<< อนูบิส จ้าวแห่งแดนมรณะ >> [Pre orderพิมพ์ครั้งใหม่ 4 ก.ย.-5ต.ค.61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << อนูบิส จ้าวแห่งแดนมรณะ >> [Pre orderพิมพ์ครั้งใหม่ 4 ก.ย.-5ต.ค.61]  (อ่าน 154471 ครั้ง)

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ต่อกันตรงนี้


 
               เวทิศเดินมาที่ห้องของคณบดีอย่างเร่งรีบเพราะเขาถูกตามตัวด้วยเรื่องที่คณบดีบอกว่าด่วนมาก ทำให้เวทิศต้องวางมือจากการหาข้อมูล


เรื่องปีศาจร้ายเนรูลงและวิ่งแจ้นมาอย่างรวดเร็ว




                “เรื่องอะไรครับอาจารย์”




                เวทิศเอ่ยถามคณบดีที่เป็นอาจารย์ของเขาพร้อมกับหอบไปด้วย ทันทีที่เขานั่งลงคณบดีก็เล่าเรื่องให้ฟังทันที




                “กรมสืบสวนคดีพิเศษทำเรื่องขอความร่วมมือมาที่คณะ”




                “กรมสืบสวนคดีพิเศษนี่มันก็ตำรวจใช่ไหมครับ เขาจะขอความร่วมมือเรื่องอะไร”




                “มีคนตายถูกผ่าศพแล้วควักหัวใจออกมา ที่เป็นข่าวเมื่อเกือบเดือนที่ผ่านมาไงล่ะ ทีนี้สภาพศพมันเหมือนการทำมัมมี่


เขาเลยอยากได้ผู้เชี่ยวชาญไปช่วยเรื่องนี้ ผมเลยคิดว่าอาจารย์เวทิศนี่แหละที่เหมาะที่สุด เพราะคุณเชี่ยวชาญด้านอียิปต์วิทยา”




                ช่วยเหลือตำรวจ งานงอกอีกแล้วไอ้ทิศ




                ท่านเทพไอดอลในดวงใจก็รอการช่วยเหลืออยู่ แล้วนี่ยังต้องไปช่วยตำรวจอีก ฮีโร่ไหมล่ะ




                “เดี๋ยวตำรวจที่เขารับผิดชอบคดีนี้ก็คงจะมา”




                เสียงเคาะประตูห้องคณบดีดังขึ้น และเมื่อเจ้าของห้องเอ่ยปากอนุญาตมันก็ถูกผลักออก ทันทีที่ร่างสูงก้าวเข้ามาในห้อง


ด้วยชุดนอกเครื่องแบบตำรวจ แต่ใบหน้านั้นทำให้เวทิศอ้าปากหวอพอๆกับอีกฝ่ายที่ก็ยืนอึ้งไม่แพ้กัน




                อย่าบอกนะว่าเวทิศต้องช่วยงานตำรวจคนนี้ คนที่เป็นโจทย์เก่าของเขา




                ร.ต.อ.ปาล แฟนกวินตราพี่สาวเพื่อนสนิท




                เวทิศจำได้ขึ้นใจ


 


                TBC
                               


                              กลับมาแล้วจ้า คิดถึงกันบ้างไหม
               
               

[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2016 01:27:28 โดย Belove »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :mc4:  ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ยินดีต้อนรับกลับมาจร้าาา  :man1:


อ่านตอนนี้แล้วอยากจะให้อิตาหมอกำจรเนี่ย โดนควักหัวใจออกไปจริงๆ  ความเป็นพ่อยังมีอยู่บ้างมั้ย  เคยรักน้องโอมบ้างรึเปล่า

แต่คิดว่าไม่แน่ๆ   ดูทรงแล้วเป็นพวกที่คิดว่า ชั้นคือพ่อ แกต้องฟังชั้น  สั่งซ้ายต้องสั่งขวาต้องขวา  สรุป แม่งบ้าอำนาจ 

ส่วนหมอคีรี    :เฮ้อ:   ได้แต่ถอนหายใจ   เอาความวิบวับๆกลับมาในตอนแรกที่เราเสียให้นายคืนมาเลย   นายมันดาร์กมาก

ส่วนพ่อปาลยอดขมองอิ่ม  ดูท่างานนี้จะคุ้มสุด  ได้ทั้งงานได้เมีย   :hao7:

ปล.แอบเอายูริมาให้กลุ้มกลิ่มหัวใจสินะ   น้องชาลินี กับ พี่ใจภักดิ์   :hao7:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ไอ้หยา ถูกคนเขียนเหวี่ยงให้มาเจอกันอีกแล้วนะ คุณตำรวจกับคู่ปรับ ฮา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คู่ปรับต้องทำงานร่วมกัน อย่ากดกัน เอ๊ย กัดกันเยอะนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ anawas

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
มาต่อแล้ววว คุณยายสู้ๆนะ อย่าเป็นอะไรเลย
หมดคีรีคิดจะทำอะไรแน่ๆ

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ  :pig4: :L2:  ยังรอและติดตามอยู่นะคะ  :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :mew6: สงสารอ่ะ ทำไมอาภัพอย่างนี้

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
คิดมานานแล้วว่าคุณพ่อ หมอนี่ใช่ไม่ได้

แต่นี่ไม่คิดว่าจะเอาความเป็นความตายคนมาเป็นข้อแม้

แย่ :z6:

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
โอย ลุ้น อยากให้รู้เรื่องหมอคีรีกันเร็วๆ จะได้หาทางป้องกันได้ แล้วก็สู้ได้ด้วย
ทำไมโอมไม่เล่าเรื่องในห้องผ่าตัดว่ามีอะไรแปลกๆ ให้อนูบิสรู้ล่ะ
รออ่านต่อนะคะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
มาแล้ววว คิดถึงจัง
พ่อก็เนอะเห็นแก่ตัวจัง ไม่ชอบเลย และหวังว่าอิหมอจะไม่ทำอะไรคุณยายนะ :katai1:
 :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เพิ่มความน่าปวดหัวเข้ามาอีก  งานมันจะสำเร็จไหมเนี้ย  เตรียมปวดหัวไว้หรอเลย  รออยู่คราบ 

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ FOUR EYES

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ติดตามจ้าาา เป็นกำลังใจให้นะเอออ.

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                               อนูบิส จ้าวแห่งแดนมรณะ

                                                                         บทที่ 12


               “มีอะไรก็ว่ามา”


               เวทิศนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กในห้องทำงานแสนรกของเขาโดยมีนายตำรวจหนุ่มยืนกอดอกมองอย่างหมั่นไส้ หลังจาก

ที่คณบดีแนะนำตัวแล้วว่าเวทิศคือผู้เชี่ยวชาญด้านอียิปต์วิทยาเพียงคนเดียวในตอนนี้ เวทิศก็เดินนำลิ่วๆให้ปาลตามมาที่ห้องพักอาจารย์

เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ปาลขอความช่วยเหลือมายังมหาวิทยาลัย


               “เต็มใจที่จะช่วยหรือเปล่า”


               ปาลส่งเสียงถามอย่างไม่สบอารมณ์นัก หงุดหงิดตั้งแต่เห็นหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านความกวนอวัยวะเบื้องล่างเมื่อคณบดีแนะนำ

ตัวแล้ว ตอนนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่กล้าออกฤทธิ์มากนัก แต่พอได้อยู่ด้วยกันภายในห้องนี้โดยไม่มีผู้ใหญ่ ความกวนก็บังเกิดจนอยากจะฝาก

รอยเท้าเอาไว้เป็นของขวัญ


               “แล้วไงล่ะ ถ้าผมไม่เต็มใจคุณพี่ตำรวจจะไม่ใช้บริการใช่แมะ”


               เวทิศโต้ตอบด้วยสีหน้าเป็นต่อ เพราะอีกฝ่ายมาที่นี่ก็เนื่องด้วยต้องการความช่วยเหลือ และก็เป็นเขาที่ได้รับการคัดเลือก รอย

ยิ้มกระหยิ่มนั้นยิ่งทำให้ปาลนึกโมโห


               กวนตีนชิบหาย


               นั่นคือคำจำกัดความที่ปาลมอบให้เวทิศ


               “นี่เป็นเรื่องงานที่ประชาชนทุกคนต้องให้การช่วยเหลือแก่ทางการ ถ้านาย เอ๊ย คุณไม่ช่วยก็ถือว่าปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ

กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ”


               คราวนี้เป็นปาลที่ยิ้มเยาะเย้ยบ้าง


               “ผมมีสิทธิ์จับคุณได้ก็แล้วกัน”


               “โอ๊ย กลัวแล้วจ้าพ่อ” เวทิศแทบจะแยกเขี้ยวใส่ “มีอะไรก็ว่ามา เวลาของผมเป็นเงินเป็นทอง”


               “แค่เวลาเหรอที่เป็นเงินเป็นทอง นึกว่าคุณเป็นตัวเงินตัวทองเสียอีก”


               สาสสสสส


               “นี่คุณด่าผมว่าเหี้ยเหรอผู้กอง”


               ไม่ต้องรักษาท่าทีแล้ว เวทิศเดือดจนต้องผุดลุกขึ้นยืนแล้วถกแขนเสื้ออย่างเอาเรื่อง คนถูกกล่าวหายิ้มแป้นพลางยักไหล่ใส่


               “มีคำนั้นหลุดจากปากผมไหม ถ้าไม่มีแปลว่าคุณคิดไปเอง และมีเจตนากล่าวหา ใส่ร้ายผมนะอาจารย์เวทิศ”


               เวทิศได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่เพราะเป็นเรื่องงานเขาจึงยอมกระแทกตัวลงนั่งอีกครั้งพร้อมกระชากเสียงพูด


               “มีอะไรก็ว่ามา อย่ามัวโอ้เอ้”


               “ผมต้องการรู้เกี่ยวกับวิธีการทำมัมมี่ของอียิปต์ รวมถึงพิธีของพวกเขา”


               เวทิศไม่รู้ว่าทำไมตำรวจจากกรมสืบสวนคดีพิเศษถึงได้มาสนใจเรื่องมัมมี่ด้วย แต่เขาก็วางความรู้สึกส่วนตัวลงไปชั่วคราวแล้ว

จึงอธิบาย ให้อีกฝ่ายฟังราวกับตนเองอยู่ในพิธีด้วย มือก็สาละวนหาหนังสือจากกองรกมาส่งให้ปาล


               “ถ้ามีคนตาย ญาติจะนำศพไปที่วิหารของเทพอนูบิสที่นักบวชในวิหารจะใส่หน้ากากรูปหมาในเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์แทนท่าน

เทพ ทีมนักบวชก็จะนำศพไปที่ห้องผลิตมัมมี่ซึ่งจะเป็นห้องลับ สมองของศพจะถูกดึงออกทางจมูกด้วยตะขอเกี่ยว เพราะคนอียิปต์สมัย

ก่อนไม่รู้ว่าสมองคือแหล่งสั่งการของร่างกาย”

               “หลังจากดึงสมองออกมาแล้ว นักบวชก็จะผ่าด้านข้างลำตัวดึงตับไตลำไส้กระเพาะออกมาให้หมดแต่จะเหลือหัวใจไว้เพราะ

เชื่อว่าศูนย์รวมของร่างกายคือหัวใจ พวกอวัยวะต่างๆเขาก็จะล้างและนำไปเก็บแยกไว้ในโถ ส่วนร่างกายก็จะถูกยัดเข้าไปด้วยเศษโคลน

เศษผ้าและเครื่องหอมก่อนที่จะนำร่างไปดองด้วยกรดเกลือไว้เป็นสัปดาห์จนแห้งแล้วค่อยมาห่อศพด้วยผ้าลินิน”


               จบคำอธิบายหัวคิ้วของปาลก็ย่นเข้าหากัน เวทิศมองด้วยความสงสัย


               “ผมเข้าใจผิดเหรอเนี่ย”


               “ผู้กองเข้าใจอะไรผิด สรุปแล้วการทำมัมมี่มันมีประโยชน์กับผู้กองบ้างไหม”


               เวทิศเริ่มจะงงเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของปาล ผู้กองหนุ่มจึงหยิบโทรศัพท์ของเขาแล้วเปิดรูปในเครื่องส่งให้เวทิศ


               “ก็อย่างที่ผมบอกกับคณบดีของคุณ ตอนนี้มีคดีที่ศพถูกกรีดเอาหัวใจออกไปหลายศพโดยที่ยังหาข้อมูลได้น้อยมาก ผมก็

เลยคิดถึงพวกมัมมีขึ้นมา แต่พอฟังข้อมูลแล้วการทำมัมมี่คือไม่ได้ตัดหัวใจ ซึ่งแสดงว่าผมคิดผิด”


               “ในอียิปต์โบราณน่ะ ถ้าศพไหนไม่มีหัวใจก็เท่ากับไม่มีโอกาสได้ฟื้นไปโลกใหม่และไม่มีโอกาสได้ชั่งน้ำหนักต่อหน้าเทพโอซิ

ริส”


               เดี๋ยวนะ!


               เวทิศฉุกคิด แล้วใครกันที่ต้องการหัวใจขนาดที่ต้องผ่าศพเพื่อชิงมันไป ใครที่หัวใจของผู้อื่นเป็นสิ่งจำเป็นในตอนนี้ หาก

ไม่ใช่...


               ปีศาจร้ายเนรู


               “เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ”


               เสียงพึมพำแผ่วเบาและใบหน้าที่กำลังคิดอะไรบางอย่างทำให้ปาลต้องเป็นฝ่ายมองเวทิศด้วยความสงสัยบ้าง


               “แน่ล่ะ เงื่อนงำมันมีอยู่แล้ว ไม่งั้นผมจะต้องขวนขวายหาข้อมูลพวกนี้ทำไม”


               เวทิศเงยหน้าขวับ และด้วยนิสัยที่เมื่อตั้งใจอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ ทำให้เขาโผเข้ามาวางมือไว้บนไหล่ทั้งคู่ของปาลแล้ว

เขย่าไปมา


               “ฟังนะผู้กอง อันที่จริงผมไม่ชอบหน้าคุณหรอก แต่เรื่องนี้ยังไงคุณก็ต้องให้ผมช่วยคุณ คุณเข้าใจผิดเรื่องมัมมี่ แต่คุณมาถูก

ทางแล้ว ผมนี่แหละที่จะช่วยคุณตามหาคนร้ายที่ขโมยหัวใจคนอื่นไปให้ได้”






               ใจภักดิ์เดินไปที่ฝ่ายนิติเวชของโรงพยาบาลหลังจากข้อมูลที่ได้มาจากหอผู้ป่วยแผนกศัลยกรรมเพียงพอแล้ว หญิงสาวได้

พบกันนายแพทย์สมยศหัวหน้าแผนกนิติเวชซึ่งเป็นรุ่นพี่ของใจภักดิ์จึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง สมยศถึงกับงุนงง


               “อะไรนะ เขาร้องเรียนว่าถูกผ่าศพและขโมยหัวใจที่โรงพยาบาลงั้นเหรอ”


               “ใช่ พี่ยศ ภักดิ์ตรวจแล้วหัวใจหายไปจริงๆ และมีรอยเย็บปิดหยาบๆเหมือนรีบร้อนอยู่ต้องด้านสีข้าง”


               หญิงสาวยืนยันพร้อมกับแสดงรูปถ่ายให้สมยศดู


               “แต่ศพคนตายหลังจากอยู่ที่ห้องผ่าตักสองชั่วโมงก็ต้องมาที่นี่ ระหว่างนั้นอาจจะมีใครแอบเข้ามาก็ได้ ช่วงที่เกิดขึ้นมันก็ดึก

มากแล้ว ห้องเก็บศพก็ไม่ค่อยมีใครผ่านไปมา เรื่องที่ใครจะเข้ามาก็ไม่ใช่เรื่องยาก”


               “มีกล้องวงจรปิดอยู่ตรงทางเข้านะ” สมยศเอ่ยขึ้นทำให้ใจภักดิ์ดีใจ


               “ขอดูได้ไหมพี่ยศ เผื่อจะเห็นว่าใคร”


               สมยศเดินนำไปยังห้องควบคุม เขาสั่งให้เจ้าหน้าที่เปิดหน้าจอเพื่อดูเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ภาพสลัวลางเลือนในความมืด

จับภาพชายคนหนึ่งไว้ได้ ทั้งสมยศและใจภักดิ์ต่างก็จ้องจนตาแทบถลน หากแต่โชคก็ไม่เข้าข้างเพราะผู้ชายคนนั้นใส่ผ้าปิดปากพราง

ใบหน้าไว้ สมยศเจ้าของสถานที่มองหน้าเครียด


               “มีคนแอบเข้ามาจริงด้วย เสียดายที่มองไม่เห็นหน้า แต่มันต้องเป็นคนในโรงพยาบาลนี่แหละเพราะดูท่าเดินแล้วสบายใจ

เหลือเกิน”


               ใจภักดิ์พยายามจดจำรูปร่างของคนลึกลับคนนั้น หญิงสาวดำเนินเรื่องขอนำเทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อนำไปใช้

ประกอบคดี กว่าจะจัดการเรื่องต่างๆให้เสร็จลงได้ก็หมดเวลาราชการไปพักใหญ่ ใจภักดิ์จึงได้ขับรถออกจากโรงพยาบาล


               “วะ ไอ้ฝนราชการ ตกตอนไหนก็ไม่ตก มาตกตอนเย็นที่คนเขาจะกลับบ้านกัน เดี๋ยวรถก็ติดหนักเพราะน้ำขังรอการระบาย

หรอก”


               บ่นพึมพำเมื่อสายฝนสาดซัดลงมาจากท้องฟ้าจนผู้คนพากันหลบฝนจ้าละหวั่น ใจภักดิ์เองก็รีบขับรถออกจากประตูโรง

พยาบาลจนไม่ได้มองข้างทาง


               ซ่า...

               รถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่ของใจภักดิ์แล่นผ่านน้ำขังจนมันสาดกระจายไปเป็นวงกว้าง ใจภักดิ์หน้าเสียเมื่อเห็นว่าน้ำเหล่านั้น

สาดกระจายเข้าใส่คนที่ยืนอยู่ข้างถนนจนน้ำโคลนเปรอะเปื้อนชุดขาวไปทั้งชุด ใจภักดิ์ชะลอรถแล้วรีบเปิดกระจกตะโกนออกไปทันที


               “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”


               ไม่รู้ว่าจะยกโทษให้หรือเปล่า แต่คนที่ยืนนิ่งก้มหน้ามองชุดตัวเองที่เปื้อนสีโคลนถึงกับเม้มปากแน่นเมื่อเงยหน้าขึ้นมาสบตา

กับใจภักดิ์ที่โผล่หน้าออกมาจากกระจกรถ ใจภักดิ์กลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นว่าเจ้าของหน้าบึ้งตึงนั้นเป็นใคร


               วันนี้ดวงสมพงษ์กับพยาบาลสาวชาลินีคนนี้เหลือเกิน
               
                รีบขับรถหลบเข้าข้างทางเพื่อไม่ให้เกะกะขวางทางรถที่ตามหลังมา หลังจากนั้นใจภักดิ์ก็วิ่งมาที่ชาลินีด้วยสีหน้าเสียใจ


              “คือว่า...อย่าเพิ่งต่อว่าเลย ฉันเสียใจจริงๆ”


               แม้จะโมโหที่ชุดขาวของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน แต่เมื่อชาลินีเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่ตัวสูงกว่าเธออยู่พอสมควร

แล้วชาลินีก็ได้แต่ถอนหายใจเพื่อปัดเป่าความโมโหออกไป

               อันที่จริงเหตุการณ์เมื่อตอนสายๆของวันที่เผลอตัวตวาดคนตรงหน้าที่เป็นทั้งหมอและตำรวจออกไปชาลินีเองก็รู้สึกผิดอยู่ไม่

น้อยเพราะงานบนหอผู้ป่วยกำลังยุ่งทำให้เธอหลุดความหงุดหงิดออกไปจนนึกตำหนิตัวเอง แต่ก็ไม่นึกว่าตอนเย็นจะต้องมาพบเจอใจ

ภักดิ์เป็นครั้งที่สองด้วยสภาพเช่นนี้ ยังดีที่เป็นตอนเลิกงาน ถ้าชุดพยาบาลของเธอเลอะก่อนทำงานก็คงหงุดหงิดกว่านี้


               “ช่างเหอะ ถือว่าวันนี้ฉันดวงซวยเองก็แล้วกัน”


               แม้ว่าชาลินีจะไม่ถือโทษแต่ใจภักดิ์ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี หญิงสาวอยากจะทำอะไรที่ไถ่ความผิดนี้ได้บ้าง


               “คุณกำลังจะกลับบ้านเหรอ ให้ฉันไปส่งนะ ตอนนี้ฝนยังตกไม่แรงมากถ้ามันแรงกว่านี้คุณจะกลับบ้านลำบาก ไปเถอะ”


               ใจภักดิ์ไม่รอคำตอบ หญิงสาวดึงแขนของชาลินีให้วิ่งตามมาที่รถและดันให้ชาลินีเข้าไปก่อนจะวิ่งไปที่นั่งของตัวเองแล้วรีบ

สตาร์ทรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว ชาลินีนั่งเงียบในรถอยู่พักใหญ่เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับใจภักดิ์ดี


               “บ้านคุณอยู่ไหน”


               ใจภักดิ์ถามทำลายความเงียบ ชาลินีจึงได้ตอบกลับไป


               “เรื่องเมื่อเช้าที่ตวาดใส่คุณฉันขอโทษนะ งานมันยุ่งฉันเลยหงุดหงิด”


               “ไม่เป็นไหรหรอก เรื่องแค่นี้เอง”


               ใจภักดิ์เหลียวไปมองชาลินีแวบหนึ่งแล้วเผลอยิ้มออกมา แม้จะเป็นผู้หญิงเหมือนกันแต่ก็ต้องยอมรับว่าชาลินีเป็นสาวหน้าตา

บ้องแบ๊วน่ารักไม่น้อย

               ไม่ได้คุยอะไรกันอีกจนกระทั่งขับรถถึงหน้าบ้านของชาลินีที่เป็นห้องแถวสองคูหาขายอาหารตามสั่ง ใจภักดิ์จึงเดินตามลงมา


                “น้ำชา ทำไมชุดเปื้อนแบบนี้ล่ะลูก”


               หญิงวัยกลางคนที่หน้าตาละม้ายชาลินีตะโกนทักมาจากหน้ากระทะทำกับข้าว ใจภักดิ์เดาว่านั่นคือมารดาของชาลินี


               “บ้านคุณขายอาหารตามสั่งเหรอ ดีเลย กำลังหิวไส้กิ่ว”


               “อ้าวเดี๋ยวสิหมอ”


               “เรียกฉันว่าภักดิ์ก็ได้คุณน้ำชา”


               “ใครอนุญาตให้เรียกชื่อเล่นฉันได้เนี่ย เดี๋ยวเหอะ”


               ใจภักดิ์ไม่ตอบ หญิงสาวเดินไปนั่งและสั่งอาหารกับแม่ของชาลินีและพูดคุยด้วยอย่างอัธยาศัยดีจนชาลินีนึกค่อนอยู่ในใจ


               รู้จักกันแค่ไม่กี่นาทีแต่คุยกับแม่เหมือนสนิทกันมาเป็นปี คารมจะดีเกินไปแล้วคุณหมอตำรวจ








               รถโรงพยาบาลของกำจรมารับยายจันทร์เพื่อแอดมิทตั้งแต่สายๆ และไม่นานนักหญิงชราก็ได้รับการรักษาในทันที ตอนนี้ยาย

จันทร์นอนรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤติโดยมีอาศิรเฝ้า เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลส่วนใหญ่รู้จักอาศิรว่าเป็นบุตรขายของกำจรจึงไม่มี

ปัญหาในการเฝ้า จนกระทั่งความมืดมาเยือนอนูบิสที่อยู่เป็นเพื่อนอาศิรจึงได้เอ่ยปากชักชวน


               “คุณยายปลอดภัยแล้ว โอมกลับบ้านไปพักก่อนเถอะนะ ดูสิยืนแทบไม่ไหว”


               อาศิรหันไปฝืนยิ้มให้กับอนูบิส จริงอย่างที่เขาพูด ตอนนี้หากไม่มีอนูบิสช่วยพยุงไว้ เขาอาจจะล้มลงไปง่ายๆ อาศิรจึงเอ่ยปาก

อำลาคุณยายที่ยังอยู่ในสภาพอ่อนเพลียและก้าวตามอนูบิสออกจากโรงพยาบาล และด้วยความอ่อนเพลียทำให้อาศิรไม่ได้สนใจสิ่งรอบ

ข้าง หากแต่อนูบิสที่มาด้วยกันกลับมองเห็น

               ดวงตาคมแลเห็นบุรุษที่อาศิรเรียกนามว่าคีรีกำลังก้าวขึ้นรถยนต์ที่ลานจอดรถ อนูบิสคงจะไม่สนใจหากว่าจมูกของเขาจะไม่

ได้กลิ่นสาบสางเสียก่อน คิ้วดกหนาย่นเข้าหากันและความระแวดระวังก็บังเกิด เขามองตามหลังรถยนต์ที่คีรีขับออกไปและทันใดนั้น

ดวงตาแห่งเทพก็มองเห็นเงาดำวูบไหวอยู่บนหลังคารถ


               “เนรู!”


               “อะไรนะอินทร์ภู”


               อาศิรสะดุ้ง เขาเงยหน้ามองเทพอนูบิสที่บัดนี้กัดกรามกรอดดวงตาจ้องมองตามหลังรถยนต์ที่กำลังแล่นออกไปจากประตูโรง

พยาบาล อนูบิสเอ่ยคำสั่งเสียงเข้ม


               “อัมมุท ออกมา!”


               มวลอากาศก่อตัวทันที อสุรกายสีดำกระโจนออกตัวตามหลังรถยนต์ของคีรีไปอย่างรวดเร็ว เสียงคำรามกึกก้องดังไปทั่วหาก

แต่ไม่มีมนุษย์คนใดได้ยินนอกจากอาศิรที่มองอย่างตกตะลึง

               เงาดำหลังรถยนต์ได้ยินเสียงแล้ว มันหันกลับมาแยกเขี้ยวสีเงินวาววับพลางกรีดร้องเสียงแหลมบาดแก้วหูก่อนที่มันจะทะยาน

เข้าหาอัมมุทและต่อสู้กันอยู่กลางอากาศ อนูบิสกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า พลันร่างมนุษย์กลับผันเปลี่ยนเป็นร่างแห่งเทพที่มีศีรษะเป็น

หมาในสวมใส่เกราะสีทองอยู่บนลำตัวท่อนบนเปลือยอวดมัดกล้าม อนูบิสกระชับด้ามคทาในมือแล้วจึงโผเข้าใส่เนรูทันที


               คทาส่องแสงวาบ อนูบิสสะบัดคมพุ่งพลังเข้าใส่จนสะเทือนไปทั่วท้องฟ้า มีเพียงอาศิรที่ตะลึงมองในขณะที่ผู้คนต่างวิ่งหลบ

หลีกเสียงและแสงจากฟ้าผ่ากันจ้าละหวั่น อาศิรเพ่งมองการต่อสู้ด้วยความเป็นห่วง เมื่อเนรูเคลื่อนที่หนีห่างไปเรื่อยๆ อนูบิสกระโจนตาม

ด้วยความเจ็บใจ


               “เนรู คืนขนนกและจงกลับไปรับโทษทัณฑ์”


               ตวาดก้องหากแต่เนรูกลับกรีดร้องเสียงบาดลึก อนูบิสถลำกายตาม เขาวาดคทาเข้าหาจนฟันเข้าร่างของเนรูได้ครั้งหนึ่ง หาก

แต่อนูบิสกลับเริ่มรู้สึกถึงพลังที่น้อยลงไปเรื่อยๆแต่เขาก็พยายามฟาดคทาใส่ เนรูส่งเสียงร้องก่อนจะกรีดกรงเล็บเข้าใส่ต้นแขนของอนูบิ

สจนกล้ามเนื้อแหวกเป็นทางและมีโลหิตสีน้ำเงินพุ่งออกมา


               “อย่าหนีนะ”


               เป็นเพราะไม่มีอังค์อยู่กับตัว พลังจึงมีไม่มากพอ อนูบิสเจ็บใจเหลือเกินที่เนรูพุ่งตัวหายวับไปในความมืด เขาประคองร่าง

ตนเองลงสู่พื้นและกลายร่างเป็นมนุษย์ กว่าจะมาถึงจุดที่อาศิรยืนอยู่อนูบิสก็แทบจะหมดแรง


               “อินทร์ภู!”


               อาศิรผวาเข้าไปรับร่างสูงใหญ่ของอนูบิสที่ยืนโงนเงนหากจากเขาไปไม่กี่ก้าว แผลขนาดใหญ่ที่ต้นแขนทำให้อาศิรเป็นห่วง

อนูบิสจนอยากจะร้องไห้
               


               TBC


 :katai4: :katai4:
               
               


                                                   


         

[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2016 20:40:48 โดย Belove »

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เวทิศมาถูกทางแล้ว แต่ก็คงจัดการเรื่องไม่ได้ง่ายแน่ๆ อนูบิสจะเป็นไรมั้ย ทีนี้เวลาต่อสู้จะทำไงล่ะเนี่ย
อังค์ไม่อยู่กับตัว แต่จะให้โอมไปใกล้มากๆ ก็ไม่น่าได้อีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2016 02:40:41 โดย AeRoMoZa »

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13   เริ่มแล้วๆ เข้มข้นๆ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กัดกันซะขนาดนี้จะไปกันรอดมั้ยยยยยยยยยย :hao4:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove





บทที่ 12 อัพแล้ว 100%
อยู่โพสเดิมนะจ๊ะ





 :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
กลับมาแบ้ววว คิดถึงใจจะขาดดด  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
แล้วต้องทำไงนี่ พลังที่น้อยลง

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มันกำลังเริ่มหนักขึ้น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด