ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)  (อ่าน 163006 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :a5: คู่แข่งโผล่ กรรมเลยเนเอ้ย  ตอนไม่มีคู่แข่งก็ซึนกันสะบัด แล้วอย่างนี้  :mew5: ไม่อยากจะนึกเลย

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เมารัก ฮ่าๆๆ  :laugh:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
สงครามเยน

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 47


          “ทำบ้าอะไรของนายวะเนี่ย อีกนิดเดียวแล้วแท้ๆ”

          หลังจากเดินออกมาจากตึกร้างได้สักพัก โค้กก็เอ่ยขึ้นมาด้วยอาการไม่พอใจ ก่อนจะหยิบกุญแจรถของตนออกมา

          “นายไปโกหกอาวัฒน์ทำไมล่ะ เราก็เอารถกันมาแท้ๆ” ศาสตร์ย้อนถามเสียงนิ่งก่อนจะเปิดประตูรถตรงที่นั่งด้านหน้า “ทิ้งไว้ตรงนี้ เกิดโดนขโมยขึ้นมาจะว่าไง”

          “ที่ปฏิเสธน่ะ แค่ห่วงรถ หรือเพราะกลัวกันแน่”

          ใบหน้าเรียวมองอีกฝ่าย โค้กดูไม่พอใจเอามากๆ แต่ก็ไม่ได้ใช้น้ำเสียงเกรี้ยวกราดอะไรนัก นอกจากบึ้งหน้าให้

          “แค่ให้ไปส่ง มันเรียกว่าโอกาสดีตรงไหน…” ศาสตร์บอกเสียงอ้อมแอ้ม “ไม่เห็นจะมีอะไรเป็นพิเศษ…”

          “มีสิ มีเยอะแยะ แต่นายก็เลือกที่จะปล่อยมันไปเอง” โค้กว่าแล้วส่งเสียงเดาะลิ้น “โธ่เว้ย ถ้าไม่อยากได้นัก ก็อย่ามาขวางกันสิวะ ยังไงนายก็เลือกที่จะหนีแล้วนี่ ฉันจะได้ลดคู่แข่งไปไง”

          “ฉันไม่ได้หนีสักหน่อย!”

          “หนีชัดๆ จะไม่ว่าเพราะเกรงใจอาวัฒน์หรือเพราะอะไร สุดท้ายก็เพราะนายหนีอยู่ดีนั่นล่ะ” หนุ่มผมเด้งว่าต่ออย่างไม่สะทกสะท้านที่โดนเพื่อนขึ้นเสียงใส่ “อาวัฒน์เองเขาก็ไม่ได้อายุน้อยๆแล้ว ถ้านายคิดจะปล่อยไปเรื่อยๆ ก็เรื่องของนาย แต่ไม่ต้องมารั้งฉัน โอเคไหม”

          “ฉันไม่ได้ปล่อยสักหน่อย” หนุ่มหน้านิ่งขึ้นเสียงอีกครั้ง “ฉันแค่…”

          โค้กเหล่มองคนนั่งข้าง ใช่ว่าเขาจะไม่รู้เหตุผลที่อีกฝ่ายเอาแต่อมพะนำ แต่เพราะรู้นี่แหละถึงได้หงุดหงิด

          “โทษทีนะ แต่ระหว่างเสียใจโดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไร กับเสียใจเพราะได้ทำไปแล้ว ฉันเลือกอย่างหลังว่ะ” โค้กเปรยเสียงขุ่น

          “ก็ถ้าทำลงไป มันอาจจะกลับไปเป็นเหมือนตอนนี้ไม่ได้นี่…” สีหน้าของศาสตร์เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม “นายก็รู้ว่าเรื่องแบบนั้นมันออกจะ…”

          “อาวัฒน์ไม่ใช่คนที่จะหันหลังให้นายเพียงเพราะเรื่องแค่นั้นสักหน่อย นายก็รู้” คนขับรถตอบกลับด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเต็มทน “นี่เพราะฉันถือว่าเป็นเพื่อนหรอกนะ ถึงได้บอก จะมีคนบ้าที่ไหนยอมให้คู่แข่งมาเดินขวางแบบนี้กัน ไม่มี้”

          น้ำเสียงช่วงหลังทำเอาคนที่กำลังกลุ้มเผลอหัวเราะออกมา ทั้งที่ยังหน้านิ่ง

          “กับนายฉันยอมแข่งแบบแฟร์ๆอยู่หรอก แต่กับไอ้เด็กนั่นก็อีกเรื่อง”

          หัวข้อต่อมาทำเอาคนฟังเลิกคิ้ว

          “นายไม่กลัวหรือไงว่าเนจะเอาเรื่องที่นายพูดไปบอกกับอาวัฒน์”

          “ก็ดีสิ เรื่องมันจะได้ง่ายขึ้นสำหรับฉัน ฮะๆ” โค้กตอบกลับด้วยน้ำเสียงระรื่นปนกวน “เผลอๆอาจจะได้ตกลงปลงใจเรียบร้อยกับอาวัฒน์เลยก็ได้”

          ศาสตร์กลับมาหน้ามุ่ยอีกครั้ง

          “แต่หมอนั่นไม่พูดหรอก” หนุ่มหน้าเป็นพูดต่ออย่างสบายอารมณ์ “เล่นทำท่าหวงอาวัฒน์ซะขนาดนั้นนี่นะ ฮะๆ…”

          “ทั้งที่หมอนั่นบอกว่าจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้นายเนี่ยนะ”

          “ก็ไม่เห็นจะช่วยอะไรเลยนี่ ขนาดจ้องจนตาฉันจะถลนอยู่แล้วนะ” โค้กว่าแล้วแบะปาก “หนอย คิดว่าจะง่ายกว่าที่คิดซะอีก สงสัยต้องรุกหนักๆหน่อยแล้ว”

          ศาสตร์เพียงแต่เหล่มองคนขับรถ รู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย

          “อะไร กลัวนักก็ขวางฉันสิ” และทั้งที่เอาแต่มองทาง โค้กกลับดูเหมือนจะอ่านใจเพื่อนออก

          “ฉันทำแน่” เสียงทุ้มตอบอย่างหนักแน่น “ฉันไม่ยอมให้นายแย่งอาวัฒน์ไปง่ายๆหรอก”

          คนฟังเพียงแต่ยักไหล่ ไม่พูดอะไรต่อนอกจากผิวปากและขับรถต่อไปเรื่อยๆ แม้ใจจริงนั้นจะไม่ได้สบายอารมณ์อย่างที่เห็นเลยก็ตาม

          คนที่นายต้องระวังจริงๆน่ะ ไม่ใช่ฉันหรอก…

 

          วัฒน์มองเด็กหนุ่มที่เดินนำหน้าตนไปยังห้องนอนอย่างไม่แน่ใจนัก หลังจากถามไถ่อาการของเขา เด็กหนุ่มก็เงียบตลอดทางจนถึงบ้าน ทำเอาเขาได้แต่นึกกังวลปนเป็นห่วงแทน…

          ไม่สิ เราจะเป็นห่วงไปทำไมฟะ

          คิดแล้วก็ได้แต่ตำหนิใจตัวเองที่ชอบทำอะไรไม่ฟังคำสั่งเจ้าของ แต่พอมองอาการของเน เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ

          แต่พอเข้าห้อง หนุ่มใหญ่ก็รับรู้ว่าตนคิดผิดที่เป็นห่วง

          “เฮ้ย”

          อยู่ๆเนก็เข้ามากอดรัดตัวเองจากด้านหลังแน่นเมื่อวัฒน์เดินมาถึงเตียง เล่นเอาคนไม่ทันตั้งตัวเผลอใจเต้นอย่างที่ไม่ควร

          “วันนี้ผมขอทำนะ”

          “หา เดี๋ยวสิ นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ…” ใช่ว่าจะไม่อยาก แต่เพราะนี่ก็ดึกแล้วจริงๆ อีกทั้งไม่ค่อยอยากจะแสดงออกมาเท่าใด เพราะกลัวอีกฝ่ายจะรู้ว่าตัวเขาเองก็พร้อมจะกระโดดเข้าหานี่ล่ะ

          “คุณสัญญาแล้วไม่ใช่หรือ”

          หนุ่มใหญ่รู้ว่ายังไงเสียอีกฝ่ายก็ต้องงัดไม้นี้มาใช้ แต่ที่ตนเผลอนิ่วหน้าและเงียบค้างไป เพราะน้ำเสียงที่ขอมันฟังดูแปลกๆ ทั้งยังสั่นเสียจนน่ากลัวนี่ล่ะ

          เป็นอะไรของมันกันแน่วะ…

          “คุณสัญญาแล้วนี่ ว่าจะให้ผมทำถ้าผมต้องการ” เด็กหนุ่มย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และเพราะโดนกอดจากด้านหลัง วัฒน์จึงไม่อาจรู้ได้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังทำสีหน้าอย่างไรอยู่ “คุณจะผิดสัญญากับผมหรือ”

          “มะ…ไม่ใช่สักหน่อย…” คนโดนกอดตอบอย่างไม่แน่ใจนัก “นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ เอาไว้พรุ่งนี้ไม่ดีกว่าหรือ”

          “ผมอยากทำตอนนี้นี่” เด็กหนุ่มเอ่ยเอาแต่ใจ “ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุดอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องรีบตื่นเลยนี่ครับ”

          วัฒน์ได้แต่อ้าปากพะงาบๆไม่รู้จะอ้างอะไรดี

          “แต่ฉันง่วงมากแล้วนะ…”

          “ถ้าอย่างนั้นคุณจะนอนเฉยๆก็ได้ ผมจัดการเอง”

          แกจะเอาให้ได้เลยใช่ไหมวะเนี่ย!

          “เออ ตามใจ” เมื่อไม่รู้จะอ้างอะไรแล้ว อีกทั้งก็แอบๆรออยู่ เลยได้แต่ตอบรับส่งๆเหมือนต้องทำอย่างเสียมิได้ “ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยได้แล้ว ฉันจะไปอาบน้ำก่อน…”

          เสียงทุ้มขาดห้วงไปเพราะโดนจับพลิกตัวหันไปหา และยังไม่ทันจะได้ส่งเสียงหรือตั้งตัว ก็โดนอีกฝ่ายประกบปากเข้ามาเสียแล้ว
วัฒน์พยายามส่งเสียงประท้วง แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ยอมลดละเลยสักนิด ลิ้นร้อนที่สอดเข้ามาควานไปทั่วอย่างบ้าคลั่งและหิวกระหาย หนุ่มใหญ่พยายามฝืนต้านอย่างลืมตัว แต่ก็โดนมือของอีกฝ่ายรั้งหัวของตนไว้แน่นจนไม่อาจบ่ายหน้าหนีไปได้ เนยังคงรุกล้ำเข้ามาอย่างไม่มีถนอมหรือเกรงอกเกรงใจกันเลยสักนิด ริมฝีปากเข้ากดบดเบียดจนระบม กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังพยายามเข้ามาราวกับจะพังเขาให้ตายกันไปข้าง

          วัฒน์ได้แต่ดิ้นขลุกอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย แต่ก็ใช่ว่าจะได้ผลนัก ความสับสนและความต้องการทำเอาเขาหัวหมุน แต่เขาก็ยังไม่อยากจะยอมแพ้ หนุ่มใหญ่พยายามดันลิ้นอีกฝ่ายออก แต่อีกฝ่ายก็ชำนาญการเกินกว่าจะชะงักกับการต่อต้านของคนด้อยประสบการณ์ เพราะทันทีที่โดนต้าน เจ้าเด็กบ้ากลับผ่อนแรงจนตัวเขากลับเป็นฝ่ายถลำเข้าไปหาอีกฝ่ายแทน ซ้ำยังโดนดูดดุนและประโลมเลียจนยากที่จะถอยกลับหรือต่อต้าน รสจูบในครานี้ช่างแตกต่างจากครั้งก่อนมากเสียเหลือเกิน มันทั้งร้อนแรง เต็มไปด้วยกิเลศตัณหา และความต้องการอย่างไร้ที่สิ้นสุด

          เมื่อวัฒน์ตอบกลับและแสดงความต้องการออกมาเมื่อหลงไปกับอารมณ์ของตนเอง เด็กหนุ่มจึงเลิกปลุกเร้าและกลับไปเก็บเกี่ยวความต้องการของตนต่อ เมื่อหนุ่มใหญ่เลิกขัดขืน มือทั้งสองจึงผ่อนแรงพันธนาการ และค่อยๆดันให้อีกฝ่ายลงไปนอนกับเตียงแต่โดยดี

          “อือ…”

          เสียงครางดังขึ้นในลำคออย่างพึงใจ ความง่วงก่อนหน้าบินหายไปเสียสิ้น ลืมไปหมดแล้วว่าก่อนหน้าตนอ้างอะไรกับเด็กหนุ่มไว้ มือทั้งสองโอบคอคนตรงหน้า ยังคงแลกจูบตอบรับอย่างไม่รู้เบื่อ

          วัฒน์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโดนมือเย็นของอีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาด้านในเสื้อเชิ้ต และเพียงไม่นานมันก็เลื่อนลงไปยังที่ต่ำกว่า แต่เขาก็ไม่ได้นึกท้วงห้ามแต่อย่างใด ปล่อยให้เด็กหนุ่มหยอกเย้าและปลุกปั่นตามใจชอบ

          หนุ่มใหญ่ปรือตามองคนตรงหน้า อันที่จริงเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรที่อีกฝ่ายจะจูบตนนานขนาดนี้…แต่เขาชักเริ่มรู้สึกว่ามันนานเกินไปเสียแล้ว และอะไรๆที่ไม่ควรจะมาในเวลานี้ มันก็เริ่มประท้วงอยู่ในร่างกายแล้ว

          วัฒน์ตีหลังเป็นการเตือน แต่อีกฝ่ายยังคงจูบตนไม่เลิก มือก็คอยขยับขึ้นลงปลุกเร้าอารมณ์อย่างเป็นจังหวะและไม่มีขาดตอน จนวัฒน์ชักจะอดทนไม่อยู่

          บ้าเรอะ ขืนยังทำแบบนี้ต่อไปละก็…

          หนุ่มใหญ่เริ่มประท้วงแรงขึ้น แต่ทั้งตีก็แล้ว ทั้งผลักก็แล้วทั้งพยายามเม้มปากกั้นก็แล้ว แต่เจ้าเด็กบ้านี่ก็ดึงดันไม่หยุด ครั้นจะให้กัดลิ้นก็กลัวจะโดนทำอะไรรุนแรงอีก ที่สำคัญคือ เขาเองก็เริ่มจะอดกลั้นไม่ไหวแล้วด้วย

          ในที่สุด เนก็หยุดมือและถอนจูบออกเมื่อของเหลวสีขุ่นเปรอเต็มมือ ดวงตาเรียวเลื่อนลงมองผลงานตรงหน้า ก่อนจะกลับไปมองหนุ่มใหญ่ที่นอนหอบกระเส่าอย่างคนหมดแรง ใบหน้าแดงก่ำ

          “ฉันพยายามจะบอกนายแล้วนะ…” วัฒน์ว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด กลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าตนหลงไปกับรสจูบอีกฝ่ายแค่ไหน

          เนนิ่งเสียจนดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ และท่าทางเด็กหนุ่มจะไม่ได้สนใจเรื่องที่อีกฝ่ายวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนนัก เนลุกขึ้นนั่งคร่อมร่างของวัฒน์ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อของตน

          วัฒน์รู้สึกร้อนวูบ เพราะปกติอีกฝ่ายมักจะรีบร้อนดำเนินการโดยเร็วแท้ๆ แต่ในตอนนี้ เนกลับใช้เวลานานเหลือเกินกว่าจะถอดเสื้อของตัวเองออก

          นั่นก็ว่าชวนระทึกแล้ว ตอนที่โดนแกะกระดุมเสื้อตัวเองนี่ยิ่งระทึกกว่า เล่นเอาใจเต้นโครมครามเลยทีเดียว

          แค่กระดุม เอ็งจะใช้เวลาแกะนานไปมั้ยวะ!! จะมาทำมือขยุกขยิกแล้วมันจะช่วยให้แกะง่ายขึ้นเรอะ กระดุมนะเฟ้ย ไม่ใช่ตู้เซฟ ไม่เห็นจะต้องเสียเวลาแกะขนาดนั้นสักหน่อย!

          “อยู่นิ่งๆสิครับ” เนว่าเมื่อเห็นวัฒน์ทำท่าจะขัดขืน “ไหนว่าง่วงนี่ จะหลับไปก่อนก็ได้นะครับ”

          โอ๊ย มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันคงจะหลับลงอยู่หรอกนะ ไอ้บ้านี่

          แม้จะหงุดหงิด แต่ก็ได้แต่นิ่งอย่างจำยอม

          วัฒน์เลื่อนสายตามองมือของเด็กหนุ่มที่แกะกระดุมของตนอย่างอ้อยอิ่งไปทีละเม็ด ทำเอาเขาใจเต้นโครมคราม ยิ่งช้า ความตื่นเต้นในใจก็พุ่งสูงจนแทบบ้า แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนนับสูตรคูณเลขเพื่อระงับอาการตื่นเต้นในกายตน

          กว่าจะแกะกระดุมเสร็จ เล่นเอาคนที่นอนอยู่นิ่งๆเหนื่อยแทบตาย ครั้นจะต่อว่าก็พูดไม่ออกเมื่อเห็นสีหน้าเรียบนิ่งที่ดูไร้อารมณ์ของเด็กหนุ่ม

          ทำไมล่ะ…

          ก่อนจะคิดสงสัยไปมากกว่านี้ก็ต้องสะดุ้ง และให้ความสนใจยังมือที่ทาบอยู่ตรงอกของตน ซึ่งก็ไม่ยอมขยับไปไหน จับนิ่งอยู่ที่เดิม…ตรงหัวใจ

          วัฒน์พยายามดึงมือออก แต่อีกฝ่ายดื้อดึงและใช้มือที่เหลือปัดออก เมื่อถึงที่สุดเด็กหนุ่มก็ดึงมือทั้งสองไปกดเอาไว้เหนือหัววัฒน์ และกลับมาทำต่อเช่นเดิม

          “…”

          คนที่นอนอยู่บนเตียงได้แต่เบิกตามองเด็กหนุ่มตรงหน้า เขาไม่เข้าใจเลยว่าเจ้าเด็กนี่มันต้องการจะทำอะไรกันแน่ แต่ที่รู้คือ อีกฝ่ายคงรู้แล้วว่าในตอนนี้หัวใจของตนเต้นตัวเร็วมากแค่ไหน

          บ้าเอ๊ย!

          “ระ…รีบๆทำเข้าสิ จะรออะไรเนี่ย” วัฒน์พยายามแสดงน้ำเสียงขุ่นกลบเกลื่อนความรู้สึกเขินอาย ถ้าหนีออกไปจากตรงนี้ได้คงทำไปแล้ว

          “คุณอยากให้มันจบเร็วๆหรือ”

          คนฟังถึงกับเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจอีกฝ่ายเลยสักนิด

          “ก็…นี่มันดึกมากแล้วนี่นา จะเสียเวลาทำไม…” วัฒน์ตอบละล่ำละลักและหลบหน้าแดงก่ำของตัวเองไปอีกทาง นึกด่าตัวเองอยู่ในใจว่าทำไมไม่ตอบไปเสียว่าอยากให้จบเร็วๆ

          ก็เล่นมองตาละห้อยแบบนั้น ใครจะไปกล้าพูดกันเล่า!

          วัฒน์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายโน้มหน้าเข้าหาซอกคอตนเอง ใจหนึ่งก็รู้สึกโล่งเสียเหลือเกินที่ไม่โดนวัดอัตราเต้นของหัวใจแล้ว ทั้งยังโดนปล่อยมือด้วย

          “เอ๊ย เดี๋ยวสิ” แต่วางใจไม่ทันไรก็ต้องลุกลี้ลุกลนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อโดนอีกฝ่ายจูบคอเสียแรง “อย่าดูดแรงแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็เป็นรอยหรอก”

          ถ้าเป็นก่อนหน้า อีกฝ่ายก็คงจะถอยไปแต่โดยดี เขารู้ว่าเนเองก็ไม่ได้อยากให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์นี้สักเท่าไหร่

          แต่คราวนี้ไม่ยักจะยอม

          “อึก…” วัฒน์พยายามกดเสียงตัวเองไม่ให้เล็ดลอดออกมา แต่อีกฝ่ายก็รุนแรงกับเขาเสียเหลือเกิน “เดี๋ยวมัน...เป็น…อื๊อ…อ๊า”

          หนุ่มใหญ่เผลอกรีดเสียงลั่น เพราะโดนฟันงับเข้ามาเสียแรง เขาได้แต่ร่ำร้องและพยายามผลักอีกฝ่ายออกตามสัญชาตญาณ แต่ยิ่งต้าน เหมือนจะยิ่งไปกระตุ้นบางอย่างในตัวอีกฝ่ายแทน

          นี่แกจะทำหรือจะกินฉันกันแน่วะเนี่ย

          พอหมดแรงจะต้านก็ได้แต่ระบายความเจ็บปวดด้วยการใช้เล็บจิกหลังอีกฝ่าย มือทั้งสองกรีดกำผิวเนื้อตรงหน้าแน่น ความรู้สึกทรมานผสมกับความวาบหวามจนแยกไม่ออก ชักเริ่มสับสนเสียแล้วว่าต้องการให้อีกฝ่ายหยุด หรือทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆดี

          “อึก…”

          หนุ่มใหญ่สะดุ้งเมื่อโดนมือกอบกุมส่วนที่อ่อนไหวอีกครั้ง คราวนี้เนไม่ได้เร่งเร้าให้เขาแต่อย่างใด เด็กหนุ่มค่อยๆประคองท่อนเนื้อที่เพิ่งหมดแรงอย่างเบามือ นิ้วเรียวลากไล้ลูบไปมาอย่างเชื่องช้าตั้งแต่โคนจรดปลาย จากนั้นก็ใช้นิ้วจิ้มบดวนอยู่ตรงยอดจนผู้เป็นเจ้าของถึงกับกระตุกวาบ

          เนเลื่อนจากซอกคอลงมาตรงยอดอก ดูดดุนเสียจนวัฒน์ร้องเสียงหลง เท่านั้นยังไม่พอ มือที่ยังว่างก็คอยลูบยอดอกไม่หยุด พอคลึงเล่นเสียจนหัวนมชูชัน ก็เริ่มบีบไปมาเหมือนต้องการกลั่นแกล้ง

          ทั้งที่อยากจะร้องห้ามแทบตาย แต่ความเสียวซ่านที่โหมกระหน่ำเข้ามาทำเอาในหัวว่างเปล่าไปหมด ร่างกายที่เพิ่งอ่อนแรงกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่คิดจะลงมือจริงสักที เอาแต่ปลุกเร้าอารมณ์เสียวของเขาไม่เลิก

          “เฮ้…พอ…พอได้แล้ว…” วัฒน์พยายามร้องห้าม แม้นเสียงที่ออกมาตอนนี้จะปนเสียงหอบกระเส่าจนน่าอายแทบตาย แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ต้องพูด “ถ้านายยังไม่ทำ…ฉันจะเสร็จอีกแล้วนะ…”

          เขาร้องเตือนหมายจะให้อีกฝ่ายเริ่มดำเนินการให้จบเรื่อง จะได้หลับๆกันเสียที

          “ยังไม่ได้ครับ”

          “หา…อ๊ะ…เอ๊ย…”

          อยู่ๆอีกฝ่ายก็เคลื่อนทัพลงไปตีประตูด้านล่างเสียเฉย ความอุ่นร้อนที่โอบล้อมแก่นกายทำเอาความอดทนที่มีอยู่หมดลงไปทันที

          แม้วัฒน์จะเสร็จสมอารมณ์หมาย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเสียง่ายๆ ยังคงใช้ปากปลุกปั่นอีกฝ่ายไม่เลิก จนหนุ่มใหญ่ได้แต่ร้องครวญครางด้วยน้ำเสียงน่าอายอยู่เช่นนั้น ครั้นจะถอยหนีก็โดนรั้งไว้ จะผลักไสก็ไม่มีกำลังมากพอ เลยได้แต่รอรับชะตากรรมเช่นอย่างนี้แทน

          “บ้าเอ๊ย…” วัฒน์ได้แต่สบถ ไม่เข้าใจว่าเนเป็นอะไรกัน ถึงได้ทำแบบนี้ ในเมื่อเด็กหนุ่มก็เป็นคนออกปากเองว่าจะทำแท้ๆ แล้วทำไมถึงได้ไม่ทำเสียที เอาแต่ปลุกอารมณ์เขาไม่หยุดอยู่นั่นล่ะ

          ถึงจะคิดแบบนั้น แต่จะขืนหนีก็เสียดายเป็นที่สุด และเขาก็รู้ดีว่าเข้ามาอยู่ในอุ้งมือมารขนาดนี้แล้ว จะหลบลี้หนีไปยังไงก็ไม่ได้แน่ แค่เผลอถอยตามสัญชาตญาณ เด็กหนุ่มก็จับรั้งไว้เหมือนกลัวเขาจะหนีแล้ว

          ร่างกายของหนุ่มใหญ่กระตุกวาบเมื่อโดนนิ้วเรียวชอนไชเข้ามาภายในร่างกาย แรงหมุนของนิ้วและแรงดูดดุนทำเอาเขาจะคลั่งตายให้ได้ทุกขณะ และเพราะเสร็จไปถึงสองที เขาก็ชักเริ่มจะหมดแรงต่อต้าน ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบ

          “อือ…” วัฒน์ได้แต่ปล่อยเสียงครางออกมาอย่างจำยอม ราวกับมันจะช่วยให้ความรู้สึกบ้าคลั่งที่แล่นไปทั่วร่างทุเลาลงได้ “อื๊อ…”

          นิ้วที่สอดเพิ่มเริ่มขยับไหวรุนแรงขึ้น เนพยายามสอดใส่และหมุนนิ้วไปมาคล้ายกับกำลังจะหาบางอย่าง และทันทีที่ร่างตรงหน้ากระตุกวาบ เขาก็หยุดทันที

          “ดะ…เดี๋ยวสิ…ตรงนั้นมัน…”

          พูดได้เพียงแค่นั้น ก็ได้แต่ร้องครางออกมาสุดเสียง นิ้วเรียวเข้ากระแทกตรงจุดเดิมซ้ำไปมา จนอารมณ์ที่ดับไปไม่นานเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง วัฒน์ได้แต่กัดมือตัวเองแน่น อีกมือก็กำผ้าปูเตียงจนแทบจะกระชากออกมา สะโพกยกรับกับนิ้วที่รุกล้ำเข้ามาอย่างลืมตัว ในตอนนี้เขาเลิกที่จะสนใจทุกอย่าง ไม่สนแล้วว่าอีกฝ่ายจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร หรือตัวเองจะหมดแรงตายหรือเปล่า

          ไม่สนแม้กระทั่งว่าคนที่กำลังปลุกปั่นทำให้ตัวเองบ้าคลั่งเจียนตายจะเป็นศัตรูของตัวเองก็ตาม



_________________________________________________

=3=คนลงลืมส่วนหลัง ฮา มาดูก็ว่าทำไมมันสั้นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2015 17:04:39 โดย musddmp »

ออฟไลน์ dumpWINNY

  • m a e w m e i n .
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กรี๊ดดดด เรามาทวงตอนต่อไปปปปปปปป ทวง! ทวง! ให้ไว! เร็วเร็วววววววว ทนไม่ไหวแล้ว แงงงง  :katai1:

เพิ่งจะมาเล้าโลมนานๆ เอาอะไรตอนนี้อิคุณเนนนนนน แต่อย่างไรก็ตาม จงทำต่อไป  :hao6:

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :hao5: มาต่อเร็วววววว

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อยากอ่านต่อแล้ววว
มันยังไม่สุดเลยน้าาา

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ง๊า แบบนี้ฆ่ากันให้ตายเลยดีกว่า ค้างง๊า

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ค้างเฉย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
 :hao6: แฮ่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
 :hao6: มาเร็วๆค่ะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ตอนต่อไปอยู่ไหน   :call:  :call:

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 48


          ตามปกติรุตจะลงมาที่ครัวในตอนเกือบหกโมง ซึ่งเขาจะเป็นคนที่สองที่เข้ามาที่นี่ หลังนาง ที่ทำอาหารช่วงเช้าเตรียมไว้เสร็จสรรพ ก่อนจะออกไปจ่ายตลาด

          แต่วันนี้ เขาไม่ใช่คนที่สอง

          “อ้าว คุณวัฒน์…”

          รุตจะทักเรื่องที่อีกฝ่ายตื่นเช้ากว่าตัวเอง แต่พอเห็นสีหน้าของคนที่ยืนอยู่หน้าตู้เย็นเขาก็พูดไม่ออก ท่าทางของวัฒน์ดูโทรมและหมดเรี่ยวแรงมาก ขอบตาล่างก็คล้ำเสียจนชัด ไปๆมาๆท่าทางจะลืมตายังไม่ค่อยจะไหวเลยด้วยซ้ำ

          “เป็นอะไรหรือเปล่า” หนุ่มใหญ่ร่างท้วมชักเริ่มเป็นห่วง ท่าทางของวัฒน์เหมือนจะล้มลงไปกองกับพื้นได้ทุกเมื่อ

          “แค่หิวน้ำ” เสียงทุ้มที่ตอบกลับมาแหบแห้งเสียจนน่ากลัว พอมองกระป๋องน้ำเปล่าที่วางเรียงรายไว้บนเคาท์เตอร์ครัวก็ทำเอารุตผงะ แถมยังหยิบอีกกระป๋องมาซดโฮกจนเห็นแล้วอิ่มน้ำแทน “บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนั้น…”

          “แล้วคอนายไปโดนอะไรมาล่ะนั่น” รุตถามต่อเมื่อสังเกตเห็นผ้าก๊อชแปะเสียเต็มคอ และนั่นทำเอาเขาต้องผงะ เมื่อเจออีกฝ่ายมองกลับมาตาขวาง

          “แมงงี่เง่ามันกัดเอา”

          รุตได้แต่อ้าปากค้าง ยิ่งเห็นคนตัวผอมเดินไปนั่งบนโต๊ะด้วยสีหน้าคั่งแค้นเสียเต็มประดา เขาก็ไม่อยากจะเอ่ยปากถามแล้ว คิดไปว่าคงไปเจอยุงหามเมื่อคืน หนุ่มใหญ่เลยได้แต่เดินเลี่ยงออกไปจากครัว ไปรดน้ำในสวนฆ่าเวลา ดีกว่ามานั่งกินข้าวกับระเบิดเวลาเป็นไหนๆ

          ไอ้เด็กบ้านั่น

          วัฒน์ได้แต่นั่งคั่งแค้นปนสงสัยพลางบีบกระป๋องน้ำแน่น ท้ายที่สุดเนก็เอาแต่โลมเลีย ดูด กัด ซุกไซ้ สอดนิ้วใส่ แต่กลับไม่ชักอาวุธของตัวเองออกมาเลย

          มันต้องการอะไรกันแน่วะ บอกว่าอยากแต่สุดท้ายก็ไม่ทำเนี่ยนะ

          นั่งครุ่นคิดอยู่ไม่นาน ข้อสงสัยหนึ่งที่ผุดออกมาทำเอาหน้าเบี้ยว

          หรือมันจะฆ่าเราด้วยเซ็กซ์

          เขาพยายามปัดความคิดนั้นออก ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คงไม่ทำได้เร่าร้อนดูดดื่มเสียจนเหมือนจะกลืนกันไปทั้งตัวแบบนี้หรอก ที่สำคัญกว่าคือเขาไม่เข้าใจสีหน้าและท่าทางแปลกๆของเนอยู่ดี

          หมอนั่นกำลังกลัวอะไรอยู่กันแน่นะ…

          คิดแทบตายยังไงก็คิดไม่ออก ครั้นจะไปถามก็แลดูเป็นห่วงเกินเหตุ หนุ่มใหญ่ไม่อยากเสียเวลาคิดให้มากนัก ในชีวิตยังมีเรื่องสำคัญกว่าอีกเยอะ

          มันอาจจะกลัดมันขาดผู้หญิงจนเพี้ยนก็ได้

          พอคิดได้ดังนั้นบวกกินข้าวเสร็จ ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา เขากลับขึ้นห้อง หวังจะขึ้นไปนอนต่อให้ได้สักงีบ

          แต่ก็ชะงักเมื่อเห็นเด็กหนุ่มยังคงนอนอยู่บนเตียง

          อยู่ๆหน้าก็ร้อนขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ใบหน้าที่ดูหวาดกลัวของเนเมื่อคืนโผล่ขึ้นมาจ๊ะเอ๋ในหัว จากที่กำลังง่วงเหงาหาวนอนก็กลับมาตาค้างแข็งอีกครั้ง

          หนุ่มใหญ่มองอีกฝ่ายที่ยังคงหลับสนิท เขาเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วทิ้งตัวลงข้างเตียง มือหนายื่นเข้าแตะใบหน้านวลขาว เสียงลมหายใจของเด็กหนุ่มดังเป็นจังหวะและสงบ ช่างดูผิดกับเมื่อคืนเสียเหลือเกิน

          “แต่ผมก็คิดถึงคุณไม่แพ้กับคุณสิทธิ์นะ!”

          วัฒน์เบี่ยงหน้าหลบไปทางอื่น ทั้งที่รู้ว่าเจ้าคนที่นอนหลับก็ไม่เห็นใบหน้าแดงเรื่อของตัวเองในยามนี้แน่ แต่ยังไงเขาก็ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ

          มันดูเหมือนจะเป็นทางนั้น...เพียงแต่เขาไม่อยากที่จะคิด...หรือที่จริง เขาอาจจะไม่กล้าคิด...

          มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้

          วัฒน์ดึงมือออก เขายังคงนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียง ความสับสนทำเอามึนหัว รู้ทั้งรู้ว่าหากเดินเข้าไป มันก็ไม่ต่างอะไรกับเดินลงเหวแท้ๆ แต่ใจบ้าๆมันกลับสั่งให้เดินเข้าไปเสียอย่างนั้น

          “บ้าจริง” หนุ่มใหญ่อดสบถไม่ได้ พยายามปัดความคิดบ้าๆพร้อมกับตำหนิตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นไปหาที่นอนที่อื่นแทน

          แต่ไม่ทันได้ยืนก็ต้องกลับลงไปนั่งต่อเพราะโดนคนละเมอดึงชายเสื้อ

          วัฒน์หันไปหมายจะร้อง แต่ดูทรงแล้วอีกฝ่ายยังหลับเหมือนเดิม สีหน้าของเนดูทรมานแปลกๆ ราวกับกำลังฝันร้ายอยู่ก็ไม่ปาน

          “คุณวัฒน์...”

          เจ้าของชื่อกระตุกเล็กน้อย น้ำเสียงที่เรียกเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

          “คุณวัฒน์” ยิ่งโดนเรียก เหมือนรู้สึกอุณหภูมิร่างกายจะสูงขึ้นไปหนึ่งองศา “คุณวัฒน์...”

          “เน...” เห็นอาการแล้ว หนุ่มใหญ่ชักเป็นห่วง เลยคิดจะปลุกขึ้นมา “อ๊ะ”

          ทีแรกแค่โดนดึงชายเสื้อ พอเอื้อมมือเข้าไปหมายจะจับไหล่ ก็โดนอีกฝ่ายดึงเข้ามากอดเสียอย่างนั้น

          “...” วัฒน์พยายามจะส่งเสียง แต่กรามดันค้างขึ้นมาเสียดื้อๆ ครั้นจะพยายามถอยหนีก็โดนอีกฝ่ายรัดเสียแน่น พอจะคิดหาทางก็นึกอะไรไม่ค่อยออก ยิ่งใบหน้าของตนไปแนบเข้ากับแผงอกอุ่นของอีกฝ่าย เลือดมันก็สูบฉีดจนสมองหมุนติ้วไปหมด

          “คุณวัฒน์...” เนยังคงพร่ำเรียกชื่อเขาไม่หยุด และทุกครั้งที่เรียก น้ำเสียงนั้นก็เจือไปด้วยความเศร้าและความกลัวมากขึ้น “คุณจะไม่หายไปจากผมใช่ไหม...”

          เหมือนโลกหยุดหมุนไปเกือบห้านาที

          วัฒน์เริ่มขยับอีกครั้ง คราวนี้อีกฝ่ายไม่ได้รัดเขาแล้ว หนุ่มใหญ่จึงค่อยๆถอยออกมาจากอีกฝ่ายอย่างช้าๆ เมื่อหลุดออกมาจากเตียงได้ เขาก็วิ่งหนีออกไปจากห้องทันที

          หมายความว่ายังไงวะนั่น

          ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่ก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกบ้าๆที่พองโตอยู่ในใจเอาไว้ได้ ใบหน้าก็แดงจนร้อนไปหมด

          หมอนั่นมันแค่ละเมอ...มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้...มันอาจจะเรียกชื่อเรา แต่ประโยคหลังอาจจะไม่ได้พูดกับเราก็ได้...

          แต่ถึงจะใช่ ก็แล้วยังไงเล่า! เราจะไปคิดแบบนั้นกับมันไม่ได้นะ

          วัฒน์นั่งนิ่งพิงกำแพงอยู่นอกห้องนอน รู้สึกสับสนไปหมด

          มันต้องไม่ใช่แบบนั้นแน่

 

          เนนิ่วหน้าหรี่ตามองแดดที่แยงเข้ามา เด็กหนุ่มนอนเบลออยู่บนเตียงพักหนึ่ง ก่อนจะเบิกตาโพลง เด้งออกจากเตียงราวกับติดสปริง

          เขาหันมองไปทั่วห้อง แต่ในตอนนี้มีเพียงเด็กหนุ่มเท่านั้น ซึ่งดูจากเวลาที่สายโด่งแล้วก็ไม่แปลกใจนัก

          ความทรงจำเมื่อคืนแล่นเข้ามาทักทาย ทำเอาความเบลอปลิวหายไปจากหัว ใบหน้าเรียวเริ่มร้อนผ่าว ก่อนจะก้มงุดลงไปกอดเข่าตัวเองอยู่ที่ปลายเตียง ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจตัวเอง ปากบอกว่าอยากทำ แต่สุดท้ายก็เอาแต่ทำให้อีกฝ่าย แถมไม่ได้ทำแค่ทีสองที แต่เล่นจนอีกฝ่ายแทบจะตัวแห้งเลยทีเดียว

          เขานั่งนึกทบทวนตัวเอง ตอนแรกเขาก็จะทำด้วยแล้ว แต่พอนึกถึงโค้กและคำพูดเมื่อคืน อยู่ๆก็หงุดหงิดขึ้นมา ไอ้ความอยากทำก็ไม่รู้หายไปไหน ไปๆมาๆก็เอาความหงุดหงิดในใจไประบายที่วัฒน์หมด

          ทำไมกันนะ...

          เนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องหงุดหงิดโค้ก...แล้วพอหงุดหงิดก็ไม่รู้ทำไมถึงได้ อยากเห็นหน้าวัฒน์ตอนทรมานเจียนตายเพราะความสุขทางกายด้วยก็ไม่รู้

          เด็กหนุ่มบึ้งหน้า อย่างหนึ่งที่เขามั่นใจแน่ๆคือ เขาหวงวัฒน์

          แล้วจะไปหวงทำบ้าอะไรเนี่ย

          เขาไม่ยอมรับหรอกว่ารักอีกฝ่าย ต่อให้ตายยังไงก็ไม่มีทางคิดแบบนั้นแน่

          มันต้องเป็นเพราะอย่างอื่นสิ...แต่อะไรล่ะ

          เมื่อคิดไม่ออก เลยอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมาจากห้อง หวังว่าหากเจอหน้าต้นตอ อาจจะช่วยอะไรได้

          “อ๊ะ”

          เนไม่คิดว่าหนุ่มใหญ่จะยังคงยืนอยู่ที่หน้าห้องนอน พอเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลน ใบหน้าขึ้นสีของหนุ่มใหญ่ คนมองก็พานหน้าแดงไปด้วยเหมือนติดโรค

          “สะ...สวัสดีครับ...” เด็กหนุ่มเอ่ยทักอย่างตะกุกตะกักและกระอักกระอ่วน “วะ...วันนี้อากาศดีเนอะครับ...”

          “...นะ...นั่นสินะ...” อีกฝ่ายเองก็ออกอาการไม่ต่างจากตนนัก “เอ่อ...ฉันขอเข้าห้องก่อนละกัน ว่าจะพักต่ออีกสักหน่อยน่ะ...”

          “ครับ...”

          ว่าจบต่างคนต่างหนีออกจากตรงนั้นไปคนละทาง ทันทีที่ประตูปิด เนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก กลัวเหลือเกินว่าจะโดนถามหาสาเหตุของเรื่องเมื่อคืน

          แต่เห็นอีกฝ่ายหน้าแดงเป็นลูกตำลึงแบบนั้นแล้ว ไอ้ความรู้สึกขุ่นหมองข้องใจก็ปลิวหายไปไหนก็ไม่รู้

          เดี๋ยวสิ นี่เราจะดีใจทำหอยหลอดอะไรฟะเนี่ย

          เด็กหนุ่มแล่นลงมายังห้องครัว พยายามห้ามหัวใจที่เต้นผิดจังหวะจนทำให้มึนหัว แต่พอโผล่หน้าไปที่ประตูก็ต้องชะงัก เพราะไม่ได้มีแค่นางกับแมวที่อยู่ในนั้น

          “ฮายเน” ปาล์มทักเสียงใสพลางเคี้ยวไข่ชะอมเต็มปาก “แน่นี่หว่า ตื่นสายโด่งเอาป่านนี้ อาวัฒน์ไม่ว่าเอาหรือไง...”

          ปาล์มค้างไปเล็กน้อยเมื่อคู่สนทนาทำหน้าเหมือนเห็นผี

          “ก็โดนว่าอยู่...” เด็กหนุ่มโกหกเลิ่กลั่ก “ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่น่ะ มีธุระกับคุณสิทธิ์หรือ”

          “เปล่า พ่อใช้ให้มาหาแม่เฉยๆน่ะ”

          เนค้างไปสามวิ ก่อนจะมองนางที่ยังคงง่วนอยู่กับหมูผัดขิงในกระทะ จากนั้นก็มองแมวที่ยักคิ้วหลิ่วตาให้

          “จริงสิ ยังไม่ได้บอกพี่เนเลยนี่เนอะ ตาบ้านี่เป็นพี่หนูน่ะค่ะ”

          “โวะ นี่เรียกพี่ชายแสนน่ารักคนนี้ว่าตาบ้าหรือจ๊ะ ยัยแมว” ปาล์มว่าเสียงเข้มพลางมองเน “...นายไม่ได้ทำอะไรน้องฉันใช่ไหม”

          “รออยู่ แต่พี่เนไม่ยอมทำสักทีอะ”

          “เรานี่!” นางเอ็ดลูกสาวตัวดี ก่อนจะหันหน้าเหนื่อยใจไปทางเน “ถ้าไม่ชอบก็พูดออกมาเลยนะ ลูกสาวป้าน่ะชอบแหย่คนอื่นนัก”

          “ฮะๆๆ ไม่หรอกครับ น้องแมวแซวแบบนี้น่ารักดีออก”

          “เห็นไหมล่ะ แม่อะชอบว่าหนูอยู่เรื่อย ทีกับปาล์มไม่เห็นจะว่าสักคำ” เด็กสาวบ่นอุบ “จะว่าไป วันนี้พี่เนว่างหรือเปล่าคะ เราไปเที่ยวกันนะ”

          นางหันมาค้อนแมว ส่วนเจ้าพี่ชายหันมาค้อนเนแทน

          “งั้นฉันไปด้วย” ยังไม่ทันที่คนโดนชวนจะตกลง ปาล์มก็เอ่ยอาสาแกมบังคับเสียแล้ว เล่นเอาแมวทำแก้มป่องใส่ “ไม่งั้นฉันไม่ให้ไป”

          “ได้สิครับ” ได้ยินคำตอบที่ออกมาง่ายๆจากเด็กหนุ่ม แมวถึงกับตัวลอย “ถ้าป้านางไม่ว่าอะไรน่ะครับ”

          “...ถ้าเราโอเค ป้าก็ไม่ว่าหรอกจ๊ะ แต่รีบกลับก็แล้วกัน”

          “ค่า งั้นหนูไปแต่งตัวก่อนนะ ขอเวลาสิบนาที”

          ได้รับคำอนุมัติจากมารดา เด็กสาวก็แผ่นหายออกไปในครัวทันที ปล่อยให้คนเป็นแม่ได้แต่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของลูกสาว


____________________________________________

มะ....มีแค่นี้นะตัวเอง ;w;

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มจึกๆ
อาวัฒน์เขินนน กิ๊วๆๆ //แซวคนแก่จะบาปมั้ย 55555
อาแกจะหึงเนกะแมวป่ะเนี่ย
แต่ที่ช็อคคือนางเป็นแม่ปาล์ม!? เงิบบ ค้างสามวิเหมือนเนเลย
รอตอนหน้าจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2015 17:25:49 โดย boboman »

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เงิบไปสามวิ นางเป็นแม่ปาล์ม

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
สั้นไปนะ  :ling1:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เดี๋ยวมีลมหึงอีกหรอก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 49


          “นี่ตกลงนายชอบแมวหรือ”

          พอเดินออกจากครัวมาถึงหน้าบ้าน ปาล์มก็ถามขึ้นด้วยสีหน้าขึงขังจริงจังมาก ทำเอาเนเผลอหลุดหัวเราะออกมา

          “ฉันก็เห็นเป็นแค่น้องสาว...น้องนายก็คิดกับฉันแค่พี่เหมือนกันนี่” เขาก็ไม่ได้อยากจะอวด แต่เพราะเคยคบและอยู่กับผู้หญิงมาเยอะ ถึงดูออกว่าใครคิดอะไรกับตน…แต่ไม่รู้ทำไมกับตาลุงนั่นถึงดูไม่ออกสักที

          หรือจริงๆ มันก็ดูคล้ายๆ และดูน่าจะใช่ แต่เพราะไม่อยากจะคิดว่าจะเป็นแบบนั้น ถึงได้ว้าวุ่นไม่เลิก

          มันก็แค่เซ็กซ์เท่านั้น…

          เนสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อเห็นสีหน้าของปาล์มที่กำลังมองมาด้วยความสงสัย เพราะอยู่ๆเขาก็นิ่งไปเสียดื้อๆ

          “เชื่อไหมล่ะว่าเดี๋ยวออกไป น้องนายก็แยกกับเราไปหาตัวจริงของเขาโน่น” เนรีบพูดกลบอาการ ซึ่งได้ผลชะงัก

          “เดี๋ยวนะ นายรู้ได้ไงวะ”

          “ก็เมื่อกี้ตอนแมวชวนฉัน เธอแอบขยิบตาแถมยังทำหน้าขอร้องฉันด้วยนี่หว่า” คำอธิบายของเนยิ่งทำเอาปาล์มหน้าเหวอ “เอาเถอะ ฉันเองก็อยากจะออกไปข้างนอกเหมือนกัน เลยตกลงไง...พอดีมีเรื่องอยากปรึกษากับนายหน่อย ถ้าไม่ว่าอะไรละนะ”

          ปาล์มนิ่วหน้าท่าทางไม่แน่ใจนัก “ก็ได้...แต่ต้องหลังจากรู้ว่าแฟนแมวเป็นใครน่ะนะ”

          “หวงน้องเหลือเกินนะ” ปากก็แซว แต่ก็อดหวั่นไม่ได้ ดีนะที่ตอนแรกที่เขามาที่บ้านนี้ ไม่หน้ามืดงาบแมวไปเสียก่อน ไม่อย่างนั้น คงได้โดนรุมประชาทัณฑ์จากบรรดาพ่อแม่พี่อาเป็นแน่

          “ไม่ได้หวงเว้ย แค่เป็นห่วง” ปาล์มแหวว “ว่าแต่ นายมีเรื่องอะไรจะปรึกษาหรือ”

          ไหนว่าต้องหลังจากไปหาแฟนแมวไงวะ ไอ้นี่

          “บอกไว้ก่อนเลยนะว่าไม่ใช่เรื่องรักๆใคร่ๆ ไม่ต้องให้ความเห็นไปทางนั้นเลย” ได้ยินเนกำชับ ปาล์มถึงกับเลิกคิ้ว “นายคิดว่าจะมีสาเหตุอะไรที่ทำให้เรารู้สึกหวงอีกฝ่าย ไม่อยากให้ไปอยู่กับแฟนหรือคนที่ชอบเขาบ้างไหม”

          “หวงเพื่อนมั้ง...อ้อ แต่นายไม่ค่อยมีเพื่อนเลยไม่เคยเจอสินะ เห็นต่อบอกมา ฮะๆ” คู่สนทนาว่าเสียงใส “ก็มีนะ พวกที่บ้าแฟนจนลืมเพื่อน ถึงจะไม่ต้องมาตัวติดกันตลอดเวลา แต่พออยู่ๆมันหายหัวไป เอาแต่ตามก้นสาว ก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี”

          “งั้นหรือ...” เนรู้สึกเหมือนเห็นแสงส่องทางในความมืด

          “แล้วคนที่ว่านี่ใครหรือ”

          จากที่กำลังวิ่งไปทางแสง ถึงกับเลี้ยวกลับมาแทบไม่ทัน

          “เอ่อ...จะเรียกว่าเพื่อนก็กระไรดี...คือ เขาเป็นญาติสนิทของฉันน่ะ” ครั้นจะบอกว่า เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ ก็กลัวอีกฝ่ายจะเข้าใจไปถูกจุด เลยพยายามเบี่ยงแต่ใกล้เคียงแทน “อ้อ ญาติผู้ใหญ่น่ะนะ เขาเคยช่วยฉันหลายอย่างตอนลำบาก...”

          “อ๋อ ก็คงอาการเดียวกันนั่นล่ะ เหมือนลูกที่หวงพ่อแม่ตอนพ่อแม่จะมีแฟนใหม่ไง ใช่ไหมล่ะ ฮะๆ” ปาล์มพูดคล่องจนเนเริ่มสงสัยว่าเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า “พอดีเมื่อก่อนพ่อฉันก็มีผู้หญิงมายุ่งเยอะเหมือนกัน เลยพอจะนึกออกน่ะ...แต่เห็นแบบนั้น พ่อเขาไม่นอกใจเลยนะเว้ย”

          ถ้างั้นแกกับแมวได้นิสัยโปรยขนมจีบไปทั่วจากใครมาฟะ จะบอกว่าป้านางเรอะ?

          “แต่ไอ้เรื่องเจ้าชู้ ปากหวานมันก็มีบ้างล่ะน่า เพียงแต่คนที่เข้ามามันไม่ใช่สเป็ก เลยรอดปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้ไง” เห็นสีหน้าเหยเกของคนฟัง ปาล์มก็พูดเหมือนจนแต้ม “พอดีป๋าฉันชอบผู้หญิงอายุมากกว่าตัวเองสักสิบกว่าปีไง เพราะงั้นแม่เลยไม่กังวลที่พ่อไปทำงานที่บาร์ เพราะยังไงก็ไม่มีทางนอกใจแหงม...ถ้าไปวัด หรือไปตลาดตอนเช้าก็ว่าไปอย่าง ฮะๆ”

          ฟังแล้วเนถึงนึกขึ้นได้ เพราะดูแล้วฉัตรน่าจะสี่สิบต้นๆ ในขณะที่นางอายุห้าสิบกว่า

          “อ้อ...” เนลากเสียง รู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก

          ใช่ เขาไม่ได้รักวัฒน์แบบนั้นหรอก ก็แค่นับถือ รู้สึกผิด และไม่อยากให้ใครมาแย่งก็เท่านั้น...ส่วนเรื่องนอนนั่นของแถมเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น…

          แค่นั้นเท่านั้น...

          ปาล์มนิ่วหน้าใส่คนที่กำลังเหม่อ เขาอ้าปากเหมือนต้องการจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เงียบลงเมื่อน้องสาวตัวดีปรี่เข้ามาหา

          “รอนานมั้ยค้า” แมวทักเสียงใส ก่อนจะขยิบตาให้เนอีกครั้ง “ขอบคุณนะคะพี่เนที่ยอมมาเป็นเพื่อน…”

          “ไม่ต้องเลย ฉันก็ไปด้วย” ได้ยินปาล์มพูดแล้วหน้าบูดทันควัน “แกแอบไปมีแฟนเมื่อไหร่ที่ไหนวะ ทำไมฉันไม่เห็นรู้”

          ทำหน้ายู่ยับเสียจนใบหน้าที่แต่งจนสวยกลายเป็นผ้าขี้ริ้วเลยทีเดียว

          “ถ้าบอกแล้วอย่าไปบอกแม่ได้ไหมล่ะ” เด็กสาวทำแก้มป่อง ก่อนจะยิ้ม “อ้อ เอาเถอะ ถ้านายบอก เดี๋ยวฉันจะลิสต์รายชื่อบรรดาว่าที่สะใภ้ของนายให้แม่ฟัง ฮิๆ”

          คราวนี้ปาล์มเป็นฝ่ายหน้าเบี้ยวแทน

          “เออๆ ไม่บอกหรอกน่า แล้วตกลงเป็นใคร ใช่คนที่ฉันรู้จักหรือเปล่า”

          เด็กสาวยิ้มพราย “ถ้างั้นเราไปเจอเขาเลยดีกว่าเนอะ”

          สุดท้ายเธอก็ปล่อยให้สองหนุ่มรอเซอร์ไพรส์เสียอย่างนั้น แล้วเดินนำออกไปยังรถเก๋งของพี่ชายตัวเอง จากนั้นก็โบกมือเร่งพวกเขา ราวกับทั้งสองเป็นฝ่ายที่ชักช้าเสียเอง

          จุดหมายปลายทางนั้นก็ไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นห้างที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนั่นเอง ในวันนี้เป็นวันหยุด ผู้คนจึงเยอะกว่าปกติ แต่กระนั้นแมวกลับไม่ได้สนใจพี่ชายที่เดินตามมาติดๆราวกับกลัวเธอหลงนัก ทำเอาเนได้แต่ลอบยิ้มกับความหวงน้องอยู่ข้างหลังทั้งสอง ทั้งสามหยุดลงตรงหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งแมวบอกว่าได้นัดแฟนเอาไว้ระหว่างที่นั่งรถมา

          “ไหน ใคร...” ปาล์มเค้นเสียงเข้ม ซึ่งเนก็ไม่แปลกใจนัก เพราะตอนแมวไลน์คุยกับแฟน ปาล์มก็ทำท่าเหมือนจะไปคว้ามือถือเด็กสาวเสียให้ได้ ผิดแต่ว่าเขาขับรถ และคนเป็นน้องเองก็ระวังตัวแจเหมือนรู้ทัน “ผู้ชายที่ไหนให้ผู้หญิงมาก่อนฟะ ท่าทางไม่ใช่คนดีนักหรอก”

          “ขอโทษละกันนะ...แต่ฉันมาตั้งนานแล้ว...”

          เสียงทุ้มเย็นยะเยือกฟังแล้วชวนขนลุกดังขึ้นอย่างแผ่วเบาจากด้านหลังของทั้งสอง และพอหันไป ปาล์มก็ทำหน้าเหมือนเห็นกาลอวสานของโลก

          “แก...นี่แก...” คุณพี่ชายดูจะอึ้งมากมาย ท่าทางจะไม่รู้เลยสักนิดว่าเพื่อนร่วมงานจะเป็นแฟนน้องสาว

          “งี้แหละ เอาแต่ปล้ำอยู่กับสาว ไม่สนใจน้องนุ่ง” แมวทำปากจู๋ใส่ ก่อนจะปรี่เข้าไปคว้าแขนต่อ เล่นเอาคนที่กำลังค้างถึงกับได้สติและหน้าเบี้ยวอย่างกับผ้าขี้ริ้วโดนบิด

          “อย่ามองแบบนั้นสิ...ฉันกลัวนะ...” คนที่ดูน่าสะพรึงกว่าพูดเสียงค่อย ก่อนจะวาร์ปหลบไปอยู่หลังแฟน “ถ้าพี่เป็นอะไรไป...สงสัยไอ้ปาล์มก่อนเลยนะ”

          ปาล์มชักสีหน้าใส่ “ฉันมากกว่าที่น่าจะเป็นอะไรไปน่ะ โอ๊ย จะบ้าตาย ทำไมไม่เห็นจะบอกกันบ้างเลยวะเนี่ย”

          “บอกแล้วนายจะยอมหรือ เมื่อก่อนมีคนมาจีบแมวออกจะเยอะ นายยังกันไม่ยอมให้เข้าใกล้เลย” ได้ยินที่ต่อพูดแล้วแมวยิ่งส่งสายตาปานจะยิงแสงเลเซอร์ออกมาได้ใส่ปาล์ม

          “เอ้า ก็พวกที่เข้ามามีแต่พวกสิงสาราสัตว์ทั้งนั้นนี่หว่า ฉันไม่อยากรีบมีหลานนะเว้ย” ปาล์มพยายามพูดขึ้นเสียงเหมือนจะกลบความกลัวเพราะโดนแมวจ้องจนจะกินเลือดกินเนื้อ

          “กลัวอะไร ทีพ่อยังมีนายตอนสิบเจ็ดเลย ฉันยี่สิบแล้วนะ เลยมาตั้งสามปีแล้ว” ได้ยินแม่ม้าดีดกะโหลกว่า พี่ชายก็ได้แต่หน้ามืด จนเนชักกลัวว่าปาล์มจะล้มทั้งยืน “เอาน่า พวกฉันไม่พลาดก่อนแต่งหรอก ห่วงตัวเองเถอะ”

          โดนย้อนโดนเถียงขนาดนี้ แต่พี่ชายก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆเพราะเถียงไม่ออก

          “เอาน่าๆ นายก็หัดเชื่อใจน้องตัวเองบ้างสิ แมวเขาไม่ใช่คนแบบนั้นน่า” เนพยายามกล่อมให้ปาล์มเลิกกังวลเสียที “นี่มาเที่ยวไม่ใช่หรือไง เราเลิกพูดเรื่องเครียดๆแล้วไปสนุกกันดีกว่าน่า”

          สีหน้าของปาล์มบ่งบอกว่าไม่ยอมอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่อาจห้ามหรือรั้งอีกฝ่ายได้

          “เออ พาน้องฉันกลับบ้านก่อนห้าโมงนะเฟ้ย” ได้ยินพี่ชายกำชับแล้ว ทั้งเนและแมวถึงกับหลุดขำ ทำเอาปาล์มชักสีหน้าใส่

          “ครับคุณพี่”

          “ใครพี่แกฟะ! ไอ้นี่”

          “น่าๆ” เนื่องจากเบื่อจะดูละครดราม่าแล้ว เนจึงพยายามตัดบทและดึงปาล์มที่ทำท่าจะกระโดดกัดคอต่อ “ถ้างั้นพวกเราไปก่อนนะ เที่ยวกันตามสบายเลย”

          แมวกับต่อรีบเผ่นอย่างรวดเร็วจนปาล์มได้แต่แยกเขี้ยวใส่

 

          “อ้าว คุณวัฒน์ เห็นรุตบอกว่าขึ้นไปพัก นอนยาวเลยนะ”

          คนเพิ่งตื่นปรือตามองคู่สนทนาอย่างยากลำบาก หนุ่มใหญ่ทรุดกายลงบนเก้าอี้ไม้ในครัว ก่อนจะคว้ากระป๋องน้ำตรงหน้าขึ้นมาซดโฮกจน นางที่กำลังหั่นเนื้อเผลอจ้องหนุ่มใหญ่ด้วยความกังวลปนเป็นห่วง

          “ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ต้องเรียกแบบนั้น” วัฒน์ว่าพลางยิ้มเจื่อน ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบห้อง “...แล้วนี่ เอมกับแมวไปไหนล่ะครับ”

          “ยัยเอมไปนอนกลางวันในห้องน่ะ ส่วนยัยแมวขอออกไปเที่ยวกับเนน่ะ” จากที่กำลังง่วงๆถึงกับตื่นเต็มตา จนหญิงวัยกลางคนสะดุ้ง “...แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ตาปาล์มก็ไปด้วย คงไม่เกิดอะไรไม่ดีหรอก”

          แต่เห็นสีหน้าของหนุ่มใหญ่แล้ว นางก็ชักกังวลขึ้นมาจริงๆจังๆ

          “อ๊ะ...ไม่หรอกครับ ไปกับปาล์มคงไม่เกิดอะไรไม่ดีหรอก” วัฒน์โบกมือให้ ทั้งที่ยังหน้านิ่วคิ้วขมวด

          ในทีแรกเขายอมรับว่ากังวล...แต่เรื่องที่กังวลกลับไม่ใช่เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายอาจจะใช้โอกาสนี้แยกตัวไปหาเดช

          ทำไมเราต้องหงุดหงิดโหวงเหวงที่รู้ว่าไอ้เด็กนั่นสนิทกับปาล์มและแมวถึงขั้นไปเที่ยวด้วยกันละวะ จริงๆเราควรจะเป็นห่วงแมวมากกว่าสิโว้ย!

          คิดแล้วก็ได้แต่เหนื่อยใจตัวเอง วัฒน์พยายามสะบัดเรื่องไม่เป็นเรื่องออกจากหัว หลับหูหลับตายัดข้าวลงท้อง หวังจะรีบกลับขึ้นห้องไปหาอะไรทำเพื่อให้เลิกฟุ้งซ่านเสียที

          กิ๊งก่อง...

          เสียงกระดิ่งดังขึ้นในจังหวะที่หนุ่มใหญ่กินข้าวเสร็จพอดี วัฒน์จึงอาสาไปเปิดประตูให้แทนนางที่กำลังมือเลอะ

          “อ้าว” พอเห็นว่าเป็นโค้กกับศาสตร์ หนุ่มใหญ่ก็อดประหลาดใจไม่ได้ “มีธุระอะไรกับคุณสิทธิ์หรือ”

          “เปล่าคร้าบ กับอาวัฒน์หรอก” นั่นยิ่งทำให้คนฟังเลิกคิ้วขึ้นไปอีก “นั่นคออาไปโดนอะไรน่ะครับ”

          “…โดนแมลงกัดน่ะ” ทั้งที่โค้กก็ไม่ได้เข้ามาจับ แต่มือมันก็ดันยกขึ้นปิดคอตัวเองเสียอย่างนั้น “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หาย”

          “แต่ถึงขนาดแปะผ้าพันแผลเอาไว้แบบนี้ ผมว่าไปโรงพยาบาลน่าจะดีกว่านะครับ” ศาสตร์ช่วยเสริมด้วยความเป็นห่วงไม่แพ้กัน

          “มะ…ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หาย”

          ถ้าไปหาหมอแล้วรู้ความจริง ฉันคงต้องหายไปจากโลกนี้เลยล่ะ…คิดแล้วก็แค้นไอ้เด็กบ้านั่น!!

          “แล้วมาหาฉันทำไมหรือ” วัฒน์พยายามเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากจะนึกถึงความทรงจำบาดจิตสะท้านหัวใจนัก

          “ก็…จำได้ไหมครับเมื่อคืนที่ว่าจะชวนไปเที่ยวน่ะ วันนี้ว่างไหมครับ ไปเที่ยวกันน้า”

          หนุ่มใหญ่นิ่วหน้า ที่จริงเขาก็ไม่ได้รังเกียจหรืองานยุ่ง เพียงแต่แปลกใจที่คนหนุ่มกว่าชวนคนวัยอาไปเที่ยวนี่ล่ะ เขาก็นึกว่าโค้กแค่ชวนพอเป็นพิธีเท่านั้น

          “คือแบบว่า ไหนๆก็จะถึงวันเกิดอาแล้วไงครับ พวกเราอยากซื้อของขวัญให้น่ะครับ แต่อยากให้อาเป็นคนเลือก เลยจะชวนไปด้วย”

          “อะไรกัน ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก แค่น้ำใจก็เกินพอแล้ว แถมยังอีกตั้งเดือนกว่าเลยนะ” หนุ่มใหญ่หัวเราะขึ้นอย่างเอ็นดู พลางคิดถึงคนใกล้ตัว ที่ดูแล้วคงไม่มีทางมาทำแบบนี้กับตนหรอก

          เดี๋ยวๆ...แล้วเราจะไปนึกถึงไอ้เด็กเวรนั่นทำไมวะ

          “น่าครับ พวกผมกลัวไม่มีเวลา…ไม่อย่างนั้นก็เพื่อพวกผมที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลก็ได้ ไปด้วยกันเถอะน้า” โค้กออดอ้อนพร้อมกับเข้าไปเกาะแขนวัฒน์ จนศาสตร์เผลอชักสีหน้า “หรืออาไม่อยากไปกับพวกผมละครับ”

          ถึงใครจะหาว่าเย็นชาดูใจร้าย ไม่สนใจใครยังไง แต่เอาเข้าจริงๆถ้าโดนคนรู้จักอ้อนขึ้นมา วัฒน์ก็ปฏิเสธไม่ค่อยจะออกหรอก

          “เอ้า ก็ได้ ถ้าไม่เบื่อจะไปกับคนแก่ละนะ”



______________________________________________


แยกย้ายกันไปเที่ยว แต่เดี๋ยวจะได้เจอกัน XD

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ก็ไม่รู้สินะ  ปล่อยไปตามยะฐากรรมแล้วกันสองคนนี้อะ  รอวันที่เนกับเดชโคจรมาพบกัน แล้ววัฒน์มาจะะเอ๋พอดีอยู่นะ จะได้ตายกันไปข้าง    o18

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
โค้กกับศาสตร์นี่ แท็กทีมกันมาอีกแล้วนะ   :katai3:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เป็นแมลงที่ร้ายจริงๆ กระชากผ้าพันแผลออกแหม่ม!!   :haun5:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เดี๋ยวก็โป๊ะเชะกันอีกจนได้สิน่า -.-
รอน้า

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 50


          “บอกเลยนะว่าถ้าเป็นคนอื่นฉันไม่คิดอะไรหรอก แต่พอมากับนายแล้วเสียวหลังยังไงพิกลก็ไม่รู้”

          เนมองปาล์มที่ออกอาการโอเวอร์แอคติ้งเสียเหลือเกิน ท่าทางจะเลิกเป็นห่วงแมวแล้ว แต่คราวนี้คงเพราะโดนสายตามากมายมองมาทางพวกตนที่กำลังนั่งแกร่วอยู่ในร้าน อาหารฟาสฟู้ดส์แห่งหนึ่ง ทั้งยังสาวๆบางโต๊ะก็แอบซุบซิบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่ ปาล์มถึงได้อดพูดออกมาไม่ได้

          “ทำไมไม่คิดว่าเขาอาจจะอยากเข้ามาคุยกับเราบ้างวะ” อันที่จริง เขาเองก็แอบสงสัย แต่เพราะไม่ได้คิดอะไรกับคุณหลานเลยสักนิด จึงไม่ค่อยรู้สึกอะไรนัก อันที่จริง เขาก็ไม่ได้อยากจะมาเที่ยวอะไรนักด้วย

          แต่พอคิดว่าต้องอยู่ในบ้านกับคนที่ทำให้ในหัววุ่นวายจนแทบบ้า เลยคิดว่าออกมาข้างนอกห่างจากอีกฝ่ายไปบ้างน่าจะดีกว่า

          “ว่าแต่คนที่นายหวงนี่ ผู้ชายหรือผู้หญิงวะ”

          เจอปาล์มเปลี่ยนเรื่องทีเดียว เนถึงกับสำลักน้ำโค้กออกจมูก

          “จะถามทำไมวะ” หลังจากเช็ดน้ำหูน้ำตาแล้วก็โพล่งออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว ก่อนจะหรี่เสียงกลับมาเบาหวิว “เขาเป็นญาติผู้ใหญ่ฉันจะ จะไปคิดอะไรเกินเลยได้ยังไงเล่า”

          “ก็ไม่แน่ เดี๋ยวนี้เอากันเองเยอะไป” สีหน้าท่าทางในการให้คำตอบของปาล์มนั้นจริงจังจนเนไม่กล้าสวนกลับ “ที่สำคัญคือ ฉันไม่เชื่อว่าเป็นญาติว่ะ ถ้าเป็นงั้นจริง แกคงบอกว่าเป็นญาติ ก่อนจะบอกว่าห้ามฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องรักๆใคร่ๆอยู่แล้ว...ว่าไง ตกลงเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ไอ้ ‘ญาติ’ ผู้ใหญ่ของแกน่ะ”

          คราวนี้ถึงกับคิดไม่ตก

          “...ผะ...ผู้หญิง” และไม่รู้ว่านึกอะไรถึงได้พลั้งปากเปลี่ยนเพศให้เสียเฉยๆ

          “ว่าแล้ว” เห็นอาการเหมือนผู้ชนะของปาล์มแล้วเนอยากจะตะบันหน้าอีกฝ่ายตงิดๆ “ถามจริง ไม่คิดไปทางนั้นเลยสักนิดจริงๆอะ”

          “ไม่” เด็กหนุ่มตอบเสียงเฉียบ “ไม่มีทาง แล้วก็ไม่มีวันแน่”

          ได้ยินอีกฝ่ายยืนยันเสียงหนักแน่น คนฟังถึงกับเลิกคิ้ว

          “นายมีปัญหาอะไรถึงไม่อยากรักเขาขนาดนั้นวะ”

          ก็เป็นผู้ชาย แถมเป็นอาแกอีก...จะให้พูดได้ไงวะ!

          “ก็เขาแก่กว่าตั้งเยอะ” นั่นเป็นเหตุผลที่ฟังดูเข้าทีที่สุดแล้ว “ฉันไม่ได้อยากเป็นนักโบราณคดีนะเฟ้ย”

          “ก็ไม่แน่นา อาจจะแหล่มกว่าสาวๆก็ได้” เห็นสีหน้าปาล์ม เนก็รู้เลยว่า เพราะไม่ใช่เรื่องตัวเองถึงได้พูดเชียร์ จนเนชักคิดผิดที่มาปรึกษา “เฮ้ย นี่ฉันจริงจังนะ ไม่ได้เห็นเป็นเรื่องเล่นๆเลยนา”

          ไม่เห็น แต่หุบยิ้มไม่อยู่เนี่ยนะ

          อยู่ๆเจ้าคนที่ยิ้มชั่วร้ายก็นิ่วหน้าพลางมองข้ามไหล่เนไป จนเด็กหนุ่มต้องหันตาม

          “มองอะไร…” ทีแรกว่าจะถามเพราะทางที่มองเป็นแค่ทางเดินในห้างที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ แต่ยังไม่ทันถามจบ สายตาก็เหลือบไปเห็นร้านเสื้อผ้าชายที่อยู่อีกฝั่ง ซึ่งมีคนหน้าตาคุ้นเคยอยู่ด้านใน

          เขาเห็นวัฒน์ยืนดูเสื้ออยู่แค่คนเดียว ซึ่งอันนั้นก็ชวนแปลกใจมากพอแล้ว เพราะตั้งแต่อยู่กันมา เขาแทบไม่เคยเห็นวัฒน์มาเที่ยวเลย ยกเว้นตอนไปซื้อของฝากเยี่ยมไข้ให้ไอ้หน้านิ่งกับไอ้หน้าเป็นที่โรงพยาบาล

          แต่พอสักพัก ไอ้หน้าเป็นก็ปรี่เข้ามาจากไหนก็ไม่รู้ พร้อมกับเนคไทในมือเป็นกอง แน่นอนว่าไอ้หน้านิ่งก็ตามมาอย่างไม่ลดละ เที่ยวพากันแย่งเสนอเนคไทของตนให้วัฒน์กันวุ่นวาย

          เดี๋ยวสิ ไหงไปอยู่ด้วยกันแบบนั้นฟะ...แล้วไอ้ท่าทางกระหนุงกระหนิงนั่นมันอะไร...แล้วทำไมต้องแตะเนื้อต้องตัวกันขนาดนั้นวะ นี่ลองเนคไทหรือหาจังหวะลวนลามกันฟะ ทำไมมือพวกบ้านั่นไปแตะในที่ๆไม่น่าจะแตะแบบนั่นเล่า...

          แล้วเราจะปรี๊ดแตกทำไมเนี่ย!!!

          “ไหงอาวัฒน์กับพวกพี่โค้กไปทำอะไรในร้านเสื้อผ้าชายหว่า...” ปาล์มทักด้วยความสงสัยก่อนจะตีหน้าเหวอ “หรือว่าสองคนนั่นแอบชอ...”

          “จะบ้าเรอะ! คิดได้ไงวะ” เนรีบขัดขึ้นอย่างหัวเสีย เนื่องจากไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดไปทางนั้น ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม และก็ไม่อยากฟังอะไรที่มันบาดหูด้วย

          “ก็มันน่าคิดนี่หว่า” ปาล์มแบะปาก “นายอาจจะไม่รู้ สองคนนั่นโดนจีบบ่อยจะตาย แต่เชื่อหรือเปล่าว่าพี่ศาสตร์ไม่เคยมีแฟนเลยนะ บอกแค่ว่ามีคนที่ชอบแล้ว ส่วนพี่โค้ก ปีสองปีมานี่ก็ไม่ได้คบกับใครเลย ทั้งที่เป็นเสือผู้หญิงแท้ๆ ไอ้เราก็ยังแซวกันอยู่เลยว่ากินกันเองหรือเปล่า”

          เนกระตุก กับศาสตร์เขาอาจจะยังหาหลักฐานยืนยันไม่ได้ แต่คำพูดของโค้กเมื่อวันก่อนยังคงตราตึงติดแน่นหนึบอยู่ในหัวยิ่งกว่าทากาวตราช้าง

          “แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก ฮะๆ” ก่อนที่เนจะกังวลจนเตลิดไปมากกว่านี้ ปาล์มก็กลับมาเอ่ยด้วยท่าทางสบายๆ “ให้แค่พ่อกับนายเป็นพวกนิยมวัตถุโบราณกันสองคนก็พอแล้ว ฮะๆ”

          เนไม่แน่ใจว่าที่รู้สึกหงุดหงิดเพราะโดนแซว หรือเพราะอะไรกันแน่

          “ไปแกล้งดีกว่า...อุก” ก่อนที่หนุ่มหน้าเป็นจะลุกก็โดนเพื่อนร่วมโต๊ะกระชากคอเสื้อจนหน้าแทบจะจูบกับโต๊ะ “อะไรของนายวะ”

          “ฉันว่ามันไม่ดีมั้ง...” ที่จริง เขานี่แหละที่อยากจะพุ่งเข้าไปหาเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็พยายามท่องอยู่ในใจว่าตนแค่หวงวัฒน์เหมือนหวงพ่อก็เท่านั้น

          ปาล์มมุ่นคิ้วคล้ายไม่พอใจ ก่อนจะยิ้มเย็น “ดีสิ เมื่อก่อนไอ้พี่โค้กมันชอบมาขัดจังหวะฉันตอนอยู่กับสาวๆจะตาย ถ้าไม่แกล้งกลับบ้างก็ไม่หายแค้นหรอก นายก็อย่ากลัวอาวัฒน์ไปหน่อยเลยน่า”

          “ฉันไม่ได้กลัวสักหน่อย แค่เกรงใจต่างหาก”

          “ดี งั้นไปกัน”

          นี่ฟังที่ตูพูดไหมเนี่ย~~~~~~~

          แม้จะไม่อยาก แต่โดนรบเร้าบวกกับโดนแรงควายฉุดไม่เลิก เนจึงยอมตามอย่างเสียมิได้ และพยายามท่องอยู่ในใจว่าที่ไปก่อกวนเนี่ย เพราะปาล์มทั้งนั้น ไม่ได้เป็นเพราะใจตัวเองเลยสักนิด

          “ผมว่านี่ต้องเหมาะกับอาวัฒน์แน่เลย”

          แต่พอเข้าไปใกล้แล้วเห็นฉากโค้กเอาเนคไทเข้าทาบอกราบๆของลุงแกเท่านั้นล่ะ จากที่กำลังโดนลาก กลายเป็นฝ่ายลากปาล์มแทน

          “อ้าว คุณวัฒน์ บังเอิญจังนะครับ”

          อย่าว่าแต่พวกวัฒน์เลย เล่นตะโกนลั่นเสียขนาดนั้นตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า คนที่เดินอยู่ด้านนอกร้านยังหันมามอง ทำเอาคนร้องทักเริ่มรู้ตัวว่าเสียงดังเกินเหตุ

          “มะ...แหม บังเอิญสุดๆเลยนะครับ ฮะๆๆ” เนพยายามกลบเกลื่อนด้วยการหัวเราะเหมือนคนบ้า และรีบเดินเข้าไปหาวัฒน์เพราะกลัวเจ้าของร้านจะเรียกรปภ.มาลากตัวเองออกไป

          วัฒน์ผงะเล็กน้อย ทีแรกก็รู้สึกขัดเขินเพราะนึกถึงเรื่องเมื่อเช้า แต่น่าแปลกที่เมื่อเห็นเนเดินควงแขนกับปาล์มมา (ซึ่งอันที่จริง มองไปมองมาแล้วน่าจะเรียกว่าลากมากกว่าควง) จากที่กำลังสับสนกระวนกระวายเมื่อได้เห็นหน้าเน ก็กลับมาขุ่นเคืองทันควัน

          สนิทกันขนาดนี้เลยหรือ...ใช่ มันไม่ควรจะมาสนิทกับหลานตู!! เกิดมันเข้าทางปาล์มเพื่อหลอกหาข้อมูลก็แย่สิ!! ใช่แย่ๆๆ แย่มาก!!!

          “ปาล์ม ไหนพี่นางบอกว่าแมวมาด้วยไง”

          คนหาเรื่องแกล้งหน้าซีดทันควัน

          “เขาไปกับต่อน่ะครับ” เนตอบออกมาอย่างง่ายดายจนปาล์มหันหน้าเหวอๆมามอง “พอดีเราแยกกันเที่ยว แต่ก็นัดกันแล้วว่าจะกลับก่อนห้าโมง”

          วัฒน์นิ่วหน้ามอง บอกตรงๆว่าให้แมวไปกับต่อยังจะรู้สึกดีกว่าไปกับเน...แน่นอนว่าเพราะเป็นห่วงหลานสาวแสนสวยของตัวเองเท่านั้น...ไม่มีอะไรอื่นแถมพ่วงมาด้วยเลยสักกระผีกเดียว

          “ว่าแต่พวกอามาทำอะไรหรือครับ” พอรอดจากเหตุการณ์ขวัญผวา ปาล์มก็กลับมาทำตามจุดประสงค์เดิมต่อ

          “อ๋อ พอดีเดือนหน้าก็จะถึงวัดเกิดอาวัฒน์แล้ว เลยชวนมาซื้อของขวัญให้น่ะ” โค้กตอบเสียงระรื่น ก่อนจะนิ่วหน้ามองคู่สนทนา “...อะไรไอ้ปาล์ม ทำหน้าแบบนั้นอย่าบอกว่าไม่รู้นะ เป็นหลานที่แย่จริงๆ”

          “โอ๊ย ขนาดวันเกิดของยัยแมวกับพ่อฉันยังจำไม่ได้เล้ย” ปาล์มร้องก่อนจะยิ้มพราย “แต่ไหนๆก็รู้แล้ว ถ้างั้นพวกเราก็ซื้อให้อาวัฒน์บ้างดีกว่าเนอะ เน”

          เจ้าของชื่อถึงกับถลึงตาเกือบถลน ลุกลี้ลุกลนด้วยความเขิน โชคดีที่คนอยู่เยอะ เลยระงับอาการได้เร็วจนหน้าไม่ขึ้นสี

          “อ๊ะ ว่าแต่คออาวัฒน์ไปโดนอะไรมาหรือครับ ปิดผ้าพันแผลซะน่ากลัวเลย...”

          ปาล์มชะงักเมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึงของอา ซึ่งถือเป็นโชคของเนที่ทุกคนมัวแต่มองวัฒน์ จึงไม่ทันสังเกตอาการอีหลักอีเหลื่อของเขา

          “อาวัฒน์บอกว่าโดนแมลงกัดเมื่อคืนน่ะ” โค้กเป็นคนตอบแทน และนั่นทำให้ต้นเหตุแอบสะดุ้ง “นี่ก็บอกให้ไปโรงพยาบาลแล้ว อาก็ดื้อไม่ยอมไป เกิดเป็นอะไรขึ้นมาพวกผมต้องเสียใจแน่เลย~”

          คือเอ็งเสียใจจริงๆ หรือเอ็งแค่อยากหาเรื่องลวนลามฟะ แล้วนั่นกอดหรือเลื้อยวะเนี่ย โว้ย!!

          “เอ๋ ถ้าแบบนี้ วันหลังผมว่าอาวัฒน์ไม่น่ามาร่วมงานนะครับ เดี๋ยวอาการแย่ลงไปกว่านี้มันจะแย่เอานะ”

          แมลงที่ว่าได้แต่โทษตัวเองที่เอาอารมณ์เป็นใหญ่จนเรื่องมันรุงรังแบบนี้ และท่าทางวัฒน์เองก็คิดแบบนั้น ถึงได้ส่งรังสีอาฆาตใส่เขาไม่เลิก

          “ไว้จะระวังกว่านี้” เสียงทุ้มตอบอย่างราบเรียบ แม้จะอยากจ้องจนปล่อยเลเซอร์ออกจากตาใส่เนมากขนาดไหน เขาก็ต้องทนเพราะไม่อยากให้ใครรู้ต้นตอที่แท้จริง “คราวหน้า ก่อนที่มันจะมากัด อาจะฉีดยาฆ่าแมลงใส่มัน”

          น้ำเสียงลงหนักชัดเจนและทรงพลังจนแมลงที่ว่าถึงกันสั่น

          “อ้อ ครับ...ถ้างั้นเลิกพูดเรื่องแมลงแล้วมาซื้อของขวัญวันเกิดให้อาดีกว่าเน้อ” ปาล์มตัดบทและพยายามทำตัวร่าเริงเพื่อปัดเป่าบรรยากาศกดดันออกจากวัฒน์ “แล้วอาวัฒน์มีของที่อยากได้หรือเปล่าครับ”

          “ที่จริงไม่ต้องซื้อให้ก็ได้หรอก แค่น้ำใจอาก็ดีใจแล้ว” หนุ่มใหญ่ตอบอย่างตื้นตัน ไม่คิดว่าจะมีวันที่มีคนอยากจะซื้อของขวัญให้มากขนาดนี้...

          ความปลื้มใจชะงักลงเมื่อมองหน้าเจ้าคนที่ทำสัญญาว่าด้วยการขึ้นเตียงกับตน ซึ่งกำลังยืนมองหน้าเขา ด้วยท่าทางเหมือนเด็กอยากได้ของเล่นแต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่

          ทำหน้าแบบนั้นคืออยากจะซื้อให้ฉันหรืออยากให้ฉันซื้อให้วะ

          “ถ้าคุณรังเกียจ อยากได้แค่กับสองคนนั่น พวกผมจะไม่ซื้อให้ก็ได้นะครับ”

          “หา ฉัน...” เกือบจะโพล่งออกไปอย่างเต็มปากเต็มคำเสียแล้วว่า ‘ฉันไม่ได้รังเกียจสักหน่อย’ แต่ได้ยินน้ำเสียงของตัวเองที่ฟังดูเว้าวอนอยากได้ของจากอีกฝ่ายเสียเหลือเกิน หนุ่มใหญ่เลยห้ามปากเอาไว้ทัน “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย หลานซื้อของขวัญให้ ทำไมจะไม่ดีใจ”

          และดูเหมือนจะเน้นคำว่า ‘หลาน’ มากไปหน่อย จากที่เนแอบทำหน้าเหมือนมีหวัง ถึงกับสลดไปเยอะ

          แต่ปาล์มดูจะแปลกใจไม่น้อย แม้จะดูออกว่าดีใจ แต่ท่าทางไม่สุดชอบกล “จริงหรือครับ”

          “เอ้า จริงสิ มีอาที่ไหนไม่ดีใจที่ได้ของขวัญจากหลานกันบ้างล่ะ” วัฒน์เห็นหน้าซีดๆของหลานชายก็เอ่ยออกมาอย่างมีอารมณ์ “เห็นฉันดูไม่ชอบใจหรือไง”

          ซึ่งปาล์มอยากจะบอกตรงๆว่า ‘ก็ดูเป็นแบบนั้นจริงๆนี่’

          “ดีครับ ถ้างั้นเดี๋ยวคุณรอที่ร้านอาหารสักร้าน แล้วเดี๋ยวพวกเราจะซื้อให้เอง”

          แต่ละคนหันหน้าไปยังคนออกความเห็นทันควัน

          “ขึ้นชื่อว่าของขวัญ มันก็ต้องเซอร์ไพรส์ต่อคนได้รับสิครับ ขืนรู้ก่อนมันจะดีตรงไหน” เนเริ่มดริฟท์อย่างลื่นไหล ซึ่งอันที่จริง เขาก็แค่ไม่กล้าให้คนอื่นเห็นว่าเขาซื้ออะไร เพราะตนก็เอาเงินมาไม่เยอะ กลัวจะโดนหาว่าซื้อของถูกให้

          แต่วัฒน์คิดไปคนละทาง

          มันจะแกล้งซื้ออะไรเห้ๆมาให้ตูหรือเปล่าวะ

          “เออ ก็ดีนะ” พอโค้กเห็นด้วย ทำเอาเนโล่งใจ “แต่เนคไทนี่ผมขอซื้อแถมให้ละกัน ไหนๆก็เลือกมาแล้ว น้า”

          ไม่ว่าเปล่ามาเอามือที่ถือเนคไทไปไถลอกของอีกฝ่าย ทำเอาเนรู้สึกร้อนวูบวาบ หน้ามืดคล้ายจะอยากฆ่าคน

          และที่มันน่าโมโหที่สุดก็ตรงที่วัฒน์ไม่ว่าหรือแสดงอาการรังเกียจเลยสักนิดนี่น่ะสิ!

          “นัวเนียกันแบบนี้ ไปหาโรงแรมเลยดีกว่าไหม”



______________________________________________

เอ้า เนอนุญาตแล้ว ตอนหน้าเราไปต่อกันที่โรงแรม...(?)

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
อุ๊ เนหึงเลือดเข้าตาแว้ว  :z2:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
โว้ววว เนตบะแตกแล้วสินะ อิอิ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :laugh: จวนเจียนความลับจะรั่วหลายหน แต่คนรอบข้างยังไม่เอะใจ ทำเอาลุ้น รั่วซะทีเถอะ  :hao7:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :เฮ้อ:  บอกเลยว่าเฮ้อนี่เม้นมาหลายตอนแล้ว  ก็มันน่า  :เฮ้อ: จิงๆนี่ หรือใครไม่เฮ้อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด