:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 808885 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.25 100%}:28.01.59:
«ตอบ #2250 เมื่อ26-04-2018 15:04:35 »

 :laugh: เขาร้องเพลงหรอ เขาร้องเพลงอะไรให้เราฟัง 5555

:pigha2: ถึงกับลั่น 55555555 พระได้ยินนี่จะทำหน้ายังไงนะ

5555555 พระสวดมนต์คิดว่าพระร้องเพลง โอ้ย ต่างชาติอ่ะนะ


ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #2251 เมื่อ26-04-2018 18:17:37 »

กรี๊ดดดด  :z3: ว่าแล้ววว ลิซ่าต้องมีอะไรมากกว่าแม่เลี้ยง

เธอคือเมียเก่าหรอ หรือยังไง อมก  :katai1:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 100%}:08.05.59:
«ตอบ #2252 เมื่อ26-04-2018 18:31:02 »

โอ้โห  เจอคำว่าลูกชั้นกับเธอนี่ใจกระตุกยังกับตัวเองคือแมทอ่ะ

เจ็บแปล้บๆที่ใจ โห มันแบบ o22 ....

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.25 100% :23.04.61:
«ตอบ #2253 เมื่อ27-04-2018 13:42:59 »

 :เฮ้อ: เกือบสี่วันเต็มๆ ที่ตามอ่านเรื่องนี้ ยาวสะใจมากค่ะ

ตอนนี้แฝดน่าร้ากกก รอวันอิลุงหลงแฝดค่ะ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2254 เมื่อ27-04-2018 20:57:57 »

Yours and Mine EP.26 :: Aunty Alien and Uncle Giant. (คุณป้าเอเลี่ยนกับคุณลุงยักษ์) [100%]





“วะฮะฮะฮะ อันแน่ แอ้”

           

 

“แออออ แอ๊ะ แอะๆๆ” เฮคเตอร์ยิ้มเริงร่าตอบโต้กับการหยอกล้อของผม

           

 

“แอออออ แอ๊ แอ๊ แอว๊” แต่แฮคเตอร์กำลังร้องไห้จ้า ผมหันขวับไปมอง ยกมือลูบหัวเฮคเตอร์ที่กำลังนอนยิ้มอารมณ์ดีบนฟูกนอนสีฟ้าของตัวเอง

 

 

ผมกระเถิบตัวไปทางด้านขวามือและก้มลงอุ้มแฮคเตอร์ขึ้นมานอนในอ้อมกอดแล้วออกแรงเหวี่ยงแขนเบาๆ ก้มลงหอมหน้าผากมนของลูกหมูตัวที่สองอย่างอ่อนโยน กล่อมกันสักพักแฮคเตอร์ก็เงียบและมองผมตาแป๋ว ผมยิ้มกว้าง และทำหน้าหยอกล้อ แฮคเตอร์ขยับยิ้ม ผมใช้มือซ้ายเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้เขา

 

 

“แงงงง แง๊ แง๊” อ้าว ไอ้ลูกหมูตัวที่หนึ่งร้องขึ้นมาซะงั้น ผมสะบัดหน้าไปมองพรึ่บ ยื่นมือซ้ายตัวเองไปจับมือซ้ายของเขา และราวกับมือไปโดนปุ่มลดเสียง เพราะเฮคเตอร์ค่อยๆ หยุดร้องและนอนมองผมตาแป๋วราวกับเมื่อกี้ไม่ได้ร้องไห้ ผมขมวดคิ้วขำ มองไอ้เด็กจอมอำ ไอ้ลูกหมูคนพี่นี่มีแววลุงมันเยอะเชียว แต่เล็กแต่น้อยเลยนะ

 

 

“มีใครหิวนมมั้ยยย” ผมมองสลับสองพี่น้อง ไม่มีใครตอบได้หรอก แต่อาศัยท่าทางเอาแล้วก็เดาจากความห่างของเวลาที่เพิ่งกินนมไป ซึ่งผมเดาว่าตอนนี้สองยางมิชลินคงหิวแล้วละมั้ง อารมณ์ถึงขึ้นๆ ลงๆ ผมวางแฮคเตอร์ลงบนที่นอนสีเดียวกันกับของพี่ชาย ไมเคิลที่นอนเหยียดตัวอยู่ใกล้ๆ มองน้องหน้านิ่วคิ้วขมวด แม้จะอยู่ด้วยกันมาจะครบสองเดือนแล้ว แต่เหมือนไมเคิลยังคงฉงนสงสัยกับสิ่งมีชีวิตตัวกลมๆ สองตัวนี้

           

 

“ไม่ร้องละนะ แมทเหนื่อยอะเตอร์น้อยทั้งสอง” ผมส่งยิ้มให้ทั้งสองคนที่นอนดีดแขนดีดขาอันป้อมๆ น่ามันเขี้ยวของตัวเองไปมาในอากาศ ตาสีฟ้าเปล่งประกายตั้งแต่วัยใกล้สองเดือนเต็ม ตาแฝดมิชลินสวยมากกก ตามที่ไวโอล่าบอกคือสองหนุ่มได้แม่ได้พ่อมาอย่างละครึ่ง มันเลยเป็นตาสีฟ้าอมเทานิดๆ

           

 

ผมหันไปมองผ้าดิบอย่างดีสีขาวขนาดใหญ่ที่ขึงตึงไว้บนผนังเหนือเตาผิงหินน้ำผึ้ง เอาไว้สำหรับเป็นจอดูความบันเทิงต่างๆ ในแฟมิลี่รูมแห่งนี้ ผมคลานเข่าไปตรงโต๊ะวางไอแพดที่เสียบเชื่อมกับระบบหน้าจอและลำโพงของห้อง เลือกการ์ตูนแอนิเมชั่นน่ารักๆ จากในเครื่องให้เจ้าสองแฝดดูระหว่างที่ผมจะไปเอานมไวโอล่าที่คั้นไว้มาให้แฝดกิน เด็กสองคนนี้ชอบฟังเพลง ชอบดูการ์ตูน เพราะไวโอล่าร้องเพลงให้ฟังตั้งแต่ตั้งท้องเดือนแรกๆ กับตัวเธอชอบเปิดการ์ตูนดูคลายเครียด พอคลอดออกมาแฝดมิชลินเลยชื่นชอบการฟังเพลงและการดูการ์ตูน หรือบางทีก็หนังแต่ไม่ใช่หนังแนวเลือดสาดอะไรแบบนั้นนะ

           

 

“ดูมินเนี่ยนกันไปก่อน เดี๋ยวแมทมานะ” ผมก้มลงหอมหน้าผากแฝดทั้งสองคนในชุดบอดี้สูทสีชมพูลายหมีน่ารัก ดึงผ้าห่มผืนเล็กห่มให้ทั้งสองคนด้วยเพื่อกันหนาว แม้ในห้องจะอุ่นด้วยไฟจากเตาผิงแล้วก็ตาม แต่ผมก็กลัวว่าเด็กตัวเล็กแบบนี้จะหนาวกว่าคนปกติ

           

 

“ไมเคิลเฝ้าน้องก่อนนะ” เจ้าโกลเด้นท์เงยหน้ามองผมที่ลุกขึ้นยืนแล้วก็ก้มลงมองสองแฝดต่อ ผมเดินไปเปิดประตูออกจากห้องแฟมิลี่ของบ้าน เป็นห้องที่ผมชอบมาขลุกมากตั้งแต่ย้ายบ้านมา แทบจะนอนที่นี่แทนห้องนอนตัวเองกับวิคเตอร์ด้วยซ้ำ มันให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองดี ยิ่งเวลารวมตัวกันเยอะๆ ผมยิ่งชอบ ห้องนี้เป็นเหมือนยอดปราสาทย่อยๆที่แยกออกมาจากยอดปราสาทใหญ่อีกที เป็นทรงกระบอกมีก้นทรงหกเหลี่ยม ตรงช่วงพื้นที่ทรงกระบอกสี่เหลี่ยมเป็นผนังสีทึบ ส่วนตรงโซนหกเหลี่ยมติดกระจกบานใหญ่ล้อมรอบให้ความรู้สึกโล่งและสว่าง ด้านนอกเห็นเป็นวิวสวนสวย วิคเตอร์ขู่จะระเบิดห้องนี้ทิ้งตอนที่ผมงอแงจะนอนที่นี่แทนห้องนอน

           

 

แต่ตอนนี้เขาระเบิดอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละ เพราะเขาไปทำงาน ฮิๆ ไปถ่ายหนังที่จอร์แดนเป็นเดือนละ เดี๋ยวเขาจะได้เบรกช่วงเทศกาลคริสต์มาสจนถึงปีใหม่แล้วก็จะกลับไปถ่ายต่อ แต่คราวนี้ย้ายไปถ่ายกันที่บูดาเปส แล้วเดี๋ยวไปจบในสตูดิโอที่ LA เป็นการถ่ายแบบสองภาคติดต่อกัน ส่วนภาคสุดท้ายก็ค่อยถ่ายอีกที เพราะเขาจะแยกเป็นสองภาคแบบที่กำลังฮิตกันในหนังภาคต่อ

           

 

“คุณแมทครับ คุณเรย์มอนด์วิดีโอคอลไปสองรอบแล้ว” ผมหันไปมองออสตินในชุดเสื้อไหมพรมสีเทาตัวเดียวก็อยู่หมัด หนังหนาซะจริง

           

 

“เดี๋ยวผมกลับไปรับ ผมมาเอานมให้แฝดอะ เออ ฝากไปดูแฝดแปบสิ” ออสตินพยักหน้าแล้วเดินออกไปจากโซนครัวที่ผมกำลังยืนเทนมจากถุงซิปล็อคใส่ขวดอยู่ ผมจัดการเทนมที่ไวโอล่าคั้นสดๆ จากเต้าตัวเองไว้ให้เทใส่ขวดสีใสสองขวด ขอบจุกคนละสี คนพี่สีฟ้า คนน้องสีแดง แต่เนื่องจากไวโอล่าเป็นคนตัวเล็ก น้ำนมเลยไม่ได้เยอะมาก ก็มีบางช่วงที่แฝดขาดแคลนนมแม่ จนต้องไปพึ่งนมอย่างอื่นที่หมอแนะนำมาแทน ไวโอล่าก็เครียดเพราะกลัวลูกจะไม่ได้ภูมิคุ้มกันที่ดีมากพอ ผมก็คอยปลอบใจเธอเพราะกลัวว่ายิ่งเครียดเดี๋ยวน้ำนมจะยิ่งไม่ออก ไม่รู้ทฤษฎีไหน แต่กลัวไว้ก่อน

           

 

“หน่มน้มมาแล้วววว อุ๊ย!” ผมพึมพำเบาๆ ตอนเดินกลับเข้าไปในแฟมิลี่รูม สะดุ้งตกใจตอนหันไปเห็นออสตินยืนตัวตรงอยู่หลังโซฟา เอามือกุมกันไว้ด้านหน้า และมองแฝดที่นอนจับมือกัน ดวงตากลมๆ มองไปรอบห้อง

           

 

 ไม่ทิ้งมาดบอดี้การ์ดแม้ยามเฝ้าเด็ก

           

 

“ให้ผมอยู่ช่วยอะไรอีกมั้ยครับ” ผมส่ายหัวพลางนั่งปลายเตียงนอนน้อยๆ ของแฝดตัวอ้วนๆ

           

 

“ไปพักผ่อนเถอะ อ้อ เย็นนี้ฝากทำอาหารได้มั้ยอ้า ผมไม่เรื่องมากหรอก เอาแค่อิ่มท้อง ไวโอล่าไม่น่าจะทำไหว”

           

 

“ได้ครับ เดี๋ยวผมทำเผื่อ” ผมยิ้มกว้าง

           

 

“ขอบใจนะ” ออสตินพยักหน้าแล้วก้าวเท้าเดินออกไปจากห้อง ผมกำลังจะเอาขวดนมใส่ปากแฝดมิชลิน เสียงสไกป์ก็ดังขึ้น ผมเลยวางขวดนมไว้ก่อน ตัดสินใจไม่ได้ในทันทีว่าจะเลือกรับจากโทรศัพท์หรือแม็คบุ๊คดี แต่พอมองแฝดแล้วก็เลยคิดว่าให้เห็นหน้าลุงยักษ์ชัดๆ ดีกว่า ผมเลยหยิบแม็คบุ๊คขึ้นมาเปิดฝาพับขึ้น รอสักแปบสไกป์ก็เด้งขึ้นมา ผมกดรับวิดีโอคอลจากไอ้หนุ่มผมยาวสุดเซอร์ ที่ตอนนี้ผมยาวสลวยสวยเก๋กว่าเดิมอีก ไปแอบทำทรีทเม้นต์มารึเปล่าก็ไม่รู้

           

 

“ไปเอานมให้แฝดมา” ผมว่าพลางเอื้อมไปหยิบโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กมาวางตรงปลายฟูกนอนของแฝดและวางแม็คบุ๊คไว้บนนั้น กดหน้าจอลงให้ลุงยักษ์เห็นหลานตัวเองชัดๆ

           

 

[ไอ้พวกอ้วน] เสียงวิคเตอร์ดังแข่งกับกับมิเนี่ยนตัวเหลืองๆ ที่กำลังร้องกุงก้าๆ สองแฝดที่กำลังมองแบบไร้จุดหมายหยุดนิ่งบนเตียงนอน ผมเห็นแล้วก็ยิ้มกว้างด้วยความตลกก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งเหนือหัวของสองแฝด ให้วิคเตอร์เห็นหน้าผมชัดๆ ด้วย

           

 

“ใครอะแฝด ใครอะ” ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่สองแฝดได้คุยกับลุงตัวเองผ่านวิดีโอคอล แต่ด้วยความเป็นเด็กหนึ่งเดือนกับอีกสามอาทิตย์ เขาก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร

           

 

[มองหน้าทำไมไอ้แฝดลูกหมู] ผมหัวเราะ แฝดไม่ได้มองหน้าวิคเตอร์หรอก ผมว่ากำลังมองหามากกว่าว่าวิคเตอร์อยู่ไหน ผมเลยชี้ไปทางหน้าจอ ซึ่งสองแฝดเขาก็หมุนลูกตารอบกระบอกตาแล้วละ

           

 

“ลุงยักษ์อยู่นั่นๆ” สองพี่น้องแหงนหน้าและเหลือกตามามองผมที่นั่งอยู่ด้านบน ผมเห็นแล้วก็อดขำกับท่าทางนั้นไม่ได้ สองหนุ่มมองตาแป๋ว มองแบบงงๆ น่ามันเขี้ยวเชียว

           

 

[เด็กอะไรทำไมไม่ฉลาดเลย] ผมย่นคิ้วใส่วิคเตอร์ วิดีโอคอลมาทีไรต้องมากัดแฝดมิชลินของผมตลอด แซะเด็กเก่งเหลือเกินพ่อคุณ

           

 

“แอะ แอะ แอ๊” ผมหัวเราะเบาๆ เมื่อเฮคเตอร์เหวี่ยงมือไปมาและส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนกำลังเถียงลุงตัวเอง ไอ้ลุงก็ชอบแซะหลาน แต่เหมือนหลานสองคนจะรู้ว่านั่นคือศัตรูเลยเถียงอ้อๆ แอ้ๆ ตามประสาเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังสื่อสารมากไม่ได้โดยเฉพาะเฮคเตอร์นี่ตัวนำทัพน้องชายเลย

           

 

[พูดไม่ได้ยังจะปากเก่ง]

           

 

“จ้ะ ลุงยักษ์ผู้เก่งกับหลานวัยเกือบสองเดือน” ผมจิกตาใส่ไอ้ยักษ์ผิวเข้ม ตอนนี้ผิวเขาแทนมากเพราะถ่ายกลางแดดเยอะ จากผิวน้ำผึ้ง พอโดนแดดมากๆ เลยกลายเป็นน้ำผึ้งเข้ม สีผิวของเขาตอนนี้น่าเลียมาก

           

 

[ไวโอล่าล่ะ]

           

 

“หลับ เมื่อคืนแฝดร้องไห้ เพราะนมไม่พอ ทั้งเครียดทั้งเหนื่อย ผมเลยให้ไปหลับ”

           

 

[พากันไปหาหมอรึยัง] วิคเตอร์ถามพลางเอนตัวกับเก้าอี้สนาม มีทีมงานเดินมายื่นน้ำให้เขาหนึ่งขวดแล้วเดินจากไป

           

 

“ไปแล้ว หมอก็แนะนำนมอื่นมาแทนไง เพราะยังไงไวโอล่าก็ผลิตนมได้ไม่พอตามที่แฝดต้องการหรอก”

           

 

[ตะกละจริงๆ] ผมย่นคิ้วใส่ไอ้ยักษ์และหยิบขวดนมมาใส่ปากแฝด พอจุกนมเข้าปากสองแฝดก็อ้าปากคว้าหมับและดูดจ๊วบๆ อย่างน่าเอ็นดู

           

 

“ตอนเด็กคุณอาจจะกินเยอะกว่าแฝดก็ได้”

           

 

[แม่บอกว่าฉันเป็นเด็กผู้ดี กินน้อย]

           

 

“แม่คุณโกหกให้คุณสบายใจเท่านั้นแหละ”

           

 

[อยู่ห่างกันทีไรปากดีทุกทีนะไอ้เอเลี่ยน] วิคเตอร์ยกนิ้วขึ้นชี้หน้า ผมแลบลิ้นลอยหน้าลอยตา สองมือจับขวดนมให้แฝดดูดจ๊วบๆ แก้มนี่ยุ้ยกันทั้งสองพี่น้อง

           

 

[ไม่มีน้ำนมก็ซื้อนมอย่างอื่นได้ ไม่ต้องเครียดหรอก]

           

 

“ไวโอล่าอยากให้ลูกได้กินนมแม่ไง นี่หมอก็บอกว่าให้ลุ้นหลังครบสามเดือนว่าน้ำนมจะอยู่มั้ย ถ้าไม่ก็คือไม่ หายหมดเลย ตอนนี้ก็กินอาหารที่หมอแนะนำกับน้ำเยอะมาก รอวันที่น้ำนมกลับคืนมาอยู่ เพราะแฝดดูจะชอบนมแม่มากกว่า” แฝดกินนมผงที่คุณหมอแนะนำก็จริง แต่ผมสังเกตว่าจะกินได้ไม่เยอะเท่านมของแม่ โชคยังดีว่าที่ช่วงหนึ่งเดือนเต็มแรก น้ำนมไวโอล่าออกดีมาก แฝดเลยกินได้เต็มที่ สร้างภูมิคุ้มกันได้ดีในช่วงแรกเกิด แต่อาทิตย์ที่ผ่านมากับอาทิตย์นี้น้ำนมไวโอล่าเริ่มลดลงจนไม่เพียงพอ เลยต้องพึ่งนมผงนี่แหละ แต่แฝดก็กินน้อยกว่านมแม่อย่างเห็นได้ชัดจริงๆ

           

 

[วู้ว เรื่องมากจังไอ้หมูตอนสองตัวนี้] ลุงยักษ์บ่น แต่ก็ไม่ได้บ่นจริงจัง ส่วนหมูสองตัวที่โดนบ่นกำลังฟินกับนมและตาก็ดูมิเนี่ยนบนจอผ้าดิบยักษ์ ซึ่งไม่รู้ว่าจริงๆ มองมิเนี่ยนหรือมองอะไรไปเรื่อย

           

 

“ขี้บ่นจังลุง” ไอ้ยักษ์หน้ามึน สายตากำลังมองสองแฝดดูดนมในขวดที่ใกล้จะหมดแล้ว

           

 

[มันแข่งกันอ้วนเหรอ]

           

 

“น่ารักออก อ้วนจ้ำม่ำ”

           

 

[โตมาไม่หล่อแน่ๆ ไอ้อ้วน]

           

 

“ใครบอก เด็กอ้วนหลายคนพอโตขึ้นหล่อจะตาย”

           

 

[ไม่ใช่ไอ้หมูสองตัวนี้แน่]

           

 

“กันซีนหลานตัวเองเว่อนะไอ้ยักษ์” วิคเตอร์เบะปากและยักคิ้ว เห็นแล้วหมั่นไส้จริง อยู่ต่อหน้า แม่จะดึงหนวดให้หลุดเลย (จินตนาการ เรื่องจริงไม่กล้าทำ)

           

 

[คิดถึงฉันมั่งมั้ยเนี่ย]

           

 

“ไม่ ลืมไปเลยว่าตัวเองมีสามีแล้ว”

           

 

[อ๋อ เพราะไอ้แฝดผีนี่ใช่มั้ย]

           

 

“ใช่” ผมแลบลิ้นให้เขา วิคเตอร์ถลึงตามอง เป็นจังหวะเดียวกับที่สองแฝดกินนมหมดพร้อมกัน ผมดึงขวดนมออกจากปากทั้งสองคน สองแฝดยกมือขึ้นกำๆ ในอากาศสักพักก่อนที่แฮคเตอร์จะเรออกมาก่อน สร้างเสียหัวเราะให้ผมเบาๆ สักพักเฮคเตอร์ก็เรอตามมา

           

 

[น่าเกลียดจริงๆ เด็กอะไรไม่มีมารยาท]

           

 

“แหมๆๆ อีลุงยักษ์ ทีตัวเองเดินมาเรอใส่หน้าผมหลังกินเสร็จผมยังไม่ว่าเลยนะ เหม็นสุดจะทนขนาดนั้นอะ”

           

 

[โตแล้วทำได้ เด็กๆ ห้ามทำ]

           

 

“แอ๊ะ!! / แอ้ๆ” ผมก้มลงมองสองแฝดแล้วก็หัวเราะเสียงดังเมื่อทั้งสองคนขมวดคิ้วใส่ลุงตัวเอง ราวกับเป็นการสู้กลับและเป็นการบอกว่าลุงอย่างมายุ่งกับหนู

           

 

[เถียงเหรอไอ้แฝดผี เดี๋ยวโดนไล่ออกจากบ้านหรอก] วิคเตอร์ทำตาโตใส่แฝด สองแฝดคลายคิ้วออกแล้วแหงนหน้าขึ้นมองผมเหมือนหากำลังเสริม ผมหัวเราะด้วยความตลก มิชลินน้อยคงอยากเถียง แต่ยังโตไม่มากพอในการสู้กับลุง แต่เท่านี้ก็ถือว่าใจเด็ดมากแล้วแฝดเอ๊ย ฮ่าๆ

           

 

“มาๆ แมทอุ้มๆ” ผมอุ้มเฮคเตอร์ขึ้นมานั่งบนตักฝั่งขวามือตัวเอง พอจะอุ้มแฮคเตอร์อีกคนก็ดูทุลักทุเลไปสักหน่อย ผมเลยจับเฮคเตอร์นั่งตรงกลางก่อน แล้วก็โน้มตัวไปอุ้มแฮคเตอร์ขึ้นมาเกยกันสักแปบก่อนจะจัดให้สองลูกหมูของลุงยักษ์นั่งตักคนละฝั่ง เอนหัวพิงกับต้นแขนผมคนละข้าง และใช้แขนโอบไว้ไม่ให้กลิ้งตกลงพื้น

           

 

[อ้วน]

           

 

“แอ่อ่อ่อ่” ผมหัวเราะลั่นจนไมเคิลสะดุ้งตื่น พอวิคเตอร์พูดว่าอ้วน ไม่รู้ว่าสองแฝดมันนัดกันมาหรือว่ายังไงถึงได้เรอออกมาพร้อมกันราวกับรวมพลังกันสู้ ขนาดไอ้ยักษ์ที่ทำหน้าดุยังยิ้มขำ ผมก้มหน้าลงมองสองแฝด ทั้งสองคนกำลังทำหน้ามึนเหมือนลุงตัวเองไม่มีผิด ผมหัวเราะจนตัวสั่น สองมิชลินแหงนหน้าขึ้นมองผมแบบงงๆ แต่เพราะคงเห็นผมยิ้มอยู่เลยยิ้มตามแล้วก็ส่งเสียงแอ๊ๆ เหมือนอยากร่วมหัวเราะด้วย

           

 

“องครักษ์ของแมทเก่งมาก สู้ยักษ์ได้ด้วย” ผมก้มลงหอมกลางกระหม่อมเด็กๆ คนละที สักพักเฮคเตอร์ก็ร้องเหมือนกำลังรำคาญอะไรสักอย่าง ผมเลื่อนมือไปจับก้นอวบๆ เพราะแพมเพิส ผมจับให้แฮคเตอร์นอนลงบนฟูกนอนก่อน แล้วก็จับเฮคเตอร์ถอดเสื้อแล้วปลดแพมเพิสออกก็เห็นว่ามีอึติดมา

           

 

[เฮ้ย ขี้แตก วู้ว ขี้แตก] ผมขำเอือมๆ กับไอ้ลุงที่ช่างล้อหลานเหลือเกิน

           

 

“ขี้อะดีแล้ว วันนี้เพิ่งสามรอบ ผมรออีกสามรอบเนี่ย ถ้าครบหกก็ถือว่าแฝดอิ่มหนำสำราญดี” แต่บางวันก็ไม่ครบหกหรอก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีอะไรผิดปกติ สังเกตดูว่าวันไหนที่กินนมแม่ วันนั้นจะอึจะฉี่ดีมาก

           

 

[ไปกินอะไรมาเนี่ย ทำไมฉลาดจัง] ผมจิกตาใส่วิคเตอร์ที่ยิ้มล้ออยู่

           

 

“อ่านหนังสือสิ มีสมอง” ผมกระแทกเสียงตรงคำว่าสมอง ไอ้ยักษ์ยิ้มขำ ผมมองหน้าเข้มๆ ที่เกือบจะดำด้วยสายตาจิกกัดก่อนก้มลงจัดการทำความสะอาดให้เฮคเตอร์อย่างเร็ว เพราะเดี๋ยวอีกสักพักแฮคเตอร์ก็จะตามมาด้วยแน่นอน สองพี่น้องมีสิ่งที่ดีมากอยู่อย่างคือเป็นอะไรจะไล่เลี่ยกัน บางทีก็พร้อมกัน มันเลยทำให้สังเกตง่าย

           

 

“เช็ดก้น ทาแป้งแล้ว สบายตัวมั้ยครับ” เฮคเตอร์ที่ทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้วและเปลี่ยนชุดใหม่เป็นชุดเสื้อไหมพรมสีขาวปักตัวอักษร H สีดำกลางอกกับกางเกงสีแดงและหมวกไหมพรมสีแดงนอนบิดตัวไปมาบนฟูกนอนของตัวเองราวกับจะสื่อสารว่าผมสบายตัวแล้วครับ

           

 

[เปลี่ยนชุดอีกละ]

           

 

“แน่นอนสิ ลุงแฝดเขารวย” ผมยิ้มอารมณ์ดีและจัดการถอดเสื้อผ้ากับแพมเพิสของแฮคเตอร์ออก สองแฝดมีเสื้อผ้าเยอะแยะมาก มีทั้งสั่งทำและสั่งซื้อ ถามว่าใครซื้อเหรอ ผมเองแหละ และถามว่าเงินใครล่ะ เงินผัว คิๆ

           

 

[ฉันต้องทำงานอีกกี่ปีเนี่ยถึงจะพอเลี้ยงไอ้ลูกหมูสองตัว] ผมสะบัดสายตามองค้อนไอ้ยักษ์ที่ทำหน้างง

           

 

“ไม่ต้องบ่นเลยนะ ผมจะช่วยทำงานแบ่งเบาภาระก็ไม่ให้ทำเอง ทีนี้แหละ ปั๊มเงินไปคนเดียวเลย” ผมว่าฉอดๆ พลางเช็ดก้นให้แฮคเตอร์ด้วยทิชชูเปียก

           

 

[ถ้านายไปทำงาน แล้วใครจะมาช่วยวีดูแลไอ้แฝดผีแบบนี้ล่ะ นายต้องมาดูแลลูกวีไง] แหม เสียงอ่อนเสียงหวาน ได้ทีล่ะเอาใหญ่ มันช่างลงจังหวะประจวบเหมาะซะจริง แต่มันก็อย่างที่เขาว่าแหละ ไวโอล่าดูแลคนเดียวคงหนักมาก มีผมมาช่วยเลี้ยงอีกคน เธอเลยได้พักผ่อนบ้าง การเลี้ยงเด็กสองคนมันคืองานที่หนักงานนึงเลยนะ

           

 

“ฉะนั้นก็ห้ามบ่น แฝดขอไรต้องให้” ผมยิ้มอย่างเหนือกว่า หน้าจอวิคเตอร์เริ่มกลายเป็นจอแบบโมเสจ ความเอชดีหายไปแบบไม่บอกไม่กล่าว สงสัยสัญญาณไม่ดีอีกแล้ว

           

 

[แฝดขอหรือแม่ทูลหัวมันขอ] ผมจึ๊ปากหนึ่งที

           

 

“ก็ขอมาให้แฝดแหละน่า” ผมสวมหมวกไหมพรมสีขาวให้แฮคเตอร์ สีชุดของคนน้องจะสลับกันพี่ เสื้อเป็นสีแดง กางเกงเป็นสีเดียวกับหมวกไหมพรม

           

 

[เออ ค่อยแยกออกหน่อยว่าใครเป็นใคร] วิคเตอร์มีปัญหาในการจำหลานตัวเอง เขาจำไม่ได้ว่าคนไหนแฮคเตอร์ คนไหนเฮคเตอร์ ถึงแม้ผมจะบอกให้ดูที่สีผม แต่คนอย่างไอ้ยักษ์ก็คือไอ้ยักษ์ ไม่ดูไม่สนสีผมหรือสีอะไรทั้งนั้น พอจำไม่ได้ก็ไม่คิดจำต่อ

           

 

“วิคเตอร์หน้าคุณลายอีกแล้วอะ” สัญญาณเริ่มถอยถดหดหายเหมือนเช่นเคยทุกครั้ง อีกสักพักเสียงของเขาจะเริ่มกลายเป็นเสียงต่างดาวส่งสัญญาณมายังโลกมนุษย์

           

 

[งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อน จะคอลไปใหม่] ผมพยักหน้าทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเขาเห็นมั้ย ผมจับมือสองแฝดโบกหยอยๆ แต่ใบหน้ากลมๆ แก้มยุ้ยนั้นหันไปมองคนละทิศคนละทาง

           

 

“ตั้งใจทำงานนะครับลุงยักษ์ เอาเงินมาซื้อขนมให้ผมสองคนเยอะๆ นะ” ผมบีบเสียงพูด ไม่รู้ว่าวิคเตอร์ได้ยินมั้ย เพราะหน้าจอค้างไปแล้ว สักพักสัญญาณก็หายไป ผมก้มมองลงแฝดแล้วยิ้ม หนังตาของเจ้าตัวน้อยเริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ ผมกดหน้าจอแม็คบุ๊คลง ลุกขึ้นเดินไปหยิบฟืนในตะกร้าข้างเตาผิงใส่เข้าไปในกองไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่น มีฮีตเตอร์นะ แต่ผมรู้สึกว่าเตาผิงให้ไออุ่นได้ดีกว่าเยอะ เลยคอยเติมเชื้อเพลิงให้ตลอด อยู่ในนี้มันอบอุ่นดีจริงๆ แหละ

           

 

“อะ หลับแล้ว” พอหันกลับมาดูสองพี่น้องอีกทีก็หลับปุ๋ยกันแล้ว ผมคลี่ยิ้มกว้าง เดินไปหยุดการ์ตูนไว้ชั่วคราว ตื่นมาเดี๋ยวเปิดให้ดูอีกรอบ พอภาพบนผ้าสีขาวดับไป ผมก็เดินมาห่มผ้าห่มให้สองแฝดเพื่อเพิ่มความอุ่นให้ร่างกายอ้วนๆ ไมเคิลที่นอนอยู่ข้างน้องก็หงายท้องหลับสบายใจ ผมที่เมื่อคืนก็อดหลับอดนอนพอๆ กับไวโอล่าเลยถือโอกาสอ้าปากหาว แล้วไปที่โซฟาตัวยาวที่เอาไว้สำหรับนอนดูหนังและนอนเล่น คลี่ผ้านวมสีขาวห่มตัวเอง นอนตะแคงมองแฝดสักแปบก่อนที่จะหลับตามไปท่ามกลางเสียงฟืนใหม่ที่ถูกไฟไหม้ดังปุๆ ในเตาผิง
V
v
v
 

 

           

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2255 เมื่อ27-04-2018 20:58:18 »

V
v
v


“เขามาเยี่ยมหลานใช่มั้ย ไม่ได้มาเหยียดฉันใช่ป่ะ” ผมถามไวโอล่าอย่างขำๆ ตอนกำลังกินอาหารมื้อเช้าของเราสองคน หลังจากปลุกปล้ำกับแฝดมิชลินจนหลับปุ๋ยไปสักชั่วโมงนึงแล้ว รออีกสักสองสามชั่วโมงค่อยไปสู้รบปรบมือกันใหม่

           

 

“เขาอาจจะอยากมาดูงานเลี้ยงลูกน่ะ แฟนใหม่ แม่เลี้ยงฉันที่อายุเท่าเธอก็จะมาด้วย” ผมฉีกยิ้มแบบยิงปากหนึ่งทีแล้วยกชากุหลาบขึ้นดื่ม ที่อังกฤษกินอะไรมักจะต้องมีชาเคียงข้างเสมอ มันคือวิถีคลาสสิค

           

 

“กินทุกอย่างตามที่หมอบอกแล้ว รู้สึกถึงน้ำนมมั่งมั้ย” ไวโอล่าทำหน้าไม่แน่ใจก่อนจะตอบ

           

 

“ฉันว่าฉี่เยอะกว่าน้ำนม ยิ่งช่วงนี้อากาศหนาวด้วย กินน้ำเยอะ ฉี่เลยเยอะตาม”

           

 

“แต่ถือว่าดีขึ้นใช่มั้ย”

           

 

“ฉันยังไม่รู้สึกนะ อาจเพราะเพิ่งเริ่มทำได้อาทิตย์เดียวเอง คงต้องรอดูอีกสักพัก” ผมพยักหน้าและยิ้มให้กำลังใจเธอ ไวโอล่าเองก็เครียดเรื่องน้ำนมไม่พอให้ลูก อะไรที่หมอบอกว่ากินแล้วจะช่วยได้ เธอก็กินหมด อย่างกินน้ำในหน้าหนาว ซึ่งหนาวของที่อังกฤษกับเมืองไทยไม่เหมือนกัน มันส่งผลให้น้ำพวกนั้นขับออกมาทางปัสสาวะซะเยอะ ไม่รู้ไปช่วยเรื่องผลิตน้ำนมมั่งหรือเปล่า

           

 

“ถ้านมเธอไม่พอ ขอนมจากแม่เลี้ยงเธอสิ จากที่เห็นเธอค่อนข้าง…” ผมเอาสองมือวนตรงอกเป็นรูปกลมกลึงและยกนิ้วโป้งทั้งสองมือขึ้นว่าเยี่ยม ไวโอล่าเก็ตและขำพรืด ใจผมจริงๆ คือจะชมนะ ว่าเธอน่าจะน้ำนมเยอะ แต่เรื่องแบบนี้พูดยังไงก็ดูออกจะเฉไปทางคิดลึกอยู่เรื่อย

           

 

จะว่าไปแล้ว ครอบครัวนี้ก็มีแม่เลี้ยงแบบอินเซ็บชั่นซับซ้อนดีเหลือเกิน แม่วิคเตอร์เป็นแม่เลี้ยงไวโอล่า ยัยลิซ่าเป็นแม่เลี้ยงวิคเตอร์แล้วยังควบตำแหน่งเมียวิคเตอร์อีก และตอนนี้วิคเตอร์กับไวโอล่ากำลังจะมีแม่เลี้ยงคนเดียวกัน ซึ่งแม่เลี้ยงคนนั้นอายุเท่าผม เท่ากับว่าเป็นน้องวิคเตอร์อีกทีด้วยนะ ซับในซับในซับ

           

 

และวันนี้แม่เลี้ยงคนนั้นก็กำลังจะมาเยี่ยมเราสองคนกับแฝดพร้อมกับคุณลุค ตอนนี้เธอคนนั้นท้องได้จะสองเดือนแล้ว ผมเคยเจอครั้งเดียวตอนที่เธอมาเยี่ยมไวโอล่าก่อนวันออกจากโรงพยาบาลหนึ่งวัน ท่าทางเธอดูเป็นผู้หญิงเรียบๆ ไม่หวือหวา แต่ว่าดูเป็นมิตร อันนี้เลยทำให้เธอน่าคบค้าสมาคมอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญผมว่าเธอดูไม่ตะเกียกตะกายด้วย ดูใช้ชีวิตปกติสุขดี อันนี้ผมก็คิดเองจากการเจอเธอครั้งแรกและครั้งเดียว ถ้าได้ทำความรู้จักกันมากกว่านี้ ผมอาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้

           

 

“เดี๋ยวฉันเข้าไปนอนรอกับแฝดนะ พ่อมาถึงคงพอดีกับที่แฝดตื่น” ผมพยักหน้าและยกมือขึ้นว่าโอเค ไวโอล่าลุกขึ้นเดินออกไปจากโซนห้องกินข้าวที่อยู่เชื่อมกับห้องครัวใหญ่ของบ้าน ผมยังกินอาหารไม่หมดเพราะค่อยๆ กินไปดูโซเชียลที่นานๆ ครั้งจะได้มาเล่นแบบนี้ ตอนนี้ผมกำลังย้อนดูข่าวเรื่องรูปภาพในอินสตาแกรมของวิคเตอร์ ภาพวันที่เรานอนดูเน็ตฟลิกซ์และชิลด้วยกัน

           

 

ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรอก ผมแค่ย้อนอ่านสไตล์เขียนข่าวของแต่ละสำนักเฉยๆ ก็เดากันไปต่างๆ นาๆ เช่นเคย พอลองนั่งดูการสะกดรอยตาม การทายต่างๆ ของเหล่านักข่าวและชาวเน็ตผมว่าก็สนุกดีนะ เจอคอมเม้นไหนร้ายๆ หน่อยก็เบ้ปากเอา แต่น่าจะเป็นความโชคดีและแต้มบุญสูงของผมหน่อยที่ส่วนมากเจอคนคอมเม้นในเชิงบวกมากกว่า ไม่รู้ว่าเพราะยังไม่รู้ว่าผมเป็นใครชัวร์ๆ หรือสนับสนุนความรักทุกรูปแบบหรือยังไง แต่อ่านแล้วก็ดีต่อใจแหละ

           

 

ข่าวในไทยดูคึกคักดี ผมว่านักสืบเว็บบอร์ดของไทยมาเป็นคู่แข่งเชอล็อกโฮมได้เลย ย้อนไปแคปรูปในอินสตาแกรมวิคเตอร์ เอามาเรียบเรียงไทม์ไลน์กันเอง บางคนที่แคปรูปผมนอนแนบอกวิคเตอร์ตรงรอยสักไว้ได้สมัยที่ผมยังไม่ล็อคไอจีก็เอามาเทียบกันต่างๆ สนุกสนานมาก ครั้งนี้การสืบมันจริงจังขึ้นเพราะรูปที่วิคเตอร์ลงล่าสุดมันค่อนข้างล่อแหลมและเหมือนจะเป็นสัญญาณการเปิดตัวผมมากขึ้น คือเปิดตัวจริงๆ เพราะไม่เปิดหน้า คนที่เก่งเรื่องสระรีระและบวกกับข้อมูลของคนจำพวกเก่งเรื่องปรับสีภาพก็ฟันธงว่าเป็นผู้ชายแน่นอน แต่ก็นั่นแหละ มันมีแค่การสืบกันเองไง ยังไม่มีอะไรออกจากปากวิคเตอร์เลย แถมรอยสักบนอกเขาก็ยังไม่เคยมีสื่อไหนจับภาพได้ด้วย อันนี้อัศจรรย์มากที่พวกปาปาราซซี่จับช็อตที่สามารถเผยเรื่องราวไม่ได้สักที แต่สามีผมถ้าอยู่ในที่สาธารณะก็หวงเนื้อหวงตัวพอสมควรนะ ใส่เสื้อปกปิดมิดชิด

 

 

เขาชอบแก้ผ้าก็จริง แต่ผมว่าลึกๆ เขารู้แหละว่าถ้าอยู่ในโซนตาแมวตาเหยี่ยวทั้งหลายต้องทำตัวยังไงในการไม่เผยเนื้อในตัวเอง

           

 

“โฮ่ง!” ผมหยุดอ่านโซเชียลบนจอมือถือแล้วหันไปมองไมเคิลที่เดินมานั่งใกล้ๆ ผมยิ้มกว้างแล้วยกมือขึ้นลูบหัวมัน พอเงยหน้าขึ้นก็เจอกับออสตินที่แบกถุงสีน้ำตาลมาเต็มสองแขนล่ำๆ ผมลุกขึ้นไปช่วยเขาเอาของลงบนโต๊ะใหญ่ในครัว

           

 

“ไมเคิลเหมือนจะเจอสาวที่ถูกใจครับ” ผมเลิกคิ้วขึ้นในขณะที่เอาถุงใส่กับข้าวและเครื่องปรุงต่างๆ ที่ออสตินออกไปซื้อมาสำหรับเก็บไว้ตุนวางเรียงบนโต๊ะ

           

 

“หมายถึงปิ๊งหมาตัวเมียอะเหรอ” ออสตินพยักหน้านิ่ง ผมหันไปมองไมเคิลที่ไปนอนแผ่ตัวอยู่ตรงประตูเรือนกระจกในห้องโถงใหญ่ของบ้านที่เดินออกไปจะเป็นสวนแล้วหันกลับมามองออสตินอีกที

           

 

“แล้วมันได้เข้าไปทำความรู้จักกับสาวคนนั้นมั้ย”

           

 

“เข้าไปครับ มันยืนดมกันอยู่นานมาก ผมเลยได้มีโอกาสคุยกับเจ้าของ เขายินดีให้ทับนะครับถ้าคุณแมทกับคุณเรย์มอนด์ต้องการ” ผมตาโตเป็นประกาย หันไปมองไมเคิลอีกที มันกำลังนอนหงายท้องสบายอารมณ์

           

 

“ไมเคิลจะมีเมียแล้ววว”

           

 

“พวกเขาอยู่อีกหมู่บ้านนึง บอกว่าถ้าอยากให้มันจู๋จี๋กันไปหาที่บ้านได้ พวกเขาให้นามบัตรผมมาด้วย” กับการใช้คำว่าจู๋จี๋นั้น ช่างน่ารักน่าชังเหลือเกินพ่อบอดี้การ์ดหน้านิ่ง

           

 

“แล้วพวกเขาจะแบ่งลูกๆ ไมเคิลกับหมาผู้หญิงตัวนั้นกับเราเหรอ”

           

 

“ครับ ก็ดูตามจำนวนอีกที เขากับภรรยาก็อยากได้ลูกมันเหมือนกัน” ออสตินยื่นนามบัตรที่เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อกันหนาวสีดำมาให้ ผมรับมาอ่าน ชื่อบนบัตรเป็นชื่อของผู้ชายคนหนึ่ง

           

 

“เขาอายุเท่าไหร่เหรอเจ้าของหมาอะ” ออสตินสั่นหัว

           

 

“ไม่ทราบครับ แต่ถ้าให้เดาคงรุ่นเดียวกับคุณเรย์มอนด์ละมั้งครับ” ผมทำปากว่าอ้อและพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะอมยิ้มเขินที่ไมเคิลตกหลุมรัก ตอนอยู่นิวยอร์กมันก็มีดมๆ สนใจๆ ตัวเมียนะ แต่ก็ไม่ได้ไล่ตามหรือจ้องจะทับเขา อันนี้ยืนคลอเคลียกันนานตามคำบอกของออสตินผู้ไม่เคยโกหกก็คงจะปิ๊งรักแล้วละ

           

 

ผมกับออสตินช่วยกันจัดของใส่ตู้ ทั้งตู้กับข้าวและตู้เย็นจนเสร็จเรียบร้อย บ้านเราจะซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารทุกอาทิตย์ ซื้อมาทีก็ตุนไว้ให้พอสำหรับหนึ่งอาทิตย์ สิ่งไหนเหลือก็เก็บเอาไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้ คนทำกับข้าวของบ้านก็เป็นผมกับออสตินสลับกันไป มีไวโอล่าทำด้วยบางครั้ง แต่ผมไม่อยากรบกวนเธอเท่าไหร่ เพราะเลี้ยงลูกก็เหนื่อยแล้ว

           

 

“เดี๋ยวพ่อวิคเตอร์จะมา แต่เผื่อผมไม่รู้ว่าเขามา ผมกับไวโอล่าอยู่ในแฟมิลี่รูมนะ” ออสตินพยักหน้าแล้วเดินกลับไปทางห้องนอนตัวเอง ห้องนอนของออสตินอยู่ใกล้กับประตูหน้าบ้านและห้องรับรองแขก ใครไปใครมาเจอเขาก่อนเลย ห้องกว้างมาก วิคเตอร์จัดให้น้องชายต่างสายเลือดสุดพลัง เพราะห้องนอนที่นิวยอร์กมันเล็กสำหรับคนตัวใหญ่อย่างออสติน พอมาบ้านใหม่วิคเตอร์เลยจัดฟูลออพชั่นในห้องนั้น ให้มีความเป็นส่วนตัวสำหรับบอดี้การ์ดคนเก่งของบ้านเรา น่าจะยกเว้นแค่ครัวที่ไม่ได้ยกเข้าไปไว้ให้

           

 

ผมแวะไปห้องสมุดของบ้านที่มีทั้งหนังสือไทยหนังสือเทศ อภินันทนาการโดยสามีหน้ายักษ์สุดที่รัก หนังสือภาษาไทยก็ใช้ให้ไอ้แชมป์กับไอ้วอร์มไปหาซื้อมาให้ตามลิสต์ของผมแล้วส่งตรงมาจากเมืองไทย เทสต์การทำห้องสมุดของวิคเตอร์ดีมากเลยแหละ ก็คงรูปแบบของห้องไว้เหมือนเดิมคือหินสีน้ำผึ้ง แต่เพิ่มหน้าต่างเพื่อให้ความโล่งและสว่างเข้าไป เพราะห้องเดิมเป็นห้องสี่เหลี่ยมทรงยาวทึบๆ มีหน้าต่างกระจกสี่เหลี่ยมบานใหญ่ที่มองเห็นวิวทุ่งหญ้าสีเขียวของบ้านด้านนอก ตรงนั้นมีโซฟาสำหรับนั่งและนอนอ่านหนังสือ อยากพักสายตาก็เงยหน้ามองความเขียวขจีของหญ้าและสีสันของดอกไม้ตามขอบสนามหญ้า มุมนี้จะอ่านหนังสือเพลินแบบลืมวันและเวลามากๆ

 

 

ตู้หนังสือสีน้ำตาลอ่อนตัดกับผนังหินสีเข้มถูกติดตั้งไว้เต็มผนังจนเกือบติดเพดานจะเว้นช่องประตูกับช่องหน้าต่างไว้ แต่เขาก็เข้าใจจัดให้มีลูกเล่นด้วยการเว้นบางช่องแล้วใส่ของประดับแทนหนังสือเพื่อไม่ให้รู้สึกแอดอัดจนเกินไป พื้นด้านล่างก็เป็นพื้นปูนเปลือยปูพรมสีขาวนุ่มนิ่มให้สำหรับนั่งและนอนอ่านหนังสือได้อีกโซน ในห้องมีโต๊ะเขียนหนังสือตรงข้ามกับหน้าต่างบานใหญ่

 

 

นี่ก็เป็นอีกห้องที่ผมชอบมาขลุก แต่ก็ไม่บ่อยเท่าแฟมิลี่รูม ผมเลือกหยิบนิยายแฟนตาซีของนักเขียนไทยมาหนึ่งเล่มแล้วเดินออกจากห้องอ่านหนังสือ พอเข้าไปที่ห้องประจำของสองแฝดก็เห็นสามแม่ลูกหลับปุ๋ย บรรยากาศห้องนี้มันชวนหลับจริง ขนาดออสตินยังเคยเผลอหลับในห้องนี้ตอนมาเฝ้าแฝดแทนผมเลย

           

 

สองแฝดยังไม่มีห้องนอนของตัวเอง อาศัยนอนกับไวโอล่าไปก่อน แต่ก็มีคอกกันกระแทกสีฟ้าขาวสำหรับเด็กเป็นเตียงนอนสำหรับสองแฝด ช่วงที่วิคเตอร์อยู่ผมก็ใช้วิธีการแวะไปหาเอา แต่พอวิคเตอร์ไปทำงาน ผมก็ไปนอนห้องไวโอล่าบ้าง หรือบางทีถ้าไวโอล่าเหนื่อยจัดๆ ผมก็เอาสองแฝดมานอนที่ห้องตัวเอง ยกคอกอันนั้นมาแล้วผมก็ลงไปนอนด้วย

           

 

ครืดดด

           

 

โทรศัพท์สั่นตอนที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาคนละฝั่งกับที่ไวโอล่านอน ผมหยิบขึ้นมาดูก็เป็นวิคเตอร์ส่งรูปหน้าเขาโชกเลือดมาให้ ผมใจหายวาบ รีบกดโทรหาเขาในวอทสแอพทันที รอไม่นานวิคเตอร์ก็กดรับ

           

 

“เป็นอะไรน่ะ?!” ผมลุกออกจากโซฟา เดินออกไปข้างนอกแล้วเลื่อนปิดประตูตามหลัง

           

 

[เลือดออก]

           

 

“รู้แล้ว แต่ทำไมเลือดออก ไปทำอะไรมา เป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ย”

           

 

[โดนช่างเอฟเฟ็กต์เอาเลือดปลอมเทใส่หัว] ผมชะงักไปแปบก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าเขาอำ เลยกลอกตาเอือมๆ แต่ก็โล่งใจในเวลาเดียวกัน

           

 

“ไอ้ยักษ์เลี้ยงแกะ เดี๋ยวครั้งหน้าเป็นจริงขึ้นมาจะปล่อยให้เลือดไหลหมดตัว”

           

 

[นายไม่ทำแบบนั้นหรอก]

           

 

“อ๋อ ใช่ เพราะถ้าคุณตายไป ผมจะไม่ได้อะไรเลย รีบกลับมาทำพินัยกรรมให้ก่อน”

           

 

[กลับไปเมื่อไหร่ฉันจะเอาเข็มขัดฟาดก้นนายตามความปากดี]

           

 

“แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่ขู่เท่านั้นแหละ แค่นี้นะ ไอ้ยักษ์!” ผมกดวางสาย เขาไม่โทรกลับมาหรอก เหมือนเขาเหงา เขาว่างเลยต้องหาเรื่องให้ผมตื่นเต้นเล่นๆ เดี๋ยวก่อนผมนอนเขาถึงจะคอลมา บางวันไม่รู้จะคุยอะไรกันก็มองหน้ากันจนผมหลับเขาถึงวางสายไป วันไหนที่ผมนอนกับแฝดเขาก็ทะเลาะกับแฝดและทิ้งให้ผมหลับไป

           

 

ผมกำลังจะเดินกลับเข้าห้องก็เห็นออสตินเดินมาพอดี เขาพยักหน้าหนึ่งครั้ง ตอนแรกผมงงว่าเรียกผมเหรอ แต่สักพักก็นึกได้ว่าผมบอกเขาให้เตือนเรื่องคุณลุค ผมพยักหน้าหงึกๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องแฟมิลี่ ย่องเบาผ่านแฝดที่กำลังหลับปุ๋ยใต้ผ้านวมไปสะกิดไวโอล่า เธอลืมตาขึ้นแบบงงๆ

           

 

“พ่อเธอมาแล้ว”

           

 

“อ๋อ” ผมเดินนำออกไปก่อน หยิบเสื้อกันหนาวมาสวมทับเสื้อลองจอนสีเทาของตัวเองอีกชั้น ออสตินเดินพาคุณลุคกับภรรยาคนใหม่ของเขาเดินเข้ามาในบ้าน ตรงมาที่โซนนั่งเล่นและเป็นโซนรับแขกของบ้านชั้นนอก ไวโอล่าเดินเข้าไปกอดทักทายพ่อตัวเอง ส่วนผมยืนเงียบๆ ในมุมของตัวเอง ยังดีที่ภรรยาของคุณลุคหันมายิ้มให้ผมเลยได้ขยับยิ้มตอบกลับไป

           

 

“สองแฝดนั่นล่ะ”

           

 

“หลับค่ะ พ่ออยู่กินอาหารเย็นกับเราสิ เดี๋ยวแฝดคงตื่น” คุณลุคเหลือบสายตามามองผมอย่างไร้อารมณ์ ผมก็ทำหน้าไร้อารมณ์ตอบกลับเขาไป

           

 

“ก็ดี ตีน่ามีเรื่องจะถามเกี่ยวกับเด็กด้วย” ไวโอล่าหันไปยิ้มให้กับแม่เลี้ยงที่อายุน้อยกว่าตัวเอง ก่อนหันมามองทางผมพร้อมชี้มือมาทางนี้

           

 

“ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงดูถามแมทได้เลยค่ะ แมทดูแฝดได้ดีกว่าฉันซะอีก” แม่เลี้ยงของไวโอล่าหันมายิ้มด้วยความประหลาดใจ

           

 

“จริงเหรอคะ” ผมยิ้มแห้งๆ ก่อนตอบ

           

 

“ผมถามแม่ผมมาอีกทีน่ะครับ ก็จำๆ มาใช้กับแฝด” แม่กับพ่อผมรู้เรื่องแฝดแล้ว เพราะผมโทรไปขอความรู้เรื่องการเลี้ยงเด็กบ่อยมากจนเขานึกสงสัย ผมเลยเล่าให้ฟัง ผมเคยส่งรูปแฝดไปให้เขาดูแล้วทางไลน์ สองตายายกรี๊ดแฝดมิชลินมาก

           

 

“ทำไมเธอไม่เลี้ยงเองล่ะไวโอล่า เด็กๆ จะได้ซึมซับสิ่งที่ถูกที่ควรจากคนเป็นแม่จริงๆ” บรรยากาศแทบจะกริบทันควัน ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ในใจคืออยากกลอกตาและทำหน้าเบื่อโลกแรงๆ กับการจิกกัดแบบเดิมๆ

           

 

“แมทเป็นแม่ทูลหัวของแฝดค่ะพ่อ หนูยกตำแหน่งนี้ให้เอง” คุณลุคเลิกคิ้วขึ้นและยิ้มเยาะน้อยๆ

           

 

“เรียกใครสักคนว่าแม่ คนๆ นั้นต้องเป็นผู้หญิงรึเปล่า”

           

 

“คุณลุคคะ…” ตีน่ามีสีหน้าอึดอัดใจ อย่างหนึ่งที่ผมน่าจะแน่ใจได้ในตอนนี้แล้วคือภรรยาคนนี้ของพ่อวิคเตอร์ไม่ใช่คนก๋ากั๋นจัดจ้าน

           

 

“มันควรจะเป็นไปในแบบที่ธรรมชาติสร้างมา เกิดเด็กซึมซับพฤติกรรมที่ไม่ถูกไม่ควรของคนเลี้ยงเข้าไปจะทำยังไง”

           

 

“พ่อคะ ถ้าพ่อจะมาเพื่อว่าแมท หนูว่าไม่โอเค” ไวโอล่ามีสีหน้าไม่พอใจ คุณลุคไหวไหล่ขึ้นทั้งสองข้าง ผมเห็นแบบนั้นก็อดว่ากลับไม่ได้

           

 

“เช่นพฤติกรรมความก้าวร้าวที่วิคเตอร์เคยมีรึเปล่าครับ…” ไม่ได้คิดเอาผัวมาอ้างหรอก ไม่ได้จนตรอกด้วย แต่ผมต้องตอกหน้าเขาด้วยความเป็นจริงที่เขาเคยผ่านมาแล้ว

           

 

และอันที่จริงพฤติกรรมนั้นของผัวก็ไม่ได้เคยมีนะ ปัจจุบันก็ยังมีอยู่

           

 

“…บางครั้งอะไรที่ธรรมชาติสร้างมาก็ถูกธรรมชาตินั่นแหละทำลายจนพังย่อยยับ” พ่อของวิคเตอร์มองผมตาลุกวาว ตีน่ามีท่าทีลำบากใจ ไวโอล่าสีหน้าไม่สบายใจนัก ผมไม่ได้อยากให้เกิดบรรยากาศแบบนี้ แต่จะให้ผมยืนนิ่งและปล่อยให้เขาด่างี้เหรอ ไม่ได้สิ นี่แมทนะ ไม่ใช่พิมพ์ไม่สู้คนค่ะ

           

 

“พ่อไม่อยากให้ไอ้คนนี้เลี้ยงหลาน เกิดเด็กสองคนนั้นเป็นแบบมันขึ้นมาจะทำยังไง” เขาเริ่มก้าวร้าวขึ้น เนี่ยๆๆ พูดไม่ทันพ้นห้านาทีเลย แสดงพฤติกรรมนั้นออกมาแล้ว

           

 

“พ่อคะ สิ่งที่แมทเป็นไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ใช่พันธุกรรมใดๆ ด้วย และไม่ใช่สิ่งผิดปกติ แมทใช้ชีวิตตามปกติ และแฝดก็มีความสุขมากด้วยที่ได้แมทคอยดูแล”

           

 

“เธอไม่ควรมาอยู่ที่นี่เลยจริงๆ โดนพี่ชายเธอล้างสมองไปอีกคนแล้วงั้นเหรอ” ไวโอล่าพ่นลมหายใจ หน้าตาเหนื่อยหน่ายกับพ่อตัวเอง

           

 

“งั้นมั้งคะ…” เธอทำตาโตแล้วตามด้วยกลอกตาเซ็งๆ

 

 

“…และหนูอาจจะโดนล้างหนักมากด้วย เพราะหนูคิดว่าจะยกแฝดให้เป็นลูกของพี่กับแมท” คุณลุคตะลึง และไม่ใช่แค่คุณลุคหรอก ผมก็ด้วย ตีน่าเองยังอ้าปากค้างเบาๆ เลย ผมหันไปมองไวโอล่า เธอไม่ได้มีทีท่าล้อเล่น แต่ผมกำลังคิดว่าเธอกำลังประชดพ่อตัวเองอยู่หรือเปล่า

 

 

“เธอจะยกให้มันได้ยังไง เธอเป็นแม่ของเด็กนะ” คุณลุคว่าหน้านิ่วคิ้วขมวด ผมรู้สึกงงๆ เอ๋อๆ มองไวโอล่าที่ยักไหล่สบายๆ ก่อนตอบชิลๆ

 

 

“หนูพอใจจะยกให้” อันนี้ผมว่าเธอน่าจะประชดพ่อแล้วละ

 

 

ลูกคนนะไวโอล่า ไม่ใช่ลูกไมเคิลนะนี่

 

 

 

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao7:


               ก็จะชิลๆ อยู่บ้านเลี้ยงหลาน ผัวก็เปย์ไปค่ะ ชีวิตคุณนายเอเลี่ยนก็จะดีนิดนึง แต่ก็อาจจะดูไม่มีอะไร แบบโล่งๆ 55555 อย่างที่บอกไปตอนที่แล้วว่า หลังจากนี้มันจะเล่าเรื่องการใช้ชีวิตครอบครัวของทั้งสองคน เล่าเรื่องครอบครัวของทั้งสองคนแล้วน่ะค่ะ อาจจะเรื่อยๆ ชิลๆ ไม่แน่ใจว่าเหตุการร์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปมันจะมีอะไรตื่นเต้นอีกมั้ย แต่ถือว่าช่วยแมทเลี้ยงหลานแล้วกันเนอะ คริๆ

               ตอนนี้เป็นต้นไป จะอัปแบบเต็ม 100% ทุกตอนไปยันจบแล้วค่ะ ยังไงอ่านแล้วก็คอมเม้นเป็นฟีดแบ็คให้กำลังใจกันหน่อยแล้วกันเนอะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2256 เมื่อ27-04-2018 21:25:48 »

อู้วววว ไวโอล่าผู้แสนดื้อรั้น อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2257 เมื่อ27-04-2018 21:44:01 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Wipers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2258 เมื่อ27-04-2018 21:54:34 »

ชิลๆ ครอบครัวสุขสันต์อะไรทำนองนี้
อีเลี่ยนเปลี่ยนสถานะเป็นคุณนายมีผัวสายเปย์

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2259 เมื่อ28-04-2018 04:15:33 »

หมั่นไส้อีตาพ่อเตอร์มาก ๆ เลย กลับไปกกเมียตัวเองที่บ้านไป  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
« ตอบ #2259 เมื่อ: 28-04-2018 04:15:33 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2260 เมื่อ28-04-2018 08:15:58 »

แมทเลี้ยงเด็กได้น่ารักมาก ดูแลเอาใจใส่ดีมาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2261 เมื่อ28-04-2018 08:43:32 »

รำคาญลุคมากกกกกกกกกกกกกก  :z6:
จุ้นจ้าน วุ่นวาย เป็นไม้เบื่อไม้เมากับแมทตลอด  :fire:

ขำยักษ์ กัด แซะแฝดตลอด
แฝดน่ารักมากกกกกกกกกกกกกก  :mew1: :mew1: :mew1:
เตอร์ แมท  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2262 เมื่อ29-04-2018 16:01:30 »

แฝดน่ารักมากๆเลย

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.26 100% :27.04.61:
«ตอบ #2263 เมื่อ02-05-2018 13:26:37 »

อิพ่อนิก็เนาะ ไม่จบไม่สิ้น  :m16:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2264 เมื่อ02-05-2018 21:05:17 »


Yours and Mine EP.27 :: Everybody sees the world differently. (ต่างคนต่างความคิด)  [100%]




“ใช่ ฉันประชดพ่อ แต่ฉันก็มีความคิดแบบนั้นจริงๆ ด้วย” ผมย่นคิ้วอ้าปากหวอ มองหน้าเธอด้วยความไม่แน่ใจ

         

 

“เธอจะไปทำอย่างงั้นได้ไงไวโอล่า เธอเป็นแม่นะ แล้วก็ยังมีชีวิตอยู่ด้วย จะยกให้ฉันสองคนได้ไง”

         

 

“ได้สิ ฉันถามอาทนายประจำบ้านแล้ว เขาบอกว่าทำเรื่องยกให้ได้ ไม่มีปัญหา” ผมกะพริบตาปริบๆ มองไวโอล่าด้วยความไม่เข้าใจ ก็ต้องไม่เข้าใจน่ะสิ เธอเป็นแม่แฝด อยู่ด้วยกัน ป้อนนมกันทุกวัน แต่จะมายกลูกให้ ผมก็ต้องงงสิ

         

 

“ฉันแน่ใจว่ามันไม่มีปัญหา แต่ประเด็นคือเราอยู่ด้วยกันไงไวโอล่า” ไวโอล่าที่กำลังนั่งดื่มน้ำขิงบนโซฟาในแฟมิลี่รูมพ่นลมหายใจเบาๆ แล้ววางแก้วน้ำขิงไว้บนโต๊ะไม้หลังโซฟา

         

 

“มันไม่เหมือนกันหรอกแมท ฉันอยากให้เธอกับพี่มีสิทธิ์ในตัวแฝดได้อย่างเต็มที่”

         

 

“ไวโอล่า แค่เราได้เลี้ยงดูเธอกับแฝดนั่นก็เป็นสิทธิ์ที่ดีมากแล้ว ไม่ต้องยกให้ฉันกับวิคเตอร์หรอก ทุกวันนี้เราก็อยู่กันแบบครอบครัวอยู่แล้ว” ไวโอล่ายิ้มอ่อน เธอเหลือบมองสองแฝดที่กำลังนอนดูการ์ตูนบนจอผ้าขนาดยักษ์หลังจากตื่นมาดูดหน่มน้มของแม่ในช่วงค่ำ

         

 

“ฉันไม่ใช่คนแข็งแรงนะแมท…” ผมกะพริบตาปริบๆ มองหน้าเธอแบบสับสน

         

 

“…ฉันกลัวว่าวันนึงจะไม่ได้อยู่ดูแฝดโต” ผมใจหายวาบ แม้ไวโอล่าจะพูดด้วยสีหน้าปกติมาก แต่ผมก็รู้สึกไม่ดีอยู่ดี

         

 

“ไวโอล่า อย่าพูดแบบนั้น”

         

 

“มันเป็นความจริงแมท เธอเองก็เห็นอาการฉันชัดเจนทุกอย่างอยู่แล้ว”

         



"ใช่ ฉันเห็น แต่มันไม่ได้เป็นอาการหนักหนาอะไรหรอกน่า”

         

 

“แล้วถ้าวันนึงมันหนักล่ะ” ผมย่นคิ้ว รู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ที่เธอดูจะแช่งตัวเองเหลือเกิน ผมเคยมโนอาการเธอไปไกลมาก แต่พอได้เห็นว่าช่วงเธอท้องและหลังคลอด เธอดูสตรองดี ผมเลยดับมโนนั้น แล้วจู่ๆ เธอก็มาจุดมันขึ้นมาซะงั้น

         

 

“เธอก็จะได้รับการรักษาที่ดีที่สุด เธอต้องกินอาหารตามที่หมอสั่ง มันอาจจะเหนื่อยเป็นสองเท่าที่ต้องกินทั้งเพื่อตัวเธอและตัวแฝด แต่ทำเถอะนะ…” ไวโอล่ายิ้มพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้าง ผมไม่ชอบท่าทางนี้เลย เหมือนเธอเตรียมพร้อมกับการลาจาก…

 

 

“…แล้วอย่าคิดหรือพูดอะไรแบบนี้อีก ไม่ต้องยกให้ เพราะทุกวันนี้ฉันเต็มใจดูแลแฝดด้วยตัวฉันเองอยู่แล้ว”

 

 

“ฉันแค่อยากให้เธอกับพี่มีสิทธิ์เต็มที่น่ะ”

 

 

“แต่ถ้าเธอยกให้ เท่ากับว่าเธอไม่มีสิทธิ์ในตัวลูกแล้วนะ ไม่เอาหรอก เหมือนพรากแม่พรากลูกเลย”

 

 

“ก็เธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่าเราอยู่บ้านเดียวกัน ฉันยกให้เธอ แต่ฉันก็ยังอยู่ด้วยไง” ผมสั่นหัว ผมรู้ว่าไวโอล่าหวังดีอยากให้ผมกับวิคเตอร์ได้ดูแลแฝดเต็มที่ แต่ในฐานะคนไทยที่ยังมีมีความเชื่อเรื่องลางอะไรต่างๆ อยู่ ผมไม่คิดรับ ถ้าผมรับเหมือนผมร่วมแช่งเธอไปด้วย

 

 

“เอาเป็นว่าเธอพูดประชดพ่อก็พอ”

 

 

 

“แอะ… แอะ…” ผมนอนตะแคงมองสองแฝดพยายามยกคอขึ้นอยู่ในคอกกันกระแทกตอนยามค่ำแบบเพลินสายตา ในหัวคิดถึงตอนคุยกับไวโอล่าหลังจากคุณลุคกลับไป ผมมองสองแฝดมิชลินแล้วก็นึกเป็นกังวลไปถึงไวโอล่า การพูดแบบนั้นมันไม่ได้ทำให้คนฟังสบายใจหรอก

 

 

“แอ๊ะๆๆ” ผมหลุดออกจากภวังค์แล้วมองแฮคเตอร์ที่ยกคอขึ้นได้อยู่พักนึงก่อนจะกลับไปนอนคว่ำหน้าตามเดิมแล้วเอียงหน้ามองผมเหมือนกำลังเรียกร้องความสนใจ ผมยิ้มกว้าง ใช้แขนซ้ายโอบเขาเข้ามานอนใกล้ๆ จับเขานอนหงายใกล้ตัวแล้วก้มลงหอมหัวเขาหนึ่งที

 

 

“เก่งมากครับมิชลินเบอร์สอง” แฮคเตอร์ขยับตัวดุ๊กดิ๊กและนอนอยู่ข้างผม ส่วนเฮคเตอร์กำลังนอนคว่ำหน้ามองมาทางผมกับน้องชายตัวเองอยู่ ผมยิ้มขำแล้วยื่นมือไปลูบหัวคนพี่เบาๆ

 

 

“มิชลินเบอร์หนึ่งก็เก่งงง” เฮคเตอร์ยิ้มหวาน ผมมองด้วยความเอ็นดู ดันตัวลุกขึ้นแบบครึ่งตัวแล้วจับให้เฮคเตอร์นอนหงาย เพราะนอนคว่ำมาพักใหญ่แล้วกลัวจะหายใจไม่ออก แต่ที่ปล่อยให้นอนเพราะว่าอยากให้เด็กๆ ฝึกยกคอ

 

 

ชุดสีชมพูเหมือนเนื้อหมูยิ่งตอกย้ำความอ้วนได้ดีจริงๆ เดี๋ยววิคเตอร์วิดีโอคอลมาต้องล้อแน่ๆ

 

 

“คืนนี้นอนกับแมทนะครับ คุณแม่เหนื่อย ให้คุณแม่พักผ่อนเยอะๆ” สองแฝดส่งเสียงออแอๆ คิดว่าไม่น่าจะตอบรับผมหรอก อาจจะกำลังสื่อสารกันเอง ฮ่าๆ

 

 

ผมไม่อยากให้ไวโอล่าต้องตื่นมากลางดึก มาดูแลลูกตอนร้องไห้ ต้องป้อนนม และบางครั้งต้องกล่อมลูกทั้งสองคนจนเกือบรุ่งสาง ไวโอล่าเป็นโรคเกี่ยวกับเลือด การพักผ่อนน้อยเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่จะทำให้เธออาการแย่ ผมเลยอยากช่วยแบ่งเบาเธอ ถึงจะนอนน้อยและเหนื่อย แต่วันๆ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว เลยถือว่าการเลี้ยงแฝดคืองานประจำของผมไป ไวโอล่าจะปั๊มนมแช่เย็นไว้ให้เรียบร้อย แม้จะไม่แน่ใจว่าจะพอต่อความต้องการของแฝดมั้ยก็ตาม แต่ก็เตรียมไว้ให้เท่าที่เธอจะบีบออกมาได้ แต่ดึกๆ แฝดกินไม่เยอะหรอก จะชอบให้เล่นด้วยจนกว่าจะหลับไปมากกว่า

 

 

ตื่อดื๊อดืดดด ตื๊อดื่อดืดดด~ (เสียงสไกป์)

 

 

“อะ ลุงยักษ์มาแล้วๆ” ก่อนจะกดรับผมก็หัวเราะเสียงดังกับการที่แฮคเตอร์สะดุ้งกับเสียงสไกป์ แล้วหันหน้ามากะพริบตาหน้ามึนๆ มองผม

 

 

“ฮาโล่ววว สวัสดีครับลุงยักษ์” มิชลินเบอร์สองเลื่อนสายตามองจอแบบงงๆ เขานอนมองหน้าวิคเตอร์ที่เต็มจอและปล่อยผมสยายอยู่สักพักก่อนจะอ้าปาก

 

 

“แอ๊อ๊อ๊” แฮคเตอร์ส่งเสียงทักทายแล้วมองหน้าวิคเตอร์ในจอตาแป๋ว วิคเตอร์แกล้งทำตาโตใส่หลาน แต่หลานมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก ผมหันจอไปทางเฮคเตอร์ที่กำลังทำปากแจ๊บๆ และมองเพดานห้องไม่สนใจใคร

 

 

[ใครให้มานอนนี่อะไอ้พวกลูกหมู] ผมกำลังจะอ้าปากตอบ แต่ก็หันไปยิ้มค้างเตรียมขำกับท่าทางของเฮคเตอร์ที่พอได้ยินเสียงวิคเตอร์พูดก็ชะงักกึกและกลอกตามองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังหาคนพูด แต่มองเท่าไหร่ก็ไม่เจอ

 

 

[หยิ่งเหรอ ถามไม่ตอบอะ] แฮคเตอร์แหงนหน้าขึ้นมองผมราวกับจะถามว่าอะไรเหรอ ผมหัวเราะยิ่งกว่าดูตลก ทำท่าทางน่าฟัดจริงๆ

 

 

“ไวโอล่าไม่ค่อยสบาย ผมเลยเอาแฝดมานอนด้วย” วิคเตอร์ขมวดคิ้วพลางขยับตัวนอนบนเตียงนอนในเทรลเล่อร์คาร์ของเขา

 

 

[ไปหาหมอรึยัง]

 

 

“ยังหรอก เธอพักผ่อนน้อยน่ะ เลยเพลียๆ” วิคเตอร์พยักหน้าหนึ่งที เขาเป็นห่วงน้องแหละ แต่ถ้าบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก หรือบอกว่าไปหาหมอแล้ว เขาก็จะไม่เซ้าซี้อะไรต่อ เพราะจริงๆ เขาเองก็รู้ว่าน้องสาวพบหมอเป็นประจำไม่เคยขาดอยู่แล้ว

 

 

“วันนี้พ่อคุณมาที่บ้าน มากินข้าวเย็นด้วย ทะเลาะกันนิดหน่อย แต่ภรรยาใหม่ของเขาช่วยกู้บรรยากาศไว้” ตีน่าช่วยได้จริงแหละ เธอไม่ได้พยายามสร้างความปรองดองอะไรทำนองนั้นหรอก แค่ชวนผมคุยเรื่องเลี้ยงเด็กๆ จนเพลิดเพลิน เลยลืมสนใจคุณลุคกันไปเลย

 

 

[แค่แวะมาเฉยๆ น่ะเหรอ]

 

 

“แวะมาเยี่ยมนั่นแหละ แล้วก็มาเหยียดผมตามเคย แต่สบายมาก” วิคเตอร์ยกนิ้วโป้งขึ้นเป็นการชม ผมยิ้มรับ กดสายตาลงมองสองแฝดที่ยังคงนอนฟังผมคุยกับลุงยักษ์อยู่

 

 

[มีหนังเรื่องใหม่ติดต่อมา] ผมเงยหน้าขึ้นมองจอโทรศัพท์ พลางเอื้อมมือไปจับพุงเฮคเตอร์ที่ป่องออกมา อีกสักพักเดี๋ยวต้องอึแน่ๆ

 

 

“เป็นหนังแนวไหน”

 

 

[หนังรัก มีฉากเนื้อแนบเนื้อ ฉันยังไม่ได้รับ ให้นายสกรีนก่อน] นี่เป็นอีกข้อที่เป็นความน่ารักของไอ้ยักษ์ เวลามีงานอะไร ส่วนใหญ่เขาจะให้ผมสกรีนให้ ถ้าผมให้ทำ เขาถึงจะทำ แต่ถ้าผมบอกว่าไม่ เขาก็ไม่เอา ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่เคยปฏิเสธงานให้เขาเลย ด้วยเพราะงานดีจริงและไม่อยากทำตัวเป็นคนบงการชีวิตเขา คือบางงานเขาอาจจะอยากทำ แต่ผมดันปฎิเสธไปงี้ ก็ไม่ดีอีก เราก็จะคุยกันทุกครั้ง บางงานผมชอบ แต่ถ้าเขาไม่ชอบ ผมก็ไม่รับให้ บางงานเขาอาจจะชอบ แต่ถ้าผมรู้สึกไม่สบายใจที่เขาจะต้องไปทำ ด้วยเพราะคอนเซ็ปต์งาน กระบวนการการทำงาน สถานที่ในการทำงาน เขาก็จะไม่ไป เราต้องแบ่งกันคนละครึ่งทาง

 

 

“ส่งบทมาสิ”

 

 

[เดี๋ยวให้เซล่าส่งให้] ผมยกมือซ้ายขึ้นว่าโอเคแล้วเอากลับไปดันหัวตัวเองไว้ตามเดิม

 

 

“เล่นกับใครเหรอ”

 

 

[นางเอกใหม่ เซล่าว่าเป็นดาวรุ่ง แต่ฉันไม่รู้จัก เซล่าคงหาประวัติเธอส่งให้นายดูได้] เปิดเผยดี๊ดี ไม่มีปิดบัง แต่สามีผมนี่ชอบได้รับการติดต่อให้เล่นหนังแนวเซ็กซี่เยอะเหมือนกันนะ ปฏิเสธไปหลายเรื่องอยู่ ไม่ใช่ว่าผมหวง แต่แกนเรื่องมันไม่น่าสนใจเท่าฉากอย่างนั้น ผมให้เขาเล่นได้ เพราะถือว่ามันเป็นการแสดง มันเป็นงานที่สร้างเงิน แต่นอกเหนือจากฉากอย่างว่าต้องมีอะไรให้เขาได้เล่นด้วย ผมว่ามันเป็นการสร้างโปรไฟล์ดีๆ ให้วิคเตอร์ บางงานมันอาจเป็นมาสเตอร์พีซของเขาที่ทำให้ชื่อเขาถูกจดจำไปอีกนาน

 

 

“หนังภาคเดียวใช่มั้ย”

 

 

[ภาคเดียว ฉันไม่อยากเล่นหนังภาคต่อแล้ว] วิคเตอร์เหนื่อยหน่ายกับบทบาทเดิมๆ และเหนื่อยกับการถ่ายหนังเรื่องเดียวกัน เขาบอกว่าเหมือนไม่จบสิ้นสักที ไอ้หนังไซไฟที่ถ่ายอยู่ทุกวันนี้ก็รับไว้ตั้งแต่สมัยเรายังไม่ได้กัน แต่เรื่องนี้สนุกจริงนะ สนุกตั้งแต่เป็นนิยายแล้ว แล้วพอเอามาทำเป็นหนัง ในฐานะแฟนนิยายผมว่าทีมงานเขาทำดีเลยนะ ถึงมันจะเป็นตัวละครตัวเดิมจากเรื่องเดียว แต่มันมีการพัฒนาของเส้นเรื่องและตัวละครในทุกๆ ภาค

 

 

หนังเรื่องนี้ฮ็อตมาก ด้วยเพราะฐานแฟนนิยายเยอะ แล้วหนังทำออกมารักษานิยายไว้ได้และเพิ่มอรรถรสความเป็นหนังเข้ามาได้อย่างลงตัวเลยทำให้สองภาคที่ผ่านมารายได้เป็นที่น่าพอใจ มันอาจจะไม่ได้ถล่มถลายฟ้าดินสลาย แต่มันได้กำไรเกินทุนเกินครี่งก็ทำให้ค่ายหนังยิ้มร่าแล้ว วิคเตอร์ก็ฮ็อตฉ่าและมีชื่อเสียงเป็นวงกว้างมากขึ้นก็เพราะเรื่องนี้แหละ กระแสในตัวเขาก็ได้จากการเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ผมชอบมากๆ คือ เขามีภาพจำเป็นคาแรคเตอร์ละครตัวนี้ไปแล้ว เวลาที่มีข่าวเขียนถึงเขาจะเอ่ยถึงตัวละครที่เขาแสดงในการขึ้นต้นข่าวเสมอ ผมว่าเท่ดีนะ ผมเคยอ่านข่าวพวกนักแสดงคนอื่น อย่างคริส อีแวนที่เวลามีข่าวเขียนถึง ก็จะมีคำว่ากัปตันอเมริกาติดมาด้วยตลอด เป็นเอกลักษณ์ที่คนจดจำอะ

 

 

“เดี๋ยวสแกนให้ ถ้าโชว์เยอะไป ไม่ให้เล่น” ผมทำหน้าทำจิกแบบหวงๆ วิคเตอร์กระตุกยิ้มพลางเสยผมขึ้น ช็อตนั้นคือเท่เถิดเทิงมาก

 

 

“แต่คุณก็อย่าลืมเอาไปอ่านด้วยล่ะ ถ้าชอบก็ต้องบอกผมนะ แต่ต้องบอกให้ได้ว่าชอบเพราะอะไร ถ้ามาบอกว่าชอบเพราะได้เล่นฉากอย่างว่า ผมจะเอายางรัดจู๋คุณ”

 

 

[เก่งเหลือเกินนะไอ้เอเลี่ยนตัวเตี้ย] ผมเบะปากหนึ่งทีแล้วก้มลงหอมหน้าผากแฮคเตอร์เบาๆ มือซ้ายก็ยื่นไปลูบหัวเฮคเตอร์ที่ดีดขาไปมา ขาป้อมมากลูกเอ๊ย เห็นแล้วอยากกัด

 

 

[หอมมันทำไมอะ] ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าจอ ไอ้ยักษ์ย่นคิ้วหน้าตาไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่

 

 

“อยากหอมอะ รักเด็ก”

 

 

[ไม่ให้รัก รักฉันคนเดียวพอ]

 

 

“โวะ…”

 

 

“…แอ๊ะ” ผมก้มลงมองแฮคเตอร์ เจ้าตัวเล็กยกมือขวาป้อมๆ ขึ้นราวกับพยายามจะชี้วิคเตอร์ในจอมือถือ ผมหัวเราะ มองแฮคเตอร์ดีดขาแล้วยิ้มกว้าง พอเงยหน้าขึ้นมองวิคเตอร์ก็เห็นเขากำลังมองแฝดคนน้องด้วยสายตามึนๆ

 

 

[อะไร]

 

 

“หนูจะเอาอะไรครับแฮคเตอร์ ฮึ” ผมก้มลงหอมหัวเจ้าตัวเล็กอีกที และต้องยื่นมือซ้ายไปลูบหัวเฮคเตอร์ที่นอนชูมือขวาขึ้นอากาศอยู่ด้วยเพื่อความเท่าเทียม

 

 

“อือ อา อือออ” แฮคเตอร์ยิ้มหวานให้ลุงยักษ์และชูกำปั้นซ้ายขึ้น ผมมองลุงกับหลานมองตากันแล้วก็ขำ หลานยิ้มว้านหวาน ไอ้ลุงก็มึ้นมึน

 

 

[อยู่กับเอเลี่ยนมากจนพูดภาษามนุษย์ไม่ได้แล้วสินะไอ้ลูกหมู] ผมมองจิกวิคเตอร์หนึ่งที ก่อนที่จะหันไปมองเฮคเตอร์ที่ร้องงอแงขึ้นมา ผมดันตัวลุกขึ้นแล้ววางโทรศัพท์พิงกับรั้วกันกระแทก คลานเข้าไปหาเฮคเตอร์แล้วจับเขาอุ้มขึ้นมาไว้บนบ่าและตบหลังเบาๆ เจ้ามิชลินเบอร์หนึ่งเงียบเสียงลง ผมแหวกพมเพิสดูก็เห็นอึเลอะอยู่

 

 

“ผมเปลี่ยนแพมเพิสแปบนึง” วิคเตอร์ไม่ได้ตอบรับอะไรแค่มองผมนิ่งๆ แต่มันแปลว่าเขารับรู้แล้วแหละ

 

 

ผมจัดการถอดแพมเพิสอันเก่าของเฮคเตอร์ออก ยกก้นเขาขึ้นแล้วใช้ทิชชูเปียกทำความสะอาด เขาร้องงอแงเวลาโดนทิชชูเช็ดผิวคงเพราะรู้สึกเย็นก้น พอเช็ดจนสะอาดผมก็ใช้แป้งเด็กทาก้นให้หอมฟุ้งแล้วเปลี่ยนแพมเพิสอันใหม่ แต่ใส่เสื้อคอเต่าแขนยาวสีเทาตัวเดิม พอรู้สึกสบายตัวเฮคเตอร์ก็ไม่ร้องงอแง นอนนิ่งอย่างสงบ แต่ดวงตายังคงมองไปเรื่อย

 

 

[อีกคนไม่เปลี่ยนเหรอ]

 

 

“เขายังไม่ร้องอะ แต่เดี๋ยวแอบดูก่อน…” ผมอุ้มแฮคเตอร์ขึ้นมาไว้บนไหล่ เปิดแพมเพิสดูก็เห็นว่าเขายังไม่อึ

 

 

“…ยังสะอาดอยู่ แต่ไม่เกินยี่สิบนาทีหรอกเดี๋ยวก็อึ สองคนนี้ชอบขับถ่ายไล่ๆ กัน” ผมอุ้มแฮคเตอร์และนั่งโยกเบาๆ มือขวาก็เอื้อมไปลูบพุงของเฮคเตอร์ให้รู้สึกอารมณ์ดีไปด้วย

 

 

“แอ แอ อือออ” เฮคเตอร์เหวี่ยงมือขวามากำนิ้วโป้งผมตามสัญชาตญาณของเด็กที่ช่วงนี้เอาอะไรยัดใส่มือหรือจับอะไรได้ก็จะชอบกำไว้

 

 

“ให้แมทอุ้มเหรอเฮคเตอร์”

 

 

“แอ แอ” สองขาดีดดิ้นเบาๆ ให้ผมอมยิ้ม ผมดึงนิ้วออกจากมือป้อมๆ และหันมาประคองให้แฮคเตอร์นั่งบนตักตัวเอง โน้มตัวไปอุ้มเอคเตอร์ขึ้นมาอย่างระมัดระวังแล้วเอามานั่งบนช่วงหัวเข่าด้านขวา แฮคเตอร์แหงนหน้าไปมองพี่ชาย ส่วนเฮคเตอร์ก็ก้มหน้ามองน้อง ผมหัวเราะขำขันเพราะสองแฝดกำลังทำหน้างง

 

 

“ใครวะ ทำไมหน้าตาเหมือนเราเลยอะ…” ขำมาก เหมือนคนกำลังนั่งมองกระจกแล้วเห็นเงาสะท้อนตัวเองอะไรแบบนั้นเลย

 

 

“…ไหน ถามลุงยักษ์ซิครับว่าใครเป็นใคร นู่นๆ ลุงยักษ์อยู่นู่น” ผมทำปากยื่นไปทางโทรศัพท์ที่ตั้งพิงรั้วคอกอยู่ สองแฝดหันไปมองตามแบบงงๆ เด็กอายุช่วงนี้การมองเห็นจะพัฒนาดีขึ้น ก็ยังโฟกัสไม่เป็นหรอก แต่ก็จะชอบจ้อง อย่างจ้องผม จ้องหน้าไวโอล่า ออสติน ไมเคิลแล้วก็วิคเตอร์ผ่านหน้าจอนี่แหละ

 

 

[เฮ้ย] วิคเตอร์ส่งเสียงเรียก สองแฝดชะงักกึก และหันหน้าซ้ายขวา ดวงตามองไปรอบคอก ผมยกมือซ้ายชี้ไปที่จอโทรศัพท์ สายตาของสองแฝดมองตามและจ้องมองหน้าลุงยักษ์ในจอโทรศัพท์เครื่องยักษ์ ผมอยากขยับเข้าไปใกล้กว่านี้ แต่แฝดตรึงกำลังไว้บนตักผมหมดแล้ว

 

 

[นั่งตักเมียคนอื่นอะขอยัง] แล้วผมก็ขำเสียงดังเมื่อสองแฝดย่นคิ้วอ่อนๆ และหันมองหน้ากันแบบสับสนปนงง ขนาดวิคเตอร์ที่ทำดุยังหลุดขำเสียงทุ้ม เขาไม่ได้ขมวดคิ้วนานแบบผู้ใหญ่หรอก ทำแปบเดียว ผมเห็นสองรอบแล้ว และจะทำเฉพาะเวลาเจอวิคเตอร์แซะด้วยนะ

 

 

“ลุงยักษ์ไม่อยู่พวกผมจะทำอะไรก็ได้ครับ” ผมดัดเสียงเล็กๆ แล้วพูดกับแฝดทั้งสอง ตอนนี้ก็จะสามทุ่มแล้วนะ แต่ยังอ้อแอ้ๆ กันอยู่เลย

 

 

[เดี๋ยวฉันต้องไปถ่ายต่ออีกสามคิว นายนอนเถอะ] ผมพยักหน้า และยกมือสองแฝดโบกให้วิคเตอร์ด้วย

 

 

“คิดถึงคุณนะ แฝดก็คิดถึงคุณ ใช่มั้ยครับ” ผมก้มลงถามแฝดทั้งสองคนที่ไม่ตอบอะไร เอาแต่นั่งก้มมองพื้นไปเรื่อย ผมกลัวจะเมื่อยคอเลยวางเฮคเตอร์ลงบนพื้นคอก แล้วตามด้วยอุ้มแฮคเตอร์นอนข้างกัน ต้องกล่อมให้นอนละ นอนดึกมากไม่ดี

 

 

[แค่นี้นะ] ผมหันไปมองวิคเตอร์แล้วส่งจูบให้ เขายักคิ้วหนึ่งทีแล้วหน้าจอก็ดับไป ผมหันกลับมาจัดการเอาหมอนสำหรับเด็กหนุนให้สองแฝด ตรวจดูแพมเพิสของแฮคเตอร์ก็เจออึพอดี เลยจัดการทำความสะอาดและเปลี่ยนอันใหม่ให้ ผมห่มผ้าห่มผืนหนาให้ทั้งสองคน ใส่ถุงเท้าเพิ่มความอบอุ่น ใส่ถุงมือเพื่อกันแฝดเอามือไปเกาหน้าตัวเอง หมวกไหมพรมก็ต้องมา เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้

 

 

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายเซลฟ์ฟี่ตัวเองกับแฝดหนึ่งรูปแล้วส่งไปให้วิคเตอร์ทางวอทสแอพพร้อมกับข้อความให้กำลังใจเขาในการทำงาน

 

 

“Always miss you, our bank account!”

V
v
v
 

 

 

 


ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2265 เมื่อ02-05-2018 21:06:05 »


V
v
v


ผมตื่นแบบมึนๆ เบลอๆ ในตอนหกโมงเช้าที่อากาศโคตรจะหนาว เปิดหน้าต่างแว้บเดียวหนาวสะท้านไปถึงกระดูก ผมใส่โค้ทสีดำตัวใหญ่ของวิคเตอร์ ผ้าพันคอผืนหนา กางเกงขายาวและหมวกไหมพรมในการทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนชุดให้แฝด ก่อนจะส่งต่อให้ไวโอล่าไปดูดหน่มน้มกันแบบส่วนตัวในห้องนอนของเธอ

 

 

BamBoObie : อีแมทมันเห็นยังเหอะ มัวแต่เลี้ยงลูกรึเปล่า

 

 

ผมไม่ได้เปิดการแจ้งเตือนข้อความไลน์ไว้ ตอนที่คลิกเข้าไปเช็กจากยอดการแจ้งเตือนก็เลยได้เห็นข้อความจากห้องแชทของเพื่อนที่ส่งมาค้างไว้ที่ประโยคนี้พอดี ผมคลิกเข้าไปดูแล้วย้อนอ่าน แบมส่งลิงก์ข่าวมาให้ในกลุ่มแล้วพวกเพื่อนๆ ก็คุยกันถึงทอปปิคข่าวนั้น แต่ก็ไม่ได้คุยเชิงจริงจังหรือดราม่า ผมคลิกลิงก์นั้น มันเด้งไปที่หน้าเว็บข่าว หัวข้อข่าวเขียนถึงนักแสดงหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นใครผมยังงงอยู่ กำลังสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้มีความสำคัญยังไง เห็นรูปแล้วก็ยังไม่อ๋อด้วย

 

 

‘And who is the actor that she was mention in her discriminate tweet?’ (แล้วใครคือพระเอกคนนั้นที่เธอเหยียดผ่านทวีตกัน)

 

 

ท่อนนึงของหัวข้อข่าวมีประโยคนี้ ผมอ่านไปย่นคิ้วไป ใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เนื้อหาข่าวเขียนถึงนักแสดงหญิงคนนี้และมีภาพแคปทวีตจากทวิตเตอร์ของเธอว่า

 

 

‘นักแสดงชายที่ในชีวิตจริงเป็นเกย์ แต่ต้องมาเล่นเป็นผู้ชายที่อยากจะเอาชะนี เขาอินกับจิ๋มจริงเหรอ ฉันยังรู้สึกไม่อินแทนเลยอะ ฝืนใจเปล่าๆ ป่ะพ่อหนุ่ม?’

 

 

ผมอ่านแล้วแปลในหัวตัวเองก็มีความงงและแอบฉุนเล็กๆ กับประโยคที่นางทวีต คือมันเหยียดเพศชัดเจนมาก แล้วพอดูใบหน้าอันแสนลอยหน้าลอยตาของนางในเว็บข่าวก็ยิ่งรู้สึกยี้นางแปลกๆ คนรีเป็นหมื่น ไลก์อีกสองหมื่น โห อีคนหมื่นพวกนี้คือก็เหยียดเพศแบบเนียนๆ ด้วยสินะ

 

 

MATTLE : ใครอะแก

 

 

ผมกดออกจากเว็บข่าวแล้วพิมพ์เข้าไปในกลุ่ม เปิดห้องแชทค้างไว้งั้นแหละ รออ่านว่านางเป็นใคร ผมเห็นมีคนอ่านแล้วแต่ไม่รู้ว่าใคร ในระหว่างรอข้อความตอบกลับผมก็จิ้มฮ็อตดอกจิ้มซอสมะเขือเทศเข้าปาก รออยู่เกือบห้านาทีแบมก็พิมพ์กลับมายาวพอสมควร

 

 

BamBoObie : นางเป็นนางเอกหน้าใหม่กำลังมาแรง กำลังจะแสดงหนังกับผัวแกไง แกไม่รู้เหรอ

 

 

ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง นึกภาพหน้าของนางจากรูปในเว็บเมื่อกี้ คือรูปที่เอามาลงมันเป็นรูปเดินพรมแดงแล้วนางเชิดหน้ามั่นห้ามั่นสิบมาก

 

 

MATTLE : หึ เพิ่งรู้เนี่ย คนนี้เหรอ วิคเตอร์ก็ยังไม่รู้เลยว่าคนนี้

 

 

เมื่อคืนเขายังหน้ามึนๆ งงๆ อยู่เลยว่านางเอกที่จะต้องเล่นหนังเรื่องใหม่ด้วยเป็นใคร

 

 

MATTLE : แล้วคือนางด่าวิคเตอร์เหรอ ทวีตอันนี้อะ

 

 

ผมหยิบน้ำส้มมาดูดเข้าปาก นั่งมองจอรอแบมพิมพ์กลับมาสักแปบ

 

 

BamBoObie : ฉันคิดว่างั้นนะ เพราะนางกำลังจะเล่นหนังกับวิคเตอร์ คือ วิคเตอร์ก็มีประเด็นเรื่องแกอยู่ นางอาจจะรู้เลยทวีต นางชอบเคลมว่านางเป็นคนตรงๆ แต่ฉันว่านางเป็นคนไม่มีมารยาทมากกว่า

 

 

ผมเห็นด้วยมาก ส่วนตัวผมรำคาญคนที่ชอบพรีเซ้นต์ตัวเองว่าเป็นคนพูดตรงๆ ผมว่าคนพูดตรงคือคนแบบวิคเตอร์ คือไม่ชอบไม่พอใจอะไรที่มันไม่ถูกไม่ควรก็จะบอก แต่ไม่ใช่นึกอยากพูดก็พูดอะไรก็ได้ให้ดูแรงดูแซ่บ หรือนึกอยากแหกหน้าใครก็จะแหกตามใจฉัน แบบนั้นมันคนไร้มารยาทมากกว่าตรงนะ

 

 

Champion : คนตรงหรือคนปากหมาวะแบบนี้

 

 

ผมอมยิ้มกับประโยคของไอ้แชมป์ คิดว่ามันคงโกรธแทนวิคเตอร์นิดๆ นะ เพราะวิคเตอร์ก็เหมือนพี่ชายมันไปแล้ว แถมยังจ่ายค่าจ้างในการติดตามผมให้อย่างงามอีก

 

 

KattyKitty : ฉันเข้าไปอ่านรีพลายทวีตนางมา มีทั้งคนด่าและคนเห็นด้วยกับนาง ประเด็นคือนางโต้รีพลายที่ไม่เห็นด้วยแทบจะทุกอันอะ นางไฟท์เวอร์

 

 

BamBoObie : นางอายุยี่สิบเอ็ด จะว่าเด็กก็ไม่เด็กแล้วนะ แต่อาจจะยังไม่โตมากพอ

 

 

MATTLE : แอดติจูดแบบนี้ยังมีคนอยากร่วมงานด้วยเหรอเนี่ย

 

 

Champion : มึงไม่ต้องไปตอบโต้ล่ะ

 

 

MATTLE : ไม่เอาหรอก กูไม่อยากพิมพ์โต้ เดี๋ยวกูโป๊ะแตกเรื่องแกรมม่า

 

 

BamBoObie : นางก็เพิ่งเริ่มดังได้ไม่นานเอง แต่จะดับตัวเองละ นางสตรองด้วยนะ ไม่ลบทวีตนั้นทิ้ง แต่คิดว่านางคงไม่แคร์ เพราะบ้างนางมีตังค์

 

 

ผมเบะปากย่นคิ้ว งงกับตรรกะในการมีเงินแล้วเข้าวงการการแสดงเนี่ยนะ ซึ่งวงการนี้ไม่ได้เกี่ยวกับมีเงินไม่มีเงินเลยนะ หลายคนเขาก็มีเงินมาก่อน แต่เขาก็ยังอยู่ในวงการได้เพราะเขามีมารยาทและทัศนคติที่ดี

 

 

NineNineNine : งั้นก็กลับบ้านไปนับเงินเถอะค่า

 

 

พวกเพื่อนๆ ผมจะโกรธก็ไม่น่าแปลก เพราะทุกคนรู้จักวิคเตอร์หมด แรกๆ อาจจะเกร็ง แต่มันก็สี่ปีแล้วที่ทุกคนรู้จักวิคเตอร์ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเขาคือนักแสดงผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ตอนนี้เขาคือพี่ชายพวกนั้น

 

 

ผมคุยกับเพื่อนในไลน์อีกสิบนาทีก็ขอตัวไปช่วยไวโอล่าดูแลเด็กๆ ผมไม่ได้คิดมาก แต่ก็ยอมรับว่าไม่พอใจนางเอกคนนั้น อีกประเด็นนึงคือเท่ากับนางแฉวิคเตอร์เลยนะ เหมือนเป็นการทำให้ความไม่ชัดเจนในตัววิคเตอร์ถูกคลี่คลายเพราะทวีตที่นางพิมพ์เลย อาจจะยังมีคนรู้ไม่มากเรื่องที่นางจะเล่นหนังกับวิคเตอร์ แต่ตอนนี้คิดว่าหลายสำนักคงตามสืบและอีกไม่เกินพรุ่งนี้หรอกก็จะรู้แล้วว่าพระเอกคนนั้นคือใคร

 

 

“เป็นอะไรเหรอ” ไวโอล่าถามพลางนั่งตบพุงแฮคเตอร์เบาๆ ส่วนผมก็จับสองแขนอวบๆ ของเฮคเตอร์ชูขึ้นไปมา

 

 

“มีข่าวเกี่ยวกับวิคเตอร์น่ะ”

 

 

“ข่าวไม่ดีเหรอ” ผมสั่นหัว สักพักเปลี่ยนเป็นพยักหน้าแบบงงๆ

 

 

“มันไม่ดีไม่ใช่เพราะเขานะ แต่เป็นคนอื่นโยนขี้ใส่เขางี้อะ…” ผมเล่าให้ไวโอล่าฟังเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงอ้อแอ้ของแฝดที่เหมือนอยากมีส่วนร่วมด้วย

 

 

“…วิคเตอร์น่าจะยังไม่รู้ข่าวนี้ หรือรู้แล้วแต่ไม่สนใจ แต่เซล่าไม่น่าพลาด ป่านนี้คงหาทางจัดการอยู่มั้ง” ยัยป้านั่นรวดเร็วมากเรื่องการปกป้องวิคเตอร์จากข้อครหาต่างๆ อย่างที่ผมคิดในหลายๆ ครั้งแหละว่า ถึงเซล่าจะจู้จี้และมีแอดติจูดที่ต่อต้านความรักของผมกับวิคเตอร์ แต่เรื่องการทำงานเธอยอดเยี่ยมจริงๆ

 

 

“เธอโกรธมั้ย” ผมย่นคิ้วนิดหน่อย ขยับตัวนั่งพิงโซฟาและจับเฮคเตอร์นอนเอนพิงตัวผมอย่างสบายๆ

 

 

“ก็ไม่พอใจนะ แต่ก็ไม่ได้แค้น หรือคิดจะไปตอบโต้ด้วย” ไวโอล่ายิ้ม ดวงตาสีฟ้าของเธอเปล่งประกาย

 

 

“ฉันว่าชีวิตเธอมีความสุขดีแล้ว อย่าไปเอาอะไรที่ทำให้ชีวิตดีๆ เสียหายมาอยู่ในชีวิตเลย มันก็เป็นความคิดของคนหนึ่งคนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้” ผมมองเตาผิงที่มีไฟลุกโชนและพยักหน้าอย่างล่องลอยแล้วหันไปมองเธอพร้อมกับพูดเสียงเบา

 

 

“เหมือนพ่อของเธอ” ไวโอล่ายิ้มขำและพยักหน้า

 

 

“และเราก็ไม่เคยเปลี่ยนความคิดเขาได้ ผู้หญิงคนนั้นก็เช่นกัน ต่อให้เราพยายามพูดยังไง แต่ถ้าเขาเชื่อในความคิดนั้นไปแล้ว เราก็ดึงพวกเขาออกมายาก” ไวโอล่ายิ้มแหยหนึ่งที ผมยิ้มแหยแบบยิงฟันกว้างๆ หนึ่งแว้บ แล้วเราก็หัวเราะ

 

 

“แอ๊ / แอะ” สองแฝดส่งเสียงโต้กัน ผมก้มลงมองเฮคเตอร์ มิชลินเบอร์หนึ่งยิ้มน่ารัก ส่วนมิชลินเบอร์สองเหวี่ยงแขนดีดดิ้นราวกับดีใจ ผมก้มลงหอมแก้มยุ้ยๆ ของเฮคเตอร์ด้วยความมันเขี้ยว

 

 

เราเปิดการ์ตูนให้แฝดดู มินเนี่ยนเป็นตัวละครที่แฝดดูจะชอบมาก เปิดทีไรมองตาแป๋วทุกที แต่ก็ไม่เคยดูจนจบหรอกหลับก่อน ผมนี่นั่งดูจบแทนไปหลายรอบแล้ว ไวโอล่านอนหลับบนโซฟา ผมก็กำลังเคลิ้มๆ จะหลับแต่สักพักวิคเตอร์ก็วิดีโอคอลมาหา ไม่ใช่ว่าผมเล่นตัวไม่คอลหาเขาก่อนนะ แต่ผมกลัวไปรบกวนเวลาทำงานของเขา เราเลยตกลงกันว่าถ้าเขาว่าง แล้วอยากคุยด้วยก็ให้คอลมา

 

 

[ไปไหนกันหมด]

 

 

“สามแม่ลูกหลับอยู่ในห้องแฟมิลี่ ออสตินพาไมเคิลหาไปหาสาว” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้นงงๆ หน้าตาเขาช้ำเลือดช้ำนองจากการแต่งหน้า

 

 

[ไมเคิลเหรอ] ผมพยักหน้าหงึกๆ

 

 

“ไมเคิลไปจีบสาว เขาเจอกันตอนออสตินพาไปในดาวน์ทาวน์” วิคเตอร์ทำหน้าว่าอ้อ ตอนนี้เขาอยู่ท่ามกลางโขดหินโขดดินสีแดง อะไรมันจะกลางดินกินกลางทรายขนาดนั้น ต้องขอบคุณคนที่พกพ็อคเก็ตวายฟายไปนะ

 

 

“วิคเตอร์เห็นข่าวรึยัง”

 

 

[ข่าวที่นางเอกคนนั้นทวีตด่าฉันน่ะเหรอ] ผมพยักหน้าแรงๆ ก็แสดงว่าเขารู้แล้ว แต่ไม่ได้สนใจหรืออาจจะใส่ใจ แต่ก็เป็นไปตามสไตล์วิคเตอร์

 

 

[ฉันไม่ชอบที่บอกว่าฉันไม่อินกับน้องสาวพวกเธอ ฉันอินนะ ไม่ฝืนใจด้วย] ผมเบ้ปากและมองจิกแรงไอ้ผัวตัวดี ไอ้ยักษ์ยิ้มทะเล้น

 

 

“คิดถึงเซบาสเตียนจัง เฮ้อออ” วิคเตอร์หุบยิ้ม หน้าเปลี่ยนเป็นหน้าเหี้ยม ผมยิ้มกรุ้มกริ่มและแกล้งทำลอยหน้าลอยตาให้เขาหมั่นไส้เล่นๆ

 

 

[เดี๋ยวฉันจะโทรบอกออสตินให้ล่ามนายไว้กับเตียงจนกว่าฉันจะกลับ] ผมแลบลิ้น วิคเตอร์ตาโตมองผมเป็นเชิงปราม อีเรื่องนิสัยดุร้าย และหึงแม้กระทั่งพูดเล่นนี่ไม่เคยหายไป แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ลึกๆ ผมก็ชอบโดนเขาหวงแหละ ฮิๆ

 

 

“แล้วเจ๊เซล่าว่ายังไงล่ะ”

 

 

[บอกแค่ให้อยู่นิ่งๆ และควรรับเล่นหนังเรื่องนั้น]

 

 

“ผมยังไม่ได้อ่านบทเลย”

 

 

[เซล่าบอกว่าส่งให้นายแล้ว และฝากมาบอกว่าควรเคาะให้เล่น] ผมอ้าปากหวอหน้าตาตะลึงเล็กๆ

 

 

“แหม พูดขนาดนี้ก็รับเล่นเถอะ”

 

 

[ไปอ่านก่อน เดี๋ยวมาอ่านทีหลังแล้วไม่ถูกใจตัวเองก็คิดมากอีก] ผมบุ้ยปากไปมา หน้าตางอง้ำเล็กๆ แต่ไม่ได้งอนอะไร ทำไปงั้นอยากให้ผัวง้อ

 

 

“แล้วจะเล่นกับนางเอกคนนี้จริงเหรอ”

 

 

[ไม่รู้ ถ้าเล่นด้วยกันก็ดี จะได้รู้ว่าตอนเจอหน้าฉันจะว่ายังไงบ้าง ถ้าไม่ชอบฉัน ฉันจะอยู่ไม่ให้ชอบต่อไป] อะ กวนเท้าที่แท้ทรู แต่ก็ชวนขำนะ คือเรื่องทำมึน ทำเฉยกับคนไม่ชอบตัวเอง วิคเตอร์ทำมานานมากจนเป็นเรื่องชิลและเรื่องถนัดไปแล้ว เขาไม่ได้ฝืนใจอะไรเลย คนไหนไม่ชอบเขา คนนั้นอะจะแย่เอง เพราะวิคเตอร์ไม่โต้ตอบ ไม่ชอบกลับ แต่ทำเฉย ทำนิ่ง ไม่สุงสิงด้วยจนคนที่ไม่ชอบเขาดิ้นเร่าๆ เผาใจตัวเอง

 

 

“ยักษ์เลวมาก”

 

 

[เลวแล้วรักมั้ย] ผมพยักหน้าและคลี่ยิ้มกว้าง ไอ้ยักษ์ขำเบาๆ ผมส่งจุ๊บให้เขาหนึ่งที อยู่แบบวิคเตอร์ก็สบายใจดีนะ ไม่คิด ไม่เดือด ไม่ร้อนอะไร ไม่ใส่ใจความคิดคนอื่น ใครอยากคิดกับตัวเองยังไงก็แล้วแต่ เขาไม่เคยไปบังคับความคิดคนพวกนั้น เขาเป็นพวกสายชิล มีไม่ชิลครั้งนึงก็ตอนที่จะฟ้องร้องพวกนักเลงคีย์บอร์ดในไทยที่มาด่าผมตอนที่มีกระแสข่าวเรื่องเขากับผมแรกๆ แบบแรงๆ แต่อันนั้นเป็นเพราะเขาไม่เคยเจอเกรียนคีย์บอร์ดแห่งไทยแลนด์มากกว่า เขาเลยอาจไม่ชิน ไม่คุ้นเคยกับการที่มีคนมาขุดคุ้ยเรื่องผมและขุดรูปผมมาคอมเม้น

 

 

“ผมไม่ได้เกลียดเธอนะ แต่ถ้าได้ร่วมงานกันจริงฝากหักนิ้วเธอข้างนึงสิ” ผมพูดเล่น แต่วิคเตอร์จะคิดจริงจังมั้ย ไม่ใช่ไปหักนิ้วยัยคนนั้นขึ้นมานะ

 

 

[ต่อให้ตัดนิ้วพวกนั้นทิ้งไม่ให้มันพิมพ์ได้ มันก็มีปากในการสั่งพิมพ์ เดี๋ยวนี้แม่งมีเทคโนโลยีล้ำไปขนาดนั้นแล้ว มันไม่เกี่ยวกับนิ้วหรือกับปาก มันอยู่ที่การหล่อหลอมจิตใจของคนๆ นั้นว่าผ่านความเลวร้ายอะไรมาบ้าง] โอเค ไม่คิดทำจริง และเหมือนจะพูดธรรมดาๆ แต่ก็เป็นการด่าได้ในขณะเดียวกัน

 

 

ถึงจะตัดหัวไป แต่ความเชื่อในแบบของแต่ละคนก็จะยังคงอยู่อยู่ดีแหละนะ

 

 

 



จากการทวีตของนักแสดงหญิงคนนั้น มันกลายเป็นข่าวคึกโครมในวงการการแสดงของฝั่งฮอลลีวูดกับอังกฤษและเกือบจะทั่วโลก ทุกคนที่ตามข่าวนี้ก็ได้รู้ว่าพระเอกคนนั้นที่เธอหมายถึงคือวิคเตอร์ เธอถูกปลดออกจากภาพยนตร์เรื่องนั้นเพราะผู้กำกับหญิงและควบตำแหน่งผู้สร้างเป็นเกย์เช่นกัน วิคเตอร์ไม่ได้ออกมาตอบโต้ เพราะแค่เพียงคำพูดของผู้กำกับที่บอกว่า

 

 

‘ฉันคิดว่าเราควรหานักแสดงใหม่ในทันทีเมื่อเธอบอกว่าไม่อินแทนพระเอก เพราะฉันรู้สึกว่าแค่นี้ก็ไม่มีเคมีระหว่างเขาทั้งสองคนแล้ว เราควรให้โอกาสเธอในการไปอินกับเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องของฉัน’

 

 

ก็เป็นการตอกหน้าเธอกลับแรงพอสมควร แถมยังมีเพื่อนนักแสดงของวิคเตอร์หรือคนที่เคยร่วมงานกับเขาออกมาช่วยพูดปกป้องเขาอีกมากมาย วิคเตอร์ก็ชิลไป แถมยังได้โฆษณาแบรนด์เสื้อผ้าตัวใหม่อีกด้วย และมีอีกหลายงานที่ติดต่อเขามา ตบหน้ายัยนางเอกคนนั้นปั๊วๆ นางอาจจะไม่แคร์และมีงานอื่นให้ทำอีก แต่ก็หลายงานแหละที่ไม่คิดจ้างนาง มันไม่ใช่การเปิดตัวเขาก็จริง และเขาก็ยังไม่ได้มีการเปิดตัวใดๆ แต่การที่วิคเตอร์ถูกเหยียดด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนี้ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่อีกหลายๆ คนจะยอมรับได้ อย่างน้อยเขาก็มีเครดิตการันตีว่าเป็นขวัญใจของคนทั่วโลกจากบทบาทภาพยนตร์ไซไฟที่เป็นสัญลักษณ์ของเขาไปแล้ว

 

 

ผมก็อยากจะคิดให้มากแบบที่เคยเป็น แต่ผมก็จะต้องคิดมากแบบนี้อีกหลายหนเพราะหลายคนแน่นอน เพราะความคิดแนวเหยียดเพศแบบนี้ มันไม่ได้ฝังอยู่แค่ในตัวคุณลุค ฌอณ (คนเก่า) หรือผู้หญิงคนนั้น มันยังมีอีกหลายล้านคนที่คิดกับความรักของเพศอย่างผมในทางที่ไม่ดี

 

 

ตราบใดที่ยังใช้ชีวิตด้วยกันอยู่บนโลกใบนี้ ผมก็ยังต้องเจอกับความคิดพวกนี้ไปเรื่อยๆ เพราะทุกคนมองโลกในมุมมองตัวเอง เป็นเราเองที่ต้องเปลี่ยนความคิดเพื่อให้เราอยู่อย่างมีความสุข

 

 

ตีมึนแบบวิคเตอร์ก็น่าจะเข้าท่ามากกว่านะ

 

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


               เรื่องพัฒนาการของแฝดนี่เป็นอะไรที่ตอมกังวลใจมากว่าเขียนถูช่วงเดือนหรือยัง ถามเพื่อนที่มีลูกก็ ต่างคนต่างสไตล์การเลี้ยง และต่างพัฒนาการกันไป ไหนจะตำราตามหนังสือและอินเตอร์เน็ต ตอมเลยเขียนให้แฝดมีพัฒนาการคืบหน้าไปในแบบที่เปอร์เซ็นต์สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้จะไปขัดกับความเป็นจริงของเด็กวัยนี้บ้านไหนบ้างรึเปล่า แต่เพื่อนตอมคนนึง ตอนที่ตอมเขียนตอนนี้ ลูกนางอายุเท่าแฝดเลยค่ะ นางก็บอกว่าพัฒนาการนี้เด็กก็มีได้ แต่ละคนมีไม่เท่ากันหรอก ตอมเลย เออ เอางี้แหละ แฝดมันเด็กฉลาด ต้องมาฟาดกับลุงยักษ์ จะพัฒนาช้าไม่ได้ 555555

               ตอนนี้เป็นต้นไป จะอัปแบบเต็ม 100% ทุกตอนไปยันจบแล้วค่ะ ยังไงอ่านแล้วก็คอมเม้นเป็นฟีดแบ็คให้กำลังใจกันหน่อยแล้วกันเนอะ

               ใครที่พรีฯ หนังสือไว้ ดูการอัปเดตได้ที่เพจตลอดๆ เลยนะคะ ตอนนี้หนังสืออยู่ในกระบวนการการพิมพ์นะคะ ใกล้จิเสร็จแล้ว เพิ่งอัปเดตที่เพจไปเด้อ


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2266 เมื่อ02-05-2018 21:45:27 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Wipers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2267 เมื่อ02-05-2018 22:46:10 »

ใช้ชีวิตแบบ victor ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่สน ไม่แคร์แล้วแต่มันจะเป็นยังไงปล่อยใหเรื่องของมันผ่านไป อยู่นิ่งๆก็พอไม่ต้องไปดิ้นเร่าๆให้เสียพลังงาน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2268 เมื่อ03-05-2018 00:32:39 »

คิดแบบเตอร์ได้ก็ดีนะ ใครเกลียดก็ไม่ต้องสนใจ หรือเกลียดนักใช่ไหม งั้นฉันจะอยู่ใกล้ๆ ให้ดิ้นตายไปเลย 55555555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2269 เมื่อ03-05-2018 01:54:39 »

เตอร์ ฉลาดมาก ๆ เลย อยู่เฉย ๆ ดีแล้ว เด๋วเรื่องก็จบไปเอง  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
« ตอบ #2269 เมื่อ: 03-05-2018 01:54:39 »





ออฟไลน์ Pinkping

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2270 เมื่อ03-05-2018 05:52:03 »

กำลังไปได้สวย อยากเห็นวิคเตอร์​กับมาหาแมทแล้วสิ

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2271 เมื่อ03-05-2018 07:36:53 »

 :laugh: :laugh: สะใจยัยนางเอกดาวร่วงจริงๆ ใช้ชีวิตโนสนโนแคร์แบบอิยักษ์ก็ดีนะแมท


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2272 เมื่อ03-05-2018 10:46:30 »

คิดแบบเตอร์ได้ก็ดีนะ ใครเกลียดก็ไม่ต้องสนใจ หรือเกลียดนักใช่ไหม งั้นฉันจะอยู่ใกล้ๆ ให้ดิ้นตายไปเลย 55555555

เตอร์ ตีมึนดี เก่งมากกกกกกกกก
 :angry2:   แต่ก็เหมือนนางพูดท้าทายเตอร์แฝงอยู่นะ คือแอบสนเตอร์น่ะสิ 
ชอบแฝด   :mew1: :mew1: :mew1:
ยัหษ์  แมท    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2273 เมื่อ03-05-2018 12:02:47 »

อิวิคกับนุ้งแมทสตรองกันจริงๆ สู้ๆ ต่อไป เอาใจช่วยทั้งแมททั้งอิวิคนะค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.ร27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2274 เมื่อ03-05-2018 22:43:53 »

รุ้สึกถึงความอบอุ่นในครอบครัวเลย จากนี้ไปจะมีความวุ่นวายของแฝดเพิ่มมาแน่ๆ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2275 เมื่อ04-05-2018 14:41:01 »

นี่รอความแสบของแฝดมาสู้กับลุงยักษ์ อยากจะให้ถึงวันที่ลุงเหวอ  :katai2-1:  :katai2-1: และก็แอบสมน้ำหน้ายัยนางเอกสมองบวม น่าจะโดนแบนในวงการไปเลย  :beat:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.27 100% :02.05.61:
«ตอบ #2276 เมื่อ04-05-2018 20:35:14 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.28 100% :05.05.61:
«ตอบ #2277 เมื่อ05-05-2018 21:09:31 »


Yours and Mine EP.28 :: Cockcolate. (ค็อกโกแล็ต) [100%]



กลางดึกคืนหนึ่งผมตื่นขึ้นมาดูว่าแฝดอึหรือฉี่โดยที่ยังหลับอยู่หรือเปล่า กลัวเขาจะไม่สบายตัว แต่สองมิชลินนอนหลับปุ๋ยแก้มยุ้ยอย่างสบายใจ ไม่มีอึหรือฉี่ออกมาเลอะเทอะ ผมลุกออกจากคอกกันกระแทกอย่างระมัดระวังเพื่อไปเข้าห้องน้ำ พอฉี่เสร็จผมก็เดินกลับมาจะเข้าคอก แต่ได้ยินเสียงกุกกักๆ ด้านนอกห้องเลยเดินไปเปิดประตูแบบที่ไม่คิดระวังระแวงใดๆ ผมเจอไมเคิลกำลังเดินดมพื้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันไปหยุดตรงหน้าต่างบานหนึ่งฝั่งสนามหญ้า เจ้าโกลเด้นท์กระโดดขึ้นเกาะขอบหน้าต่างไม้ก่อนจะเห่าเสียงดัง

 

 

“โฮ่ง! โฮ่งๆๆๆ” ผมย่นคิ้วแล้วเดินไปหามัน อาศัยแสงจันทร์บนท้องฟ้าที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างในการมองฝ่าความมืด ผมไปยืนตรงที่ไมเคิลมันเห่า มองออกไปนอกสนามหญ้าของบ้านและเห็นสนามเทนนิสที่เปิดไฟในสนามไว้หนึ่งดวงเล็กๆ ผมก้มลงมองไมเคิลด้วยความงง แต่พอเงยหน้ามองขึ้นอีกครั้งผมก็ต้องเบิกตากว้างเพราะเห็นคนวิ่งตัดสนามหญ้าผ่านไปทางรั้วหน้าบ้าน ผมรีบทรุดตัวลงนั่งด้วยอาการใจเต้นตุ้มต่อม

 

 

“ชู่วๆ ไมเคิล มานี่” ผมพยายามดึงไมเคิลลงมา แต่มันก็ดิ้นขลุกขลักๆ พยายามจะตะกุยตะกายขึ้นไปเกาะหน้าต่างเหมือนเดิม

 

 

แปะ

 

 

เฮือก!

 

 

ผมสะดุ้งตกใจและใจก็หล่นว้าบตอนที่ไหล่โดนแตะเบาๆ พอหันไปมองก็เจอออสตินกำลังโน้มตัวลงมาพร้อมกับยกมือขึ้นทำท่าบอกให้เงียบ ผมพ่นลมหายใจด้วยความโล่งใจที่เป็นเขา พยายามดึงไมเคิลให้ลงมานอนบนตักด้วยกันจนได้

 

 

 “โจรเหรอ” ผมกระซิบถามออสตินในความเงียบ ออสตินนิ่งไม่ตอบ เขายืนแนบตัวกับกำแพงและเพ่งมองออกไปนอกหน้าต่างฝั่งรั้วหน้าบ้านอยู่พักใหญ่ หัวใจผมเต้นตุบๆ อยู่ในความมืด นึกเป็นห่วงแฝดขึ้นมา เมื่อกี้ไม่ได้ล็อคห้องนอนก่อนออกมาด้วย

 

 

“ผมจะออกไปเดินดูรอบบ้าน คุณแมทกลับเข้าไปอยู่ในห้อง ล็อคห้องให้เรียบร้อยนะครับ” ผมพยักหน้ารัวๆ ดึงให้ไมเคิลลุกออกจากตัก มันลุกเดินตามออสตินไป ผมลุกขึ้นเดินกลับไปทางห้องนอน พอเข้าไปในห้อง ผมก็เดินไปดูแฝดที่ยังคงหลับปุ๋ย แล้วก็ตรวจเช็กทุกซอกทุกมุมของห้องแม้กระทั้งเพดานก็มอง พอแน่ใจว่าปลอดภัยก็หยิบกุญแจห้องติดมือมา จัดการล็อคห้องและปิดประตูอย่างเบามือ ผมเดินไปตรงฝั่งห้องนอนของไวโอล่า ตอนที่กำลังจะเคาะประตูห้อง ผมก็ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น

 

 

“ไวโอ…!” ผมยกมือปิดปากอย่างเร็วด้วยความตกใจ เพราะนึกขึ้นได้ว่าถ้าเกิดไอ้โจรเมื่อกี้ที่ผมเห็นกำลังอยู่ในห้องเธอล่ะ ถ้ามันได้ยินเสียงผมแล้วทำร้ายไวโอล่า มันจะยิ่งแย่ ผมรู้สึกจะเสียสติอยู่ตรงหน้าประตู สมองสั่งให้ก้าวเท้าเดินออกไปจากหน้าห้องนอนของเธออย่างเร็ว เดินสับๆ ยิ่งกว่านางแบบรันเวย์ไปหยิบมีดปลายแหลมในครัวติดมือมาและกลับไปที่หน้าห้องเธอด้วยความเร็วพอๆ กับแสง ผมถอยหลังติดกำแพง เตรียมตัวและเตรียมใจในการถีบประตูไม้เต็มตีน แม้จะไม่แน่ใจว่าแรงของตัวเองจะสามารถพังเข้าไปได้รึไม่ เพราะประตูบ้านนี้แข็งแรงทุกบานจริงๆ

 

 

ปัง!

 

 

แล้วก็ต้องเฟลเมื่อประตูไม่กระดิกเลย แค่ส่งเสียงตึงและสะเทือนเล็กน้อยเท่านั้น แต่ที่สะเทือนแรงจนเจ็บคืนตีนผมนี่แหละ ผมหน้าแหยและกระโดดขาซ้ายขาเดียวเร่าๆ ด้วยความเจ็บเท้าข้างขวา ทำแบบนี้ไอ้โจรรู้ตัวแล้วละ กลายเป็นว่าผมทำไวโอล่าซวยหนักกว่าเดิมอีก จะให้รอออสตินก็ไม่ไหวอีก เขาก็กำลังสำรวจรอบบ้านอยู่

 

 

แกรก~

 

 

“แมท ทำอะไรน่ะ…” ผมเงยหน้าแหยของตัวเองขึ้นมองไวโอล่าที่ออกมายืนมองผมงงๆ สายตาเธอเลื่อนไปมองมีดในมือผมแล้วก็เบิกตากว้างตกใจ

 

 

“…เอามีดมาทำไม” ผมลดมีลดลงข้างตัว

 

 

“มีใครอยู่ในห้องเธอรึเปล่า” ไวโอล่าทำหน้างง แล้วหันกลับไปมองในห้องนอนตัวเองสักแปบก่อนจะหันกลับมาสั่นหัวกับผมแบบไม่เข้าใจ

 

 

“ไม่มี จะมีใครได้ยังไง เธอทำให้ฉันกลัวนะเนี่ย”

 

 

“ขอโทษที พอดี เอ่อ…” ผมคิดว่าถ้าเธอกลัวอยู่ก็ยังไม่น่าจะพูดว่าเมื่อกี้ผมเพิ่งเห็นคนแวะมาวิ่งเล่นในสนามหญ้าของบ้านเรา พอคิดได้แบบนี้ก็รู้สึกว่าเราใจดีไปสินะที่ไม่ติดลวดหนามตามรั้วของบ้าน 

 

 

“…เมื่อกี้ฉันได้ยินเธอร้องไห้” ไวโอล่าชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะตีหน้าเรียบเฉย

 

 

“ฉัน ฉัน… แค่ฝันร้ายน่ะ” ผมย่นคิ้ว รู้สึงสงสัย (เสือก) ว่าฝันร้ายอะไรทำไมถึงกับร้องไห้ หรือเธอจะเหงาอยากนอนกับลูกรึเปล่า

 

 

“อยากเอาแฝดมานอนด้วยมั้ย เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น” เธอสั่นหัวรัวๆ

 

 

“ไม่ ไม่ ให้แฝดนอนกับเธอแหละ ฉัน… ฉันกลัวเหนื่อยน่ะ” ผมรู้สึกงงๆ กับท่าทีกระอักกระอ่วนของเธอ แต่พอเห็นว่าเธอมีท่าทีไม่ผ่อนคลายเท่าไหร่ ผมเลยไม่อยากเซ้าซี้หรือจี้ถามต่อ

 

 

“สรุปเธอโอเคนะ” ไวโอล่ายิ้มและพยักหน้ารัวๆ

 

 

“เธอไปนอนเถอะ เดี๋ยวแฝดไม่เห็นแม่ทูลหัวจะร้องไห้” ผมยิ้มบางแล้วพยักหน้าหนึ่งที ก่อนจะเดินออกมาจากหน้าห้องนอนของไวโอล่า ได้ยินเสียงปิดประตูตามหลัง ผมเดินเอามีดไปเก็บในครัวใหญ่ ตอนที่เดินออกมากำลังจะกลับห้องนอน ผมก็เจอกับออสตินที่เดินกลับเข้ามาพร้อมไมเคิลพอดี

 

 

“อ้าว คุณแมท ออกมาทำไม”

 

 

“ผมแวะไปดูไวโอล่ามาน่ะ เป็นไงมั่ง” แล้วเราก็ไม่เปิดไฟคุยกันเนอะ ดีนะวันนี้พระจันทร์ส่องแสงสว่างมากพอ

 

 

“มันคงหนีไปไกลแล้วละครับ”

 

 

“แล้วเราจะรู้ได้รึเปล่าว่ามันเป็นใคร”

 

 

“ผมจะลองสืบจากกล้องวงจรปิดตามถนนของหมู่บ้านดูก่อน เพราะบ้านเรายังไม่ได้ติดกล้องวงจร อาจจะได้หรืออาจจะไม่ ผมก็ยังตอบไม่ได้” ผมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ว่ากันตามตรงเราก็เป็นสมาชิกใหม่ของหมู่บ้านนี้ เราไม่รู้เลยว่าอะไรที่เราต้องการมันจะตามหายากหรือง่าย

 

 

“ตอนเช้าค่อยดูอีกทีว่ามีอะไรหายหรือเสียหายมั้ย”

 

 

“เท่าที่ผมเช็กรอบบ้านเมื่อกี้ มีแค่กระถางต้นไม้ใกล้ห้องนอนไวโอล่าแตกไปสองอัน” ผมตาโตด้วยความตกใจ

 

 

“มันจงใจเข้าหาไวโอล่าเหรอ”

 

 

“อาจเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ผมคิดว่ามันวนหาเป้าหมายมันมากกว่า ซึ่งเราไม่รู้ว่าเป้าหมายของมันคือมาทำอะไร” ผมหน้าเสีย รู้สึกใจไม่ดีเลย

 

 

“น่ากลัวอ้ะ ต้องอยู่แบบระแวงงี้เหรอ”

 

 

“ผมขอคุยกับคนแถวนี้ก่อนว่ามีประวัติเรื่องโจรรึเปล่า เราอาจจะได้อะไรมากขึ้น” ผมพยักหน้าน้อยๆ รู้สึกไม่ดีเลยที่ต้องอยู่แบบที่รู้ทั้งรู้ว่ามีคนพยายามจะทำร้ายบ้านเรา แต่ไม่รู้ว่าไอ้คนที่จะทำร้ายนั้นคือใคร เหมือนเราอยู่ในที่สว่างแล้วมันก็อยู่ในที่มืด ไม่ยุติธรรมเลยอะ อยากเอาสปอร์ตไลท์ส่องตามันให้บอดไปเลยจริงๆ

 

 

“เดี๋ยวผมบอกเรื่องนี้กับวิคเตอร์เองแล้วกันนะ” ออสตินพยักหน้านิ่ง คนนี้ก็นิ่งทุกสถานการณ์จริงๆ แล้วก็กล๊ากล้านะ ออกไปเดินสำรวจข้างนอกคนเดียวกับหมาหนึ่งตัว เกิดมันพาพวกมาด้วยก็สนุกเลยทีนี้

 

 

“ไปนอนเถอะครับ” ผมพยักหน้าแบบนอยด์ๆ แล้วเดินกลับไปทางห้องนอนตัวเองด้วยความรู้สึกทั้งกลัว ทั้งระแวงและแปลกประหลาด

 

 

คือเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็คิดจะมีคนมาบุกรุกมาปล้นแล้วเรอะ ทำไมเล็งบ้านนี้อะ หรือเพราะรู้ว่าบ้านนี้เป็นบ้านใครงี้เหรอ เลยคิดว่าถ้าปล้นบ้านนี้น่าจะได้อะไรมากกว่าบ้านอื่น ผมกำลังพยายามไม่คิดไปถึงสิ่งที่เรามองไม่เห็น มันไม่ควรเป็นเช่นนั้น เพราะบ้านหลังนี้ซื้อมาแพงนะโว้ย จะมาหลอกหลอนเพื่อไล่ออกไปเหรอ แต่พูดถึงตามความเป็นจริงมันก็เป็นคนนี่แหละ เพราะนอนหลับสบาย ไร้สิ่งลี้ลับใดๆ มากวนตัวกวนใจสองเดือนแล้ว

 

 

แต่ถ้าถามว่าคนน่ากลัวกว่าผีมั้ย สำหรับผมบอกเลยว่าไม่ น่ากลัวพอกัน สุภาษิตที่ว่าคนน่ากลัวกว่าผีผมไม่ค่อยอิน เพราะผมกลัวหมด ทั้งผี ทั้งคนเลว

 

 

 



Christmas time

 

“แออออ!”

           

 

“อ๊า แอะๆๆ” เสียงแฝดหัวเราะสนุกสนานกับการที่คุณอาออสตินผู้แข็งแรงอุ้มด้วยแขนทั้งสองข้างและพาบินรอบแฟมิลี่รูม และมีไมเคิลคอยเห่าเป็นอังกอร์อีกทีในขณะที่ผม ไวโอล่าและไดอาน่าแฟนออสตินกำลังช่วยกันจัดต้นคริสต์มาส (ตัดมาจากข้างบ้าน) ตรงมุมห้องใกล้กับเตาผิงเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน

           

 

“วิคเตอร์กลับวันไหนเหรอ” ไดอาน่าถามพลางแขวนแท่งน้ำแข็งเอลซ่าบนกิ่งต้นคริสต์มาส ผมมองฟอกซ์ที่กำลังนั่งมองเปลวไฟในเตาผิงราวกับมันเป็นอาหารและพร้อมจะพุ่งเข้าไปกินตลอดเวลา

           

 

“เขาบอกว่าวันที่ 21 ครับ” ผมหยิบผ้าพันคอสีขาวแดงมาพันคอให้กับกวางเรนเดียร์ที่ทำจากท่อนไม้แล้วน้ำมาประกอบกัน ซึ่งผมนั่งประกอบอยู่ครึ่งชั่วโมงได้ แต่ออสตินก็ทำลายความพยายามของผมด้วยการบอกว่าหลังจากหมดเทศกาล  มันก็จะไปอยู่ในเตาผิง

           

 

“เธอสองคนไม่ได้เจอกันนานเท่าไหร่แล้วนะ สองเดือนรึเปล่า” ผมคลี่ยิ้มแล้วสั่นหัวเบาๆ

           

 

“ยังไม่ถึงหรอกครับ หนึ่งเดือนกับอีกสองอาทิตย์” ไดอาน่าอ้าปากร้องอ๋า หน้าตาเธอดูแปลกใจและสนอกสนใจในคราวเดียวกัน

           

 

“คิดถึงกันแย่เลย”

           

 

“ก็มีบ้างครับ แต่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียวที่เราห่างกันแบบนี้” ผมว่าการห่างกันมันเป็นเรื่องที่ดีอย่างนึงสำหรับคู่เรา เพราะบางทีเราสองคนตัวติดกันเกินไป ผมกลัวจะเกิดความเคยชิน จนมองมองข้ามอะไรหลายๆ อย่างและเกิดความหน่ายต่อกัน จริงๆ มันก็แล้วแต่คนแล้วแต่คู่แหละ อย่างผมกับวิคเตอร์พอได้กลับมาเจอกันหลังจากห่างกันไป มันก็ทำให้ใจเต้นดีนะถึงแม้ว่าเราจะวิดีโอคุยกันตลอดๆ ก็ตาม ให้อารมณ์เหมือนเราได้เจอตัวจริงของดาราหลังจากมองผ่านจอมาตลอดงี้อะ

           

 

“ฉันดีใจนะที่พวกเธอย้ายมาอยู่ที่นี่” ไดอาน่ายิ้มและเหลือบมองไปทางออสตินที่กำลังนั่งหยอกล้อกับแฝดอยู่บนโซฟาหลังจากพาบินมาหลายนาทีแล้ว

           

 

ผมยิ้มและพยักหน้า ไวโอล่าอมยิ้ม ผมพอจะเข้าใจไดอาน่า ช่วงที่ออสตินต้องอยู่นิวยอร์กกับแอลเอ นั่นเท่ากับว่าทั้งสองคนต้องห่างกัน แล้วออสตินเป็นพวกเงียบ ไม่ค่อยพูดหรือแสดงความรู้สึก มันก็คงยิ่งทำให้ไดอาน่ารู้สึกคิดถึงเขามากกว่าเดิม ใช่แต่ผมนะที่ต้องทำเรื่องย้ายมาอยู่นี่ ออสตินเองก็ต้องทำเช่นกัน แต่ยังไม่ยุ่งยากเท่าผมหรอก ก็มาในฐานะลูกจ้างของวิคเตอร์ แต่ถ้าเขาจะแต่งงานกับไดอาน่าจริงๆ ก็คงต้องมีการทำเรื่องย้ายถิ่นฐานมาที่นี่

           

 

ติ๊งหน่อง~

           

 

“ไม่เป็นไรออสติน อยู่กับแฝดไปเถอะ” บอดี้การ์ดหัวเกรียนพยักหน้า นั่งอุ้มแฝดไว้บนตักตามเดิม ผมลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง กระชับเสื้อกันหนาวสีแดงเลือดหมูตัวหนาของพ่อที่ขโมยมาจากเมืองไทย มันใส่ดีจริงๆ นะ ผมคิดว่าพ่อไม่น่าจะมีโอกาสได้ใส่บ่อยเท่าผมเลยหยิบติดมือมา ซึ่งพ่อเพิ่งรู้ว่าเสื้อหายไปเมื่อไม่กี่วันนี่เอง

 

 

ผมเดินผ่านเค้าน์เตอร์บาร์กับโถงนั่งเล่นนอนเล่นกลางบ้านออกไปทางด้านหน้า พยายามมองผ่านกระจกตรงบานประตูว่าใครมา แต่ก็โดนพวงมาลัยวันคริสต์มาสอันใหญ่บังไว้เลยมองไม่ถนัด แต่เห็นแล้วละว่ามีคนยืนอยู่ท่ามกลางหิมะโปรยปรายอ่อนๆ

           

 

“Hi…” ผมดึงประตูสีน้ำตาลแก่เข้ามาในบ้าน ลมหนาวที่พัดเข้ามาเล่นเอาสั่นสะท้าน ผู้ชายตัวสูงใหญ่ในโค้ทสีดำหันมาพร้อมกับเปิดฮู้ดออกจากหัว ผมอ้าปากค้าง หน้าตาสับสนปนงง

           

 

“…อ้าว”

           

 

จุ๊บ~ จุ๊บ~

           

 

ผมกะพริบตางงๆ หลังจากโดนจูบที่ปากและหน้าผากไปอย่างละที วิคเตอร์ยกกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายข้างและลากกระเป๋าเดินทางสีดำใบขนาดกลางเข้ามาด้านในพร้อมกับปิดประตูบ้านให้เรียบร้อย ผมมองเขาตั้งแต่หัวจรดตัว ผมเขายาวเท่าเดิม หนวดเคราเฟิ้มน้อยลงคงเพราะต้องตัดแต่งให้เข้ากับไทม์ไลน์ของหนัง เกล็ดหิมะติดตามเสื้อสีดำของเขาไปทั้งตัว วิคเตอร์คลี่ยิ้มขำตอนที่หันมาหาผม

           

 

“What?”

           

 

“Hey, handsome. (ไง พ่อรูปหล่อ)” ผมพูดด้วยความรู้สึกล่องลอยหน่อยๆ แต่ก็คลี่ยิ้มดีใจที่ได้เจอเขา วิคเตอร์ยิ้มกว้างจนร่องแก้มขึ้นและเดินเข้ามาหอมแก้มผมข้างละที ผมมองใบหน้าหล่อคมเข้มที่ตอนนี้เรียกได้ว่าเข้มจริงๆ ผิวเขาเข้มขึ้นเยอะมาก จากผิวผงโกโก้ผสมนมจืดของเขากลายเป็นโกโก้ครั้นชระเบิดบุ้งในทุ่งขาวสาลี

           

 

“Hey, Mattle. (ไง แมทน้อย)” ผมยิ้มกับเสียงทุ้มนุ่มหูนั้น ถึงจะได้ยินแทบทุกวันในช่วงห่างกันผ่านวิดีโอ แต่การได้ยินต่อหน้าตัวเองมันรู้สึกอิ่มใจมากกว่า

           

 

“ต้องกลับอาทิตย์หน้าไม่ใช่เหรอ” วิคเตอร์ยิ้มพลางเสยผมขึ้น

 

 

อื้อออ ช็อตเสยผมคือดีย์ย์ย์

           

 

“ฉันหนีกลับมาก่อน” ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

           

 

“จริงรึเปล่าเนี่ย?!” วิคเตอร์ยิ้มขำ

           

 

“ถ้าจริง นายจะโทรไปฟ้องที่กองถ่ายหรือเซล่ารึเปล่า” ผมกะพริบตาหน้านิ่งสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างและเดินเข้าไปกอดเขา

           

 

“ไม่!” วิคเตอร์ยกสองแขนกอดตอบแล้วก้มลงหอมกลางกระหม่อมผมหนึ่งที ผมแหงนหน้าขึ้นแล้วยื่นหน้าไปจุ๊บใต้คางเขาหนึ่งจุ๊บ

           

 

“ดูในกล้องก็ไม่เท่าไหร่ ทำไมตัวจริงตั้งตัวเป็นหัวหน้าทีมไอ้ลูกหมูสองตัวนั่นล่ะ” ผมย่นจูกและทำหน้างอ วิคเตอร์ยิ้มขำ ผมไม่ได้เสียเซลฟ์ที่เขาทักว่าผมอ้วนขึ้นหรอก เพราะผมยอมรับความจริงกับตัวเองตั้งแต่ส่องกระจกแล้ว แต่มันก็แค่อวบเหอะ!

           

 

“แหม วันๆ ผมก็เลี้ยงแต่แฝด พอแฝดหลับก็กิน ถ้าผมทำงานก็คง…”

           

 

“…ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย อยากกินก็กินไปสิ” ผมยิ้มเบ้ปากอย่างมีชัย ไม่ได้จะเอามาข่มมาขู่เขาหรอกเรื่องนี้ ก็หาเรื่องพูดไปงั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะปล่อยตัวให้อ้วนไปมากกว่านี้เพียงเพราะเขาบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ต้องดูแลตัวเอง ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องดูแลตัวเองให้สวย แต่ผมก็ไม่คิดจะปล่อยให้ตัวเองอ้วนเป็นถังแก๊ซ

           

 

“แต่ต้องไม่กินจนแน่นไปนะ เดี๋ยวยักษ์น้อยมุดบ้านไม่ได้เพราะหน้าบ้านเนื้อเบียด” ผมหัวเราะกับมุกตลกของเขาด้วยความอารมณ์ดี วิคเตอร์ยิ้มขำ เรากอดกันอีกพักก่อนที่ผมจะผละออกจากตัวเขาและช่วยเขาหอบกระเป๋าเป้ไปวางตรงห้องโถงของบ้านทั้งที่ยังหัวเราะเบาๆ กับมุกตลกของเขาอยู่

           

 

“แล้วมายังไงอะ”

           

 

“อูเบอร์ ให้สเตจัดการจองไว้ให้”

           

 

“ออสตินต้องรู้สึกไม่ดีแน่ๆ” พ่อบอดี้การ์ดเขาจะรู้สึกว่าตัวเองทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ ถึงแม้วิคเตอร์จะชิลและบอกไม่เป็นไร แต่ผมเข้าใจออสตินมาก เพราะตอนที่ผมทำงาน ถ้าอะไรที่มันคือหน้าที่เราแต่เจ้านายทำเสร็จไปแล้วด้วยตัวเอง มันจะรู้สึกว่าเราขาดๆ อย่างบอกไม่ถูก

           

 

“อยู่ไหนกันหมดล่ะ”

           

 

“แฟมิลี่รูม จัดต้นคริสต์มาสกันอยู่”

           

 

“ไม่มาทำที่ห้องโถงบ้างเหรอ”

           

 

“มาสิ แต่ทำที่ห้องนั้นเสร็จก่อนไง” ตั้งใจไว้ว่าจะตั้งต้นคริสต์มาสไว้สี่จุดของบ้าน คือห้องแฟมิลี่ ห้องโถงกลางบ้าน ตั้งไว้ตรงกลางทางเดินเลย ห้องโถงรับแขกด้านหน้าบ้านที่เชื่อมกับระเบียงด้านนอก แล้วก็ห้องอ่านหนังสือ เป็นการกระจายสีสันให้ทั่วบ้าน เหมือนกระจายความเจริญ

           

 

“เฮ้ ใครมาแน่ะ” ผมโผล่หน้าเข้าไปในแฟมิลี่รูม ทุกคนหันมามองผมยกเว้นสองแฝดที่นอนดูมินเนี่ยน (อีกแล้ว) อยู่บนฟูกนอนที่ประจำ

           

 

“คุณเรย์มอนด์ ทำไมไม่โทรบอกผมล่ะครับ” นั่นไง ออสตินยืนตัวตรงแหน่วและมีสีหน้าไม่สบายใจอย่างที่คิดจริงด้วย

           

 

“อย่าซีเรียสน่า ฉันตั้งใจมาแบบนี้อยู่แล้ว” ออสตินจะพยักหน้าก็พยักไม่เต็ม วิคเตอร์เลยเดินเข้าไปตบบ่าเขาเบาๆ ก่อนที่จะหันไปโบกมือทักทายให้กับไดอาน่า แล้วก็อ้าแขนรับน้องสาวเข้าไปในอ้อมกอด

           

 

“มาเซอร์ไพร์สแมทเหรอ”

           

 

“มาแอบดูพฤติกรรมมากกว่า” ไวโอล่ายิ้มขำ ผมทำปากยู่ วิคเตอร์หันมองสองแฝดที่นอนหล่ออยู่ในชุดเอี๊ยมสุดน่ารัก

           

 

“เฮ้ย หมู” แล้วผมก็ต้องขำกับสีหน้าของแฝดเวลาได้ยินเสียงลุงยักษ์เหมือนเดิม สายตาที่กำลังมองจอบ้าง มองนั่นมองนี่บ้างหยุดชะงักและนิ่งเหมือนกำลังพยายามรับรู้ว่านั่นคืออะไร สองแฝดขยับหัวเบาๆ และช้าๆ ก่อนจะกลับไปมองจอกันตามเดิมเพราะเป็นฉากเจ้าตัวเหลืองกำลังร้องโหวกเหวกโวยวาย

           

 

“หนาวขนาดนี้ยังตัวพองอีกนะ” วิคเตอร์ว่าพลางนั่งลงบนโซฟาด้านข้างอีกฝั่งที่ไม่ใช่โซฟาเตียงนอน เขายื่นมือขวาไปหาเฮคเตอร์ เจ้ามิชลินเบอร์หนึ่งคว้านิ้วชี้ลุงยักษ์ได้ก็กำไว้แน่นตามสัญชาตญาณของเด็ก

           

 

“แอะ…”

           

 

“โอ๋ หนูทักทายลุงยักษ์เหรอครับ” ผมยืนมองจากทางด้านหลังของวิคเตอร์ ออสตินเลื่อนประตูห้องปิดเบาๆ

           

 

“ไปหาแฮคเตอร์บ้างสิวิคเตอร์” สามเตอร์มารวมตัวกัน คราวนี้เตอร์กันทั้งวัน

           

 

วิคเตอร์ค่อยดึงๆ มือออกจากคนพี่ และพยายามโน้มตัวไปหาแฝดคนน้อง แต่ก็ไปไม่ถึง เขาเลยลงไปนั่งคุกเข่าด้านล่างแล้วยื่นมือไปให้แฮคเตอร์จับ มิชลินเบอร์สองคว้านิ้วลุงยักษ์ไว้และกำแน่นตามสัญชาตญาณเช่นกัน แต่แฮคเตอร์ใช้วิธีการหันมามองด้วยความงุนงงเป็นการทักทายคุณลุงตัวเอง ผมไม่เห็นว่าวิคเตอร์ทำหน้ายังไง แต่ก็ขำที่เจ้าคนน้องทำหน้าสงสัยใคร่รู้ บางทีผมก็อยากรู้ว่าแฝดจำลุงตัวเองได้มั้ย ก่อนหน้าวิคเตอร์จะไปทำงานก็ได้อยู่ด้วยกันอาทิตย์เดียวเอง นอกนั้นก็วิดีโอคอลตลอด กลับมาเจอหน้ากันจังๆ อีกครั้งไม่รู้ว่าภาพลุงผมยาวติดตาไปรึยัง

           

 

“จำกันไม่ได้ไล่ออกจากบ้านนะเว้ย” วิคเตอร์แซวหลานทั้งสองคน ทุกคนในห้องหัวเราะ ตอนที่วิคตอร์ดึงมือออกจากแฮคเตอร์แล้วกลับขึ้นมานั่งบนโซฟา สองแฝดก็ยิ้มหวาน แต่ตาไม่ได้มองลุงเตอร์หรอก มองตัวสีเหลืองๆ ที่วิ่งดุ๊กดิ๊กไปมาอยู่บนจอ พอยิ้มเสร็จก็พากันหันมามองลุงเตอร์และทำหน้าฉงนสงสัยด้วยกันทั้งคู่ เป็นโมเม้นต์น่ารักๆ ที่ผมเห็นว่าไดอาน่าถ่ายรูปกับวิดีโอเก็บไว้พอดี

           

 

“แล้วนี่พี่มาได้กี่วัน ต้องกลับไปอีกทีตอนไหน”

           

 

“กลางเดือนหน้า”

           

 

“พี่ดำขึ้นนะเนี่ย”

           

 

“เขาเรียกผิวแทน” ไวโอล่ายักไหล่แล้วเดินกลับไปตกแต่งต้นคริสต์มาสต่อ ฟอกซ์ที่ไม่รู้ว่าเพิ่งจำเจ้านายได้หรือเพิ่งจะสนใจว่าเจ้านายมาแล้วเดินมาคลอเคลียขาวิคเตอร์ เขายื่นมือลงไปลูบหัวมันเบาๆ

           

 

“ไมเคิลล่ะ ไปหาสาวอีกรึเปล่า”

           

 

“นอนอยู่ในห้องผมครับ” วิคเตอร์พยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจสักแปบ

           

 

 

“ขอไปนอนก่อนแล้วกัน”

           

 

“ไม่กินอะไรก่อนเหรอ” ผมถามเขา วิคเตอร์สั่นหัว

           

 

“นอนก่อน ตื่นมาค่อยกิน” เขาพยักหน้าให้ผมหนึ่งที ผมทำหน้างงๆ เขาย่นคิ้วและจึ๊ปากท่าทางเซ็งๆ ผมย่นคิ้วกลับ รับรู้ได้ว่าเขาต้องการสื่ออะไร วิคเตอร์กลอกตาหนึ่งที

           

 

“แค่อยากนอนกอดน่า” ผมทำหน้าว่าอ๋อ วิคเตอร์เดินอ้อมโซฟาออกมาหาผม

           

 

“เดี๋ยวขอตัวแมทไปนอนด้วยก่อนนะ” สองสาวยิ้มกรุ้มกริ่มและพยักหน้ารับรู้ ออสตินเลื่อนเปิดประตูให้เจ้านาย วิคเตอร์พาผมเดินออกไปนอกห้อง

           

 

“แค่นอนกอดจริงอะ?!”

           

 

“ยังเหนื่อยอยู่ ขอพักสักวัน เดี๋ยวซานต้าเตอร์จัดของขวัญให้เอเลี่ยนเอง” ผมแกล้งทำหน้ายี้ แต่ริมฝีปากก็ฉีกเป็นรอยยิ้มกว้าง

           

 

“ซานต้าแก่แล้ว ซานต้าพักเถอะ” วิคเตอร์ผลักหัวผมหนึ่งทีแต่ก็เป็นหนึ่งทีที่ผมเกือบหงายหลัง ผมคิดว่าในจุดนี้เราต้องมีการคุยกันจริงจังแล้วมั้ง ผลักกี่ครั้งคือแรงตลอด หัวจะหลุดออกจากบ่าวันไหนเนี่ย

           

 

เราเดินเข้ามาในห้องนอน ผมเดินไปเปิดฮีทเตอร์ให้ความอบอุ่นในห้อง เดินไปปิดม่านหน้าต่างทั้งสองบานที่อยู่ใกล้กับเตียงนอน วิคเตอร์ถอดเสื้อโค้ทออกพาดไว้ที่ปลายเตียง เหลือแต่เสื้อไหมพรมสีดำตัวหนากับกางเกงยีน เขาขึ้นไปนอนรอบนเตียงก่อน ผมหยิบเสื้อโค้ทเขาไปแขวนไว้ที่ตะขอแขวนเสื้อตรงผนังห้องแล้วก็ปีนขึ้นเตียงไปนอนข้างเขา วิคเตอร์ดึงผมเข้าไปกอดชิดกับด้านหน้าตัวเอง ผมดึงผ้านวมสองชั้นขึ้นมาห่มร่างกายเราสองคน วิคเตอร์กดจมูกลงบนขมับซ้ายผมหนึ่งทีแล้วเขาก็หลับนำผมไปก่อน

 

 

สงสัยจะเพลียจริง อายุเยอะแล้วก็เงี้ยอะเนอะ

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.28 100% :05.05.61:
«ตอบ #2278 เมื่อ05-05-2018 21:10:00 »

V
v
v

“Piggy shitty! (ไอ้หมูขี้แตก!)”

 

 

“Can you stop nagging them and come to help me? (มัวแต่ยืนด่าเด็กอยู่ได้ มาช่วยกันหน่อยได้มั้ยล่ะ)”

 

 

“No. I don’t like shit of piggy, two piggy. (ไม่เอาหรอก เหม็นขี้หมู หมูสองตัวด้วย)” ผมมองจิกใส่ไอ้ยักษ์ที่นั่งกินอาหารเช้าและดูทีวีจอยักษ์อย่างสบายใจเฉิบอยู่บนโซฟาในห้องโถงใหญ่ของบ้านที่ตอนนี้มีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทางเชื่อมฝั่งนั่งเล่นกับฝั่งห้องอเนกประสงค์ของบ้านที่ตอนนี้ใช้เป็นฟิตเนสอยู่ เสียงแฝดร้องแข่งกับทีวีเพราะเพิ่งอึเลอะออกมาพร้อมกัน ครั้งนี้แฝดร้องดังกว่าครั้งอื่นๆ น่าจะเพราะเสียงทีวี ผมหันไปมองวิคเตอร์ด้วยความหงุดหงิด

 

 

“Turn down the sound! (เบาเสียงทีวีก่อน!)” ผมกระแทกเสียงใส่เขาในขณะที่กำลังใช้ทิชชูเปียกเช็ดก้นให้เฮคเตอร์ แต่เสียงทีวีกลับไม่ลดลง ผมเลยเงยหน้าขึ้นมองจิกวิคเตอร์อีกที เขากลอกตาเซ็งและหยิบรีโมตกดเบาเสียงลงจนได้ยินเสียงแฝดร้องไห้ชัดเจน

 

 

“And I have to listen their noisy voice. (แล้วฉันก็ต้องมานั่งฟังเสียงงอแงของพวกมัน)”

 

 

“Yes, you have to! (ใช่ ฟังไป!)”

 

 

“Can you do it faster? (ทำเร็วๆ หน่อยได้มั้ย)” ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความไม่พอใจ วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้นและตามด้วยยักไหล่สองข้างขึ้นช้าๆ

 

 

“Move to another room. (ย้ายไปห้องอื่นสิ)” ผมพูดเสียงเรียบและก้มหน้าจัดการเปลี่ยนแพมเพิสอันใหม่ให้เฮคเตอร์ แฝดคนพี่หยุดร้องและมองผมตาแป๋วให้ผมคลี่ยิ้มได้

 

 

“Are you mad at me? (นายโกรธฉันเหรอ)” ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาและมองตาขวางเล็กๆ ไอ้ยักษ์ยิ้มทะเล้นหน้าเป็น ผมก้มลงไปจัดการทำความสะอาดให้เจ้าตัวเล็กคนน้องให้รู้สึกสบายตัวตามคนพี่ไป พอทาแป้งเด็กตรงก้นและเปลี่ยนแพมเพิสอันใหม่ให้ แฮคเตอร์ก็สงบตามพี่ชายและนอนดีดขาชูแขนเล่นกับอากาศอุ่นๆ จากเตาผิงอันใหญ่ในบ้าน

 

 

“เดี๋ยวคุณแม่ก็กลับนะครับ คุณแม่ไปหาหมอเนาะ” ผมพูดเป็นภาษาไทยกับสองแฝด สองหนุ่มส่งเสียงออแอในลำคอ

 

 

“Sit with me. (มานั่งกับฉันสิ)” ผมเงียบไม่ตอบ และก้มเกาคางของแฝด สองหนุ่มน้อยยิ้มกว้าง ดวงตากะพริบเอื่อยๆ ราวกับกำลังเพลิดเพลิน

 

 

“Okay.” ผมเห็นแบบไม่เต็มตาว่าวิคเตอร์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินอ้อมมาด้านหลัง ก่อนจะอุ้มผมขึ้นในท่าอุ้มเด็ก ผมทำหน้าเรียบเฉยใส่เขา ไอ้ยักษ์ผมยาวยิ้มขำ

 

 

“แม่หมูงอน” ผมยกมือขวาตีหัวเขาหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ วิคเตอร์หลับตาปี๋แล้วหัวเราะ

 

 

“แอ้!” ผมก้มมองสองแฝดที่กำลังยิ้มและมองมาทางผมกับวิคเตอร์ สองมือชูขึ้นกำๆ แบๆ แบบไม่สุด วิคเตอร์ปล่อยผมลงยืนบนพื้น ผมนั่งคุกเข่าแล้วอุ้มเฮคเตอร์ขึ้นมา ก่อนจะหันไปหาไอ้เตอร์ตัวพ่อ

 

 

“อุ้มแฮคเตอร์สิ” วิคเตอร์ทำตาโตแล้วสั่นหัว ผมทำหน้านิ่งและถลึงตาใส่ วิคเตอร์กลอกตาหน้าเซ็งแล้วก็โน้มตัวลงอุ้มแฮคเตอร์ขึ้นในท่าเดียวกับที่อุ้มผมเมื่อกี้ ผมยืนขึ้นเขย่าตัวเฮคเตอร์เบาๆ เป็นการกล่อม พอมองแฮคเตอร์ที่กำลังมองวิคเตอร์ด้วยความฉงนแล้วก็ขำ

 

 

“อะไรไอ้หมู คนนี้พี่หรือน้องเนี่ย”

 

 

“น้อง แฮคเตอร์ไง” มิชลินเบอร์สองมองลุงยักษ์ด้วยดวงตาโตๆ แบบงงๆ และน่าจะยังคงไม่คุ้นเคย สักพักเขาก็หันหน้ามามองผมก่อนที่จะส่งเสียงร้องแอ๊ะ และเริ่มเบะปาก

 

 

“โอ๋ มานี่มาๆ”

 

 

“ไปเลย ไปเลย” ผมเดินอ้าแขนซ้ายรับแฮคเตอร์ที่เริ่มร้องไห้มาอุ้มไว้ พอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดผมเขาก็หยุดร้องและหันไปมองวิคเตอร์ด้วยสายตาสนอกสนใจ ผมเห็นแล้วก็หัวเราะต่ออีกที มันคือสายตาใสซื่อของเด็กที่มองอย่างงงๆ ว่านั่นใคร ส่วนเฮคเตอร์กำลังหันไปมองหิมะด้านนอกผ่านประตูเชื่อมห้องโถงกับสวนสำหรับจิบน้ำชาหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งภายในครอบครัว ซึ่งมีสะพานเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำที่ตอนนี้แข็งเป็นขั้วโลกเหนือไปแล้ว

           

 

“แก๊งค์ลูกหมูสามตัว” ดูความมึนของไอ้ยักษ์นะ มันนั่งกระดิกเท้ามองผมสามคนแล้วก็ขำของมันคนเดียว ผมมองค้อนควักไปหนึ่งค้อน

           

 

“แฝด แฝดด่าลุงยักษ์เร็ว ลุงยักษ์มันว่าเรา” สองแฝดงึมงำๆ อยู่ข้างหูผม หนูสื่อสารกับแม่ซื้ออยู่เหรอลูกเอ๊ย

           

 

“หมู หมู หมู”

           

 

“แอ๊!!”

           

 

“ดีมากเฮคเตอร์” ผมหัวเราะคิกคัก เฮคเตอร์ส่งเสียงและชี้กำปั้นป้อมๆ กลมๆ ไปทางวิคเตอร์ ส่วนแฮคเตอร์กำลังมองลุงตัวเองด้วยความฉงนอีกครั้งก่อนจะขมวดคิ้วหนึ่งที สร้างเสียงหัวเราะให้กับผมดังลั่นบ้านจนไมเคิลเห่าตาม และสร้างความอารมณ์เสียให้กับไอ้ยักษ์ที่ไม่มีใครอยู่ข้างตัวเองเลย

 

 

 







“คืนวันคริสต์มาสนี้มีลุงยักษ์นอนด้วยนะครับ”

 

 

“เดี๋ยวฉันร้องเพลงกล่อมก็จะไปแล้วละ” ผมหันไปยิ้มให้ไวโอล่าที่ใส่มาส์กปิดหน้าเอาไว้เพราะไม่สบายตั้งแต่เมื่อวาน เธอกลัวว่าลูกจะติดไข้เลยขอรบกวนฝากแฝดมานอนด้วยก่อนหลังจากกลับไปนอนกับแม่มาได้เกือบอาทิตย์หลังจากลุงยักษ์กลับมาบ้าน

 

 

ว่าแต่ลุงยักษ์หายไปไหนก็ไม่รู้

 

 

“มาสิๆ ฉันก็ชอบฟังเธอร้องนะ” เสียงไวโอล่าจะเล็กๆ ใสๆ ไม่ถึงกับขั้นไปเป็นนักร้องอาชีพหรอก แต่เสียงก็ดีกว่าเสียงผมที่เหมือนวัวร้องครางตอนคลอดลูก

 

 

ไวโอล่าก้าวเท้าเข้ามานั่งในคอกด้วยกัน ผมแหวกทางให้เธอ คลานไปนั่งพิงผนังคอก นั่งมองเธอที่นั่งอยู่ตรงหน้าแฝดแล้วก็เปิดมาสก์ออก จมูกไวโอล่าแดงแจ๋เลย

 

 

“Do you want to hear our song my little twins? (อยากฟังเพลงของพวกเรามั้ยเจ้าแฝดน้อย)” ไวโอล่าร้องเพลงกล่อมแฝดมิชลินตั้งแต่เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างคน พอคลอดออกมาก็จะชอบร้องให้ลูกฟังตอนลูกงอแง หรือตอนที่แฝดไม่ยอมหลับสักทีอย่างเช่นตอนนี้ที่ไม่รู้ไปกินกาแฟกันมารึเปล่าถึงตาแข็งเชียว

 

 

“แอ… แอ…”

 

 

“Oh, you want to hear mama voices? (โอ๋ หนูอยากได้ยินเสียงแม่เหรอคะ)”

 

 

“แอ้ เอิ้กๆ” สองแฝดส่งเสียงอ้อแอ้และยิ้มหวานให้กับแม่ ผมยิ้มกว้างยามมองภาพน่ารักๆ นั้น

 

 

“Okay, let’s start!” ไวโอล่าปรบมือแปะๆ ผมร่วมปรบมือไปด้วย แฝดดีดดิ้นขาป้อมๆ กันใหญ่ ไวโอล่ากระแอมคอสักแปบก่อนที่จะเริ่มเปล่งเสียงของเธอออกมา แม้ในยามที่ป่วยเสียงของเธอก็ยังไม่ได้น่าเกลียดเท่าเสียงผมยามร้องเพลงเลยจริงๆ

 

 

“Lullaby, and good night, in the skies stars are bright…” ผมนั่งยิ้มมองสองแฝดที่มองแม่ตัวเองตาแป๋วและริมฝีปากขยับคล้ายจะยิ้มตลอดเวลา ไวโอล่ายิ้มกว้างให้กับลูกชายทั้งสองคนอย่างอ่อนโยน

 

 

“…May the moon's, silvery beams, bring you sweet dreams…” ไวโอล่าก้มลงกระซิบตรงกลางข้างหูคนละข้างของทั้งสองแฝดตรงคำว่า sweet dreams

 

 

“…Close your eyes, now and rest, may these hours be blessed…” ไวโอล่ายื่นมือไปแตะจมูกลูกทั้งสองคนเบาๆ สองแฝดยิ้มอ้อแอ้อย่างน่าเอ็นดู

 

 

“…Till the sky's bright with dawn, when you wake with a yawn”

 

 

“Lullaby, and good night, you are mother's delight…” ไวโอล่าเน้นเสียงคำว่าเสียง delight เบาๆ เหมือนเป็นการบอกว่าลูกทั้งสองคนคือความยินดีและดีใจของตัวเองจริงๆ เธอยิ้มให้สองหนุ่มอันเป็นแก้วตาดวงใจของเธอ สองแฝดมองแม่ตัวเองตาเยิ้มแต่ก็ยังมีรอยยิ้มจนผมขำด้วยความเอ็นดู

 

 

“…I'll protect you from harm, but you'll wake in your god mother arms…” ไวโอล่าหันมายิ้มพร้อมกับผายมือมาทางผม สองแฝดไม่ได้หันมามองตามเพราะหนังตากำลังเริ่มย้อย ผมทำท่าโค้งโน้มตัวรับ ไวโอล่าหัวเราะเบาๆ

 

 

“…Sleepyhead, close your eyes, for I'm right beside you” 

 

 

“Lullaby, and sleep tight, my darling sleeping…” สองหนุ่มส่งเสียงแอ้เบาๆ ก่อนที่หนังตาจะค่อยๆ ปิด แต่ก็ยังปิดไม่สนิท ผมสองคนพยายามกลั้นขำเพื่อไม่ให้แฝดสะดุ้งตื่น

 

 

“…On sheets white as cream, with the head full of dreams”

 

 

“Sleepyhead, close your eyes, I'm right beside you…” สองมือไวโอล่าลูบหัวลูกน้อยอย่างแผ่วเบา ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกอิ่มใจ

 

 

“…Lay thee down, now and rest…” สองแฝดหลับตาลง ไวโอล่าลูบหัวต่อเบาๆ แล้วยื่นหน้าไปหอมหน้าผากลูกทั้งสองคนก่อนจะเปล่งเสียงแผ่วเบาครั้งสุดท้าย

 

 

“…may your slumber be blessed.” ผมนั่งมองไวโอล่ามองสองแฝดด้วยสายตาแห่งความรัก ผมยิ้มตามภาพนั้นแล้วแว้บหนึ่งผมก็หุบยิ้มลงเมื่อผมคิดว่าเห็นไวโอล่ามีสายตาที่สั่นระริกคล้ายคนจะร้องไห้ แต่สุดท้ายเธอก็กลับมายิ้มตามเดิมแล้วค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง

 

 

“ขอโทษนะที่พาแฝดมาขัดขวางเธอกับพี่”

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก ให้ไอ้ยักษ์มันโดนสองแฝดผู้พิทักษ์ของฉันป่วนประสาททั้งคืนไปเลย” ไวโอล่ายิ้มขำแล้วก็ใส่มาส์กตามเดิม ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก้าวออกจากคอก เธอหันมาโบกมือบ๊ายบายให้ผมแล้วก็เดินย่องออกไปจากห้องนอนผมกับวิคเตอร์ ผมขยับผ้าห่มให้สองแฝดดีๆ และเริ่มมองหาว่าไอ้ยักษ์มันหายไปไหน ไปดริ๊งและเม้าท์กับออสตินอยู่รึเปล่าเนี่ย

 

 

“โฮะโฮะโฮะ โฮ…”

 

 

“…ชู่ววว!” ผมหันไปจุ๊ปากใส่ไอ้… เอ้ย

 

 

“ไอ้ยักษ์ทำไรอะ” ผมกระซิบถามพลางค่อยๆ ก้าวขาขวาออกจากคอก แล้วไปยืนมองไอ้ยักษ์ตัวเข้มในชุดซานตาสีแดงตัดกับสีผิว ชุดซานต้ามีความเซ็กซี่ตรงที่แหวกให้เห็นแผงอกแล้วมีเข็มสีดำรัดตรงเอว มีหมวกพร้อม หนาดเคราสีขาวก็มีพร้อม กล่องของขวัญกล่องใหญ่ก็ถือมาพร้อม

 

 

“ซานต้าเอาของขวัญมาให้เอเลี่ยนไง” ไอ้ยักษ์กระซิบ ผมเงยหน้ามองเขาแล้วก็กลั้นขำ ช่างไปสรรหามาเนาะไอ้หนวดเคราสีขาวเนี่ย

 

 

“อ๋อ ที่หายไปคือไปแต่งตัวมาว่างั้น” ไอ้ยักษ์หนวดขาวเลิกคิ้วเข้มๆ ขึ้น

 

 

“ใช่น่ะสิ” ผมยิ้มเอือม แต่ก็ขำกับความคิขุนี้ของเขา ช่างหาวิธีการเอาใจเนาะ ไอ้มุมทะเล้น มุมน่ารักแบบนี้ได้เห็นแต่ในบ้านเท่านั้น ซึ่งผมว่าก็เอ็กซ์คลูซีฟดีแหละ

 

 

“ไหน ซานต้าเตอร์มีของขวัญอะไรมาให้” ไอ้ซานต้าตาเฒ่าเตอร์คลี่ยิ่มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเปิดกล่องของขวัญที่ถือไว้อยู่ออก ผมก้มลงมองแล้วก็อ้าปากหวอก่อนจะเงยหน้ามองหน้าเขาพรึ่บ

 

 

“อู…” ผมส่งเสียงร้องเบาๆ ไอ้ยักษ์ยิ้มร่า มิน่าล่ะมันถึงถือกล่องของขวัญไว้ตรงระดับเป้าตลอด เพราะในกล่องของขวัญสีแดงที่มันห่อและติดโบว์ขาวมา มันคือไอ้จ้อนของเขาที่แข็งตัวเต็มที่อยู่

 

 

“ฉันหากล่องมาใส่ยากมาก เพราะของฉันมันใหญ่” ผมมองด้วยความหมั่นไส้ ไอ้ยักษ์ยักคิ้ว ผมก้มลงมองอีกทีแล้วก็ยิ้มเขิน แต่มือขวาล้วงลงไปบีบแล้วนะ

 

 

“และเพิ่มความพิเศษด้วย…” วิคเตอร์ขยิบตาซ้ายหนึ่งที ล้วงขวดสำหรับใส่พวกของเหลวแล้วเอาไว้บีบออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมอ้าปากด้วยความตื่นเต้นที่เห็นช็อคโกแล็ตอัดแน่นอยู่ในขวด ผมหันมองซานต้าเตอร์ที่ยิ้มกริ่ม

 

 

“Yes! Cockcolate!”

 

 

ซานต้าคนนี้มีอวัยวะเพศให้ ซานต้าคนใดก็ให้ของขวัญแบบนี้ไม่ได้

           

 

 


เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


               กลับมาก็มาทะเลากับหลานเลยนะคะลุง

           เอ็นดูความใส่คอสตูมและพร็อพอันพร้อมเพรียงของไอ้ยักษ์ 55555 ต้องทุ่มเทเพื่อให้เมียประทับใจแค่ไหนกันกับของขวัญชิ้นนี้ มีท็อปปิ้งเป็นช็อคโกแล็ตเพิ่มด้วยนะคะ ธรรมดาที่ไหนกัน เอเลี่ยนอร่อยเพลินค่ะงานนี้

            เพิ่งย้ายเข้าบ้านก็จะเจอดีแล้วเหรอสองผัวเมีย ลืมทำบุญขึ้นบ้านใหม่รึเปล่าเธอ แต่ผัวกลับมาแล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัวว่าผัวเธอแล้วแหละแมท

               ตอนนี้เป็นต้นไป จะอัปแบบเต็ม 100% ทุกตอนไปยันจบแล้วค่ะ ยังไงอ่านแล้วก็คอมเม้นเป็นฟีดแบ็คให้กำลังใจกันหน่อยแล้วกันเนอะ

               ใครที่พรีฯ หนังสือไว้ ดูการอัปเดตได้ที่เพจตลอดๆ เลยนะคะ ตอนนี้หนังสืออยู่ในกระบวนการการพิมพ์นะคะ ใกล้จิเสร็จแล้ว เพิ่งอัปเดตที่เพจไปเด้อ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.28 100% :05.05.61:
«ตอบ #2279 เมื่อ05-05-2018 21:47:26 »

กลับมาท่าทางยักษ์จะเก็บกด 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด