The Extension : ผู้นำ & ธาม ( The Existence Ep.2)
---------------------------
ตอนที่ 2.2 (ผู้นำ)
ทั้งที่พอจะเดาได้ว่าธามจะตัดสินใจอย่างไร แต่เมื่อเห็นผลลัพท์ของการตัดสินใจของน้องแล้ว ผู้นำก็ยอมรับเลยว่าอยากซื้อตั๋วเครื่องบินบินไปดุธามให้ถึงที่เสียเดี๋ยวนี้
แต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้ ไม่สิ เขาไม่เลือกทำตามที่อยากทำต่างหาก เพราะหน้าที่เขา เพราะอาชีพเขา ทำให้เขาเป็นตัวของตัวเองได้ไม่เต็มที่
ผุ้นำต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องช่วยเหลือ ปลอบประโลมคนที่กำลังมีความทุกข์ ไม่ว่าจะสร้างเองหรือถูกปัจจัยแวดล้อมกดดันให้ต้องทุกข์ ผู้นำก็ถูกคาดหวังว่า หมอจะเข้าใจ หมอจะช่วยได้
“เป็นอะไร เจ้านำ” ฟ้องพ่อดีมั้ยนะ? ผู้นำมองหน้าหมอปันที่ถามเขาแต่สายตากลับแช่อยู่ที่หนังสือพิมพ์
“ธามของพ่อน่ะสิครับ หาเรื่องไม่เข้าท่าเลยจริงๆ”
“น้องมันทำอะไรอีก”
“ทำงาน”
“เอ้า! ทำงานก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ? น้องมันก็ต้องโตเหมือนกันนะนำ ไม่ใช่เด็ก 4 ขวบ 5 ขวบที่ต้องติดเราแจเหมือนเมื่อก่อน”
“ให้เป็นเด็กแบบนั้นยังจะดีกว่า ดูแลง่ายกว่านี้อีก”
“นี่นำพูดอะไร ธามไม่ฟังแล้ว ไม่ฟังไม่ว่า นี่เล่นทำที่ตรงกันข้ามกับที่นำบอกหมดเลย มันน่านัก!”
“นี่ดูแลกันหรือรับเลี้ยงเด็กหือ? เราเป็นพี่เลี้ยงน้องมันหรอนำ”
“ที่ต้องโตขึ้น นำก็ด้วยนั่นแหละ” รู้แบบนี้ไม่ฟ้องหรอก ผู้นำส่ายหน้าเพื่อยุติการสนทนาที่เข้าเนื้อตัวเอง เขาทานมื้อเช้ากับพ่อที่นานๆ ทีจะได้เจอกันที่โต๊ะอาหาร ส่วนมากจะเจอกันที่โรงพยาบาลมากกว่า
“อื้อนำ”
“ครับ”
“เรื่องศูนย์ที่ปรึกษา ถึงไหนแล้ว”
“ก็โอเปอเรทได้ตามแผนนะครับพ่อ มีอะไรอยากให้เพิ่มหรอครับ”
“ไม่มีหรอก เห็นนำยุ่งๆ เลยกังวลว่าที่ศูนย์จะมีปัญหาอะไรที่ทำให้นำหนักอกรึเปล่า”
“นอกเรื่องจากธาม ผมก็ไม่มีเรื่องหนักอกอะไรแล้วล่ะครับพ่อ” เขาบอกก้อนความกังวลที่เกาะอยู่ในใจ รูปร่างหน้าตาน่าจะคุ้นสำหรับหมอปันหน่อย เพราะแค่เขาเอ่ยถึงอีกรอบ หมอปันก็ส่งยิ้มบางๆ มาให้
พ่อเขารักน้องธามมาก และพ่อก็หวังไว้มากว่าเขาจะทำให้น้องมีความสุขได้ตามที่ต้องน้องต้องการ
แต่พ่อเขาลืมคิดไปข้อหนึ่ง
หากว่า...ความสุขของธาม ไม่ได้เกี่ยวกับการมีเขาดูแลหรือไม่มีล่ะ? หากธามมีความสุขได้ด้วยตัวธามเองล่ะ หมอปันจะเยียวยาจิตใจลูกชายตัวเองไหวรึเปล่า
“พ่อไปทำงานก่อนนะ มองหน้านำแล้วกาแฟหวานไปเลย”
“จู จู”
“ค่ะ คุณหมอ รับอะไรเพิ่มรึคะ?”
“ไม่แล้ว บอกเผือกเตรียมรถเลย วันนี้จะไปโรงพยาบาลใหญ่นะ”
“ได้ค่ะ” แล้วก็บลา บลา บลา ตามแต่ว่าป่าจูแกมีเรื่องอะไรต้องคุยกับพ่อเขาบ้าง
“คุณนำคะ”
“ครับป้าจู” พอหมดธุระกับพ่อเขาแล้ว ป้าจูผู้ดูแลบ้านนี้มาตั้งแต่เขายังเด็กก็พุ่งเป้ามาหาเขาแทน
“เมื่อไหร่คุณธามจะกลับล่ะคะเนี่ย”
“ป้าล่ะคิดถึง” แล้วคิดว่าผมไม่คิดถึงหรอครับ ผู้นำได้แต่บ่นอุบในใจ เขาไม่อยากตอบคำถามใครเรื่องน้องธาม เพราะเขาเองก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
เมื่อไหร่ธามจะกลับไทย
ธามจะอยู่นานกี่เดือน
ธามจะทำงานที่ไหน
ธามย้ายมาอยู่ที่ไทยถาวรเลยไม่ได้หรอ?
คำตอบของคำถามพวกนี้ไม่เคยมี ทั้งที่คำถามเพื่อขุดคำตอบเหล่านั้นถูกส่งไปทักทายคนที่ต้องตอบหลายต่อหลายครั้ง
ผู้นำไม่รู้ว่าน้องบ่ายเบี่ยงเพราะอะไร?
ตำราจิตวิทยามากมายอาจจะช่วยให้เขาคาดเดาความคิดของธามได้ แต่เขาเลือกจะโยนตำราชี้นำทางเหล่านั้นทิ้งไป
หากเป็นธามแล้ว เขาอยากได้ยินคำตอบจากปากธามเอง
เขาไม่ได้ตอบอะไรป้าจู
ผู้นำทำเหมือนที่ทำอยู่ทุกเช้า คือยิ้มให้ อิ่มมื้อเช้า แล้วก็ขับรถไปทำงานโดยไม่ปริปากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น
-----------------
“ไอ้นำ!” เรียกกันแบบนี้ไม่มีใครหรอก นอกจากเพื่อนตัวโวยวาย
“อะไร เบาๆ ก็ได้โป๊ะ”
“เรียกเบาๆ ตั้งนาน นี่ผมจะตั้งวงปี่พาทย์อยู่แล้ว โสตประสาทคุณยังไม่ทำงานเลย”
“เป็นไรวะ?” มันตบท้ายด้วยคำถามที่มันก็น่าจะรู้คำตอบ ผู้นำปรายตามองเพื่อนนิดเดียว ก่อนจะหันไปเหม่อมองถนนในซอยเล็กแห่งนี้ โปรลากเขามานั่งแช่เวลาอยู่ที่ร้านกาแฟหน้าปากซอยศูนย์ที่ปรึกษาซึ่งเป็นธุรกิจในเครือโรงพยาบาลที่เขารับผิดชอบโดนตรง
“ไม่มีอะไรใหม่ๆ มาอัพเดทคุณหรอก”
“คุณล่ะ มาหาผมมีอะไร”
“จะตอบเลยหรือให้เดาเล่นให้คุณใจหายใจคว่ำดี”
“ตอบเองก็ได้เว้ย”
“ผมก็ไม่มีอะไรใหม่ๆ อัพเดทเหมือนกัน”
“หรอ?” เมื่อมันกวนตีนมา ผู้นำก็คิดว่าตัวเองควรกวนตีนกลับ
“งั้นผมถามนะ”
“เผื่อคุณเข้าใจผิดคิดเอาเองว่าผมรู้สิ่งที่อยากรู้แล้ว”
“ถามอะไรวะ?”
“กับเด็กชื่อวินคือยังไง”
“ดูให้ความสำคัญนะ”
“ไม่มีอะไรนี่”
“จะถือเป็นคำตอบที่เที่ยงตรงที่สุดจากคุณเลยนะ”
“ผมจะไม่ทำความเข้าใจเรื่องของคุณกับน้องวินเป็นแบบอื่นแล้วนะ จะเชื่อคำพูดคุณเลย”
“..................”
“โอเค ไม่มี”
“ก็มี!”
“แต่”
“อะไร?” ผู้นำยิ้มพอใจนิดหน่อยเมื่อเพื่อนยอมเปิดปากเอง เขาไม่ต้องลงมืออะไรทั้งนั้น
“ผมขอคุยกับตัวเองให้เคลียร์ก่อน แล้วจะบอกพวกคุณก็แล้วกัน”
“แม่งเอ้ย เสียเหลี่ยมชิบหายเถอะ!” มันบ่นใส่ ดูเหมือนจะหงุดหงิดขัดใจอะไรสักอย่าง แต่มือโปรก็เลือกจะใช้อเมริกาโน่ปิดปากตัวเองเอาไว้ ผู้นำไม่ซักไซ้อะไรต่อ เพราะไม่ใช่หน้าที่ เขาไม่อยาก ‘หมอเข้าใจ’ แม้กระทั่งกับเพื่อนตัวเอง
“อื้อ แล้วนี่ศูนย์คุณใกล้เสร็จแล้วนี่”
“อื้อ”
“แล้วที่โรงพยาบาลล่ะ”
“ก็มีมืออาชีพอยู่ทั้งนั้น ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก”
“ที่ศูนย์นี้จะเน้นให้คำปรึกษา เป็นเซอร์วิสให้คนมาบ่น มาปรับทุกข์ ถ้าพบว่าป่วยค่อยส่งเคสไปที่โรงพยาบาล”
“คุณจะมาตรวจก็ได้นะ ท่าทางคุณใกล้บ้าแล้วนี่”
“นั่นดิ สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้มีอะไรเข้ามาอิทธิพลกับชีวิตเยอะไปแล้ว เตะไม่ออกด้วย”
“เตะไม่ออก หรือไม่เตะโป๊ะ เอาจริงๆ”
“ไอ้หมอ ผมไม่ใช่คนไข้คุณนะเว้ย”
“เลิกๆๆ แล้วนี่เมื่อไหร่ไอ้หนึ่งจะมา”
“คุณนัดกี่โมง ที่หนึ่งก็มาตอนนั้นแหละ มันยุ่งจะตาย ยังจะลากมากินกาแฟตอนหัวค่ำ คิดบ้างสิว่าจะได้หลับกันตอนไหน”
“เถอะน่า ธุระของผมสำคัญก็แล้วกัน”
“อีกแก้วมั้ย เอาให้เมาแม่งไปเลย”
“โป๊ะ เราดื่มกาแฟ ไม่ใช่แอลกอฮอลล์ หรือคุณเมามาอยู่แล้วเนี่ย?”
“ฮื้ออออออออ ยุ่งนะ อยู่กับผมเงียบๆ ก็พอ” อะไรของมัน มือโปรนี่ก็ประหลาดขึ้นทุกวี่วัน ผู้นำคิดว่าเขารู้ว่าเพื่อนเป็นอะไร แต่ที่รู้สึกเป็นห่วง ก็เพราะเขาไม่รู้เลยว่าเพื่อนจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นอะไรเมื่อไหร่กัน
“เฮ้ย! มาแล้วมาแล้ว”
“ไอ้หนึ่ง”
“เออๆ แม่งชวนกันหักคอแบบนี้อีกรอบ คุณเจอดีแน่โป๊ะ”
“เออน่า เจมล่ะ”
“ยุ่งอะไรกับคนของกูครับ เพื่อนกูก็ชกได้ครับ”
“หึงเหี้ยๆ อีกแล้วมึงเนี่ย”
“เจมล่ะ กูมีเรื่องจะถามหน่อย”
“ไม่ต้องถามหน่อยหรอก ถามกูนี่ เรื่องเจมกูรู้หมด”
“อย่ายุ่งกับเจมเยอะนัก กูรำคาญ”
“ไม่ได้ ไม่ได้”
“เจมมารึเปล่า กูมีเรื่องคุยกับน้องมันจริงๆ”
“น้องมันติดสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ กว่าจะเสร็จก็สองทุ่มล่ะมั้ง”
“มึงถามกูมา เดี๋ยวไปถามต่อให้”
“โอเค โอเค”
“เจมโดนมึง...แบบ....”
“อะไร”
“อึ๊บ”
“สัดโป๊ะ! นี่คือที่มึงจะถามเจมหรอ ไอ้เหี้ย”
“มาตบปากทึ ไอ้ส้นตีน!” แล้วที่หนึ่งก็ลงมือตบปากมือโปรจริงๆ ผู้นำได้แค่นั่งนวดสันจมูกตัวเองรอเวลาให้เพื่อนตีกันเสร็จก่อน เมื่อที่หนึ่งเลิกหึงทุกอย่างบนโลก และมือโปรเลิกถามอะไรประหลาดๆ แล้ว ผู้นำก็ต้องเป็นคนเคลียร์ประเด็นให้
“คุณอยากรู้เรื่องของเจมกับที่หนึ่งทำไมโป๊ะ”
“.................”
“มาละลาบละล้วงเรื่องคนอื่น โดยเฉพาะกับเพื่อนกันแบบนี้ เสียมารยาทมากถ้าไม่บอกเหตุผล”
“แม่งเอ้ย”
“เออ พูดก็ได้”
“กูเป็นห่วงว่าวินจะโดนปล้ำ”
“ไอ้ผู้ชายก็ดูสุภาพแพรวพราว เหมือนมึงเลยไอ้หนึ่ง”
“กูถึงอยากรู้ว่ามึงเอาอะไรเข้าล่อบ้างถึงได้เจมมา”
“ยากมั้ยมึง นานมั้ยวะ”
ผู้นำหัวเราะแล้วก็สบตากับที่หนึ่งที่กำลังหัวเราะอยู่ไม่ต่าง พวกเขาผลัดกันตีแก้มมือโปรเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“เอ้า! เร็วๆ กูอยากรู้”
“เดี๋ยวต้องกลับบ้านแล้วเนี่ย”
“กูไม่ได้เป็นคนสุภาพแพรวพราวอย่างที่มึงบอก”
“แล้วกูก็ไม่ได้ใช้อะไรล่อด้วย”
“เจมรักกู กูรักเจม เมื่อมันถึงเวลาที่ความไว้ใจมันแผ่ออกจนมองหาขอบเขตไม่เจอแล้ว เราก็เลยรักกัน”
“กูก็ได้อึ๊บนั่นแหละ ไอ้บ้า!”
“...................”
“แต่อย่างมึงต้องอดแน่ๆ”
“ทำไมวะ?” ถ้าเป็นเขา เขาจะไม่ต่อความยาวกับคนอย่างที่หนึ่ง เพราะสิ่งที่กลับมาก็คือรอยยิ้มและคำด่าที่กรีดลงกลางใจ
“มึงรักใครได้อีกด้วยหรอโป๊ะ”
“ก็ไหนว่าจะรักแพรจนตาย”
ปัญหาของเพื่อนก็คือปัญหาของเพื่อน รอให้เปิดปากปรึกษาเขาอย่างจริงจังเมื่อไหร่ ผู้นำถึงจะฟังอย่างตั้งใจ และเก็บค่าเซอร์วิสให้แพงสมฐานะ
เขาปล่อยที่หนึ่งกับมือโปรนั่งชนแก้วกาแฟมอมเมาตัวเองกัน 2 คน ส่วนตัวเองขอตัวกลับโรงพยาบาลหลังจากตรวจความเรียบร้อยของศูนย์ที่ปรึกษาเสร็จแล้ว
วันนี้ไม่มีอีเมลล์ ไม่มีโทรศัพท์จากธาม
ถ้าให้เขาเดา เขาก็เดาว่าวันนี้ธามคงทำหน้าที่เป็นไกด์มึนๆ ให้กับนักท่องเที่ยวไทยคนนั้น อีเมลหรือโทรศัพท์คงจะมาดึกๆ หลังจากเที่ยวเล่นกับผู้ชายอื่นจนหนำใจ
เอ่อ....เขาไม่ได้คิดอกุศลหรอกนะ จริงๆ
ก็แค่น้อยใจนิดหน่อยที่ตัวเองไม่มีส่วนร่วมในเสียงหัวเราะหรือความสุขของหมาธาม
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องนี้ เขาเองก็ผิดที่ไม่ค่อยมีเวลาให้น้องเลย
-----------------
นามมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ถ้าชื่อคนเราสามารถเปลี่ยนได้ตามการออกเสียงซ้ำไปซ้ำมาของคนคนหนึ่ง ชื่อเล่นของเขาก็คงต้องเปลี่ยนในเร็วๆ นี้แหละ
ผู้นำหัวเราะเพียงนิด ก่อนจะพยักหน้าใส่หน้าจอ ที่อีกด้านปรากฏหน้าธามขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ชื่นใจเขานักหรอก เพราะธามแกล้งถือมือถือมุมเสยให้เห็นรูจมูกวงรี
“อยู่ไหนครับเนี่ย” เขายิ้มกับจอกระจกของมือถือ ธามคงเอากล้องหมุนไปรอบๆ เพื่อให้เขาได้เห็นว่าตัวธามอยู่ที่ไหน
“ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ”
“ยังสิ งานไม่เสร็จนะ”
“นำนำ ธามรู้จักคำใหม่ด้วย เก่งมากสิ”
“พักสอน”
พัก?
พักสอน?
พักผ่อนรึเปล่า? หรือว่าพักก่อน อาจจะเดินเหนื่อยล่ะมั้ง
“แล้วพักตรงไหนอยู่ครับเนี่ย”
“พักซื้อน้ำ”
“ธามหิวน้ำไง”
“อ๋อ อย่าดื่มน้ำเย็นจัดนะครับ”
“ไม่รู้สินะ พักไปซื้อ”
งงแล้ว ผู้นำเริ่มขมวดคิ้ว เขาเริ่มมั่นใจแล้วว่าเขาและธามกำลังสื่อสารกันคนละเรื่อง แต่ไม่รู้ผิดพลาดตรงไหน
“ธาม พักคืออะไร”
“พักไง พักสิ”
“นำไม่รู้หรอ”
“ธามบอกแล้วไง ไกด์ให้พัก”
มีไกด์ มีพัก หรือว่าจะทำงานร่วมกับทีมไกด์ ไม่ใช่ไกด์ส่วนตัว นี่ธามทำอะไรอยู่เนี่ย เป็นห่วงแล้วนะ
“พี่ไม่รู้เรื่อง”
“พูดให้รู้เรื่องครับ”
“นำไม่ได้รู้เรื่องเลย”
“จะว่าพี่นำว่าไม่ได้เรื่องก็พูดให้รู้เรื่อง”
“ธามพูดไม่ได้เรื่องไง”
“พักคือพัก”
“ธามเป็นไกด์ พักเที่ยว”
“พักคือ traveller”
“อ่อ พักคือคนใช่มั้ยครับ a man? Right?”
“exactly, that’s what I just said” ทำหน้าขรึมอวดเขาด้วย เพื่ออะไรครับหมาธาม
“โอเค ลูกทัวร์ของธาม ชื่อพัก”
“แล้วตอนนี้ ธามหิวน้ำ ลูกทัวร์ก็เลยไปซื้อน้ำให้ธามใช่มั้ยครับ”
“ใช่”
“มันหน้าที่ไกด์ไม่ใช่หรอครับ”
“ไม่ๆ ผลัดกันได้ ช่วย”
“แล้วทริปนี้กี่วันครับ”
“ที่ต้องเป็นไกด์ให้คุณพักนี่กี่วัน”
“อืมม พักไม่ได้บอกว่าจะกลับวันไหน พรุ่งนี้ก็มีโปรแกรมเที่ยวกันอีก”
“ธามสนุกมากเลย”
“ชอบนะ”
“หรอครับ”
“พักคุยสนุก ธามพูดไม่ใช่พักก็รู้เรื่อง”
“ตลกมากเลย”
“พักสอนคำว่าผัดฟัก ฟักผัด ฟักพัก ธามพูดไม่ไหวเลย”
“ตลกมาก”
“หรอ...ครับ”
“นำล่ะ ตลกวันนี้มีมั้ย”
“ไม่มีอะไรตลกหรอกครับวันนี้ พี่นำทำงานทั้งวัน”
“มีไปเจอโป๊ะกับที่หนึ่งเมื่อหัวค่ำ แต่ก็แป๊บเดียว”
“พี่โป๊ะหรอ!” เสียงตื่นเต้นเชียว ผู้นำไม่หึงธามกับโป๊ะหรอก เพราะรู้ว่าโป๊ะเอ็นดูธามเหมือนน้องชาย และธามก็ชอบอยู่กับโป๊ะเพราะรู้สึกเหมือนมีพี่ชาย กิจกรรมน่าห่วงที่สุดของ 2 คนนี้ก็คือพากันไปเล่น หรือไม่กินอะไรที่คนธรรมดาเขาไม่เสียเวลาจินตนาการถึง ก็เท่านั้น
“พี่โป๊ะบอกว่าจะมาเที่ยว”
“แม่พี่โป๊ะอยู่ที่ไทเปนะนำ นำรู้นะ”
“รู้ครับ แต่ยังไม่เห็นมันพูดเรื่องจะไปไทเปเลยนะ สงสัยงานยุ่ง”
“มาสิ ธามเป็นไกด์ สนุกกัน”
“โอ๊ะ พัก!”
“พัก! Here”
ดูเหมือนลูกทัวร์จะซื้อน้ำมาให้ไกด์สำเร็จแล้ว ผู้นำมองนาฬิกาในห้อง ตอนนี้ 3 ทุ่มประเทศไทย ก็ 4 ทุ่มไต้หวัน กลับกันได้แล้วมั้ง
ทั้งที่กำลังคิดจะตัดบทสนทาเพียงเท่านี้ แต่ธามกลับโผล่หน้ามาในจอเล็กๆ เสียก่อน และรอบนี้ก้ไม่ได้โผล่มาแค่คนเดียว
“นำ พักเป็นคนเที่ยวธาม”
“พัก พี่นำเป็นพี่ชายธาม”
สวัสดีครับ พี่นำ ผมชื่อพักครับ มาไต้หวัน บลา บลา บลา
ดูๆ แล้วน่าจะรุ่นๆ เดียวกับธาม หรือไม่ก็แก่กว่าไม่กี่ปี ท่าทางเป็นคนเข้ากับคนง่าย สบายๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสดี และที่สำคัญ เพิ่งรู้จัธามแค่ 1 วัน แต่กลับกล้าโอบไหล่ธามแล้ววางคางบนไหล่
ไอ้นี่มันคิดว่าลอยหน้าลอยตาพูดอยู่กับใคร?
“ธาม แค่นี้ก่อนนะ”
“นำจะนอนแล้วหรอ? เหนื่อยหรอ?” ดูเหมือนธามจะอยากพูดอะไรอีกมาก แต่เขาไม่อยากฟังอะไรแล้ว ผู้นำฝืนยิ้มให้ครั้งสุดท้ายและกด เอนด์ คอล
เขาไม่ชอบนายพักอะไรนี่เลย
ถ้าอยู่ใกล้ๆ คงได้ปัดหน้าทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด
หึงโว้ย!
เมื่อกี้ธามว่ามือโปรมีแผนไปไต้หวันหรอ?
น่าสนเหมือนกัน
ผู้นำโทรศัพท์หาเพื่อน แต่มันดันไม่รับสายเสียได้
เอาเถอะ จะว่าไป ไปไต้หวันเสียหน่อยก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย หรือเสียการเสียงานหนักหนา
ไอ้ลูกทัวร์ของธามมันทำให้อยากรู้สึกอยากแสดงออกความเป็นเจ้าของหมาธามได้มากเลย
Cut
มาต่อแล้ววู้วววววววววววววววววว
ตอนหน้า ตอนที่ 3 แล้ว มาลุ้นกันว่าพี่นำจะจัดการเด็กน้อยเนื้อหอมหวานอย่างน้องธามได้รึเปล่า หุหุหุหุ
ขอบคุณที่ติดตามค่า แล้วก็ขอโทษทีที่ปล่อยให้รอนานมาก (ห๊ะ? ไม่มีใครรอหรอ? แฮ่ๆๆ ขอโทษๆๆ)
แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะ ^^'
สำหรับคำถามที่ว่า เราเหนื่อยมั้ยที่เขียนบทธามพูดไม่รู้เรื่อง ตอบว่าเหนื่อยค่าาาาาาาาา แต่ตลกดี
และที่ถามว่า เราพิมพ์ผิด หรือธามพูดไม่รู้เรื่องจริงๆ เราก็ขอโยนความผิดให้ธามค่า ฮ่าาาา