ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)  (อ่าน 163037 ครั้ง)

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 27


          เนรู้สึกเหมือนมีเข็มนับร้อยทิ่มแทงเข้าหัว พอพยายามจะขยับตัว หัวก็ปวดจี๊ดจนน้ำตาเล็ด เขาจึงนอนนิ่งหวังจะหลับต่อ แต่น้ำหนักที่ทับแขนของตนนั้นปลุกให้เขาต้องลืมตามองสิ่งที่ตนกอดไว้ และนั่นทำให้เขาตื่นเต็มตายิ่งกว่าโดนน้ำเย็นสาดหน้า เพราะมันไม่ใช่หมอนข้างอย่างที่ตนเข้าใจ

          คุณวัฒน์?

          เนมองตาค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก ในหัวตอนนี้ยังคงสับสนและปวดตุบจนแทบจะระเบิด และยิ่งอยากจะระเบิดไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพล่อนจ้อนไร้อาภรณ์ปกปิด

          เกิดบ้าอะไรขึ้นฟะ

          เด็กหนุ่มกระตุกเล็กน้อย ดวงตาเรียวมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัยปนกระอักกระอ่วน มือที่โดนทับพยายามขยับจับสิ่งที่สัมผัสโดน เพื่อพิสูจน์ว่าตนไม่ได้คิดผิด

          ไม่จริงน่า...

          ด้วยความที่ไม่อยากจะยอมรับกับสิ่งที่อยู่คามือ เขาจึงใช้มือที่เหลือเปิดผ้าห่มขึ้นมาอย่างเชื่องช้า และทันทีที่พบความจริงภายใต้ผ้าห่ม เนก็ต้องรีบปิดกลับด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำด้วยความตกใจสุดขีด เพราะหนุ่มใหญ่ที่อยู่ในอ้อมกอดของตนก็มีสภาพไม่ต่างกับตนเลยสักนิดเดียว

          แม้จะปวดหัวแทบตาย แต่สมองก็ไม่อาจหยุดคิดทวนความจำเรื่องเมื่อคืนได้ ไม่เข้าใจว่าตัวเองไปทำอีท่าไหน ถึงได้มาลงเอยกันแบบนี้

          เมื่อคืน...เรา...

          พอนึกออกใบหน้าก็แดงเถือกเหมือนโดนป้ายสี เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะพลั้งพูดออกไปแบบนั้น แถมยังมีการดึงอีกฝ่ายมากกกอดซะแน่นอีกต่างหาก ยังดีที่เมื่อคืนมันจบแค่การกอดเท่านั้น ไม่ได้มีสิ่งใดเกินเลยไปมากกว่านี้ แต่แน่นอนว่าที่มันจบลงแบบนี้ก็เพราะตัวเขาเองที่เป็นฝ่ายขอนอนกอดวัฒน์ แถมยังเร่งรัดไม่ยอมให้อีกฝ่ายเสียเวลาใส่ชุดนอนด้วยการร้องไห้อ้อนวอนสุดชีวิตอีก มารู้ตัวเอาตอนนี้ก็ได้แต่อายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี...แต่ถึงจะอาย แต่จะให้คลายกอดกลับรู้สึกเสียดายเสียอย่างนั้น เพราะโอกาสแบบนี้ใช่ว่าจะมีบ่อยสักหน่อย

          ...แล้วทำไมเราต้องนึกเสียดายด้วยวะ...เรา...เราไม่ได้ชอบตาลุงนี่สักหน่อย ที่รู้สึกไม่ดีน่ะ ก็เพราะรู้สึกผิดที่ดันไปเข้าใจผิดซะยกใหญ่ แล้วทำเรื่องเลวร้ายบัดซบชนิดไม่อาจลบเลือนให้หายไปจากใจได้ต่างหากล่ะ

          แม้จะคิดได้เช่นนั้นแต่กลับนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาเรียวเลื่อนลงมองคนในอ้อมกอดด้วยความสงสัยตัวเอง และแม้จะยังสับสน แต่พอนึกถึงคำพูดเมื่อคืนของหนุ่มใหญ่กลับ ทำให้เขารู้สึกดีใจขึ้นมา

          ทั้งที่ผมจะทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้นกับคุณแท้ๆ แต่คุณยังยอมให้โอกาสกับผมอีก...เพราะฉะนั้น คราวนี้ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่.................ใช่!! เพื่อไถ่โทษกับที่ผมทำเรื่องไม่ดีกับคุณไง แค่ไถ่โทษแล้วก็เลิกเกลียดผมเท่านั้นนะ ไม่ได้มีเรื่องอยากให้คุณมายอมรับแล้วยิ้มให้ผมอะไรแบบนั้นหรอก...ไอ้เรื่องเป็นคนรักอะไรนั่นน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก แล้วผมก็รู้ว่าคุณเองก็ไม่คิดอยากจะเป็นเหมือนกัน....

          เนชะงักเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เพราะเรื่องที่ดีที่สุดที่ควรจะทำเป็นสิ่งแรกเพื่อไถ่โทษ คือการเลิกสัญญาขึ้นเตียงนี่น่ะสิ

          ...ไม่ๆ ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่เป็นอันทำงานทำการพอดีสิ เรื่องนั้นไม่เกี่ยวหรอก เดี๋ยวเกิดอยากจนหาที่ระบายไม่ได้ก็ต้องลงเอยด้วยการหน้ามืดปล้ำลุงแกอีก มันจะแย่กว่าเดิมเอาเปล่าๆ เพราะงั้น เรื่องนั้นไม่นับ! ก็แค่นอนด้วยกันเฉยๆ ถือว่าช่วยๆกันก็เท่านั้นเอง

          “อือ...”

          ได้ยินเสียงทุ้มดังครางขึ้นมาเท่านั้นล่ะ เนรีบนิ่งทำเป็นหลับทันควัน แม้ในใจจะนึกกลัวว่าอีกฝ่ายจะโวยวายที่โดนตนกกกอด แต่ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะดึงมือกลับมาเสียแล้ว จึงได้แต่นอนใจระส่ำ หวังไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าตนตื่นอยู่

          วัฒน์หรี่ตามองภาพตรงหน้าด้วยความงัวเงีย พอรู้ตัวว่ากำลังนอนซบอกเด็กหนุ่ม ดวงตาก็เบิกออกจนแทบจะถลน เขารีบลุกหนีไปนั่งอยู่ริมเตียง

          แต่ไม่ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำอย่างที่เนคาด

          เนื่องจากหลับตาอยู่ เนจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ ไอ้ครั้นจะให้แอบลืมตามองก็ไม่กล้า ที่นอนฟากนั้นยังคงยุบลงเป็นการบอกให้รู้ว่าวัฒน์กำลังนั่งอยู่

          แต่คิดไม่ทันไรก็ต้องนอนตัวแข็งทื่อ เมื่อเจอสัมผัสอุ่นจากฝ่ามือลงมาที่แก้มของตน แถมไม่ได้แค่จับประเดี๋ยวประด๋าว แต่จับอยู่นานทีเดียว เล่นเอาเนเริ่มกลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ว่าตนแกล้งหลับ นี่ถ้าเลื่อนมือมาแถวหน้าอกคงต้องรู้แน่ ก็หัวใจมันเล่นดังรัวอย่างกับกลองขนาดนี้นี่

          “ถ้าทำได้อย่างที่พูดไว้ก็คงดี” วัฒน์เอ่ยแล้วถอนหายใจ ดวงตาเรียวเลื่อนมองใบหน้ายามหลับของเด็กหนุ่ม พอคิดถึงพฤติกรรมเมื่อคืนแล้วอดนึกเสียดายไม่ได้ เขารู้ว่าที่เนทำตัวเป็นเด็กดีเสียขนาดนั้น เป็นเพราะฤทธิ์เหล้าเป็นแน่แท้ หนุ่มใหญ่ลุกจากเตียงพลางถอนใจอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายไม่ได้หลับอย่างที่เห็น

          และตอนนี้เนก็กำลังหน้าแดงสุดๆหลังจากได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของวัฒน์

 

          หนุ่มใหญ่ได้แต่เก็บอาการหวาดผวาของตนไว้ในใจ แต่ทันทีที่เผลอมองเนทีไร เขาก็อดสะดุ้งไม่ได้ เพราะวันนี้เด็กหนุ่มมีอาการผิดปกติอย่างชัดเจน ไม่ว่าวัฒน์จะจิก เหน็บ บ่น ด่า ว่าสารพัดสารพันแค่ไหน เนกลับไม่แสดงท่าทีหงุดหงิดรำคาญให้เห็นแม้แต่น้อย ออกจะดูรู้สึกผิดด้วยซ้ำ แถมยังไม่ต่อล้อต่อเถียงกลับมาแม้แต่แอะเดียว ราวกับเป็นคนละคนโดยสมบูรณ์

          ผีเข้ามันหรือเปล่าวะ...ไม่สิ หรือว่ามันจะตั้งใจทำอย่างที่สัญญาไว้เมื่อคืน

          คิดเสร็จก็ส่ายหน้า วัฒน์ไม่คิดว่าคนเราจะกลับใจกันได้ภายในวันเดียว อีกทั้งยังเพิ่งโดนเดชเย้ยใส่มา เขายิ่งไม่ยอมเชื่อเข้าไปใหญ่

          ทำตัวดี กะให้ฉันตายใจล่ะสิ

          วัฒน์ปรายตามองเด็กหนุ่มที่ยังคงง่วนอยู่กับงานตรงหน้า ท่าทางดูขยันขันแข็งและมุ่งมั่นผิดจากทุกทีมาก มากจนหนุ่มใหญ่เองก็ลังเล

          ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆก็ดีสิ...เป็นได้ตลอดเลยยิ่งดี....

          “คุณวัฒน์ครับ!”

          เจ้าของชื่อสะดุ้ง จนต้นที่นั่งอยู่อีกฝั่ง เพราะมาช่วยทำเอกสารอยู่ด้านใน ถึงกับตกใจจนเกือบร่วงจากเก้าอี้

          “คุณวัฒน์เป็นอะไรหรือครับ” หนุ่มร่างท้วมเอ่ย ทั้งๆที่ตัวเองน่าเป็นห่วงกว่าเยอะ เพราะหน้าซีดเหมือนกับคนจะเป็นลม

          หนุ่มใหญ่เลื่อนสายตามองไปทางคนถาม ด้วยใบหน้าที่นิ่งจนน่ากลัว คิ้วหนามุ่นเข้าหาเพราะกำลังคิดว่าควรจะแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้อย่างไรดี เขาไม่คิดจะบอกหรอกว่าเพราะมัวแต่คิดถึงเนเพลินจนลืมตัว

          แต่แน่นอนว่าใครมองอยู่ก็เห็นว่าวัฒน์กำลังโกรธกันเห็นๆ และเนเองก็รู้สึกไม่ดีไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่หนุ่มใหญ่ไม่ได้หันมาเขม่นใส่เขาสักหน่อย

          “เปล่า ไม่มีอะไร” รองประธานเอ่ยเสียงนิ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อโดยไม่มองหน้าเน เพราะกลัวตัวเองจะออกอาการเขินให้อีกฝ่ายเห็น “แล้วนายน่ะ มีอะไร”

          แน่นอนว่าเนไม่คิดหรอกว่าวัฒน์เขิน คนอื่นเองก็ไม่คิด ถ้าบอกว่าเกลียดจนไม่อยากจะมองหน้ายังจะเข้าทีกว่าเยอะ

          “...นี่ครับ ผมทำเสร็จแล้ว” เนยื่นเอกสารโดยพยายามทำให้เสียงให้ปกติที่สุด เด็กหนุ่มสะบัดความเศร้าหมองออกจากจิต แล้วยิ้มให้หวังจะกู้สถานการณ์ “มีงานให้ผมทำอีกหรือเปล่าครับ”

          ขนาดไม่มอง วัฒน์ยังรู้สึกถึงออร่าสว่างไสวแผ่ออกมาจากทางเนเลย

          “นั่นและนี่” หนุ่มใหญ่โกยงานที่เตรียมไว้ไปทางโต๊ะของเด็กหนุ่ม แล้วลุกพรวด “เดี๋ยวมา ขอพักหน่อย”

          ว่าจบก็เดินฉับๆด้วยความไวเหมือนทะลุประตูออกไปยังลิฟท์ทันที ปล่อยให้เนกับต้นได้แต่มองตามด้วยความสงสัย

          “เป็นอะไรของเขาเนี่ย” หนุ่มร่างท้วมเอ่ยด้วยความงุนงง “นายรู้หรือเปล่า”

          เนรู้สึกเหมือนโดนทุบลงกลางกระหม่อม ทำไมเขาจะไม่รู้ ที่วัฒน์มีท่าทีแปลกแบบนั้น ก็ไม่วายเพราะตัวเขาเองนี่ล่ะ

          ยังไม่พอใจอีกหรือ...ต้องให้เท่าไหร่ถึงจะพอใจกันนะ

          เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนดวงตาร้อนผ่าว แต่ก็พยายามสะบัดความคิดห่อเหี่ยวออกจากหัว หวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า พลังใจก็ไหลเข้ามาจนล้น

          เขากำลังหวังให้เราทำได้อยู่ เพราะงั้น จะมามัวเศร้าไม่ได้ ถ้าแค่นี้ยังท้อ คงไม่มีหน้าเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ติดตามคุณสิทธิ์หรอก...

          ถ้าทำไม่ได้ คุณวัฒน์ก็จะนึกสมเพชเรา...เกลียดเรา...และคงไม่หันมามองเราอีกต่อไป...

          เกลียด...

          .................

          “เฮ้ย! เน เป็นอะไรวะ” ต้นร้องถามเสียงหลงเมื่ออยู่ๆคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามลุกขึ้นตบโต๊ะเสียดังลั่น โชคดีที่ห้องนี้เก็บเสียง คนที่อยู่ด้านนอกจึงไม่ได้สนใจนัก

          “ผม...” เด็กหนุ่มกัดปากแน่น ดวงตากลอกไปมาจนดูประหลาด จะให้เขาบอกได้อย่างไร ว่าตัวเองรู้สึกกลุ้มที่โดนวัฒน์เกลียดจนแทบจะระเบิด ถึงคนส่วนใหญ่จะไม่คิดไปในทางนั้น แต่เลือกได้ เขายอมตายดีกว่าต้องบอก
         
          “...ฉันไม่รู้หรอกนะว่ากลุ้มอะไรอยู่ แต่ถ้าอัดอั้นนัก จะระบายหน่อยก็ได้นะ”

          จากที่กำลังกระสับกระส่ายหาข้ออ้างแทบตาย เนก็หันมาจ้องต้นเขม็งด้วยความฉงน

          “ชัดขนาดนั้นเลยหรือครับ”

          “สุดๆ” ต้นสวนกลับอย่างไวจนคนฟังผงะ “เรื่องคุณวัฒน์อะเด่ะ...อ๊ะๆ ไม่ต้องถาม ก็ฉันเห็นคุณวัฒน์เขาลอบมองแกเหมือนกำลังหวาดหวั่นสงสัยอะไรแกตลอดตั้งแต่เช้า ทั้งที่ปกติถ้าไม่จ้องกันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ก็จะไม่สนใจกันมากกว่า ส่วนแกก็ทำตัวเป็นเด็กดีเชื่อฟังเขาซะทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งที่ปกติชอบขัดคอตลอด...นี่ฉันยังไม่เห็นแกกับคุณวัฒน์ประลองฝีปากตั้งแต่เช้าเลยนะ ชัดพอไหม”

          เนได้แต่เบิกตามองโดยไม่ค้านสักคำ เพราะมันชัดซะจนไม่รู้จะเถียงยังไงดี

          “ว่าแต่ แกนั่นล่ะ โดนคุณวัฒน์ทำอะไรมารึ ถึงได้ทำตัวหงอนัก โดนเทศนาข้ามวันมาหรือไง” ต้นหัวเราะขึ้นจมูกพลางมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความสนใจใคร่รู้ เขาชอบนักล่ะ ไอ้การได้หาเรื่องละจากงานที่ทำ กับสอดส่องเรื่องชาวบ้าน

          เด็กหนุ่มเหล่มองอยู่ครู่หนึ่งด้วยความลังเล พอคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่มีทางไปเล่าให้วัฒน์ฟังได้ อีกทั้งเขาเองก็อัดอั้น และกำลังหาที่ระบายอยู่ด้วย จึงตัดสินใจเอ่ยออกมาอย่างเสียมิได้ “เปล่า เขาไม่ได้ทำอะไรผม...ผมต่างหากที่ทำ...”

          “อะไรหรือๆๆ”

          หลุดปากไปแล้ว เด็กหนุ่มก็ได้แต่นั่งนึกเสียใจนี่ล่ะ ยิ่งอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ในที่ทำงานที่ตื๊อไม่เลิกเสียด้วย หนีตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว

          “ก็แบบว่า...ผมเข้าใจผิดนิดหน่อย...คิดว่าเขา...เขา...” เด็กหนุ่มคิดหาคำโกหกสุดชีวิต...หรืออย่างน้อย เลี่ยงความจริงก็ยังดี “คิดว่าเขาแอบกินเค้กของผม แล้วไม่ยอมรับว่ากิน ผมเลยแกล้งเขาซะเต็มที่...จากนั้นถึงเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาไม่ได้กินน่ะครับ...”

          “ก็เลยรู้สึกผิดงั้นสิ” ต้นสำทับต่อ พยายามไม่ติดใจสงสัยเรื่องที่วัฒน์กินของหวานเป็นกับเขาด้วย “งั้นฉันก็ไม่แปลกใจแฮะ...ว่าแต่ คุณวัฒน์เขารู้หรือเปล่าล่ะ ว่าแกแกล้งเขาเพราะอะไร”

          ให้ตายก็ไม่บอกโว้ย เรื่องน่าอายหลุดโลกพรรค์นั้นน่ะ

          “ฉันว่าถ้าบอกน่าจะดีกว่านะ” คำแนะที่ค้านกับในใจสุดๆโพล่งขึ้นมาจากต้น “ถ้าเขารู้ว่าที่แกทำเพราะเข้าใจผิด คุณวัฒน์ต้องยกโทษให้แกแน่ ถึงฉันจะไม่ได้สนิทอะไรกับเขาก็เถอะ แต่ฉันคิดว่าคุณวัฒน์ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรหรอก...แค่มนุษย์สัมพันธ์ติดลบไปนิดหน่อยเอง”

          ข้อหลังเขาแอบเห็นด้วยขาดใจ

          “งั้นผมจะหาทางบอกเขาละกัน...” เนบอก แต่แน่นอนว่าเขาไม่ทำอย่างที่พูดหรอก เพราะเขาคิดว่ามันอาจไม่จบแค่บอกแล้ววัฒน์จะยกโทษให้แน่นอน ไอ้เรื่องที่เขาแกล้งไปน่ะ มันเลวร้ายจนขอโทษสักล้านครั้งก็คงไม่พอนี่


_________________________________
จะเกิดอะไรต่อระหว่าง ลุงจะรู้ความจริงก่อน หรือลุงจะใจอ่อนกับหมาน้อยก่อน หรือจะโดนใครบางคนมาขัดขวางก่อน โปรดติดตามฮับ XD

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เริ่มดีกันแล้ว  :hao7:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ว้าว ตอนที่ 27 มาแล้ว :pig4:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
หาาา! มีใครจะขัดขวางใคร อะไร ยังไงล่ะเนี่ย ม่ายน้าา TOT
อยากให้ลุงใจอ่อนเร็วๆ ง่ะ แต่รู้ความจริงด้วยก็ดี หุหุ
รอค่าาา

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ไผสิมาขวางงงงง เขาจะฮักกั๋น ชอบกั๋นจะไปขวางตางเปิ่น (อุ้ยหลุดภาษาถิ่น) ติดตามมมม ติดตูดดด รออออ :katai3:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
เน สู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เอิ่ม รอต่อไป

ออฟไลน์ funland

  • https://www.facebook.com/pew.pal
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
    • pew.pure

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
หายไปนาน

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ่านรวดเดียว27ตอน  :o8: :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :L2: แวะมาให้กำลังใจ

รอตอนต่อไปค่า  :katai5:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ ทิวลิปสีส้ม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
สงสารอาวัฒน์ กร๊ากกกกกก สีหน้าอาวัฒน์นี่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องลนลานหน้าซีดตัวสั่นสินะ
เรียกได้ว่าเป็นเกราะอย่างหนึ่งของอาแกเลย
ถ้าเมื่อไหร่ที่เนตามทันหรืออ่านสีหน้าของวัฒน์ได้จริงๆ ล่ะก็ หึหึ หุหุ  :hao6:
เอาใจช่วยเน พยายามเข้าหลานเอ้ย!!!  วะฮ่าๆๆๆๆ
ว่าแต่  :a5: คนแต่งบอกว่าจะมีคนมาขวางด้วย !!!ใครหว่า ผู้ใด อ๊ากกกกก
เรื่องมันคงไม่ยุ่งไปกว่าเดิมหรอกนะ แค่คิดก็ฮาแล้ว รอๆ ตอนต่อไปค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 28


    “อ้าว หวัดดีป๋า ตื่นซะบ่ายโด่งเลยนะ”

          ปาล์มเอ่ยทักชายวัยกลางคนที่กำลังเดินโซเซลงมาจากชั้นสอง ก่อนจะหันกลับมาสนใจรายการทีวีตรงหน้า

          “แกนั่นล่ะ ตื่นเช้าหาอะไรของแกไม่ทราบ” ฉัตรหาวหวอดพลางขยี้ตามองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ใกล้ทางขึ้นบันได ก่อนจะลงไปนั่งบนโซฟาข้างเด็กหนุ่ม “เพิ่งจะบ่ายสองเองไม่ใช่รึไง”

          “เมื่อคืนเจอเรื่องน่ากลัวจนฝันร้าย เลยไม่อยากนอนต่อน่ะ” ผู้เป็นลูกหัวเราะเสียงแห้ง “ไม่รู้จะว่ากล้าหรือบ้าดี ผมไม่เคยเห็นใครทำแบบนั้นกับอาวัฒน์เลยนะ คิดไม่ออกเลยว่าหมอนั่นจะโดนอะไรหลังจากนั้น”

          ดวงตาคมที่ปรือลงเหมือนคนอยากนอน เหม่อมองไปยังจอโทรทัศน์เบื้องหน้า เสียงหัวเราะดังขึ้นในลำคอ ฉัตรลูบเคราตัวเอง กระหยิ่มยิ้มย่องเหมือนได้เจอเรื่องน่าสนใจสุดๆเข้า

          “...ทำไมหรือ” ปาล์มเหล่มองพ่อของตน เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหัวเราะสิ่งที่อยู่ในจอโทรทัศน์แน่นอน เพราะช่องที่เปิดอยู่ตอนนี้ไม่ใช่รายการตลกแต่อย่างใด

          “แกดูสนิทกับไอ้เด็กนั่นดีสินะ” หนุ่มใหญ่ร่างบึกเกริ่นขึ้น “แกว่ามันเป็นยังไง”

          “...ก็โอเคดี เท่าที่เห็น” เด็กหนุ่มตอบโดยที่สายยังคงสนใจรายการทีวี “เพี้ยนดี”

          “งั้นก็ดี”

          เด็กหนุ่มเลิกคิ้วหันมามองบิดา “พ่อจะทำอะไรน่ะ” ปาล์มรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางแค่ถามเฉยๆอยู่แล้ว ยิ่งยิ้มกริ่มแผ่รังสีชั่วร้ายขนาดนี้ คงคิดวางแผนอะไรอยู่แน่

          “ฉันว่าจะให้เด็กนั่นมาช่วยงานของวันมะรืน” ฉัตรบอกก่อนจะหาวหวอด

          “เอ๋ แต่ว่าเนเป็นผู้ติดตามคุณสิทธิ์นี่ ให้มาทำงานกับพวกเราจะไม่เป็นอะไรหรือ”

          “ผู้ติดตาม ไม่ใช่ปลิงติดตัวสักหน่อย” หนุ่มใหญ่หัวเราะร่า “แล้วฉันก็ให้เด็กนั่นมาช่วยคนเดียวเอง ถ้าไอ้วัฒน์อยู่กับคุณสิทธิ์ด้วย รับรองหายห่วง”

          ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะพยักหน้าเห็นด้วย เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน เนื่องจากปาล์มนั่งอยู่ใกล้สุด จึงรับสายขึ้น “สวัสดีครับ”

          “ปาล์ม ขอคุยกับพ่อเราหน่อย”

          “อ้อ ได้ครับ” เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยื่นสายไปให้ฉัตร “อาวัฒน์โทรมา”

          หนุ่มใหญ่เลิกคิ้วตามลูกชายพลางรับโทรศัพท์มา เพราะปกติคนในสายไม่เคยโทรมาหาในเวลานี้ หากไม่ใช่เรื่องด่วนมากจริงๆ “มีอะไรหรือเปล่า”

          “นายไปสืบเรื่องไอ้เด็กเวรนั่นถึงไหนแล้ว”

          ฉัตรกะพริบตาปริบๆ นี่หรือคือเรื่องด่วน... “ก็ยังไม่ถึงไหนเท่าไหร่ ทำไมหรือ”

          “....”

          “เอ่อ...ฉันก็ว่าจะโทรไปพูดกับนายเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน” เมื่อปลายสายเอาแต่เงียบฉี่ ฉัตรจึงได้แต่ถอนใจแล้วพูดต่อ “คือ เท่าที่ฉันสืบดู ฉันไม่เห็นว่าไอ้เดชจะมีลูกน้องที่ชื่อเนเลยนะ แล้วตามประวัติไอ้เด็กนั่นเอง ก็รู้จักกับคุณสิทธิ์ด้วยนี่ ฉันค้นดูก็ไม่เห็นว่าเนกับไอ้เดชมันจะเคยเจอหน้าหรือเกี่ยวข้องอะไรกันได้เลยนะ”

          “...นายมั่นใจหรือเปล่าว่าไม่ได้พลาดอะไร”

          หนุ่มตาปรือเลิกคิ้วจนหน้าผากย่น “หรือนายมีหลักฐานที่บอกว่าเนกับไอ้เดชมันเกี่ยวข้องกันล่ะ”

          “ไม่มี”

          “แล้วนายจะสงสัยอะไรนักวะ ฉันฟันธงให้เลยเอ้า ว่าไอ้เด็กผีนั่นกับไอ้ผีนั่นไม่ได้เป็นอะไรกัน!” ฉัตรร้องอย่างหัวเสีย

          “ฉันก็แค่รู้สึกว่าไอ้เนมันมีลับลมคมใน” ทั้งที่อีกฝ่ายแว้ดใส่ แต่น้ำเสียงของวัฒน์กลับนิ่งสนิทเสียจนอารมณ์ฉัตรดับวูบ “แล้วท่าทางมันก็แปลกๆด้วย”

          “แปลก...ยังไงล่ะวะ”

          วัฒน์นิ่งไปนานทีเดียว กว่าจะตัดสินใจเล่าถึงพฤติกรรมและความประทับใจแรกพบที่มีต่อเด็กหนุ่ม ให้ฉัตรฟัง แน่นอนว่าเขาตัดไอ้เรื่องที่ตนกับเนขึ้นเตียงไปซะเหี้ยน

          “เออ ก็น่าสงสัยอย่างที่ว่าจริงๆแฮะ” พอฟังจบ ฉัตรเองก็ชักจะเริ่มคล้อยตาม “ถ้าอย่างนั้นก็พอดีเลย”

          “อะไร”

          “ถ้ายังไง มะรืนฉันขอยืมตัวมันหน่อยได้หรือเปล่า ว่าจะให้มันไปช่วยงานน่ะ” น้ำเสียงทุ้มเข้มเอ่ยอย่างเริงร่า “บางทีอาจจะทำให้ฉันได้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยก็ได้”

          “ถ้ามันจะไปล่ะก็นะ”

          “เอ๋ นายก็สั่งมันสิ...หรือไม่ก็บอกมันไปก็ได้ว่า เพื่อคุณสิทธิ์ อะไรเงี้ย”

          “...จะลองดูก็แล้วกัน”

          ว่าจบก็วางสายเฉย ปล่อยให้ฉัตรได้แต่นั่งค้างด้วยความข้องใจ ถึงปกติวัฒน์จะทำตัวเข้าใจยาก แต่วันนี้ เขาตามไม่ทันสักอย่าง

          “เมื่อคืน แกเห็นไอ้วัฒน์กับไอ้เนมันเป็นไง”

          ลูกชายที่กำลังจดจ่ออยู่กับรายการทีวีหันมองด้วยใบหน้าหงิกเพราะไม่อยากจะนึกถึงเท่าไหร่นัก “ก็คิดว่าอาวัฒน์จะเอาไอ้เนไปหมกถังขยะไปแล้วละมั้ง”

          หนุ่มใหญ่พยักหน้า เขาเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงเห็นพ้องต่อความคิดของอีกฝ่าย...เพียงแต่ไม่ทั้งหมด

          ถ้าโมโหหรือโกรธน่ะ เข้าใจ...แต่ทำไมต้องกระอักกระอ่วนด้วย ยิ่งตอนที่เนเอ่ยขอโทษ ทำไมถึงทำหน้าดีใจแล้วก็โล่งใจอย่างออกนอกหน้าขนาดนั้นกัน...ทั้งที่ใบหน้าพวกนั้น เป็นใบหน้าที่แกทำแค่ตอนที่อยู่กับปิ่นเท่านั้นนี่...

          มีอะไรกันหรือเปล่านะ...

          “เอาเหอะ เดี๋ยวก็รู้” ฉัตรพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าครุ่นคิดสงสัย อยากให้ถึงมะรืนนี้เร็วๆเสียเหลือเกิน

 

          วัฒน์พ่นควันบุหรี่อย่างเหนื่อยใจ สายตาเหลือบมองท้องฟ้าด้วยความกลัดกลุ้ม คิ้วหนามุ่นเข้าหากันเพราะคิดไม่ตกกับเรื่องที่วนอยู่ในใจ

          ปัญหาตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ว่า เป็นสายหรือเปล่าแล้ว แต่ปัญหาคือ เราจะทำยังไงกับหมอนั่นมากกว่า

          หนุ่มใหญ่หวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ใจก็นึกภาวนาให้เป็นอย่างที่ตนคิดเหลือเกิน...เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็ เขาคงไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มรู้สึกผิดคือสิ่งใด

          หรืออันที่จริง เขาก็รู้อยู่เลาๆ แต่พยายามคิดว่าไม่ใช่...

          แกรู้สึกผิด...ที่ทำเรื่องพรรค์นั้นกับฉันงั้นหรือ...ป่านนี้แล้วเนี่ยนะ

          แล้วมันจะทำให้คุณเลิกเกลียดผมหรือเปล่า

          คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มต้องกังวลเรื่องนั้นด้วย ถ้ากลัวโดนสิทธิ์เกลียดก็ว่าไปอย่าง แต่กับเขา ซึ่งเป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่เขม่นกันตั้งแต่เจอหน้า จะมากลัวโดนเกลียดทำไมกัน

          หมอนั่นคงอยากแค่ญาติดีกับเราเท่านั้นล่ะ

          ใบหน้าใสของเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อนั้น ช่างชวนให้รู้สึกสับสนและหวั่นไหวเสียเหลือเกิน

          วัฒน์สะบัดหัว ความว้าวุ่นในดวงตาเรียวค่อยๆจางหายจนเหลือแต่ความสงบนิ่ง หนุ่มใหญ่เงยหน้ามองท้องฟ้าที่กระจ่างใส ก่อนจะหลับตาแน่น

          อย่าเด็ดขาด...ยังไม่เข็ดอีกหรือไงนะเรา...ไปรักคนที่ไม่ควรรักน่ะ...สุดท้ายก็ต้องมานั่งเสียใจอยู่คนเดียว...เพราะงั้น ถึงหมอนั่นกลับตัวได้จริง ก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกับร่วมเตียงเท่านั้น

          ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นแน่

          “คุณวัฒน์”

          เสียงที่คุ้นหูกระชากหนุ่มใหญ่หลุดออกจากห้วงความคิด ดวงตาเรียวปรายมองคนที่ไม่อยากจะเห็นหน้าในยามนี้เป็นที่สุด

          “มีอะไร” เจ้าของชื่อพยายามทำตัวให้สงบนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในหัวก็พยายามสะกดจิตตัวเองว่าคนตรงหน้าเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานทั่วไป ที่น่าสงสัยว่าอาจจะยังไม่แปรพักตร์ดี ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

          เนกระตุกเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของวัฒน์ดูนิ่งเฉยผิดจากทุกที ไม่เจืออารมณ์รังเกียจออกมาเลยสักนิด “ผมทำงานเสร็จแล้ว เห็นคุณออกไปนานด้วย เลยสงสัยว่าเป็นอะไรหรือเปล่า...” เด็กหนุ่มบอกโดยพยายามใช้คำที่ดูเป็นกลางที่สุด...เพราะถ้าพูดว่าเป็นห่วงกับคนที่เคยอาฆาตกันคงดูแปลกเอาการ เผลอๆจะดูเหมือนประชดเสียด้วยซ้ำ

          “อ้อ งั้นหรือ...” หนุ่มใหญ่เอ่ยเสียงค่อย ก่อนจะเดินไปทิ้งก้นกรองบุหรี่เข้าถังขยะที่อยู่ใกล้กับประตูดาดฟ้า “เออ วันมะรืน ฉัตรขอให้นายไปช่วยงานน่ะ จะไปหรือเปล่า”

          “ได้สิครับ” เด็กหนุ่มรับคำอย่างง่ายดายจนคนถามแปลกใจ “ไปทำอะไรหรือครับ”

          ...ตามหลักแกควรจะถามก่อนตกลงสิวะ นี่ไม่กลัวว่าฉันจะวางแผนลอบฆ่าแกเลยรึไง ถึงแกจะอยากเข้าพวกฉันยังไงก็เถอะ จะเชื่อใจกันง่ายไปหน่อยแล้ว!

          “ก็ไปเอาของสำคัญจากรังศัตรู รายละเอียดเดี๋ยวฉัตรจะบอกนายเอง” เสียงทุ้มเอ่ย ดวงตาเรียวพยายามมองอีกฝ่ายหวังให้ดูปกติธรรมดามากที่สุด แต่อย่างมากก็ทำได้แค่มองเท้าเด็กหนุ่มเท่านั้น

          “เข้าใจแล้วครับ” เนรับคำ แล้วเงียบไป เมื่อเห็นวัฒน์ทำท่าจะเดินกลับเข้าตึก เขาก็เรียกรั้งไว้

          หนุ่มใหญ่หันกลับมามองโดยไม่เอ่ยถาม สีหน้าของอีกฝ่ายดูลังเล เหมือนกำลังรวบรวมพลังที่จะเปล่งคำพูดออกมา และก็เป็นคำพูดที่ทำให้วัฒน์เผลอเบิกตาโตจนแทบถลน

          “ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ครับ”

          ใครจะไปหวังกันวะ!

          ใจจริงอยากจะสวนกลับอย่างที่คิดเสียเหลือเกิน แต่พอเห็นใบหน้ามุ่งมั่นตั้งใจที่ไร้พิษสงนั่น เล่นเอาวัฒน์เกิดอาการใบ้กินเสียดื้อๆ

          “...นายหมายถึงเรื่องอะไร” หนุ่มใหญ่ตีหน้าไม่รู้เรื่อง

          “ก็งานที่จะไปทำยังไงล่ะครับ ผมจะตั้งใจทำเต็มที่...คุณจะได้ยอมรับผมในฐานะเพื่อนร่วมงาน”

          ทั้งที่นั่นเป็นคำพูดที่เนสมควรพูด และเขาก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่วัฒน์กลับรู้สึกเหมือนดิ่งลงเหว โดยเฉพาะกับคำสุดท้าย

          มากสุดที่นายหวังไว้งั้นสินะ...แล้วเราจะห่อเหี่ยวทำไมวะ!

          “ฉันก็หวังไว้อย่างนั้น” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างนิ่งเรียบ ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรต่อ เพราะขืนให้ยืนมองหน้าเด็กหนุ่มมากกว่านี้ เขารู้สึกเหมือนตัวเองจะคุมสีหน้าไม่อยู่ แล้วต้องเผลอแสดงอาการน้อยใจกับเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้เป็นแน่

          เนยืนมองหนุ่มใหญ่ที่เดินจากไปด้วยใบหน้ามึนตึง เขานึกก่นบ่นด่าตัวเองที่รู้สึกเช่นนั้นออกมา ทั้งที่พยายามบอกตัวเองเป็นล้านครั้งว่า เขาไม่ได้ชอบอีกฝ่าย และทางโน้นเองก็ไม่ได้ชอบตน

          แต่เมื่อเห็นความจริงที่ประจักษ์อยู่ตรงหน้า เขาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทุกที

          เจ็บตรงที่ใจ...

          ฮึ่ย!!! เจ็บบ้านเตี่ยสิวะ เขาเป็นผู้ชายนะโว้ย!! แถมยังอายุเกือบเท่าพ่อเราอีก อย่าคิดแบบนั้นเชียว!!

          เด็กหนุ่มทั้งสะบัดหัวแล้วตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ เขาหายใจเข้าออกลึกๆอยู่สามสี่ครั้ง ก่อนจะทำสีหน้าปกติ...ได้เพียงสองนาที เมื่อนึกถึงงานที่ตนต้องทำในวันมะรืน

          พอนึกถึงหน้าหนุ่มใหญ่ร่างยักษ์ ที่ชอบเที่ยวเกาะแขนโอบไหล่วัฒน์ แถมยังดูสนิทสนมกันมากจนเหมือนตัวเขาไม่อาจเข้าถึง ในใจที่เพิ่งสงบก็ว้าวุ่นเหมือนพายุกำลังตั้งเค้า

          เนหน้ามุ่ยอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะผงะ

          แล้วตูจะคิดมากเรื่องความสัมพันธ์ของสองคนนั่นหาพระแสงของ้าวอะไรฟะ เรากับตาลุงนั่นไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย...ใช่ แค่เพื่อนร่วมงาน...เพราะฉะนั้น เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกติดใจสงสัยอะไรทั้งนั้น!

 

          เนไปที่บ้านของฉัตรตามที่วัฒน์สั่งในเวลาบ่ายโมงพอดีเป๊ะ ทันที่ที่เห็นใบหน้ากรุ้มกริ่มของเจ้าของบ้าน เนก็เผลอกัดปากตัวเองด้วยความหงุดหงิดปนสับสน

          “โอ้ ว่างาย” หนุ่มใหญ่หน้าบากเอ่ยทักทาย พลางชี้นิ้วไปทางรถแวนสีเงินที่จอดอยู่ไม่ไกล “ขึ้นไปเลย แล้วเดี๋ยวจะอธิบายแผนการให้ระหว่างเดินทาง”

          “ครับ” เด็กหนุ่มรับคำ สายตาก็ยังคงจ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตาด้วยความคาใจ “คุณกับคุณวัฒน์สนิทกันน่าดูเลยนะครับ”

          เนได้แต่นึกอยากตบปากตัวเองอยู่ในใจ ที่ดันหลุดปากไปเพราะคาใจเหลือเกิน

          ฉัตรเลิกคิ้วมองเพราะไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะเอ่ยประโยคนี้ ชายร่างยักษ์มองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา ท่าทีตอนที่เนถามดูไม่เหมือนคนที่ถามเพราะอยากรู้ข้อมูลจากศัตรูเลยแม้แต่น้อย

          ดูเหมือนถามเพราะสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับวัฒน์มากกว่า...ซึ่งเขาจำอารมณ์นี้ได้เป๊ะ มันเป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่ภรรเมียแสนดีเอ่ยถามเขา เมื่อตอนที่คุณเธอไปเห็นเขาคุยกับหญิงอื่นอย่างสนิทสนมเกินเหตุ

          แต่อันนี้ทั้งคนถาม คนโดนถามและคนที่โดนพูดถึงมันมีแต่ตัวผู้ เลยทำให้เขารู้สึกพิลึกพิลั่นสุดๆ ที่ตัวเองดันรู้สึกแบบเดียวกับตอนโดนเมียถาม

          ฉัตรยิ้มค้างให้เด็กหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงนุ่ม “ก็สำหรับพวกเรา ไม่มีใครมาแทนที่กันและกันได้น่ะ”

          “ทั้งที่คุณมีลูกมีเมียแล้วเนี่ยนะ”

          อันที่จริง เขาก็แค่เปรยลองเชิง แต่พอเจอเด็กหนุ่มตอบมา เล่นเอานึกไม่ออกว่าจะไปยังไงเลยทีเดียว

          “นายชอบวัฒน์หรือ”

          คำถามที่ตรงแบบไม่มีการอ้อมของฉัตรทำเอาเนหน้าถอดสี “เปล่า ผมไม่ได้ชอบสักหน่อย ก็แค่สงสัย เห็นคุณกับคุณวัฒน์สนิทกันดี ก็เท่านั้นล่ะครับ”

          ว่าจบก็กระทืบเท้าตึงตังขึ้นรถแวนไปทันที ปล่อยให้คุณลุงหน้าบากยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ด้วยใบหน้าที่ตื่นตะลึงเหมือนเพิ่งเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกกำเนิดขึ้นตรงหน้ามาหยกๆ

          ...ถ้าไม่ได้ชอบ แล้วแกจะทำหน้าคาดคั้นคาใจเรื่องของฉันกับไอ้วัฒน์ทำมะเขืออะไรล่ะวะ

          หนุ่มใหญ่หวนคิดสิ่งที่เอะใจ มือหนาเกาหัวจนยุ่ง ในใจนึกภาวนาไม่อยากให้เป็นอย่างที่คิดเลยสักนิด


_________________________________
วันนี้คนลงไปปราบมารใต้ท่อที่หอพักน้อง ถ้าลงผิดพลาดอย่างไร รบกวนบอกด้วยเน้อ ไม่ค่อยถนัดลงในนี้เท่าไหร่ ยังงงกับระบบอยู่ XD 

        ช่วงนี้ยังยุ่งมากๆอยู่ ถ้าใกล้สิ้นเดือนนี้อาจจะลงช้ามาก ต้องขออภัยด้วยงับ ปั่นโดเรื่องโน้นหน้ามืดกันเลยทีเดียว TT+TT

        จริงๆกขค.ก็โผล่มาแล้วนะ แต่บทมันยังน้อยจนมองเห็นยากก็เท่านั้นเอง ฮา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2015 12:52:12 โดย musddmp »

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ขำอะ ต่างคนต่างคิดไปเอง กร๊ากก

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ขี้หึงนะเราอ่ะ 55555

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
กขค. ที่ว่านี่... รึว่าจะเป็นต่อ?
เนหึงเขาอ่าเด้~ -..-
ฉัตรเริ่มระแคะระคายความสัมพันธ์ของคู่นี้แล้วนะ อย่างว่า...ความรักมันย่อมชัดเจนขึ้นทุกวันจนในที่สุดมันจะปิดไม่มิด -.,- 55555

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เยอะทั้งคู่   :ling1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เป็นอย่างที่ฉัตรคิดนั่นแหล่ะ  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เหอะๆ ถึงยังไงก็เป็นไปแล้วล่ะค่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
เนหึง
ชอบลุงแล้วแน่เลยย

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ลุงฉัตรถึงกับอึ้ง นี่ถ้ารู้ว่าสองคนนี้เขามีซัมติ้งรองไปถึงใหนต่อใหนแล้วจะเป็นไงนะนั่น

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ชอบมากถึงมากที่สุด ลุงวัฒน์น่าอ่ะจิกอ่ะจั๊กด้วยมาก มิน่าเนถึงหลงเอาหลงเอา
แบบชอบอ่ะ โหดๆ แบบเนี้ย แต่บนเตียงเป็นรับซะงั้น

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :katai5: ผ่านมารอ  :katai5:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
มารอดูตอนต่อไป คู่ซึนๆ

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 29


          “แกคิดยังไงกับพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน”

          ปาล์มหันมองบิดาแสนดีแทบไม่ทันเมื่อเจอคำถามชวนผงะ ในสถานการณ์ที่ไม่ควรจะถามสุดๆ เพราะในตอนนี้ทั้งสองกำลังลักลอบเข้าไปในโกดังของฝั่งศัตรู ซึ่งถ้าโดนเจอมีหวังเสียแผนและเสียหายต่ออิทธิพลของสิทธิ์เลยทีเดียว

          “ในบาร์ก็ออกจะเยอะแยะ ผมก็เฉยๆตราบเท่าที่ไม่มายุ่งกับผม” เด็กหนุ่มตอบพลางกวาดสายตามองไปรอบด้านอย่างระแวดระวัง “เพื่อนผมก็มี...เพื่อนพ่อก็ยังมีเลยไม่ใช่หรือ”

          “นั่นสินะ” ฉัตรรับเสียงเบาด้วยสีหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ “งั้นนั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสินะ...”

          ก่อนที่หนุ่มหน้าหวานจะเอ่ยถาม ทั้งสองก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อพบเงาคนที่เดินไปมาอยู่หน้าประตู ฉัตรยกมือชูสี่นิ้วให้ลูกชาย ก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งซ้ายที่มีตู้คอนเทนเนอร์วางซ้อนจนเกือบชนเพดาน

          “เฮ้ย” เสียงทุ้มร้องดังเมื่อเห็นเงาไหว ชายที่ยืนเฝ้าตรงหน้าประตูชักปืนแล้วตรงไปทางซ้าย เขาค่อยๆก้าวอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่พบใคร “อุ๊บ”

          ฉัตรโดดลงจากตู้คอนเทนเนอร์เข้าด้านหลังของอีกฝ่าย หนุ่มใหญ่ปัดปืนออกจากมืออย่างง่ายดาย แล้วประเคนหมัดเข้าครึ่งปากครึ่งจมูกเสียเต็มรัก จนอีกฝ่ายลงไปนอนนับดาว

          “เรียบร้อยครับป๋า” เด็กหนุ่มเอ่ยพลางโบกซองเอกสารสีน้ำตาลในมือที่ตนไปเอามาในขณะที่ฉัตรจัดการคนเฝ้าประตู “ได้ของแล้วเราก็รีบออกไปกันเหอะ”

          ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที สองพ่อลูกก็เดินละลิ่วมาถึงรถแวนที่จอดทิ้งไว้ในซอยแคบ เด็กเฝ้ารถมองทั้งคู่หน้าหงิก ก่อนจะเข้าไปสตาร์ทเครื่อง และออกรถทันทีที่สองพ่อลูกขึ้นรถ

          “ให้ผมมาช่วยแค่นี้น่ะหรือ” เนแสดงสีหน้าไม่พอใจสุดๆ เพราะนึกว่าจะต้องไปบุกน้ำลุยไฟ แต่กลับได้มานั่งรออยู่เฉยๆแทน

          “ของนายมันเป็นกรณีเผื่อศัตรูเจอรถเราไง” ผู้อาวุโสสุดเอ่ยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ดวงตาปรือเหล่มองคนขับ ก่อนจะพูดขึ้น “ฉันได้ข่าวมาว่าพวกนี้เป็นพวกเดียวกับไอ้เดชด้วยล่ะ เจอแบบนี้เข้ารับรองว่าหมอนั่นปั้นหน้าเป็นไม่ออกแน่”

          เนกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อ ดวงตาเรียวมองอีกฝ่ายจากกระจกมองหลัง “เดช...คนที่คิดไม่ดีกับคุณสิทธิ์น่ะหรือ”

          “ช่ายๆ ไอ้หมอนั่นล่ะ” ปาล์มตอบเสียงหน่าย ใบหน้าหงุดหงิดแปรเปลี่ยนเป็นดีใจขึ้นมา “อยากเห็นหน้ามันจริงๆ ตอนที่รู้ว่าเอกสารนี้หายไป”

          “งั้นหรือ”

          ฉัตรลอบมองสีหน้าของเนผ่านกระจกมองหลังรถด้วยความสงสัย เพราะถ้าอีกฝ่ายเป็นสายของเดชจริงอย่างที่วัฒน์เชื่อ เนก็ควรจะออกอาการลุกลี้ลุกลน หรือรู้สึกไม่ดีที่มาทำงานนี้สิ แต่ที่เขาเห็นตอนนี้ เด็กหนุ่มกำลังฉีกยิ้มด้วยความสะใจแทน ซึ่งนั่นเป็นหลักฐานที่แน่นอนมากแล้วว่าเนไม่ได้เป็นลูกน้องของเดช กอปรกับข้อมูลที่ได้มา ดูยังไงก็ไม่ใช่

          แล้ววัฒน์เข้าใจผิดว่าเนเป็นสายให้ได้ยังไงกันนะ

          ถึงจะสงสัย แต่หนุ่มใหญ่เลือกที่จะทิ้งคำถามนั้นลงถังทันที เขามั่นใจว่าไม่มีทางได้คำตอบจากปากของเจ้าตัวหรอก และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญเลยสักนิด เมื่อเทียบกับเรื่องที่เขากำลังสงสัยอยู่

          “นายไม่ต้องดับเครื่องหรอก เดี๋ยวฉันจะออกไปทำงาน” ปาล์มบอกเมื่อเห็นเนขับมาถึงหน้าบ้านตน และเสียบเข้าไปนั่งฝั่งคนขับทันทีที่อีกฝ่ายออกมา “อ้าว พ่อ ไม่ไปด้วยหรือ”

          เด็กหนุ่มร้องทักเมื่อเห็นบิดาลงจากรถ และไม่มีทีท่าว่าจะกลับเข้ามา

          “เออ แกไปก่อนละกัน พ่อรู้สึกเหนื่อยๆ ขอพักก่อนแล้วจะตามไป”

          คนฟังทั้งสองต่างพากันเลิกคิ้ว เพราะพวกเขาไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีแบบนั้นสักนิด ยิ่งโดยเฉพาะลูกชายนี่แสดงอาการประหลาดใจอย่างชัดแจ้งมาก เพราะเขารู้ดีว่าพ่อตัวเองไม่ได้เหนื่อยอย่างที่ว่าจริงๆอยู่แล้ว

          “เออ ฉันขี้เกียจ อยากนอนก่อน แล้วเดี๋ยวสองสามทุ่มจะตามไป”

          ถึงบางอ้อทันที

          “คร้าบป๋า” ปาล์มโบกมือให้ “หวัดดีเน แล้วเจอกันนะ”

          “อืม แล้วเจอกัน” เจ้าของชื่อทักทายกลับ พอเห็นเวลาก็คิดว่าสมควรกลับเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันได้เดินไปหารถที่ตนขับมาที่นี่ ก็โดนหนุ่มใหญ่เรียกเสียก่อน

          “รีบกลับหรือเปล่า” ฉัตรเอ่ยถามเด็กหนุ่มข้างกายพลางยกนิ้วโป้งไปทางประตูบ้าน “พักให้หายเหนื่อยก่อน แล้วค่อยกลับก็ได้นะ กว่าจะกลับถึงบ้านคุณสิทธิ์ไกลจะตาย”

          เนไม่ทันได้อ้าปากปฏิเสธก็โดนคนร่างยักษ์ลากเข้าบ้านเสียแล้ว

          “เอาน่า คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองก็ได้” เจ้าของบ้านคะยั้นคะยอ แล้วพาเด็กหนุ่มเข้าไปยังในครัว เขาหยิบกระป๋องเบียร์จากตู้เย็นส่งให้เด็กหนุ่มที่ยังคงยืนเหรอหรา “เมื่อก่อนวัฒน์เองก็เคยอยู่ที่นี่เหมือนกัน”

          ก่อนที่จะนึกได้ว่ามันคือกับดัก ก็เผลอโดดเข้าไปเหยียบเสียแล้ว

          ฉัตรแสยะยิ้มกว้างเมื่อเห็นอีกฝ่ายหันมาหาตนด้วยสีหน้าตกใจสุดๆ เขาทำเป็นไม่สนใจต่ออาการที่ชวนให้รู้สึกผิดปกติเหล่านั้น แล้วเอ่ยขึ้นต่อ “ฉันมีรูปหมอนั่นเป็นอัลบั้มเลยนะ เดี๋ยวเอามาให้ดู”

          ยังไม่ทันที่เนจจะตัดสินใจ ฉัตรก็เดินหายขึ้นชั้นสองไป ปล่อยให้เขาได้แต่ยืนอึ้งกับข้อเสนอที่อยากตอบตกลงแต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา

          หมอนั่น...

          เนได้แต่หงุดหงิดกับท่าทีและสีหน้าของหนุ่มใหญ่ มันเห็นอยู่ชัดๆว่าอีกฝ่ายคิดว่าเขาชอบวัฒน์ และรู้สึกเหนือกว่าเพราะรู้จักวัฒน์มานานและสนิทสนมกว่าเขา

          หยามกันชัดๆ!...แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบตาลุงนั่นด้วยโว้ย จะเอามาอวดฉันก็ไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ ตาลุงถึก!...แค่เคยอยู่ด้วยกันแล้วไงวะ ฉันว้อย คนปัจจุบัน....หมายถึงที่อยู่ด้วยกันน่ะ ไม่ใช่ในแง่คนรักเหมือนของคุณหรอกนะ ลุงถึก

          พอคิดด่าอีกฝ่ายจนสบายใจ เด็กหนุ่มก็กระดกเบียร์ที่ได้รับมาจนหมดกระป๋อง เขาเดินมายังห้องนั่งเล่น แล้วหันไปมองรอบๆห้องอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ที่มาที่นี่ยังละลานตาไปด้วยผู้คน แต่พอตอนนี้อยู่เพียงคนเดียวถึงรู้ว่าห้องนี้ช่างกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน และจัดห้องได้อย่างดูดีมาก....มากจนน่าแปลก เพราะดูๆแล้ว เหมือนฉัตรจะอยู่กับปาล์มแค่สองคนยังไงยังงั้น

          เมียลุงแกล่ะ...

          สงสัยไม่เท่าไหร่ เด็กหนุ่มก็สะดุดเข้ากับกรอบรูปตั้งโต๊ะที่อยู่ตรงตู้โชว์ที่ติดอยู่กับประตู รูปนั้นดูเหมือนรูปถ่ายของคู่แต่งงานที่ดูมีความสุขมาก เสียแต่ว่าคนในรูปไม่ใช่ฉัตร

          แม้ใบหน้าของชายในรูปจะหนุ่มแน่น และยิ้มแย้มอย่างมีความสุขผิดกับตอนนี้ แต่เนจำได้แม่นว่านั่นคือวัฒน์แน่นอน

          “รูปตอนงานแต่งของไอ้วัฒน์น่ะ”

          เด็กหนุ่มหันไปมองเจ้าของบ้านที่ยืนอยู่ข้างหลัง ในมือถือสมุดอัลบั้มขนาดใหญ่สามเล่มเอาไว้ อัลบั้มอันแรกมีเหลื่อมทองลวดลายสวยงาม...ซึ่งพอสังเกตหน้าปกให้ถี่ถ้วน ก็จะพบตัวอักษรที่เขียนว่า ‘งานแต่งของวัฒน์’

          “งานแต่ง...” เด็กหนุ่มทวนคำก่อนจะหันกลับไปมองรูปอีกครั้ง “เขาบอกว่าเขาไม่มีเมีย”

          “ก็หย่าแล้ว” ทันทีที่ได้ยิน เนก็เผลอยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ ซึ่งแน่นอนว่าฉัตรสังเกตเห็น “อันนั้นเป็นงานแต่งรอบสอง ส่วนอันแรกก็อยู่ข้างล่างนี่ อันแรกแต่งงานแบบคลุมถุงชน อยู่ได้แค่สองปีกว่าก็หย่าซะ ส่วนอันที่สองนี่แต่งเพราะรักกัน แต่ไม่รู้ทำไมถึงหย่ากัน ตั้งแต่นั้นมาไอ้วัฒน์ก็ไม่เคยมีคนรักให้ฉันเห็นอีกเลย”

          เนหนุ่มเลิกคิ้วมองอีกฝ่าย “แล้วคุณล่ะ”

          หนุ่มใหญ่หน้าบากกระตุกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ฉันมันของตายสำหรับหมอนั่นน่ะ ประมาณว่าเหงาเมื่อไหร่ก็มาหา...”

          ถึงจะคาดไว้อยู่แล้ว แต่พอได้ยินกับปากเจ้าตัว เนก็อดของขึ้นในใจไม่ได้

          “โอ๊ะ แต่อย่าไปบอกหมอนั่นว่าฉันบอกล่ะ หมอนั่นไม่ค่อยชอบให้ใครรู้เท่าไหร่” หนุ่มใหญ่เอานิ้วแตะปากตัวเอง ดวงตาปรือมองมาอย่างมีเลศนัย

          “ละ...แล้วเมียคุณล่ะ...ทำแบบนี้มันไม่ดีต่อเมียคุณเลยนะ” เขารู้ว่านั่นเป็นคำถามที่กลับเข้ามาแทงคนที่นอนกับผู้หญิงเป็นว่าเล่นอย่างเขาเป็นที่สุด แต่เนก็อดถามออกมาไม่ได้ เพราะคาใจ และข้องใจสุดๆ

          ฉัตรยิ้มค้างอยู่ห้าวินาที ก่อนจะหันมองไปรอบห้อง “ฉันได้ยินว่านายอยู่บ้านคุณสิทธิ์...ใช่ไหม”

          “นอนห้องเดียวกับคุณวัฒน์ด้วย” เนเกทับอย่างลืมตัว

          แต่หนุ่มใหญ่ไม่ได้ออกอาการตกใจหรือหงุดหงิดแต่อย่างใด ดูท่าทางเหมือนกำลังใช้ความคิดมากกว่า “ท่าทางนายจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวัฒน์เลยสินะ...หมอนั่นเองก็ไม่บอกอะไรเลยด้วยล่ะสิ”

          ดอกนี้แทงแรงจนจุกเลยทีเดียว

          “ก็ไม่แปลก” ฉัตรเยาะเสียงขึ้นจมูก “เทียบกันแล้ว นายมันก็เป็นแค่คนอื่นละนะ”

          หยามกันเห็นๆ

          “ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นละครับ พอดีเรากำลังอยู่ในช่วงดูใจกันน่ะ เลยต้องใช้เวลาศึกษากันหน่อย”
         
          อย่าว่าแต่คนฟังเลย ขนาดคนพูดเองยังอึ้งว่าพูดออกไปได้ยังไง

          “...” เนกำลังคิดสุดฤทธิ์ว่าจะแก้ตัวในสถานการณ์นี้อย่างไร นี่ไปๆมาๆเขากลับบอกฉัตรไปว่าตนคบกับวัฒน์ไปเสียอย่างนั้น “...ผมหมายถึงในฐานะเพื่อนร่วมงานน่ะครับ”

          “อ้อ เพื่อนร่วมงาน อ้อ...เข้าใจๆ” ปากบอกว่าเข้าใจ แต่หน้าตาไม่เห็นจะไปด้วยกันสักนิด “งั้นฉันก็ขอแนะนำนายสักหน่อยละกันนะ หมายถึงในฐานะ ‘เพื่อนร่วมงาน’ น่ะนะ ฮะๆๆ”

          เยาะเย้ยล้อเลียนแบบไม่เกรงใจกันสักนิด

          “ถ้าไม่พยายามให้มาก หมอนั่นไม่มีวันสนใจง่ายๆหรอก กำแพงของหมอนั่นน่ะ สูงกว่าชาวบ้านสามเท่าเลยนะ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยอย่างจริงจังจนเนชะงัก “ยิ่งกับนายแล้ว...ท่าจะยาก”

          เด็กหนุ่มหน้าขึ้นสีทันที “เรื่องนั้นผมรู้อยู่แล้วล่ะน่า...คุณใส่ใจเมียคุณไปเถอะ ระวังโดนทิ้งล่ะ”

          “โอ๊ะโอ้ย เจ็บเหลือเกิน” ถ้าไม่เคยเห็นวีรกรรมประดุจปีศาจของอีกฝ่ายมาก่อนล่ะก็ เด็กหนุ่มอาจจะโมโหจนหน้ามืดแล้วกระโดดเข้าไปทำร้ายคนชราแล้วก็เป็นได้ แต่ถ้าขืนทำจริง มีหวังตัวเขานี่ล่ะที่จะกลายเป็นซาก “งั้นเลิกพูดแล้วมาดูรูปดีกว่ามั้ย...หรือไม่อยากดู งั้นฉันเอาไปเก็บ...”

          แย่งมาจากมือด้วยความไวสูง

          “...ไหนๆก็เอามาแล้ว จะรีบเอาไปเก็บทำไมล่ะครับ ก็ดูๆหน่อยไม่เห็นจะเสียหายอะไร” ทั้งที่ฉัตรยังไม่ได้พูดอะไรแท้ๆ แต่เนกลับรีบบอกลนลาน “ผมไม่ได้อยากเห็นรูปคุณวัฒน์หรอกนะ”

          คนอาวุโสกว่าได้แต่กั๊กขำไว้ในใจ...ไม่อยากดูแต่กอดอัลบั้มซะแน่นเลยนะ

          “งั้นเชิญดูตามสบาย ฉันขอนอนก่อนนะ” เจ้าของบ้านปล่อยให้คนแปลกหน้าอยู่ในห้องนั่งเล่นตามลำพังแบบไม่หวั่นเกรง แล้วลิ่วขึ้นชั้นสองไป

          เนเลิกคิ้วมองตาม ก่อนจะกลับมามองอัลบั้มในมือ ดวงตาเรียวเต็มไปด้วยความคับข้องใจ เขาลงไปนั่งบนโซฟา มือหนาพลิกปกอัลบั้มออก ภาพมากมายจัดเรียงไว้อย่างสวยงามและเป็นระเบียบ เนนึกอยากด่าตัวเองตงิดๆเพราะดันไปเปิดอัลบั้มแต่งงานขึ้นมาก่อน

          “แล้วเราจะอารมณ์เสียทำไมวะ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย กะไอ้แค่รูปแต่งงาน กับคนที่เลิกกันแล้วด้วย” เด็กหนุ่มโพล่งเสียงแข็ง แล้วทำเป็นว่ารูปเหล่านั้นไม่มีผลอะไรกับตัวเอง...ซึ่งก็แข็งใจทำได้แค่สามหน้าเท่านั้น

          ยิ่งดูมากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้รู้จักวัฒน์เลยแม้แต่น้อย สีหน้าของเจ้าบ่าวในรูปนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ดูราวกับคนละคนในตอนนี้ก็ไม่ปาน

          เพราะได้ใช้ชีวิตกับคนที่รัก ถึงได้มีความสุขขนาดนี้สินะ...

          เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บในอก เหมือนหัวใจโดนบีบ เพราะบางที เขาอาจจะได้เห็นใบหน้าเหล่านี้แค่ในรูปกระมัง

          หลังจากดูรูปชวนปวดใจ เขาก็เปลี่ยนมาดูอีกอัลบั้มแทน ซึ่งอันนี้ชวนปวดใจกว่าเยอะ...ดูเผินๆเหมือนรูปถ่ายจิปาถะที่มีทั้งรูปทิวทัศน์และรูปคน แม้แต่รูปก้อนเมฆยังมี

          รูปแรกในหน้าที่สิบสอง ทำเอาเขาต้องมองอยู่นาน ก่อนจะอ้าปากค้าง รูปของเด็กวัยรุ่นใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงนักเรียนสีกรมท่าสองคน อายุราวสิบห้าสิบหกกำลังหันมาให้กล้อง คนหนึ่งตัวสูงใหญ่ และมีดวงตาปรือที่ชวนให้รู้สึกหงุดหงิด ซึ่งพอจะทำให้คนดูเดาได้ว่านั่นคือฉัตรตอนยังละอ่อน และมีใบหน้าเนียนใสไร้รอยแผลเป็น...และใบหูที่สุขภาพดีไร้รอยแหว่ง

          ส่วนอีกคนตัวผอมบาง หน้านิ่งทั้งที่โดนคนตัวโตกว่ากอดซะแนบแน่น และไม่ต้องเดาให้มากความว่าเป็นใคร ไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ ก็เอาแต่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเสมอ

          รู้จักกันมานานแค่ไหนวะ!

          ยิ่งพลิกไปเรื่อย อายุของคนในรูปก็ค่อยๆมากขึ้นตามลำดับ จนมาถึงปัจจุบัน ทั้งคู่ดูจะสนิทสนมและติดต่อกันมาตลอด ซึ่งดูเผินๆก็ปกติดี เพราะทั้งวัฒน์และฉัตรต่างก็เป็นลูกน้องของสิทธิ์ทั้งคู่ จะเจอหน้ากันบ่อยๆก็ใช่ว่าจะแปลก...

          จะสนิทสนมกันมากก็ไม่แปลก...

          “ฮึ่ย ก็แค่ของตาย! ไม่เห็นจะกลัว”

          ตึง

          สบถจบก็สะดุ้งจนตัวลอยเมื่อได้ยินเสียงดังจากชั้นสอง เด็กหนุ่มหันไปมองที่บันไดหน้าตื่น แต่ไร้วี่แววของเจ้าของบ้าน...ซึ่งแน่นอนว่าเนไม่ได้คิดไปเองหรอก เมื่อครู่เป็นเสียงที่ฉัตรเผลอเอาหัวไปโขกกำแพงเต็มแรง เพราะตกใจกับเสียงเหี้ยมและดังลั่นบ้าน

          “...ไอ้เด็กบ้า ตะโกนมาได้” หนุ่มใหญ่กระซิบเสียงอ่อย มือหนาลูบท้ายทอยตัวเองหวังบรรเทาความเจ็บ ดวงตาปรือเลื่อนมองทางลงของบันได แล้วแอบหัวเราะในใจ “เชื่อที่เราบอกจริงๆจังๆด้วยแฮะ...ขืนรู้ความจริง ท่าทางปรี๊ดแตกแหงม...หึๆ”

          เขายิ้มให้กับตัวเองอยู่พักใหญ่ ก่อนที่รอยยิ้มที่ตลกกับสิ่งที่ได้ยินจะกลายเป็นยิ้มเจื่อน เสียงถอนใจค่อยๆระบายออกมาอย่างใจเย็น ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มและครุ่นคิดกับเรื่องที่กำลังเผชิญ

          “...แกขยาดจากผู้หญิง จนมาคบกับผู้ชายแทนเรอะ...แถมยังรุ่นลูกด้วยนะเนี่ย...ไอ้วัฒน์”


_________________________
ลุงฉัตรแกล้งอย่างเดียวตอนนี้ ฮา

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :laugh: ลุงฉัตรแน่มาก เอาซะเนหลุดไม่เหลือฟอร์มเลย
แต่เสี่ยงมาว่าถ้าลุงวัฒแกรู้นิว่าไปแกล้งเด็กเค้าระวังๆ ปืนเน้อ  :m20:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ลุงฉัตรถึงขั้นโขกกำแพง แล้วถ้าหากรู้ว่านอกจากวัฒน์จะแอบคบ?กับเนแล้ว ฝ่ายที่เป็นฝ่ายรับก็เป็นวัฒน์อีกเช่นเดียวกัน จะทำหน้ายังไงนะ 555+ :hao7:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
 โดนฉัตรแกล้งซะอยู่หมัดเลยนะคะ  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด