เด็กเลี้ยง_EP.38_[ตอนจบ] P.9_1542016 // จบแล้วย้ายได้นะค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กเลี้ยง_EP.38_[ตอนจบ] P.9_1542016 // จบแล้วย้ายได้นะค่ะ  (อ่าน 116601 ครั้ง)

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง




- 14 -


หนีเที่ยว (2)








   
   หลังจากจัดการภารกิจทุกอย่างเสร็จ ผมอุ้มกระชับคนร่างบางมาวางที่เตียงกว้าง เดินไปรูดม่านปิดให้สนิท ปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้พอเหมาะ กดปิดไฟกลางห้อง เหลือไว้เฉพาะไฟหัวเตียงที่ส่องแสงสีเหลืองนวลตา ผมเดินกลับมาที่เตียงล้มตัวลงนอนเด็กผมก็ช่างรู้หน้าที่ขยับตัวเข้าสู่กอดโดยไม่อิดออด

   ผมพลิกตัวขึ้นคล่อมตัวร่างบางสานต่อเรื่องที่ทำไว้กับผมเมื่อตอนเช้า น้ำนิ่งฉงนกับการกระทำของผม ริมฝีปากแห้งผากถูกลิ้นหยุ่นสีชมพูสดแลบเลียจนชุ่มชื้นมันวาวปากนุ่มเผยออ้าเชิญชวนให้ผมสอดลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากหวานไล่กวาดต้อนลิ้นเล็กอย่างหิวกระหาย ดูดดึงเบาๆ ควานหาความหวานจนทั่วโพรงปาก  มือหนาสอดเข้าไปในชายเสื้อบีบบี้ที่ยอดอกเล็กจนเกิดเสียงครางอู้อี้จากปากนิ่มของคนใต้ร่าง ผมผละปากออกเพื่อให้คนตัวบางได้มีโอกาสสูดเอาอากาศเข้าไปเลี้ยงปอด

   “คิดถึง ภูมิกอดหนูนะ”

   ผมกระซิบเสียงเบาริมหูเล็ก ผละมือออกจากหน้าอกเล็กยกชายเสื้อนอนร่นขึ้นจนเห็นยอดอกเล็กชมพูระเรื่อ อดไม่ได้จนต้องตวัดลิ้นลงไล้เลีย เสียงครางหวานจากปากเล็กๆ นั้นยิ่งกระตุ้นให้ผมดูดดึงยอดอกแรงขึ้นอีกนิด เด็กน้อยแอ่นอกขึ้นสอดรับการดูดเลียของผม ลูบไล้มือลงไปตามสะโพกมนล้วงมือเข้าไปในกางเกงนอนลูบไล้มาจนถึงแก่นกายเล็กที่เริ่มแข็งขืนนิ้วหัวแม่มือเกลี่ยเบาๆ ที่ส่วนปลายน้ำใสปริ่มเล็กน้อย คนร่างบางยกสะโพกขึ้นเสียดสีกับกายผม

   “อา..ภูมิ”

   เด็กน้อยเลื่อนมือมาทาบทับมือผมที่ตอนนี้กุมตัวตนน่ารักของเค้าอยู่ให้ขยับ ผมผละปากจากยอดอกเล็กยิ้มพอใจ ยกตัวขึ้นมองคนร่างบางที่ตอนนี้สายตาฉ่ำหวานเชิญชวนให้ผมรักเขาอยู่ตรงหน้า จึงก้มลงเอาลิ้นเลียไล้ลงที่ริมฝีปากนิ่ม คนร่างบางครางเครือ

   “บอกภูมิก่อนว่าอยากให้ทำอะไรฮึ”  ผมถามแนบปากคนตัวบาง เด็กน้อยหน้าแดงเขินอายหันหน้าไปอีกข้าง ผมคิดว่าการทำรักมันคือการทำให้คู่รักของเรามีความสุขทั้งฝ่ายผู้ให้และฝ่ายผู้รับ ไม่ใช่เราสุขแล้วคู่ไม่เคยได้รับความสุขจากการทำรักเลย อันนั้นก็ไม่ใช่การทำรักแล้วมันคือความเห็นแก่ตัวของคนๆ หนึ่งครับ

    ผมชอบนะที่จะให้เด็กผมครางเสียงกระเส่าแล้วบอกผมว่าอยากให้ผมทำอะไรให้เขามีความสุข มันดูเซ็กซี่และกระตุ้นความต้องการได้สุดบรรยายยามที่เอ่ยออกมาจากปากน่าฟัดนั่น  ผมรู้ว่าน้ำนิ่งกำลังต้องการ เลยถามย้ำไปอีกครั้ง

   “หือ..อยากให้ภูมิทำยังไงครับ” 

   คนใต้ร่างถอนหายใจข่มกลั้นความอายจับมือผมไปวางที่ตัวตนน่ารักของตัวเองที่ตอนนี้น้ำซึมเปียกกางเกงนิดหน่อย น้ำนิ่งขบกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเบา...

   “ดูดแรงๆ ให้หนูหน่อยนะ...”     

        ปากเล็กเอ่ยเว้าวอนเสียงแผ่วหวาน นัยน์ตาวิบวับอย่างคาดหวัง ผมยกยิ้มอย่างพอใจ รู้ว่าตัวเองใช้สายตาโลมเลียคนตรงหน้ายังไงแก้มนิ่มของคนใต้ร่างขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขินอาย ก่อนจะหันหน้าหนีมีจะทิ้งหางตาที่ไม่รู้ว่าจะงอน เขิน เชิญชวน หรืออ้อน ผมบอกไม่ถูกแต่แมร่งแบบนี้ผมจะตายเอาให้ได้

   “เด็กดีไม่เห็นจะต้องอายอยากได้อะไรก็บอก  ภูมิจะทำให้หนูมีความสุขนะครับ”

   คนร่างบางหันหน้ากลับมามองสบตาสื่อความหมาย แขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบไปที่คอโน้มหน้าผมลงมาจนปากเราประกบกัน ผมดูดดึงปากเล็กสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กของคนใต้ร่าง  ดูดชิมความหวานจากอ่อนโยนแล้วเริ่มรุนแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ของเราทั้งคู่จนพอใจจึงผละออก แทรกตัวเข้ามา หว่าง กลางยื่นมือแกร่งรูดดึงกางเกงนอนของน้ำนิ่งออกโยนไว้ข้างเตียง แก่นกายเล็กที่ได้รับการปลดปล่อยจากสิ่งพันธนาการดีดตัวขึ้นทักทายผมด้วยความดีใจจนน้ำตาปริ่ม

   ผมไม่รอช้าเกี่ยวยึดสะโพกมนดึงร่างเล็กจนมาจ่อที่หน้าตัวเอง ครอบปากลงส่วนปลายยอดสีชมพู ซีดดูดชิมน้ำหวานที่ไหลปริ่มออกมาไม่หยุด ตวัดลิ้นเลียวนตั้งแต่โคนถึงปลาย สลับกับการครอบปากดุนดันดูดกลืนกินจนสุดความยาว ขยับรูดขึ้นลง ดูดเน้นๆ ตรงส่วนรอยหยักรูปตัววี จนร่างบางหลุดเสียงครางหวาน

   “อ๊ะ..อา..เสียว”

   นิ้วเรียวเล็กสอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดเส้นผมของผมกดดึงรั้งหัวไว้ เด็กน้อยยกสะโพกมนกระแทก แก่นกายสวนสอดรับกับการดูดดึงครอบครองของผม มืออีกข้างของผมเลื่อนลงไปดึงรั้งกางเกงของตัวเองถีบขาจนมันหลุดไปกองอยู่ปลายเท้า เลื่อนมือไปกอบกุมแก่นกายใหญ่ที่ตอนนี้มันพองตัวคับแน่นเต็มมือตัวเอง ขับรูดรั้งขึ้นลงจังหวะเดียวกับที่ปากก็ทำหน้าที่รูดรั้งขึ้นลงครอบครองแก่นกายของร่างบางเร็วขึ้น มือเล็กที่กดหัวผมอยู่เกร็งแน่น เด็กผมกำลังจะไป

   “อ๊ะ...อา...เร็วอีกหนูไม่ไหวแล้ว”

   ผมห่อปากดูดเม้มแก่นกายเล็กขยับขึ้นลงระรัวเร็ว ร่างบางยกสะโพกกระแทกแก่นกายเข้าปากผมแรงๆ แล้วเกร็งตัวแน่นปลดปล่อยน้ำรักขุ่นขาวไหลลงสู่ลำคอผมกลืนกินมันอย่างไม่รังเกียจ  ขยับรูดปากมาส่วนปลายดูดกลืนน้ำรักของคนใต้ร่างจนหมดจด

   น้ำนิ่งทิ้งร่างลงบนที่นอนนุ่ม ผมเลื่อนตัวขึ้นไปประกบจูบปากเล็กที่เผยออ้าด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยน ก่อนจะลุกขึ้นอุ้มเตงเด็กพาไปยังโซฟาเบดริมหน้าต่างบานกว้าง นั่งลงโดยมีเด็กน้อยนั่งค่อมอยู่บนตัก แขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบรอบคอผม

   “หนูช่วยภูมิหน่อยนะ” 

   ผมเอ่ยเสียงแหบพร่าข้างหูน้ำนิ่ง ปากหนาได้รูปขบเม้มใบหูเล็กเบาๆ จูบละไปตามคอดูดเน้นๆ จุดไว้ความรู้สึกตรงใต้คางเสียงครางแผ่วเบาอย่างพึงพอใจจากคนบนตัก มือแกร่งกอบกุมสะโพกมนยกร่างบางขึ้นจนยอดอกเล็กจ่ออยู่ที่ปากตวัดลิ้นเลียไล้วนครอบดูดจนคนบนตักเชิดหน้าครางเสียงหวานด้วยความเสียวซ่าน  สะโพกมนขยับบดเบียดเสียดสีไปกับตัวตนที่พองใหญ่แข็งขืนของผม

   “ซี๊ด...อา...หนูของภูมิ.”

   ผมขยับมือไปกอบกุมแก่นกายร้อนทั้งของตัวเองและของคนบนตักไว้ด้วยกันแน่นด้วยมือเดียว เอ่ยเสียงแหบพร่าบอกคนบนตักขยับกระแทกสะโพกเข้าใส่ในมือผมแรงๆ  ผมตวัดลิ้นเลียสลับการดูดดึงยอดอกของร่างบาง  มือที่กอบกุมสะโพกมนลูบไล้บีบกระชับก้นงอนกลมกลึง  นิ้วมือกดย้ำๆ ที่ปากทางรักสลับลูบวนรอยจีบพับระรัว ความกระสันเสียวจากการถูกกระตุ้นหลายทางมันเป็นแรงผลักดันให้ร่างบางขยับสะโพกกระแทกเข้าใส่มือผมอย่างแรง การเสียดสีแก่นกายทั้งคู่ที่กุมแน่นอยู่ในมือผมมันสร้างความหฤหรรสุดบรรยายจนเราครางไม่เป็นภาษา

   “อา...ดีเหลือเกิน  แรงๆ อีก”

   “อ๊ะ...อา...อา”

   “อ๊ะ..ซี๊ด.. เสียวเหลือเกิน”

   “หนูไม่ไหวแล้ว  กำแน่นๆ อีก”

   ผมกำมือที่มีแท่งร้อนของเราทั้งคู่ให้แน่นกว่าเดิมตามคำขอ น้ำนิ่งกระแทกใส่แรงเต็มที่ไม่ยั้ง ตอนนี้เรากำลังจะไปถึงตรงนั้นแล้ว ปากผมทั้งดูดทั้งเลียที่ยอดอกหวาน  นิ้วมือไล้วนระรัวบนรอยจีบพับ คนบนตักก็ไม่ยอมแพ้เพิ่มแรงขยับสะโพกกระแทกเสียดสีแก่นกายในมือผมอย่างแรง ในที่สุดความเสียวซ่านก็วิ่งมาจนสุดปลายทางเราทั้งคู่เกร็งตัวแน่นปลดปล่อยน้ำรักออกมาพร้อมกันเลอะเต็มมือและหน้าท้องของเรา หัวสมองขาวโพลนความสุขสมแล่นริ้วตามร่างกายจนอุ่นซ่าน 

   ความสุขสมยังไม่สิ้นสุดผมยังไม่ปล่อยแก่นกายทั้งคู่  น้ำนิ่งยังคงขยับสะโพกกระแทกเข้ามาในมือเนิบนาบ แก่นกายของเรายังเสียดสีสร้างความสุขสมเสียวซ่านจนหยาดหยดสุดท้ายของความรัก หน้าสวยหวานที่เชิดรั้งซบลงกับบ่าแขนเรียวเล็กที่เกาะกอดผมยังเกร็งแน่น 

   ผมลุกขึ้นอุ้มเด็กไปวางริมเตียง ขาเรียวเล็กสั่นระริกจากการเกร็งห้อยลงข้างเตียงอย่างเหนื่อยล้า ผมคลุกเข่าลงที่พื้นข้างเตียงดึงร่างเล็กมาจ่อตรงหน้า ตวัดลิ้นเลียแก่นกายน่ารักที่ยังแข็งขืนดูดกลืนกินหยาดน้ำรักที่เปรอะเปื้อนจนสะอาดหมดจด เลื่อนตัวขึ้นไปกอดกระชับจูบที่ปากนิ่มอีกครั้ง

   “แรดน้อยของภูมิ มีความสุขไหมฮืม..”  ผมกระซิบถามเสียงพร่ากับริมฝีปากนุ่ม

   “มากฮะ..”

   เสียงหวานแหบพร่าหอบโยนตอบกลับมา ตาฉ่ำเยิ้มที่มองสบกันมันสื่อความหมายว่าสุขสมเพียงใดกับสิ่งที่ได้รับ ผมยิ้มกว้างก่อนที่จะกดจมูกสูดดมไปที่ขมับชื้นเหงื่อทั้งสองข้าง ระเรื่อยมาที่แก้มใส่ที่ตอนนี้ ยังแดงระเรื่อก่อนจะจบลงที่ปากนุ่มหยุ่น  ผมอยากทำมากกว่านี้แต่น้ำนิ่งยังเด็กเกินกว่าจะรับผมได้ทั้งหมด แค่นิ้วที่ผมทำให้วันนั้นยังทำให้น้ำนิ่งป่วยอยู่สองวันจนพี่หนึ่งมันโทรด่าจนหูชา

   “รักเหลือเกินเป็นของภูมิไปนานๆ นะ”

   “ภูมิก็เป็นของหนูไปนานๆ นะ” 

   “ครับ”

   “ไปอาบน้ำกันนะ”

    ผมลุกขึ้นยืนข้างเตียงก้มลงอุ้มร่างบางขึ้นกอดกระชับแน่น น้ำนิ่งซบหน้าลงกับบ่าผมเดินเข้าห้องน้ำไปยืนใต้ฝักบัวปล่อยตัวคนในอ้อมกอดลงยืน แต่เจ้าตัวคงจะเหนื่อยมาก ซบหน้าพิงกับอกผม มือโอบประคองไว้ไม่ให้ล้มคว่ำ อีกข้างยื่นไปเปิดน้ำอุ่นรดเราทั้งคู่  ฟอกสบู่แล้วล้างตัวออกอย่างรวดเร็ว สงสารครับจะยืนไม่ไหวแล้ว อุ้มไปเช็ดตัวลงครีมหาทาทั่วตัวหาเสื้อผ้าให้ใส่ก่อนจะอุ้มมาวางที่เตียง เด็กผมจะหลับมิหลับแหล่ แต่ฝืนตารอ ผมก้มลงเก็บเสื้อชุดนอนตัวเก่าใส่ตะกร้าซัก รีบเดินไปหยิบกางเกงนอนขายาวออกมาจาก ตู้สวมแล้วจึงเดินไปล้มตัวนอน   

    ร่างบางขยับตัวเข้ามาในอ้อมกอดในตำแหน่งประจำ ผมยื่นมือไปหยิบผ้าประจำตัวอีกฝั่งมาให้ ขาเรียวเล็กยกขึ้นเกี่ยวขาผม ๆ เอื้อมมือไปตบก้นงอนเบาๆ ไม่นานคนในอ้อมกอดก็หลับสนิทลมหายใจสม่ำเสมอ ผมนอนมองหน้าร่างบางด้วยความรักกดจมูกสูดดมความหอมตามหน้าผาก แก้ม ซอกคอ บางครั้งกดจูบปากบางที่เผยออ้าน้อยๆ จนพอใจไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไร...

.

.

.

.

.

   

   ผมคิดว่าตัวเองคงจะหลับไปนานพอสมควรควานมือไปข้างๆ หวังจะดึงเด็กตัวหอมมากอด แต่ที่นอนข้างตัวกลับว่างเปล่า ผมเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำนิ่งไม่ได้อยู่ในกรอบสายตาไม่รู้หายไปไหน  เดินไปเปิดดูในห้องน้ำไม่มี เดินลงมาข้างล่างจนถึงห้องโถงแต่ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้

   เสียงดังเอะอะบริเวณหาดทำให้ผมหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นเด็กของผมกับพวกพี่ๆ มันกำลังเล่นแย่งบอลในน้ำกันอยู่ เด็กน้อยของผมขี่คอพี่ฉาน  พี่พีชี่คอพี่ณิต  พี่หนึ่งกับพี่แสนเป็นกองเชียร์อยู่ข้างๆ หนีลงมาเล่นไม่ปลุกต้องมีทำโทษกันบ้างแล้ว (คือไม่ใช่จะทำอะไรรุนแรงหรอก แค่หาเรื่องกดเด็กอะครับ) 

    เมื่อเห็นว่าเด็กอยู่ไหนเลยหันหลังเดินกลับขึ้นไปบนห้องล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีดำกับเสื้อกล้ามขาวตามลงไปยังหาด

   ผมเดินมานั่งลงบนพื้นทรายข้างๆ เฮียเซนที่ตอนนี้ยกกล้องกดซัตเตอร์รัวเก็บภาพความสนุกสนานข้างหน้าแต่ให้เดาก็คงเน้นเฉพาะเด็กตัวหอมศูนย์กลางของจักรวาลนั่นแหละ  ร่างบางหันมาเห็นผมโบกไม้โบกมือไหวๆ บอกให้พี่ฉานปล่อยตัวลง วิ่งถลาเข้ามาหา มาถึงไม่พูดพล่ามทำเพลงนั่งปรุลงบนตัก แขนเรียวเล็กยกขึ้นคล้องคอ จมูกเล็กน่ารักคลอเคลียป่ายปัดไปมากับจมูกผม มือผมตบลงเบาๆ ที่ก้นงอนในกางเกงว่ายน้ำสีฟ้า

   “อ๊ะ เค้าเจ็บ”   แอ๊คติ้งสุดยอดของเด็กตัวหอมทำให้เฮียรีบวางกล้องหันมาดูว่าน้องเป็นอะไร ผมเลยทำปากว่าเด็กแกล้ง เฮียเลยหลุดขำส่ายหน้ากับความเจ้าเล่ห์ของเด็ก

   “ทำโทษที่ลุกมาไม่ปลุก”  ผมทำเสียงเข้มใส่คนบนตัก

   “ก็...”  น้ำนิ่งก้มหน้างุดเหมือนพยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองพ้นผิด

   “ก็อะไร...” แกล้งทำเสียงแข็งใส่

   “ก็เฮียบอกภูมิเหนื่อยไม่ให้ปลุก พี่ฉานไม่ให้เวลาตอบรับหรือปฏิเสธเลยอุ้มหนูลงมาเลย”

    เด็กตัวหอมตรงหน้าบอกพร้อมเงยหน้าส่งสายตาอ้อนๆ มาให้ แล้วผมจะกล้าโกธรเหรอ...แค่อยากแกล้งเด็กน่ะ ปฏิกิริยาน่ารักทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้เลยก้มลงกดจูบหน้าผากมนที่ตอนนี้มีกลิ่นเค็มของเกลือเจอปนอยู่แต่นั่นก็ไม่สามารถกลบกลิ่นหอมรวยรินจากร่างของคนตรงหน้าได้หมด

   “ภูมิไม่ได้ว่าซักหน่อย แล้วเล่นอะไรอยู่ครับ”

   “เล่นแย่งบอลฮะ กำลังจะชนะอยู่เชียว ภูมิเล่นกับหนูไหม” เด็กบนตักบอกด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน

   “เหรอแล้วทำไมไม่ชวนเฮียไปเล่นด้วยล่ะหืม”

   “เดี๋ยวคนแก่หัวใจวาย เล่นไม่ได้หรอกเนอะ”  เด็กน้อยทำเสียงสัพยอกคนข้างๆ ผม นั่นก็ฮึมๆ ใส่น้อง

   “เดี๋ยวๆ ว่าใครแก่ ไม่รู้ซะแล้ว มานี่เลยมา” 

    เฮียยกตัวน้ำนิ่งจากตักผม ดึงแขนน้องเดินตรงไปที่พวกพี่ๆ มันเล่นบอลกันอยู่ เสียงดังโหวกเหวกท้าทายกัน ทีนี้เกิดเป็น 3 ทีมครับ เฮียเซนกับเด็กผม  พี่ฉานกับพี่หนึ่ง  พี่ณิตกับพี่พี แข่งกันสองอย่างคือแย่งบอลใครทำบอลตกถือว่าแพ้ แล้วก็แข่งว่ายผลัด ใครแพ้ทั้งสองครั้งจะต้องจ่ายค่าอาหารเครื่องดื่มคืนพรุ่งนี้ทั้งหมด ผมถอดเสื้อ กล้ามและกางเกงขาสั้นออกเหลือแต่กางเกงว่ายน้ำเดินไปยืนข้างพี่แสนให้กำลังใจเด็กใกล้ๆ

   “เฮียซ้ายๆ อิ๊บ”  น้ำนิ่งร้องบอกทาง ก่อนจะส่งบอลไปทีมพี่ณิตแต่ตีให้ห่างไปนิดหน่อยกะให้ฝ่ายนั้นพลาด

   “อ๊ะ แกล้งเหรอ ขวาๆ ณิต”  เสียงร้องของพี่พีสั่งคนของตัวดังลั่น แต่ก็สามารถรับบอลส่งต่อให้ทีมพี่หนึ่งได้ พี่หนึ่งตีคืนส่งให้พี่พีเหมือนเดิม เกือบรับไม่ได้ครับ

   “แมร่งรุม...ได้”  พี่ณิตโวยวาย แต่ก็สามารถรับและส่งบอลต่อให้เด็กผมได้เฉียดฉิว

   “เฮียๆ ขวาๆ อีกนิด”  เด็กน้อยส่งบอลคืนให้พี่พี ฝ่ายนั้นรับได้
 
    เสียงหัวเราะกังวานใสที่เกิดจากความสุขของน้ำนิ่ง เสียงโหวกเหวกของพี่ชายตัวใหญ่หกเจ็ดคน ท่ามกลางลำแสงสีส้มแดงของพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า มันเป็นภาพของความสุขที่ตราตรึงอยู่ในใจที่ไม่อาจลืมได้ ความสุขรอยยิ้มของคนตัวหอมผมสัญญาจะดูแลรักษาอย่างดีไม่ให้เลือนหายไปจากใบหน้าสวยหวานนั่น ผมหันไปทางดงมะพร้าวส่งสายตาคมดุมุ่งมั่นดั่งเป็นสัญญาให้ใครก็ตามที่กำลังเฝ้ามองพวกเราอยู่ตลอดเวลาได้รับรู้

   “มีอะไร”  พี่แสนหันมาเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าสงสัย

   “พี่รู้สึกใช่ไหมว่ามีคนจ้องพวกเราอยู่”  ผมหันไปถามเสียงเข้มติดจะกังวลกับพี่แสน

   “กูรู้”  น้ำเสียงที่ตอบกลับมาติดจะกังวลเหมือนผม

    บทสนทนาของเราจบลงแค่นั้น ก่อนจะให้ไปสนใจเกมส์ตรงหน้า เสียงตอบโต้ส่งบอลกันไปมาอยู่เกือบยี่สิบนาทีด้วยความเหนื่อยที่เล่นกันมานานประกอบกับคลื่นลมแรง ในที่สุดพี่พีก็พลาดบอลลอยหวือเฉียดมือไปนิดเดียว พี่แกสบถออกมาด้วยความเจ็บใจ คนอื่นๆ เลยหัวเราะลั่น

   “โธ่เว้ย! แมร่ง บอกให้ไปซ้าย กลับไปขวา”

   “เออ มันเพิ่งเริ่มต้น รับรองว่ายน้ำไม่แพ้แน่” พี่ณิตประกาศกร้าวเดินลุยน้ำมาเกือบถึงฝั่งรอคนอื่นๆ เดินมาสมทบเพื่อแข่งว่ายน้ำต่อ เด็กน้อยวิ่งเข้ามากระโดดเอาขาเกี่ยวเกาะเอวผมหัวเราะเสียงใส

   “เค้าสนุกจัง แต่เหนื่อยมากเลย”   เสียงบอกเล่าของความสนุกเจือมากับน้ำเสียงกังวานใสที่บอกผม

   “เหนื่อยที่ไหน อยู่บนคอเฮียตลอด”  เฮียเซนคัดค้านคำพูดน้องทันควัน คนสวยหน้างอง้ำแต่ก็ยังส่งเสียงเถียงคอเป็นเอ็น

   “ที่ไหน ถ้าไม่มีมันสมองและการเล็งเป้าที่แม่นยำของหนูแพ้ตั้งนานแล๊ว  ภูมิว่ายน้ำแทนเค้าน้า นะ นะ...”

   “มีอะไรแลกเปลี่ยน บอกภูมิก่อน” 

    ผมก้มลงเอาริมฝีปากร้อนแตะหน้าผากมนและป่ายปัดจมูกของเราไปมา กระซิบเสียงเจ้าเล่ห์กับร่างบางที่ผมยังอุ้มอยู่ ฝ่ายนั้นนิ่วหน้าขมวดคิ้วคำนวณผลได้ผลเสียแล้วครับ

   “เค้าให้หมดเลย ถ้าภูมิชนะนะ”  ตกหลุมพรางแล้วครับ ผมยกยิ้มสุขสมใจ

   “สัญญาแล้วนะ”  ก้มลงขบเม้นปากนุ่มหยุ่นเบาเป็นการมัดจำ

   “ฮือ..ชนะก่อนสิ”  เด็กน้อยดันหน้าผมออก เสียงหัวเราะใสพึงพอใจ

   “ก็มัดจำ เดี๋ยวไม่มีแรงแข่ง”

   “เอ้า!!  ผัวเมียคู่นั้นจะออเซาะอีกนานเปล่าวะ  จะได้นั่งจิบเบียร์รอ”  พี่ฉานส่งเสียงล้อเลียนมาจากในน้ำ

   “เรื่องของเขาสิเนอะ ตัวอิจฉาเค้าเหรอ” 

    คนน้องปากยื่นปากยาวต่อล้อต่อเถียงแล้วหันมาหาพรรคพวกกับผม พี่ๆ มันหัวเราะชอบใจใหญ่กับท่าทางของน้ำนิ่ง  ถามว่าเด็กผมอายไหมที่พี่ฉานเรียกแบบนั้น คำตอบคือไม่ ชอบมากกว่าที่ได้ประกาศตัวว่าเราเป็นอะไรกัน  เราสองคนมีนิสัยที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ  “หวงของ”  อะไรที่เป็นของเรายิ่งเป็นของสำคัญด้วยแล้วคนอื่นห้ามยุ่ง  อยากประกาศให้ใครๆ รู้ไปเลยด้วยว่านี่ของเราห้ามยุ่งเด็ดขาด

   “เอาให้พี่ฉานหงายเก๋งไปเลยนะ แล้วหนูจะให้ทุกอย่างเลย” 

    ร่างบางยื่นหน้ามากระซิบริมหูติดสินบนที่ผมเต็มใจรับ  ปากนิ่มร้อนขบเม้มติงหูเบาๆ ฉกจูบปากเป็นของแถม ก่อนที่เจ้าตัวจะรูดลงจากตัวผม ตบก้นผมเร่งให้เข้าสนามแข่ง ผมหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อีกครั้งรู้สึก ได้ว่าแข่งครั้งนี้ถึงจะไม่ชนะตัวเองได้กำไรเห็นๆ 

   ผมคู่กับเฮียแทนน้ำนิ่ง แต่ละคนจะว่ายไปจนถึงทุนสีแดงก็ประมาณร้อยเมตรแล้วว่ายกลับมาแตะมือคู่ของตัวเองให้ว่ายต่อ ไปกลับก็ตกคนละสองร้อยเมตร ค่อนข้างหินพอสมควรเพราะตอนนี้คลื่นและลมแรงมาเป็นระลอก รอบแรกที่แข่งมีเฮียเซน  พี่พี  และพี่หนึ่ง  ส่วนรอบสองผมแข่งกับพี่ณิต และพี่ฉาน พี่แสนยืนเป็นกรรมการ น้ำนิ่งเป็นกองเชียร์

   รอบแรกเฮียว่ายเข้ามาแตะมือผมก่อน  ตามด้วยพี่พี และพี่หนึ่ง ซึ่งเข้ามาในเวลาใกล้เคียงกันมาก หลังจากแตะมือกับเฮียผมรีบว่ายอย่างรวดเร็วหนีสองคนนั้น ได้ยินเสียงโวยวายของพี่ณิตที่โดนพี่ฉานแกล้ง ดึงกางเกงว่ายน้ำ ผมละเอือมระอาถ้าไม่ใช่เวลาทำงานพวกพี่มันทำตัวได้ยิ่งกว่าเด็กมากครับ

   “เฮ้ย!! ไอ้ฉานไม่เล่น  มึงโกง”  พี่ณิตโวยวายมือดึงกางเกงเท้าถีบอีกคนเป็นพัลวัน ก่อนจะว่ายตามมา

   “ก็ไม่ได้บอกให้เล่นใสสะอาดนี้หว่า”  พี่ฉานรีบว่ายหนีมา

   “ณิตอย่ายอมนะ เร็วๆ ถ้าแพ้ไม่ต้องกอดห้าวันนะ” 

    พี่พีกลัวคนของตัวเองเพลี่ยงพล้ำ มีติดสินบนครับคิดว่าพี่มันคงได้ยินคำว่าไม่ให้กอด เท่านั้นแหละพี่ณิตรีบสปีดว่ายตามมาจนทันก่อนที่มือแกร่งจะดึงกระชากกางเกงว่ายน้ำของพี่ฉานหลุดลอยไปตามน้ำ

   “เอ้ย!!”

    เสียงร้องตกใจทำให้เสียจังหวะ พี่ณิตถือโอกาสนั้นถีบตัวว่ายนำหน้าอย่างรวดเร็ว ถามว่าพี่ฉานอายจนต้องตามไปคว้ากางเกงว่ายน้ำที่ลอยไปรึเปล่า ไม่ครับความอายไม่มีบัญญัติไว้ในพจนานุกรมของฉะฉานครับ พี่มันว่ายตามมาอย่างรวดเร็วเกือบจะคว้าข้อเท้าของพี่ณิตได้อยู่แล้ว แต่คนนี้ก็ไวกว่านักกีฬา ว่ายน้ำเหรียญทองของมหาวิทยาลัยนี่น่าว่ายหนีได้เฉียดฉิว

   “ฉานเร็วๆ เมียเค้าติดสินบนกันแล้ว กูเชียร์มึงอยู่นะ เร็วๆ อย่าให้เสียชื่อนะมึง“ 

   พี่หนึ่งตะโกนเชียร์ทีมตัวเองเสียงดัง ผมว่ายลอยตัวอยู่ตรงทุ่นยังไม่ว่ายกลับรอจนพวกพี่มันตามมาเกือบถึงห่างกันแค่สองช่วงตัว ผมทำหน้าตาท้าทายพวกพี่มัน ปากบอกไม่มีเสียงว่าไปก่อนนะพี่  ผมสปีดตัวว่ายออกมา ระหว่างสวนกันพี่ฉานมันจะเข้ามาคว้าข้อเท้าผมไว้ แต่ผมไวกว่าอยู่แล้ว ถีบตัวออกอย่างรวดเร็ว เด็กผมบนฝั่งร้องโวยวายฟ้องพี่แสนให้ลั่น

   “ไม่เอาสิพี่ฉานแกล้งภูมิอ๊ะพี่แสนเห็นไหมๆ  ปรับแพ้เลยน้ำไม่ยอม แพ้ๆ”

   “เฮ้!! ฉานมึงอย่าตุกติก เห็นไหมเมียเค้าโวยวายห่วงผัวแล้วเนี่ย” 

    เสียงดังตะโกนตำหนิพี่ฉานไม่จริงจังนักตอนท้ายมันทะแม่งๆ ไงไม่รู้ แล้วก็หัวเราะกันลั่นหาด มือเล็กๆ ของน้องเลยซัดเผี้ยะตรงแขนแกร่งเข้าให้ ถอยหนีเป็นพัลวัน เสียงหัวเราะของความสุขที่แกล้งน้องได้ดังลั่นหาด

   ผมว่ายเข้ามาถึงฝั่งก่อนเป็นคนแรก ตามด้วยพี่ณิต แล้วก็พี่ฉาน พี่หนึ่งเอาผ้าเช็ดตัวไปให้พี่ฉานพันตัวไม่อยากจะให้น้องเห็นภาพอุจาดตา แต่สรุปคือ ทีมพี่ฉานโดนปรับแพ้เพราะรบกวนทีมอื่น  สองทีมเลยต้องเป็นคนจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มคืนพรุ่งนี้

    พวกเราเล่นน้ำกันต่อจนลำแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ความมืดเริ่มเคลื่อนตัวเข้าครอบครองแผ่นฟ้ากว้างแทน ดาวเล็กๆ ทอแสงวิบวับบนฟากฟ้า ลมเย็นที่พัดหอบเอาความเค็มของทะเลกระทบร่างทำให้เหนียวตัวไปหมด เมื่อเห็นว่าเล่นกันนานเดี๋ยวเด็กจะไม่สบาย เฮียเซนเลยให้แยกย้ายกันไปอาบน้ำก่อนจะไปทานอาหารค่ำกันข้างนอก 

         ก่อนที่จะแยกย้ายความรู้สึกนั่นมันกลับมาอีกแล้ว ผมหยุดชะงักเสตาไปทางดงมะพร้าวชั่วแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับมาสบเข้ากับสายตากังวลของพี่แสนเราทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

    เด็กตัวหอมกับสัตว์สายพันธุ์เล็กอย่างพี่หนึ่งกับพี่พี รีเควสว่าเหนื่อยไม่อยากออกไปกินข้างนอกทำปิ้งย่างอาหารทะเลกันเองได้ไหมสายตาเว้าวอนวิบวับส่งให้พี่ชายใหญ่ของกลุ่ม เท่านั้นแหละครับ เฮียก็เฮียเถอะหน้านิ่งเย็นชาขนาดไหน ถ้าเจอสามคนนี้รวมพลังกันนะ บึ้มเป็นโกโก้ครั่น ขึ้นไปอาบน้ำไม่ถึงชั่วโมงกลับลงข้างล่างทุกอย่างพร้อมสรรพ หมึก กุ้ง หอย ปู  เครื่องดื่ม เพียบลานหน้าบ้าน เฮียท่าจะหลงเด็กหัวปักหัวปำแล้วครับทูนหัวทูนเกล้าให้ทุกอย่าง แต่ผมว่าดีแล้วที่ไม่ออกไปทานกันข้างนอกให้ได้ห่วง









>>มีต่อด้านล่าง<<

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
>> ต่อจากด้านบน<<


   หน้าที่ปิ้งย่างเป็นของฝ่ายแม่บ้านสาวๆ (?) เค้ารับอาสาอยากทำ  น้ำนิ่งทำน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดตาม ด้วยยำหอยนางรมตามรีเควสของพี่หนึ่งซึ่งออกสีหน้าท่าทางเปรี้ยวปากอยากกินราวกับผู้หญิงแพ้ท้อง แถมด้วยต้มโคล้งปลากะพง ตบท้ายด้วยหมึกผัดไข่เค็มให้ผมกับพี่แสนกินข้าวเย็น  คือพี่แสนมันเหมือนผมก่อนที่จะดื่มหรืออะไรก็ตามแต่จะต้องมีข้าวรองท้องก่อน ไม่งั้นแมร่งเมาฉิบหายวายป่วง

   เฮียเซนอึ้งตาโตตอนลงมาเห็นน้องทำกับข้าว วิ่งตึงๆ กลับขึ้นไปบนบ้านพวกผมนึกว่าเป็นอะไรมองหน้ากันงงๆ แล้วก็ถึงบางอ้อเมื่อเฮียเอากล้องมาเก็บภาพตอนน้องทำกับข้าวครับ พวกผมเลยส่ายหน้าเอือมระอากับคนเห่อน้อง

   เฮียเปิดไวน์ขาวโซวินญองทานคู่กับอาหารทะเล  มันเป็นไวน์ขาวที่ทำจากองุ่นพันธุ์โซวินญอง บลอง หมัดบ่มไว้หลายสิบปีแล้ว เวลาดื่มมันให้ความรู้สึกสดชื่นยิ่งกับพวกอาหารทะเลนี่ยิ่งดื่มได้เรื่อยๆ พวกพี่มันอนุญาตให้สาวๆ ดื่มได้เพราะอยู่บ้าน

    บรรยากาศของลมทะเลพัดเอื่อย ดาววิบวับเต็มท้องฟ้า  อาหารอร่อย และไวน์ขาวรสเลิศ ทำให้พวกเราเจริญอาหาร เฮียเซนเติมข้าวสองจานใหญ่ติดใจฝีมือเด็กผมเข้าให้แล้วครับ นั่งกินนั่งดื่มกันจนเกือบห้าทุ่ม ไวน์หมดไปเจ็ดขวด น้ำนิ่งเริ่มเลื้อยตัวมานั่งตักคลอเคลียราวลูกแมวอ้อนเจ้าของ แก้มใสแดงระเรื่อจากแอลกอฮอร์ในกระแส เลือด  ตาฉ่ำหวานเชิญชวน  น่าฟัดเอี้ยๆ

    ฝั่งตรงข้ามผมตอนนี้พี่พีที่ปกติจะไม่แสดงออกให้รู้ว่าเป็นอะไรกับพี่ณิต แต่ตอนนี้กลับสร้างโลกส่วนตัวเลื้อยขึ้นไปนั่งตักจูบปากแลกลิ้นกับคนของตัวเองไม่สนใจสิ่งรอบข้าง  ผมว่าพี่ณิตก็คงไม่ไหวแล้วเหมือนกันหน้าออกอาการมาก (อาการหื่นนะ) พี่มันลุกขึ้นอุ้มคนบนตักขึ้นมาในอ้อมกอด

   “เฮ้ย!  ขอตัววะพาเด็กไปเก็บก่อน” 

   “เออๆ อย่ารุนแรงกับน้องนัก ถนอมมันบ้าง” พี่แสนทำหน้าตาล้อเลียนคนทั้งคู่ แต่พี่ณิตจะสนเหรอครับจูบโชว์อย่างดูดดื่มก่อนผละออกจากกันกัดริมฝีปากล่างคนในอ้อมกอดโชว์อีก ผมล่ะอ่อนใจกับพี่มันถ้าเมาแล้วก็แบบนี้แหละครับ

   “ซี๊ด! ฮือไม่เอาเจ็บ”  คนในอ้อมกอดบ่นงุ๊งงิ๊ง ผลักหน้าพี่ณิตออกจากปากตัวเอง

   “ไปเลยมึง เห็นใจพวกกูบ้างอะไรบ้างจะขึ้นแล้วเนี่ยห่านเอ๊ย”   พี่ฉานโบกมือไล่คนทั้งคู่

   “เออๆ เดี๋ยวกูทำเผื่อแล้วกันนะโว้ย”  พี่ณิตยังปากดี ยกยิ้มสะใจแล้วหันหลังเดินเข้าบ้านไป


    “อะไรอีกหละนี่ ง่วงก็ขึ้นไปนอนบนห้องเลยไป”

    พี่ฉาน ส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่สบอารมณ์พยายามผลักหัวพี่หนึ่งที่อยู่ๆ ก็เลื้อยเอาหัวมาวางปรุลงบนตักของตัวเอง  แต่คนถูกผลักกลับพลิกตัวสอดแขนที่มีกล้ามเล็กน้อยนั้นโอบไปรอบตัวคนโตกว่า หน้าซุกซบกับหน้าท้องแกร่งของพี่ฉาน ไม่พอมีกัดเม้มหน้าท้องแกร่งของพี่มันเบาๆ อีก

   “ซี๊ด แมร่ง!!”  พี่ฉานร้องด้วยความตกใจ ผลักหัวคนบนตักพัลวัน เฮียเซนที่วางหน้านิ่งเย็นชายังหลุดหัวเราะส่ายหน้าให้กับพฤติกรรมของพวกเรา 

   “แสนมึงมาอุ้มมันไปนอนดิ”  พี่ฉานยังไม่ยอมครับเรียกพี่แสนซึ่งนอนห้องเดียวกันให้มาอุ้มคนที่ชุกตักอยู่ไปนอน
   “เรื่องกูปวดแผลอยู่เห็นไหมนี่ ปะเฮียไปนอนห้องผม”  พี่แสนปฏิเสธ รีบลุกขึ้นกวักมือเรียกเฮียให้ไปนอน  พูดเสร็จหันหลังขึ้นห้องไม่สนใจฟังเสียงโวยวายของพี่ฉาน  เฮียลุกขึ้นยืนกำลังจะเดินตามพี่แสนไป แต่เหมือนคิดอะไรได้หันมามองผมสายตากรุ่มกริ่มและ...

   “สิงห์ก็เหมือนกันนะอย่ารุนแรงกับน้องเพลาๆ บ้าง  แค่บ่ายก็พอแล้วมั้งนะ” 

    ผมนี่ *0*  แร๊งงงงงง  อึ้งกับคำพูดทิ้งท้ายของคนหน้านิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้ยินก็ได้ยิน  หลังจากดึงสติกลับมาได้ผมหันมาสนใจสองคนข้างหน้าที่ยังเคลียร์ปัญหากันไม่จบ

   “ก็รู้ว่าตัวเองอ่อนยังจะกินไม่ดูตัวเอง  แล้วใครเหนื่อย...กูนี่” 

    พี่ฉานบ่นอย่างหัวเสียเลยครับ ขยับตัวลุกขึ้นอุ้มพี่หนึ่งขึ้นไว้ในอ้อมแขนอย่างยากลำบาก ตัวพี่มันเองก็กึ่มๆ แต่ไม่ถึงกับเมา เดินโซเซก้าวขึ้นบันไดปากก็บ่นให้คนในอ้อมแขนไปด้วย

   “ถ้าดูแลตัวเองไม่ได้ทีหลังก็ไม่ต้องกิน ทำให้คนอื่นเขาลำบาก”

   “ก็ไม่ต้องมายุ่ง เหนื่อยไม่ใช่เหรอ ปล่อย...”

    พี่หนึ่งที่ผมคิดว่าหลับเถียงกลับเสียงแข็งแต่เสียงนั้นติดจะสั่นๆ เหมือนข่มกลั้นความน้อยใจ  ดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่งของพี่ฉาน

   “หยุด!! มึงจะดิ้นทำห่าไร เดี๋ยวได้ตกคอหักตายกันทั้งคู่”  พี่ฉานตะคอกเสียงดังใส่คนในอ้อมแขน

   “ฮึก...ฮือออ...”  ทำนบน้ำตาพังจนได้ครับ

   “เงียบ!! มึงจะร้องทำไม“  พี่ฉานตะคอกใส่คนในอ้อมแขนอีกครั้ง  ก็หยุดนะครับแต่ยังมีสะอึกสะอื้น

   “ก..ก็มึงตะคอกเสียงดัง ด..ด่ากูด้วย ไม่ชอบ” 

   “กูด่าเพราะกูห่วง ถ้าไม่อยากให้กูตะคอกทีหลังอะไรที่กูไม่ชอบก็ไม่ต้องทำ เข้าใจไหมที่พูดนะ”

   “ฮือ”

   เสียงของสองคนนั้นเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ ผมส่ายหน้าระอาใจพวกพี่มันทะเลาะดุด่าแกล้งกัน  แต่สามคนนั้นก็รักกันดีครับ อาจเป็นเพราะพวกพี่มันอยู่ด้วยมาตลอดก็เลยห่วงใยและผูกพันกันมาก

   “ภูมิหนูเวียนหัวฮึก...ฮือ” 

    เอาแล้วไงผมมัวแต่ตะลึงกับคำพูดของเฮียเซน ภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อสักครู่จนลืมไปเลยว่าเด็กผมก็สภาพไม่ต่างจากสองสาว? นั่นเท่าไร น้ำนิ่งซบหน้าอยู่ซอกคอผมพึมพำสะอึกสะอื้นน้ำตาไหลชุ่มคอผม 

   “ชู่ว์ ชู่ว์ ภูมิรู้แล้ว ไม่ร้องนะ” 

    ผมกอดกระชับมือล้วงเข้าไปในเสื้อลูบหลังปลอบโยน ลุกขึ้นอุ้มกระชับคนตัวบางพาเดินเข้าไปในครัว วางเด็กลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะอาหาร เดินกลับไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำส้มคั้นออกมารินใส่แก้ว และขนมปังหนึ่งแผ่นยื่นให้เด็กกินป้องกันการอาเจียน

   “เด็กดีกินนี่ก่อนครับให้หมดแผ่นนะ”

   “ไม่หนูเวียนหัวฮืออ..”

   “กินก่อนครับจะได้ไม่เวียนหัวนะครับ”   ผมยื่นขนมปังจ่อปากให้ร่างบางกัดกินอีกครั้ง เขาพยายามฝืนกินจนหมดแผ่น ผมยกแก้วน้ำส้มคั้นเย็นเจี๊ยบจ่อปาก

    “ดื่มน้ำส้มด้วยครับจะได้หายเวียนหัวนะ”  เด็กน้อยหลับตาอยู่ครับแต่เผยอปากรับน้ำส้มดื่มจนหมด

   “ดีขึ้นรึยังครับ” 

    ผมนั่งลงบนซ้นเท้าของตัวเองเอ่ยปากถามเด็กตัวหอมตรงหน้า มือยกขึ้นปัดปอยผมที่ระหน้าไปทัดหูไว้ มือที่โอบประคองหน้าสวยหวานลูบไล้แผ่วเบา  ร่างบางตรงหน้าพยักหน้าว่าดีขึ้นแล้ว ผมชะโงกหน้ายื่นจมูกไปสูดดมกลุ่มผมหอม

   “งั้นไปอาบน้ำนอนเนอะ”

   “ครับ” 

    ร่างบางชะโงกตัวเอาแขนเรียวเล็กคล้องคอผมหน้าซบลงกับซอกคอ ผมลุกขึ้นยืนอุ้มเด็กขึ้นในอ้อมแขน มือก็ลูบปลอบจนไปถึงห้อง จัดการอาบน้ำให้เราทั้งคู่เสร็จแล้วจึงอุ้มมานอนหลับไปด้วยกันไม่มีอะไรแบบที่เฮียมันคาดหวังหรอก สงสารเด็กเมาหัวทิ่มครับอีกอย่างถ้าทำแบบนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เด็กไม่สบายอดเที่ยวจะยุ่งกันหลายฝ่าย ขอเก็บทบต้นทบดอกไว้ก่อนแล้วกัน




   ผมตื่นตอนตีห้าขยับตัวจะปลุกเด็กตัวหอมในอ้อมกอดไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน แต่ปรากฏว่า ร่างบางครางประท้วง ซุกตัวเข้ากับอกผมแน่นไม่ยอมลุกก็เลยต้องกอดนอนหลับไปด้วยกันอีกครั้ง 

    สะดุ้งตื่นอีกทีก็หกโมงครึ่งแต่น้ำนิ่งยังไม่ขยับตัว คิดว่าคงจะเหนื่อยและเพลียสะสมแถมมาดื่มอีก  ผมกอดกระชับแน่นขึ้นกดจมูกไปตามซอกคอหอม ก้มลงกัดเบาๆ บนปากนุ่มเล็กที่เผยอน้อยๆ เชิญชวนผม ให้ก้มลงไปชิมความหวาน แระเล็มสักพักปากนุ่มหยุ่นนั้นก็เผยออ้ากว้างขึ้นเปิดโอกาสให้ผมสอดลิ้นเข้าไปมอบความอ่อนโยนตามแรงอารมณ์จะพาไป ร่างบางในอ้อมกอดครางอืออา..ผลักผมออกเพราะกำลังจะขาดอากาศหายใจเลยต้องผละปากออก  กลิ้งตัวลงนองราบกับเตียงมือก็ยกเด็กขึ้นมานอนซบบนตัว

   “ฮือ..”

   “ยังไม่ตื่นเหรอครับฮืม”

   “ฮือ..ภูมิจ๋าหนูง่วง”  ให้ตายสิมีอัพเลเวลการอ้อนจะน่ารักไปไหน ตายังหลับพริ้มหน้าซบอยู่กับซอกคอ ลมหายใจอุ่นกระทบเข้าผิวกายบริเวณนั่นจะซ่านไปหมด ผมล้วงมือเข้าไปในเสื้อนอนลูบไล้หลังบางเรียบลื่น อีกมือตบก้นงอนเบาๆ  ให้นอนอีกสักพักก็แล้วกัน…..

   “เจ็ดโมงแล้วนะ ตื่นยังจะไปปีนผารึเปล่าเด็กดื้อ”

   “หึ!! เออจริงด้วยๆ” 

    เด็กน้อยยกหัวขึ้นจากซอกคอผม ตาโตเหมือนเพิ่งคิดได้ว่าวันนี้จะทำอะไรกัน เขาลุกจากตัวผมโดดลงไปยืนข้างเตียงเต้นเร่าเร่งให้ผมอาบน้ำให้

   “ภูมิเร็วๆ อาบน้ำให้หนูหน่อยสายแล้วตายๆ”  น้ำนิ่งเดินวนไปวนมา ปากเร่งให้ผมอาบน้ำให้ ผมเอื้อมมือจับเขาให้อยู่นิ่งๆ แกะกระดุมเสื้อนอนแล้วถอดเสื้อกางเกงออกให้ ยกมือโอบประคองหน้าสวยหวานไว้ในมือก้มลงจูบปากนุ่มหยุ่นของร่างบาง ตบก้นงอนให้ไปรอในห้องน้ำ 

   “หนูเข้าไปแปรงฟันในห้องน้ำก่อนนะ ภูมิเตรียมเสื้อผ้าให้ก่อนแล้วจะตามเข้าไป” 

   น้ำนิ่งยืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจก ผมเดินเข้าไปยืนซ้อนหลัง สอดแขนเข้าไปโอบประคองเอวบาง ก้มลงกดจูบสูดดมจากลาดไหล่ไปจนถึงด้านหลังคอหอม ร่างบางเอียงคอเปิดทางให้ผมดอมดมได้สะดวกขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นจากลาดไหลสบตาคนตัวหอมในกระจกความรัก ความผูกพัน  มันฉายชัดอยู่ในแววตาของเราทั้งคู่ ผมก้มลงกดจูบลงบนลาดไหล่ของคนตรงหน้าอีกครั้ง แล้วจึงผละตัวออกไปเตรียมน้ำอาบให้ร่างบางอาบ



   โปรแกรมที่พวกเราแพลนไว้คือ ล่องเรือยอร์ชแวะชมเกาะแก่งในหมู่เกาะปอดะ จุดเด่นของแพลนอยู่ที่ทะเลแหวก ความอัศจรรย์ที่ทำให้น้ำนิ่งตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าอะไร เพราะสามารถเดินเหยียบทรายขาวละเอียดจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้เวลาน้ำลด เกาะที่ว่านั่นคือ เกาะไก่  เกาะหม้อ เกาะทับ เกาะทั้งสามตั้งอยู่ใกล้กัน เมื่อคลื่นพัดทรายมาพบกันที่จุดนี้ก็จะทำให้เกิดเป็นสันทรายเชื่อมเกาะทั้งสามนี้ไว้ด้วยกัน  สันทราย นี้จะจมหายไปเมื่อน้ำขึ้นสูง เมื่อน้ำลดจนถึงระดับต่ำแนวสันทรายก็จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมา แม้น้ำไม่ลดต่ำสุดก็สามารถเดินเล่นได้

   พวกเราแวะเกาะไก่ ที่เรียกว่าเกาะไก่เพราะทางด้านปลายสุดของเกาะมีหินแหลมๆ เมื่อมองขึ้นไปคล้ายคอไก่ ให้พวกสาวๆ (?) ได้เล่นน้ำให้อาหารปลาโดยเฉพาะน้ำนิ่งร้องวี๊ดว้าย (สาวแตก) ใหญ่เมื่อโรยขนมปังไว้รอบๆ ตัวแล้วปลาว่ายมากินขนมปังรอบๆ ตัว เล่นน้ำอยู่ที่กันเกือบชั่วโมง ก่อนจะย้ายไปดูปะการังน้ำตื้นที่เกาะทับ ระหว่างทางก็มีพายเรือแคนูบ้าง ตกปลาบ้าง  ดำน้ำดูปะการังน้ำลึก บริเวณหาดถ้ำพระนางซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา แล้วจบโปรแกรมในวันนี้ที่การปีนหน้าผาเวิ้งอ่าวไร่เลย์ 

    ทุกกิจกรรมทำเอาเด็กผมตื่นตาตื่นใจกับประสบการณ์ใหม่ตลอดทั้งวัน  พวกเราเห็นเด็กน้อยมีความสุขก็พลอยมีความสุขไปด้วย  โดยเฉพาะเฮียเซนเห่อกว่าใครเพื่อน เหมือนจะมีประสบการณ์ครั้งแรกร่วมกับน้องตลอด ถ่ายเก็บบรรยากาศแทบจะทุกซ็อต กลับจากล่องเรือ ปีนผาก็เกือบหกโมงเย็นแยกย้ายกันอาบน้ำ วันนี้ทานอาหารค่ำกันที่ห้องอาหารกึ่งผับของรีสอร์ทอยากให้เด็กลองเจอแสงสีกลางคืนบ้าง...












TBC.


ปล.

1. หนีไปเที่ยวทะเลมา 5 วัน เขียนได้  2 ตอนเลยรีบเอามาลงให้ในวันเดียวกัน เพราะตั้งแต่วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน ยาวไปจนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายนจะไม่ได้อยู่ประจำที่ตั้ง (อีกแล้ว) ติดงาน Bike for Dad งานหลวง และงานราษฎร์อื่นอีกมากมายจนแทบจะไม่มีเวลา

2. ขอบคุณมากมายสำหรับการติดตาม :)  (ถึงจะไม่เม้นท์แต่ก็ดีใจที่แวะเข้ามาอ่าน)

ออฟไลน์ sakurako12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ฉาน แสน หนึ่ง กลิ่น 3p มันฟุ้งไงไม่รุ  :haun4: :haun4:


ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณมากจ้า  สนุกดีอ่ะ  อบอวลอบอุ่นไปด้วยความหวานละมุนละไม  อิอิ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
แต่ละคู่หวานกันจังเลยน๊า  :m1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
มีบุคคลปริศนาทั้งฝ่ายภูมิและคนที่อยู่ตรงดงมะพร้าว

น้ำนิ่งน่ารัก มีแต่คนรักคนเอาใจ นี่ถ้าพวก ACE จับน้ำนิ่งไป

มีหวังโดนพวกพ่อยกหนูน้ำตามถล่มจนเละแน่ๆ

ถ้าคนที่มาคอยแอบดูเป็นพวก ACE จริงนี่แสดงว่าพวกนี้สุดยอดเลย

เพราะตามมาดูพวกภูมิเร็วมากๆๆๆๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ใครจะมาทำอะไรน้ำนิ่งหรือเปล่า แอบเสียวหน่อยๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เที่ยวกันอย่างสนุกสนาน อิอิ :impress2:

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

ตัวอย่างตอน 15


   “ภ..ภูมิฮือ.....”  น้ำนิ่งยื่นมือเล็กสั่นเทาของตัวเองออกไปข้างหน้าหวังให้คนตรงหน้าปลอบประโลม แต่คนนั้นกลับนิ่งเฉย นัยน์ตาสีแปลกที่เคยสะท้อนภาพน้ำนิ่งกลับเรืองรองไปด้วยโทสะ มือแกร่งกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน  กรามบดแน่นพยายามกดข่มแรงอารมณ์ที่ปะทุเดือด

   “ฮึก...ฮือออออ....อย่าทำกับหนูแบบนี้ฮือ..” 

   “เมินเฉยทำไมฮือออ.....อย่าทำแบบนี้ฮือออ...” 

    น้ำนิ่งเสือกตัวที่สั่นระริกไปจนถึงภูมิรพีมือเย็นเยียบสั่นเทาของคนตัวเล็กเอื้อมคว้าเกาะกุมมือใหญ่ที่กำแน่นของคนตรงหน้า คนตัวโตก้มมองมือเย็นสั่นเทาที่กุมทับมือของตัวเองด้วยแววตาว่างเปล่า...





ถ้าไม่มีอะไรคิดว่าอีกสัก 4 - 5 วัน คงจะมาต่อได้นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:เข้ามาติดตามด้วยคน :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ตัวอย่างตอน 15


   “ภ..ภูมิฮือ.....”  น้ำนิ่งยื่นมือเล็กสั่นเทาของตัวเองออกไปข้างหน้าหวังให้คนตรงหน้าปลอบประโลม แต่คนนั้นกลับนิ่งเฉย นัยน์ตาสีแปลกที่เคยสะท้อนภาพน้ำนิ่งกลับเรืองรองไปด้วยโทสะ มือแกร่งกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน  กรามบดแน่นพยายามกดข่มแรงอารมณ์ที่ปะทุเดือด

   “ฮึก...ฮือออออ....อย่าทำกับหนูแบบนี้ฮือ..” 

   “เมินเฉยทำไมฮือออ.....อย่าทำแบบนี้ฮือออ...” 

    น้ำนิ่งเสือกตัวที่สั่นระริกไปจนถึงภูมิรพีมือเย็นเยียบสั่นเทาของคนตัวเล็กเอื้อมคว้าเกาะกุมมือใหญ่ที่กำแน่นของคนตรงหน้า คนตัวโตก้มมองมือเย็นสั่นเทาที่กุมทับมือของตัวเองด้วยแววตาว่างเปล่า...





ถ้าไม่มีอะไรคิดว่าอีกสัก 4 - 5 วัน คงจะมาต่อได้นะครับ

อะไรๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :serius2: มันคืออะไร อย่าทำแบบนี้ค้างงง อยากรู้  :z3:

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี่ยง



- 15 -


เสียตัวอย่าเสียใจ








Fellin’ Way  Pub   เวลา 22.00 น.

   บรรยากาศของผับเปิดโล่งริมหาดคลาคล่ำไปด้วยนักเที่ยวทั้งไทยและเทศ เสียงดนตรีจากเครื่องเสียงชั้นดีสลับกับวงดนตรีแสดงสดบนเวทียกพื้นดังกระหึ่มร้านได้ยินมาจนถึงริมหาด  ไฟหลากสีกระพริบสลับกันพร่างพราย หลอกล่อผีเสื้อราตรีคอยแวะเวียนเข้ามาหาความสำราญมิได้ขาด  ไม่เว้นแม้แต่พวกเราก็ยังอดไม่ได้ที่จะลองเข้าไปสัมผัสบรรยากาศของร้าน



   Rrrrrrr Rrrrr

   น้ำนิ่งล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูเมื่อว่าเห็นว่าเป็นเพื่อนบ๋อม จึงพยักหน้าบอกให้พวกพี่เข้าไปข้างในก่อน

   “ว่าไงวะ” 

   //ตั้งกะไลน์บอกกูว่าจะไปกระบี่กับพ่อแล้วหายเงียบไปเลย// บ๋อมบ่นมาตามสาย

   “ก็ยุ่งๆ แล้วมีอะไร”

   // ไปเที่ยวเหอะมีไรต้องยุ่งวะ  กูจะถามว่างานที่จะส่งพรุ่งนี้มึงทำเสร็จยัง ถ้าไม่นี่ฝังอย่างเดียวนะมึง//

   “เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เข้าไปเอากับยายชื่นที่บ้านได้เลยน้ำฝากไว้แล้ว”

   //เออๆ  แล้วจะกลับวันไหนศุกร์หน้ามีควิซย่อยของอาจารย์ป้านะมึงห้ามขาด  อยู่ไหนเสียงดัง//   

   “อยู่ Fell’n Way Pub กับพวกพี่ๆ  คิดว่าคงกลับทันสอบแหละ”

   //เที่ยวให้สนุกนะมึง แค่นี้แหละ// น้ำนิ่งเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเหมือนเดิมหลังจากที่บ๋อมตัดสายไปก่อน  พวกพี่ๆ อยู่บริเวณโซน VIP จึงเดินตามเข้าไปนั่งลงที่ว่างตรงกลางระหว่างภูมิกับเฮียเซน ภูมิยื่นแก้ว ดรายมาร์ตินี่มาให้น้ำนิ่งรับมาจิบ

   “บ๋อมโทรมาถามเรื่องงานที่จะส่งพรุ่งนี้ หนูมีสอบย่อยศุกร์หน้าด้วยฮะ”  น้ำนิ่งหันไปบอกภูมิรพีเพราะถึงจะทำหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่อยากรู้แต่สายตาคมดุกลับคาดคั้นให้น้ำนิ่งบอกออกมาเอง

   “อ้าวแล้วทำเสร็จหรือยังงานน่ะ แล้วสอบอีก”  ภูมิรพีถามกลับด้วยสีหน้ากังวลนิดๆ กลัวเด็กเสียการเรียน

   “หนูทำเสร็จแล้วน่าไม่ต้องห่วง ฝากไว้กับยายชื่นแล้ว บ๋อมจะไปเอาไปส่งพรุ่งนี้ ส่วนสอบย่อยก็สบายมากวิชาถนัดของหนูเลยหมูในอวยฮะ”  น้ำนิ่งบอกเสียงหวานใสแบบสบายๆ ไม่ให้ภูมิรพีเป็นกังวล

   “อึม ก็แล้วไป”



เวลา 23.00 น.


    ยิ่งดึกนักเที่ยวยิ่งเยอะผู้คนเริ่มเบียดเสียดยัดเยียด  น้ำนิ่งจึงขอเข้าไปนั่งพักเพราะเริ่มจะปวดขาจากการที่ออกมาเต้นกับสองสาว??  เกือบชั่วโมงจนซักจะสร่างเมากันเลยทีเดียว

   “เหงื่อโทรมหน้าเลยมานี่มา” 

   “สนุกแต่ปวดขาจัง” 

    ภูมิยื่นดรายมาร์ตินี่มาให้น้ำนิ่งยกขึ้นดื่มอึกใหญ่ซ่าได้ใจ  คนตัวโตล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายของน้ำนิ่งเอากระดาษชำระแบบเปียกมาซับเหงื่อให้ร่างบาง น้ำนิ่งกดจูบให้รางวัลคนช่างเอาใจไปสองทีคนปรนนิบัติยกยิ้มพอใจใหญ่

   “เฮ้ย!! เดี๋ยวๆ ที่มึงเอามาเช็ดให้น้องน่ะมันใช้เช็ดก้นเด็กไม่ใช่เหรอวะสิงห์”  ขณะที่ภูมิกำลังเช็ดหน้าให้อยู่นั่นเองพี่แสนทักท้วงมาจากอีกฝากของโต๊ะ

   “พี่ไม่รู้อะไรของที่มันใช้กับก้นเด็กอ่อนได้ แสดงว่าอันนั้นมันไม่เป็นพิษเป็นภัยกับหน้าเรา แล้วยิ่งหน้าแพ้ง่ายอย่างเจ้าเด็กนี่ยิ่งไม่มีปัญหา แถมมันสะอาดกว่ากระดาษชำระอีก” ภูมิอธิบายสรรพคุณให้คนฝั่งตรงข้ามฟัง น้ำนิ่งเลยพยักรับรองว่าได้ผลจริง

   “พี่แสนเอามะสะอาดสดชื่นจริงๆ นะ”  น้ำนิ่งยื่นห่อกระดาษชำระเปียกให้พี่แสน ฝ่ายนั้นหยิบไปเช็ดหน้าตัวเอง

   “เออวะ ค่อยยังชั่วกำลังเหนียวๆ หน้าอยู่ เอาป่าววะฉาน”

   “เห็นมะน้ำบอกแล้ว เอาเปล่าพี่ฉาน” 

   “เอาก็ได้แต่ว่ามาเช็ดให้ด้วยสิ” 

   มีเสียงเอะอะโวยวายหน้าตรงหน้าเวทีที่กำลังเต้นกันอย่างเมามันส์  คนทั้งหมดในโต๊ะนี้ไม่มีใครให้ความสนใจแต่พักเดียวเสียงก็เงียบหายไป เหล่าผีเสื้อราตรียักย้ายส่ายสะโพกดิ้นกันอย่างเมามันส์ต่อไป เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

   “รอพี่หนึ่งเช็ดให้สิ น้ำขยับตัวไม่ไหวแล้ว”

   “เอนหลังไปพิงกับสิงห์ไปเดี๋ยวเฮียนวดให้”  เฮียที่นั่งข้าง ๆ ยกขาของน้ำนิ่งขึ้นมาวางบนตักตัวเองแล้วเริ่มนวดที่น่องให้

   “พี่หนึ่ง พี่ฉานให้เช็ดหน้าให้ครับ”

   “พี่ง่อยเหรอ อารมณ์ไม่ได้ดีเหมือนหน้าตานะอย่ากวนตีน”  หนึ่งฤทัยที่เพิ่งเดินเข้ามาตอบกลับด้วยเสียงค่อนข้างหงุดหงิด ทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่คนพี่ ก่อนจะเดินไปกระแทกตัวลงนั่งลงตรงกลางระหว่างฉะฉานกับแสนคมแทบจะเกยบนตักทั้งคู่

   “เป็นไรอีกล่ะ  เมนส์ไม่มาเหรอ”  แสนคมแหย่รังแตน เลยโดนคนสวยทุบเข้าที่แขนดังปึก

   “โอ๊ย!! อะไรวะ เจ็บนะโว้ย โกธรแล้วพาลนะมึง” แสนคมลูบแขนที่โดนชกปอยๆ  ดีนะที่ไม่ใช่แขนข้างที่ถูกยิง

   “ก็ไอ้นั่นมันบีบก้นกู”  หนึ่งฤทัยบอกด้วยสีหน้าโกธรกรุ่น

   “ใคร!!”  สองหนุ่มหันขวับมองหน้าคนกลางแล้วถามเสียงดังขึ้นพร้อมกัน

   “กูจัดแม่งไปล่ะ แต่ไม่สะใจไงมาเที่ยวไม่อยากมีเรื่อง”  คนทั้งคู่พยักหน้ารับ แต่อาการโกธรยังคุกรุ่นอยู่เต็มหน้า

   “ที่เอะอะเมื่อกี้เป็นมึงเองเหรอวะ”  แสนคมเอ่ยถามคนข้าง

   “ก็เออ”  หนึ่งฤทัยตอบด้วยเสียงกระแทกกระทั้นก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นดื่มจนหมดแล้วหันไปสั่งใหม่

   “เฮียแล้วพรุ่งนี้เราจะไปไหนกันเหรอครับ”  น้ำนิ่งถามเฮียเซนเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้อารมณ์ของหนึ่งฤทัยเย็นขึ้น

   “ก็ที่แพลนไว้ว่าจะไปตั้งเต้นท์นอนกันที่หมู่เกาะห้อง ตกปลา ดำน้ำดูปะการังกัน  หรือจะนอนบ้านพักก็ได้ที่นั่นก็มี แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศก็กางเต้นท์แล้วก็เล่นรอบกองไฟกัน  วันถัดไปเราค่อยเลยเข้าตรังกันคร่าวๆ ก็ประมาณนี้หรือคนอื่นอยากจะทำอะไร”

   “โห้ย!! โปรแกรมน่าเที่ยวมาก พี่หนึ่งเคยไปตรังยังสวยเหมือนที่นี่ไหม”  น้ำนิ่งหันไปพยักเพยิดกับหนึ่งฤทัย

   “ยังไม่เคยไปเหมือนกัน น่าสนใจมากอะเฮีย เรานอนเต้น์กันมั้ยน้ำน่าสนุกเนอะ พีว่าไงนอนเต้นท์กัน”  หนึ่งฤทัยส่งเสียงกระตือรือร้นมันเป็นครั้งแรกของพี่น้องกลุ่มนี้ที่ได้เที่ยวด้วยกัน

   “แล้วแต่หนึ่งเลย พีไงก็ได้”  พีระณัฐเป็นพวกประนีประนอมกับพี่น้องไม่ค่อยเรื่องมากว่าไงว่าตามกัน

   “เออไงก็ได้เที่ยวอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดมากดื่มนี่ไปเลยไป๊”

    ฉะฉานยื่นแก้วดรายมาร์ตินี่แก้วใหม่ที่บริกรเพิ่งยกมาเสริ์ฟให้คนตัวเล็ก น้ำนิ่งรับมาดื่มรวดเร็วหมด หันไปกวักมือเรียกบริกรเอาแก้วใหม่มาให้อีก  แล้วเอนตัวซบไปกับอกแกร่งของภูมิรพี

   ค่ำนี้ภูมิรพีหล่อเข้มมากถึงจะใส่แค่เสื้อยืดสีดำคอวีกระชับตัวกับยีนส์เข้ารูปสีดำราคาแพงระยับ หน้าตาคมเข้มไรเคราตามสันกรามสีเขียวจางๆ เพิ่มความเท่ที่ข้อมือด้วย Barrel lock และสร้อยคอของ Cast of Vices น้ำนิ่งเห็นสายตาทั้งของชะนี  เก้ง กวาง ในนี้มองแบบเสนอตัวให้พรึบ แต่ที่เด็ดไม่มีใครเกินฉะฉานเพราะชะนีเก้งกวางที่เข้ามาตีสนิทแทบจะนั่งเกยบนตักหลายคน แต่คนหล่อไม่ได้สนใจยังคงนั่งดื่มอย่างเดียว บางคนถูกหนึ่งฤทัยตอกหน้าหงายออกไปแทบไม่ทันก็มี





   “ภูมิเค้าไปห้องน้ำก่อนนะ” น้ำนิ่งหันไปบอกภูมิรพีที่กำลังนั่งคุยอยู่กับพี่ๆ อย่างออกรดชาด ตั้งแต่เข้ามานั่งน้ำนิ่งชนจนแทบเรียกประกันไม่ทัน  ชักจะร้อนๆ ตามหน้าตาเนื้อตัว น้ำเริ่มตุงท้องจึงกะว่าจะไปปลดปล่อยแล้วสูดอากาศข้างนอกซะบ้างเผื่ออาการร้อนวูบวาบจะดีขึ้น 

   “ไหวรึเปล่า ให้ไปด้วยไหมฮึ”  ภูมิรพีถามด้วยความห่วง เพราะตอนยืนขึ้นน้ำนิ่งมีอาการเซนิดๆ
 
   “ไม่เป็นไรน่าเค้าไปได้แค่นี้เอง”  น้ำนิ่งปฏิเสธไปเพราะเห็นภูมิรพีกำลังคุยติดพันกับพวกพี่ ๆ ไม่อยากขัดจังหวะ น้ำนิ่งคิดว่าเขาแค่กึ่มๆ ยังไหวอยู่และไปแค่นี้เองคงไม่เป็นไร

    “ระวังตัวด้วย”  ภูมิรพีบอกคนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง สัญชาตญาณเตือนว่าพวกเขาถูกตามและจับตามองอยู่ตลอดเวลามันรุนแรงในความรู้สึกของภูมิรพี แต่คิดอีกทีมันไม่น่าเป็นไปได้ก็ที่นี่เป็นผับในเครือของโรงแรมที่เฮียเชนดูแลอยู่มันไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรงได้หรอก บางทีเขาอาจจะกังวลมากเกินไปก็ได้ ภูมิรพีสลัดความกังวลที่อยู่ในหัวทิ้งไป ก่อนจะหันไปฟาดมือตบลงที่ก้นงอนของน้ำนิ่งเป็นเชิงหยอกเย้า ร่างบางหันมาค้อนและตอบรับเสียงสะบัดส่งให้ภูมิรพี

   “รู้แล้วน่า”

   น้ำนิ่งคิดว่าตัวเองคงจะดื่มมากเกินขีดจำกัดของตัวเอง จึงชักจะมึนๆ ร้อนวูบวาบตามตัว ความรู้สึกวูบไหวราวกระแสไฟอ่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง อาการปวดมวนที่บริเวณท้องน้อยตีรวนขึ้นมาอย่างกะทันหันมันกระจุกอยู่กลางลำตัวจนต้องจิกมือกับขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเกร็งจนสะท้านไหว แรงอารมณ์ฉุดรั้งให้ต้องการอะไรสักอย่างที่สามารถจะปลดเปลื้องให้หลุดพ้นจากความรู้สึกนี้ได้ อาการมันเหมือนกับวันนั้น แต่ครั้งนี้ความรู้สึกมันรุนแรงมากกว่า น้ำนิ่งคงจะโดนเล่นเข้าให้แล้วอีกแล้ว

    ร้อนเหลือเกิน  ภ..ภูมิจ๋าช่วยหนูด้วย...



   สติสัมปชัญญะเริ่มขาดห้วงความรู้สึกเคลิ้มลอยอยู่ในห้วงอารมณ์หวามไหว ร่างบางรับรู้ได้เลือนรางว่าใครบางคนเข้ามายืนซ้อนหลังลมหายใจร้อนที่เจือกลิ่นแอลกอฮอร์ฉุนเป่ารดที่ต้นคอเนียนละเอียด มือหยาบกระด้างของมันโอบจากด้านหลังเกาะกุมล้วงเข้าไปในกางเกงลูบไล้ที่แก่นกายของน้ำนิ่ง  อีกข้างขยุ้มผมของน้ำนิ่งจนหน้าแหงนเงยลิ้นสากไล้เลีย ขบกัด ไปตามลำคอจนถึงใบหูเล็กของน้ำนิ่งอย่างกักขฬะ

    ตัวตนที่แข็งขืนของมันบดเบียดเสียดสีที่ก้นงอนของน้ำนิ่งอย่างย่ามใจ สัมผัสพวกนั้นของมันน่าขยะแขยงเหลือเกิน  สติสัมปชัญญะบางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่บอกให้ต่อต้านเพื่อจะหลุดพ้นจากอ้อมแขนกักขฬะ น้ำนิ่งใช้แรงน้อยนิดของตัวเองบิดกายหนี แต่ทว่ายิ่งดิ้นร่างกายก็ยิ่งเสียดสีกัน สัมผัสที่น่าขยะแขยงของมันกลับก่อให้เกิดความเสียวซ่านเหมือนจะได้ปลดปล่อยจากอะไรก็ตามที่ดึงรั้งอยู่ตอนนี้ น้ำนิ่งหลุดครางออกมาด้วยความซ่านที่สุดระงับ

   “อ๊ะ...อา”

    “ไม่เสียแรงที่กูตามมาหลายวัน  ยากูมันดีละสิตรงนี้ของมึงถึงรู้สึกเร็วขนาดนี้  มาให้กูสนองความร่านถึงที่  แม่ง!! จะเย่อให้คลานแบบหมาทั้งคืนเลยอีตุ๊ด...” 

    เสียงครางกระเส่าของน้ำนิ่งกระตุ้นให้มันกัดลงที่ลำคอระหงค่อนข้างแรง มันน่าแปลกที่ร่างบางไม่เจ็บแต่กลับพึงพอใจและวาบหวามจนแทบจะไปแตะขอบความสุขที่ไขว่คว้า มือหยาบของมันปลดกระดุมกางเกงดึงรูดลงไปที่หน้าขาก่อนที่ดึงเอาท่อนลำที่กำลังแข็งขืนของน้ำนิ่งออกมารูดรั้ง มันเลื่อนมือไปบดบี้ที่ยอดอกเล็กผ่านเสื้อยืดสีดำจนเจ็บมันน่าขยะแขยง แต่ขัดขืนไม่ได้ความรู้สึกที่ถูกบงการจากยามีแต่อยากจะให้มันทำกับตัวเองแรงเพื่อปลดปล่อยจากพันธนาการไปให้ถึงความสุขสมที่ไขว่คว้า  อาการร้อนวูบวาบมวนบริเวณท้องน้อยตีวนรุนแรง  ความกระสันวิ่งพล่านทั่วร่างอีกครั้งจนต้องเกร็งตัวตอบสนองสัมผัสน่าขยะแยงกักขฬะของมัน

   ภูมิจ๋าช่วยด้วย…หนูไม่ไหวแล้ว

    “ฮึก...ฮือออออ.ภูมิ...”


   “ไม่..ยะ...อย่า ไม่....ปะ...ปล่อย...ภ..ภูมิ”   สติที่ยังหลงเหลืออยู่ของน้ำนิ่งพยายามดิ้นขัดขืนมัน แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นมันจับไหล่น้ำนิ่งกดแนบไปกับเคาน์เตอร์อ่างล่างหน้า ดึงก้นงอนให้จ่อท่อนลำที่แข็งขืนของมันมือสากกระด้างเกาะกุมสะโพกมนให้เสียดสีกับท่อนลำอย่างจงใจ

   “โอ้ว!!...ซี๊ด..อา..สะ เสียวแค่ถูข้างนอกยังจะแตก...แม่งดีกว่าผู้หญิงขายตัวพวกนั้นอีก  กูจะเย่อให้แรงจนร้องครางทั้งคืนเลยอีตุ๊ด...” 

         มือสากกระด้างของมันตบลงแก้มก้นของน้ำนิ่ง เต็มแรงสองครั้งติด ก่อนจะแหวกแก้มก้นออกจนเผยให้เห็นช่องทางรักสีชมพูระเรื่อ มันถ่มน้ำลายลงใส่ช่องทางด้านหลังของน้ำนิ่ง ก่อนจะใช้นิ้วสากกระด้างลูบวนช่องทางแล้วมันก็จับท่อนลำของมันถูกไถร่องก้นป่ายปัดช่องทางของน้ำนิ่งอย่างแรงพยายามดันหัวบานของมันเข้ามาในช่องทางรักของน้ำนิ่ง

   “มะ ไม่มมม...ฮืออออ..ไม่..ยะ...อย่า  ภูมิ.....ช่วยด้วย” 

   ร่างบางระดมแรงเฮือกสุดท้ายของตัวเองดิ้นหนีท่อนลำที่มันพยายามดันเข้ามาได้นิดหน่อยให้หลุดออก มันสบถดังลั่นก่อนจะฟาดมือลงที่แก้มก้นของน้ำนิ่งอย่างแรงที่ขัดขืนมัน ก้นเนียนปรากฏเป็นรอยมือแดงกล่ำ มันกุมกระชับสะโพกไว้แน่นอีกครั้งก่อนจะจับหัวบานจ่อเข้าช่องทางอีกครั้ง เสียงของความกลัวร้องเรียกหาภูมิรพีดังลั่นในความรู้สึกของน้ำนิ่ง  แต่แท้ที่จริงแล้วเสียงร้องนั่นผ่านริมฝีปากนุ่มมาเพียงเบาบาง ไม่สามารถส่งไปถึงอีกคนได้ 


   ‘น่าขยะแขยงแต่ขัดขืนไม่ได้ ไม่อยากจะเป็นอย่างนี้ ภูมิอยู่ไหน..ได้ยินเสียงหนูไหม จะไม่ไหวแล้ว ’ 




    ขณะที่ความหวังว่าจะมีใครสักคนผ่านเข้ามาช่วยกำลังลางเลือน  เสียงฝีเท้าหนักๆ ของผู้ชายตัวโตหลายคนดังใกล้เข้ามาในห้องน้ำ  ไม่ถึงอึดใจสัมผัสที่น่าขยะแขยงนั้นก็ถูกกระชากอย่างแรงเหวี่ยงเต็มแรงโทสะกระเด็นไปกระแทกเข้ากับผนังห้องน้ำ

    “ปึก” 

    “อั๊ก”  ร่างของมันร่วงลงพื้นเลือดแดงฉานที่กระอักออกจากปากมันกระเซ็นถูกผนังไหลเป็นทางหยดลงพื้น

   น้ำนิ่งรูดลงกองกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง  ความต้องการที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยตีรวนเป็นระลอก ดั่งกระแสไฟวิ่งพล่านทั่วร่าง จนต้องเกร็งตัวจิกเล็บมือลงบนหน้าขาตัวเองเพื่อกดข่มความเสียวซ่านนั้น     

   “ไม่ใช่เรื่องของตัวเองอยากเสือกครับ ถ้าอยากสนุกเชิญข้างนอกเลยครับ”  ฉะฉานหันไปผลักดันทั้งไทยทั้งเทศมุงทั้งหลายออกไปจากห้องน้ำก่อนที่จะกดปิดล๊อกประตูแน่นหนา

   “ผัวะๆๆๆ”  เสียงเนื้อกระทบกันเร็วแรงหลายครั้งดังก้องห้องน้ำ

   “กล้าทำของๆ กูให้เกิดรอย”

   “ผัวะๆๆๆๆๆ”  ฟันหน้าทั้งบนล่างของมันหยุดออกมาทั้งแผง ดั้งจมูกยุบหักจากการกระแทกหมัดลงทีเดิมซ้ำๆ หน้าตาแตกยับหาส่วนดีไม่เจอ

    “อย่ายุ่งกับของๆ กู”

   “พลั่ก”

   “อย่าได้บังอาจเอามือสกปรกของมึงมาแตะต้องของๆ กู”

   “กร๊อบ   อ๊ากก”  ภูมิรพีหักแขน นิ้วมือจนบิดผิดรูป ตัวมันรูดกองลงกับพื้นนอนหายใจรวยรินรอคำพิพากษา

   “มึงกล้ากับของๆ กูก็อย่าใช้มันอีกเลย”  ภูมิรพีพูดเสียงต่ำเย็นยะเยือกโทสะที่ยากจะฉุดรั้งเจืออยู่ในน้ำเสียงที่เปล่งออกมา ก่อนยกเท้าขึ้นแล้วกระทืบลงไปเต็มแรงตรงแก่นกายของมัน

    “ปึก”

   “อ๊ากกกกกกก”

   “ของรักของกู  จำไว้ไอ้สัส!!”

   “พอแล้วสิงห์ เดี๋ยวเฮียจัดการต่อเอง พาน้องกลับไปก่อน”

    เสียงที่ได้ยินแว่วๆ ทำให้น้ำนิ่งเงยหน้าขึ้นมอง ภูมิรพีกำลังถูกเฮียและพี่ๆ ฉุดดึงออกจากร่างของมัน ที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นห้องน้ำ

   “ภ..ภูมิฮือ.....”  น้ำนิ่งยื่นมือเล็กสั่นเทาของตัวเองออกไปข้างหน้าหวังให้คนตรงหน้าปลอบประโลม แต่คนนั้นกลับนิ่งเฉย นัยน์ตาสีแปลกที่เคยสะท้อนภาพน้ำนิ่งกลับเรืองรองไปด้วยโทสะ มือแกร่งกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน  กรามบดแน่นพยายามกดข่มแรงอารมณ์ที่ปะทุเดือด

   “ฮึก...ฮือออออ....อย่าทำกับหนูแบบนี้ฮือ..” 

   “เมินเฉยทำไมฮือออ.....อย่าทำแบบนี้ฮือออ...” 

    น้ำนิ่งร้องเรียกปนเสียงร่ำไห้ฟังแทบไม่เป็นภาษา เสือกตัวที่สั่นระริกไปจนถึงภูมิรพีมือเย็นเยียบ สั่นเทาของร่างบางเอื้อมคว้าเกาะกุมมือใหญ่ที่กำแน่นของคนตรงหน้า ภูมิรพีก้มมองมือเย็นสั่นเทาที่กุมทับมือของตัวเองด้วยแววตาว่างเปล่า... จนนานหลายนาทีความเข้มข้นของเม็ดสีนัยน์ตาค่อยเจือจางกลับเป็นสีเดิม สติที่หลงวนในห้วงโทสะเริ่มคืนกลับมา

    ภูมิรพีค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าร่างบาง มือแกร่งดึงตัวน้ำนิ่งเข้ามาในอ้อมกอดที่ยังสั่นเทาด้วย  แรงโทสะของตัวเอง น้ำนิ่งไม่ได้กอดตอบแต่กลับผลักไสให้พ้นจากอ้อมกอดของภูมิรพี ไหล่บางสั่นไหวน้ำตาเม็ดโตร่วงพรูหยดลงกระทบมือเล็กที่กดจิกลงอยู่หน้าขาเรียวของตัวเอง  ภูมิรพีโอบประคองใบหน้าสวยที่ อาบไปด้วยน้ำตาของน้ำนิ่งให้เงยขึ้น ปากร้อนกดจูบเช็ดคราบน้ำตาจนเหือดแห้ง

   “ขอโทษ เด็กดีไม่เป็นไรแล้ว ไม่ทำแล้ว ชู่ว์”  โทสะยังเจือจางในอารมณ์ ภูมิรพีพยายามปรับน้ำเสียงให้ทุ้มนุ่มอ่อนโยนปลอบประโลมคนตรงหน้า ร่างบางพยายามเบือนหน้าหนี ปากบางพึมพำเสียงแผ่วเบาซ้ำๆ คำเดิมไปมา

   “อย่าเมินเฉยได้ไหม... ไม่รักแล้วใช่ไหมฮืออ....อย่าทำแบบนี้กับหนูฮืออออออ...” 

   “ชู่ว์ ขู่ว์ ไม่ร้องนะ  ไม่ทำแล้วคนดี ไม่ทำแล้ว” 

    เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นอย่างเสียงขวัญ  คำพูดเดิมซ้ำๆ แผ่วเบาหลุดจากปากบางแทบจะไม่ได้ยิน แต่กระนั้นมันก็ดังก้องเสียดแทงจิตใจของคนทั้งหมด โดยเฉพาะภูมิรพีเขาเจ็บปวดวูบโหวงไปหมด ความเสียใจของคนตรงหน้าเขารับมันแทบไม่ไหวแล้ว ภูมิรพีรวบร่างสั่นเทาเข้ามากอดมือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังบางปลอบประโลมไปมา

   “อย่าเมินเฉยได้ไหม  สกปรกแล้ว ..ฮือออ...ลบมันทีๆ”

   “ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง ใจภูมิจะขาดแล้ว คนดีของภูมิไม่ร้อง กลับกันนะ” 

   “ไปเถอะสิงห์ พาน้องกลับ ตรงนี้เดี๋ยวจัดการเอง”

        พี่แสนพูดเสียงเย็น สายตาที่มองสบกันมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่พวกเขาประมาทจนเกิดเรื่อง  มือตบลงบนบ่าของภูมิรพี คนตัวโตอุ้มน้ำนิ่งขึ้นกระชับอ้อมกอด  แขนเรียวเล็กที่สั่นเทาของน้ำนิ่งห้อยตกลงข้างตัวอีกข้างกุมกดแน่นตรงตำแหน่งหัวใจของตัวเอง นัยน์ตาสวยหลับลงไม่ยอมสบตาของภูมิรพี น้ำตายังคงไหลตามหางตา น้ำนิ่งเกร็งสะท้านริมฝีปากเม้มแน่นข่มกั้นอาการวูบวาบที่ตีรวนกระจุกตัวอยู่บริเวณท้องน้อยอีกระลอก ภูมิรพีใจเสียกับปฏิกิริยาของน้ำนิ่งจนร้อนใจไปหมด

   “ฝากด้วยนะพี่”   พวกพี่ๆ ตบลงบนบ่าให้กำลังใจ








>>>มีต่อเอาแบบให้เคลียร์กันไป จะได้ไม่ค้างอะครับ<<<


ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
>>> ต่อจากข้างบน <<<





   “ขอร้องอย่าเป็นอย่างนี้ ภูมิไม่ไหวแล้ว”  ภูมิรพีเอ่ยเสียงแหบโหยเว้าวอนกับร่างบางที่นั่งขดตัวแน่นอยู่ใต้สายน้ำฝักบัว ลำแขนเรียวเล็กโอบกอดตัวเองตามแรงอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นราวกับสัตว์บาดเจ็บ

   “สกปรก”  น้ำนิ่งพึมพำคำเดิมซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น หยาดน้ำตาไหลอาบเป็นทางผสมกับสายน้ำ ภาพตรงหน้าทำให้ใจของภูมิรพีไหวยวบ แทบขาดใจ โกธรตัวเองทั้งที่รู้สึกได้แต่ก็ยังประมาท คนตัวโตเอื้อมปิดน้ำ ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าร่างบาง

   “ขอโทษ อย่าทำอย่างนี้ได้ไหม บอกภูมิจะให้ทำยังไง ขอร้องนะ....”  เสียงร้อนรนวิงวอนของภูมิดึงสติของน้ำนิ่งให้หันกลับมามอง นัยน์ตาหวานวูบไหวคลอคลองไปด้วยน้ำตา ภูมิรพียกมือขึ้นเกลี่ยเช็ดมันออก

   “ขยะแขยงน้ำใช่ไหมถึงไม่อยากแตะต้อง....”  เสียงถามแผ่วเบาจากริมฝีปากบาง นัยน์ตาหวานที่มองสบมาราวกับจะคาดคั้นเอาคำตอบ ภูมิรพีชะงักงันไม่คิดว่าคำถามเช่นนี้จะออกจากปากน้ำนิ่ง ภูมิรพีจ้องมองหน้าหวานนิ่งงันเสียใจที่คนตรงหน้าดูถูกความรักของเขา แถมไม่เชื่อใจต่อความรักของเขา

   “....”   ชั่วแวบภูมิรพีเห็นแววตาหวานเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แขนเล็กโอบกอดตัวเองแน่นขึ้น น้ำตาเอ่อกลบตาก้มหน้าซบลงบนเข่าตัวเอง ไหลบางสั่นไหวตามแรงสะอื้น

   “ไม่เลยสักนิด คิดได้ยังไง ไม่เชื่อใจภูมิแล้วเหรอ จะให้ทำยังไงถึงจะเชื่อภูมิ”  ภูมิรพีตอบหนักแน่น นัยน์ตาสีแปลกฉายแววอบอุ่นบ่งบอกว่ารักคนตรงหน้าแค่ไหน

   “ลบมันให้หนูที...ฮือ..ลบมันทีนะ...หนูไม่ไหวแล้ว...”  น้ำเสียงที่น้ำนิ่งเปล่งออกมาแหบพร่าเจือความขยะแขยงตัวเองเต็มเปี่ยม ร่างบางเกร็งสะท้านเมื่อความกระสันยังเหลืออยู่ถูกกระตุ้นอีกครั้ง

   ภูมิรพีไม่ได้ตอบออกไปแต่ถอดเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและน้ำนิ่งออกจนหมด ช้อนอุ้มร่างบางกระชับในอ้อมกอด เดินกลับเข้าไปในห้องวางร่างบางที่สั่นสะท้านจากแรงกระตุ้น ก่อนขึ้นคร่อมทับบนร่างบาง ปากร้อนนาบจูบไล้ลิ้นตั้งแต่หน้าผาก เปลือกตา แก้ม  ประกบจูบสอดลิ้นเข้ากวาดต้อนเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กของคนใต้ร่างดูดกลืนความหวานทั่วโพรงปากจากอ่อนหวานและร้อนแรงขึ้นตามแรงอารมณ์จนคนตัวเล็กครางแผ่วเบาเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจ คนตัวโตผละจากริมฝีปากบาง ไล้ลิ้นร้อนโลมเลียขบเม้มไปตามจุดไว้สัมผัสไม่ว่าจะเป็นใต้คาง ไล่ดะมาจนถึงยอดอกหวานสีชมพูลิ้นร้อนตวัดเลียไล้วนครอบปากดูดขบเม้มสลับทั้งสองข้างจนแข็งเป็นตุ่มไต 

   “อา..ภูมิ”

    ปากร้อนนาบจูบไล่ละมาจนถึงกลางกายที่แข็งขืน  ภูมิรพีเมินเฉยต่อส่วนแข็งขืนแต่เลือกกดจูบดูดดึงลงที่ขาอ่อนด้านใน สลับการกัดขบเม้มเบาๆ ย้ำๆ อยู่บริเวณนั้นจนชื้นแฉะความหวามไหวแล่นริ้วไปทั่วร่าง น้ำนิ่งครางลั่นไม่เป็นภาษาทั้งๆ ที่แก่นกายไม่ได้โดนแตะต้องเลยด้วยซ้ำ

    ภูมิรพีผละจากขาอ่อนมาหาบอลแฝดที่ไกวไหวเรียกให้คนตัวโตครอบอมดุนดันจนเกิดเสียงดัง กระตุ้นอารมณ์ยิ่งนัก  ความซาบซ่านจากแรงกระตุ้นจากอะไรสักอย่างที่ร้อนรุมอยู่ในอกฉุดรั้งให้น้ำนิ่งแอ่น อกเชิดขึ้นนิ้วเล็กเรียวยกขึ้นขย้ำบดบี้ยอดอกของตัวเอง  อีกมือยื่นไปดึงรูดรั้งตัวตนของตัวเองขึ้นลงระรัวตามแรงอารมณ์ที่เริ่มไต่สูงขึ้น

   “อ๊ะ อา”

   ภูมิรพียอมปล่อยปากจากบอลแฝด จับมือร่างบางออกแล้วแทนด้วยปากร้อนของตัวเองลิ้นหนา ดูดดุนไล้เลียส่วนปลายยอดจนแก้มตอบ สลับการครอบปากรูดขึ้นลงจากโคนจนสุดส่วนปลาย  บางครั้งมันลึกจนจมูกโด่งของภูมิรพีแนบไปกับหัวเหน่าของน้ำนิ่งแรงๆ ทำให้คนตัวเล็กกระตุกเสียว จากจังหวะเนิบนาบกลายเป็นเร่งรัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ  น้ำนิ่งทนไม่ไหวความเสียวซ่านฉุดรั้งให้ต้องยกสะโพกกระแทกเข้าใส่ปากร้อนของคนตัวโตแรงๆ

    ยิ่งกระแทกแรงความซาบซ่านยิ่งวิ่งพล่านทั่วร่าง น้ำนิ่งเร่งจังหวะกระแทกใส่เร็วขึ้นจนในที่สุดความอดทนทั้งมวลก็มลายสิ้นคนตัวเล็กเกร็งตัวและปลดปล่อยน้ำรักเข้าใส่ในปากของภูมิรพี เขากลืนกินทุกหยาดหยดลงคอจนหมดโดยไม่รังเกียจ

   “อา...ดีเหลือเกิน”  น้ำนิ่งครางเสียงแผ่วเบากับตัวเอง 

    หลังปลดปล่อยน้ำนิ่งทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างอ่อนแรง ภูมิรพียืดตัวขึ้นมาประกบจูบร้อนแรงดุดัน จนเห็นว่าน้ำนิ่งกำลังจะหายใจไม่ออกจึงผละตัวออก น้ำลายของทั้งคู่โยงเป็นสาย ภูมิรพีปัดเช็ดเลียออกจากปากและคางของน้ำนิ่ง  คนตัวโตลุกขึ้นยืนข้างเตียงเดินไปหยิบหลอดเจลจากลิ้นชักข้างเตียง แล้วเดินกลับมาบนเตียงอีกครั้ง

   เขาจับร่างบางนอนคว่ำหน้ากับเตียง ตัวเขาขึ้นมาทาบทับข้างหลัง ปากร้อนดูดเม้มหลังคอ ลิ้นร้อนลากเลียไล้ตามแนวกระดูกสันหลังไปจนถึงก้นงอน  มือแกร่งจับแก้มก้นของน้ำนิ่งแหวกออก ลิ้นร้อนตวัดเลียตามรอยจีบพับของช่องทางด้านหลัง  สลับดูดเม้มชอนลิ้นร้อนเข้าไปในช่องทางรัก  ความหวามไหวซ่านเสียวในอกไต่ระดับสูงขึ้นจนยากจะฉุดรั้งน้ำนิ่งหลุดครางหวานแผ่วเบา

   “อ๊ะ อา...ภูมิจ๋า ภูมิ”

   ภูมิรพีบีบเจลชโลมใส่นิ้วมือตัวเองจนชุ่ม  มือแกร่งของเขายกขาของน้ำนิ่งตั้งเข่าขึ้นช่องทางรักสีขมพูระเรื่อลอยเด่นอยู่ตรงหน้า คนตัวโตก้มลงไล้ลิ้นตามรอยจีบพับสลับดูดเลียขบเม้มอย่างหลงใหล ปากร้อน ผละออกแล้วแทนที่ด้วยนิ้วชี้ไล้วนรอบจีบพับอยู่สักพักก่อนที่จะกดเข้าไปในทางร้อนที่เชิญชวนตรงหน้า

   “อ๊ะเจ็บ...ซี๊ด..“

   “อย่าเกร็งจ๊ะ เด็กดี”

   ภูมิถอนนิ้วออกมาชโลมเจลใส่อีกครั้งก่อนจะกดพรวดทีเดียวสุดโคนนิ้ว  น้ำนิ่งสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บมือเล็กกำแน่นกับผ้าปูที่นอน  ภูมิรพีแช่นิ้วค้างไว้ให้น้ำนิ่งปรับตัว เขาชะโงกตัวมากดจูบและนาบปากร้อนไปตามลาดไหล่ ซอกคอ ดึงหน้าร่างบางให้หันมาประกบจูบสอดลิ้นเกี่ยวกระหวัดดูดดึงกันอย่างร้อนแรง

    มือแกร่งอีกข้างโอบไปกอบกุมแก่นกายที่อ่อนตัวเพราะความเจ็บของน้ำนิ่งรูดรั้งจนแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง  คนตัวโตผละปากออกให้น้ำนิ่งได้สูดอากาศเข้าปอด ปากหนาอ้อยอิ่งขบเม้มริมฝีปากล่างของคนตัวเล็ก  อาการหวามไหวในช่องท้องกลับมาอีกครั้งจนยอมผ่อนคลายช่องทางรัก  ภูมิรพีดึงนิ้วออกมาแล้วกระแทกกลับเข้าไปใหม่โดนจุดนั้นจนน้ำนิ่งหวีดร้องด้วยความเสียวกระสัน  ช่องทางอุ่นร้อนตอดรัดนิ้วแกร่งถี่ยิบ ภูมิรพีกระแทกนิ้วเน้นๆ เข้าจุดนั้น จากนิ้วเดียวจนตอนนี้สามนิ้วที่กดกระแทกจนจะแตกสลายอยู่แล้ว

   “อ๊ะ อ๊า.. อา.. ภูมิจ๋า..”

   “ครับ”

   “ไม่เอานิ้ว..หนูอยากได้ภูมิในตัวหนูลึกๆ  แรงๆ”

   “ครับ”   

   ความกระสันและแรงกระตุ้นเร่งเร้าจากอะไรบางอย่างทำให้น้ำนิ่งเอ่ยขออย่างไม่อาย ภูมิรพีถอนนิ้วออกจากช่องทางรักความรู้สึกโหยหาตีกระหน่ำอยากเติมเต็มจนทำให้น้ำนิ่งไพล่มือไปข้างหลังกดนิ้วของตัวเองเข้าไปในช่องทางรักจนสุดโคนก่อนจะดึงชักเข้าออก

   “อ๊ะอา...”

   “เด็กดีปล่อยให้ภูมิเถอะนะ”

     ภูมิรพีชโลมเจลไปทั่วแก่นกายใหญ่ของตัวเอง จับมือของน้ำนิ่งดึงออกมาจนนิ้วมือหลุดออกจากช่องทางรัก เขาก้มลงดูดเม้มตวัดเลียช่องทางของน้ำนิ่งอีกครั้ง  ก่อนจะยืดตัวขึ้นจ่อหัวบานไปที่ช่องทางรักที่ฉ่ำด้วยเจลและน้ำลาย รู้โดยสัญชาตญาณว่าร่างบางจะต้องเจ็บมาก เขาโน้มตัวไปกอดน้ำนิ่งไว้ กระซิบข้างหูเบาๆ

   “หนู..ไว้ใจภูมินะ..”

   “หนูไว้ใจภูมิ..”  แม้จะหวั่นใจไม่น้อยกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นทว่าคำตอบในใจผนวกกับแรงกระตุ้นที่เกิดจากยาที่ได้รับก่อนหน้านั้น ทำให้น้ำนิ่งตอบอย่างไม่ลังเล

   ภูมิรพีนาบจูบร้อนลงที่ลาดไหล่ เขาค่อยดันท่อนลำเข้าไปในช่องทางรักอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ร่างบางหน้าเหยเกทั้งเจ็บทั้งจุกจนกัดฟันแน่น เจ็บจนพูดไม่ออก นึกอยากจะให้ภูมิรพีถอนท่อนลำออกไปจากตัว  คนตัวโตหยุดชะงักเมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของร่างบาง เม็ดเหงื่อผุดพรายตามไรผมจนชื้น น้ำนิ่งเกร็งตัวมือกำผ้าปูที่นอนแน่นจนขึ้นข้อขาว น้ำตาซึมหางตา หัวบานใหญ่พึ่งมุดเข้าไปได้แค่นิดเดียวแต่อีกฝ่ายถึงกับน้ำตาเล็ด

   “เจ็บมากไหม...ทนไหวหรือเปล่า..จะให้ถอนออกก่อนไหม..”

   “มะ ไม่เป็นไรหนูทนได้”  น้ำนิ่งกัดฟัน มันไม่เสียวเหมือนตอนใช้ปากทำรัก ตอนใช้นิ้วทำถึงจะเจ็บแต่ก็ไม่เท่าตอนนี้  แต่ความกระสันที่เร่งเร้าอยากจะปลดปล่อยจนแทบคลั่งทำให้ร่างบางเอี้ยวตัวมามองหน้า  ภูมิรพี เห็นชัดถึงความปรารถนาในดวงตาคู่นั้น น้ำนิ่งยอมผ่อนปรนช่องทางรัก

   ภูมิรพีทาบตัวไปกับแผ่นหลังบาง ตัวตนของน้ำนิ่งอ่อนตัวลงเพราะความเจ็บ ภูมิรพีนาบจูบร้อนเล้าโลมไปตามหลังคอลาดไหล่ของร่างบาง  มือหนาเลื่อนไปกอบกุมท่อนเนื้อน้อยที่หดตัวอยู่ตรงหว่างขาของน้ำนิ่งขยับมือเล้าโลมรูดรั้งขึ้นลงเบาๆ ให้คลายความตื่นเต้นกังวลลง ร่างบางหันกลับมากดจูบแลกชิมความหวานของลิ้นกันและกันอย่างร้อนแรง 

    ภูมิรพีผละปากออกไปจูบซับน้ำตาก่อนที่จะกลับมาประกบจูบที่ปากเรียวเล็กอย่างดูดดื่มอ่อนหวานอีกครั้ง มือหนาสากผละจากแก่นกายที่เริ่มแข็งขืนขึ้นไปบดบี้ยอดอกเล็กอย่างแรง มันทั้งเจ็บทั้งเสียวน้ำนิ่งร้องครางหวาน พอความเสียวซ่านเริ่มครอบงำร่างกายก็เริ่มผ่อนคลายจนรู้สึกได้ว่าช่องทางคับแน่นเริ่มขยายตัว เขาค่อยๆ ดันดุนท่อนลำเข้าไปทีละน้อย ปากก็จูบไซ้เพิ่มความซ่านเสียวให้ร่างบางไปด้วย หัวบานใหญ่มุดไถลเข้าไปทีละน้อยจนมิดส่วนหัว ภูมิรพีสูดปากขนาดเข้าไปแค่หัวยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นรัดรึงในตัวน้ำนิ่ง มันวิเศษจริงๆ เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันเสียวกว่าตอนที่เขาใช้มือให้ตัวเองเสียอีก

   “อ๊ะ ขะเข้าไปแล้ว..อา..”  น้ำนิ่งหลับตาแน่น ร่างบางรู้ว่าภูมิรพีมีความสุขเขายิ่งไม่กล้าแสดงออกให้รู้ว่าตัวเองเจ็บ ภูมิรพีดันท่อนเนื้อเข้ามาเรื่อยๆ จนร่างบางจุกแน่นไปหมด มือกำผ้าปูที่นอนแน่น 

   “หนูเจ็บไหม...เจ็บไหม ภะ ภูมิเสียวมากเลย  อา...”

   ภูมิรพีแช่ทอนลำไว้ครู่หนึ่ง เอามือลูบไล้เล้าโล้มไปตามผิวเนื้อของน้ำนิ่งอย่างเอาใจ คนตัวโตตั้งจะทำรักกับน้ำนิ่งช้าๆ อย่างนุ่มนวลที่สุด

   “ทนได้ไหม ถ้าเจ็บก็บอกนะ..ภูมิจะค่อยๆ ทำ...”  น้ำนิ่งพยักหน้าหงึกหงัก เขานิ่วหน้าเมื่อภูมิรพีค่อยๆ ดันท่อนลำลึกเข้ามาอีก มันจุกจนถึงลิ้นปี่ ทั้งร้อนทั้งแสบช่องทางด้านหลังไปหมด...

   “อา..สะ...เสียว... ภูมิเสียวเหลือเกิน”  ภูมิรพีครางเสียงดัง เขาก้มมองท่อนลำของตัวเองที่มุดเข้าไปในตัวของน้ำนิ่งช้าๆ ยิ่งร่างบางเกร็งตัวด้วยความเจ็บปวดยิ่งทำให้ช่องทางรักหดรัดท่อนลำของเขาแน่นขึ้นไปอีก ภูมิรพีเสียวจนแทบคลั่ง เขาพยายามยั้งใจตัวเองไม่ได้เผลอกระแทกเข้าไปแรงๆ อย่างใจปรารถนา คนตัวโตสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ทั้งเกร็งและตื่นเต้นเหมือนจะกระฉูดน้ำรักออกมาได้ทุกเมื่อ...อีกนิดเดียวท่อนลำของเขาก็จะเข้าไปมิดด้าม 

   “ดันเข้ามาทีเดียวเถอะ”

   “อย่าเกร็งนะครับ ผ่อนคลาย”

   ภูมิรพีกอดร่างบางกระชับเข้าในวงแขนแกร่งของตัวเอง  ก่อนที่จะกระแทกเข้ามาทีเดียวมิดด้าม น้ำนิ่งสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บเสียงดึงปึกเหมือนช่องทางรักฉีกขาดเจ็บจนแทบทนไม่ไหว น้ำตาเม็ดโตร่วงพรูไหลซึมหางตา มือเล็กจิกต้นขาของคนตัวโตจนเลือดซึม  แม้จะเตรียมช่องทางอย่างดีชโลมเจลจนชุ่ม แต่ความใหญ่โตและความใหม่สดคับแน่นทำให้ร่างบางเจ็บจนได้
 
   “ขะ ขอโทษ...เจ็บมากไหม ไหวรึเปล่า...” ภูมิรพีกระซิบถามไม่รู้ครั้งที่เท่าไร กลัวร่างบางจะเจ็บจนทนไม่ไหว ภูมิรพีกอดปลอบร่างรางไว้แน่น ทำรักกันครั้งนี้แม้จะเพื่อคลายความกำหนัดจากยาที่น้ำนิ่งโดนเท่านั้น มันมากกว่านั้นเหมือนกับพวกเขาได้กลายเป็นคนเดียวกันไปแล้วจริงๆ

   “ภูมิมีความสุขมากจริงๆ หนูรู้ไหม..”

   “หนูก็มีความสุขภูมิ..”  น้ำนิ่งตอบ หันหน้ามาแลกลิ้นกันอย่างร้อนแรงก่อนจะผละปากออกเพราะ   น้ำนิ่งกำลังขาดอากาศหายใจ

   “ทั้งๆ ที่เจ็บ..จนร้องไห้นี่นะ”

   “ก็หนูเห็นภูมิมีความสุขนี่...”  ภูมิรพีหัวเราะหึ หึ ชื่นใจเหลือเกินห่วงความสุขของเขามากกว่าตัวเอง ภูมิรพีถอนท่อนลำออกช้าๆ ริมฝีปากร้อนนาบจูบไซ้หลังคอ ลาดไหล่ ให้ร่างบางคลายความเจ็บ คนตัวโตถอดถอนท่อนลำออกมาเกือบสุดลำ คาไว้แค่หัวก่อนจะดันเข้าไปใหม่ น้ำนิ่งเสียวท้องน้อยวูบ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ความเจ็บความจุกค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน รู้สึกเหมือนร่างกายสอดผสานไปตามจังหวัดเคลื่อนไหวของภูมิรพี กระทั่งลมหายใจยังเป็นจังหวะเดียวกัน...

   “อาห์...หนูภูมิเสียวเหลือเกิน...”  ภูมิรพีครางเสียงแหบพร่าเว้าวอน อยากให้น้ำนิ่งรู้ว่าเขามีความสุขมากแค่ไหน ชายหนุ่มโยกเอวพลิ้วเข้าหาร่างบาง มือข้างหนึ่งชักรูดท่อนลำของร่างบางไปด้วย แม้ใจอยากจะกระแทกกระทั้นแรงๆ แต่ทั้งเขาและน้ำนิ่งยังใหม่ด้วยกันทั้งคู่แม่จะเคยทำให้น้ำนิ่งแต่มันก็แค่นิ้ว เขาไม่อยากจะให้น้ำนิ่งเจ็บจนเข็ดกับประสบการณ์ครั้งแรก

    “เค้าไม่ไหวแล้ว เสียวเหลือเกิน ลุง ทำแรงๆ ลึกๆ อีก...”

   ความหวามไหวเริ่มตีวนในช่องท้อง น้ำนิ่งร้องขอด้วยเสียงแหบโหยเว้าวอนไร้สิ้นความอาย ร่างบางหันหน้ากลับมาปรือตามองอย่างเว้าวอน นัยน์ตาสวยฉ่ำเยิ้มเหมือนคนเป็นไข้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเป็นสีชมพูจัด ภูมิรพีปล่อยตัวน้ำนิ่งลงมือใหญ่กดตรงไหล่คนตัวเล็กให้แนบไปกับเตียงนุ่ม ยกก้นงอนขึ้นจนได้ระดับ มือแกร่งอีกข้างกุมกระชับสะโพกมนของร่างบาง ภูมิรพีถอดถอนตัวตนออกจนเกือบหมดแล้วกระแทกกลับเข้าไปใหม่ด้วยจังหวะเนิบนาบ  ร่างบางโยกสะท้านตามจังหวะเคลื่อนตัวของเขา น้ำนิ่งทำหน้าเหยเกเมื่อเขาเพิ่มจังหวะกระแทกกระทั้นแรงขึ้น มือสากเร่งจังหวะชักรูดท่อนลำรัวเร็ว น้ำนิ่งบิดตัวครางกระเส่าด้วยความซ่านเสียว

   “เจ็บไหม..หนู..สะ เสียวไหม”

   น้ำนิ่งส่ายหน้า เขาเกือบจะไม่เหลือความเจ็บอีกต่อไป ทุกครั้งที่ภูมิรพีดันท่อนลำร้อนเข้าออกในตัวเขามันทำให้เสียวท้องน้อยอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งคนตัวโตรูดรั้งท่อนลำให้เขาด้วยแล้ว มันเหมือนถูกโจมตีด้วยความเสียวทั้งสองด้าน หลับตาครางลั่นอย่างเดียว...

   “สะ เสียว อ๊ะ อ๊า...ลุงจ๋าหนูจะไม่ไหวแล้ว”

   “เรียกอีก”

   “ลุงจ๋า..อา แรงๆ อีก”

   ภูมิรพีโหมแรงซอยสะโพกกระแทกใส่เต็มแรง เพราะมั่นใจว่าน้ำนิ่งหายเจ็บแล้วแน่นอน เขาเองก็เสียวจนตัวเกร็งไปหมด รับรู้ได้ถึงแรงบีบรัดรอบหัวบานเหมือนจะรีดน้ำให้พุ่งออกในไม่ช้า ภูมิรพีพยายามชะลอตัวเองให้ช้าลงเพื่อจะยื้อเวลาเล่นรักกับร่างบางให้นานที่สุด แต่ร่างกายเขามันอยู่เหนือการควบคุม ภูมิรพีแร่งจังหวะกระแทกกระทั้นเอวให้รัวถี่โดยไม่รู้ตัว ความเสียวซ่านเข้าจู่โจมจนหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งสองครางแข่งกันจนไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร ภูมิรพีเอื้อมมือไปจับมือของน้ำนิ่งไว้แน่น


   ‘ตั๊บ ตั๊บ ตั๊บ’  เสียงเนื้อที่กระทบกันก่อให้เกิดเสียงที่น่าอายแต่มันกลับกระตุ้นให้ความกระสันเสียวเริ่มบิดเขม็งเกลียว

   “ลุง..อึก.นะ หนู จะไม่ไหวแล้ว อ๊า...” 

        น้ำนิ่งร้องครางเสียงดังลั่น เด้งเอวสวนท่อนลำของภูมิรพีที่กระทุ้งเข้ามาในตัวโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกได้ถึงมือแกร่งของภูมิรพีที่บีบแน่น จากที่เคยเจ็บปวดในคราแรก  ตอนนี้เขากลับอยากให้ภูมิรพีฝังเข้ามาในตัวเขาแรงๆ ท่อนลำร้อนระอุของภูมิรพีก่อความเสียวจากท้องน้อยแผ่ซ่านไปทั่วร่างราวกระแสไฟอ่อน รู้สึกเหมือนลอยคว้างอยู่ในสุญญากาศสูงขึ้นไปเรื่อยๆ น้ำนิ่งนอนเกร็งตัว หายใจหอบกระเส่าราวกับวิ่งมาไกลสักพักกิโล

   “หนูครับ ภูมิใกล้ แล้ว...กะ ใกล้ แล้ว ไปพร้อมกันนะครับโอ๊วววว”  ภูมิรพีกระซิบเสียงแหบพร่า..เขาเสียวใจแทบจะขาด  ภูมิรพีถอดถอนท่อนลำออกมาจนเกือบสุดคาไว้แค่หัวก่อนจะกระแทกเข้าไปใหม่อย่างแรง บดขยี้โคนที่เต็มไปด้วยไรขนใส่ร่องก้นงอนของร่างบาง มือแกร่งรูดรั้งท่อนลำของน้ำนิ่งระรัวเร็ว

   “โอ๊วว...อ๊า  อา..”  น้ำนิ่งครางดังลั่นเมื่อปลดปล่อยน้ำรักอุ่นๆ กระฉุดใส่มือของภูมิรพีจนเปรอะไปหมด ความรู้สึกตอนนี้เหมือนตัวเองตกวูบจากที่สูงกระทันหัน ความเสียวแผ่ซ่านไปทั่วตัวเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าอ่อนช๊อตไปทั่วตัว ร่างบางเกร็งสะท้านเพราะความเสียวสุดขีด ก่อนจะกระตุกสองสามครั้งแล้วอ่อนปวกเปียกลง

   ภูมิรพียังไม่ถอนท่อนลำออกจากตัวของน้ำนิ่ง เขาแช่นิ่งคาไว้อย่างนั้น  ผนังอุ่นร้อนด้านในช่องทางรักบีบรัดแน่นดูดรัดท่อนลำเขารุนแรงเหมือนจะรีดน้ำในตัวเขาทุกหยาดหยุด ภูมิรพีครางเสียงทุ่มต่ำ ใบหน้าคมเข้มเหยเกยด้วยความเสียวทรมาน

   “โอ๊ว..!! อาส์ส์...”  ภูมิรพีส่งเสียวคำราม น้ำรักพุ่งกระฉูดตามร่างบางไปติดๆ โดยไม่ต้องกระแทกท่อนลำ มัดกล้ามทุกมัดในตัวเขาบิดเขม็งเกลียวแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาสั่นกระตุกแรงๆ ติดๆ กันสองสามครั้ง ฉีดน้ำรักขุ่นข้นเข้าไปในตัวน้ำนิ่ง ก่อนจะผวาตัวลงกอดร่างที่นอนระทวยอยู่ใต้ร่าง  ผนังด้านในช่องทางรักของน้ำนิ่งขมิบถี่ยิบรีดน้ำจากท่อนลำของเขาจนไม่เหลือ แต่ให้ตายเถอะเขายังไม่อยากถอดถอนออกจากช่องทางอุ่นร้อนที่ชุ่มฉ่ำนี้เลย

   ภูมิรพีหอบหายใจหนักหน่วง รู้สึกเหมือนถูกรีดพลังออกจากร่างจนเกือบหมดแต่ก็ยังไม่อิ่มเขายังอยากจะกินอีกอย่างตะกละตะกรามด้วย  เขากอดร่างบางไว้กับอกแน่น  ท่อนลำที่เริ่มอ่อนตัวยังไม่ได้ถอดถอนออกมา ภูมิรพีขยับสะโพกเนิบนาบจนท่อนลำแข็งขืนขึ้นอีกครั้งเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาพลิกตัวเองลงนอนบนที่นอนนุ่มแขนแกร่งตวัดเอาตัวน้ำนิ่งยกขึ้นซ้อนข้างบนแผ่นหลังบางแนบไปกับหน้าอกแกร่งแรงเต้นของหัวใจของทั้งคู่ยังกระหน่ำจนรู้สึกได้ ลำแขนแกร่งโอบกระชับตัวร่างบาง  มือสากหนาเลื่อนไปกุมท่อนลำของน้ำนิ่ง  อีกข้างเลื่อนไปกุมกระชับยอดอกเล็กบีบบี้อย่างแรง  กระซิบเสียงแหบพร่าวอนขนจนน้ำนิ่งขนลุกซู่

   “ขอลึกๆ อีกนะ”

   น้ำนิ่งยังไม่ได้เอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธภูมิรพีถอดถอนท่อนลำออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกเข้ามาในร่างบางใหม่ในจังหวะเนิบนาบเน้นๆ  และเร็วแรงขึ้นตามแรงนำพาของไฟอารมณ์ความปรารถนา  ปากร้อน ไล่กดจูบขบเม้มลาดไหล่บางจนขึ้นรอยสีกุหลาบระเรื่อเต็มพื้นที่  มือหนาสากรูดรั้งท่อนลำอ่อนระทวยของ   น้ำนิ่งให้แข็งขืนจนน้ำใสเริ่มปริ่มปลาย  ร่างบางครางหวานแทบไม่เป็นภาษาด้วยไฟอารมณ์ที่คุกกรุ่นขึ้นอีกครั้ง

   “โอ๊ววว  อ๊ะ...อา..ลุง...”

   ภูมิรพีปล่อยตัวน้ำนิ่งลงนอนตะแคงกับเตียงโดยที่ท่อนลำยังสอดรับกันอยู่ แขนแก่รงสอดเข้าใต้ข้อพับให้ช่องทางรักเปิดกว้างขึ้น  มือข้างที่สอดรองหัวร่างบางเลื่อนมาบดขยี้ยอดอกค่อนข้างแรงมันเจ็บแสบ  แต่เสียวได้จนน้ำนิ่งต้องซี๊ดปาก  ภูมิรพีขยับจนได้ทีแล้วเริ่มซอยสะโพกถี่ยิบรัวเร็ว  ทุกแรงกระแทกกระหน่ำโดนจุดกระสันอย่างแม่นยำ  น้ำนิ่งหวีดร้องครวญครางอย่างสุขสมครั้งแล้วครั้งเล่า  แทบขาดใจหัวสมองขาวโพลนว่างเปล่า

   “อ๊า  อา  ลุงจ๋าแรงอีก.. จะไปอีกแล้ว อ๊า...”

   “อื้ม..อา.. หนูตอดแรงเหลือเกินโอ๊ววว...”

   คนตัวโตขยับซอยสะโพกกระแทกแรงๆ ลึกๆ เน้นๆ อยู่ไม่นานทั้งคู่ก็เดินจูงมือไปแตะเส้นความสุขสมด้วยกัน หลังจากไฟอารมณ์เริ่มมอดดับภูมิรพียังไม่ถอดถอนกลับขยับตัวเนิบนาบให้ช่องทางอุ่นร้อนที่ยังเต้นระริกโอบล้อมปลอบประโลมตัวตนของเขาที่ยังกระหายอยากอยู่

   “หนูไม่ไหวแล้ว ขอพักก่อนได้ไหม”  น้ำนิ่งเปล่งเสียงเบาบางอย่างเหนื่อยอ่อนบอกคนที่กำลังขยับตัวตนอยู่ข้างหลังให้หยุด  ร่างบางรู้ว่าตัวเองกำลังจะสำลักความสุขที่มากล้นเกินไป หัวใจเต้นระรัวจากการทำรักมาหลายชั่วโมงจนแทบจะไม่อยากขยับตัวมันเจ็บปวดราวกับจะแตกร้าวไปหมด 

   “แรดน้อยสิ่งสวยงามที่ดีที่สุดของภูมิ  ของภูมิคนเดียว....”

   “รักลุงที่สุด”

   แขนแกร่งกอดกระชับแน่นขึ้นแทนคำตอบ “ของรักของหวง”  จะกอดไว้กับตัวจนวันตาย  คนตัวโตประทับจูบอ่อนโยนระคนออดอ้อนประกาศความเป็นเจ้าของแทบจะทุกแห่งที่ปากร้อนนาบไปถึง   

    เพศรสที่ได้ดื่มกินมาหลายชั่วโมง  ไม่ได้ทำให้ภูมิรพีอิ่มเขายังอยากจะกินอีกด้วยความตะกละตะกรามไม่รู้เบื่อ เขาขยับตัวเนิบช้า ผนังอุ่นร้อนเต้นตุบ ๆ บีบรัดตัวตนใหญ่โตที่กำลังอ่อนยวบให้เริ่มแข็งขืนอีกครั้ง 

    น้ำนิ่งครางประท้วงอย่างเหนื่อยอ่อน  แต่ร่างกายกลับทรยศระริกระรี้เปรมปรีโอบรัดดูดดึงตัวตน ของภูมิรพีอย่างรักใคร่หวงแหน เชิญชวนอย่างไร้ยางอาย  หมดหนทางห้ามปรามเสียงประท้วงแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางกระเส่าหวานแว่ว ความสุขสมที่ทะลักล้นทำให้น้ำนิ่งสลบกลางอากาศขณะที่กำลังทำรักยกที่ เท่าไรไม่รู้.....

    ‘แค่ความสาว (?) ที่เสียตัวให้เขาไป เสียตัวอย่าเสียใจไม่นานก็หายดี คุณค่าของเธออยู่ที่ใจมากกว่าผู้ชายพรรค์นั้น  เจ็บใจหนึ่งทีเปิดทางให้คนดีๆ ได้เดินเข้ามา...’












TBC.




ปล.

1.  เป็นตอนที่ยาวมากที่สุดเท่าที่เขียนมา (20 หน้ากระดาษ A4)  ฟังเพลงไปตั้งหลากหลายแนวเพลงเพื่อ บลิ้วอารมณ์ พยายามสมมติตัวเองเป็นฆาตกรโรคจิตกระทำการปู้ยี่ปู้ยำน้ำนิ่ง  อยากจะเข้าให้ถึงแก่นของความเศร้าเสียใจของน้ำนิ่งที่โดยเพิกเฉย (ยาก) ตอนนางถูกสอดใส่น้อยนิดนั่น ภูมิจะโกรธได้ระดับไหน  (อันนี้ก็ยาก) สรุปเขียนไปเขียนมาก็ได้แค่นี้อารมณ์ยังสื่อไปไม่ถึงเลย..

2. ตะแรกกะว่าจะอ่านทวนอีกหลายๆ รอบเพื่อปรับสำนวน แล้วก็พิสูจน์อักษร  แต่ยิ่งอ่านยิ่งเลอะเทอะเอาเป็นว่าพอดีกว่า แล้วก็กลัวว่ายิ่งปล่อยไปเนิ่นนานยิ่งจะไม่มีเวลา ถ้าเจอที่ผิดพลาดบอกต่อด้วยนะครับ

3. ตัวละครทุกตัวก็แค่มนุษย์ปถุชนธรรมดา มีรัก โลภ โกธร หลง แฝงไว้ด้วยความเห็นแก่ตัวบ้างเป็นบางครั้งตามแต่สถานการณ์นั้นจะชักพาไป คนเหล่านี้มีให้เห็นอยู่กลาดเกลื่อนในสังคมที่เรียกว่าโลกใหญ่ใบนี้

4. ขอบคุณที่ติดตามกันตลอดมาพิเศษสำหรับ Ginny Jinny / TaecKhun Imagine Love / ❣☾月亮☽❣  / BeeRY / dahlia / sakurako12 / warin / เลิฟลี่ / ormn

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ใจหายแว๊บนึกว่าภูมิจะรังเกียจน้องน้ำ ยังดีที่น้ำโดนเข้าไปนิดหน่อย

ถ้าโดนถึงขั้นสุด น้ำคงรังเกียจตัวเองมากๆ เลย

ภาวนาขออย่าให้มีอะไรที่ร้ายแรงมากไปกว่านี้เกิดขึ้นกับน้องน้ำอีกเลย

ขนาดว่าอยู่ในถิ่นของตัวเองแท้ๆ ยังประมาทจนเกิดเรื่องได้

ยิ่งกับพวกศัตรูที่รอวันเอาคืนอย่าง ACE  ด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าจะลงมือหนักขนาดไหน

ศัตรูจะเข้ามาทางภูมิหรือจะเข้ามาทางน้ำก็เดาไม่ออก

แล้วพวกพี่ๆ แต่ละคนก็ใช่ว่าจะอยู่รวมตัวด้วยกันตลอดเวลาเสียเมื่อไหร่

ถ้าเกิดเรื่องร้ายตอนแต่ละคนแยกย้ายกันกลับไปทำงาน คงรับมือยาก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เห้อออออออ.  รอดไปเน้อ
ถ้าภูมิมาไม่ทันนี่คงจะแย่มากๆ. บอกรักกันแล้ว.  :o8: 
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ choinudee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ้ยยยยยย ใจหายใจคว่ำ นึกว่า......

ดีนะที่ภูมิมาทันเวลา ไม่งั้นโกรธคนแต่งแน่ๆ!!!

หนูคงเสียใจมากซินะตอนที่ภูมินิ่งไปแบบนั้น

แต่ลุงไม่ได้รังเกียจ แต่รู้สึกผิดมากๆใช่มั้ยละ

เอาเป็นว่าเรื่องร้ายๆผ่านไป เรื่องแรดน้อยผ่านมา555

อ๊ายยยย เขินนนนน แรดน้อยของภูมิ

ในที่สุดก็ได้กัน อุ๊ย!! ไม่สุภาพ เอาใหม่ ในที่สุดก็เป็นคนๆเดียวกัน

รักกันมากๆแบบนี้ตลอดไปนะ
...
ตอนกระทืบไอ้เลวนั่นสะใจมาก จริงๆต้องเอาให้ตาย!!!

แล้วอย่าลืมสืบว่าฝีมือใคร หรือใครบงการ เอาแม่งให้หนัก อุ๊ย! อินไปหน่อย

......

ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:หูนเกือบไปแล้ว :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
 อ่านไปๆ :a5: ป้าก็ลุ้นว่าอิภูมิจะมาช่วยแรดน้อยทันเปล่า

แต่พอช่วยกลับไปได้ทำเอาป้า :pighaun:

ครั้งนี้ช่วยทันแต่ก็ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะเป็นไง :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2015 06:24:09 โดย Ginny Jinny »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
        สนุกดีคับ ชอบฉากบู๊มากๆแต่เสียดายมีน้อยไปหน่อย  อ่านแล้วสนุกดี  รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ มาเร็วๆนะคับ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :m25: ลุ้นมาก ๆ ดีที่ภูมิมาช่วยหนูทัน ลาไปซับเลือดก่อน

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เด็กเลี้ยง



- 16 -

ความจริง







   “ดีมากเด็กน้อย”  บ๋อมหน้าแดงระเรื่ออายม้วนแทบจะทำอะไรไม่ถูก เมื่ออีกคนเกลี่ยไล้นิ้วแกร่งไปตามแก้มขาว ริมฝีปากบางเอ่ยชมด้วยเสียงอันทุ่มนุ่มคลอเคลียไม่ห่างจากริมฝีปากของเขา

   “มะ ไม่เป็นไรครับ คะ..แค่นี้เอง”  บ๋อมเอื้อนเอ่ยเสียงแผ่วเบาขาดห้วงกับสัมผัสและรอยยิ้มยั่วเย้าของคนตรงหน้าที่มอบให้
   “แล้วจะให้ตอบแทนสิ่งที่เธอทำให้ฉันยังไงดีน้า...”  บ๋อมขนลุกซู่ไปทั้งตัวแทบคลั่งกับสัมผัสของอีกคนที่เล้าโลมลูบไล้ไปตามเรียวขาอ่อนจนเกือบจะถึงกลางกายอยู่แล้วมือแกร่งกลับหยุดแค่นั้น ดวงตาเรียวเชิดวาววับซ้อนขึ้นมองหน้าที่แดงระเรื่อของบ๋อม ปากเรียวบางยกยิ้มพึงพอใจกับปฏิกิริยาตอบสนองของเด็กหนุ่ม

   “ดะ ได้เหรอครับ..อะ..ฮือ” 

   “ได้สิก็เธอเป็นเด็กดี น่ารักขนาดนี้ ฉันแทบอดใจไม่ไหวเลยน้า...”

   “ทะ ทำแบบนี้นั่นให้ผมอีกได้ไหม...”  เมื่อถูกรุกเร้าทั้งมือและปากร้อนอย่างหนักแรงปรารถนาที่พุ่งสูงทำให้บ๋อมร้องขอเสียงกระเส่าอย่างไม่อาย อีกคนยกยิ้มมุมปากด้วยความสมเพท นัยน์ตาเรียววาวโรจน์เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย

   “ตามบัญชาเด็กน้อย...หึ หึ”

   นั่นเป็นบทสนทนาที่ผ่านมาแล้ว 10 ชั่วโมงหลังจากที่น้ำนิ่งวางโทรศัพท์จากบ๋อม  ซึ่งน้ำนิ่งไม่มีวันจะรู้…









08.00 น.  ณ เวลาปัจจุบัน

   แสงแดดอ่อนๆ ทอดตัวลอดผ่านผ้าม่านที่รูดปิดไม่สนิทเข้ามาในตอนสายปลุกให้ร่างบางที่กำลังนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่ขยับเปลือกตาขึ้นและต้องปิดลงไปอีกครั้งเมื่อเจอกับแสงแดดจ้า ก่อนจะค่อยๆ  ลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง  หันมองคนที่นอนข้างกันมาตลอดคืน กลับพบเพียงว่างเปล่าพื้นที่ข้างๆ ที่เคยบ่งบอกว่ามีคนเคยนอนอยู่เย็นเยียบ ภูมิรพีคงลุกไปนานแล้ว

    น้ำนิ่งขยับตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความเจ็บร้าวแล่นริ้วร้าวจากช่วงกลางตัวไปจนถึงปลายเท้า จนต้องขบริมฝีปากแน่นข่มความเจ็บ  ผืนตัวเองลุกจากเตียงพยายามเดินด้วยความลำบากไปจนถึงประตูเปิดออกไปยืนคว้างตรงโถงทางเดิน มองหาคนตัวโตแต่บริเวณกรอบสายตากลับไม่ปรากฏร่างของ ภูมิรพี ทั่วทั้งบริเวณเงียบกริบไร้สิ้นเสียงของคนอื่นๆ 

   “ภะ..ภูมิ อยู่ไหน..”

    เงียบ.....ถูกทิ้งเหรอ.....อาการปวดหัวไมเกรนพุ่งจี๊ดขึ้นมาอย่างกะทันหันจนแทบอาเจียน ตัวร้อนผะผ่าว แสบจมูกไปหมดเพราะพยายามกลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอไม่ให้ไหลออกมา เข่าอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงทรุดตัวลงกับพื้นเย็นอย่างหมดแรงกลางโถงทางเดิน ซบหน้าลงร่ำไห้กับพื้นทางเดินด้วยความอ้างว้างกระวนกระวายใจ ความรู้สึกผิดจู่โจมหัวใจจนปวดร้าว  สมเพชตัวเองที่มีอารมณ์ร่วมกับมัน เนื้อตัวนี่ช่างน่าขยะแขยงจนเขาไม่อยากจะได้  พิษของไข้ทำให้พร่าเลือนในหัวตอนนี้มีเพียงเสียงสะท้อนของตัวเองซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง

   “ผิดไปแล้ว ขอโทษ...ขอโทษ..อย่าทิ้งฮือ.....” 
.

.

.

.


   ภูมิรพีฮัมเพลงเบาๆ เปิดประตูเข้ามาในบ้าน หลังจากที่คุยโทรศัพท์สายด่วนกับคุณเหมือนวาดเรียบร้อยแล้ว วันนี้พวกเราเลื่อนโปรแกรมทั้งหมดเพราะเมียเด็กของผมป่วยตัวร้อนจี๋พิษจากโดนชนกระแทกอย่างหนักหลายชั่วโมง ก่อนผมจะลุกออกมาเขาก็เพ้ออะไรสักอย่างที่ฟังไม่ชัดปลุกขึ้นมาป้อนยา ป้ายยาให้แล้วเลยกล่อมนอนต่อตื่นมาอีกทีถ้าไม่เจอผมมีหวังงอแงหนักแน่ๆ 

   เฮียเซนกับพวกพี่ๆ ออกจากบ้านไปตั้งแต่ตีสามเห็นว่าไปล่องเรือตกหมึกทะเลน้ำลึก  ผมว่าเหยื่อที่ใช้ล่อคงจะใหญ่และหนักพอสมควร...ก็ได้แต่หวังว่าเหยื่ออย่างเศษสวะของ ACE จะไม่ทำให้น้ำทะเลเกิดมลภาวะเป็นพิษจนเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลอื่นหรอกนะหึ หึ



   ผมกำลังจะเดินเลี้ยวเข้าห้องสายตาผมปะทะเข้ากับร่างของเมียทูนหัวที่นั่งหมอบซบหน้ากับพื้นร่างบางสั่นน้อยๆ ตามแรงสะอื้นไห้ ใจผมวูบโหวงรีบเดินเข้าไปคุกเข่าข้างๆ ยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังบางที่สั่นเทานั้น ก่อนที่จะดึงเด็กเข้ามากอด 

    ร่างบางของคนตรงหน้าฝืนตัวออกจากอ้อมกอดผม เงยหน้าขึ้นมองหน้าแต่ในแววตานั้นกลับว่างเปล่าไม่สะท้อนเงาของผมเลย มันไม่มีผมอยู่ในนั้น...  นัยน์ตาสวยหวานฉ่ำไปด้วยน้ำตา แขนเรียวเล็กข้างหนึ่งทิ้งลงข้างตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง อีกข้างเกาะกุมหัวใจตัวเองไว้มันสั่นน้อยๆ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามไรผมจนเปียกชื้น 

    “ผิดไปแล้ว ขอโทษ อย่าทิ้งนะ”  ริมฝีปากบางเอ่ยเสียงแผ่วเบาสิ้นหวังซ้ำไปซ้ำมา น้ำนิ่งดิ้นรนผลักไสให้พ้นจากอ้อมกอดของผม มือเล็กจิกลงที่หน้าขาตัวเองจนเลือดซึม  เสียงร่ำไห้อย่างสิ้นหวังแหบพร่าขาดห้วงและการทำร้ายตัวเองนั่นทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ 

   “ซู่ๆ ไม่ร้องนะครับ ภูมิรักหนูนะเด็กดี”

   “ทิ้งแล้ว  ไม่เอาแล้ว ไม่เชื่อแล้ว...”

   ปรางแก้มนิ่มทั้งสองข้างเปรอะไปด้วยหยาดน้ำตาเม็ดโตที่ร่วงพรู  ร่างบางกัดเม้มปากตัวเองแน่น ไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา เมินไม่มองผม  เขาหันหน้าหนีราวกับว่าตรงนี้ไม่มีผมอยู่  ผมใจเสียมันแย่มากๆ ตอนนี้

   “ซู่ๆ ภูมิอยู่นี่แล้ว ภูมิลบมันให้แล้ว ไม่ทำแบบนี้นะครับ อยู่ด้วยกันนะ...นะครับ” 

    ผมยิ้มสู้ ยกร่างบางนั่งบนตักดึงมือเล็กออกจากการทำร้ายตัวเองกุมกระชับไว้ในมือของตัวเอง  ก่อนจะยกขึ้นโอบกอดเราทั้งคู่ไว้ด้วยความรักทั้งหมดของผม  ร่างในอ้อมกอดร้อนผะผ่าว  เขายังคงนิ่งสนิทในอ้อมแขนของผม  ผมนาบปากคลอเคลียมอบจูบอ่อนโยนไปตามลาดไหล่บางที่สั่นด้วยความกลัวและกระวนกระวายใจ โยกตัวเบาๆ เหมือนปลอบเด็กเล็ก

   ผมทำพลาดอีกแล้ว  รู้ทั้งรู้ว่าน้ำนิ่งจะต้องเกิดอาการ  ‘ภาวะจิตเศร้ากึ่งๆ ซึมเศร้า’ ยังกล้าทิ้งเขาไว้คนเดียว ใช่แล้วน้ำนิ่งเป็นโรคจิตเวชความจริงอีกอย่างที่ผมและพวกพี่ๆ รู้ดี

   ภาพเหตุการณ์คนงานก่อสร้างรุมฉุดน้ำนิ่งมันทิ้งบาดแผลแห่งความกลัวเอาไว้และบาดแผลนั่นก็ติดเชื้อลุกลามไปทั่วไม่อาจรักษาให้หายได้  เมื่อเจอสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อจิตใจซ้ำๆ บาดแผลนั้นจะยิ่งกลัดหนองลุกลามไปทั่วยังกับเนื้อร้าย  น้ำนิ่งจะมีอาการอ่อนไหว  ขาดความมั่นใจ  ย้ำคิดย้ำทำถึงความไร้ค่าของตัวเองอยูตลอดเวลา  จิตใต้สำนึกจะจดจำเรื่องเดิมๆ  ที่ฝังใจแล้วเชื่ออย่างนั้น   

    น้ำนิ่งเข้ารับการบำบัดโดยจิตแพทย์เป็นประจำตั้งแต่นั้นมา  ความรักความเอาใจใส่ของผมและพวกพี่ๆ ตลอดจนคนใกล้ชิดสามารถบำบัดได้ก็จริง แต่ถ้ามีเหตุการณ์อะไรก็ตามที่รุนแรงกว่ามากระทบจิตใจ  ภาวะจิตเศร้านั่นก็อาจกลายพันธุ์เป็นโรคซึมเศร้าได้เต็มรูปแบบ

   อย่าแปรเจตนาที่ผมและพวกพี่ๆ แสดงความรักความเอาใจใส่พะเน้าพะนอต่อน้ำนิ่งที่ผ่านมาจนโอเวอร์แอคติ้งเป็นเพราะความเวทนาหรือสงสาร  ขอให้เข้าใจและเชื่อว่า ความรักที่พวกเราแสดงออกมันคือของจริง ผมรักเด็กนี่อย่างไม่มีเงื่อนไข จะเป็นยังไงแตกหักเสียหายแค่ไหน เด็กนี่ก็คือ “คนสำคัญที่สุดในชีวิตผม“


   “หนูเป็นสิ่งสวยงามที่ดีที่สุดในชีวิตของภูมิ ไม่ว่าหนูจะเป็นยังไงก็ไม่เคยคิดจะทิ้ง อยู่ด้วยกันนะครับ  อย่าเมินแบบนี้”
 
   “.......”

.

.

.


   “นะครับ...”

    ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองผมเหมือนจะรับรู้  เขาเอาหน้ามาคลอเคลียที่อกผม  ริมฝีปากบางร้อนผ่าวๆ ของเขากดลงที่หน้าอกผมเบาๆ แขนเรียวเล็กที่ยังสั่นเทาเลื่อนมาโอบกอดรอบตัวผม มือเล็กกำชายเสื้อด้านหลังผมไว้แน่น ปฏิกิริยาตอบสนองทำให้ผมใจชื้นขึ้นมากโข

   “ปวดหัวไหม กินโจ๊กนะครับจะได้กินยา”  ผมเอ่ยถามคนในอ้อมกอดเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยน ร่างบางพยักหน้าน้อยๆ ผมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ จัดการอุ้มกระชับร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินลงบันไดจนถึงครัว   

   “เจ็บอึก..” เด็กสะดุ้งเมื่อก้นแตะโดนพื้นเก้าอี้เพียงนิดเดียว ขืนตัวไม่ยอมนั่ง

   “งั้นเดี๋ยวภูมิหาเบาะมารองให้นะ”

    ร่างบางพยักหน้ารับ ผมจึงวางเมียเด็กนอนตะแคงลงบนโต๊ะกินข้าว ก่อนจะเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เอากล่องยาและเบาะนั่งมาวางที่เก้าอี้แล้วยกเด็กน้อยลงมานั่ง ทำแผลที่ขาอ่อนให้ แล้วจึงหันไปตักโจ๊กที่อุ่นอยู่บนเตามาป้อนเด็กดีของผม  เขากินโจ๊กได้เล็กน้อยบอกอิ่มแล้ว  ผมเลยเอายาให้กินติดแผ่นเจลลดไข้แปะที่หน้าผากมน  แถมจูบร้อนให้หนึ่งครั้งบนหัวหอมๆ ก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นไปนอน วางบนเตียงขยับที่ทางให้เรียบร้อยแล้วจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้จนถึงคอ ก้มลงจูบหน้าผากมนอีกครั้ง

    ผมกำลังจะยืดตัวขึ้น  มือเล็กที่ยังสั่นน้อยๆ ของเขาดึงชายเสื้อของผมไว้แน่น นัยน์ตาหวานที่มองสบกันผมไม่มั่นใจว่าอะไรมากกว่ากันระหว่างความไม่มั่นใจ ความกลัว หรือความกระวนกระวายใจ แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันบ่งชัดว่า ไม่อยากให้ผมออกห่างจากกรอบสายตา

   “หืมว่าไง  จะให้ภูมินอนด้วยเหรอครับ”

    น้ำนิ่งพยักหน้ารับ ผมยิ้มอ่อนโยนกลับไปให้ก้มหน้าลงไปหอมแก้มนิ่มๆ ของเขา ขยับขึ้นเตียงอีกครั้ง ล้มตัวลงนอนก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด  มือสอดเข้าไปลูบหลังปลอบโยนให้ผ่อนคลาย น้ำนิ่งขยับตัวแนบชิดผมมากขึ้นกว่าเดิมมือกำเสื้อผมแน่น จนต้องดึงมากุมไว้ในมือตัวเอง สักพักตัวก็อ่อนยวบลงลมหายใจสม่ำเสมอแม่ทูนหัวของผมหลับไปแล้ว แต่คิ้วบางยังขมวดมุ่นด้วยความกังวลผมยกมือขึ้นนวดคลึงให้คลายออก พึมพำแผ่วเบาริมหูบาง

   “ไม่ต้องห่วงนะ ภูมิอยู่นี่แล้ว”

    คนในอ้อมกอดคงจะรับรู้ได้เขายกยิ้มบางเบาขยับตัวแนบชิดผมมากขึ้นก่อนจะนิ่งสนิทไปอีกครั้ง ผมรักเด็กนี่เหลือเกิน  อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจูบแผ่วเบาบนปากแดงระเรื่อด้วยพิษไข้นั่น แระเล็มขบกัดริมฝีปากบางอย่างหลงใหล ขอบคุณพระเจ้าที่ผมช่วยเขาไว้ได้ทัน  ถ้าผมเฉลียวใจช้าอีกนิดเดียวผมไม่อยากจะคิดถึงผลที่จะตามมา  ผมคงแบกรับมันไหวแน่ๆ 

    น้ำนิ่งจะกำจัดตัวเองให้พ้นไปจากผม เขาตายได้แค่ความคิดว่าตัวเองน่าขยะแขยง ไร้ค่า ไม่คู่ควรจะให้ผมรักถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง  เหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นแล้ว ดีเหลือเกินที่ผมไปทัน..ดีเหลือเกินที่ยังมีร่างบางอยู่ตรงนี้กับผม...





   เช้าวันที่สี่ด้วยความรักเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด คอยพูดคุยของพวกเราทูนหัวของผมหายป่วยค่อยๆ กลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเดิมอีกครั้ง ผมรู้เขาไม่ได้ลืมเหตุการณ์วันนั้น เวลาที่เผลอตัวและคิดว่าพวกผมไม่เห็นสีหน้าของเขามันบ่งบอกว่าเจ็บปวด และขยะแขยงตัวเองแค่ไหน  พอพวกเราเข้าไปทักน้ำนิ่งจะทำเป็นกลบเกลื่อน แสร้งทำเป็นว่าลืมมันไปแล้ว เขาไม่อยากจะให้พวกผมห่วงใยหรือกังวลกับตัวเขามากนัก   

         วันนี้พวกเราเลยได้ฤกษ์ล่องเรือยอร์ชเลาะแถบหมู่เกาะห้องเข้าตรังตามกำหนดการเดิม เมียเด็กตื่นเต้นใหญ่ตื่นนอนตั้งแต่เช้าโดยไม่ต้องให้ปลุกเหมือนทุกครั้ง ระหว่างรอคนอื่นจัดการธุระส่วนตัวผมก็แกะส้มป้อนใส่ปากแม่ตัวดี ส่วนเจ้าตัวนะเหรอมือกดไอแพดตาจ้องเขม็งกับเกมส์ที่กำลังเล่นพอส้มหมดปากก็หันมาอ้าปากรอราวลูกนกรออาหารจากแม่นกก็ไม่ปาน ต้องอัดวิตามินซีเยอะๆ ครับ กลัวเด็กไข้กลับแล้วเขาจะอดสนุก  โทรศัพท์ผมสั่นอยู่ในกระเป๋าเลยล้วงขึ้นมากดรับโดยไม่ได้ดูว่าใครโทรมา   

   “สวัสดีครับ”

   // ฟรังโก้กำลังไปรับ ฉันรอที่แม่ฮ่องสอนพาเด็กนั่นมาด้วย  บอกเจ้าเซนด้วย!! // 

    คนนั้นพูดเสร็จก็กดตัดสายไปโดยไม่รอตอบรับหรือปฏิเสธมาเร็วเคลมเราซะจริงๆ  ผมหันไปมองหน้าเฮียที่กำลังแกะส้มป้อนทูนหัวแทนผม

   “มีอะไร?” เฮียเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “เขาอยู่ที่ที่แม่ฮ่องสอนให้เราไปหา  ฟรังโก้กำลังมารับฟังน้ำเสียงดูโกธรๆ”

   “ก็ว่าแล้วไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาคนนั้นได้หรอก ถึงกับมาเองนี่แสดงว่าคงเหลืออดจริงแล้วหึ หึ”

   “มีอะไรเหรอครับเฮีย?”  แสนคมเอ่ยถาม

   “เฮียคงจะต้องเปลี่ยนแผนวะ เขาให้ฟรังโก้มารับไปแม่ฮ่องสอนเดี๋ยวนี้เลย  แล้วพวกนายเอาไง”
   
   “เหลือเวลาอีกตั้งอาทิตย์กว่าจะเริ่มงานใหม่ พวกผมคงต้องไปตามแผนเดิม”  ฉะฉานเป็นคนตอบ

   “พวกนายเอาเรือไปก็แล้วกันจะได้สะดวก ถ้าจะบินก็เอาไปจอดที่ตรังนั่นแหละเดี๋ยวมีคนไปจัดการต่อเอง แล้วณิตเอาไง”

   “ก็คงต้องกลับครับเฮีย ทิ้งงานมานานแล้ว”   พีระณัฐเป็นคนตอบแทน เฮียพยักหน้ารับก่อนที่จะล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครสักคนคุยกับคนปลายสายอยู่ ไม่นานก็กดวางสาย

   “เฮียจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้แล้ว บ่ายโมงตรงพวกนายไปเช็คอินได้เลยให้รถที่นี่ไปส่ง”  กล่าวไม่ทันจบก็มี รถหรูสีดำมันปล๊าบขับเข้ามาจอดหน้าบ้านพัก  แขกที่ไม่แปลกหน้าปรากฏตัวหน้าประตูทางเข้าห้องทานอาหาร

   “สวัสดีครับ ดอนให้ผมมารับพวกคุณ”  ผู้มาใหม่กล่าวทักทาย ก่อนจะหันมาบอกผมกับเฮีย

   “เฮ้อ!! ถึงเวลาเผชิญโลกแห่งความเป็นจริงสินะ งั้นคงจะถึงเวลาแยกย้ายแล้วเจอกันนะครับพี่” ผมหันไปบอกลาคิดว่าอีกนานกว่าจะได้เจอพวกพี่แสนอีกครั้ง พวกพี่มันกรูกันเข้ามาหอมแก้มโอบกอดกระชับน้องกันจนพอใจจึงผละออก ฝ่ายน้องก็ตามแดงเหมือนจะร้องไห้ ผมกุมกระชับมือเล็กแน่นขึ้น พวกพี่มันสัญญาถ้ามีเวลาตรงกันจะรีบกลับมาหา เด็กผมจึงยิ้มออกมาได้

   “โชคดีวะ แล้วเจอกันเมื่อชาติต้องการ” พวกพี่ๆ มันเอ่ยลา ผมหันไปจูงเด็กเดินตามฟรังโก้ออกไป







>>>ต่อด้านล่าง<<<



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2015 01:01:42 โดย WiChy »

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
>>>ต่อจากข้างบน<<<


   บ้านพักตากอากาศบนภูเขาหลังใหญ่ตกแต่งสไตล์เรโทรย้อนยุค ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่ชานับพันไร่ปลูกเป็นขั้นบันไดสุดลูกหูลูกตาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน (จริงๆ น่าจะบอกว่ามันภูเขาทั้งลูกนั่นแหละ) เขาคงจะร้อนใจจริงๆ ถึงขนาดให้เครื่องบินส่วนตัวไปรับเรามา เราถูกเชิญให้มานั่งรอที่ห้องรับแขกที่มองออกไปเห็นทิวเขาอยู่เบื้องหน้า ลมพัดเอื้อยโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ

    คนที่น่าจะเดือดเนื้อร้อนใจน่าจะเป็นเฮียเซนกับภูมิรพี แต่ ณ สถานการณ์ปัจจุบันกลับเป็นน้ำนิ่งเสียเองที่ตื้นเต้นนั่งกระสับกระส่ายมือชื้นเหงื่อจนเย็นไปหมด สองคนนั่นกลับหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายอะไร ภูมิรพีคงรู้สึกได้ว่าน้ำนิ่งกังวลจึงดึงไปกุมไว้และคลึงเบาๆ อย่างให้กำลังใจ  เฮียเซนที่นั่งอยู่อีกฝั่งขยับมานั่งขนาบอีกข้างอีกคน

   “ตื่นเต้นเหรอ ไม่ต้องห่วงนะไม่มีอะไรหรอกเชื่อภูมิสิ”  ภูมิรพีเอ่ยถามเสียงทุ่มอ่อนโยนปลุกปลอบให้กำลังใจมืออีกข้างยกขึ้นโอบไหล่ลูบไปมาเพื่อลดอาการตื่นเต้นของน้ำนิ่ง

   “ละ แล้วเรามาพบใครเหรอฮะ” น้ำเสียงกังวลของน้ำนิ่งเอ่ยถามออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก

   “ตาแก่หัวรั้นขี้โมโหไม่ต้องห่วงนะ” เสียงตอบที่ไม่เคลียร์ของทั้งสองคน ยิ่งทำให้หัวใจของน้ำนิ่งเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมาจากอก ทั้งๆ ที่ทั้งคู่บอกว่าไม่มีอะไรแต่มันก็ไม่ทำให้ใจของน้ำนิ่งสงบลงได้ จนกระทั่งยี่สิบนาทีต่อมา....




   “มาได้ซะที  เหลวไหลกันทั้งพี่ทั้งน้องทำให้ฉันต้องมาถึงนี่” 

    เสียงเข้มทรงอำนาจดังขึ้นข้างหลังทำให้น้ำนิ่งรีบหันกลับไปมอง แล้วก็แทบตะลึงผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นเค้าโครงหน้าแม้แต่สีนัยน์ตาเหมือนภูมิรพีแทบจะเป็นแฝดกันได้ เพียงแต่ว่าสีตาของชายคนนั้นอ่อนกว่าเล็กน้อย  อายุเขาดูน่าจะมากกว่าเฮียเซนแค่สี่ห้าปีได้ (มารู้ภายหลังว่าป๋าอายุ 52 ปี แม่เกลล์ 45 ปี จะหน้าเด็กกันไปไหนให้ตายเถอะ!!)

   “ป๋า”  ภูมิรพีและเฮียเซนเรียกผู้ชายคนนั้นพร้อมกัน

   “ ห๊ะ…!?”  น้ำ

   “เอ้า!?  พวกแกไม่ได้พูดให้น้องฟังมาก่อนเหรอ”  ชายคนนั้นหันมองทางน้ำนิ่งที่ตาเบิกกว้างอ้างปากค้างด้วยสีหน้าฉงนแต่สายตาที่มองสบมามันอบอุ่นอ่อนโยนเหมือนรู้จักคุ้นเคยกันมาเนิ่นนาน  เขาเดินมานั่งที่โซฟาใหญ่ฝั่งตรงข้างพวกเรา

   “น้ำนิ่งครับนี่ดอนอเลสซานโดร  จิโอวานดินี่ ป๋าของพวกเรา  แล้วแม่ล่ะ”

   “โน้นในครัว ไปจัดแจงเรื่องอาหารให้พวกแกกลัวไม่ถูกปาก”

   “สะ สวัสดีครับ คะ คุณ...”

    น้ำนิ่งยกมือไหว้ดอนอเลสซานโดรด้วยอาการประหม่าแกมสับสน  ดอนส่งยิ้มอบอุ่นจริงใจมาให้อีกครั้งแล้วกวักมือเรียกให้ไปหา  คนร่างบางหันมองสองหนุ่มข้างตัว ภูมิรพีพยักหน้าให้ไปหาคนนั้น

   “คุณ เคิ้น อะไร เรียกป๋าเหมือนเจ้าพวกนั้นสิ  ป๋าเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของไอ้ลูกเกเรหัวแข็งทั้งคู่นั่นแหละ  โดยเฉพาะราฟาเอล อ้อก็เจ้าสิงห์หรือภูมิรพีนั่นน่ะ ดื้อด้านบอกให้ทำอย่างมันก็จะทำอีกอย่างหัวแข็งได้ใครก็ไม่รู้ อย่าเบื่อนะคนแก่นะก็บ่นไปเรื่อยแหละลูกไม่ได้ดั่งใจ มานี่มาให้ป๋าดูใกล้ๆ สิ”  ป๋าเอ่ยตำหนิด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ก่อนจะกวักมือเรียกให้น้ำนิ่งเข้าไปหา และดึงให้นั่งลงข้างๆ กัน

    “โว้ โว้! ไม่เลวนี่หว่าไอ้ลูกชายไม่ได้เจอนานยิ่งโตยิ่งสวยน่ารักอย่างนี้นี่เองไอ้ผู้ชายหัวดื้อตรงนั้นถึงไม่ยอมกลับบ้าน  อีกคนก็ถึงกับขัดคำสั่งทิ้งงานทิ้งการไม่บอกไม่กล่าวปิดโทรศัพท์หนีไปเฉยเลย ถ้าเป็นอะไรฉันจะรู้ไหม รึต้องรอขึ้นอืดให้พวกฉันสืบรู้กันเอง”  ป๋าเอ่ยปากชม มือใหญ่ที่อบอุ่นอ่อนโยนลูบหลังไหล่น้ำนิ่งไปมาด้วยความรักเอ็นดู  และตำหนิลูกชายทั้งสองกลายๆ ในตอนท้าย

   “ป๋า...อย่าบ่นเลยน่าก็มาแล้วนี่ไง บ่นมากเดี๋ยวก็ถูกเกลล์เบื่อโดนทิ้งไม่รู้ด้วยนะ” ทั้งคู่เหมือนไม่สำนึกแต่กลับหยอกเย้าคุณป๋ากลับคืน 

   “ปากมีไว้กินข้าวไอ้หนู”  ป๋าส่งเสียงปราม ทำหน้าคาดโทษก่อนที่จะหันมายิ้มอ่อนโยนให้น้ำนิ่ง

   “บ่นอะไรนักหนาคุณ ลูกก็มาแล้วน่า”   เสียงกังวานใสที่นำเข้ามาก่อนร่างสูงโปร่งจะเดินเข้ามาในห้อง

   “โธ่! เกริดา ที่รัก เขาไม่เรียกว่าบ่น  แค่พูดให้ลูกคุณสำนึกว่าเราห่วงมันแค่ไหน”

    คุณป๋าคว้ามือเรียวของคนที่เดินเข้ามาใหม่มาจูบอ่อนโยน แล้วดึงนั่งลงข้างๆ  น้ำนิ่งแอบชำเลืองมองอยากจะยื่นมือของตัวเองไปสัมผัสมันคงจะนุ่มลื่นมือเป็นแน่แท้ก็จะอะไรผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียดเปล่งปลั่งอย่างคนสุภาพดี ผมสีน้ำตาลอ่อนตัดแต่งทรงอย่างดียาวเลยบ่าเล็กน้อย  ตาเรียวทรงเสน่ห์รับกับคิ้วเรียวเชิดนิดๆ เจือแววหวานทอประกายอ่อนโยนอบอุ่นส่งมาให้ร่างบาง ปากรูปกระจับสีชมพูแดงระเรื่อโดยไม่ต้องพึ่งลิปสติก (?) คือสวย สวยกว่าพวกผู้หญิงที่มาชอบภูมิรพีเสียอีก

   “สวัสดีลูก ต๊าย!!  ดูลูกเราทำหน้าอึ้งๆ งงๆ แม่เกลล์จ๊ะ สงสัยคงจะจำแม่ไม่ได้สินะ ก็แน่ล่ะเราเจอกันตั้งแต่หนูยังเล็กๆ อยู่เลย แม่เป็นแม่ของราฟ อ๊ะภูมิกับเซน”  น้ำนิ่งยกมือขึ้นไหว้ผู้มาใหม่ด้วยอาการงง แต่มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าเขาไม่รู้จักผู้หญิงสวยที่นั่งช้างๆ แน่ๆ

   “อ้าว! พูดซะลูกงงแล้ว เอารับไปปลอบซะให้พอ  อยากเจอมากจนต้องวิ่งมาหาถึงที่นี่ไม่ใช่เหรอ” 

   ป๋ายกร่างบางที่ยังงงๆ ไปวางบนตักแม่ที่กางแขนรับอยู่แล้ว แขนเรียวโอบกอดน้ำนิ่งกระชับแน่น  อึ้งเป็นครั้งที่สองตาโตเบิกกว้างกว่าเดิม  คือที่กอดกันแนบแน่นจนหน้าอกหน้าใจถูไถให้ความรู้สึกราบเรียบ และส่วนกลางกายที่ไม่แบนราบนี่อีกตกลง  “ผู้ชาย”  (จริงๆ มันหน้าอกก็ไม่ได้แบนราบซะทีเดียวมันนูนเป็นกระเปลาะเล็กๆเหมือนนมเด็กผู้หญิงที่เพิ่งจะแตกพาน แต่ยังไงนี่ก็ไม่ใช่นมผู้หญิง)

    น้ำนิ่งขืนตัวผละออกจากอ้อมกอดมองหน้าเกลล์อึ้งๆ งงๆ  ตาโตเท่าไข่ห่าน ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากที่อ้าหวอ  ก้มมองหน้าอกสลับกับหน้าเกลล์ไปมา คนเป็นแม่หัวเราะเสียงกังวานใสผสานไปกับเสียงทุ้มนุ่มอย่างขบขันของป๋า ก่อนจะพยักหน้ายืนยันความคิดด้วยเสียงหัวเราะว่าน้ำนิ่งคิดถูก 

   “หึ หึ ตามที่หนูคิดเลยลูก”   โอ้!! พระเจ้า โลกของน้ำนิ่งช่างแคบอยู่แต่ในกะลาจริงๆ จะไม่ให้เข้าใจผิดยังไงได้รูปร่างหน้าตามันช่างห่างไกลเพศสภาพราวกับเหรียญคนละด้าน แม่เกลล์ดึงตัวน้ำนิ่งเข้าไปกอดกระชับมือยกขึ้นลูบหลังไปมาให้หายจากอาการตะลึง

   “หรือคุณไม่คิดถึงลูก ครอบครัวเราไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันนานแล้วนะ แม่น้อยใจจริงๆ นะราล์ฟ พวกลูกหนีเที่ยวกันได้แต่ไม่มีเวลามาหาแม่คืออะไรครับ”  แม่ถามด้วยน้ำเสียงเจือความน้อยใจ

   “โธ่แม่ครับอันนั้นมันกะทันหัน แล้วเดี๋ยวเราก็จะเจอกันอยู่แล้วตอนปิดเทอมก็สัญญาแล้วไง ไม่โกธรน่าคนสวย”

   “ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยเรา ถ้าอยากจะให้หายโกธรก็พักกับแม่สักอาทิตย์สิ”  ภูมิรพีไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ในสถานการณ์อย่างที่ภูมิกับเฮียเซนทำแม่เกลล์ก็น่าสงสารนะในความรู้สึกของน้ำนิ่ง คนตัวเล็กหันไปมองหน้าภูมิกับเฮียเซนคาดคั้นให้ยอมรับปาก

   “นะฮะ” 

   “ครับ”  สองหนุ่มตอบรับออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย น้ำนิ่งพอใจกับคำตอบจึงส่งยิ้มน่ารักไปให้ทั้งคู่ เผื่อแผ่รอยยิ้มนั้นมาให้เกลล์ด้วย คนเป็นแม่กดหัวทุยของน้ำนิ่งให้ซบลงกับซอกคอหอมที่มีกลิ่นเหมือนกับภูมิรพี  แขนเรียวเล็กกอดกระชับรอบเอวคอดของเกลล์แน่นขึ้น

   “ก็เป็นซะอย่างนี้สิ เจ้านั่นถึงหวงนักหวงหนายังกับไข่ในหินไม่ยอมให้คลาดสายตา แล้วนี่เลี้ยงน้องไม่ดีรึไง ดูสิผอมบักโกรกขนาดนี้”  น้ำเสียงเอ่ยเอื้อนเอ็นดูน้ำนิ่งไม่ปิดบัง นัยน์ตาสวยหวานตวัดฉับถามจิกเชิงตำหนิภูมิรพีกลายๆ

   “ตอบดีๆ นะไอ้หนู อย่าให้คุณนายโกธรนะเว้ยเดี๋ยวงานงอก” คุณป๋าพูดแหย่ไม่จริงจังนัก

   “โธ่แม่อะ ผมเลี้ยงดีเหอะ สุดรักสุดหวงที่สุดจนจะบ้าแล้วนี่  เด็กเพิ่งหายป่วยหรอก” 

   “ที่ป่วยนั่นผมได้ข่าวว่าคุณทำไม่ใช่รึไงครับ ไม่ถนอมน้องเลย ทำลูกสาว (?) ฉันได้นะ ไม่สงสารน้องเหรอตัวแค่นี้ ทนแกเข้าไปได้ไง”

    น้ำนิ่งคิดตามสิ่งที่เกลล์พูดแล้วก็หน้าร้อนเห่อเหมือนจะแตก โอ้! ให้ตายเถอะเกลล์จะพูดสองแง่สามง่ามเพื่อ? ถ้าจะอายย้อนหลังมันจะยังทันอยู่ไหม เขารับเข้าไปได้ไง แถมเร่งยิกๆ ให้แรงๆ อีก ถึงว่าทำไมภูมิรพีเรียกเขาว่า  ‘แรดน้อย’ เพราะงี้เอง เขินๆ จริงๆ นะ น้ำนิ่งหลบซ้อนความอายกับซอกคอหอมของเกลล์ยิ่งขึ้น ไม่กล้าจะสู้หน้าใครได้อย่างเต็มภาคภูมิหรอกตอนนี้

   “เอ้า แม่ก็มันจำเป็น ก็เด็กผมโดนเล่น  ถ้าผมไม่ทำเกิดเด็กช็อกผมมิแย่กว่าเหรอ”

   “แล้วมันใช่ข้ออ้างเหรอ ไม่รู้จักหักห้ามใจ วิธีแก้ไขมีเยอะแยะ”  เสียงตำหนิของเกลล์เข้มกว่าเดิมหนึ่งระดับ นึกเห็นใจน้ำนิ่งที่สุดลูกชายเขาใช่ย่อยซะเมื่อไร

   “แม่ก็รู้รอมาตั้งนาน มันก็เลย...”   เกลล์ขึงตาใส่ภูมิรพีเลยเงียบขืนต่อความยาวน้ำนิ่งยิ่งจะอายม้วนมากกว่าเดิม ผิวที่พ้นร่มผ้ามันก็แดงระเรื่อเกือบทั่วแล้ว

   “ไอ้เสือนั่นไม่คลั่งเหรอ  แล้วจัดการรึยัง”  คุณป๋าหัวคิ้วขมวดมุ่นหันไปถามเฮียเซนน้ำเสียงจริงจัง แต่พยักเพยิดหน้ามาทางภูมิ

   “ก็แรงพอดูครับป๋า  ผมคิดว่าหมึกคงตรงนั้นคงจำศีลไปอีกนานหึ หึ”  เฮียเซนตอบคำถามของป๋าด้วยเสียงกลั่วหัวเราะ

   “ก็ดี ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกันฉันคิดว่ามันคงจะเล่นหนักขึ้น  ที่นี้มาพูดเรื่องที่ให้มาวันนี้ฉันไม่ชอบนะที่พวกแกทำตัวเหลวไหล มันใช้ได้ที่ไหนที่แกสองคนพี่น้องทิ้งงานทิ้งการอย่างไร้ความรับผิดชอบ แทนที่จะปรามกันนี่อะไรหายเงียบทั้งคู่ ไม่พอเจ้าเซนปิดโทรศัพท์หนีอีก แกโทรบอกฉันสักคำจะเป็นอะไรไหม

    ฉันให้อิสระพวกแกตัดสินใจกันเองมาตลอดไม่เคยขัดไม่เคยห้าม อยากทำอะไรก็ทำเพราะมันเป็นชีวิตของพวกแก แต่ช่วยบอกให้ทราบหน่อยเถอะว่าจะทำอะไรกันแค่นั้น ขอแค่นั้นจริงๆ ที่พูดย้ำนี่ไม่ใช่อะไรเพราะห่วง แกเข้าใจหัวอกพ่อแม่ไหม นี่ถ้าพวกที่รีสอร์ทไม่รายงานฉันก็คงไม่รู้ว่าพวกแกทั้งคู่อยู่ไหน  รู้ทั้งรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่น่าไว้ใจพวกแกก็ยัง... เคยนึกถึงใจคนเป็นห่วงรึเปล่า”  ป๋าตำหนิทั้งคู่เสียงเข้มจริงจัง

   “ขอโทษครับป๋า”  ทั้งคู่กล่าวขอโทษป๋าตัวเองทำหน้าสำนึกผิดอีกครั้ง

   “จำไว้อย่าทำอีก พวกแกโตๆ กันแล้ว ครั้งนี้ฉันไม่ปล่อยผ่านหรอกนะ  ช่วงน้องปิดซัมเมอร์ทำงานแทนฉันแบบเต็มตัวทั้งสองคน ส่วนน้องแม่แกเขาจะดูแลเองห้ามปฏิเสธ ขัดคำสั่งเพิ่มเวลา”

   “เอ้า!  ไม่เอาแบบนั้นสิป๋า”  ภูมิรพีโอดครวญกับคำตัดสินโทษของป๋าอย่างหนัก

   “อ้าว ก็แกบอกให้ฉันหัดห่างๆ เมียบ้างไง  ฉันมาคิดๆ ดูแกสองคนก็ลูกฉันก็น่าจะหัดไว้บ้าง”

   “โห้ย!!  แม่...” ภูมิรพีหันหาคุณนายแม่หวังให้คนสวยช่วยแต่เปล่าเลย คุณนายปากเบ้แบมือพร้อมยักไหล่ประมาณว่าธุระไม่ใช่  ภูมิรพีหน้าเสียเพราะตัวช่วยหมายเลขหนึ่งปฏิเสธความรับผิดชอบ จึงหันไปหาคนข้างตัวหวังเอาเป็นพวก  "เฮีย” 

   “ก้มหน้าก้มตาทำงานไปสามเดือนมันแป๊ปเดียวน่า”  เฮียเซนไม่ช่วยเพราะตัวเองก็มีชนัฏปักหลังอยู่พูดไปสองไพล่เบี้ยนิ่งเสียตำลึงทองนั่นแหละที่เซนกำลังคิดอยู่ในหัว เกิดป๋าคิดได้วกกลับมาหามิแย่เหรอ

   “อะไร!!”  ป๋าหันมาถามเสียงดังทำให้สองหนุ่มแยกจากกัน

   “ไม่มีอะไรครับ เรากำลังตกลงว่าใครจะทำอะไรช่วงสามเดือนนี้”  เฮียเป็นคนตอบป๋า

   “อย่าให้ฉันรู้ ฉันคิดอะไรได้อย่างไหนๆ ก็เป็นพี่น้องกันจะทำโทษคนเดียวเดี๋ยวจะหาว่าฉันลำเอียง เจ้าเซนห้ามแกแอบไปเลี้ยงกระต่ายเหมือนกัน แกพักที่เพ้นท์เฮ้าส์บนสำนักงานใหญ่ได้เลยห้ามกลับบ้าน แต่ไม่ดีกว่าเดี๋ยวฉันให้เมียฉันเอามาเลี้ยงเองดีกว่า พวกแกจะได้มีสมาธิทำงานทำการได้เต็มที่”

   “.....”   ทำไมแม่งเกร็งหุ้นไม่เคยจะถูกวะ  เซนทำหน้าบอกบุญไม่รับก็อยู่เงียบในมุมตัวเองแล้วนะยังไม่พ้นโดนตัดตอน

   “สำนึกกันไปนะ ป่ะน้ำไปกับแม่ดีกว่า”  ไปแล้วครับคุณนายจูงมือเมียเด็กผมไปด้วย ส่วนแม่เมียทูนหัวทูนเกล้านะเหรอหน้าระรื่นไม่อยู่เป็นกำลังใจผัวแก่คนนี้เลยโว้ย!!  ห่างกันไม่กี่นาทีนารีปันใจให้ชายอื่นคำคมนี้ใช้ได้ทุกยุคสมัย (ชายนั่นก็แม่ไม่ใช่เหรอวะ)

   “ก็ตามนั้นแหละ ฉันตามไปช่วยเมียฉันดีกว่า”   ป๋าเดินออกไปแล้วครับ เราสองคนนั่งมองหน้ากันด้วยสีหน้าห่อเหี่ยว

   “เฮียเอาไง ตั้งสามเดือนเลยนะเว้ย”

   “ก็เออไม่รู้โว้ย...”

   “ข่าวว่างดกินเนื้ออื่นมานานแล้วไม่ใช่เหรอ กลับจากเที่ยวครั้งนี้จะล้างท้องกินเนื้อกระต่ายให้เต็มคาบไม่ใช่เหรอ เฮียอดได้เหรอเนื้อหวานๆ นะ  ถ้าไม่เฝ้าไว้เดี๋ยวก็โดนคนจับกินก่อนนะ” 

   “รู้ดี  อย่ามาย้อนฉันไอ้เด็กหัวแข็ง  ถ้ามันจำเป็นฉันก็จะแอบเลี้ยงแหละวะ”  เฮียเซนตบบ่าปุๆ ปลอบใจผมแต่เหมือนจะเผื่อแผ่ไปให้ตัวเองด้วยนะแหละ รู้หรอก









TBC.


ปล.

1. งงกับการลำดับเหตุการณ์ของตัวเองนิด ๆ แต่ก็คงพอจะเข้าใจได้เนอะ ความจริงเริ่มเผยออกมาแล้ว เอ็นดูเด็กน้อยของเราอีกสักนิดเถอะนะครับ เด็กชาย อายุ 7 – 8 ปี กับเหตุการณ์ที่เจอตอนนั้นมันเกินกว่าที่เด็กขนาดนั้นจะรับได้

2. ตอนนี้ก็เบาๆ ไม่มีอะไร  พักเบรกให้ฝั่ง  ACE  ฟอร์มทีมกันใหม่  เราจะอยู่กับน้ำสิงห์อีกสักสองตอน แล้วเราจะไปตามติดชีวิตคนอื่นกันบ้าง (แพลนที่วางไว้และเขียนไปแล้วประมาณนี้)

3. ขอให้สนุกกับการอ่าน  และขอบคุณที่ยังติดตามกันมาตลอดครับผม   ถ้าเจอความผิดพลาดตรงไหนบอกต่อด้วยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2015 19:20:27 โดย WiChy »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ใครนะที่อยู่กับบ๋อมแล้วต้องการอะไร ถ้าเป็นพวกACE แล้วเข้าทางเพื่อนน้ำนี่อันตรายน่าดูเลย

น้ำนิ่งเป็นโรคจิตเวชแล้วก็ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นมากระทบกระเทือนจิตใจน้องอีกนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
สงสารน้องน้ำอ่า
ขอบคุณ  :L2: 

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :laugh: คุณแม่เฉียบมากสองหนุ่มโดนลงโทษ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
สรุปคือ ภูมิเจอพ่อแม่แท้ๆของตัวเองนานแล้ว แต่ก็มาอยู่กับน้ำนิ่งใช่มั้ยคะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
กระต่ายน้อยของเฮียเซนๆ อยากรู้จักจังเลย  :a3:

เค้าพึ่งได้โหวต + เป็ด ก็เลยตัวเองเป็นคนแรกเลยน๊า  :oni1: :oni1:

ออฟไลน์ WiChy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

@ TaecKhun Imagine Love
>> ใครกันน้า...ที่อยู่กับบ๋อม??   อันนี้เรายังไม่บอกนะเออ  เราจะให้โอกาส  ACE ฟอร์มทีมให้เป็นกลุ่มก้อนก่อนแล้วจะจัดการทีหลัง  เราจะไม่ตีงูตอนหลังหัก ถึงมันจะแว้งกันบ้างก็ยังไม่จัดการขั้นสุดท้ายหรอก เราจะค่อยกำจัดมันทีละคนๆ ตอนมันเผลอ  (ฟังเหมือนโรคจิต... ก็นะเราทีมน้ำนิ่งอะ)

@ ❣☾月亮☽❣
>> ฝากเอ็นดูและรักน้องกันมากๆ นะครับ

@ boonpa
>> ต้องยกให้คุณนายเขาครับ ไม่มีใครในตระกูลมีอำนาจกว่านางแล้ว

@ Yara
>>  เรื่องของภูมิเดี๋ยวจะให้คุณนายเขามาเล่าเองครับ  รอเจอคุณนายได้ตอนหน้านะครับ 

@ Ginny Jinny 
>>  ขอบคุณครับที่ให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา  กระต่ายน้อย?? ของเฮียเซนต้องรออีกสักสามตอน ค่าตัวนางแพงกำลังต่อรองราคาค่าตัวกันอยู่อะครับ 


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด