หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.  (อ่าน 68422 ครั้ง)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อย่ายอมแพ้ง่ายๆสิพี่ซอง!

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ monday012

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รอดูน้องเก้ากินพี่ทิม 55555

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อืม.....ง้อต่อไปเรื่อยๆนะะซอง ส่วนพี่ทิมระวังน้องเก้าจับปล้ำนะ 5555

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
น้องมินหายไป 10 วันแล้ว คิดถึง

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
แอบรัก 16



(มิน)

 

ผมนอนไม่ค่อยหลับเพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงาน และมีเรื่องให้คิดหลายอย่าง สมองกลับมาคิดวกไปวนมาแต่เรื่องเดิมๆ ทำไมผมถึงกลายเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ อยากจะหนีจากความรู้สึกบ้าๆ นี้สักที ผมนอนพลิกตัวไปมาบนที่นอนจนเข็มนาฬิกาบ่งบอกว่าจวนเจียนจะตีหนึ่งแต่ผมก็ยังไม่หลับ ลุกขึ้นนั่งหยิบเครื่องมือสื่อสารที่วางไว้ข้างเตียงนอนขึ้นมาเช็คดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย ที่จริงผมไม่ใช่คนติดโลกโซเชียล แค่สมัครไว้เพื่อให้ตนเองรู้ว่ามีและเอาไว้ดูความเปลี่ยนไปของโลกหลายๆ อย่างก็เท่านั้น เปิดดูไปแทบจะหมดทุกอย่างแต่ก็ยังไม่ง่วง นั่งดูรูปภาพที่บราวนี่อัพในแต่ละวัน ไม่รู้ว่าจะอัพอะไรนักหนา ไม่ว่าจะไปกิน เที่ยว ที่ไหนก็จะอัพเดทตลอด รูปในเฟสบุ๊คของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าพันรูป ส่วนของผมน่ะเหรอ มีแค่รูปที่ตนเองตั้งเป็นรูปหน้าโปรไฟล์ และรูปที่บราวนี่แท็กมาให้ก็เท่านั้น

 

วันนี้แม่ผมไม่อยู่บ้านตามเคย เดินสายเที่ยวทำบุญตลอด จนตอนนี้ผมชักจะคิดแล้วว่าตนเองอยู่บ้านหลังนี้แค่คนเดียวกับหมาอีกหนึ่งตัว เพราะแม่อยู่แทบจะไม่ติดบ้าน มาไม่ถึงอาทิตย์ก็ไปอีกแล้ว แทบจะกลายเป็นวัฏจักรชีวิตของแม่ไปแล้ว

 

เสียงโครมครามดังมาจากด้านล่าง เป็นอีกครั้งที่ผมทำอะไรไม่ถูก เพราะคราวนี้มันดังมากกว่าครั้งที่แล้ว ผมไม่กล้าลงไปดูเพราะกลัวจะเป็นขโมย ได้แต่นั่งนิ่งๆ คอยฟังว่าเสียงว่าตอนนี้ดังไปไกลรึยัง แต่เปล่าเลยผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตรงขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน อาจจะเพราะความเงียบในตอนกลางคืนจึงได้ยินมันอย่างชัดเจน

 

 เจ้าปลาทองมันไม่เห่าอีกตามเคย คิดได้เท่านั้นสมองผมก็พลันคิดไปถึงอีกคนที่เวลามาบ้านผมทีไร เจ้าปลาทองมันจะไม่เคยเห่า แถมยังทำเหมือนญาติดีกับเขาอีกต่างหาก  ผมรีบตรงไปยังประตูห้องของตนเอง ก่อนที่จะสำรวจว่าล็อกมันดีรึยัง เพราะปกติผมแทบจะไม่ล็อกห้องนอน  พอแน่ใจแล้วว่าล็อกดีแล้วก็กลับมานั่งที่เดิม คอยฟังเสียงของบุคคลภายนอก ถ้าเป็นเขาจริงๆ อย่างที่ผมคิด เขามีกุญแจเข้าบ้านผม แต่กุญแจห้องน่าจะไม่มี  ที่เข้ามาห้องผมได้คราวนั้นเพราะผมไม่ได้ล็อกประตู แต่คราวนี้ไม่มีทาง

 

และแล้วก็ทำให้ผมรู้ว่าสิ่งที่คิดไว้มันผิด เสียงลูกบิดประตูดังคลิกหนึ่งที ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงคนผลักประตูเข้ามา เป็นเขาจริงๆ เขาที่ไม่เหลือมาดของผู้ชายจอมเนี๊ยบอยู่เลย

 

“มินจ๋า...มินของเพ่...” เสียงอ้อแอ้ของร่างสูงใหญ่ พร้อมๆ กับขาที่เดินเซจนแทบจะขวิดกันตรงมายังที่ผมนั่งอยู่ กลิ่นเหล้าราคาแพงเหม็นหึ่งจนผมแทบจะอ้วก ทำไมเขาถึงเมาขนาดนี้นะ

 

“มินนนน...เอิ้กกก...จายยยร้าย เพ่ร้ากมินน”  เขาพุ่งตรงมายังผมก่อนที่จะสะดุดขาตนเองล้มลงกับพื้น ปากก็พร่ำเพ้อไปเรื่อย ไม่รู้ว่าผมควรสงสารหรือว่าสมเพชดี ผมยังคงนั่งมองท่าทางของคนที่เมาจนแทบจะไม่รับรู้อะไร แล้วยังสามารถเข้ามาบ้านผมได้อีก

 

“.........”

 

“มินนนม่ายรักเพ่แล้ว....ร้ากกกกมันแล้วสินะ เอิ๊กกกก อ้ากก”

 

“จายร้ายย...จางเลยน้าคนดีของเพ่ ฮ่าๆๆ สมน้ามหน้า...เมิงแล้วอ้ายซองงง เอิ้ก   เมิงง...เลวเอง เจงหมาย...น้องมินนน ฮ่าๆ ฮึก...” ผมนั่งมองคนที่เพ้อไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น จ้องมองเขาว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร พยายามหาคำตอบให้ตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้ เขานั่งพูดไปเรื่อย ถ้าผมมองไม่ผิด น้ำตาของเขากำลังไหล ต่างจากท่าทางของคนเมาที่ทำทีเหมือนหัวเราะเยาะเรื่องของตนเอง น้ำตาที่ไหลลงจากหางตาเรียวเป็นสายราวกับจะขาดใจ แต่เขายังคงหัวเราะมันอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกผิด ทั้งๆ ที่มันก็สมควรที่จะเป็นแบบนี้แล้วไม่ใช่เหรอ ควรจะสะใจที่เขาเป็นแบบนี้ ให้เขาเจ็บมากๆ เหมือนที่ผมเคยเจ็บ  แต่ความ รู้สึกของผมตอนนี้ทำไมมันถึงเจ็บมากกว่าทุกครั้ง

 

‘ยิ้มสิ หัวเราะสะใจที่ผู้ชายตรงหน้าแทบจะบ้าเพราะผมสิ’

 

“มินนจ๋า....ร้ากกเพ่ไหม๊....ม่ายช่ายยยยๆ เกลียดเพ่ เอิ้กกกก....มากไหม๊ ฮ่าๆๆ” เขาดื่มไปเยอะเท่าไหร่ทำไมถึงเมามากมายขนาดนี้ มาพูดบ้าแบบนี้ทำไม

 

“กลับบ้านคุณไปเถอะ” เป็นประโยคแรกที่ผมพูดกับเขา คนเมาหันมามองหน้าผม ยิ้มให้ผมทั้งน้ำตา

 

“มินนนเจงๆๆ...เหรอ เพ่ฝันนดี ฮ่าๆๆ”

 

“กลับไปได้แล้วครับ อย่าทำแบบนี้”  ผมพยายามเกลี้ยกล่อมคนเมาทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ามันคงไม่ได้ผล คนเมาขนาดนี้จะรับรู้อะไร

 

“ขนาดในฝัน..ยางจายร้าย ฮ่าๆ ” มือหนายกขึ้นมาจับใบหน้าเล็กของผม เขามองผมจ้องอยู่อย่างนั้น ก่อนที่จะโน้มใบหน้าตัวเองเขาหาริมฝีปากบางของผม ผมขยับเพื่อไม่ให้เขาเอาริมฝีปากมาโดนปากของผม มือเล็กผลักอกแกร่งออกแรงๆ จนเขาฟุบลงกับพื้น

 

“แค่ในฝัน...ยางจูบบม่ายย...เอิ้ก..ด้ายเลย อึก”  เขาร้องให้อีกแล้ว มือก็ไขว่คว้าสะเปะสะปะ จนผมต้องพยุงเขาให้ขึ้นมานั่งดีๆ อยากให้เขาเมาแล้วหลับไปเลยยังจะดีซะกว่า แต่นี่เมาแล้วเพ้อไปหมดทุกอย่าง

“ขึ้นไปนอนบนที่นอนดีๆ ครับ” ผมคงไม่มีทางพาเขากลับบ้านได้หรอก แค่จะพยุงคนเมาให้นั่งตัวตรงๆ ยังไม่ได้เลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ให้เขานอนที่นี่แหละ ส่วนผมจะลงไปนอนห้องแม่ผมเอง ตัดสินใจได้ดังนั้นผมจึงลากคนเมาที่ตอนนี้ตัวอ่อนปกเปียกขึ้นมาบนเตียงนอน

 

“เพ่ร้ากกก...น้องมินน ฮ่าๆๆ”  กว่าที่ผมจะลากเขาขึ้นมาบนเตียงนอนได้เล่นเอาผมแทบหมดแรง

 

คำว่ารักที่หลุดออกมาจากปากคนเมาเป็นระยะ ไม่รู้ว่าที่พูดนี่พูดจริงหรือแค่หวังอะไร ถึงแม้มันจะมีผลกับใจของผม แต่ผมก็ไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นแบบเดิมอีกแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะเจ็บก็ขอเจ็บแค่ตอนนี้ ไม่อยากให้มันเรื้อรังไปมากกว่านี้ แล้วไม่มีทางหายตลอดชีวิต

 

เขานอนแผ่หราที่เตียงนอนเล็กของผม ปากก็พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ตัดพ้อผมบ้างในบางที แต่ก็ช่างเถอะ เราไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว ที่ยังช่วยเหลืออยู่ตอนนี้เพราะเห็นว่าเคยเป็นพี่เป็นน้องกันก็เท่านั้น ผมค่อยๆ ถอดรองเท้าและถุงเท้าให้คนเมาได้นอนหลับสบายๆ  ไม่รู้ว่าเพราะหมดแรงหรืออะไร เขาถึงเงียบไปแล้ว  แต่เขาไม่ได้หลับ ยังคงลืมตามองเพดานแต่ไม่เพ้อแล้ว

 

ผมลุกขึ้นไปหากะละมังและผ้าขนหนูเพื่อที่จะเช็ดตัวให้เขา ผ้าขนหนูผืนเล็กจุ่มลงไปในน้ำเปล่าก่อนที่จะบิดจนหมาด แล้วเริ่มซับตรงใบหน้าของคนที่นอนลืมตาอยู่บนเตียงนอน สายตาเขาเหลือบมองผมแทบจะตลอดเวลา ผมไม่รู้ว่าเขารู้สึกตัวหรือสร่างเมาแล้วรึเปล่า แต่เมื่อเขาไม่พูดผมก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ เช็ดทั้งหน้าแล้วก็ตัวให้กับเขา แต่ผมไม่ได้ถอดเสื้อเขาออกหรอก แค่เลิกมันขึ้นไว้ตรงหน้าอกแกร่งทั้น

 

“ฝันสินะ” ประโยคแรกที่เขาพูดหลังจากที่เงียบไปนาน จนผมต้องละมือจากการเช็ดตัวให้กับเขา แล้วเงยหน้ามองคนที่พูดเหมือนตัวเองอยู่คนเดียว

 

“ขอให้ฝันดีแบบนี้ไปนานๆ” เขาปิดเปลือกตาลงแล้ว ยังคงมีแต่ผมที่นั่งนิ่งกับคำพูดของคนเมา  ทั้งๆ ที่เขาพูดราวกับละเมอ แต่ผมกลับเก็บมันมาคิดใส่ใจราวกับว่ามันออกมาจากใจเขา ร่างสูงใหญ่คงหลับสนิทไปแล้ว เพราะเสียงกนที่ดังแผ่วออกมาสม่ำเสมอ  ผมนั่งมองเขาอยู่แทบจะตลอดเวลา จากที่คิดว่าถ้าเขาหลับแล้วผมจะออกไปนอนอีกห้องก็ไม่ได้ไป นั่งเฝ้าคนที่บางทีก็หลับสนิทราวกับว่าไม่มีเรื่องในใจ แต่บางครั้งเขากลับละเมอเพ้อตลอด แม้แต่น้ำตาของเขาก็ยังไหลจนผมไม่สามารถทิ้งเขาให้อยู่คนเดียวได้ด้วยความเป็นห่วง

 

“คืนนี้มินจะดูแลพี่เอง หลับให้สบายนะครับ” ผมพูดกับคนที่หลับสนิท มือบางของผมลูบไล้ใบหน้าคมคร้ามของคนที่ครั้งหนึ่งผมเคยรักเขามาก ตอนนี้ไม่ใช่ว่าไม่รักแต่ไม่อยากเจ็บ จำต้องห้ามหัวใจที่ไม่รักดีให้ไม่คิดเกินเลยไปกับคำพูดหวานๆ ของคนเมา

 

 

“ถ้าพี่รักมินทำไมต้องทำร้ายความรู้สึกของมิน ทำไมพี่ถึงทำเหมือนรังเกียจ ถ้าพี่ไม่ทำแบบนั้นทุกอย่างคงเลวร้ายแบบนี้หรอก”  ผมนั่งพูดกับคนหลับทั้งคืนเหมือนคนบ้า เผลอร้องให้ออกมาเพราะความอึดอัดก็หลายครั้ง จนเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย

 


(ซอง)

ผมรู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัว จำแต่เพียงว่าเมื่อวานตัวเองไปดื่มที่ร้านคนเดียว ดื่มไปเยอะจนไม่รู้ว่าขับรถกลับมาบ้านได้ยังไง ผมนอนหลับตาเพื่อคลายความปวดหัวของตนเองให้ทุเลาลง สงสัยคงต้องไปหาอะไรดื่มแก้แฮงค์ซะแล้ว ดีหน่อยที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์จะได้หลับพักผ่อนยาวๆ จำได้ว่าเมื่อคืนผมฝัน ถ้าจะบอกว่าเป็นฝันดีก็ไม่เชิง แต่ในควมฝันน้องไม่ได้มีท่าทีรังเกียจผมมากเหมือนความเป็นจริง อย่างน้อยน้องก็ยังดูแลผมถึงผม้ว่าจะไม่ได้เต็มใจ ผมหลับตานึกถึงฝันดีเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่อยากตื่นมารับรู้เลยว่าความจริงแล้วเราสองคนยังเป็นคนแปลกสำหรับกันและกันอยู่

 

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก เพราะความปวดหัวที่แล่นจี๊ดเข้าไปในสมองพร้อมๆ ความปวดที่หน่วยตาของตนเอง รู้สึกเหมือว่าตาจะบวมๆ ด้วยซ้ำไป นี่ผมเมามากจนตาบวมเลยเหรอ ไม่เคยเป็นแบบี้เลย

 

ผมพยายามปรับสายตาให้เข้ากับแสง ก่อนที่จะสะดุดเข้ากับร่างเล็กของอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆ ผม น้องยังคงหลับสนิท ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมนอนที่ห้องมิน แต่ไม่รู้หรอกมาอยู่นี่ได้ยังไง  ขับรถกลับมาถึงบ้านตัวเองได้ยังไงยังไม่รู้เลย ถ้าอย่างนั้นเรื่องเมื่อคืนอาจจะไม่ใช่ความฝันสินะ

 

"มินพี่ขอโทษ" ผมพูดกับร่างเล็กที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ไม่อยากใหเขาตื่นมาเลย กลัวว่าจะต้องทะเลาะกันใหญ่โตอีก หรืออาจจะมีแต่ผมที่บ้าอยู่คนเดียว

 

ร่างเล็กขยับตัวสองสามทีก่อนที่จะเปิดเปลือกตาที่ปิดสนิทก่อนหน้านี้ขึ้น เขาหันมามองผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่าเฉยชา ไร้ความรู้สึกสิ้นดี

 

"ตื่นแล้วก็กลับบ้านคุณไปสิ มานั่งที่บ้านคนอื่นแบบนี้ทำไม" นี่คงเป็นคำทักทายแรกของวันใหม่สินะ  มันช่างเจ็บปวดดีเหลือเกิน

 

"ตื่นมาก็ไล่พี่เลยเหรอ"

 

"ผมไม่ได้ไล่แต่นี่มันบ้านผม ห้องนอนผม คุณเมาไม่รู้เรื่องแถมยังบุกเข้าบ้านคนอื่นยามวิกาลอีก ผมไม่แจ้งความข้อหาบุกรุกก็ดีเท่าไหร่แล้ว" คำพูดเรียบๆ ไม่แสดงความโมโหหรือโกรธนี่เจ็บปวดดีจริงๆ เลย  เพราะเขาทำเหมือนผมเป็นคนอื่น เขาเลยไม่แสดงความโกรธความเกลียดออกมาสินะ

 

"คุยกับพี่ก่อนไม่ได้เหรอมิน"

 

"ผมว่าเราไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกันนะครับ" น้องพูดก่อนกับลุกขึ้นยืน พร้อมที่จะก้าวเดินออกไปจากห้อง ไวกว่าความคิดมือหนาของผมยื่นไปจับแขนเล็กไว้ทันที แต่ไม่ได้กระชากหรือดึงเพราะกลัวว่าน้องจะเจ็บ

 

"ปล่อยครับ"

 

"คุยกับพี่ก่อนนะคนดี ขอร้อง จะให้พี่ทำยังไงก็ได้ ขอแค่มินให้โอกาสคนเลวๆ แบบพี่ได้ไหม"

 

"ผมไม่มีโอกาสที่จะให้คุณอีกแล้ว เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว พร้อมๆ กับความรู้สึกของผมที่เคยมีต่อคุณ"  ผมพยายามรั้งร่างเล็กเข้ามากอด แม้ว่าเขาจะดิ้นหนีก็ตาม

 

"ปล่อยผมครับ"

 

"พี่ขอโทษมิน พี่ขอโทษนะ" แม่งเอ้ยน้ำตาผมมันพาลจะไหลอีกแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องนี่ผมร้องให้บ่อยเกินไปแล้ว ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียน้ำตาเพราะความรักเลยสักครั้ง  น้องรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักผมออกจนสุดแรง จนร่างเล็กเซตามผมที่ล้มลงไปบนเตียงนอนอีกครั้ง ภายในห้องเล็กเงียบสงัด มีเพียงผมที่ยังจ้องมองคนที่ล้มทับตัวเองอยู่ ส่วนอีกคนกลับเบือนหน้าหนีผมอย่างรังเกียจ ผมจับใบหน้าเล็กให้หันมาเผชิญหน้ากับผม ก่อนที่จะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากของตนเองเข้าหา ผมกดหัวเขาไว้ให้นิ่งอยู่กับที่ น้องเบิกตาโพลงเมื่อริมฝีปากของเราสองคนสัมผัสกัน มินขัดขืนผมสุดกำลัง เขาไม่ยอมเปิดปากรับสัมผัสของผมที่มอบให้ แต่ผมไม่ละความพยายามพลิกตัวร่างเล็กให้กลับไปอยู่ใต้ร่างของผม ก่อนจะระดมจูบหนักหน่วงใส่คนที่หอบหายใจถี่อยู่ใต้ร่าง เมื่อความเลวบังตาอะไรก็คงห้ามไม่ได้ แม้ว่ามือเล็กจะทุบหลังผมรัวๆ แต่ผมกลับไม่สะทกสะท้าน บดขยี้ปากหนากับริมฝีปากเล็กจนได้เลือด  มินเผลอร้องออกมาเพราะความเจ็บ เป็นจังหวะให้ผมสามารถสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กได้ เสียงครางประท้วงดังออกมาเป็นระยะ

 

"อ่า...อึก"

ผมค่อยๆ จูบซับไปตามใบหน้าและลำคอก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ติ่งหูเล็ก ไล้เลียลิ้นวนจนน้องครางออกมาเพราะความเสียวซ่าน

 

"ปละ..ปล่อย แฮกๆ" แม้ว่าร่างกายจะตอบสนอง แต่เขากลับส่งเสียงประท้วงราวกับจะขาดใจ

 

"ไม่ต้องการพี่เหรอคนดี" ผมยกมือลูบหัวทุยเพื่อปลอบประโลม

 

"ไม่...ไม่เอาแบบนี้"

 

"ทั้งๆ ที่มินก็ต้องการพี่อย่างนั้นเหรอ ดูสิของมินมันแข็งสู้มือพี่แล้ว" มือหนาไล้วนที่เป้ากางเกงนอนของร่างเล็ก มินหอบหายใจถี่จนผมย่ามใจ ล้วงมือเข้าไปสัมผัสมินนี่ตัวน้อยภายใต้กางเกงบ็อกเซอร์ตัวบาง

 

"อึก..ปล่อยผมเถอะได้โปรด"

 

"แต่มินกำลังทรมาน พี่ก็ทรมานเหมือนกัน" ผมจับมือเล็กให้สัมผัสเจ้ามังกรยักษ์ของผมที่ตอนนี้ผงาดขึ้นเต็มลำ มินขืนมือเอาไว้ไม่ยอมทำตาม ขณะที่อีกมือของผมก็ยังรูดความเป็นชายของน้องเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด

 

"ปละ...ปล่อย" ผมไม่อยากฟังเสียงปฏิเสธของร่างเล็ก  คล่อมตัวลงทับเขาไว้ก่อนที่จะประกบจูบร้อนแรงอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ร่างกายกำลังต้องการๆ ปลดปล่อยแล้วทำไม่ต้องต่อต้านผมด้วย

 

ผมไล้เลียลงมาที่อกเล็ก ตุ่มไตสีชมพูกำลังแข็งสู้มือ ก่อนที่ลิ้นร้อนจะกระหวัดดูดกลืนความหวานของเม็ดบัวสีชมพูสวย

 

"พะ..พอแล้ว ยะ..อย่าทำผมอีกเลย" มินดิ้นเร่าอยู่ใต้ร่างสูงเพราะความต้องการทางกามารมณ์

 

"พะ..พี่รักมินอย่าปฏิเสธพี่เลยนะคนดี" ผมเงยหน้าขึ้นจากอกเล็ก หันไปมองคนที่หลับตาดิ้นพล่าน

 

"ไม่เอา...ฮึกกก"  มินร้องให้เพราะผมอีกแล้ว  น้ำตาของน้องเรียกสติผมได้อีกครั้ง กี่ครั้งที่ผมทำให้น้องเป็นแบบนี้ ตัณหาราคะที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ยังไม่จางหาย แต่ผมต้องพยายามระงับ เพราะไม่อยากทำให้น้องเสียใจไปมากกว่านี้แล้ว

 

"พี่ขอโทษมิน พี่ขอโทษ" ผมดึงร่างเล็กที่น้ำตานองหน้า ขึ้นมากอดไว้ ก่อนที่จะขยับนั่งพิงพนักหัวเตียง  ลูบหลังปลอบร่างเล็กที่สะอื้นให้แทบจะขาดใจ มืออีกข้างก็ไล้หยดน้ำตาที่กำลังไหลให้เหือดแห้ง แต่ยิ่งเช็ดมันก็กลับไหลเพิ่มขึ้น

 

"พี่ทำพลาดอีกแล้ว ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งๆ ที่พี่บอกว่ารักมิน แต่พี่กลับทำร้ายมินมาตลอด ทั้งๆ ที่บอกว่าจะพยายาม แต่พี่ก็เลวเกินกว่าที่จะทำอะไรให้มันดีขึ้นมากว่านี้" ผมพร่ำด่าตัวเอง

 

"ฮึก...ฮือ"

 

"สมควรแล้วที่มินจะเกลียดพี่ สมน้ำหน้าตัวเองที่ทำให้คนที่รักหลุดมือ ตลกดีว่าไหม"

 

"อย่า..ฮึกทำแบบนี้กับผมอีก"

 

"พี่ไม่รับปากหรอกเพราะถ้าพี่ใกล้มินพี่ก็ยังระงับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แต่พี่จะพยายามออกห่างจากมินให้มากที่สุด แต่พี่อยากให้มินรู้ไว้ว่าพี่รักมินนะ  รักที่สุด ไอ้ทิมมันดีกับมินมากรึเปล่า ผู้ชายคนนั้นดูแลมินดีใช่ไหม หึๆ ไม่สิ มันต้องดูแลมินดีอยู่แล้ว ไม่เหมือนพี่ที่เอาแต่ทำให้มินเสียใจ มินมีความสุขดีใช่ไหมที่อยู่กับมัน"  ผมยิ้มให้น้องทั้งๆ ที่น้ำตาไหล ตลกตัวเองชะมัด เพิ่งรู้ว่าทำไมตัวเองอ่อนแอขนาดนี้

 

"ขอพี่กอดมินแบบนี้ซักพักได้ไหม" มินไม่ตอบแต่เขาก็ไม่พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของผมเหมือนก่อนหน้านี้ เราต่างคนต่างเจ็บ ต่างคนต่างเสียน้ำตามามากเกินไป ไม่ใช่ว่าผมยอมแพ้ แต่เพราะผมรักน้องจึงไม่อยากให้เขาต้องมาเสียใจเพราะคนเลวๆ อย่างผมอีกแล้ว ตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมตามมินแทบจะทุกวัน ผมเห็นเขายิ้มมีความสุขเวลาที่อยู่กับไอ้หมอนั่น ต่างจากผมที่ทำให้น้องเจ็บและเสียน้ำตา ผมอยากให้คนที่ผมรักมีความสุข คงไม่ผิดใช่ไหมถ้าผมคิดจะปล่อยมือจากน้อง ทั้งๆที่เคยคิดว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด แต่วันนี้มันทำให้ผมรู้ว่ามินมีคนที่ดีเหมาะสมอยู่เคียงข้าง ถ้าผมยังจะรั้งเขาให้อยู่กับผม ก็เหมือนพาน้องมาลงนรกของความเจ็บปวดไม่จบไม่สิ้น  เพราะใจน้องไม่ได้อยู่กับผมอีกต่อไป อย่างนี้สินะที่เขาเรียกว่ากว่าจะรู้ค่าก็สายเกินไป

 

"ต่อไปนี้มินจะไม่ต้องรำคาญพี่อีกแล้วนะ พี่ขอโทษที่ตามมินเหมือนโรคจิต ขอโทษที่ทำให้มินลำบากใจ" ผมยกมือลูบหัวเด็กน้อยที่ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกรักผม  ครั้งหนึ่งเคยอยู่ใกล้ผม ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว น้องจะต้องมีความสุขกับคนที่รักเสียที

 

"..ฮึก...." มินไม่ได้เอ่ยอะไรกับผม แต่เขายังคงสะอื้นให้กับอกแกร่งของผม

 

"ไม่ร้องนะคนดี มินของพี่จะมีความสุขจริงๆ สักทีนะ หึๆ"  เป็นอีกครั้งที่ผมฝืนยิ้มให้กับน้อง

 

"คุณ...จะไปไหน"

 

"ห่วงพี่เหรอครับ" ผมแกล้งทำสายตาล้อๆ ใส่น้องที่เงยหน้ามองผมอยู่

 

"ปละ..เปล่า แค่สงสัย"

 

"จริงสินะ มินจะมาห่วงพี่ทำไม พี่นี่ตลกจริงๆ เลย ฮ่าๆๆๆ" ผมหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า

 

"พี่ไม่ได้ไปไหนหรอก เพียงแต่ต่อไปพี่ก็จะอยู่ในที่ของพี่ ไม่มาทำให้มินวุ่นวายอีก ดีใช่ไหมครับ"

 

"อือ"

 

"เห็นไหมมินของพี่ยังเห็นด้วยเลย"  มันเป็นเรื่องตลกที่ขำไม่ออกจริงๆว่ะ เมื่อคนที่ใจตรงกันแต่ผิดที่ผิดเวลาก็ทำให้เสียใจได้แบบนี้

 

"ทำกับข้าวให้พี่ทานหน่อยได้ไหม พี่หิวจังสงสัยจะเป็นเพราะเมื่อวานไม่ได้ทานข้าวเย็น แหะๆ"  ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้น้องร้องให้ไปมากกว่านี้แล้ว

 

"ที่บ้านไม่มีของสดเลย" น้องตอบผมเบาๆ แต่ยังคงก้มหน้างุดกับอกของผม

 

"ถ้าอย่างนั้นเราออกไปซื้อกันไหม"

 

"แล้วแต่คุณสิ"

 

"พี่ไปซื้อเองดีกว่า มินจะได้อาบน้ำ เดี๋ยวพี่กลับมานะ" ผมรีบลุกจากเตียงนอนหลังจากตกลงกันได้แล้วว่าตอนเช้าจะทานอะไร ถึงแม้ผมจะทำครัวไม่เป็นแต่ก็รู้ว่าอันนี้ผักอะไร เพราะตอนเด็กๆ ผมไปจ่ายตลาดกับคุณย่าเป็นประจำ

 

ผมจะเก็บความทรงจำที่ดีที่สุดของผมกับน้องในวันนี้ตลอดไป จะไม่คิดถึงเรื่องที่ทำให้ต้องทุกข์ใจอีกต่อไป แม้ว่ามันจะยังเจ็บและไม่รู้ว่าจะมีทางเยียวยารึเปล่า แต่อย่างน้อยเหตุการณ์ในวันนี้ก็คงทำให้ผมหายเจ็บลงได้บ้างเมื่อนึกถึงมัน

 

ผมหวังว่าไอ้ทิมจะรักมิน เหมือนที่มินรักมันมาก และมันจะไม่ทำให้น้องผิดหวัง ก่อนที่ผมจะไปดื่มเมื่อวาน ผมนัดเจอกับไอ้ทิมเพราะต้องการที่จะรู้ความรู้สึกของมัน ทุกคำที่มีนพูดกับผม ทำให้ผมมั่นใจว่ามันจะดูแลมินให้มีความสุขได้มากกว่าคนอย่างผม

 

"ผมรักมินมาก และพร้อมที่จะตายแทนได้ มินคือคนในครอบครัวผม" สายตาที่มันส่งมาบ่งบอกว่าไม่ได้โกหก ผมต้องปล่อยมือแล้วสินะ

 

"ฝากมินด้วยนะครับ"

 

"ทำไม? คุณไม่คิดจะเอามินกลับไปเป็นของคุณรึไง ที่คุณตามเราสองคนทุกวันเพื่ออะไร"

 

"ผมอยากจะแย่งน้องมาจากคุณ ถ้าเขายังรักผมอยู่บ้าง ผมจะทำทุกวิถีทางให้เขากลับมา แต่ผมแน่ใจแล้วว่ามินหมดรักผู้ชายเลวๆ อย่างผมแล้ว ระหว่างสุภาพบุรุษที่แสนดีอย่างคุณ กับผู้ชายธรรมดาที่แสนเลว

อย่างผม มินจะเลือกใครล่ะ ว่าไหมครับ"

 

"หมายความว่าคุณจะถอย"

 

"คงอย่างนั้น ผมอยากเห็นน้องยิ้มมีความสุขเหมือนเวลาที่เขาอยู่กับคุณ แต่ผมยังไม่ถอยตอนนี้หรอก ขอเข้าไปคุยกับน้องก่อน" หลังจากวันนั้นผมก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปหาน้องอีกเลย เพราะกลัวที่ต้องพูดมันออกมา ผมพยายามเลี่ยงทุกทาง ไปดื่มจนเมาหัวราน้ำ แล้วก็มาอยู่ในบ้านน้องโดยไม่รู้ตัว พระเจ้าคงอยากให้ผมเลิกยุ่งกับมินจริงๆ ท่านเลยจัดการส่งผมมาหาเขาเองเลย

 

อาหารต่างๆ ถูกจัดจนเต็มโต๊ะ มีทั้งของโปรดมินและของโปรดผม ทำเหมือนกับเราอยู่กันหลายคนอย่างนั้น

 

"น่าทานจัง" ผมส่งยิ้มให้มินที่คดข้าวใส่จานให้ผม

 

"......." น้องยิ้มตอบแต่ไม่ได้พูดอะไร

 

"ทานเยอะๆ นะ ตัวเล็กมากเลยรู้ไหม" ผมตักของชอบมินใส่จานให้เขา ก่อนที่น้องจะหันมาขอบคุณ แล้วตักของชอบผมใส่จานให้เหมือนกัน เราผลัดกันตักให้ไปมาจนผมอิ่มแปร้ น้องก็คงอิ่มไม่ต่างกัน ตลอดมื้ออาหารผมยิ้มให้น้องตลอด  รู้ว่าเขาอาจไม่เต็มใจที่จะทานกับผมแต่เพราะผมขอร้อง เขาเลยทำให้มื้อแรกและมือสุดท้ายของเราสมบูรณ์แบบที่สุด

 

"พี่ขอบคุณมินนะ ที่อุตส่าห์ทำอาหารอร่อยๆ ให้พี่ทาน"

 

"ไม่เป็นไรครับ"

 

"พี่คงต้องไปแล้วสินะ มินดูแลตัวเองดีๆ นะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาพี่ได้ พี่ยินดีช่วยเสมอ"  ผมยิ้มให้น้องก่อนจะยกมือลูบหัวเขาเบาๆ สองสามที

 

"ดูแลตัวเองเหมือนกันนะครับ"

 

ขายาวๆ ของผมค่อยๆ ถอยทีละก้าวอย่างช้าๆ อยากจะรั้งเวลาให้ยาวนานกว่านี้ หรือไม่ก็อยากให้มีปาฏิหาริย์สักครั้ง อยากให้มินเรียกผมและรั้งผมให้อยู่กับเขา จนมาถึงหน้าประตูรั้วระหว่างบ้านสองหลัง ผมถึงรู้ว่าปาฏิหาริย์มันไม่มีจริงๆ น้ำตาลูกผู้ชายของผมไหลลงอาบแก้มอีกครั้ง ผมไม่พยายามกลั้นมันไว้อีกแล้วปล่อยให้มันไหลออกมาอยู่อย่างนั้น ดีที่ไม่มีใครอยู่ในบ้านผมจึงเดินเข้าห้องนอนไปอย่างไม่ลำบาก จบแล้วสินะความรักที่ผมเป็นคนทำลายมันลงด้วยตัวของผมเอง

**********

ตอนนี้ขอบอกว่าดราม่ามาเต็มๆ ทั้งๆ ที่รักแต่ก็ต้องยอมปล่อย เพราะไม่อยากเลวในสายตาของคนที่ตนเองรักไปมากกว่านี้ บางคนอาจจะคิดว่าทำๆไมเฮียซองยอมแพ้ง่ายๆ เฮียไม่ได้ยอมแพ้นะคะ แต่เมื่อเข้าใจแล้วว่ารักน้องมินมากจึงไม่อยากให้คนที่รักต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เพราะเฮียเข้าใจว่าน้องรักกับพี่ทิมจริงๆ และคนใจแข็งอย่างมินก็ยังไม่พูดจนนาทีสุดท้าย ถึงแม้ว่าจะยังรักเฮียอยู่ก็ตาม

 :o12: :o12:

กว่าจะแต่งจบตอนร้องให้สองรอบ ไม่รู้ว่าจะเป็นเหมือนคนเขียนรึเปล่า


                              TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 18:55:24 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :o12:    สงสารน้องมินที่กำลังใจอ่อนอะ

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
สงสารทั้งสองคนบอกเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
พี่ซองค์ก็มาทำความรู้จักกับน้องมินใหม่ซิ เริ่มต้นใหม่ทิ้งซองค์คนเก่าไป พรุ่งนี้เช้าตื่นมาทำความรู้จักน้องใหม่นะ

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อย่าลืมว่าคนที่ทรมานมันคือทั้งคู่นะน้องมิน แล้วการให้โอกาสมันก็คือให้กับทั้งตัวเราเองแล้วก็พี่เขา ปรับความเข้าใจ ให้เขาเข้าใกล้จะได้รู้ตัวเองว่ายังรักอยู่มั้ย ดีกว่าไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เอางี้จริงเหรอซองมิน :serius2:
ตามนั้น
เอาใจช่วยทั้งคู่นะ :hao5:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สงสารซองเลยทั้งๆที่บอกเลยเกลียดมาตลอดแต่สงสาร

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
อ่านถึงตอนนีร้องไห้เลย ดีใจกะน้องที่ใม่ได้มองเข้าข้างเดียว :o12:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เศร้าแพร้บบบบบบบบ

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮืออออ
น้ำตาคลอเลยยยย
กลั้นไว้สุดๆ
 :mew6:

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
สมน้ำหน้า ไอ้บ้าซอง จบแบบไม่สมหวัง ก็ดีนะ อิอิ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :oo1:โอ้ย...ตาช้ำเลยอ่ะ อ่านวนสองรอบ

ไม่นะ. สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพพี่ซอง

อือออออ

 :sad4:  :o12:  :sad4:  :o12:   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ลองให้โอกาสนะ มินยังไม่เคยให้โอกาสดูใจพี่เขาเลย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ดราม่าหนักมาก!!

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ยอมปล่อย เพื่อให้ คนที่เรารัก มีความสุข (จิงๆ หรือ)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
อ่านตอนนี้แล้วสงสารซอง  แต่ตอนที่ซองพยายามปล้ำจูบมิน ก็นึกว่าเอาอีกแล้วกลับมาทำนิสัยแย่ๆ กับน้องอีกแล้ว  แต่มันไม่ใช่

ตอนนี้พี่ซองยอมถอยแล้ว  ว่าแต่มินจะยอมก้าวไปยื้อพี่ซองให้กลับมามีโอกาสอีกครั้งหรือเปล่า เพราะตอนนี้มินเองก็คงเจ็บ และอาจจะเจ็บหนักกว่าเดิม เมื่อพี่ซองยอมถอยโดยดี  จากกันทั้งที่ยังรัก เพียงแค่มินพูดมาคำเดียวว่าให้โอกาสพี่ซอง  ทั้งมินและพี่ซองก็จะมีแต่ความสุข

ออฟไลน์ rena36704

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao5: :hao5:  ขอบคุณนะครับ

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
แอบรัก ตอน17

 


 

(มิน)

 

เขากลับไปแล้ว พี่ซองกลับไปแล้วสินะ เรื่องของเราสองคนจะจบแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม ผมยืนมองตามแผ่นหลังของร่างแกร่งที่กำลังก้าวเดินจากผมไปทีละก้าวๆ ด้วยหัวใจที่เจ็บปวดราวกับจะแตกสลาย ผมอยากจะกล้าพอที่จะให้อภัยเขา อยากจะกล้าพอที่จะเริ่มต้นใหม่ แต่ผมกลับกลัวเกินกว่าจะยื่นมือไปคว้าอีกคนให้กลับคืนมา ร่างสูงเริ่มห่างออกไปทุกที แต่ผมยังคงทอดสายตามองตามคนที่เดินกลับไปแล้ว

 

ความเจ็บปวดที่เคยได้รับก่อนหน้านี้ดูจะเล็กน้อยไปเลย เมื่อเทียบกับวันนี้ที่ความสัมพันธ์ที่แสนยืดเยื้อของเราจบลงจริงๆ มันเจ็บจนไม่รู้ว่าตัวเองยังหายใจอยู่ได้ยังไง น้ำตาที่เคยไหลกลับไม่มีสักหยด หรือว่ามันเจ็บจนชินชาไปซะแล้ว

 

ผมเดินกลับเข้าบ้านด้วยความว่างเปล่า อยากจะพูดจะบอกกับใครสักคนเพื่อระบายความรู้สึกที่มันอัดอั้นอยู่ในใจให้คลายลงได้บ้าง เพราะถ้าผมยังอยู่แบบนี้อีกต่อไปผมอาจจะฟุ้งซ่านคิดทำอะไรบ้าบอโดยขาดการไตร่ตรองเลยก็ได้ ผมไม่ได้หมายความว่าจะทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายอะไรทำนองนั้นหรอก เพราะผมยังรักตัวเองอยู่ แต่ไม่อยากจมจ่อมอยู่กับความเศร้าเพียงลำพัง

 

"ฮัลโหล...ว่าไงครับมิน" ผมตัดสินใจโทรหาพี่ทิมในทันที เพราะไม่รู้จะปรึกษาใครแล้ว

 

"พี่ทิม ฮึก...ฮือ” น้ำตาผมที่มันไม่มีทีท่าว่าจะไหลเลยก่อนหน้านี้ กลับเอ่อคลอเต็มสองหน่วยตา จนยากที่จะสะกดกลั้นเอาไว้ได้

 

"มินร้องให้ทำไมครับ" เสียงพี่ทิมที่ดูจะตกใจกับการร้องให้ฟูมฟายของผม

 

"เขาไปแล้ว พี่ซอง..ฮึก ..ทิ้งมินไปแล้ว"  ผมร้องให้อย่างไม่อายเพราะความรู้สึกมันอัดแน่นอยู่ในอก รู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัว เพราะเวลามีปัญหาที่ไรต้องให้พี่ทิมคอยช่วยเสมอ

 

“ไม่ต้องพูดแล้วนะ รอพี่ก่อน เดี๋ยวพี่จะเข้าไปหาเดี๋ยวนี้แล้วค่อยคุยกันอีกที”

 

“ครับ”

 

“เออ! ว่าแต่เราอยู่บ้านใช่ไหม”

 

“ครับพี่ทิม...ฮึก... รีบๆ มานะ” พี่ทิมวางสายไปแล้ว คงกำลังรีบเดินทางมาหาผมอยู่แน่เลย ผมไม่รู้จะปรึกษาใครแล้วจริงๆ เพราะคนที่รู้เรื่องผมกับพี่ซองก็มีเพียงพี่ทิมคนเดียว ส่วนคนอื่นๆ ผมไม่กล้าเล่าให้ใครฟังหรอก  มันน่าอายเกินไป เพราะผมแอบรักคนที่เป็นพี่ชายเพื่อนตัวเองตั้งแต่เด็ก แถมเขายังไม่รักตัวเองอีก

 

เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง เสียงออดหน้าบ้านจึงดังขึ้น เป็นสัญญาณให้รู้ว่าคนที่ผมรอมาถึงแล้ว ผมรีบเดินออกไปหาพี่ทิมทันที  แค่ผมเจอพี่ทิมเท่านั้นแหละน้ำตาที่พึ่งเหือดแห้งไปไม่นาน ก็กลับมาไหลราวกับเขื่อนแตก พี่ทิมรีบเข้ามากอดปลอบ ลูบหลังลูบหัวผมอยู่อย่างนั้น ยิ่งเขาแสดงความสงสาร ผมก็ยิ่งร้อง จนตอนนี้หายใจไม่ออกจนต้องอ้าปากเพื่อสูดลมเข้าไปให้เต็มปอด

 

“พอแล้วๆ ร้องให้อะไรนักหนา ตาบวมหมดแล้ว  รู้ไหมว่าตอนนี้มินหน้าตาตลกชะมัด” ผมรู้ว่าพี่ทิมไม่ได้ตั้งใจจะล้อผม ที่เขาพูดแบบนี้เพราะต้องการให้ผมคลายเครียดและรู้สึกดีขึ้น

 

“ใครจะน่ารัก...ฮึก...เหมือนน้องเก้าของพี่ทิมล่ะ..ฮือ..” ทั้งๆ ที่น้ำตาผมยังไหลอาบแก้ม แต่ก็ยังมิวายต่อปากต่อคำกับพี่ทิม ก็ใครใช้ให้มาว่าผมล่ะ

 

“โอเคๆ พี่ยอมแพ้ เข้าบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกัน” ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินนำพี่ทิมเข้าไปในห้องรับแขก

 

ผมเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมาให้พี่ทิมฟังอย่างละเอียด เล่าไปก็ร้องให้ไปจนคุยแทบจะไม่รู้เรื่อง หยุดพักเป็นช่วงเพื่อไม่ให้ผมหายใจติดขัด เพราะตอนนี้ผมคัดจมูกมาก  ตาคงบวมปูดเท่าลูกมะนาว ส่วนจมูกคงจะแดงปลั่งเพราะเช็ดน้ำมูกที่ไหลตลอดเวลา หน้าตาคงดูไม่ได้ไปกว่าเดิมเป็นแน่ แค่คิดก็ไม่กล้าออกไปให้ใครเห็นหน้าแล้ว มีแต่พี่ทิมที่นั่งฟังผมเล่าไปด้วย แล้วยังมีหน้ามาล้อเรื่องความน่าเกลียดของผมอีก เป็นพี่ชายภาษาอะไรใจร้ายที่สุดเลย

 

แม้ว่าผมจะร้องให้เป็นเผาเต่า แต่กลับรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้พูดกับพี่ทิม มันเหมือนช่วยให้อะไรๆ ที่หนักอึ้งอยู่ในใจได้เบาบางลง แม้ว่ามันจะไม่หายแต่ก็ดีกว่าเก็บไว้คนเดียว

 

“พี่ถามมินจริงๆ มินยังรักคุณซองอยู่ไหม” พี่ทิมกลับมาแสดงสีหน้าจริงจังอีกครั้ง

 

“ไม่รู้” ผมได้แต่ส่ายหน้าเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง ที่ร้องให้เป็นบ้าเป็นหลังอยู่นี่มันคืออะไร อยากจะให้เรื่องราวของเรามันจบลงอย่างที่พูดจริงๆ รึเปล่า แล้วทำไมผมถึงไม่รู้สึกโล่งใจหรือสบายใจเลยล่ะในเมื่อพี่ซองเขาจะเลิกวุ่นวายกับผมจริงๆ แล้ว

 

“จะไม่รู้ได้ยังไง ตัวของตัวเองใจของตัวเองก็ต้องรู้ดียิ่งกว่าใคร เพียงแต่จะยอมรับความรู้สึกหรือไม่ก็เท่านั้น”

 

“มินกลัว...” ผมนั่งกำมือสองข้างแน่น ก่อนจะบีบเพื่อคลายความกังวลกับตัวเอง

 

“กลัวเรื่องอะไร บอกพี่สิ” พี่ทิมเดินมานั่งที่พนักโซฟาตัวที่ผมนั่งอยู่ ก่อนที่จะลูบหัวผมเบาๆ  ถ้าพี่ทิมเป็นพี่ชายผมจริงๆ ก็คงดี ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนคนในครอบครัวมันเกิดขึ้นกับผู้ชายคนนี้เสมอ พี่ทิมเป็นมากกว่าคนรู้จัก เป็นมากกว่าพี่ที่นับถือ แต่เขาคือคนในครอบครัวของผม

 

“กลัวว่าจะต้องเสียใจ” ผมตอบเสียงอ่อยๆ เพราะกลัวจะโดนพี่ทิมด่า ผมไม่ได้รองให้สะอึกสะอื้นแล้วเพราะความสบายใจที่ได้ระบายความทุกข์ออกมา บางทีก็กลัวพี่ทิมน้อยใจเพราะเวลามีปัญหาทีไรผมจะโทรหาพี่ทิมตลอด

 

“เด็กน้อยเอ้ย แล้วตอนนี้มินเสียใจไหม หรือว่ามีความสุขดีจนร้องให้แทบบ้าแบบนี้ มันจะดีกว่าไหมถ้ายอมให้โอกาสทั้งคุณซองแล้วก็ตัวมินเอง อย่างน้อยมินก็จะได้มีความสุขในปัจจุบัน อนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นก็เรื่องของอนาคตสิ ที่ผ่านมามินอาจจะเจ็บ เพราะคนที่มินรักเขาไม่ได้รู้สึกเหมือนกับมิน แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว"

 

"แล้วมินจะแน่ใจได้ยังไงว่าจะไม่เสียใจอีก" ผมรู้ว่ามันเป็นคำถามที่โง่สิ้นดี เพราะไม่มีใครที่สามารถล่วงรู้อนาคตที่จะเกิดขึ้นหรอก แต่ที่ถามเพราะอยากได้ความมั่นใจให้กับตัวเองก็เท่านั้น

 

"ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะต้องเสียใจอีกกี่ครั้ง แต่ก็ดีกว่าที่จะอยู่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ ลองเสี่ยงดูสักครั้ง แล้วค่อยถอยก็ยังไม่สายหรอกนะ"

 

"แต่มิน..."

 

"เฮ้อ...ทำไมน้องพี่ขี้ขลาดแบบนี้เนี่ย ฮึ" มือใหญ่ๆ ยังคงลูบหัวผมอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยผมก็ไม่ได้คิดหรือตัดสินใจทำอะไรบ้าบอคนเดียว เพราะผมยังมพี่ทิมเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับผมเสมอมา

 

"พี่ทิม" น้ำเสียงอ่อยๆ เหมือนขาดความมั่นใจของผมจะทำให้พี่ทิมรำคาญรึเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด

 

"แล้วแต่เราเลย พี่ก็ได้แค่แนะนำ เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคนเข้าใจไหม แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ก็ยังจะอยู่เคียงข้างน้องชายพี่เสมอ"

 

"เข้าใจ แต่มินก็อยากให้มีคนช่วยคิดนี่นา"

 

"ถ้าพี่บอกให้มินเดินหน้าจะทำตามไหม ถ้าเป็นพี่ๆ ว่ามันน่าเสี่ยงกว่าครั้งที่แล้วที่มินไปบอกรักคุณซองทั้งๆที่ไม่มีความหวังเลยสักนิด"

 

"แล้วมินจะเริ่มยังไงดี มินปฏิเสธพี่เขาไปแล้ว” เพราะผมเป็นคนตัดสัมพันธ์ครั้งนี้เองผมจึงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงถึงจะดีที่สุดสำหรับเราทั้งสองคน

 

“เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ทำเหมือนยังไม่เคยรู้จักกัน แล้วค่อยๆทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทั้งมินแล้วก็คุณซองเองนั่นแหละนะ เพราะยังไงพี่ก็แค่คนนอก”

 

“ขอบคุณครับพี่ทิม ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างเลย” ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่ทิม ก่อนที่อีกคนจะยิ้มทะเล้นในแบบที่ชอบทำเป็นประจำส่งให้กับผม

 

“ยิ้มทำไมครับ มินเศร้าอยู่นะ”

 

“อีกหน่อยก็ไม่เศร้าแล้ว เตรียมตัวเตรียมใจไว้เถอะ” พี่ทิมพูดให้ผมงงอีกแล้ว

 

“หมายความว่ายังไง” ผมถามอย่างงงๆ กับคนที่ชอบคิดอะไรไปไกลเกินกว่าที่ผมคิดเสมอ ทำให้ผมไม่สามารถตามความคิดพี่ทิมทันเลยสักครั้ง

 

“ก็เตรียมฟิตร่างกาย รอถวายตัวให้กับคุณซองยังไงล่ะ”

 

“บ้ารึเปล่าเนี่ยพี่ทิม พูดอะไรก็ไม่รู้”

 

“อ้าว! หรือว่ามินจะกดคุณซอง มินทำได้เหรอ”

 

“พี่ทิม!” ผมร้องเรียกพี่ทิมเสียงดัง เพราะตกใจกับคำพูดของเขา ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยิ่งทำให้ผมกลัว ผมยังไม่เคยคิดไปถึงขั้นนั้นเลยสักครั้ง แม้ว่าเกือบจะโดนพี่ซองปล้ำถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีอะไรมากไปกว่าการกอดจูบ แล้วถ้าถึงวันนั้นจริงๆ ผมจะทำยังไง จากที่ตอนแรกเครียดเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับพี่ซอง ตอนนี้ผมกลับต้องมาเครียดเรื่องนี้อีก จะเอายังไงดีล่ะทีนี้ ผมทำหน้ายุ่งหนักกว่าเดิม จนพี่ทิมหัวเราะก๊ากออกมาเสียงดัง

 

“มินนี่ตลกอ่ะ ดูทำหน้าเข้า”

 

“พี่ทิมไม่ต้องมาว่ามิน เพราะพี่ทิมก็ไม่ต่างจากมินหรอก”

 

“เรื่องอะไร”

 

“เรื่องที่จะโดนน้องเก้าจับทำเมียน่ะสิ”

 

 

“เฮ้ย! เด็กปากไม่ดี มาให้พี่จัดการซะดีๆ” หลังจากนั้นก็กลายเป็นสงครามย่อยๆระหว่างผมกับพี่ทิม พี่ทิมไม่ได้ทำร้ายร่างกายอะไรผมหรอก เขารู้ว่าผมเป็นคนบ้าจี้ จึงจัดการที่จุดอ่อนของผมจนตอนนี้หายใจแทบไม่ทัน พี่ทิมจึงยอมหยุด

 

 

ผมสบายใจขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย เหมือนยกภูเขาออกจากอก แม้จะยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง แต่ก็ดีกว่าที่จะปล่อยให้ชีวิตแต่ละวันผ่านไปพร้อมกับความเศร้า เพราะแค่นี้ผมก็ทุกข์ใจมานานเกินไปแล้ว ถ้าผมจะลองเสี่ยงกับรักครั้งนี้ดูสักครั้ง คงจะไม่ผิดใช่ไหม


*************



 (ครัวซองต์)

 

ช่วงนี้ชีวิตผมวนเวียนอยู่แค่ที่ทำงาน ร้านเหล้าแล้วก็บ้าน แต่กว่าจะกลับเข้าบ้านก็ตีสองตีสาม ทุกคนในบ้านหลับไปหมดแล้ว ออกจากบ้านไปทำงานก็เช้ากว่าทุกวัน ที่จริงไม่ได้ตื่นเช้าอะไรหรอก ผมแค่นอนไม่ค่อยหลับ ทั้งๆ ที่บางครั้งก็แสนจะง่วงแต่พอหลับตาลงทีไรภาพของมินก็มักจะโผล่มาให้ผมต้องสะดุ้งตื่นทุกที  ยิ่งผมเป็นคนยอมถอยเองผมก็ยิ่งเจ็บปวด ต้องยอมแพ้ทั้งๆ ที่พึ่งเข้าใจความรู้สึกตนเอง มันโคตรเจ็บจนบรรยายไม่ถูก แต่ก็สมควรแล้วที่ทุกอย่างจะจบลงแบบนี้ มันดีที่สุดสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกับมิน จะให้ผมไปเรียกร้องให้เขากลับมาหาผมก็คงจะเห็นแก่ตัวเกินไป จะให้ทำเลวๆ เหมือนที่ผ่านมาก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวน้องจะเกลียดผมไปมากกว่านี้

 

ผมยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกทีเดียวจนหมด ช่วงหลังๆ ผมมักจะมานั่งดื่มคนเดียวบ่อยๆ แม้มันจะไม่ได้ทำให้ผมลืมความเจ็บหรือลืมใครอีกคนลงไปได้แต่ก็ทำให้ผมคลายความเศร้าลงได้บ้าง

 

ความคิดผมวนเวียนกับเรื่องเดิมมาตลอดอาทิตย์ จำแต่คำพูดที่มินเคยว่าผม ถ้าผมยังเป็นอยู่อย่างนี้อีกหน่อยผมต้องบ้าแน่ๆ

 

"ไอ้ซองมึงจะดื่มอะไรนักหนาว่ะ" เสียงใครว่ะโคตรจะคุ้น ก่อนที่ผมจะหันไปทางต้นเสียงของไอ้คนมาใหม่

 

"มึงจะอะไรกับกูนักหนาไอ้คิณ" เป็นไอ้คิณจริงๆ เพราะมันเป็นเพียงคนเดียวที่รู้เรื่องของผม ส่วนบรรดาเพื่อนคนอื่นๆ ผมแทบจะไม่ได้เจอเลยช่วงหลังๆ ผมเบื่อที่ต้องคอยสวมหน้ากากเข้าหากัน ถ้าไม่มีธุระเรื่องงานจริงๆ ผมก็ไม่ติดต่อไปหาพวกนั้นหรอก

 

"อ้าวไอ้นี่คนเป็นห่วงยังจะมาว่าอีก ทำคุณบูชาโทษชัดๆ เลยกู" ดูคำพูดของมันสิ กวนประสาทผมชะมัดเลย

 

"ก็ไม่ได้อยากให้มึงมาห่วงกู"

 

"ถ้ากูไม่เห็นว่ามึงเป็นพี่ชายเมียกูไม่มีทางที่กูจะมาพูดบ้าบออยู่นี่หรอก"

 

"กูเคยบอกมึงรึไงว่าอยากให้มึงช่วย" ผมกวนประสาทมันกลับ คนยิ่งเมาๆ อยู่ อารมณ์ยิ่งขึ้นงายกว่าปกติ

 

"แล้วหมาตัวไหนโทรไปปรึกษาห่าเหวอะไรนั่นกับกู"

 

"ไอ้เชี่ยนิมึงอยากโดนใช่ไหม" ผมยกกำปั้นขึ้นใส่ไอ้คินแต่ไม่ได้ต่อยมันหรอก รู้หมดแหละว่ามันหวังดี แม้ว่าปากของมันจะชวบกวนอวัยวะเบื้องล่างผมตลอดก็ตาม

 

"เอาดิว่ะ อย่าดีแต่ปาก" มันยื่นหน้ามาใกล้ผม เป็นผมเองที่ต้องชักมือกลับ

 

"ถ้ากูไม่เห็นว่ามึงเป็นน้องเขยกู กูตั้นหน้ามึงไปแล้วไอ้เชี่ย" ผมวางมือลงแล้วเพราะไม่ได้จะต่อยไอ้คิณจริงๆ หรอก ที่จริงไม่ได้เกลียดอะไรมันนักหรอก ออกจะถูกชะตาด้วยซ้ำ แต่หมั่นใส้ที่มันมาแย่งความรักจากน้องผมไป แถมยังชอบโชว์หวานต่อหน้าผมอีก

 

"ที่แท้ก็ไม่กล้า ไอ้ป๊อดเอ้ย"

 

"อย่ามากวนส้นตี...กู"

 

"เออๆ กูเลิกยั่วโมโหมึงแล้ว ตกลงมึงเป็นอะไร ไม่ได้ทำตามที่กูบอกรึไง ถึงต้องมานั่งเป็นหมาหงอยอยู่อย่างนี้" ไอ้คิณมันหันมาถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง

 

"ทำแล้วแต่เปล่าประโยชน์" ผมตอบเสียงเบาเพราะความเจ็บมันแล่นแปล๊บเข้ามาในใจทันที

 

"รู้ได้ยังไงว่าไม่ได้ผล"

 

"ก็มินเขามีคนรักแล้ว แถมมันยังเป็นผู้ชายที่โคตรแสนดี เพอร์เฟคอีกต่างหาก กูจะเอาอะไรไปสู้วะ" ไอ้ทิมมันดูเป็นคนดีจนน่าหมั่นใส้ ขนาดผมที่ไม่ชอบหน้ามันยังต้องยอมรับในความดีหลายๆอย่างของมันเลย

 

"ใคร.."

 

"ไอ้ทิม"

 

"ฮ่าๆ ไอ้ทิมน่ะนะ" ดูมันหัวเราะสิครับ ไอ้นี่มันกวนประสาทเป็นที่สุดแล้ว

 

"มึงหัวเราะทำเชี่ยไร ตลกนักรึไง"

 

"มึงมันโง่ไง ไอ้ทิมมันแกล้งมึงรึเปล่า มันกวนตีนจะตายไป มึงไม่รู้อะไรตอนกูจีบพายใหม่ๆ มันยังทำเหมือนจะจีบพายแข่งกับกู แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันแค่แกล้ง" ผมถึงกับตกใจเมื่อได้ยินมันพูดเรื่องนี้ แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะแกล้งเหมือนครั้งก่อน

 

"มันเคยจีบน้องกูจริงเหรอว่ะ"

 

"มันไม่ได้จีบแต่มันกวนประสาท"

 

"ยังไง"

 

"มึงนี่มันโง่จริงๆ เล่ยว่ะ สมควรแล้วที่จะโดนทั้งมินแล้วก็ไอ้ทิมหลอก"

 

"มึงเลิกด่ากูสักห้านี่ทีแล้วช่วยเล่าให้มันละเอียดกว่านี้ได้ไหมว่ะ" ผมชักจะหมดความอดทนกับไอ้คิณแล้วจริงๆ จะให้มันช่วนอะไรก็ต้องยอมฟังคำด่า คำถากถางของมันสารพัด

 

"ไอ้ทิมมันไม่เคยมีท่าทีจะจีบมินเหมือนกับที่มันทำกับพายเลยสักครั้ง แล้วมันจะไปเป็นแฟนกับมินตอนไหน"

 

"มึงหมายความว่าทั้งสองคนนั้นหลอกกูเหรอว่ะ"

 

"เออ...เลิกโง่ได้แล้วมึงน่ะ มึงลองคิดดูสิ ตั้งแต่มินบอกรักมึงวันนั้น แล้วอาทิตย์ต่อมินก็คบกับไอ้ทิม มันเอาเวลาไหนไปจีบมิน ทั้งๆ ที่มันแทบจะไม่ได้มาที่ร้านเลยด้วยซ้ำ"

 

"เขาอาจจะจีบกันโดยที่มึงไม่รู้ก็ได้"

 

"กูไปเฝ้าเมียกูตลอดทำไมจะไม่รู้ สายตาที่มันมองมินไม่เหมือนคนรักกันเลยสักนิด อย่างมากมันก็แค่เอ็นดูมิน" สิ่งที่ไอ้คิณพูดมันจะจริงเหรอ ผมยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ใจผมตอนนี้จริงๆ เชื่อไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนงานนี้

 

"ถ้าอย่างนั้นกูก็พอมีหวังสิว่ะ"

 

"อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวมึงแล้ว ว่าจะทำมันพังอีกรึเปล่า"

 

ผมเริ่มจะเข้าใจทุกอย่างแล้วว่าที่น้องทำท่าทางเหมือนเป็นแฟนกับไอ้ทิมเพียงเพราะต้องการให้ผมออกห่างจากเขา น้องอาจจะยังรักผมอยู่บ้างก็ได้  ผมเริ่มรู้สึกเหมือนมีกำลังใจขึ้นมา

หัวใจที่ดูเหมือนจะเหี่ยวเฉาเหมือนกับลูกโป่งที่โดนสูบลงออก ตอนนี้มันกับพองฟูราวกับระเบิด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาผมเหมือนคนกำลังจะตาย แต่ตอนนี้ผมฟื้นคืนชีพแล้วว่ะ

 

"ขอบใจมึงมากไอ้น้องเขย"

 

"เหอะ...เก็บคำขอบคุณของมึงไว้เถอะ กูแค่ไม่อยากให้เมียกูเสียใจที่พี่ชายของเขาทำตัวแบบนี้"

 

 

"จะเพราะอะไรก็ช่าง กูก็ยังจะขอบใจมึงอยู่ดี กูกลับล่ะ" ผมพูดแค่นั้นก็หยิบเงินขึ้นมาจ่ายโดยไม่รอเงินทอน ขอกลับไปบ้านนอนพักให้เต็มอิ่มดีกว่า แล้วจะกลับมาเริ่มทำอะไรดีๆ ให้ชีวิตตัวเอง

******************

 

เฮียซองมาแล้ว อ่านมุมน้องมินและมุมเฮียดูว่าจะแก้ปัญหายังไง คู่นี้ถ้าไม่มีตัวช่วยคงไม่สมหวังว่าไหมค่ะ

คู่ไม่ได้สวีทกันเลย  :z6:ใครที่รอ NC คู่นี้ก็รอต่อไป   Nc ไม่เยอะ

แล้วทั้งสองจะรักกันได้ยังไงติดตามตอนต่อไป(พูดเหมือนไตเติ้ลละครไทย)


                                TBC.

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ขอตอนที่น้องมินได้ทรมานพี่ซองค่ะ.
นอกระเบียงหรือบนเตียงก็ได้. ฮ่าๆๆๆ
คนอ่านซาดิสเนอะ.
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด