[[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)  (อ่าน 79202 ครั้ง)

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
พี่แซมคิดได้แล้วสินะ

ออฟไลน์ JallolY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Side Story ( แซม X จัสมิน ) 5

                ตั้งแต่ที่พี่นิลมาหาผมกับพี่แซมวันนั้นก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วที่ผมอยู่กับพี่แซม เมื่อเดือนก่อนผมมีโอกาสได้พบกับคุณพ่อคุณแม่ของพี่แซม ตอนแรกก็เกร็งๆไปๆมาๆพวกเราก็เข้ากันได้ดี อ้อ..พี่แซมมีน้องชายอีกหนึ่งคนนะครับเพิ่งอยู่มัธยมต้นเอง แต่ความสูงนี่เลยหัวผมไปเยอะเลย -..- แล้วหลังจากนั้นมาไม่นานผมก็มาทราบทีหลังว่าพี่แซมพาคุณพ่อคุณแม่ไปเจอกับครอบครัวผมมาแล้ว เห็นว่าอยากจะทำเรื่องขอให้ผมมาอยู่กับพี่แซมแบบเป็นเรื่องเป็นเรื่องราว จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนผมรู้ ผมงี้ยิ้มจนแก้มแทบแตก มันอิ่มๆยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก >_<  ถึงตอนแรกจะแอบเคืองก็เถอะ เพราะพี่แซมไม่ยอมบอกอะไรผมเลย แต่ก็ช่างเถอะ ^_^
               
            วันนี้ผมมาหาพี่แซมที่มหาวิทยาลัยล่ะเพราะวันนี้ผมเลิกเรียนเร็ว ก็เลยกะจะแวะมาหาแล้วจะได้กลับห้องพร้อมกัน ผมค่อนข้างคุ้นเคยกับหนทางที่นี่ดี เพราะเคยมาหลายครั้งแล้ว และทุกครั้งที่มาผมก็จะมารอพี่แซมที่โต๊ะหินอ่อนตรงหน้าคณะประจำ แต่คราวนี้ผมไม่ได้บอกพี่แซมก่อนว่าจะมาหาเพราะเหมือนพี่มันจะไม่ค่อยชอบให้ผมมาหา เวลาผมมาทีไรชอบทำหน้าหงิกทุกที ว่าแล้วก็นั่นไง...เดินทำหน้ายักษ์มาเลย
           
             “ทำไมไม่บอกก่อน” ทำเป็นเข้ม
             
            “ก็คิดว่าเรียนอยู่นี่...พี่แม็กพี่เจมส์หวัดดีฮะ ^_^” ประโยคหลังผมเอ่ยทักเพื่อนพี่แซมที่เดินมาด้วยอีกสองคน เป็นเพื่อนสนิทพี่แซมครับมาทีไรเจออยู่ด้วยกันตลอด ระดับความหล่อนี่ไม่ต้องพูดถึงกินกันไม่ลงจริงๆ จากสามคนนี้ทำให้ผมรู้ว่าคนหน้าตาดีมักจะคบกับคนหน้าตาดีด้วยกัน แต่ยังไงพี่แซมของผมก็หล่อที่สุด อิ้อิ้

            “ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ โดนไอ้แซมมันจับขังไว้ล่ะสิ” พี่เจมส์เดินมานั่งตรงที่ว่างข้างผม แถมยังยกมือผลักหัวผมอีก นิสัย -..-

            “เดี๋ยวเถอะมึง หัวมันมีแค่นี้ เดี๋ยวก็ได้เอ๋อกว่าเดิม” พี่แซมเข้ามานั่งแทรกระหว่างผมกับพี่เจมส์ ส่วนพี่แม็กก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามยิ้มๆ เอ่อ...แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองโดนหลอกด่าเลยแฮะ

             “มึงก็ว่าไป มันคงเอ๋อกว่านี้ไม่ได้ละ ฮ่าๆๆๆ” อ่าว ไอ้พี่เจมส์

             “รุมว่ะ พี่แม็กช่วยมินด้วย” ผมลุกจากที่เดิมย้ายไปนั่งข้างพี่แม็กกอดแขนออเซาะเลยครับพี่แกก็ยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ กับพี่แม็กผมกล้าเล่นแบบนี้เพราะพี่เขาไม่เหมือนพี่เจมส์ พี่แม็กให้อารมณ์เหมือนคุณแม่(?) อ่า...บอกไม่ถูกมันให้ความรู้สึกอุ่นๆนุ่มๆนิ่มๆไม่เป็นพิษภัยยังไงไม่รู้แต่ผมชอบที่จะเกาะแกะพี่แม็กแบบนี้

              “ไปอยู่ด้วยกันเลยไหม?” พี่แซมถามเสียงเข้ม ตางี้จ้องผมเขม่งเลย ผมก็ไม่สนแลบลิ้นใส่อีก ฮ่าๆ

              “กูเอาจริงนะ จะเลี้ยงอย่างดี” พี่แม็กก็ไปยั่ว

              “หรือจะไปอยู่กับพี่ก็ได้นะ” พี่เจมส์ยื่นหน้าเข้ามาพูดน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

              “อยู่กับพี่เจมส์ อนาคตมินก็ดับวูบน่ะสิ”

              “ฮ่าๆๆๆๆ พูดดีมาก” พี่แม็กหัวเราะไปก็เอามือไปปัดมือพี่เจมส์ที่จ้องจะผลักหัวผมอีกรอบ จนพี่เจมส์ทำหน้าหงิกหน้างอ ฮ่าๆ พวกเรานั่งคุยเล่นกันอีกสักพักก่อนจะแยกย้ายกันกลับแต่ยังไม่ทันได้ลุกจากโต๊ะก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินมาเสียก่อน

             “พี่แซม เพิ่งเลิกเรียนเหรอครับ ?”

             “อื้ม เต้ยก็เพิ่งเลิกเหรอ?” พี่แซมตอบกลับไป เต้ย...เหมือนเมื่อก่อนเคยได้ยินพี่แซมคุยโทรศัพท์กับคนชื่อนี้อยู่เหมือนกัน สมัยตอนที่ยังคบกับพี่กัสอยู่น่ะนะ คงเป็นหนึ่งในบรรดากิ๊กอีกล่ะสิ ผมยืนฟังบทสนทนาเรื่อยเปื่อยของทั้งสองคน ไม่รู้ว่าผมเผลอลงแรงจิกแขนพี่แม็กไปเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่แม็กลูบมือผมเบาๆ อีกข้างเป็นพี่เจมส์ที่เดินมายืนข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้วางมือลงบนหัวผมพร้อมกับลูบไปมา ผมไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกแต่มันก็ทำให้ผมสงบลงได้

             “แล้วนั่นใครหรอครับ ? ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย” คนชื่อเต้ยชี้มือมาทางผม พี่แซมเหลือบตามามองผมก่อนจะหันกลับไป ผมเผลอกลั้นใจลุ้นไปกับคำตอบ ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมานานใช้ชีวิตเหมือนคนรักกันแต่พี่แซมไม่เคยพูดหรือบอกอะไรทำนองนั้นเลย บางทีผมก็มีความคิดงี่เง่านะ ว่าผมคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า

             “อ่อ...นั่น...”

            “น้องชายเพื่อน...ผมเป็นน้องชายเพื่อนพี่แซม” ผมรับรู้ได้ว่าทั้งพี่แม็ก พี่เจมส์ โดยเฉพาะพี่แซมจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว ผมก็อยากจะตีตัวเองเหมือนกันไม่รู้อะไรดลใจให้ไปพูดขัดพี่แซมแบบนั้น แต่...ผมแค่เผลอคิดว่าถ้าพี่แซมจะพูดแบบนี้หรือบอกเป็นอย่างอื่น ผมเองก็ไม่อยากฟังเหมือนกัน เพราะงั้นผมขอตอบเองดีกว่า

             “อืม...” พี่แซมพูดจบก็เดินหนีออกไป ไม่สนเสียงเรียกของคนที่ตัวเองคุยด้วย ผมเงยหน้ามองพี่เจมส์กับพี่แม็ก ทั้งคู่ก็เอาแต่ส่ายหัวไปมา ก่อนจะบอกให้ผมตามพี่แซมไป ผมเลยบอกลาพี่ๆทั้งสองคนก่อนจะตามพี่แซมที่เดินจ้ำอ้าวจนผมต้องวิ่งตาม

             “พี่แซมรอเค้าก่อน”

            พี่แซมไม่ฟังเสียงผมเดินเข้าไปนั่งในรถฟังคนขับ ผมยืนนิ่งหน้าเสียอยู่ข้างรถ ชะงักมือไม่กล้าเปิดประตูเข้าไปถ้าหากพี่แซมไล่ผมลงจากรถ ผมคงทำอะไรไม่ถูก แค่พี่แซมไม่สนใจผมแบบนี้ผมก็รู้สึกตาร้อนๆเหมือนจะร้องไห้แล้ว…

             ฮึก...ผมว่าไม่ทันแล้วล่ะ

            ผมยืนก้มหน้านิ่ง กัดปากเก็บเสียงร้องปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ ถ้าพี่แซมจะทิ้งผมจริงๆผมก็จะยืนส่งก่อน แล้วค่อยขึ้นรถกลับไปหาที่คอนโด แต่เวลาผ่านไปรถก็ยังจอดอยู่ที่เดิม

             “จะไม่กลับใช่ไหม ?” ผมสะดุ้งเงยหน้ามองต้นเสียง เป็นพี่แซมที่เปิดกระจกฝั่งที่นั่งด้านข้างลงมา ผมรีบพยักหน้าเร็วๆ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาแบบลวกๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่ง แอบเห็นพี่แซมส่ายหัวไปมา

            “ทำไมขี้แยจังหืม? ไอ้ลูกแมว” มือใหญ่เอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างแผ่วเบา นิ้วโป้งใหญ่ไล้เกลี่ยไปทั่วแก้มก่อนจะหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก ผมอดที่จะเอียงหน้าแนบไปกับฝ่ามือนั้นไม่ได้มันให้ความรู้สึกดี ผมเป็นแมว ผมชอบสัมผัส ผมไม่แน่ใจว่าที่ผมรู้สึกดีขนาดนี้มันเป็นเพราะผมเป็นแมวหรือเพราะคนที่สัมผัสผมเป็นพี่แซมกันแน่

            ผมเผยอปากงับนิ้วโป้งที่เกลี่ยอยู่ที่ริมฝีปากผมเบาๆอย่างลืมตัว แอบเห็นประกายบางอย่างในตาพี่แซม รู้ตัวอีกทีนิ้วโป้งที่ผมเผลองับก็ถูกแทนที่ด้วยริมฝีปากอุ่นๆของเจ้าของนิ้ว ริมฝีปากบดเบียดลงมาอย่างรุนแรงแต่มันไม่ถึงกับเจ็บ ไม่อ่อนหวานแต่กลับชวนเคลิ้ม เรียวลิ้นร้อนไล้เลียอยู่รอบๆริมฝีปากผมเพียงผมเผลอปากเล็กน้อยก็ถูกรุกล้ำเข้ามาอย่างง่ายดาย

              ผมถูกยกให้มานั่งคร่อมตักพี่แซมเอาไว้ มือผมทั้งสองข้างยกขึ้นคล้องคอโดนอัตโนมัติ มือใหญ่ทั้งสองข้างลูบไล้แผ่นหลังผมอย่างหนักหน่วงก่อนจะสอดเข้ามาในเสื้อลูบไล้ช่วงเอวสลับกับบีบเคล้นไปมา จนร่างกายผมสั่นเทิ้ม มันรู้สึกแปลก ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันเป็นความรู้สึกแปลกที่ผมรู้สึกดี…ดีมาก

              “อ๊ะ” ผมสะดุ้งสั่น เมื่อมือที่เคยลูบเอวเมื่อครู่เปลี่ยนมานวดวนๆแถวช่วงอกก่อนจะโจมตีตุ่มไตทั้งสองข้างของผมอย่างหนักหน่วงพร้อมกับริมฝีปากร้อนที่ไล้เลียอยู่แถวต้นคอ มือของผมจิกลงบนต้นคอพี่แซมแน่น ซุกหน้าเข้ากับช่วงไหล่กว้าง

              “พะ...พี่แซม อื้อ ยะ...อย่า....” ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างมันเบลอไปหมด เมื่อมือใหญ่ลูบส่วนหางของผมเบาๆตั้งแต่โคนจรดปลาย ผมไม่รู้ว่ามันออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันทำให้ผมรู้สึกทรมาน รู้สึกปวดหน่วงตรงท้องน้อยไปหมด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม พลันเรื่องที่พี่นิลเคยบอกผมให้ระวังไม่ให้พี่แซมจับหางก็เข้ามาในหัว พี่นิลบอกว่ามันจะทรมานและไม่ดีต่อแมวอย่างเรา ผมไม่เคยเข้าใจแต่ตอนนี้ผมพอจะเข้าใจแล้ว เพราะตอนนี้ผมกำลังทรมาน...

               “พะ...พี่แซม...”

               “นิ่งๆ” น้ำเสียงแหบพร่าตอบกลับมา พี่แซมกำลังหายใจแรงเหมือนคนหอบเหนื่อย ผมไม่รู้ว่าพี่แซมเป็นอะไรแต่เพราะผมก็อยู่ในอาการเดียวกันผมเลยยอมอยู่นิ่งๆ ซุกเข้าซอกคอพี่แซมอีกครั้ง พี่แซมหยุดการกระทำทุกอย่างก่อนจะกอดรัดผมเอาไว้แน่นจนเหมือนจะหายใจไม่ออก เรานั่งเงียบๆอยู่ท่านั้นสักพักจนทุกอย่างเริ่มสงบลง ทั้งพี่แซมและผมกลับมาหายใจในจังหวะปกติ

              “มะลิ...ไปเที่ยวกัน”




              “ฮ้า ~~~~~ คุณทะเล !!!!!!!”

             หลังจากที่ผมตกปากรับคำแบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา วันหยุดสุดสัปดาห์ผมและพี่แซมก็มาโผล่อยู่ที่ทะเล ก็แหม...สำหรับคนที่แทบไม่ได้ออกจากบ้านอย่างผม พอมีโอกาสก็ต้องรีบตะครุบเอาไว้ก่อนสิ ถึงจะไม่ใช่ทะเลทางใต้ก็เถอะ เพราะเวลาไม่เอื้อ แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับคนที่แทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับคุณทะเล ว่าแล้วก็ขอสูดกลิ่นเกลือหน่อยเถอะ ฟืดดดดดดดดด

             “ไอ้ลูกแมวเอาของไปเก็บก่อน” ตัวมารขัดความสุขจริงๆ ผมวิ่งกลับไปหาพี่แซมที่ขนของอยู่ที่ท้ายรถ เออนะ เมื่อกี้ก็มัวแต่ตื่นเต้นไม่ได้สนใจอะไรคนพามาเท่าไหร่

              พี่แซมพาผมไปบ้านไม้สองชั้นสีขาวหลังกะทัดรัด ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะว่าทำไมเวลาเป็นบ้านที่ชายทะเล จะต้องเป็นบ้านไม้สีขาว -..-  แต่เอาเถอะ เพราะบ้านหลังนี้น่ารักมาก มันดูอุ่นๆ พวกเครื่องเรือนก็ทำจากไม้สไตล์วินเทจซึ่งผมไม่ค่อยได้เห็นเลย ตื่นเต้นวิ่งเข้าออกห้องนั้นห้องนี้จนมีเสียงบ่นตามมาแล้วก็เงียบไปเพราะเมื่อยปาก ฮ่าๆ

              ผมจัดการเก็บของไว้ในห้องที่พี่แซมบอกว่าเป็นห้องนอนเสร็จเรียบร้อยก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นสายทางสีน้ำเงินขาว มีหมวกเป็นพร๊อพเสริมอีกอัน คว้ากล้องถ่ายรูปมาคล้องคอ คีบรองเท้าแตะ เป็นอันเสร็จพิธี ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปด้านนอกเห็นพี่แซมนอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนโซฟากลางบ้าน ดูจากท่าทางแล้วคงจะเหนื่อยพอดู ก็แน่ล่ะขับรถคนเดียวตลอดทางถึงจะไม่ไกลมากแต่ก็คงมีเพลียบ้างเหมือนกัน

               ผมยืนละล้าละลังคิดไม่ตกว่าจะเอาไงดี เดินเข้าไปใกล้คนนอนหลับเงียบๆ ผมเคยบอกไปแล้วใช่ไหมครับว่าพี่แซมมันหล่อ แล้วตอนหลับพี่มันก็หล่อไม่ต่างจากตอนตื่นเลย ผมไล่สายตามองสำรวจใบหน้าคมไปเรื่อยก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากสีออกคล้ำนิดๆ พลันฉากจูบอันเร้าร้อนเมื่อวันก่อนก็ไหลกลับเข้ามาในหัวผมเหมือนน้ำหลาก จนผมเผลอเด้งตัวออกมา รู้สึกร้อนไปหมดทั้งหน้า >///<
      
               ยืนบิดไปบิดมาอีกสักพักผมก็จัดการหากระดาษมาเขียนโน้ตสั้นๆบอกคนนอนเอาไว้ว่าผมจะออกไปเซฮัลโหลคุณทะเล เรียบร้อยผมก็เดินออกจากบ้านมา ไม่ลืมที่แอบจุ๊บมุมปากเบาๆส่งท้ายด้วย

          ผมเดินๆวิ่งๆอยู่แถวๆชายทะเลเดินเอาเท้าจุ่มน้ำไปเรื่อย มันรู้สึกดีมากๆจนผมอยากจะเอาหูกับหางออกมารับลมทะเลบ้าง แต่ถ้าทำอย่างนั้นมีหวังคนแถวนี้คงได้แตกตื่นกันหมด แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีมาก แฮปปี้สุดๆแล้ว

          “อ๊ะ !” ผมหันหลังวิ่งไล่ตะครุบหมวกสานใบเล็กที่ถูกลมทะเลพัดออกจากหัว แต่ยังไปไม่ทันถึงไหนก็มีคนใจดีช่วยเก็บให้เสียก่อน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติครับ พอเห็นอีกฝ่ายเก็บหมวกให้ผมเลยวิ่งทั่กๆเข้าไปยืนตรงหน้า พอมายืนใกล้ๆแบบนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแคระอย่างไรไม่รู้แฮะ ขนาดพี่แซมที่ว่าสูงแล้วแต่เหมือนคุณคนนี้จะสูงกว่าอีก ตาสีฟ้าๆ กับจมูกโด่งนั่น ถือว่าหน้าตาดีมากเลยล่ะครับ ทำให้ผมรู้สึกอยากบริโภคของนอกขึ้นมาตงิดๆ จุ๊ๆไว้นะ
   
               “ขอบคุณมากนะครับ” ผมเอ่ยขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษพร้อมกับส่งยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะรับหมวกมาสวมไว้เหมือนเดิม เหมือนได้ยินเสียงโห่แซวมาไม่ไกลคงเป็นเพื่อนๆของคนที่เก็บหมวกให้ผม ผมไม่เห็นคนตรงหน้าจะว่าอะไรนอกเสียยืนเกาท้ายทอยเหมือนคนกำลังเขิน ฮ่าๆ น่ารักดีครับ
   
              “ด้วยความยินดีครับ มาเที่ยวหรอครับ?”
    
              “ครับ ทะเลที่นี่สวยมากๆ” ผมยิ้มตาหยีพร้อมกับหันหน้าเข้าทะเลกางแขนรับลมที่กำลังโชยมา

               “ฮ่าๆ ครับๆ ผมเชื่อแล้ว ว่าแต่คุณมาคนเดียว?”

               “อ๋อ เปล่าครับมีอีกคนแต่ตอนนี้นอนหลับอุตุอยู่” นึกแล้วก็ยู่หน้า หรือว่าผมจะเข้าไปลากพี่แซมมาเดินเล่นด้วยกันดีหว่า

              “ผมแฟร็งค์นะครับ ^^”

              “ผมจัสมินครับ ^_^”

              “เอ่อ...ถ้าไม่รังเกียจไปเดินเล่นด้วยกันไหมครับ?” ผมหันมามองคนชวน ถ้าพี่แซมรู้เข้าจะโกรธผมไหมนะ แต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดหนิแค่เดินเล่น แล้วอีกอย่างคุณแฟร็งค์เองก็ดูไม่มีพิษภัยอะไร ถ้าไม่ไปไกลนักคงไม่เป็นไร ดีกว่าเดินเล่นคนเดียวแหละ

             “งั้น....อ๊ะ !” ยังพูดไม่ทันจบผมก็โดนมือปริศนารวบเอวเอาไว้พร้อมกับดึงปีกหมวกลงปิดหน้าผมเสียสนิท ถ้าไม่ใช่เพราะผมคุ้นเสียงและจำกลิ่นได้มีหวังผมตกใจจนหูหางโผล่แน่ๆ

             “คงไม่รบกวนหรอกครับ คนของผมผมดูแลเองได้”

              “อ่า...ครับ”

              “เอ๊ะ ! เดี๋ยว !” ผมยังไม่ทันได้เอ่ยลาคุณแฟร็งค์ไม่แม้แต่จะเห็นว่าคุณแฟร็งค์ทำยังไง ผมก็โดนลากตัวออกมาเสียก่อน เมื่อสงครามการลากจบลงผมก็เงยหน้าเปิดหมวกขึ้นมองบรรยากาศรอบๆพบว่าอยู่ไม่ห่างจากที่พักเท่าไหร่นัก แถมพี่แซมยังทำหน้าเหมือนโกรธเคืองใครมาสักสิบชาติได้

             “อย่าทำแบบนี้อีก” ว่าเสียงเข้ม

             “แต่เค้าเขียนโน้ตติดไว้แล้วนะ” ผมตอบเสียงอ่อมแอ้ม ไม่ชอบเลยอ่ะเวลาที่พี่แซมดุแบบนี้

             “ไม่ใช่เรื่องนั้น พี่หมายถึงอย่าไปคุยกับคนแปลกหน้าง่ายๆแบบนั้นอีก เข้าใจไหม?” เสียงเหมือนพยายามข่มอารมณ์เต็มที่

             “แต่คุณแฟร็งค์เขาไม่ได้มีท่าทางไม่ดีนะ”

            “แล้วยังไง เป็นคนไม่ดีต้องแสดงออกว่าไม่ดีงั้นสิ” พี่แซมว่าอย่างใส่อารมณ์

            “....”

           “เคยออกจากบ้านมาเจอคนแบบนี้แล้วเหรอ ถึงได้ไปเชื่อเขาน่ะ”

            “...”  ผมนิ่งเงียบ ใช่สิ ผมมันไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไม่ค่อยมีเพื่อนเลยไม่รู้อะไรไปหมดแหละ แต่ผมก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะแล้วก็ไม่ได้คิดจะไปไหนอะไรเกินเลยด้วย ทำไมจะต้องมาว่าผมขนาดนี้ แถมยังมาถอนหายใจใส่ผมอีก ฮึก...

            “โอเค ไม่ว่าแล้วครับไม่ว่าแล้ว” ผมเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสบเข้าอย่างจังกับพี่แซมที่ก้มตัวลงมาจนใบหน้าเราอยู่ระดับเดียวกัน นิ้วโป้งใหญ่ไล่เช็ดคราบน้ำตาให้ผม แววตาสำนึกผิดกับคำสบถเบาๆที่เหมือนโทษตัวเองของพี่แซมทำให้ผมโกรธไม่ลง จึงเข้าไปกอดร่างสูงเอาไว้แน่น ซุกหน้าเข้ากับอกส่ายไปมา พร้อมกับสั่งขี้มูกใส่ ฟืดดดดดดดดด

           “มะลิ” เสียงเข้มกลับมาแล้วครับ แต่ผมยังเช็ดๆต่อไป ก่อนจะฝากไว้อีก ฟืดดดดดดดดดดดดด

           “แบร่ !”

           “เจอไอ้หนุบหนับแน่ มะลิ!”

           “จ๊ากกกกกก” ผมวิ่งหนีพี่แซมที่ล้วงอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วรีบวิ่งไล่ตามผม ต้องเป็นไอ้หนุบหนับแน่ๆ นิสัยไม่ดีๆๆๆๆๆๆ

            กลายเป็นว่าเราวิ่งเล่นไล่จับกันอยู่ริมทะเลนั้นแหละครับสาดน้ำใส่กันไปมา ผมแอบกระโดดขี่หลังพี่แซมไปหลายครั้ง ครั้งแรกนี่เกือบหน้าทิ่มน้ำกันทั้งคู่เพราะพี่มันตั้งตัวไม่ทันแต่ครั้งต่อๆไปไม่มีปัญหาครับ แถมยังมีหน้ามาลองขี่หลังผมด้วย ไม่เช็คภาพร่างผมเลย



           “ไอ้พี่แซม !!” ผมอยากจะกรีดร้อง ไอ้พี่แซมมันขโมยกุ้งผม!! นี่มันตัวที่สามแล้วนะ แล้วกว่าผมจะแกะได้แต่ละตัวมันไม่ใช่ง่ายๆ แต่อีตาพี่แซมนี่สิปกติแค่พี่มันแกะกินเองผมก็กินไม่ทันแล้ว นี่ยังมาขโมยของผมอีก ฮึ่ย !

            ไม่ต้องสงสัยครับหลังจากที่พวกเราเล่นน้ำกันจนเหนื่อยก็พากันไปอาบน้ำแล้วก็ลากกระเพาะอันหิวโซของตัวเองมาจบที่ร้านอาหารทะเลไม่เล็กไม่ใหญ่ริมทาง แต่รสชาตินี่อย่างเด็ด เสียอย่างเดียวมันกินยากไปหน่อย ยากไปหมดทุกอย่าง กุ้งเอย หอยเอย ปูเอย มีแค่ตัวที่ไม่ต้องแกะเปลือกเท่านั้นแหละที่ผมกินได้ คิดแล้วก็หมั่นไส้อีกคนที่กินเอาๆ

            “อิ่มแอ้วอ่อ ?” แปลเป็นภาษาคนได้ว่า อิ่มแล้วหรอ ? แน่สิจะไปพูดชัดได้ยังไงในเมื่อกุ้งเต็มปากขนาดนั้น ผมไม่ตอบแต่เลือกที่หันหน้าออกไปมองบรรยากาศรอบๆแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบแทน

              ผมผงะไปเล็กน้อยเมื่อหันกลับมาเจอกุ้งตัวโตจ่อรออยู่ตรงหน้า ตรงหน้าจริงๆครับ จะจิ้มหน้ากันอยู่รอมร่อ ผมทำหน้างงใส่พี่แซมแต่ปากนี่อ้างับตัวกุ้งไปแล้วครับ ไม่จับเองด้วยปล่อยให้พี่มันจับหางกุ้งแล้วดึงออกไปให้ อ้า ~~~~ กุ้งตัวโตๆเนื้อแน่นๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บ มันสุดยอดจริงๆ
 
              “อ่ะ” คราวนี้เป็นก้ามปูใหญ่ๆ จิ้มน้ำจิ้มมาพร้อมเหมือนเดิม ผมก็อ้าปากงับเหมือนเดิม อร่อยอ่ะ >_<

             “แล้วพี่แซมไม่กินแล้วเหรอ?”

             “เห็นแมวหน้าบูดแล้วสงสาร หึ” จากนั้นก็มาเต็มครับ กุ้ง หอย ปู ปลา ไม่ต้องแกะเองแล้วด้วย อิ้อิ้

             หลังจากหาอะไรยัดกระเพาะจนเต็มแล้วพี่แซมก็พาผมออกมาเดินเล่นตามชายหาด ลมเย็นๆกับบรรยากาศยามค่ำคืนทำให้ทะเลดูแตกต่างจากตอนกลางวันที่ผมเห็น มันดูเงียบสงบ แต่ถ้าผมอยู่คนเดียวผมอาจจะรู้สึกว่ามันน่ากลัวมากกว่าสงบก็ได้ ผมเหลือบตามองคนที่เดินอยู่เคียงข้างกันรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจออกจากบ้านในตอนนั้น ขอบคุณป้ายรถเมล์ ขอบคุณสายฝน ขอบคุณทุกๆอย่างที่ทำให้ผมได้มาเจอกับพี่แซม

           “พี่แซม”

           “หืม...?”

           “รักเค้าไหม?” ผมหยุดเดินแล้วจ้องหน้าถามอีกฝ่ายตรงๆ จากเรื่องเมื่อวันก่อนที่เราเกือบจะทะเลาะกันเพราะความงี่เง่าของผมในเรื่องสถานะของเรา เพราะงั้นคราวนี้ผมจะจัดการทุกอย่างให้มันชัดเจน ในเมื่อความตั้งใจของผมคือจะทำให้พี่แซมรักและผมก็คิดว่าผมควรจะรู้ผลของการกระทำตัวเองเสียที

            “ถามทำไม ?” คิ้วเข้มเลิกสูงขึ้น สีหน้าประหลาดใจ ทำเอาผมใจแป้วไปนิดหน่อย

            “ก็จีบมาตั้งนานแล้ว...รักเค้าบ้างหรือยัง?” ก้มหน้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม

             “ก็อยากรู้เหมือนกัน จีบมาตั้งนานแล้ว...รักพี่บ้างหรือยัง?” ผมเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาที่ย่อลงมาจนอยู่ในระดับเดียวกัน แววตาอบอุ่นปนเอ็นดูที่จ้องมองมาทำเอาผมใจเต้นแรงจนเจ็บอก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่ร้องไห้ออกมาง่ายๆเมื่อเจอเรื่องดีใจ

             “ฮึก...รัก...เค้ารัก อึก รักมาตั้งนานแล้ว ฮือ”ทั้งรอยยิ้ม น้ำเสียง และสัมผัสอ่อนโยนที่ช่วยเช็ดน้ำตาทำให้ผมร้องไห้หนักกว่าเดิม

              “พี่ก็รัก...งั้นเราเป็นแฟนกันไหม?”

              “ฮึก ฮือๆๆๆๆๆ” ผมทั้งพยักหน้าและร้องไห้กับอกอุ่นๆที่พุ่งเข้าใส่ตั้งแต่จบประโยค ผมดีใจ ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มันไม่เหมือนความดีใจที่ได้ของขวัญ หรือความสุขที่ได้รับจากครอบครัว มันเหมือนบางสิ่งบางอย่างที่เข้ามาเติมเต็มผม ผมอยากจะตีตัวเองหลายๆทีเพื่อให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากก็ช่วยย้ำเตือนให้ผมโดยที่ผมไม่ต้องตีตัวเองอย่างที่คิด

            “อื้อ”เรียวลิ้นร้อนที่รุกไล่เข้ามาเกี่ยวกระหวัดเข้ากับลิ้นเล็กของผมทำให้ผมรู้สึกมึนเบลอไปชั่วขณะ เรี่ยวแรงหดหายจนต้องยึดปกเสื้อของพี่แซมเอาไว้เพื่อรั้งตัวเอง

             ไม่รู้ว่าเรายืนจูบกันอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่...

             ไม่รู้ว่าผมถูกช่วงชิงลมหายใจไปมากแค่ไหน...
ผมไม่รู้แม้กระทั่งว่าบรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนจากทะเลยามค่ำคืนมาเป็นบ้านหลังเล็กสีขาว จนเมื่อแผ่นหลังสัมผัสได้ถึงความอุ่นนุ่มของเตียงนอน

            “อ๊ะ...” ความรู้สึกแปลกประหลาดในรถวันนั้นกลับมาอีกครั้งเมื่อริมฝีปากร้อนไล้เล็มไปทั่วลำคอ ความร้อนจากฝ่ามือใหญ่ที่ลูบไล้ไปทั่วร่างที่ไร้เสื้อผ้าปกปิด คลึงเคล้าที่ตุ่มไตทั้งสองข้างอย่างเร้าร้อน ทำให้ผมปล่อยหางและหูของตัวเองออกมาอย่างไม่รู้ตัว และเหมือนคนด้านบนจะชอบมากเสียด้วย

            “อื้อ หาง ..มะ...ไม่เอา” ผมบอกตะกุกตะกักเมื่อพี่แซมเริ่มบุกเข้าลูบไล้หางผม แต่นอกจากจะไม่หยุดลูบแล้วปลายหางของผมยังถูกไล่งับเบาๆชวนให้รู้สึกหวิวแบบแปลกๆ มันปวดหน่วงตรงนั้นไปหมดจนเหมือนน้ำตาจะไหล ยิ่งสัมผัสอุ่นชื่นแตะเล็มไล้ที่จุกเล็กบนอกสลับข้างไปมาทั้งสองข้าง ยิ่งทำให้ผมรู้สึกทรมานมากขึ้นไปอีก รู้สึกร้อนจนเหมือนจะระเบิด

             “น่ารัก”เสียงทุ้มกระพริบพร่าที่ข้างหูก่อนจะผละออกจ้องมองผมตาพราวด้วยแววตาที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันให้ความรู้สึกเซ็กซี่และเร้าร้อน เหมือนจะเพิ่มอุณภูมิให้ร่างกายของผมสูงมากขึ้นไปอีก

              “อ๊ะ” ผมถูกจับให้อยู่ในท่าคลานเข่า โดยมีพี่แซมซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ปลายหางของผมจ่ออยู่ที่ปากของตัวเอง พร้อมกับสัมผัสรุ่มร้อนที่ลูบไล้ตรงจุดอ่อนไหว หลังคอและลาดไหล่ถูกไล่ขบเม้มจนผมคิดว่ามันคงไม่เหลือที่ว่างตรงไหนที่ริมฝีปากร้อนปล่อยผ่าน

              “อ้าปากสิ” เสียงทุ้มกระเส่ามาพร้อมกับแรงขยับมือที่มากขึ้น ทำให้ผมเผยอปากออกเม้มปลายหางตัวเองแน่นเพื่อลดความรู้สึกเสียวปลาบที่เกิดขึ้น แต่เหมือนจะไม่ช่วยเท่าไหร่นัก เมื่อพี่แซมไม่ให้ความร่วมมือมีแต่จะรังแกกันหนักขึ้น

              “อ๊ะ อื้อ ไม่ไหว” ผมจิกผ้าปูที่นอนแน่น รู้สึกอึดอัดไปหมด ทุกส่วนของพี่แซมยังทำหน้าที่ปรนเปรอผมไม่หยุด ก่อนจะเน้นหนักมากขึ้นเมื่อรับรู้อาการของผม

              “อ๊ะ อ๊า...ส์” จนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวปลดปล่อยความอัดอั้นออกมาจนหมด ความสุขที่ได้รับทำให้ผมรู้สึกล่องลอยอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้สึกอะไรแบบนี้และมันค่อนข้างจะมากเกินไป อ่า ~~

               ผลัก

               อั่ก !

              “มะลิ”

              เสียงเข้มลอดไรฟันที่ได้ยินทำให้ผมรีบตั้งสติแล้วก็พบว่าตอนนี้ตัวเองกลับมาเป็นแมวแล้ว แย่แล้ว งั้นเสียงเมื่อกี้ก็คงไม่พี่แซมที่โดนลูกหลงไปด้วยอีกแน่ๆ ผมรีบวิ่งไปที่ขอบเตียงแล้วก็ต้องรีบหันกลับอย่างรวดเร็วเมื่อเจอร่างกำยำนอนเปลือยแผ่อยู่บนพื้น และที่สำคัญแซมน้อยยังคงตั้งโด่เด่แบบไม่อายฟ้าดิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของจะหงุดหงิดแค่ไหนที่ต้องเก็บเอาไว้

              “ชิ่งหนีกันอีกแล้วนะ ฮึ่ม!”

              เมี๊ยววววววววว

              ผมตอบรับน้ำเสียงคาดโทษนั้นโดยการมุดเข้าไปอยู่ในผ้าห่ม ถึงจะรู้สึกผิดอยู่เล็กๆที่แอบเอาเปรียบ แต่จะให้ผมกลับไปเป็นคนตอนนี้แล้วเริ่มเรื่องแบบนั้นใหม่ ผมคงทำไม่ได้ตอนนี้แน่ๆ แค่นี้ก็อายจนไม่รู้จะอายยังไงดีแล้ว ทางที่ดีต่อไปผมจะต้องฝึกควบคุมตัวให้หนักกว่านี้ซะแล้ว

             ขอโทษนะครับ

             เมี๊ยวววววววววว

++++++++++++++++++++++ The end side story +++++++++++++++++++++++++

TALK...
กลับมาเเล้วจ้าหลังจากที่หนีไปปฎิบัติหน้าที่นานมาก กลับมาพร้อมกับตอนจบของพี่เเซมเเละน้องมะลิ อิ้อิ้ ต่อไปจะทยอยเอาตอนพิเศษมาเสิร์ฟสักเล็กน้อยให้หายคิดถึง ขอขอบคุณทุกคนมากๆนะคะที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้ ถือว่าเกิดคาดไปมากๆเลยๆ ปลื้มมมมมม


 :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
มะลิน่ารักที่สุดดด ขอบคุณระคะที่เขียนนิยายดีๆออกมา ^^

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
มะลิน่ารักสุดๆๆๆๆ  :กอด1:   :man1:  ขอบคุณค่ะ รอเสมอ
ยังรอวันที่เขาเป็นของกันและกันนะคะ
มะลิน้อยตื่นเต้นมากไปจนกลายร่างเลยเหมียว
นี่สินะไอ้คำที่ว่าน้องยังเด็ก โตแล้วจะควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้ไหมนะ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2016 10:50:16 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ก๊ากกก พี่แซมกินแห้วว 5555+
ให้น้องมะลิ เตรียมตัวเตรียมใจก่อนนา
เอะอะกดอย่างเดียว พี่แซมหื่นน  :hao6:
รอตอนพิเศษที่เค้าได้กันจริงๆนะค๊าาา :hao7:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่แซมนึกว่าจะได้กินแมว ดันกินแห้วซะได้ :jul3: :jul3: :jul3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
จัสมินชิ่งแบบนี้แล้วเมื่อไหร่พี่แซมจะได้กินล่ะเนี่ยย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
น่ารักมาก น่ารักสุดๆ  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ฮ่าๆๆ พี่แซมอด

ออฟไลน์ windchest

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 o18 555 น่าสงสารจัง เจอแมวชิ่งซะแล้ว

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
รอตอนพิเศษของแซมกับมะลิ และนิลกับมินนะคะ

ออฟไลน์ hoshichi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
น่ารักอ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนแรกนึกว่าจะพล็อตคล้ายๆการ์ตูนที่เคยอ่าน
แต่ก็มีจุดต่างอยู่เยอะเหมือนกัน
โดยเฉพาะเรื่องน้องมะลิ
ชอบสิ่งน่ารัก
ชอบความโมเอ้
ไม่ได้แปลว่ามินไม่น่ารักนะ แต่คงแบ๊วไม่สู้
แต่พี่นิลนี่แบบอย่างหล่อเลยพี่
555555555
ครบสูตรหล่อมากกกกกกและแบดบอยยยย
นิสัยชอบแกล้งนี่ขอให้มีเถอะ เจ้ปลื้มมมมมม
ขอบคุณนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
สงสารพี่แซมนิดนึง5555

ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่าร๊ากกกกกก อ่านเพลินมากเลยอ่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ  :-[

ออฟไลน์ God

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
ชอบแนวแฟนตาซี น่ารักมากกกก  :impress2:

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สนุกอ่ะ ชอบมากเลย มาต่ออีกนะ :-[

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สาสารพี่แซมจุงเบย  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านแล้วหลงรักเจ้าแมวปุกปุยสีขาว

น้องจัสมินของพี่แซม น่ารักกกกกกก :o8:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
น้องมะลิน่ารักอ่ะ อิจฉาพี่แซม  :ling1:

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
รอตอนพิเศษอยู่นะ

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
น่าสงสารพี่แซม 5555

ออฟไลน์ JallolY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Special Part 2 ผู้บ่าวกินแมว

[[ : Sam Part : ]]

เค้าไปเรียนแล้วนะ

             ผมดึงกระดาษโพสอิทสีเขียวแสบตาที่แปะไว้ที่โต๊ะข้างเตียงมาอ่านก่อนจะเอาไปแปะไว้ที่เดิม เช้านี้มะลิหนีไปเรียนโดยไม่รอผมอีกแล้วครับ และคิดว่าคนที่มารับก็คงไม่พ้นน้องมินที่มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ผมในตอนนี้ ไม่รู้พักนี้เป็นอะไรสองคนนี้ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ สงสัยจะมีเรื่องคุยกันตามประสาแม่บ้าน หึหึ

             SamSam : เดี๋ยวตอนเย็นไปรับ

             ผมส่งข้อความผ่านโปรแกรมแชทสีเขียวก่อนจะหันมาจัดการอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเรียนบ้าง วันนี้ผมมีเรียนตอนบ่ายครับแค่วิชาเดียว ตัวเรียนน้อยตามประสาปีใกล้จบเพราะแค่โปรเจคที่ต้องส่งก็แทบไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้วตอนนี้ก็เหมือนช่วงสั่งสมพลังงาน

             Jasmine SS : วันนี้เค้ามีนัดกับพี่มิน เดี๋ยวเค้ากลับเองนะ

             ผมขมวดคิ้วเมื่ออ่านข้อความที่ตอบกลับมา นัดกับแฟนไอ้นิลอีกละ

             SamSam : ไปไหน ?
 
             ตัวหนังสือที่ขึ้นโชว์ว่าอีกฝ่ายอ่านแล้ว แต่กลับไม่มีข้อความตอบกลับมาทำเอาผมขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม จนต้องส่งจุดไข่ปลาไปให้เร่งอีกหลายครั้งซึ่งก็ขึ้นว่าเจ้าตัวอ่านแล้วตลอดเหมือนคนยังคิดคำตอบไม่ออกหรือยังไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี แบบนี้มันเรียกว่ามีพิรุธชัดๆ

             Jasmine SS : พาพี่มินไปซื้อของครับ

             ซื้อของ ? เมื่อวานก็บอกว่าไปซื้อของ เมื่อสองวันก่อนก็ไปซื้อของ จะซื้ออะไรนักหนา คิดแล้วก็หงุดหงิดแต่ก็ว่าอะไรไม่ได้นอกจากตอบอือๆไปตามนั้น เดี๋ยวได้หาเรื่องมางอนผมอีก

             ผมพาตัวเองออกมาเดินเตร่ตากแอร์อยู่ห้าง พอไม่ต้องไปรับแมวน้อยหลังเลิกเรียนชีวิตผมก็ดูจะว่างขึ้นมาทันที ถึงจะไม่อยากจะว่างนักก็เถอะ แต่ก็อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆก็พี่มินๆหน้าที่ไปรับไปส่งก็กลายเป็นของพี่มิน ว่างก็คุยกับพี่มิน เวลาให้ผมแทบจะไม่เคยมี พี่มินตลอดๆๆๆ บางทีผมยังอยากจะถามเลยว่าเอาพี่แซมไปไว้ไหน ? ! =.=

             ความจริงมะลิเริ่มทำตัวแปลกๆตั้งแต่กลับจากทะเลคราวนั้น  มันเหมือนน้องกำลังเว้นระยะห่างจากผม จะว่ากลัวเพราะผมรุกมากเกินไปในตอนนั้นก็ไม่น่าจะใช่เพราะตั้งแต่ครั้งนั้นผมยังไม่ได้ทำอะไรน้องอีกนอกจากกอดบ้างหอมบ้างเล็กๆน้อยๆ ยังไงผมก็ไม่คิดจะเร่งรัดหรือบังคับอะไรน้องอยู่แล้ว แล้วถ้าจะให้คิดถึงสาเหตุอื่นผมเองก็คิดไม่ออก

            สงสัยเย็นนี้ต้องคุยกันหน่อย...


           มันควรจะเป็นอย่างนั้นครับ...

           ผมควรจะกลับไปรอมะลิของผมอยู่ที่ห้อง ถ้าผมไม่บังเอิญหันไปเห็นไอ้เด็กตัวขาวที่เพิ่งเดินเข้าร้านขายยาไปเมื่อกี้นี้
สองเท้าของผมก้าวตามไปโดยอัตโนมัติ ชัดเลยครับ ผมสีน้ำตาลกับผิวขาวๆที่เหมือนกินโอโม่เป็นอาหารเสริมนั่นคือไอ้แมวน้อยของผมแน่ๆส่วนข้างๆก็เป็นพี่สะใภ้ผม ทั้งสองคนยืนคุยอยู่กับหนุ่มตี๋ที่คาดว่าคงเป็นเภสัชกรประจำร้านอยู่ที่เค้าเตอร์ แต่เหมือนจะเป็นน้องมินมากกว่าที่เป็นคนคุยส่วนไอ้แมวของผมเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ถึงระยะห่างจะทำให้ผมไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกันก็เถอะ แต่ไอ้หูแดงๆของคนที่ก้มหน้ามันทำเอาผมรู้สึกจี๊ดๆ นี่อย่าบอกนะว่าที่พากันมาซื้อของทุกวันนี่เพื่อที่จะมาจีบไอ้ตี๋เภสัช !!

           ผมกำลังจะเข้าไปกระชากแขนขาวๆนั่นออกมาจากร้านอยู่แล้ว แต่พอน้องมินยื่นมือออกไปรับถุงกระดาษจากคนขายแล้วหันหลังเตรียมเดินออกจากร้าน ผมก็ต้องเปลี่ยนแผนเป็นหาที่หลบแทบไม่ทัน พอพ้นจากทั้งสองคนผมก็ตรงเข้าร้านขายยาของไอ้ตี๋นั่นทันที

            “สองคนเมื่อกี้มาซื้ออะไร ?” ผมเดินตรงเข้าไปถามที่เค้าเตอร์ที่มีไอ้ตี๋ประจำอยู่ กะคร่าวๆแล้วคงเป็นพี่ผมแค่ไม่กี่ปี หน้าตาดูดีใช้ได้ มิน่าล่ะทั้งไอ้แมวและพี่สะใภ้ถึงยืนคุยด้วยนานสองนาน

            “ครับ ?” ไอ้ตี๋เลิกคิ้วมองหน้าผมเล็กน้อย

            “ผู้ชายสองคนที่เพิ่งเดินออกไปน่ะ มาซื้ออะไร ?”

            “ขอโทษนะครับ ผมต้องรักษาความลับของลูกค้า”

            “ผมเป็นแฟนเขา ผมแค่อยากรู้ว่าเขามาซื้ออะไร”

            “ถ้าคุณเป็นแฟนเขา คุณก็คงจะถามจากเขาเองได้” น้ำเสียงเรียบนิ่งกับสีหน้าที่ทำเหมือนผมเป็นผู้ร้ายเริ่มทำผมไม่สบอารมณ์ แค่ถามว่าซื้ออะไรไป มันทำเหมือนข้อมูลที่ผมได้จะไปทำอะไรคนซื้อได้งั้นแหละ

            “บางทีเขาอาจมีเรื่องบิดปัง”

            “นั่นหมายความว่าเขาไม่อยากให้ใครรู้ไงครับ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกไม่ได้”

            “เขาอาจป่วยเป็นโรคร้าย” ผมเริ่มหาข้ออ้าง แม้คิ้วจะเริ่มกระตุกยิกๆ

            “ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณคงเจอเขาที่โรงพยาบาล” โอเคครับ ผมไม่ถามแม่งแล้ว
ผมสบตาไอ้ตี๋ที่เลิกคิ้วมองผมเหมือนประมาณว่า ไง มีอะไรจะแถอีกไหม ? ที่จริงผมมีอะไรอีกมากแต่คิดว่ายังไงไอ้หมอนี่คงไม่มีทางบอกผมแน่ๆ ผมเลยไม่ถามอะไรอีกเป็นการจบบทสนทนาเพียงเท่านั้นแล้วเป็นผมที่เดินจากมา
   
            SamSam : อยู่ไหน ?

            ผมส่งข้อความหามะลิระหว่างเดินไปที่จอดรถ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับไม่แม้แต่จะขึ้นว่าอ่านแล้ว ผมเลยเลือกที่จะโทรไปหาไอ้แมวดำพี่เขยผม ซึ่งก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ ‘อือ’ ไม่ว่าจะถามอะไรก็ตอบแค่นั้น ทำให้สรุปโดยอิงจากคำถามของผมได้ความว่า ไอ้ลูกแมวอยู่ที่ห้องนั้นตอนเย็นมันจะออกมาส่งเอง แถมก่อนวางยังมีหัวเราะหึหึตบท้ายมาอีก แม้เสียงหัวเราะจะไม่น่าไว้ใจแต่ก็สบายใจได้ว่าน้องมันไม่ได้ออกไปหลงทางหรือกลายเป็นแมวอยู่ที่ไหน  ผมเลยกลับไปนั่งรอที่คอนโด


            แกร่ก ~~

            หลังจากที่ผมนั่งกระสับกระส่ายนับเวลารอมานานหลายชั่วโมง ในที่สุดเวลาประมาณสามทุ่มไม่ขาดไม่เกินเสียงไขกุญแจห้องเบาๆเหมือนแมวย่องก็ดังขึ้นที่ประตู แล้วร่างเล็กๆของคนที่หายไปทั้งวันก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นถุงเสื้อผ้าหรืออะไรบางอย่าง แสดงว่าของที่ซื้อที่ร้านขายยาไม่ใช่ของไอ้ลูกแมวนี่ สบายใจไปเปราะที่น้องมันไม่ได้ป่วยหรือไม่สบายโดยที่ผมไม่รู้เรื่อง

            “มะลิ...” ผมส่งเสียงเรียกคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แถมพอได้ยินเสียงผมยังสะดุ้งเบาๆอีก ผมเลยตบมือเบาๆตรงที่ว่างบนโซฟาที่ตัวเองนั่งอยู่ให้เจ้าตัวเดินเข้ามาหา

            “เป็นอะไรไป ?” ผมดึงแขนของคนที่เดินเข้ามาใกล้ให้ทิ้งตัวลงนั่งซ้อนบนตักผม ปลดถุงกระดาษจากมือเล็กๆทิ้งไว้ข้างกาย ถึงแม้ว่าท่าแบบนี้จะเสี่ยงที่จะทำให้ลูกผมคึกคักขึ้นมาก็เถอะ แต่ผมหาทางออกให้ตัวเองได้แล้ว ก็สนมทั้งห้าของผมไง ช่วงนี้คงต้องยึดหลักโลกสวยด้วยมือเราไปก่อน

             “พี่แซม...” เสียงทุ้มเล็กๆเอ่ยเบาๆ พร้อมกับตากลมๆที่ช้อนขึ้นมองผม ถ้าเป็นเวลาอื่นผมคงจะคึกคักและอาจจะบุกเข้าจู่โจมคนตัวเล็กที่นั่งคร่อมตักอยู่ตอนนี้ แต่วันนี้ดวงตากลมโตที่ผมชอบมองมีอะไรบางอย่างที่แปลกไป มันสั่นไหวและฉายแววกังวลอย่างชัดเจน จนผมเผลอขมวดคิ้วตามไปด้วย

             “พี่แซม...รักเค้าไหม ?”

            “หืม ? ทำไมถามอะไรแบบนี้ ?”

            “ถ้าพี่แซมทำแบบนั้นไปแล้ว จะทิ้งเค้าไหม ?” หืม...แบบนั้น ?

            “แล้วถ้าทำแบบนั้นไม่ได้ จะยังอยู่กับเค้าไหม ?”

            “เดี๋ยวก่อน...ไอ้ที่ว่าแบบนั้นแบบนี้ นี่หมายถึงอะไร ?” ผมจ้องหน้าถามอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ผมว่าน้องมันต้องไปฟังอะไรแปลกๆจากใครมาแน่ๆ แล้วคนๆนั้นก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนไกล

            “คือ...”

            “ว่าไง ? ไปฟังอะไรจากใครมาครับ” ผมเปลี่ยนโทนเสียงให้นุ่มลง มันเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลเสมอไม่ว่าจะกับเรื่องอะไรหรือสถานการณ์ไหน มะลิมักจะแพ้ให้กับน้ำเสียงโทนนี้ของผมเสมอและผมคิดว่าครั้งนี้ก็ต้องใช่ได้ผลเช่นกัน

            “อย่าโกรธเค้านะ”

            “....” ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะพยักหน้าให้อีกฝ่ายแทน

            “คือเมื่อวันก่อนเค้าไปปรึกษาพี่มินเรื่อง...เอ่อ...เรื่องแบบนั้น ที่เรา...เอ่อ...ที่ทะเล” พอพูดถึงตรงนี้หัวทุยเล็กๆก็ซุกเข้าที่อกผม มุดหน้านิ่งไม่ยอมออกมาก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงอู้อี้

            “พี่มินบอกเค้าว่าเรื่องแบบนั้นมันสำคัญ ถ้าพี่แซมไม่ได้ทำแบบนั้นสักวันพี่แซมจะไม่อยากอยู่กับเค้า พี่มินก็เลยจะช่วย” เดี๋ยวนะ ผมว่าผมได้กลิ่นตุๆกับเรื่องนี้ละ แล้วไอ้ที่ว่าจะช่วยนี่จะช่วยกันยังไงไม่ทราบ

             “แล้วพอพี่นิลรู้...พี่นิลก็บอกเค้าว่าพี่แซมเจ้าชู้....จริงๆอันนี้เค้าก็รู้นะ แล้ว...พี่นิลบอกว่าถ้าเค้ายอมให้พี่แซมทำอะไรๆแบบนั้นแล้ว พี่แซมจะไม่อยู่กับเค้า ฮึก...”

             เฮ้ย ! นี่ไอ้สองผัวเมียนั่นยัดอะไรใส่หัวไอ้แมวเผือกเนี่ย !!

             “ฮึก...ไม่ว่าจะทำไม่ทำ พี่แซมก็จะทิ้งเค้า ฮือๆ” แขนเล็กๆทั้งสองข้างรัดผมเอาไว้แน่นเหมือนกลัวผมจะทิ้งไปเหมือนที่ตัวเองเข้าใจ แต่เดี๋ยว นี่เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ

            “มะลิ...”

            “ฮือๆๆๆๆ พี่แซมอย่าทิ้งเค้านะ ฮือ”

             “มะลิ...ฟังพี่แซมก่อนครับ” ผมจับคนตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นสบตากันพร้อมกับดึงทิชชู่ที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกมาไล่เช็ดน้ำตาให้คนที่ร้องไห้จนตาเริ่มบวม ใช้มืออีกข้างลูบแผ่นหลังเล็กๆที่สั่นเพราะแรงสะอื้นอย่างปลอบโยน ตอนนี้ผมรู้ความหมายของเสียงหัวเราะของไอ้พี่เขยเมื่อตอนนั้นแล้วล่ะ ร้ายนักนะทั้งผัวทั้งเมีย เล่นเอาร้องไห้เป็นเผาเต่าแบบนี้ถึงแม้ว่าผมเองจะมองว่ามันน่าเอ็นดูก็เถอะแต่ก็ไม่ได้ปรารถนาจะเห็นน้องมันร้องไห้หรอกนะ

            “พี่แซมไม่เคยคิดจะทิ้งมะลินะครับ แล้วไอ้เรื่องแบบนั้นที่มะลิว่าพี่แซมก็ไม่เห็นว่ามันจะสำคัญพอที่จะใช้ตัดสินว่าพี่แซมจะทิ้งหรือไม่ทิ้งมะลิ” หลังจากที่อยู่ด้วยกันมานานทำให้ผมรู้ว่าเวลาที่ต้องใช้เหตุผลและสติมากๆ ผมควรจะใช้ภาษาดอกไม้ในการพูดคุยกับน้อง ถึงแม้ว่าปกติผมเองก็ไม่ค่อยจะพูดหยาบกับน้องมันอยู่แล้วก็ตามเถอะ แต่ในเวลาแบบนี้การพูดแบบนี้ด้วยโทนเสียงที่น้องชอบจะทำให้น้องยอมฟังผมมากขึ้น

             “ฮึก...”

             “จริงอยู่ว่าเมื่อก่อนพี่แซมเจ้าชู้ มะลิเองก็คงเห็น แต่นั่นมันก็ก่อนที่พี่แซมจะมีมะลิ ก่อนที่พี่จะรักเจ้าแมวน้อยที่ชื่อมะลิเหมือนอย่างตอนนี้”

            “....”

            “มะลิฟังนะครับ ตอนนี้พี่แซมรักมะลิและต่อๆไปคนที่พี่แซมรักก็จะยังเป็นมะลิ ถึงแม้จะบอกไม่ได้ว่าจะรักไปนานแค่ไหน แต่ที่รับรองได้คือจะไม่หยุดรักในเร็วๆนี้แน่ เพราะฉะนั้นเรื่องนั้นพี่แซมไม่รีบร้อนหรอกถ้ามะลิไม่พร้อมพี่แซมก็จะไม่บังคับ”

            “ละ...แล้วถ้า เค้าให้ไม่ได้...”

            “พี่แซมก็จะตะล่อมไปเรื่อยๆ ^______^”

            “ง่ะ...เค้าหมายถึงตลอดไป” ผมเริ่มใจชื้นเมื่อน้องมันหยุดร้องไห้แต่จะเริ่มใจแป้วเพราะคำพูดมันนี่แหละ แต่เอาเถอะรักแล้วรอหน่อย ถึงยังไงนางสนมทั้งห้าก็ยังอยู่กับผมไปตลอดชีวิต

           “ไม่แน่นะ ตอนพี่แซมอายุ 65 มะลิอาจจะยอมพี่แซมก็ได้ พี่แซมก็จะรอจนถึงตอนนั้น” ระบายยิ้มอ่อนโยน จริงอยู่ที่เรื่องแบบนั้นมันจำเป็นสำหรับชีวิตคู่ แต่สำหรับผมเมื่อเทียบกับความรู้สึกของคนตรงหน้านี้แล้วมันกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในทันที

             “พี่แซมก็รู้ว่าเค้าไม่เหมือนคนอื่น ไม่เหมือนพี่นิลที่แปลงร่างเมื่อไหร่ก็ได้ เค้าตื่นเต้นเวลาที่พี่แซมอยู่ใกล้ ตอนที่พี่แซมจูบเค้ามันทำให้เค้ารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก มันตื้อๆไปหมด...” ผมลูบผมอีกฝ่ายที่เอาแต่ซุกหน้ากลิ้งไปมาที่ซอกคอผมอย่างเอ็นดู แม้จะเริ่มรู้สึกทะแม่งๆกับบทสนทนาที่เปลี่ยนไป

            “เค้าบอกพี่มินว่าเค้ารู้สึกหัวใจเต้นแรงมากๆตอนที่พี่แซมมองเค้าเวลาทำแบบนั้น...”

            “....”

            “พี่มินเลยบอกให้ลองปิดตา...แต่เค้าก็อยากเห็นหน้าพี่แซมเหมือนกัน...พี่มินเลยบอกให้ปิดตาพี่แซมแทน...”

           “.....” ผมชะงักมือที่กำลังลูบผมนุ่มๆของน้องไปนิด

           “พี่แซมอยากลองไหม ?”

            “....” ใบ้แดกเลยครับนาทีนี้ รู้สึกเหมือนกล่องเสียงพิการไปประมาณสามวิมือไม้แข็งค้างอยู่กับที่ เมื่อกี้น้องมันว่าอะไรนะ ?!

            ผมมองหน้าไอ้เด็กตัวขาวที่ลุกขึ้นมาจ้องหน้าผมอย่างรอคอยคำตอบ หูและหางที่ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กระดิกไปมาเหมือนช่วยกันกดดันผม พอตั้งสติได้ผมถึงกับต้องนั่งเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ตั้งแต่น้องมันเปิดประตูห้องเข้ามาจนมานั่งจ้องผมตาแป๋วแบบนี้ แต่เหมือนโดนอาฟเตอร์ช็อคครับเมื่อไอ้แมวเผือกเอี้ยวตัวลงไปหยิบถุงกระดาษใบเล็กออกมาจากถุงกระดาษใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ มันเป็นใบเดียวกันกับที่เห็นที่ร้านขายยานั่นไม่ผิดแน่
 
             “อันนี้พี่มินบอกว่ามันจะช่วยให้ไม่เจ็บมาก” ขวดพลาสติกขนาดพอดีมือสีแดงๆถูกหยิบออกมาจากถุงกระดาษเป็นอย่างแรก พร้อมกับคำอธิบายสรรพคุณเสร็จสรรพ
 
              “ส่วนอันนี้พี่มินบอกว่าถ้าไม่อยากลำบากทีหลังต้องให้พี่แซมใช้มันด้วย” คราวนี้เป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆสีแดงขนาดคุ้นมือยี่ห้อเดียวกันกับของที่หยิบออกมาก่อนหน้า แต่ไซต์มันเล็กกว่าของผมไปเยอะอยู่นะนี่คนเลือกตั้งใจจะดูถูกกันหรือไง อันนี้แอบเคืองครับ แต่ช่างมันก่อนผมมีเรื่องที่ต้องจัดการก่อน

              “เดี๋ยวนะๆ นี่มินสอนอะไรเราบ้างเนี่ย ?” นั่นสิครับ สองผัวเมียคู่นี้แอบเอาอะไรใส่ไว้ในหัวไอ้แมวนี่อีก

              “หลายอย่างเลยล่ะ...ก็เค้าไม่รู้จะปรึกษาใคร จะคุยกับพี่นิลเรื่องแบบนี้ก็คิดว่าคุยกับอากู๋เอายังจะดีกว่า แต่มันก็ยังไม่ค่อยเคลียเท่าไหร่เลยคิดว่าถ้าถามจากคนที่มีประสบการณ์ตรงน่าจะเข้าใจง่าย เค้าเลยปรึกษาพี่มิน”

             “อย่าบอกนะว่าที่หายไปด้วยกันบ่อยๆก็เพราะเรื่องนี้ ?” ผมเลิกคิ้วถาม เริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างนิดหน่อย

             “ก็...อื้ม”
 
             “แล้วนอกจากนี้มีอะไรอีกไหม ?”

             “นี่ครับ อันนี้พี่มินบอกให้กินหลังจากเสร็จกิจ” มะลิชูแผงยาแก้อักเสบ แก้ปวด แก้ไข้ สารพัดรวมไปถึงยาทาสำหรับตรงนั้น ผมก็พยักหน้าอือออไปอันนี้ถือเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีครับ

             “อ๋อ ยังไม่หมด...พี่มินให้คู่มือมาด้วย นี่ๆ” ผมมองคนบนตักที่ก้มลงกดอะไรยุกยิกๆบนมือถือ ซึ่งสัญชาตญาณผมมันร้องเตือนว่าให้ตั้งรับดีๆเพราะมันอาจจะทำให้ผมตกใจช็อคยิ่งกว่าเรื่องเมื่อกี้เป็นได้

             “อันนี้พี่มินบอกให้ดูเป็นกรณีศึกษา แต่เค้าว่ามันดูน่ากลัวนิดๆนะ ดูสิ”

            ผมรับเอาโทรศัพท์จากมือเล็กๆที่ยื่นมาให้ตรงหน้า แล้วก็แทบผงะหงายหลัง ! เมื่อเจอเข้ากับพี่บิ๊กกล้ามใหญ่ผิวสีแทนสองคนที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนโซฟาก่อนจะเริ่มทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันแบบถึงพริกถึงขิง พอถึงตรงนี้ผมรีบกดปิดมันไปให้พ้นจากสายจากในทันที ก่อนจะพบกับความจริงอันน่าตื่นตะลึงที่ว่านอกจากคลิปพี่บิ๊กกล้ามปูแล้วยังมีอีกสารพัดคลิปหลากหลายเชื้อชาติตั้งแต่แถบเอเชียยันโซนยุโรปเลยทีเดียว
 
             เอาล่ะ ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่เขยกับพี่สะใภ้ผมถึงอยู่ด้วยกันได้ !!

           “เป็นไงครับ ถ้าไม่ชอบอันนี้เค้ามีอีกหลายคลิปเลยนะ” พูดแบบนี้แสดงว่าดูมาหมดแล้วใช่ไหม ?!

            อึก ! ใครก็ได้บอกผมทีว่าตอนนี้ผมควรจะรู้สึกยังไง !! ผมไม่อยากให้น้องต้องไปมองร่างกายของคนอื่นหรือไปนึกชื่นชมคนที่หุ่นดีดูดีกว่าผมแต่นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง ภาพคมชัดระดับเอชดีที่ซูมลึกถึงรูขุมขนทุกซอกทุกมุมในแบบที่ผมเองยังไม่อยากจะมองของที่มีเหมือนๆกัน

            อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับจริงอยู่ที่ผมรักผมชอบผู้ชายด้วยกันได้และทำอะไรแบบนั้นได้ แต่ผมไม่เคยคิดที่จะดูผู้ชายคนอื่นเขากำลังทำกิจกรรมร่วมกันแบบนี้แล้วยิ่งมาในรูปแบบกล้ามชนกล้ามที่เหมือนขนาดตัวจะใหญ่กว่าผมหลายขุมแบบนี้ไม่ไหวจริงๆครับ ไม่ได้รังเกียจแต่ถ้าให้เลือกผมขอตัวเล็กๆน่ารักๆแบบคนบนตักตัวเองดีกว่า ว่าแล้วก็จัดการลบคลิปพวกนั้นไปซะ

           “ต่อไปห้ามดูแล้วนะ”

           “เอ๋...??” น้องเอียงคอมองหน้าผมงงๆ

           “แล้วถ้าอยากจะรู้อะไรไม่ต้องไปถามคนอื่นแล้วด้วย”

            “...”

            “เพราะพี่จะบอกเอง ตกลงไหม ?”

            “ก็ได้”

            “งั้นตอนนี้จำอะไรที่มินสอนได้บ้าง”

            “พี่มินบอกให้ลองหลับตา”

            “โอเค งั้นไปลองหลับตากัน ฮึบ !”
   
            “อ๊ะ !!” ผมใช้มือช้อนเข้าใต้สะโพกเล็กก่อนจะยกขึ้นจนตัวลอย มะลิที่ดูเหมือนจะยังตั้งตัวไม่ได้ใช้ทั้งแขนทั้งขาและหางของตังเองกอดรัดผมเอาไว้แน่นเป็นลูกโคอาล่าที่กลายร่างมาจากลูกแมว ผมพาแมวเผือกเดินเข้ามาในห้องนอนโดยที่ไม่ลืมหยิบถุงกระดาษเข้ามาด้วย ก่อนจะวางร่างเล็กลงบนเตียงเบาๆในท่านอนหงายโดยมีผมคร่อมทับอยู่ด้านบน
   
          V

          V
       
          V

       

ออฟไลน์ JallolY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
           ผมก้มลงจูบริมฝีปากเล็กนั่นเบาๆ ไล้เล็มไปทั่วริมฝีปากบางก่อนจะแทรกลิ้นของตัวเองเข้าไปหาความอ่อนนุ่มภายใน ค่อยๆเพิ่มแรงบดเบียดระหว่างกันให้แนบชิดมากขึ้นจนแทบไม่เหลือช่องว่าง การตอบสนองแสนเงอะงะที่พยายามโต้ตอบสัมผัสผมอย่างตั้งใจทั้งๆที่ตัวสั่นไปหมดทำให้ผมเริ่มไม่อยากหยุด อยากจะละวางสโลแกนโลกสวยด้วยมือเราทิ้งไปซะ แต่ผมไม่ได้คิดจะหักหานน้ำใจน้องขนาดนั้น

           ไล้เล็มอ้อยอิ่งอยู่นานก่อนจะค่อยๆผละออกจากความนุ่มนิ่มอย่างแสนเสียดาย ดวงตากลมโตของคนใต้ร่างมองสบมาที่ผมเหมือนคนไม่เข้าใจ ถ้าให้เดาคงเป็นเรื่องที่ผมตัดสินใจหยุดรังแกน้องต่อจากเมื่อครู่นี้ ริมฝีปากบางเล็กๆที่เห่อแดงเพราะฤทธิ์จูบก่อนหน้าเม้มเข้าหากันแน่นจนซีดขาวให้ผมต้องใช้นิ้วคลึงออกเบาๆ

            “ไม่ทำต่อเหรอ ?” ผมอมยิ้มกับคำถามที่ฟังดูเหมือนใจกล้าแต่ดูก็รู้ว่าคนพูดกังวลแค่ไหน

            “ไม่เอาหรอก ไม่อยากรังแกเด็ก”

            “เค้าให้...” อื้อหือ ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้พร้อมกับทำหน้าตาออดอ้อนแบบนั้น

            “เอาไว้รอโตกว่านี้ก่อนดีไหม ?”

            “กลัวเค้าเป็นแมวอีกเหรอ ?”

            “เปล่า...” เอาไงดีล่ะ จะว่ากลัวเรื่องนั้นมันก็ใช่ แต่ผมเป็นห่วงน้องมากกว่า

             “งั้นเค้าให้...”

             “ตะ...อื้ม” ผมยังไม่ทันจะได้เอ่ยปฏิเสธ ลูกแมวใจกล้าก็ยกหัวขึ้นมาประกบจูบผมเสียก่อน และคราวนี้ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ค่อยๆไล้เล็มเหมือนเมื่อก่อนหน้าได้อีกแล้ว จูบที่อีกฝ่ายได้รับจึงเร้าร้อนและรุนแรงกว่าครั้งแรกจนร่างเล็กๆหอบหายใจสะอื้นอยู่กับอกยามที่ผมผละออกมาเพื่อชิมความหวานส่วนอื่น

             “แน่ใจแล้วใช่ไหม ?...” ผมพูดเสียงพร่า ใบหน้ายังคงซุกอยู่ที่ซอกคอขาวๆสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัว

           “อ๊ะ...อื้ม”

            “จะหยุดไม่ได้แล้วนะ...”

            “ถ้าพี่แซมสัญญาว่าจะทำเบาๆ” ผมเงยหน้าจากซอกคอขาว มองนิ้วก้อยเล็กๆที่ยื่นมาอยู่ตรงหน้า อยากจะจับเอามาฟัดเสียให้เฉามือเมื่อเห็นว่าใบหน้าน่ารักนั้นขึ้นริ้วแดงๆที่ผิวแก้ม

             “ครับ” ผมส่งนิ้วก้อยของตัวเองออกไปเกี่ยวกับนิ้วเล็กๆของอีกคนก่อนจะกุมมือเล็กเอาไว้ แล้วหันกลับมาสนใจผิวอ่อนนุ่มนิ่มล่อตาล่อใจ ไล่ดูดกัดขบเม้มไปเรื่อยจนแทบไม่มีพื้นที่ว่างก่อนจะวนไปหยุดที่จุดเล็กๆกลางอกทั้งสองข้าง

             “พะ...พี่แซม”

             “อืม...” ผมครางตอบทั้งยังไม่ละปากจากจุกนมสีชมพูล่อตา ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะหายไปกลายเป็นความดำมืด ผมพยายามจะเอาสิ่งที่ปิดขวางสายตาของผมออกเท่าที่สัมผัสได้คงเป็นผ้าปิดตา แต่เหมือนคนใส่จะไม่ยินยอมเพราะจับกดต้นคอผมเอาไว้แน่น

           “ปิดตาก่อน”

           “ครับ”

            ผมหลับตาสัมผัสเรือนร่างขาวโพลนในจินตนาการ เพราะผ้าปิดตากั้นสายตาผมเอาไว้ให้พบกับมืดทำให้ประสาทสัมผัสส่วนอื่นของผมทำงานได้ดีกว่าปกติรวมไปถึงความตื่นตัวที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ผมใช้ฝ่ามือลูบไล้สัมผัสเรือนกายนุ่มนิ่มอย่าช้าๆ ซุกจมูกเข้าสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆไปทั่วทั้งซอกคอขาวก่อนจะแตะลิ้นเบาๆลงบนตุ่มไตที่แข็งชันรับลิ้นผม

            “อื้อ...” เสียงครางเล็กๆของคนใต้ร่างกระตุ้นให้ผมอยากสัมผัสให้มากกว่าเดิม
ไม่นานร่างกายของเราก็สัมผัสแนบชิดโดยไม่มีเสื้อผ้ามาขวางกั้น ผมเลื่อนมือลงไปทักทายลูกแมวน้อยด้านล่างบีบนวดเบาๆอย่างหยอกล้อ ใช้มืออีกข้างควานหาขวดเจลที่จำได้ว่าวางไว้ไม่ไกลจากตัวนัก เนื้อเจลเย็นๆที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของสตอเบอร์รี่ถูกชโลมจนชุ่มนิ้วของผม

            “อ๊ะ...เจ็บ”

            ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อผมกดนิ้วผ่านช่องทางคับแคบเข้าไปทีเดียวจนสุด แม้จะแค่นิ้วเดียวแต่เพราะช่องทางที่ไม่เคยผ่านการรุกล้ำทำให้เจ้าของเกิดอาการเกร็งจนเจ็บ ผมเคลื่อนตัวขึ้นไปประกบริมฝีปากบางอีกครั้ง กดจูบย้ำๆอย่างปลอบโยนว่าผมอยู่ตรงนี้

            “ฮึก...อ๊า...”

            “อีกนิ้วนะครับ” ผมสอดนิ้วที่สองและสามตามเข้าไปติดๆเมื่ออีกฝ่ายคลายอาการเกร็งและยอมให้ผมขยับนิ้วทั้งสามเข้าออกช้าๆ

             ช่องทางเล็กที่บีบแน่นทำให้ผมต้องผ่อนลมหายใจของตัวเองเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อเตือนสติไม่ให้เผลอทำอะไรรุนแรง ยอมรับเลยว่าการที่มองไม่เห็นอะไรเลยแบบนี้ทำให้ผมอดจินตนาการถึงร่างเล็กไปต่างๆนาๆไม่ได้ ทั้งผิวขาวๆที่คิดว่าตอนนี้คงขึ้นสีแดงระเรื่อไปทั่วร่าง หูและหางแมวน่ารักนั้นกำลังสั่นระริกอย่างทนไม่ไหว แค่คิดก็ทำเอาผมอยากจะสอดกายเข้าไปแล้วกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงให้สมใจ

            “พะ...พี่แซม เค้ารู้สึกแปลกๆ อ๊า...”

            “ยังไงครับ ? บอกพี่แซมหน่อย” ผมกดนิ้วย้ำๆลงบนจุดที่ทำให้น้องสะดุ้งครางเสียงหวานกว่าปกติ

            “มะ...ไม่รู้ มัน อึก...อ๊ะ”

            “เสียว...” ผมต่อคำให้ก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะการขยับนิ้วให้เร็วขึ้น

             “อึก...ตรงนั้น...อ๊า...เค้าจะไม่ไหวแล้ว อ๊ะ”

             ผมจับมะลิพลิกนอนคว่ำในท่าคลานเข่าโดยมีผมซ้อนตัวอยู่ด้านหลัง จัดการถอดผ้าปิดตาของตัวเองออกแม้การสัมผัสในความมืดจะไม่ได้เลวร้ายติดจะรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำ แต่ในยามนี้ผมต้องการเห็นร่างขาวๆของลูกแมวเผือกมากกว่า

           “พี่แซม...”

            “แบบนี้ก็ไม่เห็นหน้าเหมือนกัน” ผมบอกคนใต้ร่างที่เหมือนจะรู้ว่าผมทำอะไร แต่ผมไม่รอให้คิดหนีหรือชิ่งกลายร่างเป็นแมวอีกแล้ว ผมเอื้อมมือลงไปเตรียมพร้อมให้ร่างกายตัวเองก่อนจะนำมาจ่อเข้ากับปากทางเล็ก กล่องกระดาษสี่เหลี่ยมที่เห็นวางอยู่ด้านข้างไม่ได้อยู่ในความสนใจของผม ผมตรวจเลือดตลอดมั่นใจว่าปลอดภัยและสำหรับมะลิผมอยากจะสัมผัสน้องแบบไม่มีอะไรมาขว้างกัน

            “อ๊ะ...เจ็บๆ พี่แซมเค้าเจ็บ”

            “อึก !” ผมกัดฟันแน่น เพียงแค่ส่วนหัวที่เข้าไปช่องทางเล็กก็ตอดรัดอย่างบ้าครั่งจนขยับต่อไม่ได้ ผมจึงก้มลงไปจูบที่หลังคอขาวเบาๆ หางแมวสีขาวที่สะบัดแกว่งไปมาอย่างตื่นตระหนกถูกมือข้างหนึ่งของผมจับเอาไว้พร้อมกับลูบขึ้นลงตามความยาว มืออีกข้างขยับไล้ไปทั่วอกเล็ก จนแรงบีบรัดเริ่มคลายออกผมจึงค่อยๆดันตัวเองเข้าไปจนสุด

             “อื้อ....อ๊า” น้องร้องเสียงดังยามที่ผมถอยออกมาแล้วดันกลับเข้าไปใหม่ด้วยแรงไม่เบานักก่อนจะเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆแล้วเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและแรงขึ้น

            “แน่นชิบ...อ่า...”

            “อ๊ะๆๆๆ บะ...เบา พี่แซม”

            “อืม...” ผมครางตอบรับแต่ไม่สามารถบังคับตัวเองให้ผ่อนแรงลงได้ซ้ำยังรังแกน้องหนักขึ้นด้วยการเพิ่มแรงกระแทกเขาไปแบบเน้นๆ จนอีกฝ่ายตัวคลอนทรุดลงไปหมอบกับเตียงสองมือจิกผ้าปูที่นอนแน่น

            “อ๊า ไม่ไหว...เค้าไม่ไหวแล้ว”

            “ปล่อยออกมา...”

             “อ๊า...!!”

            “ซี้ด...” ผมเร่งเครื่องขยับตามน้องไปติดๆ ก่อนจะปล่อยทุกหยาดหยดเข้าไปในร่างขาวเผือกที่กลายเป็นสีแดงในยามนี้ ให้ตายสิ ผมไม่เคยเสร็จเร็วขนาดนี้มาก่อนเลย

             ผมนอนนิ่งกอดมะลิจากทางด้านหลังทั้งๆที่ร่างกายเรายังประสานกันแนบแน่น ขยับเอวเข้าออกอย่างช้าๆ ไม่พอหรอกครับ สำหรับไอ้ลูกแมวนี่แค่รอบเดียวไม่พอหรอก ผมพลิกตัวน้องให้หันมาเผชิญหน้าก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากเล็กอีกครั้งพร้อมกับขยับกายขึ้นคร่อมอีกฝ่ายเอาไว้

           “อื้อ...”

           ผละออกมากวาดสายตามองสำรวจร่างเล็กจนทั่ว เหมือนอย่างที่ผมจินตนาการเอาไว้ไม่มีผิด มะลิของผมน่ารักมาก ผมเลื่อนสายตาขึ้นมาอยู่ที่ริมฝีปากแดงๆที่บวมเจ่อ ก่อนจะสบเข้ากับดวงกลมโตที่เบิกกว้างมองผมอยู่ก่อนแล้ว ผมถอยกายออกอีกครั้งเตรียมเริ่มจังหวะใหม่แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรแบบนั้น...

           ผลัก !!

           อั่ก !!

           ผมเหมือนถูกถีบลงมาจากสวรรค์ !! ทั้งที่จริงๆแค่ตกเตียง เหตุการณ์แบบนี้มันคุ้นๆเหมือนเดจาวูไม่มีผิด แต่เรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแน่ๆ ผมขยับตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทั้งที่ตรงนั้นยังคงโดเด่พร้อมใช้งานแต่วันนี้คิดว่าคงไม่ได้แล้วล่ะ

           เมี๊ยว ~~~~

          สายตาออดอ้อนของแมวขนฟูสีขาวตัวน้อยส่งมาให้เหมือนกลัวว่าผมจะโกรธที่ตัวเองกลายเป็นแมวหนีไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่โกรธครับ...ไม่เลยสักนิด

          “ไม่เป็นไรครับ” ยกมือลูบหัวเล็กๆ ก่อนจะก้มลงไปจุ๊บเบาๆหนึ่งที

         “พี่แซมรักมะลินะครับ”

          แค่น้องยอมผม...พยายามทำอะไรมากมายเพื่อผมแบบนี้ ผมก็ดีใจสุดๆแล้ว

           เมี๊ยววววว




          ของแถม....

         จะดูแลอย่างดี....

         ผมกดส่งภาพแมวน้อยสีขาวที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงเหมือนหมดเรี่ยวแรงไปให้พี่เขยพร้อมข้อความสั้นๆ หึหึ ถือว่าตอบแทนที่ยัดความคิดประหลาดๆเข้าหัวแมวน้อยของผม ส่วนพี่สะใภ้...คนนี้มีความดีความชอบอยู่หน่อยแต่ก็ถูกตัดคะแนนเพราะคลิปชนกล้ามนั่นแหละ ผมเลยจัดการส่งภาพที่เจ้าตัวกำลังส่งยิ้มน่ารักกับไอ้ตี๋ร้านขายยาโดยเลือกเอารูปที่ไม่ติดมะลิไปให้พี่เขยอีกสักรูป

         คิดว่าพี่สะใภ้คงจะโดนลงโทษจนเดินไม่ได้ไปสักพัก....หึหึ


TALK...
ครบรอบ 1 เดือนที่หายไป กลับมาอีกที มะลิโดนกินเเล้ววว ! :hao7: :hao7:
เป็นตอนที่ยาวจริงๆ น่าจะยาวที่สุดเพราะถึงกับต้องเเยก  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :-[.   ขอแสดงความยินดีกับพี่แซมผู้บ่าวกินแมวคนเดียวของเรื่องฮี่ๆๆๆ
ชอบมะลิมาก น่ารักน่าฟัดพุงขาวๆ  ว่าแต่รอบแรกผ่านไปร่างแมวจะกินยาแก้ปวดยังไล่ะจ๊ะ. 
รีบกลับร่างคนนะจะได้เทรนต่อเลย ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
น่ารักมากๆ พี่สะใภ้ด้วยนะ.  :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น่ารักดีค่ะ โดนเอาคืนทั้งพี่เขยพี่สะใภ้เลย

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สี่คนนี้ไม่มีใครยิ่งหย่อนไปกว่ากันอ่ะ พูดเลย 55555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด