เมื่อผมต้องกลายเป็นแม่พันธุ์ { ตอนเล่ห์รักจ้าวรัตติกาล: 2}
“เจ้าอยากกลับไปหาพ่อแม่และพี่น้องของเจ้าหรือไม่” เสียงที่เอ่ยถามนั้นเรียบเรื่อย ดวงตาสีแดงเพลิงมิได้ปรากฏร่องรอยของอารมณ์ใดๆที่อ่านได้ มีเพียงความว่างเปล่าราวกลับเจ้าของดวงตาคมกล้ากำลังดิ่งลึกลงสู่ห้วงอากาศที่มองไม่เห็น แต่บีซอกลับสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่เริ่มกระจายไปทั่วสรรพางค์ของตน
เด็กชายห่อไหล่ แต่ก็ไม่ได้หลบสายตาที่ทอดมองมา เขาทั้งกลัวทั้งหวาดระแวงในท่าทีที่เรียบนิ่งสงบนั่น อยากจะลุกออกไปจากตรงนี้ใจแทบขาด แต่ติดว่าคนตัวโตกักขังอิสรภาพของเขาไว้
“ข้าอยากกลับไปหาพวกเขา” บีซอบอกเสียงสั่น
“เพราะข้าไม่เคยไปที่ใดโดยไม่มีพี่น้องและพ่อแม่ของข้า...ท่านคงเข้าใจว่ามันรู้สึกหวาดกลัวและมันรู้สึกแย่แค่ไหนที่ต้องมาอยู่กับคนที่ไม่รู้จัก...แถมยังคิดไม่ดีกับข้าอีก” คำหลังเด็กชายพึมพำกับตนเองเบาๆ แต่อนธการกลับได้ยินชัดเจน
จ้าวรัตติกาลยิ้มอ่อนให้เด็กน้อย ไม่ได้ถือโทษกับคำกล่าวนั่น มือหนาดึงผ้าที่ปกคลุมใบหน้าอ่อนเยาว์ที่หวานสะดุดตานั่นออก เผยผิวนวลปลั่ง สองแก้มอมเลือดฝาด เขาอดที่จะใช้มือไล้ลงบนแก้มขาวนั้นไม่ได้ เหตุใดเขาถึงได้ถูกใจเด็กคนนี้มากนัก ตาใสแจ๋วที่มองมานั้นไร้เดียงสา อดเสียดายไม่ได้หากเขาต้องลงมือกินเด็กคนนี้จริงๆ
“เจ้ากลัวข้าหรือไม่” ทั้งที่รู้คำตอบได้ดีจากท่าท่างของเด็กชาย แต่เขาก็อยากจะถามเพราะอยากยืดเวลาการกินเหยื่อตรงหน้าออกไปอีก
ยอมรับว่าเขาลังเลเป็นครั้งแรกในชีวิตการเป็นอมตะเลยก็ว่าได้ มันเหมือนมีเส้นบางๆของความรู้สึกดีขั้นกลางอยู่ระหว่างการตัดสินใจทำเรื่องที่เป็นปกติของเขา แต่คงไม่ปกติของเด็กคนนี้และอาจจะเป็นใครอื่นที่เขาไม่รู้จัก
การดื่มโลหิตทำให้อนธการมีพละกำลังมหาศาล การร่วมรักทำให้ชีวิตของเขาดูสุขสมขึ้น การจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นย่อมได้ แต่เขามักทำทั้งสองอย่าง
“ถึงแม้ข้าจะมีเลือดของเทพและปีศาจปนกันอยู่ แต่ข้าก็คือมนุษย์ธรรมดาที่รู้จักรักตัวกลัวตายไม่ได้น้อยไปกว่าผู้ใดหรอก หากท่านยังมีความเมตตาหลงเหลืออยู่บ้างได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ” บีซอรู้สึกอ่อนแอ ไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน เขายังไม่อยากตายตอนนี้ ทั้งที่ยังไม่ได้ล่ำลาครอบครัวด้วยซ้ำ
“ข้าดูโหดร้าย น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
บีซอไม่ตอบ มีเพียงแวตาสั่นระริกเท่านั้นที่ทอดมองมาอย่างน่าสงสาร
“หึ ข้าไม่เคยต้องมาพูดพร่ำทำเพลงกับอาหารของข้าแม้สักรายเดียว...เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นคนแรกที่ข้าอยากปล่อยไป” แววตาของอนธการดูจริงจังในคำพูดจนคนฟังใจชื้นขึ้นมา
“หมายความว่าท่านจะปล่อยข้าไป”
“ข้าไม่เคยปล่อยใครไป”
คำกล่าวนั้นราวกับดับสิ้นความหวังที่มีเพียงริบหรี่ บีซอมุ่นคิ้ว เม้มปากเน้น แล้วเอ่ยถาม
“ไหนท่านบอกว่าจะปล่อยข้าไปไงล่ะ”
อนธการส่ายหัว ไล้นิ้วไปที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้นอย่างเผลอไผล
“ข้าบอกว่า”อยาก”ปล่อยเจ้าไปต่างหากล่ะเด็กน้อย”
ปึก!
บีซอทุบอกอีกฝ่ายด้วยความโมโหอย่างลืมตัว พอนึกได้ว่าไม่ควรทำให้อีกฝ่ายโกรธก็ทำเป็นนิ่งแล้วหันหน้าไปทางอื่นอย่างสะกดความไม่พอใจที่มีต่อผู้ชายตัวใหญ่คนนี้
“ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า หากเจ้ายอมเป็นของข้า” อนธการคิดว่าไหนๆเขาก็ถูกใจเด็กคนนี้แล้ว จะกินให้ตายก็เสียดาย สู้เก็บไว้”ใช้งาน”ยาม”ต้องการ”คงดีกว่าเป็นไหนๆ
บีซอหันขวับมาทันที เมื่อเข้าใจความหมายนั้นดี ทำไมเขาจะต้องมาเจริญรอยตามพี่หมี่ซอด้วยนะ รายนั้นน่ะเป็นฝ่ายเรียกร้องที่จะไปอยู่กับอรุณเอง แต่กับเขานี่มันคือการบังคับฝืนใจชัดๆ เขายังเด็กแต่ก็พอรู้ว่าการ”ยอม”เป็นของอีกฝ่ายน่ะมันคืออะไร
เด็กชายส่ายหัวปฏิเสธ น้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสารในชะตากรรมของตัวเอง
“ข้าไม่อยากเป็นของท่าน”
“แต่เจ้าต้องเป็น...ข้าสัญญาว่าจะพาเจ้ากลับไปหาครอบครัว ตกลงไหม?”
ขอกันง่ายๆ ลักพาตัวเขามาง่ายๆ ผู้ชายคนนี้เห็นว่าเรื่องที่ขอแกมบังคับเขามันใช่เรื่องง่ายมากนักหรือไง ไม่ลองมาเป็นฝ่ายที่ไร้หนทางตอบโต้แบบเขาบ้างล่ะ จะได้รู้ซึ้งว่าการโดนข่มขู่นั้นมันรู้สึกเช่นไรบ้าง
“ข้าอยากกลับบ้าน...แล้วข้าก็ยังไม่ถึงวัยที่จะทำเรื่องอย่างว่านั่นด้วย”
อนธการพรั่งพรูลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เขาไม่เคยต้องวอนขอหรือเกลี้ยกล่อมใครก่อนมีอะไรกันด้วยซ้ำ เด็กน้อยคนนี้ช่างไม่ยอมแพ้เสียจริง ต้องทำอย่างไรถึงจะว่านอนสอนง่ายกันนะ หรือว่าต้องใช้กำลังถึงจะยอมเป็นของเขาแต่โดยดี
จ้าวรัตติกาลถอนใจกับความคิดนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว ในเมื่อพูดไปตั้งนานสองนานแล้วก็ยังไม่ยอมอยู่ดี เห็นทีว่าเขาคงต้องเข้าสู่โหมดปีศาจอย่างเต็มรูปแบบเสียแล้วล่ะมั้ง
“ข้าจะไม่พาเจ้ากลับไปที่ใดทั้งสิ้น...จนกว่าเจ้าจะยอมทอดกายให้กับข้า”
“ท่านช่างไร้ยางอายนัก ข้าบอกว่าไม่! ก็คือไม่!”
หมดสิ้นแล้วกับความอดทน มีเพียงสัญชาตญาณการเอาตัวรอดเท่านั้นที่ร้องบอกให้บีซอต้องต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตของตัวเองไว้
เด็กชายพยายามถีบเตะอีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่เพราะเขายังอยู่ในผ้าห่มผืนโตที่พันกายอยู่ ทำให้การต่อสู้เพื่อหวังให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บจากฝีมือของตนเป็นอันต้องล้มเหลวไป เมื่ออนธการมองเห็นเขาเป็นแค่ดักแด้ที่ดิ้นดุ้กดิ้กอยู่ในกองผ้าเท่านั้น
“เจ้าเหนื่อยหรือยัง”
คำตอบของเด็กน้อยคือแววตาที่ปั้นดุและเสียงหอบหายใจหนักๆอย่างเหน็ดเหนื่อยกับการออกแรงที่ไร้ประโยชน์ของตนเอง
เด็กชายนิ่งไป เมื่อใบหน้าคมระบายยิ้มล่อลวง นัยต์ตาสีแดงเพลิงร่ายมนตร์สะกดเมื่อบีซอสบตาตรงๆกับเขา ท่าทีที่ดูอ่อนลง แววตาที่กำลังเลื่อนลอยของเด็กชายบ่งบอกให้จ้าวรัตติกาลรับรู้ว่าตอนนี้เด็กพยศกำลังโดนเขาครอบงำเสียแล้ว
อะไรมันคงจะง่ายขึ้น ถ้าเด็กน้อยไม่ได้ต่อต้านเขา แต่นี่กลับไม่ให้ความร่วมมือใดๆทั้งสิ้น เขาจึงต้องใช้มนตร์สะกดอีกฝ่ายไว้ จะได้ไม่ต้องใช้กำลังบังคับกัน ให้เด็กน้อยเป็นฝ่ายยินยอมเขาเสียเองจะได้ไม่หาว่าเขาเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก
“เจ้าจะยอมเป็นของข้าใช่ไหม” เสียงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เอ่ยถาม
บีซอพยักหน้า เมื่อความปรารถนาแปลกๆได้จุดกำเนิดขึ้นภายในจิตใจ เด็กชายยิ้มหวาน ส่งสายตาหวานเชื่อมให้กับอนธการอย่างยั่วยวนโดยไม่เคยทำมาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต
ผ้าห่มถูกดึงออกไปด้วยมือหนาของจ้าวรัตติกาล เบื้องล่างคือเนื้อตัวอันเปลือยเปล่าของเด็กน้อยที่เขาถูกใจ ผิวขาวอันนวลเนียนนั้นส่องประกายจนตาของอนธการพร่าพรายไปด้วยความปรารถนาอันดิบเถื่อน
มือหนาลูบไล้เนื้อนวลอย่างบางเบาจนคนที่โดนสัมผัสนั้นขนลุกซู่ด้วยความเสียวซ่าน ผิวขาวของเด็กน้อยบัดนี้ปรากฏเป็นสีเรื่อทั่วทั้งกายเล็ก ความร้อนในร่างกายกำลังเดือดพล่านเพราะความต้องการ บีซอหลับตาลงเมื่ออนธการบรรจงจูบไซ้ที่ต้นคอขาวผ่องของตนเองอย่างเชื่องช้า
สัมผัสอ่อนโยนที่ค่อยๆจูบลงบนผิวนั้นนุ่มนวลจนเด็กชายเคลิบเคลิ้ม มือบางยกขึ้นกอดเรือนกายหนา ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังแกร่ง แอ่นอกขึ้นเมื่ออนธการแนบปากลงบนเม็ดองุ่นสีแดงเรื่อ ลิ้นสากลากไล้ลงบนนั้นจนเด็กน้อยผวาเฮือก
อนธการเงยหน้าขึ้นจากหน้าอกเด็กน้อย แล้วก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้นอย่างเอาใจ ดูดดึงริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายแล้วชอนไชลิ้นของตนเข้าไปในปากของคนตัวเล็ก เสียงเครือครางดังออกมาอย่างสมใจเมื่อบีซอให้ความร่วมมือแทบทุกอย่าง จ้าวรัตติกาลหยอกล้อกับลิ้นเล็กๆที่ตอบโต้มาอย่างถึงพริกถึงขิง
อากาศยามใกล้รุ่งที่เย็นสบายเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อคนในห้องเริ่มกอดรัดกันกันแนบแน่นเพราะความต้องการที่ถูกจุดขึ้นจนแทบมอดไหม้ อนธการคอยลูบไล้ไปที่เนื้อตัวของบีซอเพื่อเร่งเร้าให้พร้อมสำหรับเขา
“อืม” เสียงเล็กๆครางออกมาเป็นระยะเมื่อจูบที่อ่อนโยนเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ อนธการผละริมฝีปากออก มองบีซอที่ปากแดงก่ำด้วยความพอใจ มือหนาแยกขาขาวของเด็กน้อยออกกว้าง ไล้ปลายนิ้วตามขาจนมาสุดที่ปากทางสีสด แล้วกดปลายนิ้วลงไปอย่างช้าๆ
“อื้อ ข้าเจ็บ” บีซอร้องออกมาเพราะความเจ็บ ผวาจับมือของอีกฝ่ายไว้อย่างตกใจ
เมื่อเห็นท่าทางราวกับฝันเสียของเด็กน้อยทำให้อนธการต้องยกมือขึ้นไปลูบแก้มใสๆนั้นอย่างปลอบโยน กล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นชวนหลงใหล
“เจ็บเพียงแค่ครู่เดียว เดี๋ยวก็หายแล้ว เจ้าอย่าได้กลัวเลย”
บีซอลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมปล่อยมือของตนเองออก ให้อนธการกดนิ้วเข้ามาจนสุด แล้วหมุนควงไปทั่วทั้งช่องทางอันคับแน่นของตน แรงบีบและตอดรัดที่นิ้วนั้นทำให้จ้าวรัตติกาลแทบคลั่ง เขาอยากฝังกายลงบนร่องเนื้ออันนุ่มนิ่มนี้เสียแล้ว
และเพียงแค่พริบตาเดียว อาวุธประจำกายของอนธการก็จ่อที่ปากทางสีสดเมื่อเขาได้ถอนนิ้วอกมาเรียบร้อยแล้ว เขาค่อยๆกดก้อนเนื้อที่แข็งจนเห็นเอ็นนั้นเข้าอย่างยากลำบาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อแก่นกายของเขานั้นมันใหญ่กว่าปากทางเข้าสีหวานของเด็กชาย
“โอ้ย! ข้าเจ็บ เอาออกไปนะ!” เข้าได้เพียงแค่ส่วนหัวเด็กชายก็ร้องโวยวายเสียงดังอย่างเจ็บปวด ดวงตาคู่งามเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา สองมือบางทุบตีอกจ้าวรัตติกาลอย่างต้องการระบายความเจ็บปวด แววตาที่มองมานั้นตัดพ้อปะปนกับความโกรธ
โกรธ?
ไม่น่าจะใช่นะ อนธการคิด
เขาร่ายมนตร์ใส่เด็กชายไปแล้วไม่น่าจะมีอารมณ์อื่นใดนอกจากความต้องการทางเพศรส หรือว่า...
จ้าวรัตติกาลพูดไม่ออก มนตร์สะกดของเขาไม่เคยคลายได้ด้วยตนเองหากเขาไม่ถอนให้ ชายหนุ่มพยายามยัดก้อนเนื้อของตนเองต่อไป ในเมื่อรู้สึกตัวแล้วก็ดี จะได้ไม่ต้องมากล่าวหาว่าเขารังแกโดยที่ไม่รู้ตัว
“ทะ ท่านหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“ข้าหยุดไม่ได้แล้ว” เสียงแหบพร่าเอ่ยตอบทันที
บีซอกระถดกายถอยหนี อนธการก็ตามติด เด็กชายทุบอกแกร่งอีกฝ่ายเป็นพัลวัน ทั้งเจ็บกายและเจ็บใจยิ่งนัก เขาจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองถึงได้ยอมอีกฝ่ายง่ายดายนัก สิ่งที่อมนุษย์กำลังยัดเข้ามาในกายของเขามันช่างสร้างความเจ็บปวดราวกับร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงเสียให้ได้
“ฮือๆๆ ข้าเจ็บ ท่านจะฆ่าข้าให้ตายใช่ไหม” เสียงก่นด่าและน้ำตาที่ไหลพราก ทำให้คนเห็นอดสงสารไม่ได้ ริมฝีปากหนาก้มจูบซับน้ำตาให้อย่างปลอบประโลม สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นทำเอาคนที่กำลังร้องหายเงียบไป
บีซอรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ กับสัมผัสเพียงแผ่วเบานั่น ดวงตากลมจ้องสบตาคนตัวโตที่ก็มองตาเขาเช่นกันอย่างเผยความรู้สึกภายในใจอย่างหมดเปลือกว่า...
ต้องการ!
บีซอแทบอยากบีบคออีกฝ่ายเมื่ออ่านความหมายจากตาสีแดงเพลิงนั้นได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน
แล้วบีซอก็แทบร้องไห้อีกรอบ เมื่อสิ่งที่คาช่องทางปวดหนึบของเขาแทงพรวดเข้ามาทีเดียวจนมิดด้าม
“โอ้ย!”
“ชู่ว์ ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ข้าจะค่อยๆทำ”
“ไม่เป็นกับผีน่ะสิ ท่านช่างเป็นคนที่เห็นแก่ตัวยิ่งนัก เอาของๆท่านออกไปเลยนะ ไม่งั้นข้า...ข้า...” บีซอพยายามนึกถึงสิ่งที่จะเอามาใช้ต่อรองกับอีกฝ่ายให้ปล่อยเขาให้เป็นอิสระ แต่พอนึกๆดูแล้วมองเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบชัดๆ
“ข้าเอาออกไม่ได้ เพราะตัวเจ้ากลืนของๆข้าไปเสียแล้ว” อนธการว่าด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาเริ่มขยับตัวเบาๆ เมื่อไม่เห็นท่าทีขัดขืนของบีซอแล้ว
“ทะ ท่าน อื้อ! อย่าขยับสิ ข้าเจ็บ”
"ข้าจะขยับช้าๆนะ” เขาต่อรอง พร้อมกับจ้วงแทงเบาๆ
“อ๊ะ ทะ ท่าน อ๊ะ” บีซอพูดไม่เป็นคำ เมื่อจ้าวรัตติกาลขยับโยกกาย แท่งร้อนที่อยู่ภายในตัวของเด็กชายนั้นคับแน่นจนอนธการต้องสะกดกลั้นความต้องการตนเองไม่ให้ใจร้อนจนเกินไป เพราะแม้ในความมืดแต่เขาก็มองเห็นว่ามีโลหิตซึมออกมาจากช่องทางอันน้อยนั่น ทั้งทีเขาเบามือแล้วเชียว
“อ๊ะ”
"อืม” จ้าวรัตติกาลครางอย่างเข้าใจกับเสียงครางนั่น เขายิ้มเมื่อรู้ว่าตนได้แตะโดนจุดสำคัญของเด็กน้อยเข้าแล้ว จังหวะสอดใส่ต่อมาเขาจึงเน้นที่จุดยุทธศาสตร์ของบีซออย่างเอาใจ มือหนายกขาของเด็กน้อยพาดบ่าแล้วจ้วงแทงเข้าไปจนสุดทางรักนั่น
แรงกระทุ้งถี่รัวที่อัดเข้ามาในตัวของบีซอช่างสร้างความรัญจวนให้กับเด็กน้อยยิ่งนัก เสียงเครือครางหวานๆดังออกมาจากคนตัวเล็กไม่ขาดปาก เสียงกล้ามเนื้อกระทบกันดังป้าบๆดังกระจายทั่วทั้งห้องนอนใหญ่
เมื่อความสุขมันมาสู่จุดสูงสุด บีซอก็ปลดปล่อยออกมาเป็นคนแรก หอบหายใจหนัก ปล่อยมือลงข้างตัว มองคนที่ยังโยกกายอยู่บนตัวเขาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ตอนนี้เขาเหนื่อยจนแทบหลับได้เลย
อนธการยิ้มอย่างพอใจที่เขาทำให้เด็กน้อยเสร็จไปก่อนล่วงหน้าได้ จังหวะการจ้วงต่อมาเขาจึงใส่ไม่ยั้ง แก่นกายที่แข็งนั้นผลุบเข้าผลุบออกตามจังหวะการสอดใส่ของผู้ควบคุม และเพียงไม่นานอนธการก็ปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นใส่ช่องทางสีสดนั้นจนหมดทุกหยด
ร่างสูงจับขาเด็กน้อยลงวางบนพื้นเตียง จับบีซอนอนตะแคงข้างแล้วล้มตัวลงไปนอนกอดบีซอไว้ทั้งที่แก่นกายยังเชื่อมติดกันอยู่
“เอาออกไป” เสียงเล็กออกคำสั่ง ตอนนี้บีซอแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เพราะรู้ว่าเขาได้ทำเรื่องน่าขายหน้าเอาไว้ แค่นึกถึงสิ่งที่ร่วมทำกับอีกฝ่ายก็อายจะแย่แล้ว ไหนจะเสียงครางของเขาที่ดังอยู่คนเดียวนั่นอีกล่ะ
น่าอายชะมัด!
“เอาออกไม่ได้ มันติด” เสียงเรื่อยๆของคนข้างหลังเรียกรอยบึ้งตึงให้ปรากฏบนใบหน้าเยาว์
“เอาออกไป” เด็กน้อยสั่งซ้ำอย่างไม่รามือ
ร่างสูงถอนหายใจแล้วหลับตาลง
“เช้าก่อน ข้าถึงจะเอาออกให้”
“เอาออกตอนนี้เลย ข้าอึดอัด” บีซอเริ่มดิ้น สะบัดบั้นท้ายหวังให้เจ้าสิ่งที่อยู่ในตัวเขาหลุดออก
อนธการกัดฟันกรอด เค้นเสียงดุ
“หากเจ้ายังดื้อและดิ้นอยู่เช่นนี้ข้าจะทำอีกรอบ”
บีซอจึงหยุดทุกการกระทำในบัดดล ได้แต่นึกด่าอีกฝ่ายอยู่ในใจอย่างโกรธๆที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย
ฮึดฮัดได้ไม่นาน บีซอก็เริ่มง่วง เด็กชายตาปรือพยายามลืมตาทั้งที่มันกำลังจะปิด แสงแดดอ่อนๆที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาทำให้รู้ว่าเช้าแล้ว และเขาควรจะกลับบ้านได้แล้ว แต่ไอ้ความง่วงมันช่างมากเหลือเกิน ไม่นานบีซอก็หลับสู่นิทรา
มุมปากหนายกยิ้มเมื่อเด็กน้อยหลับ แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นนิดนึง ตัวเล็กแค่นี้แต่ทำไมทำให้เขารู้สึกอบอุ่นได้ถึงเพียงนี้นะ อนธการชักชอบร่างน้อยๆ อุ่นๆ ที่ชีพจรกำลังเต้นตุบๆของการมีชีวตนี้เสียแล้วน่ะสิ
กอดคนที่ร่วมรักกันมันรู้สึกดีจริงๆ
บีซอนอนหน้าบึ้ง มองแขนสีขาวซีดของคนที่กอดเขาอยู่อย่างนึกหมั่นไส้ แล้วไอ้อะไรใหญ่ๆที่ยังคาอยู่ในตัวของเขานั่นอีกมันสร้างความอึดอัดและเสียวๆอย่างบอกไม่ถูก ไหนบอกว่าจะเอาออกให้ แล้วเหตุใดมันถึงยังอยู่กับเขาล่ะ เด็กชายกัดปากอย่างข่มความไม่พอใจที่เริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ จิกเล็บลงบนท่อนแขนนั่นเพื่อปลุกคนชอบเวลากลางคืนให้ตื่น
“อืม” อนธการครางเบา เผยอเปลือกตาขึ้น เมื่อเห็นผมดำๆของคนที่เขากอดอยู่ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี
“ตื่นสักทีสิ ข้าจะกลับบ้านแล้ว และก็เอาของๆท่านออกไปด้วย” คำสั่งของคนตัวเล็กทำให้จ้าวรัตติกาลหัวเราะเบาๆ แทนที่จะเก็บอาวุธ แต่กลับขยับเบาๆ เป็นผลให้ร่างเล็กร้องแหวออกมาอย่างตกใจ
“เอ๊ะ ท่านหยุดเลยนะ หยุด! อย่าขยับนะ อ๊ะ ข้าบอกให้หยุดไงเล่า” บีซอชักจะเริ่มคล้อยตามคนตัวโตจอมเจ้าเล่ห์อีกครั้งแล้ว เด็กชายกระถดสะโพกหนี แต่อนธการกลับดึงเข้ามาแล้วแทงลึกลงไปอีก แก่นกายใหญ่คับพองเต็มพื้นที่ด้านในของเด็กน้อย แรงบีบรัดนั้นทำให้อนธการคำรามออกมาเบาๆอย่างกระสันซ่าน
“เดี๋ยวข้าพากลับบ้าน” ชายหนุ่มร้องบอก
“ข้าจะกลับเดี๋ยวนี้” เสียงเล็กพูดเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“อย่าดื้อ” อนธการดุ แล้วเร่งจังหวะ
“ท่านตัณหากลับหรือไง” บีซออดที่จะด่าไม่ได้
“หึหึ” เสียงหัวเราะดังออกมาจากร่างสูง ก่อนที่เขาจะพาเด็กน้อยล่องลอยไปสู่ห้วงตัณหาราคะกันอีกหลายรอบ
แรงลมที่ปะทะใบหน้านวลทำให้คนตัวเล็กที่กลัวความสูงอยู่แล้วกอดคอจ้าวรัตติกาลแน่นขึ้นไปอีก สองตาเพ่งมองพื้นเบื้องล่างที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ รวมทั้งสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เดินเป็นฝูงหรือเดี่ยวอยู่กระจายทั่วผืนป่าที่เขาแสนจะคุ้นเคย
บีซอเงยหน้าขึ้นมามอง อมนุษย์ที่อุ้มตนและโบกสะบัดปีกบินไปบนท้องนภาอย่างสังเกต ผู้ชายตัวใหญ่ที่เขาได้ร่วมทำสิ่งที่เรียกว่าเกินงาม แปลงร่างเป็นค้างคาวตัวใหญ่แทบกลืนภาพอนะการในร่างมนุษย์ไปเสียสิ้น มีเพียงตาสีแดงเพลิงเท่านั้นที่ยังพอทำให้เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายคือคนที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพนี้
สภาพเดินไม่ได้!
พระเจ้า! เขาไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่แต่เขาอยากวอนขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น เขาไม่อยากสูญสิ้นวัยเยาว์ของตนเองลงเพราะต้องคอยปรณนิบัตสามีเช่นเดียวกับท่านแม่และหมี่ซอหรอกนะ
ไม่รู้ว่ากลับไปจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แล้วปีศาจตนนี้จะเละด้วยน้ำมือของท่านพ่อหรือไม่ แต่ใจก็อยากให้ท่านพ่อจัดการให้หลาบจำซะมั่ง จะได้รู้ว่าเขาน่ะลูกใคร!
“ข้าอยากให้เจ้าไปอยู่ที่ปราสาทของข้า” ปราสาทที่แสนเงียบและวังเวงนั่นเหรอ ไม่มีทาง! เขาไม่ไปอยู่ด้วยหรอก บีซอได้แต่ก่นร้องอยู่ในใจ
ความมืดไม่ใช่ปัญหาสำหรับจ้าวรัตติกาลอย่างเขาอยู่แล้ว อนธการโผลงเมื่อเห็นผืนน้ำที่เขาเจอเด็กน้อยเมื่อคืนอยู่เบื้องล่าง เด็กน้อยคงจะตกใจถึงได้กอดคอเขาแน่นขนาดนี้
เมื่อลงถึงพื้น อนธการก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ ปีกสีดำใหญ่หุบเข้ามหากันที่แผ่นหลังและหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาก้มลงหอมแก้มบีซอที่ยังหลับตาปี๋อย่างหลงใหล
“ถึงบ้านเจ้าแล้ว” เขาบอก
“เจ้านี่เองที่บังอาจมาลักพาตัวลูกชายของข้าไป”
ทั้งสองหันไปมองตามเสียงแทบจะทันทีด้วยความรู้สึกที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
บีซอตาเบิกกว้าง มองพี่น้องทุกคน รวมทั้งหมี่ซอที่ยืนอยู่ข้างๆอรุณ ท่านแม่ที่อุ้มน้องชายคนเล็กโดยข้างๆกันมีท่านยายยืนส่งยิ้มให้เขาอย่างให้กำลังใจ และมีท่านพ่อที่ตอนนี้ความเป็นปีศาจอยู่เหนือเทพแล้ว นัยต์ตาสีดำส่อแววทมิฬจนเขารู้สึกผวาด้วยความกลัว กลืนน้ำลายดังอึก เมื่อท่านพ่อเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยฝีเท้าที่ว่องไวปานลมพายุ
ให้ตายสิ! เขาจะเป็นหม้ายตั้งแต่สามขวบหรือเปล่าเนี่ย
.....................................................................................
สวัสดีคนอ่านทุกท่านค่ะ มาอัพแล้วนะจ๊ะ เพิ่งแต่งเสร็จสดๆร้อนๆเลย มีอะไรผิดพลาดก็บอกกันด้วยน้า ในตอนแรกคนเขียนกะว่าจะให้อนธการใช้กำลังกับบีซอ แต่ว่ามันดูจะเป็น sm ซึ่งมันไม่ใช่แนวของนิยายเรื่องนี้อ่ะเนาะ ออกใสๆ ใช่ป่ะ อิอิ หื่นพอกลุบกลิบก็พอเนาะ ในตอนหน้าเรามาดูกันว่าพ่อตากับลูกเขยเขาจะคลียร์กันยังไงเนาะ
ปล. คนเขียนอยากจะสอบถามคนอ่านนิดนึงว่าคู่ต่อไปเนี่ย อยากให้เด็กๆเขาโตเป็นหนุ่มพร้อมเจริญพันธุ์กันเลยไหมค่ะ เดี๋ยวจะทำโพลในตอนหัวค่ำนะคะ ขอไปทำธุระก่อนน้า