กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์  (อ่าน 100671 ครั้ง)

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
ปล. รักพี่นัทเหมือนเดิม แต่รักโอ๊ตเพิ่มอีกคน

แถมเจ้าวินไปด้วยอีกคนแระกัน มันกวนประสาทดี..

แต่ท่าทางเจ้าวินคงเคยล้มเหลวกับความรักมาเหมือนกันอ่ะดิ๊ :laugh:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
ไม่มีอาราย  วันนี้เข้ามากด + ให้ทุกโคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


ไปแระ   :bye2: :bye2:ช่วงนี้สอบคับ  วันนี้ไปสอบภาษาอังกฤษมา

เอาซะคุ้ม  ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว :laugh: :laugh:

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่.8
เย็นวันนั้นผมกลับลงมาจากดอยสุเทพ ไอ้โอ๊ตมันก้อกลับไปแล้วไอ้วินก้อออกไปข้างนอกไม่อยู่ห้อง เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง ก้อเจอจดหมายสอดเข้ามาทางใต้ประตู ตอนนั้นผมงงมากเพราะยังไม่ได้ให้ที่อยู่กับใคร แต่พอเห็นว่ามันมาจากใครความโกรธมันก้อเข้ามาแทนที่ มันเป็นเงิน 100 บาท พร้อมทั้งจดหมายอีก 1 ฉบับ
“นี่เป็น ค่าโจ๊กเมื่อเช้า ไม่ต้องทอน กูทิปให้” ไอ้วินมันนั้นเอง ตอนนั้นผมรู้สึกได้เลยว่าตัวผมสั่นไปด้วยความโกรธ นี่เราทำอะไรอยู่ เราไปยุ่งกับคนอย่างนี้ทำไม และหลังจากวันนั้นผมเองก้อพยายามที่จะเลี่ยงที่จะเจอกับไอ้วินมัน แต่กับโอ๊ต ผมกับมันเราสนิทกันมากขึ้นเพราะนิสัยเราเหมือนกันหลายอย่าง และในสุดสัปดาห์นี้มันก้อชวนผมไปเที่ยวที่ ดอยเชียงดาว
“ว่างัย รอน ไปป่าวพี่ๆที่คณะไปกันหลายคนนะสนิทๆกันทั้งนั้น” ผมลังเลนิดหน่อย ก้ออยากไปนะ แต่ ติดตรงที่ต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ6 ชั่วโมงกว่าจะถึง
“เอาว่ะ ไปก้อไป”
และในเช้าวันที่เราออกเดินทาง ผมก้อแทบไม่อยากไป ไอ้วินมันก้อไปด้วย มันก้อกวนผมตั้งแต่เราเจอหน้ากัน
“ไอ้โอ๊ต มึงชวนมันไปทำมั๊ยวะ กูไม่อยากมีภาระว่ะ แม่งดูแล้วไม่น่าจะเดินไหวว่ะ”
“ไอ้วิน มึงนี่ยังงั๊ย เพื่อนกันทั้งนั้น คราวที่แล้วก้อได้ไอ้รอนมัน ตอนที่มึงเมาเหมือนหมาอ่ะ”
“ไม่เป็นไรโอ๊ต เราไม่ถือ เราทำบุญไม่ค่อยขึ้นน่ะ ชอบโดนเนรคุณอยู่บ่อยๆ” ไอ้วินมันมองผมแบบแทบจะกินผมให้ได้ ส่ะใจดี นานๆจะทำให้มันโกรธได้
พวกเราออกจากเชียงใหม่กันแต่เช้า ผมกับไอ้วินก้อเหมือนเดิม กัดกันไปตลอดทาง เรามาแวะที่ หน่วยพิทักษ์ป่าเด่นหญ้าขัด เพราะว่าเราต้องมาหารุ่นพี่ไอ้โอ๊ต เค้าทำงานอยู่ที่นี่และเค้าจะเป็นคนพาพวกเราไปเที่ยวในครั้งนี้ เมื่อเรามาถึงจุดหมาย เราก้อต้องเดินขึ้นไปประมาณ 5-7 ชั่วโมง ผมท้อเลยครับ ตอนนั้นมีทั้งกล้อง กล้องดูดาว และสัมภาระอีก เราเดินกันมาได้สักพักใหญ่ๆ ก้อหยุดพักกัน ตอนนั้นขาผมแทบจะเดินไม่ไหว มันล้าไปหมด
“ไหวป่าว รอน เห็นหน้าซีดๆ”ไอ้โอ๊ตมันเข้ามาถามผมด้วยความเป็นห่วง
“อือม์.... ยังไหวอยู่ ขอบใจมากโอ๊ต”ผมยิ้มให้โอ๊ต ไม่อยากเป็นภาระมันด้วย ยิ่งไอ้วินมันมองผมกับโอ๊ต สายตาเหมือนจะเยาะเย้ยผมอยู่
“ทำมั๊ยมึงห่วงกันจังว่ะไอ้โอ๊ต ที่กูมึงไม่เห็นถามว่ะ” ไอ้วินมันมองผมกับโอ๊ต แบบแปลก
“ ไอ้ห่านี่คิดมาก เพื่อนกันทั้งนั้น กูชวนเพื่อนมากูก้อต้องดูแลเพื่อนสิว่ะ” โอ๊ตบอกไอ้วินแต่ผมว่าหน้ามันแดงๆชอบกล
เรานั่งพักกินข้าวกินน้ำกันสักพักใหญ่ๆ ก้อเดินกันต่อ ตลอดทางโอ๊ตก้อมาเดินกับผมตลอด เราคุยกันไปตลอดทางมันทำให้ผมลืมเหนื่อยไปเลย จนพี่ศักดิ์ที่เป็นเจ้าหน้าที่บอกว่าอีกประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ก้อจะถึงแล้ว ผมสังเกตว่าไอ้วินมันเดินหลังผมตั่งแต่มาถึงและ แต่ก้อไม่ได้สนใจอะไร จนถึงช่วงที่ทางขึ้นมันชัน และพื้นก้อชื้นด้วย ผมเองสะพายทั้งกล้อง ทั้งเป้ ทำให้ผมเสียหลัก หงายไปข้างหลัง ก้อมีคนมาช่วยผมไว้ และผมก้อไม่คิดว่าจะเป็นมัน
“นึกแล้ว....เห็นสะพายของมาเยอะแยะ นี่ก้อดูอยู่ว่าจะพลาดเมื่อไหร่ ไม่รู้จะขนมาทำไม” ผมไม่อยากจะคิดว่ามันจะคอยดูผมมาตลอดทาง
“เออ.. ขอบใจนายมากนะ แต่ถ้าจะมาเยาะเย้ยละก้อ อย่าช่วยดีกว่า” ผมกัดฟันขอบคุณมัน
“ทำไมว่ะ ที่คุยกับไอ้โอ๊ต พูดจาซะเพราะหน้าตามีความสุขซะขนาดนั้น ที่กับเราเหมือนไม่อยากจะพูดด้วย” มันกระซิบที่ข้างๆหูผม
“ นายน่าจะถามตัวเองก่อนที่จะมาถามเรานะ” และสิ่งที่ทำให้ผมอึ้งคือ ไอ้วินมันดึงเป้ของผมไปถือให้ครับ แล้วมันก้อไม่พูดอะไรอีกจนถึงจุดที่พี่เค้าบอกให้เราตั้งแคมป์กัน
ที่นี่มีบ้านของเจ้าหน้าที่อยู่ มีลานที่ให้เรากางเต็นท์นอนกัน เราจัดข้าวจัดของกันเสร็จก้อมานั่งคุยกัน พี่ศักดิ์พาพวกเรามาดูจุดชมวิว ตอนนี้ท้องฟ้าเป็นสีทอง มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา มีภูเขาน้อยใหญ่ที่อุดมไปด้วยต้นไม้นาๆชนิด มันทำให้เราหายเหนื่อย ผมเอากล้องคู่จามบันทึกภาพความทรงจำนี้ไว้ ว่าจะเอาไว้ไปอวดพี่นัทกับไอ้ภีม และในคืนนั้นพวกพี่ๆก้อมานั่งกินเหล้ากันที่หน้าเต็นท์ของพวกเรา โดยที่ก่อกองไฟเล็กๆไว้เพื่อให้แสงสว่างและให้ความอบอุ่นแก่พวกเรา ผมเองก้อมานั่งคุยกับพี่ๆเค้าสักพักก้อแยกออกมานั่งดูดาวไม่ห่างจากกลุ่มเท่าไหร่
ตอนนี้ความรู้สึกเก่าๆที่แสนสุขกำลังมาทำร้ายผมขณะนี้ ที่นี่ทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถที่จะยืนแล้วเอื้อมคว้าดาวได้ด้วยมือของเปล่า พี่นัทครับเวลาที่พี่มองดูดาวพี่คิดถึงใครมากกว่ากันนะ ระหว่างผมกับพี่วา แล้วหยดน้ำตาก้อไหลออกมาจากดวงตาทั้งสอง
“มานั่งร้องไห้คิดถึงใครตตรงนี้”ไอ้โอ๊ตมันเดินมานั่งกับผม มันพยายามจ้องตาผมแต่ผมเองกลับหลบสายตาของมัน
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ ว่าแต่นายเถอะทำไมไม่นั่งกับพวกพี่ๆเค้าล่ะ”
“เราอยากมาคุยกับรอนมากกว่าน่ะ รอนเราถามอะไรหน่อยสิ”
“อือม์ ถามมาสิ”ผมหันไปมองมาโอ๊ต
“นายรอใครอยู่หรือเปล่า เราไม่อยากเห็นนายเศร้าแบบนี้เลยว่ะ ถ้ามันทรมานขนาดนั้นทิ้งมันไปไม่ได้เหรอ”โอ๊ตมันเอามือมากอดคอผม ผมสัมผัสได้ถึงความรัก ความห่วงใยที่เพื่อนจะมีให้แก่กัน
“ไม่เป็นรั๊ยหรอก เราก้อไม่ได้ทรมานอะไรนี่นา มันก้อมีความสุขนะทุกครั้งที่เราได้คิดถึงวันเก่าๆ เราไม่อยากโกหกกับความรู้สึกของตัวเองน่ะ ถ้าเราคิดถึงใครสักคนแล้วมันมีความสุขมากกว่ามีความทุกข์ เราก้อยังคิดถึงเค้าได้ไม่ใช่เหรอ ความสุขกับความทุกข์นะมันมีมาพร้อมกันนั่นแหละ”
“มานั่งสวีทอะไรกันว่ะ มึง 2 คน”แล้วเสียงไอ้วินมันก้อทำให้โอ๊ตไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมเองก้อไม่อยากจะทะเลาะกับมัน เพราะเมื่อเย็นมันก้อช่วยผมไว้
“รอน เดี๋ยวเราไปเอาอะไรร้อนๆมากินกันดีกว่า แล้วมึงล่ะเอาป่ะ” มันหันไปถามไอ้วิน
“เออ...ดีเหมือนกัน มึนๆหัวอยู่พอดี เหล้าป่าแม่งโคตรแรงเลยว่ะ” แล้วโอ๊ตมันก้อเดินไปทิ้งผมไว้กับไอ้วินมัน
“เมื่อเย็นเราขอบใจนายมากน่ะ”ผมพูดกับไอ้วินแต่ไม่ได้มองหน้ามันแต่พอมันพูดตอบกลับมาทำให้ผมต้องหันมามอง
“ไม่เป็นไร กู เอ้ย! เราก้อขอบใจเรื่องวันที่พี่เค้ารับน้องด้วยน่ะ” มันพูดแบบเขินๆ
“ไม่เป็นรัย นายให้ทิปเรามาเยอะล่ะ” ผมประชดมัน แต่ก้อไม่ได้จริงจังอะไร ผมเองก้อเป็นคนที่โกรธใครไม่ได้นาน แล้วมันก้อดูว่าจะพูดดีๆกับผมแล้ว ยังงัยก้อต้องเจอกันไปอีกหลายปี
“เราไม่ได้จะดูถูกนายน่ะ แต่........”มันก้อไม่ได้บอกอะไร ผมกับมันก้อไม่ได้พูดอะไรกันอีกต่างคนต่างซึมซับกับบรรยากาศรอบๆตัว แต่มันก้อไม่รู้สึกอึดอัดระหว่างผมกับวิน
“ รอน เรามาเป็นเพื่อนกันได้ป่าวว่ะ”วินมันถามผม
“แล้วตอนนี้เราเป็นอะไรกันล่ะ”ผมมองหน้ามัน
“ไม่รู้สิ เรากับนายไม่ค่อยพูดกันดีๆเลยว่ะ เวลาที่นายคุยกับไอ้โอ๊ตมันไม่เหมือนกับที่คุยกับเรา”
“งั้นเราถามหน่อยสิ ทำมัยนายถึงดูไม่ชอบขี้หน้าเราตั่งแต่วันแรก”
“ก้อ..... วันนั้นเราเมาแล้วเสียงดัง เพราะเพื่อนๆเรามันขึ้นมาจากกรุงเทพ มาส่งเราน่ะ แล้วนายก้อมาว่าเรา พอตอนเช้า ก้อมีจดหมายเตือนจากคอนโด เรานึกว่านายไปแจ้งเค้า ตอนหลังถึงรู้ว่าเป็นห้องข้างล่างพอดีระเบียงมันตรงกัน เสียงมันคงเข้าไปได้มั๊ง เราอยากจะขอโทษนายน่ะ แต่เรามันก้อปากแบบเนี้ย”มันพูดแล้วก้อหัวเราะ ผมเองก้อยิ้มๆไปกับมัน และในตอนนั้นความรู้สึกดีๆระหว่างผมกับมันก้อเริ่มต้นขึ้นตั่งแต่คืนนั้น
“อ้าว นึกว่าจะตีกันตายไปแล้ว ดีกันแล้วเหรอ”โอ๊ตเดินกลับมาพร้อมกับโอวัลตินร้อนๆ มันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกมากมายระหว่างพวกเราทั้ง3คน
“รอนตื่นยัง ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน” ไอ้วินมันเดินมาปลุกผม
“ไปเถอะ เราขอนอนอีกหน่อยล่ะกัน หนาวว่ะ” ตอนนั้นอากาศเย็นมากน้ำค้างแรงมาก ผมต้องนอนนิ่งๆเพราะถ้าขยับตัวมันจะไปโดนกับเต็นท์ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำค้าง ผมรู้สึกว่าตัวผมเหมือนโดนใครบางคนกอดอยู่
“พี่นัท มานอนทับผมอีกแล้วเนี้ย”
“ใครเหรอพี่นัท” ผมสะดุ้งเลยครับนี่มันเสียงไอ้วินนี่นา
“เฮ้ย...ตกใจหมดเลย อะไรเนี่ย”
“อ้าว..ก้อนายบอกว่าหนาวเราเลยให้ความอบอุ่นงัย ทำมัยยังหนาวอยู่เหรอมะเดี๋ยวเรากอดให้แน่นขึ้นก้อได้”
“ไม่เอาละไม่เล่นนะเว้ย ไหนว่าจะไปพระอาทิตย์ขึ้นงัย ไปดิ” แล้วผมก้อมุดเต็นท์ออกมา ก้อมาเจอไอ้โอ๊ตมันยืนอยู่หน้าเต็นท์ ดูมันแปลกใจที่เห็นไอ้วินมันตามออกมากับผมด้วย
“เมื่อคืนไอ้วินมันมานอนกับรอนเหรอ”
“ป่าว มันเพิ่งมาปลุกเราเมื่อกี้นี้เอง”
“อ๋อ.... ไปเถอะเดี๋ยวแดดจะแรงกว่านี้” และผมก้อมายังจุดที่พี่ศักดิ์พามาเมื่อวาน ภาพที่อยู่ตรงหน้ามันสวยมากๆท้องฟ้าเริ่งมีแสงของพระอาทิตย์ตรงขอบฟ้า ตอนนี้สุดสายตามีแต่หมอกปกคลุม มียอดเขาโผล่ขึ้นมาท่ามกลางไอหมอก มันเหมือนเกาะเล็กๆที่อยู่บนทะเลหมอก มันสวยงามกว่าที่เราเห็นในภาพกว่าเป็นไหนๆ มันคุ้มค่ากับความเหนื่อยที่เราเดินทางมากันอย่างลำบาก มันคุ้มจริงๆ
หลังจากวันที่เราไปเที่ยวกันพวกผมทั้ง3 คนเราก้อสนิทกันมากกว่าเดิมโดยเฉพาะไอ้วินมันต้องมาเล่นที่ห้องผมทุกวัน ถ้าวันไหนที่ผมกับมันไม่มีเรียนวันนั้นมันต้องมาคลุกอยู่กับผมทั้งวัน มันทำให้ผมเองลืมความเหงาไปได้เหมือนกัน พี่นัทเองช่วงนี้ก้อเรียนหนักมาก เราเลยได้คุยกันน้อยลงแต่พี่นัทก้อยังโทรหาผมอยู่ เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมาตอนม.ปลายก้อห่างหายกันไปมีแต่ไอ้ภีมที่มันยังโทรหาผมทุกวัน
“เฮ้ย..รอนวันหยุดนี้ไปไหนดีว่ะ เบื่อๆไม่อยากอยู่ห้องเลยว่ะ”ไอ้วินมันถามผมขณะที่เรานอนดูหนังในห้องของมัน
“เราจะไปบ้านปู่กับย่าว่ะ ไม่ได้ขึ้นไปนานแล้ว ป้าแกโทรมาบอกว่าย่าคิดถึง”
“เออ..งั้นเราไปด้วยดิ”
“ไม่เอา ขี้เกียจเป็นภาระว่ะ”( ผมแกล้งมัน เพราะตั่งแต่สนิทกับมันทำให้รู้ว่าไอ้วินมันเป็นคนที่ขี้เหงามาก อาจเพราะขาดแม่มาตั่งแต่เด็กๆ มันเล่าให้ฟังว่า มีอยู่วันนึงมันกลับจากโรงเรียน มันได้ยินพ่อกับแม่ทะเลาะกัน มันเลยเข้าไปแอบฟัง มันถึงได้รู้ว่า ตอนนั้นที่แม่มันไม่ทิ้งพ่อกับมันไปเพราะพ่อมันสัญญากับแม่ว่าจะให้ทุกอย่างที่แม่อยาก ไม่ว่าจะเป็นเงิน
หรือสิ่งของได้ขอแค่อย่าทิ้งมันไปเพราะพ่อมันสงสารไม่อยากให้มันต้องกลายเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น มันรู้ว่าพ่อรักมันมาก มันคิดอยู่หลายวันในที่สุดมันก้อเข้าไปคุยกับพ่อว่ามันอยู่กับพ่อ2คนได้ ปล่อยให้แม่ไปตามทางที่แม่อยากไปเถอะ มันสงสารที่พ่อต้องมาทนเพราะมัน
“นายรู้สึกยังงัยที่รู้ว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูกคนนึง ถูกซื้อได้ด้วยเงิน” ไอ้วินมันเคยถามผมช่วงแรกๆที่แม่จากมันไปมันเสียใจมาก แต่ไม่นานก้อกลายเป็นความชินชาตั่งแต่นั้นมามันก้อไม่เคยคิดว่านอกจากพ่อมันแล้วคนอื่นจะจริงใจกับมันจริงๆเพื่อนที่มันคบก่อนที่จะมาที่เชียงใหม่ก้อหวังประโยชน์จากความมั่งมีของครอบครัวมัน ตอนที่ฟังมันครั้งแรกผมรู้สึกสงสาร แต่ก้ออดน้อยใจไม่ได้นี่มันจะรู้ไหมว่าผมจริงใจกับมันจริงๆ ผมสัญญากับตัวเองว่าจะต้องทำให้มันเห็นให้ได้ว่ายังมีคนที่จริงใจกับมันอยู่...)
“โห..ภาระอะไร เราจะเป็นเด็กดีนะ นะ นะ”มันเริ่มอ้อนล่ะ พักหลังๆถ้ามันอยากได้อะไรจากผมมันก้อมักจะมาอ้อนผมอยู่เรื่อยๆ คงเห็นว่าผมเองก้อตามใจมันทุกครั้ง
“เดี๋ยว ขอคิดดูก่อน”
“เออ...ไม่ไปก้อได้”มันทำเป็นงอน ก้อตลกดี เมื่อนึกถึงวันแรกที่เจอกันท่าทางของมันไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำตัวเป็นเด็กๆแบบนี้
และในวันนี้ผมก้อจะไปบ้านปู่ ผมเลยเดินไปเรียกไอ้วินมันที่ห้อง ไอ้โอ๊ตมันไม่ว่างเลยไม่ได้ไป
“มีรัยว่ะ มาปลุกแต่เช้า”ไอ้วินมันงัวเงียมาเปิดประตู ทันที่ผมเห็นมันก้อรู้สึกแปลกๆมันหายใจไม่ทั่วท้อง เขิลๆยังงัยก้อรู้ ตอนนี้มันอยู่ในชุดนอน คือกางเกงขาสั้นตัวเดียวไม่ใส่เสื้อ หัวยุ่งๆ ก้อน่ารักดีนะ มันทำให้ผมนึกไปถึงใครบางคนที่อยู่ไกลแสนไกล หลายครั้งที่ไอ้วินมันทำให้ผมรู้สึกว่ามันคล้ายพี่นัท ชอบบังคับ ขี้อ้อน ขี้โมโห ขี้เล่น และอะไรอีกหลายๆอย่าง
“จะมาบอกว่าถ้าจะไปบ้านปู่กับย่าเราก้อให้เวลา15นาทีถ้าช้าไม่รอ”
“จริงนะ ให้เราไปแล้วใช่ปะ” มันทำหน้าดีใจแล้วก้อรีบวิ่งไปอาบน้ำ ผมมองไอ้วินแล้วได้แต่ยิ้มๆ
แล้วจากนั้นประมาณ2ชั่วโมง เราก้อมาถึงบ้านย่า เพราะเราไปซื้อของมาฝากปู่กับย่า เลยซื้อพวกอาหารสดมาให้ป้าทำกับข้าวด้วย
“รอน ที่นี่น่าอยู่ดีว่ะ”ไอ้วินมันดูว่าจะชอบที่นี่เหลือเกิน แต่ผมเองก้อชอบนะ บรรยากาศที่นี่ดีจริงๆ มันรู้สึกสบายใจที่ได้มาและที่สำคัญมันมีความทรงจำดีๆอีกมากมายที่ผมไม่สามารถลืมได้ ผมมานั่งคิดดูแล้วไม่เห็นจำเป็นที่ผมต้องลืมเลย ในเมื่อมันเป็นความทรงจำดีๆความรู้สึกดีๆ เราก้อควรจะเก็บมันไว้ และในวันนั้นผมก้อพาไอ้วินมันขี่รถเล่นไปทั่วสวน แล้วก้อพามันมานั่งเล่นที่ฝายเก็บน้ำ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือท้องน้ำที่ไม่ใหญ่มากนักแต่ก้อไม่เล็กจนเกินไป มีภาพของวิถีชาวบ้านที่ต้องพึ่งพากับแหล่งน้ำ บ้างก้อพายเรือหาปลา เด็กเล็กเด็กน้อยก้อพากันเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน มีหนุ่มสาวหลายคู่มานั่งคุยกัน มันทำให้ผมชอบมานั่งเล่นที่นี่มันรู้สึกปลอดโปร่ง และก้อสบายใจ
“รอน ขอบใจนะที่พาเรามาที่บ้านปู่กับย่าของนาย เราชอบมากจริงๆ ดูท่านรักนายมากเลยนะ”
“อือม์...ปู่กับย่าคงเห็นความเป็นลูกชายของเค้าในตัวเรามั๊ง มีหลายคนบอกว่าเราเหมือนพ่อ”
“นายโชคดีนะที่เกิดมาโดยมีความรักของคนรอบข้างอยู่รอบๆตัว”ผมมองดูไอ้วิน มันมองไปยังสายน้ำข้างหน้าสายตามันบ่งบอกถึงความเหงา
“วิน เราเองก้อขาดพ่อมาตั่งแต่ยังเด็ก แต่ก้อโชคดีที่เจอใครคนนึงที่ให้ความรักความอบอุ่นกับเรา ไม่ว่าตอนนี้เค้าจะอยู่ไกลแสนไกล แต่ความรักความห่วงใยที่เค้าส่งมาเราเองก้อสัมผัสได้อยู่เสมอ สักวันนายเองก้อคงได้เจอกับใครบางคนที่เค้าจะมอบความรักความห่วงใยให้กับนาย อย่างน้อยๆก้อมีตรงนี่อยู่อีก1คน เพื่อนที่พร้อมจะให้ความรัก ความห่วงใย เท่าที่เพื่อนจะให้นายได้”ผมเอามือจับที่ไหล่ของวินเบาๆ
“ขอบใจมากรอน นายเป็นเพื่อนคนแรกที่เรารักและเชื่อใจที่สุด เราเสียใจนะที่วันแรกที่พวกเราเจอกันมันไม่นาจดจำเท่าไหร่นัก เราคงเสียใจมากถ้าไม่ได้นายมาอยู่ข้างๆเราแบบนี้ สัญญาได้ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายจะอยู่ข้างๆเราตลอดไป เราเองก้อจะอยู่ข้างๆนายตลอดไป” อีกครั้งแล้วที่มันทำให้ผมนึกถึงพี่นัท
“อย่ามาปากดีเลย พอนายมีแฟนแล้ว นายจะลืมเราสิไม่ว่า”ผมแกล้งแซวมัน
“ไม่หรอก แฟนก้อส่วนแฟนสิ แต่กับนายมันต่างกันออกไป เราก้อไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้แค่ว่าอยู่กับนายแล้วเราสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นะๆๆๆสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆเราตลอดไป”
“ อือม์...เราสัญญา ” และในคืนนั้นพวกเราก้อมานอนกันบนหอดูไฟไอ้วินมันอยากมานอนบนนี้ ตอนแรกผมก้อไม่ยอม แต่ทนลูกอ้อนมันไม่ไหว
“ดาวสวยดีว่ะ กระจายเต็มท้องฟ้า พาลให้เห็นหน้าใครอีกคน”ผมพูดกับตัวเอง
“คิดถึงใครว่ะ เราอยู่ข้างๆนี่แล้วยังคิดถึงใครอีกล่ะ”ไอ้วินมันพูดยิ้มๆ
“รอน ที่นายเคยบอกว่า เคยแอบรักใครคนนึง จิงปะ แล้วเค้าเป็นใคร” ผมลังเลอยู่นานว่าจะบอกมันดีหรือเปล่า ถึงผมจะรู้จักกันไม่นานมากแต่ความไว้วางใจมันก้อมากพอ ทำให้ผมตัดสินใจเล่าให้มันฟัง
“ คนที่เรารัก คือคนที่สอนให้เราดูดาว และคอยปกป้องเราเสมอ สักวันเราจะแนะนำให้นายรู้จัก”
“แล้วนายล่ะ ไม่เคยรักใครเลยเหรองัย”ผมหันไปมองไอ้วิน
“นายเป็นคนแรกมั๊งที่เรารัก” มันมองผมยิ้มๆ ตอนนั้นผมรู้สึกใจเต้นแรงมาก มันบอกไม่ถูกรู้สึกท้องมันปันป่วนแปลกๆ
“ไอ้บ้า หมายถึงแฟนน่ะ”ผมหลบตามัน
“นี่นายเขินเราเหรอว่ะ หน้าแดงเชียวตลกดีว่ะ” ไอ้วินมันขำใหญ่เลย
“เรายังไม่เคยมีแฟนเลยว่ะ คบกันเล่นๆเป็นแฟชั่นมากกว่า เรากลัวที่จะต้องเจ็บมั๊ง” สายตามันเศร้าอีกและ
“วิน นายลองทำความรู้จักกับมันเถอะนะไอ้ความรักน่ะ แล้วถ้าวันไหนนายมีทุกข์ เราก้ออยู่นี่งัย รู้มั๊ย เพื่อนคือคนที่จะแบกความทุกข์ของเพื่อนไว้บนบ่าของเค้าเอง และเราเองจะเป็นคนแบกความทุกข์ให้นาย”วินมันหันมามอง ผมเห็นว่าที่ตามันเหมือนมีน้ำใสๆคลออยู่ แล้วมันก้อมากอดผมไว้
“ให้ตายสิทำมัยนายไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงว่ะ เราจะได้ประกาศให้คนอื่นเค้ารู้ว่านายเป็นของเรา”
“ถ้าเราเป็นผู้หญิงเราก้อไม่เอานายหรอก” ผมกัดมันเล่นๆ
“แสดงว่าเป็นผู้ชายแล้วจะเอาใช่ป่ะ” มันกัดผมกลับ แล้วเราก้อหัวเราะให้กัน คืนนั้นผมกับมันคุยกันเกือบทั้งคืน มันทำให้ผมรักเพื่อนคนนี้มากกว่าเดิม....................................
.................................................................


ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
แวะมาจิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ค๊าบ........   :m14: :m14:

ไปอ่านก่อนนะ ค๊าบ .......

ranaways

  • บุคคลทั่วไป


รัน อาจจะไม่ได้มาลง บ่อยๆนะครับ  เพราะตอนนี้รันต้องกลับบ้าน ไปหาที่เรียนต่อ ป.โท  ประกาศิต จากคุณแม่

แต่ก้อจะพยายามเข้ามานะคับ  เพราะว่าช่วงแรกมันอาจจะยุ่งๆ นิดหน่อย  นะค๊าบบบบบบบบบบบบ
********************************************************************
ตอนที่.9

“รอน เดี๋ยวเย็นนี้เจอกันที่ร้านเดิมนะโว้ย ห้ามเบี้ยวนะ”ไอ้โอ๊ตมันเดินมาบอกแกมบังคับกลายๆ วันนี้เพื่อนๆผมมันจะไปฉลองกันเพราะวันนี้พวกเราสอบเป็นตัวสุดท้ายแล้ว ผมกะจะกลับลงไปบ้านที่กรุงเทพสัก 2-3 อาทิตย์ ไม่ได้เจอ ลุง กับ แม่นานแล้วเหมือนกัน ไอ้ภีมมันก้อย้ำนักหนาว่าให้กลับมาหามันบ้าง
“ เออ...เดี๋ยวนายไปที่ร้านก่อนเลยนะ เราจะกลับไปที่ห้องก่อนอยากอาบน้ำก่อนว่ะ หรือว่าจะกลับไปที่ห้องเราด้วยกันก่อน แล้วไอ้วินมันไปไหนเนี้ยจะกลับห้องด้วยกันป่าวว่ะ เมื่อเช้ามันไม่ได้เอารถมา” ผมพูกพลางมองหาไอ้เพื่อนจอมกวน
“ถ้าอย่างนายไม่เห็น เราก้อคงไม่เห็นเหมือนกัน ตัวติดกันจนจะเป็นเงาของกันอยู่แล้วเนี้ย ขนาดเพื่อนในเมเจอร์เดียวกันยังอดน้อยใจมันไม่ได้เลย ที่มันไม่ค่อยยอมไปไหนด้วยไม่เหมือนทีกับนาย” โอ๊ตมันบ่นไอ้วิน ผมจับได้ว่าน้ำเสียงมันดูคล้ายๆจะน้อยใจ
“ อย่าคิดมากน่า ไอ้วินมันก้อเป็นแบบนี้แหละ มันเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายนะแต่มันเปิดใจกับคนอื่นยาก อีกอย่างห้องเรากับมันก้ออยู่ติดกันแค่เนี้ยมีอะไรมันก้อมาปรึกษาเราเลยทำให้สนิทกันมากกว่าคนอื่นน่ะ” ผมบอกไอ้โอ๊ต แต่พอนึกแล้วมันก้อคงจะจริงเพราะถ้าผมกับไอ้วินไม่มีเรียนมันต้องโทรตามให้ผมมาหามัน ไม่มันก้อมาหาผมจนเพื่อนๆในเมเจอร์ผมแซวผมกับมันบ่อยๆ ขณะที่ผมนึกอยู่นั้นไอ้วินมันก้อโทรมาพอดี
“รอน นี่นายอยู่ไหนว่ะ”
“อยู่กับไอ้โอ๊ตที่คณะอ่ะ แล้วทำอะไรอยู่ว่ะจะกลับด้วยกันป่ะ รอนานแล้วเนี้ย”
“เออ นายกลับไปก่อนก้อได้ พอดีเรามีธุระว่ะเดี๋ยวไปเจอกันที่ห้องแล้วกันน่ะ” แล้วมันก้อวางสายไป
“เออ โอ๊ตงั้นเรากลับเลยนะไอ้วินมันจะไปธุระก่อนว่ะ เดี๋ยวเจอกัน” ผมบอกโอ๊ตแล้วก้อหันหลังจะเดินไปที่รถ แต่มันดึงมือผมไว้
“เราเปลี่ยนใจแล้วว่ะ เราขอไปอาบน้ำที่ห้องรอนดีกว่า”
“อือม์ ไปดิ”ผมกันมันเลยเดินมาที่ลานจอดรถ
“อะโอ๊ต นายขี่แล้วกัน ขี้เกียจว่ะ” ผมยื่นกุญแจให้โอ๊ต
“ไม่เอาอ่ะ รอนนายนั่นแหละขี่เราอยากนั่งซ้อนมากกว่า”
“เออออ ก้อได้ว่ะ วานนิดวานหน่อยไม่ได้เลย ที่ไอ้วินมันยังขี่ให้เรานั่งเลย” ผมว่าพอผมพูดหน้าของโอ๊ตมันดูเสียนิดหน่อย
“ถ้างั้นเราขี่เองก้อได้ นายมาซ้อนก้อแล้วกัน”
“เฮ้ย...ไม่เป็นไรเราพูดเล่น ป่ะ เดี๋ยวเสียเวลา”
แล้วผมก้อกลับมาที่ห้องก่อน ระหว่างทางไอ้โอ๊ตมันก้อกอดเอวผมมาตลอด มันชวนผมคุยโน้นนี่ตลอด เวลาที่มันคุยก้อเอาปากมาพูดที่ข้างหูของผม หลายครั้งที่รู้สึกว่าริมผีปากของมันงับหูผมไปหลายครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
“โอ๊ต นายอาบน้ำก่อนก้อแล้วกันนะ เดี๋ยวเราหาเสื้อผ้ามาให้ เพราะนายก้อไม่ได้เอามาเปลี่ยนด้วยนี่นา”
“ไม่เป็นไร เราใส่ชุดเดิมก้อได้ อย่าลำบากเลย”
“ไม่เป็นไร นายไปอาบน้ำเถอะ”แล้วไอ้โอ๊ตมันก้อเดินไปอาบน้ำ สักพักไอ้วินมันก้อมาเคาะห้องผม
“มาแล้วเหรอ ไปไหนมาว่ะ” ผมถามมันแต่ไม่รู้มันเป็นอะไรทำหน้ายังกับตูด
“ เอออ แล้วนี่ไอ้โอ๊ตมันไปไหนล่ะ เห็นนั่งซ้อนท้ายกันมา”
“มันอาบน้ำอยู่ นายก้อไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวเราไปด้วยกัน เอารถนายไปดีกว่า 3 คนคงไปรถเราไม่หมด” ผมบอกไอ้วินมัน
“นายไปกันก่อนเถอะ เดี๋ยวเราตามไป”แล้วมันก้อเดินกลับไปที่ห้อง มันเป็นอะไรของมันก้อไม่รู้
“รอน.....รอน เหม่ออะไรอยู่ว่ะเรียกตั้งนาน” โอ๊ตมันอาบน้ำเสร็จแล้ว พอผมหันไปก้อเห็นมันนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว อือม์ หุ่นมันดีจริงๆ เต็มไปด้วยมัดกล้าม แต่ผมก้อไม่ได้คิดอะไรนะไม่เหมือนที่เห็นไอ้วินตอนนั้น พอมาคิดดูแล้วก้อบอกไม่ถูกเหมือนกันในตอนนั้น
“เสื้อผ้าอยู่ที่เตียงนะ เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อน”แล้วผมก้อเข้าไปอาบน้ำ ตอนนั้นก้อคิดว่าไอ้วินมันเป็นอะไร เดี๋ยวต้องถามให้หายสงสัย ไอ้นี่มีอะไรก้อต้องมาเล่าทุกครั้ง แต่วันนี้มันกลับไม่เล่าอะไรให้ฟังเลย แถมยังดูอารมเสียอีก ผมอาบน้ำนานพอสมควรจนไอ้โอ๊ตมันต้องมาเรียก
“ไอ้รอน...เสร็จยังวะ หลับยังว่ะเนี้ย”
“เสร็จแล้วโว้ย” ผมตะโกนบอกมันแล้วก้อออกมาจากห้องน้ำ ไอ้โอ๊ตมันมองผมแว๊บนึง
“อาบนานจังว่ะ แค่นี้ก้อขาวจะแย่อยู่แล้ว”หน้ามันดูแดงๆ
พอแต่งตัวผมบอกให้โอ๊ตมันไปรอที่รถก่อน เดี๋ยวจะเข้าไปดูไอ้วินมันแป๊ปนึง
“ วันนี้เป็นอะไรไปอ่ะ ทำมัยดูอารมณ์เสีย มีอะไรไม่เห็นเล่าให้เราฟังเลย”ผมถามไอ้วินหลังจากที่มันเดินมาเปิดประตูให้
“ป่าวไม่มี่อะไรหรอก” ดูมันอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
“แน่ใจน่ะ ว่าไม่มีอะไร”
“เออ...แค่รู้ว่านายเป็นห่วงก้อไม่เป็นรัยแล้ว”
“งั้น เราไปก่อนนะ เดี๋ยวไอ้โอ๊ตมันรอนาน”
“รอน เดี๋ยว”แล้วไอ้วินมันก้อเดินไปหยิบอะไรบางอย่างมาให้ผม
“อ่ะ เราเห็นมันแล้วคิดถึงนายว่ะ” มันเป็นแหวนเงินเกลี้ยงๆ แต่มีรูปดาวลงยาสีดำไว้บนตัวแหวน
“ขอบใจว่ะ แต่นึกยังงัยถึงซื้อแหวนให้เราว่ะ ถ้าเราใส่เราต้องกลายเป็นคนของนายป่ะ”ผมแซวมันเล่นๆ
“ใช่แล้ว ต่อไปนายเป็นคนของเรา เราสั่งอะไรต้องเชื่อฟัง ห้ามดื้อ รู้ป่าว”มันพูดแล้วก้อหัวเราะ
“งั้นเรายังไม่ใส่ดีกว่า”แล้วผมก้อเอามันไปคล้องไว้ที่สร้อยผมแทน
“อ้าว ทำไมไม่ใส่ที่นิ้วล่ะ”
“เอาไว้ถ้าเราอยากเป็นคนของนาย เราจะใส่ แต่ตอนนี้ยัง......ไม่อยากฟังคำสั่งใคร”แล้วผมก้อทำหน้ากวนๆให้มัน แต่ตอนนั้นก้อรู้สึกดีนะครับ
แล้วคืนนั้นพวกผมก้อเมากันเละ โดยเฉพาะไอ้วิน ไอ้ป๋อม( เพื่อนที่คณะผม) แต่ผมไม่ค่อยชอบกินเหล้าเท่าไหร่เลยยังปกติดี พอร้านปิดพวกเราก้อแยกย้ายกันกลับ ไอ้วินมันไม่ได้เอารถมาเลยต้องกลับกับผม ผมพยุงมันมาที่รถแต่สติมันก้อยังดีอยู่ยังพอรู้เรื่อง
“แล้วเมื่อเย็นมายังงัยว่ะนี่”ผมถามไอ้วิน
“เพื่อนมาส่ง”มันตอบผมแบบอู้อี้
“เตรียมพร้อมที่จะเมาเลยนะ”ผมกัดมันครับ
“แน่นอน เราเตรียมตัวมาเลย เรื่องอะไรจะให้ไอ้โอ๊ตมันกอดอยู่คนเดียว”ตอนนั้นผมว่ามันแปลกๆละไอ้นี่ ***************************

ตลอดทางที่กลับห้องกันไอ้วินมันกอดผมมาตลอดมันเอาหน้าซบลงตรงกลางหลังของผม ตัวมันสั่นๆ
“หนาวเหรอ เดี๋ยวเราขับไปเรื่อยๆแล้วกันนะ”ผมชะลอความเร็วลง
“อือม์”ไอ้วินมันตอบผม มันกอดผมแน่นกว่าเดิม เวลาเหมือนจะหยุดอยู่ระหว่างผมกับมัน ในค่ำคื่นที่รถราแทบจะไม่มีวิ่งเพราะมันดึกมากแล้ว สายลมที่พัดมาประทะกับผิวหน้าและอ้อมแขนของไอ้วิน มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจ ความรู้สึกในตอนนั้นคืออยากให้มันกอดผมให้แน่นและนานกว่านี้

*************************************


ที่สนามบินไอ้ภีมมันมารับผม ผมกับมันไม่เจอกันเป็นปี แต่เราก้อยังเหมือนเดิมคงเพระมันโทรหาผมอยู่ตลอด มันดูหล่อขึ้นเยอะเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไปแล้วเพื่อนเรา
“ไม่เจอกันนาน น่ารักขึ้นนะ ไอ้ตัวยุ่ง ขาวขึ้นป่าวเนี้ย”ไอ้ภีมมันทักผม
“นายเองก้อหล่อขึ้นนะ”ผมเองก้อชมมันเช่นกัน ดูมันเขินๆ ไอ้ภีมมันพาผมมากินข้าวแถวๆเรียบทางด่วน ร้านบรรยากาศดีมากๆ
“สบายดีหรือเปล่าว่ะ แล้วพวกไอ้อั้ม ไอ้เจนล่ะ ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเลย”ผมถามมัน
“ก้อดี พวกมันก้อคงดีเหมือนกันพักหลังๆก้อไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ มีแต่กับนายแหละที่ยังคุยกันเหมือนเดิม” มันมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน ผมรู้สึกว่ามันดูอ่อนโยนและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ
“แล้วนายล่ะ เป็นงัยอยู่ทางโน้น คิดถึงเรามั่งป่าว แล้วลืมเรื่องเก่าๆไปได้หรือยัง”
“อือม์...เราก้อไม่ได้คิดอะไรมากแล้ว ใจคนเรามันบังคับกันไม่ได้นี่หว่า แล้วมันคงไม่ดีด้วยเพราะยังงัยพี่นัทกับเราก้อเป็นพี่น้องกัน”
“แล้วตอนนี้นายล่ะ มีแฟนยัง”ผมถามไอ้ภีมยิ้มๆ
“ยัง ก้อมีคนมาจีบนะ ออกจะหล่อล่ำขนาดนี้ แต่เราอยากจะลบความรู้สึกเก่าๆในอดีตออกให้หมดก่อนน่ะ” ผมรู้สึกว่ามันเจ็บที่ใจยังงัยบอกไม่ถูกถ้าไอ้ภีมมันจะลบความรู้สึกที่มีให้กับผม
“เฮ้ย...อย่าคิดมากดิ เราไม่คิดอะไรแล้ว แต่ถ้าจะเริ่มต้นใหม่กับใครเราก้อไม่อยากเอาเปรียบเค้าน่ะ”มันรีบบอกผมคงเห็นหน้าผมเสียไป
“เราเองก้ออยากให้นายเองมีคนที่เค้ารักนายจริงๆนะ แต่สำหรับเรนะก้อยังอยู่ตรงนี้เสมอ”ผมบอกกับไอ้ภีม อยากให้มันรู้ว่าผมจะอยู่ข้างๆมันเสมอ
“รอน นายยังเหมือนเดิมนะ ความจริงใจที่มีให้เพื่อน เรายังสัมผัสมันได้เสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่นายจะยังเป็นเพื่อนที่เรารักมากที่สุดอยู่ดี”ผมและไอ้ภีมเราต่างคนต่างมองตากันและกันภาพวันวานเก่าๆมันกระจ่างชัดขึ้นมาในความนึกคิด และในคืนนั้นผมและมันเราก้อกลับมาเป็นเด็กม.ปลายกันอีกครั้ง…………

“เข้าบ้านก่อนป่าว”ผมถามไอ้ภีมเพราะมันมาส่งผมที่หน้าบ้าน
“ไม่อ่ะ นายจะได้พักผ่อน เดินทางมาทั้งวันแล้ว”
“ไม่เป็นไร นายนอนกับเราที่นี่ก้อได้ จะได้คุยกันงั๊ย”
“ไม่หรอกกลัวอดใจไม่ไหวเดี๋ยวได้ปล่ำนายขึ้นมาแล้วจะแย่” มันหัวเราะแล้วก้อทำตาหวานๆมาให้
“ไอ้บ้า.. แต่ก้อขอบใจนะที่ไปรับ เราเข้าบ้านก่อนละกัน” ผมยิ้มให้ไอ้ภีมมันเป็นยิ้มที่จริงใจที่สุดแล้วผมก้อเดินเข้าบ้าน แต่ถ้าผมหันกลับมามองผมคงเห็นน้ำตาของใครบางคน
“ ขอโทษนะรอนที่ต้องโกหกนาย...เราเองยังลืมนายไม่ได้จริงๆแต่ไม่ต้องกลัวเราสัญญาว่าความรักของเราจะไม่ทำให้นายลำบากใจแน่นอน เราขอแค่ยืนในที่ๆเราอยู่ตอนนี้ที่ๆเราจะเห็นนายอยู่ตลอดเวลา ที่ๆเราสัมผัสนายได้ก็พอ”
...........................................................................


marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
 :m1: บรรยากาศความโรแมนติดแผ่กระจายไปทั่ว :o8:

ขอบรรยากาศแบบนี้ให้มีนาน ๆ หน่อยน๊า...ความเศร้าอย่าเพิ่งมาเลย  o7

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ชอบจังเลยคับ ชอบเมืองเชียงใหม่ ขอติดตามเรื่องนี้อีกคนน่ะคับ

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
ชอบนิยายเรื่องนี้มากครับ

เพราะเรื่องนี้ทำให้ไปทำงานแบบตาบวมๆ(ร้องไห้จัด)

เป็นกำลังใจให้คนโพสนะครับ

แล้วจะรอเรื่องต่อไปของคุณพี

น้องเพียวจัดมาให้พี่ด่วน!!

ปล.อยากอ่านเรื่องคะนึงหาที่ค้างไว้ในบอร์ดปาล์มของคุณพีมากครับใครสามารถจัดมาต่อให้จบในเล้าที

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m13: ว่าแต่ นี่รอนเดียวกับในบ้าน AF ป่าวหว่า  :m20: :m20:

ขอบคุณนะครับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า.....

 :pig4: :pig4: :pig4:

ranaways

  • บุคคลทั่วไป


 :pig4: ขอบคุณ ทุกๆ คนที่เป็นกำลังใจให้นะครับ

ถึงแม้จะไม่ได้แต่งเอง

แต่ก้อชื่นชอบนิยายเรื่องนี้เหมือนๆ กับทุกคน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7

thomaskung

  • บุคคลทั่วไป
มีความสุขแบบเหงาๆ *-*
ชอบมากมาย
โดนใจที่สุด
 :กอด1:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
มาลงให้แระค๊าบ


รอนในนี้  แถมยังมีนัทด้วย  :m1:


รู้สึกว่าจะเป็น  นัท & รอน  ช่ายมะ  :o8:



วันนี้สอบ Reasoning เป็นวิชาการใช้เหตุผล

เค้าบอกกันไว้ว่า  เรียนวิชานี้  ถ้าอาจารย์ถามว่าเข้าใจหรือเปล่า  แล้วเราตอบว่าเข้าใจแสดงว่าไม่เข้าใจ

เพราะอาจารย์เรียนมาจนถึงตอนนี้ยังไม่เข้าใจเรย  :laugh: :laugh:

ไปอ่านต่อกันดีกว่า  เด๋วพรุ่งนี้มาลงอีกตอน


ตอนที่.10
ตลอดเวลาที่ผมกลับลงมาอยู่ที่กรุงเทพ ไอ้ภีมมันจะมาคลุกอยู่กับผมเสียเป็นส่วนใหญ่ ระยะเวลาไม่ทำให้มิตรภาพของพวกเราเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับทำให้ผมรักมันมากขึ้น
วันนี้ผมกับภีมมาเดินเล่นที่สวนจตุจักร เราเดินดูของกันอย่างสนุกสนาน ไอ้วินมันก้อโทรเข้ามา
“ว่างัยไอ้คุณชาย มีอะไรว่ะ”
“รอน..นี่นายจะกลับมาเชียงใหม่เมื่อไหร่”
“อีกประมาณ 2-3 วันก้อจะกลับแล้ว มีอะไรหรือป่าว” ผมรู้สึกว่าเสียงของมันดูเหงาๆ
“เซ็งๆ ไม่มีเพื่อนคุยว่ะ รีบกลับมาได้แล้วโว้ย”
“แล้วนี่ใจคอจะไม่กลับมาบ้าน หาพ่อมั่งเหรอ”ผมถามมัน
“ไม่อ่ะ พ่อเราไปทำงานที่ต่างประเทศ กลับมาก้อไม่มีอะไรทำ อยู่เล่นกับเพื่อนที่คณะดีกว่า”
“อ้าว มีเพื่อนแล้วจะให้เรารีบกลับไปทำมั๊ยว่ะไอ้นี่”ผมแซวมันเล่นๆ แต่จริงๆผมเองก้อคิดถึงมันมากเหมือนกัน ผมคุยกับไอ้วินสักพักก้อวางสายไป รู้สึกว่าไอ้ภีมมันมองมาที่ผมบ่อยๆ
“แฟน...เหรอ”ไอ้ภีมมันเอ่ยถามผมหลังจากที่ไอ้วินมันวางสายไป
“บ้า เพื่อนกัน ไอ้วินงัยที่เคยเล่าให้ฟังอ่ะ”
“อ๋อ...คนที่อยู่ข้างๆห้องนะเหรอ”
“ใช่..ตอนแรกก้อไม่ค่อยจะชอบมันแต่ตอนนี้กลับมาสนิทกันซะงั้น”ผมยิ้มๆพลางนึกถึงตอนแรกๆที่ผมกับไอ้วินรู้จักกัน
“เวลานายคุยกับเพื่อนคนนี้แววตาของนายดูมีความสุขดีนะ”ไอ้ภีมมองผมด้วยสายตาที่ผมเองก้อบอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร แต่ก้อทำให้ผมกลับมานั่งคิดถึงเรื่องที่มันพูด
“รอน นายจะกลับเชียงใหม่พรุ่งนี้แล้วใช่มั๊ย เดินทางปลอดภัยนะ เรามีธุระคงมาส่งไม่ได้”ไอ้ภีมบอกลาผมหลังจากที่เรากลับมาจากซื้อของกัน ตอนนี้ผมกับมันมานั่งเล่นที่สวนหลังบ้าน
“อือม์ คงจะกลับพรุ่งนี้แหละ”
“รีบกลับจัง ไหนว่าอีก 2-3 วันไม่ใช่เหรอ พอแฟนโทรมาหน่อยรีบกลับไปหาเลยนะ”ไอ้ภีมมันแซวพร้อมกับทำหน้ากวนๆ
“ไอ้บ้า บอกว่าเป็นเพื่อนกัน ไอ้นี่นิ”
“รอน ความสุขมันอยู่กับเราไม่นานหรอกนะ ทำมัยไม่ถามใจตัวเองให้ดี ยิ่งนายรู้ใจตัวเองเร็วเท่าไหร่ นายเองก้อจะมีความสุขเร็วขึ้นนะ”ตอนนี้สายตาของเราประสานกัน ผมเห็นถึงความห่วงใยในสายตาเพื่อนคนนี้
“แล้วอะไรๆที่นายว่ามันคืออะไรล่ะ”
“ก้อนายเอง กับ คนที่เค้ารักนายก้อจะได้มีความสุข ส่วนคนที่มันยังรอนายอยู่จะได้ตัดใจได้จริงๆซะที”ผมรับรู้ได้ถึงความเศร้าที่แสดงผ่านแววตาคู่สวยที่มองมายังผม แม้มันจะเพียงครู่เดียวก้อตาม
“ภีม บางครั้งเราเองก้อกลัวนะ กับความรักที่มันผิดธรรมชาติแบบนี้ รักแรกของเราเกิดกับพี่ชายของตัวเอง เรากลัวว่าครั้งต่อไปมันจะเกิดกับคนที่เราไม่ควรจะคิดแบบนั้นกับเค้า เรากลัวการสูญเสียว่ะ เฮ่อ...ทำมั๊ยนะคนที่เราชอบไม่เป็นผู้หญิงบ้างนะ”
“อย่าฝืนใจตัวเองเลย ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นเถอะ อย่าพยายามหาเหตุผลที่ตัวเราต้องเป็นแบบนี้
มันต้องมีแหละน่า คนที่จะมองผ่านตัวของเราแล้วเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน” ผมรู้สึกว่าไอ้ภีมวันนี้ช่างอ่อนโยน เป็นสุภาพบุรุษต่างจากไอ้ภีมคนเดิมที่ผมรู้จัก ทำมัยนะวันนี้ผมถึงรู้สึกว่ามันดูหล่อมากในสายตาผม
“คืนนี้ค้างกับเราป่ะ อยากคุยกับนายจนถึงเช้าเลยอ่ะ สบายใจจังที่ได้คุยกับนาย”ผมถามไอ้ภีม
“ไม่ได้หรอก พรุ่งนี้เรามีธุระแต่เช้าน่ะ แต่จะกลับดึกหน่อยก้อแล้วกันนะไอ้ตัวยุ่ง” คืนนั้นเป็นคืนที่ผมอบอุ่นมากอีกคืนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยที่เราต่างมีให้กันและกัน
****************************************
ผมมาถึงเชียงใหม่ในบ่ายวันรุ่งขึ้น ตอนที่ผมอยู่ที่ดอนเมือง ผมว่าผมเห็นไอ้ภีมมันนะ แต่ก้อไม่แน่ใจว่าตาฝาดหรือเปล่า ทำไมมันถึงไม่ยอมมาส่งผมถ้ามันอยู่ที่สนามบินจริงๆ แต่ก้อไม่ทันได้คิดอะไรมากไอ้วินมันก้อมายืนยิ้มรอรับผมแล้ว ผมโทรมาบอกมันว่าจะถึงตอนบ่ายๆของวันนี้ มันดีใจมากที่รู้ว่าผมรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนมัน และในช่วงที่เหลืออีกประมาณ1อาทิตย์ก่อนที่มหาลัยจะเปิดผมกับมันก้ออยู่ด้วยกันทุกวัน เจอหน้ากันแทบจะตั่งแต่ลืมตาตื่นจนหลับตานอนเลยก้อว่าได้


วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก มันเต็มไปด้วยน้องๆปีหนึ่ง นี่ผมมาอยู่ที่นี่ได้1ปีแล้วสินะมันก้อผ่านมาไวเหมือนกัน พี่นัทเองก้อหายไปเลยตั่งแต่มหาลัยปิด ยันเปิดไม่ติดต่อมาเลย น้อยใจชะมัด ผมเดินมาที่คณะแต่เช้าเจอเพื่อนๆก้อนั่งคุยกันไปเรื่อยๆไอ้โอ๊ตมันก้อเดินมาหาผม ไม่เจอกันไม่เท่าไหร่ดูมันคล้ำลงไปนิดหน่อย แต่ก้อทำให้มันดูเข้มขึ้น มันเข้ามาคุยกับผมเลยทำให้รู้ว่ามันขึ้นไปช่วยญาติทำงานที่เชียงรายมา วันนี้ผมเองก้อต้องดีใจที่เจอเพื่อนเก่า
“หวัดดีค่ะ พี่รอนจำลลินได้มั๊ยค่ะ” ผมนึกไปนึกมาก้อนึกออก ผมเคยคุยกับน้องเค้าสักพัก พอย้ายมาเรียนที่นี่เลยไม่ได้ติดต่อกันอีก
“อ๋อ..จำได้แล้วครับ มาเรียนไกลถึงนี่เลยเหรอ” ผมยิ้มให้น้องเค้า
“พอดีลิน ติดเภสัชที่นี่ค่ะ แล้วก้ออยากจะมีอิสระบ้างอยู่บ้านแม่คอยดูแลอย่างกับลินเป็นเด็กๆเลยค่ะ พอดีพี่อั้ง เค้าบอกว่าพี่รอนเรียนที่นี่ ลินเลยลองเดินมาดูที่คณะของพี่รอนเผื่อว่าจะเจอนะค่ะ... โชคดีที่เจอกันนะค่ะ” น้องลินส่งยิ้มหวานมาให้ น้องลินในวันนี้ เติบโตเป็นสาวน้อยน่ารัก เพื่อนๆที่คณะมองน้องเค้าหูตาแพรวพราว
“เออ....น้องลิน นี่เพื่อนพี่ นี่พี่โอ๊ต นี่พี่วิน นี่พี่ป๋อม นะ นิสัยดีกันทั้งนั้น มีเรื่องอะไรให้พวกพี่ช่วยเหลือก้อบอกมาได้เลยนะ” ผมบอกน้องเค้าด้วยความเอ็นดู
หลังจากนั้นมาน้องลินก้อมาเป็นนางฟ้าประจำกลุ่มของพวกผมไปโดยปริยาย น้องลินมักจะมากินข้าวกับพวกผมเป็นประจำ ตอนเย็นถ้าว่าง ทั้งผม น้องลินแล้วก้อไอ้เพื่อนตัวดีอีก2คนเรามักจะพากันไปเดินที่อ่างเกษตร กันเป็นประจำ พวกเราสนิทกันมาก น้องลินเหมือนเป็นน้องสาวของพวกเราไป บ่อยครั้งที่มีหนุ่มๆมาแซวก้อต้องเจอกับด่านสกัดดาวรุ่งของพวกผม จนเข้าสู่เทอม.2 ของชั้นปี พวกเราก้อยังสนิทกันเหมือนเดิม ผมกับไอ้วินเราก้อสนิทกันมากขึ้น ผมกับมันต้องกินข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน ตอนกลางวันผมก้อจะรอกินพร้อมไอ้โอ๊ตและน้องลินด้วย แต่ถ้าไอ้วินยังไม่มาผมก้อจะรอมันเสมอ จนเพื่อนๆเริ่มจะจับคู่ให้ผมกับมัน ซึ่งในตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าผมอาจจะรักเพื่อนคนนี้เข้าแล้ว และในวันนี้พวกเรานัดกันไปอ่างเกษตรเพื่อ ไปลอยโคมกัน เรานัดเจอกันที่ห้องไอ้วิน วันนี้ขณะที่ผมกำลังแต่งตัว และส่องกระจกดูความเรียบร้อย สายตาก้อเห็นแหวนที่ไอ้วินให้ผม ผมยังคงใส่ติดคอไว้เสมอตั่งแต่วันนั้น ความรู้สึกบางอย่างทำให้ผมถอดมันออกมาแล้วเอามาใส่ โดนใส่ที่นิ้วนางข้างขวา
“ไอ้วิน วันนี้เราจะยอมเป็นคนของนาย” ผมพูดกับตัวเอง แล้วเดินออกจากห้องไปสมทบกับพวกไอ้โอ๊ตและน้องลินที่ห้องไอ้วิน
“ว่าไอ้ว่ะไอ้คนรูปหล่อ กว่าจะเสร็จนะ รอเป็นชาติแล้วเนี้ย”ไอ้โอ๊ตมันกัดผมตั่งแต่ผมเดินเข้ามาในห้องไอ้วิน
“วันนี้ พี่รอนน่ารักจังเลยค่ะ เดี๋ยวน้องลินขอควงพี่รอนแล้วกัน” ผมเห็นไอ้วินมันทำหน้างอนๆ
“แต่งตัวซะหล่อเลยนะ กะจะไม่ให้พวกเราเกิดเลยว่างั้นเถอะ”มันแซวผม และพวกเราก้อจะเดินออกจากห้อง ไอ้วินมันก้อเดินมากอดคอผมแล้วพูดข้างๆหูผม
“ ยอมใส่ซะทีนะ” แล้วมันก้อยิ้มๆ
ขณะที่พวกเราเดิ่นเล่นกันอยู่ที่อ่างเกษตร ไอ้โอ๊ตก้อเอาโคมมาให้พวกเรา
“เอามาทำมั๊ยตั้ง 2 อันว่ะ ลอยด้วยกันก้อได้” ผมบ่นไอ้โอ๊ต
“ไม่ได้หรอกมีบางคนเค้าอยากลอยกันแค่2คน”แล้วมันก้อหันไปมองไอ้วิน ผมทำสายตางงๆ ไอ้วินมันเลยลากผมเดินออกมาไม่ไกลจากที่เรายืนกันอยู่เท่าไหร่นัก
“รอน นายเป็นคนของเรา เพราะฉะนั้น เราจะถามอะไรหน่อยนะ ห้ามโกหกเรา นี่คือคำสั่ง” หน้าตามันจริงจังแต่ก้อมีรอยยิ้มกวนๆ
“ได้ครับเจ้านาย จะถามอะไรเหรอ”ผมเลยกวนมันบ้าง
“นายคิดอะไรกับน้องลินป่าว”มันถามผม
“ป่าว เราเห็นน้องลินเหมือนน้องสาวเรา”ผมบอกมัน
“งั้นเรามีอะไรจะบอกนาย เราก้อไม่เข้าใจตัวเองนัก แต่เวลาที่น้องลินมาเล่นกับนายเรามักจะหงุดหงิดน่ะ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เราคิดว่าคืนนี้เหมาะที่จะบอกทั้งนายและน้องลิน เราคิดว่าเราชอบน้องลินว่ะ เราจะขอน้องเค้าเป็นแฟน ถ้าไม่โกรธเรานะ” ทันที่ที่ไอ้วินมันพูดจบ ผมรู้สึกว่ามีแสงสว่างจ้าเกิดขึ้นแล้วมันก้อมืดลงมืดลง หัวใจผมเจ็บอีกครั้ง ตัวผมเริ่มชาหายใจไม่ทั่วท้อง และก่อนที่น้ำตาผมจะไหลออกมา ไอ้โอ๊ตมันก้อตะโกนเรียกพวกผม มันทำให้ผมกลับมามีสติอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร ทั้งนายและน้องลิน ก้อเป็นคนที่เรารักทั้งคู่ เราย่อมดีใจด้วยอยู่แล้ว” ผมบอกไอ้วินมันออกไป
“ค่อยโล่งใจหน่อย ทำมัยคิดนานจังว่ะ นึกว่าจะโกรธกันซะแล้ว” มันกอดคอผมแล้วพาเดินกลับมายังไอ้โอ๊ตและน้องลิน ผมเห็นมันเข้าไปคุยกับน้องลินเห็นน้องเค้าหน้าแดงๆ แล้วก้อพยักหน้า ไอ้วินมันก้อจับมือน้องเค้า มันต้องหันหลังกลับมาก่อนที่น้ำตาผมจะไหลออกมา แล้วก้อต้องเจอกับสายตาของไอ้โอ๊ตที่มันมองผมอยู่ก่อนแล้ว
“เรารู้ว่านายเสียใจ แต่ความรักมันห้ามกันไม่ได้นี่นาจริงไม๊”
“ทำมั๊ยเราต้องเสียใจล่ะ เราดีใจต่างหาก” ผมพยายามกลบเกลื่อน
“รอน อย่าโกหกเราเลย เรารู้ว่านายรู้สึกยังงัย เพราะเราคอยมองดูนายตลอดมาและก้อจะมองดูนายตลอดไป” ผมตกใจในสิ่งที่ผมได้ยิน แล้วโอ๊ตก้อเดินเข้ามากอดผมเอาไว้แล้วพาผมเดินออกมาห่างจากน้องลินและไอ้วิน
“ถ้าอยากร้องไห้ก้อร้องออกมาเถอะนะ อย่าฝืนตัวเองเลย แต่ขอแค่วันนี้วันเดียวนะแล้วพรุ่งนี้นายเองก้อกลับมาเป็นเพื่อนที่แสนดีกับไอ้วินมันเหมือนเดิม” โอ๊ตกอดผมไว้แน่น ตอนนี้ผมไม่สามารถกลั้นความเสียใจไว้ได้อีกต่อไปแล้วไหล่ของโอ๊ตชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาของผม
“เราจะทำได้ยังงัยโอ๊ต เราจะทำตัวว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีได้ยังงงัย ฮื่อๆๆๆๆ ฮื่อๆๆๆๆๆ”
“รอย นายต้องทำได้สิ เรายังทำได้เลย ทั้งๆที่รู้มาตลอดว่านายชอบไอ้วินมัน เราก้อยังเป็นเพื่อนที่ดีกับนายตลอดมาและจะเป็นตลอดไป เรารู้ว่านายไม่ได้รักเราแบบนั้น ความรักมันบังคับกันไม่ได้ แต่เราเลือกแล้วว่าในวันนี้เราจะเป็นฝ่ายรักนาย นายเองก้อต้องทำได้ ถ้านายรักไอ้วินมัน นายก้อต้องไม่ทำให้คนที่นายรักลำบากใจนะ” คืนนั้นโอ๊ตมันโทรไปบอกให้ไอ้วินกับน้องลินไปเที่ยวกันต่อผมกับมันจะกลับกันเอง แล้วมันก้อมาส่งผมที่ห้อง
“ แน่ใจนะว่าอยากอยู่คนเดียว” โอ๊ตยังคอยห่วงใยผมเสมอมา
“เราขอบใจนายมากนะ ขอเราคิดอะไรด้วยตัวเองสักพักเถอะนะ ถ้าเรายังคิดเองไม่ได้ ไม่ว่าใครจะปลอบเรายังงัยมันก้อไม่ทำให้เราดีขึ้นหรอก แต่ไม่ใช่ว่าอ๊ตไม่สำคัญนะ เราดีใจที่นายอยู่ข้างๆเราเมื่อกี้นะ” แล้วผมก้อเข้ามาในห้อง ผมนั่งคิดมาทั้งคืนในตอนนี้ผมคงทำอะไรไม่ได้มากนักคงต้องถอยออกมา 1 ก้าว เพื่อที่จะรักษามิตรภาพระหว่างผมกับไอ้วินไว้ ผมถอดแหวนออกมาจากนิ้วแล้วคล้องมันกลับไปที่สร้อยเส้นเดิม
วิน วันนี้เราเป็นคนของนาย 1 วัน แต่จากนี้ไปเราจะเป็นแค่เพื่อนกับนายตลอดไป เราจะรักษาสัญญาว่าจะอยู่ข้างนายตลอดไป ความรักของเราที่ให้นายมันจะยังอยู่และมีให้เสมอ แม้ว่ามันจะต้องแสดงออกมาในรูปแบบของเพื่อนก้อตามที..........................................




เรื่องคนึงหาเพียวก็อยากอ่านต่อเหมือนกันอ่ะ   แต่ไม่รู้ว่าพี่พีแต่งเสร็จยัง

ถ้ามีข่าวจากพี่พี  แล้วจะมาแจ้งให้ทราบนะค๊าบ



ranaways

  • บุคคลทั่วไป

thomaskung

  • บุคคลทั่วไป
- -"
อกหักอีกแล้ว
มาทำให้หวั่นไหวแล้วก็จากไป
ถ้าไม่รักแล้วให้แหวนทำไม
โหดร้ายที่สุด
เป็นเราล่ะก็นะ โยนลงอ่างเกษตรไปแล้ว
 :m31:

joypluss

  • บุคคลทั่วไป

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
ไหง๋เป็นงี้อ่ะ  :m16:

เอาพี่นัทกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ สงสารรอนนนน :เฮ้อ:


ลป. นัท&รอน นึกว่าดู AF อยู่นะเนี่ย  :m20:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:
ทั้ง ๆ ที่รู้เรื่องราวแล้ว...แต่อ่านตอนนี้ก็ยังน้ำตาไหล
ทำไมต้องเป็นวันที่รอนยอมสวมแหวน...
ความบังเอิญแบบนี้มันโหดร้ายจังเลย  :เฮ้อ:

สงสารรอน สงสารภีม สงสารโอ๊ต...คิดถึงพี่นัท  :sad2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m15: :m15: อารายหว่า ทำไมเศร้าอีกแร้วอ่ะ

ไงก็รออ่านอยู่นะค๊าบ.....



marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: นึกว่าจะสมหวังซ่ะแล้วเชียว ..หักมุม กระชากใจคนอ่านซ่ะงั้น  o7

น้องรอน ผมว่าน่ะ เปิดใจทั้งที ก้อเปิดใจให้ภีมมันเห่อะน๊า :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1

ออฟไลน์ duchess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่.11
หลังจากคืนที่เราได้ไปลอยโคมกัน ผมเองก้อเริ่มที่จะ
พยายามทำตัวให้ยุ่งมากขึ้นแม้โอ๊ตจะบอกไม้ให้ผมทำแบบนี้ แต่ผมก้อบอกกับโอ๊ตไปว่าขอเวลาให้ผมได้ทำใจและคิดอะไรสักพัก ถึงผมจะรู้ดีว่าทั้งน้องลินกับไอ้วินต่างก้อไม่มีใครผิด แต่มันก้อยังเจ็บปวดทุกครั้งที่ผมเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ตอนแรกที่เพื่อนๆรู้ว่าน้องลินที่น่ารักของพวกเราได้กลายเป็นแฟนของไอ้วินแล้ว ทุกคนก้อแซวว่าแล้วจะเอาผมไปทิ้งไว้ที่ไหน หรือว่าตอนเช้าให้น้องลินตอนกลางคืนก้ออยู่กับผม ซึ่งก้อเรียกเสียงฮาจากเพื่อนทุกคนยกเว้นไอ้วินกับผม ดูไอ้วินมันจะโกรธมากทั้งๆที่เมื่อก่อนเพื่อนๆก้อเคยแซวผมกับมันอยู่บ่อยๆ
“เฮ้ยพวกมึง อย่าปากหมาพูดแบบนี้ต่อหน้าน้องลินเค้านะโว้ย กูไม่อยากให้น้องเค้าคิดมากกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ กูแคร์น้องเค้าว่ะ กูไม่อยากให้น้องเค้ามองกูว่ากูเป็นพวกนิยมเพศเดียวกัน กูอายว่ะ”
นั้นเป็นคำที่มันบอกกับเพื่อนๆ แต่มันได้บาดไปถึงหัวใจคนฟังอย่างผม แล้วในตอนนั้นผมก้อนึกถึงคำที่ไอ้ภีมเคยพูดกับผม “มันต้องมีสักวันที่เราจะเจอใครบางคนที่จะมองเห็นสิ่งที่อยู่ในตัวเรา และรักเราที่ตัวตนจริงๆของเรา” นั่นสินะ แล้วเมื่อไหร่กัน ตราบใดที่เรายังต้องดำรงชีวิตในสังคมโลกใบนี้ ยังต้องแคร์กับสายตาของผู้คนที่เราไม่รู้จัก และความรู้สึกของครอบครัว และคนที่รักเรา..
หลังจากนั้นมาผมเองก้อหลบหน้าวินมาตลอด เรายังคงเจอกันบ้างแต่มันก้อไม่เท่าเมื่อก่อน โอ๊ตเองก้อยังดูแลห่วงใยผมอย่างสม่ำเสมอคอยแต่ถามว่าเมื่อไหร่ที่ผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมเองก้อยังตอบตัวเองไม่ได้ วินเองก้อบ่นน้อยใจผมบ่อยๆที่ผมมักจะหาทางเลี่ยงที่จะไปไหนมาไหนกับมันในช่วงนี้ ผมยอมรับว่าเราเคยคิดว่าสักวันที่เกิดเรื่องแบบนี้เราจะยังคงทำตัวเหมือนเดิมได้ เราสามารถเสเเสร้งต่อหน้าคนอื่นๆได้ บอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง แต่เอาเข้าจริงอารมณ์มันก้ออยู่เหนือที่เราจะควบคุมมันได้ บางครั้งก้อน้อยใจ บ้างก้ออิจฉา บ่างก้อหึงหวง แต่ทุกครั้งก้อต้องมีคำว่าเจ็บปวดอยู่ทุกครั้งที่เราเจอ การที่ผมหลบหน้าวิน มันผิดด้วยหรือ การที่เราจะอยู่ห่างจากเรื่องที่ทำร้ายหัวใจตัวเอง
“เอางัยวะไอ้รอนเอ็งจะไปกับพวกเราป่าว” เสียงไอ้ก้องเพื่อนของไอ้วินมันชวนผมไปสังสรรค์กันโดยปกติพวกเราก้อมักจะไปกันบ่อยๆอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แต่ตั้งแต่วันนั้นที่ไอ้วินมันพูดคำนั้นออกมาผมเองก้อมักหาข้ออ้างมาตลอด
“สงสัยเราต้องขอบายว่ะ พอดีเรามีนัดแล้วว่ะ” จริงๆก้อนัดเล่นเอ็มกับพี่นัท หลังจากที่พี่นัทหายไปพักใหญ่ แต่พอรู้เรื่องที่ผมเสียใจพี่นัทแทบจะโทรมาหาผมทุกวัน
“ไปด้วยกันสิรอน ไม่ได้ไปไหนด้วยกันนานแล้วนะ”ไอ้วินมันก้อพูดขึ้นมาหลังจากที่ดูผมจะปฏิเสดแน่นอน ผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่ผมปฏิเสดมันดูไอ้วินมันทำหน้าเศร้าๆ มันทำให้ผมเกือบใจอ่อนทุกครั้ง ยิ่งในวันรุ่งขึ้นที่เราไปลอยโคมกันวันนั้น ตอนเช้าไอ้วินมันมาเรียกผมที่ห้อง ทันที่ที่ผมเปิดประตูห้อง
“ว่างัย เมื่อคืนไปเที่ยวไหนกับไอ้โอ๊ต ไม่ยอมรอกันเลยนะ ทำตัวไม่น่ารักเลยนะเดี๋ยวต้องลงโทษเสียหน่อยละ” วินพูดอย่างอารมณ์ดีพลางเอามือมาขยี้หัวที่ยุ่งเพราะเพิ่งตื่นนอนของผม
“อ้าวนึกว่าคู่รักคู่ใหม่จะอยากไปหาที่สวีทกัน2ต่อ2ซะอีก แล้วจะลงโทษเราเรื่องอะไรล่ะ” ผมเองยังอดที่จะงอนมันไม่ได้ อารมณ์น้อยใจเสียใจมันจุกอก
“ก้อนายเป็นเด็กเราแล้วงัย”มันพูดพร้อมกับจับมือผมขึ้นมาดู แล้วสีหน้ามันก้อเปลี่ยนไป
“ถอดทำไม แล้วเอาไปไว้ไหน” มันพูดพร้อมกับมองมาที่คอผม ก่อนที่จะดึงสร้องที่มันยาวลงไปในเสื้อนอนผมขึ้นมาดู
“ทำไมมันมาอยู่ตรงนี้ก้อเมื่อคืนนายใส่ที่นิ้วนี่นา ใสแหวนเราแล้วห้ามถอดโดยไม่ได้รับอนุญาต”หน้าตามันดูจริงจังมากๆ
“ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวนายมาบังคับเรา แล้วอีกอย่างนายเองก้อมีคนของนายแล้ว เราเลยว่าจะไปเป็นของคนอื่นดีกว่า” พอพูดจบ ไอ้วินมันก้อทำหน้าโมโหผมมาก
“อย่ามาพูดว่านายจะเป็นของคนอื่น” มันตะโกนใส่หน้าผม มันเหวี้ยงผมลงกับโชฟาก่อนออกจากห้องไป เสียงเรียกของมันทำให้ผมหยุดคิดถึงเรื่องในวันวาน
“รอน เดี๋ยวเย็นนี้เรากลับด้วยนะ” วินถามผมเบาๆ
“แล้วไม่ไปรับน้องลินก่อนเหรอ นายไม่ไปกับเพื่อนๆเหรองัย”
“ไปสิ แต่เราจะกลับไปเอารถก่อนนะ ไม่ได้เอารถมา ตั้งใจว่าจะให้นายไปด้วยกัน แล้วกลับพร้อมกันเหมือนคืนนั้น คืนนี้มีแต่พวกเราผู้ชาย ผู้ชาย ไม่อยากให้น้องลินเค้าไปด้วย” ผมไม่ได้ว่าอะไรได้แต่พยักหน้า
แล้วเย็นนั้นไอ้วินมันก้อซ้อนผมกลับบ้าน ตลอดทางมันกอดผมแน่นมาก ยิ่งมันกอดผมแน่นเท่าไหร่มันทำให้ความรู้สึกที่ผมพยายามจะโยนทิ้งยิ่งพันธนาการผมแน่นมากเท่านั้น
“รอน เดี๋ยวเราเข้าไปนั่งเล่นห้องนายก่อนนะ เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะช่วงนี้”
“อือม์...เข้ามาซิ ก้อเข้ามาออกบ่อยไม่เห็นต้องขอเลย” ผมยิ้มให้มัน แม้จะต้องเจ็บแต่ก้อดีใจที่จะได้อยู่กับมัน สองคน ได้พูดได้คุยเหมือนวันเก่าๆที่มันมักจะมาเล่นที่ห้องผมทุกวัน
“ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน คิดถึงห้องนี้จัง” ดูมันอารมณ์ดีขึ้นมา
“ห้องเราก้อเหมือนๆกัน ทำไมต้องคิดถึงห้องเราด้วยว่ะ” ผมเดินเอาน้ำส้มมาให้มัน
“ไปบ้านย่ามาเหรอ ไม่เห็นชวนเราเลยล่ะ” มันรู้เพราะทุกครั้งที่ผมกลับจากบ้านปู่กับย่าจะมีน้ำส้มคั้นอยู่ในตู้เย็นเสมอ
“เห็นนายหวีดหยองอยู่เลยไม่อยากเป็นก้างว่ะ 555 ” ผมแกล้งหัวเราะ แต่ดูหน้าของไอ้วินมันจริงจังขึ้นมา
“ถ้าเรามีแฟน แล้วต้องเสียเพื่อนอย่างนาย เราขอไม่มีดีกว่า เราทำอะไรให้นายโกรธ หรือป่าว ทำไมนายถึงหลบหน้าเรามาตลอดตั่งแต่คืนนั้น นายชอบลินเหรอ เราหลีกทางให้ก้อได้นะ ถ้ามันจะทำให้เรากับนายกลับมาสนุกด้วยกันเหมือนเดิม ไม่มีใครเข้าใจเราจริงๆแบบนายเลย นะรอนนะ นายอย่าโกรธเราอีกเลยนะ นายลืมสัญญาที่เราขอไว้ที่ฝายนั้นแล้วเหรอ” ดูเหมือนวินจะตาแดงๆ แต่ก้อไม่ได้ร้องไห้ นั่นนะซิ เพื่อนผมทำอะไรผิดนะ มันไม่ได้ผิด แต่ผมสิผิด ผิดที่ไปรักมันแล้วก้อโกรธมัน ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดเพราะความรู้สึกของผมคนเดียว แต่มันกลับทำร้ายอีกคนด้วย ถึงตอนนี้ผมจะยังเจ็บแต่ก้อช่างมันสักวันมันอาจชินชา
“เฮ้ย...อย่าคิดมากสิ เราไม่ได้ชอบน้องลิน นายไม่ต้องหลีกทางอะไรทั้งนั้น เราเห็นนายต้องคอยดูแลน้องลินเราเลยไม่อยากขัดคอ เห็นนายกลัวว่าน้องเค้าจะคิดมากเรื่องที่ไอ้พวกเพื่อนปากหมามัยแซวนายกับเรา เราเลยห่างกันบ้างก้อเท่านั้น”
“เราไม่สนมันแล้วล่ะ ใครจะคิดยังงัยก้อช่าง ถ้ามันทำให้นายกับเราต้องห่างกัน รู้มั๊ยว่าเวลาที่ไม่มีนายมันเหงากว่าเมื่อก่อนตอนเรามีแฟนอีกนะ ตอนที่เราอยู่กันเป็นกลุ่มเราอาจจะหงุดหงิดบ้างเวลาที่น้องลินเค้าสนิทกับนาย แต่พอไม่มีนายมีแค่เรากับน้องเค้า เรากลับรู้สึกว่ามันยิ่งกว่า จนเราทนไม่ได้” วินเดินเข้ามากอดผม ผมก้อลูบหลังปลอบมันไป
“โอเค...เราจะทำตัวเหมือนเดิมนะ แต่มันก้อต้องมีเวลาทั้งของนายกับน้องเค้า และ ของเรา เพื่อนกันไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กันตลอดเวลาหรอกนะ ขอแค่เรามีกันและกันก้อพอแล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องเสียใจ ทุกข์ใจอะไร เราจะยังมองเห็นและให้กำลังใจซึ่งกันและกันเสมอนะ ยังงัยเราก้อต้องมีเวลาของเราบ้างสิ ขืนอยู่กับนายตลอดเราก้อไม่มีแฟนกันพอดี” ผมพูดตลกๆกะให้วินมันอารมณ์ดีขึ้น
“เราไม่อยากให้นายมีใครเลยว่ะ เราหวง กลัวใครเค้าจะมาแย่งเวลาของนายไปหมด”วินมันอาจจะพูดเหมือนเด็กๆ แต่ทำให้ใจผมเต้นเร็วกว่าปกติ ตัวสั่นโดยไม่สามารถหยุดได้ รู้สึกว่าร้อนไปหมดทั้งหน้า
“ไอ้บ้า...ถ้างั้นแก่ตัวไปก้อเลี้ยงเราด้วยละกัน”ผมมองหน้ามันแล้วก้อยิ้ม มันเป็นยิ้มแรกหลังจากคืนนั้นที่เรายิ้มให้กันแบบเดิม ยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของทั้ง2ฝ่าย ความรู้สึกรัก แต่ต้องปกปิด....
“ไปเถอะ...ค่ำแล้ว เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันจะรอนาน” ผมคะยั้ยคะยอให้มันไปตามนัดกับเพื่อน
“แล้วตกลงจะไม่ไปด้วยกันเหรอ”
“ไม่ล่ะ เรามีนัดแล้ว”
“กับใคร”เอาอีกละไอ้หน้าดุๆนี่ ชอบทำจริงๆ
“ไม่บอก” ผมหัวเราะใส่มัน มันก้อจะเดินกลับห้อง
“คืนนี้เรามา นอนด้วยนะ”
“ไม่เอา เราไม่อยากเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ เบื่อพวกขี้เมา เหม็นด้วย”ผมยังกวนมันอยู่
“ไม่รู้ล่ะ เราจะกดกริ่งทั้งคืนแหละ หลับลงให้มันรู้ไป”วินยิ้มและเดินออกไป เมือประตูปิดลง ความเงียบเหงาเข้ามาเยือน สีหน้าผมก้อเปลี่ยนจากยิ้มแย้มเป็นเจ็บปวดอีกครั้ง จากนี้มันคงต้องเจ็บขึ้นกว่าเดิมที่ผมต้องเข้าไปอยู่ใกล้ๆไอ้วินมัน แต่สักวันผมก้อหวังว่ามันจะกลายเป็นความเคยชิน และผมคงมองเค้าทั้ง2คนได้อย่างเต็มตาโดยไม่มีน้ำใสๆทำให้ภาพของทั้งสองลางเลือน.....................






Twister

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :m15: :m15: สงสารรอนว่ะ แล้วเมื่อไหร่จะชินล่ะ คงจะทรมานมากมาย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ขอบคุณนะคับที่มาต่อ สู้ ๆ

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
สงสารรอน เมื่อไหร่พี่นัทจะกลับมา :o12:

น้องวินก็ดูแปลก ยื้อกันไว้อีกซะงั้น เง้อ... :m15:

ranaways

  • บุคคลทั่วไป

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่.12
หลังจากวันที่วินเข้ามาคุย ผมเองก้อไม่พยายามหลบหน้าวินเท่าไหร่ แต่ก้อมีบางครั้งที่ผมปฏิเสธที่จะไปไหนด้วยกันโดยที่ผมอ้างว่าอยากให้มันกับน้องลินมีเวลาส่วนตัวบ้าง แต่ความจริงก้อเพียงเพื่อที่จะเลี่ยงความเสียใจที่มันยังเกิดทุกครั้งที่มองพวกเค้าทั้งสองคน โอ๊ตเองก้อยังคงเสมอต้นเสมอปลาย คอยดูแลผมเป็นอย่างดี จนบางครั้งวินมันยังบ่นอยู่บ่อยๆว่าผมสองคนไปไหนไม่ยอมชวนมันเลย ดูวินมันจะน้อยใจจริงๆ
และในอาทิตย์นี้ผมตั้งใจว่าจะไปค้างที่บ้านปู่กับย่าตอนแรกก้อว่าจะชวนไอ้วินมันไปด้วยเพราะมันเคยบอกว่าถ้าจะไปอีกเมื่อไหร่ต้องชวนมันด้วย มันเคยบอกว่าที่นั้นมีภาพของความทรงจำดีๆระหว่างผมกับมันอยู่ ดูมันจะชอบญาติๆของผมด้วย คงเป็นเพราะวินเองคงขาดความอบอุ่นในวัยเด็กก้อเป็นได้ แต่ผมก้อเปลี่ยนใจไม่ชวนมันเพราะเย็นวันศุกร์น้องลินมาชวนผมไปซื้อของกับเค้า....
“พี่รอนเย็นนี้ว่างป่าวค่ะ รินจะชวนไปซื้อของที่ถนนคนเดินนะค่ะ เห็นเพื่อนๆบอกว่ามีของขายเยอะ วันอาทิตย์นี้วันเกิดเพื่อนที่คณะ พอดีพี่วินไม่ว่างเห็นว่าวันนี้มีบรรยายคงเลิกเย็นๆ”
“เอาสิครับ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”แล้วผมก้อไปเอารถของไอ้วินมันไปโดยให้มันขี่รถผมกลับไปที่ห้องแทน ผมเองช่วงหลังๆไม่ค่อยได้ขับรถของไอ้วินมันเท่าไหร่คงตั้งแต่ที่ผมห่างๆมันไป ทันที่ที่ผมขึ้นไปนั่งด้านคนขับผมก้อเห็นรูปสติกเกอร์ของมันกับน้องลินติดอยู่ตรงพวงมาลัย มันเจ็บจี๊ดๆ นี่มันคงรักน้องเค้ามากเลยนะ
“ท่าทางเพื่อนพี่คงห่างเราไม่ได้เลยมั๊งเนี้ย ดูดิ ขนาดขับรถยังต้องเห็นหน้าน้องลินเลย”ผมแซวน้องเค้า ทั้งๆที่ยิ่งพูดก้อยิ่งเจ็บ น้องเค้ายิ้มๆ
“ไม่หรอกค่ะ ลินเอามาติดเองแหละพี่วินจะไม่ยอม แต่เจอลินบังคับ พี่วินชอบขับรถเร็วลินเตือนก้อไม่ฟัง เลยบอกเค้าว่าเวลาขับรถให้นึกถึงหน้าคนตรงพวงมาลัยบ้างถ้าเค้าเป็นอะไร คนในรูปจะเสียใจมาก แต่ลินว่าน่าจะเอารูปพี่รอนมาติดมากกว่า พี่วินดูเหมือนจะฟังแต่พี่รอน ใครๆพูดก้อไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่” คำพูดของน้องลินมันทำให้ใจที่มันเหี่ยวเฉาของผมสดชื่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก บ้างครั้งแค่รู้ว่าเรามีความสำคัญกับใครสักคนมันก้อทำให้เราดีใจอย่างบอกม่ถูก ยิ่งถ้าคนๆนั้นจะเป็นใครสักคนที่เรา รัก......
เย็นนั้นผมเดินซื้อของกับน้องเค้าจนเย็นจึงพากันกลับมันทำให้ผมรู้ว่าน้องลินเค้าจะชวนไอ้วินไปงานวันเกิดเพื่อนน้องเค้าด้วย ผมเลยล้มเลิกความตั้งใจที่จะชวนไอ้วินมันไปด้วย ขากลับเนื่องจากแดดมันเข้าตาทำให้ผมเอาที่บังแดดตรงกระจกฝั่งคนขับลงมาบังแดด ผมแวะส่งน้องลิน ก่อนจะเอารถไปให้ไอ้วินที่คอนโด ตอนที่ผมจอดรกขณะที่เอื้อมมือขึ้นไปดันที่บังแดดตาผมก้อเห็นรูปของผมกับไอ้วินมันเสียบอยู่บนนั้น ผมดีใจมาก อย่างน้อยเราก้อยังมีความสำคัญกับมัน.....
คืนนี้ผมนอนแหงนมองดวงดาวบนท้องตรงที่เดิมในบริเวณไร่ของปู่กับย่า ผมว่ามันคงเป็นที่ประจำของผมไปซะแล้ว ภาพของคนสองคนลอยเข้ามา ผมถามตัวเองว่าผมเจ็บปวดกับรักครั้งไหนมากกว่ากัน แต่สุดท้ายผมเองก้อไม่แน่ใจนักว่าครั้งไหน และไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรจู่ๆภาพของไอ้วินมันก้อแว๊บเข้ามา ก่อนที่ผมจะรู้ตัวผมก้อโทรศัพท์ไปหาไอ้วินมันแล้ว
“ว่างัยว่ะ...ทำมัยวันนี้นายโทรหาเราได้”ไอ้วินมันพูดแบบอารมณ์ดีตอนรับสายของผม มันคงกำลังมีความสุขสินะ ตอนนี้คงกำลังอยู่ที่งานฉลองวันเกิด มันจะรู้มั๊ยนะว่ามีอีกคนกำลังทรมานกับการคิดถึงมัน
“เฮ้ย...ว่างัยวะ ไอ้นี่โทรมาแล้วไม่พูด อยู่ไหนว่ะ” วินมันถามผม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดถึงนายน่ะ พอดีนอนดูดาวเห็นมันสวยดีเลยโทรมาหา” ผมได้แต่นึกขอโทษน้องลินอยู่ในใจ แต่ผมอยากได้ยินเสียงไอ้วินมันเหลือเกิน แม้จะรู้ว่ามันผิดก้อตาม
“อ้าว....ทำมัยนายถึงเป็นฝ่ายเงียบไปล่ะ” ผมถามไอ้วินมันกลับ
“กำลังดีใจน่ะ ที่นายโทรมาบอกว่าคิดถึง ตอนนี้อยู่ที่ไหนไม่อยู่ที่ห้องใช่มั๊ย กลับดึกป่าวเดี๋ยวเรากลับแล้วจะไปนอนด้วย”
“สงสัยจะยาก เพราะเราคงไม่กลับไปที่ห้องคืนนี้”
“นี่นายจะไปค้างที่ไหน ไปค้างกับใคร” ไอ้วินมันทำเสียงดุๆใส่ผม
“ไม่บอก แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ที่นี่มีแต่คนรักและเป็นห่วงเรา เค้าดูแลเราอย่างดี ไม่กวนนายดีกว่า ไปสนุกกับเพื่อนต่อเถอะ คิดถึงนะเว้ย” ผมกำลังจะวาง
“อย่าวางนะรอน บอกมาว่านายอยู่ที่ไหนกับใคร” ตอนนี้มันตะคอกผมเลยคับ
“ เออ...บอกก้อได้ ทำมัยต้องตะคอกด้วยว่ะ เรากำลังนอนดูดาวอย่างมีความสุขบนหอดูไฟที่บ้านปู่เรา พอใจยังคับไอ้เพื่อนบังเกิดเกล้า”
“ทำไมไม่ชวนเรา ไหนบอกว่างัย ถ้าไปไร่ส้มให้ชวนเราด้วย”มันทำเสียงน้อยใจ
“เราก้อจะชวนแล้ว แต่เห็นนายต้องไปงานวันเกิดเพื่อนน้องลินเราเลยไม่ได้ชวน เอาน่าไว้คราวหน้าก้อได้ แค่นี้ละกันนะ ไว้เจอกันสายๆวันจันทร์” แล้วผมก้อวางสายมันไป ตอนนี้ใกล้จะปีใหม่แล้ว อากาศช่วงนี้มันหนาวมากแต่มันก้อเทียบไม่ได้กับความหนาวในใจที่ผมต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าคืนนั้นผมฝันถึงวันที่ผมกับกับไอ้วินได้มานอนด้วยกันที่นี่ มันอบอุ่นจนผมรู้สึกเหมือนว่ามันมานอนอยู่ข้างๆผม แต่สักพักผมก้อรู้สึกสัมผัสได้ถึงลมหายใจของใครบางคน ที่มันเป่ารดอยู่ข้างๆแก้มของผมและความอบอุ่นของอ้อมกอดที่ผมคุ้นเคย ผมหันหน้าไปดูและผมก้อตกใจที่เห็นเป็นไอ้วิน เพราะความที่มันนอนติดกับผมมากเมื่อหน้าของผมหันไปริมฝีปากของผมก้อไปโดนกับริมฝีปากบางของมันอย่างไม่ตั้งใจ มันเป็นความสุขที่ผมเองก้อบอกไม่ถูกผมตกใจจนไม่ได้ถอนริมฝีปากออกจากคนที่อยู่ตรงหน้า จมูกของผมและของไอ้วินมันสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกันและกัน และในตอนนั้นผมรู้สึกว่าโดนอ้อมแขนนั้นกระชับตัวผมไว้แน่นกว่าเดิม ร่างกายของผมกับไอ้วินต่างเบียดหาความอบอุ่นของกันและกัน วินถอนริมฝีปากออกไปแต่สัมผัสที่อ่อนโยนยามที่วินไล้จมูกขึ้นไปตามแก้มก่อนจะบรรจงกดริมฝีปากกับหน้าผากของผมมันก้อทำให้ผมปั่นป่วนในใจอย่างบอกไม่ถูก
“ซาดังเฮ” วินพึมพำอะไรออกมาเบาๆมันเป็นคำที่ผมไม่เคยได้ยิน เลยคิดว่ามันคงละเมอ แต่อีกไม่นานผมก้อรู้ความหมายของคำๆนั้นจากปากของใครอีกคน
“วิน ตื่นเถอะ ไปดูหมอกกัน” ผมปลุกไอ้วิน ตามจริงผมตื่นมาสักพักแล้วแต่เพราะเรื่องเมื่อคืนทำให้ผมต้องทำใจสักพักไม่อยากให้มันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว” มันตอบอู้อี้ แต่ก้อลุกโดยดี
“แล้วนี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำมัยไม่ปลุกเราล่ะ แล้วตามมาทำมัยดึกๆดื่นๆ อันตรายรู้ป่าว กินเหล้ามาจากงานป่าวเมาแล้วขับมันไม่ดีเราไม่ชอบนายก้อรู้” ผมถามมันเป็นชุด
“โห...ถามมาเป็นชุดจะให้เราตอบข้อไหนก่อน เอางี้แล้วกัน มาเพราะอยากมาเจอนาย แต่เห็นนายนอนหลับสนิทเลยไม่อยากปลุก” แล้วผมก้อออกไปดูหมอกกัน
“ใกล้ปีใหม่แล้ว เรามาฉลองกันที่ไร่มั๊ย” วินมันถามผมเบาๆขณะที่เรายืนมองภาพของหมอกยามเช้าที่ปกคลุมขุนเขาและสายน้ำ
“นายไม่ฉลองกับน้องลินเค้าล่ะ ปีใหม่ทั้งที”ผมตอบมันแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ทัศนีย์ภาพเบื้องหน้า
“น้องเค้าอาจจะกลับไปหาครอบครัวที่กรุงเทพน่ะ แต่เราอยากฉลองกับนายมากกว่านะ”
“ดูก่อนละกัน ไหนๆจะพวกเพื่อนๆอีก” ผมกับไอ้วินเราต่างก้อไม่ได้พูดอะไรอีกต่างปล่อยใจไปกับภาพข้างหน้า ผมหันหน้าไปมองไอ้วิน ใบหน้าด้านข้างของมันดูมีเสน่ห์มากและเหมือนวินมันจะรู้ตัว มันหันกลับมามองผม เราสบตากันอยู่สักพักก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายหลบตาก่อน
“เมื่อไหร่นะที่นายจะสวมแหวนเราอีกครั้ง” วินมันเอ่ยเบาๆ
“ วันนั้นมันอาจจะมาไม่ถึงก้อได้ เราสวมไว้ที่คอมันไม่ดีหรืองัย อย่างน้อยก้ออยู่ใกล้หัวใจเรามากกว่าที่นิ้วนะ” ไม่รู้ทำมัยผมบอกมันออกไปแบบนั้น แต่มันเป็นสิ่งที่ใจผมคิด

หลังจากที่กลับจากไร่ส้มเราก้อยังใช้ชีวิตปกติ สรุปว่าปีใหม่ปี้นี้ผมจะอยู่ฉลองกับเพื่อนที่มหาลัย เนื่องจากน้องลินก้อไม่กลับบ้านไอ้วินมันอยากจะฉลองกับผมด้วย ไอ้โอ๊ตด้วย เลยเป็นอันว่าต่างรวมกันมาที่สนามบอล เรานั่งคุยกันเป็นกลุ่มใหญ่เพราะมีเพื่อนๆของน้องลินที่อยู่เภสัชมาด้วย ตอนแรกที่ผมโทรมาบอกกับที่บ้านว่าจะไม่กลับลงมา โดนบ่นใหญ่เลย บอกว่าไม่ว่ายังงัยก้อต้องกลับ แต่ผมก้อดื้อจนได้ ไอ้ภีมมันก้อด่าผมใหญ่ ว่าสัญญาว่าจะมาฉลองด้วยกันแล้วก้อเบี้ยวมัน ส่วนพี่นัทก้อไม่กลับมาบอกแต่ว่าจะฉลองกับเพื่อนๆที่โน้น แต่กลับดุที่ผมไม่ยอมกลับไปฉลองที่บ้านคาดคั้นใหญ่ว่าผมฉลองที่ไหนกับใคร ผมเลยบอกไปตามตรง คืนนี้มีอีกหลายคณะที่มาใช้สนามที่นี่เป็นการฉลอง
บรรยากาศมันก้อสนุกสนาน แต่ทำมัยผมกลับเหงาใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งดึกก้อยิ่งหนาวภาพที่ไอ้วินมันนั่งจับมือกับน้องลินทำให้ผมหมดสนุกไปเลย นี่ผมต้องเสียใจข้ามปีเลยเหรอนี่ ผมปลีกตัวออกมานั่งอยู่คนเดียวแต่ก้อไม่ไกลจากกลุ่มนักผมเห็นไอ้วินมันมองผมตั่งแต่ที่ลุกออกมาแต่มันก้อไม่ว่าอะไรแต่สายตามันดูเป็นห่วงผม สักพักโอ๊ตมันก้อเดินมานั่งด้วย
“เป็นอะไร ดูเหงาๆ ยังไม่ชินอีกเหรอ ที่ผ่านมานายก้อพยายามได้ดีมาตลอดนี่นา ยิ้มหน่อยสิ” พักหลังๆดูเหมือนโอ๊ตมันจะรู้ว่าผมคงไม่สามารถรักมันแบบที่มันต้องการได้ มันเลยพยายามที่จะเปลี่ยนความรู้สึกให้กลับมาเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น
“ไม่หรอก แค่กำลังคิดถึงใครอีกหลายๆคนนะ”
“มีอะไรก้อระบายมาที่เพื่อนคนนี้ได้นะ เราเต็มใจเสมอ”ผมอดที่จะซาบซึ้งไม่ได้เลยดึงโอ๊ตมันเข้ามากอด
“ขอบใจมาก นายเป็นเพื่อนที่ดีเสมอนะ เอาไว้เราจะแนะนำใครให้นายรู้จัก รับรองนายต้องชอบแน่” ผมนึกไปถึงไอ้ภีม ถ้าพวกมันรู้จักกันคงต้องมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
“น่ารักเท่านายป่าว ถ้าไม่เท่าไม่เอานะ” มันพูดแล้วยิ้มๆ
“น่ารักกว่าเราอีก รักใครรักจริงด้วยนะ” เราคุยกันสักพักไอ้วินมันก้อตะโกนเรียกพวกเราให้ไปนั่งรวมกันที่กลุ่ม ผมบอกให้โอ๊ตเดินไปก่อนเดี๋ยวผมตามไป ผมนั่งสงบใจอีกสักพักพยายามปั้นหน้าให้มีความสุขให้มากที่สุด ผมเช็ดน้ำตาก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับไปที่กลุ่ม นี่ก้อใกล้ที่จะนับถอยหลังกันแล้ว ขณะที่ผมเดินไปที่กลุ่ม ทุกคนหันกลับมามองผมกันเป็นตาเดียว แล้วผมก้อรู้สึกว่ามีใครมากอดผมไว้จากข้างหลัง
“ใกล้ปีใหม่แล้ว ทำมัยยังร้องไห้อีก ไม่ยอมกลับบ้านแต่มานั่งเศร้าอยู่แบบนี้คนเดียวน่าจับมาลงโทษจริงๆ” ทันทีที่ได้ยินเสียง ผมก้อชาไปทั้งตัวแล้วน้ำตาผมก้อไหลออกมาทันที ผมหันหลังกลับไปมอง ชายหนุ่มผู้ที่มีแววตาอ่อนโยนเสมอ หากแต่วันนี้กลับดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวันวาน ผมไม่แปลกใจที่ใครจะมองกันเป็นตาเดียว เพราะในวันนี้พี่นัทของผมดูหล่อมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่า
“พี่นัท พี่นัทจริงๆด้วย” ผมกอดพี่นัทเต็มแรง ความทุกข์ใจมันหายไปหมด คนที่ผมอยากเจอมาตลอดมายืนอยู่ข้างหน้าผม
“ว่างัยเด็กขี้แย คิดถึงพี่บ้างมั๊ย” แล้วพี่นัทก้อเข้ามาหอมแก้มผม และดึงผมเข้าไปกอด ผมดีใจจนลืมไปว่าเราอยู่ที่ไหน จนผมหันไปเห็นสายตาเพื่อนๆที่มองมาทางผมแบบงงๆปนตกใจ ทำให้ผมรู้สึกอายขึ้นมา โดยเฉพาะไอ้วิน สายตามันแทบจะฆ่าผมให้ตายไปตรง---นั้น แววตามันวาวไปด้วยความไม่พอใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมันโกรธแบบนี้มาก่อน ........


joypluss

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด