เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ  (อ่าน 308773 ครั้ง)

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 13

(Win Part)

“ไม่เคยเห็นรู้เลยว่าวิ่งเก่งขนาดนี้ ทำไมปีที่แล้วพัตไม่ได้ลงล่ะ” ผมถามคนที่นั่งพักอยู่ข้างตัวขึ้นมาเมื่อเขาแข่งวิ่งครบทุกรายการ ไม่อยากจะชมแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพัตเป็นคนที่วิ่งเร็วมากๆ แม้ว่าร่างกายอาจจะไม่ได้เล็กเมื่อเทียบกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆแต่เขากลับคล่องแคล่วกว่าคนพวกนั้นเสียอีก กวาดรางวัลมาทุกรายการเลย

“ปีที่แล้วขี้เกียจลงแต่ปีนี้มีคนบังคับเลยเลี่ยงไม่ได้ ทั้งที่จริงแล้วก็ไม่อยากลงเลย...ขี้เกียจ” คนพูดยังคงหอบอยู่น้อยๆโดยมีผมใช้ผ้าเย็นคอยซับเหงื่อตามกรอบหน้าให้อยู่ไม่ห่าง พัตลงแข่งหลายรายการทั้งประเภททีมและประเภทเดี่ยวจึงไม่แปลกที่เหงื่อจะออกเยอะขนาดนี้ แดดวันนี้ก็ร้อนยิ่งกว่าอะไร

“แล้วสรุปว่าเล่นอะไรได้บ้าง เล่นหลายอย่างจัง”

“ถ้าพูดถึงเล่นได้ก็เล่นได้ทุกอย่างนะแต่ถนัดสุดคงน่าจะเป็นบอลนี่แหละ บ้านพัตดูบอลกันทั้งบ้านเลย เห็นแม่อย่างนั้นท่านนี่ตัวยงเลยนะ เลยกลายเป็นว่าเห็นมาตั้งแต่เด็ก พ่อชอบแม่ชอบพัตเลยชอบไปด้วย...แล้ววินล่ะชอบเล่นอะไร”

“อืม...ไม่ชอบอะไรเลย” ตอบพัตออกไปแผ่วเบาเลยได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆมาจากคนข้างๆ ก็ผมไม่ถนัดอะไรเลยนี่นา เรียกได้ว่าแทบจะไม่ถูกกันเลยด้วยซ้ำกับพวกกีฬา ขนาดว่ายน้ำที่เป็นกีฬาโคตรพื้นฐานยังว่ายไม่เป็นเลย เรื่องออกกำลังกายเลยกลายเป็นเรื่องยากไปด้วย

“พัตคงต้องบังคับให้วินเล่นบ้างแล้ว ไม่เล่นเดี๋ยวร่างกายไม่แข็งแรงเอา พอเล่นๆไปก็จะชินแล้วก็สนุกไปกับมันเองนั่นแหละ”

“ขี้เกียจ~” มือใหญ่ยกมาขยี้หัวเบาๆเพราะคำตอบที่ผมตอบออกไป อีกคนคงเอือมไม่น้อยเลย

Rrrrr

“พัต จีนโทรมา” ผมล้วงโทรศัพท์พัตออกมาจากกระเป๋าของตัวเองเพื่อให้อีกฝ่ายรับสายของเพื่อนสนิท พัตรับไปคุยไม่กี่ประโยคก็วาง

“มันบอกว่าจะมาหา”

“อืม เดี๋ยวเราก็ต้องไปหาเพื่อนเหมือนกัน นัดมายด์กับออมไว้ที่สแตนด์แล้ว” พอพัตเริ่มวอร์มร่างกายเพื่อที่จะแข่งบอลผมก็จะไปนั่งดูที่สแตนด์ซึ่งนัดกับเพื่อนเอาไว้ เมื่อครู่มายด์กับออมก็ไลน์มาบอกว่าจองที่ไว้แล้วด้วย

“อย่าลืมเชียร์พัตนะ”

“ไม่เชียร์แฟนแล้วจะให้เชียร์ใครเล่า...เดี๋ยวเราไปแล้วนะ สู้ๆ” ผมเก็บของเข้ากระเป๋าของตัวเองให้เรียบร้อยพร้อมกับแยกของๆพัตใส่ในกระเป๋าเขาเอาไว้ให้ แต่พอจะลุกออกไปพัตก็รั้งแขนไว้เสียก่อน

“ขอกำลังใจหน่อย อยากได้กำลังใจอ่ะ” ทำท่าทางไม่เข้ากับหน้าตาซักนิด ผมหลุดหัวเราะออกมาเพราะหน้าอ้อนๆนั้นจนได้
“กำลังใจอะไร ก็มาเชียร์แล้วนี่ไง”

“โหย ขอมากกว่านั้นดิ เนี้ยๆ ตรงนี้ไม่มีคนด้วย” เรานั่งอยู่ใต้ต้นไม้หลังสนามกีฬาซึ่งค่อนข้างจะห่างไกลผู้คนพอสมควร ก็จริงที่แถวนี้ไม่มีคนแต่มันก็ยังเป็นที่โล่งแจ้งอยู่ดี

“แข่งชนะค่อยมาเอารางวัล โอเคไหม?” จะให้รางวัลทั้งทีก็ต้องให้ตอนอยู่กันสองต่อสองสิเนอะ

“ตกลง แล้วถ้าพัตยิงได้ต้องให้รางวัลใหญ่ด้วยนะ” ได้คืบยังจะเอาศอก แต่ถึงอย่างไรผมก็พยักหน้าตกลงไปให้ได้เห็นอีกฝ่ายทำหน้าดีอกดีใจใส่จนได้ เห้อ นี่ผมตามใจเขามากเกินไปรึเปล่าเนี้ย หวังว่าคงไม่ขออะไรแผลงๆหรอกนะ “เราไปแล้วนะ”

“ครับ แข่งเสร็จเดี๋ยวโทรหานะ” พยักหน้ารับอีกคนก่อนจะเดินออกมาเพื่อไปยังสแตนด์เชียร์



............................



ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณของการเริ่มเกมในสนาม นี่เป็นการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศของกีฬามหาวิทยาลัยระหว่างคณะสถาปัตย์และคณะวิศวะ ผมที่นั่งอยู่ติดขอบสนามกับมายด์และออมต่างก็จ้องไปที่เกมตรงหน้า มีผู้คนมาดูกันค่อนข้างเยอะเพราะเป็นกีฬาที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของงานเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าแดดจะร้อนเพียงใดแต่ทุกคนก็ยังสู้ไม่หวั่น

ที่ที่ผมนั่งอยู่ตอนนี้ผมสามารถเห็นพัตวิ่งในสนามได้ค่อนข้างชัดเจน

“อู๊ย พัตนี่หล่อจริงๆเนอะ”

“เมื่อเช้าได้ดูตอนเดินขบวนรึเปล่ามายด์ โอย ฉันใจละลายกับซิกแพคจนแทบกรี๊ดออกมา”

“ฉันมองจากจอยังกรี๊ดเลยอ่ะ”

“อยากลูบอ่ะ แอร๊ยยยย”

ที่พูดๆอยู่นั่นเพื่อนทั้งสองของผมเองครับไม่ใช่ใครที่ไหน พูดซะดูเหมือนว่าผมไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้เลย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้คิดมากอะไรเพราะรู้ว่าเพื่อนทั้งสองของตัวเองนั้นแกล้งพูดไปอย่างนั้น(แม้รู้ว่าเกินกว่าครึ่งจะมาจากความรู้สึกจริงๆก็เถอะ) ตอนนี้ความสนใจทั้งหมดถูกส่งไปยังแค่คนที่กำลังวิ่งตามลูกกลมๆอยู่ในสนามเท่านั้น

“วิน...เคยสัมผัสซิกแพคพัตไหมอ่ะ”

“หือ!” ตอนนี้จะไม่สนใจก็ไม่ได้ ดูคำถามของเพื่อนสิ บอกผมทีว่านี่คือคำพูดของผู้หญิง

แล้วพอมายด์ถามสมองก็เริ่มคิดภาพตาม งือออออออออ

“มายด์ถามวินว่าเคยจับซิกแพคพัตไหม” ออมย้ำออกมาให้อีกที ที่จริงไม่ต้องย้ำมากก็ได้ผมได้ยินตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ที่ร้องออกมาเพราะว่าตกใจคำถามต่างหาก-///-

“จะ จับ...จับทำไมเล่า พอเลยทั้งคู่ ดูบอลกันดีกว่านะ”

“โหว ก็เราอยากรู้นี่นา มีแฟนฮ็อตขนาดนี้ ได้จับได้ลูบไล้คงฟินน่าดู อิอิ”

“เนอะมายด์เนอะ แค่คิดยังฟินเลย”

ผมส่ายหน้าให้กับเพื่อนสนิททั้งสองของตัวเองกับความคิดแปลกๆนั่น เอ่อ...อยู่ดีๆจะให้ไปจับไปลูบก็คงจะไม่ดีมั้ง ดูหื่นกามยังไงก็ไม่รู้ ผมไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลยนะถึงแม้จะไม่ปฏิเสธเรื่องความหุ่นดีของพัตก็เถอะ

เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

แล้ววินาทีแห่งความดีใจก็มาถึงเมื่อผู้เล่นฝั่งสถาปัตย์ยิงประตูแรกเข้าไปได้อย่างสวยงาม ผู่เล่นที่ใส่เสื้อสีเดียวกันกับพัตวิ่งไปรุมใครคนนั้นใหญ่เลย

“ไปเข้าห้องน้ำกัน เราปวดฉี่อ่ะ” ออมเอ่ยออกมาเมื่อตอนนี้เป็นเวลาพักครึ่งของเกมการแข่งขัน

“ไปซื้อน้ำด้วยนะ หิวน้ำอ่ะ”

“โอเค” เราสามคนเอาของวางไว้ที่เดิมแล้วลุกออกไปเข้าห้องน้ำ หลังจากหมดครึ่งแรกสกอร์ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สถาปัตย์ยังคงนำวิศวะอยู่1-0แต่ดูเหมือนว่าวิศวะจะเริ่มบุกมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงสิบนาทีหลังหวิดจะเข้าอยู่หลายลูกเหมือนกัน
พอกลับมาเกมก็เริ่มแข่งไปได้ซักพักแล้ว พวกเราสามคนจึงรีบกลับมานั่งที่พร้อมกับจดจ้องไปที่สนามด้วยความตื่นเต้น

เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

คราวนี้เสียงไม่ได้มาจากฝั่งพวกผมแต่มาจากอีกฝั่งตรงข้าม แน่นอนว่าเสียงจากฝั่งนี้ก็เงียบสนิทเมื่อวิศวะเป็นฝ่ายยิงเข้าบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลาให้เอาใหม่ ไม่นานนักเสียงกลองจากฝั่งสถาปัตย์ก็ดังขึ้นให้เชียร์กันต่อไปดังเดิม

ปี๊ดดดดดดดดดด

อะไรกัน?

ละสายตาไม่กี่นาทีพอหันกลับมาสนใจเกมในสนามก็ดูเหมือนว่าจะหยุดลงเพราะเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่าง เนื่องจากผมเองไม่มีความรู้เรื่องฟุตบอลเลยได้แต่นั่งงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นานนักก็เห็นคนไปยืนเหมือนเป็นกำแพงโดยมีพัตเดินไปตั้งลูกฟุตบอลเตรียมจะเตะ

เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

ลูกฟุตบอลทะลุมือผู้รักษาประตูเข้าโกลด์ไปได้อย่างสวยงาม เสียงเชียร์จากอัศจรรย์ฝั่งผมและทั่วทั้งสนามดังขึ้นพร้อมกับหลายคนกระโดดโหยงเหยงด้วยความดีใจ มายด์และออมเองก็กรี๊ดออกมาในขณะที่ผมยิ้มกว้างเต็มหน้า ดีใจที่เขาทำได้ เหลือบมองเวลาปรากฏว่าตอนนี้เป็นนาทีที่80แล้ว พัตวิ่งไปทั้งสนามและเพื่อนในทีมก็วิ่งไปกอดเขา

“เหมือนพัตจะมองมาทางนี้ด้วยแฮะ ยิ้มให้ใครกันน๊าาา” ออมเอ่ยแซวออกมาเมื่อพัตวิ่งมาแถวๆที่เราพร้อมกับยิ้มกว้างออกมาก่อนที่เขาจะวิ่งกลับไป เราสบตากันชั่วครู่จากระยะห่างที่ไกลกันพอสมควร แต่มันก็ไม่ได้ไกลเกินกว่าที่จะมองเห็นกัน
 
พรึบ

แต่อีกเพียงไม่กี่นาทีจะจบเกมก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเกิดการประทะกันจนมีคนล้มลงไป ผมจะไม่ตกใจเท่านี้เลยถ้าคนที่ล้มลงไปนอนไม่ใช่แฟนของตัวเอง เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากแต่ผมก็ยังเห็นว่าการประทะกันเมื่อครู่มันแรงขนาดไหน

“วิน ใจเย็นๆก่อนนะ ฝ่ายพยาบาลเข้าไปดูในสนามแล้ว” มายด์เป็นฝ่ายดึงมือผมเบาๆให้นั่งลงเมื่อเห็นว่าพัตถูกหามออกไปข้างสนามโดยทีมงานจากคณะพยาบาล

ผมไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ในสนามทำอะไรกันต่อไป ใจมีเพียงแค่คนที่ถูกหามออกนอกสนามไปเท่านั้น มองตามอย่างเป็นห่วงแต่สุดท้ายยังไงก็ต้องนั่งลงก่อน

“ไม่เป็นไรนะวิน พัตแข็งแรงจะตายแค่นี้คงไม่เป็นไรมากหรอก” ออมพูดปลอบโดยมายด์ก็เอ่ยเสริมพร้อมลูบหลังผมเบาๆไปมา
 
ติ๊ง

มาหาหน่อยครับ อยู่ห้องพักนักกีฬา2

พออ่านไลน์ที่ถูกส่งมาจากอีกคนผมก็รีบผุดลุกขึ้นทันทีทั้งที่เกมในสนามเหลืออีกไม่ถึงสามนาที

“มายด์ ออม เดี๋ยวเราแวะไปดูพัตก่อนนะ”

“โอเคๆ ฝากบอกพัตด้วยนะว่าให้หายไวๆ” ผมพยักหน้าให้กับเพื่อนก่อนจะรีบลุกออกไปทางด้านหลังแล้วเดินหาห้องพักนักกีฬาที่พัตอยู่

“พัต...เป็นไงบ้าง” ผมทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าต่อหน้าคนที่นั่งประคบน้ำแข็งอยู่ที่ข้อเท้า ไม่ทันแม้จะทักจีนกับกิมที่นั่งอยู่อีกมุมเลยด้วยซ้ำ

“นิดหน่อยครับ ขึ้นมานั่งข้างพัตก่อนมา” อีกฝ่ายตบที่ว่างข้างๆซึ่งเป็นเก้าอี้ตัวยาวให้ขึ้นมานั่งด้วยกัน ใบหน้าคมยังคงเปียกชื้นด้วยเหงื่อ ชุดบอลที่ใส่อยู่ก็เปียกไปหมด

“เดี๋ยวพวกกูออกไปเอาน้ำมาให้นะ” ได้ยินเสียงกิมพูดออกมาแว่วๆแต่ผมก็ยังสนใจแค่คนที่นั่งอยู่ข้างกัน

“ไม่เอาดิไม่ขมวดคิ้ว พัตไม่เป็นไรจริงๆ แป๊บเดียวก็หายแล้ว” คนพูดไล้ปลายนิ้วไปที่หัวคิ้วให้คลายออก ผมเองไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองทำหน้าแบบไหนออกไป รู้เพียงแต่เป็นห่วงเขามากก็เท่านั้น เพราะไม่มีความรู้ด้านนี้จึงไม่รู้ว่าอาการของพัตจะบาดเจ็บแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ผมก็เป็นห่วงเขาอยู่ดี ไม่อยากให้เจ็บตัวเลยซักนิดเดียว

“ชอบทำให้เราเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย” เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยระวังตัวเท่าไหร่ ชอบคิดแค่ว่าไม่เป็นไรๆ ตอนวิ่งก็ข้อเท้าเคล็ดนิดหน่อยพอมาเจอเหตุการณ์นี้เลยทำให้ผมเป็นห่วงไปใหญ่

“กีฬามันก็แบบนี้แหละ หลังจากนี้ก็ได้พัก ไม่มีอะไรแล้ว”

“ถ้าทำอะไรให้เราเป็นห่วงอีกจะไม่มาดูแล้วคอยดู”

“ไม่เอาแบบนั้นดิ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงครับ” ก็เป็นซะแบบนี้จะให้ผมทนโกรธเขาได้แค่ไหนกัน แค่พัตมองด้วยสายตาอ้อนๆพร้อมกับพูดเสียงอ่อนใส่ผมก็ทำท่าทีปั้นปึงใส่เขาต่อไม่ไหว ไม่รู้ว่าอีกคนรู้อยู่แล้วรึเปล่าว่าถ้าทำแบบนี้ผมจะโกรธไม่ลง

“ฮื่อ ไม่ต้องมาทำให้ใจอ่อนเลย เราเป็นห่วงแทบแย่...สรุปเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไหม” มองไปที่ข้อเท้าที่ถูกรัดด้วยผ้าห่อน้ำแข็งขนาดใหญ่คลุมไปหมด บอกว่าไม่เป็นอะไรมากจะเชื่อได้ไหม ถ้าไม่เป็นไรจะต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ

“ก็...ตอนประทะกันฝ่ายนั้นไม่ทันระวังเลยซัดมาเต็มแรงเลย แต่จากการที่พัตเช็คตัวเองคร่าวๆคงไม่ถึงกับแตกหักอะไร แค่นี้จิ๊บๆวินหายห่วงเนอะ” แค่จากที่พัตเล่ามาจะให้ผมทำใจไม่เป็นห่วงเขาได้ยังไง แล้วไหนจะภาพที่ผมเห็นในสนามอีก

“ไปหาหมอนะเดี๋ยวเราพาไป ให้หมอเอ็กซเรย์ว่าไม่มีส่วนไหนแตกหักจริงๆให้เราได้สบายใจนะ” ผมส่งสายตาอ้อนวอนไปหาเขา รู้ว่าถ้าไม่ทำแบบนี้พัตก็จะบอกว่าไม่เป็นไรแล้วปล่อยผ่านไป แต่ผมอยากให้เขาไปให้หมอตรวจซักหน่อย ให้ผมได้ฟังคำยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรจริงๆจะได้สบายใจขึ้นได้บ้าง

“ถ้ามันจะทำให้วินสบายใจพัตก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว” อีกฝ่ายยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆพร้อมกับส่งยิ้มให้ ผมเอื้อมมือไปดึงมือที่วางอยู่บนหัวมาจับไว้แล้วบีบเบาๆ

“เป็นไงบ้างวะผล” พัตเอ่ยพูดกับคนที่เดินเข้ามาทางด้านหลังของผม คาดว่าน่าจะเป็นกิมกับจีน

“แหม ก็ตามนั้นแหละน่า กลัวอะไรวะมึงสังหารลูกนั้นทั้งที่เหลือเวลาอีกแค่สิบนาทีเอง...อะ เผื่อวินด้วย”

“อ่า ขอบคุณนะกิม” เอ่ยขอบคุณกิมเบาๆเมื่อเขาใจดียื่นขวดน้ำมาให้ผมด้วย พัตเอื้อมมือมาดึงขวดไปเปิดพร้อมกับเสียบหลอดให้ก่อนจะส่งคืนมาแล้วเปิดขวดของตัวเอง

“โอเค กูค่อยสบายใจหน่อย งั้นเดี๋ยวกูกลับเลยแล้วกันนะ ว่าจะแวะไปหาหมอก่อนซะหน่อย ฝากทางนี้ด้วย...เดี๋ยวกูไลน์บอกพี่ชาติอีกทีว่าวันนี้คงไม่ได้ไปเลี้ยงด้วย สังขารไม่เอื้อ”

“เออๆ พี่เขาคงเข้าใจแหละ เดี๋ยวทางนี้พวกกูดูให้”

“งั้นวินไปขับรถมาตรงข้างหลังเลย เดี๋ยวเราช่วยแบกมันขึ้นรถ” จีนหันมาพูดให้ผมรีบทำตาม

“ได้ๆ ไหนของพัตบ้างเดี๋ยวเราเอาไปให้เลย” แล้วก็เป็นจีนที่หยิบกระเป๋าของพัตมาให้เรียบร้อย พอเสร็จแล้วผมก็รีบไปเอารถมารับพัตทันที


...............................



“พัต...เดี๋ยวเรากลับห้องไปเอาของแป๊บนึงนะ ”

“อือ” คนที่บอกว่าไม่เป็นไรมากไข้ขึ้นไปซะแล้ว ตั้งแต่ที่อยู่โรงพยาบาลผมก็เริ่มรู้ว่าเขามีอาการไข้ร่วมด้วยเพราะไอร้อนจากร่างกายอีกคน หมอบอกว่าเพราะใช้ร่างกายหนักบวกกับพักผ่อนไม่เพียงพอ ยิ่งพอมามีอาการบาดเจ็บที่ขาไข้เลยเล่นงานเอาได้ง่ายๆ

ใจจริงอยากให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลซักคืนแต่คนป่วยแสนดื้อไม่ยอมนอนเลยต้องพาเขากลับมา ยังดีที่พัตยังประคองตัวเองเดินได้บ้างเพราะขาแค่มีอาการบวมจนต้องพันไว้ไม่มีส่วนใดแตกหักอย่างที่หวง ตอนนี้ก็ใช้ไม้ค้ำไปซักระยะก่อนห้ามลงแรงที่ข้อเท้าขวาเด็ดขาด

ผมรีบกลับไปเอาเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นที่คอนโดอย่างรวดเร็วเพื่อมาเฝ้าไข้คนป่วย เช็ดตัวแล้วก็ป้อนข้าวป้อนยาให้ก่อนออกมาแล้วหวังว่าจะไม่เป็นอะไรมาก

เห้อ...เป็นห่วงเขาจะตายอยู่แล้ว ไหนบอกไม่เป็นไรทำไมไข้ขึ้นกันล่ะ

พอถึงคอนโดวินก็รีบเข้าไปดูอาการพัตก่อนอันดับแรก เหงื่อเขาเริ่มออกทั้งๆที่พึ่งเช็ดตัวไปซึ่งนั่นก็ดีแล้วเพราะผมไม่ได้เปิดแอร์เลยซักนิดให้พัตได้เหงื่อออกเยอะๆไข้เขาจะได้ลดเร็วขึ้น

ผมจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนป่วยอีกครั้งก่อนจะเข้าไปอาบน้ำให้ตัวเอง แทบไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะตื่นมาดูอาการพัตทุกๆชั่วโมง พอเกือบจะสว่างไข้ถึงลดลงให้ผมได้คลายใจ








“อะ อือ” ผมที่นั่งจับมือพัตอยู่ข้างเตียงรีบเงยหน้าขึ้นมองคนที่เริ่มขยับตัวอย่างรวดเร็ว เปลือกตาที่หลับอยู่ค่อยๆปรือขึ้นก่อนจะลืมขึ้นในที่สุด เหมือนว่าคนที่นอนอยู่ต้องใช้เวลาประมวลผลก่อนซักหน่อยตอนนี้ถึงได้ดูยังจับต้นชนปลายไม่ถูกซักเท่าไหร่ “วิน...”

“หืม....พัตรู้สึกเป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม” รีบเอามืออังไปตามหน้าผากและคอของคนป่วยทันที แม้ว่าอุณหภูมิในร่างกายที่เคยสูงจะลดลงบ้างแล้วแต่ก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี

“ไม่เป็นไร ละ แล้ว...ขอน้ำหน่อย” เสียงพูดนั้นยังกระท่อนกระแท่น แต่เมื่อจับใจความได้ผมก็รีบจัดการให้เขาทันที รินน้ำใส่แก้วแล้วประคองให้พัตขึ้นดื่ม “ได้นอนบ้างรึเปล่า”

พัตถามขึ้นหลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จเรียบร้อย มือหนาถูกยกขึ้นมาลูบไล้ใต้ดวงตาของผมอย่างแผ่วเบา

“ใครกันล่ะที่ทำให้เราเป็นห่วงแทบแย่ แฟนนอนป่วยขนาดนี้จะให้หลับลงได้ยังไงกัน” ผมซบหน้าลงกับมือที่เลื่อนมาวางนิ่งไว้ข้างแก้ม อุ่นใจที่อย่างน้อยเขาก็อาการดีขึ้นแล้ว

“วินเลยต้องมาลำบากดูแลพัตเลย”

“ไม่ลำบากเลย ไม่พูดแบบนี้นะ...ไม่เคยคิดว่าทุกอย่างที่ทำให้เป็นสิ่งที่ลำบากเลย” ผมไม่อยากให้เขาเอ่ยคำนี้เลย ไม่ลำบากและไม่เคยลำบาก อะไรที่ทำเพื่อพัตผมไม่เคยมองว่ามันลำบากซักนิด

“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมากที่ดูแลพัต...ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ววินพักบ้างดีไหม ตาคล้ำหมดแล้ว”

“เดี๋ยวค่อยพักหลังจากพัตทานข้าวทานยาเรียบร้อยดีกว่า หิวรึยังเราทำข้าวต้มไว้ให้แล้วทานก่อนซักหน่อยนะจะได้ทานยาหรือจะเข้าห้องน้ำก่อนไหม”

“ขอพัตแปรงฟันแล้วก็ล้างตัวก่อนดีกว่า เหนียวตัวจะแย่”

“แค่ล้างตัวนะห้ามอาบน้ำ”

“ครับ” เมื่อตกลงกันได้ผมเลยค่อยๆเข้าไปพยุงคนตัวโตเอาไว้ พัตคงดีขึ้นมากแล้วถึงได้เดินเหินได้สะดวกขึ้นมากแม้ว่าต้องเดินด้วยเท้าข้างเดียวก็ตาม ผมเองก็ยืนรออยู่ข้างนอกโดยไม่ให้เขาปิดประตูห้องน้ำ

“วิน...พัตขอเสื้อผ้าชุดใหม่หน่อยสิ อยู่ตรงตู้เสื้อผ้าฝั่งขวามือ ส่วนกางเกงในอยู่ในลิ้นชัก” เสียงคนบอกออกมาจากในห้องน้ำให้ผมรีบเดินไปจัดการ แม้จะเขินอายมากที่ต้องสัมผัสกับของใช้ส่วนตัวของพัตแต่ก็พยายามคิดซะว่าผู้ชายเหมือนๆกันจะต้องอายอะไร พอจะเอาเข้าไปให้ก็เดินหลับตาเอาไปให้เขาในห้องน้ำซะเลย ไม่อยากเรียกให้พัตเดินมาเอาเพราะขาเขายังคงห้ามใช้งาน

“หึหึ หลับตาทำไมครับ” รู้หรอกว่าเขารู้ว่าผมอาย แต่ก็ยังชอบแกล้งอยู่เรื่อย

“รีบๆเอาไปเลยจะได้ไปกินข้าวซักที” พอพัตหยิบไปพร้อมเสียงหัวเราะน้อยๆในคอผมก็รีบหันหลังวิ่งออกมารอหน้าห้องน้ำทันที
ไม่นานนักอีกคนก็ส่งเสียงว่าเสร็จแล้วให้ผมได้พาเขากลับไปนั่งที่เตียง

“เดี๋ยวเราออกไปเอาข้าวมาให้นะ” ผมลุกขึ้นมาเตรียมอาหารให้เขาตั้งแต่เช้าเพราะนอนไม่ค่อยหลับ ตอนนี้จะเก้าโมงครึ่งคงต้องได้เวลาอาหารเช้าแล้ว ถ้าช้าเดี๋ยวจะเลยเวลาเอา

“กินเองได้ไหม ให้เราป้อนรึเปล่า” ถามเขาขึ้นก่อนที่พัตจะรับถ้วยข้าวต้มไปถือเอง ผมนั่งอยู่ข้างเตียงโดยที่ลากเก้าอี้ข้างนอกมานั่งในขณะที่คนป่วยนั่งพิงหัวเตียงอยู่

“ได้ครับ...พัตดีขึ้นมากแล้วไม่เป็นไรหรอก วินล่ะทานข้าวรึยัง”

“นี่ไงของเรา งั้นมาทานพร้อมกันเนอะ” เตรียมข้าวต้มมาสองชามเพื่อจะทานพร้อมเขาอยู่แล้ว

“กินให้หมดถ้วยเลยนะจะได้พักซักที” กลายเป็นคนป่วยสั่งคนปกติซะแล้ว

“งั้นกินให้หมดทั้งสองคนเลยนะ”

“โอเคครับ” กลายเป็นว่าต่างฝ่ายต่างต้องกินข้าวต้มในถ้วยของตัวเองให้หมด แม้ว่าผมจะอิ่มแค่ไหนแต่ก็อยากให้พัตกินของเขาให้หมดจะได้หายไวๆเลยต้องพยายามกินของตัวเองจนหมดถ้วย พอพัตกินหมดก็เก็บถ้วยให้เรียบร้อยแล้วเอายามาให้เขาทาน

“ขึ้นมานอนด้วยกันเร็ว” พัตเรียกไว้เมื่อผมจะเดินไปนอนตรงโซฟา เขาเองก็โดนสั่งให้นอนเหมือนกัน คนป่วยต้องพักผ่อนเยอะๆ

“ไม่เอา เดี๋ยวเรานอนเบียดพัต”

“ไม่เบียดหรอกเตียงออกจะกว้างขนาดนี้ ถ้าไม่ขึ้นมานอนพัตก็ไม่นอน” คนป่วยออกอาการดื้ออีกแล้ว

“โอเคๆ” สุดท้ายแล้วก็เลยต้องเดินขึ้นเตียงที่มีคนนอนอยู่จนได้ พอล้มตัวลงนอนไม่ทันไรก็โดนตวัดตัวไปกอดทันที ผมดิ้นเล็กน้อยเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวก่อนจะกลายเป็นขยับให้เข้าที่เข้าทางแทนเสียอย่างนั้น

“นอนนะครับ เหนื่อยดูแลพัตมาทั้งคืนแล้ว” เสียงนุ่มของคนที่โอบกอดผมเอาไว้ราวกับสิ่งที่ขับกล่อมให้ร่างกายๆค่อยปิดสวิตช์ตัวเองลง อุ่นใจที่คนที่นอนกอดผมอยู่ตรงนี้ดีขึ้นมากแล้ว

(Win End Part)



TBC.


Talk

ลืมกันไปแล้วยังน้อ~ ขอโทษที่มาช้าค่ะ ตอนนี้คนแต่งก็ป่วยและเปื่อยไม่ต่างจากพัตเลย...เค้าเป็นไข้หวัดอ่ะ ทั้งปวดหัวตัวร้อนและมีน้ำมูกเลย  :hao5: :hao5: ตอนนี้ฝนตกบ่อยก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันนะคะ  :กอด1: :กอด1:


https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/?ref=aymt_homepage_panel

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แหม่ อิจฉาคนมีแฟน

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
น่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง อ่านแล้วอิจฉา
อยากรู้ว่าพัตจะขออะไรวินกันน๊า

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
น่ารักอ่ะ วินเป็นห่วงพัตมากมาย
พัตก็ไม่รู้สึกรำคาญเลยสักนิด

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อื้อหืมมมม ดูแลกันดี๊ดีอ่า น่าอิจฉาฟุด >\\\\\\<

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ชีวิตดี๊ดีนะพัต มีคนคอยหวงคอยดูแล
อีกไม่นานเกินรอ วินใจอ่อนยอมมาอยู่ด้วยแน่ๆ
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
อิจหนักมากกก 555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พัตมีพยาบาลส่วนตัวดูแลดีจังเลยอีกไม่นานก็หายดี

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
วินเป็นห่วงพัตมากๆ เลยเน้อ~ :-[

ออฟไลน์ gatenutcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :o8:
อ่านรวดเดียว ชอบมากกกกกกกกกก
อบอุ่นที่สุด น้องวินน่ารัก  พัฒก็เท่ ขอให้รักยืนยาว รักกันมากๆ  โอ้ย! ชอบเรื่องนี้มาก
 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
วินทั้งหวงทั้งห่วงพัตมากๆเลยเนอะ ดีใจแทนพัตอ่ะ ><
แต่ก็นะ ก็ฮอตซะขนาดนั้น ทั้งเดินขบวนโชว์ซิกส์แพ็ค ทั้งเล่นกีฬาก็เล่นได้ดีอีก
หลังจากพัตหายดีแล้วอย่าลืมทวงรางวัลใหญ่โชคสามชั้นจากวินด้วยน้า ฮ่าาา
 :katai2-1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
เพิ่งเห็นเรื่องนี้  สนุกมาก  น่ารักมากทั้งน้องวินและพัต 
ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากให้แฟนเป็นแบบพี่พัตบ้างค่ะ
จากใจเลย =___=

ออฟไลน์ mini_saiparn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อร้าย สองคนนี้เค้ามุ้งมิ้งกันดีเนอะ ใดๆ ถ้าดราม่านี่นึกไม่ออกเลย จะดราม่ายังไง

ออฟไลน์ momapmu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
มาต่อเร็วๆน้า ชอบเรื่องนี้มาก เมื่อคืนนอนอ่านทั้งคืน รอพี่พัตอยู่น้า

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ขอบคุณสำหรับตอนต่อครับ

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 14.1

ผมมองคนที่นอนซบอกตัวเองอยู่ตอนนี้ด้วยความรู้สึกหลากหลาย รู้ว่าทั้งคืนที่ผ่านมาอีกคนคอยดูแลไม่ห่างจนตัวเองแทบไม่ได้นอน แม้จะรู้สึกตัวบ้างไม่รู้สึกตัวบ้างแต่ก็สัมผัสได้ทุกครั้งที่วินมาเช็ดตัวให้ ตามปกติแล้วเวลาป่วยส่วนมากหน้าที่นี้จะเป็นแม่ ไม่ว่าท่านจะยุ่งแค่ไหนถ้ารู้ว่าผมไม่สบายก็จะคอยมาดูแลตลอด พอวันนี้กลายเป็นวินที่ทำหน้าที่นั้นมันทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจเมื่อรู้ว่ามีใครอีกคนที่พร้อมจะดูแลกัน

ยิ่งเวลาหลับยิ่งเหมือนแมวน้อยขี้เซาจนผมอดไม่ได้ที่จะกดปากไปที่หน้าผากเนียนของคนหลับสนิทเบาๆก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบมือถือของตัวเอง พอกดหน้าจอก็พบว่ามีสายไม่ได้รับจากแม่ พ่อ และเพื่อนแต่ตอนนี้เอาไว้ก่อนค่อยโทรกลับทีหลัง ผมเข้าไปที่แอพกล้องอย่างที่ตั้งใจก่อนจะเบนมาหาคนที่นอนอยู่แล้วกดถ่ายจากนั้นก็อัพลงไอจีทันที

เอาไว้ให้คนถูกถ่ายตื่นมาเห็นทีหลังแล้วกัน

“หื่อ ตื่นมาไม่เห็นปลุกเราเลย” วินเดินมาหยุดอยู่ข้างๆในขณะที่ผมง่วนอยู่กับการทำอาหาร ทั้งที่ล่วงเลยเวลาอาหารเที่ยงมาเกือบจะสองชั่วโมงอยู่แล้ว

อาการไข้ดีของผมขึ้นมากแล้ว เมื่อเห็นว่าวินคงเหนื่อยเนื่องจากดูแลผมมาทั้งคืนเลยปล่อยให้นอนให้เต็มที่ ส่วนตัวเองก็ออกมาเตรียมอาหารไว้รอแม้ว่ายังต้องเดินด้วยไม่ค้ำแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นลำบากอะไร

“ก็เห็นวินหลับสบายพัตเลยไม่อยากปลุก จะบ่ายสองแล้วหิวรึยังครับ รอแป๊บนึงนะ” เหลืออีกนิดหน่อยอาหารก็จะเสร็จเรียบร้อย ผมทำอาหารสองสามอย่างง่ายๆไม่ยุ่งยาก

“ดีขึ้นรึยังถึงลุกขึ้นมาทำกับข้าวเนี้ยหือ เดี๋ยวอาการก็หนักขึ้นอีกหรอก” วินอังมือไปที่หน้าผากแล้วก็ตามคอเพื่อวัดไข้ เมื่อเห็นว่าตัวผมไม่ร้อนเท่าไหร่แล้วก็ดูว่าเขาจะมีสีหน้าที่สบายใจขึ้น

“ดีขึ้นมากแล้วครับ มีพยาบาลดูแลดีขนาดนี้ไม่รีบหายได้ไง”

“ไม่ต้องมาพูดเลย ให้มันหายอย่างที่พูดจริงๆเถอะ ชอบทำให้เราเป็นห่วงอยู่เรื่อย”

“หืม ไม่เป็นไรแล้วจริงๆครับ...เดี๋ยววินไปนั่งรอก่อนนะจะเสร็จแล้วล่ะ” เหลือแค่ปรุงอีกนิดหน่อยก็เรียบร้อย

“อีกนิดเดียวเดี๋ยวเราดูต่อเอง ไปนั่งเดี๋ยวนี้เลยนะ” วินเข้ามาแย่งทัพพีจากมือไปแล้วเอื้อมมือปิดเตาแก๊สก่อนจะพยุงให้ผมเดินไปที่โต๊ะอาหาร บอกขนาดนี้ยังไงก็ต้องทำตามเขาล่ะ เพราะถ้าไม่ทำตามอาจจะได้เห็นบทโหดของแฟนตัวเองได้ “รออยู่นี่นะ เดี๋ยวเราจัดการที่เหลือเอง”

ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรคนสั่งก็เดินจากไปซะแล้ว ผมเลยได้แต่นั่งรออยู่อย่างนั้นโดยมีวินค่อยๆเอาอาหารมาขึ้นโต๊ะ ตระเตรียมทุกอย่างจนเรียบร้อย

“ช่วงนี้ห้ามลงแรงที่ข้อเท้าขวาเด็ดขาดเลยนะ ให้พ้นอาทิตย์นึงไปก่อน”

“ครับผม จะทำตามอย่างเคร่งครัดเลย” ตอบออกไปอย่างอารมณ์ดี ผมรู้สึกดีชะมัดที่เห็นว่าวินเป็นห่วงแบบนี้

“ไม่ต้องมาทำเป็นเล่นเลย...แล้วก็รีบกินข้าวได้แล้วจะได้กินยา เลยเวลามานานมากแล้วเดี๋ยวก็ไม่หายซักที” วินบ่นยาวหงุงหงิงของเขาไปเรื่อย นอกจากจะไม่น่ากลัวผมยังมองว่ามันน่ารักมากอีกต่างหาก ซึ่งนั่นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกรำคาญอะไร กลับรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำ

“ครับ วินก็เหมือนกันนะ กินเยอะๆ” บอกพร้อมกับตักอาหารให้คนที่นั่งตรงข้าม เราต่างคนต่างกินจนอิ่ม แล้วก็เป็นวินที่ทำหน้าที่เก็บกวาดทุกอย่างแถมมีคำสั่งเด็ดขาดว่าให้ผมนั่งอยู่เฉยๆ ไม่นานอีกคนก็กลับมาพร้อมยาในมือที่ผมรับมากินอย่างไม่อิดออด

“เดี๋ยวไปหน้าโทรทัศน์กันดีกว่านะ ต้องทายาแล้วก็พันผ้าใหม่ด้วย” คุณหมอ(ฟัน)สั่งราวกับผมกำลังตรวจรักษาอยู่โรงพยาบาลยังไงอย่างนั้น เขามีสีหน้ายุ่งยากเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผ้าที่เคยพันข้อเท้าผมอยู่ในสภาพที่ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่

“ครับๆ” ผมลุกขึ้นเดินโดยใช้ไม้ค้ำไปที่หน้าโทรทัศน์พร้อมกับที่วินคอยพยุงอยู่ห่างๆ ที่จริงผมก็เดินได้โดยไม่มีปัญหาอะไรเลย อาจจะไม่ค่อยชินแต่ก็สบายมาก

พอผมนั่งลงที่โซฟาวินก็เดินไปเอาถุงยาแล้วหยิบหลอดยานวดออกมา คนตัวเล็กนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าผมก่อนจะยื่นมือมาจับข้อเท้า

“วิน...เดี๋ยวพัตทำเองก็ได้” ผมตกใจนิดหน่อยที่เห็นวินทำแบบนั้นเลยถอยเท้ากลับแต่อีกคนกลับคว้าไว้เหมือนเดิม

“ทำเองได้ไงกัน นั่งอยู่เฉยๆไปเลยเดี๋ยวเราจัดการเอง” เขาไม่ฟังคำผมเลยซักนิด มือบางค่อยๆแกะผ้าออกจากข้อเท้าอย่างแผ่วเบา “ยังบวมแล้วก็แดงอยู่เลย เจ็บมากไหม”

“นิดหน่อยเอง เดี๋ยวก็หายแล้ว” ไม่อยากจะบอกว่าแค่เห็นวินดูแลผมแบบนี้ความเจ็บก็หายไปหมด ไม่รู้สึกแย่หรือทรมานอะไรเลย

“ให้มันจริงเถอะ” คนที่นั่งอยู่จับข้อเท้าผมให้วางอยู่บนหน้าขาก่อนจะเปิดหลอดยาแล้วไล้ลงไปทั่วบริเวณที่มันบวมแดง ผมจ้องมองคนที่ตั้งอกตั้งใจกับการทายาให้ผมตอนนี้ด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก

“ทำไมดูพันคล่องจัง” เอ่ยถามวินออกมาในตอนที่เขาจดจ่อกับการพันผ้าให้ผมอย่างเชี่ยวชาญ ดูคล่องราวกับว่าอีกคนทำบ่อยอย่างนั้นแหละ

“ก็เรียนวิชาปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นวิชาเลือกมาไง โอเค...เรียบร้อยแล้ว” วินยิ้มให้ก่อนจะเก็บยาเข้าที่ให้เรียบร้อยแล้วมานั่งลงข้างๆ พออีกฝ่ายทรุดตัวลงผมก็เอนตัวนอนตักเขาทันที ผมชอบนอนตรงนี้ท่านี้เพราะได้อยู่ใกล้วิน ได้สัมผัส ได้นอนมองหน้าเขา

“ค่อยๆเอาขาขึ้นมานอนดีๆ” เพราะตอนเอนตัวลงเอนมาแค่ช่วงบนเนื่องจากขาขยับแรงมากไม่ได้

“พัตนี่มีแฟนดีจังเลยเนอะ” สอดมือเข้าไปกุมมือเล็กที่วางอยู่บนอกพร้อมกับลูบไล้ไปตามนิ้วมือนั้นเบาๆ

“ขนาดนั้นเลย”

“แน่นอนสิ พัตขอบคุณวินจริงๆนะที่คอยดูแลทั้งคืน” มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ได้จริงๆที่รู้ว่ามีคนคอยห่วงและคอยดูแลเราอยู่ตรงนี้อีกคน

“ไม่ใช่คนอื่นกันซักหน่อย เป็นคนรักกันก็ต้องดูแลกัน ถ้าเราป่วยพัตก็ดูแลเราเหมือนกันใช่ไหม...หรือจะไม่ดูแล?” ท้ายประโยคหน้าหวานๆเริ่มแปรเปลี่ยนเล็กน้อยจนผมหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางนั้น

“จะไม่ดูแลได้ไงแฟนทั้งคน...รักนะครับ รักมากๆ” ยกมือวินขึ้นมาจุ๊บเบาๆก่อนจะยิ้มให้คนที่ทำหน้าที่เป็นหมอนให้ผมอยู่ตอนนี้ เรามองหน้ากันด้วยความรู้สึกมากมาย

“เราก็รักพัตมากเหมือนกัน...แล้วก็อย่าทำให้เราเป็นห่วงบ่อยๆเลยนะ ไม่ชอบที่เห็นป่วยแบบนี้เลย” วินเอื้อมมืออีกข้างมาลูบแก้มผมเบาๆ สายตาของเขาดูเป็นห่วงจนผมสัมผัสมันได้อย่างชัดเจน

“จะพยายามครับ” อีกฝ่ายพยักหน้าเบาๆก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆมาให้ ผมไม่รู้ว่าจะรักษาสัญญาไว้ได้ไหมแต่จะพยายามให้ตัวเองบาดเจ็บน้อยที่สุด ที่ผ่านมาไม่ค่อยระวังตัวเท่าที่ควรด้วยเลยเป็นแบบนี้ “แล้วนี่วินจะกลับคอนโดตอนไหน”

“นี่ไล่เรากลับแล้วเหรอ” วินเอ่ยเหย้าออกมาพร้อมสีหน้าขี้เล่นของเจ้าตัว เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าผมไม่มีทางคิดแบบนั้นหรอก นี่ก็อยากจะให้มาอยู่ด้วยกันเร็วๆจะแย่

“หือ เปล่านะครับพัตถามดูเฉยๆ ไม่อยากให้กลับเลยด้วยซ้ำ...อยู่ดูแลพัตจนกว่าจะหายไม่ได้เหรอ เนี้ยถ้าวินกลับพัตก็ต้องอยู่คนเดียวอ่ะดิ แล้วเวลาอาบน้ำ เวลากินข้าวจะทำยังไงอ่ะ” ยกข้ออ้างมาเพื่อหว่านล้อมให้วินอยู่ต่อทันที

แม้ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลแค่ไหนแต่ก็ภาวนาให้วินตกลง ได้อยู่ด้วยกันตลอดตั้งอาทิตย์นึงเชียวนะ แล้วตอนที่ผมโทรหาแม่ แม่บอกว่าจะมาดูแลแต่ผมบอกท่านไปแล้วว่าจะให้วินดูแลแทน ถ้าเขาไม่ตกลงนี่แม่ต้องหัวเราะผมแน่ๆ

“เราจะกลับคอนโด”

“เห้อ โอเคครับๆ เดี๋ยวพัตโทรบอกแม่ก็ได้” แม้จะเฟลนิดๆแต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา อะไรที่วินตัดสินใจผมยอมรับได้อยู่แล้ว ถึงแม้จะอยากอยู่ด้วยกันแค่ไหนก็เถอะ อีกฝ่ายคงจะมีเหตุผลส่วนตัวของเขา

“ก็ต้องกลับไปเอาเสื้อผ้ามาดูแลคนป่วยขี้ดื้อคนนี้ไง” วินยิ้มออกมาพร้อมกับบีบปลายจมูกผมเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว แน่นอนว่าพอได้ยินอย่างนั้นผมก็ร้องออกมาด้วยอาการเก็บความดีใจไว้ไม่มิด

“เยส! งั้นไปเอาเลยๆ พัตจะรออยู่นี่นะ....หรือว่าจะให้ไปด้วย” อยากจะลุกขึ้นร้องด้วยซ้ำแต่ก็ติดที่ว่าร่างกายไม่เอื้ออำนวยซักเท่าไหร่ เลยได้แต่นอนดี๊ด๊าอยู่อย่างนั้น

“ไม่ต้องเลย พัตรออยู่นี่แหละ...งั้นเดี๋ยวเราแวะไปเอาของที่คอนโดก่อนดีกว่านะ”

“โอเคครับ” ให้เขารีบกลับไปเอาของจะได้กลับมาหาผมเร็วๆ

“จะนอนไหม หรือว่าจะเล่นเกมส์หรือดูหนัง”

“อืม ดูหนังดีกว่า” พอได้ยินดังนั้นวินเลยช้อนหัวผมแล้วดันให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบรีโมทมากดเปิดโทรทัศน์ให้

“งั้นเดี๋ยวเรามา พัตมีอะไรโทรมานะ” วินสั่งก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ครับ กลับมาเร็วๆนะ” อีกคนส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะเดินออกไปเพื่อกลับไปเอาของที่คอนโด

เอ...ผมยังไม่ได้ขอของขวัญใหญ่ที่ทำประตูได้จากวินเลยนี่นา

เอาไว้ก่อนดีกว่า ตอนนี้แค่วินจะมาอยู่ด้วยก็ดีใจจะแย่แล้ว :)



................................


Talk

ขอโทษที่ต้องมาครึ่งเดียวนะคะ ฮืออออ ไมเกรนเค้าขึ้นอ่ะพิมพ์ต่อไม่ไหวจริงๆ...เพราะบอกไว้แล้วว่าจะมาวันนี้เลยต้องมาอ่ะเนอะ ตอนแรกคิดว่าจะพิมพ์ได้จนจบตอนเพราะไม่นึกว่าไมเกรนจะมาตอนนี้ :o12: :o12: เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้จะมาต่ออีกครึ่งนะคะ ไม่ไหวแล้วจริงๆTT (อีกครึ่งมาดูรูปที่พัตอัพแล้วก็เมื่อตอนวินรูปนั้นเห็นกันเนอะ^^)


https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/


ออฟไลน์ momapmu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
หายไวๆนะคะ มาเป็นกำลังใจให้ ฮึบ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เรื่องนี้พระเอก+นายเอกน่ารักดี
อย่ามีมาม่านะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พัตเป็นป่วยที่ดีด๊ามาก อย่างว่าแหละ
แฟนจะมาเฝ้ามาดูแล คนป่วยหายเร็วแน่นอน

ปล. คนแต่งเป็นไงบ้าง หายป่วยรึยัง 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mirin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
น่ารักมากกกกก :o8:

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
เพิ่งอ่านเรื่องนี้...เจอในทวิตมา แล้วก็สนุกจริงๆด้วย ชอบๆๆๆ มาต่ิอไวๆน้า~~~

ออฟไลน์ momapmu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เมื่อไหร่จะมาอ่ะ คิดถึงแล้ววววว

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
วินน่ารักมากกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่ารักมาก ๆ  เลยค่ะ หายป่วยเร็ว ๆ นะคะ สู้ ๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ
รอติดตามหลังพัตหายป่วย วินจะรอดมั้ย 555

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6


ตอนที่ 14.2

“พัต!!!” เสียงเรียกเอะอะดังขึ้นมาโดยที่เจ้าตัวยังเดินเข้ามาไม่ถึงทำให้ผมต้องหยิบรีโมทมาผ่อนเสียงโทรทัศน์ที่เปิดอยู่แล้วขานรับ

“หืม ว่าไงครับ ทำไมกลับมาช้าจังเลยอ่ะ” เอ่ยถามคนที่กลับไปเอาเสื้อผ้าและของใช้ที่คอนโดเป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงทั้งที่คอนโดเราก็ไม่ได้ไกลกันซักเท่าไหร่ แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจคือคนตัวเล็กที่ยืนทำหน้ายู่ใส่อยู่ตอนนี้ต่างหาก

“แอบถ่ายภาพเราตอนไหน แถมยังอัพลงไอจีด้วย...น่าอายอ่า ตอนเราหลับหน้าตาดูไม่จืดเลย” วินยื่นมือถือของเจ้าตัวมาให้ดูพร้อมกับบ่นหงุงหงิงๆจนผมอดจะเอ็นดูไม่ได้ ก็ไม่เห็นว่าจะน่าเกลียดตรงไหน ไม่อย่างนั้นจะมีคนมาคอมเม้นชมตั้งเกือบร้อยได้ยังไง

“แฟนพัตน่ารักที่สุดอยู่แล้ว ที่ตะโกนเรียกซะเสียงดังเพราะเรื่องภาพนี่เองเหรอ” ไอ้เราก็นึกว่าเรื่องใหญ่เรื่องโตอะไร แม้ว่าผมจะคิดอย่างนั้นแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ ใบหน้าน่ารักยิ่งยับยู่ยี่กว่าเดิมเมื่อผมเอ่ยออกไปอย่างนั้น คนตัวเล็กกระแทกตัวลงนั่งข้างๆอย่างแง่งอน

“ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหนเลย พัตชอบอัพรูปไม่ให้เราตั้งตัวตลอด ขอถ่ายดีๆก็ได้เถอะ”

“หึหึ ก็พัตชอบแบบนี้นี่นา...แล้วนี่กลับไปเก็บอะไรมาบ้างหืม” รีบเสเปลี่ยนเรื่องให้เขาเลิกสนใจเรื่องภาพที่ผมอัพลงไป

“ก็เสื้อผ้า ชุดนักศึกษา แล้วก็หนังสือเรียน...ขนมาคนเดียวเกือบไม่หมดแหนะ” พอเรื่องเปลี่ยนอารมณ์ก็เปลี่ยนราวกับหน้ามือเป็นหลังมือทันที ซึ่งนั่นก็เป็นแบบที่ผมต้องการจะให้เป็น และโดยพื้นฐานของวินแล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยอะไรอยู่แล้ว

“ทำไมไม่โทรขึ้นมาบอกพัตล่ะ”

“บอกได้ยังไงก็พัตเจ็บอยู่แบบนี้” นั่นสินะ ผมเองก็ลืมไปชั่วคราวเลยว่าขาตัวเองอยู่ในสภาพไหน “แล้วนี่จะให้เรานอนที่ไหน”
นี่วินคิดเหรอว่าผมจะยอมปล่อยให้เขาไปนอนห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องของผม

เป็นแฟนกันก็ต้องนอนด้วยกันสิ ไม่อย่างนั้นผมจะอ้อนให้เขามาดูแลทำไม

“นอนไหน ก็นอนห้องพัตดิ”

“มะ ไม่ต้องเลยนะ เราจะนอนห้องอื่น” คอนโดผมมีสองห้องนอนครับ อีกห้องเอาไว้รับแขกซึ่งส่วนมากก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนสองตัวของผมเอง พวกมันชอบมานอนมาเล่นห้องผมเป็นประจำโดยเฉพาะช่วงไหนที่มีบอลก็จะมาสุมหัวกันอยู่ที่นี่ อยู่ๆอยากจัดปาร์ตี้เล็กๆกันสามคนก็มา

“นอนห้องอื่นได้ไง ถ้ากลางคืนพัตเจ็บแผลขึ้นมาหรือเข้าห้องน้ำแล้วเกิดล้มล่ะ” บังคับหน้าตัวเองจนเกร็งไปหมดเพื่อไม่ให้ยิ้มออกมากับการหลอกล่อเด็กน้อย ดูเหมือนว่าคำพูดของผมจะทำให้กดดันไม่น้อยเมื่อสีหน้าของวินมีแววลังเลอย่างเห็นได้ชัด

“...ก็ได้ เห็นว่าเจ็บอยู่หรอกนะ” ในที่สุดวินก็ไม่ปฏิเสธที่จะนอนห้องเดียวกันกับผม และมันก็ทำให้ผมอารมณ์ดีสุดๆเลย “งั้นเราไปจัดของแล้วก็ไปทำอาหารเย็นก่อนดีกว่า พัตรออยู่นี่ก่อนนะ”

“ครับผม” พอได้อะไรที่ต้องการผมก็ตอบรับอย่างอารมณ์ดี ไม่ว่าวินจะบอกอะไรจะสั่งอะไรผมก็พร้อมที่จะทำตามทั้งนั้น

“ถ้าจะเอาอะไรก็เรียกเรานะ” ผมพยักหน้าให้ก่อนที่วินลุกเดินออกไป ผมเองเลยหันกลับมาดูข่าวกีฬาที่เปิดไว้ต่อ มีเขามาอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสุดๆเลยนะ ผมว่ายังไงก็จะต้องพูดเรื่องที่จะให้วินมาอยู่ด้วยกันอย่างจริงจังแล้ว เป็นห่วงเขาด้วยเวลาที่ต้องกลับดึกๆคนเดียว แล้วก็เพราะว่าผมอยากอยู่อยากใช้เวลากับเขาตลอดเวลา

มันคือของขวัญชิ้นใหญ่ที่ผมจะขอจากเขา....


..............................................



“ไปอาบน้ำได้แล้ว” ผมที่นอนดูทีวีหลังจากทานข้าวเสร็จหันไปมองหน้าแฟนตัวเองพร้อมส่งยิ้มไปให้อย่างประจบ

“อีกนิดนึงนะ ใกล้จะจบแล้ว คู่นี้จบจะรีบไปอาบน้ำเลยสัญญา” อีกคนหน้าบึ้งน้อยๆเมื่อได้ยินดังนั้น วินเอ่ยเตือนให้ผมไปอาบน้ำเป็นรอบที่สามแล้วเท่าที่จำได้ แต่เนื่องจากติดพันอยู่กับบอลคู่โปรดจริงๆผมเลยผลัดเขาครั้งแล้วครั่งเล่า จนวินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนแล้วเรียบร้อย

“บอลอะไรทำไมแข่งนานจัง ถ้าจบแล้วไม่ไปอาบน้ำเราจะตีจริงๆด้วย” โคตรน่ากลัวอ่ะ ฮ่ะๆ ไอ้หน้าหวานๆกับคำพูดแบบนี้มันไม่ได้ทำให้ผมกลัวเขาเลยซักนิด ดูน่ารักเสียมากมายด้วยซ้ำ อยากลองโดนวินตีบ้างเหมือนกันแต่ก็ไม่อยากขัดใจคนตัวเล็ก

ไม่ได้กลัววินตีแต่กลัวเขางอนนี่สิ การที่โดนแฟนงอนมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่หรอกนะครับ

“สัญญาว่าถ้าจบจะไปอาบน้ำจริงๆ...นะครับ”

“ไม่ต้องมาพูดเสียงอ้อนใส่เลย งั้นเราจะนั่งดูด้วยจะได้รู้ว่าพัตไม่โกง” พูดดังนั้นวินก็ขยับนั่งลงตรงปลายโซฟาตัวที่ผมนอนอยู่ทันที ตอนแรกเขาไม่ได้ดูด้วยกันกับผมหรอกครับเพราะเจ้าตัวบอกดูไม่เป็นเลยไปทำนู้นทำนี่ที่ส่วนอื่น แต่ตอนนี้คนดูไม่เป็นมานั่งแหมะดูด้วยกันซะแล้ว

“ไม่โกงแน่นอนครับ...ดูบอลกันเนอะ อีกสิบนาทีก็จบแล้ว” ยิ้มกว้างให้วินก่อนจะหันกลับไปดูบอลต่อเมื่อเห็นว่าในจอนั้นกำลังมันเลยทีเดียว ทีมที่ผมเชียร์นำอยู่1-0แต่ก็ยังวางใจไม่ค่อยได้เนื่องจากรูปเกมสูสีกันมาก ลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นถ้าเสียงนกหวีดยังไม่เป่าหมดเวลา

“เยส!” ในที่สุดเสียงสัญญาณนกหวีดก็ดังขึ้นเป็นการบ่งบอกว่าเกมนี้ได้สิ้นสุดลงโดยที่ชัยชนะเป็นฝั่งที่ผมเชียร์ พอจบปุ๊บผมก็ยันตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว “ไปอาบน้ำแล้วนะครับ”

เอ่ยบอกวินที่นั่งจ้องอยู่อย่างรู้ตัวดี ไม่ต้องให้เขาเอ่ยเตือนอีกครั้ง

“รีบๆเลย”

“ครับ” ผมใช้ไม้ค้ำลุกขึ้นเดินไปเองโดยที่วินบอกว่าจะไปเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ในห้องน้ำก่อน ช่วงที่อาบน้ำผมถอดผ้าพันข้อเท้าออกได้แค่ห้ามขยับมากก็เท่านั้น วินเลยเอาเก้าอี้เล็กเข้าไปให้วางขาด้วย

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกมาให้วินพันผ้าและทายาให้ใหม่

“เดี๋ยวพัตทำงานก่อนนะ นึกได้ว่ามีงานที่ต้องทำ” เอ่ยบอกคนที่กำลังเก็บยาใส่ถุง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสี่ทุ่ม อยู่ดีๆหัวผมก็นึกไอเดียของงานขึ้นมาได้เลยอยากรีบทำ เดี๋ยวลืมซะก่อน

“เราก็ว่าจะทำงานเหมือนกัน งั้นไปที่ห้องทำงานนะ”

“ครับ” เขาไปสำรวจคอนโดผมมาทุกซอกทุกมุมแล้ว รู้ดีหมดว่าอะไรอยู่ตรงไหนโดยไม่ต้องบอกเลย

วินเข้ามาพยุงผมไปที่ห้องทำงานก่อนที่เจ้าตัวจะแยกไปอยู่อีกมุมนึงตรงโซฟา ขนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องฟันมากมายมาดู ส่วนผมเองก็ทำงานของตัวเองไป ต่างฝ่ายต่างอยู่กับโลกส่วนตัว

“พัต เอานมอุ่นๆหน่อยไหม” เสียงเล็กๆดังขึ้นให้ต้องเงยหน้าจากงานที่ทำไปมองคนรักที่ยืนอยู่ตรงข้ามโดยมีโต๊ะตัวใหญ่คั่นกลาง

“ไม่เป็นไรครับ วินตามสบายเถอะ” ผมตอบคนที่เดินเข้ามาถามก่อนที่อีกฝ่ายจะพยักหน้าแล้วเดินออกไป คาดว่าน่าจะออกไปหาอะไรทานรองท้องเนื่องจากหมกมุ่นกับงานมาเป็นเวลาค่อนข้างนาน เราทั้งคู่ต่างก็อ่านหนังสือและทำงานของตัวเอง อยู่คนละมุมห้องโดยที่แทบไม่มีเวลาสนใจกันด้วยซ้ำ

“พักได้แล้ว เห็นนั่งขีดนั่งวาดมานานแล้วไม่พักเลย” วินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับนมหนึ่งแก้วและขนมในจาน นี่ขนาดทั้งที่ผมบอกแล้วนะว่าไม่เอาเจ้าตัวก็ยังอุตสาห์เอามาเผื่อ พอได้ยินเขาเตือนอย่างนั้นเลยต้องรีบว่างงานในมือลงแล้วหยิบนมที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม

ผมก็เป็นอย่างนี้ ถ้าได้ทำงานหรือว่าอ่านหนังสือจะไม่ค่อยสนใจอะไรทั้งนั้น ไม่รู้เวลาเสียด้วยซ้ำจนกว่าจะถึงจุดที่เสร็จหรือพอใจแล้วถึงได้พัก

“พักแล้วครับ งานวินล่ะถึงไหนแล้ว”

“ของเราเสร็จแล้ว พัตล่ะใกล้รึยัง นี่จะตีสองแล้วนะ” ผมเหลือบมองนาฬิกาข้างโต๊ะถึงได้รู้ว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่ ทำงานตั้งแต่สี่ทุ่มจนถึงตอนนี้ด้วยความหมกมุ่นจนไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น

“วินไปนอนก่อนได้เลย ของพัตคงอีกซักพัก หัวมันแล่นแล้วพอหยุดกลัวจะต่อไม่ติด” พอเวลากลางคืนเงียบๆทำงานแล้วหัวจะลื่นมากกว่าช่วงตอนกลางวัน ผมมักเป็นอย่างนั้นไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่พอบทจะนึกไม่ออกทำยังไงก็ไม่ออก ยิ่งเค้นงานที่ได้จะยิ่งแย่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมเลยอยากทำให้เสร็จในขณะที่ไอเดียมันกำลังมา

“ไม่เอา นอนพร้อมกัน...งั้นเดี๋ยวเราอ่านหนังสือก็ได้” คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามเดินกลับไปโซฟาตัวเดิมที่เจ้าตัวใช้ทำงานเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วก่อนจะหยิบหนังสือที่กองๆอยู่ขึ้นมาอ่านให้ผมต้องรีบหันกลับมาทำงานของตัวเองเมื่อรู้ว่าวินรอที่จะเข้านอนพร้อมกัน ไม่อยากให้อีกคนต้องนอนดึกไปด้วยถึงแม้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันอาทิตย์ที่เราไม่มีเรียนก็ตาม

“วิน วินครับ...ไปนอนกันนะ”

“อะ อือ...” ผมลูบหน้าคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟาตัวใหญ่เบาๆพร้อมกับกระซิบเรียกทั้งที่จริงแล้วไม่อยากกวนเขานอนเลยซักนิด แต่เนื่องจากว่าตอนนี้ร่างกายตัวเองไม่เอื้ออำนวย ถ้าผมไม่ปลุกก็ไม่รู้ว่าพาวินไปนอนได้ยังไง นอนอยู่ตรงนี้คงไม่สบายตัวแย่

“พัตเสร็จงานแล้วเหรอ” อีกฝ่ายขยับตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับยกมือขยี้ตาไปด้วย ทำเอาผมรู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้เขาต้องมารอแบบนี้

“ครับ เสร็จแล้ว ไปนอนกันเนอะ”

“อื้อ” หน้าเล็กๆพยักหงึกหงักก่อนที่วินจะขยับเข้ามาพยุงผมไปที่ห้องนอน(แม้ว่าผมจะเดินด้วยไม้ค้ำด้วยตัวเองได้ก็ตาม) พามาส่งจนถึงเตียงนอนเรียบร้อยพร้อมกับห่มผ้าให้ในขณะที่เจ้าตัวเดินไปปิดไฟให้เรียบร้อยแล้วตามขึ้นมานอนข้างๆโดยใช้ผ้าห่มอีกผืน วินบอกว่าชินกับการห่มผ้าคนเดียว ห่มกับคนอื่นแล้วจะนอนไม่ค่อยสบายตัวเพราะเขาอึดอัด

“ไม่อยากนอนกอดแฟนเหรอ” ขยับตัวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายแล้วเอาไหล่กระทบเบาๆอย่างเหย้าแหย่ ที่ถามเพราะว่าผมเองนี่แหละที่อยากนอนกอดแฟน นี่เป็นการนอนด้วยกันครั้งแรกของเราเชียวนะ

“ไม่...ไม่อยากกอดหรอก ร้อนจะตาย” อีกฝ่ายตอบเสียงดังฟังชัดแบบไม่มีลังเลใจเลยซักนิด แถมยังมาทำเฉไฉบอกว่าร้อน
ร้อนได้ยังไงกัน ห้องผมเปิดแอร์หนาวกว่าห้องอื่นๆด้วยซ้ำ

“แต่พัตอยากกอด ขอกอดหน่อยไม่ได้เหรอ” ลองใช้ลูกอ้อนเข้าหาก่อน เผื่อวินจะเห็นใจบ้าง ตลกตัวเองดีเหมือนกันที่ทำตัวอ้อนอีกฝ่ายแบบนี้

“ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนเลย ตัวเองขาเจ็บอยู่เดี๋ยวเรานอนดิ้นไปทับขาก็เจ็บกันไปใหญ่” วินนอนตะแคงข้างคุยกับผมที่หันมามองเขาได้แค่หัวเท่านั้น ตัวขยับตะแคงตามไม่ได้เพราะวางขาลำบาก

“ไม่เป็นไร ไม่โดนหรอก” เพราะผมอยากกอดคนตัวนิ่มๆหอมๆเลยต้องพยายามยกข้ออ้างพันแปดขึ้นมาอ้างให้เขาใจอ่อน
 
จุ๊บ

“เอาไว้ดีขึ้นแล้วจะให้กอดโอเคไหม...หลับฝันดีนะ” อยู่ดีๆคนที่นอนอยู่ข้างๆก็โน้มตัวมาหอมหน้าผากผมก่อนจะกลับไปนอนที่เดิม การกระทำที่ทำให้ผมยิ่งอยากจับเขามาฟัดมากขึ้น กล้าดียังไงมาทำแบบนี้เดี๋ยวผมอดใจไม่ไหวขึ้นมาจะทำไงวะ เสียดายที่ตอนนี้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดจึงมองไม่ค่อยเห็นสีหน้าของวิน แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้ว่าเขาคงมีอาการไม่ต่างกันเท่าไหร่

ยิ้มกว้างพร้อมๆกับใจที่เต้นแรง

“ฝันดีครับ” เอ่ยบอกอีกฝ่ายทั้งที่อยากขยับเข้าไปหอมคืนแต่ก็ทำไม่ได้ เลยได้แต่เอื้อมมือไปจับมือเล็กที่แนบอยู่ข้างกันแทน ผสานนิ้วมือเข้าไปกับมือบางแล้วจับไว้อย่างนั้น วินที่นอนตะแคงอยู่ดึงมือของเราขึ้นไปแนบแก้มก่อนที่จะซุกหน้าเข้าหา

สัมผัสเพียงเท่านั้นที่ทำให้ผมหลับฝันดีไปทั้งคืน









ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 15

“เดี๋ยวพัตให้ไอ้กิมมารับ วินไม่ต้องห่วงนะ” เอ่ยบอกคนที่นั่งทานข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม

วันนี้เป็นวันจันทร์ที่เราทั้งคู่มีเรียน วินมีเรียนทั้งวันแต่ผมมีแค่บ่าย เนื่องจากขับรถเองไม่ได้อยู่แล้วเขาเลยกังวลเรื่องการเดินทางของผมนิดหน่อย กลัวว่าจะไปลำบาก

“ไม่ให้เรามารับเหรอ เดี๋ยวเรียนเสร็จแล้วเรามารับก็ได้”

“วินมีเวลาพักแค่ชั่วโมงเดียวเองนะ ถ้ามารับพัตก็ไม่มีเวลากินข้าวกันพอดี...เอาไว้วันไหนเรามีเรียนตรงกันค่อยออกพร้อมกัน ส่วนทีเหลือก็ให้ไอ้กิมกับไอ้จีนมารับได้ ไม่มีปัญหา”

“ก็เราอยากดูแลพัตนี่นา...กลัวเจ็บขา” คนตัวเล็กเอ่ยออกมาเสียงเบา

“แค่นี้ก็ดูแลพัตดีมากๆแล้วครับ ตามนั้นนะ...รีบกินข้าวเร็วเดี๋ยวไปสาย” ยิ้มให้วินสบายใจก่อนจะเตือนเขาเมื่อใกล้ได้เวลาที่ต้องออกจากห้องแล้ว ถ้าไม่ออกตอนนี้มีหวังรถติดหนักไปไม่ทันแน่

ส่วนเรื่องที่เขาบอกอยากดูแลผมจะบอกว่าตอนนี้ก็ดูแลดีจนไม่รู้จะดูแลยังไงแล้ว มีเรียนเช้าแต่ก็ยังตื่นมาทำอาหารให้ผมทาน คอยทำนู้นทำนี่ให้ตลอด

“อย่าลืมทานข้าวทานยาตอนเที่ยงนะ เดี๋ยวเลิกเรียนเราจะโทรหา ถ้าลืมกินล่ะน่าดู” เสียงเล็กๆเอ่ยขู่ในขณะที่จะก้าวออกจากห้อง ย้ำผมเรื่องนี้มาเป็นรอบที่ห้าแล้ว ขนาดจะไปเรียนแล้วแท้ๆยังอุตสาห์ย้ำอีกเป็นครั้งสุดท้าย

“ครับผม ไม่ลืมแน่นอน...ตั้งใจเรียนนะ” คนที่มีเรียนเช้าพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มก่อนจะก้าวออกจากห้องไป ให้ผมไม่มีอะไรทำอยู่ห้องคนเดียว

พอวินออกไปผมก็เลยหานู้นหานี่ทำเรื่อยๆเพื่อไม่ให้เบื่อ เปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้เป็นเพื่อนทั้งที่ก็ไม่ได้ดูเลยซักนิด เดินไปทั่วห้องแม้ว่าจะยังใช้ไม้ค้ำอยู่ก็ตาม

วันนี้ดูเหมือนขาจะลดการบวมลงค่อนข้างเยอะแล้ว อาการปวดก็ไม่ได้มีมากเหมือนอย่างวันแรก ต้องบอกว่าเพราะได้พยาบาลดูแลดีเลยหายเร็วเป็นพิเศษ

ติ๊งต่อง

สงสัยว่าไอ้จีนกับไอ้กิมจะมากันแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้า นัดพวกมันมาอยู่เป็นเพื่อนแล้วก็ให้รับไปเรียนด้วยเลย ถือโอกาสนี้ใช้เพื่อนไปด้วย สบายสุดๆเพราะวันนี้จะมีคนขับรถให้นั่งไปเรียน

“เพื่อนพัต อาการมึงเป็นยังไงบ้างครับ” มาถึงก็กวนตีนก่อนเลยนะไอ้กิม

“ยังไม่ตาย”

“จะตายได้ไงวะ มีพยาบาลมาดูแลใกล้ชิดขนาดนี้” ไอ้จีนเอาของกินที่ซื้อมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับเอ่ยล้อ

“พอเลยพวกมึง มีเพื่อนก็ดีเหลือเกิน กูเจ็บแต่หายหัวกันหมด” มีแค่ไลน์มาคุยถามไถ่แต่ไม่ได้มาเยี่ยมเลยทั้งสองคน อาการที่ผมเดาได้ไม่ยากว่ามันสองตัวนี้ต้องติดหญิงชัวร์

“โถว่ แป๊บเดียวเดี๋ยวมึงก็หาย...ให้พวกกูไปอยู่กับเด็กบ้างอะไรบ้าง ใครจะมีคนมาดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิดแบบมึง”

“เออ หน้าตาแช่มชื่นแจ่มใสแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปรีดาแค่ไหน...หมั่นไส้” พอได้รุมผมทีนี่เอาใหญ่เหลือเกิน ทั้งไอ้กิมกับไอ้จีนก็ไม่ต่างกันซักเท่าไหร่ อย่าให้มีโอกาสได้แซะ

“เอาที่พวกมึงสบายใจเลยนะ ส่วนกูจะไปอาบน้ำ” ผมนั่งเน่ามาตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ชำระร่างกายแต่อย่างใด ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ไปนั่งกินข้าวกับวินเลย กะว่าจะรออาบก่อนใกล้ๆออกไปเรียน

“ตามสบาย เดี๋ยวพวกกูเล่นเกมรอ” สวรรค์พวกมันล่ะ มาทีไรต้องมาดวลเกมที่ห้องผมทุกทีสิน่า แต่ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก มันอยากทำอะไรกันก็ทำขอแค่อย่าทำห้องรก เอาของออกมาจากไหนก็เอาใส่ไว้ที่เดิมเป็นพอ ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่ช่วงนี้พวกมันต้องไปรับไปส่งผม

ติ๊ง

Win.K : กิมกับจีนมาถึงยัง

PAT : ถึงแล้วครับ
       ตั้งใจเรียนสิดื้อ

Win.K : ใครกันแน่ที่ดื้อ :p
       เลิกเรียนแล้วจะโทรหานะ

PAT : ครับ
        คิดถึงนะ

Win.K : Me too <3

บทสนทนาสั้นๆแต่ก็ทำให้ผมยิ้มจนหน้าบานได้ บางทีเราก็คุยกันแค่เท่านี้เพียงไม่กี่ประโยคแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกห่างเหินอะไร ต่างคนต่างยุ่งงานของตัวเองบ้างแต่ก็ส่งข้อความมาไว้บอกกันเท่านี้ก็พอแล้ว

คุยกับวินเสร็จก็วางโทรศัพท์มือถือไว้ที่เดิมก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย






“เป็นไงบ้างวะไอ้น้อง” ผมที่นั่งอยู่ม้าหินอ่อนหน้าคณะหันไปตามเสียงทัก เป็นพี่ชาติหัวหน้าชมรมบอลของคณะที่เดินเข้ามาหา

“หวัดดีครับ/หวัดดีพี่” ทั้งผมไอ้จีนไอ้กิมยกมือไหว้พี่แกทันที

“ก็ไม่เป็นไรมากพี่ ขอโทษด้วยที่ผมไม่ได้ไปงานเลี้ยง วันนั้นไม่ไหวจริงๆ” แม้ว่าจะไลน์ไปบอกพี่แกแล้วในวันนั้นแต่ผมก็อยากบอกด้วยตัวเองอีกที

“ไม่เป็นไรๆ มึงทำเพื่อทีมขนาดนั้นพักบ้างน่ะดีแล้ว ขอบคุณเว้ยที่ทำให้ปีนี้เราล้างแค้นได้สำเร็จ” ปีก่อนนั้นพวกผมแพ้ให้กับคณะวิศวะในการดวลลูกโทษเนื่องจากเสมอกัน 2-2 เรียกว่าเป็นฝันร้ายของทั้งทีมเลยก็ว่าได้เพราะเกมนั้นเราไม่ได้เป็นรองเลยซักนิด มาปีนี้ทุกคนเลยตั้งความหวังไว้สูงมากว่าอยากทำความฝันที่พังไปของปีที่แล้วให้สำเร็จ

“ว่าอะไรอย่างนั้นพี่ ฟุตบอลเล่นป็นทีม ที่ชนะได้ก็เพราะทั้งทีมนั่นแหละ”

“ทั้งหล่อทั้งพูดจาดีเว้ยน้องกู แล้วนี่มีเรียนบ่ายกันเหรอวะ”

“ครับ”

“เออๆ งั้นกูไปล่ะ มีพรีเซ้นต์งานต่อเหมือนกัน” พวกผมยกมือไหว้ลารุ่นพี่ก่อนที่แกจะเดินออกไป พี่ชาตินี่เห็นแบบนี้จะบอกว่าพี่แกเรียนเก่งมาก แถมยังเล่นบอลได้อย่างเทพอีกต่างหาก ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้เป็นหัวหน้าชมรมบอลอย่างทุกวันนี้ ที่ทีมแกร่งได้ก็เพราะว่าได้พี่ชาติมาฝึกนี่แหละ ฝึกโหดฝึกหนัก แต่นั่นก็เพื่อให้เราทุกคนแข็งแกร่ง

“กินอิ่มแล้วทำไมกูง่วงนักวะเนี้ย” ไอ้กิมเอ่ยขึ้นในขณะที่มันฟุบหน้าลงบนโต๊ะแล้ว เรามามหาลัยก่อนเป็นชั่วโมงเลยมานั่งรอขึ้นเรียนเพราะมีอีกเซคที่เรียนอยู่

“ไม่ต่างกับกูอ่ะ” ไอ้จีนเองก็เอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วย

“ขึ้นไปรอหน้าห้องก็ได้วะ ตรงนี้เริ่มร้อนแล้ว” ผมเอ่ยชวนเพื่อนเพราะแดดเริ่มเลียมาตามข้างตัว พวกมันเองก็เห็นด้วย เราเลยลุกขึ้นไปรอเรียนกันบนห้อง







“อ้าว หวัดดีกิม หวัดดีจีน” คนรักของผมในชุดอยู่บ้านสบายๆเอ่ยทักทันทีเมื่อเปิดประตูมารับแล้วเห็นเพื่อนตัวดีของผมทั้งสองคนติดสอยห้อยตามมาด้วย วินเลิกเรียนก่อน ผมเลยให้เขากลับมาโดยให้ไอ้กิมกับไอ้จีนมาส่งที่คอนโดแทนที่จะให้วินอยู่รอรับ

ที่จริงหน้าที่ของพวกมันควรจะหมดไปตั้งแต่มาส่งผมที่หน้าลิฟต์แล้วนะ แต่ก็ยังหน้าด้านบอกว่าจะขึ้นมากินข้าวด้วยให้ได้
 
“หวัดดีวิน/ดีวิน”

“พอดีเลยเรากำลังทำอาหารอยู่ งั้นอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะ” เห็นไหมว่าแฟนผมเป็นคนใจดีขนาดไหน มีน้ำใจที่จะชวนเพื่อนผมกินข้าว

เรื่องทำอาหารที่จริงก็บอกเขาแล้วว่าไม่ต้องทำเพราะผมกลัวเขาเหนื่อย ซื้อเข้ามาหรือสั่งจากข้างล่างก็ได้ แต่วินกลับไม่เห็นด้วย บอกว่าจะทำเองให้ได้ถ้าวันไหนไม่เหนื่อยจนเกินไป

“งั้นรบกวนวินด้วยแล้วกันนะ”

“รบกวนด้วยคร้าบบบ” ที่ผมไม่มีบทพูดไม่ใช่เพราะอะไร เบื่อพวกมันสองคนเลยไม่อยากจะพูดก็เท่านั้น

“พัตเปลี่ยนเสื้อผ้าไหม เดี๋ยวเราพาไป...กิมกับจีนดูทีวีรอก่อนนะ” เป็นวินที่เข้ามาพยุงผมแทนเพื่อนแล้วค่อยๆพาเดินเข้าไปในห้อง “เหนื่อยเหรอ ไม่พูดเลย”

วินเงยหน้าขึ้นมาถามในขณะที่พาผมนั่งลงที่เตียงเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กยืนอยู่ตรงหน้า ผมเลยได้โอกาสรั้งให้เขาขยับเข้ามายืนแทรกหว่างขา

“เปล่าครับ ไม่รู้จะพูดอะไรเฉยๆ...วินล่ะเป็นไงบ้าง พัตบอกแล้วว่าให้สั่งอาหารหรือว่าซื้อเข้ามาเลยจะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำ”

“เราก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก เวลาทำอาหารก็สนุกดีออก...พัตเปลี่ยนเสื้อผ้านะ เดี๋ยวเราจะออกไปทำอาหารต่อ”

“โอเคครับ”

พอวินเดินออกจากห้องไปผมก็คว้าไม้ค้ำแล้วค่อยๆเดินไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ข้อเท้านี่หมอบอกว่าสามถึงสี่วันก็ถอดผ้าได้ แต่ยังไม่ให้ลงน้ำหนักเท้าเฉยๆ ยิ่งตอนนี้มีวินมาช่วยดูแลอาการเลยยิ่งดีขึ้น

พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมก็เดินออกมาหาไอ้กิมกับไอ้จีนที่หน้าโทรทัศน์

“ห้องมึงนี่ของจัดเป็นระเบียบเชียว แต่ก่อนถ้าวันไหนแม่บ้านไม่ได้พึ่งมาเก็บใหม่ๆไม่ได้เป็นแบบนี้แน่”

“เออ วินจัดการให้” ตอบไอ้จีนออกไปพร้อมกับนั่งลงโซฟาข้างๆ พวกนี้มาสร้างพื้นที่ที่ห้องผมกันเสร็จสรรพ นอนเอกเขนกเต็มโซฟาอย่างเต็มที่ ตามสบายเลยนะเพื่อน เอาซะผมนึกว่าตัวเองเป็นแขก

“วินแม่งดูแลมึงดีโคตรๆอ่ะ” ไอ้กิมเอ่ย

“มากกกกกก กูยังอิจฉามันเลยเนี้ย”

“พวกมึงก็หาซักคนดิ” ที่จริงพูดถึงเรื่องคนที่เข้ามาหาพวกมันมันก็มีมากแหละ แต่ไอ้กิมไอ้จีนก็ยังไม่เจอคนที่จะจริงจังด้วยซักคน ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครที่จะสยบเพื่อนผมทั้งสองคนให้อยู่หมัดได้

“ถ้ามันหาง่ายแล้วมีแบบวินอยู่เยอะป่านนี้พวกกูก็มีกันแล้ว ผู้หญิงบางคนแม่งก็งี่เง่าเกิน ผู้ชายบางคนก็พยายามเอาใจไป” ไอ้จีนทำหน้าเบื่อโลกราวกับโลกนี้น่าเบื่อเสียมากมาย ส่วนที่มันเอ่ยถึงทั้งหญิงและชายเพราะเพื่อนผมเป็นไบกันหมดครับ ได้ทั้งชายทั้งหญิง ถึงได้มีคนเข้าหามากมายเต็มไปหมด

“อย่าพูดว่ะจีน ของกูนี่สุดตีนครับ...ตอนแรกก็ดีอ่ะ หลังๆมานี่ยิ่งกว่าแม่กูอีก บอกเลิกแทบจะไม่ทัน” ไอ้กิมพึ่งเลิกกับเด็กคนล่าสุดของมันมาเมื่อคืนสดๆร้อนๆ

“นี่ที่พวกมึงมาวันนี้จะมาระบายเรื่องรักคุดๆกันรึไง” ผมเอ่ยถามเพื่อนออกไป ตั้งแต่มานั่งนี่ได้ยินมันพูดถึงแต่เรื่องนี้

“หึ มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับคนหล่ออย่างพวกกูอยู่แล้ว เนอะไอ้จีน” แล้วพวกมันก็หันไปไฮว์ไฟท์กันพร้อมกับยักคิ้วให้ผมอย่างกวนๆ

ครับ...เอาที่พวกมึงสบายใจเลย

“กับข้าวเสร็จแล้วนะ” เสียงใสๆของวินตะโกนออกมาให้พวกผมสามคนรีบลุกขึ้นทันที ตอนนี้หิวกันมากๆแล้วเพราะเลิกเรียนเย็น ได้ยินเสียงวินเหมือนเสียงสวรรค์ เราเดินไปที่ห้องอาหารกันอย่างรวดเร็ว

“หูยยยย มีแต่ของโปรดไอ้พัตทั้งนั้นเลย” วินยิ้มกว้างรับคำไอ้กิมก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้ผมได้นั่งลง ทั้งโต๊ะอาหารมีอาหารอยู่5อย่าง และทุกอย่างล้วนเป็นของที่ผมชอบทั้งหมด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวินตั้งใจทำให้ใคร

“กลิ่นหอมโคตร เรากินเลยได้ไหมเนี้ย”

“ตามสบายเลยจีน”วินนั่งลงข้างๆผมแล้วหันไปตอบไอ้จีน พอได้ยินดังนั้นเพื่อนผมเลยไม่รอช้าจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว คนทำเลยนั่งมองอย่างยิ้มๆแล้วมือเล็กก็หันไปตักอาหารมาให้ผม

“กินเยอะๆนะ เราทำแต่ของโปรดพัตทั้งนั้นเลย” อีกฝ่ายยิ้มกว้างให้ผมได้ยิ้มตาม เพราะว่าวินเป็นแบบนี้เลยรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มีแฟนเป็นเขา คอยดูแลคอยเอาใจใส่ผมตลอด

“วินก็กินเยอะๆ” เอื้อมไปตักอาหารให้อย่างเช่นที่เขาทำ คนน่ารักยิ้มให้ก่อนจะหันกลับไปทานข้าวของตัวเอง ส่วนแขกทั้งสองนั้นก็ซัดข้าวแบบไม่พูดไม่จาเลยทีเดียว กินราวกับพวกมันไปอดอยากกันมาจากที่ไหนซะอย่างนั้น






จุ๊บ

“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อเย็นนะ วินเหนื่อยแย่เลยต้องทำหลายอย่าง” ผมหอมแก้มคนที่นอนซบไหล่อยู่แรงๆทีนึง ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดให้เรานอนคุยกันเล่นก่อนที่จะนอน พูดคุยถึงเรื่องราวของเราที่เกิดขึ้นวันนี้ ช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุด 

แล้วก็จะบอกกว่ากว่าจะบังคับให้วินมานอนตรงนี้ได้นี่เกือบได้ปล้ำกัน

“กินข้าวกันหลายคนสนุกดีออก เราชอบนะ...ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยด้วย วันหลังพัตชวนเพื่อนมาบ่อยๆก็ได้”

“ไม่เอา มาแล้วเดี๋ยวเราไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน” ขืนปล่อยให้มาบ่อยผมจะเอาเวลาที่ไหนอยู่กับวินล่ะ

“ก็อยู่ด้วยกันตลอด ตอนนี้ก็แทบจะสิงกันแล้ว” วินเอาหัวโขกหน้าอกผมเบาๆ

“วิน...” ผมปรับเสียงให้จริงจังขึ้นอีกหน่อยเมื่อคิดว่าจะพูดเรื่องนั้นออกไป

“หืม?”

“ย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ...พัตจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเวลาวินกลับดึกๆคนเดียว จะได้ดูแลวินได้เต็มที่ด้วย” คนที่อยู่ในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน แสงจันทร์ลอดเข้ามาเนื่องจากวินเปิดผ้าม่านทิ้งไว้มากพอที่จะได้เห็นสีหน้าของกันและกัน “ของขวัญที่วินสัญญาว่าจะให้ถ้าทำประตูได้ พัตขอให้วินมาอยู่ด้วยกัน...ได้ไหมครับ”

“...”

“...”

“มาทำเสียงแบบนี้ใส่ใครจะกล้าปฏิเสธกัน” วินซุกหน้าลงไปที่อกผมตามเดิมหลังจากที่ตอบออกมา

“ตกลงแล้วใช่ไหม ตกลงนะ...งั้นขนของมาพรุ่งนี้เลย”

“จะบ้าเหรอ เราต้องใช้เวลาบ้างสิ...แล้วเราก็ยังพูดไม่จบ เราจะไม่ปฎิเสธถ้าพ่อกับแม่อนุญาต คนแถวนี้จะกล้าเข้าไปขอให้รึเปล่า”

“ไม่มีปัญหา วันไหนพ่อกับแม่วินว่างบอกมาเลย” ผมไม่กลัวอยู่แล้ว ดีซะอีกที่จะได้เข้าไปหาพวกท่าน ผมเองก็หาโอกาสที่จะไปบ้านวินอยู่เหมือนกัน จะพาลูกเขามาอยู่ด้วยทั้งทีก็ต้องทำให้เป็นขั้นเป็นตอน

“ไม่กลัวเหรอ” วินเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม

“ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย เราไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย”

“ถ้าพ่อเราไม่ยอมล่ะ พ่อเราโหดนะ”

“โหดแค่ไหนก็ไม่หวั่นครับ พัตจัดการได้ไม่ต้องห่วง...ถ้าไปบ้านวินแล้วไปบ้านพัตบ้างนะ ตกลงไหม” แม่ผมนี่โทรมาเร่งอยู่ทุกวันว่าให้วินไปหา อยากเจอวินมากกว่าลูกตัวเองเสียอีก ผมว่าจะพาวินเข้าบ้านไม่เกินอาทิตย์นี้นี่แหละ

“พ่อกับแม่พัตจะโหดไหม” คนในอ้อมกอดถามออกมาเสียงอ่อยราวกับกังวลใจอะไร

“ไม่โหดหรอก ใจดีทั้งคู่เลย...ถ้าพ่อกับแม่วินว่างวันไหนให้บอกพัตนะ”

“อื้อ”พอสิ้นสุดบทสนทนาผมเลยหอมหน้าผากวินไปเบาๆแล้วบอกฝันดีอีกฝ่ายก่อนที่เราทั้งคู่จะหลับไปด้วยกัน




TBC.





Talk

เชิญตบเชิญตีคนแต่งได้ตามสบายเลยค่ะ  :o12: :o12: ขอโทษที่หายไปนานมากกกกกกกกกกก คือภารกิจมันยาวต่อเนื่องกันมาเลย ทั้งงานที่บ้าน งานที่มอ ทั้งเรื่องสอบ  :katai1: :katai1: แต่ยังไงก็มาต่อให้แล้วน๊า ไม่รู้ว่าจะมีคนรอหรือลืมกันไปแล้วยัง(อย่าพึ่งลืมเก๊าเลยยยยยยยย) ถ้าคิดถึงก็มาคอมเม้นให้กันนะๆๆๆๆๆ :mew1: :mew1:
ปล.สั้นไปหน่อยแต่มันต้องตัดตรงนี้จริงๆ(ประเด็นคือง่วง555555) ไว้เจอกันใหม่ค่าาาาา ไม่ทิ้งนานอีกแล้ว :mew3: :mew3:

https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/?ref=aymt_homepage_panel









 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด