เด็กเลี้ยง_EP.38_[ตอนจบ] P.9_1542016 // จบแล้วย้ายได้นะค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กเลี้ยง_EP.38_[ตอนจบ] P.9_1542016 // จบแล้วย้ายได้นะค่ะ  (อ่าน 116771 ครั้ง)

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ใครเป็นคนเอายาให้น้ำนิ่งกิน!!!!
จะได้ขอบคุณงามๆเลยยย
เป็นกำไลใจให้นะค่าา

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ใครทำเด็กขนาดนี้ พี่สิงห์จัดการด่วนๆ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เข้ามาอ่านแล้วอยากบอกว่าหลงรักน้องน้ำกับสิงห์ :mew1:

น่ารักอ่ะ พี่สิงห์รักน้องมากจนไม่ชายตามองใคร

ถึงจะเหี่ยวเป็นมะเขือเผาต้องพึ่งแม่นางทั้งห้าก็เต็มใจ

ดีกว่านอกกายนอกใจน้องน้ำ o13 o13 o13 o13 o13

น้องน้ำน่ารักไม่โวยวายรับฟังเหตุผลจากพี่สิงห์

หวังว่าน้องน้ำจะหนักแน่นและเข้าใจพี่สิงห์ไปตลอดนะ

อยากเรียกน้องหนูกับพี่ภูมิแต่ไม่กล้าให้เขาเรียกกันเองดีกว่า :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ใครมันวางยาหนู  :m28: เดี๋ยวเถอะ  :z6:

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง



- 6 -

ขอน้ำนิ่งเล่าบ้างนะ (2) : เสียดายไม่สุด






   “เฮ้  น้ำวันนี้พ่อมึงมารับเหมือนเดิมป่าววะ”   

   บ๋อม หรือบารมี ศิริวงศ์สกุลชัย เพื่อนสนิทในกลุ่มถามขึ้นขณะนี้ที่เราช่วยกันเก็บล้างอุปกรณ์การทำอาหาร  วันนี้เป็นเวรของเราสองคน  และไม่ต้องแปลกใจพวกเพื่อนเรียกภูมิว่า “พ่อ” ด้วยความเข้าใจผิดมาตั้งแต่วันแรกที่น้ำนิ่งเข้าเรียนที่นี่แล้วล่ะ ถึงจะเพียรพยายามบอกว่าไม่ใช่พ่อมันก็ไม่ยอมก็เลยตามน้ำมาตั้งแต่นั้นมา  คิดๆ อีกทีที่เพื่อนเรียกมันก็ถูกแหละ  ภูมิเลี้ยงดูน้ำนิ่งมาตั้งแต่เกิด เป็นคนให้ชีวิต เป็นทุกอย่างในชีวิตมาตั้งแต่แรกเรียก “พ่อ”  ก็ไม่ผิด

   “ก็เดี๋ยวทำนี่เสร็จก็จะออกไปนั่งรอที่เดิมนั่นแหละ แล้วมีอะไรรึเปล่า”  น้ำนิ่งตอบคำถามขณะที่มือก็ล้างทำความสะอาดเครื่องครัว

   “มึงจำพี่โอ๋ได้เปล่าพี่ไอ้เอ๋น่ะ กลับมาเที่ยวนี้มึงเห็นนี่คงจะจำไม่ได้เลย ได้ยินว่าไอ้เอ๋เล่าว่าพี่มันประสบอุบัติเหตุหน้าตาเละเกือบแปดสิบเปอร์เซนต์จนต้องศัลยกรรมแต่ก็ไม่ผิดหวังแหละไม่รู้จะบอกว่าหล่อหรือสวยดีคือดูดีจนจนกูเคลิ้ม เขากลับจากฮ่องกงแล้วมีของเด็ดๆ มาเพียบเลยวะ บอกให้ชวนมึงไปด้วยอยากจะเจอท่าจะชอบมึงเอามากๆ ด้วยถามถึงตลอด อีกอย่างพี่เขาอยากจะแนะนำให้มึงรู้จักน้องอีกคนของเขาพี่อีกคนของไอ้เอ๋นั่นแหละ ชื่ออะไรสักอย่างกูจำไม่ได้ ความจำกูแมร่งปลาทองมัวแต่กูล่ะอิจฉาหุ่นพี่แกเท่ฉิบหาย ”

   “อ้าว!! พี่โอ๋กลับมาแล้วเหรอ”

   “กลับมาหลายวันแล้ว เห็นว่าขยายฐานธุรกิจมาที่ไทยก็คงจะไปๆ มาๆ แล้วเอาไงจะไปไม่ไป”

   “น้ำคงต้องขอพ่อก่อน ไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ  เอาไว้วันหลังก็แล้วกันนะ” 

   “เออๆ เอาที่มึงสบายใจแล้วกัน  แต่มึงรู้ไหมเมื่อวานแมร่งเด็ดมาก กูดูมาแล้วเลยอยากจะชวนคุณมึงออกจากกะลาบ้าง  ไอ้พี่โอ๋มันโคตรเจ๋งเลยวะจนกูเก็บไปฝันเปียกเลยห่า”  บ๋อมทำหน้าเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่เจอเมื่อวาน

   “ฝันเปียก?  มันคือไร แล้วไปดูอะไร?”  น้ำนิ่งถามด้วยความสงสัย

   “ไอ้อ่อน..นี่ไม่รู้??  พ่อมึงไม่เคยสอนเหรอวะ ว่าผู้ชายที่โตเต็มที่เค้าต้องทำไง  กูเองก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้แหละพี่โอ๋มันถามว่าโตขนาดนี้แล้วเคยทำอะไรแบบที่ผู้ชายโตๆ เขาทำแบบในหนังกันรึเปล่า ”  บ๋อมทำหน้าฉงนสงสัยน้ำนิ่งส่ายหน้า

   “ทำอะไร?  แล้วฝันเปียกมันเหมือนกับเราฉี่รดที่นอนรึเปล่า น้ำงงบ๋อมพูดไรให้เคลียร์หน่อยสิ”

   “กูก็อธิบายไม่ถูก ก็เมื่อวานตอนที่นั่งดูหนังอย่างว่า...”

   “หนังอย่างว่า??”

   “แมร่ง!! ไอ้น้ำมึงรู้อะไรมั้งวะเนี่ย อ่อนของแท้เลยมึง ก็หนังที่ผู้ชายกะผู้หญิงเขาเอากันอะมึง เดี๋ยวมึงก็จะถามอีกใช่มะว่าเอากันคือไร  กูไม่รู้จะอธิบายยังไงเอาง่ายๆ มึงจำตอนที่เรานั่งอยู่ข้างสนามบาสแล้วมีหมาสองตัวมันโอบเอวกันแล้วร้องเอ๋งๆ ได้ไหมวะก็แบบนั่นแหละเข้าใจนะ อย่าขัดอีกให้กูเล่าก่อน”   บ๋อมอธิบายยืดยาวแต่น้ำนิ่งก็ยังทำหน้างงเหมือนยังไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ขัดเพื่อน

   “ต่อนะกูกับไอ้เอ๋นั่งดูหนังอย่างว่ากันอยู่ใช่ปะ พี่โอ๋กับพี่มันอีกคนดันเปิดประตูเข้าจ๊ะเอ๋พอดี พวกกูก็ตกใจสิกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แล้วมึงรู้ไหมน้องชายกูสองคนกำลังตุงๆ เคารพธงชาติกันอยู่ด้วย  พี่มันคงเห็นแหละ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ทำหน้ายิ้มๆ กดล๊อกประตูพี่โอ๋เดินเข้ามานั่งซ้อนหลังกู พูดกระซิบเสียงเซ็กซี่พี่ช่วยนะ แล้วมีกัดเบาๆ ตรงซอกคอกู ห่ากูผู้ชายนะพี่มันก็ผู้ชาย แต่กูก็ดันไม่ขัดขืนแถมยอมให้พี่มันขยับรูดน้องชายกูขึ้นลง ไม่พอพี่มันยังมือล้วงเข้ามาในเสื้อบีบบี้หัวนมกูยังกับกูเป็นผู้หญิงที่อยู่ในหนังนั่น แมร่งเอ๊ย!!  กูเสียวแว๊บถึงหัว xx  เลย 

   พี่โอ๋คงรู้ว่าไอ้เอ๋มันคงจะอยากจ้องมองที่พี่มันทำกับกูเขม็งมือก็ลูบน้องชายตัวเองไปด้วย  เขาก็หันไปหาพี่อีกคนให้ทำกับไอ้เอ๋เหมือนที่เขาทำกับกู ไม่นานมึงรู้เปล่าแมร่งเหมือนมีกระแสไฟอ่อนๆ แล่นพล่านไปทั่วตัวโดยเฉพาะตรงนั้น กูทนไม่ไหวน้ำแตกใส่มือพี่โอ๋เต็มๆ สุขสมเบาตัวเลย กูก็เพิ่งจะรู้ว่าผู้ชายก็ทำแบบนั้นได้”   บ๋อมมันอธิบายยืดยาวหน้าบอกว่ามีความสุขมาก

   “น้ำก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกนั่นอยู่ดีแหละบ๋อม” 

   น้ำนิ่งยังทำสีหน้างงๆ คิดว่าคงต้องถามภูมิว่ามันใช่แบบเดียวกันกับที่เขาวางมัดจำรึเปล่า  ตอนทำเราไม่ได้นอนหลับซะหน่อย  แต่มันก็รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟอ่อนวิ่งทั่วร่างแบบที่บ๋อมบอก แล้วแบบนั้นมันจะเรียกฝันเปียกได้รึเปล่าล่ะ??  งงนะครับ!!

   “นี่แหละมันต้องไปเรียนรู้เอง กูบอกไม่ถูก”

   “ถึงยังไงน้ำก็ต้องขอพ่อก่อนแหละ เอาไว้ถ้าไปได้น้ำจะบอกนะ”

   “เสร็จยังวะบ๋อมพี่กูมาแล้ว น้ำไปบ้านกูไหมพี่กูให้ชวนมึงไปด้วย”  เอ๋ หรือ อนรรฆ ไกรสรชัย เพื่อนสนิทอีกคนโผล่หน้าตรงกรอบประตูเข้ามาเรียกบ๋อม และหันมาชวนน้ำนิ่งไปบ้านตัวเองด้วย

   “น้ำต้องขอโทษด้วยนะเอ๋ ต้องขออนุญาตพ่อก่อน เดี๋ยวเขาจะโกธรเอา”  น้ำนิ่งบอกเอ๋ด้วยความเกรงใจที่เพื่อนชวนไปบ้านหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้ไปสักที เวลามีงานกลุ่มหรืออะไรภูมิให้สองคนนี่มาที่บ้านทุกที  เขาห่วงไม่ค่อยอยากให้ไปไหน

   “ไม่เป็นไร วันหลังก็ได้ แล้วมึงเสร็จยังวะบ๋อมชักช้าไอ้นี่”  เอ๋พยักหน้าเข้าใจ หันไปเร่งบ๋อม

   “กูชักเร็วเหอะมึงก็รู้   อ๊ะนี่น้ำของฝาก พี่โอ๋เขาฝากมาให้เผื่อมึงจะฉลาดขึ้นมาบ้าง กูเอาถุงขยะไปทิ้งแล้วจะเลยไปกับเอ๋เลยนะ”  บ๋อมหันไปสวนคำเอ๋อย่างรวดเร็ว แล้วจึงหันมาพูดกับน้ำนิ่งมือหยิบเป้ขึ้นมาสะพายบ่า เอ๋เข้ามาช่วยบ๋อมยกถุงขยะเดินออกจากห้องไป 

   น้ำนิ่งมองตามหลังเพื่อนสองคนไปจนลับตา ก่อนจะก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในมือมันเป็นลูกอมช็อคโคแลตด้วยความฉงนแล้ว มันจะเกี่ยวอะไรกับฝันเปียกล่ะ??   

   น้ำนิ่งแกะกระดาษห่อลูกอมเม็ดนั้นออกแล้วโยนเข้าปากอมไปมาอยู่สักพักก่อนจะบดฟันเคี้ยวละเอียดให้ช็อคโคแลตค่อยละลายลงสู่ลำคอ ไส้ข้างในเยิ้มๆ  รสขมฝื่นแปลกๆ  เดินไปเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเสร็จแล้วจึงหันไปหยิบเป้ของตัวเองเดินออกจากห้องไปนั่งรอลุงมารับที่เดิม


   “ร้อน ร้อนเหลือเกิน...”

   “ภูมิจ๋า หนูเป็นไรฮึก..อา  ทำไมยังไม่มาสักที หนูเป็นอะไรไม่รู้ ตรงนี้มันปวดเหลือเกิน”

   น้ำนิ่งสะท้านไปทั่วตัว มันมีความรู้สึกปวดมวนหวามไหวกระจุกตัวอยู่บริเวณท้องน้อย ตรงนั้นของเขามันบวมเบ่งแข็งขืนจนจะแตก เหมือนจะฉี่แตกแต่ไม่ใช่มันรู้สึกมากกว่านั้น น้ำซึมตรงปลายจนเปียกกางเกงชั้นใน  น้ำนิ่งเอามือของตัวเองวางลงแก่นกายที่แขนขืนมันซ่านขึ้นมาเหมือนมีกระแสไฟอ่อนๆ วิ่งพล่านไปทั่วตัว ขาเรียวเล็กเกี่ยวไขว้กันบีบเกร็งแน่นเพื่อข่มความรู้สึกที่ตีกระหน่ำ มืออีกข้างจิกลงหน้าขาจนคิดว่ามันคงเป็นรอยเล็บแดง

   “อึกอา..ลุง”




   “หนูครับ”

   “ภะ ภูมิ”

   น้ำนิ่งหันกลับไปตามเสียงเรียก ร้องหาภูมิรพีด้วยเสียงแหบโหยตรงนั้นของเขามันเป็นอะไรไม่รู้ ไม่ไหวแล้ว มันเหมือนมีกระแสไฟอ่อนวิ่งพล่านไปตามตัวเกร็งจนสั่นสะท้าน  ขาอ่อนแรงจนไม่สามารถจะก้าวเดินได้  ภูมิรพีเดินมาโอบประคองไว้ในอ้อมกอด อยากจะทำอะไรสักอย่างให้หลุดพ้นจากความรู้สึกนี้แต่นี้ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

   “ห หนูไม่รู้เป็นอะไร ร้อนฮึกฮื่อ...”   ไม่ไหวแล้วตรงนั้นมันแข็งปั๋งเลย มันจะแตกไหม ยิ่งถูกตัวภูมิยิ่งรู้สึก

   “ชู่ว์ๆ ไม่เอาไม่ร้องนะภูมิอยู่นี่แล้ว ชู่ว์ๆ คนดีของภูมิไม่ร้องนะครับ”

   เสียงปลอบของภูมิรพีทุ้มนุ่มอ่อนโยนน้ำนิ่งรับรู้ได้  แต่ก็ไม่สามารถปัดเป่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ได้สักนิด ยิ่งสัมผัสที่ภูมิรพีกำลังทำตอนนี้มันกระตุ้นความรู้สึกอยากปลดปล่อยของน้ำนิ่งให้พุ่งสูงขึ้นไปจนต้องโอบแขนของตัวเองไปรอบคอแกร่ง  ยกตัวขึ้นเอาปากร้อนของตัวเองกดลงที่ปากของภูมิรพี  กัดเบาๆ ที่ริมฝีปากหนาได้รูปผละปากออกอย่างรวดเร็วแล้วซบหน้าลงกับบ่าหนาของลุง

   “อ๊ะ...คิดถึง” 

   ความรู้สึกนั้นมันตีตื้นขึ้นมาจนร่างกายของน้ำนิ่งสะท้านแก่นกายที่พองคับแน่นมันเหมือนจะแตก  คนตัวเล็กยื่นปากร้อนผ่าวของตัวเองงับลงที่คอของภูมิรพีเต็มๆ คนตัวโตสะดุ้งบดกรามแน่น  ปากเล็กผละออกจากคอแกร่งเมื่อรับรู้สึกถึงรสปะแล่มของเลือดจากรอยกัด  คนตัวเล็กหน้าเสียเอ่ยปากขอโทษแผ่วเบา ลิ้นเล็กไล้เลียที่รอยกัดจนเลือดหยุดไหลแล้วซบหน้าลงกับบ่ากอดคอภูมิรพีแน่นขึ้น เกร็งตัวจนส่วนนั้นของตัวเองแนบไปกับหน้าท้องแกร่งของภูมิรพี

   “อ๊ะ อา...”   

   ความรู้สึกที่แก่นกายของตัวเองสัมผัสแนบชิดกับแก่นกายของภูมิรพีมันซ่านไปทั่วท้องน้อย เหมือนจะได้ปลดปล่อยจากอะไรสักอย่าง  ภูมิรพีพูดอะไรบางอย่างแต่มันไม่ได้อยู่ในความสนใจน้ำนิ่งเพียงพยักหน้าส่งๆ บอกรักคนตัวโตอย่างเหม่อลอย จิตใจจดจ่ออยู่ที่แก่นกายของตัวเองความต้องการมันรุนแรงจนต้องบดเบียดสะโพกให้แนบชิดกับแก่นกายของภูมิรพีมากขึ้น ปากนิ่มกดจูบ ดูดเม้ม เปะปะไปตามลำคอ แก้ม ติ่งหูของคนตัวโต  ยิ่งขยับแรงยิ่งเหมือนจะไปถึงสิ่งที่ตัวเองไขว่คว้ามากขึ้นทุกที

   “ระ ร้อน ลุงร้อน ชะ ช่วยหน่อย”

   น้ำนิ่งรู้ว่าตัวเองหน้าไม่อายที่ร้องขอไปอย่างนั้น ไม่รู้ภูมิรพีจะโกธรไหม แต่จะให้ทำยังไงความต้องการเหมือนจะได้ของที่ไขว้คว้ามันอยู่แค่เอื้อม ถ้าภูมิรพีจะโกรธหรืออะไรค่อยง้อทีหลังก็คงจะได้

   ในเมื่อความต้องการมันอยู่เหนือสติสัมปะชัญญะ  น้ำนิ่งไม่อายที่จะเอนแผ่นหลังบางแนบไปกับพวงมาลัยรถ  มือเลื่อนไปคลายเข็มขัดปลดตะขอรูดซิปลงแทบไม่ทัน ล้วงมือเข้าไปในกางเกงจับแก่นกายที่พองคับแน่นของตัวเองออกมาแค่สัมผัสแรกยังแทบจะแตกสลาย เขาขยับเข้าไปใกล้สิ่งที่อยากได้อีกก้าวแล้ว แค่กำแน่นๆ แล้วขยับมือก็คงจะรู้แล้วล่ะว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องการ 

   น้ำใสปริ่มเยิ้มจนส่วนหัววาวใส บางส่วนไหลเปื้อนมือแต่ไม่ได้ใส่ใจเริ่มรูดขึ้นลงแรงๆ  โยกสะโพกไหวให้ร่องก้นของตัวเองเสียดสีบดเบียดกับแก่นกายของภูมิรพีที่เริ่มแข็งขืนเหมือนกัน  หน้าแหงนเงยขึ้นตาสวยหวานหลับพริ้มราวกับว่าได้ลอยไปจนถึงสวรรค์แล้ว

   “ฮือ อา...”

   คนร่างบางปรือตาฉ่ำหวานมองสบตาสีแปลกของภูมิรพีที่ฉายแววของความต้องการเอ่อท้นส่งมาให้  ความร้อนรุ่มเกิดขึ้นกระทันหันจนต้องไล้ลิ้นเลียไปตามริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง  สายตาร้อนแรงนั่นราวกับเปิดเปลือยตัวตนของน้ำนิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้พุ่งสูงขึ้นแทบจะแตกสลาย

   อีกนิดเดียวน้ำนิ่งก็จะได้สิ่งที่ตัวเองไขว้คว้าแล้ว  มืออีกข้างยกขึ้นบีบบี้ยอดอกผ่านเนื้อผ้า ความกระสันเสียวซ่านส่งผ่านไปถึงแก่นกายส่วนปลายยอดน้ำใสปริ่มทะลักออกมาไม่หยุด  มือเล็กรูดรั้งแก่นกายระรัวเร็วขึ้นสอดผสานกับแรงขยับสะโพกให้ร่องก้นเสียดสีกับแก่นกายแข็งขืนของภูมิรพีอย่างหนักหน่วง ไม่นานคนตัวเล็กก็ตะกายไปถึงจุดสูงสุดที่ตัวเองไขว่คว้าจนเปล่งเสียงครางหวานด้วยความสุขสมยาวนาน 

    กายเล็กเกร็งสะท้านปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะไปตามเสื้อผ้าเราทั้งคู่  เมื่ออารมณ์หฤหรรษ์ค่อยเบาบางลงน้ำนิ่งซบหน้าลงกับบ่าของภูมิรพีอย่างเหนื่อยอ่อน  หัวใจยังเต้นแรงราววิ่งออกกำลังกายมาหนักหน่วง แต่เพียงครู่เดียวความรู้สึกต้องการมันก็หวนกลับมาอีกครั้ง...

   “อือ..อา..ล ลุง ชะช่วยหน่อย หนูเป็นอีกแล้ว ฮึก..อา...”

   “ทนนิดนะเด็กดี เดี๋ยวถึงบ้านเราแล้ว” 

   ภูมิรพีเอ่ยปลอบ แต่น้ำนิ่งไม่ไหวแล้วความรู้สึกมันตีตื้นขึ้นมาอีกระลอกจนต้องร้องไห้ออกมา ก้มลงกัดไปที่บ่าของคนตัวโตเพื่อข่มความรู้สึกอยากปลดปล่อย  ปากเล็กร้อนผ่าวกดเม้มเปะปะไปทั่ว บดเบียดแก่นกายตั้งชันของตัวเองกับท้องแกร่งภูมิรพีเพื่อบรรเทาความต้องการแต่มันไม่พอครั้งนี้มันต้องการมากกว่านั้น

   ภูมิรพีขยับตัวของน้ำนิ่งให้เอนหลังพิงไปกับพวงมาลัยรถอีกครั้ง  มือแกร่งกอบกุมแก่นกายที่แข็งขืนของคนบนตักแผ่วเบา  แค่เพียงสัมผัสแผ่วเบานั่นความรู้สึกทั้งหมดแทบจะทะลักทะลายมันรู้สึกดียิ่งกว่ามือของตัวเองที่ทำไปเมื่อกี้ซะอีก

   “อา..อ๊า...ลุงอื้อ..”

   มือใหญ่รูดรั้งแก่นกายของน้ำนิ่งขึ้นลงช้าๆ  อีกมือยกขึ้นแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาแหวกออก แล้วครอบปากร้อนลงตรงยอดอกของคนตัวเล็กทั้งตวัดเลียดูดดึงขบกัดแรงๆ บางครั้งไล้วนลิ้นระรัวมันเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่ความเสียวซ่านมีมากกว่าจนอดไม่ได้ที่ครางหวานด้วยความพึงพอใจ  นิ้วเรียวเล็กสอดเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเรือนผมนุ่มกดหัวของภูมิรพีลงมาให้ครอบปากดูดดึงลงลิ้นกับยอดอกที่ยกแอ่นให้แนบแน่นยิ่งขึ้น  ภูมิรพีระรัวลิ้นไล้เลียเร็วแรงขบกัดเป็นบางครั้งสลับกันทั้งสองข้าง คนตัวเล็กรู้ว่าตัวเองกำลังจะก้าวเท้าไปแตะขอบสวรรค์ที่เคยขึ้นมาแล้วอีกครั้ง

   “ลุง อะ อา เร็วๆ อื้อ..”

   ภูมิรพีขยับมือรัวเร็วขึ้นตามคำร้องขอ ผละปากออกจากยอดอกขึ้นมาขบเม้มที่ริมฝีปากที่ช่างเรียกร้องของน้ำนิ่ง สอดลิ้นร้อนเข้ามาในปากดูดดึงลิ้นเล็กหยุ่นอย่างแรงจนน้ำนิ่งหวี๊ดร้องด้วยความเจ็บปนเสียวซ่านสมองขาวโพลนฉับพลันตัวเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มมือแกร่ง 

    น้ำนิ่งถูกภูมิรพียกตัวขึ้นจนแก่นกายที่ยังตั้งซันจ่อหน้า คนตัวโตครอบปากดูดกลืนน้ำขุ่นขาวที่ทะลักจากส่วนปลายไล้ลิ้นเลียทำความสะอาดแท่งร้อนของน้ำนิ่งจนสะอาด ก่อนจัดเสื้อของทั้งคู่ให้เรียบร้อย  ดึงคนตัวเล็กให้เอนซบไปกับอกแกร่งของตัวเอง  แต่ที่ปลดปล่อยไปเมื่อครู่มันเหมือนจะไม่สิ้นสุด ความต้องการตีรวนสะท้านมาอีกระลอกจนต้องร้องขอออกไปอย่างไม่อาย  คนตัวโตปลอบให้อดทนแล้วเร่งขับรถออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงห้านาทีก็ถึงบ้าน น้ำนิ่งแทบจะทนไม่ไหว ความต้องการมันมากกว่าครั้งไหนๆ เหมือนยิ่งปลดปล่อยยิ่งอยาก คนตัวโตรีบอุ้มน้ำนิ่งขึ้นบ้านอย่างรวดเร็ว

   “ภูมิไม่ไหว ละแล้ว ฮือ...ชะช่วย หนูนะ..มันอะอีกแล้วฮึก ฮือ..”

   ความต้องการปลดปล่อยมันตีตื้นจนแทบทะลายทำให้น้ำนิ่งร้องขออย่างไร้ความอายอีกครั้ง  ภูมิรพีละล้าละลังไม่คิดจะทำอะไรที่พอจะลดทอนความต้องการให้ได้  จึงลดมือลงปลดตะขอกางเกงรูดลงไปจนถึงหน้าขา มือเล็กดึงรั้งแก่นกายแข็งขืนตั้งชันรูดขึ้นลงเพื่อบรรเทาความต้องการที่ปวดมวนอยู่ท้องน้อยระลอกแล้วระลอกเล่า

   น้ำนิ่งรีบไขว้คว้ามือใหญ่สากของคนตัวโตที่กำลังจะเดินไปมากอบกุมแก่นกายของตัวเอง มือเล็กกุมทับอีกทีบังคับให้ขยับมือรูดรั้งขึ้นลง  เพียงแวบที่สบตากันน้ำนิ่งเห็นสายตาของภูมิรพีฉายแววของความโกธร กรามที่บดแน่นกดข่มความรู้สึกพยายามปรับสีหน้าท่าทางให้ปกติ  ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงพื้นข้างเตียง ดึงตัวน้ำนิ่งไปจ่อตรงหน้าของเขา  มือแกร่งดึงรูดกางเกงที่ถอดค้างไว้ที่หน้าขาเรียวโยนทิ้งไป แก่นกายสีชมพูระเรื่อของน้ำนิ่งผงกตัวราวเชิญชวน  นัยน์ตาสีแปลกทอประกายวาววับบ่งบอกถึงความต้องการอยากจะกลืนกินทั้งหมด ยิ่งทำให้แก่นกายที่แข็งขืนอยู่แล้วเหมือนมันจะยิ่งพองตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 

   ภูมิรพีจับเท้าของน้ำนิ่งขึ้นวางไว้บนบ่าของเขา มือหนาเอื้อมจับแก่นกายน่ารักตรงหน้ารูดขึ้นลงเนิบนาบความต้องการอยากปลดปล่อยลามเลียไปทั่วกายบางจนทรมาน  น้ำใสปริ่มส่วนปลายออกมาตามแรงรูดรั้ง คนตัวโตยกยิ้มพอใจก่อนที่จะใช้ลิ้นร้อนดุนดันเลียลงบนปลายยอดที่มีน้ำใสปริ่ม ความหวามไหวกระจุกตัวทั่วบริเวณท้องน้อยอีกครั้ง ภูมิรพีครอบปากลงเต็มความยาวจนถึงโค่น รูดขึ้นลงช้าเร็วสลับกับเลียวนมันเสียวซ่านจนน้ำนิ่งต้องยกสะโพกเด้งรับตามจังหวะการดูดดึงนั่น

   “อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อา...”

   น้ำนิ่งครางแทบไม่ได้ศัพท์ตอนที่ปากร้อนของภูมิรพีดูดดึงบอลแฝดแรงๆ ปลายเท้าจิกแน่นบนบ่าหนา ความต้องการปลดปล่อยเอ่อท้นจนแทบจะทนไม่ไหว หัวสมองเหมือนจะว่างเปล่าอยากจะหลุดพ้นไปจากตรงนี้ มือหนาของภูมิรพีดันก้นของงอนจนลอย  ปากร้อนกดจูบลงตรงช่องทางสีหวานที่ยังปิดแน่น  ลิ้นสากเลียวนรอบรอยจีบพับจนชื้นแฉะไปหมด ไม่พอลิ้นร้ายยังแยงแหย่เข้าไปข้างในช่องทางหวาน

   น้ำนิ่งแทบจะบ้าตายกับความเสียวซ่านที่บิดเขม็งเกลียวตรงท้องน้อยจนถึงปลายยอดบาน น้ำใสทะลักล้นจนทำให้ส่วนนั้นวาวใส ก้นงอนยกลอยรอรับการแยงลิ้นให้ลึกเข้ามาอีก ยิ่งภูมิรพีแยงลิ้นลึกเท่าไรช่องทางรักยิ่งตอดรัดระรัว

   “ปะ ปล่อยหนูเถอะนะลุง จะ จะไปแล้ว”

   ภูมิรพีผละปากออกจากช่องทางรัก ปากร้อนดูดดุนส่วนปลายวาวใส แล้วจึงครอบปากลงดูดเม้มสุดโค่นจนแก้มตอบ นิ้วโป้งกดไล้วนจีบพับตรงช่องทางข้างหลังไปพร้อมกัน ปากหนาเริ่มขยับรูดรั้งแก่นกายเร็วขึ้น ข้างในโพรงปากของภูมิรพีมันช่างอุ่นร้อนโอบรับตัวตนของน้ำนิ่งไว้จนหมด  คนตัวเล็กเด้งสะโพกสวนรับตามจังหวะการดูดดึงของภูมิรพี การถูกกระตุ้นทั้งข้างหน้าหลังพร้อมกันมันเกินบรรยายจะไปแต่ยังไม่ไป  มือเล็กสอดเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มกดศีรษะของคนข้างบนรับกระแทกให้ลึกยิ่งขึ้น 

   น้ำนิ่งกระแทกสะโพกใส่โพรงปากร้อนของภูมิรพีไม่กี่ครั้งก็แตะถึงขอบสวรรค์  กระแสไฟอ่อนของความวาบหวามวิ่งพล่านไปทั่วกายเล็กของตัวเอง ภูมิรพีดูดกลืนน้ำรักที่ฉีดพ่นลงคอจนหมดอย่างไม่รังเกียจ คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนราบกับเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยอ่อนแทบจะหมดสภาพ

   ภูมิรพีเลื่อนตัวขึ้นมากดจูบขบเม้นอ้อยอิ่งอยู่กับปากนิ่มจนเจ้าตัวยอมเผยอปากให้ลิ้นร้อนสอดเข้าไปเกี่ยวพันดูดดึงคว้านทั่วโพรงปากอยู่นานแทบจะหายใจไม่ออก ต้องยกมือที่อ่อนแรงผลักร่างแกร่งออก แต่ปากร้อนนั่นไม่ผละไปไหนยังอ้อยอิ่งดูดเม้มไปตามริมฝีปากของน้ำนิ่ง แก่นกายใหญ่เสียดสีกับเรียวน่องของคนตัวเล็กเนิบนาบ ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาอีกครั้งจนหลุดครางแผ่วเบาออกมา

   “อึก...ฮืออา...”

    ร่างหนาผละตัวออกไปความรู้สึกเบาโหว่งโหยหายากจะบรรยาย ความรู้สึกที่ไม่อยากให้ภูมิรพีออกห่างตัวมันตีตื้นจนใจเจ็บแปล๊บ น้ำนิ่งปรือตาขึ้นมองเห็นคนตัวโตกำลังถอดกางเกงของเขาออกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะลงมานอนข้างกัน เขาจับคนตัวเล็กนอนตะแคงโดยที่ตัวของเขาซ้อนอยู่ข้างหลัง

   “ไม่ไหวแล้ว ช่วยภูมิหน่อยนะเด็กดี” 

   เสียงกระซิบอยู่ริมหูมันแหบพร่าเซ็กซี่วอนขอจนใจอ่อนยวบแทบจะยอมให้คนที่ซ้อนหลังอยู่หมดทุกอย่างที่ตัวเองมี ลมหายใจร้อนที่กระทบตรงซอกคอทำให้ขนลุกซู่ น้ำนิ่งหันไปจูบคางสากของคนที่นอนซ้อนอยู่ข้างหลัง นั่นเหมือนคำอนุญาต ภูมิรพีจับแก่นกายของตัวเองรูดรั้งไปมาเสียดสีกับร่องก้น ส่วนปลายถูไถกับช่องทางด้านหลังอย่างจงใจ มันเสียวซ่านจนต้องครางเสียงหวานแผ่วด้วยความพึงพอใจ  เพียงชั่วแล่นเกิดความคาดหวังขึ้นในอก

   ‘ ถ้ามันเข้ามาอยู่ลึกๆ แรงๆ ในตัวคงจะรู้สึกดีไม่น้อย....แต่คงจะหวังมากไป  เพราะลุงเมินเฉยเลือกที่จะเอามันสอดใส่หว่างขาแทน....“เสียดาย“.... เสียงในหัวบอกอย่างนั้น แล้วอาการต่อมาคือ  'ผิดหวัง


   “เด็กดีหนีบขาแน่นๆ นะครับ”

   เสียงของลุงสั่งให้หนีบขาแน่นๆ ดึงความคิดของน้ำนิ่งให้มาจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังจะมาถึงตรงหน้า มือหนาสากของลุงกอบกุมรูดรั้งแก่นกายของน้ำนิ่งที่หลับคอพับคออ่อนจนไม่น่าเชื่อว่าจะตื่นอีกแล้ว แต่แค่มือสากสัมผัสไม่กี่ทีเจ้านั่นกลับรู้สึกตัวเริ่มแข็งขืนพองคับแทบแตกอีกครั้งจนได้  มืออีกข้างของภูมิรพีสอดเข้ามาในสาบเสื้อบีบบี้ยอดอกอย่างแรงมันทั้งเจ็บทั้งเสียวไปพร้อมกันน้ำนิ่งถึงกลับหลุดครางออกมา

   “ซี๊ดดด...อา..ลุง”

   “หนู...”

   ภูมิรพีกดปากร้อนนาบจูบดูดไปตามลาดไหล่ซอกคอ ขบเม้มดูดดึงติ่งหู  สะโพกกระแทกอย่างแรงเข้าหว่างขาของคนในอ้อมกอด หน้าท้องแกร่งกับบอลแฝดของคนตัวโตกระทบกับก้นงอนจนเกิดเสียงตั๊บ ตั๊บ ตั๊บ ดังก้องผสานไปกับเสียงครางทุ่มต่ำของคนที่ซ้อนหลังอยู่  แรงกระตุ้นจากทั้งข้างบนข้างล่าง ความวาบหวามที่กำลังจะได้ปลดปล่อยอีกครั้งสั่งให้น้ำนิ่งขยับสะโพกเด้งสวนรับการกระแทกของภูมิรพีแรงไม่แพ้กัน 

   เมื่อมันสุดจะทานทน เราสองคนเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักออกมาพร้อมกัน  แต่เหมือนภูมิรพีจะยังไม่เสร็จเขาจับมือของคนตัวเล็กไปจับส่วนปลายบานที่น้ำรักยังไหลทะลักอยู่  น้ำนิ่งลูบวนที่ส่วนปลายบานละเลง น้ำรักที่เอ่อล้นไปทั่ว ภูมิรพีกอดกระชับแน่นขึ้นกระแทกแก่นกายให้ส่วนปลายชนกับมือนิ่มของคนในอ้อมกอดอยู่สักพักเขาก็ปลดปล่อยออกมาจนหมด 

   “หนู...อา อ้า...”

   ภูมิรพีคลายอ้อมกอดออกเล็กน้อย มือหนาอุ่นลูบปัดเส้นผมที่ตกระหน้าออกให้ ปากร้อนจูบไล้ไปตามไรผมที่ชื้นเหงื่อเม็ดเล็ก  ร่างที่เหนื่อยอ่อนของน้ำนิ่งแทบจะไม่อยากขยับทำอะไรตาหรี่ปรือจะหลับให้ได้  มันเป็นการทำรักที่อิ่มเอมแต่  “ไม่สุด”  นั่นแหละตะกอนความรู้สึกที่ตกค้างในใจของน้ำนิ่งตอนนี้ 

    “คิดอะไรอยู่หืม”

     “มะ ไม่มีอะไร” 

   ตอบเสียงแผ่เบาไปทั้งที่ยังหลับตานั่นแหละ เหมือนตัวจะรุมๆ ปวดหัวนิดๆ แล้วด้วย ความเย็นของลมจากเครื่องปรับอากาศลอยมากระทบแผ่นหลังภูมิรพีคงลุกออกจากเตียงอยากรู้นะว่าไปไหนแต่ไม่ไหวความง่วงมันจู่โจม

   “อ๊ะ” 

   น้ำนิ่งสะดุ้ง มือผวาไขว่คว้าความว่างเปล่าในอากาศ เคยเป็นหรือเปล่าตอนที่เรากำลังจะเคลิ้มหลับแล้วมันเหมือนกับเราจะตกหลุมอากาศจนสะดุ้งสุดตัวอาการของน้ำนิ่งก็แบบนั้นแหละ

   “ชู่ว์ๆ ภูมิอาบน้ำให้นะ หลับไปก่อนก็ได้ครับ”

   เสียงทุ้มนุ่มของคนคุ้ยเคยที่กระซิบปลอบประโลมอยู่ริมหูก็ทำให้หนูไว้วางใจเอนหลังพิงราบไปกับอกแกร่งของคนข้างหลัง หลับใหลไม่รับรู้แล้วว่าลุงจะทำอะไรให้มารู้ตัวอีกทีลุงปลุกขึ้นมากินโจ๊กกับกินยา ตื่นแบบเบลอๆ ก่อนจะหลับไปอีกครั้ง 

   ‘ จนถึงตรงนี้แม้จะกินลูกอมที่บ๋อมให้จนหมด ก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดีว่า 'ฝันเปียก'  มันคืออะไร ’ 










TBC.

ปล.  * ตอนนี้แค่จะสื่อว่าสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็น จิตใจมนุษย์นั่นยากแท้หยั่งถึงความอยาก..??  มีอยู่ในจิตใจของมนุษย์ทุกผู้ น้ำนิ่งเองก็เหมือนกัน 

* ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านนะค่ะ :) เป็นงานเขียนครั้งแรกอาจจะยังไม่ดีนักก็แนะนำกันได้ ยินดีน้อมรับเพื่อแก้ไขให้ได้งานที่ดีกว่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2016 19:09:38 โดย WiChy »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เห

เงาที่ภูมิเจอตอนแรกนั่นบ๋อมหรือเปล่านะ???

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
อืมมม น้ำนิ่งง หนูชักมากกกแล้วนะลูก
.
.
.

ชักทำให้ฉันรักเธอมากเกินไปแล้วว
เออ อย่างนี้แหละ อยากก็บอกอยาก
แต่ถ้าพูดสิ่งที่คิดออดมาก็อาจจะดี (มั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เงาที่เห็นอาจเป็นบ๋อม โอ๋ หรือแม้แต่เอ๋ ไม่อย่างนั้นอาจจะรู้เห็นกันทั้ง 3 คน
เพราะโอ๋เป็นคนซื้อลูกอมมาย่อมต้องรู้ว่ามันจะมีผลยังไง
แต่ก็ยังฝากลูกอมมาให้น้ำและโอ๋ยังเป็นคนให้บ๋อมกับเอ๋ชวนน้องน้ำไปเล่นที่บ้านด้วย
ไหนจะแปลกที่โอ๋ช่วยบ๋อมแล้วให้บ๋อมช่วยเอ๋ตอนดูหนังโป๊อีก
กลัวจะหลอกพาน้องน้ำไปกินตับจริงๆเลย :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
น้ำนิ่งแอบหื่นนะนี่  :hao7:

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: เด็กเลี้ยง__EP.7_เลี้ยงเด็ก [18_10_2558]
«ตอบ #39 เมื่อ18-10-2015 00:15:00 »

เด็กเลี้ยง

-7-

เลี้ยงเด็ก








   “วันนี้ผมไม่เข้าบริษัทนะครับ ถ้ามีอะไรพี่พีตัดสินใจได้เลย”  ภูมิรพีกรอกเสียงบอกคนปลายสาย

   // มีอะไรรึเปล่า //

   “นิ่งไม่สบายน่ะครับ ไม่มากแต่ก็ไม่อยากจะปล่อยเขาไว้ ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบวันนั้น”

   // แล้วน้องกินยาหรือยัง เช็ดตัวหาแผ่นเจลลดไข้แปะหน้าผากให้น้องด้วยนะ //

   “ปลุกมากินยาเมื่อตอนเข้ามืดไปแล้วครั้งหนึ่ง  อ้อพี่ณิตไปโรงงานรึเปล่าวันนี้”

   // ไปตั้งแต่เช้าแล้ว มีอะไร //

   “ผมอยากให้พี่ณิตไปขอภาพกล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถภาควิชาของนิ่งหน่อยน่ะครับ”

   // ทำไม!! มีอะไรเกิดขึ้นกับน้องรึไง //

   “เมื่อวานนิ่งโดนยา ผมโมโหจนอยากจะฆ่าคนที่มันทำให้ตายอยู่นี่ ไม่อยากจะคิดถ้าผมไปช้ากว่านั้นอีกนิดเดียวนิ่งคงจะโดนเอาตัวไปแล้ว ตอนผมจะพานิ่งออกมาเห็นเงาคนหลบเข้าหลังต้นไม้ห่างจากสนามสักห้าสิบเมตรคิดว่ามันคงซุ่มดูเหยื่อรอยาออกฤทธิ์อยู่แถวนั้นแหละ  อยากจะตามไปดูอยู่เหมือนกันแต่เด็กไม่ไหวแล้วไงเลยต้องปล่อยมันไปก่อน.”

   / ภูมิ...ฮึก...อยู่ไหน...ฮือ../

   “แค่นี้ก่อนนะพี่เด็กตื่นแล้ว ไม่เห็นเดี๋ยวงอแงหนัก”

   // เออ เออ เรื่องนั้นเพลาๆ บ้างนะสงสารน้อง ส่วนภาพจะบอกพี่ณิตให้ //

   “รู้หรอกน่า ฝากด้วยนะพี่ครับสวัสดีครับ”

   ภูมิรพีกดตัดสายก่อนที่จะรีบเปิดประตูระเบียงเดินไปที่เตียง น้ำนิ่งนั่งหัวยุ่งปากแดงจากพิษไข้ น้ำตาคลอคลองนัยน์ตาสวย มือกำผ้าเน่าอยู่บนเตียง

   “ครับๆ  ภูมิอยู่นี่ มานี่มา” 

   ภูมิรพีนั่งลงขอบเตียงเอื้อมมือดึงตัวน้ำนิ่งเข้ามาในอ้อมกอด เอาหน้าผากตัวเองชนกับหน้าผากของเด็กวัดไข้  ความร้อนทุเลาลงแล้วตามไรผมชื้นเหงื่อเล็กน้อย  มือหนายกขึ้นเกลี่ยไรผมที่ระหน้าขึ้นทัดหูบางให้ กดจมูกสูดดมหัวหอมหลายครั้งจนพอใจ

   “ปวดหัวไหมหือ”  ภูมิรพีเอ่ยเสียงนุ่มทุ้มถามชิดหู 

   “ไม่ฮะ ภูมิไปไหนมา” เด็กน้อยสั่นหัวไปมา เอ่ยปากถามภูมิรพีด้วยเสียงแหบ

   ”ภูมิคุยโทรศัพท์กับพี่พีนิดหน่อย ไปเช็ดตัวก่อนเนอะจะได้ไปกินข้าวกินยา”

   “แต่ว่าหนูอาบน้ำไม่ได้เหรอ มันเหนอะหนะตัวนะฮะ”

   “เอางั้นก็ได้ครับ น้ำอุ่นนะ”

   “ฮะ”

   ภูมิรพีอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องน้ำวางลงบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า จัดการยื่นแปรงที่บีบยาสีฟันเตรียมไว้แล้วให้น้ำนิ่งจัดการตัวเอง ก่อนจะหันไปเปิดน้ำอุ่นในอ่าง หันกลับมาอีกทีเจ้าตัวหอมก็แปรงฟันเสร็จแล้ว กำลังแกะกระดุมเสื้อนอนชายหนุ่มเลยเดินเข้าไปช่วยแกะอีกคน 

    สาบเสื้อที่แหวกออกเผยให้เห็นผิวสีน้ำผึ้งระเรื่อที่แต่งแต้มรอยสีกุหลาบ รอยยิ้มละมุนผุดพรายเต็มหน้าและอดไม่ได้ที่จะกดจมูกสูดความหอมจากซอกคออุ่นของร่างบาง เสียงกระซิบทุ่มนุ่มพร้อมลมหายใจร้อนที่เป่ารดผะผ่าวที่คอทำให้อีกคนหดคอหนีหน้าขึ้นสีระเรื่อ


   “ของของภูมิ”

   “ฮืออ...” 

   ร่างยางย่นคอหนีด้วยความจั๊กกะจี้เมื่อโดนไรหนวดเคราของภูมิรพีเสียดสีไปตามผิวนุ่นบริเวณซอกคอ มือเล็กดันหน้าของภูมิรพีออก  ทำหน้างอนส่งสายตาขึงขังห้ามปรามมันน่ารักมากกว่าจะน่ากลัว ภูมิรพียิ้มกว้างมากกว่าเดิม ก่อนจะถูกงอนมากไปกว่านั้นเลยอุ้มไปวางในอ่างน้ำ คนตัวโตเดินไปหยิบผ้าขนหนูในตู้เก็บมาเตรียมไว้ให้ ชายหนุ่มปล่อยให้เด็กตัวหอมแช่อยู่ไม่นานก็อุ้มขึ้นจากน้ำเช็ดตัวและแต่งตัวให้จนเสร็จ

   “จะกินอะไรฮึ ข้าวต้ม หรือโจ๊ก” 

   “ข้าวต้นเปล่ากับหมูหวาน.. ภูมิอุ้มเค้า” 

   เด็กน้อยกางแขนรอคนตัวโตเลยจัดการอุ้มลงมาข้างล่างเดินไปที่ครัวยายชื่นกำลังอุ่นข้าวต้มเปล่าให้คนป่วย

   “อ้าวตื่นแล้วเหรอลูก ไหนใครไม่สบาย”

   ยายชื่นเอ่ยทัก พร้อมกับเดินมาจับตามตัวเด็กเพื่อวัดความร้อน  เด็กน้อยยกหัวขึ้นจากบ่าหันไปหอมแก้มยายชื่น ทำหน้าตาออดอ้อนกับคนแก่

   “ยาย...น้ำปวดหัวจังเลย ทำไงดีอยากกินหมูหวานกับข้าวต้มเปล่าที่ยายทำด้วย ทำให้น้ำนะฮะ”

   “ก็นี่ไงยายทำให้แล้วลูก น้ำนั่งรอเลยครับ”

   “รักยายที่สุดเลย”  คนในอ้อมแขนของภูมิรพีชโงกตัวไปหอมแก้มคนแก่อีกครั้ง ยายชื่นยิ้มชอบใจใหญ่ที่โดนอ้อน

   “อ๊าว!! แล้วไหนว่ารักภูมิที่สุดไง”

   “ก็รักยายที่สุด แต่หนูรักภูมิแบบพิเศษใส่ไข่ไง” 

   ผมให้รางวัลเป็นหอมแก้มสองฟอดใหญ่ในฐานะที่เด็กน้อยทำตัวน่ารัก ยายชื่นหัวเราะชอบอกชอบใจก่อนจะหันไปสนใจข้าวต้มที่กำลังอุ่นบนเตา

   “ชื่นใจที่สุดเลย” 

   น้ำนิ่งยกมือเล็กทั้งสองข้างจับแก้มภูมิรพีให้ตรงก่อนจะยื่นหน้าเอาปากนุ่มอุ่นแตะลงบนปากหนาของคนตัวโตอย่างรวดเร็ว แล้วผละออกส่งยิ้มน่ารักให้ภูมิรพีก่อนที่จะซบหน้าลงกับบ่าดังเดิม 

   “หนูนั่งกับภูมินะ”

    น้ำเสียงอ้อนทำให้คนตัวโตยิ้มกว้างอดไม่ได้ที่จะหันไปหอมแก้มเบาๆ อย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดูยิ่งป่วยยิ่งอ้อน น่ารักเกินไปแล้ว การรับประทานอาหารในเช้านี้ภูมิรพีจึงกลายเป็นเก้าอี้มีชีวิตให้เด็กขี้อ้อนไปซะงั้น ยายชื่นตักข้าวต้มเปล่าชามโตและหมูหวานมาวางตรงหน้า ภูมิรพีป้อนใส่ปากคนบนตักคำใส่ปากตัวเองคำ (ตอนแรกก็ไม่ได้กินด้วยหรอกครับ กะว่าจะป้อนเด็กให้เสร็จก่อนแล้วถึงจะกิน แต่เด็กน้อยไม่ยอมก็เลยได้กินด้วยกัน)  ข้าวต้มชามโตหมดภายในเวลารวดเร็ว หลังกินยาเสร็จก็อุ้มขึ้นข้างบน คาดว่าอีกสักครู่ก็คงหลับเพราะฤทธิ์ยาแล้ว

   “หนูดูหนังได้มั้ย”

   “ครับ งั้นไปนอนที่เรือนพักผ่อนนะ” 

   “ฮะหนูดู Larva นะ”

   “ตามใจเลยครับ”  ภูมิรพีอุ้มน้ำนิ่งมาจนถึงห้องพักผ่อนซึ่งอยู่ติดกับห้องนอน วางเด็กน้อยลงโซฟาเบดหลังใหญ่ 

   “คนเก่งไปเลือกแผ่นรอเลยครับ เดี๋ยวภูมิเดินไปเอาผ้ามาให้”

   “หนูใส่แผ่นไว้รอมาเร็วๆ นะฮะ”

   ภูมิรพียกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มก่อนจะเดินกลับมายังห้องนอนเพื่อเอาผ้าเน่าประจำตัวของเจ้าเด็กตัวหอม กลับไปอีกครั้งเจ้าตัวก็นั่งรอแล้ว ชายหนุ่มเดินไปปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ รูดปิดม่านหน้าต่างให้มืดอีกนิด เปิดตู้เอาผ้าห่มนวมติดมือมาด้วย ได้ของครบแล้วจึงเดินไปเอนนั่งลงข้างๆ กัน  แขนแกร่งโอบกอดร่างบางกระชับแล้วล้มตัวลงนอนด้วยกัน  เจ้าตัวหอมกอดผ้าประจำตัวไว้แนบอก ขยับตัวหยุกหยิกจนเป็นที่พอใจจึงหันไปกดรีโมทให้เครื่องเล่นแผ่น

   เกือบจะครึ่งเรื่อง คนในอ้อมกอดเริ่มตัวอ่อนคงจะฝืนฤทธิ์ยาไม่ไหวแล้ว ภูมิรพีกอดกระชับร่างบางแนบอกอีกนิด มือหนึ่งลูบหลังไปมาอีกมือตบก้นงอนเบาๆ  ครู่เดียวคนในอ้อมกอดก็ตัวอ่อนยวบลมหายใจสม่ำเสมอ  จึงหันไปหยิบรีโมทกดปิดหนังนอนกอดเด็กน้อยหลับไปด้วยกัน...




   “ตื่นแล้วเหรอครับ มานี่มาดูสิหายรึยัง” 

    ภูมิรพีงัวเงียตื่นตอนที่รู้สึกว่ามีอะไรหยุกหยิกอยู่บนตัว พอลืมตาขึ้นดูชัดๆ จึงเห็นเจ้าตัวหอมกำลังนั่งอยู่บนพุง ชายหนุ่มเอื้อมมือลูบแตะไปตามซอกคอของคนบนตัวตัวไม่ร้อนแล้ว มือแกร่งโอบเลยไปด้านหลังคอดึงรั้งเบาๆ โน้มหน้าผากมาจรดริมฝีปากหนาของตัวเอง จมูกป่ายปัดกันก่อนที่ริมฝึปากนุ่มจะถูกกวาดชิ่มความหวานทั่วโพรงปากจนพอใจ ร่างบางเอนตัวซบลงกับอกวางคางเล็กไว้บนมือของตัวเองที่วางนาบบนอกแกร่ง หน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ภูมิรพีหลุดยิ้มบางเบา เลื่อนมือไปตบก้นงอนเบาๆ เจ้าตัวหอมหลุดเสียงหัวเราะกังวานใสอย่างชอบใจ

   “หิวรึยังครับ” ภูมิรพีถามคนบนตัวเด็กน้อยพยักหน้าระรัว ส่งยิ้มประจบมาให้  ด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู คนตัวโตเลยยกมือขึ้นแนบแก้มแล้วดึงหน้าหวานมาใกล้ๆ ปากแล้วกัดที่จมูกงอนเชิดเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบ

   “เจ็บ”  เด็กน้อยบ่นหงุ๋งหงิ๋งไม่จริงจังนัก

   “หึ หึ ก็น่ากินทำไมล่ะฮืม  แล้วจะกินอะไรสปาเก็ตตี้ไหมเดี๋ยวภูมิทำให้”

   ขี้เมาทะเลได้ไหม..หนูอยากกิน”  เสียงออดอ้อนกับนัยน์ตาเป็นประกายวาววับก่อนจะยิ้มจนตาเป็นสระอิ น่ารักเกินไปแล้ว อดไม่ได้เลยฟัดแก้มหอมๆ ไปอีกที 

   “ถ้าอยากกินก็ลุกเลยครับ เดี๋ยวภูมิทำให้”

   น้ำนิ่งไม่อิดออดลุกจากตัวภูมิรพีลงไปนั่งข้าง ๆ  คนตัวโตลุกขึ้นเสยผมให้เข้าทีเข้าทาง ก่อนจูงมือเด็กมาที่ห้องน้ำในห้องนอนล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น

   “ล้างหน้าก่อนครับคนเก่ง”

   “ภูมิหนูเอาน่องไก่ทอด แล้วก็สลัดผักด้วยได้ไหมอยากกิน”  น้ำนิ่งอ้อน แสดงว่าคงจะหายแล้วเลยอยากกินนั้นนี่เยอะไปหมด

   “ครับๆ จะทำให้ทุกหมดแหละ”  ภูมิรพีเอาผ้าขนหนูนุ่มซับหน้าให้เด็กไปด้วย รับคำเด็กไปด้วย

   “มานี่ก่อนมาเดี๋ยวภูมิผูกผมข้างหน้าให้ ชักยาวแล้วเดี๋ยวทิ่มตา”

   คนตัวโตเปิดตู้กระจกหยิบหนังยางออกมาอีกมือจับผมข้างหน้ามัดรวบไปข้างหลังให้  ยกยิ้มกับผลงานตรงหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะยกแขนแกร่งโอบไหล่คนตัวเล็กเดินลงไปข้างล่างด้วยกัน วันนี้ยายชื่นไม่อยู่เห็นว่าจะไปทำบุญที่วัดกับคนแก่ในละแวกบ้าน ภูมิรพีเปิดตู้เย็นหลังใหญ่เตรียมวัตถุดิบทำอาหารตามที่เจ้าตัวหอมต้องการมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์

   “ภูมิหนูทำสลัดเองนะ”

   “ได้อยู่แล้วครับ”

   น้ำนิ่งจัดการทำน้ำสลัดแอปเปิ้ล คนตัวโตหันมาเตรียมเครื่องทำสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล  น่องไก่ก็แค่หยิบออกมาจากกล่องเก็บอาหารแล้วหย่อนลงกระทะที่น้ำมันกำลังเดือดปุดๆ เท่านั้นเอง เพราะยายชื่นหมักไว้แล้ว กำลังสาระวนทำอาหารกันอยู่ พี่พีร้องทักขึ้นที่ประตูครัวแล้วตามมาด้วยพี่ณิต

   “ทำอะไรครับคนป่วย โว๊ะ!!  ใครผูกผมให้น่ารักวะ มานี่ดิ”

   พี่พีเดินเข้ามาชะโงกดูที่ชามว่าน้องทำอะไร แต่ตาสะดุดเข้ากับหัวเปิดเหม่งของเด็กอดไม่ได้ที่จะ ดึงตัวเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนพอใจก่อนจะปล่อยตัวน้องให้ทำสลัดต่อ

   “ทำสลัดพี่พีกินด้วยกันนะ”   น้ำนิ่งเอียงชามใหญ่ใส่สลัดให้ดูก่อนจะชวนกินด้วยกัน

   “ไหนว่าป่วย หายแล้วเหรอถึงมาทำอะไรแบบนี้น่ะฮึ”  พี่ณิตเอาหน้าผากตัวเองมาชนหน้าผากน้อง เมื่อเห็นว่าไม่ร้อนแล้วเลยหอมหัวเหม่งน้องสองสามทีก่อนจะปล่อยหน้าน้อง

   “ฮือหายแล้วเห็นไหมน้องตัวไม่ร้อนแล้วด้วย” คนน้องตอบ 

   “เอ้านี่เครฟเค้กที่เราชอบ ไปซื้อเกือบไม่ทันเหลือก้อนสุดท้ายเลย” พี่พียื่นกล่องเครฟเค้กให้น้อง

   “วู้!!  รู้ใจน้องจริงๆ  น่ารักที่สุดเลย”   

   ไอ้คนน้องโผเข้าไปกอดคนพี่หอมแก้มซ้ายขวา ยิ้มประจบประแจงยื่นหน้าเข้าไปคลอเคลียอ้อนคนพี่ จะเหลือเหรอครับ คนสวยเขายิ้มกว้างหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาคนน้องจนอีกคนที่มาด้วยกันชักเคือง

   “พี่กินข้าวมายัง” ผมถามพวกพี่มัน

   “ยังก็กะว่าจะมาฝากท้องที่นี่แหละ”  พี่ณิตหันมาตอบ ก่อนจะหยิบน่องไก่ที่ควันฉุยในจานขึ้นไปกัดกินโดยไม่อนาทรกับความร้อน

   “มือไม่ล้างหยิบของมากินได้ไง ไปเลยนะไปล้างมือเดี๋ยวนี้เลย”  พี่พีตีมือคนพี่ดังเพียะเลย

   “โธ่ก็หิว เนี่ยข้าวเช้าก็ยังไม่ตกถึงท้องกินชิ้นนี้ก่อนไม่ได้เหรอครับนะ น้า...”   คณิตทำเสียงอ้อนคนของตัว

   “วางเลย แล้วไปล้างมือก่อน”  แต่คนเจ้าระเบียบอย่างนั่นหรือจะยอม

   “ก็ได้ แกล้งคนหิวนี่บาปนะครับ”

   น้องหัวเราะชอบใจใหญ่ที่พี่ณิตโดนดุเหมือนเด็กๆ  ภูมิรพียกยิ้มมุมปากส่ายหน้าอย่างระอาก่อนจะหันมาทำสปาเก็ตตี้เพิ่มอีกสองที่ เสร็จแล้วก็นั่งทานข้าวกันตบท้ายด้วยเครฟเค้ก หลังทานข้าวเสร็จก็ย้ายกองขึ้นมาตรงหอนั่ง สองคนนั่นอิ่มท้องก็สะบัดก้นหนีไปดูหนังแล้วก็เดินห้างซื้อของเข้าบ้าน

   ส่วนน้ำนิ่งพอหนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนตาปรือปรอยจะหลับมิหลับแหล่ ยิ่งมาถูกลมเย็นที่พัดเอื่อยๆ ตอนนี้แล้ว ตาจะลืมไม่ขึ้นซะให้ได้ คนตัวโตก็เลยอุ้มพาไปแปรงฟัน ล้างมือ ล้างเท้า พามากล่อมนอน คิดว่าถ้าเด็กหลับภูมิรพีคิดจะไปทำงานที่พี่พีหอบมาให้นิดหน่อย  แต่กล่อมกันท่าไหนไม่รู้หลับไปพร้อมกับเด็กน้อยซะงั้น

   เช้าวันจันทร์น้ำนิ่งสามารถไปเรียนได้ตามปกติ ภูมิรพียังไม่ได้ถามถึงสาเหตุที่เด็กโดนยา ประเด็นสำคัญคือ ภูมิรพีไม่อยากให้น้ำนิ่งมีความทรงจำที่เลวร้ายติดในสมองถ้าลืมได้ก็อยากให้เด็กลืมมันไปซะ  ขอเป็นเขาเองที่จะจำและเอาคืนคนที่มันทำกับเด็กร้อยเท่าพันทวี สองครั้งแล้วที่เขาช้าแล้วเด็กเกือบได้รับอันตราย ไม่อยากจะคิดถ้าช้ากว่านี้มันคงเป็นความสูญเสียที่เกินจะรับไหว



บริษัทบุลวัชร เทรดดิ้ง จำกัด (มหาชน)

   “สองปีที่ผ่านมาคุณอาเดินทางไปฮ่องกงกับมาเก๊าแทบทุกเดือน  และจากการตรวจสอบสถานะทางบัญชีมีเงินเข้าบัญชีก้อนใหญ่สามเดือนครั้ง แต่จากบัญชีของบริษัทจะโอนเข้าทุกหกเดือน”  พี่พีรายงานความคืบหน้าของการติดตามเป้าหมาย

   “อืม พี่ช่วยสืบให้ผมด้วยนะว่าเขาไปที่นั่นทำไม  เขามีเงินนอกอื่นๆ โอนเข้าบัญชีด้วยเหรอนี่ มันน่าสงสัยนะว่าไหม เขาไม่มีธุรกิจอย่างอื่นแต่มีเงินเข้าเป็นกอบเป็นกำ”

   “มันก็น่าคิด  มีจุดที่น่าจะต้องจับตามองเวลาที่เขาเดินทางต้องมีเสี่ยวิชัยไปด้วยตลอด  เราก็รู้กันดีว่าเสี่ยเป็นยังไง มันจะบังเอิญไปรึเปล่า”

   “พี่สืบด้วยว่าสองคนนี้เกี่ยวพันกันยังไง ถ้ามีประเด็นอื่นรายงานผมด่วนนะครับ”

   “ได้ แล้วงานวันนี้สิบโมงครึ่งมีประชุมบอร์ดผู้บริหาร  บ่ายโมงครึ่งเข้าพบคุณธอมัสคู่ค้าเขตอเมริกาที่โรงแรมเดอบัวร์  บ่ายสามนัดเซ็นสัญญากับคุณเจียงที่บริษัทเจเจคอร์ปฯ  ทุ่มครึ่งเลี้ยงรับรองคุณธอมัสอีกครั้งที่ริสเรสตัวรองส์”

   “วันนี้สิงห์จะไปรับน้องมั้ย”

   “ไปครับ ยิ่งเกิดเรื่องนั้นผมยิ่งห่วงนะ คิดแล้วถ้าวันนั้นผมไปไม่ทันนิ่งจะเป็นยังไง ตอนนี้เลยให้คนตามเฝ้านิ่งอยู่ก็วางใจได้เปาะหนึ่ง”

   “ดีแล้วล่ะ เรื่องเซ็นสัญญากับคุณเจียงพี่ไปแทนเอง สิงห์ไปรับน้องเถอะ ถ้ามีอะไรด่วนพี่จัดการเอง”

   “ขอบคุณครับ”




วิทยาลัยการอาชีพ

   ภูมิรพีขับรถมารับน้ำนิ่งที่วิทยาลัย บรรยากาศยามสี่โมงเย็นยังคงเหมือนเดิม เขามองเห็นเด็กนั่งอยู่บนเก้าอี้สนามตัวเดิม สายตาเหม่อมองเพื่อนนักศึกษาที่กำลังเดินกันขวักไขว่เพื่อกลับบ้าน  ห่างไปห้าสิบเมตรผมมองสบตาคนติดตามน้ำนิ่งพยักหน้าให้แยกย้ายได้ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กน้อยเงียบๆ ไม่ได้ส่งเสียงเรียก จนไปยืนอยู่ข้างหลังแต่เด็กก็ยังไม่รู้สึกตัวว่ามีคนอยู่ข้างหลังเขา คนตัวโตก้มลงกดจูบลงที่หัวหอมน้ำนิ่งสะดุ้งตกใจไม่ทันได้ร้องภูมิรพีก็ยกตัวขึ้นจากเก้าอี้อุ้มแนบอก

   “ภูมิ”

    เด็กน้อยร้องก่อนที่จะกางแขนกอดคอ ขาเล็กเกี่ยวเข้าที่เอวหนา ก่อนจะยกตัวขึ้นกดจมูกงอนเชิดมาหอมแก้มดังฟอดทั้งสองข้าง

   “รอนานมั้ยเด็กดี”

   “ไม่นานฮะหนูเพิ่งลงมา”

    น้ำนิ่งตอบเสียงใส ผละหน้าออกจากบ่าหนายกมือทั้งสองข้างขึ้นแนบแก้มสากไรหนวดเครา จ้องเข้าไปในตาสีแปลกที่สะท้อนเงาของเด็กน้อยอยู่เต็มพื้นที่ น้ำนิ่งเอาปากนิ่มๆ แตะปากหนาของคนตัวโตสองสามทีโดยไม่ได้สอดลิ้น  แต่ก่อนจะผละออกเด็กกัดริมฝีปากล่างภูมิรพีเบาๆ อย่างหยอกเย้าแล้วกลับไปซบหัวลงที่บ่าหนาเหมือนเดิม พฤติกรรมของน้ำนิ่งวันนี้ทำเอาภูมิรพีแทบจะคลั่งมันไม่เจ็บแต่เสียว ก็ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับน้ำนิ่งอีกเลย

    ‘เฮ้อ!! ไอ้ภูมิหนอไอ้ภูมิเบื่อตัวเอง เจ้าเด็กนี่ก็ขยันอ่อยผู้ใหญ่เหลือเกินมันน่านัก ‘

   “คิดถึง”

   “หนูครับภูมิขออะไรอย่างได้ไหมครับ”

   “ภูมิจะให้หนูทำอะไร หนูจะทำให้หมดเลย สัญญา” เด็กน้อยชูสองนิ้วสัญลักษณ์ของลูกเสือ

    “เด็กดีฟังภูมินะ สิ่งที่ทำกับภูมิหนูอย่าไปทำกับใครนะ ถ้าจะทำก็ทำได้กับภูมิเพียงคนเดียวเท่านั้นเข้าใจไหมครับเด็กดี” 

   “ฮะเข้าใจแล้วห้ามทำกับคนอื่น  ทำกับลุงคนเดียวสัญญาเลย”

    น้ำนิ่งรับคำเสียงใสพร้อมคำสัญญาหนักแน่น  คนร่างบางก้มลงเอาริมฝีปากนิ่มแตะลงบนริมฝีปากหนาอีกครั้ง แล้วก่อนผละออกเด็กน้อยกัดเม้มที่ริมฝีปากล่างของคนตัวโตอย่างหยอกเย้า

   “น้ำนิ่ง!” ภูมิรพีเรียกเด็กเสียงเข้ม  แต่เด็กก็ไม่ได้สลดแต่อย่างใด กลับหัวเราะชอบใจที่แกล้งคนตัวโตได้

   “เดี๋ยวเถอะพูดไม่ฟัง งั้นวันนี้งดไอศกรีมกับเค้กดีไหม”

   “โห้ยยยยย ภูมิอะ ไม่เอาสิ แกล้งหนูอีกแล้ว...ไม่รักเค้าแล้วเหรอฮึ....” น้ำนิ่งโอดครวญเสียงหวานสายตาหวานเชื่อมออดอ้อนยั่วอารมณ์มาก

   “...”  ผมทำหน้านิ่งเฉย

    “ไม่แกล้งน้าาา... หนูอยากกินจริงๆ ได้ไหมนะ...นะฮะ”

    เสียงหวานเว้าวอนออดอ้อนไม่พอยังเอาแก้มนิ่มถูกับแก้มสาก จมูกเล็กป่ายปัดไปมากับจมูกของคนตัวโต คือเด็กนี่กะจะอ่อยให้ตายคามือเลยใช่ไหม รู้ไหมแค่นี้ก็จะไม่ปันใจไปไหนแล้ว

    “...”  ผมยังแสร้งทำเหน้าโกรธ

   “นะฮะ..น้าา ภูมิคนดีของเค้า”

    คนตัวเล็กหอมแก้มคลอเคลียหนักกว่าเดิม  เอ้ออออ..ให้มันได้ยังงี้..ก็เป็นซะแบบนี้จะโกรธก็ทำไม่ลงไหนๆ ก็ยอมมาตลอดยอมอีกก็ไม่เห็นเป็นไร

   “อะ อะ ก็ได้ ก็ได้เห็นแก่ที่เด็กทำตัวน่ารักเลยนะ”  ภูมิรพีพูดยิ้มๆ และยกมือขึ้นบีบจมูกเล็กของเด็กเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

   “เย้ ภูมิน่ารักที่สุดเลย”

   “งั้นไปกันเนอะ” ภูมิรพีก้มลงหยิบเป้ของน้ำนิ่งขึ้นสะพาย แล้วเดินไปที่รถพาเด็กไปกินไอศกรีมและเค้กตามที่ต้องการ




ร้าน  @Zee U Zone

    ร้านประจำของเรา น้ำนิ่งชอบเครฟเค้กของร้านนี้ กินที่ร้านไม่พอมีรบเร้าให้ซื้อกลับบ้านด้วย สภาพภูมิทัศน์และการตกแต่งร้านออกแนวเรโทรจัดแบ่งร้านเป็นสองโซน เรานั่งกันโชนด้านนอกซึ่งเป็นพื้นยกลอยขึ้นจากสระน้ำใสที่มีปลาคร๊าฟหลายสิบตัวว่ายวนไปมา รอบๆ สระปลูกพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายพันธุ์ รวมถึงก้ามปูต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาทำให้บรรยากาศเย็นสบายสายลมพัดเอื่อย ช่วยผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยได้ดีทีเดียว เด็กน้อยนั่งตรงข้ามกำลังกินเครฟเค้กหลังจากกินไอศครีมไปแล้วหนึ่งถ้วยใหญ่ ผมจิบกาแฟนั่งมองเด็กน้อยกินอย่างมีความสุข

   “กินเยอะขนาดนี้จะกินข้าวได้ไหมละนั่น”

   “กินได้ฮะ ถ้าไม่กินนะเดี๋ยวยายชื่นร้องไห้เสียใจแย่เลย” 

    น่ารักไหมละนั่น รู้จักใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นด้วย ผมยิ้มพยักหน้าเข้าใจก่อนจะยื่นมือไปเช็ดปากที่เปื้อนเศษเครฟเล็กๆ ออก แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วที่เหน็ดเหนื่อยมามันมลายหายไปสิ้นเพียงแค่เห็นรอยยิ้มที่น่ารักนั่น

   “วันนี้ภูมิกินข้าวกับหนูไหม” เด็กเงยหน้าขึ้นถาม มองด้วยแววตายิ้มคาดหวัง

   “ไม่ครับเด็กดี ภูมิมีงานที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ” 

    แววตาหวานคาดหวังฉายแววของความเหงาให้เห็นเพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะฝืนยิ้มน้อยๆ  แล้วก้มลงกินเครฟเค้กต่อ ไหล่บางสั่นน้อยๆ

    ผมขยับไปนั่งข้างๆ ร่างบาง ยกมือขึ้นเชยคางเล็กให้เงยหน้าขึ้น แววตาที่ผมเห็นคลอครองด้วยหยาดน้ำตาใจผมแทบขาด เลื่อนนิ้วมือเกลี่ยไล้หยาดน้ำตาเบา ๆ ดึงร่างเล็กเข้ามากอดปลอบประโลม

   “ภูมิขอโทษเด็กดี คืนนี้หนูอยู่กับยายชื่นก่อนนะครับ ไม่เกินห้าทุ่มภูมิถึงบ้านแน่นนอนสัญญาเลย”

   “สัญญาแล้วนะฮะ”  ปากเล็กพึมพำแผ่วเบาขอความมั่นใจ

   “ครับผม”

    เด็กน้อยยิ้มกว้างส่งมาให้ ผละออกจากตัวผมก่อนจะก้มลงกินเครฟเค้กของเขาต่อ เด็กหนอเด็กอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายเหลือเกิน ผมยกยิ้มด้วยความเอ็นดู

   “ภูมิ  ภูมิ!”

    ผมเหมือนเห็นมือเล็กปัดผ่านหน้าผมไปมา จึงหันมองเห็นเด็กน้อยกำลังหน้าบึง เลยหัวเราะกลบเกลื่อน ยกมือขึ้นบีบจมูกเล็กๆ ของเด็กน้อย นิ่งปัดมือผมออก จิกตามองอย่างเอาเรื่องปากเชิดสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างแงงอน น่ารักวะ

   “ชริ! ไม่สนใจหนู เรียกตั้งหลายครั้งไม่ได้ยิน จะกลับหรือยัง”

   “อิ่มแล้วเหรอ จะเอาอะไรอีกไหมฮึ”

   “งั้นหนูซื้อเค้กไปฝากยายชื่น พี่นิ่ม แล้วก็ป้าๆ ได้ไหมอะภูมิ”

    น้ำนิ่งหันกลับมาทำเสียงกังวานใสอ้อนๆ  สายตาวาววับมองสบมาเป็นสเตปเลย  ผมยกมือขยี้ผมนุ่มของเด็กด้วยความเอ็นดูในความเอื้ออาทรคนอื่นของเขา แต่แกล้งซะหน่อย

   “จะเอาไปฝากยายชื่นหรือกินเองกันล่ะฮึตัวแสบ”

   “ไม่ใช่ซะหน่อย เค้าจะเอาไปฝากยาย พี่นิ่ม แล้วก็ป้าๆ เหอะ เค้าจิตใจดีเหมือนหน้าตาภูมิรู้ไรมั้งปะเนี่ย” เด็กสะบัดบ๊อบริมฝีปากเล็กเชิดขึ้นยกมือกอดอก  ทำหน้างอนๆ  น่ารักมากเปล่าวะนั่น

   “โอ๋ โอ๋ ไม่งอนน้า..ภูมิล้อเล่น  ไป ไป๊ จะเอาอะไรไปฝากใครไปเลือกเลยจ้าภูมิทุ่มสุดตัว”

    ผมรีบง้อกลัวเด็กแถวนี้จะงอนยาว แต่เจ้าตัวดียังกอดอกยืนเฉยผมเลยคว้าหัวหอมเข้ามาจุ๊บเหม่งเป็นการขอโทษ  ตบก้นงอนๆ อย่างหมั่นเขี้ยว เด็กยิ้มแล้ววิ่งสะบัดบ๊อบไปยืนสั่งเค้กใส่กล่องเสียงดังเจื้อยแจ้วกับพี่พนักงาน  ได้ข่าวว่าที่สั่งนะเครฟเค้กที่เจ้าตัวชอบมากสุด  ผมยิ้มกว้างส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินตามไปชำระเงิน แล้วพาไปส่งบ้านก่อนที่ผมจะออกไปพบคุณธอมัสตามนัด



   หลังจากส่งคุณธอมัสที่โรงแรมเสร็จ ผมรีบบึ่งรถกลับบ้าน  จอดรถเสร็จเดินขึ้นบันไดยังไม่พ้นขั้นสุดท้ายสายตาปะทะเข้ากับเด็กที่นั่งทำคอยืดคอยาวแต่ตาเริ่มปรือปรอยอยู่ตรงหอนั่ง  จึงยิ้มกว้างเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ ยกตัวเด็กขึ้นมานั่งบนตัก ยื่นจมูกคลอเคลียแก้มใสด้วยความรักใคร่ น้ำนิ่งเงยหน้าขึ้นจุ๊บปากผมก่อนซบหน้าลงกับอกแขนเรียวเล็กกอดรอบเอวหลอมๆ

   “ยังไม่นอนเหรอครับดึกแล้วนะ”

    ผมก้มลงถามเด็กในอ้อมกอด  เงยหน้าขึ้นเห็นป้าชื่นกำลังจะเดินมาดูเราผมเลยโบกมือบอกป้าไปนอนเถอะเดี๋ยวผมจัดการเด็กเอง  ป้าชื่นพยักหน้าแล้วหันหลังกลับเรือนไป

   “หนูรอภูมิ”  เด็กตอบทั้งที่ตายังหลับพริ้ม ปากนุ่มสีชมพูระเรื่อเผยออ้าน้อยๆ โอ้ย!! น่ากัดมาก

   “กินนมอุ่นก่อนไหมฮึม”  ผมถาม ก้มลงจูบปากน่ากัดที่เล็งไว้ก่อนจะเลื่อนไปกดจูบดมหัวหอมๆ  มือลูบหลังเบาๆ

   “ฮื้อออ ไม่เอาดื่มแล้ว เค้าง่วงอะภูมิ” เด็กครางหงุ๋งหงิ๋งเสียงเบาเหมือนรำคาญ ปากเล็กบอกว่าดื่มนมแล้ว

   “ง่วง นอนกันนะ น้า” 

    เฮ้อ!! ง่วงนะแต่ไม่ยอมนอน ร่างบางคลอเคลียกดจูบที่อกผมหลายครั้ง กระชับกอดให้แน่นขึ้น อ้อนไม่รู้อยากได้อะไรสินะ ผมยกยิ้มพอใจซ้อนร่างบางอุ้มขึ้นกระชับวงแขนเดินเข้าห้องนอน  วางบนเตียงกว้างจัดที่จัดทางเอาผ้าวิเศษให้กอดก่อนดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้จนถึงคอ น้ำนิ่งมองผมตาแป๋วไม่ยอมหลับตา ผมก้มลงกดจูบราตรีสวัสดิ์ที่ปากนิ่ม เจ้าตัวดีกลับยกแขนขึ้นกอดคอผมแน่น ดึงลงไปหาตัวเองอย่างแรงจนเกือบล้มทับเด็ก ต้องใช้มือค้ำยันไว้มองหน้าว่าเด็กงอแงอยากได้อะไร

   “ไหนว่าง่วงทำไมไม่นอนล่ะครับหึ...”

   “ภูมินอนกับเค้านะ”  น้ำนิ่งไม่ยอมปล่อยแขนแต่กลับยกตัวขึ้นกดปากจูบตรงแอ่งชีพจรตรงคอ แล้วเลียเบาๆ ผละหน้าออกมาส่งสายตาเว้าวอน

   ‘โอ้ย! อยากจะบ้าตาย น้ำนิ่งนะน้ำนิ่ง เย็นไว้ไอ้ภูมิมึง ยุบหนอพองหนอๆ’

   “นอนกับหนูนะภูมิ น้าาา”

    เฮ้อ! ผมทนไม่ได้หรอกนะถ้าจะอ่อยกันขนาดนี้เลยก้มลงจูบปากเล็กช่างออดอ้อนนั่น เขาเผยอปากรับลิ้นที่สอดเข้าไปอย่างไม่เกี่ยงงอน เราจูบกันอ่อนหวานเนิ่นนาน ก่อนจะผละออกด้วยความเสียดายเพราะคนร่างบางกำลังขาดอากาศหายใจ 

   “เด็กดีนอนไปก่อนนะ ขอภูมิอาบน้ำแป๊ปเดียวนะครับ”

    ร่างยางยอมยอมปล่อยแขนออกจากคอ เลยรีบลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำจัดการล๊อกประตูอย่างแน่นหนาจัดการธุระส่วนตัวอย่างเร่งรีบก็บอกแล้วไม่ขอทน เสร็จแล้วจึงจัดการอาบน้ำและแต่งตั้งอย่างรวดเร็ว เกือบครึ่งชั่วโมงคนบนเตียงยังไม่นอนแต่ตาปรือมากแล้ว รีบเดินไปปิดไฟแล้วกลับมาขึ้นเตียงล้มตัวลงนอน ร่างบางขยับเข้ามาในอ้อมกอดซบหน้าลงตรงตำแหน่งแถวๆ จั๊กแร้ มือหนึ่งวางตรงอกอีกข้างกอดเอวหนา ขาเล็กยกขึ้นเกี่ยวขาผมไว้ เด็กยกหัวขึ้นจูบตรงคาง กดปากนิ่มจูบลงที่อกผม

    “หลับฝันดีฮะ รักภูมินะ”

   “รักเหมือนกัน ฝันดีเด็กดื้อของภูมิ”

    ผมกระซิบตอบเบาๆ กดจมูกปากไปที่ขมับและแก้มนิ่ม  ยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้จนถึงคอแล้วจึง สอดมือเข้าไปในเสื้อนอนลูบไปมาเบาๆ ตามแผ่นหลังบางลื่นมือ  คนในอ้อมกอดขยับหยุกหยิกจนเป็นที่พอใจไม่กี่นาทีต่อมาก็อ่อนยวบลงตามมาด้วยเสียงหายใจสม่ำเสมอ เด็กหนอเด็กง่วงจนงอมแล้วยังฝืนดื้อรอนอนพร้อมกัน  แล้วจะไม่รักได้ไงแบบนี้ ผมยกยิ้มก้มลงไปหอมหัวทุยเล็กอีกครั้งก่อนที่จะหลับตาพักผ่อน วันดีๆ ที่ผมรักเด็กน้อยหมดไปอีกวันแล้ว...







TBC.


ปล.
1) ยังเป็นอะไรที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ออกจะน่าเบื่อหรือเปล่า?  แต่ในความเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ยอมรับว่ามันเขียนยากเอาการแก้แล้วแก้อีกหลายครั้ง  รีไรท์จากของเดิมไปเกือบทั้งหมด บทสรุปได้มาแค่การดำเนินชีวิตหนึ่งวันของน้ำสิงห์ และพี่ชาย
2) ขอบคุณมากมายสำหรับ BlueCherries, magarons, TaecKhun Imagine Love และ Ginny Jinny  ที่ติดตามอย่างเหนียวแน่นพร้อมเม้นท์ดีๆ ที่เป็นกำลังใจเป็นแรงผลักดันให้เราอยากจะรีไรท์เรื่องให้ดีที่สุด้ท่าที่จะทำได้ให้ได้อ่านกัน (แต่ก็ได้แค่นี้จริงๆ )  ขอบคุณอีกครั้งที่ยังติดตามกันอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2016 23:31:39 โดย WiChy »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เด็กเลี้ยง__EP.7_เลี้ยงเด็ก [18_10_2558]
« ตอบ #39 เมื่อ: 18-10-2015 00:15:00 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: เด็กเลี้ยง__EP.7_เลี้ยงเด็ก [18_10_2558]
«ตอบ #40 เมื่อ18-10-2015 01:04:54 »

อยากรู้ว่าใครวางยาเด็ก แล้วสิงห์จะจัดการยังไง

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: เด็กเลี้ยง__EP.7_เลี้ยงเด็ก [18_10_2558]
«ตอบ #41 เมื่อ18-10-2015 01:15:44 »

พลาดเรื่องนี้ได้อย่างไง น้ำนิ่งน่ารักมากเลย น่าฟัดจริงๆ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
Re: เด็กเลี้ยง__EP.7_เลี้ยงเด็ก [18_10_2558]
«ตอบ #42 เมื่อ18-10-2015 01:22:55 »

อืมม ขอพูดอะไรสักหน่อยนะค่ะ เรารู้สึกเหมือนเหตุการณ์มันเร็วๆ ไป จินตนาการตามไม่ทัน
คือมันมีหลายๆ เหตุการณ์ในหนึ่งวัน คุณนักเขียนอาจไม่ต้องมาเล่าทุกๆอย่างตามที่ตัวละครได้เจอจริงๆอ่ะค่ะ อาจจะแบบ ผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้ว แล้วให้ตัวละครเล่าไล่ย้อนหลัง อาจจะได้ฟิลมากกว่า

ป.ล.เราก็คิดเองเออเอง อย่าโกธรเค้าเลยน้าา
ป.ล.2 คุณแต่งดีแล้วค่ะ อ่านรู้เรื่อง เข้าใจตัวละคร วิถีใครวิถีมันเนอะ แนวคนเขียนอาจเป็นแบบนี่ แต่เราก็ชอบค่า

(ค่อนข้างสับสนในตัวเองนิดหน่อย :z3: :z3: :z3: )

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: เด็กเลี้ยง__EP.7_เลี้ยงเด็ก [18_10_2558]
«ตอบ #43 เมื่อ18-10-2015 02:26:50 »

อืมม ขอพูดอะไรสักหน่อยนะค่ะ เรารู้สึกเหมือนเหตุการณ์มันเร็วๆ ไป จินตนาการตามไม่ทัน
คือมันมีหลายๆ เหตุการณ์ในหนึ่งวัน คุณนักเขียนอาจไม่ต้องมาเล่าทุกๆอย่างตามที่ตัวละครได้เจอจริงๆอ่ะค่ะ อาจจะแบบ ผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้ว แล้วให้ตัวละครเล่าไล่ย้อนหลัง อาจจะได้ฟิลมากกว่า

ป.ล.เราก็คิดเองเออเอง อย่าโกธรเค้าเลยน้าา
ป.ล.2 คุณแต่งดีแล้วค่ะ อ่านรู้เรื่อง เข้าใจตัวละคร วิถีใครวิถีมันเนอะ แนวคนเขียนอาจเป็นแบบนี่ แต่เราก็ชอบค่า

(ค่อนข้างสับสนในตัวเองนิดหน่อย :z3: :z3: :z3: )


ไม่โกธรครับผม ดีใจที่เม้นท์กันตรงๆ จะได้เอาไปปรับแก้ไข คือเราเองก็สับสนกับตัวเองพอสมควรเหมือนกัน
แก้ไขไปแก้ไขมาจนเวิ้นเว่อกับตัวเอง 

ปล. ขอบอกจากใจจริงเราชอบเม้นท้แบบนี้จริงๆ มันทำให้รู้ว่าเราบกพร่องตรงไหน ควรแก้ไขจุดบอดของตัวเองยังไง
ขอบคุณมากมายจากใจอีกครั้งครับผม  ^^

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: เด็กเลี้ยง__EP.7_เลี้ยงเด็ก [18_10_2558]
«ตอบ #44 เมื่อ18-10-2015 09:08:13 »

น้องน้ำน่ารักกกกกกอ่ะ อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆ

ใครวางยาน้องน้ำนะ  :beat: :z6: :z6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: เด็กเลี้ยง__EP.7_เลี้ยงเด็ก [18_10_2558]
«ตอบ #45 เมื่อ18-10-2015 10:21:01 »

@ Yara , TaecKhun Imagine Love ไขข้อข้องใจใครวางยาเด็ก

>> จากตอนที่ 6 ขอน้ำนิ่งเล่าบ้างนะ (2) : เสียดายแต่ไม่สุด  น้ำนิ่งได้รับลูกอมช็อกโกแลตจากบ๋อมที่เป็นของฝากจากพี่โอ๋ หลังจากน้ำนิ่งกินลูกอมนั้นไปมันเกิดอาการแปลกๆ จนเป็นที่มาของตอนที่ 6 แต่ภูมิรพีไม่รู้ว่าน้ำนิ่งกินลูกอมเจ้าปัญหา และอาการที่น้ำนิ่งแสดงออกมันเป็นอาการเดียวกับคนโดนยาปลุกเซ็กซ์ ประกอบกับเงาต้องสงสัย จึงมโนไปว่ามีคนวางยาเด็กน้อยที่รัก

ที่แน่ๆ คือ ลูกอมนั้นโอ๋ฝากมาให้น้ำนิ่ง ส่วนเรื่องเงาคนยังไม่เคลียร์อาจเป็นไปได้ทั้งบ๋อม โอ๋ เอ๋ หรือคนอื่นๆ  เอาไว้ติดตามกันต่อไปครับผม


ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง

- 8 -


ความกลัวในจิตใจกลายเป็นความห่วงใยของฉันถึงเธอ






   “สิงห์เรื่องที่ให้สืบสายรายงานว่า คุณอาชอบไปที่คลับ Heaven  ที่นั่นถือเป็นคาสิโน่ที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกงและมาเก๊า  แต่น้อยคนมากจะรู้ว่าชั้นใต้ดินเป็นคลับส่วนตัวที่เอ๊กซ์คลูซีฟมากเปิดรับเฉพาะสมาชิกระดับ VVIP ที่ได้รับเลือกเท่านั้น พวกมันจะมีการนัดพบปะสังสรรค์ระหว่างสมาชิก เดือนละ 2 ครั้ง เพื่อเปิดประมูลสัตว์เลี้ยงสำหรับเศรษฐี  แต่ก็ระบุไม่ได้ว่าเขาเป็นสมาชิกคลับนี้รึเปล่า” พี่พีรายงานความคืบหน้าที่ผมให้พี่เขาทำ
 
   “Heaven รู้สึกคุ้นๆ ใช่แล้วตอนไปฮ่องกงกับแม่เล็กคู่ค้าเลี้ยงรับรองที่คลับนี่ ก็เห็นเศรษฐีและคนสำคัญๆ ระดับ VVIP มาใช้บริการเยอะมาก ไม่คิดว่ามันจะมีแบบนี้”  คณิตโพล่งขึ้นมาหลังจากได้ฟังสิ่ง     พีระณัฐพูด ส่วนภูมิรพีนิ่งฟังมือหนายกขึ้นบีบคลึงไปตามขมับและหน้าผากด้วยสีหน้าครุ่นคิด

   “อืมผมเคยได้ยินเรื่องประมูลสัตว์เลี้ยงอะไรนี่เหมือนกัน ถ้าคุณอาเขาเป็นสมาชิกของที่นั่นจริง มันก็น่ากลัวมากนะ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาต้องเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย ไม่งั้นเขาจะมีเงินจากไหนโอนเข้าบัญชีเยอะขนาดนั้น แล้วเท่าที่ผมรู้สัตว์ที่พวกเขานำมาประมูลเป็นเด็กชายหญิงอายุไม่เกิน 10 ปีเลยนะพี่  ยิ่งอายุน้อยเท่าไรยิ่งราคาสูงลิ่ว คนพวกนี้ชอบเล่นเซ็กวิตถารทุกรูปแบบกับสัตว์ที่ประมูลได้ มียาเสพติดให้เล่นทุกอย่างที่สมาชิกต้องการเลวระยำผิดมนุษย์จริง” 

    ผมเอ่ยถึงสิ่งที่ได้ยินมาด้วยความหดหู่และหนักใจ กระหวัดคิดไปถึงตอนที่เด็กน้อยโดนยา       แล้วล่าสุดก็ตอนที่คุณคมกิจเข้าไปเยี่ยมแม่เล็กเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนั้นผมต้องแวะดูงานให้ผู้ใหญ่ก่อนเสร็จแล้วจะตามเข้าไปสมทบทีหลัง จึงให้เด็กไปอยู่เป็นเพื่อนแม่เล็กก่อน

    หลังเสร็จธุรกิจผมรีบตามไปที่เรือน ตอนไปถึงไม่เจอน้ำนิ่งอยู่ที่ห้องแม่เล็ก ตามไปเจออยู่ห้องครัวผมแทบอยากจะฆ่าคนนี้ให้ตายคาตีน  สายตาคุณอาที่ใช้มองเด็กผมมันวาววับเจ้าเล่ห์โลมเลียหื่นกระหายเหมือนหมาในจ้องคอยตะครุบเหยื่อยังไงยังงั้น  ฉุดกระชากเข้าถึงเนื้อถึงตัวพยายามสอดมือเข้าในกางเกงเด็กผม น้ำนิ่งขืนตัวสุดแรงให้หลุดออกจากการลุกล้ำของคุณอาแต่ก็สู้แรงไม่ได้  ผมรีบเข้าไปดึงกระชากตัวคุณอาออกแล้วอุ้มเด็กออกมาพากลับบ้านทันทีโดยไม่คิดจะรักษามารยาทอีก  หลังจากนั้นเขามาที่เรือนอีกหลายครั้งทำเป็นเลียบเคียงถามหาเด็กผม  แม่ใหญ่ยังไม่รู้ว่าเขาแสดงพฤติกรรมยังไงกับเด็กผม  แต่ก็สงสัยกับพฤติกรรมแปลกประหลาดเช่นนั้นของคุณอาจึงเปลี่ยนประเด็นไปพูดเรื่องอื่นตลอด

   “พี่เรียกพวกพี่แสนกลับมาได้ไหม”  ผมหันไปพูดสิ่งตัวเองกำลังคิดออกไปกับพี่ณิต

   “ไอ้ได้นะมันได้อยู่หรอกนะ ก็ตอนนี้พวกมันว่างงานไม่ได้รับจ้างอารักขาใคร แล้วจะเรียกพวกมันมาทำไม”  พี่ณิตถามด้วยความสงสัย

   “เรามีอะไรต้องทำกันนิดหน่อยแก้เซ็ง”  ผมบอกพวกพี่มันยิ้มๆ

   “หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อีกนะมึง  แต่ไอ้งานแก้เซ็งนี่น่าสนใจวะกูซักคันไม้คันมือ”  คณิตยักคิ้วและทำหน้าล้อเลียน คนน้องยกนิ้วปรามพี่ให้หยุดแสดงอากัปกริยาล้อเลียน

     “พอเลยว่าแต่ผม ตัวเองก็เหมือนกันนั่นล่ะ” 

    คนน้องส่งสายตาดุพูดปรามพี่อีกครั้ง แล้วจึงเล่าถึงพฤติกรรมของคุณอาให้ทั้งสองฟัง พี่ณิตยกโทรศัพท์ต่อสายหาพี่แสนเดี๋ยวนั้น ซึ่งฝ่ายนั้นตกลงรับปากจะกลับมาทันทีไม่มีอิดออด  ผมเบาใจได้ว่าเด็กน้อยจะมีคนดูแลคุ้มครองตอนที่ไม่อยู่

   “เออเกือบลืมไปเลย เรื่องกล้องวงจรปิดที่ให้ไปขอน่ะ ทางวิทยาลัยบอกกล้องวงจรปิดตรงนั้นเสียไม่ได้ใช้นานแล้ว ที่เด็ดอะไรรู้เปล่าเจ้าหน้าที่ควบคุมบอกว่างบประมาณค่าซ่อมบำรุงไม่เพียงพอเลยไม่ได้เอาไปซ่อม ห่าเอ๊ย!! ถ้ามีคนเป็นอะไรถึงตายก็คงจะจับมือใครดมไม่ได้หรอกแบบนี้  แมร่งตอบง่ายมากปัดความรับผิดชอบเห็นๆ กูแมร่งโคตรหงุดหงิดเลย” คณิตบอกอย่างมีอารมณ์

    “อ้าว!!  แบบนี้ก็แย่นะสิ แล้วที่ระดมทุนขอรับบริจาคจากผู้ปกครองจำนวนมากเป็นค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์และอาคารของวิทยาลัยจำนวนมากเอาไปไว้ไหนหมดวะ มันน่าร้องเรียนจริงๆ“ พีระณัฐสำทับอย่างมีอารมณ์อีกคน

   “ผมคิดว่าไว้แล้วว่าคงจะเป็นแบบนี้  ผมให้คนติดตามเด็กอย่างใกล้ชิดแล้วจะให้เขาสืบด้วยว่าใครทำ” ผมเอ่ยเสียงราบเรียบอิดหนาระอาใจกับระบบบริหารงานของวิทยาลัย

   “ก็ได้ แต่กูโคตรเคืองวะยอมรับเลย แล้วเรื่องคลับห่าเหวนี้เอาไง”  คณิตพยักหน้ารับ

    “ถ้าพวกเราจะทำกันเองมันงานล้มช้างเลยนะนั่นนะ หรือส่งเรื่องต่อให้กรณ์ดีไหม มันอยู่หน่วยสืบราชการลับของรัฐบาลน่าจะทำเรื่องนี้ได้ดีกว่า พี่ไม่อยากให้สิงห์ถลำตัวยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้”  พี่พีออกความเห็นด้วยสีหน้ากังวล ผมก็ไม่อยากจะบอกว่าพี่พีหรอกว่าอันที่จริงผมยุ่งเข้าไปเกือบทั้งตัวแล้วตั้งแต่เริ่มทำตัวเป็นพ่อค้า แต่ถ้าจะไม่ทำอะไรเลยคนทำผิดมันก็ย่ามใจว่าไม่มีใครทำอะไรมันได้

   “เย็นนี้เรียกพี่กรณ์มาคุยกันที่บ้าน แล้วผมตัดสินใจอีกทีว่าจะเอายังไงกัน”  พี่พีรับคำและยกโทรศัพท์ต่อสายหาพี่กรณ์นัดเจอกันที่บ้านผมเย็นนี้

   “ตกลงจะคุยกันเย็นนี้ที่บ้านใช่ไหมสิงห์ งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วกูขอตัวนะมีบรรยายพิเศษที่มหาวิทยาลัยตอนเก้าโมงครึ่ง เสร็จแล้วจะไปโรงงานเลย วันนี้ไม่ได้มากินข้าวเที่ยงด้วยนะพีพอดีนัดวิศวกรมาดูเครื่องผลิตที่มันชำรุด” พี่ณิตมองดูนาฬิกาบนข้อมือก่อนที่เงยหน้าขึ้นบอกผมและคนของเขา

   “ผมอยากจะมั่นใจอะไรหลายๆ ก่อน เย็นเราค่อยคุยรายละเอียดกันอีกที” ผมเอ่ยตอบพี่ณิต คนพี่พยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะขอตัวไปมหาวิทยาลัยเพราะจวนถึงเวลาแล้ว 

   “พี่ก็จะออกไปเลยเหมือนกันนะนัดคุณพิสิฐไว้สิบโมงไม่อยากไปสาย” พี่พีต้องไปพบคู่ค้าเรื่องสัญญากับคุณพิสิฐเลยเดินออกไปพร้อมกันกับพี่ณิต ผมอยู่โยงที่บริษัทเคลียร์งานค้างและมีประชุมความคืบหน้าเรื่องโกงบริษัทกับทีมสืบสวนตอนบ่ายโมงตรง
   
   



   ผมไปรับเด็กตามปกติ  ก่อนกลับก็แวะพาเด็กทานเครฟเค้กก่อนเข้าบ้านเพราะเด็กน้อย รีเควสว่าอยากมากไม่ได้กินนานแล้ว คือไม่เข้าใจนะว่าอะไรคือนานมาก เมื่อวานก็กินไง วันนี้กินเสร็จก็ซื้อกลับเหมือนเมื่อวานเป๊ะ  ออกมาจากร้านก็เกือบห้าโมงครึ่งเพราะเจ้าตัวดีมัวเถลไถลตรงนั้นตรงนี้ถึงบ้านเกือบหกโมงครึ่ง 

   “ไปอาบน้ำก่อนไป๊ เหม็นเปรี้ยวมาก”  แกล้งเด็กครับจริงๆ คือตัวยังหอมมากพิสูจน์แล้วหลายรอบ

   “ชริ ว่าเค้า แล้วตอนอยู่ วิท’ ลัย ร้านเครฟ  ร้านหนังสือ ทำไมหอมแล้วหอมอีกไม่เห็นบ่น”

    เด็กน้อยเถียงหน้าจริงจังดึงเสื้อตัวเองขึ้นมาดม ไม่พอมีพิสูจน์หลักฐานแขนเล็กกอดหัวผมเข้าไปซุกคอหอมของตัวเอง (ผมนั่งยองอยู่ไง เกือบล้มดีว่ายั้งทัน)

    “หอมไหม หอมรึเปล่าบอกมาเลยนะ” 

   “ก็บอกว่าเหม็น  ซิวๆ ไปอาบน้ำเลยไป ไป๊”  ผมทำจมูกฟุตฟิต ไม่เลิกนิสัยมีความสุขได้แกล้งเด็ก  ยังไม่หมดเวลางานทำต่อครับ

   “เค้าหอมเหอะ ยอมรับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เมื่อกี้ยังแอบเลียตรงนี้ด้วย”  เด็กเริ่มเสียงดัง เอานิ้วจิ้มที่คอตรงผมใช้ลิ้นเลีย ตาโตหวานมองจิกๆ เมื่อผมไม่ตอบ  เขาสะบัดบ๊อบ กอดอกหน้าเชิดปากงี้เม้มแน่น มาหละเดี๋ยวมีโอที และก่อนที่จะได้ทำโอทีเสียงกริ่งประกาศยกเลิกโอทีช่วยไว้ได้ทัน

   “ไงครับคนเก่งของพี่กรณ์ กลับมาแล้วเหรอ มาเติมพลังก่อนเร๊ว”  พี่กรณ์แฟนคลับเด็กผมร้องทักเสียงดังจากด้านหลังน้ำนิ่ง

   “พี่กรณ์...” 

    เด็กขี้งอนหันขวับตามเสียงร้องทัก ทำตาโต อ้าปากหวอ ด้วยความตื่นเต้นไม่คิดว่าจะเจอคนพี่ได้ เด็กวิ่งถลาเข้าอ้อมกอดที่กางแขนรออยู่ พี่กรณ์ยกตัวเด็กอุ้มขึ้น หอมแก้มนิ่มทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง  พวกเราไม่ค่อยได้เจอกันพี่มันติดราชการลับตลอด

   “คิดถึงพี่กรณ์ มาได้ไง จะค้างที่นี่ไหม  กินข้าวกับน้ำนะฮะ น้า...” 

    เด็กผมเอามือทั้งสองประคองแก้มพี่กรณ์ไว้ก่อนจะถามระรัวไม่เว้นช่องว่างให้คนพี่ตอบ พี่กรณ์จับมือน้องแล้วจูบลงตรงกลางฝ่ามือเล็ก ส่งยิ้มอ่อนโยนให้คนน้อง

   “เดี๋ยวๆ หยุดก่อนเด็กน้อย หายใจปะเนี่ย พี่ได้วันลาสองวันก็รีบมาหาน้ำเลยนะ ว่าจะขอข้าวบ้านเรากินนี่แหละ มีอะไรพอจะเลี้ยงพี่ได้รึเปล่าเอ่ย”   คนพี่ถามพร้อมกดจมูกลงบนแก้มหอมของเด็กอีกครั้ง

   “บ้านเรามีอะไรให้กินเยอะแยะเนอะภูมิ ยายชื่นทำอร่อยทู๊กกกกอย่าง หรือถ้าไม่ชอบที่ยายทำน้ำทำให้กินก็ได้” 

    คำว่า “บ้านเรา” ที่เด็กพูดมันอุ่นวาบเข้าไปในใจของผม ทุกอย่างที่เป็นเรามันดีเสมอ  ผมพยักหน้าพร้อมยิ้มกว้างเต็มหน้าให้เด็กน้อย

    “พี่กรณ์กินเยอะๆ นะจะได้โตไวๆ เหมือนภูมิ ตอนนี้จะเลี้ยงไม่ไหวละกินเปลืองมากกกก” 

    เด็กน้อยบอกคนพี่ แต่ไม่ดูตัวเองว่าเล็กนิดเดียว พอได้ยินคำพูดนั้น  พี่กรณ์ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นด้วยความพอใจ

   “ครับๆ ว่าแต่ทำเป็นเหรอเราน่ะ”  คนพี่ถามอย่างสงสัย ทำหน้าฉงนคิ้วขมวด

   “มาอีกคนหละ ก็เป็นสิถ้าไม่เป็นน้ำจะกล้าพูดเหรอ” เด็กน้อยจิ๊ปากอย่าขัดใจ 

    “โอเคๆ อยากให้กินอะไรจัดมาพี่กรณ์จะสนองให้เต็มที่ ว่าแต่นี่เย็นมากแล้วคนเก่งไปอาบน้ำก่อนดีกว่าครับ  ปะพี่พาไปจะได้มากินข้าวกัน” เด็กพยักหน้ารับ

   “พี่กรณ์รอน้ำแป๊ปนะ  ปะภูมิอาบน้ำกัน” 

    เด็กบอกพี่กรณ์ก่อนจะโผตัวมาให้ผมอุ้มไปอาบน้ำด้วยกัน  มาถึงห้องผมอุ้มเด็กไปวางที่เคาน์เตอร์ในห้องน้ำให้ถอดเสื้อผ้าระหว่างรอน้ำเต็มอ่าง ผมเดินออกมาเตรียมเสื้อผ้าให้เด็กได้ยินเสียงพี่กรณ์แว่วๆ อยู่หน้าห้องว่าจะลงไปก่อนขอไปอ้อนยายชื่นทำของอร่อยให้กินระหว่างรอ


   หลังจากเราทั้งคู่อาบน้ำเสร็จก็อุ้มเด็กลงมากินข้าวที่พี่นิ่มตั้งโต๊ะไว้รอแล้ว พี่ณิตกับพี่พีก็มากินข้าวที่บ้านด้วย  โต๊ะอาหารจึงคึกคักอบอวลไปด้วยบรรยากาศของความสุขและเสียงหัวเราะของพวกเรา เด็กกินข้าวได้เยอะขอเติมข้าวสองครั้งยายชื่นยิ้มแก้มปริดีใจที่ช่วงนี้เด็กน้อยของยายชื่นกินข้าวได้เยอะจนแก้มเริ่มป่องน่าฟัดมาก

      กว่าพวกเราจะจบมื้ออาหารค่ำได้ก็สามทุ่มครึ่งตาเด็กเริ่มปรือหน่อยๆ เพราะถึงเวลานอนของเขา  ผมจึงขอตัวอุ้มเด็กขึ้นข้างบนพาไปแปรงฟัน ล้างมือ ล้างเท้า ก่อนจะอุ้มมานอนที่เตียงด้วยกัน  โอบกอดลูบหลังอยู่ไม่นานเด็กก็หลับสนิท ผมเลยลากผ้าเน่าประจำตัวของเด็กมาให้เค้ากอดแทนดึงผ้าห่มคลุมให้จนถึงคอกันผ้าเข้าให้แน่น ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงออกจากห้องไปยังห้องทำงานตามที่นัดพวกพี่ๆ ไว้




   ผมเดินมาจนถึงห้องทำงานซึ่งอยู่ส่วนหน้าของเรือน  เมื่อผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพวกพี่ และชายหนุ่มอีกคนหนึ่งนั่งรออยู่แล้ว ผมยกมือไหว้ผู้มาใหม่

   “สิงห์นี่เอ็กซ์คู่หูพี่อยู่หน่วยเดียวกัน คนกันเองไม่ต้องห่วง”  พี่กรณ์แนะนำคนที่นั่งข้างๆ ให้ผมรู้จักผมส่งยิ้มให้พี่เขาอีกครั้ง

    “สวัสดีครับคงไม่ว่านะถ้าพี่จะร่วมทริปนี้ด้วย”  พี่เอ็กซ์บอกและส่งยิ้มมาให้

   “ไม่มีปัญหาครับพี่ ว่าแต่พวกพี่ดื่มอะไรไหม ดื่มกันไปคุยกันไปจะได้ไม่เครียด” ผมถามพี่เขาก่อนจะเดินมาที่บาร์ที่วางเครื่องดื่ม

   “กูเอาบรั่นดี”  พี่ณิตร้องบอก

   “เอ็กซ์กับพี่ขอเบียร์นะสิงห์”   ผมพยักหน้ารับก่อนจะจัดการเครื่องดื่มไปแจกจ่ายให้กับคนทั้งสาม และจัดกาแฟสำหรับผมและพี่พี เสร็จแล้วจึงเดินไปนั่งลงที่โซฟาเดี่ยวข้างพี่ณิต

   “Heaven คลับที่ดำเนินการภายใต้เครือข่ายของ ACE (เอช) เป็นองค์กรใหญ่มาก เงินหมุนเวียนภายในองค์กรมาจากการค้ามนุษย์เป็นส่วนใหญ่  แล้วกำลังขยายฐานมาที่ไทย ทางผู้ใหญ่มอบให้พวกพี่ตามเรื่องมาสักปีกว่าแล้วล่ะแทนคนเดิมที่ถูกลอบฆ่าแบบทารุณ”

    พี่กรณ์เปิดประเด็น ก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่ม สายตาฉายแววของความเจ็บปวดและเครียดแค้น ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าคนที่ถูกลอบฆ่านั้นเป็นเพื่อนนักเรียนตำรวจและคู่หูของเขา

   “ACE มีเครือข่ายหลายประเทศ แต่เริ่มขยายฐานเข้ามาประเทศเราสักสองปีที่แล้ว  การกวาดล้างทำได้ยากมาก พวกมันมีตัวใหญ่หนุนหลังหลายคนเวลาเราเข้ากวาดล้างก็จับได้เฉพาะตัวเล็กๆ”  พี่กรณ์กล่าวเสริม

   “ที่สำคัญพวกมันไม่ได้ทำเฉพาะค้ามนุษย์อย่างเดียวแล้วตอนนี้ ที่เราสืบอยู่มันลักลอบขนยาเสพติดข้ามประเทศก็เด็กที่พวกมันล่อลวงไปนั้นล่ะเป็นมดงาน  เด็กพวกนี้หลังจากโดนคนที่ประมูลใช้ร่างกายจนพอใจพวกมันก็จะเอาเด็กส่งขายซ่องแถวชายแดน  ซ่องเหล่านี้ก็ของพวกมันอีก บังคับให้เสพยาจนติดใช้ทั้งขายตัววันละไม่ต่ำกว่าสิบแล้วก็เป็นมดงานด้วย ใครขัดขืนหรือทำไม่ได้มันก็ฆ่าแล้วล้วงเอาอวัยวะไปขายพวกลูกเศรษฐีที่ป่วยต้องการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะเลวระยำหมามาก

         นอกจากนี้พวกมันแผ่ขยายอิทธิพลโดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายขยายฐานธุรกิจด้านสัมปทานน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ  รวมถึงการตัดไม้ในประเทศเพื่อนบ้านเรา นี่ยังไม่รวมเครือข่ายธุรกิจเล็กๆ อย่างพวกเงินกู้มหาโหดอีกนะ”  พี่เอ็กซ์กล่าวเสร็จพี่เขาบดกรามแน่น  ก่อนจะเงียบไปสีหน้าฉายแวววิตกกังวลและครุ่นคิดเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่ในใจ

.

.

.

.

.

   “อาร์น้องชายพี่หายตัวไปจนถึงตอนนี้ก็เกือบเดือนแล้ว ยังไม่เจอตัว” 

    พวกเราเงียบกันไปนานต่างคนมีสีหน้าฉายชัดถึงความตระหนกถึงสิ่งที่ได้ยิน พี่เอ็กซ์พูดทำลายความเงียบออกมาด้วยเสียงแหบพร่าก่อนจะหลับตาแล้วเอนศรีษะไปข้างหลังพิงกับพนักโซฟา มือข้างหนึ่งยกขึ้นคลึงที่ขมับทั้งสองข้าง  พี่กรณ์ยกมือขึ้นบีบบ่าคู่หูราวกับจะส่งกำลังใจให้แก่กัน  สักพักพี่เอ็กซ์ลืมตาขึ้นหันหน้าไปทางคู่หูตัวเอง ฝืนรอยยิ้มบางเบาส่งให้คนข้างตัว  พี่กรณ์ตบบ่าเพื่อนเบาๆ อย่างให้กำลัง  แล้วหันมาคว้ากระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม  พี่เอ็กซ์ลุกขึ้นนั่งตัวตรงเหมือนเดิม แต่สายตาที่ส่งผ่านมามันแฝงความเศร้าสร้อยและเจ็บปวดระคนกัน

   “เดี๋ยวอย่าบอกนะว่าน้องพี่โดน...”  พี่พีถามด้วยความสงสัย

   “ก็ตามที่คิด  สายรายงานว่ามีคนเห็นเด็กชายที่มีรูปพรรณสัญฐานเหมือนอาร์ถูกเศรษฐีชาวต่างชาติซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิก ACE กระชากลงจากรถที่หน้าผับดังย่าน...  เด็กพยายามหนี แต่ถูกชกเข้าที่ท้องก่อนจะถูกจับยัดเข้าไปในรถคันเดิมแล้วขับออกไปจากผับนั่น  พี่ตามไปแต่ไม่ทันขอตรวจดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงแม้จะเห็นไกลๆ แต่ขนาดของรูปร่างท่าทางอะไรต่างๆ  มันชัดเจนว่าเป็นอาร์จริงๆ  แต่จนถึงตอนนี้... ”

   เสียงของพี่เอ็กซ์ขาดหายไปในตอนท้าย ดวงตาคมฉายแววของความเศร้าเสียใจและเจ็บปวดที่ไม่สามารถช่วยน้องตัวเองได้ พี่กรณ์ยกมือขึ้นโอบบ่าเพื่อนและบีบเบาๆ  ผมคิดว่าถ้าตอนนั้นเด็กของผมถูกจับไปก็คงใจแทบสลายแบบพี่เอ็กซ์  แม้ไม่ถูกจับไปแต่โดนยาแบบนั้นผมยังโกธรจนแทบอยากจะฆ่าแมร่งให้หมด เกิดบรรยากาศเดดแอร์ขึ้นอีกครั้ง

.

.

.

.

.

   “ถึงตอนนี้พี่ไม่ได้หวังว่าอาร์จะยังมีชีวิตอยู่ ที่เข้ามารับงานนี้เพราะอยากจะกวาดล้างมันให้สิ้นซาก แค่คิดว่าถ้าเป็นเด็กคนอื่นถูกจับตัวไป  คนที่รักเด็กนั่นก็คงจะใจสลายเหมือนพี่เช่นกัน”  พี่เอ็กซ์พูดออกมาด้วยเสียงที่แหบโหยเศร้าสร้อยแต่แฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่น

   “พวกมันลงทุนทำเรือสำราญขนาดใหญ่ “Lady Q”  ล่องทะเลแถบฝั่งตะวันออก ภายในเรือมีทุกอย่างครบวงจร ชั้นบนเป็นคลับ & คาสิโน สระว่ายน้ำ สปา ชั้น 2 - 3 เป็นโรงแรม สำหรับชั้นล่างเป็นเขต หวงห้ามเฉพาะกลุ่มสมาชิก  VVIP การเข้าออกชั้นนี้ป้องกันหนาแน่นมาก 

   Lady Q จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่  9 เดือนหน้า ข่าววงในบอกว่านายใหญ่ของพวกมันจะมาเปิดด้วยตัวเอง  แล้วประเดิมด้วยการเปิดประมูลสัตว์เลี้ยงครั้งใหญ่ด้วย สมาชิกที่จะเข้าประมูลต้องมีบัตรเชิญ และสแกนลายนิ้วมือกับทางคลับในรอบการประมูลเท่านั้นจึงจะเข้าได้”  พี่กรณ์พูดเสร็จลุกขึ้นเดินไปหยิบเบียร์มาเพิ่มให้เพื่อน

   “เหลืออีกสองอาทิตย์ซิงั้น”  พี่พีกล่าวจบหันมามองหน้าผม ผมครุ่นคิดสักครู่

   “ถ้าจะรอคนของทางรัฐบาล ผมว่าคงจะช้าไม่ทันการณ์กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้แล้ว อีกอย่างเราจะมั่นใจใครได้บ้าง...”  ผมออกความเห็นหลังจากที่นั่งฟังมานาน

   “นั่นสิ คนพวกนี้มีความกระหายอยากมันถมไม่เคยเต็ม เราจะเชื่อใครได้..” พี่ณิตพูดท้วงเหมือนไม่ต้องการคำตอบ

    “เรื่องนี้ผมจัดการทุกอย่างเองแล้วกัน  เสร็จเรียบร้อยแล้วให้พี่กรณ์รับหน้าเสื่อได้ไหมครับ” ผมครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างไป

   “จะเสี่ยงเกินไปรึเปล่าวะสิงห์” พี่ณิตถามแย้งๆ

   “พวกพี่ก็คิดเหมือนณิตนะสิงห์ นายจะเสี่ยงเกินไป มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะ คิดดีๆ ให้ทางรัฐบาลจัดการไม่ดีกว่าเหรอ”  พี่กรณ์แย้งความคิดของผมอีกคน

   “วางใจน่าพี่ เชื่อใจผม”  พวกพี่ๆ ทำหน้าห่วงและไม่ค่อยจะเชื่อใจ  ผมยกยิ้มแต่ไม่ได้ขยายความอะไรเพิ่ม

   “คิดใหม่ไม่ดีกว่าเหรอสิงห์ ถึงเราจะเรียกพวกพี่แสนมาช่วยมันก็ยังเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราอยู่ดีนะ” พี่พีทักท้วงอีกคนด้วยสีหน้าห่วงใย

   “นี่แสนมันเห็นด้วยเหรอที่จะทำอย่างนี้”  พี่กรณ์หันมาถามด้วยความสงสัย

   “ไม่มีอะไรหรอกน่า เอาตามนั้น ก่อนวันที่ 9 เราจะคุยรายละเอียดกันอีกที เราจะทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จซะที  แล้วพวกพี่แสนจะมาถึงไทยสิบโมงใช่ไหมวานพี่ณิตไปรับด้วยนะผมมีประชุมช่วงนั้นพอดี พาเข้าบริษัทเลยนะพี่”  ผมตัดบทกล่าวนัดแนะพี่กรณ์ ก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่ณิต

   “เออ ๆ แมร่งเผด็จการไม่เชื่อพวกกูเลย เอาที่มึงสบายใจแล้วกัน”  พี่ณิตพยักหน้ารับอย่างยอมจำนนในการตัดสินใจของผม คนอื่นๆ เลยพลอยยอมรับการตัดสินใจของผมไปโดยปริยาย

   “ถ้าไม่มีใครสงสัย ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะครับเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว” ผมบอกให้ทุกคน แยกย้ายกันไปพักผ่อน 

    หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ผมเดินไปหยุดยืนอยู่ริมหน้าต่างมองออกไปนอกหน้าต่างดาวนับพันดวงเปล่งแสงแข่งกันในความมืดมิดของท้องฟ้ายามค่ำคืน มันทำให้ผมคิดถึงใครบ้างคนจนอดที่เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาเขาพูดอธิบายถึงสิ่งที่ผมต้องการอยู่นานเกือบยี่สิบนาที ก่อนจะบอกลาและตัดสายไป  ยกยิ้มพอใจกับสิ่งที่ทำไปผมเองก็คงจะถึงเวลากลับไปหาที่พักใจแล้วเหมือนกัน....

   ผมเปิดประตูห้องนอนเข้ามา เดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงนอนหลังใหญ่  แสงสีส้มนวลตาของโคมไฟตรงหัวเตียงที่เปิดทิ้งไว้ ทำให้เห็นใบหน้าน่ารักของเด็กกำลังนอนหลับตาพริ้มขนตางอนยาวขยับหยุกหยิก ราวกับว่าการนอนนั้นทำให้พบเจอความฝันที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงสูดดมความหอมจากซอกคอเด็ก นาบปากร้อนของตัวเองกดจูบลงที่ปากเล็กที่ขยันเชิดใส่เวลางอนบางเบา ก่อนจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูงยืมมองเด็กที่ผมมอบความรักให้อย่างหมดใจโดยไม่มีเงื่อนไข 


    “ภูมิจะปกป้องรอยยิ้มและความสุขให้อยู่กับหนูตลอดไปภูมิสัญญา”

    ผมให้คำสัญญาหนักแน่นกับร่างที่หลับใหลก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัว แล้วเดินมานั่งลงบนเตียงฝั่งของตัวเองกดปิดไฟหัวเตียงก่อนจะสอดตัวเข้าในผ้าห่มขยับไปดึงตัวเด็กเข้ามากอด เด็กน้อยครางอือออ ยกปากนิ่มกดจูบลงตรงแผงอกผมเหมือนละเมอ ขยับตัวไปมาจนเป็นที่พอใจจึงกลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งด้วยความเชื่อใจว่าอ้อมกอดนี้เป็นที่ของเขาคนเดียวตลอดไป...












TBC.



ปล.

1) บ้าบอฟังเพลงของ  Nickelback  มาเป็นอาทิตย์ อินกับมันจนคลั่งไคล้ เพลงเก่าแล้วแหละแต่ยังบ้ากับเส้นเสียงหนักแน่นของนักร้อง เนื้อหาของเพลง ดนตรี  มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกแต่ฟังแล้วของขึ้น  เลยเอามาปล่อยอีกตอน  แล้วอาจจะไม่ได้เจอกันนานเพราะช่วงนี้งานหลวงรุมเร้าจนแทบไม่มีเวลาเป็นตัวของตัวเอง

2) ขอบคุณมากมายที่ติดตามกันตลอดมา ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี  ถ้าผิดพลาดประการใดก็บอกเล่าเก้าสิบกันได้นะครับยินดีรับฟังและแก้ไข  :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2016 22:55:40 โดย WiChy »

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ขอให้เด็กปลอดภัย  สิงห์ทำงานประสบความสำเร็จ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
สงสัยว่าสิงห์ไปเอาความมั่นใจมากขนาดนั้นมาจากไหน

(คือเราเพิ่งมีโอกาสมาอ่าน)
น้องหนูนี่ยังเด็กอยู่เลย แซ่บกว่าที่คิดแฮะ 5555
พี่เค้าก็อยากถนอม แต่น้องก็อยากเนอะ
บอกพี่เค้าไปตรงๆ เลยลูก 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ภูมิจะปกป้องรอยยิ้มและความสุขให้น้องน้ำ

เพราะฉะนั้นภูมิก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ อย่าเสี่ยงอันตรายมาก

เพราะความสุขและรอยยิ้มของน้องน้ำมาจากตัวภูมินะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
 “อาร์น้องชายพี่หายตัวไปจนถึงตอนนี้ก็เกือบเดือนแล้ว ยังไม่เจอตัว” อันนี้ใช่ตอนที่พากันไปเที่ยวผับแล้วโดนฉุดขึ้นรถเปล่า

:hao4: (แต่ถ้าไม่ใช่ก็แปลว่าเราจำสับกับเรื่องอื่น) ขอให้คนที่จับน้องไปอย่าได้ทำร้ายน้องเลยนะ

คือว่านิยายเรื่องนี้มันหวานง่ะ ถ้ามีดราม่าก็ช่วยบอกล่วงหน้าสักเดือนนะ เขาจะเตรียมตัวเตรียมใจ :sad5:

อันนี้ความรู้สีกส่วนตัวเลยนะ บางทีอ่านไปๆ ก็คิดว่าเฮ๊ย!น้ำนิ่งเป็นเด็ก 6 ขวบเปล่าว่ะ  :hao7:
แต่โดยรวมอ่านแล้วสนุก เรื่อยๆหวานๆอิจฉาน้ำนิ่งเล็กๆ  :m23:

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
“อาร์น้องชายพี่หายตัวไปจนถึงตอนนี้ก็เกือบเดือนแล้ว ยังไม่เจอตัว” อันนี้ใช่ตอนที่พากันไปเที่ยวผับแล้วโดนฉุดขึ้นรถเปล่า

:hao4: (แต่ถ้าไม่ใช่ก็แปลว่าเราจำสับกับเรื่องอื่น) ขอให้คนที่จับน้องไปอย่าได้ทำร้ายน้องเลยนะ

คือว่านิยายเรื่องนี้มันหวานง่ะ ถ้ามีดราม่าก็ช่วยบอกล่วงหน้าสักเดือนนะ เขาจะเตรียมตัวเตรียมใจ :sad5:

อันนี้ความรู้สีกส่วนตัวเลยนะ บางทีอ่านไปๆ ก็คิดว่าเฮ๊ย!น้ำนิ่งเป็นเด็ก 6 ขวบเปล่าว่ะ  :hao7:
แต่โดยรวมอ่านแล้วสนุก เรื่อยๆหวานๆอิจฉาน้ำนิ่งเล็กๆ  :m23:




“อาร์น้องชายพี่หายตัวไปจนถึงตอนนี้ก็เกือบเดือนแล้ว ยังไม่เจอตัว”
>> ก็เรื่องนี้แหละครับ แล้วก็เป็นคนเดียวกันนั่นแหละมิต้องสงสัย

อันนี้ความรู้สีกส่วนตัวเลยนะ บางทีอ่านไปๆ ก็คิดว่าเฮ๊ย!น้ำนิ่งเป็นเด็ก 6 ขวบเปล่าว่ะ  :hao7:
>> คาแรคเตอร์ของน้ำนิ่งที่วางไว้คือ เด็กชายขี้อ้อน (สารภาพว่าจิ้นมาจากหลานชายที่บ้าน ซึ่งเขาชอบเรียกตัวเองว่า หนู เราฟังแล้วน่ารักมากเลยสำหรับเด็กผู้ชายที่เรียกตัวเองแบบนั้น) พฤติกรรมโดยรวมคือ น้องเล็ก ลูกชายคนเล็กประมาณนี้ เด็กที่ถูกตามใจจากคนรอบข้างมาโดยตลอด ตัวน้ำนิ่งเองก็ติดที่จะอ้อนกับคนที่ตัวเองรักและรักตัวเอง พฤติกรรมที่แสดงออกบางครั้งจึงยังติดพื้นนิสัยของคนที่ยังไม่รู้จักโต แต่กับคนอื่นที่เขาไม่สนิทก็จะแสดงพฤติกรรมอีกแบบซึ่งอาจจะเห็นในโอกาสต่อไปนะครับ

>> ถ้ามีเรื่องดราม่าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ แต่ก็คงจะยากเพราะคนเขียนไม่ชอบความเศร้าอย่างที่บอก ชีวิตจริงมันก็ลำบากแสนเข็ญอยู่แล้วน่ะนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2015 22:20:47 โดย WiChy »

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ภูมเท่โคตรอ่ะ คำพูดตอนจบอ่ะ

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แอบกลัวดราม่าจัง พวกเพื่อนน้องน้ำนิ่งดูไม่น่าไว้ใจเลย
หวังว่าภูมิกับพวกพี่ๆจะทำสำเร็จจัดการพวกชั่วๆได้

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
สิงห์คิดการใหญ่ต้องรอบคอบมากๆนะ ขอให้ทำสำเร็จ เด็กน้อยที่โดนจับไปจะได้พ้นทุกข์ อ่านเจอเรื่ิองเด็กๆโดนกระทำทีไรรับไม่ได้ทุกที

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง


- 9 -

น้ำเพียงหยดที่ก่อเกื้อเป็นตัวเรา






   “คุณดลฤดีเชิญผู้จัดการฝ่ายบัญชีมาพบผมหน่อยนะครับ”  ผมกดเครื่องต่อสายภายในบอกให้เลขาให้เชิญคุณสนีย์มาพบ ไม่ถึงห้านาทีผู้จัดการฝ่ายบัญชีก็มาถึง เธอกล่าวทักทายพร้อมส่งยิ้มหวานหยดมาให้ผม

   “สวัสดีค่ะเจ้านาย” 

   “นั่งสิ ที่ผมให้คุณทำไปถึงไหนแล้ว”  ผมเอ่ยถามเสียงราบ โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายเพราะกำลังตรวจพิจารณาแฟ้มงบประมาณจัดซื้อ

   “ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลยคะ ตะ แต่ว่าเออ..ดิฉันไม่รู้ว่าจะนำเรียนท่านดีไหม” เธอทำท่าอ้ำอึงเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง ผมจำต้องเงยหน้ามองเธอด้วยความฉงนสงสัย

   “มีอะไรเหรอครับ คุณบอกมาเลย  แล้วผมจะตัดสินใจเองว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ”  ผมบอกก่อนจะเอนหลังในท่าสบายกับพนักเก้าอี้รอฟังสิ่งที่เธอจะบอก

   “คือเมื่อคืนดิฉันกับเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยไปงานเลี้ยงรุ่นกันที่ผับดาร์กแองเจิลแล้ว......”   เธอบอกเล่าถึงสิ่งที่เห็นเมื่อคืนอย่างละเอียดด้วยสีหน้าแดงระเรื่อระคนหวาดหวั่น


   “พวกเขาเห็นคุณรึเปล่า”

   “ไม่ค่ะโต๊ะดิฉันอยู่ตรงมุม แต่ก็สามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งร้าน ดิฉันมีคลิปแล้วก็ภาพถ่ายของพวกเขามาด้วยคะ” 

   เธอตอบเสียงไม่มั่นคงนัก ก่อนจะวางแผ่นซีดีและภาพถ่ายสองสามใบลงบนโต๊ะ ผมหยิบภาพถ่ายขึ้นมาดูมันไม่ค่อยชัดนักแต่ก็พอจะ สันนิษฐานได้ว่าเป็นใคร 

   “ดิฉันกลัวว่าพวกเขาจะรู้ว่าถูกแอบถ่ายเลยไม่กล้าใช้แฟลต”  ผมไม่แปลกใจเท่าไรถึงสิ่งที่ได้ยิน  แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะกล้าทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะ 

   “เรื่องที่คุณเล่าให้ฟังในวันนี้นับว่ามีประโยชน์มากทีเดียว ขอบคุณมาก ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปทำงานเถอะ  และหากมีความเคลื่อนไหวอะไรให้รีบรายงานผมโดยตรงได้ตลอดเวลานะครับ” 

   “ค่ะท่าน  ดิฉันขอตัวนะคะ”  เธอส่งยิ้มหวานก่อนจะลุกเดินออกไปทำงาน

   “เชิญครับ”  ผมเก็บภาพและแผ่นซีดีใส่ซองแล้วจึงสอดไว้กระเป๋าทำงาน  ก่อนที่สมาธิจะจดจ่ออยู่กับงานที่อยู่ตรงหน้า






   “สวัสดีครับ..”  ผมกดรับสายหลังจากชำเลืองดูว่าใครเรียกเข้ามา ฝ่ายนั้นไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดอะไรนอกจากคำทักทาย

   [.....]

   “ครับแบบนั้นก็ได้ สวัสดีครับ” 

   ผมครุ่นคิดตามและรับคำอย่างง่ายดายตามที่ฝ่ายนั้นเสนอมา  มือยังกำโทรศัพท์ไว้แน่นหลังจากฝ่ายนั้นกล่าวลาและตัดสายไป  ผมเอนศีรษะพิงกับพนักเก้าอี้หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ยกมือขึ้นกดคลึงขมับที่กำลังปวดตุบๆ จากความเครียดของปัญหาที่สะสมมาหลายวัน เรื่องต่างๆ ชักจะบานปลายใหญ่โต  ถ้าผมไม่อยู่เด็กจะเป็นยังไง....


    ผมนั่งจมอยู่ในห้วงคำนึงของตัวเองจนไม่ได้ยินเสียงประตูที่เปิดเข้ามา รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีเสียงทักจากคนที่เข้ามาใหม่  ผมลืมตาแล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะยกหัวขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาใหม่ เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงส่งยิ้มเต็มหน้าไปให้ ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปกอดทักทายด้วยความดีใจ

   “เฮ้!  ไอ้สิงห์ คิดถึงพี่มึงมั้ย”  เสียงพี่แสนนำเข้ามาก่อน

   “พี่ๆ สวัสดีครับ”  ผมยกมือไหว้พี่ทั้งสาม เชิญให้พวกพี่มันนั่งก่อนจะเดินไปบอกเลขาให้หาเครื่องดื่มของว่างมาให้พวกพี่มัน

   “คิดถึงวะพี่”  ผมพูดกับพวกพี่ๆ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาเดี่ยวข้างพี่ฉาน 

   “คิดถึงพวกมึงที่ไทยเหมือนกัน อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านเรา”  พี่ฉานบอก

   “แล้วน้ำเป็นไงมั้งวะตอนนี้ ชักคิดถึงแก้มนิ่มๆ น้องวะ”  พี่หนึ่งเอ่ยถาม ส่งยิ้มกว้างขวางน่ารักเมื่อพูดถึงน้ำนิ่ง

   “เออใช่วะ เจอครั้งสุดท้ายรู้สึกน้องจะอยู่ ม.1 คงโตขึ้นมากแล้วสิ  อยากฟัดแก้มนิ่มๆ ของมันวะ”  พี่แสนไปอีกคนแล้วครับ

   “เปรี้ยวปากอยากกินเด็กกูบอกตรงๆ เลย”  พี่ฉานเอ่ย พร้อมทำตาเจ้าชู้ล้อเลียน 

   “พอเลยๆ  นั่นเด็กผมนะ  พูดแบบนี้ชักไม่อยากให้เจอแล้ววะพี่ หวง!! นี่จากใจเลยบอกตรงๆ”  ผมพูดดักทางเสียงเข้ม ถ้าไม่ปรามไว้ก่อนมีแกล้งหนักๆ ครับ

   “เออ ๆ ก็รู้เด็กมึง แต่พวกกูพี่มึงนะแล้วนั่นก็น้อง  หวงวะมึง กูก็รักมันนะไอ้นี่”  พี่แสนพูดเชิงตัดพ้อ อีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของพี่แสน

   “มึงก็รู้ว่าน้องมันหวงของมัน ยังจะแหย่มันอยู่ได้พวกมึงนี่”  พี่ณิตผลักหัวพี่คมเบาๆ

   “ก็ล้อเล่น...แต่คิดถึงน้องจริงๆ นะเว้ย”  พี่หนึ่งทำเสียงล้อเลียน

   “กูก็ล้อเล่น แต่รักน้องนะของจริงฮ่า ฮ่า  ตกลงเรื่องที่ณิตมันพูดนี่ จริงหรือเปล่าวะ”  พี่แสนพูดล้อ ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นเป็นจริงจังในตอนท้าย

   “จริงพี่”  ผมยืนยันสิ่งที่พี่เขารู้มา

   “พวกกูสงสารแม่ว่ะไว้ใจญาติตัวเองเกินไป  แต่อย่างว่าแหละสันดานคนมันเป็นเรื่องเฉพาะตัวไม่เกี่ยวกับต้นตระกูล”  พี่หนึ่งแสดงความคิดเห็น

   “เรื่องน้องได้ยินแมร่งโคตรขึ้นเลย ถ้ากูรู้ว่าใครนะแมร่งจะตัดมันไม่ให้เหลือตอเลย แล้วตกลงมึงเอาไงวะสิงห์”  พี่แสนพูดเสียงเข้มเย็นด้วยความโมโห

   “เดี๋ยวค่อยคุยกันเย็นนี้ที่บ้านผมนะพี่  ไปพบแม่ก่อนดีกว่าโทรมากำชับตั้งหลายรอบกำชับแล้วว่าถ้าพวกพี่มาให้รีบเข้าไปหาทันที ผมว่าป่านนี้ชะเง้อหาแล้วมั้ง”

     ผมกล่าวตัดบทก่อนจะชวนกันเข้าไปหาแม่ที่เรือน  หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จผมขอตัวออกมาก่อนเพราะมีประชุมที่บริษัท 




    มีใครอยากรู้รึเปล่าว่าคนพวกนี้เป็นใคร แต่ถึงจะไม่อยากรู้ผมก็ยินดีจะเปิดโปงตีแผ่ความหลังอันระทมขมขืนของชายเหล่านี้ให้ได้รู้กันอยู่ดี  เราทั้งหมดเป็นเด็กกำพร้าจากเรือนชิดชล  แม้จะไม่ใช่พี่น้องร่วมอุทรแต่เมื่อชะตาต้องกันก็รักกันเป็นพี่น้องได้ครับ 

   พี่แสน หรือ นายแสนคม  บุลวัชร  ชายไทยไซด์ฝรั่งกับความสูง 193 เซนติเมตร  หล่อไม่มากแต่ท่ายากพี่แกแยะ นิสัยเฟลนลี่ คุยสนุก ค่อนข้างเจ้าชู้ขอแค่ถูกใจจะชายหรือหญิงแสนไม่เกี่ยง จึงเป็นเหตุ และผลให้พวกนั้นเที่ยวไล้เที่ยวขื่อตบตีแย่งชิงให้ได้มีอะไรสักครั้งกับแสน   พี่แกชอบทำชีวิตให้เหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ  แต่ในเรื่องเล่นพี่มันจริงจังครับ อย่าให้ของขึ้นนะ..บรรลัยคำเดียวเลย อาชีพนะเหรอทหารรับจ้างถ้าเบื่อก็เปลี่ยนบรรยากาศไปเป็นบอดี้การ์ดบ้างเป็นครั้งคราว

   พี่ฉาน หรือ นายฉะฉาน  บุลวัชร  หนุ่มรูปงาม  192 เซนติเมตร ไหล่กว้าง  เอวสอบ กล้ามแขนขา หน้าท้อง สมส่วน  (โครงร่างรูป Y สมบูรณ์แบบมาก) ผมว่าพี่ฉานน่าจะเป็นลูกครึ่งซักสัญชาติมากกว่าชายไทย เพราะ ผิวงี้ขาววิ๊งอมชมพู ผมสีน้ำตาลอ่อนหยักศกนิดๆ  ปากด้านบนเป็นรูปกระจับด้านล่างมีรอยบุ๋มกลางสีออกชมพูระเรื่อทั้งที่สูบบุหรี่เยอะหยั่งกะเป็นเจ้าของโรงงานยาสูบซะเอง (ผมแอบได้ยินพวกผู้หญิงที่พี่แกเคยควงนินทาว่าปากพี่แกเป็นปากที่น่าจูบที่สุด) นิสัยนิ่งๆ แต่โหดไม่เข้ากับหน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตรกรีกสักนิด  ความท้าทายและเสี่ยงตายทุกชนิดฉะฉานชอบ จึงเป็นที่มาของอาชีพทหารรับจ้าง  ถ้ารวมพี่หนึ่งเข้าไปด้วยอีกคนนี่น่าเรียกได้ว่าคี่ซี่มหาประลัยกันเลยทีเดียว

   เรื่องราวของสองคนนี้เริ่มจากตำรวจเข้าทลายกวาดล้างการค้ามนุษย์ (Human Trafficking) แก๊งค์ใหญ่ที่มักจะนำเด็กที่ล่อลวงมาไปนั่งขอทานตามหน้าร้านสะดวกซื้อ หน้าโรงเรียน ร้านอาหาร ส่วนพวกที่  โตหน่อยก็บังคับให้ขายของตามสี่แยกไฟแดง การกวาดล้างครั้งนั้นช่วยเหลือเด็กไว้ได้สิบคน  ตำรวจส่งตัวเด็กมาไว้ที่มูลนิธิสงเคราะห์ เด็กและสตรีก่อนที่จะแจ้งให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมารับเด็กกลับบ้าน 

    เด็กคนอื่นๆ มีพ่อแม่ ผู้ปกครอง มายืนยันตัวบุคคลและขอรับเด็กกลับไปหมดตั้งแต่ข่าวการกวาดจัดทะลายแก๊งค์เผยแพร่ออกไป  แต่สองนี่หลายเดือนผ่านไปก็ยังไม่มีใครมาขอรับซักที ทางมูลนิธิเลยส่งต่อมาที่เรือนชิดชล  สองคนอยู่ที่เรือนจนจบระดับมัธยมปลายก่อนจะได้ทุนสนับสนุนการศึกษาจากมูลนิธิแห่งหนึ่งของต่างประเทศให้ต่อระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงของสหรัฐ  หลังจบปริญญาตรีทั้งคู่สมัครเข้ารับราชการทหารในกองทัพ ก่อนจะลาออกมาเป็นทหารรับจ้างแถบตะวันออกกลางอยู่หลายปี (สองคนนี้อายุเท่ากัน  แต่พี่ฉานอ่อนกว่า 3  เดือน  และพวกพี่มันอายุมากกว่าผม 3  ปี)

   พี่กรณ์ หรือ  ร.ต.ท.กรณ์  บุลวัชร  หนุ่มหล่อมาดนิ่งสไตล์เกาหลีกับความสูงราว 191  เซนติเมตร  ลักษณะทางกายภาพที่เถื่อนด้วยรอยสัก  ‘Birth of the angel’  เต็มหลัง รอยสักนี้พี่กรณ์บอกว่าหมายถึง “การเกิดใหม่ของความหวัง”  เราทำทุกอย่างได้เพียงแค่ไม่สิ้นความวาดหวัง พี่มันบอกเราทุกคนแบบนั้น  ถัดขึ้นมาอีกนิดเป็นสักยันต์พุทธคุณที่ขนาดพอเหมาะตรงต้นคอด้านหลัง  แขนข้างซ้ายเป็นลายมังกรเกี่ยวกระหวัดพันรอบแขนตั้งแต่หลังมือ (ส่วนหาง) ไปจนถึงต้นแขน (ส่วนหัว) ซึ่งหมายถึง “จิตวิญญาณของการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีขึ้น” 

         สุดท้าย นิ้วกลางข้างซ้ายเป็นรูปหน้าสิงโตตัวผู้ ข้างขวาเป็นหน้าสิงโตตัวเมีย  หมายถึง “การอยู่เย็นเป็นสุขหรือรู้อยู่”  พี่กรณ์เป็นคนที่เชื่อเรื่องเวรกรรมและการปฏิบัติดีตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด  แต่ก็อีกนั่นแหละอย่างให้พี่มันของขึ้นบึ้มได้เหมือนโก้โก้ครั่น

   จากประวัติของตำรวจระบุว่า แม่พี่กรณ์ชื่อ ช่อฟ้า เป็นสาวเหนือที่หนีความยากจนเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่  รู้จักกับแม่เลี้ยงนิรมนสาวใหญ่ใจดีเจ้าของร้านนวดแผนไทยที่ชื่อ Butterfly Spa & Massage บนรถไฟแม่เลี้ยงชักชวนให้ช่อฟ้าไปทำงานด้วยกัน  ความอ่อนต่อโลกทำให้ช่อฟ้าตอบตกลงทันทีอย่างไม่ลังเล กล่าวขอบคุณแม่เลี้ยงซ้ำๆ ในความเอื้ออารีนั่น  โลกสวยงามที่ช่อฟ้าได้สัมผัสในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาที่แท้มันคือนรกสำหรับช่อฟ้าดีๆ นี่เอง

   เธอถูกแม่เลี้ยงมอมยาขายแขกชาวต่างชาติที่นิยมเสพพรหมจรรย์ในราคาสูงลิ่ว และแขกคนเดิมขอออฟต่ออีกสองเดือนระหว่างที่พักอยู่ไทย  เธอถูกบังคับให้มีเซ็กซ์วันละไม่ต่ำกว่าห้าครั้ง  ถ้าขัดขืนก็ถูกทำให้เจ็บ ในแต่ละวันของเธอผ่านไปด้วยความชาชินไร้ความรู้สึกไม่รับรู้ถึงตัวตนของตัวเอง  ครบสองเดือนเธอ  ถูกส่งตัวคืนให้แม่เลี้ยงและถูกขายต่อทันทีให้ชายต่างชาติอีกคน ขณะที่กำลังจะออกจากร้านตำรวจนำกำลังเข้าทะลายและจับกุมแม่เล้านิรมลที่เปิดร้านนวดแผนไทยแฝงขายบริการทางเพศได้ทันควันในข้อหาล่อลวง กักขัง หน่วงเหนี่ยว บังคับข่มขู่ให้ขาดซึ่งอิสรภาพ กระทำต่อบุคคลอื่นโดยเจตนาเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองและผู้อื่น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยอมหรือไม่ก็ตาม   

   ช่อฟ้าถูกนำตัวส่งให้เรือนชิดชลในสภาพที่เลื่อนลอย  จึงถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจกับจิตแพทย์นานนับเดือน  สภาพแวดล้อมที่ดี การเอาใจใส่ปฏิบัติต่อเธออย่างดีทำให้สุขภาพจิตของเธอดีขึ้นตามลำดับพร้อมกับเมล็ดพันธุ์ที่สวยงามกำลังเจริญเติบโตในครรภ์ของเธอ 

    “ลูก”  แรงผลักดันยิ่งใหญ่ให้เธออยู่ต่ออย่างมีความหวัง  เก้าเดือนต่อมาเธอให้กำเนิดบุตรชาย อ้วนท้วนสมบูรณ์ท่ามกลางความยินดีของแม่ๆ ในเรือนชิดชล ช่อฟ้าตั้งชื่อลูกชายว่า “กรณ์”  เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พ่อที่ตรอมใจตายเพราะความดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวเองอย่างช่อฟ้า เธอเลี้ยงดูลูกชายด้วยตัวเองแค่สามเดือนก่อนจะขออนุญาตแม่ใหญ่ไปปฏิบัติธรรมที่บ้านเกิดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้พ่อผู้ล่วงลับไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่  สำหรับกรณ์ถ้ามีบุญต่อกันก็คงจะได้เจอกันในสักวันหนึ่งข้างหน้าหากเธอไม่ตายเสียก่อน

    พี่กรณ์อยู่เรือนชิดชลจนจบ ม.6  ก่อนจะสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้จึงย้ายออกมาเช่าหอพักอยู่และหาพาร์ทไทม์ทำไปด้วย  ระหว่างเรียนพี่กรณ์ได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิแห่งหนึ่งจึงย้ายไปเรียนโรงเรียนตำรวจที่เวสต์พอยท์แทน  หลังจบการศึกษาเข้าทำงานหน่วยพิเศษให้รัฐบาลมาตลอด  (พี่กรณ์อายุมากกว่าผม 2 ปี)


   พี่หนึ่ง  หรือ นายหนึ่งฤทัย  โยชิฮาระ  บุลวัชร  ลูกครึ่งไทย – ญี่ปุ่น ร่างสูงโปร่ง 182 ซม.   ตาเรียวเชิดเหมือนตาหงส์  ปากบางอิ่มมุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย จมูกเชิดงอน  ผิวขาวอมชมพูระเรื่อราวกับตุ๊กตาพอร์ซเลนเนื้อดี หน้าเล็กๆ สวยหวานปานผู้หญิง  (คงจะสวยเหมือนแม่ เพราะแม่ใหญ่บอกว่าแม่ของพี่หญิงสวยมาก)  หุ่นผอมเพรียวแขนขามีกล้ามน้อยๆ พองาม ผมยาวตรงดำขลับนุ่มราวกับไหมเนื้อดีถูกมัดรวบไว้กลางหลัง  ผมเตือนไว้ก่อนอย่าชมเด็ดขาดว่าสวย เจอเตะสะบักมาแล้วหลายราย

        ถึงจะหน้าตาแบบนั้นเคยอยู่หน่วยรบของทหารบกก่อนที่จะลาออกมาเป็นบอดี้การ์ด  ผมว่าความสูงของพี่หนึ่งก็ไม่ถือว่าเตี้ยนะมาตรฐานชายไทยปกติไปหลายช่วงตัว  แต่พอมันเข้ากลุ่มคี่มหาประลัย พี่มันตัวเล็กน่าทนุถนอมทันทีไง

   คนสวยเขาเป็นเด็กกำพร้าแบบไม่ถามความเห็นสักคำว่าอยากเป็นไหม  บ้านพี่หนึ่งเป็นบ้านเช่าหลังเล็กห่างจากเรือนชิดชลไปสามหลัง  แม่ใหญ่เล่าให้ฟังว่า แม่พี่หนึ่งตายเพราะเกิดอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน  เพื่อนบ้านแถวนั้นได้ยินเสียงเด็กร้องมาสองวันแต่ไม่มีใครมาเปิดประตู  เลยมาแจ้งให้แม่ไปดูเคาะประตูเรียกอยู่นานไม่มีคนมาเปิด

   แม่ใหญ่เลยตัดสินใจให้คนงัดประตูเข้าไปแทบผงะกับกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ภาพตรงหน้าทำให้แม้แต่คนที่ใจแข็งที่สุดยังร้องไห้ด้วยความเวทนาสงสาร  เด็กชายน่าจะอายุประมาณหนึ่งขวบนอนโอบกอดศพแม่ที่เริ่มขึ้นอืดมาตลอดสองวัน  ปากเล็กๆ ดูดนมจากอกแม่ด้วยความหิวโหย  กางเกงผ้าอ้อมเต็มล้นทะลักส่งกลิ่นคละคลุ้ง  แม่ใหญ่รีบเข้าไปอุ้มเด็กขึ้นมาในอ้อมกอด เด็กร้องไห้จ้าแขนเล็กไขว้คว้าหาคนเป็นแม่อย่างหดหู่และเวทนา  เอกสารที่ค้นเจอภายในบ้านบอกว่าพี่หนึ่งมีพ่อเป็นคนญี่ปุ่น แต่เสียชีวิตแล้วอยู่กับแม่สองคนในบ้านเช่าหลังนี้ 

   แม่ใหญ่ทำเรื่องรับพี่หนึ่งมาเลี้ยงที่เรือน  พี่หนึ่งอยู่เรือนชิดชลจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย แล้วได้ทุนระดับปริญญาตรีจากรัฐบาลจากประเทศหนึ่งในแถบตะวันออกกลาง  หลังจบการศึกษาก็ทำงานใช้ทุนรัฐบาลในองค์กรด้านความมั่นคงเกือบสองปี ก็ต้องลาออกเพราะประสบอุบัติเหตุพักรักษาตัวอยู่นานกว่าร่างกายจะกลับมาใช้การได้เหมือนเดิม และถูกชักชวนให้ไปทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้เศรษฐีน้ำมันชาวซาอุฯ  (พี่หนึ่งอายุมากกว่าผม 1 ปี)


   พี หรือ นายพีระณัฐ  บุลวัชร คนนี้มาพิมพ์เดียวกันกับพี่หนึ่งคือ ผมข้องใจพวกพี่จะสวยไปไหน ผู้ชายนะเว้ยเกรงใจผู้หญิงจริงๆ เขาบ้างไรบ้างเถอะครับขอร้อง  พีตัวเล็กบางกว่าพี่หนึ่งอีก สูงแค่ 179  เซนติเมตร ตากลมโตเหมือนตากวางมีแววหวาน  ขนตางอนยาว  ปากเรียวเหมือนคันธนูมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เวลาหุบปากนิ่งๆ ยังเหมือนยิ้มนิดๆ  ผิวขาวอมชมพูบางใสแทบจะเห็นเส้นเลือด แต่พยายามทำเป็นเข้มดุ  (อายุน้อยกว่าแต่ผมเรียกพี่ เพราะซ้อเป็นเมียพี่ณิตนี่ครับ)

   พี่ณิต (ตอนนั้นอายุ  13 ปี) เป็นคนไปเจอซ้อนอนอยู่ในห่อผ้าขนหนู ถูกทิ้งไว้ตรงที่ทิ้งขยะหลังโรงเรียนซึ่งเป็นป่าหญ้าสูงเกือบถึงเอว เส้นทางนี้ไม่ค่อยมีใครผ่านไปมานักเพราะมันค่อนข้างเปลี่ยว แต่เผอิญวันนั้นเป็นเวรพี่ณิตรดน้ำแปลงผักของห้องซึ่งอยู่สวนเกษตรหลังโรงเรียนเลยกลับค่ำมาก ด้วยความขี้เกียจเดินย้อนกลับมาหน้าโรงเรียนพี่มันเดินกลับทางด้านหลังโรงเรียนแทนระยะทางไกลกว่าถึงเรือนก็เหมือนหมาหอบแดด

    ระหว่างที่ผ่านบริเวณที่ทิ้งขยะได้ยินเสียงร้อง แว๊ แว๊ ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงแมวทะเลาะกันก็ไม่ได้สนใจ  พอจะผ่านไปเสียงมันดังชัดขึ้นฟังดีๆ มันไม่ใช่เสียงแมว เลยเดินตามเสียงไปจนเจอเด็กถูกทิ้งไว้ในกองขยะเปียกกลิ่นนี่สุดจะทนแมลงวันบินแตกกระจายออกตอนที่พี่ณิตอุ้มเด็กทารกในห่อผ้าขึ้นแนบอกรีบวิ่งกลับเข้าไปในโรงเรียนอีกครั้งตรงดิ่งไปบ้านลุงหมานภารโรงประจำโรงเรียนอ้อนวอนเร่งเร้าให้แกเอารถมอเตอร์ไซด์อีแก่ของแกไปส่งที่เรือนด่วน 

    วันนั้นโกลาหลกันใหญ่ แม่รีบพาเด็กไปโรงพยาบาลด่วนเพราะตามตัวแขนขามีผื่นแดงลามเกือบทั่วตัว บางแห่งเป็นตุ่มใสแตกมีน้ำเหลืองเหนียวๆ ไหลออกมา ปรากฏว่า เด็กติดเชื้อสแตฟฟิโลคอกคัสออเรียส คุณอาหมอบอกว่าโชคดีเหลือเกินที่ไปเจอแล้วพามาโรงพยาบาลทันที  เชื้อแบคทีเรียไม่ลามเข้ากระแสเลือด  เด็กนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเกือบเดือน  ไม่มีเอกสารหลักฐานใดที่จะสามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของเด็กได้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แม่ใหญ่จึงทำเรื่องขอรับเด็กมาอุปการะเลี้ยงดู ตั้งชื่อให้ว่า  ‘เด็กชายพีระณัฐ  บุลวัชร’  และมอบหมายให้เด็กชายคณิตดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดภายใต้การกำกับดูแลจากยายชื่น

   คุณคิดเหมือนผมไหมว่าการที่คนหนึ่งเจออีกคนแล้วตกหลุมรักทันที ยอมอ่อนข้อให้ด้วยความรัก ความห่วงใยทั้งหมดที่มีโดยไม่มีเงื่อนไข ว่ามันคือ  “พรหมลิขิต”  พี่ณิตก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน


   พี่ณิต หรือ  นายคณิต  บุลวัชร สูง  191 เซนติเมตร รูปร่างหนากว่าพี่กรณ์นิดหน่อย หล่อสไตล์ตี๋ๆ ตาเรียวเชิดขึ้นนิดๆ ผิวขาว รักจริงจังมั่นคงสนิทแนบแน่นอยู่คนเดียวซ้อคนสวยของเขาแหละครับ  พี่ณิตเป็นอาจารย์พิเศษให้กับมหาลัยของรัฐที่พี่เขาจบออกมานั่นแหละ นอกจากนี้ยังรับผิดชอบงานด้านโรงงานบริษัทแม่เล็ก อาจจะดูชิวๆ แต่โหดนะครับ ยิ่งถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวกับซ้อพี่แกมีของขึ้น ขอเตือนอย่าแหย่เสือหลับ (พี่ณิตอายุไล่เลี่ยกับพวกพี่กรณ์)

   พี่ณิตกำพร้าเพราะจำเป็น  แม่นวลแม่ของพี่ณิตอุ้มลูกเข้ามาฝากกับแม่ทื่อๆ  ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายน้ำตานองหน้าละล่ำละลักบอกว่ากำลังจะตายเพราะมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย  ลูกชายไม่เหลือใครแล้ว เสี่ยกวง (ทายาทเจ้าสัวฟงชายชาวจีนอพยพที่ทำมาค้าขายในเมืองไทยจนร่ำรวย) ไม่ยอมรับว่าพี่ณิตเป็นลูก

   เสี่ยซึ่งเป็นคนกลัวเมียแต่งอย่างคุณนายใหญ่ (ลูกสาวเจ้าสัวไต้เพื่อนของเจ้าสัวฟง)  อยู่แล้วรีบบอกปัดกล่าวหาว่าแม่นวลให้ท่าร่านผู้ชายไปทั่วอ้าขาให้คนสวนคนขับรถเอาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนท้อง ลูกในท้องก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร  เพราะเครียดแค้นที่เสี่ยไม่ยอมเล่นด้วยจึงโยนความผิดมาให้  คุณนายใหญ่และคุณนายอีก 4  คน จึงไล่แม่นวลออกจากบ้านเหมือนหมูเหมือนหมาหาว่าเนรคุณกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา

   แม่ใหญ่ตกลงรับพี่ณิตมาเลี้ยงด้วยความยินดีและส่งตัวแม่นวลเข้ารับการรักษาที่ศูนย์มะเร็งโดยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด  แต่สองเดือนต่อมาแม่นวลก็สิ้นลมหายใจอย่างสงบที่ศูนย์ฯ นั่น 

   พอพี่ณิตอายุ 18 ปี แม่ใหญ่บอกให้พี่ณิตรู้ว่าเสี่ยกวงคือพ่อของเขา และพร่ำสอนว่าถึงแม้ครอบครัวนั้นจะไม่ยอมรับว่าเป็นลูกหลานก็ให้สำนึกบุญคุณ ถ้ามีโอกาสให้ไปหาพ่อไปไหว้สักครั้งเพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณที่พ่อให้เกิดมาและอโหสิกรรมต่อกัน

        พี่ณิตคิดอยู่นานจึงชวนผมไปบ้านนั้น พี่มันเข้าไปคนเดียวให้ผมรออยู่ข้างนอกไม่ถึงสิบนาทีผมได้ยินเสียงดังโหวกเหวกในบ้านจึงรีบลงจากรถวิ่งเข้าไปในบ้านเห็นชายฉกรรจ์ยกไม้ฟาดเข้าที่หัวที่ณิตจนแตกเลือดอาบ หญิงร่างท้วมอีกคนใช้ไม้กวาดฟาดตามเนื้อตัวไล่ตะเพิดพี่ณิตเหมือนหมูเหมือนหมาให้ออกจากบ้าน 

        ผมมองขึ้นไปเหนือบันได้ขั้นสุดท้ายชายวัยกลางคนชาวจีนท่าทางภูมิฐานยืนมองการกระทำนั้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนผู้หญิงที่ยืนข้างกันส่งสายตาวาวโรจน์ปากสีสดยกยิ้มสะใจ  จึงรีบเข้าไปดึงพี่มันขึ้นรถแล้วขับออกมา ตามเนื้อตัวเป็นรอยฟกซ้ำดำเขียวแผลตรงหัวเลือดไหลอาบเป็นทางเปรอะเสื้อผ้าแต่พี่มันไม่ยี่หระ  ตาเรียวแข็งกร้าวมือที่วางบนตักกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน  เสียงเย็นทุ่มต่ำที่เปล่งออกมาจากปากของพี่ณิตไม่เหลือเยื่อใย  ไม่มีอาวรณ์  ไม่เหลือแม้แต่ความชิงชัง 
พี่มันไม่เคยพูดถึงคนนั้นอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

‘กูทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้อยากให้เขารับเป็นลูก ไม่ได้หวังสมบัติ แค่อยากให้เขารู้ว่าเคยมีแม่กับกูในชีวิต และขอบคุณที่ทำให้มีกูในวันนี้ 
น้ำหยดเดียวขอชดใช้ด้วยเลือดนี่  ไม่มีบุญคุณอะไรอีกแล้วที่กูต้องชดใช้เขาตลอดชีวิต







TBC.



ปล.

ผ่านไปอีกตอนกว่าจะเข็นออกมาได้ ก็ยังเรื่อยๆ ยังไม่มีอะไรมากนัก เป็นการตีแผ่ปูมหลังเล็กๆ ของคนในครอบครัวน้ำสิงห์
ก่อนที่เล่าเรื่องราวของพวกในโอกาสต่อๆ ไป (ถ้ามีเวลา และตราบเท่าที่ยังมีคนติดตาม)

ขอบคุณสำหรับการติดตาม อาจทำได้ไม่ดีนัก เห็นข้อผิดพลาดประการใดแนะนำกันได้นะครับ ยินดีรับฟังและแก้ไข
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2015 10:15:37 โดย WiChy »

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เม้นแรกๆ  :hao7:

(ผมแอบได้ยินพวกผู้หญิงเคยพี่แกเคยควงนินทาว่าปากพี่แกเป็นปากที่น่าจูบที่สุด) พิมพ์ผิดเปล่า?  :hao4:

โฮ้ว....ประวัติแต่ละคนเกินคำบรรยาย   :ling3:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2015 09:54:25 โดย Ginny Jinny »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ชีวิตแต่ละคนนี่เศร้าสุดๆ ทั้งโดนทิ้งทั้งแม่ตาย

ดีนะที่แต่ละคนเจอแม่ใหญ่อุปการะเลี้ยงดู

เรื่องเงินทองนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ แม้แต่พี่น้องยังทำกันได้

เอาใจช่วยพี่น้องบุลวัชรให้ปลอดภัยทุกคนทั้ง

พี่แสน พี่ฉาน พี่กรณ์ พี่หนึ่ง พี่ณิต ซ้อพี พี่ภูมิ และน้องน้ำ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:





ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เข้ามาเป็น  FC น้องน้ำนิ่งด้วยคนค่ะ :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด