Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 9
เจ็บกายไม่เท่าเจ็บใจ
ในขณะที่ต้องช่วยจักรเผด็จศึกเจ้าจอมกับช่วยหมอเงินให้ปรับความเข้าใจกับขรรค์แล้ว ก็ยังต้องเอาตัวเองให้รอดจากมรสุมงานหนักที่รามินทร์มักจะชอบเอางานมาให้ทำอยู่ทุกครั้ง ทุกวันก็เพิ่มขึ้นจนเขาแทบจะเหนื่อยแทบตาย
“อย่ามัวแต่อู้”
“อย่ามัวแต่สั่ง กูรำคาญ”
“ไอ้อิน!!!” เสียงทุ้มตะโกนดังลั่นเมื่ออินทัชสวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“เรียกทำไมเสียงดัง ได้ข่าวว่าห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตร ประสาท!” เขาด่าร่างแกร่งเบาๆ กับตัวเองก่อนจะเดินตัดหญ้าในสวนต่อไปตามคำสั่งของร่างสูง
“มึงว่ากูอีกแล้วนะ อยากตายหรือไง”
“กูก็เห็นมึงถามกูแบบนี้ทุกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นจะฆ่าอย่างที่พูดเลย” เขาหันมาสบตากับดวงตาคมของรามินทร์คล้ายจะท้าทายหน่อยๆ
“ทำไม? มึงอยากตาย?”
“ถ้าถามว่ากูอยากตายไหม ก็คงตอบได้เลยว่าไม่...ใครจะไปอยากตายล่ะจริงไหม แต่เลิกเอาเรื่องตายมาขู่กู ถ้ามึงไม่คิดที่จะทำจริงๆ”
“ปากดี ถ้าวันนั้นที่มึงกำลังจะตายบอกเลยว่ากูไม่ช่วยมึงแน่”
“อือ...ไม่ขอให้ช่วยอยู่แล้วล่ะ ถ้าต้องติดหนี้บุญคุณมึงนะ กูยอมตายดีกว่า”
“หุบปากแล้วทำงานต่อไปซะ!! เสร็จแล้วก็ไปซักผ้า”
“ซักบ้าอะไรอีกวะ!! เมื่อวานเพิ่งจะซักไปเอง”
“คราวนี้เป็นเสื้อผ้าของคนงานทั้งหมด!” รามินทร์ตอบด้วยสีหน้าที่สะใจที่เห็นสีหน้าไม่พอใจออกมาจากใบหน้าของอินทัช
ดี...โกรธเข้าไปอีก มึงยิ่งทุกข์ กูยิ่งสะใจ
“อะไรวะ รับใช้มึงกูยังพอทน แต่นี่กูต้องมาทำให้คนอื่นทั้งรีสอร์ท มึงไม่คิดว่ามันมากเกินไปหน่อยหรือวะไอ้ราม!!” ถามเสียงดังลั่น ดับเครื่องตัดหญ้าในมือแล้วขว้างมันอย่างไม่ใยดี เดินเข้ามาหาร่างใหญ่ในร่ม
“มากไปยังไง กูจะให้มึงทำอะไรก็ได้”
“แต่กูไม่ทำ!!”
“มึงต้องทำ”
“ยังไงกูก็ไม่มีทางทำเด็ดขาด ชีวิตกูแค่โดนมึงโขกสับก็พอแล้ว แต่นี่มึงลากกูมาเป็นขี้ข้าของคนทั้งรีสอร์ทอีก คอยดูนะถ้ากูหลุดจากที่นี่ไปได้ รีสอร์ทของมึงทุกที่ กูจะไม่ให้มันได้อยู่ดีเลย” ว่าขู่ออกไปด้วยความโกรธ
มีอย่างที่ไหนที่จะให้เขาไปซักเสื้อผ้าให้กับคนงานทั้งรีสอร์ท มันเกินไปแล้ว เกินไปจริงๆ
“มึงต้องทำ!!”
“กูไม่ทำ!!” ว่าแล้วก็วิ่งหนีเสียเลย เพราะคนรักศักดิ์ศรีอย่างอินทัชไม่ยอมก้มหัวให้กับคนงานของรามินทร์เด็ดขาด เพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวของรามินทร์ฆ่าตัวตาย ฉะนั้นจึงยอมรับใช้ แต่ถ้าให้เขาทำให้คนงานที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
อินทัชไม่ทำ
“ไอ้สัตว์นี่! อย่าหนีนะเว้ย” ขายาวออกวิ่งตามคนตัวบางไปอย่างรวดเร็ว ในใจก็คิดว่าทำไมอินทัชถึงได้วิ่งเร็วนัก และคาดโทษอีกคนเอาไว้ด้วย
จับได้เมื่อไหร่ มึงเจ็บแน่!!
ร่างโปร่งวิ่งลงไปด้านล่างที่เป็นเชิงเขาเพื่อไปยังบ้านพักของตนเอง หากแต่พ้นตัวบ้านของรามินทร์ไปได้ไม่เท่าไหร่ เจ้าของที่นี่ก็วิ่งมาประชิดตัวแล้วจับแขนเอาไว้ได้ในที่สุด
หมับ!!
“โอ้ย!! เจ็บนะไอ้เหี้ยราม”
“เจ็บน่ะดี มึงจะได้จำ แล้วไม่คิดทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้อีก” ว่าแล้วก็จัดการผลักร่างบางของอินทัชลงไปที่พื้น จนก้นกระแทกเข้ากับหินน้อยๆ ตามพื้นจนรู้สึกเจ็บไปหมด ช่วงล่างที่ยังไม่หายดีเท่าไหร่ก็เกิดอาการเจ็บแปลบไปทั้งร่าง คิ้วสวยขมวด ฟันขาวกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับเสียงร้องของตน
“ลุกขึ้น!! แล้วไปขนเสื้อผ้าคนงานมาซักซะ!!”
“ไม่!!”
“ไอ้อิน กูจะพูดอีกรอบ ถ้ามึงไม่ทำ มึงเจ็บแน่”
“งั้นกูก็จะพูดอีกรอบเหมือนกันว่ากูไม่ทำ!!” สิ้นเสียงของอินทัช รามินทร์ก็ถึงกับสติขาดผึง ประเคนหมักหนักๆ เข้าไปที่ใบหน้าสวยขาวของอินทัชเต็มแรงจนอีกคนหันไปตามแรงต่อย
ผลัวะ!!!
ความชาแล่นไปทั่วทั้งบริเวณก่อนจะเริ่มเจ็บขึ้นมาทีละน้อยจนรู้สึกเจ็บสุดๆ ในโพรงปากมีรสชาติของเลือด จนต้องถุยมันออกมาอย่างช่วยไม่ได้
อินทัชไม่มองหน้าคนที่ลงไม้ลงมือใส่เลยสักนิด ได้แต่ปาดเลือดที่มุมปากออกก่อนจะพยายามยืนหยัดลุกขึ้นมาแต่แอบเซเล็กน้อย
“อึก...ถ้าจะให้กูซัก ก็ให้ลูกน้องมึงคนไปไว้ที่ธารน้ำ กูไม่ไปขนเอง คงจะได้นะ” เสียงของอินทัชดังขึ้นมาเรียบๆ และเย็นยะเยือกจนรามินทร์แอบรู้สึกกลัวนิดๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก
“ก็ได้ กูจะสั่งคนให้เอามาให้ หึ...แล้วเป็นไง กูพูดดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลัง สมน้ำหน้า” ว่าเยาะเย้ยอย่างไม่รู้สึกผิดหรือสำนึกผิดแต่อย่างใดที่ลงไม้ลงมือจนร่างบางปากแตกแบบนี้
“พอใจยัง กูขอตัว”
ไม่โวยวาย ไม่ด่า ไม่ว่าอะไรอีก...
เพราะอินทัชรู้ตัวเองดี ว่าทำไป โวยวายไปก็ไร้ความหมาย...
“มึงทำตัวของมึงเอง มึงดื้อเอง กูไม่ผิด” รามินทร์พึมพำกับตัวเองเบาๆ มองตามร่างโปร่งบางที่เดินจากไปด้วยสายตารู้สึกผิด หากแต่ใจก็ยังไม่คิดว่าตัวเองผิด
เพราะมันดื้อ เพราะมันไม่ฟัง เขาเลยต้องทำแบบนั้น
แต่ดูเหมือนว่ารามินทร์จะลืมไป ว่านอกจากใช้กำลังแล้ว มันยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ในการสั่งให้ร่างโปร่งทำตามที่เขาสั่ง ดีกว่าการทำร้ายร่างกาย
สำหรับอินทัชแล้ว การที่เขาโดนต่อยในครั้งนี้มันทำให้รู้สึกอยากร้องไห้มาก เขาได้แต่ตัดพ้อโชคชะตาของตัวเองอยู่ในใจเพียงลำพัง
ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ เขาทำผิดอะไร...
“เจ็บกาย มันไม่เท่าเจ็บใจ”
ก็รู้ซึ้งในความหมายของประโยคนี้ก็วันนี้นี่แหละ
ร่างโปร่งยืนมองดูกองเสื้อผ้าราวๆ เกือบสิบตะกร้าด้วยความรู้สึกโกรธแค้น และน้อยใจไปในคราวเดียวกัน ดวงตาใสมองสบเข้ากับดวงตาที่มองอย่างเย้ยหยันสะใจของรามินทร์อย่างตัดพ้อจนร่างสูงถึงกับชะงักแล้วขมวดคิ้ว
“ทำหน้าน่าสมเพช”
“เออ...กูน่าสมเพช กูเลว กูชั่ว กูสมควรโดนแบบนี้แล้ว นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่มึงอยากจะพูด” อินทัชดักทางอย่างรู้ทัน แม้จะเจ็บที่ต้องตอกย้ำตัวเอง แต่ก็ยังดีกว่าฟังประโยคพวกนี้ซ้ำไปซ้ำมาจากคนที่เขาเกลียด
“…”
“กูจะทำงาน ต้องการสมาธิ ช่วยออกไปจากตรงนี้ด้วย เป็นเจ้าของรีสอร์ทแล้วไม่มีงานการทำหรือไง”
“กูไม่ได้อยากอยู่ แค่จะดูให้แน่ใจว่ามึงทำจริงก็เท่านั้น”
“คอยเช็คตอนตากก็ได้”
“กูกลัวว่ามึงจะแค่เอาจุ่มน้ำแล้วขึ้นน่ะสิ”
“งั้นมึงคอยดมเอาก็ได้” อินทัชตอบอย่างหน่ายใจ
รามินทร์เป็นพวกที่ไม่ยอมใครจริงๆ ทั้งไม่ยอมฟังใคร และไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
“งั้นกูจะคอยดู ถ้ามาตรวจแล้วมันไม่สะอาด กูจะให้มึงซักใหม่ทั้งหมด!! ทำซะ อย่ามัวแต่ยืนนิ่ง” สั่งเสียงแข็ง ซึ่งร่างโปร่งก็นั่งลงกับเก้าอี้ไม้เล็กๆ อย่างจำยอม มองกองเสื้อผ้าอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากกองไหน
“อ้อ! ช่วยแยกกองด้วยนะ เพราะมันมาจากหลายๆ ส่วน หลายๆ แผนก”
“เออ”
“อีกชั่วโมงกูจะมาดู และต้องเสร็จ”
“มึงจะบ้านหรือวะ!!! ใครมันจะไปทำได้ เสื้อผ้าเยอะแยะแบบนี้ อย่างน้อยก็สามชั่วโมง” อินทัชตวัดสายตาขึ้นมองคนสั่งที่ไม่รู้ว่าตั้งใจแกล้งหรือว่าไม่รู้กันแน่
“กูต้องการให้เสร็จในหนึ่งชั่วโมง มึงก็ต้องทำให้เสร็จ”
ถ้ารามินทร์ยืนยันขนาดนี้แล้ว อินทัชจะค้านอะไรได้ เถียงไปก็เจ็บคอ เปลืองน้ำลายเปล่าๆ เขาเลยไม่เถียงอะไร แต่ลงมือซักตะกร้าแรกก่อน ไม่สนใจร่างสูงใหญ่อีกต่อไป
คนตัวใหญ่เองก็ยกยิ้มแบบพอใจนิดๆ ก่อนจะเดินจากธารน้ำตกไป เพื่อไปเคลียร์งานของตนต่อ ซึ่งในอีกหนึ่งชั่วโมงเขาจะกลับมาหาเรื่องมันแน่ๆ
ยังไงก็ไม่มีทางซักเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงแน่นอน
“เสร็จกูแน่ไอ้คุณชาย หึหึ”
“พี่รามไม่คิดว่ามันจะเกินไปกับพี่อินหน่อยหรือฮะ” เสียงเล็กติดหวานของเจ้าจอมที่นั่งทำบัญชีในสำนักงานถามลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่าอย่างรามินทร์ทันทีที่อีกคนเข้ามาในตัวสำนักงาน
“แล้วเราจะไปสงสารมันทำไมล่ะจอม”
“พี่ราม แต่พี่อินเขาไม่ผิดอะไรเลยนะ”
“รู้ได้ยังไง! ก็เพราะมันนั่นแหละที่ทำให้รินเกือบฆ่าตัวตาย” ตะโกนเสียงดังลั่นจนร่างเล็กสะดุ้งด้วยความกลัว เพราะไม่เคยเห็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนของตนมีสีหน้าที่โกรธแค้นมากมายขนาดนี้มาก่อน
ทำเอาไม่กล้าพูดอะไรเลย ไม่กล้าพูดแม้กระทั่งความจริงที่ตนรู้ และเจ้าจอมคิดว่า...รามินทร์ในตอนนี้ ไม่รับฟังใครทั้งนั้น นอกจากตัวเอง
“ก็เพราะความเจ้าชู้ของมัน ก็เพราะมันนั่นแหละ ที่ทำรินอับอายคนทั้งมหา’ ลัย จนจะต้องฆ่าตัวตาย อย่าให้พี่ได้ยินว่าจอมกำลังเข้าข้างคนเลวพรรค์นั้นอีกนะ”
“ฮะ...จอมจะไม่พูดแล้ว”
“ดีมากครับ คนดีของพี่” รามินทร์ปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ความอ่อนโยนที่เจ้าจอมมักจะได้รับอยู่เสมอก็กลับคืนมา มือใหญ่ลูบเบาๆ ที่กลุ่มผมนุ่มของเขา รอยยิ้มอบอุ่นมอบให้กับเจ้าจอมเหมือนอย่างเคย
บอกตามตรงว่าเขาไม่อยากเห็นพี่ชายในโหมดนั้นอีกแล้ว
ก็คงจะต้องรอให้พี่ราม พร้อมที่จะฟัง และรับความจริงเท่านั้นแหละ แม้ว่าตอนนั้น มันอาจจะทำให้พี่เขารู้สึกผิดจนวันตายเลยก็ได้...
“ฮะ จอมเคลียร์บัญชีเสร็จแล้ว จะออกไปอ่อยจักรหน่อยนะครับ” นี่แหละคือเจ้าจอมตัวจริง
“หึหึ ตามสบายก็แล้วกัน พี่เองก็จะไปทำงานต่อ อ้อ! รู้สึกว่าจะมีสาวครัวคนหนึ่งคิดจะจีบจักรมันอยู่นะ ชื่อ...เอ...ชื่อปิ่นล่ะมั้ง ถ้าจำไม่ผิด” รามินทร์บอกน้องชายเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก
“ว่าไงนะ อีไหน มันบังอาจมาชอบผัวกู!!”
ดวงตาสวยเบิกกว้างอย่างตกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นไม่พอใจ ร่างเล็กเดินฟึดฟัดออกจากสำนักงานทันทีโดยมีรามินทร์มองตามอย่างระอาบวกกับสงสารจุลจักรไปด้วย
“นางฟ้าของแกน่ะ ที่แท้ก็นางมารดีๆ นี่เองไอ้จักร”
ใครจะไปรู้ว่าสองปีที่ผ่านมา เจ้าจอมให้ท่าจักรทุกวันนั่นแหละ แต่เจ้าตัวมันเป็นพวกอ่อนหัด อ่อนประสบการณ์ เลยมองเจ้าจอมไม่ออก...
และรามินทร์รับรองได้ว่า จักรไม่พ้นเงื้อมือของมัจจุราชแสนน่ารักอย่างเจ้าจอมไปได้แน่นอน หากแต่รามินทร์ก็คงไม่รู้ว่าในไม่ช้า ตัวเองก็จะหลงมัวเมากับความแค้นแสนหวานที่เขามอบให้กับอินทัชเอง...
…
…
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
“ทำไมถึงไม่เสร็จ” ร่างสูงกอดอกถามคนตัวเล็กกว่าที่กำลังนั่งขยี้ผ้าอยู่ที่เดิม อารมณ์กรุ่นๆ ไม่พอใจเริ่มตีขึ้นมาตามที่ตัวเองบังคับให้รู้สึก
“ก็ไม่เสร็จไง จะอะไรนักหนา”
“กูบอกแล้วไงให้มึงทำให้เสร็จในหนึ่งชั่วโมง นี่อะไร เสร็จยังไม่ถึงครึ่งเลย แล้วไอ้ที่ซักๆ เสร็จก่อนก็ไม่ยอมเอาไปตากก่อน เดี๋ยวผ้ามันก็อับอีก โง่จริงๆ เลยมึง” ทั้งสอน ทั้งด่าไปในตัว แต่อินทัชก็ฟังเป็นคำด่ากับคำถากถางมากกว่า
“ก็มึงให้เวลากูน้อยไปไง กูเลยกะทำทีเดียว ตากทีเดียว”
“เออ!! งั้นให้อีกหนึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วก็ไปตาก อ้อ เสร็จจากตรงนี้ เก็บของให้เรียบร้อยนะ แล้วไปทำข้าวเที่ยงให้กูแดกด้วย ย้ำ! มึงต้องทำ”
“กูทำอาหารไม่เป็น”
“ก็หัดสิวะ!! อยู่ที่นี่มึงต้องเป็นทุกอย่าง เพราะไม่มีคนใช้ให้มึงหรอกนะ”
ใครอยากอยู่วะไอ้สัตว์!!!
“ไม่ต้องด่ากูในใจ กูไปแล้ว อารมณ์เสีย เห็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ งานแบบนี้ก็ทำไม่เป็น สงสัยเป็นแต่จับปากกากับสั่งลูกน้องให้ทำทุกอย่างให้แน่ๆ หงุดหงิดจริงๆ” รามินทร์บ่นไป ด่าไป ระหว่างที่เดินออกจากตรงนี้ ทำเอาอินทัชแทบจะขว้างแปรงซักผ้าใส่หัวอีกคน แต่ก็ทำไมได้ เลยเอาความโกรธ ความโมโหมามาลงที่เสื้อผ้าพวกนี้แทน
เขาใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการซักผ้าที่เหลือและเอาเสื้อผ้าไปตาก ก่อนจะเก็บของเข้าที่เดิม ล้างไม้ล้างมือให้เรียบร้อยแล้วเดินไปที่โรงครัว ซึ่งร่างโปร่งบางไม่ได้สังเกตหรือรู้สึกที่มือเลยว่า มันแดงมากขนาดไหน
“ผมมาทำอาหารเที่ยงให้ไอ้รามครับ”
“ตามสบายเลยค่ะ” ป้าหัวหน้าแม่ครัวตอบ ซึ่งร่างโปร่งก็ได้แต่ยิ้มเนือยๆ เดินไปมาแบบทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเกาแก้มเบาๆ ยิ้มแหยๆ ให้คนสูงวัย
“ทำไม่เป็น ช่วยสอนหน่อยครับ”
“ไม่มีปัญหาจ้า เอ๊ะ!! ว่าแต่มือแดงมากเลย ไม่คันหรือจ้ะ เหมือนแพ้อะไรสักอย่าง” เธอถามอย่างสงสัยที่เห็นมัน ซึ่งพอมีคนทัก อินทัชก็รู้สึกคันขึ้นมาทันที
แพ้ผงซักฟอก...
“ผมแพ้ผงซักฟอกน่ะครับ แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หายครับป้านี”
“ได้ยังไงล่ะคุณอิน ต้องทายาและทานยาแก้แพ้ ถ้าอย่างนั้นมีโอกาสไข้ขึ้นเลยนะคะ” ว่าแล้วเธอก็จัดการสั่งลูกน้องให้หายาทากับยาทานมาให้ ก่อนจะจัดการทาที่มือแดงๆ ของอินทัชทันที และยังบังคับให้ร่างโปร่งทานยาอีกด้วย ฤทธิ์ของยาแก้แพ้คือทำให้ง่วง และคนที่นอนไม่ค่อยเพียงพออย่างเขา จะไม่ง่วงได้ยังไง
ตาจะปิดอยู่แล้ว
“คุณอินไปนอนพักเถอะค่ะ ทางนี้ป้าจัดการเอง”
“แต่ว่า…” เขาลังเล เพราะกลัวว่าร่างสูงจะรู้และหาเรื่องทั้งเขาและป้านี ซึ่งหาเรื่องเขาเขาไม่ว่า แต่ถ้าหาเรื่องคนอื่น อินทัชไม่มีทางยอม
“รับรอง...ป้าไม่ให้คุณรามรู้แน่ๆ คุณอินนอนที่แคร่ตรงนั้นก็ได้ค่ะ ป้าเอาไว้นอนพักนั่นแหละ” เธอชี้ไปยังแค่ที่อยู่ห่างจากพื้นที่ทำอาหารประมาณสองร้อยเมตร
“ไม่ดีกว่าครับ”
“ไปพักค่ะ!!” เธอสั่งเสียงเข้ม จนอินทัชต้องเกรงเพราะเธออายุมากกว่า ร่างผอมโปร่งเดินไปยังแค่แล้วนอนลงอย่างช่วยไม่ได้ ไม่นานเขาก็หลับไปด้วยฤทธิ์ยา...
50%

หายไปนานเลย งานเยอะจริงๆ ค่ะ และนี่ก็อยู่ในช่วงสอบมิดเทอม บวกกับวันที่ 6 นี้ ยูกิจะไปงาน Gen Y ใครสนใจก็ไปกันได้นะคะ ^_^ ครึ่งหลังจะมาหลังวันจันทร์นะคะ ช่วยเม้นท์ๆ ให้หายคิดถึงด้วย แหะๆ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/