เด็กเลี้ยง_EP.38_[ตอนจบ] P.9_1542016 // จบแล้วย้ายได้นะค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กเลี้ยง_EP.38_[ตอนจบ] P.9_1542016 // จบแล้วย้ายได้นะค่ะ  (อ่าน 116800 ครั้ง)

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง





- 20 -

Zhen Side story  :  เผชิญหน้า [2]





      แสงแดดที่สว่างจ้าทำให้คานินจำใจปรือตาตื่นด้วยความมึนงง  ภาพเบื้องหน้าคือผนังกระจกบานใหญ่จากเพดานจรดพื้น กับสวนที่ร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิดพื้นหญ้าเขียวขจีตัดแต่งอย่างดี เป็นส่วนผสมของธรรมชาติภายนอกและการตกแต่งภายในได้เป็นอย่างกลมกลืน 

       “ที่ไหนกัน??” 

       คานินผุดลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วแต่มีอันต้องต้องยกมือขึ้นกุมศีรษะที่ปวดตุบๆ ของตัวเอง ผ้าห่มที่ร่นไปกองบนตักทำให้ร่างเปลือยเปล่าสัมผัสได้ถึงไอเย็นของเครื่องปรับอากาศ หัวคิ้วขมวดมุ่น ไอ้บ้านั่นมันทำแบบนี้กับเขาทำไม? แต่จะยังไงช่างแมร่งเถอะ มันไม่มีเหตุที่เขาจะต้องอยู่ที่นี่

       “แมร่งเอ๊ย!! กูทำบ้าอะไรลงไปวะนี่” 

       คานินขยี้หัวตัวเองพึมพำอย่างหัวเสีย เหวี่ยงเท้าลงจากเตียงพาร่างเปลือยเปล่าเดินสะโหลสะเหล่เข้าไปอาบน้ำจากคอกฟักบัวอย่างลวกๆ จะไม่ให้รีบได้ไงเขาเพิ่งสังเกตว่าแม้แต่ผนังห้องน้ำยังเป็นกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่ ไกลออกไปตรงมุมสวนฝั่งโน้นคนงานกำลังตัดแต่งต้นไม้อยู่ เขารีบสวมเสื้อคลุมอาบน้ำที่ค้นเจอจากตู้เคาน์เตอร์ในห้องน้ำ ลองเปิดประตูอีกบานที่อยู่ใกล้ๆ พบว่ามันเป็นห้องแต่งตัว จึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแบบบิ้วอินซึ่งยาวไปตามแนวผนังแต่ละตู้แยกประเภทเสื้อผ้าชัดเจน เสื้อผ้าแต่ละตัวไซด์ใหญ่กว่าตัวเขาหลายเบอร์ คานินเลยตัดสินใจหยิบเสื้อยืดคอวีสีเทาและกางเกงชั้นในที่ยังไม่ได้แกะกล่องอีกตัวออกมาสวม แม้จะเลือกที่เล็กสุดชายเสื้อก็ยังยาวมาจนถึงหน้าขา กำลังจะปิดประตูห้องเป็นอันให้ต้องตกใจกับชายหนุ่มคนหนึ่งผลักประตูอีกด้านเข้ามาโดยไม่ให้ซุ่มเสียง

      “ขอโทษครับ เสี่ยให้เตรียมอาหารไว้ให้คุณครับ”  ชายหนุ่มคนนั้นวางถาดอาหารลงบนโต๊ะหน้าโซฟา

      “สะ เสี่ย!?” ตกลงบ้านไอ้โรคจิตนั่น? แล้วจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไงโดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับไอ้เสี่ยนั่น 

      “เสี่ยออกไปทำงาน ถ้าคุณต้องการอะไรกรุณาบอกผมได้เลยนะครับ”  คานินพยักหน้ารับรู้ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะกำลังครุ่นคิดหาทางออกไปจากที่นี่โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับไอ้เสี่ยนั่นหรือคนของมัน

      “ผมอยากได้เสื้อผ้าของผมคืน”

      “ผมเอาไปซักเมื่อสักครู่นี้เอง อีกสักไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงจะเรียบร้อยครับ คุณรับประทานอาหารรอไปก่อนนะครับ” ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวเสียงเรียบ

      “ขอบใจมาก ผมอยากได้เสื้อผ้าให้เร็วที่สุด”

      “เดี๋ยวเรียบร้อยแล้วผมจะเอาขึ้นมาให้ครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับโค้งตัว และหันหลังเปิดประตูออกไป

      คานินเดินมานั่งลงบนโซฟาหนังสีขาว และลงมือทานอาหารเช้าที่ไม่เช้าแล้วอย่างหิวโหย เขาเพิ่งสำนึกได้ว่าตัวเองนั้นเพิ่งจะได้ทานอาหารเต็มที่ก็ตอนนี้เอง 

       สองสามวันมานี่เขาทำตัวแย่มาก ช่างโง่เขลาที่ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง ผมไม่ได้รักเซล่าแต่ที่อยู่ด้วยกันเพราะมันคือความรับผิดชอบและการรักษาคำมั่นสัญญา เซล่ารักผมมากเกินกว่าพี่ชาย เป็นผมเองที่ไม่อาจตอบรับสิ่งนั้นได้ ถึงจะทำกันผมก็ให้เธอได้แค่สถานะเดียวคือ “น้องสาว”  เซล่ายอมรับมันได้แต่ผมจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่นระหว่างที่อยู่ด้วยกัน นั่นคือข้อตกลงที่ผมให้เธอได้อย่างเต็มใจ

       วันหนึ่งเมื่อทุกอย่างเดินมาจนถึงจุดอิ่มตัว เซล่าขอฉีกสัญญาและข้อตกลงทั้งหมดทั้งมวลระหว่างเราทิ้งไป เธอบอกว่าเหนื่อยและอึดอัดที่จะทำแบบนี้แล้ว เซล่าตกลงคบหาดูใจกับชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง นั่นก็ดีแล้วถึงคนนั้นจะมีบ้านใหญ่บ้านเล็กหลายหลังแต่ก็ดูแลเซล่าอย่างดี เธอดูมีความสุขยิ้มได้เต็มหน้ามากกว่าอยู่กับผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมกังวลจนขาดสติและทำอะไรแบบนั้นก็เพราะรู้สึกเสียใจที่เพิกเฉยต่อบุญคุณที่แม่ของเซล่าชุบเลี้ยงมา ทั้งที่รับปากว่าจะทำแต่ผมก็ไม่เคยทำในสิ่งที่จะต้องทำเลยสักครั้ง 

      หลังจากท้องเริ่มอิ่มตาเรียวจึงเริ่มมองสำรวจรอบๆ ห้อง  มันเป็นห้องนอนหรูหราขนาดใหญ่สไตล์โมเดิร์นการตกแต่งเน้นสีขาว ดำ และเทา เตียงขนาดดับเบิ้ลคิงส์ไซด์สีขาวถูกจัดเก็บคลุมด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีดำเรียบร้อย พื้นห้องบริเวณที่ตั้งเตียงใหญ่และโซฟาที่คานินนั่งปูรองด้วยพรมผืนใหญ่สีเทาเข้มนุ่มเท้าตัดกับพื้นสีขาว  ติดผนังกระจกปลายเตียงตั้งโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่กำลังเสนอรายการบันเทิงอะไรสักอย่างที่คานินไม่ได้ใส่ใจ

       “ไอ้เสี่ยนั่นเป็นใครกัน ..??”






      คานินเพิ่งได้รับเสื้อผ้าของตัวเองเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา  หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย  เขาค่อยๆ เปิดประตูแล้วเดินออกมาจนถึงห้องโถงไม่มั่นใจว่าตนเองจะออกไปทางไหนจึงยืนคว้างอยู่อย่างนั้น  ตาเรียวสวยมองไปรอบๆ ห้องอย่างอดที่จะชื่นชมไม่ได้ ชุดรับแขกสีขาวชุดใหญ่ถูกจัดวางอย่างลงตัว ผนังโดยรอบเป็นกระจกบานใหญ่สูงจากเพดานจรดพื้นมองเห็นสวนร่มรื่นโดยรอบ  ถัดไปอีกด้านถูกจัดแต่งเป็นโซนห้องครัวและโต๊ะอาหารขนาดนั่งได้แปดคน

      “คุณจะไปไหนครับ” 

       เสียงเรียกที่สุภาพทำเอาคานินสะดุ้งชะงักมือที่กำลังเอื้อมเปิดประตูออกสู่ระเบียง ความรู้สึกเหมือนขโมยที่แอบขึ้นบ้านแล้วโดนเจ้าของบ้านจับได้ยังไงยังงั้น  เมื่อหันกลับไปพบว่าเป็นหนุ่มแว่นหน้าตาดี ผิวสีแทนร่างสูงโปร่งน่าจะสูงกว่าคานินนิดหน่อย เขาส่งยิ้มราบเรียบมาให้คานิน

      “ขอโทษที่ทำให้ตกใจครับ ผมแม็กซิมัส เรียกแม็กก็ได้ครับ เป็นเลขาของเสี่ยครับ”

      “อะ เออ..สวัสดีครับ ผมจะกลับบ้าน”

      “เสี่ยกำลังจะกลับเข้ามาแล้ว ท่านมีเรื่องสำคัญจะพูดกับคุณ ผมอยากให้คุณรอก่อนน่ะครับ”

      “คะ คงไม่หรอกครับ เห็นจะอยู่รอไม่ได้พอดีผมจะต้องไปทำธุระสำคัญ  เออ ผมฝากขอบคุณท่านของคุณด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับคุณเลขา”

      ยังไม่ทันที่คานินจะได้ก้าวเท้าออกจากบริเวณนั้น  รถคันหรูสามคันก็แล่นเข้ามาภายในบริเวณบ้านด้วยความเร็วขับลงไปตามทางลาดถนนหายเข้าไปใต้ถุนอาคาร ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำประตูที่ผมเล็งไว้ว่าน่าจะเป็นทางออก ถูกดึงกระชากให้เปิดออกด้วยมือของชายชาวจีนร่างสูงใหญ่กำยำน่าครั่นคร้าม ร่างสูงใหญ่อยู่ในสูทสีเทาเข้มเรียบกริบอย่างกับเพิ่งจะออกจากบ้านไป ทั้งที่ความเป็นจริงน่าออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า มือแกร่งดึงแว่นสีชาที่สวมอยู่ออกก่อนจะวางมันไว้ที่โต๊ะแถวนั้น  หน้าตาหล่อคมแค่เห็นก็รู้ว่ามีแรงดึงดูดทางเพศสูงเดินเข้ามาหยุดยืนประจันหน้ากัน  ตาดุหรี่ลงส่อแววคุกคามจ้องมองมาที่ผมราวกับเสือจ้องตะครุบเหยื่อ บรรยากาศรอบตัวบีบอัดจนเท้าขยับถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ใจเต้นผิดจังหวะชั่วเสี้ยวนาทีก่อนที่จะกลับมาเต้นในจังหวะปกติเหมือนเดิม ผมก้มหน้าต่ำลงหลบซ่อนสายตาที่เจือแววตระหนกของตัวเองให้พ้นจากคนตรงหน้า

      ‘เอาไงดีวะหนีไม่ทันแล้ว มันจะฆ่าผมไหมวะนั่น ตาแมร่งโคตรดุจะจ้องให้กูพรุ่นเลยหรือไง เอาวะหนีแมร่งมันดื้อๆ นี่แหละ’ เท้าก้าวออกไปอย่างรวดเร็วเท่าความคิด

      “หยุดนะ!!” เสียงตวาดดังลั่นทำให้คานินสะดุ้งหยุดชะงักค้างก้าวขาไม่ออกทันที

      “เดี๋ยวสิ จะไปโดยไม่ร่ำไม่ลากันเลยหรือไง”

      เสียงห้าวทรงพลังดังออกมาจากริมฝีปากหนาได้รูปนั่นอีกครั้ง มือใหญ่เอื้อมมาคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของคานินดึงกระชากค่อนข้างแรงก่อนที่จะได้วิ่งไปที่ประตูด้วยซ้ำ  คานินไม่ทันระวังตัวจึงเสียหลักหมุนคว้างหันกลับมาจนหน้าชนเข้ากับอกแกร่งของอีกคน กลิ่นหอมเย็นสะอาดผสมกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ที่อบอวลอยู่รอบร่างสูงทำให้คานินสูดเข้าปอดเต็มแรง มันไม่ได้ทำให้เขารังเกียจตรงกันข้ามใจของเขาเต้นแรงจนกลัวว่าอีกคนจะรับรู้ถึงมันได้  จึงพยายามขยับตัวออกให้ห่างจากร่างแกร่ง ก้มลงซ่อนหน้าที่ร้อนวูบวาบเพราะประหม่าของตัวเองกับอกแกร่ง
 
      “แม็กกลับบริษัทไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง”

       เซนสั่งเสียงเรียบกับเลขาและบอดี้การ์ดของตัวเองโดยที่ดวงตาเรียวดุยังคงก้มมองคนในอ้อมกอด แก้มและใบหูแดงระเรื่อทำให้คนตัวโตยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ

      “จะไปไหน” แม้ไม่มองหน้าคานินก็รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังมองเขาอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ  เพราะแรงบีบตรงแขนมันบอกเขาอย่างนั้น

      “ไปทำงานไม่กี่ชั่วโมงก็คิดถึงนายเกือบทุกนาที รีบสะสางงานทุกอย่าง เลื่อนนัดทุกนัดของบ่ายวันนี้  เพื่อกลับมาหานายนี่แค่จูบนิดเดียวเองนะ ฉันยังแทบบ้าเพราะความต้องการนายรู้ไหมหืม แบบนี้ฉันจะแย่เอานะเด็กน้อย” 

       คนหล่อหน้านิ่งตาดุเอ่ยเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนออดอ้อนทำเอาคานินขนลุกซู่ อึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก ถึงจะบอกว่าไม่รังเกียจแต่มันสมควรแล้วเหรอที่แมร่งจะมาแสดงอาการแทะโลมยังกับกูเป็นผู้หญิง คานินหันหน้าหนีไม่มองคนตรงหน้า พยายามบิดตัวให้พ้นจากการอ้อมกอดของคนตรงหน้า

       “ผะ ผมจะกลับแล้ว พอดีนึกได้ว่ามีธุระ  พูดตรงๆ ผมไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจว่าคุณต้องการอะไรจากผม และที่สำคัญมันไม่จำเป็นสักนิดที่ผมจะต้องบอก  แต่ถึงจะยังไงผมก็ขอบคุณ และลาคุณตรงนี้ก็แล้วกันนะครับ”  คานินกล่าวตัดบทเสียงเย็นชาพยามยามบิดแขนออกจากมือของคนตัวโตที่เปลี่ยนมาบีบแรงขึ้นจนเริ่มรู้สึกเจ็บ

      “อ้อเป็นข้ออ้างสินะ  ไม่รู้จักไม่อยากอยู่ ทั้งๆ ที่เราเข้ากันได้ดีในทุกด้าน ทุกประเด็นว่าไหม ร่างกายนายรู้จักฉันดีพอๆ กับที่ฉันรู้จักนายนั่นแหละคานิน รึไม่ใช่  ไม่เอาน่านะฮันนี่คุยกันก่อน”  คำพูดของคนตัวโตตอนท้ายทำให้อารมณ์ของคานินฉุนขาด 

       “กูไม่ใช่ผู้หญิง  อย่าเอาคำนั้นมาใช้กับกูๆ จำไม่เคยได้ว่ารู้จักมึง อยู่ๆ ก็ลากกูมาที่นี่ทั้งที่เพิ่งเจอกัน  มึงดูปากกูชัดๆ นะ ‘กู-ไม่-ใช่-เกย์’  กูสนองความอยากให้มึงไม่ได้หรอกยังอยากจะเอากับผู้หญิงอยู่ หรือถ้ามึงทนไม่ไหวจนระงับไม่อยู่พวกที่เขาขายๆ กันก็มีเยอะแยะ หน้าตาแบบมึงกูว่าคงจะหาที่ถูกใจได้ไม่ยากหรอก เข้าใจชัดไหม อย่าทำกับกูเหมือนที่มึงทำเมื่อคืนอีก”  เซนหน้าตึงแดงก่ำตามแรงอารมณ์ที่เริ่มขึ้นนิดๆ กับฝีปากจัดจ้านเถียงคำไม่ตกฟากของคนตรงหน้า

       “ก็ได้อย่างเป็นทางการฉันชื่อ  เซน  จิโอวาดินี่  หรือนายจะเอาชื่อพ่อชื่อแม่ โคตรตระกูล แล้วลงมือฆ่ากันเลยไหมล่ะ ถ้าไม่ก็เอาเป็นว่าเรารู้จักกันแล้วนะ..อีกอย่างฉันเป็นพี่นาย อายุมากกว่านาย ไม่ใช่เพื่อนเล่น ถ้าไม่เรียกพี่หรือเฮีย ก็อย่าใช้คำว่ากูมึง คำพูดคำจาก็เหมือนกันถ้าได้ยินคำพูดแบบนี้หลุดออกมาจากปากสวยๆ ของนายอีกครั้งจะตบให้เลือดกบปากจำเอาไว้ หัดทำตัวให้น่ารักเหมือนหน้าตาซะบ้าง.แล้วจะคุยกันได้หรือยัง”  เซนตอบกลับด้วยเสียงเข้มจริงจัง สายตาคมวาวบ่งบอกความไม่พอใจและจะทำอย่างที่พูดจริง คานินเริ่มกลัวยอมละพยศกล่าวขอโทษเสียงเบา

      “ขะ ขอโทษ  ผมไม่รู้จักคุณจริงๆ  ปล่อยผมไปเถอะครับ”

       “ไม่เอาน่าฮันนี่ นายก็รู้ดีแค่ยังไม่อยากจะยอมรับมันเท่านั้นเอง จะไม่มีเยื่อใยกันสักนิดเลยเหรอฮือ คำก็ไปสองคำก็ไป”  เมื่ออีกคนขอโทษเซนก็ยอมละความโกธร ปรับเสียงนุ่นนวลจนคานินรู้สึกขนลุกซู่อีกครั้ง

      “ผมชื่อ คานิน ถ้าจะให้ผมคุยก็เรียกผมว่า “คานิน” ได้โปรด เอาจริงๆ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเคยรู้จักคุณหรือเปล่า และที่สำคัญผมไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนความชอบของตัวเองไม่ว่าจะเดี๋ยวนี้หรือหรือวันหน้า คุณอย่าพยายามยัดเยียดตัวเองเขามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมจะดีกว่า ได้โปรด...”  ใช่เขาจะเปลี่ยนความชอบของตัวเองได้ไง เขาไม่มีใจจะรักใครได้อีกแล้วนอกจากผู้ชายคนนั้น คานินก็แค่ผู้ชายโง่เขลาที่หลงรักผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่มีวันกลับมาหาตัวเอง..โง่เขลาที่ยังรอทั้งที่ไม่มีหวัง...

       คานินโกรธตัวเองที่ไม่คิดว่าจะมีความรู้สึกกลับใครได้อีก แต่ผู้ชายตรงหน้านี่วิเศษมาจากไหนล่ะถึงทำให้เขารู้สึกได้มากขนาดนี้ ความโกรธนั้นเป็นแรงฮึดให้ร่างโปร่งพยายามบิดตัวให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมของเซน เหมือนสิ่งที่เขาพูดพร่ำไปไม่ได้กระทบโสตประสาทของไอ้เสี่ยนี่เลยด้วยซ้ำ เจ้าบ้านั่นกลับเลื่อนมืออีกข้างรั้งเอวของเขาแล้วดึงเข้ามาแนบร่างมัน คานินผงะด้วยความตกใจและหวาดหวั่น  เซนมองสำรวจร่างกายของคนในอ้อมกอดอย่างโลมเลียเต็มไปด้วยความต้องการที่เอ่อล้น 

    คานินไม่ได้รู้สึกว่าการมองของเซนหยาบคายในทางกลับกันร่างกายของเขามันร้อนวูบวาบอยากจะให้เซนสัมผัสทั่วทั้งร่างอย่างร้อนแรง  เขาอยากจะก่นด่าตัวเองด้วยความเจ็บใจปากบอกปฏิเสธเสียงแข็งแต่แค่ไอ้เสี่ยมันสัมผัสนิดหน่อยดันมีปฏิกิริยาตอบสนองทันทีจะไว้หน้ากันสักนิดก็ไม่ได้ และมันก็คงจะรู้สึกได้ถึงยิ้มเหี้ยๆ แบบนั้น

      “โธ่!! ทูนหัวฮันนี่ พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ สงสัยฉันคงต้องสอนนายใหม่หมดแล้วล่ะ ไปคุยกันในห้องดีกว่านะ..”  เซนพูดอ้อนๆ แต่เหมือนออกคำสั่งอยู่ในที

      “ไม่กะ..เออ ผมเป็นผู้ชาย ได้โปรดอย่าเรียกผมแบบนั้นอีก ขอให้เห็นแก่พระเจ้า”

      “ไม่เอาอย่าดื้อน่า เข้าไปคุยกันในห้องเถอะนะ” 

       “คุณจะเอายังไงกับผม ปัดโธ่โว้ยปล่อยซะทีสิ จะเอายังไงกับกูวะ!” เมื่อเห็นว่าการอ้อนวอนขอความเห็นใจไม่เป็นผลคานินตะโกนลั่นด้วยความคับแค้นใจปะปนกับความโกรธกรุ่นที่ไม่สามารถสู้คนนี้ได้  เซนรู้สึกสนุกและพอใจกับอาการของคนในอ้อมกอดมาก อาการขู่ฟ่อออกมาทั้งที่ใจกำลังหวั่นกลัว  มันทำให้คานินดูน่ารักน่าจับกดในสายตาของเซน ริมฝีปากที่เชิดขึ้นแต่แอบกัดริมฝีปากล่างของตัวเองโดยไม่รู้ตัวของคานินมันดูยั่วยวนน่ากัดยิ่งนัก

      “ฉันก็ผู้ชาย มีตรงไหนที่บอกว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายกันล่ะฮันนี่  ลองเล่นบทนี้ดูสักพักเถอะ ฉันรู้น่าว่านายชอบ”  คานินแทบจะปรี๊ดแตกกำลังจะโต้กลับด้วยวาจาเผ็ดร้อนเหมือนกันแต่ต้องร้องลั่นเมื่ออยู่ๆ  เซนก็ตวัดอุ้มเขาขึ้นแนบอกราวกับตัวเขาเป็นสิ่งของที่ไร้น้ำหนักแล้วเดินตัวปลิวตรงไปยังห้องนอนที่คานินเพิ่งจากมา

      “เฮ้ย!! ปล่อยนะจะทำบ้าอะไรวะ” คานินทั้งร้องทั้งดิ้นและทุบ เพื่อให้ตัวเองได้รับอิสรภาพ

      “โว้ย!! หยุดดิ้น  เดี๋ยวได้ตกหลังหัก”

       เซนตวาดกลับมาดังลั่นทำให้คนบนบ่าชะงักเพราะตกใจจึงหยุดดิ้นโดยอัตโนมัติ จนกระทั่งมาถึงหน้าประตูห้องนอนเซนจึงยอมปล่อยตัวคานินลง แต่ยังจับข้อมือไว้แน่น  ก่อนที่จะมีใครได้ทำหรือพูดอะไรร่างโปร่งยกข้อมือที่ยังจับไว้แน่นขึ้นมาก้มลงกัดมือแกร่งอย่างแรงจนได้รสเลือดในปาก ใครจะว่าเขาเอานิสัยผู้หญิงมาใช้ก็ช่างเขาไม่เกี่ยงวิธีการอยู่แล้วขอให้หลุดพ้นจากไอ้เสี่ยบ้านี่เป็นพอ  เซนไม่พูดแต่ใช้มือที่ยังว่างอีกข้างบีบจมูกคานินอย่างแรงจนเจ้าตัวเริ่มไม่มีอากาศหายใจจึงยอมปล่อยปากออก รอยฟันเด่นหราบนหลังมือแกร่งเลือดไหลซึมออกมาจากรอยกัด แต่เซนก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ  คานินจ้องสบตาคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละด้วยความโกรธ  ริมฝีปากบางมีเลือดของเซนเลอะอยู่เล็กน้อย

   “ไอ้สัส!! ปล่อยโว้ยกูจะกลับบ้าน  กูไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกับมึง”  คานินตะโกนโวยวายด่าทอ มือพยายามแกะบิดออกจากการเกาะกุมของเซน

   “เจ็บนะ!! เป็นหมาบ้ารึไง ถ้ายังปากดีไม่หยุดนายโดนหนักแน่” 

   เซนผลักประตูให้เปิดออกแล้วดึงร่างของคนที่ยังดิ้นรนเต็มที่เข้าห้อง  นรกนะสิใครจะยอมให้ทำอะไรกลางวันแสก คราวนี้คานินทั้งหมัดทั้งเท้าทุบถ่องเพื่อให้ตัวเองหลุดจากการกระทำนั้น

   “ไม่! ปล่อยกูโว้ย” 

    คานินตะโกนลั่นเลิกสนใจที่จะรักษามารยาทโดยสิ้นเชิง ก็ไอ้เสี่ยนี่มันวิตถารหรือไงกัน จะเอาท่าเดียว คุณมึงเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่ากูก็ผู้ชายนะโว้ย  แล้วดูห้องมันกระจกใสแจ๋วแบบนี้ สว่างโร่ขนาดนั้นมึงยังจะกล้า ถึงกูจะเอาไม่เลือกที่แต่กูก็ไม่กึ่งเอาท์ดอร์นะโว้ย และถึงจะโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะเป็นเกย์แมร่งเอ๊ย คานินดิ้นรนสุดแรงเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการฉุดกระชากของเซน ในหัวก็ตะโกนก้องแต่ไม่กล้าส่งเสียงออกมา ถ้าขืนหลุดสิคงโดนมันตบคว่ำแน่น

   “หยุดโว้ย! จะดีดดิ้นทำไม”  คนโดนทุบตีหนักเข้าชักหงุดหงิดเหมือนกัน

   “ไม่!!  ไปตายซะเถอะไอ้นรก ปล่อยกู สัสหูแตกหรือไง กูไม่ใช่เกย์  motherfucker  ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสะ....

   “ฉาด!!”   เซนมือฟาดลงบนแก้มของคานินอย่างแรงสองครั้ง มันเกิดรอยแดงปื้นบนแก้มขาวทันที ร่างโปร่งหยุดชะงักตะลึงค้างอยู่อย่างนั้น มุมปากเลือดซึมออกมาจนได้กลิ่นคาวอวลอยู่ในปาก

   “หุบปากซะ!  เรื่องนี้มันมีแค่กูกับมึงอย่าดึงพ่อแม่กูมาเกี่ยว ถ้ามึงไม่คุยก็ไม่ต้องคุย กูเหลืออดเหมือนกันคนอย่างมึงมันเกินเยียวยา” 

    เซนเสียงต่ำห้วนด้วยโทสะ มือแกร่งผลักร่างของคานินอย่างไม่ปราณีปราศรัยจนล้มลงไปบนเตียง ก่อนจะตามขึ้นไปคร่อมกดร่างโปร่งกดไว้จนไม่สามารถดิ้นหนีได้ถนัด  มือแกร่งถอดเสื้อผ้าของตัวเองอย่างใจเย็น  ตาคมวาวโรจน์จ้องมองคานินด้วยสายตาเย็นชา แรงโทสะเจืออยู่ในอารมณ์จนคานินรู้สึกได้

   เซนไม่อยากจะทำแบบนี้ แต่ถ้าไม่กำหลาบซะบ้างไอ้เด็กนี่ก็คงจะเหลิงเที่ยวปากดีไปทั่ว คงจะตายเพราะปากเข้าสักวัน  มือแกร่งดึงกระชากเสื้อยืดของอีกฝ่ายจนหลุดออกจากตัวทิ้งลงข้างเตียงโดยไม่ใส่ใจ กางเกงกำลังเลื่อนหลุดไปถึงหน้าขาเรียวสวย หลังจากตะลึงค้างอยู่นานคานินดันตัวขึ้นเงื้อกำหมัดเหวี่ยงใส่หน้าของเซนอย่างแรง เซนเบี่ยงหลบได้ทันแต่ก็ยังเฉี่ยวโดนมุมปากเสียงดัง   “ปึก”

   ทุกอย่างหยุดชะงักงันอีกครั้ง  ใบหน้าคมเข้มของเซนหันตามแรงเหวี่ยงของหมัด มุมปากแตกเลือดซึมไหลออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองคนใต้ร่างช้าๆ แววตาคมลุกวาบจนร่างโปร่งคิดว่าเซนจะชกคืน แต่ผิดคลาดเซนใช้นิ้วกลางปากเช็ดเลือดมุมปาก ลากนิ้วที่เปื้อนเลือดมาตามริมฝีปากล่าง ลิ้นหนาสากไล้เลียรอยเลือดจนหมด ก่อนดุนดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่ใส่ใจ ยกยิ้มเย็นก่อนจะดึงกระชากกางเกงของคานินที่เหลืออยู่จนหลุดออกจากเรียวขาสวย เลือดบ้ากำลังขึ้นหน้าเขา เห็นจะสั่งสอนคนใต้ร่างให้รู้สึกซะบ้างว่าตัวเองเป็นใคร มีฐานะอะไร

   “หึ หึ ขอต้อนรับสู่ความหฤหรรษ์...” 













TBC.

ปล. 

1. ครบถ้วนแล้วนะครับสำหรับบทที่ 20  ถ้าเจอข้อผิดพลาดประการใดแจ้งเขาด้วยนะครับ  ขอให้สนุกกับการอ่าน  ที่สำคัญคือ  ขอขอบคุณที่ติดตามอยู่เป็นกำลังใจเสมอมา

2. ขอบคุณพิเศษ @ TaecKhun Imagine Love  เค้าแก้ไขส่วนที่ผิดแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 00:54:55 โดย WiChy »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อื้อหือ โหดจริงๆ
งานนี้ได้เลือดแน่ๆ
ค้างได้ที่เลยนะเนี่ย
 :pig4:

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
บ้านเสี่ยเซนก็คงจะประมาณนี้นะครับ












credit : Contemporist.com

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คุณใช้เวลาและมันสมองกรั่นกรองออกมาจนมาเป็นนิยายเรื่องนี้
ที่ขอบคุณต้องเป็นเรามากกว่านะ ขอบคุณมากๆที่แต่งนิยายเด็กเลี้ยงมาให้อ่าน

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ลิ้นหนาสากไล้เลียรอยเลือกจนหมด
ดุนดันกระพุ่งแก้มอย่างไม่ใส่ใจ >>> กระพุ้งแก้ม

เฮียเซนกล่าวต้อนรับเข้าสู่ความหฤหรรษ์ แล้วทำไมเฮียมาปิดประตูใส่หน้ากันแบบนี้
เฮียรู้ไหมว่ามันค้างงงงงงงง :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เฮียเซนทำไมโหดกับกระต่ายน้อยจังง่า :mew2:

แล้วแบบนี้ใครเขาจะรักลงเล่า  :katai1:

เฮียมันค้างงงงงงง  :z3:

ขอบคุณคนเขียนเช่นกันค่ะ  :กอด1: ที่สละเวลามามาเขียนนิยายให้ได้อ่านกัน

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
สปอยเล็กๆ



      “เลิกเล่นตัวสักที กูไม่เคยต้องอดทนกับเรื่องอย่างนี้“

      “ก็ไม่ต้องอดทนไปเอากับคนที่เขาเต็มใจสิจะมายุ่งกับกูทำไม กูไม่ทำ มึงไม่มีสิทธิ์บังคับกู” 

      “มีหรือไม่ ร่างกายมึงจะตอบเองตอนอยู่ใต้ร่างกู” 

      “อย่านะไอ้สัส  อย่า!...”


ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
บอกเลยว่าตอนหนูคานินนี่ระทึกมาก เสี่ยจะไม่ยอมบอกจริงๆเหรอว่าเป็นใคร  ท่าทางน้องก็รออยู่นะนี่

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง






21


Zhen Side story (3)  :   ถั่งโถมโหมแรงไฟ








      “ไม่! ปล่อยกูไอ้เหี้ย สัสเอ๊ย  กูไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่ที่ระบายความอยากของมึง ไอ้...ฮื้อ...” 

      เสียงบริภาษถูกดูดกลืนหายไปพร้อมกับริมฝีปากร้อนที่บดขยี้ลงมาอย่างจาบจ้วง คานินดิ้นขัดขืนให้พ้นจากการกระทำของอีกฝ่าย ฝ่ามือหนาสากลูบไล้ไปทั่วร่างโปร่งนวลเนื้อไม่ได้นิ่มเหมือนผู้หญิงแต่ก็เนียนแน่นไปทั้งตัว แม้ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งแต่ก็ยังดูเร้าใจ โดยเฉพาะจุดเล็กๆ บนหน้าอกที่ลุกชันแข็งเป็นตุ่มไตสู้สายตาโลมเลียอย่างหื่นกระหายของเซนยิ่งปลุกอารมณ์ดิบให้กระพือโหม

      “ฮื้อ...”

      เพียะ!!

      คานินดิ้นพล่านขัดขืนป่ายปัดข้อมือเล็กที่สะบัดไปมาฟาดเข้าไปที่ซีกแก้มขวาของเซนอย่างแรง ทำเอาความอดทนของเซนแทบจะขาดผึง คนตัวโตใช้มืออีกข้างที่เหลือบิดใบหน้าคนใต้ร่างให้มองตรงมาที่เขา ก่อนจะซุกไซร้ซอกคอขาวจนเป็นรอยฟัน ปากร้อนกระซิบเสียงเรียบนิ่งริมใบหูบาง

      “เลิกเล่นตัวสักที กูไม่เคยต้องอดทนกับเรื่องอย่างนี้“

      “ก็ไม่ต้องอดทนไปเอากับคนที่เขาเต็มใจสิจะมายุ่งกับกูทำไม กูไม่ทำ มึงไม่มีสิทธิ์บังคับกู” 

       คนใต้ร่างตอกกลับเสียงลั่นทำให้ความอดทนของเซนขาดผึง เขาไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่ง แต่ที่ไม่ชอบมากที่สุดคือ ความดื้อดึงและคำพูดที่ไม่รู้จักเด็กหรือผู้ใหญ่ของเจ้าเด็กนี่  ช่างกล้าพูดออกมาได้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์  มันคงจะยังไม่รู้ว่ามันเป็นของๆ เขา และเขาก็มีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะทำกับมันยังไงก็ได้

      “มีหรือไม่ ร่างกายมึงจะตอบเองตอนอยู่ใต้ร่างกู”  เซนเชยคางมนขึ้นมาพร้อมกับไล้ปลายจมูกลงไปตามนวลแก้ม คานินพยายามเบือนหน้าหนี  เซนหัวเราะในลำคออย่างคนถือไพ่เหนือกว่าก่อนจะยืดตัวขึ้นไล้ข้อมือไปตามกรอบหน้าหล่อน่ารักของคานิน

      “อย่านะไอ้สัส  อย่า!...”

      คานินพูดยังไม่จบประโยคก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นว่าเซนโยนกางเกงทิ้งไปแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้แล้วหน้ามึงจะร้อนทำซากทำไมวะไอ้คานินแมร่งเอ๊ย!! ไม่ใช่เพราะเห็นผู้ชายด้วยกันโชว์ของลับแล้วทำเป็นกระแดะอายหรอกนะ  แต่คือ.กูเป็นผู้ชายมีอยู่รูเดียวที่มันจะใส่เข้ามาได้ แล้วมันก็ไม่ใช่เพื่อการนั้น สายตาเหลือกลานของคานินหยุดนิ่งอยู่ที่ท่อนลำเก้านิ้วของเซนก่อนจะกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคอด้วยความยากลำบาก  ถ้าไอ้เสี่ยนี่มันทะลวงเข้ามากูไม่อยากจะคิด...!!!

      “ยะ อย่า กะ กู...” หัวใจเต้นแรงมองทุกการกระทำของเซนด้วยความกลัว ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มก่อนจะเคลื่อนตัวลงมาทาบทับร่างโปร่ง คานินดิ้นรนสุดตัวเพื่อควานหาอิสรภาพโดยลืมคิดไปว่ายิ่งดิ้นลำตัวก็ยิ่งแนบชิดกัน แล้วมันก็ยิ่งกระตุ้นให้ท่อนลำนั่นพองตัวเต็มที่ เซนกัดกรามแน่นหลุดครางออกมาแผ่วเบาจากความเสียวซ่าน

      “แมร่งเอ๊ย!! ซี้ดดด ถ้ายังไม่หยุดดิ้น กูไม่รับรองว่ามึงจะไม่เจ็บอา.....”

      เซนลดสายตาโลมเลียสำรวจร่างของคานิน  แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาตื่นตระหนกของร่างโปร่ง เขาลดตัวลงปิดปากที่อ้าขึ้นเพื่อจะบริภาษของคานิน  ร่างโปร่งสะบัดหน้าหนีทำให้เซนต้องบังคับและกัดเม้มอ้อยอิ่งอยู่กับริมฝีปากล่างเบาๆ ในตอนแรก แต่เมื่ออีกคนเริ่มดิ้นแรงขึ้นทำให้เซนขบฟันลงค่อนข้างแรงจนอีกฝ่ายร้องด้วยความเจ็บ กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายในปากเซนยอมผละปากออก

      “โอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย! มึงจะกัดทำไม ปล่อยกู!!”  คานินดิ้นแรงกว่าเดิมให้หลุดพ้นจากร่างกำยำที่กดทับตัวเองอยู่

      “หยุด! ถ้ามึงยังปากดีแล้วยังไม่หยุดดิ้นอีก กูจะกัดแรงกว่านี้” 

      เซนกัดฟันพูดเสียงเข้ม มือแกร่งบีบหน้าคานินไว้แน่นจนกรามแทบแตก ตาที่มองสบกันบอกให้รู้ว่าเซนทำจริง  คานินพยายามเบือนหน้าหนีมือแกร่งเพิ่มแรงบีบก่อนจะก้มลงบดขยี้จูบร้อนแรง และยอมผละปากออกเมื่อคนใต้ร่างกำลังจะหมดอากาศหายใจ ลิ้นร้อนสากไล้เลียซอนไซ้ไปที่ใบหูของอีกฝ่ายจนขนลุกซู่ มือแกร่งลูบไล้ไปทั่วร่างของคานิน ปากร้อนไล้เลียลงมาที่ซอกคอขาวขบกัดสร้างร่องรอยฟันที่แดงซ้ำ ลิ้นสากไล้เลียรอยกัดที่ตนเองทำเอาไว้คานินรู้สึกทั้งแสบและเสียว  เซนโลมเลียตั้งแต่หัวจรดเท้าละลายทุกการต่อต้าน  รสชาดที่หอมหวานและกลิ่นกายอันพิสุทธิ์ทำให้เขาแทบคลั่งราวกับโดนวางยา

       คราวใดที่คานินอ้าปากจะประท้วงริมฝีปากหนาก็บดขยี้ลงมา เซนทั้งดูดดึงส่งลิ้นร้อนเข้าไปหยอกล้อ รุกล้ำพัวพันอย่างถือสิทธิ์ ร่างโปร่งไม่สามารถทำอะไรได้ สุดท้ายก็ต้องยอมให้อีกคนบดเบียดริมฝีปากประกบจูบอย่างร้อนแรง ลิ้นเล็กถูกดูดดึงจนรู้สึกเจ็บ ฟันซี่คมขบกัดริมฝีปากของคานินอย่างหื่นกระหาย  และทุกครั้งก็ทำให้คานินร้องครางออกมาด้วยความเจ็บแต่ก็รู้สึกเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นถี่รัวขึ้นและรู้สึกดีทุกครั้งกับบทรักร้อนแรงแปลกใหม่ เฝ้ารออย่างคาดหวังด้วยใจระทึกเพราะไม่รู้ว่าเซนจะทำยังไงกับร่างกายของเขาต่อไป

      “ร่างกายของนายมันน่าทำให้เกิดรอยที่สุดเลยรู้ไหม ทุกๆ ที่มันเป็นของฉัน

      “อ..อ่ะ.. อย่า...ไม่เอา! อ๊าาา” 

      เสียงประท้วงจากปากบวมซ้ำของคานินกลายเป็นเสียงครางแสนหวานเร้าอารมณ์เมื่อเซนเล้าโลมไล่กัดตั้งแต่ไหล่เนียนสลับกับการจูบดูดเม้นลงไปจนถึงท่อนลำที่ใหญ่เกินตัวของคานิน เซนไม่แปลกใจเท่าไรที่ผู้หญิงหลายคนจะติดใจกระต่ายดื้อด้านนี่ ถึงมันจะทิ้งผู้หญิงเหล่านั้นมาอยู่กับเซล่าคนเดียวก็ยังมีแวะเวียนมาหาตลอด พอเลิกกับเซล่าเขาคิดว่าเจ้าเด็กนี่จะทิ้งนิสัยเดิมไปแล้ว แต่ไม่ใช่มันกลับเข้าสู่วังวนชีวิตแบบเดิมสนองให้ผู้หญิงทุกคนที่ร้องขอตลอดสองสามวันที่ผ่านมา แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้ยังไง 

      เซนเลื่อนมือไปกอบกุมท่อนลำของคานินนิ้วมือสะกิดป่ายปัดส่วนปลายบานไปมาเหมือนไม่ตั้งใจทำเอาร่างโปร่งดิ้นพล่าน ยิ่งเซนขยับมือรูดรั้งรัวเร็วเคล้าคลึงมากเท่าไรคานินยิ่งเกลียดตัวเองมากเท่านั้นเกลียดที่รู้สึก...รู้สึกดีไปกับรสสัมผัสที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้

      “รู้สึกดีสินะ...เดี๋ยวจะได้รู้สึกดีกว่านี้อีก”  เซนยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจกับร่างกายที่ตอบสนองอย่างซื่อสัตย์ของกระต่ายดื้อด้าน

      “ย...อย่าไม่..ได้โปรดอย่าทำกับผมอย่างนี้”  คานินพยายามอ้อนวอน แน่นอนว่าด้วยสภาพนี้ เซนไม่รู้สึกสงสารเลยสักนิด ก็บอกแล้วร่างกายเจ้านี่มันน่าทำให้เกิดรอยจะได้หลาบจำ

      “ทำไมกันล่ะ นายเป็นถึงขนาดนี้...ฉันจะช่วยเต็มที่ก็แล้วกัน”

      “อย่า...ไม่ ไม่”

      เซนไม่ฟังคำอ้อนวอนร้องขอใดๆ อีก ลำแขนแกร่งทั้งสองข้างกดสะโพกคานินไว้แน่น ดวงตาคมวาววับหื่นกระหายมองท่อนลำสีชมพูอ่อนที่ขึ้นลำสวยปลายยอดมีน้ำใสปริ่มเรียกร้องให้เขาดื่มกิน เซนไม่รอช้าที่จะครอบริมฝีปากหนาลงจนมิด ดูดและรูดปากขึ้นลงตามความยาวจนเกิดเสียงดังกระตุ้นอารมณ์อยากฉุดรั้งแรงปรารถนาที่เริ่มไต่ระดับขึ้นสูงเรื่อยๆ




       คานินกัดริมฝีปากล่างของตัวเองใจเต้นระรัวเสียวซ่านดั่งกระแสไฟเล็กๆ วิ่งพล่านไปทั่วร่าง  สายตาหวานฉ่ำเยิ้มด้วยไฟอารมณ์ เมื่อไม่สามารถปฏิเสธได้เขาก็จะสนุกกับมัน ปล่อยใจและกายไปตามสายธารแห่งความหฤหรรษ์

       คานินสอดมือเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มกดหัวของเซนจนหน้าแนบกับหัวเหน่าที่มีกลุ่มขนอ่อนบางเบาของตัวเอง สะโพกยกสวนรับจังหวะการดูดดึงเพื่อให้เซนได้ดื่มกินตัวตนของตัวเองได้ลึกและมากยิ่งขึ้น 

      “หึ หึ”

      “แรงอีกสิครับ อะ อ๊ะ ฮื้อออ...แรงอีก..ไม่ไหวแล้ว..”


      เสียงครางหวานที่ผ่านริมฝีปากบวมเจ่อ ทำให้เซนยกยิ้มน้อยๆ เมื่อรู้ว่าคานินกำลังจะถึงขีดสุดของแรงอารมณ์ ริมฝีปากหนาเร่งดุนดันดูดรูดขึ้นลงรัวเร็วยิ่งขึ้น ฟันของเซนที่จงใจให้มันครูดถูกท่อนลำเบาๆ เป็นบางครั้ง เพิ่มความเสียวซ่านให้คานินสุดบรรยาย จนถึงขีดสุดมือของคานินกดหัวเซนแน่นกระแทกจนท่อนลำให้ลึกที่สุดก่อนจะเกร็งกระตุกและปลดปล่อยน้ำหวานขาวข้นเข้าเต็มปากเซน คนตัวโตกลืนกินจนหมดอย่างไม่รังเกียจ

      คานินยังขยับกระแทกท่อนลำใส่ปากของเซนเนิบนาบสองสามครั้งแล้วเกร็งค้างร่างกายสั่นระริกเมื่อเซนดูดส่วนปลายอย่างแรงจนแก้มตอบ คนตัวโตดูดกลืนน้ำรักจนหยาดหยดสุดท้ายก่อนจะยอมปล่อยปากออก ร่างโปร่งทิ้งร่างสั่นระริกซ่านความสุขสมลงนอนราบกับเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน เมื่อจังหวะหายใจเริ่มปกติทั้งหน้าตาเนื้อตัวเห่อร้อนสำนึกได้ถึงปฏิกิริยาของตัวเองที่หลุดการควบคุม  เขาหันหน้าหนีด้วยความละอาย  แต่ถึงกระนั้นก็อดที่จะประหลาดใจกับความรู้สึกดีที่ตัวเองได้รับจากการปรนเปรอของไอ้เสี่ยนี่ไม่ได้ ร่างกายของเขาถึงขนาดยอมผ่อนปรน ร้องขอและตอบสนองทุกสัมผัสของมันด้วยความเต็มใจหมดกัน...

      สะโพกยังถูกตรึงแน่นด้วยแขนแกร่งของเซน แม้จะปลดปล่อยจนแทบจะทุกหยาดหยดแล้ว แต่ปากหนาก็ยังครอบลงดูดดึงที่ปลายยอดท่อนลำแรงๆ ไล้เลียทำความสะอาด และลากลิ้นสากร้อนมาจนถึงช่องทางรักสีหวานจีบสีชมพูระเรื่อปิดแน่น เซนไม่รอช้าลงลิ้นไล้เลียแหย่เข้าไปในช่องทางรักนั้น  มันขมิบเม้มตอดรัดเหมือนเชิญชวนให้เขาเข้าไปสำรวจหาความหอมหวานทุกซอกมุม

      “อะ อ๊ะ  ยะ อย่า  มะ ไม่เอา พะ พอเถอะ ฮื้อ มันสกปรก” คานินร้องครางด้วยความซ่านเสียวปนเปไปกับความตกใจเมื่อยกหัวขึ้นมาดูเห็นไอ้เสี่ยกำลังปรนเปรอช่องทางด้านหลังของเขาด้วยลิ้นร้อน

      คานินยกมือที่อ่อนแรงของตัวเองผลักดันหัวของเชนออกจากตรงนั้น แต่เหมือนแกล้งไอ้เสี่ยมันกดสะโพกเขาไว้แน่นกว่าเดิม ดูดดึงเลียสลับกับการแหย่ลิ้นเข้าไปในช่องทางรักอยู่หลายครั้งจนเขาหลุดเสียงครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน  การถูกเล้าโลมช่องทางด้านหลังอย่างหนักหน่วงมันเป็นเช่นนี้เองสินะ มิน่าผู้หญิงพวกนั้นถึงเรียกร้องนักหนาอยากจะให้เขาทำให้  แค่คิดท่อนลำของคานินที่สิ้นแรงไปแล้วเริ่มแข็งขืนลุกชันอีกครั้ง 

      เซนยืดตัวขึ้นใช้มือแหวกรอยแยกบั้นท้ายของคานินออกนิ้วเรียวยาวกดวนปากทางรักย้ำๆ พร้อมชำแรกนิ้วเข้าไปสองนิ้วโดยไม่มีสิ่งล่อลื่นมันทั้งฝืดและคับแน่น เซนไม่รอให้คานินได้ตั้งตัวเขากระแทกเข้าไปอย่างแรงจนสุดโคนนิ้ว  ร่างบางผวาเฮือกมันทั้งเจ็บแสบและอึดอัด

      “โอ๊ยยย!!..อื๊ออ..อ๊าาา..อ๊ะ” 

       คานินครางดังลั่น รู้สึกเย็นเยียบไปทั้งร่างทั้งๆ ที่เหงื่อผุดพรายท่วมตัว หัวใจเต้นรัวแรง ตกใจกับปฏิกิริยาของตัวเองเขารู้สึกมากๆ กว่าปกติ ทั้งที่แสบร้อนช่องทางรักแต่ก็เสียวท้องน้อยสุดๆ จนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาปรารถนาให้ท่อนลำของเซนเข้ามาในตัวเขามากกว่าจะเป็นนิ้วมือนั่น

       ร่างโปร่งชะงักงันกับความคิดของตัวเอง แต่ช่องทางร้อนของเขามันไม่อย่างนั้นกลับขมิบรัดรัวเร็วกว่าเดิมจนรู้สึกได้เมื่อเซนเริ่มขยับนิ้วกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง  และคิดว่าเซนก็คงจะรับรู้ถึงแรงตอดรัดดูดดึงได้เป็นอย่างดีเหมือนกันเพราะคนตัวโตขยับนิ้วเข้าออกรัวเร็วแรงกว่าเดิม จนมันเริ่มคล่องเมื่อช่องทางรักหลั่งสารหล่อลื่นออกมา

      “ชอบแบบนี้เหรอที่รัก”  เซนถามเสียงพร่าเขาเองก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วกับท่าทางยั่วยวนผ่อนปรนของแม่กระต่ายดื้อด้านนี่ แต่ยังก่อน...

      “.......” 

       คานินตอบคำถามด้วยหัวใจที่เต้นถี่แรงร่างกายสั่นระริกซ่านเสียว ช่องทางด้านหลังตอดรัดดูดดึงนิ้วแกร่งอย่างบ้าคลั่ง  ตาคมวิบวับเฝ้ามองเสี้ยวหน้าที่บิดเบี้ยวร้องครางของคานินอย่างพอใจและเอ็นดู ร่างโปร่งกระตุกทุกครั้งเมื่อเซนกระแทกนิ้วโดนจุดไวสัมผัสในช่องทางนั่นย้ำซ้ำๆ พอรู้สึกว่าร่างโปร่งกำลังจะแตะขอบความสุขสมเซนก็จะฉุดรั้งมันไว้อยู่อย่างนั้นหลายครั้ง เสียงครางอื้ออึงขัดใจอย่างน่าสงสารเอวบางบิดทรมานแทบขาดใจกับสัมผัสนั่น

      “อื้อ..หยุดเถอะ ฮึก..อ๊าส์..ไม่ไหว ไม่เอาแล้ว!!”

      “ขอร้องงั้นเหรอ!?”  เซนกระหยิ่มยิ้มย่อง ก็บอกแล้วร่างกายนายมันซื่อสัตย์ เอาสิรู้สึกให้มากกว่านี้อีก ร้องขอสิ่งที่นายต้องการออกมา

      “ฮึก อ๊ะ..อ๊าาา...พอแล้ว ไม่เอาแล้ว...ยะ ยอมแล้ว” เสียงครางคล้ายละเมอตาเรียวหวานฉ่ำเยิ้มมีน้ำใสคลอตรงหางตา ใบหน้าน่ารักสะบัดไปมาไม่ได้ทำให้เซนหยุดการกระทำจ้วงจาบของตัวเอง นิ้วเรียวแกร่งสะกิดจุดไวสัมผัสเบาๆ คล้ายหยอกล้อกระนั้นร่างโปร่งก็ยังหวีดร้องอย่างกระสันเสียว  เซนก้มลงใช้ลิ้นเลียเบาๆ ที่จีบพับของช่องทางรักขณะที่นิ้วก็ยังขยับเสียดสีเข้าออกไม่หยุด ยิ่งเห็นสะโพกมนร่อนไหวเขายิ่งได้ใจ ความสนุกมันเพิ่งจะเริ่ม...

      “ขอร้องมาสิ อยากได้มันรึเปล่า? หืม?”  คำถามทำเอาคานินเม้มปากแน่น ตาเรียวหวานหลับลงหลบซ่อนความต้องการของตัวเองหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างจนด้วยคำตอบ

      “...”

      “เข้าใจตรงกันนะว่าฉันมีหรือไม่มีสิทธิ์  ที่นี้อยากให้ฉันเข้าไปในตัวนายหรือเปล่า ถ้าไม่ตอบก็ค้างมันอยู่อย่างนี้ แล้วอย่าหวังว่าจะเสร็จด้วยนิ้ว..ว่าไงหืม!?"


       ....................


      “ดะ ได้โปรด...อย่าใจร้ายกับผม”

      “หือ?..ได้โปรดอะไร?...”

      “คุณก็รู้ว่าหมายความว่ายังไง อ๊ะ ฮื้อ....”  เซนแกล้งกระแทกนิ้วให้โดนจุดไวสัมผัส แล้วก็แช่ค้างไว้อย่างนั้นไม่ทำต่อ  คานินพยายามจะยื่นมือที่สั่นระริกด้วยความต้องการไปกอบกุมท่อนลำที่แข็งขืนของตัวเอง แต่ถูกมือแกร่งของเซนอีกข้างรวบกดไว้เหนือหัวแทน

      “ฉันไม่รู้หรอกนะ ถ้านายไม่พูดออกมาตรงๆ”   

      “ฮึก...ทำไมต้องเป็นผม


      “นายเป็นของฉัน ว่าไงอยากได้มันรึเปล่า


      “......................”


      “จะอยู่อย่างนี้?... ก็ได้นะ..”

       “คะ คุณ...อึก เข้ามาในตัวผม ได้โปรด...


      “หึ..พูดได้ดี งั้นฉันก็ไม่เกรงใจ

      เซนถอนนิ้วออก ก้มลงกระซิบเสียงทุ่มต่ำแหบพร่าขบเม้มติ่งหูเบาๆ อ้อยอิ่งไล้เลียลิ้นร้อนมาจนถึงริมฝีปากบาง ก่อนที่จะสอดลิ้นร้อนเข้าเกี่ยวกระหวัดดูดดึงกับลิ้นของคานินจากจูบอ่อนหวานกลายเป็นร้อนแรงต่างคนต่างไม่ยอมกัน  คนตัวโตผละปากออกเพื่อให้กระต่ายดื้อด้านได้มีโอกาสสูดหายใจ ปากร้อนขบเม้มริมฝีปากล่างจนถึงใต้คางของคานินค่อนข้างแรง ปากหนายังขบกัดและดูดเม้นที่ลาดไหล่ของร่างโปร่งจนเกิดรอยฟันซ้ำๆ ทั่วบริเวณ  มือแกร่งยกขึ้นบีบขยี้เม็ดทับทิมของคานินอย่างแรงจนเจ้าตัวร้องครางด้วยความเจ็บแสบ แต่ก็แอ่นอกรับแรงบีบขยี้อย่างเต็มใจมันคงเจ็บแสบและเสียดเสียวจนปากบางบวมเจ่อครางไม่หยุด

      ชายหนุ่มผละจากลาดไหล่ ไล้เลียดูดดึงจนมาถึงเม็ดทับทิมที่ตอนนี้ตั้งชันสู้ริมฝีปากหนา เซนก้มลงดูดดึงฟันซี่คมขบกัดค่อนข้างแรงสลับการไล้เลีย  มันทั้งเจ็บแสบทั้งเสียวแต่ถึงใจ คานินแอ่นอกให้เซนกัดและดูดดึงแรงๆ ตามใจปรารถนา  สะโพกหนาโยกบดเบียดตามแรงอารมณ์จนรู้สึกได้ว่ามันแข็งขืนและเริ่มมีน้ำใสปริ่มปลายยอด เซนยืดตัวขึ้นชะโงกตัวไปที่ลิ้นชักข้างหัวเตียงหยิบหลอดเจลออกมาบีบชโลมไปที่ท่อนลำที่ขยายตัวเต็มที่ของตนเองและช่องทางรักของคานิน

      “เอาถุงยางรึเปล่า” 

      “ไม่”   คานินตอบหนักแน่นทันควันโดยไม่คิด ขนาดนี้แล้วมึงยังจะมีอารมณ์ขัน ถามเพื่อ..?

      “หึ หึ ตามนั้นครับฮันนี่”  เซนจับตัวคานินคว่ำหน้าลงกับที่นอน จับขาทั้งสองข้างให้ตั้งเข่าขึ้น สะโพกมนลอยเด่นช่วงบนแนบไปกับเตียงนอน

      เพียะ!!!

      “อ๊ะ!!”  คานินผวาเฮือกร้องลั่น เมื่อถูกเซนฟาดฝ่ามือลงที่บั้นท้ายขาวเนียนอย่างแรงจนขึ้นรอยฝ่ามือ เซนบีบเค้นบั้นท้ายของคานินเต็มมือพร้อมทั้งฟาดมือลงไปอย่างแรงอีกครั้ง ทั้งๆ ที่รู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ดแต่คานินกับชอบที่จะให้เซนทำอย่างนั้นกับร่างกายของตน  เซนทาบทับร่างโปร่งซุกไซร้ซอกคอขาวขบกัดอย่างรุนแรงจนขึ้นรอยแล้วก็ไล้เลียรอยกัดนั้น กลิ่นคาวเลือดซ่านอยู่ในปากหนา

      เสียงครางต่ำในลำคอของเซนเหมือนพึงพอใจอะไรสักอย่างที่คานินไม่อยากคิดตาม เซนจับท่อนลำใหญ่โตของตัวเองตีลงบนบั้นท้ายมนอยู่สักพัก ก่อนจะจับถูไถปากทางรักไปมา คานินรับรู้ถึงความต้องการที่พุ่งสูงของตัวเองจึงแสดงอาการฮึดฮัดขัดใจที่เซนไม่ยอมสอดใส่เข้ามาสักที

      “ใส่เข้ามาสักทีสิ ทำแบบนี้มันอึดอัด”  เซนยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะกดส่วนหัวเข้าไปช่องทางรักที่ขมิบระรัวเรียกร้องเชิญชวนของคานินแล้วดันพรวดทีเดียวมิดด้านโดยไม่บอกกล่าว

      “ปึก!! เจ็บ...”  คานินร้องลั่นสะดุ้งเฮือกทั้งที่เตรียมใจไว้แล้วมันทั้งเจ็บแสบ จุกและคับแน่นช่องทางด้านหลัง ที่สำคัญมันคงจะฉีกขาดแน่ๆ  เหงื่อกาฬไหลซึมตามไรผม คานินกัดผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อบรรเทาความเจ็บ มือเล็กกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ น้ำตาใสไหลซึมเปียกผ้าปูที่นอนเป็นดวงๆ เซนปวดหน่วงลมหายใจติดขัด เหงื่อไหลซึมลงมาจนโทรมกาย เปียกชุ่มหยดลงบนตัวคนใต้ร่าง นี่ยังไม่ได้ขยับยังตอดรัดจนเสียวซ่านแทบจะยั้งอารมณ์ไม่อยู่
 
      “ไหวไหม? อย่าเกร็งนะฮันนี่”  เซนก้มลงถาม กัดกรามแน่นข่มความเสียวซ่านที่ได้รับ ปากร้อนนาบจูบบางเบาลงที่ลาดไหล่ ก่อนจะยืดตัวขึ้นมือกอบกุมสะโพกมนแน่น ขยับสะโพกตัวเองเข้าออกอย่างแรงโดยไม่คิดจะออมแรงอีก  คานินรู้ว่าไม่ใช่เพราะความเจ็บอย่างเดียวที่เขาได้รับ มันปะปนไปด้วยความสุขสมและความพึงพอใจที่ไม่เคยได้รับจากเซ็กซ์ครั้งไหนๆ ที่เขาเคยทำกับผู้หญิงพวกนั้น

      เพียะ!!

      ตั๊บ ตั๊บ ตั๊บ....

      เสียงเนื้อกระทบกันทั้งที่เกิดจากแรงกระแทกและฝ่ามือของเซนที่ฟาดลงสะโพกขาวอย่างแรง ร่างกายของคานินโยกคลอนตามแรงกระแทกถี่ยิบ เสียงครางของทั้งสองดังระงมลั่นห้อง คานินรู้สึกเสียววูบวาบเหมือนกระแสไฟอ่อนวิ่งพล่านจากท้องน้อยจรดปลายท่อนลำของตัวเองทั้งๆ ที่ไม่ได้แตะต้อง เจ็บเสียวช่องทางด้านหลัง แต่ก็ร่อนสะโพกรับทุกแรกกระแทกหนักหน่วง มันเบียดเสียดเสียวปลาบแล่นไปทั่วทุกอณูร่างกาย ความรู้สึกดีอัดแน่นทรมานอยู่เต็มอกราวกับลูกโปร่งอัดอากาศรอเวลาแตกกระจาย   

      “อ๊ะ...โอ๊ววว..อา”

      “โอ๊วว ซี๊ดดด. Fuck!! Fuck!!...รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ?  ชอบไหม?  อ้าซี๊ด..ชอบสินะตอดรัดฉันซะขนาดนี้”


      คำถามเหมือนดูถูก คานินจะปฏิเสธก็ทำได้ไม่เต็มปากเต็มคำอีกแล้ว ได้แต่กัดริมฝีปากบางแน่นไม่ยอมให้เสียงครางสุขสมของตัวเองหลุดรอดออกมา เซนยกยิ้มพอใจกับความเงียบของอีกฝ่ายมือแกร่งดึงร่างโปร่งขึ้นมากอดกระชับจนแผ่นหลังบางหลังแนบตลอดลำตัว ปากร้อนนาบจูบซุกไซร้ซอกคอหอมและลาดไหล่ที่เต็มไปด้วยรอยฟัน เซนตอบรับจูบของคานินที่หันกลับมาประกบจูบอย่างร้อนแรง เร่งเร้าให้ส่วนที่เชื่อมต่อกันร้อนขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งช่องทางรักรัดแน่นเท่าไร เซนยิ่งเสือกกายเข้าหาแรงเท่านั้น

      “โอ๊วว Fuck!!  Fuck!! ซี๊ดดด ฮืมมม นายมันสุดยอดจริงๆ...เรียกเซนสิเร็วๆ ”

      “ชะ เซน  เซนโอ๊วว...อ๊ะ อ๊า..”


      คานินครางเรียกด้วยเสียงกระเส่าและนั่นก็เหมือนการเติมเชื้อไฟแห่งความพิศวาสให้โหมกระพือขึ้นไปอีก ก่อนถึงขีดสุดของอารมณ์คานินร้องขอสิ่งที่ต้องการอย่างหลงลืมตัวตนและไร้สิ้นความละอาย

      “เซน.. เข้ามาลึกๆ แรงอีกจะไปแล้ว  อ๊า อ๊า ซี๊ดดดด อ้า....”

      “โอ๊วว! ฮืมมม..Fuck!!  ซี๊ดดดด...”

      เพียะ!!  ตั๊บ  ตั๊บ

       “อ๊าาา...เซนแรงๆ ใกล้แล้ว แรงอีก  โอ๊วววว...”

      เสียงครวญครางกระเส่าแหบพร่าของคานินที่ร้องขอยิ่งทำให้เซนเร่งเร้าจังหวะโยกไหวกระแทกจุดไวสัมผัสหนักหน่วงรุนแรงขึ้น  มือเรียวบางกำผ้าปูที่นอนแน่นเซนเอื้อมมือหนาสากของตัวเองสอดกุมมือคานินไว้แน่น...

             เซนรับรู้เมียเขากำลังจะถึงจุดสูงสุดของอารมณ์จึงกระแทกเน้นๆ ให้โดนจุดไวสัมผัสอย่างแรงส่งท้ายมันทำให้คานินเกร็งกระตุกหน้าท้องร่างกายสั่นระริกด้วยความสุขสม น้ำรักขาวขุ่นทะลักเปื้อนผ้าปูที่นอน คานินหายใจหอบเหนื่อยใบหน้าฟุบไปกับที่นอนแต่สะโพกยังลอยเด่นให้เซนกระแทกเน้นๆ คานินพานพบกับความสุขสมครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งที่ไม่ได้แตะต้องท่อนลำของตัวเองเลย 

      “อื้ออออ....อา...”

      “โอ๊วววว..Fuck!!...แม่คุณทูนหัวของผัว...”


      เซนครางเสียงต่ำขยับโยกไหวเน้นๆ แรงๆ อยู่สองสามครั้งก่อนจะถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ตามกันไป คานินเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า ‘เอาถุงยางรึเปล่า’  ก็ตอนที่น้ำรักอุ่นร้อนของไอ้เสี่ยฉีดพ้นเข้าไปในช่องทางรักของเขาเต็มแม็กนี่เอง แมร่งไอ้ผัวบ้า เออ! ไม่ต้องอึ้งกันไปหรอก ก็ยอมมันซะขนาดนี้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ไม่อยากจะกระแดะยอมรับแบบหน้าไม่อายแรดๆ ร่านๆ ด้วยว่ารู้สึกดีโคตรที่โดนแบบสดถึงอารมณ์กว่าครั้งไหนๆ ที่เคยทำมา ขอให้รับรู้ไว้ด้วยนะว่าแม้จะโดนกระทำก็ไม่ได้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีอะไร เพราะแมร่งก็สุขเหมือนกันไม่ว่าใครจะทำ ไม่อายด้วยที่จะอ้อนผัวตัวเอง ในทางตรงกันข้ามนี่อาจจะเป็นการปลดโซ่ตรวนของใครคนนั้นที่ผูกยึดผมมานานให้เป็นอิสระ ผมจึงไม่ได้รู้สึกผิดอะไรกับสิ่งกระทำครั้งนี้

      เซนก้มลงมอบจูบอ่อนหวานให้คานินเนิ่นนาน ยืดตัวขึ้นถอดถอนท่อนลำออกจากช่องทางรัก ก้มลงมองช่องทางรักของแม่กระต่ายร่านรักที่ยังปิดไม่สนิท (ก็คงจะสนิทยากสักนิดโดนของใหญ่ชนกระแทกแรงซะขนาดนั้น) มันบวมแดงฉีกขาดและมีเลือดไหลซึมปะปนออกมากับน้ำรักของเขา เซนเลื่อนตัวลงมาใช้ลิ้นไล้เลียดูดกลืนจนเลือดหยุดไหล

      “อ๊ะ!!  พอเถอะ ไม่เอาเซนมันสกปรก พอเถอะนะ” 

       หน้าที่แดงก่ำกับสายตาเว้าวอนของคานิน ทำให้เซนยอมหยุดทั้งๆ ที่เขาอยากจะทำมากกว่านั้น เซนขยับตัวขึ้นประกบจูบอ่อนโยน คานินรับรู้ถึงคาวเลือดและน้ำรักที่อวลอยู่ในปากของเซน มันไม่ได้น่ารังเกียจแต่กลับสร้างความหวามไหวให้คานินตอบรับจูบนั้นด้วยความร้อนแรงในอารมณ์ และก็เป็นคานินอีกเหมือนกันที่ดันให้เซนผละปากออกเพราะตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ




        หลังจากอารมณ์หวามไหวพ้นผ่าน ตาสองคู่มองสบกันนิ่ง คู่หนึ่งร้อนแรงด้วยไฟราคะแห่งความรักและลุ่มหลง อีกคู่ฉ่ำเยิ้มคลอครองด้วยหยาดน้ำแห่งความสุขสมปะปนไปกับความแปลกประหลาดใจในบทรักที่ทำให้พานพบความสุขอย่างท่วมท้นจนเกินพอดีครั้งแล้วครั้งเล่า

      ความรู้สึกที่คานินได้รับมันมากกว่าที่เขาเคยทำกับผู้หญิงครั้งไหนๆ  ร่างกายที่ยังซ่านบอกว่ายังอยากจะให้คนตรงหน้าเติมเต็มอีกแรงๆ  ไอ้เสี่ยมันจะว่าเขาร่านไหมนะถ้าเขาจะ...



      “เซนเอาอีกได้ไหม...นะครับ”








TBC.

ปล.
1. กว่าจะเข็นออกมาได้กับบทพิศวาสบาดจิตของเสี่ยเซนกับแม่กระต่ายร่านรักอยากจะให้ดิบเถื่อนตามพื้นเพนิสัยก็คงได้แค่นี้แหละครับ

2. เหมือนเช่นเคยอ่านไปถ้าเจอข้อผิดพลาดที่เค้าซ่อนไม่มิดหรือไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทยก็บอกต่อด้วยเน้อจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง :D

3. ขอบคุณสำหรับการติดตามเสมอมา ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ  (เป็นความปริ่มเปรมล้นเหลือของคนเขียนที่เขียนออกมาแล้วมีคนอ่านนะครับ :D)






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 01:06:27 โดย WiChy »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :pighaun:
เฮียกินกระต่ายได้แซ่บมากกกกกกก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

และขอให้รับ รู ไว้ด้วยนะว่าแม้จะโดนกระทำก็ไม่ได้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีอะไร 

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :haun4:  กรี้ดด. อุบ๊ะ กระต่ายขออีกรอบ
เสียเลือดไม่เป็นไรอ้อนผัวได้อีก. น้องกระต่ายจะจำเฮียเชนได้ไหมนะ
ขอบคุณค่ะ.  :katai2-1:   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1

กว่ากระต่ายน้อยจะจำเฮียเชนได้
คนอ่านคงเสียเลือดกันอีกหลายหยด
 :pighaun:
(เป็นการสูญเสียที่ยินยินยอมเป็นอย่างยิ่ง 555)


ขอบคุณนะจ๊ะ
 :mew1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
 :pighaun: :haun4: :jul1: :m25: :m10: :haun1:

  “เซนเอาอีกได้ไหม...นะครับ”

กระต่ายน้อยยยยยยยยย นางแรงร่านแรดดีจริงถูกใจป้ามั๊กๆ  o13


ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง







- 22 -


Zhen Side story [4]   :   หวนคืนรัง








      หลังบทพิศวาสผ่านพ้นไปผมคิดตัวเองคงจะต้องโดนจัดหนักทั้งมือทั้งเท้าโทษฐานทำให้ผู้ชายคนหนึ่งสูญสิ้นศักดิ์ศรีความเป็นชายแน่ๆ แต่ผิดคาดคำขอของแม่กระต่ายทำเอาผมอึ้งชะงักงันอยู่นาน พอเห็นว่าผมไม่แสดงทีท่าตอบรับหรือปฏิเสธคุณเธอออกอาการฮึดฮัดผลักผมลงกับเตียงแล้วเป็นฝ่ายควบขี่โชว์ลีลาเด็ดดวงยิ่งกว่าจ๊อกกี้มือหนึ่งเสียอีก คุณเธองัดกลเม็ดเด็ดพรายที่จำจากผู้หญิงที่เคยนอนด้วยมาโต้ตอบผมอย่างร้อนแรงหนักหน่วงทุกท่วงท่าเราทั้งคู่สุขยิ่งกว่าสุข

       ครั้งแรกสำหรับมือใหม่ที่ถูกกระทำชำเราผมว่าแค่นี้ร่างกายก็เกินจะรับไหวแล้ว เพราะสภาพร่างกายแม่กระต่ายแล้วบอบช้ำเสียหายมากพอควรจึงควรจะหยุดไว้ที่ยกสอง  แต่ที่ไหนได้ผมคงประเมินสถานการณ์ต่ำไป แม่กระต่ายร่านรักของผมออกอาการกระเง้ากระงอดสะบัดหน้างอนแสดงอาการไม่พอใจที่ผมจะหยุดแค่นั้น ไอ้ผมก็ไม่อยากให้คุณเธอขุ่นเคืองใจจึงสนองความต้องการอย่างไม่อิดออด

      ผมอุ้มแตงแม่กระต่ายร่านรักไปถึงผนังกระจกที่สว่างโล่ง ต้นไม้น้อยใหญ่ในสวนทอดเงาร่มรื่นภายใต้แดดของยามบ่ายสามดูอบอุ่นและนุ่มนวล ใบไม้ไหวตามแรงลมที่พัดเอื่อยๆ โพซิชั่นดี แบล็คกราวน์เยี่ยม แสงสีพอเหมาะ  คนบนตัวอยู่ในท่าที่เหมาะสมทุกอย่างลงตัว เป๊ะเวอร์

       แต่พอแผ่นหลังบางแตะถูกความเย็นของกระจกเท่านั้นล่ะ คุณเธอทำสะบัดสะบิ้งดีดดิ้นหนีสุดแรงเมื่อรู้ว่าผมคิดจะทำตรงนี้ คุณเธอกลัวว่าบอดี้การ์ดที่เฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยอยู่ริมรั้วไกลๆ โน้นจะเห็นแล้วจะเอามาพูดให้ได้อายยันลูกบวช?? (ผมพูดว่าลูกใช่ไหมเมื่อกี้ ก็คาดหวังอยู่นะว่าจะติดไม่ดอกใดก็ดอกหนึ่งแหละขยันทำซะขนาดนี้) 

       แม่กระต่ายร่านรักนี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกันมาหลอกให้อยากแล้วจะจากไปเหรอ ไม่มีทางผมจัดการเล้าโลมหนักหน่วงทั้งข้างหน้าข้างหลัง มือปากป่ายปัดทั้งกัดทั้งดูดแทบทุกที่ที่เป็นจุดไวสัมผัส  ท่อนลำบดเบียดเสียดสีกันจนน้ำใสเยิ้ม เมื่อความต้องการตีรวนจนความอายแตกทัพ ความสว่างโล่งแม้แต่บอดี้การ์ดก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของคุณเธออีกต่อไป แม่กระต่ายร่านรักของผมเป็นฝ่ายเปิดศึกรุกหนัก ความตื่นเต้นทำให้คุณเธอตอบสนองบทรักของผมอย่างร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ  ผมแทบจะแตกตั้งแต่ยังสอดใส่ไม่หมด…ให้ตาย!

      หลังแสดงลีลาโยกไหวควบขี่อย่างช่ำชองแบบ half way around the world ในยกสี่ คุณเธอสิ้นฤทธิ์นอนหมดแรงเป็นผักเฉาน้ำหลัง เจ้าเด็กนี่รู้ว่าจะทำยังไงให้ผมคลั่งคุณเธอก็ใส่เต็มที่ไม่มีหมกเม็ด ก็มันเชี่ยวขนาดนี้น่ะสิผู้หญิงถึงติดใจแวะเวียนเข้ามาหาไม่หยุดหย่อน

       คิดๆ แล้วก็เสียดายเวลาที่ผ่านไป ถ้ารู้ว่าแม่กระต่ายของผมไม่อิดออดยอมง่ายขนาดนี้ผมน่าจะเข้าหาตั้งแต่ตอนที่เซล่าเปิดโอกาสให้ผมเมื่อสองปีก่อนไม่น่าจะปล่อยเวลาให้ยาวนานจนปานนี้ เจ็บใจฉิบหายให้ตายเถอะ...

.

.

.

      ครั้งแรกเล่นกันแรงขนาดนี้ไม่ยับเยินก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว เวลาขยับตัวทีมีครางเครือด้วยความเจ็บแถมน้ำตาเล็ดซึมหางตามันน่าเอ็นดูน้อยซะเมื่อไร  กำลังจะเอื้อมมือไปแตะก้นเนียนที่เต็มไปด้วยรอยฝ่ามือแดงเป็นปื้นเพื่อสำรวจความเสียหายว่าสมควรที่จะเรียกประกันหรือไม่  แต่แค่สัมผัสบางเบาแม่กระต่ายป่วยของผมก็ครางฮือด้วยความเจ็บปัดป่ายมือผมออกพัลวัน

      “ไม่เอาฮื่อ...อย่าเจ็บ....”

      “ชู่ว์!! นิดเดียวนะเฮียดูก่อน เสียหายมากรึเปล่า”

      “ก็ใครมันทำ...”
  ตอบเสียงสะบัดแบบงอนๆ กลับมาทันควัน เซนกรอกตาไปมา

       ‘ยาหยีก็นะพี่ทำคนเดียวที่ไหน ก็ทำด้วยกันไม่ใช่รึไง บอกให้เฮียใส่แรงๆ ลึกๆ แล้วคนอย่างเฮียเคยขัดใจที่ไหนก็เห็นกันอยู่ ที่ทำไปก็ทำตามคำสั่งยาหยีไม่ใช่รึไงวะ แล้วข่าวว่ายาหยีของเฮียขย่มเองอีกสองแบบ ลึก – แรง - เร็ว ด้วยเฮียรู้สึกได้เฮียสัมผัสได้’  ผมอยากจะตอบออกไปแบบนี้เหลือเกิน แต่ความจริงมันท่วมปาก ก็ได้แต่เก็บเงียบไว้คนเดียวเท่านั้นแหละ

      “ขอโทษครับ เฮียผิดเอง ไม่งอนนะครับ..น้า” ผมตีหน้าเศร้าเหมือนสำนึกผิดกับคนข้างตัว กดจูบลงที่ขมับและกลุ่มผมนุ่มหอมสงสารก็สงสารอยู่หรอก  แต่เอาจริงๆ ผมไม่ได้สำนึกถึงความผิดที่ก่อด้วยซ้ำ ชั่วเนอะที่รังแกสัตว์เล็กให้ได้รับความยากลำบากเจ็บปวดขนาดนี้ 

      “เอางี้เฮียอาบน้ำให้ไหมจะได้สบายตัว” ผมก้มลงถามชิดริมหูก็นะผมผิดก็ต้องเอาใจคุณเธอหน่อยก็แล้วกัน คุณเธอพยักหน้ารับผมยกยิ้มก้มลงกดจูบขมับอย่างอ่อนโยนก่อนจะลุกจากเตียงเดินเข้าไปเปิดน้ำอุ่นจัดใส่อ่างอาบน้ำ ระหว่างรอน้ำเต็มก็จัดการเปลี่ยนสนามรบใหม่ แม่กระต่ายครางประท้วงแผ่วเบาในลำคอตอนผมอุ้มไปนอนตรงโซฟาคงจะเจ็บนั่นแหละก็เลยอ้อยอิ่งจูบขอโทษ กว่าผมจะตัดใจผละไปจัดการกับเตียงได้ก็ใช้เวลาพอสมควร เมื่อเรียบร้อยจึงเดินไปอุ้มคุณเธอเข้าไปอาบน้ำ ผมนั่งลงตรงขอบอ่างจับร่างโปร่งนั่งตักอ้าขาออกกว้าง ปากเรียวบางร้องประท้วงด้วยความตกใจและเจ็บ

      “ฮึก....เจ็บไม่เอาพอแล้วนะ...”

      “ชู่ว์ อดทนนิดนะครับ เฮียเอาลูกเราออกมาก่อนจะได้สบายตัว”


      แม่กระต่ายพยักหน้ารับรู้ ความสุขปริ่มเปรมเอ่อท่วมท้นหัวใจร่างกายอิ่มเอมไปกับเพศรสอย่างล้นเหลือ แต่ก็ยังพร้อมที่จะเริ่มใหม่เพียงแค่เห็นน้ำรักของผมที่ไหลย้อนออกมาผสมกับสีเลือดจางๆ ตามเรียวขาอ่อนด้านในของอีกฝ่าย แม่กระต่ายคงรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผมคุณเธอผงะตัวออกเล็กน้อยด้วยความตื่นตระหนก

      “ชู่ว์ นิ่งก่อนวันนี้เฮียไม่ทำแล้วครับ” แม่กระต่ายยอมเอนตัวซบลงเหมือนเดิม ผมรีบควานนิ้วมือไปรอบช่องทางรักกวาดเอาน้ำรักที่คั่งค้างออกมาจนหมด ช่องทางยังใหม่มันเลยไม่ไหลออกมาเองตามธรรมชาติ

      เมื่อเห็นว่าลูกๆ ออกหมดแล้วผมยืนขึ้นเต็มตัวโดยที่ยังมีแม่กระต่ายอยู่ในอ้อมแขน วางคนในอ้อมแขนนั่งลงในอ่างก่อนคุณเธอสะดุ้งเล็กน้อยเพราะน้ำมันค่อนข้างร้อน ปากบางบวมเจ่อครางด้วยความพอใจ เป่าลมพรูออกมาทั้งทีตาหลับพริ้ม  ผมหัวเราะกับท่าทางของแม่กระต่าย แมร่งน่าฟัด!! อีกสักรอบดีไหมวะ อย่านะโว้ยใจเย็นๆ ไว้ไอ้เซนสงสารเขาบ้างเถอะ สี่ดอกนี่เขาก็เยินจะแย่แล้ว เพื่อเห็นแก่พระเจ้าผม ยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวานก็ได้ ผมตามเข้าไปนั่งลงในอ่างน้ำ แขนกวาดโอบกระชับร่างโปร่งเข้ามากลางหว่างขาแม่กระต่ายรู้งานเอนตัวพิงอกผมไม่อิดออด 

      เราทั้งคู่นั่งแช่อยู่นานจนน้ำเริ่มอุ่นจึงอุ้มแม่กระต่ายขึ้นจากน้ำเช็ดตัวหาเสื้อผ้าให้ใส่อุ้มไปนอนบนเตียง เดินไปเปิดตู้เย็นเล็กที่เจาะฝังเข้าไปในผนังข้างประตูห้องหยิบน้ำขวดเล็กพร้อมแก้วเดินมานั่งริมเตียงชะโงกตัวไปเปิดลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงหยิบยาแก้ไข้แก้อักเสบมาให้แม่กระต่ายได้กิน 

      คุณเธอทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บตอนขยับตัวลงนอนคว่ำหน้ากับเตียงหลังทานยาเสร็จ ผมเอื้อมมือไปดึงกางเกงร่นลงจนถึงขาอ่อนแหวกแก้มก้นของแม่กระต่ายออกคุณเธอสะดุ้งและดิ้นประท้วงเล็กน้อย

      “ชู่ว์ ขอโทษครับ ไม่เป็นไรเฮียจะใส่ยาให้”

       ช่องทางรักบวมแดงตรงรอยฉีกเลือดไม่ซึมแล้ว ผมป้ายทายาตรงรอยฉีกขาดความเย็นของยาทำให้แม่กระต่ายสะดุ้งหลุดเสียงครางแผ่วเบา ผมขยับล้มตัวลงนอนข้างๆ พลิกตัวแม่กระต่ายเข้ามาในอ้อมกอด คุณเธอขยับตัวซุกทั้งตัวเข้ามาในอ้อมกอดผมด้วยความเต็มใจ เลยมอบจูบอ่อนโยนเป็นรางวัลความใจง่ายของแม่ยอดยาหยี คุณเธอตอบรับจูบผมกลับมาด้วยความเต็มใจเหมือนกัน

.

.

.

       เราต่างเงียบปล่อยเวลานาทีผ่านไปอย่างไม่สนใจใยดี จนผมคิดว่าแม่ยอดยาหยีคงจะหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่เปล่าเลยเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรได้คุณเธอผละตัวออกจากอ้อมกอดขยับลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว  ปากบางเม้นแน่นหน้าเหยเกด้วยความเจ็บช่วงล่างที่โดนชนกระแทก ก็ไม่รู้จะลุกให้เจ็บตัวทำไม คงจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่คุณเธอเลยชักสีหน้างอนๆ ขัดใจให้ผม  ผมส่งยิ้มลุแก่โทษยื่นมือไปลูบแขนปลอบๆ

      “ผมไม่เข้าใจเฮียทำแบบนี้กับผมทำไม เราไม่ได้รู้จักกันไม่มีเหตุผลที่จะทำแบบนี้สักหน่อย หรือเฮียแก้แค้นที่ผมไปทับเส้นทางของเฮีย”  เสียงถามด้วยความฉงนและคาดคั้นเอาความจริงของแม่กระต่ายทำให้เซนหลุดยิ้มเต็มหน้า

      “หึ หึ มันใช่เหตุผลแบบนั้นซะที่ไหน ไม่สนหรอกเรื่องทับไม่ทับ เฮียก็แค่ตามมาเอากระต่ายหลุดจากกรงของเฮียคืน”

      “อะไรยังไง ผมไม่เข้าใจอยู่ดี มองในแง่มุมไหนผมก็ไม่คุ้นว่ารู้จักเฮีย”

      “ก็นี่กระต่ายตัวนี้สมควรที่จะรู้ตัวซะทีว่าใครเป็นเจ้าของ จะต้องอยู่ตรงไหน ไม่ใช่สะเปะสะปะออกนอกลู่นอกทางไปเรื่อยโผไปให้คนนั้นคนนี้เลี้ยงยังกับเจ้าไม่มีศาล  ลองนึกดูดีๆ กระต่ายน้อยจำเฮียไม่ได้จริงๆ เหรอ”

.

.

.

.

.
      คานินพยายามคิดตาม เท่าที่จำได้ตั้งแต่เล็กจนโตเขาเติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าย่านสลัมแถบชานเมือง ไม่เคยรู้ว่าพ่อเป็นใครแต่รู้ว่าแม่เขาเป็นผู้หญิงจากหอโคมแดงที่พลาดตั้งท้องตั้งแต่ครั้งแรกที่ยอมขาย แต่ก็ช่างเถอะนั่นมันเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว...

       หลังแม่ตายแม่ของเซล่ารับเขาไปเลี้ยงดูและอยู่ที่บ้านเซล่าจนอายุ 16 ปี แล้วจึงย้ายออกมาเช่าห้องใต้หลังคาเล็กๆ อยู่ พร้อมทำงานและหาเงินเรียนเองจนจบมหาลัย หลังเรียนจบก็ค่อนข้างจะโชคดีที่ที่งานทันทีเพราะพี่ชายของเพื่อนฝากงานให้ จึงย้ายออกจากห้องใต้หลังคามาเช่าอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ แทนเพราะเซล่าจะมาอยู่ด้วย แล้วช่วงไหน?? ที่จะทำให้เขามีโอกาสได้รู้จักผู้ชายที่อยู่คนละชนชั้นคนนี้กันล่ะ....เอ๊ะ!! หรือว่านี่...









      แม่กระต่ายมองหน้าเซนนิ่งนานคิ้วขมวดมุ่น มือเรียวบางยกขึ้นลูบไล้ไปตามแก้ม คิ้ว คาง ริมฝีปากหนาได้รูปของเซนอย่างแผ่วเบา เซนยกมือตัวเองขึ้นมาซ้อนทับสอดประสานมือแม่กระต่ายคลอเคลียใบหน้าของตัวเองไปกับฝ่ามืออุ่นเรียวนั่น  สัมผัสอบอุ่นอ่อนโยนก่อให้เกิดกระแสอุ่นวาบขึ้นในอกของคานิน

      ร่างโปร่งจ้องลึกเข้าไปในแววตาที่ทอประกายอ่อนโยนของคนตรงหน้า เหมือนจะคุ้นเคยแต่ก็เลือนรางเหลือเกิน  รอยยิ้มอบอุ่นนั่นเหมือนคนที่รู้จักแต่ก็ไม่มั่นใจว่าใช่หรือเปล่า เค้าโครงหน้าที่เปลี่ยนไปมันไม่เหมือนคนในความทรงจำสักเท่าไร  คงโทษกาลเวลาและความเยาว์วัยในตอนนั้นที่ทำให้คานินลืมเลือน...

      คานินนิ่งคิดและรื้อฟื้นเรื่องราววัยเด็กที่มันถูกทับถมด้วยเรื่องราวอื่นๆ มากมายในชีวิตให้จมอยู่ใต้ก้นกล่องความทรงจำด้วยความยากลำบาก ภาพที่รื้อออกมามันช่างเลือนรางเก่ามัวสีซีดจางตามกาลเวลา...

       เช้าวันเกิดครั้งแรกของคานินกับคนนั้น แม่กระต่ายตื่นขึ้นมาด้วยความสุข คนที่คิดว่าอยู่ข้างๆ ตลอดคืนกลับไม่อยู่ เขาออกวิ่งและร้องเรียกหาอย่างหนัก แต่เสียงที่ตอบกลับมาในเช้าวันนั้นและวันอื่นๆ คือความว่างเปล่าและเงียบงัน คนนั้นไม่เคยกลับมา คนสำคัญที่เขายอมเชื่อใจสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกัน แต่สุดท้ายก็เหมือนคนอื่นๆ ที่ทิ้งเขาไว้ข้างหลังเพียงลำพัง

      “กระต่ายตัวนี้เป็นของเฮีย จองไว้แล้วห้ามไปให้ใครเลี้ยงเด็ดขาดจำไว้นะครับ”

       คำสัญญาวัยเด็กยังดังอยู่ในหัวแต่มันก็แผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน กระนั้นคานินก็ยังตั้งใจฟังและรอด้วยใจที่ขัดแย้งและสับสนตลอดมา...

       ความเงียบเหงาและเหน็บหนาวช่างโหดร้าย  คานินไขว่คว้าโหยหาอ้อมกอดของใครสักคนมาเติมเต็มให้ชีวิตในแต่ละวันผ่านไปโดยไม่ต้องเฝ้ารอด้วยใจที่จดจ่อ...

       นั่นจึงเป็นข้ออ้างอันชอบธรรมให้คานินไม่เคยขาดคู่นอน เขาใช้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงบ่อยราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ก็ไม่เคยจริงจังกับใครแม้แต่เซล่า ถ้าพวกเขาหรือเธอร้องขอเขายินดีสนองความต้องการให้อย่างถึงใจแต่อย่าล้ำเส้นไประรานเซล่าเท่านั้นที่เขาขอ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาให้เซล่าได้

      กาลเวลาทำให้ความรู้สึกของคนเราเปลี่ยนผันหรือเปล่าคานินไม่รู้  สำหรับเขาไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปกี่ปีคนนั้นก็ยังเป็นคนสำคัญเสมอ  ไม่ว่าระหว่างทางจะเฉไฉแวะพักตรงนั้นตรงนี้บ้างแต่สุดท้ายก็กลับมารออยู่ที่เดิมเสมอ คานินก็เหมือนบูมเมอแรงนั่นแหละต่อให้ขว้างออกไปไกลแค่ไหนสุดท้ายแล้วก็วกกลับมาที่เดิมตลอด...เพราะเป็นคนนี้สินะคานินถึงไม่อาจปฏิเสธสัมผัสได้...



      “ขอโทษนะที่หายไปนานเหลือเกิน ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน หรือแม้กระทั่งความเชื่อใจของกระต่ายน้อยมันอาจจะเปลี่ยนไป แต่ไม่ว่าจะยังไงขอโอกาสให้เฮียอีกสักครั้งจะได้ไหมครับ” 


      “..........................”


      ความเงียบงันของแม่กระต่ายทำให้เซนใจเสียหรือโอกาสมันปิดตายสำหรับเขาแล้วจริงๆ เซนขยับตัวเข้ามากอดกระชับแม่กระต่ายไว้แน่น  ริมฝีปากหนาเฝ้าวนเวียนจูบอ่อนโยนตามลาดไหล่ไม่ได้ห่าง

      “นะครับได้ไหม...”

       เซนกระซิบเสียงเว้าวอนออดอ้อน จมูกโด่งกดลงสูดดมกลุ่มผมนุ่ม ปากหนากดจูบลงที่ขมับ แม่กระต่ายหน้าขึ้นสีระเรื่อเงยหน้าขึ้นสบสายตาอบอุ่นอ่อนโยนของเซนอย่างค้นคว้า สิ่งที่รับรู้คือ ความรักทั้งหมดที่ผู้ชายตรงหน้ามีให้เขา

      “ม มันเป็นเรื่องจริงเหรอ...แบบนี้ดีแล้วเหรอ”

      “ดีสิดีมากที่สุด  เฮียขอโทษนะที่กลับมาหาช้าเกินไป กว่าจะหาตัวเองเจอว่าเป็นใคร กว่าจะรู้ว่ากระต่ายน้อยอยู่ที่ไหน  กว่าจะกล้าบอกรักเฮียเสียเวลาไปหลายปีจนใครบางคนแถวนี้หาเรื่องเฉไฉออกนอกลู่นอกทางไปเยอะเกือบกู่ไม่กลับ แค่นั้นก็ทำเอาใจเสียไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว กระต่ายยังจะใจร้ายกับเราทั้งคู่ได้ลงคอเหรอ”


      “ก็เจ๊ากันผมรอเฮียนานกว่าอีก  แต่มันหมายความว่ายังไงที่เฮียไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร”

      “วันเกิดครั้งแรกของกระต่ายน้อยเฮียตั้งใจมากนะ อยากจะสร้างความทรงจำดีๆ แทนเรื่องราวร้ายๆ ที่กระต่ายน้อยพบเจอมา จำได้ใช่ไหมที่เฮียออกไปข้างนอกทุกวัน นั่นน่ะเฮียไปทำงานพิเศษเฮียอยากจะมีเงินเยอะๆ ซื้อความสุขให้กระต่ายน้อยของเฮีย  เช้านั้นเฮียออกไปรับเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายกะว่าจะเอาไปซื้อน้องกระต่ายให้กระต่ายน้อยของเฮีย  แต่ตอนขากลับเฮียถูกทำร้ายปางตายฟื้นขึ้นมาอีกทีก็จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร  กว่าจะประติประต่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้เวลามันก็ล่วงเลยมาหลายปี

       พอจำได้ทั้งหมดก็รีบไปตามกระต่ายน้อยที่บ้านเด็กกำพร้านั่น แต่ปรากฏว่ากระต่ายของเฮียไปอยู่ที่อื่นแล้ว เสียเวลาตามหาอีกเกือบปีกว่าจะเจอ แต่พอเจอกระต่ายน้อยของเฮียก็มีเจ้าของใหม่ไปแล้ว จะให้ทำยังไงเฮียไม่มีความกล้าพอที่จะเข้าไปแทรกกลางระหว่างกระต่ายน้อยกับเซล่าหรอกนะ เห็นกระต่ายน้อยมีความสุขก็ดีใจแล้ว เพราะงั้นตลอดห้าหกปีที่ผ่านมาเฮียทำได้แค่คอยเฝ้าติดตามดูแลอยู่ห่างๆ เท่านั้นจริงๆ”

      “เฮียจะบอกว่ารู้จัก..?”

      “เซล่านะเหรอ? รู้จักนานแล้ว เฮียบอกเซล่าเองว่ากระต่ายน้อยเป็นอะไรกับเฮีย”

      “เดี๋ยวๆ เฮียบอกเซล่าว่าเป็นอะไรกับผม”

      “จะให้บอกอะไรล่ะ ก็แค่บอกว่าเป็นน้องชายที่เฮียตามหามานานเท่านั้นเอง  ส่วนเธอจะคิดเป็นอย่างอื่นอันนั้นเฮียไม่รู้หรอก” 


       เซนเบ้ปากทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ได้น่าหมั่นไส้ซะจนกำปั้นเล็กๆ แต่หนักของคานินชัดปึกเข้าที่ต้นแขนของเซนค่อนข้างแรง คนตัวโตทำได้แค่สูดปากด้วยความเจ็บและลูบแขนตัวเองไปมา ตาคมหรี่ลงอย่างคาดโทษ แม่กระต่ายดื้อด้านหรือจะสนทำหน้าตาล้อเลียนอย่างไม่ยี่หระ เพราะไอ้คนตรงหน้านี่เองสินะ เซล่าถึงพูดทิ้งท้ายไว้แบบนั้น...

      ‘การวิ่งสามขาถ้าคนหนึ่งล้มอีกคนก็ต้องล้มแล้วก็เจ็บกันทั้งคู่ เซล่าฉุดรั้งเฮียให้ลุกวิ่งให้ตรงลู่เพื่อไปถึงเส้นชัยด้วยกันไม่ไหวแล้วล่ะมันเหนื่อยเกินกว่าเซล่าจะทำคนเดียว จิตใจที่เศร้าจากการรอคอยมันทำให้เฮียไม่พยายามที่จะทำอะไรเพื่อคนอื่นเลยด้วยซ้ำ  เซล่าขอยอมแพ้…ไปต่อไม่ไหวแล้วขอเดินออกจากเกมส์เองก็แล้วกัน การรอคอยของเฮียมันต้องถึงเวลาสิ้นสุดเสียที...’

       “เธอฝากให้เฮียดูแลกระต่ายขี้เหงาของเธออย่างดี  แต่ถึงเธอจะไม่ฝากเฮียก็ต้องมาเอากระต่ายของเฮียคืนอยู่แล้ว คงไม่สามารถปล่อยมือไปอีกเป็นครั้งที่สองแน่ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่ากระต่ายจะเจ็บอยู่คนเดียว เฮียก็เจ็บไม่น้อยไปกว่ากัน ทั้งที่อยู่แค่เอื้อมแต่ทำได้แค่เฝ้ามองโดยไม่อาจครอบครองมันเจ็บปวดมากนะ  อย่าปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามชะตากรรมเลยนะเรามาช่วยกันขีดเขียนมันไปด้วยกันเถอะ ทั้งหมดคือขอโอกาสให้เฮีย ขอโอกาสให้เราอีกสักครั้งได้ไหม...”


      ……………………...


      “นะครับ..”

      “ผมไม่รู้มันจุกแน่นไปหมด บางสิ่งบางอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมรอมาตลอด รอมาด้วยความสับสนไร้ความหวัง แต่บทจะมามันก็มาเร็วจนผมตั้งรับไม่ทันจริงๆ ขอเวลาผมได้คิดทบทวนอะไรๆ ก่อนได้รึเปล่า เฮียรอผมได้ไหม ไม่นาน...”

      “ก็ได้ แต่อนุญาตให้อยู่รอข้างๆ กันเท่านั่นนะไม่มีการปล่อยมืออีกเป็นครั้งที่สอง”

      “.....”

      “นะครับ...” 

      “ครับ”


.

.

.

      “เฮีย...”   หลังจากที่เงียบไปนานเสียงเรียกของคนในอ้อมกอดแผ่วเบาเหมือนละเมอ 

      “ครับยาหยี” นิ้วเรียวยาวของแม่กระต่ายขี้ยั่วลูบไล้ดึงขนหน้าอกของผมเล่นอย่างลืมตัว บางครั้งปลายนิ้วก็ปัดป่ายยอดอกของผมเหมือนไม่ได้ตั้ง แต่จะรู้ไหมการทำแบบนี้มันทำให้ผมแทบจะขึ้นอีกครั้ง

      “จะอยู่ด้วยกันจริงๆ ใช่ไหม ไม่ทำเหมือนเดิมอีกแล้วใช่ไหม” 

      “ครับผม ตีตราจองขนาดนี้ยังไม่มั่นใจรึไง บอกไว้แล้วนี่น่าว่าจะเลี้ยงเองห้ามให้คนอื่นเลี้ยงจำไม่ได้รึไง” 


       ผมพยายามข่มอารมณ์ความต้องการตอบเสียงเข้มจริงจัง  แม่กระต่ายร่ายรักยังเช็คเลตติ้งไม่หยุดยั่วยวนป่วนอารมณ์ผมอย่างต่อเนื่องจะขึ้นแล้วนี่  ปากเรียวบางกดจูบตรงยอดอกมีแอบกัดเบาๆ อีก จะบ้าตายไอ้ข้างล่างก็ไม่รู้จะอะไรนักหนาดื้อดึงไม่ยอมหลับยอมนอน...ชักจะไม่ไหวถ้าขืนยังปล่อยไว้มีหวังใครแถวนี้ได้เจ็บตัวแล้วครางหงิงโทษว่าเป็นความผิดผมคนเดียวอีก ผมรีบจับมืออีกฝ่ายมากุมไว้

      “หึ หึ”  คานินหลุดเสียงหัวเราะด้วยความพึงพอใจที่ทำให้ผมรู้สึกได้ แม่กระต่ายตัวดีหยุดป่วน เรานอนกอดกันเงียบอยู่อย่างนั้น

.

.

.


      “เฮีย...” 

      “ครับ”

      “ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่โดนผมเปิดซิงแล้วล่ะมันเป็นยังไง...”

      “หึ หึ แล้วมันยังไงล่ะครับ”
  ผมหลุดหัวเราะเลยสิไร้สาระมาก

      “เจ็บสิไอ้บ้าถามมาได้  แมร่งเหมือนมีข้าวโพดฝักใหญ่เสียบตูดตลอดเวลาเลย เนี่ยตอนนี้ก็ยังรู้สึก”  เอากับเขาสิครับ แล้วจะมาสะบัดเสียงงอนๆ ใส่ผมทำไมล่ะวะนั่น ผมแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว แม่กระต่ายช่างคิดหยิกหมับเข้าที่เอวแรงมากจนต้องห่อปากด้วยความเจ็บมันต้องเป็นรอยช้ำแน่ ผมจับมือเล็กที่ประทุษร้ายร่างกายผมมามากุมไว้

      “งั้นเฮียทำบ่อยๆ ดีกว่าเนอะจะได้ชิน”

      “บ้าเหรอ  แบบนั้นก็หลวมจนรถไฟวิ่งสวนกันได้พอดี”

      “เออแล้วจะพูดเรื่องนี้ทำไม หลวมก็รักเหมือนเดิมนั่นแหละน่า นอนได้แล้วไม่เหนื่อยรึไง  รึจะไม่นอนงั้น...”


      “ไม่เอาแล้ว  พอเลยหื่นในสันดานรึไงเนี่ย”

      “ปากดีเดี๋ยวจะโดนฟาดปากด้วยข้าวโพดหวานพันธุ์พิเศษ”

      “ไอ้บ้า!!..”

      “ยังจะปากดีอีก..”


      “ชริ”

      “ยัง!”


      “ก็ดีแต่ขู่...”

      เซนนาบปากร้อนจูบบางเบาลงที่ขมับทั้งสองของแม่กระต่าย ในที่สุดการเดินทางยาวนานของกระต่ายหลงทางก็สิ้นสุดซะที  กระต่ายถึงบ้านแล้ว... เซนก้มลงกดจูบที่หน้าผาก เปลือกตามทั้งสองข้าง แก้มนิ่ม และริมฝีปากช่างต่อล้อต่อเถียง เซนนอนมองหน้าแม่กระต่ายของเขาจนหลับไปเมื่อไรก็ไม่รู้ๆ ในความฝันของเขาวันนี้และต่อๆ ไปคงจะมีมันมีแต่เรื่องดีๆ...









TBC.

ปล.


1. ผ่านไปอีกหนึ่งตอนสำหรับเฮียเซนกับกระต่ายร่านรัก เป็นอันว่ารู้แล้วนะครับว่ากระต่ายนี่เป็นของเสี่ยมาแต่อ้อนแต่ออก  หนุ่มบ้านนี้นิยมเลี้ยงเด็กไว้กินเองเพราะปลอดสารพิษ

2. ขอให้มีความสุขกับการอ่าน  และขอบคุณสำหรับการติดตามเสมอมา <33




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 01:23:09 โดย WiChy »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ไอ้ผมก็ไม่อยากให้คุณเธอขุ่นเคืองใจจึงสนองความต้องย่างไม่อิดออด

เฮียคิดจะพากระต่ายของเฮียไปเจอกับน้องน้ำของพี่สิงห์ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
จิ้มไว้ก่อน  :z13: พรุ่งนี้ค่อยมาอ่าน

ง่วงนอนมากกกกกก o19 o19

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
หวานและฟินมากค่ะ ข้าวโพดหวานยักษ์ กี้ดดดด
คานินนึกออกเร็วเพราะฝังใจมาตลอดสินะ โอ๋ๆ เจ๊ากันเนาะ
ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เฮีย ทำไมเฮียคิดเหมือนกระต่ายเป็นตัวเมียอ่ะ นี่คิดให้น้องต่ายเป็นกระต่ายข้ามเพศแต่อ้อนแต่ออกเลยรึ น้องต่ายออกจะแมนและลีลาเด็ดจนสาวติดตรึมขนาดนั้นแท้ๆ T^T

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :m25: กระต่ายน้อยเป็นเด็กเฮียเต็มตัวแล้วนะคราวนี้

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง





23

Zhen Side story   :  อีหนูของเสี่ยเซน





      คานินรู้สึกผิดและละอายใจต่อคนที่โดนเขาเปิดซิงทั้งหลายเหลือเกิน ความจริงที่กระแทกใจอย่างแรงหลังจากยินยอมพร้อมใจเสนอตัวให้เสี่ยเซนโดยไม่เกี่ยงงอน นอกจากความสุขสมที่ไม่เคยพานพบจากครั้งไหนๆ แล้ว มันมีของสมนาคุณพิเศษด้วยร่างกายร้าวระบมราวกับถูกรุมโทรมมาอย่างหนัก ไหนจะพิษไข้จากอาการอักเสบของแผลฉีกขาดบริเวณช่องทางด้านหลัง ผมนอนเป็นผักเน่าที่แม่ค้าตัดแต่งเอามาทิ้งท้ายตลาด จะโทษว่าเป็นความผิดของเสี่ยฝ่ายเดียวก็ให้ละอายใจจำต้องกล้ำกลืนยอมรับโดยดุษฎีว่าตัวเองก็ผิดอยู่ไม่น้อย ณ จุดนั้น จากที่เคยเป็นเฉพาะผู้กระทำกลายมาเป็นถูกกระทำ ความหฤหรรษ์มันช่างแตกต่าง....

       แต่ถึงกระนั้นผมก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากตัวต้นเรื่องเป็นอย่างดี ทำเอาน้ำตารื่นทุกครั้งที่เสี่ยเซนเฝ้าดูแลใกล้ชิดด้วยความห่วงใยรักใคร่ กระหวัดไปถึงสิ่งที่ตัวเองทำกับคู่ขาชายที่ผ่านมายิ่งทำให้รู้สึกระอายแก่ใจว่าตัวเองเลวแค่ไหนหลังปลดปล่อยเขาแยกตัวออกมาไม่เคยค้างคืนกับคนเหล่านั้นสักครั้ง ถ้าฝ่ายนั้นร้องขอก็มาเจอกันได้ แต่พวกนั้นก็ไม่เคยพูดถึงความเจ็บปวดที่ได้รับจากเพศสัมพันธ์นั่นเลย ทำให้เขาไม่เคยรับรู้ว่าความเจ็บปวดมันมีอยู่จริง จนมาเจอกับตัว...

       ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ จากฤทธิ์ยาแก้ไข้อักเสบ แต่ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นก็จะเห็นตัวต้นเรื่องก็นั่งทำหน้าสลดแววตาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวลดความร้อนทุกสิบนาทีจนหนาวสะบั้นทำท่าจะป่วยมากกว่าเดิมอีก

      “ฮื่อ..หนาว” คานินเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบา มือเล็กอุ่นจัดจับมือเสี่ยเซนที่กำลังใช้ผ้าเช็ดตามตัวของเขาให้หยุด ช้อนตาเรียวหวานขึ้นมองเสี่ยอ้อนๆ

      “เอาผ้าห่มอีกไหม?” เสี่ยเซนมีสีหน้ากังวล มือหนาดึงรั้งผ้าห่มขึ้นมาให้ถึงคาง กำลังจะลุกขึ้นไปเอาผ้าห่มให้อีกผืน แต่คานินดึงมือใหญ่ไว้แน่นเข้าโหมดอ้อนผัวเต็มสตรีม

      “ไม่เอาผ้า เฮียกอดผมหน่อยนะครับ...นะ”  คานินทำหน้าอ้อนๆ เลียนแบบพวกผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วยเวลาเจ้าหล่อนอ้อนอยากจะให้ผมทำอะไรให้

      “นี่คืออ้อนเหรอ!?” เสี่ยเซนถามเสียงเรียบนิ่ง ตาคมวิบวับส่ออาการไม่น่าไว้ใจ คานินหน้าร้อนเห่อลามไปถึงใบหู อยู่ๆ ก็รู้สึกริมฝึกปากแห้งจนต้องแลบลิ้นหยุ่นชื้นไล้เลียปากบางจนฉ่ำวาว กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากเฮือกใหญ่เมื่อสบกับสายตาสื่อความหมายของเสี่ยเซน

      “ก็มั้ง ละ แล้วไม่ได้เหรอ?” ผมถามน้ำเสียงขัดเขินไม่คิดว่าตัวเองจะได้เล่นบทนี้ แต่ไม่มายด์อยู่แล้วไงจะบทไหนมันก็สุขได้เหมือนกันเปล่าวะ ที่ทำนี่ก็ไม่เห็นจะเป็นไรแค่อยากจะอ้อนผัวใช่ใครที่ไหน

      “กระแดะ!  ที่ทำแบบนี้มึงปรึกษาใครรึเปล่าวะ”  ผมทำหน้าเหวอๆ ก็ดูปากมันสิแมร่งคนละอารมณ์กับเมื่อคืนเลยจะเปลี่ยนโหมดก็ไม่แจ้งล่วงหน้ากูเก้อมึงเห็นไหมเนี่ย แล้วน้ำเสียงจะโหดจริงจังทำไมนักวะ 

      “เออ! แมร่งไม่ทำก็ได้วะ เสียอารมณ์ สรุปจะไม่กอด??”  ดูแมร่งทำหน้าตา..ถึงจะหน้าด้านก็ก็อายเป็นเหมือนกันนะแมร่ง

      “จะทำสะดีดสะดิ้งเพื่อ??  กูแค่อึ้ง ดีใจว่ะ ก็เพราะเป็นแบบนี้ไงคู่ขาพวกนั้นถึงติดมึงนักหนา นี่ถ้าไม่ติดว่าหมอห้ามนะ แมร่งกูจัดข้าวโพดหวานเป็นของว่างมึงแล้วครับ มานี่มาเพราะเป็นมึงหรอกนะมากกว่ากอดกูก็ให้ได้ว่ะ” เสี่ยเซนขยับตัวเข้ามาใกล้ดึงตัวคานินเข้าไปโอบกอด คนร่างโปร่งรู้สึกได้ว่ามันทั้งอบอุ่นและอ่อนโยน ถ้าจะเป็นถึงขนาดนี้ก็จะลองวางชีวิตไว้กับคนๆ นี้ ลองเชื่อใจอีกสักครั้ง...

      “บ้าไปแล้วแมร่ง...รอให้หายก็ได้เปล่าวะ ไม่มีขัดขืนอยู่แล้ว คานินบ่นพึมพำแต่ก็ยกแขนของตัวเองกอดเอวหนา ซุกหน้าลงบนอกที่เต็มไปด้วยไรขนอ่อนและมัดกล้ามแกร่ง จมูกปากคลอเคลียดมกลิ่นกายหอมอ่อนๆ อย่างลืมตัว


      “ฮืมมม..ถ้ายังไม่อยากหลวม อย่าร่านครับยาหยี” 

       เซนปรามเสียงทุ้มนุ่มไม่จริงจังนัก  แม่กระต่ายยิ้มกับอกดีใจที่ตัวเองยอมปล่อยวางทิฐิไว้เบื้องหลัง และไม่ลังเลที่จะไขว่คว้าความสุขที่ผ่านมาไว้กับตัวอีกครั้ง นี่ถือเป็นความโชคดีเหลือเกินที่คนๆ นี้ยังตามหาแม้จะนานไปสักหน่อยก็เถอะ

       สัมผัสของเสี่ยบางครั้งแม้จะรุนแรงดุดันแต่ก็แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนหวงแหน คนนี้เติมเต็มเขาจนล้น ร่างโปร่งหลงลืมไปว่าร่างกายของตัวเองยังไม่เต็มร้อยยืดตัวขึ้นโน้มหน้าเข้าหาปากหนาที่ยกยิ้มของคนตัวโต เพียงปากสัมผัสกันจากที่จะแตะเพียงเบาบางแล้วกะว่าจะผละออก กลับกลายเป็นจูบดูดดื่มอ่อนหวานเคลิ้มลอยจนไม่รู้ว่าขึ้นไปอยู่บนตัวเสี่ยเซนตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีก็เพิ่มจะสำนึกได้ว่ากำลังจะจับตัวเองใส่พานประเคนให้มันเอาอีกครั้ง ถ้าไม่มี...




      Rrrrrr  Rrrrr…

      เสียงโทรศัพท์ของเซนดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่ที่กำลังเคลิ้มลอยกับรสจูบผละออกจากกันเพียงเล็กน้อย  เซนแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์คานินคิดว่าเสี่ยจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ แต่เปล่าเลยไอ้หื่นนี่กลับไม่อนาทรร้อนใจก้มลงลากลิ้นร้อนดูดเม้นที่ใต้คางซอกคอของเขาสบายใจเฉิบ คนที่โทรเข้ามาก็ช่างมีน้ำอดน้ำทนกระหน่ำต่อสายเข้ามาอย่างไม่ลดละ คานินผลักหัวไอ้เสี่ยหื่นออกจากซอกคอของตัวเอง มันไม่ขยับเขยื้อนอะไรหรอกก็แมร่งแข็งขืนไว้ ผมเลยเอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์หัวเตียงมายื่นให้ไอ้หื่นที่กำลังขย้ำคอผมอย่างเมามัน

      “ฮือออ..เฮียหยุดก่อน รับหน่อยเถอะเผื่อเขามีเรื่องด่วน”

      แมร่ง!! ก็บอกแล้วไม่ให้กวน ถ้าไม่สำคัญนะจะตัดเงินเดือนพร้อมโบนัสแมร่งให้หมดเลย” เซนสบถเสียงติดจะหงุดหงิดให้คนในสาย ยอมเอื้อมมารับโทรศัพท์มาดูว่าใครจะชะตาขาด เมื่อเห็นว่าเป็นเฮอร์เซลมือขวาคนสนิทจึงยอมกดรับสายด้วยเสียงห้วนเข้ม

      “มีอะไร!”

      //ขอโทษครับเสี่ย โรงผลิต 2 กับ 7 ถูกวางเพลิงครับ //

      “บ้าเอ๊ย!! แล้วเสียหายมากรึเปล่า” 

       เซนขยับตัวลุกขึ้นนั่งยกตัวแม่กระต่ายให้นอนลงบนเตียงอย่างเบามือ ก่อนจะขยับตัวลุกออกจากเตียงอย่างรวดเร็ว เสียงสบถบ่งบอกว่ามีโทสะ แม่กระต่ายมองไปด้วยความเป็นห่วง เซนหันมาทำมือให้นอนพักซะ และหันไปคุยกับคนในสายต่อ

      // โรง 2 วอดทั้งหลังพร้อมแอร์บัสประกอบใหม่ 1 ลำ ส่วนโรง 7 เสียหายเล็กน้อยเราสกัดเพลิงไว้ได้ทันจึงไม่ลามไปถึงแอร์บัส 3 ลำที่อยู่ในโรงเก็บ  อาแจ๊กซ์รวบตัวหมาหลงทางได้ทันตอนมันกำลังจะหนี //

      “อยู่ไหน”  เซนถามเสียงเย็น

      //โกดัง 28 ครับ ผมคุ้นว่ามันเป็นคนของ KAB คอร์ปฯ คงทำเพื่อแก้แค้นและกะดีสเครดิตเราครับเสี่ย//

      “ไม่เกินครึ่งชั่วโมง “  เซนตัดสายสีหน้าบ่งบอกว่าโทสะกำลังคุกรุ่นกับเรื่องที่ได้ยินแววตาเย็บเยียบแทบจะฆ่าคนได้ มือแกร่งกำโทรศัพท์ไว้แน่น พยายามข่มโทสะที่กำลังพุ่งสูงไม่อยากให้แม่กระต่ายกังวลกับเรื่องของเขาไปด้วย


       Khan and Bros. Corporation. Co.,Ltd. (KAB) อยู่ภายใต้เครือข่ายธุรกิจของ Waldoland  ของวัลโด้ๆ กับป๋าขัดแข้งขัดขากันมานาน ล่าสุดฝ่ายนั้นไม่พอใจที่ผมได้สัมปทานเปิดเส้นทางสายการบินพาณิชย์ระยะสั้น (Loganair) แห่งใหม่ รวมถึงสัมปทานทั้งหมดภายในภูมิภาคนี้ด้วย ก่อนหน้านั้นก็ชนะการประมูลผลิตเครื่องบินแอร์บัสให้ฮาเวิร์ดแอร์เพลนบริษัทสายการบินระหว่างประเทศรายใหญ่ที่รัฐบาลถือหุ้นอยู่เกือบครึ่ง และงานสุดท้ายที่ถือเป็นตอกย้ำความพ่ายแพ้ของวัลโด้มากที่สุดคือ สัมปทานปิโตรเลียมและน้ำมันกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่ผมได้มันมาโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย

      ข่าวจากวงในที่รู้มาคือ ช่วงประมูลงาน ACE กำลังระส่ำระสายเพราะนายใหญ่ไต้หย่งผู่ถูกลอบฆ่าโดยยังจับมือใครดมไม่ได้ การบริหารงานภายในองค์กรระส่ำระสายผู้อาวุโสแต่ละสายแย่งชิงกันขึ้นแทนไต่หย่งผู่

       เมื่อ ACE ไม่สามารถซัพพอร์ทใครได้วัลโด้จึงต้องเล่นเอง มันอยากจะชนะการประมูลทั้งหมดเพราะเป็นตัวชี้วัดว่ามันจะได้รับเลือกหรือไม่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าการรัฐ งานนี้ถือเป็นการกอบกู้ฐานะเกียรติยศชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลให้กลับมาผงาดอีกครั้ง มันจึงวิ่งหัวซุกหัวซุนเหมือนหมาจนตรอกจ่ายเงินจำนวนมหาศาลของตัวเองล๊อบบี้ทุกฝ่ายให้ตัวเองได้ทั้งรับเลือกและสัมปทาน แต่สุดท้ายแพ้อย่างไม่เป็นท่าทุกอย่าง เงินที่จ่ายไปสูญเปล่าแถมสูญเสียผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้จำนวนมหาศาล

       ที่สำคัญกว่านั้นคือ เสียหน้า วัลโด้แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดใส่ทุกคน มันไม่ยอมเล่นตามกติกาส่งคนยิงถล่มผับของผม ปิแอร์บอดี้การ์ดคนสนิทอีกคนตายแต่ผมรอดเพราะมีใบสั่งให้บินไปไทยกระทันหัน จึงให้ปิแอร์เข้าไปคุมผับแทน มันแย่มากนะเหมือนผมสั่งเขาไปตายแทน ผมจะบินกลับมาฆ่าวัลโด้แต่ป๋าให้เงียบๆ ไว้ก่อน  พระเจ้าทรงรับรู้ว่าผมเอาคืนแน่ไม่มีอะไรฟรี

      วัลโด้ เป็นทายาทตระกูลขุนนางเก่าแก่ ทำธุรกิจเกี่ยวกับการคมนาคมและขนส่งแทบทุกประเภท สัมปทานก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ช่วงหกเจ็ดปีหลังเริ่มขยายฐานธุรกิจเป็นโรงแรมและคาสิโน่ ผับสำหรับกลุ่มคนชั้นสูงแบบถูกกฎหมาย แต่ข่าววงในเท่าที่รู้ธุรกิจโรงแรมและคาสิโน่ครึ่งหนึ่งร่วมทุนกับ ACE ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรกันมานาน แล้ววัลโด้เองมีบ่อนเถื่อนแถบชายแดนหลายประเทศซึ่งมันเกี่ยวพันกับธุรกิจค้ามนุษย์และยาเสพติดด้วย  เงินจากธุรกิจมืดมันผลักเข้าซื้อหุ้นเกือบทุกตัวในตลาดหุ้นเพื่อฟอกเงิน




      “มีอะไรหรือเปล่า” 

      แม่กระต่ายคงจับอารมณ์ของเขาได้จึงถามมาด้วยความห่วงใย เซนเดินเข้าไปหาก้มลงหอมหัวทุยสูดกลิ่นหอมเข้าปอดเต็มแรง มือหนาสากยกขึ้นวางบนแก้มใสนิ้วโป้งเกลี่ยไปมาเลยมาถึงริมฝีปากบางที่ยังบวมซ้ำเพราะถูกเขากัด เซนโน้มหน้าลงไปแตะจูบเบาๆ แล้วผละออกไม่อ้อยอิ่ง ยิ้มอ่อนโยนให้คนตรงหน้าแค่นี้เขาก็พร้อมจะจัดการกับปัญหาแล้ว

      “มีปัญหาที่โรงผลิตนิดหน่อยเฮียต้องเข้าไปดูน่ะ”  เซนบอกเล่าเรื่องที่เผชิญอยู่เหมือนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญทั่วไป

      “ให้ผมช่วยอะไรไหม” 

      “ไม่เป็นไรยาหยีไม่มีอะไรต้องห่วง แค่เมื่อกี้ก็ช่วยได้มากโขเลย นอนพักเถอะเฮียไปเดี๋ยวเดียวก็จะกลับแล้ว จะให้เทรย์เวอร์อยู่เป็นเพื่อนนะถ้ามีอะไรเรียกเขาได้เลย”

      “ไม่มีอะไรให้ช่วยจริงๆ เหรอ” มือร้อนเอื้อมคว้ามือของเซนไว้ ตาเรียวที่มองสบกันเต็มไปด้วยความห่วงใย

      “ไม่ต้องห่วงน่าเฮียจัดการได้ นอนพักเถอะ อ้อรู้ไว้อย่างผัวคุณให้ความสำคัญกับเรื่องบนเตียงนะครับ ถ้าหายช้าถึงเจ็บก็ไม่สนนะหน้าที่คือหน้าที่ไม่มีอุทธรณ์ เข้าใจตรงกันนะครับยาหยี”  ดูเอาเถอะปัญหาจ่อคอขนาดนี้มันยังกล้าจะพูด มือใหญ่ของเสี่ยเซนยื่นมาเกลี่ยปอยผมที่ตกระหน้าขึ้นเหน็บหูให้ ผมจะทำอะไรได้แมร่งทำตัวไม่ถูกค้อนประหลับประเหลือกให้มันไปสิ

       อากัปกริยาที่แม่กระต่ายแสดงออกในความรู้สึกของเซน คือ  ‘แรด’  แมร่งเมียกูว้อนท์เหลือเกิ๊น ถ้าไม่มีเรื่องนะจะเอาข้าวโพดยัดอีกสักรอบให้หลังติดเตียงไม่ต้องเป็นอันทำอะไรกันเลยทีเลย  คานินเบือนหน้าหนีสายตากรุ่มกริ่มสื่อความหมายชัดเจนของเสี่ยแทบจะทันที

      “เออแมร่ง!! คิดผิดหรือถูกวะเนี่ย แล้วก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องฝักข้าวโพดเลยนะอิ่มจนจุกแล้ว  รีบไม่ใช่เหรอไปสิ  รู้นะว่าเป็นห่วง...  

      “หือ ยาหยีว่าอะไรนะ”

      “ไม่รู้  ค่อยกลับมาฟังแล้วกันจะนอนแล้ว”

       คานินขยับตัวลงนอนหันหลังให้เซนทันทีหลับตาหนีอาย เขินเอี๊ยๆ พูดได้ไงวะกู จะเรียกคืนคำพูดก็ไม่ทันแล้วล่ะ คิดว่ามันคงจะได้ยินเต็มสองรูหู  เสี่ยเซนเลยตอบกลับด้วยลมหายใจอุ่นปัดผ่านหน้าผากตามด้วยเสียง หึ หึ พร้อมความอุ่นของผ้าห่มที่ถูกดึงขึ้นมาคลุมให้จนถึงคอ  คานินแสร้งหลับตานิ่งนอนตัวแข็งทื่อหน้าตาหัวหูร้อนเห่อกับเสียงกระซิบทุ้มนุ่มของเสี่ยเซน

      “อย่าซนนะนอนรอดีๆ เป็นห่วงเหมือนกัน...”

      “ฮือ....”





ณ โกดัง 28


      “ลากตัวมันออกมา”
   
      เซนสั่งโอเว่นบอดี้การ์ดอีกคนเสียงเย็นเยียบทุ่มต่ำดวงตาคมดุสีน้ำตาลอ่อนมีประกายกร้าวเหมือนราชสีห์จ้องรอตะครุบเหยื่อ ลูกน้องสามคนเสียวสันหลังวาบแทบไม่อยากจะสบตาคนเป็นนาย โอเว่นฉุดกระชากชายฉกรรจ์สามคนที่โดนซ้อมจนไม่เหลือสภาพเดิมออกมาวางทิ้งราวกับผ้าขี้ริ้วตรงหน้าเซน นัยน์ตาบวมปูดเหลือกมองดูเซนด้วยความตื่นกลัว ตัวสั่นงันงกรอคำพิพากษา

      โอเว่นดึงกระชากเสื้อพวกมันจนขาด ก่อนจะผลักมันหน้าคว่ำลงไปกับพื้น แผ่นหลังของทั้งสามปรากฏรอยสักหน้าคาบูกิสีแดงราวเพลิงตาสีเหลืองเหลือกโปน ไม่ผิดจากที่คิดพวกมันเป็นคนของวัลโด้จริงๆ เซนยกยิ้มเย็นเยียบ

      “หึ หมารอบกัด พวกมึงเล่นผิดคนแล้ว”

      “เจ้าของมันรู้รึยังว่าเราจับหมาของมันได้”

      “มันรายงานเจ้านายมันไปแล้วก่อนผมจะจับตัวมันได้  แม็กปล่อยข่าวว่าโรงงานเราเสียหายหนัก คนอย่างนั้นคงจะหลงระเริงในความสำเร็จครั้งนี้จนลืมระวังตัวครับเสี่ย”

      เซนยกยิ้มมุมปากตวัดสายตาคมดุเย็นชาไปมองอาแจ๊กซ์โดยไม่พูดอะไรอีก บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่พยักหน้ารับหันไปพูดเสียงต่ำสั่งลูกน้อง

      “กำจัดขยะซะ”

      หลังจากยืนดูลูกน้องจัดการกับพวกเศษสวะจนมันไม่สามารถพ่นลมหายใจเสียๆ ออกมาทำให้อากาศเป็นพิษเรียบร้อยแล้ว เซนหันไปสั่งอาแจ๊กซ์น้ำเสียงราบเรียบไม่ได้บ่งบอกว่ารู้สึกอย่างไร แต่แบบนี้ทุกคนรู้ดีว่าควรหลีกให้ห่างที่สุด

      “อาแจ๊กซ์ดูให้เรียบร้อยแล้วไปรอที่โรงผลิต 7” เซนสั่งเสร็จก็เดินหันหลังไปขึ้นรถโดยมีเฮอร์เซลตามมาขึ้นรถคันเดียวกันมุ่งไปโรงผลิต 2


       โรงผลิต 2 เหลือเพียงซากโครงสร้าง กลิ่นควันยังกรุ่นอยู่ในชั้นบรรยากาศ ศพคนงานหลายสิบคนนอนเรียงรายอยู่บริเวณถนนทางเดินเตรียมลำเลียงพิสูจน์ตัวบุคคลเพราะสภาพดำเกรียมไม่เหลือเค้าเดิม บางศพถูกแรงระเบิดเหลือเพียงอวัยวะบางส่วน  เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนงานกำลังเปลี่ยนกะจึงทำให้คนงานถูกลูกหลง แอร์บัสที่เพิ่งประกอบเสร็จเตรียมบินตรวจสอบคุณภาพในอีกสองวันข้างหน้าเหลือเพียงซากห้องนักบิน ประเมินจากสภาพมันไม่ได้แค่วางเพลิงแต่เป็นการวางระเบิดด้วย สีหน้าเซนนิ่งเรียบเย็นชาขณะที่เดินสำรวจความเสียหาย ร่างสูงไม่พูดอะไรเดินกลับไปขึ้นรถที่เฮอร์เซลติดเครื่องรอ แล้วขับตรงไปยังโรงผลิต 7 ซึ่งประเมินสภาพแล้วเสียหายประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ 




ห้องประชุมภายในสำนักงาน โรงผลิต 7

      “ที่นี่เสียหายไม่มากเพราะคนงานเห็นควันพวยพุ่งเลยวิ่งมาดูที่เกิดเหตุแล้วช่วยกันดับไฟ รปภ.เก็บกู้ระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ทัน ส่วนโรง 2 อยู่ในช่วงเปลี่ยนกะคนงานเพิ่งทยอยเข้า-ออกงานพอดีกว่าเราจะไปเจอก็เป็นตอนที่เกิดเสียงระเบิดแล้ว” เฮอร์เซลรายงานสถานการณ์

      “บริษัทประกันเข้ามาตรวจดูสภาพความเสียหายประเมินแล้วตอนนี้ประมาณ  973  ล้านดอลล่าร์ พวกเขายังไม่ฟันธงว่าจะจ่ายค่าชดเชยทั้งหมดหรือบางส่วน จะต้องการรอผลพิสูจน์หลักฐานจากทางตำรวจและมติที่ประชุมบอร์ดผู้บริหารก่อน  คนงานเสียชีวิต 168 คน บาดเจ็บสาหัส 58 คน บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 125 คน ส่วนแอร์บัสเราคงต้องยอมเสียค่าปรับที่ส่งล่าช้าครับเสี่ย” แม็กซิมัสเลขาและบอดี้การ์ดคนสนิทรายงานผลการสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น

      “ศพคนงานแจ้งครอบครัวเขาให้ทราบด้วย เยียวยาครอบครัวเขาอย่าให้ได้รับความเดือดร้อน คนที่บาดเจ็บก็ให้ชดเชยเงินค่าทำขวัญตามสภาพความร้ายแรงที่ได้รับบาดเจ็บ รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลจนกว่าพวกเขาจะออกจากโรงพยาบาลทุกคน ผมอนุญาตให้พวกเขาพักรักษาตัวจนกว่าจะหายแล้วค่อยกลับมาทำงานโดยไม่หักค่าแรง

       แม็กประสาน CEO ของฮาเวิร์ดแอร์เพลนขอส่งมอบเครื่องล่าช้าออกไปอีกสี่เดือน ลองต่อรองกับทางนั้นเรื่องค่าปรับล่าช้าด้วย...”
   เซนสั่งเสียงเรียบนิ่งยังไม่ได้กล่าวอะไรต่อโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นเตือนว่ามีสายเรียกเข้าจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบออกมาดูว่าเป็นใคร ก่อนที่จะกดรับสาย

      “ครับป๋า”

      //ได้ข่าวว่าโรงผลิตถูกระเบิด เสียหายหนักนี่//

      “ก็เกือบหลักพัน  สถานการณ์ระดับมีเดียมผมยังควบคุมได้อยู่ แค่เล่นกับหมาๆ เลียปาก ไม่มีอะไรให้ป๋าต้องห่วงเที่ยวให้สบายใจเลยครับ”

      //เออ! รู้ว่าเก่งที่โทรมานี่คือแม่เขาเป็นห่วง จะทำอะไรมองให้ดีๆ มองให้ลึกๆ ถ้าจะวัดกับคนแบบนั้นดูว่ามันคุ้มรึเปล่า วัลโด้มันเสือลำบาก เขี้ยวเล็บพอตัวไม่งั้นมันคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้ คิดดีๆ ทำอะไรอย่าใช้อารมณ์เข้าใจนะระวังตัวด้วยอย่าประมาท //

      “ผมรับมือได้ มันไม่มีที่ว่างให้ความอ่อนแอแล้วครับ  ป๋าเที่ยวให้สบายใจเหอะน่า ฝากจุ๊บแก้มคนสวยด้วยนะครับ”

      “เอออย่าประมาท ไปจัดการให้เรียบร้อย แค่นี้แหละ” เซนยกยิ้มนิดๆ แม่ก็อย่างนี้ตลอดทำยังกับเขาเป็นเด็ก แต่เขาก็ชอบนะความรักห่วงใยของครอบครัวและแม่ทำให้เขาเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้ขนาดนี้

      “เออร์วินระดมทีมวิศวกรและทีมช่างมือดีทั้งหมดของเราเร่งประกอบแอร์บัสให้เสร็จภายในเวลาสี่เดือน” 

      “แต่เสี่ยครับ ผมเกรงว่าเราจะมีปัญหาอะไหล่บางชิ้นของเรายังไม่พร้อม และเราก็ขาดคนงานไปเยอะ”เออร์วินหัวหน้าทีมวิศวกรและบอดี้การ์ดคนสนิทอีกคนโต้แย้งด้วยความที่ไม่อยากรับปากชุ่ยทั้งๆ ที่หลายอย่างยังไม่พร้อม

      “อะไหล่ส่วนไหนขาดนายช่วยตรวจสอบไปที่ฝ่ายสต๊อกเดี๋ยวนี้” เซนสั่งเสียงเฉียบขาด

      “ครับผม” เออร์วินรับคำก่อนจะวีดิโอคอลไปยังฝ่ายสต๊อกโรงงานผลิต ไม่ถึงห้านาทีรายการอะไหล่ที่ขาดสต๊อกปรากฏพรืดเต็มหน้าจอไอแพดโปร เออร์วินเลื่อนมันไปตรงหน้าเซนๆ ไม่เอ่ยอะไรแต่มือหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเลื่อนหารายชื่อที่ต้องการก่อนจะกดโทรออก รอสายอยู่ในนานฝ่ายนั้นก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเข้มจริงจังติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย

      //ครับเฮีย ได้ข่าวว่ากำลังเข้าขั้นวิกฤติ มีอะไรให้รับใช้ว่ามาได้เลย // 

      “ก็เออ!  รู้เรื่องเร็วนี่หว่า พอสิวๆ วะ ไม่ถึงหลักพันยังพอรับมือได้อยู่  เฮียมีเรื่องอยากให้ช่วย”

      //ว่ามา//

      “เฮียต้องเร่งประกอบแอร์บัสให้เสร็จภายในสี่เดือน แต่อะไหล่บางชิ้นมันไม่ได้สต๊อกไว้ ถ้าจะให้ทางโรงงานส่งตามกำหนดนี้ความหายนะเหยียบหลักหมื่นแน่ๆ สิงห์พอจะหาให้ได้รึเปล่า”

      //ส่วนไหนบ้างบอกมาเลย//

      “ส่งรายการไปที่แซทบ๊อกซ์แล้ว เห็นรึยัง”   ปลายสายเงียบไปเกือบสิบนาที

      //ไม่มีปัญหา ส่วนของปีก แพนหาง ล้อประธาน เครื่องยนต์หลัก ระบบหัวจ่ายเชื้อเพลิงเข้าเครื่องยนต์ผมจะให้โรงงานของเพื่อนที่เยอรมันส่งอะไหล่ให้เฮียอย่างช้าน่าจะได้วันมะรืน  ส่วนปลีกย่อยอีก 6 รายการ ขอเวลา 3 วัน เฮียเอาเครื่องบินขนส่งไปรับของที่โรงงานของมันที่สเปนได้เลย  แล้วทีมวิศวกรกับคนงานพอรึเปล่าหาให้เอาไหม ข่าวว่าบาดเจ็บตายเยอะไม่ใช่เหรอ //

      “ไม่เป็นไร ทีมงานเฮียพอระดมได้ไม่มีปัญหา  แล้วน้องเป็นไงบ้างตอนนี้สบายดีนะ”

      // สบายดีครับ มีง่องแง่งนิดหน่อยตามอารมณ์เขานั่นแหละเรียนปีสุดท้ายแล้ว ก็ค่อนข้างหนักไหนจะฝึกงาน ไหนจะทำโปรเจคก่อนจบด้วยเลยเครียดๆ นี่ก็ไม่พูดกับผมมาหลายวันแล้วด้วยเรื่องไปฝึกงานที่โรงแรมของเพื่อนที่แม่ฮ่องสอน ผมเลยเสนอว่าถ้าจะไปที่แม่ฮ่องสอนก็น่าจะฝึกที่โรงเตี๊ยมของแม่เท่านั้นแหละ เจ้าเด็กนั่นเถียงคอเป็นเอ็นเลยว่าติดต่อไว้แล้วๆ ทางนั้นก็ตอบรับการฝึกงานมาแล้วไม่อยากเสียคำพูด แล้วสุดท้ายงอนไม่พูดกับผม ผมแมร่งโคตรจะหงุดหงิดชักจะเอาใหญ่ // สิงห์บ่นยืดยาวมาตามสาย น้ำเสียงเครียดๆ งอนให้เมียเด็กของมันแต่เป็นอีหนูของผม

      “อ้าวก็ไม่เห็นจะเป็นไร  นายก็ย้ายสำนักงานไปที่นั่นก็จบเรื่องเปล่าวะไม่เห็นจะต้องให้เป็นเรื่อง”  เซนพูดเสียงอ่อนก็ตามเคยขัดใจน้ำนิ่งได้ซะทีไหน แทบจะทูนหัวทูนเกล้าให้ทุกอย่าง เห็นน้ำตากับหน้าหงอยๆ แล้วใจจะขาดทุกครั้งเลย

      //ไอ้ได้นะมันได้อยู่หรอกผมไม่มีปัญหาย้ายตูดตามเมียได้อยู่แล้ว  แต่ข่าวที่ผมได้รับเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วมันทำให้ผมต้องคิดหนัก เฮียคงยังไม่รู้ข่าวที่ชัดเจนรายงานมาล่าสุดมันทำให้ผมร้อนใจไว้ใจใครไม่ได้เลย...//

      “ข่าวอะไรที่ชัดเจนมันยังไม่ได้รายงานเฮีย”

      //สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่อย่างที่เห็นนะสิ นายใหญ่ที่เราคิดว่าตายมันดันไม่ตาย ที่ตายห่านั่นแค่ร่างทรงของไต่ชินหยาง พวกนั้นเป็นบอดี้การ์ดที่ฝึกมาอย่างดี รูปร่างลักษณะท่าทางการวางตัว ทำศัลยกรรมแทบจะทุกอย่างไม่ผิดเพี้ยนจากนายใหญ่ มันระวังตัวมากไม่ออกสื่อเราจึงแยกไม่ออกระหว่างตัวจริงกับร่างทรง แล้วตอนนี้มันยังอยู่ที่ไทยเพื่อรอเคลียร์บิลกับพวกเรา//

      “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ชัดเจนปากแมร่งอมอะไรอยู่ ต้องให้มีเรื่องก่อนรึไงถึงจะรายงาน”   เซนตวาดลั่นด้วยความเกรี้ยวกราด มือแกร่งตบโต๊ะดังเปรี้ยงบอดี้การ์ดในห้องประชุมและคนอื่นๆ ต่างสะดุ้งตกใจ ก้มหลบหน้าเป็นพัลวันเพราะกลัวอารมณ์ของเซน

      //ผมก็เพิ่งรู้ ตอนนี้ก็ยังติดต่อมันไม่ได้เข้มแข็งคู่หูมันบอกว่าเจ้านั่นเข้าไปพื้นที่คิดว่าตรงที่มันไปคงจะอับสัญญาณจึงยังไม่ได้รายงานเฮีย//

      “สถานการณ์เสี่ยงเกินไปสิงห์คุยกับอีหนูของเฮียให้เข้าใจเหตุผลก็แล้วกัน แต่อย่ารุนแรงนะโว้ยสงสารเด็กมัน”

      //ยอมที่ไหนล่ะก็รู้เด็กเฮียแมร่งดื้อเงียบยังกับอะไร เรื่องฝึกงานเดี๋ยวผมจะพูดอีกที ถ้าจำเป็นก็จะพูดความจริงให้ฟังว่าเรากำลังเผชิญอะไรกันอยู่  มีอีกอย่างที่อยากให้รู้เรื่องสัมปทานป่าไม้ฝั่งเพื่อนบ้านกลิ่นมันดูทะแม่งๆ คู่แข่งที่ร่วมประมูลมันมีข้อบ่งชี้หลายๆ อย่างว่าน่าจะเกี่ยวกับ ACE แต่ผมไม่ฟันธงเพราะยังไม่เคยเจอตัวจริงของฝ่ายนั้นสักที เขาให้ทนายมาดำเนินการแทนตลอด ที่บอกอย่างนั้นเพราะมันมีเรื่องขู่ฆ่ามาตั้งแต่เริ่มประมูล เลยให้ชัดเจนสืบจึงทำให้รู้ว่านายใหญ่ไต่ซินหยางยังไม่ตายโดยบังเอิญ//

      บ้าเอ๊ยแล้วเพิ่งจะมาบอกนี้นะ!!! ทั้งเจ้านายลูกน้องแมร่งปากหนักพอกัน แล้วให้ส่งคนไปเพิ่มรึเปล่า”
 
       //ไม่ต้องยังไหวอยู่น่านี่แค่พูดให้ฟังเฉยๆ แล้วเฮียไม่ต้องเอาเรื่องนี้ไปปูดให้ป๋ากับแม่รู้นะ เดี๋ยวตาแก่สองคนนั่นได้วิ่งแจ้นมาเฝ้าอดหาความสุขให้ชีวิตวัยชราพอดี  อ๊ะเฮียไปทำงานเถอะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกมาได้เลย แค่นี้นะต้องไปรับเด็กแล้วช้าเดี๋ยวความวัวยังไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกได้ยุ่งตายชัก บายครับเฮีย//

      “เออรู้แล้วมีอะไรก็รีบบอกมาเลยนะ ระวังตัวด้วยแล้วกัน”  เซนกำโทรศัพท์แน่น หลังปลายสายกดตัดสายไป ตาคมดุหรี่ลงคิ้วขมวดมุ่น สันกรามบดแน่น


      “ชัดเจนมันไม่รายงานอะไรเหรอครับ” อาแจ๊กซ์เอ่ยถามเสียงไม่มั่นใจกับอารมณ์ของเซน

      “เสี้ยนที่เราคิดว่าบ่งออกไปแล้ว มันยังไม่ออกแถมยังดันบ่มหนองอีกนะสิ” เซนตอบเสียงเข้มเจือปนความกังวัลจนอาแจ็กซ์รู้สึกถึงมันได้

      “แล้วคุณราฟจะเอายังไงครับ”

      “พวกมันคงจะไม่ลงมือก็แค่หยั่งเชิง เรายังไม่ต้องห่วงเรื่องนี้น้องฉันดูแลอยู่ ส่วนเรื่องอะไหล่ไม่มีปัญหาเพื่อนของคุณราฟที่เยอรมันจะเอามาส่งอย่างช้าน่าจะถึงวันมะรืนฉันจะติดต่อกับเขาเรื่องเวลานัดส่งของที่แน่นอนอีกที  ส่วนรายการย่อยอีก 6 รายการ อีก 3 วัน เออร์วินเอาเครื่องบินขนส่งไปรับของที่โรงงานที่สเปน แล้วก็ระดมทีมวิศวกรกับคนงานด่วนเราจะเริ่มงานกันมะรืน แม็กซ์อย่างลืมทำข้อตกลงกับฮาเวิร์ดได้เรื่องยังไงรายงานฉันทุกอย่าง เรื่องคนงานที่ตายและบาดเจ็บให้เรนเดลไปจัดการก็แล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วแยกย้ายกันไปทำงาน” เซนสรุปประเด็นงานก่อนที่จะให้ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานตามที่รับผิดชอบ








TBC.


ปล.
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน  และขอบคุณสำหรับการติดตามเสมอมา <33


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 02:16:45 โดย WiChy »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โหดหื่นแบบนี้แหละแม่กระต่ายเขาชอบ

ขอบคุณค่ะ.  :mew1: 

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: รีบ ๆ ลุยศัตรูให้เกลี้ยงเหอะ ขี้เกียจลุ้น อยากอ่านแต่ตอนเบา ๆ หื่น ๆ จ้าาาา  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ดุเดือดเลือดสาดเข้าไปทุกที  :a5:


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 เยี่ยว ยาครอบครัวเขาอย่าให้ได้รับความเดือดร้อน

ฝั่ง ACE เริ่มจะลงมือแล้วซินะ ศัตรูที่เป็นตัวหัวโจกดันยังอยู่แบบนี้เฮียเซนกับสิงห์งานหนักแน่

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆน๊า :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

เฮียเซน  :  “เป็นเด็กดีไม่งอแงนะ ถ้าไม่ซนเดี๋ยวจะเลี้ยงไอติมแท่ง”  ทำหน้าตาเหมือนตาลุงแก่ๆ ที่หนีเมียเทียวได้สำเร็จ

แม่กระต่าย  :   “บ้า!! ใครจะอยากกินวะ พูดไม่อาย”

เฮียเซน  :  “มโนไปไหน หื่นนะเรา ที่ถามน่ะไอติมจริงๆ ตอนเด็กเฮียจำได้ว่าชอบไม่ใช่เหรอ”

แม่กระต่าย  :  “ก็.....”    :katai1: โว้ย!!..แล้วหน้าแมร่งจะหื่นเพื่อ...

เฮียเซน  :  “รีบๆ กินแล้วไปทำงาน ฟุ้งซ่านอยู่ได้”   [เฮียก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเองต่อ]

แม่กระต่าย  :  [รีบจ้วงกินอาหารตรงหน้าหนีอาย  ไม่อยากสนแมร่งแล้ว อยู่ด้วยกลัวอดใจไม่ไหวปล้ำกินไอติม
              แท่งแมร่ง..โว้ย!! ไม่ใช่ล่ะ หยุด ๆ ความฟุ้งซ่านฆ่ามึงได้ไอ้คานิน ตั้งใจทำงานเลยมึง]

เฮียเซน  :  “เฮียออกไปแล้วนะ ไม่ฟุ้งซ่านตั้งใจทำงานเดี๋ยวให้กิน ‘ติมแท่ง” 

แม่กระต่าย  :  “โว้ย!! จะไปไหนรีบไปเลย รำคาญแมร่ง”


   ..............................................


ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง




Zhen Side Story [6]


- 24 -

อารมณ์แปรปรวนของผู้ชายวัยทอง








      “พวกมันไม่รู้ว่าตัวเองโง่แค่ไหนที่กล้าเล่นแบบนี้  คืนนี้ทำตัวให้ว่างเราไปล่าหมาบ้ากัน อาแจ๊กซ์เอามือดีของเราไปด้วยสักสี่คนพร้อมกันห้าทุ่ม”  เซนสั่งบอดี้การ์ดคนสนิทระหว่างที่นั่งมาด้วยกันในรถ

      “ครับเสี่ย”  ทั้งสองรับคำเรียบนิ่งเหมือนนัดกันไปล่าสัตว์ธรรมดา หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างเงียบจนถึงบ้าน


       ……………………




       “พวกนายก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันไม่ออกไปไหนจะดูแลให้อาหารกระต่ายก่อน”

      “ครับเสี่ย” บอดี้การ์ดทั้งคู่เดินเลยไปทางสวนหลังบ้าน ผ่านหลังแนวสวนไปจะเป็นบ้านพักของเหล่าบอดี้การด์ จำนวน 4 หลัง อาคารที่พักแบบอพาร์ตเม้นต์สองชั้นจำนวนยี่สิบห้องสำหรับลูกน้องหนึ่งหลัง  และโรงฝึกสำหรับบอดีการ์ด 1 หลัง







      เซนเดินเข้ามาทรุดตัวนั่งเอนหลังพิงไปกับพนักโซฟาด้วยความอ่อนล้า มือแกร่งยกขึ้นกดคลึงที่ขมับคลายความตึงเครียดหลับตานิ่งนาน

       “น้ำครับเสี่ย” เทรย์เวอร์ยกน้ำแร่ขวดเล็กมาว่างให้ เซนลืมตาขึ้นขยับตัวนั่งตัวตรง เอื้อมมือไปหยิบน้ำมาดื่มจนหมดขวดเล็ก

      “กระต่ายฉันงอแงรึเปล่า”

      “ไม่ครับ เมื่อตอนเที่ยงทานข้าวกับยาแล้วก็นอน ก่อนเสี่ยเข้ามาผมเข้าไปดูยังเห็นนอนอยู่ ตัวรุมๆ แต่ไม่ร้อนแล้วครับ” เทรย์เวอร์รายงานเสียงราบเรียบ

      “นายก็ไปพักเถอะ เดี๋ยวฉันดูต่อเอง”

      “ครับเสี่ย” 

      เซนนั่งอยู่สักพักก่อนที่จะลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอน แม่กระต่ายของเขานอนหลับตาพริ้มราวกับเด็กน้อย ปากเรียวบางสีชมพูสดที่ยังบวมเจ่อเผยอ้าเล็กน้อยจนเซนอดไม่ได้ที่จะก้มลงแตะจูบเบาๆ หอมหวานแทบจะอดใจไม่ไหว เลื่อนปากจมูกมาที่แก้มเนียนตัวไม่ร้อนแล้ว เซนผละตัวออกยืนเต็มความสูง มองคนนอนหลับอยู่สักพักก่อนจะตัดใจเดินเข้าไปอาบน้ำ

      เกือบยี่สิบนาทีกว่าเซนจะจัดการตัวเองเสร็จ ร่างสูงเดินมาล้มตัวลงนอนแขนแกร่งดึงร่างโปร่งเข้ามาในอ้อมกอด คุณเธอแข็งขืนเล็กน้อยแต่ไม่ลืมตา มือใหญ่สากสอดเข้าไปในเสื้อลูบหลังเนียนปลอบไปมา แม่กระต่ายครางพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์ก่อนที่จะขยับตัวไปมาในอ้อมกอดจนเป็นที่พอใจลมหายใจสม่ำเสมอเหมือนเดิม  เซนยิ้มเอ็นดูกับท่าทางของคนในอ้อมกอด กดจมูกหอมผมนุ่มอย่างรักใคร่ ก่อนที่จะหลับไปด้วยกัน







      “เฮียทำอะไรน่ะ กลิ่นหอมเรียกน้ำย่อย หิวจังครับ” 

       คานินเดินเข้ามายืนข้างเซนชะโงกหน้าไปดูบนเตาที่กำลังตุ๋นสตู กายกรุ่นกลิ่นสบู่หลังอาบน้ำโชยกระทบจมูกคนตัวโต เซนใช้แขนแกร่งข้างว่างโอบเอวแม่กระต่ายเข้ามาชิดกาย จมูกคมสูดดมซอกคอหอมซึ่งคุณเธอก็ไม่ขัดข้องปรับเอียงซอกคอขาวเปิดเปลือยให้ได้องศารองรับจมูกคมได้เต็มที่ไม่มีหวง ส่งเสียงหัวเราะกังวานใสพร้อมหดคอหนีเมื่ออีกคนขบเม้นค่อนข้างแรง เซนไม่ขัดปล่อยจมูกปากออกจากคอขาวผ่องโอบไหล่บางเดินมานั่งที่เก้าอี้ ก่อนจะหันกลับไปรินน้ำแอปเปิลให้อีกคนจิบรอระหว่างสตูได้ที่

      “ขอบคุณครับ”  คานินรับแก้วน้ำแอปเปิลมาจิบ ส่งยิ้มหวานและคำขอบคุณให้เซนเมื่อวางแก้วลงแล้ว

      “หิวมากรึเปล่า ยังไม่ได้ที่เลย”  เซนบอกคนตรงหน้ามือใหญ่ยื่นไปวางทาบหน้าผาก ซอกคอ ตัวไม่ร้อนแล้ว หน้าตาดูสดใสขึ้นคงเพราะได้นอนเต็มที่

      “ยังเจ็บอยู่ไหมหืม..” เซนเอ่ยถามเสียงนุ่มอ่อนโยนห่วงใย

      “ดีขึ้นแล้ว..เฮียกลับมาตอนไหน ผมไม่เห็นรู้เลย แล้วงานเป็นไงบ้าง”  คานินถามน้ำเสียงกังวลและห่วงใย ถึงท่าทางที่เฮียแสดงออกมาจะไม่มีอะไร แต่คานินจับความรู้สึกได้เซนดูเหนื่อยล้า เครียดและกังวลกับเรื่องที่ครุ่นคิดอยู่ในหัวแทบจะตลอดเวลา

      “ตั้งแต่สี่โมงเย็นครับ งานเรียบร้อยดีไม่มีอะไรต้องกังวลนี่น่า”  เซนตอบปัดๆ ไม่อยากให้คานินกังวลกับเรื่องของเขา

      “ถ้าเรียบร้อยดี แล้วคิ้วนี่จะขมวดมุ่นอะไรนักหนา มีอะไรบอกกันบ้างก็ได้ถึงบางเรื่องจะช่วยไม่ได้แต่ก็จะอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจให้ได้  ไม่ใช่กีดกันให้อยู่วงนอกตลอดแล้วแบบนี้จะมาบอกว่าอยู่ด้วยกันไปทำซากทำไม  ถ้าคิดว่าทำแบบนี้แล้วดี ‘ป๋า’ อยู่คนเดียวไม่ดีกว่าเหรอ อย่าเอาผมไปเป็นตัวภาระเลยจะดีกว่าไหม” คานินทำเสียงจริงจังอย่างไม่ยอมแพ้

      “หืม..เมื้อกี้เรียกว่าอะไรนะ”  แมร่งเมียกู ก็ได้ยินนะ แต่อยากจะมั่นใจ

      “อย่าเฉไฉน่ารู้หรอกว่าได้ยิน มันไม่ตายหรอกนะถ้าจะไว้ใจใครสักคนนะ พูดออกมาบ้างก็ได้”  คานินตัดพ้อต่อว่าอย่างไม่พอใจ แววตาดื้อดึงเอาเรื่อง ถึงเขาไม่รู้เรื่องการบริหารงานของเซน แต่เรื่องอยู่เป็นกำลังใจคานินทำได้ รวมถึงเรื่องใช้กำลังคานินก็ทำได้ดีอีกเหมือนกัน

       เซนชะงักกับปฏิกิริยาของแม่กระต่ายตัวดี จึงนั่งดึงเก้าอี้ของอีกคนเข้ามาตรงกลางหว่างขาของตัวเอง ยื่นมือใหญ่ไปกอบกุมมือของอีกคนไว้ สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยห่วงใยจริงจัง
 
      “ไม่ใช่ยังงั้น เมื่อกี้เรียกเฮียว่าไงบอกก่อนแล้วจะเล่าให้ฟังทั้งหมดโอเค๊” เซนอ้อนคนตรงหน้า ส่งสายตาหวานเชื่อมกรุ่มกริ่มสำทับไปอีกที ก็อยากได้ยินชัดๆ  คานินหน้าขึ้นสีระเรื่อถอนหายใจหนักหน่วงก่อนที่จะยอมเปิดปากด้วยความเขินอาย

      “ป๋า...”

      “แมร่ง!! เมียกูกระแดะเว้ยเฮ้ย ใครสั่งใครสอนให้เรียกแบบนี้วะ ถ้าจะเล่นแบบนี้มึงเรียกตัวเองว่า “หนู” ด้วยเลยสิ จะรู้ดำรู้แดงไปเลยมึงมันอีหนูของกู”

      “อะ เออ คำว่า “หนู” ไม่เอาได้ไหม...”

      “มึงอาย!?..”  ตะคอกเพื่อ..?  จะขี้หงุดหงิดติดไฟง่ายไปรึเปล่าวะ หรืออารมณ์วัยทองเลือดจะไปลมจะมา

      “ถึงขนาดนี้ไม่มีเหอะ จะให้เรียกก็ได้แต่ว่าเอาตอนเรากอดกันได้รึเปล่ามันน่าตื่นเต้นกว่าไม่ใช่รึไงนะครับ...ป๋านะน้าาา”

      “แมร่ง!!  มึงอ้อนกูซะขนาดนี้..ก็เอาที่มึงสบายใจก็แล้วกัน ถ้ามึงลืมเมื่อไรมีเจ็บกูบอกไว้เลย” เซนดึงหน้าคานินเข้ามาแตะจูบที่หน้าผากเป็นคำมั่นสัญญาว่าเขาเอาจริง

      “เอาล่ะไม่ต้องเฉไฉนอกเรื่อง บอกมาที่คิดอยู่ในหัวตลอดเวลาคือเรื่องเมื่อเช้าใช่ไหม” พอยอมให้หน่อยองค์ลงนิสัยเมียหลวงแมร่งมาทันทีโดยไม่ต้องเชื้อเชิญให้ตาย!!  ไม่ว่าจะหญิงหรือชายขึ้นชื่อว่าเมียนิสัยช่างชักแมร่งเหมือนกันหมด แต่กูยอมเพราะ รักมึง  เซนหรี่ตาลงมองคนตรงหน้าอยู่นาน ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ก่อนจะยอมเล่าเรื่องที่โรงผลิตถูกลอบวางระเบิด รวมทั้งความขัดแย้งยาวนานกับวัลโด้และ ACE

      “ปัญหามันสิวๆ เฮียดูแลได้ ไม่อยากให้กังวลน่ะนะ”  เซนพูดเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นมันธรรมดามาก แล้วท่าทางไม่ยี่หระกับปัญหา คานินอึ้งค้างอดคิดไม่ได้ว่าระดับเกือบพันล้านนี่คือสิวๆ ยิ่งเรื่องความขัดแย้งระหว่างกลุ่มนี่อีกทำเอาคานินหวั่นใจเป็นห่วงเซนมากกว่าเดิม
   
      “คืนนี้ผมไปด้วยได้ไหม”

      “คืนนี้ไม่ได้จริงๆ เรื่องนี้มันไม่เหมือนที่กระต่ายยกพวกตีกันตอนเรียนมหาลัยหรอกนะ เฮียเป็นห่วงจะให้เทรย์เวอร์มาอยู่ด้วย”

      “แต่...”  คานินชักสีหน้าไม่พอใจ เอาจริงเขาอยากจะทำตัวให้มีประโยชน์กับคนๆ นี้บ้าง

      “ไม่งอแงครับ  เข้าใจเฮียหน่อยได้ไหม กว่าเราจะเจอกันมันนานมากนะ เฮียไม่อยากเสียใจอีก กระต่ายเข้าใจที่เฮียพูดไหม รออยู่ที่นี่นะครับ” เซนบอกเสียงทุ่มอ่อนโยนแกมบังคับกลายๆ

      “.....”  คานินไม่ตอบทำหน้าคว่ำประท้วงเงียบ

      “โธ่! ยาหยีไม่เอาแบบนี้สิที่เฮียห้ามเพราะเป็นห่วง คนพวกนั้นไม่ใช่นักเลงที่เราเห็นอยู่ตามถนนทั่วไป เชื่อป๋าหน่อยนะครับนะ..” 

      “....”  แมร่งใส่มาเป็นชุดเล่นเอาไปต่อไม่เป็น ก็แล้วทำไมกูต้องรู้สึกเกรงใจแมร่งนักวะ

       เซนขยับตัวเข้าไปใกล้ชะโงกหน้าเอาปากหนาของตัวเองมาแตะปากบางนุ่มที่เม้นแน่นของคานิน ลิ้นร้อนไล้เลียเชิญชวนเว้าวอนจนแม่กระต่ายยอมเปิดปากคล้อยตามอย่างเหม่อลอย จากจูบบางเบากลายเป็นเร่าร้อนดูดดื่มแล้วกลับมาอ่อนหวานจนแทบสำลักความสุขตาย ขยับตัวขึ้นไปนั่งบนตักเซนตอนไหนก็ไม่รู้ ทุกทีสิน่าคานินเอ๊ย!! กูแมร่งแรด

      “ก็ได้...รับปากมาด้วยว่าจะดูแลตัวเองให้ที่สุดได้ไหมครับ” 

      “คนอย่างกูไม่ยอมตายง่ายๆ หรอก เมียกูมันแรดไง ไม่มีกูอยู่คุม มันก็ตีปีกพับๆ เที่ยววิ่งร่านหาทั้งผัวทั้งเมียใหม่เป็นว่าเล่น กูนี่คงได้อกแตกตายซ้ำซ้อนนะสิไม่เอาหรอกแบบนั้นนะ พอๆ จบเรื่องเพราะกูไม่ตายเข้าใจตรงกันนะ ทีนี่มาว่าเรื่องที่กูแมร่งโคตรจะโมโหมากกว่าโรงผลิตถูกวางระเบิด “ไอ้โจ” มันเป็นใคร จำเป็นต้องโทรมาเซ้าชี้ขนาดนี้เลย ถามก็ไม่บอก แมร่งกวนตีนอย่าให้กูรู้จะเหยียบแมร่งจมตีนเลย มันเป็นใครห๊ะ!!  แล้วก็ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นกูโมโหมึงอยู่เห็นไหมนี่” 

       นี่คือคดีพลิกใช่ไหมบอกคานินที เสียงตะคอกตอนท้ายทำเอาคานินคอหดด้วยความตกใจลนลานจะขยับตัวลงจากตักหนีความผิด แต่เซนรู้ทันรีบยกมือแกร่งโอบกระชับเอวคานินไว้แน่นไม่ยอมให้ขยับไปไหน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคมวาวเต็มไปด้วยความหึงหวงเตรียมเอาเรื่องเต็มที่ เลือดจะไปลมจะมาอีกแล้วใช่ไหม

      “อะ เออ มันไม่ใช่แบบนั้น จ ใจเย็น..”  คานินพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่แรงกอดกระชับก็ยังไม่คลาย คานินเอามือของตัวเองลูบไหล่ลูบแขนของเฮียปลอบให้ความโกธรคลาย

      “จะให้ใจเย็นได้ไง แค่เซล่ายังทำให้กูเจ็บไม่พอใช่ไหม  ยังไม่สะใจใช่ไหมถึงต้องตอกย้ำด้วยผู้หญิงหกเจ็ดคนเมื่อสองสามวันก่อน แล้วก็ไอ้โจนี่อีกตกลงจะเอาให้กระอักเลือดตายเลยใช่ไหม ไอ้โจนั่นมันบอกว่าเป็นคนสำคัญของมึง มันเป็นผัวหรือเมียมึงล่ะ  แล้วกูเป็นอะไรสำหรับมึง ถามหน่อยกูเป็นอะไร  เป็นคนที่เท่าไรกันหรือไม่มีอันดับ  ดีกรีความร้อนแรงยังไม่ลดละน้ำเสียงเข้มข้นเจือปนคำตัดพ้อต่อว่า เตรียมหาเรื่องเต็มที่ถ้าได้รับคำตอบที่ไม่พึงประสงค์

      “โธ่เว้ย!!  ฟังก่อนได้ไหมเล่า จะโมโหอะไรนักหนายอมให้ทำขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อใจกันอีก ความโมโหน่ะลดลงซะบ้างเถอะเดี๋ยวเส้นเลือดในสมองแตกตาย ที่นี้เอาอะไรมาฉุดผมก็ไม่อยู่หรอกนะจะจัดหนักจัดเต็มเอามันทั้งผัวทั้งเมียให้บานฉ่ำแบบไม่แคร์สื่อด้วย ผัวแมร่งตายห่าแล้วนี่”  คานินพูดติดตลกทำหน้าแป้นแล้นให้อีกคนคลายโทสะ

      “แมร่งปากดีถ้ากูยั้งอารมณ์ไม่ไหวได้เลือดกบปาก จำไว้ถ้ากูยังไม่ตายอย่าหวัง อย่าเปลี่ยนประเด็นมึงอธิบายมาเลยว่ามันเป็นใคร รึจะให้กูสืบเองแล้วให้คนไปกระทืบแมร่งให้ตาย ”  เซนข่มขู่ แต่ดูเอาสิแม่ตัวแสบยังทำหน้าไม่อนาทรร้อนใจ ยิ้มยั่วจนเซนปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลยทีเดียว

      “ไม่เอาไม่โกธรสิ ผมยอมรับว่าเฮียโจเป็นคนสำคัญของผมจริงๆ นั่นน่ะเขาเป็น...”

      “มึงจะเล่นไม่เลิกใช่ไหม ได้ ได้เฮอร์เซ.....”  เซนทำหน้าถมึงทึง กำลังจะขยับตัวเรียกหาคนของตัวเองเสียงดัง คานินชะโงกตัวมาอย่างรวดเร็วเอามือปิดปากเซนแน่น

      “โธ่ป๋าฟังเค้าก่อนได้ไหมเล่า ที่บอกว่าสำคัญเพราะเฮียโจเขาหางานมาให้ทำตลอด ถ้าไม่ได้เฮียโจก็คงจะเอาตัวเองไม่รอดมาจนถึงขนาดนี้  เออเฮ้ย!!...ใช่ ใช่ ลืมไปเลยว่าต้องส่งงานพรุ่งนี้นี่หว่า ถึงว่าทำไมเฮียมันโทรกระหน่ำนัมเบอร์เซลล์”  คานินร้องดังลั่นเพิ่งจะสำนึกว่าตัวเองเหลวไหลแค่ไหนมาสามสี่วันนี้

      “งาน??”  เซนทำหน้าฉงนถึงเขาจะตามติดเฝ้าดูชีวิตความเป็นไปคานินตลอดหลายปี ก็รู้แค่ว่าคานินเป็นมนุษย์เงินเดือนทำงานที่บริษัทผลิตสื่อโฆษณาและสิ่งพิมพ์ขนาดกลางแห่งหนึ่ง ไม่ได้คิดว่าคานินมีงานอื่นด้วย

      “อ๋อ จ๊อบพิเศษนะครับ งานนี้มันเป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆ เลย ผมชอบพวกงานออกแบบโปรแกรม ออกแบบเกมส์ แคสเกมส์อะไรเทือกนั้น เฮียโจเขาเปิดบริษัทออกแบบเกมส์ออนไลน์รวมถึงเกมส์แผ่นต่างๆ ช่วงนั้นมันมีงานพัฒนาเกมส์ของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งมาจ้างเฮียเขาทำ แต่เฮียเขาทำไม่ทันคนเขียนโปรแกรมลาออกจากงานกระทันหัน

       เผอิญช่วงนั้นมันเป็นช่วงวิกฤติของผมพอดี กำลังเดือดร้อนเรื่องเงินทั้งต้องส่งตัวเองเรียน ผ่อนรถ ดูแลเซล่า ค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์อีก อี้เพื่อนผมตั้งแต่สมัยมัธยมต้นมันรู้ว่าผมชอบอะไรแบบนี้แล้วก็ทำได้มันเลยพูดกับเฮียมันให้ เฮียเขาเลยให้ทดลองแก้เกมส์ที่เขากำลังพัฒนาอยู่ และทำโมเดลอื่นๆ ไปให้เขาดูก่อน

       เมื่อโอกาสมันมีมาแล้วจะปิดประตูหันหลังก็ใช่ที่ ผมเลยลองทำดูปรากฏว่าลูกค้าชอบ ผมเลยได้งานนั้นแบบฟลุคๆ หลังๆ พอมีงานเฮียเขาก็ส่งมาให้ทำตลอดเงินค่อนข้างดีใช้จ่ายสองคนได้ไม่ขัดสนนัก นี่ผมลืมไปเลยว่าจะต้องแก้ไขงานอีกตั้ง 30 เปอร์เซ็นต์แน่ะ เอาไงดีๆ ป๋าช่วยเค้าคิดหน่อย”
  คานินหันไปอ้อนถามคนตรงหน้า

      “คืนนี้ขอผมกลับไปนอนที่อพาร์ทเม้นต์นะ งานมันอยู่ในคอมที่นู้นทั้งหมดเลย”  คานินทำเสียงอ้อนขอความเห็นใจ

      No!! ไม่อนุญาตครับ ไม่มีข้อต่อรอง เดี๋ยวให้เทรย์เวอร์ไปขนของมาไว้ที่นี่ไม่ต้องออกไปแล้ว”  เซนตัดสินใจแทนคนบนตักทันทีเพราะเห็นว่ามัวแต่อ้ำอึ้ง

      “ไม่เป็นไรหรอกน่า เฮียคิดมากไปเองเหอะ ไม่มีใครทำอะไรผมได้หรอกน่า ให้ผมกลับเถอะ พอเสร็จเรื่องแล้วค่อยเจอกันก็ได้นะครับ...”

        คานินทำเสียงอ่อน บางทีเขาก็อยากจะมีพื้นที่ส่วนตัวคิดทบทวนอะไรเงียบกับตัวเองอีกครั้ง ถึงเขาจะยอมรับไปแล้วว่าตัวเองมีความสัมพันธ์แบบไหนกับเฮีย ถูกวางไว้ในฐานะอะไร แต่เมื่อรับรู้ความจริงที่กระแทกใจว่าคนอย่างเฮียไม่ธรรมดาเขาก็ค่อนข้างหวั่นใจ เกิดคำถามขึ้นในใจที่ยังไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ‘เราจะไปกันได้จริงเหรอ’ 

       ความกังวลที่มันหน่วงใจในของผมไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรอบข้าง การงาน การยอมรับ หรือแม้แต่คำครหาจากคนเหล่านั้นที่จะสะท้อนกลับมาก็ไม่รู้ว่าเราจะแบกรับผลของมันได้รึเปล่า แม้สังคมจะเปิดกว้างแต่คนเหล่านั้นรับได้จริงๆ เหรอ?? พ่อแม่บุญธรรมของเฮียล่ะจะว่ายังไง เห็นแก่พระเจ้าเขาไม่อยากทำให้ทุกอย่างพังอีกแล้ว

      “ไม่ก็คือไม่ เฮียตัดสินใจแล้ว ไม่งอแงนะครับ  ไม่เอาไม่คิดแล้วหิวไม่ใช่เหรอ สตูได้ที่แล้วเดี๋ยวเฮียตักให้”

       เซนตัดบทยกตัวคานินลงนั่งที่เก้าอี้ ส่วนตัวเองเดินไปตักสตูเนื้อแกะมาเสริ์ฟ ยกขนมปังอบใหม่ๆ จากเตาอบหอมกรุ่นมาวางเรียกน้ำย่อยจนท้องคานินร้องโครกครากด้วยความหิวไม่ไว้หน้ากันเลยทีเดียว  เฮียมันหัวเราะลั่นเลยได้รับสายตาเคืองๆ ของแม่กระต่ายตอบกลับมา

       “เอ้ากินเลยครับ ไม่ต้องเคืองน่า หึ หึ”  เซนรินไวน์แดงในถังแช่มาเสริ์ฟ คานินทำทีเป็นยกแก้วขึ้นจิบเพื่อหลบสายตาล้อเลียน แมร่งกูอายกับท่าทางของมัน

      “เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมง เทร์ยเวอร์จะมาติดตั้งเครื่องคอมให้ ตั้งใจทำงานนะครับ”

      “รู้แล้วน่า ไม่เปลี่ยนใจให้ไปด้วยจริงๆ เหรอ” คานินถามแหย่อีกครั้ง

      “คำไหนคำนั้นครับ พูดง่ายจะได้โตๆ เร็ว กลับมาเดี๋ยวจะเลี้ยง ไอติมแท่ง  แมร่งพูดแล้วทำหน้าหื่นๆ เจ้าเล่ห์ให้คิดอีก

      บ้า!! ใครจะอยากกินวะ พูดไม่อาย”

      “มโนไปไหน หื่นนะเรา ที่ถามน่ะไอติมจริงๆ ตอนเด็กเฮียจำได้ว่าชอบไม่ใช่เหรอ”

      “ก็.....” เขินโว้ย!! ไปไม่เป็นเลย

      “หยุดพูดรีบๆ กินแล้วไปทำงาน ไม่ฟุ้งซ่านนะครับ” เซนพูดเสร็จก็ก้มหน้าก้มตากินส่วนของตัวเอง มีเงยหน้าขึ้นมองเป็นพักๆ แล้วทำท่าบอกให้แม่ตัวดีรีบกินแบบกวนๆ มาให้ คานินมองหน้าเคืองๆ ยอมก้มหน้าก้มตากินอาหารส่วนของตัวเองแล้วรีบชิ่งจากคนตรงหน้าไปอยู่ในมุมของตัวเอง ไม่อยากสนแมร่งล่ะ กลัวอดใจไม่ไหวปล้ำกินไอติมแมร่ง..โว้ย!! ไม่ใช่ล่ะ หยุด ๆ ใจเย็นทำงานโว้ยทำงาน

.

.

.

.


      “เฮียจะไปแล้วนะ ไม่ฟุ้งซ่านตั้งใจทำงานเดี๋ยวให้กิน ‘ติมแท่ง' หึ หึ”  เซนก้าวเข้ามาบริเวณที่คานินนั่งทำงานก้มลงกระซิบเสียงกระเส่าข้างหู ลมหายใจร้อนเป่ารดหู  ลิ้นร้อนไล้เลียรอยฟันตรงคอบางเบาจนคานินขนลุกซู่  คนร่างโปร่งสะบัดตัวออกห่างหันไปมองไอ้เฮียหื่นอย่างเคืองๆ

      “โว้ย!! จะไปไหนรีบไปเลย รำคาญแมร่ง” คานินสบถดังลั่น มือผลักคนตัวโตไปให้พ้น จะล้อยันลูกบวชเลยรึไง ก่อนที่จะหันมาสนใจงานของตัวเอง แต่หน้าตาหัวหูขึ้นสีระเรื่อ เซนยิ้มกว้างกับปฏิกิริยาตอบสนองของแม่กระต่ายด้วยความพึงพอใจ

      “จะรีบกลับมา”

      เซนบอกเสียงเบา เขาจ้องมองแม่กระต่ายที่ทำท่าตั้งใจทำงานอยู่หลายวินาที ก่อนจะหันหลังออกจากห้องไป คานินเหลือบตามองแผ่นหลังกว้างของเซนอย่างห่วงจนประตูปิดกลับคืนจึงก้มหน้าทำงานต่อ












TBC.

ปล.  เบาๆ กับไอ้ผู้ชายวัยทอง ตอนหน้าเสี่ยแกจะกลายร่างเป็นเทศกิจไปช่วยแกจับหมาบ้ากันหน่อยนะครับ
หลังจากวันที่ 10 ไปค่อนข้างจะยุ่งติดอยู่เวรยาว อาจจะมาต่อตอนต่อไปช้าสักหน่อยนะครับ สุดท้ายขอบคุณสำหรับการติดตามเสมอมา...





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 02:41:51 โดย WiChy »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ผ่านหลังแนวสวนไปจะเป็นบ้านพักของเหล่าบอดี้การด์ จำนวน 4 หลัง
 และโรงฝึกสำหรับบอดีการ์ด 1 หลัง
  “น้ำครับเสี่ย” เทรย์เวอร์ยกน้ำแร่ขวดเล็กมาว่างให้ 
 “เอ้ากินเลยครับ ไม่ต้องเคืองน่า หึ หึ”  เซนรินไวน์แดงในถังแช่มาเสริ์ฟ

เฮียกับกระต่ายน่ารักอ่ะยิ่งตอนคุยกันเรื่องไอติมแท่งยิ่งชอบ :impress2: :impress2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :o8:  อิอิ คู่นี้หวานหื่นตลอด
น้องนั่งไหวไหมเนี่ย  ยังมีการคิดถึงไอติมแท่งอีก ทำงานไปๆ  :L1:

ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด