ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
ตอนที่ 43
“ไปดินาย”
“นายดิ ไปเลย”
“นายนั่นแหละ ไปดิ”
สามหนุ่มต่างจ้องหน้ากันอย่างเคร่งเครียด สายตาก็เอาแต่มองแขนปริศนาไม่วางตา กลัวว่าหากพลาดไป มันอาจจะหาย...แต่อีกใจก็อยากจะให้หายเสียเหลือเกิน
“มันอาจจะเป็นแค่ศพก็ได้” คำสันนิษฐานที่ฟังดูไม่ช่วยให้สบายใจดังขึ้นจากปากของโค้ก “จะไปกลัวทำไม”
“ถ้าพระคุณพี่ไม่กลัวก็ไปดิครับ ไหนตอนฟื้นไข้เห็นบอกว่าไปท่องโลกวิญญาณอยู่เป็นเดือน ได้เพื่อนเป็นผีเยอะเลยไม่ใช่เรอะ” ปาล์มแย้งเสียงตื่น ท่าทางกลัวจริงจังเสียเหลือเกิน
“แกจะเอาอะไรกับคนเพิ่งฟื้นไข้วะ สติสตังมันจะไปอยู่กับตัวที่ไหน” โค้กพูดเหมือนเป็นเรื่องของคนอื่น “เอาเป็นว่าตูกลัว จบมะ”
บังคับจบชัดๆ...
“ถ้างั้นเด็กใหม่ไปก่อนเลย อย่าได้ขัดรุ่นพี่” คราวนี้โค้กเริ่มใช้อำนาจ “เร็วดิ๊”
“ทำไมผมต้องไปด้วยล่ะ” อันที่จริงอยากจะสวนไปหนักๆว่าไม่อยากจะทำตามคำสั่งมากกว่า แต่ยังไม่อยากตั้งตัวเป็นศัตรูในตอนนี้ และด้วยเรื่องนี้ “ผมบอกแล้วไงว่าผมกลัว เกิดผมช็อกตายไปจะทำไง”
“เออ นั่นดิ ไอ้เนมันก็บอกอยู่ทนโท่ว่ากลัวความมืดจะตาย พี่โค้กน่ะ อายุเยอะสุด ไปเลย แสดงความเป็นพี่ชายให้เห็นหน่อยสิครับ” ปาล์มเสริม ท่าทางอยากให้โค้กไปเป็นที่สุด
“ทีงี้มานับอายุกันนะ” โค้กกัดฟัน ท่าทางไม่อยากไปสุดขีด “ช่วยไม่ได้ล่ะนะ แก่สุดก็เงี้ย”
คนอายุน้อยทั้งสองต่างปลื้มปิติที่พี่ใหญ่ยอมใจกล้าไปท้าพิสูจน์ แม้จะเดินไปแช่งพวกเขาไปตลอดทางก็ตาม
ร่างโปร่งของชายหนุ่มค่อยๆคืบคลานเข้าหาทีละน้อย คนมองก็พากันลุ้นระทึกจนหืดขึ้นคอกันไปด้วย ยิ่งเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ ความเร็วในการคืบคลานก็ช้าลงตามไปด้วย
“เฮ้ เพ่ ช้าเป็นเต่าคลานแล้วนะ” ปาล์มตะโกนเสียงเบาไล่หลัง เล่นเอาคนที่กำลังเดินถึงกับสะดุ้ง แล้วหันมาแยกเขี้ยวใส่
ร่างสูงหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูบันไดหนีไฟ แล้วค่อยๆก้มตัวลงไปทีละน้อย...
“จ๊าก!!!”
“ว้าก!!”
เสียงร้องดังระงมไปทั้งอาคารจนก้องไปทั่ว โค้กซึ่งแผดเสียงเป็นคนแรกกระโดดดึ๋งหนีจากตรงนั้นและพยายามสะบัดสิ่งที่เกาะแขนตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย แถมยังจะวิ่งมาทางพวกเนอีกต่างหาก
“ว้าก! อย่ามาทางนี้สิเฮ้ย” ปาล์มร้องเสียงหลงก่อนจะหนีด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี
“ก็ช่วยฉันด้วยสิเฮ้ย” โค้กร้องลั่น วิ่งไล่ปาล์มไม่หยุด
แต่ไม่ต้องช่วย มือผีก็หลุดออกไปด้วยแรงสะบัดแล้ว
ทั้งสามพากันมองมือปริศนานั่น พอมองดูให้ดีๆแล้วก็เห็นเศษคล้ายเศษกระดาษหลุดลุ่ยออกมาตามรอยแผลเต็มไปหมด
ของปลอมนี่หว่า
“แหม ก็ร้องซะเต็มเหนี่ยวกับของเด็กเล่น” ไอ้คนร้องก่อนเพื่อนกลับมาเก็กหน้านิ่งทั้งที่สายไปหลายขุม “เอ้าๆ รีบไปดีกว่า สงสัยคงใครสักคนที่เป็นผีทำเตรียมไว้ละมั้ง...”
โค้กเงียบเสียงไป และอยู่ๆก็ดึงตัวเนเข้ามาหา จนเด็กหนุ่มเกือบหน้าทิ่ม
ก่อนที่เนจะได้ด่าพ่อล่อแม่ เสียงลมวูบหวีดหวิวที่เฉี่ยวเข้าปลายคางทำเอาหุบปากแทบไม่ทัน ดวงตาเรียวเพ่งมองเจ้าของหมัดที่ยืนอยู่ด้านหลังตน
“จ๊าก!!”
เสียงหวีดร้องดังลั่นหลังจากได้เห็นหน้าคนจู่โจมที่ดูมืดมนอึมครึม ทั้งยังผมเผารุงรัง ตาก็สะท้อนแสงแวบวับอีกต่าง
“ใจเย็นไอ้น้อง ไม่ใช่ผี ถึงจะเหมือนก็เถอะ ฮะๆ” โค้กว่าก่อนจะเข้ามาขวางทางผีเอาไว้ “ทั้งหมดนี่ของพี่เรอะ”
คนผมเผ้ารุงรังอย่างกับรังนกสะบัดหัวขึ้นมองคนที่สูงพอๆกันตรงหน้า ก่อนจะหัวเราะใส่พลางชูธงเป็นสิบขึ้นมา
“ก็พอจะหลอกคนบ้าๆได้หลายคนละนะ” ชายวัยราวสามสิบกว่าเอ่ย แว่นทรงกลมที่เขาใส่หนาเตอะเสียจนมองไม่เห็นดวงตา “แหม่ อีกนิดเดียวเอง นึกว่าเก็บธงไว้กับเด็กใหม่เสียอีก”
“อะไร จะลวนลามเนหรือพี่ก้อง” ได้ยินปามพูดแล้วเนแทบหันกลับมามองและถอยหนีอีกฝ่ายแทบไม่ทัน “เดี๋ยวพี่ฤทธิ์ก็จับทุ่มเอาหรอก”
“ฮะๆ ตอนนี้หมอนั่นก็กำลังเที่ยวลวนลามคนอื่นอยู่ชั้นสิบสี่ล่ะมั้ง” ก้องว่าพลางขยับแว่น “ถ้าขึ้นกันไปถึงน่ะนะ”
เนนิ่วหน้า แม้จะไม่เคยประมือกันมาก่อน แต่ก็ยอมรับว่าอีกฝ่ายเก่งพอที่จะเข้าข้างหลังโดยที่เขาไม่รู้ตัวได้...ยิ่ง ฟังคำที่ปาล์มพูดก่อนหน้า ยิ่งชวนหวาดหวั่นประตูหลังเข้าไปใหญ่
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณวัฒน์แทนล่ะก็...
คิดบ้าอะไรของตูฟะ!!!
“เหยอ!!”
เนร้องไม่เป็นภาษาเมื่ออยู่ๆก็มีเงาทะมึนวูบผ่านหน้า เด็กหนุ่มหลบมือมารที่พุ่งเข้าแก้มได้อย่างฉิวเฉียด หากพลาดไปคงได้ลงไปนอนนับดาว
“ฮึ่ย” เนรู้สึกหงุดหงิดเพราะพยายามจะสวนกลับหลายต่อหลายที แต่ก็หวืดทุกที ไม่คิดว่าจะมีคนหลบหมัดของตนได้อย่างสบายๆแบบนี้
ปาล์มฉวยโอกาสที่ก้องเอาแต่สนใจเน กระแทกเข้าหลังหนุ่มแว่นเต็มรัก แต่กลับไม่ได้ผลเท่าที่ควร ซ้ำยังเกือบจะโดนถีบกลับอีกต่างหาก
“รุมคนแก่งี้ขี้โกงนี่หว่า” ก้องโวยวายทั้งที่ตอนนี้ตัวเองเป็นต่อกว่าแท้ๆ ทั้งยังแฮ้บธงไปจากปาล์มได้อีกสามธง “แน่จริงเข้ามาตัวต่อตัวสิฟะ ไอ้พวกเด็กผี”
“แหม่ ขนาดรุมยังล้มเฮียไม่ได้ หนึ่งต่อหนึ่งก็ได้ไปสวรรค์เรียงคิวสิครับ” ปาล์มแซว “โอ๊ะ แต่ไม่ใช่สวรรค์อย่างว่านะ อันนั้นพี่ไปขึ้นกับพี่ฤทธิ์คนเดียวเถอะ”
จากที่กำลังหาทางแย่งธงกลับ เนถึงกับชะงัก สำลักน้ำลายตัวเองรัวๆ
“อึก” และคุณผีเองก็ไม่พลาดจังหวะนี้ สวนเข้าท้องน้อยของเนเต็มรัก เล่นเอากระอัก ทรุดลงไปกุมท้องด้วยความเจ็บปวด
ไอ้แก่นี่!!
เนพยายามฝืนเจ็บและเตะขัดขาคนที่กำลังง่วนอยู่กับการตั้งรับเพื่อนในกลุ่ม ทันทีที่ล้ม คนที่เหลือก็จัดการจับก้องกดกับพื้นเอาไว้ทันที
“อ๊ะ จับตรงไหนของพวกนายน่ะ จะรุมโทรมฉันเรอะ” ทั้งที่เสียเปรียบแต่น้ำเสียงที่ร้องออกมากลับไม่มีอาการร้อนรนแต่อย่างใด ทั้งยังพูดเล่นได้ “อ๊าง”
“หยุดเหอะ” ปาล์มว่า ท่าทางสยองขวัญเต็มทน พยายามรีบๆล้วงหาสิ่งที่ต้องการ และดึงผ้าคาดแขนอีกฝ่ายออก
“โถ หนำใจแล้วล่ะสิ ฮะๆ” ทั้งที่โดนแย่งธงไปจนหมดก็ยังแซวไม่เลิก “ไม่คิดว่าจะเสียท่าให้กับกลุ่มที่มีเด็กใหม่เลยวุ่ย”
“ความประมาทเป็นหนทางสู่ความตายนะเพ่ชาย” โค้กยิ้มเยาะ
“ไม่อยากให้คนที่เพิ่งผ่านความตายมาพูดแบบนี้เลยว่ะ” หนุ่มแว่นค่อนแคะเสียงแหบ “เออ ไปเถอะ ไปที่ชั้นสิบสี่ พวกแกคงขึ้นไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ ฮะๆ”
คำขู่ที่ทำให้ปาล์มกับโค้กถึงกับสั่น ทำเอาเนนึกสงสัย อย่างเดียวที่พอจำได้คือ คนที่ชื่อฤทธิ์อยู่ชั้นนั้น...
“คุณเป็นเกย์หรือ”
คำถามที่ทำเอาคนฟังพากันมองหน้า ก่อนที่ก้องจะหัวเราะ
“อยากทดสอบไหมล่ะ”
ถอยหลังกรูดเลยทีเดียว เพราะไอ้คนพูดมันเล่นเอานิ้วลูบปากตัวเองพร้อมกับแลบลิ้นเลียอีก
“ถ้าไม่ได้เป็น ฉันก็ไม่ยุ่งหรอกน่า” พอเห็นเด็กหนุ่มแสดงอาการกลัวเสียเหลือเกิน ก้องก็บอกพร้อมกับหัวเราะไม่เลิก “...”
“อะไรครับ...” พอเห็นก้องเอาแต่จ้องไม่เลิก เนก็อดถามไม่ได้
“...ไม่ มีอะไร รีบๆขึ้นไปให้ไอ้ฤทธิ์โดนปล้ำเถอะ ถึงนายจะไม่ใช่สเป็กหมอนั่นก็ตาม” หนุ่มแว่นบอกพลางโบกมือให้ “ส่วนไอ้โค้ก เตรียมก้นให้หมอนั่นลูบเอาไว้ได้เลย”
“ไม่เอาว้อยย” หนุ่มหน้าเด็กร้องเสียงตื่นพร้อมกับใช้มือบังหลังเต็มพิกัดอย่างหวงแหน “ขอเหอะ พี่ก้องเป็นแฟนพี่ฤทธิ์ไม่ใช่เรอะ ไม่ห้ามบ้างเหรอ”
“แล้วคิดว่าห้ามอยู่หรือ” เสียงทุ้มย้อน “เอาเถอะ ฉันก็หาเศษหาเลยไปซะเยอะ จะไปห้ามมันก็เข้าตัวเอง...เอาเป็นว่าโชคดีก็แล้วกันนะจ๊ะ”
แต่ละคนทำหน้าเหมือนปลาซาร์ดีนโดนแดดกันเป็นแถว
“ให้ตายเถอะ สองคนนั่นมาเป็นฝ่ายไล่ทีไร สยองขวัญทุกที” หลังจากหนีขึ้นมาอีกชั้น ปาล์มก็บ่นขึ้นพลางลูบแขนไปมา “ชอบไล่ปล้ำคนอื่นตลอด นายเองก็ระวังไว้ล่ะ”
“...อืม...” เนรับเสียงเบา เริ่มสยองปนสับสนตาม
ใช่...กับคนอื่นก็ไม่ชอบ ไม่อยากจะจับ และไม่นึกอยากจะจับ...
...แต่ทำไมกับเขา เรากลับไม่รู้สึกแบบนั้นแม้แต่น้อยนะ...
…รักหรือ...
ไม่ๆๆ ไม่ใช่แบบนั้นแน่ ไม่มีทาง...ก็บอกว่าไม่มีทางไงล่ะโว้ย ยังไงตูก็ไม่เอาคนชรามาเป็นคู่แน่ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะต้องการหรือไม่ก็ตาม มันบ้าชัดๆ!!
“หยุดก่อน”
เสียงของโค้กดึงเนออกจากภวังค์ ดวงตาเรียวเพ่งมองผ่านความมืดไปยังทางที่โค้กชี้ เงาร่างของชายคนหนึ่งยืนอยู่เพียงคนเดียวพลางหาวหวอดๆ ท่าทางเบื่อหน่ายเต็มทน เขาไว้ผมหน้าปัดไปทางขวา ผมด้านหลังซอยสั้น ดวงตาตกนั้นยิ่งทำให้อาการเบื่อหน่ายดูมากกว่าปกติ
“นั่นล่ะพี่ฤทธิ์” ได้ยินชื่อถึงกับสะพรึง “อย่าได้คิดว่าจะกินง่ายเหมือนพี่ก้องเชียว...ต่อให้พวกเรารุมก็ไม่แน่ใจว่าจะชนะได้หรอก”
“แล้วจะเอายังไงล่ะ” เนหันไปถามปาล์มอย่างกระวนกระวาย
“แย่แฮะ ไม่ไหวแน่ๆ” แม้แต่โค้กเองก็ยังตัดใจ “เอางี้ เราหลบไปชั้นอื่นดี...”
“เฮ้ จะหลบกันอยู่อีกนานไหม”
เสียงคนเป็นผีดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย ทำเอาคนที่กำลังปรึกษากันสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวทั้งที่พวกเขาก็ยืนห่างจากฤทธิ์ตั้งไกล
“ถ้าไม่ออกมา ฉันจะเข้าไปแล้วนะ” เสียงทุ้มฟังดูระรื่นมากกว่าจะหาเรื่อง “แล้วถึงตอนนั้น จะมาหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นา...”
ได้ยินน้ำเสียงช่วงท้ายแล้ว เนชักไม่แน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาตะบันหน้า หรือทำอย่างอื่นกันแน่
“เฮ้”
ก่อนที่จะได้ตัดสินใจ เสียงปริศนาที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นไม่ห่าง
“คุณสิทธิ์” เนเลิกคิ้วมอง ลืมระวังตัวเสียสนิท
“ตอนนี้เราพักรบกันก่อนดีกว่านะ” สิทธิ์รีบกระซิบบอกเมื่อเห็นโค้กกับปาล์มยังคงออกอาการระแวดระวังเต็มที่ “ไม่งั้นผ่านพี่ฤทธิ์ไปไม่ได้หรอก”
“นั่นสินะ...งั้นเราร่วมมือกันชั่วคราวก่อน” โค้กเห็นด้วยทันที “แล้วคนอื่นในกลุ่มคุณสิทธิ์ละครับ”
“อยู่ตรงโน้น” สิทธิ์ชี้ไปยังมุมด้านในของตึก “พี่ศาสตร์กลัวพี่ฤทธิ์จนไม่ยอมเข้ามาเลย พี่อรรถเองก็พอกัน ไม่รู้จะกลัวพี่ฤทธิ์ทำไมนัก”
“แหม่ คุณสิทธิ์ไม่โดนพี่ฤทธิ์ลวนลามก็พูดได้นี่ครับ” ปาล์มโวยเสียงเบา “เอาเถอะ แล้วคุณสิทธิ์มีแผนหรือเปล่า”
“จะว่ามีก็มี ไม่มีก็ไม่มี...คือมันค่อนข้างจะเสี่ยงน่ะ” ผู้เป็นเจ้านายพูดกำกวนชวนงงจนแต่ละคนพากันนิ่วหน้า “เอาเป็นว่า...”
ว่าแล้วก็ซุบซิบบางอย่างกับเนและปาล์ม ปล่อยให้โค้กได้แต่ยืนมึน
“อืม...อาจจะได้ผลก็ได้นะ...” ปาล์มวิเคราะห์ “เราก็ไม่เหลือทางเลือกอย่างอื่นแล้วนี่นะ”
“อะไรๆ” ผู้ไม่ได้เข้าร่วมแผนถามอย่างใคร่รู้...แต่ก็ชักเริ่มไม่แน่ใจเมื่อเห็นปาล์มฉีกยิ้มชั่วร้ายใส่
“หมดเวลา”
ก่อนที่จะได้บอกแผน ฤทธิ์ก็ประกาศเวลาขึ้นแท่นประหารเสียก่อน และเดินเข้ามาหาราวกับรู้อยู่แล้วว่าคนซ่อนอยู่ตรงไหน แถมยังเดินมาพลางขยับนิ้วมือทั้งสิบไปมาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างเหมือนมารร้าย
“พี่โค้กมานี่” สิทธิ์ร้องพร้อมกับกวักมือเรียก
แม้จะยังลังเล แต่เห็นคนในทีมพยักหน้าให้ จึงยอมไปโดยไม่ถามไถ่ ถึงอย่างไรธงก็ไม่ได้อยู่ที่ตนอยู่แล้ว
“อ้าว คุณสิทธิ์...ไอ้โค้ก” ในทีแรกฤทธิ์ค่อนข้างแปลกใจที่เห็น แต่พอเห็นคนที่มากับสิทธิ์ด้วยถึงกับทำหน้าเหมือนเสือเห็นลูกกวาง “กำลังคิดถึงแกพอดีเลยว่ะ”
“แหม อย่าคิดถึงผมเลย ไปคิดถึงพี่ก้องโน่น” โค้กสวนกลับด้วยน้ำเสียงติดสั่น ก่อนจะหันไปกระซิบกับสิทธิ์ “เอาไงครับ”
“ลุยเลยครับ”
“หา เอาจริงดิครับ” โค้กถึงกับร้องอย่างลืมตัว สายตาก็ยังคงเหลือบมองมือมารที่กำลังคืบคลานเข้ามา
“ครับ ตามนั้นเลย”
เมื่อสิทธิ์ยังคงยืนกราน ชายหนุ่มจึงทำตาม แม้จะยังไม่แน่ใจเท่าใดนัก และนั่นก็ทำให้เขาสำนึกได้ว่าตนคิดผิดอย่างมหันต์
“เหวอ” แรงผลักที่หลังทำเอาเสียการทรงตัว “แว้ก!!!”
และก็เข้าไปในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่รออยู่นานแล้วเต็มรัก
“ไม่เจอกันนาน คิดถึงฉันขนาดนั้นเลยหรือ” กอดอย่างเดียวไม่พอ มือก็เลื่อนลงไปต่ำเรื่อยๆอีกต่างหาก
“ว้ากกก ปล่อยนะ!!!” โค้กโวยวาย พยายามสะบัดตัวหนี แต่อีกฝ่ายก็แรงเยอะพอกัน แม้จะสูงพอกันและหุ่นหนากว่าแค่นิดเดียว “เลิกจับก้นผมได้แล้ววว”
“เรื่องสิจ๊ะ” หนุ่มตาตกกระซิบตอบข้างหู ทำให้คนพยายามดิ้นแรงตกเพราะความสยอง “เด็กๆนี่ดีจังน้า เนื้อแน่นน่าจับน่าฟัดไปหมด...โอ๊ะ”
ขณะที่กำลังลวนลามอย่างมันมือ แรงดึงผ้าคาดจากแขนทำเอาฤทธิ์ต้องละจากเหยื่อน่าเคี้ยว แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว
“เย้~~” ปาล์มถึงกับกระโดดตัวลอยเมื่อเนสามารถดึงผ้าคาดแขนได้ “เรารอดแล้ว”
“หนอย ร้ายนักนะ” ฤทธิ์เอ่ยอย่างเสียดายที่พลาดท่าให้ง่ายๆ แต่ก็ยังบีบจับขยี้ขยำก้อนเนื้อในมือไม่หยุด “ไม่คิดว่าจะมาไม้นี้แฮะ เพราะแกเลยนะไอ้โค้ก หายหัวไปนาน ฉันเลยละมือออกจากแกไม่ได้เลย”
“โว้ย จะยังไงก็ช่าง ปล่อยผมได้แล้ว!!!” โค้กโวยลั่น เพราะอีกฝ่ายยังลวนลามตนไม่เลิก
“แหม อีกนิดน่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว” หนุ่มตาตกอ้อน ท่าทางไม่ยอมง่ายๆ “เสียดายจัง ไอ้ศาสตร์ไปไหนก็ไม่รู้ ก้นมันนี่น่าจับที่สุดละ”
คงจะโผล่มาให้จับอยู่หรอก