Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228175 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:  นี่ก็เชือดเฉือนกันตลอด
เมื่อไหร่จะหึง คิคิ
ยูกิสู้ๆค่ะดูแลสุขภาพด้วยนะ

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
อินทัช...พยายามเข้านะ... :katai1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao5:



น่าเอ็นดุยยย

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
อินเป็นนายเอกที่น่ารักมาก ไม่งี่เง่น่ารำคาญ ชอบๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ว้ายยยๆๆ รีบกดเข้ามาอ่าน โดยไว สนุกมากเพิ่งเข้ามาอ่าน  o13  :mc4:

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 2
ครึ่งหลัง





“ตามกูมานี่” เสียงเรียกทุ้มเข้มของรามินทร์ดังออกมาตรงหน้าโรงอาหารสำหรับคนงานที่มีอินทัชนั่งทานข้าวอยู่กับป้ารีและแผนกครัวอีกหลายคน ใบหน้าสวยของร่างสูงโปร่งแหงนมองคนที่เดินมาประชิดตัว คนงานในนั้นต่างพากันลุกทำความเคารพ ยกเว้นเขาที่ยังคงนั่งอยู่

“กูเพิ่งได้กินข้าว”

“แล้วไง กูก็เห็นมึงกินไปแล้ว แค่นี้พอ”

“ไม่ได้ กูต้องกินให้หมด มึงไม่เสียดายข้าวที่ชาวนาเขาอุตส่าห์ลำบากให้เราได้กินหรือไง ที่สำคัญมันทำลายพลังงานของโลกด้วย มึงนี่อย่าเอาแต่ใจให้มันมากนักจะได้ไหม”

“ปากดี นี่เป็นคำสั่งของกู ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้” เขาเพิ่มน้ำเสียงให้ดังขึ้นไปอีก

ไม่รู้หรอกว่าเป็นการหักหน้าร่างโปร่งมากแค่ไหน อินทัชมองไปทางไหนก็พบว่าสายตาทุกคู่กำลังมองเขาอย่างสนอกสนใจ บางคนก็ซุบซิบนินทา บางคนก็หันไปถามคนข้างๆ

“มึงนี่มัน…”

“ลุก!!!” สั่งเสียงดัง จนคนงานที่ไม่เคยเห็นอารมณ์ด้านนี้ของเจ้านายถึงกับสะดุ้งสุดตัว ต่างคนต่างกลัวและเป็นกังวล อินทัชไม่อยากให้ใครรู้เรื่องราวไปมากกว่านี้จึงลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

แต่จากนี้ทุกคนคงเข้าใจว่าอินทัชเป็นแขกของเจ้านายของตนไม่ได้แล้ว

เพราะร่างสูงแสดงออกทั้งการกระทำและสีหน้าว่าเกลียดอินทัชมากเพียงใด

“เออ!! จะไปไหนก็พาไป”

“ป้ารีไม่ต้องล้างจานของคนงานนะครับ เดี๋ยวผมจะให้มันมาล้าง” รามินทร์หันไปสั่งป้ารี ซึ่งเธอก็รีบพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้

ถึงไม่อยากจะรับเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่รามินทร์เป็นเจ้านาย เธอก็ไม่อาจที่จะคัดค้านอะไรที่เป็นคำสั่งของผู้เป็นนายได้ทั้งนั้น

“ค่ะ คุณท่าน”

“ส่วนมึงตามกูมา”

ร่างโปร่งเดินตามร่างสูงไปอย่างไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ข้าวเช้าก็ได้ทานแค่สองสามคำ

รามินทร์นำอีกคนมาที่กำลังก่อสร้างใกล้ๆ กับตัวรีสอร์ทซึ่งร่างโปร่งดูโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างนั้นก็เข้าใจทันทีว่ากำลังสร้างอะไรบางอย่างอยู่ แต่ไม่น่าจะขยายห้องพักแน่นอน เพราะไม่ค่อยมีแขกมาพักเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่เทศกาล เขาเลยไม่สามารถที่จะหนีหรือให้คนช่วยได้เลย

“นี่คืองานของมึงวันนี้ ทั้งวันมึงต้องช่วยคนงานก่อสร้างพวกนี้ทำงาน”

“ห๊ะ!! มึงจะบ้าหรือไง!!! กูเคยทำงานแบนี้ที่ไหนกันวะ” อินทัชโวยวาย

รามินทร์มองหน้าหวานของร่างโปร่งก็แสยะยิ้มร้าย เอ่ยออกมาเสียงเย็น

“ถามความสมัครใจมึงสักคำหรือยัง กูสั่งมึงก็ต้องทำ อ้อ!! แล้วมึงก็ต้องมาทำทุกวันจนกว่างานจะเสร็จนะเข้าใจนะ แล้วกูก็จะใจดีให้มึงมีรายได้ เอาไว้ซื้อของใช้ของมึงไป วันละ 200 บาท”

“ว่าไงนะ!!! นี่มันเกินไปแล้ว ทำงานหนักฉิบหายแต่ให้กูวันละ 200 กูไม่ทำ!!”

“มึงเป็นใคร แล้วกูเป็นใคร ถ้ายังอยากกลับไป ก็ต้องรีบชดใช้ให้กูซะ!!” ร่างสูงขึ้นเสียงขึ้นเรื่อยๆ เพราะอินทัชเริ่มออกฤทธิ์แล้ว

เมื่อวานทำเป็นว่าง่าย แต่ตอนนี้...

สันดานโผล่แล้วสิ หึ...

“มึงแม่งโคตรเลว โคตรชั่ว และโคตรไม่มีเหตุผลเลยว่ะ”

“ถ้าอย่างกูเลว อย่างมึงล่ะไอ้อิน”

“อย่างกูทำไม กูเคยทำอะไรให้ใคร มีแต่มึงกับน้องสาวของมึงนั่นแหละที่ยัดเยียดความผิดมาให้กู”

ให้มาทำงานก่อสร้างที่ไม่เคยทำ และไม่คิดจะทำเนี่ยนะ!!

“ใช่!! กูยัดเยียด ทำงานไปซะ กูไม่ได้ว่างมายืนเถียงมึงทั้งวันนะ”

“งั้นมึงก็ไปสิ ไปให้พ้นๆ หน้ากู และอย่าหวังว่ากูจะทำงานเหนื่อยๆ แบบนี้ด้วย ให้กูปลูกผัก ทำอะไรก็ช่าง แต่ไม่ใช่งานก่อสร้าง ยกหามแบบนี้!!!”

“แต่มึงต้องทำ ถ้ายังอยากมีเงินไว้ใช้ระหว่างที่ยังอยู่ที่นี่”

“กูไม่ทำ มึงกับน้องมึงนี่นิสัยเหมือนกันดีนะ คนหนึ่งก็มาโวยวายบังคับจะคบกับกูให้ได้ ส่วนพี่ชายก็บังคับให้กูทำที่ต้องการให้ได้ ถามจริง พ่อแม่ไม่ได้สั่งสอนหรือไง”

ผลั่วะ!!

ตุบ!!!

ร่างโปร่งของอินทัชล้มลงไปก้นกระแทกกับพื้นหยาบๆ อย่างแรง ใบหน้าขาวสวยหันไปตามแรงกระแทกจากกำปั้นหนักหน่วง โพรงปากรู้สึกถึงความคาวของเลือด ความเจ็บแล่นปราดไปทั่วทั้งใบหน้า แต่ก็ยังค้างใบหน้าอยู่แบบนั้น ไม่หันมามองคนที่ยืนมองเขาด้วยสายตาที่โกรธแค้นอย่างถึงที่สุด

“จำไว้! อย่าปากดีกับกู แล้วก็อย่าลามปามถึงน้องสาวกู เพราะกูรักเขามาก ที่สำคัญ...มึงแตะพ่อแม่ของกูอีกครั้ง กูฆ่ามึงแน่!!!” ร่างสูงเดินจากไปด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น ไม่เหลียวมองคนตัวเล็กกว่าที่ยังคงนั่งหน้าชาอยู่กับพื้นหยาบ

รามินทร์ไม่มีทางได้เห็นแววตานี้ของอินทัช

เพราะแววตานี้ จะออกมาก็ต่อเมื่อ...เขาโกรธแบบสุดๆ โกรธมาก ถ้าหากว่าไม่มีสติยั้งคิดล่ะก็


อินทัช...คงได้ชื่อว่าเป็น ฆาตกรแน่ๆ


“มึง...มึงที่นั่งอยู่นั่นแหละ มาทำงานได้แล้ว อย่ากินแรงชาวบ้าน” เสียงแหบๆ ของชายคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในคนงานก่อสร้างเรียกให้เจ้าของใบหน้าหวานที่มุมปากช้ำ โหนกแก้มก็ช้ำเพราะแรงต่อยของรามินทร์หันมองหน้าคนเรียกทันทีที่มีสติ

“อือ”

“เร็วๆ อย่าอืดอาด ทำตัวอย่างกับเป็นคุณชาย ไปยกทรายมาแล้วผสมปูนซะ”

“ทำไม่เป็น”

“ว่าไงนะ!!”

“ก็บอกว่าทำไม่เป็น ต้องให้พูดซ้ำอีกรอบไหม!!”

“ไอ้นี่ปากดีจริง สมแล้วที่คุณรามท่านต่อยจะหมอบขนาดนั้น”

“อย่าพูดถึงมันจะได้ไหม”

“ไอ้นี่ไม่รู้จักกาลเทศะ เขาเป็นเจ้านาย ไปเรียกท่านว่ามันได้ยังไงวะ”

“ก็กูไม่ได้นับมันว่าเป็นเจ้านายนี่หว่า ทำอย่างกับว่ากูอยากจะทำงั้นแหละ ไอ้ควายเอ้ย!!!” ร่างโปร่งหันไปสบถข้างๆ ด้วยความโมโห

ยิ่งคิดยิ่งแค้น

“แต่มึงก็ต้องทำ เพราะมีคำสั่งแบบนั้นแล้วนี่ คุณรามเป็นคนจริงจังก็จริง แต่ไม่เคยเห็นท่านทำกับใครเหมือนที่ทำกับมึงเลย แสดงว่าท่านต้องเกลียดมึงมากแน่ๆ”

“แล้วไง อยากเกลียดก็เกลียดไป ถ้ากูกลับบ้านได้เมื่อไหร่ กูจะแจ้งตำรวจ ฮึ่ย!!”

“ข้อหาอะไรวะ” หนุ่มก่อสร้างคนนี้ยังคงถามต่อไป ในสมองก็เริ่มไตร่ตรองสถานการณ์ที่เห็นทันที

“เรื่องของกู!!”

บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะยังไงคนอย่างรามินทร์ก็เป็นที่รักของคนที่ทำงานอยู่แล้วนี่

ลูกน้องรักและจงรักภักดีขนาดนี้

“งั้นมึงก็ไปทำงานซะ เงินรับเป็นรายวัน เลิกงาน 5 โมงเย็น จะเจอกันที่โต๊ะหินอ่อนตรงนั้น หัวหน้าจะมาจ่ายเงินให้กับทุกๆ คน แล้วก็นะ ถ้ามึงทำงานไม่เป็นจริงๆ กูจะสอนให้ แต่จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องสอน เพราะมันเป็นงานใช้แรงไม่ได้ให้ใช้สมอง”

อินทัชมองหน้าผู้ชายคนนั้นนิ่งๆ อย่างสำรวจ ผิวคร้ามแดด ทำให้ผู้ชายคนนี้ดูน่ากลัวและป่าเถื่อน ทั้งหนวดทั้งเครา แต่ถ้าลองจ้องและสังเกตดีๆ ผู้ชายคนนี้ จัดได้ว่าเป็นคนหน้าตาดี ทั้งร่างกายที่กำยำ ความสูงพอๆ กับเขาแท้ๆ แต่ร่างกายกลับดูมีความแข็งแรงมากกว่า

“เออ...จะให้ทำอะไรก็บอกมา”

“ว่าง่ายแบบนี้ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย”

ร่างโปร่งเงียบ ยกหลังมือเช็ดเหงื่อของตัวเองเบาๆ

“กูชื่อจักร มึงล่ะ”

สาบานว่านั่นคือการถามชื่อไม่ใช่การหาเรื่อง

“อิน”

“เป็นคนพูดน้อยหรือไง เมื่อกี้ยังเห็นเถียงฉอดๆ”

“เรื่องของกู”

“เออๆ ตามกูมา กูจะพาไปผสมปูนสำหรับก่อ ตามมา”

“อือ”

คนตัวขาวเดินตามคนผิวคล้ำมาที่พื้นที่สำหรับผสมปูน ก่อนจะสอนให้อินทัชทำตามตน ซึ่งร่างโปร่งก็ตั้งใจฟังอย่างดร จะได้ไม่ต้องถามอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนที่จักรจะปล่อยให้เขาทำงานต่อไปคนเดียว ส่วนคนตัวเข้มนั้นก็เดินไปยกอิฐ ยกปูนลงจากรถที่มาส่งของ

ตลอดทั้งวันเขาอดทนทำงานอย่างยากลำบาก เหนื่อยก็เหนื่อย ไหนจะต้องมาเป็นคนที่ต้องถูกสั่งอีก คุณชายอย่างอินทัช ถ้าไม่ได้มาลองเองแบบนี้ก็ไม่มีทางเข้าใจว่าอาชีพนี้มันลำบากขนาดไหน

“เฮ้ย!! ไอ้หน้าอ่อน ไปยกปูนมาอีกดิ๊ เร็วๆ”

“เอาหินมาด้วย”

“ผสมปูนเร็วๆ สิวะ”

“นั่นๆ ปูนหมดแล้ว ไปแบกมาจากตรงนั้น ให้ไวเลยๆ”

และอีกสารพัดการใช้งานเขา ร่างกายที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อนเริ่มอ่อนเพลียเปลี้ยแรง เหงื่อไหลเต็มร่างกายจนอยากจะอาบน้ำเต็มแก่ ความรู้สึกเหมือนว่าโลกมันสั่นคลอน เวียนหัว และอยากจะอาเจียน

เขาได้พักกลางวันแค่ 5 นาที ทานข้าวได้ไม่ถึง 5 คำก็ถูกเรียกให้ไปทำงานเร่งด่วน แต่จริงๆ แล้วก็ไม่น่าจะเร่งด่วนอะไรมาก อินทัชคิดว่า คนเป็นเจ้านายอย่างรามินทร์สั่งมาไม่ให้เขาได้กินข้าวเปล่าๆ

“เฮ้อ...”

ระหว่างที่ใบหน้าขาวใสที่เริ่มจะคล้ำเพราะตากแดดนานถอนหายใจระหว่างล้างเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่ อยากจะกลับไปอาบน้ำนอนเต็มทีแล้ว

“เป็นไงบ้างวะ ใกล้ตายยัง” จักรเดินเข้ามาถามร่างขาว

“ก็อย่างที่เห็น...กูไม่ได้ตาย”

“หึหึ...มึงนี่ก็เอาเรื่องเหมือนกัน ท่าทางเหมือนจะเป็นคุณชายแท้ๆ แต่ทำงานหนักขนาดนี้ยังไม่ปริปากบ่นสักคำ อึดดีนะมึง”

“เหรอ...แต่มึงก็ควรจะรู้เอาไว้ ว่าคนเรามันก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน” เสียงทุ้มอ่อนๆ ของอินทัชพึมพำออกมาเบาๆ

“ช่างมันเถอะ เสร็จหรือยัง จะได้ไปรอเอาตังค์”

“เสร็จแล้ว”

“งั้นตามกูมา”

อินทัชเดินตามอีกคนอย่างไม่อิดออด เพราะเวลานี้ 5 โมงเย็นกว่าๆ ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เขาจะได้กลับไปอาบน้ำพักผ่อนเสียที

ระหว่างที่ยืนรอคนมาจ่ายเงิน จักรก็หันไปคุยกับเพื่อนๆ คนงานก่อสร้างอย่างเมามันส์ ส่วนเขาก้ยืนเงียบอยู่คนเดียวเหมือนเดิม

ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเขา

และจะไม่มีวันใช่...


“ที่นี่จะทำอะไรวะ” อินทัชถามเมื่อจักรเดินมาหาเขาที่กำลังยืนเหงาอยู่คนเดียว

“มึงทำงานประสาอะไรไม่รู้ว่าเจ้านายจะทำอะไร” กลายเป็นโดนตำหนิเสียงั้น

“กูจะไปรู้ไหมล่ะ ก็โดนบังคับมานี่แหละ”

“คุณรามจะทำที่ให้คนงานใช้พักผ่อนเวลาว่างงานน่ะ”

“อ้อ!”

ทำเป็นพ่อพระ ชิ!!

“เห็นว่าจะเป็นห้องแอร์ทั้งหมด คนงานพากันดีใจใหญ่ที่จะได้พักในห้องแอร์บ้าง”

“ก็คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้น”

เพราะนอกจากห้องพักในรีสอร์ทแล้วก็ไม่มีส่วนไหนมีแอร์เลยสักนิด ยกเว้นบ้านพักของรามินทร์เอง ร่างสูงตระหนักถึงความสำคัญในจุดๆ นี้เลยคิดอยากจะให้คนงานของตนได้มีโอกาสได้พักสบายๆ ในห้องแอร์บ้าง แม้ว่าจะเป็นวันละไม่กี่ชั่วโมงก็ตามแต่

 “จะเสร็จประมาณเท่าไหร่”

“เกือบ 2 เดือนล่ะมั้ง คนงานเราเยอะอยู่ คงจะเสร็จไว” จักรตอบ “นั่น...คุณจอม เร็วๆ ไอ้อิน ว่าที่เมียกูมาแล้ว” ร่างสูงของจักรรีบวิ่งไปยังโต๊ะม้านั่งที่มีผู้ชายตัวเล็กๆ นั่งลงอยู่ด้วยใบหน้าที่เป็นมิตร

แม้จะไม่ได้หน้าหวานเหมือนกับอินทัช แต่ก็หล่อน่ารักไปอีกแบบ

ใช่...คุณจอมที่จักรมันรีบวิ่งไปนั้น เป็นผู้ชาย

“ว่าที่...เมีย” ร่างโปร่งพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินขมวดคิ้วตามจักรไป

ไอ้นี่มันเป็นพวกหมาวัด คิดจะเด็ดดอกฟ้างั้นหรือวะ!!

ถ้าถามว่าทำไมอินทัชรู้ ก็ดูแค่การแต่งกายของคนชื่อจอม ก็รู้แล้วว่าเป็นคนมีฐานะพอตัว

ระหว่างที่จอมกำลังจ่ายเงินให้กับคนงานทุกคนที่อินทัชสังเกตเห็นว่าได้กับคนละ 400 บาทกว่าๆ นั้นก็ถึงกับขมวดคิ้ว

ไหนว่าได้ 200 บาท...

“สวัสดีครับคุณจอม”

“นาย...อ่ะ เอาไป แล้วกลับไปพักซะ” คนตัวเล็กยื่นเงินให้ก่อนจะไล่ด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์ที่เจอกับคนที่ไม่อยากจะเห็นหน้าที่สุด แต่ก็ต้องเจอทุกวันอย่างช่วยไม่ได้

“อะไรกันครับ เป็นห่วงผมด้วยหรือไง”

“อย่ามาพูดแบบนี้กับฉันนะนายจักร รับเงินแล้วก็กลับไปซะ”

“แหม...ผมยังไม่หายคิดถึงคุณจอมเลย ขอมองให้ชื่นใจก่อนได้ไหมครับ”

อินทัชล่ะอยากจะอ้วกกับการจีบหนุ่มของจักรเสียจริงๆ คนอะไร ไม่มีชั้นเชิงในการจีบคนเลย ใครบ้างจะมาจีบคนที่ชอบด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครา คนที่หน้าโหดๆ แล้วก็มาพูดจีบด้วยท่าทางกวนประสาทๆ แบบนี้

จีบติดกูนี่ขอทิ้งตำแหน่งคาสโนว่าให้เลย

“มองแล้วก็รีบกลับไปซะ มีคนต่อคิวด้านหลังนายอีกคนนะ”

แน่นอนว่าอินทัชเป็นคนสุดท้าย จักรกันมามองนิดๆ ก่อนจะหันกลับปิ้มกวนประสาทให้กับคนตัวเล็กแล้วพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจว่า

“ไม่เป็นไร มันรอได้”

“แต่กูไม่รอ”

ร่างโปร่งบางผลักร่างหนาที่มีส่วนสูงพอๆ กันออกไปให้พ้นทางก่อนจะเดินไปยืนตรงหน้าหนุ่มน่ารักคนนั้น

“ชื่ออะไรครับ”

“อินทัชครับ”

“อ้อ! พี่รามบอกว่าให้ผมจ่ายพี่ 200 บาท อย่าโกรธผมนะครับ ผมทำตามหน้าที่” นั่นไง คิดแล้วไม่มีผิด

ไอ้ห่าราม...มันคิดจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม

“ไม่เป็นไรครับ ผมยังไงก็ได้” ร่างสูงโปร่งยิ้มน้อยๆ จนคนตัวเล็กอย่างจอมถึงกับเขินหน้าแดง จักรที่มองอยู่นานก็ได้แต่ทำหน้าไม่พอใจ

เขาป้อมาตั้งหลายปี ไม่ติด แต่อินทัชยิ้มนิดเดียว ถึงกับเขิน

เออ!! เขามันไม่หล่อนี่...

“จอมรู้สึกผิดจัง” คนที่คาดว่าเด็กกว่าเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดจริงๆ จนร่างขาวต้องส่ายหน้ายิ้มๆ

“อย่ารู้สึกผิดเลยครับ คุณทำดีแล้ว”

“จอมเรียกพี่ว่าพี่อินได้ไหมครับ”

“ด่ะ...” ยังไม่ทันที่อินทัชจะตอบ คนตัวใหญ่กว่าอย่างจักรก็เข้ามาขวาง ขั้นกลางระหว่างทั้งคู่ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างที่สุด

“ผมล่ะครับ กับผมที่รู้จักคุณมาเป็นปี แต่ไอ้อินคุณเพิ่งจะเคยเห็นหน้ามัน ทำไมถึงได้สนใจมันมากกว่าผม เพราะมันหน้าตาดีกว่า ขาวกว่า หรือว่าอะไรล่ะครับ” จักรถามอีกคนอย่างเอาเรื่องและจริงจัง จนจอมต้องมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ

“นี่...ถอยไปเลยนะ ฉันจะคุยกับพี่อิน”

จักรถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ไม่มีใครรู้หรอกว่าภายใต้ความขี้เล่นของเขานั้นจะจริงจังกับจอมมากแค่ไหน ไม่มีใครรู้นอกจากเขาเอง

“เข้าใจแล้วครับ งั้นผมขอตัวก่อน ส่วนมึง...หึหึ คงจะรู้ใช่ไหมว่าควรจะทำยังไง” จักรหันมาพูดกับเขาด้วยสายตาที่ข่มขู่กันสุดๆ หากแต่อินทัชไม่กลัว

เพราะไม่มีทางที่จะสนใจจอมเป็นอย่างอื่นไปได้

“พี่ขอตัวก่อนนะครับ” อินทัชเดินตามจักรไปทันทีเพื่อเคลียร์ปัญหาไม่รอให้จอมได้พูดอะไรอีกเลย

อินทัชยอมรับว่าจักร มีนิสัยที่คล้ายกับเพื่อนสนิทที่สุดของเขา เพราะฉะนั้นก็อยากจะคบไว้ เพราะจักรดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร

“จักร...มึงสบายใจได้ คุณจอมไม่ใช่สเปคกูหรอก”

ร่างสูงใหญ่หยุดกึก แต่ไม่หันมามองหน้าอินทัชแต่อย่างใด

“ถ้ามึงสนใจก็ไม่เป็นไร เพราะคนอย่างกูสู้ไม่ถอย...แต่มึงก็ต้องเข้าใจ ว่าการที่หมาวัดอย่างกูจะเด็ดดอกฟ้าแบบคุณจอมมันไม่ใช่เรื่องที่ง่าย กูจีบเขามาเป็นปีๆ แต่ไม่เคยพูดดีๆ กับกูสักครั้ง แต่กับมึงกลับยิ้มมีความสุข มันก็ทำให้กูอดคิดไม่ได้ ว่าถ้าคุณจอมชอบมึง กูจะสู้ได้ไหม” จักรเดินหนีไปทันทีที่พูดจบ ทิ้งให้อินทัชยืนนิ่งอยู่คนเดียว สักพักก็ถอนหายใจออกมา มองแบงค์สีแดงในมือสองใบก่อนจะถอนหายใจออกมา

ชีวิตมีแต่ความวุ่นวาย...


“ถ้างานเสร็จแล้ว อย่าลืมไปล้างจานที่โรงครัวด้วย มันกองรอมึงไปล้างอยู่”

ไอ้เหี้ยเอ้ย!! นี่มึงกะจะไม่ให้กูพักเลยหรือไง ถึงได้โผล่มาดักหน้ากันแบบนี้

“ไอ้ราม...”






100%

 :katai5: :katai5: :katai5:

รู้สึกผิดจังเลยที่มาลงให้แค่อาทิตย์ละครั้ง ยังไงขอให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ก่อนนะคะ จันทร์นี้ก็สอบแล้ว คงจะหายไปอีก ฮ่าๆ แต่อย่างน้อย เสาร์อาทิตย์ก็จะพยายามมาแต่งให้อ่านกันนะคะ

https://www.facebook.com/sawachiyuki


ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
สู้ๆ..สู้ๆทั้งอินและยูกินะ.. :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อีกไม่กี่วันร่วงแน่อิน
ยูกิอ่า สงสารอินจัง.  :hao7:

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 3
พึ่งเริ่มต้น
[/size]




“ไม่ทำ กูจะพัก”

“มึงมีสิทธิ์ค้านด้วยหรือไง ตามมานี่”

“โอ๊ย!! ไอ้สัตว์ กูเจ็บนะเว้ย” ร่างโปร่งบางถูกคนตัวสูงกว่าและตัวใหญ่กว่ากระชากแขนอย่างแรงและบังคับให้เขาเดินตามไปอย่างเอาแต่ใจ

ให้ตายเถอะ เขาเหนื่อยจะตายแล้วเนี่ย

พลั่ก!!

ร่างสูงผลักคนตัวเล็กกว่าไปยังที่ล้างจานของโรงครัวที่มีจานกองอยู่มากมาย ราวกับรอให้เขามาล้างอย่างเดียว อินทัชมองกองจานชามที่มีคราบสกปรกเหล่านั้นก็รู้สึกแข้งขาอ่อนแรงทันที

เขาแบกปูน ขนหิน ขนทราย ยกอิฐยกบล็อก ผสมปูน แล้วเต็มปูนให้ช่างทั้งวัน เหนื่อยจนกินอะไรไม่ลงและได้กินข้าวน้อยมากๆ ตอนนี้ก็หิวสุดๆ ไปเลย

“ถ้ามึงทำงานตรงนี้เสร็จ กูอนุญาตให้มึงกินข้าวได้”

“ให้กูกินก่อนไม่ได้หรือไงวะ!”

“ไม่ได้ ทำงานให้เสร็จก่อน ถึงจะพักและกินข้าวได้ มันเป็นกฎของที่นี่”

“กฎของมึงคนเดียวล่ะสิ” เขาพึมพำเบาๆ อย่างอ่อนแรง

“หึหึ ทำไป กูจะยืนดูมึงทำอยู่นี่แหละ”

อินทัชไม่เคยทำงานเยอะขนาดนี้มาก่อน แม้จะเป็นผู้บริหาร แต่ความเหนื่อยมันต่างกัน ก็จริงอย่างที่ใครๆ เขาพูดกันว่างานทุกงานมันก็เหนื่อยทั้งนั้น แค่เหนื่อยต่างกันก็เท่านั้นเอง

“เฮ้อ...”

เมื่อรู้ว่าเถียงไป โวยวายไปก็ไม่ชนะไอ้คนเอาแต่ใจตัวเองอย่างรามินทร์แล้ว อินทัชก็ตัดสินใจนั่งลงกับเก้าอี้ไม้เล็กๆ ที่ล้างจานของที่นี่ไม่มีที่ล้างแบบทันสมัย มีเพียงกะละมังใส่เศษอาหาร กะละมังล้างหนึ่งใบ แล้วก็กะละมังน้ำธรรมดาอีก 2 ใบที่ใส่น้ำเอาไว้รอเป็นตัวอย่างในการเปลี่ยนน้ำต่อๆ ไป

เอาวะ!! เคยล้างแบบสองสามใบ แค่เพิ่มมาหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร


“หึ” รามินทร์หัวเราะในลำคอเบาๆ ยกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ สองมือกอดอกมองดูร่างโปร่งที่นั่งหลังขดหลังแข็งสลับลุกล้างจานจากน้ำสะอาดลงตะกร้าใบใหญ่อย่างสนุกสุดๆ

รามินทร์ไม่ใช่คนที่ชอบทำร้ายใคร ไม่ชอบเอาเปรียบใคร แต่กับอินทัชเขารู้สึกสนุก สะใจพิลึก

“ห้ามอู้นะมึง” เขาส่งเสียงบอกอินทัชไป ซึ่งคนตัวขาวก็ไม่ได้สนใจแต่ตั้งใจล้างจานต่อไป โดยที่มีทำปากขมุบขมิบราวกับกำลังนินทาเจ้านายอย่างเขาอยู่

มันไม่หายพยศสักทีนะไอ้นี่

“ก็อดทนได้ดี แต่เสียที่ชอบเถียง ชอบขัดเนี่ยแหละ”

เริ่มจะเห็นเค้าของความเป็นของอินทัชขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

“กูนี่แหละจะทำให้มึงเผยธาตุแท้!!!”

“บนเหี้ยอะไร กูรำคาญ มันทำลายสมาธิกูนะไอ้ราม” ร่างโปร่งบางที่กำลังเหนื่อยและรำคาญกับเสียงพูดคนเดียวของรามินทร์ก็ถึงกับหันมาตวาดใส่

“นี่มึงกล้าว่ากูหรือวะ”

“เออสิ!! วิเศษวิโสมาจากไหนถึงแตะไม่ได้” อินทัชโยนฟองน้ำที่ไว้ล้างจานลงกับกะลังมังที่เต็มไปด้วยฟอง ก่อนจะลุกมาเผชิญหน้ากับรามินทร์

เดี๋ยวนิ่ง เดี๋ยวโวยวาย...

“หมาบ้าของแท้เลยว่ะ หึ”

ผลัวะ!!!

“ซี้ด...” ใบหน้าคมของรามินทร์หันไปตามแรงหมัดของอินทัช มือขาวที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะแพ้น้ำยาล้างจานกำแน่น ตัวสั่น แววตาแข็งกร้าว บ่งบอกว่าสุดๆ แล้ว

เหนื่อยมาก ก็หงุดหงิดมาก

หิวมาก ก็โมโหมาก...

“มึงนี่ทำอะไรก็ให้มันพอดีๆ หน่อยได้ไหมวะ รู้ว่าเกลียด รู้ว่าสะใจ แต่มึงดีใจหรือไง ถ้าหากว่ากูตายก็เท่ากับว่ามึงฆ่าคนๆ หนึ่งเลยนะ!” คนอย่างอินทัช เวลาด่าใคร ว่าใคร มักจะเต็มไปด้วยเหตุผล บางครั้งก็เป็นคำสั่งสอนไปในตัว

แบบนี้ไง ถึงได้เอาบริษัทใหญ่ๆ อยู่ พนักงาน คนงานทุกคนต่างก็เคารพนับถือในความเป็นคนมีเหตุผล ใครเจออินทัชโหมดนี้ ก็ต้องคิดได้ และมีสติกันทุกราย

หากแต่รามินทร์...ไม่ใช่

“เอาใหญ่เลยนะ หึหึ...มึงกล้าดียังไงมาต่อยกูห๊ะ!!!” ร่างสูงตะโกนเสียงกร้าว คว้าคอเสื้อของอินทัชขึ้นมาเป็นการบังคับคอของร่างโปร่งขึ้น ก่อนจะกำเสื้อแน่นรัดคอขาวจนอินทัชเริ่มหายใจไม่ออก แต่ก็ไม่คิดที่จะห้าม

ถ้าหากคนๆ นี้โหดร้ายพอที่จะฆ่าเขา ก็เอาเลย

กฎหมายอาจจะทำอะไรไม่ได้ แต่กฎแห่งกรรม...รามินทร์หนีไม่พ้นหรอก

“อ่ะ...อึก”

“เป็นไง หน้ามึงตอนนี้ดูดีใช้ได้ หึหึ เอาล่ะ อ้อนวอนขอชีวิตกูซะ” ร่างสูงพูดกัดฟันอย่างอดทน มองหน้าร่างบางกว่าอย่างเย้ยหยัน ใบหน้าแหยแกของอินทัชบ่งบอกว่ากำลังอึดอัดและกำลังจะตาย

เข้าใจแล้ว...

ชีวิตของเขาอยู่ในกำมือของชายคนนี้ ไม่ว่าจะถูก ไม่ว่าจะผิด ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่กำหนด

“ม่ะ...ไม่”

“ดื้อด้าน!! จะตายแล้วยังโง่อีก”

“อ่ะ เอาสิ อัก...”

ไม่ไหว...จะตายแล้ว หายใจไม่ออก

ตุบ!!!

“อึก!”

“น่ารำคาญฉิบหาย!! ทำงานให้เสร็จไปซะ กูจะยืนดู” ร่างสูงผลักร่างผอมกว่าลงไปที่พื้นเต็มแรงด้วยความไม่สบอารมณ์ กลับไปยืนพิงประตูของโรงครัวมองอย่างหงุดหงิด ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจ

ทำไมมันถึงได้หยิ่งในศักดิ์ศรีแบบนี้...ทำไมมันถึงได้ทิฐิมากแบบนี้

ร่างโปร่งพยายามลุกขึ้นอย่างอ่อนแรง แต่ก็สามารถลุกขึ้นมาได้ มองหน้าร่างสูงนิดๆ ก่อนจะประคองตัวเองไปนั่งล้างจานเหมือนเดิม

“มัน...จะฆ่าเรา”

รามินทร์มัน...ปีศาจ ปีศาจชัดๆ


ร่างสูงมองมือตัวเองด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก แต่ก็รู้สึกสั่นออกมาจนตัวเองรู้สึกได้ เมื่อกี้เขารัดคออีกคนด้วยสองมือนี้ เขาเกือบฆ่าอินทัช

ด้วยสองมือนี้...

เกิดอะไรขึ้น ต่อให้เกลียดมากขนาดไหน แต่จิตสำนึกของเราไม่มีเลยหรือไง จริงหรือ...เราสามารถ ใช้มือข้างนี้ ฆ่าคนได้จริงๆ น่ะหรือ

“ชิ!!!”

เพราะมัน...เพราะมันคนเดียว มันทำให้เขากลายเป็นคนชั่วร้าย

ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ อินทัชก็ล้างจานเสร็จทุกใบ ก่อนจะใช้แรงที่มีเหลืออยู่เพียงนิดเดียวขนมันเข้าไปไว้ที่เก็บจานภายในจนหมด เสร็จแล้วก็ออกมาเผชิญหน้ากับรามินทร์อีกครั้ง

“เสร็จแล้ว กูไปได้แล้วใช่ไหม”

“เออ!!”

ร่างสูงโปร่งเดินหนีไปอย่างไม่สนใจอะไรในตัวของรามินทร์อีก จนร่างสูงเรียกเอาไว้ อินทัชก็แค่หยุดอยู่กับที่เท่านั้น หากแต่ก็ไม่หันหน้ามามองเลยสักนิด

“ไม่กินข้าวหรือไง”

“เป็นห่วง?”

“อย่างกูน่ะเหรอจะห่วงทาสอย่างมึง”

“แล้วถามทำไม”

“ก็แค่ไม่อยากให้มึงอดแล้วตายอยู่ที่นี่ มันเป็นเสนียด”

“งั้นหรือ…” น้ำเสียงไม่ใส่ใจดังออกมา ทำเอารามินทร์ถึงกับขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่ประโยคที่ทำให้ร่างสูงถึงกับนิ่งไปจะออกมาเบาๆ พร้อมกับร่างของอินทัชที่เดินหนีไป

“เมื่อกี้มึงก็...จะฆ่ากูนะ”

อึก…

“ไอ้นี่! หึ...จะปล่อยไปสักวันก็ได้” ร่างสูงพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินไปยังทางที่กลับบ้านพักของตน ระหว่างทางก็เจอกับลูกน้องอย่างขรรค์

“ไอ้ขรรค์”

“ครับนายท่าน”

“แกกินข้าวหรือยัง” มันเป็นปกติที่ผู้เป็นนายจะถามลูกน้อง และก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนอย่างรามินทร์จะถามไถ่ลูกน้องอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“ยังเลยครับ เดี๋ยวเสร็จตรงนี้แล้วจะไปกินน่ะครับ”

“งั้นก็ดี”

“ทำไมหรือครับนายท่าน”

“เปล่า ไอ้อินมันยังไม่ได้กินข้าว ช่วยคลุกน้ำปลากับข้าวไปให้มันหน่อยก็แล้วกัน” ผู้เป็นนายสั่งเสร็จก็เดินหนีลูกน้องอย่างขรรค์แล้วก็กลับไปยังที่พักของตนทันที

ทางด้านอินทัชที่เมื่อกลับถึงที่พักที่ก็ชื้นใจหน่อยที่มีไฟให้แล้ว แม้ว่ามันจะไม่ค่อยสว่างอย่างมันควรจะเรียกว่าไฟ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่ามองไม่เห็นอะไรเลย

“อาบน้ำดีกว่า” เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเก่าๆ ที่ขรรค์เอามาให้ขึ้นพาดบ่า หยิบเสื้อกับกางเกงและของที่ต้องใช้ขึ้นมา ถอนหายใจเล็กน้อย

“ต้องอาบน้ำที่ลำธารอีกแล้วสินะ ใช่สิ! เราไม่ได้ไปหาบน้ำนี่หว่า เอาเถอะ พรุ่งนี้ก็แล้วกัน เหนื่อยมากพอแล้ว”

กรอด...

“อ่า มาหิวอะไรตอนนี้ ป่านนี้คงไม่มีข้าวให้กินหรอกนะไอ้อิน อดๆ ไปซะ พรุ่งนี้ค่อยกินก็แล้วกัน” ระหว่างทางเดินอินทัชก็พูดปลอบใจตัวเองไปด้วย

ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ ทั้งทรมาน

แต่จะให้เขายอมแพ้น่ะไม่มีทาง ถ้าอย่างนั้นมันอาจจะได้ใจ

“ฮ้า...สดชื่นจริงๆ”

อย่างน้อยมันก็มีเวลาส่วนตัวให้บ้างก็ยังดี ไม่ใช่ให้ทำงานทั้งวันทั้งคืน อาบน้ำเสร็จฟ้าก็มืดสนิท ระหว่างทางที่เดินกลับไปยังบ้านพักก็ระมัดระวังพวกงูอย่างดี เมื่ออยู่ในระยะที่มองเห็นตัวบ้าน แคร่ใต้ถุนที่เคยว่างก็พบว่ามันไม่ว่างอีกต่อไป

“นายมาทำอะไรที่นี่”

“ฉันมาชวนนายกินข้าว”

ร่างโปร่งมองดูอาหารที่วางอยู่บนแคร่ก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ มองหน้าคมเข้มของชายตัวใหญ่ของขรรค์อย่างรู้สึกขอบคุณ

“ขอบคุณนะ ขอบคุณมาก”

“เป็นคำสั่งของนายท่านน่ะ”

ประโยคที่แช่แข็งร่างทั้งร่างของอินทัชให้ยืนนิ่งด้วยความคาดไม่คิด

“งั้นหรอกหรือ เฮอะ! อย่างมันเนี่ยนะ ให้นายเอาข้าวมาให้ฉัน”

“ก็ประมาณนั้นแหละ”

“ไอ้บ้านี่ เป็นคนยังไงกันแน่” ร่างโปร่งพึมพำเบาๆ

“มากินข้าวเถอะ นายจะได้นอนพัก เห็นทำงานหนักมาทั้งวันแล้วนี่”

“อืม...ขอฉันเอาของขึ้นไปเก็บก่อนก็แล้วกัน”

ไม่กี่นาทีอินทัชก็ลงมานั่งตรงข้ามกับขรรค์ ก่อนที่ทั้งสองจะลงมือทานอาหารกันอย่างเงียบๆ รสชาติที่อินทัชสัมผัสได้คือ มันไม่มีรสชาติเลยสักนิด

มันไม่อร่อย เหมือนที่อยู่ที่บ้านเลย...

คิดถึง อยากกลับไป

“ผักของนายฉันรดน้ำให้แล้วนะ” ขรรค์บอกนิ่งๆ ทำให้ร่างบางสะดุ้งน้อยๆ เพราะกำลังตกอยู่ในภวังค์ของห้วงความคิดอยู่

“จริงสิ ฉันลืมไปเลย ขอบใจนายมาก”

“ไม่เป็นไร”

“จริงสิ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องนายหน่อยได้ไหม”

ไม่รู้ว่าถ้าเขาจะทำมัน มันจะสำเร็จไหม แต่เขาก็ไม่อยากจะอยู่เฉยๆ ให้รามินทร์โขกสับอีกต่อไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องมาทนอยู่อย่างนี้เลย

มันไม่ใช่ความผิดของเรา แล้วทำไมต้องไปยอม...

“ว่ามาก่อน จะได้รู้ว่าช่วยได้หรือไม่ได้”

“ที่นี่ที่ไหน จังหวัดอะไร ส่วนไหนของประเทศ”

“เพชรบูรณ์ ที่นี่คือเพชรบูรณ์ บอกได้แค่นี้แหละ” ขรรค์บอกนิ่งๆ

“ทำไม?”

“นายท่านสั่งไว้”

“ที่นี่อยู่ไกลจากตัวเมืองมากไหม หรือว่าไกลจากแหล่งชุมชนมากไหม” ถามเข้าไปอีก

“ถามว่าไกลไหม มันก็อยู่ไกลพอสมควร น้อยคนมากที่จะขึ้นมาพักถึงที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับสูงที่ชอบมาพักที่ไกลๆ คนไม่ค่อยเยอะ”

“ตรงไหนกันแน่ เขาค้อหรือเปล่านะ” ร่างบางครุ่นคิด มือก็ถือจานข้าวค้างไว้แบบนั้น

“ที่นี่ลึกกว่านั้น ถามว่าเขาค้อไหม มันก็ใช่แหละ แต่ไกลห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ”

ร่างโปร่งทานอาหารตรงหน้าต่อไปเรื่อยๆ ในหัวก็คิดอะไรมากมายจนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี เขาจะทำอะไรต่อไปดี

คิดไม่ออกเลยจริงๆ

“ขรรค์” เรียกเสียงเบา

“อะไร”


“ถ้าฉันจะหนี นายคิดว่าพอมีทางไหม…”












50%

 :katai4: :katai4: :katai4:

   สวัสดีค่ะที่รัก ยูกิเพิ่งจะผ่านมรสุมการสอบเสร็จและเคลียร์งานที่ค้างเสร็จไป หายไปนานแบบไม่บอกไม่กล่าวก็ต้องขอโทษด้วย อาจจะช้าบ้าง หายไปบ้างก็อย่าถือโทษโกรธกันเลยนะคะ

   ใครมีข้อตำหนิ ติชมก็บอกกับยูกิได้เลย แต่ช่วยใช้คำที่ดูไม่ทำร้ายจิตใจหน่อยนะ ช่วงนี้อารมณ์อ่อนไหวง่าย ฮ่าๆ พูดคุย สอบถามได้ที่แฟนเพจเลยค่ะ

https://www.facebook.com/sawachiyuki

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ we.jinkyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
 :angry2: รามินทร์ ใจร้าย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
รามโหดว่ะ ถ้ารู้ความจริงว่าอินไม่ได้ทำอะไรน้องสาวเลยนนี่จะเป็นยังไงน่ะ รอลุ้นค่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao7:  จะโหดร้ายได้สักแค่ไหน จะรอดู ชิ

เป็นกำลังใจให้ยูกิและอินนะคะ  :mew1: 

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :mew2: ขืนหนีรามรู้ตายแน่อินเอ๊ย

ออฟไลน์ pumpui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ขอให้ อินทัช เอาคืน รามินทร์ ให้สาสม  ให้ รามินทร์ ตามตื้อไม่สำเร็จ จน ใกล้จบปิดเล่มเลย อุต่ะ โหดไปมั๊ยเนี่นเรา หุหุ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
แล้วนึกยังไงถึงปรึกษาขรรค์ละเนี้ยะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง






อย่าคิดทำแบบนั้นเลยดีกว่า มันจะลำบากนายเปล่าๆ

เมื่อคืนขรรค์บอกกับเขาเอาไว้แบบนี้ แล้วมันหมายความว่ายังไงกันล่ะ ที่ขรรค์พูดเมื่อคืนตอนที่ทานข้าวเสร็จแล้วนั้น มันหมายความว่ายังไง

รามินทร์งั้นหรือ...

“คุณอินคะ ผักช้ำหมดแล้วมั้งคะนั่น” เสียงทักของหัวหน้าแม่ครัวดังเข้ามาในโสตประสาทการได้ยิน ทำเอาร่างสูงโปร่งที่กำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ ระหว่างล้างผักอยู่ถึงกับสะดุ้ง

เฮือก!!

“เอ่อ...ผมขอโทษครับ แล้วนี่ป้ายังไม่เลิกเรียกผมว่าคุณอีกหรือครับ”

“ไม่รู้สิคะ ความรู้สึกของป้าบอกว่าให้เรียกคุณอินแบบนี้”

“แต่ผมลำบากใจ เรียกผมอย่างอื่นเถอะนะครับ” เขาขอไปตรงๆ จนคนอายุมากกว่าถึงกับยิ้มอ่อนโยนมาให้ แล้วพยักหน้าน้อยๆ

“งั้นป้าเรียกอินนะคะ”

“ได้ครับ”

“ถ้าอินล้างเสร็จแล้ว ไปนั่งรอกินข้าวข้างนอกเลยก็ได้ วันนี้ป้าจะทำให้เสร็จอย่างหนึ่งก่อน กลัวว่าอินต้องรีบไปทำงานที่เขากำลังสร้างที่พักพนักงานต่อ”

“ไม่รีบหรอกครับนี่เพิ่งจะตี 5 กว่าๆ งานนั้นผมต้องไป 9 โมงน่ะครับ”

“นี่เปลี่ยนกำหนดการอีกแล้วหรือคะ”

“ใช่แล้วครับ ไม่รู้ว่าเจ้านายป้ามันจะเอาแต่ใจไปถึงไหน”

เดี๋ยวก็เปลี่ยนนู่นนั่นนี่ เขาล่ะตามมันไม่ทันจริงๆ

“ฮ่าๆ”

“ป้ามีอะไรให้ผมทำอีกไหมครับ เดี๋ยว 7 โมงผมต้องไปรดน้ำผักน่ะครับ”

“ก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่หรอกค่ะ วันนี้ทำไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เอาเป็นว่าลองหั่นหมูดูไหมคะ”

“ก็ได้ครับ เชิญป้าสอนได้เลย”

โชคดีจริงๆ ที่อยู่ที่นี่ เขาก็สามารถเข้ากับคนอื่นๆ ได้ ยกเว้นแต่คนที่บอกว่าเป็นเจ้านายของทุกคนที่นี่ที่ไม่ว่าเจอหน้าเขาก็ไม่อยากจะมอง

อินไปรดน้ำผักตอน 7 โมง ไม่เกิน 30 นาทีก็กลับมาทานข้าวเช้า แต่เหมือนจะทานไม่ค่อยอร่อยเพราะผู้เป็นนายอย่างรามินทร์ดันโผล่มาแต่เช้าแบบนี้

“ไง...ท่าทางแข็งแรงดีอยู่นี่”

“ก็ไม่ได้เป็นอะไร แค่โดนทรมาน ทำงานหนักทั้งวัน แล้วต้องมาล้างจานกับถูกรัดคออีก เรื่องแค่นี้สบายๆ อยู่แล้ว” อินทัชตอบอย่างไม่ใส่ใจ น้ำเสียงประชดประชันจนคิ้วเข้มกระตุก

“ก็ดีที่ไม่เป็นอะไร เอาเป็นว่ามึงทำงานเสร็จแล้ว รับเงินแล้วก็ไปซักเสื้อผ้ากูที่อยู่ที่บ้านพักของกูด้วยก็แล้วกัน”

“กูไม่ทำ”

“ดื้อด้านนะมึง สั่งยากสั่งเย็น แล้วสุดท้ายเป็นไง มึงก็ต้องทำอยู่ดี”

“คราวนี้กูไม่ทำ”

“ขัดคำสั่ง?”

“ไม่ได้ขัด”

“แล้วที่ทำอยู่คืออะไร”

“ก็แค่บอก”

“เถียงหน้าด้านๆ เลยนะ เอาเป็นว่า 5 โมงเย็นกูต้องเจอมึงที่บ้าน เข้าใจใช่ไหมว่าถ้าไม่มา มันจะเกิดอะไรขึ้น บางที กูอาจจะส่งข่าวของมึงไปให้คนอื่นๆ รู้ ว่ามึงตายแล้วก็ได้”

ร่างโปร่งมองหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เดินเลี่ยงไปนั่งทานอาหารกับฝั่งคนงานโรงครัวของรีสอร์ทแล้วเริ่มทานข้าวกันทันที ร่างสูงที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยักไหล่เล็กน้อย เดินไปยังโต๊ะที่ตนต้องทานข้าวซึ่งมันอยู่ในห้องอาหารอย่างดี

“อร่อยไหมจ้ะ” ป้ารีถามยิ้มๆ

“อร่อยมากครับ”

“ดีแล้วจ้ะ กินเยอะๆ นะ เดี๋ยวก็ต้องไปทำงานหนักแล้ว ป้ากลัวเป็นลมเป็นแล้ง”

“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ แต่ผมแข็งแรงดี ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกครับ ฮะๆ”

“อินนี่หน้าส๊วยสวย สวยอย่างกับผู้หญิงแหนะ แต่ก็สูงสมเป็นผู้ชาย ป้าคิดว่า ถ้าตัวเตี้ยกว่านี้แล้ว แล้วหุ่นก็บางหน่อย นี่จับแต่งหญิงได้เลย แต่ตอนนี้ก็จับแต่งได้นะ แต่เป็นผู้หญิงที่สูงมากๆ เลยล่ะ ฮ่าๆ”

“ป้ารี...พูดอะไรแบบนี้ล่ะครับ ผมไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงสักหน่อย” อินทัชครางเสียงอ่อน

ถ้าไม่ใช่ป้ารี อินทัชสาบานว่าคนพูดคงจะเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว เพราะเรื่องหน้าหวาน หน้าสวย เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับอินทัชเลยก็ว่าได้

เขาไม่ชอบ แล้วก็ไม่มีวันชอบ

“ก็คิดว่าอย่างนั้นนะ แต่แบบนี้ผู้หญิงก็ชอบนะ ดูจากยัยพวกนี้แล้ว” ป้ารีบอกพลางพยักเพยิดหน้าไปยังสาวคนงานวัยรุ่นทุกคนที่มองหน้าของอินทัชอยู่อย่างเคลิบเคลิ้ม

คนถูกมองก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ

“อิ่มแล้วครับ เดี๋ยวผมจะต้องไปทำงานก่อน ส่วนจานนี่ผมล้างเองนะครับ”

“ไม่เป็นไรจ้ะ เอ่อ...เดี๋ยวฉันล้างให้นะคะ” หญิงสาวคนหนึ่งอาสาขึ้น

“ไม่เป็นไรครับ ผมทำเองได้” พยายามปฏิเสธให้นุ่มนวลที่สุด จนทำให้หญิงสาวผู้นั้นได้แต่เขินกับรอยยิ้มของอินทัชที่มอบให้

“ต่ะ...แต่ฉันอยากทำนี่คะ แล้วมันก็เป็นหน้าที่ของฉันวันนี้ที่ต้องล้างจานในช่วงเช้าด้วย”

“เอ่อ...” เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากป้ารีทางสายตา แต่คนที่อายุมากกว่ากลับพยักหน้ายิ้มๆ จนร่างสูงโปร่งต้องถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะวางจานไว้กับที่

“ขอบคุณครับ”

“ย่ะ...ยินดีค่ะ”


สถานที่แห่งความเหนื่อย สถานที่แห่งความลำบาก งานที่อินทัชไม่เคยทำ และไม่เคยอยู่ในสมองว่าจะทำอย่างงานก่อสร้าง เขาก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นงานที่ทำให้เขามีเงินตอนอยู่บนเขาแบบนี้

“เอ่อ...” ตรงหน้าของเขาตอนนี้คือจักรที่เมื่อวานดันเล่นบทดราม่าใส่ก่อนกลับไปพัก

อินทัชไม่รู้ว่าคนตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ไหนเลยเลือกที่จะนิ่งๆ เอาไว้ ในจังหวะที่เขากำลังจะเดินออกไปทางอื่นเพื่อนไปทำงานกับคนอื่นๆ ก็ถูกเรียกเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยว”

“อะไร”

“ที่เมื่อวานกูพูดน่ะ ไม่ใช่จะยกคุณจอมให้มึงนะเว้ย อย่าเข้าใจผิด”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้สนใจคุณจอมแบบนั้น มึงพูดไม่รู้เรื่องเหรอวะ”

น่าแปลก...ทั้งๆ ที่รู้จักกันแค่วันเดียว แต่อินทัชกับจักรก็พูดคุยกันราวกับเป็นเพื่อนกันมานาน หรืออาจจะเป็นเพราะว่า จักร มีส่วนคล้ายคลึงกับเพื่อนรักของเขากัน

“กูแค่บอกไว้ อย่าให้มึงไปทำอะไรให้ความหวังคุณจอมเขา”

“มึงนี่นะ...คิดเด็ดดอกฟ้า ก็ต้องกล้าๆ หน่อยสิวะ” อินทัชแนะนำ

“ทุกวันนี้กูยังไม่กล้าอีกหรือไง คนเขารู้กันทั่วรีสอร์ทแล้วเนี่ย”

“แล้วไง มึงจะแคร์ทำไม ในเมื่อมึงชอบเขา มึงรักเขา มึงอยากได้แล้ว เอาแต่แซว เอาแต่เสี่ยวทุกวันมึงไม่มีทางจีบติดหรอกรู้ไว้ซะด้วย”

“แล้ว...ต้องทำไงวะ” คนผิวเข้มถามอย่างกระตือรือร้น

คิดภาพคนหน้าโหดๆ แต่ชอบทำตัวไม่เข้ากับหน้าดูสิ จะรู้ว่ามันหน้าเกลียดขนาดไหน ตอนนี้อินทัชก็รู้สึกแบบนั้นเลยล่ะ

ร่างขาวถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ เดินหนีร่างหนาของจักรอย่างไม่ได้สนใจคำถามของคนๆ นั้นเลยสักนิด ทำเอาเจ้าของใบหน้าโหดถึงกับมองตามด้วยความหมั่นไส้กับประโยคที่ร่างโปร่งทิ้งท้ายเอาไว้ให้เจ็บใจเล่น

“ก็คิดเองดิวะ อยากได้เขาไม่ใช่หรือไง”



ช่วงพักกลางวันหนึ่งชั่วโมง เหล่าคนงานต่างๆ ก็พากันมานั่งทานข้าวที่ทางโรงครัวเอามาตั้งไว้ให้สำหรับคนงานทานกันโดยเฉพาะ แต่ที่ทำให้อินทัชอยู่ไม่เป็นสุขเพราะโดนจักจ้องจนแทบจะฆ่าหมกซากหิน นั่นก็เพราะเจ้าจอมลูกพี่ลูกน้องของรามินทร์ที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่การเงินและการบัญชีของรีสอร์ทมาช่วยตักอาหารให้คนงานในวันนี้ด้วย ทั้งๆ ที่ปกติไม่เคยมาเหยียบถ้าไม่เอาเงินมาให้ในแต่ละวัน

“มึงนี่ดีจังเลยนะ มาทำงานวันเดียวคนอื่นๆ ก็ติดเต็ม สาวๆ ก็เอาแต่พูดถึง ไหนจะคุณจอมอีก น่าเบื่อ น่าเบื่อจริงๆ โว้ย” จะหงุดหงิดอะไรนักหนา

“หยุดโวยวายแล้วเข้าไปเอาข้าวกับคุณจอมซะ”

“ไม่โว้ย!! เข้าไปให้เจ็บหรือไง มึงทนได้หรือวะอินที่เห็นคนที่ตัวเองรักมาสนใจคนอื่น”

“อย่ามาป๊อด ไปเอาซะ!! แล้วก็พูดจาเสี่ยวๆ นั่นน่ะเลิกได้แล้ว วันนี้มึงลองเข้าไปแบบนิ่งๆ เงียบๆ ไม่สนใจจะมองหน้าสิ ได้ผลแน่”

“ผลบ้าบออะไรของมึง ไม่เชื่อเว้ย!!”

“แล้วแต่มึงก็แล้วกัน คนอื่นคาบไปแดกไม่รู้ด้วย”

“เออๆ ทำก็ทำ ไม่ได้ผลกูเตะมึงนะ”

“แน่นอน”

“คอยดูเถอะมึง” จักรชี้หน้าคาดโทษเอาไว้ก่อนจะเดินไปเอาข้าวด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ ใบหน้าที่ดูโหดอยู่แล้ว พอเงียบ พอนิ่งเข้าไปก็กลับดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้คนอื่นกลัว จักรเลยต้องเลือกใช้วิธีการที่จะทำให้คนอื่นไม่กลัวโดยการทำตัวสบายๆ ไม่ซีเรียส แล้วก็เป็นกันเองกับคนอื่นๆ

มันหล่อน่ะใช่ แต่ถ้ายังทำตัวแบบนี้ แต่งตัวเซอร์ๆ ไว้หนวด ไว้เครา ก็มองไม่เห็นความเป็นคนน่ะสิ

ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่ชอบแบบนี้ ต่อใหมี่ก็คงน้อยมากล่ะนะ

“หึหึ” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อมองตามจักรที่เดินเข้าไปเอาอาหารด้วยท่าทีที่ดูแข็งๆ เกร็งๆ แต่หน้ากลับนิ่งจนอินทัชยกนิ้วให้ พอคนตัวใหญ่เข้าไปเอาอาหารกับจอมคนตัวเล็กที่หน้าตาน่ารัก ก็ทำให้เจ้าจอมแปลกใจเล็กน้อยที่คนตัวเข้มมาเงียบแบบแปลกๆ ไม่มองหน้า ไม่มองตา ทำเอาใบหน้าขาวใสต้องงอง้ำอย่างเห็นได้ชัด ส่วนจักรก็ทำเมินแบบที่อินทัชสั่ง จนไม่รู้สีหน้า และสายตาของเจ้าจอมที่แสดงถึงความไม่พอใจขนาดไหน

“ให้ตายสิ ก็ใจตรงกัน แต่ทำไมอีกคนก็เล่นตัว อีกคนก็ทำเหมือนเล่นๆ”

“ไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่น แต่ไม่ยุ่งเห็นทีก็คงไม่ได้”

การทำให้คนรักกันนี่น่าจะเป็นงานที่อินทัชชอบมากๆ เลยก็ว่าได้ พี่สาวของตนแต่งงานได้ก็เพราะว่าเขาเป็นพ่อสื่อนี่แหละ ที่ธีรไนยมีสามีเป็นตัวเป็นตนก็มาจากการช่วยเหลือของอินทัชบางส่วน เลขาของเขาก็ได้แต่งงานกับ


“มันดูไม่ออกเลยหรือวะ ว่าคุณจอมก็รู้สึกแบบเดียวกับมัน”

ที่สำคัญ เจ้าจอมดันมีอะไรที่มันแปลกๆ ซึ่งไม่เหมาะกับเขาแน่นอนอยู่แล้ว ตั้งแต่แรกแล้ว เจ้าจอมไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจเขาในเชิงชู้สาวเลยสักนิด คงจะใช้เขาเพื่อเข้ามาที่นี่ได้อย่างไม่ตะขิดตะขวง ให้คนอื่นเข้าใจว่าสนใจอินทัช แต่ความเป็นจริงก็เพื่อมาอยู่ใกล้ๆ กับจักรอย่างที่ตัวเองต้องการมานานแล้วต่างหาก

สายตาของอินทัช และความรู้สึกของเขาไม่มีทางพลาดแน่นอน

...

...

...


โป๊ก!!

“โอ้ย! ไอ้เหี้ยจักรเขกหัวกูทำไมวะ” ระหว่างที่ร่างโปร่งกำลังนั่งทานอาหารอยู่ก็ถูกคนตัวใหญ่ที่กลับมาด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความไม่พอใจออกมา

“ทำไม!! กล้าถามอีกนะ ไอ้ที่มึงแนะนำมาน่ะ มันใช่ไม่ได้ผลเหี้ยอะไรเลย นอกจากเขาจะไม่คิดที่จะถาม ยังเมินกูด้วย”

ทั้งคู่...เป็นเอามากกันทั้งคู่

“มันได้ผลนะ มึงเดินไป เขาไม่แสดงสีหน้าอะไรเลยหรือไง มึงอยู่ตรงนั้นอาจจะไม่เห็น แต่กูมองอยู่ห่างๆ นี่เห็นเต็มๆ เลยนะ” ร่างขาวพูดออกไป

ยังไงก็แล้วแต่ ช่วยให้คนรักกันได้ อินทัชล่ะชอบที่สุด ส่วนตัวเองก็เจ้าชู้ไปเรื่อย แต่ที่เจ้าชู้ก็เพื่อหาคนที่ตัวเองอยู่ด้วยแล้วมีความสุขก็เท่านั้น

ใครสักคนที่ไม่เข้าหาเขาเพราะผลประโยชน์หรือหวังเงินทอง

“เห็นอะไร คายมันออกมา”

“ก็เห็นว่าคุณจอมเค้ามองมึงน่ะสิ”

“เค้าก็มองทุกคนนั่นแหละไอ้ปลวก กูต่อยมึงสักหมัดดีไหมวะเนี่ย”

“ใจเย็นน่า เชื่อกู ถ้ามึงอยากได้คุณจอม มึงก็ต้องทำตามที่กูบอก เข้าใจนะ” จักมองหน้าอินทัชแบบไม่ค่อยเชื่อใจเท่าไหร่ แต่เมื่อหันไปมองยังร่างของจอมที่กำลังช่วยแม่บ้านตักอาหารนั้นแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ

“เฮ้ออออ”

“เอาไง”

“ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ลองวิธีมึงก็ได้วะ”

“มันต้องอย่างนี้สิ แต่มึงต้องช่วยกูอย่างหนึ่งกลับด้วยนะ” อินทัชขอแลกเปลี่ยน เพราะตอนนี้ร่างผอมมีแผนในหัวแล้ว ว่าจะเอายังไงกับชีวิตที่นี่ต่อดี

“ช่วยอะไร”

“ได้ไหมล่ะ” ไม่ตอบ แต่เลี่ยงที่จะถามกลับ

“เออๆ กูช่วยได้ทุกอย่างนั่นแหละ”

“ขอบใจนะเว้ย” อินทัชยิ้มให้อย่างจริงใจ

“แล้วที่มึงบอกว่าคุณจอมมองกู มองแบบไหน”

 “แบบไม่พอใจ” สิ้นคำตอบ ร่างโปร่งก็โดนเขกศีรษะอีกครั้งอย่างแรง จนต้องส่งเสียงร้องออกมา

“ไอ้อิน!! นั่นมันก็แบบปกติที่เค้ามองกูเว้ย เผื่อมึงไม่รู้”

“มึงนี่โง่เนอะ”

“อย่าอวดฉลาดไอ้อิน เดี๋ยวเจอตีน” คนตัวเข้มพยายามจะประทุษร้ายอินทัชอีกครั้ง แต่ร่างโปร่งก็ขยับตัวเดินหนี อย่างรู้ทัน

“มึงก็ลองคิดดีๆ สิ เมื่อกี้กูให้มึงทำหน้านิ่งๆ เข้าไป ทำเป็นไม่สนใจเขาใช่ไหม” ถามยิ้มๆ

“ก็ใช่ไง ถามเหี้ยอะไรเนี่ย” จักรเริ่มจะหัวเสีย ข้าวที่ได้มาชักจะไม่อยากจะกินมันแล้ว ทั้งๆ ที่มันเป็นข้าวที่คนที่ตัวเองแอบรักมาตลอดสองปีตักให้แท้ๆ

“มึงก็คิดสิคิด ให้สมองที่มีอยู่อันน้อยนิดคิดสิว่ากูบอกว่ายังไง คุณจอมทำหน้าไม่พอใจใช่ไหม แล้วไม่พอใจทำไมล่ะ ทั้งๆ ที่ควรดีใจไม่ใช่หรือไงที่มึงไม่พูดจากวนประสาทเค้า ทั้งเมิน ทั้งไม่สนใจขนาดนั้น ถ้าเป็นคนที่เราไม่ชอบจริงๆ ก็จะรู้สึกดีใจมากๆ แต่นี่แสดงออกในทางตรงกันข้าม มึงก็คิดดูเองก็แล้วกัน กูเอาจานไปเก็บแล้ว” ร่างขาวพูดบอกยาวเพื่อให้จักรเข้าใจสักทีว่ามันเป็นยังไงกันแน่

และมันจะช่วยให้จักรมีไฟที่จะเดินหน้าจีบเจ้าจอมต่อไป


รามินทร์ที่แอบฟังอยู่ห่างๆ โดยที่ทั้งคู่ไมรู้เลยว่าเขามายืนแอบฟังบทสนทนานี้อยู่หลังต้นไม้ใหญ่ที่ทั้งคู่นั่งอยู่ ใบหน้าคมเข้มยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน

“พ่อสื่องั้นหรือ หึหึ...ต่อให้ไม่มีมึง เจ้าจอมก็ต้องเสร็จไอ้จักรมันอยู่แล้ว”

ทั้งๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ที่หวงน้องมาก ไม่ว่าจะน้องแท้ๆ อย่างรินลณี หรือลูกพี่ลูกน้องอย่างเจ้าจอมก็ตามที แต่ประโยคที่รามินทร์พูด ดูจะไม่สนใจเท่าไหร่นักที่จะหวงเจ้าจอมกับจักร

สนใจสิ่งที่อินทัชจะให้จักรช่วยเหลือเท่านั้นแหละว่าอีกคนต้องการอะไร

“เอาสิ มึงคิดจะหนีงั้นสินะ ถ้าทำได้ก็ลองดู หึหึ”


ทุกอย่าง...มันพึ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น...






100%

 :hao6: :hao6: :hao6:


   อาทิตย์หนึ่งเต็มๆ ที่ปล่อยให้ทุกคนรอครึ่งหลัง ขอโทษด้วยน้า งานเยอะจริงๆ จ้า ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ อ่านเสร็จแล้วอย่าลืมให้กำลังใจกันน่อ พูดคุย ทวงนิยายได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ

   https://www.facebook.com/sawachiyuki


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew3:  สงสารอิน
ขอบคุณค่ะยูกิ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ชอบนิสัยนายเอกมากๆ

หายากนะนิสัยแบบอิน

คืออ่านไปแล้วไม่รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด

แต่จะคอยลุ้นว่า พ่อพระเอกรามจะใช้งานอินอะไรอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
รอตอนต่อไปนะ รามจะทำอย่างไรกับอินต่อไป

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :z13:



แอร้ยยยยยยยย ดันๆ รอๆ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ฮึ่ม!!!!!!! ยิ่งอ่านยิ่งหมั่นไส้พระเอก น้องอินของเจ้ :hao5:
ความจริงเปิดเผยเมื่อไหร่ จะเอาตัวไปซ่อนไว้ให้หาไมาเจอเลย ชิๆๆๆๆๆๆๆ :z3:

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
 :pig4: อยากอ่านต่อแล้วสิ ดันๆๆ  :z13:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 4
หนี!!!



   อินทัชทำงานเริ่มคล่องขึ้นกับงานก่อสร้างแบบนี้ แต่สิ่งที่เขายังไม่ชินนั่นคือแดดที่ร้อนเปรี้ยง ส่งผลให้ร่างกายหลั่งเหงื่ออกมาจนเปียกโชกไปทั้งตัว ดื่มน้ำแล้ว ดื่มน้ำเล่า ก็ไม่ได้ดับกระหายให้เขาได้เลย ใบหน้าหวานที่มักจะนิ่งตลอดเวลาบัดนี้กลับขมวดมุ่นราวกับใช้ความคิด

“เฮ้ยไอ้อิน ทำหน้าเครียดทำไมวะ”

“ถามมากว่ะไอ้จักร เอาเวลาไปทำงานเถอะ”

“ไอ้นี่! เดี๋ยวกูตบหัวให้”

“เอะอะก็ใช้แต่กำลังนะมึง” อินทัชบ่นอุบอิบ

เขาอยากจะบอกให้จักรพาหนีแทบตาย สุดท้ายสมองก็ไตร่ตรองแล้วว่าไม่ควรพูดออกไปตรงๆ เพราะยังไงจักรก็เป็นลูกน้องของรามินทร์อยู่ดี แล้วถ้าเขาบอกความจริงไป มันก็คงจะเลือกเจ้านายอยู่ดี

และจะกลายเป็นเขาที่ใส่ร้ายเจ้านายมันไปเสียเปล่าๆ

“เฮ้อ”

“เป็นไรวะ” อินทัชถามเมื่อเห็นเพื่อนใหม่ที่แสนจะเถื่อนถอนหายใจ

“เรื่องคุณจอม มึงว่ากูควรจะตัดใจดีไหมวะ”

“ทำไม มึงจีบเขามากี่ปีแล้ววะ” ร่างโปร่งถาม พลางเดินไปขนทรายมาเทเพื่อผสมปูน

“ก็ 2 ปีได้มั้ง”

“นานขนาดนั้นเลยหรือวะ”

“เออ! เนี่ยท้อแล้วนะเว้ย”

“อะไรวะ สู้ให้ถึงที่สุดเลยสิวะ ลูกผู้ชายไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ”

“แต่กูเหนื่อย ขนาดมึงช่วยกู จนเห็นความเป็นแปลงนิดๆ แต่มันก็เหมือนเม ดอกฟ้ากับหมาวัด หึหึ ของสูงส่งแบบนั้นจะมาให้คนบนดินต้อยต่ำอย่างกูเด็ดได้ง่ายๆ หรือวะ”

“หน้าเหี้ยๆ แบบมึงไม่หมดกับบทดราม่า กูว่าเปลี่ยนบทเถอะว่า”

“ไอ้สัตว์อิน มึงนี่มัน กวนตีนฉิบหาย”

“ขอบใจที่ชม กูปลื้มมาก” อินทัชบอกไปด้วยสีหน้านิ่งๆ

“ด่าเว้ย!”

“หึหึ มึงไม่ต้องห่วง กูมีวิธีที่ทำให้มึงไม่ต้องหาไม้ หาตระกร้อ หรืออะไรก็ช่างมาเด็ดดอกฟ้าหรอก ถ้าทำตามกู ดอกฟ้าจะมาให้มึงเด็ดเองถึงที่” อินทัชยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

“ทำหน้าชั่วฉิบหาย”

“ถ้าหน้ากูชั่ว มึงก็หัวหน้าโจรอ่ะไอ้จักร”

“เออ...มึงมันสวย ถ้ามึงตัวเล็กเหมือนคุณจอม กูคงชวนขึ้นเตียงไปแล้ว”

“อย่าพูด ไอ้สัตว์ กูขนลุก เห็นแบบนี้ก็รุกนะครับมึง” สิ้นประโยคชวนหัวเราะของอินทัช จักรก็มองกราดจากบนลงล่าง จากล่างขึ้นบนอีกหลายๆ รอบจนร่างผอมโปร่งยกขาเตรียมเตะ

ไม่สำเหนียกตัวเอง

“หึหึ แสดงว่ายังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงสินะ บอกเอาไว้ตรงๆ นะเว้ยไอ้อิน ที่ผ่านมามึงจะรุกก็ช่าง แต่ว่าสภาพมึงนั้น ฮ่าๆ กูว่ารับว่ะ รับชัดๆ” อินทัชคิ้วกระตุก ชักอยากจะเตะปากคนขึ้นมา

“ไอ้เหี้ยจักร เอาเหี้ยอะไรมาพูด ชายอกสามศอกอย่างกู แม้ว่าชายหรือหญิงก็ได้ แต่ไม่คิดและไม่เคยเป็นรับให้ใคร จำใส่สมองเอาไว้ด้วย แล้วมึงก็ดูกู สูงจะเท่ามึงอยู่แล้ว ใครที่ไหนมันจะอยากกดผู้ชายสูงๆ วะ”

มันก็ยังไม่รู้ตัวเองอีก แค่หน้ามึงเขากอยากจะลากเข้าป่ากันแล้ว ไม่สังเกตหรือไงวะว่าไอ้พวกที่มันแบกปูน แบกหินอยู่มันมองมึงด้วยสายตาแบบไหน เฮ้อ...เวรกรรมของไอ้จักรแท้ๆ จะทำเป็นมองไม่เห็นก็ไม่ได้ เพราะยังไงมันก็ช่วยเราจีบคุณจอม...

นอกจากจะเป็นหมาวัด ยังเป็นไม้กันหมาให้ไอ้หน้าสวยนี่อีก

“เฮอะ! เอาที่มึงสบายใจเลยครับ แม่ง...ถ้ามึงตัวใหญ่มีกล้ามโตๆ อย่างกูกับคุณรามหรือไม่ก็ไอ้ขรรค์ล่ะก็นะ อ้อ ไอ้พวกที่ทำงานอยู่ด้วย มึงสูงแล้วไง แต่ผอมแห้งขนาดนี้ ก็เหมือนผู้หญิงที่สูงนั่นแหละ รู้ป่ะ ว่าคนที่นี่เขาไม่กล้าใช้งานมึงเพราะยกให้มึงเป็นเจ้าหญิงของหน้างานไปแล้ว”

“ไม่จริง ไม่มีทาง กูยังโดนทารุณ ใช้งานหนักอยู่เลย” เถียงเสียงแข็ง

เขาไม่ชอบให้มาทำเหมือนกับว่าเขาเป็นตัวถ่วง หรือเป็นของประดับสวยๆ งามๆ ให้เขาทำงานดีกว่า จะหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ช่าง เขาก็จะทำ

“แต่งานที่มึงทำถือว่าเบากว่าวันแรกเยอะเลยนะเว้ย กูนี่ก็แอบปลื้มใจแทนที่ว่าเขารู้สึกชอบมึงกัน เลยไม่ยอมให้ยกอย่างอื่น ให้ผสมแค่ปนกับยกของนิดหน่อย”

“งั้นมึงช่วยไปบอกให้หน่อยว่ากูจะทำงานหนัก ยกของ ก่อ ฉาบ หรืออะไรก็ได้ ช่วยสอนด้วย”

“จะบ้าหรือไง ไม่เอาเว้ย กูกลัวมึงตาย”

“ไอ้ห่า กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

“น้ำหน้าและร่างกายของมึงมันบอกแล้วไอ้อิน ฮ่าๆ”

“หุบปากถ้าไม่อยากปากแตก จนต้องไปเย็บที่โรงบาล” อินทัชขู่ด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ เขาไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าเขาสวย แม้ว่าจะรู้ตัวว่าหน้าหวานเหมือนผู้หญิงก็ตาม

แต่จักรพูดตรงเกินไป...อินทัชรับไม่ได้

“โรงบาลงั้นเหรอ”

ร่างบางยกยิ้มเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก เขาเดินไปทำงานอย่างอารมณ์ดีโดยไม่สนใจจักรอีกต่อไป ทำเอาเพื่อคนใหม่อย่างจักรต้องเดินไปทำงานของตัวเองคืนอย่างช่วยไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจอารมณ์ของอินทัชเหมือนกัน

เมื่ออยู่คนเดียวแล้ว อินทัชก็พึมพำอยู่คนเดียว มองไปรอบๆ อย่างใช้ความคิด

“ต้องเนียนที่สุด ก็คงต้องลงทุนหน่อยล่ะนะ” เสียงทุ้มแบบมีเสน่ห์พูดขึ้นเบาๆ

“เฮ้ย!! ไอ้หนุ่มตรงนั้นน่ะ รีบยกปูนมาสิวะ”

“ครับๆ” ร่างโปร่งถึงกับต้องหยุดชะงักความคิดเอาไว้ก่อนเพื่อจะทำงานตามที่ผู้อาวุโสกว่าสั่งมา ไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร

ถ้าหากว่าแผนการหนีไม่สำเร็จ จะได้อยู่กับคนที่นี่ได้

“นี่ครับ”

“อ้าว! อินเองหรือ พี่ขอโทษนะ เหนื่อยหรือเปล่า” คนที่ตะโกนสั่งอินทัชเมื่อกี้นี้ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเมื่อเห็นคนที่ตัวเองตะโกนใส่เป็นหนุ่มหน้าสวยที่มาทำงานได้วันแรก ก็เอาใจเหล่าคนงานไปหมดทุกคน ถึงแม้ทุกคนจะมีเมียมีลูกเป็นส่วนใหญ่กันไปแล้ว การที่มีหนุ่มหน้าสวยมาอยู่ในไซต์งานก็ถือว่าเป็นอาหารตาให้เหล่าหนุ่มฉกรรจ์กระชุ่มกระชวยได้บ้าง

“ก็ไม่เหนื่อยหรอกครับ พี่คมมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า”

“ไม่มีๆ ตรงนี้พี่กำลังจะลงเสาชั้นที่สองงานอันตราย อยู่ห่างๆ ดีกว่า”

“แต่ผมอยากช่วย”

“งั้นพี่ว่าไปร่อนทรายก่อนก็แล้วกัน แล้วไปหาพี่สันบอกว่าพี่ให้ช่วยสอนก่อเสาอิฐที่จะเอาไว้ปลูกต้นไม้นะ พี่ว่านายเริ่มทำแบบนี้ก่อนก็ได้”

“ขอบคุณนะครับ”

“แต่ถ้าไม่ไหว ก็คอยเสริร์ฟน้ำพวกเราก็ได้ จะได้ชื่นใจ ฮ่าๆ”

หัวงูโผล่เชียวนะ ดูหน้าบ้างเถอะพี่คม

“เหอๆ พี่อยากปากแตกเหรอ”

“วะไอ้นี่ ปากหมาเหมือนที่ไอ้จักรว่าจริงๆ งั้นกูขอแทนตัวว่ากูกับมึงก็แล้วกัน เรียกพี่กับนายแล้วกระดากปากฉิบหายเลยว่ะ”

“เอาที่พี่สบายใจอ่ะ”

“ฮ่าๆ ไปๆ เอ็งไปทำงานต่อไป แต่ที่บอกว่าไม่ไหวแล้วให้เสิร์ฟน้ำน่ะเป็นเรื่องจริง เพราะคนงานเรามีเพียงพออยู่แล้วล่ะ ได้มึงมาเพิ่มก็ไม่ได้เสียหาย ที่สำคัญคุณรามท่านฝากมาน่ะนะ”

“มันฝากมาให้ทรมานผม ทำไมพี่ไม่ทำล่ะ” ถามออกไปตรงๆ จนคมถึงกับเบิกตากว้าง ไม่คิดจะได้ยินคำว่ามันออกจากปากของอินทัช

“มันเมินอะไรล่ะ นั่นเจ้านาย เจ้าชีวิตเลยนะเว้ย”

“ก็ผมจะเรียกแบบนี้ ใครจะทำไม”

“เดือดร้อนมากูไม่รู้ด้วยนะเว้ย”

“เออน่า งั้นขอไปทำงานก่อนนะพี่”

“เออๆ”

ร่างโปร่งเดินหนีจากตรงนั้นมาด้วยความไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่มักจะได้ยินชื่อของรามินทร์ออกมาจากปากคนงานทุกๆ คน

อินทัชกำลังไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนงานที่นี่ถึงได้รักเจ้านายของตัวเองกันจัง ทั้งๆ ที่เขาก็เห็นแค่ความชั่ว ความเลว และความเอาแต่ใจของรามินทร์

“คนแบบนั้น มันจะมีได้ยังไง ความดีน่ะ”


เลิกงาน

อินทัชไม่มีโอกาสได้ทำตามที่ตัวเองคิดเลยสักนิด เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกและภายในที่ไม่สามารถทำตามที่คิด ปัจจัยภายนอกคืองานที่เยอะจนทำไม่ทัน ปัจจัยภายใน คือความกลัวของตัวเองที่ไม่กล้าทำตามที่คิดนั่นแหละ

“เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน”

“อินๆ ไอ้อิน”

“อะไรของมึงวะจักร” ร่างโปร่งหันไปถาม

“พวกพี่คมชวนแดกเหล้า ไปเปล่าวะ”

“เหล้า?”

“ใช่ มึงไม่รู้จักหรือไงวะ สรุปไปไหม”

“กูอยากจะไปอยู่หรอก แต่เจ้านายบังเกิดเกล้าของมึงให้กูไปทำความสะอาดที่บ้านพักของมันน่ะ คราวหลังก็แล้วกันนะ”

“อะไรวะ นี่คุณรามใช้งานมึงขนาดนี้เลยเหรอ” คนเป็นลูกน้องถามอย่างสงสัย

“ที่มึงรู้ตอนนี้ก็ยังน้อยไปด้วยซ้ำ เอาเป็นว่าพวกมึงมีวันหยุด มีเวลาพัก แต่กูไม่...เพราะเลิกจากตรงนี้แล้ว กูต้องไปทำอื่นๆ อีก อย่างที่มันต้องการนั่นแหละ” อินทัชบอกความจริงออกไป แต่ให้ตายก็ไม่มีวันเล่าเรื่องราวที่ตัวเองต้องมาอยู่ที่นี่เด็ดขาด

และไม่มีทางที่จะบอกว่าเจ้าตัวเป็นใครด้วย

“คงจะเหนื่อยนะมึง แล้วมึงไปทำอะไรให้ท่านโกรธเปล่าวะ เพราะคุณรามนี่เป็นคนดีมากเลยนะเว้ย ที่มึงพูดมากูนี่แทบจะไม่เชื่อเลย” ร่างบางหัวเราะในลำคอเบาๆ อย่างสมเพชตัวเอง

“กูเป็นคน ‘พิเศษ’ ไง”

“ห๊ะ!!!” จักรเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ในหัวก็คิดไปต่างๆ นาๆ โดยที่อินทัชไม่รู้เลยว่า จักรกำลังคิดลึกอยู่

ก็พอจะรู้รสนิยมของรามินทร์ผู้เป็นนายอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนจากหนุ่มตัวเล็กๆ น่ารักๆ มาเป็นหนุ่มร่างสูงที่หน้าสวยฉิบหายแบบนี้

แต่ว่า...ถ้าเป็นคนพิเศษของรามินทร์จริง...ทำไมต้องมาทำงานก่อสร้าง ทำไมต้องจิกหัวใช้เยี่ยงทาส?

“พิเศษที่ว่านี่...”

“คนที่มันเกลียดไง อย่าคิดลึกให้มันมาก เฮอะ!!”

“อ่อ...แล้วไปทำอะไรให้ท่านเกลียด”

“กูไม่อยากพูด ยังไงก็ขอตัวก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวมันจะว่าเอา”

“เออๆ เจอกันพรุ่งนี้”

“อือ”

อินทัชเดินจากมาจากหน้างานก่อสร้างที่ผู้คนรับเงินเสร็จแล้วก็เตรียมกลับบ้าน ส่วนอินทัชฝากให้จักรเก็บเงินไว้ให้ เพราะขี้เกียจรอเวลา กลัวฝั่งรามินทร์จะด่าเอา

ไม่ได้กลัวหรอกนะ แค่รำคาญก็เท่านั้น


“ช้าไป 5 นาที” เสียงแรกที่เมื่อเขาเดินมาถึงทางเข้าบ้านพักของรามินทร์ก็ดังขึ้นมา จนต้องเหลียวหลังหันไปมองร่างสูงที่กอดอกยืนพิงเสาไม้อยู่

“แล้ว?”

“มึงกล้ามากนะที่ทำให้กูต้องรอ”

“แล้วรอทำไมไม่ทราบ”

“กลัวมึงตุกติก คิดจะหนีไง ในบ้านกูยิ่งมีอะไรเยอะๆ อยู่ด้วย”

“อย่าโง่สิครับคุณราม กูไม่มีกุญแจบ้านมึงครับ” ร่างสูงนิ่งไปนิดๆ เมื่อรู้สึกเสียหน้า

“เออช่างเถอะ ตามกูมานี่ ไปทำความสะอาดห้องทำงานของกู”

“ตอนเย็นเนี่ยนะ”

“ทำไม มึงถือเหมือนพวกคนสมัยก่อนหรือไงที่ไม่ให้กวาดบ้านตอนเย็นน่ะ” ร่างสูงถามอย่างหาเรื่อง

“เปล่า”

“งั้นก็เลิกพูด เลิกถาม แล้วตามกูมา”

ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไร ร่างสูงบางก็เดินตามเข้าไปในตัวบ้านของร่างสูงก็พบว่ามันต่างจากห้องพักในรีสอร์ทหรือบ้านพักที่อื่นๆ อย่างฟ้าและเหว

ถ้ามันจะหลายมาตรฐานขนาดนี้น่ะนะ

“หรูดีนี่ แต่จะว่าไป เฟอร์นิเจอร์ก็ของบริษัทกูทั้งนั้นนี่ PLEUNG สร้างให้สินะ” ร่างโปร่งพึมพำแล้วมองรอบๆ บ้านอย่างสังเกต

“ตามมาสิวะ พรุ่งนี้มึงต้องมาทำทั่วทั้งบ้าน แล้วก็ไม่ต้องไปไซต์งานวันหนึ่ง ตื่นเช้ามามึงก็ทำงานให้เสร็จแล้วมาที่นี่ อ้อ ยกอาหารมาให้กูที่นี่ด้วย”

“แล้วทำไมไม่ให้กูทำพรุ่งนี้ทีเดียว”

“ก็กูแพ้ฝุ่น ห้องนอนฝุ่นเยอะ นอนไม่ได้” ว่าไปแบบกวนๆ จนอินทัชอยากจะบดกำปั้นลงที่หน้าหลอๆ นั่นให้หายแค้น

“คุณชายจังนะ”

“ไม่เท่ามึงหรอกมั้ง”

“กูไม่ใช่คุณชาย แล้วกูก็คิดว่างานของกูไม่ได้สบายเท่างานของมึง” ร่างบางแสดงสีหน้าที่เหนือกว่า เพราะดูไป รามินทร์ก็ใช่จะมีงานเยอะ

“นั่นสินะ ใครจะไปเข้าใจกันล่ะ มึงมันเจ้าของบริษัทใหญ่นี่ เพื่อนๆ ก็มีแต่พวกไฮโซ ทำงานทั้งเช้าสายบ่ายเย็น ก็มึงก็ยังมีเวลามากพอที่จะไปคั่วสาวๆ หรือหนุ่มๆ”

“มันใช่เรื่องที่มึงจะเอามาเกี่ยวไหม”

บางทีอินทัชก็สงสัย ทำไมรามินทร์ถึงเอาเรื่องบ้าบอมาเถียงเขา ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ก็คงจะเป็นนิสัยของพวกที่ชอบเอาชนะล่ะมั้ง

“ก็ไม่หรอก เอาล่ะ มึงทำความสะอาดซะ หยากไย่ก็เอาออกให้หมด เปลี่ยนผ้าปู ปลอกหมอนให้ด้วย มันอยู่ในห้องของแม่บ้านนั่นแหละ อ้อ! ไม่ต้องถาม มีปัญญาก็เดินหาเอาเอง”

“ที่สำคัญ ฝุ่นห้ามมี!!!”

“เออ!!!”

“ก็ทำไปสิ ยืนเฉยทำไม”

“จิ๊!”

อย่าให้ออกไปจากที่นี่ได้นะ กูจะแจ้งจับข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และใช้แรงงานเกินที่กฎหมายกำหนด





50%

 :katai4: :katai4: :katai4:

   ขอโทษที่ลงช้าจ้า พอดีคิดไม่ออก บวกกับรีบปั่นเล่มพิเศษน้องดรีมด้วย อย่าเพิ่งหนีหาย อย่างเพิ่งทิ้งกัน อย่าลืมกัน คิดถึงกันก็คอมเม้นท์ให้กำลังใจหน่อยน้า วันนี้ลงทีเดียวสามเรื่อง เรื่องละ 3 เว็บ ให้กำลังใจกันนิดหนึ่ง ไม่งั้นก็จะหายไปอีกนานๆ เลย ฮ่าๆ (อ้างมาก)

ทวงได้ เร่งได้ แต่ลงได้หรือเปล่าอีกเรื่อง แหะๆ เข้าไปพูดคุย ติดตามยูกิได้ที่แฟนเพจนะคะ

   https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
อินเอ้ยยยย


 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
เหอๆ รันทดจริงอินของฉัน  :sad4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
กลายเป็นแจ๋วไปแล้วนายเอกของชั้น
ขอบคุณยูกิค่ะ

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
 :z10: อินอย่าไปยอม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด