เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ  (อ่าน 308367 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: "แอบรัก" ตอนที่2 *04/09/2558
«ตอบ #30 เมื่อ06-09-2015 00:39:18 »

มาแอบดูคนเค้าจีบกัน

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: "แอบรัก" ตอนที่3 05/09/2558
«ตอบ #31 เมื่อ06-09-2015 07:07:08 »

น่ารักจังงงงงงง :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ modelatlove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: "แอบรัก" ตอนที่3 05/09/2558
«ตอบ #32 เมื่อ06-09-2015 08:22:25 »

น่ารักกกก พัต หวงมากกก วินก็รักเค้าใช่ไหมลูก  :ling1: เขินแทน

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: "แอบรัก" ตอนที่3 05/09/2558
«ตอบ #33 เมื่อ06-09-2015 10:39:32 »

อิจฉาวินได้มั้ย? ฮ่าๆๆ น่ารักกันจังเลยยย

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: "แอบรัก" ตอนที่3 05/09/2558
«ตอบ #34 เมื่อ06-09-2015 13:12:36 »

ใจพัตเองก็ไม่ได้อยากจะบังคับหรือก้าวก่ายการตัดสินใจอะไรของวินหรอก แต่ถ้าเลี่ยงเสื้อผ้าเนื้อบางๆ ได้ก็เลี่ยงเถอะ..ใช่ไหมคะพัต ^^

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
Re: "แอบรัก" ตอนที่3 05/09/2558
«ตอบ #35 เมื่อ06-09-2015 23:18:49 »

รุกเร็วๆๆจริงๆๆเลยนะครับ. เดินหน้ารุกๆๆๆ

ออฟไลน์ Meimei

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: "แอบรัก" ตอนที่3 05/09/2558
«ตอบ #36 เมื่อ06-09-2015 23:41:35 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: "แอบรัก" ตอนที่3 05/09/2558
«ตอบ #37 เมื่อ07-09-2015 01:48:22 »

น่ารักฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมววววว   :m3:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: "แอบรัก" ตอนที่3 05/09/2558
«ตอบ #38 เมื่อ07-09-2015 18:35:56 »

น่ารักจังเลยยยยยย :mew1:

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #39 เมื่อ07-09-2015 21:56:20 »


ตอนที่4

“พัตจ๊ะ พรุ่งนี้ไปงานเลี้ยงบ้านคุณหญิงนุชกับแม่ไหม” เสียงแม่เอ่ยถามในเย็นวันศุกร์ที่ผมพึ่งจะกลับถึงบ้านได้ไม่นาน บ้านที่อยู่กรุงเทพนี่แหละครับ แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่ใกล้มอผมเลยต้องย้ายไปอยู่คอนโดแทนเพื่อความสะดวก ตอนนี้เราสามคนพ่อแม่ลูกนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพื่อพักผ่อนตามปกติ

“อย่างเจ้าพัตนี่นะจะไปงานแบบนี้” พ่อที่ดูข่าวธุรกิจเอ่ยขึ้นอย่างรู้นิสัยลูกชายตัวเองดี

“ใช่เลยครับพ่อ” ประโยคเอ่ยสำทับอีกแรงจากผม ผมและพ่อเป็นคนที่ค่อนข้างเหมือนกันคือไม่ชอบงานอะไรแบบนี้ แน่ล่ะเพราะมีแต่พวกคุณหญิงคุณนายโม้เรื่องลูกเรื่องตัวเองเรื่องกิจการให้ฟัง น่าเบื่อจะตาย เคยไปเป็นเพื่อนแม่ไม่กี่ครั้งนี่ผมเข็ดเลย ถ้าไม่ใช่งานสำคัญจริงๆคือไม่ไปแน่นอน อย่าว่าแต่ผมที่ไม่ค่อยไป พ่อผมเองก็ไม่ต่างกันถ้าไม่ใช่งานเกี่ยวกับธุรกิจไม่มีทางที่จะได้เห็นพ่อผมแน่นอน

“เอ๊ะ สองพ่อลูกคู่นี้หนิ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะคะเรื่องแบบนี้”

“คุณก็น่าจะรู้ดีนี่นา ฮ่าๆ เอาน่าคุณพิมพ์ อย่างอนไปเลย เดี๋ยวเอาไว้ผมพาไปเที่ยวเพื่อเป็นการไถ่โทษที่ไม่ได้ไปเป็นเพื่อนคุณแล้วกัน”

ชินแล้วแหละครับกับคำพูดประมาณนี้ พ่อกับแม่ชอบไปเที่ยวเพราะถือว่าเป็นการพักผ่อน ซึ่งสถานที่ที่พวกท่านไปส่วนมากก็จะเป็นสถานที่ธรรมชาติซะส่วนใหญ่ ทะเลบ้างภูเขาบ้าง บางทีผมรู้เรื่องก็ตอนที่พวกท่านถึงที่แล้วนู้นล่ะ ผมเข้าใจดีแต่แค่แกล้งงอนท่านบ้างก็เท่านั้นที่ไม่เอ่ยชวน แต่ถึงชวนก็ไม่ไปหรอกครับ ใครจะอยากไปเป็นกอขอคอ

“คุณน่ะ ไม่ต้องเลยนะคะ ชอบทำแบบนี้ทุกทีเลย...แม่ก็ชวนเผื่อว่าพัตอยากไปทำความรู้จักกับลูกคุณหญิงนุชก็เท่านั้นเอง น้องก็น่ารักดีนะลูก” เคยเห็นบ้างตามข่าวครับ แต่ผมเองก็จำชื่อไม่ได้หรอกว่าลูกคุณหญิงนุชชื่อะไร แต่ถ้าจำไม่ผิดน่าจะหน้าตาดีพอสมควร แต่ตอนนี้ถึงดีแค่ไหนผมก็ไม่สนใจทั้งนั้นแหละ

“ไม่หรอกครับแม่ พัตไม่อยากรู้จัก ตอนนี้มีคนที่คุยๆด้วยแล้วครับ”

พ่อกับแม่ตาโตทันที่ผมพูดเสร็จ แม้แต่พ่อยังหยิบรีโมทมาปิดเสียงโทรทัศน์ทันที สายตาสองคู่หันมาหาอย่างแปลกใจระคนตกใจด้วย แม่ผมนี่ดูตื่นเต้นมากๆ เอาจริงๆคือผมไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้กับท่านเลย ไม่ว่าจะคุยๆหรือคบกับใครก็ไม่เคยบอก ไม่รู้สิ เหมือนว่าที่ผ่านมามันยังไม่ใช่ ผมยังไม่เคยคิดจะจริงจังกับใครเลย

“ใครกันจ๊ะ ชื่ออะไรเป็นลูกเต้าเหล่าใคร พ่อกับแม่รู้จักไหม แล้วนี่คุยกันมานานรึยัง ถึงขั้นไหนกันแล้ว แล้ว...”

“โถว่ แม่ครับใจเย็นๆ” โดนรัวคำถามมาซะจนผมฟังแทบจะไม่ทัน นี่ถ้ารู้ว่าเป็นใครท่านคงจะตกใจน่าดู

“ใจเย็นได้ไง นี่แม่ตื่นเต้นจะแย่ ครั้งแรกเลยนะเนี้ยที่ลูกบอกเรื่องนี้กับแม่ คุณคะ เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลยนะคะเนี้ย”

“พัตก็โตแล้วนะคุณ ไม่มีคนคุยด้วยสิที่แปลก เอ้า ว่ามาสิว่าเป็นใครอะไรยังไง” ประโยคหลังพ่อหันมาถามผมอีกคน ส่วนมากผมก็บอกพ่อกับแม่ทุกเรื่องนะครับ ช่วงก่อนๆแม่จะชอบพาไปออกงานบ้างเพื่อที่จะทำความรู้จักกับพวกลูกคุณหญิงคุณนายทั้งหลายแต่ว่าไม่ได้บังคับหรือเป็นการดูตัวอะไรพวกนั้นหรอก ท่านแค่เผื่อว่าผมจะสนใจ พ่อกับแม่ผมไม่เคยบังคับหรือว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว อยากทำอะไรก็ให้ผมเป็นตัดสินใจเอง

“บอกไปพ่อกับแม่อาจจะตกใจได้นะครับ” ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพ่อกับแม่จะรับได้ไหมถ้าผมบอกออกไป ถึงแม้ที่ผ่านมาท่านจะไม่ค่อยดุผมและยอมรับในการตัดสินใจของผมทุกเรื่องแต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นเลย พ่อกับแม่ค่อนข้างมีหน้ามีตาในสังคม ถึงผมไม่แคร์เรื่องนั้นแต่ก็แคร์พวกท่านนะครับ

“ทำไมล่ะลูก พัตชอบใครพ่อกับแม่ก็ชอบด้วยทั้งนั้นแหละ”

“นั่นน่ะสิ ไม่หมั่นใจอ่ะไรน่ะเรา”

“คือ...คนที่ผมคุยด้วยเป็นลูกของป้าษาครับ เจ้าของร้านเพชรร้านประจำของคุณแม่”

“...”

“...”

“...”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“อย่าบอกแม่นะว่าเป็นลูกคนเล็ก” แม่ของวินมีลูกอยู่สองคนซึ่งวินเขาเป็นคนสุดท้อง ใช่ที่เขามีพี่สาวคนนึง แต่ผมบอกแค่นี้แม่ก็น่าจะรู้ว่าเป็นใคร เพราะพี่สาววินแต่งงานมีครอบครัวแล้ว

“ครับแม่ คนที่ผมคุยด้วยคือวิน” พลันทุกอย่างในห้องก็เงียบลงราวกับถูกหยุดเวลาไว้ พ่อกับแม่มีสีหน้าที่ผมเดาไม่ออกว่าท่านรู้สึกหรือคิดยังไง ผมเผลอหยุดหายใจเมื่อไม่รู้ว่าสิ่งที่จะเจอต่อจากนี้คืออะไร พ่อกับแม่จะยอมรับเรื่องนี้ได้ไหม ลูกชายคนเดียวกำลังคุยกับผู้ชายเหมือนกัน...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“จริงเหรอวพัต คนที่ลูกคุยด้วย...คะ คือน้องวินเหรอ” เนิ่นนานกว่าที่แม่จะเอ่ยอะไรออกมาเป็นคนแรก น้ำเสียงท่านสั่นจนผมสัมผัสได้

“ครับแม่ ผมคุยกับวินอยู่” แต่ผมก็เลือกที่จะเอ่ยออกไปอย่างหนักแน่น ไม่มีแววลังเล ความรู้สึกที่มีต่อวินผมไม่เคยไม่มั่นคง

“ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้ลูกชาย ฮ่ะๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังสนั่นมาจากพ่อจนผมที่สบตากับแม่อยู่ต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ พ่อไม่ได้มีแววเครียดขรึมหรือไม่พอใจอะไร ท่านหัวเราะแบบที่หัวเราะจริงๆ แววตาเหมือนกำลังถูกใจอะไรซักอย่างด้วยซ้ำ

“รักใครชอบใครก็ต้องกล้าพูดตรงๆ สมแล้วที่เป็นลูกชายพ่อ”

“ลูกชายฉันต่างหากค่ะ โอ๊ย นี่แม่ตื่นเต้นมากกว่าเดิมอีกนะเนี้ยที่รู้ว่าลูกคุยกับน้องวินอยู่ แม่เจอน้องบ่อย เป็นคนที่ท่าทางน่ารักแล้วก็มีมารยาทมากเลยนะคะคุณ ดีสิที่เราจะได้ดองกันกับคอรบครัวเมธต์กาลกุล แม่ปลื้มค่ะ แม่ให้ผ่าน”

“ดะ เดี๋ยวนะครับพ่อแม่ พ่อกับแม่...ไม่ว่าอะไรเหรอครับ” บอกเลยว่าตอนนี้ยังงงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมดราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือจนผมงงไปหมด ภาพที่นึกไว้ตอนที่ทุกอย่างเงียบงันอย่างน้อยพ่อกับแม่จะต้องมีปฏิกิริยาด้านลบบ้าง ต้องถามต้องต่อว่า นอกจากจจะไม่มีเหตุการณ์แบบที่ผมจินตนาการนี่ดูเหมือนว่าท่านจะดีใจด้วยซ้ำ เอ่ยเรียกน้องวินๆอย่างบ่งบอกว่าเอ็นดูทั้งที่หมอฟันเขาก็อายุเท่าผม

“จะว่าอะไรล่ะ คุยก็คุย สมัยนี้โลกไปถึงไหนแล้ว เรื่องแค่นี้พ่อรับได้ถึงจะแปลกใจบ้างก็เถอะ แต่ถ้าลูกตัดสินใจบอกพ่อกับแม่ขนาดนี้แสดงว่าจริงจังและคิดมาดีแล้ว”

“ใช่จ้ะ อย่างที่พ่อพูดเลย พัต...ตั้งแต่เด็กจนโตลูกทำให้พ่อกับเชื่อใจได้เสมอ เราสองคนเคารพในตัวลูก เคารพทุกการตัดสินใจ ทางที่พัตเลือกคือทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวลูกเอง แค่พัตมีความสุขมันก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วที่พ่อกับแม่จะยอมรับนะจ๊ะ”

ผมเขยิบเข้าไปหาแม่แล้วกอดซุกอกท่านเหมือนเด็กๆ ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อกับแม่ให้ผมเลือกทางของผมเองเสมอ ท่านจะแค่อยู่ข้างหลังคอยพยุงทุกครั้งที่ผมมีปัญหา พ่อเคยบอกผมว่าถ้าผมล้มด้วยขาของตัวเองก็จะสามารถยืนขึ้นได้ด้วยขาของตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่พ่อกับแม่ไม่เคยบังคับผมเลย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่เกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่

“ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณที่พ่อกับแม่เข้าใจ”

“หืม อ้อนเหมือนเด็กๆเลยนะเรา แล้วนี่แค่คุยกันเองเหรอ เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันล่ะ น้องวินน่ารักขนาดนั้นจะไม่มีคนอื่นมาจีบเหรอพัต โดนคนอื่นตัดหน้าไปแม่ไม่รู้ด้วยนะ” กำลังซึ้งอยู่ดีๆ แม่ก็ทำอารมณ์นั้นผมหายทันที ประโยคที่แม่พูดนี่แทงใจดำชะมัด

“แม่อ่ะ ทำไมแช่งลูกแบบนี้ล่ะครับ” ผมเงยมาทำหน้าเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่นใส่ท่าน มีแค่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้เท่านั้นแหละครับที่ได้เห็นด้านเด็กๆของผมแบบนี้ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือโตขึ้นแค่ไหนผมก็เป็นเด็กสำหรับท่านเสมอ

“อย่าให้เสียชื่อนะลูกชาย ระวังจะอด” พ่อนี่ก็อีกคน

“พาน้องมาบ้านเราบ้างสิพัต มาทานข้าวมาเจอแม่ นี่แม่ก็ไม่ได้เจอน้องมาซักพักแล้ว เอ๊ะ หรือว่าจะชวนคุณษามาทานข้าวที่บ้านเราดีคะคุณ”

“ผมยังแค่คุยกับเขาเองครับ เอาไว้ถ้าเกิดว่าพัฒนากันขึ้นไปจริงๆผมพามาหาพ่อกับแม่แน่นอน” พามาฝากเนื้อฝากตัวกับบ้านผม แม่เองก็มีผมแค่คนเดียวท่านคงเหงา ถ้าวินเข้าบ้านมาคุยกับท่านบ้างคงทำให้มีสีสันในบ้านเพราะเขาเป็นคนสดใส ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุขทั้งนั้น

“คิดดีแล้วใช่ไหมพัต” คราวนี้เป็นพ่อที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงและสีหน้าที่จริงจังและผมก็เข้าใจในสิ่งที่ท่านต้องการจะสื่อ

“คิดดีแล้วครับ ไม่ได้เล่นๆแน่นอน ผมชอบเขามานานแล้ว และไม่ใช่ความรู้สึกฉาบฉวย” ผมยืนยันเสียงหนักแน่น

“พรุ่งนี้คุณษาก็ไปงานบ้านคุณหญิงนุชนะ อุ๊ย แม่บอกให้เขาชวนน้องวินมาด้วยดีกว่า แม่อยากเจอ”

“งั้นผมไปครับ!” โพล่งตอบออกมาอย่างไม่ลังเลเลยซักนิด ความรู้สึกเปลี่ยนไวเหลือเกิน ถ้าวินไปผมยอมไปแน่นอน ช่วงนี้เราก็คุยกันในไลน์ตามปกติซึ่งมันสู้เห็นตัวเป็นๆไม่ได้หรอก แต่ส่วนมากผมจะหาเรื่องโทรหาเขานะ ผมชอบการคุยกันผ่านโทรศัพท์มากกว่าพวกโซเชียลต่างๆ อยากได้ยินเสียงของเขา ที่จริงก็อยากวิดิโอคอลแต่อีกฝ่ายไม่ยอม อ้างนู้นอ้างนี่บ้างล่ะ

“แหม เมื่อกี้ยังปฏิเสธแม่อยู่เลย พอบอกจะชวนน้องวินไปกลับลำเลยซะงั้น ลูกคนนี้นี่ หน้าตีจริงเชียว”

“แม่ชวนให้วินไปให้ได้นะครับ ผมจะได้ไปเป็นเพื่อนแม่ด้วยไง” ข้ออ้างชัดๆ ทั้งหมดทั้งมวลคืออยากไปเจอเขาก็เท่านั้นแหละ ผมจะยอมทนความน่าเบื่อก็ได้ถ้าวินไป

“แม่จะพยายามเพราะแม่อยากเจอน้องหรอกนะ”

“ครับ แบบไหนก็ได้ให้เขาไปพอ”

“งั้นแม่ไปโทรหาคุณษาก่อนดีกว่า” แล้วแม่ก็เดินออกจากห้องด้วยท่าทางตื่นเต้นไม่น้อยจนพ่อผมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะพ่อจะกดเปิดเสียงทีวีเพื่อดูข่าวต่อ

“เอ้อ พ่อว่าปลายอาทิตย์หน้าจะไปดูรถที่สิงคโปร์ เราจะไปด้วยไหม” พ่อหันมาถามผมที่กำลังปลดล็อคโทรศัพท์พอดีเมื่อมีการแจ้งเตือนจากไลน์ คนที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร

“พ่อจะซื้อรถใหม่เหรอครับ” คันที่พ่อใช้อยู่นี่ก็ยังใช้ได้ไม่ถึงปีเลย แปลกใจที่ท่านจะไปดูรถอีกแล้ว

“เปล่าหรอก อาเราเขาจะซื้อใหม่น่ะ เราก็ไปดูสิเผื่อจะอยากได้อะไร”

“งั้น...ถ้าผมไปเจอที่ถูกใจซักคันพ่อจะซื้อให้ป้ะ” พูดเย้าหยอกพ่อทั้งที่จริงผมก็ยังไม่ได้อยากได้คันใหม่อะไร คันที่ผมใช้อยู่ก็พึ่งใช้มาปีนิดๆเองครับ มันเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสที่ผมสอบติดมหาลัย

“ลองถ้าแกอยากได้ถ้าพ่อไม่ยอมซื้อให้ย่าแกก็บังคับพ่อให้ซื้อให้อยู่ดี”

“ฮ่าๆๆ แต่ผมไม่อยากได้หรอกครับพ่อไม่ต้องห่วง” คุณย่าท่านเป็นคนที่ตามใจผมมากครับ ถ้าผมอยากได้อะไรแล้วพ่อกับแม่ไม่ให้แค่โทรอ้อนท่านผมจะได้สิ่งนั้นทันทีโดยไม่มีข้อแม้ แต่ผมก็ไม่ได้ใช้อำนาจนี้ตลอดหรอกนะครับ ผมเองก็รู้ขอบเขตไม่ใช่วาอยากจะได้ไปซะทุกอย่าง พ่อกับแม่จะสอนให้คิดเองว่าสิ่งนั้นมันจำเป็นจริงๆไหม

 “สรุปจะไปดูไหม เผื่อเราจะไปดูอย่างอื่นด้วย ไปคืนวันศุกร์กลับคืนวันเสาร์”

“ไปครับ อาทิตย์หน้าผมไม่มีงานอะไรด้วย งั้น...เดี๋ยวคุยกันอีกทีตอนกินข้าวนะครับผมฝากบอกแม่ด้วย ขอตัวขึ้นห้องแป๊บนึง”

พูดไปทั้งที่ตายังอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ อ่านประโยคที่หมอฟันส่งมาทางไลน์โดยที่ยังไม่ได้ตอบเพราะคุยกับพ่ออยู่ จนหมอฟันเขาส่งสติกเกอร์เป็นตัวการ์ตูนโมโหมาว่าอ่านแล้วไม่ตอบให้ผมหลุดยิ้มออกมา

“ตามสบาย พ่อก็จะดูข่าวละ”

“ครับ” ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น แม่ผมนี่คงจะคุยยาว ป่านนี้ยังไม่กลับเข้าบ้านเลย ผมเดินขึ้นบันไดบ้านทั้งที่มือก็กดตอบวินไปด้วย

คุยกับพ่ออยู่ๆ

โอเค มีเหตุผล
ผ่านได้

หึหึ กลัวไม่อยากตอบรึไง

ใครบอกกกกกกกกกก
ไม่มี
ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบสิ!


แล้วใครกันที่ส่งสติกเกอร์อ่านแล้วไม่ตอบนั่นมาให้ผมกัน หึหึ

เชื่อๆ เชื่อก็ได้
แล้วนี่ทำไรอยู่ครับ


ดูหนัง
ง่วงอ่ะ
อยากนอน


นอนตอนเกือบจะหกโมงเย็นเนี้ยนะ

นอนตอนนี้จะตื่นตอนไหน
ห้ามนอน


วันนี้ฝนตกช่วงสี่โมงเย็นพึ่งหยุดไปเมื่อซักครู่อากาศเลยเย็นสบายน่านอน หมอฟันบ่นใหญ่เลยว่าพอฝนตกแล้วรถติด ดีที่ว่าผมเลิกเที่ยงตอนขับรถกลับบ้านฝนยังไม่ทันตก บรรยากาศแบบนี้ง่วงก็ไม่แปลกแต่พนันเลยว่าถ้านอนตอนนี้เดี๋ยวก็ตะตื่นตอนดึกแล้วจะนอนไม่หลับอีกเลย กว่าจะง่วงก็นู้นเช้าของอีกวัน ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

ฮืออออ
ง่วงจริงๆนะ
ไม่กินข้าวแล้วก็ยอม
อาบน้ำแล้วด้วย


ลงไปเดินเล่นให้สดชื่น
อย่ามัวแต่นอนเล่น
ถ้านอนคืนนี้ไม่หลับแน่


ก็นั่นแหละ
แต่ก็ง่วงอ่ะ
TT

ผมเดินถึงห้องพอดี นั่งลงบนเตียงแล้วเลยกดโทรหาซะเลย เผื่อได้พูดได้คุยจะทำให้อีกฝ่ายหายง่วงได้บ้าง

(ฮื่อออ ง่วงอ่ะ) ประโยคแรกเลยที่รับสาย เสียงก็เริ่มจะไปแล้ว อู้อี้เชียว

“ลุกขึ้นมาเร็ว ลงไปหาไรสดชื่นกินข้างล่าง”

(แม้แต่เอาของกินมาล่อยังขี้เกียจเลยตอนนี้) คิดดูว่าจะง่วงขนาดไหน ถึงขั้นที่บอกให้ลงไปกินยังไม่อยากจะไป ปกติไม่ต้องบอกเขาหรอก ถ้าจะบอกคงต้องบอกให้เลิกกินซะมากกว่า คุยกันที่ไรก็เห็นกินนู้นกินนนี่ตลอด

“หึหึ เด็ก” นอกจากดื้อยังได้ฉายาเพิ่มมาอีกเหนึ่งคือเด็ก เพราะว่าวินชอบทำตัวเหมือนเด็ก เวลาเจออะไรถูกใจหรือขัดใจงี้ เหมือนเด็กไม่มีผิด แต่ก็ยังดีที่เป็นเด็กมีเหตุผล ไม่ใช่งอแงง้องแง้งแบบนั้น

(เด็กอะไร อายุเท่ากันเถอะ ถ้าเราเด็กพัตก็เด็กเหมือนกัน) นิสัยเถียงอย่างไม่ยอมรับนี่ไม่เด็กเลย เขาไม่ยอมง่ายๆหรอกครับเวลาโดนกล่าวหาหรือมีอะไรที่ไม่พอใจ ดื้อจริงๆ

“อายุไม่เด็กหรอก นิสัยต่างหาก”

(งือออ ไม่เด็กซะหน่อย เราโตแล้วนะ) ดูคนที่บอกว่าตัวเองโตแล้วสิ หมดมาดเดือนทันตะหมดแล้ว นี่มีใครรู้บ้างไหมว่าเขามีมุมนิสัยแบบนี้ด้วย หึหึ

“เชื่อมากกก ลุกขึ้นยัง ได้ยินเสียงหนังนะ” ซาวน์เอฟเฟคดังออกมาถึงผมเลย เสียงปืนเสียงระเบิดนี่ดังสนั่นหวั่นไหว เห็นหน้าหวานๆแบบนี้ชอบดูหนังบู๊นะครับ วินเขาดูได้หมดทุกแนวแหละแล้วแต่อารมณ์ ตอนแรกที่บอกว่าชอบดูหนังแนวนี้ผมยังไม่เชื่อเลย พออีกฝ่ายถ่ายรูปแผ่นหนังมาเท่านั้นล่ะ มีหนังบู๊หนังแอ๊คชั่นเกือบร้อยเรื่อง แนวอื่นอีกมากมาย ตู้ใส่แผ่นหนังใหญ่กว่าตู้หนังสืออีกมั้ง

(ยังเลยยยยย ขี้เกียจมาก)

“งั้นเดี๋ยวเล่าเรื่องผีให้ฟังเอาไหม” เด็กทันตะเขากลัวผีมากครับ คือถ้าเล่าหรือรู้อะไรมานะก็จะคิดอยู่อย่างนั้น มีคืนนึงที่ผมแหย่เขาเรื่องนี้จนเขางอนไปเลย แต่ดีที่วินไม่ใช่คนงอนนาน พูดดีๆแป๊บเดียวก็หายแล้ว เป็นคนเข้าใจอะไรง่ายไม่ซับซ้อน
 
(เอาสิ ถ้าเล่าไม่ต้องคุยกันเลย ไม่รับสายไม่ตอบไลน์ไม่ตอบแชท ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น)

“พูดแบบงี้ใครจะกล้า อยากคุยด้วยทุกวัน” พอผมพูดเสร็จอีกฝ่ายก็เงียบไปเลย ไม่รู้ว่ากำลังเขินอย่างที่ผมอยากจะให้เขาเป็นรึเปล่า 

(ให้มันจริงเถอะ) ตอบกลับมาเสียงเบามากจนผมแทบไม่ได้ยิน ก่อนที่จะยิ้มออกมากับประโยคน่ารักนั่นเบาๆ ไม่เขินมากก็ต้องเขินน้อยแหละเสียงแบบนี้ น่ารักวะ

“หึหึ นี่หายง่วงยังสรุป”

(ดีขึ้นแล้วววว อีกเดี๋ยวจะลงไปข้างล่าง)

“ก็ดะ...”

ก๊อก ก๊อก

“แป๊บนึงนะครับ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์ให้ผมเอ่ยบอกปลายสายก่อนจะเดินไปเปิด แล้วก็เจอป้าวรรณยืนอยู่หน้าประตู

“อาหารเรียบร้อยแล้วนะคะ เชิญคุณพัตที่ห้องอาหารค่ะ”

“ขอบคุณนะครับ ทีหลังให้เด็กขึ้นมาตามก็ได้ ป้าวรรณไม่น่าขึ้นมาเองเลย เหนื่อยแย่” ป้าวรรณเป็นหัวหน้าแม่บ้านครับ เป็นคนที่ดูแลผมมาตั้งแต่เด็กเลย ท่านอายุค่อนข้างมากแล้ว เดินขึ้นเดินลงบ่อยๆผมกลัวว่าจะปวดแข้งปวดขาเอา

“ป้ายังสาวอยู่เลย ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ คิก...มัวแต่พูดเล่นเดี๋ยวเลยเวลาอาหารหมด ป้าลงไปดูความเรียบร้อยแล้วนะคะ” ยิ้มให้คนเก่าคนแก่ของบ้านกับประโยคนั้น ป้าวรรณเป็นคนอารมณ์ดีแล้วก็ใจดีมากๆด้วยครับ

“ครับ เดี๋ยวพัตจะตามลงไป”

“ค่ะ” พอเห็นว่าป้าวรรณเดินไปแล้ว ผมเลยกลับเข้ามาในห้องแล้วคุยกับอีกคนที่ถือสายรอต่อ

“วิน”

(หืม)

“เดี๋ยวพัตลงไปกินข้าวก่อนนะ เสร็จแล้วไลน์หา”

(โอเค เรากำลังหาไรกินเหมือนกัน ) มีเสียงหัวเราะน้อยๆตามมาด้วย อารมณ์ดีของเขาล่ะเวลาที่มีของกิน ที่นี้ไม่ง่วงแล้วเชื่อผมสิ
“ครับ”

วางสายไปแล้วเลยเดินลงไปทานข้าวข้างล่างที่พ่อกับนั่งรออยู่ก่อน ทันทีที่เดินเข้าไปถึงห้องอาหารยังไม่ทันจะนั่งลงแม่ก็เอ่ยบอกอย่างรวดเร็ว

“พรุ่งนี้วินก็จะไปงานด้วยจ้ะ” ผมว่ามีคนตื่นเต้นยิ่งกว่าผมอีกนะครับ==







******************************************




Talk




*แล้วก็เหมือนว่าจะยาวขึ้นกว่าตอนที่แล้วนิดนึง5555 มันเหมาะเจาะที่ตรงนี้อ่ะค่ะเลยต้องเอาเท่านี้ ไม่ว่ากันเนอะ(ตอนหน้าน่าจะยาวกว่าเน้ๆๆๆ สัญญา><)....ครอบครัวพัตเขาน่ารักเนอะะะะะะะ เรียกว่าทุกอย่างให้พัตตัดสินใจเองเลยนะคะ จะไม่มีการบังคับใดๆเลย  :mew3: :mew3: ส่วนเนื้อหาอาจจะมีการคุยกันของพัตกะวินผ่านโซเชียลบ่อยเพราะไม่ได้อยู่ด้วยอ่ะเนอะ(จะพยายามทำให้มาอยู่ด้วยกันบ่อยๆเน้อ :mew1: :mew1: ) แล้วก็จะดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วนะคะ เพราะคนเขียนมองว่าความรู้สึกมันเกิดขึ้นได้โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาใดๆ แล้วพัตเขาก็แอบชอบมาปีนึงแล้วเนอะ วันนี้ที่เขาตัดสินใจดีแล้วก็เลยบุกอย่างเต็มที่ :-[ :-[ พอวินเขาสัมผัสได้ถึงความจริงใจที่พัตมีมันเลยเป็นตามนั้นเลยค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:


**เหนื่อยกับเรียน เหนื่อยกับงาน เหนื่อยกับการจะสอบ...เลยหนีมาอัพนิยายซะเลย :katai1: :katai1: น่าจะมาซักวันเว้นวันจะได้ไม่ช้าเกินอ่ะเนอะ(ที่จริงอยากมาทุกวัน แต่ยุ่งจีจีTT)

***ขอบคุณทุกคนที่อ่านที่ติดตาม และที่สำคัญคือขอบคุณทุกคอมเม้นต์มากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆ  :L1: :L1:

สุดท้ายแล้วจริงๆสำหรับทอล์ค555555 ใครอยากติดต่อคนเขียน ตามทวงตามจิกหรืออยากรู้จักก็ถามช่องทางการติดต่อจากวินเขาได้เลยนะคะ(Ask.fm/@Winnapat_Win) ยังไม่มีเพจเป็นของตัวเอง(เพราะกลัวไม่มีคนถูกใจ :mew6: :mew6: ) ถ้ามีคนอยากรู้จักค่อยว่ากันเนอะ(คงไม่มีใครอยากรู้จักหรอก กระซิกกกกก :mew4: :mew4: )

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
« ตอบ #39 เมื่อ: 07-09-2015 21:56:20 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Noostar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #40 เมื่อ07-09-2015 22:12:16 »

ชอบบบบบบบอยากอ่านทุกวันเลย น่ารัก

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #41 เมื่อ07-09-2015 22:34:03 »

ฝั่งนี้ให้ผ่านละ ฝั่งนู่นว่าไง

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #42 เมื่อ07-09-2015 22:37:03 »

คุณพ่อคุณแม่น่ารักจังเลยค่าา~~ :กอด1: โดยเฉพาะวิธีการเลี้ยงดูพัตนี่เป็นอะไรที่วิเศษมากๆ เพราะกับลูกเราเลี้ยงเขาได้แค่ตัวเท่านั้นล่ะเนอะ ส่วนเรื่องของใจต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าตัวเขาเองว่าต้องการสิ่งไหน หรืออยากจะรู้สึกกับใครยังไง ^^

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #43 เมื่อ07-09-2015 23:39:23 »

ครอบครัวน่ารักจัง

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #44 เมื่อ08-09-2015 01:02:14 »

สนุกจัง ชอบอ่ะ ไม่มาม่าใช่ไหม 5555555
#วินพัต #พัตวิน

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #45 เมื่อ08-09-2015 01:03:46 »

ครอบครัวพัตผ่านฉลุยเลย ส่วนทางฝั่งวินคงผ่านเหมือนกันเพราะดูน่ารักขนาดนี้ต้องรู้กันอยู่แล้วว่าวินเป็นแบบไหน :katai2-1:

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #46 เมื่อ08-09-2015 01:09:03 »

ทีแรกนึกว่าคุณแม่จะไม่โอเคเสียแล้ว ผิดคาด ยินดีเปิดบ้านรอรับลูกสะใภ้ขนาดนี้
พัตก็สู้ต่อไปนะ เห็นวินคุยเล่นด้วยอะไรด้วยแบบนี้ดูดีมีความหวังมากๆ
ตอนต่อไปจะไปเจอกันที่งานรึเปล่าน้า
 :katai2-1:

ออฟไลน์ kub_kwonny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #47 เมื่อ08-09-2015 01:13:42 »

น่ารักอะ :katai2-1:

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
Re: "แอบรัก" ตอนที่4 07/09/2558
«ตอบ #48 เมื่อ08-09-2015 01:14:56 »

น่ารักอ่ะ มาต่ออีกนะ^^

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: "แอบรัก" ตอนที่5 11/09/2558(02.49) p.2
«ตอบ #49 เมื่อ11-09-2015 02:44:05 »


ตอนที่5

ผมยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกเพื่อเช็คความเรียบร้อย งานเลี้ยงวันนี้ไม่ใช่งานเป็นทางการอะไรมากมายทั้งบอกว่าเป็นงานเลี้ยงของสมาคม ชื่อเหมือนจะเป็นทางการแต่เปล่าครับ เหมือนจัดขึ้นเพื่อแค่อยากพูดคุยพบปะสังสรรค์กันซะมากกว่า วันนี้เลยเลือกเป็นชุดกางเกงยีนส์เข้ารูป เสื้อยืดสีเทาทับด้วยเบลเซอร์ดึงขึ้นถึงข้อศอก(เสื้อที่มีลักษณะเหมือนเสื้อสูท แต่จะดูไม่เป็นทางการมากนัก:คนเขียน) พร้อมกับรองเท้าหนัง นอกจากเสื้อยืดแล้วทุกอย่างล้วนดำหมดตามสไตล์ผม เสื้อผ้าสีอื่นนี่แทบจะไม่ค่อยใส่ มีแค่ขาว ดำ เทา วนกันอยู่แค่นี้จนบางทีแม่ก็บ่นให้ว่าเปลี่ยนสไตล์บ้าง ท่านบอกมองผมแล้วมันช่างไม่มีความสดใสเอาซะเลย

“คุณพัตคะ คุณท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงที่แทรกเข้ามาจากคนที่อยู่ข้างนอก

“ครับ” ผมตะโกนรับคำเด็กในบ้านก่อนจะหันไปหยิบนาฬิกาเรือนโปรดมาสวมพร้อมกับคว้าโทรศัพท์ติดมือมาด้วย เดี๋ยวนี้เครื่องมือสื่อสารชิ้นนี้กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้วล่ะครับ ต้องพกติดตัวไว้ตลอด

“แต่งตัวซะหล่อเชียวนะจ๊ะ” มาถึงก็โดนแม่แซวจนพ่อผมหลุดหัวเราะ วันนี้ไปกันสองคนครับ พ่อผมไม่ไปหรอกงานแบบนี้ อยู่ชิลที่บ้านสบายๆคนเดียว ความสุขเขาล่ะ

“คนหล่อแต่งแบบไหนก็หล่อครับ” ไม่ต้องสาธยายว่าแม่ทำหน้าหมั่นไส้ผมแค่ไหน

“สองแม่ลูกมัวแต่คุยกันระวังไปสายล่ะ”

“คุณอยู่เฝ้าบ้านคนเดียวไปเลยนะคะ ฉันกับลูกจะไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก...ไปกันดีกว่าจ้ะลูกชาย ทิ้งคนแก่ให้อยู่คนเดียวไป” พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนที่ร่างเล็กๆของแม่จะเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าบ้าน ผมและพ่อเลยได้แต่มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่ ไม่มีหรอกที่พ่อผมจะสะทกสะท้าน แม่ผมจะทำอะไรก็ไม่เคยทำให้พ่อผมขุ่นเคืองเลย ตามใจสุดๆอ่ะ

“ผมไปแล้วดีกว่านะครับพ่อ”

พ่อพยักหน้ารับโดยที่ยังยิ้มเช่นเดียวกับผม แต่รีบไปดีกว่าก่อนที่คุณนายท่านจะรอนาน พอบอกพ่อเสร็จก็รีบตามแม่มาให้รถได้เคลื่อนตัวออกไป วันนี้ผมกับวินก็คุยกัน(เป็นกิจวัตรไปแล้ว)แต่ผมไม่ได้บอกว่าจะไปงานนี้เหมือนกัน ระหว่างที่คุยกันอีกฝ่ายบอกแค่ว่าวันนี้ต้องไปงานเป็นเพื่อนแม่บ่นว่าคงเบื่อเพราะไม่รู้จักใคร หึหึ เอาไว้ถึงงานแล้วค่อยเซอร์ไพรส์ทีเดียวเลยดีกว่า เราคุยกันครั้งล่าสุดคือช่วงเที่ยงๆก่อนที่วินจะหายเงียบไปเพราะต้องเตรียมตัว ซึ่งเป็นเวลาที่ผมเองก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกัน







“เป็นเกียรติจริงๆค่ะที่คุณพิมพ์มา”

“คุณหญิงนุชก็ พูดอะไรอย่างนั้นคะ ดิฉันต่างห่างที่รู้สึกเป็นเกียรติที่คุณหญิงเชิญมา...แล้วส่วนนี่ก็ตาพัตค่ะ ลูกชายของดิฉันเอง”

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มให้คุณหญิงนุชอย่างนอบน้อม

“สวัสดีจ้ะ แหม หน้าตาดีได้คุณพิมพ์กับคุณชัตเลยนะคะ เสียดายที่น้องดาวยังไม่ลงมา เดี๋ยวเอาไว้ทำความรู้จักกันไว้นะลูก” สายตาไม่ค่อยจะบ่งบอกว่าอยากให้รู้จักแค่ไหนเลยครับ พราวระยับจนผมต้องยิ้มแหยๆ

“อ้าว นั่นคุณษามาพอดีเลย...สวัสดีค่ะคุณษา”

ก่อนที่จะได้พูดอะไรให้ผมอึดอัดใจมากกว่านี้ก็ดูเหมือนว่าคนที่ผมรอจะมาซักที คนที่อยู่ในชุดกางเกงเข้ารูปสีขาวกับเชิ้ตสีชมพูอ่อน ผมที่เคยล้อมกรอบหน้าหวานก็ถูกเซ็ตขึ้นไปอย่างดีขับให้เห็นใบหน้าหวานชัดๆดูน่ารักไปอีกแบบ พออีกฝ่ายเห็นว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ตาโตๆก็เบิกขึ้นมาอย่างมีคำถาม แถมดูเหมือนจะมีแววคาดโทษด้วยที่ผมไม่เอ่ยบอกอะไรไรซักคำ

“คุณหญิงนุช คุณพิมพ์สวัสดีค่ะ นี่วินค่ะ ลูกชายคนเล็ก...วินสวัสดีคุณหญิงนุชกับคุณป้าพิมพ์สิจ๊ะ” ร่างเล็กเลยต้องผละสายตาออกจากผมก่อนจะไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนพร้อมรอยยิ้มหวาน แม่ผมดูจะเป็นปลื้มซะเหลือเกิน สายตาที่มองวินเอ็นดูมากแบบที่ไม่รู้ว่าแม่เคยมองผมแบบนั้นบ้างไหม==

“สวัสดีจ๊ะ โอ๊ย นี่ป้าไม่ได้เจอน้องวินมาซักพักแล้วนะคะ เป็นไงบ้างลูก”

แล้วก็รีบเข้าไปคุยกับวินทันทีเมื่อทักทายกันตามารยาทเสร็จเรียบร้อย(ไม่ค่อยจะเห่อเลย) คือวินกับแม่ผมเคยเจอกันเพราะแม่ผมไปที่ร้านของคุณแม่วินบ่อย แต่เขาไม่รู้หรอกครับว่าเป็นแม่ผม ป้าษาแม่ของวินเองก็เหมือนกัน เพราะว่าผมไม่เคยไปที่นั่น แล้วงานสังคมของผู้หญิงแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยมาด้วย

“สบายดีครับ ป้าพิมพ์ล่ะครับสบายดีไหม” เขาคุยกันงุ้งงิ้งๆกันอยู่สองคนนั่นแหละ แม่ผมนี่ทั้งพูดทั้งจับตัวลูบตัว ขนาดผมยังไม่เคยทำแบบนั้นเลยนะ

“ป้าสบายดีจ้ะ โอ๊ะ...จริงสิ นี่ลูกชายป้าเอง อายุเท่ากันนี่จ้ะเรียนมอเดียวกันด้วย รู้จักกันไว้สิลูก”

“รู้จักกันแล้วครับแม่” ผมชิงเอ่ยบอกทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแม่จงใจแกล้งผมในขณะที่วินมีสีหน้าหลุกหลิกเล็กน้อย สายตาที่มองมาทำไมผมจะไม่รู้จักแม่ตัวเองว่าตอนนี้ท่านกำลังสนุกแค่ไหน คงอยากจะแกล้งให้พวกผมหลุดอาการออกมา

“อ้าว รู้จักกันแล้วเหรอจ้ะ งั้นปล่อยให้เด็กๆอยู่ด้วยกันดีกว่า เราเข้าไปข้างในกันดีกว่านะคะ รู้สึกว่าคุณหญิงมนีก็จะมาถึงแล้วเหมือนกัน ทางนั้นค่ะๆ”

แม่ผมนี่เป็นตัวตั้งตัวตีเลยทีเดียว ลากทั้งคุณหญิงลากทั้งแม่ของวินออกไปทั้งที่พวกท่านยังงงๆเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ทิ้งให้ผมกับวินยืนมองหน้ากันอยู่สองคน ผมมองเขาด้วยรอยยิ้มแต่กลับอีกคนนี่ไม่ใช่เลย

“ไม่เห็นบอกเราเลย” เมื่อไม่มีใครก็เลยดูเหมือนว่างานจะเข้าผมคนเดียว วินหันมาพูดด้วยเสียงเรียบพร้อมกับปากบางๆนั้นเชิดขึ้นอย่างที่แสดงออกว่ากำลังไม่พอใจ ผมเลยขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิมเพื่อพูดคุย

“ก็...เซอร์ไพรส์ไง”

“ไม่ต้องมาพูดเลย” หน้าเล็กๆนั่นหันไปมองทางอื่นเสียแล้ว ผมเลยเนียนจับมืออีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆลูบเบาๆอย่างอนง้อ เสียวเหมือนกันว่าวินจะสะบัดออกแต่ก็โล่งใจที่เขาไม่ทำแบบนั้น มีเพียงสายตาที่หลุกหลิกไปมาพร้อมกับพวงแก้มที่ขึ้นสีจางๆ หึหึ อาการแบบนี้แถวบ้านผมเรียกว่าเขิน

“ขอโทษที่ไม่ได้บอก หายงอนนะ”

“คะ ใครงอน เราไม่ได้งอนซะหน่อย” เชื่อเขาไหมครับ หึหึ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะถือว่ามีความผิดอยู่ เขาบอกไม่ก็คือไม่ ผมไม่เสี่ยงที่จะเพิ่มคดีตอนนี้นะ

“ครับๆ ไม่งอนก็ไม่งอน ถ้างั้นคนไม่งอนไปนั่งคุยกันตรงสวนดีกว่าเนอะ อยู่ตรงนี้อึดอัดจะแย่”

ตรงนี้คนค่อนข้างพลุกพล่าน ส่วนมากก็มีแต่คนมีอายุทั้งนั้น ผมเลยหาทางพาวินไปนั่งตรงสวนย่อมเงียบๆสองคนดีกว่า ไม่ได้รอให้วินตอบรับแต่จัดการกุมมือที่จับไว้ให้เดินตามมา ตรงนี้มีมานั่งให้นั่งไว้เรียบร้อย ไม่มีใครรบกวนด้วย

“ปล่อยได้แล้ว” แรงกระตุกที่มือน้อยๆทำอะไรผมไม่ได้หรอก รู้สึกดีจนไม่อยากปล่อย มือเล็กๆนี่นุ่มมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก นุ่มยิ่งกว่ามือผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยจับ แล้วถามว่าแค่เสียงเล็กๆกับแรงกระตุกแค่นี้จะทำอะไรผมได้ไหมก็ตอบเลยว่าไม่ครับ แถมผมยังกระชับมือวินให้แน่นกว่าเดิมซะเลย

“ขอจับไม่ได้เหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน”

“ตอนจับไม่เห็นจะขออะไรเราเลย แล้วถึงไม่ได้เจอก็คุยกันทุกวันเหอะ” ปากก็พูดไปงั้นแต่แรงกระตุกนั้นหายไปแล้วอย่างเหมือนว่าสุดท้ายก็ยอมให้จับอยู่ดี เขาเป็นคนใจดีอ้อนนิดๆหน่อยก็ไม่กล้าปฏิเสธแล้ว ผมอมยิ้มกับตัวเองในใจอย่างพยายามไม่แสดงอาการลิงโลดออกไป อ้อยเข้าปากช้าง

“คุยแต่มันก็ไม่เหมือนเห็นตัวจริง”

“ก็เห็นแล้วนี่ไงงงงงงง”

สุดท้ายก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม นึกว่าจะแกล้งงอนได้นานกว่านี้ซะอีก เขาก็เป็นคนแบบนี้ เคยถามเหมือนกันว่าเคยโกรธใครมากๆไหม ซึ่งคำตอบก็ไม่ได้ต่างจากความเป็นเขาเลย วินบอกโกรธนานคนที่ไม่มีความสุขก็คือตัวเองเลยไม่รู้จะโกรธไปอีกทำไม แต่ความรู้สึกของเขาจะเป็นการเฉยๆไม่รู้สึกอะไรด้วยและไม่คุย หลีกเลี่ยงคนที่ทำให้ไม่พอใจอย่างต่างคนต่างอยู่ ซึ่งผมว่าแบบนั้นมันอึดอัดกว่าการด่าออกมาตรงๆอีกนะ

“ก็เห็นแล้ว อุตสาห์มาเพราะอยากเจอหน้าเลยนะ” แก้มป่องๆนั้นดูเหมือนจะขึ้นสีอีกแล้วจนผมอดจะยิ้มกว้างไม่ได้ แต่พอยิ่งผมยิ้มแก้มวินก็ยิ่งแดงขึ้นซะงั้น สายตาที่สบกันก็เสมองนั่นมองนี่อย่างน่ารัก

“มะ ไม่ต้องมาพูด มาก็ไม่บอก ปล่อยให้เราคิดว่าไม่มีเพื่อนอยู่ได้ เอ้อ ใช่สิ...ป้าพิมพ์เป็นแม่พัตเหรอ โลกกลมเนอะ แต่ไม่เห็นจะเหมือนกันเลย ป้าพิมพ์ใจดีจะตาย” อ้าว หมอฟันเขาพูดแบบนี้จะด่าว่าผมไม่ใจดีเหรอ

“แล้วพัตไม่ใจดีตรงไหน”

“ทุกตรง...โหด ชอบดุ ขี้แกล้ง ไม่ดีเลยยยย”

“จริงเหรอ งั้นวินก็ไม่อยากคุยกับเราดิ”

เอาดราม่าเข้าข่มเขาซะเลย วินดูหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัดเพราะสรรพนามที่เปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้ผมจะคุยกับเขาโดยเรียกชื่อตัวเองแทนแล้ว พอครั้งนี้ใช้คำว่าเราแทนเหมือนเดิมคงคิดว่าผมจะโกรธ ทั้งที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นซักนิด ที่เขาพูดมาผมยอมรับหมดแต่ผมเองก็มีเหตุผลนะ ไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอด ที่เขาโดนผมโหดผมดุบ่อยก็เพราะว่าชอบดื้อไง ไอติมงี้กินจนบางวันเสียงหาย ดึกดื่นก็ดูหนังไม่ยอมนอน โดนผมใส่ไปตามระเบียบ โทรไปดุเลยด้วย

“ไม่ใช่ซะหน่อย ไม่อยากคุยจะยอมคุยทุกวันหรือไง” เสียงอ่อยเลยครับ ผมแค่แกล้งทำหน้านิ่งๆเข้าไว้

“งั้นแสดงว่าอยากคุยด้วยเหรอ” ทนไม่ไหวหลุดยิ้มจนได้ ใครบอกให้เดือนทันตะน่ารักขนาดนี้กันล่ะ

“พัต! นี่แกล้งเหรอ นิสัยไม่ดี แกล้งเราาาา ไอ้ขี้แกล้ง เราจะฟ้องป้าพิมพ์คอยดู” เมื่อเห็นผมปรับสีหน้ากลับมาเป็นแบบเดิมอย่างรวดเร็ว หมอฟันเขาเลยรู้ครับว่าโดนผมแกล้ง หน้าหวานๆนั้นยู่ยี่จนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ตลกทั้งสีหน้าและคำพูดของเขา

“ฮ่ะๆๆ เด็กขี้ฟ้องเอ้ย”

“ไม่ต้องมาพูดเลย!”

“หึหึ เลิกแกล้งแล้ว หิวไหม เดี๋ยวพัตไปเอาของกินมาให้ดีกว่า” เพราะออกมางานเลยไม่ได้ทานอะไรมา คาดว่าคนตัวเล็กนี่ก็เหมือนกัน ยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา เกือบจะทุ่มนึงแล้ว

“หิวแล้ววววว มากด้วย แต่เดี๋ยวไปด้วยกันดีกว่า” งานกินไม่มีหรอกที่จะปฏิเสธ พอพูดถึงเรื่องกินนี่หน้าตาสดใสยิ้มรื่นเลย

“งั้นปะ” กำลังจะลุกขึ้นแต่วินเรียกไว้ซะก่อน

“เดี๋ยว...จับมือแบบนี้จะไปยังไงเล่า ปล่อยได้แล้ว” อ้าว ก็เพลินนี่ครับ อุตสาห์เนียนมาได้ตั้งนาน เจ้าของมือนุ่มๆเขารู้ตัวซะแล้ว

“ครับๆ” ผมยิ้มให้คนตัวเล็กก่อนจะปล่อยมือแล้วเดินนำเข้าไปในงานทางโซนอาหารการกิน แน่นอนว่ามีมากมายจนวินอยุ่ไม่สุข เดินเข้าตรงนู้นเดินเข้าตรงนี้ทำตาโตตลอดเวลา นี่เขาจะตื่นเต้นมากเกินไปไหม อาการเหมือนเด็กเจอของเล่นกลับมาอีกแล้ว

“เดี๋ยวเราไปเอาน้ำให้ พัตเอาน้ำอะไร” ใจดีจะเอาน้ำเผื่อด้วย ก็ในเมื่อทุกอย่างของเขาอยู่ในมือผมหมดเลย จานใบใหญ่ที่มี
อาหารจนพูนสองจาน คนตักคือเดือนทันตะครับ อ้างว่าเผื่อผมบ้างล่ะ เผื่อชิมบ้างละ ตักมาเกือบจะทุกอย่าง สงสัยว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่วินยอมมา เพื่อของกิน==

“พัตอย่าลืมหยิบวุ้นให้เราด้วยนะ แหะๆ” ยังครับ ยังไม่หมด เจ้าตัวบอกว่าอยากกินวุ้นแต่ผมบอกค่อยเดินมาตักเป็นอย่างสุดท้าย นี่ทวงสัญญาแล้ว พูดเสร็จก็ยิ้มแล้ววิ่งดุ๊กๆไปเฉย ผมยืนส่ายหน้าอย่างอ่อนใจก่อนจะเดินเอาจานทั้งสองไปวางไว้ที่โต๊ะก่อนโดยเลือกที่ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวแล้วเดินกลับมาเอาวุ้นให้เดือนทันตะ

“มาคนเดียวเหรอคะ”ผมเงยหน้ามองเสียงที่ดังขึ้นข้างตัว แล้วก็ไม่แปลกใจซักนิดที่เธอเข้ามาหา ที่จริงผมเห็นอยู่นานแล้วตั้งแต่เดินเข้ามาที่นี่ว่าผู้หญิงคนนี้ส่งสายตามาแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกหลังจากที่บังเอิญเหลือบไปเห็นแล้วเธอส่งยิ้มให้ ดูท่าว่าคราวนี้จะไม่ทำแค่ยิ้มแล้วถึงได้เดินเข้ามาหาขนาดนี้

“เปล่าครับ”

“อ๋อ เห็นอยู่คนเดียวก็นึกว่ามาคนเดียว พลอยเลยเข้ามาทักเพราะไม่มีเพื่อนน่ะค่ะ จะรังเกียจไหมคะถ้าพลอยจะขอนั่งด้วย” มาคนเดียว? ทั้งที่ผมยืนอยู่กับวินตลอดแล้วเธอก็เห็นนี่นะบอกว่านึกว่าผมมาคนเดียว

“พลอยขอนั่งด้วยนะคะ ^^” ครับ แล้วจะถามผมเพื่ออะไร== เอาจริงๆเมื่อกี้ผมจะบอกไปแล้วว่าไม่สะดวก ไม่คิดว่าเธอจะมัดมือชกผมขนาดนี้ ยังไม่ทันที่จะได้พูดเธอก็นั่งลงไปเลยแล้วอย่างนี้ผมจะพูดอะไรได้

“แล้วชื่อ...”

ปึก!!!!!!

“วิน!” คนที่ไปเอาน้ำช่างกลับมาได้ถูกเวลาจริงๆ  เพียงแต่ดูท่าว่าจะไม่พอใจอะไรซักอย่างอย่างรุนแรงจนส่งผลให้แก้วน้ำที่ถูกวางลงกระแทกลงโต๊ะจนเกิดเสียง หน้าหวานๆนั้นก็บูดบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์ ตาโตๆที่เคยแพรวพราวตอนนี้กลับขุ่นมัว วินในด้านที่ผมยังไม่เคยเห็น

“เราไปนั่งที่อื่นนะ!” เอ่ยเสร็จมือเล็กก็ยื่นมาหยิบจานอาหารของตัวเองไป

“วิน...เดี๋ยวดิ จะไปไหน” ผมรีบคว้าแขนเขาเอาไว้ก่อนจะถามออกมา ตอนนี้สนใจแค่คนตรงหน้าอย่างเดียว แม้แต่ใครอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเลยซักนิด

“เราไม่อยากนั่งตรงนี้ จะไปนั่งที่อื่น” ตอบทั้งที่ไม่มองหน้า ผมเริ่มขมวดคิ้วสงสัยว่าอีกคนเป็นอะไร ผมไม่แน่ใจว่าเขาไม่พอใจอะไร หรือไม่พอใจที่มีคนมานั่งร่วมโต๊ะด้วย แต่ผมก็กำลังจะปฏิเสธเธออยู่แล้วนะ แม้ว่าวินจะยังไม่มาก็ตาม

“โอเค งั้นจะนั่งตรงไหน เดี๋ยวพัตไปด้วย” ผมตามใจเขาอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่อยากนั่งตรงนี้ก็เปลี่ยนเป็นที่อื่นก็แค่นั้น นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไรของผมเลย แค่วินพอใจผมก็โอเคหมด

“เอ่อ พัตคะ...”

“พัตมีเพื่อนแล้วก็นั่งตรงนี้ไปสิ เราไม่อยากกวน ปล่อยแขนเราด้วย” ผมไม่แม้แต่จะสนใจเสียงเล็กๆที่เอ่ยเรียกซักนิด ไม่สนด้วยว่าเธอจะรู้จักชื่อผมได้ยังไง สนใจแค่คนที่ดึงดันจะนั่งโต๊ะอื่นให้ได้นี่แหละ

“ไม่ใช่เพื่อน ไม่รู้จัก...ยะ”

“น้องวินครับ” กำลังจะพูดว่าอยากนั่งด้วยกัน แต่ยังไม่ทันจะจบประโยคเสียงเรียกชื่อของคนที่ผมยังจับแขนเขาไว้อยู่ก็ดังขึ้น ทั้งผมและพัตหันไปมองคนที่ก้าวเข้ามา โอเค อารมณ์หงุดหงิดผมเริ่มมาแล้วเมื่อเห็นว่าเป็นใคร...ไอ้พี่การ์ด!

“น้องวินก็มางานนี้เหมือนกันเหรอ ไม่เห็นบอกพี่เลย” แล้วทำไมวินต้องบอกมึงวะ! ผมคิดอย่างหงุดหงิดอยู่ในใจ แค่เห็นหน้ามันก็หงุดหงิดมากอยู่แล้ว

“ครับ พอดีคุณแม่ชวนมา” ผมหันฟรึบไปมองวินทันที คือเขาคุยกันก็เรื่องปกติ มีคนถามวินก็ต้องตอบ แต่ประเด็นที่ทำให้ผมโคตรหงุดหงิดเพราะมันเป็นไอ้พี่การ์ดไง คนที่กำลังจีบวินอยู่เหมือนกัน

“พอดีเลย พี่ก็มากับคุณแม่ ไม่มีเพื่อนด้วย น้องวินนั่งไหนพี่ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ”

ตอนนี้รู้สึกว่าเส้นเลือดตรงขมับจะเต้นตุบๆ วินไม่หันมามองผมซักนิด มองแต่ไอ้เดือนวิศวะอะไรนั่น ใช่สินะ ผมลืมว่าเขามาก่อน รู้จักและอาจจะคุยกันมาก่อน เผลอๆก็คงจะสนิทกันมากกว่าผมอีกมั้ง พอคิดแบบนั้นมือที่จับแขนอีกคนเลยปล่อยลงดื้อๆให้วินหันมามอง สายตาของเขาไม่เห็นจะเป็นมิตรเหมือนที่มองคนที่เข้ามาใหม่เลย...

“จะนั่งก็ตามสบายแล้วกัน”

ผมมองหน้าวินก่อนจะตัดสินใจลุกออกมาจากตรงนั้น ไม่กงไม่กินอะไรมันแล้ว ไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้นแหละตอนนี้ หมุนตัวเดินกลับไปทางส่วนย่อมที่มาตอนแรก สูดลมหายใจแรงๆเพื่อลดความขุ่นมัวในใจ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวยิ่งหงุดหงิด ในเมื่อทำยังไงก็ลดอาการนี้ของตัวเองลงไม่ได้ผมเลยล้วงบุหรี่ที่พกมาขึ้นมาสูบ ปกติก็ไม่ติดหรอกครับแต่พกบ้าง วันนี้หยิบมาเล่นๆไม่คิดว่าจะได้ใช้จริงๆ อัดนิโคตินเข้าปอดก่อนจะปล่อยควันออกมาอย่างหวังว่ามันจะทำให้หัวผมโล่งขึ้นบ้าง

“ทำไมต้องสูบ” ผมหันมามองเดือนทันตะที่มีสีหน้าไม่ค่อยชอบใจนักก่อนจะหันหลังให้เขาทันที ไม่อยากให้เขาได้กลิ่นควันบุหรี่เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพผมรู้ อีกอย่างก็ยังไม่อยากมองหน้าเขา ไม่อยากคุยกันตอนที่ผมยังอารมณ์ไม่ดี

“เราถามทำไมไม่ตอบ พัตสูบบุหรี่ทำไม!” แรงกระชากท่อนแขนทำให้ผมถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้ปลายมันให้มอด หมุนตัวหันกลับมาหาคนที่ผมยืนหันหลังให้ในตอนแรก

“เราแค่อยากสูบ วินมีอะไร” พยายามตอบเขาอย่างข่มอารมณ์ ผมรู้ว่าการคุยกันด้วยอารมณ์มันไม่ดี และตอนนี้อารมณ์ผมก็ไม่ค่อยคงที่ ไม่อยากทำหรือพูดอะไรที่อาจจะทำให้เขาเสียใจ ผมกำลังพยายามอย่างมากที่จะควบคุมมัน

“แล้วทำไมต้องอยากสูบ มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ” ดูเหมือนว่าวินเองก็พยายามเย็นลงไม่ต่างจากผมเหมือนกัน แววตาคู่นั้นเจือไปด้วยความสั่นไหว คำพูดที่ออกจาปากเล็กก็ราวกับว่าเป็นห่วง

ไม่สิ...มันเป็นแค่เพียงการคิดเข้าข้างของตัวผมเอง

“อืม” ไม่รู้ว่าจะเอ่ยคำไหนเลยเลือกตอบออกมาสั้นๆ แล้วไม่รู้ว่าทำไมแววตาของอีกคนถึงได้มีแววตัดพ้อขนาดนี้

“ทำไมพัตต้องทำเหมือนไม่อยากคุยกับเรา” น้ำเสียงนั้นสั่นเครือจนผมสัมผัสได้ แววตาคู่งามสั่นไหวอย่างที่ผมไม่ต้องการเห็นมันซักนิด พลันอารมณ์ขุ่นมัวที่เกิดขึ้นก็หายไปเกือบครึ่งเมื่อเห็นท่าทางของวิน ท่าทางที่เหมือนว่า...เขาเสียใจ

“เราไม่ได้ไม่อยากคุย คือ...จะว่าไงวะ”เอามือเสยผมที่เซ็ตมาอย่างดีของตัวเองด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดเพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง ไม่ใช่ว่าไม่อยากคุยแต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่พร้อมที่จะคุย อย่างที่บอกไปว่าผมกลัวอารมณ์ของตัวเอง ในขณะที่อารมณ์ไม่คงที่ผมจะพยายามอยู่คนเดียว เก็บมันเอาไว้ เพราะถ้าผมควบคุมตัวเองไม่ได้จนหลุดพูดได้เลยว่าทุกอย่างต้องเละแน่ๆ และผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับวิน

“โอเคๆ ไม่ได้ไม่อยากคุยกับวิน เราแค่...อารมณ์ไม่ดี”

“แล้วทำไมอารมณ์ไม่ดี”ดูท่าว่าเจ้าตัวจะไม่รู้ซักนิดว่าไอ้อาการที่ผมเป็นแบบนี้ก็มาจากเขานั่นแหละ แต่จะพูดไปมันก็คงจะดูไร้สาระเกิน อย่าลืมว่าตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ตัวผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจ ผมว่าบางทีผมคงต้องคิดเรื่องนี้ขึ้นบ้างแล้ว ไม่อยากจะรออะไรทั้งนั้น การที่ไม่มีสิทธิ์ในตัววินแบบนี้มันทำให้ผมอึดอัด แต่ถ้าพูดไปก็กลัวว่าจะทำให้เขาอึดอัดเช่นกัน กลัวว่าเดือนทันตะอาจจะยังไม่พร้อม...

“คือ...เราไม่อยากพูดถึงมันแล้ว ช่างมันเถอะ” เพราะกลัวว่ายิ่งขุดจะยิ่งทำให้อารมณ์ที่คุกกรุ่นกลับมาอีก ปล่อยๆมันไปเถอะ ผ่านไปซักพักผมคงจะดีขึ้นเอง

“ไม่อยากบอกเราเพราะอยากบอกกับแค่ผู้หญิงคนนั้นหรือไง” คิ้วขมวดทันทีเมื่อวินพูดประโยคนั้น เขาหมายถึงผู้หญิงคนไหน?

“วินหมายถึงใคร”

“มีหลายคนจนจำไม่ได้เหรอ”

อารมณ์ที่ดูเหมือนจะดีขึ้นนิดๆกลับต้องแย่ลงทันที ท่าทางและน้ำเสียงของวินมีแววตัดพ้อและประชดประชัน ผมไม่ได้ไม่โอเคกับท่าทางของเขาแต่ที่ไม่โอเคก็คือคำพูดที่เหมือนจะดูถูกนั่น ถ้าเขารู้ว่าผมชอบเขามานานแค่ไหนเขาจะไม่พูดแบบนี้เลย ยอมรับว่ามีคนเข้าหาเยอะแต่หนึ่งปีที่ผ่านมาผมไม่เคยตอบรับสัมพันธ์จากใคร ไม่มีการสานสัมพันธ์หรือแม้แต่จะมองใครทั้งนั้น ไลน์ที่ทักมาเป็นสิบยี่สิบคนผมไม่แม้แต่จะเปิดอ่านเลยด้วยซ้ำ แล้วตั้งแต่ที่ผมคุยกับเขาผมไม่มั่นคงขนาดนั้นเลยเหรอ ท่าทางผมเหมือนคนโลเลเข้ามาจีบเขาเล่นๆเหรอวะ

“วิน...ที่เราไม่รู้เพราะเราไม่เคยสนใจใคร ตอนนี้เราคุยอยู่แค่คนเดียวและคงไม่ต้องบอกว่าคุยกับใคร ที่ผ่านมาเราไม่รู้ว่าเราไม่ชัดเจนตรงไหน มันควรจะเป็นตัวเราเองมากกว่าที่คิดมากเรื่องนี้ เราต่างหากที่ไม่รู้เลยว่าเป็นคนที่วินคุยอยู่ด้วยรึเปล่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โทษที เรากลับก่อนแล้วกัน”

ผมหลับตาลงพร้อมกับสูดหายใจลึกอย่างพยายามสะกดตัวเอง...

เพราะกลัวว่าตัวเองจะพูดทุกอย่างที่คิด คำพูดของผมอาจจะยิ่งทำให้เขาอึดอัด และตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป.






*******************************************



Talk

มาต่อแล้ววววว~ พึ่งสอบย่อยเสร็จวันนี้ค่ะ :mew6: :mew6: อาทิตย์หน้าก็สอบมิดเทอมแล้วอาจจะไม่ค่อยมีเวลามาต่อเท่าไหร่ อย่าพึ่งลืมวินกับพัตนะ :mew2: ทั้งยุ่งทั้งเครียดจนมันคิดไม่ออกอ่ะค่ะเลยอาจจะมาช้าหน่อย แต่ก็จะพยายามรีบมาเน้อ :katai4: :katai4: ช่วงท้ายของตอนนี้มีมาม่าเล็กๆ :mew3: :mew3: กลัวคนอ่านจะแบบ...เห้ย มันฟรุ้งฟริ้งเกินจริงไปหน่อยเลยเอามาขัดแก้เลี่ยนค่ะ555555 อาจจะมีกรุบกริบแบบนี้บ้างแต่คงไม่หนักอะไรนะคะ คือเพราะต่างคนต่างไม่อธิบายเนอะมันเลยเป็นแบบนี้ ความงี่เง่าเกิดได้กับทุกคนนะคะ เรื่องเล็กๆน้อยที่ดูไร้สาระแบบนี้แหละที่มักจะนำพามาสู่ปัญหาใหญ่ๆเสมอ โดยเฉพาะกับความรักนี่ตัวดีเลยๆ มาดูกันว่าจะพัตกับวินจะเป็นยังไงต่อไปน๊าาาา~  :mew3: :mew3:

>>>>>เรามีแฟนเพจด้วยนะเอออออ(สร้างแล้วๆ) คือถึงอาจจะไม่มีใครไปกดไลค์ก็จะเปิดค่ะ555555555555555 ก็เอาไว้พูดคุยกันเนอะ เข้ามาคุยกับคนเขียนได้เน้อเพราะอยู่ในเฟสเกือบตลอดเบย...แล้วก็จะมีอิมเมจและพาร์ทสั้นๆไว้อ่านเล่นๆ มีใครอยากเห็นวินกับพัตบ้างงงงงงงงงงงงง(เอาไว้มีคนถูกใจก่อนเนอะ><) ไปกดไลค์ให้เค้าหน่อยน๊า ตามลิ้งค์ข้างล่างเบยๆๆๆๆ  :call: :call:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์มากๆค่ะ  :กอด1: :กอด1:


https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/timeline/

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: "แอบรัก" ตอนที่5 11/09/2558(02.49) p.2
« ตอบ #49 เมื่อ: 11-09-2015 02:44:05 »





ออฟไลน์ kub_kwonny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: "แอบรัก" ตอนที่5 11/09/2558(02.49) p.2
«ตอบ #50 เมื่อ11-09-2015 03:13:37 »

เป็นแฟนกันเร็วๆนะครับ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: "แอบรัก" ตอนที่5 11/09/2558(02.49) p.2
«ตอบ #51 เมื่อ11-09-2015 07:41:48 »

วินทำพัตน้อยใจเสียแล้วล่ะค่ะ :monkeysad:

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
Re: "แอบรัก" ตอนที่5 11/09/2558(02.49) p.2
«ตอบ #52 เมื่อ11-09-2015 09:02:57 »

มาต่อด่วนนน รอๆๆๆๆ

คุยกันดีๆสิ งอนกันไปงอนกันมาอ่ะสองคนนี้  :ling3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: "แอบรัก" ตอนที่5 11/09/2558(02.49) p.2
«ตอบ #53 เมื่อ11-09-2015 11:15:41 »

 :serius2:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
Re: "แอบรัก" ตอนที่5 11/09/2558(02.49) p.2
«ตอบ #54 เมื่อ11-09-2015 17:54:06 »

อ้าวทะเลาะกันซะแล้ว

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
Re: "แอบรัก" ตอนที่5 11/09/2558(02.49) p.2
«ตอบ #55 เมื่อ11-09-2015 18:39:20 »

 o13 พ่อแม่ใจกว้างมากผ่านฉลุย

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ขออนุญาติเปลี่ยนชื่อเรื่องเพราะเห็นว่ามีอีกเรื่องที่ชื่อเหมือนกันนะคะ กันคนอ่านสับสนเนาะ(ถ้าอัพทีหลังแล้วดันใช้ชื่อซ้ำอีกก็ขอโทษด้วยนะคะ :mew2: :mew2:)

เปลี่ยนจาก"แอบรัก"เป็น>>>>>"เริ่มต้นจากการแอบรัก"



ตอนที่ 6.1

“อ้าวทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ แล้วแม่เราไปไหน”

“ผมปวดหัวครับเลยกลับมาก่อน ขอตัวนะพ่อ”

สองขารีบก้าวขึ้นบันไดอย่างไม่อยากจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น หลังจากที่พูดกับวินออกไปแบบนั้นก็ตัดสินใจเดินออกมาทันที ไม่รู้ว่าอีกคนจะทำหน้ายังไง จะพูดอะไร หรือเป็นยังไงเลยด้วยซ้ำ...โทรหาคนขับรถที่รออยู่ให้มารับ ขึ้นรถมาก็โทรบอกแม่เหตุผลอย่างที่บอกพ่อไปเมื่อซักครู่ว่าปวดหัวขอกลับก่อนโดยที่ไม่ทันจะฟังด้วยซ้ำว่าแม่พูดอะไรต่อ สมองตื้อไปหมดอย่างที่ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกหรือเอายังไงต่อไปดี

พักบ้างก็ดี...เอาไว้ค่อยคิดว่าควรจะทำยังไง

เดินเข้าห้องมาได้ก็คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ให้กระแสน้ำไหลผ่านตามร่างกายอย่างหวังว่าความเย็นของมันจะระงับความว้าวุ่นภายในใจลงไปได้บ้าง

ไม่รู้ว่าป่านนี้อีกคนที่อยู่ที่งานจะเป็นยังไง...










“พัต ทำไมเมื่อวานกลับก่อนล่ะลูก” ทันทีที่เช้านี้เดินถึงโต๊ะอาหารแม่ก็ถามขึ้นทันที เมื่อคืนกว่าที่ท่านจะกลับก็ดึกมากแล้วเราเลยไม่ได้คุยกัน แม้ว่ากว่าที่ผมจะนอนหลับจริงๆก็เกือบรุ่งเช้าก็ตาม อีกอย่างตอนนั้นผมเองก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับใครหรือตอบคำถามอะไรทั้งสิ้น

“ผมปวดหัวครับแม่” ข้ออ้างเดิมที่บอกไป

“เหรอจ๊ะ เมื่อวานนี่น้องวินก็อีกคน...”

“เช้านี้ผมไม่ทานนะครับ ยังรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

ยังไม่ทันที่แม่จะพูดจบผมก็เอ่ยแทรกพร้อมกับลุกออกจากห้องอาหารทันที แค่ยังไม่พร้อมที่จะได้ยินเรื่องของใครอีกคนก็เท่านั้น อีกอย่างคือไม่มีอารมณ์ที่จะกินอะไร รู้สึกตื้อไปหมด ลองถ้าผมได้แสดงอาการแบบนี้ออกไปพ่อกับแม่จะไม่ถามอะไรอีกแน่นอน เพราะท่านรู้ว่าถ้าผมไม่พูดยิ่งมาซ้ำซี้ผมยิ่งไม่มีทางพูด มีเพียงสองอย่างที่จะเกิดขึ้น หนึ่งก็คือผมเล่าออกไปกับสองคือเดี๋ยวอาการแบบนี้ก็จะหายไปเอง ซึ่งตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท้ายสุดแล้วผมจะเลือกทำแบบไหน

กริ๊งงงงงงงงงงง~~~

ผมเหลือบมองโทรศัพท์บ้านที่วางอยู่ในห้องนอนของตัวเองอย่างแปลกใจ มีไม่กี่คนที่มีเบอร์นี้ อาจจะเป็นเพื่อนซักคนที่โทรเข้ามาเพราะผมปิดโทรศัพท์ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

“ฮัลโหล”

(ไอ้เหี้ยพัต!! ทำไมกูโทรหามึงไม่ติดเลยวะ) เสียงไอ้กิมดังทะลุมาจนต้องถอยโทรศัพท์ให้ห่างจากหูซักหน่อย

“ตะโกนอะไรขนาดนั้น โทรไม่ติดเพราะแบตกูหมด” ถ้าบอกว่าปิดเครื่องไว้เดี๋ยวแม่งก็ถามยาวอีกว่าปิดทำไม ตัดความรำคาญโดยการบอกว่าแบตหมดจะได้สิ้นเรื่อง

(แล้วทำไมไม่ชาร์ตวะ กว่าพวกกูจะระลึกชาติได้ว่าห้องมึงมีโทรศัพท์บ้านก็โทรหาจนสายจะไหม้)

“ยังไม่มีอารมณ์ชาร์ต มึงมีไรว่ามาเลย” โทรมาก็ต้องมีเรื่องที่จะพูดอยู่แล้ว

(ก็เรื่องงะ....เดี๋ยว เสียงมึงแปลกๆ เป็นไรวะ) จับความรู้สึกคนอื่นได้ไวสมเป็นมัน โดยเฉพาะกับความรู้สึกผมไอ้กิมจะรู้สึกได้ไวเป็นพิเศษเสมอ กับไอ้จีนเองก็เหมือนกัน

“พูดเรื่องมึงมาก่อนเลย เรื่องกูเอาไว้ก่อน ไว้คุยกับไอ้จีนทีเดียวด้วย” จะคุยก็ต้องคุยกันทั้งสามคน เมื่อคนใดคนหนึ่งรู้อีกคนก็จะต้องรู้ ไม่มีความลับระหว่างเราทั้งสามคน

(กูไม่อยากจะเดาว่าเรื่องอะไร แต่ก็เอาเถอะแล้วแต่มึง...ส่วนเรื่องที่โทรมาหามึงก็คือเรื่องของอาจารย์กฤษ ไอ้เหี้ยยยยยย คือกูจะตายแล้วเพราะคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรส่งเลยว่าจะถามมึงว่ามึงทำไปยัง มึงทำยังไง ไอ้ห่าจีนก็ไม่ต่างกันเลยตอนนี้)

งานของอาจารย์กฤษ? อ่อ เป็นงานที่สั่งตั้งแต่อาทิตย์แรกที่เข้าเรียนกับแกแล้ว ภาพวาดที่แกสั่ง...

พอคิดได้ผมก็ต้องชะงัก เพราะงานของตัวเองเริ่มไปแล้วเล็กน้อย มันถูกร่างไว้ในตอนที่หัวผมแล่น

“กูเริ่มแล้วนิดนึง แล้วงานมึงสองคนมีปัญหาตรงไหน”

(กูวาดมาจะสิบแผ่นละ เปลี่ยนแบบมาก็หลายอันจนไม่รู้จะเอาอันไหน มึงมาช่วยไกด์ให้พวกกูหน่อยเด้ นะๆๆๆๆ) ทำเสียงแบบนี้ตลอดเวลาขอให้ช่วยอะไร ผมเลยจำเป็นต้องตกลงไม่งั้นมันก็จะง้องแง้งอยู่แบบนั้นไม่จบไม่สิ้น==

“เออๆๆ เดี๋ยวเย็นนี้มาหากูที่คอนโดแล้วกัน เดี๋ยวช่วยดูช่วยคิดให้ บอกไอ้จีนด้วยซักประมาณหกโมงเย็นเจอกัน”

(กูรักมึงมากเพื่อน ไอ้พัตเพื่อนรักผู้ช่วยชีวิตมนุษยชาติ! เดี๋ยวกูบอกไอ้จีน ว่าแต่...เรื่องของมึงล่ะ) ไม่มีทางลืมหรอกเรื่องแบบนี้ งานเสือกขอให้บอกพี่กิม ตามฉายาโลกรู้กิมต้องรู้

“เอาไว้คุยตอนเจอกันเลย แค่นี้นะ กูจะนอน” ไม่มีอารมณ์จะเล่าตอนนี้หรอก เอาไว้เจอหน้าแล้วค่อยพูดทีเดียว จะได้เล่าให้ไอ้จีนฟังด้วย

(นอนเหี้ยไรตอนแปดโมงเช้า เวลานี้เวลากินข้าวของบ้านมึงกูจำได้)

เพราะไอ้กิมนี่มากินข้าวที่บ้านผมบ่อยมันเลยรู้เวลากินข้าวที่บ้านผมเป็นอย่างดี เสาร์อาทิตย์กินข้าวเช้าตอนแปดโมง ข้าวเย็นคือหกโมงเย็นของทุกวัน ไอ้กิมเป็นคนเชียงใหม่มันเลยไม่มีบ้านกลับ เสาร์อาทิตย์ว่างๆก็มานอนบ้านผมนี่แหละ บอกว่าบ้านผมคนเยอะอาหารเยอะ พ่อแม่ก็ใจดี

“กูง่วงกูก็จะนอน แค่นี้แหละ” วางสายทันทีโดยไม่ฟังมัน ถ้ารอให้ไอ้กิมวางคงอีกนานครับเลยต้องชิงวางสายก่อน วางโทรศัพท์เสร็จก็ล้มตัวลงนอนแบบเดิมอย่างเหนื่อยๆ คิดถึงหน้าหวานๆเสียงหวานๆชะมัด

รู้สึกผิดเหมือนกันที่พูดแบบนั้นออกไป...

อย่างที่บอกไปว่าผมเป็นคนค่อนข้างจะมั่นคง แม้ว่าเหตุการณ์เมื่อวานจะทำให้ผมรู้สึกนอยด์ไปบ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่ต่อวินเลยซักนิด เขามีสิทธิ์ที่จะชอบหรือไม่ชอบใครเรื่องนั้นเป็นสิทธิ์ชองวิน แล้วมันก็ไม่ผิดถ้าเขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม เพียงแต่ตอนนั้นผมอารมณ์ไม่ค่อยปกติจากการเห็นหน้าไอ้พี่การ์ด พอวินมาคุยตอนนั้นมันเลยไปกันใหญ่ ถึงยังไงความรู้สึกที่ผมมีต่อเขามันก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดี แต่ตอนนี้ก็ยังคงไม่พร้อมจะคุยกัน เอาไว้ผมเคลียร์ความรู้สึกตัวเองได้ค่อยไปง้อดีกว่า ยอมรับว่าเมื่อวานทำตัวไม่ดีใส่อีกคนเอาซะเลย




นอนเล่นอยู่บนห้องขลุกตัวไม่ไปไหน ดูหนังเอยเล่นเกมส์เอย ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง จนเวลาล่วงเลยไปจะบ่ายโมเลยตัดสินใจว่ากลับไปคอนโดดีกว่า กะจะแวะซื้อของเข้าห้องด้วย วันนี้นึกครึ้มอยากไปซื้อเองทั้งที่ปกติแม่จะบอกคนที่บ้านเอาไปส่ง ขาดเหลืออะไรก็บอกแม่ได้เลย

“ผมกลับคอนโดก่อนนะครับพ่อกับแม่” บอกพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นหน้าบ้าน เวลาบ่ายท่านจะนั่งคุยกันอยู่ตรงนี้ จิบชาเบาๆมองดูสวนหน้าบ้านเพลินๆ ผมเองก็ชอบเช่นกัน

“ทำไมรีบกลับนักล่ะลูก”

“ผมมีคุยงานกับกิมและจีนครับแม่ เดี๋ยวผมกลับเลยแล้วกันนะครับ อาทิตย์หน้าก็ต้องมาอยู่แล้ว” เดินเข้าไปกอดแม่ก่อนจะผละออกมา อาทิตย์หน้าต้องไปสิงคโปร์กับพ่อยังไงก็ต้องกลับมาบ้านก่อนอยู่แล้ว

“จ้ะ งั้นก็ตามใจเรา พัต...มีอะไรค่อยๆคิดค่อยๆตัดสินใจ อย่าใช้อารมณ์เด็ดขาดนะลูก” แม่พูดเตือนสติให้ผมใจเย็น ท่านทั้งสองคนคงรู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิน แม้จะไม่ได้รู้รายละเอียดที่แน่ชัดแต่ก็คงเดาได้ลางๆ พ่อเองก็พยักหน้าและส่งสายตาว่าให้ฟังอย่างที่แม่พูด

“ครับ ผมจะไม่ใช้อารมณ์อย่างที่แม่บอก...ไปแล้วนะครับ สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่” ท่านทั้งสองพยักหน้ารับให้ผมเดินมาที่โรงรถก่อนจะขับกลับคอนโด โทรศัพท์มือถือก็ยังไม่ได้เปิด ถ้าพวกนั้นติดต่อผมไม่ได้เดี๋ยวมันก็ไปหาที่คอนโดเอง

กว่าจะถึงห้องก็เกือบจะบ่ายสี่แล้วเพราะแวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแถวคอนโด ได้ของสดมาทำอาหารเผื่อพวกนั้นเพียบ นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ทำอาหารเอง ไม่ค่อยจะมีเวลาครับเพราะแค่จะตื่นไปเรียนยังไม่ทันเลยนับประสาอะไรกับให้ทำเอง เสาร์อาทิตย์ส่วนมากก็กลับบ้านไปทานข้าวฝีมือแม่อยู่แล้ว พอเก็บของเสร็จอะไรเสร็จก็เริ่มทำอาหาร เวลาที่เราทำอะไรเรื่อยไปแล้วได้อยู่กับตัวเองก็ถือว่าเป็นการคลายเครียดอย่างหนึ่งที่ผมชอบเช่นกันนะ ใจเราจะจดจ่อกับแค่สิ่งที่ทำ ไม่ฟุ้งซ่าน ใช้เวลาอยู่กับตัวเองจนอาหารเรียบร้อยแล้วถึงได้เอาโทรศัพท์บ้านโทรหาพวกนั้น

“กูอยู่คอนโดแล้ว จะเข้ามาก็เข้ามาเลย ทำอาหารไว้ด้วย พวกมึงอยากจะกินอะไรเป็นพิเศษก็ซื้อเข้ามา”

(ได้ๆ แบบนี้ต้องมีมินิปาร์ตี้ซักหน่อยเว้ย กูกับไอ้จีนกำลังจะออกละ ไอ้จีนมันโทรมาเร่งแล้วเมื่อกี้)

“เค” เป็นอันว่ารู้เรื่อง พอมีอะไรให้คิดแบบนี้การอยู่กับเพื่อนเป็นอะไรที่ดีมากๆเลยนะครับ แต่อยู่ห้องเดียวกันตลอดก็ไม่ได้เดี๋ยวตีกันตาย







TBC.


Talk


มาครึ่งนึงก่อนนะคะ สั้นมากแต่ก็มาเพราะกลัวคนอ่านลืม :mew6: :mew6: จะสอบแล้วแต่ก็ยังแวบมาแต่ง55555 ต้องไปแล้ววววววว~ เดี๋ยวอีกครึ่งนึงจะพยายามมาต่อให้โดยเร็วนะคะ  :katai5: :katai5:

ขอบคุณทุกคนที่อ่าน แล้วก็ขอบคุณทุกคอมเม้นต์มากๆเลยค่ะ :pig4: :pig4:

 จิ้มเพจเค้าเลยยยย>>>>  https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/timeline/?ref=aymt_homepage_panel  <<<< เข้าไปคุยกันได้น๊าาา

ออฟไลน์ kub_kwonny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ชอบบุคลิกพัตนะ ดูเป็นผู้ใหญ่ มั่นคงดี

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ชอบเรื่องนี้นะคะ
ชอบพัตที่ดูเป็นผู้ใหญ่ แระก้อชอบวินที่อารมณ์ดี
(ยกเว้นตอนหึงอ่ะนะ 555555)
หวังว่าตอนหน้า เค้าจะคืนดีกันแล้วน๊าาาาา ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด