กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กว่าจะถึง...ซึ่งทางรัก By พีรนีเปียร์  (อ่าน 100785 ครั้ง)

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
น้องเพียวค๊าฟฟ ตกไปหน้าสองแล้วเน๊อ...
ลากมันขึ้นมา มาต่อให้บัดนาวค๊าฟฟ  :man1:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:m20:  เข้ามาหัวเราะ

 :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
ซ้ำอีกรอบ ชิ ชิ

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
«ตอบ #245 เมื่อ18-11-2008 18:18:34 »

^
ll
ll
ll
ll
ll
ll
ll

กระซวกรีบนให้ถึงใส่  :laugh:





ตอนที่.16

หลังจากที่ผมแยกกับเพื่อนๆแล้ววินก้อขับรถมาส่งผมที่บ้าน แต่พี่นัทตกลงจะไปกับเพื่อนๆต่อ ผมกับวินเลยกลับกันมาแค่สองคน

ตั่งแต่ออกมาจากโรงเรียนวินเองก้อไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลย จนในที่สุดผมเลยเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน

“นายเป็นอะไรหรือป่าววิน”
เงียบ..............เงียบ.................เงียบ

“ถ้าไม่พูดก้อไม่ต้องมาพูดกันเลยนะ ชอบใช่มั๊ยอยู่แบบเงียบๆแบบนี้อ่ะ”ผมชักเริ่มโมโห

“ไหนนายบอกว่าพี่นัทเป็นรักแรกของนายงัย แล้วนี่อะไร แฟนเก่านายเหรอ แล้วดูท่าว่าเค้าคงอยากจะรีเทินร์กับนายจะแย่แล้วน่ะ” ผมอดขำกับสิ่งที่วินมันเพิ่งพูดออกมา

“อย่าบอกว่าหึงนะไอ้แว่น”

“แล้วมันผิดเหรอถ้าเราจะหึง หรือว่าหวงน่ะ” ผมเจ็บจี๊ดไปที่ใจ

“มันไม่ผิดหรอกถ้าเป็นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้นายเองไม่มีสิทธิ์จะมารู้สึกอะไรแบบนี้แล้วนะวิน นายลืมไปหรือป่าว”

เราทั้งคู่ต่างเงียบกันไปตลอดทาง ไม่มีใครรู้ว่าเวลานี้ทั้งผมและวินเราต่างกำลังคิดอะไรอยู่จนวินขับมาถึงบ้าน

“จะเข้าไปนั่งดื่มอะไรก่อนหรือป่าว”

“เรานึกว่านายจะไม่ชวนแล้วซะอีก”

ผมยิ้มให้วินก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน วินเองก้อไปนั่งเล่นอยู่ที่เก้าอี้ตรงสวนหน้าบ้าน ผมชงชาร้อนมาสองแก้ว อากาศปลายปีค่อนข้างเย็น แม้ว่าจะอยู่ในกรุงเทพ แต่ก้อเป็นชานเมือง

ไอ้โรโบ้มานอนอยู่ข้างๆวินดูท่าว่ามันจะหลงรักผู้ชายคนเดียวกับเจ้าของซะแล้ว

“ตกลงนี่พวกนายจะไปเที่ยวกันเหรอ” วินถามหลังจากที่พวกเรากลุ่มเพื่อนๆของผมกับกลุ่มของพี่นัทตกลงกันว่าจะไปโต้ลมหนาวกันที่ภูกระดึงกัน ก่อนที่ต่างคนจะแยกย้ายไปใช้ชีวิตตามแต่ทางที่ตนเลือก

“อือม์....ไปสิเพื่อนๆไปกันหมด พี่นัทเองก้อไป ยังงัยเราถือโอกาสลางานล่วงหน้าเลยนะ”

“คนที่ชื่อภีมก้อไปด้วยใช่มั๊ย”วินยังถามผมต่อ

“ไปสิ...กลุ่มเราไปกันหมด ทั้งไอ้เจน ไอ้อั้งด้วย อีกอย่างภีมมันก้อเป็นเพื่อนที่เราสนิทมากที่สุด” ผมหันไปมองวินก้อเจอว่าวินมองผมอยู่ก่อนแล้ว

“เราคงห้ามนายไม่ได้สินะ” ผมยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร เราต่างนั่งกันเงียบๆ บางครั้งก้อหันมาพูดคุยกันบ้างจนพี่นัทกลับมา ผมเลยเดินมาส่งวินที่รถ

“ขับรถดีๆนะ หรือว่าจะค้างที่นี่”

“ไม่เป็นไร เราว่าเรากลับไปนอนบ้านดีกว่า ไปแล้วนะไปเที่ยวขอให้สนุก แล้วก้อดูแลตัวเองดีๆล่ะ”

ผมกับวินเราต่างยืนมองกันและกันอยู่สักพักก่อนที่วินจะเข้ามากอดผม
ความรู้สึกมันช่างอ่อนล้าแต่ทว่ากลับสร้างความอบอุ่นให้กับผมได้ในคืนที่เหน็บหนาวเช่นนี้

“ฝันดีนะรอน”

“อือม์....นายเองก้อด้วยนะวิน”
.
.
.
วันนี้ผมมาที่บ้านไผ่เพื่อที่จะชวนไผ่ไปเที่ยวที่ภูกระดึงด้วยกัน ไผ่ลังเลนิดหน่อยแต่ก้อยอมไปกับพวกเรา ผมแนะนำไผ่ให้รู้จักกับพี่นัท ก่อนที่เราจะมารวมตัวกันที่บ้านของพี่บอล

สายๆพวกเราก้อมุ่งหน้าไปจ.เลยกัน ตลอดทางไผ่เองก้อดูจะเข้ากับเพื่อนๆผมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพี่นัทกับภีม ดูจะหยอกไผ่มากเป็นพิเศษ

และมันทำให้ผมเริ่มคิดอะไรบางอย่าง จนในที่สุดพวกเราก้อมาถึงที่ภูกัน ทันทีที่พวกเรามาถึงก้อมีพวกลูกหาบมารุมพวกเรากันใหญ่

พวกเราตกลงให้เค้าช่วยหาบพวกเสบียงกับน้ำขึ้นไป แต่สัมภาระตกลงกันว่าให้แต่ละคนแบกใครแบกมัน เพราะเดี๋ยวมันจะไม่ได้บรรยากาศและรสชาติของการมาเที่ยวที่นี่

ตลอดทางที่เราเดินขึ้นไป ผมเกาะติดอยู่กับพี่นัทและให้ภีมมันไปคอยดูแลไผ่แทน ผมคงดีใจถ้าสองคนนี้จะชอบกัน พวกเราขึ้นมาถึงก้อไปติดต่อเจ้าหน้าที่ และ มาหาที่กางเต็นท์กัน

ไผ่จะนอนเต็นท์เดียวกับผมแต่ผมบอกให้ไปนอนกับภีมเพราะผมจะนอนกับพี่นัท ไผ่ทำหน้างอนๆแต่ก้อ ยอมไปโดยดี

หลังจากจัดแจงเรื่องที่พักกับสัมภาระเรียบร้อย พวกเราก้อมานั่งพักกันโดยที่ตกลงกันว่าจะไม่ไปเดินป่ากันแล้วเพราะเหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน เอาไว้คอยดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักกันดีกว่า แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปทัวร์กัน

เรานั่งคุยกับกินอะไรกันบ้างนอนบ้างจนถึงเย็นเลยต่างพากันไปถ่ายรูปกันที่ผาหล่มสัก

แม้ท้องฟ้าจะยังไม่มืด แต่ผมก้อสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่มาพร้อมกับสายลมยามเมื่อมันกระทบผิวกาย ฟ้าเบื่องหน้าเป็นสีส้มแสด มันเป็นภาพที่สวยงามแต่แฝงไปด้วยความอ้างว้าง

และแม้ว่าในตอนนี้ภาพทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าจะสะกดสายตาผมไว้ด้วยความสวยงาม หากแต่ใจผมกลับคิดถึงใครอีกคนที่อยู่ห่างออกไปแสนไกล

“คิดถึงใครอยู่เหรอรอน” ภีมเดินมายืนข้างๆผม

“คิดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ นานแล้วนะที่ไม่ได้คุยกันแบบนี้ ว่าแต่กลับมาเมืองไทยคราวนี้จะอยู่ยาวหรือว่าจะกลับไปทางโน้นอีก”

“ยังไม่รู้เลยว่ะ เอาไว้ถ้าเราหาที่ของเราเจอเมื่อไหร่ก้อเมื่อนั้น แต่ตอนนี้เรายังอยากวิ่งไปเรื่อยๆก่อนน่ะ แล้วนายล่ะ จะอยู่นี่คนเดียวจริงๆเหรอ ในเมื่อครอบครัวของนายก้อไม่มีใครอยู่แล้วนี่นา”

“เราก้อกำลังคิดนะว่าจะเอายังงัยดี ที่นี่ยังคงมีความทรงจำดีๆ กับเพื่อนฝูงและอีกหลายๆคนที่เรายังตัดใจจากเค้าไม่ได้น่ะ”

“ใครที่ว่าใช่เพื่อนที่นายพาไปที่งานด้วยใช่มั๊ย” ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไร

“ทำไมล่ะในเมื่อเราเองก้อเห็นว่าพวกนายเหมือนจะใจตรงกัน แล้วทำไมต้องตัดใจด้วยล่ะ นายนี่มันจริงๆเลยนะ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหรกับไอ้เรื่องของหัวใจนี่มันดูจะเป็นปัญหาซะทุกครั้งจริงๆ”

ผมเลยตัดสินใจเล่าเรื่องของผมกับวินให้ภีมฟัง

“เราก้อไม่รู้นะกับปัญหาที่พวกนายกำลังเจอกันอยู่ แต่เราบอกได้ว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ ไม่มีใครจะมีความสุขหรอก รอนชีวิตคนเรามันไม่ยาวหรอกนะ อย่ามัวแต่คิดอะไรมากมายเลย”

“แล้วนายล่ะ ที่ผ่านมาเป็นงัยบ้าง” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง

“เราเองก้อเรื่อยๆน่ะ มีแฟนมาตั้งหลายคนแล้ว แต่ไปกันได้ไม่นาน คงเพราะคนที่โน้นเค้าไม่ได้จริงจังกับความรักกันมากเหมือนคนบ้านเรามั๊ง ยิ่งพวกที่เป็นแบบเดียวกับเรายิ่งหาความรักด้วยกันยาก ส่วนใหญ่มักจะคบเพราะความสนุกมากกว่า”

“แล้วที่ผ่านๆมาไม่ใกล้เคียงบ้างเลยเหรอ ทำไมว่ะ ตั้งสเป็คไว้สูงเหรองัย”

“ไม่รู้สิ นายว่าถ้าสเป็คเราเป็นแบบนายมันจะสูงไปมั๊ย” ภีมพูดแล้วหันมามองผม

“ไอ้บ้าไม่ต้องมาแกล้งหยอกกันหรอกน่า" ผมอดขำกับคำพูดที่ภีมมันพูดออกมาไม่ได้ โดยไม่ทันมองให้ดีว่าตอนนั้นสายตาของภีมเป็นงัยบ้าง

"ภีมการลืมใครสักคนนึงนายว่าต้องใช้เวลามากขนาดไหนกันนะ"ผมเหม่อมองออกที่ไปที่ยอดเขาที่ไกลออกไป

"ไม่รู้สิเพราะเรายังไม่เคยลืมใครได้สักคน ยิ่งกลับมาเจอยิ่งลืมไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม"

"ภีม...........นายยังคิดแบบนั้นอีกเหรอ " ผมหันไปมองภีม แต่แป๊บเดี๋ยวมันก้อทำหน้าตลกใส่ผม

"ไม่หรอก เราไม่ได้คิดอะไรแล้วล่ะ เราถึงกล้ากลับมาเจอกันอีกงัย คงเพราะนายเป็นรักครั้งแรกของเรามั๊งมันเลยยังมีภาพของนายอยู่ในความทรงจำ และระหว่างเรามันมีแต่ความทรงจำดีๆ ทุกครั้งที่คิดถึงนายมันเลยมีแต่ความประทับใจและความสุขใจ

เราว่าดีแล้วล่ะที่เราเป็นเพื่อนกันอยู่แบบนี้ เพราะถ้าเราคบกันแล้วไปกันไม่ได้ เราก้อไม่รู้ว่าเราจะกลับมาคบกันได้แบบนี้มั๊ย เพราะแต่ละคนที่เราคบๆมา ถึงปากจะบอกว่ากลับมาเป็นเพื่อนกันได้ แต่ไม่เคยมีคนไหนที่พวกเราจะกลับมาคบกันได้จริงๆสักคน และมันคงน่าเสียดายนะที่คนดีๆจะต้องหายไปจากชีวิตของเรา หรือนายว่างัยรอน”

“เราจะว่ายังงัยนอกจากดีใจที่ได้เจอเพื่อนรักอีกครั้งน่ะสิ” ผมกับภีมเราต่างยิ้มให้กัน ระหว่างนั้นไผ่ก้อเดินมาที่ที่ผมยืนคุยอยู่กับภีม

“พี่รอนมาถ่ายรูปคู่กับผมหน่อยนะครับ ผมยังไม่มีรูปคู่กับพี่รอนเลยอ่ะ” ผมเลยยืนถ่ายรูปกับไผ่สองคน แล้วก้อเรียกภีมมันมาถ่ายกับไผ่บ้าง ก่อนจะหาข้ออ้างแอบหนีมาหาพี่นัท

“กำลังทำอะไรอยู่ห๊ะเราน่ะ” พี่นัทถามผมทันทีที่เรามานั่งกันที่มองพระอาทิตย์กัน

“ทำอะไรเหรอ ไม่เห็นจะรู้เลย”

“อย่านึกว่าพี่จะดูไม่ออกนะ” ผมไม่กล้าเถียงเลยได้แต่เงียบ

“หัวใจคนเรามันบังคับกันได้ด้วยเหรอรอน พี่คิดว่าเราน่าจะเข้าใจได้ดีที่สุดนะ”มันเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอของผม

“ผมก้อแค่อยากเห็นทุกคนมีความสุขแค่นั้นเองนะครับ”

“ความสุขของใครก้อปล่อยให้เค้าไขว่คว้าเอาเองเถอะนะ เราคงไปหาแทนเขาไม่ได้หรอก แต่ที่เราทำได้คืออย่าไปเพิ่มความทุกข์ให้กับเขาอีก” พี่นัทบอกกับผม

“ช่วงที่เราต้องรอวินตอนที่เค้าไปดูงานในตอนนั้นเราเองน่ะรู้สึกแย่แค่ไหนจำได้มั๊ย”อยู่ดีๆพี่นัทก้อถามผมขึ้นมา

“ทำไมครับพี่นัท”

“แล้วเราคิดว่าตอนนี้คนที่เขารอเราอยู่มันมีความสุขเหรอ ยิ่งปล่อยเวลาให้นานออกไปแผลมันจะยิ่งลึกนะรอน” ผมมองไปยังไผ่ที่ยืนอยู่โดยลำพัง เลยตัดสินใจเดินไปหา

“ไอ้ภีมมันไปไหนแล้วล่ะ” ไผ่ไม่ตอบผมเลยเดินไปแตะที่ไหล่เบาๆ

“เป็นอะไร ทำมัยเงียบไปล่ะ” ไผ่หันกลับมามองผม แต่แววตาของไผ่มันทำให้ผมรู้สึกผิดเหลือเกิน

“พี่รอนกำลังทำอะไรอยู่ครับ ที่ชวนผมมาเพราะอะไรพี่ ความรู้สึกของผมมันดูไร้ค่าขนาดนี้เลยเหรอ พี่ถึงได้เที่ยวโยนมันไปให้ใครต่อใคร ถ้าพี่ไม่เห็นค่าหรือว่าต้องการมัน ก้อเอามันมาคืนให้ผมเถอะนะ แต่อย่าทำกับกับหัวใจของผมแบบนี้”

ถึงแม้ว่าในตอนนี้แสงจากท้องฟ้ามันใกล้จะล้าลับไปแล้ว แต่ผมก้อรู้ได้ว่าคนตรงหน้ากำลังเสียใจแค่ไหนและพยายามกลั้นน้ำตาไว้ยากเพียงไร

“พี่ขอโทษนะไผ่ พี่เพียงแค่อยากเห็นนายมีความสุข อยากเห็นทุกๆคนมีความสุขก่อนที่พี่จะไป”

“พี่รอนจะไปไหนเหรอครับ หรือว่าจะกลับไปอยู่กับแม่ของพี่”ไผ่ดูตกใจมากที่ผมบอกออกไปแบบนั้น

“พี่ยังไม่แน่ใจ แต่พี่อยากไปไหนไกลๆสักพักน่ะ เมื่อพี่หายเหนื่อยแล้วพี่ก้อจะกลับมา แล้วอีกอย่างนะ ความรู้สึกของนายมันมีค่ามากสำหรับพี่ มีค่ามากซะจนพี่ไม่กล้าจะให้นายต้องเจ็บปวด ถ้าเมื่อถึงวันนึงที่พี่จะจากไป”

“ผมทำใจไว้แล้วล่ะตั้งแต่วันที่ผมเห็นพี่พาพี่เค้าไปที่ร้านวันนั้นผมก้อรู้แล้วว่าเส้นทางของผมกับพี่มันคงต้องจบลงแล้ว ความรักของผม มันเกิด และเติบโตอยู่ภายในใจของผมเองฝ่ายเดียว แต่ผมเองก้อยังหลอกตัวเองมาตลอด หวังถึงโอกาสที่มันคงจะไม่มีทางเกิดขึ้นสักครั้ง”

ผมเดินเข้าไปหาไผ่เมื่อฟังไผ่พูดจบ และจับมือของไผ่มาบีบเบาๆ แต่ไผ่กลับดึงผมเข้าไปกอด

“ทำไมนะ อ้อมกอดของผมถึงไม่เคยอบอุ่นพอสำหรับพี่เลย ทั้งๆที่อ้อมกอดของพี่อบอุ่นเสมอสำหรับผม”


ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นบนไหล่ ความอุ่นที่เกิดจากหยดน้ำที่ใครๆก้อเรียกมันว่าน้ำตาของลูกผู้ชาย


วันนี้เป็นวันที่พวกเรากำลงัจะกลับกันแล้ว ผมไปเดินเล่นกับพวกเพื่อนๆในกลุ่มของผม พอกลับมาก้อเห็นว่าไผ่กำลังยืนคุยอยู่กับพี่นัทอยู่ ผมเลยเดินเข้าไปหาทั้งสองคน
“คุยอะไรกันอยู่ครับพี่นัท”

“ก้อคุยกันไปเรื่อยๆน่ะ ว่าแต่เราเถอะไปไหนมาแต่เช้า”

“ไปดูหมอกมา เลยอยู่ดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย ว่าจะปลุกแล้วล่ะแต่เห็นกำลังนอนอยู่เพราะเมื่อคืนก้อเห็นว่าอยู่ดึก เลย
ไม่ได้ชวน” ผมหันมามองไผ่

“แล้วทำไมไม่ไปกับพวกพี่ล่ะ เห็นภีมบอกว่าเราไม่อยากไป”

“ขี้เกียจนะครับ หนาวด้วยเมื่อเช้าตอนที่พี่ภีมปลุกกำลังอุ่นๆได้ที่เลยฮะ” ไผ่ตอบยิ้มๆ

“งั้นเราคุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปชงกาแฟมาให้” พี่นัทเดินไป ผมเลยหันมามองไผ่อีกครั้ง

“สบายใจมั๊ยที่ได้คุยกับพี่นัท รู้ไหมพี่นัทน่ะมักมีคำดีๆมาให้เราคิดได้เสมอเลยนะ”

“ผมรู้แล้วล่ะว่าทำไมพี่รอนถึงติดพี่นัทนัก ถ้าผมมีพี่ชายดีๆแบบนี้ผมเองก้อคงจะติดเหมือนกัน”

“เราก้อมีนะ พี่นี่งัย พี่พร้อมจะเป็นพี่ชายที่ดีให้กับเราเสมอ”ไผ่หันมามองผมหลังจากฟังที่ผมพูดจบ

“ผมดีใจนะครับที่อย่างน้อยๆ พี่ก้อยังอยู่ข้างผม มันอาจจะต้องใช้เวลาสักพักนะครับ แต่ผมจะพยายาม”

ผมก้อไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กว่าที่แผลในใจของไผ่ครั่งนี้จะจางหาย แต่เมื่อไหร่ที่มันหายสนิท เมื่อนั้นไผ่จะโตขึ้นเป็นและผมมั่นใจว่าไผ่จะเป็นผู้ชายที่น่ารัก และดีพร้อมคนนึ่งแน่นอน
.
.
.
“ว่างัยครับหนุ่มๆ อ่ะรอนกาแฟ ส่วนของไผ่ พี่ชงไว้ให้แล้วนะ แต่ถือมาไม่หมด ไผ่ไปเอาได้ที่แคมป์นะ” พี่นัทเดินมาพร้อมกับกาแฟอุ่นๆสองแก้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2008 23:25:28 โดย SE7EN_AKIRA »

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
อิ อิ พี่นัท ยังคงเป็นที่ชายที่แสนดีสม่ำเสมอเน่อะ อยากได้มั่งจังแฮ่ะ


แต่อย่างเจ้าเพียวนี่ต้องกระซวกเข้าให้ ชิ ชิ รอให้อยากตั้งนาน :sad4:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
พี่นัทน่ารักที่ซู้ดดดดดดดด  :impress2:
เอาใจช่วยรอนกะวิน รวมทั้งภีมและไผ่ด้วยยยย
 :L1:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
ขอเป็นแฟนพี่นัทได้ป่ะ

ห้า ห้า ห้า

yee

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






moonoi_sert

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:ทำไมนะคนที่เรารักเขาถึงไม่เข้าใจในความรักที่เรามีให้เขา เราทำเพื่อเขา มาเพราะเขา แต่เขากลบคิดว่าเรามาเพราะอีกคนหนึ่ง นี่แหละความรักมักจะเล่นตลกกับเราเสมอ ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าเรารักเขา ทุกสิ่งที่เราทำก็ทำเพื่อเขาคนเดียว :m15:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2

ranaways

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
«ตอบ #253 เมื่อ20-11-2008 17:01:51 »

อะไรยังไงคับ รีบน  :a14:








ปล.ขอโทษคับ   เนื้อเรื่องมันหายไปนิดนึงอ่ะ  แก้ให้แล้วคับ   แต่สงสัยมันเกินมั้ง


เอามาเพิ่มตรงนี้ละกันนนน



“ขอบคุณครับพี่นัท....งั้นผมขอตัวก่อนนะครับพี่รอน” ไผ่เดินกลับไปที่กางเต็นท์ของพวกเรา

“ขอบคุณนะครับพี่นัท” ผมยิ้มให้พี่นัท ผมรู้ว่าพี่นัทคงจะรู้ที่ผมพูดขอบคุณนั้น มันรวมถึงเรื่องของไผ่ด้วยนอกจากกาแฟอุ่นๆแก้วนี้

“ด้วยความเต็มใจครับ”

พี่นัทยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับผม ผมรู้สึกว่าพี่นัทในเช้านี้น่ารักกว่าทุกวัน ผมมองดูคนแถวนั้นเห็นว่าไม่มีใครเลยแอบหอมแก้มแกไปหนึ่งที

“อ๊ะ อ๊ะ มาหอมแก้มพี่แบบนี้ต้องรับผิดชอบด้วยนะ”

“ก้อพี่นัทอยากน่ารักทำไมล่ะครับ” พี่นัทเอาคืนโดยก้มมาจูบที่หัวของผมเบาๆ

“ไม่ได้สระผมมากี่วันแล้วอ่ะ เหม็นจัง” เราสองคนหัวเราะออกมาดังๆพร้อมกันสองคน

“หัวเราะได้แล้วสินะ มันสบายใจกว่าร้องไห้มั๊ย ร้องไห้มันอาจทำได้ง่ายกว่า แต่มันไม่สบายใจเท่าหัวเราะหรอกนะ”

“ขอบคุณนะครับ พี่นัท”

“เวลามีพอสำหรับความสุขเสมอนะรอน จำเอาไว้ ชีวิตของคนเราใช่จะอ้างว้าง ถ้าในหัวใจมีรักแท้ ตอนนี้เราอาจจะยังไม่สมหวัง แต่ถ้าคนสองคนใจตรงกัน ไม่นานก้อต้องมีวันนั้น

พี่อยากให้เรานึกถึงหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่เคยเดินผ่านด้วยกันมา แล้วคิดให้ดี อย่าให้การก้าวเดินที่ผ่านมาของชีวิตมันสูญเปล่า แล้วเมื่อถึงตอนนั้นพี่ว่าราเองจะเข้าใจ”

ผมมองทุกๆอย่างรอบๆตัว เห็นเพื่อนๆกำลังสนุกสนาน แล้วก้อมีพี่นัทอยู่ข้างๆ วันนี้นับเป็นอีกวันที่มันจะตราตรึงอยู่ในใจของผม

วันที่บรรยากาศรอบๆตัวของผมมันอบอวนไปด้วยความสนุก ความอบอุ่น แม้เช้านี้อากาศที่ภูจะหนาว แต่ผมกลับไม่หนาวเท่าไหร่ เพราะผมมีภูมิคุ้มกันความหนาวแล้ว ภูมิคุ้มกันที่ทุกคนเหล่านี้ต่างมอบให้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2008 23:28:37 โดย SE7EN_AKIRA »

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:เหนื่อยใจกับความรัก  แต่เรา :L3:

yee

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
^
^เครียดจนเปนบ้าฮาฮาฮาฮาฮา เรื่องเศร้าทำให้เราเปนบ้า
 :oo1:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:z3:
หายไปนานละน๊า...ใกล้จบแล้วมาลงต่อเร็ว ๆๆๆๆๆๆ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
คนโพสต์อยากจะบ้าตายยยยยยยยยยยยยยย :serius2:


 :o12:ฮาร์ดดิสเจ๊ง  ดีนะยังไม่หมดประกัน  เด๋วต้องกู้ข้อมูลก่อนนนน  แล้วค่อยส่งเคลม


เซรงมากมายยย   ถ้าข้อมูลหายไปนะ  จะเอาระเบิดไปถล่มร้านมานนนนนนนนน :angry2:





นี่เพื่อนเอาคอมมาให้ซ่อม  ก็เลยแอบเข้ามาแจ้งข่าวก่อนน   คิดว่าไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้อ่ะจะลงนะคร๊าบบบบบบบ

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
«ตอบ #259 เมื่อ02-12-2008 21:10:46 »

มาแล้วค๊าบบบบบบ   พอดีไปหยิบเอา Handy Drive ตัวเก่ามาเปิด  เลยเจอไฟล์


ก็เลยเอามาลงให้ค๊าบบบบบบบบ     ต้องขอโทษเกือบทุกคนด้วยที่หายไปนานเลย


มาต่อกันเลยดีกว่าคับ  ใกล้ถึงเวลานั้นแล้วววววววว




ตอนที่.17
เรากลับมาถึงกรุงเทพก้อเย็นแล้ว เลยตกลงว่าจะอยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน แต่ไผ่ขอตัวกลับเลย ผมเลยมาส่งไผ่ที่บ้าน

ยายของไผ่ชวนผมอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน ผมเลยอยู่จนค่ำ จึงได้ขอตัวกลับ ไผ่ยังคงเดินมาส่งผมเหมือนทุกๆครั้ง

“พี่กลับแล้วนะ แล้วถ้าพี่จะไปวันไหนพี่จะบอกอีกทีแล้วกันนะ”

“สรุปว่าพี่รอนจะไปแน่ๆใช่มั๊ยครับ” ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้กับไผ่ แต่ขณะผมกำลังจะขึ้นรถไผ่ก้อเรียกผมไว้

“พี่รอน ผมรักพี่นะ แต่ผมคงไม่รอพี่แล้วล่ะครับ โชคดีนะฮะ”
.
.
.
หลังจากที่ผมกลับมาจากเที่ยวกับเพื่อนๆ ก้อกลับมาทำงานตามเดิม พี่นัทกลับไปเมื่อวาน ก่อนไปสั่งอะไรผมเยอะแยะไปหมด แต่ผมก้อบอกแล้วว่า ผมจะตามไปหลังปีใหม่แน่นอนขอเวลาจัดการอะไรให้เรียบร้อยเสียก่อน

วันนี้ผมมาทำงานเป็นวันแรกหลังจากที่ลาหยุดไปหลายวัน แค่ก้าวเข้ามาในบริษัท บรรยากาศก้อดูแปลกๆ ผมเดินเอาของฝากมาให้กับพี่ๆในออฟฟิต ก่อนจะเดินมาหาวินมันที่ห้อง ทันทีที่พี่แตง เลขาหน้าห้องเห็นผม ก้อดูเหมือนจะดีใจมากเป็นพิเศษ

“กลับมาแล้วหรือค่ะน้องรอน”

“ครับพี่แตง นี่ของฝากครับ ว่าแต่ทำมัยบรรยากาศมันแม่งๆนะผมว่า” ผมทักทายพลางเอาของฝากยื่นให้แก

“ก้อคุณวินน่ะสิค่ะ ไม่รู้เป็นอะไรอารมณ์เสียมาหลายวันแล้วค่ะ พี่ล่ะเข้าหน้าไม่ติดเลย” ผมยิ้มเมื่อฟังพี่แตงเล่าถึงที่มาของบรรยากาศแปลกๆแบบนี้

“ตอนนี้เจ้านายตัวดีของพี่อยู่ในห้องหรือเปล่าครับ”

“อยู่ค่ะ สงสัยเมื่อคืนจะนอนออฟฟิตค่ะ เพราะเห็นใส่เสื้อชุดเดิม”

ผมยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง พอผมเข้ามาก้อเห็นคนขี้โมโหนอนหลับหมดสภาพตรงเตียงนอนในห้องพักผ่อนส่วนตัวด้านใน ผมเดินไปหยุดยืนดูวินสักพัก ท่าทางจะเหนื่อยมากขนาดนอนยังทำหน้าเครียดขนาดนี้

ผมค่อยๆเอื้อมมือไปถอดแว่นให้วินช้าๆ แต่คนตรงหน้ากลับรู้สึกตัวเสียก่อน

“รอน!!!!!!! กลับมาแล้วเหรอ ทำไมไปกันตั้งหลายวัน” วินดึงผมลงไปนอนกลิ้งกันอยู่บนเตียง

“ไอ้บ้าวิน ปล่อยก่อนเสื้อยับหมดแล้ว”

“ขอกอดให้หายคิดถึงหน่อยสิ ไม่เห็นหน้าตั้งหลายวัน ไม่รู้ไปพลาดท่าเสียทีถ่านไฟเก่าบ้างหรือเปล่า”ผมหัวเราะกับคำพูดของวินแต่ก้อปล่อยให้มันกอดอยู่อย่างนั้น

“พอยัง อึดอัดนะเนี้ย” ผมท้วงหลังจากที่วินมันกอดผมอยู่พักใหญ่

“อีกนิดนะรอนนะ” ผมตบหัวมันไปทีนึง

“อะไรแค่ไปไม่กี่วันนายยังเป็นถึงขนาดนี้ ลูกน้องเข้าหน้าไม่ติดสักคน แล้วถ้าต่อไปเราไปอยู่กับแม่นายไม่ตายเหรอนี่” วินหยุดการแกล้งผมทันที ก่อนจะผละออกจากตัวผม

“นายจะไปจริงๆเหรอ” เราต่างมองหน้ากันแบบจริงจังเป็นครั้งแรกตั่งแต่ผมเดินเข้ามาในห้องวันนี้

“อือม์...เราตัดสินใจแล้ว เราว่าลงไปดื่มกาแฟกันข้างล่างเถอะ ดูนายเหนื่อยๆ จะได้คุยกันด้วยงัย” วินยอมเดินลงมากับผมแต่โดยดี หลังจากที่เราหามุมดีๆกับสั่งกาแฟแล้ว ผมกับวินเราเลยมานั่งคุยกัน

“ไม่ไปไม่ได้เหรอ”วินถามผมทันที

“เราต้องไปจริงๆ เพราะพี่นัทจะหมั้นด้วย อีกอย่างเราขอเวลาพัก คิดอะไรนิดหน่อยนะ เรากำลังสับสนน่ะ ก่อนนายไปนายมาบอกให้เรากลับมาเป็นเพื่อนกัน แต่หลังจากกลับมาท่าทีของนายมันเหมือนกับอยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนก่อน เราเลยงงน่ะ นะวิน”

“เราผิดเองแหละที่ไม่เข้มแข็งพอ แต่ตอนนี้เรารู้ใจตัวเราเองแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าไปเลยนะรอน เราขอร้อง”

“ถ้านายรักเราจริง นายต้องให้เราไปสิ เราอยู่ที่นี่ตอนนี้ก้อเหนื่อยใจและเสียใจ แต่ไม่ว่าจะยังงัยวันนึง เราจะกลับมา”

วินไม่ได้ตอบอะไรเรากินกาแฟเสร็จต่างฝ่ายต่างก้อแยกย้ายกันไปทำงานของตน จนเลิกงานผมเลยตั้งใจว่าจะแวะไปที่บ้านของวินสักหน่อย อยากจะไปบอกลุงกิตติด้วยว่าผมจะขอไปอยู่ที่สิงค์โปร์สักพัก แต่วินเลยยังไม่เสร็จงานผมเลยมาที่บ้านก่อน

“อ้าว...รอนมายังงัยลูกแล้วเพื่อนเราทำไมยังไม่กลับล่ะ” ลุงแกทักผมหลังจากที่ผมเดินไปสวัสดี ลุงกิติในวันนี้ผอมลงไปมาก

“วินมันยังไม่เสร็จงานนะครับ พอดีผมอยากมาคุยกับลุงก่อนน่ะครับ” ผมเดินลงไปนั่งใกล้

“มีอะไรหรือเปล่าลูก” ผมลังเลสักพักก่อนจะเอ่ยออกไป

“ลุงครับ หลังปีใหม่ผมจะไปสิงค์โปร์แล้วนะครับ” ลุงกิติดูตกใจที่ได้ยิน ถึงจะไม่มากแต่ก้อพอจับได้อยู่ดี

“ทำไมล่ะ ทะเลาะกับวินมันหรือเปล่า”

“เปล่าครับ แค่คิดถึงแม่กับคนที่เหลือน่ะครับ อีกอย่างพี่นัทก้อจะมีข่าวดีด้วยครับ”

“แค่ไปเยี่ยมแล้วกลับมาต่อไม่ได้เหรอลูก” ผมยิ้มให้กับลุงกิติ

“ทำไมล่ะครับลุง ผมกับวินเราอยู่ไกลกันลุงน่าจะดีใจนะครับ” ผมอดจะประชดแกไม่ได้ เพราะแกเองก้อค้านพวกเรามาตลอด

“ลุงขอโทษนะรอน เพราะลุงจริงๆสินะ เราถึงต้องไป”

“ขอโทษครับผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ผมจะหมายถึงว่ามันจะเป็นการดีกับวินเท่านั้นในการที่วินจะมีชีวิตในแบบลุงต้องการ”

แกไม่ได้พูดอะไร ผมนั่งคุยกับแกจนวินกลับมา วันนั้นเป็นการกินข้าวที่ผมแสนจะอึดอัด เราต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนผมเอ่ยลาขอตัวกลับ วินเลยออกมาส่ง

“อย่าคิดมากน่ะ พ่อก้อเป็นแบบนี้แหละ นายอยากทำอะไรก้อทำเถอะถ้ามันเป็นความสุข”

“ขอบใจที่เข้าใจเรานะ” ผมกำลังจะเดินกลับ แต่นึกเปลี่ยนใจหันมาหาวิน

“วิน หลังปีใหม่เราขึ้นไปเชียงใหม่กันมั๊ย อยากไปลาปู่กับย่าด้วย แล้วก้อจะได้ไปบอกพวกเพื่อนๆด้วย อีกอย่างเราอยากไปย้อนวันเวลาดีๆด้วยกันก่อนไปน่ะ” วินยิ้มให้ผม

“ไปสิ เราก้ออยากไปเหมือนกัน นึกอยากชวนนายไปหลายครั้งแล้ว คิดถึงไร่ส้มของพ่อนายชะมัด”

.
.
.
.
บรรยากาศในวันปีใหม่ค่อนข้างจะคึกคัก วันนี้วินจองที่นั่งที่ร้านอาหารบนตึกที่สูงที่สุดย่านประตูน้ำ

ที่นี่จะมองลงไปเห็นผู้คนที่ต่างมาสนุกสนานกับงานฉลองปีใหม่ได้ชัดเจน ลุงกิติก้อมาด้วยเพราะมันเป็นความตั้งใจของแกที่อยากฉลองปีใหม่กับพวกเราพร้อมหน้า ญาติของวินหลายคนก้อมานั่งกับพวกเราด้วย

ลุงกิตติดูมีความสุขที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ผมพยายามตัดเรื่องที่กำลังกลุ้มใจเพราะว่า มันก้อหมายความว่ามันใกล้ที่จะถึงวันที่ผมจะต้องไปจากวินอีกครั้งแล้ว วินเองก้อดูจะพยายามที่จะไม่คิดอะไรมาก

จนถึงช่วงที่นับถอยหลัง เรามายืนมองดูผู้คนที่อยู่เบื้องล่าง มันคงจะน่าสนุกถ้าได้ลงไปอยู่ข่างล่างนั่น ทันทีที่การนับถอยหลังบ่งบอกว่าเข้าสู่ปีใหม่ พลุมากมายก้อถูกจุดขึ้นสู่ท้องฟ้า มันเป็นภาพที่ผมประทับไม่รู้ลืมอีกภาพหนึ่ง

“สวีสดีปีใหม่นะวิน”

“สวัสดีปีใหม่เช่นกันรอน” เราต่างหันมาสบตากัน ทั้งผมและวินเราต่างรู้ดีว่าในแววตาของเรานั้นมีบางสิ่งที่ไม่ได้บอกเป็นคำพูดที่กำลังสื่อถึงกันอยู่

“แล้วเรื่องจะไปเชียงใหม่นี่จะเอางัย ขึ้นไปพรุ่งนี้เลยมั๊ย ไหนๆบริษัทก้อปิดอยู่แล้ว”

“เอาสิ แล้วแต่ว่านายสะดวกแล้วกัน ตอนนี้เราว่างงานแล้วนี่นา”

ผมยิ้มให้กับวิน ลุงกิติเองก้อรู้ว่าพวกเราจะขึ้นไปเชียงใหม่กัน เพราะวินบอกไว้นานแล้ว อีกอย่างช่วงนี้ญาติของวินก้อมาอยู่เป็นเพื่อนลุงกิติด้วยช่วงที่วินไม่อยู่

พอเช้ามาพวกเราเลยเดินทางมาเชียงใหม่กันทันที ระหว่างที่เราอยู่บนเครื่องวินก้อหันมาสั่งผม

“รอนเอาที่ปิดตาที่เค้าให้ติดตัวไปด้วยนะ”

“ไอ้บ้า เอาไปทำไม”

“เอาน่าบอกให้เอาไปก้อเอาไปเถอะ”
เมื่อมาถึงเราก้อมาพักที่ห้องของวิน เพราะวินซื้อไว้ไม่เหมือนผมที่แค่เช่าเท่านั้น ทันทีที่เรามาถึงเชียงใหม่ ลมหนาวก้อพัดพาเราย้อนเวลากลับไปในวันเก่าๆอีกครั้ง

“คิดถึงที่นี่จังเลยนะ” วินพูดออกมาหลังจากที่เรามาถึงห้องของวินแล้ว ตอนนี้วินออกไปยืนที่ระเบียง ผมเดินตามออกไปยืนข้างๆ วินเลยดึงผมไปกอดไว้

“สองสามวันนี้เราจะกลับไปเป็นวินกับรอน คู่รักกันเหมือนเดิมนะ” วินเอาคางมาเกยกับไหล่ของผม

“อือม์ งั้นวันนี้เราจะไปไหนกันดีล่ะ”

“นายอยากไปไหนล่ะ จะขึ้นไปที่ไร่เลยมั๊ย”วินถามในขณะที่ยังกอดผมอยู่

“ยังหรอก อยากไปเที่ยวในที่ที่เคยไปเมื่อก่อนน่ะ คิดถึงเหมือนกัน อยากรู้ว่ามันจะเปลี่ยนไปมั๊ย”

วินกับผมเรามาใช้บริการเช้ารถของทางคอนโด เมื่อเราขึ้นมานั่งกันในรถ วินก้อสั่งให้ผมเอาที่ปิดตามาใส่

“ทำไมว่ะ จะให้ใส่ทำไม”

“เอ่าน่า เราอยากพานายไปที่ที่นึง” ผมระอากับความคิดของวินมัน แต่ก้อยอมปิดแต่โดยดี ตลอดทางวินมันก้อย้ำว่าอย่าแอบดูเด็ดขาด จนมาถึงวินก้อมาเปิดประตูรถแล้วจูงผมเดิน

“นายลองทายสิว่าเราพานายมาที่ไหน ไม่ต้องเปิดตานะ เราจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับที่นี่ให้ฟัง”

ผมยิ้มขำๆ นึกสนุกไปกับวิน ตอนนี้มันเหมือนว่าเรากำลังย้อนไปเป็นเด็กๆกันอีกครั้ง

“ที่นี่เราเคยมาลอยโคมด้วยกัน มันเป็นที่ที่เราได้พูดบางอย่างที่ทำร้ายนายไป และมันก้อทำให้เรากับนายต้องห่างเหินกัน รู้มั๊ยว่าตอนนั้นเราเสียใจมาก ถึงแม้จะรู้ใจแต่ก้อไม่กล้ายอมรับว่าเรารักนาย”

ตลอดทางเดินที่วินเล่า ภาพเหล่านั้นก้อสว่างอยู่ในใจของผม วินเดินจับมือผมเดินไปเรื่อยๆเราต่างค่อยๆซึมซับกับบรรยากาศเก่าๆ ผมสูดอากาศให้เต็มปอดอีกครั้ง ก่อนวินจะหันมาถาม

“รอนนายรู้มั๊ยว่าที่นี่ที่ไหน”

“รู้สิ ที่นี่มันทำให้เราปวดใจเมื่อได้ยินนายบอกว่าได้ตกหลุมรักน้องลิน และมันทำให้เราต้องจำใจห่างนายทั้งๆที่ไม่อยาก อ่างแก้วใช่มั๊ย”

“ถูกต้องนะครับ งั้นรับรางวัลไปเลยครับ” ทันทีที่วินพูดจบก้อรู้ได้ถึงริมฝีปากอุ่นทาบทับลงมาที่ปากของผม วินเปิดที่ปิดตาให้ผม ตอนนี้ผมยืนอยู่ที่อ่างแก้วจริงๆ ที่นี่ยังคงสวยงามไม่เปลี่ยนแปลง

“งั้นนายปิดตาบ้าง เราจะพานายไปที่อื่นบ้าง” ผมบอกกับวินหลังจากที่เราเดินกันสักพัก ผมเป็นฝ่ายขับรถพาวินมายังที่แห่งนึงก่อนจะพาวินเดินมาหยุดยืนมองดูตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ที่มองเห็นตัวเมืองได้ทั่ว และลมที่นี่เย็นมาก

“วินที่นี่นายเคยมากับเรา เรามากันบ่อยนะ นายเคยบอกเราว่าเคยมาขอพรให้ได้อยู่ข้างๆเราตลอดไป เราดีใจ และเคยขอพรแบบนั้นให้นายเหมือนกัน รู้มั๊ยว่าที่ไหน”

ผมถามวิน วินหันมายิ้มๆก่อนจะตอบ

“ทางขึ้นไปดอยสุเทพใช่มั๊ยลมแรงๆแบบนี้” ผมเปิดตาให้วิน

“เย้..ถูกจริงๆด้วย ไหนล่ะรางวัล”

ผมทำหน้าเซ็งๆแต่ก้อยื่นหน้าไปหอมแก้มวิน หลังจากนั้น เราต่างสนุกโดยการไปที่ต่างๆในอดีต และต่างก้อได้รู้ถึงความรู้สึกของแต่ละคนในอดีตที่ไม่เคยรู้มาก่อน

ทั้งที่มหาลัย สวนสัตว์ เราต่างพากันไปหลายที่จนเย็น จึงโทรนัดเพื่อนๆมาฉลองกันที่ร้านหลังคอนโด ร้านที่เราฉลองเรียนจบกัน

คืนนี้เราอยู่กันเกือบครบทีม ขาดไปบ้างบางคน และน้องลินที่ลงไปฉลองกับที่บ้าน โอ๊ต ดีใจที่เห็นหน้าของวิน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่มันก้อเศร้าอีกเมื่อผมบอกว่าจะเป็นฝ่ายเดินทางบ้าง

“ทำไมพวกมึงต้องสวนกันไปสวนกันมาด้วยว่ะไอ้วิน” โอ๊ตถามกับพวกผม ซึ่งผมเองก้อไม่มีคำตอบให้โอ๊ตในคืนนั้น และผมเองก้ออยากรู้คำตอบเหลือเกินว่าเพราะอะไร

.
.
.
เช้านี้ผมกับวินเรามาที่ไร่กัน ผมเอาของฝากมาสวัสดีปู่กับย่าและญาติๆที่เหลือ พร้อมกับบอกข่าวการเดินทางของผม คนที่นี่ไม่มีใครอยากให้ผมไป แต่ก้อไม่คัดค้านปล่อยให้ผมเป็นคนตัดสินใจ ผมกับวินเราขี่รถมายังฝายที่ประจำของพวกเรา

“นายว่ามันยังเหมือนเดิมมั๊ย” วินถามเมื่อเรามานั่งเล่นกันที่นี่

“คล้ายเดิมนะ แต่ไม่มีอะไรที่มันเหมือนเดิมหรอกเมื่อเวลามันผ่านไป”ผมตอบวิน

“เราก้อว่าจริงนะ ความรู้สึกของเราที่มีให้นายยังไม่เหมือนเดิมเลย แค่คล้ายๆ” วินบอกกับผม ผมหันไปถาม

“มันคล้ายยังงัย”

“ก้อยังคงรักนาย แต่มันมากกว่าเดิม กว่าเมื่อก่อน ยิ่งตอนนี้นายกำลังจะเป็นฝ่ายไป เรายิ่งรักนายมากขึ้นน่ะ”วินหันมาตอบ

“งั้นเราก้อคงคล้ายเดิมเหมือนของนายด้วย”

เรายิ้มให้กัน ก่อนจะกลับหลังจากที่นั่งกันอยู่จนเกือบเย็น
เมื่อเราขี่รถกลับมาถึงไร่วินก้อชวนเดินไปบนเนินกลางไร่ ที่ที่วินเคยบอกลาผม เราเดินกันขึ้นมาเรื่อยๆ แต่วันนี้ผมเองกลับเป็นฝ่ายจะต้องลาไปจากวิน

“รอนรู้มั๊ยทำมั๊ยวันนั้นเราถึงบอกให้นายเลิกคิดรื่องของเรา” วินหั
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2008 23:41:40 โดย SE7EN_AKIRA »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
« ตอบ #259 เมื่อ: 02-12-2008 21:10:46 »





ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ขอบคุณครับ ที่มาต่อเรื่องให้ :pig4:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
จะว่าเศร้ามันก็ไม่เศร้าน่ะ แต่มัน..ไงดีล่ะ คือรู้ว่าทั้งสองคนยังรักกัน แต่ห่างกันด้วยเหตุผลที่รับได้อ่ะ

ยังไงก้อรักรอนไม่เปลี่ยน  :-[

แต่ว่าจะได้ไปแน่เหร๊อ พ่อวินออกจาแผนสูงขนาดนั้น :-[

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:m15:
เอาใจช่วยวินกับรอนให้ได้กลับมารักกันอีกครั้ง...

ปล. มี service ตามแฟน ๆ นิยายด้วย น่ารักจัง
+1 ให้กับบริการดี ๆ ที่ไม่มีใครเหมือน... :pig4:

yee

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

crazykung

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

น้ำตาไหลทำไมเศร้าจัง

มีแต่น้ำตาไหลท่วมจอ แงๆๆ

รักกันตลอดไปเทิด :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
Re: กว่าจะถึง...ซึ่ง&#
«ตอบ #268 เมื่อ04-12-2008 00:11:17 »

เอามาให้อีกตอนค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ


วันนี้ไปลองถ่ายรูปกะต้นคริสมาสต์มาด้วยหล่ะ   ซ้อมไว้วันจิง  :jul3:



ตอนที่.18
หลังจากที่ป้าของวินโทรมาบอกพวกเราก้อรีบกลับกรุงเทพมาโดยเร็วที่สุด เรามาถึงโรงพยาบาลก้อเจอกับป้าของวินที่รออยู่ก่อนแล้ว

“พ่อเป็นงัยบ้างครับ” วินรีบเข้าไปถามอาการจากป้าของวินทันที

“ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนนี้รอดูอาการอยู่ในห้องไอซียูน่ะลูก เดี๋ยวงัยหนูไปคุยกับหมอเค้าก่อนนะเห็นว่าเค้าอยากคุยกับญาติคนป่วย”

ป้าบอกกับวิน ผมเลยเดินไปเป็นเพื่อนวิน ในตอนนี้ผมคิดว่าวินคงต้องการกำลังใจจากผมแน่ๆ เราเดินมาพบกับคุณหมอเจ้าของไข้ของลุงกิติ ก่อนจะเข้าไปนั่งฟังถึงอาการของลุง

“พ่อผมเป็นงัยบ้างบ้างครับหมอ” วินถามทันทีที่เราเจอหน้าของหมอท่านนี้

“คือต้องบอกว่า ตอนนี้ตัวร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอมากแล้ว เราคงผ่าตัด ทำบายพาสให้ไม่ได้แล้ว เพราะเกรงว่าจะมีผลกับร่างกาย และการวางยา คงต้องทำวิธีอื่นแทน และอยากจะให้เตรียมใจกันไว้ด้วยนะครับ ถ้าท่านฟื้นขึ้นมาแล้วอาจจะอยู่กับคุณได้ไม่นาน”

ผมหันไปมองวินและเห็นว่าวินเองดูเหมือนจะช็อคไปหลังจากฟังหมอพูดจบ

“ทำไมมันถึงกลับมาแย่เร็วนักล่ะครับ ทั้งๆที่เพิ่งผ่าตัดไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง” วินยังคงถามหมออยู่

“ตามประวัติ คนไข้ไม่ได้เข้ารับการผ่าตัดนะครับ คนไข้เลี่ยงที่จะเข้ารับการผ่าตัด”

“ไม่จริงนะครับ เมื่อปีที่แล้วพ่อรับปากว่าจะผ่าตัดนี่นา แล้วผมก้อเห็นว่าพ่อเดินทางไปอเมริกาด้วยเพราะติดต่อกับทีมหมอทางโน้นไว้” วินหันมาหาผม

“รอนเมื่อปีที่แล้วพ่อได้ไปอเมริกาบ้างมั๊ย” ผมนึกสักครู่ก่อนจะตอบวินไป

“ไปสิ แต่เห็นว่าไปทำธุระเรื่องงานนะ”

ผมเห็นวินกำหมัดแน่น หลังจากฟังผมพูดจบ กรามขบกันเป็นสัน แววตาเออไปด้วยน้ำใสๆ

“ใจเย็นๆนะวิน พ่อนายต้องปลอดภัย อย่าเพิ่งคิดมากนะ เราทำได้แค่รอดูและเอาใจช่วยเท่านั้น” ผมพยายามที่จะปลอบใจวิน

“ขอบใจนะรอน นายจะกลับบ้านเลยมั๊ยเราจะไปส่ง”

“ไม่เป็นไรเรากลับเองก้อได้นายอยู่เฝ้าพ่อเถอะ”

“เราไปส่งแหละดีแล้ว เค้ายังไม่ให้เฝ้าหรอก เพราะพ่อยังออกจากไอซียูไม่ได้ หมอกลัวติดเชื้อน่ะ”

วินบอกพร้อมกับมาส่งผมที่บ้าน ผมชวนวินให้เข้าบ้านก่อนแต่วินจะกลับเลย

“ให้เราไปอยู่เป็นเพื่อนมั๊ย” ผมถามวินให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะลงจากรถ

“ไม่ต้องหรอก นายต้องจัดการเตรียมตัวที่จะเดินทางอีกนะ อยู่จัดการให้เรียบร้อยเถอะนะ”

วินยิ้มให้ผม แต่มันช่างเป็นยิ้มที่เศร้าในความรู้สึก แววตาคล้ายคนไม่เหลือความหวังอะไรแล้ว ผมเป็นห่วงวินเหลือเกิน

ผมเดินกลับเข้ามาในบ้าน มองดูข้าวของที่ผมทยอยจัด และแพ็คไปบ้างแล้วหลังจากตัดสินใจว่าจะไปหาลุงนนท์กับแม่

ผมเดินไปเปิดตู้เก็บของที่อยู่มุมห้องนอน ผมไม่ได้เปิดมันมานานแล้ว มันถูกล๊อคกุญแจอย่างดี ทันทีที่ผมเปิดออกดู ผมก้อเห็นความรู้สึกที่ผมเก็บซ่อนเอาไว้ ความรู้สึกที่ต้องปกปิดและแอบไว้ให้มิดชิด

ข้างในตู้เต็มไปด้วยขวดโหลต่างๆมากมาย หลากหลายรูปทรงและขนาด แต่ภายในทุกใบกลับเต็มไปด้วยดาวกระดาษที่ผมใช้เวลาที่ผมอยู่บ้านคนเดียวเมื่อครั้งที่วินจากผมไปพับมัน

ทุกๆครั้งที่ผมเหงา และ ว้าเว่ เมื่อต้องอยู่คนเดียว สิ่งที่ผมจะทำคือการนั่งพับดาวเล่นเพื่อบรรเทาความเหงานั้น และผมก้อนำมันมาเก็บไว้ในนี้

เก็บมันไว้โดยที่ไม่ได้ลืมเลือนไปไหน เพียงแค่ซ่อนมันไว้เท่านั้น ถ้ามันจะทำให้หลายคนสบายใจ

ผมมองดูปฏิทิน มันใกล้วันที่ผมจะจากคนที่ผมรัก จากแผ่นดินที่ผมเกิดไปแล้ว แต่ทำไมผมกลับยิ่งเหมือนไม่อยากให้วันนั้นเดินมาถึง ทั้งๆที่ผมเป็นคนตัดสินใจเองแท้
.
.
.
.
ช่วงนี้วินเองดูเหมือนคนไร้จิตใจลงไปทุกๆวัน ทุกๆเย็นเราจะมานั่งมองดูว่าเมื่อไหร่ที่ลุงจะออกจากห้องไอซียูซักที ผมสงสารวินจับใจ

จนวันนี้ที่หมออนุญาติให้ลุงออกมานอนรักษาตัวในห้องพิเศษได้แล้ว

ภาพของลุงกิติที่เหล่าบุรุษพยาบาลเข็นผ่านหน้าของพวกเราไปทำให้ผมอดที่จะใจหายไม่ได้ ร่างกายที่ผอมผิดตาไปแค่ระยะเวลาไม่กี่วัน ผิวลุงกิติดูขาวซีดจนน่าใจตกใจ

ผมบีบมือวินเบาๆเมื่อวินเห็นพ่อของตัวเองมีสภาพเช่นนี้ เราเดินมาในห้อง วินเอาแต่ยืนมองดูลุงกิติ จนผมต้องเอ่ยปากให้วินไปกินข้าวกินปลาบ้าง เพราะวินแทบจะไม่แตะอะไรเลย

“เรายังไม่หิวน่ะ รอนนายไปกินก่อนก้อได้นะ”

“งั้นเดี๋ยวเราไปกดกาแฟร้อนๆมาให้สักแก้วแล้วกันนะ”

วินพยักหน้า ผมเลยเดินไปกดกาแฟแล้วกลับมาที่ห้องอีกครั้ง แต่ก่อนที่ผมจะเข้าไป เพียงแค่เปิดประตูก้อได้ยินเสียงของวินกำลังพูดบางอย่างกับลุงกิตติอยู่ น้ำเสียงที่ฟังดูก้อรู้ว่าวินกำลังร้องไห้

“ทำไมพ่อถึงทำกับผมแบบนี้ ทั้งๆที่สัญญากับผมว่าถ้าผมยอมไปอยู่ที่ออสเตเลียแล้วเลิกกับรอนพ่อจะยอมผ่าตัด แล้วทำไมพ่อถึงโกหกผมด้วย

รู้มั๊ยว่าช่วงที่ผมใช้ชีวิตที่อยู่ที่โน้นผมต้องร้องไห้ก่อนนอนทุกๆคืน ทุกๆวันผ่านไปอย่างเจ็บปวด ทำไมพ่อใจร้ายนัก ทำไมถึงต้องพรากหัวใจ พรากคนที่ผมรักไปจากผมหมด ตอนนี้หัวใจของผมก้อกำลังจะจากไป รอนกำลังจะจากผมไปแล้ว พ่อได้ยินมั๊ย

ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว และพ่อก้อยังจะทิ้งผมไปอีกคน ทำมัยพ่อถึงไม่อยากให้ผมมีความสุขล่ะ ทำไมทุกคนถึงไม่อยากให้ผมมีความสุขบ้าง ในตอนนี้ทุกคนก้อกำลังจะจากผมไปกันหมด ทำไม ฮื่อ ฮื่อ ทำไมครับ.....ทำไม”

ผมรู้สึกมือไม้อ่อนกาแฟที่ผมถือมาหล่นจากมือผมเมื่อผมได้ฟังคำพูดจากปากวิน ตลอดเวลาที่ผ่านมาคนข้างหน้าผมต้องทนทุกข์มาขนาดไหนกันนะ แต่วินก้อไม่เคยจะปริปากบอกผมสักคำ

ยอมเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว ทำไมตอนนี้แค่ได้ยินเสียงสะอื้นจากวินใจผมก้อเจ็บปวดใจจนแทบจะแตกสลายแบบนี้ ผมอดจะร้องไห้ไปกับวินไม่ได้

ผมเดินเข้าไปหาแล้วดึงวินมากอดผมไว้แน่น แน่นพอที่จะให้วินรู้ว่าผมจะไม่ไปไหน

“รอน ฮื่อ ฮื่อ เราไม่เหลือใครอีกแล้ว เราไม่เหลือใครแล้ว ฮื่อ ฮื่อ”

“นายยังมีเรานะวิน เราจะไม่ไปแล้ว ไม่จากนายไปไหนทั้งนั้น เราจะอยู่ข้างๆกันแบบนี้”

ผมร้องไห้ไปบอกกับวินไป วินผละออกจากตัวผมมาจ้องหน้าคล้ายจะมองให้แน่ใจ

“จริงๆนะรอน อย่าทิ้งเราไปไหนนะ”

“จริงสิ เราจะไม่ไปไหนแล้ว ถ้าการที่เราจะคบกันแล้วทำให้พวกเราต้องเจ็บปวดเราก้อมาช่วยกันบรรเทา รักษาความเจ็บปวดนั้นด้วยกันนะวิน เราจะอยู่ข้างๆนายตลอดไป เราสัญญา...................................




แล้วเจอกันวันพ่อค๊าบบบบบบบบบบบบบบบ   :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2008 00:15:04 โดย SE7EN_AKIRA »

yee

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด