Yours and Mime EP.22 [100%]วันสุดท้ายของการถ่ายทำ
ผมดีใจและภูมิใจมากๆ ที่ครั้งหนึ่งของชีวิตได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับที่เป็นแบบอย่างของตัวเองมานานอย่างอเล็กซ์ วินโกลด์ และยังได้รับการชวนจากเขาให้ไปร่วมงานด้วยกันในครั้งต่อไปอีก มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนตัวอวบๆ อย่างผมแต่มีฝันที่ยิ่งใหญ่ที่การเข้าใกล้ความฝันนั้นดูจะไม่ต้องรอนานมากนัก แต่สุดท้ายผมก็เลือกครอบครัวของตัวเอง
ผมยืนมองบรรยากาศกองถ่ายที่วันนี้ยกกองมาถ่ายทำในตึกร้างของคุณเคย์เดนที่อีกไม่นานจะถูกเนรมิตรขึ้นมาใหม่ อันเป็นซีนสุดท้ายของการถ่ายทำสำหรับวันนี้ด้วยความอิ่มเอมใจ ผมไม่ได้ขว้างฝันตัวเองทิ้ง แค่เก็บมันเอาไว้ให้เป็นฝันต่อไปแล้วเลือกอยู่กับความจริงของชีวิต มันก็เศร้านิดๆ นะ บางทีผมก็คิดว่าเราจะเลือกเดินทั้งสองเส้นทางไปด้วยกันไม่ได้เหรอ แต่ก็นั่นแหละความคิดกับรูปธรรมมันต่างกัน
“แมท สรุปพรุ่งนี้พ่อมึงมารับที่สนามบินใช่ป่ะ” ผมหันไปพยักให้ไอ้แชมป์
“กลับพร้อมกูนั่นแหละ เดี๋ยวไปส่ง”
“กูกลับอยู่แล้ว ถามเพื่อความชัวร์” ผมพยักหน้าขึ้นหนึ่งที มันมีแพลนกับน้องอาราเล่มันต่อนั่นแหละเลยมาถามเพื่อจะได้วางแพลนของตัวมันถูก
เสร็จงานวันนี้ พรุ่งนี้ช่วงบ่ายผมบินกลับเลย มีทีมงานบางส่วนบินกลับอเมริกาเลยเช่นกัน แต่ก็มีบางส่วนอยู่เที่ยวต่อ ใครที่บินกลับพรุ่งนี้ ผมอาสาส่งกลับบ้านเอง ส่วนคนอยู่เที่ยวต่อ ตกลงกันแล้วว่าต้องดูแลตัวเอง เพราะถือว่าเสร็จสิ้นสัญญางานแล้ว
“ขอกาแฟให้ฉันหน่อย” อเล็กซ์หันมากระซิบกับผมตอนที่กำลังเซ็ทฉากใหม่ ผมพยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินไปหาฝ่ายสวัสดิการที่อยู่ด้านนอกตึก ตอนที่กำลังจะเดินพ้นบันไดวนลงมาจากด้านบนไป ผมก็ชะงักแอบอยู่ตรงกำแพงที่กั้นเป็นฉากบังบันไดไว้ เพราะได้ยินเสียงเซบาสเตียนคุยโทรศัพท์กับใครสักคน ก็ตามเคย เสือกเรื่องคนอื่น
“ฉันไม่สนุกละ หมอนั่นมันไม่ง่ายเลยว่ะ… มันรักไอ้วิคเตอร์ห่าเหวนั่นชิบ แม่ง… แย่งอาหารหมาตำรวจยังง่ายกว่าอีก…” ผมย่นคิ้ว คือกล่าวถึงผมแน่ๆ แต่การที่เซบาสเตียนจะกินอาหารหมานี่มันใช่เหรอ
“…ก็ชอบ แต่ก็เซ็ง… ไม่ไหวหรอก ยาก ถ้าทำได้ เสร็จไปนานแล้ว…” ผมมองค้อนเขาผ่านกำแพง แหม ไอ้พ่อรูปหล่อ เออ หล่อจริง แต่มั่นหน้าเชียวนะ
ผมรอจังหวะดีๆ กะว่าเขาไม่ได้หันมามองทางนี้ก็รีบเดินลิ่วๆ ออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ ตรงดิ่งไปที่สวัสดิการของกองถ่าย มีหันหลังกลับไปมองบ้างเพื่อความแน่ใจ แต่ก็ไม่เห็นมีใครตามมา
“เอากาแฟ ใส่น้ำตาลสามช้อน แล้วก็ใส่นมหนึ่งช้อนครับ” ผมคลี่ยิ้มให้กับพี่ผู้หญิงฝ่ายสวัสดิการ เธอถามกลับมาว่าของผู้กำกับใช่มั้ย ผมพยักหน้าตอบรับ เธอจัดการชงให้อย่างคุ้นเคย
“เมื่อกี้นายแอบฟังฉันคุยโทรศัพท์รึเปล่า” ผมสะดุ้งแล้วหันไปมอง เซบาสเตียนหรี่ตามองผมอย่างจับผิด เห็นแบบนั้นผมก็เลยเชิดหน้าขึ้นสู้
“ไม่ได้แอบฟัง พูดดังขนาดนั้น เดินผ่านเลยได้ยิน”
“เสียมารยาท” ผมเลิกคิ้วขึ้น บิดปากเล็กน้อยแล้วก็ยักไหล่สองข้างหนึ่งทีแบบว่าไม่แคร์
“อยากด่าก็ด่าไปเลย ยังไงฉันก็ดีลีทความทรงจำไม่ได้ทันทีหรอก” เซบาสเตียนหน้าบึ้ง ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไรกันแน่ ปล้ำผมไม่สำเร็จ แย่งผมไม่ได้ หรือโกรธที่ผมได้ยินที่เขาคุยกับเพื่อน
หลังจากวันนั้นเขาก็ยังมาป้วนเปี้ยนกับผมอยู่นะ แต่ก็ไม่ได้รุ่มร่ามมากเพราะมีไอ้แชมป์กับน้องอาราเล่คอยกันท่าให้ เขาเลยเข้าไม่ถึงตัวผมจังๆ สักที มีอยู่ไม่กี่ทีหรอก แต่ก็ไม่ได้ว่าจะเข้ามาปล้ำอีกรอบ ผมไม่ได้โกรธเขาเลยตอนที่เขาจะปล้ำผม เพราะผมชอบ เอ่อ ไม่ใช่ เพราะผมรู้ว่าเขาไม่ทำจริงหรอก ถึงจะไม่ได้สนิทถึงขั้นรู้ใจ แต่ผมก็พอจะรู้ว่า ผู้ชายอย่างเซบาสเตียนไม่เหมาะกับการทำอะไรแนวนั้น เขาไม่เหมาะกับสไตล์จำเลยรักเลยสักนิด
“กาแฟได้แล้วจ้า” ผมหันกลับไปยิ้มกับพี่สวัสดิการพร้อมกับยื่นมือไปรับกาแฟเย็นใส่กระบอกน้ำพลาสติกสีใส
“ขอบคุณนะครับ” ผมหันกลับมาก็ยังคงเห็นหน้าเซบาสเตียนหน้าบึ้งอยู่ ผมเบิกตากว้างแล้วคลี่ยิ้มมุมปากเร็วๆ ก่อนจะเดินผ่านเข้าไป มุ่งตรงกลับไปยังหน้าเซ็ท เอากาแฟกลับไปให้อเล็กซ์
“ถ่ายจบแล้วพาฉันเที่ยวหน่อยได้มั้ย” ผมสั่นหัวรัวๆ ตอนที่เขาเดินตามมาถาม
“ไม่ได้ ฉันยังต้องเลื่อนไฟล์ทกลับอังกฤษเลย” ตอนแรกว่าจะอยู่กับพ่อกับแม่สักอาทิตย์ แต่พอสองแฝดออกมาแล้วผมก็อยากจะรีบกลับไปช่วยไวโอล่าดูแล เลยกลับไปอยู่บ้านได้สองวันก็จะบินกลับอังกฤษ พ่อกับแม่ไม่ได้งอนหรือน้อยใจ เพราะเดี๋ยวช่วงปีใหม่ผมก็กลับมาไทยอีกรอบ
“แมท…” ผมพ่นลมหายใจ หยุดเดินอยู่บนขั้นบันไดที่เหนือกว่าเขาหนึ่งขั้น
“…เซบ นายพูดกับเพื่อนในโทรศัพท์เองนะว่าฉันรักวิคเตอร์มาก ไม่ง่ายเลยที่จะแย่งฉันไป ฉะนั้นฉันว่านายพอแค่นี้เถอะ เราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันได้ แต่เป็นมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว จริงๆ” เรามองตากัน เซบาสเตียนมองผมนิ่ง สักพักเขาก็พ่นลมหายใจเบาๆ แล้วหลุบตาลงต่ำมองพื้นแว้บหนึ่งก่อนกลับมามองตาผมตามเดิม ผมยื่นมือซ้ายไปตบบ่าเขาปุๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปชั้นดาดฟ้าของตึกที่กำลังถ่ายทำอยู่ โดยมีเขาเดินตามขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นแล้ว
“Thank you Mr.Cayden for your kindness. (ขอบคุณมากนะครับคุณเคย์เดนสำหรับความใจดีครั้งนี้)” ผมยกมือไหว้ขอบคุณคุณเคย์เดน หนุ่มฝรั่งสูงอายุตาฟ้าสดใสและมีใบหน้าหล่อเหลาแบบที่พูดอีกครั้งก็ยังบอกว่านี่แหละคือหน้าหล่อ
“That’s fine. (ไม่เป็นไร)” เขายิ้มน้อย เป็นยิ้มน้อยที่พอดี ดูแล้วอบอุ่นแต่ให้ฟีลลิ่งแฉะได้ด้วยในเวลาเดียวกัน เป็นคนมีอายุที่น่ากินมาก แหวนทำท่าจะหลุดออกจากนิ้วนางข้าซ้ายอีกแล้วให้ตายสิ
“And how long you will be in Thailand? (แล้วคุณจะอยู่ที่ไทยต่ออีกนานแค่ไหนครับ)”
“One week. (อาทิตย์เดียวเท่านั้นละ)” ผมยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าหงึกๆ คุณเคย์เดนยิ้มมุมปาก รอยยิ้มเขากระชากมดลูกหลุดลุ่ยเลยนะเอาจริงๆ เสียดายที่ผมไม่มี ไม่งั้นหลุดลงไปกองกับพื้นตอนเขายิ้มนี่แหละ
“Have fun. (ขอให้สนุกนะครับ)” เขาก้มหัวลงนิดหนึ่งก่อนจะขอตัวเดินไปคุยกับอเล็กซ์ ผมก็มองด้วยความปลื้มใจ ใครได้เขาไปเป็นสามีขอดีใจล่วงหน้าแทน แค่แฟคเตอร์หล่อและรวยก็สามารถทำโครงการอวดผัวได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว แล้วถ้ายิ่งนิสัยอบอุ่นนุ่มลึกล่ะก็ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องแต้มบุญหนามากจริงๆ
“มึง ไปในเมืองกันป่ะ พรุ่งนี้เราก็กลับแล้วอะ” ไอ้แชมป์เดินมาชวนพลางบีบปีโป้เข้าปาก ผมหันไปมองกองถ่าย ตอนนี้ปิดกล้องอย่างแท้จริงละ ผมยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาจากนาฬิกาอันเดิมที่วิคเตอร์เคยให้
“ไปดิ แต่เดี๋ยวกูไปบอกเจสันก่อน” ไอ้ตี๋หมีพยักหน้า ผมเดินไปหาเจสันที่กำลังยืนคุยกับพวกทีมกล้อง เขาคงเห็นผมทางหางตาเลยหันมายิ้มให้
“เจสัน มีอะไรให้ทำอีกมั้ยครับ”
“ตอนนี้ก็หมดแล้ว เดี๋ยวเราก็ไปผจญภัยกับตัวเลขกัน” แค่คิดก็จะอ้วก บอกเลยว่าผมผ่านมาได้เพราะเขาล้วนๆ ผมคิดอยากแบ่งค่าตัวให้เขาครึ่งนึงเลย
“พอดีผมจะเข้าไปในตัวเมือง…”
“…โอ้ว โอเค ไปได้เลย ตรงนี้หมดแล้ว ค่อยกลับมาเคลียร์งานเราต่อก็ได้” ผมยิ้มกว้าง เจสันยักคิ้วให้ เขาใจดีเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
“ขอบคุณนะครับ คุณเอาไรมั้ย เดี๋ยวซื้อมาฝาก”
“ไม่ล่ะ” เรายิ้มให้กันก่อนที่ผมจะหมุนตัวเดินกลับไปหาไอ้แชมป์แล้วพากันเดินลงไปจากตึก
“น้องอาราเล่ไปด้วยมั้ย”
“ตัวตั้งตัวตี ไลน์ถามกูยิกๆ” ผมหัวเราะเบาๆ ไอ้แชมป์มันห้าวน้อยลงนะตั้งแต่มีน้องเขาเนี่ย แต่ก็ไม่ใช่ว่านุ่มนิ่ม ที่ผมเคยบอกว่ามันเป็นคนใส มันใสซื่อจริงนะในเรื่องความรัก ใกล้เคียงกับวิคเตอร์ คือเรื่องรักอาจมีชะงัก แต่เรื่องเยไม่มีพักแม้ว่าจะคิดถึงคิทแคทแล้วก็ตาม
“สาวๆ ของมึงรู้เรื่องที่มึงมีแฟนเป็นผู้ชายมั่งยังเนี่ย” ไอ้แชมป์ทำท่านึกก่อนจะแยกเขี้ยวหนึ่งที
“รู้เป็นบางคน แล้วคนที่รู้แม่งเสือกเป็นตัวจี๊ดด้วย อาราเล่ของมึงพุ่งชนหลายรอบแล้ว”
“หูย มึงโดนมอมยาอะไรรึเปล่าเนี่ย” อันนี้เป็นอีกจุดนึงเลยนะที่อีแชมป์มันใสซื่อ มันกะล่อนจริง แต่มันไม่มีเล่ห์เหลี่ยมกับใคร
“พูดแล้วเหมือนละคร แต่แม่งมีจริงว่ะ กูแทบแย่ แต่ได้น้องเล่มึงเล่นกลับจนสะบักสะบอมเหมือนกัน” ไอ้แชมป์หัวเราะเบาๆ ผมตาโต ต่อมการรับรู้เต้นตุบๆ พร้อมเปิดรับข้อมูลใหม่มากๆ
“กูไม่บอกหรอก” ดับวูบ ที่เต้นตุบๆ เมื่อกี้ดับวูบเลย
“อ้าว อีแชมป์ กูเตรียมออกสตาร์ทแล้ว มึงมาเบรกงี้ได้ไงเนี่ย” มันทำคอยึกยักและทำหน้ากวนตีน ผมแสร้งมองมันตาขวาง ยกมือขวาขึ้นขู่ทำท่าจะตีมัน อีแชมป์แกล้งทำท่าหวาดกลัวได้ปลอมมาก
“ซี๊ดดด โอยยย” ผมหน้าเหยเก เดินกะเผลกขึ้นบันไดหน้าโรงแรมหลังจากกลับมาจากในตัวเมืองภูเก็ต มีไอ้แชมป์กับน้องอาราเล่ประคองขึ้นบันไดหน้าโรงแรมอย่างระมัดระวัง
“กูขอโทษนะแชมป์ที่ทำให้มึงกับน้องหมดสนุก” ผมเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด
“เออน่ะ มันกินอิ่ม มันก็ไม่งอแงละ” ผมหันไปมองน้องอาราเล่ น้องเขาพยักหน้าแรงๆ เสริมคำพูดของไอ้แชมป์ ผมเชื่อแล้วละ เพราะในปากน้องเขายังอูมด้วยลูกชิ้นปิ้งอยู่เลย
“ทำไมมันเจ็บแบบนี้อะ” ผมร้องครางหน้าจี๊ดสุดขีดตอนที่ลงน้ำหนักขาซ้ายแล้วความรวดร้าวก็พุ่งไปที่ก้น
“ใจเด็ดจริงโว้ยเพื่อนกู ให้ผู้ชายจับตูด” ไอ้แชมป์หัวเราะถูกอกถูกใจในขณะที่เอื้อมมือไปกดลิฟต์ ให้เดินขึ้นก็ไม่ไหว ไม่งั้นระบมตายห่าคาบันไดแน่ๆ แค่บันไดหน้าโรงแรมก็จะร้องขอชีวิตไม่ไหวอยู่แล้ว
“กูรู้นะว่ามันเจ็บ แต่ไม่คิดว่ามันจะซี๊ดขนาดนี้”
“เพื่อผัวน่า” ลิฟต์เปิดออก สองคนข้างกายผมก็พยุงผมเข้าไปด้านใน น้องอาราเล่กดเลขชั้นสาม ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า แต่เหมือนจะไม่สบายเลย สงสัยเป็นอาการหลังเสร็จ นอนพักน่าจะดีขึ้น แต่คืนนี้จะได้นอนมั้ยเนี่ย เคลียร์งานกันยาว ดีนะผมเคลียร์วันต่อวันก่อนหน้านั้นแล้ว วันนี้ก็แค่สรุปข้อมูลทั้งหมดที่ผมกับเจสันทำไว้ ขออย่าให้นานเลยเถอะ
“กูต้องอุ้มมั้ยเนี่ย”
“อ๊า ไม่เอานะ ถึงจะไว้ใจพี่แมท แต่น้องไม่ให้อุ้ม” น้องแว่นตากลมพูดแทรกขึ้นทั้งที่เคี้ยวลูกชิ้นอยู่เต็มปาก ไอ้แชมป์ยื่นมือไปผลักหัวเด็กมันเบาๆ ตอนที่กำลังเดินไปห้องผม
“ขี้หวงไม่เข้าเรื่อง”
“งั้นเปาจะไปให้มิสเตอร์เคย์เดนอุ้มบ้าง”
“เดี๋ยวมึงโดน” แม้จะเจ็บอยู่แต่ผมก็หันไปทำหน้าฉงนสนใจกับเด็กไอ้แชมป์
“เคย์เดนทำไมเหรอ”
“มันชอบ อวยยันโคนควxแล้วมั้ง”
“อู๊ย ไม่แปลกหรอกแชมป์ กูยังชอบเขาเลย”
ป้าบ!!!
“เหี้ยยยย!!!!!” ผมกรีดร้องลั่นตรงทางเดินของโรงแรมแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหนทั้งนั้นเมื่อไอ้แชมป์ฟาดมือลงบนก้นผมที่เจ็บอยู่เต็มแรง น้ำตาไหลพรากยิ่งกว่าตอนกำลังโดน มันสะเทือนสะท้านไปทั้งร่าง ความปวดแล่นจับใจเต็มๆ
“อีเหี้ยแชมป์ อีเหี้ยๆๆ เจ็บบบ” ผมไม่รู้จะด่าว่าอะไร ทำได้แค่หยาบคายใส่มันเพื่อระบายความเจ็บแค้นตรงก้นที่โดนมันฟาด ไอ้แชมป์หัวเราะเสียงทุ้มแต่โคตรสะใจ ส่วนเด็กมันก็พยายามกลั้นหัวเราะ แต่ก็กลั้นไม่ดีนักหรอก
“เดี๋ยวกูจะฟ้องผัวมึงให้ฟาดซ้ำ ฟ้องว่ามึงไปนอนให้ผู้ชายจับตูดมาด้วย มึงโดนแน่” มันว่าในขณะที่ผลักประตูห้องผมเข้าไปหลังจากไขเสร็จ ผมเดินกะเผลกเข้าไปด้านในพร้อมเด็กมัน ไฟในห้องสว่างขึ้นหลังจากไอ้ตี๋เสียบคีย์การ์ด ผมเดินไปนั่งบนเตียง ค่อยๆ ทิ้งตัวเอนนอน น้องอาราเล่ส่งผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้ผมเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
“เฮียแชมป์ทำพี่แมทร้องไห้อะ”
“เดี๋ยวมึงจะร้องด้วยอีกคน สนใจมันนักนะไอ้แก่นั่นอะ”
“เขาแก่แต่เขาหล่อมากเลยน้าเฮีย” ไอ้แชมป์ถลึงตาใส่เด็กมัน
“ยังอีก” คนอายุน้อยกว่าแลบลิ้นใส่ไอ้ตี๋ก่อนจะยัดลูกชิ้นเข้าปากอีกลูก ผมมองไอ้แชมป์ด้วยความเข่นเคี้ยว ก่อนจะปาผ้าขนหนูใส่หน้ามันเต็มแรง
“อีผี!!” นึกคำด่ามันไม่ออกจริงๆ เจ็บใจเจ็บก้นนัก!
“อยากฟ้องผัวมึงก็ฟ้องเลย” ไอ้แชมป์โยนผ้าขนหนูใส่หัวผม ผมดึงออกมาวางไว้บนตัก
“กูไปละ มีอะไรก็เรียกแล้วกัน” ไอ้แชมป์จูงมือเด็กมันออกไปจากห้อง ผมพลิกตัวนอนตะแคงไปด้านขวาเพื่อให้ก้นซ้ายลอย ความปวดหนึบๆ ยังยุบยิบอยู่เลย
ตื่อดื๊อดืดดด ตื๊อดื่อดืดดด~ (เสียงสไกป์)
ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงฝั่งซ้ายอย่างระมัดระวัง ไม่เสียเวลาเดาก็รู้ว่าเป็นวิคเตอร์คอลมา ผมกดรับตามปกติ บนหน้าจอเห็นหน้าเขาสว่างเพราะแสงแดดสักพัก ก่อนที่เขาจะสลับเป็นกล้องหน้าให้ ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมคลี่ยิ้มกว้างโดยอัตโนมัต เป็นภาพของไอ้แฝดตัวป่วนกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขนของไวโอล่า คุณแม่มือใหม่ยิ้มแย้มหน้าตาสดใส ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกาย ผมยกมือโบกทักทาย ไวโอล่าหัวเราะเบาๆ และโยกหัวตอบรับแทนการโบกมือ วิคเตอร์กดหน้าจอให้เห็นเจ้าสองแฝดแก้มยุ้ย เหมือนยางมิชลินเลยอะ จ้ำม่ำอะไรขนาดนั้นลูกกก
“ออกจากตู้อบไวจัง” ผมหมายจะได้คำตอบจากไวโอล่านะ แต่มีคนตอบแทนละ
“โอ๊ย อ้วนเหมือนหมูขนาดนี้ อยู่ตู้อบคืนเดียวก็พอแล้ว เอาอะไรมาอ่อนแอ” ไวโอล่าหัวเราะ
“แหมพี่ก็ หลานออกมาแข็งแรงไม่ดีใจเหรอ”
“มันต้องกินเยอะแน่ๆ…” ว่าจบก็กดหน้าจอกลับไปเป็นจอด้านหน้าให้เห็นหน้าตัวเองคนเดียว
“…เห็นแค่นั้นพอ” ผมกลอกตาเซ็ง ยกผ้าขนหนูเช็ดน้ำตาที่ไหลออกจากทางหางตา
“ร้องไห้เหรอ ร้องทำไม?!” วิคเตอร์ถามหน้านิ่วคิ้วย่น
“มีผู้ชายมาขย้ำตูดผม” วิคเตอร์กะพริบตาปริบๆ
“คนตาบอดรึเปล่า” ผมมองค้อนเขาหนึ่งทีและทำปากขมุบขมิบราวกับกำลังสาปแช่ง ไอ้ยักษ์เดินออกไปนอกระเบียงห้องพักของไวโอล่า หน้าเขายิ่งสว่างเพราะแดดยามสายของที่เชฟฟิลด์
ผมขี้เกียตอบคำถามเขา เลยดึงกางเกงลงไปครึ่งตูดแล้วเอนตัวนอนตะแคงข้าง ส่งโทรศัพท์จากมือขวาไปมือซ้าย แล้วเลื่อนกล้องหน้าไปตรงแก้มก้นด้านซ้ายของตัวเอง ผมบิดคอมองหน้าจอ วิคเตอร์กำลังเพ่งมองสิ่งที่ผมถ่ายให้เห็น
“มองไม่ชัด อะไรน่ะ” ผมยืดแขนอีกนิดและบิดตัวอีกหน่อย เล็งกล้องหน้าให้โฟกัสสิ่งที่ผมอยากให้เขาเห็น
“เห็นยัง” วิคเตอร์เงียบไป ผมบิดคอเหลือบมอง และจับกล้องให้นิ่ง ให้โฟกัสก้นตัวเองดีๆ
“เฮ้ย!” ผมยิ้มกว้าง เขาคงเห็นแล้ว ผมเลื่อนโทรศัพท์มาไว้ตรงหน้า ไอ้ยักษ์หน้าตาขมุกขมัวจนผมงง
“อะไรอะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“ให้ช่างผู้ชายสักเหรอ ทำไมไม่ใหผู้หญิง ฮะ ไอ้เอเลี่ยน?!” ผมหน้าเหวอ มองเขาด้วยความเอ๋อเล็กน้อย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้ว
“อะไรเนี่ย โฟกัสรอยสักสิ ไปโฟกัสช่างทำไม”
“มันจับก้นนายรึเปล่า”
“เอ๊า สักที่ก้นก็ต้องจับก้นสิ ให้ไปจับที่ไหน…” ไอ้ยักษ์ย่นคิ้วมองผมเหมือนเด็กโดนขัดใจ
“…เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ น่า ไม่สนใจผมหรอก อย่างี่เง่านะวิคเตอร์ ให้ดูอีกอย่าง ไปคิดถึงถึงอีกอย่าง ไม่งั้นผมไปลบรอยสักทิ้งนะ”
“ไม่ต้อง ฉันชอบ” ผมยิ้ม ส่วนไอ้ยักษ์ก็หน้ามึน ก็ดีกว่าหน้าเมื่อกี้แหละ
“คุณสักอกซ้าย ผมสักก้นซ้าย”
“ทำไมไม่สักแล้วมาเซอร์ไพร์สวันเกิดฉันล่ะ”
“ผมเดินเจอร้านพอดี แล้วมีแต่คนคอนเฟิร์มว่าร้านนี้ดีและดังมาก ผมเลยเข้าไปสักเลย” วิคเตอร์บิดปากนิดๆ แล้วพยักหน้าสองสามที
“กลับมาเดี๋ยวเลียให้” ผมหัวเราะคิกคัก วิคเตอร์ยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เลียอะไรเหรอ” ผมแกล้งถามหน้าตางงๆ
“เลียรอยสักไง จะได้หายเจ็บ” ถึงจะบอกว่ารอยสักแต่รอยยิ้มและดวงตาสื่อมากว่าไม่ใช่รอยสัก
“ชอบจริงเหรอ”
“จริง เท่ดี เห็นแล้วเกิดอารมณ์” ผมย่นคิ้วงง
“เกิดอารมณ์ง่ายไปรึเปล่าเนี่ย”
“จะสี่เดือนแล้วนะที่ฉันไม่ได้ยัดxxxใส่ตูดนาย น้ำฉันคั่งอยู่ในจู๋เป็นตันๆ” ผมเม้มปากกลั้นยิ้มจนจมูกบาน
กลับไปได้มีการจัดหนักจัดเต็มแน่ๆ ว่าไปก็คิดถึงยักษ์น้อยเนอะ
“ก็… เดี๋ยวกลับไป เอาออกให้” วิคเตอร์คลี่ยิ้มอัตโนมัติราวกับตั้งโปรแกรมไว้กับประโยคแนวนี้ เขามองผมตาวาว ผมเม้มปากเขินๆ ก่อนจะพยายามเก๊กหน้านิ่งไว้
“ขอคุยกับแฝดหน่อยสิ” รอยยิ้มเขาหุบฉับราวกับตั้งโปรแกรมไว้สำหรับประโยคแนวนี้เช่นกัน
“มันพูดได้ที่ไหนล่ะ ตอนนี้ก็หลับอยู่ วู้ว บ้ารึเปล่า คุยกับเด็กเพิ่งเกิดเนี่ย” ผมขมวดคิ้ว รู้สึกเอ๋อๆ งงๆ กับเขา
“เฮ่ย…” ผมยกมือเกาหัว รู้สึกเหนื่อยใจเล็กๆ กับเด็กโข่งตรงหน้า
“…เออ ไม่คุยก็ด้ะ เดี๋ยวกลับไปก็ได้คุย”
“ไม่ได้คุยหรอก ฉันจะเอามันไปลอยน้ำแล้ว” พูดสามรอบได้ละมั้งเรื่องจะเอาไปลอยน้ำ คิดจริงจังอยู่รึเปล่าเนี่ย ความคิดไอ้ยักษ์ยิ่งประหลาดๆ อยู่
“ไอ้ยักษ์บ้า งั้นแค่นี้แหละ ดูแลไวโอล่ากับแฝดด้วยนะ อีกสี่วันเจอกัน”
“ห้ามช่วยตัวเองนะ เก็บน้ำไว้มาแตกด้วยกัน” ผมแยกเขี้ยวใส่เขา
“รู้แล้วน่า แค่นี้นะ ผมต้องไปเคลียร์บิลอีก” ผมส่งจุ๊บให้เขา วิคเตอร์ลาด้วยการชูสองนิ้วหันเข้าหาตัวเองแล้วรัวลิ้นใส่ร่องกลางระหว่างนิ้วทั้งสองก่อนจะปิดวิดีโอไป ผมหัวเราะกับความลากมกของเขา วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะหัวเตียง บิดคอหันไปมองรอยสักสีดำบนแก้มก้นซ้ายของตัวเองแล้วยิ้ม ยื่นมือซ้ายหมายจะลูบเบาๆ แต่แค่ปลายนิ้วสัมผัสก็ระบมไปทั้งก้นจนหน้านิ่วคิ้วย่นด้วยความเจ็บปวด
โอยยย…
เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้

นังแมทไปสักมาเหรอคะ O.o? ต๊าย เอาใจหลัวสุดอะไรสุด
เนี่ย เห็นม้ายยย เรื่องราวมีแต่เฮฮาปัญญาอ่อนแล้ว (ยักษ์ปัญญาอ่อนสุด) ดราม่าอะไรไม่มี้ !
เสียงสูงอีกละ
คือดูจากสถานการณ์ นุ้งแฝดออกมา ก็สมใจยักษ์แล้วที่จะเอามารั้งขุ่นแม่แมทไว้ไม่ให้ไปทำงาน แมทก็ทำตัวเข้าทางไอ้ยักษ์เลยคือรักลูกทูลหัวมาก รักมากไม่นอกใจด้วย
ครอบครัวสุขสันต์กำลังรอเราอยู่
ฮะ?
อย่างที่เคยบอก ใครผ่านความหนักหน่วง ความป่วงใจใดๆ มา หัวใจกำลังจิเบิกบานนน
ตอนนี้ต้นฉบับเรื่องนี้เขียนจบครบทุกตอนแล้ว ระหว่างเขียนมีใจสั่นไหว นั่งร้องไห้คนเดียวก็มี แต่ยังบอกอะไรมากไม่ได้ รออัปจบก่อน แล้วจะมีเล่าสู่กันฟังอีกที
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตและคอมเม้นทุกคอมเม้นนะคะ ขอบคุณมากๆ เป็นกำลังใจ เป็นพลังใจที่ดีต่อคนเขียนจริงๆ ค่ะ อ่านคอมเม้นต์แล้วก็ปลื้มมม เห็นคะแนนโหวตแล้วก็เปรมมม
สำหรับใครที่พรีออเดอร์หนังสือพาร์ทนี้ไว้ อ่านความคืบหน้าและคำอธิบายล่าสุดได้ที่เพจขุ่นเจ้เลยนะคะ ปักหมุดโดพสต์นั้นไว้ให้เรียบร้อยค้าาา