The Extension(ผู้นำ&ธาม2)
ตอนที่ 4.1 (ธาม)
ทำไมต้องป่วยด้วย? ธามได้แต่นอนครุ่นคิดอยู่คนเดียว เขานอนฟังเสียงพี่นำปรุงอาหารที่ยินก็เพียงแว่วๆ เท่านั้น นอกจากนั้นก็มีเสียงรถราและบรรยากาศจากภายนอก
เมื่อเช้า ธามตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัว แต่ก็ไม่บอกพี่นำและพยายามฝืนตัวเองเพื่อลุกขึ้นมาเตรียมตัวทำงานไกด์จำเป็น
พอลุกขึ้นยืนแล้วเกิดอาการโลกหมุนจนธามต้องนั่งลงอีกรอบ และพยายามเอนตัวลงนอน เขามองทุกอย่างในมุมประหลาดตา กระทั่งใบหน้าที่นำก็ดูพร่าไปด้วยเหมือนกัน
"เป็นไงมั่งครับ หมาธาม"
ไม่หมาซะหน่อย พี่นำให้ธามเป็นหมาตลอดเลย แย่!
เขาขมวดคิ้วใส่คนที่เปิดประตูห้องนอนเข้ามาถามกัน อีกฝ่ายอมยิ้มอย่างรู้ทันแนวการขมวดคิ้ว ยิ้มเย้ยกันไม่นานก็เดินมาหา กลิ่นอาหารที่โชยตามหลังพี่นำมา น่าจะเป็นข้าวต้ม ได้กลิ่นแล้วคิดถึงจูมากเลย
"กินข้าวนะ แล้วกินยา"
"แต่พัก" ธามค้านคำสั่งพี่นำด้วยสิ่งที่ค้างในใจ เขารู้สึกผิดที่ทำตามหน้าที่ตัวเองได้ไม่ดี ไม่รู้ป่านนี้พักจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวมาเจอกันแล้วหรือยัง
"ไม่พักหรอก ต้องพัก"
"พี่นำหมายถึง ไม่ต้องห่วงนายพักอะไรนั่นหรอกครับ ธามต้องพักผ่อน"
"แสดงว่าก่อนที่พี่นำจะมาก็ใช้ร่างกายเปลืองแบบนี้ใช่มั้ย ถึงได้นอนซมจมไข้แบบนี้"
"ไม่เปลือยนะ ธามไม่มี"
"โอเคครับ ไม่เปลือย แล้วเปลือยกับเปลืองมันก็คนละเรื่องเดียวกันเลยครับธาม
"อะไรละเรื่องเดียวกัน นำมั่ว"
"ไม่ใช่ไง"
"โอเค พี่นำเข้าใจแล้วครับ"
"ลุกไหวนะ มากินข้าวก่อนแล้ววกินยา แล้วค่อยพัก"
"เอาเบอร์นายพักมา พี่นำจะโทรบอกเขาเองว่าธามป่วย วันนี้ทำงานไกด์ให้ไมได้"
"ทำได้ไง แต่นำไม่ยอมเอง"
"จริงๆ ธามโอเค"
"แต่พี่นำไม่โอเค มีแรงเถียงขนาดนี้แล้วก็ลุกไปกินข้าวต้มครับ แล้วกินยาด้วย"
"เรื่องลูกทัวร์ เดี๋ยวพี่นำจัดการเอง"
"นำจัดการพักยังไง"
"ไม่ตีนะ"
"โธ่ธาม! ใครเขาตีกันเล่า โตๆ กันแล้วครับ"
"พี่จะจัดการ คือจัดการบอกเขาว่าวันนี้งดเที่ยว"
"ไปได้แล้วครับ ลุก เร็ว" ปากก็บ่นไปสั่งไป แต่ที่พี่นำทำได้ดีสุด และน่าจะทำให้การกินยาของธามเกิดขึ้นเร็วที่สุดก็คือการงัดตัวธามขึ้นนั่ง แล้วก็อุ้มจับพาดบ่า แบกออกจากห้องนอน
นำนี่เจ๊งจริงๆ (ถ้าหากว่าธามจำไม่ผิดก็น่าจะคำนี้แหล่ะ)
แต่...ทั้งๆ ที่นำเป็นคนบอกให้ธามอาบน้ำเองแท้ๆ แต่พอธามออกจากห้องน้ำมาด้วยสภาพหัวเปียก น้ำหยดติ๋งๆ และตั่วสั่นเพราะความหนาว พี่นำก็ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่อีกครั้ง ด้วยการว่าธามว่าพูดไม่รู้ฟัง ดื้อ ทำอะไรไม่รู้จักคิด
นี่ธามยังไม่รู้เลยว่าธามไม่คิดตรงไหน ธามคิดทุกตรงเลยนะ นำนั่นแหล่ะที่ไม่คิด
"ไม่ฟังแล้ว เบื่อนะ!" ธามปัดมือคนที่เช็ดหัวให้อย่างอารมณ์เสีย เขาแหงนหน้ามองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย อยากรู้นักว่าจะดุอะไรเพิ่มอีก
"เบื่อพี่นำแล้วหรอครับ"
"ใช่ ชัวร์!"
"เมื่อธามแก่แบบนำ ธามจะไม่ดุไม่บ่นๆว่าๆแบบนี้"
"ไม่อยากฟัง"
"โอเค งั้นพี่นำจะเช็ดหัวให้เงียบๆ แล้วเราอยากทำอะไรก็ทำ ถ้าความหวังดีของพี่มันน่าเบื่อขนาดนั้น ก็ห่างกันหน่อยก็แล้วกัน" พูดจบแล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟาริมหน้าต่าง อะไรกันเล่า ธามพูดผิดที่ไหน
"นำ" เขาทดลองเรียก แต่พี่นำเหมือนคนคอเคล็ด เอาแต่นั่งเกร็งคอมองไปทางอื่น หรือว่าโกรธ เอ?? ไม่สิ ต้องเรียกว่าอะไรสักอย่าง พี่เจมเคยบอกว่าคำนี้ภาษาอังกฤษไม่มี
อื่มมม นอยด์ใจ ใช่ๆ อันนี้แหล่ะ
"นำไม่นอยด์ใจสิ"
"ใจต้องดีนะ ใจนอยด์ไม่ได้หรอก"
พี่นำหลับตา เอนตัวพิงพนักโซฟาแล้วก็ถอนหายใจ ธามน่าจะเดาถูก เพราะครั้งนี้พี่นำหันมองธามแล้ว
"ไม่นอยด์ใจแล้วนะ"
"ดีสินะ"
"น้อยใจครับ"
"ครูภาษาไทยธามไม่เก่งเลย เลิกจ้างดีกว่า เปลืองตังค์พี่นำด้วย"
"ไม่ได้นะ พี่เจมชอบเงินจ้าง นำไม่จ้างพี่เจมจะนอยด์ใจเหมือนกัน ไม่ดี"
"พูดไม่รู้เรื่องเลย ทำไมถึงน่าฟัดแบบนี้”
“ป่วยแล้วมาน่าฟัดตรงหน้าพี่ได้ยังไง ยังไม่ได้อบรมเรื่องนายพักอะไรนั่น พี่ยังต้องอบรมธามเรื่องอย่าน่าฟัดอีกหรอ”
“อะไร!”
“ธามนั่นแหล่ะ น่าฟัดทำไม ฟัดไม่ได้ ตอนนี้ป่วย”
“ไม่ป่วยไง ธามบอกแล้วว่าธามโอเค แต่มึนหัวแล้วก็เจ็บคอ เจ็บๆ ตอนจิ้มตัวด้วย แค่นี้ไง!”
“แค่ก แค่ก”
“แค่นี้ไงอะไรกันเล่า เผลอๆ จะเป็นไข้หวัดใหญ่”
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยครับ ดูสิ ตัวแดงหมดหมดแล้ว”
“ดูสิ...หน้าร้อนไปหมด หูแดงแจ๋เลย ป่วยหนักแน่ๆ”
“ดูสิ...ปากแห้งด้วย” แห้งก็แห้งสิ ดูด้วยตาก็รู้แล้ว ทำไมต้องมาจูบด้วย ไหนว่าฟัดไม่ได้ไง นำฟัดใหญ่เลย
“อื้อ” ธามเบี่ยงหน้าหนีเมื่อถูกช่วงชิงจังหวะหายใจจนเสียกระบวน
“นำบอกฟัดไม่ได้ไง”“แต่ธามบอกไม่ป่วย บอกเองว่าโอเค”
“จะให้ธามถูกหรือนำถูกล่ะ” เขาถามให้พี่นำครุ่นคิด แต่พี่นำฉลาด คิดแป๊บเดียวก้ได้คำตอบ
“ธามพูดถูกแล้ว ธามไม่ได้ป่วยมากเลย ฟัดได้เนอะ”
“ฟัดสิ” ฮ่าๆๆ เขินนะเนี่ย! ธามก้มหน้าหนีสีหน้าขำๆ เขินๆ ของพี่นำ เขาข่มความเขินอยู่แป๊บนึงก็เดินกลับเข้าห้องนอน พอพี่นำถามว่าจะไปไหน ธามก็ต้องตอบชัดๆ คำนี้พูดไม่ผิดแน่นอน
“ก็นำจะฟัดไง” ไม่เห็นจะได้ผลเลย!
ธามจะไม่เชื่ออะไรพี่นำอีกแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่ชอบอ้างว่าเป็นหมอแล้วจะรู้อาการป่วยของธามทุกอย่าง
ทั้งที่ก็รู้ว่าธามป่วย แต่นำก็ยังฟัด พอบอกว่ายังมึนๆ หัวอยู่ ไม่อยากอึดอัด นำก็บอกว่ามันช่วยได้ ตำราไหนๆ ก็บอก
ถ้าธามรู้ก่อนว่าสูตรนี้ไม่ได้ผล ธามก็เถียงไปแล้ว ดูเหมือนธามจะต้องหาหนังสือมาอ่านเพิ่มว่าเซ็กส์บำบัดที่นำชอบอ้างมันมีจริงรึเปล่า
“หน้ามุ่ย” ก็เพราะใครกันล่ะทำให้ธามต้องหมามุ่ยแบบนี้!
“ธามไม่ใช่คันนะ” เขาเถียงเพราะคิดว่าพี่นำกล่าวหาว่าธามเป็นหมามุ่ยคันๆ พี่นำหัวเราะตาหยีแล้วก็ลุกจากเตียงมาคว้าเอวธามไว้ ลากกลับไปนั่งตักบนเตียงแล้วก็โอบไว้เสียแน่น มันก็อุ่นอยู่หรอก แต่มันก็เหนียวด้วยเหมือนกัน
“หน้ามุ่ยครับธาม พี่นำพูดผิดหรือธามฟังผิด หือ? เกี่ยวอะไรกับคัน แล้วคันก็ไม่มีหน่วยเป็นตัวด้วย มันนับไม่ได้ด้วยซ้ำ มันเป็นคำกิริยา หลายความหมายเลย”
“อะไร ไม่รู้เรื่องแล้ว”
“ก็เป็นซะแบบนี้ บอกให้อยู่เมืองไทย จะได้รู้เรื่องที่พี่นำพูดบ้าง หือ?” หือแล้วก็กัด หือแล้วก็หอมฟืดๆ นำบ้า!
“อื้อ!” เขาโน้มตัวออกห่างเพื่อไม่ให้พี่นำกัดไหล่จูบหลังถนัดนัก แต่พี่นำก็ปากยาวตามมาได้อยู่ดี
“นำอ่ะ!”
“ไม่เอาแล้ว เหนียว”
“งั้นไปอาบน้ำ”
“ก็ธามเพิ่งอาบไง นำก็ฟัดนี่ไง”
“แล้วใครเดินเข้าห้องก่อนครับ”
“ธามไง”
“แล้วโวยวายอะไร”
“ก็นำฟัดทำไม เหนียวอีก ก็ต้องอาบน้ำอีก มันหนาว แล้วธามก็ปวดหัวด้วย”
“นำยังไม่ชอบที่ธามหัวเปียกซุกๆ เลย”
“เปียกซ่กครับ”
“เออไง!”
“โอเค งั้น”
“น้องธามไปอาบน้ำอีกรอบ เพื่อให้หายเหนียวตัว แต่ไม่ต้องสระผมแล้วนะครับ”
“แล้วก็อาบแป๊บเดียวพอ”
“เดี๋ยวไปหาหมอกัน”
“ไม่หาแล้ว หายแล้ว”
“................”
“นี่ไง ไม่ปวดหัวเยอะแล้ว”
“คงออกแรงเหงื่อ ก็นำบอก”
“สรุป? ไม่ป่วยแล้ว?”
“ก็ใช่แหล่ะ แต่ก็มีเหลือนิดหน่อย มึนอ่ะ”
“แล้ว...เถียงพี่นำมาทั้งหมดเมื่อกี้เพื่ออะไร”
“ก็นำฟัด”
“ไม่ชอบหรอครับ หรือพี่นำไม่มีสิทธิ์ฟัดธาม”
“หือ? Define มาเลยว่าพี่นำทำอะไรได้บ้าง”
ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ แต่ก็อยากให้พี่นำฟังธามบ้างว่าอยากให้ฟัดหรือไม่ให้ฟัด ถ้าธามไม่อยากให้ฟัดก็อยากให้พี่นำรู้ว่าพี่นำมีสิทธิ์ฟัดนั่นแหล่ะ แล้วธามก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ไม่ได้รักพี่นำลดลง แค่ไม่อยากโดนฟัดตอนนี้ แค่นั้น ต้องพูดยาวแค่ไหนพี่นำถึงจะรู้เรื่องทั้งหมดกันล่ะ?
“เฮ้อ” เขาถอนหายใจ ไม่พูดอะไร แล้วก็เดินไปอาบน้ำอีกรอบตามที่พี่นำบอก
ออกจากห้องน้ำรอบนี้ มีเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้บนเตียงเรียบร้อย เสื้อผ้าหนาเตอะแบบนี้ไม่มีใครจับเข้าชุดกันได้ดีเท่าพี่นำแล้ว แต่งตัวเสร็จก็ออกมาห้องรับแขก ได้กลิ่นอาหารอุ่นๆ แสงแดดเริ่มจ้าตามากจนธามต้องเช็คว่านี่กี่โมงกันแล้ว
“มื้อนี้เรียกมื้ออะไรหรอนำ สิบโมงแล้ว”
“มิ้อสาย”
“ทานได้เลยครับธาม ไม่ร้อนมากแล้ว พี่นำตักไว้รอ”
“ยาหลังอาหารนะ กินแล้วจะง่วง”
“โหย ไม่ง่วงหรอก เผื่อพาพักเที่ยวได้ไง ทำงานได้เงินนะ”
“งั้นพี่ก็จ้างธามเหมือนกัน วันนี้เป็นไกด์ส่วนตัวพี่นำก็แล้วกันเนอะ ลูกทัวร์คนนี้อยากอยู่บ้านเฉยๆ พักผ่อน”
“จ่ายเท่าไหร่?” ธามแกล้งถามแล้วก็ต้องรีบเกาะแขนพี่นำไว้ เพราะทำหน้าเหมือนโกรธกัน อีกฝ่ายยอมไม่ถือสาแล้วก็ลูบหัวเขาเบาๆ พี่นำนี่เป็นคนดีมากๆ มากจนไม่รู้ว่าจะไปหาจากที่ไหนได้อีกถ้าพี่นำเดินออกจากชีวิตธามไป
“ธามไม่ได้ตั้งใจ ธามไม่คิดเงินกับนำหรอก ธามหาเงินช่วยนำนะ นำจะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำงานเยอะๆไง”
“นำจะได้มีเวลาพัก มีเวลาไปเที่ยวกับธามไง”
“เราจะมีเวลาพักผ่อนด้วยกัน ถ้าธามอยู่กับพี่นำที่เมืองไทย”
“จึ๊!” ธามอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงไม่พอใจ เขาปล่อยมือที่เกาะแขนที่นำไว้ลงพื้นแล้วก็นั่งทำหน้าหงอยๆ มองข้าวต้ม
“ตอนนี้ยังไม่สายที่จะวางแผนกันใหม่นะครับ” พี่นำถือโอกาสอีกแล้ว พอพูดเรื่องนี้เข้าหน่อยก็ทำท่าจะพูดยาว ซึ่งธามก็หนีตลอด แต่ครั้งนี้คงหนีไม่ได้ เพราะไม่ได้คุยกันทางโทรศัพท์ แต่คุยกันแบบเห็นหน้า เห็นแววตาที่แสนจะจริงจัง
“ทุกวันนี้พี่นำยังไม่เข้าใจเลยว่าการอยู่ห่างกันมันดีตรงไหน”
“พี่นำคิดถึงธาม ธามก็คิดถึงพี่”
“แล้วเราอยู่ห่างกันทำไม พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมความรักของเราต้องเป็นธีมนี้”
“ไม่ใช่ธีมนะ แล้วธามก็ไม่ได้มองมันเป็นเรื่องของคอนเซปต์ความรักด้วย”
“แต่ธามโตที่นี่”
“แล้วโตต่อไปที่เมืองไทยไม่ได้หรอ?”
“อย่างนั้น นำมาโตต่อที่ไต้หวันสิ ได้มั้ย”
“จะเอาแบบนั้น?”
“ให้พี่ย้ายชีวิตพี่มาที่นี่ เพื่อธาม ต้องการจริงๆ ใช่มั้ย แบบนี้น่ะ”
“ก็ไม่ใช่ ธามก็เวจให้เห็น นำเอาแต่บอกว่าให้ธามไป นำไม่เข้าใจเลยว่าธามต้องห่างจากอะไรไปบ้าง ธามก็เลยอยากให้ธามนึกภาพตัวนำต้องมาอยู่ที่ที่ไม่ใช่บ้าน”
“พี่นำทำได้ ถ้าได้อยู่กับธาม”
“แล้วลุงหมอล่ะ จูล่ะ?”
“พี่ๆ เพื่อนนำล่ะ”
“ก็พี่เลือกธาม ชีวิตพี่นำจากนี้ไป 10 ปี 20 ปี 50 ปี พี่จะอยู่กับธาม”“ช่วงแรกก็ต้องปรับตัวบ้าง แต่ไม่มีอะไรยากเกินไปหรอก เพราะพี่นำได้กลับบ้านมาเจอธามทุกวัน ตื่นมาก็เห็นธามทุกวัน ธามอาจต้องเป็นคนสอนภาษาจีนไต้หวันให้พี่นำ แต่ประเทศนี้เขาก็ใช้ภาษาอังกฤษกันได้พอประมาณ พี่ไม่น่าจะอดตาย เรื่องงาน พี่นำจะพยายามติดต่อโรงพยาบาลรัฐที่นี่ก่อน จำพวกศูนย์สมองอะไรเทือกนี้ หรืออาจจะต้องเรียนต่อเฉพาะด้านเพิ่มจากต่างประเทศ แล้วขอมาประจำที่นี่ เราอาจต้องห่างกันสัก 2 ปีโดยประมาณเพราะพี่ต้องไปเรียนที่อังกฤษ มีสถาบันสำหรับศึกษาต่อเฉพาะด้านจิตวิทยาอยู่ แต่ต้องเขียนจดหมายแนะนำตัวไปก่อน แต่ไม่ยากนี่ พี่นำพยายามได้ ลองทำได้ เพราะเป้าหมายของพี่นำคือการได้อยู่กับธาม”
“.................”
“แล้วธามล่ะ?”
“นำอยากรู้จริงๆ หรอ?”
“ครับ”
“โอเค”
“พี่ธามอยากอยู่ที่นี่ เพราะธามอยากเอาบริษัทป้าวีณากลับมา”
“ธามไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเหมือนกัน แต่ว่า ถ้าอยู่ที่นี่ก็ใกล้กับการจะซื้อบริษัทป้าคืนมากกว่า”
“ชีวิตธามตอนนั้นเมื่อก่อน มีคนรอบตัวเยอะมากที่รู้จักกัน ดีต่อกัน”
“แค่เพราะธามสะดุดจากเรื่อง....แซน”
“ธามต้องเริ่มใหม่ที่อื่นด้วยหรอ?”
“ธามก็อยากอยู่กับนำ อยากตื่นมาเห็นนำ อยากหลับอยู่ข้างๆ นำ”
“ที่นี่พอมืดแล้วก็เงียบ บ้านกว้าง แต่ตะโกนก็เงียบ ธามร้องไห้ จะร้องไห้ตลอดไปไม่ได้หรอก”
“นำเข้าใจมั้ย”
พี่นำถอนหายใจ ยื่นมือมาจับหัวธามโยกไปมา ลูบผม แนบมือกับลำคอ แล้วก็ตักข้าวต้มป้อน
มือพี่นำอุ่นมากจนธามอยากจะร้องไห้ตอนนี้ แต่ปากยังอมข้าวต้มอยู่เลย รู้แบบนี้ยังไม่กินดีกว่า
“คิดมากจัง”
“ทำไมไม่บอกกันบ้างว่าคิดอะไรเยอะแยะขนาดนี้”
“พี่นำแบ่งเบาได้นะครับ ช่วยคิดได้ด้วย”
“นำคิดว่าธามต้องทำยังไง ถึงจะซื้อบริษัทป้าวีณาคืนมาได้”
“คงต้องเริ่มกันที่...ซื้อกลับมาเพื่ออะไร?”
นั่นสิ ธามอยากซื้อกลับมาเพื่ออะไร เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ธามรู้แค่ว่าอยากทำ
เขาส่ายหัวปฏิเสธการให้คำตอบ พี่นำก็ยิ้ม
“ธามจบโทบริหาร ใช่มั้ยครับ?”
“อื้อ”
“เรียนเพื่อมาบริหารกิจการน้าวีณาต่อเปล่า ตอบพี่นำที”
“ตอนนั้นไม่ได้คิดหรอก ที่เรียนสาขานี้ก็เพราะมันไปทำอะไรได้เยอะ”
“โอเค อยากรวยกว่านี้รึเปล่า เลยอยากสร้างแอสเซทให้ใหญ่โต”
“ไม่ไม่ ธามไม่ได้อยากเป็นบิสซิเนสแมนด้วยซ้ำ”
“แล้วจะซื้อกิจการคืนมาเพื่ออะไรครับ”
“.............”
“เอางี้ คิดตามพี่นะ ใช่ก็ยอมรับ ไม่ใช่ก็ยอมรับ ต้องซื่อตรงมากๆนะ”
“อื้อ”
“รักพี่นำมั้ย?”
“รักสิ!”
“โอเค ฮ่าๆๆ มีสติแล้วเนอะ”
“ธามไม่ได้ทำงานที่นี่เพื่อหาเงินเยอะๆ”
ใช่
“ธามอยากเจอกับคนที่เคยดีต่อกัน เมื่อครั้งที่ป้าวีณายังอยู”
ไม่ใช่
“ธามอยากอยู่ทีที่น้าวีณาสร้างความสุขไว้”
ใช่
“ซึ่งอาจเป็นการอยู่ที่นี่ แค่นั้น”
ใช่
“หรือถ้าได้บริษัทนั้นกลับมา ก็คงจะทำให้คุณน้าวีณามีความสุข ธามอยากทำให้น้าวีณามีความสุข”
ใช่
“ธาม ไม่อยากหายไปที่นี่เฉยๆ ธามอยากมีตัวตนอยู่ที่นี่ ที่ที่ธามเติบโต”
ใช่
“ธามจะเข้าใจมั้ย ถ้าพี่นำพูดว่า แค่รักกัน มันไม่พอ” เขาชะงักอาการจดต่อเรื่องป้าวีณา ธามขมวดคิ้วเม้มปากมองหน้าพี่นำที่เคร่งเครียดขึ้นจนรู้สึกได้
“ระหว่างที่พี่นำมีชีวิตก่อนจะเจอธามอีกครั้ง พี่นำก็มีเรื่องราวเยอะเหมือนกัน”
“มีเพื่อนอีกซีกโลก เป็นผู้หญิงที่สวย ฉลาด”
“เรามีความเข้าใจกัน มีหลายเรื่องที่เข้ากันได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับเพื่อนคนอื่น”
“เรามีเซ็กส์กัน อย่างอ่อนหวาน แต่เราไม่เคยคิดเรื่องการอยู่เคียงข้างกันจนตาย”
“แล้วเราก็จากกัน
ครั้งนั้นพี่นำเรียกมันว่าความรัก”
“พี่นำเจอผู้หญิงอีกคน น่ารัก บอบบาง เราใกล้ชิดกันเพราะความอ่อนต่อโลกของเธออยากการอยากช่วยของพี่”
“ก็แน่นอน
พี่ก็เรียกมันว่าความรัก”
“และคนสุดท้าย คือธาม”
“ธามผ่านอะไรมาบ้างพี่ไม่รู้ พี่นำรู้เฉพาะตอนที่ธามก้าวเข้ามาในชีวิตพี่นำ”
“ทำให้วุ่นวาย ใจว้าวุ่นไปหมด ห่วงทุกอย่าง กังวลทุกชั่วโมง เครียดทุกวัน แต่กลับเกิดเป็นความสุขเพียงเพราะแค่ กลับบ้านมาแล้วเห็นว่าปลอดภัยดี ได้กลับมากอดธาม เจอธาม แหย่ธาม ดูแลธาม ทุกอย่างที่ทำร่วมกันกับธามก็คือความสุขทั้งนั้น”
“ครั้งนี้ก็คือความรัก”“คิดพี่แย่มั้ย ที่ไม่พยายามรักษาความรักของเธอคนแรก และเธอคนที่สอง”
“พี่นำคิดว่าไม่ เพราะเราห่างกันด้วยความเข้าใจทั้งสองฝ่าย”
“ธามไม่ใช่รักครั้งแรกของนำ ธามรู้เท่านี้”
“จับใจความได้ดีจังนะครับ”
“นี่แหล่ะเรื่องของพี่นำ”
“เทียบกับเรื่องของธามได้มั้ย?”
“ธามเป็นคนดี เป็นเด็กดีที่พยายามจะทำให้คุณน้ามีความสุข แม้ว่าคุณน้าจะจากไปแล้วก็ตาม”
“งั้นพี่นำธามขอบเขตได้มั้ยครับ ไม่งั้นอย่างนั้นพี่นำต้องปล่อยธามให้ห่างออกไป ห่างไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุด เราอาจไม่ใช่คนที่รักกันอีกต่อไป”
“ไม่ไม่ ธามรักนำนะ ไม่รักใครเลย”
“อะไร คือตัววัด ว่าน้าวีณามีความสุขครับ”
“ธามไม่รู้”
“ซื้อบริษัทกลับมา...?”
“ตามไปสานสัมพันธ์กับคนที่เคยดีต่อกัน...?”
“อยู่ที่นี่จนตาย เป็นคนไต้หวันเต็มตัว ไม่กลับไทยอีกเลย......?”
“ถ้าธามคิดได้ บอกพี่ด้วย ถ้าตัววัดความสุขของน้าวีณาชัดเจน ทำให้พี่นำเห็นภาพได้ว่าธามต้องอยู่ที่นี่เพื่ออะไร และถึงเมื่อไหร่ พี่นำจะปล่อยให้ธามใช้เวลาชีวิตตัวเองสร้างความสุขให้น้าวีณาให้เต็มที่เลย”
“แล้วถ้าบอกชัดไม่ได้ล่ะ?”
“พี่นำคงไม่คอยธามทั้งชีวิตหรอกครับ”“อย่างที่พี่นำเล่าไว้ พี่มีคนแรก คนที่สอง ธาม...คนที่สี่ คนที่ห้า ก็ยังคงเป็นความรัก”
“แปลว่าตอบไม่ได้แล้วยังจะอยู่ที่นี่ต่อ ก็คือเลิกกันหรอ”
“ครับ” นำใจร้าย มากด้วย มากที่สุด
นำก็น่าจะรู้ ธามไม่รักใครอีกแล้ว
ทำไมถึงเลิกรักกันง่ายแบบนี้?
cut
ส่งหมอนำหมาธามส่งท้ายปีกันเลยทีเดียว
ปี 2558 มีอะไรเกิดขึ้นเยอะเลยนะคะ ให้ไล่เรียงก็จำได้ไม่หมด พอดีเป็นคนชีวิตยุ่งเหยิง ความคิดก็ยุ่งเหยิง ตัวหนังสือน่าจะฟ้องพอประมาณว่าไม่ค่อยมีอะไรชัดเจนในชีวิตคนเขียนเท่าไหร่เลย

ปี 2559 ขอให้ ความสุข อยู่กับทุกคน ทุกวินาที ทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทั้งปี ค่ะ
พบกันใหม่ปีหน้าค่ะ
