The Extension(ผู้นำ&ธาม2)
ตอนที่ 8.1 (ผู้นำ)นี่มันงานนึกอยากกินเหล้าของพี่โป๊ะชัดๆ เลย
ตอนแรกก็บอกว่าฉลองให้กับพี่วินที่เรียนจบมาสเตอร์
ซึ่งธามก็ว่ามันเป็นงานส่วนตัว และธามก็ไม่ได้รู้จักเพื่อนๆ มาสเตอร์ของพี่วินด้วย เลยไม่กล้ามา
พอบอกแบบนั้น พี่โป๊ะก็บอกว่า เชิญเฉพาะคนกันเอง และพี่วินจะเสียใจถ้าธามไม่มาด้วย แต่ตอนที่เจอหน้าพี่วิน พี่วินก็เอาแต่ฮัมเพลงอะไรก็ไม่รู้ใส่ แล้วก็ถามว่าธามอยากร้องเพลงอะไร
กว่าธามจะรู้เรื่องว่าต้องมีการร้องเพลงกันด้วย ทุกคนต้องโชว์ พี่โป๊ะมีรางวัลให้ก้อนใหญ่ ก็ตอนที่เจอพี่เจมถี่ๆ นั่นแหละ ธามถึงได้รู้เรื่องทั้งหมด
และที่ธามเลือกเพลงนี้ ก็มีพี่เจมนี่แหละที่เป็นคนช่วยเลือกให้ แล้วก็เป็นคนที่ร้องเพลงให้ มีพี่วินมาช่วยด้วยอีกคน ส่วนธามน่ะ งานหมู่มาก ธามแร๊พ!
“พี่นำ มาแล้วหรอครับ” ระหว่างที่ธามกำลังท่องทวนเนื้อแร็พในหัว พี่วินก็ส่งเสียงแทรกสมองเข้ามา ธามหันมองและสบตากับพี่นำ ที่สีหน้าดูเหนื่อย หน้าอกพองขึ้นลงอย่างหนักหน่วง ดูก็รู้ว่ารีบมามากๆ
“เอ่อ เดี๋ยววินไปบอกพี่หนึ่งให้นะครับ ดูเหมือนจะอยากเจอพี่นำมาก”
“ครับ ขอบคุณครับวิน”
“เฮียนำ”
“พี่นำ”
“พี่หมอ”
พวกพี่นักดนตรีที่ธามก็รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้างเอ่ยทักพี่นำกันเป็นแถว เราก็เลยละสายตาจากกัน ธามไม่รู้ว่าพี่นำสนิทกับพี่นักดนตรีแค่ไหน แต่ก็แว่วได้ยินเสียงคุยตรงหน้าเวทีมาแผ่วๆ
“ธาม”
“...น้องธาม”
“อ่ะ ครับ?” ธามขานรับพี่เจมที่เรียกเบาๆ พร้อมสะกิด พอหันไปเจอหน้าก็ต้องขมวดคิ้วเพราะพี่เจมมองธามด้วยหน้าเครียด
“หรือว่าพี่เจม...ปวดอึ”
“เฮ้ย เปล่า”
“หรือถึงจะปวด พี่ก็ไปอึของพี่เองได้ จะเรียกธามทำไมเล่า”
“แล้วเรียกทำไป รีบไปสิ อึไง”
“ไม่ปวดเว้ย เด็กนี่นี่!”
“พี่แค่อยากรู้ว่าธามโอเครึเปล่า กับพี่นำ”
“โอเคคือยังไง เดี๋ยวก็คนละโอเคอีก เบื่ออธิบายนะ” ธามเถียงแล้วกอดอกมอง พี่เจมหัวเราะใส่นิดหน่อยแล้วก็พูดต่อ
“ก็โอเค หมายถึง เคลียร์กับพี่นำหรือยัง? ดีกันแล้วใช่มั้ย ไม่โกรธไม่งอนพี่นำแล้วใช่รึเปล่า”
“โอเคทุกอย่างเลยพี่เจม”
“ธามเคลียร์ ดีกันแล้วไม่ ไม่โกรธไม่งอนเลย”
“จริงอ่ะ”
“ก็เราเลิกกันแล้ว we broke up”
“เฮ้ย! ถ้าโอเคของธามคือนี่คือไม่ใช่นะ”
“พี่นำไม่ได้เลิกกับธามซะหน่อย”
“พี่เจมไม่รู้ไง”
“รักกันต้องสองคน”
“รักคนเดียวคือไม่รักกัน”
“ก็เลิกกันไง ต่างไปอยู่”
“ธาม เอาจริงดิ”
“ไม่เสียใจหรอ เลิกกันอ่ะ”
“แล้วไม่รักพี่นำแล้วจริงหรอ”
“พี่เจมก็ไม่เข้าใจอีก”
“เลิกเพราะธามรักคนเดียวไง มันไม่ใช่รักกัน”
“ธามเสียใจไปหลายวันแล้ว”
“เดี๋ยวก็ดีกว่าเดิมแล้ว”
“แล้วพี่นำว่ายังไง ยอมหรอ?”
“นี่คุยกันรึยังเนี่ย?”
“ก็เลิกกันแล้ว ต่างไปอยู่ จะคุยอะไร”
“นำก็ทำงานเหมือนปกตินั่นแหละ”
“ธามนี่สิ เซนะ”
“ธามผอมลง จูก็บอก”
“นอนก็ไม่ค่อยหลับด้วย ธามไม่ชอบนอนคนเดียว แต่ก็ตั้งใจให้แบบ..ได้” ใช้มือช่วยพูดด้วยแบบนี้พี่เจมน่าจะเข้าใจธามได้แล้วนะ
ธามถอนหายใจหลังจากอธิบายจบ หันกลับไปมองที่เวทีอีกรอบ ก็ไม่เห็นพี่นำแล้ว พอหันหลังมองหา ถึงได้รู้ว่าพี่นำมายืนซ้อนหลังธามอยู่
“อ่ะ นำ”
“ไง”
“หมาธามมายังไงเนี่ย”
“ถ้าพี่ไม่มา พี่ก็ไม่คุยกับธามสักที”
“พอมีเวลาให้พี่นำมั้ยครับ”
“เฮ้ยนำ”
“มานี่แป๊บดิ พวกผมไม่เคลียร์เลย มาคุยกันให้รู้เรื่อง อะไรคือจะคลอ”
“ไม่ได้เว้ย ถ้าแค่คลอ ก็เอาเศษรางวัลนะ มานี่ไอ้หมอ มานี่” พี่หนึ่งโผล่จากในครัวมาเรียกพี่นำเสียงดัง ธามก็เลยหันหน้าหนี และพี่นำก็เข้าใจภาษากายของธามดี ว่าธามหมายถึงให้นำไปคุยธุระของนำเถอะ ธามพอแล้ว ธามเลิก
“สรุปยังไงหรอธาม” รอบนี้พี่วินเดินมานั่งประกบอีกข้าง ธามรู้สึกว่าตัวเองเป็นไส้แซนวิช อีก2คนเป็นขนมปังแผ่นบางๆ
“อะไรยังไงหรอพี่วิน”
“ก็กับพี่นำไง”
“พี่โป๊ะบอกว่า พี่นำบอกพี่โป๊ะว่าธามบอกว่าเลิกกัน”
“เอาจริงหรอ? ไม่น่านะ ไม่ใช่แบบนั้นใช่มั้ย”
“ทำไม....มันถึงดูบิ๊กดีลมาก”
“ก็เลิกกัน ดีกับนำมากกว่า ไม่ใช่หรอ?”
“ทำไมทุกคนต้องเรื่องใหญ่ ธามทำอะไรผิดหรอ?”
“มันก็ไม่ผิด/ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด” ขนมปังขาวๆ พูดขั้นพร้อมกัน แม้จะไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็ความหมายเดียวกันนั่นแหละ ธามรู้
“แล้วทำไมยูทั้งคู่ ถึงทำเหมือนเกิดเรื่องไม่ดี”
“ก็ไม่มันไม่ใช่เรื่องดีไง/เลิกกันดีตรงไหน”
“อือออ ไม่เอาแล้วเบื่อพูด ธามหิว”
“อ่อ พี่โป๊ะทำให้แล้วแหละ รออยู่นี่ เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว” พี่วินรับปาก
“ใช่ๆ กินให้อิ่ม เผื่อจะคิดได้เหมือนคนทั่วๆ ไปกับเค้าบ้าง”
“ธามไม่ใช่ประหลาดไง พี่เจม”
“ธามโอเค”
“แต่พี่ไม่โอเคไง สงสารพี่นำ”
“..........” ธามไม่ตอบอะไรต่อ เพราะหิวข้าวด้วย และเพราะกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะคุยกับพี่นำเรื่องอะไรดี ให้พี่นำสบายใจที่สุด ธามเองก็ไม่อยากให้พี่นำน่าสงสารเหมือนกันนั่นแหละ แต่ว่า ธามก็ไม่อยากเป็นเหมือนเดิม
ทั้งที่บอกกันเอาไว้ว่าเป็นปาร์ตี้ภายใน มีแต่คนที่ธามรู้จักทั้งนั้น แต่สุดท้ายแล้วพี่โป๊ะก็ขี้โม้เหมือนเดิมนั่นแหละ ตอนนี้ ใครก็ไม่รู้เข้าที่ร้านพี่โป๊ะเพิ่มด้วย แต่ดูเหมือนพวกเขาจะคุ้นเคยกับพี่โป๊ะ พี่หนึ่งและก็พีนำค่อนข้างดี ดูจากการทักทายด้วยการกอดฟัดกันแบบไม่ปล่อย ส่วนพี่เจมกับพี่วิน ก็ยังนั่งกินข้าวไม่สนใจโลกกันอยู่เหมือนเดิม
“ใครกันหรอ? เยอะเยี้ย”
“หมายถึงเยอะแยะ ยั๊วเยี้ย หรือไม่ก็เยอะเหี้ยน่ะวิน อย่างงดิ”
“ใครมันจะไปเข้าใจได้ล่ะ ภาษาธามภาษาเทพ”
พวกพี่วินกับพี่เจมชอบซุบซิบธาม นิสัยไม่น่ารักเลย พี่แนนบอกว่าพวกชอบซุบซุบซิบซิบนี่ไม่น่าคบ
“ว่าอะไรธาม ธามได้ยินนะ ไม่ดีเลย”
“มีไรก็ตรงๆ สิ” กระดกลิ้นด้วยเพราะควบกล้ำด้วยรอเรือ เขาวางช้อนทั้งที่ยังมีข้าวพูน กอดอกแล้วรอฟังพี่เจมกับพี่วินพูดใหม่แบบไม่ซุบซิบ
“ไม่ได้ซุบซิบอะไรเลย พี่แค่เอียงตัวไปบอกวินว่าเยอะเยี้ยของธามหมายถึงอะไร”
“อะไร? พี่วินไม่รู้เรื่องกับธามหรอ เราคุยกันถูกใจไม่ใช่หรอ”
“ก็...ก็ไม่รู้ในบางคำไง เดาเองก็ไม่รู้ถูกมั้ย”
“นั่นแหละ พี่เลยต้องแปลให้เข้าใจในทิศทางเดียวกันไง ธามจะระแวงพวกพี่ไม่ได้นะ เราพวกเดียวกัน” พี่เจมรีบพูดต่อแล้วก็ยัดช้อนกินข้าวใส่มือธาม กระดกมือเป็นการบอกว่าให้กินต่อได้แล้ว
“แล้วพวกนี้ใครล่ะ ธามไม่ร้จัก”
“พี่ก็ไม่รู้จัก” พี่วินบอก ทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่และหันมองพี่เจม
“อ๋อ พวกรุ่นน้องสมัยเรียนของพวกพี่เขาน่ะ”
“ตามตูดกันมาจากชมรมดนตรีตั้งแต่ม.ปลาย”
“นั่นก็ไอ้จิวไง แฝดพี่อ่ะ จำไม่ได้หรอ? หน้าก็เหมือนพี่”
“พี่จิวรู้จักไง แต่คนอื่นที่มาใหม่ล่ะ”
“อ๋อออ เพื่อนๆ ไอ้จิวมัน ก็สนิทกับพี่หนึ่งพี่โป๊ะพี่นำทั้งนั้น”
“ไอ้นั่นไอ้โปน คนนั้นอ่ะ” พี่เจมชี้ๆ แต่ธามไม่รู้หรอกว่าคือคนไหน เพราะทุกคนที่มาใหม่ก็ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนกันหมด เป็นคนนั้นเหมือนกันหมดเลย
“ข้างๆ ก็เพื่อนไอ้โปนอีกที แต่ก็เป็นรุ่นน้องพวกลุงพวกนี้เหมือนกัน”
“ลุง?”
“ก็พวกพี่หนึ่งพี่นำไง”
“ทำไมเป็นลุงล่ะ เพื่อนเล่นพ่อพี่เจมหรอ”
“เอ่ออ ไม่ใช่เพื่อนเล่นพ่อพี่หรอก เอ่อ..ทำไมลุงวะ? นั่นดิ”
“อ๋อ แก่แล้วไง ก็เรียกแทนคนแก่ๆ ว่าลุง”
“นำไม่แก่นะ ปั๋งมาก”
“ปั๋งจริงๆ หรือหมายถึงปังอ่ะธาม”
“ปังคืออะไร คือดังอ่ะหรอ?”
“ปังคือ อื้อออ ช่างเถอะ กินข้าวนะ”
“กิน กิน กิน”
“วินด้วย กินให้หมด พี่โป๊ะมันบอกพี่หนึ่งว่าวินปวกเปียกมาก ไม่ได้นะ ถึงจะเป็นรองมันตลอดชาตินี้ แต่ก็ต้องแข็งแรงเข้าไว้”
“ทำไม เพื่อ?”
“เผื่อพลิกได้”
“พลิกอะไร อธิบายสิพี่เจม” ธามก็อยากรู้เหมือนที่พี่วินทำหน้าอยากรู้นั่นแหละ
“เออน่า กินๆๆๆ” ชักชวนแล้วก็กินให้ดูด้วย พี่เจมกินข้าวคำใหญ่ และคงใหญ่ไป ถึงได้ทำท่าจะพ่นออกมา ลำบากพีวินต้องรีบดึงทิชชู่มาปิดปากให้ แล้วก็ใช้สายตาจ้องให้พี่เจมกลิ่นข้าวเข้าไปจนหมด
เป็นสองพี่ที่วุ่นวายเหลือเกิน
“ไง ตัวยุ่ง”
“ธามไม่ยุ่ง อีซี่มาก สบายที่สุด”
“เออออ ให้จริงเถอะ ปากเก่งนัก” พี่โป๊ะชมเสร็จก็จับหัวเขย่าและยีผมตบท้าย ธามส่งสายตาไม่ชอบไปบอกแล้วก็ปัดมือทิ้ง
“ไม่สระผมกี่วันแล้วเนี่ย เหนียวมือว่ะหมาธาม”
“อื้อ” ธามตอบพร้อมกับชูนิ้วชี้ให้เห็น
“วันนึง?”
“อะ วีค!!”
“อี๋ๆๆ ไอ้ลูกหมาหัวเน่า”
“นี่แค่เลิกกันนะเว้ย ไม่ต้องทำตัวสกปรกเบอร์นี้ก็ได้”
อะไรคือเบอนี้ นัมเบอร์? หรือเบลอ? พี่โป๊ะอาจพูดเพี้ยน ก็คงเมาแล้วมั้ง เพราะโต๊ะที่พี่โป๊ะพี่หนึ่งพี่นำนั่งกันอยู่ มีแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ไม่เหมือนโต๊ะนี้ที่พี่เจมพี่วินกับธามนั่ง มีแต่ของกินเต็มไปหมด
อีก2 โต๊ะที่มีคนจัดการดึงออกมาหน้าเวที ไม่ห่างจากพวกธามมากนัก นั่นก็มีแต่แอลกอฮอลล์
“ไม่สกปรกนะ ก็สระผมปกติ คืนนี้ก็ต้องสระแล้ว พี่โป๊ะมาเล่นหัวธามเอง ไม่ได้ขอให้มาเล่นด้วยซะหน่อย”
“เถียงเก่ง”
“พี่วินสอน”
“มีครูผิดคิดจนตัวตาย”
“ไม่มีใครใช้สมองแล้วตายหรอก พี่โป๊ะบ้า”
“ฮ่าๆๆ เออๆ พี่มันบ้า”
“เดี๋ยวจะร้องเพลงกันแล้ว พร้อมยัง?” พี่โป๊ะยื่นหน้ามาถาม ใกล้กันจนธามได้กลิ่นน้ำหอม ธามลองยีหัวพี่โป๊ะดูแล้วก็รู้เหตุผลที่พี่โป๊ะด่าว่าธามหัวเหนียวแล้ว ก็พี่โป๊ะผมนุ่มมือสุดๆ เลย นุ่มเหมือนผมพี่นำนั่นแหละ
“มาแล้ว มาแล้ว กับแกล้ม”
“การกินเหล้าไม่ให้เมานะธาม ต้องกินกับแกล้มเยอะๆ” เสียงพี่เจมมาแล้ว ไม่นานตัวก็มาถึง พี่เจมวางสารพัดของทอดลงบนโต๊ะที่แทบไม่มีพื้นที่ให้วางอะไรแล้ว แต่พี่เจมก็เลื่อนจานนั้นนิด จานนี้หน่อย แล้วก็วางจานแบนใหญ่ลงแบบเอียงๆ
“วินล่ะเจม”
“พวกพี่นี่เหมือนกันหมดเลยมั้ยเนี่ย? เมื่อกี้เจอพี่นำในครัวก็ถามว่าธามล่ะ”
“เออเฮ้ย ร้านก็กว้างเท่านี้ แค่หันๆ ก็เห็นก็เจอกันแล้วมั้ยอ่ะ”
“มองหาก่อนดิ ค่อยถามคนอื่น แฟนตัวแท้ๆ”
“วัยทองรึไง ขี้บ่นชิบหาย”
“ให้ไอ้จิวหาให้ก็ได้”
“หาใคร?”
“หาวินไง”
“วินเด็กใคร”
“เด็กพี่”
“แล้วจะไปถามปลายกระจู๋ให้จิวมันทำไม เชื่อกระจู๋มันมากกว่ากระจู๋ตัวเองหรอ?”
“แรงว่ะ ไอ้จิ้งจกเอ้ย”
“หาเอง!!!”
“เมื่อกี้ เจมก็บอกพี่นำแบบนี้แหละ”
“ฮ่าๆๆ หรอ? แล้วไอ้หมอมันสั่งสอนกลับมาว่าไง”
“พี่นำบอก ขอโทษครับ”
แล้วพี่เจมกับพี่โป๊ะก็หัวเราะกันเหมือนคนบ้า ธามไม่เห็นว่ามันจะตลกตรงไหน ก็มองไม่เห็นก็เลยถามไง ถ้าไม่รู้ก็แค่บอกว่าไม่รู้ ทำไมต้องตอบไปแบบไม่ได้ให้คำตอบ แล้วก็มาขำกันแบบนี้
ปึ่ก!
จู่ๆ ธามก็ทุบโต๊ะเสียงดัง พออีก 2 คนหันมองด้วยสีหน้างงๆ ธามก็งงด้วย
“อะไรลูกหมา”
“อะไร พี่โป๊ะมองธามแบบนี้ทำไม คนบ้านะ”
“ไม่ได้บ้าเว้ย ธามนั่นแหละ ทุบโต๊ะทำไม”
“ก็....”
“เออ ธามเป็นอะไรรึเปล่า?” พี่เจมถามย้ำอีกที ธามขมวดคิ้วใส่แล้วก็บอกเหตุผลแต่โดยดี
“ก็หัวเราะนำกันทำไม นำไม่ตลกนะ นำก็แค่หาธามเอง”
“.............” พวกพี่สองคนนี้ไม่ตอบอะไร มองหน้ากัน แล้วก็หันหนีหน้ากันเองในที่สุด
อะไรกัน?
ธามพูดอะไรผิดอีกล่ะ?
พอพี่วินกลับมาที่โต๊ะ พี่โป๊ะก็คุยด้วยนิดหน่อยแต่ลูบหัว จับบ่า รูดแขนอยู่นานมาก มากจนพี่เจมสะบัดตัวบรื๋อๆ เหมือนหมาไล่น้ำ พี่โป๊ะก็เลยหันมาเขกหัวพี่เจม และธามคนละที แต่ก็เบามาก แล้วพี่โป๊ะก็เดินพาตัวสูงๆ ไปบนเวที
“เอาล่ะ เอาล่ะครับ เพื่อนๆ น้องๆ ทั้งหลาย”
“จริงๆ ผมก็แค่อยากหาข้ออ้างพักจากงานและอยู่กับแฟนผมบ้าง และเราก็อยากอยู่กันเงียบๆ นะ....แต่”
“แต่?” ไม่ใช่แค่ธามหรอกที่พูดตามคำทิ้งท้ายของพี่โป๊ะ คนอื่นๆ ก็พูดเหมือนกัน
“แต่จิตใจใฝ่ดีของผมมันยังเติบโตอยู่ภายใน ซึ่งผมก็ยังแปลกใจอยู่”
“การนัดกากๆ ครั้งนี้จึงเกิดขึ้น”
“ทุกคนที่มา ช่วยเทิดทูนเจ้าของวันสำคัญที่เสียสละความเป็นส่วนตัวให้พวกคุณละลาบละล้วงด้วยครับ”
“วินครับ ลุกขึ้นยืนรับการคาราวะของพวกแขกที่แค่เชิญเล่นๆ ก็มาด้วยครับ”
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
ถ้าเป็นธาม ธามจะอายมาก
ธามหันมองพี่วินที่ยืนขึ้นอย่างจำใจ หน้าแดง หูก็แดง คิ้วขมวดแต่ปากเหมือนจะยิ้ม แต่ดูอีกทีกำลังขบบี้กันไปมา
“นั่นแหละครับ ผู้มีพระคุณสูงสุดที่ทำให้ชาวเราได้กินเหล้ากันในค่ำคืนนี้”
“แต่ๆๆ ยังไม่หมดเท่านี้ครับ เนื่องจาก ความใฝ่รู้ของแฟนผมอีกเช่นกัน”
“วินครับ ยืนอีกรอบได้มั้ยครับ”
“ไอ้พี่โป๊ะ!!”
“แม่ง ก็อยากเสือกกันทุกคนแหละว่ะ เลิกเรียกได้แล้ว”
“ไม่ได้ครับ คิดถึง”
“โอเคนะครับ แฟนผมถนัดท่านั่ง”
“ไอ้พี่โป๊ะ!!!”
“ครับ กลัวแล้วครับ”
“อย่างที่เห็นกันทั่วโดยที่กูก็ไม่อายเลยนะครับ แฟนดุครับ”
“กลับเข้าเรื่องจิตใจใฝ่ดีของผมและความใฝ่รู้ของวิน”
พี่วินตบโต๊ะแล้วก็ร้องเฮ้ยเสียงดังเลยครับ แต่คนอื่นๆ กลับหัวเราะกันใหญ่โต ธามก็ขำนะ แต่ธามไม่กล้าหัวเราะเพราะนั่งใกล้พี่วิน กลัวจะโดนทุบเหมือนโต๊ะ
“เพื่อนผม ดูเหมือนจะกระทำการบางอย่างลงไป และกำลังเผชิญกับผลที่เกิดขึ้น โดยที่มันไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่า การกระทำอะไรที่ทำให้มันต้องมาเผชิญสถานการณ์คับข้องใจแบบนี้”
“ผมใช้คำถูกต้องมั้ยไอ้หมอ อ๊ะๆ ผมไม่ได้บอกนะครับว่าเพื่อนผมคือคนไหน แต่ที่หนึ่งกับเด็กบ้าของมันก็ปกติดี พีชเองก็ยังคงเป็นเพื่อนผู้ไม่เคยกล้าหือกับแฟน”
“ว่าไง ไอ้หมอ ผมใช้คำพูดถูกมั้ย”
“เออ เออ ถูก ลงมาได้แล้วโป๊ะ อย่าเสือกมากกว่านี้ มันเรื่องของผม”
“อ่า ทุกคนคงรู้แล้วนะครับว่าเป็นเรื่องของหมอนำ”
“งั้นก็อัญเชิญคุณหมอ....”
ธามหันมองไปที่โต๊ะพี่ๆ เห็นพี่นำมองมาแล้วก็ทำท่าจะลุกขึ้น
“เชิญคุณหมอนั่งสำนึกผิดไปเรื่อยๆ เลยครับ take your time or....”
“take your ธาม” “เลือกเอา ตามสบาย”
“คิดได้ไงวะนั่น”
“วินว่าไม่ได้คิดหรอก คงบังเอิญน่ะ พี่โป๊ะไม่ได้มีสมองขนาดนั้น” พี่เจมกับพี่วินหันคุยกันเงียบๆ แต่ธามก็ได้ยินอยู่ดี
ว่าแต่...พี่นำกำลังเผชิญกับข้องใจอะไร?
ใครทำอะไรให้นำต้องลำบากหรอ?
“มาเข้าเรื่องของพวกเราดีกว่าครับ”
“มาวันนี้ อย่างที่บอกไว้กับทุกคน บอกครบบ้างไม่ครบบ้าง แต่ใจความสำคัญผมไม่น่าพลาดไปนะ”
“คืนนี้ เราจะมาร่วมทำกิจกรรม ร้องเพลงล่ารางวัลกัน”
“เงินเท่าไหร่เฮีย”
“พี่โป๊ะบอกมาก่อนจ่ายเท่าไหร่”
“กี่ล้านนนนนนนน”
นี่พวกเขาจริงจริงจังกันมากเลยหรอ ธามรู้สึกสงสัย เพราะเมื่อพี่โป๊ะพูดว่ารางวัล เสียงตะโกนถามก็เซ็งแซ่ไปหมด ทั้งที่ในร้านนี้มีกันอยู่สิบกว่าคน แต่โวยวายกันดังมาก
“เอาว่า ก้อนใหญ่ก็แล้วกันครับ”
“ขอให้ทุกคนตั้งใจ”
“มาถึงลำดับการร้อง”
“เพื่อตอบสนองต่อจิดใจใฝ่ดีของผมและความใฝ่รู้ของแฟนผม”
หัวเราะกันอีกแล้ว คำว่าใฝ่รู้มันตลกนักรึไง ธามไม่เห็นเข้าใจเลย
“เราจะเริ่มกันที่... คนที่เด็กสุดในที่นี้
ลูกหมาน้องธาม”
หือออออออ!!!
จริงจังหรอ?
เสียงขานรับ เสียงปรบมือ อาการอ้อมมือมาตบหลังของพี่วินกับพี่เจม ทำให้ธามแน่ใจได้ว่าไม่ได้กำลังถูกพี่โป๊ะผีอำใส่
ธามลุกขึ้นแสดงตัว ยิ้มหยีให้กับเสียงปรบมือเพราะไม่รู้จะแสดงออกแบบไหนดี พี่ๆ พวกนี้ไม่ใช่เพื่อนกัน แต่ว่า ก็น่าจะเป็นมิตร เพราะพวกเขาก็รุ่นน้องพี่โป๊ะทั้งนั้น
ธามหันมองตัวช่วย ที่ไม่ว่ายังไงก็ห้ามปฏิเสธ เพราะเราตกลงกันไว้แล้วว่าจะช่วยร้องเพลงไทยเพลงนี้
“พี่เจม พี่วิน”
“ไปสิ”
“โอเค พร้อมเสมอ ถ้าได้ตังค์แบ่งกันนะ พูดแล้ว”
“ให้ร้องจบเถอะเจม บอกตรงๆ นะ วินจำเนื้อเพลงไม่ได้”
“ไม่เป็นไร นี่โพย กางเลยวิน อย่าได้อาย”
พวกเรา 3 คนมองหน้ากัน พยักหน้าส่งสัญญาณแล้วก็เดินดุ่มๆ ขึ้นเวที
“อ้าวเฮ้ยวิน”
“อะไรอ่ะ”
“เจม...ไม่เห็นบอกก่อนอ่ะ”
“เฮ้ยโป๊ะ มึง เดี๋ยวดิ ถ่ายแฟนกูด้วย ไอ้โป๊ะ”
ธามไม่หันไปมองหรอกว่าใครพูด เพราะคนที่อายไปแล้วเรียบร้อยคือพี่วินกับพี่เจม และตอนนี้พี่หนึ่งกับพี่โป๊ะก็มายืนอยู่หน้าเวที พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือ และท่าทางที่ดูก็รู้ว่ากำลังเรคคอร์ดวิดีโอ
ธามมองเลยไปไกลๆ เห็นพี่นำนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิม กอดอกมองมา เมื่อสบตากัน พี่นำก็ปรบมือให้ทันที
“พี่โป๊ะ ไม่ต้องถ่าย กลับไปเลย”
“ม่ายยยยยยยยยย”
“พี่หนึ่ง มันมืดเถอะ แสงสาดเข้าหน้ากล้องอ่ะ ไม่เอา ไม่หล่อ”
“ก็ปกตินะเจม”
เสียงถอนหายใจของอีก 2 คนที่ยืนขนาบข้างทำให้ธามรู้สึกขำ ธามหันมองนักดนตรีที่จ้องหน้ารออยู่แล้ว เมื่อยื่นชื่อเพลงให้ พร้อมกับหน้าคนร้องท่ามหาจากอินเตอร์เน็ตให้ดูแล้ว พวกเขาก็พยักหน้ารับรู้
เสียงเพลงเริ่มต้นขึ้นไม่นานนัก พี่เจมก็เป็นคนร้องคนแรก และก็ร้องสลับกับพี่วินคนละท่อน
ไม่เป็นไรเมื่อรักมาถึงวันที่ต้องลา
เมื่อรักมาถึงวันที่ต้องจาก
ฉันเอง ไม่เคยคิด ว่าชีวิตต้องเจ็บอย่างนี้
เมื่อเราต่างก็ทำดีที่สุด
แต่ถึงเวลาที่คงต้องหยุดรั้งเธอเอาไว้
เพราะเธอเลือกจะจากไป
เคยรักกันมากไหน
แต่เมื่อต้องห่างกันไป
สุดท้ายคงต้องปล่อยมันเป็นไป
แต่ถ้าไม่รักกันแล้ว ถ้าเธอต้องการจะไป
ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะรั้งมันเอาไว้
แต่ถ้าไม่รักกันแล้ว ถ้าเธอต้องการจะไป
ก็ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่ต้องเสียดายเวลาที่เรารักกัน