The Extension : ผู้นำ & ธาม ( The Existence Ep.2)
---------------------------
ตอนที่ 2.1 (ธาม)
วันมะรืนธามก็ต้องกลับไต้หวันแล้ว มาไทยรอบนี้ยังไม่ได้เที่ยวเล่นให้จุใจเลย ซ้ำยังต้องมีเรื่องให้หงุดหงิดอีกต่างหาก ก็เพราะพี่นำคนเดียวนั่นแหละ ถ้าให้คำตอบธามซะ ก็ไม่ต้องมานั่งหงุดหงิดกันแบบนี้
“จะกลับแล้ว ทำหน้าดีๆ หน่อยสิครับธาม”
“ไปอยู่ที่นู่นเดือนนึง ต้องนอนคิดถึงพี่นำทุกคืนนะ”
“ไม่เอา ธามไม่แหงซะหน่อย”
“ยังพอมีเวลาครับธาม ออกเสียงให้ถูกหน่อย พี่นำเดาไม่ได้เลยเนี่ย”
“ก็ลูกแหงไง ติดพ่อแม่ไง ธามไม่ใช่”
“อ๋ออ ลูกแหง่”
“แง้ล่ะ” พี่นำกุมขมับแล้วส่ายหัวใส่ ธามเลยเตะขาพี่นำที่ใต้เก้าอี้ จากนั้นค่อยกินมื้อเช้าแสนอรอ่ยฝีมือจู
“ยังไม่ตอบอีก ดื้อใหญ่แล้วนะครับ”
“ตอบอะไรอีก” ธามย้อนถามเพราะไม่เข้าใจ ก็พี่นำพูดขึ้นมาเฉยๆ ก่อนหน้านี้คุยอะไรไว้ธามจำไม่ได้หรอก เพราะธามมัวแต่คิดเรื่องนั้นนี่อยู่ตั้งมาก ส่วนมากที่คิดก็เรื่องพี่นำทั้งนั้นแหละ
“ตอบว่าจะนอนคิดถึงพี่นำทุกคืน”
“ธามตอบไปแล้ว ไม่”
“ทำไมล่ะครับ ปล่อยให้พี่นอนคิดถึงธามฝ่ายเดียวได้ยังไง”
“ไม่แฟร์เลย ใจร้ายนะครับ”
“ธามไม่ใช่”
“โอเค น้องธามที่ไม่ใช่แหงครับ พี่นำขอให้ธามนอนคิดถึงพี่นำทุกคืนได้มั้ยครับ”
“ก็...ถ้านำพูดเท่าขนาดนี้ ก็ได้”
“แต่เพราะนำพูดเท่าขนาดนี้หรอกนะ”
“ครับ ครับ” พี่นำเข้าใจอะไรง่ายดี ธามจะดื้อใส่ยังไง พี่นำก็เข้าใจธามเสมอนั่นแหละ โลกนี้คงไม่มีใครรักธาม ยอมธามได้เท่าพี่นำอีกแล้ว สุดท้าย ธามก็สะบัดความขุ่นเคืองในใจทิ้งไป แล้วก็ส่งยิ้มหวานให้กับพี่นำที่ยิ้มรออยู่ก่อนแล้ว
วันนี้ธามไม่มีโปรแกรมไปไหน ก็เลยนั่งทำทีสิสของตัวเอง เพื่อเตรียมเอาส่งที่ปรึกษาเมื่อไปถึงไต้หวันในอีกไม่กี่วัน เพราะไปถึงที่นั่นก็คงยุ่งกับการทำพรีเซนเทชั่นแล้วก็หาเวทีเพื่อนำเสนองานวิจัยของตัวเอง ไหนจะเรื่องจดหมายสมัครงานที่ส่งไปตั้งหลายที่ นี่ยังไม่นับรวมถึงความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นถ้าหากพี่นำรู้ว่าธามสมัครงานที่ไต้หวันไว้แล้วด้วยนะ เพราะฉะนั้น ต้องรีบเคลียร์เรื่องเรียนให้เร็วที่สุด
“ธาม พี่นำไปทำงานแล้วนะครับ”
“ครับ”
“ไม่ไปด้วยแน่หรอ?”
“อื้อ”
“ไหนว่าอยากเที่ยวไง เดี๋ยวตอนเย็นพี่พาไปกินของอร่อย ไปมั้ย”
“ไม่ไปมั้ยหรอกนะ ธามยุ่งกับทีสิสอยู่ กวนนะ”
“โอเคครับ” คนที่โผล่หน้าเข้ามาทางประตูส่งเสียงบอกถึงความเข้าใจ จากนั้นธามก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินจากไป แม้จะไม่ได้หันหลังไปมอง ธามก็รู้ได้ว่าพี่นำค่อนข้างดีใจด้วยซ้ำที่ธามรู้หน้าที่ตัวเองดีแบบนี้
ตกบ่าย ก็มีโทรศัพท์มากวน ไม่มีใครหรอก พี่นำนั่นแหละ แม้ความคิดจะสะดุดจากเสียงโทรศัพท์ แต่ธามก็ไม่โวยวายใส่คนที่โทรมาหา เพราะกำลังคิดถึงพี่นำอยู่พอดี
“ยังไงยังไง”
พูดให้รู้เรื่องสิครับ ใครสอนให้รับโทรศัพท์แบบนี้“พี่โป๊ะ” ธามบอกแล้วก็หัวเราะชอบใจ เขาลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วมานอนแผ่หลาบนเตียงในห้องนอนตัวเอง ห้องที่ไม่ได้มาใช้นอนเลย กลับมาอยู่ที่ไทยก็นอนแต่เตียงพี่นำ
ทำอะไรอยู่ครับ ทานข้าวกลางวันรึยัง“ยังเลย นำโทรมาเลยรู้แล้วว่าหิว”
“นำล่ะ”
พี่นำมีนัดตรวจอีก 1 คน แต่คงนานหน่อยครับ “นำเหนื่อยมั้ย เพี้ยงหายมั้ย”
เพี้ยงไม่หาย แต่ถ้าธามให้กำลังใจ พี่นำก็จะหายเหนื่อย“อื่มมมมม” เขินๆ แฮะ รู้สึกหน้าร้อนๆ
“นำหายเหนื่อยนะ”
ครับ หายเหนื่อยแล้ว“แค่นี้ก็หายหรอ”
ครับ หายเหนื่อยเลย พี่นำนั่งยิ้มคนเดียวเลยเนี่ย ธามล่ะ“ยิ้มยิ้ม”
พี่นำรักหมาธามนะครับ“ธามก็รักนำสิ”
“รีบกลับนะ ธามรอ”
ครับครับก็พอสินะ จุ๊บด้วยคืออะไรกันเล่า เขินนะ!
ทำแบบนี้ธามก็ไม่อยากไปใหญ่เลย อยู่นี่มีพี่นำสปอยล์ทุกอย่าง ดีจนตาย!
“คุณธาม ทานข้าวกลางวันได้แล้วค่ะ ป้าทำราดหน้าหมูนุ่มไว้ให้แล้ว”
“นี่ต้มผักไว้ก่อน แล้วค่อยใส่โปะหน้าลงไปนะคะ แบบที่คุณธามชอบเลย”
“รักจูด้วยยยยยยยยยย” ธามตะโกนแล้วก็วิ่งตึงตังดักหน้าดักหลังป้าจูอย่างอารมณ์ดี
“โถ คุณธามขา เดี๋ยวป้าตกบันได! อุ้ยอย่าจี๋เอวค่ะ คุณธามมม ตายๆๆๆๆ”
รักจู ก็เพราะจูรักธามนี่แหละ
จริงๆแล้ว เพียงเท่านี้ธามก็มีความสุข
แต่บางทีมันก็สุขเสียจนไม่อยากกอดเอาไว้ตลอดไป เพราะกลัวว่าจะอยู่ไม่ได้ ถ้าวันไหนต้องขาดความสุขจากคนพวกนี้
-----------------พาสปอร์ตครับ
ทิกเก็ตอยู่ไหน
ใส่เสื้อหนาดีแล้วนะ บนเครื่องหนาว
แน่ใจนะครับว่าไม่หิว อาหารบนเครื่องธามไม่ชอบไม่ใช่หรอ ฮื้ม
รองเท้าคู่นี้หรอ?
โทรศัพท์แบทเต็มมั้ยครับ
ไม่เข้าไปในเลานจ์แน่หรอครับ
ไหนทวนกับพี่นำอีกที กลับไทยวันไหน
โธ่นำ! ธามแค่กลับบ้านเองนะ แล้วก็แค่เดือนเดียวด้วย ธามโตมากแล้วนะ ทำแบบนี้เหมือนธาม 5 ขวบเลย อายเค้า
เขาหน้าบึ้งใส่คนที่ห่วงเขาทุกอย่าง ก็รู้หรอกว่าพี่นำทำแบบนี้ก็เพราะเป็นห่วง เพราะไปที่ไต้หวันธามก็ต้องอยู่คนเดียว ถึงจะมีเพื่อนๆ อยู่ แต่ถ้าพูดถึงครอบครัว ธามก็ตัวคนเดียวอย่างบริสุทธิ์เลย
“ธามรู้แล้วว่านำห่วง แต่ธามดูแลตัวเองได้ ธามอยู่ที่นั่นเป็นสิบปีนะ เชื่อธามสิ”
“โอเค งั้น...ธามหาข้าวกินจากร้านในแอร์พอร์ตก่อนก็ได้ นำกินกับธามก่อนนะ นะครับ”
“โตแล้วพี่นำก็ห่วงอยู่ดี”
“เด็กดื้อของพี่นำไม่เคยโตเลยในสายตาพี่”
“ไม่ให้พี่ห่วงธาม แล้วจะให้ห่วงใครล่ะครับ ฮื้ม”
“โอเค งั้นห่วงธามเยอๆ ไปหาอะไรกินกันเนะอะ เหลือเวลาอีกตั้ง 2 ชั่วโมง เดี๋ยวค่อยวิ่งมาเช็คอิน”
“ครับ เลือกสิ อยากกินอะไรครับ”
“อันนี้เลย” ธามลากพี่ชายที่สูงกว่าร่วม 10 เซน สวมชุดลำลองเท่ๆ แต่ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มให้ใครนักไปยังร้านอาหารที่หมายตาไว้ ห่างกันตั้ง 1 เดือน ไม่แปลกหรอกที่พี่นำจะห่วงโอเวอร์แบบนี้ ธามเองก็ห่วงพี่นำเหมือนกันนั่นแหละ
ธามสั่งอาหารโดยเลือกจากรูปภาพ ร้านนี้เป็นร้านอาหารไทย แม้จะรู้และเริ่มคุ้นเคยกับชื่อแกงชื่อผัดนั่นนี่แล้ว แต่ธามก็ไม่ชินกับการอ่านภาษาไทยอยู่ดี
“เผ็ดๆ ทั้งนั้น”
“ก็ที่นู่นไม่มีเผ็ดๆ กินไว้จะได้ไม่ลืมไง”
“พี่โป๊ะบอกว่าให้พกพริกไปด้วย นำก็ห้าม”
“ไปเชื่อโป๊ะมันได้ยังไง มันก็กวนตีนธามเล่นเอาสนุกนั่นแหละ”
“ขนาดคำพูดโป๊ะธามยังเชื่อ พี่นำจะไว้ใจให้ไปอยู่คนเดียวได้ยังไงครับ ไม่ให้ไปดีมั้ยเนี่ย”
“จะเรียนไม่จบซักที นำอย่าโง่เง่าสิ”
“งี่เง่าครับธาม โง่เง่านี่ด่ากันแรงมากเลย ถ้าไม่รักกันก็ต่อยกันตายเลยนะ อย่าพูดคำนี้กับใครนะ”
“อ่อ โอเค”
“แต่พูดกับโป๊ะได้นะครับ ถ้ามันท้าต่อยก็มาบอกพี่นำ”
“โอเค ฮ่าๆๆๆ นำชอบว่าพี่โป๊ะตลกๆ ขำนะ” เขาหัวเราะใส่จนตาหยี รออยู่ไม่นานก็มีอาหารมาเสิร์ฟตามที่สั่งไว้ พี่นำมักตักอาหารให้ธามก่อนเสมอ มองธามกิน รินน้ำให้ แล้วก็ตักนั่นเติมนี่ให้อยู่เป็นประจำ ธามเองก็อยากโตแล้วมาดูแลนำแบบนี้เหมือนกัน
“ถ้ากลับมาแล้วผอมลงเหมือนรอบนี้ พี่นำไม่ให้กลับไปไต้หวันแล้วนะครับ”
“ไหนว่าของกินเยอะ อร่อยๆ ทั้งนั้น แต่ธามไปทีไร กลับมาผอมลงทุกที”
ก็เพราะไม่มีใครกำกับตอนกินทุกมื้อเหมือนที่ไทยไงเล่า ธามแค่ยู่หน้าใส่ เขาไม่ได้เถียงอะไรให้ยืดยาว และเมื่อเห็นว่าพี่นำไม่กินเสียที ธามก็ตักอาหารให้บ้าง
“พี่นำไม่ทานหัวหอมครับ”
“อ้าว”
“งั้นอันนี้”
“อันนี้ข่าครับธาม ไม่ใช่ไก่”
“ไม่เป็นไรธาม พี่นำดูแลตัวเองดีกว่า”
แต่ก็ดูแลนำไม่ได้ดีเหมือนเดิมทุกที คิดๆ แล้วก็อดอิจฉาพี่เจมกับพี่หนึ่งไม่ได้ เวลามอง 2 คนนั้นผลัดกันดูแล ธามรู้สึกอบอุ่นตามไปด้วยเลย
จะว่าไป ธามกับพี่นำ ไม่เหมือนคู่รักกันสักนิด
ดูเหมือนพี่ชายดุทุกอย่าง กับน้องชายดื้อทุกเรื่อง แค่นั้นเอง
“นี่นำ”
“หืม?”
“ธามกับนำ เป็นคู่รักกันอยู่สินะ”
“ใช่สิครับ ทำไม?”
“ดูไม่เหมือนเลย”
“เราเหมือนพี่ชาย กับน้องชาย แค่นั้น”“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ หรืออยากให้พี่นำทำอะไรมากกว่าเดิม ก็ได้นะครับ ธามบอกมาสิ”
“ไม่ๆ แค่นี้นำก็ดุทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องเพิ่มมากแล้ว”
“ธามแค่บอกว่าธามคิดยังไง แค่นั้นเอง”
“เรารักกัน เรารู้ว่าเราต่างรักกัน เท่านี้ไม่พอหรอครับ”
“ความรัก แค่รู้ว่ารักกันก็พอแล้วหรอนำ”
“ครับ”
“ก็ถ้านำพูดเท่าขนาดนี้ ธามก็ว่าพอได้”
แต่มันพอแน่หรอ
แค่ต่างกันต่างรู้ว่าเรารักกัน ก็เพียงพอแล้วสำหรับความรัก....แน่หรอ? -----------------ฝนตกซะแล้ว
ธามวิ่งหลบฝนโดยกางเสื้อเชิ้ตตัวนอกขึ้นบังหัวตัวเองไว้ เขาวิ่งอยู่บนฟุตพาธ แต่ก็ต้องหลบคนอื่นๆ ที่ต้องการใช้กันสาดหน้าตึกเป็นที่กำบังฝนเหมือนกัน
ที่ไต้หวันพายุเข้า และพี่นำก็เป็นห่วงซะจนคอยโทรหาเช้า กลางวัน เย็น นี่ก็เพิ่งวางสายไปหลังจากธามโกหกว่าถึงคอนโดแล้ว ไม่เปียกฝนแน่นอน พอโกหกแล้วธามก็เลยต้องรับกรรมด้วยการเปียกโชกไปทั้งตัว
“โอ๊ะ!” เขาร้องตกใจและหน้าคะมำลงไปบนถนน
“เฮ้ย! ระวัง!” ใครบางคนดึงตัวธามไว้ เลยไม่ต้องหน้าทิ่มปูนซีเมนต์เปียกลื่น และไม่โดนรถยนต์ชนเอา
“ขอบคุณครับ”
“เฮ้ย! คนไทยหรอครับ”
“เอ่ออ ครับ” ธามตอบแล้วมองผู้ชายคนนี้ตาปริบๆ เปียกโชกขนาดนี้ยังจะยิ้มได้อีกหรอเนี่ย
“เฮ้ย! ดีใจมากเลยเจอคนไทยสักที อึดอัดชิบเป้งเลย”
“........................”
“ไปหาที่นั่งคุยกันมั้ย นี่พักที่ไหน ผมเพิ่งมาถึงไม่กี่วันเอง มาเที่ยวคนเดียวเนี่ยแหละ แต่ไม่คิดว่าพอไม่มีใครให้พูดด้วยแล้วจะเหงาขนาดนี้ แล้วดันฝนตกอีก เลยไม่ได้เที่ยวไหนเลย ทะเลสาบก็คงอด”
“เอ่ออ งั้น คุยในร้านกาแฟมั้ย ตรงนั้นมี”
“หือ? เออๆๆ เอาสิ จะมายืนเปียกฝนตะโกนคุยกันทำไม” ผู้ชายคนนี้พูดจบก็ลากตัวธามปลิวตามไป ดูเหมือนพี่นำจะพูดถูก ธามควรเพิ่มน้ำหนักได้แล้ว
จากเสียงจักๆ ดังลั่นแก้วหู กลายเป็นฝนเบาๆ เมื่อเข้ามาอยู่ในร้านกาแฟอุ่น ธามถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วก็เช็ดหัวตัวเองให้หมาด ส่วนผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็ถอดแจ็กเก็ตหนังออกเหมือนกัน
“ค่อยยังชั่ว แต่ก็หนาวๆ อยู่ดี”
“อุตส่าห์เลิกมาเดือนนี้ จะได้ไม่เจออากาศหนาวแล้วเชียว ดันเจอพายุ”
“ที่ไต้หวันก็เจอพายุแบบนี้ประจำ เป็นเกาะนี่นา”
“เฮ้ออ ขอให้พรุ่งนี้ฝนไม่ตกเถอะน้า ไม่งั้นก็ไม่รู้จะไปที่ไหนดี”
“อืม” ธามรับคำเบาๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาคนนี้ชวนธามคุยอยู่รึเปล่า
“โอ๊ะ! ลืมเลยๆ โทษๆ ยินดีที่ได้เจอกันนะ ผมชื่อพัก” พูดจบก็ยื่นมือมาตรงหน้า ตามมารยาทก็ควรจะแนะนำตัวบางสินะ
“ชื่อธาม” ธามบอกแล้วยื่นมือไปจับ ผู้ชายคนนี้กระชับมือธามไว้แล้วยิ้มให้จนเห็นฟันหลายซี่ มือก็เขย่าๆ อยู่หลายที
“แล้วธามมาทำอะไรนี่ไต้หวันหรอ? เที่ยวหรอ? เดี๋ยวนะ ให้ผมเดา”
“มาเรียน”
“ก็ ใช่สินะ”
“ใช่เรียน”
“อืม ต้องใช้ภาษาของที่นี่ด้วยใช่มั้ย เขาพูดภาษาจีนกันใช่ป่าว ฟังไม่รู้เรื่องเลย คิดว่าเขาน่าจะพูดภาษาอังกฤษกันบ้างนะ เห็นเจริญ”
“ก็พูดภาษาอังกฤษกันได้นะ แต่อยู่ไต้หวันกันก็ต้องพูดไต้หวันกันสิ”
“จริงๆ ก็ภาษาจีนแหละ”
“ธามฟังรู้หรอ”
“ธามอยู่ที่นี่มากกว่า10ปีสินะ”
“โห ดีเลย งั้นพรุ่งนี้ธามว่างมั้ย ผมจ้างเป็นไกด์ส่วนตัว”
“................”
“ไม่ได้หรอ ก็ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร แต่คือผมดีใจไง เจอคนไทย จะได้คุยกันสนุกๆ”
“ผมให้ค่าจ้างนะ เรียกเท่าไหร่ว่ามาเลย”
“อืม ก็ว่างแหละ ไม่มีเรียนพอดี”
“เป็นให้ก็ได้นะ ไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง แต่จ่ายทุกอย่างที่ทำกันพรุ่งนี้”
“ค่ากินก็ต้องออกให้ธาม ค่าเดินทาง ค่าทุกอย่างเลย แค่นี้มีเงินพอมั้ย”
“โหยยย สบาย”
“มาๆ ดื่มอะไรอุ่นๆ กันก่อน ผมเลี้ยงเอง”
“โอเค ดีสินะ” ธามยิ้มแป้น คิดว่าคืนนี้มีเรื่องอวดกับพี่นำแล้ว นี่ยังไม่ทันเรียนจบปริญญาโท ธามก็หาเงินได้แล้วนะ ไม่สิ ไม่ได้เงิน แต่ก็มีค่ากิน ค่าเที่ยวนั่นแหละ ดีจนตาย!
-----------------ใครนะ?
รู้แค่ชื่อเขาเองนะครับ
ชื่อจริงรู้มั้ย นามสกุลอะไร แล้วเขาท่าทางเป็นยังไงครับธาม
ทำไมไม่ถามรายละเอียดเลย ถ้าโดนหลอกขึ้นมาจะทำยังไง
เกิดเขาหลอกไปปล้น ปลดทรัพย์ ธามจะทำยังไง
ทำไมไม่ระวังตัวเองเลย ดีใจมั้ยครับที่ทำให้พี่นำห่วงได้ตลอดแบบนี้ หื้ม?
แทนที่จะชมกันว่าธามมีน้ำใจ ช่วยคนไทย ช่วยเพื่อนร่วมโลก แต่พี่นำกลับบ่นทุกอย่างที่ธามทำ
ใช่สิ ธามทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด ทำอะไรก็น่าเป็นห่วง
จริงๆ แล้วธามก็ปกติ นำนั่นแหละที่ไม่ปกติ ธามไม่ได้น่าเป็นห่วงขนาดนั้นสักหน่อย
“ไม่คุยแล้ว เบื่อนำ ธามไม่ได้ผิดอะไรเลย จริงๆ นำต้องชมด้วยซ้ำ ธามเป็นไกด์ได้แล้วนะ”
“ไม่ฟังแล้ว วางนะ รักนำแต่เบื่อคุย รู้เรื่องสินะ” เขาตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ลงเตียง
“พี่นำแย่” ธามบ่นแล้วก็คว่ำหน้าลงนอนบนเตียง ห่างกันไม่เท่าไหร่ก็ทะเลาะเพราะคิดอะไรไม่เคยตรงกันสักอย่าง
ธามนะไม่เหนื่อยหรอก ไม่ว่าจะทะเลาะกันเรื่องอะไร ลึกๆ แล้วธามก็เชื่อพี่นำทุกอย่างนั่นแหละ ขอแค่ได้บอกสิ่งที่ตัวเองคิดบ้างเท่านั้น แต่กับใจพี่นำแล้ว ธามไม่รู้เลยว่าพี่นำเหนื่อยกับธามมากแค่ไหน
เสียงข้อความเข้าดังแว่วเข้าหู ธามหยิบโทรศัพท์มาดู เห็นมีข้อความจากเบอร์แปลกจึงเปิดอ่าน
-ลองส่งดูน่ะ ธามใช่มั้ย พรุ่งนี้คอนเฟิร์มมั้ย- แล้วก็อะไรอีกไม่รู้ ขี้เกียจสะกดอ่านแล้ว ธามส่งข้อความกลับไปเป็นภาษาอังกฤษว่าคอนเฟิร์ม ถ้าพี่นำรู้ว่าธามยืนกรานจะพาคนแปลกหน้าเที่ยว ทั้งที่พี่นำห้ามไว้แล้ว คงไม่พ้นโดนว่าอีกแน่ๆ แต่ก็ช่างเถอะ ทำก็ว่า ไม่ทำก็ว่า งั้นธามเลือกทำตามที่ธามอยากทำดีกว่า
ก่อนนอนคืนนี้ ธามถ่ายรูปตัวเองแล้วโพสต์ลงเฟสบุ้ค อัพสเตตัสสั้นๆ ว่า ฝันดี
ไม่รู้ว่าพี่นำจะเข้ามาดูรึเปล่า แต่คนที่กดไลค์คนแรกก็คือพี่เจม แถมยังอวยพรกลับว่าฝันดีด้วย
แล้วก็พี่โป๊ะที่กดไลค์ พี่พีชด้วย นอกนั้นก็เพื่อนๆ ธามที่ไต้หวันทั้งนั้น
ไม่มีพี่นำ
สงสัยจะโกรธ
แต่ธามไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ก็คง...ไม่ใช่คนที่ต้องพูดคำว่าขอโทษ
คงไม่เป็นไรหรอก ก็พี่นำพูดเองว่ารักของเรา แค่ต่างกันต่างรู้ว่าเรารักกัน เท่านั้นก็พอ
ความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้นนิดเดียว ทำอะไรความรักของธามกับพี่นำไม่ได้หรอก
.....
…
.
ใช่มั้ย? Tbc...สวัสดีค่ะ แล้วก็ขออภัยที่หายไปนานมากสำหรับเรื่องนี้
มัวแต่ทำไอเอส ทำงานเพิ่ม แล้วก็เขียนพี่โป๊ะกับน้องวินอยู่ แฟนๆ พี่นำน้องธามอย่าเพิ่งนอยด์กันนะคะ ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ
เราขอพื้นที่สร้างความเข้าใจ ป้องกันการงง หรือการเบื่อหน่อยนะคะ
รูปแบบการแบ่งตอนและการเขียนเรื่องนี้ มีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยนะคะ
อย่างที่เห็นในภาคแรกที่่จบลงไปนานแล้ว จะเล่าสลับกัน ระหว่างพี่หมอกับน้องหมา สลับกันอยู่ในตอนนั่นแหละค่ะ
แต่ภาค 2 นี้ เราขอปรับนิดหน่อย
การแบ่งตอนจะมี 2.1 กับ 2.2 3.1 กับ 3.2 เป็นแบบนี้เรื่อยไป โดยที่ตอนที่ 2.1 เล่าผ่านน้องหมา ตอน 2.2 เล่าผ่านพี่หมอ เรียงไปแบบนี้เรื่อยๆ
หวังว่าจะไม่งง และไม่เบื่อเรื่องนี้กันไปเสียก่อนนะคะ หวังมากๆ

สำหรับ 2.1 นี้ มีมนุษย์เพิ่มมา 1 คนส่วนเขาจะสร้างผลกระทบต่อความรักของพี่หมอน้องหมามากหรือน้อยแค่ไหน ฝากติดตามด้วยค่ะ
แต่เราขอยืนยันเจตนาเดิมของเรา ว่าเรื่องนี้มุ้งมิ้ง(?) แม้ว่าคอมเม้นท์ในภาคแรก จะออกมาในเชิงว่า "เครียดทั้งเรื่อง" ก็ตาม
พบกันตอนหน้าค่ะ
(วาร์ปไปเข็นพี่โป๊ะต่อ)