ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)  (อ่าน 163871 ครั้ง)

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
โอ้โห คู่แข่งเพียบนะนี่  :mc4:

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 42


          “อ้าว เจ้าหนู เป็นอะไร ทำหน้าอย่างกับไปเหยียบขี้หมามาเลยนะ”

          เนเพียงแต่บึ้งหน้ากลับ เห็นใบหน้ายียวนกวนส้นเท้าของฉัตร เด็กหนุ่มก็รู้แล้วว่าจงใจถามเพื่ออะไร ยิ่งเข้าไปกอดคอวัฒน์นั่นก็เป็นหลักฐานเกินพอแล้ว

          “คนอื่นเขารออยู่ที่ชั้นสามน่ะ” หลังจากแกล้งเนจนพอใจ ฉัตรก็ละออกจากคนตัวเล็กกว่า แล้วเดินนำไปทางบันได “เชิญเลยๆ”

          “ว่าแต่เมื่อกี้เล่นเอาตกใจจริงๆนะครับ” สิทธิ์ว่า แต่ท่าทีกลับไม่มีอาการดังว่าสักนิด “ไอ้เราก็นึกว่ามีคนมาลอบทำร้ายซะแล้ว”

          “ประเพณีรับน้องกับคนเข้าร่วมครั้งแรกน่ะครับ คิดซะว่าขำๆเนอะ” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เนรู้สึกว่า ลูกน้อยหน่าที่บินเข้ามามันเร็วและแรงเอาเรื่อง ขนาดที่ว่าถ้าโดนหัวตรงๆคงสลบเหมือด “เอาของจริงในตึกนี้...ดี...กว่า...เนอะ...”

          อยู่ๆฉัตรก็พูดด้วยเสียงยานคางจนชวนหนาวยะเยือก แถมยังจะหันมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่เนเหมือนยั่วโมโหอีกต่างหาก

          “โหย ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ มาหลอกเรื่องผีแบบนี้เนี้ย” สิทธิ์ร้องงอแง “ให้อาวัฒน์เห็นผมเป็นเด็กคนเดียวพอเถอะ”

          “แหม ไม่มันส์เลย อย่างน้อยก็ช่วยร่วมมือแสร้งว่ากลัวสักนิดก็ได้นะครับ” ฉัตรบอกต่อโดยที่สายตายังคงปรายมองไปยังเน “ไหนๆที่นี่ก็อุตส่าห์มีประวัติทั้งที...”

          “ประวัติอะไรหรือครับ...” แม้จะไม่อยากคุยด้วย แต่เล่นยั่วกันเสียขนาดนี้ จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร

          “ที่นี่มีคนตายมาก่อน แล้วก็เคยมีคนเอาศพมาฝังไว้ใต้ตึก...ที่รู้เพราะขุดเจอ”

          ถึงกับเสียวสันหลังวาบเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่บอกข้อมูลให้เป็นวัฒน์ และยังใช้น้ำเสียงและสีหน้าที่ราบเรียบอีกต่างหาก

          “แล้วพอดึกๆหน่อย ใครขวัญอ่อนๆก็จะเจอดีเป็นทิวแถว” พอเห็นเนสั่น ฉัตรก็หยอกต่อ “แค้น...เหลือ...เกิน...”

          “ผมไม่ได้กลัวผีสักหน่อย” เนว่าเมื่อเห็นฉัตรหาเรื่องจะแกล้งตนเสียเหลือเกิน

          “แล้วสั่นทำไมล่ะจ๊ะ”

          สั่นสู้ไงล่ะเฟ้ย!!! กลัวผงกลัวผีอะไร ไม่มี้ไม่มี!!

          ที่ชั้นสามมีฝูงชนอยู่ราวสี่สิบกว่า คนยืนคุยจ๊อกแจ๊กกันอยู่ตรงช่วงกลางของอาคาร และทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปหา คนเหล่านั้นต่างพากันเงียบกริบและยืนเป็นระเบียบแถวอย่างกับทหารเกณฑ์

          “อะไรกัน ปกติต้องเรียงแถวหน้ากระดานแบบนี้ด้วยหรือ” สิทธิ์หัวเราะเมื่อเห็นเหล่าลูกน้องยืนเข้าแถวเสียดิบดี “ทำตัวตามสบายเถอะน่า”

          เมื่อผู้มีอำนาจสูงสุดสั่ง แต่ละคนก็คลายกังวลลงไปบาง แม้จะไม่สุดเพราะวัฒน์มองอยู่ก็ตาม

          “หมัดเมื่อกี้ใช้ได้เหมือนกันนี่หว่า”

          ในระหว่างที่ปาล์มเริ่มเปิดงานและอธิบายเกี่ยวกับเทศกาลประหลาดที่กำลังจะ เริ่มขึ้น ฉัตรซึ่งอยู่ข้างหลังเนก็กระซิบขึ้นมา ใกล้เสียจนเนขนลุก

          “งานนี้ต่อให้เก่งแค่ไหน แต่ก็แทบไม่เคยมีใครชนะในครั้งแรกที่เข้าร่วมกันนักหรอกนะ”

          “อยากจะพูดอะไรกันแน่”

          “อืม...เอาไงดีน้า” หนุ่มร่างยักษ์ยักคิ้วหลิ่วตา “ก็กำลังคิดว่า ถ้านายชนะ ว่าจะบอกอะไรดีๆเกี่ยวกับวัฒน์ให้นายสักหน่อย...รับรองว่าฟังแล้วต้องช็อกสุดๆแน่”

          เนเผลอตีหน้าเบี้ยวใส่ ฟังแล้วอยากรู้ใจจะขาด แต่อีกใจก็ไม่อยากรู้เป็นที่สุด ลองว่ามันเป็นเรื่องที่ออกจากปากของฉัตร มันก็ต้องมีโยงไปถึงเรื่องสายสัมพันธ์ที่เขาไม่มีวันเข้าถึงอยู่แล้ว

          จะเพราะดีต่อเราหรือไม่ ความจริงที่ว่าสองคนนี้สนิทจนรู้จักกันทุกเรื่องก็ไม่เปลี่ยน

          ขนาดกับเมียเก่าเขา เรายังแทบจะมองไม่ไหวเลย แค่เห็นก็หงุดหงิดจนห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว...ถ้าเป็นหมอนี่ เราไม่หยิ่งหงุดหงิดจนทนไม่ไหวหรือไง แค่ที่เห็นตอนนี้ก็เจ็บจะแย่อยู่แล้ว

          ......

          เจ็บบ้าเจ็บบอ เจ็บหาพระบิดาอะไรฟะ!! โอ๊ย จะมาจี๊ดใจทำไมเนี่ย เราไม่ได้คิดอะไรกับลุงแกสักหน่อย!! ที่อยากรู้น่ะ ก็แค่ในฐานะเพื่อนร่วมงาน...เท่านั้น!!!
         
          ทั้งที่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...แล้วก็ไม่ได้อยากให้เป็น...ทำไมเราถึงต้องมารู้สึกบ้าบออะไรแบบนี้ด้วยนะ ไม่เข้าใจเลย...

          “ว่าไง หรือไม่อยากฟังล่ะ” เห็นเนทำหน้าเหมือนลูกหมาจะงับคอตน แต่ก็ไม่ยอมพุ่งเข้ามาสักที ฉัตรเลยถามต่อด้วยท่าทีเหนือกว่าสุดๆ

          เนกัดฟันแน่น “จะแกล้งอะไรผมอีก”

          “เฮ้ย มองโลกในแง่ร้ายจัง ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ออกจะเป็นคนดีมีน้ำใจ” เนอยากจะบอกเหลือเกินว่า แค่แผลบากตามตัวกับหูแหว่งๆนั่น มันก็ไม่ทำให้ฉัตรดูเป็นคนดีสักนิด “รับรองว่ามันเป็นเรื่องดีสำหรับนายแน่ๆ”

          พอเบ็ดเริ่มใหญ่ น่ากิน และดูไม่มีพิษ คนฟังก็ชักเริ่มใจอ่อน

          “ได้ แล้วอย่ากลับคำละกัน” เนแค่นตอบ “ถ้าไม่ใช่เรื่องดีจริงๆ ผมเอาเรื่องคุณแน่”

          “เอ้าๆ ป๋ากับเนเลิกเมาท์กันได้แล้ว เน มาจับฉลากเร็วๆ”

          เสียงของปาล์มดึงความสนใจของทั้งสองกลับมา ตอนนี้ หนุ่มหน้าใสยืนอยู่ใกล้ๆกับเขา และกำลังยื่นกล่องสี่เหลี่ยม ขนาดหนึ่งฟุต สีขาวที่ด้านบนมีรูวงกลมตรงกลางพอให้มือลอดเข้าไปได้

          “ยืนงงอะไรอีก อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้ไม่ได้ฟังที่ฉันอธิบายเลย” ปาล์มตีหน้าเบี้ยว ก่อนจะถอนหายใจ “จับฉลากเลือกกลุ่มไง ถ้าสงสัยว่าต้องทำอะไรอีก ไว้ไปถามคนที่อยู่กลุ่มเดียวกับนายละกัน”

          ด้วยความที่โดนเร่ง บวกกับตนเป็นคนสุดท้ายแล้ว เนเลยรีบจับฉลากขึ้นมา กระดาษสีขาวในมือเขียนเพียงแค่หมายเลขสี่

          “โอเค พี่โค้กกับฉันซวย” ปาล์มว่าพลางแสดงอาการท้อแท้ จนเนเผลอแยกเขี้ยวใส่ “ถ้าอย่างนั้น คุณผีที่เหลือรบกวนช่วยประจำตำแหน่งด้วยนะครับ อาวัฒน์รออยู่”

          เนหันไปมองฉัตรแทบไม่ทัน ซึ่งหนุ่มใหญ่ก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มกวนส้นเท้า

          “ผีอะไร” เพราะไม่ได้ฟังเลยสักนิด เนจึงถามด้วยความสงสัยและลนลานเมื่อเห็นฉัตรเดินหายขึ้นไปชั้นบนตรงบันไดอีกฝั่ง ทั้งยังไม่เห็นวัฒน์อยู่ด้วยเลย

          “ถ้ามีรางวัลผู้รับฟังยอดแย่ รับรอบว่านายชนะชัวร์ๆ” ปาล์มแขวะเมื่อเห็นสีหน้าเหรอหราของเน “เราจะเล่นเก็บธงกันในตึก แล้วทีนี้ คนที่ไม่ได้เป็นผู้เล่นจะเป็นฝ่ายคอยดักและแย่งธงพวกเรา แต่เราสามารถเอาชนะผีได้ด้วยการดึงผ้าคาดแขนสีแดง กลุ่มไหนได้ธงเยอะสุดภายในเวลาสามชั่วโมงก็ชนะตามระเบียบ...รางวัลตามปกติก็อะไรก็ได้ที่เป็นสินค้าในกลุ่ม ของเราหนึ่งอย่าง...แต่รอบนี้เด็ดกว่าเพราะมีรางวัลพิเศษจากคุณสิทธิ์ด้วย”

          แล้วคนแจกรางวัลก็แข่งด้วยเนี่ยนะ...

          “เอาน่า ฉันแข่งเล่นๆ รางวัลก็ยกให้คนที่ได้ที่สองก็พอ” คุณเจ้านายพูดเหมือนชนะไปแล้ว “แต่ถ้าใครชนะฉันได้ รางวัลพิเศษบวกเพิ่มด้วยนา”

          เนรู้ดีว่าสิทธิ์ต้องการให้ลูกน้องแข่งกันเต็มที่โดยไม่ต้องเกรงใจตน...ซึ่งก็ได้ผลจนน่ากลัว แต่ละคนทำหน้าอย่างกับแร้งเห็นเหยื่อ

          “แหม่ งานนี้ท่าทางจะมันส์” โค้กเอ่ยก่อนจะหักนิ้ว ทำท่าเหมือนจะไปฉะกับชาวบ้าน จากนั้นก็ปรายตามองเด็กใหม่ในกลุ่ม “อ้าว เป็นอะไรน่ะเน หน้าตาท่าทางซีดๆนะ”

          เจ้าของชื่อสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะหันกลับไปมองคนทัก...จะให้บอกหรือว่ามัวแต่กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ฉัตรพูดอยู่กัน

          “...พอดีฉันไม่ถูกกับความมืดนิดหน่อย...” และถ้าให้เลือก เขายอมโดนหาว่ากลัวผีดีกว่า

          “แหม เอาน่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” ปาล์มหัวเราะร่าแล้วตบบ่า “ก็กลุ่มเราดันมีคนที่ชอบเรื่องผีนี่นะ...”

          เสียงทุ้มขาดช่วงไป และแต่ละคนก็พากันหน้านิ่ง เพราะถ้าไม่ได้คิดไปเอง พวกเขารู้สึกเหมือนมีอะไรเดินผ่านวูบวาบทั้งที่ไม่มีลมพัด

          เมื่อเสียงสัญญาณดังขึ้น เนคิดว่าแต่ละกลุ่มจะพากันวิ่งขึ้นไปชั้นบน แต่กลายเป็นว่าเขาคิดผิดอยากแรงมาก

          “เหวอ” เนร้องก่อนจะหลบลูกถีบที่บินเข้ามาหมายจะลูบไล้ใบหน้า “ไอ้ต่อ!...แอ่ก”

          เนโดนผลักเต็มแรง แต่ก็ตั้งตัวทันก่อนจะล้มหงายหลัง ดวงตาเรียวเพ่งมองอีกฝ่ายผ่านความมืดสลัว อย่าว่าแต่เขาเลย ในตอนนี้ทุกคนกำลังตะลุมบอนกันอย่างเมามัน

          “วิธีที่ชนะง่ายสุด คือกำจัดศัตรูไง ฮะๆ” ปาล์มหัวเราะก่อนจะช่วยดึงเนให้พ้นจากวิถีหมัดของต่อ “ไฮ่ ย่ะ!!”

          อันที่จริง เนก็ไม่ได้มีปัญหากับการใช้ความรุนแรงนัก แค่ไม่คิดว่าปาล์มจะถีบต่อจนกระเด็นเสียไกลเป็นเมตร เล่นเอาเด็กหนุ่มเกิดผวาขึ้นมาว่าต่อจะมีอันเป็นไปเสียจริงๆ

          “ไม่ตายหรอกน่า ขั้นนี้แล้ว” ปาล์มว่าเมื่อเห็นเนลนลาน “มานี่”

          เด็กหนุ่มหันไปมองเพื่อนร่วมทีมที่เรียกให้ตนตามไป ยังมุมมืดด้านในของตึก ซึ่งกว่าจะเดินเข้าไปได้ ก็นับว่าทุลักทุเลพอสมควร แม้จะพยายามย่องๆ เดินก้มต่ำๆให้ไม่เป็นที่สังเกต แต่ก็โดนเห็นเป็นช่วงๆจนเสียเวลาพอสมควรกว่าจะฝ่าดงหมัดดงเท้าออกมาได้

          “ไง นึกว่าจะโดนไอ้ต่อเล่นงานดับซะแล้ว” โค้กที่รออยู่ก่อนแล้วแซวเมื่อเห็นสภาพสะบักสะบอมของเน “ใช้ได้เหมือนกันนะ ปกติคนที่เข้าร่วมครั้งแรก ไม่ค่อยมีใครอยู่รอดออกจากดงไปได้หรอก”

          เนเพียงแต่ยิ้มหน้าเจื่อนให้ นับว่าเคราะห์ดีที่คนโจมตีเป็นต่อ ซึ่งแผ่กระแสจิตวูบวาบให้รู้ตัวก่อนจะโดนสวนอย่างจัง

          “ไปชั้นบนเถอะ ผมเห็นคนอื่นก็มีแอบๆหนีขึ้นไปบ้างแล้วล่ะ” ปาล์มเรียกพลางชี้ไปยังช่องว่างบนเพดานที่อยู่ไม่ห่างจากที่พวกเขากำลังยืน “...พวกขาบู๊นี่ก็กะไม่ไปจนไม่เหลือใครจริงๆแฮะ”

          เนพยายายามไม่สนเสียงชกต่อยและร้องโหวกเหวก ไต่ช่องว่างตามเพื่อนร่วมกลุ่มไปติดๆ และยังไต่ต่อไปเรื่อยๆจนถึงชั้นแปด ซึ่งเงียบสงบและแทบไม่ได้ยินเสียงสู้จากด้านล่างเลย

          “เก็บธงชั้นนี้ก่อนละกัน...เดี๋ยวฉันแยกไปเก็บ พวกนายสองคนก็ช่วยกันนะ แข่งครั้งนี้ ถ้าคนในกลุ่มออกจากการแข่งไปสักคนก็แพ้ทั้งกลุ่มนะ”

          เนจะไม่ของขึ้นเลย ถ้าโค้กไม่ได้มองมาด้วยสายตาเหมือนกะว่าเขาต้องแย่แน่ๆถ้าไม่มีปาล์มไปด้วย

          “เอาน่า พี่โค้กเขาก็แค่เป็นห่วงเฉยๆ” และเหมือนปาล์มจะรู้ หลังจากแยกตัวกันไปคนละฝั่ง ก็เอ่ยขึ้น “ไม่ได้คิดว่านายเป็นตัวถ่วงอะไรหรอก”

          “หรือ...เขาเป็นแบบนี้เสมอหรือ...” เมื่อได้โอกาส ก็ไม่ลืมที่จะถามข้อมูลศัตรู...เอ๊ย แค่อยากรู้จักให้มากขึ้นในฐานะที่อยู่กลุ่มเดียวกันต่างหาก!!

          “ก็เป็นคนร่าเริงดี แล้วก็สู้เก่งที่สุด...ถ้าไม่นับพ่อฉันหรือผู้อาวุโสคนอื่นๆล่ะนะ ฮะๆ จำลำดับที่ฉันเคยพูดได้ไหม ที่หนึ่งก็พี่โค้กไง ส่วนที่สองก็พี่ศาสตร์” ได้ยินจากคนที่เหมือนจะเก่งกว่าตนแล้ว เนก็ยิ่งหน้าเบี้ยว แต่โชคดีที่ชั้นนี้ค่อนข้างมืด ปาล์มเลยมองไม่เห็นสีหน้าของคู่สนทนา ทั้งยังมัวแต่มองหาธงขนาดครึ่งฟุตด้วย “พวกศัตรูตั้งฉายาให้ด้วยนะ ว่ายมทูตหน้าเป็น”

          เนไม่แน่ใจว่าจะกลัวดี หรือจะขำดี

          “แล้วอีกคน...คุณศาสตร์ล่ะ เห็นพวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด สนิทกันหรือ”

          ปาล์มไม่ตอบคำถามนั้นในทันที พอเนพยายามมองให้ดีก็พบว่าตนโดนอีกฝ่ายเพ่งเล็งอยู่

          “ฉันแค่ถามเฉยๆ ก็อยากให้รู้จักกันนี่ ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่นายคิดสักหน่อย” พอนึกถึงคดีเก่า เนก็กระซิบบอกเสียงตื่น

          “ก็ไม่รู้นี่หว่า สองคนนั้นเนื้อหอมจะตาย เผื่อนายจะหลงกับเขาด้วย ฮะๆ” ปาล์มยังคงพูดทีเล่นทีจริง แต่กลับเดินห่างจากคู่สนทนาชอบกล “ก็สนิทอยู่หรอก...พี่ศาสตร์เองก็เป็นคนร่าเริงเหมือนกันนะ เพียงแต่สีหน้ากับท่าทางไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่...แต่เรื่องความ บ้านี่ สองคนนั้นสูสีคู่คี่กันสุดๆ”

          “เหรอ...” เนนิ่วหน้าให้กับประโยคหลัง นึกภาพตามไม่ออกเท่าใดนัก “...จะว่าไป พวกเขาดูสนิทกับคุณวัฒน์ดีนะ แถมยังไม่ออกอาการกลัวคุณวัฒน์เหมือนกับคนอื่นๆเลยด้วย”

          “เพราะบ้าไง” คำตอบเล่นเอาเนหน้าเบี้ยวกว่า เพราะกระทบตัวเองเข้าอย่างจัง “ขนาดอาวัฒน์แกทำหน้าน่ากลัวเหมือนกำลังจะไปฆ่าคน พี่โค้กยังกล้าเข้าไปกระโดดกอดพูดหยอกเลย ถ้าเป็นคนอื่นมีหวังโดนรังสีพิฆาตจากอาจนขยับไม่ได้กันไปแล้ว”

          ขนาดนั้นเลยเรอะ...ก็อยากจะถาม แต่กลัวจะโดนหาว่าบ้าไปอีกคน

          การสนทนาจบลงเพียงแค่นั้น เพราะปาล์มเร่งให้หาต่อ ทั้งสามกลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง ธงที่ได้มามีอยู่ราวสิบกว่าธงได้

          “ลองไปหาชั้นบนต่อละกัน...เราไม่รู้ว่าธงทั้งหมดมีกี่ธงกันแน่ บางทีมันอาจจะน้อยก็ได้” โค้กว่าพลางฝากธงทั้งหมดไว้ให้กับปาล์ม “ตอนแยกกัน ฉันลองลงไปดูชั้นล่างๆแล้วยังเหลือกลุ่มอื่นอีกสองสามกลุ่ม ทางที่ดี เราขึ้นไปดีกว่า คนน่าจะน้อย...”

          ทั้งสามหันไปอย่างพร้อมเพรียงเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างกระแทกซีเมนต์ กระนั้นบนอาคารที่มืดสลัว กลับไม่มีเงาคนอยู่แถวนั้นเลย นอกจากเสาตึก

          “หรือจะซ่อนอยู่หลังเสา” ปาล์มกระซิบบอก พยายามไม่คิดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ แม้บรรยากาศจะพาไปเป็นที่สุดก็ตาม

          โค้กไม่พูดพร่ำทำเพลง หรือแม้แต่จะแสดงอาการหวาดหวั่น ชายหนุ่มย่องเสียงเงียบไปสำรวจตามหลังเสาต่างๆ แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่เจออะไรผิดสังเกต

          “คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง อาจจะยังมีธงอยู่ชั้นนี้ แล้วโดนลมพัดหรืออะไรจนร่วงลงมามากกว่า” โค้กว่า แต่สายตาก็ยังสอดส่ายไปทั่วไม่หยุด “...กลัวหรือเน”

          เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อย พร้อมกับหันหน้าซีดๆไปให้ เขาไม่พูดอะไร นอกจากชี้ไปยังประตูบันไดหนีไฟที่เปิดแง้มอยู่

          ที่พื้นตรงนั้น มีมือขาวซีดโผล่ออกมา...

 

          “ตามเรื่องถึงไหนแล้ว”

          ฉัตรเลิกคิ้วมองคนถามที่ดูไม่ค่อยจะออกเท่าใดว่าคิดอะไรอยู่ หนุ่มใหญ่ร่างยักษ์เอียงคอมองไปทั่วอาคาร ซึ่งในตอนนี้มีเพียงทั้งสองที่อยู่ในชั้นนี้ ฉัตรออกอาการอึกอัก คิดอยู่นานสองนานกว่าจะเอ่ยปาก

          “ก็ยังไม่ถึงไหน แบบว่าไม่ค่อยว่างเท่าไหร่...แล้วไอ้เด็กนั่นมันทำอะไรผิดสังเกตบ้างหรือเปล่า”

          ดวงตาเรียวตวัดมองคนข้างกาย คล้ายกับไม่พอใจที่โดนถาม เล่นเอาคนตัวใหญ่กว่าถึงกับหวั่น ทั้งที่จริง วัฒน์แค่กำลังตื่นกับคำถามนั้นก็เท่านั้น เพราะดันไปคิดถึงอะไรที่ไม่ควรคิดก็เท่านั้น

          ก็มันดันมีแต่เรื่องพรรค์นั้นที่ผิดสังเกตนี่หว่า

          จะเป็นเพราะกลับตัวกลับใจอะไรก็เถอะ พักหลัง ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ไอ้เด็กบ้านั่นเล่นเอาแต่มองด้วยสายตาแปลกๆตลอด จะเป็นเพราะมองเพื่อสังเกตการณ์ก็ไม่เห็นต้องมองด้วยอารมณ์วาบหวิว ชวนระทึกเลยนี่หว่า แล้วที่มันหนักกว่าก็คือตอนมันละเมอเรียกชื่อตนด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรงนี่ล่ะ

          หรือมันจะพยายามกลับใจมากไปจนเพี้ยน...

          ให้ตายยังไงเขาก็ไม่คิดเข้าข้างตัวเองหรอก และถึงจะเป็นเช่นนั้นจริง เขาก็รู้ตัวดีว่า ตนไม่มีทางยอมรับเด็กรุ่นลูกที่ต้องสงสัยว่าเป็นศัตรูของสิทธิ์ได้หรอก

          แบบนั้น มันจะไม่แค่เจ็บปกติ แต่จะเจ็บจนเจียนตายแน่ๆ ก็ทางที่กำลังชักชวนให้เดินเข้าไป นอกจากจะโรยด้วยตะปูหนาม ยังจะมีเกลือพร้อมทาทาบแผลอีกต่างหาก

          เชือกเพียงเส้นเดียวยังคอยช่วยรั้งหัวใจไม่ให้เตลิดก็กำลังจะขาดลงอยู่รอมร่อ นึกหงุดหงิดและไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่าทำไมเจ้าเด็กบ้านั่นถึงทำให้ตนสับสนว้าวุ่นได้ขนาดนี้

          ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ เธอก็จะรั้งฉันไว้แท้ๆ…รั้งไว้ได้ทุกทีจนฉันแทบจะไม่แม้แต่จะกล้านึกมีใครใหม่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่เป็นแบบนั้นอีกล่ะ

          หรือเธอต้องการให้มันเป็นแบบนี้กัน…นี่มันแกล้งฉันชัดๆเลยนะ!!

          ฉัตรอยากจะถาม เพราะเห็นสีหน้าของวัฒน์ดูไม่สู้ดีเอาเสียเลย แต่ในขณะเดียวกันก็แผ่รังสีอาฆาตมาเสียเต็มเหนี่ยว เลยได้แต่เหล่มองด้วยความเป็นห่วงอย่างเงียบๆแทน


_______________________________________________________

ฟิตๆ


ปล่อยให้เนไปเดินเล่นกับคู่แข่ง และให้ลุงยืนกลุ้มต่อไป

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ซึนกับซึนนี่นะ :z3:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
โค้กกะศาสตร์เป็นที่หนึ่งกะที่สองแฮะ แถมชอบอาวัฒน์อีก เฮ้อออ
เนจะทำยังไงต่อล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 43


          “ไปดินาย”

          “นายดิ ไปเลย”

          “นายนั่นแหละ ไปดิ”

          สามหนุ่มต่างจ้องหน้ากันอย่างเคร่งเครียด สายตาก็เอาแต่มองแขนปริศนาไม่วางตา กลัวว่าหากพลาดไป มันอาจจะหาย...แต่อีกใจก็อยากจะให้หายเสียเหลือเกิน

          “มันอาจจะเป็นแค่ศพก็ได้” คำสันนิษฐานที่ฟังดูไม่ช่วยให้สบายใจดังขึ้นจากปากของโค้ก “จะไปกลัวทำไม”

          “ถ้าพระคุณพี่ไม่กลัวก็ไปดิครับ ไหนตอนฟื้นไข้เห็นบอกว่าไปท่องโลกวิญญาณอยู่เป็นเดือน ได้เพื่อนเป็นผีเยอะเลยไม่ใช่เรอะ” ปาล์มแย้งเสียงตื่น ท่าทางกลัวจริงจังเสียเหลือเกิน

          “แกจะเอาอะไรกับคนเพิ่งฟื้นไข้วะ สติสตังมันจะไปอยู่กับตัวที่ไหน” โค้กพูดเหมือนเป็นเรื่องของคนอื่น “เอาเป็นว่าตูกลัว จบมะ”

          บังคับจบชัดๆ...

          “ถ้างั้นเด็กใหม่ไปก่อนเลย อย่าได้ขัดรุ่นพี่” คราวนี้โค้กเริ่มใช้อำนาจ “เร็วดิ๊”

          “ทำไมผมต้องไปด้วยล่ะ” อันที่จริงอยากจะสวนไปหนักๆว่าไม่อยากจะทำตามคำสั่งมากกว่า แต่ยังไม่อยากตั้งตัวเป็นศัตรูในตอนนี้ และด้วยเรื่องนี้ “ผมบอกแล้วไงว่าผมกลัว เกิดผมช็อกตายไปจะทำไง”

          “เออ นั่นดิ ไอ้เนมันก็บอกอยู่ทนโท่ว่ากลัวความมืดจะตาย พี่โค้กน่ะ อายุเยอะสุด ไปเลย แสดงความเป็นพี่ชายให้เห็นหน่อยสิครับ” ปาล์มเสริม ท่าทางอยากให้โค้กไปเป็นที่สุด

          “ทีงี้มานับอายุกันนะ” โค้กกัดฟัน ท่าทางไม่อยากไปสุดขีด “ช่วยไม่ได้ล่ะนะ แก่สุดก็เงี้ย”

          คนอายุน้อยทั้งสองต่างปลื้มปิติที่พี่ใหญ่ยอมใจกล้าไปท้าพิสูจน์ แม้จะเดินไปแช่งพวกเขาไปตลอดทางก็ตาม

          ร่างโปร่งของชายหนุ่มค่อยๆคืบคลานเข้าหาทีละน้อย คนมองก็พากันลุ้นระทึกจนหืดขึ้นคอกันไปด้วย ยิ่งเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ ความเร็วในการคืบคลานก็ช้าลงตามไปด้วย
         
          “เฮ้ เพ่ ช้าเป็นเต่าคลานแล้วนะ” ปาล์มตะโกนเสียงเบาไล่หลัง เล่นเอาคนที่กำลังเดินถึงกับสะดุ้ง แล้วหันมาแยกเขี้ยวใส่

          ร่างสูงหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูบันไดหนีไฟ แล้วค่อยๆก้มตัวลงไปทีละน้อย...

          “จ๊าก!!!”

          “ว้าก!!”

          เสียงร้องดังระงมไปทั้งอาคารจนก้องไปทั่ว โค้กซึ่งแผดเสียงเป็นคนแรกกระโดดดึ๋งหนีจากตรงนั้นและพยายามสะบัดสิ่งที่เกาะแขนตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย แถมยังจะวิ่งมาทางพวกเนอีกต่างหาก

          “ว้าก! อย่ามาทางนี้สิเฮ้ย” ปาล์มร้องเสียงหลงก่อนจะหนีด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี

          “ก็ช่วยฉันด้วยสิเฮ้ย” โค้กร้องลั่น วิ่งไล่ปาล์มไม่หยุด

          แต่ไม่ต้องช่วย มือผีก็หลุดออกไปด้วยแรงสะบัดแล้ว

          ทั้งสามพากันมองมือปริศนานั่น พอมองดูให้ดีๆแล้วก็เห็นเศษคล้ายเศษกระดาษหลุดลุ่ยออกมาตามรอยแผลเต็มไปหมด

          ของปลอมนี่หว่า

          “แหม ก็ร้องซะเต็มเหนี่ยวกับของเด็กเล่น” ไอ้คนร้องก่อนเพื่อนกลับมาเก็กหน้านิ่งทั้งที่สายไปหลายขุม “เอ้าๆ รีบไปดีกว่า สงสัยคงใครสักคนที่เป็นผีทำเตรียมไว้ละมั้ง...”

          โค้กเงียบเสียงไป และอยู่ๆก็ดึงตัวเนเข้ามาหา จนเด็กหนุ่มเกือบหน้าทิ่ม

          ก่อนที่เนจะได้ด่าพ่อล่อแม่ เสียงลมวูบหวีดหวิวที่เฉี่ยวเข้าปลายคางทำเอาหุบปากแทบไม่ทัน ดวงตาเรียวเพ่งมองเจ้าของหมัดที่ยืนอยู่ด้านหลังตน

          “จ๊าก!!”

          เสียงหวีดร้องดังลั่นหลังจากได้เห็นหน้าคนจู่โจมที่ดูมืดมนอึมครึม ทั้งยังผมเผารุงรัง ตาก็สะท้อนแสงแวบวับอีกต่าง

          “ใจเย็นไอ้น้อง ไม่ใช่ผี ถึงจะเหมือนก็เถอะ ฮะๆ” โค้กว่าก่อนจะเข้ามาขวางทางผีเอาไว้ “ทั้งหมดนี่ของพี่เรอะ”

          คนผมเผ้ารุงรังอย่างกับรังนกสะบัดหัวขึ้นมองคนที่สูงพอๆกันตรงหน้า ก่อนจะหัวเราะใส่พลางชูธงเป็นสิบขึ้นมา

          “ก็พอจะหลอกคนบ้าๆได้หลายคนละนะ” ชายวัยราวสามสิบกว่าเอ่ย แว่นทรงกลมที่เขาใส่หนาเตอะเสียจนมองไม่เห็นดวงตา “แหม่ อีกนิดเดียวเอง นึกว่าเก็บธงไว้กับเด็กใหม่เสียอีก”

          “อะไร จะลวนลามเนหรือพี่ก้อง” ได้ยินปามพูดแล้วเนแทบหันกลับมามองและถอยหนีอีกฝ่ายแทบไม่ทัน “เดี๋ยวพี่ฤทธิ์ก็จับทุ่มเอาหรอก”

          “ฮะๆ ตอนนี้หมอนั่นก็กำลังเที่ยวลวนลามคนอื่นอยู่ชั้นสิบสี่ล่ะมั้ง” ก้องว่าพลางขยับแว่น “ถ้าขึ้นกันไปถึงน่ะนะ”

          เนนิ่วหน้า แม้จะไม่เคยประมือกันมาก่อน แต่ก็ยอมรับว่าอีกฝ่ายเก่งพอที่จะเข้าข้างหลังโดยที่เขาไม่รู้ตัวได้...ยิ่ง ฟังคำที่ปาล์มพูดก่อนหน้า ยิ่งชวนหวาดหวั่นประตูหลังเข้าไปใหญ่

          แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณวัฒน์แทนล่ะก็...

          คิดบ้าอะไรของตูฟะ!!!

          “เหยอ!!”

          เนร้องไม่เป็นภาษาเมื่ออยู่ๆก็มีเงาทะมึนวูบผ่านหน้า เด็กหนุ่มหลบมือมารที่พุ่งเข้าแก้มได้อย่างฉิวเฉียด หากพลาดไปคงได้ลงไปนอนนับดาว

          “ฮึ่ย” เนรู้สึกหงุดหงิดเพราะพยายามจะสวนกลับหลายต่อหลายที แต่ก็หวืดทุกที ไม่คิดว่าจะมีคนหลบหมัดของตนได้อย่างสบายๆแบบนี้

          ปาล์มฉวยโอกาสที่ก้องเอาแต่สนใจเน กระแทกเข้าหลังหนุ่มแว่นเต็มรัก แต่กลับไม่ได้ผลเท่าที่ควร ซ้ำยังเกือบจะโดนถีบกลับอีกต่างหาก

          “รุมคนแก่งี้ขี้โกงนี่หว่า” ก้องโวยวายทั้งที่ตอนนี้ตัวเองเป็นต่อกว่าแท้ๆ ทั้งยังแฮ้บธงไปจากปาล์มได้อีกสามธง “แน่จริงเข้ามาตัวต่อตัวสิฟะ ไอ้พวกเด็กผี”

          “แหม่ ขนาดรุมยังล้มเฮียไม่ได้ หนึ่งต่อหนึ่งก็ได้ไปสวรรค์เรียงคิวสิครับ” ปาล์มแซว “โอ๊ะ แต่ไม่ใช่สวรรค์อย่างว่านะ อันนั้นพี่ไปขึ้นกับพี่ฤทธิ์คนเดียวเถอะ”

          จากที่กำลังหาทางแย่งธงกลับ เนถึงกับชะงัก สำลักน้ำลายตัวเองรัวๆ

          “อึก” และคุณผีเองก็ไม่พลาดจังหวะนี้ สวนเข้าท้องน้อยของเนเต็มรัก เล่นเอากระอัก ทรุดลงไปกุมท้องด้วยความเจ็บปวด

          ไอ้แก่นี่!!

          เนพยายามฝืนเจ็บและเตะขัดขาคนที่กำลังง่วนอยู่กับการตั้งรับเพื่อนในกลุ่ม ทันทีที่ล้ม คนที่เหลือก็จัดการจับก้องกดกับพื้นเอาไว้ทันที

          “อ๊ะ จับตรงไหนของพวกนายน่ะ จะรุมโทรมฉันเรอะ” ทั้งที่เสียเปรียบแต่น้ำเสียงที่ร้องออกมากลับไม่มีอาการร้อนรนแต่อย่างใด ทั้งยังพูดเล่นได้ “อ๊าง”

          “หยุดเหอะ” ปาล์มว่า ท่าทางสยองขวัญเต็มทน พยายามรีบๆล้วงหาสิ่งที่ต้องการ และดึงผ้าคาดแขนอีกฝ่ายออก

          “โถ หนำใจแล้วล่ะสิ ฮะๆ” ทั้งที่โดนแย่งธงไปจนหมดก็ยังแซวไม่เลิก “ไม่คิดว่าจะเสียท่าให้กับกลุ่มที่มีเด็กใหม่เลยวุ่ย”

          “ความประมาทเป็นหนทางสู่ความตายนะเพ่ชาย” โค้กยิ้มเยาะ

          “ไม่อยากให้คนที่เพิ่งผ่านความตายมาพูดแบบนี้เลยว่ะ” หนุ่มแว่นค่อนแคะเสียงแหบ “เออ ไปเถอะ ไปที่ชั้นสิบสี่ พวกแกคงขึ้นไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ ฮะๆ”
         
          คำขู่ที่ทำให้ปาล์มกับโค้กถึงกับสั่น ทำเอาเนนึกสงสัย อย่างเดียวที่พอจำได้คือ คนที่ชื่อฤทธิ์อยู่ชั้นนั้น...

          “คุณเป็นเกย์หรือ”

          คำถามที่ทำเอาคนฟังพากันมองหน้า ก่อนที่ก้องจะหัวเราะ

          “อยากทดสอบไหมล่ะ”

          ถอยหลังกรูดเลยทีเดียว เพราะไอ้คนพูดมันเล่นเอานิ้วลูบปากตัวเองพร้อมกับแลบลิ้นเลียอีก

          “ถ้าไม่ได้เป็น ฉันก็ไม่ยุ่งหรอกน่า” พอเห็นเด็กหนุ่มแสดงอาการกลัวเสียเหลือเกิน ก้องก็บอกพร้อมกับหัวเราะไม่เลิก “...”

          “อะไรครับ...” พอเห็นก้องเอาแต่จ้องไม่เลิก เนก็อดถามไม่ได้

          “...ไม่ มีอะไร รีบๆขึ้นไปให้ไอ้ฤทธิ์โดนปล้ำเถอะ ถึงนายจะไม่ใช่สเป็กหมอนั่นก็ตาม” หนุ่มแว่นบอกพลางโบกมือให้ “ส่วนไอ้โค้ก เตรียมก้นให้หมอนั่นลูบเอาไว้ได้เลย”

          “ไม่เอาว้อยย” หนุ่มหน้าเด็กร้องเสียงตื่นพร้อมกับใช้มือบังหลังเต็มพิกัดอย่างหวงแหน “ขอเหอะ พี่ก้องเป็นแฟนพี่ฤทธิ์ไม่ใช่เรอะ ไม่ห้ามบ้างเหรอ”

          “แล้วคิดว่าห้ามอยู่หรือ” เสียงทุ้มย้อน “เอาเถอะ ฉันก็หาเศษหาเลยไปซะเยอะ จะไปห้ามมันก็เข้าตัวเอง...เอาเป็นว่าโชคดีก็แล้วกันนะจ๊ะ”

          แต่ละคนทำหน้าเหมือนปลาซาร์ดีนโดนแดดกันเป็นแถว

          “ให้ตายเถอะ สองคนนั่นมาเป็นฝ่ายไล่ทีไร สยองขวัญทุกที” หลังจากหนีขึ้นมาอีกชั้น ปาล์มก็บ่นขึ้นพลางลูบแขนไปมา “ชอบไล่ปล้ำคนอื่นตลอด นายเองก็ระวังไว้ล่ะ”

          “...อืม...” เนรับเสียงเบา เริ่มสยองปนสับสนตาม

          ใช่...กับคนอื่นก็ไม่ชอบ ไม่อยากจะจับ และไม่นึกอยากจะจับ...

          ...แต่ทำไมกับเขา เรากลับไม่รู้สึกแบบนั้นแม้แต่น้อยนะ...

          …รักหรือ...

          ไม่ๆๆ ไม่ใช่แบบนั้นแน่ ไม่มีทาง...ก็บอกว่าไม่มีทางไงล่ะโว้ย ยังไงตูก็ไม่เอาคนชรามาเป็นคู่แน่ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะต้องการหรือไม่ก็ตาม มันบ้าชัดๆ!!

          “หยุดก่อน”

          เสียงของโค้กดึงเนออกจากภวังค์ ดวงตาเรียวเพ่งมองผ่านความมืดไปยังทางที่โค้กชี้ เงาร่างของชายคนหนึ่งยืนอยู่เพียงคนเดียวพลางหาวหวอดๆ ท่าทางเบื่อหน่ายเต็มทน เขาไว้ผมหน้าปัดไปทางขวา ผมด้านหลังซอยสั้น ดวงตาตกนั้นยิ่งทำให้อาการเบื่อหน่ายดูมากกว่าปกติ

          “นั่นล่ะพี่ฤทธิ์” ได้ยินชื่อถึงกับสะพรึง “อย่าได้คิดว่าจะกินง่ายเหมือนพี่ก้องเชียว...ต่อให้พวกเรารุมก็ไม่แน่ใจว่าจะชนะได้หรอก”

          “แล้วจะเอายังไงล่ะ” เนหันไปถามปาล์มอย่างกระวนกระวาย

          “แย่แฮะ ไม่ไหวแน่ๆ” แม้แต่โค้กเองก็ยังตัดใจ “เอางี้ เราหลบไปชั้นอื่นดี...”

          “เฮ้ จะหลบกันอยู่อีกนานไหม”

          เสียงคนเป็นผีดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย ทำเอาคนที่กำลังปรึกษากันสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวทั้งที่พวกเขาก็ยืนห่างจากฤทธิ์ตั้งไกล

          “ถ้าไม่ออกมา ฉันจะเข้าไปแล้วนะ” เสียงทุ้มฟังดูระรื่นมากกว่าจะหาเรื่อง “แล้วถึงตอนนั้น จะมาหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นา...”

          ได้ยินน้ำเสียงช่วงท้ายแล้ว เนชักไม่แน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาตะบันหน้า หรือทำอย่างอื่นกันแน่

          “เฮ้”

          ก่อนที่จะได้ตัดสินใจ เสียงปริศนาที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นไม่ห่าง

          “คุณสิทธิ์” เนเลิกคิ้วมอง ลืมระวังตัวเสียสนิท

          “ตอนนี้เราพักรบกันก่อนดีกว่านะ” สิทธิ์รีบกระซิบบอกเมื่อเห็นโค้กกับปาล์มยังคงออกอาการระแวดระวังเต็มที่ “ไม่งั้นผ่านพี่ฤทธิ์ไปไม่ได้หรอก”

          “นั่นสินะ...งั้นเราร่วมมือกันชั่วคราวก่อน” โค้กเห็นด้วยทันที “แล้วคนอื่นในกลุ่มคุณสิทธิ์ละครับ”

          “อยู่ตรงโน้น” สิทธิ์ชี้ไปยังมุมด้านในของตึก “พี่ศาสตร์กลัวพี่ฤทธิ์จนไม่ยอมเข้ามาเลย พี่อรรถเองก็พอกัน ไม่รู้จะกลัวพี่ฤทธิ์ทำไมนัก”

          “แหม่ คุณสิทธิ์ไม่โดนพี่ฤทธิ์ลวนลามก็พูดได้นี่ครับ” ปาล์มโวยเสียงเบา “เอาเถอะ แล้วคุณสิทธิ์มีแผนหรือเปล่า”

          “จะว่ามีก็มี ไม่มีก็ไม่มี...คือมันค่อนข้างจะเสี่ยงน่ะ” ผู้เป็นเจ้านายพูดกำกวนชวนงงจนแต่ละคนพากันนิ่วหน้า “เอาเป็นว่า...”

          ว่าแล้วก็ซุบซิบบางอย่างกับเนและปาล์ม ปล่อยให้โค้กได้แต่ยืนมึน

          “อืม...อาจจะได้ผลก็ได้นะ...” ปาล์มวิเคราะห์ “เราก็ไม่เหลือทางเลือกอย่างอื่นแล้วนี่นะ”

          “อะไรๆ” ผู้ไม่ได้เข้าร่วมแผนถามอย่างใคร่รู้...แต่ก็ชักเริ่มไม่แน่ใจเมื่อเห็นปาล์มฉีกยิ้มชั่วร้ายใส่

          “หมดเวลา”

          ก่อนที่จะได้บอกแผน ฤทธิ์ก็ประกาศเวลาขึ้นแท่นประหารเสียก่อน และเดินเข้ามาหาราวกับรู้อยู่แล้วว่าคนซ่อนอยู่ตรงไหน แถมยังเดินมาพลางขยับนิ้วมือทั้งสิบไปมาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างเหมือนมารร้าย
         
          “พี่โค้กมานี่” สิทธิ์ร้องพร้อมกับกวักมือเรียก

          แม้จะยังลังเล แต่เห็นคนในทีมพยักหน้าให้ จึงยอมไปโดยไม่ถามไถ่ ถึงอย่างไรธงก็ไม่ได้อยู่ที่ตนอยู่แล้ว

          “อ้าว คุณสิทธิ์...ไอ้โค้ก” ในทีแรกฤทธิ์ค่อนข้างแปลกใจที่เห็น แต่พอเห็นคนที่มากับสิทธิ์ด้วยถึงกับทำหน้าเหมือนเสือเห็นลูกกวาง “กำลังคิดถึงแกพอดีเลยว่ะ”

          “แหม อย่าคิดถึงผมเลย ไปคิดถึงพี่ก้องโน่น” โค้กสวนกลับด้วยน้ำเสียงติดสั่น ก่อนจะหันไปกระซิบกับสิทธิ์ “เอาไงครับ”

          “ลุยเลยครับ”

          “หา เอาจริงดิครับ” โค้กถึงกับร้องอย่างลืมตัว สายตาก็ยังคงเหลือบมองมือมารที่กำลังคืบคลานเข้ามา

          “ครับ ตามนั้นเลย”

          เมื่อสิทธิ์ยังคงยืนกราน ชายหนุ่มจึงทำตาม แม้จะยังไม่แน่ใจเท่าใดนัก และนั่นก็ทำให้เขาสำนึกได้ว่าตนคิดผิดอย่างมหันต์

          “เหวอ” แรงผลักที่หลังทำเอาเสียการทรงตัว “แว้ก!!!”

          และก็เข้าไปในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่รออยู่นานแล้วเต็มรัก

          “ไม่เจอกันนาน คิดถึงฉันขนาดนั้นเลยหรือ” กอดอย่างเดียวไม่พอ มือก็เลื่อนลงไปต่ำเรื่อยๆอีกต่างหาก

          “ว้ากกก ปล่อยนะ!!!” โค้กโวยวาย พยายามสะบัดตัวหนี แต่อีกฝ่ายก็แรงเยอะพอกัน แม้จะสูงพอกันและหุ่นหนากว่าแค่นิดเดียว “เลิกจับก้นผมได้แล้ววว”

          “เรื่องสิจ๊ะ” หนุ่มตาตกกระซิบตอบข้างหู ทำให้คนพยายามดิ้นแรงตกเพราะความสยอง “เด็กๆนี่ดีจังน้า เนื้อแน่นน่าจับน่าฟัดไปหมด...โอ๊ะ”

          ขณะที่กำลังลวนลามอย่างมันมือ แรงดึงผ้าคาดจากแขนทำเอาฤทธิ์ต้องละจากเหยื่อน่าเคี้ยว แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว

          “เย้~~” ปาล์มถึงกับกระโดดตัวลอยเมื่อเนสามารถดึงผ้าคาดแขนได้ “เรารอดแล้ว”

          “หนอย ร้ายนักนะ” ฤทธิ์เอ่ยอย่างเสียดายที่พลาดท่าให้ง่ายๆ แต่ก็ยังบีบจับขยี้ขยำก้อนเนื้อในมือไม่หยุด “ไม่คิดว่าจะมาไม้นี้แฮะ เพราะแกเลยนะไอ้โค้ก หายหัวไปนาน ฉันเลยละมือออกจากแกไม่ได้เลย”

          “โว้ย จะยังไงก็ช่าง ปล่อยผมได้แล้ว!!!” โค้กโวยลั่น เพราะอีกฝ่ายยังลวนลามตนไม่เลิก

          “แหม อีกนิดน่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว” หนุ่มตาตกอ้อน ท่าทางไม่ยอมง่ายๆ “เสียดายจัง ไอ้ศาสตร์ไปไหนก็ไม่รู้ ก้นมันนี่น่าจับที่สุดละ”

          คงจะโผล่มาให้จับอยู่หรอก

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ก้องว่าน่ากลัวแล้ว แต่ฤทธิ์นี่เข้าขั้นสยองขวัญเลยครัช -O-;;
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2015 13:34:09 โดย boboman »

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
หว๋า..คุณฤทธิ์มือปลาหมึกล่ะ  อิอิ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :m20: สรุปว่าฤทธิ์น่ากลัวสุด มือหรือหนวดปลาหมึกน่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
โอ๊ยเหลียแก๊งค์นี้ เล่นกันเป็นเด็กๆ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ตกลงที่ทุกคนกลัวฤทธิ์นี่เพราะว่าหื่นใช่เปล่า

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 44


          “ถ้างั้นผมนำไปก่อนละกันนะ” ด้วยความที่อยู่กลุ่มเดียวกัน สิทธิ์ก็ไม่อยากให้ศาสตร์ต้องเจอชะตากรรมเดียวกับโค้กนัก “เอาเป็นว่า เราแข่งกันเก็บธงละกันนะ แต่ถ้าไปเจอกันอีก อันนี้ก็ไม่แน่”

          ว่าจบก็เผ่นไปยังทางที่ศาสตร์กบดาน ปล่อยให้กลุ่มของเนชะงักเพราะพรรคพวกโดนลวนลามไปโดยไม่แม้แต่จะช่วยห้าม

          กว่าจะหลุดออกจากนรกแห่งการล่วงละเมิดก็ล่อไปเกือบสิบนาที สภาพจิตใจของคนที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์โหดร้ายมานั้นบอบช้ำ และกระทบต่อแรงกายเป็นอันมาก เพราะโค้กทำท่าเหมือนเดินไม่ค่อยจะไหวแล้ว

          “หวังว่าคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วนะ...” ชายหนุ่มเดินง่อนแง่น พร้อมจะทรุดลงพื้นได้ทุกเมื่อ “ฮือ...”

          “เอาน่า...เราทุกคนล้วนซาบซึ้งกับการเสียสละของพี่โค้ก และจะไม่มีวันลืมเลือน” ปาล์มว่าทำหน้าซึ้ง และรีบหลบมือที่เข้ามาตบกะโหลกตน

          “ฝากไว้ก่อนเหอะ” โค้กขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “...อะไรเน”

          เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงเพราะเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเผลอมองอีกฝ่าย

          “ผมแค่สงสัย ว่าทำไมคุณดูสนิทกับคุณวัฒน์มากน่ะครับ” เมื่ออยากรู้ จึงถามออกไป และคอยบอกตัวเองว่าแค่อยากรู้เท่านั้น...ไม่ได้หึงหวงอะไรทั้งสิ้น!! “ก็เห็นคนอื่นดูจะกลัวเกรงคุณวัฒน์กัน...”

          “ฉันว่าที่แปลกน่ะคือพวกนายต่างหาก” ปาล์มกลับเป็นคนพูดขึ้นเสียอย่างนั้น “โอเค อาเขาอาจจะไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คนอื่นบอก แต่ก็คุยด้วยยากอยู่ดี บางทีก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ถ้าอย่างพ่อก็ว่าไปอย่าง”

          ซึ่งเนก็ไม่แน่ใจว่าวัฒน์คุยด้วยยากอย่างที่ปาล์มบอกหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เขาไม่อยากคุยกับฉัตรแม้จะคุยง่ายกว่าก็ตาม

          หมอนั่นจะบอกอะไรเรานะ

          ความรู้สึกขุ่นข้องหมองใจประดังประเดเข้ามา ใจหนึ่งก็อยากรู้แทบตาย แต่อีกใจก็อยากจะหนีไปสุดชีวิต ถึงอีกฝ่ายจะบอกว่าเป็นเรื่องดีก็เถอะ แต่เขาไม่อยากจะปักใจเชื่อนักหรอก...
         
          แล้วทำไมเราต้องมากังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ฟะ!!! จะเคยเป็นผัวเก่าเมียเก่ามาก่อนมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ตูจะต้องมาพะว้าพะวงเลยนี่หว่า

          เนชะงักเล็กน้อยเมื่อคนในกลุ่มที่เดินนำหยุดเดินเอาดื้อๆ เมื่อชะเง้อมองก็พบคนที่กำลังคิดถึง แถมไม่ใช่แค่หนึ่งแต่มีถึงสอง

          “ตายห่า” โค้กถึงกับสบถ “มานี่”

          ทั้งโค้กและปาล์มรีบดึงแขนเนที่ยังเหรอหราออกมาจากบริเวณนั้นโดยเร็วที่สุด จนคนโดนลากเกือบจะล้มแล้ว

          “ถ้าสองคนนั้นอยู่ด้วยกันนะ ต่อให้มีพี่โค้กเป็นกองทัพก็แพ้อยู่ดี” ปาล์มว่าท่าทางหวาดหวั่นเป็นที่สุด “เพราะงั้น เลี่ยงเสียจะดีกว่า”

          สีหน้าของเนดูจะไม่อยากจะเชื่อนัก แต่พอนึกถึงสภาพปานนรกตอนไปช่วยมีนที่บาร์เมื่อครั้งก่อน บวกกับนึกถึงเป้านิ่งที่เคยยิงร่วมกับวัฒน์ เขาก็เถียงไม่ค่อยจะออกนัก

          แต่เห็นใบหน้ากวนอารมณ์ของคนร่างถึกที่ทำทีเหนือกว่าเสียเต็มประดาแล้ว ก็อดของขึ้นและไม่อยากจะหนีมาเสียอย่างนั้น

          “ไม่มีทางสู้ไหวเลยจริงๆเหรอ”

          ทั้งสองต่างพากันเลิกคิ้วกับคำพูดของเด็กใหม่ ก่อนที่โค้กจะตบบ่า

          “โลกนี้มันกว้างใหญ่นักนะเนเอ๋ย แล้วเจ้าจะเข้าใจเมื่อเวลาผ่านไป” โค้กเอ่ยคำฟังดูเหมือนหลุดออกมาจากนิยายแฟนตาซีโบราณ “เอาเป็นว่าตัดใจแล้วไปที่อื่นเหอะ”

          “ทำไมถึงอยากไปฉะพ่อกับอาวัฒน์ขนาดนั้นน่ะ” เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูจะไม่ยอมอย่างชัดแจ้ง ปาล์มก็อดถามขึ้นไม่ได้ “...หรือว่านาย...”

          “ไม่ใช่แบบนั้น!!” เนร้องอย่างเหนื่อยใจ “ฉันไม่ได้คิดอะไรกับพวกเขาแบบนั้น โอเคนะ”

          “จริงอะ”

          เนชะงัก เพราะคราวนี้คนที่ถามกลับเป็นโค้ก ดวงตากลมของอีกฝ่ายจ้องมองอย่างใคร่รู้ แต่ก็แอบแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เนอ่านไม่ออก
         
          “จริงสิครับ” แต่ต่อให้อ่านไม่ออก มันก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่หว่า หมอนั่นจะคิดอะไรยังไงกับคุณวัฒน์ก็ไม่ใช่เรื่องของเราทั้งนั้น...แล้วทำไมต้องรู้สึกเคืองด้วยวะ!!

          “ที่ผมอยากสู้ด้วย...ก็แค่ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะอ่อนกว่าคนชราพวกนั้นต่างหาก” เนเรียกโดยไม่สนเรื่องที่ว่าคุณลูกของลุงแกก็ฟังอยู่ “ถ้าหนีก็เท่ากับป๊อดน่ะสิ”

          สีหน้าของปาล์มเหมือนต้องการจะบอกว่า ‘ตูยอมป๊อด’

          “อยากจะประลองฝีมือด้วยว่างั้นเถอะ” แต่ดูโค้กจะไม่ได้ซีเรียสอะไรนัก “มันก็จริงนะ จะหาโอกาสสู้กับสองคนนั้นพร้อมกันไม่ได้ง่ายๆเสียด้วย”

          “เฮ้ๆ เอาจริงดิ” ปาล์มร้องเสียงตื่น “ผมว่าไม่ไหวนา แค่สามคนเนี่ย มีหวังตายฟรีแน่นอน ตัดใจเหอะ”

          “แหม ไม่สมกับเป็นลูกป๋าเลยนะ”

          เสียงทุ้มแสนกวนที่ดังขึ้นมาทำเอาคนที่นั่งสุมหัวพากันกระเจิง ฉัตรยิ้มแป้นด้วยท่าทีสบายๆและไม่มีการตั้งท่าสู้แต่อย่างใด อีกทั้งไม่เข้ามาโจมตี ในขณะที่พวกเนพากันระวังตัวเต็มที่

          “ใจกล้าๆกันหน่อยน่า กับไอ้แค่คนแก่สองคน จะกลัวอะไรนักหนา” ฉัตรว่าพลางหักนิ้ว “โอ๊ะ”

          ปาล์มกับโค้กพากันเบิกตามองภาพตรงหน้า แม้จะไม่เข้าเป้า ทั้งยังโดนปัดกลับออกมาอย่างง่ายดาย แต่เนก็ยังไม่ละความพยายาม รัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่อง

          “แหม นี่กล้าหรือแค้นส่วนตัวจ๊ะ” ฉัตรกระซิบถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า เมื่อเห็นเด็กหนุ่มพยายามซัดเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

          เนไม่ตอบ แต่ออกแรงอย่างเสียเปล่าไม่นานก็ต้องถอยหนีออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะความเจ็บที่เหมือนมีวัตถุขนาดจิ๋วพุ่งเข้ากระแทกไหล่ และไม่ต้องสงสัยนานก็เห็นตัวการที่ยืนอยู่ไกลกว่า และกำลังเล็งปืนอัดลมใส่ตน

          “มานี่” โค้กเรียกก่อนจะเข้าไปแทรกแทนเน หมัดหนาของหนุ่มใหญ่ที่สวนเข้ามาหนักจนคนที่ใช้มือปัดถึงกับเจ็บแปลบ “ทางนี้ฉันลุยเอง”

          “อะไร้ ใจคอจะให้ฉันรังแกเด็กป่วยหรือ” ฉัตรเยาะ “แกก็อย่าเอาแต่ยืนทื่อสิวะ ไม่ช่วยไอ้โค้กหรือไง”

          แม้จะไม่อยากสุดๆ แต่ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ปาล์มจึงกลั้นใจพลีชีพร่วมกับโค้กแทน

          เนเลื่อนสายตามองคนที่อยู่ไกลๆก่อนตะรีบชิ่งหลบหลังเสา รู้สึกระบมไปทั้งตัวเพราะโดนเม็ดกระสุนอัดลมยิงใส่ นึกแค้นอยู่ในใจที่โดนยิงไม่ยั้ง

          เอาไงดีวะ

          เนเลื่อนสายตามองลงไปที่ร่างกายตัวเอง ก่อนจะนึกบางอย่างออก

          วัฒน์นิ่วหน้ามองเสาที่เนเข้าไปหลบ ที่จริง เขาจะกลับไปช่วยฉัตรก็ได้ แต่หนุ่มใหญ่กลับเลือกที่จะรอเหยื่อตรงหน้าออกมาแทน ซึ่งเขาไม่ปฏิเสธว่าจงใจเล็งแต่ทางนั้นด้วย

          สนุกชะมัด

          นานแล้วที่ไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ ทั้งยังสะใจอีกด้วย แน่ล่ะ โอกาสแก้แค้นแบบนี้หาได้ง่ายๆที่ไหน ได้เห็นคนที่คิดร้ายกับสิทธิ์วิ่งหางจุกตูดแบบนี้...หรือต่อให้ไม่ได้เป็นคนทรยศก็สะใจอยู่ดี ที่ได้เห็นเจ้าเด็กอวดดีขี้โม้ช่างปีนเกลียวที่มาปล้ำตนจนเผลอติดใจ มาเสียท่าให้เห็นแบบนี้

          “หึย”

          ทีแรกนึกว่าหลบอยู่ตรงนี้จะปลอดภัยแล้ว แต่กลับเจอห่ากระสุนใส่เต็มตัว ทั้งที่พอเหลือบไปมองก็เห็นว่าอีกฝ่ายยังคงอยู่ที่เดิม ทั้งทิศทางที่กระสุนมาก็ไม่มีใคร...

          เนเบี่ยงตัวหลบสิ่งที่พุ่งเข้ามาตามสัญชาตญาณ หากช้าไปนิดเดียว คงเข้ากลางกระหม่อมไปแล้ว
         
          เดี๋ยวนะ ตาลุงนั่นยิงลูกชิ่งใส่ตูเรอะ!!

          แม้จะอึ้งในความเทพ แต่ความเจ็บก็บั่นเวลาชื่นชมไปมากโข เนพยายามเค้นสมองหาทุกวิถีทางที่จะพาตัวเองให้รอดจากสถานการณ์นี้ให้ได้

          วัฒน์นิ่วหน้าเมื่อไม่ได้ยินเสียงร้องของอีกฝ่าย เขาหยุดยิงและเดินเว้นระยะจากเสา เพื่ออ้อมไปดูเหยื่อ ซึ่งเมื่อเห็นเท้าที่แพลมออกมาหนุ่มใหญ่ก็หยุดเดินและยิงใส่ทันที

          เท้าน้อยรีบถอยหนี แต่มีหรือที่วัฒน์จะยอมปล่อยให้การกลั่นแกล้งนี้จบลงง่ายๆ

          “โอ๊ย!! เล็งแต่ที่เดิมอยู่นั่นล่ะ จงใจใช่ไหมครับ!!”

          “ฉันก็แค่ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมา” วัฒน์ตอบกลับเสียงเรียบ แต่ยังสาดกระสุนเม็ดเล็กใส่เท้าเนไม่หยุด “ถ้าทนไม่ได้ก็ยอมแพ้ไปเสียสิ”

          แต่ตูก็ไม่หยุดยิงหรอกนะ ฮะฮ่า~~

          เนกัดฟันกรอด จริงอยู่ว่าเมื่ออีกฝ่ายใช้แค่ปืนอัดลม กระสุนเองก็ไม่ได้รุนแรงอะไรนัก ระดับความน่ากลัวก็ลดลงไปมาก แต่กระนั้นจะพุ่งเข้าไปรับกระสุนปืนอัดลมตรงๆมันก็เจ็บเกินไปสำหรับเขาอยู่ดี

          แต่อย่านึกว่าตูจะยอมโดนอยู่แบบนี้นะเฟ้ย!!

          วัฒน์เลิกคิ้วมองเงาตะคุ่มที่ออกมาจากเสาเพื่อประจันหน้ากับตน หนุ่มใหญ่เห็นเพียงแต่เงาทึมๆ จึงยิงต่อไปอย่างไม่ได้คิดอะไร

          “?”

          แต่พอเห็นเงาร่างนั้นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วถึงกับชะงัก

          วัฒน์เบี่ยงหลบอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อย และด้วยความที่พุ่งแบบไม่ติดเบรก กว่าจะหยุดตัวเองได้ก็ไถลไปเสียไกล จนหนุ่มใหญ่เหยียดยิ้มกับความบ้องตื้นของอีกฝ่าย และสาดกระสุนใส่อีกครั้งทันที

          แต่คราวนี้มันไม่ยักจะชะงักเพราะความเจ็บ

          ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นเงาตะคุ่มที่พุ่งเข้ามาดูแปลกๆ และเมื่อเข้ามาใกล้ วัฒน์ถึงได้รู้สาเหตุที่เจ้าเด็กบ้านั่นมันพุ่งเข้ามาแบบไม่กลัวเจ็บ

          แขนเสื้อเชิ้ตสีเทาปลิวไสวไปตามแรงวิ่ง เสียงดังปุปะของกระสุนอัดลมชนกับเนื้อผ้าดังรัวเร็วเสียจนน่ากลัว แต่กระนั้นกลับทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย

          ถอดเสื้อมากางกันกระสุน…ก็ใช้หัวเป็นเหมือนกันนี่หว่า

          เมื่อเล็งช่วงบนไม่ได้ วัฒน์จึงยิงใส่ขาแทน เพียงแต่อีกฝ่ายวิ่งมาเร็วเกินกว่าเขาจะสกัดทัน และพอเลือกที่จะหลบ ไอ้เด็กผีนั่นมันก็ไล่ตามมาราวกับมองเห็นทั้งที่เอาเสื้อมาบังหน้ามิด

          เนส่งเสียงไม่พอใจในลำคอเมื่ออีกฝ่ายหลบตนได้อีกแล้ว จริงอยู่ว่าทัศนียภาพไม่ชัดเจน แต่ใช่ว่าจะมองไม่เห็นเลย และทั้งที่พุ่งออกไปสุดแรงเกิด กลับพลาดเพียงแค่ปลายนิ้ว

          “โอ๊ย” เมื่อทนไม่ได้ก็ส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง แต่ก็พยายามกัดฟันทนหวังให้กระสุนหมดโดยเร็ว...และเพียงไม่กี่อึดใจเขาก็สมหวัง

          วัฒน์นิ่วหน้ามองกระสุนที่หมดเร็วเกินคาดเพราะยิงเอามันเกินไปหน่อย และทันทีที่เห็นว่าตนหมดเขี้ยวเล็บ เด็กหนุ่มก็รีบใส่เสื้อแล้วโจนทะยานเข้าหาด้วยความเร็วกว่าเดิม

          แต่ทั้งอย่างนั้นแล้วกลับยังหวืดเหมือนกัน

          เนได้แต่หันกลับไปมองด้วยความกังขา ไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงจับตาลุงไร้เรี่ยวแรงนี่ไม่ได้สักที

          “อย่าคิดว่าฉันจะยิงปืนเป็นอย่างเดียวนะโว้ย” วัฒน์บอกราวกับอ่านใจได้ “อย่างนาย คืนนี้ทั้งคืนก็จับฉันไม่ได้หรอก”

          กระนั้นเด็กหนุ่มยังดื้อดึงคล้ายไม่อยากเชื่อ และแน่นอนก็คว้าน้ำเหลวอยู่ร่ำไป...ซึ่งเนไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ ว่าตนได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังแว่วออกมาจากหนุ่มใหญ่ แม้มันจะเบามากก็ตาม

          ตาแก่นี่ ทีตอนอยู่บนเตียงไม่เห็นฤทธิ์เยอะแบบนี้เลย...

          วัฒน์สะดุ้งนิดหน่อยเมื่ออยู่ๆอีกฝ่ายก็เร็วขึ้นกว่าเดิม แม้นั่นจะไม่ทำให้อีกฝ่ายสามารถจับตนได้เลยก็ตาม

          “ยอมแพ้ซะดีๆเถอะน่า” วัฒน์บอกอย่างรำคาญเมื่ออีกฝ่ายตื๊อไม่เลิกสักที

          “แค่นี้ผมไม่ยอมง่ายๆหรอกน่า” เนร้องพร้อมกับพุ่งเข้ามาหาไม่เลิก

          วัฒน์นิ่วหน้า พอมานึกได้ว่าอีกฝ่ายปากแข็งขนาดไม่ยอมสารภาพข้อมูล(ที่ไม่มีในสมองของเนเลย แม้แต่น้อย)เกี่ยวกับเดชสักที หรืออย่างน้อยจะเสนอตัวกลับไปเป็นสายให้ทางนี้หน่อยก็ยังดี ทั้งที่อยากทำตัวดีต่อตนแท้ๆ…

          จะรู้มากหรือรู้น้อย แต่ไม่ยอมบอกเลยแสดงว่ามันก็ภักดีกับไอ้แว่นบ้านั่นน่าดู

          ความหงุดหงิดรุมเร้าเข้าในใจอีกครา คิ้วหนามุ่นเข้าหากันอย่างลืมตัว ก่อนจะเบี่ยงหลบอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อย แม้จะนึกชื่นชมในความซื่อสัตย์ แต่เพราะดันไปใช้กับคนที่ไม่ควรจะใช้ จึงไม่ชอบใจเอาเสียเลย

          ยิ่งนึกถึงตอนที่เนสารภาพเรื่องที่ตนเผลอ(บอกว่าตนคบกับวัฒน์ให้ฉัตรรู้)หงุดหงิดที่งานของเดชพังเมื่อคราวก่อน เขาก็ยิ่งขุ่นใจ

          สุดท้าย เจ้านายที่แท้จริงของมันก็ไม่ใช่สิทธิ์...ซึ่งก็คือศัตรูของเราอยู่ดี

          “ยอมไปอาจจะสบายกว่าก็ได้นะ” วัฒน์ไม่แน่ใจว่าที่ตนพูดออกไป เพราะอยากให้อีกฝ่ายเลิกบุกเข้ามาอย่างเสียเปล่าสักที หรือเพราะเรื่องอื่นกันแน่

          “ไม่มีทาง” แม้จะงงๆว่าทำไมน้ำเสียงคนถามฟังดูเหงาแปลกๆ แต่ก็ตอบออกไปเพราะไม่อยู่ในอารมณ์ใช้สมองนัก

          “นั่นสินะ”

          เนสะดุ้งโหยงเมื่อมีความเจ็บรุมอยู่ที่ท้องน้อย เนื่องจากออกตัวเร็ว จึงไม่ทันมองว่าสิ่งที่กระทบเข้ามาเป็นอะไร แต่ที่แน่ๆคงมาจากวัฒน์ เพราะทันทีที่เข้าใกล้หนุ่มใหญ่อีกหน เนก็โดนทุบเข้าที่ต้นขาซ้ายอย่างแรง

          “วิ่งเข้ามาแรงเท่าไหร่ก็เจ็บเท่านั้นล่ะ” วัฒน์บอกพลางจับปลายกระบอกปืนอัดลมแน่น พร้อมจะเอาด้ามปืนทุบเต็มที่

          คราวนี้ได้ผล เด็กหนุ่มกลับมายืนนิ่งไม่หน้ามืดบุกเข้ามาแล้ว ท่าทีดูจะเคร่งเครียดมากที่ไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ดังใจนึก

          “จะดึงดันไปทำไมทั้งที่มันไม่มีประโยชน์” วัฒน์ถามเสียงกร้าว ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทียอมแพ้ทั้งที่สู้ไม่ได้เลยสักนิดก็ยิ่งหงุดหงิดหนักข้อ

          “ผมก็แค่อยากจะพิสูจน์ตัวเอง” เนตอบและเริ่มสงสัยว่าทำไมวัฒน์ดูมีอินเนอร์แรงชอบกล “อยากให้คุณเห็นว่าผมไม่ได้แย่อย่างที่คุณเข้าใจ”

          “แค่ปากใครก็พูดได้” เสียงทุ้มเอ่ยเป็นเชิงดูแคลน “อยากพิสูจน์จริง ทำเรื่องที่สมควรทำก็เท่านั้น”

          เนถึงกับชะงัก แต่ก็เข้าใจไปว่าวัฒน์คงหมายถึงการหาทางชนะวัฒน์ในตอนนี้เพียงเท่านั้น

          “ก็ทำอยู่นี่ไงล่ะครับ” เด็กหนุ่มงอแงเหมือนเด็ก “เพราะต้องการให้คุณยอมรับ ผมถึงได้ทำไง”

          “จะมาให้ฉันยอมรับทำไม ไปบอกกับคุณสิทธิ์โน่น” ตอนนี้วัฒน์ลืมไปสนิทแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ “นั่นคือคนที่นายสมควรจะคิดถึงมากที่สุด”

          “แต่ผมก็คิดถึงคุณไม่แพ้กับคุณสิทธิ์นะ!”

          จากที่กำลังของขึ้น ได้ยินแล้วถึงกับค้าง และเลือดก็ดันมาสูบฉีดแรงอย่างผิดที่ผิดเวลาจนร้อนวูบไปหมด

          และเพราะเผยช่องว่าง เด็กหนุ่มก็พุ่งเข้ากระแทกโดยไม่รีรอ วัฒน์ไถลไปตามแรงผลัก มือที่กำปืนพยายามฟาดใส่อีกฝ่าย แต่เนื้อถึงมือเสือแล้ว มีหรือจะยอมให้อะไรมาขัดขวาง อีกทั้งแรงฟาดยามปกติของวัฒน์ก็เบาจนเนแทบไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด

          “เสร็จผมล่ะ!” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างดีใจเมื่อกดอีกฝ่ายลงพื้นได้ “…”

          และก็เพิ่งสำเหนียกได้ว่าในตอนนี้ ตนกำลังนั่งคร่อมร่างของหนุ่มใหญ่ มือทั้งสองก็จับมือของอีกฝ่ายกดขึ้นเหนือหัว

          “เน…”

          เด็กหนุ่มมองหน้าคนเรียกชื่อของตน ที่ตอนนี้กำลังทำสีหน้าสงสัยและหวาดระแวงสุดขีด และแม้จะสงสัยแทบตายว่าทำไมคุณลุงแกถึงหน้าแดง แต่ในยามนี้อีกฝ่ายช่างดูเซ็กซี่และน่าล่วงละเมิดเหลือเกิน

          “เน…” วัฒน์สะดุ้งโหยงเมื่อเห็นดวงตาของเน ซึ่งเขารู้ดีว่าสายตาแบบนั้นมันหมายถึงอะไร “เน!”

          วัฒน์พยายามดิ้นหนีสุดกำลัง แต่สิ่งที่ทำได้คือออกแรงอย่างเสียเปล่า และทั้งที่หวาดกลัวจะโดนปล้ำนอกสถานที่จะเป็นจะตาย แต่พอได้เห็นสายตาที่หิวกระหายของเด็กหนุ่ม แรงขัดขืนกลับหายลงฮวบฮาบเอาดื้อๆเหมือนมีใครมาเป่าลมข้างหูให้เสียววาบ

          ยิ่งเนโน้มหน้าเข้ามาใกล้ แรงต้านก็หมดลง มือไม้ก็แข็งทื่อขยับไม่ได้เสียอย่างนั้น

          อย่ามาหื่นเอาตอนนี้สิวะเฮ้ย!!!



_______________________________


ตอนหน้าหนังสดกลางตึกร้าง..../โดนโบก

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หนังสดล่ะ ตอนหน้าหนังสดใช่มั้ยยย  :hao7:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
นั่งขำรัว

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ขำอ่ะ การปะทะกันของผัวเมีย 5555555
ตอนท้ายนี่คืออัลไลคะเน จับกดเฉยเลย หึหึ เคลิ้มใหญ่แล้วแก

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
กรี๊ดดดดด หนังสดกลางตึกร้าง  :hao6: จัดไป

คนอ่านไม่หื่นนะ แค่ปูเสื่อรอ  :katai5:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
กว่าจะวัฒน์จะรู้ความจริงก็ตอนจบใช่มั้ยเนี่ย  :เฮ้อ:


พูดกันคนละเรื่องตลอดๆ  :mew2:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เฮ้อถ้ารู้ความจริงตอนจบก็ไม่สนุกนะสิ

แต่ขอหนังกลางตึกร้างก็ดี อิอิ

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 45


          วัฒน์รู้สึกตัวเบาโหวงเมื่อน้ำหนักที่กดเข้ามาหายไป พอลืมตามอง เขาก็เผลอถอนหายใจออกมา นึกว่าจะโดนปล้ำเอากลางลานเสียแล้ว

          “แน่เหมือนกันนี่หว่า จับไอ้วัฒน์กดติดกับพื้นแบบนี้ได้เนี่ย”

          เนสะดุ้งเหมือนเพิ่งได้สติ เขาหันมองคนที่กระชากคอเสื้อของตน และยังไม่ทันจะตั้งท่า ก็โดนหนุ่มใหญ่ร่างยักษ์ขว้างเสียกระเด็น

          “โอ๊ย” เนกลิ้ง หลุนๆไปหลายเมตร แต่เพียงไม่นานก็หยุดลงเมื่อไปชนกับวัตถุบางอย่างที่นิ่มและอุ่น เมื่อหันไปมองก็ต้องผงะเพราะนั่นคือสมาชิกในกลุ่มนั่นเอง และแต่ละคนก็มีสภาพไม่ต่างจากตนนัก

          “แหม เล่นซะหนักเลยน้า” ฉัตรว่าด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะหักนิ้วตัวเอง “รู้เรื่องเปล่าว่าค่าตัวพวกฉันมันแพ้งแพงม้ากมากเลยน้า”

          “โว้ย บ้าจริง บอกแล้วก็ไม่เชื่อ” ปาล์มบ่นขรมก่อนจะพยายามลุกถอยหนีพ่อตัวเอง “หนีเหอะ ไปเก็บธงที่เหลือก็น่าจะได้”

          แน่นอนว่าโค้กเห็นด้วยทันควัน และรีบหนีมารล่ำทันที เสียอย่างเดียว…

          “อึก”

          เนพยายาม ดิ้นหนีจากวงแขนหนาที่รัดคอตน แต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะสะทกสะท้าน ทำอย่างกับว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีของเน ไม่สามารถแม้แต่จะทำให้เขารู้สึกเจ็บ
         
          “พวกแกอยากจะไปก็ไปเลย แต่กับไอ้หนูนี่ขอคิดบัญชีหน่อยละกัน” ฉัตรว่าก่อนจะรัดคอเนแน่นกว่าเดิม จนเพื่อนร่วมทีมทั้งสองรู้สึกว่าหน้าของเนเริ่มออกสีเขียว “อ้อ แต่ถ้ามีใครยืนไม่ไหวจนจบเกมไปสักคนก็คงแพ้นี่เนอะ…ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าซวยไปละกัน”

          และก่อนจะได้มีใครค้าน เสียงกรีดร้องจากการลงนรกก็ดังขึ้น…

 

          “อะไรกัน นี่ไม่ได้ออมมือกันให้ใช่ไหม”

          หลังจากจบเกม และสุดท้ายกลุ่มสิทธิ์ก็ชนะไปตามระเบียบ แต่ดูเหมือนคนชนะจะยังไม่อยากเชื่อนัก ที่ตัวเองเป็นฝ่ายมีชัย

          “โอ๊ย ออมมงออมมืออะไรกันครับ พวกผมก็พยายามเต็มที่แล้ว แต่สู้คุณไม่ได้ต่างหาก” ลูก น้องคนหนึ่งที่โดนสิทธิ์ประทับรอยเท้าให้ในตอนเริ่มเกมบ่นขึ้นพร้อมกับชี้ที่หน้าของตัวเอง แต่เพียงไม่นานก็กลับมาสงบเสงี่ยมเมื่อเห็นวัฒน์เดินมาแต่ไกลๆ

          “ถึงจะออมมือให้คุณสิทธิ์ แต่พวกเขาก็ไม่ออมมือให้พวกผมหรอกครับ” ศาสตร์เริ่มให้กำลังใจด้วยใบหน้านิ่ง “แล้วปกติ ไอ้พวกบ้านี่ก็เล็งพวกผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ที่ผมกับพี่อรรถไม่เป็นอะไรเพราะได้คุณสิทธิ์นั่นล่ะ”

          สีหน้าของสิทธิ์ดูจะยังไม่เชื่อนัก แต่ก็แอบยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ

          “ช่วยไม่ได้ละนะ ถ้างั้นรางวัลก็ให้กลุ่มที่ได้ที่สองละกัน” สิทธิ์ว่าก่อนจะหันมองไปทั่ว “อ้าว แล้วกลุ่มเนล่ะ”

          พอเจ้านายถามถึงก็นึกขึ้นได้ว่าเหลือแต่กลุ่มเนเพียงกลุ่มเดียวที่ยังไม่กลับมา และไม่ต้องเสียเวลาถามหานาน เขาก็เห็นกลุ่มของเนเดินง่อนแง่นมาแต่ไกล ทันทีที่เห็นใบหน้าอิดโรยและรอยช้ำทั่วตัว ทุกคนต่างพากันนิ่งอึ้ง เพราะไม่คิดว่าจะเละเทะกันขนาดนี้
         
          “ก็เพราะไอ้เนนั่นล่ะ” มาถึงปาล์มก็โพล่งขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย “บอกให้เลี่ยงคู่ปีศาจก็ไม่ยอม แล้วเป็นไงล่ะ เละ!”

          และไม่ต้องตีความให้เสียเวลามาก แต่ละคนก็รับรู้ได้ทันทีว่าที่ปาล์มพูดหมายถึงใคร ต่างคนต่างผวาและมองเนในสายตาชื่นชมทั้งที่สภาพดูน่าสมเพชเป็นที่สุด

          “เอาน่าๆ มีไม่กี่คนหรอกนะที่บ้าพอจะต่อกรกับลุงฉัตรและอาวัฒน์นา” โค้กซึ่งแม้จะแพ้แต่กลับดูไม่เครียดหรือหดหู่เท่าใดนัก ซ้ำยังดูดีใจเสียด้วยซ้ำ “ไม่เบาเหมือนกันนี่หว่า”

          เนเพียงแต่ยิ้มเจื่อนให้แค่ครู่เดียวเพราะช้ำจนยิ้มไม่ค่อยจะออกนัก อีกส่วนเพราะไอ้คนที่ชมดันเป็นคนที่ตนรู้สึกขุ่นเคืองใจ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปเคืองเขาก็ตาม

          “แล้วนึกยังไงถึงกล้าไปเละวะเนี่ย” สิทธิ์เองก็ดูจะปลาบปลื้มกับความกล้าท้าทายของลูกน้องเสียมากกว่าจะเป็นห่วง “ขนาดฉันเองยังไม่ค่อยจะอยากสู้เวลาที่อาฉัตรกับอาวัฒน์ร่วมมือกันเลยนา”

          “ก็แค่ว่าไม่คิดจะแพ้คนแก่...” เนกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงคั่งแค้น เพราะไม่คิดว่าจะแพ้จนสะบักสะบอมขนาดนี้ โดยเฉพาะกับฉัตรที่ทำเอาเขานึกว่าเกือบได้ไปเยี่ยมยมบาลแล้ว

          แต่อีกใจกลับรู้สึกโล่งอย่างน่าประหลาดตอนที่แพ้ เพราะนั่นหมายความว่าจะไม่ได้ยินเรื่องที่ฉัตรจะพูดแล้ว

          บางที ไม่รู้อาจจะดีกว่าก็ได้...

          “ฮะๆ ถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อน แกไม่มีทางได้แผลแค่นี้หรอกนะ” คำพูดที่ดูสบายๆแต่ฟังแล้วเหมือนขู่ของเจ้านาย ทำเอาเนเริ่มหวั่น “แบบนี้ต้องแจกเพิ่มให้หน่อยล่ะ ในฐานะที่กล้าสู้กับพวกอาฉัตร”

          จากที่ปาล์มตั้งท่าจะบ่นอีกรอบ เจอแจกของรอบพิเศษทำเอาหน้าบานทันควัน

          “เอาวะ ถือว่ายังดี” ปาล์มว่า แม้จะยังดูไม่พอใจเท่าใดนัก “ถ้างั้นปิดงานๆ ไปช่วยกันเก็บของ จะได้กลับบ้านนอนโว้ย...แกด้วยไอ้เน”

          “เอ๋ แต่ว่าฉันต้องกลับกับคุณสิทธิ์...”

          “โอ๊ย ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันช่วยด้วย ไหนๆก็เข้าร่วมทั้งที” คนเป็นเจ้านายอาสาอย่างเต็มใจ

          “ถ้าอย่างนั้นผม...”

          “โอ๊ะ อาวัฒน์ไม่ต้องหรอกครับ ผมว่าอารอข้างล่างเลยดีกว่า” สิทธิ์รีบปฏิเสธหนุ่มใหญ่

          “แต่ว่า...”

          “เอาน่า อาวัฒน์รออยู่ข้างล่างเถอะครับ เอารถมารอผมไว้เลย...นะครับ”

          แม้จะไม่อยากเท่าใดนัก แต่ลองว่าสิทธิ์ขอร้องเสียขนาดนี้ วัฒน์ก็ตอบได้แค่คำเดียว

          “เฮ้อ พวกนายจะกลัวอาวัฒน์ไปทำไมกันนักก็ไม่รู้” หลังจากหนุ่มใหญ่ยอมเดินลงไป สิทธิ์ก็พูดขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย
         
          “เอาน่าครับ ให้มันอยู่มีหวังพวกเราเครียดตายห่า” ฉัตรรีบพูดพลางตบบ่าเจ้านายหนุ่ม “เอ้า พวกเราไปเก็บกวาดให้เรียบร้อยได้แล้ว...เออ แกน่ะ”

          เนนิ่วหน้ามองเมื่อหนุ่มใหญ่ร่างยักษ์ชี้มาทางตน และยังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม ก็โดนอีกฝ่ายเดินดุ่ยเข้ามาล็อคคอ

          “ไปทำความสะอาดกับฉันดีกว่าเน้อ”

          ว่าจบก็ลากแบบไม่เห็นใจว่าเนจะหายใจออกหรือไม่ ซึ่งแต่ละคนไม่มีทีท่าว่าจะช่วยห้ามแต่อย่างใด ซ้ำยังโบกมือยิ้มส่งกันให้อีก

          “จะฆ่าผมหรือไง” หลังจากเดินมาจนถึงชั้นที่เก้าและฉัตรปล่อยมือ เนก็รีบสูดอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็วและรีบถอยห่างจากหนุ่มใหญ่เพราะกลัวจะโดนล็อคคออีก ซึ่งถ้าโดนอีกทีคราวนี้ สงสัยเขาคงได้เข้าเมรุแน่ “ลากผมมาตรงนี้ทำไมเนี่ย”
         
          “ลากมาจับกดแล้วพรอดรักมั้ง” คำตอบทำเอาคนฟังถอยหลังกรูด “เหมือนใครบางคนที่ทำท่าจะปล้ำไอ้วัฒน์ไง”

          โดนทวนความจำแล้วหน้าขึ้นสีทันควัน

          “ผมเปล่าสักหน่อย” เนปฏิเสธเสียงแข็ง “ผมก็แค่กดคุณวัฒน์ให้อยู่ก็เท่านั้น ขืนดิ้นออกมาได้ มีหวังผมก็โดนยำต่อสิ”

          “แหมๆ เพิ่งรู้ว่าจับกดนี่ต้องใช้หน้าช่วยด้วยเนอะ” เจอฉัตรย้อนเข้าดอกนี้ เนถึงกับชักสีหน้าแดงเถือกใส่ “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ฉันจะให้รางวัลสักหน่อย”

          เนนิ่วหน้า “แต่ผมไม่ได้ชนะ”

          “รางวัลที่กล้ามาท้าฉันไง แถมยังกดไอ้วัฒน์หลังติดพื้นได้ด้วย...ถึงจะเป็นเพราะไอ้วัฒน์มันพลาดเสียเองก็เถอะนะ บอกไว้ก่อนเลยว่า ตั้งแต่รู้จักกันมา นอกจากฉัน ไม่เคยมีใครทำให้มันหงายหลังล้มไม่เป็นท่าแบบนั้นได้หรอก” ฟังแล้วเนไม่แน่ใจว่าจะดีใจที่ตนเป็นคนเพียงไม่กี่คนที่ทำได้ หรือจะแค้นใจที่ตนไม่ใช่คนแรกดี “หรือว่าไม่อยากฟังกันจ๊ะ”

          จะไม่อยากฟังก็เพราะไอ้ท่าทางกับน้ำเสียงนี่แหละ...จะมาทำเสียงอ่อยแล้วส่งจูบให้ทำไมฟะ…แล้วทำไมตูถึงไม่ขนลุกฟะ!!!!

          เนบึ้งหน้า เพราะระดับความอยากรู้และไม่อยากฟังมันสูสีเท่ากันเสียจนลังเล

          “ว่างาย ที่เอาแต่นิ่งนี่เพราะอยากอยู่กับฉันนานๆหรือจ๊ะ”

          “โว้ย ใครจะไปอยากวะ” เนถึงกับขึ้นเสียง และหงุดหงิดและสยองตัวเองเป็นที่สุดที่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับอีกฝ่ายจริงๆ

          “ก็เอาแต่เงียบนี่หว่า...แล้วตกลงว่าไงล่ะ” ฉัตรยักไหล่ “บอกไว้ก่อนนะว่าพลาดแล้วพลาดเลยไม่มีรอบสองนะจ๊ะ รับรองว่าถ้าไม่ได้ฟังนี่เสียใจไปตลอดชาติเลยนา”

          “งั้นก็พูดมาเลย” ในเมื่ออยากพูดนัก บวกกับอยากรู้และไม่อยากจะอยู่กับอีกฝ่ายนานไปมากกว่านี้ เลยโพล่งออกไปอย่างไม่ยั้งคิด
         
          “มันเป็นเรื่องความสัมพันธ์อันแสนลึกซึ้งซึ่งไม่มีวันตัดขาดระหว่างฉันกับวัฒน์”

          ตอนนี้ชักไม่อยากฟังขึ้นมาจริงๆจังๆเสียแล้ว ยิ่งเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเคลิบเคลิ้มน่าเตะนั่นแล้วอยากจะปิดหูแล้ววิ่งหนีเสียเดี๋ยวนี้เลย

          “ไหนบอกว่าเป็นเรื่องดีไง” เนโพล่งถามอย่างลืมตัว เพราะโดนความกลัวครอบงำ

          “อ้าว ก็เรื่องดีจริงๆนี่...ดีสำหรับฉันกับวัฒน์อะนะ” ฉัตรหาเรื่องหยอกไม่เลิก

          “เหอะ! ก็แค่อดีตเท่านั้นล่ะ เขาไม่สนใจคนมีลูกมีเมียแล้วอย่างคุณหรอก” ปากก็พูดไปอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริง เนก็ไม่แน่ใจหรอกว่าวัฒน์จะเป็นอย่างที่ตนเอ่ยหรือเปล่า รู้อย่างเดียวคือความกลัวที่จะสูญเสียมันผลักดันให้เขาโพล่งออกไปแบบนั้น

          และที่น่าหงุดหงิดกว่าคือตัวเขาที่ต้องมารู้สึกและทำตัวเหมือนคนบ้าแบบนี้ ทั้งที่บอกตัวเองอยู่ตลอดว่าไม่ได้คิดอะไรกับวัฒน์เกินไปกว่าเพื่อนร่วมงาน

          ฉัตรเหยียดยิ้มกว้าง ท่าทางพอใจ แต่นั่นยิ่งทำให้คนที่หงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่

          “แล้วคิดว่าหมอนั่นจะสนใจเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างนายหรือ กับเด็กน่ะ อยู่ไปก็ไร้อนาคตจะตาย”

          “เรื่องแบบนี้มันก็ต้องลองกันก่อนสิ” ตอนนี้นึกอะไรไม่ออกแล้วนอกจากอยากจะเถียงให้ชนะอีกฝ่ายเพียงเท่านั้น...เท่านั้นจริงๆ!! “บางทีมันอาจจะดีกว่าอยู่กับคุณก็ได้”

          “นั่นสิน้า ยังไงก็ต้องดีกว่าอยู่กับพี่ชายตัวเองอยู่แล้วล่ะ”

          เหมือนโลกหยุดหมุนไปสองนาที

          “คุณว่าอะไรนะ” ที่จริงก็ได้ยินชัดอยู่ เพียงแต่สมองกำลังโดนอารมณ์ตีจนรวน เลยประมวลสิ่งที่ได้รับมาไม่ค่อยจะดีนัก “คุณจะบอกว่าคุณ...”

          “เป็นพี่ไอ้วัฒน์มัน...พี่แบบพี่น้องท้องเดียวคลานกันตามมาติดๆเลยจ้ะ”

          เนอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะเริ่มออกอาการเหมือนคนกำลังจะระเบิด

          “คุณ...” เด็กหนุ่มชี้นิ้วใส่อีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณไม่ได้เป็น...”

          “เป็นอะไรจ๊ะ เป็นคู่ขาของไอ้วัฒน์มันน่ะหรือ ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นสักหน่อยนา” ไม่ว่าเปล่ามีจุ๊ปากให้อีก

          “แต่คุณบอกว่าคุณเป็นของตายของคุณวัฒน์”

          “เอ้า ก็เป็นพี่น้องกัน ยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้ เหมือนของตายอยู่แล้วนี่ จริงไหม” ฉัตรถามด้วยน้ำเสียงล้อเลียน “นายตีความไปทางนั้นเองนี่”

          “ไอ้!!...” เนได้แต่ชี้หน้าอีกฝ่าย ตัวสั่นด้วยความโกรธและความอับอายที่ปล่อยไก่ใส่อีกฝ่ายไปเสียหลายเล้า อยากจะมุดดินหนีเสียเหลือเกิน

          บ้าจริง ทำไงดี...

          “แหม แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าจะมีเด็กผู้ชายน่ารักมาชอบไอ้วัฒน์มันได้เนี่ย โคตรอะเมซิ่งเลย...”

          “ไม่ได้ชอบแบบนั้นสักหน่อย!!”

          ก่อนที่ฉัตรจะได้แซวจบ เนก็เถียงลั่นด้วยใบหน้าแดงก่ำ

          “ผม...ผมบอก แล้วไงว่าผมต้องการสนิทกับเขาในฐานะเพื่อนร่วมงานน่ะ แล้ว...แล้วที่ผมเข้าใจผิดเรื่อง คุณกับคุณวัฒน์ ก็เพราะคุณทำตัวชวนให้เข้าใจผิดเป็นแบบนั้นเองนี่หว่า ผมไม่ได้คิดจะเป็นอย่างพวกคุณสักหน่อย...ผม...ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ แล้วก็…แล้วก็…ผมน่ะ เห็นเขาเป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่เคารพต่างหาก!!”

          มีหรือฉัตรจะเชื่อ ยิ่งทำท่าลนลานขนาดนั้น รังแต่จะทำให้ความลับที่ปิดไม่อยู่กระจายออกมากว่าเดิมมากกว่า

          “จ้าๆ ตอนนี้เอาตามนั้นก็ได้” ได้ยินแล้วเจ้าลูกแมวก็ขนพองใส่ “เอาเถอะ ที่บอกไปก็เพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดเรื่องฉันกับไอ้วัฒน์มันละนะ แค่โดนเอาไปลือว่าเป็นกิ๊กกับเด็กเหลือขออย่างแก ฉันก็เสียภาพพจน์จะแย่แล้ว”

          “เหอะ ผมก็เหมือนกันนั่นล่ะ” คิดแล้วแค้นสุดๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากขู่ฟ่อๆใส่ “มีแค่นี้ใช่ไหม”

          พอเห็นฉัตรยักไหล่แล้วไม่พูดอะไรต่อ เนก็กระทืบเท้าตึงตังเดินลงไปทันที

          หนุ่มใหญ่ยืนยิ้มเยาะอย่างไม่ปิดบัง เห็นท่าทีของเนแล้วก็อดนึกถึงเจ้าน้องชายหน้าบูดของตัวเอง

          บางที…มันอาจจะดีก็ได้ละมั้ง




_____________________________________________________

ไม่มีหนังสด มีแต่คนปล่อยไก่ XD


จริงๆฉัตรเขาก็เชียร์นะ....ถึงจะขี้แกล้งไปหน่อยก็เถอะ =3=

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้ม
เอ๊าา ไอ้เรารึก็นึกว่าจะมีฉากเอาท์ดอร์ซะหน่อย -3-
แต่ก็โดนฉัตรแกล้งเข้าเต็มเปา 55555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2015 07:46:23 โดย boboman »

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :z3: ใครปล่อยไก่ ไม่มี๊

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
รอเกาะขอบ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เหนื่อยใจแทนเน สู้ๆนะเน

ออฟไลน์ kothan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สบายใจแล้วดิ เขาเป็นพี่น้องกันอ่ะ
รออยู่น้า~   :z13:

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
แปะภาพตัวละคร =w=/ (เขียนมาตั้งนาน เพิ่งจะได้ใส่)


วัฒน์


เน



ปาล์ม


ต่อ


ฉัตร


โค้ก


ศาสตร์


เดช

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เดชไม่เหมือนตัวร้ายเลยอ่ะ  :hao4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เนปล่อยไก่  :hao7:

เสียใจนิดหน่อย นึกว่าจะมีหนังสดกลางตึกร้าง  :katai5:

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 46


          เนนิ่วหน้าหันมองไปด้านหลัง ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ตามลงมา หัวที่ร้อนไปด้วยอารมณ์ก็เย็นลง ใบหน้าบูดบึ้งเริ่มขึ้นสี และไม่รู้ทำไมถึงห้ามความรู้สึกนี้ไม่ได้

          พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน...

          บ้าเอ๊ย!! จะอยากยิ้มทำไมฟะ ทำไมเราต้องดีใจด้วยเนี่ย!!

          ทั้งที่พยายามสั่งตัวเอง แต่ก็ห้ามรอยยิ้มที่พยายามจะแทรกใบหน้าบูดบึ้งไม่ไหว ใบหน้าก็แดงเรื่ออย่างไม่น่าให้อภัย ในใจก็โล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

          “เป็นอะไรของนาย…”

          ปาล์มถอยหลังอย่างลืมตัวเมื่อเนกระโดดเกือบจะชนเพดาน

          “โดนพ่อล็อคคอขาดอากาศจนสติสตังไปหมดแล้วเรอะ” เด็กหนุ่มว่าด้วยสีหน้าเป็นห่วง
         
          “เปล่าๆ” เนรีบปฏิเสธเมื่อปาล์มทำท่าจะมาแตะหน้าผาก ดวงตาเรียวเพ่งมองอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจนัก ก่อนจะนึกถึงบางอย่างออก

          เพราะมีสายเลือดเดียวกับคุณวัฒน์ เราถึงไม่รู้สึกรังเกียจหรือ

          “ฉันว่าฉันไม่เชื่อว่ะ” น้ำเสียงของปาล์มทำเอาคนเหม่อได้สติ ยิ่งเห็นสีหน้าของคู่สนทนา เนก็พอจะเดาได้แล้วว่าอีกฝ่ายเข้าใจเขาผิดไปไกลแค่ไหน “มองหน้าฉันแบบนั้นคืออะไรวะ…”

          “บ้าเรอะ ฉันก็แค่เหม่อเพราะง่วงเท่านั้น” เด็กหนุ่มว้ากเสียงหลง “เออๆ รีบๆเก็บของเหอะ”

          แม้จะยังคงระแวง แต่เมื่อเห็นท่าทางที่กลับมาเป็นปกติ ปาล์มจึงไม่พูดอะไรต่อ นอกจากยื่นถุงดำที่เหลือให้

 

          กว่าจะเก็บของเสร็จเล่นเอาเกือบเที่ยงคืน หลังจากโดนปล่อยให้กลับได้ เนก็เดินบิดขี้เกียจลงมาพร้อมกับหาวหวอด ความง่วงทำเอาชักฝืนลืมตาไม่ขึ้น อีกทั้งวันนี้ยังใช้พลังงานไปเยอะโขกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง…

          “อ้าว ไงเน”

          และไม่รู้ทำไม แค่เห็นหน้าโค้กก็รู้สึกเสียพลังงานแล้ว

          ท่าทางของโค้กเองก็เหมือนจะเพิ่งเก็บของเสร็จ และดูเหมือนจะมาคนเดียว ไม่มีศาสตร์ตามมาด้วย ซึ่งไม่รู้ทำไมถึงทำให้เนรู้สึกแปลกใจ

          “วันนี้ถึงจะแพ้ก็อย่าซีเรียสไปเลยนะ ไว้รอบหน้าค่อยแก้มือกัน กล้าๆแบบนี้ฉับชอบ ฮะๆ” โค้กเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร แต่ไม่รู้ทำไมคนฟังกลับรู้สึกขุ่นเคืองชอบกล “เอ้อ จริงสิ ฉันมีเรื่องจะให้นายช่วยนิดหน่อยน่ะ”

          “อะไรหรือครับ” เนเลิกคิ้วมอง “ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงผมก็คงช่วยได้”

          โค้กไม่ได้บอกในทันที ดวงตากลมเหล่มองไปอีกทาง ชวนให้เนรู้สึกแปลกใจ แต่ก็เพียงไม่นานนัก เมื่อได้ยินคำพูดถัดไปของอีกฝ่ายที่ทำเอาคนฟังนึกว่าตัวเองกำลังละเมอ

          “ฉันชอบอาวัฒน์”

          และไม่รู้ว่าเพราะวันนี้เจอแต่เรื่องที่ต้องใช้สมองมาเยอะแล้วหรือเปล่า เนจึงได้แต่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้น คิดอะไรไม่ออกเลยสักนิด

          “อ้อ ชอบแบบคนรักน่ะนะ” และไม่ต้องใช้สมองให้เหนื่อยเปล่า โค้กก็แจงแจกอย่างแจ่มแจ้งด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัดไปถึงแก้วหู “เห็นคุณสิทธิ์บอกว่านายกับอาวัฒน์ทำงานด้วยกัน เพราะงั้น ช่วยเป็นพ่อสื่อให้ฉันหน่อยสิ ได้ไหม”

          เด็กหนุ่มได้แต่ยืนค้างนิ่ง เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองช็อกที่อีกฝ่ายชอบผู้ชายคราวพ่อ หรือเพราะเหตุอื่นกันแน่

          ไม่สิ…เราไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับคุณวัฒน์สักหน่อยนี่…

          บางที…ถ้าเขาไปสมหวังกับคนอื่น อาจจะทำให้ความรู้สึกบ้าๆนี่หายไปก็ได้

          เราไม่ได้ชอบเขาแบบนั้นสักหน่อย!

          “ได้สิครับ”

 

          วัฒน์เงยหน้ามองตึกร้างตรงหน้าด้วยความสงสัย จากนั้นก็ดูนาฬิกา ที่บอกเวลาเกือบตีหนึ่ง ทีแรกก็เข้าใจว่าเด็กหนุ่มกลับไปแล้ว แต่พอถามคนอื่นๆถึงได้รู้ว่า เนยังอยู่ข้างใน จัดการเก็บกวาดของที่เหลือเป็นอย่างสุดท้ายอยู่

          ใจจริงเขาก็ไม่อยากจะกลับมารับอีกฝ่ายเลย แต่สิทธิ์ก็ดันมาขอให้เขามาเป็นสารถีให้ไอ้เด็กผีนั่นเสียนี่ จะปฏิเสธก็ใจอ่อนกับใบหน้าวิงวอนของเจ้านาย เลยได้แต่ยืนหงุดหงิดอยู่เช่นนี้แทน

          หนุ่มใหญ่เงยหน้ามองตึกร้างอีกครั้ง แล้วนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า มุมปากก็ชักลงอย่างอารมณ์เสีย ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด ความจริงที่ว่าเขาพลาดจนเกือบแพ้เนก็ไม่เปลี่ยน

          ถ้าฉัตรไม่มาช่วย เขาก็แพ้ไปแล้ว

          แถมไม่ใช่แพ้ธรรมดา แพ้แบบโดนลงโทษกลางลานทันทีเสียด้วย

          “เฮอะ” หนุ่มใหญ่อดส่งเสียงออกมาไม่ได้ ที่เขานึกแค้นไม่ใช่แค่เด็กหนุ่ม แต่เป็นตัวเองที่ดันไปใจเต้นในเวลาไม่ควรแบบนั้น ทั้งยังเผลอไปพูดเรื่องพรรค์นั้นใส่โดยไม่รู้ตัวเอง

          แบบนั้นเหมือนกับเราอยากให้มันกลับใจมาอยู่กับเราแทบตายน่ะสิ...ไอ้อยากมันก็อยากอยู่หรอก แต่ต้องไม่ใช่เพราะตัวเราเองสิ!!

          ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว้าวุ่นไปหมด หนุ่มใหญ่ปัดความคิดรังควานใจที่พยายามแก้ไขไม่ได้ออกจากหัว ก่อนจะกลับมาสนใจมองทางเข้าตึกร้าง และมองเวลาอีกครั้ง

          นานไปไหมวะ

          ทั้งที่ไม่มีอะไรแท้ๆ แต่กลับใจคอไม่ดีเอาเสียเลย ทั้งที่อีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนที่ตรงเวลา แถมจะหายไปไหนบางทีก็ไม่ได้บอกเขาเท่าไหร่ด้วย และที่สำคัญคือ เขาไม่มีความจำเป็นต้องห่วงอะไรอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

          แต่กังวลเพียงไม่นานก็กัดปากตัวเองแน่น

          ทำไมเราต้องรู้สึกบ้าบอพรรค์นี้ด้วยวะ เพราะไอ้เด็กนั่นคนเดียว!! ออกมาพ่อจะเทศนาโต้รุ่งเลย คอยดู!

          แต่ยังคิดคำด่าได้ไม่เท่าไหร่ ร่างสูงโปร่งของคนที่กำลังมองหาก็เดินออกมาพอดี และไม่ได้มาเพียงคนเดียว โค้กกับศาสตร์ก็ตามมาด้วย

          “ดีคร้าบอาวัฒน์”

          โค้กโบกมือทักทายอย่างเริงร่าโดยไม่มีเค้าความอ่อนเพลียให้เห็นแม้แต่น้อย ก่อนจะกระโดดเข้าไปกอดวัฒน์แน่น จนคนที่เหลือต่างพากันสะดุ้งพร้อมกับตีหน้าเหยเกเหมือนกัน

          “เดี๋ยวอาวัฒน์เขาก็ล้มหรอก” ศาสตร์ติงเพื่อนแล้วพยายามกระชากโค้กออกมา

          “โหย นิดเดียวเอง” โค้กร้องเป็นเด็กๆก่อนจะหันไปหาคนในอ้อมแขน “หรือว่าอาวัฒน์ไม่ชอบละครับ”

          “ทำไมล่ะ เมื่อก่อนก็กอดกันบ่อยไม่ใช่หรือ” ได้ยินแล้วเนถึงกับหน้าเบี้ยวกว่าเดิม แต่ก็พยายามสะกดจิตตัวเองให้อดทน “ฉันดีใจเสียอีกที่พวกนายยังทำตัวเหมือนเดิมน่ะ เด็กคนอื่นโตมาแล้วไม่ค่อยจะสนิทกับฉันเหมือนเดิมหรอก”

          “เห็นไหม” ดวงตากลมเหล่กลับมาหาเพื่อน ก่อนจะดึงมือตัวเองกลับ แต่ไม่ได้กลับมาแค่มือตัวเอง “แกก็มาด้วยสิ ฮะๆ”

          เนรู้สึกหน้าตึงๆอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นคุณลุงโดนชายหนุ่มสองคนตระกองกอดจนเขามองร่างของวัฒน์แทบไม่เห็น และแม้จะอยากเดินไปดึงตัววัฒน์ออกมากอดไว้เสียเอง เขาก็ต้องทน

          เราไม่ได้ชอบเขานะเว้ย!!

          “อ...อาวัฒน์ไม่เป็นอะไรนะครับ” คนที่โดนดึงมาทีหลังร้องเสียงตื่น ก่อนจะพยายามถอยกลับ หากแต่เจ้าเพื่อนตัวดีมันก็แรงเยอะใช่ย่อย จะขืนตัวออกแรง ก็กลัวคนตรงหน้าจะเจ็บไปด้วย

          โอ๊ย แกจะหน้าแดงไปทำไมวะ!! ทีตอนปกติก็เห็นทำหน้านิ่งเป็นรูปปั้นอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ!!...แล้วตูจะหงุดหงิดทำไมฟะ ไม่ได้ไปร่วมสงครามแย่งคุณวัฒน์ด้วยสักหน่อย เขาจะคบกับใครก็เรื่องของเขาสิ

          “ไม่หรอก...แต่ถ้าไม่ชอบ ก็อย่าไปฝืนศาสตร์สิ” ตอนที่ได้ยินวัฒน์ติง อารมณ์พลุ่งพล่านในกายเนก็ลดลงอย่างน่าประหลาด “แล้วนี่กลับกันยังไงล่ะ”

          “อ้อ ไม่รู้เหมือนกันครับ พวกผมติดรถไอ้ปาล์มมา แต่มันดันกลับไปแล้ว...” น้ำเสียงของโค้กออดอ้อนชัดเจน จนเนเริ่มของขึ้นอย่างไร้สาเหตุอีกหน

          “ไม่เป็นไรหรอกครับ อากลับไปเถอะ บ้านพวกผมอยู่ไม่ไกลจากนี้เอง”

          ศาสตร์บอกเสียงตื่นพร้อมกับปิดปากเจ้าเพื่อนตัวดีที่ทำท่าจะขอร้องให้อีกฝ่ายไปส่ง เล่นเอาเนถึงกับเผลอยิ้มที่มุมปาก

          “แต่ถ้าเดินไปมันก็ไกลอยู่ดีไม่ใช่หรือ” ความเป็นห่วงของวัฒน์ทำเอาเนเพ่งหนุ่มใหญ่เขม็ง

          “เอาเถอะครับ พวกผมไปได้ ถ้ายังไงผมลาเลยละกัน” ศาสตร์รีบพูดรัวเร็ว ก่อนจะรีบลากเพื่อนที่ดิ้นไม่หยุด และดูไปดูมาโค้กเริ่มทำท่าเหมือจะขาดอากาศ

          “พอแล้ว ฉันไม่พูดแล้ว” พอหลุดมาได้โค้กก็รีบโพล่งใส่เหมือนกลัวจะโดนปิดปากปิดจมูกอีก “เออๆ เดินกลับก็เดินกลับ”

          แต่ทั้งที่พูดอย่างนั้นกลับส่งสายตามาหาเนเหมือนต้องการขอความช่วยเหลือ

          เด็กหนุ่มรู้ดีกว่าโค้กต้องการอะไร และเขาก็รู้ว่าตนควรจะทำอะไร

          แต่ทั้งอย่างนั้น…

          “ถ้าอย่างนั้นก็กลับกันดีๆละ” วัฒน์เอ่ยลาขึ้น นั่นทำให้คนที่กำลังขอความช่วยเหลือถึงกับเหี่ยวเป็นหัวไชโป๊

          “คร้าบ แล้วถ้าวันไหนว่างเราไปเที่ยวกันนะครับ...แอ่ก!!”

          ถ้าศาสตร์รัดคอแรงกว่านี้ โค้กคงได้เข้าไอซียูอีกรอบเป็นแน่

          “เออๆ” หนุ่มใหญ่ตอบพลางส่งยิ้มให้อย่างเอ็นดู “เน กลับกัน...”

          วัฒน์นิ่วหน้ามองร่างสูงโปร่งที่ยืนนิ่งงันราวกับรูปปั้น ท่าทางเหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูดเลยสักนิด แม้จะลองเรียกอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าก็ตาม

          “เน” หนุ่มใหญ่เดินเข้าไปมองอีกฝ่ายใกล้ๆ ตอนนี้เนดูเหม่อและเหมือนจะไม่ได้ยินที่เขาเรียกเลยสักนิด “เน...”

          ทันทีที่เขาแตะไหล่อีกฝ่าย เด็กหนุ่มก็สะดุ้งโหยงพร้อมกับถอยไปเสียไกล

          “เป็นอะไรวะ...”

          วัฒน์นิ่วหน้าตั้งท่าจะด่า แต่พอเห็นใบหน้าแดงเถือกที่ดูหวาดกลัวของเด็กหนุ่ม เล่นเอาเขาค้าง

          “มะ...ไม่มีอะไรครับ” และดูท่าทางจะรู้ตัว เนถึงได้ก้มหน้างุดเหมือนกลัวโดนเห็น “เรากลับกันเถอะ”

          วัฒน์อ้าปากหมายจะพูด แต่พอโดนดึงแขนแน่นเขาก็พูดไม่ออก

          ทำไมมือมันสั่นขนาดนั้นละวะ

          จะบอกว่าเพราะกลัวก็ฟังดูไม่เข้าที สำหรับคนที่เคยทำงานกลางคืน ทั้งยังกลับบ้านดึกบ่อยๆ หรือบอกว่ากลัวผีก็ไม่น่าจะขนาดนี้

          “เฮ้ เป็นอะไรหรือเปล่า” เพราะสั่นเสียจนน่ากลัว วัฒน์เลยอดท้วงถามไม่ได้ พร้อมกับพยายามชักมือกลับ แต่ก็ทำได้แค่รั้งให้อีกฝ่ายหยุดเดิน

          “มะ...ไม่ครับ” ปฏิเสธทั้งที่เสียงสั่น ฉันคงเชื่อตายล่ะ “ไม่มี...ทั้งนั้น...”

          มันมีแหงๆแหละ ตูไม่เชื่อหรอก

          แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะบอก เขาก็ไม่อยากจะถามนัก ไม่อยากจะเป็นห่วงอีกฝ่ายเท่าไหร่ อีกทั้งตอนนี้เองก็ดึกมากแล้ว ยุงก็เที่ยวบินกัดไม่เลิก จึงขี้เกียจจะเค้นคอถามด้วย

          “…เจ็บหรือเปล่าครับ…”

          ในขณะที่แล่นรถไปตามถนนที่เงียบเชียบ อยู่ๆคนที่นั่งข้างก็เอ่ยถามขึ้น โดยไม่หันมามองคู่สนทนาเลยสักนิด

          “เจ็บอะไร…” วัฒน์นิ่วหน้ามองท่าทีที่ดูน่าสงสัย เสียงของอีกฝ่ายฟังดูไม่สู้ดีเอาเสียเลย

          “ที่ผมผลักคุณจนล้มวันนี้”

          คราวนี้เงียบไปนานมาก เพราะดันนึกถึงเหตุการณ์ชวนหวาดเสียว…ไอ้เรื่องเจ็บมันก็ใช่ เพียงแต่สิ่งที่น่ากลุ้มกว่าคือการที่เกือบจะโดนปล้ำต่อสาธารณชนมากกว่า และที่ทำเอาหนุ่มใหญ่อยากตายก็คือตัวเองที่ไม่คิดขัดขืนอย่างที่ควร

          และทั้งที่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูแท้ๆ แต่พอเนเป็นห่วงตนกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้น กลับไม่อาจห้ามความรู้สึกที่พองโตอยู่ในใจเอาไว้ได้

          “นิดหน่อย” วัฒน์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างจากอีกฝ่ายนัก กลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นอาการยอมแต่โดยดีของตน “แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่โดนนายผลักแค่นี้ มดกัดยังเจ็บกว่า”

          ที่เขากัดเพราะหวังจะทำลายบรรยากาศอึมครึมนี่ แต่คราวนี้กลับดูจะไม่ได้ผลนัก เพราะเนยังคงนั่งหันไปมองวิวข้างกระจกเหมือนเดิม

          “อย่างนั้นหรือครับ ก็ดีแล้ว”

          มันต้องเมาแน่ๆ…ไม่เมาเหล้าก็ต้องเมาเห็ดแน่ๆ!!


_____________________________________


สงครามกำลังจะเริ่มแล้ว...


ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
สงครามแย่งชิงอาวัฒน์...
ยกที่หนึ่ง... เป๊ง!
เริ่มได้!!

อาวัฒน์นี่เสน่ห์แรงกะหนุ่มวัยเอ๊าะๆ ทั้งนั้นเลยแฮะ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-08-2015 14:29:43 โดย boboman »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด