เด็กเลี้ยง
-7-
เลี้ยงเด็ก
“วันนี้ผมไม่เข้าบริษัทนะครับ ถ้ามีอะไรพี่พีตัดสินใจได้เลย” ภูมิรพีกรอกเสียงบอกคนปลายสาย
// มีอะไรรึเปล่า //
“นิ่งไม่สบายน่ะครับ ไม่มากแต่ก็ไม่อยากจะปล่อยเขาไว้ ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบวันนั้น”
// แล้วน้องกินยาหรือยัง เช็ดตัวหาแผ่นเจลลดไข้แปะหน้าผากให้น้องด้วยนะ //
“ปลุกมากินยาเมื่อตอนเข้ามืดไปแล้วครั้งหนึ่ง อ้อพี่ณิตไปโรงงานรึเปล่าวันนี้”
// ไปตั้งแต่เช้าแล้ว มีอะไร //
“ผมอยากให้พี่ณิตไปขอภาพกล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถภาควิชาของนิ่งหน่อยน่ะครับ”
// ทำไม!! มีอะไรเกิดขึ้นกับน้องรึไง //
“เมื่อวานนิ่งโดนยา ผมโมโหจนอยากจะฆ่าคนที่มันทำให้ตายอยู่นี่ ไม่อยากจะคิดถ้าผมไปช้ากว่านั้นอีกนิดเดียวนิ่งคงจะโดนเอาตัวไปแล้ว ตอนผมจะพานิ่งออกมาเห็นเงาคนหลบเข้าหลังต้นไม้ห่างจากสนามสักห้าสิบเมตรคิดว่ามันคงซุ่มดูเหยื่อรอยาออกฤทธิ์อยู่แถวนั้นแหละ อยากจะตามไปดูอยู่เหมือนกันแต่เด็กไม่ไหวแล้วไงเลยต้องปล่อยมันไปก่อน.”
/ ภูมิ...ฮึก...อยู่ไหน...ฮือ../ “แค่นี้ก่อนนะพี่เด็กตื่นแล้ว ไม่เห็นเดี๋ยวงอแงหนัก”
// เออ เออ เรื่องนั้นเพลาๆ บ้างนะสงสารน้อง ส่วนภาพจะบอกพี่ณิตให้ //
“รู้หรอกน่า ฝากด้วยนะพี่ครับสวัสดีครับ”
ภูมิรพีกดตัดสายก่อนที่จะรีบเปิดประตูระเบียงเดินไปที่เตียง น้ำนิ่งนั่งหัวยุ่งปากแดงจากพิษไข้ น้ำตาคลอคลองนัยน์ตาสวย มือกำผ้าเน่าอยู่บนเตียง
“ครับๆ ภูมิอยู่นี่ มานี่มา”
ภูมิรพีนั่งลงขอบเตียงเอื้อมมือดึงตัวน้ำนิ่งเข้ามาในอ้อมกอด เอาหน้าผากตัวเองชนกับหน้าผากของเด็กวัดไข้ ความร้อนทุเลาลงแล้วตามไรผมชื้นเหงื่อเล็กน้อย มือหนายกขึ้นเกลี่ยไรผมที่ระหน้าขึ้นทัดหูบางให้ กดจมูกสูดดมหัวหอมหลายครั้งจนพอใจ
“ปวดหัวไหมหือ” ภูมิรพีเอ่ยเสียงนุ่มทุ้มถามชิดหู
“ไม่ฮะ ภูมิไปไหนมา” เด็กน้อยสั่นหัวไปมา เอ่ยปากถามภูมิรพีด้วยเสียงแหบ
”ภูมิคุยโทรศัพท์กับพี่พีนิดหน่อย ไปเช็ดตัวก่อนเนอะจะได้ไปกินข้าวกินยา”
“แต่ว่าหนูอาบน้ำไม่ได้เหรอ มันเหนอะหนะตัวนะฮะ”
“เอางั้นก็ได้ครับ น้ำอุ่นนะ”
“ฮะ”
ภูมิรพีอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องน้ำวางลงบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า จัดการยื่นแปรงที่บีบยาสีฟันเตรียมไว้แล้วให้น้ำนิ่งจัดการตัวเอง ก่อนจะหันไปเปิดน้ำอุ่นในอ่าง หันกลับมาอีกทีเจ้าตัวหอมก็แปรงฟันเสร็จแล้ว กำลังแกะกระดุมเสื้อนอนชายหนุ่มเลยเดินเข้าไปช่วยแกะอีกคน
สาบเสื้อที่แหวกออกเผยให้เห็นผิวสีน้ำผึ้งระเรื่อที่แต่งแต้มรอยสีกุหลาบ รอยยิ้มละมุนผุดพรายเต็มหน้าและอดไม่ได้ที่จะกดจมูกสูดความหอมจากซอกคออุ่นของร่างบาง เสียงกระซิบทุ่มนุ่มพร้อมลมหายใจร้อนที่เป่ารดผะผ่าวที่คอทำให้อีกคนหดคอหนีหน้าขึ้นสีระเรื่อ
“ของของภูมิ”
“ฮืออ...”
ร่างยางย่นคอหนีด้วยความจั๊กกะจี้เมื่อโดนไรหนวดเคราของภูมิรพีเสียดสีไปตามผิวนุ่นบริเวณซอกคอ มือเล็กดันหน้าของภูมิรพีออก ทำหน้างอนส่งสายตาขึงขังห้ามปรามมันน่ารักมากกว่าจะน่ากลัว ภูมิรพียิ้มกว้างมากกว่าเดิม ก่อนจะถูกงอนมากไปกว่านั้นเลยอุ้มไปวางในอ่างน้ำ คนตัวโตเดินไปหยิบผ้าขนหนูในตู้เก็บมาเตรียมไว้ให้ ชายหนุ่มปล่อยให้เด็กตัวหอมแช่อยู่ไม่นานก็อุ้มขึ้นจากน้ำเช็ดตัวและแต่งตัวให้จนเสร็จ
“จะกินอะไรฮึ ข้าวต้ม หรือโจ๊ก”
“ข้าวต้นเปล่ากับหมูหวาน.. ภูมิอุ้มเค้า”
เด็กน้อยกางแขนรอคนตัวโตเลยจัดการอุ้มลงมาข้างล่างเดินไปที่ครัวยายชื่นกำลังอุ่นข้าวต้มเปล่าให้คนป่วย
“อ้าวตื่นแล้วเหรอลูก ไหนใครไม่สบาย”
ยายชื่นเอ่ยทัก พร้อมกับเดินมาจับตามตัวเด็กเพื่อวัดความร้อน เด็กน้อยยกหัวขึ้นจากบ่าหันไปหอมแก้มยายชื่น ทำหน้าตาออดอ้อนกับคนแก่
“ยาย...น้ำปวดหัวจังเลย ทำไงดีอยากกินหมูหวานกับข้าวต้มเปล่าที่ยายทำด้วย ทำให้น้ำนะฮะ”
“ก็นี่ไงยายทำให้แล้วลูก น้ำนั่งรอเลยครับ”
“รักยายที่สุดเลย” คนในอ้อมแขนของภูมิรพีชโงกตัวไปหอมแก้มคนแก่อีกครั้ง ยายชื่นยิ้มชอบใจใหญ่ที่โดนอ้อน
“อ๊าว!! แล้วไหนว่ารักภูมิที่สุดไง”
“ก็รักยายที่สุด แต่หนูรักภูมิแบบพิเศษใส่ไข่ไง”
ผมให้รางวัลเป็นหอมแก้มสองฟอดใหญ่ในฐานะที่เด็กน้อยทำตัวน่ารัก ยายชื่นหัวเราะชอบอกชอบใจก่อนจะหันไปสนใจข้าวต้มที่กำลังอุ่นบนเตา
“ชื่นใจที่สุดเลย”
น้ำนิ่งยกมือเล็กทั้งสองข้างจับแก้มภูมิรพีให้ตรงก่อนจะยื่นหน้าเอาปากนุ่มอุ่นแตะลงบนปากหนาของคนตัวโตอย่างรวดเร็ว แล้วผละออกส่งยิ้มน่ารักให้ภูมิรพีก่อนที่จะซบหน้าลงกับบ่าดังเดิม
“หนูนั่งกับภูมินะ”
น้ำเสียงอ้อนทำให้คนตัวโตยิ้มกว้างอดไม่ได้ที่จะหันไปหอมแก้มเบาๆ อย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดูยิ่งป่วยยิ่งอ้อน น่ารักเกินไปแล้ว การรับประทานอาหารในเช้านี้ภูมิรพีจึงกลายเป็นเก้าอี้มีชีวิตให้เด็กขี้อ้อนไปซะงั้น ยายชื่นตักข้าวต้มเปล่าชามโตและหมูหวานมาวางตรงหน้า ภูมิรพีป้อนใส่ปากคนบนตักคำใส่ปากตัวเองคำ
(ตอนแรกก็ไม่ได้กินด้วยหรอกครับ กะว่าจะป้อนเด็กให้เสร็จก่อนแล้วถึงจะกิน แต่เด็กน้อยไม่ยอมก็เลยได้กินด้วยกัน) ข้าวต้มชามโตหมดภายในเวลารวดเร็ว หลังกินยาเสร็จก็อุ้มขึ้นข้างบน คาดว่าอีกสักครู่ก็คงหลับเพราะฤทธิ์ยาแล้ว
“หนูดูหนังได้มั้ย”
“ครับ งั้นไปนอนที่เรือนพักผ่อนนะ”
“ฮะหนูดู Larva นะ”
“ตามใจเลยครับ” ภูมิรพีอุ้มน้ำนิ่งมาจนถึงห้องพักผ่อนซึ่งอยู่ติดกับห้องนอน วางเด็กน้อยลงโซฟาเบดหลังใหญ่
“คนเก่งไปเลือกแผ่นรอเลยครับ เดี๋ยวภูมิเดินไปเอาผ้ามาให้”
“หนูใส่แผ่นไว้รอมาเร็วๆ นะฮะ”
ภูมิรพียกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มก่อนจะเดินกลับมายังห้องนอนเพื่อเอาผ้าเน่าประจำตัวของเจ้าเด็กตัวหอม กลับไปอีกครั้งเจ้าตัวก็นั่งรอแล้ว ชายหนุ่มเดินไปปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ รูดปิดม่านหน้าต่างให้มืดอีกนิด เปิดตู้เอาผ้าห่มนวมติดมือมาด้วย ได้ของครบแล้วจึงเดินไปเอนนั่งลงข้างๆ กัน แขนแกร่งโอบกอดร่างบางกระชับแล้วล้มตัวลงนอนด้วยกัน เจ้าตัวหอมกอดผ้าประจำตัวไว้แนบอก ขยับตัวหยุกหยิกจนเป็นที่พอใจจึงหันไปกดรีโมทให้เครื่องเล่นแผ่น
เกือบจะครึ่งเรื่อง คนในอ้อมกอดเริ่มตัวอ่อนคงจะฝืนฤทธิ์ยาไม่ไหวแล้ว ภูมิรพีกอดกระชับร่างบางแนบอกอีกนิด มือหนึ่งลูบหลังไปมาอีกมือตบก้นงอนเบาๆ ครู่เดียวคนในอ้อมกอดก็ตัวอ่อนยวบลมหายใจสม่ำเสมอ จึงหันไปหยิบรีโมทกดปิดหนังนอนกอดเด็กน้อยหลับไปด้วยกัน...
“ตื่นแล้วเหรอครับ มานี่มาดูสิหายรึยัง”
ภูมิรพีงัวเงียตื่นตอนที่รู้สึกว่ามีอะไรหยุกหยิกอยู่บนตัว พอลืมตาขึ้นดูชัดๆ จึงเห็นเจ้าตัวหอมกำลังนั่งอยู่บนพุง ชายหนุ่มเอื้อมมือลูบแตะไปตามซอกคอของคนบนตัวตัวไม่ร้อนแล้ว มือแกร่งโอบเลยไปด้านหลังคอดึงรั้งเบาๆ โน้มหน้าผากมาจรดริมฝีปากหนาของตัวเอง จมูกป่ายปัดกันก่อนที่ริมฝึปากนุ่มจะถูกกวาดชิ่มความหวานทั่วโพรงปากจนพอใจ ร่างบางเอนตัวซบลงกับอกวางคางเล็กไว้บนมือของตัวเองที่วางนาบบนอกแกร่ง หน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ภูมิรพีหลุดยิ้มบางเบา เลื่อนมือไปตบก้นงอนเบาๆ เจ้าตัวหอมหลุดเสียงหัวเราะกังวานใสอย่างชอบใจ
“หิวรึยังครับ” ภูมิรพีถามคนบนตัวเด็กน้อยพยักหน้าระรัว ส่งยิ้มประจบมาให้ ด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู คนตัวโตเลยยกมือขึ้นแนบแก้มแล้วดึงหน้าหวานมาใกล้ๆ ปากแล้วกัดที่จมูกงอนเชิดเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบ
“เจ็บ” เด็กน้อยบ่นหงุ๋งหงิ๋งไม่จริงจังนัก
“หึ หึ ก็น่ากินทำไมล่ะฮืม แล้วจะกินอะไรสปาเก็ตตี้ไหมเดี๋ยวภูมิทำให้”
ขี้เมาทะเลได้ไหม..หนูอยากกิน” เสียงออดอ้อนกับนัยน์ตาเป็นประกายวาววับก่อนจะยิ้มจนตาเป็นสระอิ น่ารักเกินไปแล้ว อดไม่ได้เลยฟัดแก้มหอมๆ ไปอีกที
“ถ้าอยากกินก็ลุกเลยครับ เดี๋ยวภูมิทำให้”
น้ำนิ่งไม่อิดออดลุกจากตัวภูมิรพีลงไปนั่งข้าง ๆ คนตัวโตลุกขึ้นเสยผมให้เข้าทีเข้าทาง ก่อนจูงมือเด็กมาที่ห้องน้ำในห้องนอนล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น
“ล้างหน้าก่อนครับคนเก่ง”
“ภูมิหนูเอาน่องไก่ทอด แล้วก็สลัดผักด้วยได้ไหมอยากกิน” น้ำนิ่งอ้อน แสดงว่าคงจะหายแล้วเลยอยากกินนั้นนี่เยอะไปหมด
“ครับๆ จะทำให้ทุกหมดแหละ” ภูมิรพีเอาผ้าขนหนูนุ่มซับหน้าให้เด็กไปด้วย รับคำเด็กไปด้วย
“มานี่ก่อนมาเดี๋ยวภูมิผูกผมข้างหน้าให้ ชักยาวแล้วเดี๋ยวทิ่มตา”
คนตัวโตเปิดตู้กระจกหยิบหนังยางออกมาอีกมือจับผมข้างหน้ามัดรวบไปข้างหลังให้ ยกยิ้มกับผลงานตรงหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะยกแขนแกร่งโอบไหล่คนตัวเล็กเดินลงไปข้างล่างด้วยกัน วันนี้ยายชื่นไม่อยู่เห็นว่าจะไปทำบุญที่วัดกับคนแก่ในละแวกบ้าน ภูมิรพีเปิดตู้เย็นหลังใหญ่เตรียมวัตถุดิบทำอาหารตามที่เจ้าตัวหอมต้องการมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์
“ภูมิหนูทำสลัดเองนะ”
“ได้อยู่แล้วครับ”
น้ำนิ่งจัดการทำน้ำสลัดแอปเปิ้ล คนตัวโตหันมาเตรียมเครื่องทำสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล น่องไก่ก็แค่หยิบออกมาจากกล่องเก็บอาหารแล้วหย่อนลงกระทะที่น้ำมันกำลังเดือดปุดๆ เท่านั้นเอง เพราะยายชื่นหมักไว้แล้ว กำลังสาระวนทำอาหารกันอยู่ พี่พีร้องทักขึ้นที่ประตูครัวแล้วตามมาด้วยพี่ณิต
“ทำอะไรครับคนป่วย โว๊ะ!! ใครผูกผมให้น่ารักวะ มานี่ดิ”
พี่พีเดินเข้ามาชะโงกดูที่ชามว่าน้องทำอะไร แต่ตาสะดุดเข้ากับหัวเปิดเหม่งของเด็กอดไม่ได้ที่จะ ดึงตัวเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนพอใจก่อนจะปล่อยตัวน้องให้ทำสลัดต่อ
“ทำสลัดพี่พีกินด้วยกันนะ” น้ำนิ่งเอียงชามใหญ่ใส่สลัดให้ดูก่อนจะชวนกินด้วยกัน
“ไหนว่าป่วย หายแล้วเหรอถึงมาทำอะไรแบบนี้น่ะฮึ” พี่ณิตเอาหน้าผากตัวเองมาชนหน้าผากน้อง เมื่อเห็นว่าไม่ร้อนแล้วเลยหอมหัวเหม่งน้องสองสามทีก่อนจะปล่อยหน้าน้อง
“ฮือหายแล้วเห็นไหมน้องตัวไม่ร้อนแล้วด้วย” คนน้องตอบ
“เอ้านี่เครฟเค้กที่เราชอบ ไปซื้อเกือบไม่ทันเหลือก้อนสุดท้ายเลย” พี่พียื่นกล่องเครฟเค้กให้น้อง
“วู้!! รู้ใจน้องจริงๆ น่ารักที่สุดเลย”
ไอ้คนน้องโผเข้าไปกอดคนพี่หอมแก้มซ้ายขวา ยิ้มประจบประแจงยื่นหน้าเข้าไปคลอเคลียอ้อนคนพี่ จะเหลือเหรอครับ คนสวยเขายิ้มกว้างหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาคนน้องจนอีกคนที่มาด้วยกันชักเคือง
“พี่กินข้าวมายัง” ผมถามพวกพี่มัน
“ยังก็กะว่าจะมาฝากท้องที่นี่แหละ” พี่ณิตหันมาตอบ ก่อนจะหยิบน่องไก่ที่ควันฉุยในจานขึ้นไปกัดกินโดยไม่อนาทรกับความร้อน
“มือไม่ล้างหยิบของมากินได้ไง ไปเลยนะไปล้างมือเดี๋ยวนี้เลย” พี่พีตีมือคนพี่ดังเพียะเลย
“โธ่ก็หิว เนี่ยข้าวเช้าก็ยังไม่ตกถึงท้องกินชิ้นนี้ก่อนไม่ได้เหรอครับนะ น้า...” คณิตทำเสียงอ้อนคนของตัว
“วางเลย แล้วไปล้างมือก่อน” แต่คนเจ้าระเบียบอย่างนั่นหรือจะยอม
“ก็ได้ แกล้งคนหิวนี่บาปนะครับ”
น้องหัวเราะชอบใจใหญ่ที่พี่ณิตโดนดุเหมือนเด็กๆ ภูมิรพียกยิ้มมุมปากส่ายหน้าอย่างระอาก่อนจะหันมาทำสปาเก็ตตี้เพิ่มอีกสองที่ เสร็จแล้วก็นั่งทานข้าวกันตบท้ายด้วยเครฟเค้ก หลังทานข้าวเสร็จก็ย้ายกองขึ้นมาตรงหอนั่ง สองคนนั่นอิ่มท้องก็สะบัดก้นหนีไปดูหนังแล้วก็เดินห้างซื้อของเข้าบ้าน
ส่วนน้ำนิ่งพอหนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนตาปรือปรอยจะหลับมิหลับแหล่ ยิ่งมาถูกลมเย็นที่พัดเอื่อยๆ ตอนนี้แล้ว ตาจะลืมไม่ขึ้นซะให้ได้ คนตัวโตก็เลยอุ้มพาไปแปรงฟัน ล้างมือ ล้างเท้า พามากล่อมนอน คิดว่าถ้าเด็กหลับภูมิรพีคิดจะไปทำงานที่พี่พีหอบมาให้นิดหน่อย แต่กล่อมกันท่าไหนไม่รู้หลับไปพร้อมกับเด็กน้อยซะงั้น
เช้าวันจันทร์น้ำนิ่งสามารถไปเรียนได้ตามปกติ ภูมิรพียังไม่ได้ถามถึงสาเหตุที่เด็กโดนยา ประเด็นสำคัญคือ ภูมิรพีไม่อยากให้น้ำนิ่งมีความทรงจำที่เลวร้ายติดในสมองถ้าลืมได้ก็อยากให้เด็กลืมมันไปซะ ขอเป็นเขาเองที่จะจำและเอาคืนคนที่มันทำกับเด็กร้อยเท่าพันทวี สองครั้งแล้วที่เขาช้าแล้วเด็กเกือบได้รับอันตราย ไม่อยากจะคิดถ้าช้ากว่านี้มันคงเป็นความสูญเสียที่เกินจะรับไหว
บริษัทบุลวัชร เทรดดิ้ง จำกัด (มหาชน) “สองปีที่ผ่านมาคุณอาเดินทางไปฮ่องกงกับมาเก๊าแทบทุกเดือน และจากการตรวจสอบสถานะทางบัญชีมีเงินเข้าบัญชีก้อนใหญ่สามเดือนครั้ง แต่จากบัญชีของบริษัทจะโอนเข้าทุกหกเดือน” พี่พีรายงานความคืบหน้าของการติดตามเป้าหมาย
“อืม พี่ช่วยสืบให้ผมด้วยนะว่าเขาไปที่นั่นทำไม เขามีเงินนอกอื่นๆ โอนเข้าบัญชีด้วยเหรอนี่ มันน่าสงสัยนะว่าไหม เขาไม่มีธุรกิจอย่างอื่นแต่มีเงินเข้าเป็นกอบเป็นกำ”
“มันก็น่าคิด มีจุดที่น่าจะต้องจับตามองเวลาที่เขาเดินทางต้องมีเสี่ยวิชัยไปด้วยตลอด เราก็รู้กันดีว่าเสี่ยเป็นยังไง มันจะบังเอิญไปรึเปล่า”
“พี่สืบด้วยว่าสองคนนี้เกี่ยวพันกันยังไง ถ้ามีประเด็นอื่นรายงานผมด่วนนะครับ”
“ได้ แล้วงานวันนี้สิบโมงครึ่งมีประชุมบอร์ดผู้บริหาร บ่ายโมงครึ่งเข้าพบคุณธอมัสคู่ค้าเขตอเมริกาที่โรงแรมเดอบัวร์ บ่ายสามนัดเซ็นสัญญากับคุณเจียงที่บริษัทเจเจคอร์ปฯ ทุ่มครึ่งเลี้ยงรับรองคุณธอมัสอีกครั้งที่ริสเรสตัวรองส์”
“วันนี้สิงห์จะไปรับน้องมั้ย”
“ไปครับ ยิ่งเกิดเรื่องนั้นผมยิ่งห่วงนะ คิดแล้วถ้าวันนั้นผมไปไม่ทันนิ่งจะเป็นยังไง ตอนนี้เลยให้คนตามเฝ้านิ่งอยู่ก็วางใจได้เปาะหนึ่ง”
“ดีแล้วล่ะ เรื่องเซ็นสัญญากับคุณเจียงพี่ไปแทนเอง สิงห์ไปรับน้องเถอะ ถ้ามีอะไรด่วนพี่จัดการเอง”
“ขอบคุณครับ”
วิทยาลัยการอาชีพ ภูมิรพีขับรถมารับน้ำนิ่งที่วิทยาลัย บรรยากาศยามสี่โมงเย็นยังคงเหมือนเดิม เขามองเห็นเด็กนั่งอยู่บนเก้าอี้สนามตัวเดิม สายตาเหม่อมองเพื่อนนักศึกษาที่กำลังเดินกันขวักไขว่เพื่อกลับบ้าน ห่างไปห้าสิบเมตรผมมองสบตาคนติดตามน้ำนิ่งพยักหน้าให้แยกย้ายได้ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กน้อยเงียบๆ ไม่ได้ส่งเสียงเรียก จนไปยืนอยู่ข้างหลังแต่เด็กก็ยังไม่รู้สึกตัวว่ามีคนอยู่ข้างหลังเขา คนตัวโตก้มลงกดจูบลงที่หัวหอมน้ำนิ่งสะดุ้งตกใจไม่ทันได้ร้องภูมิรพีก็ยกตัวขึ้นจากเก้าอี้อุ้มแนบอก
“ภูมิ”
เด็กน้อยร้องก่อนที่จะกางแขนกอดคอ ขาเล็กเกี่ยวเข้าที่เอวหนา ก่อนจะยกตัวขึ้นกดจมูกงอนเชิดมาหอมแก้มดังฟอดทั้งสองข้าง
“รอนานมั้ยเด็กดี”
“ไม่นานฮะหนูเพิ่งลงมา”
น้ำนิ่งตอบเสียงใส ผละหน้าออกจากบ่าหนายกมือทั้งสองข้างขึ้นแนบแก้มสากไรหนวดเครา จ้องเข้าไปในตาสีแปลกที่สะท้อนเงาของเด็กน้อยอยู่เต็มพื้นที่ น้ำนิ่งเอาปากนิ่มๆ แตะปากหนาของคนตัวโตสองสามทีโดยไม่ได้สอดลิ้น แต่ก่อนจะผละออกเด็กกัดริมฝีปากล่างภูมิรพีเบาๆ อย่างหยอกเย้าแล้วกลับไปซบหัวลงที่บ่าหนาเหมือนเดิม พฤติกรรมของน้ำนิ่งวันนี้ทำเอาภูมิรพีแทบจะคลั่งมันไม่เจ็บแต่เสียว ก็ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับน้ำนิ่งอีกเลย
‘เฮ้อ!! ไอ้ภูมิหนอไอ้ภูมิเบื่อตัวเอง เจ้าเด็กนี่ก็ขยันอ่อยผู้ใหญ่เหลือเกินมันน่านัก ‘ “คิดถึง”
“หนูครับภูมิขออะไรอย่างได้ไหมครับ”
“ภูมิจะให้หนูทำอะไร หนูจะทำให้หมดเลย สัญญา” เด็กน้อยชูสองนิ้วสัญลักษณ์ของลูกเสือ
“เด็กดีฟังภูมินะ สิ่งที่ทำกับภูมิหนูอย่าไปทำกับใครนะ ถ้าจะทำก็ทำได้กับภูมิเพียงคนเดียวเท่านั้นเข้าใจไหมครับเด็กดี”
“ฮะเข้าใจแล้วห้ามทำกับคนอื่น ทำกับลุงคนเดียวสัญญาเลย”
น้ำนิ่งรับคำเสียงใสพร้อมคำสัญญาหนักแน่น คนร่างบางก้มลงเอาริมฝีปากนิ่มแตะลงบนริมฝีปากหนาอีกครั้ง แล้วก่อนผละออกเด็กน้อยกัดเม้มที่ริมฝีปากล่างของคนตัวโตอย่างหยอกเย้า
“น้ำนิ่ง!” ภูมิรพีเรียกเด็กเสียงเข้ม แต่เด็กก็ไม่ได้สลดแต่อย่างใด กลับหัวเราะชอบใจที่แกล้งคนตัวโตได้
“เดี๋ยวเถอะพูดไม่ฟัง งั้นวันนี้งดไอศกรีมกับเค้กดีไหม”
“โห้ยยยยย ภูมิอะ ไม่เอาสิ แกล้งหนูอีกแล้ว...ไม่รักเค้าแล้วเหรอฮึ....” น้ำนิ่งโอดครวญเสียงหวานสายตาหวานเชื่อมออดอ้อนยั่วอารมณ์มาก
“...” ผมทำหน้านิ่งเฉย
“ไม่แกล้งน้าาา... หนูอยากกินจริงๆ ได้ไหมนะ...นะฮะ”
เสียงหวานเว้าวอนออดอ้อนไม่พอยังเอาแก้มนิ่มถูกับแก้มสาก จมูกเล็กป่ายปัดไปมากับจมูกของคนตัวโต คือเด็กนี่กะจะอ่อยให้ตายคามือเลยใช่ไหม รู้ไหมแค่นี้ก็จะไม่ปันใจไปไหนแล้ว
“...” ผมยังแสร้งทำเหน้าโกรธ
“นะฮะ..น้าา ภูมิคนดีของเค้า”
คนตัวเล็กหอมแก้มคลอเคลียหนักกว่าเดิม เอ้ออออ..ให้มันได้ยังงี้..ก็เป็นซะแบบนี้จะโกรธก็ทำไม่ลงไหนๆ ก็ยอมมาตลอดยอมอีกก็ไม่เห็นเป็นไร
“อะ อะ ก็ได้ ก็ได้เห็นแก่ที่เด็กทำตัวน่ารักเลยนะ” ภูมิรพีพูดยิ้มๆ และยกมือขึ้นบีบจมูกเล็กของเด็กเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“เย้ ภูมิน่ารักที่สุดเลย”
“งั้นไปกันเนอะ” ภูมิรพีก้มลงหยิบเป้ของน้ำนิ่งขึ้นสะพาย แล้วเดินไปที่รถพาเด็กไปกินไอศกรีมและเค้กตามที่ต้องการ
ร้าน @Zee U Zone ร้านประจำของเรา น้ำนิ่งชอบเครฟเค้กของร้านนี้ กินที่ร้านไม่พอมีรบเร้าให้ซื้อกลับบ้านด้วย สภาพภูมิทัศน์และการตกแต่งร้านออกแนวเรโทรจัดแบ่งร้านเป็นสองโซน เรานั่งกันโชนด้านนอกซึ่งเป็นพื้นยกลอยขึ้นจากสระน้ำใสที่มีปลาคร๊าฟหลายสิบตัวว่ายวนไปมา รอบๆ สระปลูกพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายพันธุ์ รวมถึงก้ามปูต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาทำให้บรรยากาศเย็นสบายสายลมพัดเอื่อย ช่วยผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยได้ดีทีเดียว เด็กน้อยนั่งตรงข้ามกำลังกินเครฟเค้กหลังจากกินไอศครีมไปแล้วหนึ่งถ้วยใหญ่ ผมจิบกาแฟนั่งมองเด็กน้อยกินอย่างมีความสุข
“กินเยอะขนาดนี้จะกินข้าวได้ไหมละนั่น”
“กินได้ฮะ ถ้าไม่กินนะเดี๋ยวยายชื่นร้องไห้เสียใจแย่เลย”
น่ารักไหมละนั่น รู้จักใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นด้วย ผมยิ้มพยักหน้าเข้าใจก่อนจะยื่นมือไปเช็ดปากที่เปื้อนเศษเครฟเล็กๆ ออก แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วที่เหน็ดเหนื่อยมามันมลายหายไปสิ้นเพียงแค่เห็นรอยยิ้มที่น่ารักนั่น
“วันนี้ภูมิกินข้าวกับหนูไหม” เด็กเงยหน้าขึ้นถาม มองด้วยแววตายิ้มคาดหวัง
“ไม่ครับเด็กดี ภูมิมีงานที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ”
แววตาหวานคาดหวังฉายแววของความเหงาให้เห็นเพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะฝืนยิ้มน้อยๆ แล้วก้มลงกินเครฟเค้กต่อ ไหล่บางสั่นน้อยๆ
ผมขยับไปนั่งข้างๆ ร่างบาง ยกมือขึ้นเชยคางเล็กให้เงยหน้าขึ้น แววตาที่ผมเห็นคลอครองด้วยหยาดน้ำตาใจผมแทบขาด เลื่อนนิ้วมือเกลี่ยไล้หยาดน้ำตาเบา ๆ ดึงร่างเล็กเข้ามากอดปลอบประโลม
“ภูมิขอโทษเด็กดี คืนนี้หนูอยู่กับยายชื่นก่อนนะครับ ไม่เกินห้าทุ่มภูมิถึงบ้านแน่นนอนสัญญาเลย”
“สัญญาแล้วนะฮะ” ปากเล็กพึมพำแผ่วเบาขอความมั่นใจ
“ครับผม”
เด็กน้อยยิ้มกว้างส่งมาให้ ผละออกจากตัวผมก่อนจะก้มลงกินเครฟเค้กของเขาต่อ เด็กหนอเด็กอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายเหลือเกิน ผมยกยิ้มด้วยความเอ็นดู
“ภูมิ ภูมิ!”
ผมเหมือนเห็นมือเล็กปัดผ่านหน้าผมไปมา จึงหันมองเห็นเด็กน้อยกำลังหน้าบึง เลยหัวเราะกลบเกลื่อน ยกมือขึ้นบีบจมูกเล็กๆ ของเด็กน้อย นิ่งปัดมือผมออก จิกตามองอย่างเอาเรื่องปากเชิดสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างแงงอน น่ารักวะ
“ชริ! ไม่สนใจหนู เรียกตั้งหลายครั้งไม่ได้ยิน จะกลับหรือยัง”
“อิ่มแล้วเหรอ จะเอาอะไรอีกไหมฮึ”
“งั้นหนูซื้อเค้กไปฝากยายชื่น พี่นิ่ม แล้วก็ป้าๆ ได้ไหมอะภูมิ”
น้ำนิ่งหันกลับมาทำเสียงกังวานใสอ้อนๆ สายตาวาววับมองสบมาเป็นสเตปเลย ผมยกมือขยี้ผมนุ่มของเด็กด้วยความเอ็นดูในความเอื้ออาทรคนอื่นของเขา แต่แกล้งซะหน่อย
“จะเอาไปฝากยายชื่นหรือกินเองกันล่ะฮึตัวแสบ”
“ไม่ใช่ซะหน่อย เค้าจะเอาไปฝากยาย พี่นิ่ม แล้วก็ป้าๆ เหอะ เค้าจิตใจดีเหมือนหน้าตาภูมิรู้ไรมั้งปะเนี่ย” เด็กสะบัดบ๊อบริมฝีปากเล็กเชิดขึ้นยกมือกอดอก ทำหน้างอนๆ น่ารักมากเปล่าวะนั่น
“โอ๋ โอ๋ ไม่งอนน้า..ภูมิล้อเล่น ไป ไป๊ จะเอาอะไรไปฝากใครไปเลือกเลยจ้าภูมิทุ่มสุดตัว”
ผมรีบง้อกลัวเด็กแถวนี้จะงอนยาว แต่เจ้าตัวดียังกอดอกยืนเฉยผมเลยคว้าหัวหอมเข้ามาจุ๊บเหม่งเป็นการขอโทษ ตบก้นงอนๆ อย่างหมั่นเขี้ยว เด็กยิ้มแล้ววิ่งสะบัดบ๊อบไปยืนสั่งเค้กใส่กล่องเสียงดังเจื้อยแจ้วกับพี่พนักงาน ได้ข่าวว่าที่สั่งนะเครฟเค้กที่เจ้าตัวชอบมากสุด ผมยิ้มกว้างส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินตามไปชำระเงิน แล้วพาไปส่งบ้านก่อนที่ผมจะออกไปพบคุณธอมัสตามนัด
หลังจากส่งคุณธอมัสที่โรงแรมเสร็จ ผมรีบบึ่งรถกลับบ้าน จอดรถเสร็จเดินขึ้นบันไดยังไม่พ้นขั้นสุดท้ายสายตาปะทะเข้ากับเด็กที่นั่งทำคอยืดคอยาวแต่ตาเริ่มปรือปรอยอยู่ตรงหอนั่ง จึงยิ้มกว้างเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ ยกตัวเด็กขึ้นมานั่งบนตัก ยื่นจมูกคลอเคลียแก้มใสด้วยความรักใคร่ น้ำนิ่งเงยหน้าขึ้นจุ๊บปากผมก่อนซบหน้าลงกับอกแขนเรียวเล็กกอดรอบเอวหลอมๆ
“ยังไม่นอนเหรอครับดึกแล้วนะ”
ผมก้มลงถามเด็กในอ้อมกอด เงยหน้าขึ้นเห็นป้าชื่นกำลังจะเดินมาดูเราผมเลยโบกมือบอกป้าไปนอนเถอะเดี๋ยวผมจัดการเด็กเอง ป้าชื่นพยักหน้าแล้วหันหลังกลับเรือนไป
“หนูรอภูมิ” เด็กตอบทั้งที่ตายังหลับพริ้ม ปากนุ่มสีชมพูระเรื่อเผยออ้าน้อยๆ โอ้ย!! น่ากัดมาก
“กินนมอุ่นก่อนไหมฮึม” ผมถาม ก้มลงจูบปากน่ากัดที่เล็งไว้ก่อนจะเลื่อนไปกดจูบดมหัวหอมๆ มือลูบหลังเบาๆ
“ฮื้อออ ไม่เอาดื่มแล้ว เค้าง่วงอะภูมิ” เด็กครางหงุ๋งหงิ๋งเสียงเบาเหมือนรำคาญ ปากเล็กบอกว่าดื่มนมแล้ว
“ง่วง นอนกันนะ น้า”
เฮ้อ!! ง่วงนะแต่ไม่ยอมนอน ร่างบางคลอเคลียกดจูบที่อกผมหลายครั้ง กระชับกอดให้แน่นขึ้น อ้อนไม่รู้อยากได้อะไรสินะ ผมยกยิ้มพอใจซ้อนร่างบางอุ้มขึ้นกระชับวงแขนเดินเข้าห้องนอน วางบนเตียงกว้างจัดที่จัดทางเอาผ้าวิเศษให้กอดก่อนดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้จนถึงคอ น้ำนิ่งมองผมตาแป๋วไม่ยอมหลับตา ผมก้มลงกดจูบราตรีสวัสดิ์ที่ปากนิ่ม เจ้าตัวดีกลับยกแขนขึ้นกอดคอผมแน่น ดึงลงไปหาตัวเองอย่างแรงจนเกือบล้มทับเด็ก ต้องใช้มือค้ำยันไว้มองหน้าว่าเด็กงอแงอยากได้อะไร
“ไหนว่าง่วงทำไมไม่นอนล่ะครับหึ...”
“ภูมินอนกับเค้านะ” น้ำนิ่งไม่ยอมปล่อยแขนแต่กลับยกตัวขึ้นกดปากจูบตรงแอ่งชีพจรตรงคอ แล้วเลียเบาๆ ผละหน้าออกมาส่งสายตาเว้าวอน
‘โอ้ย! อยากจะบ้าตาย น้ำนิ่งนะน้ำนิ่ง เย็นไว้ไอ้ภูมิมึง ยุบหนอพองหนอๆ’ “นอนกับหนูนะภูมิ น้าาา”
เฮ้อ! ผมทนไม่ได้หรอกนะถ้าจะอ่อยกันขนาดนี้เลยก้มลงจูบปากเล็กช่างออดอ้อนนั่น เขาเผยอปากรับลิ้นที่สอดเข้าไปอย่างไม่เกี่ยงงอน เราจูบกันอ่อนหวานเนิ่นนาน ก่อนจะผละออกด้วยความเสียดายเพราะคนร่างบางกำลังขาดอากาศหายใจ
“เด็กดีนอนไปก่อนนะ ขอภูมิอาบน้ำแป๊ปเดียวนะครับ”
ร่างยางยอมยอมปล่อยแขนออกจากคอ เลยรีบลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำจัดการล๊อกประตูอย่างแน่นหนาจัดการธุระส่วนตัวอย่างเร่งรีบก็บอกแล้วไม่ขอทน เสร็จแล้วจึงจัดการอาบน้ำและแต่งตั้งอย่างรวดเร็ว เกือบครึ่งชั่วโมงคนบนเตียงยังไม่นอนแต่ตาปรือมากแล้ว รีบเดินไปปิดไฟแล้วกลับมาขึ้นเตียงล้มตัวลงนอน ร่างบางขยับเข้ามาในอ้อมกอดซบหน้าลงตรงตำแหน่งแถวๆ จั๊กแร้ มือหนึ่งวางตรงอกอีกข้างกอดเอวหนา ขาเล็กยกขึ้นเกี่ยวขาผมไว้ เด็กยกหัวขึ้นจูบตรงคาง กดปากนิ่มจูบลงที่อกผม
“หลับฝันดีฮะ รักภูมินะ”
“รักเหมือนกัน ฝันดีเด็กดื้อของภูมิ”
ผมกระซิบตอบเบาๆ กดจมูกปากไปที่ขมับและแก้มนิ่ม ยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้จนถึงคอแล้วจึง สอดมือเข้าไปในเสื้อนอนลูบไปมาเบาๆ ตามแผ่นหลังบางลื่นมือ คนในอ้อมกอดขยับหยุกหยิกจนเป็นที่พอใจไม่กี่นาทีต่อมาก็อ่อนยวบลงตามมาด้วยเสียงหายใจสม่ำเสมอ เด็กหนอเด็กง่วงจนงอมแล้วยังฝืนดื้อรอนอนพร้อมกัน แล้วจะไม่รักได้ไงแบบนี้ ผมยกยิ้มก้มลงไปหอมหัวทุยเล็กอีกครั้งก่อนที่จะหลับตาพักผ่อน วันดีๆ ที่ผมรักเด็กน้อยหมดไปอีกวันแล้ว...
TBC.ปล. 1) ยังเป็นอะไรที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ออกจะน่าเบื่อหรือเปล่า? แต่ในความเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ยอมรับว่ามันเขียนยากเอาการแก้แล้วแก้อีกหลายครั้ง รีไรท์จากของเดิมไปเกือบทั้งหมด บทสรุปได้มาแค่การดำเนินชีวิตหนึ่งวันของน้ำสิงห์ และพี่ชาย
2)
ขอบคุณมากมายสำหรับ BlueCherries, magarons, TaecKhun Imagine Love และ Ginny Jinny ที่ติดตามอย่างเหนียวแน่นพร้อมเม้นท์ดีๆ ที่เป็นกำลังใจเป็นแรงผลักดันให้เราอยากจะรีไรท์เรื่องให้ดีที่สุด้ท่าที่จะทำได้ให้ได้อ่านกัน
(แต่ก็ได้แค่นี้จริงๆ ) ขอบคุณอีกครั้งที่ยังติดตามกันอยู่