หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า แอบรัก(ครัวซองต์+มิน)ตอน22.P.9(07/06/59) The End.  (อ่าน 64627 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
สู้ๆ กันต่อไป ..

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อิพี่ซองนี่อย่าเป็นพระเอกเลยได้ไหม

มันก็ใช่อ่ะนะที่รักแล้วใช่ว่าจะเลิกรักได้ง่ายๆ ถ้าง่ายขนาดนั้นจะเป็นรักจริงๆเหรอ

แต่ซองไม่ใช่คนที่ควรค่ากับความรักเลย ไม่ใช่แค่รักของมิน รักของคุณยายยังไม่คู่ควรเลยเหอะ
รักกันทั้งสองฝ่าย แต่อีกฝ่ายไม่มีค่าพอจะรัก ความรักมันก็จืดจางเจือจางไปได้นะ


ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องมินอย่าใจอ่อนง่ายๆ นะครับ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มินไม่ใจอ่อนง่ายๆแน่

ออฟไลน์ MIwEMInE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ซองสู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
แอบรัก 14

(ซอง)

ผมกำลังเปิดประตูข้ามไปยังบ้านหลังเล็กนั้นอีกครั้ง คราวนี้ผมตั้งใจแล้วว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะไม่ทำเรื่องที่เลวๆ แบบเมื่อก่อนอีก แม้ว่ามันอาจจะยาก แต่ผมก็พร้อมที่จะยอมรับแล้ว เพราะถ้าผมยังดันทุรังทำตัวแบบเมื่อก่อน มีแต่จะสร้างความเจ็บปวดให้ทั้งผม และน้องอย่างแน่นอน  อีกทั้งยังไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ มีแต่จะเลวร้ายลงไปทุกที จากการกระทำบ้าๆ ของผม กว่าที่จะคิดได้เหตุการณ์ทุกอย่างก็เลวร้ายเกินกว่าที่จะแก้ปัญหา

 

ตอนนี้ผมยังไม่กล้าสู้หน้าน้องเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าไม่ลงมือทำอะไรเลยตอนนี้ ปล่อยผ่านไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งจะทวีความห่างเหิน จนกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันเข้าสักวัน ผมเดินตรงไปยังจุดหมายที่ผมตั้งใจไว้แต่แรก แต่ภายในบ้านกลับดูเงียบผิดปกติ หรือว่าเขาไม่อยู่ ก่อนที่จะเดินตรงมายังสวนเล็กๆ ข้างบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา จนบรรยากาศร้อนๆ ภายนอกกลับดูสดชื่นขึ้นมาทันที

 

มินนั่งเล่นบนเสื่อผืนใหญ่ โดยมีเจ้าปลาทองสุนัขพันธ์ทางตัวสีน้ำตาลนอนคลอเคลียอยู่ข้างๆ ในมือของเขาถือหนังสือนิยายเล่มหนาอ่านอย่างตั้งใจ หลังบางพิงลำต้นไม้ใหญ่อย่างผ่อนคลาย จนผมเผลอยิ้มออกมา

 

"เอาขนมมาให้" มันเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อที่ผมจะได้มาหาเขาก็เท่านั้นคนที่ก้มอานหนังสือเหลือบมองผมเพียงนิดเดียวก่อนที่จะก้มลงไปสนใจหนังสือในมือต่อ

 

"........" เงียบ

 

"เอาขนมมาให้น้าดาว" นับหนึ่งถึงสิบ อดทนไว้ไอ้ซองห้ามทำนิสัยเลวๆ แบบเดิมอีก ไม่อย่างนั้นสิ่งที่คิดจะแก้ไขคงล้มเหลวตั้งแต่เริ่มตัน

 

"แม่ไม่อยู่" แม้ว่าปากจะตอบผม แต่ก็ยังคงก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่อยางนั้นจนผมใจแป้วทันที ทำไมเขาไม่คิดจะสนใจผมบ้างเลยรึไง ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน คิดว่าคุยกับคนหรือต้นไม้อยู่อย่างนั้นเหรอ

 

"ไม่อยู่ก็รับไว้สิ น้าดาวกลับมาค่อยเอาให้" มือเล็กยื่นมารับถุงขนมไทยร้านดัง ก่อนจะก้มลงไปสนใจหนังสือในมืออีกครั้ง ผมเป็นคนตั้งใจไปซื้อด้วยตัวเอง ขนมที่ผมเลือกมีแต่ของโปรดของมินทั้งนั้น แต่ผมไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาอ้าง เลยต้องบอกเขาว่าซื้อมาให้น้าดาว ทั้งๆ ที่จริงแล้ว ผมซื้อมาให้เขาต่างหาก

 

"ทำอะไรอยู่" คำถามโง่ๆ ถูกเอื้อนเอ่ยออกไปจากปากคนโง่ๆ แบบผม

 

"ก็เห็นอยู่แล้วจะถามทำไม"  คำตอบแบบไม่ยี่หระของคนตัวเล็กนั้นช่างแทงใจผมเหลือเกิน ผมเริ่มจะเข้าใจนิดๆ แล้วว่าเวลาที่ผมเย็นชาใส่เขาแล้ว น้องรู้สึกอย่างไร แม่งมันเจ็บแปลบๆ แบบนี้นี่เอง

 

"รู้แต่อยากถาม"

 

"......."

 

"เออ! เงียบเข้าไป"  ผมเผลอเอ่ยเสียงดัง ก่อนที่จะเริ่ม้นตั้งสติ นับหนึ่งถึงสิบ ถึงร้อยอีกครั้ง เขายังคงไม่สนใจ ผมยังมีตัวตนอยู่ใช่ไหม ไม่ใช่ลมหรือธาตุอากาศที่จับต้องไม่ได้มองไม่เห็น เขาถึงทำกับผมแบบนี้

 

เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กดังขึ้นขัดจังหวะอารมณ์กรุ่นโกรธของผม ก่อนที่น้องจะหยิบขึ้นมาดู พร้อมกับส่งยิ้มให้โทรศัพท์ไปที ราวกับว่าบุคคลที่โทรมาอยู่ตรงหน้าอย่างนั้นแหละ

 

"ครับพี่ทิม" เสียงหวานเอ่ยออกไปอย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้ผมร้อนเป็นไฟอยู่เพียงลำพัง อารมณ์ขุ่นเคืองเริ่มเกาะกุมใจผมอีกครั้ง แต่ก็พยายามที่จะระงับไม่ให้มันระเบิดออกมา

 

"........."

 

"อยู่บ้านครับ ....ได้ครับ จะมารับกี่โมง" มินทั้งพูดทั้งยิ้มเต็มดวงหน้าเมื่อคุยกับไอ้ทิม ต่างจากเวลาที่เขาคุยกับผม แทบจะนับคำได้

 

"ครับๆ สี่โมงเย็นเจอกัน..... คิดถึงนะครับ ขับรถดีๆ นะครับ" สิ่งที่มินพูดมันโคตรที่จะกระแทกใจผม

 

"จะไปไหนกับไอ้ทิม" ผมพยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

 

"เรื่องส่วนตัว คนอื่นอย่างคุณไม่เกี่ยว" โหดร้ายได้อีกกับคำพูดของน้องที่พุดกับผม

 

"เออ...พี่มันคนอื่น"  คำสุดท้ายผมตอบรับเพียงเบาบาง แต่ไม่รู้ว่าน้องจะได้ยินรึเปล่า ก่อนที่ผมจะหันหลังออกไป เดินกลับไปบ้านเพื่อเคลียร์ความรู้สึกของตัวเอง ไม่ให้โกรธหรือโมโห เพื่อที่จะได้ไม่ทำร้ายน้องเหมือนที่ผ่านมา

 

รถสปอร์ตคันหรูหลบซ่อนอยู่ตรงพุ่มไม้ใหญ่ใกล้ๆ กับบ้านของมิน ผมลอบมองเข้าไปในบ้าน ทั้งมินแล้วก็ไอ้ทิมเดินออกมาจากในตัวบ้าน เพราะไอ้ทิมมันจอดรถไว้หน้าบ้านนั่นเอง ตอนนี้เริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสโตร๊กเกอร์โรคจิตที่คอยตามคนที่ตัวเองชอบตลอดเวลา

 

ผมขับตามไปช้าๆ ก่อนที่เร่งความเร็วตามรถเก๋งคันหรู เพราะไม่ต้องการให้คลาดสายตาเลยแม้แต่น้อย ทั้งสองคนมุ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก่อนที่ผมจะนำรถไปจอดชั้นเดียวกัน เดินตามทั้งสองคนไปโดยทิ้งระยะห่างพอสมควร

 

ทั้งสองคนเดินเข้าไปยังร้านอาหารไทย  ก่อนที่จะพากันสั่งอาหาร ส่วนผมเลือกที่จะนั่งร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามที่สามารถมองเห็นทั้งสองคนได้อย่างถนัด  มินมองไม่เห็นผมแน่นอน ส่วนไอ้ทิมไม่แน่ เพราะผมเห็นหางตาของมันเหมือมองผมอยู่แทบจะตลอดเวลา แต่มันก็ยังหันไปคุยยิ้มกับน้องเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอ้นี่มันตอแหลหน้าตายจริงๆ เลย เห็นแล้วอยากกระดดเข้าไปซัดซักหมัดสองหมัด มันตักอาหารป้อนมินด้วย ส่วนอีกคนก็คงอ้าปากรับอย่างเต็มใจ สีหน้าของมันดูระรื่นมากจนผมอยกจะกระโจนเข้าไปกระชากมันออกมาจากร้านเลยทีเดียว ทำไมคนที่ทำแบบนี้ให้น้องไม่ใช่ผม ทำไมต้องเป็นไอ้ทิมหน้าปลาจวดนั่นด้วย ผมได้แต่นั่งสบถอยู่คนเดียว จนพนักงานที่ร้านกาแฟเข้ามาถามว่าผมต้องการอะไรรึเปล่า ไม่อยากจะบอกว่าตอนนี้แดกอะไรไม่ลงหรอก นอกจากอยากจะฆ่าคนอย่างเดียว

 

คนที่คอยตามคอยแอบรักคนอื่นทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์จะหึงหรือหวงมันทรมานแบบนี้เหรอวะ ทำไมยังทนกันได้ ขนาดผมเพิ่งรู้ความรู้สึกตัวเองยังทรมานจนแทบคลั่ง แล้วคนที่แอบรักคนอื่นมานานหลายปี โดยที่เขาไม่มองนี่มันจะทรมานขนาดไหน  แค่คิดก็รู้สึกว่าตัวเองเลวกับน้องอย่างไม่น่าให้อภัย ผมยังคงนั่งมองทั้งสองคนอยู่เงียบๆ เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำยังไง จะออกไปดื่มให้ลืมๆ เหมือนเช่นทุกวันมันก้ไม่ใช่ป่ะว่ะ หรือจะจับปล้ำให้จบๆ ไปเลยว่ะค่อยง้อทีหลัง อันนี้แค่คิดเล่นๆ ครับไม่กล้าทำหรอก แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว ถ้าขืนทำบ้าๆ แบบนั้นอีกคงเท่ากับขุดหลุมฝังตัวเองเลยล่ะครับงานนี้

 

ผมจะทำยังไงดี ถ้าโทรหาไอ้คิณอีกรอบมันก็คงจะสมน้ำหน้าผมกลับมาอีก แค่โดนมันด่าเมื่อคืนก็สะอึกจนถึงเช้าแล้ว ผมนั่งคิดไปเรื่อยจนลืมมองคนที่อยู่ในร้านอาหารทั้งสองคน พอหันกลับไปอีกที ทั้งสองคนก็หายไปแล้ว คลาดกันจนได้ ผมเลยจำต้องกลับบ้านไปทั้งอย่างนั้น

 

********************

 

"น้าดาวครับ คุณย่าให้เอาบัวลอยเผือกมาให้"  ผมคุยกับน้าดาว แต่ตาก็ยังคงมองหาน้องที่ตอนี้ไม่รู้ว่าอยูที่ไหน

 

 

"ขอบใจจ๊ะ ของโปรดน้องพอดีเลย รายนี้คุณย่าทำบัวลอยทีไรกินจนแทบจะหมดคนเดียวเลย" น้าดาวเอ่ยถึงลูกชายตัวเอง พูดไปเรื่อยกับความชอบกินของหวานของมิน ผมรู้ว่าเขาชอบกินขนมแทบทุกชนิด เพราะตั้งแต่เด็กจะชอบนั่งเฝ้าคุณย่าเวลาที่ทำขนม รอจนได้กินก่อนจะกลับบ้านแทบจะทุกวัน  เขาจึงอ้วนตั้งแต่เด็ก แต่ทำไมพอโตมาถึงกลายเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ พอๆ กับบราวนี่เลยด้วยซ้ำ ยิ่งทำให้เด็กที่ตอนเล็กตัวขาวๆ อ้วนๆ กลายเป็นหนุ่มน้อยผิวขาวตาตี่ ยิ้มทีตากลายเป็นสระอิ น่ารักจนใครหลายๆ คนตามจีบ รวมทั้งไอ้ทิมด้วย

 

"ซองทำไมเงียบไปล่ะ" ผมตื่นจากภวังค์หลังจากที่เผลอคิดเรื่องราวในวัยเด็ก

 

"คะ..ครับ"

 

"ทานข้าวด้วยกันไหมจ๊ะวันนี้ น้องกำลังทำอาหารอยู่ในครัว น่าจะใกล้เสร็จแล้ว"     

 

"เอ่อ...ครับน้าดาว"

 

"ดีเลยทานหลายๆ คน จะได้ไม่เหงา" ดีเลยครับผมไม่ได้เจอน้องมาหลายวันแล้ว ทำงานแทบจะไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่กังวลว่าไอ้ทิมมันจะตามไปเฝ้าน้องรึเปล่า จนต้องแอบตามไปดูทุกเย็นหลังจากที่เลิกงาน นับวันผมยิ่งเหมือนคนเป็นโรคจิตที่คอยตามเฝ้า ตามหวงอยู่ห่างๆ แต่ไม่กล้าลงมือทำอะไรสักอย่าง ได้แต่พยายามเข้าหาแบบอ้อมๆ อย่างนี้แหละ

 

"ครับ"

 

"คุณนายกับข้าวเสร็จแล้ว" เสียงตะโกนเรียกน้าดาวดังมาจากในครัว

 

"ไปทานข้าวกันดีกว่าจ๊ะ" ผมเดินตามน้าดาวไปเงียบๆ ขณะที่น้องยังคงจัดโต๊ะอาหารอย่างขะมักเขม้น ไม่ได้สนใจว่ามีผมเข้ามาด้วยเลยสักนิด

 

"ตักข้าวเพิ่มอีกจานดวยนะลูก"

 

"ทำไมฮะ" มินเงยหน้าจากโต๊ะอาหาร ก่อนที่จะชะงักเมื่อเจอผมยืนอยู่ตรงหน้า แต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจผมอีกครั้ง ก่อนที่จะนำจานมาตักข้าวเพิ่มอีกใบ

 

"นั่งข้างๆ น้องเลยจ๊ะซอง" โต๊ะอาหารที่บ้านน้องเป็นโต๊ะกลม ผมจึงมีโอกาสได้นั่งใกล้ๆ น้อง

 

"ทำไมไม่คุยกับพี่เขาบ้างล่ะ"  น้าดาวหันไปถามน้อง ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทานอาหาร สีหน้าไร้อารมณ์ เหมือนรีบๆ ทานให้เสร็จๆ ไปก้เท่านั้น

 

"ไม่มีอะไรจะคุยฮะ" ตอบแค่นั้นก่อนที่ทานอาหารของเขาเงียบๆ ตามเดิม ตอนนี้กลายเป็นว่า บทสนทนาผูดติดระหว่างผมกับน้าดาวแค่สองคน  น้าดาวคอยชวนผมคุยไปเรื่อย เพื่อไม่ให้บรรยากาศดูอึดอัดจนเกินไป

 

"ทานนี่ดูสิ ชอบไม่ใช่เหรอ" ผมตักผัดฉ่าปลาดุกให้กับน้องที่ดูจะไม่สบอารมณ์กับการกระทำของผมเอามากๆ แต่ผมก็ยังหน้าด้านทำเป็นไม่รับรู้อะไร

 

"ก็แค่เคยชอบ แต่ตอนนี้เกลียดเลยด้วยซ้ำ" คำพูดกำกวมที่เอื้อนเอ่ยผ่านริมฝีปากน้อยๆ  พร้อมๆกับมือที่จับช้อนเขี่ยอาหารไปไว้ข้างจาน การกระทำของเขากระแทกเข้ากับใจที่เคยเย็นชาของผมเข้าเต็มๆ ตอนนี้มันกลับมาเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความกลัวว่าเขาจะรำคาญ

 

"มิน พูดกับพี่เขาดีๆ นั่นมันของโปรดเราไม่ใช่เหรอ วันนี้ลงมือทำด้วยตัวเองอีกต่างหากจะบอกว่าไม่ชอบได้ยังไง" ที่น้องบอกไม่ชอบคงจะหมายถึงผม ไม่ใช่ไอ้ผัดฉ่าปลาดุกหรอก ผมรู้ดี

 

"อยู่ดีๆ มันก็เบื่อนี่ฮะแม่ แค่เห็นยังจะอ้วกเลยตอนนี้"

 

"จริงเหรอลูก ถ้าอย่างนั้นก็ทานอย่างอื่น ส่วนผัดฉ่านี่ให้พี่ซองเขาทานล่ะกัน" น้าดาวเลื่อนจานผัดฉ่าสลับมาไว้ตรงหน้าผม ท่านคงไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่น้องพูดไม่ได้หมายถึงอาหารบนโต๊ะเลยสักนิด แต่เขาหมายถึงผมต่างหากล่ะ

 

"ทานต่อเลยซอง กับข้าวถูกปากรึเปล่าน้าลืมถามเลย"

 

"อร่อยมากเลยครับน้าดาว โดยเฉพาะผัดฉ่าจานนี้ สงสัยคนทำจะใส่ใจเป็นพิเศษ" ผมแอบมองน้องที่ก้มหน้าก้มตาทานอาหาร ทำเหมือนไม่สนใจ แต่ก็แอบเหล่มองอาหารจานที่ผมเอ่ยชม

 

"มินเขาทำผัดฉ่าอร่อย อาจจะเพราะเขาชอบกินเลยตั้งใจทำเป็นพิเศษ" น้าดาวยังคงเอ่ยชมลูกชายตัวน้อยที่นั่งหน้าบึ้งตึงไม่พูดกับใครเลย

 

"แม่! พอแล้ว" มินเรียกน้าดาวเสียงดัง คงไม่อยากให้น้าดาวเล่าเรื่องส่วนตัวของเขาให้ผมรู้สินะ

 

"เป็นอะไรน่ะเรา ทำไมวันนี้โมโหบ่อยจัง"

 

"อย่าเล่าเรื่องส่วนตัวของมินให้คนอื่นฟัง"

 

"พี่เขาเป็นคนอื่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพูดจาแบบนี้ น่าตีจริงๆ เลยเด็กคนนี้นิ"

 

"ไม่เป็นไรหรอกครับน้าดาว เขาคงอึดอัดที่ผมมาทานข้าวด้วย"

 

"รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ คราวหน้าจะได้ไม่ต้องมาทานอีก" มินบ่นเบาๆ แต่เขาอยู่ใกล้ผมมาก ถึงจะเป็นแค่เสียงบ่น แต่ผมกลับได้ยินมันชัดเจนมาก

 

*************


ตอนนี้ผมนั่งคุยกับน้าดาวที่ห้องรับแขก เจ้าปลาทองก็นอนเล่นอยู่ข้างๆ น้าดาวถามผมว่ามีอะไรกับน้องรึเปล่า แต่ผมไม่กล้าที่จะบอกหรอก ว่าผมทำเรื่องอะไรเลวๆ ไว้กับน้องบ้าง ผมจึงได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไป น้าดาวพอจะรู้อยู่แล้วว่าผมกับน้องเราไม่ค่อยจะถูกกัน แต่ถ้าพูดจริงๆ ก็คือผมนี่แหละที่ตามหาเรื่องน้องตลอด แต่ท่านไม่เคยรู้ว่าผมทำไม่ดีกับน้องมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ผมนั่งคุยกับน้าดาวแต่สายตาผมกลับเหล่มองในครัวแทบจะตลอดเวลา

 

"มีอะไรจะคุยกับน้องรึเปล่า" น้าดาวคงเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของผม

 

"เอ่อ...ครับ"

 

"มินออกไปส่งพี่ซองที่หน้าบ้านหน่อยลูก แม่ขอขึ้นไปพักก่อน" น้าดาวหันไปพูดกับมินที่ตอนนี้เดินออกมาจากในครัวแล้ว ก่อนที่ท่านเตรียมตัวจะขึ้นไปบนบ้าน

 

"มาเองก็กลับเองสิ บ้านอยู่แค่นี้" มินบ่นเบาๆ

 

"มินไปส่งพี่ซองที่หน้าบ้าน!" น้าดาวสั่งมินเสียงดัง ก่อนที่คนตัวเล็กจะรีบเดินจ้ำอ้าวออกไป ผมรีบลาน้าดาวก่อนจะเร่งฝีเท้าตามน้องไปให้ทัน คนตัวเล็กยืนหน้าบึ้งตึงรอผมอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน

 

"ส่งแค่นี้หวังว่าคงจะกลับบ้านตัวเองถูกนะ"

 

"เดี๋ยวก่อนสิ คุยกับพี่ก่อน" ผมดึงมือคนตัวเล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้าผมอีกครั้ง แต่เขากลับหันไปทางอื่น ไม่อยากเห็นหน้ากันขนาดนี้เลยหร่ือไงว่ะ

 

"เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันด้วยเหรอ" น้ำเสียงเยาะๆ ถูกส่งมาให้ผม ผมมองข้ามมันไปไม่อยากจะเก็บเอามาคิดให้เจ็บปวด

 

"พรุ่งนี้ไปทำงานยังไง เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

 

"ไม่จำเป็นหรอก ผมไปเองได้"

 

"แต่พี่จะมารับ"

 

"ผมนัดพี่ทิมไว้แล้ว คงไม่จำเป็นต้องรบกวนคุณหรอก" เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ไอ้ทิม มันดีนักรึไง

 

"ทำไมต้องไปรบกวนคนอื่นบ้านอยู่คนละทาง เสียเวลาวนรถไปมา"

 

"พี่ทิมไม่ใช่คนอื่น คุณต่างหากที่เป็น" ผมสะอึกกับคำพูดของน้อง นี่ผมกลายเป็นคนอื่นสำหรับน้องไปแล้วสินะ เขาถึงย้ำแล้วย้ำอีกแบบนี้

 

"พี่ขอโทษ" ผมตัดสินใจพูดในที่สุด ก่อนที่เขาจะหันหน้ามามองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

 

"หึ...อย่าทำแบบนี้เลยครับ มันไม่มีประโยชน์ และไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก"

 

"พี่ขอโอกาสได้ไหม ไม่ต้องให้อภัยพี่ตอนนี้ก็ได้ ขอแค่มินยอมให้พี่ได้ทำอะไรเพื่อมินบ้าง" ผมไม่ได้หวังว่าน้องจะยอมให้อภัยผมตอนนี้ แต่ขอแค่เขาไม่ทำเหมือนผมเป็นคนอื่น หรือไม่มีตัวตน ให้โอกาสได้แก้ตัวกับความผิดพลาดที่ผมเคยทำ

 

"ถ้าคุณยังเห็นผมเป็นน้องคนหนึ่ง ผมขอแค่อย่างเดียว อย่ามายุ่งกับผมอีก"

 

"มิน...พี่ขอโทษ แต่อย่าทำแบบนี้เลยนะ ให้พี่ทำอะไรก็ได้"

 

"ผมขอแค่นี้ ถ้าคุณทำไม่ได้เราก็คงไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกแล้ว" เขาหันหลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ก่อนที่ผมจะรีบไปคว้าตัวเขามากอดไว้

 

"พี่ขอโทษๆ อย่าทำแบบนี้เลย พี่รักมิน ให้โอกาสพี่ได้ไหม" ผมตัดสินใจบอกความรู้สึกที่ตัวเองมี เพราะแน่ใจแล้วว่ามันคืออะไร

 

"ปล่อย!" มือบางพยายามแกะมือที่ผมโอบกอดเขาไว้แต่ไม่สำเร็จ เพราะแรงอันน้อยนิดที่เขามี

 

"พี่ไม่ปล่อย จนกว่ามินจะยอมให้โอกาสพี่ พี่ขอโทษนะคนดี พี่ขอโทษ" ผมพรำ่บอกคำเดิมซ้ำๆ กับเขาอยู่อย่างนั้น นำ้ตาผมกำลังไหล ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้ผมจะร้องให้เพราะเรื่องแบบนี้ คางแกร่งของผมเกยไหล่บางเอาไว้อยู่อย่างนั้น จนกว่าเขาจะยอมให้โอกาสผม ผมจะไม่ยอมปล่อยเขาไปเด็ดขาด

 

"อย่าทำแบบนี้กับผม ผมไม่ใช่ตุ๊กตาที่เวลาคุณอยากจะเอาไปเล่นด้วยก็เข้ามาหา แต่เวลาเบื่อก็คงโยนมันทิ้งอย่างไม่ใยดี"

 

"มิน..."

 

 

"ปล่อยให้ผมมีทางเดินของผมเถอะ อย่าทำร้ายกันอีกต่อไปเลย เราทำร้ายความรู้สึกของกันและกันมามากเกินพอแล้ว" คราวนี้ผมยอมปล่อยมือจากเขาโดยง่าย เหมือนมันไร้เรี่ยวแรงที่จะรั้งเขาไว้แล้ว ผมทำร้ายเขามาตลอดผมรู้  ผมยืนมองคนที่เดินกลับเข้าไปในบ้านไม่หันกลับมามองผมเลยแม้แต่น้อย

 

ผมยืนมองเขาไปจนลับตา นี่ผมต้องยอมปล่อยน้องไปจริงๆ ใช่ไหม ทั้งๆ ที่ผมรู้ใจตัวเองแล้วแท้ๆ ว่าเราสองคนใจตรงกัน แต่มันคงจะสายเกินไปแล้วจริงๆ  ผมจะตัดใจได้อย่างไร ในเมื่อน้องคือคนเดียวที่ผมรัก ผมไม่ได้ร้องให้ฟูมฟายเหมือนผู้หญิง ไม่ได้สะอื้นเสียงดัง มีเพียงหยดน้ำใสๆ ที่กำลังไหลออกมาจากหน่วยตาของผม ยกมือขึ้นปาดมันลวกๆ

 

ผมไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเดินกลับเข้าไปห้องนอนของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ เหมือนผมมีแต่ร่างกาย แต่จิตใจผมมันตายไปพร้อมกับคำพูดตัดรอนของน้องไปแล้ว

 

 

*******************

 จบตอนแล้วนะ มาม่าไม่หนักหน่วง แค่กรุบกริบ ~T_T~

 

ขอจัดอีกสองสามตอนท่าจะดี คนอ่านว่ายังไงคะ
 :z3: :z10: :z2:


 

เฮียซองยังเจ็บไม่พอ จัดหนักๆ กว่านี้ดีกว่าสะใจดี

 

คนเขียนรักเฮียเลยจะจัดหนักๆ เพื่อเฮียคนเลวของทุกคน



               TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2016 20:57:59 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ก็สมกันดีนะ เอาคืนบ้างให้สมกับที่โดนกระทำ
แต่มินจะเจ็บมั้ย?เห็นคนที่ตัวเองรักร้องไห้

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ต้องให้ได้ร้องให้สักไหนึงก่อน
น้องมินกับพี่ทิมนี่ยังไงหนอ ตกลงปลงใจกันรึเปล่า   :3123: 

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ต้องเอาคืนให้สาสมเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ก็ดีนะ ..

ออฟไลน์ Anong2013

  • พ่อค้าขนหวาน Versions 1
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • www.thaiboyslove.com
เอาพี่ชองมาอีก

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ช่วงนี้พี่ซองคงต้องกินมาม่า กับน้ำใบบัวบกไปก่อนนะ  ทำกับมินไว้เยอะ  ถึงเวลาแก้แค้นได้ก็ต้องเอาคืนให้สาสม

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ก็เข้าใจว่าพี่ซองต์ร้ายกับมินก่อน มันต้องทำให้สำนึกกันบ้าง แต่อย่านานน้าาาาาา อยากอ่านตอนหวานๆบ้าง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หมดสภาพเลยพี่ซอง :katai5:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
แอบรัก ตอน15



(มิน)

ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของที่กอดผมอยู่ข้างหลัง เหมือนมีหยดน้ำอะไรสักอย่างไหลซึมผ่านเสื้อยืดตัวบางที่ผมสวมอยู่ ผมแค่ไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเองว่าเขาร้องไห้เพราะผมเหรอ เพื่ออะไรล่ะ ทำไมถึงมารู้สึกผิดเอาตอนนี้ ทำไมถึงปล่อยให้ทุกอย่างมันสายจนไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

 

ถ้อยคำที่เขาพร่ำบอกว่ารักผม จนตอนนี้ผมยังไม่คิดจะเชื่อเลยด้วยซ้ำว่ามันออกมาจากปากของผู้ชายเย็นชาคนนั้นจริงๆ เขารักผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วถ้ารักจริงๆ ทำไมถึงทำกับผมแบบนี้มาตลอดสิบกว่าปี หรือว่าเขาแค่ต้องการปั่นหัวคนอย่างผมเล่นกัน มันเจ็บที่ทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ แม้พยายามที่จะเข้มแข็งมาตลอด แค่คำว่ารักที่เขาเอ่ยออกมาให้ได้ยินแค่คำเดียว กลับทำให้ผมอยู่ไม่สุขเหมือนจะเป็นบ้า คำที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมันเลยในชาตินี้ ผมนั่งทบทวนเหตุการณ์ที่เขาทำกับผมมาตลอดหลายอาทิตย์

 

 

‘ทำไมผมจะไม้รู้ว่าขนมที่เขาซื้อมาให้แม่นั้นที่จริงเป็นของผม เพราะมันมีแต่ของที่ผมชอบทั้งนั้น’

 

 

‘ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขาตามผมกับพี่ทิมไปห้าง เพราะรถของเขาแอบอยู่ตรงพุ่มไม้’

 

 

‘ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขบอกให้คุณย่าทำบัวลอยมาให้เพราะผมชอบทาน’

 

 

แม้ว่าเขาจะพยายามทำหลายๆ อย่างเพื่อผม แต่มันก็คงไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว เพราะผมตั้งใจที่จะเดินตรงไปข้างหน้า มองแค่อนาคตที่จะเกิดขึ้น ไม่อยากหันไปมองอดีตที่แสนจะเจ็บปวดแล้ว และตอนนี้ผมก็มีความสุขที่มีพี่ทิมเป็นพี่ชายที่แสนดี คอยรับฟังช่วยเหลือผมตลอดเวลา

 

วันที่เขาตามผมกับพี่ทิมไปที่ห้าง ผมรูว่าพี่ทิมก็เห็นเหมือนกัน ผมเห็นเขาแอบเหล่อยู่หลายครั้ง แล้วยังทำตัวรุ่มร่ามกับผมจนเกินพอดี  อีกทั้งรอยยิ้มร้ายๆ ตรงมุมปากของพ่อเทพบุตรที่บางครั้งเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มซาตานโดยไม่รู้ตัว แต่พี่ทิมแสร้งตีหน้านิ่งขรึมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนผมยังอดหมั่นใส้ไม่ได้ แต่เพราะผมทำเป็นไม่รู้เลยไม่อยากจะแซวพี่ทิม นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยโดยที่ไม่ลืมโทรขอร้องแกมบังคับให้พี่ทิมมารับผม รายนี้ก็ใจดีตลอด ไม่รู้ว่าจะรำคาญผมบ้างรึเปล่าไม่เคยถาม คราวนี้สงสัยต้องถามจริงจัง เพราะยังไงพี่ทิมก็เป็นคนอื่น ถึงแม้ว่าจะบอกว่ารักผมเหมือนน้องชายก็เถอะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าพี่ทิมต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องของผมตลอดเวลา

 

เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส พี่ทิมคนเดิมเพิ่มเติมคือความน่ารักก็ยังมารับผมตามคำบัญชาของน้องชายนอกใส้อย่างผม แต่วันนี้มาแปลก พาเด็กหนุ่มหน้าใส  วัยน่าจะไม่เกินมอปลายมาด้วย น้องตัวสูงแต่ก็ยังเตี้ยกว่าพี่ทิม วินาทีแรกที่ผมเปิดประตูรถด้านข้างคนขับถึงกับตกใจ ที่อยู่ๆ ก็มีคนนั่งตรงนั้นไปซะแล้ว ก่อนที่ผมจะรีบถอยกรูดมานั่งด้านหลังในทันที

 

รถสปอร์ตคันเดิมก็ยังคอยขับตามรถพี่ทิมมาติดๆ ผมลอบมองผ่านกระจกหลายครั้ง เขาทำแบบนี้มาตลอดหลายอาทิตย์ ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจ แต่พอสังเกตุดีๆ หลายๆ วัน ทำให้ผมเริ่มแน่ใจแล้วว่าเป็นเขาอย่างแน่นอน เขายังคงขับรถตามผมทุกเช้า วันไหนที่ผมนั่งไปเอง เขาก็ขับช้าๆ ตามรถเมล์ทุกวัน นี่เขากำลังทำอะไรของเขากันแน่

 

 "เอ่อ...พี่นั่งหน้าดีกว่าครับ เดี๋ยวเก้าจะนั่งด้านหลังเอง" เสียงเรียกของเก้าทำให้ผมเลิกสนใจคนๆ นั้นทันที เก้าคือชื่อเด็กหนุ่มคนนี้เหรอ ชื่อคุ้นๆ แห๊ะ

 

 "ไม่เป็นไรๆ พี่นั่งหลังนั่นแหละ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาลำบากเปล่าๆ”

 

 "น้องมินมานั่งคู่กับพี่น่ะดีแล้ว" พี่ทิมพูดขึ้น น้องเก้าหันไปหาที่ทิมนิดนึง สายตาน้อยใจปนตัดพ้อนั่นคืออะไร ผมได้แต่เก็บความสงสัยไว้อย่างนั้น ก่อนที่จะเปิดประตูลงมานั่งข้างหลัง ผมขี้เกียจจะทะเลาะให้เสียเวลาจึงรีบย้ายตัวเองไปนั่งด้านหน้าคู่กับพี่ทิม

 

 "เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักกันนะ" พี่ทิมยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ ราวกับเอ็นดูอะไรนักหนาอย่างนั้น แต่ผมแอบเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ที่ส่งไปน้องเก้าที่นั่งด้านหลัง คู่นี้มีอะไรทะแม่งๆ แล้วสิ

 

"คนนี้พี่มินที่พี่เคยบอกเก้าจำได้ไหม มินเป็นแฟนพี่ ส่วนคนที่นั่งข้างหลังนั่นน้องเก้า น้องข้างบ้านพี่เอง วันนี้น้องขอติดนรถไปด้วย มินคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ” พี่ทิมร้ายกาจมาก ผมเริ่มจะรู้แล้วว่าน้องเก้าคือเด็กข้างบ้านที่พี่ทิมชอบ แล้วนี่คงเอาผมมาเป็นตัวแปรอย่างที่เคยบอกไว้ล่ะสิ ท่าทางจะได้ผลซะด้วย เพราะน้องเก้าดูหน้าเสียในทันทีที่รู้ว่าผมเป็นแฟนพี่ทิม แต่ก็ยังคงเก็บอาการเอาไว้อย่างนั้น

 

"ไม่เป็นไรครับ น้องพี่ทิมก็เหมือนน้องมิน" เล่นกับเขาหน่อย รู้หรอกว่าที่พูดแบบนี้ต้องการดูปฏิกริยาน้องเก้าที่นั่งนิ่งอยู่ด้านหลัง

 

 "ดีครับ ทั้งสองคนจะได้สนิทกันไว้" มีแอบเหล่มองน้องเก้าผ่านกระจกด้วย ส่วนอีกคนก็นั่งนิ่งเงียบจนน่ากลัว อีกทั้งยังดูเศร้าๆ ยังไงไม่รู้ สงสารน้องจังเลยที่โดนพี่ทิมแกล้งแบบนี้

 

 พี่ทิมชวนผมคุยไปเรื่อยจนอาจทำให้น้องรู้สึกอึดอัดแน่เลย น้องเป็นผู้ชายผิมขาว หน้าตาหล่อใสเหมือนหนุ่มเกาหลี ตัวค่อนข้างสูง หุ่นดี เพียงแต่อาจจะยังไม่เต็มหนุ่มเลยยังไม่มีกล้ามเนื้อเหมือนพี่ทิม

 

"เก้าอายุเท่าไหร่เหรอครับ" ผมหันไปถามน้องเพราะกลัวว่าเขาจะอึดอัด

 

 "สิบเจ็ดย่างสิบแปดครับ" น้องตอบนิ่งๆ สีหน้าไร้ความรู้สึก

 "ว้าว! ยังเด็กอยู่เลย เข้ามาหาวิทยาลัยปีนี้แล้วสินะครับ แค่คิดก็นึกถึงเรื่องสนุกๆ สมัยเรียนแล้ว" ผมหวังจะให้น้องคลายความตึงเครียดลงไปบ้าง

 

"....." น้องเก้ายิ้มใหผมแต่ก็ยังไม่ยอมพูดอะไร

 

“น้องเก้าจะเรียนอะไรเหรอครับ” ผมหันไปถามน้องอีกครั้ง

 

“เก้าเขาสอบเข้าสถาปัตย์มหาวิทยาลัย XXX  ได้น่ะ เขาเรียนเก่ง สอบเข้าได้อันดับหนึ่งด้วยนะ วันที่รู้ว่าตัวเองสอบติดนี่วิ่งมาหาพี่ถึงบ้านเลย” พี่ทิมตอบแทนน้องเก้าที่กำลังอ้าปากจะพูด แหมท่าทางดูจะภูมิใจแทนน้องมากเลยนะครับ หน้าบานยิ่งกว่าตัวเองสอบได้เองเลยล่ะสิ หมั่นใส้พี่ทิมจริงๆ เลย

 

“เก่งจริงๆ เลยครับ” การพูดคุยยังคงผูกขาดอยู่ที่ผมกับพี่ทิมแค่สองคน โดยที่น้องเก้านั่งเงียบๆ อยู่ด้านหลัง ตอบคำถามผมบ้างเวลาที่ผมคุยกับเขา ก่อนที่พี่ทิมจะจอดรถยังสถานที่ๆ น้องเก้ามาในวันนี้ เป็นร้านเล็กๆ ที่ดูไม่ออกว่าขายอะไร ก่อนที่น้องเก้าจะเอ่ยลาเราสองคนแล้วเดินเข้าไปข้างใน โดยมีคนน่าหมั่นใส้อย่างพี่ทิมมองตามตาละห้อย

 

“มองขนาดนั้นไม่ตามลงไปส่งเลยล่ะครับ”

 

“น้องมินหึงพี่เหรอเนี่ย หึๆ” พี่ทิมยังมีหน้ามาล้อเล่นกับผมอีกนะครับ

 

“น้องเก้าหล่อดีนะครับ ตกลงเนี่ยพี่ทิมจะรุกหรือรับน้องเนี่ย” ผมทำใจกล้าถามออกไปอย่างนั้นเอง เพราะน้องเก้าก้ออกจะแมนซะขนาดนั้น ท่าทางคงไม่ยอมให้ใครรุกได้ง่ายๆหรอกมั้ง ส่วนพี่ทิมก็หล่อ ขี้เล่น นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง

 

“สู่รู้ ก็พี่น่ะสิรุก ส่วนเก้าต้องเป็นรับให้พี่อย่างเดียว” พี่ทิมเอ่ยอย่างมาดมั่น แต่ผมนี่แหละที่ดูไม่มั่นใจว่าพี่ทิมจะมีโอกาสได้รุกน้องเก้ารึเปล่า ดูท่าทางอีกไม่เกินปีสองปีคงตัวใหญ่กว่าพี่ทิมแน่นอน

 

“แล้วมินจะคอยดู”

 

“ไม่ต้องมาสนเรื่องของพี่หรอกน่า แล้วเราน่ะจะเอายังไงกับไอ้ผู้ชายที่ทำตัวเป็นสโตร๊กเกอร์ขับรถตามเราทุกวันอยู่อย่างนี้ อย่าบอกน่ะว่าเรายังไม่รู้เรื่อง เพราะไอ้บ้านั่นมันตามโจ่งแจ้งมาก”  ผมทำเป็นลืมๆ ไปแล้ว แต่พี่ทิมก็ยังมาพูดให้คิดอีก ใครจะไม่รู้ว่ามีผู้ชายบ้าๆ มาตามผมตลอดเวลา โดยไม่รู้จุดประสงค์ของเขา จะให้เชื่อคำรักที่เขาเอ่ยเมื่อวันก่อนก็ดูจะง่ายไป

 

“ช่างเขาเถอะครับพี่ทิม แค่ไม่มายุ่งกับมินให้มากกว่านี้ก็พอแล้ว”

 

“แต่พี่ว่ามันจะไม่จบแค่นี้น่ะสิ ดูท่าทางครั้งนี้เขาจะจริงจังมากเลยนะ” ผมรู้แหละว่าคนอย่างเขาคงไม่ยอมตามผมแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอก ไม่นานเขาอาจจะทำอะไรบางอย่างที่ผมก็ไม่รู้ว่าคืออะไร คนอย่างเขาจะอดทนได้สักกี่น้ำ นอกจากจะใจร้อน ปากร้าย แถมยังชอบดูถูกคนอื่น

 

“มินไม่กลัวหรอก ลองเขาทำอะไรมินดูสิ มินจะฟ้องคุณย่าจริงๆ แล้วคราวนี้เขานั่นแหละจะเป็นคนที่เดือดร้อนที่สุด” ผมจะทำแบบนั้นจริงๆ ครับ ถ้าเขาทำอะไรไม่ดีกับผมขึ้นอีกครั้ง รับรองว่าเขาจะไม่มีทางได้เห็นหน้าผมอีกเลยแน่นอน

 

“จะดีเหรอมิน ทั้งเราแล้วก็เขาต่างก็เจ็บปวดมากพอแล้วนะ”

 

“ก็เพราะมันเจ็บปวดเกินไปไงครับ เลยต้องทำให้มันจบ จะได้ไม่ต้องมาทนเจ็บซ้ำๆ แบบเดิมอีก”

 

“แต่พี่ว่า ถ้าเราลองให้โอกาสเขา อาจจะไม่มีใครต้องเจ็บเลยสักคนนะ เพราะพี่ดูจากสายตาที่เขามองมาที่มิน  มันบอกได้ว่าเขารักมินมากแค่ไหน”

 

“ตกลงพี่ทิมจะเข้าข้างใคร มินหรือคนๆ นั้น ถ้ายังเห็นมินเป็นน้องอยู่อย่าพูดแบบนี้อีก”

 

“ครับๆ น้องชาย โหดจริงๆ เลยวันนี้”

 

“ก็พี่ทิมเข้าข้างคนอื่น”

 

“โอเคๆ พี่เข้าข้างน้องชายตัวน้อยของพี่คนเดียว พอใจรึยัง”

 

“ยัง ถ้าจะให้พอใจจริงๆ เย็นนี้พี่ทิมต้องมารับมิน พาไปทานข้าวเย็น แล้วก็พาน้องเก้ามาด้วยนะครับ”

 

“ทำไมต้องพาเก้ามาด้วย”

 

“ก็มินจะสังเกตุอาการของน้อง ว่าจะหึงพี่ทิมรึเปล่า ทำตามเถอะน่า”

 

“ครับๆ คุณชาย” พี่ทิมจอดรถที่หน้าร้านพอดี ก่อนที่ผมจะก้าวลงจากรถ โดยไม่ลืมกำชับให้เขาพาน้องมาด้วยในตอนเย็น น่าสนุกดีแหะ

 

ผมลงจากรถ่กอนที่จะก้าวตรงไปยังร้านเค้กที่ตอนนี้เริ่มจะมีน้องๆ ทยอยมาทำความสะอาดอยู่หน้าร้าน แต่กลับมีรถอีกคันมาจอดเทียบกับรถพี่ทิมพอดี ผมว่าแล้วว่าคนอย่างเขาคงอดทนไม่พอ นี่คงจะมาหาเรื่องพี่ทิมอีกล่ะสิ ผมยืนมองคนที่ก้าวลงจากรถสปอร์ตคันหรู ก่อนที่จะเดินตรงมาทางเดียวกันกับผม จนผมต้องรีบหันกลับแล้วเดินเข้าไปในร้านให้เร็วที่สุด นี่ผมคิดผิดหรือเนี่ย

 

ผมรีบนำของไปเก็บที่ด้านใน สวมผ้ากันเปื้อนลวกๆ ตรงดิ่งเข้าไปในครัวทันที วันนี้ทั้งพี่พาย และบราวนี่ยังไม่เข้าที่ร้าน  พี่พายคุณคิณคงจะมาส่ง ส่วนบราวนี่น่าจะขับรถมา ผมพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญ หน้ากับเขา เพราะไม่อยากมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในร้าน

 

“ทำไมมินไม่รอพี่ ทั้งๆ ที่พี่บอกว่าจะมาส่ง” เสียงของคนที่ผมไม่อยากได้ยินดังอยู่ชิดใบหูเล็กของผมจนผมเผลอสะดุ้งทันที

 

“เราไม่ได้ตกลงกันอย่างนั้น ผมบอกคุณแล้วว่าพี่ทิมจะมาส่ง” เสียงของผมกำลังสั่นเพราะความกลัว แต่ก็ยังพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดไม่ให้เขาจับได้

 

“แต่พี่...อยากมาส่งมิน มินไม่ให้โอกาสพี่เลย” คำพูดราวกับว่าเขาน้อยใจผม นี่มันอะไรกัน เขาเสแสร้งหรืออะไร  ทั้งๆ ที่บอกไปแล้วว่าต่างคนต่างอยู่แล้วทำไมยังตามมาวอแวอยู่แบบนี้

 

“ผมไม่มีโอกาสอะไรที่จะให้คุณ กลับไปซะเถอะ ผมจะรีบทำงาน”  ผมไม่อยากเปิดโอกาสให้เขาได้อยู่กับผมสองต่อสอง เพราะมันไม่ดีกับทั้งหัวใจและความรู้สึกของผม แม้ปากผมจะบอกกับเขาไปอย่างนั้น แต่ใจของผมก็ยังไม่เข้มแข็งพอ ไม่ใช่ว่าผมจะใจอ่อนให้กับเขาหรอก แต่มันแค่ยังเจ็บที่ต้องมาเจอเรื่องเดิมๆ ไม่รู้จักจบจักสิ้นก็เท่านั้น

 

“ตอนเย็นพี่มารับได้ไหม”

 

“ไม่ครับ ผมมีนัดทานข้าวกับพี่ทิม”

 

“ให้พี่ไปด้วยได้รึเปล่า” หลังจากที่เขาเงียบไปสักพัก แล้วกลับเอ่ยคำที่ผมไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมา ด้วยสีหน้าที่ไม่บ่งบอกคความรู้สึกว่าเขาคิดยังไง แต่สายตาที่ส่งมาให้ราวกับว่ามันเป็นคำขอร้องอ้อนวอนให้ผมเห็นใจ

 

“คุณจะไปทำไม ผมนัดดินเนอร์กับแฟนของผม”

 

“พี่รู้...ขอโทษที่ทำให้มินรำคาญ” สายตาที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้โกหก แต่ผมต้องทำเหมือนไม่สนใจ ต้องใจแข็งทั้งๆ ที่ก็เจ็บเหมือนกัน เขาเดินกลับออกไปแล้ว เหลือก็เพียงแต่ผมที่ยังยืนนิ่ง มองตามหลังของคนที่ผมปฎิญาณกับตัวเองแล้วว่าจะไม่มีวันกลับไปเป็นแบบเดิมอีก

 

‘ทำไมพี่ต้องกลับมา ทำไมพี่ต้องทำเหมือนรักผมทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ ผมเจ็บเกินไปแล้วรู้รึเปล่า ในเมื่อไม่เคยรัก แล้วทำไมไม่อยู่แบบเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมา ทำไมไม่ทำเหมือนกับว่าเราไม่รู้จักกัน จะพยายามทำแบบนี้เพื่ออะไร’

 

ผมก้มหน้าก้มตาทำเค้กตลอดทั้งวัน เพื่อให้ลืมเรื่องบ้าๆ ที่ผ่านมา ผมต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อที่จะทำใจแข็ง ผมไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ผมถึงจะเลิกเจ็บเพราะผู้ชายคนนั้น ทำเค้กจนลืมเวลาทานข้าว จนพี่พายต้องเข้ามาเรียก ทานข้าวเสร็จก็พยายามหาอะไรทำเพื่อให้ตัวเองยุ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในครัวไม่มีอะไรให้ทำแล้ว แต่ก็ยังเข้าไปล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งๆ ที่มันยังสะอาดดี ทำงานเหมือนคนบ้า ไม่ยอมหยุดพักเหมือนที่ผ่านๆ มา ผมไม่อยากว่าง เพราะพอว่างแล้วสมองผมก็วกกลับไปคิดเรื่องเดิมซ้ำๆ จนพี่พายตองเข้ามาสะกิด บราวนี่ก็คงรู้ว่าผมผิดปกติ จึงพยายามชวนผมคุยเล่นหัวเราะไปเรื่อยเปื่อย แต่ทั้งสองคนกลับไม่ได้ถามอะไรผมเลยสักนิด และมันก็เป็นสิ่งดีที่ไม่ทำให้ผมต้องอึดอัดเพราะต้องตอบคำถามที่ไม่อยากจะบอกใคร

 

“หมูน้อยยยย....” มินร้องเรียกเสียงดัง ทั้งๆ ที่เรานั่งอยู่ด้วยกัน จนผมสะดุ้งด้วยความตกใจ

 

“เรียกเสียงดังทำไมเนี่ย นั่งอยู่ด้วยกันแท้ๆ” ผมหันไปว่าเพื่อนที่เอาแต่หัวเราะแหะๆ อยู่ข้างๆ บราวนี่ไม่ใช่คนคิดมาก เขาเป็นคนที่ร่าเริงตลอดเวลา คงไมรู้ว่าจะปลอบหรือคุยกับผมยังไงที่เอาแต่นั่งเหม่อใจลอยก็เลยทำแบบนี้

 

“ก็หมูน้อยไม่คุยกับเค้า ชวนคุยตั้งนานแต่กลับไม่พูด” น้ำเสียงติดงอนเล็กๆ จนผมถึงกลับต้องหัวเราะออกมา นี่กลายเป็นว่าผมผิดเหรอเนี่ยที่ไม่ยอมคุยกับบราว

 

“เรื่องอะไร”

 

“เย็นนี้ชวนไปทานข้าวที่บ้าน คุณย่าให้ไป”

 

“โกหกอีกล่ะสิ เมื่อวานมินพึ่งคุยกับคุณย่า ท่านไม่ได้ว่าแบบนั้นสักหน่อย” บราวนี่ชอบชวนผมไปทานข้าวที่บ้านเสมอ โดยเอาคุณย่ามาอ้าง แรกๆ ผมก็เชื่ออยู่หรอก แต่นานๆ ไปเริ่มจะรู้แล้วว่าเป็นเขาเองนั่นแหละที่สร้างเรื่องโกหก

 

“โธ่! รู้ทันอีก”

 

“ใครเขาจะไม่รู้ล่ะ ก็ตัวเองเล่นมุกนี้มากี่รอบแล้ว” ผมส่ายหัวให้กับเพื่อนที่ชอบทำนิสัยแบบเด็กๆ ทั้งๆ ที่อายุก็ไม่ต่างจากผม แต่บราวนี่ก็ทำให้ผมคลายเครียดเพราะนิสัยแบบนี้ของเขานี่แหละ เรานั่งคุยเล่นกันไปเรื่อยทำให้ผมลืมเรื่องของตัวเองไปชั่วขณะ

 

ผมนั่งทานข้าวที่ร้านอาหารไทยชื่อดังในห้าง วันนี้พี่ทิมเลี้ยงอีกตามเคย  ทั้งๆ ที่ผมอยากจะเป็นฝ่ายเลี้ยงเขาบ้างแต่อีกคนกลับทำฟึดฟัด บอกว่าคนเป็นพี่ต้องดูแลน้อง หลังจากนั้นผมเลยไม่เคยได้จ่ายค่าอาหารเวลาที่มาทานด้วยกันอีกเลย แอบเกรงใจพี่ทิมอยู่เหมือนกัน แต่ก็ดีที่ไม่ต้องจ่ายค่าอาหารแพงๆ

 

น้องเก้าก็มาทานกับเราด้วย ตามคำบัญชาของผม เพราะผมรู้ว่าพี่ทิมคงอยากจะออกมาทานกับน้องเก้าบ้างเหมือนกัน เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะเย็นชาเหลือเกิน มองเผินๆ เหมือนไร้ความรู้สึก ผมสังเกตุเขาแทบจะตลอดเวลา จนบางครั้งสายตาของเราปะทะกัน เป็นผมเองที่ต้องยอมหลบสายตาเขาเอง

 

ถ้าผมมองไม่ผิดเขาคงจะหึงผมกับพี่ทิมแน่นอน แต่ทำไมเขาถึงทำเป็นนิ่ง ไม่รู้สึกรู้สา ทั้งๆ ที่พี่ทิมก็เคยแสดงออกว่ารักเขาออกขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนใจตรงกัน ทำไมน้องเก้าถึงปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้

 

“ทานนี่ครับมิน ของโปรดไม่ใช่เหรอ”

 

“รู้ใจมินจริงๆ เลยครับ” ก่อนที่ผมจะตักอาหารใส่จานให้พี่ทิมบ้าง น้องเก้าก็ยังก้มหน้าก้มตาทานอาหารเงียบๆ คนเดียว ก่อนที่เขาจะขอไปเห้องน้ำ

 

“ร้ายเหมือนกันนะเรา”

 

“ไม่เท่าพี่ทิมหรอกมั้งครบ”

 

“ใครอยากให้เขาทำเหมือนคนไร้หัวใจล่ะ ในเมื่อยากให้พี่เป็นแค่พี่ชายข้างบ้านก็ต้องทำแบบนี้แหละ”

 

“แต่มินว่าน้องเก้ารักพี่ทิมนะ”

 

“เอาอะไรมาพูด”

 

“ความรู้สึกไงครับ แล้วก็สายตาที่เขามองพี่ทิม”

 

“รู้ดีจริงๆ เด็กคนนี้” พี่ทิมยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมเบาๆ ส่งยิ้มมาให้ผมอีกที

 

“แล้วก็รู้อีกอย่างด้วย ว่าพี่ทิมจะต้องโดนน้องเก้าจับกินแน่นอน” สีหน้าพี่ทิมตอนนี้ตลกมากเลยครับ เขาเหวอไปชั่วคราว ก่อนที่จะมองหน้าผมอย่างคาดโทษ

 

“วันนี้ทำไมคุณซองเขาไม่ตามมินมานะ” หลังจากที่นั่งมาสักพัก พี่ทิมก็คงสังเกตุเหมือนกัน แทบจะทุกครั้งที่ผมไปไหนมาไหนกับพี่ทิมเขาจะคอยตามตลอด แต่วันนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงา

 

“ก็ดีแล้วนี่ครับ น่ารำคาญจะตายไป”

 

“หรือว่าเขาจะหมดความอดทนเลิกงอนง้อน้องชายพี่แล้วนะ”

 

“ช่างเขาสิ พี่ทิมไม่ต้องมาพูดแบบนี้เลย”

 

“.....” พี่ทิมเงียบ แต่มุมปากกระตุกขึ้นด้วยความเจ้าเล่ห์ ซาตานชัดๆ ขอให้โดนน้องเก้าจับกินในเร็ววัน ได้แต่แอบแช่งพี่ชายนอกใส้ในใจก่อนที่จะทำเป็นสนใจอาหารตรงหน้า แต่แท้ที่จริงแล้วกลับไม่ใช่

 

ถ้าเขาเลิกตามผมแล้วจริงๆ ผมควรจะดีใจใช่ไหม แต่ทำไมคราวนี้ผมกลับรู้สึกใจหายแปลกๆ เพราะผมไล่เขาเอง ทำไมผมถึงต้องเจ็บเองแบบนี้ล่ะ เมื่อไหร่จะผ่านเรื่องบ้าๆ แบบนี้ซะที ผมควรยิ้มและดีใจมากๆ สิถึงจะถูก

*****************


ตอนนี้ไม่เครียดหรอกเนอะ มีพี่ทิมกับน้องเก้ามาแทรกนิดหน่อย ดราม่าของคู่หลักก็ดูซอฟลงแล้วด้วย เฮียซองคนโหดไม่มีแล้ว เหลือแต่เฮียซองคนที่สำนึกผิด พยายามต่อไปนะเฮีย  หวังว่าน้องมินจะใจอ่อนในเร็ววัน
:z3: :z2: :z10:

                    TBC.

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
ช่ายยย คนทำผิดก็สมควรแล้ว ต้องเอาความจริงใจเข้าสู้นะเฮียนะ ความเชื่อคู่กันแล้ว เลวหรือดียังไงก็คู่กันอยู่ดี ไม่มีใครไม่เคยพลาดนะเฮีย

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
นึกว่าน้องบราวจะคู่พี่ทิม กลายเป็นน้องเก้าซะงั้น
น่าลุ้นอีกคู่
หากเป็นจริงอย่างน้องมินคิด
พี่ทิมถูกกินละก็ ฮาน้ำตาไหล :hao7:

ส่วนพี่ซองความพยายามอยู่ที่ไหนน้องมินอยู่ที่นั่น :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จงสำนึกผิดซะ!

น้องเก้าอย่ารอช้าจ้ะ ไวกว่าได้กด เอ้ยได้เปรียบ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
นึกไม่ถึงตรงพี่ทิมจะถูกกิน!  :hao7:

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
โอ้ยเฮียใจปลาซิวไปปะ บอกให้พอคือพองี้? งั้นก็ไม่ต้องคู่แล้วกันเนอะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
มินใจเเข็งจริงๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่ซองต์สู้สู้ อย่าพึ่งท้อน้าาาาา

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หวังว่าน้องมินจะใจอ่อนไวๆ นะ แต่คิดอีกทีจัดหนักไปอีกซักทีก็ดี เพราะปล่อยให้น้องต้องเจ็บมาตั้งหลายปี
ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ก็ปล่อยไปเถอะคนไม่มีความอดทนแบบนี้ต้องให้โดนเองซักบ้างจะได้เข็ด

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ระวังน้องเก้าหึงนะ ..

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ไม่เลือกข้าง แต่เอาใจช่วยพี่ซอง555

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
พี่ซองสู้ๆ อย่าเพิ่งถอดใจ หรือกลับไปทำตัวเหมือนเดิมอีกนะ ใช้ความจริงใจเข้าสู้   มินต้องใจอ่อนเข้าสักวัน

ส่วนพี่ทิมสงสัยจะโดนกินแบบนี้มินอวยพรไว้แน่เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด