สงกรานต์ #หนุ่มวายยกกำลังสอง #verสลับอายุหูหาง 6 (จบ)
สวัสดี ผม ‘เฟย์’ หมาป่าสุดหล่อในดวงใจของทุกคน หลังจากนี้ผมจะรับหน้าที่บรรยายนะครับ เพราะพี่ปอนด์คงมัวแต่เล่นน้ำจนไม่สนอะไรแล้ว ทั้งที่ตอนแรกบ่นว่าไม่อยากมาแท้ๆ แต่เอาเถอะ จะยังไงก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ผมได้เห็นแมวน้อยเปียกน้ำก็พอ
“เฟย์ ทุกคนหายไปไหนกันหมดแล้ว” หนุ่มวัยทำงานที่หน้าละอ่อนจนชวนเข้าใจผิด หันมาเอียงคอถามผมอย่างสงสัย หลังจากเล่นไปสักพักแล้วไม่เห็นใครนอกจากเด็กหนุ่มที่ชวนมา
ผมลอบถอนหายใจ แต่ยิ้มกว้างให้พี่ปอนด์ “คนอื่นเขาก็ไปเล่นของเขาสิครับ แยกกันไปเป็นคู่ๆ แล้ว อีกอย่าง คนเยอะแบบนี้มัวจับกลุ่มกันก็ไม่สนุกสิ” ตอบแบบมีหลักการ พี่ปอนด์พยักหน้ารับลากเสียงในลำคออย่างเข้าใจ
“งั้นเราไปเล่นต่อเถอะ ไว้ตอนจะกลับค่อยโทรเรียกรวมตัวก็ได้” เจ้าตัวยิ้ม ลากผมไปเฮโลฉีดน้ำกับคนอื่นต่อ
ผมเลือกที่จะเดินตามมากกว่านำหรืออยู่ข้างๆ เพื่อระวังความปลอดภัยให้ผู้ใหญ่ที่กำลังปล่อยตัวไปกับความสนุกสนาน ถึงอย่างนั้นก็ไม่พ้นโดนรุมปะแป้งฉีดน้ำใส่อยู่ดี ไอ้ผมโดนมันเรื่องปกติ มีผู้หญิงหลายคนจงใจเดินเบียดเฉียดใกล้ ขอปะแป้ง แต่ผมไม่สน ตอบไปตามมารยาทเท่านั้น เพราะความสนใจทั้งหมดมันรวมอยู่ที่พี่ปอนด์เป็นจุดเดียว
เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองมีเสน่ห์ในแบบของเขา ใบหน้ายิ้มแย้มร่าเริง ความเป็นสุภาพบุรุษกับสาวที่เดินผ่านไปมา น้ำเสียงนุ่มๆ ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป ฟังแล้วชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญ ใบหน้าอ่อนเยาว์กับหางเปียกชุ่มที่ส่ายไปมาน้อยๆ ทำให้ทุกคนจ้องตาวาว
อย่างที่รู้กัน ชายหญิงที่ยังไม่ผ่านประสบการณ์แรกจะไม่สามารถเก็บหูหางได้ตามใจชอบ ความหมายคือซิงนั่นแหละ ดังนั้นคนที่จ้องส่วนใหญ่มักเป็นพวกหูหางหายไปเหมือนอย่างผม ใช่ว่าจะไม่มีคนเนียนเป็นสายซิง แต่มันก็หลอกได้เฉพาะพวกไร้ประสบการณ์เท่านั้น ลองเป็นอย่างผมสิ แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าของจริงหรือของปลอม
ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องยืนคอยระวังหลังให้พี่ปอนด์ การอยู่ตำแหน่งนี้นอกจากจะกันคนเข้ามาด้านหลังซึ่งเป็นจุดอับแล้วยังสามารถสังเกตการณ์รอบตัวพี่ปอนด์ได้อย่างสบาย รวมถึงการทำแบบนี้...
แขนแกร่งยื่นไปโอบประคองร่างโปร่งที่ถูกชนจนเซ มือหนาวางแนบตรงท้องน้อย เนียนลูบขึ้นสัมผัสหน้าท้องไร้ไขมันส่วนเกิน ขยับกายเข้าหาอย่างมีเทคนิคให้แมวหนุ่มเอนพิงมาทั้งตัว ยิ่งเสือกผ้าเปียกชุ่มแนบสรีระ คงไม่ต้องพูดถึงสัมผัสที่ได้รับ
“เป็นอะไรรึเปล่าพี่ปอนด์” ถามชิดใบหู แน่นอนว่าต้องหูแมวที่ถูกผ้าปิดอย่างน่าเสียดาย
“ไม่เป็นไรๆ ขอบใจมาก” คนซุ่มซ่ามผละออกแบบรู้สึกสยิวแปลกๆ
“ระวังหน่อยนะพี่ คนมันเยอะ” ยิ้มขัดตาทัพ จนแมวละความสนใจ
“คนเยอะจริงๆ นั่นแหละ เฟย์มายืนใกล้ๆ กันนี่ ไม่งั้นผลัดหลงกันไปจะแย่เอา” พี่ปอนด์แสดงความเป็นพี่ ดึงให้คนอายุน้อยกว่ามายืนข้างตัวราวกับกลัวเด็กหลง หรือระแวงหลังก็ไม่ทราบ แน่นอนว่าผมต้องตามใจพี่ปอนด์ ถือกระบอกฉีดน้ำยิงผู้ชายทุกคนที่คิดเข้าใกล้ด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ พร้อมส่งสายตาเยือกเย็นกลับไป แสดงให้เห็นว่านี่แมวของข้าใครห้ามแตะ
จังหวะที่กำลังเขม่นผู้ชายเสื้อดำสายพันธุ์หมาบ้านที่คิดเต๊าะแมวชาวบ้าน จู่ๆ ใบหน้าก็สัมผัสถึงแป้งเหนอะหนะ ไม่ใช่แปะแก้มแบบพอเป็นพิธี แต่นี่ปาดทั้งหน้า หมาป่าหน้าขาวถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง พอเห็นว่าใครทำ ปมตรงหว่างคิ้วก็คลายลงกลายเป็นรอยยิ้มกับแววตากรุ่มกริ่ม
“ปะแป้งกันเร่าร้อนขนาดนี้ เชิญชวนเหรอครับ”
ศอกเน้นๆ ตอบแทนวาจาทะเล้นน่าเตะ ผมแอบจุก ถึงงั้นก็ยังออเซาะเข้าหาคนข้างกาย
“น้อยๆ หน่อย ทำหน้าโหดแบบนั้นคนหนีหมดแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก โตจนป่านนี้พี่ดูแลตัวเองได้”
ผมหรี่ตามอง ก็คงจะดูแลตัวเองได้จริงนั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่มีหูหางโชว์หราจนถึงตอนนี้ ส่วนเรื่องที่ทำให้ผมยิ้มกว้างคือ พี่ปอนด์ไม่ใช่คนไร้เดียงสาซะทีเดียว บางครั้งเจ้าตัวรู้มากกว่าที่ผมรู้ซะอีก แต่ทำเป็นไม่สนใจ นั่นเท่ากับว่าการที่อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธคำแซว กับการใกล้ชิดของผม แสดงว่าแมวหนุ่มคนนี้มีใจให้ผมเช่นกัน จะจริงหรือไม่นั้น ไว้ผมไปพิสูจน์อีกที
“พี่...” ผมเรียกพี่ปอนด์ ระหว่างอีกฝ่ายเปิดกระเป๋าแมวเทน้ำให้ผมล้างหน้า
“มีอะไร” พี่ปอนด์เลิกคิ้วถาม
“ผมไม่อยากเล่นน้ำแล้วอะ”
“หยั่มมา เอ้า! ล้างเสร็จแล้วก็ไปเล่นต่อ มาทั้งทีต้องเล่นให้คุ้ม” ผมโดนพี่ปอนด์มองแรงใส่แล้วบ่ายเบี่ยงไปเล่นน้ำหน้าตาเฉย อันนี้จริงๆ จากใจเลยนะ ผมไม่อยากเล่นน้ำแล้ว อยากพาแมวไป...
“เฟย์เก็บแววตาหน่อย ระยิบระยับจนน่าหมั่นไส้” พี่ปอนด์มียกปืนขู่ ผมยกมือสองข้างยอมแพ้แล้วหันมาสนใจสนุกกับบรรยากาศสงกรานต์แทน แบบไม่ยอมห่างจากพี่ปอนด์ในระยะสองก้าว
พอเล่นน้ำจนหมดก็ไปขอเติมเอากับพวกซุ้มข้างๆ บางซุ้มให้ฟรี บางซุ้มก็ต้องเสียตัง ถือว่าเข้าใจได้ เพราะค่าน้ำก็ต้องจ่าย ไม่ได้สูบมาจากคลอง แต่ส่วนใหญ่ต้องจ่ายด้วยร่างกาย อย่าเพิ่งมองผมแบบนั้นสิ ไม่ใช่แบบที่คิด แค่เสียสละโดนแต๊ะอั๋งเล็กๆ น้อยๆ อย่างทาแป้งธรรมดา หากเป็นนอกเหนือจากนี้ผมไม่ยอมหรอก พี่ปอนด์ก็เช่นกัน ยอมให้ปะแป้งอย่างเดียว
ระหว่างเดินบนถนนก็มีบ้างที่เจอพวกเพื่อน อย่างฝนที่คอยดูแลน้ำอย่างกับเป็นพ่อไม่ใช่รุ่นพี่ อิงค์กับบอริสที่ทะเลาะกันเบาๆ พอกระชากมิตร ส่วนโฟมกับกบที่น่าสงสาร โดนพี่ชายเพื่อนฉวยโอกาสลวนลามบ่อยๆ ไอ้กบเองก็ใช่จะนิสัยแสนดีอย่างที่มันแสดงออก ลึกๆ มันก็มีความร้ายเหมือนกัน ไม่งั้นคงคบกับพวกผมไม่ได้ ผลคือ โฟมโดนลากเข้าซอกหลบมุมทำอะไรไม่ทราบ เอาเป็นว่าผมจะทำเป็นมองไม่เห็นแล้วกัน
เสียงเพลงมันๆ สายน้ำเย็นฉ่ำ ผู้คนมากมาย บรรยากาศคึกคัก แต่ไม่อาจกลบความวุ่นวายเล็กๆ ได้ ทางที่พวกเราผ่านมาเหมือนจะเกิดเหตุอะไรบางอย่างขึ้น ผมกับพี่ปอนด์เลยหยุดเดินหันไปมองอย่างสนใจ ไม่ใช่อะไรนะ เผื่อมีอะไรช่วยได้จะได้ช่วย หรือถ้ามีคนตีกันผมจะได้พาพี่ปอนด์หนีไวๆ
ผมเห็นมีเจ้าหน้าที่วิ่งไปทางนั้นแล้ว ไม่มีอะไรให้สนใจอีก จึงชวนพี่ปอนด์ไปอีกทาง “เจ้าหน้าที่มาแล้ว คงไม่เป็นอะไรมาก พวกเราไปกันเถอะพี่ปอนด์” มือดึงแขนอีกฝ่ายเบาๆ นอกจากพี่ปอนด์จะไม่ขยับตามแล้วยังยืนนิ่งอยู่กับที่
“พี่ เป็นอะไรรึเปล่า” ถามอย่างเป็นห่วง ตอนที่ผมขยับเข้าไปใกล้เพื่อดูอาการ กลิ่นอะไรบางอย่างที่คุ้นเคยโชยมาจากตัวอีกฝ่าย พี่ปอนด์ใช้สองมือจับแขนผมแน่น ชักจะแปลกๆ ซะแล้วสิ
“เฟย์...แคทนิป...” เสียงขาดห้วงแถมยังเบาซะจนผมต้องเข้าไปฟังใกล้ๆ สิ่งที่ได้ยินทำให้สมองผมกระจ่างวาบ มองพี่ปอนด์ที่ค่อยๆ กลับร่างอย่างตื่นตะลึง
เวรเอ๊ย! มีคนเอาแคทนิปละลายน้ำมาเล่นสงกรานต์ คงเป็นทางที่พวกเราผ่านมา จุดที่เจ้าหน้าที่วิ่งไปก็น่าจะเป็นเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ผมอุ้มประคองพี่ปอนด์ที่กลายเป็นแมวดำเต็มตัวขนเปียกลู่ แล้วคว้าเอาชุดข้าวของมาถือไว้ด้วยมืออีกข้างก่อนเร่งฝีเท้าออกจากจุดนั้นให้ไว สภาพแบบนี้เล่นน้ำต่อไปไม่ได้แล้ว ผมต้องพาพี่ปอนด์กลับ
“เฮ้ยเฟย์ จะกลับแล้วเหรอวะ” เสียงอิงค์ตะโกนไล่หลัง ผมเลยชะงักฝีเท้ารอ จำได้ว่าคนที่อิงค์พามาก็เป็นแมวนี่หว่า คงต้องเตือนสักหน่อย
“มีคนเอาแคทนิปมาผสมน้ำเล่น พี่ปอนด์กูเลยกลายเป็นสภาพนี้ไปแล้ว กูคงต้องกลับก่อน มึงเองก็ระวังหน่อย บอริสเป็นแมวเหมือนกันนี่” ผมบุ้ยปากไปทางบอริสที่กำลังเดินมาทางนี้ อิงค์ตาโตมองผมสลับแมวดำในอ้อมแขน ความจริงแค่น้ำผสมแคทนิปมันไม่มีปัญหาอะไรหรอก พวกแมวแกร่งๆ หน่อยอาจจะแค่ทำให้คึกขึ้น แต่บางรายก็แพ้ กรณีของพี่ปอนด์น่าจะเซนซิทีฟเลยทำให้กลับร่างเดิม
“ใครแม่งเล่นพิเรนทร์วะ” อิงค์บ่นอุบสีหน้าไม่ชอบใจ พอเห็นบอริสไม่มีท่าทีอะไรก็โล่งอก
“เอาเป็นว่ากูไปก่อนแล้วกัน ฝากบอกไอ้กบด้วย อย่าลืมพาพี่ชายกูไปส่งบ้าน” ผมสั่งกำชับ ไอ้อิงค์หัวเราะ เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่า คู่โฟมกับกบเป็นยังไง
หลังคุยกับเพื่อนเสร็จผมก็ปลีกตัวออกมา อาศัยความสามารถทางสายเลือด เร่งฝีเท้าให้ไว หลบชาวบ้านอย่างคล่องแคล่วจนมาโผล่อยู่หน้าทางเข้าถนนคนเดินแล้วโบกรถมอไซค์กลับ เพราะที่นี่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก ผมหยิบเงินในกระเป๋ากันน้ำจ่ายแบบทุลักทะเล พอเข้าบ้านแม่เห็นสภาพถึงกับอึ้ง
ตอนออกไปแต่งซะหล่อ กลับมานอกจากจะตัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำแล้วยังถือของแบบบ้าหอบฟางกลับมาอีก แขนข้างหนึ่งอุ้มแมว อีกข้างถือเสื้อผ้าพี่ปอนด์กับปืนฉีดน้ำสองกระบอก ยังดีหน่อยของพี่ปอนด์สะพายได้
“ตาเถร! ลูกไปลักพาตัวใครมา!!” แม่อุทานทันทีที่เห็นผม ขนาดพ่อยังเดินมาดูจากหลังบ้าน
“เฟย์ พ่อรู้ว่าลูกชอบแมวและบ้านเราก็เลี้ยงไว้ตั้งสองตัว แต่ลูกก็ไม่ควรไปลักพาตัวใครมาเลี้ยงนะ” น้ำเสียงนิ่งขรึม วาจาชวนขำ ผมหัวเราะส่ายหัวกับพ่อแม่อารมณ์ดี
“นี่พี่ปอนด์ที่ผมเล่าให้ฟังไง พอดีเกิดเหตุนิดหน่อยตอนเล่นน้ำเลยเป็นแบบนี้”
พี่ปอนด์ที่แค่มึนแคทนิป ส่งเสียงเหมี้ยวชวนละลาย ผมเกือบจะเก็บอาการไม่อยู่ก้มลงไปฟัดแมว จำต้องท่องขันติในใจ
“อ่อ แล้วโฟมล่ะ ไม่ได้กลับมาด้วยกันเหรอ” แม่มองหาพี่ชายคนโต ผมยักไหล่ถอดรองเท้าเดินเข้าบ้าน
“ยังเล่นน้ำอยู่ เดี๋ยวก็คงกลับมาพร้อมกบนั่นแหละ ผมขอพาพี่เขาขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวลงมาถูพื้นให้นะครับแม่”
“ไปเถอะ แม่จัดการเอง” คุณแม่โบกมือไล่ ผมเลยอุ้มพี่ปอนด์ขึ้นชั้นสอง ระหว่างทาง เจ้าเหมียวสองตัวที่ผมเลี้ยงไว้มาเดินวนเวียนอยู่รอบตัว คงสนใจแขกแปลกหน้าที่เป็นสายพันธุ์เดียวกัน พี่ปอนด์ส่งเสียงทักกลับไป ไม่รู้เขาคุยอะไร ถ้าผมเป็นครึ่งแมวก็ดีสิ
พอถึงห้อง คว้าผ้าขนหนูมาสองผืนแล้วตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที จู่ๆ พี่ปอนด์ก็ดิ้นจะลงให้ได้ แต่ผมฝืนไว้จนกระทั่งปิดประตูล็อคค่อยปล่อยลงบนพื้นห้องน้ำ เห็นเจ้าตัวเดินระส่ำระส่ายไปมา เกาประตูแกร่กๆ เหมือนจะออก
“อาบน้ำก่อนพี่ค่อยออก” ว่าพลางถอดเสื้อผ้าทิ้ง กองรวมกับชุดพี่ปอนด์ ไว้ค่อยซักทีเดียว จังหวะที่หันกลับมาถึงกับหลุดขำพรืด เห็นแมวดำยกอุ้งเท้าสองข้างปิดตา แสดงว่าสร่างเมาแคทนิปแล้วสินะ แต่ที่ยังไม่ยอมกลับร่างเดิมก็เพราะ...มองไปทางเสื้อผ้าที่กองไว้อีกด้าน
ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อุ้มพี่ปอนด์มาจับอาบน้ำ ส่วนตัวเองนั่งบนเก้าอี้เล็ก ไม่นำพาเรื่องร่างกายเปลือยเปล่าเลยสักนิด ผมไม่เสียหายนี่ ดีซะอีก เผื่อพี่ปอนด์จะติดใจยอมเป็นของผมสักที อะแฮ่ม เผลอฝันหวานไปหน่อยแฮะ ขนาดตอนนี้พี่ปอนด์ยังหลับตาปี๋ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา
“หลับตาเพราะกลัวแชมพูเข้าตาสินะ ไม่ต้องห่วงพี่ ฝีมือระดับผม เชี่ยวชาญการอาบน้ำแมวแล้ว” ว่าพลางอาบนวด ละเลงแชมพูจนกลายเป็นแมวฟองฟอด ท่องในใจว่ากำลังอาบน้ำแมว ไม่ใช่พี่ปอนด์ที่ผมแอบชอบ ไม่งั้นเกิดอะไรๆ มันตื่นขึ้นมาจะซวยเอา
ผมกลัวพี่ปอนด์จะหนาว เลยรีบอาบน้ำให้เสร็จ ล้างแชมพูจนสะอาดแล้วเช็ดตัวห่อด้วยผ้าขนหนูค่อยมาจัดการในส่วนของตัวเอง เชื่อมั้ย จนป่านนี้พี่ปอนด์ก็ยังไม่ยอมเปิดตา ขนาดผมอาบน้ำด้วยความไวแสง นุ่งผ้าขนหนูอุ้มอีกฝ่ายเข้าห้องนอนแล้วนะ
แน่นอนว่าผมต้องดูแลพี่ปอนด์ก่อน นั่งตรงขอบเตียง หยิบเอาไดร์เป่าผมมาเป่าขนแมวให้แห้ง จนกลายเป็นแมวขนฟูฟ่องหอมกรุ่นแล้วยังนุ๊มนุ่มให้ทาสแมวเผลอตัวเผลอใจเอาจมูกโด่งกับหน้าหล่อๆ ไปซุกฟัดเพลิดเพลิน ยิ่งอีกฝ่ายเป็นแมวที่มีความนึกคิดอย่างคน ไม่กางเล็บข่วนแน่นอน ก็ยิ่งฟัดอย่างเมามัน จนโดนโวยใส่เสียงแหลมนั่นแหละ ผมค่อยผละออกอย่างเสียดาย
“เดี๋ยวผมไปหาเสื้อผ้ามาให้พี่ใส่ พี่กับโฟมน่าจะหุ่นพอๆ กัน คงใส่ด้วยกันได้” ยอมถอยทัพ อดใจไม่พุ่งเข้าใส่แมวที่ขู่พองขนกลมฟูอยู่บนเตียง อยากลองจิ้มเจ้ากลมๆ สองลูกนั่นจัง แต่เดี๋ยวจะอนาจารเกินไป หักห้ามใจไปห้องโฟมเพื่อหาชุด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าโฟมล็อคห้อง เลยต้องวกกลับมากะเอาเสื้อผ้าตัวเองให้ใส่แทน ใครจะไปคิดล่ะว่ามาเจอฉากเด็ด
แมวดำวัยหนุ่มถูกแทนที่ด้วยผู้ชายครึ่งแมวที่กำลังค้างอยู่ในท่ากลับร่างหมาดๆ เรือนร่างสมส่วนไม่ผอมไม่หนาจนเกินไปอยู่ในท่าคลานสี่ขา แผ่นหลังเนียนกับบั้นท้ายขาว พีคสุดหูแมวที่ลู่มาทางด้านหลังบนกลุ่มผมนุ่มสีดำ กับหางหนาสมขนาดตัวที่กวัดแกว่งไปมาอย่างประหม่า ขนหางสีดำช่างตัดกับก้นกบขาวๆ ซะจริง
จากที่บรรยายไปข้างต้นคือภาพเพียงเสี้ยววินาทีตอนที่ผมเปิดประตูเข้าห้องมา ซึ่งตอนนี้พี่ปอนด์ไปซุกอยู่ในผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว ผมเผยสีหน้าโคตรเสียดายแบบไม่ปิดบัง
“ไหนบอกไปเอาเสื้อไง!!” คนโดนจ้องเป็นอาหารตาตวาดแง้ว หางพองฟูอย่างกับกระรอก หูตั้งตรงใบหน้าขึ้นสีเรื่อไม่รู้ว่าอายหรือฤทธิ์แคทนิปยังไม่หมดดี แต่ผมว่าน่าจะเป็นอย่างหลังนะ ตะกี้เหมือนเห็นไข่แมว...แฮ่ม! เหมือนจะเห็นบางสิ่งตื่นตัวอยู่
เนื่องจากผมเป็นทาสแมวที่รักและหลงแมวมาก โดยเฉพาะแมวที่ชื่อว่าปอนด์ ผมไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายทรมานได้ แย้มรอยยิ้มใจดี ค่อยๆ ขยับเข้าหาช้าๆ แล้วนั่งลงข้างเตียงไม่แสดงท่าทีคุกคาม พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด
“พอดีผมลืมไปว่าโฟมชอบล็อคห้อง พี่คงต้องใส่เสื้อผ้าของผมไปก่อน ไม่มีปัญหาเนอะ”
“ไม่มี รีบเอามาสิ แล้วไปใส่เสื้อผ้าด้วย จะนุ่งผ้าขนหนูอีกนานแค่ไหน” โบกมือไล่ชิ่วๆ ในสายตาผมเหมือนแมวกำลังขู่ไล่น้องโฮ่ง ผมหัวเราะในคอยอมลุกไปที่ตู้ จังหวะที่พี่ปอนด์ผ่อนการ์ดลงก็หันขวับกระโจนใส่รวดเดียวแล้วคร่อมทับ เท้าแขนไว้กับหัวเตียงกักอีกฝ่ายไว้ตรงกลางกันหนี
“พี่ปอนด์ พวกการ์ตูนวายมีฉากหนึ่งที่ฮิตสุดๆ พี่คิดว่าฉากอะไรครับ” เอ่ยถามเสียงนุ่ม
“มันก็ฮิตหมดนั่นแหละ อย่าทับได้มั้ยมันหนัก ลุกออกไปที” ฝ่ายปอนด์ ใครมันจะไปกล้าพูดล่ะว่าฉากไหน ในเมื่อบรรดาโดกับมังงะวายทั้งหลายฉากฮิตที่สุดคงไม่พ้น...
“ตอบไม่สมเป็นหนุ่มวายเลยนะพี่ เอางี้ผมใจดีจะเฉลยให้แล้วกัน” ยื่นหน้าเข้าไประยะประชิด ลมหายใจเป่ารดจนแมวตัวสั่น แล้วยิ่งตาเบิกกว้างเมื่อเห็นหูหมาป่าของแท้ กับแววตาที่เปลี่ยนไป นัยน์ตาดำควรเป็นวงกลมตอนนี้กลายเป็นเส้นขีดเรียวเล็ก ทุกครั้งที่เด็กหมาป่าพูดจะเห็นเขี้ยวแกร่งสีขาวมุก
“ฉากที่เคะกับเมะใช้มือช่วยกันปลดปล่อย...ดังนั้น พวกเรามาลองทำกันเถอะ ให้สมกับเป็นหนุ่มวายไงครับพี่ปอนด์” ส่ายหางที่เพิ่งเอาออกมาอย่างอารมณ์ดี มือล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่มสัมผัสส่วนตื่นตัวจนแมวสะดุ้ง ผมไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว ใช้มือรวบรูดตามยาวให้คุณแมวดำสะท้านเฮือกๆ เพียงไม่นาน มือที่ยึดแขนผมเพื่อห้ามเปลี่ยนเป็นจับเพื่อดึงสติตัวเอง
ดวงตาคมวาววับ ลิ้นเลียริมฝีปากเพ่งมองสีหน้าเหมือนจะขาดใจของแมวโดนรังแก ใบหน้าอ่อนเยาว์เหมือนเด็กมหา’ลัยแดงก่ำ หูแมวบิดลู่ไปด้านหลัง ริมฝีปากเผยอหอบหายใจเผยให้เห็นลิ้นสีชมพูอมแดงจนผมชักสงสัยว่า มันจะสากเหมือนกับลิ้นแมวที่ผมเลี้ยงมั้ยนะ
ไวเท่าความคิด ผมสอดนิ้วเข้าไปในโพรงปากนุ่มเขี่ยลิ้นอีกฝ่ายเล่น แม้จะไม่สากเท่าร่างแมว แต่ก็นับว่ามากกว่าลิ้นคนทั่วไป ชวนให้คิดว่า ถ้าหากใช้ลิ้นนี้ช่วยผมแล้วล่ะก็ มันจะ...
“อึก...ชักเป็นผมที่ทนไม่ไหวเองแล้วสิ พี่ช่วยผมหน่อยนะ” เอ่ยเสียงแหบพร่าซุกหน้ากับลำคอขาว จับมือคนอายุมากกว่าให้มาแตะส่วนกลางที่ปวดจนทรมานของผม พลางหยุดมือกะทันหัน ใช้ปลายนิ้วกดส่วนปลายไม่ให้ปลดปล่อย พี่ปอนด์ถึงกับทำหน้าเหยเกวูบหนึ่ง
ผมแสดงตัวชัดเจนว่า ถ้าพี่ไม่ช่วยผม ผมก็จะทิ้งค้างไว้แบบนี้ ผลสุดท้าย ด้วยความต้องการผสมกับฤทธิ์แคทนิปจางๆ มืออันสั่นเทาก็ยอมให้ความร่วมมือ ได้คนที่ชอบมาทำให้กับทำเองนี่ อารมณ์โคตรจะแตกต่าง รู้สึกดีจนแทบอดใจไม่ไหว คว้าหางนุ่มมาจูบซ้ำๆ แล้วงับเบาๆ เหมือนหมาแทะ ขณะที่ใช้จมูกสูดกลิ่นอีกฝ่ายเข้าเต็มปอด
ไม่ไหวแล้ว...จะหน้ามืด
ผมเร่งจังหวะขยับให้พี่ปอนด์รีบปลดปล่อย มือรีดน้ำออกมาจนหมด ส่วนตัวเองผุดลุกขึ้นเหมือนเจอของร้อน
“พี่หาชุดในตู้ผมใส่ไปเลยนะ เดี๋ยวผมมา” พุ่งตัวออกจากห้องนอนเข้าห้องน้ำแบบแทบกระโจน ใช้มือปรนเปรอตัวเองโดยด่วน หากเมื่อครู่ช้ากว่านี้เพียงเสี้ยววิ ผมได้ขันแตกทำตามใจชอบแน่
ไม่รู้ว่าผมใช้เวลาในห้องน้ำไปนานเท่าไร แต่จัดการอาบน้ำอีกรอบแถมถือโอกาสซักผ้าเพื่อสงบสติอารมณ์ พอซักเสร็จก็บิดหมาดใส่กะละมังไว้ค่อยเอาไปตาก ส่วนตัวเองเดินกลับห้องไปใส่เสื้อผ้า กะว่าพี่ปอนด์คงจะเผ่นกลับไปแล้วแหละ
ที่ไหนได้ นอกจากอีกฝ่ายยังไม่กลับ ยังใส่ชุดผมนั่งกอดอกทำหน้าเคร่งอยู่ข้างเตียง ตอนที่ผมเปิดประตูเข้ามาเห็นอีกฝ่ายแอบสะดุ้งแต่พยายามเก็บอาการ ผมนับหนึ่งสองสามในใจ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบชุดมาใส่แล้วหันมาประจันหน้ากับแมวหน้าแดง
“พี่จะด่า จะว่า จะชก หรือกระทืบผมเลยก็ได้” อีกฝ่ายจะเปิดปากพูด ผมชิงพูดดัก “ขอบอกก่อนเลยว่าผมไม่ได้ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ทุกอย่างที่ผมทำเป็นความรู้สึกออกมาจากใจ ผมเชื่อว่าพี่รู้ว่าผมคิดยังไงกับพี่” พูดแบบรวดเดียวจบ ความจริงในใจผมกลัวแทบบ้า คิดไปสารพัดว่าหากอีกฝ่ายโกรธจริงผมจะหาวิธีอะไรมาง้อดี อะไรนะ? นึกว่าผมจะยอมตัดใจ?? ฝันไปเถอะ! คนนี้ของจริง ผมไม่มีทางปล่อยมือหรอก
พี่ปอนด์ดูอึ้งๆ อ้าปากพะงาบๆ จะพูดก็ไม่พูดสักที ส่วนผมก็ยืนรอแบบใจเย็น(?)
“เฮ้อ...”
บอกเลย แค่เสียงถอนหายใจไม่ทำให้ผมหวั่น แค่คิ้วกระตุกใจแป้วไปหน่อยนึง
“รู้ตัวรึเปล่าว่าความรู้สึกแสดงออกมาทางหูหางหมดแล้ว” พี่ปอนด์พูดเจือขำ ผมชะงัก
ในสายตาของปอนด์เห็นหมาน้อยหูลู่หางตกซะจนน่าสงสาร พอทักก็สะดุ้งหูตั้งหางชี้เหมือนเวลาหมาทำความผิดแล้วถูกเจ้านายจับได้
“บอกตามตรงว่าพี่โกรธ” พี่ปอนด์เริ่มเข้าโหมดดุ ผมยอมก้มหน้ารับฟังโดยดี ไม่ฝืนหูหางปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้พี่ปอนด์อ่อนลงมาบ้าง
“ผมรู้” โดนเด็กอายุห่างกันเกือบสิบปีทำแบบนั้นยังไงก็ต้องเสียหน้า ไม่ใช่แค่เป็นผู้ชาย ยังอายุมากกว่าอีก
“รู้ว่าต้องโกรธแต่ก็ยังทำ เอาเถอะ แบบนี้ก็สมเป็นวัยรุ่นดี ไม่ใช่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่อย่างทุกที” ท้ายประโยคพี่ปอนด์พูดเสียงเบาหวิว แต่บังเอิญผมหูดีได้ยินชัดแจ๋ว เงยหน้ามองตาเป็นประกายทันที
“ไม่ต้องมากระดิกหาง! ต่อให้แกว่งจนหลุดก็ไม่ยกโทษให้ง่ายๆ อย่าคิดว่าพี่ยอมแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ ตราบใดที่ยังไม่คบกัน ห้ามทำอะไรบ้าๆ อีก”
“หมายความว่าถ้าคบแล้วผมสามารถทำอะไรที่บ้ายิ่งกว่านี้ได้ใช่มั้ยครับ”
“มะ...ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นเว้ย!! ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ห้ามทำ ช่วงนี้ห้ามเข้าใกล้ในระยะสามเมตร หากฝ่าฝืนเมื่อไหร่เจอดีแน่”
โฮ่...ผมอยากจะบอกเหลือเกิน ภาพแมวถลึงตาใส่หางฟูขู่ฟ่อๆ ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด แต่ก็นะ ผมมีชนักปักหลังอยู่ ไม่อยากให้คะแนนติดลบไปมากกว่านี้ ทั้งที่เพิ่งพัฒนาความสัมพันธ์ไป
“ครับๆ ระหว่างนั้นผมไปหาพี่ได้มั้ย นัดเจอข้างนอกด้วย” ยอมถอยให้ก่อน เข้าใจว่าอีกฝ่ายเริ่มมีใจให้แต่หน้าบางจัดๆ เลยต้องรักษาฟอร์มความเป็นผู้ใหญ่ ผมจะตามน้ำไปก่อนแล้วกัน
“ไม่ได้!”
“อ้าว งั้นหนังสือที่สลับกันอ่าน ร้านขนมที่ลดราคาถ้ากินกันสองคน แล้วยังบัตรส่วนลดร้านการ์ตูนที่อยู่กับผม...”
“ก็ได้! เจอกันปกติ แต่ห้ามเข้าใกล้เกินไป”
“รับทราบครับ!” รับคำแข็งขัน ทั้งที่ในใจหัวเราะลั่น ไว้ผมจะรอดูแล้วกันว่าพี่จะรักษามาดได้สักกี่น้ำ เผลอๆ จะเป็นฝ่ายลืมตัวซะก่อน ยิ่งเป็นแมวจอมขี้ลืมอยู่ คิดไปปากก็ชวนคุยเบนความสนใจ “พวกเราลงไปข้างล่างเถอะพี่ เล่นน้ำเหนื่อยๆ ไปหาอะไรกินเพิ่มพลังงานกัน ผมจะได้เอาผ้าไปตากด้วย”
“ไปสิ” อีกฝ่ายพยักหน้ารับหงึกๆ ผมถอยให้พี่ปอนด์ออกมาก่อน ยอมรักษาระยะห่างตามที่ตกลงกันไว้ แต่ไหงคนที่ควรอยู่ห่างๆ กลับมายืนอ้ำอึ้งหน้าแดงตรงประตูหน่อ
“เฟย์...เอ่อ...”
“ครับ?”
“ผ้าปูกับผ้าห่มมัน...” เสียงเบามากจนผมต้องพยายามกระดิกหูฟัง พอเข้าใจก็ร้องอ่อ
“เดี๋ยวผมจัดการเองพี่ พี่ลงไปก่อนเลย” ยิ้มให้อีกฝ่ายคลายใจ รอจนกระทั่งพี่ปอนด์ลงไปชั้นล่างแล้วค่อยวกกลับมาดูสภาพผ้าปูกับผ้าห่มของตัวเอง ความจริงมันก็ไม่เปื้อนหรอก เพราะเมื่อครู่ผมใช้มือตัวเองรองรับ แล้วรูดทิ้งท้ายเก็บเรียบหมด หรือต่อให้เลอะก็คงแค่นิดๆ หน่อยๆ ไม่เท่าน้ำลายโฟมที่แอบมานอนอ่านหนังสือวายเล่นห้องผมหรอก
ดังนั้นปล่อยเอาไว้แบบนี้แหละ ผมไม่อยากรีบซัก เก็บกลิ่นหอมๆ ของแมวตัวโปรดไว้ก่อน เพื่อรอเวลาที่จะได้มาเป็นของตัวเอง...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พาร์ทพิเศษสงกรานต์จบแล้วจ้า ตอนต่อๆ ไปจะโพสลงเพจตามเดิม เว้นแต่มีตอนไหนที่ต้องแต่งยาวๆ ถึงจะแต่งลงเว็บเน้อ