หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.  (อ่าน 64642 ครั้ง)

ออฟไลน์ seraty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
คุณนักเขียน
ที่เว็บนี้เค้าไม่ใช้ รีดเดอร์-ไรน์เตอร์นะ
เค้าให้ใช้ นักเขียน-คนอ่าน หรือเเทนอย่างอื่นเช่นเพื่อนๆ ผู้อ่าน ไรอย่างงี้ ระวังแอดมินเว็บด้วยนะ โมดุมากนะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
แผนซ้อนแผน ซ้อนแผน ซ้อมแผน ..

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
คุณนักเขียน
ที่เว็บนี้เค้าไม่ใช้ รีดเดอร์-ไรน์เตอร์นะ
เค้าให้ใช้ นักเขียน-คนอ่าน หรือเเทนอย่างอื่นเช่นเพื่อนๆ ผู้อ่าน ไรอย่างงี้ ระวังแอดมินเว็บด้วยนะ โมดุมากนะ

ขอบคุณที่เตือนนะคะ แก้ไขแล้วค่ะ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ขำพี่ซองค์ "กูเลวใช่ไหม คนเลวๆ อย่างกูนี่แหละจะยัดเยียดความเป็นผัวให้มึงเอง" พี่เป็นตัวร้ายใช่ไหม 555+

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มาตามคู่นี้ด้วยคน~
อิพี่ซองปากหมามาก!

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า แอบรัก ตอน12

(ครัวซองต์)

ผมแอบเข้ามาในห้องของมินในช่วงดึก เขาหลับไปแล้ว ยอมรับเลยว่าเมื่อเย็นผมโมโหมาก ทั้งๆ ที่ผมตั้งใจซื้ออาหารเข้าไปทานกับเขา แต่กลับนัดไอ้ทิมอะไรนั่นมาหาถึงบ้าน วินาทีแรกที่ผมเห็น แทบจะกระโดดเข้าไปกระชากเขาออกมาจากโต๊ะทานอาหาร

 

ผมพยายามข่มตานอนลงข้างๆ มินแต่ใจของผมมันกลับสับสน วุ่นวายจนนอนไม่หลับ ต้องลุกขึ้นมานั่งมองคนที่หลับสนิท  ถ้าเขาเป็นแฟนกับไอ้ทิมจริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้ว แล้วทำไมผมต้องโมโหเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ ทำราวกับว่าหึงอย่างนั้นแหละ  ตลอดหลายวันมานี้ผมนอนไม่ค่อยหลับ พูดง่ายๆ ก็คือตั้งแต่มินบอกรักผม ผมก็เริ่มจะงงกับตัวเอง ว่าทำไมต้องไปตามเฝ้าเขาถึงร้าน  ผมทำบ้าอะไรไปหลายๆ อย่าง ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะบ้าบอได้ขนาดนี้

 

ร่างเล็กที่นอนบนเตียงขยับตัวเบาๆ จนผมตกใจ กลัวว่าจะตื่นขึ้นมาเจอผมกลางดึกแล้วจะมีปัญหากันอีก จากที่ตะแคงข้างหันหลังให้ผม กลายเป็นนอนหงาย ขยับยุกยิกสักพักก่อนที่จะกลับมานอนนิ่งเหมือนเดิม ริมฝีปากเรียวเล็กสีชมพูเผยอขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ดึงดูดให้ผมต้องก้มลงไปประทับจูบริมฝีปากบางอย่างหลงไหล ผมดูดเม้มริมฝีปากเล็กอย่างย่ามใจ  เขาเผยอรับสัมผัสที่เอาแต่ใจของผม ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นมามองแว๊บเดียว จนผมผงะถอยหลังแทบจะตกเตียง มินหลับตาลงอีกครั้งพูดราวกับคนละเมอ

 

“ใครอ่ะ แม่เหรอฮะ” ผมถอนหายใจออกมาแทบจะทันทีที่เขาเข้าใจว่าเป็นแม่ เกือบไปแล้วไหมล่ะ

 

 “นอนครับดึกแล้ว”   ผมยกมือลูบหัวคนตัวเล็กที่ดูเหมือนจะหลับลึกไปแล้ว ก่อนที่ผมจะขยับตัวนอนลงข้างๆ ยกลำแขนแกร่งกอดเอวบางไว้หลวม เพราะกลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน

 

ผมเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ทั้งๆ ที่ตอนแรกพยายามข่มตาหลับแทบตายแต่กลับไม่ง่วง สะดุ้งตัวตื่นอีกทีก็เกือบเช้า รีบหยิบนาฬิกาตรงหัวเตียงขึ้นมาดู พึ่งจะตีห้า โชคดีที่ยังไม่สาย ไม่อย่างนั้นผมคงซวย ก่อนที่ผมจะลุกออกไปจากห้อง ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

หลังจากนั้นหลายวันผมก็ไม่ได้ไปหามินอีกเลย ไม่อยากไปแล้วต้องเจอเขาอยู่กับไอ้หมอนั่น  มันเจ็บแปลบที่ใจแปลกๆ   ผมไปทำงานตามปกติ นั่งเคลียร์งานตั้งแต่เช้า แต่สมาธิของผมกลับไม่ได้จดจ่ออยู่ที่งานตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย มันกระวนกระวายใจจนอยากหาที่ีระบาย  ผมเป็นพวกโมโหร้าย ถ้าไปหาเขาตอนนี้มีหวังต้องเผลอทำร้ายหรือพูดจาร้ายกาจใส่เขาเป็นแน่ ผมนั่งเคาะปากกากับโต๊ะทำงาน ครุ่นคิดถึงเรื่องที่ตัวเองทำร้ายมินมาตลอดยี่สิบกว่าปี พึ่งรู้ว่าตัวเองเลวก็วันนั้แหละ  ทำร้ายน้องทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ผมพยายามหาเหตุผลมาลบล้างความผิดของตนเองแต่มันกลับไม่มีข้ออ้างใดๆ ที่จะทำให้ผมเลวน้อยลงเลยแม้แต่น้อย

 

เสียงโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ดังขึ้น โชว์เบอร์ของคนที่เป็นคู่ควงของผมคนปัจจุบันเธอชื่อเฟียครับ ผู้หญิงที่ผมควงไปไหนมาไหนเป็นประจำ แม้กระทั่งวันที่ผมบังเอิญเจอมินที่ห้าง ผมก็ควงเธอไปด้วย เธอเป็นผู้หญิงแต่งตัวแรงๆ พูดจาตรงๆ แต่ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง

 

"ครับเฟีย"

 

"วันนี้เฟียไปหาซองได้ไหมคะ อยากทานข้าวเย็นด้วย"

 

"เอาสิครับ จะให้ผมไปรับที่บ้านไหม"

 

"ดีค่ะ"

 

"แค่นี้ก่อนนะครับ ตอนเย็นเจอกัน"

 

"ค่ะ" เฟียเป็นผู้หญิงที่ผมคุยนานที่สุด เราเรียนที่เดียวกันตอนอยู่เมืองนอก สถานะของเราสองคนก็แค่เซ็กเฟรนด์ เราสองคนตกลงกันไว้แบบนั้น ผมจึงสะดวกใจที่จะคบกับเธอมากที่สุด ถ้าถามว่าผมรักเธอไหม ตอบได้เลยว่าไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ เธอเป็นแค่เพื่อนที่ดีของผมคนหนึ่ง ที่ความสัมพันธ์ของเราจบแค่เรื่องบนเตียงก็เท่านั้น เธอไม่ได้เรียกร้องอะไรจากผม เพราะถ้าเธอทำอย่างนั้นความสัมพันธ์ของเราคงจบเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ของผม

 

เราเรียนด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันในฐานะเพื่อน ซึ่งคนอื่นๆ ก็เข้าใจแบบนั้น ความสัมพันธ์ลับๆ ของเรา รู้เพียงแค่ผมกับเธอเท่านั้น ถามว่าทำไมเธอถึงยอมมีความสัมพันธ์ทางด้านร่างกายกับผม ทั้งๆ ที่เราไม่ได้รักกัน เหตุผลง่ายนิดเดียว เพราะผมและเธอไม่นิยมมีเซ็กส์แบบวันไนท์แสตน เราจึงตกลงที่ทำแบบนี้ ถ้าวันหนึ่งผมหรือเธอเจอคนที่ใช่ ความสัมพันธ์แบบนี้ของเราก็จะจบลงทันที

 

**********************

 

"ทานร้านนี้ดีกว่านะคะซอง เฟียอยากทานอาหารไทย"

 

"ตามใจเฟียเลยครับ" เราสองคนตรงไปด้านใน มองหามุมที่ดีที่สุดของร้าน

 

"ตรงนั้นก็ดีนะคะ" โซนที่เรากำลังเดินไปนั่งค่อนข้างเป็นส่วนตัว พนักงานสาวเดินนำเราไปจนเกือบถึงโต๊ะที่เราสองคนต้องการ สายตาผมกลับเหลือบไปเห็น คนที่ทำให้ผมวุ่นวายใจมาตลอดสัปดาห์ เขามากับไอ้ทิมคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุด แค่เห็นอารมณ์ก็ขึ้น ก้าวยาวๆตรงไปยังโต๊ะที่เขานั่งอยู่

 

“ไปไหนคะซอง” เฟียเอ่ยถามผม มืออีกข้างก็เกี่ยวแขนเดินตามแรงของผมมาด้วย ผมไม่สนใจที่จะตอบคำถามของเธอเลยแม้แต่น้อย เดินดุ่มๆ ไปยืนจังก้าอยู่หน้าสองคนที่นั่งอยู่ก่อน

 

“พอดีผมเจอคนรู้จักน่ะ เลยจะมานั่งด้วย” ผมหันไปพูดกับเฟียและพนักงานสาวที่เดินตามมา มินเงยหน้าจากอาหารขึ้นมามองผมด้วยความตกใจ รวมทั้งไอ้ทิมด้วย

 

“ขอนั่งด้วยได้ไหม” ผมเอ่ยเสียงเรียบ ทั้งๆ ที่ในใจผมแทบจะพุ่งไปชกไอ้หน้าหล่อตรงหน้าแล้ว

 

“เชิญครับ” ไอ้ทิมมันยิ้มกวนประสาทใส่ผม ก่อนที่จะเชื้อเชิญผมนั่งเหมือนว่าเราเคยญาติดีกันมาก่อนอย่างนั้นแหละ

 

“พี่ทิม! ไปเชิญเขานั่งทำไม โต๊ะว่างเยอะแยะ”

 

“จริงด้วยค่ะซอง เราไปนั่งโต๊ะอื่นดีกว่า”

 

“ไม่ครับ เขาเชิญเรานั่งแล้ว เดี๋ยวจะเสียมารยาท” ผมเลื่อนเก้าอี้ให้เฟียนั่งฝั่งเดียวกันกับไอ้ทิม ส่วนตัวผมก็ตรงไปนั่งฝังเดียวกันกับมิน บรรยากาศในโต๊ะดูอึดอัดทันทีที่ผมนั่งลง

 

“ขอเมนูหน่อยครับ” ผมหันไปพูดกับพนักงานหลังจากที่เธอยืนอึ้งอยู่นาน ก่อนที่เธอจะหันรีหันขวางหาเมนูอาหารที่เธอไม่ได้ถือมาด้วย

 

“นี่ค่ะ”

 

“ทานอะไรดีครับเฟีย”  ผมเงยหน้าขึ้นมามองเฟียที่นั่งฝั่งตรงข้าม เธอคงไม่พอใจผมอยู่บ้างแหละที่อยู่ๆ ก็พามานั่งกับใครก็ไม่รู้ที่เธอไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย

 

“แล้วแต่ซองเลยค่ะ เฟียทานอะไรก็ได้” เธอคงเก็บอาการเหวี่ยงวีนไว้ในใจ เพราะปกติเฟียจะป็นคนตรงๆ แต่ตอนนี้มีคนที่เธอไม่รู้จักเธอจึงดูจะเงียบเป็นพิเศษ

 

“ถ้าอย่างนั้นผมสั่งเลยนะครับ เอาอะไรเพิ่มอีกไหม?” ผมหันไปหาสองคนที่นั่งทำหน้าไม่ถูกอยู่ข้างๆ อย่าหวังว่าจะได้ทานอย่างสงบเลย

 

“ไม่ครับ” ไอ้ทิมมันตอบครับ ส่วนคนข้างๆ ผมตอนนี้หน้านี่ไม่ต้องบอกว่าอารมณ์ไหน

 

ผมสั่งอาหารมาสามสี่อย่าง พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ก่อนที่จะลงมือทาน โดยที่ผมไม่ลืมที่จะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน ผมมารยาทดีใช่ไหมครับ

 

“นี่คุณทิม ส่วนคนนี้มิน”  ผมชี้ไปทางไอ้ทิมก่อนที่จะหันมาหามินที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ เพียทักทายสองคนพอเป็นพิธี

 

“ส่วนนี่เฟียเพื่อนผม”  ไอ้ทิมมันยิ้มให้ ส่วนมินยกมือไหว้แต่ไม่ยอมมองหน้าเธอเสียด้วยซ้ำ

 

“เอ๊ะ! นี่เด็กข้างบ้านซองนี่คะ คนที่เอาของขวัญมาให้ซองวันนั้น” เฟียเหมือนพึ่งจะนึกได้ว่าเคยเจอกับมิน ก่อนที่สีหน้าเธอจะเปลี่ยนไป

 

“ใช่ครับ คนนั้นแหละ”

 

มินไม่พูดอะไรตักอาหารเขาปากเคี้ยวอยางไม่ใยดี ไม่สนว่ามีผมนั่งอยู่ข้างๆ เสียด้วยซ้ำ อาหารที่ผมสั่งมาใหม่เขาก็ไม่ยอมทานเลยแม้แต่น้อย ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนสินะ

 

“มินทานนี่ครับ”  ไอ้ทิมมันตักทอดมันปลากรายให้กับมิน ก่อนที่คนไอ้คนที่นั่งข้างๆ ผมจะส่งยิ้มหวานให้กับมัน  มีความสุขเชียวนะ

 

“ขอบคุณครับพี่ทิม” มินก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อ เขาพูดคุยบ้างแต่แค่กับไอ้ทิมคนเดียวเท่านั้น  เผลอนั่งจ้องเขาจนไอ้ทิมมันเอ่ยถามออกมา

 

“คุณซองมีอะไรกับแฟนผมรึเปล่าครับ เห็นจ้องมินนานแล้ว”

 

“เปล่า แต่ก็แค่...สงสัยว่านายสองคนไปคบกันตอนไหน” ผมเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกไอ้ทิม เพราะไม่อยากเรียกมันว่าคุณเคิณอะไรทั้งนั้น เรียกนายนี่ถือว่าให้เกียรติสุดแล้ว

 

“อ๋อ! คบกันยังไม่ถึงเดือน แต่รู้จักกันมาสักพักครับ เจอกันตอนที่ไปทานเค้กที่ร้าน” มันตอบไปยิ้มไป จนผมอยากจะเอาหมัดหนักๆ ไปกระแทกปากมันซะทีสองที

 

“เร็วดีเนาะ”

 

“จะเร็วหรือช้าก็ไม่ได้เป็นตัววัดว่าความรักจะมั่นคงนี่ครับ เพียงแค่มั่นใจว่าคนนี้ใช่ก็พอแล้ว” คราวนี้มินเป็นคนตอบ  เหมือนจะประชด แต่มันเจ็บจี๊ดที่หัวใจผมเลย

 

“ครับอย่างที่น้องมินบอก ถึงจะเร็วแต่ผมก็จริงจัง” ไอ้ทิมมันยื่นมือมาจับมือของมินที่วางบนโต๊ะ ผมมองตามมือมันจนตาแทบถลน นี่ผมบ้าอยู่คนเดียวใช่ไหมวะ ทำไมไม่มีใครร้อนรนแบบผมเลย

 

“นี่สองคนเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอคะ”  เฟียยังจะถามอีกเหรอ เขาพูดขนาดนี่ยังจะถามให้ผมโมโหอีกทำไมวะ

 

“ครับ” ไอ้ทิมมันตอบพร้อมกับส่งยิ้มหล่อให้กับเฟีย

 

“พี่ทิมทานอีกสิครับ พึ่งทานได้นิดเดียวเอง” หึ ตักอาหารให้มันอีก จะสวีทกันไปถึงไหนวะ ไม่คิดจะเกรงใจคนที่นั่งหัวโด่อยู่สองคนเลยรึไง

 

“ขอบคุณครับ” บรรยากาศมันอึดอัดพิลึก ผมต้องนั่งทำตัวสงบเสงี่ยมแบบที่ไม่ใช่ตัวเอง เพราะถ้าเป็นซองคนเดิมคงจะเหวี่ยงจนใครต่อใครเข้าหน้าไม่ติดแล้ว นับหนึ่งถึงสิบ ถึงร้อย ใจก็ยังไม่สงบ ท่องนโมพุทธโธก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น มันอยากจะระเบิดออกมาอย่างเดียว ให้ตายสิ ผมต้องกลายเป็นคนโรคจิตแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แอบนั่งมองคนที่เขาสวีทหวานกัน

 

“มินไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับพี่ทิม” เข้าทางผมเลยครับงานนี้ อยู่ดีๆ หมูก็จะเดินมาให้เชือดซะงั้น

 

“พอดีเลย กูก็อยากเข้าห้องน้ำ” ผมเอ่ยออกไปหน้าด้านๆ ไม่สนใจใครทั้งสิ้น ลุกขึ้นตามร่างเล็กที่ยืนมองผมตาเขียวปั๊ดด้วยความไม่พอใจ

 

“ผมไม่อยากไปแล้วครับ” มินทำท่าจะกลับเข้ามานั่งที่เดิม แต่ผมดึงแขนไว้

 

“ไปด้วยกัน” ผมบังคับร่างเล็กที่ดูก็รู้ว่าตอนนี้เขาเอือมระอากับผมมากแค่ไหน

 

‘ถ้าไม่ไปคืนนี้มึงเจอดี’ ผมกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน ก่อนที่มินจะเดินออกไปพร้อมกับผม เดินตามเขาไปโดยที่เราสองคนไม่ได้คุยกันเลยแม้แต่น้อย ผมแค่เดินตามหลังร่างเล็กไป เขาเดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่ผมยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ

 

“ไปไกลๆ สิผมจะทำธุระ โถว่างเยอะแยะจะมายืนข้างๆ ทำไม” ผมไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำ แค่ตามเขามาก็เท่านั้น

 

“กูไม่ปวด”

 

“แล้วจะมาทำไม หาเรื่องกันรึไง”  เสียงของมินเย็นชากว่าเดิมเยอะ ไม่เหมือนแต่ก่อนที่เขาจะพูดเพราะกับผมเสมอ

 

“ตามมาเฝ้ามึง”

 

“คุณไม่ใช่แฟนผม ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเฝ้าหรือทำอะไรทั้งนั้น” มินแหวใส่ผมเสียงดัง ตาตี่ๆ ของเขาจ้องมองจนผมแอบขนลุกไปเหมือนกัน สายตาที่เปลี่ยนไปของคนตรงหน้า ไม่เหลือความกลัวเหมือนแต่ก่อน มีเพียงสายตาที่ว่างเปล่าและเย็นชา

 

“หึ...ตอนนี้ไม่ใช่ แต่อีกไม่นานกูจะเลื่อนขั้นเป็นผัวมึงให้ดู”

 

“อย่ามาพูดบ้าๆ แบบนี้นะ”

 

“เออกูมันบ้าไง คนบ้าอย่างกูทำได้ทุกอย่าง” ผมไม่ได้ล้อเล่นกับสิ่งที่ผมพูดออกมา ไม่ได้พลั้งปากพูดเพราะความโมโห แต่ผมคิดจะทำจริงๆ ในเมื่อตอนนี้มินเป็นแฟนกับไอ้ทิม ทางเดียวที่ผมจะชนะได้คือจับเขากดแล้วเอาเป็นเมีย ต่อไปไม่ว่าใครก็จะไม่มีสิทธิ์ในตัวคนของผม ถ้าถามว่าทำไมผมจึงทำแบบนี้ ไม่มีเหตุผลแค่อยากทำ ไม่อยากให้มินไปเป็นของใครนอกจากผม ถ้าวันที่เขากลายเป็นของผม ผมอาจจะเข้าใจความรู้สึกบ้าๆ ตอนนี้ของตัวเองก็ได้ ผมมันคนเห็นแก่ตัวนี่ครับ ไม่ได้ดีเด่เหมือนใครต่อใคร

 

“ออกไปไกลๆ เลยไป ถ้าไม่คิดจะฉี่ผมจะได้ทำธุระของผม”

 

“มึงอายกูรึไงวะ ผู้ชายเหมือนกันไม่เห็นมีอะไรต้องอาย”  ร่างเล็กไม่พูดอะไรโต้ตอบผม เดินเข้าไปชิดโถฉี่ รูดซิบกางเกงของเขาลง ผมแอบเหล่ดูหนอนน้อยของคนตัวเล็ก จนเขาหันกลับมามอง ก่อนที่ผมจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วผมแทบจะจับเขาขย่ำเสียตอนนี้เลย เขารีบจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จอย่างรีบเร่ง คงกลัวสายตาผมที่เอาแต่จ้องเขานั่นแหละ

 

“กลับสิ เสร็จแล้ว” เขาพูดหลังจากที่เดินมาล้างมือที่อ่าง

 

“มึงต้องกลับบ้านกับกู”

 

“ไม่”

 

“อย่ามาดื้อกับกูนะมิน กูไม่ใช่ไอ้พี่ทิมของมึงนะ”  อารมณ์ผมมันขึ้นง่ายครับ ยิ่งเวลาที่เขาทำท่าดื้อดึงกับผมแบบนี้

 

“ผมมากับพี่ทิมก็จะกลับกับเขา” ท่าทางจองหองของคนตัวเล็กทำให้ผมต้องใช้ไม้แข็ง เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็คงไม่ยอมทำตามที่ผมบอกง่ายๆ หรอก อยากกลับกับมันมากรึไงไอ้ทิมน่ะ มันมีดีกว่าผมตรงไหน

 

“มึงไม่มีทางเลือก ถ้ามึงไม่ทำคืนนี้กูบุกไปหามึงแน่”

 

“อย่ามาขู่ ผมไม่กลัวหรอก”

 

“งั้นมึงก็ลองดู ว่าคนอย่างกูจะทำจริงรึเปล่า” ผมบีบแขนร่างเล็กเต็มแรง เพราะความโมโหที่เขากล้ามาต่อปากต่อคำกับผม

 

“ถ้าคุณทำแบบนั้นผมจะฟ้องย่า” เอะอะก็จะฟ้องย่า เห็นย่าให้ท้ายแล้วเอาใหญ่ ตอนแรกผมก็กลัวกับคำขู่ของเขา แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว

 

“จะฟ้องก็ฟ้องกูไม่สน ดีซะอีกย่าจะได้รู้ว่ากูกับมึงมีความสัมพันธ์กันแบบไหน”

 

“แบบไหน ผมกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น”

 

“หรือมึงจะลองห๊ะ” ผมเดินเข้าหาร่างเล็กที่ตอนนี้ถอยกรูดไปจนหลังชนอ่างล้างมือ

 

“เออ”

 

“เออคืออะไร จะกลับกับกู หรือจะให้กูไปหาคืนนี้”

 

“เออคือกลับไงว่ะ”

 

“อย่ามาปากดีนะมิน” ผมยกมือหนาๆ บีบแก้มสองข้างอย่างแรง จนเขาทำหน้ายู่เพราะเจ็บ จะให้ผมป่าเถื่อนกว่านี้ก็ทำได้นะครับ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ

 

“อ่อยๆ” (ปล่อยๆ)  เสียงอู้อี้ของร่างเล็กทำให้ผมจำต้องปล่อยมือออก บอกแล้วว่าอย่าปากดี ผมไม่ชอบให้ใครว่าตะคอกใส่ แม้ว่าผมจะทำมันกับเขาก็ตาม

 

“มึงไปบอกไอ้ทิมห่าเหวอะไรก็ได้ แล้วไปรอกูหน้าห้างเข้าใจไหม”

 

“เออ!” มินตะคอกผมกลับอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน แม้ว่าเขาจะรับปากผมก็ตาม ผมเดินตามเขากลับไปที่ร้านอาหาร รอดูว่าเขาจะบอกไอ้ทิมว่ายังไง เรากลับมานั่งที่เดิมแล้วครับ

 

“ทำไมไปนานจังครับ” ก้นยังไม่หย่อนลงเก้าอี้ เสียงไอ้ทิมก็ดังขึ้นมาในทันที

 

“พอดีคนเยอะน่ะครับ” แหม แก้ตัวได้เร็วนะเนี่ย เหอะ ผมประชด เห็นท่าทางใสซื่อแบบนี้แต่ก็ใช่ย่อยเลยครับ แถมตอบหน้าตายอีกต่างหาก

 

“อ๋อ! ครับ มาทานต่อดีกว่า” ผมใช้สายตากดดันคนที่นั่งข้างๆ ให้เขาพูดซะที แต่เขาก็เอาแต่เงียบไม่รู้ว่าคิดไม่ออกว่าจะบอกว่ายังไง หรือจงใจที่จะปล่อยเลยตามเลย จนผมยกมือขึ้นไปหยิกเอาบางเบาๆ ให้เขาพูดออกมา เขาทำหน้าแหยๆ แต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในเวลาไม่นาน ไม่มีใครสังเกตุเห็นนอกจากผม

 

เฟียนั่งดูนู่นนี่ไปเรื่อย ที่จริงเธอก็ไม่ค่อยอะไรกับผมหรอก บอกแล้วว่าสถานะของเรามันแค่เซ็กส์เฟรนด์ ไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน และวันนี้ผมก็แค่มาทานข้าวเป็นเพื่อนเธอก็เท่านั้น ไม่ได้คิดจะไปต่อที่ไหน มันเป็นเหมือนเรื่องปกติของผมและเฟีย

 

“พี่ทิมครับ พอดีมินมีธุระขอกลับเองไดไหมครับ”

 

“จะไปไหนครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

 

“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ เพราะเพื่อนมินพึ่งโทรมาบอกเมื่อกี้นี้ว่าจะมารับไปทำธุระด้วยกัน เดี๋ยวให้เขาไปส่ง”

 

“ตามใจครับ ถ้ากลับถึงบ้านแล้วโทรบอกพี่ด้วย” หึ ตาละห้อยเชียวนะมึง ให้มันรู้บ้างว่าคนอย่างผมจะแพ้คนอย่างไอ้ทิม

 

“ครับ” เรานั่งทานกันอยู่สักพักก่อนที่จะคิดเงิน ผมอาสาจ่ายทั้งหมด แต่ไอ้ทิมมันก็อยากจะเอาหน้ากับมิน ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษขอหารกับผมคนละครึ่ง ผมเลยต้องยอม จะได้รีบๆ กลับกันซะที ส่วนเรื่องเฟียผมบอกเธอไปตามตรงครับ เพราะไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร  ผมจึงแยกกับเธอที่ทางออกห้างก่อนที่จะตรงไปลานจอดรถ  ผมยกมือขึ้นแตะปากตัวเอง มุมปากผมยกขึ้นทั้งสองข้างโดยที่ผมไม่รู้ตัว

 

‘แม่งนี่กูกำลังยิ้มเหรอว่ะ บ้าไปแล้ว’


 
**********************************

 

มาแล้วๆ ดึกเลยวันนี้ มีใครรอยู่รึเปล่า เฮียซองอารมณ์แปรปรวน สงสัยเมนส์มา



 

อย่าโกรธคนเขียนที่มาช้า  เพราะการงานยุ่งเหยิง จัดระเบียบชีวิตตัวเอง

 

เม้นให้หน่อยน้าเป็นกำลังใจให้คนเขียน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2016 03:52:29 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
พี่ซองนิสัยไม่ดี ชอบบังคับมิน
ขอให้มินไม่รัก  :katai3:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีซองนี้เผด็จการจริงๆ อิอิ มินอย่ายอมง่ายๆนะ

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ถ้านิสัย ไม่สิ ถ้าสันดานเสียขนาดนี้ นายเอกไม่ต้องคู่กับพระเอกก็ได้นะ ปล่อยให้ครัวซองค์เป็นพระเอกต่อไปซึ่งนายเอกไม่ใช่มิน มันก็คงดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ทำไมสะใจที่มินพูดเออ 5555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ถ้าจับกดจะโกรธจริงๆด้วย

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
งง ที่มินยอม คือยอมกลับกับมันทำไมอะ ไมีมีเหตุผลที่ต้อบยอมเลย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่ซองนี่ซื่อบื้อกับความรู้สึกของตัวเองจริง แต่น่าจะไม่นานล่ะนะที่พี่จะรู้ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นความรู้สึกอะไรกันแน่

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อิพี่ซองเผด็จการ!!

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 น้องมินจะถูกจับกดเมื่อไหร่ รอลุ้น :z1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ซองเป็นผู้ชายที่น่ารำคาญ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ซองค์เป็นหมาบ้า ตอนมินเข้าหาก็เล่นตัวนักอิห่าพอน้องถอยห่างเสือกตามติดชีวิตเค้าซะงั้น อย่างงี้แหล่ะคนไม่รู้ใจตัวเอง 555+

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ยิ้ม คนเดียว บ้าๆ ..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ตอนนี้มินแข็งใส่พี่ซอง พี่ซองมันก็เลยยิ่งแรงใส่ อยากรู้ถ้าตอนนี้ลองให้มินอ่อนหรืออ้อนใส่ พี่ซองจะละลายมั้ยนะ

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
แอบรัก 13


 

ภายในรถสปอร์ตคันหรูเงียบจนผมรู้สึกอึดอัด ไม่มีบทสนทนาระหว่างเราสองคน แม้กระทั่งตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจเขาเลยสักนิด ว่าทำแบบนี้กับผมทำไม ทำเหมือนกับหึงหวงผมอย่างนั้นแหละ ทั้งๆ ที่ความจริงไม่ใช่เลย เขาต้องการอะไรจากผมกันแน่ พอผมถอยออกมาเขากลับทำเหมือนต้องการที่จะเข้าหาผม มันเป็นเรื่องตลกที่ผมกลับขำไม่ออก ชีวิตที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้มันไม่สนุกเลยสักนิด   ถ้าใครไม่ได้เจอกับตัวเองก็คงไม่มีวันรู้สึกว่ามันอึดอัดแค่ไหน

 

 

หลังจากวันที่ผมตัดสินใจบอกรักเขาไป ผมก็สามารถจัดการความรู้สึกบ้าบอพวกนั้นจากใจได้เกือบหมด  แต่เขากลับมาทำให้ความรู้สึกของผมสั่นคลอน มันไม่ใช่ความรู้สึกดีใจ หรือตื่นเต้นที่คนที่ผมเคยรักเขาหันมามองตัวเองบ้าง แต่มันมีแต่ความข้องใจ สงสัยในตัวผู้ชายคนนี้ ว่าที่เขากำลังทำอยู่ทุกวันนี้แค่ต้องการปั่นหัวผมอยู่ใช่รึเปล่า เห็นผมเป็นตัวตลกหรือเปล่า หรือแค่ต้องการเข้ามาหลอกคนโง่ๆ แบบผมให้ตายใจแล้วก็อาจจะผลักไสให้ผมกลับมาเจ็บช้ำหนักกว่าเดิม

 

ที่ผมยอมกลับกับเขาในวันนี้ไม่ใช่ว่าผมกลัวคำขู่ แต่ผมไม่ต้องการให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตไปกว่านี้ เพราะผู้ชายเลือดเย็นที่นั่งข้างๆ ผม เขาไม่เคยแคร์ความรู้สึกใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่ครอบครัวหรือมีผลประโยชน์ต่อกัน ผมจมจ่อมกับความรู้สึกอึดอัดอยู่คนเดียว ไม่คิดจะสนใจคนที่ผมนั่งรถมาด้วยซ้ำ

 

“ครับพี่ทิม...กำลังจะกลับครับ......ไม่มีอะไรหรอกครับ.....ได้ไม่ต้องเป็นหวงนะครับ.....ถึงบ้านมินจะโทรหานะ”  พี่ทิมโทรมาถามเพราะเห็นความผิดปกติของผม เขารู้ทุกอย่างพร้อมกับถามว่าผมกลับกับพี่ซองใช่ไหม บอกให้ผมกลับดีๆ พร้อมกับกำชับอีกว่าถึงบ้านแล้วให้โทรหา อยากจะขอบคุณพี่ทิมจริงๆ ที่คอยห่วงใยผมตลอด

 

“มันโทรมาแล้วหน้าบานเชียวนะ”

 

“ก็คนเป็นแฟนกัน มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว” บทสนทนาของเราสองคนจบลงแค่นั้น ก่อนที่ต่างคนต่างก็กลับมาเงียบตามเดิม

 

“หึ...” เสียงของคนข้างๆ ดังเล็ดลอดริมฝีปากหนาจนผมต้องชำเลืองมองเขาเพียงครู่ก่อนที่จะหันกลับไปโฟกัสที่จุดเดิม

 

“ทำไม? อึดอัดนักรึไงที่นั่งรถมากับกู”

 

“........”

 

“ถามทำไมไม่ตอบ!” เขาตะคอกออกมาเสียงดังขณะที่รถติดไฟแดง ผมหันไปจ้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ตาคมดุก็จ้องผมกลับอย่างไม่ลดละเช่นกัน

 

“ จะให้ตอบว่าอะไรในเมื่อก็รู้อยู่แล้ว”

 

“ใช่สิ ก็กูไม่ใช่ไอ้พี่ทิมของมึงนิ ที่จะทำให้มึงยิ้มได้ตลอดเวลา” ทำไมเขาชอบแขวะ ชอบหาเรื่องคนที่เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ชอบว่าร้ายคนอื่น แต่กลับไม่เคยมองตัวเองเลยว่าตัวเองก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่าใคร มิหนำซ้ำอาจจะเลวร้ายกว่าคนอื่นเลยก็ได้

 

“ก็รู้ตัวเองดีนี่นา ว่ายังไงคุณก็ไม่มีทางเหมือนพี่ทิมหรอก ไม่มีวัน” ผมกระแทกเสียง ก่อนที่จะเน้นทุกพยางค์เพื่อให้คนข้างๆ ได้ยินมันชัดเจนยิ่งขึ้น

 

“รู้จักมันดีจังเลยน่ะ รู้จักกันไม่ถึงสามเดือน แต่ทำเหมือนรู้จักกันมาเป็นชาติ”

 

“มันก็แน่อยู่แล้ว ผมกับพี่ทิมเป็นแฟนกันก็ต้องรู้ใจกันเป็นธรรมดา”  เขาออกรถอีกครั้งหลังจากที่สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว การทะเลาะกันของเราก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลยสักนิด ยิ่งพูดก็ยิ่มีแต่ความขัดแย้ง

 

 “หึ.. คงไม่ใช่แค่รู้ใจ แต่กูว่าคงจะรู้จักไปถึงตับไตใส้พุงกันแล้วละมั้ง ได้กันมากี่ครั้งแล้วล่ะ”

 

“อย่าว่าแต่ตับไตใส้พุงเลยครับ เยอะกว่านี้ก็เห็นมาหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่คนพิเศษคงไม่มีทางได้เห็นหรอก”

 

“แรด...” ผมแทบสะอึกกับคำดูถูกของคนตรงหน้า ถ้าคนอย่างผมเรียกแรด แล้วคนอย่างเขาเรียกอะไรดี เรียกว่ามักมากในกามดีไหม สำส่อน เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ผมจ้องมองเขาด้วยใจที่ขุ่นเคือง

 

“......”

 

“ทำไมถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอ คนอย่างมึงนี่ใครเขาจะเอาว่ะ ไอ้ทิมมันคงเห็นมึงเป็นแค่ของเล่นชั่วคราว อีกไม่นานมันก็คงจะเขี่ยมึงทิ้ง”

 

“พี่ทิมเขาไม่มีทางทำแบบนั้น ไม่มีวันที่เขาจะทำแบบที่คุณว่า” มือบางกำหมัดแน่น ผมโกรธจอยากที่จะต่อยหน้าคนข้างๆ เสียเหลือเกิน

 

‘คำพูดของคนเลวเราไม่ควรเอามาใส่ใจ’

 

ผมพยายามบอกตัวเองซ้ำๆ แต่มันก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวสมองน้อยๆ ของผม  คำพูดจาดูถูกสาระพัดที่เขาขุดออกมาว่าให้ผมเจ็บช้ำน้ำใจ ครั้งนี้เขาพูดแรงกว่าครั้งไหนๆ ทำไมคนอย่างผมมันเลวตรงไหน น่ารังเกียจตรงไหน แค่ไม่ได้รักกันกลับทำร้ายกันด้วยคำพูดแบบนี้น่ะเหรอ

 

“จอด” ผมเอ่ยออกมาในที่สุด ทนไม่ไหวแล้วกับคนแบบนี้  ไม่อยากอยู่ใกล้แม้สักเสี้ยววินาที สายตาที่มองผมราวกับผมไปฆ่าใครมาอย่างนั้น

 

“ทำไม? รับความจริงไม่ได้รึไง” จะประชดประชันกันไปถึงไหน

 

“บอกให้จอดไง!” ผมไม่สนใจคำพูดของเขาอีกแล้ว อยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด แต่คนตรงหน้าก็ยังขับตรงไปอย่างไม่สนใจคำพูดของผม ผมตัดสินใจแล้วเป็นไงเป็นกัน ถ้ามันจะตายก็ตายไปด้วยกันนี่แหละ มือบางของผมคว้าพวงมาลัยตรงหน้าคนขับอย่างรวดเร็ว หมุนกลับมาในทิศทางที่ผมต้องการ ส่วนอีกคนกลับยื้อไว้ไม่ให้ผมบังคับมันได้ ต่างคนต่างไม่มีใครยอมใคร ดีที่ถนนตอนนี้ไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่  รถสปอร์ตคันหรูเหวี่ยงไปมาอย่างไร้ทิศทาง ผมยอมรับว่านาทีนั้นกลัวมาก กลัวว่าตัวเองจะตายและไม่ได้กลับไปหาแม่ แต่ผม็ยังพยายามบังคับพวงมาลัย ซึ่งอีกคนก็ทำมันเช่นกัน

 

“ปล่อย!” เขาตวาดผมสียงดัง

 

“ผมบอกให้คุณจอดไง!” เขายังคงไม่ยอมทำตามที่ผมพูด ก่อนที่มือหนาข้างหนึ่งจะดึงมือผมออกจากพวงมาลัยสุดแรง จนผมกระแทกเข้ากับประตูรถฝั่งที่ผมนั่งเต็มแรง เขาเหยียบเบรกพร้อมกับบังคับไม่ให้รถเหวี่ยงไปมากกว่าเดิม แต่แรงที่เกิดจากการเบรกกระทันหัน กลับทำให้รถหมุนคว้าง ก่อนที่จะไถลไปเกือบชนขอบกำแพงตรงทางด่วน  เสียงห้ามล้อของรถสปอร์ตคนหรูจะดังสนั่น พร้อมกับรถที่จอสนิทในทันที แรงเบรกแบบกระทันหันทำให้ศรีษะของผมกระแทกเข้ากับคอนโซลรถอย่างแรง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่เท่ากับสายตาขู่อาฆาตของใครบางคน

 

“ลงไป!” เขาตะคอกเสียงดัง จนผมต้องรีบเปิดประตูลงไปในทันที ส่วนอีกคนกลับออกรถไปอย่างไม่ใยดี

 

น้ำตาผมไหลอาบแก้มในทันที เขาปล่อยผมลงกลางทางด่วน ซึ่งตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าอยู่ตรงไหน ได้แต่เดินไปเรื่อยๆ ตามทาง เดิน ไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ไม่รู้เลยว่าจะถึงทางลงตรงไหน มือบางปาดน้ำตาออกลวกๆ พยายามกลั้นสะอื้น ไม่อยากเสียน้ำตาเพราะเรื่องบ้าๆ แบบนี้อีกแล้ว

 

ผมเดินชิดขอบทางให้มากที่สุด เพราะกลัวรถที่มาเร็วและแรงตามทางด่วนอาจจะไม่เห็นแล้วเฉี่ยวผมได้ เดินไปเรื่อยๆ จนเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงทางลงที่ผมสามาถเรียกรถกลับเองได้ จากตอนแรกที่ค่อนข้างกลัว แต่ตอนนี้ผมค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย แม้ว่าริมถนนจะค่อนข้างเปลี่ยว แต่ก็ดีกว่าเดินอยู่บนทางด่วนแบบไร้จุดหมาย ผมยืนโบกรถแท็กซี่อยู่สักพัก ก่อนที่จะมีคันที่ยอมรับผมขึ้นไป

 



(ซอง)

หลังจากที่ผมปล่อยน้องลงกลางทางด่วนเพราะความโมโห ผมก็กระชากรถอย่างแรงก่อนที่จะบึ่งรถออกไปจากจุดนั้น โดยไม่หันไปมองข้างหลังอีกเลย ยอมรับเลยว่าตัวเองโมโหร้าย แล้วตอนนี้ก็กำลังเป็นแบบนั้น ผมขับรถด้วยความเร็วแทบจะเต็มพิกัด  ความสับสนในใจยิ่งเพิ่มมากขึ้น จากที่เคยสงสัยว่าความรู้สึกบ้าๆ แบบนี้คืออะไร พยายามหลอกตัวเองมาตลอด ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าการที่ผมแทบจะบ้าทุกครั้งที่เห็นน้องอยู่กับไอ้ทิม อารมณ์เสียจนใครหน้าไหก็เข้าหน้าไม่ติด ตอนนี้ผมคงต้องยอมรับหัวใจตัวเองแล้วสินะ

 

“ผมรักมิน’

 

น้องต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์กับไอ้ทิมถึงขั้นไหนผมก็ไม่สน เขาต้องเป็นของผมคนเดียว แม้ว่าผมจะคิดจนหัวแทบระเบิดก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าทั้งๆ ที่ผมรักน้องแล้วทำไมถึงยังทำร้ายเขาตลอดเวลา 

 

ผมวนรถกลับไปทางเดิมหลังจากที่ลงจากทางด่วนแล้ว ขับรถตรงไปยังจุดที่ผมปล่อยร่างเล็กลงไปอย่างไม่ใยดี หวังว่าเขาจะยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้หายไปไหน กระวนกระวายใจอย่างที่ไม่เคยเป็น หลังจากคลายความโมโหลงแล้วผมก็คิดได้แล้วว่าไม่ควรทำแบบนี้เลย ผมมักจะทำอะไรตามอารมณ์โดยขาดการยั้งคิด และไต่ตรอง อารมณ์ของผมมักจะอยู่เหนือเหตุผลเสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับน้อง

 

ผมมองหาเขาตามขอบทางแต่กลับไม่เห็น ใจของผมวูบไหวไปชั่วขณะ ตอนนี้น้องไปอยู่ที่ไหน หวังว่าเขาจะกลับบ้านไปแล้ว หรือไม่เกิดเรื่องร้ายแรงกับเขาใช่ไหม ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาจนแทบจะกระอัก  เพราะความเลวของผมจึงทำให้น้องต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆ  ทำให้เขาต้องเจ็บปวดจากการกระทำของผมตลอดเวลา

 

ถ้าผมอยากจะเริ่มต้นใหม่ตอนนี้น้องจะให้โอกาสคนอย่างผมรึเปล่า  แต่ถ้าจะให้ผมเปลี่ยนไปอ่อนโยนหรือเป็นสุภาพบุรุษอย่างไอ้ทิมกับไอ้คิณผมคงทำไม่ได้ แต่ผมจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็น น้องยังจะมองมาที่ผมอยู่รึเปล่า ยังจะมอบความรู้สึกดีๆ แบบในอดีตให้กับผมรึเปล่า แม้ว่าต่อไปมันอาจจะยากเย็นแต่ผมก็จะทำให้ดีกว่านี้ ไม่เป็นไอ้ซองที่โง่เง่า เลวร้ายนสายตาน้องอีกแล้ว

 

ผมยังคงมองหาคนที่ผมทำร้ายเขามาตลอด ในใจก็ภาวนาให้เขากลับไปถึงบ้านหรือมีคนใจดีคอยช่วยเขาไปแล้ว ความคิดสับสนวุ่นวายในหัวสมอง มันตื้อจนรู้ว่าจะแก้ปัญหายังไง ลังเลอยู่หลายครั้งว่าจะโทรหาน้องดีไหม แต่ก็กลัวเขาจะไม่รับหรือถ้าโทรเข้าบ้านเขาดีไหม

 

“ฮัลโหล” ตัดสินใจอยู่สักพักก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมากดเบอร์ที่คุ้นเคย สัญญาณรอสายดังสักพัก ก่อนที่จะมีเสียงผู้หญิงวัยกลางคนกรอกมาตามสาย เป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้าดาวแม่ของมิน

 

“สวัสดีครับ ขอสายมินหน่อยครับ”

 

“มินยังไม่กลับเลยจ๊ะแต่เมื่อกี้พึ่งโทรบอกว่าอีกประมาณสิบนาทีจะถึงบ้านแล้ว”

 

“เหรอครับ ”

 

“จะให้บอกว่าใครโทรมาหาน้องจ๊ะ” น้ำเสียงใจดีเอื้อนเอ่ยออกมาอีกครั้ง

 

“ผมเป็นเพื่อนมินครับ เดี๋ยวผมโทรเข้ามือถือเขาอีกที แค่นี้ก่อนนะครับ” ผมแสร้งทำเป็นคนอื่น เพราะไม่อยากให้ท่านรู้ว่าผมโทรไป แค่รู้ว่าเขาปลอดภัยผมก็ดีใจที่สุดแล้ว

 

ผมตรงดิ่งกลับบ้านในทันที หลังจากที่รู้ว่าน้องปลอดภัย จากที่กังวลจนแทบจะระเบิด ตอนนี้ผมกลับรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหน่วงๆ ในหัวใจหายไปเป็นปลิดทิ้ง

         

           หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ก็ผ่านมาจะสองอาทิตย์แล้วที่ผมยังไม่กล้าแม้แต่จะไปหาน้อง ไม่กล้าเข้าไปขอโทษ เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง แต่ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ทำร้ายน้องด้วยคำพูดเลวๆของตัวเองอีก  เหตุการณ์ในวันนั้นผมยังคงจำได้ดีเหมือนมันพึ่งผ่านมาได้ไม่นาน รู้สึกผิดจนกลัวเขาไม่ให้อภัย ได้แต่แอบเฝ้ามองอีกคอยู่ไกลๆ

             

           สิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาผมได้ดีที่สุดในชีวิตผมตอนนี้ก็คือเหล้า ผมดื่มแทบจะทุกเย็นพร้อมๆ กับความคิดที่วนวียนเรื่องเดิมซ้ำๆ จะเริ่มต้นเข้าหาน้องยังไง จะกลับไปเป็นพี่ซองที่น้องเคยเรียกเหมือนตอนเด็กๆ ได้อีกไหม ผมนั่งดื่มคนเดียวสมอ เพราะผมไม่อยากที่จะบอกใคร แม้แต่น้องชายทั้งสองของผม ก็พยายามที่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมผมถึงดื่มเยอะแยะมากมายขนาดนี้

             

            ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าไปหาน้อง แต่จะเป็นแบบไหนผมก็ยังไม่รู้เลย เข้าไปสารภาพผิด บอกความรู้สึกให้เขารู้ ทุกๆวันผมยังวนเวียนอ่านไดอารี่ที่น้องเขียนถึงผม  ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ที่เขาเอามามอบให้กับผมในวันที่ผมกลับมา พร้อมกับสารภาพความรู้สึกที่น้องมีให้ผมรู้ มันเป็นความทรงจำที่ผมลืมเลือนไปแล้ว แต่พอได้มาอ่านอีกครั้ง จึงรู้ว่าตัวเองทำร้ายน้องมากแค่ไหน ทำให้คนตัวเล็กๆ ร้องให้ไม่รู้กี่คร้งต่อกี่ครั้ง  ความผิดบาปในใจตีตื้นขึ้นจนแม้แต่ตัวผมยังรู้สึกรังเกียจตัวเองเลย

 

ผมสามารถจัดการชีวิตผมได้แทบจะทุกอย่าง ทำมันได้อย่างมีระบบระเบียบ ทั้งเรื่องการงานที่บริษัท แต่กับเรื่องของมินผมกลับทำมันละเทะด้วยตัวผมเอง เพราะความหยิ่งทะนงในตัวเอง กลัวว่าใครจะมองไม่ดีเมื่อต้องมาคบกับเด็กข้างบ้าน อีกทั้งยังเป็นผู้ชาย บรรดาเพื่อนๆ ของผมมักจะพูดจาดูถูกคนที่ต่ำต้อยกว่าเสมอ สังคมที่ผมอยู่จึงเป็นเหมือนสิ่งสวยงามจอมปลอมที่ถูกห่อหุ้มด้วยหน้ากากสีสวยที่แต่งแต้มใส่กัน  เฉพาะกับคนที่ฐานะเท่าเทียมเท่านั้น  ผมรู้ว่าบรรดาเพื่อนที่ผมคบอยู่ไม่มีใครจริงใจต่อกัน มันเป็นเพียงหน้ากากที่ต่างคนต่างสวมเข้าหากันเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น

 

คุณย่าไม่เคยสอนให้ผมดูถูกใคร แต่มันเป็นที่ตัวผมเองที่เลือกที่จะเป็นแบบนี้ เพราะคิดว่าหน้าที่การงานที่แบกรับอยู่ หน้าตาทางสังคมคือสิ่งสำคัญ ความรักสำหรับผมในตอนนั้นมันไม่มีอยู่จริง มีเพียงความไคร่ ความต้องการทางกามมารมณ์ก็เท่านั้น ผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็เพื่อสนองตัณหาของคนสองคน เมื่อสุขสมแล้วก็ต่างคนต่างไป ไม่มีการเรียกร้องหรือผูกมัดอะไรมากไปกว่านั้น

 

แต่หลังจากที่มินบอกทุกอย่างกับผม หัวใจที่ผมพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ ก็เหมือนค่อยๆ ถูกกระชากออกเพราะคนตัวเล็กๆ ที่อยู่ใกล้มาตลอด ผมพยายามหลอกตัวเองมาตลอดหลายเดือนที่กลับมาจากเมืองนอกว่าไม่ได้รู้สึกพิเศษกับน้องเลยแม้แต่น้อย อาจจะค่ารู้สึกผิดที่เคยทำไม่ดีกับเขา แต่ตอนนี้ผมยอมรับแล้ว

 

ยอมรับว่าผมรักมิน ตั้งแต่ที่น้องป็นเด็กผู้ชายตัวอ้วนๆ ตาตี่ๆ วิ่งเล่นในบ้านแทบจะทุกวัน  รักตั้งแต่เด็กไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผมไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครแล้วตอนนี้ นั่งคิดทบทวนอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจโทรหาไอ้คนที่ชาตินี้ผมยังไม่คิดจะญาติดีกับมันเลย

 

“อืม...ฮัลโหล” เสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าไอ้คนที่ผมโทรหามันหลับไปแล้ว

 

“มึง...มึงอยู่กับน้องกูรึเปล่า” ผมพูดกูมึงกับมันมาสักพักแล้วหลงจากที่มันสถาปนาตัวเองเป็นว่าที่น้องเขยของผม

 

“ใคร...มึงเป็นใครโทรมาดึกๆ ดื่นๆ” มันถามเสียงชัดเจนกว่าเดิม ท่าทางจะตื่นเต็มที่แล้ว

 

“กูเอง...ซอง”

 

“โทรมาทำไมว่ะ รบกวนการนอนกอดเมียของกูชิบหาย” ไอ้ห่า ถ้ากูไม่มีธุรจะโทรหามึงรึไง อันนี้แค่คิดในใจไม่กล้าด่ามันหรอกกลัวมันจะไม่ช่วย

 

“มึงออกไปหาที่คุยไกลๆ น้องกูหน่อย เดี๋ยวจะตื่น”

 

“เออๆ แป๊บ” เสียงสวบสาบๆ ดังมาตามสายสงสัยมันคงจะไปหาที่คุย เพราะกลัวน้องผมจะตื่นมาได้ยิน

 

“มีไรก็ว่ามา”

 

“กูมีเรื่องจะปรึกษา”

 

“ปรึกษากู! มึงเนี่ยนะ” มันตะคอกเสียงดังมาตามสาย เพราะร้อยวันพันปีผมไม่เคยขอคำปรึกษาจากมัน ขนาดคุยกันยังนับคำได้ นอกจากนั้นทะเลาะกันตลอด

 

“มึงจะร้องห่าไรว่ะ แปลกมากรึไง”

 

“เออแปลก...ว่ามามีไร”

 

“มึงสัญญากับกูก่อนว่าจะไม่เอาไปบอกใคร”

 

“แม่ง เรื่องมากชิบหายเออๆ ไม่บอก”

 

“แม้กระทั่งพายมึงก็ห้ามบอก”

 

“ ชักจะเยอะและมึงนะ เอาไงจะปรึกษากูไหม”

 

 

“มึงห้ามบอกน้องกูนะเว้ย”

 

“เออ!” ผมเริ่มเล่าทุกอย่างให้ไอ้คิณฟัง เล่าจนหมดเปลือก ไม่มีเก็บซ่อนอะไรทั้งนั้น อีกเหตุผลหนึ่งที่เล่าก็อยากระบายออกมา และก็ปรึกษามันด้วย  ถามว่าทำไมจึงเลือกที่จะปรึกษาไอ้คิณ เพราะผมรู้ว่ามันจริงใจกับผมและมันก็เป็นคนดี เพียงแต่สิ่งที่ผมแสดงออกไปกับมันเพราะกลัวเสียฟอร์มที่เคยตั้งแง่กับมันหลายๆ อย่าง  ไอ้คิณมันฟังผมเล่าเงียบๆ มีเพียงเสียงอือออของมันเท่านั้นที่ทำให้ผมรู้ว่ามันยังฟังผมอยู่

 

“ไอ้ห่า โง่บรม”  มันด่าหลังจากที่ผมเล่าเรื่องให้มันฟังจนจบ ได้ทีแล้วด่ากูใหญ่เลยนะมึง ถ้าไม่เห็นว่าต้องพึ่งมันนี่ผมสวนกลับมันไปแล้ว

 

“เออ! กูโง่ พอใจยัง”

 

“ยัง..นอกจากโง่แล้วมึงยังเลวอีกต่างหาก” มันเน้นทั้งคำว่าเลวใส่ผมแบบเต็มๆ จนผมกัดฟันกรอด อย่าให้ถึงที่ผมบ้างแล้วกันจะยุให้พายเลิกกับมันเลยแม่ง

 

“ตอนมึงทำเลวกับน้องมินทำไมกล้า แต่พอจะแก้ตัวทำดีทำไมมึงถึงขี้ขลาด” มันว่าผมกลับมา ผมได้แต่คิดทบทวนตามที่มันบอก มันก็จริงทุกอย่างนั่นแหละ ตอนทำเลวๆ ไม่เคยคิด แต่พออยากจะแก้ไขให้ดีกลับกลัวที่จะเดินหน้าทำมัน

 

“มึงฟังกูนะซอง แค่มึงเข้าไปขอโทษน้องมิน เอาความจริงใจที่มึงมีส่งไปให้เขาได้รับรู้ และทำให้น้องเห็นว่ามึงไม่ได้เห็นน้องเป็นตัวตลกหรือของเล่นอะไรทำนองนั้น แต่น้องคงไม่ให้อภัยมึงง่ายๆ หรอก มึงต้องมีความอดทนพอที่จะทำ ไม่ใช่พอทนไม่ไหวก็กลับไปทำแบบเดิมอีก อย่างนี้เรียกว่าไม่จริงใจ มึงทำกับมินไว้เยอะเกินไป กูบอกมึงได้แค่นี้แหละ มึงต้องยอมรับผลที่จะตามมา”  ผมนั่งฟังมันพูดไปเรื่อยๆ แล้วก็พยายามคิดตามว่าจะหาทางออกยังไง

 

“กูรู้” เสียงตอบรับเพียงเบาบางของผม ทำให้มันเริ่มจะกวนตีนผมอีกครั้ง

 

“แค่นี้ถึงกับจ๋อยเหรอว่ะ ไอ้ซองคนเก่งคนกล้าหายไปไหน กลับไปสู้เพื่อตัวมึงกับน้องเถอะ” แม้ว่าน้ำเสียงจะกวนอวัยวะเบื้องล่าง แต่ผมรู้ว่ามันเต็มไปด้วยความจริงใจที่ส่งมาให้กับผม

 

“เออ..ขอบใจ”

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่เมีย”

 

“อย่ากวนตีน แม่งเอาน้องกูไปนอนกกแทบจะทุกวัน แล้วเมื่อไหร่มึงจะมาสู่ขอน้องกู”

 

“ไม่ต้องกลัวหรอกครับพี่ชาย น้องเขยไม่ให้รอนานหรอก อยากจะนอนกอดเมียทุกวันจะแย่”

 

“แค่นี้มึงยังกอดไม่พอรึไง อาทิตย์นี้น้องกูยังไม่ได้นอนที่บ้านเลยสักวัน”

 

“ก็กูซ้อมฮันนีมูน”

 

“เออ เรื่องของมึง แต่อย่าทำน้องกูช้ำนะมึง ไม่งั้นกูจัดการมึงแน่”

 

“มึงอย่ามาไร้สาระไอ้ซอง เสียเวลากูนอนกอดเมีย แค่นี้นะโว้ย” มันกดตัดสายไปแล้ว แต่ผมกลับยิ้มให้กับตัวเอง และไอ้คนปลายสายที่ตอนนี้คงเข้าไปนอนอ้อนน้องชายผมแล้ว ยังไงผมก็ตองขอบคุณมันที่ทำให้ผมคิดได้และรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ต่อไปนี้แม้ว่ามันจะยากแต่ผมก็จะพยายาม

 

***********************

อ่านตรงนี้ด้วยนะคะ

มาต่อจนจบตอนแล้วนะคะ สำหรับคนอ่านหลายคนที่โมโหว่าทำไมซองไม่มีเหตุผล และเรื่องวนไปวนมาเหมือนอยู่ที่เดิม ที่จริงคนเขียนตั้งใจให้ความรู้สึกของทั้งสองคนเป็นแบบนี้ อยู่ในช่วงสับสนของทั้งมินแล้วก็ซอง ก่อนที่จะมีจุดเปลี่ยนอีกครั้งค่ะ เข้าใจตามนี้นะคะ 

บางคนอาจจะไม่เข้าใจมินหรือแม้กระทั่งซอง คนเขียนต้องการสื่อให้เห็นว่ามินแม้จะบอกว่าตัดใจ แต่ในส่วนลึกๆ ที่เราเคยรู้สึกดีกับคนๆ หนึ่งมันก็ไมได้ตัดขาดได้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ถ้าถามว่ามินจะกลับไปคบกับซองเหรอถ้ายังรู้สึกแบบนั้นอยู่ คนเราเจ็บแล้วจำค่ะ บาดแผลที่มันตกสะเก็ดไปแล้วแต่ยังทิ้งร่องรอยไว้อยู่ คนเราไม่สามารถลืมอะไรได้ง่ายๆ หรอก ไม่ว่าจะความรัก ความแค้น ความเกลียดชัง

 

ต่อไปจะเป็นจุดเปลี่ยนของเฮียซองปากหมา คอยดูว่เขาจะพยายามมากน้อยแค่ไหน


                               TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2016 19:18:30 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ซองต้องอดทนเปลี่ยนตัวเองนะ

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
มินคง ไม่ใจดี  ใจอ่อนง่ายๆๆนะ ถึงจะทำเพราะรัก มันก็เกินไป ขอบทเรียน แรงๆๆ ให้ไอ้ซองมันหลาบจำ คลานเข่า มากราบแทบเท้า ขอคืนดีเลยเถอะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เอาใจช่วยให้เฮียซองต์เปลี่ยนตัวเอง ง้อน้องให้ได้นะ อย่าดีแตกซะก่อนล่ะ

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เอาใจช่วยพระเอกนะ ขอให้มีความอดทนสูงกว่านี้ 55
แต่บอกตรงตรงตอนนี้พี่ซองทำเกินไป
ถ้าน้องเป็นอะไรไปแล้วตัวเองจะทำยังไง
ไม่มีโอกาสให้แก้ไขอะไรแล้ว
ในเมื่อมีโอกาสก็รีบรักษาเอาไว้นะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z3:
ขอบ่นเป็นข้อๆละกันนะ
1. การทะเลาะกันแล้วแตะพวงมาลัยรถ ไม่ว่าจะเป็นรถเต่า รถญี่ปุ่น รถสปอร์ต อะไรก็ตามเป็นเรื่องที่งี่เง่าสิ้นคิดมาก คิดดูนะว่าถึงประกันจะจ่ายแต่มันคุ้มไหม

2. การขอลงจากรถบนทางด่วนคือหายนะชั้นดี ใครยังไม่ตะหนักเรื่องนี้ไปเปิดภาพศพอุบัติเหตุตกทางด่วนหรือเคสของอาร์ดู อะไรที่เกิดบนทางด่วนคือระดับหายนะจริงๆเพราะขับกันเร็วมาก ถ้าเป็นเราจะนั่งเงียบจนกว่ามันจะลงจากทางด่วนแล้วโบกกบาลคนขับทีนึงค่อยขอลง

3. การกระทำและการตัดสินใจของทั้งสองคนจากเหตุการณ์นี้ มันมีวุฒิภาวะไหม โตๆกันแล้ว พื้นฐานครอบครัวก็ไม่เลวร้าย
การจะจอดรถคุยกันดีๆเพื่อความปลอดภัยนี่มันยากมากเหรอ จะตบตีกันก็เอาตอนรถหยุดเถอะ จะลากโคตรเหง้าศักราชมาด่ากันก็ได้นะแต่ไม่ใช่ไล่กันแบบนี้เพราะมันไม่มีความรับผิดชอบเลย

สรุป ต่อให้มาขอคืนดียังไงก็ไม่มีทางคืนดีด้วยหรอก คนแบบนี้เหรอจะดูแลเราได้ ฝันเหอะ มันไม่ได้ตางอะไรกับการลงไม้ลงมือกันเลย ต่อไปเกิดพลังพลาดอะไรขึ้นมาก็อ้างอารมณ์ชั่ววูบอีกตามเคย
เหอะ รอการแก้แค้นของน้องมิน ถ้ามินทำได้นะ

ข้อดีข้อเดียวของตอนนี้คือการโทรปรึกษาคิณให้คิณด่า สะใจดี   :katai4: 

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
อยากเอาใจช่วยพี่ซองนะ  แต่ปากหมาแบบนี้ แล้วยังเลวที่ปล่อยให้น้องลงกลางทาง ทั้งที่บอกให้น้องนั่งรถมาด้วยกัน

ถ้าน้องเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ พี่ซองจะไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอีกเลย  เพราะถ้ารักน้องจริงก็ควรทำอะไรเพื่อพิสูจน์ว่ารักน้องจริง ไม่ได้คิดจะเห็นน้องเป็นของเล่น หรือที่ระบาย

ส่วนมินต้องใจแข็งเข้าไว้มากๆ ถ้าคิดจะเป็นเมียพี่ซองต้องอดทน 555

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ค่อนข้างเกลียดอีพี่นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด