พิมพ์หน้านี้ - [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: JallolY ที่ 22-02-2016 21:30:17

หัวข้อ: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 22-02-2016 21:30:17
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

THE CAT...คุณแมวของผม

เกิดอะไรขึ้นกับผม ?
ตั้งเเต่ที่รับสมาชิกใหม่เข้าบ้าน ก็เหมือนจะมีเเต่เรื่องเเปลกๆเกิดขึ้นกับผม
ทั้งเรื่องรุ่นพี่ที่มหาลัย' ที่เกลียดกันเเทบตาย กลับเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ
เเล้วไหนจะรอยเเปลกๆตามตัวนี่อีก
มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันเเน่ ?!?


ปล. ขอฝากเรื่องสั้นเรื่องเเรกของเจลด้วยน๊าาาา ใกล้จบเเล้ว จะทยอยลงเรื่อยๆจ้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) ตอนที่ 1 22/02/2016
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 22-02-2016 22:25:27
THE CAT คุณแมวของผม...
ตอนที่ 1 สมาชิกใหม่


            “กลับดีๆมึง เจอกันพรุ่งนี้”
            “เออๆ เจอกัน”
             ผมลาเพื่อนที่ช่วยกันทำงานตั้งแต่ตอนเย็นจนตอนนี้เวลาล่วงมาเกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว เงยหน้ามองท้องฟ้าเห็นเค้าเมฆมาแต่ไกล ให้เดาคืนนี้ฝนต้องตกหนักแน่ๆ แล้วเจ้าเหมียวนั่นจะอยู่ยังไงนะ ?

             ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางตึกด้านหลังคณะวิศวะกรรมศาสตร์ ผมเรียนวิศวะครับตอนนี้อยู่ปีสอง เมื่อกี้ก่อนแยกกับเพื่อนเราก็เพิ่งช่วยกันทำรายงานที่ต้องพรีเซ้นต์พรุ่งนี้ให้เสร็จ แล้วก็รีบบึ่งออกมาหาเจ้าแมวน้อยที่ผมแวะมาให้อาหารทุกเย็นก่อนกลับบ้านที่ตึกหลังคณะ

             “แบล็ค! เมี๊ยวๆๆๆๆ” ผมตะโกนเรียกเจ้าเหมียวทันทีที่มาถึง ผมตั้งชื่อให้มันว่าแบล็คครับเพราะขนมันทั้งตัวเป็นสีดำสนิท ตาสีทอง มองไปมองมาเหมือนเสือดำมากว่าแมวบ้านเสียอีก

              “แบล็ค อยู่ไหน ? ออกมาหามินหน่อย เมี๊ยวๆๆๆๆ” ผมเดินหาไปเรื่อยๆ ลมก็เริ่มพัดแรงขึ้นจนต้นไม้ไหวเอนไปหมดดูน่ากลัว หรือมันจะไปหาที่หลบฝนที่อื่น

              เปรี้ยง!!!

              “เฮ้ย!!” ผมสะดุ้งทรุดตัวนั่งยองลงกับพื้นด้วยความตกใจ ผมไม่ค่อยชอบเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าแต่ก็ไม่ได้กลัวจนไม่เป็นอันทำอะไร แค่เวลาได้ยินแล้วใจมันหวิวๆชอบกล

              เมี๊ยวววว~~~~

              “แบล็ค..” ผมเงยหน้าเอามือออกจากหูทั้งสองข้าง มองไปยังแมวขนฟูสีดำที่นั่งหมอบอยู่ตรงโคนต้นไม้ใหญ่ ดวงตาสีทองจ้องฝ่าความมืดมองตรงมาทางผม

              “ไปอยู่กับมินไหม ?” ผมถามเจ้าแมว วางมือลูบขนนิ่มๆนั่นเบาๆ เอาจริงผมก็คิดเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว เพราะทุกวันนี้ผมอยู่คอนโดนานๆครั้งถึงจะกลับบ้าน แล้วที่สำคัญคอนโดผมห้ามเลี้ยงสัตว์ เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมลังเลเรื่องนี้อยู่นาน บอกตามตรงระยะเวลาเกือบสองเดือนที่มาคลุกคลีกับเจ้าแบล็คนี่มันทำให้ผมรู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก แล้วยิ่งวันนี้ฝนตกหนักแบบนี้จะให้ปล่อยมันหนาวอยู่ข้างนอกเหรอ ไม่มีทางอ่ะ

               “ถ้าแบล็คอยากไปอยู่กับมิน ก็เข้ามาในนี้นะ” ผมวางถุงผ้าขนาดใหญ่สีดำลงกับพื้นเปิดปากถุงให้กว้าง นี่เป็นวิธีที่จะสามารถเอาเจ้าแมวเข้าไปอยู่กับผมได้อย่างแนบเนียนที่สุด ผมคิดว่างั้นนะ...

               เมี๊ยวววว ~~

               เจ้าเหมียวมีท่าทางลังเลอยู่นิดหน่อยก่อนอุ้งเท้าท่าทางนุ่มนิ่มนั่นจะค่อยๆก้าวเข้ามาหาผม...

               ไปอยู่ด้วยกันนะ... ^^

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

               “ฮ๊า.. ถึงแล้ว ~~~” ผมค่อยๆวางถุงผ้าสีดำลงบนพื้น ให้เจ้าเหมียวสี่ขาค่อยๆก้าวออกมา แอบลุ้นเหมือนกันกลัวว่ามันจะส่งเสียงร้องออกมาไม่งั้นล่ะก็แย่แน่ๆ แต่เจ้าแบล็คพูดเข้าใจง่ายกว่าที่คิดเพราะมันไม่ส่งเสียงออกมาเลยแม้แต่แอ่ะเดียว เพราะอย่างนี้ไงผมถึงตัดสินใจเอามันมาอยู่ด้วย

               “เดี๋ยวมินจะอาบน้ำนะ แบล็คมาอาบกับมินเลยดีกว่าจะได้นอนกัน เนอะๆ” ผมอุ้มเจ้าแมวพาเข้าห้องน้ำไปในทันที ตัวหนักกว่าที่คิดนะถ้าขุนมากกว่านี้อีกหน่อยผมคงจะอุ้มไม่ไหวแล้วแน่ๆ

                จัดการเปิดน้ำอุ่นลงอ่างพาตัวเองลงแช่สบายใจ แต่เหมือนเพื่อนใหม่ของผมจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะเอาแต่ซุกตัวเกาะผมแน่น หรือว่าจะไม่เคยอาบน้ำ อ่า...ก็แน่ล่ะ ปกติแมวไม่ค่อยอาบน้ำนี่นะ แบล็คคงจะกลัวน้ำล่ะมั้ง

                “ไม่ต้องกลัวนะ อยู่บนตัวมิน นี่ไงๆ” ผมอุ้มแมวตัวดำขึ้นไว้บนอก กวักน้ำรดตัวมันทีล่ะน้อยๆค่อยๆให้ปรับตัว จนขนแนบลู่ไปกับตัว ฮ่าๆ น่ารักชะมัด

                เมี๊ยว ~~~

                “อ๊ะ! อย่าเลียนะ ทะลึ่งเหรอเรา” ผมดันหัวเจ้าตัวเล็กที่แลบลิ้นเลียจุกนมผมเล่น แผล่บๆ

                “อ๊า ~~” ไม่นะ ผมไม่ได้คิดอกุศลกับแมวนะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลิ้นสากๆของเจ้าแบล็คมันทำให้ผมรู้สึกตื่นตัวแปลกๆ รู้สึกเหมือนจุกนมทั้งสองข้างมันแข็งตัวสู้ลิ้นสากๆนั่น อึก! แย่แล้ว...

                เมี๊ยว ~~~

                แบล็คหยุดการกระทำทั้งหมด เอียงคอมองหน้าผมเหมือนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมนอนพิงขอบอ่างทำหน้าแดงตัวแดงแบบนี้ ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่เหมือนมันกำลังทำหน้าเยอะเย้ยผมอยู่อย่างไรอย่างนั้น หนอยยย เจ้าแมวเจ้าเล่ห์ !

                หลังจากจัดการทั้งตัวเองและตัวแมวเสร็จก็พากันมานั่งเช็ดผมเช็ดขนอยู่บนเตียง ตอนนี้ห้องผมยังไม่มีอุปกรณ์หรือของใช้สำหรับแมวเลยสักอย่าง คืนนี้เลยต้องให้เจ้าแบล็คขึ้นมานอนกับผมก่อนพรุ่งนี้ค่อยซื้อของที่จำเป็นเข้ามา

                “คืนนี้นอนกับมินไปก่อนนะ พรุ่งนี้จะซื้อที่นอนมาให้”

                เมี๊ยว~~~~

                “ฝันดีนะ จุ๊บ!” ผมก้มลงจุ๊บเหม่งแมวน้อย เห็นมันทำหน้าเหมือนตกใจ ฮ่าๆ น่าแกล้งชะมัด ห่มผ้าให้ทั้งตัวเองทั้งแมวเสร็จก็ล้มตัวลงนอน เพียงไม่นานโลกภายนอกก็ถูกตัดขาดไป...



                ในความฝันรู้สึกเหมือนมีอะไรยุกยิกอยู่รอบตัว สัมผัสเปียกชื้นไล้เลียผะแผ่วไปทั่วทั้งซอกคอหอม ไล่ลงมาจนถึงช่วงอก จุกนมเม็ดเล็กสองข้างถูกโลมเลียจนแข็งเป็นไตรับสัมผัสของลิ้นสากร้อน

                “อื้อ ~~” เสียงทุ้มเล็กในลำคอ ครางออกมาแผ่วเบาเหมือนพอใจแต่ก็ติดรำคาญเล็กๆเมื่อถูกรบกวนเวลานอน

               “อ๊ะ..อ๊า ~~” แกนกายเล็กถูกปรนเปรอด้วยฝ่ามือหยาบ รูดรั้งจนแข็งขืน ร่างหนาทะมึนทึนในความมืดโถมทับกายเล็กเอาไว้ ชักนำความต้องการทั้งของตนเองและคนใต้ร่างให้เข้าใกล้ความสุข

               ริมฝีปากร้อนไล่ขบเม้มไปทั่วกายขาว ฝากร่องรอยแห่งความปรารถนาเอาไว้ทุกที่ที่ลากผ่าน อบอุ่นซาบซ่าน บางจังหวะร้อนเหมือนดั่งไฟเผาไหม้ ร่างเล็กเกร็งกระตุกทั้งร่างยามเมื่อเดินทางถึงจุดสูงสุดก่อนจะทิ้งตัวนอนสงบนิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราอันแสนหวาน…

               “ฝันดีครับ...” 



TBC +++++++++++++++++++++++++

TALK...
ห๊าาาา ~~~ เอาตอนเเรกมาฝาก ขอฝากติชมด้วยน๊าาา คือเจลเองไม่เคยเขียนเรื่องสั้น อาจจะดูขัดๆหรือยืดยาว หรือกระชับเกินไปก็บอกได้เน้อออ ^^ :mew1:
ปล. ขอฝากน้องเเมวพี่เเมวเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 2 23/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 23-02-2016 14:40:10
ตอนที่ 2
           “มิน บอกกูมาดีๆ เมื่อคืนมึงไปแซ่บใครมา !?”

            “กูไม่ได้ไปไหน”

            “อีดอก อย่ามาตอแหล ก็เห็นๆอยู่เนี่ยๆๆๆ” ออยหรืออีออย เกย์สาวที่เหมือนกระเทยเข้าไปทุกวัน (เหลือแค่แต่งหญิง ) นั่งแหวกคอเสื้อผมไปมาถ้าไม่ติดว่าอยู่หน้าคณะมันคงจะจับผมแก้ผ้าเพื่อสำรวจไปแล้ว

             คือเรื่องวุ่นวายมันเกิดขึ้นเพราะรอยแดงๆจ้ำๆเหมือนรอยจูบ ที่มันมาจากไหนไม่รู้ประทับติดเต็มอยู่บนซอกคอผม ผมเองก็เพิ่งมารู้ตอนที่เจอหน้าพวกเพื่อนๆนี่แหละ เพราะเมื่อเช้าดันตื่นสายอาบน้ำลวกๆไม่ทันได้สังเกตอะไรทั้งนั้น เอาจริงผมเองก็ไม่ใช่พวกอินโนเซ้นต์ถึงขนาดที่จะมองไม่ออกหรอกนะว่ามันรอยอะไร เรื่องกอดจูบลูบคลำผมก็ลองมาหมดแล้ว เหลือแค่สอดใส่จริงจังเท่านั้นที่ยังไม่กล้า แต่นี่ ! รอยพวกนี้ถึงจะเหมือนรอยจูบ รอยดูดแค่ไหน แต่เมื่อคืนผมไม่ได้ไปฟัดกับใคร มันจะมาได้ยังไง! ไม่มีทาง!

            “มึงคงไม่คิดว่ากูเอาหลอดชามุกมาต่อดูดคอตัวเองหรอกนะ”

            “สัส แถให้ได้ตลอดนะมึง ชัดขนาดนี้ตุ๊ดสามขวบมันยังคิดได้เลยว่ารอยอะไร” ออยสบัดบ๊อบใส่

             “กูก็คิดอย่างงั้น แม่งร้อนแรงเป็นบ้า” ไอ้ฟิวส์ สูงยาวเขาดีหล่อตี๋สไตล์ มันเป็นไบครับไอ้นี่เอาหมด

             “เดินได้ปกติ ตอเล็กสินะ” ปากอย่างนี้ อีผึ้งครับ ชะนีนางเดียวในกลุ่ม

              “ถามจริง ไม่รู้เรื่องจริงอ่ะ” ผมมองหน้าอีออย คิดไปถึงความฝันแปลกๆเมื่อคืน ความฝันที่ถ้ากลายเป็นเรื่องจริงก็จะเป็นที่มาของรอยพวกนี้ บ้าๆๆ ผมสะบัดหัวไล่ความคิดประหลาดๆก่อนจะตอบกลับไป

               “เหี้ย ! จะให้บอกอีกกี่รอบว่าอยู่ห้อง ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น !!”

               “แหลลลล ~~” ประสานเสียงมาเลย

               เออๆ เอากันเข้าไป เหนื่อยจะอธิบาย เมื่อวานผมอาจจะไปกินอะไรผิดสำแดงมาก็ได้เลยแพ้ หรือไม่ก็อาจจะโดนแมลงกัดตอนไปหาเจ้าแบล็คที่ตึกหลัง แถวนั้นยิ่งต้นไม้เยอะๆอยู่ ใช่ๆต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เบี่ยงความสนใจไปอยู่ที่จานข้าวตรงหน้า ตั้งหน้าตั้งตากินๆซะจะได้ไปเรียนคาบต่อไป วันนี้ต้องไปหาซื้อของให้ไอ้เหมียวที่ห้องอีก

               “มึงรอแป๊บ กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” ผมบอกเพื่อนๆก่อนจะขอวิ่งไปเข้าห้องน้ำใต้อาคารเรียน อยากจะขึ้นไปเข้าชั้นที่เรียนอยู่หรอกนะ แต่ไม่ไหวแล้วอ่ะ

                พลั่ก!

               “โอ๊ย ! ” ผมที่วิ่งไปเข้าห้องน้ำชนเข้าอย่างจังกับคนที่เดินสวนออกมา เรื่องราวเหมือนฉากรักในหนังโนแมนติกผมที่กำลังจะล้มถูกอ้อมกอดแข็งแกร่งโอบประคองเอาไว้...

                มันใช่ซะที่ไหนล่ะ !!!

                “เดินยังไง?” เสียงทุ้มๆกับเงาที่ทาบทับอยู่เหนือหัว บ่งบอกว่ามันตัวใหญ่กว่าผมมากแค่ไหน ก็แน่สิถ้าไม่ใหญ่จะชนผมจนกระเด็นหล่นตุบอยู่ที่พื้นแบบนี้ได้ยังไง แล้วยังไม่มีน้ำใจแม้แต่จะช่วย แม่ง!

                “ก็เดินสองขาเหมือนกันนั่นแหละ !”  ผมยันตัวเองลุกขึ้นปับฝุ่นปุๆออกจากเสื้อผ้า เงยหน้าตวัดตามองไอ้ยักษ์ตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

                 ร่างกายกำยำสูงใหญ่ในชุดนักศึกษาชายเสื้อออกนอกกางเกง ติ่งหูใส่ห่วงเงินอันใหญ่ที่ข้างซ้าย ผมถูกเซ็ตยุ่งๆเหมือนเพิ่งตื่นนอน คิ้วเข้มกำลังขมวดมุ่น ตาคมเฉียบกำลังจ้องลงมาที่ผมเหมือนมองสัตว์ตัวเล็กๆ มือข้างหนึ่งล่วงกระเป๋ากางเกง อีกข้างใช้เสยผมยุ่งๆนั่นไปด้านหลัง ไรหนวดสีเขียวจางๆทำให้คนตรงหน้าดูดิบเถื่อนขึ้นมาอีกสิบระดับ

                นะ...นี่มัน...นี่มัน....

               “พี่นิล...ยังไม่ไปเหรอครับ” นักศึกษาชายตัวเล็กในสภาพผมเผ้าชี้ฟู เสื้อผ้ายับยู่ยี่เดินออกจากห้องน้ำมาเกาะแขนไอ้ยักษ์ตรงหน้าผม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เข้าไปทำอะไรกันมา นี่มันกลางวันแสกๆนะ

              “อืม เดี๋ยวไปละ”

               “ครับ ไว้คราวหน้ามอสไปหานะครับ”

                “อืม”  เหล่ตามองผมก่อนจะเดินจากไป ไม่พอยังเบียดไหล่ผมจนเซอีก

                “ทุเรศ!” เสียงของผมเหมือนจะทำให้จังหวะการก้าวเท้าของทั้งสองคนชะงักไปเล็กน้อย แต่ผมไม่สนใจครับสะบัดหน้าพรืดเดินเข้าห้องน้ำไปเลย

                    เหอะๆ ไอ้พี่นิล พี่นิล หรือไอ้เหี้ยพี่นิล นี่มันเป็นเดือนคณะครับ อยู่ปีสี่แล้ว เป็นคนที่ผมเกลียดหน้ามันเข้าไส้ เลี่ยงได้เลี่ยงไม่อยากจะเจอ เหตุผลนะเหรอ ก็ตั้งแต่สมัยตอนผมเข้าปีหนึ่งตอนนั้นพี่มันเป็นพี่ว้ากอยู่ปีสาม ผมก็เจอหน้าบ่อยๆ ในห้องเชียร์บ้างตามร้านเหล้าบ้าง เพื่อนๆผมนี่ตามกรี๊ดพี่แกกันใหญ่ไม่เว้นแม้แต่อีออย

                    แล้วยิ่งกลุ่มพี่รหัสเป็นกลุ่มเดียวกันอีกเลยทำให้เจอหน้ากันบ่อยมากขึ้น เวลานัดเลี้ยงสายทีก็จะเจอพี่มันควงหนุ่มน้อยสาวน้อยไม่ซ้ำหน้าถูกใจก็แทบจะชำแหละร่างกายกันตรงนั้น หล่อรึก็หล่ออยู่หรอกแต่นิสัยแบบนี้ไม่ไหวว่ะ แล้วที่ผมไม่ชอบใจสุดๆคือสายตาของไอ้พี่นิล มันจะชอบมองผมแปลกๆชวนให้รู้สึกหนาวๆร้อนๆบอกไม่ถูก พอผมไม่ชอบผมก็พูด แล้วผลเป็นไง ?

               ‘ มองแรด ’

               นั่นแหละครับ ตัวจุดฉนวน หลังจากนั้นก็เกิดการปะทะกันเล็กๆมาโดยตลอดเพราะความกวนตีนของพี่มัน

               แกร๊ก~~
 
               ผมเปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากทำธุระเสร็จ แอบตกใจนิดหน่อยตรงที่ยังเห็นไอ้คนที่ผมเพิ่งจะนินทาไปเมื่อกี้ ยืนกอดอกอยู่ตรงอ่างล้างมือ

               “ขี้หรอ?” ปากหมาไหมล่ะ ?

               “เสือก” ผมไม่สนใจพี่มัน หันมาจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย ดูนาฬิกาใกล้เวลาเข้าเรียนเต็มที ไอ้พวกนั้นรอจนเหงือกแห้งแล้วมั้ง

               “แรดปากดี”

               “...” ผมตวัดตามองพี่มัน ขี้เกียจเถียงด้วยเลยเดินหลีกจะออกจากห้องน้ำไป แต่มันไปยอมยังเอาตัวใหญ่ๆเข้ามาบังทางออกจนมิด ตาจ้องเข้ามาในเสื้อผมก่อนจะหัวเราะหึในลำคอ
               
               “ถอยไป!” ผมบอกคนที่กำลังก้าวเข้ามาใกล้ผม สีหน้าท่าทางเหมือนจะขย้ำผมอย่างนั้นแหละ

                “เฮ้ย ! ปล่อยนะ” พี่มันดันจนตัวผมเข้ามาชิดกับขอบอ่างล้างมือ ก่อนจะช้อนใต้สะโพกยกตัวผมขึ้นนั่งบนขอบอ่าง แทรกตัวเข้ามาอยู่ระหว่างขาผมในท่าชวนหวาดเสียว ใบหน้าคมที่ก้มลงมาใกล้ซอกคอผมจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดทั้งสองข้างซ้ายขวา ทำเอาชะงักไปชั่วครู่

                  “ถึงจะเป็นหนู ก็เป็นได้แค่ลูกหนู”

                  “อ๊ะ!” ผมพยายามผลักคนตัวโตที่กดริมฝีปากเข้ากับซอกคอผมแต่ก็เหมือนกับใช้มดไปงัดซุงจะไปสู้อะไรได้ ลิ้นร้อนไล้เลียแตะวน ก่อนจะกดจูบหนักๆ จนผมรู้สึกเจ็บจี๊ดคิดว่าคงจะเกิดรอยใหม่แน่ๆ นิ้วมือแข็งแรงสะกิดแผ่วๆบนจุกนมผมจนมันชูชันขึ้นเด่นออกมานอกเสื้อ รู้สึกเสียววูบไปทั่วทั้งร่างจนแรงต้านทานเริ่มถดถอย

                   “ยะ...อย่า อื้อ...” เสียงสุดท้ายถูกดูดกลืนหายไปพร้อมกับกลีบปากที่ถูกดุดดุนอย่างหนักหน่วง รุนแรง เหมือนระบายอารมณ์ความต้องการบางอย่าง ลิ้นร้อนไล้เลียเข้าตามโพลงปากจนหัวสมองขาวโพลน รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ เนิ่นนานกว่าร่างสูงจะพอใจ ถึงได้ละริมฝีปากออก กดจูบหนักๆส่งท้ายก่อนจะจัดเสื้อผ้าทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง แล้วผละออกไป

                    “ตั้งใจเรียนล่ะ”

                    อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมไม่อยากเจอหน้าไอ้พี่นิล ก็เพราะแบบนี้ เพราะความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง และไม่สามารถหาความแน่นอนได้แบบนี้ไง นี่คือประเด็นหลักที่ทำให้ผม...เกลียด

                    ...เกลียดที่พี่มันเป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรงจนแทบบ้า !!!



TBC+++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่สองมาเเล้วจ้า สาระเรื่องนี่อยู่ที่ใดน่ะหรือ บอกเลยว่าหามีไม่ กร๊ากๆ
ปล. เย็นๆจะเเวะเอาตอนที่ 3 มาแปะเน้อออ เจลฝากด้วยจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 2 23/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 23-02-2016 21:53:23
รอจ้า
พี่นิลนี่ใช่แบล็ครึเปล่า
ไม่อยากบอกว่าชอบแฟนตาซีมาก ยิ่งเป็นแนวนี้ยิ่งฟินมากมาย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 2 23/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 23-02-2016 21:54:49
รู้สึกว่าสั้นจังเลย 55555555555
สนุกค่ะ ชอบมากอยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 2 23/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 23-02-2016 22:23:23
ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาต่อเร็วๆน้า  คริๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 2 23/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: apisaraa ที่ 23-02-2016 22:44:25
 :mew1: มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 2 23/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 24-02-2016 11:02:25
รอ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 2 23/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-02-2016 11:17:33
 :z1:   :mew1:   แมวเมะหื่น ของโปรดเลยนะคะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 3 24/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 24-02-2016 15:43:16
ตอนที่ 3

                 ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์แล้วครับที่ผมพาเจ้าแบล็คมาอยู่ด้วย มันถือเป็นแมวตัวแรกที่ผมเอามาเลี้ยงเป็นจริงเป็นจังเลยนะครับ แล้วก็เลี้ยงง่ายกว่าที่คิด ไม่ค่อยส่งเสียงร้องเท่าไหร่เลยไม่ต้องกังวลเรื่องเสียง ขับถ่ายเองเป็น ไม่ทำห้องเลอะ แต่ติดตรงที่เจ้าเหมียวนี่จะชอบขึ้นมานอนบนเตียงกับผมไม่ยอมลงไปนอนที่นอนที่ผมซื้อมาให้ แต่ก็ดีครับมีแมวตัวใหญ่ๆมาให้นอนกอดก็อุ่นไปอีกแบบ กลัวก็แต่ตอนกลางคืนผมจะเผลอไปทับมันไส้ไหลเอาน่ะสิ

                “แบล็ค ถามจริงตอนกลางคืนเห็นตัวอะไรแปลกๆเข้าห้องมาบ้างไหม ?” ผมถามเจ้าแมวขนดำที่นอนหนุนพุงผมอยู่ แอบจุกเหมือนกันนะตัวไม่ใช่เล็กๆ

                เมี๊ยวววว ~~~

                “เออ เอาสิถ้ามินฟังรู้เรื่องก็ดี” ผมลูบหัวมันเล่นเบาๆ พักนี้มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นกับผมครับ ตั้งแต่คราวที่แล้วที่พวกอีออยทักว่ามีรอยบนตัว หลังจากนั้นผมก็ลืมๆไป แต่ก็ยังโดนทักบ่อยๆ จนเริ่มสังเกตตัวเองแล้วก็พบว่ามันจะมาเรื่อยๆครับ พอรอยเก่าเริ่มจางรอยใหม่ก็จะเข้ามาแทนเป็นอย่างนี้มาเกือบสองสัปดาห์แล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมเจ็บปวดหรืออะไรนะ จะมีก็แต่สายตาแปลกๆของคนที่มองมาเท่านั้น จนผมต้องหาอะไรมาปิดโดยการใส่ผ้าพันคอในฤดูร้อน -..-

                แล้วที่หน้าประหลาดใจกว่าคือ ช่วงนี้ผมฝันแปลกๆ เป็นความฝันเสมือนจริงที่ทั้งอบอุ่นและเร้าร้อนอย่างบอกไม่ถูก และทุกครั้งที่ตื่นนอนจะพบว่าตัวเองได้เผลอปลดปล่อยความต้องการออกมาแล้ว แรกๆก็คิดว่าตัวเองคงฝันเปียก หนักเข้าก็เริ่มรู้สึกแปลกๆเพราะความฝันจะคล้ายๆเดิมทุกครั้งที่ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเร้าร้อนและปลดปล่อยออกมาอย่างสุขสม มันสมจริงจนบางครั้งผมก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง ทั้งๆที่ตื่นมาก็มีแค่ผมและเจ้าแบล็คเท่านั้นที่นอนอยู่บนเตียงด้วยกัน

            “นี่ ถ้าเจออะไรแปลกๆให้รีบตะครุบมันเลยเข้าใจไหม หืม?” ผมยกเจ้าแมวยักษ์ขึ้นมาเอาหน้าฟัดพุงนิ่มๆเล่น หอมจัง ไม่เสียแรงที่อาบน้ำให้บ่อยๆ ผมหันมาเล่นกับแมวยักษ์ตัดเรื่องที่รบกวนอยู่ออกไปจากหัว

             “เอ๊ะ อยู่มานานเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ยหืม? ขอมินดูหน่อยสิๆ”

              เมี๊ยววว ~~~~~

               แบล็คร้องเสียงหลงตอนที่ถูกผมจับนอนหงายตรึงแขนตรึงขาเอาไว้เพื่อทำการสำรวจเพศ เพราะเท่าที่จำได้ผมยังไม่เคยดูเลย

                “โอ๊ะโอ ~~~~ เป็นผู้ชายด้วย ไหนๆขอจับหน่อย ฮ่าๆ”

                ยิ่งเห็นเจ้าแบล็คดิ้นผมก็ยิ่งชอบ เอามือไล่จับไข่นุ่มนิ่มนั่นเบาๆ น่ารักจังเลย >_< แต่เหมือนเจ้าของจะไม่ชอบแฮะ นอนหอบใส่ผมเฉยเลยแถมยังขู่ฟ่อจนผมต้องลามือ ยิ่งสบสายตาที่เหมือนจะหื่นๆนั่นอีกผมเลยยิ่งต้องถอย

                “นี่ๆ ถึงมินจะชอบผู้ชายแต่แมวก็เป็นข้อยกเว้นนะ” ผมชี้หน้าบอกเจ้าเหมียวที่จ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ แถมยังขู่ผมไม่เลิก หวงไข่จริงนะ -..-
“จ้าๆ ไม่จับแล้วจ้า เดี๋ยวมินออกไปข้างนอกนะ จะซื้อของเข้าห้องหน่อย ห้ามดื้อห้ามซน เข้าใจไหม?” หันไปสั่งแมวเหมียว แต่คราวนี้ไม่ร้องเมี๊ยวตอบกลับมาเหมือนทุกครั้งเอาแต่นั่งเลียขนตัวเอง สงสัยผมจะโดนแมวงอน เออดีๆ


             ผมออกมาเดินเล่นตากแอร์ในห้างให้สบายอารมณ์ ลัดเลาะเดินซื้อของสดเข้าห้องแถมพ่วงมาด้วยอาหารเม็ดของเจ้าแบล็คแล้วก็ขนมเอาไปง้อแมวหน่อย เดินผ่านร้านขายยาความฝันที่ตามหลอกหลอนมาหลายคืนก็พุ่งเข้ามาในหัว ผมยืนตัดสินใจอยู่ไม่นานก็เดินเข้าไปซื้อของสำคัญ เอาวะ ! บางทีอาจจะทำให้ความฝันนั้นหายไปก็ได้

              “มาทำอะไรคนเดียว?”

             “เฮ้ย!” ผมตกใจสะดุ้งหนีคนที่โผล่เข้ามายืนด้านหลังเงียบๆ ไม่ใช่ใครหรอกครับ ก็ไอ้เถื่อนพี่นิลไง

             “ป่ะ กินข้าวกัน” มาอีกแล้วครับ หน้ามึนสไตล์พี่มัน

             “อิ่มแล้ว” ผมบอกปัด เรื่องเมื่อวันก่อนไหลเข้ามาในหัว ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องทำนองนี้ แต่ผมก็ได้ชอบใจนักหรอกนะ เพราะนอกจากผมพี่มันก็ยังทำกับคนอื่นไปทั่วแถมเท่าที่ดูยังลึกซึ้งมากกว่าที่ทำกับผมอีก คิดแล้วก็น่าโมโห เอ๊ะ ! นี่ผมพูดเหมือนหึงพี่มันเลยหนิ ไม่นะ ไม่ๆๆๆ

             “แต่กูหิว ป่ะ”

             “เฮ้ย! ไม่ไปนะ”

              ตามนั้นครับ เสียงของผมไม่เคยทะลุโสตประสาทไอ้พี่นิลได้เลย พี่มันลากผมมานั่งแหมะอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นสั่งนู้นนี่นั่นเสร็จสรรพก็นั่งจ้องหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะเอื้อมมือเข้ามาใกล้หยิบอะไรบางอย่างออกจากเสื้อผมโดยที่ผมเองยังไม่ทันตั้งตัว

               “ขนแมว”

               “อะ...เอ่อ..ขอบคุณ”

               “เลี้ยงแมวด้วยเหรอ?”

              “ยุ่งไรด้วยล่ะ?”

                “แล้วเมื่อกี้เข้าร้านยาทำไม ? ไม่สบาย?” ถามเรื่อยเปื่อย แต่ตานี่สำรวจผมไปทั่วตัวแล้ว

               “หะ...หืม ไม่ ไม่ได้เป็นอะไร” ผมตอบตะกุกตะกักเอามือบังถุงที่แปะโลโก้ร้านขายยาเอาไว้ ไม่อยากให้พี่มันเห็นว่าผมไปซื้ออะไรมา

                “ก็ดีแล้ว รีบกินสิเดี๋ยวไปส่ง”

                “อืม”



               “อึก อื้ม ~~”

               เสียงน้ำลายดังจ๊อบแจ๊บอยู่ในรถโดยมีผมกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเบาะหน้า ริมฝีปากหนารุกจูบดูดดื่มร้อนแรงจนยากจะทานไหว ผมส่งลิ้นเข้าเกี่ยวรัดกับลิ้นหนาของอีกคนอย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะไม่ช่ำชองเท่าแต่ก็พอทำให้อีกคนครางฮึมฮำในลำคอได้ ฝ่ามือร้อนเริ่มซุกซนบีบเคล้นไปทั่วร่างเน้นย้ำที่จุกนมสีสดที่เริ่มแดงช้ำเพราะแรงมือ พอผมบอกเจ็บลิ้นร้อนก็จะทำหน้าที่เข้ามาปลอบประโลม แต่นั่นเหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟเข้าไปอีกเพราะยิ่งทำผมก็ยิ่งรู้สึกร้อนหนักกว่าเก่า
               
                “อ่า...ส์”

               “ขึ้นห้องดีๆ พรุ่งนี้เจอกัน”
               
                  ผมมองตามรถคันที่เจ้าของเพิ่งจะฝากรอยรักและปลุกอารมณ์ให้ผมบ้าคลั่งแถมท้ายด้วยอาการหัวใจเต้นแรงรัวเป็นจังหวะหนักหน่วงจนต้องยกมือขึ้นมากุมไว้ ทำไมนะ ทั้งที่ไม่ได้อ่อนหวาน ทั้งที่ไม่ได้มีคำพูดชวนฟังแต่มันกลับทำให้ผมเป็นได้ถึงขนาดนี้

                   แกร๊ก

                   ปึง!

                    ผมเปิดปิดประตูเข้าห้องอย่างรีบร้อน ตรงเข้าห้องนอนโดยไม่สนใจหาแม้กระทั่งเพื่อนร่วมห้องอย่างเจ้าแบล็ค ตอนนี้ผมสนใจแค่เพียงอารมณ์ที่กำลังปะทุและพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ ผมโยนของที่เพิ่งซื้อมาจากร้านยาทิ้งไว้บนเตียงก่อนจะถอดกางเกงยีนส์ขาสั้นตัวเล็กออกตามด้วยชั้นใน เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ที่สวมทับเสื้อกล้ามสีดำออกไปเมื่อครู่ ทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงตั้งขาขึ้นในท่าเตรียมพร้อม ฝ่ามือข้างหนึ่งใช้รูดรั้งแกนกายเล็กที่ขยายขึ้นตามแรงอารมณ์ อีกข้างใช้บดขยี้จุกนมเล็กสลับกันไปมาอย่างหวามไหว
 
                    “อ๊ะ...อ๊า...ส์”
 
                     พลิกตัวนอนคว่ำยกบั้นท้ายขึ้นสูง มือควานหาถุงจากร้านยาที่เพิ่งซื้อหยิบหลอดสามเหลี่ยมบีบเอาเนื้อเจลชโลมจนชุ่มไปทั่วทั้งนิ้วเล็ก ผมหลับตากัดฟันแน่นเผลอนึกไปถึงสัมผัสเมื่อครู่ก่อนขึ้นห้องและจากความฝันในคืนก่อนๆ จินตนาการและสัมผัสก่อนหน้าทำให้อารมณ์ผมพุ่งขึ้นสูงอย่างฉุดไม่อยู่ ความเสียวปราบแล่นขึ้นมาจนต้องเกร็งหน้าท้องเมื่อนิ้วเรียวเล็กของตัวเองถูกส่งเข้าไปที่ช่องทางด้านหลัง

                        “อื้อ...อ๊ะ” ผมสะบัดหน้ากับหมอนไปมาด้วยความเสียดเสียว จากหนึ่งเพิ่มเป็นสองจากสองเพิ่มเป็นสาม นิ้วเล็กขยับเข้าออกเร็วขึ้นโจมตีจุดกระสันภายในร่างกายอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่พุ่งทะยาน

                          แผล่บ

                        “อึก!..”  ผมหยุดชะงักค้างทุกการกระทำเมื่อสัมผัสได้ถึงความสากเปียกชื้นที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆปากทางเข้า หันกลับไปมองก็เจอกับเจ้าของสัมผัสแปลกประหลาดนั่น นัยน์ตาสีทองที่ดูสว่างกว่าที่เคยเห็นกำลังจับจ้องมาที่ผม คล้ายโดนมนต์สะกดที่ทำให้ผมต้องนิ่งสงบหมดแรงต่อต้าน

                         “อ๊ะ อ๊ะ...อ๊า...ส์” สิ้นสากตวัดไล้เลียไปทั่วช่องทางร้อนรวมไปถึงนิ้วเล็กที่เริ่มขยับเข้าออกอีกครั้งพร้อมกับอีกมือที่เริ่มรูดรั้งแกนกายเป็นจังหวะเดียวกัน อารมณ์ที่เคยมีพุ่งสูงกว่าเดิมจนคล้ายจะแดกดับเมื่อได้รับรสสัมผัสแปลกใหม่ จนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว ปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาจนเลอะเปรอะไปทั่วที่นอน ถ้าผมไม่เพ้อจนเกินไป ผมเหมือนได้ยินเสียงครางกระหึ่มในลำคอในช่วงจังหวะสุดท้ายของตัวเอง...

                         มันไม่ใช่เสียงผม...

TBC +++++++++++++++++++++++++++
ค่อยๆ กระดึ๊บๆมา ขอบคุณทุกกำลังใจจ้าาา เห็นคอมเม้นต์เเล้วดีใจมากเลย  :o8:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 3 24/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-02-2016 15:53:03
 :haun4:   น้องมินร้อนแรงมากฮรืออออ   :impress2:
นี่หนูไปซื้อเจลมาเพื่อสิ่งนี้ จะให้แมวจับคนลักหลับให้ ไม่ใช่แล้วม้าง
เจ้านิลทำไมสามารถเปลี่ยนเป็นแมวเป็นคนได้ตลอดเลยหรือว่าคนละคน
ฝาแฝดแมวแวร์แคทอะไรทำนองนี้แต่เราคิดว่านิลกับแบล็คจะต้องเป็นตัวเดียวกันแน่ๆ ฮ่า
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 3 24/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 24-02-2016 18:56:53
พี่นิลใช่แบล็คประเนี่ยย ชอบทั้งคู่เลยย แง่มม
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 3 24/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: apisaraa ที่ 24-02-2016 19:24:55
 :-[ ใครเป็นพระเอกกันนะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 3 24/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 25-02-2016 02:16:58
ขอให้นิลกะแบล็คคือคนเดียวกัน 555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 3 24/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 25-02-2016 03:09:24
ขอให้แมวกะคนเป็นตัวเดียวกัน
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 3 24/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: lazyishappy ที่ 25-02-2016 20:01:08
ร้อนแรงงดั่งไฟ อ๊ากกกก  อยากรู้แล้วว่าพี่นิลเป็นแมวได้ยังไง แอบลักหลักน้องมินทำไม ทำจริงๆไปเลยยย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 4 25/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 25-02-2016 20:35:52
ตอนที่ 4

          “อื้อ...”

          เสียงครางในลำคอบอกอารมณ์หงุดหงิดที่ถูกรบกวนในตอนเช้า มือยกขึ้นปัดป่ายหมายจะกำจัดสิ่งรบกวนที่เริ่มระรานไปทั่วร่าง ฝ่ามือหยาบๆที่ลูบไล้ไปทั่วท้องน้อยทำให้ผมเริ่มปรือตา เดี๋ยวนะ มือ? มืองั้นหรอ ?

          เฮือก !

          ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที เมื่อกี้มันมือใช่ไหม ? มือไหน ? แล้วมือใคร ? ผมตวัดผ้าห่มออกจากเตียงมองหามาหาสิ่งแปลกปลอม แต่นอกจากเจ้าแบล็คที่นอนมองผมตาแป๋วแล้วก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นใดในห้องอีก ฝันอีกแล้วหรอ ?

           “โอ๊ะ !” อาการปวดหน่วงๆที่สะโพกทันทีที่ขยับตัวทำเอาผมนิ่วหน้า คราบคาวที่แห้งเกรอะติดตามลำตัว คงเป็นผลมาจากท่ายากเมื่อวาน หลังจากเสร็จกิจน่าอายที่ผมกับเจ้าแบล็คร่วมด้วยช่วยกัน ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย…

           อ๊ะ...ใช่แล้วเมื่อวาน ผมกับแบล็ค...

           “บะ...แบล็ค” หันหน้ากลับไปมองแมวดำที่ยังคงทำตาใสไม่รู้เรื่องในขณะที่ผมเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว

            เมี๊ยววววว

            อึก ! พอสบกับดวงตาสีทองคู่เดิม ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็พากันไหลเข้ามาในหัวเหมือนหนังแผ่นที่ฉายซ้ำ เมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

            ผมกับแมว...

             ผมกับแบล็ค...

             “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!”

             เมี๊ยววววว !

             เจ้าแมวดำสะดุ้งตกใจกระโดดหนีลงจากเตียงเพราะเสียงร้องโวยวายของผม แต่ไม่นั่นไม่ทำให้ผมสนใจแล้ว บ้าชะมัด !! นี่มันบ้าไปแล้ว !! ทึ้งหัวตัวเองไปมาอย่างบ้าคลั่ง พยายามหาคำอธิบายดีๆมาปลอบใจตัวเองให้หายบ้า

             “บะ...แบล็ค เมื่อวานนายไม่ได้ตั้งใจใช่ไหม?”

              “....”

              “คือ...จะว่ายังไงดี มินผิดเองแหละที่ไม่ได้ปิดประตูให้ดี แต่จริงๆนายก็ไม่ควรเข้ามานะ!”

               “....”

                “แล้ว...แล้วไหนจะเข้ามา...มา...มาทำอะไรแบบนั้นอีก...ไอ้แมวหื่น”

                “....”

                “ไม่สิ นายหิวใช่ไหม นั่นสินายจะมารู้เรื่องอะไร นายเป็นแมวนี่ ถูกไหม?”

                 “...”

                 “งั้นเอาเป็นว่า เรื่องเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ นายไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม?”
 
                เมี๊ยวววว

                แบล็คร้องตอบผมก่อนจะก้มหน้าลงเลียขนตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใช่สิ มันจะไปมีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง นั่นมันแมวนะ !  เอาเถอะต่อให้เมื่อวานจะเกิดอะไรขึ้น แต่นั่นก็แค่แมว แบล็คเป็นแค่แมว ถึงจะเป็นแมวผู้ชาย แมวเกย์ แมวหื่น อะไรก็ช่าง ยังไงมันก็เป็นแค่แมว !!  แล้วก็เป็นแค่แมวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วย มีแต่ผมเนี่ยที่บ้าไปเองคนเดียว เพราะฉะนั้นหยุดซะมิน หยุดๆๆๆๆ พอ !!

                ผมหอบร่างของตัวเองเข้ามาอาบน้ำชำระร่างกาย แปลกใจกับความรู้สึกปวดเอวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร คงเพราะเมื่อวาน แต่รอยแดงตามตัวผมที่เพิ่มขึ้นก็อดทำให้รู้สึกแปลกใจไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนร่วมห้องของผมมีแค่แบล็คผมก็คงคิดว่าตัวเองโดนลักหลับ แต่นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง ? ทุกอย่างในห้องของผมยังเหมือนเดิมไร้ร่องรอยการถูกงัด หรือปีนป่ายเพื่อให้คนอื่นเข้ามา ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน...

                “แบล็ค วันนี้มีแซลม่อนย่างของโปรดด้วยนะ” ผมก้มลงไปบอกเจ้าแมวยักษ์ที่เดินพันแข้งพันขาอยู่ใกล้ๆ ในขณะที่ผมกำลังทำอาหารเช้าทั้งของตัวเองและของแมว แมวผมกินแซลม่อนนะครับขอบอกกินแพงกว่าผมอีก วันนี้ผมไม่มีเรียนครับเลยมีเวลาว่างทั้งวัน เอาจริงก็ไม่ว่างหรอก แค่เปลี่ยนที่ทำงานจากคณะที่มหา’ลัย เป็นที่ห้องของตัวเองก็เท่านั้น

               “มินทำงานนะ อย่ากวนล่ะ” หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็หอบของทั้งโน๊ตบุ๊คและหนังสืออ้างอิงต่างๆเอามาวางไว้ที่โต๊ะกระจกหน้าทีวีที่โซนนั่งเล่น หย่อนก้นลงพื้นพรมนุ่มนิ่มเอนหลังพิวโซฟาตัวใหญ่เตรียมตัวปั่นรายงานที่ดองเค็มมานาน เจ้าแบล็คก็คลานขึ้นมานั่งแหมบบนตัก คาดว่าอีกไม่นานต้องเป็นเหน็บชาแน่ๆ ตัวหนักขนาดนี้

                  “อยากออกไปด้านนอกไหม ?” ผมถามแบล็คที่ย้ายลงไปนอนข้างๆแทนการนั่งตักผม ก็นะ อยู่ในห้องอุดอู้มาเกือบเดือนแล้วไม่ได้ออกไปไหนมาเลย ผมก็กลัวว่าจะเบื่อกลายเป็นแมวเฉาไปเสียก่อน

                  เมี๊ยววว

                  “นี่ วันนี้มินว่าง งั้นมินพาออกไปด้านนอกดีไหม?”

                 เมี๊ยววว

                 “โอเค งั้นเราไปเที่ยวกันเนอะ” ผมใช้วิธีเดิมในการแอบพาเจ้าแบล็คออกมานอกคอนโดโดยเอาเอาใส่ถุงผ้าใบเดิม เจ้านี่ก็ดีเหลือเกิน ไม่ร้องไม่ดิ้นให้ผมต้องลำบากเลยสักนิด

                 ผมพาแบล็คไปที่สวนสาธารณะไม่ไกลจากคอนโดมากนัก แค่อยากให้เจ้ายักษ์นี่ได้วิ่งเล่นในที่กว้างๆบ้าง แต่ตั้งแต่ปล่อยให้ออกจากถุงแบล็คก็ยังไม่ขยับไปไหน นอกจากคลอเคลียอยู่กับผม หรือว่าจะตื่นสถานที่กันนะ?

             “กลัวหรอ ? มินไม่ได้พามาทิ้งนะ” ผมหย่อนตัวเเมวเหมียวลงบนพื้นหญ้าแต่มันก็กระโดดกลับขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ข้างผมเหมือนเดิม หรือแมวไม่ชอบวิ่งเล่น ?

               “แมวน่ารักจังนะครับ”

              “อ๊ะ...ขอบคุณครับ” ผมเงยหน้าขึ้นตอบบุคคลที่เพิ่งเข้ามาทักทาย หวา...หน้าตาดีชะมัด ตัวสูงลิบลิ่วจนผมต้องเงยหน้ามอง กะจากสายตาแล้วน่าจะสูงกว่าผมสิบกว่าเซนได้ ทำไมรอบตัวมีแต่คนสูงๆนะ ไอ้พี่นิลนั่นก็สูงเลยหัวผมไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

              “พันธ์อะไรเหรอครับ ตัวใหญ่เชียว”

             “เอ่อ...ไม่ทราบเหมือนกันครับ พอดีผมถูกชะตาเลยเก็บมาเลี้ยงน่ะครับ” ตอบแบบไม่สบตา ทำไมจะไม่รู้ว่าเข้ามาทักเพื่ออะไร ผมไม่ใช่พวกหลงตัวเองนะ แต่เล่นส่งสายตากระลิ้มกระเหลี่ยมาขนาดนี้เป็นใครจะไม่รู้บ้างล่ะ แต่อันนี้พอรับได้  ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไรคุยไว้เป็นเพื่อนล่ะกัน

               “หืม? ใจดีจังนะครับ”

              “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ฮ่าๆ”

              “เอ่อ...ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ?”

             “อ๋อ ได้ครับ แบล็คขึ้นมานั่งกับมินมา” ผมก้มลงพยายามช้อนตัวเจ้าแบล็คที่นั่งอยู่ข้างๆให้ขึ้นมานั่งตัก เพื่อแบ่งที่ให้แขกนั่งด้วย แต่เหมือนเจ้าแมวนี่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ เอาแต่จ้องหน้าแขกตาเขม็งเชียว

              “แบล็ค อย่าดื้อสิ”

              เมี๊ยววว

              “ฮ่าๆ ดูท่าว่าจะหวงเจ้าของมากนะครับ ผมชื่อแซมนะ”

              “ผมมินครับ”

              หลังจากยกเจ้าแบล็คขึ้นมานั่งบนตักได้ ร่างสูงก็นั่งลงข้างๆคุยกันไปมาทำให้รู้ว่าเขาเป็นพี่ผมหนึ่งปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดัง คุยไปคุยมาเริ่มสนิทถึงจะมีแอบหยอดนิดๆส่งสายตาแพรวพราวหน่อยๆแต่ก็คุยสนุกดี ที่สำคัญเลี้ยงแมวเหมือนผมด้วย แต่ตอนนี้เขาบอกปล่อยแมวน้อยของตัวเองให้วิ่งเล่นอยู่ไม่ไกลนี้แหละ ผมถามว่าไม่กลัวมันหนีหายไปหรอ เขาก็บอกมาว่า ‘ตัวนี้ไม่ว่าพี่อยู่ไหน ก็ดมกลิ่นหาจนเจอ’ ผมเลยอดคิดไม่ได้ว่า เจ้าแบล็คจะตามหาผมเจอเหมือนแมวตัวนั้นไหมนะ

                “นั่นไง มะลิมานี่มา เมี๊ยวๆๆ” แมวน้อยสีขาวขนฟูฟ่องวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาหาพี่แซมที่กำลังร้องเรียก เข้าใจเลยว่าทำไมตั้งชื่อว่ามะลิ ตัวขาวเสียขนาดนั้น ไม่อยากจะคิดเลยว่าต้องอาบน้ำบ่อยแค่ไหนถึงรักษาความขาวไว้ได้ แล้วดูท่าเจ้ามะลิเองจะซนไม่น้อยเลยทีเดียว
               
                เมี๊ยววว

                เสียงเล็กๆของแมวอีกตัวทำให้เจ้าแบล็คที่นอนให้ผมลูบขนลุกขึ้นมา อ่า...แมวแปลกหน้า ผมรีบตะครุบเจ้าแบล็คเอาไว้ทันทีเมื่อมันเคลื่อนตัวเหมือนจะลงไปหาแมวน้อย พี่แซมเองก็อุ้มเจ้ามะลิเข้าอ้อมแขนเอาไว้ ไม่อยากจะคิดเลยถ้าฟัดกันจริงๆ มะลิเละเทะแน่ๆ

                เมี๊ยวววว

               “ไม่เอาแบล็ค อย่าแกล้งน้องนะ” ผมพยายามกดแบล็คไว้ในอ้อมกอด แต่เหมือนจะยากเหลือเกินเพราะมันเองก็ไม่ใช่ตัวเล็กๆ แล้วมะลิเองก็ขู่ฟ่อๆอย่างไม่กลัวด้วย ท่าทางเตรียมพร้อมจะฟัดกันเต็มที่

                “ไม่เอาครับมะลิ” เสียงทุ้มของพี่แซมบอกแมวตัวน้อยที่กำลังพองขนขู่เจ้าแบล็คให้สงบลง แล้วก็ได้ผลเกินคาดเมื่อมะลิเลิกสนใจแมวดำของผมแล้วหันไปซุกตัวเข้าอ้อมกอดของพี่แซมแทน

              ...ผู้ชายตัวใหญ่ๆกับน้องแมวตัวน้อยสีขาวมันดูเข้ากั๊นเข้ากัน... >_<

             “หือออ พูดง่ายมากเลย”

             “มะลิก็อย่างนี้แหละ บางครั้งพี่ก็แอบคิดนะว่ามันฟังพี่รู้เรื่อง” ถึงจะทำหูตาแพรวพราวใส่ผมแต่เวลาพูดกับมะลิทั้งน้ำเสียงและสีหน้าท่าทาง โดยเฉพาะนัยน์ตาคู่นั้นจะทอแววอ่อนโยนออกมาโดยที่คนพูดก็อาจจะไม่รู้ตัว

             “มินว่ามะลิต้องรู้เรื่องแน่เลยครับ มันเป็นสายสัมพันธ์ของสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของน่ะ ^_^” ผมหันมาลูบหัวเจ้าแบล็คที่ยังจ้องแมวน้อยไม่เลิก นิสัยเกเรจริงๆ หรือว่าจะถูกใจมะลิเข้าแล้ว?

             “ชอบมะลิเหรอ หืม?” ถามปุ๊บก็เงยหน้ามองผมเหวี่ยงๆ อ่าว แมวพาลชัดๆ

              “ชอบไม่ได้หรอกนะ เป็นตัวผู้เหมือนกันนี่” พี่แซมบอกพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบขนเจ้าแบล็คแต่ยังไม่ทันถึงตัว แมวยักษ์ของผมก็กางเล็บข่วนเข้าทันที จนมะลิลุกขึ้นมาขู่ฟ่ออีกครั้งเหมือนจะปกป้องนายตัวเอง
             
              เมี๊ยวว!

              “โอ๊ย!”

             “แบล๊ค! ทำไมเกเรอย่างนี้นะ !” ผมหันไปดุแบล็คที่จ้องหน้าพี่แซมเหมือนไม่ชอบใจ แต่ผมไม่สนหันไปดูมือใหญ่ที่มีรอยเล็บแมวถึงสามรอย แถมมีเลือดไหลซิบออกมาด้วย

            “ไปทำแผลเถอะครับ เดี๋ยวผมช่วย”

              “ไม่เป็นไรๆ แค่นี้เอง มะลิเคยทำหนักกว่านี้อีก ฮ่าๆ ใช่ไหมเจ้าตัวยุ่ง” มือใหญ่ยกขึ้นจะลูบหัวให้แมวน้อยสงบลงแต่มะลิกลับเบี่ยงออกแล้วจัดการแลบลิ้นสีชมพูเล็กๆเลียรอยข่วนของเจ้าแบล็คให้กับพี่แซม เหมือนจะช่วยพยาบาลให้      งื้อออ
 น่ารักจัง...>_<

                “มะลิเก่งจังทำแผลให้พี่แซมด้วย” ผมอดยื่นมือออกไปจิ้มๆที่หัวเล็กๆนั่นไม่ได้ หวา..นุ่มนิ่มจัง เหมือนขนสีดำของแบล็คเลยอ่ะ

                “ว่าแต่..แบล็คนี่ฉีดยาแล้วใช่ไหม ? พี่ยังไม่อยากตายนะ” พี่แซมพูดหยอก

                “เรียบร้อยครับ ครบทุกเข็ม ปลอดภัยแน่นอน” ผมบอก จริงๆผมเริ่มพาแบล็คไปฉีดตั้งแต่ก่อนมาอยู่ด้วยกันอีก แต่ตอนนี้คิดว่าคงต้องพาไปหายาแก้พาลก่อน

               หลังจากที่พี่แซมขอแยกตัวไปทำแผล ผมก็นั่งเล่นอีกพักหนึ่งก่อนจะกลับเข้าคอนโด ตั้งแต่ตอนนั้นเจ้าแบล็คก็เงียบไปเลย ไม่ร้องสักแอ่ะ แล้วก็ไม่สนใจผมด้วยหรือจะงอนที่ผมดุ ผมปล่อยแมวยักษ์ลงบนพื้นห้องมันก็เดินหนีผมทันที ผมพยายามเรียกร้องความสนใจเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ขนาดเอาแซลม่อนย่างมาล่อเป็นมื้อเย็นก็ยังไม่สนใจหนีไปกินอาหารเม็ดที่เทเหลือไว้เฉย ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นทาสแมวก็ตอนนี้แหละ

               “แบล็ค...นี่แบล็คงอนมินหรอ?”

                “...” เดินหนีเข้าห้องนอน

                “วันนี้แบล็คนิสัยไม่ดีจริงๆนะ แบล็คเกเรก่อน” ผมเดินตามมาง้อ

                 “....” ไม่สนใจ เดินไปนอนที่ที่นอนแมวที่ผมซื้อมาให้ตรงมุมห้อง

                  “โอเคๆ มินขอโทษที่ดุ”

                   “....” เหลือบตามองก่อนก้มลงเลียขน

                  “ป่ะ อาบน้ำกับมินนะ จะได้ขึ้นไปนอนด้วยกัน”

                  “....” เลียขนต่อ

                  “ตามใจนะ มินนอนคนเดียวก็ได้” ผมลุกขึ้นหนีเจ้าแมวเอาแต่ใจเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้าห้องน้ำ แต่ก็ยังช้ากว่าก้อนขนสีดำขนาดยักษ์ที่วิ่งแซงหน้าเข้าห้องน้ำไปก่อนแล้ว ฮ่าๆ ผมอดหัวเราะให้กับเจ้าแมวขี้งอนไม่ได้ แบล็คติดอาบน้ำกับผมครับ ถ้าวันไหนเห็นผมเตรียมเข้าห้องน้ำแล้วเจ้าตัวอยากอาบด้วยก็จะวิ่งเข้าไปรอ เป็นอันรู้กันว่า วันนี้อาบน้ำให้ด้วยนะเจ้ามนุษย์  ผมเคยพาไปอาบที่ร้านเพราะจะให้ร้านตัดแต่งจนให้ด้วยครั้งหนึ่ง จำได้ว่าวันนั้นเจ้ายักษ์นี่อาละวาดใหญ่ใครจับก็ไม่อยู่ จนผมต้องเข้าไปอาบให้ถึงจะหยุดแต่ก็ทำหน้าเหวี่ยงๆใส่อยู่ดี เอาแต่ใจไหมล่ะแมวผม

                 แต่นิสัยแบบนี้มันคุ้นๆยังไงก็ไม่รู้แฮะ...

TBC ++++++++++++++++++++

 TALK...
           มาเเล้วจ้าาา เเวะมาเเบบเรื่อยๆมาเรียงๆ สาระเนื้อหายังไม่ค่อยมีอะไรมากก
แต่อีกแค่อึดใจเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น เรื่องจะเฉลยเเล้วววว  :katai4: :katai4:
ปล.ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ  :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 4 25/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-02-2016 20:52:41
ทาสแมวจงเจริญ. ขอบคุณค่ะ. รอเฉลยพร้อมเสียเลือดจ้า
หนูมะลิจะแปงร่างได้ไหมน้อ เหมือนเขาสื่อสารกันแบบที่เราฟังไม่ออก
เมื่อคืนน่ะเราเดาว่าเรียบร้อยแล้วล่ะแค่จำไม่ได้ว่าโดนเสียบ. ร้ายจริงๆเลยเจ้านาย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 5 27/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 27-02-2016 20:02:16
ตอนที่ 5

            หลายวันมานี้ชีวิตของผมดูจะสงบและเรียบง่ายเหมือนจะเป็นปกติ แต่ก็ไม่ปกติเสียทีเดียว อะไรที่ไม่ปกติอย่างนั้นเหรอ ? ก็พักนี้ไม่ค่อยเจอหน้าไอ้คนเถื่อนอย่างพี่นิลเท่าไหร่ ปกติจะต้องมาเสนอหน้ามาให้เห็นทุกครั้ง แต่นี่ผมอุตส่าห์ยอมลงให้ด้วยการแอบเมียงมองหาก่อนแต่มันก็ยังไม่โผล่ออกมาให้เห็นทั้งในระยะใกล้ไกล มันหน้าหงุดหงิดชะมัด หรือจะไปติดเด็กใหม่อยู่ที่ไหน ? เหอะ ! 
   
            เอ๊ะ !

            อย่าคิดลึกคิดไกลนะครับ ที่มองหา ถามหา หรือพูดถึงเนี่ยผมไม่ได้มีจิตพิศวาสอะไรพี่มันเลยนะ ไม่เลยจริงๆ แค่รู้สึกว่าเหมือนจะขาดๆอะไรก็เท่านั้น ไม่ได้สำคัญ ไม่มีอะไรสำคัญเลยจริงๆนะครับ

            เฮ้อ ~~~

            สะบัดหน้าสองสามทีเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา มุ่งหน้าเข้าซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆคอนโด วันนี้ผมเลิกเรียนเร็วกว่าปกติครับเพราะว่าอาจารย์เกิดงดคาบเรียนกะทันหันทำให้วันนี้มีเวลาเอ้อละเหยลอยชายอีกนาน ว่าแล้วมื้อเย็นทำ    แซลม่อนย่างให้เจ้าแบล็คดีกว่าพักนี้มันดูเนือยๆชอบกล สงสัยจะเหงา เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องเอาใจเขาหน่อยล่ะ...

            “มิน!!”

            “หืม? อ้าว ! พี่แซมมาทำอะไรแถวนี้ครับ”

            ขากลับเข้าคอนโดจากซุปเปอร์มาร์เก็ตผมต้องเดินผ่านสวนสาธารณะที่เคยพาเจ้าแบล็คมาเมื่อคราวก่อน แล้วก็เจอพี่แซมที่คาดว่าน่าจะพามะลิมาเที่ยวเล่นอีกเหมือนเคย พอพี่แกร้องทักผมก็เลยเดินไปหาทางที่พี่เขากำลังเดินมา

            “เอ่อ...มินรีบหรือเปล่า อยู่คุยด้วยกันก่อนสิ” ผมมองหน้าพี่แซมอย่างสงสัย วันนี้ไม่มีสายตาแพรวพราวหรือท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยเหมือนเมื่อตอนที่เจอกันคราวก่อน สภาพโดยรวมวันนี้ติดดูโทรมๆด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดูดีอยู่

            “อ่า...ได้ครับแต่คงไม่นานนะครับเพราะผมกะว่าจะกลับไปอยู่กับแบล็คหน่อย มันดูเหมือนจะไม่สบายยังไงไม่รู้”

             “หมายถึงแมวดำตัวนั้นน่ะเหรอ ?”

            “ใช่ครับ”

           “เอ่อ...มันอาจจะฟังดูแปลกๆนะ พี่ก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน คือ...ยังไงดีล่ะ...”

           “...” ผมมองพี่แซมที่มีท่าทางลังเลเหมือนกำลังคิดไม่ตก เลยชวนพี่เขากลับไปนั่งที่เดิมเพราะท่าทางจะมีเรื่องแหงๆ ถึงจะยังเดาไม่ออกว่าเรื่องอะไรก็ตามเถอะ

            “แบล็คน่ะ...แมวตัวนั้นของมิน...”

            “หืม ? แบล็ค ? แบล็คทำไมเหรอครับ ? หรือว่าพี่แซมเจอมันด้านนอก?” อดถามอย่างร้อนรนไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าแบล็คมันไม่มีทางออกมาด้านนอกได้แน่ๆ

            “ไม่...ไม่ใช่อย่างนั้น เฮ้อ~~~” ท่าทางกลัดกลุ้มนี่มันคืออะไร ?

            “...”

           “แบล็คไม่ได้แสดงอาการอะไรแปลกๆใช่ไหม ?”

           “ครับ?”

            “หมายถึงมันไม่ได้ทำตัวแปลกๆ แบบแปลงร่างได้อะไรแบบนั้น หรือแบบโอ๊ย ! ช่างมันเถอะ สงสัยพักนี้พี่จะเบลอๆ เลยพูดอะไรแปลกๆ” พี่แซมทึ้งหัวตัวเองไปมาเหมือนกำลังทะเลาะกับตัวเอง หรือว่ามะลิจะป่วยพี่แกเลยกังวลเกินเหตุ

            “แปลงร่างหรือครับ? อือ...จะว่าไปพักนี้แบล็คก็ทำตัวแปลก”

           “ยังไง ?”

           “มันดูซึมๆ เนือยๆ แถมยังเอาแต่นอนอย่างเดียวเลย”

            “...”

            “ถ้าจะกลายร่างก็คงจากแมวดื้อเป็นแมวซึมนั่นแหละครับ ว่าแต่มันเกี่ยวอะไรกับมะลิหรือเปล่า?”

            “เอ่อ...อื้ม ก็นะ สงสัยจะไม่ค่อยสบาย”

            “นั่นสิครับ น่าเป็นห่วงจัง” คิดสภาพแบล็คป่วยไม่ออกเลย คงจะเอาใจยากน่าดู ผมนั่งคุยเป็นเพื่อนพี่แซมอีกเล็กน้อยเพราะดูท่าทางแล้วพี่แกจะเครียดมากจริงๆ เหมือนมีเรื่องให้คิดมากตลอดเวลา จนเวลาล่วงเลยจนเกือบเย็นผมเลยขอตัวกลับก่อน

            “งั้นผมกลับก่อนนะครับ”

            “ครับ ขอโทษนะ ที่ต้องมาฟังอะไรแปลกๆแบบนี้”

            “ฮ่าๆ อย่าคิดมากเลยครับ ถ้าพี่แซมกังวลเรื่องอาการของมะลิ ผมแนะนำให้พาน้องไปหาหมอนะครับ ทางผมเองถ้าแบล็คไม่ดีขึ้น ผมก็จะพาไปเหมือนกัน”

           “ถ้าหมอช่วยได้พี่ก็จะพาไป”

          “หืม ? ต้องได้สิครับ อย่าคิดมากเลย ผมไปแล้วนะ”

         “เอ่อ..มิน”

         “ครับ?”

         “จะเป็นไรไหม...ถ้าพี่จะขอเบอร์ติดต่อเราไว้ คือพี่ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนน่ะ เผื่อมีอะไรอยากจะถาม”

          “...ก็ได้ครับ” ผมชั่งใจไปนิดก่อนจะตัดสินใจ คงเพราะหน้าตาที่เหมือนไร้ที่พึ่งของพี่แกประกอบกับที่ผมเองก็ไม่เคยเลี้ยงแมวจริงจัง คิดว่าติดต่อกันไว้ก็คงไม่เสียหายอะไร...

          แยกจากพี่แซมมาผมก็ตรงกลับเข้าคอนโดทันที ก่อนจะชะงักเท้าเมื่อเห็นแผ่นหลังคุ้นตาที่กำลังเดินเข้าไปในตัวตึกอย่างเร่งรีบ จะว่าพักอยู่ที่นี่หรือก็ไม่เพราะทุกครั้งที่มาส่งผมก็จะกลับออกไปทุกครั้ง เคยเปรยๆถามก็เหมือนว่าที่พักจะไม่ได้อยู่แถวนี้ แล้วมาทำอะไรที่นี่กัน แถมยังมีคีย์การ์ดเข้าประตูอีกต่างหาก ไม่ได้สนใจนะ แค่สงสัยเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ

          ผมรีบสาวเท้าตามไปทันที มาทันตอนที่ร่างหนาๆกำลังยืนรอลิฟต์ด้วยท่าทางกระวนกระวายจนขนาดที่ไม่ทันสังเกตเห็นผมด้วยซ้ำ หรือจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกันนะ

           “มาทำอะไรที่นี่ ?” ผมเอ่ยถามเสียงปกติแต่คนถูกถามนี่สิกลับหันมาทำหน้าตกอกตกใจเหมือนผมเป็นผีอย่างนั้นแหละ ท่าทางโคตรมีพิรุธ

           “ทำไมวันนี้กลับเร็ว?” ไม่ถามเปล่า แต่ลากแขนผมออกมาทางบันไดหนีไฟด้วย คิดจะทำอะไรของเขา

           “อาจารย์ติดประชุม เอ๊ะ ! แล้วมารู้เวลากลับกูได้ยังไง?” อย่าแปลกใจ ผมเลิกพูดจาสุภาพกับพี่มันมานานแล้วเพราะพี่มันบอกไม่ชอบ ผมเลยพูด

           “ชิ!” ไอ้พี่นิลดันผมชิดกำแพงฝั่งหนึ่งส่วนพี่มันอยู่อีกฝั่ง ยกมือเสยผมเหมือนกำลังหงุดหงิดแถมบ่นอะไรในลำคอก็ไม่รู้ แต่แค่ไม่นานก็กลับมาตีหน้าเถื่อนเหมือนเดิม

           “แล้วยังไง ? ตกลงมาทำอะไรที่นี่”

           “ถ้าบอกว่ามาหา” ย่างสามขุมเข้ามาใกล้แถมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ยกมือยันกำแพงกักตัวผมเอาไว้ข้างหนึ่งอีกข้างยังคงล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์เท่ห์ๆของตัวเองต่อไป  อยากถาม ไอ้ท่าทางงุ่นง่านก่อนหน้านี้หายไปไหนหมด ?!

           “อย่ามาตลก”

            “หน้ากูตลก?” ถามหน้าตาย

            “แม่ง ! เอาดีๆ อย่ามาเล่นลิ้น”

            “กูชอบเล่นลิ้น” เสียงทุ้มๆพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ใกล้จนสัมผัสได้ถึงเส้นผมสีดำสนิทที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้ม อึก ! ทำไมรู้สึกร้อนๆที่หน้า

            “อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”

           “จริงๆมึงก็ชอบเล่นลิ้น”

           “เหี้ย ! ปล่อยกู ไม่บอกก็เรื่องของมึง”

           “แต่กูว่ามึงชอบให้กูเล่นลิ้นมึงมากกว่า”

           “อ๊ะ !” ผมเผลอเม้มปาก หลับตาแน่นเมื่อพี่มันยื่นหน้าเข้ามาเหมือนจะจูบแต่รอเวลาผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจาก...

            ฟุดฟิดๆ

           ครับไอ้พี่เถื่อนมันเอาแต่ดมๆแถวๆซอกคอผม ทำจมูกฟุดฟิดไปมาเหมือนหากลิ่นแปลกปลอมอะไรทำนองนั้น ก่อนจะสบถพึมพำในลำคออยู่คนเดียวท่าทางหงุดหงิด ผมที่ไม่เข้าใจว่าพี่มันทำอะไรก็ได้แต่เอียงคอมองอย่างสงสัย

            “ทำบ้าอะไร?”

            “ตัวมึงเหม็น”

            “ไอ้...อุ๊บ...ส์”

            ยังไม่ทันจะได้ด่าไอ้พี่นิลมันก็กระแทกปากมันเข้าปากผมแรงๆพิสูจน์คำพูดวกวนทฤษฎีเล่นลิ้นของมันกับผม แต่ไม่รู้ว่าพี่มันหงุดหงิดหรือโมโหอะไรมาถึงได้เอาแต่ไล่กัดริมฝีปากผมอย่างแรงสลับกันทั้งบนและล่าง กัดเสร็จก็ตามดูดดุนจนผมคิดว่ามันคงบวมเจ่อเพราะแรงดูด ดูดเสร็จก็กลับมาขบย้ำอีกรอบ ทำสลับอยู่แบบนี้พอผมเจ็บจนทนไม่ไหวพยายามจะผลักออก พี่มันจะรั้งเอาไว้แล้วเปลี่ยนมาบดเบียดแบบนิ่มนวลจนผมเผลอไผลสุดท้ายก็จะทำแบบเดิมซ้ำๆ เหมือนล่อหลอกให้ผมตกอยู่วังวนรับบทลงโทษที่ทำอะไรก็แล้วแต่ให้พี่มันหงุดหงิด
 
            “แฮ่กๆ” ไอ้พี่นิลผละออกเพราะผมเริ่มหมดอากาศหายใจ จูบกันมาก็บ่อยแต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ผมจะไม่แพ้ทางพี่มัน เล่นเอาผมหอบตัวโยนทุกครั้ง แล้วก็ได้แค่ตวัดสายตาเคืองๆขึ้นไปมองอย่างทำอะไรไม่ได้เพราะครั้งผมเจ็บปากมากด้วย
แต่ก็เหมือนพลาดที่ครั้งนี่ผมตวัดตาขึ้นไปมอง เพราะมันทำให้ผมสบเข้ากับนัยน์ตาคมกริบที่กำลังจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว ฝ่ามือหนายกขึ้นแนบแก้มผมข้างหนึ่งอีกข้างยังคงใช้ยันกำแพงเอาไว้อย่างเคย ใช้นิ้วโป้งไล้เบาๆที่ริมฝีปากผมเหมือนจะเช็ดคราบเปรอะเมื่อก่อนหน้านี้ การกระทำที่กึ่งๆจะนุ่มนวลของพี่มันทำเอาผมไปไม่ถูกรู้สึกมือไม้ตัวเองดูเกะกะหาที่วางไม่ได้ไปเสียหมด ไม่บ่อยหรอกนะที่จะเห็นพี่มันทำอะไรแบบนี้

            “หึหึ”

           “เป็นบ้าอะไร ปล่อย ! กูจะขึ้นห้อง” เผลอมองสำรวจพี่มันไปนาน รู้สึกจะดูโทรมลงนะ

           “รู้ไหมว่ามาทำไม?”

           “อะไร?”

           “มาหา...เด็ก ^_^”  พูดจบก็หันหลังตั้งท่าเดินจากไป

             “อย่าลืมอาบน้ำซะล่ะ” ทิ้งท้ายอีกประโยคโดยไม่หันกลับมามองก่อนจะเดินจากไปจริงๆ

           “ไอ้เหี้ย! ไอ้บ้าๆๆๆๆๆ!!”

           ผมโวยวายกระทืบเท้าเต้นเร้าๆอยู่คนเดียวอย่างคับแค้นใจ ว่าแล้วว่าเหตุผลที่มาคงไม่พ้นเรื่องเด็กในสต๊อก ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ นานแค่ไหนแม่งก็เหมือนเดิมทั้งเรื่องที่ทำกับผมแล้วก็เรื่องเด็กๆของพี่มันด้วย แล้วมีอย่างที่ไหนมาว่าผมตัวเหม็นเมื่อเช้าก็อาบน้ำแล้วนะ ถึงจะอย่างนั้นแต่ผมก็บ้าจี้ยกเต่าตัวเองขึ้นมาดมก็ไม่เห็นจะมีกลิ่นอะไรผิดปกติ อ๊ากกกก อยากจะปล่อยสัตว์ออกมาเดินอีกหลายๆตัว  &%($$@)*&^_(#&*)^^%$ !!!


            แกร๊ก ~

            ปึง ~

             ผมกลับเข้ามาในห้องของตัวเอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผมรีบเก็บของที่หล่นอยู่บนพื้นแล้วรีบออกจากบันไดหนีไฟหวังจะตามไปแอบดูเสียหน่อยว่าห้องเด็กไอ้พี่เถื่อนนั่นอยู่ชั้นไหนห้องไหน แต่กลับไม่มีวี่แววอะไรทั้งนั้น น่าแปลกเวลาแค่ไม่กี่นาทีพี่มันจะไปได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรออย่าน้อยก็ต้องรอลิฟต์สิ หรือว่าจะแอบไปหลบอยู่ที่ห้องน้ำชั้นหนึ่ง ไม่ก็คงกลับออกไปแล้วมั้ง เหอะ!

           “แบล็ค มินกลับมาแล้ว” ผมร้องทักเจ้าแมวยักษ์ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปนอนอยู่ไหน หลายวันมานี้มันไม่ค่อยตื่นเต้นกับการที่ผมกลับมาห้อง คือมันไม่มาคลอเคลียต้อนรับเหมือนทุกทีเอาแต่นอนอย่างเดียวอ่ะ เป็นแบบนี้หลายครั้งแล้วนะ

           “แบล็ค อยู่ไหน ?”

            “...”
 
            “แบล็ค เมี๊ยวๆๆ”

            “...” ผมเดินเข้าไปหาในห้องนอนเห็นมันนอนขดเป็นก้อนขนสีดำขนาดยักษ์อยู่บนเตียง เลยเข้าไปใกล้กะจะคลอเคลียเล่นซะหน่อย เห็นแล้วมันหมั่นไส้

            “ตื่นๆ มินกลับมาแล้วน๊า ~” ผมล้มตัวลงไปนอนก่อนจะยกเจ้าแมวยักษ์ให้ขึ้นมานั่งบนตัว แบล็คปรือตามองผมก่อนจะเดินย้ายจากช่วงท้องขึ้นมาบนช่วงอก

            แอ่ก จุก~  ถ้ามันกระโดใส่ผมต้องไส้ไหลแน่ๆ

           “อื้อหือ หนักขึ้นหรือเปล่าเนี่ย” ผมลูบหัวเกาคางให้ แต่เจ้าแบล็คไม่มีทีท่าว่าจะเคลิ้มแฮะ เอาแต่จ้องหน้าผมเขม็ง ก่อนจะใช้จมูกดมฟุดฟิดไปมาเหมือนไอ้พี่เถื่อนที่ทำกับผมก่อนหน้านี้เลย

           “อะไรแบล็ค ?” ผมถามเจ้าแมวยักษ์ที่ทำท่าเข้ามาดมๆ เสร็จแล้วก็สะบัดหน้าหนีพรืดพยายามจะเดินลงจากตัวผม แต่ผมคว้าเอาไว้ได้ทัน อะไรกันทำท่าเหมือนเหม็นผมอีกตัวแล้ว
เมื่อเห็นผมไม่ปล่อยแบล็คเลยหันมาแยกเขี้ยวใส่จนผมต้องลามือ มันก็เดินอุ้ยอ้ายไปนั่งเลียขนตัวเองอยู่อีกฟากเตียง ทำเหมือนรังเกียจกันนักหนา ผมขมวดคิ้วมุ่น

             “มินเหม็นเหรอ ?” ผมเริ่มไม่มั่นใจยกเต่าตัวเองขึ้นดมอีก วันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันมีเหงื่อนะ บางวันเหงื่อเต็มตัวกลับมาเจ้าแบล็คยังเข้ามาคลอเคลียเลย แล้วนี่มันอะไรกัน !

             “แบล็ค...นายนี่เริ่มเหมือนไอ้เถื่อนนั่นเข้าไปทุกทีแล้วนะ”

             “...” เอียงคอมอง

             “แอบไปแพร่นิสัยใส่กันตอนไหนเนี่ย”
 
             เมี๊ยวววว

             “ทีอย่างนี้มีตอบรับ ชิ!”

              ผมเดินปัดตูดเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเลยก็ได้วะ ความจริงกะจะอาบตอนก่อนนอนทีเดียว แต่เพราะไอ้คนบ้ากับแมวที่เริ่มจะบ้านี่ ทำท่าทางเหมือนตัวผมเหม็นเสียเต็มประดา เลยตัดใจมาอาบน้ำให้สิ้นเรื่อง คิดไปคิดว่า ถ้าแบล็คเป็นคนก็คงจะเหมือนไอ้พี่นิลแน่ๆ


TBC +++++++++++++++++++++

TALK...

ใกล้เเล้วจ้าาาา ใกล้เเล้วววว !!! จากตอนนี้คาดว่าทุกท่านคงพอจะเดาเเนวทางออกหมดเเล้ว คึคึ :hao6:
ในตอนหน้าน้องมินจะรู้ความลับของเเมวเหมียวเเล้ววว จากนั้นอีกไม่นานก็จะได้เวลาลาจอเเล้ววว  :mew4:

ปล.ตอนนี้เจลโดนมิดเทอมรุมทำร้าย มีโซเซบ้างเเต่เจลจะไม่หนีไปไหน ยังฝากติดตามด้วยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 5 27/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-02-2016 20:16:28
แหม มาหาเด็ก หมั่นไส้. พี่นิลเป็นอะไนไม่จับน้องกินแล้วมาทำตัวป่วยแบบนี้เนี่ย
ได้กลิ่นพี่แซมล่ะสิชิ

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ รอเฉลยจ้า
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 5 27/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 27-02-2016 23:19:48
รอ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 5 27/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 28-02-2016 18:24:52
รอจร้าาาาาา >\\\\<
อยากอ่านต่อมากๆเรยค่ะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 5 27/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 29-02-2016 00:50:21
ชอบๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 29-02-2016 14:54:41
ตอนที่ 6

       “รีบทำดิ”

       “มึงก็ช่วยกันสิครับ”

       “กูก็ช่วยอยู่นะ ง่ำๆ”

       “ช่วยแดกสิมึง”

        ผมมองอีออยที่นั่งยัดขนมใส่ปากเถียงกับผึ้งไม่รู้ยกที่เท่าไหร่ตั้งแต่เริ่มทำงานด้วยกันมาแล้วอดส่ายหัวไม่ได้ ยังดีที่มีไอ้ม่อฟิวส์ที่พอจะทำการทำงานอยู่บ้าง ไม่ใช่ว่าสองคนนั้นไม่ทำนะครับ แต่มันเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการที่พวกมันเถียงกัน

         วันนี้พวกเราสี่คนรวมตัวกันเพื่อช่วยกันทำรายงานที่ถูกสั่งตั้งแต่ต้นเทอมแต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่มันเลือนรางหายไปจากความทรงจำของพวกผม ทำให้วันนี้ต้องพากันมานั่งปั่นงานยิกๆอยู่ใต้ตึกคณะทั้งที่ใกล้จะหกโมงเย็นอยู่แล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มจะมืด ที่สำคัญเมื่อเช้าก่อนออกมาผมไม่ได้เทอาหารเผื่อไว้ให้แบล็คแล้วก็ไม่ได้บอกไว้ด้วย ผมกลัวว่าถ้าเลยเวลากลับแล้วมันส่งเสียงร้อง ถึงห้องจะเก็บเสียงแต่ผมก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี

          “เป็นไรมึง เห็นนั่งทำหน้ายู่มาสักพักละ” ไอ้ฟิวส์ถาม

           “ไม่มีไร อีกเยอะไหมวะ ?”

           “เท่าที่เห็น ทำไม? จะรีบไปไหน?” ไม่ค่อยเสือกเลยนะมึง -..-

           “มึงแอบซุกใครไว้ บอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ” ผึ้ง
 
           “ไม่มี เป็นห่วงแบล็ค”

            “แบล็ค ? ผัวใหม่?” พออีออยพูด ทุกคนเลยหันมามองผมเป็นตาเดียว เออว่ะ ผมยังไม่ได้บอกมันว่าผมเลี้ยงแมวนี่หว่า

            “ผัวบ้านมึงสิ แมวกู”

           “แมวมึง มึงเลี้ยงแมวตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”

           “นานล่ะ ตัวที่กูไปหาที่ตึกหลังคณะนั่นแหละ”

           “อ๋อ...นึกว่าแมวตัวที่เป็นเจ้าของรอยบนตัวมึง” ไอ้ฟิวส์ยักคิ้วหลิ่วตาทำเหมือนไม่เชื่อ พูดถึงรอย ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีแล้วครับ นานๆจะกลับมาทีแล้วก็จะมาพร้อมความรู้สึกเหมือนฝันแปลกๆ ผมเองก็เลิกสนใจไปละ เพราะหายังไงก็ไม่เจอที่มาของมันเสียที

            “แมวบ้านมึงทำรอยได้หรอ ถ้ารอยเล็บก็ว่าไปอย่าง” ผมส่ายหัวให้กับความคิดเพ้อเจอของอีออยก่อนก้มหน้าทำงานในส่วนของตัวเองต่อไปจะได้รีบทำรีบกลับ


            “มึงๆ นั่นพี่นิลของมึงป่ะวะ ?” ไอ้ฟิวส์สะกิดแขนผมยิกๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองมันที่พยักเพยิดหน้าไปทางทิศสามนาฬิกาจากที่ผมนั่งอยู่ ผมเลยหันไปมองตามทางที่มันบอก เห็นไอ้พี่เถื่อนกำลังยื้อหยุดอยู่กับเด็กหนุ่มตัวเล็กๆ ไม่ไกลจากที่พวกผมนั่งอยู่เท่าไหร่นัก กะแล้วน่าจะตัวเล็กกว่าผมอีก หน้าไม่คุ้นเลยแฮะสงสัยคนละคณะ

            “มาคุยกันก่อน” พี่มันฉุดแขนเล็กๆของเด็กนั่นเอาไว้ ท่าทางพยายามยื้อสุดพลัง

           “ไม่ พี่นิลพูดไม่รู้เรื่อง”

           “กลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้”

          “ไม่ ! ปล่อยนะ !” เด็กหนุ่มตัวเล็กดิ้นไปมาพอหลุดได้ก็วิ่งหนีไปทันที ได้ยินไอ้พี่นิลสบถอย่างหัวเสียก่อนจะวิ่งตามไปท่าทางจะกำลังโกรธ วิ่งตามกันอย่างกับหนังอินเดียงั้นแหละ

          “เด็กใหม่พี่นิลเหรอวะ น่ารักสัสอ่ะ” ไอ้ฟิวส์มองเพ้อ แต่ผมนี่นั่งกำหมัดแน่นแล้วครับ ถึงจะเห็นพี่มันควงคนนู้นคนนี้เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกเหมือนทิชชู่แต่ไม่เคยเห็นพี่มันวิ่งตามง้อใครแบบนี้ คนนี้เป็นคนแรกและดูเหมือนจะสำคัญมาก แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ มันคันยุบยิบในใจไปหมด

           ...ผมไม่ชอบเลย

           “มิน ไอ้มิน...” ผึ้งสะกิดเรียกผม ทำให้ต้องละสายตาจากภาพตรงหน้าก่อนจะก้มลงมาทำงานเหมือนเดิม แต่ใจผมตอนนี้มันว้าวุ่นเกินกว่าที่จะมานั่งทำงานแล้ว ในหัวคิดสะระตะไปหมด พวกเขามีความสัมพันธ์กันยังไง ? สนิทกันถึงขั้นไหน ? แล้วมันเกิดอะไรขึ้น...? หรือพี่มันไปดักฉุดใครมาแล้วเขาไม่เล่นด้วย ? โว้ยยยย เคยเป็นไหมครับ อยากรู้แต่ไม่อยากเสือกอ่ะ

            “มึงตามไปดูดิ เผื่อพี่นิลของมึงฉุดเด็กใหม่มา” อีออย อีบ่างช่างยุ !

            “เรื่องของมันดิ ไม่เกี่ยวไรกับกูซะหน่อย”

             “แหล ! ตามึงนี่จะกลิ้งตามพี่มันไปอยู่แล้ว ยังเสือกปากแข็ง” ผมจับตาตัวเองทันที บ้านมึงสิตากูวิ่งออกไปได้ที่ไหน อย่ามาพูดเหมือนว่ากูอยากรู้เรื่องของพี่มันนะ

              “กูว่านะ ที่พักหลังๆมาพี่นิลเขาไม่มายุ่งกับมึงเพราะหลงเด็กใหม่แน่เลยว่ะ” ไอ้ฟิวส์ เด็กใหม่งั้นหรอ ? ใช่คนที่อยู่คอนโดเดียวกันกับผมหรือเปล่านะ

             “ตกกระป๋องแล้วเพื่อนกู” ผึ้ง

             “ตกเหี้ยไรล่ะ ยังไม่ได้ขึ้นเถอะ”

             “สัส มุกกะโหลกกะลามากมึง เอาไปสิบบาทแล้วไปเล่นกับแมวที่ห้องมึงเถอะ” ผมไม่สนใจ นั่งทำงานของตัวเองต่อ แต่สมาธิที่จะทำมันกระเจิงไปหมดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เลยได้แต่แกล้งทำนู้นนี่ไป สุดท้ายก็ทนไม่ไหว โว้ย !
   
            “กูไปห้องน้ำแป๊บนะ” ผมลุกแล้วรีบเดินไปทางที่ไอ้พี่นิลมันฉุดเด็กหน้ามนนั่นไปทันที รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ฮึ่ยๆ เด็กใหม่อีกแล้วหรอ !
   
            “มิน! ไอ้เหี้ย ห้องน้ำอยู่ทางนี้ !”
   
            “แต่กูอยากเข้าที่ตึกนี้ !!” ผมตะโกนตอบไอ้ฟิวส์ก่อนจะเปลี่ยนจังหวะฝีเท้าจากเดินเป็นวิ่งไปในทันที หวังว่าไอ้พวกคงไม่รู้นะว่าผมแอบมาเสือก แล้วพวกมันจะไปรู้ได้ไงเนอะก็ผมบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำหนิ ตึกนี้ก็มีห้องน้ำ เฉียบแหลมจริงๆปัญญาผม ^_^


            ผมเปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินเมื่อเข้าใกล้ตึกหลัง สองเท้าก้าวไปช้าๆ พยายามให้เบาที่สุดและไม่เผลอเหยียบกิ่งไม้ให้เกิดเสียงดัง เป๊าะ ! เหมือนนางเอกในละครตอนเย็น ผมโผล่หน้าจากขอบตึกออกไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเถียงกัน แล้วก็เป็นอย่างที่คิดครับ กำลังเล่นบทจำเลยรักกันอยู่เลย

            “กลับไปกับพี่ อย่าทำเรื่องให้วุ่นวายไปมากกว่านี้ได้ไหม ?!” เสียงทุ้มถึงจะแข็งก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน

            “พี่นิล มินขอเวลาอีกนิดได้ไหม ?” เสียงทุ้มเล็กๆเอ่ยแกมขอร้องกลับมา ชื่อมินงั้นเหรอ...ชื่อเหมือนผม แต่ดวงหน้ากลมโตที่ดูสว่างสดใสนั่น ใบหน้าน่ารักที่ค่อนไปทางผู้หญิงแบบนั้น ไหนจะผิวที่ขาวเป็นหยวกแบบนั้น ท่าทางน่าถนุถนอมขนาดนั้น ถึงจะชื่อเหมือนกันแต่ผมคงจะไปเทียบอะไรไม่ได้ รู้สึกหน่วงๆในใจจังแฮะ
 
            “พี่ให้เวลาเราเที่ยวเล่นมานานพอแล้ว”

            “ทำไมล่ะฮะ ? ในเมื่อพี่นิลอยู่ข้างนอกได้ ทำไมมินจะอยู่บ้างไม่ได้”

            “เราคุยเรื่องนี้กันไปหลายรอบแล้วนะ ทำไมไม่เข้าใจ?”

             “พี่นิลก็ไม่เข้าใจมินเหมือนกัน”

            “พอ !! ยังไงวันนี้มินก็ต้องไปกับพี่ !”

            “ไม่นะ ไม่ๆๆ ช่วยด้วยๆๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย !!”

            “หุบปาก!! หัดดูเวลาซะบ้าง !!” ตะคอกเสียงดังจนอีกคนหดคอหนี

             ทั้งสองฉุดกระชากกันไปมารุนแรงกว่าเมื่อตอนแรก คนตัวเล็กกว่าเริ่มร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลแต่ไอ้พี่นิลก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยหรือลดแรงบีบที่แขนเล็กนั่นลงเลย ผมเห็นดั่งนั้นเลยเดินเข้าไปใกล้ ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง สงสารร่างเล็กๆนั่นกลัวจะแตกหักไปเสียก่อน

              “มึง...!” ผมส่งเสียงร้อง ทั้งสองคนหันมาทางผมในทันที เหมือนไอ้พี่นิลมันจะชะชักไปนิดทำให้อีกคนสะบัดมือออกก่อนจะวิ่งหนีไปทันที

              “มิน !!” อันนี้มันไม่ได้เรียกผมนะครับ มันหันหลังทำท่าจะวิ่งตามร่างเล็กๆนั่นไป แต่ไม่ทันผมหรอกครับ เพราะผมวิ่งไปจับแขนมันเอาไว้ก่อน ยื้อจนสุดแรง

              “ปล่อย...” พี่มันหันมามองผมนิ่งๆ สลับกับมองนาฬิกาข้อมือแล้วสบถอยู่ในลำคอ

              “ไม่ ! เด็กมึงมีตั้งเยอะไปยุ่งกับคนที่ไม่เต็มใจทำไมวะ” คนดีใช่ไหมครับ แต่ทำไมมันรู้สึกหน่วงๆในใจอย่างนี้ เอาอีกแล้ว ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ

             “ปล่อยกู...มิน”

            “ไม่ จนกว่ากูจะแน่ใจว่ามึงปล่อยน้องเขาไป”

            “โธ่เว้ย !!!” พี่มันตะโกนเสียงดังอย่างหัวเสีย กัดฟันกรอดตวัดตามองผมด้วยความไม่พอใจ ผมเผลอคลายแรงที่มือไปนิด พี่มันก็สะบัดออกอย่างแรงก่อนกึ่งเดินกึ่งวิ่งเหมือนคนไม่แรงหนีผมไปทางหลังตึก ผมขมวดคิ้วมุ่น ยอมรับว่าตกใจไม่น้อยเพราะตั้งแต่รู้จักกันมาถึงพี่มันจะกวนตีนแค่ไหนหรือผมจะกวนมันแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่พี่มันจะตะคอกเสียงดังใส่ผมแบบนี้ แต่ท่าทางเหมือนคนใกล้หมดแรงของพี่มันก็ทำให้ผมสลัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวก่อนจะวิ่งตามพี่มันไป

            ผมเดินลึกเข้าไปในเขตตึกหลังคณะ เป็นบริเวณเดียวกันกับที่ผมเจอแบล็คครั้งแรกที่แถวนี้ต้นไม้ต้นหญ้าจะเยอะกว่าบริเวณอื่นเพราะอยู่ด้านหลังเลยไม่ค่อยได้รับการดูและ ยิ่งเวลาใกล้ค่ำแบบนี้ยิ่งดูเปลี่ยว ผมเดินตามไอ้พี่นิลเข้าไปจนเจอพี่มันนั่งหอบหายใจจนตัวโยนอยู่โคนต้นไม้ใหญ่ ผมวิ่งเข้าไปใกล้ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงตรงหน้า ร้อนใจไปหมดไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนดี

            “...ไป...” ไอ้พี่เถื่อนหรี่ตามมองผม พยายามขยับตัวหนี แต่ผมไม่ยอม
 
            “มึงเป็นอะไร ? ไม่สบายหรอ ? ให้กูพาไปหาหมอไหม?” ผมถามอย่างร้อนรน เหงื่อพี่มันไหลออกมาจนเสื้อนักศึกษาสีขาวเปียกไปหมด เกิดอะไรขึ้น ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นป่วยตัวใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ไอ้เชื้อโรคนั่นต้องแข็งแรงมากแน่ๆ

            “...กลับไป” เสียงหอบๆตอบกลับมาเหมือนพยามยามสะกดกลั้นอะไรบางอย่างเอาไว้

            “มึงเป็นแบบนี้ กูไม่ใจดำทิ้งมึงไว้หรอกนะ” ผมเอื้อมมือจะเข้าไปจับตัว แต่พี่มันยกมือมาปัดมือผมก่อน ถึงจะแค่เสี้ยววินาทีแต่ผมก็สัมผัสได้ถึงไอร้อนจากร่างกายพี่มัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี่ไม่กี่นาทีพี่มันยังดูปกติ อุณหภูมิร่างกายก็ปกติเพราะผมเพิ่งปล่อยแขนพี่มันมาเอง

             “ปะ..อึก !” ไอ้พี่นิลคู้ตัวเข้าหากัน ก้มมองนาฬิกาอีกครั้งก่อนจะบ่นอะไรพึมพำในลำคอไม่รู้ แว่วๆเหมือนอะไรไม่ทันแล้ว ผมเองก็ไม่ได้มีเวลาสนใจมากอาจจะเพ้อเพราะกำลังป่วย

            ผมเข้าไปช่วยพยุงพี่มันเอาไว้ ยังไงก็ต้องพาไปหาหมอท่าทางป่วยหนักขนาดนี้ทิ้งเอาไว้ไม่ดีแน่ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้สัมผัสตัว แรงผลักบางอย่างก็ดันผมออกมาอย่างแรงจนกระเด็นไปไกลเกือบสามก้าว ผมร้องออกมาเพราะก้นกระพื้นเข้าอย่างจัง

           “โอ้ย !” แสงสว่างจ้าวูบหนึ่งทำให้ผมหลับตาลงโดยอัตโนมัติ พลันรอบข้างเงียบสนิท ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอีกครั้ง...

           “...”

           ผมกระพริบตาปริบๆสองสามครั้งหลังจากตั้งสติได้แล้ว เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ? แล้วไอ้พี่นิลหายไหน ? ผมมองซ้ายมองขวาอย่างตกใจ ก่อนจะยิ่งตกใจมากกว่าเพราะกองเสื้อผ้าตรงหน้า เสื้อผ้าที่ผมจำได้ดีเพราะเป็นของไอ้พี่นิลที่ใส่เมื่อกี้ แล้วพี่มันหายไปไหน

           เมี๊ยวววววว

           เสียงร้องที่ฟังดูคุ้นเคยทำให้ผมชะงักค้างไปชั่วครู่ อาการลนลานสงบลงเพราะความประหลาดใจ ก่อนจะหันกลับมาที่กองเสื้อผ้าอีกครั้ง เพ่งสายตาฝ่าความมืดที่โรยตัวเข้าปกคลุม มีเพียงแสงจันทร์สว่างจ้าเป็นตัวช่วยในการมองเห็น เสียงสวบสาบของพุ่มไม้เล็กใกล้กองเสื้อผ้าเป็นจุดรวมสายตาของผม

           เท้าเล็กๆที่มีขนสีดำขึ้นปกคลุมก้าวออกมาช้าๆ ก่อนจะตามออกมาอีกข้าง อีกข้าง และอีกข้าง ร่างใหญ่เกินมาตรฐานยืนอยู่บนกองเสื้อผ้า แสงจันทร์ที่สาดส่องทำให้มองเห็นได้ชัดเจน หางสีดำกวัดแกว่งไปมา และสิ่งที่ทำให้ผมใจเต้นรุนแรงที่สุดดวงตาสีทองคู่นั้น....

           มาได้ยังไง...

           มันเกิดอะไรขึ้น...

           “แบล็ค !!!!!!”

TBC+++++++++++++++++

TALK...

งื้อออ ในที่สุดก็เฉลยเเล้ว จากหลายๆรีพลายคือทุกคนเดาได้หมดเลย ฮ่าๆๆๆ
ตอนเเรกเจลหาฉากเหมาะสมๆมาเฉลยหลายฉาก เเต่จบลงที่ฉากนี้ ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง ถูกใจกันหรือเปล่า :mew2:
ปล.ต่อไปจะตาของอีพี่นิลบ้าง สลับกันเล่าเนอะ ขอฝากติดตามด้วยจ้า ~~~ :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-02-2016 15:28:58
 o13  เย้ พี่แบล็คมาเล่าเลยเมี้ยว เล่าภาษาคนนะเมี้ยว

เราเดาว่านั่นต้องเป็นน้องชายชื่อมินแน่ๆเลย แมวขาวสวยตัวนั้นที่พี่แซมเลี้ยงหรือเปล่านะ
พี่แซมโดนแมวลักหลับบ้างไหมน้อ สงสัยจัง
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ ว่าแต่พี่แบล็คเป็นอะไรแล้วทำไมใส่ปลอกคอตอนร่างคนได้ล่ะ งง
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 29-02-2016 16:05:16
รอพาทพี่นิลลลลจ้าา
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 29-02-2016 18:06:42
 o13 o13
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 01-03-2016 01:10:01
สนุกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 01-03-2016 12:44:49
ไอ้ตัวเล็กนั่นต้องเป็นมะลิแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 01-03-2016 13:30:12
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:  ตื่นเต้น ๆๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: littlegift ที่ 02-03-2016 08:32:08
 :hao7:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 02-03-2016 18:05:22
รอออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: hmmm ที่ 03-03-2016 02:00:54
เหมียวววววววววว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 6 29/02/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 03-03-2016 02:44:53
มิน (ที่วิ่งกนีไปคนนั้น) มะลิสินะ? 5555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 7 05/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 05-03-2016 15:53:45
ตอนที่ 7
[[ : Nin Part 1 : ]]

           “นิล กลับเข้าบ้านเดี๋ยวนี้นะ !!” เสียงตะโกนของแม่ดังไล่หลังมาขณะที่ผมกำลังวิ่งหนีออกไปทางประตูหน้าบ้าน แต่ไม่มีทางไล่ตามผมทันหรอกครับ หึหึ

          “ไม่ต้องห่วงนะครับ เย็นๆผมจะกลับมาครับ บ๊ายยยย”

          ผมในวัยผจญภัยวิ่งหลบออกจากซอกรั้วเล็กๆที่แอบมาเตรียมเอาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะหนีออกจากบ้านนะครับ แค่ขอออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง เล่นกับเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน แป๊บๆ ไม่นาน ตอนเย็นผมก็จะรีบกลับ
แต่เหมือนเรื่องทุกอย่างมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะระหว่างที่ผมกำลังวิ่งจะข้ามถนนเพื่อเข้าไปในสวนสาธารณะที่อยู่ฝั่งตรงข้าม อาจจะเพราะความสะเพร่าหรือความรีบร้อนอยากเล่นของผมก็ตาม มันทำให้ผมวิ่งตัดหน้ารถ เสียงบีบแตรดังสนั่นหวั่นไหวและมันทำให้ผมตกใจจนแทบช็อค

            สำหรับเด็กที่ยังไม่สามารถควบคุมการแปลงร่างของตัวเองได้ดีพออย่างผมแล้ว พอเจอเรื่องที่ทำให้ตกใจขนาดนี้ก็ทำให้ผมกลายร่างเป็นแมวน้อยตัวจ้อยสีดำแทบจะทันที โชคดีที่ผมหลบเข้าพุ่มไม้ได้ทัน อย่างน้อยก็คงไม่มีใครทันเห็นผมเข้า

           ครับ...ไม่ผิดหรอก

           ผมกลายร่างเป็นแมวได้...

           ตระกูลของผมสืบเชื้อสายมาจากแมวโดยตรงหรือที่เรียกกันว่า แวร์แคท พวกเรามีกันอยู่ทั่วทุกมุมโลก สืบเชื้อสายกันมารุ่นต่อรุ่น ด้วยจำนวนที่ไม่มากนักของพวกเราทำให้พวกเราทั้งหมดรู้จักกัน หรือจะเรียกว่าเป็นต้นตระกูลเดียวกันก็ว่าได้ คอยช่วยเหลือซึ้งกันเละกันยามมีปัญหา แต่ส่วนมากก็ค่อยมีเรื่องจำเป็นให้ต้องติดต่อกันหรอก สาเหตุสำคัญคือพวกเรารักสันโดษ แต่ในขณะเดียวกันพวกเราก็พยายามใช้ชีวิตให้เหมือนมนุษย์ทั่วไปอย่างกลมกลืนที่สุด

           มันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือเรื่องแปลกอะไร ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่รู้ตัวตนของพวกเรา เพราะพวกเราไม่ใช่พวกผีในตำนานเหมือนแวมไพร์ที่มีชีวิตยืนยาวเป็นอมตะ พวกเรามีอายุขัยเทียบเท่ามนุษย์เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องย้ายที่อยู่บ่อยหรือปลอมตัวอะไรซึ่งผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร ข้อเสียอย่างเดียวที่ผมไม่ชอบใจคือ...ผมไม่สามารถที่จะควบคุมการกลายร่างของตัวเองให้สมบูรณ์ได้จนกว่าอายุจะครบ 18 ปีเต็ม ! หรือถ้าแย่หน่อยอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านั้น คล้ายกับเด็กทารกวัยหัดเดินนั่นแหละครับ

            พออยู่ในร่างแมวน้อยขนสีปุกปุยแล้วผมก็ชักหมดสนุก ในร่างแมวแบบนี้ยังไงก็ออกไปเล่นกับใครไม่ได้ ผมเลยจัดการคาบข้าวของเครื่องใช้เข้าไปหลบในพุ่มไม้ พอกลายเป็นคนได้เมื่อไหร่จะกลับมาเอาหรือไม่ก็คงให้ที่บ้านมาเอาให้อีกที หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จสรรพผมก็เตรียมจะกลับบ้าน แต่อย่างที่บอกชีวิตไม่ง่ายครับ

            อันธพาลไม่ว่าที่ไหนก็มี แม้แต่แมวอันธพาลก็ยังมี ผมหันมาสำรวจเจ้าถิ่นที่สองตัวที่เข้ามายืนหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แถมขู่ฟ่อเหมือนจะถามผมว่าทำไมเข้ามาในถิ่นมัน ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะครับว่าพวกผมจะสามารถสื่อสารกับแมวธรรมดาที่ไม่ใช่พวกแวร์แคทได้...พวกผมทำแบบนั้นไม่ได้

            ผมถอยตั้งท่าพร้อมสู้แถมยังขู่กลับ ผมไม่กลัวครับเพราะพวกเราแข็งแรงกว่าแมวธรรมดาอยู่มากต่อให้ยังอยู่ในวัยเด็กก็เถอะ

           เมี๊ยววว !!!

           แล้วศึกแมวกัดกันก็เริ่มขึ้น อย่างที่บอกผมเป็นต่อเห็นๆ เจ้าสองตัวนี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก

          หลังจากที่กางเล็บตบกันอยู่นานเจ้าถิ่นง่อยก็เริ่มหมดแรงแต่ยังไม่ยอมหนีไปไหน ยังคงตั้งท่าจะฟัดผมอยู่ ก็เอาสิ อยากเจ็บหนักก็เข้ามา ผมตั้งท่าจะเข้าไปฟัดอีกครั้งตอนที่มันยังเป๋อยู่พลันหางตาเหลือบไปเห็นผู้ชมกิตติมศักดิ์ที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ดวงตากลมโตเหมือนลูกกวางตัวน้อยมองมาที่ผมอย่างให้กำลังใจท่าทางเหมือนอยากจะเข้ามาช่วยแต่ก็ไม่กล้า

          เมี๊ยววว !!!

         เจ้าถิ่นพากันบุกเข้าใส่ผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่ตอบโต้ ไม่รู้ทำไมผมถึงอยากจะวัดใจกับเจ้าของตากลมโตคู่นั้น
ผมยอมให้ไอ้แมวเจ้าถิ่นฟัดเล่นอยู่ไม่กี่อึดใจ คนตัวเล็กก็วิ่งออกมาจากหลังต้นไม้ แล้วขว้างก้อนหินมาทางที่พวกเราอยู่ เรียกว่าพยายามขว้างมั่วๆมากกว่า เห็นคว้าอะไรได้ก็ขว้างมาหมด ดีนะที่ผมหลบได้ แมวอีกสองตัวพอเจอคนที่ตัวใหญ่กว่าก็พากันวิ่งหนีกระจาย พอเห็นดังนั้นเจ้าของร่างเล็กนั่นเลยวิ่งเข้ามาหาผม

        “เจ็บไหม?” เสียงทุ้มเล็กๆทำให้ผมรู้ว่านี่คือเด็กผู้ชาย

         เด็กชายตัวน้อยในชุดนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนดังนั่งยองลงตรงหน้าผม ยื่นมือเข้ามาจะจับหัวผมแต่ก็เหมือนกล้าเลยได้แต่ค้างมือเอาไว้แบบนั้น จนผมต้องเอาหัวถูมือนุ่มนิ่มนั่นเสียเอง ใบหน้าหวานตื่นตกใจอยู่พักเดียวก่อนจะริมฝีปากเล็กจะยิ้มแย้มแล้วจับผมสำรวจไปมา

         “น่ารักจังเลย ^__^”

         อ่า...รอยยิ้มนั่นทำผมแสบตาชะมัด...

        เมี้ยวววว ~~
 
        นั่นเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ทำให้ผมเจอมิน...
   
        หลายปีผ่านไปเรื่องราวดีๆในวันนั้นก็กลายเป็นความทรงจำในวัยเด็กของผม ตอนนี้ผมควบคุมร่างตัวเองได้แล้ว และตอนนี้ผมก็กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังคณะวิศวะกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สาม หน้าที่ของพวกผมปีนี้คือทำการรับร้องปีหนึ่งที่กำลังจะเข้ามา เรียกง่ายๆ ก็พี่ว้ากนั่นแหละครับ

   “วันนี้เข้าห้องเชียร์ไหมมึง ?” ไอ้แม็คเพื่อนในกลุ่มของผมเอ่ยถาม

   “ขี้เกียจว่ะ”

   “ขี้เกียจหรือมึงนัดสาวไว้ เพลาๆบ้างนะ กูไม่อยากมีเพื่อนเป็นเอดส์ตาย”

   “สัส !” ผมด่ามันได้แค่นั้น ก็มันเรื่องจริงหนิครับ อาจจะเพราะตำแหน่งเดือนที่ผมได้มาตอนเข้าปีหนึ่ง หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ ยังไงก็ต้องขอบคุณเพราะมันทำให้ผมไม่เคยขัดสนเรื่องผู้หญิง อ่อ...มีผู้ชายด้วย นานๆครั้งน่ะครับ แต่ก็เท่านั้นแหละครับ ไม่ได้คบกันจริงจัง และทุกครั้งก็ป้องกันอย่างดี ความจริงก็ไม่อยากจะโทษสายพันธุ์ตัวเอง แต่ก็ยอมรับว่าเพราะความแตกต่างมันมีผลทำให้ผมต้องการมากกว่าคนอื่น หรือจริงๆมันอาจจะไม่เกี่ยวแต่พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับพวกเรา ยกเว้นคนที่มีคู่เป็นตัวเป็นตนน่ะนะ

   “ไม่ไปจริงเหรอวะ เมื่อวานกูไปมา เหี้ย เด็กปีหนึ่งแม่งอย่างเด็ด!” ไอ้ปืนทำหน้าหื่นกาม ผมเลยถีบมันไปที

   “ไปดูหน้าน้องรหัสมึงก็ยังดี เหี้ยหนิ ปี้แต่สาวงานการอ่ะทำบ้าง” ไอ้แม็ค มึงก็ว่ากูซะเสียหาย

   “เออๆ” แล้วผมก็รับปากไป ไม่ใช่เพราะขี้เกียจฟังมันบ่น แต่แอบไปดูเด็กๆหน่อยก็ดี หึหึ

   “นั่นๆคนนั้นน้องรหัสกู  หน้าตากวนตีนชิบหาย!” ไอ้ปืนชี้นิ้วไปทางไอ้เด็กหัวเกรียนที่ยืนหน้ามองตรงระเบียบเชียร์อยู่ในแถว หน้ามันกวนตีนจริงครับ ผมหันไปพยักหน้าเออออกับไอ้ปืนแล้วหันกลับมามองหาน้องตัวเองบ้างเผื่อเป็นผู้หญิงจะได้เตรียมการดูแลอย่างดี แต่ถ้าเป็นผู้ชายถึกๆก็ปล่อยมันดูแลตัวเองไป

   กึก!

   ยังครับ ยังไม่เจอน้องรหัสแต่ดันไปเจอกับดวงหน้าหวานใสที่ตรึงสายตาผมให้หยุดมอง ความทรงจำในวัยเด็กของผมไหลกลับมาอย่างรวดเร็ว ตัวเล็กๆขาวๆแบบนี้ ใบหน้าเรียวน่ารักแบบนี้ และดวงตากลมโตเหมือนลูกกวางแบบนี้ ใช่แน่ๆ ไม่ผิดแน่นอนครับ...ไอ้ตัวเล็ก

   หลังจากวันนั้นผมก็เข้าห้องเชียร์เป็นประจำไม่เคยขาด จนเพื่อนๆร้องทัก ส่วนไอ้ปืนกับไอ้แม็คมันก็คิดว่าผมเจอคนถูกใจ ซึ่งก็ใช่ครับ ไม่ได้ผิด ก็ผมเจอคนถูกใจจริงๆ

   ใช้เวลาไม่กี่เดือนในการเข้าห้องเชียร์เพื่อทำกิจกรรมน้องไม่นานก็จบลง ตอนนั้นแหละที่ผมเริ่มว้าวุ่นเพราะถ้าไม่มีห้องเชียร์โอกาสเจอหน้าใสๆนั่นก็น้อยเต็มที เรียนก็คนล่ะชั้นปีแล้วจะเอาเวลาไหนให้ไปเจอกัน แล้วมันก็เป็นเรื่องบังเอิญครับ เมื่อเพื่อนคนนึงในกลุ่มน้องมันดันเป็นน้องรหัสไอ้ปืน ก็ไอ้เด็กหัวเกรียนนั่นแหละครับ มันชื่อ ฟิวส์

   พอมีคนกลางเรื่องทุกอย่างก็ไม่ยากอย่างที่คิด ถึงจะโชคร้ายหน่อยที่น้องรหัสผมไม่ได้อยู่กลุ่มนี้ด้วย กลุ่มน้องมันมีกันสี่คนครับ ไอ้ฟิวส์ ออย น้องผึ้ง แล้วก็มิน ชื่อเจ้าตัวนั่นแหละ ผมเริ่มใช้ความเป็นเพื่อนพี่รหัสเข้าใกล้ชิดกับเด็กกลุ่มนี้โดยการบังคับ ? ไอ้ปืนให้พาน้องๆไปกินข้าวบ่อยๆ เดือนละสามสี่ครั้งได้ ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนเลี้ยงเองบางทีเจอข้างนอกก็กินข้าวด้วยกัน จนพวกเราเริ่มสนิทกัน

   มินดูเป็นคนแรงๆครับ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันแรดนะ คนที่รู้จักผิวเผินก็มองมันในรูปแบบนั้นอาจจะเพราะคำพูดโผงผางดูเจนโลกของน้องมันที่ดูขัดกับใบหน้าน่ารักที่ผมชอบมองหรือพฤติกรรมการท่องเที่ยวยามราตรี แต่ถ้าได้ลองรู้จักหรือทำความสนิทสนมแล้วล่ะก็จะรู้ว่ามินไม่ใช่คนแบบนั้น แถมบางทียังใสกว่าที่คิดไว้มาก แล้วก็เพราะแบบนี้จึงทำให้น้องมันโดนเพื่อนๆในกลุ่มแกล้งหยอกเล่นอยู่เรื่อย สนุกพวกมันล่ะ แล้วก็สนุกผมด้วย ฮ่าๆ

   ผมชอบแกล้งกวนมินให้มันหงุดหงิดครับ พอน้องมันหงุดหงิดแก้มใสกลมๆนั่นจะพองขึ้นมาเล็กน้อยแบบที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ ปากเล็กๆจะเชิดขึ้นแล้วบ่นขมุบขมิบเมื่อสู้ไม่ได้ แล้วใบหน้าน่ารักนั่นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อลามจนถึงใบหูเมื่อถูกแกล้งให้อาย เวลาจะด่าตอบก็จะเริ่มติดขัดเพราะคิดไม่ทัน สุดก็ได้กระทืบเท้าไปมาอยู่คนเดียวอย่างขัดใจ เห็นแล้วมันน่ารักดีครับผมเลยต้องแวะมาหยอกบ่อยๆ

   วันนี้ก็เช่นกัน...

   “โห...พี่นิล ขยันเลี้ยงน้องนะครับ” ไอ้ฟิวส์ทักผมที่เดินถือถุงจากร้านเจ็ดสิบเอ็ดถุงใหญ่เข้าไปที่โต๊ะประจำของพวกมัน เห็นว่าวันนี้มีงานครับเลยอยู่เย็น ผมก็ใจดีเลยซื้อเสบียงมาฝาก

   “นั่นน่ะสิ น้องรหัสรึก็ไม่ใช่” ออยพูด ส่งถุงขนมไปให้ไอ้ฟิวส์ที่กุลีกุจอมารับ มันค่อนข้างเกรงใจพวกผมมากกว่าเพื่อนในกลุ่มของมัน คงเพราะไอ้ปืนเป็นพี่รหัสมันด้วยมั้ง

   “กลัวเด็กแถวนี้หิวตายก่อนทำงานเสร็จ” ผมตอบยิ้มๆแล้วนั่งลงที่ว่างซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไอ้ตัวเล็กของผมพอดี น้องมันเงยจากจอโน๊ตบุ๊คมามองผม ผมก็ยิ้มตอบ ^_______^

   “หูยยยพี่...เช้าถึงเย็นถึงแบบนี้เพื่อนผึ้งจะไปไหนรอด”

   “ระยะสร้างกรง” ผมตอบน้องผึ้งยิ้มๆ ไอ้คนโดนพาดพิงเริ่มหันซ้ายขวาทำตัวไม่ปกติแล้วครับ ฮ่าๆ

   “กรงบ้าอะไร ไม่ใช่หมาใช่แมว” พอเจอสายตาล้อเลียนเข้าหน่อยก็หันมาลงที่ผมแทน นั่นๆปากยื่นขมุบขมิบอีกแล้ว น่ารักจริงๆ

   “อ่ะ เอามาให้” ผมวางอมยิ้มรสสตอเบอร์รี่ตรงกลางโต๊ะ ไม่รู้หรอกว่ามันชอบหรือเปล่า แต่อยากให้มันกิน แก้มตุ่ยๆตอนอมอมยิ้มท่าจะน่ารักดี

   “ให้ผมหรอพี่กำลังอยากกินพอดีอ่ะ รู้ใจสุดๆ” เสือกละมึงไอ้ฟิวส์

   “คิดเอาเอง”

   “โอเคพี่ ไม่อยากกินแล้ว อ่ะเอาไปเลยมึง” เอาไปวางไว้ตรงหน้าไอ้ตัวเล็ก

   “หึหึ”

   “พวกมึงก็แดกๆไปสิ” เจ้าตัวว่า

   “ไม่ล่ะ พวกกูแพ้ลูกอม” เยี่ยมครับผมชอบเหตุผลออย เพราะมันทำให้เจ้าของตัวจริงปั้นหน้าไปไม่เป็นเลยทีเดียว

   “กูไม่แดก เดี๋ยวฟันผุ”หันไปบอกเพื่อนแล้วเอาวางไว้ที่เดิม

   “อ่ะ” ผมวางชุดแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ที่พกติดกระเป๋าตลอดมาวางบนโต๊ะ บางครั้งเพราะงานทำให้ผมต้องค้างที่คณะบ้าง เลยทำให้มีของพวกนี้ติดตัว ไม่ได้คิดว่าจะต้องเอามาใช้แบบนี้เหมือนกัน ผิดคาดแฮะ แต่ผลตอบรับก็ดีเกินคาดเมื่อน้องมันหน้าเหวออ้าปากค้างเลย ฮ่าๆ

   “เหวอ !!”

   “ฮ่าๆๆๆๆๆ นี่ไงมึง คราวนี้แดกได้ละ” ออย

   “พี่นิลแม่งสุดยอดอ่ะ เพื่อนผมเอ๋อเลย”ไอ้ฟิวส์

   “ไม่รอดแน่เพื่อนกู”น้องผึ้ง

   “พี่นิล พี่ไม่มีงานมีการบ้างหรอ ถ้าว่างก็กลับบ้านไปนอนเลยไป๊” พอตัวเองถูกรุมก็มาพาลคนอื่น ดูสิครับ คนเรา

   “โอเค ตั้งใจทำงานนะครับ ^_____^” ผมบอกพร้อมกับยื่นมือไปจับหัวเล็กๆนั่นโยกไปมา เห็นแก้มขาวๆขึ้นสีแดงเป็นริ้วๆ
 
   “ฮิ้วววววววววววววว”

   วันนี้ได้เห็นไอ้ตัวเล็กทำหน้าบูดแล้ว...ถือว่า มิสชั่นคอมพลีส... ^^


TCB++++++++++++++++++++

TALK....
กลับมาเเล้วจ้าาาา.... หลังจากหนีไปรบกับข้อสอบมิดเทอมมา ซึ่งยังไม่รู้ผลเเพ้ชนะ  :hao5:
แต่ตอนนี้ทิ้งมันเอาไว้ข้างหลังก่อน ทิ้งทุกอย่างไว้เป็นภาระของไฟนอล คึคึ

วันนี้เเวะเอาพาทอีพี่นิลมาฝาก อาจจะย้อนไปนิดนึง ถือว่าเป็นการทำความรู้จักกับพี่มันให้มากขึ้น เพราะน้องมินเเทบไม่ได้เล่าอะไรให้รู้เรื่องเลย ซึ่งการเขียนตอนนี้ต้องขอบอกว่าพยายามอ่านทวนเเล้วทวนอีก เพราะกลัวจะหลุดคาเเรกเตอร์ของพี่มัน เเต่ก็เท่านั้น เพราะว่าอีพี่นิลมันไม่ใช่พระเอกสายเท่ห์เงียบขรึม เเต่เป็นพี่นิลที่เป็นพระเอกของเรื่องนี้ ฮ่าๆ ซึ่งพาทของพี่นิลจะมีประมาณ 2 พาท ไม่เกินนี้ ขอฝากทุกคนด้วยน๊าาาา  :mew1: :mew1:

ปล. จากตอนที่เเล้วมีคอมเม้นบอกว่าทำไมมีปอกคอตอนที่พี่นิลมันเเปลงร่างเป็นเเบล็คกะทันหันได้ ซึ่งเจลได้กลับไปอ่านดูเเล้ว
ก็ค้นพบว่า เห้ย !! จริงด้วย เพราะตอนเป็นคนพี่มันไม่ได้ใส่หนิ เพราะงั้นตอนกลายร่างก็ยังไม่น่ามีปอกคอสิ เลยจัดการเเก้ไขเเล้วจ้า ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมากนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:

ปล. สุดท้ายท้ายสุด ถ้าคนอ่านทุกท่านเห็นตรงไหนมันพลาดมา ทักท้วงได้เลยนะคะ เจลจะจัดการไขทันที  :L2: :L2:

ปล.อีกนิด ฝากติดตามพี่นิลด้วยจ้าาาา

 


หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 7 05/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-03-2016 17:02:44
 :hao6:   ขอคารวะพี่นิลแวร์แคท. ที่ไม่จับน้องมินกดตั้งแต่ปีหนึ่ง
เขาเล็งกันมานาน มีใจกันมาตลอด เอาอีกๆค่ะ. พี่นิลมาแฉตัวเองอีกว่ากระทำชำเราอะไรน้องบ้างตอนหลับ
ขอบคุณค่ะ คำหิด เสร็จสรรพ. กิตติมศักดิ์
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 7 05/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 05-03-2016 22:25:41
กลืนน้ำลายรอตอนต่อปาย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 7 05/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 06-03-2016 00:25:59
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 7 05/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 06-03-2016 12:27:59
หยอกๆอยู่อย่างนั้นน้องมันอาจจะไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นเอาจริงเอาจับได้แล้วพี่นิลเดี๋ยวหมา(แมว)คาบมินไปกินไม่รู้ตัวนา
(-_-)
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 7 05/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 06-03-2016 17:52:58
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 8 07/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 07-03-2016 19:37:01
ตอนที่ 8


   [[ : Nin Part 2 : ]]

   “เมื่อไหร่ไอ้ฟิวส์จะมาวะ กูจะเมาละสัส!” ไอ้แม็คบ่น

   “มันบอกใกล้จะถึงละ”

   วันนี้ผมกับเพื่อนอีกสองคนอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งแถวๆมหาวิทยาลัย ก็นั่นแหละครับจะให้เลี้ยงแต่ข้าวน้องมันก็ไม่ใช่วิสัย วันนี้เลยพาเด็กๆออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะยังไม่เคยมีสักครั้งที่พวกผมจะเลี้ยงเหล้าพวกมัน แล้วนี่ก็เป็นวันสอบวันสุดท้ายเลยถือโอกาสฉลองให้ซะเลย แต่คราวนี้ผมไม่ได้จ่ายคนเดียวนะครับ

   “อีกนานไหมวะ ?” ผมถาม

   “ไม่นาน อีกแป๊บเดียวๆ” ไอ้ปืน

   “เออมึง กูเห็นมึงเต๊าะไอ้มินมันมาก็นานละ ถามจริงได้ยังวะ?” ไอ้แม็คยื่นหน้ามาถามผม ผมไม่โกรธหรอกนะเพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ใครก็สงสัย คงไม่เคยเห็นผมตามใครด้วยล่ะมั้ง

   “ยังไม่ถึงเวลา”

   “เออกูรู้ ไม่งั้นมึงคงไม่ล่อคนอื่นไปทั่วแบบนี้หรอก” เอ่อ..ครับ ไม่เถียง เพราะผมก็ยังคงมีคนอื่นไปทั่วเหมือนเดิม แต่น้อยลงหน่อยเพราะเวลาว่างผมเอาไปไว้ไปแกล้งไอ้ตัวเล็กของผม

   “แล้วมึงจะถามทำไม?”

   “เออๆ กูแค่อยากรู้ น้องมันน่ารักขนาดนั้นรอดมึงมาได้ก็ใช่ว่าจะรอดคนอื่น” ผมยกแก้วตัวเองขึ้นจิบ ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะครับว่าไอ้ตัวเล็กของผมมันฮอตขนาดไหน แต่ยังดีครับที่เรื่องพวกนี้มันพอทันและเอาตัวรอดได้ ถือว่าสบายใจไปเปราะแต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี

   “พี่หวัดดีครับ” บทสนทนาก่อนหน้าเป็นอันจบลงเมื่อพวกน้องๆเดินเข้ามา ผมไม่สนใจมันแต่มองเลยไปทางเพื่อนมันที่อยู่ทางด้านหลัง วันนี้ไอ้ตัวเล็กใส่เสื้อยืดคอปาดสีขาวหม่นตัวใหญ่ๆกับกางเกงยีนส์รัดรูปสีดำขาดหัวเข่า อืม...กางกางจะรัดก้นไปไหน

   “เออๆ มาถึงแล้วก็นั่งๆ แม่งไอ้แม็คมันจะเมาหนีพวกมึงละ”

   “โทษทีพี่ รถมันติด” ผมไล่มองน้องๆที่เริ่มหาที่นั่งเป็นของตัวเอง วันนี้น้องผึ้งไม่มาครับเห็นว่าติดเลี้ยงสายเหมือนกัน

   “เออๆ บริการตัวเองนะมึง กูจ่ายตังค์อย่างเดียว”

   “เอ๋ ? วันนี้พี่ปืนเป็นคนจ่ายหรอครับ?” คำถามจากออยเลยครับ ผมนี่ยิ้มกริ่มเลยส่วนคนที่มีเอี่ยวนิดๆชะงักค้างกลางอากาศก่อนจะปรับตัวแล้วทิ้งลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับผม ผมชอบนั่งตรงข้ามกับน้องมันนะ เวลามองแล้วไม่ต้องเอียงคอหรือหันหน้าดี แค่มองตรงๆก็เจอ เงยหน้าก็เจอ

   “อยากเลี้ยงเด็กๆบ้าง” พูดอย่างเดียวไม่พอ ส่งสายตาไปอีก

   “พี่ๆครับปล่อยเพื่อนผมไปสักคนเถอะครับ อย่าเก็บไว้กินเองหมดเลยครับ” ไอ้ฟิวส์มันคงรู้สึกเหมือนผม

   “สัสนี่ เอ้าแดกๆ” ผมยกยิ้มมุมปากให้ไอ้ปืนที่แกล้งเฉไฉไปเรื่อย คงคิดว่าไม่มีใครรู้ทันล่ะสิ

   “มองไร?” ผมจ้องหน้าคนตรงข้ามที่เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่มาถึง คงไม่อยากพูดเพราะเดียวจะโดนแซวแต่คงทนแรงกดดันจากสายตาผมไม่ไหวเลยถามออกมา

   “มองแรด”

   “O_O !”

   “หึหึ”

   กินกันไปก็เริ่มดึกดื่นจนใกล้เวลาจะกลับ มินมันคอแข็งใช่เล่นเลยครับนั่งชนกับพวกผมตั้งนานยังไม่มีทีท่าว่าจะเมา ในขณะที่ไอ้เฟิวส์เพื่อนมันหัวจะทิ่มโต๊ะอยู่แล้ว น้องออยก็เริ่มหน้าแดง แต่คนตรงหน้าผมนี่ยังนิ่งสนิทแต่รู้สึกว่าตาจะหวานขึ้นนะ ส่วนพวกผมยังปกติดีครับเมาไม่ได้ต้องดูน้องด้วย

   “เดี๋ยวกูมา เข้าห้องน้ำก่อน” ผมผละออกจากโต๊ะไปทำธุระในห้องน้ำ

   เสร็จแล้วก็ออกมายืนล้างมือ เช็คสภาพตัวเองในกระจกเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมา แต่ก็โดนดักด้วยเสียงหวานอ้อแอ้ เอาไงดี ?

   “จะกลับกันแล้วหรอคะ ?”

   “หืม ?” ผมเลิกคิ้วใส่แม่สาวทรงโตหนองโพคัพดีที่เดินมาขวางทางเดินของผมเอาไว้

   “แจนนะคะ”

   “ครับ”

   “วันนี้พี่นิลมากลับเพื่อนหรอคะ?” ข้อมูลแน่นแฮะรู้จักผมด้วย มือผมถูกจับขึ้นไปวางบนสะโพกอวบๆนั่นแล้วจะให้ทำไงล่ะครับ ลูบสิ

   “อืม พาน้องมาเลี้ยงน่ะ”

   “ถ้าแจนขอเวลาสักเดี๋ยว จะรบกวนพี่นิลมากไหมคะ ?” ช้อนตามองยิ้มหวานยั่ว มือเล็กๆยกขึ้นมาลูบไล้แผงอกผม สะกิดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดๆ ถ้าเปลี่ยนจากคนตรงหน้าเป็นไอ้ตัวเล็กหน้ายู่คงจะดีไม่น้อย

   “หึ”

   “อ๊ะ...อืม” ผมไม่รอให้ต้องพูดมาก มาง่ายก็ไปง่ายผมดึงน้องคัพดีนี่เข้ามาชิดอก น้องก็รู้หน้าที่ดีเหลือเกินคว้าคอผมลงไปจูบหมับ ผมเองก็ปล่อยเลยตามเลย ยอมรับเลยว่ามีอารมณ์ปกติผมเป็นคนกินเยอะกินจุอยู่แล้วยิ่งพอมีแอลกอฮอล์เข้าปากมันเลยจุดติดง่ายกว่าปกติ

   หลังจากลากกันไปซอกด้านหลังห้องน้ำจัดการภารกิจแบบเร่งด่วนเสร็จสรรพผมก็เดินออกมา แล้วเหมือนผมจะเจอแจ็คพ๊อต หน้าใสๆเจ้าของตาโตๆกำลังมองด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป ถ้าเดาไม่ผิดคงรู้สินะว่าผมไปทำอะไรมาแล้วไม่แน่ว่าอาจจะเห็นด้วยตาเลยก็ได้ แล้วไม่นานหลักฐานก็เดินตามออกมาในสภาพที่ยับเยินนิดๆ

   “แจนกลับก่อนนะคะ” ขยิบตาส่งจูบแล้วเดินนวยนาดจากไป

   “พี่ปืนให้มาตาม บอกว่าจะกลับแล้ว” ห้วนสั้นก่อนจะหันหลังเดินหนี แต่ผมไม่ยอมหรอก ลากแขนน้องมันให้ลับเข้าไปที่ซอกเดิม

   “จะไม่ติดต่อหลังจากนี้” ผมอธิบายด้วยประโยคสุดโง่ แต่ตอนนั้นคิดออกเท่านี้จริงๆ

   “ตามใจ ยังไงพี่ก็ของสาธารณะ”

   “ไม่ใช่”

   “ถึงจะใช่ก็ไม่เกี่ยวกับผม ปล่อย..”

   “คุยกันก่อน” ผมดันร่างเล็กๆนั่นให้ชิดกำแพงก่อนจะคร่อมเอาไว้ มินมองหน้าผมหน้าตาตื่นเหมือนตกใจเพราะผมไม่เคยใกล้ชิดเขาแบบนี้

   “ไม่มีอะไรต้องคุย ปะ...อ๊ะ !”

   อืมครับ ไม่มีอะไรต้องคุย งั้นก็ไม่ต้องคุย ผมแนบปากลงบนริมฝีปากเล็กๆของอีกคนจะด้วยอารมณ์ไหนก็ตามแต่มันเป็นสัมผัสที่ตราตรึง และทำผมหลงไปในรสสัมผัส ถึงจะไม่ใช่เวลาที่ดีหรือโอกาสที่เหมาะสม แต่นั่นแหละ
จูบแรกของเรา...


        หลังจากนั้นไอ้ตัวเล็กก็หลบหน้าผมเหมือนไม่อยากเจอ ผมเลยต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเข้าหาอีกครั้ง จากที่เคยเข้าทางเพื่อนๆตอนนี้ก็เข้ามันตรงๆนี่แหละครับ ฉายเดี่ยวไปเลย แล้วก็นั่นแหละจากครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง วิธีการเข้าหาใหม่ของผมก็คือการตอดเล็กตอดน้อยไอ้ตัวเล็กไปเรื่อยๆ แรกๆน้องมันโวยวายจนเกือบจะวางมวยกันหลายรอบ ไม่สิบางทีผมก็โดนมาแล้ว แต่หลังๆมาไอ้ตัวเล็กก็เริ่มจะคุ้นเคยกับสัมผัสของผมซึ่งผมชอบนะ

         จนเวลาผ่านไป ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่คำเรียกกันอย่าง ‘พี่นิล’ หรือคำแทนตัวว่า ‘ผม’ มันหายไปเหลือแต่กูมึงภาษาพ่อขุนเท่านั้นที่เข้ามาทักทาย ไม่ค่อยซีเรียสหรอกนะแต่ก็ไม่ได้ชอบ เพราะความจริงผมคิดว่าผมรู้นะว่าน้องมันคิดอะไรอยู่ หึหึ

         ถึงผมจะอยู่ในฐานะที่เหมือนจะเป็นเจ้าของแต่มันก็แค่เหมือน เพราะรอบตัวมินยังคงมีคนเข้ามายุ่มย่ามตลอด ยิ่งผมไม่ได้เข้าหาเหมือนเดิมไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ ไอ้คนที่เล็งๆไว้ตอนแรกก็เริ่มแสดงตัวพยายามสรรหานู้นนี่นั่นมาให้ไอ้ตัวเล็กของผม ล่าสุดเห็นหอบลูกแมวตัวเล็กมาบอกจะให้เอาไปเลี้ยงเพราะมินมันชอบแมว ดีครับที่ไอ้ฟิวส์มาบอกผมก่อน ผมเลยจัดการให้มันเอาแมวนั่นกลับไปเลี้ยงเอง

         เพราะมินมันมีแมวของตัวเองอยู่แล้ว...^^

         เย็นวันนั้นเป็นวันที่มินจอดรถหลังคณะซึ่งจะต้องเดินผ่านตึกหลังไปก่อน ผมในร่างแมวดำตัวใหญ่ทำตัวคลุกฝุ่นดูน่าสงสารยืนเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นเพื่อรอจังหวะ อาจจะดูเหมือนบ้าบิ่นไปหน่อยแต่เอาจริงผมก็ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้ลงทุนทำเรื่องแบบนี้ คงต้องขอบคุณแผนเอาแมวมาล่อของไอ้คนก่อนหน้าที่มันทำให้ผมรู้ตัว...ว่าอยากมีเจ้าของ ^^

          ไม่นานร่างเล็กๆก็เดินมาพร้อมชีทเรียนและกระเป๋าสะพายใบเก่ง บางทีผมก็สงสัยนะครับ ว่าตัวเล็กแค่นั้นแต่ทำไมชอบหอบของอะไรเกินตัว หอบมาเหมือนเด็กไม่จัดตารางสอน

           เมี๊ยวววว

           ร้องเบาๆ แค่นั้น ไอ้ตัวเล็กก็หยุดชะงักหันรีหันขวาเหมือนไม่แน่ใจ ผมเลยร้องอีกครั้งและอีกครั้งจนเจ้าตัวเดินตามเสียงมาเรื่อยๆ และเจอผมที่นอนหมอบอยู่หน้าพุ่มไม้ ตากลมโตนั่นขยายจนมันโตมากกว่าเดิมด้วยความสงสัย ใบหน้าเล็กหันซ้ายหันขวาเหมือนมองหาบุคคลอื่นแถวนี้

          “มาทำอะไรแถวนี้ หืม ? เจ้าเหมียว” นั่งยองตรงหน้าผม ทำท่าเหมือนอยากจะจับแต่ก็ยังไม่กล้าจับ เหมือนตอนเป็นเด็กไม่มีผิด

         เมี๊ยววววว

        “หิวหรอ? กินนี่ไหม?” มือเล็กๆชูถุงลูกชิ้นปิ้งในมือให้ผมดู ก่อนหยิบมันออกมาให้ผม เอ่อ...ไม่ได้อยากกินเท่าไหร่แฮะ แต่ก็ต้องกินเอาใจคนให้

        “น่ารักจัง ^________^” รอยยิ้มสว่างจ้า ดาเมจรุนแรงมาอีกแล้ว

        ผมกินลูกชิ้นไปนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้าไปคลอเคลียไอ้ตัวเล็ก กลิ่นหอมอ่อนของเจ้าตัวทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแมวหื่นกาม หลังจากคลอเคลียไปได้ไม่นานผมก็ได้ขยับขึ้นมานั่งตัก อ่า...เห็นไหม เป็นแมวมันดีกว่าเห็นๆ หึหึ

        “ไม่มีปอกคอ ไม่มีเจ้าของ งั้นมาเป็นของมินนะ จะแวะมาเล่นด้วยทุกวันเลย ^^”

        เมี๊ยวววว

        มาเป็นของมินงั้นเหรอ...ชอบประโยคนี้จังแฮะ

       “ขนสีดำแบบนี้ชื่อ แบล็ค ละกันนะ ตกลงไหม?”

      เมี๊ยวววว

       นั่นเป็นที่มาของชื่อใหม่ของผม มินจะแวะมาหาผมทุกวันเช้าบ้างเย็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตอนเย็น ผมเลยต้องจัดเวลาตัวเองให้ดี เคลียธุระให้เรียบร้อยแล้วมารอเจ้าของในตอนเย็นทุกวัน ไอ้ตัวเล็กจะหาเรื่องอะไรมากมายมาเล่าให้ผมฟังทั้งๆที่เจ้าตัวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมฟังรู้เรื่องหรือเปล่า แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของผมในร่างคนที่ไอ้ตัวเล็กจะเอามาเล่าแล้วก็บ่นๆๆ น่าตลกไหมล่ะครับบ่นผมในร่างคนให้ผมในร่างแมวฟัง แต่ผมก็ชอบฟังนะ จะได้เอาไปปรับกลยุทธ์ในตอนเป็นคน หึหึ

        เวลาผ่านไปเกือบสองเดือนผมก็ได้เลื่อนขั้นจากแมวหลังคณะมาเป็นแมวในคอนโด แล้วผมก็เริ่มรับรู้ความลำบากที่แท้จริง ผมลงทุนซื้อห้องใหม่ใกล้ๆกับห้องมินแล้วย้ายของเข้ามาอยู่ทันทีเพื่อความสะดวก ผมต้องเร่งเวลาของตัวเองให้เร็วกว่าเดิม ต้องกลับห้องก่อนเจ้าของจะกลับมาซึ่งมันหนักหนาเอาการ แต่ก็มีความสุขดีครับ

       แม้จะมีเรื่องทรมานนิดหน่อย...

       การห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรเกินขอบเขตกับคนที่สนใจนี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ แม้ผมจะทำการฝึกความอดทนของตัวเองโดยการเข้าไปอาบน้ำกับเจ้าของก็เถอะ ครั้งที่เห็นเรือนร่างขาวโพลน เนื้อแท้ใต้ร่มผ้านั้นขาวใส เรียบเนียนดูน่าสัมผัสกว่าที่คิดเอาไว้มาก นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องแอบรังแกเจ้าของตอนนอนหลับบ่อยๆ แรกๆเจ้าตัวก็งงๆ คิดว่าตัวเองโดนแมลงกัดบ้างแพ้อาหารบ้าง เห็นไหมครับ ผมบอกแล้วน้องมันใส

        จนวันนึงผมค้นพบความลับของเจ้าของห้องที่ผมมาอยู่ด้วย...

        วันนั้นผมมาส่งมินได้หอหลังจากที่บังเอิญเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า และแลกจูบกันในรถ ผมก็รีบกลับขึ้นห้องทางบันได้หนีไฟ เกือบไปแล้วเหมือนกันครับ ดีที่วันนั้นมินเองไม่ได้สนใจอะไรผมนัก เพราะทันทีที่เข้าห้องเจ้าตัวก็พุ่งเข้าห้องนอนตัวเองทันที ผมเดินตามเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ และมันเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์ !!!

        “อ๊ะ...อ๊าส์...”

        ร่างเล็กขาวโพลนนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงนอน สองขาคุกเข่ายันพื้นเตียงเอาไว้ทำให้สะโพกเล็กโก่งโค้งขึ้นจนเห็นช่องทางเด่นชัด และที่มากไปกว่านั้นคือสองนิ้วเล็กๆที่สอดรับอยู่ในช่องทางสีสด ขยับเข้าออกอย่าเร่งเร้าจนผมนึกอยากจะแทนที่ด้วยอะไรที่ใหญ่กว่า

         สี่เท้าของผมขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆโดยที่มินเองคงไม่ทันรู้ตัว ผมเผลอจ้องการกระทำที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าร่างเล็กจะมีมุมนี้อย่างรุ่มร้อน ความผิดชอบชั่วดีละลายหายไปหมด ผมบรรจงแตะลิ้นลงบนช่องทางสีสดที่มีนิ้วเล็กสอดเข้าออก

        “อ๊ะ...” กายเล็กชะงักไปก่อนจะหันกลับมามองที่ผม แต่ผมไม่หยุดไล้เลียอย่างหื่นกระหายทั้งจนทั้งร่องเปียกชื้นลามไปจนถึงนิ้วเล็กที่สอดส่ายเร็วขึ้น ผมคิดว่าเพราะความสากของลิ้นแมวทำให้ความเสียดเสียวเพิ่มมากขึ้น ไม่นานก็ปลดปล่อยออกมา
       
       ก่อนจะหลับเพราะความอ่อนเพลีย...

       ผมรอจนกระทั่งมั่นใจว่าไอ้ตัวเล็กหลับไปแล้ว ก่อนจะกลับมาอยู่ในร่างคนอีกครั้ง ปกติผมจะเอาอารมณ์ตัวเองไปลงที่อื่น แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้วเพราะคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่นี้ทำให้ผมไม่อยากทนแล้ว
     
        ผมจัดการขึ้นคร่อมร่างเล็กก่อนจะประทับจูบอย่างร้อนแรงรุกเร้าจนอีกคนเผลอตอบกลับมาแม้จะไม่ได้สติก็ตาม สองมือผมลูบไล้ไปทั่วร่างเนียนอย่างย่ามใจ บีบขย้ำ ลูบไล้ไปทั่วทั้งตัวก่อนจะหยุดอยู่ที่จุกนมเม็ดเล็กทั้งสองข้าง บดคลึงจนติ่งเนื้อเล็กแข็งเป็นไตรับสัมผัส

        “อื้อ...” เสียงครางเล็กๆอย่างพอใจเล็ดรอดออกมาเมื่อผมผละริมฝีปากออกก่อนจะแตะลิ้นลงบนจุกนมข้างหนึ่ง ตวัดเลียอย่างหื่นกระหาย แต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่พอ มากกว่านี้ ผมอยากได้มากกว่านี้...

        “อ๊ะ...” ผมพลิกตัวคนใต้ร่างให้นอนคว่ำจัดการให้อยู่ในท่าเดิมก่อนหน้านี้ ก้นขาวกลมกลึงปรากฏเด่นท้าทายสายตาจนผมอดที่จะขย้ำแรงๆไม่ได้ มันเด้งสู่มือผมดีชะมัด ผมให้มือข้างหนึ่งเตรียมความพร้อมให้ร่างกายตัวเอง ตาจ้องมองช่องทางลับที่กำลังขมิบถี่จนอยากจะกระแทกกายให้จมมิด

       “อ่า....ส์” ผมจับขาเรียวชิดกันก่อนจะแทรกแกนกายผ่านเข้าไป ถึงต้องกัดฟันแต่ผมก็อยากให้ครั้งแรกของเราที่มีสติรับรู้ทั้งคู่ ซอกขานุ่มๆทำหน้าที่ได้ดีเกินคาดจนผมเผลอใส่แรงกระแทกกระทั้นจนเจ้าของร่างสั่นคลอนไปหมด ไม่นานไอ้ตัวเล็กของผมก็ชิงปลดปล่อยอีกครั้งก่อนที่ผมจะตามไปติดๆ ผมล้มตัวลงนอนรั้งร่างเล็กนั่นให้เข้ามาซุกอกก่อนจะหลับไป
การรังแกตัวเองที่แสนเร่าร้อนนี้ จะมีแค่ผมที่ได้เห็น...

        ชีวิตผมกลับมาปกติสุขอีกครั้งหลังจากผ่านเรื่องหวาดเสียวครั้งนั้นมา และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้ผมตระหนักได้ว่าผมต้องการมินมากแค่ไหน และควรจะทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที อย่างแรกคงต้องเลิกกับคู่ควงชั่วคราวทั้งหมดก่อน แล้วเอามาลงที่ไอ้ตัวเล็กคนเดียว ( แบบไม่ให้รู้ตัวอ่ะนะ )ก็คงต้องรับศึกหนักกันหน่อย ส่วนอย่างอื่นก็ค่อยๆปรับการเข้าหาใหม่อีกครั้ง ไม่นานทุกอย่างคงลงตัว

        คิดเรื่องราววางแผนไว้ดิบดี แต่ผมก็ทำพลาดอีกครั้ง...

        เมื่อตอนต้นเดือนผมได้รับการติดต่อจากที่บ้านแล้วพบว่า ‘จัสมิน’ น้องชายของผมหนีออกจากบ้านไป ตอนแรกผมไม่ได้สนใจมากเพราะคิดว่าคงออกไปเที่ยวเล่น ไม่นานก็กลับเหมือนที่ผมเคยทำ แต่มันไม่ใช่ ! เพราะเมื่อวันที่มินพาผมไปสวนสาธารณะผมเจอจัสมินไปอาศัยอยู่กับมนุษย์ ! นั่นทำให้ผมอดโทษตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่เรียนที่เดียวกันถึงแม้จะคนละคณะแต่ผมก็สามารถหาทางติดต่อน้องได้ง่ายกว่าที่บ้าน แต่ผมกลับปล่อยปละละเลยน้อง

        สาเหตุที่ทั้งบ้านเป็นห่วงจัสมิน เพราะน้องชายผมไม่เหมือนแวร์แคทคนอื่นๆ ถึงแม้จะอยู่ครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว แต่จัสมินยังไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ดี เวลามีเรื่องตกใจหรือเกิดเหตุการณ์ที่มีผลต่อจิตใจ จัสมินจะกลายเป็นแมวและการเก็บหางและหูของตัวเองในร่างมนุษย์ก็ยังไม่ดีนัก ทำให้ถูกกักตัวไว้แต่ในบ้านเรียนหนังสือจนจบเทียบเท่ามัธยมปลายโดยการที่จ้างครูมาสอนพิเศษ และเพิ่งได้ออกมาเรียนมหาวิทยาลัยโดยใช้เส้นสายนิดหน่อย แต่ก็นับว่ายังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยหากมนุษย์รู้เข้าว่ามีพวกเราปะปนอยู่

         ช่วงหลายวันมานี้ผมใช้เวลาในการตามหาจัสมินที่เหมือนจะพยายามหลบหน้าผม ไม่ว่าจะไปหาที่คณะ หรือโทรศัพท์ไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ในที่สุดความพยายามของผมก็ประสบผลสำเร็จ วันนี้จัสมินมาเรียนน้องตกใจมากที่เจอผม เรายื้อยุดกันอยู่นานจนมาถึงบริเวณตึกหลัง

         “มึง...!”

         เสียงเรียกจากคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดในเวลานี้ดังเรียกผม ทำให้ผมเผลอปล่อยให้จัสมินหนีไปได้ เราเถียงกันเล็กน้อย ก่อนที่ร่างกายผมจะรู้สึกแปลกๆ ผมก้มหน้ามองนาฬิกา นึกทบทวนวันที่ในใจ บ้าชิบ !!

         วันนี้พระจันทร์เต็มดวง...!!

         ผมพยายามเดินหนีมินและบอกให้เขากลับไปก่อน แต่ไอ้ตัวเล็กของผมดื้อดึงกว่าที่คิดถึงจะดีใจที่ได้รับความเป็นห่วงเป็นใย แต่มันต้องไม่ใช่เวลานี้ เวลาที่ผมจะไม่สามารถควบคุมการกลายร่างของตัวเองได้

         ความลับของพวกเราแวร์แคทอีกอย่างคือ...พวกเราทุกคนจะกลับเข้าสู่ร่างแมวในคืนพระจันทร์เต็มดวงทันทีที่พระอาทิตย์ตกดินและจะสามารถกลับมาควบคุมตัวเองได้อีกครั้งในยามที่แสงแรกของวันโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา...

   ผมยังไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับมิน และยังไม่มีความคิดที่จะบอกมินถึงในสิ่งที่ผมเป็น เพราะผมไม่กล้าแม้แต่จะคาดเดาผลตอบรับที่ได้กลับมา มันเป็นเรื่องเดียวที่ผมกลัว และก็ถือเป็นข้ออ้างที่ทำให้ผมใช้ชีวิตเสเพลเมื่อก่อนเพราะผมยังไม่สามารถจริงจังกับใครได้ ยังไม่กล้าบอกเรื่องเหล่านี้กับใคร...

        ผมใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด แต่วันนี้ผมพลาด...

[[ : The end Nin part : ]]

TBC+++++++++++++++

TALK...
จบพาทพี่นิลเเล้วจ้า ฮูเล่ ~~  :mc4: :mc4: ต่อไปก็จะกลับมาไปเจอกับน้องมัน เเละอาจจะกลับมาเจอกับพี่นิลอีกครั้งในตอนพิเศษ อิ้อิ้  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 8 07/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-03-2016 20:01:06
 :z1:   แบล็คร้ายมาก
จริงๆน่าจะบอกกับน้องมะลิให้เข้าใจไปเลยนะไม่งั้นความลับแตกแน่นอน
พี่ซันต้องเจอมะลิร่างคนมาแล้วแน่นอน
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 8 07/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 07-03-2016 20:42:23
โอยยยย รอตอนต่อไปไม่ไหวววแล้ววว จิอยากตายยย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 8 07/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 07-03-2016 23:05:05
อยากร้องเพลงนี้ "ลงเร็วหน่อยได้ไหม... อย่าปล่อยให้ฉันต้องคอยกัน... เธอก็รู้ว่าพวกเราอ่านนิยายเธอหมดแล้ว ตอนนี้... อยากได้ยินคำว่าเสร็จแล้ว.... เรื่องนี้คนเขียนเองก็คงรู้ดี... วันนี้ฉันจะรอนิยายของเธอ...... ของเธออออออ~"
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 09-03-2016 17:47:27
ตอนที่ 9


          “อื้อ~~”
 
          สัมผัสยุกยิกที่รบกวนเวลานอนของผมทำให้ผมครางอืออย่างขัดใจ พยายามขยับตัวหนีจากสัมผัสนั้นเพื่อที่จะนอนต่ออย่างสงบ หลังจากปั่นงานเสร็จนี่เป็นวันหยุดของผมนะ ผมต้องได้นอนอย่างสบายๆสิ

           “แบล็ค อย่ากวนมินนะ” ผมครางบอกก่อนจะจับมือที่กำลังเลื้อยเข้ามาในเสื้อผม เอ๊ะ เดี๋ยวนะ !

            มือ !! นี่มัน มือคน !!

           “เฮ้ย !!!” ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนมองมือใหญ่ๆทั้งสองข้างที่ผมยังจับเอาไว้อยู่ นี่มันไม่ใช่ความฝันเหมือนทุกครั้งที่รู้สึกที่พอตื่นมามันก็จะหายไป

          “ตื่นสายนะ” เสียงทุ้มๆที่ดังมาจากข้างๆทำให้ผมชะงักค้างขนลุกซู่ ก่อนจะหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว

          “มึง !! ไอ้พี่นิล มึงมานอนอยู่นี่ได้ไง ?!!”

          “เอ๋อเหรอเรา ? ถ้ายังไม่ตื่นดีก็มานอนต่อ”

         พรึ่บ !

         ไม่พูดเปล่าพี่มันตวัดร่างผมให้กลับลงมานอนที่เตียงอีกครั้ง  ในท่านอนตะแคงทำให้หลังผมชนเข้ากับอกอุ่นๆของพี่มันที่นอนแบบไม่ใส่เสื้อ ขาหนักๆยกพาดบนตัวผม ในขยะที่มือเริ่มไล้กลับเข้ามาในเสื้อยืดใส่นอนของผม

         เดี๋ยวนะ เหมือนมันมีอะไรแปลกๆอยู่ ย้อนกลับไปเมื่อวานที่ผมแอบตามไปเสือกเรื่องของพี่มันแล้วหลังจากนั้นผมก็เจอกับเรื่องเหนือธรรมชาติชวนประหลาดใจ ใช่ !! แบล็ค !! ผมเจอแบล็ค ไม่สิต้องบอกว่าผมเจอพี่มันกลายเป็นแบล็คไอ้แมวยักษ์ของผม

         “แบล็ค!” ผมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง คราวนี้ลงจากเตียงมองสำรวจไปทั่วห้อง ต้องมีแบล็คสิ ความจริงเมื่อคืนผมอาจจะเข้าใจอะไรผิด ผมอาจจะทำงานจนเหนื่อยจนทำให้มองอะไรพลาดไป จำได้ว่าเมื่อวานผมพาแบล็คกลับมาที่ห้องด้วยถึงจะยังงงๆ แต่ผมก็พามันกลับมาด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้มันต้องอยู่ที่ห้องสิ

          ผมเดินไล่หาไปทั่วห้องนอน อยากจะมุดใต้เตียงไปหาแต่ลืมไปว่าเตียงผมเป็นแบบทึบไม่มีใต้เตียง เลยเปลี่ยนออกไปหานอกห้อง เดินไปทั่วทั้งโซนครัว ห้องนั่งเล่น แม้แต่ห้องเก็บของก็ไม่มี

          “แบล็คอยู่ไหน ? เมี๊ยวๆ”

          “ฝันค้างเหรอ ?”

          “จ๊ากกกกกก !!”

          ผมตกใจตะโกน สองขาพาร่างตัวเองถอยกรูดไปยืนอยู่หน้าประตูห้อง เมื่อหันกลับมาเจอไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียงกับผมกำลังนั่งถือรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีอยู่บนโซฟา และผมคงจะไม่ตกใจขนาดนี้ถ้าร่างใหญ่ๆที่สวมเพียงกางเกงนอนขายาวสีเทานั้นไม่มีพร๊อพเสริมเป็นหูแมวสีดำและหางแมวสีเดียวกับหู นะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น !!

          “ก็กลัวไม่เชื่อ ขี้เกียจอธิบายยืดยาว” เสียงทุ้มพูดสบายๆ ผมหันซ้ายหันขวา ไม่ไหวๆแบบนี้ผมตั้งรับไม่ทันหรอก ผมพยายามเดินตัวลีบกะจะเข้าห้องนอนตัวเองที่ต้องเดินผ่านโซฟานั้นก่อนเพื่อไปสงบจิตสงบใจแต่ไม่ทันไอ้คนตัวใหญ่ที่ใช้หางสีดำตวัดรัดเอวผมให้เข้ามาใกล้

          “อ๊ะ !” ผมหลับตาปี๋เมื่อรู้สึกว่าร่างตัวเองถูกยกให้ขึ้นมานั่งบนตักแกร่งแบบหันหน้าเข้า สองมือใหญ่ที่โอบช่วงเอวของผมให้เข้ามาใกล้กว่าเดิมทำให้ช่องว่างระหว่างกันนั่นลดเหลือเพียงไม่กี่นิ้วไม้บรรทัดเท่านั้น

           “อย่าเข้าใจยากสิ” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมหู ไม่พูดอย่างเดียวพี่มันจะใช้ริมฝีปากขบติ่งหูผมเล่นเบาๆจนผมนั่งตัวแข็งทื่อ

          “ถ้าไม่ลืมตาจะจูบแล้วนะ”

          “อ๊ะ” สัมผัสเปียกชื้นที่ไล้เลียริมฝีปากทำให้ผมลืมตาโดยอัตโนมัติแล้วก็เจอหน้าพี่มันที่อยู่ชิดกัน ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม

          “อื้อออ” ผมหลับตาลงอีกครั้งเพื่อรับสัมผัสอุ่นร้อนที่แนบลงมาที่ริมฝีปากผม มันอ่อนโยนนุ่มละมุนเหมือนกำลังปลอบให้ผมสงบลง ผมเปิดปากรับลิ้นร้อนที่ไล้เลียอยู่ภายนอกอย่างขออนุญาตมันต่างจากทุกครั้งที่เราจูบกัน ผมโต้ตอบคนที่ชำนาญกว่าโดยการพลิกลิ้นสู้เท่าที่จะทำได้ แต่เหมือนผมจะทำอะไรพลาดเพราะมือใหญ่ที่ประคองเอวผมเปลี่ยนเป็นบีบแน่น แล้วย้ายลงไปที่สะโพกบีบคลึงเน้นๆจนผมสะดุ้ง

          “ยะ...อย่า อ๊ะ ~~~” ลิ้นร้อนที่เพิ่งผละออกจากปากผมเปลี่ยนจุดมุ่งหมายมาอยู่ที่จุกนมทั้งสองข้าง ดูดดุนสลับกันอย่างเร้าร้อนจนผมแอ่นอกรับโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกสับสนก่อนหน้าถูกเปลี่ยนเป็นความเร้าร้อนอย่างรวดเร็วจนผมแทบทนไม่ไหว

          “จะทำอะไร?” ผมปล่อยมือที่โอบรอบคอแกร่งเอาไว้ แล้วเปลี่ยนมาหยุดมือข้างที่กำลังรั้งกางเกงนอนขาสั้นของผมลง
ไอ้แมวเถื่อนไม่ตอบผมนอกจากยกยิ้มมุมปากให้ ผมจึงก้มไปดูหมายจะปัดมือนั้นออกเพราะว่ามันเริ่มเลยเถิด แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจรีบเงยหน้าขึ้นมาแล้วซุกลงบนบ่าของอีกคนทันที ก็พี่มันเล่นควักลูกแมวของตัวเองให้ออกมาชี้หน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แล้วยังมีของผมอีก พอเทียบกันขนาดของผมกลายเป็นลูกหนูไปเลย

           “หึหึ”

           ฟอดดดด ~~

           “อ๊า..ส์ ~~~” ผมกัดปากแน่นพยายามไม่ส่งเสียงเมื่อพี่มันรวบทั้งลูกหนูลูกแมวเข้าด้วยกันแล้วเริ่มรูดรั้งเป็นจังหวะจนผมกระดกก้นรับอย่างไม่ตั้งใจ มันรู้สึกดีต่างจากที่ผมเคยทำให้ตัวเองไปอีกแบบ

           “อ๊ะ ตรงนั้นไม่นะ”

           “ชู่ว”

            อึก !

           พี่มันไม่ฟังคำร้องห้ามของผมยังคงใช้นิ้วใหญ่นวดคลึงไปตามจีบเล็กที่ปิดสนิท บดคลึงอยู่แบบนั้นจนผมเริ่มนั่งไม่ติด ก่อนจะค่อยๆสอดลึกเข้ามาถึงจะเป็นแค่นิ้วและแค่นิ้วเดียวแต่มันก็ทำให้ผมเสียดจนเกือบจุกได้ ถึงผมจะเคยทำให้ตัวเองแต่ไม่เคยให้ใครมาทำให้หรอกนะ แล้ว...แล้วแบบนี้มันก็ทรมานเกินไป อ๊า ~~~

           “ชอบแบบนี้เหรอหนู หืม?”

          “มะ...อ๊ะๆ” ผมเริ่มเสียการควบคุมเมื่อถูกกระทำทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง ไหนจะเสียงทุ้มๆที่คอยกระซิบอยู่ข้างหูนั่นอีก นิ้วที่เพิ่มเป็นสองนิ้วขยับเข้าออกรัวเร็วสอดประสานกับจังหวะการขยับจากด้านหน้าทำให้ผมเผลอลงแรงจิกไปบนกล้ามแขนอย่างทนไม่ไหว

           “ชอบสินะ ถ้าไม่ชอบคงไม่ตอดดีแบบนี้ อืมมมม”

           “ยะ...หยุดพูดนะ”

           “ปิดปากสิ อื้มมม” ผมเงยหน้าจากไหล่ที่ซบอยู่แล้วประกบริมฝีปากหนาเพื่อปิดปากอย่างที่เจ้าตัวบอกทันที ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ผมใกล้จะไปเต็มทีแล้ว และเหมือนอีกคนจะรับรู้ได้ถึงได้เร่งจังหวะมากขึ้นจนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว
 
           “อ๊ะ อ๊า...ส์ ~~~~”

           “อืมมมม”

           ผมหมดแรงทิ้งตัวลงบนร่างหนาๆของไอ้พี่นิลแมวเถื่อนซึ่งพี่มันก็รู้หน้าที่ดีรับตัวผมเอาไว้พร้อมกับลูบหลังไปมาเหมือนปลอบ ยอมรับเลยว่าแม้แรกเริ่มจะตกใจเพราะไม่เคยทำอะไรเกินเลยมาถึงขั้นนี้แต่ส่วนลึกก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกดี ถึงตอนนี้จะแทบหมดแรงก็เถอะ

           “ทีนี้ก็ตั้งใจฟัง...” เสียงพี่มันกระซิบชิดริมหูผมอีกแล้ว ท่าทางจะชอบนะแต่ตอนนี้ผมไม่มีแรงว่าอะไรแล้ว พี่มันจะทำอะไรก็ปล่อย

           หลังจากที่ผมเงียบ พี่มันก็เริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง พี่มันบอกว่าตระกูลพี่มันเป็นแวร์แคท หรือพวกแมวแปลงร่าง จังหวะนี้ผมอยากจะลุกขึ้นมาท้วงถามอะไรหน่อยแต่ติดที่มือและหางพี่มันทั้งรัดทั้งกดเอาไว้ ผมเลยได้แต่นิ่งฟังต่อพอเริ่มตั้งใจฟังมือผมก็อดที่จะจับหางสีดำๆของพี่มันที่เห็นแกว่งไปมาอยู่ด้านหลังไม่ได้แต่ยังไม่ทันได้จับพี่มันก็ขู่เตือน เชิงว่าถ้าไม่อยากต่อจากเมื่อกี้ก็อย่าจับก่อนจะเล่าต่อ ผมเลยได้แต่มองมันแกว่งไปมาเผลอคิดไปว่าถ้าเอากระดิ่งมาผูกคงจะน่ารักพิลึก

          “กลัวไหม?” พี่มันถามลังจากเล่าจบ ผมเลยผละออกมามองคนหน้าให้เต็มตาอีกครั้ง หูแมวสีดำขนาดใหญ่ดูจะตกไปเล็กน้อยเหมือนกำลังกังวลกับคำตอบผม นั่นทำให้ผมอมยิ้มถึงจริงๆจะอยากยิ้มมากๆก็เถอะ รู้จักกันมาตั้งนานทำไมเพิ่งมองเห็นว่าพี่มันก็มีมุมน่ารักวะ ฮ่าๆ

           “อะไร?” ไอ้พี่เถื่อนตีหน้าเข้มมองผมที่ยื่นมือเข้าไปจับหูสีดำบนหัวทั้งสองข้าง พอเห็นพี่มันทำหน้าเหมือนแมวกำลังจะถูกทิ้งก็อดจะแกล้งไม่ได้ไอ้พี่เถื่อนที่ผมรู้จักมันไม่เคยแสดงท่าทีแบบนี้ให้เห็นหรอก ตลอดมาคงจะใช้ชีวิตลำบากสินะที่ต้องคอยปิดบังคนอื่นๆ ถึงผมจะยังไม่ชินและคงบอกไม่ได้เต็มปากว่ารับได้หรือไม่กลัว แต่ผมก็ไม่อยากแสดงให้พี่มันเห็นว่าผมกลัวหรืออะไรหรอกนะ

           อ่า...อย่ามองด้วยแววตาจับผิดแบบนั้น ยอมรับก็ได้ว่าเป็นห่วงมันนิดเดียว แค่นิดเดียวนะ!

           “นุ่มนิ่มใช้ได้ ถึงจะใหญ่กว่าของแบล็คก็เถอะ” ผมลูบหูแมวที่ใหญ่กว่าของแบล็คมาก แล้วมันก็น่าขย้ำมากๆด้วยแถมยังกระดิกดิ๊กๆเหมือนของแมวทั่วไป ฮ่าๆ  ชอบว่ะ

           “ใหญ่กว่าหมดนั่นแหละ อยากลองไหม?” พี่มันยิ้มกรุ่มกริม จนผมต้องปล่อยมือจากหูก้มหน้าหลบ แล้วก็แทบช็อคเมื่อเห็นหลักฐานที่ยืนยันคำพูดเจ้าตัว นี่ผมลืมไปได้ยังไงว่าเราอยู่ในท่าล่อแหลมแค่ไหน แล้วเพิ่งผ่านกิจกรรมอะไรด้วยกันมา อ๊ากกกก

           “หึหึ”



           “จ้องหาแมวหรือไง !” ผมถามไอ้พวกเพื่อนตัวดีทั้งสามคนที่นั่งจ้องหน้าผมมาสักพักแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาพักครับรอเรียนอีกทีช่วงบ่าย พวกผมเลยมานั่งที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะที่ประจำ แล้วก็ไม่รู้อีพวกนี้เป็นบ้าอะไรนั่งจ้องหน้าผมอยู่นั่นแหละ

           “ไม่หาแมว แต่หาผัวเพื่อน” อีผึ้ง

           “ถามจริง มึงกับพี่นิลไปญาติดีกันตอนไหนวะ ?” ไอ้ฟิวส์ถาม ก็คิดไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องถามเพราะตั้งแต่วันนั้นที่ผมเจอความลับของพี่มัน จนวันนี้เหมือนอะไรๆจะไม่เหมือนเดิม อย่างเช่นพี่มันจะทำหน้าที่สารถีขับรถรับส่งผม ( ผมเพิ่งรู้อีกอย่างว่าพี่มันอยู่คอนโดที่เดียวกันกับผม ) เวลาพักกลางวันกินข้าวก็จะมานั่งกินกับผมแถมเพื่อนพี่มันห้อยท้ายมาด้วย พฤติกรรมเหมือนคนเป็นแฟนกันปกติ หยอดบ้างตอดบ้าง แถมยังมาสิงห้องผมอย่างกับเป็นห้องตัวเอง แต่ประเด็นคือ ผมกับไอ้พี่บ้านั่นยังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่สิ !!!

            “หรือพวกมึงแอบไปแซ่บกันมาแล้ว” อีออยพูดซะผมเผลอสะดุ้ง

           “เหอะ อย่างพี่มันไม่มีทางได้เห็นขาอ่อนกูหรอก”

           “เหรอ ~~ กูเห็นเช้าถึงเย็นถึงหวานกันซะกูนึกว่าพวกผัวเมียข้าวใหม่ปลามัน”

            “ผัวเมียบ้านมึงสิ”

            “เล่นตัวมากๆ พี่มันหันไปหารูอื่นกูจะหัวเราะให้” เหี้ย ! ใช้ศัพท์ได้เหี้ยมาก

            “ฮ่าๆ ถูกใจกูว่ะ” ไอ้ฟิวส์กับอีผึ้งหัวเราะตบไม้ตบมือกันใหญ่แต่ผมนี่หน้ายุ่งไปแล้ว

            “สัส !”

            “ว่าเพื่อนทำไม?”

             “อ๊ะ” ผมสะดุ้งตกใจเพราะเสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นข้างหูที่มาพร้อมกับวงแบนที่รัดเอาคอผมเอนไปด้านหลังจนชนอกเจ้าของเสียง เลยกลายเป็นว่าตอนนี้แก้มผมกับพี่มันแทบจะแนบกันอยู่แล้ว อีพวกเพื่อนตัวดีเลยส่งสายตาล้อเลียนมาให้ทำไมพวกมันไม่บอกผมว่าไอ้พี่นิลมา

            “หวัดดีพี่/หวัดดีค่ะพี่นิล” พวกเพื่อนๆผมเอ่ยทักทายคนมาใหม่

             "มาทำไม” ผมถามเสียงห้วน พยายามดันตัวออกจากพี่มัน คนอื่นน่ะไม่อายเท่าไหร่เพราะไม่รู้จักแต่พวกเพื่อนปากหมาของผมนี่สิ เดี๋ยวได้แซวกันไปอีกสิบวัน

            “เลิกเรียนแล้ว” พี่มันเคลื่อนตัวมานั่งลงที่ว่างข้างๆผม

            “เฝ้าขนาดนี้กลัวเมีย เอ้ย มินมันหายหรอพี่” ไอ้ฟิวส์ ไอ้ปากมอม

            “ไม่หายหรอก กรงจะเสร็จแล้ว หึหึ” พี่มันตอบยิ้มๆ แต่ผมนี่งงเต๊ก มันพูดถึงอะไร ?

             “ฮ่าๆ โคตรเจ๋งเลยพี่”

             “แล้วนี่ไม่เรียนกันหรอ จะบ่ายแล้วนะ”

             “เออใช่พี่ งั้นพวกผมไปก่อนนะ เอาไงมึงจะไปเรียนไหมหรือจะกลับไปกก ผะ...เหี้ย !” ผมยัดถุงขนมที่กินหมดแล้วเข้าปากอีกออยก่อนที่มันจะพูดจบประโยค

             “เรียนเสร็จรีบลงมา จะรอตรงนี้”

             “รอทำไม เสร็จก่อนก็ไม่กลับห้องไปก่อนล่ะ?”

             “อย่าเรื่องมาก”

             “เรื่องมากบ้านมึงสิ” ผมเริ่มชักสีหน้าใส่ ไอ้ห่านี่คนพูดด้วยดีๆ

             “รีบไปเรียน”

             “เออ !! เรื่องของมึงอยากรอก็รอไป รอจนรากงอกตายไปเลย” ผมสะบัดหน้าหนีพรืด ไอ้เราก็ไม่อยากให้รอเห็นว่าเพิ่งเรียนเสร็จแล้วผมยังเหลือเลยอยากให้กลับไปนอนก่อน ไอ้บ้านี่มาว่าผมเรื่องมากซะงั้น มันน่าไหมล่ะ ?!


             หลังเลิกเรียน ผมก็แยกย้ายกับเพื่อนตามปกติเพราะว่าพวกมันนัดไปดูหนังกัน ใจจริงผมก็แอบอยากไปนะถ้าไม่มีแมวบางตัวมาบอกว่าจะรอผมอ่ะ  ผมอมยิ้มกับเองนึกแล้วก็ขำอยากจะแกล้งให้รอนานๆเหมือนกัน แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า

             “มีความสุขจังนะ” น้ำเสียงเหยียดๆที่ดังขึ้นทำให้ผมชะงักเท้าก่อนจะหันหน้าไปมอง คนที่เหมือนจะทักทายผมเมื่อครู่

             “มีอะไร?” ผมยืนมองคนตรงหน้านิ่ง เป็นหนุ่มหน้าสวยประจำคณะรุ่นเดียวกันกับผมเคยเห็นหน้ากันบ้างแต่ไม่เคยคุยกันเพราะเรียนกันคนละสาขา รู้สึกว่าจะชื่อ’เค้ก’ นะ และผมค่อนข้างมั่นใจว่าเราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แล้วไอ้คำพูดที่เหมือนเหน็บแนมผมนี่มันคืออะไร ?

             “หึ ไม่มีอะไร แค่แวะมาดูสภาพเด็กใหม่พี่นิล เห็นคั่วนานเลยอยากเห็นหน้า”

              “...” ผมถึงกับพูดไม่ออกไปเลยครับ นี่มันละครหลังข่าวของช่องหลากสีหรือไง ถึงได้มีคนจำพวกนี้ออกมาเดินเพ่นพ่าน

              “ก็ถือว่าใช้ได้นะ แต่ใสๆแบบนี้คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน เอ๊ะ ! ไม่สิ”

              “อะไร?”

              “หรือว่ายังไม่โดน...” น้ำเสียงที่ฟังดูเหยียดมากกว่าเดิมทำให้ผมกำมือแน่น ยอมรับครับว่าผมกับไอ้พี่นิลมันเรายังไม่เคยมีอะไรกันถึงขั้นนั้น ถึงแม้ว่าจะเคยช่วยกันในเรื่องทำนองนี้บ่อยๆแต่มันก็แค่ภายนอก

              “คงยังจริงๆสินะ..มิน่าล่ะพี่นิลถึงยังเล่นด้วย...”

              “....”

               “งั้นก็รักษาดีๆล่ะ อย่าไปยอมง่ายๆเพราะถ้ายอมปุ๊บนายก็จะถูกเขี่ยทิ้งปั๊บ กลายเป็นขยะเน่าๆทันทีเลยล่ะ”

               “เคยโดนมาก่อนสินะเลยพูดได้ แต่เสียใจด้วยนะเพราะเรามันคนละคนกัน...แต่ก็ขอบใจที่เตือน” ผมยิ้มเยาะเชิดหน้าตอบอย่างไม่ยอมแพ้

              “หึ ปากดีไปเถอะ” เค้กทำหน้าเหวอเล็กน้อยที่โดนผมตอกกลับก่อนจะปรับสีหน้ามาเป็นเหมือนเดิม

              “ถ้ามีธุระแค่นี้ ก็ลาล่ะ”

              พูดจบผมก็เดินออกมาไม่ได้เหลียวหลังกลับไปมองอีกว่าอีกคนจะแสดงท่าทางอะไรหรือจะพูดอะไรต่อไป ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าผมกำลังโกรธ ไอ้ที่ปั้นหน้าเหนือตอบโต้ไปเมื่อกี้นะมันไม่ง่ายเลยสักนิด ตอนนี้ผมกำลังโมโห โมโหมากๆ คำพูดพวกนั้นยังดังก้องไปมาในหัวผม ยังไม่โดนหรอ? ขยะเน่าๆหรอ? เหอะ !!
 

TBC++++++++++++++++++++++++++++++++
TALK...
มาเเล้วจ้า เรื่อยๆมาเรียงๆ รู้สึกเริ่มจะมีมากตอนเกินไปละ ควรตัดจบซะที เเง่มมมม  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 09-03-2016 21:30:39
พี่นิลน่ารักอ่ะ ฟรุ้งฟริ้ง มินหากระดิ่งมาห้อยที่หางสิ โอ้ยยย น่ารักด
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 09-03-2016 23:47:18
รอตอนต่อไปจ้า  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 11-03-2016 08:01:51
แล้วนี่น้องยังนอนกับพี่นิลอยู่หรือเปล่าน่ะ? 55555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-03-2016 08:39:57
ตอกหน้ายัยเค้กอีก ยังไม่สะใจ อย่าเพิ่งรีบจบสิคะ   :z13: 
หนูกับแมวเพิ่งจะเริ่มเล่นกันเลย แล้วไหนจะคุณน้องมะลิอีก

รอแมวจับหนูกินนะคะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 11-03-2016 10:00:42
น่ารักกกก

พี่นิลแอบชอบมานาน รีบๆทำให้น้องมั่นใจเลย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 11-03-2016 10:34:59
พี่นิลไ่ม่ทำแบบนั้นหรอกมิน~ เรื่องนี้สนุกมาก รออ่านน้า
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: lazyishappy ที่ 12-03-2016 01:30:40
เดี๋ยววววว  น้องยังไม่โดนเหรออก็ตอนนั้นงาย ฮ่าๆๆ เราหายไปนานเหมือนกันกว่าจะได้มาอ่าน รอติดตามต่อไปนะคะ สนุกและชอบมากๆค่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 10 13/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 13-03-2016 00:37:07
ตอนที่ 10

               “มึงไม่คิดจะกลับห้องบ้างไง?” ผมถามไอ้แมวยักษ์ที่นอนปล่อยหูปล่อยหางออกมา (เห็นพี่มันบอกร่างนี้สบายสุด) นอนเล่นดูทีวีในขณะที่ผมกำลังเทของกินที่ซื้อมาเป็นมื้อเย็น

                พักนี้ผมรู้สึกหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ และจะเป็นหนักมากเมื่อเจอหน้าตาไม่ทุกข์ไม่ร้อนของแมวบ้านี่ คงเป็นเพราะตั้งแต่วันที่เจอเค้กวันนั้นวันต่อๆมาผมก็ยังคงเจออยู่ ไหนจะคำพูดและท่าทางแปลกๆเหล่านั้น ถึงจะไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่มันก็ทำให้ผมหงุดหงิดไม่น้อย จนผมเริ่มเหมือนคนพาลเข้าไปทุกที

               “กลับก็ได้ งั้นป่ะ” พี่มันลุกขึ้นเดินเข้ามาจับข้อมือผมที่กำลังงงสุดขีด

               “อะไรของมึง?”

               “ก็มึงบอกให้กลับห้อง กูก็เอาของของกูกลับไปด้วยไง” พี่มันบอกมึนๆแถมยังตั้งท่าจะฉุดผมไปด้วยอีก ทำอะไรตามใจเหมือนเคย เอาอีกแล้วผมเริ่มที่จะหงุดหงิดอีกแล้ว ผมสะบัดมือพี่มันที่จับแขนผมอยู่ออกแรงๆจนพี่มันเลิกคิ้วมองผมอย่างแปลกใจ

                “ถามจริง ทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่?” ผมถามเงยหน้าจ้องพี่มันอย่างสับสัน จนคิ้วเข้มนั่นตีกันยุ่งหนักกว่าเดิมจ้องตาผมตอบไม่แพ้กัน จู่ๆคำพูดของเค้กก็วนเข้ามาในหัวราวกับจะบอกว่าที่ผมบอกว่าไม่ใส่ใจนั้นมันเป็นเรื่องโกหก

                “อะไร?”

                “ก็ที่มึงมายุ่งกับกูแบบนี้ มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆกู จนน่าอึดอัดแบบนี้ ทำทำไม? มันน่ารำคาญนะ !” ผมถามอย่างอัดอั้น แต่เหมือนรูปประโยคจะผิดไปหน่อย ใช่มันผิดจริงๆเพราะผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดในความหมายนั้น แต่ผมแค่รู้สึกอึดอัดกับเรื่องที่เคยได้ยินมาตลอดเพราะมันทำให้ผมไม่มั่นใจอะไรเลยสักอย่าง ไม่มั่นใจแม้กระทั่งว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง เราอยู่ด้วยกันในสถานะไหนไม่มีอะไรชัดเจนเลยสักอย่าง รู้สึกเหมือนตัวเองถูกตีจนรวนไปหมด
 
                “เพราะมึงยังไม่ได้กูใช่ไหม ? ที่ยังมาอยู่ด้วยกันเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?” ไม่นะ ไม่ๆ ทำไมจู่ๆถึงเอาเรื่องที่ไอ้เค้กเน่านั่นพูดมาคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ด้วยเล่า ไม่นะ ไม่ได้อยากจะพูดแบบนี้ !

                “มึงคิดแบบนี้เองหรอ...” หูและหางของไอ้พี่นิลถูกเก็บหายไป สองเท้าของพี่มันก้าวถอยห่างออกจากผมไปครึ่งก้าว แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ใจของผมโหวงไปหมด น้ำเสียงตัดพ้อนั่นมันทำให้ผมรู้สึกแย่จนแทบทนไม่ไหว

                “หึ คิดแบบนี้มาตลอดเลยสินะ” นัยน์คมฉายแววผิดหวังออกมาชัดเจน รู้สึกเหมือนเห็นหูแมวสีดำที่ชอบจับกำลังลู่ตกลง ทั้งๆที่มันไม่มีแล้ว

                “คะ...คือ...กูสับสน” เหมือนสถานการณ์มันพลิกๆเพราะจากที่กำลังอารมณ์ขึ้นเพราะความไม่เข้าใจผสมกับความหงุดหงิดที่ยังไม่ได้ระบายออกมันเลยทำให้ผมพาล แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่าผมได้ทำเรื่องผิดพลาดลงไปแล้ว

               “ก็มึง...มึงไม่เห็นทำอะไร...” ผมพูดเสียงเบาเริ่มจับประเด็นที่ตัวเองเป็นคนเริ่มไม่ได้

               “อืม” พูดแค่นั้นแล้วพี่มันก็เดินออกจากห้องผมไป...


             
               1 สัปดาห์ผ่านไป

               บ้า !!!

              นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ ตั้งแต่วันนั้นที่มันทำท่าเหมือนแมวหงอยแล้วเดินออกจากห้องผมไป จนตอนนี้ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วผมยังไม่ได้เจอพี่มันอีกเลย ไม่แม้แต่จะได้ยินข่าวว่าพี่มันควงใครคนไหนทั้งๆที่เมื่อก่อนเวลาพี่มันเปลี่ยนคู่ควงทีก็กลายเป็นเรื่องดังคนพูดถึงกันทั้งคณะเพราะเดือนเด่นเปลี่ยนคู่ควง แต่ตอนนี้ไม่มี !! ไม่มีอะไรเลย !! ขนาดเมื่อก่อนผมไม่อยากรับรู้เรื่องพี่มันผมยังรู้แต่ตอนนี้ทั้งที่ผมพยายามจะหาข่าวแต่เรื่องกลับเงียบฉี่ซะงั้น จะแอบไปดักหน้าห้องพี่มันก็ดันไม่รู้ว่าไอ้แมวบ้านั่นอยู่ห้องไหนทั้งที่อยู่คอนโดเดียวกันแท้ๆ

               “มึงเป็นบ้าอะไร กูเห็นทึ้งหัวตัวเองอยู่นานละ” ผมเงยหน้ามองเพื่อนๆที่กำลังส่งสายตาแปลกๆมาทางผม โดยเฉพาะอีออยที่มองผมด้วยสายเจ้าเล่ห์สุดๆ ตอนนี้พวกผมมานั่งกันที่โต๊ะหินอ่อนตัวเดิมเพื่อรอเรียนช่วงบ่าย และผมคงจะเอาแต่ทึ้งหัวตัวเองอย่างที่อีออยว่า ก็มันคิดไม่ออกมันหงุดหงิดหนิไม่รู้จะทำยังไง สับสนก็สับสน แม่ง !

               “เปล่า...” ผมตอบเสียงอ่อย ไอ้ถามก็อยากจะถามอยู่หรอกนะ แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าถ้ารู้แล้วผมจะเอาไงต่อ

               “เฮ้อ...มึงนี่นะ มีเรื่องอะไรก็เล่ามา กูเห็นมึงทำท่าแปลกๆเหมือนเจ้าของที่แมวหนีออกจากบ้านแล้วรำคาญว่ะ”

               อึก !

               กระแทกใจอ่ะ คำเปรียบอื่นมีตั้งเยอะทำไมมันเลือกเปรียบได้ตรงเผงแบบนี้วะ ผมจัดการประมวลความคิดเรียบเรียงคำพูดใหม่ บางทีแอบลองถามพวกมันอ้อมๆคงไม่มีใครรู้มั้ง เพื่อนก็มีไว้ปรึกษาในเวลาแบบนี้แหละนะ

                “คือ...แมวกูหนีไปจริงๆแหละ” ไม่ได้โกหกนะ ก็แมวหายไปจริงๆ

                “หืม ?...แบล็คอะนะ?”

                “อะ...เออก็ใช่” นั่นสิผมเคยเลี้ยงไอ้พี่นิลตอนเป็นแบล็คนี่นะ แล้วพอผมรู้ว่าเป็นคนเดียวกันถึงแบล็คจะหายไปแต่ก็ยังมีแมวตัวใหญ่มาอยู่ด้วย แต่ตอนนี้ห้องผมมันเงียบสนิทไม่มีทั้งแมวเล็กแมวใหญ่ กลับห้องไปเจอบรรยากาศเงียบๆแล้วมันโหวงๆยังไงไม่รู้...มันเหงา

                 “แล้วมันหนีไปทำไม?”

                 “คือกูทะเลาะกับมัน แบบว่าเอาข้าวให้ไม่ถูกใจแล้วมันก็หนีออกจากห้องกูไปเลย” ผมคิดว่าผมเนียนแล้วนะแต่ทำไม สายตาเจ้าเล่ห์ของอีออยและอีกสองคนถึงได้เพิ่มขึ้นหลายสิบระดับ

                 “เป็นห่วงแมวว่างั้น” ไอ้ฟิวส์

                “ก็...อื้ม มันหายไปนานแล้วหนิ ไม่รู้ไปอยู่ไหน ตามหาก็ไม่เจอ” บอกเสียงหงอย ถ้าผมรู้ข่าวพี่มันบ้างผมคงไม่เป็นแบบนี้

                “รักแมวมากสิมึง” ผึ้ง

                “ห๊ะ ?” รักหรอ ?...ผมยังไม่ทันได้คิดไปถึงคำๆนี้เลย เรื่องที่ทำให้ผมสับสนก็แค่เรื่องที่ผมใจเต้นแรงๆเวลาอยู่กับพี่มัน แล้วผมก็เผลอคิดไปว่าอาจจะรู้สึกดีๆด้วย...แต่ยังคงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพราะพวกเราไม่ได้มีช่วงเวลาที่จะสร้างคำนั้นด้วยซ้ำ

                “ก็ไม่เห็นแปลก มึงอยู่กับมันมาก็นานจะรักจะเอ็นดูก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้ามึงไม่รักไม่ชอบคงไม่เลี้ยงมาขนาดนี้จริงไหม?” ผึ้งพูดต่อ

               “แต่กูอยู่กับมันแป๊บเดียวเอง คงยังไม่ได้รักหรอกมั้ง...”

               “โอ๊ย ! พอๆเลิกแอ๊บ มึงรู้จักพี่นิลมาจนเกือบจะสามปีอยู่แล้วไม่นานบ้านมึงสิ แต่ถึงมึงจะรู้จักกันสามวันแล้วมึงบอกว่าชอบมันก็ไม่ได้ผิด แล้วถ้ามึงไม่รักไม่ชอบพี่มันมึงคงไม่มานั่งหงอยแบบนี้หรอก บอกความจริงพวกกูมา !”

               “ O.O !” ผมมองอีออยตาโต ตกใจที่พวกมันรู้ทัน แล้วทำไมมันไม่พูดมาตั้งแต่แรกวะ ! พอเรื่องมาถึงตรงนี้บวกกับสายตาคาดคั้นสามคู่ก็ทำให้ผมตัดสินใจเล่าความจริงให้ฟังแต่ตัดเรื่องที่พี่มันเป็นแบล็คออกไป รวมถึงฉาก 18 + ด้วย

               “มึงชอบพี่นิล !!” สามเสียงพูดพร้อมกันทันทีที่ผมเล่าจบ เสียงดังจนผมสะดุ้ง

               “จริงหรอวะ?”

                “จริงไม่จริงมึงรู้อยู่แก่ใจมึง มิน...มันไม่ผิดหรอกนะถ้ามึงจะยอมรับ” ผึ้ง

                “....”

                “ส่วนเรื่องที่มึงคิดว่าพี่เขาจะหลอกเอามึงอ่ะ ถ้าไม่คิดจริงจังคงไม่ทนเต๊าะไม่ทำอะไรมึงมาได้เกือบสองปี สู้มอมเหล้าแล้วจับล่อเลยไม่ง่ายกว่าหรอวะ ? อย่าละคร..! แล้วยิ่งพักหลังมานี้พี่มันไม่ได้ควงคนอื่นอีกตั้งแต่มาคลุกอยู่กับมึงแค่นี้มันก็น่าจะชัดแล้วนะว่าเขาจะเอามึงแบบจริงจังแบบเอาระยะยาวอ่ะ แล้วอีกเรื่องสุดท้ายเลยนะ เรื่องอีเค้กทำไมไม่บอกพวกกู !!” ผมนั่งฟังอีออยร่ายยาว คิดๆไปแล้วมันก็จริง แต่ขอขัดหน่อยเถอะตรงที่บอกว่าไอ้พี่นิลไม่ทำอะไรผมอ่ะ ไม่จริง ! นี่ถ้าผมเป็นไม้ทาสีนะ ป่านนี้สีผมคงหลุดลอกออกไปหมดแล้ว หื่นอย่างกับอะไรดี !

                 “....”

                  “แล้วอีกอย่างถึงมึงไม่ได้ชอบจริงแต่จะอยู่แบบนี้หรอ อีกไม่นานพี่นิลก็เรียนจบแล้วนะเว้ย พอถึงตอนนั้นมึงจะได้เจอพี่มันอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยากจะจากกันทั้งๆที่เป็นแบบนี้หรอวะ” ไอ้ฟิวส์

                 จากกัน...ไม่เจอกันอีกงั้นหรอ...แล้วต้องทะเลาะแบบนี้หรอ...?

                  “ไม่ !” ผมเผลอตะโกนคำตอบที่คิดอยู่ในใจออกไป อีสามตัวที่เหมือนจะรู้ทางอยู่แล้วยิ้มล้อผมทันทีมีการส่งสายตาวิบวับๆด้วย มีแต่อีออยที่บึนปากไปมาเหมือนเหมือนหมั่นไส้ชักช้าไม่ทันใจ แต่แล้วไงล่ะก็คนมันเพิ่งจะเข้าใจหนิ !

                  “แล้วนี่จะนั่งบื้ออีกนานไหม ?” ผึ้ง

                  “รู้ตัวแล้วก็รีบไปสิ ไปทำเรื่องให้มันถูกต้อง” ไอ้ฟิวส์
       
                  “ไปๆ ชิ้วๆ” อีออย

                  “โอเค ขอบใจพวกมึงมาก ถึงจริงๆพวกมึงจะแค่อยากเสือกเรื่องของกูของเถอะ” เหน็บเบาๆ เรื่องธรรมดาครับ

                  “รู้ทันด้วยแฮะ”

                  “พวกเวร”

                  “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” นั่นไง ผมคนเดียวจะไปสู้กับพวกมันสามคนได้ยังไง

                  “เดี๋ยว ! ไอ้มิน” เสียงอีออยตะโกนไล่หลังผมที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากโต๊ะไปแล้ว

                  “อะไร !”

                  “มึงรู้เลขห้องพี่มันเหรอวะ”

                  “กูจะไปถามผัวมึง”

                  “เหี้ยมิน !!”

                  “งั้นก็บอกมา อย่าลีลา”

                 “ห้อง....” เออเนอะคนเรา ไม่รู้หรอกครับว่าพวกนั้นไปถึงไหนกันแล้ว ก็คิดว่าก็คงมากอยู่ เพราะเวลาล้อมันเรื่องนี้ที่ไร อีออยปากหมาจะกลายเป็นปากแมวเลยทีเดียว น่ารักงุ้งงิ้ง เอ๊ะ แล้วทำไมมันถึงรู้เลขห้องไอ้พี่เถื่อนของผมล่ะ ?

                 “ขอบใจมาก เดี๋ยวกูบอกพี่ปืนตบรางวัลให้อย่างงาม”

                 “สัสมิน !!!” ผมวิ่งหนีอีออยที่ยืนโวยวายหน้าดำหน้าแดง ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่จะมีก็แต่เรื่องนี้แหละครับที่ผมพอจะเถียงชนะมันได้ อีกหน่อยคงต้องไปสะกิดพี่ปืนมาอยู่ทีมเดียวกับผมซะแล้ว พวกมันจะได้เลิกรุมผมเสียที


                ผมเดินทางกลับมาถึงคอนโดก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ผมลืมเข้าเรียนคาบบ่าย -..- ไอ้พวกเพื่อนนั่นก็ไม่มีใครทักผมสักคน เอาเถอะฝากพวกมันเล็คเชอร์ไป แต่ก็ดีวันนี้ตอนบ่ายไอ้พี่นิลไม่มีเรียนก็คงจะอยู่ห้องนั่นแหละ หวังว่าคงไม่คึกจัดออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกหรอกนะ

                ผมมองเลขลิฟต์ที่กำลังเปลี่ยนไปตามชั้นที่เคลื่อนผ่านสูงขึ้นๆ ในใจก็คิดไปถึงคำพูดที่จะพูดกับพี่มัน คิดแล้วคิดอีกเจอหน้าพี่มันแล้วผมต้องบอกว่าอะไรก่อน แล้วถ้าพี่มันยังโกรธเรื่องที่ผมถามอะไรบ้าๆอยู่ล่ะ ผมจะต้องบอกว่ายังไงดี อ๊ากกก คิดแล้วก็คิดไม่ออกผมเลยกดลิฟต์แวะเข้าชั้นที่ห้องตัวเองอยู่ก่อน ลืมบอก ห้องไอ้พี่นิลมันอยู่สูงกว่าผมสองชั้นครับ รวยไม่ใช่เล่นแฮะ

                แต่ !!

               นี่มันไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องแบบนี้นะ ถึงจะยังยอมรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่แต่ตอนนี้ผมกำลังหาวิธีง้อไอ้แมวดำนั่นอยู่ แล้วดูท่าจะเป็นแมวขี้งอนซะด้วยหรือจะเอาแซลม่อนไปง้อดี (?) ถ้าตอนเป็นแบล็คผมคงจะขู่เอาเรื่องอาบน้ำมาใช้เพราะมันได้ผลแทบทุกครั้ง แต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้ว แว๊กกก คิดไปแล้วผมเคยอาบน้ำกับพี่มันด้วยนี่นาถึงตอนนั้นจะเป็นแมวก็เถอะ แล้วไหนจะเรื่องแบบนั้น แบบนั้น แล้วก็แบบนั้นอีก T^T น่าอายชะมัด

                แล้วตอนนี้ผมจะทำยังไงดี ผมเดินวนเวียนในห้องของตัวเอง วนไปนู้นมานี่ รวบรวมลมปราณสติและสมาธิที่กระเจิดกระเจิงเพราะเรื่องสมัยก่อนให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปหาพี่มัน โดยไม่ลืมหยิบของสำคัญออกไปด้วย... เอาวะ ! ออกไปเจอก็คงดีกว่าฟุ้งซ่านตายอยู่ในห้อง !!

                ก๊อกๆๆๆ

                แกร๊ก

                หลังจากเคาะประตูผมก็ยืนก้มหน้าเตรียมตัวเตรียมใจ จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูเบาๆ รู้สึกเหมือนมีเงาใหญ่ๆมายืนตรงหน้า มีปลายเท้าเข้ามาบังมดแมงที่ผมก้มมองหาอยู่บนพื้น ผมไล่ระดับสายตาขึ้นมาจากปลายเท้าขั้นมาถึงหน้าแข้ง น่องขา จนเจอกางเกงบ๊อกเซอร์สีน้ำเงินเข้ม ขึ้นมาอีกหน่อยก็เจอกล้ามท้องแน่นที่เห็นชัดเจนเพราะเจ้าของไม่ใส่เสื้อ ขึ้นมาอีกก็เจอหน้าอกที่มีจุกนมสีน้ำตาลเข้มๆอยู่ จนในที่สุดเราก็สบตากัน รู้สึกประหม่าจนไม่แทบไม่กล้าจะขยับตัว

                “.......”
 
                “อะ...” ผมยื่นปอกคอแมวสีส้มจี๊ดที่มีกระดิ่งสีเงินกรุ๊งกริ๊งเล็กๆไปตรงหน้าพี่มัน รู้สึกตัวเองมือสั่นยังไงไม่รู้ก็พี่มันเล่นจ้องหน้านิ่งๆซะจนเดาไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่หรือรู้สึกแบบไหน

                “เลิกโง่แล้ว ?”

               “อื้อ...”

               “หึ รู้ใช่ไหมว่าทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?”

                “.....”

               “ให้โอกาสคิดใหม่ แน่ใจแล้วก็ค่อยมา”

               “ดะ...เดี๋ยวสิ” ผมรั้งแขนคนที่กำลังทำท่าเหมือนจะปิดประตูห้องใส่ผม ถึงตอนนี้ผมอาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่ารัก แต่ตั้งแต่ที่เรารู้จักกัน...พี่มันก็เป็นคนเดียวที่ผมมองหาตลอดเวลา ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเราจะเหมือนการเริ่มต้นใหม่อยู่บ่อยครั้งเพราะผมมักจะเจอมุมแปลกๆของตัวไอ้พี่นิล จากนั้นพี่มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยจนบางครั้งผมเองก็ตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ถึงอย่างนั้น...ผมก็ไม่อยากให้พี่มันหายไปอีกแล้ว ไม่เอาแล้ว

                 “...”

                 “เข้าใจแล้ว...”

                 พรึ่บ !

                “อ๊ะ !!”

TBC+++++++++++++++++++++++
TALK...
ตัดดังฉับๆๆๆๆๆ เเวะเอาพี่นิลกับน้องมินมาฝากยามดึกจ้าาาาา :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 13-03-2016 00:58:22
ค้างง  :hao7:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 13-03-2016 09:37:12
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 13-03-2016 10:05:37
ชอบอะะ ติดตามค่ะๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 9 09/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-03-2016 10:21:42
เอื้อก. ค้างมากมาย
เอาหูเอาหางออกมาจ้า ปลอกคอพร้อมอาหารมาเสิร์ฟแล้ว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 10 13/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 13-03-2016 12:22:18
กรี้ดดดดดด ทำไมน่ารักกกกกก ดิ้นพล่านนนนน ชอบมุกปลอกคอจังเลย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 10 13/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 13-03-2016 20:05:57
สนุกมากเลยยยย มาต่อไวๆน้า :impress2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 10 13/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 13-03-2016 20:54:09
ตัดดังฉึบบบบๆๆๆๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 10 13/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 13-03-2016 20:58:04
แวะมาซะค้างเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 11 14/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 14-03-2016 21:06:16
ตอนที่ 11

         
   ปึง !
             
            “อ๊ะ !!” มือหนาฉุดปลอกคอแถมมือผมเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูแล้วดันผมจนแผ่นหลังแนบไปกับประตูบานนั้น

            “อื้มมมม” ไม่มีคำพูดอื่นใดอีกเมื่อริมฝีปากหนาเบียดลงมาแนบชิดก่อนจะเคล้าคลึงอย่างนุ่มนวล ผิดจากการฉุดกระฉากผมเข้าห้องอย่างป่าเถื่อนแบบเมื่อครู่

            สัมผัสอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นเร้าร้อนรุนแรงมากขึ้นอย่างโหยหาซึ้งกันและกัน เหมือนห่างหายจากกันไปนานทั้งที่เพิ่งไม่เจอกันแค่อาทิตย์เดียว ต้องโทษพี่มันนั่นแหละที่ชอบเข้ามาคลอเคลียจนกลายเป็นว่าผมเริ่มจะติดสัมผัสจากพี่มันซะแล้ว

            “ดะ...เดี๋ยวก่อน” ผมใช้มือยันแผงอกคนตรงหน้าเอาไว้ แอบใจเต้นแรงเหมือนกันก็คนมันไม่เคยจับตรงๆแบบนี้หนิ ผมทำท่าจะผละออกจากท่าทางล่อแหลมนี้แต่พี่มันก็ไม่ยอมใช้แขนข้างหนึ่งล็อคเอวผมไว้แน่นอีกข้างก็เริ่มเลื้อยเข้ามาในเสื้อจนผมต้องเอามือมาจับไว้ ไม่ได้คิดจะห้ามหรอกครับ ผมรู้ตัวตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาในห้องนี้แล้วล่ะ

            เพียงแต่ครั้งแรกของผม...ครั้งแรกของเรา...มันต้องไม่ใช่ที่หน้าประตูห้องไหม !!

            ผมช้อนตามองพี่มันอ้อนๆเมื่อเห็นว่าผมคงสู้แรงมันไม่ได้ แล้วก็ได้ผลเหมือนพี่มันจะชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มมุมปากบวกด้วยหัวเราะหึในลำคอแบบที่ชอบทำ แล้วตบท้ายด้วยการย่อตัวลงแล้วยกตัวผมพาดบ่า
             
            “เฮ้ย!! ตกๆๆ กูจะตก” ผมไม่ได้อยากจะให้พี่มันช้อนตัวอุ้มในท่าเจ้าสาวหรืออะไรหรอกนะ แต่เราก็สามารถเดินจับมือพากันเข้าห้องแล้วล้มตัวลงเตียงพร้อมกันได้ แต่นี่ !!! มันเข้าข่ายจำเลยรักแล้วนะ แล้วยิ่งพี่มันเพิ่มฟังก์ชันตบก้นเข้ามาตอนผมดิ้นแด่วๆแล้ว ผมนี่อยากจะบ้า
         
             ตุบ !

             “แอ่ก อื้ออออ” พี่มันโยนผมลงเตียง โยนเลยครับไม่ผิด โยนๆ มันโยนผม ก่อนจะขึ้นคร่อมแล้วจัดการปล้นจูบผมอีกครั้ง คราวนี้เพิ่มระดับความร้อนแรงให้สูงขึ้นไปอีก สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ผมโอนอ่อนได้ไม่ยากไม่ว่าพี่มันจะมาแบบไหนผมก็รับได้ทันหมด เสื้อผ้าถูกถอดเหวี่ยงกระจุยกระจายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจรู้ได้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จุกนมผมข้างหนึ่งถูกดูดดุนอย่างรุนแรงจนมันเจ็บจี๊ดขึ้นมาจนผมเผลอจิกไหล่พี่มันแน่น กัดปากตัวเองกลั้นเสียงเอาไว้

            “อ๊ะ...เบา..เจ็บ...” ผมบอกเมื่อรู้สึกเจ็บจนเริ่มจะทนไม่ไหว มีหวังพรุ่งนี้มันต้องแดงมากแน่ๆ แต่ก่อนที่หัวนมผมจะช้ำไปมากกว่านี้พี่มันก็เปลี่ยนมาเป็นตวัดลิ้นเลียเบาๆสลับกันไปมาทั้งสองข้างจนผมดิ้นพล่านไปหมด ไหนจะลูกหนูของผมกับลูกแมวยักษ์ของพี่มันที่เริ่มเบียดกันไปมาจนผมสะท้านไปทั้งร่าง มันทั้งทรมานทั้งร้อนไปหมด

            ริมฝีปากหนาพรมจูบไปเรื่อย ไล่ลงจนถึงแอ่งสะดือจุ๋มจิ๋มแวะทักทายเล็กน้อยโดยการตวัดลิ้นเลีย ก่อนจะปัดผ่านลูกหนูของผม สองมือจับขาผมแยกออกกว้างก่อนจะประทับริมฝีปากอีกครั้งตามซอกขาด้านใน แล้ววกกลับขึ้นมาหาลูกหนูของผมอีกครั้ง ผมได้แต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น ไม่กล้ามองคนที่กำลังจะกินหนูแถมยังเหลือบตาขึ้นมาสบตากับผมอีก

             “อึก อ๊ะ...อ๊า...ส์” สัมผัสอุ่นร้อนครอบลงกลืนกินลูกหนูจนหมด ความเสียวซ่านจากแรงดูดดึงทำให้ผมเด้งสะโพกรับอย่างลืมตัว เผลอใช้มือกดหัวอีกคนเอาไว้แน่น

              “อ๊ะ เจ็บ !” สัมผัสลื่นๆเย็นๆกับนิ้วมือแข็งๆที่ไอ้พี่นิลมันเสียบพรวดเข้ามาทีเดียวสองนิ้ว ทำเอาผมเจ็บจี๊ดจนเกือบเผลอถีบพี่มันออกแต่เหมือนรู้ทันเลยใช้มืออีกข้างกระชากขาผมเอาไว้ พร้อมกับเพิ่มแรงดูดลูกหนูของผมแรงๆจนสุดท้ายผมก็ได้แต่นอนหมดแรงอยู่เหมือนเดิม

               “อ๊ะ อ๊ะ มะ...ไม่แล้ว...อื้อ มินไม่ไหวแล้ว...” แรงสวนของนิ้วที่เพิ่มจำนวนเป็นสามนิ้วแล้วขยับเข้าออกอย่างรุนแรงผสมกับแรงปลุกปั่นจากด้านหน้าทำให้ผมไม่อาจต้านทานไหว ผมพยายามใช้มือจิกผมพี่มันให้ออกจากตรงนั้นเมื่อจะถึงจุดแต่ผมก็ยังเป็นผมสู้แรงพี่มันไม่ได้ยังไงก็อย่างนั้น...อึก

               “อ๊า....ส์ !!!”

               “หึหึ” เสียงหัวเราะที่เคยฟังดูเหี้ยมๆผสมเจ้าเล่ห์แต่ตอนนี้มันกลับฟังดูหื่นกระหายจนผมร้อนไปหมดทั้งร่างแค่ได้ยินเสียง ร่างสูงใหญ่ถอดกางเกงออกก่อนจะขึ้นคร่อมร่างผมเอาไว้ด้วยสองเข่า ใช้หลังมือข้างหนึ่งเช็ดมุมปากเก็บคาบน้ำรักของผม ดวงตาสีเข้มจ้องมองสบผมอย่างหิวกระหาย ขยับเคลื่อนกายขึ้นมาจนความใหญ่โตมาจ่ออยู่ตรงหน้าผม ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะสบตาพี่มันอีกครั้ง ผมไม่ได้รังเกียจเพราะเมื่อกี้พี่มันก็ทำให้ผมแต่ผมแค่กำลังคิดว่าจะเอามันเข้าไปยังไงให้หมด

            “อ้าปากสิ...มิน อึก !” ผมจับลูกแมวยักษ์ไว้ก่อนจะค่อยๆแลบลิ้นเล็กๆออกมาเล็มตรงส่วนปลายที่มีน้ำใสๆไหลเยิ้มออกมา ผมได้กลิ่นบางอย่างอบอวลไปรอบตัวพี่นิล เป็นกลิ่นที่ผมคุ้นเคยทุกครั้งที่เราใกล้กันซึ่งผมเองก็บอกไม่ได้ว่ามันเป็นกลิ่นของอะไรหรือเป็นกลิ่นแบบไหน แต่มันทำให้ผมรู้สึกดี

            “อืม...เก่งมาก...แรงอีกนิด” เสียงเข้มทว่าสั่นพร่าบอก ผมก็จัดการให้ตามคำขอ ยิ่งพี่มันส่งเสียงมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งได้ใจมากเท่านั้น แต่จู่ๆพี่มันก็เอาออกไปเสียเฉยๆ จนผมหน้าเสียหรือว่าผมทำอะไรให้มันไม่พอใจ

            “อย่าคิดอะไรโง่ๆเด็ดขาด”

            “อ๊ะ...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูอย่างรู้ทันความคิดผม ก่อนจะตวัดลิ้นเลียติ่งหูผมเบาๆ ซุกไซร้อยู่ตามซอกคอ ทำเอาผมเคลิ้มตาม

             “มิน...” เสียงทุ้มจริงจังดังขึ้น แต่ยังไม่เลิกไซร้ แถมยังเอาลูกแมวยักษ์มาถูๆปากทางผมให้สยิวเล่นอีก

             “อื้อ...”

             “กูจะไม่มีวันถอดปลอกคอ”

             “ห๊ะ ? โอ๊ยยยย !! อื้อ !!” หลายเสียงหลายเอฟเฟคเพราะยังไม่ทันที่ผมจะได้เริ่มประมวลผลประโยคก่อนหน้า พี่มันก็เล่นยัดลูกตัวเองเข้ามาทีเดียวหมด แล้วปิดปากผมด้วยปากของพี่มัน

             เจ็บครับ เจ็บมาก เจ็บเหี้ยๆ !!
ผมทั้งจิกทั้งทึ้งฝากรอยรักเอาไว้บนแผ่นหลังและอกแน่นๆของพี่นิล มันทั้งเจ็บ ทั้งจุกจนเสียดและคับแน่นไปหมด จนผมไม่กล้าขยับตัว ดีหน่อยที่พี่มันไม่บ้ากระหน่ำแทงในทันทีแต่ยังเว้นจังหวะไว้ให้ผมปรับตัวบ้าง

             “อื้อออ” เอวสอบเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนจังหวะเป็นเร็วขึ้น สองขาผมถูกจับให้แยกออกกว้างกว่าเดิมเพื่อให้ขยับสะดวก ความเจ็บถูกแทนด้วยความเสียดเสียวขนผมสะท้านไปทั่วร่าง

             ผับๆๆๆๆๆๆ

             “อึก อ๊า...พะ...พี่นิล ตรงนั้น แรง...อื้อ...แรงไป อ๊า !!”

            “อืมมมม ”

            “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” เหมือนจะตอบรับแต่ไม่ครับเพราะแรกกระแทกกระทั้นยังเท่าเดิม พี่มันขยับโยกจนผมตัวสั่นคลอนไปหมด เสียวจนต้องจิกมือกับผ้าปูที่นอนเอาไว้อย่างทนไม่ไหว

            ปึ่ก !! ปึ่ก !! ปึ่ก !!

           “มะ...ไม่ไหวแล้ว...อึก”

           “อีกนิดมิน...อีกนิด...อ่าส์”

           “อ๊า....ส์ !!” ผมหวีดร้องสุดเสียงเมื่อถึงจุดสูงสุดอีกครั้งทั้งที่รอบนี้พี่มันไม่ได้แตะต้องลูกหนูของผมเลยแม้แต่น้อย ร่างสูงใหญ่ยังคงกระแทกกายเข้าออกอีกสามสี่ครั้งก่อนจะล้มตัวลงนอนทับซุกหน้าเข้าซอกคอผมทั้งที่ยังตรงนั้นยังไม่เอาออกมา เสียงหอบหายใจของสองเราดังผสานกันเงียบๆ ผมยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มนิ่มสีดำเหมือนตอนเป็นแมวของพี่มันเล่นเพลินๆ รู้สึกอยากอาบน้ำเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่อยากทำเสียบรรยากาศ

       เหลือบไปมองข้างๆเห็นปลอกคอสีส้มที่ผมถือติดมาด้วย เลยจัดการจับมาใส่ลงบนคอไอ้พี่นิล พี่มันผงกหัวมองนิดหน่อยก่อนจะก้มลงไปซุกเหมือนเดิม

            “รัก” ผมพูดพร้อมกับผงกหัวขึ้นจูบผมพี่มัน หลังจากใส่ปลอกคอเสร็จเรียบร้อย

           ผมสัมผัสได้ว่าร่างใหญ่ที่ทับผมอยู่แข็งเกร็งไปชั่วขณะ ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไมผมถึงพูดแบบเมื่อกี้อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศ หรือเพราะว่าเราเพิ่งจะเข้าใจกันและเพิ่งผ่านกิจกรรมอย่างว่ามา ทั้งที่ผมก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ผมรู้แค่ว่าผมอยากบอกถึงตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจแต่ในเมื่อพี่มันบอกจะไม่ถอดปลอกคอของผม ผมก็จะไม่มีทางทิ้งเจ้าแมวดำของผมเหมือนกัน

           “พูดใหม่...” ไอ้พี่เถื่อนผละลุกขึ้นมานั่งในท่าเดิมพร้อมกับโยกเอวเข้าออกเบาๆ ลูกแมวที่เพิ่งสงบนิ่งก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง ทำเอาผมปั้นหน้าไม่ถูก มันเสียวจี๊ดไปหมด

           “รัก...มินรักพี่นิล อ๊า...ส์ !! ” ผมเกร็งร่างสะดุ้งเฮือก เมื่อแกนกายใหญ่ที่ฝั่งอยู่ในร่างผมขยายขึ้นมากกว่าเดิมจนผมรู้สึกเจ็บจี๊ดเหมือนช่องทางฉีกขาด ร่างที่คร่อมผมอยู่ปล่อยหูแมวสีดำและหางสีเดียวกันออกมา นัยน์ตาสีทองยังคงจ้องหน้าผมอย่างหื่นกระหาย ปลอกคอที่สวมบนคอแข็งแกร่ง แม้สีจะดูเจ็บไปนิด แต่ทั้งหมดนั่นมันก็ทำให้ไอ้แมวเถื่อนของผม ดู...เซ็กซี่ชะมัด

            “รัก...”

            “อึก...อ๊ะๆๆ” ผมร้องลั่น ความรู้สึกมันมากกว่าที่ผ่านมาทั้งลิ้นสากๆแบบลิ้นแมวที่กำลังโลมเลียซอกคอผม กับทั้งลูกแมวซุปเปอร์ยักษ์ อึก ผมรู้สึกว่าทั้งหมดมันมากไป มันทำให้ผมรู้สึกมากไปจนจะร้องไห้

           “จะไม่ถอด...สัญญา...”

            จังหวะกระแทกกระทั้นรัวแรงทำเอาผมไม่มีเวลาประมวลผลคำพูดสั้นๆเหล่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจ และความรู้สึกอบอุ่นที่โอบล้อม...

            ตอนนี้ผมอาจจะรักพี่มันแล้วก็ได้...^^


            ผมรู้สึกตัวอีกทีในตอนบ่ายของอีกวัน นี่ผมนอนหรือซ้อมตายกันวะเนี่ย ดีนะวันนี้เป็นวันหยุดไม่งั้นแย่แน่ถ้าต้องไปเรียนสภาพนี้ ปรับสายตามองไปรอบๆห้องถึงแม้เพดานจะสีเดียวกันการตกแต่งจะคล้ายกันแต่ผมก็รู้สึกได้ว่าที่นี่คือห้องของผม ผมขยับกายได้เพียงเล็กน้อยร่างกายก็ประท้วงให้ผมล้มลงนอนต่อ ผมนอนหลับตานิ่งๆเพราะไม่มีแรงขยับ ความปวดเมื่อยตามร่างกายย้ำชัดว่าเมื่อคืนมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เมื่อคืนหลังจากที่ไอ้พี่นิลกลายร่างพี่มันก็เริ่มทำการทรมานร่างกายผมต่อ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อกี้ตอนตื่นนอน ดีที่พี่มันเช็ดตัวแต่งตัวให้ผมไม่งั้นคงเหนียวตัวแย่

           แปะ

          สัมผัสเย็นๆที่หน้าผากทำให้ผมปรือตาขึ้นมาอีกครั้ง พบว่าเป็นมือใหญ่ๆที่วางแปะลงบนหน้าผากผมจนแทบจะปิดตาผมหมดอยู่แล้ว ปลายขนที่หูสีดำมีหยดน้ำเล็กๆเกาะอยู่ทำให้รู้ว่าเมื่อกี้พี่มันเพิ่งเข้าไปอาบน้ำมา

          ผมไล่สายตามองสำรวจคนตรงหน้าอย่างเผลอไผล ไอ้พี่นิลมันหล่อครับตัวสูงๆหุ่นล่ำๆบวกกับรอยสักกลมๆบนอกซ้ายที่ผมเองก็ดูไม่ออกว่ารูปอะไร ( จริงๆผมก็เพิ่งมาสังเกตเห็นเมื่อไม่นานมานี้เองครับ ) แถมยังเจาะหูใส่จิวเพิ่มความเถื่อนเข้าไปอีก เมื่อก่อนผมไม่ค่อยชอบลุคพี่มันเท่าไหร่แต่ทำไมตอนนี้ผมมองว่ามันเท่ห์ไปได้นะ ผมมองสบตากับพี่มันผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วแล้วผมก็เกิดรู้สึกอายขึ้นมาเสียอย่างนั้น

          “ปวดหัวหรือเปล่า ?” เสียงทุ้มๆถามขึ้น ผมเลยส่ายหัวตอบ

          “โดนเอาทีเดียวเป็นใบ้เลยหรือไง?” ถามเสียงล้อๆ หางนุ่มนิ่มของพี่มันก็ยกขึ้นปัดแถวๆซอกคอผมจนสยิวกิ้วไปหมด เหมือนจะโรแมนติกแต่ก็เพราะคำพูดพี่มันนั่นแหละ

          “ไอ้เหี้ย !”  ผมกัดฟันพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังใส่พี่มัน หลบหูตาแพรวพราวนั่น เจ็บตัวก็บเจ็บแถมรู้สึกเหมือนจะไม่สบายอีก ถ้าตอนนี้มีแรงผมคงกระโดดกัดคอพี่มันไปแล้ว

          “หันหลังก็ดี ง่ายดี หึหึ”

          “อะ...อะไร ไม่เอานะ” ผมเริ่มดิ้นเมื่อร่างใหญ่สอดตัวเข้ามานอนซ้อนหลังผม หางและมือข้างหนึ่งกอดรัดตัวผมเอาไว้จนขยับไม่ได้ ส่วนมืออีกข้างวางแปะลงบนก้นผมก่อนจะนวดเบาๆแล้วใช้นิ้วแทรกไปตามร่อง

          “พี่นิล...มินเจ็บ...” ผมพูดเสียงสั่น น้ำใสๆเอ่อคลอที่หน่วยตาอย่างห้ามไม่ได้ รู้สึกน้อยใจเล็กๆ เมื่อคืนก็เล่นผมทั้งคืนจนเจ็บไปหมดแบบนี้ แล้วตอนนี้ยังตั้งท่าจะรังแกผมอีก ถ้าพี่มันไม่หยุดผมได้ร้องไห้แน่ๆ

          “นิดเดียว...”

           “อึก..” ผมกัดฟันแน่นเมื่อนิ้วใหญ่แทรกเข้ามา แม้จะเข้ามาช้าๆแต่มันก็เจ็บเอาเรื่อง น้ำตาที่ผมกลั้นไว้ไหลลงหมอนช้าๆ จิกมือตัวเองแน่น พี่มันควานอยู่สักพักก่อนจะถอนนิ้วออกไป แล้วรวบผมไปกอดไว้ทั้งตัว

           “เสร็จแล้ว”

           “ฮึก...” ผมกัดปากตัวเองแน่นกว่าเดิมกลั้นสะอื้น จนพี่มันจับตัวผมพลิกกลับมา อยากจะขืนตัวเอาไว้ไม่อยากให้มันเห็นหน้า แต่ก็สู้แรงไม่ได้

           “แค่ทายา จะร้องทำไม” มือใหญ่ยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างแผ่วเบา หางยาวนุ่มนิ่มที่เคยรัดร่างผมเปลี่ยนมาคลอเคลียข้างแก้ม จนผมจั๊กจี้

           “มึงแม่ง...นิสัย” ผมตอบเสียงอู้อี้เพราะบี้หน้าลงกับอกพี่มันก็ใครใช้ให้มาแกล้งกันเล่า คนยิ่งเหมือนจะไม่สบายยังจะมาแกล้งกันอีก ว่าแล้วก็เอามือกำปลายหางของพี่มันที่คลอเคลียแก้มผมเอาไว้กะจะบีบแรงๆให้พี่มันเจ็บซะบ้าง แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ เพราะเหมือนคุ้นๆว่าไอ้แมวเถื่อนนี่เคยบอกว่าหางของพี่มันเป็นส่วนอ่อนไหว ถ้าจับผมอาจจะไม่นอนสบายๆก็ได้ ผมเลยปล่อยมือให้มันกลับไปอยู่ที่แก้มเหมือนเดิม

            “หึหึ”

             ปึก !

             ผมทุบอกพี่มันอย่างแรงเป็นการแก้แค้น แต่ก็ได้แค่ครั้งเดียวเพราะพี่มันจัดการกดหัวผมแนบเข้ากับอกล่ำๆของตัวเองก่อนจะบี้ไปมา กะจะไม่ให้ผมได้เปรียบเลยสินะ ผมเลยยกมือขึ้นไปจับหูพี่มันแทนทึ้งเล่นอย่างมั่นเขี้ยว นี่ๆๆๆ

             เล่นกันอยู่อย่างนั้นจนพี่มันคลายแรงกดแล้วเปลี่ยนเป็นลูบหัวผมเบาๆ อีกมือก็ลูบหลังไปด้วย ผมก็ลูบหูพี่มันเล่นเบาๆ จนผมชักเคลิ้มๆจะหลับอีกรอบ

              “นอนซะ” มือใหญ่เลิกผมหน้าผมขึ้นก่อนจะก้มลงจุ๊บเหม่งผมเบาๆ

              “งืมมมม”

               ผมตอบรับสียงยานก่อนจะหลับไปอีกครั้งเพราะความเพลีย ทั้งที่มือก็ยังไม่ปล่อยหูแมวใหญ่ๆของพี่มัน ยังลูบเล่นอยู่อย่างนั้น

                อ่า...

               มันนุ่มนิ่มดีจัง ^///^


TBC +++++++++++++++++++++++++

TALK ...
ในส่วนของตอนนี้ เจลบอกเลยว่าไม่มีสาระสำคัญใดๆ นอกจากจะประกาศว่า พี่นิลกับน้องมินจะโซเดมาคอมกันอย่างเป็นทางการเเล้วจ้าาาาาา ฮู้เล่ ~~~~ :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 11 14/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-03-2016 21:15:17
 :mc4:    ฉลองจ้า ใส่ปลอกคอแล้วด้วยนะ จองเลย
ชอบตอนนี้จัง อยากลูบหูลูบหางพี่นิลบ้างอะ
รอบสองแล้วนะ น้องมินยังไม่รู้ตัวอีก
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 11 14/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 14-03-2016 22:14:38
เราแอบคิดอ่ะ ว่าถ้าตอนแปลงร่างมีหูแมวหางแมวเนี่ยไอ้จุดจุดนั่นจะเหมือนของแมวไหม



แบบว่าของแมวมันผิวไม่เรียบอ่ะ มีแง่งสากๆ เป็นปุ่ม
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 11 14/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-03-2016 22:23:56
 o22

แมวส่วนตัว!!!

ต้องให้พี่นิลเป็นแบล็คแล้วซุกพุงนะคะ ฟิน อย่าง แรงงงงงงงงงงงงงงงง  :hao7:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 11 14/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-03-2016 23:15:32
พี่นิลมีปลอกคอซะแล้ว...
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 11 14/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 14-03-2016 23:29:54
>///<
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 11 14/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Abbeynggn ที่ 15-03-2016 17:09:25
กรี้ดกร้าด ><
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 11 14/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 16-03-2016 10:56:51
มินทาสแมว 555555 พี้นิลน่ารัก ถนอมๆมินหน่อยนะ อิ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 16-03-2016 20:44:21
ตอนที่ 12

        “นี่ถามไรหน่อยดิ” ผมพูดขึ้นในขณะที่ผมกับไอ้พี่นิลกำลังนั่งดูสารคดีสัตว์โลกใต้ทะเลอยู่ ผมเพิ่งเข้าใจนี่แหละครับว่าต่อให้เถื่อนอย่างไอ้พี่นิลแต่แมวก็ยังชอบปลาอยู่วันยังค่ำ

        “หืม ?” ตอบนิ่งๆ หางสีดำยังคงกวัดแกว่งไปมาเหมือนกำลังตื่นเต้นกับฉลามยักษ์ในจอทีวี คือมึงตั้งใจไปไหม ? ช่วยรักษาลุคเท่ห์ๆเอาไว้บ้างเถอะ -..-

        “หายไปไหนมาหรอ?” พอพี่มันไม่มีทีท่าว่าจะสนใจผม ผมเลยจัดการซุกตัวนอนหนุนตักพี่มันซะเลย

             “อะไร ?” ได้ผลครับพี่มันทิ้งปลาในจอก้มลงมามองหน้าผมแล้ว แถมยังเอาหางมาพันรอบๆตัวอีก

             “ก็...ที่หายไปตั้งหลายวัน อยากรู้ว่าไปไหน...” ผมถามเสียงเบา อันนี้อยากรู้จริงๆครับเผื่อว่าไปขลุกอยู่กับเด็กคนไหน หรือว่ามีที่อยู่อื่นอีก คราวหน้าถ้าพี่มันหายไปอีกผมจะได้ตามถูก

             “เรื่องจัสมินน่ะ”

            “น้องชายมึง ?” ผมจำได้ว่าพี่มันเคยเล่าเรื่องของจัสมินน้องชายของตัวเองให้ฟัง รู้สึกว่าจะยังไม่สามารถควบคุมการแปลงร่างของตัวเองได้ดีเท่าไหร่ แล้วตอนนี้ก็หนีออกจากบ้านไปเที่ยว คนเดียวกับที่ผมเห็นยื้อกันอยู่เมื่อตอนนั้นนั่นแหละ

             อืม...ก็เข้าใจนะ ว่าทำไมที่บ้านถึงเครียด ถ้าเกิดไปเผลอกลายร่างจนคนเห็นเข้าล่ะก็ คงไม่พ้นได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แถมยังโดนจับลงหลอดทดลองแหงมๆ ไหนจะธูปเทียนกับแป้งขาวๆที่คนจะแห่เอาไปขอหวยอีก แค่คิดก็บรึ๋ย ~~~

            “แล้วตอนนี้เจอยัง?”

            “เจอแล้ว...” พี่มันตอบพร้อมกับพลิกตัวผมลงไปนอนข้างใต้ ก่อนจะขึ้นคร่อมเอาไว้ หางเริ่มไซร้เข้ามาในเสื้อ มือไวชะมัด ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้คุยแน่

            “เดี๋ยวก่อนสิ ! คุยกันก่อน !” ผมใช้มือจับหลังคอพี่มันเอาไว้ อวัยวะของพี่มันที่กำลังซุกไซร้ผมทั้งหมดหยุดนิ่งสนิทเหมือนติดสตั้น ยกเว้นตาขวางๆที่ส่งมาฟาดฟันผม  ผมเพิ่งเรียนรู้มาครับว่าถ้าจะสู้กับไอ้พี่นิลที่เป็นแมวผมต้องจับตรงหลังคอเอาไว้ ไม่ว่าจะร่างคนร่างแมวถ้าจับได้ ผมชนะเลิศ !!!

          “ก็เจอแล้วไง อยู่กับไอ้แซม”

          “แซม ? พี่แซมอ่ะหรอ ? งั้น...” ถ้าอยู่กับพี่แซมก็เป็นไปได้ว่าแมวน้อยสีขาวเจ้ามะลิตัวนั้นอาจจะเป็นน้องชายของพี่นิลก็ได้ เหมือนจะเคยได้ยินเรื่องแปลงร่างอะไรสักอย่างจากพี่เขาด้วย แสดงว่าอาจจะรู้เรื่องแวร์แคทแล้วก็ได้ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวอะไรงั้นก็คงไม่น่าเป็นห่วง มะลิยังไม่ถูกจับไปขูดหวยแน่ๆ

           “อือ”

           “แล้วไม่พากลับบ้านล่ะ”

           “ยังหาไม่เจอ”

           “เอ๋ ??” อะไร ? เมื่อกี้บอกเจอตอนนี้บอกไม่เจอ

           “รู้ว่าอยู่กับไอ้แซม แต่ยังไม่เจอตัวเป็นๆ”

           “งั้นน้องชายมึงก็มะลิสินะ”

           “อือ” นัยน์ตาคมฉายแววกังวลออกมาอย่างชัดเจน คงเป็นห่วง

           “กูมีเบอร์พี่แซมนะ เดี๋ยวจะลองโทรไป” ผมจำได้ว่าเคยแลกเบอร์กับพี่แซมเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว

           “ไปมีเบอร์ไอ้เหี้ยนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ?!” เสียงเข้มๆ กับตาขวางๆที่เพิ่มขึ้นอีกสิบระดับ แถมยังเพิ่มยศให้พี่แซมอีก ถ้าไม่ติดว่าพี่มันกำลังอยู่ในสภาพเหมือนหมดแรงขยับตัว ผมคงถูกขย้ำไปแล้วแน่ๆ

           “ก็...นานแล้ว ยังไม่เคยโทรสักครั้งเลยด้วย”

           “แน่ ?”

          “เออน่า...เดี๋ยวโทรให้”

          “....” นอกจากสายตาคาดโทษพี่มันก็ไม่ว่าอะไรอีก ผมเลยขยับออกเนียนๆ ก่อนจะปล่อยมือแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าห้องนอนไป เพื่อโทรศัพท์

          หลังจากวางสายจากพี่แซมแล้ว ได้ความคร่าวๆว่าเป็นเรื่องจริงที่มะลิคือจัสมินน้องชายของไอ้พี่นิล แล้วพี่แซมเองก็ไม่รู้เรื่องที่จัสมินหนีออกจากบ้านแล้วก็เรื่องที่กำลังโดยทางบ้านตามตัวเลย เพราะงั้นผมเลยขอที่อยู่เอาไว้กะว่าพรุ่งนี้จะแวะเข้าไปเพื่อให้ไอ้พี่นิลได้เจอน้องสักหน่อย เพราะถ้านัดข้างนอกคงไม่มีทางแน่ ขนาดเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันแท้ๆ ยังดักเจอไม่ได้เลย

          “อ๊ะ !” ผมตกใจจนเกือบปล่อยโทรศัพท์ในมือทิ้ง เมื่อถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกไอ้แมวเถื่อนของผม แถมไม่กอดธรรมดายังใช้ลิ้นสากๆเหมือนลิ้นแมวของตัวเองไล้เลียไปทั่วต้นคอจนผมหมดแรงดิ้นคงคิดจะเอาคืนเรื่องเมื่อกี้

          แต่ !! ตรงนี้มันที่ระเบียงนะ

          “มะ...ไม่เอานะ”

          “บทลงโทษสำหรับทาสแมวที่ริอาจจะเป็นเจ้านาย” เสียงทุ้มๆดังขึ้นชิดริมหูก่อนเริ่มโจมตีทุกจุดบนร่างกายผม เป็นการลงโทษอย่างที่เจ้าตัวว่า....
         
           .
           .
           .

           ปึ่ก ! ปึ่ก ! ปึ่ก !

           “อ๊ะๆ อ๊า...ส์  มะ...ไม่ไหวแล้ว ~” ผมถูกยกขาข้างหนึ่งขึ้นสูง สะโพกถูกจับแอ่นจนโค้งเพื่อรองรับแรงกระแทกกระทั้นจากทางด้านหลังที่ขยับถี่รัวอย่างไม่ปราณี ความรู้เสียวซ่านเข้าโจมตีจนผมขาสั่นแทบยืนไม่ไหวต้องเกาะขอบระเบียงเอาไว้แน่นเพื่อประคองตัว ปากพยายามเม้มสนิทเพื่อนกลั้นเสียงเอาไว้เพราะยังอยู่ที่ระเบียง ความตื่นกลัวที่จะมีคนออกมาเห็นหรือว่าใครบังเอิญได้ยินเข้าทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติ จนเผลอขมิบตอดอย่างรุนแรงและถึงจุดหมายอย่างรวดเร็วจนคนด้านหลังครางหึ่ม

            “ชอบเอ้าท์ดอสินะ อืม แน่นชะมัด...” เสียงทุ้มครางต่ำชิดริมหูก่อนจะจับผมหมุนแล้วอุ้มขึ้นนั่งที่ราวระเบียง แล้วเริ่มขยับอีกครั้ง

           ผับๆๆๆๆๆๆๆๆ

           “อ๊ะ อ๊ะ อ๊า...ส์ ~~”

           ผ่านไปหลายยกหลายท่า แต่ไอ้บ้าพี่นิลยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ ผมอยากจะขยับออกเพราะเริ่มหมดแรงแต่ก็ทำไม่ได้เพราะการที่พี่มันอยู่ในร่างครึ่งคนครึ่งแมวนอกจากลูกแมวของพี่มันจะใหญ่ขึ้นแล้ว ยังมีออฟชั่นเสริมเป็นความสากระคายเล็กๆ และแง่งล็อคที่จะไม่ยอมหลุดออกถ้าเจ้าของไม่ถึงจุด

           “พะ...พอแล้ว... อ๊ะๆๆ”

           “อีกนิด อ่า...ส์”

           “อ๊า...ส์”

         
            หลังจากผ่านการลงโทษอันดุเดือดที่ผมเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความผิดของตัวเองจนถึงเช้า บ่ายๆของอีกวันผมกับไอ้พี่นิลก็พากันมายืนอยู่หน้าคอนโดพี่แซมที่ผมโทรไปนัดไว้เมื่อวานนี้ ( ส่วนตอนนี้เบอร์พี่แซมในเครื่องผมหายไปแล้ว ) แต่จะเรียกว่าพากันมาก็คงไม่ถูกนักเพราะตอนนี้ผมเกาะร่างใหญ่ๆของพี่นิลไว้แน่นเป็นลูกลิงเพราะไอ้บ้านี่มันอุ้มผมแบบเข้าเอวน่ะสิ !!! อยากจะแย้งเพราะผมไม่ใช้เด็กตัวเล็กๆ แต่พี่มันบอกว่าถ้าไม่อุ้มท่านี้ ผมต้องเดินเอง

            แล้วไอ้ที่โดนมาเมื่อคืนน่ะ มันจะทำให้ผมเดินไหวได้ไงเล่า !!

            “ขอโทษที่ให้รอนะ” เสียงของพี่แซมทำให้ผมเงยหน้าจากไหล่ที่กำลังซบอยู่ขึ้นมามอง แต่มือใหญ่ก็มากดหัวผมให้ซบลงที่เดิมก่อนจะกล่าวทักทายกลับไป

            “ไม่เป็นไร”

            “เอ่อ...มินไม่สบายหรือเปล่า จริงๆมาวันหลังก็ได้นะ”

            “หึหึ ไม่เป็นไรหรอก” พี่มันตอบก่อนจะกระชับตัวผมให้แนบขึ้น ผมที่อายจนไม่กล้าสบตาใครก็ได้แต่ซุกหน้าลงบนไหล่กว้าง อย่างน้อยคนที่เดินผ่านไปมาแถวนี้ก็คงจะจำหน้าผมไม่ได้ ปล่อยไอ้พี่นิลหน้าด้านไปเถอะ

              แกร่ก ~~~~~

              ไอ้พี่นิลอุ้มผมเดินตามที่แซมเข้าห้องมาแบบชิลๆ ก่อนจะนั่งแหมะลงบนโซฟาทั้งที่ยังไม่ยอมปล่อยผมลงจากตัก เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ผมยังนั่งคร่อมตักพี่มันเอาไว้ รับรู้ถึงสายตาที่พี่แซมมองมาเป็นระยะๆ แต่ก็คงโดนไอ้โหดมองจิกกลับไป

               “ตอนนี้มะลิคงอาบน้ำอยู่ อีกแป๊บก็คงมา” พี่แซมพูดนิ่งๆ บรรยากาศเปลี่ยนเข้าสู่โหมดตึงเครียดจนผมต้องยกมือลูบหลังคนที่ผมกำลังนั่งทับอยู่เบาๆ ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ ไม่งั้นมีหวังได้ทะเลาะกับน้องแล้วเล่นบทโศกกันอีกแน่

               “พี่แซม ~~~~ เอ๋ ? พี่นิล !! มาได้ไงเนี่ย !!” เสียงทุ้มเล็กๆฟังดูร่าเริงสดใสเปลี่ยนโทนแทบไม่ทันเมื่อมาเจอกับแขกผู้มาใหม่ ผมดันตัวเองออกเล็กน้อย พอเห็นพี่มันไม่ขัดขืนก็เลยถือโอกาสย้ายตัวเองกระดึ๊บลงมานั่งโซฟาข้างๆพี่มันแทน ทันทีที่นั่งแขนยาวๆก็โอบเอวผมลากเข้าชิดตัวทันที ผมเงยหน้ามองคนข้างตัวที่มองคนตรงหน้าตัวเองก่อนจะยกยิ้มมุมปากนิดๆ ทำให้ผมหันมองตาม

              คงเป็น ‘จัสมิน’ สินะ ผู้ชายตัวเล็กที่คาดว่าจะเล็กกว่าผม แถมยังดูเด็กกว่าผมหลายขุมทั้งที่อายุห่างกันแค่ปีเดียวเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยังชื้นนิดๆเหมือนเพิ่งสระเสร็จ ดวงตากลมโตที่เบิกโตมากกว่าเดิมเพราะความตกใจ ปากบางเล็กๆเป็นกระจับสีชมพูตัดกับสีผิวขาวแบบโอโม่ที่อยู่ในเสื้อยืดลายการ์ตูนกับกางเกงขาสั้น แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ หูแมวเล็กๆและหางแมวฟูๆ สีขาวบริสุธิ์เหมือนดอกมะลิชื่อของเจ้าตัว ที่สำคัญมีกระดิ่งสีทองกรุ๊งกริ๊งผูกด้วยริบบิ้นสีแดงอยู่ที่ปลายหางด้วย !!!

             โมเอะ โคตรๆ ❤3❤
   
             “อ๊ะ ! เดี๋ยวสิ” จู่ๆภาพแมวน้อยสีขาวของผมก็หายไป ถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดจากฝ่ามือใหญ่ที่ทาบลงมาแทนที่ ผมอาจจะดูเคลิ้มมากไปหน่อยแต่น่ารักจริงๆนะครับ เทียบกับไอ้เถื่อนข้างๆผมที่หาความโมเอะไม่เจอเลยแม้แต่เสี้ยวเดียวแล้วเนี่ย เหมือนมาจากคนละโลกกันชัดๆ

             “อย่าให้มันมากไป” เสียงทุ้มๆกระซิบหงุดหงิด ก่อนจะเปิดตาผมออก แต่คราวนี้ผมไม่กล้าจ้องน้องมันมากแค่เหลือบๆมอง ผมถอดรหัสจากประโยคเมื่อกี้ได้ว่าถ้าผมยังมองต่อคืนนี้ผมจะโดนลงโทษอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงต้องนั่ง   วีแชร์แล้วล่ะครับ

             “พี่นิลมาที่นี่ได้ไง ?” แมวน้อยเดินไปนั่งข้างพี่แซม ก่อนที่จะเกาะแขนพี่แซมแน่น ส่วนพี่แซมนี่ก็แทบจะรวบมากอดอยู่แล้ว ผมว่าต้องมีซัมติงรองแน่ๆ

             “กลับบ้าน”

             “ก็มินบอกแล้วว่าเดี๋ยวจะกลับ ไม่ต้องมาตามก็ได้”

             “เอาตัวรอดได้แล้วหรือไง ? คิดว่าตอนนี้เก่งมากแล้วงั้นสิ”

             “มึง..” ผมจับแขนพี่นิลเอาไว้เมื่อเห็นว่าพี่มันเริ่มใส่อารมณ์ ดูเหมือนพี่แซมเองก็พอจะอ่านสถานการณ์ออก เลยรวบตัวจัสมินที่ทำท่าจะเป่าปี่เข้ามากอดแน่น

             “อย่าใช้อารมณ์นักสิ น้องมันตกใจ” พี่แซมบอก แต่ไอ้คนข้างผมไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ

             “ไง ตอบมาสิ ปีกกล้าขาแข็งแล้วหนิ”

             “ฮึก...”อีกฝ่ายเริ่มสะอื้น ในขณะที่ไอ้พี่นิลก็ยังใส่เรื่อยๆ อีกสารพัด เพิ่งรู้ว่าพี่มันปากจัดมากก็วันนี้

             “มึงใจเย็นหน่อยได้ไหม ดุมากๆเดี๋ยวน้องมันเตลิดไปอีกจะทำไง ทำไมไม่คุยกันดีๆวะ” ผมเตือน

             “ฮึก...มะ...ไม่เป็นไรหรอกครับ มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว” จัสมินเช็ดน้ำตาป้อยๆ ตากับจมูกเป็นสีแดงก่ำ น่ารักกว่าเมื่ออีก พี่แซมเองก็คงคิดเหมือนกันผมเห็นพี่มันแอบกลืนน้ำลายตัวเองด้วย หื่นชะมัด

             “เอาเถอะ แค่นี้แหละ ส่วนมึงออกมาคุยกันหน่อย” ไอ้พี่นิลตัดบทจบแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็ชี้นิ้วไปทางพี่แซมที่ท่าทางงงๆไม่ต่างจากผม แล้วทั้งคู่ก็พากันออกไป โดยมีผมมองตามด้วยความเป็นห่วง

             “ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ก็ไม่เป็นไรหรอกฮะ”

             “เอ๋ ?” ผมหันมามองร่างเล็กๆเจ้าของหูและหางแมวสีขาวที่ย้ายมานั่งข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แถมยังหน้าแฉล่มอีกต่างหาก อะไรกัน ? นี่ผมงงไปหมดแล้วนะ

              “ก็เป็นธรรมดาฮะ ความจริงมินติดต่อที่บ้านกลับไปแล้ว แล้วที่บ้านเองก็รับรู้แล้วด้วย มีแต่พี่นิลนี่แหละที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเสียที”

              “แล้วทำไมเรื่องมันจบง่ายๆแบบนี้ล่ะ ?” ผมมองหูกับหางสีขาวที่ขยับไปมาอย่างเพลินๆ

              “ก็นะ ถ้ายอมนั่งร้องไห้ฟังพี่นิลดุสักพักละก็ แป๊บเดียวพี่นิลก็หายโกรธเองแหละ ^_^”

              “ห๊า ?! แล้วตอนแรกจะหนีทำไมล่ะ ?”

              “ก็ตอนนั้นมินยังไม่ค่อยว่างนี่ฮะ ยุ่งเรื่องพี่แซมจนไม่มีเวลาไปนั่งฟังพี่นิลบ่น”

              “ - .. - " เอ่อ...นอกจากจะเป็นแมวแล้วยังมีนิสัยประหลาดๆอีกสินะ

              “ว่าแต่ สร้อยคอพี่นิลสวยดีนะฮะ >_<”

              “จริงหรอ >_<” สร้อยที่จัสมินพูดถึงเป็นสร้อยที่ผมสั่งทำให้พี่มันเป็นปลอกคออันใหม่น่ะครับ ลองคิดว่าถ้าพี่มันจะใส่ปลอกคอแมวสีส้มจี๊ดนั่นตลอดเวลาคงไม่น่าดูเท่าไหร่นักเลยเปลี่ยนแบบให้นิดหน่อย ตัวสร้อยเป็นโซ่เส้นเล็กๆ ที่มีจี้เป็นแผ่นอะลูมิเนียมสลักชื่อและเบอร์ติดต่อของผมเอาไว้ แบบนี้ไม่ว่าพี่มันจะหายไปไหนหรือไปกลายร่างอยู่ตรงไหน ผมก็สามารถไปรับได้ แถมยังเป็นสัญลักษณ์การสละโสดที่ดีอีกด้วย วันก่อนเห็นหน้าไอ้เค้กเน่านั่นมองผมแบบจิกกว่าเดิม แสดงว่าคงจะเห็นแล้วล่ะสิ หึหึ

             “มิน !!” เสียงเข้มดังแทรกระหว่างที่ผมกำลังนั่งจับหูจับหางจัสมินเล่น มันนุ่มนิ่มกว่าที่คิดไว้ซะอีก >///<

             “ฮะ / อะไร ?” ผมกับจัสมินตอบพร้อมกัน เอ่อ...ก็ไม่รู้หนิว่าเรียกใครอ่ะ

             “เรียก มิน ไม่ได้เรียก เมีย”

             “....” ผมแดกจุดเลยครับเมื่อเจอมุกนี้ พี่แซมที่เดิมตามเข้ามามองผมยิ้มๆ ส่วนจัสมินที่ถึงแม้จะโดนไอ้พี่นิลมันหิ้วคอไปแล้วแต่ก็ยังไม่วายส่งยิ้มล้อผม แล้วผมเองก็ดันรู้สึกหน้าร้อนฉ่า ตอบโต้อะไรไม่ได้เลย น่าอายชะมัด ~~~~


TBC ++++++++++++++++++++++
 TALK ...
เเวะมาเคลียร์เรื่องจัสมิน เเละตอนนี้คงจะตอบคำถามเรื่องลูกเเมวของพี่นิลเเล้ว อิ้อิ้  :o8: :o8: เเละอยากจะบอกว่า ตอนหน้าจะจบเเล้วจ้าาาา  :mew6: แอบใจหายเล็กน้อย เเต่ก็เรื่องก็ตำเนินมายาวนานมากกว่าเรื่องสั้นเเล้ว คงต้องลาจอเสียที  :heaven :heaven
ปล. เจลความคิดว่าจะลงเเต่งเรื่องของจัสมินกับพี่เเซม เเต่กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาใส่เป็น side story ของเรื่องนี้ หรือจะเเยกดี หรือไม่เขียนดี หรือยังไงดี ??? ผู้อ่านคิดว่าอย่างไหนดีคะ ?  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-03-2016 20:50:33
 :z1:    แง่มๆขอตอนพิเศษให้พี่แซมด้วยค่ะ ทนความโมเอะได้ไม่นานแน่ๆเลย
พี่นิลบ้า ระเบียงซะด้วยโคตรจะหื่นเลย นึกไม่อกเรื่องแง่งกับตัวล็อคของเจี๊ยวแมวแหะ 55555
รอน้องมะลินะคะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 16-03-2016 21:13:30
น่ารักกกกกกก :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 16-03-2016 21:30:38
บรรยายซะอยากอุ้มจัสมินกลับบ้านเลย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-03-2016 22:01:50
ให้เรื่องของแซมกับจัสมินเป็น side story ก็ดีนะคะ อยากอ่านๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Abbeynggn ที่ 16-03-2016 22:22:13
น่าร้ากกกกกก มันมุ้งมิ้งมาก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 16-03-2016 23:06:53
เป็นเรื่องสั้นที่สนุกมากๆ ถ้าเป็นเรื่องยาวก็ดีนะคะ ชอบๆ
 :hao7: :hao7: รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 17-03-2016 00:20:56
สนุก และรอ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 17-03-2016 04:28:27
 o13
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 17-03-2016 10:30:00
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 17-03-2016 14:57:58
น่ารักชะมัด แซมจัสมิน ก็จัดว่าน่ารักที่สุด สวรรค์~ ไม่ได้เข้ามาดูไม่กี่วันอัพซะอึ้งเลยแต่ดีใจนะคนเขียนใจดี ขอบคุณครับ:)
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: PiSCis ที่ 18-03-2016 19:40:41
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (แฟนซีเเมวน้อย?) (Up! ตอนที่ 12 16/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 18-03-2016 23:18:00
อ๋อยยยย นึกภาพตามแล้วน่ารักจังเลยยยย

แอบอยากเห็นพี่นิลถูกมัดโบว์แดงพร้อมกระพรวนที่หางด้วยจัง คงน่ารักพิลึก 5555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END) (Up! ตอนที่ 13 20/3/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 20-03-2016 01:52:31
ตอนที่ 13

             รอแป๊บ อาจารย์ขอเลท 15 นาที
           
             อื้อ

             ผมพิมพ์ข้อความในไลน์ตอบไอ้พี่นิลไป ใจจริงอยากจะบอกว่าอีก 30 นาทีก็ไม่เป็นไร เรียนๆไปเถอะทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้

             “อีออย กูมีเวลา 15 นาที กูจะหนีไปไหนดีวะ ?” ผมถามอีออยที่มานั่งรอไอ้พี่นิลเป็นเพื่อนผมที่เก่าที่เดิมโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ วันนี้มีสองคนครับอีกสองหายต๋อม ความจริงอีออยมันมารอพี่ปืนครับถึงมันจะอ้างว่าไม่อยากให้ผมอยู่คนเดียวก็เถอะ ผมรู้ครับ อุว่ะฮ่าๆๆๆๆ

            “ประสาทแดกหรอมึง”

            “กูไม่พร้อมอ่ะ ไม่พร้อมๆๆๆ”

            “แค่ไปกินข้าวที่บ้านผัวจะอะไรนักหนา กูเห็นโวยวายมาตั้งแต่เช้าทำไมไม่บอกพี่มันไปล่ะว่าไม่พร้อม -..-” อีออยตอบเหวี่ยงๆ ใช่สิก็มึงเล่นเข้าออกบ้านพี่ปืนเหมือนเป็นบ้านตัวเองแล้วหนิ มึงก็รอดสิ ส่วนผมนี่ครั้งแรกเลยครับ

            นับจากวันที่ไปหาน้องจัสมินแมวน้อยของผม (?) หลังจากวันนั้นมาก็อาทิตย์กว่าๆไอ้แมวเถื่อนของผมก็โดนที่บ้านเรียกตัวให้กลับบ้าน แล้วที่ต้องหนีบผมไปด้วยก็เพราะที่บ้านพี่มันอยากเจอผม แล้วความชั่วของไอ้พี่นิลก็คือ พี่มันเพิ่งบอกผมเมื่อเช้าครับ เมื่อเช้าก่อนจะเข้าเรียนคาบแรกแล้วเวลานัดคือเย็นวันนี้ ! พอผมถามว่าทำไมไม่ไปบอกตอนถึงหน้าบ้านเลยล่ะ พี่มันก็บอกให้ผมลืมไปซะแล้วจะไปบอกใหม่ตอนถึงหน้าบ้าน ดูมันๆๆๆ แล้วอย่างนี้ผมจะไปเตรียมตัวเตรียมใจทันได้ยังไง เลยต้องมางอแงใส่อีออยจนหวิดจะโดนด่าอยู่หลายครั้ง
   
            “ก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงนี่ แล้วพ่อแม่พี่มันดุหรือเปล่าก็ไม่รู้” ผมพูดเสียงอ่อย เริ่มไถลตัวไปกับโต๊ะอย่างคนหมดแรง

            “ไม่ดุหรอกมั้งก็พวกเขาอยากเจอมึงหนิ หรือไม่บางทีนี่อาจจะเป็นแผนลวงไปฆ่า ข้อหาทำลูกชายเขาหมดอนาคต”

            “อีออย !!”

            “ฮ่าๆๆๆ มึงก็คิดมากไป ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีหรอกเรื่องแม่ผัวเขม่นลูกสะใภ้ เรื่องรับไม่ได้ลูกชายเป็นเกย์ อะไรแบบนั้นไม่มีหรอกๆ”

            “มึงหยุดพูดก็ดีนะ -..-” ยิ่งฟังผมยิ่งจิตตก ถ้าแม่พี่มันไม่ชอบผมขึ้นมาแล้วกางเล็บข่วนผม ผมคงสู้ไม่ได้ TT หรือจะหากระพรวนสวยๆไปฝากดีนะ หรือของเล่นแมวดี ? ฮือออ คิดไม่ออกเลยยย
 
            “แล้วมึงตอนไปบ้านพี่ปืนครั้งแรกเป็นไงบ้าง” ผมถามขอแนวทาง จะได้เตรียมตัวถูกอย่างน้อยก็แผนรับมือแม่ผัว

            “ไม่เป็นไง บ้านพวกกูรู้จักกันอยู่แล้ว” มันตอบ ผมแอบเห็นนะว่ามันหน้าแดงนิดๆ

             “น้องออยยยยย พี่ปืนเรียนเสร็จแล้วค้าบบบบบ” นั่นไงพูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บ อีออยที่เหมือนจะกำลังอายเมื่อครู่หน้าตาตื่นแล้วเปลี่ยนหน้าเป็นเคร่งขรึมทันที อะไรมันจะขนาดนั้น

            “หยุดแหกปากได้แล้ว !! อายคน”

            “ถ้าน้องออยไม่ให้พี่แหกปาก งั้นกลับบ้านไปให้พี่แหกอย่างอื่นกันเถอะ ไปครับๆ”

            “หือ ??” ผมหันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่อีออยที่กำลังแผ่แม่เบี้ย

            “ไอ้เชี่ยพี่ปืน”

            “ไม่เอา ด่าผัวไม่เจริญนะครับ”

            “ผัวววว ???” ผมลากเสียงยาวล้ออีออยที่อ้าพะงาบๆเหมือนคนหายใจไม่ออกรังสีทะมึนเริ่มเข้าครอบงำ รู้สึกเหมือนจะเห็นสายฟ้าฟาดเปรี๊ยะๆด้วย คาดว่าวันนี้พี่ปืนคงเจ็บหนัก ฮ่าๆแต่สนุกผมล่ะครับเพราะมันไม่เคยยอมรับหรือเล่าเรื่องพี่ปืนให้ฟังเลย พวกผมก็ไม่ถามครับเพราะรู้ๆกันอยู่ แล้วตอนนี้ก็รู้แจ้งเลยล่ะครับ คึคึ

            “เอาแต่หัวเราะคนอื่นเขา เราก็ไปกันได้ละเดี๋ยวสาย” ผมแทบช็อคเลยครับ ไอ้พี่นิลมันมาตอนไหนไม่รู้เดินเข้ามาหยิบกระเป๋าผมที่วางอยู่บนโต๊ะเปิดออกแล้วยัดชีทเรียนกับปากกาอีกหนึ่งด้ามของตัวเองเข้ากระเป๋าผม ก่อนจะโยนกลับมาให้ผมถือ ผมก็รับไว้นิ่งๆ ปกติคงจะด่าจนกว่าพี่มันจะเอาไปถือแต่คราวนี้ด่าไม่ออกครับ เพราะเอาแต่ขำอีออยจนลืมเรื่องของตัวเองไปเลย

           “ไม่ด่า ?” พี่มันเลิกคิ้วถาม

           “....” ผมเงียบแล้วออกเดิน ไม่ได้โกรธหรืออะไรหรอก แค่กำลังรวบรวมสมาธิเตรียมรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอยู่เพราะผมถือคติที่ว่าสติมาปัญญาเกิดครับ แต่ตอนนี้ทั้งสติและปัญญาของผมเหมือนจะจับมือกันไปเที่ยวพักร้อนหมดแล้วฮือ~~~~

            พรึ่บ!

            “อ๊ะ !” กระเป๋าของผมถูกแย่งไปถือโดยคนที่เดินขึ้นมาเคียงข้าง มือใหญ่วางแปะลงบนหัวผมแล้วลูบเบาๆ เหมือนลูบหัวหมา (?) ปากก็ฮำเพลงงุงงิง

            “ไอ้เตี้ยตื่นตูม ~~ ไอ้เตี้ยตื่นตูม ~~~~” นี่แหละครับเพลงพี่มัน ใส่ทำนองอะไรเข้าไปไม่รู้แถมยังโยกหัวผมไปมาให้เข้ากับจังหวะมันอีก

            “เพลงแม่งเหมือนหน้าตามึงเลยว่ะ”

            “?”

           “เหี้ยไง”

           โป๊ก !

           “โอ๊ย ! เหี้ยมันเจ็บนะ” พี่มันเขกหัวผมครับแรงด้วย TT

           “ที่บ้านกูไม่ชอบคนพูดคำหยาบ” เสียงทุ้มพูดจริงจัง

           “จะ...จริงหรอ ?”

           “เออ เพราะงั้นเก็บหมาในปากมึงให้หมด” พี่มันแยกไปขึ้นรถทางฝั่งคนขับ ผมก็ก้าวขึ้นไปอีกด้าน เรื่องพูดเพราะคงไม่เป็นปัญหาเพราะตั้งแต่คบกันผมก็ไม่ค่อยพูดคำหยาบกับพี่มันเท่าไหร่ ถ้าพี่มันไม่กวนตีนผมแบบเมื่อกี้อ่ะนะ

           “แล้วไงอีก แม่มึงชอบคนแบบไหนอีก”

           “ก็ชอบ...คนพูดเพราะ น่ารัก ทำกับข้าวเก่ง งานบ้านเนี้ยบ แล้วก็ไม่แรด” รู้สึกเหมือนโดนหลอกด่าเลยแฮะ

            “อ่า...อื้อ” ผมเริ่มคิดหนัก น่ารักหรอ ? ผมคิดว่าผมก็ได้อยู่นะ ส่วนเรื่องงานบ้านก็พอถูไถถือว่าเอาตัวรอดได้ ทำอาหารก็กินได้ไม่ตาย ส่วนเรื่องแรด ผมไม่แรดอยู่แล้ว

            “แล้ว...แล้วถ้าที่บ้านมึงไม่ชอบกูล่ะ” ผมถามเสียงอ่อย ถึงจะคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่ผมก็อดกังวลไม่ได้

            “จิตตกหรอมึง ?” พี่มันเอื้อมมือมายีหัวผม

            “ก็แล้วถ้า...”
   
            “กูลืมบอกไปอีกอย่าง” พี่มันขัดขึ้นมา

            “อะไร ?”

            “ถ้ากูรักใครที่บ้านกูก็รักคนนั้น ^^” น้ำเสียงจริงจังกับมือใหญ่ที่เอื้อมมากุมมือผมไว้หลวมๆ แล้วคลึงนิ้วผมเล่นไปมา มันช่วยทำให้ผมรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจและสงบลงได้อย่างน่าประหลาด


            “พี่มินนนน ^_^” เสียงจัสมินดังออกมาจากในบ้านพร้อมกับร่างเล็กๆที่มีหูแมวหางแมวสีขาวที่มีกระพรวนห้อยดังกรุ๊งกริ๊งเหมือนเดิม วิ่งออกมาหาผมที่หน้าบ้าน ยังโมเอะเหมือนเดิมเลยน๊า ~~

            ผมเดินคุยเล่นกับจัสมินเข้าไปในบ้านโดนมีพี่นิลเดินตามหลังเข้ามาห่างๆ เห็นว่าความจริงวันนี้พี่แซมจะมาด้วยแต่ติดธุระเลยพลาดไป น้องเองก็ดูหงอยๆไปนิดแต่ไม่นานก็กลับมาร่าเริงได้เหมือนเดิม บ้านของพี่นิลเป็นบ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์นแบบบ้านคนมีอันจะกินทั่วไป แต่ที่ใหญ่ว่าปกติหน่อยก็คงจะเป็นพื้นที่สวนหน้าบ้านกับความกว้างของบ้าน คิดว่าคงเอาไว้รับมือกับความซนของลูกแมวตอนเป็นเด็กๆ

           “มาถึงกันแล้วหรอ?” ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียงทุ้มแหบติดโหดๆที่เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะก้มหน้าหงุด อ๊ากกก เมื่อกี้ก็คุยกับจัสมินเพลินจนลืมตัวอีกแล้ว (รู้สึกจะถูกล่อลวงง่าย)

           “สวัสดีครับ” ผมยกมือไว้ก้มหัวอย่างนอบน้อมที่สุด ไม่กล้าเงยหน้ามองเลยแฮะ

           “เอ้า !! ก้มอยู่อย่างนั้นจะได้เห็นหน้ากันไหมเนี่ย บ้านฉันไม่มีกบให้จับหรอกนะ”

           อะจึ๋ย !

           ผมสะดุ้ง อย่าเสียงดังสิครับผมขี้ตกใจนะแล้วเสียงคุณพ่อจะโหดไปไหน TT ได้แต่พูดในใจครับ ไม่กล้าพูดหรอก แค่เสียงยังโหดขนาดนี้ หน้าตาก็คงโหดไม่แพ้กัน แล้วถ้ารู้ว่าผมมาทำไมท่านไม่เอามีดมาแทงผมเลยหรอ หรือจะจับขังกรงเป็นหนูน้อยไว้แทะเล่น แค่คิดก็สยอง ~~~

          “พ่อก็ไปแกล้งมัน มันยิ่งเพ้อเจ้ออยู่” เสียงพี่นิลครับ ฮือ มึงหายไปไหนมา พ่อมึงจะกินตับกูอยู่แล้ว TT

          “ฮ่าๆๆๆ เหมือนหนูอย่างที่มึงว่าเลยว่ะ เอ้าๆเงยหน้าเป็นแมวไม่ใช่ผีโว้ยยย”

          “เอ๋ ?” เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้างงๆ พ่อไอ้พี่นิลไม่ได้แก่มากครับอยู่ในชุดเรียบร้อยปกติไม่มีหางแมวหูแมวโผล่ออกมาเหมือนจัสมิน และยังหนุ่มแน่นแถมยังอารมณ์ดีขนาดที่มีแรงมาแกล้งผม หน้าตาก็ไม่ต่างจากพี่นิลเท่าไหร่เรียกว่าอนาคตตอนไอ้พี่นิลแก่ก็คงเป็นแบบนี้แหละ ผมบู้หน้าด้วยความเคยตัวเวลาโดนแกล้ง จนพ่อมันขำก๊ากอีกรอบ

           “เอาน่าๆ เห็นแล้วมันอดไม่ได้จริงๆ” คุณพ่อเอื้อมมือมาเหมือนจะยีหัวผมด้วยความเอ็นดู แต่ไม่ทันโดนตัวผมหรอกฮะ เพราะมีมือใหญ่ของคนข้างๆมาบังไว้ก่อน
 
          “บ๊ะ กับกูยังหวง”

          “งั้นผมกอดแม่”

          “อยากโดนตอนก็ไป”

          “(‘.’  )(  ‘.’) (‘.’  )(  ‘.’) ?” ผมเงยหน้ามองสองพ่อลูกที่ครางหึ่มๆใส่กันอย่างงงๆ เรื่องมันเปลี่ยนเร็วไปไหม? แล้วไหนจะสรรพนามที่เรียกกันนั่นอีก  ไม่แปลกใจเลยว่าไอ้พี่นิลได้เชื้อเถื่อนมาจากใคร

         “ไปหาแม่กันเถอะพี่มิน ปล่อยสองคนนี้ไป”

         “แล้วจะไม่เป็นไรหรอ ?”

          “ธรรมดาๆ ไปกัน”

          “อื้อ” ผมเดินตามจัสมินเข้าไปทางห้องครัว มีผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังทำอาหารอย่างขะมักเขม้น คงเป็นคุณแม่สินะ ท่านยังดูสาวและยังดูสดใสแถมยังสวยมากๆด้วย ท่านอยู่ในชุดเรียบร้อยปกติไม่มีหูหางเหมือนกันกับคุณพ่อ ข้อสรุปคือบ้านนี้หน้าตาดีกันทั้งบ้าน

         “แม่มินพาพี่มินมาหา”

         “เอ๋ ? น้องมิน ~~~”

         “สวัสดีครับ” ยกมือไหว้สวยงามอย่างไทย คุณแม่ในชุดผ้ากันเปื้อนวางมือจากงานตรงหน้าทิ้งให้จัสมินเข้าไปจัดการต่อ แล้วเดินปรี่เข้ามาหาผม

         “น่ารักจังเลย คุณแม่คิดไว้แล้วว่าน้องมินต้องน่ารักมากแน่ๆ” คุณแม่เดินหมุนรอบตัวผม ผมก็ได้แต่ยืนนิ่งให้สำรวจกันไป ถึงจะงงๆกับสถานการณ์แต่ก็นะ แต่ก็สบายใจได้เรื่องการซดเกาเหลากับแม่สามี๊ ~~~

         “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ คุณแม่มีอะไรให้มินช่วยไหมครับ”

         “น้องมินทำกับข้าวเป็นด้วยหรอลูก ?”

         “พอได้นิดหน่อยครับ แต่ถ้าคุณแม่จะกรุณา ช่วยสอนมินด้วยนะครับ ^^” ผมยิ้มอ้อนเลยครับ ก็พี่นิลบอกว่าแม่พี่มันชอบคนทำอาหารเก่งแต่ผมไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ที่ทำได้ก็พอกินๆไปกันตาย เพราะงั้นนี่เป็นวิธีแก้สถานการณ์ที่ดีที่สุด

         “อ๊ายยย น่ารักจริงๆ มาๆ คุณแม่จะสอนนะคะ.....บลาๆๆๆๆ” แล้วผมก็ได้สูตรอาหารใหม่ๆมามากมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของชอบไอ้พี่นิลทั้งนั้น

         หลังจากมื้อเย็นที่แสนจะคึกครื้นจบลง โดยมีคุณพ่อแข่งเอาใจคุณแม่กับพี่นิล จัสมมินบอกสองคนนี้ชอบเป็นแบบนี้ประจำ ผมว่าก็น่ารักดีนะครับ  ทุกคนมานั่งทานผลไม้กันอยู่ในห้องนั่งเล่นที่มีทีวีจอใหญ่อยู่ด้วย ผมคุณแม่และจัส  มินครองโซฟาตัวใหญ่ครับ โดยมีคุณแม่นั่งตรงกลางและมีจัสมินที่ปล่อยหูและหางออกแล้วนอนหนุนตักคุณแม่อยู่ ส่วนผมก็นั่งอยู่อีกด้าน คุณพ่อกับพี่นิลก็นั่งคุยอะไรกันอยู่ไม่รู้ ดูๆไปแล้วก็เป็นครอบครัวอบอุ่นที่น่ารักมากๆ รู้สึกอายจังแฮะที่เผลอกังวลไปตั้งมากมาย แต่ความผิดมันก็ของไอ้พี่นิลบ้านั่นแหละ ! แกล้งหลอกให้กลัวทำไมไม่รู้ ไหนจะเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้จากอีออยอีก ไม่น่าไปฟังเลยจริงๆ

           “คิดอะไรอยู่ หน้ายุ่งเชียว” เสียงคุณแม่ทำให้ผมหลุดจากภวังค์

           “เปล่าครับ”

           “อยู่กับพี่นิล น้องมินอาจจะลำบากสักหน่อยนะคะ”

           “ครับ?”

           “ก็พี่นิลน่ะสิ เป็นตัวแสบชัดๆ ขี้แกล้งก็ที่หนึ่งไหนจะเรื่องเอาแต่ใจอีกเหมือนคุณพ่อของเขาไม่มีผิดเลย”

           “ฮ่าๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” ผมอดขำกับท่าทางเข่นเขี้ยวของคุณแม่ไม่ได้ ดูท่าว่าท่านคงจะโดนสองพ่อลูกนี้แกล้งบ่อยๆ

             “ฮึ่ย ถ้าน้องมินโดนพี่นิลแกล้งมากๆบอกคุณแม่นะคะ แล้วหนีมานอนกับคุณแม่เลยนะ”

             “ได้ครับ ^_^”

             “ไอ้นิลมึงเอาเมียมึงออกไปห่างๆเมียกูหน่อย ถึงเป็นเมียแต่ก็ผู้ชายจะอ้อนเกินไปละ” เสียงคุณพ่อขู่เข้มๆ ก่อนจะฉุดมือคุณแม่ให้ลุกขึ้นจนจัสมินที่นอนหนุนอยู่หล่นปุบลงบนโซฟา ร้องโวยวายจนคุณแม่ต้องเข้าไปดู แล้วส่งสายตาชิ้งๆให้คุณพ่อ

             “คุณแม่ฮะ คุณพ่อแกล้งมินอ่า..” จัสมินออเซาะ กับจัสมินดูเหมือนคุณพ่อจะไม่ค่อยกล้าทำอะไรมาก ได้แต่ส่งสายตาหงุดหงิดไปให้เพราะว่าโดนคุณแม่เอ็ด น้องก็ยิ้มแผล่กลับมาไอ้พี่นิลก็หัวเราะ หึหึ เอ่อ...ทำไมผมรู้สึกว่าคนที่น่าสงสารที่สุดในบ้านตอนนี้จะเป็นคุณพ่อกันนะ

             “พอๆ ไปนอนได้แล้วที่รัก ดึกแล้วนะ” เหมือนความอดทนของคุณพ่อจะถึงขีดสุดถึงได้เข้าไปรั้งเอวบางๆของคุณแม่ให้ออกมาจากจัสมินที่เหมือนจะเล่นไม่เลิก

             “จะรีบนอนไปไหนคะ?”

             “ผมหิวอีกแล้วล่ะ รีบไปนอนกันเถอะ”

            “เอ๋ ? ก็เพิ่งทานไปเองนี่นา...”

            “ผมอยากทานคุณพิมพ์ราดซอสขาวขุ่นหนิ หึหึ” ว่าแล้วก็ตวัดร่างคุณแม่ขึ้นอุ้มแล้วเดินขึ้นชั้นสองของบ้านไป ไม่สนใจเสียงโวยวายของคุณแม่เลยสักนิด อ่า...ผมไม่สงสัยอีกแล้วครับว่าความหื่นของไอ้พี่นิลนี้ได้แต่ใดมา

            “ซอสขาวขุ่น ? อะไรอ่ะ ??” จัสมินทำหน้าเหรอหราหันมาถามผมที่นั่งหน้าแดงกับฉากหวานแววของคุณพ่อคุณแม่เมื่อครู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น >////<

            “ไปถามไอ้แซมสิ หึหึ” ไอ้พี่นิลตอบน้อง แล้วเหมือนน้องจัสมินจะหน้าแดงขึ้นมาโดยอัตโนมัติ แสดงว่าเข้าใจแล้วสินะ เด็กเอ๋ยเจ้าจงเติบใหญ่

            “งั้น...เค้าไปนอนแล้วนะ” แล้วน้องจัสมินที่เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวมาเป็น ‘เค้า’ เพราะจะได้ไม่งงเวลามีผมอยู่ด้วย ก็วิ่งหนีขึ้นห้องไปเลยเหมือนกัน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเหลือแต่ผมกับไอ้พี่นิล สถานการณ์เหมือนไม่ค่อยปลอดภัยแล้วสิ ชิ่งดีกว่า

            “งะ...งั้น กูก็ไปนอนแล้วนะ อ๊ะ !” ยังไม่ทันได้ลุกหนีผมก็โดนไอ้พี่นิลจับอุ้มพาดบ่าอีกแล้วครับ

            “กูก็อยากกินนะ...”

            “อะ...อะไร?”

            “มินราดซอสขาวขุ่น หึหึ”

            “ม๊ายยยยย ~~~~~~~”

            .

            .

            ผับๆๆๆๆๆๆๆๆ

            “อึก ! อ๊ะ...อ๊าส์ เบาหน่อย...ละ...ลึกไปแล้ว...อื้อ ~~~”

            “อ่า..ส์ อีกนิด”

            “มะ...ไม่ไหวแล้ว  อ๊า..ส์”

            ผมร้องสุดเสียงก่อนจะปล่อยออกมาหมดแม๊กส์ ร่างสูงใหญ่ที่ซ้อนด้านหลังกระแทกเข้ามาอีกสองสามครั้งก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆผมที่นอนคว่ำหน้าอยู่ ผมปรือตามองหน้าพี่นิล วันนี้ผมไม่ให้พี่มันอยู่ในร่างครึ่งคนครึ่งแมวครับ เพราะไม่งั้นพรุ่งนี้ผมคงลุกไม่ไหวแน่ แต่พอพี่มันอยู่ในร่างคนปกติแล้วไม่มีหูมีหางให้จับเล่น ไม่ชินเลยแฮะ

           “อาบน้ำไหวไหม?” เสียงทุ้มถาม ยกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมของผมให้ออกไปจากใบหน้า

           “มินง่วงแล้ว...” ผมหลับตาใส่ ไม่ไหวจริงๆครับ ถึงจะร่างคนปกติแต่ก็หนักหนาเอาเรื่อง

           “เดี๋ยวเช็ดตัวให้ นอนซะ”

           “อื้อ...”

            ผมปล่อยให้พี่นิลพลิกตัวผมไปมา จนทำอะไรเสร็จสรรพพี่มันก็สอดตัวเข้ามานอนข้างผม แขนแกร่งสอดเข้ามารองให้ผมนอนหนุนเหมือนทุกคืน ผมก็ซุกหน้าเข้าอกพี่มันเหมือนที่ชอบทำประจำ

           “ครั้งหน้า ไปบ้านมินนะ...”

           “ครับ”

           “รัก”

           ประโยคสุดท้ายพวกเราพูดพร้อมกัน ก่อนที่ผมจะหลับตาลงไปพร้อมกับรอยยิ้ม วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมมีความสุข และผมคิดว่าผมจะมีความสุขในทุกๆวันที่มีพี่นิลอยู่ข้างๆ ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วครับแล้วก็กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำด้วยว่าผมรักคนที่กอดผมอยู่ตอนนี้ แต่ถ้าถามว่ารักแค่ไหน ผมเองก็คงไม่สามารถตอบได้เพราะผมรู้แค่ว่าผมรัก ^^

           เรื่องราวของเรานับจากนี้อาจจะมีทั้งสุขและเศร้า แต่ผมก็มั่นใจว่าพวกเราจะสามารถผ่านมันไปได้และผมจะกลายเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลก เพราะผมจะมีความสุขในทุกๆวัน และคนที่จะทำให้ผมมีความสุขคงเป็นใครไปไม่ได้

            นอกจาก...คุณแมวของผม ^_^

++++++++++++++++++++++++THE END+++++++++++++++++++++++++++

TALK...
จบเเล้วจ้าาาา  :mc4: :mc4: ในที่สุดก็มาถึงตอนจบเเล้ว อาจจะหลายตอนไปนิดจนเริ่มไม่เเน่ใจว่าใช่เรื่องสั้นหรือเปล่า เเต่ก็จบลงด้วยดี เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องหลายตอนเรื่องเเรกที่เจลเขียนจนจบ ส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องมาถึงตอนนี้ได้ก็เป็นเพราะกำลังใจจากผู้อ่านทุกท่าน อาจจะมีติดขัดไปบ้าง เพราะเจลยังมือใหม่มากๆ เจลขอขอบคุณทุกรีพาย ทุกกำลังใจ เเละทุกการติดตามมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ  :pig4:
ปล.ตอนพิเศษ เเละ side story ของพี่เเซมเเละจัสมินจะทยอยลงเรื่อยๆนะคะ   :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 20-03-2016 05:23:28
ติดตามอยู่ครับ ชอบมากเลย :-[
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-03-2016 07:26:36
บ้านแมวน่ารักจัง
ขอบคุณมากๆค่ะ. รอตอนพิเศษนะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-03-2016 07:45:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 20-03-2016 08:36:25
 :o8: แอ้ยยยยน่ารักกก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 20-03-2016 08:44:48
จบแล้วอ้ะ  ขอบคุณนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 20-03-2016 08:55:44
น่ารักกกกกแมวทั้งบ้านเลย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-03-2016 10:43:30
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 20-03-2016 14:06:13
น่ารัก น่ารักๆๆๆ
ชอบๆ คุณแมว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 20-03-2016 14:35:34
น้องมินก็น่ารัก น้องมินแมวก็น่ารักกก งื้ออออ :-[
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-03-2016 14:53:38
 :pig4:

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: ้Sin.7 ที่ 20-03-2016 17:21:48
 :katai2-1: :katai2-1: น่ารักกกกกกกก แต่ก็มีช่วงหน่วงๆ แต่ก็เป็นอันเข้าใจดี ชอบๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) 20/03/2016
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 21-03-2016 11:42:47
หูแมว หูแมวววว น่า.รัก.มาก. อร๊ายยยยย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) (Up ! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 21-03-2016 20:19:33
Special Part 1

[[ : Nin Part  : ]]

             “พี่นิล ~~~~~~” มาแล้วครับ เสียงเรียกเริงร่าแบบนี้กับคำพูดเพราะๆแบบนั้น ต้องมีเรื่องให้ชวนปวดหัวอีกแน่ๆ
วันนี้เป็นวันหยุดครับพวกเราไม่มีเรียนกันทั้งคู่แล้วอากาศร้อนๆแบบนี้ ก็ไม่มีใครอยากออกไปไหน เลยได้แต่นอนตากแอร์อยู่ห้อง ตัวผมที่ย้ายมาอยู่ห้องไอ้ตัวเล็กถาวรแล้วก็นอนดูสารคดีไปเรื่อยๆอยู่บนโซฟา โดยมีไอ้ตัวเล็กที่นั่งกดโทรศัพท์ยุกยิกอยู่ข้างๆ แอบเหล่มอง เห็นมันคุยกับจัสมินนี่แหละครับแต่ไม่รู้คุยกันเรื่องอะไร

             “อะไร ?”

            “ถ้าคนปกติอยากเป็นแมวบ้างนี่ต้องทำไงอ่ะ ?”

            “...?” ผมขมวดคิ้วมองไอ้ตัวดีที่ทำตาวิ้งๆ เหมือนเจอเรื่องสนุกแต่ผมนี่ปวดหัวเลยครับ มันเคยถามผมแบบนี้มาแล้วครั้งนึง ผมก็บอกปัดไปแล้วว่าไม่ได้แต่เหมือนเจ้าตัวยังดื้อคิดว่ายังมีวิธีที่จะเป็นได้ นี่มันคิดว่าเป็นโรคติดต่อหรือไงถึงจะได้แพร่ใส่กันได้น่ะ = =’

           “อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะ กูแค่ถาม”

           “ทำไมอยากเป็น ?”

          “ก็อยากมีหูมีหางบ้างหนิ เห็นน้องจัสมินแล้วน่ารักมากเลยอ่ะ” มันพูดเสียงกระเง้ากระงอด นี่เป็นอีกพฤติกรรมที่ผมเพิ่งได้เห็นตอนคบกันจริงจังนี่แหละครับ น้องมันมีมุมง้องแง้งเหมือนเด็กน้อยแถมยังขี้อ้อน ชอบคลอเคลียเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆ ติดแค่ไม่มีหูกับหางเหมือนผมเท่านั้น แล้วอีกอย่างดูเหมือนมันจะชอบจัสมินมากเรียกน้องอย่างนั้นอย่างนี้จนผมเริ่มลัวว่าเมียตัวเองจะอยากตีฉิ่งขึ้นมาสักวัน ยิ่งล่าสุดมันลงทุนไปซื้อริบบิ้นสีแดงใหญ่ๆแล้วเอาไปบังคับผูกคอให้กับจัสมินในร่างแมว แล้วถ่ายรูปเก็บไว้อย่างบ้าคลั่ง เอากับมันสิ -..-

          “คิดว่ามีแล้วตัวเองจะน่ารัก ?”

            “สัส ไม่มีกูก็น่ารักเถอะ” นั่นไง พอเจอแหย่เข้าหน่อยนิสัยเดิมก็โผล่ หน้างี้ตูมเชียว แต่จะว่าไปลองนึกภาพมันมีหูมีหางก็คงจะน่ารักพิลึกดี

            “เพ้อเจ้อนะมึง” ผมเอื้อมมือไปผลักหัวมันจนหงายหลัง หึหึ ตลกว่ะ

           “ไอ้เชี่ย !” รู้สึกคำนี้จะได้ยินน้องออยใช้บ่อย ไอ้ตัวดีก็เหมือนจะซึมซับมาด้วย แต่ผมฟังแล้วมันน่าหมั่นไส้ยังไงไม่รู้ เลยผลักหัวมันไปอีกที คราวนี้ ‘เหี้ย’ เต็มหน้าเลยครับ ฮ่าๆ

            ตบตีหยอกล้อ (?) กันไปสักพักจนมันเริ่มหมดแรงก็หันมาแทรกตัวลงหว่างขาผมนั่งพิงอกผมทั้งตัว (มันชอบนั่งท่านี้ครับ) มือก็จิ้มโทรศัพท์เหมือนเดิม ผมก็เอาหางไปแหย่ๆจมูกมันเล่นบ้าง มันก็เอามือมาดึงหูผมเล่นบ้าง แหย่กันไปมาแบบนี้แหละครับ เหมือนคนไม่มีอะไรทำ

           “มึงๆ เดี๋ยวกูออกไปด้านนอกนะ” ไอ้ตัวดีเงยหน้าจากโทรศัพท์มาบอกผม

           “ไปไหน?”

           “น้องจัสมินบอกให้ไปหา เห็นบอกว่าหาวิธีให้กูเป็นแมวได้แล้ว” มันพูดเสียงตื่นเต้น ตานี่แพรวพราวเชียว แต่ผมนี่เหมือนได้กลิ่นตุๆจากเรื่องนี้ เพราะไอ้วิธีที่ว่ามันมีที่ไหนกันเล่า

            “มึงเชื่อ ?”

             “ก็น่าเชื่อกว่ามึงอ่ะ”

             “อยากไปก็ไป กูไม่ไปนะ ร้อน” ผมบอก มันหน้ายุ่งไปนิดแต่ก็เปลี่ยนมาเชิดใส่เหมือนเดิม

            “เออ ไม่ง้อหรอก” พูดจบก็สะบัดตูดออกไปเลย เห็นคำว่างอนแปะอยู่บนหน้าด้วยแต่เดี๋ยวก่อน รอมันกลับมาค่อยง้อ ผมส่งข้อความไปบอกจัสมินให้คอยรายงานผมด้วยถ้าเจ้าตัวดีมันไปถึงห้องแล้ว ให้รายงานทั้งขาไปขากลับ เพราะสถานการณ์แบบนี้มินมันไม่บอกผมหรอกครับ มันดื้อ


            แกร่ก ~~~

           ผมนอนเล่นไปมาหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ไอ้ตัวเล็กเปิดห้องทำหน้าตูมกว่าเดิมเข้ามา ในมือถือถุงกระดาษใหญ่ๆเข้ามาด้วย มันเดินเอาถุงที่ถือมาเดินเข้าไปในห้อง ผมก็เดินตามเห็นมันเก็บยัดๆไว้ในตู้ๆเหมือนไม่อยากให้ผมเห็น แถมมีสะดุ้งเบาๆด้วยตอนที่หันมาเห็นผมยืนอยู่ข้างหลัง แบบนี้มันน่าสงสัย

          “นั่นอะไร ?”

          “อะไร ? ไหนๆ ?” มันทำหน้าซื่อ แต่ตาโคตรหลุกหลิกเลยครับ

            “ตลกมากเมีย -..-”

          “แค่เสื้อผ้าใหม่แต่ไม่ค่อยถูกใจ เลยไม่อยากใส่” มันตอบเลี่ยงๆก่อนจะดึงผมให้เดินตามออกไปนอกห้อง ผมก็ไม่ถามต่อ ไม่อยากบอกเดี๋ยวผมค่อยไปค้นดูเองก็ได้

           “แล้วไหนวิธีเป็นแมว ?” พอเจอคำถามนี้ หน้าที่หงิกงออยู่แล้วก็หงิกมากขึ้นไปอีก แล้วถ้าผมตาไม่ฝาดยังเห็นหน้ามันแดงๆอีกด้วย

           “ก็...ไม่มีไง น้องจัสมินแค่ล้อเล่น”

            “หรอ...”

            “อื้อ”
         
            ครืดๆ

            ของขวัญจากคุณพ่อ >///<

            ผมอ่านข้อความของจัสมินที่ส่งเข้ามา ของขวัญจากพ่องั้นหรอ ? คงจะเป็นไอ้ถุงเจ้าปัญหานั่นแน่ๆ ผมพอจะเดาออกแล้วล่ะว่าข้างในเป็นอะไร ถ้าเป็นของขวัญจากพ่อละก็นะมีอยู่แค่ไม่กี่อย่างเท่านั้นแหละ ว่าแต่ไอ้ตัวเล็กไปแพร่มเรื่องอยากเป็นแมวให้ใครฟังบ้างเนี่ย


             ผมปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาจนเกือบได้เวลาเข้านอน แล้วตอนนี้เจ้าตัวดีที่ไม่พูดเรื่องอยากเป็นแมวอีกเลยตั้งแต่กลับมาก็กำลังอาบน้ำอยู่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผมจะได้ยืนยันข้อสันนิษฐานของผมว่ามันเป็นจริงหรือไม่ ผมเดินไปหยิบถุงกระดาษในตู้ออกมาก่อนจะเปิดดูของด้านใน หึ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย

            แกร่ก ~~

            “เฮ้ย ! มึงทำไรอ่ะ” ไอ้ตัวเล็กในชุดเสื้อยืดกับกางเกงย้วยๆตรงปรี่เข้ามาจะแย่งถุงกระดาษออกไปจากมือผม แต่ตัวเท่าตอไม้แบบนั้นจะไปทำอะไรได้ ผมตวัดเอวมันเอาไว้ใกล้หน้ามันยู่ยี่แถมยังแดงจนลามไปถึงหูอีก

            “ก็เป็นแมวได้หนิ ขอดูหน่อย” ผมก้มไปกระซิบเบาๆที่ริมหู ผมชอบหูเล็กๆของน้องมันครับยิ่งเวลาขึ้นสีแดงระเรื่อแบบนี้ผมยิ่งชอบ จนอดไม่ได้จะขบเม้มเบาๆ

            “พูดเรื่องไร? เป็นได้ที่ไหนเล่า” น้องมันพยายามเบียดตัวออก แต่ผมไม่ยอมหรอกพ่ออุตส่าห์ให้อะไรดีๆมาแล้วต้องลองสักหน่อย

            “ไม่ได้หรอครับ” ผมบอกเสียงทุ้ม ทำหูลู่หางตกเข้าไว้ แค่นี้แหละครับไอ้ตัวเล็กแพ้ราบคาบ

           “นะ...นิดเดียวนะ” นั่นไง รอดซะที่ไหน

           น้องมันดึงเอาถุงจากมือผมไปก่อนจะล้วงๆเอาของข้างในออกมา จริงๆมันก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับแค่คาดผมหูแมวสีดำ ริบบิ้นผูกคอที่มีกระพรวนสีเงินติดอยู่ แต่ที่ผมชอบที่สุดก็หางแมวนี่แหละครับ หึหึ

           “ปะ...เป็นไง” ผมมองไอ้ตัวเล็กที่ใส่คาดผม ผูกริบบิ้นที่คอเรียบร้อย หูแมวสีดำๆดูเข้ากับหน้าใสๆของมันดีนะ แต่มันเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากับชุดมันเท่าไหร่

           “ถอดเสื้อสิ”

           “หะ...ห๊า ต้องถอดด้วยหรอ” ผมไม่รอให้น้องมันได้ตั้งตัว จัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างเล็กๆนั่นทันที ถอดแบบหมดทุกชิ้นด้วย

           “พอยัง...” ไอ้ตัวเล็กขึ้นไปนอนหนีบขาอยู่บนเตียง ตอนนี้น้องมันแดงไปหมดทั้งหน้าทั้งตัว คงจะรับรู้สายตาหื่นๆของผมได้ ไม่คิดเหมือนกันครับว่ามินในเวอร์ชั่นมีหูกับผูกกระพรวนมันจะน่ารักน่าฟัดขนาดนี้ ผมอยากจะกระโจนเข้าไปแล้วแกล้งให้ร้องไห้ขี้มูกโป่งจริงๆ

             “ยังไม่มีหาง” ผมฉุดร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงไปยืนที่หน้ากระจก โดยมีผมยืนซ้อนหลังในมือถือหางแมวสีดำเอาไว้

             “มันใส่ไม่ได้” น้องตอบเสียงพร่า เมื่อผมเริ่มใช้นิ้วบี้คลึงหัวนมเล็กๆทั้งสองข้างสลับไปมา เงาสะท้อนร่างเล็กขาวโพลนที่บิดเร้าเพราะความเสียวซ่านทำให้ผมนึกอยากแกล้งมากขึ้นไปอีก

              “เดี๋ยวใส่ให้”

              “อ๊ะ !” ผมรั้งสะโพกเล็กให้ได้องศาที่พอเหมาะก่อนจะให้มือแหวกก้อนซาลาเปาอวบทั้งสองข้างออกจากกัน ฟาดมือลงไปไม่แรงนักด้วยความหมั่นเขี้ยว ช่องทางสีพีชที่ผมเคยเข้าไปสำรวจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งยังคงดูเย้ายวนเสมอ ผมปาดเจลใสไปที่ด้านหนึ่งของหางแมวที่มีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆเหมือนสร้อยไข่มุกเม็ดโตประมาณห้าถึงหกเม็ด ก่อนจะค่อยๆกดเข้าไปในช่องทางนิ่ม

            “อ๊ะ..พี่นิล อะ...อะไร อื้อ...”

            “หางไงครับ อยากเป็นแมวไม่ใช่หรอ หืม ?” ผมไล้เลียไปตามซอกคอขาวมองใบหน้าที่ขึ้นสีแดงเพราะความเสียดเสียวผ่านกระจกเงา มือยังกดหางแมวที่ว่าเข้าไปเรื่อยๆ จนสุด ผมผละออกมาดูผลงานของตัวเองอย่างพึงพอใจ

             ร่างเล็กๆที่ขึ้นสีแดงระเรื่อในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนบนโต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกบานใหญ่ติดอยู่ เอียงตัวหันกลับมามองผมครึ่งหนึ่ง บนหัวมีหูแมวสีดำเล็กๆกับริบบิ้นผูกคอสีเดียวกันเข้ากันกับกระพรวนสีเงิน มือเล็กๆข้างหนึ่งกอบกุมส่วนสงวนของตัวเองเอาไว้ ขาเรียวทั้งสองข้างสั่นระริกเหมือนจะทรงไม่อยู่เพราะหางแมวที่ยังอยู่ในตัว หึหึ ผมว่าตอนนี้มันดูเข้ากับคำว่าโมเอะมากกว่าจัสมินที่มันชอบพูดซะอีก

            ผมขยับเข้าไปซ้อนหลังอีกครั้งก่อนจะจะยกไอ้ตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งคุกเข่าแนบไปกับโต๊ะ หันหน้าเข้าหากระจกจนเกือบชิด ก่อนจะเริ่มขยับหางแมวเข้าออกไปมาในจังหวะรัวเร็ว ผมเองก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วครับ

           “อ๊ะๆๆๆ  อ๊า...ส์ พะ...พี่นิล”

           “ชอบหางแมวหรือเปล่า หืม?”

           “อ๊ะ...ไม่...ไม่เอา...ไม่เอาแบบนี้ อ๊า...ส์”

           “บอกสิ อยากได้อะไร”
   
           “อ๊ะ อ๊ะ พี่นิล...มิน...มินอยากได้พี่นิล อ๊าส์ !”

           ผมดึงหางแมวออกในคราวเดียวแล้วแทนที่ด้วยตัวตนของผมรวดเดียวหมด ช่องทางเล็กตอดรัดผมอย่างบ้าคลั่งจนเกือบจะขยับไม่ได้ ผมจึงเอื้อมมือเข้าไปคลึงหัวนมเม็ดเล็กลูบไล้ปลอบประโลมไปทั่วร่างให้อีกฝ่ายผ่อนคลายจากอาการเกร็ง ใบหน้าหวานเหยเกเพราะความจุก หน่วยตาคลอไปด้วยน้ำใสๆเหมือนตัดพ้อผมที่ไปรังแกเจ้าตัวเข้าแต่เหมือนน้องมันจะไม่รู้ว่ายิ่งมองหน้าผมแบบนั้นผมก็มีแต่จะรังแกให้หนักขึ้น มือเล็กยันกระจกเอาไว้ในขณะที่ผมเริ่มเร่งจังหวะการกระแทกกระทั้น

           ปึ่ก !! ปึ่ก !! ปึ่ก !!

           “อึก อ๊ะ อ๊ะ ลึก พี่นิล ลึก...ไป อ๊ะ”

            “อ่า...ส์ ตอดดีชะมัด” ผมครางหึ่มอย่างพอใจ ขยับแทรกกายถี่รัวจนร่างเล็กสั่นคลอนไปหมด เสียงกระพรวน    กรุ๊งกริ๊งประสานกับเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดของโต๊ะดังก้อง ฟังดูเร้าอารมณ์

             “อืม ดูสิตรงนี้มันชอบนะ รัดแน่นเชียว” ผมจับร่างเล็กให้เอนตัวมาพิงไว้ผม สองมือบี้หัวนมที่ขึ้นสีแดงกล่ำทั้งสองข้างแรงๆ สองขาเล็กใช้ยันตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้มในท่านั่งยองโดยมีผมสวนกระแทกจากทางด้านหลัง มุมนี้ทำให้เห็นเงาในกระจกที่สะท้อนภาพแกนกายของผมที่กำลังถูกช่องทางสีแดงกล่ำดูดกลืนอย่างเร้าร้อนชัดเจน ฉุดอารมณ์ผมให้พุ่งสูง จนเพิ่มแรงขยับเข้าไปอีกจนอีกคนร้องลั่น

            “อ๊ะ อ๊ะ มะ..ไหวแล้ว  มิน อ๊า...ส์” น้ำสีขาวพุ่งกระฉูดจนเลอะไปถึงกระจก ร่างเล็กทิ้งตัวใส่ผมอย่างหมดแรงหอบหายใจจนตัวโยน ผมจึงจับให้หันกลับมาใช้ขาเรียวเกี่ยวเอวผมเอาไว้

             “พะ...พอแล้ว” น้องมันร้องห้ามเมื่อผมทำท่าจะขยับอีก

             “อยากเป็นแมว ก็ถ่ายเชื้อให้นี่ไง” ผมพูดพร้อมยกยิ้มมุมปากแล้วเริ่มการถ่ายเชื้อต่อทันที แต่คนฟังเหมือนจะยังอึ้งไม่หาย อยากเป็นแมวนักผมก็จะช่วย แต่คิดว่าหลังจากวันนี้ผมคงไม่ต้องปวดหัวคิดหาคำตอบเรื่องกลายเป็นแมวของไอ้ตัวเล็กอีกแล้วล่ะ เรื่องนี้ต้องขอบคุณพ่อสินะ หึหึ

TALK....

แวะเอาตอนพิเศษมาฝากก่อนที่ เรื่องของพี่เเซมกับจัสมินจะมา อิ้อิ้
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-03-2016 20:28:19
 :jul1:   จมกองเลือดอย่างสงบกับแมวเหมียวขี้ยั่ว
กรี้ด โต๊ะเครื่องแป้งกระจุยเละ ขอบคุณค่ะคนเขียนน่ารักมากมาย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Nam-Ing ที่ 21-03-2016 21:13:05
อ่าห์ ฟินจุงเบย  :heaven
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 21-03-2016 21:18:44
รักแมววว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 21-03-2016 22:20:06
หายใจดังหื่นๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 21-03-2016 22:53:42
โอ๊ย  กำเดาไหลตาย   :pighaun:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 22-03-2016 15:37:51
พีี่นิลกับน้องมิน ร้อนแรงยิ่งกว่าอากาศตอนนี้อีกน๊า :m25:

 :กอด1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 22-03-2016 17:39:04
น่ารักไปอีก   อะไรคือไม่ชินตอนไม่เป็นร่างแมวไม่มีหางหูให้จับเล่นล่ะมิน 555 น้องจัสมินผู้ใสซื่อ ขอบคุณผลงานดีๆนะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 22-03-2016 18:31:33
 :haun4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: littlegift ที่ 23-03-2016 22:47:56
ขุ่นพ่อทำดีงามมากค่ะ  :pighaun:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 24-03-2016 02:45:30
เราคือหนึ่งในทาสแมว พออ่านเรื่องนี้แล้วบอกเลยหลงหนักเข้าไปอี๊กก

รอพี่แซมกับน้องจัสมิน
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 24-03-2016 03:38:39
เป็นไงล่ะแมวน้อย55 5
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-03-2016 17:11:19
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 24-03-2016 20:47:41
 :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Zalzah_iP ที่ 25-03-2016 07:20:44
ชอบบบบบ เราเป็นทาสแมว  :haun4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-03-2016 09:50:08
เป็นหางแมวแบบเสียบ? สินะ  :m25:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 25-03-2016 11:29:51
สนุกมาก
เลือดหมดตัวแล้วค่ะ
รออ่านเรื่องพี่แซมกับน้องจัสมิน
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 27-03-2016 11:36:11
น่ารักกกพี่นิลล
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! Sp.1 21/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 27-03-2016 17:14:04
พี่นิลหื่นชะมัด 5555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up! 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 27-03-2016 17:27:59
Side Story ( แซม X จัสมิน ) 1

              ผม ‘จัสมิน’ ครับ เป็นแวร์แคทโชคร้ายที่บรรลุนิติภาวะแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมการกลายร่างของตัวเองได้ดีเหมือนกับแวร์แคทคนอื่นๆ เลยกลายเป็นว่าผมถูกประคบประหงมเป็นพิเศษ ทำให้ตลอดช่วงอายุเกือบยี่สิบปีของผม ผมแทบไม่ได้ก้าวออกจากบ้านของตัวเองโดยที่ไม่มีคนมาด้วยเลยสักครั้ง

              ถามว่าอึดอัดไหม มันก็มีบ้างนิดหน่อย แต่ผมก็เข้าใจครับเพราะว่าผมไม่เหมือนคนอื่น ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาบ้างแล้วเพราะผมได้ออกมาเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนกับคนอื่นในวัยเดียวกันถึงจะแอบให้เส้นสายนิดหน่อยก็เถอะนะแต่ก็นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะผมได้รู้จักกับคนอื่นๆนอกจากคนในครอบครัวและอาจารย์พิเศษแล้วครับ

              แต่ตอนนี้ผมกำลังเกิดปัญหา วันนี้หลังเลิกเรียนผมออกมาเดินเที่ยวเล่นตากแอร์ในห้างกับเพื่อนๆตามประสาวัยรุ่นทั่วไป แต่อาจจะสนุกจนเพลินหรือเล่นมากไปหน่อยรู้ตัวอีกทีผมก็มาอยู่ในร่างแมวแล้ว ดีที่ตอนนั้นอยู่ในห้องน้ำเลยไม่มีใครเห็น ผมเดินหลบผู้คนออกมาจากห้างพยายามหาทางกลับบ้าน เผลออีกทีบรรยากาศโดยรอบก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด สถานที่แปลกตาให้ความรู้สึกไม่คุ้นเคยจนผมนึกกลัว ป้ายรถเมล์ที่มีแสงสว่างจึงเป็นที่ที่ผมเลือกที่จะนอนหมอบอยู่บนนั้น

            “แมวน้อย หลงทางหรอ?” มือใหญ่อบอุ่นที่ยื่นเข้ามาลูบหัวผมเบาๆทำให้ผมสะดุ้งในตอนแรก ก่อนจะค่อยๆสงบลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีทีท่าว่าจะทำร้ายอะไร เด็กหนุ่มที่น่าจะอายุมากกว่าผมอยู่ในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งเป็นคนล่ะที่กับผม ทำให้ผมพอจะเดาออกว่าตัวเองอยู่แถวไหน

             เมี๊ยววว ~~

             ท่าทางใจดีทำให้ผมวางใจที่จะตามเขาไปที่พัก เพื่อหาที่นอนให้ตัวเองในคืนนี้

            ใช้เวลาไม่นานผมก็ถูกอุ้มมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง ก่อนจะมีผู้ชายอีกคนเปิดประตูออกมาด้วยท่าทางงัวเงีย ร่างสูงใหญ่เปลือยอกอยู่ในชุดกางเกงบ๊อคเซอร์สีเข้มตัวเดียว ทำเอาผมซุกหน้าเข้าอ้อมแขนของคนที่กำลังอุ้มผมอยู่ ให้ตายเถอะ ! คนบ้าอะไรไร้ยางอายชะมัด แก้ผ้าเดินร่อนไปทั่วได้ยังไงกัน

              “แมว ?” เสียงทุ้มเอียงคอพูด พร้อมกับเอามือมาเคาะหัวผมสองที เล่นเอามึนไปเลยฮะ

             “พี่แซม! ไปตีน้องทำไม ไหนดูซิเจ็บไหม?” คนตัวเล็กกว่าหันไปเอ็ดร่างสูงที่ชื่อแซม ก่อนจะมาลูบหัวลูบหางดูอาการผม ทำเอาคนโดนด่าหน้าหงิกเลยครับ ฮ่าๆ คนอะไรตัวใหญ่แต่ขี้น้อยใจชะมัด

            ร่างเล็กอุ้มผมเดินเข้าไปห้องขนาดใหญ่ ผมสำรวจโดยรอบทันที เป็นคอนโดแบบสองห้องนอน หนึ่งห้องครัว หนึ่งห้องนั่งเล่น รวยใช้ได้แฮะ

            “กัสไปเก็บแมวตัวนี้มาจากไหนครับ ?” อ่อ คนที่อุ้มผมชื่อกัสนี่เอง

           “กัสเจออยู่ที่ป้ายรถเมล์แถวๆหน้าม.น่ะฮะ เหมือนจะหลงทาง”

            “เอามาแบบนี้แล้วถ้าเกิดเจ้าของเขามาหาแล้วไม่เจอล่ะ จะทำยังไง?”

          “กัสคิดว่าไม่น่าจะมีเจ้าของนะฮะ เพราะไม่มีปลอกคอด้วย ดูสิ” มือเล็กจับผมพลิกไปมา ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร

          “ไม่มีเจ้าของยิ่งแล้วใหญ่ แมวจรจัดแบบนี้เป็นโรคหรือเปล่าก็ไม่รู้” อ่าว ไอ้พี่นี่ปากเสีย ขนสวยสุขภาพดีแบบผมจะไปเป็นโรคได้ยังไงกัน !

           “คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรนะฮะ ดูสะอาดขนาดนี้ไม่น่าจะเป็นโรค” นับว่าตาถึงมาก

           “แล้วจะเอายังไง?”

           “แหะๆ ก็...พี่แซมก็รู้ว่าที่บ้านกัสไม่ให้เลี้ยงสัตว์” เอ๊ะ ! ที่บ้านไม่ให้เลี้ยงสัตว์แล้วคืนนี้ผมจะไปนอนที่ไหนล่ะ

           “....”

           “คือ...กัสจะฝากเจ้าเหมียวไว้ที่นี่ได้ไหมฮะ” กระจ่างเลยครับ ผมเงยหน้ามองคนสองคนสลับกันไปมา ผมว่าอีตาพี่แซมท่าทางเจ้าชู้ขนาดนี้ ลองโดนอ้อนมาแล้วคงไม่แคล้วต้องทำตาม
แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ


           นับจากวันนั้นผมก็เลือกที่ลองใช้ชีวิตนอกบ้านดูสักครั้ง ถึงจะไม่ค่อยชอบใจที่ต้องมาอยู่กับไอ้พี่แซมเจ้าชู้นี่ก็เถอะ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะผมยังมีพี่กัส หลังจากที่ทดลองอยู่มาสองสามวันผมก็รู้ว่า จริงๆแล้วพี่กัสกับไอ้พี่แซมเป็นคนรักกันครับ พี่แซมน่าจะรุ่นเดียวกันกับพี่ชายผมส่วนพี่กัสดูท่าจะเป็นพี่ผมปีเดียว ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันครับเพราะพี่กัสต้องกลับบ้านจะมีบ้างแค่บางวันที่มาค้างที่นี่ แล้วคืนนั้นผมก็จะถูกระเห็จให้ออกมานอนที่โซฟา

           “มะลิ เมี๊ยวๆๆๆ” อย่าตกใจครับ ชื่อเชยๆนี่เป็นชื่อใหม่ของผมเอง แล้วจะถูกตั้งโดยใครไปไม่ได้ นอกจากไอ้พี่แซม
วันนี้พี่กัสไม่มาครับและผมคิดว่าไอ้พี่แซมมันต้องหาอะไรมาแกล้งผมอีกแน่ๆ พี่มันขยันสรรหามาสารพัดครับ ล่าสุดคือหนูยางที่ทำออกมาได้เหมือนของจริงมากๆ อย่าเข้าใจผิดนะครับถึงผมจะเป็นแมวแต่ผมก็ไม่ได้มีรสนิยมชมชอบไอ้หนูหน้าตาน่าเกลียดนั่น
 
            ผมจำได้ว่าวันนั้นไอ้พี่แซมมันก็เรียกผมแบบนี้แหละบอกมีของขวัญมาให้ ผมก็ไม่เฉลียวใจอะไรเลย พอเดินเข้าไปใกล้เท่านั้นแหละ พี่มันโยนหนูยางตัวใหญ่สีดำเมี่ยมเด้งดึ๋งๆใส่ผม ผมกระโดดหนีร้องเสียงหลงเลยครับ ตกใจมากจนคิดว่าตัวเองจะช็อคซะแล้ว ส่วนตัวการน่ะหรอ หัวเราะท้องคัดท้องแข็งไม่สนใจผมที่ขู่ฟ่อๆเลยแม้แต่น้อย สะใจพี่มันแหละครับ ยังมีการมาว่าผมว่า เกิดมาเสียชาติแมวเพราะดันกลัวหนู ดูพี่มันสิครับ -..-

            “มะลิ มานี่มา” ผมนอนนิ่งไม่สนใจ พี่มันก็เรียกซ้ำแล้วยังเดินเข้ามาใกล้ๆอีก

            “งอนอะไร วันนี้ไม่ได้จะแกล้งนะ” ผมชะงักนิ่ง เมื่อเสียงทุ้มนุ่มๆมาดังอยู่ใกล้ๆ มือลูบหัวผมเบาๆ เห็นพี่มันเป็นแบบนี้แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องหนึ่งเลยว่าพี่แซมเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก ทั้งรูปร่างหน้าตาฐานะถือว่าเกิดมาพร้อมสุดๆคนนึง คิดว่าคงเป็นดังพอตัวเพราะเห็นทุกคืนจะต้องคุยโทรศัพท์จ๊ะจ๋ากับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว นึกแล้วอยากจะฟ้องพี่กัสจริงๆ คิดแล้วก็น่าโมโหเพราะผมเองก็ดันเผลอใจเต้นไปกับพี่มันด้วยเหมือนกัน

              “ไม่ได้พาไปอาบน้ำหลายวัน ไหนดมซิเหม็นยัง” ไม่พูดเปล่า พี่มันยื่นหน้าหล่อๆเข้ามาใกล้ผมก่อนจะกดจมูกลงบนหัวผมเบาๆ แต่ผมนี่ชะงักค้างไปแล้วครับ รู้สึกหัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอกอยู่แล้ว

              “ยังไม่เหม็น แต่ไม่เป็นไร วันนี้อยากอาบให้ ไปกัน”

              หวือ ~~~

              ร่างผมถูกช้อนอุ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ก่อนที่ร่างสูงจะพาเดินเข้าห้องนอน เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ถ้าผมจำไม่ผิดพี่มันบอกว่าจะอาบน้ำให้ผมงั้นหรอ ไม่นะ ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี้พี่มันหรือแม้แต่พี่กัสไม่เคยอาบน้ำให้ผมเลยด้วยซ้ำ ส่วนมากจะพาไปร้าน บางทีตอนกลางวันที่ไม่มีใครอยู่ผมก็จะอาบเอง แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ไม่เอาน๊า ~~

             เมี๊ยววว ~~~~!

             ซ่า ~~ !

             ผมพยามดิ้นๆ หนีจากน้ำฝักบัวที่พี่แซมเปิดราดหัวผม ใครเขาสั่งสอนให้อาบน้ำให้แมวแบบนี้ !

            “เป็นแมวหรือหมาบ้ากันแน่ถึงได้กลัวน้ำเนี่ย หืม?” มือใหญ่ๆสองข้างล็อคช่วงเอวของผมเอาไว้แน่นทำให้ผมไม่สามารถหนีไปไหนได้นอกจากดิ้นแด่วๆอยู่แบบนั้น

              “ฮ่าๆ พอเปียกน้ำแล้วเหมือนเอเลี่ยนเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” ผมหยุดดิ้น หันหน้าไปมองค้อนใส่คนตัวโตที่นั่งเอามือกุมท้องขำข้างหนึ่ง อีกข้างยกชี้หน้าผม ผมก็พอเข้าใจครับ ลองนึกภาพแมวสีขาวขนฟูมากๆแล้วเวลาเปียกน้ำขนจะแนบลู่ไปกับตัวอันน้อยนิดของมันสิ คงเหมือนเอเลี่ยนไม่ต่างจากผมหรอก

              “แป๊บๆ นะมะลิอยู่นี่ก่อน” พี่แซมยกตัวผมไปวางไว้ในอ่างอาบน้ำ ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องน้ำ ผมได้แต่ชะเง้อคอมองตามด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่มีปัญญาออกจากอ่างน้ำนี่ไปได้ เลยต้องนั่งแปะอยู่แบบนั้น

              “มาแล้วๆ ไหนๆ มะลิยิ้มหน่อย ^_^” ชัดเลยครับ ดูความโรคจิตของพี่มันสิ

             พี่แซมกลับมาพร้อมโทรศัพท์มือถือในโหมดถ่ายภาพ กดแชะๆๆๆ เปลี่ยนเป็นมุมนั่นทีมุมนี้ที ผมก็ได้แต่ร้องเมี๊ยวๆพยายามหลบ ร้อยวันพันปีไม่เคยถ่ายรูปผมสักรูป สงสัยวันนี้ต้องวันซวยของผมแน่ๆ

              “เขินกล้องหรอ มานี่มาๆ”

              เมี๊ยวววววว

             พี่มันอุ้มผมทั้งที่ตัวเปียกๆนั่นแหละครับ เอามาวางแหมะลงบนตักตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนโหมดกล้องมือถือเป็นกล้องหน้า มือใหญ่ช้อนตัวช่วงบนของผมขึ้นจนเหมือนยืนสองขาได้ ใบหน้าหล่อทะเล้นขยับเข้าแนบชิดกับหน้าผมเพื่อไม่ให้หลุดเฟรมก่อนจะยิ้มจนตาหยี แล้วกดแชะๆอีกครั้ง

       กึก !

       ผมชะงัก เมื่อริมฝีปากหนาของพี่แซมที่ผมเห็นขยับยิ้มเปลี่ยนไปมาผ่านกล้องกำลังแนบลงบนแก้มผม เสียงแชะรัวเร็วที่ดังขึ้นไม่สามารถดึงความสนใจของผมได้อีกแล้ว ความรู้สึกร้อนวูบแล่นไปทั่วร่าง หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก รู้สึกประหม่าจนไม่กล้าที่จะขยับตัว

       “ไง เริ่มรักกันบ้างหรือยัง ?” ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อาบน้ำเสร็จ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือใหญ่ๆกำลังจับผ้าขนหนูเช็ดน้ำตามตัวให้ผมอยู่ แต่เหมือนจะไม่ทันใจพี่แซมเลยหันไปเปิดพัดลมเบอร์แรงสุด แล้วอุ้มผมขึ้นไปจ่อตรงหน้าพัดลมที่กำลังเป่าลมเย็นหวือๆใส่หน้าผม เหมือนปัดเอาความรู้สึกไหววูบของผมเมื่อตอนก่อนหน้าให้หายไปด้วย

             เมี๊ยวววว !
 
             ผมพยายามหนีแต่เหมือนอีกคนจะเห็นเป็นเรื่องสนุก แต่ผมไม่ชอบนะ ไดร์อ่ะไดร์เป่าผม มีไหม?

              “หนาวหรอ ?”

              ผมมองค้อนขวับไม่ตอบ ให้หัดคิดเองบ้าง เปิดแอร์ตั้งกี่องศากัน แล้วยังจับผมที่ตัวเปียกซกไปจ่อพัดลม นี่มันอากาศขั้วโลกชัดๆ หนาวแค่ไหนถามใจดู TT

              พอเริ่มเงียบ ผมก็หันไปมองพี่แซมที่ปิดพัดลมไปแล้วเรียบร้อย มือข้างหนึ่งยังคงใช้ผ้าขนหนูเช็ดขนผมอยู่ อีกข้างกดโทรศัพท์ยิกๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนเจอเรื่องปวดหัว สักพักก็ลุกขึ้นไปไหนไม่รู้ ผมเลยเดินเข้าไปดูโทรศัพท์ที่พี่มันวางเอาไว้
วิธีอาบน้ำให้แมว

              แค่เห็นข้อความที่พี่มันถามอากู๋ หน้าเว็บที่อธิบายการอาบน้ำเป่าขนให้แมว แค่นั้นผมก็อยากจะยิ้มให้กว้างๆ แต่ติดที่ผมยังเป็นแมวเลยยิ้มไม่ได้ แต่ก็แยกเขี้ยวได้ล่ะนะ ^_____^

            “มะลิ เขาว่าใช้ไอ้นี่แทนได้ มาลองหน่อยไหม ? วันหลังจะไปซื้อที่เป่าขนมาให้” พี่แซมยืนถือไดร์เป่าผมด้วยท่าทางที่ไม่มั่นใจ ยังมีการมาถามความสมัครของผมอีก ผมเลยเดินเอาหัวไปถูๆขาพี่มัน เห็นหน้าหล่อๆยิ้มกว้างแล้วใจกระตุกรุนแรงอย่างบอกไม่ถูก

             “ฮ๊า~ ง่ายกว่าเห็นๆ” หลังจากเป่าขนเสร็จสรรพผมก็ถูกจับให้ขึ้นมานอนทับบนอกกว้างๆของพี่มัน ที่กำลังนอนเอานิ้วเขี่ยจมูกเขี่ยปากผมเล่น ผมก็พยายามไล่งับแต่ไม่ทันเลยต้องเอามือไล่ตะปบ แง่มๆ

             “ฮ่าๆ จะสู้หรอๆ นี่ๆๆๆ” เออครับ พี่แซมมุมปัญญาอ่อน ไม่เข้ากับหน้าหล่อๆเลยสักนิด

             “มะลิ ถ้าอยู่กันแค่นี้จะเหงาไหม...” คำถามสั้นๆที่ผมไม่อาจเข้าใจในความหมายถูกเอ่ยขึ้นเบาๆ ผมเงยหน้าเอียงคอมองคนที่เพิ่งแกล้งผมเมื่อครู่ นัยน์ตาที่เคยคมกริบและฉายแววสนุกสนานเมื่อได้แกล้งผม ตอนนี้มันทั้งดูสับสนและเสียใจ แต่สิ่งที่แสดงออกชัดเจนมากกว่านั้นคือความเจ็บปวดและหวาดกลัว

              ผมอยากจะถามเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้น ?

              แล้วผมก็อยากจะถามตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บหน่วงในอกแบบนี้ ?
ผมเดินย่ำแผ่นอกกว้างขึ้นไปจนหน้าเราอยู่ระดับเดียวกัน ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากหนาเป็นการปลอบโยนทั้งตัวเองและพี่แซมด้วย ก่อนที่ผมจะนอนหมอบลงบนอกพี่มันแล้วซุกหัวเล็กๆของตัวเองไว้ใต้คางที่มีไรหนวดสากๆ สัมผัสอบอุ่นของมือใหญ่ที่ลูบบนตัวผมไปมาเริ่มทำให้ทุกอย่างผ่อนคลาย

              “อย่าทิ้งกันไปอีกคนนะ...”

              เมี๊ยวววว ~~~~

TBC ++++++++++++++++++++++++++++++
TALK ....
เเวะเอาเรื่องราวของจัสมินกับพี่เเซมมาฝาก อิ้อิ้ น้องมะลิไม่ได้หนีออกจากบ้าน๊าาา เเค่อยากเจอโลกกว้าง
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-03-2016 18:04:33
โอ๊ยฟิน. อยากแปลงร่างเป็นมะลิ
กัสทิ้งพี่แซมเหรอ พลาดแล้วย่ะ
พี่แซมโดนแมวคาบไปกินแล้ว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 27-03-2016 18:45:42
มะลิน่ารัก กัสไปไหนอ่ะ ทิ้งกันแบบนี้เลยเหรออ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Zalzah_iP ที่ 27-03-2016 18:55:35
 :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Nam-Ing ที่ 27-03-2016 18:56:38
มาต่อไวๆน้าคนเขียน หนุกมากกกก  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 27-03-2016 19:10:45
มาต่อเดี๋ยวนี้น้า 55555
มะลิน่ารัก  ขอฟัดทีนึงได้ไหมจ้ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-03-2016 19:14:55
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-03-2016 21:11:39
พี่แซมจอมเจ้าชู้เลิกกับน้องกัสแล้วงั้นเหรอ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 28-03-2016 10:13:43
 :oni2: :oni2: :oni2: น้องมะลิ น่ารักมากๆๆ เอาอีก ๆๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 28-03-2016 13:33:12
คู่นี้ที่รอค...ย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 29-03-2016 01:45:13
พี่แซมกับกัสนี่เลิกกันยัง
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 29-03-2016 19:06:44
กัสไปไหนล่ะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 29-03-2016 19:43:27
น้องมะลิน่ารัก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: khunkun91 ที่ 29-03-2016 20:28:06
 :z1:
พี่นิลหื่นกับน้องตลอดเลยยยยยยยยย เบาๆบ้างน้องจะสึกหรอหมดดดด

พี่แซมดูเป็นคนขี้เล่นเนอะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: mro ที่ 29-03-2016 22:10:05
โอ้ยทำไมเพิ่งเห็นเรื่องนี้ น่าร้ากกกกกก
รวดเดียวจบเลย ขอบคุณที่เข้ยนนิยายน่ารักๆแบบนี้มาให้อ่านน้า
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 30-03-2016 22:17:55
พี่นิลลลลลล แมวเถื่อนที่หื่นที่สุดในโลก
น้องมินน่ารัก จัสมินด้วย!
ครอบครัวแมวนี่ นิสัยแปลกๆกันทุกคนเลย5555

 :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ้Sin.7 ที่ 03-04-2016 23:35:04
โอ้ยยยยยมาต่อน้องมะลิก่อนนนนนนนนนน
 :z3: :hao5: :katai1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 1 27/03/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 05-04-2016 00:22:32
พี่แซมแอบน่าสงสารนะเนี่ย
ไม่เปนไรนะมีน้องมะลิคอยปลอบ 5555

อีกคู่พี่นิลก็หื่นจริงๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!)( Up!! Side Story 2 8/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 08-04-2016 02:04:26
Side Story ( แซม X จัสมิน ) 2

              ผ่านมาหลายวันแล้วที่ผมไม่เจอพี่กัส หรือแม้แต่พี่แซมที่อยู่ห้องเดียวกันผมเองก็ไม่ค่อยได้เจอ เพราะพักนี้พี่แซมกลับห้องดึกดื่นทุกวัน แถมกลับมายังเมาแอ๋ไม่ได้สติ เวลาที่พวกเราเคยใช้ร่วมกันมันค่อยๆหายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยการจิบน้ำเมา วันนี้เองก็เช่นกัน

              ผมนอนหมอบบนโซฟาตัวใหญ่หน้าโทรทัศน์ที่ประจำของผม มองเข็มนาฬิกาที่เดินเป็นวงกลมไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แต่ตอนนี้มันบอกเวลาตีหนึ่งสิบห้านาที ดึกขนาดนี้แล้ว...เจ้าของห้องก็ยังไม่กลับมา ต่อให้พี่แซมจะชอบแกล้งผมยังไงแต่พอต้องอยู่คนเดียวแบบนี้ มันเหงาจังแฮะ

            พี่มันจะละเลยผมมากเกินไปแล้วนะ !!

            เมี๊ยว !!!

           แกร่ก ~~~

           อ๊ะ มาแล้ว ผมกระโดดลงจากโซฟาวิ่งไปทางประตูห้อง เห็นร่างใหญ่ๆของพี่แซมเดินโซเซเข้ามา ผมเดินเข้าไปใกล้มากกว่าเดิมก่อนจะถอยออกห่างเพราะกลิ่นเหล้าที่เหม็นจนฉุนกึก อีกแล้วนะ บ้าชะมัด ! ทิ้งผมให้นอนหง่าวอยู่ห้องส่วนตัวเองก็ออกเที่ยวสบายใจ ชิ !

           ตุบบบบบบ

           เมี๊ยวววว !!!

             ผมร้องจ๊ากกระโดดออกจากโซฟาที่เพิ่งนอนหมอบลงแทบไม่ทัน เมื่อร่างใหญ่ๆของพี่แซมทิ้งตัวลงมาเหมือนจะมองไม่เห็นผมด้วยซ้ำ นี่ถ้าเมื่อกี้ผมหลบไม่ทันนะ ได้นอนไส้ไหลแน่ๆ ไอ้พี่แซมบ้าๆๆๆ ผมกระโดดกลับขึ้นมาบนอกพี่มันก่อนจะกางเล็บแล้วข่วนเข้าที่แก้มจนขึ้นรอยเป็นการแก้แค้น แต่หลับสนิทขนาดนี้คงไม่รู้เรื่องหรอก รอตื่นมาตอนเช้าเดี๋ยวได้รู้กัน หึหึ

             พอเห็นว่าพี่แซมหลีบสนิทดีผมก็เปลี่ยนร่างจากร่างแมวมาอยู่ในร่างมนุษย์ จัดท่าทางให้เจ้าของห้องนอนสบายๆ เมื่อวันก่อนผมได้ยินพี่มันคุยโทรศัพท์กับพี่กัสเสียงดัง เหมือนจะทะเลาะกันรุนแรง และคิดว่าเพราะเรื่องนั้นแหละพี่แซมถึงได้เมามายขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน แต่ผมไม่ชอบเลยที่พี่มันเป็นอย่างนี้...

             ผมเอาผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดไปทั่วใบหน้าหล่อที่ผมเผลอมองบ่อยๆ และเริ่มจะชอบมองมากขึ้นมาในช่วงหลัง ผมเคยบอกไปหรือยังว่าพี่แซมมันหล่อมาก หล่อแบบลากเลือดเลย มีเสน่ห์มากจนน่ากลัว

             “อืออออ”

             ผมชะงักมือที่กำลังใช้ผ้าลูบไล้ไปตามซอกคอ นิ่งดูปฏิกิริยาคนเมาเล็กน้อยกลัวว่าถ้าพี่มันตื่นขึ้นมาเจอผมในตอนนี้จะช็อคตายไปก่อนจะสร่างเมา แต่ก็ไม่มีวี่แววอะไร ผมเลยจัดการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตกะจะเช็ดตัวให้เสียหน่อยจะได้นอนหลับสบาย

            พรึ่บ!

             “เฮ้ย !” ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆคนที่ผมคิดว่าหลับไปแล้วกลับจับมือผมแล้วกระตุกแรงๆทีเดียวให้ลงมานอนแทนที่ตัวเองบนโซฟาแล้วขึ้นคร่อมผมเอาไว้ ตกใจจนเกือบจะกลายร่างกลับไปเป็นแมวอีกครั้ง หูหางโผล่ออกมาหมด ผมหลับตาแน่นรอรับปฏิกิริยาที่จะตอบกลับมาเมื่อเห็นผมในร่างนี้ แต่ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเลยหรี่ตามองนิดๆ

             “กัส...” เสียงทุ้มแหบพร่าที่เอ่ยขึ้นเบาๆเหมือนคนหมดแรง ฟังดูล่องลอยเหมือนคนไร้สติทำเอาผมลืมตัวไปชั่วขณะได้แต่นอนลืมตาสบดวงตาคู่นั้นนิ่งๆ แสงไฟสว่างที่เปิดไว้ทำให้เห็นนัยน์ตาคมที่ฉายแววเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจน มันสั่นไหวเสียจนหน้าใจหาย...

            “พี่รักกัสมากนะ รู้ไหม...” มือใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ไปตามโครงหน้าผมเหมือนคนละเมอท่าทางไม่เหมือนพี่แซมที่ผมเคยรู้จัก และมันก็ทำให้ใจผมปวดหนึบไปหมด

            “พะ...พี่แซม นี่ อื้อ...”มันคงดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นักที่ผมพยายามจะอธิบายถึงการมีตัวตนที่ไม่มีตัวตนของผม แต่ประโยคเหล่านั้นก็ถูกกลืนไปพร้อมกับริมฝีปากหนาที่ประกบทาบทับลงมา

             ผมเบิกตาโพงอย่างตกใจกับสัมผัสอุ่นร้อนที่ได้รับ มันไม่ได้จาบจ้วงจนน่าหวาดกลัว แต่มันเป็นสัมผัสอ้อนวอนขอร้องให้เปิดปากเพื่อเติมเต็มกันและกัน ผมเผยอปากออกเล็กๆเพื่อรับลิ้นร้อนไล้เลียอยู่ด้านนอก ทันทีที่เข้ามาได้ความรุ่มร้อนที่เคยสัมผัสก็เพิ่มขึ้นเป็นอีกเท่าทวี มือใหญ่สองข้างกอดรัดร่างของผมเอาไว้แน่นจนเกือบหายใจไม่ออก ผมเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของตัวเองก็วันนี้

            ยามที่ได้สัมผัสกันและกัน

            “อย่าทิ้งพี่ไปนะ...กัส...”

            พลั่ก !

            ผมรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายผลักร่างใหญ่ๆของพี่แซมออกจากตัวจนตกจากโซฟาแล้วนอนนิ่งเหมือนคนหลับ แต่ผมไม่สนใจหรอก ตอนนี้ผมมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่า ที่จูบผมเมื่อกี้คิดว่าผมเป็นพี่กัสสินะ หึ! บ้าไปแล้ว ไอ้พี่แซมบ้า! เมาจนไม่ได้สติ คิดว่าตัวเองเป็นใครห๊ะ ! ถึงมาทำกับคนอื่นแบบนี้ !

             ผมกางเล็บข่วนแขนและหน้าหล่อๆนั่นไปอีกหลายแผลจนสาแก่ใจ แต่สุดท้ายถึงผมจะโมโหแค่ไหนก็ต้องเข้าห้องไปขนเอาผ้านวมกับหมอนมาให้อีกคนหนุนนอน แปลงร่างกลับเป็นแมวอีกครั้งเพื่อเตรียมเข้านอนแต่เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ทำให้ผมไม่อยากจะอยู่ใกล้เจ้าของห้องนัก เลยเดินเข้าไปนอนในห้องนอนครอบครองเตียงเพียงคนเดียว
สบายใจ ~~~~~


           “มะลิมากินข้าวเร็ว”

           ผมมองเมินเจ้าของเสียงเรียกที่เพิ่งตื่นมาเทอาหารเช้าให้ผม ปกติผมไม่ค่อยได้ทานอาหารเม็ดเท่าไหร่นักเพราะส่วนใหญ่จะทานอาหารเหมือนมนุษย์เรียกว่าครั้งแรกที่ทานอาหารเม็ดก็ตอนที่มาอยู่กับพี่แซมเนี่ยแหละ แต่รสชาติมันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ยกเว้นบางอย่างนะครับเพราะรสชาติแมวไม่แดกจริงๆ

            “มะลิมานี่ เร็ว...”

            ผมยังเมินอยู่ คิดไปถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผมโดนขโมยจูบแล้วอุตส่าห์เข้าไปครองเตียงแต่สุดท้ายผมเองที่นอนไม่หลับบนเตียงที่ดูกว้างเกินไปนั่น แล้วยังไง ? ผมก็ต้องหอบตัวเองออกมานอนบนโซฟากับเจ้าของห้อง มันน่าโมโหคูณสองเสียจริง ฮึ่ย!

            “ถ้าไม่มาไม่พาไปเที่ยวนะ”
 
             หืม?  ไปไหน ? ไปเที่ยวไหน ? ตั้งแต่ตัดสินใจออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านผมก็ยังไม่เคยไปไหนนอกจากห้องพี่มันกับมหาวิทยาลัยในบางครั้ง (แอบโดดเรียน อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ) ผมคงชูคอแสดงท่าทางตื่นเต้นมากไปหน่อย มุมปากพี่มันเลยกระตุกขึ้นโชว์ยิ้มหล่อละลาย

             ผมเดินอาดๆแล้วกระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้ข้างโต๊ะทานข้าว ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอีกที ลืมบอกไปพี่แซมให้ผมทานข้าวบนโต๊ะเดียวกันได้แต่ก็ไม่กี่วันมานี้เพราะพี่กัสไม่มา สงสัยคงจะเหงา...

             กึก !

             เอาอีกแล้ว ปวดใจอีกแล้ว...


             ไอ้พี่แซมไม่ได้พาผมออกไปเที่ยวไหนไกลอย่างที่ผมคิด เพราะสถานที่ที่พามาก็แค่สวนสาธารณะไม่ไกลจากคอนโดมากนัก พอมาถึงก็ปล่อยผมลงเดินเล่นแล้วบอกว่าจะไปนั่งรอไม่ไกล พูดเหมือนรู้ว่าผมจะเข้าใจงั้นแหละ ส่วนผมที่อยู่ในสภาวะอารมณ์ไม่ค่อยคงที่นักตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคืนพาตัวเองเดินเล่นไปเรื่อยๆ กะว่าอีกสักพักคงจะเดินตามกลิ่นไปหาเจ้าของ ถือว่าให้เวลาตัวเองสักพัก

             ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วก็ยอมรับหน่อยๆแล้วว่ารู้สึกดีๆกับพี่แซมมัน ความจริงอาจจะรู้สึกมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่เป็นเพราะตอนนั้นข้างกายพี่แซมมีพี่กัสคนที่ผมรู้สึกชอบอีกคนหนึ่ง แล้วในตอนนี้ถึงจะยังไม่รู้เรื่องแน่ชัดแต่มันก็ทำให้ผมได้ใจ และปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความรู้สึกที่ปะทุขึ้น

             หลังจากเดินเล่นไปสักพักผมก็หมดสนุกเพราะตลอดทางเจอผู้คนมากหน้าหลายตาแถมยังพยายามเข้ามาจับตัวผมอีก ผมไม่ชอบเลยเดินเลี่ยงออกมาก แต่พวกมนุษย์ก็ตื้อมากกว่าที่คุณคิด วิ่งไล่ตามผมก็มี น่ากลัวชะมัด

             “นั่นไง มะลิมานี่มา เมี๊ยวๆๆ” เสียงของพี่แซมดังอยู่ไม่ไกลทำให้ผมเร่งฝีเท้าเข้าไปใกล้มากขึ้น เห็นผู้ชายร่างเล็กอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ หน้าตาน่ารัก ส่วนไอ้พี่แซมส่งสายตาพราวระยิบระยับเหมือนเจอคนถูกใจต่างจากไอ้ขี้เมาเมื่อคืนลิบลับ เดี๋ยวก่อนนะ ได้ข่าวว่าเพิ่งมีเรื่องหนักใจ หรือเรียกง่ายๆว่าโดนทิ้ง ! แล้วไหงตอนนี้มาส่งสายตาแพราพราวแบบนี้เนี่ย ไอ้ขี้ม่อ!! หึ่ม!

            เมี๊ยววว

            มือใหญ่ช้อนอุ้มผมเข้าไว้ในอ้อมแขนเหมือนเดิม แต่เสียงแมวอีกเสียงที่ดังขึ้นทำเอาผมชะงักค้าง ก่อนจะค่อยๆหันไปมอง...

            O.O !!

            นั่นพี่ชายผม...พี่นิล !!

            เมี๊ยวววว

            “ไม่เอาแบล็ค อย่าแกล้งน้องนะ” เสียงผู้ชายตัวเล็กอีกคนคนพูดปลอบพี่นิลในร่างแมวสีดำขนฟูตัวใหญ่ คงเข้าใจว่าพวกเราจะทะเลาะกัน แต่มันก็ไม่แปลกนักหรอกเพราะดวงตาสีทองคมดุนั้นกำลังจ้องมาที่ผมอย่างหน้ากลัว ผมเลยพองขนเข้าสู้ๆ จริงๆเหมือนยกธงขาวยอมแพ้เลยมากกว่าเพราะขนของผมเป็นสีขาวจะแปลเป็นความหมายนี้ได้ไหมนะ

            “ไม่เอาครับมะลิ” เสียงทุ้มๆของเจ้าของมือที่โอบอุ้มผมเอาไว้ทำให้ผมสงบลงและเลิกมองสบตากับผู้เป็นพี่ชายแล้วหันเข้าซุกหน้ากับอกอุ่นแทน คิดว่าอีกไม่นานผมต้องถูกพี่ชายลากกลับบ้านแน่ๆ

             ผมยังไม่ได้บอกพี่นิลครับว่าผมติดต่อกับที่บ้านไปแล้วว่าตัวเองอยู่ไหน และคิดว่าทางบ้านก็คงยังไม่ได้บอกพี่นิลเหมือนกัน ที่ผมยังไม่บอกพี่มันเพราะว่าไอ้พี่นิลมันเถื่อนครับ มันเป็นแมวเถื่อนที่ปากจัดมากๆ เชื่อเถอะว่าถ้าบอกไปแล้วหากพี่มันไม่จับผมโยนลงตึกก็คงได้นั่งบ่นยาวจนหูชา พี่มันเคยจับผมโยนลงจากชั้นสองของบ้านด้วยนะครับดีที่ผมเป็นแมวแค่นั้นไม่สะเทือน แต่ก็ดูเอาเถอะ อย่างนี้ใครมันจะไปกล้าบอก

              “หือออ พูดง่ายมากเลย”

              “มะลิก็อย่างนี้แหละ บางครั้งพี่ก็แอบคิดนะว่ามันฟังพี่รู้เรื่อง”

              “มินว่ามะลิต้องรู้เรื่องแน่เลยครับ มันเป็นสายสัมพันธ์ของสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของน่ะ ^_^”

              “ชอบมะลิเหรอ หืม?” ประโยคนี้คนที่ชื่อมินก้มลงไปพูดกับพี่นิล แต่ขอเถอะ ช่วยอย่าพูดอะไรที่ชวนสยองแบบนั้นได้ไหมครับ

              “ชอบไม่ได้หรอกนะ เป็นตัวผู้เหมือนกันนี่” พี่แซมขยับตัวเอื้อมมือจะไปจับตัวพี่นิล แต่มันไม่ง่ายเพราะพี่ผมมันโหด กางเล็บข่วนพี่แซมตั้งแต่มือยังยื่นไม่ถึงตัวด้วยซ้ำ
 
              เมี๊ยวว!

              “โอ๊ย!”

              “แบล๊ค! ทำไมเกเรอย่างนี้นะ !”

              “ไปทำแผลเถอะครับ เดี๋ยวผมช่วย”

              “ไม่เป็นไรๆ แค่นี้เอง มะลิเคยทำหนักกว่านี้อีก ฮ่าๆ ใช่ไหมเจ้าตัวยุ่ง” พี่มันคงหมายถึงแผลที่ตื่นขึ้นมาเจอเมื่อเช้า บ่นผมเสียยกใหญ่แต่ก็ไม่ได้ทำโทษอะไร แต่นั่นมันแผลที่ผมทำนะ คนอื่นไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้หนิ ผมมองขู่พี่นิลอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะตอนนี้ผมเองก็มีความผิดอยู่

             ผมมองรอยข่วนเป็นทางยาวบนมือเจ้าของที่ใช้ลูบหัวผมประจำ เลือดที่ไหลซิบทำให้ผมเผลอแลบลิ้นเสียทำแผลให้ตามสันชาติญาณโดยไม่ทันคิด ดูเหมือนพี่มันก็อึ้งเล็กๆเหมือนกัน พอรู้ตัวผมเลยแกล้งเฉยซุกหน้าเข้าอกอุ่นอีกครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะรอยยิ้มกว้างของพี่แซมเมื่อกี้ด้วยแหละ เล่นเอาหน้าร้อนไปหมดหวังว่าขนหน้าของผมคงไม่เปลี่ยนเป็นสีแดงหรอกนะ ไม่งั้นคงขำตาย
 
            “มะลิเก่งจังทำแผลให้พี่แซมด้วย”

           “ว่าแต่..แบล็คนี่ฉีดยาแล้วใช่ไหม ? พี่ยังไม่อยากตายนะ” พี่แซมพูดหยอก

           “เรียบร้อยครับ ครบทุกเข็ม ปลอดภัยแน่นอน”


            คุยกันอีกไม่กี่คำพี่แซมก็ขอแยกจากพี่มิน (ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นรุ่นพี่ผม) เพื่อไปทำแผลให้ถูกสุขลักษณะ ตลอดทางก็ใช้มือลูบหัวลูบตัวผมไม่ห่าง จนเดินออกมาจากคลินิกหลังจากทำแผลเสร็จ ผ่านร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ผมเห็นพี่แซมทำหน้าเหมือนคิดอะไรได้ก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน

           “สนใจอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ?” พนักงานสาวหน้าแฉล่มเดินออกมาต้อนรับถึงหน้าประตู ส่งสายตาแพรวพราวเหมือนพยายามจะโประเสน่ห์เต็มที่ ผมที่กำลังซุกตัวอยู่กับอกอุ่นเงยหน้ามองพองขนขู่อย่างไม่ชอบใจจนพี่แซมต้องเอามือมาลูบๆให้ผมสงบลง ไม่ได้ตั้งใจนะแต่ไม่ชอบใจหนิ เรื่องอะไรจะให้แม่คนนั้นเอาตัวเข้ามาใกล้มาส่งสายตาวิบวับๆให้ด้วย

            “เดี๋ยวผมขอเดินดูก่อนแล้วกันครับ” เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมพี่แซมเลยขอตัวผละออกมาก่อนจะเดินดูของไปเรื่อยๆ มือก็ยังลูบผมไม่หยุด

             “เป็นอะไรเรา ตกใจเหรอหืม ?”

             ไม่ได้ตกใจโว้ย แต่ไม่ชอบๆๆๆ เชิดหน้าหนีดีกว่า

             “ฮ่าๆ พักนี้ขี้งอนนะเรา” ไม่พูดเปล่ายังเอามือมาเขี่ยจมูกผมเล่นอีก ผมเลยให้ขาหน้าสองขาตะปบเอาไว้เลย

             “หรือว่าอยากได้หนูยางตัวใหม่”

             เมี๊ยวววว!

            คราวนี้ผมขู่ไอ้พี่แซมเลยครับ ถ้าพี่มันซื้อมาจริงๆผมจะข่วนหน้าให้หมดหล่อเลยคอยดู แต่ไม่ใช่ครับเพราะโซนที่พี่มันเข้าไปไม่มีของพวกนั้นอยู่ เห็นมีแต่ปลอกคอกับพวกกระพรวน ผมเห็นพี่มันหยิบอันนู้นอันนี้มาทาบกับคอผมแต่เหมือนจะไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ จนมาหยุดอยู่ที่กระพรวนสีทองที่ติดอยู่กับริบบิ้นสีแดง มือหนาจับมาทาบกับคอผมแต่เหมือนจะไม่ชอบใจเลยย้ายไปที่หาง คราวนี้พี่มันฉีกยิ้มกว้างเลยครับ

           “มะลิชอบไหม?”

           ผมมองเจ้ากระพรวนกรุ๊งกริ๊งนั่นเฉยๆ ผมไม่เคยใส่อะไรกับตัวเองในร่างแมวเลยบอกไม่ถูกว่ามันควรจะรู้สึกยังไง แต่ถ้าถามว่าชอบไหมมันก็น่ารักดี ผมเลยร้องเมี๊ยวตอบกลับไปหนึ่งครั้ง พี่มันก็เดินไปคิดเงิน


           กรุ๊งกริ๊งๆ

           อย่างพี่แซมนี่ถ้าเรียกบ้าเห่อก็คงจะดูน้อยเกินไปเพราะทันทีที่กลับถึงห้องพี่มันก็จัดการผูกริบบิ้นเข้าที่หางผมทันที ผมสะบัดหางที่ติดกระพรวนของตัวเองไปมาอย่างไม่ชิน มันเหมือนมีอะไรมาถ่วงๆอยู่ที่หางแต่ก็ไม่ได้หนักแค่ไม่ชินเฉยๆ ส่วนคนซื้อก็เอาแต่ถ่ายรูปแชะๆเหมือนจะเอาไปอวดเพื่อนอย่างงั้นแหละ

            “เอาล่ะ ทีนี้ก็หนีไปไหนไม่ได้แล้วนะ จองแล้ว ^___^”

            ผมใจเต้นแรงเมื่อจู่ๆเสียงทุ้มก็พูดขึ้นพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆจนสันจมูกโด่งชนเข้ากับจมูกของผม  ภาพความใกล้ชิดและสัมผัสอุ่นร้อนจากเมื่อคืนทำเอาผมประหม่า ประโยคง่ายๆเหมือนไม่มีอะไรแอบแฝงแต่มันก็ทำให้ผมใจเต้นจนแทบบ้า ตอนนี้ผมรู้สึกเห็นแก่ตัวอยากจะเก็บเอารอยยิ้มหล่อนั้นไว้ดูคนเดียว ถึงจะยังไม่รู้เรื่องพี่กัสแน่ชัดแต่ในเมื่อพี่แซมพูดแบบนี้ต่อให้วันหนึ่งพี่กัสกลับมาผมก็ไม่ยอมหรอกนะ !

            เมี๊ยวววว

    TBC +++++++++++++++++++++++++++
    TALK...
    กลับมาเเล้วจ้า ถึงจะอัพช้าไปหน่อยเเต่ไม่ทิ้งพี่เเซมกับน้องมะลิเเน่นอนจ้า อิ้อิ้ ยิ่งเขียนไปก็ยิ่งรู้สึกอยากจะฟัดมะลิให้เฉามือเล่น หมั่นเขี้ยวๆๆๆๆๆๆ

 :ling1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 08-04-2016 09:29:40
ชอบมาก เข้ามารอดูเรื่องนี้ทุกวันเลย
มาต่อบ่อยๆนะคะ
น้องมะลิน่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-04-2016 10:36:47
จูบแก้ตัวเลยไอ้พี่แซม
ลืมๆกัสไปเหอะ แหม
โดนมัดจำไปแล้วนะมะลิ อย่าคิดหนีไปไหน   :mew1:
ขอบคุณคนเขียนจ้า รอต่อๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 08-04-2016 11:16:59
จองแล้ววววว....!

ฟินนนนน ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-04-2016 14:03:52
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 08-04-2016 18:30:31
มะลิน่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-04-2016 19:58:58
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: mro ที่ 09-04-2016 00:48:50
น่าร้ากกก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 09-04-2016 11:10:59
 แหนะๆ มีจงมีจอง
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 11-04-2016 12:20:07
ฮืออออ มาต่อเลยได้มั๊ยยยย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 2 08/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 11-04-2016 20:01:58
มีต่อมั้ย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!)( Up!! Side Story 3 12/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 12-04-2016 23:37:17
Side Story ( แซม X จัสมิน ) 3

             ท๊า ทา ดา ด๊า ด่า ~~~~~~~~~~

             วันนี้ผมแอบโดดเรียนอีกแล้วครับเลยทำตัวเป็นแม่บ้านที่ดีเก็บของในห้องที่รกๆนี่เสียหน่อย ตั้งแต่เจอกับพี่นิลวันนั้นวันต่อมาผมไปเรียนก็เจอพี่มันมาดักรอที่หน้าคณะเลยครับ ดีที่หลบทันเลยไม่ต้องเผชิญหน้ากัน ไม่ใช่มีเรื่องอะไรหรอกครับแค่ผมยังไม่พร้อมที่จะเจอก็เท่านั้นเอง อย่างที่บอกนั่นแหละว่าพี่นิลทั้งบ้าและโหดเถื่อนแค่ไหน เกิดอยู่ดีๆลากผมกลับบ้านขึ้นมาทำไงอ่ะ ผมก็ไม่อยู่กับพี่แซมอะดิ คึคึ

              “เหมียว เหมียว เหมียวหง่าว เหมียว เหมียว เหมียวหง่าวววว ~~~~~~”
ผมอยู่ในร่างคนปล่อยหูและหางที่มีกระพรวนกรุ๊งกรุ๊งร้องเพลงไปปัดกวาดเช็ดถูห้องที่ตัวเองมาอาศัยอยู่จนเกือบลืมบ้านไปแล้ว ไม่ต้องห่วงครับ ตอนนี้เจ้าของห้องยังไม่กลับมาหรอก เพราะอยู่ด้วยกันมานานเรื่องตารางเรียนแค่นี้สบายมากฉะนั้นผมทำอาหารไว้ให้ดีไหมนะ แล้วพี่มันจะสงสัยหรือเปล่าว่ามาจากไหน...?

              เอ.....?

              งื้ออออออ

             ถึงพี่แซมที่คาดว่าตอนนี้คงเลิกกับพี่กัสไปแล้วและท่าทางก็ไม่ได้ดูอาการสาหัสอะไรเหมือนคืนนั้นที่เมาแล้วเผลอจูบผม แต่ปัญหาของผมตอนนี้คือผมจะทำให้พี่แซมชอบผมได้ยังไง ? ในเมื่อผมอยู่กับพี่แซมในร่างแมว เป็นแค่แมวที่ถูกแฟนเก่าเก็บมาฝากเลี้ยง...แค่พูดคุยกันยังไม่ได้เลย ยิ่งผมกลายเป็นคนแบบนี้ได้อีกกลัวว่าพี่มันจะจับผมไปส่งองค์กรนาซ่านะสิ

              เฮ้อ ~~~~~~

              ผมทิ้งตัวนอนคว่ำหน้าลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่ขนาดผมกลายเป็นคนแล้วมันก็ยังดูกว้างมากๆอยู่ดี ผมกวัดแกว่งหางไปมาอย่างใช้ความคิดจนเสียงกระพรวนดังกรุ๊งกริ๊ง ทำไมเรื่องของพี่นิลมันดูง่ายจังนะ ถ้าผมควบคุมตัวเองได้ดีเหมือนพี่นิลก็คงจะดี จะได้ยืมเอาแนวทางของพี่มันมาใช้บ้าง อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าพี่นิลคิดอะไรกับพี่มินตัวเล็กคนนั้น เพราะกลิ่นพี่นิลเล่นลอยอบอวลไปรอบๆตัวพี่มินแสดงอาณาเขตเต็มที่ แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้น่ะสิเพราะพลังของผมมันไม่เสถียรพอ...
ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างหมดหนทาง ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมทำงานบ้านต่อ อย่างน้อยตอนนี้ก็ทำได้เท่านี้ล่ะนะ

            กึก !

            “มะ...มะลิ ?”

            ผมตัวชาไปทั้งร่างเมื่อลุกจากโซฟามาแล้วพบกับร่างสูงของเจ้าของห้องที่ยืนนิ่งราวกับถูกสาปอยู่ทางด้านหลังของโซฟา ข้าวของที่ซื้อกลับเข้ามาหล่นตุบอยู่ข้างตัวเหมือนคนหมดแรงจะถือ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? มันยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนหนิ แล้วทำไม...ทำไมผมไม่ได้ยินเสียงประตูห้องล่ะ...

            “พะ...พี่แซม...” ผมเรียกอีกคนเสียงแผ่ว ท่าทางเหมือนเจอสัตว์ประหลาดน่าหวาดกลัวของอีกคนทำให้ผมไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ นอกเสียจากยืนนิ่งอยู่กับที่ให้โซฟาตัวใหญ่กั้นเราเอาไว้ แต่ทำไม ทั้งๆที่ห่างกันแค่นี้ ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่ามันไกลเหลือเกิน

             “นายเป็นใคร?” ถามนิ่งๆ สายตาจ้องไปที่หางสีขาวของผมที่ตกลงไม่ต่างกับหูแมวเล็กๆที่ลู่ลงไปด้วย
ผมพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อเก็บเอาส่วนหูและหางของตัวเองเข้าไปเพื่อไม่ให้อีกคนตกใจมากเกินไป แต่เหมือนมันจะไม่ง่ายอย่างนั้นเพราะตอนนี้ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่แม้แต่จะกลับไปเป็นมะลิเหมือนเดิม ทำยังไงดี? ผมควรทำยังไงดี?

             “ฉันจะถามอีกครั้ง นายเป็นใคร?” เสียงทุ้มเข้มขึ้นจนผมเผลอสะดุ้ง ในเมื่อเรื่องมันมาขนาดนี้แล้วผมคงต้องบอกความจริงสินะ

             “มะลิ...ผมคือมะลิ”

             “.....”

             “ผมไม่ได้โกหก มันอาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อแต่ทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องจริง ผมไม่ใช่คนปกติ...แล้วก็ไม่ใช่แมวปกติด้วย...”

             “พูดอะไร ? คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง บอกมาดีๆดีกว่าว่าเข้ามาห้องนี้ได้ยัง? ก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจจับนายเข้าคุก”

             “ผมไม่ได้โกหกนะ ขอโทษที่ไม่ได้บอกตั้งแต่ตอนที่พี่กัสพาเข้ามาอยู่ที่นี่ แต่...พี่กัสก็ไม่รู้เรื่องนี้หรอก..”

             “ตั้งใจจะมาขโมยอะไร?” พี่แซมไม่ฟังผมยังคงปักใจเชื่อว่าผมเป็นขโมย ผมเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันเชื่อยาก แต่ท่าทางที่เหมือนตั้งใจจับผมเข้าคุกเสียเต็มที่ถ้าจับได้ว่าผมโกหกหรือว่าผมตอบไม่ถูกใจมันทำให้ผมเจ็บ เขาจำผมไม่ได้จริงๆหรอ...

             “พี่แซมจำผมไม่ได้จริงๆหรอ อันนี้พี่เป็นคนซื้อให้ผมเองนะ...จำไม่ได้หรอ...?” ผมจับปลายหางตัวเองที่มีกระพรวนผูกอยู่ก่อนจะยื่นให้คนตรงหน้าดู ใบหน้าหล่อดูอึกอักไปเล็กน้อยเหมือนไม่อยากยอมรับและผมคิดว่าพี่มันต้องคิดว่าผมขโมยของแมวมาแน่ๆ

             “ผมมาที่นี่กับพี่กัส พี่กัสเจอผมที่ท่ารถเลยเก็บผมมาด้วยแต่ที่บ้านพี่กัสเลี้ยงแมวไม่ได้พี่กัสเลยเอาผมมาฝากให้พี่เลี้ยงที่นี่ พี่ยังเคยเอาหนูยางมาแกล้งผมเลย ตอนอาบน้ำให้ผมครั้งแรกพี่ก็ยังจับผมจ่อพัดลมจนเกือบไม่สบายและเรายังทานข้าวด้วยกันตลอด...ผม..ฮึก...”

            ผมกัดปากกลั้นสะอื้นมือกำหางตัวเองแน่น รู้สึกเหมือนตัวเองจะร้องไห้ออกมา เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไรเลยนอกจากมองหน้าผมนิ่งๆ ผมไม่รู้ว่าพี่แซมคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเชื่อเรื่องที่ผมเพิ่งบอกไปไหม...
 
             ถ้าผม...ถ้าผมเก่งกว่านี้ถ้าผมควบคุมตัวเองได้ดีกว่านี้ ผมคงทำอะไรได้บ้าง อย่างน้อยก็กลับเป็นแมวให้อีกฝ่ายดูได้ว่าผมเป็นมะลิจริงๆ

           “ชื่อจริงๆนายชื่ออะไร?” เสียงทุ้มดูอ่อนลง แต่ยังติดระแวงและสับสน

           “ฮึก...จัส..อึก จัสมิน...”

           “โอเค จัสมิน ฉันคงเถียงไม่ได้นะว่าเรื่องที่นายพูดมันไม่จริง”

           “ฮึก...”

            “แล้วก็คงไม่เชื่อไม่ได้อีกสินะว่าหูกับหางนั่นเป็นของจริง”

            “ฮือ...”

             “ตะ...แต่นายต้องเข้าใจนะว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเชื่อได้ง่ายๆ ใครเห็นก็ต้องตกใจถูกไหม ? และแน่นอนว่าฉันช็อคมาก ตอนนี้เราต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่ นายอยู่ที่นี่ได้เพราะก่อนหน้านี้นายไม่มีบ้านแต่ตอนนี้เหมือนอะไรๆจะเปลี่ยนไปแล้ว เพราะงะ..” ผมฟังเสียงทุ้มติดสั่นที่เหมือนจะรวบรวมเอาสติที่มีอยู่ทั้งหมดมารวมกันเพื่อคุยกับผมแบบรัวเร็วจนเกือบจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ผมก็ชิงพูดขัดก่อน

              “ไม่นะ ผม...ผมไม่มีบ้านหรอก ฮือๆ” แค่คิดว่าจะต้องโดนไล่ผมก็น้ำตาแตกอีกรอบ ไม่นะ...พี่แซม อย่าไล่ผมแบบนี้

              “งะ..งั้นนายอยู่ที่นี่ก็ได้...จนกว่านายจะหาบ้านได้ตกลงไหม..?”  ถึงประโยคจะฟังดูเหมือนยังไงผมก็ต้องไปจากที่นี่สักวันก็เถอะ แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจเรื่องนั้นหรอกแค่ตอนนี้พี่แซมยอมให้ผมอยู่ด้วยอีกครั้งก็นับว่าดีมากแล้ว ผมจะค่อยๆทำให้พี่แซมยอมรับตัวผมให้ได้

               “แล้วนั่นพี่แซมจะไปไหน?” ผมถามพี่แซมที่ทำท่าเหมือนจะออกไปด้านอกทั้งๆที่เพิ่งกลับเข้ามาเมื่อกี้แท้ๆ

               “อ่อ...เอ่อ...เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระนิดหน่อยน่ะ ไม่นานหรอก ไปนะ”

               “เหรอครับ...” ผมพยายามทำเสียงให้ไม่หงอย มองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไปจนกระทั้งมีบานประตูมากั้นกลาง


               ผมจัดการทำอาหารง่ายๆไม่กี่อย่าง เห็นเมื่อกี้พี่แซมบอกว่าออกไปไม่นานน่าจะกลับมาทานข้าวเย็นทันอยู่ ไหนๆตอนนี้พี่แซมก็รู้แล้วว่าผมเป็นคนได้และคงไม่ต้องมานั่งสงสัยด้วยว่าอาหารมาจากไหน เพราะงั้นผมก็เลยถือโอกาสทำมื้อเย็นมื้อแรกรอซะเลย ผมว่าผมมีเสน่ห์ปลายจวักอยู่นะ คึคึ

               หาวววววว

               ผมอ้าปากหาวหวอดไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไหร่แล้วแต่ที่รู้ผมกลายเป็นคนสามหาวไปแล้วแน่ๆหรือบางทีอาจจะมากกว่านั้น ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่มอยู่แล้วแต่พี่แซมก็ยังไม่กลับมา อาหารเย็นที่ผมทำไว้ก็อุ่นแล้วอุ่นอีกจนผมตัดใจเก็บมันเข้าตู้เย็นไปแล้ว พี่แซมไปอยู่ไหนกันนะ...ไหนบอกว่าไม่นานไง

               ผมนั่งรอพี่แซมไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหนรู้สึกตัวอีกทีก็เข้าเช้าวันใหม่พี่แซมก็ยังไม่กลับ ผมมองไปรอบๆห้อง มันทั้งเงียบและเหงามากกว่าปกติจนผมใจหาย...



                ผมเดินออกจากห้องเรียนด้วยความเร่งรีบ ตอนนี้ผ่านมาสองวันแล้วครับที่พี่แซมไม่กลับห้อง ผมเลือกที่จะอยู่ห้องไม่ออกไปไหนเพราะกลัวว่าถ้าพี่แซมกลับมาแล้วจะไม่เจอผมแต่วันนี้ผมมีสอบย่อยสำคัญจะขาดไม่ได้ ส่วนเรื่องอาหารผมยังทำครบสามมื้อเหมือนเดิมเผื่อว่าเจ้าของห้องกลับมาจะได้ลองชิม แต่จนแล้วจนรอดผ่านมาสองวัน...ผมก็ยังไม่เห็นเเม้เงาของพี่แซม

                “มิน !” ซวยแล้วไง เสียงเรียกโหดแบบนี้ไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าใคร นี่พี่นิลยังไม่เลิกที่จะมาดักรอผมอีกหรอ ผมเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นโดยไม่หันกลับไปมองด้านหลัง ตอนนี้...ถ้าผมถูกพากลับบ้านตอนนี้ ผมคงไม่ได้เจอพี่แซมอีก

                “มาคุยกันก่อน” พี่นิลวิ่งตามมาคว้าแขนผมไว้ได้ทัน

                “ไม่ พี่นิลพูดไม่รู้เรื่อง”

                “กลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้” นั่นไง ยังไม่ทันได้เริ่มคุยกันเลยก็บอกให้กลับบ้านแล้ว

                “ไม่ ! ปล่อยนะ !” ผมพยายามสะบัดแขนแรงๆจนหลุดก่อนจะวิ่งหนีอีกครั้ง ได้ยินเสียงพี่มันสบถไล่หลังมาอย่างหัวเสีย อยากจะคุยอยู่หรอกแต่ไม่ใช่เวลานี้ อย่างน้อยก็น่าจะตอนที่ผมพร้อมหรือไม่ก็ตอนที่พี่นิลไม่ได้อยู่ในโหมดแมวตกมัน

                “กลับไปกับพี่ อย่าทำเรื่องให้วุ่นวายไปมากกว่านี้ได้ไหม ?!”  พี่นิลตามมาจับผมได้ทันอีกครั้งแถวๆตึกหลังคณะวิศวะ คราวนี้เสียงพี่มันอ่อนลงนิดหน่อย

                “พี่นิล มินขอเวลาอีกนิดได้ไหม ?” ผมเปลี่ยนมาใช้ลูกอ้อน อยากจะอธิบายแต่ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรดีๆมาพูดได้ว่าทำไมถึงออกจากบ้านแล้วหนีไปอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าที่ตอนนี้รู้ความลับของผมแล้วด้วย ผมรู้และเข้าใจว่าพี่นิลเป็นห่วงผมแต่ตอนนี้ผมก็มีเรื่องที่อยากจะทำเหมือนกัน

                “พี่ให้เวลาเราเที่ยวเล่นมานานพอแล้ว”

                “ทำไมล่ะฮะ ? ในเมื่อพี่นิลอยู่ข้างนอกได้ ทำไมมินจะอยู่บ้างไม่ได้”

                “เราคุยเรื่องนี้กันไปหลายรอบแล้วนะ ทำไมไม่เข้าใจ?”

                “พี่นิลก็ไม่เข้าใจมินเหมือนกัน”

                “พอ !! ยังไงวันนี้มินก็ต้องไปกับพี่ !” พี่นิลเริ่มออกแรงกระชากผมอีกครั้ง ตอนนี้ผมยอมรับครับว่ากลัวพี่นิล ถึงพี่นิลจะโหดแต่ก็น้อยครั้งมากที่จะตะคอกหรือตวาดผมเสียงดังเหมือนครั้งนี้

                 “ไม่นะ ไม่ๆๆ ช่วยด้วยๆๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย !!”

                 “หุบปาก!! หัดดูเวลาซะบ้าง !!”  ตะคอกเสียงดังกว่าเดิมจนผมสะดุ้ง ตกใจจนหูกับหางเกือบโผล่ หัวตาร้อนผ่าว พอกลั้นไม่ไหวผมก็ร้องไห้ ปล่อยโฮมันตรงนั้น ไม่สนใจด้วยว่าใครจะมาเห็นเข้า
 
                 “มึง...!”  ทั้งผมและพี่นิลชะงักค้างหันไปมองผู้มาใหม่ที่เหมือนจะตะโกนเรียกพี่นิล คนตัวเล็กที่ดูโตกว่าผมไม่เท่าไหร่ พี่มินนั่นเอง

               “มิน !!”ผมใช้โอกาสที่พี่นิลกำลังค้างจนเผลอผ่อนแรงลงสะบัดมือใหญ่ออกจากแขนเต็มแรงแล้วซอยเท้าวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจเสียงตะโกนไล่หลังที่ดังตามมา

               ขอโทษนะครับ พี่นิล...


               ผมเสียเวลาไปกับการเดินทางกลับคอนโดพี่แซมนานมากกว่าปกติ เพราะรถที่ติดกันยาวเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะมาถึงคอนโดก็เกือบจะหกโมงเย็นเข้าไปแล้ว พอลงจากแท็กซี่ได้ผมก็รีบวิ่งเข้าไปในตัวคอนโดก่อนจะชะงักค้างเมื่อรู้สึกแปลกๆกับร่างกาย ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูอย่างรวดเร็วขออย่าให้เป็นอย่างที่ตัวเองคิด แล้วมันก็ใช่ !
วันนี้คืนพระจันทร์เต็มดวง บ้าชิบ !!

                ผมวิ่งออกจากทางเข้าคอนโดไปทางสวนสาธารณะใกล้ๆให้เร็วที่สุด เพราะกะเวลาแล้วผมกลับขึ้นไปบนห้องไม่ทันแน่ๆ นี่มันวันซวยอะไรของผมกัน

                อึก !

                ผมเลือกที่เดินมาหลบตรงพุ่มไม้แถวๆนั้นเลือกที่ลับตาคนหน่อยเพื่อความปลอดภัย ความรู้สึกอึดอัดปนร้อนโจมตีผมจนเหมือนจะเบลอจะไปชั่วขณะ แล้วไม่นานผมก็กลายร่างเป็นแมวน้อยขนฟูสีขาวแต่ไม่มีกระพรวนเหมือนเคยเพราะถอดไว้บนห้อง

                เฮ้อ ~~~

                แล้วแบบนี้ผมจะขึ้นห้องไปหาพี่แซมได้ยังไงกัน หลังจากซ่อนข้าวของของตัวเองไว้ในพุ่มไม้แล้วผมก็เดินออกมาหยุดที่หน้าคอนโด หรือบางที่ผมอาจไม่ควรกลับไป นึกไปถึงท่าทางกระอักกระอ่วนใจของพี่แซมเมื่อวันนั้นแล้วมันทำให้ผมเจ็บไปทั้งอก รู้สิ...ผมรู้ว่าพี่มันกลัวผม แล้วบางทีเหตุผลที่แซมไม่ยอมกลับห้องอาจจะเป็นเพราะที่ห้องมีผมอยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นพี่แซมคงจะลำบากไม่น้อยที่จะต้องออกไปนอนที่อื่น บางทีถ้าผมไม่กลับเข้าไปอีกพี่แซมก็จะกลับมานอนที่ห้องได้เหมือนเดิม ที่สำคัญ

              ไม่มีตัวน่ากลัวอย่างผมอยู่ด้วย...

               ผมเงยหน้ามองตึกสูงที่เป็นที่อยู่ของตัวเองมานานก่อนจะตัดใจหันหลังเดินจากมา โอกาสที่ผมคิดว่าคงพอมีความจริงแล้วมันอาจจะไม่เคยมีอยู่เลยก็ได้

               ผมเดินเอือยๆไปตามฟุตบาท แต่ไม่ได้ไปไหนไกลนักคิดว่าคืนนี้คงต้องหาที่หลบฝนที่ตั้งเค้ามาแต่ไกล พรุ่งนี้เช้าพอเป็นคนแล้วค่อยกลับบ้านของตัวเองเสียที ผมคงไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตข้างนอกเหมือนคนอื่นๆเพราะผมมันไม่ปกติ กลับบ้านคราวนี้ผมควรย้ายตัวเองกลับเข้าไปเรียนในบ้านเหมือนเดิมดีไหมนะ เพราะถึงอยู่ข้างนอกไปก็ดีแต่จะทำให้คนเขากลัวกันเปล่าๆ

               เดินออกมาไม่ไกลเท่านักผมก็เจอที่นอนสำหรับคืนนี้น่าตลกที่มันเป็นป้ายรถเมล์เหมือนเมื่อตอนนั้นถึงแม้จะคนละที่กันก็เถอะ ผมเลือกที่นั่งรอที่สุดท้ายพอได้ที่ปุ๊บผมก็กระโดดขึ้นไปขดตัวนอนอยู่บนนั้นนิ่งๆ ตอนนี้ผมเริ่มคิดถึงไอ้หนูยางที่พี่แซมซื้อมาซะแล้วสิ คิดถึงเตียงนอนนุ่มๆกับอกอุ่นๆ

              คิดถึงพี่แซมจัง...

              ทั้งๆที่บอกว่าจะอยู่ด้วยกันแท้ๆ ฮึก...ทำไมล่ะ...?

TBC ++++++++++++++++++++++++
TALK.....
อีพี่เเซมทิ้งมะลิเเล้วววววว ใจร้ายยยยย มีใครอยากรับมะลิไปเลี้ยงม๊ายยยย ? ฮือออ เขียนเองก็สงสารน้อง เเต่น้องน่ารักเจลก็อยากรังแก ขยุ้มๆๆๆๆ

ปล.เเวะมาฝากก่อนจะหนีไปเที่ยวสงกรานต์ ตอนนี้เจลอยู่เชียงใหม่ค่ะ เห็นขุดลอกคูเมืองเเต่บอกเลยไม่น่าเล่นซักกะติีดเดียว สำหรับเพื่อนๆที่ไปเล่นน้ำก็ระมัดระวังกันด้วยนะค๊าาา (อย่าลืมซื้อฟ๊อกกี้ไปฉีดน้ำกันนะคะ หุหุ)
ปล2. ตอนนี้กำลังเเอบซุ้มทำตอนพิเศษรับสงกรานต์ เดี๋ยวจะเเวะเอามาเเปะ เเต่อาจจะหลังสงกรานต์นู้นนนนน ฝากติดตามด้วยจ้าาาา

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 13-04-2016 00:02:42
ชอบเรื่องนี้มากมากมากกกกก เราไปอยู่ไหนมา  :hao5:
ตอนนี้สงสารมะลิน้อยที่สุด อิพี่แซมทิ้งน้องแล้ว มะลิมาอยู่กับเจ้ไหมจ๊ะ?  :hao7: 5555555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 13-04-2016 00:10:07
มะลิน้อยของป้า น่าสงสารหนูจังลูก  :mew6:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 13-04-2016 01:55:49
มาต่อเร็วๆน้าาาา
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 13-04-2016 06:03:26
สงสารมะลิจัง
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-04-2016 06:51:38
ย้าก อีพี่แซมประสาทกลับแล้วสินะถึงได้เห็นน้องมะลิหูลู่หางตกแล้วไม่รู้สึกอะไร
เป็นเจ้จะเอามาปลอบฟัดเต็มที่เลยไม่ปล่อยให้นอนเหงาหรอกเนอะ
สงสารมะลิน้อย เร่ร่อนอีกแล้ว. อีพี่แซมยังไม่สำนึกอีกเหรอ
เที่ยวให้สนุกนะคะน้องเจล. ระวังไหม้
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 13-04-2016 18:09:36
น่ารักกกกกกกกก พี่แซมยอมรับน้องให้ได้ไวๆ นะ  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 13-04-2016 19:22:00
โอยยยย สงสารมะลิ

ไม่ยกให้พี่แซมแล้วววววว ชิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 14-04-2016 00:27:13
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: mermixx ที่ 15-04-2016 00:23:07
ถ้าอิแซมมันทำแบบนี้มะลิมาอยู่กับเราก็ได้นะ  :hao3:  :hao7:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-04-2016 16:19:44
สงสารน้องจัสมิน พี่แซมแอบใจร้ายนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 16-04-2016 16:59:27
พี่แซมใจร้าย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: decem ที่ 22-04-2016 10:10:14
สนุกมากกกกกก สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 22-04-2016 20:06:21
จะมายังน้อออออออ :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: eveesk ที่ 23-04-2016 14:14:10
ไม่มาต่อแล้วหรอคะ  คิดถึงนุ้งมะลิกับพี่แซม   :mew2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 23-04-2016 19:25:34
หายไปนานจังเลย  รอตอนต่ออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Jindkyp ที่ 23-04-2016 19:39:10
หายไปไหนอ่ะ อย่าทิ้งไว้งี้สิเราอยากอ่านต่อนะ
กลับมาอัพเถอะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 23-04-2016 21:07:06
อีพี่แซมมมมม มาดูน้องมินเดี๋ยวนี้นะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Mi.07 ที่ 24-04-2016 17:28:09
คิดถึงมะลิแล้ว เมื่อไหร่คนเขียนจะมาน้าาา
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: aowlomo13 ที่ 26-04-2016 03:42:16
ฮือออออออออ น่ารักกกกกกกกกกก อ่านรวดเดียวเลยค่าาาาาาาาา  :katai2-1: :katai2-1:
รอน้องมะลิ นะค้าาาาาา  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: modisvip ที่ 27-04-2016 01:35:25
แงงงง น่ารักกกกกกกกกกกก พี่แซมคนบ้า ทำไมทำกับมะลิแบบนี้ รอมะลิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 27-04-2016 11:20:25
สนุกอ่ะ ทำไมเราเพิ่งเจอเรื่องนี้
น้องมะลิน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 3 12/04/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-05-2016 01:22:51
สนุกมากเลยค่ะ รู้สึกหลงรักอมวมากขึ้นไปอีก
น้องมะลิน่าสงสาร พี่แซมหายไปไหนนะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 5/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 05-05-2016 23:09:00
Side Story ( แซม X จัสมิน ) 4

[[ : Sam Part : ]]

             เฮ้อ ~~~~~~~

             ผมถอนหายใจยาว เงยหน้ามองตึกสูงนับสิบชั้นที่ผมไม่ได้กลับมาเกือบสามวัน อย่าว่าผมนะ ก็ตอนนั้นผมตกใจจริงๆ ผมไม่ได้กลัวจนสติแตกอะไรแบบนั้น แต่เรื่องที่จู่ๆแมวของตัวเองก็กลายมาเป็นคนแถมยังพูดคุยกับเราได้อีก มันไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆเลยจริงๆ

             อันที่จริงผมเองก็เคยรู้สึกแปลกๆ มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเหมือนเราไม่ได้อยู่ห้องคนเดียวทั้งๆที่ก็ไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากแมวหนึ่งตัว แต่บางครั้งจานชามที่ผมใช้ทานข้าวก็ถูกเก็บล้างจนสะอาด ห้องก็เป็นระเบียบอยู่ตลอด พื้นห้องน้ำที่เปียกตั้งแต่ผมใช้อาบน้ำตอนเช้าก่อนไปเรียนจนกระทั่งกลับมาตอนเย็นก็ยังเปียกอยู่ แต่ไม่เคยคิดใส่ใจเพราะคิดว่าอาจจะเป็นแม่บ้านที่ที่บ้านของผมจ้างไว้ให้มาทำความสะอาด

            จนมาถึงช่วงที่ผมเลิกกับกัสเพราะกัสจับได้ว่าผมคุยกับคนอื่นอีก จะว่าผมเจ้าชู้ก็ไม่ผิดนักหรอก แต่ผมก็เลือกนะครับไม่ได้เอาดะไปทั่ว แล้วยิ่งผมที่ได้ทั้งหญิงทั้งชายแล้วด้วยตัวเลือกของผมก็มากกว่าคนปกติธรรมดาอยู่แล้ว หลังจากเลิกกับกัสผมก็เริ่มออกเที่ยวหนักอีกครั้ง เจ็บหนักเหมือนกันครับ กัสดีกับผมมากเราเข้ากันได้ดีในหลายๆเรื่อง แต่กัสก็ยังทำให้ผมรู้สึกอยากหยุดไม่ได้ และครั้งนี้ผมคิดว่าผมควรจะปล่อยกัสไปเสียที

             ผมเริ่มกลับห้องดึกมากขึ้นในสภาพไม่ค่อยจะมีสติมากมายนัก แต่ผมก็ยังจำได้ว่า ‘มะลิ’ ไอ้ก้อนสำลียักษ์ที่ชอบมองค้อนผมบ่อยๆ จะออกมารอที่โซฟาหน้าทีวีทุกวัน และก็เหมือนเป็นการเตือนสติของผมเอง ว่าผมนั้นไม่ได้มีตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ผมยังมีเจ้าแมวตัวเล็กที่ผมจะต้องรับผิดชอบ ก็...ไม่รู้จะหาภาระให้ตัวเองทำไม ทั้งๆที่กัสก็เอ่ยปากจะรับผิดชอบเอง แต่ไม่รู้สิ คงเป็นเพราะผมชอบหน้าเหวอๆตอนมันเจอหนูยางล่ะมั้ง

              แกร่ก ~~

              ผมเปิดประตูเข้าห้องมาด้วยหัวใจที่เต้นตุ๊มๆต่อมๆ ห้องปิดไฟ ? ผมกวาดตามองรอบๆ ดูเผินๆห้องของผมยังดูปกติดีเหมือนตอนที่ผมยังอยู่ สะอาดเรียบร้อย แต่เพราะความปกติที่ดูผิดปกตินี่แหละมันทำให้ผมรู้สึกโหวงในอก...
มะลิ...ไม่อยู่
   
              ผมวิ่งหามะลิไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ข่มขู่เจ้าหน้าที่เพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งๆที่หมดเวลาทำงานไปแล้ว ผมเกือบจะถอดใจเพราะผมไม่รู้เรื่องของมะลิเลย แต่ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นในจอคอมพิวเตอร์ทำให้ผมมีหวัง เด็กหนุ่มร่างเล็กในชุดนักศึกษาที่เดินเข้ามาในบริเวณล็อบบี้ก่อนจะหันหลังวิ่งกลับออกไปอย่างรวดเร็ว ผมจำได้ นั่นมะลิ ถึงจะเคยเห็นแบบเป็นคนแค่ครั้งเดียวแต่ผมก็จำได้...

         ผมวิ่งออกจากตึกไปตามถนนแถวๆคอนโดทั้งสองฝั่ง ผมไม่รู้ว่ามะลิจะไปที่ไหนได้บ้าง ไม่รู้ว่าตอนเป็นคนมะลิมีญาติพี่น้อง มีครอบครัวเหมือนคนปกติหรือเปล่า แต่ผมก็ยังหวัง หวังว่าเขาจะไม่มีอะไรเลย หวังให้เขาไม่มีที่ไป เพื่อที่อย่างน้อยมะลิจะได้ยังอยู่ใกล้ๆคอนโดที่เคยเป็นบ้านของเรา

         ผมเดินผ่านสวนสาธารณะที่เคยพามะลิมาเดินเล่น นึกขำเจ้าตัวเล็กที่ขู่แมวสีดำที่ตัวใหญ่กว่าฟ่อๆ ดูยังไงก็ไม่เห็นจะน่ากลัวเลยสักนิด...นั่นสิ...มะลิไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด ผมรู้สึกโกรธตัวเองที่วันนั้นหุนหันออกจากห้องมา แถมยังไปสัญญาว่ากลับห้องอีก ป่านนี้ไอ้ตัวขี้งอนนั่นจะหน้างอขนาดไหนกันนะ อยากเห็นชะมัด...
      
              ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามทางเดิน ตาก็สอดส่องมองหาไปเรื่อย ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเจอกับก้อนขนสีขาวคุ้นตานอนขดตัวอยู่ที่ป้ายรถเมล์ที่ไม่ห่างจากสวนสาธารณะเมื่อกี้เท่าไหร่ ผมรีบสาวเท้าเข้าไปใกล้ยืนจ้องแมวตัวสีขาวที่นอนนิ่งไม่ไหวติง ขนสีขาวเปียกลู่ไปตามลำตัวคงเพราะละอองฝนที่ตกก่อนหน้านี้ หางแมวที่ไม่มีกระพรวนกับริบบิ้นสีแดงทำให้ผมรู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะทันทีที่เจ้าแมวตัวเล็กเงยหน้าขึ้นสบตากับผม ผมก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือมะลิของผม ไม่ผิดแน่...

             “กลับบ้านเรานะ” ผมพูดเสียงทุ้ม ลูบหัวเล็กๆไปมา ความรู้สึกหนักอึ้งก่อนหน้าหายไปหมดทันทีที่เจอกับมะลิ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรู้สึกได้มากมายขนาดนี้เพียงเพราะแค่แมวตัวเดียวหายไป แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่ผมไม่อยากจะรู้สึกอีกแล้ว ไม่ชอบเลยจริงๆ...

            “เมี๊ยววววว ~~~~”




            ความรู้สึกหนักๆเหมือนโดนกดทับปลุกผมให้ตื่นจากความฝัน ผมปรือขึ้นมองกระพริบตาปรับโฟกัสเล็กน้อย แล้วก็เจอว่าอะไรที่กำลังทับผมอยู่ ผมขยับตัวเล็กน้อยเพื่อที่จะมองให้ชัดๆ แต่เหมือนจะแรงไปสักหน่อยเลยทำให้ผู้ร่วมเตียงงัวเงียตื่นขึ้นมา

            “อือ...” เสียงทุ้มเล็กๆครางยาว ก่อนจะชะงักตัวแข็งค้างไป จนผมเผลอเกร็งไปด้วย

            “อ๊ะ !” คนที่นอนทับผมเมื่อครู่เด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วเหมือนคิดอะไรได้ แต่ผมนี่เบิกตาค้างไปแล้วครับ ผมจ้องร่างเล็กๆขาวโพลนที่เด้งตัวลุกขึ้นไปนั่งทับขาแบบท่าเป็ด ไล่มองตั้งแต่ช่วงขาที่แยกออกจากกัน (แอบขัดใจเล็กน้อยตรงที่มีมือมาบังช่วงของสงวนเอาไว้) เอวเล็กๆที่ดูเหมาะมือ จนมาถึงจุกนมสีชมพูทั้งสองข้าง ถ้าไม่ขาวมากๆคงไม่มีทางได้สีแบบนี้มาแน่ๆ ผมชะงักอีกครั้ง เมื่อสบตาเข้ากับนัยน์ตากลมโตบนใบหน้าเรียวเล็กที่ล้อมไปด้วยกรอบผมสีน้ำตาล หูแมวสีขาวลู่ลงเล็กน้อยพอๆกับหางแมวสีขาวฟูๆที่วางนิ่งๆอยู่บนเตียง จู่ๆคำว่าโมเอะก็ลอยเข้ามาในหัว...แต่ผมว่ามันน่าขยี้มากกว่า

            “พะ...พี่แซม” เสียงเรียกดึงสติของผมกลับมาอีกครั้ง ผมเลยตวัดผ้าห่มไปคลุมให้ ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมออกจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงนี้ แต่เหมือนอีกคนจะไม่เข้าใจเพราะทันทีที่ผมลุกเจ้าแมวน้อยก็ลุกมาตะครุบตัวผมด้วยท่าทางตื่นๆจนเราทั้งคู่ล้มกลับมานั่งที่เดิม

            “พี่แซมอย่าเพิ่งไปนะ อย่าหนีไปนะ คือ...คือถ้าพี่แซมไม่ชอบแบบนี้ เดี๋ยวผมเปลี่ยนก็ได้ อึ๊บ..ๆ” มะลิหลับตาแน่นเหมือนพยายามทำสมาธิเพื่อทำอะไรสักอย่าง ผมได้ยินเสียงเหมือนพยายาม อึ๊บๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไป นอกจากระยะห่างของเราที่หดสั้นลง ผมได้แต่ยิ้มขำ ถึงตอนนี้จะยังไม่ชินแต่ก็ไม่ได้ตกใจเท่าตอนแรกที่เจอแล้วล่ะครับ แถมยังมีความรู้สึกอย่างอื่นมากกว่าอีก

             “อึก...ฮึก มันไม่ได้...พี่แซมอย่ากลัวนะ ฮึก” คนที่ร้องอึ๊บๆเมื่อกี้เปลี่ยนมานั่งสะอื้น ตาโตๆเริ่มคลอไปด้วยน้ำตาใสๆ ปลายจมูกเป็นสีแดงระเรื่อพอๆกับแก้มทั้งสองข้าง มือดึงชายเสื้อนอนผมแน่น ปากก็พูดไปเรื่อยจนผมเริ่มจับใจความอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากบอกให้ผมอย่ากลัว มันดูน่าเอ็นดูเหมือนแมวน้อยถูกทิ้ง แต่คงไม่มีทางที่ผมจะทิ้ง

             “คือ...”

             “ไม่ๆ พี่แซมอย่าเพิ่งพูดนะ อย่าไล่ผมนะ ผมชอบพี่แซมนะครับ ชอบมากๆด้วย ขอโทษนะครับที่ทำให้ตกใจ ขอเวลาหน่อยเดี๋ยวผมจะรีบกลับไปเป็นแมว จะไม่ดื้อด้วยนะ ผม... บลาๆๆๆๆ”  ผมมองแมวตัวเล็กพูดเจื้อยแจ้วขัดผมไม่หยุด แบบไม่เว้นจังหวะให้ผมได้พูดอะไรเลย ความจริงเสียงของไอ้ตัวเล็กมันเริ่มหายไปตั้งแต่ที่ผมได้ยินคำที่บอกว่า ‘ผมชอบพี่แซม’ แล้วล่ะครับ แต่มองปากเล็กๆขยับไปมาก็เพลินดี ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงนะ

             “อะ..” อ่า...เหมือนการกระทำผมจะเร็วกว่าความคิดไปเยอะ เสียงที่เคยดังแจ้วๆเงียบหายสนิททันทีที่ผมตวัดเอวเล็กเข้ามาใกล้ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปแนบปากตัวเองลงไปบนริมฝีปากบางๆเล็กๆ แค่แนบเฉยๆครับ ไม่ได้รุกล้ำหรือบดเบียดอะไรไปมากกว่าแตะเบาๆ

            ผมผละหน้าออกมาเล็กน้อย จ้องมองใบหน้าอีกคนที่ตาเริ่มปูดๆดูเหมือนปลาทองอยู่เหมือนกัน แถมตอนนี้ยังหน้าแดงเถือกจ้องผมในแบบที่ตาโตๆนั่นขยายมากกว่าปกติ ถ้าให้พูดถึงเอฟเฟคล่ะก็ คงนึกถึงเสียง ปุ๊งงงงง ที่เหมือนอะไรระเบิดสักอย่าง น่ารักชะมัด

            ผลัก !!

            อั่ก

            “โอ๊ย !! เฮ้ย ! มะลิ !!”  เมื่อกี้จู่ๆก็เหมือนโดนแรงผลักอะไรสักอย่างจนผมกระเด็นตกมาอยู่ข้างเตียง พอลุกขึ้นมาได้ ไอ้คนที่นั่งอยู่บนเตียงก็กลายเป็นแมวไปซะแล้ว แถมยังเอาแต่ซุกหน้าเข้ากับอุ้งมือตัวเองไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมเลยด้วยซ้ำ

            “ชิ่งกันงี้เลย ?”




             หลังจากที่เจ้าขนปุยกลับเข้ามาอยู่ในร่างแมวที่ไม่ว่าผมจะพยายามขอให้เจ้าตัวกลับมาเป็นคนแค่ไหนก็ไม่เป็นผล แถมยังทำหน้ามึนๆใส่ผมอีก ผมก็จัดการเรื่องอาหารเช้าที่เพิ่งจะมากินเอาตอนเกือบเที่ยง พอรู้ว่ามะลิเป็นคนผมก็ไม่กล้าที่จะเอาอาหารเม็ดให้กิน เลยจัดการทำปลาดอลลี่ย่างแบบง่ายๆให้ พอเสร็จสรรพก็พากันมานั่งที่โซฟาประจำหน้าทีวี

             “นี่...มะลิ จะไม่เป็นคนจริงๆหรอ ?” ผมถามเจ้าแมวที่นอนหมอบอยู่ข้างกัน ตาก็จ้องเจ้าก้อนขนที่นอนนิ่งดูบาร์บี้ที่บังเอิญเปิดเจอ

              “.....” ไม่มีสัญญาณตอบรับ ไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ ผมเลยย้ายตัวเองลงมานั่งที่พื้นเพื่อจะให้หน้าอยู่ระดับเดียวกันกับมะลิ จริงๆก็แค่อยากให้สนใจกันบ้าง ถึงผมจะไม่ฟรุ้งฟริ้งเหมือนบาร์บี้ที่เจ้าตัวดูอยู่ก็เถอะ

             “ O_O ” ได้ผลครับ ถ้าทุกคนพอจะนึกหน้าแมวเหวอออกหรือแมวที่กำลังตกใจ มะลิเป็นอย่างนั้นเลยครับ ผมเลยเอานิ้วไปเขี่ยจมูกเล็กๆนั่นเบาๆ

             “มะลิ...เป็นอะไรไปครับ ?” ผมทำเสียงทุ้มเข้าสู้ จำได้ว่าพูดแบบนี้ทีไรเจ้าตัวเล็กนี่ยอมหมด (สมัยเป็นแมวนะ)

             “....”

             “ถ้าไม่เป็นคน เราก็ไม่ได้คุยนะ...โกรธหรอที่พี่ไม่กลับบ้าน” แอบเปลี่ยนสรรพนามนิดหน่อย แค่เคยง้อแมวไหมครับ ตอนนี้ผมตกอยู่ในสภาพนั้นเลย แล้วตามสเต็ปทาสอย่างผมมักจะถูกเมิน ผมเลยจับหัวเล็กนั่นให้จ้องหน้าผมพลางใช้นิ้วเกาคางให้ไปด้วย

             “พี่ขอโทษนะครับ ดีกันนะ” เปลี่ยนจากเกาคางมาใช้นิ้วก้อยสะกิดอุ้งเท้าเล็กๆเบาๆ มะลินิ่งมองหน้าผมสักพักก่อนจะเคลื่อนหน้าเข้ามาเลียมุมปากผมเบาๆ ผมยิ้มกว้างแสดงว่าน้องมันหายโกรธผมแล้วใช่ไหม ? แต่ไม่เห็นจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม พอสถานการณ์เริ่มดีผมกเลยจับมะลิให้ลงมานั่งตักผมด้านล่างด้วยกัน แต่เจ้าตัวก็เอาแต่ตะกุยผมยิกๆ

             เมี๊ยววววววว

             ผลัก !!

              อึก ! เอาอีกแล้วครับ ความรู้สึกเหมือนโดนผลักแรงๆกลับมาอีกแล้ว คราวนี้ผมไม่กระเด็นเพราะด้านหลังติดโซฟาแต่ไอ้ความจุกระดับโดนสิบตีนนี่ไม่ธรรมดาจริงๆครับ

             “มะลิ...” ผมเรียกมะลิที่ตอนนี้กลับมาอยู่ในร่างคน แถมยังนั่งคร่อมตักกอดคอผมไว้แน่น ผมดีใจนะครับที่น้องมันยอมฟังผม แล้วตอนนี้ก็อยากเห็นหน้าด้วยแต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ยอม กอดคอผมแน่นเชียว มือผมสองข้างเลยได้แต่โอบหลังเปลือยเอาไว้...เดี๋ยวนะ...เปลือย ! หึหึ แสดงว่าไอ้ที่ตะกุยๆผมก่อนหน้านี้คงจะพยายามหาที่เหมาะๆให้ตัวเองไม่โป๊สินะแต่แบบนี้ผมเองก็ทรมานเอาเรื่องเหมือนกัน

             “ยะ...อย่าเพิ่งมองนะ”

             “แล้วจะให้พี่ทำยังไงครับ ?” ผมกระซิบถามเบาๆ แอบจูบหูเล็กๆเบาๆ มือก็ลูบหัวไปด้วย เหมือนร่างคนตอนนี้จะไม่เหมือนเมื่อตอนเช้าเพราะไม่มีหูแมวกับหาง แอบเสียดายเล็กๆแฮะ ...อย่ามองผมแบบนั้น...เออ เสียดายมากๆก็ได้ !

             “หลับตาก่อน” ไม่ทันได้พูดอะไรฝามือนิ่มๆก็เข้ามาปิดตาผมไว้ พร้อมกำชับให้ผมหลับตาให้แน่นไม่งั้นเจ้าตัวจะกลับไปเป็นแมวอีก ผมเลยเออออไปงั้น แต่ตานี่แอบมองตามหลังเล็กๆที่วิ่งดุ๊กๆหายไปในห้องนอนผมแล้วครับ


             หลังจากมะลิหาเสื้อผ้าใส่ให้ตัวเองได้ (ซึ่งก็คือของผมเองครับ) เราก็ออกมานั่งคุยกันที่โซฟาตัวเดิม จากที่เจ้าตัวเล่าก็ทำให้ผมได้รู้ว่า มะลิเองก็มีครอบครับและการใช้ชีวิตไม่ต่างอะไรกับคนปกติแต่น่าสงสารไปหน่อยตรงที่ไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะการเปลี่ยนร่างที่ไม่สมบูรณ์ทำให้แทบไม่เคยออกจากบ้านตลอดชีวิตที่ผ่านมา มีพี่ชายหนึ่งคนซึ่งก็คือนิลที่ผมเคยเห็นอยู่กับน้อมมินนั่นแหละ เหอะๆ ไม่น่าล่ะ ถึงทำท่าขู่กันขนาดนั้น ส่วนสาเหตุที่ออกมาอยู่ข้างนอกนั้นก็เพราะอยากจะพบเจอโลก นึกแล้วมันก็ทำให้ผมหงุดหงิดนิดหน่อยเพราะถ้าวันนั้นกัสไม่ได้เป็นคนไปเจอแล้วมะลิไม่ได้มาอยู่กับผม ตอนนี้จะเป็นยังไง แล้วถ้าถูกจับไปขายหรือถูกทำร้ายเข้าล่ะ -..-

             “แล้วทำไมถึงออกไปข้างนอกแบบนั้นมันอันตรายนะ” ผมหมายถึงเรื่องที่หนีออกไปอยู่ป้ายรถเมล์จนผมไปเจอเข้าเมื่อคืน

             “เปล่าหนีนะ เมื่อวานเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง พวกเราจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วผมก็ดันกลายร่างก่อนจะกลับเข้าคอนโด เลยต้องไปหาที่นอนก่อน แล้วก็ไม่อยากให้พี่แซมกลัวผมด้วย...” ประโยคท้ายพูดเสียงอ่อย ทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง กระชับกอดเอวคนที่นั่งข้างๆให้เข้ามาพิงไหล่ ตอนนั้นผมไม่น่าออกไปแบบนั้นเลย ไม่น่าเลยจริงๆ

             “พี่ไม่กลัวแล้วครับ”

             “แล้วตอนนั้นหายไปไหนมาตั้งหลายวัน”

             “ขอโทษครับ...ต่อไปนี้ไม่ไปไหนแล้ว...สัญญากันแล้วหนิ จองแล้วด้วย” กดจมูกลงบนผมของอีกฝ่ายเบาๆ

             “อื้อ...ผมชอบพี่แซมนะ”

             “หึหึ ครับ”

             “แล้วหูกับหางไปไหน ?” พอบรรยากาศเริ่มดีก็ขอถามสิ่งที่สงสัยหน่อยเถอะ

             “ก็เก็บไว้ ผมกลัวพี่แซมตกใจ” เสียงหงอยจนผมรู้สึกผิด

              “ไม่หรอก”

             “งั้นผมเอาออกมาได้ใช่ไหม?”

             “อ่าห๊ะ...แต่คราวนี้ไม่ดีดใช่ไหม ?” ผมหมายถึงไอ้แรงผลักที่ผมพอจะเข้าใจแล้วว่ามันเป็นเอฟเฟคตอนแปลงร่าง

             “ฮื่อ...ไม่ๆ” สิ้นคำหูกับหางแมวสีขาวก็โผล่ออกมา ได้ยินเสียงเจ้าตัวร้อง อ้า... เหมือนเวลาดื่มน้ำอัดลม

             “สบายสุดๆ อึดอัดแทบแย่” พูดไปพลางเอามือลูบหูลูบหางตัวเองไป ผมเลยเอื้อมมือไปจับบ้าง เจ้าของสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ว่าอะไร ผมก็เพลินสิ มันนุ่มนิ่มให้อารมณ์อยากฟัด...? หึหึ เริ่มเป็นเอามากแล้วผม


         
            ซ่า ~~~~~

           ผมนั่งฟังเสียงน้ำในห้องน้ำที่ดังคลอมากับเสียงฮัมเพลงเบาๆของไอ้ลูกแมวที่เข้าไปอาบน้ำตั้งนานสองนานก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาเสียที จะขัดจนหูเปื่อยเลยหรือไงนะ

           “มะลิ” ผมไปยืนตะโกนเรียกเจ้าตัวเล็กที่หน้าห้องน้ำ (ถึงจะรู้ชื่อจริงแล้วแต่ผมก็ชินกับชื่อมะลิมากกว่า) เมื่อวันก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากน้องมินเจ้าของไอ้แมวดำ เห็นว่าพี่แมวอยากมาเจอกับน้องแมวที่ตัวเองเข้าใจว่าหนีออกจากบ้าน วันนี้เลยมาหาผมที่คอนโดแล้วตอนนี้ก็รออยู่ที่ด้านล่างแล้วด้วย แต่มะลิยังไม่รู้หรอกครับ ผมไม่ได้บอก

            แกร๊ก ~~

            “ว่าไงฮะ ?” ผมส่ายหัวมองมะลิที่แง้มประตูห้องน้ำออกมานิดหน่อยแล้วโผล่แต่หน้าออกมาหาผม แอบเห็นช่วงไหล่ขาวๆที่มีหยดน้ำแล้วทำเอาใจสั่น ไหนจะหูเล็กๆที่เปียกจนลู่ไปอีก คิดจะทดสอบความอดทนกันหรือไงนะ ฮึ่ม

            “จะลงไปด้านลง จะเอาอะไรไหม ?”

           “ไปไหน รอผมก่อนได้ไหม...กำลังจะเสร็จแล้ว” งอแงครับ เสียงแบบนี้กำลังงอแง รู้สึกเหมือนมะลิจะฝังใจเรื่องที่ผมหายไปจากห้องหลายวันเมื่อตอนนั้น ผมเลยเอื้อมมือไปลูบผมเปียกๆของเจ้าตัวเบาๆ คราวนี้มองตาละห้อยเลย

           “ไปแป๊บเดียวครับ เดี๋ยวเอาไอ้หนุบหนับมาอยู่เป็นเพื่อน” ไอ้หนุบหนับ มันคือหนูยางที่ผมเอาไว้แกล้งไอ้ลูกแมวนี่

           “บ้า ! อย่าเอามาใกล้นะ”

           “ฮ่าๆ งั้นไปแล้วนะ เดี๋ยวออกจากห้องแล้วเจอแน่นอน”

           “อื้อ...อย่านานนะครับ”


            ผมผละจากเจ้าตัวเล็กลงมาด้านล่างเห็นผู้ชายตัวใหญ่พอๆกับผมที่มีลูกลิงเกาะมาด้วย มองชัดๆถึงรู้ว่าเป็นน้องมิน ถ้าให้เดาคนที่น้องมินเกาะอยู่คงเป็นนิลพี่ชายของมะลิ ดูเถื่อนอย่างที่เจ้าตัวเล็กบอกไว้เลยแฮะ แล้วถ้าให้ผมเดาต่อเมื่อคืนน้องมินคงจะเจอศึกหนักมาแหงถึงกับเดินไม่ได้ขนาดนี้ ว่าแล้วก็อยากจะจัดหนักให้ไอ้ลูกแมวเหมือนกัน หึหึ เราทักทายกันเล็กน้อยก่อนผมจะเดินนำมาที่ห้อง ป่านนี้มะลิคงจะอาบน้ำเสร็จแล้วมั้ง

            “พี่แซม ~~~~~ เอ๋ ? พี่นิล !! มาได้ไงเนี่ย !!” นั่นไงครับเสียงมาก่อนตัวซะอีก มะลิออกมาในชุดเสื้อยืดลายการ์ตูนกับกางเกงขาสั้น ทั้งที่ผมสีน้ำตาลของเจ้าตัวยังไม่ทันแห้งดีเลยด้วยซ้ำ หางสีขาวที่ตอนนี้มีกระพรวนติดเหมือนเดิมแล้วกวัดแกว่งไปมาส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง ตาโตๆเบิกโตขึ้นมากกว่าเดิมเหมือนตกใจที่เจอพี่ชายของตัวเองมาอยู่ที่นี่ น้องมินมองตาค้างเลยครับ ผมเหลือบไปมองนิลเล็กน้อยพอนึกจินตนาการเอาว่านิลเองก็มีหูกับหางเหมือนมะลิของผมเหมือนกัน แต่พอนึกแล้วมันดูไม่โมเอะเหมือนมะลิเลยสักนิด ติดจะหนักไปทางสยองเสียมากกว่า บรึ๋ยยยย

            “พี่นิลมาที่นี่ได้ไง ?” มะลิเดินมานั่งลงที่โซฟาข้างผมพร้อมกับเกาะแขนหนึบเลย

             “กลับบ้าน” พูดนิ่งๆ แต่สายตานี่ข่มขู่สุดๆ

             “ก็มินบอกแล้วว่าเดี๋ยวจะกลับ ไม่ต้องมาตามก็ได้”

             “เอาตัวรอดได้แล้วหรือไง ? คิดว่าตอนนี้เก่งมากแล้วงั้นสิ” เสียงเริ่มเข้มขึ้นอีกเล็กน้อย พอๆกับแรงเกาะที่แขนที่เพิ่มมากขึ้น แถมยังเตรียมพร้อมเป่าปี่ได้ทุกเมื่อ ผมเลยเอื้อมมือไปกอดไว้

             “มึง..” เสียงน้องมินบอกให้พี่แมวใจเย็นๆ

             “อย่าใช้อารมณ์นักสิ น้องมันตกใจ” ผมพูดขึ้นบ้าง

             “ไง ตอบมาสิ ปีกกล้าขาแข็งแล้วหนิ”

             “ฮึก...” เอาแล้วครับ พอพี่แมวเริ่มขึ้นเสียงบ่นยาว มะลิก็เริ่มเป่าปี่สะอื้นฮักๆเอาหน้ามุดอกผม ผมก็แอบอึ้งเหมือนกันนะไม่คิดว่าพี่ชายมะลิจะปากจัดขนาดนี้

            “มึงใจเย็นหน่อยได้ไหม ดุมากๆเดี๋ยวน้องมันเตลิดไปอีกจะทำไง ทำไมไม่คุยกันดีๆวะ” น้องมิน

            “ฮึก...มะ...ไม่เป็นไรหรอกครับ มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว” มะลิเงยหน้าขึ้นมาบอก แอบช้อนสายตามองด้วย อึก... ถึงจะน่าสงสารแต่อีกใจผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าน่าตาน้องมันตอนร้องไห้นี่มัน น่าฟัดจริงๆ

            “เอาเถอะ แค่นี้แหละ ส่วนมึงออกมาคุยกันหน่อย” งานเข้าผมแล้วครับ ผมก้มหน้ามองมะลิเล็กน้อยก่อนจะเดินตามนิลออกมาที่ระเบียง

            “มึงชอบไอ้มิน ?” ผมเลิกคิ้วมองคนที่จุดบุหรี่ขึ้นสูบ ยิงตรงดีไม่ต้องอ้อมอะไรมาก แต่คำถามตรงๆแบบนี้ก็ทำเอาผมนิ่งไปนิดเหมือนกัน เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาจากเป็นแมวจนกลายมาเป็นคนผมก็ยังไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้แบบจริงจังเลยสักครั้ง รู้แค่ว่าผมปล่อยไอ้ลูกแมวตัวนี้ออกไปจากชีวิตไม่ได้

           “ไม่รู้ว่าชอบไหม...แต่ถ้าให้ปล่อยคงปล่อยไปไม่ได้”

           “ไอ้มินมันไม่เหมือนคนอื่น” พูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ แต่พอจับได้ถึงความเป็นห่วง

            “....”

            “ถ้าคิดจะเลี้ยงมันก็ต้องดูแลมันดีๆ เทอาหารให้ครบสามมื้อ” ผมแทบปล่อยก๊ากกับคำพูดจากคนหน้าโหดที่เหมือนเล่นมุกหน้านิ่ง แต่ไม่กล้าขำอ่ะ เกรงใจหน้ามัน  แต่ถึงจะพูดเหมือนเป็นมุกผมก็พอจับได้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องเทอาหารสามมื้อ ซึ่งผมก็แน่ใจว่าจะสามารถดูแลมะลิได้ดี

           “มึงจะยอมให้มันอยู่กับกูที่นี่ ?”

           “หึ ถ้ามึงเผลอกูก็จะเอามันกลับ”

           “เฮ้ย ! อย่ามาตลก”

           “พามันกลับบ้านบ้าง พ่อกับแม่กูเป็นห่วง”

           “โอเคครับ ว่าที่พี่เขย”

            “-..-” โอเคครับ มุกสร้างความสัมพันธ์ของผมไม่ขำ เพราะถ้าขำมันคงไม่แสดงออกทางสายตาขนาดนั้นว่ามุกผมมันปัญญาอ่อน

             ไม่มีบทสนทนาอะไรอีกระหว่างเรา ยืนเงียบสักพักก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป แต่ก่อนเข้ายังมีอุตส่าห์ฝากประโยคสุดท้ายไว้กับผมด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรียบนิ่งว่า น้องกูยังเด็ก ประโยคสั้นๆแต่สามารถปิดสวิทซ์ความหื่นของผมเอาไว้ได้สนิท เหมือนถูกล่วงรู้ความคิด ถึงผมจะยังไม่ได้คิดที่จะทำอะไรน้องมันตอนนี้แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะปล่อยไว้นาน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้คงจะต้องอดไปอีกนาน....โปรแกรมจัดหนักของผม

            ผมตามเข้ามาในห้องทันเห็นน้องมินกับมะลิกำลังเล่นกัน โดยมีน้องมินที่ลูบหัวลูบหางมะลิไม่หยุด หยอกกันไปมา มองๆไปเหมือนลูกแมวสองตัวเล่นกันเสียมากกว่า แต่เหมือนไอ้หน้าโหดที่ยืนแผ่รังสีอำมหิตจะไม่คิดอย่างนั้น

            “มิน !!”  เสียงเข้มๆเรียกเสียงดัง ทำเอาหนึ่งคนหนึ่งแมวสะดุ้งโหยงตกใจกันเป็นแถว ผมส่ายหัวน้อยๆกับอาการขี้หวงจนโอเวอร์ของไอ้นิล ก่อนจะเดินเข้าไปหามะลิแล้วแยกออกมา ปล่อยให้คู่สามีภรรยารบรากันไป แอบก้มหอมหัวมะลิเบาๆให้พอชื่นใจ แต่จู่ๆก็รู้สึกหนาวยะเยือกเหมือนมีไอเย็นแผ่มา เงยหน้าขึ้นมองก็เจอกับสายตาพิฆาตที่จ้องมองมาอย่างดุเดือดทั้งที่ตัวเองก็ยังแง้วๆอยู่กับน้องมิน

            เฮ้อ ~~

            อนาคตดูท่าจะไม่ง่ายแล้วแฮะ

[[ :The End Sam Part : ]]

TALK....
เเวะมาเเล้วจ้า ช่วงนี้ยุ่งเหลือเกิน เป็นปีสี่นี่เหนื่อยจริงๆ ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของพี่เเซมกับจัสมินเเล้วน๊า ต่อไปก็อาจจะเอาตอนพิเศษมาเเถมๆนิดๆหน่อยๆ ก็จะจบจริงๆเเล้วจ้าาาาา
ปล. หลังสอบเสร็จนู้นนนน จะเเวะมาฝากอีกรอบ อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนน๊าาา

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Jindkyp ที่ 06-05-2016 01:27:09
หายไปนานมากกกกกกก เราคิดถึงเหล่าแมวๆทั้งหลาย ยอมรับว่าทาสแมว 55555 สงสารพี่แซมอ่ะอดแอ้มมะลิเลยเจอพี่นิลสกัดดาวรุ่งไว้ซะก่อน
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: eveesk ที่ 06-05-2016 02:30:36
อยากตบพี่แซมสักทีสองทีปล่อยน้องนอนตากฝน  :fire:   ไม่อยากให้จบเลย ชอบมากๆๆดีกับใจจริงๆ
สู้ๆน้าคนเขียน
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-05-2016 02:38:53
น่าจะมีอิมเมจของมะลิ คงจะน่ารักน่าฟัดสุดๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 06-05-2016 03:33:59
เมื่อไหร่จะ...
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-05-2016 06:38:39
มะลิน่ารัก... ดีใจอ่ะพี่แซมกลับมาหามะลิแล้ว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-05-2016 07:56:45
 :ling2:   รู้สึกว่าพี่แซมจะไม่คู่ควรอะ น้องมะลิดีเกินไป
ยิ่งได้ฟังว่านางนอกใจกัสแล้วแบบ ฉันสงสารทุกคนรอบตัวแกว่ะแซม
พี่นิลปรามแล้วนะ น้องยังเด็กอยู่ ฮ่าๆๆๆ  :hao6: 
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-05-2016 12:11:42
ว่าแต่...พี่แซมจะไปมีคนอื่นอีกรึป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 06-05-2016 14:25:31
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-05-2016 15:11:54
น้องโดนละอองฝนดีนะที่ไม่เจ็บป่วย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 07-05-2016 12:35:16
มารอด้วยคนน
น่ารักกันหมดเลยย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 08-05-2016 11:27:14
น่าล๊ากกกกกกกกกกก~
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-05-2016 22:51:51
ชอบๆๆๆ น้องจัสมินน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-05-2016 13:21:35
น้องมะลิน่ารักมากๆๆไม่อยากยกให้พี่แซมเลย

ขอบคุณนักเขียนที่แบ่งปันเรื่องน่ารักนี้ :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( Up!! Side Story 4 05/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 10-05-2016 07:47:32
พี่แซมคิดได้แล้วสินะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!)( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 26-05-2016 00:40:22
Side Story ( แซม X จัสมิน ) 5

                ตั้งแต่ที่พี่นิลมาหาผมกับพี่แซมวันนั้นก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วที่ผมอยู่กับพี่แซม เมื่อเดือนก่อนผมมีโอกาสได้พบกับคุณพ่อคุณแม่ของพี่แซม ตอนแรกก็เกร็งๆไปๆมาๆพวกเราก็เข้ากันได้ดี อ้อ..พี่แซมมีน้องชายอีกหนึ่งคนนะครับเพิ่งอยู่มัธยมต้นเอง แต่ความสูงนี่เลยหัวผมไปเยอะเลย -..- แล้วหลังจากนั้นมาไม่นานผมก็มาทราบทีหลังว่าพี่แซมพาคุณพ่อคุณแม่ไปเจอกับครอบครัวผมมาแล้ว เห็นว่าอยากจะทำเรื่องขอให้ผมมาอยู่กับพี่แซมแบบเป็นเรื่องเป็นเรื่องราว จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนผมรู้ ผมงี้ยิ้มจนแก้มแทบแตก มันอิ่มๆยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก >_<  ถึงตอนแรกจะแอบเคืองก็เถอะ เพราะพี่แซมไม่ยอมบอกอะไรผมเลย แต่ก็ช่างเถอะ ^_^
               
            วันนี้ผมมาหาพี่แซมที่มหาวิทยาลัยล่ะเพราะวันนี้ผมเลิกเรียนเร็ว ก็เลยกะจะแวะมาหาแล้วจะได้กลับห้องพร้อมกัน ผมค่อนข้างคุ้นเคยกับหนทางที่นี่ดี เพราะเคยมาหลายครั้งแล้ว และทุกครั้งที่มาผมก็จะมารอพี่แซมที่โต๊ะหินอ่อนตรงหน้าคณะประจำ แต่คราวนี้ผมไม่ได้บอกพี่แซมก่อนว่าจะมาหาเพราะเหมือนพี่มันจะไม่ค่อยชอบให้ผมมาหา เวลาผมมาทีไรชอบทำหน้าหงิกทุกที ว่าแล้วก็นั่นไง...เดินทำหน้ายักษ์มาเลย
           
             “ทำไมไม่บอกก่อน” ทำเป็นเข้ม
             
            “ก็คิดว่าเรียนอยู่นี่...พี่แม็กพี่เจมส์หวัดดีฮะ ^_^” ประโยคหลังผมเอ่ยทักเพื่อนพี่แซมที่เดินมาด้วยอีกสองคน เป็นเพื่อนสนิทพี่แซมครับมาทีไรเจออยู่ด้วยกันตลอด ระดับความหล่อนี่ไม่ต้องพูดถึงกินกันไม่ลงจริงๆ จากสามคนนี้ทำให้ผมรู้ว่าคนหน้าตาดีมักจะคบกับคนหน้าตาดีด้วยกัน แต่ยังไงพี่แซมของผมก็หล่อที่สุด อิ้อิ้

            “ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ โดนไอ้แซมมันจับขังไว้ล่ะสิ” พี่เจมส์เดินมานั่งตรงที่ว่างข้างผม แถมยังยกมือผลักหัวผมอีก นิสัย -..-

            “เดี๋ยวเถอะมึง หัวมันมีแค่นี้ เดี๋ยวก็ได้เอ๋อกว่าเดิม” พี่แซมเข้ามานั่งแทรกระหว่างผมกับพี่เจมส์ ส่วนพี่แม็กก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามยิ้มๆ เอ่อ...แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองโดนหลอกด่าเลยแฮะ

             “มึงก็ว่าไป มันคงเอ๋อกว่านี้ไม่ได้ละ ฮ่าๆๆๆ” อ่าว ไอ้พี่เจมส์

             “รุมว่ะ พี่แม็กช่วยมินด้วย” ผมลุกจากที่เดิมย้ายไปนั่งข้างพี่แม็กกอดแขนออเซาะเลยครับพี่แกก็ยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ กับพี่แม็กผมกล้าเล่นแบบนี้เพราะพี่เขาไม่เหมือนพี่เจมส์ พี่แม็กให้อารมณ์เหมือนคุณแม่(?) อ่า...บอกไม่ถูกมันให้ความรู้สึกอุ่นๆนุ่มๆนิ่มๆไม่เป็นพิษภัยยังไงไม่รู้แต่ผมชอบที่จะเกาะแกะพี่แม็กแบบนี้

              “ไปอยู่ด้วยกันเลยไหม?” พี่แซมถามเสียงเข้ม ตางี้จ้องผมเขม่งเลย ผมก็ไม่สนแลบลิ้นใส่อีก ฮ่าๆ

              “กูเอาจริงนะ จะเลี้ยงอย่างดี” พี่แม็กก็ไปยั่ว

              “หรือจะไปอยู่กับพี่ก็ได้นะ” พี่เจมส์ยื่นหน้าเข้ามาพูดน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

              “อยู่กับพี่เจมส์ อนาคตมินก็ดับวูบน่ะสิ”

              “ฮ่าๆๆๆๆ พูดดีมาก” พี่แม็กหัวเราะไปก็เอามือไปปัดมือพี่เจมส์ที่จ้องจะผลักหัวผมอีกรอบ จนพี่เจมส์ทำหน้าหงิกหน้างอ ฮ่าๆ พวกเรานั่งคุยเล่นกันอีกสักพักก่อนจะแยกย้ายกันกลับแต่ยังไม่ทันได้ลุกจากโต๊ะก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินมาเสียก่อน

             “พี่แซม เพิ่งเลิกเรียนเหรอครับ ?”

             “อื้ม เต้ยก็เพิ่งเลิกเหรอ?” พี่แซมตอบกลับไป เต้ย...เหมือนเมื่อก่อนเคยได้ยินพี่แซมคุยโทรศัพท์กับคนชื่อนี้อยู่เหมือนกัน สมัยตอนที่ยังคบกับพี่กัสอยู่น่ะนะ คงเป็นหนึ่งในบรรดากิ๊กอีกล่ะสิ ผมยืนฟังบทสนทนาเรื่อยเปื่อยของทั้งสองคน ไม่รู้ว่าผมเผลอลงแรงจิกแขนพี่แม็กไปเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่แม็กลูบมือผมเบาๆ อีกข้างเป็นพี่เจมส์ที่เดินมายืนข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้วางมือลงบนหัวผมพร้อมกับลูบไปมา ผมไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกแต่มันก็ทำให้ผมสงบลงได้

             “แล้วนั่นใครหรอครับ ? ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย” คนชื่อเต้ยชี้มือมาทางผม พี่แซมเหลือบตามามองผมก่อนจะหันกลับไป ผมเผลอกลั้นใจลุ้นไปกับคำตอบ ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมานานใช้ชีวิตเหมือนคนรักกันแต่พี่แซมไม่เคยพูดหรือบอกอะไรทำนองนั้นเลย บางทีผมก็มีความคิดงี่เง่านะ ว่าผมคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า

             “อ่อ...นั่น...”

            “น้องชายเพื่อน...ผมเป็นน้องชายเพื่อนพี่แซม” ผมรับรู้ได้ว่าทั้งพี่แม็ก พี่เจมส์ โดยเฉพาะพี่แซมจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว ผมก็อยากจะตีตัวเองเหมือนกันไม่รู้อะไรดลใจให้ไปพูดขัดพี่แซมแบบนั้น แต่...ผมแค่เผลอคิดว่าถ้าพี่แซมจะพูดแบบนี้หรือบอกเป็นอย่างอื่น ผมเองก็ไม่อยากฟังเหมือนกัน เพราะงั้นผมขอตอบเองดีกว่า

             “อืม...” พี่แซมพูดจบก็เดินหนีออกไป ไม่สนเสียงเรียกของคนที่ตัวเองคุยด้วย ผมเงยหน้ามองพี่เจมส์กับพี่แม็ก ทั้งคู่ก็เอาแต่ส่ายหัวไปมา ก่อนจะบอกให้ผมตามพี่แซมไป ผมเลยบอกลาพี่ๆทั้งสองคนก่อนจะตามพี่แซมที่เดินจ้ำอ้าวจนผมต้องวิ่งตาม

             “พี่แซมรอเค้าก่อน”

            พี่แซมไม่ฟังเสียงผมเดินเข้าไปนั่งในรถฟังคนขับ ผมยืนนิ่งหน้าเสียอยู่ข้างรถ ชะงักมือไม่กล้าเปิดประตูเข้าไปถ้าหากพี่แซมไล่ผมลงจากรถ ผมคงทำอะไรไม่ถูก แค่พี่แซมไม่สนใจผมแบบนี้ผมก็รู้สึกตาร้อนๆเหมือนจะร้องไห้แล้ว…

             ฮึก...ผมว่าไม่ทันแล้วล่ะ

            ผมยืนก้มหน้านิ่ง กัดปากเก็บเสียงร้องปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ ถ้าพี่แซมจะทิ้งผมจริงๆผมก็จะยืนส่งก่อน แล้วค่อยขึ้นรถกลับไปหาที่คอนโด แต่เวลาผ่านไปรถก็ยังจอดอยู่ที่เดิม

             “จะไม่กลับใช่ไหม ?” ผมสะดุ้งเงยหน้ามองต้นเสียง เป็นพี่แซมที่เปิดกระจกฝั่งที่นั่งด้านข้างลงมา ผมรีบพยักหน้าเร็วๆ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาแบบลวกๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่ง แอบเห็นพี่แซมส่ายหัวไปมา

            “ทำไมขี้แยจังหืม? ไอ้ลูกแมว” มือใหญ่เอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างแผ่วเบา นิ้วโป้งใหญ่ไล้เกลี่ยไปทั่วแก้มก่อนจะหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก ผมอดที่จะเอียงหน้าแนบไปกับฝ่ามือนั้นไม่ได้มันให้ความรู้สึกดี ผมเป็นแมว ผมชอบสัมผัส ผมไม่แน่ใจว่าที่ผมรู้สึกดีขนาดนี้มันเป็นเพราะผมเป็นแมวหรือเพราะคนที่สัมผัสผมเป็นพี่แซมกันแน่

            ผมเผยอปากงับนิ้วโป้งที่เกลี่ยอยู่ที่ริมฝีปากผมเบาๆอย่างลืมตัว แอบเห็นประกายบางอย่างในตาพี่แซม รู้ตัวอีกทีนิ้วโป้งที่ผมเผลองับก็ถูกแทนที่ด้วยริมฝีปากอุ่นๆของเจ้าของนิ้ว ริมฝีปากบดเบียดลงมาอย่างรุนแรงแต่มันไม่ถึงกับเจ็บ ไม่อ่อนหวานแต่กลับชวนเคลิ้ม เรียวลิ้นร้อนไล้เลียอยู่รอบๆริมฝีปากผมเพียงผมเผลอปากเล็กน้อยก็ถูกรุกล้ำเข้ามาอย่างง่ายดาย

              ผมถูกยกให้มานั่งคร่อมตักพี่แซมเอาไว้ มือผมทั้งสองข้างยกขึ้นคล้องคอโดนอัตโนมัติ มือใหญ่ทั้งสองข้างลูบไล้แผ่นหลังผมอย่างหนักหน่วงก่อนจะสอดเข้ามาในเสื้อลูบไล้ช่วงเอวสลับกับบีบเคล้นไปมา จนร่างกายผมสั่นเทิ้ม มันรู้สึกแปลก ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันเป็นความรู้สึกแปลกที่ผมรู้สึกดี…ดีมาก

              “อ๊ะ” ผมสะดุ้งสั่น เมื่อมือที่เคยลูบเอวเมื่อครู่เปลี่ยนมานวดวนๆแถวช่วงอกก่อนจะโจมตีตุ่มไตทั้งสองข้างของผมอย่างหนักหน่วงพร้อมกับริมฝีปากร้อนที่ไล้เลียอยู่แถวต้นคอ มือของผมจิกลงบนต้นคอพี่แซมแน่น ซุกหน้าเข้ากับช่วงไหล่กว้าง

              “พะ...พี่แซม อื้อ ยะ...อย่า....” ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างมันเบลอไปหมด เมื่อมือใหญ่ลูบส่วนหางของผมเบาๆตั้งแต่โคนจรดปลาย ผมไม่รู้ว่ามันออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันทำให้ผมรู้สึกทรมาน รู้สึกปวดหน่วงตรงท้องน้อยไปหมด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม พลันเรื่องที่พี่นิลเคยบอกผมให้ระวังไม่ให้พี่แซมจับหางก็เข้ามาในหัว พี่นิลบอกว่ามันจะทรมานและไม่ดีต่อแมวอย่างเรา ผมไม่เคยเข้าใจแต่ตอนนี้ผมพอจะเข้าใจแล้ว เพราะตอนนี้ผมกำลังทรมาน...

               “พะ...พี่แซม...”

               “นิ่งๆ” น้ำเสียงแหบพร่าตอบกลับมา พี่แซมกำลังหายใจแรงเหมือนคนหอบเหนื่อย ผมไม่รู้ว่าพี่แซมเป็นอะไรแต่เพราะผมก็อยู่ในอาการเดียวกันผมเลยยอมอยู่นิ่งๆ ซุกเข้าซอกคอพี่แซมอีกครั้ง พี่แซมหยุดการกระทำทุกอย่างก่อนจะกอดรัดผมเอาไว้แน่นจนเหมือนจะหายใจไม่ออก เรานั่งเงียบๆอยู่ท่านั้นสักพักจนทุกอย่างเริ่มสงบลง ทั้งพี่แซมและผมกลับมาหายใจในจังหวะปกติ

              “มะลิ...ไปเที่ยวกัน”




              “ฮ้า ~~~~~ คุณทะเล !!!!!!!”

             หลังจากที่ผมตกปากรับคำแบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา วันหยุดสุดสัปดาห์ผมและพี่แซมก็มาโผล่อยู่ที่ทะเล ก็แหม...สำหรับคนที่แทบไม่ได้ออกจากบ้านอย่างผม พอมีโอกาสก็ต้องรีบตะครุบเอาไว้ก่อนสิ ถึงจะไม่ใช่ทะเลทางใต้ก็เถอะ เพราะเวลาไม่เอื้อ แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับคนที่แทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับคุณทะเล ว่าแล้วก็ขอสูดกลิ่นเกลือหน่อยเถอะ ฟืดดดดดดดดด

             “ไอ้ลูกแมวเอาของไปเก็บก่อน” ตัวมารขัดความสุขจริงๆ ผมวิ่งกลับไปหาพี่แซมที่ขนของอยู่ที่ท้ายรถ เออนะ เมื่อกี้ก็มัวแต่ตื่นเต้นไม่ได้สนใจอะไรคนพามาเท่าไหร่

              พี่แซมพาผมไปบ้านไม้สองชั้นสีขาวหลังกะทัดรัด ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะว่าทำไมเวลาเป็นบ้านที่ชายทะเล จะต้องเป็นบ้านไม้สีขาว -..-  แต่เอาเถอะ เพราะบ้านหลังนี้น่ารักมาก มันดูอุ่นๆ พวกเครื่องเรือนก็ทำจากไม้สไตล์วินเทจซึ่งผมไม่ค่อยได้เห็นเลย ตื่นเต้นวิ่งเข้าออกห้องนั้นห้องนี้จนมีเสียงบ่นตามมาแล้วก็เงียบไปเพราะเมื่อยปาก ฮ่าๆ

              ผมจัดการเก็บของไว้ในห้องที่พี่แซมบอกว่าเป็นห้องนอนเสร็จเรียบร้อยก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นสายทางสีน้ำเงินขาว มีหมวกเป็นพร๊อพเสริมอีกอัน คว้ากล้องถ่ายรูปมาคล้องคอ คีบรองเท้าแตะ เป็นอันเสร็จพิธี ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปด้านนอกเห็นพี่แซมนอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนโซฟากลางบ้าน ดูจากท่าทางแล้วคงจะเหนื่อยพอดู ก็แน่ล่ะขับรถคนเดียวตลอดทางถึงจะไม่ไกลมากแต่ก็คงมีเพลียบ้างเหมือนกัน

               ผมยืนละล้าละลังคิดไม่ตกว่าจะเอาไงดี เดินเข้าไปใกล้คนนอนหลับเงียบๆ ผมเคยบอกไปแล้วใช่ไหมครับว่าพี่แซมมันหล่อ แล้วตอนหลับพี่มันก็หล่อไม่ต่างจากตอนตื่นเลย ผมไล่สายตามองสำรวจใบหน้าคมไปเรื่อยก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากสีออกคล้ำนิดๆ พลันฉากจูบอันเร้าร้อนเมื่อวันก่อนก็ไหลกลับเข้ามาในหัวผมเหมือนน้ำหลาก จนผมเผลอเด้งตัวออกมา รู้สึกร้อนไปหมดทั้งหน้า >///<
      
               ยืนบิดไปบิดมาอีกสักพักผมก็จัดการหากระดาษมาเขียนโน้ตสั้นๆบอกคนนอนเอาไว้ว่าผมจะออกไปเซฮัลโหลคุณทะเล เรียบร้อยผมก็เดินออกจากบ้านมา ไม่ลืมที่แอบจุ๊บมุมปากเบาๆส่งท้ายด้วย

          ผมเดินๆวิ่งๆอยู่แถวๆชายทะเลเดินเอาเท้าจุ่มน้ำไปเรื่อย มันรู้สึกดีมากๆจนผมอยากจะเอาหูกับหางออกมารับลมทะเลบ้าง แต่ถ้าทำอย่างนั้นมีหวังคนแถวนี้คงได้แตกตื่นกันหมด แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีมาก แฮปปี้สุดๆแล้ว

          “อ๊ะ !” ผมหันหลังวิ่งไล่ตะครุบหมวกสานใบเล็กที่ถูกลมทะเลพัดออกจากหัว แต่ยังไปไม่ทันถึงไหนก็มีคนใจดีช่วยเก็บให้เสียก่อน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติครับ พอเห็นอีกฝ่ายเก็บหมวกให้ผมเลยวิ่งทั่กๆเข้าไปยืนตรงหน้า พอมายืนใกล้ๆแบบนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแคระอย่างไรไม่รู้แฮะ ขนาดพี่แซมที่ว่าสูงแล้วแต่เหมือนคุณคนนี้จะสูงกว่าอีก ตาสีฟ้าๆ กับจมูกโด่งนั่น ถือว่าหน้าตาดีมากเลยล่ะครับ ทำให้ผมรู้สึกอยากบริโภคของนอกขึ้นมาตงิดๆ จุ๊ๆไว้นะ
   
               “ขอบคุณมากนะครับ” ผมเอ่ยขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษพร้อมกับส่งยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะรับหมวกมาสวมไว้เหมือนเดิม เหมือนได้ยินเสียงโห่แซวมาไม่ไกลคงเป็นเพื่อนๆของคนที่เก็บหมวกให้ผม ผมไม่เห็นคนตรงหน้าจะว่าอะไรนอกเสียยืนเกาท้ายทอยเหมือนคนกำลังเขิน ฮ่าๆ น่ารักดีครับ
   
              “ด้วยความยินดีครับ มาเที่ยวหรอครับ?”
    
              “ครับ ทะเลที่นี่สวยมากๆ” ผมยิ้มตาหยีพร้อมกับหันหน้าเข้าทะเลกางแขนรับลมที่กำลังโชยมา

               “ฮ่าๆ ครับๆ ผมเชื่อแล้ว ว่าแต่คุณมาคนเดียว?”

               “อ๋อ เปล่าครับมีอีกคนแต่ตอนนี้นอนหลับอุตุอยู่” นึกแล้วก็ยู่หน้า หรือว่าผมจะเข้าไปลากพี่แซมมาเดินเล่นด้วยกันดีหว่า

              “ผมแฟร็งค์นะครับ ^^”

              “ผมจัสมินครับ ^_^”

              “เอ่อ...ถ้าไม่รังเกียจไปเดินเล่นด้วยกันไหมครับ?” ผมหันมามองคนชวน ถ้าพี่แซมรู้เข้าจะโกรธผมไหมนะ แต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดหนิแค่เดินเล่น แล้วอีกอย่างคุณแฟร็งค์เองก็ดูไม่มีพิษภัยอะไร ถ้าไม่ไปไกลนักคงไม่เป็นไร ดีกว่าเดินเล่นคนเดียวแหละ

             “งั้น....อ๊ะ !” ยังพูดไม่ทันจบผมก็โดนมือปริศนารวบเอวเอาไว้พร้อมกับดึงปีกหมวกลงปิดหน้าผมเสียสนิท ถ้าไม่ใช่เพราะผมคุ้นเสียงและจำกลิ่นได้มีหวังผมตกใจจนหูหางโผล่แน่ๆ

             “คงไม่รบกวนหรอกครับ คนของผมผมดูแลเองได้”

              “อ่า...ครับ”

              “เอ๊ะ ! เดี๋ยว !” ผมยังไม่ทันได้เอ่ยลาคุณแฟร็งค์ไม่แม้แต่จะเห็นว่าคุณแฟร็งค์ทำยังไง ผมก็โดนลากตัวออกมาเสียก่อน เมื่อสงครามการลากจบลงผมก็เงยหน้าเปิดหมวกขึ้นมองบรรยากาศรอบๆพบว่าอยู่ไม่ห่างจากที่พักเท่าไหร่นัก แถมพี่แซมยังทำหน้าเหมือนโกรธเคืองใครมาสักสิบชาติได้

             “อย่าทำแบบนี้อีก” ว่าเสียงเข้ม

             “แต่เค้าเขียนโน้ตติดไว้แล้วนะ” ผมตอบเสียงอ่อมแอ้ม ไม่ชอบเลยอ่ะเวลาที่พี่แซมดุแบบนี้

             “ไม่ใช่เรื่องนั้น พี่หมายถึงอย่าไปคุยกับคนแปลกหน้าง่ายๆแบบนั้นอีก เข้าใจไหม?” เสียงเหมือนพยายามข่มอารมณ์เต็มที่

             “แต่คุณแฟร็งค์เขาไม่ได้มีท่าทางไม่ดีนะ”

            “แล้วยังไง เป็นคนไม่ดีต้องแสดงออกว่าไม่ดีงั้นสิ” พี่แซมว่าอย่างใส่อารมณ์

            “....”

           “เคยออกจากบ้านมาเจอคนแบบนี้แล้วเหรอ ถึงได้ไปเชื่อเขาน่ะ”

            “...”  ผมนิ่งเงียบ ใช่สิ ผมมันไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไม่ค่อยมีเพื่อนเลยไม่รู้อะไรไปหมดแหละ แต่ผมก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะแล้วก็ไม่ได้คิดจะไปไหนอะไรเกินเลยด้วย ทำไมจะต้องมาว่าผมขนาดนี้ แถมยังมาถอนหายใจใส่ผมอีก ฮึก...

            “โอเค ไม่ว่าแล้วครับไม่ว่าแล้ว” ผมเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสบเข้าอย่างจังกับพี่แซมที่ก้มตัวลงมาจนใบหน้าเราอยู่ระดับเดียวกัน นิ้วโป้งใหญ่ไล่เช็ดคราบน้ำตาให้ผม แววตาสำนึกผิดกับคำสบถเบาๆที่เหมือนโทษตัวเองของพี่แซมทำให้ผมโกรธไม่ลง จึงเข้าไปกอดร่างสูงเอาไว้แน่น ซุกหน้าเข้ากับอกส่ายไปมา พร้อมกับสั่งขี้มูกใส่ ฟืดดดดดดดดด

           “มะลิ” เสียงเข้มกลับมาแล้วครับ แต่ผมยังเช็ดๆต่อไป ก่อนจะฝากไว้อีก ฟืดดดดดดดดดดดดด

           “แบร่ !”

           “เจอไอ้หนุบหนับแน่ มะลิ!”

           “จ๊ากกกกกก” ผมวิ่งหนีพี่แซมที่ล้วงอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วรีบวิ่งไล่ตามผม ต้องเป็นไอ้หนุบหนับแน่ๆ นิสัยไม่ดีๆๆๆๆๆๆ

            กลายเป็นว่าเราวิ่งเล่นไล่จับกันอยู่ริมทะเลนั้นแหละครับสาดน้ำใส่กันไปมา ผมแอบกระโดดขี่หลังพี่แซมไปหลายครั้ง ครั้งแรกนี่เกือบหน้าทิ่มน้ำกันทั้งคู่เพราะพี่มันตั้งตัวไม่ทันแต่ครั้งต่อๆไปไม่มีปัญหาครับ แถมยังมีหน้ามาลองขี่หลังผมด้วย ไม่เช็คภาพร่างผมเลย



           “ไอ้พี่แซม !!” ผมอยากจะกรีดร้อง ไอ้พี่แซมมันขโมยกุ้งผม!! นี่มันตัวที่สามแล้วนะ แล้วกว่าผมจะแกะได้แต่ละตัวมันไม่ใช่ง่ายๆ แต่อีตาพี่แซมนี่สิปกติแค่พี่มันแกะกินเองผมก็กินไม่ทันแล้ว นี่ยังมาขโมยของผมอีก ฮึ่ย !

            ไม่ต้องสงสัยครับหลังจากที่พวกเราเล่นน้ำกันจนเหนื่อยก็พากันไปอาบน้ำแล้วก็ลากกระเพาะอันหิวโซของตัวเองมาจบที่ร้านอาหารทะเลไม่เล็กไม่ใหญ่ริมทาง แต่รสชาตินี่อย่างเด็ด เสียอย่างเดียวมันกินยากไปหน่อย ยากไปหมดทุกอย่าง กุ้งเอย หอยเอย ปูเอย มีแค่ตัวที่ไม่ต้องแกะเปลือกเท่านั้นแหละที่ผมกินได้ คิดแล้วก็หมั่นไส้อีกคนที่กินเอาๆ

            “อิ่มแอ้วอ่อ ?” แปลเป็นภาษาคนได้ว่า อิ่มแล้วหรอ ? แน่สิจะไปพูดชัดได้ยังไงในเมื่อกุ้งเต็มปากขนาดนั้น ผมไม่ตอบแต่เลือกที่หันหน้าออกไปมองบรรยากาศรอบๆแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบแทน

              ผมผงะไปเล็กน้อยเมื่อหันกลับมาเจอกุ้งตัวโตจ่อรออยู่ตรงหน้า ตรงหน้าจริงๆครับ จะจิ้มหน้ากันอยู่รอมร่อ ผมทำหน้างงใส่พี่แซมแต่ปากนี่อ้างับตัวกุ้งไปแล้วครับ ไม่จับเองด้วยปล่อยให้พี่มันจับหางกุ้งแล้วดึงออกไปให้ อ้า ~~~~ กุ้งตัวโตๆเนื้อแน่นๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บ มันสุดยอดจริงๆ
 
              “อ่ะ” คราวนี้เป็นก้ามปูใหญ่ๆ จิ้มน้ำจิ้มมาพร้อมเหมือนเดิม ผมก็อ้าปากงับเหมือนเดิม อร่อยอ่ะ >_<

             “แล้วพี่แซมไม่กินแล้วเหรอ?”

             “เห็นแมวหน้าบูดแล้วสงสาร หึ” จากนั้นก็มาเต็มครับ กุ้ง หอย ปู ปลา ไม่ต้องแกะเองแล้วด้วย อิ้อิ้

             หลังจากหาอะไรยัดกระเพาะจนเต็มแล้วพี่แซมก็พาผมออกมาเดินเล่นตามชายหาด ลมเย็นๆกับบรรยากาศยามค่ำคืนทำให้ทะเลดูแตกต่างจากตอนกลางวันที่ผมเห็น มันดูเงียบสงบ แต่ถ้าผมอยู่คนเดียวผมอาจจะรู้สึกว่ามันน่ากลัวมากกว่าสงบก็ได้ ผมเหลือบตามองคนที่เดินอยู่เคียงข้างกันรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจออกจากบ้านในตอนนั้น ขอบคุณป้ายรถเมล์ ขอบคุณสายฝน ขอบคุณทุกๆอย่างที่ทำให้ผมได้มาเจอกับพี่แซม

           “พี่แซม”

           “หืม...?”

           “รักเค้าไหม?” ผมหยุดเดินแล้วจ้องหน้าถามอีกฝ่ายตรงๆ จากเรื่องเมื่อวันก่อนที่เราเกือบจะทะเลาะกันเพราะความงี่เง่าของผมในเรื่องสถานะของเรา เพราะงั้นคราวนี้ผมจะจัดการทุกอย่างให้มันชัดเจน ในเมื่อความตั้งใจของผมคือจะทำให้พี่แซมรักและผมก็คิดว่าผมควรจะรู้ผลของการกระทำตัวเองเสียที

            “ถามทำไม ?” คิ้วเข้มเลิกสูงขึ้น สีหน้าประหลาดใจ ทำเอาผมใจแป้วไปนิดหน่อย

            “ก็จีบมาตั้งนานแล้ว...รักเค้าบ้างหรือยัง?” ก้มหน้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม

             “ก็อยากรู้เหมือนกัน จีบมาตั้งนานแล้ว...รักพี่บ้างหรือยัง?” ผมเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาที่ย่อลงมาจนอยู่ในระดับเดียวกัน แววตาอบอุ่นปนเอ็นดูที่จ้องมองมาทำเอาผมใจเต้นแรงจนเจ็บอก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่ร้องไห้ออกมาง่ายๆเมื่อเจอเรื่องดีใจ

             “ฮึก...รัก...เค้ารัก อึก รักมาตั้งนานแล้ว ฮือ”ทั้งรอยยิ้ม น้ำเสียง และสัมผัสอ่อนโยนที่ช่วยเช็ดน้ำตาทำให้ผมร้องไห้หนักกว่าเดิม

              “พี่ก็รัก...งั้นเราเป็นแฟนกันไหม?”

              “ฮึก ฮือๆๆๆๆๆ” ผมทั้งพยักหน้าและร้องไห้กับอกอุ่นๆที่พุ่งเข้าใส่ตั้งแต่จบประโยค ผมดีใจ ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มันไม่เหมือนความดีใจที่ได้ของขวัญ หรือความสุขที่ได้รับจากครอบครัว มันเหมือนบางสิ่งบางอย่างที่เข้ามาเติมเต็มผม ผมอยากจะตีตัวเองหลายๆทีเพื่อให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากก็ช่วยย้ำเตือนให้ผมโดยที่ผมไม่ต้องตีตัวเองอย่างที่คิด

            “อื้อ”เรียวลิ้นร้อนที่รุกไล่เข้ามาเกี่ยวกระหวัดเข้ากับลิ้นเล็กของผมทำให้ผมรู้สึกมึนเบลอไปชั่วขณะ เรี่ยวแรงหดหายจนต้องยึดปกเสื้อของพี่แซมเอาไว้เพื่อรั้งตัวเอง

             ไม่รู้ว่าเรายืนจูบกันอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่...

             ไม่รู้ว่าผมถูกช่วงชิงลมหายใจไปมากแค่ไหน...
ผมไม่รู้แม้กระทั่งว่าบรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนจากทะเลยามค่ำคืนมาเป็นบ้านหลังเล็กสีขาว จนเมื่อแผ่นหลังสัมผัสได้ถึงความอุ่นนุ่มของเตียงนอน

            “อ๊ะ...” ความรู้สึกแปลกประหลาดในรถวันนั้นกลับมาอีกครั้งเมื่อริมฝีปากร้อนไล้เล็มไปทั่วลำคอ ความร้อนจากฝ่ามือใหญ่ที่ลูบไล้ไปทั่วร่างที่ไร้เสื้อผ้าปกปิด คลึงเคล้าที่ตุ่มไตทั้งสองข้างอย่างเร้าร้อน ทำให้ผมปล่อยหางและหูของตัวเองออกมาอย่างไม่รู้ตัว และเหมือนคนด้านบนจะชอบมากเสียด้วย

            “อื้อ หาง ..มะ...ไม่เอา” ผมบอกตะกุกตะกักเมื่อพี่แซมเริ่มบุกเข้าลูบไล้หางผม แต่นอกจากจะไม่หยุดลูบแล้วปลายหางของผมยังถูกไล่งับเบาๆชวนให้รู้สึกหวิวแบบแปลกๆ มันปวดหน่วงตรงนั้นไปหมดจนเหมือนน้ำตาจะไหล ยิ่งสัมผัสอุ่นชื่นแตะเล็มไล้ที่จุกเล็กบนอกสลับข้างไปมาทั้งสองข้าง ยิ่งทำให้ผมรู้สึกทรมานมากขึ้นไปอีก รู้สึกร้อนจนเหมือนจะระเบิด

             “น่ารัก”เสียงทุ้มกระพริบพร่าที่ข้างหูก่อนจะผละออกจ้องมองผมตาพราวด้วยแววตาที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันให้ความรู้สึกเซ็กซี่และเร้าร้อน เหมือนจะเพิ่มอุณภูมิให้ร่างกายของผมสูงมากขึ้นไปอีก

              “อ๊ะ” ผมถูกจับให้อยู่ในท่าคลานเข่า โดยมีพี่แซมซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ปลายหางของผมจ่ออยู่ที่ปากของตัวเอง พร้อมกับสัมผัสรุ่มร้อนที่ลูบไล้ตรงจุดอ่อนไหว หลังคอและลาดไหล่ถูกไล่ขบเม้มจนผมคิดว่ามันคงไม่เหลือที่ว่างตรงไหนที่ริมฝีปากร้อนปล่อยผ่าน

              “อ้าปากสิ” เสียงทุ้มกระเส่ามาพร้อมกับแรงขยับมือที่มากขึ้น ทำให้ผมเผยอปากออกเม้มปลายหางตัวเองแน่นเพื่อลดความรู้สึกเสียวปลาบที่เกิดขึ้น แต่เหมือนจะไม่ช่วยเท่าไหร่นัก เมื่อพี่แซมไม่ให้ความร่วมมือมีแต่จะรังแกกันหนักขึ้น

              “อ๊ะ อื้อ ไม่ไหว” ผมจิกผ้าปูที่นอนแน่น รู้สึกอึดอัดไปหมด ทุกส่วนของพี่แซมยังทำหน้าที่ปรนเปรอผมไม่หยุด ก่อนจะเน้นหนักมากขึ้นเมื่อรับรู้อาการของผม

              “อ๊ะ อ๊า...ส์” จนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวปลดปล่อยความอัดอั้นออกมาจนหมด ความสุขที่ได้รับทำให้ผมรู้สึกล่องลอยอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้สึกอะไรแบบนี้และมันค่อนข้างจะมากเกินไป อ่า ~~

               ผลัก

               อั่ก !

              “มะลิ”

              เสียงเข้มลอดไรฟันที่ได้ยินทำให้ผมรีบตั้งสติแล้วก็พบว่าตอนนี้ตัวเองกลับมาเป็นแมวแล้ว แย่แล้ว งั้นเสียงเมื่อกี้ก็คงไม่พี่แซมที่โดนลูกหลงไปด้วยอีกแน่ๆ ผมรีบวิ่งไปที่ขอบเตียงแล้วก็ต้องรีบหันกลับอย่างรวดเร็วเมื่อเจอร่างกำยำนอนเปลือยแผ่อยู่บนพื้น และที่สำคัญแซมน้อยยังคงตั้งโด่เด่แบบไม่อายฟ้าดิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของจะหงุดหงิดแค่ไหนที่ต้องเก็บเอาไว้

              “ชิ่งหนีกันอีกแล้วนะ ฮึ่ม!”

              เมี๊ยววววววววว

              ผมตอบรับน้ำเสียงคาดโทษนั้นโดยการมุดเข้าไปอยู่ในผ้าห่ม ถึงจะรู้สึกผิดอยู่เล็กๆที่แอบเอาเปรียบ แต่จะให้ผมกลับไปเป็นคนตอนนี้แล้วเริ่มเรื่องแบบนั้นใหม่ ผมคงทำไม่ได้ตอนนี้แน่ๆ แค่นี้ก็อายจนไม่รู้จะอายยังไงดีแล้ว ทางที่ดีต่อไปผมจะต้องฝึกควบคุมตัวให้หนักกว่านี้ซะแล้ว

             ขอโทษนะครับ

             เมี๊ยวววววววววว

++++++++++++++++++++++ The end side story +++++++++++++++++++++++++

TALK...
กลับมาเเล้วจ้าหลังจากที่หนีไปปฎิบัติหน้าที่นานมาก กลับมาพร้อมกับตอนจบของพี่เเซมเเละน้องมะลิ อิ้อิ้ ต่อไปจะทยอยเอาตอนพิเศษมาเสิร์ฟสักเล็กน้อยให้หายคิดถึง ขอขอบคุณทุกคนมากๆนะคะที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้ ถือว่าเกิดคาดไปมากๆเลยๆ ปลื้มมมมมม

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: mro ที่ 26-05-2016 01:26:04
มะลิน่ารักที่สุดดด ขอบคุณระคะที่เขียนนิยายดีๆออกมา ^^
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 26-05-2016 02:18:50
Thank You
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-05-2016 05:39:56
มะลิน่ารักสุดๆๆๆๆ  :กอด1:   :man1:  ขอบคุณค่ะ รอเสมอ
ยังรอวันที่เขาเป็นของกันและกันนะคะ
มะลิน้อยตื่นเต้นมากไปจนกลายร่างเลยเหมียว
นี่สินะไอ้คำที่ว่าน้องยังเด็ก โตแล้วจะควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้ไหมนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 26-05-2016 10:39:24
ก๊ากกก พี่แซมกินแห้วว 5555+
ให้น้องมะลิ เตรียมตัวเตรียมใจก่อนนา
เอะอะกดอย่างเดียว พี่แซมหื่นน  :hao6:
รอตอนพิเศษที่เค้าได้กันจริงๆนะค๊าาา :hao7:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-05-2016 11:36:56
พี่แซมนึกว่าจะได้กินแมว ดันกินแห้วซะได้ :jul3: :jul3: :jul3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 26-05-2016 23:21:08
จัสมินชิ่งแบบนี้แล้วเมื่อไหร่พี่แซมจะได้กินล่ะเนี่ยย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-05-2016 23:51:59
น่ารัก...
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 26-05-2016 23:54:28
น่ารักมาก น่ารักสุดๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 27-05-2016 14:30:06
 :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-05-2016 20:26:54
ฮ่าๆๆ พี่แซมอด
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: windchest ที่ 29-05-2016 20:04:18
 o18 555 น่าสงสารจัง เจอแมวชิ่งซะแล้ว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 29-05-2016 22:48:03
รอตอนพิเศษของแซมกับมะลิ และนิลกับมินนะคะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: hoshichi ที่ 30-05-2016 20:32:18
น่ารักอ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนแรกนึกว่าจะพล็อตคล้ายๆการ์ตูนที่เคยอ่าน
แต่ก็มีจุดต่างอยู่เยอะเหมือนกัน
โดยเฉพาะเรื่องน้องมะลิ
ชอบสิ่งน่ารัก
ชอบความโมเอ้
ไม่ได้แปลว่ามินไม่น่ารักนะ แต่คงแบ๊วไม่สู้
แต่พี่นิลนี่แบบอย่างหล่อเลยพี่
555555555
ครบสูตรหล่อมากกกกกกและแบดบอยยยย
นิสัยชอบแกล้งนี่ขอให้มีเถอะ เจ้ปลื้มมมมมม
ขอบคุณนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 01-06-2016 00:14:41
สงสารพี่แซมนิดนึง5555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 01-06-2016 14:41:18
น่าร๊ากกกกกก อ่านเพลินมากเลยอ่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: God ที่ 02-06-2016 12:20:50
ชอบแนวแฟนตาซี น่ารักมากกกก  :impress2:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 02-06-2016 20:49:13
สนุกอ่ะ ชอบมากเลย มาต่ออีกนะ :-[
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-06-2016 02:16:57
สาสารพี่แซมจุงเบย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 03-06-2016 20:11:18
อ่านแล้วหลงรักเจ้าแมวปุกปุยสีขาว

น้องจัสมินของพี่แซม น่ารักกกกกกก :o8:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-06-2016 02:54:14
น้องมะลิน่ารักอ่ะ อิจฉาพี่แซม  :ling1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 19-06-2016 06:36:44
รอตอนพิเศษอยู่นะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 24-06-2016 15:07:21
น่าสงสารพี่แซม 5555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ! 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 26-06-2016 17:03:18
Special Part 2 ผู้บ่าวกินแมว

[[ : Sam Part : ]]

เค้าไปเรียนแล้วนะ

             ผมดึงกระดาษโพสอิทสีเขียวแสบตาที่แปะไว้ที่โต๊ะข้างเตียงมาอ่านก่อนจะเอาไปแปะไว้ที่เดิม เช้านี้มะลิหนีไปเรียนโดยไม่รอผมอีกแล้วครับ และคิดว่าคนที่มารับก็คงไม่พ้นน้องมินที่มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ผมในตอนนี้ ไม่รู้พักนี้เป็นอะไรสองคนนี้ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ สงสัยจะมีเรื่องคุยกันตามประสาแม่บ้าน หึหึ

             SamSam : เดี๋ยวตอนเย็นไปรับ

             ผมส่งข้อความผ่านโปรแกรมแชทสีเขียวก่อนจะหันมาจัดการอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเรียนบ้าง วันนี้ผมมีเรียนตอนบ่ายครับแค่วิชาเดียว ตัวเรียนน้อยตามประสาปีใกล้จบเพราะแค่โปรเจคที่ต้องส่งก็แทบไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้วตอนนี้ก็เหมือนช่วงสั่งสมพลังงาน

             Jasmine SS : วันนี้เค้ามีนัดกับพี่มิน เดี๋ยวเค้ากลับเองนะ

             ผมขมวดคิ้วเมื่ออ่านข้อความที่ตอบกลับมา นัดกับแฟนไอ้นิลอีกละ

             SamSam : ไปไหน ?
 
             ตัวหนังสือที่ขึ้นโชว์ว่าอีกฝ่ายอ่านแล้ว แต่กลับไม่มีข้อความตอบกลับมาทำเอาผมขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม จนต้องส่งจุดไข่ปลาไปให้เร่งอีกหลายครั้งซึ่งก็ขึ้นว่าเจ้าตัวอ่านแล้วตลอดเหมือนคนยังคิดคำตอบไม่ออกหรือยังไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี แบบนี้มันเรียกว่ามีพิรุธชัดๆ

             Jasmine SS : พาพี่มินไปซื้อของครับ

             ซื้อของ ? เมื่อวานก็บอกว่าไปซื้อของ เมื่อสองวันก่อนก็ไปซื้อของ จะซื้ออะไรนักหนา คิดแล้วก็หงุดหงิดแต่ก็ว่าอะไรไม่ได้นอกจากตอบอือๆไปตามนั้น เดี๋ยวได้หาเรื่องมางอนผมอีก

             ผมพาตัวเองออกมาเดินเตร่ตากแอร์อยู่ห้าง พอไม่ต้องไปรับแมวน้อยหลังเลิกเรียนชีวิตผมก็ดูจะว่างขึ้นมาทันที ถึงจะไม่อยากจะว่างนักก็เถอะ แต่ก็อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆก็พี่มินๆหน้าที่ไปรับไปส่งก็กลายเป็นของพี่มิน ว่างก็คุยกับพี่มิน เวลาให้ผมแทบจะไม่เคยมี พี่มินตลอดๆๆๆ บางทีผมยังอยากจะถามเลยว่าเอาพี่แซมไปไว้ไหน ? ! =.=

             ความจริงมะลิเริ่มทำตัวแปลกๆตั้งแต่กลับจากทะเลคราวนั้น  มันเหมือนน้องกำลังเว้นระยะห่างจากผม จะว่ากลัวเพราะผมรุกมากเกินไปในตอนนั้นก็ไม่น่าจะใช่เพราะตั้งแต่ครั้งนั้นผมยังไม่ได้ทำอะไรน้องอีกนอกจากกอดบ้างหอมบ้างเล็กๆน้อยๆ ยังไงผมก็ไม่คิดจะเร่งรัดหรือบังคับอะไรน้องอยู่แล้ว แล้วถ้าจะให้คิดถึงสาเหตุอื่นผมเองก็คิดไม่ออก

            สงสัยเย็นนี้ต้องคุยกันหน่อย...


           มันควรจะเป็นอย่างนั้นครับ...

           ผมควรจะกลับไปรอมะลิของผมอยู่ที่ห้อง ถ้าผมไม่บังเอิญหันไปเห็นไอ้เด็กตัวขาวที่เพิ่งเดินเข้าร้านขายยาไปเมื่อกี้นี้
สองเท้าของผมก้าวตามไปโดยอัตโนมัติ ชัดเลยครับ ผมสีน้ำตาลกับผิวขาวๆที่เหมือนกินโอโม่เป็นอาหารเสริมนั่นคือไอ้แมวน้อยของผมแน่ๆส่วนข้างๆก็เป็นพี่สะใภ้ผม ทั้งสองคนยืนคุยอยู่กับหนุ่มตี๋ที่คาดว่าคงเป็นเภสัชกรประจำร้านอยู่ที่เค้าเตอร์ แต่เหมือนจะเป็นน้องมินมากกว่าที่เป็นคนคุยส่วนไอ้แมวของผมเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ถึงระยะห่างจะทำให้ผมไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกันก็เถอะ แต่ไอ้หูแดงๆของคนที่ก้มหน้ามันทำเอาผมรู้สึกจี๊ดๆ นี่อย่าบอกนะว่าที่พากันมาซื้อของทุกวันนี่เพื่อที่จะมาจีบไอ้ตี๋เภสัช !!

           ผมกำลังจะเข้าไปกระชากแขนขาวๆนั่นออกมาจากร้านอยู่แล้ว แต่พอน้องมินยื่นมือออกไปรับถุงกระดาษจากคนขายแล้วหันหลังเตรียมเดินออกจากร้าน ผมก็ต้องเปลี่ยนแผนเป็นหาที่หลบแทบไม่ทัน พอพ้นจากทั้งสองคนผมก็ตรงเข้าร้านขายยาของไอ้ตี๋นั่นทันที

            “สองคนเมื่อกี้มาซื้ออะไร ?” ผมเดินตรงเข้าไปถามที่เค้าเตอร์ที่มีไอ้ตี๋ประจำอยู่ กะคร่าวๆแล้วคงเป็นพี่ผมแค่ไม่กี่ปี หน้าตาดูดีใช้ได้ มิน่าล่ะทั้งไอ้แมวและพี่สะใภ้ถึงยืนคุยด้วยนานสองนาน

            “ครับ ?” ไอ้ตี๋เลิกคิ้วมองหน้าผมเล็กน้อย

            “ผู้ชายสองคนที่เพิ่งเดินออกไปน่ะ มาซื้ออะไร ?”

            “ขอโทษนะครับ ผมต้องรักษาความลับของลูกค้า”

            “ผมเป็นแฟนเขา ผมแค่อยากรู้ว่าเขามาซื้ออะไร”

            “ถ้าคุณเป็นแฟนเขา คุณก็คงจะถามจากเขาเองได้” น้ำเสียงเรียบนิ่งกับสีหน้าที่ทำเหมือนผมเป็นผู้ร้ายเริ่มทำผมไม่สบอารมณ์ แค่ถามว่าซื้ออะไรไป มันทำเหมือนข้อมูลที่ผมได้จะไปทำอะไรคนซื้อได้งั้นแหละ

            “บางทีเขาอาจมีเรื่องบิดปัง”

            “นั่นหมายความว่าเขาไม่อยากให้ใครรู้ไงครับ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกไม่ได้”

            “เขาอาจป่วยเป็นโรคร้าย” ผมเริ่มหาข้ออ้าง แม้คิ้วจะเริ่มกระตุกยิกๆ

            “ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณคงเจอเขาที่โรงพยาบาล” โอเคครับ ผมไม่ถามแม่งแล้ว
ผมสบตาไอ้ตี๋ที่เลิกคิ้วมองผมเหมือนประมาณว่า ไง มีอะไรจะแถอีกไหม ? ที่จริงผมมีอะไรอีกมากแต่คิดว่ายังไงไอ้หมอนี่คงไม่มีทางบอกผมแน่ๆ ผมเลยไม่ถามอะไรอีกเป็นการจบบทสนทนาเพียงเท่านั้นแล้วเป็นผมที่เดินจากมา
   
            SamSam : อยู่ไหน ?

            ผมส่งข้อความหามะลิระหว่างเดินไปที่จอดรถ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับไม่แม้แต่จะขึ้นว่าอ่านแล้ว ผมเลยเลือกที่จะโทรไปหาไอ้แมวดำพี่เขยผม ซึ่งก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ ‘อือ’ ไม่ว่าจะถามอะไรก็ตอบแค่นั้น ทำให้สรุปโดยอิงจากคำถามของผมได้ความว่า ไอ้ลูกแมวอยู่ที่ห้องนั้นตอนเย็นมันจะออกมาส่งเอง แถมก่อนวางยังมีหัวเราะหึหึตบท้ายมาอีก แม้เสียงหัวเราะจะไม่น่าไว้ใจแต่ก็สบายใจได้ว่าน้องมันไม่ได้ออกไปหลงทางหรือกลายเป็นแมวอยู่ที่ไหน  ผมเลยกลับไปนั่งรอที่คอนโด


            แกร่ก ~~

            หลังจากที่ผมนั่งกระสับกระส่ายนับเวลารอมานานหลายชั่วโมง ในที่สุดเวลาประมาณสามทุ่มไม่ขาดไม่เกินเสียงไขกุญแจห้องเบาๆเหมือนแมวย่องก็ดังขึ้นที่ประตู แล้วร่างเล็กๆของคนที่หายไปทั้งวันก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นถุงเสื้อผ้าหรืออะไรบางอย่าง แสดงว่าของที่ซื้อที่ร้านขายยาไม่ใช่ของไอ้ลูกแมวนี่ สบายใจไปเปราะที่น้องมันไม่ได้ป่วยหรือไม่สบายโดยที่ผมไม่รู้เรื่อง

            “มะลิ...” ผมส่งเสียงเรียกคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แถมพอได้ยินเสียงผมยังสะดุ้งเบาๆอีก ผมเลยตบมือเบาๆตรงที่ว่างบนโซฟาที่ตัวเองนั่งอยู่ให้เจ้าตัวเดินเข้ามาหา

            “เป็นอะไรไป ?” ผมดึงแขนของคนที่เดินเข้ามาใกล้ให้ทิ้งตัวลงนั่งซ้อนบนตักผม ปลดถุงกระดาษจากมือเล็กๆทิ้งไว้ข้างกาย ถึงแม้ว่าท่าแบบนี้จะเสี่ยงที่จะทำให้ลูกผมคึกคักขึ้นมาก็เถอะ แต่ผมหาทางออกให้ตัวเองได้แล้ว ก็สนมทั้งห้าของผมไง ช่วงนี้คงต้องยึดหลักโลกสวยด้วยมือเราไปก่อน

             “พี่แซม...” เสียงทุ้มเล็กๆเอ่ยเบาๆ พร้อมกับตากลมๆที่ช้อนขึ้นมองผม ถ้าเป็นเวลาอื่นผมคงจะคึกคักและอาจจะบุกเข้าจู่โจมคนตัวเล็กที่นั่งคร่อมตักอยู่ตอนนี้ แต่วันนี้ดวงตากลมโตที่ผมชอบมองมีอะไรบางอย่างที่แปลกไป มันสั่นไหวและฉายแววกังวลอย่างชัดเจน จนผมเผลอขมวดคิ้วตามไปด้วย

             “พี่แซม...รักเค้าไหม ?”

            “หืม ? ทำไมถามอะไรแบบนี้ ?”

            “ถ้าพี่แซมทำแบบนั้นไปแล้ว จะทิ้งเค้าไหม ?” หืม...แบบนั้น ?

            “แล้วถ้าทำแบบนั้นไม่ได้ จะยังอยู่กับเค้าไหม ?”

            “เดี๋ยวก่อน...ไอ้ที่ว่าแบบนั้นแบบนี้ นี่หมายถึงอะไร ?” ผมจ้องหน้าถามอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ผมว่าน้องมันต้องไปฟังอะไรแปลกๆจากใครมาแน่ๆ แล้วคนๆนั้นก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนไกล

            “คือ...”

            “ว่าไง ? ไปฟังอะไรจากใครมาครับ” ผมเปลี่ยนโทนเสียงให้นุ่มลง มันเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลเสมอไม่ว่าจะกับเรื่องอะไรหรือสถานการณ์ไหน มะลิมักจะแพ้ให้กับน้ำเสียงโทนนี้ของผมเสมอและผมคิดว่าครั้งนี้ก็ต้องใช่ได้ผลเช่นกัน

            “อย่าโกรธเค้านะ”

            “....” ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะพยักหน้าให้อีกฝ่ายแทน

            “คือเมื่อวันก่อนเค้าไปปรึกษาพี่มินเรื่อง...เอ่อ...เรื่องแบบนั้น ที่เรา...เอ่อ...ที่ทะเล” พอพูดถึงตรงนี้หัวทุยเล็กๆก็ซุกเข้าที่อกผม มุดหน้านิ่งไม่ยอมออกมาก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงอู้อี้

            “พี่มินบอกเค้าว่าเรื่องแบบนั้นมันสำคัญ ถ้าพี่แซมไม่ได้ทำแบบนั้นสักวันพี่แซมจะไม่อยากอยู่กับเค้า พี่มินก็เลยจะช่วย” เดี๋ยวนะ ผมว่าผมได้กลิ่นตุๆกับเรื่องนี้ละ แล้วไอ้ที่ว่าจะช่วยนี่จะช่วยกันยังไงไม่ทราบ

             “แล้วพอพี่นิลรู้...พี่นิลก็บอกเค้าว่าพี่แซมเจ้าชู้....จริงๆอันนี้เค้าก็รู้นะ แล้ว...พี่นิลบอกว่าถ้าเค้ายอมให้พี่แซมทำอะไรๆแบบนั้นแล้ว พี่แซมจะไม่อยู่กับเค้า ฮึก...”

             เฮ้ย ! นี่ไอ้สองผัวเมียนั่นยัดอะไรใส่หัวไอ้แมวเผือกเนี่ย !!

             “ฮึก...ไม่ว่าจะทำไม่ทำ พี่แซมก็จะทิ้งเค้า ฮือๆ” แขนเล็กๆทั้งสองข้างรัดผมเอาไว้แน่นเหมือนกลัวผมจะทิ้งไปเหมือนที่ตัวเองเข้าใจ แต่เดี๋ยว นี่เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ

            “มะลิ...”

            “ฮือๆๆๆๆ พี่แซมอย่าทิ้งเค้านะ ฮือ”

             “มะลิ...ฟังพี่แซมก่อนครับ” ผมจับคนตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นสบตากันพร้อมกับดึงทิชชู่ที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกมาไล่เช็ดน้ำตาให้คนที่ร้องไห้จนตาเริ่มบวม ใช้มืออีกข้างลูบแผ่นหลังเล็กๆที่สั่นเพราะแรงสะอื้นอย่างปลอบโยน ตอนนี้ผมรู้ความหมายของเสียงหัวเราะของไอ้พี่เขยเมื่อตอนนั้นแล้วล่ะ ร้ายนักนะทั้งผัวทั้งเมีย เล่นเอาร้องไห้เป็นเผาเต่าแบบนี้ถึงแม้ว่าผมเองจะมองว่ามันน่าเอ็นดูก็เถอะแต่ก็ไม่ได้ปรารถนาจะเห็นน้องมันร้องไห้หรอกนะ

            “พี่แซมไม่เคยคิดจะทิ้งมะลินะครับ แล้วไอ้เรื่องแบบนั้นที่มะลิว่าพี่แซมก็ไม่เห็นว่ามันจะสำคัญพอที่จะใช้ตัดสินว่าพี่แซมจะทิ้งหรือไม่ทิ้งมะลิ” หลังจากที่อยู่ด้วยกันมานานทำให้ผมรู้ว่าเวลาที่ต้องใช้เหตุผลและสติมากๆ ผมควรจะใช้ภาษาดอกไม้ในการพูดคุยกับน้อง ถึงแม้ว่าปกติผมเองก็ไม่ค่อยจะพูดหยาบกับน้องมันอยู่แล้วก็ตามเถอะ แต่ในเวลาแบบนี้การพูดแบบนี้ด้วยโทนเสียงที่น้องชอบจะทำให้น้องยอมฟังผมมากขึ้น

             “ฮึก...”

             “จริงอยู่ว่าเมื่อก่อนพี่แซมเจ้าชู้ มะลิเองก็คงเห็น แต่นั่นมันก็ก่อนที่พี่แซมจะมีมะลิ ก่อนที่พี่จะรักเจ้าแมวน้อยที่ชื่อมะลิเหมือนอย่างตอนนี้”

            “....”

            “มะลิฟังนะครับ ตอนนี้พี่แซมรักมะลิและต่อๆไปคนที่พี่แซมรักก็จะยังเป็นมะลิ ถึงแม้จะบอกไม่ได้ว่าจะรักไปนานแค่ไหน แต่ที่รับรองได้คือจะไม่หยุดรักในเร็วๆนี้แน่ เพราะฉะนั้นเรื่องนั้นพี่แซมไม่รีบร้อนหรอกถ้ามะลิไม่พร้อมพี่แซมก็จะไม่บังคับ”

            “ละ...แล้วถ้า เค้าให้ไม่ได้...”

            “พี่แซมก็จะตะล่อมไปเรื่อยๆ ^______^”

            “ง่ะ...เค้าหมายถึงตลอดไป” ผมเริ่มใจชื้นเมื่อน้องมันหยุดร้องไห้แต่จะเริ่มใจแป้วเพราะคำพูดมันนี่แหละ แต่เอาเถอะรักแล้วรอหน่อย ถึงยังไงนางสนมทั้งห้าก็ยังอยู่กับผมไปตลอดชีวิต

           “ไม่แน่นะ ตอนพี่แซมอายุ 65 มะลิอาจจะยอมพี่แซมก็ได้ พี่แซมก็จะรอจนถึงตอนนั้น” ระบายยิ้มอ่อนโยน จริงอยู่ที่เรื่องแบบนั้นมันจำเป็นสำหรับชีวิตคู่ แต่สำหรับผมเมื่อเทียบกับความรู้สึกของคนตรงหน้านี้แล้วมันกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในทันที

             “พี่แซมก็รู้ว่าเค้าไม่เหมือนคนอื่น ไม่เหมือนพี่นิลที่แปลงร่างเมื่อไหร่ก็ได้ เค้าตื่นเต้นเวลาที่พี่แซมอยู่ใกล้ ตอนที่พี่แซมจูบเค้ามันทำให้เค้ารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก มันตื้อๆไปหมด...” ผมลูบผมอีกฝ่ายที่เอาแต่ซุกหน้ากลิ้งไปมาที่ซอกคอผมอย่างเอ็นดู แม้จะเริ่มรู้สึกทะแม่งๆกับบทสนทนาที่เปลี่ยนไป

            “เค้าบอกพี่มินว่าเค้ารู้สึกหัวใจเต้นแรงมากๆตอนที่พี่แซมมองเค้าเวลาทำแบบนั้น...”

            “....”

            “พี่มินเลยบอกให้ลองปิดตา...แต่เค้าก็อยากเห็นหน้าพี่แซมเหมือนกัน...พี่มินเลยบอกให้ปิดตาพี่แซมแทน...”

           “.....” ผมชะงักมือที่กำลังลูบผมนุ่มๆของน้องไปนิด

           “พี่แซมอยากลองไหม ?”

            “....” ใบ้แดกเลยครับนาทีนี้ รู้สึกเหมือนกล่องเสียงพิการไปประมาณสามวิมือไม้แข็งค้างอยู่กับที่ เมื่อกี้น้องมันว่าอะไรนะ ?!

            ผมมองหน้าไอ้เด็กตัวขาวที่ลุกขึ้นมาจ้องหน้าผมอย่างรอคอยคำตอบ หูและหางที่ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กระดิกไปมาเหมือนช่วยกันกดดันผม พอตั้งสติได้ผมถึงกับต้องนั่งเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ตั้งแต่น้องมันเปิดประตูห้องเข้ามาจนมานั่งจ้องผมตาแป๋วแบบนี้ แต่เหมือนโดนอาฟเตอร์ช็อคครับเมื่อไอ้แมวเผือกเอี้ยวตัวลงไปหยิบถุงกระดาษใบเล็กออกมาจากถุงกระดาษใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ มันเป็นใบเดียวกันกับที่เห็นที่ร้านขายยานั่นไม่ผิดแน่
 
             “อันนี้พี่มินบอกว่ามันจะช่วยให้ไม่เจ็บมาก” ขวดพลาสติกขนาดพอดีมือสีแดงๆถูกหยิบออกมาจากถุงกระดาษเป็นอย่างแรก พร้อมกับคำอธิบายสรรพคุณเสร็จสรรพ
 
              “ส่วนอันนี้พี่มินบอกว่าถ้าไม่อยากลำบากทีหลังต้องให้พี่แซมใช้มันด้วย” คราวนี้เป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆสีแดงขนาดคุ้นมือยี่ห้อเดียวกันกับของที่หยิบออกมาก่อนหน้า แต่ไซต์มันเล็กกว่าของผมไปเยอะอยู่นะนี่คนเลือกตั้งใจจะดูถูกกันหรือไง อันนี้แอบเคืองครับ แต่ช่างมันก่อนผมมีเรื่องที่ต้องจัดการก่อน

              “เดี๋ยวนะๆ นี่มินสอนอะไรเราบ้างเนี่ย ?” นั่นสิครับ สองผัวเมียคู่นี้แอบเอาอะไรใส่ไว้ในหัวไอ้แมวนี่อีก

              “หลายอย่างเลยล่ะ...ก็เค้าไม่รู้จะปรึกษาใคร จะคุยกับพี่นิลเรื่องแบบนี้ก็คิดว่าคุยกับอากู๋เอายังจะดีกว่า แต่มันก็ยังไม่ค่อยเคลียเท่าไหร่เลยคิดว่าถ้าถามจากคนที่มีประสบการณ์ตรงน่าจะเข้าใจง่าย เค้าเลยปรึกษาพี่มิน”

             “อย่าบอกนะว่าที่หายไปด้วยกันบ่อยๆก็เพราะเรื่องนี้ ?” ผมเลิกคิ้วถาม เริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างนิดหน่อย

             “ก็...อื้ม”
 
             “แล้วนอกจากนี้มีอะไรอีกไหม ?”

             “นี่ครับ อันนี้พี่มินบอกให้กินหลังจากเสร็จกิจ” มะลิชูแผงยาแก้อักเสบ แก้ปวด แก้ไข้ สารพัดรวมไปถึงยาทาสำหรับตรงนั้น ผมก็พยักหน้าอือออไปอันนี้ถือเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีครับ

             “อ๋อ ยังไม่หมด...พี่มินให้คู่มือมาด้วย นี่ๆ” ผมมองคนบนตักที่ก้มลงกดอะไรยุกยิกๆบนมือถือ ซึ่งสัญชาตญาณผมมันร้องเตือนว่าให้ตั้งรับดีๆเพราะมันอาจจะทำให้ผมตกใจช็อคยิ่งกว่าเรื่องเมื่อกี้เป็นได้

             “อันนี้พี่มินบอกให้ดูเป็นกรณีศึกษา แต่เค้าว่ามันดูน่ากลัวนิดๆนะ ดูสิ”

            ผมรับเอาโทรศัพท์จากมือเล็กๆที่ยื่นมาให้ตรงหน้า แล้วก็แทบผงะหงายหลัง ! เมื่อเจอเข้ากับพี่บิ๊กกล้ามใหญ่ผิวสีแทนสองคนที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนโซฟาก่อนจะเริ่มทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันแบบถึงพริกถึงขิง พอถึงตรงนี้ผมรีบกดปิดมันไปให้พ้นจากสายจากในทันที ก่อนจะพบกับความจริงอันน่าตื่นตะลึงที่ว่านอกจากคลิปพี่บิ๊กกล้ามปูแล้วยังมีอีกสารพัดคลิปหลากหลายเชื้อชาติตั้งแต่แถบเอเชียยันโซนยุโรปเลยทีเดียว
 
             เอาล่ะ ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่เขยกับพี่สะใภ้ผมถึงอยู่ด้วยกันได้ !!

           “เป็นไงครับ ถ้าไม่ชอบอันนี้เค้ามีอีกหลายคลิปเลยนะ” พูดแบบนี้แสดงว่าดูมาหมดแล้วใช่ไหม ?!

            อึก ! ใครก็ได้บอกผมทีว่าตอนนี้ผมควรจะรู้สึกยังไง !! ผมไม่อยากให้น้องต้องไปมองร่างกายของคนอื่นหรือไปนึกชื่นชมคนที่หุ่นดีดูดีกว่าผมแต่นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง ภาพคมชัดระดับเอชดีที่ซูมลึกถึงรูขุมขนทุกซอกทุกมุมในแบบที่ผมเองยังไม่อยากจะมองของที่มีเหมือนๆกัน

            อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับจริงอยู่ที่ผมรักผมชอบผู้ชายด้วยกันได้และทำอะไรแบบนั้นได้ แต่ผมไม่เคยคิดที่จะดูผู้ชายคนอื่นเขากำลังทำกิจกรรมร่วมกันแบบนี้แล้วยิ่งมาในรูปแบบกล้ามชนกล้ามที่เหมือนขนาดตัวจะใหญ่กว่าผมหลายขุมแบบนี้ไม่ไหวจริงๆครับ ไม่ได้รังเกียจแต่ถ้าให้เลือกผมขอตัวเล็กๆน่ารักๆแบบคนบนตักตัวเองดีกว่า ว่าแล้วก็จัดการลบคลิปพวกนั้นไปซะ

           “ต่อไปห้ามดูแล้วนะ”

           “เอ๋...??” น้องเอียงคอมองหน้าผมงงๆ

           “แล้วถ้าอยากจะรู้อะไรไม่ต้องไปถามคนอื่นแล้วด้วย”

            “...”

            “เพราะพี่จะบอกเอง ตกลงไหม ?”

            “ก็ได้”

            “งั้นตอนนี้จำอะไรที่มินสอนได้บ้าง”

            “พี่มินบอกให้ลองหลับตา”

            “โอเค งั้นไปลองหลับตากัน ฮึบ !”
   
            “อ๊ะ !!” ผมใช้มือช้อนเข้าใต้สะโพกเล็กก่อนจะยกขึ้นจนตัวลอย มะลิที่ดูเหมือนจะยังตั้งตัวไม่ได้ใช้ทั้งแขนทั้งขาและหางของตังเองกอดรัดผมเอาไว้แน่นเป็นลูกโคอาล่าที่กลายร่างมาจากลูกแมว ผมพาแมวเผือกเดินเข้ามาในห้องนอนโดยที่ไม่ลืมหยิบถุงกระดาษเข้ามาด้วย ก่อนจะวางร่างเล็กลงบนเตียงเบาๆในท่านอนหงายโดยมีผมคร่อมทับอยู่ด้านบน
   
          V

          V
       
          V

       
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ! 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JallolY ที่ 26-06-2016 17:10:09
           ผมก้มลงจูบริมฝีปากเล็กนั่นเบาๆ ไล้เล็มไปทั่วริมฝีปากบางก่อนจะแทรกลิ้นของตัวเองเข้าไปหาความอ่อนนุ่มภายใน ค่อยๆเพิ่มแรงบดเบียดระหว่างกันให้แนบชิดมากขึ้นจนแทบไม่เหลือช่องว่าง การตอบสนองแสนเงอะงะที่พยายามโต้ตอบสัมผัสผมอย่างตั้งใจทั้งๆที่ตัวสั่นไปหมดทำให้ผมเริ่มไม่อยากหยุด อยากจะละวางสโลแกนโลกสวยด้วยมือเราทิ้งไปซะ แต่ผมไม่ได้คิดจะหักหานน้ำใจน้องขนาดนั้น

           ไล้เล็มอ้อยอิ่งอยู่นานก่อนจะค่อยๆผละออกจากความนุ่มนิ่มอย่างแสนเสียดาย ดวงตากลมโตของคนใต้ร่างมองสบมาที่ผมเหมือนคนไม่เข้าใจ ถ้าให้เดาคงเป็นเรื่องที่ผมตัดสินใจหยุดรังแกน้องต่อจากเมื่อครู่นี้ ริมฝีปากบางเล็กๆที่เห่อแดงเพราะฤทธิ์จูบก่อนหน้าเม้มเข้าหากันแน่นจนซีดขาวให้ผมต้องใช้นิ้วคลึงออกเบาๆ

            “ไม่ทำต่อเหรอ ?” ผมอมยิ้มกับคำถามที่ฟังดูเหมือนใจกล้าแต่ดูก็รู้ว่าคนพูดกังวลแค่ไหน

            “ไม่เอาหรอก ไม่อยากรังแกเด็ก”

            “เค้าให้...” อื้อหือ ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้พร้อมกับทำหน้าตาออดอ้อนแบบนั้น

            “เอาไว้รอโตกว่านี้ก่อนดีไหม ?”

            “กลัวเค้าเป็นแมวอีกเหรอ ?”

            “เปล่า...” เอาไงดีล่ะ จะว่ากลัวเรื่องนั้นมันก็ใช่ แต่ผมเป็นห่วงน้องมากกว่า

             “งั้นเค้าให้...”

             “ตะ...อื้ม” ผมยังไม่ทันจะได้เอ่ยปฏิเสธ ลูกแมวใจกล้าก็ยกหัวขึ้นมาประกบจูบผมเสียก่อน และคราวนี้ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ค่อยๆไล้เล็มเหมือนเมื่อก่อนหน้าได้อีกแล้ว จูบที่อีกฝ่ายได้รับจึงเร้าร้อนและรุนแรงกว่าครั้งแรกจนร่างเล็กๆหอบหายใจสะอื้นอยู่กับอกยามที่ผมผละออกมาเพื่อชิมความหวานส่วนอื่น

             “แน่ใจแล้วใช่ไหม ?...” ผมพูดเสียงพร่า ใบหน้ายังคงซุกอยู่ที่ซอกคอขาวๆสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัว

           “อ๊ะ...อื้ม”

            “จะหยุดไม่ได้แล้วนะ...”

            “ถ้าพี่แซมสัญญาว่าจะทำเบาๆ” ผมเงยหน้าจากซอกคอขาว มองนิ้วก้อยเล็กๆที่ยื่นมาอยู่ตรงหน้า อยากจะจับเอามาฟัดเสียให้เฉามือเมื่อเห็นว่าใบหน้าน่ารักนั้นขึ้นริ้วแดงๆที่ผิวแก้ม

             “ครับ” ผมส่งนิ้วก้อยของตัวเองออกไปเกี่ยวกับนิ้วเล็กๆของอีกคนก่อนจะกุมมือเล็กเอาไว้ แล้วหันกลับมาสนใจผิวอ่อนนุ่มนิ่มล่อตาล่อใจ ไล่ดูดกัดขบเม้มไปเรื่อยจนแทบไม่มีพื้นที่ว่างก่อนจะวนไปหยุดที่จุดเล็กๆกลางอกทั้งสองข้าง

             “พะ...พี่แซม”

             “อืม...” ผมครางตอบทั้งยังไม่ละปากจากจุกนมสีชมพูล่อตา ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะหายไปกลายเป็นความดำมืด ผมพยายามจะเอาสิ่งที่ปิดขวางสายตาของผมออกเท่าที่สัมผัสได้คงเป็นผ้าปิดตา แต่เหมือนคนใส่จะไม่ยินยอมเพราะจับกดต้นคอผมเอาไว้แน่น

           “ปิดตาก่อน”

           “ครับ”

            ผมหลับตาสัมผัสเรือนร่างขาวโพลนในจินตนาการ เพราะผ้าปิดตากั้นสายตาผมเอาไว้ให้พบกับมืดทำให้ประสาทสัมผัสส่วนอื่นของผมทำงานได้ดีกว่าปกติรวมไปถึงความตื่นตัวที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ผมใช้ฝ่ามือลูบไล้สัมผัสเรือนกายนุ่มนิ่มอย่าช้าๆ ซุกจมูกเข้าสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆไปทั่วทั้งซอกคอขาวก่อนจะแตะลิ้นเบาๆลงบนตุ่มไตที่แข็งชันรับลิ้นผม

            “อื้อ...” เสียงครางเล็กๆของคนใต้ร่างกระตุ้นให้ผมอยากสัมผัสให้มากกว่าเดิม
ไม่นานร่างกายของเราก็สัมผัสแนบชิดโดยไม่มีเสื้อผ้ามาขวางกั้น ผมเลื่อนมือลงไปทักทายลูกแมวน้อยด้านล่างบีบนวดเบาๆอย่างหยอกล้อ ใช้มืออีกข้างควานหาขวดเจลที่จำได้ว่าวางไว้ไม่ไกลจากตัวนัก เนื้อเจลเย็นๆที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของสตอเบอร์รี่ถูกชโลมจนชุ่มนิ้วของผม

            “อ๊ะ...เจ็บ”

            ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อผมกดนิ้วผ่านช่องทางคับแคบเข้าไปทีเดียวจนสุด แม้จะแค่นิ้วเดียวแต่เพราะช่องทางที่ไม่เคยผ่านการรุกล้ำทำให้เจ้าของเกิดอาการเกร็งจนเจ็บ ผมเคลื่อนตัวขึ้นไปประกบริมฝีปากบางอีกครั้ง กดจูบย้ำๆอย่างปลอบโยนว่าผมอยู่ตรงนี้

            “ฮึก...อ๊า...”

            “อีกนิ้วนะครับ” ผมสอดนิ้วที่สองและสามตามเข้าไปติดๆเมื่ออีกฝ่ายคลายอาการเกร็งและยอมให้ผมขยับนิ้วทั้งสามเข้าออกช้าๆ

             ช่องทางเล็กที่บีบแน่นทำให้ผมต้องผ่อนลมหายใจของตัวเองเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อเตือนสติไม่ให้เผลอทำอะไรรุนแรง ยอมรับเลยว่าการที่มองไม่เห็นอะไรเลยแบบนี้ทำให้ผมอดจินตนาการถึงร่างเล็กไปต่างๆนาๆไม่ได้ ทั้งผิวขาวๆที่คิดว่าตอนนี้คงขึ้นสีแดงระเรื่อไปทั่วร่าง หูและหางแมวน่ารักนั้นกำลังสั่นระริกอย่างทนไม่ไหว แค่คิดก็ทำเอาผมอยากจะสอดกายเข้าไปแล้วกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงให้สมใจ

            “พะ...พี่แซม เค้ารู้สึกแปลกๆ อ๊า...”

            “ยังไงครับ ? บอกพี่แซมหน่อย” ผมกดนิ้วย้ำๆลงบนจุดที่ทำให้น้องสะดุ้งครางเสียงหวานกว่าปกติ

            “มะ...ไม่รู้ มัน อึก...อ๊ะ”

            “เสียว...” ผมต่อคำให้ก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะการขยับนิ้วให้เร็วขึ้น

             “อึก...ตรงนั้น...อ๊า...เค้าจะไม่ไหวแล้ว อ๊ะ”

             ผมจับมะลิพลิกนอนคว่ำในท่าคลานเข่าโดยมีผมซ้อนตัวอยู่ด้านหลัง จัดการถอดผ้าปิดตาของตัวเองออกแม้การสัมผัสในความมืดจะไม่ได้เลวร้ายติดจะรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำ แต่ในยามนี้ผมต้องการเห็นร่างขาวๆของลูกแมวเผือกมากกว่า

           “พี่แซม...”

            “แบบนี้ก็ไม่เห็นหน้าเหมือนกัน” ผมบอกคนใต้ร่างที่เหมือนจะรู้ว่าผมทำอะไร แต่ผมไม่รอให้คิดหนีหรือชิ่งกลายร่างเป็นแมวอีกแล้ว ผมเอื้อมมือลงไปเตรียมพร้อมให้ร่างกายตัวเองก่อนจะนำมาจ่อเข้ากับปากทางเล็ก กล่องกระดาษสี่เหลี่ยมที่เห็นวางอยู่ด้านข้างไม่ได้อยู่ในความสนใจของผม ผมตรวจเลือดตลอดมั่นใจว่าปลอดภัยและสำหรับมะลิผมอยากจะสัมผัสน้องแบบไม่มีอะไรมาขว้างกัน

            “อ๊ะ...เจ็บๆ พี่แซมเค้าเจ็บ”

            “อึก !” ผมกัดฟันแน่น เพียงแค่ส่วนหัวที่เข้าไปช่องทางเล็กก็ตอดรัดอย่างบ้าครั่งจนขยับต่อไม่ได้ ผมจึงก้มลงไปจูบที่หลังคอขาวเบาๆ หางแมวสีขาวที่สะบัดแกว่งไปมาอย่างตื่นตระหนกถูกมือข้างหนึ่งของผมจับเอาไว้พร้อมกับลูบขึ้นลงตามความยาว มืออีกข้างขยับไล้ไปทั่วอกเล็ก จนแรงบีบรัดเริ่มคลายออกผมจึงค่อยๆดันตัวเองเข้าไปจนสุด

             “อื้อ....อ๊า” น้องร้องเสียงดังยามที่ผมถอยออกมาแล้วดันกลับเข้าไปใหม่ด้วยแรงไม่เบานักก่อนจะเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆแล้วเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและแรงขึ้น

            “แน่นชิบ...อ่า...”

            “อ๊ะๆๆๆ บะ...เบา พี่แซม”

            “อืม...” ผมครางตอบรับแต่ไม่สามารถบังคับตัวเองให้ผ่อนแรงลงได้ซ้ำยังรังแกน้องหนักขึ้นด้วยการเพิ่มแรงกระแทกเขาไปแบบเน้นๆ จนอีกฝ่ายตัวคลอนทรุดลงไปหมอบกับเตียงสองมือจิกผ้าปูที่นอนแน่น

            “อ๊า ไม่ไหว...เค้าไม่ไหวแล้ว”

            “ปล่อยออกมา...”

             “อ๊า...!!”

            “ซี้ด...” ผมเร่งเครื่องขยับตามน้องไปติดๆ ก่อนจะปล่อยทุกหยาดหยดเข้าไปในร่างขาวเผือกที่กลายเป็นสีแดงในยามนี้ ให้ตายสิ ผมไม่เคยเสร็จเร็วขนาดนี้มาก่อนเลย

             ผมนอนนิ่งกอดมะลิจากทางด้านหลังทั้งๆที่ร่างกายเรายังประสานกันแนบแน่น ขยับเอวเข้าออกอย่างช้าๆ ไม่พอหรอกครับ สำหรับไอ้ลูกแมวนี่แค่รอบเดียวไม่พอหรอก ผมพลิกตัวน้องให้หันมาเผชิญหน้าก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากเล็กอีกครั้งพร้อมกับขยับกายขึ้นคร่อมอีกฝ่ายเอาไว้

           “อื้อ...”

           ผละออกมากวาดสายตามองสำรวจร่างเล็กจนทั่ว เหมือนอย่างที่ผมจินตนาการเอาไว้ไม่มีผิด มะลิของผมน่ารักมาก ผมเลื่อนสายตาขึ้นมาอยู่ที่ริมฝีปากแดงๆที่บวมเจ่อ ก่อนจะสบเข้ากับดวงกลมโตที่เบิกกว้างมองผมอยู่ก่อนแล้ว ผมถอยกายออกอีกครั้งเตรียมเริ่มจังหวะใหม่แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรแบบนั้น...

           ผลัก !!

           อั่ก !!

           ผมเหมือนถูกถีบลงมาจากสวรรค์ !! ทั้งที่จริงๆแค่ตกเตียง เหตุการณ์แบบนี้มันคุ้นๆเหมือนเดจาวูไม่มีผิด แต่เรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแน่ๆ ผมขยับตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทั้งที่ตรงนั้นยังคงโดเด่พร้อมใช้งานแต่วันนี้คิดว่าคงไม่ได้แล้วล่ะ

           เมี๊ยว ~~~~

          สายตาออดอ้อนของแมวขนฟูสีขาวตัวน้อยส่งมาให้เหมือนกลัวว่าผมจะโกรธที่ตัวเองกลายเป็นแมวหนีไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่โกรธครับ...ไม่เลยสักนิด

          “ไม่เป็นไรครับ” ยกมือลูบหัวเล็กๆ ก่อนจะก้มลงไปจุ๊บเบาๆหนึ่งที

         “พี่แซมรักมะลินะครับ”

          แค่น้องยอมผม...พยายามทำอะไรมากมายเพื่อผมแบบนี้ ผมก็ดีใจสุดๆแล้ว

           เมี๊ยววววว




          ของแถม....

         จะดูแลอย่างดี....

         ผมกดส่งภาพแมวน้อยสีขาวที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงเหมือนหมดเรี่ยวแรงไปให้พี่เขยพร้อมข้อความสั้นๆ หึหึ ถือว่าตอบแทนที่ยัดความคิดประหลาดๆเข้าหัวแมวน้อยของผม ส่วนพี่สะใภ้...คนนี้มีความดีความชอบอยู่หน่อยแต่ก็ถูกตัดคะแนนเพราะคลิปชนกล้ามนั่นแหละ ผมเลยจัดการส่งภาพที่เจ้าตัวกำลังส่งยิ้มน่ารักกับไอ้ตี๋ร้านขายยาโดยเลือกเอารูปที่ไม่ติดมะลิไปให้พี่เขยอีกสักรูป

         คิดว่าพี่สะใภ้คงจะโดนลงโทษจนเดินไม่ได้ไปสักพัก....หึหึ


TALK...
ครบรอบ 1 เดือนที่หายไป กลับมาอีกที มะลิโดนกินเเล้ววว ! :hao7: :hao7:
เป็นตอนที่ยาวจริงๆ น่าจะยาวที่สุดเพราะถึงกับต้องเเยก  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-06-2016 17:37:52
 :-[.   ขอแสดงความยินดีกับพี่แซมผู้บ่าวกินแมวคนเดียวของเรื่องฮี่ๆๆๆ
ชอบมะลิมาก น่ารักน่าฟัดพุงขาวๆ  ว่าแต่รอบแรกผ่านไปร่างแมวจะกินยาแก้ปวดยังไล่ะจ๊ะ. 
รีบกลับร่างคนนะจะได้เทรนต่อเลย ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
น่ารักมากๆ พี่สะใภ้ด้วยนะ.  :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( END Side Story 26/05/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-06-2016 17:44:50
น่ารักดีค่ะ โดนเอาคืนทั้งพี่เขยพี่สะใภ้เลย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 26-06-2016 18:19:22
ดีใจกะพี่แซมด้วย  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-06-2016 22:16:14
สี่คนนี้ไม่มีใครยิ่งหย่อนไปกว่ากันอ่ะ พูดเลย 55555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-06-2016 23:03:10
พี่แซมแอบร้ายยยยย

พี่สะใภ้อุตส่าห์ช่วยเลยนะ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 27-06-2016 07:20:56
น่ารักทั้ง 2 คู่อ่ะ พูดเลยยยยย  :z1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-06-2016 16:13:48
รอบสองเลยไม่ได้เลย :oo1: :oo1: :oo1:
ว่าแต่แสบน่าดูเอาคืนทั้งนิลทั้งมินแบบนี้งานนี้มีฟ้าเหลือง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 29-06-2016 03:00:58
พี่แซมมม พี่สะใภ้ช่วยเน้นๆเลยนะ
ทำไมตัดคะแนนโหดจังงง555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 29-06-2016 09:59:55
ในที่สุดพี่แซมก้ได้กินซะที
555555
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 29-06-2016 11:08:40
คือไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือจะอะไรดี

แต่ยินดีกับพี่แซมด้วยนะคะ ฮิ้ววววว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 30-06-2016 14:28:40
โห ...... โคตรน่ารักเลยครับเรื่องนี้ น่ารักทั้งสองคู่เลย พี่นิลโคตรหื่น

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 01-07-2016 20:09:42
สนุกมากค่ะ

ถถถถ ขำแซม กว่าจะได้กินตกเตียงตลอดดด   ได้กินแล้วก็ยังคงตกเตียงต่อไป
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 14-07-2016 14:12:02
น่ารักอ่าาา  :-[

/// วิ่งไปจูบแมวที่บ้าน....แปลงร่างซะ! เจ้าเหมียว~
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 15-07-2016 11:04:46
อ่านรวดเดียวจบเลย น่ารักมากกก งื้อออ ชอบน้องมะลิ
คู่หลักหื่นจริงๆ 5555555
จะว่าไปแล้วก็อยากเห็นตอนพี่นิลเห็นรูปน้องมินกับผู้ชายนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 07-08-2016 00:07:36
น้องมะลิน่าฟัดที่สุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 10-08-2016 20:50:50
สนุกและน่ารักทั้งสองเรื่องเลยฮะ

หวานละมุม ไม่ดราม่า

 o13
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 17-08-2016 06:03:31
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-01-2017 14:20:57
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากกกกกกก
。◕‿◕。

พี่นิล มิน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
พี่แซม มะลิ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เง้อออ.......หายไปไหนกันหมด :ling1: :ling1: :ling1:
หายไปตั้งนานแล้ว
รอไรท์ นะ
คิดถึงๆๆๆๆๆ :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 02-01-2017 15:50:30
 :katai1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 12-01-2017 00:35:04
น่ารักก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 12-01-2017 14:46:24
 :haun4: :haun4: :haun4:

เป็นเรื่องที่น่ารักมาก  น้องมะลิ มีความโมเอ้ สูงมากกกกกกกกก  พี่แซมมันร้าย  กล้าทำแบบนั่นกับพี่สะไภ้ได้อย่างไง  เดี้ยงอย่างเดียวเลยงานนี้มินเอ๋ยยยยยยยยยยยยยย

คู่พี่นิลกับมินนี้ชอบสุดๆๆๆๆไปเลย ตอดเล็ก ตอดน้อย มาตั้งหลายปีถือว่าความอดทนสูงเหมือนกันนะ ในที่สุดก็จับกินจนได้ ว่าแต่ จะไม่เล่าให้น้องฟังหน่อยหรอ ว่าครั้งแรกที่มีไรจริงๆๆ ตั้งแต่ตอนใหน :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 13-01-2017 11:09:34
น่ารักกกกกก ฮือออ พี่นิลน้องมิน น้องจัสมินนี้ก็ต้องงงงง น่ารักมากกกกกกกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 13-01-2017 22:39:46

ดีต่อใจ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 15-01-2017 00:13:28
ตอนแรกก็สงสารแซมอยู่ แต่พอแกล้งมินเลยเลิกสงสาร แค่นิล มินก็แย่แล้ว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 31-01-2017 07:50:46
แต่ละคนก็แสบพอๆกัน
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 06-07-2017 11:07:34
พี่นิลแมวจรจัดมาก ๆ พร้อมฟัดกับทุกคน มะลิน่ารักสุด ๆ ภาพแมวโมเอะลอยมาเลย เค้าอย่างเค้าอย่างนี้ พี่แซมกลายเป็นทาสแมวสมบูรณ์แบบไปแล้ว
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-07-2017 20:58:30
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: mamamamuay ที่ 02-02-2018 09:25:48
น่ารักทั้งสองคู่เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 24-03-2018 14:34:10
น่ารักทั้ง 2 คู่เลย ทั้งนิล-มิน และ มิน-แซม  :o8:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้าใสคนนอกโลก ที่ 24-03-2018 22:58:57
ชอบอะน่ารักมากๆเลยยยยย  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 24-03-2018 23:28:01
ชอบหูแมว ชอบหางแมว งื้อออออ  :m3:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Ling ที่ 28-03-2018 07:46:42
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ประทับใจมากกกกกกกกกชอบมากๆน่ารักทั้งสองคู่เลยยยยยยยย ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ อ่านไปยิ้มไปจนแก้มจะแตก :hao5:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 28-03-2018 19:33:31
อยากเลี้ยงน้องมะลิ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 05-04-2018 17:50:41
น้องมะลิลู๊กก...  :m3:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 25-04-2018 00:13:37
น่ารักมากๆเลย
แต่แอบคิดถึงพี่เขยกับพี่สะใภ้ :katai2-1:
ขอตอนพิเศษเพิ่มอีกนิดได้มั้ยคะ กำลังฟินนนนน :o8:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: punpunn ที่ 26-04-2018 11:11:38
น่ารักกกกกกชอบมากๆเลยสนุกมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 19-07-2018 19:04:07
ทำไมเราพลาดเรื่องนี้

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 21-07-2018 04:04:15
กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังน่ารักกกก
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 21-07-2018 15:19:54
ฟินไปเลย
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 29-11-2018 18:24:06
ตอนแรกยังกลัว ๆ ว่าถ้าน้องกลับเป็นแมวตอนทำจะเป็นอะไรมั้ย สรุปอิพี่โดนดีด 555555544
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BloodyBlue ที่ 30-11-2018 22:45:31
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 09-12-2018 16:38:22
โอ่ยยยยย น่ารักมากๆเลยทั้งสองคู่  :mew1: