รู้ใจตัวเอง) แซวกันเล่นๆก็ได้แต่จะให้คบเป็นเรื่องเป็นราวนี่ก็ไม่ไหว ขอเป็นพี่ชายที่แสนดี แล้วผมก้อเห็นน้องคนนึง เค้าก็น่ารักนะครับ
แต่ดูเค้าเศร้าๆนะ เลยเพิ่งรู้ว่าโดนหักอกมา
“เป็นรัยครับ...ดูเหงาๆ”ผมถามน้องเค้า
“ป่าวค่ะ พอดีเหนื่อยๆวันนี้เรียนยากมากมากเลยค่ะ” ใครจะบอกว่าโดนทิ้งมาเนอะ
“ไหนพี่ได้ยินมาว่าเพิ่งอกหักมาครับ” ตอนนี้น้องเค้าตาแดงๆแล้วครับ
“เฮ้ย..อย่าร้องนะครับ เดี๋ยวใครไม่รู้นึกว่าพี่ทำอะไรเรา”น้องเค้าก็เอาผ้าเช็ดหน้าเค้าออกมาเช็ด แต่น้ำตายังคลอๆอยู่
“อย่าเสียใจเลยนะครับ คงมีสักวันที่เราจะเจอใครที่เค้าอยากอยู่ข้างๆกับเรา มองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นในตัวเรา”น้องเค้าหันมายิ้มให้ผม จริงแล้วผมเองก้อปลอบตัวเองเหมือนกัน แล้ววันนั้นผมกับน้องเค้าก็เลยคุยกัน น้องเค้าชื่อ ลลิน ครับ เราก้อแลกเบอร์โทรกันครับ โดยผมบอกว่ายินดีที่จะเป็นพี่ชายให้ เพราะผมเองก็ยังไม่อยากจะมีใคร น้องเค้าเองก้อยังทำใจไม่ได้มากนัก
“ภีม..นายเป็นรัยป่าว เห็นเงียบมาตลอดทางเลยอ่ะ มีรัยว่ะ”
“สนใจด้วยเหรอนึกว่าได้เบอร์สาวแล้วเลยลืมเพื่อนซะอีก”
“ไอ้บ้า...น้องเค้าเพิ่งอกหักมา เลยอยากมีพี่ชายไว้คอยปรึกษา และเราก้อบอกเค้าว่าเรายังไม่อยากมีใคร”
“แล้วเมื่อไหร่นาย จะยอมมีใครสักทีว่ะ” มันดูจริงจังมาก หน้ามันเครียดกว่าเมื่อกี้อีก
“ไม่รู้สิ มันยังไม่พร้อมที่จะให้มั๊ง ถ้าเรารักใครเราก้ออยากรับความรู้สึกมาแบบเต็มร้อย ทั้งความรัก ความห่วงใย ความใส่ใจ แต่ตอนนี้เราเองยังไม่พร้อมที่จะให้ใครได้เต็มร้อยมั๊ง”
“ทำมั๊ยนายไม่คิดว่าบางคนเค้าอยากให้นายรับโดยไม่สนสิ่งตอบแทนบ้างว่ะ”
“เออ...ถ้าเราเจอแล้ว เราจะพิจารณาอีกที” มันก็ไม่พูดว่าอะไรคงขี้เกียจเถียงผมมั๊ง หลังจากนั้นมาผมก้อได้น้องสาวมา 1คน เราคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ผมเลี่ยงที่จะต้องเจอหน้ากัน เคยมั๊ยครับที่เรารู้สึกสนิทใจอยากเล่าเรื่องราว ให้กับเพื่อนที่เรารู้จักแต่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน และผมก้อรู้ว่าคนที่ทิ้งน้องลลิน อยู่ รร.ชายล้วนชื่อดังย่าน ปากคลองตลาด เค้าเจอกันในเกมออนไลน์ชื่อดัง รู้สึกว่าจะรุ่นเดียวกับผมด้วย ตอนนี้ชีวิตของผมก็ยังดำเนินต่อไป ยังคิดถึงพี่นัทอย่างสม่ำเสมอ ผมเองเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง วันหยุดผมจึงชอบออกไป ถ่ายภาพบ้าง ดูดาวบ้าง ใจผมก้อคิดว่าเมื่อไหร่กันที่ผมจะมีใคนสักคน ที่ผมจะโทรหา เมื่อยามผมท้อแท้ ในเวลาที่ผมเหงา หรือจะมีใครโทรมาถามผมว่ากินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ และบอกคิดถึงกันและกัน มันเหงานะ บางครั้งที่เราดูดาวคนเดียวทำมัยมันถึงรู้สึกเจ็บอยู่ลึก ๆในความรู้สึก แต่ก้อยังดีที่เพื่อนผมเองเป็นเพื่อนที่ไม่เคยทิ้งกัน โดยเฉพาะกับไอ้ภีม มันเป็นเพื่อนที่ผมรักมาก ยิ่งในช่วงที่ผมเข้าค่าย รด ปีสุดท้ายนี้ เราต้องไปกัน7คืน ก้อได้มันนั้นแหละที่คอยช่วยเหลือผมตลอด ผมว่าผมรู้นะว่ามันรู้สึกยังงัย แต่บางครั้งคนบางคนก็เหมาะที่สุดที่จะเป็นเพื่อนกับเรามากกว่าเป็นแฟน จากแรกๆที่มันพยายามจะแสดงออกให้ผมรู้ แต่ผมก้อแกล้งเซ่อ บางครั้งก้อพูดบอกมันเป็นนัยๆ จนมีอยู่วันนึงมันคงทนไม่ไหวเลยพูดกับผม
“ เออ...ไอ้รอน นายเลือกยังว่าจะต่อที่ไหน”
“กำลังเล็งๆว่ะ แล้วนายล่ะ”
“เราว่าจะไปที่เดียวกับนายว่ะ รีบๆคิดนะ แล้วมาบอกกันมั๊ง”
“เฮ้ย...คิดเองดิว่ะ อนาคตของนายเองนะ อย่าเอามันมาผูกติดกับเราสิ” ผมมองหน้าไอ้ภีมแบบ จริงจัง
“แต่เราอยากอยู่กับนาย ไม่อยากแยกกันว่ะ”มันมองผมแบบว่าทำตาสื่อความหมาย
“เพื่อนกัน ถึงจะอยู่ห่างกัน มันก้อยังเป็นเพื่อนกันอยู่ดี นายจะเป็นเพื่อนรักเราตลอดไป จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ภีม...บางครั้งคนเราทั้งชีวิตไม่มีเพื่อนเพื่อนสนิทเลยสักคน แต่ เราโชคดีที่มีนาย และนายก้อจะมีเราตลอดไป....” ตั่งแต่นั้นมาผมว่ามันเองก้อพยายามทำใจ แต่มันบอกว่าผมไม่มีสิทห้ามมันไม่ให้รักผม…….
“เฮ้ย...พวกนายเลือกกันยังว่าจะเรียนอะไรที่ไหน”ผมถามเพื่อนๆหลังจากที่พวกผมใกล้จะจบ ม.6กันแล้ว
“เราว่าจะต่อวิดวะ ว่ะไม่รู้ว่าจะเรียนอะไร เอาที่เค้าฮิตๆกันละกัน”ไอ้อั้งมันบอกผม
“เราคง เรียนบริหารว่ะ เพราะพ่ออยากให้กลับไปช่วยงานที่บ้าน เราว่าจะเข้า..........(มหาลัยเอกชนค่าเทอมแพง มีวิทยาเขตที่บางนา) อยากได้ภาษาว่ะที่นี่มันก้อมีชื่อนะ ที่สำคัญขี้เกียจ อ่านหนังสือว่ะ อย่างมากก้อไปติวภาษาเพราะเค้าสอบวัดระดับ” ไอ้เจนมันก้อบอกผมเหมือนกัน
“อ้าว แล้วนายล่ะ ภีม”ผมหันไปถามไอ้ภีมเห็นมันเงียบๆ
“เราว่าจะลองสอบเข้า .............( ม.ชื่อดังย่านบางเขน) คณะ วิดวะการบิน แต่ต้องไปเรียนที่วิทยาเขต ศรีราชาว่ะ” แล้วทุกคนก้อหันมาถามผม
“เราว่า เราจะไปเรียนที่ เชียงใหม่ ว่ะ” จังหวัดที่มีความหลังที่แสนอบอุ่น ผมหวังว่าผมคงจะเจอสิ่งดีๆที่นั้น สิ่งที่จะเปลี่ยนผมเป็นใครอีกคน ผมรู้สึกเช่นนั้น................................

*************************************

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4 + 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 18-07-2008 19:07:44
อย่างนี้ภีมก้อไม่ได้เรียนที่เดียวกับรอนนะสิ

คนละขั้วโลกเลย

 :เฮ้อ:จ๋งจ๋านภีมเล็กน้อย

จะสมหวังไหมเนี่ย
 :m13:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 18-07-2008 19:55:51
 :m13: เชียงใหม่อีกแร้วหรือเนี่ย

รู้สึกว่าในบอร์ดนี้จะมีเรื่องเกี่ยวกับเชียงใหม่เยอะจัง

 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 18-07-2008 20:09:49
 :กอด1:  ไม่เป็นไรนะภีม .. ไม่ต้องเสียใจไป
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4 + 5
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 18-07-2008 20:19:01
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :sad2: :o12:


ไหง เรื่อง มานเริ่มเศร้า + เครียดงี้อะ   :o



แต่  ก็ รอตอนต่อ ไปยุนร้า  :angry2:



 :oni3: :laugh: :oni3:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 19-07-2008 19:00:10
วันนี้ไปสอบมา  ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ  ก็จะตายอยู่แระ   ต้องเรียนภาษาซีอีก  :sad2: :sad2:


พูดมาก  ต่อเลยดีกว่า


ตอนที่.6
วันนี้เป็นวันที่ผมต้องมาใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ หลังจากที่ผมพยายามสอบจนได้เข้ามาเรียนที่นี่ ตอนแรกที่บ้านไม่มีใครเห็นด้วยกับผมสักคน ต้องพูดกันอยู่นานกว่าแม่จะยอม และวันนี้ผมก็ขนของมาจากกรุงเทพ ตอนแรกปู่กับย่าจะให้ผมไปอยู่ด้วย แต่ผมขี้เกียจตื่นเช้า และอยากมีอิสระในการใช้ชีวิตให้เต็มที่ ผมเลยตัดสินใจเช่าคอนโดอยู่ซึ่งที่นี่ก็เรียกว่าระดับ ห้าดาว บรรยากาศดีมากซึ่งห้องผมวิวตอนกลางคืนสวยมาก มองเห็นแสงไฟยามค่ำคืนของเมืองเชียงใหม่ได้ ที่นี่มีนักศึกษาอยู่เยอะพอสมควร แต่ส่วนใหญ่ก็นะพวกลูกคนรวย ที่นี่มี 2 ห้องนอน 1ห้องครัว 1ห้องนั่งเล่น เอาเผื่อว่าแม่ หรือ เพื่อนๆขึ้นมาเยี่ยม ลุงนนท์จะซื้อรถให้ผมแต่ผมปฎิเสฐ ผมขอแค่รถเวสป้าคันเก่าๆก็พอ ซึ่งไอ้อั้งมันก็เป็นธุระให้ผม แถมมันยังให้รุ่นพี่แต่งมาให้ซะน่ารักเลย ขณะที่ผมกำลังจัดของอยู่นั้นพี่นัทก็โทรมา
“เป็นไงบ้างเรียบร้อยดีมั๊ย เข้าที่เข้าทางหรือยัง”พี่นัทยังคงเป็นห่วงผมเสมอ น้ำเสียงของพี่นัทยังคงอ่อนโยนและอบอุ่นเสมอ
“หายโกรธผมแล้วเหรอ”พี่นัทโกรธที่ผมไม่ยอมไปเรียนที่ญี่ปุ่นตามที่ลุงนนท์ กับ พี่นัท ชวน
“ยัง...ถ้าพี่กลับไป นายต้องชดใช้ให้พี่อย่างสาสมแน่” แล้วพี่นัทก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์
“กลัวตายละ...แล้วเมื่อไหร่จะกลับมา รู้ไหมว่ามีบางคนกำลังเจ็บปวด ติดอยู่กับคำว่า รอ” ประโยคหลังผมพูดเบามากจนเหมือนกระซิบ แต่เหมือนพี่นัทจะได้ยิน
“อีกไม่นานหรอกแต่ถ้าว่างพี่จะกลับไปหานะ ไปล่ะ ดูแลตัวเองให้มากกว่าที่เป็นอยู่นะ รักษาสุขภาพด้วย ถ้ามีเรื่องอะไรด่วน บอกพี่ พี่จะไปหาเราทันที คิดถึงนะ” ตั่งแต่ที่พี่นัทไปอยู่ญี่ปุ่นก็ 1 ปีแล้ว ผมคุยกับพี่นัทบ่อยๆ อาทิตย์ละ2-3 ครั้งทุกอาทิตย์ พี่วาเราก็เจอกันบ้าง แกก็ยังคงเป็นรุ่นพี่ที่น่ารักเหมือนเดิม อีก 1 อาทิตย์มหาลัยถึงจะเปิด แต่ผมอยากจะมาทำความเคยชินก่อน
“ ว่าไงไอ้ตัวยุ่ง จัดของเสร็จยัง”ไอ้ภีมมันโทรมาครับ หลังจากที่ผมเก็บของจากกรุงเทพ มาหาที่พัก ตลอดจนขนย้าย มันมาช่วยผมเสมอ มันบอกว่าผมชอบทำให้ยุ่งยากเรียนที่กรุงเทพง่ายๆไม่ยอม
“ก็กำลัง..จะเสร็จถ้าไม่มีคนโทรมากวนเนี้ย”
“โห..ไรอ่ะ ไหนว่าห่างกันแค่ไหนก็จะรักไม่เปลี่ยนแปลง แค่วันเดี๋ยวโทรมาหาก็เป็นการรบกวนแล้ว” มันงอนผมครับ
“เออ..เอออ พูดเล่นเว้ย แล้วนี่ทำอะไรอยู่ว่ะ”ผมถามไอ้ภีมไป ก็จัดของไป
“กำลังคิดถึงคนที่ชอบทำให้คนอื่นยุ่งอยู่อ่ะ”เขินเหมือนกัน ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมามันไม่เคยพูดหวานๆแบบนี้ สงสัยพอไกลกันเลยกล้าพูด
“เออ เราก็คิดถึงนายว่ะ ไอ้ 2 ตัวนั้นด้วย ฝากบอกพวกมันให้รู้จักโทรหาเพื่อนบ้างนะ”
“รอน...มีอะไรให้ช่วยก็บอกมาเลยนะ ดูแลตัวเองดีๆนะ เวลาขี่รถก็ระวังด้วยล่ะ ถ้าจะออกไปดูดาวก็เอาเสื้อกันหนาวไปด้วยนะ ที่นั้นอากาศเย็นกว่าที่กรุงเทพนะ” มันสั่งผมอีกมากมาย
“ขอบใจนะภีม”ไม่รู้ทำมัยมันพูดอะไรไม่ออก ความตื่นตันมันแน่นอยู่ในใจ ผมรู้สึกว่าผมโชคดีที่มีคนรอบข้างที่รักและหวังดีกับผม เราคุยกันอีกสักพัก มันก็วาง ผมจัดของได้มากแล้วแต่มันก็ยังไม่หมด นี่ก็จะเย็นแล้ว ผมเลยออกมาขี่รถเล่น โดยไม่ลืมเอากล้องคู่ใจติดมาด้วย ผมไปกินข้าวเย็นที่ไนท์ แล้วก็ขี่รถไปเรื่อยๆ 2 ข้างทางมีของขายมากมาย แสงไฟที่ประดับประดามันทำให้ดูคึกคัก แต่ทำไมหนอ หัวใจผมช่างเงียบเหงานัก กว่าผมจะกลับห้องก็ดึกแล้ว และมันก็หมดไปอีกวันสำหรับผมกับการใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ .............................
ผ่านไป 2-3 วันผมก็จัดของในห้องเสร็จ ตอนนี้ในตัวเมืองเชียงใหม่ผมก็ไปมาหลายที่แล้ว วันนี้เลยตั้งใจว่าจะไปค้างบ้านย่าซะหน่อย เดี๋ยวตอนเรียนจะไม่มีเวลา ที่บ้านปู่กับย่าก็ยังเหมือนเดิม
คืนนี้ผมตัดสินใจว่าจะนอนบนหอดูไฟ ดาวในคืนนี้สวยเหมือนคืนนั้นแต่ บรรยากาศช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บรรยากาศในวันเก่า มันเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่ตอนนี้ มันหลงเหลือแต่ความหงอยเหงา นอนมองดูดวงดาวบนท้องฟ้า มันทำให้ผมเห็นหน้าพี่นัทชัดเจนยิ่งขึน ผมนอนเอาหน้าซบเข้ากับหมอนข้างที่อยู่ข้างๆตัว เพื่อใช้เช็ดน้ำตาที่มันไหลมาไม่ยอมหยุด หมอนข้างมันไม่อุ่นเหมือนกับอกของพี่นัทในคืนนั้น พี่นัทผมคิดถึงพี่เหลือเกิน………….
เหลืออีก1 วันมหาลัยผมก็เปิดแล้ว ผมลาปู่กับย่าและญาติๆของผม แล้วจึงกลับมาที่ห้องผม นี่ห้องข้างๆผมเค้าย้ายมาแล้ว เห็นคนดูแลคอนโดเค้าบอกว่าเป็นนักศึกษาที่เดียวกับผม เมื่อผมเดินมาถึงหน้าห้องความคิดที่จะเข้าไปทักเค้าก็หายไปหมด เสียงเพลงที่ดังออกมามันทำให้รู้ว่าในห้องนี้ต้องมีปาร์ตี้อะไรสักอย่าง ผมเลยเดินเลยเข้าห้องผมไป ผ่านไปหลายชั่วโมงเสียงเพลงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง คอนโดที่นี่ชั้นนึงจะมีแค่4ห้อง โดยจะแบ่งเป็นฝั่งๆละ2ห้อง เพราะห้องค่อนข้างใหญ่ โดยตรงกลางเป็นลิฟท์ และบันได ฝั่งผมจึงมีแค่ห้องผมกับของเค้า เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว ผมก็ทนไม่ไหว เลยเดินไปเคาะห้องที่ติดกับผมทันที ทันที่ที่ประตูเปิดออก ผมก็เห็นวัยรุ่นคงประมาณรุ่นเดียวกับผม หน้าตาก็ธรรมดา แต่ก็ไม่น่าเกลียด เค้าทำหน้างง
“โทดนะครับ ใช่เจ้าของห้องหรือเปล่าครับ”
“ไมอ่ะ...มีไรป่ะ เจ้าของห้องมันเมาแล้ว” เค้าพูดกวนๆกลับมา
“ผมอยากคุยกับเจ้าของครับ ช่วยเรียกเขามาที” แล้วเค้าก็หายเข้าไป แล้วก็มีคนมาเปิด แต่ตอนนี้เป็นคนใหม่ น่าตาเรียกว่าหล่อเลยละครับ ขาวๆคิ้วหนา ปากงี้แดงแป๊ด แต่หน้าเค้าก็แดง คงเพราะเมามาก ถ้าไม่เมาจะดูดีแค่ไหน เพราะตอนนี้สภาพดูไม่ได้เลย
“มึงมีไรว่ะ กูกำลังมันๆ” ผมตกใจเลยครับ อาจเพราะเพื่อนๆผมไม่เคยพูดแบบนี้เลยตกใจตอนนั้นก็กลัวล่ะ แต่ใจดีสู้เสือครับ
“ช่วยเบาๆหน่อยได้มั๊ยครับ พอดีผมอยู่ห้องข้างๆ เสียงเพลงคุณมันทำให้ผมนอนไม่หลับ”
“ช่างมึงดิ ถ้าอยู่ไม่ได้ มึงก็ย้ายออกไป เดี๋ยวกูจะได้เหมาทั้งชั้น จะได้ไม่ต้องมีหมาที่ไหนมาเห่า”แล้วเค้าก็ปิดประตูใส่หน้าผม ตอนนั้นบอกเลยครับหน้ามันร้อนวูบๆๆเลยครับโกรธจนตัวสั่นผมก้าวขาไม่ออกเลยยืนอยู่ตรงนั้นสักพัก น้ำตามันก็ไหลออกมาครับ มันคงจะสุดๆ ผมเลยกลับเข้าห้องตัวเองครับ ตั้งใจแน่ว่ามันกับผม คงไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีกเลย แต่ใครจะคิดครับว่าผมจะหนีมันไม่พ้น................................
**********************  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 19-07-2008 19:32:05
นั่นแน่..อิอิ  พระเอกโพล่มาแล้ว  :m4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 19-07-2008 20:50:43
ว้าว...ได้ที่ 2 ...ตามมาดันคับ...แล้วมาต่อไว ๆ น้า... :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 19-07-2008 22:19:19
เข้ามาดูแย้วนะจ๊ะน้องเพียว แต่พี่ยางมะว่างอ่านง่ะ ขอผลัดไปก่อนละกาน555+ แต่ก็เป็นกำลังใจให้คนโพสทั้ง2คนเร้ยยยยย ได้ข่าวว่าเรื่องนี้ยาว มี2ภาคนิ สู้สู้   :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 19-07-2008 22:45:56
ดันให้น้อง o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 19-07-2008 23:25:25
ไอ้ขี้เมา นั้นพระเอก ป่าวน้า

หุหุ




เป็นกำลังใจให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 20-07-2008 13:52:45
เข้ามาเป็นกำลังใจอีก1 แรง กำลังอินได้ที่ แต่พอตามมาทันดันค้างซ่ะแร๊ะ :laugh:
คอยติดตามต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 20-07-2008 17:43:39
 :m4: :m4: พระเอกโผล่ คนโพสเปลี่ยน 555+

รออ่านต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 20-07-2008 18:09:04
 :oni1:
อ่านแล้วแต่อยากอ่านอีก...รักพี่นัท... :m1:
พระเอกชื่อไรจำไม่ได้อ่ะ...  o12
เอาใจช่วยรอนต่อไปปปปป
 :m13:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 20-07-2008 23:07:43
ชอบนักเขียนคนนี้มากครับ

เห็นชื่อตอนแรกตกใจมาก  :o

ขอบคุณนะครับที่นำนิยายมาให้อ่าน +1 ให้เรียบร้อยครับ o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 18 July 08 ตอนที่ 4+5
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 21-07-2008 00:30:31
น้องเพียวคับ

พี่รันติดต่อน้องเพียวไม่ได้

เพราะว่าหน้าจอโทรศัพท์พี่รันพัง

ไม่เห็นเบอร์ แต่รับได้อ่ะ

ยังไงก้อโทรมาละกันนะ

ขอบคุณนะที่มาลงตอนที่ 6 อ่ะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 21-07-2008 11:30:51
เอาเบอร์น้องเพียวมั้ยพี่รัน เดี่ยวจะส่งหลังไมค์ให้ หรือจะให้เราโทรบอกให้น้องเพียวโทรหาพี่รันดี?
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 21-07-2008 12:14:45
เข้ามาดัน

ปล. ว้ากกกก น้องเพียวโทรหาปุ้ชายยยยยยย

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :angry2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 21-07-2008 12:38:13
น่านจิแป๋ว น้องเพียวโทรหาปู้จาย กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ
 :laugh: แต่ส่งsmsไปบอกน้องเพียวละว่าให้โทรหาพี่รันด้วย
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 21-07-2008 14:04:01
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :angry2:

สองป้านิ  เพียวโดนบังคับน้า

ป้าแน๋วส่งข้อความบอกเค้าว่าให้โทรหาพี่รันอ่ะ


เค้าม่ายรู้ ๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้าโดนยัดเยียดดดดดดดดดดดด  :serius2: :serius2:   แง่ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 21-07-2008 17:25:43
 :m22: :m22: ยังไม่มาอีกหรอ วันนี้อ่า  รออ่านอยู่นะค๊าบ.......
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 21-07-2008 21:17:53
มานอนคอย รอน ครับ.. :a12:
   มาต่อเร็ว ๆ น้า  :serius2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 21-07-2008 21:20:45
มาแว้ว ๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่รันมาตอบเม้นท์เองน้า   เพียวบอกให้พี่พีเขามาเผยตัวแล้วอ่ะ


ไม่รู้จามาหรือป่าว   :laugh: :laugh: :laugh:

วันนี้ว่าจาติว cal ซะหน่อย  เล่นเน็ตเพลินเรย :o8: :o8: :o8:


ไปอ่านต่อเรยยยยยยยยยยยยยย



ตอนที่.7
วันนี้ เป็นวันแรกที่มหาลัยเปิด ผมก็มาที่ตึกคณะ ช่วงเช้าเราก็มานั่งฟังรุ่นพี่แนะนำเรื่องต่างๆ ทั้งประวัติมหาลัย สถานที่โดยสังเขป

และการใช้ชีวิตของพวกเราในนี้ อาจารย์ ก็มาทักทายพวกเราและให้คำสอนต่างๆกับพวกเรา หลังจากนั้นช่วงบ่ายเราก็มาทำ

กิจกรรมกับรุ่นพี่ที่สนามบอลของมหาลัย โดยที่ทางเข้ามันจะเป็นซุ้มเราต้องลอดซุ้ม พอเข้ามา เราก็จะโดนปิดตา แล้วพี่เค้าจะให้

เราเดินไปเป็นคู่ โดยที่ไม่รู้ว่าคู่ของเราเป็นใคร เราต้องทำความรู้จักกันให้มากที่สุด ซึ่งเราทั้งคู่ก็ต้องเดินจับมือกันไป เพราะเรา

มองไม่เห็นทั้ง 2 คน แล้วมันก็จะมีจุดที่ต้องทำกิจกรรมด้วยกันผมและเค้าก็ทำความรู้จักกันเท่าที่จะทำได้
“หวัดดีครับ นายชื่ออะไรเหรอ เราชื่อ รันรอน เรียกว่า รอน ก็ได้”ผมถามเค้าก่อนเพราะเห็นเค้าเงียบๆ
“อือม์ เราชื่อวิน นายมาจากไหนว่ะ แล้วอยู่คณะไรอ่ะ” เขาถามผมกลับ เสียงดูกวนๆ
“เรามาจากกรุงเทพ เราเรียนวิดวะ คอมน่ะ แล้วนายล่ะ”
“กรุงเทพเหมือนกัน เราก็เรียนคณะเดียวกัน แต่เราเรียนสื่อสาร”ผมกับเขาคุยกันไปทำกิจกรรมไปทำให้เราพูดกันมากขึ้น โดย

ที่มือของเราก็ยังจับกันอยู่เพราะพี่เค้าใช้กระดาษกาวพันมือเราเอาไว้
จนสุดท้าย เราก็เดินมาจนถึงจุดสุดท้าย พี่เค้าก็จะถามว่าเรารู้จักกันหรือยัง ให้ต่างผ่ายบอกชื่อเล่น ชื่อคณะ ของอีกฝ่าย แล้วพี่เขา

ก็จะเปิดผ้าให้เรา ผมได้ยินพี่ๆเค้าแซวๆ
“โห...น่ารักทั้งคู่เลยนะ พอเห็นหน้ากันระวังจะสปาร์คนะน้อง” แล้วเขาก็หัวเราะกัน
ทันที่ที่เปิดตา ความรู้สึกดีๆมันหมดเลยอ่ะ มันคือไอ้เพื่อนข้างห้องผมนั้นเอง ผมเห็นมันทำหน้ากวนๆใส่ผมด้วย ก่อนที่เราจะ

แยกกันมันเดินเข้ามาแล้วพูดกับผมเบาๆ
“มึงนั้นเอง ที่ไปเสือกเรื่องของกูเมื่อวาน” หน้าตามันก็หล่อนะยอมรับว่าน่ารักมาก แต่นิสัยแม่งไม่เข้ากับหน้าเลย แล้ววันนั้นพี่ๆ

เค้าก็ให้เรากลับได้ครับ วันแรกก็สนุกนะครับถ้าไม่ต้องมาเจอกับไอ้วิน หลังจากเลิกผมก็เดินมาที่ตึกคณะ มองบรรยากาศรอบๆตัว

นึกถึงเพื่อนเก่าๆ นะครับ โดยเฉพาะไอ้ภีม ป่านนี้มันจะทำอะไรอยู่ มันมีเพื่อนหรือยัง แล้วก็มีเสียงเรียกทำให้ผมหันไปมองข้าง

หลัง
“หวัดดีครับ...ปี1 หรือป่าวครับ”
“เออ...ใช่ครับ แล้วนี่ปี1 เหมือนกันป่ะครับ”
“ใช่แล้วครับ ผมชื่อ โอ๊ต ครับ อยู่สื่อสาร”อ้าวที่เดียวกับไอ้วิน
“ผม รอน ครับ”ผมยิ้มให้เขาไป
“แล้วรอนทำอะไรอยู่ครับ ยังไม่กลับ”โอ๊ตเดินมานั่งข้างๆ ผมแต่ก็ไม่ได้ใกล้กันมาก
“คิดอะไรเพลินๆนะครับ แล้วโอ๊ตล่ะ”
“อ๋อ มาเล่นกับรุ่นพี่ที่คณะนะครับ”เราคุยกันสักพักใหญ่ๆเลยรู้ว่าโอ๊ตเป็นเด็กที่นี่ สอบได้โควตา
“รอน นายกินข้าวยัง ไปไนท์กันป่ะ เดี๋ยวพาไปกินข้าวร้านชื่อดังของคณะเรา”
“อือม์ ไปดิ หิวอยู่เหมือนกัน แล้วนายจะไปยังไง ไปกับเราก็ได้ เราเอามอไซด์มา”
พอโอ๊ตมันเห็นรถผมมันก็ยิ้มๆ ผมก็เขินนะ แต่ตอนนั้นที่นี่เค้าฮิตกันนะ
“รถของรอนน่ารักดีว่ะ มันดูเข้ากับนายดีนะ แต่งเองป่าว”
“เพื่อนแต่งให้น่ะ แล้วมันเข้ากับเราตรงไหนเหรอ”
“ไม่รู้สิ เราว่ามันเข้าอ่ะ หน้าหวานๆแต่เซอร์ๆ”โอ๊ตมันบอกผม ตอนนั้นผมไว้ผมยาว รากไทร ไม่ได้จัดทรงอะไรมาก ก็ทรงตาม

แฟชั่นยุคนี้นะครับ ใส่พวกเชือกอะไรไม่รู้เต็มข้อมือ (ก็ซื้อที่นี่แหละครับ) ร้องเท้าผ้าใบเก่าๆ อ้อลืมบอก โอ๊ต หน้าตาก้อน่ารักดี

ครับ ขาวตี๋แบบคนเหนือ มีลักยิ้มด้วย สูงประมาณผมเนี้ยแหละ 177-178 ประมาณเนี้ย แล้วผมก็รู้ว่าทำไมร้านนี้ถึงดังใน

คณะเรา เพราะที่นี่มีแต่เด็กสาวชาวเขามาเป็นเด็กเสริฟ หน้าตาก็น่ารักนะครับ ขาวๆ พูดไม่ชัด พอพูดที่ก็อายกันหน้าแดง ขำๆ
“แล้วโอ๊ตจะกลับยังไงอ่ะ”
“ไม่ต้องห่วงเราเด็กพื้นที่ เจอกันพรุ่งนี้นะ” แล้วผมก็แยกกัน หลังจากนั้นผมก็กลับมาอาบน้ำที่ห้อง พอดีกับที่โทรศัพท์ผมดัง ไอ้

ภีมครับมันโทรมา
“ว่าไงไอ้ตัวยุ่ง ไปเรียนวันแรกเป็นไงมั่ง”
“ก็ปกติดี แล้วทำไรอยู่เสียงดังจัง”ผมถามมันเพราะเสียงดังมากๆ
“พี่ๆที่คณะเขา มาเลี้ยงนิดหน่อยน่ะ เออไม่กวนล่ะ คิดถึงนะโว้ย” แล้วมันก็วาง เออโทรมาแค่เนี้ย
แล้วความคิดถึงเพื่อน ความเหงามันก็เข้ามาครอบงำผมอีกจนได้ ผมเลยออกมานั่งเล่นที่ระเบียง
ผมได้ยินเสียงกีตาร์เบาๆ แสดงว่าไอ้วินมันอยู่ห้อง ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่สักพักเหมือนมีคนมอง เลยกลับเข้ามานั่งในห้องคิด

อะไรเรื่อยเปื่อย แล้วก็นอน........
วันนี้เป็นวันเฟรชชี่เดย์เฟรซชี่ไนท์ ช่วงเช้าก็มีการรับน้องกันตามปกติ รุ่นพี่ให้เราแนะนำตัวเอง ให้เป็นที่จดจำมากที่สุดใครแนะ

นำตัวจืดชืดที่สุดซวย ตอนนี้ทุกคนต่างงัดไม้เด็ดออกมาประชันกัน มีทั้งแร็พโย่ แนะนำไปรำไป ร้องไห้ไปแนะนำตัวเองไป บางคน

ก็พูดภาษาท้องถิ่น ไปจนถึงภาษาต่างบ้านต่างเมือง แน่นอนว่าผมติดหนึ่งในความจืดชืด ไอ้วินรอดครับ มันทั้งกวน ทั้งแอ็ก เลยได

ใจรุ่นพี่สาวๆ ไปตรึม โอ๊ตเองก็สบายมากเด็กเส้นรุ่นพี่มาช่วย ผมเลยต้องถอดเสื้อ แล้วเอาสีมาเขียนที่อกผมและวันนั้นผมต้องอยู่

ในสภาพนั้นทั้งวันตอนที่ถอดเสื้อ มีเสียงกรี๊ดกราดกันเสียงดัง รุ่นพี่เองก็แซวๆ ผมเองเป็นคนสูงเพรียว แต่เพราะไม่ค่อยได้เล่น

กีฬา เลยไม่มีกล้ามเนื้อมากมาย แต่ก็ออกกำลังกายที่บ้านบ้าง เลยไม่มีส่วนเกิน ตัวผมออกจะบาง ผมว่าผมก็ขาวนะ เพราะได้มา

จากพ่อ เวลาถอดเสื้ออยู่กลางแดด มันเลยดูขาวแดงๆ
“โห่ น้องผิวเนียนดีจัง ทำยังไงสอน ป้าๆพวกนี้หน่อย” รุ่นพี่คนหนึ่งแซวผม วันนั้นผมอายมากไม่มีความมั่นใจเลย เดินไปไหนก็

มีแต่คนมองแล้วยิ้มๆ บางที่ก็มีคนเรียกผมเพราะว่าชื่อมันอยู่บนอกผมเอง ยิ่งไอ้พวกเพื่อนที่คณะ สุดยอดถึงเนื้อถึงตัวสุดๆ
“เฮ้ย...รอน กินข้าวยัง อะเราเอามาเผื่อ”โอ๊ต ครับ มันเอาข้าวที่รุ่นพี่แจกมาให้ผม
“ขอบใจมากนะโอ๊ต” ผมหันไปบอกเพื่อนผม เห็นมันมองแล้วยิ้มๆ ก็อายนะครับ
“รอนนี่ผิวสวยดีนะ ชมพูไปทั้งตัวเลยนะ”
“บ้าดิ แดงต่างหาก แดดโคตรแรงเลยอ่ะ”ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง แล้วสิ่งที่ทำให้ผมเกือบจะลุกเดินไปที่อื่น ไอ้วินมันเดินมานั่ง

กับไอ้โอ๊ต
“เออ รอน นี่วินเพื่อนเรา” “เฮ้ย ไอ้วิน นี่รอนเพื่อนเรา”
“มึงไปรู้จักกับไอ้ซีดนี่ตั่งแต่เมื่อไหร่ว่ะ” มันหันไปถามโอ๊ต
“เมื่อวาน แล้วมึงรู้จักรอนแล้วเหรอวะ ถึงไปพูดกับรอนแบบนั้น” ผมเห็นโอ๊ตมันทำหน้าเสียๆแล้วหันมามองผม
“ไม่เป็นไร พอดีเรากันวินพักที่คอนโดเดียวกันน่ะ”ผมหันไปบอก โอ๊ตมันเลยทำหน้าดีขึ้นมาหน่อย แล้วช่วงเย็นๆรุ่นพี่เค้าก็ปล่อย

ให้พวกเรา พักกันเพราะตอนกลางคืนมีงานเฟรซชี่ไนท์
ผมก็นั่งคุยกับโอ๊ตไปเรื่อยๆ ไอ้วินมันก็มานั่งพูดจากวนต...ผมเป็นระยะ โอ๊ตเป็นคนคุยสนุก นิสัยของเราคล้ายกันหลายอย่าง

มันทำให้ผมนึกถึงไอ้ภีมและเพื่อนเก่าๆ
เออ...รอนทำมั๊ยถึงมาเรียนไกลจังล่ะ”
“ป่าวหรอก พ่อเราเป็นคนที่นี่ ปู่กับย่าเราก็อยู่ที่นี่ แล้วเราเองมีความทรงจำดีๆที่นี่เยอะนะ อยากมีอิสระด้วยมั๊ง” ตอนนี้ผมอดไม่

ได้ที่จะนึกถึงพี่นัท
“ทำมั๊ยชอบทำหน้าเศร้าจัง...”โอ๊ตมันมองมาที่หน้าผม
“ป่าวหรอก กำลังคิดถึงเพื่อนเก่าๆนะ”
“แล้วไม่คิดถึงแฟนเหรอ” ตอนนี้ไอ้วินมันหันมามองผม พอผมเห็นมันก็หันกลับทันที
“เราไม่มีหรอกตอนนี้”
“ไม่น่าเชื่อ หน้าตาอย่างนี้จะไม่มีแฟน”ไอ้โอ๊ตมันทำหน้าไม่เชื่อครับ
“เคยมี แต่เป็นเรารักเค้าฝ่ายเดียวน่ะ”ผมตอบเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“เคยล้มเหลวกับความรักมา เลยทุกข์ล่วงหน้าให้กับรักครั้งใหม่ละซิ” ไอ้วินมันกัดผม ผมก็ไม่ตอบอะไร แต่ก็คิดกับคำพูดของมัน

........
แล้วในคืนนี้ก้อมีงานเลี้ยงซึ่งรุนพี่เขาจัดมาเพื่อเรา ก่อนเข้างานเขาจะแจกด้ายให้เราคนละกำ เพื่อให้เราผูกให้กัน และในคืนนั้น

เราก็รู้จักเพื่อนใหม่ๆกันอีกหลายคน ผมโดนรุ่นพี่มาผูกข้อมือให้หลายคนเหมือนกัน แต่โอ๊ตเองก็ใช่ย่อย ส่วนไอ้วิน ไม่ต้องพูดถึง

ครับ เพียบ ในคืนนั้นเราก็ทำกิจกรรมกันนิดหน่อย แต่เน้นไปทางความรักของพี่กับน้องมากกว่า แล้วเราก็มาเฉลยว่ารุ่นพี่สายรหัส

เราเป็นใคร เพราะเราจับกันตั่งแต่เมื่อวาน พี่รหัสผมชื่อพี่เอ็ม ครับ ก็นิสัยดีนะ ขี้เล่นดี
แล้วก็ต้องมีตัวแทนแต่ละเมเจอร์มากล่าวขอบคุณรุ่นพี่ ซึ่งผมเองก็โดนเลือก เพราะใครๆก็จำชื่อได้ เนื่องจากมันอยู่ที่อกผมเอง

แล้วรุนพี่ก็ให้เราแสดงอะไรนิดหน่อย ผมเลยเลือกที่จะร้องเพลง

น้ำค้างเริ่มตกแล้ว น้ำตาก้อรินไหล
ถามฟ้าว่าทำไม เหตุใดรักจืดจาง
ถามคนที่เคยพบ รักแล้วใยเมินหนี
ขอพบหน้าสักที ใจดวงนี้อยากถาม
เธอนะเธอทำไม ทำร้ายกันเหลือเกิน
ใยต้องมาหมางเมิน อย่างไม่รู้จักกัน
ลืมรักแล้วหรือไร ลืมสายใยสัมพัน
ลืมฝันเคยร่วมสร้าง ลืมหมดแล้วหรือไร.....ทำไม

“โห สุดยอดเลยว่ะ ขนลุกเลยนะ แต่ทำไมทำหน้ายังงั้นล่ะ สายตานายทำให้รู้สึกอยากจะร้องไห้ ความรักของนายมันหายไปไหน

เหรอ” ผมได้แต่ยิ้มๆ ตอนร้องเพลงผมเกือบร้องไห้แล้วครับ หลังจากที่เรากำลังจะกลับรุ่นพี่ก็มาชวนพวกเราไปต่อ แต่ผมไม่

อยากไป ไอ้วินกับไอ้โอ๊ตมันต้องไปเพราะพี่รหัสมันไปด้วย
“ รอน ไปด้วยกันเหอะนะ ไปสนุกกัน จะได้สนิทกันงัย” โอ๊ตพยายามชวนผมครับ แต่ผมก็ปฏิเสฐครับ ผมกลับมาที่ห้องก็นั่งเล่น

เอ็มกับพี่นัท สักพักใหญ่ๆผมก็นอน รู้สึกตัวอีกที่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ไอ้โอ๊ตครับ
“ เออ..รอนนอนยัง ขอโทษทีนะ”
“ไม่เป็นไรเพิ่งจะนอนน่ะ ยังไม่หลับหรอก มีไรป่าวโทรมาซะดึก”
“ตอนนี้เรากำลังกลับน่ะ รุ่นพี่เขาไปส่งไอ้วินมัน มันเมาน่ะ รอนอยู่ตึกเดียวกันช่วยดูมันหน่อยนะ” ทำไมต้องเป็นผมด้วยเนี้ย ผม

คิด แต่ก็เห็นแก่โอ๊ต ดูมันจริงใจกับเพื่อนๆดีครับ
“เออ เดี๋ยวเราดูให้” ผมเดินออกมานั่งที่ห้องรับแขกข้างล่างคนโด สักพักรุ่นพี่เค้าก็พาไอ้วินมา มันเมาเหมือนหม..เลยครับ ผม

เลยเข้าไปช่วยเค้าพยุงมาที่ห้องมันเพราะรุ่นพี่เค้าก็ไม่รู้
“เออ รอน พี่ฝากดูมันหน่อยนะ โชคดีนะที่อยู่ห้องติดกัน พี่ไปละนะ” แล้วพวกพี่ๆเค้าก็กลับไป ผมเห็นมันพึมพำอะไรไม่รู้แล้วมัน

ก็วิ่งไปอวกในห้องน้ำ ดีนะที่ยังมีสติบ้าง ผมเลยไปลูบหลังให้มัน แล้วพยุงมันกลับมาที่เตียงในห้องของมัน
“ อ้าว มึงนี่เอง มาเสือกไรเนี้ย”มันพูดกับผมครับ แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร สักพักมันก็ตะคอกผมครับ
“กูถามว่ามึงมาทำอะไร” ผมเริ่มโมโหแล้วครับเลยจะเดินกลับห้อง คนอุตส่าห์เป็นห่วง แต่มันดึงมือผมไว้แล้วมันก็ร้องไห้ครับ
“อย่าเพิ่งไป อยู่ กับเราก่อนนะ”แล้วมันก็หลับครับ ผมเลยเดินกลับมาที่ห้องผมครับ …….
เช้านี้ไม่มีเรียน ผมเลยออกไปหาซื้ออะไรมากินครับ เลยซื้อโจ๊กมาฝากมันครับ แอบถือวิสาสะเปิดห้องมันเพราะเมื่อคืนไม่ได้ล๊อค

ไอ้วินมันยังไม่ตื่น ผมเลยไปจับหน้าผากมัน ก็ไม่มีไข้
เลยเอาโจ๊กไปใส่ชามแล้วเอามาวางให้มันที่โต๊ะกินข้าว เลยถือโอกาสเดินดูห้องของมัน ก็ใช่ได้จัดห้องได้น่าอยู่ดี แต่รกไปหน่อย

ขวดเหล้าเต็มไปหมด สักพักผมก็กลับมาที่ห้องผม
“ว่างัยโอ๊ต ตื่นแล้วเหรอ” ผมรับโทรศัพท์มันครับ
“อือม์ เมื่อคืนขอบใจรอนมากนะ แล้วไอ้วินมันเป็นงัยมั่ง”
“ก็ปกตินิ แต่ยังไม่ตื่น นายมาดูเองแล้วกัน” ผมคุยกับโอ๊ตสักพักก็วาง วันนี้ผมตั้งใจจะไปดอยสุเทพ ครั้งนึงมาแล้วแต่ไม่ได้

ขึ้น...
------------------------------------

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 21-07-2008 21:54:46
 :m4: :m4:

จิ้มก่อนไปอ่านค๊าบ.....

 :m32: :m32: :m32:

แหม่ ๆ ๆ ๆ ๆ เริ่มจะสป๊าคกันแระ

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 21-07-2008 22:40:13
 :m12:
มาและ ๆๆๆ ไอ้ตัวแสบบบบบ  :laugh:

ปล. รักพี่นัทเหมือนเดิม แต่รักโอ๊ตเพิ่มอีกคน  :o8:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 21-07-2008 23:36:47
มาต่ออีกน้า    :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 22-07-2008 14:10:06
มาปูเสื่อรอตอนต่อไป  :a11:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 23-07-2008 02:18:13

........“เคยล้มเหลวกับความรักมา เลยทุกข์ล่วงหน้าให้กับรักครั้งใหม่ละซิ” ........

........ถึงมันจะล้มเหลวแต่มันก็ไม่เคยจากเราไป....เราถึงได้ต้องทุกข์กับมัน........ o7 o7
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 23-07-2008 06:04:14
อ้างถึง
ปล. รักพี่นัทเหมือนเดิม แต่รักโอ๊ตเพิ่มอีกคน

แถมเจ้าวินไปด้วยอีกคนแระกัน มันกวนประสาทดี..

แต่ท่าทางเจ้าวินคงเคยล้มเหลวกับความรักมาเหมือนกันอ่ะดิ๊ :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 23-07-2008 15:41:33
ไม่มีอาราย  วันนี้เข้ามากด + ให้ทุกโคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


ไปแระ   :bye2: :bye2:ช่วงนี้สอบคับ  วันนี้ไปสอบภาษาอังกฤษมา

เอาซะคุ้ม  ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 23 Juiy 08 ตอนที่ 8 รันมาลงแล้วคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 23-07-2008 20:11:52
ตอนที่.8
เย็นวันนั้นผมกลับลงมาจากดอยสุเทพ ไอ้โอ๊ตมันก้อกลับไปแล้วไอ้วินก้อออกไปข้างนอกไม่อยู่ห้อง เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง ก้อเจอจดหมายสอดเข้ามาทางใต้ประตู ตอนนั้นผมงงมากเพราะยังไม่ได้ให้ที่อยู่กับใคร แต่พอเห็นว่ามันมาจากใครความโกรธมันก้อเข้ามาแทนที่ มันเป็นเงิน 100 บาท พร้อมทั้งจดหมายอีก 1 ฉบับ
“นี่เป็น ค่าโจ๊กเมื่อเช้า ไม่ต้องทอน กูทิปให้” ไอ้วินมันนั้นเอง ตอนนั้นผมรู้สึกได้เลยว่าตัวผมสั่นไปด้วยความโกรธ นี่เราทำอะไรอยู่ เราไปยุ่งกับคนอย่างนี้ทำไม และหลังจากวันนั้นผมเองก้อพยายามที่จะเลี่ยงที่จะเจอกับไอ้วินมัน แต่กับโอ๊ต ผมกับมันเราสนิทกันมากขึ้นเพราะนิสัยเราเหมือนกันหลายอย่าง และในสุดสัปดาห์นี้มันก้อชวนผมไปเที่ยวที่ ดอยเชียงดาว
“ว่างัย รอน ไปป่าวพี่ๆที่คณะไปกันหลายคนนะสนิทๆกันทั้งนั้น” ผมลังเลนิดหน่อย ก้ออยากไปนะ แต่ ติดตรงที่ต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ6 ชั่วโมงกว่าจะถึง
“เอาว่ะ ไปก้อไป”
และในเช้าวันที่เราออกเดินทาง ผมก้อแทบไม่อยากไป ไอ้วินมันก้อไปด้วย มันก้อกวนผมตั้งแต่เราเจอหน้ากัน
“ไอ้โอ๊ต มึงชวนมันไปทำมั๊ยวะ กูไม่อยากมีภาระว่ะ แม่งดูแล้วไม่น่าจะเดินไหวว่ะ”
“ไอ้วิน มึงนี่ยังงั๊ย เพื่อนกันทั้งนั้น คราวที่แล้วก้อได้ไอ้รอนมัน ตอนที่มึงเมาเหมือนหมาอ่ะ”
“ไม่เป็นไรโอ๊ต เราไม่ถือ เราทำบุญไม่ค่อยขึ้นน่ะ ชอบโดนเนรคุณอยู่บ่อยๆ” ไอ้วินมันมองผมแบบแทบจะกินผมให้ได้ ส่ะใจดี นานๆจะทำให้มันโกรธได้
พวกเราออกจากเชียงใหม่กันแต่เช้า ผมกับไอ้วินก้อเหมือนเดิม กัดกันไปตลอดทาง เรามาแวะที่ หน่วยพิทักษ์ป่าเด่นหญ้าขัด เพราะว่าเราต้องมาหารุ่นพี่ไอ้โอ๊ต เค้าทำงานอยู่ที่นี่และเค้าจะเป็นคนพาพวกเราไปเที่ยวในครั้งนี้ เมื่อเรามาถึงจุดหมาย เราก้อต้องเดินขึ้นไปประมาณ 5-7 ชั่วโมง ผมท้อเลยครับ ตอนนั้นมีทั้งกล้อง กล้องดูดาว และสัมภาระอีก เราเดินกันมาได้สักพักใหญ่ๆ ก้อหยุดพักกัน ตอนนั้นขาผมแทบจะเดินไม่ไหว มันล้าไปหมด
“ไหวป่าว รอน เห็นหน้าซีดๆ”ไอ้โอ๊ตมันเข้ามาถามผมด้วยความเป็นห่วง
“อือม์.... ยังไหวอยู่ ขอบใจมากโอ๊ต”ผมยิ้มให้โอ๊ต ไม่อยากเป็นภาระมันด้วย ยิ่งไอ้วินมันมองผมกับโอ๊ต สายตาเหมือนจะเยาะเย้ยผมอยู่
“ทำมั๊ยมึงห่วงกันจังว่ะไอ้โอ๊ต ที่กูมึงไม่เห็นถามว่ะ” ไอ้วินมันมองผมกับโอ๊ต แบบแปลก
“ ไอ้ห่านี่คิดมาก เพื่อนกันทั้งนั้น กูชวนเพื่อนมากูก้อต้องดูแลเพื่อนสิว่ะ” โอ๊ตบอกไอ้วินแต่ผมว่าหน้ามันแดงๆชอบกล
เรานั่งพักกินข้าวกินน้ำกันสักพักใหญ่ๆ ก้อเดินกันต่อ ตลอดทางโอ๊ตก้อมาเดินกับผมตลอด เราคุยกันไปตลอดทางมันทำให้ผมลืมเหนื่อยไปเลย จนพี่ศักดิ์ที่เป็นเจ้าหน้าที่บอกว่าอีกประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ก้อจะถึงแล้ว ผมสังเกตว่าไอ้วินมันเดินหลังผมตั่งแต่มาถึงและ แต่ก้อไม่ได้สนใจอะไร จนถึงช่วงที่ทางขึ้นมันชัน และพื้นก้อชื้นด้วย ผมเองสะพายทั้งกล้อง ทั้งเป้ ทำให้ผมเสียหลัก หงายไปข้างหลัง ก้อมีคนมาช่วยผมไว้ และผมก้อไม่คิดว่าจะเป็นมัน
“นึกแล้ว....เห็นสะพายของมาเยอะแยะ นี่ก้อดูอยู่ว่าจะพลาดเมื่อไหร่ ไม่รู้จะขนมาทำไม” ผมไม่อยากจะคิดว่ามันจะคอยดูผมมาตลอดทาง
“เออ.. ขอบใจนายมากนะ แต่ถ้าจะมาเยาะเย้ยละก้อ อย่าช่วยดีกว่า” ผมกัดฟันขอบคุณมัน
“ทำไมว่ะ ที่คุยกับไอ้โอ๊ต พูดจาซะเพราะหน้าตามีความสุขซะขนาดนั้น ที่กับเราเหมือนไม่อยากจะพูดด้วย” มันกระซิบที่ข้างๆหูผม
“ นายน่าจะถามตัวเองก่อนที่จะมาถามเรานะ” และสิ่งที่ทำให้ผมอึ้งคือ ไอ้วินมันดึงเป้ของผมไปถือให้ครับ แล้วมันก้อไม่พูดอะไรอีกจนถึงจุดที่พี่เค้าบอกให้เราตั้งแคมป์กัน
ที่นี่มีบ้านของเจ้าหน้าที่อยู่ มีลานที่ให้เรากางเต็นท์นอนกัน เราจัดข้าวจัดของกันเสร็จก้อมานั่งคุยกัน พี่ศักดิ์พาพวกเรามาดูจุดชมวิว ตอนนี้ท้องฟ้าเป็นสีทอง มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา มีภูเขาน้อยใหญ่ที่อุดมไปด้วยต้นไม้นาๆชนิด มันทำให้เราหายเหนื่อย ผมเอากล้องคู่จามบันทึกภาพความทรงจำนี้ไว้ ว่าจะเอาไว้ไปอวดพี่นัทกับไอ้ภีม และในคืนนั้นพวกพี่ๆก้อมานั่งกินเหล้ากันที่หน้าเต็นท์ของพวกเรา โดยที่ก่อกองไฟเล็กๆไว้เพื่อให้แสงสว่างและให้ความอบอุ่นแก่พวกเรา ผมเองก้อมานั่งคุยกับพี่ๆเค้าสักพักก้อแยกออกมานั่งดูดาวไม่ห่างจากกลุ่มเท่าไหร่
ตอนนี้ความรู้สึกเก่าๆที่แสนสุขกำลังมาทำร้ายผมขณะนี้ ที่นี่ทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถที่จะยืนแล้วเอื้อมคว้าดาวได้ด้วยมือของเปล่า พี่นัทครับเวลาที่พี่มองดูดาวพี่คิดถึงใครมากกว่ากันนะ ระหว่างผมกับพี่วา แล้วหยดน้ำตาก้อไหลออกมาจากดวงตาทั้งสอง
“มานั่งร้องไห้คิดถึงใครตตรงนี้”ไอ้โอ๊ตมันเดินมานั่งกับผม มันพยายามจ้องตาผมแต่ผมเองกลับหลบสายตาของมัน
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ ว่าแต่นายเถอะทำไมไม่นั่งกับพวกพี่ๆเค้าล่ะ”
“เราอยากมาคุยกับรอนมากกว่าน่ะ รอนเราถามอะไรหน่อยสิ”
“อือม์ ถามมาสิ”ผมหันไปมองมาโอ๊ต
“นายรอใครอยู่หรือเปล่า เราไม่อยากเห็นนายเศร้าแบบนี้เลยว่ะ ถ้ามันทรมานขนาดนั้นทิ้งมันไปไม่ได้เหรอ”โอ๊ตมันเอามือมากอดคอผม ผมสัมผัสได้ถึงความรัก ความห่วงใยที่เพื่อนจะมีให้แก่กัน
“ไม่เป็นรั๊ยหรอก เราก้อไม่ได้ทรมานอะไรนี่นา มันก้อมีความสุขนะทุกครั้งที่เราได้คิดถึงวันเก่าๆ เราไม่อยากโกหกกับความรู้สึกของตัวเองน่ะ ถ้าเราคิดถึงใครสักคนแล้วมันมีความสุขมากกว่ามีความทุกข์ เราก้อยังคิดถึงเค้าได้ไม่ใช่เหรอ ความสุขกับความทุกข์นะมันมีมาพร้อมกันนั่นแหละ”
“มานั่งสวีทอะไรกันว่ะ มึง 2 คน”แล้วเสียงไอ้วินมันก้อทำให้โอ๊ตไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมเองก้อไม่อยากจะทะเลาะกับมัน เพราะเมื่อเย็นมันก้อช่วยผมไว้
“รอน เดี๋ยวเราไปเอาอะไรร้อนๆมากินกันดีกว่า แล้วมึงล่ะเอาป่ะ” มันหันไปถามไอ้วิน
“เออ...ดีเหมือนกัน มึนๆหัวอยู่พอดี เหล้าป่าแม่งโคตรแรงเลยว่ะ” แล้วโอ๊ตมันก้อเดินไปทิ้งผมไว้กับไอ้วินมัน
“เมื่อเย็นเราขอบใจนายมากน่ะ”ผมพูดกับไอ้วินแต่ไม่ได้มองหน้ามันแต่พอมันพูดตอบกลับมาทำให้ผมต้องหันมามอง
“ไม่เป็นไร กู เอ้ย! เราก้อขอบใจเรื่องวันที่พี่เค้ารับน้องด้วยน่ะ” มันพูดแบบเขินๆ
“ไม่เป็นรัย นายให้ทิปเรามาเยอะล่ะ” ผมประชดมัน แต่ก้อไม่ได้จริงจังอะไร ผมเองก้อเป็นคนที่โกรธใครไม่ได้นาน แล้วมันก้อดูว่าจะพูดดีๆกับผมแล้ว ยังงัยก้อต้องเจอกันไปอีกหลายปี
“เราไม่ได้จะดูถูกนายน่ะ แต่........”มันก้อไม่ได้บอกอะไร ผมกับมันก้อไม่ได้พูดอะไรกันอีกต่างคนต่างซึมซับกับบรรยากาศรอบๆตัว แต่มันก้อไม่รู้สึกอึดอัดระหว่างผมกับวิน
“ รอน เรามาเป็นเพื่อนกันได้ป่าวว่ะ”วินมันถามผม
“แล้วตอนนี้เราเป็นอะไรกันล่ะ”ผมมองหน้ามัน
“ไม่รู้สิ เรากับนายไม่ค่อยพูดกันดีๆเลยว่ะ เวลาที่นายคุยกับไอ้โอ๊ตมันไม่เหมือนกับที่คุยกับเรา”
“งั้นเราถามหน่อยสิ ทำมัยนายถึงดูไม่ชอบขี้หน้าเราตั่งแต่วันแรก”
“ก้อ..... วันนั้นเราเมาแล้วเสียงดัง เพราะเพื่อนๆเรามันขึ้นมาจากกรุงเทพ มาส่งเราน่ะ แล้วนายก้อมาว่าเรา พอตอนเช้า ก้อมีจดหมายเตือนจากคอนโด เรานึกว่านายไปแจ้งเค้า ตอนหลังถึงรู้ว่าเป็นห้องข้างล่างพอดีระเบียงมันตรงกัน เสียงมันคงเข้าไปได้มั๊ง เราอยากจะขอโทษนายน่ะ แต่เรามันก้อปากแบบเนี้ย”มันพูดแล้วก้อหัวเราะ ผมเองก้อยิ้มๆไปกับมัน และในตอนนั้นความรู้สึกดีๆระหว่างผมกับมันก้อเริ่มต้นขึ้นตั่งแต่คืนนั้น
“อ้าว นึกว่าจะตีกันตายไปแล้ว ดีกันแล้วเหรอ”โอ๊ตเดินกลับมาพร้อมกับโอวัลตินร้อนๆ มันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกมากมายระหว่างพวกเราทั้ง3คน
“รอนตื่นยัง ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน” ไอ้วินมันเดินมาปลุกผม
“ไปเถอะ เราขอนอนอีกหน่อยล่ะกัน หนาวว่ะ” ตอนนั้นอากาศเย็นมากน้ำค้างแรงมาก ผมต้องนอนนิ่งๆเพราะถ้าขยับตัวมันจะไปโดนกับเต็นท์ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำค้าง ผมรู้สึกว่าตัวผมเหมือนโดนใครบางคนกอดอยู่
“พี่นัท มานอนทับผมอีกแล้วเนี้ย”
“ใครเหรอพี่นัท” ผมสะดุ้งเลยครับนี่มันเสียงไอ้วินนี่นา
“เฮ้ย...ตกใจหมดเลย อะไรเนี่ย”
“อ้าว..ก้อนายบอกว่าหนาวเราเลยให้ความอบอุ่นงัย ทำมัยยังหนาวอยู่เหรอมะเดี๋ยวเรากอดให้แน่นขึ้นก้อได้”
“ไม่เอาละไม่เล่นนะเว้ย ไหนว่าจะไปพระอาทิตย์ขึ้นงัย ไปดิ” แล้วผมก้อมุดเต็นท์ออกมา ก้อมาเจอไอ้โอ๊ตมันยืนอยู่หน้าเต็นท์ ดูมันแปลกใจที่เห็นไอ้วินมันตามออกมากับผมด้วย
“เมื่อคืนไอ้วินมันมานอนกับรอนเหรอ”
“ป่าว มันเพิ่งมาปลุกเราเมื่อกี้นี้เอง”
“อ๋อ.... ไปเถอะเดี๋ยวแดดจะแรงกว่านี้” และผมก้อมายังจุดที่พี่ศักดิ์พามาเมื่อวาน ภาพที่อยู่ตรงหน้ามันสวยมากๆท้องฟ้าเริ่งมีแสงของพระอาทิตย์ตรงขอบฟ้า ตอนนี้สุดสายตามีแต่หมอกปกคลุม มียอดเขาโผล่ขึ้นมาท่ามกลางไอหมอก มันเหมือนเกาะเล็กๆที่อยู่บนทะเลหมอก มันสวยงามกว่าที่เราเห็นในภาพกว่าเป็นไหนๆ มันคุ้มค่ากับความเหนื่อยที่เราเดินทางมากันอย่างลำบาก มันคุ้มจริงๆ
หลังจากวันที่เราไปเที่ยวกันพวกผมทั้ง3 คนเราก้อสนิทกันมากกว่าเดิมโดยเฉพาะไอ้วินมันต้องมาเล่นที่ห้องผมทุกวัน ถ้าวันไหนที่ผมกับมันไม่มีเรียนวันนั้นมันต้องมาคลุกอยู่กับผมทั้งวัน มันทำให้ผมเองลืมความเหงาไปได้เหมือนกัน พี่นัทเองช่วงนี้ก้อเรียนหนักมาก เราเลยได้คุยกันน้อยลงแต่พี่นัทก้อยังโทรหาผมอยู่ เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมาตอนม.ปลายก้อห่างหายกันไปมีแต่ไอ้ภีมที่มันยังโทรหาผมทุกวัน
“เฮ้ย..รอนวันหยุดนี้ไปไหนดีว่ะ เบื่อๆไม่อยากอยู่ห้องเลยว่ะ”ไอ้วินมันถามผมขณะที่เรานอนดูหนังในห้องของมัน
“เราจะไปบ้านปู่กับย่าว่ะ ไม่ได้ขึ้นไปนานแล้ว ป้าแกโทรมาบอกว่าย่าคิดถึง”
“เออ..งั้นเราไปด้วยดิ”
“ไม่เอา ขี้เกียจเป็นภาระว่ะ”( ผมแกล้งมัน เพราะตั่งแต่สนิทกับมันทำให้รู้ว่าไอ้วินมันเป็นคนที่ขี้เหงามาก อาจเพราะขาดแม่มาตั่งแต่เด็กๆ มันเล่าให้ฟังว่า มีอยู่วันนึงมันกลับจากโรงเรียน มันได้ยินพ่อกับแม่ทะเลาะกัน มันเลยเข้าไปแอบฟัง มันถึงได้รู้ว่า ตอนนั้นที่แม่มันไม่ทิ้งพ่อกับมันไปเพราะพ่อมันสัญญากับแม่ว่าจะให้ทุกอย่างที่แม่อยาก ไม่ว่าจะเป็นเงิน
หรือสิ่งของได้ขอแค่อย่าทิ้งมันไปเพราะพ่อมันสงสารไม่อยากให้มันต้องกลายเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น มันรู้ว่าพ่อรักมันมาก มันคิดอยู่หลายวันในที่สุดมันก้อเข้าไปคุยกับพ่อว่ามันอยู่กับพ่อ2คนได้ ปล่อยให้แม่ไปตามทางที่แม่อยากไปเถอะ มันสงสารที่พ่อต้องมาทนเพราะมัน
“นายรู้สึกยังงัยที่รู้ว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูกคนนึง ถูกซื้อได้ด้วยเงิน” ไอ้วินมันเคยถามผมช่วงแรกๆที่แม่จากมันไปมันเสียใจมาก แต่ไม่นานก้อกลายเป็นความชินชาตั่งแต่นั้นมามันก้อไม่เคยคิดว่านอกจากพ่อมันแล้วคนอื่นจะจริงใจกับมันจริงๆเพื่อนที่มันคบก่อนที่จะมาที่เชียงใหม่ก้อหวังประโยชน์จากความมั่งมีของครอบครัวมัน ตอนที่ฟังมันครั้งแรกผมรู้สึกสงสาร แต่ก้ออดน้อยใจไม่ได้นี่มันจะรู้ไหมว่าผมจริงใจกับมันจริงๆ ผมสัญญากับตัวเองว่าจะต้องทำให้มันเห็นให้ได้ว่ายังมีคนที่จริงใจกับมันอยู่...)
“โห..ภาระอะไร เราจะเป็นเด็กดีนะ นะ นะ”มันเริ่มอ้อนล่ะ พักหลังๆถ้ามันอยากได้อะไรจากผมมันก้อมักจะมาอ้อนผมอยู่เรื่อยๆ คงเห็นว่าผมเองก้อตามใจมันทุกครั้ง
“เดี๋ยว ขอคิดดูก่อน”
“เออ...ไม่ไปก้อได้”มันทำเป็นงอน ก้อตลกดี เมื่อนึกถึงวันแรกที่เจอกันท่าทางของมันไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำตัวเป็นเด็กๆแบบนี้
และในวันนี้ผมก้อจะไปบ้านปู่ ผมเลยเดินไปเรียกไอ้วินมันที่ห้อง ไอ้โอ๊ตมันไม่ว่างเลยไม่ได้ไป
“มีรัยว่ะ มาปลุกแต่เช้า”ไอ้วินมันงัวเงียมาเปิดประตู ทันที่ผมเห็นมันก้อรู้สึกแปลกๆมันหายใจไม่ทั่วท้อง เขิลๆยังงัยก้อรู้ ตอนนี้มันอยู่ในชุดนอน คือกางเกงขาสั้นตัวเดียวไม่ใส่เสื้อ หัวยุ่งๆ ก้อน่ารักดีนะ มันทำให้ผมนึกไปถึงใครบางคนที่อยู่ไกลแสนไกล หลายครั้งที่ไอ้วินมันทำให้ผมรู้สึกว่ามันคล้ายพี่นัท ชอบบังคับ ขี้อ้อน ขี้โมโห ขี้เล่น และอะไรอีกหลายๆอย่าง
“จะมาบอกว่าถ้าจะไปบ้านปู่กับย่าเราก้อให้เวลา15นาทีถ้าช้าไม่รอ”
“จริงนะ ให้เราไปแล้วใช่ปะ” มันทำหน้าดีใจแล้วก้อรีบวิ่งไปอาบน้ำ ผมมองไอ้วินแล้วได้แต่ยิ้มๆ
แล้วจากนั้นประมาณ2ชั่วโมง เราก้อมาถึงบ้านย่า เพราะเราไปซื้อของมาฝากปู่กับย่า เลยซื้อพวกอาหารสดมาให้ป้าทำกับข้าวด้วย
“รอน ที่นี่น่าอยู่ดีว่ะ”ไอ้วินมันดูว่าจะชอบที่นี่เหลือเกิน แต่ผมเองก้อชอบนะ บรรยากาศที่นี่ดีจริงๆ มันรู้สึกสบายใจที่ได้มาและที่สำคัญมันมีความทรงจำดีๆอีกมากมายที่ผมไม่สามารถลืมได้ ผมมานั่งคิดดูแล้วไม่เห็นจำเป็นที่ผมต้องลืมเลย ในเมื่อมันเป็นความทรงจำดีๆความรู้สึกดีๆ เราก้อควรจะเก็บมันไว้ และในวันนั้นผมก้อพาไอ้วินมันขี่รถเล่นไปทั่วสวน แล้วก้อพามันมานั่งเล่นที่ฝายเก็บน้ำ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือท้องน้ำที่ไม่ใหญ่มากนักแต่ก้อไม่เล็กจนเกินไป มีภาพของวิถีชาวบ้านที่ต้องพึ่งพากับแหล่งน้ำ บ้างก้อพายเรือหาปลา เด็กเล็กเด็กน้อยก้อพากันเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน มีหนุ่มสาวหลายคู่มานั่งคุยกัน มันทำให้ผมชอบมานั่งเล่นที่นี่มันรู้สึกปลอดโปร่ง และก้อสบายใจ
“รอน ขอบใจนะที่พาเรามาที่บ้านปู่กับย่าของนาย เราชอบมากจริงๆ ดูท่านรักนายมากเลยนะ”
“อือม์...ปู่กับย่าคงเห็นความเป็นลูกชายของเค้าในตัวเรามั๊ง มีหลายคนบอกว่าเราเหมือนพ่อ”
“นายโชคดีนะที่เกิดมาโดยมีความรักของคนรอบข้างอยู่รอบๆตัว”ผมมองดูไอ้วิน มันมองไปยังสายน้ำข้างหน้าสายตามันบ่งบอกถึงความเหงา
“วิน เราเองก้อขาดพ่อมาตั่งแต่ยังเด็ก แต่ก้อโชคดีที่เจอใครคนนึงที่ให้ความรักความอบอุ่นกับเรา ไม่ว่าตอนนี้เค้าจะอยู่ไกลแสนไกล แต่ความรักความห่วงใยที่เค้าส่งมาเราเองก้อสัมผัสได้อยู่เสมอ สักวันนายเองก้อคงได้เจอกับใครบางคนที่เค้าจะมอบความรักความห่วงใยให้กับนาย อย่างน้อยๆก้อมีตรงนี่อยู่อีก1คน เพื่อนที่พร้อมจะให้ความรัก ความห่วงใย เท่าที่เพื่อนจะให้นายได้”ผมเอามือจับที่ไหล่ของวินเบาๆ
“ขอบใจมากรอน นายเป็นเพื่อนคนแรกที่เรารักและเชื่อใจที่สุด เราเสียใจนะที่วันแรกที่พวกเราเจอกันมันไม่นาจดจำเท่าไหร่นัก เราคงเสียใจมากถ้าไม่ได้นายมาอยู่ข้างๆเราแบบนี้ สัญญาได้ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายจะอยู่ข้างๆเราตลอดไป เราเองก้อจะอยู่ข้างๆนายตลอดไป” อีกครั้งแล้วที่มันทำให้ผมนึกถึงพี่นัท
“อย่ามาปากดีเลย พอนายมีแฟนแล้ว นายจะลืมเราสิไม่ว่า”ผมแกล้งแซวมัน
“ไม่หรอก แฟนก้อส่วนแฟนสิ แต่กับนายมันต่างกันออกไป เราก้อไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้แค่ว่าอยู่กับนายแล้วเราสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นะๆๆๆสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆเราตลอดไป”
“ อือม์...เราสัญญา ” และในคืนนั้นพวกเราก้อมานอนกันบนหอดูไฟไอ้วินมันอยากมานอนบนนี้ ตอนแรกผมก้อไม่ยอม แต่ทนลูกอ้อนมันไม่ไหว
“ดาวสวยดีว่ะ กระจายเต็มท้องฟ้า พาลให้เห็นหน้าใครอีกคน”ผมพูดกับตัวเอง
“คิดถึงใครว่ะ เราอยู่ข้างๆนี่แล้วยังคิดถึงใครอีกล่ะ”ไอ้วินมันพูดยิ้มๆ
“รอน ที่นายเคยบอกว่า เคยแอบรักใครคนนึง จิงปะ แล้วเค้าเป็นใคร” ผมลังเลอยู่นานว่าจะบอกมันดีหรือเปล่า ถึงผมจะรู้จักกันไม่นานมากแต่ความไว้วางใจมันก้อมากพอ ทำให้ผมตัดสินใจเล่าให้มันฟัง
“ คนที่เรารัก คือคนที่สอนให้เราดูดาว และคอยปกป้องเราเสมอ สักวันเราจะแนะนำให้นายรู้จัก”
“แล้วนายล่ะ ไม่เคยรักใครเลยเหรองัย”ผมหันไปมองไอ้วิน
“นายเป็นคนแรกมั๊งที่เรารัก” มันมองผมยิ้มๆ ตอนนั้นผมรู้สึกใจเต้นแรงมาก มันบอกไม่ถูกรู้สึกท้องมันปันป่วนแปลกๆ
“ไอ้บ้า หมายถึงแฟนน่ะ”ผมหลบตามัน
“นี่นายเขินเราเหรอว่ะ หน้าแดงเชียวตลกดีว่ะ” ไอ้วินมันขำใหญ่เลย
“เรายังไม่เคยมีแฟนเลยว่ะ คบกันเล่นๆเป็นแฟชั่นมากกว่า เรากลัวที่จะต้องเจ็บมั๊ง” สายตามันเศร้าอีกและ
“วิน นายลองทำความรู้จักกับมันเถอะนะไอ้ความรักน่ะ แล้วถ้าวันไหนนายมีทุกข์ เราก้ออยู่นี่งัย รู้มั๊ย เพื่อนคือคนที่จะแบกความทุกข์ของเพื่อนไว้บนบ่าของเค้าเอง และเราเองจะเป็นคนแบกความทุกข์ให้นาย”วินมันหันมามอง ผมเห็นว่าที่ตามันเหมือนมีน้ำใสๆคลออยู่ แล้วมันก้อมากอดผมไว้
“ให้ตายสิทำมัยนายไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงว่ะ เราจะได้ประกาศให้คนอื่นเค้ารู้ว่านายเป็นของเรา”
“ถ้าเราเป็นผู้หญิงเราก้อไม่เอานายหรอก” ผมกัดมันเล่นๆ
“แสดงว่าเป็นผู้ชายแล้วจะเอาใช่ป่ะ” มันกัดผมกลับ แล้วเราก้อหัวเราะให้กัน คืนนั้นผมกับมันคุยกันเกือบทั้งคืน มันทำให้ผมรักเพื่อนคนนี้มากกว่าเดิม....................................
.................................................................

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 23-07-2008 20:13:45
แวะมาจิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ค๊าบ........   :m14: :m14:

ไปอ่านก่อนนะ ค๊าบ .......
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 23-07-2008 20:18:07


รัน อาจจะไม่ได้มาลง บ่อยๆนะครับ  เพราะตอนนี้รันต้องกลับบ้าน ไปหาที่เรียนต่อ ป.โท  ประกาศิต จากคุณแม่

แต่ก้อจะพยายามเข้ามานะคับ  เพราะว่าช่วงแรกมันอาจจะยุ่งๆ นิดหน่อย  นะค๊าบบบบบบบบบบบบ
********************************************************************
ตอนที่.9

“รอน เดี๋ยวเย็นนี้เจอกันที่ร้านเดิมนะโว้ย ห้ามเบี้ยวนะ”ไอ้โอ๊ตมันเดินมาบอกแกมบังคับกลายๆ วันนี้เพื่อนๆผมมันจะไปฉลองกันเพราะวันนี้พวกเราสอบเป็นตัวสุดท้ายแล้ว ผมกะจะกลับลงไปบ้านที่กรุงเทพสัก 2-3 อาทิตย์ ไม่ได้เจอ ลุง กับ แม่นานแล้วเหมือนกัน ไอ้ภีมมันก้อย้ำนักหนาว่าให้กลับมาหามันบ้าง
“ เออ...เดี๋ยวนายไปที่ร้านก่อนเลยนะ เราจะกลับไปที่ห้องก่อนอยากอาบน้ำก่อนว่ะ หรือว่าจะกลับไปที่ห้องเราด้วยกันก่อน แล้วไอ้วินมันไปไหนเนี้ยจะกลับห้องด้วยกันป่าวว่ะ เมื่อเช้ามันไม่ได้เอารถมา” ผมพูกพลางมองหาไอ้เพื่อนจอมกวน
“ถ้าอย่างนายไม่เห็น เราก้อคงไม่เห็นเหมือนกัน ตัวติดกันจนจะเป็นเงาของกันอยู่แล้วเนี้ย ขนาดเพื่อนในเมเจอร์เดียวกันยังอดน้อยใจมันไม่ได้เลย ที่มันไม่ค่อยยอมไปไหนด้วยไม่เหมือนทีกับนาย” โอ๊ตมันบ่นไอ้วิน ผมจับได้ว่าน้ำเสียงมันดูคล้ายๆจะน้อยใจ
“ อย่าคิดมากน่า ไอ้วินมันก้อเป็นแบบนี้แหละ มันเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายนะแต่มันเปิดใจกับคนอื่นยาก อีกอย่างห้องเรากับมันก้ออยู่ติดกันแค่เนี้ยมีอะไรมันก้อมาปรึกษาเราเลยทำให้สนิทกันมากกว่าคนอื่นน่ะ” ผมบอกไอ้โอ๊ต แต่พอนึกแล้วมันก้อคงจะจริงเพราะถ้าผมกับไอ้วินไม่มีเรียนมันต้องโทรตามให้ผมมาหามัน ไม่มันก้อมาหาผมจนเพื่อนๆในเมเจอร์ผมแซวผมกับมันบ่อยๆ ขณะที่ผมนึกอยู่นั้นไอ้วินมันก้อโทรมาพอดี
“รอน นี่นายอยู่ไหนว่ะ”
“อยู่กับไอ้โอ๊ตที่คณะอ่ะ แล้วทำอะไรอยู่ว่ะจะกลับด้วยกันป่ะ รอนานแล้วเนี้ย”
“เออ นายกลับไปก่อนก้อได้ พอดีเรามีธุระว่ะเดี๋ยวไปเจอกันที่ห้องแล้วกันน่ะ” แล้วมันก้อวางสายไป
“เออ โอ๊ตงั้นเรากลับเลยนะไอ้วินมันจะไปธุระก่อนว่ะ เดี๋ยวเจอกัน” ผมบอกโอ๊ตแล้วก้อหันหลังจะเดินไปที่รถ แต่มันดึงมือผมไว้
“เราเปลี่ยนใจแล้วว่ะ เราขอไปอาบน้ำที่ห้องรอนดีกว่า”
“อือม์ ไปดิ”ผมกันมันเลยเดินมาที่ลานจอดรถ
“อะโอ๊ต นายขี่แล้วกัน ขี้เกียจว่ะ” ผมยื่นกุญแจให้โอ๊ต
“ไม่เอาอ่ะ รอนนายนั่นแหละขี่เราอยากนั่งซ้อนมากกว่า”
“เออออ ก้อได้ว่ะ วานนิดวานหน่อยไม่ได้เลย ที่ไอ้วินมันยังขี่ให้เรานั่งเลย” ผมว่าพอผมพูดหน้าของโอ๊ตมันดูเสียนิดหน่อย
“ถ้างั้นเราขี่เองก้อได้ นายมาซ้อนก้อแล้วกัน”
“เฮ้ย...ไม่เป็นไรเราพูดเล่น ป่ะ เดี๋ยวเสียเวลา”
แล้วผมก้อกลับมาที่ห้องก่อน ระหว่างทางไอ้โอ๊ตมันก้อกอดเอวผมมาตลอด มันชวนผมคุยโน้นนี่ตลอด เวลาที่มันคุยก้อเอาปากมาพูดที่ข้างหูของผม หลายครั้งที่รู้สึกว่าริมผีปากของมันงับหูผมไปหลายครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
“โอ๊ต นายอาบน้ำก่อนก้อแล้วกันนะ เดี๋ยวเราหาเสื้อผ้ามาให้ เพราะนายก้อไม่ได้เอามาเปลี่ยนด้วยนี่นา”
“ไม่เป็นไร เราใส่ชุดเดิมก้อได้ อย่าลำบากเลย”
“ไม่เป็นไร นายไปอาบน้ำเถอะ”แล้วไอ้โอ๊ตมันก้อเดินไปอาบน้ำ สักพักไอ้วินมันก้อมาเคาะห้องผม
“มาแล้วเหรอ ไปไหนมาว่ะ” ผมถามมันแต่ไม่รู้มันเป็นอะไรทำหน้ายังกับตูด
“ เอออ แล้วนี่ไอ้โอ๊ตมันไปไหนล่ะ เห็นนั่งซ้อนท้ายกันมา”
“มันอาบน้ำอยู่ นายก้อไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวเราไปด้วยกัน เอารถนายไปดีกว่า 3 คนคงไปรถเราไม่หมด” ผมบอกไอ้วินมัน
“นายไปกันก่อนเถอะ เดี๋ยวเราตามไป”แล้วมันก้อเดินกลับไปที่ห้อง มันเป็นอะไรของมันก้อไม่รู้
“รอน.....รอน เหม่ออะไรอยู่ว่ะเรียกตั้งนาน” โอ๊ตมันอาบน้ำเสร็จแล้ว พอผมหันไปก้อเห็นมันนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว อือม์ หุ่นมันดีจริงๆ เต็มไปด้วยมัดกล้าม แต่ผมก้อไม่ได้คิดอะไรนะไม่เหมือนที่เห็นไอ้วินตอนนั้น พอมาคิดดูแล้วก้อบอกไม่ถูกเหมือนกันในตอนนั้น
“เสื้อผ้าอยู่ที่เตียงนะ เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อน”แล้วผมก้อเข้าไปอาบน้ำ ตอนนั้นก้อคิดว่าไอ้วินมันเป็นอะไร เดี๋ยวต้องถามให้หายสงสัย ไอ้นี่มีอะไรก้อต้องมาเล่าทุกครั้ง แต่วันนี้มันกลับไม่เล่าอะไรให้ฟังเลย แถมยังดูอารมเสียอีก ผมอาบน้ำนานพอสมควรจนไอ้โอ๊ตมันต้องมาเรียก
“ไอ้รอน...เสร็จยังวะ หลับยังว่ะเนี้ย”
“เสร็จแล้วโว้ย” ผมตะโกนบอกมันแล้วก้อออกมาจากห้องน้ำ ไอ้โอ๊ตมันมองผมแว๊บนึง
“อาบนานจังว่ะ แค่นี้ก้อขาวจะแย่อยู่แล้ว”หน้ามันดูแดงๆ
พอแต่งตัวผมบอกให้โอ๊ตมันไปรอที่รถก่อน เดี๋ยวจะเข้าไปดูไอ้วินมันแป๊ปนึง
“ วันนี้เป็นอะไรไปอ่ะ ทำมัยดูอารมณ์เสีย มีอะไรไม่เห็นเล่าให้เราฟังเลย”ผมถามไอ้วินหลังจากที่มันเดินมาเปิดประตูให้
“ป่าวไม่มี่อะไรหรอก” ดูมันอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
“แน่ใจน่ะ ว่าไม่มีอะไร”
“เออ...แค่รู้ว่านายเป็นห่วงก้อไม่เป็นรัยแล้ว”
“งั้น เราไปก่อนนะ เดี๋ยวไอ้โอ๊ตมันรอนาน”
“รอน เดี๋ยว”แล้วไอ้วินมันก้อเดินไปหยิบอะไรบางอย่างมาให้ผม
“อ่ะ เราเห็นมันแล้วคิดถึงนายว่ะ” มันเป็นแหวนเงินเกลี้ยงๆ แต่มีรูปดาวลงยาสีดำไว้บนตัวแหวน
“ขอบใจว่ะ แต่นึกยังงัยถึงซื้อแหวนให้เราว่ะ ถ้าเราใส่เราต้องกลายเป็นคนของนายป่ะ”ผมแซวมันเล่นๆ
“ใช่แล้ว ต่อไปนายเป็นคนของเรา เราสั่งอะไรต้องเชื่อฟัง ห้ามดื้อ รู้ป่าว”มันพูดแล้วก้อหัวเราะ
“งั้นเรายังไม่ใส่ดีกว่า”แล้วผมก้อเอามันไปคล้องไว้ที่สร้อยผมแทน
“อ้าว ทำไมไม่ใส่ที่นิ้วล่ะ”
“เอาไว้ถ้าเราอยากเป็นคนของนาย เราจะใส่ แต่ตอนนี้ยัง......ไม่อยากฟังคำสั่งใคร”แล้วผมก้อทำหน้ากวนๆให้มัน แต่ตอนนั้นก้อรู้สึกดีนะครับ
แล้วคืนนั้นพวกผมก้อเมากันเละ โดยเฉพาะไอ้วิน ไอ้ป๋อม( เพื่อนที่คณะผม) แต่ผมไม่ค่อยชอบกินเหล้าเท่าไหร่เลยยังปกติดี พอร้านปิดพวกเราก้อแยกย้ายกันกลับ ไอ้วินมันไม่ได้เอารถมาเลยต้องกลับกับผม ผมพยุงมันมาที่รถแต่สติมันก้อยังดีอยู่ยังพอรู้เรื่อง
“แล้วเมื่อเย็นมายังงัยว่ะนี่”ผมถามไอ้วิน
“เพื่อนมาส่ง”มันตอบผมแบบอู้อี้
“เตรียมพร้อมที่จะเมาเลยนะ”ผมกัดมันครับ
“แน่นอน เราเตรียมตัวมาเลย เรื่องอะไรจะให้ไอ้โอ๊ตมันกอดอยู่คนเดียว”ตอนนั้นผมว่ามันแปลกๆละไอ้นี่ ***************************

ตลอดทางที่กลับห้องกันไอ้วินมันกอดผมมาตลอดมันเอาหน้าซบลงตรงกลางหลังของผม ตัวมันสั่นๆ
“หนาวเหรอ เดี๋ยวเราขับไปเรื่อยๆแล้วกันนะ”ผมชะลอความเร็วลง
“อือม์”ไอ้วินมันตอบผม มันกอดผมแน่นกว่าเดิม เวลาเหมือนจะหยุดอยู่ระหว่างผมกับมัน ในค่ำคื่นที่รถราแทบจะไม่มีวิ่งเพราะมันดึกมากแล้ว สายลมที่พัดมาประทะกับผิวหน้าและอ้อมแขนของไอ้วิน มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจ ความรู้สึกในตอนนั้นคืออยากให้มันกอดผมให้แน่นและนานกว่านี้

*************************************


ที่สนามบินไอ้ภีมมันมารับผม ผมกับมันไม่เจอกันเป็นปี แต่เราก้อยังเหมือนเดิมคงเพระมันโทรหาผมอยู่ตลอด มันดูหล่อขึ้นเยอะเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไปแล้วเพื่อนเรา
“ไม่เจอกันนาน น่ารักขึ้นนะ ไอ้ตัวยุ่ง ขาวขึ้นป่าวเนี้ย”ไอ้ภีมมันทักผม
“นายเองก้อหล่อขึ้นนะ”ผมเองก้อชมมันเช่นกัน ดูมันเขินๆ ไอ้ภีมมันพาผมมากินข้าวแถวๆเรียบทางด่วน ร้านบรรยากาศดีมากๆ
“สบายดีหรือเปล่าว่ะ แล้วพวกไอ้อั้ม ไอ้เจนล่ะ ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเลย”ผมถามมัน
“ก้อดี พวกมันก้อคงดีเหมือนกันพักหลังๆก้อไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ มีแต่กับนายแหละที่ยังคุยกันเหมือนเดิม” มันมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน ผมรู้สึกว่ามันดูอ่อนโยนและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ
“แล้วนายล่ะ เป็นงัยอยู่ทางโน้น คิดถึงเรามั่งป่าว แล้วลืมเรื่องเก่าๆไปได้หรือยัง”
“อือม์...เราก้อไม่ได้คิดอะไรมากแล้ว ใจคนเรามันบังคับกันไม่ได้นี่หว่า แล้วมันคงไม่ดีด้วยเพราะยังงัยพี่นัทกับเราก้อเป็นพี่น้องกัน”
“แล้วตอนนี้นายล่ะ มีแฟนยัง”ผมถามไอ้ภีมยิ้มๆ
“ยัง ก้อมีคนมาจีบนะ ออกจะหล่อล่ำขนาดนี้ แต่เราอยากจะลบความรู้สึกเก่าๆในอดีตออกให้หมดก่อนน่ะ” ผมรู้สึกว่ามันเจ็บที่ใจยังงัยบอกไม่ถูกถ้าไอ้ภีมมันจะลบความรู้สึกที่มีให้กับผม
“เฮ้ย...อย่าคิดมากดิ เราไม่คิดอะไรแล้ว แต่ถ้าจะเริ่มต้นใหม่กับใครเราก้อไม่อยากเอาเปรียบเค้าน่ะ”มันรีบบอกผมคงเห็นหน้าผมเสียไป
“เราเองก้ออยากให้นายเองมีคนที่เค้ารักนายจริงๆนะ แต่สำหรับเรนะก้อยังอยู่ตรงนี้เสมอ”ผมบอกกับไอ้ภีม อยากให้มันรู้ว่าผมจะอยู่ข้างๆมันเสมอ
“รอน นายยังเหมือนเดิมนะ ความจริงใจที่มีให้เพื่อน เรายังสัมผัสมันได้เสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่นายจะยังเป็นเพื่อนที่เรารักมากที่สุดอยู่ดี”ผมและไอ้ภีมเราต่างคนต่างมองตากันและกันภาพวันวานเก่าๆมันกระจ่างชัดขึ้นมาในความนึกคิด และในคืนนั้นผมและมันเราก้อกลับมาเป็นเด็กม.ปลายกันอีกครั้ง…………

“เข้าบ้านก่อนป่าว”ผมถามไอ้ภีมเพราะมันมาส่งผมที่หน้าบ้าน
“ไม่อ่ะ นายจะได้พักผ่อน เดินทางมาทั้งวันแล้ว”
“ไม่เป็นไร นายนอนกับเราที่นี่ก้อได้ จะได้คุยกันงั๊ย”
“ไม่หรอกกลัวอดใจไม่ไหวเดี๋ยวได้ปล่ำนายขึ้นมาแล้วจะแย่” มันหัวเราะแล้วก้อทำตาหวานๆมาให้
“ไอ้บ้า.. แต่ก้อขอบใจนะที่ไปรับ เราเข้าบ้านก่อนละกัน” ผมยิ้มให้ไอ้ภีมมันเป็นยิ้มที่จริงใจที่สุดแล้วผมก้อเดินเข้าบ้าน แต่ถ้าผมหันกลับมามองผมคงเห็นน้ำตาของใครบางคน
“ ขอโทษนะรอนที่ต้องโกหกนาย...เราเองยังลืมนายไม่ได้จริงๆแต่ไม่ต้องกลัวเราสัญญาว่าความรักของเราจะไม่ทำให้นายลำบากใจแน่นอน เราขอแค่ยืนในที่ๆเราอยู่ตอนนี้ที่ๆเราจะเห็นนายอยู่ตลอดเวลา ที่ๆเราสัมผัสนายได้ก็พอ”
...........................................................................

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 23-07-2008 20:28:24
 :m1: บรรยากาศความโรแมนติดแผ่กระจายไปทั่ว :o8:

ขอบรรยากาศแบบนี้ให้มีนาน ๆ หน่อยน๊า...ความเศร้าอย่าเพิ่งมาเลย  o7
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 23-07-2008 20:55:44
ชอบจังเลยคับ ชอบเมืองเชียงใหม่ ขอติดตามเรื่องนี้อีกคนน่ะคับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 23-07-2008 21:59:05
ชอบนิยายเรื่องนี้มากครับ

เพราะเรื่องนี้ทำให้ไปทำงานแบบตาบวมๆ(ร้องไห้จัด)

เป็นกำลังใจให้คนโพสนะครับ

แล้วจะรอเรื่องต่อไปของคุณพี

น้องเพียวจัดมาให้พี่ด่วน!!

ปล.อยากอ่านเรื่องคะนึงหาที่ค้างไว้ในบอร์ดปาล์มของคุณพีมากครับใครสามารถจัดมาต่อให้จบในเล้าที
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 24-07-2008 08:14:00
 :m13: ว่าแต่ นี่รอนเดียวกับในบ้าน AF ป่าวหว่า  :m20: :m20:

ขอบคุณนะครับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า.....

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 24-07-2008 18:12:02


 :pig4: ขอบคุณ ทุกๆ คนที่เป็นกำลังใจให้นะครับ

ถึงแม้จะไม่ได้แต่งเอง

แต่ก้อชื่นชอบนิยายเรื่องนี้เหมือนๆ กับทุกคน
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 24-07-2008 22:40:45
มาจิ้ม  :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 25-07-2008 00:37:57
มีความสุขแบบเหงาๆ *-*
ชอบมากมาย
โดนใจที่สุด
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์Byพี่รันกะน้องเพียว 23 July 08 รันลงตอนที่8+9 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 25-07-2008 18:51:26
มาลงให้แระค๊าบ


รอนในนี้  แถมยังมีนัทด้วย  :m1:


รู้สึกว่าจะเป็น  นัท & รอน  ช่ายมะ  :o8:



วันนี้สอบ Reasoning เป็นวิชาการใช้เหตุผล

เค้าบอกกันไว้ว่า  เรียนวิชานี้  ถ้าอาจารย์ถามว่าเข้าใจหรือเปล่า  แล้วเราตอบว่าเข้าใจแสดงว่าไม่เข้าใจ

เพราะอาจารย์เรียนมาจนถึงตอนนี้ยังไม่เข้าใจเรย  :laugh: :laugh:

ไปอ่านต่อกันดีกว่า  เด๋วพรุ่งนี้มาลงอีกตอน


ตอนที่.10
ตลอดเวลาที่ผมกลับลงมาอยู่ที่กรุงเทพ ไอ้ภีมมันจะมาคลุกอยู่กับผมเสียเป็นส่วนใหญ่ ระยะเวลาไม่ทำให้มิตรภาพของพวกเราเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับทำให้ผมรักมันมากขึ้น
วันนี้ผมกับภีมมาเดินเล่นที่สวนจตุจักร เราเดินดูของกันอย่างสนุกสนาน ไอ้วินมันก้อโทรเข้ามา
“ว่างัยไอ้คุณชาย มีอะไรว่ะ”
“รอน..นี่นายจะกลับมาเชียงใหม่เมื่อไหร่”
“อีกประมาณ 2-3 วันก้อจะกลับแล้ว มีอะไรหรือป่าว” ผมรู้สึกว่าเสียงของมันดูเหงาๆ
“เซ็งๆ ไม่มีเพื่อนคุยว่ะ รีบกลับมาได้แล้วโว้ย”
“แล้วนี่ใจคอจะไม่กลับมาบ้าน หาพ่อมั่งเหรอ”ผมถามมัน
“ไม่อ่ะ พ่อเราไปทำงานที่ต่างประเทศ กลับมาก้อไม่มีอะไรทำ อยู่เล่นกับเพื่อนที่คณะดีกว่า”
“อ้าว มีเพื่อนแล้วจะให้เรารีบกลับไปทำมั๊ยว่ะไอ้นี่”ผมแซวมันเล่นๆ แต่จริงๆผมเองก้อคิดถึงมันมากเหมือนกัน ผมคุยกับไอ้วินสักพักก้อวางสายไป รู้สึกว่าไอ้ภีมมันมองมาที่ผมบ่อยๆ
“แฟน...เหรอ”ไอ้ภีมมันเอ่ยถามผมหลังจากที่ไอ้วินมันวางสายไป
“บ้า เพื่อนกัน ไอ้วินงัยที่เคยเล่าให้ฟังอ่ะ”
“อ๋อ...คนที่อยู่ข้างๆห้องนะเหรอ”
“ใช่..ตอนแรกก้อไม่ค่อยจะชอบมันแต่ตอนนี้กลับมาสนิทกันซะงั้น”ผมยิ้มๆพลางนึกถึงตอนแรกๆที่ผมกับไอ้วินรู้จักกัน
“เวลานายคุยกับเพื่อนคนนี้แววตาของนายดูมีความสุขดีนะ”ไอ้ภีมมองผมด้วยสายตาที่ผมเองก้อบอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร แต่ก้อทำให้ผมกลับมานั่งคิดถึงเรื่องที่มันพูด
“รอน นายจะกลับเชียงใหม่พรุ่งนี้แล้วใช่มั๊ย เดินทางปลอดภัยนะ เรามีธุระคงมาส่งไม่ได้”ไอ้ภีมบอกลาผมหลังจากที่เรากลับมาจากซื้อของกัน ตอนนี้ผมกับมันมานั่งเล่นที่สวนหลังบ้าน
“อือม์ คงจะกลับพรุ่งนี้แหละ”
“รีบกลับจัง ไหนว่าอีก 2-3 วันไม่ใช่เหรอ พอแฟนโทรมาหน่อยรีบกลับไปหาเลยนะ”ไอ้ภีมมันแซวพร้อมกับทำหน้ากวนๆ
“ไอ้บ้า บอกว่าเป็นเพื่อนกัน ไอ้นี่นิ”
“รอน ความสุขมันอยู่กับเราไม่นานหรอกนะ ทำมัยไม่ถามใจตัวเองให้ดี ยิ่งนายรู้ใจตัวเองเร็วเท่าไหร่ นายเองก้อจะมีความสุขเร็วขึ้นนะ”ตอนนี้สายตาของเราประสานกัน ผมเห็นถึงความห่วงใยในสายตาเพื่อนคนนี้
“แล้วอะไรๆที่นายว่ามันคืออะไรล่ะ”
“ก้อนายเอง กับ คนที่เค้ารักนายก้อจะได้มีความสุข ส่วนคนที่มันยังรอนายอยู่จะได้ตัดใจได้จริงๆซะที”ผมรับรู้ได้ถึงความเศร้าที่แสดงผ่านแววตาคู่สวยที่มองมายังผม แม้มันจะเพียงครู่เดียวก้อตาม
“ภีม บางครั้งเราเองก้อกลัวนะ กับความรักที่มันผิดธรรมชาติแบบนี้ รักแรกของเราเกิดกับพี่ชายของตัวเอง เรากลัวว่าครั้งต่อไปมันจะเกิดกับคนที่เราไม่ควรจะคิดแบบนั้นกับเค้า เรากลัวการสูญเสียว่ะ เฮ่อ...ทำมั๊ยนะคนที่เราชอบไม่เป็นผู้หญิงบ้างนะ”
“อย่าฝืนใจตัวเองเลย ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นเถอะ อย่าพยายามหาเหตุผลที่ตัวเราต้องเป็นแบบนี้
มันต้องมีแหละน่า คนที่จะมองผ่านตัวของเราแล้วเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน” ผมรู้สึกว่าไอ้ภีมวันนี้ช่างอ่อนโยน เป็นสุภาพบุรุษต่างจากไอ้ภีมคนเดิมที่ผมรู้จัก ทำมัยนะวันนี้ผมถึงรู้สึกว่ามันดูหล่อมากในสายตาผม
“คืนนี้ค้างกับเราป่ะ อยากคุยกับนายจนถึงเช้าเลยอ่ะ สบายใจจังที่ได้คุยกับนาย”ผมถามไอ้ภีม
“ไม่ได้หรอก พรุ่งนี้เรามีธุระแต่เช้าน่ะ แต่จะกลับดึกหน่อยก้อแล้วกันนะไอ้ตัวยุ่ง” คืนนั้นเป็นคืนที่ผมอบอุ่นมากอีกคืนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยที่เราต่างมีให้กันและกัน
****************************************
ผมมาถึงเชียงใหม่ในบ่ายวันรุ่งขึ้น ตอนที่ผมอยู่ที่ดอนเมือง ผมว่าผมเห็นไอ้ภีมมันนะ แต่ก้อไม่แน่ใจว่าตาฝาดหรือเปล่า ทำไมมันถึงไม่ยอมมาส่งผมถ้ามันอยู่ที่สนามบินจริงๆ แต่ก้อไม่ทันได้คิดอะไรมากไอ้วินมันก้อมายืนยิ้มรอรับผมแล้ว ผมโทรมาบอกมันว่าจะถึงตอนบ่ายๆของวันนี้ มันดีใจมากที่รู้ว่าผมรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนมัน และในช่วงที่เหลืออีกประมาณ1อาทิตย์ก่อนที่มหาลัยจะเปิดผมกับมันก้ออยู่ด้วยกันทุกวัน เจอหน้ากันแทบจะตั่งแต่ลืมตาตื่นจนหลับตานอนเลยก้อว่าได้


วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก มันเต็มไปด้วยน้องๆปีหนึ่ง นี่ผมมาอยู่ที่นี่ได้1ปีแล้วสินะมันก้อผ่านมาไวเหมือนกัน พี่นัทเองก้อหายไปเลยตั่งแต่มหาลัยปิด ยันเปิดไม่ติดต่อมาเลย น้อยใจชะมัด ผมเดินมาที่คณะแต่เช้าเจอเพื่อนๆก้อนั่งคุยกันไปเรื่อยๆไอ้โอ๊ตมันก้อเดินมาหาผม ไม่เจอกันไม่เท่าไหร่ดูมันคล้ำลงไปนิดหน่อย แต่ก้อทำให้มันดูเข้มขึ้น มันเข้ามาคุยกับผมเลยทำให้รู้ว่ามันขึ้นไปช่วยญาติทำงานที่เชียงรายมา วันนี้ผมเองก้อต้องดีใจที่เจอเพื่อนเก่า
“หวัดดีค่ะ พี่รอนจำลลินได้มั๊ยค่ะ” ผมนึกไปนึกมาก้อนึกออก ผมเคยคุยกับน้องเค้าสักพัก พอย้ายมาเรียนที่นี่เลยไม่ได้ติดต่อกันอีก
“อ๋อ..จำได้แล้วครับ มาเรียนไกลถึงนี่เลยเหรอ” ผมยิ้มให้น้องเค้า
“พอดีลิน ติดเภสัชที่นี่ค่ะ แล้วก้ออยากจะมีอิสระบ้างอยู่บ้านแม่คอยดูแลอย่างกับลินเป็นเด็กๆเลยค่ะ พอดีพี่อั้ง เค้าบอกว่าพี่รอนเรียนที่นี่ ลินเลยลองเดินมาดูที่คณะของพี่รอนเผื่อว่าจะเจอนะค่ะ... โชคดีที่เจอกันนะค่ะ” น้องลินส่งยิ้มหวานมาให้ น้องลินในวันนี้ เติบโตเป็นสาวน้อยน่ารัก เพื่อนๆที่คณะมองน้องเค้าหูตาแพรวพราว
“เออ....น้องลิน นี่เพื่อนพี่ นี่พี่โอ๊ต นี่พี่วิน นี่พี่ป๋อม นะ นิสัยดีกันทั้งนั้น มีเรื่องอะไรให้พวกพี่ช่วยเหลือก้อบอกมาได้เลยนะ” ผมบอกน้องเค้าด้วยความเอ็นดู
หลังจากนั้นมาน้องลินก้อมาเป็นนางฟ้าประจำกลุ่มของพวกผมไปโดยปริยาย น้องลินมักจะมากินข้าวกับพวกผมเป็นประจำ ตอนเย็นถ้าว่าง ทั้งผม น้องลินแล้วก้อไอ้เพื่อนตัวดีอีก2คนเรามักจะพากันไปเดินที่อ่างเกษตร กันเป็นประจำ พวกเราสนิทกันมาก น้องลินเหมือนเป็นน้องสาวของพวกเราไป บ่อยครั้งที่มีหนุ่มๆมาแซวก้อต้องเจอกับด่านสกัดดาวรุ่งของพวกผม จนเข้าสู่เทอม.2 ของชั้นปี พวกเราก้อยังสนิทกันเหมือนเดิม ผมกับไอ้วินเราก้อสนิทกันมากขึ้น ผมกับมันต้องกินข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน ตอนกลางวันผมก้อจะรอกินพร้อมไอ้โอ๊ตและน้องลินด้วย แต่ถ้าไอ้วินยังไม่มาผมก้อจะรอมันเสมอ จนเพื่อนๆเริ่มจะจับคู่ให้ผมกับมัน ซึ่งในตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าผมอาจจะรักเพื่อนคนนี้เข้าแล้ว และในวันนี้พวกเรานัดกันไปอ่างเกษตรเพื่อ ไปลอยโคมกัน เรานัดเจอกันที่ห้องไอ้วิน วันนี้ขณะที่ผมกำลังแต่งตัว และส่องกระจกดูความเรียบร้อย สายตาก้อเห็นแหวนที่ไอ้วินให้ผม ผมยังคงใส่ติดคอไว้เสมอตั่งแต่วันนั้น ความรู้สึกบางอย่างทำให้ผมถอดมันออกมาแล้วเอามาใส่ โดนใส่ที่นิ้วนางข้างขวา
“ไอ้วิน วันนี้เราจะยอมเป็นคนของนาย” ผมพูดกับตัวเอง แล้วเดินออกจากห้องไปสมทบกับพวกไอ้โอ๊ตและน้องลินที่ห้องไอ้วิน
“ว่าไอ้ว่ะไอ้คนรูปหล่อ กว่าจะเสร็จนะ รอเป็นชาติแล้วเนี้ย”ไอ้โอ๊ตมันกัดผมตั่งแต่ผมเดินเข้ามาในห้องไอ้วิน
“วันนี้ พี่รอนน่ารักจังเลยค่ะ เดี๋ยวน้องลินขอควงพี่รอนแล้วกัน” ผมเห็นไอ้วินมันทำหน้างอนๆ
“แต่งตัวซะหล่อเลยนะ กะจะไม่ให้พวกเราเกิดเลยว่างั้นเถอะ”มันแซวผม และพวกเราก้อจะเดินออกจากห้อง ไอ้วินมันก้อเดินมากอดคอผมแล้วพูดข้างๆหูผม
“ ยอมใส่ซะทีนะ” แล้วมันก้อยิ้มๆ
ขณะที่พวกเราเดิ่นเล่นกันอยู่ที่อ่างเกษตร ไอ้โอ๊ตก้อเอาโคมมาให้พวกเรา
“เอามาทำมั๊ยตั้ง 2 อันว่ะ ลอยด้วยกันก้อได้” ผมบ่นไอ้โอ๊ต
“ไม่ได้หรอกมีบางคนเค้าอยากลอยกันแค่2คน”แล้วมันก้อหันไปมองไอ้วิน ผมทำสายตางงๆ ไอ้วินมันเลยลากผมเดินออกมาไม่ไกลจากที่เรายืนกันอยู่เท่าไหร่นัก
“รอน นายเป็นคนของเรา เพราะฉะนั้น เราจะถามอะไรหน่อยนะ ห้ามโกหกเรา นี่คือคำสั่ง” หน้าตามันจริงจังแต่ก้อมีรอยยิ้มกวนๆ
“ได้ครับเจ้านาย จะถามอะไรเหรอ”ผมเลยกวนมันบ้าง
“นายคิดอะไรกับน้องลินป่าว”มันถามผม
“ป่าว เราเห็นน้องลินเหมือนน้องสาวเรา”ผมบอกมัน
“งั้นเรามีอะไรจะบอกนาย เราก้อไม่เข้าใจตัวเองนัก แต่เวลาที่น้องลินมาเล่นกับนายเรามักจะหงุดหงิดน่ะ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เราคิดว่าคืนนี้เหมาะที่จะบอกทั้งนายและน้องลิน เราคิดว่าเราชอบน้องลินว่ะ เราจะขอน้องเค้าเป็นแฟน ถ้าไม่โกรธเรานะ” ทันที่ที่ไอ้วินมันพูดจบ ผมรู้สึกว่ามีแสงสว่างจ้าเกิดขึ้นแล้วมันก้อมืดลงมืดลง หัวใจผมเจ็บอีกครั้ง ตัวผมเริ่มชาหายใจไม่ทั่วท้อง และก่อนที่น้ำตาผมจะไหลออกมา ไอ้โอ๊ตมันก้อตะโกนเรียกพวกผม มันทำให้ผมกลับมามีสติอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร ทั้งนายและน้องลิน ก้อเป็นคนที่เรารักทั้งคู่ เราย่อมดีใจด้วยอยู่แล้ว” ผมบอกไอ้วินมันออกไป
“ค่อยโล่งใจหน่อย ทำมัยคิดนานจังว่ะ นึกว่าจะโกรธกันซะแล้ว” มันกอดคอผมแล้วพาเดินกลับมายังไอ้โอ๊ตและน้องลิน ผมเห็นมันเข้าไปคุยกับน้องลินเห็นน้องเค้าหน้าแดงๆ แล้วก้อพยักหน้า ไอ้วินมันก้อจับมือน้องเค้า มันต้องหันหลังกลับมาก่อนที่น้ำตาผมจะไหลออกมา แล้วก้อต้องเจอกับสายตาของไอ้โอ๊ตที่มันมองผมอยู่ก่อนแล้ว
“เรารู้ว่านายเสียใจ แต่ความรักมันห้ามกันไม่ได้นี่นาจริงไม๊”
“ทำมั๊ยเราต้องเสียใจล่ะ เราดีใจต่างหาก” ผมพยายามกลบเกลื่อน
“รอน อย่าโกหกเราเลย เรารู้ว่านายรู้สึกยังงัย เพราะเราคอยมองดูนายตลอดมาและก้อจะมองดูนายตลอดไป” ผมตกใจในสิ่งที่ผมได้ยิน แล้วโอ๊ตก้อเดินเข้ามากอดผมเอาไว้แล้วพาผมเดินออกมาห่างจากน้องลินและไอ้วิน
“ถ้าอยากร้องไห้ก้อร้องออกมาเถอะนะ อย่าฝืนตัวเองเลย แต่ขอแค่วันนี้วันเดียวนะแล้วพรุ่งนี้นายเองก้อกลับมาเป็นเพื่อนที่แสนดีกับไอ้วินมันเหมือนเดิม” โอ๊ตกอดผมไว้แน่น ตอนนี้ผมไม่สามารถกลั้นความเสียใจไว้ได้อีกต่อไปแล้วไหล่ของโอ๊ตชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาของผม
“เราจะทำได้ยังงัยโอ๊ต เราจะทำตัวว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีได้ยังงงัย ฮื่อๆๆๆๆ ฮื่อๆๆๆๆๆ”
“รอย นายต้องทำได้สิ เรายังทำได้เลย ทั้งๆที่รู้มาตลอดว่านายชอบไอ้วินมัน เราก้อยังเป็นเพื่อนที่ดีกับนายตลอดมาและจะเป็นตลอดไป เรารู้ว่านายไม่ได้รักเราแบบนั้น ความรักมันบังคับกันไม่ได้ แต่เราเลือกแล้วว่าในวันนี้เราจะเป็นฝ่ายรักนาย นายเองก้อต้องทำได้ ถ้านายรักไอ้วินมัน นายก้อต้องไม่ทำให้คนที่นายรักลำบากใจนะ” คืนนั้นโอ๊ตมันโทรไปบอกให้ไอ้วินกับน้องลินไปเที่ยวกันต่อผมกับมันจะกลับกันเอง แล้วมันก้อมาส่งผมที่ห้อง
“ แน่ใจนะว่าอยากอยู่คนเดียว” โอ๊ตยังคอยห่วงใยผมเสมอมา
“เราขอบใจนายมากนะ ขอเราคิดอะไรด้วยตัวเองสักพักเถอะนะ ถ้าเรายังคิดเองไม่ได้ ไม่ว่าใครจะปลอบเรายังงัยมันก้อไม่ทำให้เราดีขึ้นหรอก แต่ไม่ใช่ว่าอ๊ตไม่สำคัญนะ เราดีใจที่นายอยู่ข้างๆเราเมื่อกี้นะ” แล้วผมก้อเข้ามาในห้อง ผมนั่งคิดมาทั้งคืนในตอนนี้ผมคงทำอะไรไม่ได้มากนักคงต้องถอยออกมา 1 ก้าว เพื่อที่จะรักษามิตรภาพระหว่างผมกับไอ้วินไว้ ผมถอดแหวนออกมาจากนิ้วแล้วคล้องมันกลับไปที่สร้อยเส้นเดิม
วิน วันนี้เราเป็นคนของนาย 1 วัน แต่จากนี้ไปเราจะเป็นแค่เพื่อนกับนายตลอดไป เราจะรักษาสัญญาว่าจะอยู่ข้างนายตลอดไป ความรักของเราที่ให้นายมันจะยังอยู่และมีให้เสมอ แม้ว่ามันจะต้องแสดงออกมาในรูปแบบของเพื่อนก้อตามที..........................................  



เรื่องคนึงหาเพียวก็อยากอ่านต่อเหมือนกันอ่ะ   แต่ไม่รู้ว่าพี่พีแต่งเสร็จยัง

ถ้ามีข่าวจากพี่พี  แล้วจะมาแจ้งให้ทราบนะค๊าบ


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 25-07-2008 20:43:52
แอบ มาลง ไม่บอกกันเลยนะ 

 :m12: :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 25-07-2008 21:42:32
- -"
อกหักอีกแล้ว
มาทำให้หวั่นไหวแล้วก็จากไป
ถ้าไม่รักแล้วให้แหวนทำไม
โหดร้ายที่สุด
เป็นเราล่ะก็นะ โยนลงอ่างเกษตรไปแล้ว
 :m31:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 25-07-2008 21:47:07
 :o12: :o12:   ไม่จริงใช่ไหมวิน ...
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 26-07-2008 02:50:52
ไหง๋เป็นงี้อ่ะ  :m16:

เอาพี่นัทกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ สงสารรอนนนน :เฮ้อ:


ลป. นัท&รอน นึกว่าดู AF อยู่นะเนี่ย  :m20:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 26-07-2008 12:02:34
 :m15:
ทั้ง ๆ ที่รู้เรื่องราวแล้ว...แต่อ่านตอนนี้ก็ยังน้ำตาไหล
ทำไมต้องเป็นวันที่รอนยอมสวมแหวน...
ความบังเอิญแบบนี้มันโหดร้ายจังเลย  :เฮ้อ:

สงสารรอน สงสารภีม สงสารโอ๊ต...คิดถึงพี่นัท  :sad2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 26-07-2008 17:16:34
 :m15: :m15: อารายหว่า ทำไมเศร้าอีกแร้วอ่ะ

ไงก็รออ่านอยู่นะค๊าบ.....


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 27-07-2008 10:47:08
 :เฮ้อ: นึกว่าจะสมหวังซ่ะแล้วเชียว ..หักมุม กระชากใจคนอ่านซ่ะงั้น  o7

น้องรอน ผมว่าน่ะ เปิดใจทั้งที ก้อเปิดใจให้ภีมมันเห่อะน๊า :o8:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 28-07-2008 09:28:12
 :m32:  แอบมาย่องดู  มาต่อไว ๆ น๊า......  :m32: :m32:


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 28-07-2008 14:07:44
 :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: duchess ที่ 28-07-2008 14:35:31
ติดตามคับ ติดตาม  o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 25 July 08 ตอนที่ 10 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 29-07-2008 20:55:34
ตอนที่.11
หลังจากคืนที่เราได้ไปลอยโคมกัน ผมเองก้อเริ่มที่จะ
พยายามทำตัวให้ยุ่งมากขึ้นแม้โอ๊ตจะบอกไม้ให้ผมทำแบบนี้ แต่ผมก้อบอกกับโอ๊ตไปว่าขอเวลาให้ผมได้ทำใจและคิดอะไรสักพัก ถึงผมจะรู้ดีว่าทั้งน้องลินกับไอ้วินต่างก้อไม่มีใครผิด แต่มันก้อยังเจ็บปวดทุกครั้งที่ผมเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ตอนแรกที่เพื่อนๆรู้ว่าน้องลินที่น่ารักของพวกเราได้กลายเป็นแฟนของไอ้วินแล้ว ทุกคนก้อแซวว่าแล้วจะเอาผมไปทิ้งไว้ที่ไหน หรือว่าตอนเช้าให้น้องลินตอนกลางคืนก้ออยู่กับผม ซึ่งก้อเรียกเสียงฮาจากเพื่อนทุกคนยกเว้นไอ้วินกับผม ดูไอ้วินมันจะโกรธมากทั้งๆที่เมื่อก่อนเพื่อนๆก้อเคยแซวผมกับมันอยู่บ่อยๆ
“เฮ้ยพวกมึง อย่าปากหมาพูดแบบนี้ต่อหน้าน้องลินเค้านะโว้ย กูไม่อยากให้น้องเค้าคิดมากกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ กูแคร์น้องเค้าว่ะ กูไม่อยากให้น้องเค้ามองกูว่ากูเป็นพวกนิยมเพศเดียวกัน กูอายว่ะ”
นั้นเป็นคำที่มันบอกกับเพื่อนๆ แต่มันได้บาดไปถึงหัวใจคนฟังอย่างผม แล้วในตอนนั้นผมก้อนึกถึงคำที่ไอ้ภีมเคยพูดกับผม “มันต้องมีสักวันที่เราจะเจอใครบางคนที่จะมองเห็นสิ่งที่อยู่ในตัวเรา และรักเราที่ตัวตนจริงๆของเรา” นั่นสินะ แล้วเมื่อไหร่กัน ตราบใดที่เรายังต้องดำรงชีวิตในสังคมโลกใบนี้ ยังต้องแคร์กับสายตาของผู้คนที่เราไม่รู้จัก และความรู้สึกของครอบครัว และคนที่รักเรา..
หลังจากนั้นมาผมเองก้อหลบหน้าวินมาตลอด เรายังคงเจอกันบ้างแต่มันก้อไม่เท่าเมื่อก่อน โอ๊ตเองก้อยังดูแลห่วงใยผมอย่างสม่ำเสมอคอยแต่ถามว่าเมื่อไหร่ที่ผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมเองก้อยังตอบตัวเองไม่ได้ วินเองก้อบ่นน้อยใจผมบ่อยๆที่ผมมักจะหาทางเลี่ยงที่จะไปไหนมาไหนกับมันในช่วงนี้ ผมยอมรับว่าเราเคยคิดว่าสักวันที่เกิดเรื่องแบบนี้เราจะยังคงทำตัวเหมือนเดิมได้ เราสามารถเสเเสร้งต่อหน้าคนอื่นๆได้ บอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง แต่เอาเข้าจริงอารมณ์มันก้ออยู่เหนือที่เราจะควบคุมมันได้ บางครั้งก้อน้อยใจ บ้างก้ออิจฉา บ่างก้อหึงหวง แต่ทุกครั้งก้อต้องมีคำว่าเจ็บปวดอยู่ทุกครั้งที่เราเจอ การที่ผมหลบหน้าวิน มันผิดด้วยหรือ การที่เราจะอยู่ห่างจากเรื่องที่ทำร้ายหัวใจตัวเอง
“เอางัยวะไอ้รอนเอ็งจะไปกับพวกเราป่าว” เสียงไอ้ก้องเพื่อนของไอ้วินมันชวนผมไปสังสรรค์กันโดยปกติพวกเราก้อมักจะไปกันบ่อยๆอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แต่ตั้งแต่วันนั้นที่ไอ้วินมันพูดคำนั้นออกมาผมเองก้อมักหาข้ออ้างมาตลอด
“สงสัยเราต้องขอบายว่ะ พอดีเรามีนัดแล้วว่ะ” จริงๆก้อนัดเล่นเอ็มกับพี่นัท หลังจากที่พี่นัทหายไปพักใหญ่ แต่พอรู้เรื่องที่ผมเสียใจพี่นัทแทบจะโทรมาหาผมทุกวัน
“ไปด้วยกันสิรอน ไม่ได้ไปไหนด้วยกันนานแล้วนะ”ไอ้วินมันก้อพูดขึ้นมาหลังจากที่ดูผมจะปฏิเสดแน่นอน ผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่ผมปฏิเสดมันดูไอ้วินมันทำหน้าเศร้าๆ มันทำให้ผมเกือบใจอ่อนทุกครั้ง ยิ่งในวันรุ่งขึ้นที่เราไปลอยโคมกันวันนั้น ตอนเช้าไอ้วินมันมาเรียกผมที่ห้อง ทันที่ที่ผมเปิดประตูห้อง
“ว่างัย เมื่อคืนไปเที่ยวไหนกับไอ้โอ๊ต ไม่ยอมรอกันเลยนะ ทำตัวไม่น่ารักเลยนะเดี๋ยวต้องลงโทษเสียหน่อยละ” วินพูดอย่างอารมณ์ดีพลางเอามือมาขยี้หัวที่ยุ่งเพราะเพิ่งตื่นนอนของผม
“อ้าวนึกว่าคู่รักคู่ใหม่จะอยากไปหาที่สวีทกัน2ต่อ2ซะอีก แล้วจะลงโทษเราเรื่องอะไรล่ะ” ผมเองยังอดที่จะงอนมันไม่ได้ อารมณ์น้อยใจเสียใจมันจุกอก
“ก้อนายเป็นเด็กเราแล้วงัย”มันพูดพร้อมกับจับมือผมขึ้นมาดู แล้วสีหน้ามันก้อเปลี่ยนไป
“ถอดทำไม แล้วเอาไปไว้ไหน” มันพูดพร้อมกับมองมาที่คอผม ก่อนที่จะดึงสร้องที่มันยาวลงไปในเสื้อนอนผมขึ้นมาดู
“ทำไมมันมาอยู่ตรงนี้ก้อเมื่อคืนนายใส่ที่นิ้วนี่นา ใสแหวนเราแล้วห้ามถอดโดยไม่ได้รับอนุญาต”หน้าตามันดูจริงจังมากๆ
“ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวนายมาบังคับเรา แล้วอีกอย่างนายเองก้อมีคนของนายแล้ว เราเลยว่าจะไปเป็นของคนอื่นดีกว่า” พอพูดจบ ไอ้วินมันก้อทำหน้าโมโหผมมาก
“อย่ามาพูดว่านายจะเป็นของคนอื่น” มันตะโกนใส่หน้าผม มันเหวี้ยงผมลงกับโชฟาก่อนออกจากห้องไป เสียงเรียกของมันทำให้ผมหยุดคิดถึงเรื่องในวันวาน
“รอน เดี๋ยวเย็นนี้เรากลับด้วยนะ” วินถามผมเบาๆ
“แล้วไม่ไปรับน้องลินก่อนเหรอ นายไม่ไปกับเพื่อนๆเหรองัย”
“ไปสิ แต่เราจะกลับไปเอารถก่อนนะ ไม่ได้เอารถมา ตั้งใจว่าจะให้นายไปด้วยกัน แล้วกลับพร้อมกันเหมือนคืนนั้น คืนนี้มีแต่พวกเราผู้ชาย ผู้ชาย ไม่อยากให้น้องลินเค้าไปด้วย” ผมไม่ได้ว่าอะไรได้แต่พยักหน้า
แล้วเย็นนั้นไอ้วินมันก้อซ้อนผมกลับบ้าน ตลอดทางมันกอดผมแน่นมาก ยิ่งมันกอดผมแน่นเท่าไหร่มันทำให้ความรู้สึกที่ผมพยายามจะโยนทิ้งยิ่งพันธนาการผมแน่นมากเท่านั้น
“รอน เดี๋ยวเราเข้าไปนั่งเล่นห้องนายก่อนนะ เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะช่วงนี้”
“อือม์...เข้ามาซิ ก้อเข้ามาออกบ่อยไม่เห็นต้องขอเลย” ผมยิ้มให้มัน แม้จะต้องเจ็บแต่ก้อดีใจที่จะได้อยู่กับมัน สองคน ได้พูดได้คุยเหมือนวันเก่าๆที่มันมักจะมาเล่นที่ห้องผมทุกวัน
“ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน คิดถึงห้องนี้จัง” ดูมันอารมณ์ดีขึ้นมา
“ห้องเราก้อเหมือนๆกัน ทำไมต้องคิดถึงห้องเราด้วยว่ะ” ผมเดินเอาน้ำส้มมาให้มัน
“ไปบ้านย่ามาเหรอ ไม่เห็นชวนเราเลยล่ะ” มันรู้เพราะทุกครั้งที่ผมกลับจากบ้านปู่กับย่าจะมีน้ำส้มคั้นอยู่ในตู้เย็นเสมอ
“เห็นนายหวีดหยองอยู่เลยไม่อยากเป็นก้างว่ะ 555 ” ผมแกล้งหัวเราะ แต่ดูหน้าของไอ้วินมันจริงจังขึ้นมา
“ถ้าเรามีแฟน แล้วต้องเสียเพื่อนอย่างนาย เราขอไม่มีดีกว่า เราทำอะไรให้นายโกรธ หรือป่าว ทำไมนายถึงหลบหน้าเรามาตลอดตั่งแต่คืนนั้น นายชอบลินเหรอ เราหลีกทางให้ก้อได้นะ ถ้ามันจะทำให้เรากับนายกลับมาสนุกด้วยกันเหมือนเดิม ไม่มีใครเข้าใจเราจริงๆแบบนายเลย นะรอนนะ นายอย่าโกรธเราอีกเลยนะ นายลืมสัญญาที่เราขอไว้ที่ฝายนั้นแล้วเหรอ” ดูเหมือนวินจะตาแดงๆ แต่ก้อไม่ได้ร้องไห้ นั่นนะซิ เพื่อนผมทำอะไรผิดนะ มันไม่ได้ผิด แต่ผมสิผิด ผิดที่ไปรักมันแล้วก้อโกรธมัน ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดเพราะความรู้สึกของผมคนเดียว แต่มันกลับทำร้ายอีกคนด้วย ถึงตอนนี้ผมจะยังเจ็บแต่ก้อช่างมันสักวันมันอาจชินชา
“เฮ้ย...อย่าคิดมากสิ เราไม่ได้ชอบน้องลิน นายไม่ต้องหลีกทางอะไรทั้งนั้น เราเห็นนายต้องคอยดูแลน้องลินเราเลยไม่อยากขัดคอ เห็นนายกลัวว่าน้องเค้าจะคิดมากเรื่องที่ไอ้พวกเพื่อนปากหมามัยแซวนายกับเรา เราเลยห่างกันบ้างก้อเท่านั้น”
“เราไม่สนมันแล้วล่ะ ใครจะคิดยังงัยก้อช่าง ถ้ามันทำให้นายกับเราต้องห่างกัน รู้มั๊ยว่าเวลาที่ไม่มีนายมันเหงากว่าเมื่อก่อนตอนเรามีแฟนอีกนะ ตอนที่เราอยู่กันเป็นกลุ่มเราอาจจะหงุดหงิดบ้างเวลาที่น้องลินเค้าสนิทกับนาย แต่พอไม่มีนายมีแค่เรากับน้องเค้า เรากลับรู้สึกว่ามันยิ่งกว่า จนเราทนไม่ได้” วินเดินเข้ามากอดผม ผมก้อลูบหลังปลอบมันไป
“โอเค...เราจะทำตัวเหมือนเดิมนะ แต่มันก้อต้องมีเวลาทั้งของนายกับน้องเค้า และ ของเรา เพื่อนกันไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กันตลอดเวลาหรอกนะ ขอแค่เรามีกันและกันก้อพอแล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องเสียใจ ทุกข์ใจอะไร เราจะยังมองเห็นและให้กำลังใจซึ่งกันและกันเสมอนะ ยังงัยเราก้อต้องมีเวลาของเราบ้างสิ ขืนอยู่กับนายตลอดเราก้อไม่มีแฟนกันพอดี” ผมพูดตลกๆกะให้วินมันอารมณ์ดีขึ้น
“เราไม่อยากให้นายมีใครเลยว่ะ เราหวง กลัวใครเค้าจะมาแย่งเวลาของนายไปหมด”วินมันอาจจะพูดเหมือนเด็กๆ แต่ทำให้ใจผมเต้นเร็วกว่าปกติ ตัวสั่นโดยไม่สามารถหยุดได้ รู้สึกว่าร้อนไปหมดทั้งหน้า
“ไอ้บ้า...ถ้างั้นแก่ตัวไปก้อเลี้ยงเราด้วยละกัน”ผมมองหน้ามันแล้วก้อยิ้ม มันเป็นยิ้มแรกหลังจากคืนนั้นที่เรายิ้มให้กันแบบเดิม ยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของทั้ง2ฝ่าย ความรู้สึกรัก แต่ต้องปกปิด....
“ไปเถอะ...ค่ำแล้ว เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันจะรอนาน” ผมคะยั้ยคะยอให้มันไปตามนัดกับเพื่อน
“แล้วตกลงจะไม่ไปด้วยกันเหรอ”
“ไม่ล่ะ เรามีนัดแล้ว”
“กับใคร”เอาอีกละไอ้หน้าดุๆนี่ ชอบทำจริงๆ
“ไม่บอก” ผมหัวเราะใส่มัน มันก้อจะเดินกลับห้อง
“คืนนี้เรามา นอนด้วยนะ”
“ไม่เอา เราไม่อยากเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ เบื่อพวกขี้เมา เหม็นด้วย”ผมยังกวนมันอยู่
“ไม่รู้ล่ะ เราจะกดกริ่งทั้งคืนแหละ หลับลงให้มันรู้ไป”วินยิ้มและเดินออกไป เมือประตูปิดลง ความเงียบเหงาเข้ามาเยือน สีหน้าผมก้อเปลี่ยนจากยิ้มแย้มเป็นเจ็บปวดอีกครั้ง จากนี้มันคงต้องเจ็บขึ้นกว่าเดิมที่ผมต้องเข้าไปอยู่ใกล้ๆไอ้วินมัน แต่สักวันผมก้อหวังว่ามันจะกลายเป็นความเคยชิน และผมคงมองเค้าทั้ง2คนได้อย่างเต็มตาโดยไม่มีน้ำใสๆทำให้ภาพของทั้งสองลางเลือน.....................





หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 29 July 08 ตอนที่ 11 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: Twister ที่ 29-07-2008 23:16:30
เง้อ.... น่าสงสารรอน
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 29 July 08 ตอนที่ 11 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 29-07-2008 23:38:20
 :m15: :m15: สงสารรอนว่ะ แล้วเมื่อไหร่จะชินล่ะ คงจะทรมานมากมาย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ขอบคุณนะคับที่มาต่อ สู้ ๆ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 29 July 08 ตอนที่ 11 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 30-07-2008 06:12:31
สงสารรอน เมื่อไหร่พี่นัทจะกลับมา :o12:

น้องวินก็ดูแปลก ยื้อกันไว้อีกซะงั้น เง้อ... :m15:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 29 July 08 ตอนที่ 11 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 30-07-2008 19:00:09
สงสารเหมือนกันเลยอ่ะคับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 29 July 08 ตอนที่ 12 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 30-07-2008 19:25:51
ตอนที่.12
หลังจากวันที่วินเข้ามาคุย ผมเองก้อไม่พยายามหลบหน้าวินเท่าไหร่ แต่ก้อมีบางครั้งที่ผมปฏิเสธที่จะไปไหนด้วยกันโดยที่ผมอ้างว่าอยากให้มันกับน้องลินมีเวลาส่วนตัวบ้าง แต่ความจริงก้อเพียงเพื่อที่จะเลี่ยงความเสียใจที่มันยังเกิดทุกครั้งที่มองพวกเค้าทั้งสองคน โอ๊ตเองก้อยังคงเสมอต้นเสมอปลาย คอยดูแลผมเป็นอย่างดี จนบางครั้งวินมันยังบ่นอยู่บ่อยๆว่าผมสองคนไปไหนไม่ยอมชวนมันเลย ดูวินมันจะน้อยใจจริงๆ
และในอาทิตย์นี้ผมตั้งใจว่าจะไปค้างที่บ้านปู่กับย่าตอนแรกก้อว่าจะชวนไอ้วินมันไปด้วยเพราะมันเคยบอกว่าถ้าจะไปอีกเมื่อไหร่ต้องชวนมันด้วย มันเคยบอกว่าที่นั้นมีภาพของความทรงจำดีๆระหว่างผมกับมันอยู่ ดูมันจะชอบญาติๆของผมด้วย คงเป็นเพราะวินเองคงขาดความอบอุ่นในวัยเด็กก้อเป็นได้ แต่ผมก้อเปลี่ยนใจไม่ชวนมันเพราะเย็นวันศุกร์น้องลินมาชวนผมไปซื้อของกับเค้า....
“พี่รอนเย็นนี้ว่างป่าวค่ะ รินจะชวนไปซื้อของที่ถนนคนเดินนะค่ะ เห็นเพื่อนๆบอกว่ามีของขายเยอะ วันอาทิตย์นี้วันเกิดเพื่อนที่คณะ พอดีพี่วินไม่ว่างเห็นว่าวันนี้มีบรรยายคงเลิกเย็นๆ”
“เอาสิครับ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”แล้วผมก้อไปเอารถของไอ้วินมันไปโดยให้มันขี่รถผมกลับไปที่ห้องแทน ผมเองช่วงหลังๆไม่ค่อยได้ขับรถของไอ้วินมันเท่าไหร่คงตั้งแต่ที่ผมห่างๆมันไป ทันที่ที่ผมขึ้นไปนั่งด้านคนขับผมก้อเห็นรูปสติกเกอร์ของมันกับน้องลินติดอยู่ตรงพวงมาลัย มันเจ็บจี๊ดๆ นี่มันคงรักน้องเค้ามากเลยนะ
“ท่าทางเพื่อนพี่คงห่างเราไม่ได้เลยมั๊งเนี้ย ดูดิ ขนาดขับรถยังต้องเห็นหน้าน้องลินเลย”ผมแซวน้องเค้า ทั้งๆที่ยิ่งพูดก้อยิ่งเจ็บ น้องเค้ายิ้มๆ
“ไม่หรอกค่ะ ลินเอามาติดเองแหละพี่วินจะไม่ยอม แต่เจอลินบังคับ พี่วินชอบขับรถเร็วลินเตือนก้อไม่ฟัง เลยบอกเค้าว่าเวลาขับรถให้นึกถึงหน้าคนตรงพวงมาลัยบ้างถ้าเค้าเป็นอะไร คนในรูปจะเสียใจมาก แต่ลินว่าน่าจะเอารูปพี่รอนมาติดมากกว่า พี่วินดูเหมือนจะฟังแต่พี่รอน ใครๆพูดก้อไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่” คำพูดของน้องลินมันทำให้ใจที่มันเหี่ยวเฉาของผมสดชื่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก บ้างครั้งแค่รู้ว่าเรามีความสำคัญกับใครสักคนมันก้อทำให้เราดีใจอย่างบอกม่ถูก ยิ่งถ้าคนๆนั้นจะเป็นใครสักคนที่เรา รัก......
เย็นนั้นผมเดินซื้อของกับน้องเค้าจนเย็นจึงพากันกลับมันทำให้ผมรู้ว่าน้องลินเค้าจะชวนไอ้วินไปงานวันเกิดเพื่อนน้องเค้าด้วย ผมเลยล้มเลิกความตั้งใจที่จะชวนไอ้วินมันไปด้วย ขากลับเนื่องจากแดดมันเข้าตาทำให้ผมเอาที่บังแดดตรงกระจกฝั่งคนขับลงมาบังแดด ผมแวะส่งน้องลิน ก่อนจะเอารถไปให้ไอ้วินที่คอนโด ตอนที่ผมจอดรกขณะที่เอื้อมมือขึ้นไปดันที่บังแดดตาผมก้อเห็นรูปของผมกับไอ้วินมันเสียบอยู่บนนั้น ผมดีใจมาก อย่างน้อยเราก้อยังมีความสำคัญกับมัน.....
คืนนี้ผมนอนแหงนมองดวงดาวบนท้องตรงที่เดิมในบริเวณไร่ของปู่กับย่า ผมว่ามันคงเป็นที่ประจำของผมไปซะแล้ว ภาพของคนสองคนลอยเข้ามา ผมถามตัวเองว่าผมเจ็บปวดกับรักครั้งไหนมากกว่ากัน แต่สุดท้ายผมเองก้อไม่แน่ใจนักว่าครั้งไหน และไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรจู่ๆภาพของไอ้วินมันก้อแว๊บเข้ามา ก่อนที่ผมจะรู้ตัวผมก้อโทรศัพท์ไปหาไอ้วินมันแล้ว
“ว่างัยว่ะ...ทำมัยวันนี้นายโทรหาเราได้”ไอ้วินมันพูดแบบอารมณ์ดีตอนรับสายของผม มันคงกำลังมีความสุขสินะ ตอนนี้คงกำลังอยู่ที่งานฉลองวันเกิด มันจะรู้มั๊ยนะว่ามีอีกคนกำลังทรมานกับการคิดถึงมัน
“เฮ้ย...ว่างัยวะ ไอ้นี่โทรมาแล้วไม่พูด อยู่ไหนว่ะ” วินมันถามผม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดถึงนายน่ะ พอดีนอนดูดาวเห็นมันสวยดีเลยโทรมาหา” ผมได้แต่นึกขอโทษน้องลินอยู่ในใจ แต่ผมอยากได้ยินเสียงไอ้วินมันเหลือเกิน แม้จะรู้ว่ามันผิดก้อตาม
“อ้าว....ทำมัยนายถึงเป็นฝ่ายเงียบไปล่ะ” ผมถามไอ้วินมันกลับ
“กำลังดีใจน่ะ ที่นายโทรมาบอกว่าคิดถึง ตอนนี้อยู่ที่ไหนไม่อยู่ที่ห้องใช่มั๊ย กลับดึกป่าวเดี๋ยวเรากลับแล้วจะไปนอนด้วย”
“สงสัยจะยาก เพราะเราคงไม่กลับไปที่ห้องคืนนี้”
“นี่นายจะไปค้างที่ไหน ไปค้างกับใคร” ไอ้วินมันทำเสียงดุๆใส่ผม
“ไม่บอก แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ที่นี่มีแต่คนรักและเป็นห่วงเรา เค้าดูแลเราอย่างดี ไม่กวนนายดีกว่า ไปสนุกกับเพื่อนต่อเถอะ คิดถึงนะเว้ย” ผมกำลังจะวาง
“อย่าวางนะรอน บอกมาว่านายอยู่ที่ไหนกับใคร” ตอนนี้มันตะคอกผมเลยคับ
“ เออ...บอกก้อได้ ทำมัยต้องตะคอกด้วยว่ะ เรากำลังนอนดูดาวอย่างมีความสุขบนหอดูไฟที่บ้านปู่เรา พอใจยังคับไอ้เพื่อนบังเกิดเกล้า”
“ทำไมไม่ชวนเรา ไหนบอกว่างัย ถ้าไปไร่ส้มให้ชวนเราด้วย”มันทำเสียงน้อยใจ
“เราก้อจะชวนแล้ว แต่เห็นนายต้องไปงานวันเกิดเพื่อนน้องลินเราเลยไม่ได้ชวน เอาน่าไว้คราวหน้าก้อได้ แค่นี้ละกันนะ ไว้เจอกันสายๆวันจันทร์” แล้วผมก้อวางสายมันไป ตอนนี้ใกล้จะปีใหม่แล้ว อากาศช่วงนี้มันหนาวมากแต่มันก้อเทียบไม่ได้กับความหนาวในใจที่ผมต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าคืนนั้นผมฝันถึงวันที่ผมกับกับไอ้วินได้มานอนด้วยกันที่นี่ มันอบอุ่นจนผมรู้สึกเหมือนว่ามันมานอนอยู่ข้างๆผม แต่สักพักผมก้อรู้สึกสัมผัสได้ถึงลมหายใจของใครบางคน ที่มันเป่ารดอยู่ข้างๆแก้มของผมและความอบอุ่นของอ้อมกอดที่ผมคุ้นเคย ผมหันหน้าไปดูและผมก้อตกใจที่เห็นเป็นไอ้วิน เพราะความที่มันนอนติดกับผมมากเมื่อหน้าของผมหันไปริมฝีปากของผมก้อไปโดนกับริมฝีปากบางของมันอย่างไม่ตั้งใจ มันเป็นความสุขที่ผมเองก้อบอกไม่ถูกผมตกใจจนไม่ได้ถอนริมฝีปากออกจากคนที่อยู่ตรงหน้า จมูกของผมและของไอ้วินมันสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกันและกัน และในตอนนั้นผมรู้สึกว่าโดนอ้อมแขนนั้นกระชับตัวผมไว้แน่นกว่าเดิม ร่างกายของผมกับไอ้วินต่างเบียดหาความอบอุ่นของกันและกัน วินถอนริมฝีปากออกไปแต่สัมผัสที่อ่อนโยนยามที่วินไล้จมูกขึ้นไปตามแก้มก่อนจะบรรจงกดริมฝีปากกับหน้าผากของผมมันก้อทำให้ผมปั่นป่วนในใจอย่างบอกไม่ถูก
“ซาดังเฮ” วินพึมพำอะไรออกมาเบาๆมันเป็นคำที่ผมไม่เคยได้ยิน เลยคิดว่ามันคงละเมอ แต่อีกไม่นานผมก้อรู้ความหมายของคำๆนั้นจากปากของใครอีกคน
“วิน ตื่นเถอะ ไปดูหมอกกัน” ผมปลุกไอ้วิน ตามจริงผมตื่นมาสักพักแล้วแต่เพราะเรื่องเมื่อคืนทำให้ผมต้องทำใจสักพักไม่อยากให้มันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว” มันตอบอู้อี้ แต่ก้อลุกโดยดี
“แล้วนี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำมัยไม่ปลุกเราล่ะ แล้วตามมาทำมัยดึกๆดื่นๆ อันตรายรู้ป่าว กินเหล้ามาจากงานป่าวเมาแล้วขับมันไม่ดีเราไม่ชอบนายก้อรู้” ผมถามมันเป็นชุด
“โห...ถามมาเป็นชุดจะให้เราตอบข้อไหนก่อน เอางี้แล้วกัน มาเพราะอยากมาเจอนาย แต่เห็นนายนอนหลับสนิทเลยไม่อยากปลุก” แล้วผมก้อออกไปดูหมอกกัน
“ใกล้ปีใหม่แล้ว เรามาฉลองกันที่ไร่มั๊ย” วินมันถามผมเบาๆขณะที่เรายืนมองภาพของหมอกยามเช้าที่ปกคลุมขุนเขาและสายน้ำ
“นายไม่ฉลองกับน้องลินเค้าล่ะ ปีใหม่ทั้งที”ผมตอบมันแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ทัศนีย์ภาพเบื้องหน้า
“น้องเค้าอาจจะกลับไปหาครอบครัวที่กรุงเทพน่ะ แต่เราอยากฉลองกับนายมากกว่านะ”
“ดูก่อนละกัน ไหนๆจะพวกเพื่อนๆอีก” ผมกับไอ้วินเราต่างก้อไม่ได้พูดอะไรอีกต่างปล่อยใจไปกับภาพข้างหน้า ผมหันหน้าไปมองไอ้วิน ใบหน้าด้านข้างของมันดูมีเสน่ห์มากและเหมือนวินมันจะรู้ตัว มันหันกลับมามองผม เราสบตากันอยู่สักพักก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายหลบตาก่อน
“เมื่อไหร่นะที่นายจะสวมแหวนเราอีกครั้ง” วินมันเอ่ยเบาๆ
“ วันนั้นมันอาจจะมาไม่ถึงก้อได้ เราสวมไว้ที่คอมันไม่ดีหรืองัย อย่างน้อยก้ออยู่ใกล้หัวใจเรามากกว่าที่นิ้วนะ” ไม่รู้ทำมัยผมบอกมันออกไปแบบนั้น แต่มันเป็นสิ่งที่ใจผมคิด

หลังจากที่กลับจากไร่ส้มเราก้อยังใช้ชีวิตปกติ สรุปว่าปีใหม่ปี้นี้ผมจะอยู่ฉลองกับเพื่อนที่มหาลัย เนื่องจากน้องลินก้อไม่กลับบ้านไอ้วินมันอยากจะฉลองกับผมด้วย ไอ้โอ๊ตด้วย เลยเป็นอันว่าต่างรวมกันมาที่สนามบอล เรานั่งคุยกันเป็นกลุ่มใหญ่เพราะมีเพื่อนๆของน้องลินที่อยู่เภสัชมาด้วย ตอนแรกที่ผมโทรมาบอกกับที่บ้านว่าจะไม่กลับลงมา โดนบ่นใหญ่เลย บอกว่าไม่ว่ายังงัยก้อต้องกลับ แต่ผมก้อดื้อจนได้ ไอ้ภีมมันก้อด่าผมใหญ่ ว่าสัญญาว่าจะมาฉลองด้วยกันแล้วก้อเบี้ยวมัน ส่วนพี่นัทก้อไม่กลับมาบอกแต่ว่าจะฉลองกับเพื่อนๆที่โน้น แต่กลับดุที่ผมไม่ยอมกลับไปฉลองที่บ้านคาดคั้นใหญ่ว่าผมฉลองที่ไหนกับใคร ผมเลยบอกไปตามตรง คืนนี้มีอีกหลายคณะที่มาใช้สนามที่นี่เป็นการฉลอง
บรรยากาศมันก้อสนุกสนาน แต่ทำมัยผมกลับเหงาใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งดึกก้อยิ่งหนาวภาพที่ไอ้วินมันนั่งจับมือกับน้องลินทำให้ผมหมดสนุกไปเลย นี่ผมต้องเสียใจข้ามปีเลยเหรอนี่ ผมปลีกตัวออกมานั่งอยู่คนเดียวแต่ก้อไม่ไกลจากกลุ่มนักผมเห็นไอ้วินมันมองผมตั่งแต่ที่ลุกออกมาแต่มันก้อไม่ว่าอะไรแต่สายตามันดูเป็นห่วงผม สักพักโอ๊ตมันก้อเดินมานั่งด้วย
“เป็นอะไร ดูเหงาๆ ยังไม่ชินอีกเหรอ ที่ผ่านมานายก้อพยายามได้ดีมาตลอดนี่นา ยิ้มหน่อยสิ” พักหลังๆดูเหมือนโอ๊ตมันจะรู้ว่าผมคงไม่สามารถรักมันแบบที่มันต้องการได้ มันเลยพยายามที่จะเปลี่ยนความรู้สึกให้กลับมาเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น
“ไม่หรอก แค่กำลังคิดถึงใครอีกหลายๆคนนะ”
“มีอะไรก้อระบายมาที่เพื่อนคนนี้ได้นะ เราเต็มใจเสมอ”ผมอดที่จะซาบซึ้งไม่ได้เลยดึงโอ๊ตมันเข้ามากอด
“ขอบใจมาก นายเป็นเพื่อนที่ดีเสมอนะ เอาไว้เราจะแนะนำใครให้นายรู้จัก รับรองนายต้องชอบแน่” ผมนึกไปถึงไอ้ภีม ถ้าพวกมันรู้จักกันคงต้องมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
“น่ารักเท่านายป่าว ถ้าไม่เท่าไม่เอานะ” มันพูดแล้วยิ้มๆ
“น่ารักกว่าเราอีก รักใครรักจริงด้วยนะ” เราคุยกันสักพักไอ้วินมันก้อตะโกนเรียกพวกเราให้ไปนั่งรวมกันที่กลุ่ม ผมบอกให้โอ๊ตเดินไปก่อนเดี๋ยวผมตามไป ผมนั่งสงบใจอีกสักพักพยายามปั้นหน้าให้มีความสุขให้มากที่สุด ผมเช็ดน้ำตาก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับไปที่กลุ่ม นี่ก้อใกล้ที่จะนับถอยหลังกันแล้ว ขณะที่ผมเดินไปที่กลุ่ม ทุกคนหันกลับมามองผมกันเป็นตาเดียว แล้วผมก้อรู้สึกว่ามีใครมากอดผมไว้จากข้างหลัง
“ใกล้ปีใหม่แล้ว ทำมัยยังร้องไห้อีก ไม่ยอมกลับบ้านแต่มานั่งเศร้าอยู่แบบนี้คนเดียวน่าจับมาลงโทษจริงๆ” ทันทีที่ได้ยินเสียง ผมก้อชาไปทั้งตัวแล้วน้ำตาผมก้อไหลออกมาทันที ผมหันหลังกลับไปมอง ชายหนุ่มผู้ที่มีแววตาอ่อนโยนเสมอ หากแต่วันนี้กลับดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวันวาน ผมไม่แปลกใจที่ใครจะมองกันเป็นตาเดียว เพราะในวันนี้พี่นัทของผมดูหล่อมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่า
“พี่นัท พี่นัทจริงๆด้วย” ผมกอดพี่นัทเต็มแรง ความทุกข์ใจมันหายไปหมด คนที่ผมอยากเจอมาตลอดมายืนอยู่ข้างหน้าผม
“ว่างัยเด็กขี้แย คิดถึงพี่บ้างมั๊ย” แล้วพี่นัทก้อเข้ามาหอมแก้มผม และดึงผมเข้าไปกอด ผมดีใจจนลืมไปว่าเราอยู่ที่ไหน จนผมหันไปเห็นสายตาเพื่อนๆที่มองมาทางผมแบบงงๆปนตกใจ ทำให้ผมรู้สึกอายขึ้นมา โดยเฉพาะไอ้วิน สายตามันแทบจะฆ่าผมให้ตายไปตรง---นั้น แววตามันวาวไปด้วยความไม่พอใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมันโกรธแบบนี้มาก่อน ........

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว 29 July 08 ตอนที่ 11 นะค๊าบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 30-07-2008 19:33:09
เจ็บปวดสุดๆ.... :m15:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว30July 08 ตอนที่ 12 แล้ววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 30-07-2008 19:42:05
ขอบคุณ คุณjoypluss  ที่แวะเวียน เข้ามาอ่านบ่อย

รวมถึงคนอื่นๆด้วยนะ  ถึงแม้จะมีน้อยนิด

แต่ก้อยังเข้ามาอ่านกัน เช่น PakBeob *zandwizz *Twister

duchess * ๛clearest๛  และอีกหลาย ๆคน  น้องเพียวด้วย

ขอบคุณมากๆเลยนะครับ  อาจจะเป็นเพราะว่าเรื่องนี้เคยลงที่บอร์ดอื่นมาแล้ว

ก้อเลย ไม่ได้ติดตามกันเท่าไหร  ยังไงก้อช่วยกันอ่านด้วยนะคับบบบบบบ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว30July 08 ตอนที่ 12 แล้ววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 30-07-2008 20:18:01
สงสารรอนอ่ะ มากมายด้วย...

ถ้ารอนจะฝ่าอุปสรรคไปหาวินเนี๊ยท่าทางจาปวดร้าวน่าดู ....
ครั้งจะกลับไปหาพี่นัทก็ไม่ได้อีก
ภีมกะโอ๊ตที่ไกล้ที่สุดก็ไม่ได้รัก เรื่องของหัวใจห้ามกันได้ที่ไหน :sad2:

เมื่อไหร่จะได้สมหวังกะเค้าซ่ะทีน๊าาา o7
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว30July 08 ตอนที่ 12 แล้ววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 30-07-2008 22:44:14
:m1:
แม้จะอ่านจบไปแล้ว แต่ก็ยังตามอ่านอีก...
ยิ่งตอนนี้พี่นัทกลับมาแล้ววววววว ชอบบบ  :m4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว30July 08 ตอนที่ 12 แล้ววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 30-07-2008 23:23:48
พี่นัทกลับมาแล้ววววววววววววววววววววววว :oni1:

เย่ๆๆๆๆ

แฟนคลับพี่นัทรายงานตัว :a1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว30July 08 ตอนที่ 12 แล้ววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 30-07-2008 23:30:58
 :m13: :m13: ตกลงใครเป็นพระเอกหว่า

งงไปหมดแระ

อิอิ......  ขอบคุณนะครับที่มาต่อ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว30July 08 ตอนที่ 12 แล้ววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 31-07-2008 02:15:08
“ซาดังเฮ” แปลว่า :m28:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว30July 08 ตอนที่ 12 แล้ววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 31-07-2008 04:26:35
เข้าใจว่า อาจจะหมายถึง ซารางเฮ ในภาษาเกาหลีรึเปล่า?

ถ้าใช่ก็ แปลว่า รักนะ หุหุ :m1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว30July 08 ตอนที่ 12 แล้ววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 31-07-2008 08:28:43
อ่านแล้วรู้สึกเหงาๆ ไงก็ไม่รู้อะ

รอบๆ ตัวมีแต่เพื่อนและคนรู้จักเต็มไปหมด

แต่ไม่ยักกะเจอคนที่จะสามารถพักหัวใจไว้ได้

เฮ้อออออ  แอบเหงาด้วยคน   :m15:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 31-07-2008 16:17:56
ตอนที่ 13 มาแล้วค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ


แฟนคลับพี่นัทมาอ่านได้เลยยยยยยยย

ตอนที่.13
หลังจากที่ผมได้เห็นแววตาที่ต้องการรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือใครของเพื่อนๆ ผมเลยพาพี่นัทเดินเข้ามาที่กลุ่มของเรา
“เออ...นี่พี่นัทน่ะ พี่ชายเราเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น” พี่นัทยิ้มให้กับเพื่อนๆของผม สังเกตจากสาวๆคณะเภสัชที่ ตะลึงมองพี่นัทกันใหญ่

บ้างคนถึงกับหน้าแดงเวลาที่พี่นัทหันไปยิ้มหรือว่าสบตาให้ แน่นอนผมภูมิใจในตัวพี่นัทมาก พี่นัทของผมออกจะน่ารักขนาดนี้

ส่วนไอ้วินพอผมแนะนำว่าพี่นัทเป็นพี่ชายของผมก้อดูมันจะยิ้มแย้มเหมือนเดิม

หวัดดีครับ...เพื่อนๆของเจ้ารอนนี่น่ารักกันทุกคนเลยนะครับ” พี่นัทยังคงน่ารักและเข้ากับคนอื่นได้ดีเสมอ

เออ...รอนนายกับพี่นัท นี่หน้าตาทำมัยต่างกันขนาดนี้ว่ะ อีกคนอย่างกับลูกครึ่ง”

เพื่อนๆมันถามผม หลังจากที่เราคุยกันไปได้สักพัก ตอนนี้พี่นัทดูจะเนื้อหอมมากเพื่อนๆของผมพากันเล่นสิบคำถามกันใหญ่

ผมเองก้อ อึกอัก พูดไม่ออกว่าเราไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่เกี่ยวพันกันเพราะพ่อแม่ของพวกเรา พี่นัทเห็นผมอ้ำอึ้ง เลยช่วยพูดแทน

“ พี่กับ ไอ้เจ้าเด็กขี้แยนี่ เราเพิ่งจะมาเป็นพี่น้องกันก้อตอนที่พ่อของพี่ กับคุณน้า ตกลงใจจะมาเป็นครอบครัวเดียวกัน”

พี่นัทบอกกับเพื่อนๆของผมแล้วก้อเอามือมาขยี้ที่หัวผมเบาๆ ผมรู้สึกอบอุ่นมาก ผมรู้สึกว่าไอ้วินมันเงียบไปอีกแหละ

แต่ตอนนั้นก้อไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่เพราะมัวแต่ดีใจที่พี่นัทกลับมา อยากจะมองพี่นัทให้มากที่สุด ก่อนที่เราจะต้อง

จากกันเพราะพี่นัทยังต้องกลับไปเรียนอีก 2 ปี หลังจากนั้นไม่นาน เราก้อแยกย้ายกันกลับโดยที่ไอ้วินมันต้องไปส่ง
องลินก่อน ผมกับพี่นัทเลยแยกกันกลับมาก่อน

"พี่คิดถึงเรามากนะ คุยยังงัยก้อไม่รู้สึกดีเหมือนได้กอดนายแบบนี้”

พี่นัทเข้ากอดผมจากข้างหลัง เรากลับมาถึงห้องกันสักพักผมก้อออกมายืนที่ระเบียง วันนี้รู้สึกว่าวิวข้างหน้ามันสวยกว่าทุกวัน

ท้องฟ้าในฤดูหนาว มันช่างสวยงาม มีดวงดาวเต็มฟากฟ้า เมื่อมองลงไปยังตัวเมืองเชียงใหม่แสงไฟที่ประดับประดาให้เข้ากับเทศกาลมันก้อเหมือนภาพสะท้อนของดาวบนฟ้า

หากแต่มันดูใกล้เสียจนเห็นแสงระยิบระยับราวกับสามารถจับต้องได้

“พี่นัทรู้มัยว่าทำไมผมถึงมาเรียนที่นี่”

“ไม่รู้ และ พี่ก้อโกรธมากที่นายไม่ยอมไปอยู่กับพี่ที่โน้น พี่ยังจำได้ว่าถ้าเจอนายเมื่อไหร่จะทำโทษให้สาสมเลย ยังจำได้ป่าว”

“พี่นัทฟังผมก่อนสิ ที่ผมมาเรียนที่นี่เพราะมันเป็นบ้านเกิดของพ่อผม และที่สำคัญมันมีความทรงจำที่สวยงามของผมกับพี่นัทที่นี่ด้วย
ผมสามารถใช้ความทรงจำเหล่านี้เป็นพลังใจในยามที่ผมคิดถึงพี่ เวลาที่ผมท้อแท้ เรื่องราวในเก่าๆของเราทำให้ผมมีแรงที่จะฝ่าฟันมันต่อไป”

ตอนนี้ผมหันหน้ามากอดพี่นัท แล้วเอาแต่ร้องไห้อยู่กับอกของพี่นัท ทำมัยเวลามันไม่ทำให้ผมหายเศร้าเสียทีนะ

พี่นัทกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม แล้วเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ รู้สึกได้ว่าตัวของพี่นัทสั่นกว่าปกติ

“พี่นัทหนาวเหรอป่าวคับ ตัวสั่นจัง เราเข้าไปข้างในกันเถอะ”
ผมเงยใบหน้าที่ดวงตาทั้งสองข้างยังคลอไปด้วยหยาดน้ำตา แล้วผมก้อต้องตกใจ เมื่อพี่นัทเลื่อนมือมาจับที่ใบหน้าของผม

พี่นัทใช้นิ้วมือปาดน้ำตาให้ผมอย่างแผ่วเบา สายตาที่พี่นัทมองมายังผมมันเต็มไปด้วยความรักอย่างที่ผมเองยังรู้สึกหวั่นไหว มันเป็นสายตาที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

ผมรู้สึกวูบวาบจนไม่สามารถสบตากับพี่นัทเลยได้แต่ก้มหน้า

“อย่าหันหน้าหนีพี่สิ มองตาของพี่แล้วดูสิว่าเห็นอะไร ความรู้สึกที่พี่ปิดบังมันมาตลอด ความรู้สึกที่ต้องซ้อนเร้นมันไว้
พี่เองเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ารอนหรอกนะ แต่พี่ก้อต้องทำเพียงเพราะคำว่า พี่ชาย มันทำให้พี่ไม่กล้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปพี่เองกลับพ่ายแพ้กับความต้องการที่ใจเรียกร้อง พี่คิดถึงเรามากเหลือเกิน”

พี่นัทใช้มือทั้งสองข้าง จับใบหน้าของผมให้เงยขึ้นมาสบตากับเค้า แล้วพี่นัทก้อก้มลงมาจูบที่หน้าผากของผมก่อนที่จะเลื่อนมากระซิบเบาๆที่ข้างๆหูผม

“พี่รักเรานะ รักมาก แล้วรอนล่ะ รักพี่บ้างหรือเปล่า” พี่นัทถอยใบหน้าออกมาจ้องผมพร้อมส่งสายตารันจวนใจ

ตอนนั้นผมเหมือนอยู่ในความฝันมันดูเลื่อนลอยทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พยักหน้าตอบพี่นัทไป และพี่นัทก้อยิ้มก่อนที่จะมอบความรู้สึกแปลกใหม่

ริมฝีปากของพี่นัทค่อยๆประกบกับริมฝีปากผมอย่างแผ่วเบาก่อนที่พี่นัทจะใช้ปลายลิ้นดุนริมฝีปากผมเผยให้กว้าง

ขึ้นก่อนจะดันลิ้นเข้ามาควาญหาความหวานจากปลายลิ้นและริมฝีปากของผม

พี่นัทถอนริมฝีปากออกจากปากผมหลังจากชิมรสหวานจากจูบที่แสนอ่อนโยน หากแต่ยังไล้เลื่อยไปยังแก้มใส ใบหู และซอกคอ

ก่อนจะวกมาที่ริมฝีปากนั้นอีกครั้ง รสสัมผัสของพี่นัททำให้ผมสั่นร่างกายอ่อนปวกเปียกราวขี้ผึ้งในอ้อมกอดอันแข็งแรง

ไม่ต้องบอกก้อรู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของผมคงแดงก่ำไปทั้งหน้า

“รู้มัยว่า หน้าตาเราตอนนี้น่ารักแค่ไหน อย่าให้ใครทำกับเราแบบนี้อีกนะ ขอให้มีแค่พี่เพียงคนเดียว” แล้วความเสียใจก้อแล่นเข้ามาแทนที่

“ทำมัยล่ะ ที่พี่นัทยังมีพี่วาอีกหนึ่งคน แล้วผมจะมีบ้างไม่ได้เหรองัย”

“รอน...ฟังพี่นะ พี่กับวาตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกัน พี่รู้ใจตัวเองแล้วว่าใครคือคนที่พี่รัก”พี่นัทบอกผมพร้อมกับกระชับผมเข้าไปหาอ้อมกอดที่อบอุ่นอีกครั้ง

“จะทำยังงัยนะถ้าพี่ต้องห่างจากเราไป พี่คงแทบทนไม่ได้” ผมเองนึกแล้วก้อใจหายพี่นัทมาคราวนี้แค่ 1 อาทิตย์ แล้วก้อต้องกลับไปเรียนต่อ

แต่มันก้อยังดีที่การจากกันของเราครั้งนี้มันต่างจากครั้งก่อน เพราะคราวที่แล้วพี่นัทได้กระชากใจผมออกไปพร้อมกับการจากลา

แต่ครั้งนี้พี่นัทกลับเอาใจของผมมาคืนพร้อมมอบหัวใจของพี่นัทไว้กับผมอีกด้วย มันคงไม่เจ็บปวดอีกแล้วถ้าวันที่เราต้องแยกกันมาถึง

ผมกับพี่นัทเราเดินกลับเข้ามาในห้อง โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าช่วงเวลาที่แสนหวานของผมกับพี่นัทจะมีสายตาอีกคู่ที่มองมันอย่างปวดร้าว........................

*************************************************  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 31-07-2008 16:42:12
จิ้ม กันเอง ดีกว่า  5 :laugh: :laugh:

ยังไงก้อแวะเข้ามาดูบ่อยๆนะครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 31-07-2008 16:48:39
พี่นัท  :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 31-07-2008 17:55:22
 :L2: :L2:  มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 31-07-2008 18:25:35
 :o8: ชอบมากเลยเรื่องนี้

เอามาต่อเลยคราบบบบบบบ พี่น้อง

เรารอคุณอยู่ :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 31-07-2008 18:41:26
อ้างถึง
แต่ครั้งนี้พี่นัทกลับเอาใจของผมมาคืนพร้อมมอบหัวใจของพี่นัทไว้กับผมอีกด้วย

อบอุ่นจัง...
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 31-07-2008 22:14:22


>>> เข้ามาอ่านด้วยคน

อ่านแล้วไม่รู้จะเชียร์ใครดี ระหว่างพี่นัท กับ วิน (ไหนจะภีม โอ๊ต อีกอ่ะ แต่ 2 คนหลังนี่ดูจะมีคะแนนในใจรอนน้อยกว่า งั้นเป็นเพื่อนที่ดีต่อไปเถอะนะ)


วินก็ดูท่าจะไม่รู้ใจตัวเอง 

พี่นัทบอกรักรอนแล้ว แล้วรอนล่ะ? ใจยังเหมือนเดิมเหรอ ในเมื่อรอนรักวินด้วย?

เฮ้อออ ความรักนี่ซับซ้อนปวดใจจัง..


ขอให้เรื่องนี้เจอทางออกที่ดีด้วยเท้อออออ~



บวก1


.
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 31-07-2008 22:19:51
 :m15: :m15: อ้าว เศร้าแทนวินเลย

คงเป็นสายตาของวินแหง๋ม ๆ เลย

ขอบคุณนะคับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปนะค๊าบ.......


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 01-08-2008 00:01:12
อ่านแล้วไม่รู้จะเชียร์ใครเลยง่ะ

=_____________="

มันเศร้า้จังเลยครับ


รักใครก็ไม่สามารถคว้าไว้ได้   แต่พอบทจะมาก็กลับมาทีละหลายคน

เฮ้อออ  ผมก็เคยเป็น  อ่านแล้วคิดถึงอดีตพิลึก


รีบมาต่อล่ะครับ   


ผมเองก็ไม่รู้จะเชียร์ใครเหมือนกัน   คิดถึงตัวเองมากกว่า  เหอๆ


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 01-08-2008 07:46:27
เชียร์ไม่ถูกเหมือนรีบนๆ เลยแฮะ

 o2
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-08-2008 08:57:16
ยินดีด้วยนะครับ ที่ขอเรื่องนี้มาลงได้

สนุกมากๆ อิอิ
 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 01-08-2008 17:47:47
จิ้มพี่เรย์ อิอิ :o8: :o8:

มาต่อตอนต่อไปแล้วน้า  ดีจายสุด ๆๆๆ วันนี้สอบวันสุดท้ายแล้วววววววว

ตอนที่.14

ตลอดอาทิตย์ที่พี่นัทมาอยู่กับผมที่เชียงใหม่ เราทั้งสองคนต้องรับโทรศัพท์ต่อว่าจากหลายๆคน
เริ่มจาก ลุงกับแม่ ลุงบ่นว่าปีใหม่ทั้งทีน่าจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เราสองคนพี่น้องกลับหนีมาเที่ยวกันแค่สองคน

ไอ้ภีมเป็นอีกคนที่บ่นผมไม่ยอมหยุด ต่อว่าซะยกใหญ่ที่สัญญาว่าจะไปฉลองด้วยกันก้อเบี้ยว ส่วนเพื่อนๆที่คณะ รวมถึงไอ้โอ๊ตก้อโทรมาบ้าง

ส่วนใหญ่จะชวนออกไปเที่ยว เพราะปีใหม่ทั้งทีแล้วมหาลัยก้อหยุดยาวด้วย แต่มีอยู่อีกหนึ่งคนที่ไม่เคยโทรหาผมเลยแม้ว่าห้องเราจะอยู่ติดกันแค่นี้

แต่ทั้งผมและเค้าเราต่างไม่ได้เจอหน้ากันเลยตลอดเกือบๆอาทิตย์ที่พี่นัทมาหาผม ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก มันดูเหงาๆ กับว้าวุ่นใจบอกไม่ถูก

ทำมั๊ยนะทั้งๆที่พี่นัทก้ออยู่ข้างๆเราตลอด ทำไม????

“รอน วันนี้เราไปค้างที่บ้านไร่กันเถอะ พรุ่งนี้พี่ก้อต้องกลับแล้ว” พี่นัทจะกลับไปกรุงเทพพรุ่งนี้ เพราะต้องกลับไปเตรียมตัว

ไหนจะซื้อของฝากเพื่อนที่โน้นอีก ลุงเองก้อบ่นน้อยใจลูกชายแล้ว พี่นัทเองก้อว่าจะไปหาเพื่อนเก่าๆด้วย เพราะตั้งแต่กลับมาก้อขึ้นมาหาผมเลย

“ไปซิครับ ปีใหม่ยังไม่ได้ขึ้นไปสวัสดีปีใหม่กับปู่กับย่าและญาติๆเลย” วันนั้นเราไปซื้อของขวัญให้ผู้หลักผู้ใหญ่เสร็จก้อมาที่บ้านไร่ของผม

ตลอดทางเราก้อคุยกันมาเรื่อยเปื่อย พอมาถึงเราก้อเข้าไปสวัสดีญาติๆของผมกัน แล้วก้อเลยไปนั่งเล่นกันที่ระเบียง เรามองทิวทัศน์ข้างหน้า

มันยังคงสวยงาม ผมเอา mp.3 ของพี่นัทมาฟัง เพลงญี่ปุ่นมันก้อแปลกๆดีแต่ก้อไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ จนมาถึงเพลงนึงมันเป็นเพลงที่ช้าๆ แต่ภาษามันดูแปลก

ผมรู้สึกว่ามันเพราะกว่าเพลงอื่น แต่ที่ติดใจเพราะตอนจบเพลง จะมีเสียงนักร้องพูดคำๆนึง มันคุ้นๆว่าเคยได้ยินที่ไหน คิดไปคิดมา

ก้อนึกได้ว่ามัน น่าจะเป็นคำเดียวกับที่ผมได้ยินจากปากของไอ้วินในคืนนั้น แต่สำเนียงเจ้าของภาษาอาจจะดูต่างออกไป

“พี่นัท เพลงนี้เพราะดีนะ แต่ภาษาดูแปลกๆ” พี่นัททำหน้าสงสัย เลยมาดึงหูฟังไปข้างนึง

“อ๋อ...มันเป็นเพลงเกาหลีนะ พอดีเพื่อนที่ญี่ปุ่นเค้าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เห็นว่าความหมายมันดี ดนตรีก้อซึ้งๆเลยโหลดมาฟังเล่นๆ”

“แล้วความหมายมันประมาณไหน แล้วตรงท้ายเพลง ที่พูดว่า ซาดังเฮโย มันหมายความว่าอะไรเหรอ”

“คร่าวๆนะ มันพูดถึงคนๆนึงที่ไม่รู้หัวใจของตัวเอง ปล่อยให้เวลาแห่งความสวยงามมันผ่านเลยไป จนวันนึงเมื่อเวลาแห่งการลาจากมาถึง

เค้าถึงรู้ว่าจริงๆแล้วเค้าต้องการอะไร แต่มันก้อสายไปแล้ว คำพูดสุดท้าย ที่เค้าอยากฝากสายลมไปบอกแม้ว่าจะรู้ดีว่าใครบางคนจะไม่มีวันได้รับรู้ แต่เค้าก้ออยากบอก

ซาดังเฮโย.....ฉันรักเธอ.....”

ผมขนลุกทันทีที่รู้ความหมายของมัน แต่คนที่บอกกับผมเล่า เค้าต้องการจะสื่ออะไรกันแน่นะ รักผม แบบไหนกัน แบเพื่อนคนนึงหรือว่า แบบไหน?

“ตอนที่พี่ฟังแล้วได้รู้ความหมายมันครั้งแรก พี่นึกถึงตัวเอง พี่กลัวว่าพี่คงเป็นแบบเดียวกับคนที่อยู่ในเพลง แต่ตอนนี้พี่โชคดีที่เวลาเหล่านั้นมันยังไม่หมด ยังทันที่พี่จะพูดคำว่า รัก กับเรา”

พูดจบพี่นัทก้อดึงตัวผมเข้าไปกอด ผมรู้สึกอบอุ่นนะ แต่ก้อมีความรู้สึกคล้ายๆกับว่าผมเสียใจอยู่ลึกๆ ว่าจริงๆแล้วผมยังรักพี่นัทอยู่ หรือว่าแค่เคยรัก

หรือเพราะใครอีกคนที่ผมพยายามที่จะไม่รักเค้ากันแน่ ผมอาจจะคงเป็นคนในเพลงนั้นเองก้อได้ล่ะมั๊ง ถ้าเวลามันมาถึง........

ตอนนี้ใกล้ที่พระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้า พี่นัทยังคงหลับอยู่ที่เก้าอี้หวายที่ระเบียง ผมเอาผ้าห่มมาห่มให้ก่อนที่จะคว้ามอเตอร์ไซด์ ในไร่ขี่ไปยังสถานที่นึง

มันเป็นความเคยชินซะแล้วที่ทุกครั้งที่มาผมจะต้องไปที่แห่งนี้ ที่ครั้งนึงผมกับไอ้วินเคยมานั้งดูพระอาทิตย์ด้วยกัน ที่ๆเกิดคำสัญญาระหว่างเราว่าจะอยู่ข้างๆกันตลอดไป

พราะอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า มีเพียงแสงสีแสดแต้มอยู่ปลายขอบฟ้า วิถีชีวิตของผู้คนยังคงดำเนินไปตามรูปแบบของวันวาน

ผมปล่อยใจคิดอะไรไปเรื่อยๆ อยู่ๆน้ำตามันก้อไหล นี่ผมคิดถึงไอ้วินมากขนาดนี้เลยเหรอ แค่เวลาที่เราไม่เจอไม่ได้ยินเสียงกันแค่อาทิตย์เดียวทำมัยเหมือนเราห่างไกลกันขนาดนี้

สายตาของมันคืนนั้นก่อนที่เราจะกลับห้องกับพี่นัท มันเป็นสายตาของความรู้สึกไหนกันแน่นะ...

“รอนไปไหนมา ทำไมไม่ปลุกพี่ล่ะ” พี่นัทเดินมาถามผมหลังจากที่ผมกลับจากฝายการเกษตรของอำเภอ

“ไปขี่รถเล่นในไร่นี่แหละ เห็นพี่นัทกำลังนอนสบายๆเลยไม่อยากปลุก” ผมโกหกพี่นัทไป ไม่เข้าว่าทำไมต้องโกหกด้วย

“แล้วทำไมไม่เอาโทรศัพท์ไปด้วย นี่เมื่อกี้เพื่อนโทรมา ชื่อวิน” ผมดีใจที่รู้ว่าใครโทรมา รีบโทรกลับไปหามันทันที แต่ก้อต้องผิดหวังเพราะปลายสายปิดเครื่องไปแล้ว

“พี่ นัทไอ้วินมันโทรมาว่างั๊ยบ้างคับ”

“ก้อไม่ว่างั๊ย ถามหาเราพี่ก้อบอกว่าสงสัยออกไปขี่รถเล่นมั๊ง เค้าเลยถามว่าอยู่ที่ไหนกัน พี่ก้อบอกว่าอยู่ที่ไร่ส้ม แล้วเค้าก้อวางไป”

ผมพยามยามโทรกลับไปหามันอีกครั้ง แต่ก้อเหมือนเดิมจนในที่สุดก้อหมดความพยายาม

คืนนี้ผมกับพี่นัทเรามานอนที่เดิม นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมกับพี่นัทเรามานอนดูดาวด้วยกันบนหอดูไฟแห่งนี้ เรานอนหนุนหมอนใบเดียวกัน

มือของเราต่างประสานกันภายใต้ผ้าห่ม แต่คงเพราะอากาศมันหนาวมาก มือผมก้อยังเย็นอยู่ดี

“หนาวเหรอเรา”พี่นัทถามพร้อมกับดึงผมเข้าไปกอด สงสัยพี่นัทคงชินกับความหนาวที่ญี่ปุ่น เพราะที่โน้นเค้าหนาวกว่าเรามาก

“พี่นัท ตอนอยู่ที่โน้นเหงามั๊ย ไม่มีแฟนบ้างเหรอ”

“ก้อเหงาบ้าง แต่ก้อมีเพื่อนๆที่สนิทกันเลยคลายเหงาบ้าง แต่แฟนก้อเคยมีคบๆกันบ้างนะ สาวๆญี่ปุ่นน่ารักจะตาย ขี้อ้อนมากเลยล่ะ”

“แล้วทำมั๊ยไม่คบกับเค้าล่ะ”

“เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่นัทหันมามองหน้าผม

“เออ...คือว่า ช่วงที่พี่นัทไม่อยู่ผมเองก้อ....เออ...ก้อ...เออ...”ผมกลับพูดไม่ออกเสียเอง

“คนชื่อวินใช่ไหม” ผมตกใจที่พี่นัทเอ่ยชื่อนี้ออกมา

“ทำไมพี่นัทถึงถามแบบนี้ล่ะ”

“ตลอดเวลาที่เราคุยกับพี่ ทุกครั้งจะต้องมีเรื่องของเค้าเล่าให้พี่ฟังเสมอ ยิ่งพี่ได้เห็นสายตาของเค้าในคืนนั้น พี่ก้อรู้สึกอะไรบางอย่าง”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ วินมีนมีแฟนแล้ว น้องลินคนที่มันไปส่งคืนนั้นงั๊ย”

“แล้วความรู้สึกเราล่ะ” นัทถามคำถามที่ทำให้ผมอึ้งไปอีกครั้ง

“รอน นึกถึงใจของตัวเองก่อนนะ อย่ามานึกถึงพี่หรือว่าใครๆ ถ้ามันสายไปแล้วเราเองนั่นแหละที่จะมานั่งเสียใจ

พี่เคยผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้วและพี่ก้อทำใจมาบ้างแล้วถ้าเราสองคนจะเป็นได้แค่พี่น้องกัน

เพราะครั้งนึงพี่เองที่หนีมัน เวลาของพี่มันอาจจะผ่านมาแล้ว พี่ไม่อยากให้คนที่พี่รักต้องมานั่งเสียใจแบบพี่”พี่นัทกอดผมแน่นกว่าเดิมพร้อมกับจูบที่หน้าผากผมเบาๆ

“ผมเองก้อไม่แน่ใจนัก แต่เวลาที่ผมอยู่กับพี่นัทแล้ว ผมเองก้อมีความสุขมันอบอุ่นและปลอดภัย

แต่ อยู่กับวิน มันบอกไม่ถูกมันหลากหลายอารมณ์จนบางครั้งผมเองก้อไม่เข้าใจตัวเองนัก แต่ที่รู้ว่าเป็นบ่อยๆที่อยู่ใกล้คือเสียใจและเจ็บปวด”

ผมบอกกับพี่นัท ตอนนี้น้ำตามันไหลมาอีกครั้งแล้ว พี่นัทเช็ดน้ำตาให้ผม อย่างแผ่วเบา

“ทั้งๆที่เราเจ็บปวด แต่รอนเองก้อยังอยากอยู่ใกล้ๆเค้าไม่ใช่เหรอ อะไรนะที่มันสามารถทำให้เราทนได้แม้ว่าเราต้องเจ็บปวด ความสุขงั๊ยล่ะ

ความสุขที่ได้อยู่ใกล้คนที่เรารักแม้มันจะเจ็บปวด”
พี่นัทยิ้มให้ผมแต่ทำไมที่ดวงตาคู่สวยของพี่นัทถึงแดงขนาดนั้น

“พี่นัทผมขอโทษ ผมสัญญาว่าผมจะลืมความรู้สึกเหล่านั้น ผมไม่อยากทำให้พี่นัทเสียใจ

ผมเองก้อเจ็บนะถ้ารู้ว่าตัวเองได้ทำร้ายคนที่รัก และ ห่วงใยผมเสมอมา ผมรักพี่นัทนะครับ”

“ไม่เป็นไรรอน เวลามันจะบอกกับหัวใจของเราเอง รุ่งนี้พี่ก้อต้องกลับแล้วอีกตั้ง 2 ปี กว่าพี่จะกลับมาอยู่ที่เมืองไทย พี่อยากให้เรา ถามใจและรูใจตัวเองให้มากที่สุด ซื่อสัตย์กับตัวเราเองให้มากที่สุดนะ”

คืนนั้นผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นเช้ามาเราก้อมาลาญาติๆก่อน เพราะพี่นัทต้องกลับแล้ว

พี่นัทกลับ ไฟท์ บ่ายๆ ตอนเช้าเราเลยขึ้นไปขอพร ที่ดอนสุเทพกัน ที่ครั้งนึงผมกับพี่นัทเราเคยมาแต่ไม่มีโอกาสที่จะขึ้นมา

****************************************************
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 01-08-2008 18:04:20
 o13 โห พี่นัทเจ็งว่ะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: moonoi_sert ที่ 01-08-2008 18:09:03
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามีความสุขปนอยู่ในความเศร้า ชอบประโยคที่พี่นัทบอกรอน“รอน นึกถึงใจของตัวเองก่อนนะ อย่ามานึกถึงพี่หรือว่าใครๆ ถ้ามันสายไปแล้วเราเองนั่นแหละที่จะมานั่งเสียใจ

พี่เคยผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้วและพี่ก้อทำใจมาบ้างแล้วถ้าเราสองคนจะเป็นได้แค่พี่น้องกัน

เพราะครั้งนึงพี่เองที่หนีมัน เวลาของพี่มันอาจจะผ่านมาแล้ว พี่ไม่อยากให้คนที่พี่รักต้องมานั่งเสียใจแบบพี่” ความรักมักมาพร้อมความเจ็บปวด รออ่านตอนต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้คนโพสตครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 01-08-2008 19:42:20
พี่นัททำให้ประทับใจอีกแล้ว... :oni2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 01-08-2008 20:23:19
เค้าว่ากันมา ..
ว่าเรื่องนี้สนุก ..



เอาไว้รู้มหา' ลัย หนึ่งในคนแต่งก่อน
แล้วจะเข้ามาอ่านต่อ ..
เช้อออออ ออ อ ~


5 555 5 5 .+
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 02-08-2008 00:00:49
มาโหวต V13 นัททิว :m13:

เย้ย ..... ผิดๆๆๆ จิ  :m14:

แหะๆ

พี่นัทน่ารักจังเลยคับ คิคิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 02-08-2008 08:14:36
 :m4: :m4: :m4:  ขอบคุณนะคับที่มาต่อ

ชอบประโยคนี้จัง

“ทั้งๆที่เราเจ็บปวด แต่รอนเองก้อยังอยากอยู่ใกล้ๆเค้าไม่ใช่เหรอ อะไรนะที่มันสามารถทำให้เราทนได้แม้ว่าเราต้องเจ็บปวด ความสุขงั๊ยล่ะ"

 :m4: :m4: :m4:

รออ่านอยู่น๊า......

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 02-08-2008 19:19:27
ในที่สุดก้ออ่านทัน o7









พี่นัทสุดยอด :a2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 03-08-2008 19:58:03
 :m32: :m32: :m32:  หายไปไหนหว่า

รออ่านอยู่นะค๊ายบ...........

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 03-08-2008 20:50:24
รู้สึกว่า จะสามเศร้าแล้วอ่า


ถ้าเปลี่ยนจาก สามเศร้า เป็น 3P จะดีมากมาย

แว๊กกกกกกกกกกกก!!!


เค้าล้อเล่ง น้า~~~~~~~~~~~
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 03-08-2008 21:04:50
พี่นัท...ช่างเป็นผู้ชายที่โรแมนติก...แถมยังมีความคิดความอ่านที่เป็นผู้ใหญ่มาก ๆ บุคลิกอบอุ่นมาก ๆ

ตามหาใจให้เจอน่ะรอน :o8:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 05-08-2008 17:17:08

........"มีใครบ้างที่ไม่เจ็บปวดกับความรัก"........

........แต่ความเจ็บมันจะทำให่เราเข้มแข็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว...... :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 06-08-2008 18:17:28
มาลงแล้วค๊าบ  ตอนนี้พี่รันกลับไปต่อโทแล้ว

อาทิตย์ที่แล้วเพียวสอบเลยไม่ได้มาลง  ต่อไปนี้จะมาลงทุกวันน้า

อ้าย G.NORT จะรู้ไปเพื่อ  ยังไงก็ไม่ซิ่วไปเรียนนิเทศด้วยหรอก


เรียนวิทย์นี่แหละดีสุดแล้ว  :laugh: :laugh: :laugh:


ตอนที่ 14-1
ผมมาส่งพี่นัทที่สนามบิน เราคุยกันสักพักที่ร้านกาแฟ ก่อนที่พี่นัทจะเดินเข้าไปที่ห้องรับรองผู้โดยสาร

“อีก สองปี พี่จะกลับมาถามหาคำตอบนะ แต่ถ้าเรารู้ใจตัวเองก่อนก้อบอกพี่ได้เสมอนะ แล้วถ้าพี่ว่างๆพี่จะกลับมาเที่ยวนะ

แต่ในระหว่าง 2 ปีนี้พี่จะไม่คาดคั้นเราหรอก ค่อยๆคิดนะ แคร์ตัวเองก่อนที่จะแคร์คนอื่น สายตาของคนอื่นๆ” พี่นัทเอามือมาลูบที่หัวผมอีกครั้ง

“โชคดีนะครับ พี่นัท ผมนี่นิสัยไม่ดีเลย ทำให้พี่นัทไม่สบายใจทุกทีเลย”ผมก้มหน้ากลัวว่าถ้ามองหน้าพี่นัทแล้วจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

“มองหน้าพี่สิ” พี่นัทจับผมเงยหน้าขึ้นมา

“เห็นมั๊ยว่าพี่มีความสุข ที่ได้มาเจอเรา อย่าคิดมากสิ เจ้าเด็กขี้แย โตจนเป็นหนุ่มน้อยน่ารักขนาดนี้แล้ว”

พี่นัทกับผมเรามองตากันและกัน ก่อนที่พี่นัทจะเอามือมาลูบเบาๆที่ตาของผม

“เมื่อไหร่ ตาซึ้งๆคู่นี้จะไม่มีน้ำตาสักทีนะ รู้มั๊ยว่าตาเราสวยมากนะ พี่ต้องไปแล้วล่ะ อย่าลืมมีความสุขด้วยนะ พี่ขอแค่นี้แหละ”

เรากอดกันแน่น แล้วพี่นัทก้อเดินหายไปกับกลุ่มผู้คนที่ทยอยเดินกันเข้าไปเมื่อมีเสียงเรียกเตือนจากพนักงานเวลาเครื่องใกล้ถึงเวลาที่จะบิน

ผมกลับมาที่ห้องก้อมากดกริ่งที่ห้อฝของไอ้วินทันที แต่มันไม่อยู่ห้อง ผมโทรไปหาโอ๊ตเพื่อถามว่าไอ้วินมันไปไหน

“ว่างัยว่ะ ทิ้งเพื่อนทิ้งฝูงเลยนะเอ็งไอ้รอน” โอ๊ตมันทักทายผม หลังจากที่มันพยายามที่จไม่คิดกับผมเกินกว่าที่ผมจะให้ได้ เราก้อดูเหมื่อจะสนิทกันมากกว่าเดิม

“โอ๊ต นายรู้ป่าวว่าไอ้วินมันไปไหน”

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ เราเห็นมันไปเมากับพวกไอ้ป๋อมเมื่อวันก่อนแต่ก้อไม่ได้คุยกันเท่าไหร่พอดีเรากลับก่อนแต่พวกมันไปต่อกันที่อืนว่ะ

ลองโทรหาน้องลินดูดิ” ผมวางสายจากดอ๊ตก้อโทรหาน้องลินทันที

“หวัดดีค่ะพี่รอน มีอะไรเหรอค่ะ” เสียงใสๆทักทายทันที่ที่รับโทรศัพท์ผม

“ไอ้วินมันอยู่กับน้องลินหรือเปล่า เมื่อคืนมันโทรหาพี่ แต่พี่ไม่ได้รับ”

“ป่าวค่ะ หลังจากคืนนั้น ลินก้อกลับมาบ้านค่ะ พอดีที่บ้านโทรไปตามบอกว่าญาติๆมารวมกันที่บ้านหลายคนเลยต้องกลับค่ะ

พี่วินก้อไม่ได้โทรมาหา 2-3 วันแล้ว”หลังจากวางสายน้องลินผมก้อยิ่งวุ่นวายใจ นี่ไอ้วินมันอยู่คนเดียวตลอดเลยเหรอ แล้วมันไปไหนกันนะ

ผมกลับเข้ามาในห้องเดินวนไปวนมาด้วยความว้าวุ่น จนเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก้อไม่รู้ แต่ตกใจตื่นเพราะเสียงอึกทึกที่อยู่ข้างๆห้อง ผมมองไปรอบๆ นี่มันมืดแล้วนี่นา

เสียงดังมาจากห้องของไอ้วิน เร็วเท่าความคิด ผมไปยืนอยู่หน้าห้องของมัน ผมกดกดกริ๊งสักพัก ก้อมีวัยรุ่นเดินมาเปิดประตูให้

มันไม่ใช่ไอ้วิน แต่เป็นเพื่อนที่ผมไม่รู้จัก แต่ก้อคุ้นๆหน้าเหมือนเคยเห็นที่มหาลัย

“วินอยู่ป่าวคับ”

“อยู่ข้างใน มีไรป่ะ”เค้าพูดพร้อมกับกวาดตามองผมไปทั้งตัว แล้วยิ้มแปลกๆ

“ขอเราเข้าไปดูมันหน่อยได้ป่าว” เค้าไม่พูดแต่เบี่ยงตัวหลบให้ผม พอผมเดินผ่านเค้าไปเค้าก้อแกล้งเบียดเขามาหาผม ผมมองหน้าเค้า ก้อเห็นรอยยิ้มกวนๆ แต่ก้อไม่อยากจะพูดอะไรมาก

“ไอ้วินโว้ย...มีเพื่อนมึงมาหาว่ะ น่ารักดีวะใครว่ะ”

“ไหนว่ะ” เสียงของไอ้วิน พอผมเดินมาถึงห้องที่มันกำลังสนุกกับเพื่อนๆของมัน ผมก้อต้องตกใจ ตอนนี้ในห้องมีผู้ชายอยู่ 3 คน และผู้หญิง 2 คน

ทุกคนกำลังเมาได้ที่โดยเฉพาะไอ้วิน มันนอนอยู่บนโชฟา โดยมีผู้หญิงที่ผมไม่คุ้นหน้านอนอยู่บนตัวของมัน ดูมันตกใจ แต่ก้อเปลี่ยนเป็นยิ้มเย้ยๆให้ผมแทน

“อ้าวว่างัยว่ะ มาได้ยังงั๊ย แล้วพี่ชายที่รักกลับไปแล้วเหรอ” มันพูกจากวนใส่ผม มันลุกขึ้นนั่ง แต่ผู้หญิงคนนั้นก้อยังนั่ง อยู่บนตักของมัน

“วิน นายไปคุยที่ห้องเราก่อนได้ป่าว เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ผมเดินเข้าไปหามันพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะไหล่มัน แต่มันกลับปัดมือผมออก

“เราไม่ว่าง กำลังสนุกกับเพื่อนๆ อยู่ แต่นายอยากจะสนุกกับพวกเราก้อได้นะ” แล้วมันก้อหันไปพูดกับเพื่อนของมัน คนที่เปิดประตูให้เรา

“นี่ รอนเว้ย อยู่ข้างๆห้องกูเองแหละ เพื่อนที่มหาลัย ถ้ามึงชอบเค้าก้อจีบเลยนะโว้ย อาจจะมีหวัง กูเพิ่งเห็นเค้าจูบผู้ชายอีกคนนึงมาเมื่อไม่กี่วันก่อน”

วินมันพูดกับเพื่อนแต่สายตากลับมองมาที่ผม ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง นี่มันเห็นผมกับพี่นัทคืนนั้นเหรอ แล้วที่มันเป็นแบบนี้เพราะรังเกียจผมหรือป่าว

“หวัดดี เราชื่อ ที นะ รอนใช่ไหม ยินดีที่ได้รู้จักกับคนน่ารักนะครับ” ทีเดินเข้ามาหาผม

“วินนายเป็นอะไรของนาย รู้มั๊ยว่าเราเป็นห่วงนายมากขนาดไหน โทรไปหาใครก้อบอกว่าไม่รู้ว่านายไปไหน แล้วทำมัยนายถึงทำแบบนี้”

“มันชีวิตเรา นายไม่ต้องมายุ่ง ถ้าไม่มีอะไรก้อไปซะเถอะรำคาญว่ะ เกะกะสายตา ไม่ใช่พ่อนะจะได้คอยมาสั่งสอนกันแบบนี้”

ผมรู้สึกเหมือนโดนต่อยเข้าหมัดใหญ่ มันอึ้ง ไม่คิดว่ามันจะกลับเป็นวินแบบนี้ แบบวันแรกที่เราเจอกัน

“ไม่เป็นไรเอาไว้ให้นายใจเย็นเราค่อยมาคุยกัน”ผมจะเดินกลับแต่คนที่ชื่อทีเดินมาขวางไว้

“อยู่สนุกด้วยกันก่อนสิครับ เฮ้ย...ไอ้วินเพื่อนมึงน่ารักจริงๆว่ะ กูขอนะ” มันหันไปถามไอ้วิน

“มึงก้อคุยกับเค้าเอาละกัน ก้อไม่ยุ่งวะ แต่คงง่ายแหละดูท่าทาง” คำพูดมันเหมือนมีดที่กรีดลงมาที่ใจ

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร ทีก้อก้มลงมาจูบผมแล้ว ผมผลักเค้าออกทันที เค้าก้อยิ้มๆ ผมหันไปมองไอ้วิน มันก้อทำหน้าไม่สนใจ

“เป็นงัย ถึงใจป่าว เพื่อนเรา ถ้าไม่มาเราทำให้” มันยิ้มเยาะๆ ผมทำอะไรไม่ถูก รู้ว่าโกรธจนหน้าแดง ตัวผมสั่นไปหมด หมดแล้วความรู้สึกที่ดี หมดแล้วจริง

“ถึงกับหน้าแดงเลยเหรอ แต่.....” มันหยุดพูดทันที่ที่เห็นน้ำตาของผมมันไหล่ออกมา

“เราเสียใจนะ และก้อเจ็บปวดมากที่นายเป็นแบบนี้ เราเกะกะนายมากใช่ไหม งั้นต่อไปเราคงจะไม่ต้องเจอกันอีกแล้วมั๊ง”

ผมกระชากสร้อยที่สวมไว้ที่คอ แต่มันก้อไม่ยอมขาด เลยต้องถอดมันออกมา

“เอามันคืนไปเถอะ เราขอโทษนะถ้าทำให้นายโกรธ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไร ล่าก่อน” ผมขว้างสร้อยเส้นนั้นไปที่ไอ้วิน

แล้วก้อวิ่งออกจากห้องของมันไป ผมนึกอะไรไม่ออก เลยเดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซด์แล้ว รีบออกจากห้อง ผมเดินมาถึงรถ

แต่นึกไม่ออกว่าจะไปไหน ตอนนั้นนึกถึงแต่ไร่ส้ม ผมเลยขี่รถออกไป แต่ก่อนที่ผมจะออกไปพ้นประตูทางเข้าคอนโด ก้อได้ยินเสียงไอ้วินมันตะโกนเรียกผม

“รอน...นายจะไปไหน หยุดก่อน” ผมรีบเร่งรถทันที มันคงตามผมไม่ทัน ผมขับรถไปที่ไร่ ตอนนี้มืดแล้ว อากาศก้อหนาวจนผมสั่นไปทั้งตัว

แต่ไร่ผมไม่ไกลมากเลยไม่ค่อยเท่าไหร่ ผมมาถึงที่ไร่ทุกคนก้อแปลกใจว่าผมกลับมาทำไมอีก แต่ผมก้อไม่ได้บอกอะไร ได้แต่เดินไปที่หอดูไฟ

ความอบอุ่นระหว่างพี่นัทกับผมมันยังไม่จางหาย ผมนั่งกอดตัวเองร้องไห้เงียบเพียงลำพัง มันเหงาจังอยากมีคนอยู่ข้างๆ

เสียงโทรศัพท์ผมดัง เลยหยิบมันออกมาดู เบอร์ของไอ้วิน ผมกดปิดเครื่องทันที

“นายโกรธ เกลียด เรามากขนาดนั้นเลยเหรอ”ผมตกใจที่เสียงนั้นมันอยู่ข้างหลังผม

ผมหันกลับไปมองทันที ไอ้วิน มันมายืนข้างหลังผมนานเท่าไหร่แล้วนะ ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยน้ำตา.........

****************************  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 06-08-2008 18:22:02
ตอนที่.15
ผมตกใจมากที่เห็นวินมายืนอยู่ที่ข้างหลังผม แต่เพราะตอนนั้นมันน้อยใจบวกกับความโกรธทำให้ผมเองไม่อยากที่จะเห็นหน้าของมัน

“นายมาที่นี่ทำไม กลับไปก่อนเถอะว่ะ เราขอร้อง”

“ไม่.....นายต้องฟังเราก่อน”ไอ้วินมันตะคอก แล้วเดินเข้ามาหาผม หน้าของมันแดงมากสงสัยคงเพราะฤทธิ์แอลกอออล์

“เราไม่อยากฟังอะไรตอนนี้ เอาไว้ให้เราอารมณ์เย็นกว่านี้ค่อยคุยกัน นายกลับไปหาพวกเพื่อนๆของนายเถอะ ออกมาแบบนี้แม่สองสาวเค้าไม่ว่าเอาเหรอ”

ไม่รู้ว่าตอนนั้นโกรธมันเพราะเห็นมันนัวเนียกับสาวๆหรือเพราะอะไรกันแน่


“ทำไมนายต้องไล่เราด้วย รอน ทำไมนายใจร้ายกับเราจัง

ว่ะ”วินเดินเข้ามากอดผมไว้ผมรู้สึกได้ว่าเสียงมันสั่นๆ

“นายรู้ไม๊ว่า เราเหงาแค่ไหน เราเสียใจแค่ไหน แค่พี่นัทของ นายมานายก้อทิ้งเราแล้ว นายลืมเราไปเลยไม่คิดที่จะโทรหา เราสักนิด

คืนนั้นที่นายกับพี่นัทตรงระเบียง ภาพที่เราเห็นมันทำให้เราทั้งกลัว ทั้งเสียใจ เราก้อไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่เรากลัวว่านายจะทิ้งเราไปจริงๆ

มันไม่เหมือนทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน ตรงข้าม ครั้งนี้เราไม่ได้ทะเลาะกัน แต่มันรู้สึกได้ว่าเรากับนายคงต้องจากกันจริงๆ”

วินปล่อยผมจากอ้อมกอด ทันที่ที่ผมเห็นหน้าของวิน ผมก้อรู้เลยว่าวินเองคงจะเสียใจมากจริงๆสายตาของไอ้วินมัน ดูเจ็บปวดและตัดพ้อ ผมจนผมรู้สึกผิดและเสียใจ

“รู้ไม๊ ว่าเราขับรถตามนายมาตลอด เราคอยมองนายจากข้างหลังมาตลอดทาง แต่ก้อไม่เคยสักครั้งที่นายจะหันหลังกลับมามองเรา

กี่ครั้งที่เราต้องคอยไล่ตามนาย คราวที่แล้วนายก้อหลบหน้าเราเราก้อตามแต่นาย ทั้งๆที่นายสัญญาแล้วแท้ๆว่าจะอยู่ข้างๆเรา ทำไมล่ะ ทำไม?”

มันทำให้ผมยิ่งเสียใจมากขึ้นไปอีกที่เห็นหยดน้ำใสๆไหลออกมาจากตาคู่สวยของมัน นี่ผมทำอะไรอยู่ ผมมัวแต่เจ็บปวดกับเวลาที่ผ่านมา

ผมคิดแค่ว่าผมเสียมันไปแล้ว แต่จริงๆผมเองต่างหากที่วิ่งหนีมันมาตลอด ถึงผมจะไม่ได้อยู่ในหัวใจของมัน แต่ผมก้ออยู่ที่ข้างๆใจของมันมาตลอด

“เราขอโทษ เราไม่เคยลืมนายเลยนะวิน นายยังเป็นคนที่เราห่วงใยเสมอ ยังเป็นเพื่อนที่เรารักมากที่สุดดังวันวาน”

ผมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้กับวินเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนหน้าของมัน

“นายหายโกรธเราแล้วใช่ไม๊ เราขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเรานะ เราไม่ได้ตั้งใจ เรากำลังน้อยใจนายอยู่ แต่ทันที่ที่นายบอกลาเรา แล้วก้าวออกจากห้องเราเองก้อทนไม่ได้”

“ช่างมันเถอะถือว่าหายกันก้อแล้วกันเลิกน้อยใจเราได้แล้วนะ แล้วนี่นายจะกลับหรือว่าจะค้างที่นี่ล่ะ”

“นี่นายจะใจร้ายไล่คนเมาได้ลงคอเหรองั๊ย ทำมั๊ยชอบไล่เราจัง คืนนี้เราจะนอนที่นี่กับนายได้ยินยัง ต้องให้บอกอีกครั้งไม๊”

“แล้วพวกเพื่อนๆนายล่ะ จะทิ้งเค้าไว้แบบนั้นเหรอ นายเป็นเจ้าของห้องนะ” แล้วผมก้อเห็นวินมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครสักคนที่อยู่ที่ห้อง

“เรียบร้อยแล้ว งั้นคืนนี้เรานอนบนนี้กันได้มั๊ย”

“งั้นรอเราแป๊บนะ เดี๋ยวเราไปเอาผ้าห่มกับหมอนก่อน” แล้วผมก้อไปเอาที่นอนหมอนและผ้าห่มออกมา

ตอนแรกย่าจะไม่ยอมบอกว่าอากาศหนาวกลัวผมจะไม่สบาย แต่ผมก้อดื้อจนย่ายอมตามใจ

เรานอนคุยกันไปเรื่อยๆสักพักเราต่างก้อเงียบกันทั้งคู่ ผมเองนึกว่าวินมันคงหลับแล้วเลยคิดอะไรไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องของพี่นัท และของคนที่นอนอยู่ข้างๆผม

แล้วไอ้วินมันก้อหันมากอดผมจากข้างหลัง

“รอน...หลับยัง”

“ยัง...มีไรเหรอ”

“เออ...เราถามอะไรนายหน่อยได้ป่าว สัญญานะว่าจะไม่ปิดปังเรา และอย่าโกรธเราด้วย”

“ถามมาก่อนสิ”

“นายกับพี่นัท เออ...ยังงัยกันเหรอ” มันตะกุกตะกัก ถามผมไม่เต็มเสียงนัก

“พี่นัทเป็นรักครั้งแรกของเรา เค้าเป็นคนสอนเราดูดาว นายจำได้มั๊ยที่เราบอกว่าคนที่เราชอบเค้าสอนเราดูดาว แต่ตอนนั้นพี่นัทมีใครบางคนแล้ว

แต่ตอนนี้เค้ากลับมาพร้อมกับคำถามว่า เราจะคบกับเค้าได้หรือป่าว นายฟังแล้วจะรู้สึกกับเราเหมือนเดิมป่าว เราเองก้อไม่ได้บังคับนะ แต่นี่เราก้อไม่ได้ปิดปังนายแล้วนะ”

“แล้วนายตอบพี่นัทไปว่ายังงัย ถึงยังงัยนายกับพี่นัทก้อยังต้องเป็นพี่น้องกันอยู่ดี แล้วพ่อเค้ากับแม่นายจะไม่รู้สึกอะไรเหรองัย”

เสียงไอ้วินมันดูไม่พอใจนิดๆ แต่กลับกอดผมแน่นกว่าเดิม

“ งั้นนายบอกเราหน่อย ถ้าความรักครั้งแรกมันกลับมาเรียกหาเรา แล้วเราจะทำยังงั๊ยกับมันดีนะ”



คืนนั้นผมกับวิน เราหลับกันไปตอนไหนก้อไม่รู้ ตื่นเช้ามาก้อรีบกลับเพราะว่าวันนี้เราต้องกลับมาที่มหาลัย

ผมมีเรียนตอนบ่ายพร้อมพวกไอ้วินกับไอ้โอ๊ต ผมกลับมาถึงคอนโดก้อไปเรียกไอ้วินที่ห้องเพราะมันมาถึงก่อน

ผมขี่รถมอเตอร์ไซด์กลับมาเลยช้ากว่ามันที่ขับรถยนต์ สักพักไอ้วินมันก้อเดินมาเปิดประตูให้ผม แต่หน้าตามันดูซีเครียดมากๆ

“รอน...เดี๋ยวเราขอเวลาเคลียอะไรแป๊ปนะ เดี๋ยวค่อยไป ม.พร้อมกัน” เสียงมันก้อดูเครียดเหมือนหน้าตาของมันตอนนี้ มันทำให้ผมสงสัยจังว่าในห้องเกิดอะไรขึ้น

“มีอะไรป่าว ให้เราช่วยอะไรไม๊” ผมถามด้วยความห่วงใย แต่ก้อพยายามที่จะมองเข้าไปข้างในห้องเผื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

“ไม่มีอะไรมากหรอก เราขอเวลาเดี๋ยวเดียว ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย” แล้วมันก้อจะปิดประตู แต่ก้อมีคนเดินออกมาก่อน

“หวัดดีคับรอน...ยังจำผมได้ป่าวคับ เมื่อคืนขอโทษนะครับผมมึนไปหน่อย เลยทำตัวแย่ๆกับนายเลย”

เป็นเพื่อนวินที่ชื่อทีและยังมีอีก2-3คนก้อทยอยเดินออกมา และต่างก้อแยกย้ายกันกลับไปแต่ทีก้อยังไม่ไป ยังคงยืนอยู่ข้างๆผม

ผมได้มีเวลาที่จะมองทีอย่างถนัดตา ทีจัดเป็นชายหนุ่มที่หล่อมากคนนึง หน้าตาออกจะทะเล้นนิดๆ ตาโตและมีขนตาที่ยาวมากไม่แพ้ของผม ผิวขาวจนออกชมพูตัดผมสกินเฮด รับกับใบหน้า และทีเป็นคนที่หัวสวยมากๆ

ผมเห็นทียืนคุยกับไอ้วินหน้าเครียดๆก้ออดสงสัยไม่ได้พยายามที่จะแอบฟังแต้ดูเหมือนไอ้วินจะรู้ตัวเลยบอกให้ทีกลับไปก่อน

“รอน...ผมกลับแล้วนะครับ เจอกันที่มหาลัยทักผมบ้างนะครับ ผมเองถ้าเจอกับรอนก้อขออนุยาติเดินมาคุยด้วยนะครับ”

ทีพูดด้วยท่าทางที่เป็นกันเอง แววตาดูขี้เล่นแต่ก้อดูอ่อนโยน ทำให้ผมยิ้มตอบเค้ากลับไป คงเพราะเมื่อคืนคงเมาเลยทำอะไรแบบนั้นไป

“ว้าว...รอนนายยิ้มน่ารักจังยิ่งเห็นหน้าชัดๆสว่างๆแบบนี้ ยิ่งน่ารักกว่าเมื่อคืนตั้งหลายเท่า เราว่าเราคงจะชอบรอนจริงๆแล้วล่ะ

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”ทีพูดไปยิ้มไป แต่สายตาดูจริงจังในสิ่งที่ตัวเองพูด

“คงไม่ได้หรอกว่ะ เพราะรอนเค้ามีแฟนแล้ว มึงอย่ามาทำให้รอนเค้าเสียเด็ก กลับไปเลยมึง” ไอ้วินดูหงุดหงิดกว่าเดิม

“หวงก้างเชียวนะมึง เมื่อคืนยังยุให้กูอยู่เลย” ทีหันไปด่าไอ้วิน แต่ก้อหันมายิ้มให้กับผมอีกครั้ง

“ไปแล้วนะครับรอน แล้วเจอกัน” แล้วทีก้อเดินจะกลับออกไป แต่ตอนที่เดินผ่านผมเค้าก้อก้มลงมาหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่แฟนเอง ผมจะทำให้รอนเห็นว่าผมน่ารักกว่าแฟนของรอยเลยคอยดูนะ” แล้วเค้าก้อหัวเราะแล้วเดินเข้าลิฟท์ไป

ผมเองก้อยืนตกใจทำอะไรไม่ถูกจนไอ้วินหันมาตะคอกผม

“นายก้อเข้าห้องไปได้แล้ว จะยืนให้มันกลับมาหาหรืองัย อาบน้ำแล้วเตรียมตัวรอเราอยู่ในห้องล่ะ เราขอเวลาแป๊ปเดียว”

แล้วมันก้อเดินกลับเข้าไปในห้อง ผมเองก้อกำลังจะเดินกลับ แต่ก้อต้องหยุดลงเพราะได้ยินเสียงทะเลาะกันดังมาจากข้างในห้องของไอ้วิน

จริงสิเมื่อกี้มีผู้หญิงเดินออกมาแค่คนเดียว แต่เมื่อคืนผมเห็นมีสองคนนี่หว่า............................  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 06-08-2008 19:23:53
ตอนใหม่มาแล้ว เย่ๆ  :mc4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: moonoi_sert ที่ 07-08-2008 13:13:46
 :L1:เพียวรีบมาต่อเลย เสียงนั้นต้องเป็นเสียงผู้หญิงอีกคนแน่ ๆ เลย สงสัยวินจะไปบอกเลิกเพื่อมารักรอน :L1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 07-08-2008 18:30:36
วันนี้มาลงแล้วค๊าบ  ไปอ่านต่อกานเลยยยยย  :oni1:


ตอนที่.16
หลังจากที่ผมเข้ามาในห้องก้อนั่งเล่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนใกล้ได้เวลาที่ผมต้องไปมหาลัยเลยอาบน้ำแต่งตัว

เสร็จแล้วก้อรอไอ้วินเพราะมันบอกว่าให้ไปพร้อมกัน จนมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นไอ้วินโทรเข้ามา ห้องก้ออยู่แค่นี้มาเรียกซะก้อสิ้นเรื่อง ผมคิดในใจ

“ทำอะไรอยู่ อาบน้ำเสร็จแล้วเนี้ย แล้วทำไมต้องโทรว่ะ เดินมามันจะตายหรืองัย”ผมบ่นมัน

“ขอโทษนะรอน นายไปก่อนเลยนะไม่ต้องรอ ฝากบอกไอ้โอ๊ตด้วยว่าเราไม่เข้าแล้วกันวันนี้” เสียงมันดูเครียด

“วิน มีอะไรหรือป่าว นายมาหาเราที่ห้องก่อนนะ หรือว่าจะให้เราเดินไปหา”

“เฮ้ย...ไม่ต้อง เอออเดี๋ยวเราเดินไปหา” แล้วสักพักไอ้วินก้อเดินมาหา

“มีอะไรป่าว ทำไมไม่เล่าให้ฟังบ้าง ไม่ไว้ใจเราแล้วเหรอ”

“ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากนะ”

“วิน ทีเรามีอะไร เรายังบอกนายเลยน่ะ แม้แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดของเรา

ทั้งๆที่เรากลัวว่านายจะมองเราด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิม แต่เราก้อยังกล้าที่จะยอมเล่าให้นายฟัง”

“เราอาจจะมองนายด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิมแล้วก้อได้” สายตาของวินมันดูแปลกๆ แต่ก้อทำให้ผมรู้สึกร้อนๆหนาวๆเหมือนกัน หรือว่ามันจะรับไม่ได้

“ถ้านายไม่สนิทใจที่เราจะต้องมาสนิทกันเหมือนเดิมก้อไม่เป็นไร ยังงัยเราก้อยังเป็นเพื่อนกันได้น่า

อีกอย่าง ปี.3 พวกเราก้อต้องแยกตามสาขาเราอย่างชัดเจนแล้ว คงไม่ค่อยได้เรียนตัวเดียวกันเท่าไหร่”

แต่ไอ้วินกลับเดินเข้ามาแล้วดึงผมเข้าไปกอด

“แบบนี้ยังจะว่าเราไม่สนิทใจอีกหรือป่าว ที่เราคุยกันคืนนั้นมันไม่ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นอีกเหรอ เพื่อนที่เรารักมากที่สุดจะมีแค่นายคนเดียว”

เราต่างมองตากันและกัน เหมือนจะสื่อสารให้อีกฝ่ายได้รับรู่ว่า ต่างฝ่ายต่างเป็นคนสำคัญของตนเองมากแค่ไหน

“ถ้างั้นเล่าให้เราฟังได้มั๊ยว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา ดีกว่าให้มันเลวร้ายกว่าเดิมนะ”ไอ้วินมันมองผมนิดหน่อยแล้วก้อเล่าให้ผมฟัง

“ช่วงที่นายหายไปกับพี่นัท ลินเองก้อกลับลงไปบ้านที่กรุงเทพ เราเหงาๆแต่ก้อไม่อยากกลับบ้านเพราะกลับไปก้ออยู่คนเดียวเหมือนทุกที

เลยออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วมันก้อแนะนำให้เรารู้จักกับ เมี่ยง คนที่นายเข้ามาเจอเค้ากับเรานอนอยู่บนเตียงด้วยกันเมื่อคืนนะ

เค้าเรียนการโรงแรมอยู่วิทยาลัยxxx เค้าก้อดูเป็นคนสนุกๆไม่คิดอะไรมากก้อเลยสนิทกัน” มันหันมามองผมทำหน้าแบบรู้สึกผิด ผมก้อพยักหน้าเป็นเชิงว่าให้เล่าต่อ

“แต่เพื่อนเค้าอีกคนดันเอาโทรศัพท์ถ่ายไว้ แล้วเค้าอยากให้เรารับผิดชอบ เราพยายามบอกว่ามันเป็นเพราะพวกเราเองก้อสนุกและก้อมึนๆด้วย

และอีกอย่างเรามีแฟนแล้ว แต่เค้าก้อไม่ยอมบอกว่าเค้าชอบเรา ยังงัยเค้าก้อจะเป็นแฟนเราให้ได้ แถมยังให้พาไปหาน้องลินด้วย เค้าบอกว่าจะไปคุยให้”

“แล้วนายกับ เมี่ยงมีอะไรกันแบบนั้นกี่ครั้ง” ผมหันไปถามไอ้วิน แต่มันทำหน้าตกใจที่ผมถามตรงๆ

“ยังไม่ถึงขั้นนั้นว่ะ แค่ภายนอกเอง กอดจูบลูบคลำ”

“ถ้าอย่างนั้นก้อไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะมันก้อเป็นความยินยอมทั้งสองฝ่าย”

“ไม่แบบนั้นซิ เพื่อนเค้าถ่ายแต่ตอนที่ เมี่ยงแกล้งทำเขินอายบ้าง ขัดขืนบ้าง แต่ตอนที่เค้ารุกเราไม่ได้ถ่ายเลย”

ผมคิดหนัก แล้วเสียงกดออด ก้อดัง เลยเดินไปเปิดประตู คนที่กดออดเป็นผู้หญิง ผมเองก้อไม่คุ้นหน้าเท่าไหร่ เพราะเมื่อคืนก้อไม่ได้มองมากนัก

แถมมันมืดๆด้วย แต่เค้าก้อจัดว่าเป็นคนน่ารักคนนึง คงเพราะผิวขาวแบบสาวเหนือด้วยมั๊ง

“พี่วิน อยู่นี่ป่าว บอกเค้าด้วยว่าหนูจะกลับแล้ว เดี๋ยวตอนค่ำๆจะแวะมาหา” แล้วเค้าก้อเดินกลับไป หลังจากนั้นพวกเราก้อไปมหาลัยกัน

เราแยกกันไปเรียนแต่นัดกันว่าตอนเย็นจะไปหาอะไรกินกันก่อน แล้วค่อยมาปรึกษากันต่อ

วันนั้นผมเองก้อคิดมากทั้งวันสงสารไอ้วิน กับน้องลินเหมือนกัน และที่สุด สงสารตัวเอง แล้วโทรศัพท์ผมก้อดัง เป็นไอ้โอ๊ตโทรมา

“ว่างัยว่ะ หายหัวไปเลยเอง เย็นนี้ไปเดินกาดกันนะ ไอ้วินมันชวน เห็นมันบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา”

“เออ...แล้วเอางั๊ย ไปเจอกันที่กาดเลยหรือว่าจะไปพร้อมกัน”ผมถามมัน

“เดี่ยวเรากับไอ้วินแล้วก้อไอ้ป๋อมตามไป รอนไปรับน้องลินแล้วกัน” ผมแปลกใจนิดหน่อยทำไมให้น้องลินรู้ด้วย กลัวว่าจะเสียใจ

แต่ก้อดีเหมือนกันให้รู้จากพวกเราดีกว่าให้รู้จากคนอื่น หลังจากนั้นตอนเย็นพวกเราก้อมาเจอกันที่ร้านไก่ทอดชื่อดังที่ กาดสวนแก้ว

“แล้วจะทำยังงัยล่ะค่ะพี่วิน” น้องลินตกใจนิดหน่อยที่รู้แต่ก้อไม่ได้ว่าอะไรไอ้วินมากมาย”

“พี่คงต้องพยายามพูดดีๆกับเค้าแหละ เพราะเค้าขู่ว่าจะเอาภาพไปให้พ่อแม่ดู แล้วเค้าเองก้อยังแค่ 17 เอง พรากผู้เยาว์แน่ๆเลยคราวนี้” ไอ้วินดูเครียด

“แล้วที่มึงบอกว่ามีแฟนแล้วนี่เค้าว่ายังงัยว่ะ” ไอ้ป๋อมถามไอ้วิน

“เค้าก้อบอกว่าจะมาคุยกับลินให้ แต่ถ้าลินไม่ยอมเค้าก้อไม่ยอมเหมือนกัน เค้าเด็กพื้นที่ เพื่อนก้อเยอะ เลยกลัวน้องลินจะมีอันตราย”

“แล้วเค้ารู้มั๊ยว่าแฟนมึงเป็นใคร หน้าตายังงัย” ไอ้ป๋อมถามต่อ

“ไม่รู้ กูแค่บอกว่ามีแฟนแล้วแต่ไม่ได้บอกรายละเอียด”

“งั้นเราก้ออย่าบอกว่าเป็นน้องลินแล้วกัน”โอ๊ตบอก

“แล้วเราจะให้บอกว่าใครดีล่ะค่ะ” น้องลินถามบ้าง

“เราก้อพอมีเพื่อนผู้หญิงที่แรงๆอยู่นะ เด็กพื้นที่เจอเด็กพื้นที่ค่อยสมน้ำสมเนื้อหน่อย”

โอ๊ตบอกกับพวกเรา โอ๊ตเองก้อเป็นเด็กเชียงใหม่ แต่ยังไม่ทันจะคุยอะไรกัน น้องลินก้อโดนกระชากจากคนที่อยู่ข้างหลัง

“คนนี้เหรอแฟนพี่วิน แล้วที่บอกว่ามีธุระยังไม่กลับห้องเพราะมาหากันนี่เอง” เมี่ยงจ้องน้องลินไม่วางตา ดูน้องลินเองก้อกลัวๆเหมือนกัน

“ขอโทษครับน้อง ช่วยปล่อยแฟนพี่ด้วยครับ”ทุกคนตกใจที่โอ๊ตพูดแบบนั้บออกมา แล้วเข้ามาดึงมือน้องลินออกจากมือของเมี่ยง เมี่ยงเองก้อดูเอ๋อๆไปเหมือนกัน

“ขอโทษค่ะ นึกว่าเป็นแฟนของพี่วิน แล้วนี่แฟนของพี่วินเค้าไม่มาเหรอค่ะ”ทุกคนเงียบกันหมดมองกันไปมองกันมา

“ทำไมค่ะ พอพูดถึงแฟนของพี่วินนี่อึ้งกันหมด ที่ไม่มาเพราะยังไม่มีใช่มั๊ยค่ะ”

“ป่าวครับ แฟนไอ้วินมันก้อมาครับ นั่งอยู่นี่ด้วย” ทุกคนหันไปมองไอ้ป๋อมกันป็นตาเดียว

“แล้วไหนล่ะค่ะ เมียงอยากคุยกับเค้าเหมือนกันอยากจะตกลงอะไรหน่อย”

“ก้อไอ้ รอนงัยครับ แฟนไอ้วินมัน เมี่ยงไม่รู้เหรอ นี่ขนาดไอ้วินมันย้ายห้องไปเฝ้าแฟนมันเลยน่ะ สงสัยจะหวง แต่ก้อน่าหรอกนะ

ไอ้รอนมันน่ารักจะตาย เมี่ยงว่ามั๊ยล่ะ จะบอกว่าหล่อก้อได้ น่ารักก้อใช่” ทุกคนเงียบกันอีกครั้ง

“ไม่จริงหรอกอย่ามาอำกันหน่อยเลย อย่านึกว่าทำแบบนี้แล้วเรื่องมันจะจบนะพี่วิน” แล้วเมี่ยงก้อเดินไปกับกลุ่มของเพื่อนๆเค้า

“ไอ้ป๋อม เอ็งทำบ้าอะไรว่ะ พูดไปได้งัยว่าเรากับวินเป็นแฟนกัน”ผมโวยไอ้ป๋อมทันที

“ไม่รู้ว่ะ เหตุการ์ณพาไป อีกอย่างแบบนี้ก้อดีแล้วไอ้รอนมันก้อผู้ชายไม่ต้องเป็นห่วงกันมากหรอก

ยายเมี่ยงเองก้ออาจจะช็อคไปเลยที่รู้ว่าต้องมาแย่งผู้ชายกับผู้ชายด้วยกัน ดีไม่ดีอาจจะอายไม่กล้าบอกใครด้วยก้อได้นะ

แล้วไอ้วินกับไอ้รอนมันก้อสนิทกันดี จนเพื่อนๆยังเคยแซวเลยว่ามันเป็นแฟนกัน”

“ลินก้อว่าดีนะค่ะ เมี่ยงเค้าอาจจะรับไม่ได้ เผลอๆอาจจะเลิกไปเองก้อได้ใครจะรู้ พี่รอนเองก้อน่ารักจริงๆแหละ

แต่คงต้องไปบอกเพื่อนๆที่คณะก่อนที่สาวๆเค้าจะอกหัก แล้วพวกผู้ชายจะมีความหวังกับพี่รอน” ผมทำหน้าแปลกใจ

“พี่รอนไม่รู้อะไร สาวๆที่คณะเค้าพูดถึงพี่รอนกันทุกคน เค้าบอกว่าดูเงียบๆ ลึกลับดี แต่ก้ออ่อนโยนและอัธยาศัยน่ารักกับน้องๆ

ส่วนพวกพู้ชายบางคนก้อบอกว่าพี่รอนน่ารัก เวลายิ้มทีแบบว่าดูสดใสน่ารัก หลายคนอยากให้ลินแนะนำให้พวกเค้ารู้จักกับพี่รอนตั้งหลายคน”

“จริงว่ะ มึงรู้มั๊ยไอ้วิน พวกผู้ชายคณะเราเค้าอิจฉามึงกันทุกคน แฟนมึงก้อน่ารัก ในบรรดาน้องปีหนึ่ง น้องลินเค้าก้อดังนะโว้ย

แถมเพื่อนสนิทมึงยังฮอตในกลุ่มผู้ชายด้วยกันอีกนะเว้ย ไอ้รอนนี่แม่งโชคดีว่ะ มีคนชอบมันทุกเพศเลยจริงให้ตาย คนน่ารักแม่งได้เปรียบ”

ทุกคนขำๆ มีแต่ผมกับไอ้วินที่ทำหน้าไม่ค่อยถูก

“แต่มันจะดีหรือว่ะ ยังไม่ได้ถามไอ้รอนเลย” ดูเหมือนโอ๊ตจะห่วงผม เพราะคงรู้ว่าผมเองคิดยังงัยกับไอ้วิน

“ทำมัยว่ะ เพื่อนกันก้อต้องช่วยกันสิว่ะ ไอ้รอนยังไม่พูดอะไรเลย ทำมัยนายต้องออกรับด้วยว่ะ” ไอ้วินมันถามโอ๊ต แต่เสียงดูเหมือนไม่พอใจ

“เอ่าน่าอย่าทะเลาะกันเลย เราไม่รู้สึกอะไรหรอกถือซะว่าช่วยกัน”ผมพยายามห้ามปากที่แสนจะหมาของไอ้วินกับโอ๊ต

“ถ้างั้นก้อตามนี้ งั้นพวกเรากลับเถอะ โอ๊ตเดี๋ยวช่วงนี้เอารถเราไปใช้ละกัน เอาไว้รับส่งน้องลินด้วย ช่วงนี้เราคงต้องห่างๆกันหน่อยนะคะน้องลิน”

ไอ้วินหันไปบอกไอ้โอ๊ตกับน้องลิน

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอาไวเจอกันที่มหาลัยก้อได้ พี่รอนค่ะฝากดูพี่วินด้วยนะค่ะ ลินให้สิทเต็มที่”

ทุกคนขำกับคำพูดของน้องลิน ก่อนกลับไอ้โอ๊ตดึงผมแยกออกมาคุยกันแค่สองคน

“รอน..นายไม่เป็นอะไรแน่นะ เรากลัวว่าสิ่งเหล่านี้มันะย้อนมาทำให้นายเจ็บปวดตอนหลังว่ะ”โอ๊ตก้อยังคงเป็นห่วงผมเสมอ

“ไม่เป็นไร ยังงัยตอนนี้มันก้อเจ็บอยู่แล้วนี่ ขอให้เราจำช่วงเวลาที่เรากับไอ้วินคบกันแบบนี้ไว้เป็นความทรงจำหน่อยแล้วกัน

เมื่อถึงวันนั้น เราจะส่งไอ้วินมันคืนให้เจ้าของตัวจริง เราสัญญา ไม่ว่าตอนนั้นความรู้สึกเหล่านี้จะทำร้ายเราแค่ไหน”

โอ๊ตมองหน้าผมแล้วก้อไม่ได้ว่าอะไร เราเดินกลับออกมาไอ้วินก้อนั่งหน้าเป็นยักษ์อยู่บนรถของผม ส่วนโอ๊ตก้อต้องเอารถไอ้วินไปใช้เพราะขัดไอ้วินไม่ได้

“คุยอะไรกันนานจัง ให้แฟนตัวเองรอแบบนี้มันสมควรเหรอห๊ะ” ไอ้วินบ่นผมเบาๆ

“ป่าว...ก้อแค่ปรึกษากันนิดหน่อย แล้วนี่ใครจะขี่กลับห้องล่ะ”

“นายแล้วกัน เราอยากนั่งกอดแฟนตัวเองมากกว่า นะคับที่รัก” มันทำตากรุ้มกริ่มให้ผม

“เกินไปล่ะ ไม่ต้องสมบทบาทนักก้อได้ เมี่ยงเค้าก้อไม่อยู่” ผมบนมันเบาๆ แล้วหันหน้าเตรียมจะขี่รถกลับ

“ไม่ได้หรอกเพื่อนๆของเมี่ยงเยอะจะตาย” ตอนนี้มันเอามือมากอดเอวผมแล้ว และเอาหน้ามากระซิบหลังใบหูของผมเบาๆ

“ เราเองก้ออยากทำแบบนี้ด้วย ดีใจจังเลยที่ได้หนุ่มออตมาเป็นแฟน ไอ้พวกนั้นมันจะได้เลิกมองนายซะที

คนอะไรว่ะ มีทั้งผู้ชายผู้หญิงมาแย่งกันจะจีบ ไม่ได้แล้วคงต้องให้อยู่ในสายตาตลอดแล้วมั๊งเนี้ย”

ผมเองก้อเขินๆแต่ไม่กล้าจะหันไปมองมันเพราะตอนนี้หน้าของผมคงแดงสุดๆ

“ คืนนี้ เราจะนอนกอดแฟนตัวเอง เตรียมตัวให้ดีล่ะ ฮ่าๆๆ มีความสุขจัง” ไอ้วินพูดพร้อมกระชับแขนให้กอดผมได้แน่นยิ่งขึ้น

อากาศช่วงเดือนมกราคมของทุกๆปีมันจะหนาวมาก แต่ทำมัยวันนี้ผมกลับรู้สึกอุ่นกว่าทุกวัน แสงไฟของเมืองเชียงใหม่ตอยเย็นๆใกล้ค่ำทำมั๊ยถึงสวยงามขนาดนี้ก้อไม่รู้ ........

เรากลับมาถึงห้องไอ้วินมันก้อเดินเข้าไปในห้องของมันผมเองก้อนึกว่ามันคงจะนอนที่ห้องของมัน แต่สักพักมันก้อเดินมาหาผมที่ห้อง

“เอาจิงป่ะเนี้ย จะมานอนห้องเราเหรอ”

“จิงดิ เผื่อตอนเช้า ยัยเมี่ยงมาแต่เช้าจะได้เห็นว่าเรามานอนกับนายงัย ทำมั๊ยล่ะก้อนอนด้วยกันออกบ่อย”

“ป่าว ก้อแค่ถาม จะมานอนก้อมาดิไม่ได้ว่าซะหน่อย” เราเข้ามาในห้องก้อนั่งเล่นกันไปเรื่อยๆไอ้วินเล่นเกมส์อยู่ผมเลยเดินออกมายืนคิดอะไรเล่นๆ

ผมถามตัวเองว่าแน่ใจแล้วแน่นะที่จะทำแบบนี้ เมื่อถึงวันที่ความสัมพันจอมปลอมต้องจบลงผมจะเจ็บสักแค่ไหนกัน

แต่ในเมื่อวันนี้มันก้อยังคงต้องเจ็บ ต้องเศร้าอยู่ มันก้อคงไม่ต่างกันอยู่ดี

“คิดอะไรอยู่เหรอ” วินเดินมากอดผมจากข้างหลัง ผมตกใจที่มันเข้ามาแบบเงียบ

“ทำไร? ไม่ต้องอินขนาดนี้ก้อได้ พอดีเดี๋ยวเราก็รักนายเข้าจริงๆกันพอดี” ผมแกล้งแหย่ไอ้วินมัน

“ถ้าจะรักก้อรักเถอะนะ อย่าห้ามความรู้สึกตัวเอง รอนนายเห็นสวนหย่อมที่อยู่ข่างล่างป่าว รู้มั๊ยวันนั้นเรานั่งเล่นอยู่ข้างล่าง แล้วเราก้อเห็นนายในคืนนั้น

เราอยากจะเป็นคนที่ทำแบบนั้นกับนายแทนเราก้อบอกไม่ถูกว่ามันเพราะอะไร แต่เรารู้สึกโกรธพี่นัทของนายที่มาใกล้นายได้ขนาดนั้น

เพราะเราอิจฉา หรือเปล่าเราก้อไม่รู้ ถ้ามันเป็นแค่อิจฉาเพราะเราสนิทกับนายกว่าเพื่อนคนอื่นๆก้อดี แต่ถ้ามันไม่ใช่แค่ความอิจฉา แต่มันมากกว่านั้นล่ะ

ถ้ามันเป็นเพราะเรารักนายล่ะ เราเองจะเจ็บแค่ไหน เราไม่รู้ว่านายคิดแบบไหนกับเรา แต่ถ้าทั้งเราและนายต่างก้อรักกัน แล้วจะมีใครบ้างต้องเจ็บเพราะพวกเรา

ไหนจะน้องลิน พี่นัท แล้วคนรอบข้างที่รักและหวังดีกับเราอีกล่ะ” วินหยุดพูดไปเฉยๆ

“วิน แล้วตอนนี้นายแน่ใจหรือยังว่ามันเป็นเพราะอะไร”ผมเลื่อนมือมากุมมือของวินที่ประสานกันอยู่บริเวณเอวของผม

“เราเองก้อยังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้เรามีความสุขที่สุดที่ได้อยู่ใกล้นาย มีนายอยู่ในอ้อมกอดตอนนี้

แล้วนายล่ะเคยคิดจะรักเราแบบพี่นัทสักครั้งบ้างหรือป่าว รอน นายเคยคิดบ้างไม๊”

“ไม่รู้สิ คงเพราะเราสนิทกันมากมั๊ง เลยไม่ทันได้ถามตัวเองว่าเรารู้สึกแบบไหน”

ผมโกหกไอ้วินไป ผมไม่อยากที่จะให้มันต้องลำบากใจถ้าวันนึงมันรู้ตัวว่าเป็นแค่ความอ่อนไหวของอารมณ์ หรือเพราะความใกล้ชิดของเราทั้งสองคน

เราขอเก็บมันเอาไว้ก่อนเถอะวิน ไว้ถึงวันที่เราเข้มแข็งกันมากกว่านี้ ขอโทษนะวินที่ต้องโกหกนาย ผมได้แต่บอกมันในใจ

“ทั้งเราและนายต่างก้อไม่รู้ใจตัวเอง ถ้างั้นเราอยากจะให้ช่วงเวลาเหล่านี้เราอย่าฝืนความรู้สึกกันเลยนะรอน เราไม่อยากเสียใจไปตลอดชีวิต

ถ้าเกิดรู้ใจตัวเองสายไป นะทำในสิ่งที่เราต้องการเถอะนะ”วินเอามือล้วงไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบางอย่างออกมา

ตอนนี้ผมหัมหน้ามาหาวิน เรามองตากันและกัน สายตาของไอ้วินมันวูบไหว เป็นประกายซะจนทำให้ผมสั่นไหว

แล้ววินก้อเอาแหวนวงเดิมที่ผมเคยใส่ไว้ที่คอมาตลอดมาสวมที่มือของผม วินสวมไว้ที่นิ้วนางข้างขวา ข้างที่ผมเคยสวมไว้

“เราหวังว่าวันเวลาเหล่านี้ จะเป็นความทรงจำที่สวยงามสำหรับเราทั้งคู่นะวิน อย่าให้มันต้องมาทำร้ายเราเลยนะ” ผมพูดและยิ้มให้กับวิน

“ถ้าวันไหนที่เราต่างรู้ใจของเราแล้วค่อยให้มันไปอยู่บนนิ้วที่สมควรอยู่ก้อแล้วกัน แต่ตอนนี้ให้มันอยู่ที่เดิมไปก่อนน่ะ” ผมเองก้ออดที่จะตื้นตันใจไม่ได้

“รอนเราจูบนายได้ไม๊”

“หวังว่ามันคงไม่ทำให้เรารู้สึกแย่นะ” ผมยิ้มๆ

“ไม่หรอกน่า สัญญา” แล้ววินก้อก้มลงมาประกบกับปากผมแต่ก้อแค่นั้น เราไม่ได้จูบกันแบบดูดดื่ม แต่ก้อเป็นจูบที่ผมประทับใจอยู่ดี

วินเองก้อดูเกร็งๆ แล้วมันก้อเอาปากออกไป

“เป็นงัยบ้าง???????? เออ...นายพูดอะไรบ้างสิ” ผมเองก้ออายเลยแกล้งพูดแก้เขินออกไปเล่นๆ

“เนี้ยเหรอจูบ พี่นัทยังเก่งกว่าอีก” ไม่ได้หมายความแบบนั้นแต่ไม่รู้จะพูดอะไร แล้ววินก้อก้มลงมาใหม่

แต่คราวนี้มันไม่ใช่แบบเดิมอีกแล้ว จูบที่รุนแรงและวาบหวามกว่าเดิมหลายเท่านักที่วินมอบให้ ลิ้นของเราเกี่ยวพันกันเนิ่นนาน

นานเท่าไหร่ผมเองก้อจำไม่ได้ แต่ถ้าจูบของพี่นัทนั้นแสนอ่อนโยน จูบของวินก้อแสนจะเร่าร้อนตื่นเต้นไม่แพ้กัน...................................................  

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Sho_Wa ที่ 07-08-2008 21:15:02
เคยอ่านเรื่องนี้ที่อีกบอร์ดนึง แล้ว ชอบมาก เพราะคุณพีรนีเปียร์ แต่งได้ดีมาก ๆ (แว่วมาว่าชอบ ไปนั่งแต่งที่ร้านกาแฟ)

ยังไงก็ขอบคุณ คนโพส และ คุณพีร ด้วยนะครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพีรทำอะไรอยู่อยากให้กลับมาแต่งเรื่องใหม่อีกอ่ะ

ขอบคุณครับ

โย
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 07-08-2008 21:45:28
วิ่งเข้าหาความรักที่มันมาคับความผิดหวัง ........มันเป็นเรื่องที่่น่าเศร้าน่ะ
รู้ทั้งรู้ว่าข้างหน้ามันมีแต่ความทุกข์ แต่ก็ยังไขว่คว้า หวังแค่ว่าความสุขที่ได้รับมาเพียงน้อยนิดมันคุ้ม......(หรือเปล่า)
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 07-08-2008 22:51:06
 :m4: :m4: อิจฉาเจ้ารอนจิง ๆ เชียว

จะเป็นไงต่อไปน๊า......
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 08-08-2008 00:02:38

.........หวังว่าจะไม่เก็บมันไว้จนสายกินไป...
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Gussohigh ที่ 08-08-2008 13:59:45
5555+ เป็นอันไม่ได้อ่านหนังสือสอบ

มานั่งอ่าน นิยายแทน อิอิ

อารมณ์ดีกว่าอ่านหนังสือเยอะ อิอิ

มาต่ออีกน้าคร้าบบบ

เป็นกำลังใจค้าบ  สู้ๆ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 08-08-2008 14:27:54
 :เฮ้อ: แฟนคลับมารายงานตัว
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 08-08-2008 18:07:14
ตอบแค่นี้ก่อนนะคับ  ไม่ใช่คนแต่งด้วย  :laugh:

Sho_Wa - ตอนนี้เห็นพี่พีบอกว่าแต่งเก็บไว้หลายเรื่องอยู่  แต่ยังไม่ลง   :m14:
marchmenlo - อืม เศร้าใจคับ
zandwizz - อิจฉาด้วยคนค๊าบ
][GobGab][ - ดีใจ  พี่ถุงมาอ่านเรื่องที่เพียวโพสต์ด้วย  :o8:
Gussohigh - คับเหมือนเพียวอ่าคับ ไม่ยอมอ่านหนังสือสอบ  มัวแต่อ่านนิยาย  แต่อ่านบ้างก็ดีคับ :a2:
PakBeob - แฟนคลับใครคับ  แฟนคลับเพียวหรือป่าว  :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 08-08-2008 18:08:50
ตอนที่.17

หลังจากวันนั้นมาไอ้วินก้อเริ่มจะทำตัวติดผมตลอด แม้ผมจะบอกมันว่าอยู่ในมหาลัยไม่ต้องก้อได้มันก้อไม่ฟัง
ไอ้วินมันมักจะอ้างว่ามันไม่สนิทกับใคร ช่วงนี้โอ๊ตเองก้อต้องคอยรับส่งน้องลินแทนไอ้วินตลอด ผมเองก้อไม่ได้ว่าอะไรมากมายแต่ในใจลึกๆก้อรู้สึกดีที่มีมันมาอยู่ข้างๆ

เพื่อนๆที่สนิทในคณะของไอ้วิน กับคณะของผม ก้อพอจะรู้บ้างว่าเพราะอะไร แม้ช่วงแรกๆจะมองกันแปลกๆบ้าง แต่ไม่นานก้อพอจะรู้อะไรเป็นอะไร

เพราะไอ้ป๋อมทำหน้าที่ป่าวประกาศให้ทุกคนหายสงสัย คงเพราะผมบ่นกับมันบ่อยๆว่าเพราะปากของมันทำให้ผมต้องเจอกับสายตาแปลกๆของเพื่อนๆ

ไหนจะสายตาไม่เป็นมิตรจากเด็กคณะเภสัชอีกทำเหมือนว่าผมไปแย่งไอ้วินมาจากน้องลิน แต่น้องลินก้อช่วยอธิบายให้พวกเพื่อนๆเข้าใจ

เลยเป็นว่าตอนนี้ไอ้วินกลายเป็นแฟนกับผมไปในสายตาของเพื่อนๆ แถมพวกมันยังช่วยแสดงละครตอนที่ น้องเมี่ยงกับพวกเพื่อนๆมาหาไอ้วินที่มหาลัยด้วย

ทำให้เมี่ยงเองเริ่มที่จะเชื่อบ้างแล้วว่าผมกับไอ้วินเราเป็นแฟนกันจริงๆ แต่น้องเค้าก้อยังไม่ละความพยายาม

บางที่ก้อไปดักรอพวกเราที่คอนโดบ้าง และทุกครั้งที่ไป ก้อต้องเจอกับที ตลอด

แต่ทีเองก้อดูสุภาพกับผมมาก แม้บางครั้งจะถึงเนื้อถึงตัวบ้างก้อตามแต่ก้อดูเป็นการหยอกล้อกันมากกว่า

และในอาทิตย์นี้พวกเราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวน้ำตกห้วยแก้วกันเพราะช่วงนี้เราทำโปรเจ็คส่งอาจารย์ เรียบร้อยแล้ว แล้วก้อใกล้จะสอบเต็มที่

หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกันเลยตั้งใจว่าจะไปพักผ่อนสมองกันเสียหน่อย ก่อนจะกลับมาโหมอ่านหนังสือทบทวนกันอย่างจริงจัง

คราวนี้เราไปกันหลายคน ทั้งเพื่อนของผมและของน้องลิน

“รอน...เย็นนี้ไปซื้อของด้วยกันนะ”โอ๊ตกับน้องลินชวนผมไปซื้อของที่เราจะเอาไปพรุ่งนี้ส่วนใหญ่ก้อหนีไม่พ้น เสบียง และกับแกล้ม

“เออ...ไปสิ แล้วไอ้วินมันไปด้วยป่าว” ผมถามกับโอ๊ต

“ป่าว...มันติดงานที่คณะนิดหน่อย กว่าจะเสร็จคงจะเย็นว่ะ” ผมเลยเอากุญแจรถของผมไปให้ไอ้วินบนตึกในคณะ ตอนที่จะถึงห้องที่วินทำงานกับเพื่อนๆก้อได้ยินเสียงคุยกันเสียงดัง

แต่พอเข้าไปใกล้บทสนทนาทำให้ผมต้องหยุดฟัง

“ไอ้วิน ระวังมึงจะชอบไอ้รอนจริงๆนะโว้ย แหม สวีทกันจังนะมึง”

“อ้าว...ไอ้ห่านี่ปากหมาละมึง........ทำมัยมึงคิดแบบนั้นวะ”

“ก้อดูหน้ามึงดิ ทีตอนอยู่กับน้องลินไม่เห็นทำหน้าแบบนี้ว่ะ แม่งหน้าบานทุกวันเลยนะช่วงนี้”

“แล้วถ้ากูจะชอบไอ้รอนจริงๆพวกมึงจะทำมัยว่ะ จะเลิกคบกับพวกกูป่าวล่ะ”

“ป่าวหรอก...แต่กูสงสารน้องลินว่ะ เค้าก้อไม่ได้ผิดอะไรนะโว้ย อีกอย่างมึงไม่อายเค้าบ้างเหรอว่ะกูก้อแค่เป็นห่วงมึง”

“เออ...กูขอบใจนะที่มึงเป็นห่วงกู แต่กูก้อแค่ต้องเป็นแฟนกับไอ้รอนแค่ช่วงนึงเท่านั้นแหละ เอาให้เรื่องราวมันเรียบร้อยก่อนกูค่อยกลับไปชดเชยให้น้องลินเค้าแล้วกัน”

แม้ว่าจะรู้ตัวเองดี และ แม้จะย้ำกับตัวเองเสมอมาว่า ว่าสักวันนึงมันก้อต้องจบลงแต่เพราะความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นในหลายๆวันที่ผ่านมาทำให้หลงลืมไป

กว่าจะข่มความรู้สึกได้ก้อใช้เวลาอยู่สักพัก ห้ามน้ำตาไม้ให้มันเออล้นออกมา แค่เวลาไม่นานผมกลายเป็นเด็กขี้แยแบบที่พี่นัทว่าซะแล้ว

ผมกำลังจะเดินเข้าไปในห้อง แต่ก้อช้ากว่าเพราะคนในห้องเดินออกมาที่ประตูก่อน มันทำให้หน้าตาของคนที่เพิ่งเดินออกมาตกใจอยู่เหมือนกัน

“อ้าว...รอน ไหนไอ้โอ๊ตว่าจะไปซื้อของด้วยกัน” ไอ้วินทักผมหลังจากหายตกใจ สังเกตจากสีหน้า

“อือม์...เราเอากุญแจรถมาให้น่ะ เดี๋ยวขากลับให้โอ๊ตไปส่ง วินเอารถเรากลับก้อแล้วกัน”ผมยื่นกุญแจให้วินแล้วหันหลังจะกลับลงไปหาโอ๊ต

“เดี๋ยวก่อน เป็นอะไรทำมัยตาแดงๆ มานานแล้วเหรอ”วินดึงมือผมเอาไว้

“ป่าว แค่ง่วงๆนะ เราไปก่อนนะเดี๋ยวไอ้โอ๊ตรอนาน” ผมยิ้มให้ไอ้วินไม่รู้ว่ามันเป็นยิ้มแบบไหนเหมือนกัน แต่มันทำให้ไอ้วินดึงผมเข้าไปกอด

รอน...นายเชื่อเรานะ เราขอร้องเชื่อแค่เรานะ”ผมดันตัวออก พยายามยิ้มให้แบบปกติที่สุด

“ไอ้บ้าวินเอ้ย....เป็นไรเนี้ยไม่อายเพื่อนบ้างเหรองัย ไอ้บ้า” ผมแกล้งพูดแบบโกรธๆแต่ก้อยิ้มให้มัน

แล้วผมก้อเดินลงมา เย็นนั้นผมเดินซื้อของแบบเหงาๆยังงัยบอกไม่ถูกโอ๊ตคงจะสังเกตุเห็นเลยเข้ามาถาม

“ไหวป่าวว่ะรอนถ้ามันไม่ไหวก้อพอเถอะ เจ็บปวดป่าวๆ”ผมยิ้มให้โอ๊ต

“ป่าวเราสบายดี...แต่พอดีมีเรื่องคิดมากเรื่องงานที่คณะนิดหน่อย” โอ๊ตทำหน้าไม่เชื่อแต่ก้อไม่พูดอะไรมากเราเดินซื้อของจนเย็น

โอ๊ตจะไปส่งผมแต่ผมบอกให้กลับกันไปก่อนยังอยากเดินเล่นสักพัก ตอนแรกไอ้โอ๊ตกับน้องลินไม่ยอมจะอยู่ป็นเพื่อน แต่ก้อขัดใจผมไม่ได้

ผมเดินเล่นสักพักก้อกลับคอนโด ทันทีที่ผมถึงหน้าห้อง ไอ้วินก้อเปิดประตูออกมาทันที

“ไปไหนมา...เราเป็นห่วงนะรู้ป่าว โทรหาก้อไม่รับ”มันเดินมาจับที่ไหลผมไว้

“พอดีเราเดินดูอะไรเล่นนะ เพลินไปหน่อย”ผมเดินเข้ามาในห้อง ไอ้วินก้อเดินตามมาด้วย ผมมองหน้ามันสงสัยคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จเพราะผมยังคงมีหยดน้ำหยดอยู่

“ทำไมไม่เช็ดหัวก่อนล่ะ เดี๋ยวก้อไม่สบายหรอก ยิ่งหนาวๆอยู่” ผมเดินไปเอาผ้าขนหนูมาให้มัน

“เช็ดให้หน่อยสิ....นะ”วินมองมาที่ผมสายตามันดูอ้อนๆ ผมเองก้อเต็มใจนะเพราะเคยเช็ดให้บ่อยเลยเดินมาเช็ดให้

วินนั่งอยู่ที่โชฟาในห้องนั่งเล่น ผมเดินอ้อมมาด้านหลัง

“รอนมายืนข้างหน้าดิ”

“ไม่เอา ไม่ถนัด”

“เอาน่า มาเถอะ” ผมขี้เกียจเถียงเลยเดินมายืนข้างหน้าไอ้วินแล้วเช็ดผมให้มัน

แล้วก้อตกใจเพราะไอ้วินมันดึงผมเข้าไปกอดหน้าของมันอยู่แถวช่วงท้องของผมและยิ่งคิดไม่ถึงเมื่อไอ้วินกดจมูกลงเบาๆที่ท้องของผม

สัมผัสที่อ่อนโยน ของวินทำให้ผมรู้สึกใจหวั่นไหวแม้มันจะมีเสื้อนักศึกษากั้นอยู่ แต่ก้อเหมือนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เปารดผ่านเข้ามาตามรอยต่อของกระดุมเสื้อ

“รอน...เราไม่รู้ว่านายจะได้ยินอะไรมา แต่เราอยากบอกว่าอย่าไปฟังเลยนะเราไม่อยากให้ใครมามองนายไม่ดีเลยต้องพูดแบบนั้น” นี่แสดงว่าไอ้วินมันรู้ว่าผมได้ยิน

“บางครั้งเราจำเป็นต้องพูดสิ่งที่ไม่ตรงใจเราออกไป แต่ถ้ามันปกป้องคนสำคัญที่สุดของเราได้ เราเองก้อจำเป็น”

ความน้อยใจเมื่อเย็นมันหายไปหมดแล้วล่ะตอนนี้ ผมอยากบอกวินแบบนั้น แต่ก้อไม่ได้พูดอะไรออกไป ทำได้แค่ยกมือขึ้นมาเล่นกันเส้นผมของวินเท่านั้น

“อือม์...เราเข้าใจ”.........................................

****************************************************


วันนี้ผมเข้ามาเล่นเอ็มกับพี่นัท เราคุยกันทุกๆเรื่อง ต่างเล่าเรื่องราวในแต่ละวันให้อีกคนฟัง

ทุกๆคำทุกเรื่องราว ที่ได้ฟังเรียกรอยยิ้มให้ผมได้ตลอดเวลาที่เราคุยกัน ผมคุยกับพี่นัทอยู่เกือบๆ2ชั่วโมงเลยออก

แต่ก้อพอดีเห็นว่ามี เมลล์ใหม่เข้ามาเลยเข้ามาดู ปรากฏว่าเป็นของวินที่ส่งมา

ดูจากเวลาก้อหลังจากที่ผมออกจากมหาลัยมาแล้ว สงสัยคงส่งที่ห้องสมุด ผมเลยเข้าไปอ่าน

 



มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ ทันใดนั้นลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า

ลูกศิษย์:”อาจารย์คับผมสงสัยจังเลยว่า เราจะหาคู่แท้เราเจอได้ไงคับ อาจารย์บอกผมหน่อยได้ไหมคับ? “

อาจารย์เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะตอบ) "อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถามที่ง่ายเหมือนกันนะ "

ลูกศิษย์นั่งคิดอย่างหนัก) "อืม?....งงอะไม่เข้าใจ"

อาจารย์:"โอเคงั้นเธอลองมองไปทางนั้นนะตรงนั้นน่ะ มีหญ้าเยอะแยะเลยใช่ไหม เธอลองเดินไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุดแล้วเด็ดมาให้ครูสิ

ต้นเดียวเท่านั้นนะแต่ว่าเวลาเธอเดินเนี่ย เธอต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวนะห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจไหม "

ลูกศิษย์: "ได้เลยครับจานรอสักครูน่ะครับ "(ว่าแล้ว ก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า) หลังจากนั้นไม่นาน....

ลูกศิษย์: "ผมกลับมาแล้วครับจาน "

อาจารย์: "อืม...แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวยๆ ในมือเธอเลยหละ "

ลูกศิษย์: "อ๋อคืองี้ครับจาน ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวยๆเนี่ย ผมก้อก้อคิดว่าเออเดี๋ยวก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้

ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมันแล้วผมก็เดินไปเรื่อ รู้ตัวอีกทีมันก็สุดสนามหญ้าแล้วครับ จะเดินกลับก้อไม่ได้เพราะจานสั่งห้ามไว้ "

อาจารย์: "นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ "

เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา ต้นหญ้าก็คือคนที่อยู่รอบๆตัวคุณ ต้นหญ้าที่สวยงามก็คือคนที่คุณชอบ หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ

ทุ่งหญ้าก็คือเวลา เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณอย่ามัวแต่เปรียบเทียบแล้ว คิดว่าคงจะมีที่ดีกว่านี้เพราะถ้าคุณ มัวแต่เปรียบเทียบคุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

อย่าลืมว่า"เวลาไม่เคยย้อนกลับ" ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้นเรื่องนี้ยังสามารถใช้ได้กับ การหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุณในชีวิตหรือ

แม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรมที่ว่า "จงรักและไขว่คว้าโอกาสที่คุณมีในขณะนี้ อย่ามัวแต่เสียเวลา บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น"

. ความรักเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับการมอบให้กับใครๆโดยที่มันไม่มีวันหมด

ปล. ส่งเมลล์นี้ต่อไปยังคนที่คุณรัก





เราไม่อยากให้เราเป็นเหมือน ทะเล ท้องฟ้า และพื้นดิน นะ เราคงเสียใจถ้าไม่มีโอกาสที่จะบอกนายว่า

“ เรา-รัก-นาย ” แม้ในวันข้างหน้าอะไรมันจะเกิด ถึงแม้เราจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้

แต่วันนี้เรายังดีใจที่ได้รู้ว่าครั้งนึงเราได้รู้จักกับมันแล้ว ความรัก งัย สิ่งที่นายบอกให้เราเรียนรู้มัน

เราได้เรียนรู้แล้ว เราเรียนรู้มันจากนาย อย่าลบเมลล์นี้เลยนะ เก็บมันเอาไว้ให้รู้ว่ามันมาจากผู้ชายอีกคนที่รักนายมากไม่แพ้คนอื่นๆ ...................................


เราเองก้อแอบหวังว่าพรุ่งนี้เช้าเราคงมีมีเมลล์ใหม่จากใครบางคนนะ.....................



ผมเดินกลับมาที่เตียง วินนอนหลับไปแล้ว ผมนอนลงข้างๆของวินเอามือเขขี้ยเส้นผมเบาๆ

"ฝันดีนะ" แล้วผมก้อลมตัวลงนอน แต่พอหลังสัมผัสที่นอนไอ้วินก้อพลิกกลับมากอดผมทันที

"ยังไม่นอนเหรอ"

"ยัง..นอนคนเดียวไม่หลับ ขาดคนนอนกอด"

"วิน อะไรคือ ทะเล ท้องฟ้า ผื้นดิน" ผมหันไปมองหน้ามัน วินดูอายๆหน้าแดง แต่ก้อยอมเล่าให้ฟัง


นานมาแล้ว ทะเล ท้องฟ้า พื้นดิน เป็นเพื่อนที่รักกันมาก ทั้ง 3 อยู่ด้วยกัน จนมาวันนึง พระเจ้าได้สร้างต้นไม้ และนก ขึ้นมา

พื้นดินและทะเล มัวแต่ตื่นต้นกับสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ ทั้งพื้นดินและทะเล ต่างดูแลอาใจใส่ต้นไม้ และนกกา จนลืมท้องฟ้าไป

ท้องฟ้าเสียใจค่อยๆถอยตัวห่างออกมาจนวันนึงเมื่อทะเลและพื้นดินสอนนกให้หัดบินจึงมองนกบินขึ้นไปถึงได้รู้ว่าท้องฟ้าห่างไปไกลแสนไกลแล้ว

ทะเลและพื้นดินเสียใจและคิดถึงท้องฟ้ามาก พื้นดินพยายามดันตัวขึ้นเป็นภูเขาเพื่อจะไปให้ถึงท้องฟ้าแต่ก้อไม่สูงพอ

ทะเลพยายามม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่น แต่ก้อไม่ถึงท้องฟ้า เหล่าฝูงนกเห็นจึงพยายามบินขึ้นไปบนฟ้าเพื่อจะบอกว่าทะเลและพื้นดินคิดถึงและเสียใจ

แต่ก้อไม่อาจบินให้สูงถึงท้องฟ้า สายลมสงสารเลยช่วยโดยทะเลยอมโดนแดดแผดเผาตัวเองให้ระเหยเป็นไอ สายลมนำพาความรักและความคิดถึง

พัดพาขึ้นไปหาท้องฟ้า ท้องฟาได้รับรู้ แล้วเสียใจ แต่ไม่สามารถกลับลงไปได้แล้วเพราะตัวเองมาไกลเกินไป จึงกลั่นตัวเองเป็นฝนเพื่อบอกว่าท้องฟ้าก้อเสียใจและคิดถึงทะเลกับพื้นดินมากเช่นกัน...........  


อย่าลืมดูพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกกันนะค๊าบ


กีฬาเพื่อมวลมนุษยชาติ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 08-08-2008 18:22:35
 :m13: :m13: จิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ หน่อยแระกานนะ

55555+  ขอบคุณเช่นกันค๊าบที่มาโพสให้ได้อ่านกัน

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 08-08-2008 20:29:12
ขอบคุณก๊าบบ

 o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 08-08-2008 20:55:04
 :เฮ้อ: ได้อ่านเรื่องหญ้าของอาจารย์และลูกศิษย์แล้ว เข้าใจ และซึ้งในสัจธรรมของโลกจริง ๆ มนุษย์ กิเลส ไม่สามารถแยกออกจากกันได้จริงๆ ความต้องการไม่เคยพอ...... :a6:

แต่ในส่วนของ ท้องฟ้า ทะเล พื้นดิน เศร้าเลยอ่ะ .....นี่แหล่ะที่เค้าเรียกว่า รู้ตัวเมื่อสาย
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว08-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ น้องเพียวลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 09-08-2008 18:59:20
ไม่ได้เข้ามาหลายวัน  ใครมาจีบน้องเพียวเนี่ย
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 09-08-2008 19:29:16
ตอนที่.18
เช้านี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเราต้องเตรียมตัวที่จะไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนกัน โปรแกรมน้ำตก เป็นอันยกเลิก เนื่องจากหนาว

เมื่อหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆเมื่อคืนก้อไม่เจอ ลุกเดินออกมาก้อเจอวินนั่งอยู่หน้าคอม

ผมเดินไปเข้าห้องน้ำหลังจากที่ออกจากห้องน้ำก้อเจอไอ้วินยืนรออยู่หน้าห้องน้ำกำลังจะอาบน้ำ มันไม่มองหน้าผม ผมเองก้อไม่กล้ามองหน้ามัน

คงเพราะเมลล์ฉบับนั้นที่ forward ตอบกลับไป

“อ้าวทำมัยไม่อาบที่ห้องล่ะ เราจะได้อาบมั่ง จะได้เสร็จพร้อมกัน”

“ไม่เอาอยากอาบที่นี่อ่ะ ถ้ารีบอาบพร้อมกันป่าวล่ะ” ไอ้วินแกล้งแหย่ผม แต่หน้ามันก้อแดงขึ้นมา

“ไอ้บ้า...จะแกล้งคนอื่นเค้า ตัวเองกลับหน้าแดงเอง” แล้วผมก้อหัวเราะกลบเกลื่อน ก่อนจะเดินหลบมันออกมา

แต่มันดันมาจับมือผมไว้ผมเลยหันไปมองแต่มันก้อไม่ได้หันหน้ามามองผม แต่รู้ว่าหูของไอ้วินแดงมาก ผมก้อหันกลับมา กำลังจะเดินไปต่อ

“เราดีใจนะ และขอบคุณมาก ...ที่นายส่งมันกลับมา” วินบอกผมเบาๆ

“อือม์...เราก้อดีใจนะ...ที่ได้รับมัน” ผมกับวินเราต่างยืนจับมือกันและกันโดยที่ไม่ได้หันหน้ามามองกันและกัน

แต่เราก้อรับรู้ถึงความรู้สึกที่ต้องการจะสื่อถึงกันและกันได้เป็นอย่างดี ทุกสิ่งทุกอย่างคล้ายจะหยุดนิ่ง มีเพียงเสียงหัวใจของเราเท่านั้นที่ได้ยินอย่างชัดเจน

“เราอยากอยู่ใกล้ๆนายตลอดไปว่ะ...วิน” นั่นคือเสียงที่หัวใจผมบอกกับตัวเองตอนนั้น

เราอาบน้ำเสร็จก้อมานั่งเล่นที่ห้องคอฟฟี่ช็อปข้างล่างคอนโด

อากาศเย็นๆยามเช้าของเชียงใหม่ ทำให้ผมรู้สึกสดชื่น เรานั่งอยู่ติดกระจกเพื่อมองสวนหย่อมข้างนอกได้ถนัดตา

กาแฟหอมกรุ่นถูกเสริฟ์อยู่ตรงหน้าเราสองคน มันทำให้ผมนึกถึงโฆษณาครีมเทียมยี่ห้อนึง

“วิน...ใส่คอฟฟี่เมตป่าว” ปกติไอ้วินมันไม่ใส่ และผมก้อรู้ มันเลยมองหน้าผม

“เราจะได้คู่กันงัย” ไอ้วินทำหน้างง ก่อนจะกลายเป็นหน้าแดง แล้วยื่นแก้วมาให้

“นายใส่ให้หน่อยแล้วกัน” มันเก็กหน้าขรึม

“เฮ้ย! ล้อเล่น ไม่ใส่ก้อไม่เป็รไร”

“ก้ออยากจะกินอ่ะ เอาน่า ใส่ให้หน่อย” เรานั่งกินกาแฟไปเรื่อยๆ นึกแล้วก้อด่าตัวเอง ไม่น่าแซวมันเลย เลยเป็นว่าทั้งผมและวินต่างเขินกันเอง

“รอนานหรือยังค่ะพี่รอน พี่วิน” น้องลินเดินมานั่งกับพวกเรา สักพักโอ๊ตก้อเดินตามมาโดยมีเพื่อนของคณะน้องลินมาด้วย 2 คน เป็นชายคนหญิงคน

เพราะช่วงนี้โอ๊ตเอารถของไอ้วินไปใช้ มันเลยต้องมารับพวกผมที่คอนโด

สายๆเราก้อมาถึงบ่อน้ำพุ น้ำพุร้อนสันกำแพง อยู่ไม่ห่างจากเชียงใหม่มาก พวกไอ้ป๋อมมารอเราอยู่แล้ว เราต่างช่วยกันขนเสื่อ เสบียงอาหารและเครื่องดื่ม

เราหาทำเลได้ก้อนั่งเล่น คุยกันไปเรื่อยเปื่อยสาวๆก้อกลายเป็นแม่ครัวจำเป็น คอยหากับแกล้มให้พวกหนุ่มๆ เรามากันค่อนข่างจะเป็นกลุ่มใหญ่

เลยเสียงส่งเสียงดัง จนคนที่เดินผ่านมองกันเป็นแถว แล้วไอ้ป๋อมปากหมาก้อถามขึ้นมา

“ไอ้วิน เรื่องน้องเมี่ยงมึง เรียบร้อยยังว่ะ ช่วงนี้ไม่เห็นเค้าไปเฝ้ามึงที่ ม. เลยนี่หว่า”

“ก้อยังมาที่ห้องอยู่ แต่แม่งโทรมาทุกวันเลยว่ะ มึงถามทำไมว่ะ”

“ป่าว พวกมึงก้อจะได้สลับคู่กลับกันซะที” ทั้งผมกับไอ้วินสะอึกขึ้นมาทันที ดูน้องลินกับโอ๊ตเองก้อทำหน้าไม่ต่างกันเท่าไหร่

“เห็นลินบอกว่าพี่รอนใจดีมากๆ เลิกเป็นแฟนจำเป็นพี่วินเมื่อไหร่ เดี๋ยวปลา ขอยืมควงมั่งนะค่ะ” น้องปลาเพื่อนที่คณะน้องลิน พูดกับผม ผมเลยได้แต่ยิ้มแก้เขิน

“แล้วนี่ถ้าผมจะให้รอนแกล้งมาเป็นแฟนผมมั่งละครับ รอนจะยอมช่วยมั๊ยคับ เบื่อสาวๆตามจีบเหมือนกันช่วงนี้”

โจ๊ก เพื่อนน้องลินที่นั่งรถมากับเราเมื่อเช้า แซวผมแล้วยิ้มๆ ผมก้อทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน แต่สัมผัสได้บรรยากาศมาคุจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

หลังจากที่เรานั่งกินข้าวกันเรียบร้อย เราก้อเดินดูวิวรอบๆ ดอกไม้หลากหลายพันธุ์ยามฤดูหนาว ช่างดูมีสีสันสวยงาม

กลุ่มของน้องลิน ต่างพากันเป็นนางแบบจำเป็น โดยมีโอ๊ตรับหน้าที่ตากล้องไปโดยปริยาย ผมเดินเล่นกับไอ้วิน สักพักก้อมีคนเรียกพวกเรา

“พี่รอน พี่วิน มาถ่ายรูปกันเถอะค่ะ” น้องปลาส่งเสียงเรียกพวกเราจากกลุ่มที่อยู่ไม่ไกลนัก

“ พี่รอน มาถ่ายรูปคู่กับปลาหน่อยนะค่ะ” น้องปลาเดินมาดึงมือผมให้ไปถ่ายรูปด้วย ผมโดนลากไปมุมโน้นมุมนี้

สักพัก โจ๊กก้อมาขอถ่ายด้วย กว่าจะหลุดออกมาก้อต้องปั้นยิ้มจนเมื่อยหน้า

“วิน มาถ่ายรูปคู่กันหน่อยดิ” ผมเดินมาตาม หลังจากที่มันนั่งทำหน้าเป็นตูดอยู่

“นึกว่าจะไม่ชวนกันซะแล้ว ใครๆก้อเรียก พี่รอน พี่รอน น่าโมโหชิปเป๋ง...แฟนเค้ายังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลย”

มันทำงอน ผมรู้สึกดีที่ต้องคอยง้อไอ้วินเวลาที่มันแกล้งงอน หรือน้อยใจผม มันทำให้เรารู้สึกว่า มันให้ความสำคัญกับเรามากที่สุด

ผมดึงมือมันเมื่อเห็นว่ามันยังไม่ยอมลุก

“เอาน่า...มาถ่ายรูปกัน เอาไว้ต่อไปไม่ค่อยได้เจอกันจะได้ไม่ลืมหน้ากันงัยเล่า” ผมเองก้อไม่ได้คิดอะไรมากตอนที่พูด

แต่วินมันกลับออกแรงดึงผมกลับ ด้วยความที่ไมทันได้ระวัง ทำให้ผมหงายหลังกลับไปทับกับมัน แต่ก้อรีบลุกขึ้นทันที กลัวว่าเพื่อนๆจะเห็น

“ ไอ้บ้าวิน...เล่นอะไรเนี้ยห๊ะ” วินปล่อยมือผมแล้วยืนขึ้น หันหลัง ผมเดินมายืนข้างๆยกมือขึ้นแตะที่บ่าของวินเบาๆ

“เป็นอะไรไป โกรธอะไรเราหรือป่าว” วินหันหน้ามามองผม

“ถ้าไม่มีรูปถ่ายเรา นายจะจำเราไม่ได้จริงๆเหร” ผมยิ้มให้กับวิน ยิ้มที่เป็นการยิ้มไปทั้งหน้าและตา

“ไม่หรอก...ในใจของเรามีภาพนายเสมอ แม้ว่าต่อไปถึงเราจะยืนอยู่กันคนล่ะที่ ห่างกันแสนไกล เรายังคงเห็นนายอยู่ในสายตาเราเสมอ”

วินหันมายิ้มให้กับผมบ้าง และผมก้อยิ้มให้กับวิน ยิ้มที่จะมีไว้ให้กับเราสองคน

ยิ้มที่ไม่ว่าวันข้างหน้ามันจะต้องเจ็บ เราก้อจะไม่เสียใจ ที่ช่วงเวลานึงเรามีกันและกันอย่างตอนนี้

“ เรากลัวตัวเองจัง...ยิ่งเราอยู่ใกล้ๆนายนะรอน เรายิ่งไม่เป็นตัวของเราเอง อ่อนแอบ่อยจัง เราจะกลายเป็นเกย์จริงๆล่ะมั๊ง”

“วิน เวลานายมองผู้ชายคนอื่นที่หน้าตาดีกว่าเรา นายอยากเข้าไปคุยด้วยมั๊ย” มันสั่นหัว

“ถ้างั้นก้ออย่าคิดมากเลย เราเองก้อไม่เคยอยากจุบกับผู้ชายคนอื่นเหมือนกัน” ผมรู้ว่าตอนนี้หน้าของผมคงแดงมากแน่ๆ เพราะมันร้อนไปหมด วินเองก้อดูอายไปเหมือนกัน

จนแล้วจนรอด เราก้อเอาแต่คุยกันจนไม่ได้ถ่ายรูปเลย เราไปเที่ยวต่ออีกหลายที่ ก่อนที่จะแยกย้ายกลับ โอ๊ตไปส่งผมกับวินก่อน

“เดี๋ยวรูปจะส่งให้คืนนี้นะ เดี๋ยวเอาไปลงเครื่องก่อน” โอ๊ตบอกกับผม

“ไม่เยอะมั๊ง นายเอาไปล้างแล้วเอามาให้เราก้อได้” ผมบอกกับโอ๊ต ก่อนเดินขึ้นห้อง ผมกับวินเราต่างแยกกันเข้าห้องตัวเอง

ทันทีที่เข้ามาในห้องผมก้อเดินมานอนเล่นหน้าทีวี ก่อนจะหลับไปในที่สุด รู้สึกตัวอีกทีก้อมีคนมากดออดหน้าห้อง เป็นโอ๊ตเองที่มา

“ว่างัย...ส่งพวกเพื่อนน้องลินเสร็จแล้วเหรอ” ผมหลบให้โอ๊ตเดินเข้ามา

“อือม์....เอารูปมาลงให้” แล้วโอ๊ตก้อเดินไปเปิดคอมของผม

“รอน... วินมันรู้ไหมว่านายรู้สึกยังงัยกับมัน”โอ๊ตหันมาถามขณะกำลังต่อกล้องกับคอมผมลังเลก่อนที่จะตอบ

แต่เพราะเป็นโอ๊ต ทำให้ผมไม่อยากปิดบัง ผมเลยพยักหน้าตอบกลับไป

“แล้วไอ้วินมันรู้สึกกับนายแบไหน นายรู้หรือเปล่า” ผมงงที่มันถามแบบนี้

“นายมาดูรูปสิเสร็จแล้ว” ผมเดินมาดูรูป ภาพของผมกับวินเต็มไปหมด ผมขนลุกที่เห็นภาพพวกนี้ มันเป็นภาพที่ทั้งผมและวินไม่รู้ว่าโอ๊ตมันถ่ายเอาไว้

ผมรู้สึกอบอุ่นที่ได้ดูภาพเช็ตนี้ แต่ก้อรู้สึกเจ็บอยู่ลึกๆ ภาพของเราทั้งสองคนไม่มีภาพที่เรามองกันเลยสักภาพ

เมื่ออีกคนมองอีกคนอยู่ อีกคนก้อมักจะไม่รู้ตัว สายตาแบบนี้เองที่ผมมองไอ้วิน ผมไม่เคยรู้เลยว่านอกจากความเศร้าที่ใครๆบอกเวลามองตาผมแล้ว

มันยังมีความห่วงใย อ่อนโยนแบบนี้ด้วย สายตาของวินเองก้อไม่ต่างจากของผมเช่นกัน

“ เรื่องราวมันใกล้จะจบแล้วนะรอน...ทั้งนายทั้งไอ้วิน ทำอะไรกันอยู่ แบบนี้ดีแล้วเหรอ จะมีใครต้องเจ็บบ้างนายรู้หรือเปล่า น้องลินจะเจ็บแค่ไหนที่รู้ แล้ว...แล้ว...” โอ๊ตอ้ำอึ้งอ้ำอึ้ง

“แล้วละไรโอ๊ต นายมีอะไรบอกเราได้มั๊ย” โอ๊ตมองผม

“เราจะเสียใจแค่ไหน ที่น้องลินเจ็บปวด” ผมอึ้งที่รู้ว่าโอ๊ตคิดยังงั๊ยกับน้องลิน

“เมื่อไหร่ว่ะ...โอ๊ต”

“ไม่รู้...แต่รู้อีกที ก้อหวั่นไหวเวลาที่คิดว่าน้องลินต้องกลับไปอยู่กับไอ้วิน กลัวที่ต้องห่างกัน แต่ก้อไม่อยากช่วงชิง เพราะมันเป็นเพื่อน แต่ตอนที่เราเห็นรูปนี่แล้ว มันบอกไม่ถูก”

“เราคงทำอะไรมากไม่ได้หรอก ไอ้วินกับน้องลินเค้าจะรู้สึกแบบไหนกันเราทำอะไรไม่ได้ เข้าใจไม๊ เรามันเป็นคนที่มาทีหลัง” คำหลังผมบอกกับตัวเองมากกว่าที่จะเป็นโอ๊ต

“แล้วทำมั๊ยเป้นน้องลินล่ะ” ผมสงสัยคิดว่าโอ๊ตจะชอบผูชายมากกว่า แม้ว่าโอ๊ตจะดูเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่เพราะครั้งนึง มันเคยมาบอกว่าชอบผม

“ ไม่รู้แต่น้องลินคล้ายๆกับนายนะ เค้าใจดี อ่อนโยน เข้าใจคนอื่น และเพราะความใกล้ชิดมั๊ง มีคนมาคอยดูแล ห่วงใยเรา

ทั้งๆที่เมื่อก่อนเราต้องเป็นฝ่ายคอยห่วงใยคนอื่น มันรู้สึกดีว่ะรอน ดีมากเลยที่มีคนมาดูแลห่วงใยเรา ดีจนไม่อยากให้มันจบลง” หน้าของโอ๊ตดูเศร้ามาก

“เอาเถอะน่า ตอนนี้นายก้อมีความสุขดีไม่ใช่เหรอ เก็บเกี่ยวมันให้มากพอแล้วกัน เมื่อวันนึงที่นายต้องจากเค้า ความสุข ความทรงจำดีๆ

มันจะได้มีมากกว่าความเศร้า เก็บมันให้มากพอนะ เราเองก้อพยายามที่จะเก็บมันเหมือนกัน”

ผมนั่งดูรูปกับโอ๊ตสักพักก้อชวนกันออกไปกาดกัน อยากเอารูปไปอัด และ หาซื้อของกินมาเผื่อไอ้วินมันด้วย ตอนนี้มันคงกำลังหลับ

“เอารถไอ้วินไปก้อได้ เดี๋ยวขากลับเรามาส่ง”

“ไม่เป็นไร...ต่างคนต่างเอาไปดีกว่า เราอยากคิดอะไรเล่นด้วย ขี่รถเราแล้วมันเพลินกว่า” ลมเย็นๆ กับแสงไฟยามค่ำคืน มันคงเป็นความรื่นรมยณ์ ของผมไปเสียแล้ว

ผมเอารูปไปอัด แล้ว ไปหาซื้ออะไรกิน เดินเล่นอยู่สักพักก้อแยกกับโอ๊ตผมเดินกลับไปร้านรูป ก้อเจอน้องเมี่ยงกับเพื่อนๆ นั่งกินเบียร์สด อยู่

ผมเดินเลี่ยง แต่ก้อไม่วายโดนเห็นจนได้ น้องเมี่ยงเดินมาหาผม

“เป็นงัยค่ะ เที่ยวสนุกไม๊พี่รอน”

“ก้อดีครับ...แล้วน้องเมี่ยงมาฉลองอะไรกันครับ”

ผมพยายามพูดดีกับน้องเค้า น้องเค้าเดินตามผมมาที่ร้านรูปด้วย เพราะผมบอกว่าจะมาเอารูปที่ไปถ่ายกับเพื่อนๆตอนที่ไปเที่ยวกันวันนี้

“ รูปสวยดีนะค่ะ ดูเพื่อนๆรักกันดีนะค่ะ แต่ไม่เห็นมีภาพของพี่วินเท่าไหร่เลย แล้วภาพคู่ของพี่สองคนก้อไม่เห็นมีเลย ทำไมไม่ถ่ายคู่กันล่ะค่ะ หรือว่าอายคนแถวนั้น

ไม่กล้าแสดงความรักที่ผิดเพศผิดธรรมชาติออกมา คนที่นี่เค้ายังรับไม่ค่อยได้หรอกค่ะมันแปลก” ผมรู้สึกโกรธมาก แต่ก้อพยายามระงับเอาไว้

แล้วพี่ที่ร้านก้อเอารูปเซ๊ทที่โอ๊ตถ่ายมาให้ ผมบอให้เค้าแยกออกมาเพราะอยากเก็บไว้คนเดียว

“รูปอะไรเหรอค่ะ ขอเมี่ยงดูหน่อยนะค่ะ” น้องเมี่ยงยื่นมือไปรับแทนผมพร้อมกับเปิดดูรูป หน้าน้องเค้าแดงมากเวลาที่ดูรูปเหล่านั้น

“ รักกันให้ดีๆนะค่ะ เมี่ยงอยากดูเหมือนกันว่าไอ้พวกกระเทย มันจะรักกันได้นานเท่าไหร่” เมี่ยงยังคงไม่คืนรูปให้ผม แต่เดินออกมาจากร้านผมเลยต้องเดินตามออกมา

“เมี่ยงจะไปไหนครับ พี่ขอรูปคืนด้วยนะ” เมี่ยงไม่ตอบแต่เดินมาที่กลุ่มเพื่อนๆที่นั่งอยู่ที่ซุ้มลานเบียร์

“นี่งัย...แฟนพี่วินที่เราเล่าให้ฟัง” เมี่ยงบอกกับเพื่อนๆ พร้อมเอารูปให้เพื่อนๆดู

“น่ารักแบบนี้ไม่น่าเลยว่ะ กูว่าน่ารักกว่าพี่วินมึงอีก ดูหวานกว่า” พวกเพื่อนผู้หญิงคุยกัน แต่พวกเพื่อนๆผู้ชายมองผมยิ้มๆ ผมแย่งรูปกลับมาพร้อมกับบอกลากลุ่มเพื่อนของเมี่ยง

“ พี่กลับก่อนนะครับ” ผมยิ้มให้เมี่ยงอีกครั้ง แม้ในใจไม่อยากที่จะคุยด้วยหรือยิ้มให้ แต่ก้อเพื่อที่จะให้น้องเค้าไม่โกรธแค้นพวกผมกับไอ้วินมาก

ผมขี่รถกลับคอนโด แสงไฟจากบ้านเรือน ร้านค้าข้างทางทำให้ผมคลายความโกรธลงได้บ้าง แต่สักพักก้อเหมือนมีคนขี่รถมาประกบผมไว้

เค้าพยายามขี่รถเบียดให้เลี้ยวไปในซอยที่เค้าต้องการ ผมรู้ว่ามันคงไม่ดีแน่ เลยพยายามฝืนรถไว้ แต่คนที่นั่งซ้อนคันข้างๆเอาเท้าถีบรถผมให้ล้ม

รถผมล้ม ดีที่ขีช้าอยู่แล้วเพราะโดนประกบตลอดทาง
ผมนอนอยู่ที่พื้น ก้อรู้สึกว่ามีคนดึงผมให้ลุกขึ้น เพื่อนๆของน้องเมี่ยงนั้นเอง แต่ผมไม่เห็นน้องเมี่ยงเลย..................................
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 09-08-2008 21:25:46
โอ๊ะ

เหตุด่วน เหตุร้าย

 :serius2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 09-08-2008 21:43:12
ซวยแล๊วว.....จาเกิดไรขึ้นต่ออีกป่ะเนี๊ย... :sad2:

วินอยู่ไหน เจ๋นมาด่้วนน..
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 09-08-2008 21:56:04
อ้าวซะงั้น อีน้องเมี่ยง :เตะ1:

เหตุด่วนเหตุร้าย แจ้งพี่นัท ทันมั้ย? 5555+



ลป. ตอบคุณเพียว แฟนคลับพี่นัทหรอก  :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 09-08-2008 22:10:07
ผู้หญิงเดียวนี้มัน.............จริงๆ


กำ   วินมาด่วนเลย   


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 11-08-2008 18:23:01
โหนึกว่า PakBeob จามาเป็นแฟนคลับเพียวซะอีก  :laugh:

ตอนที่.19

ผมพยายามมองหาน้องเมี่ยงแต่ก้อไม่เห็น เพื่อนๆของเมี่ยงมีกัน 3 คน

“พวกนายต้องการอะไร”ผมพยายามพูดดีๆกับเค้าพลางก้อมองหาคนที่จะเดินมาแถวนี้บ้าง

“กูไม่รู้จะคุยอะไรกับมึง แค่หมั้นไส้ผัวของมึง ที่มาทำใหเมี่ยงของกูร้องไห้
กูรักของกูมาตั้งนานแต่ผัวของมึงแม่งเสือกมาหยามน้ำใจเมี่ยงแล้วคิดจะทิ้งง่ายๆแบบนี้ กูไม่อยู่เฉยแน่ๆ”

ที่แท้ก้อแฟนคลับของเมี่ยงนี่เอง แล้วเมี่ยงจะมีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า ผมถามตัวเอง

“พวกนายเข้าใจผิด วินกับเมี่ยงไม่ได้มีอะไรกัน เมี่ยงเค้าแกล้งทำให้คนอื่นคิดแบบนั้น”

ทันทีที่ผมพูดจบ ก้อรู้สึกหน้าชาอย่างแรงเพราะไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าได้ตบมาเต็มแรงที่ใบหน้าของผม

“มึงหยุดเลย มึงจะบอกกูว่าเมี่ยงอยากจะจับผัวมึงอย่างงั้นเหรอว่ะ” ตอนนี้มันใช้มือบีบหน้าผมไว้ให้มองที่หน้ามัน

ตอนนี้ผมไม่ได้กลัว แต่รู้สึกกดดันทำอะไรไม่ได้ พวกมันจับผมไว้ทั้งสองคน ดิ้นเท่าไหร่ก้อไม่หลุด ความอึดอัดที่ไม่สามารถทำอะไรได้มันทำให้ตาของผมเริ่มร้อนผ่าว

ซึ่งมันคงเป็นนิสัยส่วนตัวเสียแล้วที่เวลาโกรธมากๆแล้วทำอะไรไม่ได้ มันก้อจะมีน้ำตาทุกครั้ง

“ไม่ต้องมาบีบน้ำตาหรอกมึง กูไม่ได้จะฆ่าจะแกงมึงหรอก แต่แค่จะให้มึงไปบอกผัวของมึงว่าให้รับผิดชอบเมี่ยงด้วย”

ใจนึงผมก้ออดทึ้งผู้ชายคนนี้ไม่ได้ เพื่อคนที่ตัวเองรักเค้าทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ไม่แม้แต่จะคิดอยากฉวยโอกาสนี้หาทางให้เมี่ยงมาอยู่กับตัวเอง

“ไม่ต้องมาทำตายั่วกูหรอกมึง แต่ว่าไปมึงก้อตาสวยนะ ผิวก้อขาวหน้าตาแบบนี้เองที่ผัวของมึงถึงทิ้งเมี่ยงของกู” มันเอามือมาลูบที่หน้าผมเบาๆ

“ เฮ้ยมึงจะเอาไอ้นี่เหรอว่ะ” พวกมันอีกคนที่จับผมไว้ถามขึ้นมา

“ไอ้ห่าวัฒน์ กูยังไม่คิดจะเอาผู้ชายทำเมียหรอกโว้ย แต่อยากจะฝากรอยเล็กๆน้อยๆไปให้ผัวของมัน” พูดจบมันก้อเอาลิ้นมาเลียเบาๆที่ข้างแกมของผม

ผมรู้สึกขยะแขยงมากแต่ยังไม่ทันจะได้รู้สึกอะไรมากไปกว่านี้ก้อรู้สึกถึงรอยฝันที่กัดมาแรงๆที่แก้มของผม

“ชอบมั๊ยครับ แบบนี้ไม่เคยเจอละสิ ถึงใจกว่ามั๊ยล่ะ” มันมองผมยิ้มๆ ก่อนที่จะกระชากเสื้อของผมแล้วมันก้อทั้งดูดทั้งกัดไปทั้งแผ่นอก และลำคอของผม

“ เฮ้ยมึงพอเถอะว่ะ กูแม่งอยากจะอวกว่ะ” ไอ้เพื่อนคนเดิมตะโกนออกมา

“อะไรของมึงว่ะ อยากลองมั่งมั๊ยล่ะ ตัวมันแม่งหอมดีว่ะ ขาวดีด้วย” มันหันไปถามเพื่อนมัน

“กูไม่เอา มึงก้อรีบๆหน่อยเดี๋ยวใครแม่งเดินผ่านมาจะซวย”

“เออ...รอยสุดท้ายล่ะ” แล้วมันก้อก้มลงกัดแรงๆที่ปากของผม มันเจ็บมากจนผมกัดมันตอบไป

“ไอ้สัตว์นี่ มึงกัดกูเหรอห่ะ” แล้วสารพัดหมัดก้อใส่มาที่ผมไม่ยั้งจนได้ยินเสียงของใครบางคน

“หยุดเดี๋ยวนี้นะโต้ง” มันทำให้พวกนี้หยุดทันที และคนที่มาก้อคือเมี่ยงนั้นเอง

“เมี่ยง มาได้งัยแล้วทำมัยยังไม่กลับบ้าน” ไอ้คนที่ชื่อโต้งชะงักทันที เมี่ยงเดินมาทางผม พร้อมกับที ทันทีที่เห็นหน้าของผมทีก้อโวยวายทันที

“ไอ้เหี้_ โต้ง มึงทำอะไรรอนว่ะ” ทีเดินเข้ามาประคองผม

“รอนเป็นงัยมั่ง ไหวมั๊ย เดี่ยวเราพาไปโรงพยาบาล” ตอนนั้นผมพูดอะไรไม่ออกในปากเต็มไปด้วยเลือดอุ่นๆ เมี่ยงเดินไปคุยกับพวกนั้น สักพักก่อนที่มันจะจากไป แล้วเมี่ยงก้อเดินมาที่ผม

“ เมี่ยงขอโทษแทนเพื่อนเมี่ยงด้วย พี่รอนอย่าเอาเรื่องพวกไอ้โต้งเลยนะ” เมี่ยงเดินมาคุยกับผม

ผมไม่ได้ตอบอะไร จนทีพาผมมาที่ห้องของที โดยที่เมียงขี่รถของผมตามมา เพราะผมไม่อยากไปโรงพยาบาล เมื่อเข้ามาในห้องผมก้อเข้าห้องน้ำเพื่อบ้วนปาก

สภาพของผมที่เห็นในกระจก มันดูแย่จริง คิ้วผมแตกและมีรอยช้ำที่เบ้าตา และข้างแก้ม ทั้งยังเห็นเป็นรอยฟันเต็มไปทั้งแก้มและปาก

ที่บริเวณลำคอและช่วงอก มีทั้งรอยกัด และรอยจ้ำแดงๆเต็มไปหมด ผมไม่กล้าที่จะไปเจอใคร แล้วพรุ่งนี้ผมจไปมหาลัยได้ยังงัย

“รอน เป็นงัยมั่ง เสร็จหรืยัง ออกมาทำแผลหน่อยนะ” ทีตะโกนเรียกผม ผมเดินออกมา เมี่ยงมาทำแผลให้ผม

“พี่รอน เมี่ยงขอโทษแทนพวกนั้นอีกครั้งนะ และพี่รอนรับปากแล้วนะว่าจะไม่เอาเรื่อง” ผมพยักหน้า

“แล้วเรื่องของไอ้วิน พี่อยากจะขอให้มันจบลงได้มั๊ย” เมี่ยงมองหน้าผมสักพักก้อพยักหน้า จบกันสักทีนะ

“ความจริงเมี่ยงเองก้อว่าจะเลิกยุ่งกับพี่วินแล้วล่ะ เมี่ยงก้อไม่ได้รักพี่วินหรอก”

“แล้วทำมั๊ยถึงอยากเป็นปฟนกับวินมันล่ะ” เมี่ยงหน้าตาเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

“ถ้าเมี่ยงพูดพี่รอนจะว่าเมี่ยงก้อได้นะ แต่เพราะว่าพี่วินรวยน่ะ”

“ทำมัยล่ะ แค่เงินเนี้ยนะมันสำคัญมากเลยเหรอ”ผมถามเมี่ยงเพราะคิดว่าเด็กสาวตรงหน้าที่หน้าตาน่ารักไม่น่าจะเป็นคนเห็นแก่เงิน

“ก้อพี่วินบอกว่าที่บ้านมีกิจการโรงแรมด้วย เมี่ยงเรียนการโรงแรม เมื่อเรียนจบเมี่ยงอยากทำงานที่โรงแรมของพี่วิน เมี่ยงอยากพาแม่ไปอยู่ด้วยเมี่ยงอยากไปให้พ้นจากที่นี่”

เมี่ยงพูดไปร้องไห้ไป และหลังจากนั้นเรื่องราวต่างๆที่ผมไม่เคยรู้ก้อทำให้ผมมองเมี่ยงต่างจากที่เคย เมี่ยงหนีจากบ้านออกมาเพราะที่บ้านมีปัญหา

แม่ของเมี่ยงเป็นคนที่หน้าตาสวยแต่จน จนตากับยายต้องขายแม่ให้กับพ่อ โดยที่พ่อของเมี่ยงเปิดบ่อนลับๆ และยังมีกิจการเกี่ยวกับส่งผู้หญิงลับๆด้วย

เวลาที่แขกหรือเพื่อนของพ่อมาแล้วเกิดถูกใจแม่ พ่อก้อจะส่งแม่ไปให้แขกของพ่อเหล่านั้นเพื่อให้เค้าพอใจและทำธุรกิจด้วยกันได้

จนเมี่ยงเกิดมาพ่อก้อไม่เคยรักเพราะไม่แน่ใจว่าเป็นลูกของใครกันแน่ ยิ่งเมี่ยงโตขึ้นเป็นสาวน้อยน่ารักยิ่งทำให้เพื่อนของพ่อแต่ละคนให้ความสนใจเมี่ยงกันทุกคน

เมี่ยงเลยตัดสินใจออกมาจากบ้าน โดยที่แม่จะคอยส่งเงินให้ใช้และที่พ่อไม่กล้าทำอะไรเพราะแม่ขู่ไว้ว่าเอาหลักฐานหลายอย่างฝากกับเพื่อนไว้

ถ้าแม่หรือเมี่ยงเป็นอะไร มันจะถึงมือตำรวจแน่ แต่ที่แม่ไปไหนไม่ได้ เพราะต้องอยู่เพื่อเงินที่จะส่งเมี่ยงให้เรียนจบก่อน ผมรู้สึกสงสารเมี่ยงจับใจ

“แล้วทำมัยไม่บอกพวกพี่มาตรงๆ เพื่อนพี่ทำธุรกิจโรงแรมกันตั้งหลายคนที่ภาคใต้ก้อมี ถ้าเราอยากหนีไปอยู่กับแม่ พี่ช่วยได้อยู่แล้ว”

เมี่ยงมองหน้าผม แบบอึ้งๆ ก่อนที่จะสะอื้นแล้วยกมือขึ้นไหว้ผม

“พี่รอน ฮื่อๆๆ เมี่ยงขอโทษนะ เมี่งขอโทษ ฮื่อๆๆ” ผมได้แต่ปลอบโยน หลังจากนั้นเราก้อมาคุยกันจนดึกมากแล้วทีกับเมี่ยงก้อจะไปส่งผม ก่อนที่เราจะออกมาจากห้อง เมี่ยงก้อพูดกับผม

“แล้วพี่รอน กับ พี่วินจะทำยังงัยต่อไปค่ะ ไม่จำเป็นต้องแสดงละครแล้วนี่”ผมมองหน้าเมี่ยง

“หมายความว่า”

“ค่ะ เมี่ยงรู้ว่าพี่วินเป็นแฟนผู้หญิงคนนึง อย่าลืมสิค่ะ สายของเมี่ยงเยอะจะตาย ทีเองก้อเรียนที่เดียวกับพี่รอนด้วย”

แสดงว่าเมี่ยงไม่รู้ว่าเป็นน้องลิน แต่รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิง

“ก้อคงกลับไปเป็นเหมือนเดิม พี่กับวินเราเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่แล้ว” ผมพยายามฝืนทำหน้าให้เป็นปกติ เมื่อคิดได้ว่าเวลาผมกับวินมันจะจบลงแล้ว

“แน่ใจเหรอค่ะ ว่ามันจะเหมือนเดิม พี่สองคนยังเชื่อแบบนั้นเรอค่ะ พี่รอนไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างพี่ทั้งสองคนเลยเหรอ”

เมี่ยงถามคำถามที่ผมเองก้อกลัวอยู่ว่า ระหว่างผมกับวินมันจะยังคงความรู้สึกเดิมได้หรือเปล่า ผมไม่ตอบจนเมี่ยงกับทีมาส่งผมที่คอนโด

ผมรอให้สองคนนั้นกลับไปก่อน แล้วแอบเดินกลับขึ้นไปบนตึกเพราะกลัวจะมีคนเห็นสภาพของผม ผมเดินมาจนถึงหน้าห้องก้อต้องใจหายเพราะคนที่ผมคิดถึงกำลังนั่งหลับอยู่หน้าห้องของผม

ผมเดินมานั่งอยู่ตรงหน้าของวิน วินาทีนี้ผมอยากจะสัมผัสตัววินเหลือเกิน อยากจะลูบไล้ใบหน้าของวินให้มากที่สุดเพราะอีกไม่นานมันคงถึงวันที่เราต้องกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

แต่ทำได้แค่เอื้อมมือไปใกล้กับหน้าของวินให้มากที่สุดเท่านั้น ผมเปิดประตูห้องของผมเบาๆ และเอาผ้าห่มมาห่มให้วิน

ก่อนที่จะปิดมันอีกครั้ง ผมนั่งอยู่ที่ประตูนั้นระหว่างผมกับวินมีเพียงผนังกั้นผมนั่งคิดว่าทางของผมกับวิน เราสองคนจะเดินไปแบบไหนกัน

ทางที่จะเดินไปด้วยกันได้และไม่เจ็บปวด ทางที่จะยังคงเห็นหน้าและรับรู้สัมผัสกับอีกคนได้อยู่เสมอ

มันคงมีเส้นทางสายเดียวที่เราจะเห็นกันและกันได้ เส้นทางที่เพื่อนควรจะเดิน เส้นทางที่ผมกับวินเราจะเดินด้วยกัน........................

เส้นขนานทางเดินที่แม้ไม่สามารถจะมาบรรจบแต่มันจะยังคงขนานไปด้วยกันตลอดไปไม่รู้จบ

<
<
<
<

........ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย บวกกับที่วันนี้ผมต้องเจออะไรๆมากมายๆทำให้เผลอหลับไปไม่รู้ตัว
กว่าจะรู้สึกตัวก้อได้ยินเสียงรัวของออด แล้ว ที่หน้าประตูก้อมีเสียงคนทุบประตูเสียงดัง ผมเดินมาส่องดูก้อเห็นว่าเป็นวิน

ในตอนนั้นผมไม่กล้าที่จะเจอกับวินได้แต่ยืนนิ่งๆ จนเสียงเคาะประตูเงียบไป ผมลองมองที่ตาแมวก้อไม่เห็นวิน ผมเลยนั่งลงที่ประตูนั้นอีกครั้ง

อยากเห็นหน้า แต่ไม่กล้าเจอ อยากได้ยินเสียง แต่ ไม่กล้าคุย มันทรมานมากทั้งๆที่เราก้ออยู่กันแค่ประตูกั้นเท่านั้น

“รอนเปิดประตูก่อน มีอะไรทำไมไม่เปิดประตู กลับมาเมื่อไหร่ ทำไมใจดำปล่อยเราไว้ข้างนอก”

เสียงวินตะโกนถามผม ผมตกใจเพราะนึกว่าวินกลับเข้าห้องไปแล้ว

“เรารู้นะว่านายอยู่ตรงนี้ เราเห็นนายนะรอน ทำไมมีอะไรไม่คุยกับเรา” ผมเดาว่าวินคงมองลอดใต้ประตู”

“วิน เราอยากอยู่คนเดียวตอนนี้ นายอย่าเพิ่งมาคาดคั้นเราเลยนะ เราขอร้อง”

“เรารู้เรื่องแล้วนะ เมี่ยงโทรมาหาเรา เราเป็นห่วงนายจนจะบ้าอยู่แล้ว เปิดประตูให้เราก่อน เราขอร้อง”วินบอกกับผมพร้อมกับทุบประตูไปด้วย

“ถ้างั้นนายก้อรู้แล้วสินะ เมี่ยงเค้ายอมปล่อยนายแล้ว” แล้วเราก้อต้องปล่อยนายเหมือนกัน ผมบอกประโยคนี้กับวินในใจ

“เรื่องนั้นไว้ค่อยพูดทีหลัง แต่ตอนนี้เราขอเห็นหน้านายก่อนได้มั๊ย รอน...นายอย่าทำแบบนี้ เราขอร้อง อย่าทำแบบนี้”

เสียงที่เริ่มสั่นของวินกระตุ้นให้น้ำตาผมไหลพราก

“วิน เราอยากคิดอะไรเงียบๆคนเดียวก่อน พรุ่งนี้เราค่อยมาคุยกันนะ” ผมพยายามบังคับเสียงตัวเองให้เป็นปกติแต่มันก้อไม่สำเร็จเท่าไรนัก

“รอน ทำไมนายถึงใจร้ายกับเราแบบนี้ เราไม่ขออะไรมากมาย แค่ให้เราเข้าไปหน่อย ขอให้เราเห็นนายสักนิดก้อยังดี เราเป็นห่วงนายนะ เราอยากเห็นว่านายสบายดี ไม่เป็นอะไรมากแค่นี้ แล้วเราจะกลับไปนอนแล้ว นะรอนเปิดเถอะ”

คำพูดแต่และคำของวินมันทำให้ผมอบอุ่นหัวใจ ผมตัดสินใจเปิดประตูให้วิน ทันทีที่ผมบิดลูกบิดประตู ก้อถูกคนที่อยู่ข้างนอกดึงเต็มแรง

วินเปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เห็นหน้าผม วินก้อเข้ามากอดผมทันที ผมรับรู้ได้ว่าวินตัวสั่นมาก

“เจ็บมากมั๊ยรอน เราขอโทษนะเพราะเรื่องของเราทำให้นายต้องเจ็บตัวแบบนี้” วินผละออกมาสำรวจดูตัวของผม ผมเห็นตาของวินแดงมาก

ทั้งยังมีน้ำใสๆเออรอบๆดวงตา วินเอามือมาลูบบริเวณแก้มของผม

“ยิ่งนายเจ็บเท่าไหร่ เราก้อยิ่งเจ็บมากเท่านั้น เราอยากไปสั่งสอนคนที่มันทำแบบนี้กับนาย ถ้ามันทำมากกว่านี้เราคงทนไม่ได้แน่ๆ”

วินก้มลงมาจูบเบาๆที่รอยข้างแก้มของผม ทุกรอยสัมผัสของวินมันทำให้ผมเจ็บไปทั้งใจ

ที่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เราจะต้องกลับไปเหมือนเดิม เดินเคียงข้าง มองอยู่ห่างๆ ในฐานะ..................เพื่อนคนนึงเท่านั้น


>
>
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 11-08-2008 18:37:59
เฮือกกกกกกกก น้องเมี่ยงดราม่ามากๆ

รอนก็ยังเศร้าได้อีก :sad2:



ลป. คุณเพียว บีมิอาจเอื้อม เอิ้กๆ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 11-08-2008 20:02:38
 :m13: :m13: :m13:  อีกตอน อีกตอน อีกตอน  :m4: :m4: :m4: :m4:


จะลงเอยกันยังไงหว่า รออ่านตอนต่อไปอยู่เน้อ.....


 :m22: :m22: :m22: :m22: :m22:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-08-2008 00:04:47

........."เส้นขนานทางเดินที่แม้ไม่สามารถจะมาบรรจบแต่มันจะยังคงขนานไปด้วยกันตลอดไปไม่รู้จบ".......

.........แม้จะไม่ชิดแต่ความสุขก็จะอยู่กับเราตลอดไป...... :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 12-08-2008 00:22:13


วิน  ยอมรับตัวเองสักทีสิ    สงสารรอนมากมาย   :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:


มาต่อไวๆนะงับ :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 12-08-2008 00:30:09
 :m15:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 12-08-2008 20:07:10
เป็นกำลังใจให้คนโพส

และอยากบอกว่าแอบชอบคนเขียน  :o8:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 14-08-2008 13:44:41
วันเวลาของความสุขผ่านไป สิ่งที่ตามมาคือความปวดใจ ที่ได้ไกล้คนที่เรารัก แต่...ก็เหมือนอยู่แสนใกล :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 14-08-2008 14:15:25
มาแล้วค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  ตอบจบ

พาแม่ไปเที่ยวมา :กอด1:

ตอนที่.20
ผมนั่งมองวินที่ตอนนี้หลับอยู่บนโชฟาที่หน้าทีวี ก่อนจะออกมายืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยตรงระเบียงซึ่งมันกลายเป็นมุมโปรดของผมไปเสียแล้ว

ตอนนี้ใกล้จะเช้าแล้ว ความเย็นของอากาศรอบๆกายตอนฟ้าใกล้ๆสว่างทำให้ผมต้องยืนกอดอกตัวเอง

กลิ่นของน้ำค้างยามเช้าทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่ง และสดชื่นขึ้นมาบ้าง แต่ก้อยังอดคิดไม่ได้อยู่ดีว่า วันนี้จะเกิดอะไรบ้าง คงต้องกลับไปเหมือนเดิมแล้ว

จะมีสักกี่คนที่ต้องเจ็บปวดกับการปล่อยใจไปตามความต้องการของตัวเองในช่วงเวลาไม่นานที่ผ่านมานี้ ยิ่งคิดก้อยิ่งวุ่นวายใจ

ผมหลับตาลงช้าๆสูดอากาศรอบๆตัว หวังเพียงให้ความหนาวเย็นรอบๆตัวทำให้ใจของผมหายร้อนรนได้

“คิดอะไรอยู่....หือม์” วินเดินมายืนที่ข้างหลังของผม เราสองคนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนที่ผมเอามาให้วินเมื่อคืน

ริมฝีปากของวินกดลงมาเบาๆที่ลำคอของผม เพียงเท่านี้ความอบอุ่นก้อแผ่ซ่านไปทั้งตัว

“ยังเจ็บอยู่มั๊ย” ผมส่ายหัวแทนคำตอบ

“วิน..รู้มั๊ยว่าวันนี้ทุกอย่างจะต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิม”

“ไม่รู้สิ สำหรับเรา วันนี้มันก้อยังคงเหมือนเดิมนะสำหรับเรา”

“เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ” ผมถามวิน

“แล้วนายล่ะ นายไม่เสียใจเหรอ แล้วรู้ใจตัวเองหรือยัง” วินถามผมแล้วกอดผมแน่นขึ้น มันอาจดูเหมือนจะเห็นแก่ตัว แต่ผมขอแค่ครั้งเดียว ขอแค่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น แค่เท่านั้น ไม่ได้คิดจะเหนี่ยวรั้ง

“ เสียใจสิ เราคงเจ็บปวดมากถ้า....ถ้า......” ในที่สุดผมก้อพูดไม่ออก

“ถ้ามันทำแล้วต้องเสียใจ แล้วนายยังจะคิดมากทำไม รอน ทำตามที่ใจนายต้องการเถอะ เราแน่ใจว่าเราสองคนใจตรงกันนะ”

มันเป็นคำพูดที่ผมหวังอยากได้ยินมากที่สุด

“แล้วน้องลินล่ะ น้องเค้าไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนะ มันเหมือนกับหักหลังน้องเค้าเลย ต่อไปจะมองหน้ากันยังงัย จะอยู่กันยังงัยโดนที่ไม่ถูกคนรอบข้างมองพวกเราว่าเป็นคนเลว”

ผมถามวินถึงสิ่งที่ผมกลัวที่สุดเหมือนกัน

“เอ่าน่า นายอย่าคิดมากน่า นอนให้สบายเถอะนะ วันนี้คงไปเรียนไม่ไหวหรอก เดี๋ยวเราโทรบอกให้โอ๊ตกับลินมาที่นี่ตอนสายๆแล้วกัน” แล้ววินก้อลากผมมานอนต่อจนได้

แสงแดดที่ลอดเข้ามาทางระเบียงทำให้ผมรู้สึกตัว เสียงของวินกำลังคุยอยู่กับใครบางคนทำให้ผมเดินออกมาผมเห็นโอ๊ตกับน้องลินนั่งอยู่หน้าทีวี หน้าตาสดใส

ไม่รู้ทำไมผมกลับไม่กล้าสู้หน้าพวกเค้าได้ กำลังจะกลับเข้าห้อง แต่วินก้อดันเห็นซะก่อน

“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ กินน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก สิ ไอ้โอ๊ตมันซื้อมาฝาก” ทันทีที่สองคนนั้นเห็นผมก้อพุ่งมาที่ผมทั้งคู่ ผมนึกว่าทั้งสองคนคงจะเข้ามาต่อว่าผมแน่ๆ แต่ก้อป่าว

“เป็นงั๊ยบ้างว่ะ หน้าช้ำเหมือนกันนะ ใครมันฝากรอยบ้าๆบนหน้านายว่ะ บอกมาเลยเดี๋ยวให้พวกเพื่อนๆเราจัดการให้”โอ๊ตถามผมด้วยความเป็นห่วง

“ยังเจ็บอยู่หรือป่าวค่ะ พี่รอน เนี้ยะพอพี่วินโทรไปบอก ลินตกใจแทบแย่ นึกว่าจะเป็นอะไรมากหรือป่าว” ความห่วงใยจากเพื่อนๆ มันทำให้เราอดที่จะซาบซึ้งไม่ได้

“ไม่เป็นไรมากหรอกจ๊ะ ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว เลยกลายเป็นว่าโดดเรียนกันหมดทุกคนเลย”

“ก้อพี่วินนั้นแหละ...บอกว่าต้องมาคุยกันวันนี้ บอกว่าคนแถวนี้คิดมากจะแย่แล้ว” น้องลินบอกพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์ มันทำให้ผมร้อนวูบขึ้นมาทันที นี่แหละมั๊งที่เค้าเรียกว่าร้อนตัว

“เราคุยกันหมดแล้วนะรอน เรื่องทุกอย่างจะมีคนรู้แค่พวกเรา กับไอ้ป๋อมมัน”วินบอกผม

“งั้นลินก้อรู้เรื่องเมี่ยงแล้วสินะ มันจบแล้วล่ะ พวกเราก้อไม่ต้องเล่นละครอีกแล้วสิน่ะ” ผมถามน้องลิน

“พี่รอนแน่ใจเหรอค่ะว่าที่ผ่านมาเราเล่นละครกันอยู่ ลินว่าก่อนนั้นต่าหากที่พี่รอนต้องเล่นละคร ทำไมมีอะไรไม่คุยกับลินล่ะค่ะ

เราเหมือนเป็นพี่น้องกันแท้ๆถ้าพวกเรารู้ใจตัวเองให้ไวกว่านี้มันคงไม่ต้องมีคนเสียใจหรอกค่ะ”

“พี่ขอโทษนะ พี่จะไม่แก้ตัวอะไรเลย ลินอยากว่าอะไรพี่ก้อว่ามาเถอะจ๊ะพี่ขอโทษที่วันนี้พี่ต้องทำให้เราเสียใจ” ผมได้แต่พร่ำคำขอโทษน้องลิน เพราะนึกว่าลินคงเสียใจเรื่องของวิน

“ช่างมันเถอะค่ะ เพราะว่ายังงัยวันนี้พวกเราก้อรู้ใจตัวเองกันสักที” น้องลินยิ้ม ให้ผม ส่วนไอ้วินมันก้อเดินมาโอบไหล่ผม

“เลิกคิดมากได้แล้วนะ นายน่ะไม่เห็นเหรอว่าไอ้โอ๊ตมันหน้าบานจะแย่อยู่แล้วที่วันนี้มันจะได้ไม่ต้องแอบลักเค้ากินขโมยเค้ากินอีก” วินยังไม่วายแซวโอ๊ต

“เงียบเลยมึง....มึงต่างหากหน้าบานกว่ากูอีก” โอ๊ตหน้าแดงแต่ก้อยังปากดีกัดวินกลับ ผมดึงน้องลินเข้ามากินน้ำเต้าหู้ด้วยกัน แล้วก้อถามเรื่องของโอ๊ต

“ลินกับโอ๊ตชอบกันเมื่อไหร่เหรอ แล้วกับไอ้วินมันล่ะก้อไม่ได้ทะเลาะกันนี่นา” ผมถามน้องเค้า

“มันก้อไม่รู้เหมือนกันอยู่ใกล้ๆพี่โอ๊ตแล้วสบายใจดี พอคิดว่าต้องกลับไปทำตัวเหมือนเดิม ไม่เห็นกันทุกๆเย็น ไม่ได้กลับหอด้วยกันมันก้อเหมือนจะเสียใจ

ส่วนพี่วินมันเหมือนเราเป็นพี่น้องกันมากกว่า เพราะตลอดมาเหมือนพี่วินยังคงคิดถึงใครบางคนอยู่มั๊ง เลยทำให้เราไม่รู้ตัวว่านั้นไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาว

แต่มันเหมือนพี่ชายน้องสาวมากกว่าค่ะ พี่รอนยังจำเรื่องรูปของลินที่ติดรถพี่วินได้มั๊ยค่ะ ที่ลินบอกว่าน่าจะเอารูปพี่รอนมากกว่า

แต่จริงๆแล้วลินเห็นว่ามีรูปพี่รอนอยู่ในรถ ลินเลยเอารูปลินมาติดบ้าง ตั่งแต่วันนั้นมั๊งค่ะ ที่เราต่างไม่กล้าให้ความรู้สึกกับอีกฝ่ายมากไปกว่าที่เป็นอยู่”

เราสองคนเปิดใจคุยกันและผมก้อเล่าความรู้สึกที่มีต่อวินให้น้องลินฟัง น้องลินเข้าใจและไม่ว่าอะไรเรื่องของเรา เพียงเท่านี้ แค่เพื่อนของเรารับเราได้ก้อทำให้เราดีใจมากแล้ว

เราตกลงจะไม่บอกเรื่องเมี่ยงกับเพื่อนๆคนอื่นแต่จะบอกกับไอ้ป๋อมคนเดียวเพราะมันก้อเป็นเพื่อนสนิท และมันคงจะช่วยทำให้ไม่มีใครรู้เรื่องผมกับวินได้

เที่ยงๆลินกับโอ๊ตก้อขอตัวกลับ จะเลยไปหาข้าวกินด้วย ส่วนผมกับวินเราก้อขับรถไปหาอะไรกินบ้างโดยที่เอารถวินไปเพราะโอ๊ตมันไม่ยอมเอาไปใช้อีกแล้ว พอดีกับที่สภาพผมเป็นแบบนี้ด้วยเลยไม่อยากขี่มอเตอร์ไซด์


หลังจากที่ผมกับวินกินข้าวเสร็จวินก้ออยากจะไปที่ไร่ของบ้านพ่อผม แต่ผมก้อไม่เห็นด้วยเพราะไม่อยากให้ญาติๆต้องตกใจที่เห็นหน้าของผม แต่วินก้อไม่ฟัง

“น่า..นะรอน...เราอยากไปนั่งเล่นที่ฝายกั้นน้ำอีกครั้งนะ เพราะว่าที่นั้นมันมีความทรงจำดีๆระหว่างเราสองคน แล้วเย็นๆค่อยกลับก้อได้ถ้านายไม่นายไปที่ไร่”

สุดท้ายมก้อต้องยอมอยู่ดีทั้งที่ในใจลึกๆแล้วก้ออยากไปเหมือนกันที่ที่เราได้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกันและกัน ที่ที่เราตกลงจะอยู่ข้างๆกันตลอดไป แต่วันนั้นมันในฐานะเพื่อน แต่วันนี้มันไม่ใช่


ภาพของสายน้ำเบื้องหน้ายังคงเหมือนเดิม เฉกเช่นวันวาน คงมีแต่ใจของคนที่เปลี่ยนไป มันคงเหมือนที่โบราณเค้าว่าเอาไว้วันเวลามันสามารถเปลี่ยนใจคนได้จริงๆ

วันนี้ผมกับวินเรายืนอยู่หน้าสายน้ำแห่งนี้ด้วยความสุข แต่ในวันข้างหน้าเล่าใครจะรู้ว่าเราทั้งสองจะยังคงรักษาความสุขเหมือนวันนี้ได้

“คิดอะไรอยู่รอน เห็นเงียบตั่งแต่มาถึงแล้ว” เสียงของวินปลุกผมให้ตื่นจากความคิด

“เรากำลังนึกว่า ในวันข้างหน้า ถ้าเรามาที่นี่อีก เราจะยังคงรักษาความรู้สึกดีๆแบบนี้ไว้ได้มั๊ย” วินเดินมายืนข้างๆผม แล้วดึงมือของผมมาจับไว้

“อย่าเพิ่งไปกลัวกับเรื่องที่มันยังไม่เกิดเลยนะรอน แค่วันนี้เราทำสิ่งที่ดีๆให้กันและกันวันหน้ามันจะเป็นยังงัยคงต้องให้เราสองคนเรียนรู้ไปพร้อมๆกันนะ” ผมและวินเราต่างหันมายิ้มให้กัน

“นี่พวกเราเคยบอกรักกันหรือยัง” วินถามผมพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้

“ เราพูดไม่เก่ง แต่ความรักมันไม่ใช่คำพูด...มันคือการกระทำ และ เราก้อกำลังทำมัน เรารักนายนะวิน” ผมบอกกับวินและหันหน้ากลับมามองยังสายน้ำเบื้องหน้า

“เราบอกนายแล้วว่า เราสองคนนะใจตรงกัน เราเองก้อรักนายมากไม่แพ้กันนะรอน ขอบใจนะที่ไม่ทอดทิ้งกันไป”

“ชีวิตเรายังต้องเดินไปอีกไกลนะวิน ถ้าเราสองคนไม่เข้มแข็งพอ ความรักแบบพวกเราคงหาความสุขได้ไม่นานนัก

ทั้งครอบครัวนาย ครอบครัวเรา และอีกหลายๆอย่างที่มันพร้อมจะทำลายเราเรากลัวเหมือนกันนะว่าความสุขมันจะอยู่กับเราได้นานเท่าไรกัน” ผมอดจะพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจไม่ได้

“มันไม่ยากหรอก แค่เราจะรักกัน แค่ที่คนสองคนจะหาความสุขในชีวิต”วินดึงให้เราหันหน้ามาหากัน

“ อย่ากังวลเลยนะ มันง่ายจะตายที่เราจะรักใครสักคน แค่เราทำตามใจเราทำสิ่งที่เราคิดแค่นั้นเอง”

นั่นสินะ การรักใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องยากแต่การที่จะทำให้ใครสักคนมารักเรามันกลับยากยิ่งกว่า

“ เราว่ามันคงต้องเปลี่ยนที่ใส่แล้วมั๊ง” วินดึงมือผมขึ้นมาแล้วลูบเบาๆที่แหวนบนมือข้างขวาของผม

“ไม่ต้องหรอก...เราชินที่มันจะอยู่ข้างนี้แล้วล่ะ มันจะอยู่ข้างไหนความรู้สึกเราก้อไม่ต่างกันหรอกนะ”

“ก้อแล้วแต่นายแล้วกัน เอาไว้สักวันเราจะหาสิ่งที่มันดีกว่ามาเปลี่ยนให้นะเราสัญญา”

“ไม่ต้องหรอก ตอนนี้นายก้อให้สิ่งที่มันสำคัญกับเรามาแล้วงั๊ย ขอแค่อย่าเอามันคืนก้อแล้วกัน”

“อือม์....เราสัญญาว่าจะไม่มีวันเอามันคืน มันจะอยู่กับนายตอลอดไป ไม่ว่าต่อไปพวกเราจะเป็นยังงัยถึงแม้ว่าสักวันตัวเราจะไม่อยู่ใกล้กัน แต่ใจของเราอยู่กับนายเสมอ................................เราสัญญา”

เพียงเท่านี้ใจของเราก้ออิ่มเอมและมีความสุขมากแล้ว มันดีจริงๆที่มีใครสักคนอยู่ข้างๆเรา คอยจับมือเรา

..................................เรารักนายนะวิน.....................................................  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 14-08-2008 17:03:28
 :กอด1: ขอบคุณที่เอาเรื่องดีดีมาให้อ่านคับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 14-08-2008 18:19:56
 :m13: :m13: ซึม ทำไมมันจบเร็วงี้อ่ะ


ไงก็ขอบคุณคับ ที่นำเรื่องราวดีดี ที่จบแบบ happy มาให้เราอ่าน

ไงก็เป็นกำลังใจให้นะค๊าบ รออ่านเรื่องต่อไปอยู่นะค๊าบ......  :m4: :m4: :m4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 15-08-2008 01:55:57

........สุดท้าย...เส้นขนานก็ไม่ได้ห่างดังเดิม.......... :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 15-08-2008 09:20:22
และแล้วก็ได้รู้ใจกันซะที
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 15-08-2008 16:41:41
เด๋วรอให้พี่รันมาลงภาค 2 น้า


เด๋วเพียวจาแอบมาแย่งซีนอีก  :laugh:


ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านเช่นกันค๊าบ


ถึงแม้จะน้อยนิด  แต่ก็ยังมีคนอ่าน  ถึงจาอ่านแค่คนเดียวก็ลงคับ


ไปแว้วววววววววววว  :oni1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 15-08-2008 19:12:51
ต้องสารภาพกับผู้แต่งเรื่องนึง.........ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มา เพิ่งมีตอนนี้แหล่ะที่รู้สึกว่าอ่านแล้ว อบอุ่น ..สบายใจ

เพราะก่อนหน้านั้น  :sad2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 16-08-2008 18:20:02
ยังไม่จบนะครับ

เพราะว่าเรื่องราวของ วินกับรอน

จะดำเนินต่อไปเช่นไร

หลังจบจากมหาวิทยาลัย

มาเป็นกำลังใจให้เค้าทั้งคู่

เดินไปบนทางซึ่งเต็มไปด้วยความรัก กันนะคับ

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 20 น้องเพียววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 16-08-2008 18:24:35
 :m4: :m4: อ้าว ยังไม่จบหรอเนี่ย ซึม  :m4: :m4:

เป็นกำลังใจใจภาคต่อไปคับ   :mc4: :mc4: :mc4:


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 18 อิอิ พี่รัน ลงเอง555
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 16-08-2008 18:28:42
 :m4: :m4:

มารอภาค2
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 20 น้องเพียววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 18-08-2008 13:07:39
ภาคต่อไปเศร้าสุดชีวิต  :m15: :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 20 น้องเพียววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 18-08-2008 14:19:47
เข้ามารอความรัก :a1: ในภาคต่อไปคับ.....อยากให้รอนเจอความรักที่งดงามมั่งจัง :o8:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 20 น้องเพียววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 18-08-2008 16:58:24

.......เมื่อไหร่จะมา.......  :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 20 น้องเพียววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: ( = ___ = ) ที่ 18-08-2008 17:55:19


เข้ามาเป็นกำลังจายยยให้พี่รันกะน้องเพียวและก็คุณพีฯคนแต่งจ้ะ :L2:
เค้ามะถูกโรคกะเรื่องเศร้าอ่า แงๆ

แต่ไม่ว่ายังงายก็จะติดตามต่อปาย :a1:





หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 20 น้องเพียววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 18-08-2008 18:38:43
โอ้วมีภาคสองด้วย

ปูเสื่อรอ อิอิ :m13:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 20 น้องเพียววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 25-08-2008 17:31:56
พรุ่งนี้จะมาลง ภาค  2 ให้ละกันนะครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว09-08-08 ตอนที่ 20 น้องเพียววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 25-08-2008 17:46:47
 :m4: :m4:  เย้ ๆ ๆ ๆ จะได้อ่านภาคสองแร้ว  :m4: :m4:

 :pig4: :pig4: ขอบคุณนะคับ จะรออ่านน๊า......
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว พรุ่งนี้จะมาต่อ ภาค2 ให้นะครับบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 27-08-2008 00:20:26
ไหนบอกว่าพรุ้งนี้จามาลงไง รอตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืน หมดไปอีกวัน ชิสส์ คนโกหก  งอล
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว พรุ่งนี้จะมาต่อ ภาค2 ให้นะครับบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 28-08-2008 00:39:40
มาเป็นกำลังใจให้คนโพสครับ

ชอบเรื่องนี้ครับ

อ่านแล้วเช้ามาตาบวมไปทำงานเลย  :sad2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว พรุ่งนี้จะมาต่อ ภาค2 ให้นะครับบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 28-08-2008 17:54:57
ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคับ

ที่บ้านตอนนี้มีปัญหานิดหน่อย

คือ เน็ต ที่บ้านไม่สามาถรเปิด hotmail ได้

เพราะไฟล์ที่จะเอามาลง มันอยู่ในเมลล์อ่ะคับ

 :m23: :m23: :m23: :m23:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ขอโทษด้วยนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: PakBeob ที่ 29-08-2008 22:50:44
ไม่เป้นไรค๊าบบบ

มาช้าดีก่าไม่มา คิคิ :m32:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ขอโทษด้วยนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 02-09-2008 16:12:29
(http://i239.photobucket.com/albums/ff173/love_u_ja/web/12thaiboy-1.jpg) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=5905.0)

คลิ๊กที่รูปโปสเตอร์เพื่อเข้าสู่กระทู้





ปล. คิดตึ๋งน้องเพียวเพียว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 03-09-2008 15:41:35
ตอนที่.1
แสงแดดยามบ่ายแก่ๆ ปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนๆ สงสัยจะยังไม่สร่างจากงานเลี้ยงเมื่อคืนเท่าไหร่นัก
ผมหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ

แผ่นอกที่เปลือยเปล่าของวินสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปปัดไรผมที่มันปกหน้าของวินอย่างเบามือ

“จะลูบหน้าเราเล่นอีกนานป่ะห๊ะ รู้มั๊ยว่าเพิ่งตื่นนอนแบบนี้แล้วมาลูบไล้ตัวเรามันจะเป็นยังงัย”

คนถามยังไม่ยอมลืมตา แต่เอื้อมมือมาจับมือผมไว้

“ไอ้ทะลึ่ง ปล่อยเลย จะไปอาบน้ำแล้ว”ผมบอกกับวินพร้อมกับดึงมือออก วินยิ้มนิดๆก่อนจะดึงมือขึ้นมาแตะกับริมฝีปากเบาๆ

หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก้อเดินออกมาแกะของขวัญที่เพื่อนๆนำมาแสดงความยินดีกับผมในวันสำคัญ

เพราะเมื่อวานเป็นวันซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้ายของการซ้อมรับปริญญา ในวันรับจริงพวกเราคงต้องถ่ายรูปอยู่กับญาติๆ และเพื่อนเก่าๆ

พวกเพื่อนๆกับรุ่นน้องต่างคณะเลยพากันมาแสดงความยินดีกับพวกเราวันนี้เสียเป็นส่วนใหญ่

“วิน ไปอาบได้แล้ว มันบ่ายแล้วนะ เดี๋ยวเอารูปไปอัดและจะได้เลยไปหาอะไรกินกัน” วินนอนบิดไปบิดมาแต่ก้อลุกไปอาบน้ำแต่โดยดี

เมื่อคืนเราไปฉลองกับเพื่อนๆมา กว่าจะกลับมาก้อเกือบสว่าง ทั้งผมและวินกว่าจะพากันกลับมาถึงห้องได้ก้อแทบอ้วก

“จะออกไปกันเลยมั๊ย หิวเหมือนกัน” วินเดินมานั่งข้างผมหลังจากอาบน้ำเสร็จ

“ อือม์...ไปดิ เดี๋ยวเราเอารถเราไปนะ จะได้เอาไปไว้ที่ไร่เลย ขี้เกียจเอากลับกรุงเทพ เอาไว้ให้คนในไร่ไว้ใช้ดีกว่า”

“ก้อแล้วแต่ แสดงว่าจะเลยไปที่บ้านพ่อนายด้วยล่ะสิ”

“อือม์...จะไปลาคนที่ไร่ก่อนกลับกรุงเทพน่ะ เห็นป้าบอกว่าปู่กับย่าถามว่าจะรับปริญญาวันไหน จะได้เตรียมตัวถูก” ผมกับวินเราออกไปกินข้าวที่ร้านประจำ

วินต้องอยู่รอรับรูปที่พวกเราถ่ายกันเมื่อวาน เพราะจะได้เอาไปให้ญาติๆผมดูด้วย ผมเลยขี่รถไปยังไร่ของพ่อผมคนเดียว

เส้นทางสายที่คุ้นเคย คงไม่ผิดนักที่ผมจะเรียกถนนสายนี้ว่า เส้นทางรัก เพราะมันเป็นถนนสายที่ทำให้ทั้งผมและวินผูกพันกันมาจนถึงทุกวันนี้

ไม่นานผมก้อมาถึงไร่ เลยเข้าไปสวัสดีปู่กับย่าและญาติของผม พร้อมกับบอกว่าอีก2-3 วันถึงจะเข้าเข้ารับพราะราชทานปริญญาบัตร

ปู่กับย่าอยากให้ผมอยู่ช่วยงานที่ไร่ แต่ผมยังไม่ได้รับปากอะไร ได้แต่บอกว่าถ้าว่างๆจะขึ้นมาเยี่ยม

ผมนั่งเล่นนอนเล่นจนเย็นก้อยังไม่เห็นวิน เลยคว้าเวสป้าคู่ใจไปยังที่ที่ผมกับวินมักชอบไปอยู่เสมอ ที่ที่มีความผูกพันของเราสองคน

ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกเมื่อไหร่ นึกถึงวันที่ผมกับวินเราต่างรับรู้ถึงความรู้สึกของกัน จากวันนั้นมาเราต่างก้อคอยดูแลกันและกันมาตลอด

ถึงแม้ว่าเราจะทะเลาะกันบ้าง แต่ทุกครั้งที่เราสามารถผ่านมันมาได้ ความสัมพันธ์ของเรายิ่งเหนียวแน่นกว่าเดิม

จวบจนวันนี้ ที่พวกเราต้องออกไปเผชิญกับโลกกว้าง ตามเส้นทางที่เราเลือก ความทรงจำเหล่านี้มันจะติดตามผมไปตลอด

พื่อให้ความอบอุ่น และ เป็นกำลังใจในยามที่เราท้อแท้เมื่อเจอกับอุปสรรคในวันข้างหน้า ผมหยิบของขวัญที่ตั้งใจจะให้วินขึ้นมาดู

มันเป็นแหวนที่ผมสั่งให้เค้าสลักลายรูปพระจันทร์ลงไปบนเนื้อของแหวน ผมอดยิ้มให้กับเรื่องราวของผมกับวินที่ผ่านมาไม่ได้

คนเราทุกคนคงมีเรื่องราวความทรงจำที่เพียงแค่นึกถึง ไม่ว่าเมื่อไหร่ กลิ่นอายของความสุข ก้อจะโชยมาให้หัวใจเราได้อิ่มเอมกับเรื่องราวเหล่านั้น

การที่เราได้รักใครสักคนเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ แต่มันกลับดียิ่งกว่าที่ได้กลายเป็นที่รักของใครคนนั้น

“บ้าป่าวเนี้ย ยิ้มคนเดียวก้อเป็น” วินเดินมาข้างๆผม

“นึกแล้วว่านายต้องมาที่นี่ ” วินยื่นบางอย่างให้กับผม “

รอนเรายินดีด้วยนะ” มันเป็นโหลแก้วใบใหญ่ที่ข้างในมีดาวกระดาษพับอยู่ครึ่งนึง ผมอึ้งไม่คิดว่าวินมันจะทำอะไรแบบนี้ด้วย

“ขอบใจนะวิน เราเองก้อยินดีกับนายด้วยนะ” ผมเองก้อยื่นกล่องเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกให้กับวิน

วินเองก้อดูอึ้งไปเหมือนกันคงไม่นึกว่าเราจะใจตรงกัน แต่ก้อเรียกรอยยิ้มสดใสให้เกิดขึ้นบนใบหน้าขี้เล่นทันที่เห็นว่าข้างในเป็นอะไร

“ ใส่พอดีเลยอ่ะ” วินสวมมันลงไปที่นิ้ว พลางลูบมันเล่น

“ทำมัยไม่เป็นรูปดาวเหมือนกันล่ะ” วินถามผม

“เพราะทุกครั้งที่เราแหงนดูดวงดาว เราก้อต้องเห็น ดวงจันทร์ทุกครั้ง ท้องฟ้ายามกลางคืนคงไม่สวยหรอกถ้าไม่มีเงาของดวงจันทร์”

วินเอื้อมมือมากอดผมเบาๆ

“ขอบใจนะรอน ดีใจนะที่มีนายอยู่ข้างๆ” แค่คำพูดที่ออกมาจากความรู้สึกที่จริงใจ ไม่ต้องเพราะมากมายแต่ก้อทำให้คนให้มีความสุข

ผมมองดาวที่อยู่ในโหลก่อนจะเห็นว่าลายมันดูแปลกๆ คลายๆตัวหนังสือ เลยหยิบมันขึ้นมาดู

“ดาวทุกดวงมีตำนานนะรอน ถ้าอยากรู้ ก้อลองแกะดูแล้วกัน” ผมงงกับคำบอกของวิน แต่ก้อลองแกะมันออกมาดู

“ 14 มีนาคม 47 วันนี้เราไปไหว้พระที่ดอยสุเทพกัน คำอธิฐานของผมในวันนั้น ขอให้คนนี้อยู่ข้างๆเราตลอดไป”

ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งตัว เมื่อผมได้อ่านข้อความนั้นผมหยิบขึ้นมาอีกดวง

“10 ตุลาคม 48 หลังกลับจากฉลองฝึกงานเสร็จ รอนเช็ดตัวให้ก่อนจะแอบมาจุ๊บเรา ดีใจเพราะมันเป็นครั้งแรกที่รอนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” ผมกำลังจะเปิดดวงต่อไป วินก้อมาจับมือผมไว้

“ทุกเรื่องราวระหว่างเรา มันจะอยู่ในใจของเราตลอดไป แต่ เราว่าเอาไว้อ่านตอนหลังเถอะนะ....เราอายว่ะ” หน้าของวินตอนมันเขินดู ตลกๆน่ารักดี

“เราหวังว่านายคงจะเติมดาวที่มันขาดไปอีกครึ่งให้เต็มนะรอน เก็บมันไว้ด้วยกันเถอะนะเรื่องราวระหว่างเราน่ะ”

“อือม์...เราจะใส่มันวันล่ะดวงแล้วกัน จะใส่จนกว่าจะเต็ม เราสัญญา”วินยิ้มให้กับผม

“แล้วจะไม่จูบขอบใจหน่อยเหรอ” วินมันยื่นหน้ามาถาม

“ไอ้บ้า ทะลึ่งไม่เลือกสถานที่เลยนะเนี้ยะ”

“น่านะ ลองเล่นๆก้อยังดี” มันยังตื้อไม่เลิก ผมส่ายหน้าระอากับมัน แล้วหันไปหอมแก้มมันแทน

“แค่นี้พอล่ะกันน่ะ.....”

ตอนนี้ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว อากาศก้อเริ่มเย็นลง แต่มีกลับคนสองคนที่ไม่รับรู้ถึงความเย็นรอบๆตัว

เพราะต่างสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในใจของกันและกัน ความอบอุ่นที่เกิดจากความรู้สึกดีๆ ที่เราทุกคนเรียกมันว่า “รัก”
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ขอโทษด้วยนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 03-09-2008 15:49:33
มาจิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ ได้อ่านภาคสองแร้ว

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 03-09-2008 17:57:04
ในที่สุดก็ได้สมใจอยากแล้ว หลังจากที่ตั้งใจรอมานาน
อยากเห็นความอบอุ่นจากเรื่องนี้ พอเริ่มตอนแรก อ่านไปก็ยิ้มไป
อยากให้ฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกันน่ะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 03-09-2008 21:34:34
 :oni2: :oni2: :oni2:
 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 05-09-2008 10:21:42

............"การที่เราได้รักใครสักคนเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ แต่มันกลับดียิ่งกว่าที่ได้กลายเป็นที่รักของใครคนนั้น".........


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 08-09-2008 19:26:45
คนอ่านน้อยจัง  กาซิก ๆๆๆ :m15: :m15:

ยังไงก็ลงคับ กาซิก ๆๆๆๆๆๆ


ตอนที่.2
“น๊า...นะรอน...นะ ให้เราอาบด้วย เดี๋ยวจะไม่ทันแล้ว ขี้เกียจโดนไอ้ป๋อมมันด่าเอา” เสียงทุบประตูห้องน้ำของไอ้วินยังคงดังต่อเนื่อง

หลังจากที่เราเดินสายฉลองรับตำแหน่งบัณฑิตใหม่ กับเพื่อนๆทั้งที่คณะเดียวกันและต่างคณะ แต่คืนนี้มันจะเป็นการฉลองเฉพาะกลุ่มของพวกเรา

“รอนเปิดให้เราหน่อยดิ น๊า ถ้าไม่เปิดนะ เราจะไปตะโกนที่ระเบียงเอาให้คนที่อยู่ที่นี่มารอดูหน้าเจ้าของห้องเลยนะคอยดูสิ”

ผมทนรำคาญไม่ไหวเลยเปิดประตูให้วินเข้ามาในห้องน้ำ” วินเดินยิ้มกริ่มเข้ามา

“มา เดี๋ยวเราช่วยขัดหลังให้ ผลัดกันนะ” วินช่วยขัดหลังกับสระผมให้ แต่ก้อออกจะไปในแนวทะลึ่งซะมากกว่า หลังจากนั้นผมก้อช่วยวินสระผมกับขัดหลังให้เหมือนกัน

“รอน ขัดตรงนี้ด้วยสิ” วินดึงมือผมไปจับกับวินน้อย

“ป๊าบ” ผมตบกบาลวินมันไปทีนึง

“ไอ้หื่นเอ๊ย....” ผมว่ามันแล้วหยิบผ้าขนหนูมาพันตัวแล้วออกมาจากห้องน้ำ วินมันหัวเราะ แต่ก้อเดินตามออกมา

“เป่าผมเราให้หน่อยนะรอน” ผมเดินไปหยิบไดร์มาเป่าผมให้วิน พวกเรามักจะทำให้กันอยู่บ่อยๆ

“อะ...เสร็จแล้ว ไปแต่งตัวไป สายแล้วพวกไอ้ป๋อมมันด่าแล้วเนี้ย” ผมลยเดินจะไปแต่งตัวบ้าง แต่วินมันดึงมือผมไว้

“มา เดี๋ยวเราทาครีมให้” มันคงเป็นความเคยชินไปซะแล้ว เพราะความเย็นของอากาศที่นี่ทำให้ผมต้องทาครีมอยู่เสมอ และก้อเป็นสิ่งที่วินมันชอบที่จะทำให้ผมอยู่บ่อยๆ

มือที่ชุ่มไปด้วยเนื้อครีมบำรุงผิวกลิ่นหอมอ่อนๆ แตะลงมาที่แขนเบาๆ ก่อนจะค่อยๆไล่ขึ้นไปตามต้นแขน และผ่านมายังช่วงอก นิ้วหัวแม่มือของวินยามที่กดลงบนผิวแล้วคลึงเบาๆเพื่อให้เนื้อครีมซึมได้ดีขึ้น

ทำให้ใจผมหวั่นไหว แต่ ในขณะเดียวกันผมเองก้อไม่อยากให้มันหยุด แม้วินมันจะทาให้ผมบ่อยๆแต่ก้อไม่ยอมชินกับสัมผัสแบบนี้สักที วินหันไปกดครีมเพิ่มก่อนจะแตะมันลงมาที่ข้อเท้า

แล้วลูบไล้จากข้อเท้าขึ้นมาจนถึงน่องก่อนจะมาหยุดนวดเบาๆบริเวณต้นขาด้านบน วินทาให้ผมจนเสร็จทั้งสองข้างก่อนจะหยุดมองหน้าผม

“พลั๊ว” เสียงมันตบกบาลผมคืน “ แค่ทาครีมทำไมต้องหน้าแดงด้วยว่ะ คิดลามกอยู่ล่ะสิ”

“ไอ้บ้าวิน” ผมต่อยมันเบาๆก่อนจะเดินไปใส่เสื้อผ้า เราสองคนมักเสียเวลาในการอาบน้ำแต่งตัวนานแบบนี้เสมอ.......
*
*
ทันทีที่ผมกับวินเดินเข้ามาในร้าน เสียงโห่ ปน เสียงด่าของไอ้เพื่อนตัวดีทั้งหลายก้อดังขึ้น

“กว่าจะเสด็จได้นะพวกมึง”เสียงไอ้ป๋อมลอยมา

“มึงอย่าไปว่าพวกมัน บ้านพวกมันแม่งอยู่ซะไกล๊ ไกล เวลาจะไปจะมาก้อต้องเดินเอานะมึง ถนนยังเข้าไม่ถึง” ความจริงร้านที่พวกมันมากันคืนนี้มันเปิดใหม่อยู่หลังคอนโดผมนี่เองพวกเราเลยเดินมา

คืนนี้มีแต่พวกเรากันเองทั้งนั้น กับ บรรดาแฟนๆของพวกเรา มันเลยทำให้ผมสนุกกว่าทุกคืน เลยดื่มมากกว่าทุกคืนที่ผ่านมา

ยิ่งดึกน้ำสีเหลืองอำพันยิ่งไหลลงคอพวกเรามากขึ้น ผมเองก้อเริ่มจะตึงๆเหมือนกัน จนน้องลินต้องหันมาเตือน

“พอได้แล้วมั๊งค่ะพี่รอน ดูสิพี่วินเองก้อใช่ย่อยแล้วนะนั่น” ผมหันไปมองวิน ก้อเจอกับสายตาที่มันมองมาทางผมเหมือนกัน เราต่างมองกันอยู่แบบนั้น จนเสียงเพื่อนๆแซว

“เอ้ย...พวกมึงยังไม่เลิกเล่นละครสลับคู่ผัวเมียอีกเหรอว่ะ” ความจริงเรื่องของพวกผม 4 คน มีแค่พวกเรากับไอ้ป๋อมเท่านั้นที่รู้ดี

“ไอ้เชี่ยนี่ เมาแล้วปากหมานะเนี้ย เกรงใจน้องลินมั่ง” โอ๊ตออกโรงปกป้องแฟน ส่วนน้องลินก้อนั่งยิ้มแก้มแทบฉีกอยู่ข้างผม

“เอ่อ...พวกมึง กูมีเรื่องจะบอก ยังงัยพวกเราก้อจะจบกันแล้ว กูเองก้อไม่อยากจะโกหกพวกมึงแบบนี้หรอกว่ะ ความจริงกูกับไอ้รอนเป็นแฟนกันจริงๆว่ะ ส่วนน้องลินกับไอ้โอ๊ต ก้อเหมือนคู่พวกกู”

วินมันลุกบอกกับเพื่อนในกลุ่มจะด้วยเพราะเมาหรือมึน แต่ผมเองก้อนิ่งเพราะตกใจไม่คิดว่ามันจะทำแบบนี้

“พวกกูว่าแล้ว แม่งถึงพวกมึงจะยังกัดกัน ทำตัวเหมือนเดิม แต่เวลาที่พวกกูเห็นเวลาที่พวกมึงมองตากันที่นะ พวกกูล่ะขนลุก ..... แต่ไม่ว่ายังงัยพวกเราก้อเป็นเพื่อนกันนะโว้ย

ดีแล้วล่ะที่พวกมึงบอกพวกกู แล้วมันก้อไม่ทำให้มิตรภาพของพวกเรามันเปลี่ยนไปสักนิด” เหล่าเพื่อนๆของผมพร้อมที่จะเข้าใจเรา

และคืนนี้มิตรภาพของคำว่าเพื่อน ก้อพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่ามันยิ่งใหญ่ และ งดงามแค่ไหน

ผ่านไปค่อนคืน ผมก้อชวนวินกลับเพราะพรุ่งนี้ พ่อ แม่ และบรรดาญาติๆของทั้งวินและผมก้อจะ ขึ้นมาที่เชียงใหม่เพื่อร่วมยินดีกับเราในวันมะรื่น

ถนนค่อนข้างเงียบเพราะเวลานี้ผู้คนส่วนใหญ่ คงกำลังซุกตัวอยู่บนที่นอนนุ่มภายใต้ผ้าห่มอุ่น ผมกับวินเราเดินจับมือกันมาเงียบๆ

“ไวจังเลยนะ...แป๊ปเดียวมันก้อผ่านมาตั้ง4ปีแล้ว” อยู่ๆวินก้อพูดขึ้น

“มันไม่สำคัญหรอกว่าจะไว หรือ ว่านาน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านไปมันให้อะไรเราบ้าง แต่ สำหรับเรามันให้ประสบการณ์ที่ดี เพื่อนที่ดี ” ผมหยุดพูดก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ “แล้วก้อ.. คนรักที่ดี” วินยิ้มก่อนที่จะมาย่อตัวอยู่ข้างหน้า

“ขี่หลังเราป่าว” วินหันมาถาม

“นึกยังงัย” ผมถาม เพราะวินมันไม่ค่อยทำอะไรแบบนี้

“ไม่รู้ อารมณ์มันพาไปมั๊ง อย่าถามมากสิ จะขี่ป่าวล่ะ” ผมหัวเราะแต่ก้อกระโดดไปขี่หลังมัน

“โอ้ย..เบาๆดิ เดี๋ยวหลังหักพอดี” ผมกอดคอของวินไว้เอาหน้าแนบกับแก้มของวิน

“ทำมั๊ยวันนี้มาเอาใจจังว่ะ”ผมอดถามไม่ได้

“ไม่รู้สิ อยากทำก้อทำ” ผมอดยิ้มกับคำตอบไม่ได้ หลังจากนั้นวินก้อพาผมขี่คอกลับไปที่คอนโดเงียบๆ

กลิ่นเหงื่อเจื่อแอลกอฮอล์จางๆจากตัวของวินทำให้ใจของผมเต้นแรง ผมกระชับวงแขนกอดวินให้แน่นขึ้น

มีคำพูดมากมาย แต่ไม่รู้จะใช้คำไหนมาบรรยายความรู้สึกของเราทั้งสองคนตอนนี้ได้

“รักนะ” เสียงกระซิบเบาๆของวินๆที่ลอยมาพร้อมกับสายลม

เราเดินกลับมาถึงคอนโด เสียงโทรศัพท์ของวินก้อดังขึ้น วินปล่อยผมลงหน้าคอนโดก่อนจะกดรับโทรศัพท์

“รอน เดี๋ยวเราเข้าไปเอากุญแจรถก่อนนะ ไอ้โอ๊ตโทรมาพวกไอ้ป๋อมมันเมามากกลับบ้านไม่ไหว เดี๋ยวเราเอารถไปรับพวกมันก่อนล่ะกัน” วินกับผมเดินเข้ามาในห้อง

และเมื่อพวกเราเปิดประตูเข้ามา ภาพของผู้ชายที่แสนดี และ คอยห่วงใยผมอยู่เสมอ ที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา ก้อทำให้ผมทั้งตกใจและดีใจ

ผมหันไปมองวิน เพราะรู้สึกว่าวินจะบีบมือผมแน่นกว่าเดิม

“เดี๋ยวเราไปรับไอ้พวกนั้นก่อนนะ แล้วคืนนี้เรานอนที่ห้องของเราก้อแล้วกัน” ผมได้แต่พยักหน้าตอบกลับไป แม้จะสัมผัสได้ถึงความกังวลใจของวิน..........................................
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: joypluss ที่ 08-09-2008 19:54:32
พี่ นัท ใช่เปล่า...คิดถึงๆ :m1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 08-09-2008 22:02:18
จะติดตามต่อไปนะคร้าบบบบ

รออ่านต่ออยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 10-09-2008 00:36:18


........อย่าหั้ยมีไรนะ....เหมือนลางมันจะมา...... :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 10-09-2008 07:59:15
คนอ่านก็ยังติดตามมมกันอยู่เหมือนเดิมนะคร้าบบบ

อิอิ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้วววววววววววววววววววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 10-09-2008 09:09:49
อ้าว ซึม เกิดไรขึ้นเนี่ย!!!!!!!!!!!


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 10-09-2008 19:05:16
ตอนต่อไปมาแว้วววววววววววววววววววววว


ดีใจ ๆๆๆ วันนี้พี่พีตอบเมล์กลับมา


แต่ว่า ทำไมไม่มีคำตอบที่เราถามไปเรยอ่า  :sad2:


ตอนที่.3
หลังจากที่วินออกไปแล้ว ผมก้อเข้าไปอาบน้ำ ความเย็นของน้ำทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก ผมอาบน้ำเสร็จก้อมาดูพี่นัท ตอนแรกตั้งใจจะปลุกให้เข้าไปนอนในห้อง แต่เปลี่ยนใจเอาผ้าห่มมาให้แทน

เพราะเท่าที่ดูตอนนี้พี่นัทคงกำลังหลับสนิท แล้วผมก้อออกมาโทรศัพท์หาวิน แต่มันไม่เปิดเครื่อง ผมโทรอยู่สักพักก้อเลิกโทร แล้วเข้านอน

ผมหลับยาวตั้งแต่เมื่อคืน รู้สึกอีกทีก้อเหมือนมีคนมานอนอยู่ข้างๆ ผมขยับตัวเพื่อจะหันไปมอง

“อย่าเพิ่งลุกเลยนะ ขอพี่กอดให้หายคิดถึงก่อน” อ้อมแขนที่แข็งแรงกระชับตัวผมให้เบียดเข้าหากับอกกว้าง

ผมเองก้อหันหน้ามาแล้วเอื้อมมือไปกอดพี่นัทเหมือนกัน ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร อ้อมกอดนี้ยังคงอบอุ่นและเต็มอิ่มไปด้วยรักเสมอ

หลังจากที่พี่น้องต่างกอดกันจนหนำใจผมก้อผละออกมาจากพี่นัท

“แล้วแม่กับลุงนนท์ไปค้างที่ไหนล่ะครับ ไหนว่าจะมากันเย็นๆ”

“พ่อกับคุณน้า จะตามมาเย็นๆ แต่พี่อยากมาเที่ยวกับเราก่อนนะสิ นี่พอพี่กลับมาจากญี่ปุ่นเมื่อวานพี่ก้อให้เพื่อนจองตัวมาที่นี่ไว้ให้เลยนะ

แต่ดันมาเจอเด็กเกเร แถม ขี้เมาซะนิ และ วันนี้เราก้อถูกกักบริเวณให้อยู่ไกลจากพี่ได้ไม่เกิน5เมตรโทษฐานเป็นเด็กเกเร กินเหล้าเมายา”

พี่นัทเอื้อมมาบีบจมูกผมเบาๆ “ ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวไปไหวพระกัน”

ผมเดินไปอาบน้ำ แต่ก่อนจะอาบน้ำผมก้อโทรศัพท์หาไอ้วินก่อน มันปิดเครื่อง ผมเลยเข้าไปอาบน้ำ หลังจากที่แต่งตัวเสร็จผมก้อแอบหลบออกไปกดออดที่หน้าห้องของวิน สักพักไอ้ป๋อมก้ออกมาเปิด

“ยังไม่ฟื้นกันเหรอว่ะ” ดูจากสภาพพวกมัน

“เออดิ เมื่อคืนไอ้ห่าวินมันเสือกมาแดกต่อที่ห้อง ไม่รู้มันเป็นบ้าอะไร พอมาส่งพวกเราที่ห้องมันก้อออกไปข้างนอก แต่พอกลับเข้ามาเสือกชวนกินเหล้าซะนิ”

ไอ้ป๋อมรายงาน ผมคิดว่าเป็นเพราะว่ามันเจอกับพี่นัทแน่ๆ

“แล้วมันอยู่ไหนว่ะ”

“นอนตายอยู่ในห้องมันโน้น” ผมเดินเข้ามาก้อเจอกับซากเพื่อนๆนอนกันน่าอนาถอยู่ที่หน้าทีวี ก่อนจะเดินเข้าไปหาไอ้วินมันในห้อง ผมเดินเข้ามาก้อเห็นวินมันนอนอยู่ เลยเข้าไปปลุกมัน

“วิน...วิน.......ไอ้วินโว้ย....” ผมเขย่าตัววิน สักพัก ก่อนจะถูกคนที่นอนอยู่ดึงลงไปกอด

“เล่นบ้าอะไรเนี้ย ปล่อยก่อน”

“ไม่เอา....ทำไม พอพี่นัทมาหน่อย เรากอดไม่ได้แล้วเหรอ ไอ้วินมันกลายเป็นตัวสำรองเลยใช่ป่ะ” วินยังไม่ยอมปล่อย

ผมเองก้อเข้าใจว่าวินคงจะกลัวเพราะวินเองก้อรู้เรื่องของผมกับพี่นัทดี ผมเลยเอามือขยี้หัวของมัน

“ไอ้บ้าเอ้ย...อย่าคิดมากน่าเดี๋ยวผมก้อร่วงหมดหรอก เรากับพี่นัทเป็นพี่น้องกันนะ”

“แล้วพี่น้องที่ไหนเค้าจูบกันซะปากบวม ปากเจ่อแบบพวกนายบ้างห๊ะ” เสียงมันยังประชดประชันผมอยู่

“ไอ้บ้านี่นิ พูดไม่รู้เรื่อง ตามใจจะคิดอะไรก้อตามใจ เราจะมาบอกว่าวันนี้จะออกไปข้างนอกกับพี่นัท” ผมบอกมันพร้อมกับผลักมันเต็มแรง แล้วรีบเดินออกมาจากห้อง

“เดี๋ยวรอน เราขอโทษน่ะ” วินมันรีบวิ่งมาดึงมือผมไว้

“เราแค่กลัวน่ะ ภาพคืนนั้นมันยังติดตาเราอยู่ หายโกรธกันนะ” ผมเอามือไปแนบแก้มของวินแล้วส่ายไปมา

“อย่าคิดมากน่า เวลาที่ผ่านมาไม่ทำให้เราเชื่อใจกันและกันได้เลยเหรอ วันนี้เราจะพาพี่นัทไปเที่ยว แล้วก้อจะไปรับแม่กับลุงด้วย ส่วนนายก้อเตรียมตัวได้ได้แล้ว วันนี้พ่อมาไม่ใช่เหรอ”

วินมันพยักหน้า ก่อนจะดึงเอามือผมไปกัดเบาๆ

“เดี๋ยวตอนเย็นๆเราค่อยพาครอบครัวเรากับของนายไปกินข้าวกันนะ” ผมยิ้มก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง

ผมเดินกลับมาที่ห้องก้อเจอพี่นัทนั่งอยู่หน้าทีวี พี่นัทเรียกผมเข้าไปนั่งข้างๆ

“ไปไหนมา บอกแล้วงัยว่าห้ามอยู่ไกลเกิน5เมตร” พี่นัทใช้แขนล๊อคคอผมไว้แล้วแกล้งโยกไปมา

“ไปหาวินมา บอกว่าวันนี้จะออกไปเที่ยวกับพี่นัทนั่นแหละ” พี่นัทปล่อยผม หน้าของพี่นัทดูเศร้าลงไป แต่แป๊ปเดียวก้อกลับมายิ้มเหมือนเดิม

“ไปกันเถอะ จะได้ไปหาอะไรกินกันก่อน” ผมกับพี่นัทเราลงมากินกาแฟที่คอฟฟี่ช๊อปข้างล่างคอนโด ก่อนจะเหมาตุกตุ๊กไปไหว้พระกันที่ วัดเจดีย์หลวง

วัดที่มีเจดีย์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ก็คือ วัดเจดีย์หลวง ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมือง วัดนี้สร้างขึ้น ในรัชกาลของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์เม็งราย

พระองค์โปรดฯ ให้ช่างสร้างเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ สูงถึง 88 เมตร ฐานกว้างด้านละ 54 เมตร แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 1954 ต่อมาในสมัยพระนางจิระประภาครองเมืองเชียงใหม่ ได้เกิดแผ่นดินไหว

ทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลงเมื่อปี พ.ศ. 2008 วิหารด้านหน้าของวัดนี้เจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐ เป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2471 หน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยลงมางดงามยิ่ง

ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิมได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดของภาคเหนือ

หลังจากนั้นเราก้อไปที่ เสาอินทขิลหรือเสาหลักเมือง เป็นหลักเมืองเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1839

ปัจจุบันนี้อยู่ตรงหน้าวัดเจดีย์หลวง เสาอินทขิลนี้ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็กๆ หลักอินทขิลนี้สร้างด้วยไม้ซุงต้นใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน

ทุกปีในเดือนพฤษภาคมจะมีงานเรียกว่า งานอินทขิล เป็นการฉลองหลักเมืองเป็นประจำ

ตลอดช่วงเวลาที่ผมอยู่กับพี่นัท มันเหมือนช่วงเวลาเก่าๆที่หายไปกลับคืนมา ผมกับพี่นัทเราไปไหว้พระกันต่อที่ วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ

จนใกล้เวลาที่แม่กับลุงนนท์มาเราเลยไปรอรับที่สนามบิน ที่นี่ผมเจอวินมันมารอรับพ่อเหมือนกัน เลยมารู้ทีหลังว่าทั้งพ่อวินกับแม่ผมต่างมาไฟท์เดียวกัน

ทันทีที่เห็นแม่เดินออกมาจากประตูผู้โดยสาร ผมก้อเข้าไปกอดให้หายคิดถึง

“ว่ายังงัยเราไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมแม่กับลุงเลยนะ ที่นี่มีอะไรดีหรือเปล่า สงสัยจะติดสาวเชียงใหม่ซะแล้วมั๊ง” ลุงนนท์แซวผม

หลังจากนั้นผมก้อแนะนำวินให้แม่กับลุงรู้จัก ส่วนวินเองก้อแนะนำให้ผมรู้จักกับพ่อ และญาติๆของวิน พ่อของวินดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่น

แต่ก้อดูน่าเกรงขามอยู่ในที ทั้งลุงและพ่อของวินต่างก้อรู้จักกัน เพราะต่างก้ออยู่ในแวดวงธุรกิจเหมือนๆกัน
บรรดาพวกผู้ใหญ่ต่างพากันไปเช็คอินกันที่โรงแรมชื่อดังในตัวเชียงใหม่ ก่อนจะพากันไปทานข้าวเย็นกัน

อาหารมื้อนั้นดูสนุกสนานเพราะทั้งบ้านผมกับบ้านของวินเราสนิทกันอย่างรวดเร็ว ทั้งผู้ใหญ่เองก้อรู้จักกันมาก่อนอยู่แล้ว พี่นัทชวนผมคุยไม่หยุด บางที่ก้อมาหยอกผมจนทำให้ใครบางคนดูเงียบลงไป

ผมเองก้อกลัววินมันจะงอน เลยชวนมันคุยบ้างแต่มันก้อยังดูเงียบๆ จนพวกเราทานเสร็จ พวกผู้ใหญ่ยังคุยกันอยู่ ผมเลยบอกพี่นัทว่าจะไปห้องน้ำ แล้วลุกออกมา หลังจากที่เข้าห้องน้ำเสร็จ ออกมาก้อเจอวินมันยืนรออยู่ที่หน้าห้องน้ำ

“รอนไปเดินเล่นกันมั๊ย” วินชวนผม

“ไปสิ แต่เดี๋ยวเราไปบอกพวกผู้ใหญ่ก่อนนะเค้าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ผมเดินไปบอกแม่ที่โต๊ะ ก่อนจะเดินออกมากับวิน

ตอนที่ผมเดินออกมา ผมหันไปสบตากับพี่นัท พี่นัทก้อพยักหน้าแล้วยิ้มให้ แววตาเหงาๆกับรอยยิ้มเศร้าๆ มันบาดใจผมเหลือเกิน

“คิดถึงนะ” วินเดินมาจับมือผมทันทีที่เราเดินมาที่บริเวณสวนใกล้ๆสระว่ายน้ำ

“ก้อเห็นหน้าอยู่ทุกวัน ยังจะมาคิดถึงอะไรว่ะ” ผมถามวิน

“ก้อวันนี้นายไปไหนมาล่ะ เราอดคิดไม่ได้ว่านายคงกำลังมีความสุขอยู่กับพี่นัทของนาย แล้ว ในตอนนั้นนายจะลืมเราหรือเปล่า”

“ไอ้บ้า อย่าคิดมากสิ ต่อไปถ้าเรากลับไปกรุงเทพ เราจะไม่ได้เจอกันทุกคืน ไม่ได้มานั่งเล่นนั่งคุยกันก่อนนอน แล้วเรายังต้องอยู่บ้านเดียวกับพี่นัทอีก นายจะไม่คิดมากไปกว่านี้เหรอ เข้มแข็งและ เชื่อใจกันให้มากๆนะวิน”

ผมยิ้มให้วินหวังให้มันสบายใจขึ้น วินมันก้มลงมาหอมแก้มผมเบาๆ แต่ผมก้อต้องรีบพลักวินออก

“เป็นอะไรว่ะรอน”วินมันถามผม

“เราเหมือนเห็นคนเมื่อกี้นี้” ผมว่าเห็นเงาใครบางคน

“แน่ใจเหรอ แต่ช่างมันเถอะ เราไม่สนใจหรอก”วินมันทำท่าจะหอมแก้มผมอีกครั้ง แต่ผมเบี่ยงหนีก่อน

“กลับไปที่โต๊ะเถอะ” วินก้อยอมตามผมกลับมา หลังจากนั้นไม่นานพวกเราก้อจะแยกกลับมาที่คอนโดเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นไวหน่อยเพราะต้องไปที่ มหาลัยตั้งแต่เช้า แต่พ่อของวินบอกให้วินอยู่ค้างด้วย

ผมเลยกลับมาพร้อมพี่นัทโดยที่วินมันมาส่ง หลังจากที่ผมเตรียมของในวันพรุ่งนี้ ก้อมาอาบน้ำ แล้วพี่นัทก้อชวนไปยืนดูดาวเล่นที่ระเบียง

“รอน เรามีความสุขดีมั๊ย” อยู่ๆพี่นัทก้อถามขึ้นมา

“มีอะไรเหรอพี่นัท ผมก้อมีความสุขดีครับยิ่งตอนนี้ครอบครัวเราอยู่กันครบผมยิ่งมีความสุขใหญ่”ผมตอบพี่นัทไป

“ไม่มีอะไรหรอก พี่ก้อถามให้แน่ใจว่าเราทำตามคำขอของพี่หรือป่าวที่ให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”พี่นัทเดินมาดึงผมเข้าไปกอด

“กับวินล่ะ มีความสุขกันดีนะ”พี่นัทเอ่ยคำถามที่ผมกังวลใจตั่งแต่วันที่พี่นัทมาถึง

“ก้อดีครับ เออพี่นัทผม......” พี่นัทห้ามผมก่อนที่จะพูดจบ

“ไม่ต้องพูดหรอกถ้ามันลำบากที่ต้องเอ่ยออกมา ไม่ว่าจะเป็นใครถ้ามันทำให้เรามีความสุขพี่ก้อไม่ได้ว่าอะไรหรอกน่ะ”

“ แล้วพี่นัทจะกลับมาอยู่มืองไทยเมื่อไหร่ เรียนจบแล้วไม่ใช่เหรอ” ผมถามพี่นัทบ้าง เพราะหลังจากที่พี่นัทเรียนจบเมื่อหกเดือนก่อน ก้อยังไม่กลับบ้าน ที่ญี่ปุ่นเค้าจะเรียนมากกว่าเรา

“พี่จะไปอยู่สิงค์โปร์สักพัก พอดีพี่อยากลองไปช่วยงานของพ่อที่อยู่ทางโน้นน่ะ เพราะมีแต่ญาติดูแลให้” ผมตกใจที่ได้ยินแบบนั้น

“เป็นเพราะผมหรือเปล่า พี่นัทถึงไม่ยอมกลับบ้าน” ผมรู้สึกเสียใจ เพราะตั้งใจไว้ว่าเราคงได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม

“เปล่าหรอกอย่าคิดมากสิ พี่แค่อยากลองหาอะไรแปลกใหม่ให้กับตัวเองน่ะ” ถึงแม้พี่นัทจะบอกแบบนี้ แต่ผมเองก้อยังรู้สึกไม่ดี

“พี่นัทผมยังรักพี่นะครับ รักมากเหมือนเมื่อก่อน ไม่เคยเปลี่ยนแปลง” พี่นัทยิ้ม

“พี่เองก้อเหมือนกัน พี่ก้อยังคงรักเราเหมือนเดิม และจะรักตลอดไป............. เพราะเรามีกันแค่2คนพี่น้องนี่นา” ผมรู้สึกเศร้าใจที่ทำให้พี่นัทต้องเสียใจ

ถ้าถามผมว่าผมรักใครมากกว่ากันผมคงตอบได้ว่าเท่ากัน เพราะแต่ละคนก้อเป็นรักคนล่ะแบบ วินคงเป็นผู้ชายที่ผมรักมากที่สุด แต่พี่นัทก้อเป็นครอบครัวที่มีค่ามากที่สุดเช่นกัน

ขณะที่ผมยืนดูดาวที่ระเบียงกับพี่นัท เสียงโทรศัพท์ของผมก้อดังขึ้น เป็นวินที่โทรเข้ามา

“ว่ายังงัยไอ้คุณชาย ยังไม่นอนอีกเหรอ” ผมกรอกเสียงไปตามสายทันทีที่รับ

“รอน...เราจะทำยังงัยดี” เสียงวินดูสั่นๆ

“เฮ้ย...มีอะไรหรือป่าววิน มีอะไรเล่าให้ฟังสิ”

“พ่อเราเค้าถามเรื่องของเรากับนาย แล้วเค้าก้อจะให้เราไปฝึกงานที่ ออสเตเลีย เราจะทำยังงัยดีว่ะรอน”

ผมนึกถึงเงาคนที่สวนเมื่อตอนหัวค่ำ ใจผมร้อนร้นขึ้นมาทันที มันไม่ไวไปหน่อยเหรอ.......นี่ผมกับวินเราต้องแยกกันแล้วใช่มั๊ย............


แยกกันแล้ว  กาซิก ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 ตอนที่ 3 แล้วนะค๊าบบบบบบบบบบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 13-09-2008 11:14:43
ตอนที่ 3 แระ

อีกนานเลยอ่ะกว่าจะจบ

เฮ้ออออออออออออออออออออ :t3:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 13-09-2008 11:59:35
 :m15:
เตรียมตัวเข้าโหมดเศร้าอีกแล้ววววว

 :L1: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 13-09-2008 20:54:03
 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 15-09-2008 00:00:57

........สุขได้ไม่นาน......ก็มีทุกข์แทรก....... :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 19-09-2008 06:28:12
โดนจับแยกกันเลย o7
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 19-09-2008 08:37:46
o7เพิ่งจะมีความสุขได้ไม่กี่ตอนเองน่ะ จะทำร้ายจิตใจกันอีกแล้วเหรอ ใจร้ายจังอ่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 19-09-2008 23:33:32
อ่านแล้วถูกใจมากๆเรื่องนี้  ชอบพี่นัทมากๆ

รอนจะเจอแต่เรื่องเศร้าตลอด

ระยะทางของความรักคงยาวมากนะ เดินทางไม่ถึงสักที

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 20-09-2008 16:07:16
มาแล้วค๊าบบบบบบบบบบบ  วันจันทร์ก็สอบ Final แล้ววว

Cal มาวันแรกเลยอ่ะ  :m15:


ตอนที่.4วันนี้ทั้งวันทั้งผมและวินเราแทบจะไม่ได้คุยกันเท่าไหร่เพราะตอนเช้าพวกเราต่างก้อมัวแต่ถ่ายรูปกับครอบครัวและเพื่อนๆ

จนโดนเรียกเข้าห้องประชุมกว่าที่พวกเราจะออกกันมาก้อเย็นแล้ว วันนี้พ่อของไอ้วินมันเป็นเจ้าภาพ เลยเป็นอันว่าบ้านผมกับไอ้วินมันก้อมากินด้วยกัน รวมทั้งเพื่อนๆในกลุ่มที่สนิทกันด้วย

หลังจากที่พวกเราออกมาจากหอประชุม พวกเราก้อมาถ่ายรูปกันอีกจนเย็น แต่บรรดาพ่อๆแม่ๆ เค้ากลับไปที่พักกันแล้ว

โดยที่ตอนเย็นพวกเราก้อจะไปสมทบกันที่สวนอาหารเลย พี่นัทเองก้อกลับไปรอพวกเราพร้อมแม่กับลุงนนท์ หลังจากที่เราต่างถ่ายรูปกันจนหนำใจต่างก้อแยกย้ายกันไปฉลองกับครอบครัว

ส่วนคนที่จะไปด้วยกันคืนนี้ก้อแยกย้ายกันไปโดยตกลงกันว่าให้ไปเจอกันที่ร้านเลย ผมกับวินเรายังคงเดินเล่นกันอยูที่ มหาลัยหน้าตึกคณะ

ในม.ตอนนี้ยังคงมีบัณฑิตจบใหม่ยังถ่ายรูปกับเหล่าเพื่อนๆและรุ่นน้องบ้างเป็นจุดๆ

“เราจะทำยังงัยดีว่ะรอน เราไม่อยากไปเลยว่ะ แต่ดูพ่อจะเอาจริงนะคราวนี้ ดูเสียงแข็งยังงัยไม่รู้”
ในที่สุดวินก้อพูดเรื่องที่ทำให้เราทั้งคู่กำลังกังวลใจหลังจากที่เราต่างพูดคุยถึงเรื่องราวเก่าๆในอดีตที่เกิดขึ้นที่มหาลัยแห่งนี้

“เราก้อไม่รู้ว่ะ มันต้องแล้วแต่นาย เราคงไปห้ามลุงกิติไม่ได้ แค่นี้เรายังไม่รู้จะเข้าหน้าแกยังงัยเลย”
ผมเองยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าผมอยู่กับพ่อของวินสองคน ผมจะทำหน้าแบบไหนกัน เพราะไอ้วินมันดันเล่าเรื่องของเราให้พ่อมันฟังหมดแล้ว

“รอน นายไปกับเราได้มั๊ย เราไปแค่ 3-4 เดือนเองนะ บอกกับที่บ้านก้อได้ว่าจะไปเรียนภาษาหรือว่าไปพักผ่อนหาประสบการ์ณ อะไรก้อได้นะ เราว่าแม่นายไม่ว่าอะไรหรอก”

“ไม่รู้สิ เราต้องถามแม่ก่อน เกรงใจลุงนนท์เหมือนกัน เพราะค่าใช้จ่ายของเราที่ผ่านมาลุงเค้าดูแลตลอด จบมาก้อยังไม่ได้จะไปช่วยงานแกทดแทนเลย”

“งั้นเอาของเราก้อได้ เงินเก็บของเราเองก้อพอนะสำหรับนาย ส่วนเราพ่อเราเค้าไม่อั้นอยู่แล้ว”
วินยังคงพยายามจะให้ผมไปด้วยให้ได้

“เอาไว้เราถามแม่ก่อนแล้วกันนะว่าจะเป็นงัย แล้วเราค่อยมาคุยกัน กว่าจะไปก้ออีกตั้งเกือบๆเดือนไม่ใช่เหรอ”

วินมันพยักหน้าตามใจผม หลังจากเราเดินเล่นกันสักพักผมกับวินก้อไปสมทบกับญาติที่ร้านอาหาร ที่ร้านคนมากันเยอะแล้วรวมทั้ง ปู่กับย่า และญาติๆของผมที่ไร่ด้วย

บรรยากาศคืนนี้ก้อสนุกสนาน วินเองก้อดูจะไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่แล้ว ผมเองก้อว่าจะลองถามกับแม่เรื่องที่ไปออสเตเลียดู แต่คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร

พี่นัทเองก้อทำตัวกลมกลืนไปกับเพื่อนๆของผมได้ทุกคน รวมทั้งไอ้วิน ด้วย เราอยู่กันจนดึก ปู่กับ คนที่ไร่ขอตัวกลับไปก่อน ส่วนพวกเพื่อนๆก้อทยอยกันลับไปบ้าง ที่อยู่ก้อเหลือแต่ที่สนิทๆกันทั้งนั้น

เราเลยต้องมานั่งรวมกันเป็นโต๊ะเดียว เพราะตอนแรกพวกเรานั่งแยกกันกับพวกผู้ใหญ่ เพราะจะได้คุยกันได้เต็มที่ และหลังจากที่เรามานั่งรวมกัน พอของวินก้อหันมาคุยกับผม

“จบแล้วจะทำอะไรต่อหรือป่าวลูก” ลุงกิติถามผมน้ำเสียงดูเอ็นดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่

“ยังไม่รู้เลยครับว่าจะทำงานหรือเรียนต่อ” ผมตอบกลับไป

“พอดีลุงคุยกับคุณนนท์แล้วก้อแม่เราแล้วนะ ลุงขอตัวเราไปช่วยงานที่บริษัทสักพัก เพราะอยากได้คนรุ่นใหม่ๆมาทำงานด้วย ส่วนเจ้าวินมันลุงก้อว่าจะส่งไปดูระบบงานที่บริษัทเพื่อนที่ออสเตเลีย ถ้ายังงัยรอนมาช่วยงานลุงหน่อยนะลูก”

ผมกับวินมองหน้ากัน ดูเหมือนวินจะพยายามส่งซิกให้ผมปฏิเสธ ผมเลยยังไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มๆเท่านั้น

“เอาเป็นว่าลุงยังไม่เร่งเราก้อแล้วกัน ให้เราได้ลองคิดดูก่อนก้อแล้วกันนะลูก” ลุงกิติบอกผมแล้วยิ้มให้ ผมได้แต่กล่าวขอบคุณกับโอกาสดีๆที่แกยื่นให้

หลังจากที่ดึกพอสมควร เราก้อจะแยกย้ายกลับ เพราะพรุ่งนี้พวกผู้ใหญ่จะกลับกรุงเทพกันเลย แต่ผมจะอยู่เก็บของอีกวันสองวัน วินเองมันก้อจะอยู่ด้วย

แต่พี่นัทจะกลับไปทำธุระที่กรุงเทพ เลยไม่ยอมอยู่ตามคำชวนของผม ตอนที่เราจะออกจากร้านผมเห็นวินมันคุยกับลุงกิติหน้าตาเคร่งเครียด คงหนีไม่พ้นเรื่องของผม

ในตอนนั้นผมเองก้อรู้สึกไม่ดีที่เป็นต้นเหตุให้พ่อลูกเค้าทะเลาะกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันลุงกิติเดินมาหาผมตอนที่ไอ้วินมันไปเอารถ

“รอน ลองไปคิดดูนะลูก แล้วก้อเรื่องของเรากับวิน”

“ผมขอโทษคุณลุงด้วยนะครับกับเรื่องของเราสองคน”

“ลุงไม่ได้โกรธเราหรอกเรื่องของวินกับเรา ลุงต้องขอบใจเราถึงจะถูกเพราะว่าเจ้าวินมันเปลี่ยนไปในทางที่ดีนะตั่งแต่เจอกับเรา

มันพูดถึงเราอยู่บ่อยๆจนลุงเริ่มสังเกต แต่ว่านะรอน ลุงเองก้อมีลูกชายแค่คนเดียวลุงเองก้ออยากจะเห็นเค้าเดินไปในทางที่ถูกที่ควร เราเข้าใจลุงมั๊ยลูก”

ผมเองรู้สึกลำคอมันตีบ พูดอะไรไม่ออกจนวินไปเอารถมา ลุงกิติเลยขึ้นรถไป

“นายตอบอะไรพ่อเราไปหรือยัง” วินมันเดินลงมาถามผม

“ยังหรอก”

“ดีแล้วล่ะ อย่าไปฟังนะ ถ้านายไม่ไปเราก้อไม่ไปเหมือนกัน” มันจับมือให้กำลังใจผมก่อนจะเดินไปที่รถ ส่วนผมก้อเดินไปขึ้นรถที่ลุงกับแม่และพี่นัทรออยู่

วันนี้แม่มานั่งข้างหลังกับผม แล้วให้พี่นัทเป็นคนขับ อยู่ๆแม่ก้อดึงผมเข้าไปกอดผมรู้สึกว่าแม่ตัวสั่นๆเหมือนจะร้องไห้ ผมคิดว่าแม่คงจะดีใจและปลื้มใจที่ผมเรียนจบ แต่พอแม่พูดกับผมมันก้อทำให้ผมรู้ว่าไม่ใช่

“รอนปล่อยวินเค้าไปได้มั๊ยลูก”

ผมชาวาบไปทั้งตัวทันทีที่ได้ยินแม่พูดแบบนั้น นี่แม่กำลังทุกข์ใจเพราะผมหรือนี่ หรือว่ากำลังผิดหวังที่ลูกชายของแม่เป็นแบบนี้ น้ำตาของแม่ที่ผมไม่ได้เห็นมานานตั้งแต่พ่อจากเราไป มันทำให้ผมต้องร้องไห้ตามไปด้วย

“แม่ผิดหวังในตัวผมใช่มั๊ยครับ รอนขอโทษนะครับแม่ ”ผมได้แต่ถามแม่ในขณะที่แม่กอดผมไว้

“แม่อาจจะตกใจนะลูก แต่ก้อไม่ได้ผิดหวังอะไรมากมาย แต่แม่เสียใจที่แม่ไม่เคยรู้มาก่อน และที่สำคัญแม่กำลังกังวลใจถึงวันข้างหน้าของเราต่างหาก”

ผมกำลังจะถามว่าแม่กำลังกังวลอะไร ลุงนนท์ก้อบอกมาเสียก่อน

“รอนลูก ไม่ว่าเราจะตัดสินใจอะไร ลุงกับแม่ก้อตามใจเราเพราะว่าตลอดเวลาเราเองก้อเป็นลูกที่ดีมาตลอด แต่ว่าตอนนี้กำลังมีหัวอกคนเป็นพ่อคนนึงกำลังทุกข์ใจเพราะเรานะ ลุงอยากให้เราคิดให้ดีนะลูก”

ลุงนนท์พูดกับผม น้ำเสียงยังคงดูห่วงใยผมเหมือนเดิม ส่วนพี่นัทได้แต่เงียบไม่ได้พูดอะไร จนเรามาส่งลุงกับแม่ที่โรงแรม แล้วผมกับพี่นัทก้อกลับมาที่คอนโดกันสองคน ทันทีที่จอดรถพี่นัทก้อเอื้อมมือมาจับมือให้กำลังผม

“อย่าคิดมากเลยนะ ตราบใดที่ไม่มีใครบอกเราได้ว่าพรุ่งนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องของเรากับวินก้อต้องมีหนทางแน่นอน”

น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วกลับไหลลงมาอีกครั้ง ไหลมาให้กับความรักและความห่วงใยที่พี่นัทมอบให้ผมเสมอมา

คืนนั้นผมนอนคิดทั้งคืนว่าผมควรจะทำยังงัยดีสุดท้ายผมก้อมีคำตอบให้กับตัวเอง และเรื่องราวของผมกับวิน....
*
*
*
เช้านี้ผมมาส่งแม่ที่สนามบิน แม่พูดกับผมก่อนจะขึ้นเครื่องพี่นัทเองก้อเดินเข้ามากอดผมไว้ก่อนจะเดินไปพร้อมแม่กับลุง

ผมกำลังจะกลับไปที่คอนโดก้อเลยโทรหาวิน แต่มือถือมันปิดเลยกลับมาคนเดียว ผมมาทำเรื่องคืนห้อง และเตรียมเช็คข้าวของเครื่องใช้

แต่มันก้อไม่มีอะไรมากแล้วเพราะบางอย่างผมก้อเอาไปไว้ที่ไร่ของพ่อผม เพราะเผื่อถ้าผมขึ้นมาเยี่ยมปู่กับย่า จะได้ไม่ขาดเหลืออะไร

จนเย็นวินมันก้อยังไม่มาผมเลยโทรไปหามันอีกรอบ แต่ก้อนานกว่าที่มันจะรับสาย

“ทำอะไรอยู่ว่ะโทรไปตั้งนานกว่าจะรับ แล้วนี่อยู่ที่ไหนว่ะเนี้ย” ผมถามวินเป็นชุด

“อยู่กรุงเทพ พอดีมีธุระนิดหน่อย” เสียงวินดูแปลกไปกว่าที่เคย ผมเองก้อมัวแต่โกรธมันที่มันกลับกรุงเทพแล้วไม่บอกผมสักคำ เลยด่ามันไปชุดนึง

“เออ...เราขอโทษแล้วกัน ว่าแต่นายจะกลับลงมาเมื่อไหร่เดี๋ยวอีกวันสองวันเราขึ้นไปหา อย่าเพิ่งรีบกลับลงมานะ ยังไม่ได้คุยกันเลย” วินมันบอกผม

“เร็วๆแล้วกันนะ ถ้าช้าก้อไม่รอนะเว้ย แล้วพรุ่งนี้เราจะคืนห้องเค้าแล้ว ถ้ามาก้อหาเราที่บ้านไร่แล้วกันนะ”

“อือม์....แล้วไว้เจอกัน แค่นี้ก่อนนะ”หลังจากที่เราวางสายไปผมเองก้อคิดว่าจะบอกวินยังงัยดีถึงเรื่องที่ผมตัดสินใจ

และในวันนี้ช่วงบ่ายๆโอ๊ตกับน้องลินก้อแวะมาพาผมไปกินข้าว ผมเลยบอกเรื่องของผมกับที่บ้านของวินให้พวกนั้นฟัง

“แล้วพี่รอนจะเอายังงัยค่ะ แล้วพี่วินเค้าจะยอมหรือเปล่า” น้องลินเป็นห่วงแทนผมหลังจากที่ผมบอกว่าจะเอายังงัย

“พี่ก้อไม่รู้เหมือนกัน แต่มันน่าจะดีด้วยกันทั้งสองฝ่ายนะ” ผมได้แต่ปลอบใจตัวเอง

“เอาน่า อย่าเพิ่งคิดมากมันต้องมีหนทางสิน่า” โอ๊ตเองก้อให้กำลังใจผมเต็มที่ แม้ว่าผมเองยังไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไหร่นักในอนาคตของผมกับวิน

ช่วงเย็นๆบริษัทขนส่งได้มาที่คอนโดเพื่อจะขนของผมลงไปกรุงเทพ ผมตรวจเช็คและเซ็นต์เอกสารก่อนจะคืนห้อง ผมยืนอยู่ที่หน้าคอนโด

ภาพตั่งแต่วันแรกที่ผมกับวินได้รู้จักกันมันยังแจ่มชัดอยู่ในหัวของผม ตลอดระยะเวลา 4ปีที่เราอยู่เคียงข้างกันและกันมีเรื่องราวและความทรงจำที่ดีๆและสวยงามเกิดขึ้นมากมาย

ในมือของผมยังคงถือโหลที่วินให้ผมไว้เป็นอย่างดี ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ดาวจะเต็มโหล หรือว่าวันนั้นมันจะไม่มีทางมาถึง  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 20-09-2008 16:09:04
ไล่ +1 ให้ทุกแล้ว  ใครไม่ได้มาประท้วงได้ค๊าบ 555+ :m4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 20-09-2008 22:42:14
น้องเพียว  พี่รันฝากด้วยละกันนะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 20-09-2008 23:19:57
หวั่น ๆ กลัวใจรอนจัง กลัวว่าจะทิ้งวินไป....
ทำไมเหรอ รักแท้มันต้องเสียสละเสมอไปเหรอ....
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 21-09-2008 16:41:51
 :L2:
แวะเข้ามาให้กะลังใจไอ้ตัวแสบวินกะรอนผู้น่ารัก...
ที่สำคัญคิดถึงพี่นัท  :o8:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 26-09-2008 01:16:22

........บนทางรักที่แสนยาวไกล........ยังมีอุปสรรคอีกมากมายที่กางกั้น..... o13 o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 27-09-2008 19:55:17
แว๊บบบบบบบบบบมา  ตอนสอบ  หยุดหลายวันเลยแอบมาลง คึคึคึ :m4:


ตอนที่.5
หลังจากที่นอนเล่นนั่งเล่นรอไอ้วินมันอยู่ 2-3 วันวันนี้วินมันก้อโทรมาบอกว่ากำลังขึ้นมาผมเองก้อเตรียมใจที่จะบอกวินมันแล้วว่าผมตกลงใจจะอยู่ช่วยงานพ่อของมันก่อน

แล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากันว่าผมจะตามมันไปหรือมันจะกลับมาหาผมแทน ผมหวังว่ามันจะเข้าใจ และหวังว่าพ่อของวินก้อจะเข้าใจพวกเรา

ผมยืนปล่อยความคิดไปเรื่อยๆจนเสียงโทรศัพท์ดังเลยหยิบขึ้นมาดู ผมยิ้มทันทีที่เห็นว่าวินมันโทรเข้ามา ป่านนี้คงจะมาถึงเชียงใหม่แล้ว

“ว่างัย กำลังยืนคิดอะไรอยู่” วินถามผมทันทีที่ผมกดรับโทรศัพท์

“กำลังคิดถึงว่าจะด่าไอ้คนที่ปล่อยให้รอมาหลายวันว่าอะไรดี” วินมันเงียบไปก่อนจะพูดกลับมา

“เราขอโทษนะที่ปล่อยให้นายต้องรอ แต่ต่อไปเราสัญญาว่าจะไม่ให้นายต้องรออีกแล้ว” เสียงของวินเปลี่ยนไปดูจริงจัง

“ไอ้บ้า เราล้อเล่น แล้วถึงไหนแล้วว่ะ จะให้ไปรับหรือเปล่า”

“ไม่ต้องหรอกตอนนี้เรากำลังอยู่ในที่ที่มองเห็นนายได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ” ผมหันหลังกลับไปมองก้อเห็นวินมันยืนอยู่ข้างหลัง

“รวยจังนะไอ้คุณชาย หรือว่ามีพ่อเป็นเจ้าของเอไอเอส” ผมวางสายก่อนจะเดินมาหามัน วินมันหัวเราะ แต่ผมรู้สึกว่าสายตาของวินมันไม่ได้หัวเราะตามไปด้วย ดูมันเหนื่อยๆ

“มีอะไรว่ะ ดูเหนื่อยๆนะ แล้วที่รีบลงไปกรุงเทพน่ะ เพราะทะเลาะกับพ่อหรือเปล่า” วินมันไม่ตอบแต่เดินมาจับมือผมแล้วพาผมเดินไปด้วยกัน

เราเดินขึ้นมาบนเนินที่สูงที่สุดของไร่ จากตรงนี้สามารถเห็นไร่ส้มได้ทั้งหมด ต้นส้มนับพันต้นทั้งของไร่พ่อ และไร่ใกล้เคียงเรียงรายกันเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา

บนนี้เรายังเห็นฝายเก็บน้ำที่ผมกับวินมักจะไปด้วยกันบ่อยๆ ลมเย็นๆพัดมากระทบหน้าทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง ผมยืนดูพระอาทิตย์ที่อยู่สุดปลายฟ้า

“ลมเย็นดีน่ะ อยู่บนนี้แล้วสบายใจจัง นึกแล้วก้อไม่อยากกลับไปกรุงเทพเลยวะ”ผมหันไปบอกกับวิน

“นั่นสิ เราเองก้อชอบที่ไร่นี้ มันรู้สึกผูกพันยังงัยไม่รู้”

“วินถ้าเราจะมาอยู่ที่นี่ นายว่ามันจะเป็นยังงัยว่ะ อย่างเราจะทำอะไรได้มั้งมั๊ยน่ะ” ทั้งวินและผมต่างก้อเงียบ

ผมรู้สึกว่าเราทั้งคู่อยากจะบอกอะไรกันแต่ก้อยังไม่กล้าที่จะเอ่ยปากเราต่างยืนกันอยู่แบบนั้น หันมายิ้มให้กันเป็นช่วงๆ

เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าคำพูดมันพูดไม่ออกทั้งๆที่อยากจะบอก ทั้งๆที่เตรียมใจที่จะบอกกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ วินเองก้อคงจะรู้สึกไม่ต่างกันไหร่

“รอน ตอนที่พี่นัทของนายไปญี่ปุ่น นายเสียใจมากมั๊ย” ในที่สุดวินเองก้อเป็นฝ่ายพูดก่อน

“มากสิ ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่ยังงัยโดยที่ไม่มีพี่นัทอยู่ข้างๆเพราะพวกเราอยู่ด้วยกันมาตั่งแต่เด็กๆ แต่พอเวลาผ่านไปสักพักมันก้อค่อยๆดีขึ้น

และในตอนนั้นเราเองก้อไม่อยากจะคิดอะไรเกินเลยไปกว่าพี่น้อง เพราะพี่นัทเองก้อมีพี่วาแล้ว”

“ แล้วตอนี้ล่ะ นายยังเจ็บปวดมั๊ยที่อยู่ข้างๆพี่นัทแบบนี้” วินยังถามผมต่อ

“ไม่แล้วล่ะ แต่กลับอบอุ่น และเข้าใจกันมากกว่า เราว่าเรารักกันมากขึ้นด้วยนะ ไม่ต้องมาแสดงออกว่ารักกัน ไม่ต้องพูดคำว่ารักกันพร่ำเพื่อ

แต่เราก้อรู้กันดีว่าต่างก้อหวังดีและห่วงใยกันและกัน” ผมคิดว่าวินคงกลัวถ้าเราต้องห่างกันเวลาที่วินไปดูงาน

“นายว่าเวลามันจะช่วยได้จริงเหรอ” วินเงียบไปนิดหน่อยก่อนจะหันมามองผมแล้วพูดต่อ

“ รอนที่นายหายเจ็บตอนนี้เป็นเพราะเวลาหรือเพราะว่าความรู้สึกที่มันเปลี่ยนไป แล้วถ้าเราต้องห่างกันล่ะ มันจะไม่ต้องเจ็บกว่ามั๊ยถ้าตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกัน”

ผมรู้สึกแปล๊บๆในใจที่ได้ยินแบบนั้น

“วินนายอย่าคิดมากเลย เราคิดแล้วว่าเราจะอยู่ช่วยงานพ่อของนายสักพัก ถ้าตอนนั้นนายกลับมาอะไรๆมันอาจดีขึ้น แต่ถ้านายยังไม่กลับเราจะตามนายไปเองดีมั๊ย”

ผมรีบบอกในสิ่งที่ผมคิดมาตลอด2-3วันหวังเผื่อให้วินสบายใจขึ้น

“ขอบใจนะที่อยู่ช่วยพ่อเรา แต่นายไม่ต้องตามเราไปหรอกนะ สักวันนึงเราก้อจะกลับมาเอง แต่ก่อนไปเราอยากจะให้เรากลับมาเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิมได้มั๊ย”

สิ่งที่ผมกลัวตั่งแต่ที่รู้ตัวว่ารักคนที่อยู่ตรงหน้า ก้อกำลังจะเกิดขึ้น

“ทำไม มีอะไรหรือเปล่า นายไม่เชื่อใจเราเหรองัย ไม่เชื่อในความรู้สึกที่พวกเรามีให้กันหรืองัยว่ะห๊ะไอ้วิน”

ผมอดน้อยใจและเสียใจไม่ได้ รู้สึกได้ว่าน้ำตาพาลจะไหลออกมาอยู่แล้ว

“ป่าวหรอก แต่เราจะฝืนมันไปทำไมในเมื่อถ้าความรักของเรามันทำให้หลายคนรอบข้างที่รักเราล้วนต้องเสียใจทั้งแม่นาย และ พ่อของเรา

เราว่าจบมันตั่งแต่ตอนนี้ดีกว่ามั๊ย มันเพิ่งจะเริ่มเองยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ที่ต้องเลิกกัน ดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไปนานกว่านี้นะ”

ผมรู้สึกเหมือนโดนไฟดูด มันช้าไปทั้งตัวที่ได้ยินว่า ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ที่ต้องเลิกกันตอนนี้ของมัน

น้ำตาที่ห้ามไว้ก้อปล่อยให้มันไหลออกมา

“วินวันนี้นายกลับไปนอนที่คอนโดก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยมาคุยกัน” ผมบอกกับวินก่อนจะเดินกลับลงมาที่บ้าน วินเองก้อกลับไปโดยที่เราไม่ได้คุยอะไรกันอีก

อีกครั้งแล้วที่ต้องเจ็บเพราะความรู้สึกนี้ ความรู้สึกแค่อยากมีคนที่เรารักและรักเรา ทำไมมันถึงเร็วแบบนี้ ยิ่งผมคิดผมก้อยิ่งร้องไห้มากขึ้น

ผมนอนปล่อยให้น้ำตาไหลอยู่คนเดียวในห้องที่ปู่กับย่าให้คนจัดไว้ให้ข้าวของของผมถูดจัดให้เข้าที่เข้าทางแล้ว โหลที่วินให้ผมยังอยู่บนหัวเตียง ผมอยากจะขว้างมันทิ้งไป

ในที่สุดโหลนี้ก้อจะไม่มีวันเติมเต็ม ไอ้วินทำไม......ทำไมนายทำแบบนี้ ผมได้แต่ถามมันโดยที่มันคงไม่ได้ยิน และคงไม่มีคำตอบสำหรำบคำถามข้อนี้

ผมหลับไปจนได้ยินป้ามาเรียกให้ออกไปกินข้าว ตอนนี้ฟ้าข้างนอกมืดแล้วมันดูมืดกว่าทุกคืนเหราะมันมืดมาถึงหัวใจของผมในตอนนี้ สักพักเพื่อนๆที่อยู่ในเมืองก้อโทรมาหาผม

“ไอ้รอน ตอนนี้นายอยู่ไหนว่ะ ไอ้ห่าวินมันเป็นอะไรของมันว่ะ เมาไม่รู้เรื่องเลย แม่งร้องไห้ฟูมฟายอะไรใหญ่เลย มาดูมันหน่อยได้มั๊ย”

“เราอยู่บ้านไร่ นายดูมันไปก่อนแล้วกันนะ แล้วพามันไปส่งที่ห้องมันด้วย” ตอนนั้นผมยังไม่อยากเจอหน้าของวิน เพราะยังทำใจไม่ได้ แม้จะเป็นห่วงมัน และรู้ว่ามันก้อคงเสียใจไม่ต่างจากผมเท่าไหร่

ผมวางสายจากเพื่อนก้อกลับมาจมกับความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง ในที่สุดผมก้ออ่อนแออีกครั้ง คนเดียวที่ผมนึกถึง

“ว่างัย เมื่อไหร่จะกลับลงมาหาพี่ล่ะ” เสียงพี่นัทดังมาตามสายทันทีที่รับโทรศัพท์ผม

“ฮื่อ....ฮื่อ.....พี่นัทมันจบแล้ว ผมกับวินเราเลิกกันแล้วครับ ผมเจ็บไปหมดเลยครับพี่นัท ผมจะทำยังงัยดีให้วินมันกลับมา”

“ใจเย็นๆ ไหนเล่าให้พี่ฟังสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ผมเล่าให้พี่นัทฟังหมดทุกอย่าง

“รอน พี่ว่าวินเค้าคงมีเหตุผลนะ ถ้าลองเป็นคุณน้ามาข้อร้องเราบ้างเราจะทำยังงัย พี่เข้าใจว่าเราเสียใจ แต่วินเค้าจะเสียใจกว่าเราแค่ไหน

เพราะเค้าต้องเป็นคนพูดมันออกมา การที่เราต้องพูดจาทำร้ายแฟนตัวเองทั้งๆที่ยังรักเค้ามันเจ็บกว่าเป็นคนฟังหลายเท่านัก

ต้องยอมให้เราโกรธหรืออาจจะเกลียดกันไปเลย แล้วแบบนี้วินเองไม่กลุ้มกว่าเราเหรอ พี่เองยังจำความรู้สึกนี้ได้ดีนะในวันที่เราอยู่ที่สนามบินวันที่การตัดสินใจของพี่จะทำให้เสียคนที่พี่รักไปเลย”

“พี่นัทครับ....ผมขอโทษ”

“ไม่เป็นไร เพราะพี่ก้อได้น้องชายที่น่ารักคืนมาแทน น้องชายที่พี่รู้ว่าเค้าก้อรักพี่มากและเราจะไม่มีวันทิ้งกันได้........จริงมั๊ย”

ผมคุยกับพี่นัทอีกมากมาย คำพูดของพี่นัททำให้ผมคิดอะไรได้มากมาย ผมลืมไปเลยกับความรู้สึกของผมตอนปีแรก

ไอ้ความรู้สึกที่ขอแค่อยู่ข้างๆก้อพอ มันหายไปหมดตั่งแต่เราได้ครอบครอง ความเห็นแก่ตัวของเรามันทำให้เรามองไม่เห็นถึงความทุกข์ใจของคนที่สำคัญกับหัวใจเรามากอย่างวิน

เราคงต้องยอมรับกับความจริงแล้วล่ะ ว่าเราเดินมาสุดทางแล้วกับเส้นทางของความรักที่มันผิดธรรมชาติแบบนี้

และตลอดเวลาที่เราเดินกันมาผมไม่เคยเสียใจเลย เพราะวิวข้างทางมันสวยงามยิ่งนัก และผมคงจะจดจำมันไว้เป็นอย่างดี

*
*
*
*
*

วันนี้ผมตื่นสายกว่าปกติ เพราะกว่าเมื่อคื่นจะข่มตาให้นอนหลับได้ก้อดึกเต็มทน วันนี้ผมรอว่าวินจะมาเมื่อไหร่ผมมีเรื่องอยากคุยกับวินมันเยอะแยะแต่ก้อเกือบเย็นกว่าวินมันจะมาถึง

“ขอโทษนะพอดีเมื่อคืนไปฉลองอำลากับพวกเพื่อนๆน่ะ เพราะพวกมันเพิ่งรู้ว่าเราจะไปออสเตเลียน่ะ”

“ไม่เป็นไร เมาล่ะสิเมื่อคืนพวกมันก้อโทรมาหาเราว่าเราไปหักอกนายหรือป่าว” หน้าของวินมันซีดลงไปทันทีที่ได้ยินผมพูด

“เฮ้ย....เราพูดเล่นอย่าคิดมากสิ เราไปเดินเล่นกันที่เนินเมื่อวานดีกว่าป่ะ”

ผมกับวินเราเดินมายังที่เดิมของเมื่อวานอีกครั้ง แต่คนละความรู้สึกกัน เราทั้งคู่ดูเหมือนคนอดนอนกันทั้งคู่

วันนี้ฟ้าดูเหงากว่าที่เป็น คงเพราะเวลาโพล้เผล้แล้วมั๊ง สีแสดของท้องฟ้าให้ความรู้สึกเศร้าจับใจ ทำไมคนเราเวลาเศร้ามักจะมองทุกอย่างรอบตัวดูโศกเศร้ากว่าที่เป็นอยู่

“วินแล้วนายจะไปเมื่อไหร่”ผมถามวินหลังจากที่เราเดินขึ้นมาถึงแล้ว

“คงเป็นอาทิตย์หน้านี้แหล่ะ”

“ทำไมไปไวจังว่ะ รีบหนีเราขนาดนั้นเลยเหรอ” อดน้อยใจขึ้นมาอีกไม่ได้

“ป่าว พอดีทางเพื่อนพ่อเค้าอยากให้เรารีบไปดูเพราะเค้าจะมีโปรเจ็คใหม่พอดี เลยอยากให้ไปตั่งแต่เริ่มทำกันน่ะ”

วินรีบปฏิเสธพัลวัน ผมอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้กับท่าทางของวิน

“สบายใจแล้วเหรอ”วินหันมาถาม

“ใช่สิ ใครมันจะทำใจไวได้เท่านายว่ะคนหักอก ย่อมไม่เหมือนคนอหักนี่หว่า” ผมแกล้งพูดต่อว่าวินมัน แต่ลึกๆก้ออยากพูดให้วินมันรู้สึกจี๊ดๆบ้าง

“รอนเราขอโทษนะที่ทำให้นายเสียใจ นายจะให้เราทำอะไรเราก้อยอม”

“จริงเหรอ ถ้างันก้ออย่าทิ้งกันแบบนี้สิ ทำได้หรือเปล่า”วินถึงกับเงียบที่ได้ยินในสิ่งที่ผมพูด

“ฮ่า...ฮ่า... เราล้อเล่น” ผมหันไปพูดกับวินแบบจริงจัง

“เราเข้าใจนะว่า มันเป็นยังงัยเราไม่โกรธหรอก แต่ถ้าจะบอกว่าไม่เสียใจมันก้อคงจะเป็นการโกหก เพราะว่าเราเองก้อเสียใจและเจ็บมากเหมือนกัน

แต่เราหวังว่าเวลามันคงจะช่วยเราได้ แต่ไม่ว่ายังงัยเราก้อจะเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่มั๊ย”

วินมันหันมายิ้มให้กับผม ก่อนที่จะพยักหน้าให้

“ แน่นอนเราจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”

“งั้นเป็นการไถ่โทษนายต้องแบกเราลงไปที่บ้านตกลงป่ะ”

“สบายมาก...มาเลยรับรองคราวนี้ไม่มีแกล้งกันแน่นอน” วินเดินมาย่อตัวลงข้างหน้าผม ผมขึ้นไปกอดคอวินก่อนที่วินมันจะพาลงเดินลงมาเรื่อยๆ

ตลอดทางเราไม่ได้พูดกันเท่าไหร่นัก แต่ผมเองก้อหวังว่าจะได้ยินคำว่า “รักนะ” จากมันอีกครั้ง แต่กลีบเป็นคำว่า “ ขอโทษ” แทนในวันนี้

ผมกอดวินแน่นขึ้น วินเองก้อกระชับขาผมให้แน่นขึ้น

“แล้วจะไปนานมั๊ย รีบๆกลับมาล่ะ” ผมถามวิน

“ยังไม่รู้เลย ยังตอบไม่ได้ว่าจะนานเท่าไหร่” ผมเอาหน้าแนบกับวินเหมือนที่เคยทำ

“โชคดีน่ะวิน ก้าวเดินไปข้างหน้าตามทางที่เลือกอย่างสบายใจเถอะน่ะ ถ้านายหันหลังกลับมานายจะเจอเราอยู่ข้างกลังเสมอ”

“ ขอบใจมากนะรอน”


หลังจากวันนั้นวินกับผมเราใช้เวลาร่วมกันแบบคุ้มค่าที่สุดตลอกเวลาผมกับวินเราจะพูดเรื่องอนาคตในวันข้างหน้า แต่จะพูดเรื่องเก่าๆกันซะมากกว่า

จนวันที่ผมกับวินกลับกรุงเทพ เราเดินออกมาที่หน้าสนามบินผมและวินเราต้องแยกกันตรงนี้แล้วจริงๆ

“สรุปจะไม่บอกจริงๆเหรอว่าจะบินวันไหน” ผมถามวินอีกครั้ง

“เราอยากไปแบบเงียบๆคนเดียวมากกว่า คนเยอะแล้วมันเศร้า เดี๋ยวพาลจะไม่อยากไปกันพอดี”

เราต่างเรียกแท็กซี่กันคนล่ะคัน พอเวลาที่ต้องจากกันจริงๆ มันก้อทำใจไม่ได้อย่างที่ใจคิด น้ำตาที่ไม่อยากให้เห็นก้อเห็นกันจนได้ ผมเดินไปหาวินอีกครั้ง

“วิน พูดมาสิว่าจะให้เรารอหรือเปล่า จะ1ปี2ปีหรือมากกว่านั้นถ้าบอกว่าจะให้เรารอเราก้อจะรอ”

วินจับบ่าผมแล้วส่งยิ้มเหงาๆมาให้

“อย่ารอเราเลยนะรอน ดูแลตัวเองดีๆล่ะ ล่าก่อน” วินเดินไปขึ้นแท็กซี่ แล้วก้อจากไปในตอนนั้น ผมมองจนแท็กซี่คันนั้นหายไปจากสายตา


ล่าก่อนวิน สายลมที่อบอุ่น สายลมที่เพียงเพื่อพัดผ่านมาให้ความอบอุ่น แต่ใครกันที่จะเก็บสายลมไ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 28-09-2008 03:16:37
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 30-09-2008 19:58:12
ตอนที่.6
หวัดดี.........ไอ้คุณชาย

วันนี้ฝึกงานเป็นยังงัยบ้าง โปรเจ็คใหม่ที่ว่าจะเริ่มทำได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาหรือยัง พรุ่งนี้เราเองก้อจะเริ่มไปทำงานกับพ่อนายเป็นวันแรกหลังจากที่ปล่อยเวลาผ่านไปเกือบๆเดือน

ได้ไปเที่ยวหลายที่เลยล่ะ เออนี่...ไอ้โอ๊ตเองก้อได้งานแล้วนะ ส่วนไอ้ป๋อมมันยังคงเป็นลูกที่ดีเกาะพ่อเกาะแม่กินอยู่ เห็นมันว่าอยากจะเรียนต่อเหมือนกัน

ส่วนที่เหลือก้อเรียนบ้าง เที่ยวบ้างตามสันดานของพวกมันไปเรื่อย อยู่ทางโน้นเป็นงัยสบายดีหรือป่าว ใจดำจังไม่ยอมตอบเมมล์เพื่อนเลยนะโว้ย

สาวๆที่นั่นเป็นงัยบ้างสวยถูกใจหรือป่าว หรือว่ามั่วแต่เหล่หนุ่มๆอยู่ (555 เราล้อเล่นน๊า อย่าคิดมาก) ยังงัยก้อดูแลตัวเองดีๆนะ เพื่อนๆฝากความคิดถึงมากันหลายคนโดยเฉพาะคนเขียน ง่วงแหละไปนอนดีกว่าแล้วพรุ่งนี้เราจะมาคุยใหม่นะ

รีบกลับมาไวๆนะมีคนรอการกลับมาของนายอยู่

คิดถึงเสมอ.........................รอน..


มันคงเป็นกิจวัตรประจำตัวไปซะแล้วที่ผมต้องเมลล์ไปหาวินมันก่อนนอนทุกๆคืน นี่ก้อเกือบๆเดือนแล้วที่ผมได้รู้จากลุงกิติพ่อของวินว่าวินได้ไปออสเตเลียแล้ว

ทุกครั้งที่ผมเปิดเมลล์ ก้อจะลุ้นทุกครั้งว่ามีเมลล์จากวินตอบกลับมามั๊ย แต่ตลอดระยะเวลาที่ผมเพียรส่งไปหามันทุกวัน

ผมไม่เคยได้รับเมลล์ตอบกลับมาเลยสักฉบับเดียว หลังจากที่วินได้จากไปแล้วผมเองก้อใช้เวลาที่ผ่านมาไปเที่ยวในหลายๆที่

พี่นัทเองตอนแรกก้อจะไม่ยอมกลับสิงค์โปร์ เพราะมัวแต่เป็นห่วงผม ต้องฝืนทำตัวเข้มแข็งอยู่หลายวันกว่าพี่นัทจะยอมเชื่อและกลับไปที่สิงค์โปร์

และทุกวันนี้ผมเองก้อยังไม่รู้ว่าทำไมวินมันถึงยอมที่จะปล่อยมือจากผมไปง่ายๆแบบนี้ทั้งๆที่มันเป็นคนที่บอกผมเองว่าอย่าไปฟังพ่อของมัน

แต่ผมเองก้อคงทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ดึคงได้แต่รอ.......รอว่าเมื่อไหร่ที่วินมันจะกลับมาแล้วมาให้คำตอบว่า.........ทำไม
*
*
*
*

วันนี้ผมได้มาทำงานที่บริษัทของลุงกิติวันแรก พี่ๆที่นี่ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดีคงเพราะเกรงใจลุงกิติด้วยมั้งเพราะแกเล่นพาผมเดินดูแต่ล่ะแผนกด้วยตัวเอง

“ลุงขอบใจเรามากนะที่ยอมมาช่วยงานของลุง” ลุงกิติเอ่ยขอบคุณผมหลังจากที่เราเดินดูแผนกต่างๆในบริษัทจนเกือบๆบ่ายลุงแกเลยพาผมออกมากินข้าวกลางวันกัน

“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก้อเต็มใจ จะได้ถือโอกาสหาประสบการ์ณไปในตัว”

“เราโกรธลุงเรื่องของวินมันหรือป่าวลูก”ผมชะงักนิดหน่อยที่ลุงกิติเอ่ยถึงลูกชายของแก

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”นั่นคงเป็นคำตอบที่ผมคิดว่าคงจะดีที่สุดในตอนนั้น หลังจากที่ลุงแกฝากฝังผมกับผู้จัดการและพี่ๆที่บริษัทแล้วแกก้อจะไปทำธุระที่ต่างประเทศประมาณ2อาทิตย์

งานที่ผมได้รับมอบหมายนั้นแทบจะไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่นักเรียกว่ามานั่งๆนอนๆเสียมากกว่า วันเวลาแต่ล่ะวันผ่านไปแบบเหงาๆ ทุกๆคืนผมยังคงส่งเมลล์ไปหาวินอย่างสม่ำเสมอ

แต่ก้อยังไม่ได้รับการตอบกลับมาเหมือนเดิม ลุงกับแม่ก้อไม่ค่อยจะอยู่บ้านเท่าไหร่นัก จนวันนึงลุงกับแม่ก้อเรียกผมมาคุยด้วย

“รอนพักนี้เป็นยังงัยบ้างลูก มีความสุขดีมั๊ย มีอะไรคุยกับแม่ได้นะลูก”

“ก้อดีครับแม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”

“แล้วเรื่องงานล่ะเป็นงัยบ้างไปทำมาได้กี่วันกันแล้ว นี่ไม่เห็นเล่าให้แม่ฟังบ้างเลย”

“ก้อดีครับ พี่ๆที่ทำงานก้อเป็นกันเองทุกคน งานก้อไม่มีอะไรมากเพราะผมเพิ่งไปได้แค่ไม่กี่วันเอง ดูแล้วก้อม่น่าจะมีปัญหาอะไร แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ว่าแต่วันนี้ทำมั๊ยให้ผมรีบกลับล่ะครับมีอะไรหรือป่าว”

“ทำไม แม่ก้ออยากกินข้าวเย็นกับลูกชายบ้างมันแปลกเหรองัยเรา” ความรักความห่วงใยที่แม่มีให้ยังคงยิ่งใหญ่เสมอ

“รอน แม่กับลุงคุยกันแล้ว ลุงเค้าอยากจะย้ายไปอยู่ที่สิงค์โปร์นะลูกธุรกิจที่โน้นดูท่าว่าจะไปได้ดีกว่าที่นี่ ลุงเค้าจะขายหุ้นที่นี่ให้กับเพื่อนๆที่ถือหุ้นอยู่แล้วย้ายไปลงที่โน้นแบบเต็มตัว

อีกอย่างแม่กับลุงก้อแก่แล้วต้องเทียวบินไปๆมาๆไม่ไหวเดี๋ยวนี้มันเหนื่อยไม่เหมือนแต่ก่อน ลูกก้อมีแค่สองคน คิดว่าถึงแม่กับลุงต้องจากไปก้อไม่ทำให้เราลำบากแน่นอน เราอยากจะตามแม่ไปอยู่ที่โน้นมั๊ย พี่นัทเค้าก้อดูแลงานอยู่ทางโน้นอยู่แล้ว”

ผมเองตกใจที่ได้ยินแบบนั้น ตอนนี้ผมยังไม่อยากจากเมืองไทยไปไหน คงเพราะใจของผมยังคงรอใครบางคนอยู่ที่นี่

“ผมเองก้อแล้วแต่แม่กับลุงแล้วกันนะครับ แต่ผมยังอยากจะอยู่ที่นี่ก่อน แม่จะว่าอะไรหรือป่าวครับ”

“ไม่หรอกแม่เองก้อคิดเหมือนกันว่าเราคงจะขออยู่ที่นี่”

“แล้วแม่จะย้ายไปเมื่อไหร่ครับ”

“เดือนหน้าจ๊ะ หลังจากทำอะไรที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน ส่วนบ้านที่นี่ลุงเค้าโอนเป็นชื่อของเรากับนัทแล้วนะจ๊ะ รวมทั้งบ้านที่หัวหินด้วย แต่ที่นั้นเป็นชื่อของเราคนเดียว เดี๋ยวยังงัยเราก้อไปที่สำนักงานที่ดินกับลุงเค้าหน่อยนะ ต้องไปทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย”

“แต่แม่ครับ ผมไม่กล้ารับไว้เลยครับ”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ลุงนนท์ก้อเดินเข้ามาซะก่อน

“อย่าปฎิเสธเลยลูก รอนก้อเหมือนลูกลุงอีกคน ตั่งแต่ที่เรากับแม่เข้ามาในชีวิตลุงมันก้อทำให้ลุงทีความสุขและมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น ว่าแต่เราเถอะเห็นว่าลุงเป็นพ่ออีกคนของเราหรือเปล่า” ลุงเดินมานั่งข้างๆผม

“เห็นสิครับ ผมเห็นว่าลุงคือพ่ออีกคนของผมเสมอ ลุงให้โอกาสหลายอย่างกับผมและแม่ ผมเองก้อรักและเคารพลุงมากครับ”

“งั้นต่อไปก้อเรียกลุงล่าพ่อเลยแล้วกันนะ”

“ครับ พ่อ” ผมก้มลงไปกราบที่ตักของลุงนนท์

“งั้นก้อรับของจากพ่อได้นะลูก พ่อให้ลูกไม่เห็นจะเป็นไรเลยยังงัยสักวันมันก้อจะเป็นของเราทั้งสองอยู่ดี”

ลุงนนท์หยิบเอกสารหลายๆอย่างมาให้ผมอ่าน รวมถึงกรรมสิทธิของบ้านและที่ดินด้วย ในนั้นมีซองสีขาวที่ผมเปิดดูก้อไม่กล้าที่จะรับไว้ ผมมองหน้าของลุงแต่ลุงนนท์ก้อทำหน้าหน้าให้รับมันเอาไว้

ข้างในเป็นเช็คเงินสดที่ ระบุชื่อของผม แต่จำนวนเงินมันมากเหลือเกิน แค่เงินจำนวนนี้ผมก้อแทบจะไม่ต้องทำงานอะไรก้อมีกินมีใช้ไม่ลำบากอะไร ผมมองหน้าแม่ทีลุงนนท์ที

“เก็บเอาไว้ใช้นะลูก ขาดเหลืออะไรก้อบอก แล้วถ้าวันไหนอยากตามไปอยู่ด้วยกันที่โน้นก้อบอกพ่อกับแม่นะลูก”

วันนี้ผมรู้สึกว่าผมเองนั้นโชคดีเหลือเกินที่มีครอบครัวที่รักและอบอุ่นแบบนี้

*
*
*
*

“ รอน วันนี้เดี๋ยวพวกพี่จะพากันไปเลี้ยงต้อนรับเรา กันนะยังงัยก้ออย่าเพิ่งรีบกลับนะ” พี่วัตเดินมาบอกกับผม เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด

หลังจากที่ผมเข้ามาทำงานที่นี่ได้ครบอาทิตย์ สถานที่ที่พี่ๆเค้าพาผมไปมันเป็นผับแถวๆสาธร คงเพราะมันเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์

ผู้คนเลยเบียดเสียดกันมาก เสียงเพลงดังแสบแก้วหูกับแสงวูบวาบทำเอาผมชักๆจะมึนเหมือนกัน

ทั้งๆที่บรรยากาศรอบๆตัวสนุกสนานอึกทึกแบบนี้แต่ผมกลับคิดถึงสถานที่ที่เงียบสงบกับใครบางคนที่จากผมไปแสนไกล

ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะมากขึ้น มีหลายคนที่ดูเหมือนจงใจเต้นมากระทบผมบ้าง ที่กล้าหน่อยก้อเข้ามาขอเบอร์เลยก้อมี ไม่นึกว่าสาวๆที่กรุงเทพจะกล้ากันขนาดนี้

พี่ๆที่ทำงานก้อพยายามชวนผมคุย แต่มันก้อไม่ทำให้ผมนึกสนุกขึ้นมาเท่าไหร่จนดึกเราเลยต่างแยกย้ายกันกลับ ตอนนี้ใกล้จะตีสองแล้ว

ผมยืนอยู่ข้างหน้าผับ ใจผมนึกถึงวันที่ผมกับวินเราฉลองจบกับเพื่อนๆที่เชียงใหม่ คืนที่ผมยังจดจำสัมผัสของวินได้เป็นอย่างดี

และมันก้อทำให้ผมต้องเสียน้ำตาให้กับความหลังครั้งเก่าที่แม้ว่าเวลาที่เรานึกถึงมันอาจจะทำให้มีน้ำตา แต่ที่ริมฝีปากของเราจะยังคงมีรอยยิ้มเสมอ

“อกหักมาเหรอพี่” เสียงของใครบางคนทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะหันไปเจอ เด็กหนุ่มหน้ากวนๆ แต่ก้อจัดว่าเป็นคนที่น่าตาดีมากๆทีเดียว

ผมจำได้ว่าเป็นเด็กเสริฟ์ของผับที่ผมเพิ่งจะเดินออกมา เพราะครั้งที่เค้ามารินเครื่องดื่มให้แล้วผมสั่งแต่แป๊ปซี่ มันทำให้เค้ามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 30-09-2008 21:45:22
จะเป็นคนที่ดามใจให้หรืออเิปล่านะเด็กคนนี้ :m12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 04-10-2008 20:52:33
มันมีเหตุผลใ่ช่มั๊ย???

ไม่ได้จากกกัีนไปเพราะไม่ได้รักแล้วใช่มั๋ย???
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 04-10-2008 21:21:24
 :mc4:ฉลองเรื่องใหม่ มาจะช้าไปสักนิด +1 เป็นกำลังใจในการโพสนะครับ ขอให้ขยัน ๆ  :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 19-10-2008 05:07:10
ตอนต่อไปมาแล้วววววว    พี่รันทิ้งเพียวโพสคนเดียวเลยยย

ตอนที่.7
ผมไม่ได้ตอบอะไรเค้าไปแต่ก้อยิ้มให้เค้าแล้วก้อกำลังจะหันหลังกลับ

“จะไปไหนต่อป่าวพี่ คืนนี้ผมว่าง.....รับรองว่าผมทำให้พี่หายเศร้าได้นะ” น้องเค้ายังเดินตามผมมา ผมหันไปมองหน้าเค้าเมื่อเห็นชัดๆก้อยิ่งรู้สึกว่าเค้าเป็นคนที่หน้าตาดีจริงๆ

“ไม่เป็นไรครับน้อง อีกอย่างพี่ยังไม่อยากโดนข้อหาพรากผู้เยาว์”

“อะไรพี่ หน้าผมเด็กขนาดนั้นเลยเหรอ ผมจะยี่สิบอยู่ไม่กี่เดือนแล้วนะ” ความจริงเค้าก้ออ่อนกว่าผมแค่2-3 ปีเองแต่ดูหน้าเค้าเด็กกว่านั้น แต่รูปร่างเค้าสูงโปร่ง คงจะสูงกว่าผมนิดหน่อย

ไม่รู้เป็นเพราะผมคิดถึงวินมากไปหรือเปล่า เลยทำให้ผมคิดไปว่าเค้าคล้ายกับวินวันที่ผมเจอกับมันวันแรกมาก การพูดที่ดูกวนๆ และลักษณะที่ดูซ่าส์ๆ

“ว่างัยพี่ แค่มองอย่างเดียวมันไม่สนุกหรอกครับ” สงสัยผมคงจ้องเค้านานไปหน่อย

“เท่าไหร่ครับ” ไม่รู้ทำไมผมถึงพูดไปแบบนั้น แต่ผมคิดว่าเค้าคงมีอาชีพเสริมเป็นแบบนี้เพราะดูจากการเข้ามาทักผมแล้วมันทำให้ผมไม่สามารถคิดเป็นอื่นไปได้ ผมรู้สึกว่าหน้าเค้าดูผิดหวังไปนิดนึงแต่ก้อกลับมายิ้มระรื่นได้เหมือนเดิม

“เออ...ขอโทษนะพี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะดูถูกน้องนะครับ”

“เท่าไหร่ดีล่ะพี่ ทุกทีอย่างผมต้องมีคนมาเสนอราคาให้ก่อน แต่เพราะเห็นว่าพี่น่ารักนะเลยคิดแบบคนกันเอง 3000 ละกันพี่”

“งั้นก้อได้ครับ จะไปไหนกันดีล่ะ ไปกันเลยป่ะ” ผมหันไปบอกกับเค้า

“งั้นรอผมแป๊ปนะพี่ เดี๋ยวผมเข้าไปบอกผู้จัดการร้านก่อน เดี๋ยวออกมา”

ช่วงที่ผมยืนรอเค้า ผมก้อคิดว่าผมกำลังทำอะไร นี่มันใช่ตัวเราหรือป่าวผมไม่ได้เมาเหล้า แต่ผมกำลังมึนเพราะความเหงาสินะ แต่ช่างมันเถอะผมแค่ต้องการเพื่อนคุยเท่านั้นเอง คนที่คล้ายใครบางคนที่ทำให้ผมต้องทุกข์ใจเพราะคิดถึงเค้าอยู่ในตอนนี้

“รอนานป่าวครับพี่” ผมหันไปมองเค้า เค้าเปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ มันยิ่งทำให้เค้าดูมีเสน่ห์มากขึ้น และขณะที่เรากำลังจะเดินออกไปจากตรงนั้น ก้อมีเสียงใครก้อไม่รู้เรียกเราไว้

“ไผ่ ทำไมนายทำแบบนี้ว่ะ เรามารอนายทุกวันแล้วทำไมนายทำแบบนี้ เค้าให้นายเท่าไหร่บอกมาสิ เราจะให้เป็นสองเท่าเลย”

เด็กหนุ่มรุ่นเดียวกับเค้าเดินมาที่พวกเรา เค้ามากับอีกคนที่ดูว่าน่าเป็นพนักงานในผับที่ผมเพิ่งออกมา

“เดี๋ยวขอเวลาสักครู่นะพี่” แล้วเค้าก้อพาเด็กหนุ่นคนนั้นออกไปคุยกันในร้าน เหลือแต่ผมกับใครไม่รู้ยืนอยู่สองคน

“พี่ไปพูดยังงัย ไอ้ไผ่มันถึงตกลงไปกับพี่ได้ล่ะครับ” พนักงานคนนั้นเค้าพูดกับผม

“ป่าวครับ อยู่ดีๆเพื่อนน้องก้อมาชวนพี่เอง”

“โห๋...ไม่น่าเชื่อนะเนี้ย พี่รู้มั๊ย ตั่งแต่ไอ้ไผ่มันมาทำงานนะ มันไม่เคยออกไปไหนกับแขกเลยสักคนนะพี่ ไม่ว่าใครจะเสนอราคามายังงัย อย่างคนเมื่อกี้นะมาเฝ้ามันทุกคืนมันยังไม่ใจอ่อนเลย” เค้าหยุดพูดไปสักพักแล้วเอาแต่จ้องหน้าผม

“อ๋อ...พี่ที่เมื่อกี้นั่งกันอยู่ข้างลำโพงป่าวครับ ถึงว่าเห็นมันคอยไปบริการแถวๆโต๊ะของพี่บ่อยๆทั้งๆที่วันนี้เวรมันนั่งบาร์” ก่อนที่เค้าจะพุดอะไรต่อไป คนที่ถูกเอ่ยถึงก้อเดินมาซะก่อน

“ไปกันเถอะพี่” เราเดินออกมาจากตรงนั้นเค้าก้อเป็นฝ่ายถามผมก่อน

“พี่อยากไปไหนก่อนมั๊ย หรือว่าอยากทำอะไรหรือป่าว”

“งั้นเราไปหาข้าวกินก่อนแล้วกันนะ” เราไปหาข้าวกินกัน ช่วงที่เรากินข้าวกันมันก้อทำให้ผมรู้ว่าเค้าชื่อไผ่ กำลังเรียนอยู่ปี.2 มหาวิทยาลัยย่านสนามหลวง

เค้าเป็นคนคุยสนุกและกวนๆ แต่ก้อมีความคิดที่แปลก คงเพราะเด็กที่เรียนช่างศิลป์มักจะมีมุมมองความคิดที่ลึกซึ้งกว่าคนทั้วไป

“อิ่มแล้วเราจะไปไหนดีพี่” เค้าถามผม

“อ้าวไหนบอกว่าจะพาไปทำอะไรสนุกๆงั๊ย ไปโรงแรมไหนดีล่ะ” ผมแกล้งพูดเล่นๆแต่หน้าของไผ่ดูซีดลงไปนิดหน่อย โถ่เอ๋ย....ทำมาเป็นคุยที่แท้ก้อไม่เคยทำอะไรแบบนี้

“พี่พูดเล่น อยากไปหาที่เงียบๆคิดอะไรมากกว่า นายรู้จักที่ไหนที่บรรยากาศดีๆมั๊ยล่ะ” หน้าของไผ่ดูดีขึ้นมาทันที

“มีพี่ ผมชอบไปบ่อยๆงั้นเราไปกันเลยแล้วกัน” ที่ที่ไผ่พาผมมาคือท่าเรือตรงสะพานตากสิน มันก้อไม่ไกลจากร้านที่เรานั่งกินข้าวกันเท่าไหร่

แม่น้ำยามค่ำคืนดูสงบและเงียบเหงา มองไปข้างหน้าก้อมีตึกใหญ่ๆ และสีสันของไฟยามค่ำคืนเป็นฉากหลัง สายลมพัดเอื่อยๆ มันทำให้ผมรู้สึกดี

ไม่น่าเชื่อว่ากลางกรุงเทพจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ สายน้ำเบื้องหน้ามันทำให้ผมคิดถึงสายน้ำแบบเดียวกับสถานที่ในความทรงจำของผม

“พอได้มั๊ยพี่” ไผ่เดินมายืนข้างๆผม

“อือม์...ใช้ได้ บรรยากาศดีนะเงียบดี”

“พี่ยังไม่ตอบผมเลยนะที่ผมถามพี่ตอนที่อยู่หน้าร้านน่ะ”

“ถามว่าอะไรล่ะ จำไม่ได้แล้วอ่ะ”

“ผมถามว่า อกหักมาเหรอป่าว”

“ทำนองนั้น แล้วทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ ท่าทางมันฟ้องเหรอ”

“มั๊งพี่....แล้วแฟนพี่เป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิงล่ะ แต่ถ้าให้ผมเดานะสงสัยคงเป็นผู้ชายล่ะสิ เพราะไม่ค่อยเจอผู้ชายที่อกหักจากผู้หญิงแล้วมานั่งซึมกินแต่แป๊ปซี่เลยอ่ะ” ผมไม่ได้ตอบแต่เป็นฝ่ายถามบ้าง

“แล้วทำไมถึงชวนพี่มาล่ะ ไหนเพื่อนบอกว่าไม่เคยทำอะไรแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”

“ไม่มีอะไรหรอกพี่ สงสารคนอกหักน่ะ” มันหันมายิ้มให้แบกวนๆ ผมรู้สึกว่ายิ่งคุยก้อยิ่งคิดว่าคนข้างๆนี่ช่างเหมือนกับไอ้วินมาก

มันทำให้ผมยิ่งคิดถึงวินมันมากขึ้น ถึงจะเหมือนอย่างไรมันก้อไม่ใช่.....ไม่ใช่คนที่ผมอยากให้เค้ามายืนอยู่ข้างๆตอนนี้

“อย่าคิดมากเลยพี่ ลืมๆมันไปเถอะรักแล้วทุกข์ ก้ออย่ารักมันเลยดีกว่า”

“เริ่มรักน่ะอาจใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าเลิกรักนะ บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตยังลบมันไปไม่ได้เลย ถึงแม้สักวันเราจะมีรักใหม่ แต่รักครั้งเก่าก้อใช่ว่าจะลบเลือนไปจากใจได้ซะสนิททีเดียว นายยังไม่เคยรักใครอย่ามาสอนให้เค้าลืมความรักเลยนะ”

“ถ้างันพี่ก้อสอนผมหน่อยสิ ผมจะได้รู้กับเค้าซะที” ผมหันไปมองหน้าไผ่ ก้อเจอกับสายตาที่จริงจังมองมาอยู่ก่อนแล้ว


*
*
*
*
สวัสดี...ไอ้คุณชาย

“เป็นงัยบ้างวันนี้เหนื่อยมั๊ย วันนี้เราส่งมาซะดึกเลย พอดีพี่ๆที่แผนกเค้าพาไปเลี้ยงต้อนรับมาน่ะ กว่าจะกลับเลยดึกไปหน่อย รอนานล่ะสิ (หรือว่าไม่ได้รออยู่แล้ว)

ตอนนี้พ่อนายไปทำธุระน่ะ กว่าจะกลับมาเมืองไทยก้อคงจะเป็นอาทิตย์หน้ามั๊ง เลยอู้สบายเลยเจ้าของบริษัทไม่อยู่ ลูกเจ้าของก้อไม่กลับมาสักทีพวกลูกน้องเลยสบายกันใหญ่

เมื่อไหร่จะกลับมาดูล่ะ บริษัทเจ๊งไม่รู้ด้วยนะ เออ! วันนี้เราเจอใครบางคนที่คล้ายๆนายด้วยล่ะ”

ภาพของไผ่ตอนที่เรากำลังจะแยกกันกลับมาบ้านก้อเข้าแว๊บเข้ามาในสมอง

“ว่างัยพี่ จะลองมาคบกับผมได้มั๊ย”

“อย่าเลย พี่เองก้อยังรอใครบางคนที่เค้าจะกลับมาอยู่”

“ถ้างั้นช่วงที่รอ พี่คบกับผมดูได้มั๊ยล่ะ ถ้าแฟนพี่เค้ากลับมาแล้วพี่ยังไม่รักผมพี่ก้อกลับไปหาแฟนพี่ก้อได้ แต่ผมมั่นใจว่าพี่จะต้องรักผมแน่นอน ลองดูมั๊ยล่ะ ไม่เห็นจะมีอะไรเสียเลย”

“เกมส์แบบนี้อ่ะน่ะ พอสุดท้ายแล้วไม่ว่าใครก้อต้องเสียอยู่ดี อยู่ที่จะมากจะน้อย พี่เองก้อเสียมาแล้วเพราะทำอะไรแบบนี้แหล่ะ”

“ผมไม่เห็นว่ามันจะเสียอะไรเลยพี่”

“เสียใจงัย สุดท้ายไม่ใครก้อใครคงไม่พ้นที่จะต้องเสียใจอยู่ดี”

“แต่พี่ ไม่ลองเปิดโอกาสให้ผมหน่อยเหรอ นะผมขอแค่โอกาส” สายตาของไผ่มันทำให้ผมนึกถึงวันที่วินเดินมาขอให้เราลองเปิดใจให้กันดู

“เอาเป็นว่าถ้าเราเจอกันอีกเกิน3ครั้ง ตอนนั้นค่อยมาคุยแล้วกันนะ” นั่นเป็นคำพูดที่ผมทิ้งไว้ให้กับไผ่ก่อนที่เราจะแยกกัน ผมกลับมาพิมพ์ข้อความไปหาวินต่อ


*
*
“ยิ่งเราได้คุยกับเค้ามันก้อทำให้เราคิดถึงนายว่ะ เมื่อไหร่จะกลับมาล่ะ มีคนรออยู่นะ

อย่างน้อยก้อตอบเราหน่อยก้อได้ว่าสบายดี เราจะได้ไม่ต้องคิดเอาเอง วันนี้แค่นี้ก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน”


คิดถึงเสมอ.............รอน
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 19-10-2008 05:11:50
ตอนที่.8
หวัดดี...ไอ้คุณชาย

ได้ข่าวว่าตอนนี้งานทางนี้เรียบร้อยดีแล้วใช่มั๊ย แล้วเมื่อไหร่จะกลับซักทีล่ะ ไม่ส่งข่าวให้เพื่อนฝูงรู้บ้างเลยน่ะ

ตอนนี้เราเองก้อเริ่มที่จะเข้ารูปเข้ารอยแล้วกับงานที่บริษัท พี่ๆก้อดีกันทุกคน นี้ก้อผ่านไปสองฤดูแล้วนะที่หายไปเลย ทำไมถึงใจร้ายแบบนี้ห๊ะ แค่ตอบกลับไปสักครั้งมันลำบากหรือว่าฝืนใจนายมากเหรองัยว่ะ

คนที่รออยู่จะรู้สึกยังงัยไม่เคยคิดถึงกันเลยใช่มั๊ย ทำไมมีอะไรถึงไม่ยอมบอกกันบ้าง หลังจากวันที่เรารับปริญญากัน วันที่นายกลับมากรุงเทพ มันมีเรื่องอะไรทำไมถึงไม่ยอมเล่าให้เราฟังบ้าง

และที่สำคัญระหว่างเรา มันก้อคงยังเป็นคำถามที่เรายังไม่รู้คำตอบ และยังคงรอคำตอบจากนายอยู่ตลอดเวลา

คิดถึง และ รออยู่เสมอ
รอน..................

*
*

นี่ก้อผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้วที่วินจากผมไป ตลอดเวลาที่วินจากไปผมไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาเลยสักครั้ง แต่ผมจะส่งเมลล์ไปหาวินทุกๆวันพร้อมกับคำถามเดิมๆที่หวังว่าจะได้คำตอบกลับมา

วันนี้ผมตื่นสายกว่าปกติเพราะว่าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ชีวิตยังคงดำเนินต่อไปตามทางที่ผมเลือก หลังจากที่ครอบครัวผมย้ายไปสิงค์โปร์กันหมดแล้ว ผมเองก้อมีอิสระกับเวลาและการใช้ชีวิตมากขึ้น

พี่นัทยังคงโทรมาหาผมอยู่บ่อยๆ และยังคงโกรธที่ผมไม่ยอมย้ายไปอยู่ด้วยกัน ผมเองก้อไม่ได้บอกว่าผมกำลังรอใครบางคนอยู่ แม้ว่าการรอนั้นมันอาจจะสูญเปล่าก้อตามที

วันนี้ผมไม่มีโปรแกรมที่จะออกไปไหน เลยตั้งใจว่าจะอาบน้ำให้ไอ้เจ้า “โรโบ้ ลูกสุนักพันธุ์ บีเกิ้ล” เสียหน่อย หลังจากที่ผมตัดสินใจซื้อมันมาเพราะสงสารที่เห็นมันวางขายอยู่แถวตลาดนัดเปิดท้ายที่โรงภาพยนตร์ชื่อดังย่านรัชโยธิน

แว๊บแรกที่เห็นมันผมก้อคิดถึงตัวเอง มันคงรออยู่ที่จะให้มีใครสักคนมาเอามันไปอยู่ด้วย ใครสักคนที่จะรักให้ความเอาใจใส่จริงๆจังๆ ไม่ใช่แค่มาเล่นกับมันด้วยความสนุกสนานแค่ชั่วครู่ชั่วยามแล้วก้อผ่านเลยไป

แววตาเวลาที่มีคนมาเล่นแล้วก้อ ผ่านไปปล่อยให้มันได้แต่มองมันทำให้ผมอดสงสารไม่ได้ เลยตกลงใจเอามันกลับมาบ้านด้วย และมันก้อทำให้ผมหายเหงาได้มาก

แต่ยังไม่ทันที่จะได้อาบน้ำ ก้อมีโทรศัพท์มาหาเสียก่อน

“สวัสดีครับ…คุณลุง มีอะไรหรือเปล่าครับ” มันเป็นเบอร์ของลุงกิติพ่อของวิน

“วันนี้เราว่างหรือป่าวลูก พอดีวันนี้ เพื่อนของลุงเค้าจะมาเยี่ยมน่ะ เลยอยากให้เรามาช่วยลุงรับรองเค้าหน่อยน่ะลูก”

“ได้ครับ...แล้วเพื่อนของลุงจะมากันตอนไหนครับ ผมจะได้เตรียมตัวถูก”

“เอาเป็นว่าเรามาหาลุงที่บ้านก่อนจะถึงเวลาอาหารค่ำแล้วกัน”

“ครับลุงเอาเป็นว่าสัก4โมงเย็นเดี๋ยวผมเข้าไปที่บ้านลุงก้อแล้วกันครับ”

หลังๆมานี่ผมเองค่อนข้างที่จะสนิทกับลุงกิติมากขึ้น แกเองก้อให้ความเอ็นดูและความรักผมเหมือนลูกของแกคนนึง อาจจะเพราะแกคงจะเหงาด้วยล่ะมั๊งที่ลูกชายไม่อยู่

คนเรายิ่งอายุมากขึ้นก้ออยากให้ลูกๆหลานๆอยู่ใกล้เป็นธรรมดา และช่วงนี้แกเองก้อสุขภาพไม่ค่อยจะดีนัก ต้องไปหาหมออยู่บ่อยๆทำให้ถ้าวันไหนว่างๆผมก้อมักจะแวะมากินข้าวกับแกอยู่บ่อยๆ

*
*
*
“โกรธลุงมั๊ย ที่ให้เจ้าวินมันไปดูงานกับเพื่อนของลุง” ผมสะดุ้งหลังจากที่นั่งดูรูปตอนเด็กๆของวินอยู่ทุกครั้งที่ผมแวะมา ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะไม่เข้ามาในห้องของวินมัน

“ไม่หรอกครับ.....ผมเข้าใจ” ผมตอบออกไปแบบนั้นหวังให้แกไม่รู้สึกอะไร ทั้งๆที่ใจผมนั้นแสนเจ็บปวด และเสียใจ

“รู้มั๊ยทำไมลุงอยากให้เรามาช่วยลุงทำงานที่บริษัท” ลุงกิติเดินมานั่งตรงข้ามกับผม ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้น เพราะรู้ว่ามันเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ

“เพราะลุงรู้นิสัยลูกชายลุงดี คิดว่ายังงัยมันคงต้องให้เราตามมันไปด้วยแน่ๆ” ผมหันไปมองหน้าแก

“แสดงว่าลุงไม่ได้อยากให้ผมมาช่วยงานจริงๆเหรอฮ่ะ ที่ให้ผมมาช่วยก้อแค่จะกันผมไว้ให้ห่างจากวินแค่นั้นเองเหรอครับ”ผมรู้สึกเสียใจที่ได้ยินแบบนั้น

“ผมเข้าใจครับว่าลุงหวังดีกับวินมัน แต่ลุงบอกผมดีๆก้อได้นะครับ ป่านนี้ผมอาจจะไปอยู่กับครอบครัวของผมแล้ว ซึ่งผมคิดว่าทั้งผมและวินเราคงจะห่างกันมากกว่านี้
แบบนี้สักวันถ้าวินกลับมาลุงจะให้ผมไปไหนอีกล่ะครับ ถึงจะได้แยกผมกับวินได้อีก”

“ตอนแรกที่ลุงชวนเรา มันก้อแค่อยากจะแยกเราทั้งคู่ออกจากกัน แต่จะให้แยกกันไปเลยลุงก้อคงทำไม่ได้ถ้าวันนึงวินมันไม่เข้าใจถึงความหวังดีของลุงแล้วกลับไปใช้ชีวิตวันๆ ลุงก้อยังมีเราคอยดึงวินมันกลับมา

แต่ตลอดเวลาเราก้อทำให้ลุงละอายใจนัก ที่เราเองช่วยเหลือและคอยดูแลเราพ่อลูกมาตลอด ทุกวันนี้รอนก้อเหมือนลูกคนนึงของลุง และลุงเองก้อซาบซึ้งมากนะลูก ลุงไม่อยากจะปิดเราอีกต่อไป และก้อไม่อยากจะให้รอนจากพวกเราไปไหน ถ้าถึงวันที่วินกลับมา”

“แต่ลุงเองก้อยังไม่อยากให้ผมกับวินคบกันในแบบที่เราต้องการ แล้วทำไมถึงอยากให้ผมอยู่ใกล้กันล่ะครับ”

“เพราะลุงก้ออายุมากขึ้นแล้ว ต่อไปถ้าไม่มีลุงวินเค้าก้อจะไม่เหลือใคร เค้าไม่สนิทกับญาติๆคนไหนเลย ตั้งแต่เค้าเสียแม่ไปเค้าก้อมีแค่ลุง กับเพื่อนๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเค้า แต่ก้อไม่เคยมีใครที่วินเค้าจะรักได้เท่าเรา”

“ลุงคงยังไม่รู้นะครับว่าก่อนที่วินจะไปเค้ามาบอกเลิกกับผมแล้ว เรากลับมาเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้นครับ

และสิ่งที่วินเค้าบอกกับผมก่อนไป คำสุดท้ายที่ออกจากปากเค้าคือ คำว่า อย่ารอเราอีกเลย ลาก่อน เพราะฉะนั้น วินเค้าไม่จำเป็นต้องมีผมอยู่ข้างๆเค้าแล้วล่ะครับ”

จากการที่ผมได้พูดคุยกับลุงกิติวันนี้ทำให้ผมรู้ว่าที่ลุงตัดสินใจให้วินไปฝึกกับเพื่อนที่โน้นก้อเพราะอยากจะแยกเราจากกัน และหวังจะให้วินได้ใกล้ชิดกับลูกสาวของเพื่อนลุงด้วย และเท่าที่ทราบข่าวก้อรู้ว่าทั้งคู่กำลังไปกันได้ดี

และที่สำคัญผมเองก้อเพิ่งรู้ว่าลุงกิตินั้นเป็นโรคหัวใจและไตด้วย นี่หรือเปล่าที่วินอยากเลิกกับผมคงกลัวว่ามันจะทำให้ลุงแกคิดมากก้อเป็นได้

หลังจากที่ผมมาทานข้าวและพาเพื่อนๆของลุงไปสัมผัสกับแสงสียามราตีของเมืองบางกอกผมก้อขอตัวแยกมาก่อน ค่ำคืนที่เงียบเหงา

ผมเองไม่อยากกลับไปนอนเศร้าที่บ้านคนเดียว เพื่อนๆของผมเองก้อไม่สามารถมาช่วยฉุดผมจากความเศร้าในคืนนี้ได้ และในที่สุดผมก้อมาที่นี่ สถานที่ที่ไผ่เคยพาผมมาแล้วครั้งนึง ผมยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย มันสุดทางแล้วจริงๆหรือกับเส้นทางของผมกับวิน

วินลืมผมไปได้แล้วจริงๆใช่มั๊ย หรือ ผมเป็นคนเดียวที่ยังติดอยู่กับวันเก่าๆ ติดกับอดีตที่ไม่มีอนาคตหยั่งงั้นหรือ

ที่ผ่านมาผมพยายามเก็บกดและปิดบังความเสียใจ และความเหงามันไว้อย่ามิดชิด แต่ในบางครั้งมันก้อเผลอแสดงออกมาทางสายตา และตอนนี้ความเหงาความอ้างว้างก้อเออล้นขึ้นมาจนได้

ครั้งหนึงผมเป็นทุกข์ที่รู้ตัวว่าแอบชอบเพื่อนสนิทแถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ทุกข์ในครั้งนั้นยังไม่เท่ากับทุกข์ในครั้งนี้ที่สำนึกได้ว่ารักนั้นไร้ซึ่งอนาคต

“ผมดีใจนะที่พี่กลับมาที่นี่อีกครั้ง” ผมตกใจที่รู้ว่ามีคนอยู่ข้างหลัง แต่เมื่อได้เห็นหน้าผมก้อจำได้ เค้าคือคนที่พาผมมาที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก

“รู้มั๊ยว่าผมมาที่นี่เกือบทุกวันสุดสัปดาห์ แต่ผมก้อผิดหวังทุกครั้งที่ไม่พบกับคนที่ผมอยากเจอ”

ไผ่เดินมายืนข้างๆผมผมรู้สึกดีที่อย่างน้อยยามนี้ผมก้อยังคงมีใครสักคนที่มาอยู่เป็นเพื่อน ยามที่ผมกำลังอ่อนแอเพราะความเหงา

“ผมขอโทษนะที่เคยบอกให้พี่ลืมคนในอดีตของพี่ พี่ไม่จำเป็นต้องลืมเค้าก้อได้ครับ แต่ลองให้โอกาสผมได้มั๊ย”

“ทำไมนายถึงอยากคบกับพี่ล่ะ ทั้งๆที่เราก้อไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อย่าพูดเลยนะเรื่องรักแรกพบน่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่แค่เห็นหน้าพี่ในวันนั้น ผมก้อไม่เคยลืมพี่ได้อีกเลย ผมไม่บอกว่ามันคือความรัก แต่มันเป็นความประทับใจ”

ในตอนนั้นแวบนึงที่ผมเห็นเหมือนวินมายืนอยู่ข้างหน้า

“ถ้าอยากจะต้องมานั่งเสียใจก้อตามใจนายแล้วกัน”


หวัดดี.....วินเพื่อนรัก

เป็นงัยบ้างสบายดีหรือเปล่า ขอโทษนะที่ฉบับที่แล้วเราว่านายซะยกใหญ่ วันนี้พอดีได้ไปกินข้าวกับพ่อนายมา ท่านสบายดีนะไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพ

เราเองก้อจะคอยดูแลแทนให้จนกว่านายจะกลับมา
ได้ข่าวว่ากำลังทำความรู้จักอยู่กับสาวที่นี่อยู่ใช่มั๊ย ดีใจด้วยนะที่นายหลุดจากอดีตได้แล้วและก้าวเดินต่อไปในทางของตัวเองได้

มันก้อคงถึงเวลาของเราบ้างแล้วสินะที่จะต้องกาวขาออกจากอดีตสักที

เรื่องของเราคงเป็นบทรักบทหนึ่งในชีวิตของพวกเราและมันคงถึงเวลาที่นายและเราคงต้องเริ่มบทใหม่แล้วล่ะ

น่าตลกนะที่ทุกวันเราต้องส่งเมลล์มาถึงนายทุกๆวันโดยไม่รู้ว่านายจะอ่านมันหรือเปล่า และเราก้อเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ที่นายจะตอบเราบ้าง

แต่วันนี้เราไม่ต้องรอแล้วสินะ คำถามที่เราเคยถามนายตลอดมา ตอนนี้เราไม่อยากจะรู้คำตอบแล้วล่ะ ปล่อยให้มันกลายเป็นริ้วรอยเล็กๆของกาลเวลาระหว่างเราเถอะนะ
ดูแลตัวเองดีๆล่ะ

ลาก่อน............วิน
............รอน.............

*
*
*

หลังจากที่ผมตัดสินใจส่งเมลล์บับนั้นไปหาวิน เช้าวันนั้นผมก้อดีใจมากที่วินตอบกลับเมมล์ของผม

ถึง........รอน

เห็นมั๊ยว่าในที่สุดนายก้อลืมเราได้ และจะดีใจมากกว่านี้ถ้านายก้าวเดินต่อไปอย่างมีความสุขเพราะเราเองก้อกำลังก้าวเดินอย่างมีความสุขอยู่ในตอนนี้

ดูแลตัวเองเช่นกัน......................วิน

ผมอ่านมันไปมาหลายรอบ ผมดีใจที่วินตอบกลับมาแม้มันจะเป็นการย้ำให้ผมแน่ใจว่าระหว่างเราคงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว


*

*

*
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 19-10-2008 05:14:57
ตอนที่.9
หลังจากวันนั้นที่วินตอบเมลล์ผมกลับมา วินก้อไม่เคยติดต่อกลับมาอีก ผมเองก้อไม่ได้ส่งเมลล์ไปหาวินอีกเลยแต่ไม่เคยมีวันไหนที่ผมจะไม่คิดถึงวิน จวบจนป่านนี้ผมเองก้อยังไม่สามารถลืมวินไปจากใจผมได้สักที

ผมยังคงใช้ชีวิตไปตามปกติ ลุงกิติเองก้อดูสุขภาพแย่ลงไปมาก ผมเลยต้องทำหน้าที่ของลูกชายที่ดีแทนวินไปโดยปริยาย และวันนี้ขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่นั้น ลุงก้อเรียกให้ผมเข้าไปหาที่ห้องทำงาน

“มีอะไรครับลุง”

“เดี๋ยวไปกินข้าวกับลุงหน่อยนะลูก มีเรื่องอยากคุยด้วย”

“ครับ.....งั้นเดี๋ยวตอนกลางวันผมเดินมาแล้วกันนะครับ”

ผมกำลังจะเดินกลับออกมาจากห้องของลุงกิติแต่แกก้อเรียกผมไว้ก่อน ผมกำลังจะถามว่ามีอะไร เสียงโทรศัพท์ก้อดังขึ้นมาก่อน ผมเลยเดินมานั่งที่โซฟารับรองแทน

“ว่างัยไอ้ลูกชาย เมื่อไหร่จะยอมกลับมาสักที เกือบปีแล้วนะที่แกไม่ยอมกลับมาเลย”

ผมชาไปทั้งตัวที่รู้ว่าปลายสายเป็นใคร ความน้อยใจ เสียใจ และความคิดถึงพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างฉับพลัน ผมหันไปมองลุงกิติเป็นระยะ และคอยฟังว่าแกคุยอะไรกันบ้าง

“เดี๋ยวแกอย่าเพิ่งวางนะ” ลุงกิติแกบอกกับปลายสายแบบนั้นแล้วเรียกผมเข้าไปหา

“รอน...มาหาลุงหน่อย เราช่วยพูดให้เจ้าวินมันกลับมาหน่อยสิลูก ลุงเองก้อไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหนบอกให้มันกลับมาปรนนิบัติพ่อของมันได้แล้ว”

แกยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ผมรู้สึกว่ามือที่เอื้อมไปรับโทรศัพท์นั้นสั่นเล็กน้อย เกือบปีแล้วสินะที่ผมไม่ได้คุยกันเลยกับวิน

“หวัดดี...เป็นงัยสบายดีหรือป่าว” ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนที่จะตอบกลับมา

“สบายดี แล้วนายล่ะเป็นงัยบ้าง” แค่ได้ยินเสียงผมก้อรู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจ คิดถึงเจ้าของเสียงคนนี้เหลือเกิน

“กลับมาได้แล้ว งานทางโน้นเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ พ่อนายเค้าเหงาแย่แล้วกลับมาอยู่กับท่านบ้าง”

“เรา..เออ...เรา...เออ...” วินอึกอัก

“กลับมาเถอะวิน เราสบายดี ทางนี้ทุกอย่างเรียบร้อย” ผมตั้งใจบอกกับวินว่าผมลืมมันไปได้แล้ว ทุกอย่างจบไปแล้ว แม้มันจะเป็นแค่คำโกหก เพราะผมยังคงลืมมันไม่ได้สักทีแม้แต่ตอนนี้

“อือม์....แล้วยังงัยเราจะกลับไป แค่นี้นะดูแลตัวเองด้วยล่ะ” วินวางไปแล้วแต่ผมกลับยังไม่วาง จนลุงกิติต้องเรียกผมอีกรอบ

“รอน...วินมันว่ายังงัยบ้างลูก”

“อ๋อ...เออ....คือมันบอกว่าถ้าไม่ติดอะไรก้อจะกลับมาครับ”

“เฮ่อ ให้มันกลับมาสักทีเถอะ ลุงเองก้อแก่แล้วยังงัยก้ออยากให้มันกลับมาก่อนปีใหม่ได้ยิ่งดี อยากฉลองปีใหม่กับลูกซะหน่อย ไม่รู้ว้าผ่านปีนี้ไปแล้วจะได้ฉลองหรือเปล่า”
*
*
*
“ลุงครับ...ถ้าวินกลับมา ผมอยากจะขอตัวกลับไปหาแม่กับลุงนนท์นะครับ”

ผมบอกกับลุงในตอนที่เรากำลังกินข้าวเที่ยงด้วยกัน แกชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะวางช้อนแล้วเงยหน้ามาคุยกับผม

“ทำไมล่ะลูก มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าครับ....แค่คิดถึงแม่กับคนอื่นๆนะครับ แต่ผมจะอยู่ช่วยงานวินสักพักนะครับให้วินเริ่มเข้าที่ผมถึงจะค่อยไปครับ ลุงไม่ต้องห่วงนะครับ” ลุงกิติเงียบไปพักใหญ่ๆ

“ลุงเสียใจนะ ลุงรักเรามากเหมือนลูกของลุงจริงๆ แต่ลุงก้อยังอยากเห็นวินมีคู่ที่คนในสังคมเราเค้าไม่นินทาเบื้องหลัง การที่เราจะอยู่ในสังคมแบบนี้ คนรอบข้างสำคัญมากๆเลยนะลูก”

สายตาของลุงบอกว่าเสียใจตามที่แกพูดจริงๆ และผมก้อรู้ว่าแกเอ็นดูผมเป็นอย่างมากเพราะแกมักจะสั่งสอน และให้อะไรผมอยู่บ่อยๆ

“ผมเข้าใจครับ ผมไม่เคยโกรธลุงเลยครับ ผมรู้ว่าลุงหวังดีกับเราทั้งสองและผมก้อมีวิถีทางของผม แต่ผมจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆไม่ไปแล้วไปลับแน่ครับ

เพราะผมก้อเคารพลุงเหมือนกับพ่อผมคนนึง ส่วนวินกับผมเราก้อยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันครับลุง”

“ลุงคงห้ามเราไม่ได้ แต่ลุงอยากให้เรามาเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆนะ แต่มันคนล่ะแบบกันกับแบบนั้น”

“ครับ......ผมเข้าใจ”
.
.
.
.
วันนี้ทั้งวันผมทำงานไม่ค่อยจะรู้เรื่องมากนัก เพราะมัวแต่คิดถึงเจ้าของเสียงที่ได้คุยเมื่อเช้านี้ ความเหงาเริ่มเข้ามาครอบงำตัวผมอีกครั้งทำให้หลังจากเลิกงานผมเลยไปนั่งฟังเพลงเพื่อขับไล่ความเศร้าออกไปจากจิตใจ

และผมก้อเลืกที่จะไปนั่งที่ร้านที่ไผ่ทำงานคงเพราะอยากมีเพื่อนคุยล่ะมั้ง เพราะหลังจากวันนั้นไผ่ก้อเริ่มที่จะโทรมาคุยกับผมบ่อยขึ้น วันนี้คนไม่มากเหมือนทุกวัน คงเพราะนี่อาจเป็นกลางสัปดาห์

เสียงเพลงเหงาๆจากนักร้องดูจะเข้ากันดีกับตัวผมในตอนนี้

“สวัสดีครับ....มาคนเดียวหรือป่าวครับ” ชายหนุ่มที่ผมไม่รู้จักเดินเข้ามานั่งคุยกับผม

“ป่าวครับพอดีนัดเพื่อนไว้แต่ยังไม่เห็นมา” ผมโกหกออกไป แต่ตอนนั้นไม่อยากคุยกับคนแปลกหน้าเท่าไหร่นักเพราะรู้จุดประสงค์ที่เค้าเข้ามาหาเรา

“งั้นผมของนั่งคุยเป็นเพื่อนจนกว่าที่เพื่อนคุณจะมาไดมั๊ยครับ”

“สงสัยจะไม่ได้ครับเพราะคนนี้เจ้าของหวงครับ” ไม่ใช่เสียงของผมแต่เป็นไผ่ที่ตอนนี้เดินมายืนอยู่ข้างหลังของผม

“คุณรู้จักกับไอ้เด็กเสิร์ฟนี่ด้วยหรือครับ” คนถามหันไปมองไผ่ด้วยสายตาเหยียดหยาม

“ครับ....เค้าเป็นเพื่อนผมเองนี่ผมก้อมารอเวลาที่เค้าเลิกงานน่ะครับ” ผมตอบออกไปแบบนั้น ดูเค้าจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นักแต่ก้อลุกไปโดยดี แต่ไผ่ยิ้มแก้มแทบฉีก

“ยิ้มอะไร” แปลกเหมือนกันแค่เห็นหน้าไผ่ผมเองก้อรู้สึกดีขึ้น

“ป่าวครับพี่ กำลังดีใจที่มีคนมารอรับน่ะ”

“ก้อพูดไปแบบนั้นแหละ ไม่ได้จะรอหรอกว่าจะกลับแล้วเนี้ย”

“ไม่ได้นะครับ พูดแล้วก้อต้องรักษาคำพูดสิ” ไผ่หุบยิ้มทันควัน

“รอผมด้วยนะพี่ เดี๋ยวคืนนี้พาไปหาอะไรกินกัน” แล้วไผ่ก้อขอตัวไปทำงานต่อ หลังจากที่ผมรอจนไผ่ทำงานเสร็จ แต่ก้อไม่นานนักสงสัยจะไปขอเจ้าของร้านกลับก่อนเวลา

เราก้อมาหาอะไรกินกันที่เยาวราช ที่นี่มีของกินน่ากินหลายอย่าง ผู้คนก้อพลุกพล่านมันทำให้ผมลืมเรื่องเศร้าๆไปได้เยอะ

“เมื่อไหร่ที่เราจะได้เจอกันเวลากลางวันบ้างล่ะพี่”

“ก้อพี่ทำงาน แล้วเราไม่มีเรียนเหรอ”

“แหม..พี่ก้อวันหยุดงัย เอางี้วันเสาร์นี้เราไปเดินจตุจักรกันดีป่ะ”

“ไม่รู้สิ ยังไม่รู้ว่าจะมีนัดอะไรหรือเปล่า เอาเป็นว่าถ้าว่างก้อจะคิดดูล่ะกัน”

และในที่สุดวันเสาร์ผมก้อไปจตุจักรกับไผ่จนได้ ส่วนใหญ่ที่ผมซื้อจะเป็นอุปกรณ์ และอาหารให้ไอ้เจ้าโรโบ้มันเสียเป็นส่วนใหญ่

“ที่บ้านพี่เลี้ยงหมากี่ตัวเหรอ”

“ตัวเดียว ถามทำไม”

“ป่าว ก้อแค่ถามดู แล้วอยู่กันกี่คนเหรอพี่”

“คนเดียว”

“จริงดิ งั้นว่างๆผมไปหาพี่ที่บ้านได้มั๊ย” ไผ่ถามแถมส่งสายตาอ้อนมาให้

“ไม่รู้ ว่าแต่ที่บ้านเราอยู่กันกี่คนเหรอ”

“3 คนครับพี่ มีผม น้องสาว แล้วก้อยายอีกคนนึง เย็นนี้ไปบ้านผมมั๊ย จะได้กินข้าวด้วยกัน ยายผมทำกับข้าวอร่อยนะ”

เย็นนั้นหลังจากเราออกมาจากจตุจักร ผมก้อไปส่งไผ่ที่บ้าน บ้านของไผ่เป็นบ้านไม้สองชั้น มีต้นไม้อยู่เต็มบ้าน บรรยากาศดูร่มรื่นดี

ยายและน้องสาวของไผ่ก้อน่ารักดูเป็นกันเอง ทำให้ผมสบายใจมาก หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ผมแยกออกมานั่งชิงช้าหน้าบ้าน มันเป็นชิงช้าที่ใช้ไม้กระดานผูกเชือกกับต้นมะม่วงใหญ่

ระหว่างนั้นไผ่ก้อช่วยน้องสาวเก็บโต๊ะกับล้างจาน ช่วงที่ผมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ยายของไผ่ก้อออกมาคุยด้วย

“รู้จักกับไผ่นานแล้วเหรอจ๊ะ”

“ก้อไม่นานเท่าไหร่ครับ แต่ช่วงนี้ก้อสนิทกันครับ”

“ถึงว่าสิ...ปกติเค้าไม่ค่อยจะพาเพื่อนมาบ้านสักเท่าไหร่”

“แล้วพ่อแม่ของไผ่เค้าไปไหนล่ะครับ” ผมถามเพราะไม่ค่อยจะเห็นไผ่พูดถึงเท่าไหร่

“พ่อมันทิ้งไปตั่งแต่คนน้องยังเล็กๆ ส่วนแม่ไปอยู่กับผัวใหม่ที่ต่างประเทศ แต่ก้อส่งเงินส่งทองมาให้ใช้อยู่ทุกเดือน

แต่ไผ่มันก้อไม่ค่อยอยากจะใช้นัก มันหางานทำมาตั่งแต่เด็กๆ ทั้งๆที่ยายบอกว่าไม่ต้องทำก้อได้อยากให้ตั้งใจเรียนมากกว่าเพราะเงินที่ส่งมาก้อพอกินพอใช้ แต่มันก้อไม่ยอม”

“แต่ดูแล้วไผ่ก้อไม่น่าจะต้องเป็นห่วงอะไรนะครับ เท่าที่ผมดูก้อว่าเค้าดูแลตัวเองได้ดีนะครับ”

“เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะ เมื่อปีที่แล้วยายล่ะกลัว เพราะรุ่นพี่ที่เค้าสนิทมากๆตายไป ว่าไปยายก้อว่าหน้าเราคล้ายๆใคร พอนึกแล้วก้อนึกขึ้นได้ว่าเราก้อคล้ายเพื่อนรุ่นพี่คนนั้นเหมือนกัน”

“เค้าเป็นอะไรครับ”

“คิดสั้นน่ะ เห็นว่าทะเลาะกับแฟนหรือยังงัยนี่แหละ ตั่งแต่นั้นไผ่มันเงียบไปเลยกับน้องกับยายมันก้อไม่คุยด้วย แต่อย่างว่ามันก้อสนิทกันน่ะนะ มาที่บ้านนี่บ่อยๆ คงจะเสียใจมากเพราะรุ่นพี่คนนี้ก้อคอยดูแลไผ่มันมาตั้งแต่เด็กๆ”

หลังจากคืนนั้นที่ผมได้นั่งคุยกับยาย มันก้อทำให้ผมกลัวว่าสักวันนึงถ้าผมไม่สามารถคบกับเค้าแบบที่เค้าต้องการได้ เค้าจะเป็นยังงัย .......


.
.
.
.
.

 
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 19-10-2008 09:46:17
:เฮ้อ: เริ่มมีความรู้สึกทางลบกับวินแล้วดิ รู้ก็รู้อยู่น่ะว่ามีเหตุผล แต่..........
มันมีทางออกที่ดีกว่านี้อีกไม่ใชี่เหร๊อออ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 19-10-2008 10:42:51
ตอนที่.10
หลังจากวันที่ผมได้มากินข้าวที่บ้านของไผ่ ผมก้อมีโอกาสมาอีกหลายครั้ง เพราะไผ่มักจะบอกว่ายายถามหา ทุกครั้งที่ผมไปบ้านของไผ่มันทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หายเหงาไปได้บ้าง

อย่างน้อยมันก้อดีกว่าที่จะต้องกลับไปนั่งเหงากินข้าวที่บ้านคนเดียว วันนี้ผมนัดกับโอ๊ตไว้ที่สยาม เพราะโอ๊ตมันลงมาทำธุระ และ แวะไปเจอพ่อกับแม่ของน้องลินมาด้วย
แต่น้องลินไม่ได้มาเพราะอยู่คุยกับพ่อแม่

เรานัดกันที่ห้างหรูที่เปิดใหม่ใหญ่ยักษ์กลางกรุง ผมมานั่งกินกาแฟรอสักพักโอ๊ตมันก้อมา

“ว่างัยไอ้เด็กดอย ไม่ยอมลงจากดอยมาในเมืองเลยนะ”

โอ๊ตวันนี้ดูคล้ำขึ้นนิดหน่อย แต่ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น วันเวลาสามารถเปลี่ยนแปลงคนเราได้จริงๆไม่ใช่แค่ใจคน แต่รางกายภายนอกมันก้อเปลี่ยนได้ แล้วป่านนี้วินมันจะเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้วหนอ

ผมคงต้องยอมรับกับตัวเองว่าทุกครั้งที่เห็นอะไรที่มันเชื่อมไปถึงวิน ผมก้อจะคิดถึงวินมันตลอด ไม่รู้ว่าคนทางโน้นจะคิดเหมือนผมบ้างมั๊ย

“เป็นงัยบ้างว่ะ ไม่เจอกันนานเลย ดูเหงาๆไปนะรอน” ผมยิ้มให้โอ๊ต ยิ้มให้กับความเป็นห่วงเป็นใยที่เพื่อนมอบให้

“ก้อเรื่อยๆแหละ แล้วนายล่ะ เป็นงัยบ้างสบายดีหรือเปล่า แต่ดูคล้ำขึ้นนะงานหนักเหรอ”

“ก้อไม่เท่าไหร่ แต่เรามันพวกชอบภาคสนามมากกว่านั่งโต๊ะน่ะ มันสนุกกว่า” โอ๊ตมองผมแบบจับสังเกตก่อนจะเอ่ยถาม

“แล้วไอ้วินมันเป็นงัยบ้าง มันหายโกรธยังเรื่องที่นายขออยู่ช่วยพ่อมันก่อน”

ผมไม่ได้บอกกับเพื่อนว่าเลิกกับวินแล้ว กับโอ๊ตและน้องลินเองก้อรู้แค่ว่าพ่อของมันไม่อยากให้เราคบกันแบบนั้น

“ มันก้อไม่ได้โกรธอะไรแล้วล่ะ ยังงัยก้อเพื่อนกัน” ผมหลบตาที่จับพิรุจของโอ๊ต

“ยังงัยว่ะ ก้อเพื่อนกัน”

“ไม่มีอะไร ก้อเพื่อนกันงัย ตอนนี้เรากับวินกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแล้ว”

“เฮ้ย!....ตั่งแต่เมื่อไหร่ แล้วใครบอกเลิกใครว่ะ”

“ไม่ได้บอกเลิกโว้ย แต่แค่อยากถอยกลับมาเป็นแค่เพื่อนกันแค่นั้น ถ้ามันจะทำให้คนรอบข้างเราสบายใจมากขึ้น”

“ทำไมต้องไปแคร์คนอื่นด้วยว่ะ” โอ๊ตดูหัวเสียที่รู้เรื่องของผมกับวิน

“คนอื่นที่นายพูดมันก้อพ่อ แม่ของเรานะโอ๊ต ทำไมเราต้องทำให้ท่านเสียใจกับเรื่องของเราทั้งๆที่ท่านก้อไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากเรา มีแต่เราที่ได้นะ”

“ใช่มีแต่พวกนายที่ได้ แล้วเป็นงัยได้เจอแล้วสินะ ความเจ็บปวด ความเสียใจ”

“เอ่าน่า นานๆเจอกันที อย่าพูดเรื่องเครียดๆเลย เอาเป็นว่าวันนี้ไม่เมาไม่เลิกตกลงนะโว้ย”ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง
.
.
.
หลังจากที่เราเดินซื้อของกันแล้ว ผมก้อพาโอ๊ตมานั่งที่ร้านของไผ่ เรานั่งดื่มไปคุยไปจนไผ่เข้างาน ผมรู้สึกว่าไผ่เดินมาทางโต๊ะของผมหลายรอบ

บ่อยครั้งที่ผมกับไผ่สบตากันจังๆ แต่เราก้อไม่ได้พูดอะไรจนไผ่คงทนไม่ไหวเลยเดินมาหา

“ยายถามถึงนะครับ บอกว่าว่างๆก้อให้พี่ไปกินข้าวด้วยกัน” ไผ่คุยกับผมแต่สายตากลับจับจ้องไปที่โอ๊ต

“เออ...ไผ่นี่โอ๊ต เพื่อนพี่ เรียนมาด้วยกัน โอ๊ต นี่ไผ่เพื่อนรุ่นน้องเรา”

ผมต่างแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน ผมรู้สึกว่าไผ่ดูเศร้าไปเมื่อผมบอกว่าไผ่เป็นเพื่อนรุ่นน้อง แต่ก้อไม่ได้พูดอะไร สักพักก้อกลับไปทำงานต่อ

“รอน...เล่ามาดิ” โอ๊ตจ้องผมพร้อมกับต้องการคำตอบ ผมเลยเล่าเรื่องของผมกับไผ่ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันให้ฟัง

“รอน เราถามจริงๆนะ นายยังรักไอ้วินมันใช่มั๊ย และเราก้อเชื่อว่าวินมันก้อยังรักนายอยู่ แล้วทำไมถึงทำอะไรกันแบบนี้ว่ะ”

“ยังงัยว่ะ ไอ้วินมันเป็นคนบอกเองนะว่าให้เรามีใครสักที” ผมพูดเสียงดัง เพราะเริ่มน้อยใจคนที่กำลังพูดถึง

“ระหว่างที่พวกนายกำลังเล่นซ่อนหากับความรักอยู่ มันจะต้องมีอีกกี่คนกันที่ต้องเจ็บเพราะความงี่เงา ความอ่อนแอของพวกนายสองคน”

ผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่

“อย่าโกรธกันนะที่เราพูดแบบนี้ แต่เราไม่อยากให้เพื่อนทำอะไรที่มันทำรายทั้งใจตัวเองและคนอื่นเลยว่ะ วันนี้นายมีน้องเค้า เพราะอะไร ความเหงา ความอ่อนแอของพวกนาย

แต่ความเหงามันไม่ฆ่านายได้นอกจากตัวนายเอง แต่วันใดที่นายกับวินกลับมาเหมือนเดิม และเราก้อเชื่อว่ามันคงมีแน่นอน และวันนั้นแหละ ที่ความอ่อนแอ ความเหงาของพวกนาย จะฆ่าน้องเค้า

การทุกข์ใจเพราะรักมันเป็นยังงัยนายก้อรู้นี่ แล้วทำมัยยังไปทำให้คนอื่นเค้าต้องเจอกับเรื่องแบบนั้นล่ะ”

ผมหันไปมองไผ่ที่กำลังทำงานอย่างขมักเขม่น พลันน้ำตาก้อไหลออกมา

“เรางี่เง่ามากใช่มั๊ยโอ๊ต นายพูดก้อถูกนะ เราไม่ได้รักน้องเค้า มันเป็นแค่ความเหงาที่ต้องการใครสักคน แล้วเราจะทำยังงัยดีล่ะที่จะไม่ต้องให้ใครมาเสียใจเพราะความเหงาของเรา แต่รู้มั๊ยว่าเราก้อทรมานเหลือเกินเวลาที่ต้องเจอกับความเหงาอยู่คนเดียว”

“มันยังไม่สายไปหรอกรอน อย่าให้น้องเค้าเกลียดกลัวกับความรักครั้งแรกเลยนะ”

“มันไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับไผ่หรอก แต่มันคงเป็นอีกครั้งที่ต้องเสียใจเหมือนเดิม” ผมพึมพำเบาๆ
.
.
“กลับดีๆนะโว้ย ไม่ส่งนะ แล้วเจอกัน”ผมบอกลาโอ๊ต

“เออ...จะทำอะไรก้อคิดดีๆนะ มีอะไรก้อโทรมาหาเราก้อได้ ไปแล้วนะ”

โอ๊ตกับผมแยกกัน ผมเดินมานั่งเล่นในรถที่ลุงกิติเอามาให้ใช้เมื่อหลายเดือนก่อน ผมนั่งคิดถึงเรื่องของผมกับไผ่ว่าจะทำยังงัยต่อไปดี แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรมากไผ่ก้อเดินออกมาก่อน

“รอผมอยู่เหรอ” ไผ่ถามยิ้มๆ

“วันนี้เราไปท่าเรือกันอีกเหอะ” ผมชวนไผ่

“ไปสิพี่”

ผมกับไผ่เรามาที่ท่าเรือข้ามฟากกันอีกครั้ง วันนี้ลมแรงกว่าที่เคย

“หนาวเหมือนกันนะ ไม่นึกว่ากรุงเทพจพหนาวเหมือนกัน” ผมพูดกับไผ่

“ก้อใกล้จะปีใหม่แล้วนี่นา ตอนดึกๆมันก้อเย็นๆ ยิ่งบ้านผมนะ อากาศดีมากนอนไม่ต้องเปิดพัดลมเลยล่ะ ว่างๆลองไปค้างบ้านผมดูมั๊ยล่ะ” ไผ่ถามผมแบบยิ้มๆ

“ชอบจังฤดูหนาว” ผมพูดขึ้นมาลอยๆ

“ทำไมใครๆก้อชอบหน้าหนาวกันจัง” ไผ่ถามผมกลับมา

“เป็นเป็นฤดูของคู่รักน่ะ”

“งั้นมันก้อเป็นฤดูสำหรับเรานะสิครับ”

ไผ่เอื้อมมาจับมือผมเอาไปกุมไว้

“ไผ่ พี่แทนใครในอดีตของนายไม่ได้หรอกนะ และนายก้อแทนคนในอดีตของพี่ไม่ได้เหมือนกัน ทำแบบนี้เหมือนเราหลอกตัวเราเองเลยนะ”

ผมไม่กล้าหันไปมองหน้าของไผ่ แต่หางตารู้ว่าไผ่กำลังมองผมอยู่

“พี่ไม่รู้อะไรพี่อย่ามาพูดดีกว่า”น้ำเสียงของไผ่เริ่มเปลี่ยนไป

“ยายนายเคยเล่าให้พี่ฟัง นายแค่อยากจะมีพี่ไว้แทนคนในวันวานเท่านั้นยอมรับความจริงกันเถอะ”

“พี่หยุดคิดเอาเองเสียทีเหอะ” ไผ่พูดเสียงดังมาก

“พี่คิดว่าผมอกหักจากพี่ แทนเหรอ มันไม่ใช่หรอก ความจริงผมเป็นคนหักอกเค้าเอง วันนั้นพี่เค้ามาบอกความในใจกับผมที่นี่ ที่ตรงนี้แหละ

ผมตกใจมากที่ได้รู้เพราะตลอดมาผมคิดกับเค้าแค่เพียงพี่ชายเท่านั้น ผมยังเด็กไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าหลบหน้าพี่เค้าสักพักมันก้อคงไม่เป็นไร แต่มันกลับเป็นว่าผมทำให้พี่เค้าต้องตาย พี่เค้าตายเพราะผมแท้ๆ ฮื่อ...ฮื่อ... พี่ได้ยินมั๊ย เค้าตายเพราะผมเอง...ฮื่อๆๆๆๆ”

ไผ่ดึงผมเข้าไปกอด ตัวไผ่สั่นมาก ผมไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่เพียงกอดตอบหวังเพียงว่ามันจะช่วยคลายทุกข์ในใจที่มีให้หมดไป

คนทุกคนก้อล้วนมีทุกข์ในใจทั้งนั้น แม้ภายนอกจะดูไม่เป็นอะไร มันก้อขึ้นอยู่กับใจของคนๆนั้น แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่มันก้อต้องมีเวลาที่เราพ่ายแพ้แก่มัน แล้วนี่ผมกำลังจะเพิ่มทุกข์ให้กับเราทั้งสองคนอีกเหรอนี่

“นายคิดยังงัยกับรุ่นพี่คนนั้น”ผมถามหลังจากที่ไผ่ดีขึ้นแล้ว
“ผมคิดเสมอว่าพี่แทนคือพี่ชายมาตลอดตั้งแต่แม่ผมจากไป”

“ถ้าทุกวันนี้พี่เค้ายังอยู่ นายคิดว่าจะเปลี่ยนความรู้สึกได้มั๊ย” ผมยังไม่หยุดถามไผ่ ไผ่เงียบไม่ได้ตอบอะไร

“มันก้อคงเหมือนพี่ที่ยังไม่ได้คิดแบบนั้นกับนาย เพราะพี่ยังคิดถึงอีกคนอยู่ พี่ไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไหร่กว่าจะลืมได้ แต่ถ้าวันนั้นมาถึง นายจะเป็นคนที่พี่รักแน่นอน”

“อีกนานแค่ไหนครับพี่ 1ปี 2ปี หรือว่าตลอดชีวิต แต่ผมรู้ว่ามันคงไม่มีทาง ....เหมือนที่ผมไม่มีทางที่จะรักพี่แทนได้” ไผ่เดินจากผมไป ปล่อยผมให้จมกับความคิดของตัวเอง

วันนี้ผมคงจะได้รู้ถึงความรู้สึกของวินในวันนั้นแล้วสินะ ความรู้สึกของคนที่ไม่ได้เกลียดกัน แต่ต้องมาบอกว่าเราอย่ามาคบกัน มันเป็นแบบนี้เองสินะ

ความผิดบาปที่เกิดในใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความรู้สึกนี้จะลบออกไปจากใจได้หมด แต่ผมว่าไม่มีวันที่เราจะลบมันได้หมดหรอก

ถึงแม้วันนึงเราอาจจะลืม แต่ริวรอยมันจะยังคงฝังอยู่ในใจของเราและเมื่อวันใดที่เราอ่อนแอ ความรู้สึกเหล่านี้มันก้อจะออกมาโลดแล่นในใจเรา
.
.
.
.
ใกล้จะปีใหม่แล้ว นับแต่วันนั้นไผ่ก้อไม่ได้ติดต่อผมกลับมาอีก ผมเองปล่อยให้แต่ล่ะวันผ่านไปอย่างคนไม่มีจุดหมาย

เมื่อคืนพี่นัทบอกว่าปีใหม่ถ้าว่างจะกลับมาฉลองด้วยผมเองเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จิตใจของผมจะได้รับการเยียวยาด้วยความรักความห่วงใยจากพี่นัท เพราะมันคงจะทำใผมกลับมามีพลังได้อีกครั้ง

วันนี้ผมต้องรีบเข้ามาบริษัทแต่เช้าเพราะลุงบอกว่ามีประชุมใหญ่ ผมเองก้อเป็นห่วงแกมาก เพราะแกทรุดโทรมลงไปมาก ผมมาถึงบริษัท ทุกคนก้อนั่งรอกันอยู่แล้ว ผมมาเป็นคนสุดท้าย

“ขอโทษครับ พอดี วันนี้ผมมีปัญหาการจราจรนิดหน่อยนะครับ”

ผมรีบเข้าไปขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่ที่ต้องมานั่งรอผม

“โอเคงั้นเราก้อมาเริ่มกันเลยนะ”

ลุงแกเริ่มเปิดการประชุม วันนี้การประชุมจะเป็นการแจกแจงผลกำไรในปีที่ผ่านมาเพราะมันกำลังจะก้าวเข้าสู่ปี่ใหม่ เราคุยกันถึงวิธีการทำงาน และรูปแบบการบริหารแบบเก่าๆของบริษัท และทิศทางในวันพรุ่งนี้ของบริษัทที่จะก้าวเดิน
*
*
“และจากการที่เราจะต้องปรับเปลี่ยนการบริหาร และ มุมมองให้ทันสมัยและก้าวตามโลกให้ทัน เราคงต้องให้คนรุ่นใหม่มาช่วยคิดช่วยทำและวันนี้ ผมคงจะต้องปล่อยให้คนเหล่านั้นรับช่วงต่อเสียที”

ลุงแกหันมามองผมก่อนจะหันไปกดโทรศัพท์ภายในพูดอะไรกับเลขาหน้าห้อง

“หวังว่าทุกคนจะให้การต้อนรับกับลูกชายของผมนะครับ”

ใครคนที่ผมคุ้นหน้าเหลือเกินเดินเข้ามา แม้วันนี้วินจะดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และอาจจะดูแปลกตาไปบ้าง เพราะแว่นตาที่สวมใส่

แต่สำหรับผมวินยังเหมือนวันแรกที่ผมได้เจอและ ยังคงมีเสน่ห์เสมอในสายตาผม หลังจากนั้นผมแทบจะไม่ได้ฟังการประชุมอะไรเลยจนกระทั่งการประชุมจบ

ทุกคนแยกย้ายกันออกไปหมดแล้ว เหลือแค่ผม วิน แล้วก้อลุงกิติ

“รอนเดี๋ยวเที่ยงนี้ไปกินข้าวกับลุงนะ นานๆทีลูกชายจะอยู่กันครบต้องกินพร้อมหน้าพร้อมตา”

“ครับ”

ผมตอบลุงกิติ ก่อนที่แกจะเดินออกไป ความเงียบเกิดขึนทันใด ผมไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ยิ้มให้วินและกำลังจะก้าวเดินออกไป

“อย่าเพิ่งไปเลยนะ รอน อยู่กับเราแบบนี้ก่อน”

วินเดินมากอดผมไว้จากข้างหลัง อ้อมกอดที่อบอุ่น แต่มันกลับทำให้ผมเจ็บไปทุกสัมผัส
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 19-10-2008 13:39:32
 :L2: เอามาให้คุณน้อง
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 19-10-2008 13:57:34

........ท่าจะทิ้งก็ทิ้งกันไป......อย่ารั้งไว้ได้ไหม......เพราะหัวใจเจ็บเกินทน...... :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 19-10-2008 14:10:13
เม้นท์ซะเว่อร์เชียวน้องถุงตุง  :jul3:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว ภาค 2 มาแว้ววววววววววว ตอน 3 แล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 21-10-2008 04:42:05
 :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 22-10-2008 19:58:39
ขอโทษๆๆๆๆๆๆ  ทุกๆคนโดยเฉพาะน้องเพียวนะคับ


ที่หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ยุ่งกับการเรียนต่อเป็นที่สุดและต้องหางานทำระหว่างเรียนด้วย



เหนื่อยมากๆๆๆ แต่ยังไงแล้วน้องเพียวก้อมาลงให้อ่านนะคับ




ต้องขอโทษด้วยยยยยยยยยยย จริงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: MonkeYMauS ที่ 23-10-2008 00:48:50
หายไปนานไม่เป็นไรคับ

แค่มาต่อ คนอ่านอย่างเราๆก้อดีใจมากมายแล้ว
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 27-10-2008 15:33:38
มาลงแล้วววววววววววว

มีคนโทรตามให้มาลงซะงั้นอ่ะ คิคิ


เซรงมากเทอมสอง  เรียนแม่ง 2 แคมปัสเลย

นั่งรถไป-กลับสนุกทีเดียว

ตอนที่.11
เสียงเคาะประตูจากเลขาทำให้ผมกับวินผละออกจากกัน พี่เลขาเข้ามาบอกว่าตอนกลางวันลุงกิติจะไปรอที่ร้านอาหารที่อยู่ในตึกให้พวกเราตามลงไประหว่างนี้ก้อให้ผมช่วยดูแลพาวินเดินดูอะไรในบริษัทไปก่อน

“ทำไมต้องให้ลูกจ้างอย่างเราพาลูกเจ้าของเดินดูบริษัทด้วยนะ” ผมแกล้งทำเสียงขำๆกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างกลัวจะทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าเห็นมัน

“อย่าคิดว่านายเป็นลูกจ้างสิ พ่อเราเค้ารักนายเหมือนเป็นลูกชายจริงๆของเค้าเลยนะ”

“เออ...รู้แล้วเราพูดเล่นน่า แล้วทำไมไม่เห็นบอกกันบ้างว่าจะกลับมา นึกอยากจะมาก้อมานะคนเรา เมื่อวานไอ้โอ๊ตมันก้อเพิ่งลงมาถ้ารู้ว่านายจะกลับมาจะได้บอกให้มันอยู่รอ”

“ขอโทษทีนะรอน พอดีเรานึกอยากจะกลับมากระทันหันน่ะ เลยไม่ได้บอกใคร อยากกลับมาก่อนปีใหม่ด้วย ยังงัยก้ออยากจะฉลองกับครอบครัว เพื่อนฝูงมากกว่าฉลองคนเดียว”

“แล้วเป็นงัยบ้างไปอยู่ที่โน้น ลำบากมากมั๊ย แล้วนี่กลับมาคราวนี้อยู่ยาวเลยสินะ” ผมถามวิน

“ก้อคงจะอยู่เลยแล้วล่ะ ไม่อยากจะหนีอะไรอีกแล้วเพราะรู้ว่าหนีไปก้อไม่มีประโยชน์” บรรยากาศมันเปลี่ยนไปหลังจากที่วินพูดจบ นี่มันจะสื่ออะไรกับผมกันแน่

“ดีแล้วล่ะ กลับมาอยู่กับพ่อบ้างท่านก้อแก่มากแล้ว คงอยากอยู่ใกล้ลูกหลานน่ะ”

“ขอบใจมากนะที่ตลอดมานายช่วยดูแลพวกเราพ่อลูกมาตลอด มันเป็นโชคดีของเราที่ได้เจอนาย แต่เราก้อเสียใจนะที่เป็นเราอีกนั่นแหละที่พยายามจะออกห่างไปจากนายเอง”

วินหันกลับมามองสายตาวินดูอ้างว้างเหลือเกินในความรู้สึกผม

“ช่างมันเถอะอย่าคิดมากเลยนะ เรื่องมันผ่านมาแล้วอย่าไปคิดถึงมันอีก ยังงัยเราก้อต้องก้าวเดินไปข้างหน้า และอีกอย่างในตอนนี้เราและนายก้อไม่รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องในอดีตอีกแล้วนี่นา”

ผมพยายามที่จะบอกตัวเองมากกว่าที่จะเป็นวิน ผมจะต้องไม่เจ็บปวด หรือเศร้าต่อหน้าของวินเด็ดขาด เพราะมันคงทำให้วินกังวลใจ หรือว่ารู้สึกผิดอีกแน่ๆ

เมื่อวินกลับมา เวลาของผมที่จะอยู่ที่นี่ก้อเหลือน้อยลงไปทุกที มันคงจะเป็นผมบ้างแล้วที่ต้องหนี เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือขอให้มันเป็นสิ่งที่น่าจดจำก้อแล้วกัน

“รอนนายอยากรู้คำตอบของคำถามที่นายถามเราตอนนั้นมั๊ย เราพร้อมที่จะตอบนายแล้วล่ะ”

วินเดินไปยืมมองทิวทัศน์ของเมืองกรุงก่อนจะพูดขึ้นมาลอยๆ

“ไม่อยากรู้อีกแล้วล่ะ เราบอกแล้วงัยว่าอย่าไปคิดถึงมันอีก ยังงัยมันก้อผ่านมาแล้ว”

ผมรีบห้ามวินเพราะกลัวที่จะฟัง เอาเข้าจริงก้อเป็นผมที่ไม่กล้าเผชิญกับความเป็นจริง วินเองก้อดูเจ็บปวดไม่ต่างกัน แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่ต้องมาตอกย้ำให้ต่างต้องเจ็บกันทั้งคู่

“ว่าแต่ กลับมาด่วนแบบนี้แล้วแฟนทางโน้นเค้าไม่โวยแย่เหรอ” นึกแล้วก็อยากตบปากตัวเอง แต่ส่วนลึกๆก้ออยากรู้เรื่องของวินมันอยู่ดี

“ถามทำไม หึงเราอยู่ล่ะสิ” วินยิ้มก่อนจะแซวผมกลับมา

“ไอ้บ้า...อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย หนุ่มไทยยังมีน่ารักอีกเยอะแล้วคนหล่อๆอย่างเรา ไม่ว่าใครก้ออยากมาทำความรู้จักอยู่แล้ว”

แววตาวินกระตุกอยู่วูบนึงก่อนจะเป็นปกติ

“ใช่ เราการันตีได้ว่าไม่ว่าใครถ้าได้รู้จักนายก็อดที่จะรักนายไม่ได้หรอก และคงไม่มีใครอยากจะจากไปไหนเช่นกัน”

ผมไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่เดินไปที่ประตูห้อง

“ไม่จริงหรอกเพราะมีบางคนก้อเลือกที่จะจากเราไป” ผมทิ้งคำพูดประโยคสุดท้ายก่อนที่จะออกจากห้องนั้นไป
.
.
.
.
วันนี้ผมไม่มีสมาธิในการทำงานเท่าไหร่ มันดูลอยๆบอกไม่ถูก จนเย็นพี่ๆที่ทำงานบอกว่าจะไปเลี้ยงกัน ฉลองว่าที่ประธานคนใหม่

อีกอย่างวินเองก้อรู้จักพี่ๆในบริษัทอยู่ก่อนแล้ว มันเลยทำให้ผมปฏิเสธที่จะไม่ไปไม่ได้จริงๆ เรามากันที่ร้านเดิม และตลอดเวลาที่เราดืมกันผมเองก้อพยายามจะมองหาเด็กหนุ่มอีกคน

อยากเห็นว่าเค้ายังปกติและใช้ชีวิตอยู่ได้เหมือนก่อนหน้าที่จะเจอกับผม แต่ตลอดคืนนั้นผมก้อไม่เห็นไผ่แม้แต่เงา จนถึงเวลาที่เราจะกลับกัน

วินมันบอกว่าจะไปส่งผมเพราะผมมากับพี่ๆที่แผนก ส่วนรถจอดไว้ที่บริษัท แต่ผมก้อปฏิเสธไป เพราะผมยังไม่อยากกลับเท่าไหร่นัก

หลังจากแยกย้ายกันผมก้อไปที่เดิม ที่ๆผมกับไผ่เราเจอกันเมื่อครั้งสุดท้าย ผมยืนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาคิดถึงพี่นัท กับวิน คนที่ผมรักมากที่สุด และคิดถึงไผ่ กับ ภีม คนที่เค้ารักผมมากที่สุด

มันเป็นกรรมหรือเปล่าหนอ ที่ผมทำให้อีก2คนเสียใจ และผมเลยต้องมาเสียใจเพราะคน2คนเช่นกัน

“ผมไม่คิดว่าพี่จะมาที่นี่อีกแล้วนะ” เสียงของคนที่ผมพยายามมองหามาทั้งคืน ไผ่ในวันนี้ดูเหงาไปถนัดใจ

“ทำไมล่ะ ที่นี่พี่จะมาไม่ได้อีกแล้วเหรอ แล้วเรากับพี่จะคบกันเหมือนเดิมไม่ได้เหรองัย ทำไม่เราถึงเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันไม่ได้ว่ะ”

ไผ่ไม่ตอบแต่กลับถามผมแทน

“วันนี้เค้ากลับมาแล้วใช่มั๊ยครับ คนใส่แว่นที่ไปที่ร้านด้วยใช่มั๊ย”

“ทำไมถึงคิดว่าเป็นคนนั้นล่ะ”

“เพราะสายตาเวลาที่พี่มองเค้ามันเป็นสายตาที่ผมอยากให้พี่มองผมเหลือเกิน”

ผมรู้สึกปวดหนึบอยู่ในใจที่ได้ยินไผ่พูดแบบนี้ ครั้งนึงผมเองก้ออยากได้สายตาแบบนี้จากวิน

“พี่ขอโทษนะ แต่ถึงพี่จะไม่ได้มองนายด้วยสายตาแบบนั้น แต่นายจะเห็นว่าสายตาของพี่ก้อพยายามมองหานายตลอดทั้งคืนเช่นกัน”

ไผ่เดินมากอดผมไว้ ผมรู้สึกสงสารคนๆนี้เหลือเกิน ไผ่ขาดความรักมาตั่งแต่แม่จากไป และไม่เคยสัมผัสถึงความรักของพ่อเหมือนที่ผมเคยขาด...ก่อนที่จะมาเจอกับลุงนนท์ และผมยังได้รับความรักจากพี่ชายมาอีกหนึ่งคน

พี่ชายที่ไม่ว่ายังงัยผมก้อจะสำคัญกับเค้าเสมอไม่เปลี่ยนแปลง และในตอนนี้ผมอยากจะมอบความรักแบบที่พี่นัทให้กับผมแก่ไผ่บ้าง

“เราจะยังเจอกันเหมือนเดิมนะสัญญากับพี่ก่อนได้มั๊ย” ผมถามในขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของไผ่ ไผ่ไม่ตอบได้แต่พยักหน้า แค่นี้ผมก้อดีใจมากแล้ว

“แล้วพี่กับเค้าล่ะ จะกลับมาคบกันเหรอ” ไผ่ถามหลังจากปล่อยผมจากตัวเค้าแล้ว

“ไม่หรอก เราจบกันไปแล้วล่ะ แต่เผอิญว่าความรู้สึกของพี่มันยังไม่จบน่ะ แต่มันคงมีสักวันที่มันจะจบลงสักที”

“ผมอยากบอกว่าผมอยากจะรอวันนั้น แต่รู้ว่ามันคงทำให้พี่อึดอัด เอาเป็นว่าถ้าหัวใจของพี่เป็นอิสระเมื่อไหร่ คิดถึงผมบ้างนะ”

ผมกับไผ่เรายิ้มให้กัน ก่อนที่จะแยกจากกัน แต่ผมก้อนัดว่าจะไปกินข้าวบ้านไผ่บ่อยๆเหมือนเดิม ผมเดินเพื่อที่จะไปเรียกแท๊กซี่กลับบ้าน แต่เสียงแตรรถที่ดังมาจากข้างหลังทำให้ผมต้องหันไปมอง

“จะกลับบ้านก้อขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวเราไปส่ง นี่มันก้อดึกแล้ว” วินเปิดประตูรถออกมาเรียกผม ผมไม่รู้ว่าวินมันตามผมมาได้ยังงัยแต่ผมก้อเดินไปขึ้นรถแต่โดยดี

“ดีใจด้วยนะ” อยู่ๆวินก้อพูดขึ้นมาหลังจากที่เราทั้งคู่ต่างอยู่ในความเงียบกันมานาน

“เรื่องอะไร” ผมถามกลับไป

“เรื่องที่นายมีใครคอยดูแลแทนเราแล้วงัย” ผมรู้สึกได้ว่าวินกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา

“ว่าแต่เรา นายเองก้อมีใหม่แล้วนี่นา ได้ข่าวว่ามีก่อนเราอีกนะ”

“ไม่หรอก เราแค่อยากทำให้พ่อเราสบายใจน่ะ เค้าแก่แล้วและเราก้อดื้อกับเค้ามามาก แล้วอีกอย่างเราเองก้อยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครตอนนี้ถ้าใจเรายังไม่ลืมคนเก่า”

ใจผมกระตุกที่ได้ยินแบบนั้น เราไม่พูดอะไรอีกจนวินขับมาส่งผมถึงบ้าน

“เข้ามาก่อนสิ เดี๋ยวเราหาอะไรร้อนๆมาให้ดื่ม” ผมชวนวินให้เข้ามาในบ้านก่อน ทันทีที่เปิดประตูบ้าน ไอ้โรโบ้มันก้อมาทักทายผมทันที มันคงเหงาที่ผมปล่อยมันทิ้งไว้ตัวเดียว

“น่ารักดีว่ะ ชื่ออะไรอ่ะ” วินมันเข้าไปเล่นกับโรโบ้

“ชื่อโรโบ้” ผมบอกก่อนจะเดินไปชงชาสำหรับผมกับวิน หลังจากที่วินเล่นกับไอ้โรโบ้สักพักเราก้อออกมานั่งเล่นที่สวนหน้าบ้าน คืนนี้อากาศเย็นๆเพราะมันใกล้จะปีใหม่แล้ว เรานั่งดื่มชากันเงียบๆ2คน

“อยู่คนเดียวแบบนี้เหงามั๊ย”วินถามผม

“แรกๆก้อเหงานะ แต่ตอนนี้ซี้กันกับความเหงาแล้วล่ะ อีกอย่างก้อได้โรโบ้มาอยู่เป็นเพื่อนเลยหายเหงาไปได้บ้าง”

“มันน่ารักดีนะ โคตรสนเลยว่ะ” วินพูดถึงไอ้โรโบ้ดูท่าว่าจะชอบ

“ถ้าชอบ เราฝากดูแลมันต่อจากเราด้วยนะ อีกไม่นานถ้าเราย้ายไปอยู่กับแม่ที่โน้นมันจะได้มีคนเลี้ยงมันต่อไป”วินหันมามองหน้าผม

“คิดจะไปอยู่ที่โน้นเหรอ แล้วทางนี้ล่ะ”

“เราไม่มีห่วงอะไรทางนี้แล้วนี่น่า ถ้าคิดถึงก้อไปหาเราที่โน้นก้อได้ หรือว่าจะเมลล์ไปหาเราก้อตามใจ แต่เราว่านายคงไม่ชอบเขียนอีเมลล์แน่เลย เพราะไม่เคยตอบเราเลยนี่หว่า” เผลอแซวมันอีกจนได้

“แล้วคนทางนี้ล่ะ ไม่ห่วง ไม่คิดถึงเค้าบ้างเหรอ”

“ใครล่ะ” ผมถามกลับ

“เออ...ก้อ....เอออ....อ๋อก้อคนเมื่อกี้งัย ไหนจะเพื่อนฝูงอีก และ ก้อยังมีเราอีกคนนึงด้วยนะ”

“ก้อคงจะคิดถึงนะ แต่เราอยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง เราอยากรู้ว่าใต้ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ มันจะมีที่ไหนที่เหมาะแก่เราบ้าง

มันคงถึงเวลาที่เราต้องหาที่สำหรับตัวเราบ้างซะที และถ้าเมื่อถึงวันนึงที่เราไม่มีที่ไหนเมื่อนั้นเราจะกลับมา”

“รอนที่ของนายมันก้ออยู่ที่เดิมที่นายเคยสัญญาไว้ ว่าจะอยู่ข้างๆเรางัย ทำไมถึงจะทิ้งกันไปล่ะ”

ผมหันไปมองวิน ก่อนจะเอามือไปขยี้ที่หัวมันเบาๆ

“ใครกันแน่ที่ทิ้งเราไปก่อนห๊ะ ไอ้แว่น”

“นั่นสินะ เราคงไม่มีสิทธิจะมาเรียกร้องอะไรตอนนี้แล้ว มันคงสายไปแล้วจริงๆ”

วินเอ่ยออกมาเบาๆ ตอนนี้ผมกับวินเราต่างนั่งมองท้องฟ้ากันเงียบๆในคืนที่หัวใจเราทั้งคู่ต่างหนาวเหน็บ

“กลับไปพักผ่อนเถอะดึกแล้ว มานั่งตากน้ำค้างแบบนี้เดี๋ยวได้เป็นหวัดกันทั้งคู่พอดี” ผมหันไปบอกวิน

“โห๋....นายนี่มันโคตรใจร้ายเลยว่ะ ไม่คิดจะชวนเพื่อนนอนที่นี่เลยเหรอ” วินหันมาบ่นผมเบาๆ

“ไม่ได้หรอกเดี๋ยวแม่รู้ว่าพาผู้ชายเข้าบ้านตอนไม่อยู่จะถูกบ่นเอา”
ผมแกล้งทำเสียงล้อเลียนวินมันวินมันอิดออดอยู่สักพักก้อยอมกลับ ผมเดินมาส่งวินที่ประตู

“ขับรถกลับดีๆนะ”

“ขอบใจมากนะรอนสำหรับชากับเวลาดีๆที่ได้นั่งคุยกัน” ผมยิ้มให้กับวิน

“ไม่เป็นไร เราเองก้อดีใจที่นั่งคุยกันเหมือนก่อน ไปเถอะ แล้วไว้เจอกัน”

วินกำลังจะขึ้นรถ ผมเลยหันหลังจะเข้าบ้านแต่วินกลับดึงแขนผมเอาไว้ แววตาของวินดูเศร้าจนผมใจหาย

“เราจูบนายได้มั๊ย เราอยากจะแน่ใจเรื่องของเรา”

วินถามออกมาเบาๆ เราทั้งคู่ต่างสบตากันและกัน

“ถ้านายอยากจูบก้อจูบเสียตอนนี้วันนี้เถอะวิน เพราะจากพรุ่งนี้ไปเราจะเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้นนะ”
.
.
.

ผมนึกเสียใจที่ตกลงให้วินจูบในวันนี้ เพราะทันทีที่ริมฝีปากของวินสัมผัสกับปากของผม

แค่จูบเดียวเปิดโล่งไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ และความจริงที่ใจผมค้นเจอก้อคือ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ เราก้อยังคงรักนายเสมอ......................วิน
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 27-10-2008 15:35:13
อีกตอน

ตอนที่.12
หลังจากคืนนั้น ผมเองก้อพยายามหลบหน้าวินเท่าที่จะทำได้ เพราะกลัวใจของตัวเอง ยิ่งรู้ว่ายังรักมากเพียงใด มันก้อยิ่งเจ็บไปมากเท่านั้น

วินเองก้อยุ่งมากเพราะต้องรับงานต่อจากพ่อ ไหนจะต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่เหมาะสมกับความไว้ใจที่ได้รับตำแหน่ง มันเลยทำให้เราห่างกันเกือบๆสัปดาห์

วันนี้หลังเลิกงานผมแวะมากินข้าวที่บ้านของไผ่ ยายและน้องสาวของไผ่ยังคงน่ารักเหมือนเดิมไมตรีจิตที่หาไม่ได้ง่ายๆในสังคมเมือง

หลังจากที่เราทานข้าวกันเสร็จผมก้อออกมานั่งที่ชิงช้าหน้าบ้าน ยิ่งอากาศหนาวแบบนี้ ไม้ดอกยิ่งสวยต่างแข่งกันโชยกลิ่นให้เจ้าของบ้านรื่นรมย์

ผมนั่งโยกชิงช้าเบาๆ มันเป็นความรู้สึกดีที่ได้ผ่อนคลาย ผมกำลังนั่งเพลินๆก้อมีมือมาจับที่หัวไหล่

“งานหนักเหรอครับ ดูท่าทางจะเหนื่อยนะ” ไผ่เดินมาบีบไหล่นวดให้ผมเบาๆ

“ก้อนิดหน่อยน่ะ ใกล้สิ้นปีอะไรมันก้อยุ่งแบบนี้แหละ”

ผมคลายความเหนื่อยล้าไปมาก รู้สึกถึงปลายนิ้วของไผ่ที่ไล้ผ่านเส้นผมเพื่อจะมาบีบที่ขมับเบ่าๆ

“สบายจัง....ขอบใจนะไผ่”

“ด้วยความยินดีครับ”

ไผ่นวดให้ผมสักพักก่อนจะเอาเก้าอี้มานั่งคุยกันข้างหน้าผม

“ปีใหม่นี้จะไปเที่ยวไหนเหรอ”ผมถามไผ่

“คงจะทำงานนะครับ ที่ร้านแขกคงเยอะ ลาไม่ได้” ไผ่ทำหน้าเหงาๆ

“แล้วพี่รอนล่ะ ไปฉลองที่ไหน”

“ยังไม่รู้เลยว่ะ แต่เห็นว่าพี่นัทจะกลับมาฉลองด้วย”

ใจผมกำลังนึกถึงพี่นัท พี่ชายที่แสนดี และมีความรักให้ผมอย่างมากมาย

“พี่รอนนี่ท่าจะติดพี่มากเลยนะ เวลาพูดถึงที่ไรหน้าตาดูมีความสุขจัง”

“ใช่แล้วล่ะ แล้วสักวันนึงนายจะเจอ คนที่เราแค่คิดถึงเค้าเราก้อรู้ได้ว่าเค้าก้อกำลังคิดถึงเรา และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอกัน แต่แค่คิดถึงกันมันก้อทำให้เราหายเศร้าได้.............(ผมหยุดมองหน้าไผ่ก่อนจะพูดประโยคถัดมา) พี่หวังว่าสักวันพี่จะไปยืนในจุดนั้นสำหรับนาย”

“ผมก้อหวังว่าสักวันที่ผมคิดถึงพี่ ผมจะมีแต่ความสุขโดยที่ไม่มีความเจ็บปวดปนอยู่”

ไผ่ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แม้มันจะเป็นยิ้มที่เศร้าที่สุดก้อตาม ผมเอื้อมมือไปจับบ่าไผ่ไว้

“ไม่ว่ายังงัยนายจะมีพี่เสมอนะ”

ผมยิ้มให้ไผ่เช่นกัน ก่อนที่จะลุกเพื่อที่จะกลับบ้าน ไผ่เดินออกมาส่งที่หน้าประตูรั้ว

“พี่รอน รักผมบ้างยัง ..................ผมรออยู่นะ”

มันเป็นคำสุดท้ายที่ไผ่จะพูดกับผมทุกครั้งเวลาที่เราจะแยกกัน ผมขับรถกลับมาถึงบ้าน เวลานี้บ้านมันช่างดูเงียบเหงากว่าปกติ มันเงียบเข้าไปถึงในหัวใจของผม

ผมไม่รู้จะทำอะไร เลยขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า วันหยุดนี้ผมอยากไปพักผ่อนสมองเหลือเกิน ผมใช้เวลาจัดของไม่นานนัก ผมหยุดคิดและมองความเรียบร้อยกันลืม

ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดอยู่กับขวดโหลใบใหญ่ ที่ครั้งนึงมันเคยมีดาวกระดาษสีขาวที่มีความทรงจำของวินอยู่เพียงครึ่งหากแต่ในวันนี้มันกลับเต็มไปด้วยดาวกระดาษสีเหลืองที่บรรจุลงไปจนเต็ม

ตลอดเวลาที่ผมคิดถึงวินผมจะมานั่งพับมันใส่ลงไปที่ล่ะดวงสองดวง มันช่างดูตัดกันยิ่งนักระหว่างสีขาวกับสีเหลือง

ถ้าสีขาวมันคือสีของดวงดาว ที่แทนความทรงจำที่ดีระหว่างเราของวิน สีเหลืองก้อคือสีของดวงจันทร์ ที่แทนความคิดคำนึงของผม

ไม่รู้ว่ามันจะมีวันที่สองความรู้สึกนี้จะกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันหรือไม่ ทั้งๆที่อยู่ใกล้กันแค่นี้......... แค่ในขวดโหลใบเดียวกัน ผมเอาของมาใส่รถก่อนจะไปคว้าเอาไอ้โรโบ้ขึ้นรถ เพื่อมุ่งหน้าไปบ้านที่หัวหิน
.
.
.
.
ผมใช้เวลาขับรถมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก้อมาถึง ผมจัดแจงให้เด็กที่เฝ้าบ้านเอาของเข้าไปเก็บในบ้านก่อนจะไปเดินจูงเจ้าโรโบ้ที่หาดทราย

ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืน อากาศที่นี่ค่อนข้างหนาว เสียงคลื่นกระทบฝั่งทำให้จิตใจของผมสงบกว่าทุกวัน วันนี้ท้องฟ้าสวยมากคงเพราะปราศจากก้อนเมฆมาบดบัง

มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องทะเล ท้องฟ้าและพื้นดิน ที่วินเคยเล่าให้ผมฟัง ทั้งๆที่มองเห็นกันแต่ไม่มีวันที่จะมาบรรจบกันได้

แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก้อดังขึ้น ผมหยิบขึ้นมาดู แล้วก้อนึกแปลกใจที่ใจของเราตรงกัน เพราะในเวลานี้ผมอยากได้ยินเสียงของวินเหลือเกิน

“ว่างัยไอ้คุณชาย โทรมาดึกดื่นมีอะไรไม่ทราบครับ”

“อ๋อ...รู้เหมือนกันนะว่าดึกแล้ว แล้วทำมัยป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน”

ผมแปลกใจว่าวินมันรู้ได้งัยว่าผมไม่อยู่ที่บ้าน

“แล้วรู้ได้งัยว่ะว่าเราไม่อยู่บ้าน”

“ก้อตอนนี้เราอยู่ที่หน้าบ้านนาย พอดีไปเลี้ยงรับรองลูกค้ามา เลยอยากมาหาชากินแก้หนาว เลยรู้ว่ามีเด็กไม่ดีแอบหนีเที่ยวเวลาพ่อแม่ไม่อยู่”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า... ดีสมน้ำหน้า มากวนชาวบ้านเค้าซะดึกแบบนี้ อดซะให้เข็ด คราวหลังจะได้ไม่ต้องมาดึกๆดึ่นๆ”

“แล้วตกลงนายอยู่ไหนว่ะ เสียงดังชิปเป๋งเลยอ่ะ” สงสัยคงเป็นเสียงลม

“อยู่บ้านที่หัวหินครับคุณชาย”

“อ้าว...แล้วไปเมื่อไหร่ แล้วไปกับใครทำไมไม่ชวนกันบ้างว่ะ ไอ้ใจดำเอ้ย”

“เพิ่งมาถึงเนี้ยแหละ พอดีเซ็งๆน่ะ เลยอยากมาเที่ยว ถือโอกาสมาดูบ้านด้วยไม่มานานแล้ว”

“แล้วสรุปไปกับใครว่ะ”

“มาคนเดียว กับอีกหนึ่งตัว”

“แล้วบ้านนายอยู่ตรงไหน บอกทางหน่อยดิ”

“เฮ้ย....อย่าบอกว่าจะตามมานะโว้ย”

“เอออ ก้อจะตามไปน่ะสิ กำลังเบื่อๆ เหนื่อยๆอยู่พอดี อย่างกไปหน่อยเลย ไปเที่ยวด้วยคนนะ”

ผมบอกทางอย่างละเอียดกับวิน ก่อนจะวางสายไป ผมเดินเล่นสักพักก่อนจะขึ้นบ้าน วินคงจะมาพรุ่งนี้เช้าเพราะนี่ก้อดึกแล้ว
.
.
.
.
ผมตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น เสียงคลื่นและเสียงนกร้องทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดี ผมเดินลงมาก้อเจอรถของไอ้วินมันมาจอดอยู่ที่หน้าประตูบ้าน

ไม่นึกว่ามันจะขับมาตั่งแต่เมือคืน ผมเดินมาดูก้อเห็นมันปรับเบาะนอนหลับอยู่ในรถ ตอนแรกผมเปิดประตูตั้งใจจะปลุก แต่เปลี่ยนใจปล่อยให้วินนอนต่อไปสักพัก เพราะอากาศกำลังสบาย

ลมพัดเอื่อยๆผมหยิบแวนที่วินใสออกมาว่าจะเช็ดไอน้ำที่จับอยู่บนแว่นให้ แต่เปลี่ยนใจใช้นิ้วมือค่อยๆเขียนคำบางคำไปบนเลนส์ของแว่น

คำสั้นๆ “ รัก” และใส่ให้วินเบ่าๆเหมือนเดิม และ ก่อนที่วินจะทันตื่น มันก้อจะจางหายไปเมื่อโดนลมและแสงแดด และวินก้อจะไม่มีวันได้ทันเห็นมันแม้ว่ามันจะอยู่แค่ตรงหน้าเท่านั้น

ผมออกมาเดินเล่นที่ชายหาด หวังว่าช่วงวันสองวันนี้มันจะเป็นความสุขเล็กๆที่ผมกับวินเราต่างโหยหากันมานาน...................................  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 27-10-2008 19:19:44
ไม่ได้มาอ่านซะนาน

ทำมายมันเศร้าได้ขนาดนี้นิ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 27-10-2008 22:31:25
อ้างถึง
"เราอยากรู้ว่าใต้ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ มันจะมีที่ไหนที่เหมาะแก่เราบ้าง มันคงถึงเวลาที่เราต้องหาที่สำหรับตัวเราบ้างซะที และถ้าเมื่อถึงวันนึงที่เราไม่มีที่ไหนเมื่อนั้นเราจะกลับมา”

เป็นคำพูดที่อ่านแล้วรู้สึกหนาวที่หัวใจขึ้นมาทันที  :เฮ้อ:
สองตอนที่อ่าน รู้สึกได้ถึงบรรยากาศอุ่น ๆ แต่....เหงาแทนรอนขึ้นมาจับใจ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 28-10-2008 01:21:15
 :เฮ้อ:อ่านแล้วเหนื่อยแทน ความรักนะ ทำไมเข้าใจยากจัง
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 28-10-2008 14:07:56
-เหนื่อนจิงๆๆๆ.อ่านเมือนหัวใจหยุดเต้นเลยอะ...บางที่หายใจไม่ทัน
-เปนกานบรรยายจนไม่อยากมีความรักเลยอะ
-พออ่านแล้วเมือนเราไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งเลย


... :m15: o7
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 28-10-2008 15:22:15
ตอนนี้อยู่มหาลัย  ว่าจะลงให้อีก  แต่ดันลืมเอา Handy Drive มา

เลยอด  :laugh:


:L2: เอามาให้คุณน้อง
ขอบคุณค๊าบปี๊แน๋ววววววววววววว

เม้นท์ซะเว่อร์เชียวน้องถุงตุง  :jul3:
อย่าแซวดิพี่แน๋ว  พี่เขากำลังอิน  :m12:

ขอโทษๆๆๆๆๆๆ  ทุกๆคนโดยเฉพาะน้องเพียวนะคับ


ที่หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ยุ่งกับการเรียนต่อเป็นที่สุดและต้องหางานทำระหว่างเรียนด้วย



เหนื่อยมากๆๆๆ แต่ยังไงแล้วน้องเพียวก้อมาลงให้อ่านนะคับ




ต้องขอโทษด้วยยยยยยยยยยย จริงๆๆๆๆ
ชิ !!! งอลลลลลลลลลลลลลลลลลล


หายไปนานไม่เป็นไรคับ

แค่มาต่อ คนอ่านอย่างเราๆก้อดีใจมากมายแล้ว
เพียวต่อเองคับ อิอิ


ไม่ได้มาอ่านซะนาน

ทำมายมันเศร้าได้ขนาดนี้นิ
ยินดีต้อนเข้าเล้าค๊าบ  และมาอ่านต่อน้า


อ้างถึง
"เราอยากรู้ว่าใต้ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ มันจะมีที่ไหนที่เหมาะแก่เราบ้าง มันคงถึงเวลาที่เราต้องหาที่สำหรับตัวเราบ้างซะที และถ้าเมื่อถึงวันนึงที่เราไม่มีที่ไหนเมื่อนั้นเราจะกลับมา”

เป็นคำพูดที่อ่านแล้วรู้สึกหนาวที่หัวใจขึ้นมาทันที  :เฮ้อ:
สองตอนที่อ่าน รู้สึกได้ถึงบรรยากาศอุ่น ๆ แต่....เหงาแทนรอนขึ้นมาจับใจ
หนาวมากป่าววว คึคึ  แล้วเหงาจิงหรอ  o3


:เฮ้อ:อ่านแล้วเหนื่อยแทน ความรักนะ ทำไมเข้าใจยากจัง
ช่ายยยย  เข้าใจยาก  เลยไม่มีความรักซะเลย  สะใจดี   :laugh:


-เหนื่อนจิงๆๆๆ.อ่านเมือนหัวใจหยุดเต้นเลยอะ...บางที่หายใจไม่ทัน
-เปนกานบรรยายจนไม่อยากมีความรักเลยอะ
-พออ่านแล้วเมือนเราไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งเลย


... :m15: o7
ช่วยปั๊มหัวใจมะคับ  แล้วกลับมาเร็ว ๆ นะ อย่าไปอยู่โลกนั้นนาน   :jul3:


ไปแระ  เด๋วมาต่ออีก ถ้ามีโอกาส  :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 28-10-2008 18:56:21
อ่ะนะ ต้อนซะตัวแดงเชียว

มาจิ้มซะเลย

ข้อหา หมั่นไส้ เอิ๊กกกก......

มาต่อเลยนะ.....
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 29-10-2008 15:52:25
 :laugh: :laugh:

ตอนที่.13
ผมออกไปเดินเล่นก่อนจะกลับขึ้นมาบนบ้าน วินยังไม่ตื่นผมเลยเรียกเด็กให้ไปซื้อโจ๊กที่ตลาดมาให้ผมกับวิน ก่อนจะเดินไปปลุกวินที่รถ

ผมนั่งมองใบหน้าของวินชัดๆ ท่าทางคงจะเหนื่อย เพราะหน้าตาของวินดูอ่อนล้าเหลือเกิน ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะอยู่ข้างๆวินแบบเมื่อก่อน

อยากเป็นกำลังใจให้กันและกัน แต่มันก้อคงจะกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราทั้งคู่ไม่ต้องการ แต่เพราะคนที่รักและหวังดีกับเราจะเสียใจถ้าเรายังฝืนจะทำแบบนั้น

ผมค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของวินเบาๆ ขณะที่ปลายนิ้วของผมกำลังลูบไล้ที่ริมฝีปากของวินผมเองก้อตกใจที่วินจับมือผมไปแนบกับแก้มของตัวเอง

“คิดถึงสัมผัสแบบนี้จากนายจัง ที่ผ่านมาเราได้แต่นึกเอาเอง แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่ามันดีกว่าที่ต้องคิดไปเองมากแค่ไหน”

วินลืมตาแล้วยิ้มมาให้ผม

“มาถึงเมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่เรียกมานอนแบบนี้ รถก้อไม่ล็อค อันตรายนะรู้มั๊ย จะรอให้เช้าก่อนค่อยมาก้อไม่เอา” ผมบ่นวินเบ่าๆไม่ได้จริงจังนัก

“อยากมาหาก้อมาเลย ขี้เกียจรอ อยากมาใช้เวลาดีๆด้วยกันอีก นะรอนขอแค่ครั้งนี้ก้อได้ขอให้เราย้อนเวลากลับไปเมื่อปีที่แล้วก่อนที่เราจะไปออสเตเลีย แล้วหลังจากที่พวกเรากลับไปแล้วเราจะไม่ทำให้นายลำบากใจอีกเราสัญญา”

วินสงสายตาอ้อนๆมาให้ มันเหมือนกับวันวานไม่ผิดเผี้ยน แม้จะมีแว่นตามาบดบังแต่ผมก้อยังจำได้ดี

ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ก้มลงไปหอมที่แก้มวินเบาๆ เหมือนที่วินชอบขอเป็นรางวัลเวลาที่ทำอะไรให้ผมสักอย่าง

“ไปกินข้าวกัน เดี๋ยววันนี้เราไปเที่ยวเขาตะเกียบกัน บ่ายๆจะพาไปกินข้าวที่สวนสน”

ผมดึงมือวินให้ลุกตามผมเข้าไปในบ้าน ตอนนี้วินมันคงเป็นบ้าไปแล้วเอาแต่ยิ้มเดินตามมาแต่โดยดี
.
.
.
หลังจากเราจัดการกับมื้อเช้าที่บ้าน เราก้ออาบน้ำแล้วออกไปเที่ยวกันทั้งวัน วันนี้เราไปไหว้พระที่เข้าตะเกียบกันด้วย ก่อนจะเดินดูโน้นดูนี่กันจนทั่ว แล้วก้อมุ่งหน้าไปกินข้าวกลางวันที่สวนสนกัน

ที่นี่หาดค่อนข้างเงียบ เพราะเป็นเขตของทหาร แต่ต้นไม้สวยโดยเฉพาะไม้ดอก เสียดายที่ไม่ได้เอากล้องมา แต่เราก้อสนุกที่ได้เดินดูอะไรไปเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าเราได้ย้อนไปเมื่อวันวานจริงๆ

ผมรู้สึกอิ่มเอมใจมาก มันเป็นความรู้สึกที่โหยหามานาน เรากินข้าวเสร็จก้อเดินมาที่ร้านขายของที่ระลึก ผมเลือกซื้อพวกปลาหมึกแห้ง กะปิ กุ้งแห้ง ตั้งใจจะเอาไปฝากยายของไผ่ เพราะยายชอบทำกับข้าว

“นายจะเอาไปฝากใครอ่ะรอน”

วินถามหลังจากที่เราออกจากร้านนั้นมาร้านขายของจำพวกเครื่องประดับ ของสวยๆงามๆ

“ว่าจะเอาไปฝากที่บ้านไผ่น่ะ ฝากยาย กับไผ่แล้วก้อน้องสาว”

วินทำหน้าหงิกเมื่อฟังผมพูดจบ แต่ก้อไม่ได้ว่าอะไร ผมเลือกต่างหู ที่เป็นรูปเปลือกหอยไปฝากน้องของไผ่ ส่วนของไผ่ผมเลือกเป็นกรอบรูปที่ทำจากเปลือกหอยไปให้

“เค้ารณรงค์ไม่ให้ซื้อของจากเปลือกหอยนายก้อยังจะซื้อนะ”วินบ่นผมเบาๆ

“เรารู้ แต่นี่เป็นเปลือกหอยที่เค้าเก็บจากชายหาด มันอาจจะดูไม่ดี แต่คนเหล่านี้เค้าก้ออยู่ได้ด้วย รายได้จากสิ่งเหล่านี้ มันเป็นวิถีเศรฐกิจของคนที่นี่นะวิน ถ้าเกิดของที่เราซื้อมันต้องไปเอาชีวิตของสัตว์หรือทรัพยากรณ์ทางทะเลมาเราก้อไม่ซื้อหรอก”

“เออ..ตามใจนายก้อแล้วกัน” วินเดินออกไปดูของร้านอื่นๆ ผมเดินมาเห็นที่ทับเอกสารสวยดี เป็นแก้วข้างในมีรูปพระจันทร์ เลยนึกถึงวิน

“น้องครับ พี่ซื้อของด้วยครับ”

ผมตะโกนเรียก เพราะเห็นน้องเค้ากำลังนั่งนวดขาให่พ่ออยู่ เค้าเดินมาขายของให้ผม ผมรู้สึกว่าน้องเค้าน่ารักดี เป็นเด็กวัยรุ่น แต่กลับมาช่วยที่บ้านขายของแทนที่จะออกไปเล่นกับเพื่อนฝูง ตามวัยของเค้า

“ขยันจังเลยนะครับ วันหยุดก้อมาช่วยพ่อขายของ” น้องเค้ายิ้มจืดๆให้ผม

“ไม่ใช่พ่อหรอกค่ะ แต่เป็นแฟนหนูเองค่ะ” ผมแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กสาววัย18-19 จะยอมอยู่กินกับชายวัยประมาณ40กว่าๆ

“ขอโทษนะครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนเข้าใจผิดบ่อยๆ” น้องเค้าดูไม่ได้เดือดร้อนอะไร

“ซื้อไปฝากแฟนหรือค่ะ เอาอย่างอื่นด้วยมั๊ยค่ะ” น้องเค้าถามผมต่อ

“ อ๋อ...ไม่ครับ เอาแค่นี้แหละครับ พอดีจะเอาไปฝากเพื่อนนะครับ แล้วนี่ขายดีมั๊ยครับ” ผมเองยังถามน้องเค้าต่อ

“ก้อเรื่อยๆค่ะ แต่วันธรรมดาก้อเงียบหน่อย ถ้าเป็นวันหยุดก้อดี นี่แฟนหนูก้อมาช่วย แต่ถ้าวันธรรมดาเค้าก้อจะไปรับจ้างทำงานอีกที่นึงค่ะ”

“ขยันกันทั้งคู่เลยนะครับ” ผมคงทำหน้าแปลกๆน้องเค้าเลยถามผมออกมา

“พี่สงสัยว่าทำไมหนูถึงมีผัวแก่ใช่มั๊ยค่ะ” น้องเค้าพูดตรงจนผมสะอึก

“แล้วพ่อแม่เห็นดีด้วยเหรอครับ”

“เค้าก้อแล้วแต่หนูค่ะ หนูเองก้อรักแฟนหนู่นะ เค้าช่วยเหลือที่บ้านหนูมาเยอะ ไม่เคยจะเรียกร้องเอาบุญคุณเลย พอนานวันเข้ามันก้อทำให้หนูรักเค้า ไม่รู้ว่าถ้าหนูไม่เอาพี่เค้า วันหน้าหนูจะเจอคนที่รักหนูแบบนี้มั๊ย”

“แล้วเคยมีคนพูดไม่ดีกับเราบ้างมั๊ยครับเนี้ย”

“โอ้ย...เยอะแยะ แต่ถ้ามัวแต่มานั่งสนใจขี้ปากชาวบ้านก้ออดตายกันพอดี ใครมันจะว่ายังงัยก้อช่างมัน หนูมีความสุขในวันนี้ก้อพอ ในชีวิตหนูใช้เวลาอยู่กับผัวมากกว่าอยู่กับคนอื่น แล้วทำไมเราต้องไปแคร์คนอื่นด้วยล่ะพี่

ตอนแรกแม่ก้ออายนะ แต่หนูก้อบอกกับแม่ว่า ถ้าแม่อยู่ดูแลหนูไปตลอด และยอมให้หนูตายก่อน หนูก้อจะไม่เอาผัว แต่นี่ อีกไม่นานมันก้อต้องถึงวันที่พ่อแม่ทิ้งหนูไป แล้วทำไมไม่ให้หนูอยู่กับคนที่เค้าจะเลี้ยงดู และให้ความรักกับหนูต่อไปได้”

ผมเดินออกมาจากร้านด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ผมอิจฉาที่น้องเค้าสามารถใช้ชีวิตได้ในแบบที่ต้องการ
และเริ่มคิดถึงตัวผมเอง คิดถึงวันพรุ่งนี้

“เป็นอะไร ยืนเหม่อเชียว เรียกตั้งนานก้อไม่ได้ยิน” วินเดินปลุกผมจากความคิด

“ป่าวคิดอะไรเล่นๆน่ะ ซื้อของเสร็จยัง กลับกันเลยมั๊ย”

“อือม์ ไปสิ เราไม่ได้จะซื้ออะไรหรอก”

แล้วผมกับวินก้อกลับมาที่บ้าน เราลงเล่นน้ำกันในตอนเย็น จนพระอาทิตย์ใกล้จะตก ผมกับวินเราเลยมาเดินเล่นกัน

“สบายใจยังห๊ะวิน”

“อือม์...สบายแล้วล่ะ ทุกครั้งที่มีนายอยู่ข้างๆเรามีความสุขนะ” วินเอื้อมมาจับมือผม

“แล้วหนึ่งปีที่ผ่านมาล่ะ นายมีความสุขมั๊ย” ผมยังคงถามวินต่อ

“มันก้อเหงาๆนะ แต่ก้อผ่านมาได้”

“แล้วต่อไปล่ะ....ถ้าไม่มีเรา จะมีความสุขได้มั๊ย? เราขอร้องนะ นายต้องมีความสุขนะวิน”

“เรื่องของอนาคต ใครเค้ารู้กันบ้างเล่า ไอ้นี่นิ” วินมันเขกที่หัวผมเบาๆ ก่อนจะเอามือมาโอบผมไว้หลวมๆ

“เอาเป็นว่าเราจะไม่ทำให้นายลำบากใจก้อแล้วกัน เราจะอยู่อย่างมีความสุขโอเคป่ะ”วินบอกกับผมหลังจากที่เงียบไปพักนึง

“อือม์...ดีมากสัญญาแล้วนะ”

เราเดินกันออกมาไกลบ้านเหมือนกัน ตอนนี้ พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าลงทุกที ภาพของท้องทะเลเบื้องหน้ามันทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นความงามที่แสนเศร้าสร้อย


“กลับเถอะ เดินมาตั้งใกลแล้ว เมื่อยแล้วล่ะ วันนี้เดินทั้งวันเลย”

“อ่ะ ขี่หลังเราป่าว เดี๋ยวเราพากลับเอง”

วินพูดพร้อมกับมาหยุดข้างหน้า ผมขึ้นไปขี่หลังวินช้าๆ พอได้ที่วินมันก้อแกล้งวิ่งไปเขย่าไป บางทีก้อแกล้งวิ่งไปเซไป จนเมื่อใกล้จะถึงวินกลับหยุดและเดินช้ากว่าปกติ

“ทำไมเดินช้าลงล่ะ เหนื่อยเหรอ ให้เราลงเดินเองมั๊ย”

“ป่าวหรอก แต่อยากอยู่แบบนี้นานๆน่ะ พรุ่งนี้เช้าก้อจะกลับกันแล้ว”

ผมไม่ได้ถามอะไรอีก ได้แต่ซบหน้าลงกับแผ่นหลังของวิน แผ่นหลังที่ยังคงให้ความสุขแก่ผมได้เหมือนเมื่อวันวาน........................



ฉันไม่ต้องการอะไร เป็นอย่างนี้มันก็ดีเท่าไหร่
มันมีค่ายิ่งกว่าสิ่งไหน เมื่อเธอและฉันสองคนรักกัน

ฉันไม่เสียดายอะไรแล้ว มีแค่นี้เป็นอย่างที่ต้องการ
แค่เธอกับฉันดีต่อกันทุกวัน แค่เพียงเท่านั้นมันก็พอแล้ว

*พรุ่งนี้อาจไม่มีฉัน พรุ่งนี้อาจไม่มีเรา
พรุ่งนี้ไม่มีใครรู้ ถ้าสักวันต้องแตกร้าว
อยากบอกว่าฉันคงไม่เสียใจ

เราได้รักคนที่เรารัก ได้เรียนรู้ในชีวิตช่วงหนึ่ง
การได้รักใครแค่เพียงครั้งหนึ่ง ก็คงจะคุ้มที่เกิดมาแล้ว
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 29-10-2008 15:53:40
 :bye2: :bye2:


ตอนที่ 14
หลังจากที่ผมกับวินเราขึ้นมาบนบ้านแล้ว เราก้ออาบน้ำแล้วไปหาซื้อกับข้าวมากินกัน ผมกับวินเราต่างช่วยกันจัดอาหารแล้วให้เด็กยกมาตั้งที่ระเบียงหน้าบ้าน
เสียงคลื่นกระทบฝั่งมันช่วยสร้างบรรยากาศให้อาหารมื้อนี้อร่อยยิ่งขึ้น และถึงเราจะกินกันจนอิ่มแล้ว แต่ผมกับวินก้อยังไม่ลุกไปไหน เรายังนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ผมยอมรับว่ามันเป็นเวลาที่ผมมีความสุขมากจริงๆ

“ไม่อยากกลับเลยอ่ะ อยากอยู่ต่ออีกสัก2-3อาทิตย์” วินหันมาบอกผม

“พอดี พ่อนายด่าเราตาย หาว่าพาลูกเค้ามาเถรไถล”

“ก้อมันจริงนี่นา เราสบายใจ และมีความสุขมากๆเลยนะตลอดเวลาที่เราอยู่กันที่นี่ และยิ่งนึกว่ากลับไปครั้งนี้เรากับนายไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมาทำอะไรแบบนี้กันอีกเมื่อไหร่ มันก้อยิ่งไม่อยากให้เวลาแบบนี้มันหยุดลง”

วินหยุดแล้วมองหน้าผมนิดนึงก่อนจะพูดต่อ

“รอน นายไม่คิดถึงวันเก่าๆ แล้วอยากให้มันกลับมาเหมือนเดิมบ้างเหรอ ไม่อยากมีความสุขแบบเมื่อก่อนนี้เหรอ”

“ถึงเราจะไม่ได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมก้อใช่ว่าเราจะมีความสุขไม่ได้นี่นา แค่พวกเรารู้ว่าต่างคนต่างคิดกันยังงัยก้อพอแล้ว”

ตอนนี้ผมกับวินเราต่างนั่งมองกันและกัน ผมชอบเหลือเกินที่เห็นภาพของตัวเองสะท้อนอยู่ในแววตาของวิน และในแววตาของผมก้อคงมีเงาสะท้อนของวินด้วยเหมือนกัน วินเองก้อคงจะเห็นเหมือนที่ผมเห็น

“เราไม่อยากให้นายหลับตาเลยว่ะรอน อยากให้ในสายตานายมีเราแบบนี้ตลอดไป”

“อย่าคิดมากสิว่ะ คนบางคนก้อสำคัญเกินกว่าจะหลับตาแล้วแล้วลืมเลือนเขาไปได้ ไม่ว่าจะลืมตา หรือหลับตาเราก้อเห็นภาพนายชัดเจนแหละน่า”

ผมปลอบใจวินก่อนจะชวนวินออกไปเดินเล่นที่ชายหาด เราเดินคุยกันไปเรื่อยๆมันเหมือนกับว่าต่างคนก้อไม่อยากให้เวลาแบบนี้สิ้นสุดลง

“ดึกแล้วไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ก้อต้องกลับกันแล้ว” ผมเป็นฝ่ายชวนวินขึ้นบ้านเพราะเห็นว่ามันดึกมากแล้ว”

“เดี๋ยวก่อนรอนได้ยินเสียงลมมั๊ย ลองฟังดีๆสิ ได้ยินอะไรหรือเปล่า” ตอนนี้รอบตัวเราดูเงียบไปหมดมีก้อแต่เสียงลมที่พัดแรง

“เสียงอะไรว่ะ” ผมถามวิน

“สายลมมันกำลังบอกรักนายอยู่น่ะ”

“อือม์....ได้ยินแล้วล่ะ ได้ยินมาตลอดแหละ....ไปกันเถอะ”
.
.
.
เราเดินกลับมาบนบ้านผมกับวินเราอาบน้ำกันอีกครั้งเพราะลมทะเลมันทำให้พวกเรารู้สึกเหนียวตัว

“ตกลงไม่นอนด้วยกันเหรอ” วินมันเดินมาถามอีกครั้ง

“ไม่เอา ขี้เกียจนอนเบียดกัน ห้องก้อมีว่างเพราะฉะนั้นไปนอนได้แล้ว”

ผมบอกวินก่อนจะเดินเข้าไปนอน ผมนอนพลิกตัวไปพลิกตัวมา เพราะใจจริงก้ออยากที่จะนอนกับวิน อยากกอดอยากสัมผัสวินมากไม่ต่างกันแต่ก้อกลัวใจตัวเองเหลือเกิน ผมนอนคิดไปสักพักก้อมีเสียงคนเปิดประตูเดินเข้ามา

“รอน...นายหลับหรือยัง” ผมไม่ตอบวิน

“หลับแล้วเหรอ ดีเลย เราชอบแอบหอมแก้มคนหลับงั้นเราห้อมแก้มนายดีกว่า” วินก้มลงมาห้อมแก้มผมแรงๆแล้วขึ้นมานอนกอดผมไว้

“ขอกอดเบาๆหน่อยนะ หลับอยู่ใช่มั๊ย พอดีเราชอบกอดคนนอนหลับด้วยน่ะ” ผมไม่ตอบได้แต่ยิ้มให้กับความช่างตื้อของวิน
.
.
.
ผมกับวินเราตื่นขึ้นมาตอนสายๆก่อนจะเตรียมตัวกลับกันเราต่างก้อขับรถของใครของมัน เรามาแวะหาอะไรกินแล้วก้อขับยาวมาถึงกรุงเทพ

แต่ผมแยกกับวิน เพราะจะเอาของไปฝากที่บ้านของไผ่ นี้ก้อยังไม่เย็นมากไผ่คงจะยังอยู่บ้านไม่ไปทำงาน ผมขับรถมาถึงบ้านไผ่ ก้อเห็นไผ่กำลังตัดหญ้าอยู่ที่หน้าบ้าน ไผ่ยิ้มทันทีที่เห็นหน้าผม

“ว้า...กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลยครับ โชคดีจังคิดถึงก้อได้เจอ อยู่กินข้าวเย็นก่อนนะครับพี่รอน”

“อะ ของฝาก พอดีพี่ไปดูบ้านที่หัวหินมา เอาไปเผื่อน้องกับยายด้วยนะ” ผมยื่นของให้ไผ่

“ไม่เห็นชวนกันเลย หนีไปเที่ยวมาล่ะสิ ไปกับใครครับเนี้ย” หน้าผมเจื่อนไปนิด และไผ่เองคงจะดูออก

“ไปกับเค้ามาใช่มั๊ยครับ ไม่เป็นไรครับ” ไผ่เดินเอาของกลับเข้าไปเก็บในบ้าน ก่อนจะออกมานั่งคุยกับผมที่ชิงชาหน้าบ้าน

“อ่ะพี่รอน กินน้ำก่อน ยายเพิ่งต้มน้ำมะตูมเสร็จ”

“วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ” ผมถามไผ่ เพราะเห็นชวนกินข้าวเย็น

“ขี้เกียจน่ะพี่ เดี๋ยวโทรไปลาก้อได้ อยากอยู่คุยกับพี่นานๆ”

“ทำยังกับไม่ค่อยเจอกัน ก้อมาออกจะบ่อย”

“นั้นแหละ เอาเถอะช่างมัน ว่าแต่ไปเที่ยวมาสนุกล่ะสิ ดูหน้าตาร่าเริงเชียวน่ะ”

“ไม่ได้ตั้งใจจะไปหรอกพอดี อยากไปดูบ้านด้วย ก้อเลยขับรถไปคนเดียวน่ะ ก่อนที่วินมันจะตามไปทีหลัง”

ผมไม่อยากให้ไผ่คิดว่าผมชวนวินแต่ไม่ชวนไผ่ไปด้วย ไผ่ไม่ได้ว่าอะไรได้แต่ยิ้มให้ ผมอยู่กินข้าวที่บ้านของไผ่ ก่อนจะกลับไผ่เดินออกมาส่งผมที่รถ

“เมื่อไหร่จะรักผมสักทีน๊า ผมรออยู่นะ”

ไม่ว่าจะกี่ครั้งผมก้อยังปวดใจที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้จากไผ่

“ทุกวันนี้ก้อรักจะตายอยู่แล้ว ไปแล้วนะไอ้น้องชาย”

ผมบอกไผ่ก่อจะขับรถกลับบ้าน ผมกลับมาถึงบ้าน ก้อเห็นซองจดหมายมาเสียบไว้ที่ตู้ไปรษณีย์ เลยเดินมาหยิบดู มันเป็นการ์ดเชิญไปร่วมงานคืนสู้เหย้าศิษย์เก่าที่โรงเรียน

ผมไม่เคยได้ไปเลยหลังจากจบมา ดูแล้วปีนี้รุ่นพี่นัทเป็นคนจัดการเพราะดูจากชื่อกรรมการจัดงาน เพราะมันมีรายชื่อของพวกพี่บอยและเพื่อนๆในกลุ่มของพี่นัท

มันทำให้ผมนึกถึงวันเก่าๆ เพราะพี่บอยก้อเป็นหัวหน้าชมรมด้วย ไม่รู้ว่าป่านนี้ยังบ้าดูดาวอยู่หรือเปล่า จดหมายไม่ได้ติดแสตมป์ สงสัยคงจะเอามาให้ด้วยตัวเอง

ข้างในมีโน้ตจากพี่บอยบอกให้ชวนพี่นัทมาให้ได้ คืนนั้นผมเลยโทรทางไกลไปบอกและพี่นัทก้อสัญญาว่าจะมาเพราะตั้งใจจะกลับมาปีใหม่พอดี
.
.
.
.
หลังจากวันที่ผมกลับมาจากหัวหิน ก้อผ่านมาเกือบอาทิตย์วินดูงานยุ่งมากเลยไม่ค่อยได้คุยกัน ดูท่าทางวินจะเหนื่อยมาก และวันนี้ลุงกิติเองก้อมาที่บริษัทด้วย

แค่เพียงไม่เจอกันไม่เท่าไหร่ ลุงแกดูโทรมลงไปมากขนาดนี้ ทั้งๆที่วินก้อเข้ามาช่วยดูแลบริษัทต่อ ลุงแกเดินมาหาผมที่แผนก แล้วชวนไปดื่มกาฟด้วย

“ว่างัยรอน ไม่เห็นค่อยไปหาลุงที่บ้านบ้างเลยตั่งแต่วินมันกลับมา”

“พอดี ผมยุ่งๆนะครับ แล้วลุงเป็นยังงัยบ้างครับ ไม่ค่อยสบายดีขึ้นหรือยังครับ”

“ก้อตามประสาคนแก่ ที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเมื่อสมัยหนุ่มๆน่ะ นี่ก้อกลัววินมันจะเอาอย่าง ยังงัยเราก้อเตือนๆมันด้วยนะลูก เห็นมันทำงานดึกทุกคืน บางทีก้อนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียว ลุงดูเหมือนว่ามันไม่ค่อยจะมีความสุขเท่าไหร่”

“ครับลุง อย่าคิดมากเลยครับ วินมันคงอยากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยนะครับ” ผมลังเลอยู่สักพักก่อนจะพูดกับลุงกิติ

“ลุงครับเรื่องที่ผมเคยบอกว่าถ้าวินกลับมา ผมอยากจะไปอยู่กับแม่ ลุงจะว่าอะไรมั๊ยครับ ถ้าผมจะขอตัวเร็วๆนี้” ลุงกิติชะงักไปนิดนึงหลังจากฟังผมพูดจบ

“ทำไมจะรีบไปเร็วจังล่ะลูก จะไปเมื่อไหร่”

“ก้อว่าจะอยู่ฉลองปีใหม่ก่อน แล้วจะไปเลยน่ะครับ” ลุงกิติแกไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้ต่อกลับชวนคุยไปเรื่องอื่น จนวินมันเดินลงมานั่งด้วย

“อะไรกัน ไม่ยอมชวนลูกชายมานั่งด้วยเลยน่ะพ่อ”

“เดี๋ยวกลางวันไปกินข้าวด้วยกันนะรอน” วินหันมาชวนผมพร้อมกับยิ้มมาให้ ผมเลยยิ้มตอบไป แล้วนึกขึ้นได้เลยหันกลับมาที่ลุงกิติ แล้วก้อเห็นว่าแกมองผมกับวินอยู่

“งั้นพ่อกลับก่อนนะ ลุงกลับก่อนนะรอน แล้วว่างๆก้อไปหาลุงที่บ้านบ้างนะลูก” ลุงแกหันไปบอกวินก่อนจะหันมาบอกผม

“พ่อมาคุยอะไรด้วยเหรอ” วินหันมาถามผมหลังจากที่ลุงแกเดินไปแล้ว

“ไม่มีอะไร ก้อคุยเรื่อยเปื่อยแหละ แล้วก้อมาบ่นว่าไม่ค่อยแวะไปหาบ้างก้อเท่านั้น”

“ใช่สิ นายน่ะไม่เห็นไปที่บ้านเลย มัวแต่แวะไปบ้านไอ้น้องไผ่อยู่นั่นแหละ” วินมันแขวะผมจนได้

“ก้อเจอกันที่ทำงานแล้ว จะให้ไปหาทำไม ใจคอจะเจอตลอด24ชั่วโมงเลยหรืองัย”

“ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก้อดีน่ะ” ผมกับวินเราเงียบกันไปทั้งคู่ก่อนวินจะถามถึงพี่นัทว่าจะมาเมื่อไหร่

“อีก2วันก้อจะมา เพราะมีงานเลี้ยงที่โรงรียนเก่า”

“เหรอ งั้นเราไปด้วยน่ะ อยากไปเห็นเพื่อนๆนาย”

“ไปทำไม ไม่รู้จักใครเดี๋ยวก้อไปนั่งเบื่อป่าวๆ”

“ช่างเราเหอะน่า เอาเป็นว่าเราไปด้วยนะ” ผมขี้เกียจจะค้าน เลยเงียบไปดีกว่า เดี๋ยววันงานค่อยแอบมันไป
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 29-10-2008 16:21:30
รอนคิดจะทำอะไร อยู่หรือเปล่าครับ ดูน่าสงสัยนะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 29-10-2008 17:23:41
รอนจ้าทำตามใจตัวเองเทอะนะ..............คนอ่านจะหัวใจวายตายแล้ว

(ไปให้น้ำเกลือตัวเองก่อนหมดแรง)
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 29-10-2008 21:32:21
 :เฮ้อ:
อ่านกี่ทีก็...นะ...กว่าจะถึงซึ่งทางรักจริง ๆ
เข้ามาเป็นกำลังใจให้รอนกะวินตัวแสบ  :m1:
รวมทั้งคิดถึงพี่นัทเหมือนเดิมมมมม
 :L1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 30-10-2008 12:47:53
ยังไม่มาอีกอะ................. :oni2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 30-10-2008 16:28:19
:m22:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 30-10-2008 22:28:54
เดี่ยวเหอะคนแต่งมาแอบอยู่ได้...มาลงได้แล้ว
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: nirun4 ที่ 30-10-2008 23:02:11
 :m1: :m1: เข้ามารอต่อไป  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 31-10-2008 15:51:19
:m22:


แอบเข้ามาดูไรห่ะ ลับ ๆ ล่อ ๆ น่ะเรา :laugh:

ดี ๆ ได้อ่านลักษณะแบบนี้มั่งก็ดี รอนมีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมมากมาย เข้าใจโลกขึ้นมากมาย

ปล.ใกล้ได้เจอพี่นัทแล้ว  :m4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: Walkman ที่ 02-11-2008 12:11:45
 :m13:

ก้อยังอยากอ่านอยู่

อิอิ

 o7
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 02-11-2008 14:22:29
เงียบสม่ำเสมอ .....อย่าน่ะ อย่าให้ต้องใช้ไม้ตาย o12
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 02-11-2008 19:25:34
เพิ่งกลับเข้ามาอ่านทันแล้ว  :m13:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 03-11-2008 20:10:20
วันนี้ให้ตอนเดียว    งอลคนบางคน :a14:


ตอนที่ 15
วันนี้ผมมารอรับพี่นัทที่สนามบิน ทันทีที่เสียงประกาศว่าเที่ยวบินไฟล์ของพี่นัทแลนดิ้งลงมา ผมก้อมายืนรอที่ช่องทางขาออก
สักพักคนที่ผมคิดถึงก้อมายืนอยู่ตรงหน้า ผมกับพี่นัทยืนมองหน้ากันสักพักก่อนที่พี่นัทจะดึงผมเข้าไปกอดแรงๆ

“คิดถึงจัง” พี่นัทพูดกับผม

“ผมก้อคิดถึงพี่นัทเหมือนกัน แล้วแม่กับพ่อเป็นงัยบ้าง” หลังจากวันนั้นที่ผมกับลุงนนท์คุยกัน ผมก้อคิดว่าลุงนนท์เป็นพ่อของผมคนนึง และลุงเองก้ออยากให้ผมเรียกว่าพ่อด้วย

“พ่อกับแม่สบายดี” พี่นัทเองก้อรียกแม่ผมว่าแม่แล้ว

“จะกลับบ้านเลยหรือว่าจะไปไหนก่อนครับ”ผมถามพี่นัท

“ไปหาอะไรกินกันเถอะ เราไปชานเมืองกันดีมั๊ย อยากสูดอากาศของเมืองไทยให้เต็มปอด” พี่นัทบอกกับผม เลยเป็นว่าเราขับรถขึ้นท่างด่วนเพื่อที่จะออกมาหาอะไรกินกันที่ชลบุรี

“ไหนว่าแค่ชานเมือง มาถึงนี่เลย” ผมบ่นพี่นัททันทีที่เรามานั่งอยู่ในร้านอาหารติดชายทะเลแถวๆสัตหีบ

“เอาน่า ก้อพี่อยากมานี่นา ขับรถแค่ชั่วโมงเอง ใช้เวลาน้อยกว่าขับไปกินในเมืองอีก” เรานั่งกินกันไปคุยกันไปให้หายคิดถึง

“แล้วเป็นงัยบ้างเรื่องของเรากับวิน” พี่นัทถามผมหลังจากที่เราเริ่มจะอิ่มกันแล้ว

“ก้อดีครับ เราคุยกันเหมือนเดิม วินเองก้อยังเหมือนเดิมทุกอย่างทุกความรู้สึก” ผมบอกพี่นัท

“แต่ติดตรงที่กลับไปคบกันเหมือนเดิมไม่ได้ใช่มั๊ย” พี่นัทถามผมตรงๆ ผมเลยได้แต่พยักหน้า

“ค่อยๆคิดกันไป ผู้ใหญ่ เค้าอาจจะต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนความคิด แต่ไม่ว่าพ่อแม่ที่ไหนก้ออยากเห็นลูกมีความสุขอยู่ดี” พี่นัทยังคงปลอบใจผม

“พี่นัทถ้าผมจะไปอยู่ที่โน้นด้วยสักพักล่ะ” ผมลองถามพี่นัท

“ไม่มีใครเค้าว่าอะไรหรอก มีแต่ดีใจที่นายจะไป แต่ตัวเราล่ะมั่นใจแล้วเหรอ คิดเหรอว่าไปอยู่ที่โน้นแล้วจะสบายใจกว่าที่นี่ ถ้ามันไม่ต่างกันก้ออย่าเลย พ่อกับแม่เห็นหน้านายแล้วจะพลอยเป็นห่วงมากกว่าเก่า”

“ผมแค่อยากจะขอเวลาอยู่กับตัวเองบ้างน่ะครับ ที่ผ่านมาก้อไม่ค่อยได้อยู่แบบเงียบๆกับตัวเองสักเท่าไหร่”พี่นัทหยุดมองหน้าก่อนจะพูดกับผม

“รอน คนเราสามารถอยู่กับตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลาเลยน่ะ อยู่ที่ไหนก้อคิดได้ถ้าเราจะคิดและมีคำตอบให้ตัวเองไม่ใช่กลัวคำตอบที่ตัวเองกำลังคิดและแกล้งปิดหูปิดตาไม่ยอมรับมัน เอาเป็นว่าถ้าอยากไปโน้นก้อไปแล้วกัน เพราะยังงัยนายก้อต้องไปงานของพี่อยู่ดี” พี่นัทบอกกับผม

“งานอะไรครับพี่นัท”

“งานหมั้นน่ะ” ผมอึ้งไปทันทีที่ได้ยิน

“พี่นัทจะหมั้นเหรอ กับใครทำไมผมไม่เคยรู้เรื่องล่ะ” ผมถามพี่นัทเสียงดัง ดูพี่นัททำหน้าขำๆ

“ก้อเพราะในหัวของเรามันไม่ค่อยจะว่างไปคิดเรื่องอื่นนี่นา พี่จะหมั้นกับลูกสาวของเพื่อนพ่อน่ะ รู้จักกันตั่งแต่ตอนไปเรียนที่ญี่ปุ่นแล้ว เค้าก้อน่ารักดีน่ะ”

“แล้วพี่นัทรักเค้าเหรอครับ” ผมอดหวงพี่นัทไม่ได้ เพราะเราเคยเป็นที่หนึ่งมาตลอด

“ก้อคงจะชอบ กับสงสารล่ะมั๊ง เพราะยังงัยคนที่พี่รักมากที่สุดก้อนั่งอยู่นี่แล้วงัย”

“แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะครับ”

“พี่อยากให้พ่อแม่มีความสุข และที่สำคัญพี่จะใช้ชีวิตแทนส่วนของเราด้วย เพราะฉะนั้น เราอยากจะทำอะไร รักกับใครก้อทำตามที่หัวใจเราต้องการเถอะนะ

ไม่ต้องกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้สึกยังงัยและแคร์ใครเพราะคนที่นายควรจะแคร์เค้าก้อพร้อมจะรักในสิ่งที่นายตัดสินใจ”

ผมอดไม่ได้ที่จะอึ้งอีกครั้งให้กับความใจดีของพี่นัท เพราะต้องทำหน้าที่ของลูกชายที่ดี พี่นัทเลยยอมทำและยังทำในส่วนของผมด้วย แล้วตัวพี่นัทจะมีความสุขจริงหรือเปล่า

“อย่าร้องไห้สิไอ้เด็กขี้แย พี่ไม่อยากเห็นเราร้องไห้นะ พี่บอกกี่ครั้งแล้ว” ผมอดร้องไม่ได้เมื่อนึกถึงสิ่งที่พี่นัททำเพื่อผม แต่ผมยังไม่เคยทำอะไรให้พี่นัทบ้างเลย

“แล้วพี่นัทล่ะ พี่จะมีความสุขเหรอครับ”

“มีสิ แค่เห็นทุกคนที่เรารักมีความสุขพี่ก้อมีความสุข พี่อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น และพี่ก้อได้มา พี่ไม่อยากให้ใครต้องมานั่งเสียใจ และกับคนที่พี่เลือกพี่ก้อรู้สึกดีกับเค้าไม่ใช่ว่าจะไม่ชอบเค้าเลย แม้มันอาจจะยังไม่ท่ากับเรา แต่มันก้อไม่ได้ฝืนใจอะไรเลย พี่เต็มใจ”

“แล้วผมจะทำอะไรเพื่อพี่ได้มั๊ยครับ พี่นัท”

“ได้สิ ใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุด อย่าให้พี่กับพ่อแม่ต้องเป็นห่วง พี่จะมีความสุขมากนะถ้าเห็นเรามีความสุข เพราะไม่ว่าจะยังงัยเราก้อจะเป็นครอบครัวเดียวกันเสมอ แล้ว เราก้อจะยังคงมองเห็นกันและกันตลอดไป และพี่คงสบายใจมากถ้าจะเห็นเรามีชีวิตอยู่กับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตา”

“ครับพี่นัท ผมจะพยายาม”


ผมกับพี่นัทเรากลับมาที่บ้านก้อเจอวินมันมารออยู่แล้ว ทันทีที่เห็นผมกับพี่นัท วินมันก้อเดินมาสวัสดีพี่นัททันที พี่นัทเองก้อยิ้มตอบ

ผมปล่อยให้วินคุยกับพี่นัทสองคนแล้วเอาของไปเก็บให้พี่นัทในบ้าน ก่อนจะออกมานั่งร่วมวงด้วย

“ไปกินข้าวไม่ยอมชวนกันเลยนะรอน”

“ชวนทำไมก้อเราอยาก จะไปกันแค่สองคนพี่น้อง” วินมันทำหน้างอจนพี่นัทหัวเราะออกมา

“ เอาไว้ไปงานเลี้ยงที่โรงเรียนด้วยกันพรุ่งนี้สิวิน” พี่นัทชวนวิน ผมเลยหันไปทำตาดุๆใส่พี่นัท

“ชวนทำไม เดี๋ยวไปก้อไปนั่งเอ๋อป่าวๆ”

“ขอบคุณครับพี่นัท แล้วพรุ่งนี้ผมมารับนะครับจะได้ไปพร้อมกัน” วินหันมาทำหน้าเยาะเย้ยใส่ผม
.
.
.
วันนี้วินมารับผมพร้อมกับพี่นัท วินดูหล่อเชียววันนี้ เรามาถึงที่โรงเรียนประมาณทุ่มกว่าๆคนเริ่มมากันพอสมควร เราเดินกันมาที่หน้างานก้อเจอพวกพี่บอลนั่งอยู่ที่ซุ้มทางเข้า ทันทีที่เห็นพวกเราพี่บอลก้อส่งเสียงทักมาแต่ไกล

“พวกเราดูสิว่ะ ใครมา แม่งหายหัวไปไม่เคยโพล่มาทั้งพี่ทั้งน้องเลยว่ะ แสดงว่ารุ่นเราจัดงานดีนะเพราะสามารถลากให้มันมากันได้” พี่บอลเดินเข้ามาหาพวกเรา

“สวัสดีครับพี่บอล ไม่เจอกันนานสบายดีหรือครับ”

“สบายดีครับ เปลี่ยนไปเยอะเลยนะเรา แต่ก้อยังหล่อไม่เปลี่ยน และที่สำคัญยังติดพี่เหมือนเดิมเลยนะ” พี่บอลพูดแล้วเอามือมาจับหัวผมโยกเบาๆ

“โผล่มาได้สักทีนะมึง เพื่อนคนอื่นมันบ่นถึงมึงกันตั้งหลายคน มันบ่นกูว่าเจอมึงบ่อยแต่ไม่เคยลากมึงไปหาคนอื่นๆบ้าง” ปกติถ้าพี่นัทกลับมาแล้วจะแวะไปหาพวกพี่บอลกับเพื่อนสนิทๆไม่กี่คน เพราะส่วนใหญ่จะมาคลุกอยู่กับผมมากกว่า

“เออ...กูก้อมาแล้วงัย” พี่บอลหันมาทางวิน ผมเลยแนะนำให้รู้จักกัน ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปที่โต๊ะที่แกจัดไว้ให้พวกเราโดยเฉพาะ

เราเดินมาที่โต๊ะก้อเจอกับเพื่อนๆหลายคน พี่นัทเองชะงักไปนิดนึงผมเลยมองไปตามสายตาแลวก้อเจอกับพี่วา พี่วาในตอนนี้ก้อยังดูดีไม่เปลี่ยนแปลง ผมหันไปยิ้มให้กับพี่วาก่อนจะชวนวินเดินเลี่ยงมานั่งที่โต๊ะ

“ว่าไอ้ว่ะไอ้รอน ไม่ติดต่อเพื่อนเลยนะ”ไอ้เจนกับอั้งเดินมาหาผม

“เฮ้ย....ว่างัยไม่นึกว่าจะเจอแล้วไอ้ภีมไม่มาด้วยเหรอ มันติดต่อมาบ้างมั๊ย” ผมถามเพื่อนๆถึงอีกคนที่ไม่เห็นหน้า

“ไม่รู้ว่ามันจะมาหรือเปล่า แต่มันกลับมาเมืองไทยได้สัก2อาทิตย์แล้วล่ะ แล้วนายไม่คิดจะแนะนำเพื่อนให้พวกเรารู้จักเหรอว่ะ”

ไอ้เจนถามผมบ้าง ผมแนะนำให้ต่างฝ่ายรู้จักกัน ผมย้ายไปนั่งกับกลุ่มของเพื่อนๆ บางคนก้อพาแฟนมาด้วย ไอ้อั้งเองก้อพามาแต่ไอ้เจนฉายเดี่ยว

วินเองก้อเข้ากับเพื่อนๆได้ดี เพราะนอกจากจะคุยกันในเรื่องเก่าๆแล้วพวกเรายังคุยกันถึงการงาน และธุรกิจของแต่ล่ะคน ขณะที่ผมกำลังนั่งฟังเพื่อนๆคุยกันอยู่ก้อมีมือมาจับที่ไหล่ของผม

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ผมหันไปตามเสียง และก้อเห็นคนที่ผมถามหาเมื่อหัวค่ำ

“อ้าว...มาตั่งแต่เมื่อไหร่ กำลังคิดถึงอยู่เลย” ผมลุกขึ้นไปกอดกับภีม ก่อนที่ภีมจะหันไปทักทายเพื่อนๆคนอื่น ผมกำลังจะหันไปแนะนำวินให้ภีมรู้จักแต่พอหันไปก้อเห็นว่าวินมองผมกับภีมอยู่ก่อนแล้ว

“ภีม นี่วินเพื่อนเราที่เรียนมาด้วยกัน และเป็นเจ้านายเราในตอนนี้ด้วย เออ วินแล้วนี่ก้อภีม”

ผมยังไม่ทันพูดจบภีมมันก้อรีบแย่งแนะนำตัวเองเสียก่อน

“สวัสดีครับ ผมเป็นแฟนเก่าของรอนครับ” เรียกเสียงฮาได้ทั้งโต๊ะ แต่รู้สึกว่าจะมีคนไม่ฮาอยู่คนนึง  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 03-11-2008 20:21:42
หายไปนานกลับมาแรงซ่ะงั้น

ได้ใจมากภีม

วินมีงอนสะบัดแน่งานนี้


ปล.ไม่งอลกัีนน๊าาาาาาาา นิ่งเตะ ๆ อิ ๆ  :oni2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 03-11-2008 21:35:36
กว่าจะถึงซึ่งทางรักจริง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 03-11-2008 22:51:42
บันว่า มันสนุกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สาดๆเลยอะคับ


แบบว่านั่งอ่านตาไม่กระพริบ เลยอะ


เชื่อมเนื้อเรื่องได้ แบบต่อเนื่องง


แต่เศร้า น้ำตาซึมไปกับความรักได้ หลาย รสชาติ


แต่สงสาร รอนจัง มันจะจบลงตรงไหนเนี้ย


ถ้ามันสวีท กันเรื่องจะจบไหมเพราะตรกงับคอนเซ็ปชื่อเรื่องเลย คิคิ


โอ้ยยมาต่อเยอะๆนะงับ เป็นกำลังใจ :L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 11-11-2008 02:11:10
น้องเพียวค๊าฟฟ ตกไปหน้าสองแล้วเน๊อ...
ลากมันขึ้นมา มาต่อให้บัดนาวค๊าฟฟ  :man1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 11-11-2008 08:08:11
 :t2:งานนี้มีหึง
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 13-11-2008 03:27:14
:m20:  เข้ามาหัวเราะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 13-11-2008 04:10:30
กระโดด :เตะ1: รีบน

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 18-11-2008 18:16:39
:m20:  เข้ามาหัวเราะ

 :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
ซ้ำอีกรอบ ชิ ชิ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 18-11-2008 18:18:34
^
ll
ll
ll
ll
ll
ll
ll

กระซวกรีบนให้ถึงใส่  :laugh:





ตอนที่.16

หลังจากที่ผมแยกกับเพื่อนๆแล้ววินก้อขับรถมาส่งผมที่บ้าน แต่พี่นัทตกลงจะไปกับเพื่อนๆต่อ ผมกับวินเลยกลับกันมาแค่สองคน

ตั่งแต่ออกมาจากโรงเรียนวินเองก้อไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลย จนในที่สุดผมเลยเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน

“นายเป็นอะไรหรือป่าววิน”
เงียบ..............เงียบ.................เงียบ

“ถ้าไม่พูดก้อไม่ต้องมาพูดกันเลยนะ ชอบใช่มั๊ยอยู่แบบเงียบๆแบบนี้อ่ะ”ผมชักเริ่มโมโห

“ไหนนายบอกว่าพี่นัทเป็นรักแรกของนายงัย แล้วนี่อะไร แฟนเก่านายเหรอ แล้วดูท่าว่าเค้าคงอยากจะรีเทินร์กับนายจะแย่แล้วน่ะ” ผมอดขำกับสิ่งที่วินมันเพิ่งพูดออกมา

“อย่าบอกว่าหึงนะไอ้แว่น”

“แล้วมันผิดเหรอถ้าเราจะหึง หรือว่าหวงน่ะ” ผมเจ็บจี๊ดไปที่ใจ

“มันไม่ผิดหรอกถ้าเป็นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้นายเองไม่มีสิทธิ์จะมารู้สึกอะไรแบบนี้แล้วนะวิน นายลืมไปหรือป่าว”

เราทั้งคู่ต่างเงียบกันไปตลอดทาง ไม่มีใครรู้ว่าเวลานี้ทั้งผมและวินเราต่างกำลังคิดอะไรอยู่จนวินขับมาถึงบ้าน

“จะเข้าไปนั่งดื่มอะไรก่อนหรือป่าว”

“เรานึกว่านายจะไม่ชวนแล้วซะอีก”

ผมยิ้มให้วินก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน วินเองก้อไปนั่งเล่นอยู่ที่เก้าอี้ตรงสวนหน้าบ้าน ผมชงชาร้อนมาสองแก้ว อากาศปลายปีค่อนข้างเย็น แม้ว่าจะอยู่ในกรุงเทพ แต่ก้อเป็นชานเมือง

ไอ้โรโบ้มานอนอยู่ข้างๆวินดูท่าว่ามันจะหลงรักผู้ชายคนเดียวกับเจ้าของซะแล้ว

“ตกลงนี่พวกนายจะไปเที่ยวกันเหรอ” วินถามหลังจากที่พวกเรากลุ่มเพื่อนๆของผมกับกลุ่มของพี่นัทตกลงกันว่าจะไปโต้ลมหนาวกันที่ภูกระดึงกัน ก่อนที่ต่างคนจะแยกย้ายไปใช้ชีวิตตามแต่ทางที่ตนเลือก

“อือม์....ไปสิเพื่อนๆไปกันหมด พี่นัทเองก้อไป ยังงัยเราถือโอกาสลางานล่วงหน้าเลยนะ”

“คนที่ชื่อภีมก้อไปด้วยใช่มั๊ย”วินยังถามผมต่อ

“ไปสิ...กลุ่มเราไปกันหมด ทั้งไอ้เจน ไอ้อั้งด้วย อีกอย่างภีมมันก้อเป็นเพื่อนที่เราสนิทมากที่สุด” ผมหันไปมองวินก้อเจอว่าวินมองผมอยู่ก่อนแล้ว

“เราคงห้ามนายไม่ได้สินะ” ผมยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร เราต่างนั่งกันเงียบๆ บางครั้งก้อหันมาพูดคุยกันบ้างจนพี่นัทกลับมา ผมเลยเดินมาส่งวินที่รถ

“ขับรถดีๆนะ หรือว่าจะค้างที่นี่”

“ไม่เป็นไร เราว่าเรากลับไปนอนบ้านดีกว่า ไปแล้วนะไปเที่ยวขอให้สนุก แล้วก้อดูแลตัวเองดีๆล่ะ”

ผมกับวินเราต่างยืนมองกันและกันอยู่สักพักก่อนที่วินจะเข้ามากอดผม
ความรู้สึกมันช่างอ่อนล้าแต่ทว่ากลับสร้างความอบอุ่นให้กับผมได้ในคืนที่เหน็บหนาวเช่นนี้

“ฝันดีนะรอน”

“อือม์....นายเองก้อด้วยนะวิน”
.
.
.
วันนี้ผมมาที่บ้านไผ่เพื่อที่จะชวนไผ่ไปเที่ยวที่ภูกระดึงด้วยกัน ไผ่ลังเลนิดหน่อยแต่ก้อยอมไปกับพวกเรา ผมแนะนำไผ่ให้รู้จักกับพี่นัท ก่อนที่เราจะมารวมตัวกันที่บ้านของพี่บอล

สายๆพวกเราก้อมุ่งหน้าไปจ.เลยกัน ตลอดทางไผ่เองก้อดูจะเข้ากับเพื่อนๆผมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพี่นัทกับภีม ดูจะหยอกไผ่มากเป็นพิเศษ

และมันทำให้ผมเริ่มคิดอะไรบางอย่าง จนในที่สุดพวกเราก้อมาถึงที่ภูกัน ทันทีที่พวกเรามาถึงก้อมีพวกลูกหาบมารุมพวกเรากันใหญ่

พวกเราตกลงให้เค้าช่วยหาบพวกเสบียงกับน้ำขึ้นไป แต่สัมภาระตกลงกันว่าให้แต่ละคนแบกใครแบกมัน เพราะเดี๋ยวมันจะไม่ได้บรรยากาศและรสชาติของการมาเที่ยวที่นี่

ตลอดทางที่เราเดินขึ้นไป ผมเกาะติดอยู่กับพี่นัทและให้ภีมมันไปคอยดูแลไผ่แทน ผมคงดีใจถ้าสองคนนี้จะชอบกัน พวกเราขึ้นมาถึงก้อไปติดต่อเจ้าหน้าที่ และ มาหาที่กางเต็นท์กัน

ไผ่จะนอนเต็นท์เดียวกับผมแต่ผมบอกให้ไปนอนกับภีมเพราะผมจะนอนกับพี่นัท ไผ่ทำหน้างอนๆแต่ก้อ ยอมไปโดยดี

หลังจากจัดแจงเรื่องที่พักกับสัมภาระเรียบร้อย พวกเราก้อมานั่งพักกันโดยที่ตกลงกันว่าจะไม่ไปเดินป่ากันแล้วเพราะเหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน เอาไว้คอยดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักกันดีกว่า แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปทัวร์กัน

เรานั่งคุยกับกินอะไรกันบ้างนอนบ้างจนถึงเย็นเลยต่างพากันไปถ่ายรูปกันที่ผาหล่มสัก

แม้ท้องฟ้าจะยังไม่มืด แต่ผมก้อสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่มาพร้อมกับสายลมยามเมื่อมันกระทบผิวกาย ฟ้าเบื่องหน้าเป็นสีส้มแสด มันเป็นภาพที่สวยงามแต่แฝงไปด้วยความอ้างว้าง

และแม้ว่าในตอนนี้ภาพทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าจะสะกดสายตาผมไว้ด้วยความสวยงาม หากแต่ใจผมกลับคิดถึงใครอีกคนที่อยู่ห่างออกไปแสนไกล

“คิดถึงใครอยู่เหรอรอน” ภีมเดินมายืนข้างๆผม

“คิดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ นานแล้วนะที่ไม่ได้คุยกันแบบนี้ ว่าแต่กลับมาเมืองไทยคราวนี้จะอยู่ยาวหรือว่าจะกลับไปทางโน้นอีก”

“ยังไม่รู้เลยว่ะ เอาไว้ถ้าเราหาที่ของเราเจอเมื่อไหร่ก้อเมื่อนั้น แต่ตอนนี้เรายังอยากวิ่งไปเรื่อยๆก่อนน่ะ แล้วนายล่ะ จะอยู่นี่คนเดียวจริงๆเหรอ ในเมื่อครอบครัวของนายก้อไม่มีใครอยู่แล้วนี่นา”

“เราก้อกำลังคิดนะว่าจะเอายังงัยดี ที่นี่ยังคงมีความทรงจำดีๆ กับเพื่อนฝูงและอีกหลายๆคนที่เรายังตัดใจจากเค้าไม่ได้น่ะ”

“ใครที่ว่าใช่เพื่อนที่นายพาไปที่งานด้วยใช่มั๊ย” ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไร

“ทำไมล่ะในเมื่อเราเองก้อเห็นว่าพวกนายเหมือนจะใจตรงกัน แล้วทำไมต้องตัดใจด้วยล่ะ นายนี่มันจริงๆเลยนะ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหรกับไอ้เรื่องของหัวใจนี่มันดูจะเป็นปัญหาซะทุกครั้งจริงๆ”

ผมเลยตัดสินใจเล่าเรื่องของผมกับวินให้ภีมฟัง

“เราก้อไม่รู้นะกับปัญหาที่พวกนายกำลังเจอกันอยู่ แต่เราบอกได้ว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ ไม่มีใครจะมีความสุขหรอก รอนชีวิตคนเรามันไม่ยาวหรอกนะ อย่ามัวแต่คิดอะไรมากมายเลย”

“แล้วนายล่ะ ที่ผ่านมาเป็นงัยบ้าง” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง

“เราเองก้อเรื่อยๆน่ะ มีแฟนมาตั้งหลายคนแล้ว แต่ไปกันได้ไม่นาน คงเพราะคนที่โน้นเค้าไม่ได้จริงจังกับความรักกันมากเหมือนคนบ้านเรามั๊ง ยิ่งพวกที่เป็นแบบเดียวกับเรายิ่งหาความรักด้วยกันยาก ส่วนใหญ่มักจะคบเพราะความสนุกมากกว่า”

“แล้วที่ผ่านๆมาไม่ใกล้เคียงบ้างเลยเหรอ ทำไมว่ะ ตั้งสเป็คไว้สูงเหรองัย”

“ไม่รู้สิ นายว่าถ้าสเป็คเราเป็นแบบนายมันจะสูงไปมั๊ย” ภีมพูดแล้วหันมามองผม

“ไอ้บ้าไม่ต้องมาแกล้งหยอกกันหรอกน่า" ผมอดขำกับคำพูดที่ภีมมันพูดออกมาไม่ได้ โดยไม่ทันมองให้ดีว่าตอนนั้นสายตาของภีมเป็นงัยบ้าง

"ภีมการลืมใครสักคนนึงนายว่าต้องใช้เวลามากขนาดไหนกันนะ"ผมเหม่อมองออกที่ไปที่ยอดเขาที่ไกลออกไป

"ไม่รู้สิเพราะเรายังไม่เคยลืมใครได้สักคน ยิ่งกลับมาเจอยิ่งลืมไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม"

"ภีม...........นายยังคิดแบบนั้นอีกเหรอ " ผมหันไปมองภีม แต่แป๊บเดี๋ยวมันก้อทำหน้าตลกใส่ผม

"ไม่หรอก เราไม่ได้คิดอะไรแล้วล่ะ เราถึงกล้ากลับมาเจอกันอีกงัย คงเพราะนายเป็นรักครั้งแรกของเรามั๊งมันเลยยังมีภาพของนายอยู่ในความทรงจำ และระหว่างเรามันมีแต่ความทรงจำดีๆ ทุกครั้งที่คิดถึงนายมันเลยมีแต่ความประทับใจและความสุขใจ

เราว่าดีแล้วล่ะที่เราเป็นเพื่อนกันอยู่แบบนี้ เพราะถ้าเราคบกันแล้วไปกันไม่ได้ เราก้อไม่รู้ว่าเราจะกลับมาคบกันได้แบบนี้มั๊ย เพราะแต่ละคนที่เราคบๆมา ถึงปากจะบอกว่ากลับมาเป็นเพื่อนกันได้ แต่ไม่เคยมีคนไหนที่พวกเราจะกลับมาคบกันได้จริงๆสักคน และมันคงน่าเสียดายนะที่คนดีๆจะต้องหายไปจากชีวิตของเรา หรือนายว่างัยรอน”

“เราจะว่ายังงัยนอกจากดีใจที่ได้เจอเพื่อนรักอีกครั้งน่ะสิ” ผมกับภีมเราต่างยิ้มให้กัน ระหว่างนั้นไผ่ก้อเดินมาที่ที่ผมยืนคุยอยู่กับภีม

“พี่รอนมาถ่ายรูปคู่กับผมหน่อยนะครับ ผมยังไม่มีรูปคู่กับพี่รอนเลยอ่ะ” ผมเลยยืนถ่ายรูปกับไผ่สองคน แล้วก้อเรียกภีมมันมาถ่ายกับไผ่บ้าง ก่อนจะหาข้ออ้างแอบหนีมาหาพี่นัท

“กำลังทำอะไรอยู่ห๊ะเราน่ะ” พี่นัทถามผมทันทีที่เรามานั่งกันที่มองพระอาทิตย์กัน

“ทำอะไรเหรอ ไม่เห็นจะรู้เลย”

“อย่านึกว่าพี่จะดูไม่ออกนะ” ผมไม่กล้าเถียงเลยได้แต่เงียบ

“หัวใจคนเรามันบังคับกันได้ด้วยเหรอรอน พี่คิดว่าเราน่าจะเข้าใจได้ดีที่สุดนะ”มันเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอของผม

“ผมก้อแค่อยากเห็นทุกคนมีความสุขแค่นั้นเองนะครับ”

“ความสุขของใครก้อปล่อยให้เค้าไขว่คว้าเอาเองเถอะนะ เราคงไปหาแทนเขาไม่ได้หรอก แต่ที่เราทำได้คืออย่าไปเพิ่มความทุกข์ให้กับเขาอีก” พี่นัทบอกกับผม

“ช่วงที่เราต้องรอวินตอนที่เค้าไปดูงานในตอนนั้นเราเองน่ะรู้สึกแย่แค่ไหนจำได้มั๊ย”อยู่ดีๆพี่นัทก้อถามผมขึ้นมา

“ทำไมครับพี่นัท”

“แล้วเราคิดว่าตอนนี้คนที่เขารอเราอยู่มันมีความสุขเหรอ ยิ่งปล่อยเวลาให้นานออกไปแผลมันจะยิ่งลึกนะรอน” ผมมองไปยังไผ่ที่ยืนอยู่โดยลำพัง เลยตัดสินใจเดินไปหา

“ไอ้ภีมมันไปไหนแล้วล่ะ” ไผ่ไม่ตอบผมเลยเดินไปแตะที่ไหล่เบาๆ

“เป็นอะไร ทำมัยเงียบไปล่ะ” ไผ่หันกลับมามองผม แต่แววตาของไผ่มันทำให้ผมรู้สึกผิดเหลือเกิน

“พี่รอนกำลังทำอะไรอยู่ครับ ที่ชวนผมมาเพราะอะไรพี่ ความรู้สึกของผมมันดูไร้ค่าขนาดนี้เลยเหรอ พี่ถึงได้เที่ยวโยนมันไปให้ใครต่อใคร ถ้าพี่ไม่เห็นค่าหรือว่าต้องการมัน ก้อเอามันมาคืนให้ผมเถอะนะ แต่อย่าทำกับกับหัวใจของผมแบบนี้”

ถึงแม้ว่าในตอนนี้แสงจากท้องฟ้ามันใกล้จะล้าลับไปแล้ว แต่ผมก้อรู้ได้ว่าคนตรงหน้ากำลังเสียใจแค่ไหนและพยายามกลั้นน้ำตาไว้ยากเพียงไร

“พี่ขอโทษนะไผ่ พี่เพียงแค่อยากเห็นนายมีความสุข อยากเห็นทุกๆคนมีความสุขก่อนที่พี่จะไป”

“พี่รอนจะไปไหนเหรอครับ หรือว่าจะกลับไปอยู่กับแม่ของพี่”ไผ่ดูตกใจมากที่ผมบอกออกไปแบบนั้น

“พี่ยังไม่แน่ใจ แต่พี่อยากไปไหนไกลๆสักพักน่ะ เมื่อพี่หายเหนื่อยแล้วพี่ก้อจะกลับมา แล้วอีกอย่างนะ ความรู้สึกของนายมันมีค่ามากสำหรับพี่ มีค่ามากซะจนพี่ไม่กล้าจะให้นายต้องเจ็บปวด ถ้าเมื่อถึงวันนึงที่พี่จะจากไป”

“ผมทำใจไว้แล้วล่ะตั้งแต่วันที่ผมเห็นพี่พาพี่เค้าไปที่ร้านวันนั้นผมก้อรู้แล้วว่าเส้นทางของผมกับพี่มันคงต้องจบลงแล้ว ความรักของผม มันเกิด และเติบโตอยู่ภายในใจของผมเองฝ่ายเดียว แต่ผมเองก้อยังหลอกตัวเองมาตลอด หวังถึงโอกาสที่มันคงจะไม่มีทางเกิดขึ้นสักครั้ง”

ผมเดินเข้าไปหาไผ่เมื่อฟังไผ่พูดจบ และจับมือของไผ่มาบีบเบาๆ แต่ไผ่กลับดึงผมเข้าไปกอด

“ทำไมนะ อ้อมกอดของผมถึงไม่เคยอบอุ่นพอสำหรับพี่เลย ทั้งๆที่อ้อมกอดของพี่อบอุ่นเสมอสำหรับผม”


ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นบนไหล่ ความอุ่นที่เกิดจากหยดน้ำที่ใครๆก้อเรียกมันว่าน้ำตาของลูกผู้ชาย


วันนี้เป็นวันที่พวกเรากำลงัจะกลับกันแล้ว ผมไปเดินเล่นกับพวกเพื่อนๆในกลุ่มของผม พอกลับมาก้อเห็นว่าไผ่กำลังยืนคุยอยู่กับพี่นัทอยู่ ผมเลยเดินเข้าไปหาทั้งสองคน
“คุยอะไรกันอยู่ครับพี่นัท”

“ก้อคุยกันไปเรื่อยๆน่ะ ว่าแต่เราเถอะไปไหนมาแต่เช้า”

“ไปดูหมอกมา เลยอยู่ดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย ว่าจะปลุกแล้วล่ะแต่เห็นกำลังนอนอยู่เพราะเมื่อคืนก้อเห็นว่าอยู่ดึก เลย
ไม่ได้ชวน” ผมหันมามองไผ่

“แล้วทำไมไม่ไปกับพวกพี่ล่ะ เห็นภีมบอกว่าเราไม่อยากไป”

“ขี้เกียจนะครับ หนาวด้วยเมื่อเช้าตอนที่พี่ภีมปลุกกำลังอุ่นๆได้ที่เลยฮะ” ไผ่ตอบยิ้มๆ

“งั้นเราคุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปชงกาแฟมาให้” พี่นัทเดินไป ผมเลยหันมามองไผ่อีกครั้ง

“สบายใจมั๊ยที่ได้คุยกับพี่นัท รู้ไหมพี่นัทน่ะมักมีคำดีๆมาให้เราคิดได้เสมอเลยนะ”

“ผมรู้แล้วล่ะว่าทำไมพี่รอนถึงติดพี่นัทนัก ถ้าผมมีพี่ชายดีๆแบบนี้ผมเองก้อคงจะติดเหมือนกัน”

“เราก้อมีนะ พี่นี่งัย พี่พร้อมจะเป็นพี่ชายที่ดีให้กับเราเสมอ”ไผ่หันมามองผมหลังจากฟังที่ผมพูดจบ

“ผมดีใจนะครับที่อย่างน้อยๆ พี่ก้อยังอยู่ข้างผม มันอาจจะต้องใช้เวลาสักพักนะครับ แต่ผมจะพยายาม”

ผมก้อไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กว่าที่แผลในใจของไผ่ครั่งนี้จะจางหาย แต่เมื่อไหร่ที่มันหายสนิท เมื่อนั้นไผ่จะโตขึ้นเป็นและผมมั่นใจว่าไผ่จะเป็นผู้ชายที่น่ารัก และดีพร้อมคนนึ่งแน่นอน
.
.
.
“ว่างัยครับหนุ่มๆ อ่ะรอนกาแฟ ส่วนของไผ่ พี่ชงไว้ให้แล้วนะ แต่ถือมาไม่หมด ไผ่ไปเอาได้ที่แคมป์นะ” พี่นัทเดินมาพร้อมกับกาแฟอุ่นๆสองแก้ว

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 18-11-2008 18:33:47
อิ อิ พี่นัท ยังคงเป็นที่ชายที่แสนดีสม่ำเสมอเน่อะ อยากได้มั่งจังแฮ่ะ


แต่อย่างเจ้าเพียวนี่ต้องกระซวกเข้าให้ ชิ ชิ รอให้อยากตั้งนาน :sad4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 18-11-2008 22:06:44
พี่นัทน่ารักที่ซู้ดดดดดดดด  :impress2:
เอาใจช่วยรอนกะวิน รวมทั้งภีมและไผ่ด้วยยยย
 :L1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 18-11-2008 22:35:33
ขอเป็นแฟนพี่นัทได้ป่ะ

ห้า ห้า ห้า
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 18-11-2008 23:10:36
เขียนได้ลึกและซึ้งๆๆๆมาก
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: moonoi_sert ที่ 19-11-2008 01:48:53
 :m15:ทำไมนะคนที่เรารักเขาถึงไม่เข้าใจในความรักที่เรามีให้เขา เราทำเพื่อเขา มาเพราะเขา แต่เขากลบคิดว่าเรามาเพราะอีกคนหนึ่ง นี่แหละความรักมักจะเล่นตลกกับเราเสมอ ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าเรารักเขา ทุกสิ่งที่เราทำก็ทำเพื่อเขาคนเดียว :m15:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 19-11-2008 01:57:16
:m1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (มาลุ้นกันว่า เค้าทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันมั๊ย)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 20-11-2008 11:18:22
 :L3:


น้องเพียว

อย่าลืมนะคับ

55555555
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 20-11-2008 17:01:51
อะไรยังไงคับ รีบน  :a14:








ปล.ขอโทษคับ   เนื้อเรื่องมันหายไปนิดนึงอ่ะ  แก้ให้แล้วคับ   แต่สงสัยมันเกินมั้ง


เอามาเพิ่มตรงนี้ละกันนนน



“ขอบคุณครับพี่นัท....งั้นผมขอตัวก่อนนะครับพี่รอน” ไผ่เดินกลับไปที่กางเต็นท์ของพวกเรา

“ขอบคุณนะครับพี่นัท” ผมยิ้มให้พี่นัท ผมรู้ว่าพี่นัทคงจะรู้ที่ผมพูดขอบคุณนั้น มันรวมถึงเรื่องของไผ่ด้วยนอกจากกาแฟอุ่นๆแก้วนี้

“ด้วยความเต็มใจครับ”

พี่นัทยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับผม ผมรู้สึกว่าพี่นัทในเช้านี้น่ารักกว่าทุกวัน ผมมองดูคนแถวนั้นเห็นว่าไม่มีใครเลยแอบหอมแก้มแกไปหนึ่งที

“อ๊ะ อ๊ะ มาหอมแก้มพี่แบบนี้ต้องรับผิดชอบด้วยนะ”

“ก้อพี่นัทอยากน่ารักทำไมล่ะครับ” พี่นัทเอาคืนโดยก้มมาจูบที่หัวของผมเบาๆ

“ไม่ได้สระผมมากี่วันแล้วอ่ะ เหม็นจัง” เราสองคนหัวเราะออกมาดังๆพร้อมกันสองคน

“หัวเราะได้แล้วสินะ มันสบายใจกว่าร้องไห้มั๊ย ร้องไห้มันอาจทำได้ง่ายกว่า แต่มันไม่สบายใจเท่าหัวเราะหรอกนะ”

“ขอบคุณนะครับ พี่นัท”

“เวลามีพอสำหรับความสุขเสมอนะรอน จำเอาไว้ ชีวิตของคนเราใช่จะอ้างว้าง ถ้าในหัวใจมีรักแท้ ตอนนี้เราอาจจะยังไม่สมหวัง แต่ถ้าคนสองคนใจตรงกัน ไม่นานก้อต้องมีวันนั้น

พี่อยากให้เรานึกถึงหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่เคยเดินผ่านด้วยกันมา แล้วคิดให้ดี อย่าให้การก้าวเดินที่ผ่านมาของชีวิตมันสูญเปล่า แล้วเมื่อถึงตอนนั้นพี่ว่าราเองจะเข้าใจ”

ผมมองทุกๆอย่างรอบๆตัว เห็นเพื่อนๆกำลังสนุกสนาน แล้วก้อมีพี่นัทอยู่ข้างๆ วันนี้นับเป็นอีกวันที่มันจะตราตรึงอยู่ในใจของผม

วันที่บรรยากาศรอบๆตัวของผมมันอบอวนไปด้วยความสนุก ความอบอุ่น แม้เช้านี้อากาศที่ภูจะหนาว แต่ผมกลับไม่หนาวเท่าไหร่ เพราะผมมีภูมิคุ้มกันความหนาวแล้ว ภูมิคุ้มกันที่ทุกคนเหล่านี้ต่างมอบให้


หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 20-11-2008 20:49:37
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:เหนื่อยใจกับความรัก  แต่เรา :L3:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 21-11-2008 23:51:33
^
^
^
^
^เครียดจนเปนบ้าฮาฮาฮาฮาฮา เรื่องเศร้าทำให้เราเปนบ้า
 :oo1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 29-11-2008 19:31:51
 :z3:
หายไปนานละน๊า...ใกล้จบแล้วมาลงต่อเร็ว ๆๆๆๆๆๆ  
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 30-11-2008 02:26:00
:m16: :m16: :m16: :m16:

คนโพสต์คับคนโพสต์
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 30-11-2008 17:32:53
คนโพสต์อยากจะบ้าตายยยยยยยยยยยยยยย :serius2:


 :o12:ฮาร์ดดิสเจ๊ง  ดีนะยังไม่หมดประกัน  เด๋วต้องกู้ข้อมูลก่อนนนน  แล้วค่อยส่งเคลม


เซรงมากมายยย   ถ้าข้อมูลหายไปนะ  จะเอาระเบิดไปถล่มร้านมานนนนนนนนน :angry2:





นี่เพื่อนเอาคอมมาให้ซ่อม  ก็เลยแอบเข้ามาแจ้งข่าวก่อนน   คิดว่าไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้อ่ะจะลงนะคร๊าบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 02-12-2008 21:10:46
มาแล้วค๊าบบบบบบ   พอดีไปหยิบเอา Handy Drive ตัวเก่ามาเปิด  เลยเจอไฟล์


ก็เลยเอามาลงให้ค๊าบบบบบบบบ     ต้องขอโทษเกือบทุกคนด้วยที่หายไปนานเลย


มาต่อกันเลยดีกว่าคับ  ใกล้ถึงเวลานั้นแล้วววววววว




ตอนที่.17
เรากลับมาถึงกรุงเทพก้อเย็นแล้ว เลยตกลงว่าจะอยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน แต่ไผ่ขอตัวกลับเลย ผมเลยมาส่งไผ่ที่บ้าน

ยายของไผ่ชวนผมอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน ผมเลยอยู่จนค่ำ จึงได้ขอตัวกลับ ไผ่ยังคงเดินมาส่งผมเหมือนทุกๆครั้ง

“พี่กลับแล้วนะ แล้วถ้าพี่จะไปวันไหนพี่จะบอกอีกทีแล้วกันนะ”

“สรุปว่าพี่รอนจะไปแน่ๆใช่มั๊ยครับ” ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้กับไผ่ แต่ขณะผมกำลังจะขึ้นรถไผ่ก้อเรียกผมไว้

“พี่รอน ผมรักพี่นะ แต่ผมคงไม่รอพี่แล้วล่ะครับ โชคดีนะฮะ”
.
.
.
หลังจากที่ผมกลับมาจากเที่ยวกับเพื่อนๆ ก้อกลับมาทำงานตามเดิม พี่นัทกลับไปเมื่อวาน ก่อนไปสั่งอะไรผมเยอะแยะไปหมด แต่ผมก้อบอกแล้วว่า ผมจะตามไปหลังปีใหม่แน่นอนขอเวลาจัดการอะไรให้เรียบร้อยเสียก่อน

วันนี้ผมมาทำงานเป็นวันแรกหลังจากที่ลาหยุดไปหลายวัน แค่ก้าวเข้ามาในบริษัท บรรยากาศก้อดูแปลกๆ ผมเดินเอาของฝากมาให้กับพี่ๆในออฟฟิต ก่อนจะเดินมาหาวินมันที่ห้อง ทันทีที่พี่แตง เลขาหน้าห้องเห็นผม ก้อดูเหมือนจะดีใจมากเป็นพิเศษ

“กลับมาแล้วหรือค่ะน้องรอน”

“ครับพี่แตง นี่ของฝากครับ ว่าแต่ทำมัยบรรยากาศมันแม่งๆนะผมว่า” ผมทักทายพลางเอาของฝากยื่นให้แก

“ก้อคุณวินน่ะสิค่ะ ไม่รู้เป็นอะไรอารมณ์เสียมาหลายวันแล้วค่ะ พี่ล่ะเข้าหน้าไม่ติดเลย” ผมยิ้มเมื่อฟังพี่แตงเล่าถึงที่มาของบรรยากาศแปลกๆแบบนี้

“ตอนนี้เจ้านายตัวดีของพี่อยู่ในห้องหรือเปล่าครับ”

“อยู่ค่ะ สงสัยเมื่อคืนจะนอนออฟฟิตค่ะ เพราะเห็นใส่เสื้อชุดเดิม”

ผมยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง พอผมเข้ามาก้อเห็นคนขี้โมโหนอนหลับหมดสภาพตรงเตียงนอนในห้องพักผ่อนส่วนตัวด้านใน ผมเดินไปหยุดยืนดูวินสักพัก ท่าทางจะเหนื่อยมากขนาดนอนยังทำหน้าเครียดขนาดนี้

ผมค่อยๆเอื้อมมือไปถอดแว่นให้วินช้าๆ แต่คนตรงหน้ากลับรู้สึกตัวเสียก่อน

“รอน!!!!!!! กลับมาแล้วเหรอ ทำไมไปกันตั้งหลายวัน” วินดึงผมลงไปนอนกลิ้งกันอยู่บนเตียง

“ไอ้บ้าวิน ปล่อยก่อนเสื้อยับหมดแล้ว”

“ขอกอดให้หายคิดถึงหน่อยสิ ไม่เห็นหน้าตั้งหลายวัน ไม่รู้ไปพลาดท่าเสียทีถ่านไฟเก่าบ้างหรือเปล่า”ผมหัวเราะกับคำพูดของวินแต่ก้อปล่อยให้มันกอดอยู่อย่างนั้น

“พอยัง อึดอัดนะเนี้ย” ผมท้วงหลังจากที่วินมันกอดผมอยู่พักใหญ่

“อีกนิดนะรอนนะ” ผมตบหัวมันไปทีนึง

“อะไรแค่ไปไม่กี่วันนายยังเป็นถึงขนาดนี้ ลูกน้องเข้าหน้าไม่ติดสักคน แล้วถ้าต่อไปเราไปอยู่กับแม่นายไม่ตายเหรอนี่” วินหยุดการแกล้งผมทันที ก่อนจะผละออกจากตัวผม

“นายจะไปจริงๆเหรอ” เราต่างมองหน้ากันแบบจริงจังเป็นครั้งแรกตั่งแต่ผมเดินเข้ามาในห้องวันนี้

“อือม์...เราตัดสินใจแล้ว เราว่าลงไปดื่มกาแฟกันข้างล่างเถอะ ดูนายเหนื่อยๆ จะได้คุยกันด้วยงัย” วินยอมเดินลงมากับผมแต่โดยดี หลังจากที่เราหามุมดีๆกับสั่งกาแฟแล้ว ผมกับวินเราเลยมานั่งคุยกัน

“ไม่ไปไม่ได้เหรอ”วินถามผมทันที

“เราต้องไปจริงๆ เพราะพี่นัทจะหมั้นด้วย อีกอย่างเราขอเวลาพัก คิดอะไรนิดหน่อยนะ เรากำลังสับสนน่ะ ก่อนนายไปนายมาบอกให้เรากลับมาเป็นเพื่อนกัน แต่หลังจากกลับมาท่าทีของนายมันเหมือนกับอยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนก่อน เราเลยงงน่ะ นะวิน”

“เราผิดเองแหละที่ไม่เข้มแข็งพอ แต่ตอนนี้เรารู้ใจตัวเราเองแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าไปเลยนะรอน เราขอร้อง”

“ถ้านายรักเราจริง นายต้องให้เราไปสิ เราอยู่ที่นี่ตอนนี้ก้อเหนื่อยใจและเสียใจ แต่ไม่ว่าจะยังงัยวันนึง เราจะกลับมา”

วินไม่ได้ตอบอะไรเรากินกาแฟเสร็จต่างฝ่ายต่างก้อแยกย้ายกันไปทำงานของตน จนเลิกงานผมเลยตั้งใจว่าจะแวะไปที่บ้านของวินสักหน่อย อยากจะไปบอกลุงกิตติด้วยว่าผมจะขอไปอยู่ที่สิงค์โปร์สักพัก แต่วินเลยยังไม่เสร็จงานผมเลยมาที่บ้านก่อน

“อ้าว...รอนมายังงัยลูกแล้วเพื่อนเราทำไมยังไม่กลับล่ะ” ลุงแกทักผมหลังจากที่ผมเดินไปสวัสดี ลุงกิติในวันนี้ผอมลงไปมาก

“วินมันยังไม่เสร็จงานนะครับ พอดีผมอยากมาคุยกับลุงก่อนน่ะครับ” ผมเดินลงไปนั่งใกล้

“มีอะไรหรือเปล่าลูก” ผมลังเลสักพักก่อนจะเอ่ยออกไป

“ลุงครับ หลังปีใหม่ผมจะไปสิงค์โปร์แล้วนะครับ” ลุงกิติดูตกใจที่ได้ยิน ถึงจะไม่มากแต่ก้อพอจับได้อยู่ดี

“ทำไมล่ะ ทะเลาะกับวินมันหรือเปล่า”

“เปล่าครับ แค่คิดถึงแม่กับคนที่เหลือน่ะครับ อีกอย่างพี่นัทก้อจะมีข่าวดีด้วยครับ”

“แค่ไปเยี่ยมแล้วกลับมาต่อไม่ได้เหรอลูก” ผมยิ้มให้กับลุงกิติ

“ทำไมล่ะครับลุง ผมกับวินเราอยู่ไกลกันลุงน่าจะดีใจนะครับ” ผมอดจะประชดแกไม่ได้ เพราะแกเองก้อค้านพวกเรามาตลอด

“ลุงขอโทษนะรอน เพราะลุงจริงๆสินะ เราถึงต้องไป”

“ขอโทษครับผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ผมจะหมายถึงว่ามันจะเป็นการดีกับวินเท่านั้นในการที่วินจะมีชีวิตในแบบลุงต้องการ”

แกไม่ได้พูดอะไร ผมนั่งคุยกับแกจนวินกลับมา วันนั้นเป็นการกินข้าวที่ผมแสนจะอึดอัด เราต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนผมเอ่ยลาขอตัวกลับ วินเลยออกมาส่ง

“อย่าคิดมากน่ะ พ่อก้อเป็นแบบนี้แหละ นายอยากทำอะไรก้อทำเถอะถ้ามันเป็นความสุข”

“ขอบใจที่เข้าใจเรานะ” ผมกำลังจะเดินกลับ แต่นึกเปลี่ยนใจหันมาหาวิน

“วิน หลังปีใหม่เราขึ้นไปเชียงใหม่กันมั๊ย อยากไปลาปู่กับย่าด้วย แล้วก้อจะได้ไปบอกพวกเพื่อนๆด้วย อีกอย่างเราอยากไปย้อนวันเวลาดีๆด้วยกันก่อนไปน่ะ” วินยิ้มให้ผม

“ไปสิ เราก้ออยากไปเหมือนกัน นึกอยากชวนนายไปหลายครั้งแล้ว คิดถึงไร่ส้มของพ่อนายชะมัด”

.
.
.
.
บรรยากาศในวันปีใหม่ค่อนข้างจะคึกคัก วันนี้วินจองที่นั่งที่ร้านอาหารบนตึกที่สูงที่สุดย่านประตูน้ำ

ที่นี่จะมองลงไปเห็นผู้คนที่ต่างมาสนุกสนานกับงานฉลองปีใหม่ได้ชัดเจน ลุงกิติก้อมาด้วยเพราะมันเป็นความตั้งใจของแกที่อยากฉลองปีใหม่กับพวกเราพร้อมหน้า ญาติของวินหลายคนก้อมานั่งกับพวกเราด้วย

ลุงกิตติดูมีความสุขที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ผมพยายามตัดเรื่องที่กำลังกลุ้มใจเพราะว่า มันก้อหมายความว่ามันใกล้ที่จะถึงวันที่ผมจะต้องไปจากวินอีกครั้งแล้ว วินเองก้อดูจะพยายามที่จะไม่คิดอะไรมาก

จนถึงช่วงที่นับถอยหลัง เรามายืนมองดูผู้คนที่อยู่เบื้องล่าง มันคงจะน่าสนุกถ้าได้ลงไปอยู่ข่างล่างนั่น ทันทีที่การนับถอยหลังบ่งบอกว่าเข้าสู่ปีใหม่ พลุมากมายก้อถูกจุดขึ้นสู่ท้องฟ้า มันเป็นภาพที่ผมประทับไม่รู้ลืมอีกภาพหนึ่ง

“สวีสดีปีใหม่นะวิน”

“สวัสดีปีใหม่เช่นกันรอน” เราต่างหันมาสบตากัน ทั้งผมและวินเราต่างรู้ดีว่าในแววตาของเรานั้นมีบางสิ่งที่ไม่ได้บอกเป็นคำพูดที่กำลังสื่อถึงกันอยู่

“แล้วเรื่องจะไปเชียงใหม่นี่จะเอางัย ขึ้นไปพรุ่งนี้เลยมั๊ย ไหนๆบริษัทก้อปิดอยู่แล้ว”

“เอาสิ แล้วแต่ว่านายสะดวกแล้วกัน ตอนนี้เราว่างงานแล้วนี่นา”

ผมยิ้มให้กับวิน ลุงกิติเองก้อรู้ว่าพวกเราจะขึ้นไปเชียงใหม่กัน เพราะวินบอกไว้นานแล้ว อีกอย่างช่วงนี้ญาติของวินก้อมาอยู่เป็นเพื่อนลุงกิติด้วยช่วงที่วินไม่อยู่

พอเช้ามาพวกเราเลยเดินทางมาเชียงใหม่กันทันที ระหว่างที่เราอยู่บนเครื่องวินก้อหันมาสั่งผม

“รอนเอาที่ปิดตาที่เค้าให้ติดตัวไปด้วยนะ”

“ไอ้บ้า เอาไปทำไม”

“เอาน่าบอกให้เอาไปก้อเอาไปเถอะ”
เมื่อมาถึงเราก้อมาพักที่ห้องของวิน เพราะวินซื้อไว้ไม่เหมือนผมที่แค่เช่าเท่านั้น ทันทีที่เรามาถึงเชียงใหม่ ลมหนาวก้อพัดพาเราย้อนเวลากลับไปในวันเก่าๆอีกครั้ง

“คิดถึงที่นี่จังเลยนะ” วินพูดออกมาหลังจากที่เรามาถึงห้องของวินแล้ว ตอนนี้วินออกไปยืนที่ระเบียง ผมเดินตามออกไปยืนข้างๆ วินเลยดึงผมไปกอดไว้

“สองสามวันนี้เราจะกลับไปเป็นวินกับรอน คู่รักกันเหมือนเดิมนะ” วินเอาคางมาเกยกับไหล่ของผม

“อือม์ งั้นวันนี้เราจะไปไหนกันดีล่ะ”

“นายอยากไปไหนล่ะ จะขึ้นไปที่ไร่เลยมั๊ย”วินถามในขณะที่ยังกอดผมอยู่

“ยังหรอก อยากไปเที่ยวในที่ที่เคยไปเมื่อก่อนน่ะ คิดถึงเหมือนกัน อยากรู้ว่ามันจะเปลี่ยนไปมั๊ย”

วินกับผมเรามาใช้บริการเช้ารถของทางคอนโด เมื่อเราขึ้นมานั่งกันในรถ วินก้อสั่งให้ผมเอาที่ปิดตามาใส่

“ทำไมว่ะ จะให้ใส่ทำไม”

“เอ่าน่า เราอยากพานายไปที่ที่นึง” ผมระอากับความคิดของวินมัน แต่ก้อยอมปิดแต่โดยดี ตลอดทางวินมันก้อย้ำว่าอย่าแอบดูเด็ดขาด จนมาถึงวินก้อมาเปิดประตูรถแล้วจูงผมเดิน

“นายลองทายสิว่าเราพานายมาที่ไหน ไม่ต้องเปิดตานะ เราจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับที่นี่ให้ฟัง”

ผมยิ้มขำๆ นึกสนุกไปกับวิน ตอนนี้มันเหมือนว่าเรากำลังย้อนไปเป็นเด็กๆกันอีกครั้ง

“ที่นี่เราเคยมาลอยโคมด้วยกัน มันเป็นที่ที่เราได้พูดบางอย่างที่ทำร้ายนายไป และมันก้อทำให้เรากับนายต้องห่างเหินกัน รู้มั๊ยว่าตอนนั้นเราเสียใจมาก ถึงแม้จะรู้ใจแต่ก้อไม่กล้ายอมรับว่าเรารักนาย”

ตลอดทางเดินที่วินเล่า ภาพเหล่านั้นก้อสว่างอยู่ในใจของผม วินเดินจับมือผมเดินไปเรื่อยๆเราต่างค่อยๆซึมซับกับบรรยากาศเก่าๆ ผมสูดอากาศให้เต็มปอดอีกครั้ง ก่อนวินจะหันมาถาม

“รอนนายรู้มั๊ยว่าที่นี่ที่ไหน”

“รู้สิ ที่นี่มันทำให้เราปวดใจเมื่อได้ยินนายบอกว่าได้ตกหลุมรักน้องลิน และมันทำให้เราต้องจำใจห่างนายทั้งๆที่ไม่อยาก อ่างแก้วใช่มั๊ย”

“ถูกต้องนะครับ งั้นรับรางวัลไปเลยครับ” ทันทีที่วินพูดจบก้อรู้ได้ถึงริมฝีปากอุ่นทาบทับลงมาที่ปากของผม วินเปิดที่ปิดตาให้ผม ตอนนี้ผมยืนอยู่ที่อ่างแก้วจริงๆ ที่นี่ยังคงสวยงามไม่เปลี่ยนแปลง

“งั้นนายปิดตาบ้าง เราจะพานายไปที่อื่นบ้าง” ผมบอกกับวินหลังจากที่เราเดินกันสักพัก ผมเป็นฝ่ายขับรถพาวินมายังที่แห่งนึงก่อนจะพาวินเดินมาหยุดยืนมองดูตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ที่มองเห็นตัวเมืองได้ทั่ว และลมที่นี่เย็นมาก

“วินที่นี่นายเคยมากับเรา เรามากันบ่อยนะ นายเคยบอกเราว่าเคยมาขอพรให้ได้อยู่ข้างๆเราตลอดไป เราดีใจ และเคยขอพรแบบนั้นให้นายเหมือนกัน รู้มั๊ยว่าที่ไหน”

ผมถามวิน วินหันมายิ้มๆก่อนจะตอบ

“ทางขึ้นไปดอยสุเทพใช่มั๊ยลมแรงๆแบบนี้” ผมเปิดตาให้วิน

“เย้..ถูกจริงๆด้วย ไหนล่ะรางวัล”

ผมทำหน้าเซ็งๆแต่ก้อยื่นหน้าไปหอมแก้มวิน หลังจากนั้น เราต่างสนุกโดยการไปที่ต่างๆในอดีต และต่างก้อได้รู้ถึงความรู้สึกของแต่ละคนในอดีตที่ไม่เคยรู้มาก่อน

ทั้งที่มหาลัย สวนสัตว์ เราต่างพากันไปหลายที่จนเย็น จึงโทรนัดเพื่อนๆมาฉลองกันที่ร้านหลังคอนโด ร้านที่เราฉลองเรียนจบกัน

คืนนี้เราอยู่กันเกือบครบทีม ขาดไปบ้างบางคน และน้องลินที่ลงไปฉลองกับที่บ้าน โอ๊ต ดีใจที่เห็นหน้าของวิน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่มันก้อเศร้าอีกเมื่อผมบอกว่าจะเป็นฝ่ายเดินทางบ้าง

“ทำไมพวกมึงต้องสวนกันไปสวนกันมาด้วยว่ะไอ้วิน” โอ๊ตถามกับพวกผม ซึ่งผมเองก้อไม่มีคำตอบให้โอ๊ตในคืนนั้น และผมเองก้ออยากรู้คำตอบเหลือเกินว่าเพราะอะไร

.
.
.
เช้านี้ผมกับวินเรามาที่ไร่กัน ผมเอาของฝากมาสวัสดีปู่กับย่าและญาติๆที่เหลือ พร้อมกับบอกข่าวการเดินทางของผม คนที่นี่ไม่มีใครอยากให้ผมไป แต่ก้อไม่คัดค้านปล่อยให้ผมเป็นคนตัดสินใจ ผมกับวินเราขี่รถมายังฝายที่ประจำของพวกเรา

“นายว่ามันยังเหมือนเดิมมั๊ย” วินถามเมื่อเรามานั่งเล่นกันที่นี่

“คล้ายเดิมนะ แต่ไม่มีอะไรที่มันเหมือนเดิมหรอกเมื่อเวลามันผ่านไป”ผมตอบวิน

“เราก้อว่าจริงนะ ความรู้สึกของเราที่มีให้นายยังไม่เหมือนเดิมเลย แค่คล้ายๆ” วินบอกกับผม ผมหันไปถาม

“มันคล้ายยังงัย”

“ก้อยังคงรักนาย แต่มันมากกว่าเดิม กว่าเมื่อก่อน ยิ่งตอนนี้นายกำลังจะเป็นฝ่ายไป เรายิ่งรักนายมากขึ้นน่ะ”วินหันมาตอบ

“งั้นเราก้อคงคล้ายเดิมเหมือนของนายด้วย”

เรายิ้มให้กัน ก่อนจะกลับหลังจากที่นั่งกันอยู่จนเกือบเย็น
เมื่อเราขี่รถกลับมาถึงไร่วินก้อชวนเดินไปบนเนินกลางไร่ ที่ที่วินเคยบอกลาผม เราเดินกันขึ้นมาเรื่อยๆ แต่วันนี้ผมเองกลับเป็นฝ่ายจะต้องลาไปจากวิน

“รอนรู้มั๊ยทำมั๊ยวันนั้นเราถึงบอกให้นายเลิกคิดรื่องของเรา” วินหั
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: kamui1972 ที่ 02-12-2008 21:37:42
ขอบคุณครับ ที่มาต่อเรื่องให้ :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 02-12-2008 21:41:45
จะว่าเศร้ามันก็ไม่เศร้าน่ะ แต่มัน..ไงดีล่ะ คือรู้ว่าทั้งสองคนยังรักกัน แต่ห่างกันด้วยเหตุผลที่รับได้อ่ะ

ยังไงก้อรักรอนไม่เปลี่ยน  :-[

แต่ว่าจะได้ไปแน่เหร๊อ พ่อวินออกจาแผนสูงขนาดนั้น :-[
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 02-12-2008 23:03:21
 :sad4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 02-12-2008 23:07:05
 :m15:
เอาใจช่วยวินกับรอนให้ได้กลับมารักกันอีกครั้ง...

ปล. มี service ตามแฟน ๆ นิยายด้วย น่ารักจัง
+1 ให้กับบริการดี ๆ ที่ไม่มีใครเหมือน... :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 02-12-2008 23:44:15
เอาใจมาช่วย
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nirun4 ที่ 02-12-2008 23:57:14
 :sad4: มาต่อเร็ว ๆ นะครับ  :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 03-12-2008 11:12:54
 :pig4:ที่มาต่อให้นะค่ะ :L2:



หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 03-12-2008 22:42:10
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

น้ำตาไหลทำไมเศร้าจัง

มีแต่น้ำตาไหลท่วมจอ แงๆๆ

รักกันตลอดไปเทิด :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 04-12-2008 00:11:17
เอามาให้อีกตอนค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ


วันนี้ไปลองถ่ายรูปกะต้นคริสมาสต์มาด้วยหล่ะ   ซ้อมไว้วันจิง  :jul3:



ตอนที่.18
หลังจากที่ป้าของวินโทรมาบอกพวกเราก้อรีบกลับกรุงเทพมาโดยเร็วที่สุด เรามาถึงโรงพยาบาลก้อเจอกับป้าของวินที่รออยู่ก่อนแล้ว

“พ่อเป็นงัยบ้างครับ” วินรีบเข้าไปถามอาการจากป้าของวินทันที

“ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนนี้รอดูอาการอยู่ในห้องไอซียูน่ะลูก เดี๋ยวงัยหนูไปคุยกับหมอเค้าก่อนนะเห็นว่าเค้าอยากคุยกับญาติคนป่วย”

ป้าบอกกับวิน ผมเลยเดินไปเป็นเพื่อนวิน ในตอนนี้ผมคิดว่าวินคงต้องการกำลังใจจากผมแน่ๆ เราเดินมาพบกับคุณหมอเจ้าของไข้ของลุงกิติ ก่อนจะเข้าไปนั่งฟังถึงอาการของลุง

“พ่อผมเป็นงัยบ้างบ้างครับหมอ” วินถามทันทีที่เราเจอหน้าของหมอท่านนี้

“คือต้องบอกว่า ตอนนี้ตัวร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอมากแล้ว เราคงผ่าตัด ทำบายพาสให้ไม่ได้แล้ว เพราะเกรงว่าจะมีผลกับร่างกาย และการวางยา คงต้องทำวิธีอื่นแทน และอยากจะให้เตรียมใจกันไว้ด้วยนะครับ ถ้าท่านฟื้นขึ้นมาแล้วอาจจะอยู่กับคุณได้ไม่นาน”

ผมหันไปมองวินและเห็นว่าวินเองดูเหมือนจะช็อคไปหลังจากฟังหมอพูดจบ

“ทำไมมันถึงกลับมาแย่เร็วนักล่ะครับ ทั้งๆที่เพิ่งผ่าตัดไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง” วินยังคงถามหมออยู่

“ตามประวัติ คนไข้ไม่ได้เข้ารับการผ่าตัดนะครับ คนไข้เลี่ยงที่จะเข้ารับการผ่าตัด”

“ไม่จริงนะครับ เมื่อปีที่แล้วพ่อรับปากว่าจะผ่าตัดนี่นา แล้วผมก้อเห็นว่าพ่อเดินทางไปอเมริกาด้วยเพราะติดต่อกับทีมหมอทางโน้นไว้” วินหันมาหาผม

“รอนเมื่อปีที่แล้วพ่อได้ไปอเมริกาบ้างมั๊ย” ผมนึกสักครู่ก่อนจะตอบวินไป

“ไปสิ แต่เห็นว่าไปทำธุระเรื่องงานนะ”

ผมเห็นวินกำหมัดแน่น หลังจากฟังผมพูดจบ กรามขบกันเป็นสัน แววตาเออไปด้วยน้ำใสๆ

“ใจเย็นๆนะวิน พ่อนายต้องปลอดภัย อย่าเพิ่งคิดมากนะ เราทำได้แค่รอดูและเอาใจช่วยเท่านั้น” ผมพยายามที่จะปลอบใจวิน

“ขอบใจนะรอน นายจะกลับบ้านเลยมั๊ยเราจะไปส่ง”

“ไม่เป็นไรเรากลับเองก้อได้นายอยู่เฝ้าพ่อเถอะ”

“เราไปส่งแหละดีแล้ว เค้ายังไม่ให้เฝ้าหรอก เพราะพ่อยังออกจากไอซียูไม่ได้ หมอกลัวติดเชื้อน่ะ”

วินบอกพร้อมกับมาส่งผมที่บ้าน ผมชวนวินให้เข้าบ้านก่อนแต่วินจะกลับเลย

“ให้เราไปอยู่เป็นเพื่อนมั๊ย” ผมถามวินให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะลงจากรถ

“ไม่ต้องหรอก นายต้องจัดการเตรียมตัวที่จะเดินทางอีกนะ อยู่จัดการให้เรียบร้อยเถอะนะ”

วินยิ้มให้ผม แต่มันช่างเป็นยิ้มที่เศร้าในความรู้สึก แววตาคล้ายคนไม่เหลือความหวังอะไรแล้ว ผมเป็นห่วงวินเหลือเกิน

ผมเดินกลับเข้ามาในบ้าน มองดูข้าวของที่ผมทยอยจัด และแพ็คไปบ้างแล้วหลังจากตัดสินใจว่าจะไปหาลุงนนท์กับแม่

ผมเดินไปเปิดตู้เก็บของที่อยู่มุมห้องนอน ผมไม่ได้เปิดมันมานานแล้ว มันถูกล๊อคกุญแจอย่างดี ทันทีที่ผมเปิดออกดู ผมก้อเห็นความรู้สึกที่ผมเก็บซ่อนเอาไว้ ความรู้สึกที่ต้องปกปิดและแอบไว้ให้มิดชิด

ข้างในตู้เต็มไปด้วยขวดโหลต่างๆมากมาย หลากหลายรูปทรงและขนาด แต่ภายในทุกใบกลับเต็มไปด้วยดาวกระดาษที่ผมใช้เวลาที่ผมอยู่บ้านคนเดียวเมื่อครั้งที่วินจากผมไปพับมัน

ทุกๆครั้งที่ผมเหงา และ ว้าเว่ เมื่อต้องอยู่คนเดียว สิ่งที่ผมจะทำคือการนั่งพับดาวเล่นเพื่อบรรเทาความเหงานั้น และผมก้อนำมันมาเก็บไว้ในนี้

เก็บมันไว้โดยที่ไม่ได้ลืมเลือนไปไหน เพียงแค่ซ่อนมันไว้เท่านั้น ถ้ามันจะทำให้หลายคนสบายใจ

ผมมองดูปฏิทิน มันใกล้วันที่ผมจะจากคนที่ผมรัก จากแผ่นดินที่ผมเกิดไปแล้ว แต่ทำไมผมกลับยิ่งเหมือนไม่อยากให้วันนั้นเดินมาถึง ทั้งๆที่ผมเป็นคนตัดสินใจเองแท้
.
.
.
.
ช่วงนี้วินเองดูเหมือนคนไร้จิตใจลงไปทุกๆวัน ทุกๆเย็นเราจะมานั่งมองดูว่าเมื่อไหร่ที่ลุงจะออกจากห้องไอซียูซักที ผมสงสารวินจับใจ

จนวันนี้ที่หมออนุญาติให้ลุงออกมานอนรักษาตัวในห้องพิเศษได้แล้ว

ภาพของลุงกิติที่เหล่าบุรุษพยาบาลเข็นผ่านหน้าของพวกเราไปทำให้ผมอดที่จะใจหายไม่ได้ ร่างกายที่ผอมผิดตาไปแค่ระยะเวลาไม่กี่วัน ผิวลุงกิติดูขาวซีดจนน่าใจตกใจ

ผมบีบมือวินเบาๆเมื่อวินเห็นพ่อของตัวเองมีสภาพเช่นนี้ เราเดินมาในห้อง วินเอาแต่ยืนมองดูลุงกิติ จนผมต้องเอ่ยปากให้วินไปกินข้าวกินปลาบ้าง เพราะวินแทบจะไม่แตะอะไรเลย

“เรายังไม่หิวน่ะ รอนนายไปกินก่อนก้อได้นะ”

“งั้นเดี๋ยวเราไปกดกาแฟร้อนๆมาให้สักแก้วแล้วกันนะ”

วินพยักหน้า ผมเลยเดินไปกดกาแฟแล้วกลับมาที่ห้องอีกครั้ง แต่ก่อนที่ผมจะเข้าไป เพียงแค่เปิดประตูก้อได้ยินเสียงของวินกำลังพูดบางอย่างกับลุงกิตติอยู่ น้ำเสียงที่ฟังดูก้อรู้ว่าวินกำลังร้องไห้

“ทำไมพ่อถึงทำกับผมแบบนี้ ทั้งๆที่สัญญากับผมว่าถ้าผมยอมไปอยู่ที่ออสเตเลียแล้วเลิกกับรอนพ่อจะยอมผ่าตัด แล้วทำไมพ่อถึงโกหกผมด้วย

รู้มั๊ยว่าช่วงที่ผมใช้ชีวิตที่อยู่ที่โน้นผมต้องร้องไห้ก่อนนอนทุกๆคืน ทุกๆวันผ่านไปอย่างเจ็บปวด ทำไมพ่อใจร้ายนัก ทำไมถึงต้องพรากหัวใจ พรากคนที่ผมรักไปจากผมหมด ตอนนี้หัวใจของผมก้อกำลังจะจากไป รอนกำลังจะจากผมไปแล้ว พ่อได้ยินมั๊ย

ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว และพ่อก้อยังจะทิ้งผมไปอีกคน ทำมัยพ่อถึงไม่อยากให้ผมมีความสุขล่ะ ทำไมทุกคนถึงไม่อยากให้ผมมีความสุขบ้าง ในตอนนี้ทุกคนก้อกำลังจะจากผมไปกันหมด ทำไม ฮื่อ ฮื่อ ทำไมครับ.....ทำไม”

ผมรู้สึกมือไม้อ่อนกาแฟที่ผมถือมาหล่นจากมือผมเมื่อผมได้ฟังคำพูดจากปากวิน ตลอดเวลาที่ผ่านมาคนข้างหน้าผมต้องทนทุกข์มาขนาดไหนกันนะ แต่วินก้อไม่เคยจะปริปากบอกผมสักคำ

ยอมเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว ทำไมตอนนี้แค่ได้ยินเสียงสะอื้นจากวินใจผมก้อเจ็บปวดใจจนแทบจะแตกสลายแบบนี้ ผมอดจะร้องไห้ไปกับวินไม่ได้

ผมเดินเข้าไปหาแล้วดึงวินมากอดผมไว้แน่น แน่นพอที่จะให้วินรู้ว่าผมจะไม่ไปไหน

“รอน ฮื่อ ฮื่อ เราไม่เหลือใครอีกแล้ว เราไม่เหลือใครแล้ว ฮื่อ ฮื่อ”

“นายยังมีเรานะวิน เราจะไม่ไปแล้ว ไม่จากนายไปไหนทั้งนั้น เราจะอยู่ข้างๆกันแบบนี้”

ผมร้องไห้ไปบอกกับวินไป วินผละออกจากตัวผมมาจ้องหน้าคล้ายจะมองให้แน่ใจ

“จริงๆนะรอน อย่าทิ้งเราไปไหนนะ”

“จริงสิ เราจะไม่ไปไหนแล้ว ถ้าการที่เราจะคบกันแล้วทำให้พวกเราต้องเจ็บปวดเราก้อมาช่วยกันบรรเทา รักษาความเจ็บปวดนั้นด้วยกันนะวิน เราจะอยู่ข้างๆนายตลอดไป เราสัญญา...................................




แล้วเจอกันวันพ่อค๊าบบบบบบบบบบบบบบบ   :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 04-12-2008 00:19:51
  :o8::impress2:แล้วเจอการนะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 04-12-2008 17:25:15
 :m15:
อ่านตอนนี้กี่ทีก็ยังน้ำตาคลอ...สงสารวิน  :o12:
แต่ยังรักพี่นัทเหมือนเดิมมมม
 :-[
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 04-12-2008 19:38:18
แม่เจ้า น้ำตาผมไหล  :m15:


สงสารวินจับใจ ตั้งแต่อ่านมาคิดสงสารวินก็ครั้งนี้แหล่ะ .............................คนแต่งเก่งมากคับ


เ้จ้าคนโพสต์เอาน้ำตาตรูคืนมาาาาา :m31:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nirun4 ที่ 04-12-2008 19:46:25
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 04-12-2008 23:46:49
o3 ร้องไห้กันทำไมค๊าบ


ใครร้องไห้มาหาคนโพสต์  เด๋วจาช่วยซับน้ำตาให้   :-[

l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
l
V

อยาก :z6: คนที่นั่งหันหลังอยู่จัง





*-----*-----*------*-----*-----*-----*-----*-----*-----*-----*-----*-----*




มันหายไปจิง ๆ ตามที่พี่ lime บอกอ่ะคับ


แต่ไม่รู้จะทำไง  คงเป็นเพราะว่ามันเกินอ่ะคับ


เอามาลงต่อจากตรงนี้ละกันคับ



ตอนที่ 17 (ต่อ)

“รอนรู้มั๊ยทำมั๊ยวันนั้นเราถึงบอกให้นายเลิกคิดรื่องของเรา” วินหันมาถาม

“ไม่รู้สิ เราเคยอยากรู้นะ แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วล่ะแค่รู้ว่านายไม่ได้ตั้งใจก้อพอแล้ว” หน้าวินดูเศร้าลงไปทันที

“เราขอโทษนะ เรารู้แล้วว่ามันเจ็บแค่ไหน เรารู้แล้วล่ะรอน”

“อย่าคิดแบบนั้นสิว่ะ เราแค่ไปตั้งหลัก แล้วเราก้อจะกลับมาใหม่ พี่นัทเคยบอกว่า ชีวิตเราจะไม่อ้างว้างถ้าในหัวใจมีรักแท้ ถึงเราจะห่างกัน แต่เราต่างรู้ว่าใจของเราคิดยังงัยนี่น่า สัมผัสกายอาจจะอบอุ่น แต่เมื่อกายห่างมันก้อจะกลับมาหนาวเหน็บ แต่สัมผัสใจสิมันจะคงอยู่เสมอ”ผมปลอบใจวิน และปลอบตัวผมเอง

“ตั้งแต่เราคบกัน เราไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เราต้องมาแยกกันแบบนี้เลยนะรอน นายเสียดายเวลามั๊ยที่มาคบกับเรา”วินหันมาถาม

“เวลาอาจเดินไปเรื่อยๆหัวใจของเราอาจก้าวตามไม่ทัน แต่เมื่อเรากล้าที่จะยอมรับและเข้าใจ จะทำให้เพื่อนเก่ากลับคืนมา และจะไม่รู้สึกว่าเสียเวลาเปล่ากับการได้รู้จักรักกับใครคนหนึ่ง เพราะในที่สุดแล้วถ้าเราไม่อาจเป็นอย่างที่ฝัน เราก้อจะไม่เสียอะไร มีแต่จะได้ ได้ประสบการณ์ ได้วันเวลาที่มีค่า ได้คนรัก และสุดท้ายได้เพื่อนเก่ากลับคืนมา” ผมเห็นหยดน้ำตาของวินไหลออกมา ก่อนที่จะดึงผมเข้ากอดเบาๆ

“เราอยากให้นายรู้ว่า เรารักนายนะรักมากอย่างที่ไม่เคยรักใคร และขอใช้คำว่า รัก แทนคำว่า ลา เพราะเราคงไม่กล้าจะใช้มัน เราคงเจ็บและเสียใจมาก เพราะงันเราจะบอกว่า เรารักนายรอน กลับมาไวๆนะเรารออยู่” ผมพยักหน้าขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของวิน ปล่อยให้น้ำตามันไหลไปโดยไม่คิดจะกลั้นไว้ ให้มันไหลไปให้หมดสักที เพื่อที่วันนึงมันจะไม่มีน้ำตาพออีกแล้วที่จะต้องร้องไห้

“เราก้อรักนายมากนะวิน รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมากได้เท่านาย”

ผมไม่รู้ว่าถ้านี่คือกรรมที่เราทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์กับเรื่องของเรา ผมกับวินเราต้องรับกรรมนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ จะต้องเจ็บปวดอีกนานแค่ไหน พระเจ้าถ้าพรใดในโลกจะเกิดขึ้นบ้างกับเรา ผมขอให้สักวันนึงทางของเราสองคนเดินมาบรรจบกันอีกครั้ง


ตื๊ดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดด เสียงโทรศัพท์ของวิน วินรับโทรศัพท์ หากแต่หน้าวินกลับแย่ลงไปอีก

“รอน...พ่อเข้าโรงพยาบาล ป้าบอกว่าโรคหัวใจกำเริบน่ะ”...........................................






เห่ออออ  เพียวดูมาหลายรอบ  แล้วก็หลายวันด้วยนะตอนนี้อ่ะ  ไม่เห็นมันขาด   แต่ทำไมวันนี้มันดันมาขาด งงงง
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 05-12-2008 22:58:39
จิ้มมมมมมม

วันพ่อแล้ว

จะต่อตอนกี่โมงน๊า.......

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 05-12-2008 23:13:28
 :m15: :m15:
ฆ่ากันเลยดีกว่า  เขียนสะขนาดนี้

ฮื้อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออแงๆๆๆๆ

ทำไมทำกานได้

สงสารมากคู่นี้ แงๆๆ

สุขสันวันพ่อคับ ขอให้พ่อทุกคนแข็งแรง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 07-12-2008 16:46:41
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


อุตสาห์จะเอาฤกษ์วันพ่อตอนจบซะหน่อยยยย

เซรงเลย  ดันลืมอ่ะ   ไม่มีใครโทรมาตามเลยยยยยยยยย :laugh:



ไม่เปงไรวันนี้วันที่ 7 ชอบเลข 7 เด๋วมาลงนะค๊าบ


ตอนดึก ๆ อ่า  ตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้านตัวเอง  เมื่อคืนไม่ได้นอนที่บ้าน  :o8:


แต่ว่าลงแน่นอนค๊าบบบ  (ถ้าไม่ลืมนะ คึคึ)   :m22:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 07-12-2008 17:13:22
ขอ วันนี้ เด๊วนี้  :m16: รีบลงเลย

ตะเอ๊ง เค้าจะไปเชียงใหม่พรุ้งนี้อ่ะ ขออ่านก่อนได้ป่าว  :กอด1: :กอด1:

น่ะ ๆ ๆ  ๆ   :man1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 08-12-2008 01:12:07
แง่ ๆๆๆ ตอนสุดท้ายมาถึงแล้วอ่า


แล้วก็โพสต์ไม่ทันวันที่ 7 อ่า  :sad11: :sad11:


เศร้า   คนโพสต์จะต้องจากไปพร้อมวินกะรอน


รูปข้างล่าง  สีมันดูให้ความอบอุ่นดีอ่ะ  แล้วก็มีสถานที่ในเรื่องด้วย


แต่มีคนเสนอว่าให้เอาหอดูดาวที่บ้านสวน  ตอนกลางคืน  ที่สองคนนั่งดูดาวกัน  ถ้าหาได้คงสวยมากเลยเน้อออออ


(http://img218.imageshack.us/img218/7198/fondsunset3so2.jpg) (http://imageshack.us)
(http://img218.imageshack.us/img218/fondsunset3so2.jpg/1/w800.png) (http://g.imageshack.us/img218/fondsunset3so2.jpg/1/)

ตอน.19 (จบ)
ผมนั่งมองดูวินที่หลับอยู่บนโซฟาของทางโรงพยาบาล วินคงเหนื่อยมากเพราะสีหน้าของวินนั้นยังดูเป็นกังวลใจ

ผมรู้สึกปวดใจลึกๆเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของเรา ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรพวกเราถึงต้องทนเจ็บปวดกันมากขนาดนี้ เพียงเพื่ออยากจะรั้งอีกคนไว้ ถ้าพวกเราเพียงแค่ปล่อยมือ ทุกอย่างมันก้อคงจบไปนานแล้ว

“ต่อไปลุงฝากวินมันกับเราด้วยนะลูก” เสียงลุงกิติทำให้ผมตกใจ ในขณะนั้นผมกำลังเอื้อมมือไปปัดผมที่ปรกหน้าให้กับวิน ผมรีบปลุกวินทันที

“พ่อเป็นยังงัยบ้างครับ” วินรีบมาดูอาการของพ่อทันที

“ทำไมพ่อต้องโกหกผมด้วย ทำไมไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมล่ะ ทั้งๆที่ผมก้อยอมทำทุกอย่างที่พูดไว้กับพ่อ”

วินเริ่มจะมีน้ำตาและเสียงดังอีกครั้ง

“ใจเย็นๆนะวิน อย่าเพิ่งพูดอะไรมากเลย ลุงเพิ่งจะฟื้นไข้นะ”

“วิน...พ่อขอคุยกับรอนหน่อยได้มั๊ย แกออกไปก่อนได้หรือเปล่า” วินหันมามองผมก่อนจะตอบ

“พ่อจะคุยอะไรกับรอน จะพูดอะไรให้รอนหนีไปจากผมอีกครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกวิน ลุงคงมีเรื่องอยากจะบอกเราน่ะ นายเชื่อฟังพ่อเถอะนะ” ผมพยายามจะพูดให้วินไม่ต้องกังวล

“ไม่เป็นไรหรอกรอน ถ้าเจ้าวินมันอยากจะอยู่ฟังก้อปล่อยมัน เพราะยังงัยมันก้อเป็นเรื่องของมันกับเรานั่นแหละ” ใจผมกระตุกเมื่อลุงกิติพูดแบบนั้น ก่อนที่ลุงกิตติจะหันมามองผม

“รอนลุงขอโทษนะที่เป็นต้นเหตุให้เราต้องเสียใจ ลุงแค่หวังดีกับลูกชายเท่านั้นไม่คิดว่ามันกลับทำให้ทุกคนไม่มีความสุขไปด้วย ลุงมันคงเป็นไอ้แก่ที่ใช้ไม่ได้สินะลูก” ลุงหันไปมองวินก่อนจะพูดต่อ

“ ลุงแค่อยากจะเห็นลูกของลุงอยู่บนโลกนี้ได้อย่างดีและมีความสุข ไม่อยากให้ต้องอยู่กับคำนินทาของลูกน้องในบริษัท กลัวสายตาดูถูกถากถางของคนทั่วไปที่จะมองลูกของลุง แต่การที่ลุงทำแบบนั้น มันกลับแย่กว่าเพราะวินเองคงมีชีวิตอยู่โดยที่บางอย่างในตัวได้ตายตามลุงไป

ไม่ใช่ว่าลุงจะสนับสนุนนะลูก แต่ลุงก้อทำใจยอมรับมันได้ ไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นคนเป็นลูกต้องทุกข์ใจหรอกนะ การที่คนสองคนจะรักกันมันไม่มีอะไรผิด แต่ถ้ามันจะแปลกคงที่ต่างก้อเป็นชายทั้งคู(ลุงกิติงียบไปสักพัก) มาหาพ่อหน่อยสิวิน”

ก่อนจะหันไปเรียกวินให้เดินมายืนข้างๆผม

“อย่าโกรธพ่อนะที่ผิดสัญญา และพ่อก้อขอโทษด้วยที่ทำให้พวกลูกๆต้องเสียใจ พ่อคงไม่ห้ามอะไรอีกแล้ว เพราะชีวิตมันเป็นของแก วันข้างหน้ามันจะเป็นเช่นไร ก้อจงฝ่าฟันกันเอาเองกับทางเดินที่เลือก แต่ที่พ่อจะขอคือ จงมีความสุขกับชีวิตนะ พ่อขอแค่นั้น”

ผมกับวินเราต่างหลั่งน้ำตาไปกับความรักที่คนเป็นพ่อมอบให้ ทั้งผมและวินเราก้มลงไปกราบลุงกิติพร้อมๆกัน

“ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณมากครับ”

“ขอบคุณครับลุง”

ผมรอมานานแสนนาน ในที่สุดวันนี้ก้อมาถึง....วันที่ความรักของผมกับวินได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
.
.
.
.
.
ในที่สุดผมก้อไม่ได้เดินทางไปสิงค์โปร์ ผมตกลงที่จะอยู่ที่นี่กับวินต่อไป พี่นัทกับแม่และลุงนนท์ก้อเข้าใจพวกเรา พรุ่งนี้ผมกับวินเราตั้งใจว่าจะพาลุงกิติไปพักผ่อนที่บ้านของผมที่หัวหิน

หลังจากออกจากโรงพยาบาลเมื่อคราวนั้นก้อเกือบๆจะสองเดือนแล้ว ลุงดูมีความสุขกับชีวิต แม้ว่าพวกเราจะรู้ดีว่ามันอาจจะอีกไม่นานนัก

วันนี้ผมมาที่สถานีขนส่งหมอชิตมาส่งไผ่ เพราะไผ่ต้องเดินทางไปฝึกงานที่ต่างจังหวัด

“มีอะไรก้อโทรมาหาพี่ได้นะ ไม่ต้องเป็นห่วงยายกับน้อง พวกพี่จะดูแลอย่างดี” ผมรับยายกับน้องสาวของไผ่ไปอยู่ด้วยกัน เพราะไผ่กังวลที่ทิ้งให้น้องสาวอยู่กับยายกันแค่สองคน

และยายของไผ่ก้อช่วยดูแลลุงกิติให้พวกเราด้วย ผมคิดว่ามันคงจะดีถ้าลุงได้พูดคุยกับคนรุ่นเดียวกัน และยายของไผ่ก้อเป็นคนที่น่ารักและจิตใจดี

“ขอบคุณนะครับพี่รอน ผมไปคราวนี้ผมจะไปอย่างสบายใจ และจะกลับมาอย่างสบายใจครับ...ผมสัญญา” ผมรู้ในความหมายที่ไผ่บอกกับผม

“ แล้วพี่จะมารอรับนะวันที่เรากลับมา” ผมยิ้มให้กับไผ่

“ผมไปแล้วนะครับ รถจะออกแล้ว คิดถึงผมเหมือนที่ผมจะคิดถึงพี่บ้างนะครับ”ไผ่ดึงผมเข้าไปกอดเบาๆ

“แน่นอน พี่จะคิดถึงนาย พี่สัญญา”

ไผ่ผละจากผมแล้วก้อเดินไปขึ้นรถ ระหว่างที่จะขึ้นรถไผ่โบกมือให้กับผม โดยที่ไม่ได้หันมามอง ผมยืนมองจนรถหายไปจากสายตา และมันทำให้ผมถึงกับน้ำตาซึม

เพราะผมรู้ว่าเพราะอะไรไผ่ถึงไม่หันมามองผมได้แต่โบกมือบ๊ายบาย

แม้ในวันนี้รอยยิ้มของไผ่นั้นอาจจะยังแฝงไปด้วยความเศร้า พรุ่งนี้อาจจะยังคงมีคราบน้ำตา แต่ในวันต่อๆไป - เดือนต่อไป มันจะเป็นแค่ความทรงจำที่เราจะยิ้มได้เมื่อนึกถึงมัน

ผมดีใจที่อีกสองเดือนข้างหน้าต่อจากนี้ ในที่ตรงนี้วันนั้นผมจะมีน้องชายที่รักกลับมาหา

*
*
*
*
*
หลังจากเมื่อวานที่ผมส่งไผ่เสร็จก้อกลับมาจัดของเพื่อที่จะมาหัวหินกันในวันนี้ ยายของไผ่ใจดีและรักผมมาก ทั้งยังคอยช่วยดูแลเรื่องอาหารให้กับพวกเรา น้องสาวไผ่ก้อดูสนุกสนานตามวัย

ผมกับวินเรามาเดินลุยน้ำทะเลที่ชายหาด ชายหาดในวันนี้ยังคงสงบและสวยงามมีลมพัดเย็นสบาย และ เสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งก้อฟังดูเพราะกว่าที่เคย

“รอนดูท้องฟ้าสิสวยจังเลยนะ” ที่ปลายท้องฟ้าอีกฟากนึงเป็นสีทอง มันให้ทั้งความเศร้าและความโรแมนติกไปพร้อมๆกันขึ้นอยู่กับใจของคนมองในตอนนั้น

และในตอนนี้ผมว่ามันช่างดูสวยงามเหลือเกิน ทั้งชายหาดมีแค่ผมกับวินเราเดินคุยกันไปเรื่อยๆ

“เราดีใจที่วันนี้ได้มาเดินดูพระอาทิตย์ข้างนายอีกนะ” ผมหยุดเดินแล้วหันหลังกลับไปมอง ก้อเห็นลุงกิตินั่งที่อยู่ที่หน้าบ้านกับยายของไผ่

“หยุดเดินทำไมล่ะคิดอะไรเหรอ” วินหันมาถามผม

“กำลังดูคนข้างหลังกับทางที่เราเดินมาน่ะ กว่าจะถึงวันนี้เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแล้ว มีหลายคนต้องเสียใจ และพวกเราต้องเสียน้ำตามาไม่รู้เท่าไหร่นะ แต่ตอนนี้เราไม่มีน้ำตาพอที่จะร้องไห้แล้วล่ะ”วินเดินมาจับมือผมไว้

“เราดีใจที่วันนี้น้ำตาของนายแห้งสักที”ผมหันมามองวินก่อนจะเดินเล่นกันต่อไป

“รู้มั๊ยรอน ตอนที่อยู่ที่ออสเตเลียนะ ทุกตื่นนอนนายเป็นคนแรกที่เราคิดถึง ห่วงว่าวันนี้จะเป็นอย่างไร ไปทำงานได้หรือเปล่า ลึกลงไปข้างในต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้ พยายามบอกตัวเองว่าห่างกันแบบนั้นคงไม่อะไรมาก และคงจะลืมนายได้สักวัน แต่ความรู้สึกจริงๆคือคิดถึงนายอยู่ตลอดเวลาเลย ไม่รู้ทำไม แต่ตอนนี้เรารู้แล้วล่ะว่าเพราะอะไร”

วินหยุดพูด ผมเลยหันไปถามแม้จะรู้คำตอบแต่ก้ออยากฟังอยู่ดี

“เพราะอะไรล่ะ”

“หวังว่านายคงไม่เบื่อที่จะฟังนะ เพราะว่า เรารักนายน่ะสิ” ผมยิ้มเมื่อได้ฟัง

“เราเชื่อ”

“รอน นายย้ายไปอยู่กับเราได้มั๊ย” วินถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ถ้านายไม่เบื่อที่จะต้องตื่นมาแล้วเจอเราทุกเช้าก้อตามใจนายแล้วกัน” ผมแกล้งแหย่วิน

“ไม่หรอก แล้วก้อไม่เบื่อที่เวลากลับมาบ้านแล้วต้องเจอนายทุกๆเย็นด้วยนะ” ผมหัวเราะที่วินแหย่ผมคืน ก่อนที่วินจะดึงผมเข้าไปกอดแรงๆ

“ดีใจที่ได้เจอ....ได้รู้จัก....และได้รักนายนะรอน”วินพูดกับผม

“ เราเองก้อมีความสุขที่ได้รักนาย...และก้อสุขใจที่รู้ว่านายเองก้อรักเรา”
*
*
*
*
ในวันนี้ผมกับวินเราต่างกลับมาร่วมเดินด้วยกันใหม่อีกครั้งบนเส้นทางของความรัก

แม้ผมจะไม่รู้ว่ามันจะยาวไกลไปแค่ไหน หรือถนนสายนี้อาจจะไม่สวยงามดังที่พวกเราวาดฝัน แต่ถึงยังงั้นผมก้อรู้ว่าที่สุดแล้วสิ่งที่รอพวกเราอยู่มันคือความสุขอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเราอาจจะเสียน้ำตาและต้องทุกข์ใจกันมากแค่ไหน แต่เมื่อมาถึงวันนี้แล้วมันก้อคุ้มค่ากับสิ่งที่พวกเราต่างก้อเฝ้าอดทนกันมา

ผมหวังว่าเรื่องราวของผมจะทำให้ใครบางคนค้นหาเส้นทางสายนั้นจนเจอ เส้นทางแห่งความสุข เส้นทางของความรัก ที่ผมเรียกมันว่า..........เส้นทางสายปรารถนา
.
.
.
....ผมกับวินเรายังจับมือกันเดินเล่นต่อไปและผมแน่ใจว่าครั้งนี้เราต่างจับมือกันแน่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา.....



..WHEN TWO DREAMS COME TRUE TOGETHER

......THERE IS CHARM AND BEAUTY

..........AND LOVE EVERLASTING…………


.................เมื่อความฝันของคนสองคนมาบรรจบกัน..................

..............................รักนั้นก็น่าเสน่หา และ งดงามอยู่เป็นนิจ.........


.......................................ด้วยความขอบคุณ.....................พีรนีเปียร์..........................
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: kamui1972 ที่ 08-12-2008 05:39:09
ขอบคุณครับ ว่างๆ ก็มาเขียนอะไรให้อ่านกันบ้างครับ สุดท้ายก็ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากๆ ครับ :L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nirun4 ที่ 08-12-2008 06:51:59
 o13 o13 o13 ขอบคุณครับ ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะครับ  :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 08-12-2008 16:20:32
 :L2:
จบไปอย่าง Happy ดีใจกับรอนและวินที่ได้กลับมารักกันอีกครั้ง...
ขอบคุณ SE7EN_AKIRA และ พีรนีเปียร์ ที่นำเสนอเรื่องราวดี ๆ
 o14 o15
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 08-12-2008 17:22:55
เรื่องนี้จะเก็บอยู่ในใจตลอดไป

 :L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 08-12-2008 23:58:51
ไม่มีอะไร  ขอบคุณทุกคนเหมือนกานที่ติดตามอ่านมาตลอด



แต่เหนือสิ่งอื่นใด   อยากหัวเราะคนที่นั่งหันหลังอ่ะ  แบบว่าอดอ่านตอนจบ   :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 09-12-2008 13:58:28
 :pig3:จบแบบมีความสุข :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 09-12-2008 14:21:53
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: golf ที่ 09-12-2008 22:01:47
รู้สึกดีจังเลย...อ่านแล้วทำให้รู้รักแท้ยังมีอยู่จริง :impress2:

 :z7:ความสุขที่รับเหมาะสำหรับการรอคอยจริงๆ :z7:

ขอบคุณที่ได้อ่านเรื่องดีอย่างนี้

 :L2: :L2:  :pig3: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 10-12-2008 00:38:04
 o13 o13 o13 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 10-12-2008 00:56:32
happy

ดูซึ้งๆมากเลยคับ เป็นอะไรที่รวบยอด

เหมือนดูละคร ตอนกลางคืนเลย

โอ้วช่างสวยงาม

ขอบคุณพี่คนแต่งคร้าบบบบ

ขอให้พี่คนแต่งมีความสุข :call:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 10-12-2008 01:14:22
บันไม่ขอบคุณพี่เลย  งอลบันแระ  :a14:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: NuPaTT ที่ 10-12-2008 22:34:07
 :กอด1: :L2: :L1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 11-12-2008 00:15:38
ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอนที่ 17 ที่มันหายไป  กลับไปอ่านได้ที่ re 274 นะคับ


แต่คิดว่าคนที่อ่านแรก ๆ คงได้อ่านอ่ะคับ  เพราะเพียวเข้ามา check ทุกวัน  มันก็ไม่หาย  แต่อยู่ดี ๆ มันก็มาหาย



เซรง  พรุ่งนี้สอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  นอนดีกว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ISACBTMN ที่ 11-12-2008 22:01:01
ซึ้งมากๆเลย

ขอบคุณคนแต่งมาก ... มีคำพูดที่จิ๊ดหลายประโยค แอบน้ำตาคลอบางตอน แอบยิ้มในบางฉาก

อ่านกระโดดไปกระโดดมาสนุกดี อิอิ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 11-12-2008 22:52:48
 :L1:หวังว่าจะมีเรื่องดีๆ มาให้อ่านอีกนะครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: peam ที่ 11-12-2008 23:26:36
ขอบคุณที่เอามาลงใหม่ อ่านแล้วนึกถึงวันเก่าๆ :sad11:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก ตอนที่ 16 (*-* อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วน้า *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 13-12-2008 00:29:32
ไม่มีอะไร  ขอบคุณทุกคนเหมือนกานที่ติดตามอ่านมาตลอด



แต่เหนือสิ่งอื่นใด   อยากหัวเราะคนที่นั่งหันหลังอ่ะ  แบบว่าอดอ่านตอนจบ   :laugh:


 :m16: มีความสุขมากมั๋ยห่ะ  :m16:

แต่กลับมาอ่านทีหลังก็คุ้มเฟร๊ย  :-[ รอวันนี้มาตั้งแต่ต้นแระ ชิ อิจฉาว่ะ เมื่อไหร่เราจะมีคนให้จูงมือเหมือนวินมั่งเน๊อ :man1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 29-12-2008 16:03:39
อ่านแล้วเหนื่อยแทน

ดีใจที่จบแบบแฮปปี้  :3123:  :z2:

ปล. หลงรักพี่นัทอะครับ อยากได้มั่งจัง :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 31-12-2008 14:27:01
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ครับ

happy new year นะค๊าบ.........
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: vint ที่ 02-01-2009 13:52:38
มีความสุขที่ได้อ่านเรื่องนี้
ขอบคุณผู้แต่ง - ผู้โพสต์
พี่ๆและเพื่อนๆที่ช่วยกันเมนท์ข้อความดีดี
(มีมุกให้ขำๆด้วย)ได้ข้อคิด ได้สนุก และเศร้าไปกับเรื่องราว
 :pig4:
สวัสดีปีใหม่ทุกคนด้วยครับ
มีความสุขมากๆนะครับผม
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: DEVIL nures ที่ 13-01-2009 22:03:33
 :L1:  อ่านจบแล้วนะเจ้าคะน้องเพียว

 :pig4: ที่แนะนำเรื่องดีๆให้

แต่ภาคสองอะ เรียกน้ำตาได้มากมายเลยอะ :o12:

ดีแต่มานมะเศร้า มะงั้นพี่ตายแน่ๆ

ยิ่งอ่อนไหวอยู่ :laugh:

 :กอด1: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 15-01-2009 03:42:41
ขอบคุณครับ :o8:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: meadthat ที่ 16-01-2009 21:00:12
อ่านไปน้ำตาคลอไปหมดเลย
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: daris ที่ 18-01-2009 02:53:11
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ
เพราะอ่านโต้รุ่งเลย ไม่สามารถหยุดได้เลย
เนื้อเรื่องดีมาก ๆ สนุกสุด ๆ แถมภาษาที่ใช้สวยมาก ๆ

อ่านแล้วเศร้าตามเลย

 o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: passkorn2531 ที่ 18-01-2009 08:04:06
Thank you
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 24-01-2009 19:28:33
โหะ ๆๆๆ  ยังมีคนมาอ่านด้วย  :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 25-01-2009 09:43:56
ขอจิ้มหน่อยเหอะ   :z13:

หมั่นเขี้ยววววววววววววววววว

น่ารักอ่ะ  น้องเพียว
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: guppa ที่ 02-02-2009 16:54:33
อ่านแล้วน้ำตาไหลจริง  พูดไปก็เหมือนจะโกหกว่ามันคล้ายกับชีวิตจริงเราเลยอ่ะ  เข้าใจความรู้สึกของรอนตอนที่ต้องเศร้ากับความรักครั้งแล้วครั้งเล่า และก็ต้องพรากจากคนที่เรารัก  ยกนิ้วให้กับคนแต่งคะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: Ugly-TheBeast ที่ 14-03-2009 18:13:01
ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้ยังมีรักอยู่คับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: poffy ที่ 25-08-2009 20:19:43
 :L2: :L1: :pig4: :กอด1:
ก่อนอืื่นต้องขอขอบคุณผู้แต่งมากๆเลยนะคะ ที่ได้นำนิยายได้ดีอย่างนี้มาให้อ่าน
แม้ว่าคนอ่านอย่างเราจะต้องเสียน้ำตา ร้องไห้จนตาปูดตาบวมไปด้วยก็ตาม
มาอ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ได้แง่มุมของความรักที่กว้างมากขึ้้น
ไม่ว่าจะเป็นความรักจากพ่อแม่ ครอบครัว เพื่อนๆ คนรอบกาย และคนรัก
ที่ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม แต่ก็ออกมาในรูปแบบเดียวกันคือ
ต้องการให้คนที่รักมีความสุขไม่ว่าจะแสดงออกมาในแง่มุมบ้างก็ตาม
อาจจะต้องเจ็บปวด อาจจะต้องร้องไห้เสียน้ำตาไปกับเส้นทางรักเส้นนั้น
กว่าจะถึงเส้นทางรักนี่มันไม่ง่ายเลย
ต้องอดทน และ รักกันให้มากๆนะคะ  :n1:

ขอบคุณมากๆๆเลยล่ะค่ะ ภาษากินใจมากๆ
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นนิยายใสๆ ตั้งแต่ฉากเปิดตัวของพี่น้อง
แต่มาอ่านแล้วยิ่งลึกซึ้งมากๆ ร้องไห้ตามไปหลายตอนเลยล่ะคะ


ขอบคุณมากๆเลยนะคะ

กอดผู้แต่งและคนโพส :กอด1:

กอดวินและรอน  :กอด1:

กอดพี่นัท  :กอด1:

กอดไผ่ กอดภีม กอดโอ๊ต กอดน้องลิน  :กอด1:

 :bye2: o13 :L2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 02-09-2009 16:40:36
เข้ามา  :กอด1: รีบน

แอบเข้ามาดูนิยายที่ตัวเองลง  :laugh:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 07-09-2009 19:56:34
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อ่านไปน้ำตาซึมไป :m15:
ซึ่งกว่าจะถึงซึ่งทางรักของรอนกะวินได้นี่ ทำเราเสียน้ำตาไปหลายเหมือนกัน
สงสารรอนมากๆๆเลย  อ่านไปก็คอยลุ้นไปว่าเมื่อไรที่ทั้งสองคนจะลงเอยกันได้
 :เฮ้อ:แต่สุดท้ายก็จบลงอย่างแฮปปี้  :เฮ้อ:โล่งอก

ปล..ชอบจัง เรื่องของท้องฟ้า ทะเล พื้นดิน o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: Garirin ที่ 09-09-2009 23:10:17
จบอย่างงดงาม

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: lalala123 ที่ 15-09-2009 22:01:58
ในที่สุดก็จบอย่างสวยงาม ลุ้นแทบตายเลย

อิอิ ชอบมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: lalala123 ที่ 15-09-2009 22:06:49
ในที่สุดก็จบอย่างสวยงาม ลุ้นแทบตายเลย

อิอิ ชอบมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 15-11-2009 13:42:26
เข้ามากด +1 ให้กับคนที่ยังเข้ามาอ่านอยู่

อ่านจบแล้วเม้นท์ด้วยเน้ออ  เข้ามาอ่านกันเยอะ ๆ น้าา

 : 222222: : 222222: : 222222:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-11-2009 09:03:51
ประทับใจจังเลย กับเรื่องราวของรอนกับวิน
ตอนแรกคิดว่าจะเศร้าซะแล้ว
ในที่สุดก็จบลงแบบสวยงาม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: tnat ที่ 01-01-2010 22:46:18
ในที่สุดก็อ่านจบ

ซึ้ง และ ประทับใจ มากมายเลยครับ

ขอบคุณน้องเพียวนะครับ ที่แนะนำเรื่องให้อ่าน
 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 02-01-2010 16:08:11
ปรบมือให้เรื่องนี้จริง ๆ เลย

สนุกมากกกกกกกกก

ทำเราร้องไห้ตั้งหลายตอนแหนะ

ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสด้วยนะจ๊ะ

สำหรับเรื่องดี ๆ น่ารัก  ๆ แบบนี้  o18
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 13-01-2010 04:25:00
 :o8: :o8:

อ่านไปก็เสียน้ำตาไป

แต่ก็ยังแอบดีใจ

ที่ยังมีความสุขเล็ก

ที่แอบแฝงอยู่กับความเศร้า

แต่สุดท้าย

ก็สุขอ่านะ

ขอบคุณมากนะครับบ

สำหรับความรู้สึกดีๆๆ

รักทุกคนครับ
 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 18-01-2010 23:59:36
 :m15:

 :o12:

 :sad4:

เรื่องนี้ช่างอ่านแล้วเศร้า เคล้าน้ำตาจริงๆ แต่ก็ Happy ending นะ

พี่ใช้เวลาอ่านสองวันอ่ะน้องเพียวริคุ T_T

ขอบใจมากที่แนะนำให้อ่านนะคับ

ตาบวมไปหมดแล้วอ่ะตอนนี้ ^^

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 19-03-2010 22:51:10
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้นะคับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: mysunsa ที่ 21-03-2010 02:53:01
สมชื่อเรื่องจริงๆคะ ^^

 บรรยาย ใจความและอารมณ์ได้ดีจริงๆ

แต่รู้สึกว่าหนุ่มรอนเราจะจำยอมกับความรู้สึกจริงๆ ปิดกั้นได้ที่สุดๆมากๆ

ถ้าเป็นคนอื่น คงทนไม่ได้ขนาดนี้ เข้มแข็งมากมาย ฮ่าๆ

ขอชมนิยายเรื่องนี้จริงๆคะ

สายสัมพันธ์ มันช่างดีจริงๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: tawalid ที่ 21-04-2010 15:09:56
ขอบคุณนะคับที่นำเรื่องราวดีๆๆมาให้อ่านคับ

ชอบๆๆๆๆๆ  +1  คับ
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 26-04-2010 03:43:03
เข้ามาอ่านอีกครั้ง

ก็ยังเสียน้ำตาให้วินกับรอนเช่นเดิมม

รักทุกคนคร้าบบ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 01-05-2010 21:40:39
ฮ่วย
บ่อน้ำตาตื้นแงะกรู

ร้องอยู่ได้
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 20-05-2010 21:20:15
:monkeysad: แบบว่า กว่าจะได้อยู่ด้วยกันนี่ โฮกกกก
สนุกค่ะ ดีจังที่จบแฮปปี้
ขอบคุณมากๆนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: shogun chai ที่ 21-05-2010 00:07:32
คำเดียว ว่า ซึ้ง
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 21-05-2010 10:28:07
T^T~ พึ่งจะได้เข้ามาอ่านค่ะ
 
แทบจะเสียน้ำตาให้กับทุกๆตอน แต่สุดท้าย
ในที่สุดน้ำตาก็เหือดแห้งไป. . .
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 07-06-2010 02:29:23
เพิ่งได้อ่านจนจบ น้ำตาไหลพรากๆเรยทีเดียวงานนี้
เรื่องนี้ก็ทำให้เราได้ซาบซึ้งไปกับอีกหลายๆแง่มุมที่งดงามของความรัก
รักของวิน-รอน รักของพี่นัท รักของภีม รักของไผ่ หรือแม้กระทั่งรักของผู้ให้กำเนิด
ขอบคุณผู้แต่งและคนโพสต์มากๆเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: peam ที่ 12-06-2010 01:13:48
ขอบคุณทุกคนที่ยังชอบนิยายเรื่องนี้  ที่แต่งนิยายเรื่องนี้เพราะ ตอนนั้นชอบอ่านหนังสือ และ
นิยายออนไลน์มากๆๆ เลยลองแต่งดูที่เวป ปาล์ม  ผ่านมาหลายปี ไม่นึกว่ายังมีคนอ่านอยู่
ก่อนหน้านี้ได้สัญญากับน้องเพียวไว้ว่าจะเอานิยายเรื่องใหม่มาให้อ่านกัน  เลยได้ไปค้นเรื่องนึงที่เคยเขียนไว้นานแล้ว เลยเอามาเกลาซะใหม่ เพื่อให้เข้ากับปัจจุบันมากขึ้น   โดยได้แรงบันดาลใจจากซีรีย์ ในดวงใจในตอนนั้น (5-6 ปีมาแล้ว) หลายๆเรื่องมามิกซ์รวมกัน   หวังว่าเพื่อนๆ คงจะสนุก และได้ข้อคิดดีๆจากนิยายของผมบ้างนะครับ  แล้วพบกันครับ..........พีรนีเปียร์
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์ (*-* จบแล้วเน้ออ ThE EnD oF WiN&RoN *-*)
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 16-06-2010 16:10:57
บอกได้ประโยคเดียวค่ะ เม้นไม่ออกจริง

อยากบอกว่า ประทับใจและเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องที่อยู่ในใจค่ัะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 28-04-2011 21:39:34
อ่านภาค 1 จบไปแล้ว
รู้สึกมีหลายอารมณ์ทั้งเศร้า อบอุ่น ซึ้ง
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
เดี่๋ยวจะเข้ามาอ่านภาค 2 ต่อ ยังไม่กล้าอ่านตอนนี้กลัวมันเศร้า อิอิ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: comprivate ที่ 11-07-2011 10:08:52
ไม่เม้นไม่ได้เลยครับเรื่องนี้ ยอมรับว่าหลงเข้ามา ซึ่งสิ่งที่ผมทำเป็นประจำเวลาอ่านนิยายเกือบทุกเรื่องคือ แวะมาอ่านคอมเมนท์หน้าท้ายๆ ปรากฏว่าจบแฮปปี้(อันนี้สำคัญมากสำหรับผม) แล้วก็มี feed back ว่าเรื่องนี้ดราม่า(ชอบ) แล้วก็ซึ้ง ก็เลยลองไปอ่านดู ปรากฏว่า...

ประทับใจมากๆที่สุดเลยครับ คนเขียนเขียนได้ดีมาก ลื่นไหล สละสลวย แล้วก็ที่สำคัญมักจะมีประโยคเด็ดๆ แทรกอยู่เสมอๆ อินไปกับทุกๆ
ตอนเลย อ่านแล้วมันเหงาตามเลย มันเวิ้งว้างใจบอกไม่ถูก เอาเป็นว่าสรุปว่า

"เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สุดยอดมากสำหรับผม" (จริงๆนะ ไม่งั้นไม่เม้นขนาดนี้หรอก 55)

ขอบคุณคุณ rAn_@_wAy และ คุณ ~NeMeSiS_PURE~ ด้วยนะครับ ขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ คนแต่ง (ไม่รู้ว่าคนเดียวกับคนโพสต์หรือเปล่า)

ปล. มีคำถามอยากจะถามหน่อยนะครับ (ถ้าตอบไมได้ก้ไม่เป็นไร หรือถ้าเป็นความลับ pm มาก็ได้ครับ)
1. เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ
2. ถ้าจริงอยากรู้ว่า วิน กับ รอนตอนนี้อายุเท่าไหร่ แล้วยังรักกันดีอยู่ไหม

.......................ขอบคุณมากๆครับ ..................
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 31-07-2011 15:26:53
จบเรื่องราวอย่างมีความสุข
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้
สองคน และอีกหลายคนต้องเสียน้ำตามาเยอะ
ทั้งครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน
ในที่สุดก็ต้องผ่านมันไปได้
ขอบคุณคนแต่ง คนโพส คนช่วยโพส นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 31-07-2011 19:34:41
 o13

เป็นอีกเรื่องที่สุดยอดครับ

ใช้ปมความรักปมเดียว เล่นได้เจ็บมากครับ

เหนื่อยกับความรักของทั้งคู่มาก  และยินดีมากที่ทั้งสองได้รักกันซักที

อ่านไปแล้วมันอึดอัด  เหนื่อย ท้อ มากกก

แต่แอบมาดูตอนสุดท้ายแล้วว่าแฮปปี้เลยอ่าน 555  เรามันโรคจิตอย่างหนึ่ง

ดีใจครับที่ตอนจบแฮปปี้ 

คนเขียนเขียนดีมาก  เขียนซะเหมือนเรื่องจิงเลยทีเดียว

ณ จุดนี้ขอขอบคุณนิยายเรื่องนี้ที่สอนให้รู้ว่ารักไม่จำเป็นต้องได้ครอบครองเสมอไป

อย่างเช่นความรักของพี่นัทที่ยิ่งใหญ่มากกกก  ความรักของภีม และน้องไผ่ และความรักของเพื่อนอย่างโอ๊ต

นิยายเรื่องนี้จะอยู่ในใจไปอีกนาน  :L2:

หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: chindo ที่ 01-08-2011 23:06:35
วันนี้เสียน้ำตาไปหลายลิตร อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ
เป็นเรื่องที่ดีมากๆครับ อ่านแล้ว ทำให้ได้ข้อคิดอะไรมากมาย
ในเรื่องความรัก ความรักระหว่างเพื่อน ความรักระหว่างพี่น้อง
ความรักของพ่อแม่ และความรักที่คนสองคนมอบให้กันและกัน
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แม้จะไม่ได้สมหวัง
แต่ก็เป็นสิ่งที่มาเติมเต็มชีวิตของทุกคน ให้ได้ระลึกถึงว่า
เมื่อมีความสุขก็ต้องมีทุกข์ปะปนกัน ขึ้นอยู่กับว่า เราจะจดจำสิ่งใด
ความสุขทำให้เรามีชีวิตที่ดี ความทุกข์ก็ทำให้เราได้รู้ว่าความสุขที่ได้มา
เป็นสิ่งที่น่าจดจำ แม้จะไม่ได้มาครอบครอง ก็ได้เรียนรู้ ได้รู้จัก ได้พบเจอกัน
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่ได้ถ่ายทอดออกมาให้อ่าน
ทำให้ผมระลึกถึงสิ่งที่เคยลืมเลือนไปบางอย่างได้
ขอบคุณมากครับ........
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: Bright1993 ที่ 19-10-2011 14:07:20
ขอบพระคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ซึ้งใจมากครับ ดีใจที่จบแบบแฮ็ปปี้

คืดว่าจบแบบเศร้า ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 17-03-2012 16:53:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 20-03-2012 18:41:55
กว่าจะอ่านจบเสียน้ำตาไปหลายช็อต
แต่เรื่องราวก็อบอุ่นดี
อ่านแล้วมีความสุข
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 22-03-2012 00:47:43
:กอด1: :L2:

กอดพี่นัทท !
กอดคนแต่ง
กอดๆพี่เพียวด้วยค่ะ :')



ชอบนิยายเรื่องนี้มากเลยค่ะ


 :pig4:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: yashi ที่ 15-04-2012 07:18:54
  o13เป็นเรื่องที่ประทับใจ และซึ้งๆๆๆๆมากๆๆๆ เขียนได้ดี   และบีบหัวใจด้วย ชอบมาก ดีใจที่จบแบบนี้ ขอให้รักกันนานๆๆวินรอน
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 21-06-2012 21:13:59
ซึ้งมากมายเลยครับ ขอบคุณมากๆ แล้วเขียนนิยายดีๆแบบนี้ออกมาให้อ่านกันอีกนะครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 26-06-2012 20:34:19
เฮ้อออ!! ลุ้นเหนื่อยเลย ดีใจนะคะ ที่ถึงทางรักซักที
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 29-06-2012 02:32:53
ขอบคุณมากค่ะ

อ่านแล้วประทับใจมาก

อ่านไปน้ำตาคลอตลอดเลย

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: LM1412 ที่ 05-07-2012 22:27:18
 :o8: :o8: :o8: :n1: :n1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 23-09-2012 16:14:57
อยากให้ พี่่นัท กับ ไผ่ ได้เจอคู่ของตัวเองอะ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 14-09-2013 10:18:45
เป็นนิยายที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง อ่านไม่เบื่อเลย แถมได้ข้อคิดดีๆอีกมากมาย

ยกให้เป็นนิยายในดวงในของผมเลยครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: amkang12 ที่ 12-10-2015 18:50:25
เป็นอีกหนึ่งนิยายที่ประทับใจไม่เคยลืมครับ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 12-10-2015 21:52:33


 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ดีเลย์ไปหลายปีเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: kareepup ที่ 13-10-2015 23:09:44
ไม่ค่อยได้เม้นให้กำลังใจนักเขียนเท่าไหร่ แต่อยากบอกว่าเรื่องนี้ให้อารมณ์หม่นๆเทาๆ มันหน่วงใจตลอดที่ได้อ่าน เกิดความประทับใจมากเลยนะคับ ....ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคับ  แล้วก็ถ้าไม่เป็นการรบกวน....ขอให้น้องไผ่พบรักแท้ด้วยเถอะ เพราะชอบตัวละครนี้มาก เป็นเด็กดี น่ารัก กตัญญู แล้วก็ศิลป์ๆ ชอบอ่ะ...อยากให้เค้ามีรัก จะติดตามเรื่องราวนะคร้าฟ
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-10-2015 17:45:32
เศร้ามาก
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 22-10-2015 19:16:48
ไม่รู้ไปอยู่ใหนมา พึ่งจะได้มาอ่าน คือชอบมากก คือดีงาม
 
มีครบรส สุข เศร้า เหงา รัก

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 25-06-2017 11:12:01
 :mew1:
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก Byพีรนีเปียร์ โดย พี่รัน กะน้องเพียว 20 July 08 เพียวลงตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 06-03-2022 12:22:20

เขียนเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยแบบระบุชื่อก็ควรศึกษาข้อมูลก่อนนะ เน็ตมีก็เข้าไปดูเว็ปวิศวะมช.บ้าง มี7ภาควิชา ไม่มีภาควิชาสื่อสาร แล้วที่ไปกินข้าวแถวไนท์ รู้มั้ยมันไกลจากม.มาก เด็กม.เขาไม่ไปกันหรอก นอกจากภาษาไทยอักเสบสะกดผิดเขียนภาษาพิลึกแล้วยังมั่วข้อมูลอีก
หัวข้อ: Re: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก*พีรนีเปียร์*Byพี่รันกะน้องเพียว31-07-08 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 06-03-2022 23:58:10
ซาดังเฮโย.....ฉันรักเธอ.....” 
พระเจ้าช่วยด้วย 555
ไม่ไหวแล้ว ขำขี้แตกเยี่ยวแตก จะเอาฮาไปถึงไหน