หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.  (อ่าน 64592 ครั้ง)

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พี่ซองเองก็ชอบน้องมินเหมือนกัน
ทั้งๆที่ใจตรงกันแท้แท้
ไปหาหมอผ่าหมาออกจากปากก่อนไหม
ก่อนที่น้องจะไปคบคนอื่น
พูดยาก ท่ามาก ก็แห้วนะคะคุณ :laugh:


ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สมน้ำหน้า ไม่ยอมรับความรู้สึกที่มีต่อมินแล้วยังผลักไสเค้าอีก

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า แอบรัก ตอน10



              (มินนี่)

 

ผมตื่นขึ้นมาช่วงสายของอีกวันดูนาฬิกาถึงกับตกใจเลยทีเดียว เกือบจะเก้าโมงแล้ว แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ขยับตัวจะลุกจากเตียงนอนด้วยความเคยชิน ก่อนที่จะวางเท้าลงบนพื้น ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าที่แพลงจนเต็มแรงอย่างลืมตัว

 

"โอ้ย!" ผมร้องเสียงหลง ก่อนที่จะขยับตัวลงนั่งบนเตียงนอนเหมือนเดิม มองข้อเท้าที่มีผ้าก๊อซพันอยู่ ก่อนที่จะคลายออกดู ตอนนี้มันบวมหนักกว่าเดิม หนักกว่าตอนที่แพลงแรกๆ อีก เขาคงเป็นคนทำแผลให้ผมสินะ แล้วตอนนี้เขาไปไหนแล้ว ไม่อยู่ก้ดีแล้วนี่นา ผมเผลอคิดถึงคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด กล่องปฐมพยาบาลยังคงวางอยู่ตรงหัวเตียง ผมตัดสินใจพยุงตัวลุกขึ้น ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าข้าางที่ไม่เจ็บอย่างระวัง ก่อนที่จะเดินกะเผลกเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว  เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นมาสองรอบแล้วครับ แต่ผมก็ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นจะให้วิ่งไปรับคงทำไม่ได้ สงสัยวันนี้คงต้องโทรไปลางานพี่พายแล้ว เพราะถ้ายืนทั้งวันมีหวังบวมกว่านี้แน่นอน

 

อาบน้ำเสร็จเสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กก็ยังคงแผดเสียงไม่ยอมหยุด  ค่อยๆ เดินกะเผลกไปหยิบโทรศัพท์ตรงหัวเตียงขึ้นมารับ เบอร์นี้ผมไม่ได้เมมไว้ ไม่รู้ว่าใครโทรมาแต่เช้า สงสัยจะธุระสำคัญเพราะเสียงโทรศัพท์ดังแทบตลอดช่วงที่ผมเข้าห้องน้ำอยู่

 

"สวัสดีครับ" 

 

"มัวทำอะไรอยู่ทำไมไม่รับโทรศัพท์ กูโทรจนสายจะไหม้แล้วมั้ง" เสียงปลายสายที่แสนจะห้วนและเสียงดัง แสดงถึงความไม่สบอารมณ์ของเจ้าตัวเป็นอย่างมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเป็นใครไอ้น้ำเสียงแบบนี้มีอยู่แค่คนเดียว แล้วไปเอาเบอร์ผมมาจากไหน

 

"ใครครับ" ผมแสร้งถามให้เขาหงุดหงิดเล่น ผู้ชายห่ามๆ ปากไม่ดีคงไม่ใช่คนอื่นหรอก

 

"กูเอง"

 

"กูเนี่ยใครครับผมไม่รู้จัก"

 

"อย่ากวนประสาทกูแต่เช้านะมิน มึงรู้ว่ากูเป็นใคร" รู้แล้วทำไม เหอะ ทำคนอื่นเจ็บแล้วยังมีหน้ามาปากดี ตัวเองนั่นแหละปากหมากวนประสาทคนอื่นแต่เช้า

 

"แล้วมีอะไร โทรมาทำไม"

 

"มึงโทรไปลางานกับพายเลยนะ วันนี้ไม่ต้องไปทำงาน ขามึงเจ็บอยู่" เพราะใครล่ะที่ทำให้เป็นแบบนี้ ไอ้หมาบ้า ดีแต่ออกคำสั่งกับคนอื่น

 

"ถ้าผมจะไปคุณจะทำไมไม่ทราบ"

             

"มึงจะไปได้ไงเท้าแพลงอยู่ จะไปยืนเดินทั้งวันได้ไงห๊ะ" แล้วจะตะคอกทำไมหูไม่ได้หนวกนะโว้ย ไอ้บ้านิ

 

"ขาของผม จะเดินจะวิ่งก็เรื่องของผม"

 

"อย่าให้โมโหนะมิน ถ้ากูประชุมเสร็จ กลับไปแล้วไม่เห็นมึงอยู่บ้านเจอดีแน่" ไม่ต้องมาขู่เลย ที่ไม่ไปไม่ได้กลัวเว้ย แค่เดินไม่ไหวเท่านั้น แล้วก็คิดไว้แล้วไม่ได้ทำตามคำสั่งหมาที่ไหน

 

"จะมาทำไม ไม่ได้อยากให้มาสักหน่อย"

 

 

"เรื่องของกู" ไอ้ปากหมา พูดไม่เพราะ นิสัยแย่ ชอบบังคับ ไอ้เลวเอ้ย แอบด่ามันในใจกลัวได้ยินแล้วจะงานเข้าผมอีก

 

"แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด"

 

"เออ แต่ถ้ากูกลับไปไม่เจอมึงอยู่บ้านนะเจอดีแน่" จะขู่อะไรนักหนาเป็นหมารึไง วางสายไปแล้วครับ ผมว่าเขาต้องบ้าแน่เลยทำเหมือนเป็นห่วงกัน แต่การกระทำกับคำพูดนี่มันไม่ใช่เลย ก้อนเนื้อในอกผมแอบสั่นไหว ไม่ใช่หรอกเขาไม่ได้ห่วงผม แค่รู้สึกผิดที่ทำผมเป็นแบบนี้ อย่าเผลอไปรู้สึกบ้าบอแค่คำพูดไม่กี่คำ ผมสลัดความคิดบ้าๆ ออกไปจากหัว ก่อนที่จะจัดการโทรหาพี่พาย รายนี้เป็นห่วงผมใหญ่เลยบอกว่าตอนเย็นจะเข้ามาหา คงกลัวไม่มีคนดูแลเพราะแม่ผมไม่อยู่นี่นา

 

หลังจากวางสายจากพี่พายผมก็ลงมาหาอะไรทานข้างล่าง กว่าจะเดินลงมาถึงก็ใช้เวลามากโขจนผมต้องหยุดนั่งพักที่โซฟาด้านล่างตรงห้องรับแขกก่อน พึ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมพันผ้าก๊อซที่ข้อเท้ามิ น่าล่ะมันถึงปวดกว่าเดิม แต่จะให้ผมเดินกลับขึ้นไปคงไม่ไหว ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ เดี๋ยวก็คงดีขึ้น ลุกเดินไปทำอะไรง่ายๆ ทานในครัว ง่ายสุดคงจะเป็นบะหมี่นี่แหละ ผมจัดการต้มน้ำร้อนใส่เนื้อใส่ผักลงไปนิดหน่อยแค่นี้ก็ทานได้แล้ว นั่งทานบะหมี่ไปข้อเท้าที่แพลงก็เริ่มจะแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์

 

มันเริ่มจะปวดมากขึ้นกว่าเดิม ยาก็ไม่มีทาน ดูข้อเท้าผมตอนนี้เริ่มจะบวมเป่งจนตึงไปหมดแล้ว  ผมแข็งใจเดินเอาเสื่อมาปูหน้าโซฟา พร้อมกับหมอนใบเล็ก ก่อนจะล้มตัวลงนอนเพราะไม่รู้จะทำอะไร โทรศัพท์ก็ลืมไว้บนห้อง  พยายามข่มตาให้หลับแต่อาการปวดตุบๆ ที่ข้อเท้าก็ทำลายความง่วงของผมลงไป นอนทรมานหลับๆ ตื่นเพราะปวดข้อเท้า

 

เสียงเปิดประตูบ้านผมดังขึ้น แต่ไม่คิดจะใส่ใจลืมตาขึ้นมาดูว่าใครมา หรือว่าจะเป็นพี่แม่บ้านของบ้านพี่พายเอาอาหารมาให้ เพราะพี่พายสั่งไว้  ผมหลับตาลงอีกครั้ง เพราะอยากจะคลายจากความเจ็บที่ข้อเท้าสักนิดก็ยังดี ขยับขาแต่ละทีน้ำตาแทบเล็ด เสียงฝีเท้าหนักๆ เดินมาทางผม แต่ผมก็ยังหลับตาหันหลังให้กับผู้มาใหม่

 

"พี่น้อยเหรอฮะ” ทำไมพี่น้อยไม่ตอบหรือว่าไม่ได้ยิน

 

"พี่น้อยฮะ" ยังไม่ตอบเหมือนเดิม แต่มืออุ่นๆ ของใครบางคนสัมผัสที่ข้อเท้าของผมเบาๆจนผมเผลอชักข้อเท้ากลับ

 

"อือ...เจ็บ" ผมลืมตาขึ้นมาดูข้อเท้าที่ตอนนี้มันเต้นตุบๆ มากกว่าเดิม

 

"ขยับทำไม" เสียงห้วนๆ ของคนที่นั่งอยู่ตรงปลายเท้าผมดังขึ้น สายตาที่มองมานี่ช่างดูเย็นชาดีเหลือเกิน

 

"มาตั้งแต่เมื่อไหร่"

 

"ทำไมไม่พันผ้าที่ข้อเท้า ทานข้าว ทานยารึยัง" เขาไม่ตอบคำถามผม แต่กลับถามผมคืนซะอย่างนั้น

 

"ถามทำไม"

 

"กูถามก็ตอบมิน" ที่คนอื่นถามยังไม่ตอบเลยไอ้หมาบ้า จะให้ตอบแต่คำถามตัวเองรึไง เอาแต่ใจที่สุดเลย ไม่เห็นจะเหมือนที่พี่พายกับบราวนี่บอกสักนิด ว่าพี่ชายเขาแสนใจดี เอาใจเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ แต่นี่อะไร ใจร้ายล่ะสิไม่ว่า

 

"กินข้าวแล้ว" ผมเลี่ยงที่จะตอบเรื่องยา เพราะมันไม่มีให้ทานนี่นา ส่วนผ้าก๊อซก็ลืมที่จะพันตรงข้อเท้าก้เท่านั้น

 

"แล้วยา" ยังวกกลับมาเรื่องเดิมอุตส่าห์ตอบเบี่ยงประเด็นไปแล้ว

 

"ไม่ได้กิน"

 

"ทำไมไม่กินยาห๊ะ" คนบ้าก็ยังบ้าอยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางที่จะพูดดีๆ เหมือนคนอื่นเขาได้หรอก

 

‘ก็มันไม่มียาจะให้กูแดรกอะไร’  อันนี้แค่คิดในใจ

 

"จะเสียงดังทำไม พูดดีๆไม่เป็นรึไง ไม่ได้ขอร้องให้มาดูแล" ถ้ามาดูแลแล้วมันลำบากมากนักก็ไม่ต้อง กลับไปทางเดิมเลยไป

 

"เออ! ไม่ได้ขอร้องไงกูเสือกเองจะทำไม"

 

"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมายุ่ง จะมาทำไม ปล่อยให้เจ็บอยู่แบบนี้แหละ" ผมไม่ได้ประชดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขานะครับ แค่หงุดหงิดที่เขาชอบทำเหมือนผมเป็นคนผิดทำให้เขาเดือดร้อนอย่างนั้นแหละ

 

"ก็คนเป็นห่วงไม่เข้าใจรึไงห๊ะ" หูผมไม่ได้ฝาดใช่ไหม เขาเป็นห่วงผม แต่ไอ้คนที่พูดมันเดินขึ้นบันไดไปแล้ว วันนี้ไอ้หมาบ้ามันกินยาลืมเขย่าขวดรึไง ถึงแสดงอาการแปลกๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สักพักเขาก็เดินลงมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาล

 

เขาซื้ออะไรมาไม่รู้เยอะแยะวางอยู่ข้างๆ ตรงที่ผมนั่งอยู่ ผมหันไปมองคนที่เดินลงบันไดอย่างไม่เข้าใจการกระทำของเขาเลยแม้แต่น้อย เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ เหมือนจะเป็นห่วงแต่ก็พูดแต่คำร้ายๆ ใส่กัน

 

“ลุกขึ้นนั่งดีๆ” เขาถอดเสื้อสูทสีเข้มออก เหลือแต่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีสีฟ้าอมเทา ก่อนที่จะพับแขนทั้งสองข้างขึ้นอย่างลวกๆ นั่งแหมะลงข้างๆ ผม

 

“ทำไม”

 

“บอกให้ลุกก็ลุกมิน” ทำไมไม่มีเหตุผลอะไรสักอย่าง อยากให้ทำนู่นทำนี่ แต่ไม่บอกว่าทำๆไม ผมพยุงตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไม่อิดออด ก่อนที่เขาจะจับข้อเท้าข้างที่แพลงของผมไปวางไว้ตรงหน้า บรรจงทายาอย่างเบามือ เจลเย็นๆ ทำให้ผมคลายความปวดลงไปได้เล็กน้อย เขาควานหาของในถุงที่เขาพึ่งซื้อมาก่อนที่จะนำผ้าก๊อซออกมาพันข้อเท้าให้กับผม ผมเอาแต่จ้องคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เป็นเขาจริงๆ ใช่ไหมที่ทำแบบนี้ให้ผม เผลอมองจนคนที่พันผ้าก็อซเสร็จเงยหน้าขึ้นมาปะทะกับสายตาผม จนผมเองต้องเป็นฝ่ายเสหลบสายตาเขาไปเอง

 

“นี่ยาก่อนอาหาร ทานซะ” เขาลุกเดินไปอีกรอบ แต่คราวนี้ไปในครัว กลับมาพร้อมกับแก้วน้ำในมือ ยื่นให้ผมแต่ไม่พูดอะไร ผมรับมาก่อนที่จะโยนยาสองเม็ดเข้าปากไป ไอ้หมาบ้ามันเดินไปในครัวอีกรอบพร้อมกับถุงอาหารที่คงจะซื้อมา ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้ที่จะทำอะไร ได้แต่มองตามคนที่ลับสายตาไปในครัว อีกสักพักเขาก็กลับออกมา ด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ไอ้ผู้ชายหน้าตาย

 

“ไปกินข้าวเที่ยง จะได้กินยาหลังอาหาร”

 

“อือ...” พยายามพยุงตัวเองลุกขึ้น แต่คราวนี้กลับไม่มีแรง ขาข้างเดียวไม่สามารถรับน้ำหนักตัวผมได้ มันจึงยากที่ผมจะลุกด้วยตนเอง สองมือยังคงค้ำอยู่ที่พื้น แต่ไอ้คนบ้ากลับไม่พูดอะไรก้มลงช้อนตัวผมขึ้นอุ้มอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

 

ผมตั้งรับอารมณ์เขาไม่ทันจริงๆ คุ้มดีคุ้มร้าย แม้ว่าเรื่องเมื่อคืนผมยังลืมไม่ลง แต่การกระทำของเขาทำให้ผมสับสน จนเผลอจ้องหน้าเขาอยู่นาน โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาวางผมลงนั่งบนเก้าอี้ตอนไหน

 

“มองอะไร ทานไปสิข้าวนะ มองหน้ากูแลวจะอิ่มไหม” อาหารสามสี่อย่างที่เขาซื้อมามีแต่ของโปรดผมทั้งนั้น ผมจ้องอาหารแล้วก็หันไปจ้องหน้าเขาอีกที อาจจะแค่ความบังเอิญ เขาจะไปรู้ได้ไงว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไร

 

จานข้าวมีสองจาน เขาคงจะทานด้วย เพราะนี่มันก็เลยเที่ยงมาเยอะแล้ว คงจะประชุมเสร็จแล้วตรงดิ่งมาหาผมเลย เผลอคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว หัวใจผมจะกลับมาอ่อนแออีกไม่ได้แล้ว ไม่อยากเสี่ยงกับความเจ็บเป็นรอบที่สอง ผมต้องเข้มแข็ง

 

เราสองคนนั่งทานอาหารเงียบๆ ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ทานไปเรื่อยๆ จนผมรู้สึกอิ่มจนแน่น เพราะผมทานเยอะจริงๆ แม้ว่ายังตะขิดตะขวางใจกับไอ้คนที่ซื้อมาให้ก็ตาม แต่อาหารมันอร่อยนี่นา เลยทานไปซะเยอะเลย

 

อยู่ดีๆ ไอ้คนที่นั่งตรงข้ามผมก็ลุกพรวดขึ้นมาจนผมสะดุ้ง เดินไปที่ตู้เย็นเทน้ำใส่แก้วมาวางไว้ให้ผม ก่อนที่จะเอาไปวางไว้ฝั่งตนเอง

 

“ไม่มีอะไร กูแค่หิวน้ำ”  เหอะ นี่ถ้าไม่หิวก็ไม่คิดจะมีน้ำใจเอามาให้เลยใช่ไหม ตอนแรกกำลังอ้าปากจะของคุณ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าดีแล้วที่ยังไม่เอ่ยมันออกไปกับไอ้คนพรรค์นี้

 

ผมอิ่มจนไม่อยากลุกไปไหน มองจานอาหารที่ตอนนี้เหลือแต่เศษซากที่เราสองคนจัดการจนเกลี้ยง ผมคงต้องลุกไปล้างจานแล้วแหละมั้ง เขาอุตส่าห์ซื้อมาให้ จะให้เขาทำได้ยังไงล่ะ ผมกำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นด้วยขาข้างเดียว ก่อนที่จะสะดุ้งโหยงเพราะเสียงดังๆ ของไอ้คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

 

“จะไปไหน” อยากจะถามเหลือเกินว่านี่พูดเบาๆ ไม่เป็นเลยรึไง ทำไมตะคอกตลอดเวลา เจ็บคอไหม หรือจะเอายาอมไหมล่ะ อะไรประมาณนี้ แต่ก็สงบปากสงบคำไว้แหละดีแล้ว เพราะไอ้ผู้ชายตรงหน้ามันทั้งบ้าทั้งเลว ขืนพูดอะไรผิดใจมีหวังโดนมันทำร้ายร่างกายแน่

 

“ไปล้างจาน” นี่ใจเย็นสุดแล้วนะ พยายามไม่มองหน้าคนตรงกันข้าม ไม่อยากเห็นหน้าตากวนบาทาของเขา

 

“ไม่ต้อง นั่งลงที่เดิม อย่ามาอวดเก่ง เดินยังไม่ไหว” เดินไม่ไหวแล้วไงล่ะ มันเป็นความผิดผมรึไง แต่ผมก็ยอมทำตาม เพราะยังไม่อยากทะเลาะกับคนตรงหน้าอีก

 

ไอ้หมาบ้าลุกขึ้นเก็บจานชามไปไว้ที่ซิงค์ก่อนที่จะลงมือล้างจานอย่างเก้ๆกัง จะทำเป็นได้ยังไงก็ตั้งแต่เด็กเคยเข้าครัวกับเขาที่ไหน ผมเห็นเขาล้างจานตอนนี้ยังตกใจเลย ไม่คิดว่าเขาจะทำ

 

“นั่นไงน้ำยาล้างจาน บีบใส่ฟองน้ำแล้วก็ล้างคราบอาหารออกจากจานก่อนสิค่อยเอาสก็อตไบรท์ไปถู”

 

“รู้แล้วน่า ไม่ต้องมาบอก” เหอะ รู้อะไรเมื่อกี้ยังไม่ล้างคราบอาหารเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่บอกนี่จะเป็นยังไง ไอ้คนปากเก่ง

 

ผมนั่งมองความเงอะงะของเขา แต่ก็ไม่บอกหรอกปล่อยให้ทำไป บอกมากจะหาว่าเสือกอีก กว่าจะล้างจานเสร็จ ไอ้คนที่ล้างก็เสื้อผ้าเปียกมะล่อกมะแล่กแล้ว สม  ปล่อยไปตามยถากรรมของคนปากเก่ง

 

“ไปจะได้ทานยา” พูดจบปุ๊บก็อุ้มผมขึ้นแนบอกทันที

 

“ปล่อย เดินเองได้” คราวนี้ไอ้คนบ้ามันปล่อยผมจริงๆ ครับ  วางผมลงพื้นอย่างไม่ค่อยจะเบานัก หน้านี่เหวี่ยงผมไปแล้ว เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย

 

“เดินสิ ยืนทำไม” ผมค่อยๆ ตั้งหลักใช้ขาข้างที่ไม่เจ็บยืนเป็นหลักไว้ ก่อนที่จะค่อยๆ ก้าวขาอีกข้างไปวางข้างหน้า ไม่ทิ้งน้ำหนักตัวลงมา ตั้งหลักอยู่สักพักก็เปลี่ยนอีกข้างสลับ ตอนนี้บอกเลยว่าทั้งปวดทั้งชาปนเปกันไปหมด ไอ้คนที่ยืนมองผมนี่ก็ทำหน้านิ่ง ไม่คิดจะช่วยพยุงกันเลยใช่ไหม มันเจ็บนะเว้ย

 

น้ำตาไหลแล้วแม่ง เจ็บ ไอ้บ้า ไม่ช่วยจริงๆ ใช่ไหมห๊ะ ยืนหน้าตายเหมือนคนไร้ความรู้สึกอย่างนั้นแหละ เออไม่ช่วยก็ไม่ต้องช่วย พยายามแข็งใจเดินไปจนถึงห้องรับแขก กว่าจะถึงก็ใช้เวลาชาติเศษ  ถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความโล่งอก ก่อนที่จะนั่งลงบนพื้นที่ผมปูเสื่อไว้ตั้งแต่เช้า

 

นั่งแหมะลงอย่างไม่ไยดีกบความเจ็บปวด และไอ้คนที่ตอนนี้มันนั่งลงข้างๆ ผม  ทำไมยังไม่กลับมิทราบมานั่งทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างทำไม 

 

“เอาขามาดูสิ” ผมชักขากลับแต่อีกคนกลับดึงไปอย่างไม่แยแส คลายผ้าก๊อซที่พันไว้ออก มองดูข้อเท้าที่ปวมเป่งก่อนจะส่ายหน้าเหมือนเอือมระอาผม

 

“กูว่าแล้วบวมหนักกว่าเดิม” ยังมีหน้ามาว่าผมอีกเหรอ

 

“เพราะใครล่ะ ไม่คิดจะช่วยกันเลย”

 

“กูช่วยอุ้มแล้ว แต่มึงปากดีเอง” เออ แล้วทำไมล่ะ ก็เห็นอยู่ว่าคนขาเจ็บทำไมต้องให้ขอร้อง มันเสียศักดิ์ศรีรู้ไหม มาทางไหนกลับไปทางนั้นแล้วไม่ต้องมาอีกไปเลยไป

 

“เออ”

 

“แดกเข้าไปนี่ยา จะได้รีบหาย” ทำไมเบื่อที่จะต้องดูแลแล้วรึไง ไม่ได้ขอร้องให้มาดูแล ผมรับยามากินแต่โดยดีเบื่อที่จะต่อปากต่อคำ กินเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอน สลึมสลือเหมือนมีใครเอายาเย็นๆ มาทาที่ข้อเท้า ก่อนที่ผมจะหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยาที่ผมกินเข้าไป

 

 

***************************

 

อีเฮียซองมาแล้ว ตอนนี้นางมุ้งมิ้งนะ(เอ่อมุ้งมิ้งแล้วเหรอ)จะเอาอะไรกับคนห่ามๆ ปากหมา แบบมันเนอะ แต่อีเฮียน่ารักนะตอนนี้ น่ารักสุดได้เท่านี้แหละ จะให้หวานเหมือนไอ้คุณคิณบ้านน้องพายไม่ได้หรอก รายนั้นเขาน้ำตาลเรียกพี่แต่ไหนแต่ไร อดทนกับความห่าม เถื่อน ปากหมาของพระเอกหน่อยนะ เพราะมันผีเข้าผีออก วันนี้ดีพรุ่งนี้อาจจะบ้า จับไปศรีธัญญาดีไหมมันจะได้หายเป็นปกติ

                TBC.

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เฮียมันเถื่อนตลอดดดดดด

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
นี่นะเหรอ ที่คนแต่งบอกมินใจแข็ง ดูลาดรา วแล้ว ถ้าแบบนี้ ก็คงในไม่ช้าแล้วหละ คงดีกันตามเสต็ปที่มินแสดงออกวันนี้ คือการยอมแบบไม่รู้ตัสแล้ว แม้จะทำดื้อดึงบ้างก็เถอะ ที่มินเมินซองไม่สนใจใจตอนก่อนๆ แถบไม่มีค่าเลย เมื่อมาเจอตอนนี้ ผิดหวังมากเลยนะ จากใจเลยคิดมาตลอดว่ามิน คงไม่ใจอ่อนง่ายๆแต่อ่านตอนนี้แล้ว คงต้องเปลี่ยนความคิดแหละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2016 21:03:03 โดย angelnan »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
มินแข็งใจไว้ อย่าสิ!

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อย่างน้อยพี่ซองก็พัฒนาขึ้นนะ
ล้างจานเป็นแล้วน่ะ :laugh:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มินอย่าไปสนใจอีพี่ซองมันจำสิมันทำอะไรไว้บ้าง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ปากหนักจริงๆอีพี่ซอง

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ชิส์ ฟอร์มชะมัด

  o8 o8 o8 o8

...

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
กว่าจะรู้ใจกัน ก็เกลียดกันก่อนพอดี

ออฟไลน์ ДηοηγМ

  • 出会えて、よかった
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
น้องมินจัดหนักๆเลยค่ะ
หมั่นไส้อิพี่ซองมานาน

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ปาหมา แต่ ใจเป็นห่วง ..

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า แอบรัก11

 

ผมหลับไปจนเย็น ไอ้ผู้ชายปากหมามันก็ไม่อยู่แล้ว แต่ก็ดีแล้วนี่นา จะได้ไม่มีบุญคุณต่อกันอีก ข้อเท้าผมยังมีผ้าก๊อซพันอยู่อย่างเรียบร้อย เขานั่นแหละที่เป็นคนทำให้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ไอ้ผู้ชายบ้าคนนั้นหายไปไหน ก่อนที่ผมจะหลับเขายังนั่งเฝ้าผมอยู่เลย  เสียงโทรศัพท์ผมดังมาจากข้างบนบ้าน ค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดไปช้าๆ ตอนนี้รู้สึกว่ามันจะไม่เจ็บเท่าเดิมแล้ว อาจจะเป็นเพราะยาที่ผมทานเข้าไป

 

ผมรีบคว้าโทรศัพท์มารับเพราะกลัวจะตัดสายไปก่อน เป็นพี่ทิมที่โทรมา ไม่รู้มีธุระอะไรด่วนรึเปล่า ก่อนที่จะกรอกเสียวไปตามสายโทรศัพท์

 

“ครับพี่ทิม”

 

“น้องมินเป็นยังไงบ้างครับ พี่ได้ข่าวจากน้องพายว่าข้อเท้าแพลง”

 

“ลื่นล้มนิดหน่อยครับ ไม่เป็นไร”  ผมจำเป็นต้องโกหกครับ เพราะยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของผม กลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อยากให้เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวายมากขึ้น เพราะแค่นี้ผมก็ปวดหัวจนไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง

 

“พี่เข้าไปหาได้ไหมครับ อยู่บ้านคนเดียวด้วยใช่ไหม เดี๋ยวซื้ออาหารเย็นไปเผื่อเลย จะได้ทานด้วย กัน” พี่ทิมใจดีเสมอเลย ที่จริงก็เกรงใจเขานะครับ แต่ถ้าพี่ทิมไม่เข้ามาผมก็คงไม่มีอะไรทาน เพราะไม่รู้ว่าพี่พายจะเข้ามาได้รึเปล่า

 

“ขอบคุณครับ รบกวนพี่ทิมรึเปล่า”

 

“ไม่เลยครับ พี่อยากเจอน้องมินอยู่แล้วด้วย”

 

“ครับ ขับรถระวังด้วยนะ” พี่ทิมวางสายไปแล้ว ผมเดินลงมาข้างล่างอีกรอบ เห็นเจ้าปลาทองนอนเฝ้าชามอาหารอยู่สงสัยจะหิว ผมลืมเอาอาหารให้มันกินตั้งแต่เช้า แต่มันก็ดันไม่เห่าเรียกซะอย่างนั้น เพราะทุกทีเวลาหิวมันจะเห่าไม่หยุดจนเราต้องเดินไปดูว่ามันต้องหารอะไร ผมเดินไปเทอาหารให้เจ้าปลาทอง ก่อนที่จะเดินตรงไปยังหน้าบ้านเพราะพี่ทิมบอกว่าอีกไม่เกินสิบนาทีน่าจะถึง ขาก็ไม่เป็นใจเดินช้าได้อีก นั่งรอสักพักรถพี่ทิมก็มาจอดเทียบหน้าบ้าน ก่อนที่ผมจะเปิดประตูเล็กให้เขาเข้ามา

 

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลยครับ” ของที่ซื้อมานี่เต็มสองมือพี่ทิมเลยครับ ถ้าสามารถถือได้มากกว่านี้เขาอาจจะเหมามาทั้งตลาดเลยก็ได้

 

“อาหารเย็นเราไงครับ”

 

“จะทานหมดเหรอ มันเยอะมากเลยนะครับ”  ผมหันไปมองด้วยความตกใจ นี่พี่ทิมเขาซื้อของมาเยอะมากจริงๆ ถ้าผมกินคนเดียวคงอยู่ได้ทั้งอาทิตย์

 

“ไม่หมดก็อุ่นทานพรุ่งนี้เช้า อยู่คนเดียวไม่ใช่รึไงครับ” มีการคิดเผื่อผมด้วย รู้สึกดีที่มีคนเป็นห่วงแบบนี้จังเลย แต่ไม่ใช่ความรู้สึกแบบที่นั้นนะครับ ผมรู้สึกเหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่กำลังดูแลน้องชายอย่างผม

 

“แม่ไปต่างจังหวัดครับ อีกหลายวันกว่าจะกลับ” พี่ทิมเดินช้าๆ รอผมกะเผลกตามไป จะให้ช่วยพยุงคงไม่ไหวของเต็มมือซะขนาดนั้น

 

“น้องมินทานข้าวเลยไหมครับ”

 

“หิวพอดีเลยครับ แหะๆ” พี่ทิมจัดการแกะอาหารเย็นออกมาสำหรับเราสองคน ผมมีหน้าที่นั่งอย่างเดียว พี่ทิมเป็นคนคุยสนุก เล่าเรื่องสมัยที่เขาเรียนเมืองนอกให้ฟังด้วย

 

เราทานอาหารกันจนใกล้จะเสร็จ แต่พี่พายก็ยังไม่มาสงสัยจะติดธุระ แต่ไม่เป็นไรพี่ทิมก็ดูแลผมดีเหมือนกัน ดูแลไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

 

“ถึงขนาดนัดกันมาที่บ้านเลยเหรอวะ คิดถึงกันมากรึไง” เสียงแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้น พร้อมกับสีหน้าเย็นชาของอีกฝ่าย  คนตัวโตเดินอาดๆ เข้ามาอย่างไม่มีมารยาท

 

“อ้าวคุณซองใช่ไหมครับ พี่ชายน้องพายกับน้องบราว” เสียงเอ่ยทักที่แสนธรรมดาของพี่ทิม ไม่ได้ทำให้ผมใจชื้นขึ้นเลยสักนิด เพราะว่าอีกคนเหมือนหมาบ้าเข้าไปทุกที

 

“หึ กูไม่อยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมงนัดผู้ชายมาหาถึงบ้าน” เขาไม่สนใจคำทักทายของพี่ทิมเลยแม้แต่น้อย ทำให้ผมรู้สึกผิดกับพี่ทิมขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าพี่ทิมจะหน้าเสียไปเล็กน้อยก่อนที่จะปรับให้กลับมาเป็นปกติ ปากหมาๆ เริ่มทำงานอีกรอบ ดีได้ไม่ถึงวันก็เป็นแบบเดิมอีกแล้ว  ทำไมเขาถึงเป็นคนไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

 

“ว่าใคร”  ผมเริ่มจะหมดความอดทนแล้วตอนนี้ ทำไมเป็นคนชอบดูถูกคนอื่นแบบนี้ ไม่ให้เกียรติผมยังไม่พอ ยังเผื่อแผ่สายตาดูถูกไปหาพี่ทิมด้วย

 

“ใครรับก็คนนั้นแหละ”

 

“คุณพูดดีๆ หน่อยสิครับ ทำไมพูดแบบนี้” พี่ทิมคงจะทนไม่ไหวเลยเอ่ยสวนออกไป แต็ไม่ได้ทำให้อีกคนคิดจะลดความโมโหลงเลยแม้แต่น้อย

 

“ก็ตอนเช้ามันยังอยู่กับกู แต่ตอนเย็นนี่นัดมึงมาเจอ จะให้คิดว่ายังไง”

 

“ผมมาก็ไม่เห็นแปลก เพราะผมกับน้องมินเราเป็นแฟนกัน” พี่ทิมพูดอะไรของเขาเนี่ย เดี๋ยวไอ้หมาบ้ามันก็ฟัดเอาหรอก ยิ่งไม่มีใครฉีดยาให้มันอยู่ สายตาเขาแทบจะฉีกพี่ทิมเป็นชิ้นๆ แล้วตอนนี้ ก่อนที่จะหันมาจ้องผมอย่างเอาเรื่อง ผมก็ไม่คิดจะหลบสายตาเขาหรอก ตัวเองมีสิทธิ์อะไรมามองคนอื่นด้วยสายตาแบบนี้ ผมจึงจ้องกลับอย่างไม่ลดละเหมือนกัน

 

“ว่าไงนะมิน มึงเป็นแฟนกับไอ้หมอนี่เหรอห๊ะ”  เขาตะคอกเสียงดัง คิดว่าผมจะกลัวรึไง มันชินชาแล้วกับอีแค่เสียงดังๆ ที่ชอบขู่คนอื่นตลอดเวลา

 

“ถ้าใช่แล้วจะทำไม”  ผมรับสมอ้างเป็นแฟนพี่ทิมในทันที

 

“ไหนมึงบอกว่ารักกูไง”  มายึดติดอะไรกับคำพูดของผมแค่ประโยคเดียว ที่คนอย่างเขาก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจตั้งแต่แรก

 

“เรื่องนั้นมันผ่านมนานแล้วนะครับ กรุณาอย่ารื้อฟื้น มันจบไปพร้อมกับของขวัญชิ้นนั้นที่ผมให้คุณ” ของขวัญที่ผมเอาให้เขาในวันนั้น มันเป็นสุดบันทึกเล่มที่ผมเขียนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แค่ต้องการให้เขาได้รู้ความรู้สึกของผมที่เคยมีต่อเขา การมอบมันให้กับเขา เหมือนกับเป็นการคืนความรู้สึกที่ผมเคยมีให้เขาไปหมดแล้ว  แต่เขาอาจจะยังไม่ได้แตะมันเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะเอาทิ้งลงถังขยะแล้วก็ได้

 

“ชัดแล้วใช่ไหมครับ ถ้าชัดแล้วก็กรุณากลับไปได้แล้ว” พี่ทิมเอ่ยเสียงสุภาพแต่น้ำเสียงก็แฝงด้วยความโมโหไม่ใช่น้อยๆ เลย

 

“ไม่กลับ มึงนั่นแหละที่ต้องกลับ” ทำไมเขาต้องมาดื้อดึงกับเรื่องแบบนี้ ทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต เสียดายความรู้สึกดีๆที่อุตส่าห์ช่วยดูแลผมเมื่อเช้า ถ้ารู้อย่างนี้ผมคงไม่ยอมรับน้ำใจจากคนแบบเขาแน่นอน นึกว่าจะดีขึ้นมาสักนิด แต่เปล่าเลย คนเลวก็ยังเป็นคนเลววันยังค่ำ

 

“กลับไปเถอะผมขอร้อง” พยายามระงับอารมณ์ของตัวเองเหมือนกัน แม้วาเขาจะด่าผมยังไงแต่ก็ไม่อยากจะตอบโต้ให้มากไปกว่านี้ นึกว่าอย่างน้อยถ้าทุกอย่างมันดีขึ้นมาบ้างก็ยังจะเหลือความสัมพันธ์ที่ดีแบบพี่นองไว้บ้าง แต่นี่อะไร ไม่ทันข้ามวันกลับมาเป็นคนแบบนี้อีกแล้ว ผมคงคิดผิดไปจริงๆ กับการที่จะให้อภัยคนอย่างเขา

 

“มิน มึงเข้าข้างมันเหรอ แล้วกูล่ะ”

 

“ทำไม พี่ทิมเป็นแฟนผม ผมก็ต้องเข้าข้างเขาอยู่แล้ว คุณเป็นใครทำไมต้องเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับพี่ทิมด้วย” เขาเดินตรงดิ่งมาหาผม เหมือนอยากจะกระชากร่างผมออกเป็นชิ้นๆ อย่างนั้นแหละ แต่พี่ทิมก็เข้ามาขวางไว้ก่อน  หมัดหนักๆ ของไอ้หมาบ้ากระแทกเข้าหน้าพี่ทิมอย่างแรง จนพี่ทิมเซเหมือนจะล้ม แต่กลับมายืนนิ่งได้เหมือนเดิม เลือดสีสดไหลออกมาตรงมุมปากของพี่ทิมจนผมตกใจ

 

“เจ็บมาไหมครับพี่ทิม” ผมตรงเข้าไปพยุงพี่ทิมด้วยขาที่ไม่ค่อยจะสมประกอบของตัวเอง

 

“เป็นห่วงมันมากรึไง”

 

“กลับไปเลยนะ แล้วไม่ต้องเข้ามาบ้านผมอีก ถ้าคุณเข้ามาผมจะฟ้องคุณย่า”  ผมรู้ว่าเขาทั้งเคารพและเกรงใจคุณย่ามากที่สุด ถ้าคุณย่ารู้เรื่องที่ทำกับผมคงไม่ปล่อยไปเฉยๆ แน่

 

“มึงเอาย่ามาขู่เหรอมิน”

 

“ไม่ได้ขู่ แต่ผมจะทำจริงๆ ลองคุณเข้ามายุ่งกับผมอีกดูสิ”

 

“กูไม่ยอมแค่นี้หรอก ส่วนมึงก็จำไว้เลยนะ ว่ามินมันเป็นของกูคนเดียว มึงไม่มีสิทธิ์” เขาชี้หน้าพี่ทิมอย่างกับจะฆ่าให้ตาย จนผมรู้สึผิดทำให้พี่ทิมซวยไปด้วยเลย  ส่วนไอ้คนที่มันด่าเมื้อกี้ กลับเดินออกไปแล้วครับ ผมถอนหายใจออกมาดังๆ

 

“พี่ทิมทำแผลก่อนนะครับ” พี่ทิมพยุงผมเดินมานั่งที่โซฟาห้องรับแขก สรุปอาหารมื้อนี้ก็จบที่ความวุ่นวาย  หยิบสำลีออกมาชุบกับแอลกอฮอลล์ ก่อนที่จะล้างแผลตรงมุมปากให้พี่ทิม อีกไม่นานมันคงช้ำแน่เลย

 

“มินขอโทษที่ทำให้พี่ทิมเดือดร้อนนะครับ” ผมรู้สึกผิดที่ต้องเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

 

“ไม่เป็นไรครับ แต่มินบอกพี่ได้ไหมว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น” ผมนิ่งไปนาน เพราะชั่งใจว่าจะเล่าให้พี่ทิมฟังดีรึเปล่า กลัวเขาจะรับเรื่องทั้งหมดไม่ได้

 

“...........”

 

“ไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่สะดวกใจที่จะพูด ไม่ต้องบอกพี่ก็ได้”

 

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับพี่ทิม มันเป็นแค่เรื่องน่าอายของมินก็เท่านั้น”  สำหรับผมมันน่าอายจริงๆ นะครับที่ไปแอบหลงรักคนที่เขารู้สึกไม่ดีกับตัวเองมาตลอด กลัวพี่ทิมจะมองว่าผมโง่ แม้ว่าตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว

 

ผมเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่เด็กให้กับพี่ทิมได้ฟัง แม้กระทั่งตอนที่ผมไปบอกรักกับไอ้ผู้ชายเลวคนนั้นผมก็เล่า ไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย ว่าทำไมผมกับอีกคนถึงกลายมาเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ของผมและอีกคนเป็นยังไง

 

“ถ้าเขาไม่รู้สึกอะไรกับมินทำไมเขาต้องแสดงอาการหึงขนาดนั้นล่ะครับ” อันนี้ผมก็ไม่รู้และไม่เข้าใจเหมือนกัน เขาอาจจะแค่หวงก้างกลัวว่าใครจะมายุ่งกับผม

 

“มินไม่รู้หรอกครับ รู้แต่ว่าเขาเกลียดมิน แล้วตอนนี้มินก็เกลียดเขาไม่ต่างกัน”

 

“หึๆ พี่ว่าไม่นะ เขาไม่ได้เกลียดมินหรอก อาจจะรักมินไปแล้วก็ได้” พี่ทิมพูดอะไรที่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย เขามีแฟนเป็นผู้หญิง เขาชอบผู้หญิง แถมประกาศปาวๆว่าคนอย่างผมวิปริตผิดเพศ แล้วจะมารักได้ยังไง ผมไม่มีทางเชื่อหรอก

 

“ไม่จริงหรอกครับ”

 

“เอาอย่างนี้ไหมล่ะครับ น้องมินลองคบกับพี่ดู แล้วเราก็ค่อยมาพิสูจน์กันว่าไอ้หมอนั่นมันรู้สึกยังไงกับมินกันแน่” ทำไมต้องทำแบบนี้ล่ะ ผมไม่ต้องการใช้พี่ทิมเป็นเครื่องมือในการพิสูจน์ความรู้สึกใครสักหน่อย เขาจะรักหรือไม่รักผม มันก็ไม่เกี่ยวกันแล้ว ผมมีทางเดินของผมแล้ว ผมไม่ต้องการความรักของผู้ชายคนนั้นอีกต่อไปแล้ว

 

“ไม่ดีครับ” ผมส่ายหน้ากับพี่ทิมอย่างไม่เห็นด้วย

 

“ทำไมละครับ ก็วินๆ ทั้งสองฝ่าย” ผมไม่เข้าใจแล้ว พี่ทิมหมายถึงอะไร แล้วพี่ทิมจะได้ประโยชน์อะไรจากการที่ช่วยผม มันไม่มีเหตุผลเลยสักนิด

 

“หมายความว่ายังไง”

 

“น้องมินก็จะได้รู้ความรู้สึกของคุณซอง ส่วนพี่ก็จะได้พิสูจน์หัวใจของคนที่พี่รักเหมือนกัน” ยิ่งพี่ทิมพูดผมก็ยิ่งไม่เข้าใจ งงหนักยิ่งกว่าเดิม

 

“........”

 

“พี่หมายถึงว่าตัวพี่เองก็จะได้รู้ความรู้สึกของใครคนนั้นของพี่ด้วย เพราะพี่คิดว่าเขาก็คงรักพี่เหมือนกันแต่มันติดอยู่ที่คำว่าพี่น้องที่พี่กับเขามีให้กันมาตลอด เขาเลยไม่เปิดใจที่จะรักพี่ แต่ถ้ามีน้องมินเป็นตัวแปร เขาอาจจะยอมรับความรู้สึกของตัวเองก้ได้” ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ผมพยักหน้าหงึกๆ เพราะเข้าใจจุดประสงค์ของพี่ทิมแล้ว แต่ผมไม่ต้องการรู้ความรู้สึกของผู้ชายคนนั้นแล้วนี่ครับ ผมตั้งใจที่จะเริ่มใหม่ตั้งแต่วันนั้น จะไม่มีทางเดินกลับไปอยู่จุดเดิมเด็ดขาด

 

“แต่ว่ามินไม่ต้องการพิสูจน์ผู้ชายคนนั้นแล้วนะครับ เพราะเรื่องของผมกับเขามันคาราคาซังมานานเกินไป”

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าช่วยพี่” ที่มาหาบ่อยๆ นี่เพื่อผลประโยชน์ใช่ไหม หึ คิดแล้วก็อดโมโหไม่ได้  ลองวีนดูสีกทีดีไหม

 

“อ้อ! ที่แท้ก็แค่ต้องการผลประโยชน์จากมิน” ผมพูดห้วนๆ ไม่ยิ้มให้พี่ทิมเหมือนอย่างเคย ก่อนที่จะมองสีหน้าคนที่ดูจะตกใจมากในตอนนี้

 

“ไม่ใช่นะครับ พี่เห็นมินเป็นเหมือนน้องชายพี่ ส่วนเรื่องที่พูดเมื้อกี้ มันก็แค่เข้าทางพอดีเลยอยากจะลองดู แต่ถ้าน้องมินรู้สึกไม่ดีก็ไม่ต้องหรอกครับ” ท่าทางพี่ทิมที่ดูร้อนนจนผมยังนึกขำ ผมรู้ว่าเขาไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไรจากผมหรอก

 

“มินล้อเล่น แหะๆ”

 

“พี่ตกใจหมดนึกว่ามินโกรธพี่แล้ว” พี่ทิมมีสีหน้าดีขึ้นมาทันที กลับเป็นพี่ทิมจอมทะเล้นเหมือนเดิมแล้วครับ

 

“มินช่วยพี่ก็ได้ แต่มีข้อแม้ ว่าพี่ก็ต้องช่วยมินออกจากผู้ชายบ้าคนนั้นด้วย” มันคงจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของผมนะครับ ถ้าเขารู้ว่าผมมีแฟนแล้วๆ ก็รักกันมากเขาคงจะเลิกพยายามทำอะไรบ้าๆ สักที

 

“โอเคครับ ที่รักของพี่”

 

“พูดอะไรก็ไม่รู้ขนลุก”  ผมส่งยิ้มแหยๆ ให้พี่ทิม มือบางของผมยกขึ้นลูบแขนทั้งสองข้าง

 

“ก็ซ้อมไว้ไงครับ จะได้ไม่เขินเวลาที่พี่เรียกมินต่อหน้าคนอื่น” ใครเขาจะอนุญาตให้เรียกแบบนี้ ไม่เอาด้วยหรอก มันโคตรน่าอายเลยการที่มีคนมาเรียกผมแบบนี้

 

“ห้ามเรียกนะครับ เรียกน้องมินเหมือนเดิมดีแล้ว”

 

“ทำไมล่ะครับ”

 

“ไม่เอาหรอกอายคนอื่นเขา”

 

“ก็ได้ครับ”  พูดง่ายดีครับ ผมตกลงตรงที่ตอนนี้เราสองคนคบกันแล้ว ต่อไปพี่ทิมจะเป็นคนคอยรับคอยส่งผมเอง และจะพาผมไปเปิดตัวกับน้องคนที่พี่ทิมชอบด้วย พี่ทิมเล่าว่าน้องพึ่งอายุสิบเจ็ดเอง พี่ทิมจะกินเด็ก น้องอยู่บ้านติดกันกับพี่ทิม ทั้งสองสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ตอนแรกพี่ทิมก็ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกที่ตนเองมีให้น้อง ว่ามันหยุดอยู่ที่พี่น้องจริงๆ หรือมากกว่านั้น จนกระทั่งพี่ทิมเห็นคนเข้ามาจีบน้อง ความรู้สึกหึง รู้สึกหวงในตัวน้องจึงเกิดขึ้น พี่ทิมพิสูจน์จนแน่ในในความรู้สึกของตนเอง  แต่อีกคนกลับทำเป็นไม่รับรู้ เวลาที่พี่ทิมจะเอ่ยความรู้สึกทีไรน้องก็จะเปลี่ยนเรื่องตลอด จนพี่ทิมเริ่มท้อใจ ลองคบกับคนอื่นดูและพาไปหาน้องก็เหมือนว่าอีกคนจะมีปฏิกริยาที่แปลกไป จนพี่ทิมเริ่มมั่นใจว่าน้องก็มีใจให้เขาเหมือนกัน อาจจะยังสับสนหลายๆ อย่าง ด้วยความที่น้องยังเด็กด้วย อายุห่างจากพี่ทิมเกือบรอบแนะ

 

พี่ทิมอยู่คุยกับผมจนดึก เดินขึ้นมาส่งผมที่ชั้นสองของบ้าน ก่อนที่ผมจะเตรียมตัวอาบน้ำนอน ผมคงต้องหยุดอยู่บ้านอีกสักวันสองวัน เพราะข้อเท้าผมค่อนข้างที่จะบวม ถ้าไปยืนๆ เดินๆ คงไม่หายแน่นอน

 

ฤทธิ์ยาที่ผมทานเข้าไปทำให้ผมง่วง และหลับลงไปเพียงเวลาไม่นาน  ไม่รู้ว่าดึกขนาดไหนผมสะลืมสะลือตื่น เพราะรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆ ที่ริมฝีปากบางของผม ไม่รู้ว่ามันเป็นความฝันหรือความจริง

 

“ใครอ่ะ แม่เหรอฮะ”

 

“นอนครับดึกแล้ว” มืออุ่นๆ ลูบหัวผม สบายดีจังเลย ทำไมมันรู้สึกอบอุ่นแบบนี้ รู้สึกดีจนอยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ แต่ผมก็ต้านทานความง่วงไม่ไหว เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งภายในเวลาไม่นาน คราวนี้ผมคงหลับลึกจนถึงเช้าแน่เลย

 

 

*************************

มาแล้วนะคะ สนุกไม่สนุกเม้น ให้ด้วยนะคะ  ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ ตอนที่แล้วจัดให้ฟินพอกรุบกริบ กลับมาดราม่าอีกแล้ว

 
อย่างนี้อีเฮียจะชนะใจน้องได้ยังไงเนอะ หาทางช่วยมันหน่อย ทำไงดี แต่ให้หยุดปากหมานี่คงยาก เพราะมันเป็นสันดาร


 มีอีกเรื่องเราคงต้องขอโทษคนอ่านบางคนที่อาจจะไม่ชอบเนื้อนิยายที่เราแต่งในตอนที่แล้ว แต่เราก็แต่งตามเรื่องที่วางไว้ ถ้าทำให้เสียความรู้สึกกับเรา และกับตัวนายเอกก็ต้องขอโทษจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ   เรามันก็แค่คนพึ่งหัดแต่งนิยาย ไม่ได้แต่งเก่งเหมือนมืออาชีพ  ทำได้แค่นี้จริงๆ


                          TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2016 15:15:42 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่ซองแอบมาหามินตอนหลับใช่มั้ย บอกมาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13.   เอาเลยค่ะ อยากเห็นคนหึงลงแดงเต็มแก่แล้ว

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ไรท์อย่าเสียใจ. แต่งตามพล๊อตของไรท์แหละ

ชื่อเรื่องมันบอกอยู่แล้วละว่าครัวซองเป็นพระเอกนิ

แต่ซองก้อห่าม ปากร้าย ทำร้ายมิน ก้อต้องมีบทเรียนให้ซองบ้างนะ

 o13  o13  o13  o13

...

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สู้ๆนะครับคนเขียนผมติดตามผลงานของคนเขียนตลอดนะเป็นกำลังใจให้นะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่ซองเอ้ยยยย มาทำตัวเถื่อนนนน
แล้วมีการแอบมาจุ้บเค้าตอนดึก
ป๊อดอ้ะะะะะ
น้องมินต้องเล่นให้หนักเลย สนับสนุนเต็มที่ คึคึ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
อย่าเก็บเอามาคิดจนเนื้อเรื่องเราเขวนะคะ แค่เอามาปรับใช้ถ้าเป็นไปได้ หรือเก็บไว้แต่งเรื่องหน้า
นิยายที่มีพัฒนาการมันดีค่ะ แต่ยิ่งกดดันตัวเองมากจะกลายเป็นไม่มีความสุขในสิ่งที่เราอยากจะมีความสุขกับมันนะ

ออฟไลน์ Kunpimook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ว่าแล้ววววพี่ทิม ต้องไม่ได้ชอบน้องมิน  :hao3:
แต่ตอนแรกแอบคิดว่า จะเป็นทิม-บราว ซะอีกนะเนี่ยย 55555  :mew2:  คนเขียนสู้ๆจ้า มาต่อทุกวันเลย ขอชื่นชมค่ะ  :call: :call:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เริ่มงงแล้วว่าพี่ทิมชอบใคร :serius2:
นึกว่าชอบมินซะอีก

ว่าแต่จะให้มินช่วยนี่ไม่รู้ชะตากรรมหรือเปล่า
เพราะพี่ซองมันหึงหนักนะเนี่ย
วันนี้โดนไปหนึ่งหมัด
กว่าจะรู้ใจกันนีืจะโดนอีกเท่าไหร่

เอาใจช่วยทุกคนรวมทั้งคนแต่งจ้ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :ruready หมาบ้ามันห่วงกระดูกสิน่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด