-รักพัดหวน- ตอนพิเศษ [11/09/59]+ แจ้งข่าว หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -รักพัดหวน- ตอนพิเศษ [11/09/59]+ แจ้งข่าว หน้า14  (อ่าน 170123 ครั้ง)

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: ...- รักพัดหวน - ...ตอนที่2 [16 พ.ค.58]
«ตอบ #30 เมื่อ29-05-2015 17:26:35 »

~ แมกไม้  ไอดิน  กลิ่นหมอก ~

รักพัดหวน

ตอนที่3






“อูย~”  ร่างโปร่งเดินกระหย่องกระแหย่งไม่เต็มเท้าค่อยๆคืบคลานไปยังโต๊ะทานข้าว  สายใจเลิกคิ้วเมื่อเห็นท่าทางนั้น  พออีกฝ่ายมาหยุดยืนแต่ไม่ยอมนั่งเสียทีสายใจเลยเอ่ยปากถาม

“คุณคีย์เป็นอะไรคะ?  เจ็บขา?  ทำไมไม่นั่งล่ะคะ”

“เอ่อ”  คีตกาลลังเล

“นั่งซิคะ  จะได้ทานข้าวกัน”  สายใจจับต้นแขนร่างโปร่งเอาไว้แล้วดันให้นั่งลงบนเก้าอี้  เพียงแค่ก้นแตะพื้นเท่านั้นคีตกาลถึงกับเด้งกายพรวดขึ้นยืนตรงตามเดิม

“?”  คนหัวโต๊ะเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ขึ้นมอง  คีตกาลจึงทำเพียงเงยหน้าเชิดไปทางอื่น

“คุณคีย์นั่งซิคะ”  สายใจคั้นคะยอ

“นั่งซิ  จะได้ทานข้าว”  สีหราชเอ่ยสำทับเมื่อร่างโปร่งยังคงไม่ยอมนั่ง  หากมีอาการกระสับกระส่ายเริ่มแสดงออก

“ฉันไม่หิว  เดี๋ยวไปทำงานเลยแล้วกัน”  คีตกาลทำท่าจะเดินออกไป  หากสายใจที่เห็นคิ้วคนเป็นนายเริ่มกระตุกก็คว้าหมับเข้าต้นแขนของคีตกาลอีกครั้ง

“.....  อ้อ  รู้แล้ว?”

“รู้อะไรคะคุณสิงห์?”  สายใจหันมาถามเพราะสีหราชหัวเราะก่อนจะมองหน้าคีตกาลด้วยสายตาขบขัน

“หัวเราะอะไร?”  คีตกาลแหวเสียงดัง  แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเพราะรู้แล้วว่าสีหราชหัวเราะเขา

“คุณคีย์ของสายใจเขาเจ็บก้นน่ะ”

“ไอ้!”  คีตกาลที่หน้าแดงอยู่เดิมยิ่งแดงหนักจนลามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง  หันมาถลึงตามองคนหัวเราะแล้วอยากจะคว้าแก้วกาแฟมาเขวี้ยงใส่หน้าเสียเหลือเกิน

“หืม  ทำไมคุณคีย์ถึงเจ็บก้นล่ะคะ?”

“เพราะเมื่อวานฉันสอนอะไรบางอย่างไปคุณคีย์ของสายใจก็เลยมีอาการแบบนี้”  เท่านั้นแหละเด็กสายใจถึงกับหน้าแดงด้วยจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน   เพราะคุณสิงห์เล่นทำสีหน้าเจ้าชู้สายตากรุ้มกริ่ม  อีกทั้งยิ้มแย้มอย่างที่สายใจไม่เคยเห็นมาก่อน  คุณคีย์ของเธอเดินไม่เต็มเท้า  เจ็บก้น  ไม่มองหน้าคุณสิงห์  แก้มแดง  แถมคุณสิงห์ยังอารมณ์ดีเป็นพิเศษกว่าทุกวัน  อีแบบนี้...ว้าย!  สายใจไม่อยากจะคิดเลย!

“ไอ้บ้า  แกพูดอะไรน่ะห้ะ!  สายใจคิดไปถึงไหนเนี่ย!”   ท้ายประโยคหันมาดุสาวใช้ที่ยกมือปิดหน้าบิดตัวเขินไปมา

“สายใจไปเอาเบาะรองนั่งนุ่มๆมาให้คุณคีย์ไป”  สีหราชหันไปสั่งสายใจทั้งที่ยังไม่หยุดหัวเราะ

“หยุดหัวเราะได้แล้ว!”

“วันนี้ไม่ต้องไปฝึกขี่ม้าแล้วกัน”  สีหราชว่าหลังทานอาหารอาหารเช้าเรียบร้อย  ชายหนุ่มลุกขึ้นเตรียมตัวออกไปทำงาน

“แหงอยู่แล้ว  เจ็บก้นขนาดนี้ใครจะไปขี่ม้าไหว!”  ใบหน้าหล่อเหลางอง้ำ

“แต่พรุ่งนี้ต้องฝึกต่อนะ”  สีหราชยิ้มกว้างกับท่าทางนั้น  คีตกาลกอดอกมองคนออกคำสั่งแล้วอุทธรณ์

“แต่...ก้นฉัน...”

“เดี๋ยวให้สายใจเตรียมของไว้ให้  จะได้ไม่เจ็บก้นตอนขี่”

“เตรียมอะไร?”  คีตกาลมองรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจของคนตรงหน้าแล้วถาม

“โกเต๊ก”

“ห้ะ?”  คีตกาลคิดว่าตัวเองหูเพี้ยน  จนเมื่อสีหราชเรียกสายใจเข้ามาสั่งอีกรอบนั่นแหละ

“สายใจ  พรุ่งนี้เตรียมหาโกเต๊กไว้ให้คุณคีย์ด้วยนะ”

“หือ  คุณคีย์ใส่โกเต็กหรือคะ?”  สายใจยังไม่เลิกหน้าแดง  พอได้ยินคนเป็นนายสั่งให้หาอะไรมาเท่านั้นแหละ  เจ้าหล่อนบอกตาโตคิดไปไกลรอบสอง

“เฮ้ย!”  คีตกาลได้แต่เบิกตากว้าง

“ไม่งั้นเดี๋ยวคุณคีย์ของสายใจต้องเลือดออกแน่ๆ”

“ไอ้!”  สีหราชหัวเราะชอบใจ  ยิ่งร่างโปร่งกำหมัดแน่นแล้วถลาเข้ามาราวกับจะต่อยหน้าเขาสีหราชยิ่งมีความสุขที่ได้แกล้ง “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแล้วก็ไม่ได้มีประจำเดือนด้วย!”  คีตกาลกระชากคือเสื้ออีกคนขึ้นอย่างโมโห    นี่แกล้งเขาอยู่ใช่ไหม!

“ฉันก็เห็นนายเป็นผู้ชายเหมือนฉันนะ  ไม่ได้บอกว่านายขี้โมโหเป็นผู้หญิงมีประจำเดือนเสียหน่อย”

“ไอ้!”  เขาเงื้อหมัดเตรียมต่อย  หากคนสูงกว่าพลิกกายหนีกลับเป็นว่าคีตกาลเสียหลักให้สีหราช
คว้าเอวสอบเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียหลักล้มหน้าคะมำ

“อุ๊ย!”  เสียงหวานอุทานแผ่วอย่างตกใจให้คนหนุ่มทั้งสองหันไปทางต้นเสียง  คีตกาลเบิกตากว้างพยายามดันกายออกจากอ้อมแขนอีกคน  หากเหมือนโดนแกล้งเมื่อสีหราชยังคงกระตุกแขนไม่ให้เขาหลุดพ้นออกมาง่ายๆ ก่อนจะหันไปทางผู้อาวุโสที่เพิ่งเข้ามา

“คุณน้า?”

“น้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า?”

“แม่!  ปล่อยนะ!”  คีตกาลร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินคำมารดา  ก่อนจะดุคนตัวโตกว่าพลางดิ้นอีกครั้ง

“เปล่าครับ  พอดีคีย์เขาเจ็บก้นนิดหน่อยเลยเดินไม่ถนัด”

“เฮ้ย! แกพูดอะไร!  แม่อย่าไปฟังนะ!”  คีตกาลโวยวาย  ยิ่งดิ้นเหมือนแขนแกร่งจะยิ่งรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม

“แม่พลาดอะไรไปหรือเปล่า?”  คุณยุวดีเลิกคิ้วมองท่าทางของทั้งสองคนแล้วทำสีหน้ากระอักกระอวล

“แม่ไม่ได้พลาดอะไรเลย!”  คีตกาลตอบ  ก่อนจะยกมือฟาดลงบนใบหน้าหล่อเหลาเสียงดัง 

เพี๊ยะ!  ใบหน้าคร้ามขึ้นรอยนิ้ว    คนลงแรงตบเองก็ตะลึงเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะใส่แรงไปขนาดนั้น  เขาแค่อยากจะหลุดจากแขนแกร่งนั่น  ไม่อยากให้มารดาเข้าใจผิดก็เท่านั้น

“เจ็บนะ”  เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาราวกับต้องการให้ได้ยินกันแค่สองคน  ดวงตาคมจ้องมองเจ้าของฝ่ามือนิ่งให้รู้สึกผิด  กระนั้นริมฝีปากสีสดก็ยังคงเม้มแน่นไม่ยอมเอ่ยขอโทษ

“สมน้ำหน้า  ปล่อย!”   คีตกาลเป็นอิสระเมื่อสีหราชยอมปล่อยแต่โดยดี  มือแกร่งยกขึ้นแตะแก้มตัวเองแล้วใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม  ก่อนจะจ้องหน้าคนตบอย่างเอาเรื่อง

“พอดีผมหนักมือกับเขาไปหน่อย  ยังไงฝากคุณน้าดูแลต่อด้วยนะครับ  ช่วงนี้คงเดินไม่ถนัดแล้วก็อาจจะมีเลือดออกได้  ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”  สีหราชหย่อนระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ก่อนจะยกมือไหว้ลาคุณยุวดีที่อ้าปากเหวอ

“นี่ลูกกับตาสิงห์....”

“หยู๊ดดดดด  แม่หยุดคิดอะไรบ้าๆเดี๋ยวนี้เลยนะ!”  ร่างโปร่งโวยวาย  ยิ่งเห็นมารดาสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้ายิ่งรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าว

“สายใจ  ระหว่างที่ฉันไม่ได้มาที่นี่เกิดอะไรขึ้น”   คุณยุวดีไม่รอให้ลูกชายอธิบายอะไร  เธอหันมาถามสาวใช้ที่กำลังยืนบิดไปบิดมาแก้มแดงอยู่นั่น

“หนูก็ไม่รู้ค่ะ  เห็นคุณคีย์เดินกะเผลกๆออกจากห้อง  คุณสิงห์ก็ให้หาเบาะรองนั่งมาให้บอกว่าคุณคีย์เจ็บก้น  ให้หาโกเต๊กมาให้คุณคีย์บอกกว่าคุณคีย์ต้องใช้  กลัวเลือดออก.....”

“เฮ้ย  เข้าใจอะไรไปถึงไหนกันเนี่ย?   มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิดนะ!”   คีตกาลร้องเสียงหลง

“แล้วเพลงรู้เหรอว่าแม่คิดอะไร?”  คุณยุวดีตีหน้านิ่งเอ่ยถาม

“แม่คิดว่าเพลงกับไอ้บ้านั่นมีอะไรกันใช่ไหม?”  ร่างโปร่งกำหมัดแน่น  ทั้งท่าทางของเขาเองทั้งคำพูดของหมอนั่นทำเอาคนอื่นๆเข้าใจผิดกันไปหมด

“แม่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”  คุณยุวดีหรี่ตาจับผิดแล้วสาวเท้าเข้าใกล้บุตรชาย

“แม่!”

กว่าคีตกาลจะอธิบายว่าทำไมเขาถึงมีอาการเจ็บก้นให้มารดาเข้าใจได้เล่นเอาหืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว  หนำซ้ำยังมีสายใจคอยป่วนเข้าข้างมารดาเขาอีก   อยากจะบ้า!

“แม่เอาเอกสารมาให้  พรุ่งนี้ลูกต้องเข้าไปอำเภอต้องแจ้งทางจังหวัดว่าเราจะทำรีสอร์ท”

“แล้วต้องแจ้งยังไงบ้างครับ  แม่ไม่อยู่กับผมเหรอ?”

“พรุ่งนี้แม่จะไปรับคุณพ่อจ้ะ”

“ผมไปด้วย!”  คีตกาลยิ้มเผล่เมื่อได้ฟัง

“ลูกอยู่จัดการทางนี้เถอะ  เดี๋ยวจะยิ่งช้าเข้าไปใหญ่  อ้อ  แม่โทร.นัดคุณศักดิ์เขาเรียบร้อยแล้วนะว่าพรุ่งนี้ให้เข้าไปอำเภอกับลูกด้วย”  ศักดิ์  หรือเกียรติศักดิ์  สถาปนิกที่มารดาเขาจ้างมาออกแบบรีสอร์ท  คนที่เขาผิดนัดมาสองวันเต็มนั่นแหละ   วันก่อนแค่เจอหน้าเขาแปบเดียวก็โดนเจ้าของบ้านลากไปขี่ม้าเสียก่อน

“คืนนี้แม่พักที่นี่ไหม  เพลงคิดถึงอ่ะ  อยากนอนกอดแม่”  ร่างโปร่งย้ายก้นมานั่งข้างมารดาแล้วกอดเอวอวบอย่างออดอ้อน

“เป็นอะไร  หืม  ดูอ้อนเข้าซิ”

“ก็...เพลงคิดถึงเฉยๆ”

“...โดนตาสิงห์แกล้งอะไรมาล่ะซิ”

“โหย~~~~ หมอนั่นนะ  มันชอบแกล้งเพลง  ลากเพลงไปขี่ม้าตั้งหลายวันแล้ว  เจ็บก้นด้วย!”   เด็กขี้ฟ้องหน้างอ

“แต่เพลงเองก็อยากขี่ม้าเป็นนี่  ดีแล้วไม่ใช่หรือไง?”  คุณยุวดียิ้ม  ยิ่งเมื่อใบหน้าหล่อเหลายู่ลงอย่างขัดใจเธอยิ่งหัวเราะเสียงดัง

“แต่หมอนั่น   มันตั้งชื่อม้าว่าอะไรแม่รู้ไหม  มันต้องชื่อว่า music!”  คราวนี้คุณยุวดีหัวเราะเสียงดังกว่าเดิมอย่างชอบอกชอบใจให้บุตรชายถึงกับงอนมารดาด้วยอีกคน

“เอ  อีแบบนี้สงสัยจะตั้งเพราะใครบางคนละมั้ง?”

“แม่!”

“หรือจะตั้งตามชื่อลูกชายแม่”  คราวนี้คุณยุวดีไม่หัวเราะ  เธอเพียงแค่ยิ้มแล้วมองใบหน้าบุตรชายอย่างอ่อนโยน

“ไม่ใช่หรอกครับ  หมอนั่นแค่อยากแกล้งผมเฉยๆ”

“....เอาเถอะๆ  คืนนี้แม่ไม่ได้เตรียมอะไรมา  แล้วก็อย่างที่บอกว่าตอนเช้าแม่ต้องไปรับคุณพ่อเราอีก  อีกเดี๋ยวแม่คงกลับเลย”

“งั้นถึงแล้วโทร.มานะครับ  พรุ่งนี้เช้าผมจะโทร.หา  จะคุยกับคุณพ่อด้วย”

“จ้า”

**********

ร่างโปร่งพับแขนเสื้อพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขณะปิดประตูห้อง  ก่อนจะเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อหันมาเห็นใครบางคนนั่งจิบกาแฟพร้อมเจ้าของบ้าน

“อ้าว  คุณศักดิ์  ทำไม?”

“สวัสดีครับคุณคีย์  พอดีคุณสิงห์ส่งคนไปรับจากฝั่งโน้นครับ  บอกว่าวันนี้จะเข้าไปที่อำเภอพร้อมกันเลยชวนมาดื่มกาแฟก่อน”

“เข้าอำเภอ?   ใครจะไปกับเรานะครับ?”  คีตกาลถาม  เขายังไม่ยอมนั่งบนเก้าอี้แข็งๆเพราะยังเจ็บก้นไม่หาย  เมื่อสายใจเห็นดังนั้นก็วิ่งไปหยิบเบาะรองนั่งมาให้  เกียรติศักดิ์มองคนที่หย่อนก้นลงบนเบาะนั่งแล้วก็ให้แปลกใจ

“ก็มีคุณคีย์  ผมแล้วก็คุณสิงห์ไงครับ”

“นายจะไปทำไมไม่ทราบ!”  คราวนี้น้ำเสียงตวัดห้วนแตกต่างกันลิบลับทำเอาเจ้าของบ้านถึงกับหน้าตึง

“เผอิญเป็นหุ้นส่วน”      โว้ย!  เขาลืมไปได้ไงว่ารีสอร์ทนี้ไม่ใช่ของเขาคนเดียว  แต่เดี๋ยวนะ....

“อ้อ  หุ้นส่วน...แต่ไหงมีแต่ฉันที่ไปดูงานอยู่คนเดียวมาสองอาทิตย์แล้วน่ะ  ห้ะ!”  หนอย  ให้เขาตากแดดตากลมจนไม่สบายไปแล้วหลายรอบ  ตัวเองไปอยู่ฟาร์มบ้าง  อยู่บ้านบ้าง  นี่มันเอาเปรียบกันชัดๆ!

“อ้าว  แล้วก็ไม่บอกว่าให้ไปด้วย  อยากตัวติดกันก็ไม่บอกแต่แรก   งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เริ่มเลยละกัน”

“ไม่ได้หมายความแบบนั้นโว้ย!”

“ไม่เอาน่า  ไม่ต้องเขินหรอก”  เสียงทุ้มเอ่ยหยอกเย้า

“ไม่ได้เขินแล้วก็ไม่ได้อยากตัวติดกับนายด้วย!  ที่พูดเนี่ยเพราะฉันกำลังโดนเอาเปรียบอยู่ต่างหาก!”

“ฮื่อ  ฉันเอา....เปรียบนายตอนไหน”  สีหราชจงใจทิ้งช่วงคำให้ห่างจนคนฟังถึงกับลุกพรวดอย่างโมโห  จะพูดสองแง่สามง่ามให้คนอื่นเข้าใจผิดอะไรนักหนานะ!

“ไอ้!  พูดจาให้มันดีหน่อยได้ไหม?”   คีตกาลหน้าแดง  เกียรติศักดิ์ที่มองคนโน้นทีคนนี้ทีถึงกับยิ้มแหยก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้คีตกาลเกือบชกปากเมื่อจบประโยค

“คุณคีย์กับคุณสิงห์คบกันอยู่เหรอครับ?”

“ไม่ใช่!”

“ไม่รู้ซิ”     สีหราชยกยิ้มมุมปาก  ซึ่ง....คีตกาลดูยังไงมันก็ช่างชั่วร้ายเหลือเกิน!

ดีว่าคนที่อาสาขับรถเป็นสีหราช  เขาจึงไม่ว่างมาทะเลาะกับคีตกาลต่อบนรถ  ไม่อย่างนั้นคงไปไม่ถึงไหนหรืออาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกระเด็นตกรถไปเสียก่อน

“พรุ่งนี้ยังต้องเข้าไปที่ตัวจังหวัดอีกเหรอเนี่ย?”  คีตกาลโอดเสียงอ่อย  การจัดการทางส่วนราชการเล่นเอาชายหนุ่มหงุดหงิดหนัก  ไหนจะต้องรอไหนจะเอกสาร  นี่ขนาดว่ามารดาเขาเตรียมมาให้แล้วยังขาดไปอีกอย่างสองอย่างให้ต้องกลับมากันอีกรอบ

“แล้ววันมะรืนก็ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ด้วย”  สีหราชเปรยขณะเลี้ยวรถไปจอดยังร้านอาหารในตัวเมือง   ไม่รอถามความคิดเห็นของใครเขาก็เอ่ยว่ากินข้าวร้านนี้แล้วเดินดุ่มนำเข้าร้านไปเลย   คีตกาลไม่ทันตอบโต้   ร่างโปร่งเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปแล้วเลื่อนเก้าอี้

“คุณคีย์นั่งฝั่งนั้นเถอะครับ”  เกียรติศักดิ์คว้าเก้าอี้ที่คีตกาลจับเอาไว้

“ฮื่อ!”

“ผมถนัดซ้าย  ตัวโตอีกต่างหาก  นั่งฝั่งเดียวกับคุณสิงห์ประเดี๋ยวแขนจะชนกันเสียให้กินข้าวลำบากเปล่าๆ”   สุดท้ายคีตกาลเลยต้องนั่งข้างสีหราชอย่างช่วยไม่ได้

“ต้องติดต่อกรมป่าไม้ด้วยหรือ?”  ร่างโปร่งหันถามคนข้างตัว  หยิบเมนูอาหารขึ้นมองพลางรอฟังคำตอบ

“ใช่  เขาต้องเข้ามาดูว่าเราจะทำรีสอร์ทแบบไหน  รุกรานเข้าเขตป่าสงวนหรือเปล่า  ถ้ามีเครื่องเล่นแล้วเรามีมาตรฐานการป้องกันอะไรยังไงด้วย”  สีหราชชี้เมนูอาหารให้พนักงานที่รอจดรายการไปสองสามอย่าง

“ยุ่งยากจัง”  เสียงใสบ่นเบาๆกระนั้นคนนั่งข้างก็ยังได้ยิน

“เป็นธรรมดานั่นแหละ  ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกนะ  ยิ่งงานใหญ่แบบนี้ยิ่งเรื่องเยอะหน่อย”

“รู้หรอกน่า!”

“เหรอ~~  เห็นบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่นี่”  คีตกาลเงยหน้าขึ้นแยกเขี้ยวใส่คนตัวโตกว่าอย่างหงุดหงิด  ขณะที่สีหราชเอาแต่ยิ้มกว้างอย่างเดียว  หนำซ้ำยังเถียงโต้กลับไปทุกครั้งที่คีตกาลเอ่ยประโยค  ไม่ว่าจะร้านแคบไปหน่อย  โต๊ะเล็กไปนิด  หรือพัดลมไม่เย็น  สีหราชก็สรรหาคำมาโต้กลับได้ทุกคำบ่นที่คีตกาลสรรหามาเช่นกัน  เกียรติศักดิ์มองสองหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วถอนหายใจ  ตอนแรกกะว่าจะจีบคุณคีย์เสียหน่อย  แต่แห้วมาตั้งแต่คุณยุวดีโทร.มาเมื่อวานแล้ว
‘คุณศักดิ์อย่าเอ็ดไปนะคะ  สองคนนั้นเขาเป็นแฟนกันค่ะ  แม่ปวดหัวเวลาสองคนนี้งอนกันจริงๆ  ยังไงฝากคุณศักดิ์ดูๆให้หน่อยนะคะ  ตาคีย์อารมณ์ร้อน  ประเดี๋ยวตาสิงห์จะเอาไม่อยู่’   เมื่อเช้าเขาอยากมั่นใจว่าอกหักทั้งที่ยังไม่เริ่มจริงๆหรือเปล่า  เลยลองเอ่ยปากถามไปว่าสองคนนั้นคบกันอยู่หรือเปล่า   เฮ่อ~~
แล้วนี่คุณสิงห์เอาคุณคีย์ไม่อยู่ตรงไหน   ตั้งแต่เช้ามาเขาเห็นคุณคีย์เถียงคุณสิงห์ไม่ชนะสักที   จนกระทั่งอาหารมาวางตรงหน้า  ร่างโปร่งยังขมวดคิ้วใส่เลย

“ทอดมันปลา   หลนเต้าเจี้ยว  ใครสั่งอ่ะ?”  คีตกาลถาม  เขาเงยหน้ามองเกียรติศักดิ์นึกว่าเขาสั่ง  นี่มันของชอบเขาทั้งนั้น!

“กินๆไปเถอะ  หิวจะแย่แล้ว”  สีหราชว่า  ทั้งๆอย่างนั้นกลับตักอาหารใส่จานของคนข้างตัวไม่ใช่จานของตัวเอง

“หิวก็กินไปซิ  แล้วมาตักใส่จานฉันทำไมเนี่ย?”  เกียรติศักดิ์ยกมือขึ้นนวดขมับ  นี่แค่ครึ่งวันนะ  ทำไมเขาถึงรู้สึกปวดหัวแบบนี้ล่ะ?   จู่ๆเขาก็นึกถึงคำคุณยุวดีขึ้นมา ใช่เลยครับ  ผมเองก็ปวดหัวเหมือนกัน!

***********
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2015 17:40:08 โดย sine »

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: ...- รักพัดหวน - ...ตอนที่2 [16 พ.ค.58]
«ตอบ #31 เมื่อ29-05-2015 17:28:34 »


“คุณคีย์  คุณคีย์เล่นกีต้าร์เป็นไหมคะ?”  จู่ๆเด็กสายใจก็เข้ามานั่งแอบข้างเก้าอี้แล้วกระซิบถามขณะที่คีตกาลกำลังนั่งจดรายกายสิ่งที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้และกำหนดอัตราพนักงาน  ตำแหน่งงานต่างๆที่ต้องจัดจ้างหลังทำรีสอร์ทเสร็จ   เขาเลิกคิ้วมองเด็กสาวที่หันซ้ายหันขวาราวกับหลบใครมาก็ให้นึกขำ

“ทำไมหรือ?”

“คุณคีย์เล่นเป็นหรือเปล่า?”  สายใจถามย้ำ

“เป็น  แล้วยังไง  เราอยากฟังหรือไง  แต่ฉันไม่มีกีต้าร์หรอกนะ”  คีตกาลหัวเราะขันกับท่าทางตาโตเป็นประกายของเด็กสาว

“แต่หนูมี”  แล้วสายใจก็วิ่งปรู๊ดเข้าไปในบ้านไม่รอให้เขาทักท้วงสักนิด  ก่อนจะออกมาพร้อมกีต้าร์โปร่งสีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่ง

“สายใจไปเอาของใครเขามาน่ะ?”  ชายหนุ่มรับเอากีต้าร์ที่เด็กสาวส่งให้มาสำรวจ  กีต้าร์ตัวนี้กลางเก่ากลางใหม่หากสายยังคงตึงดีอยู่  เขาค่อยหมุนปรับสายบางสายแล้วลองดีดเบาๆ

“ของคุณสิงห์ค่ะ”

“?”  นิ้วเรียวชะงักนิ่ง  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแล้ววางกีต้าร์ในมือลง  “ไปเอาของเขามาได้ยังไง  สายใจนี่ชักจะเหลวไหลใหญ่แล้วนะ!”  คีตกาลเอ็ดเด็กสาวเสียงขุ่น  หากเจ้าหล่อนกลับยิ้มกว้าง

“โธ่  คุณคีย์ขา  กีต้าร์ตัวนี้คุณสิงห์ไม่ได้แตะมาเป็นปีแล้วค่ะ  อีกอย่างถ้ามันไม่ได้ใช้เลยจะน่าสงสารเอานะคะ”

“มันก็ไม่ควร  มันมีเจ้าของจะหยิบมาสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง”   ชายหนุ่มยังดุไม่เลิก  แต่สายใจคว้ากีต้าร์ขึ้นมาส่งให้ร่างโปร่งอีกครั้ง

“คุณสิงห์ไม่ว่าหรอกค่ะหนูขออนุญาตแล้ว”

“......”

“นะคะคุณคีย์  เล่นให้หนูฟังหน่อย  คุณสิงห์น่ะไม่เคยเล่นให้ได้ยินสักที”  สายใจทำหน้ามุ่ยพลางเขย่าขาคีตกาลอย่างออดอ้อน

“...แค่เพลงเดียวนะ”   สายใจพยักหน้า   คีตกาลขยับปลายนิ้วทดสอบและตั้งสายสายอยู่สามสี่ครั้ง  ก่อนจะเริ่มดีด...

Please don’t see just a boy caught up in dreams and fantasies
Please see me reaching out for someone I can’t see
.
.
.
I thought I saw you out there crying
I thought I heard  you call my name
I thought I heard  you out there crying
Just the same
.
.
เสียงทุ้มนุ่มคลอเคล้าเสียงหวานเศร้าจากกีต้าร์โปร่งแผ่วเบา  เจ้าของแขนขาวกอดกีต้าร์สีน้ำตาลไว้  รอยสักบนแขนขยับไหวตามการเคลื่อนไปของท่วงทำนอง   สายใจนั่งฟังด้วยสีหน้าเคลิ้มฝัน  เจ้าหล่อนไม่เข้าใจความหมายเพลงที่คีตกาลร้อง  หากสีหน้าละมุน  ริมฝีปากสีสด  เปลือกตาที่พริ้มรวมทั้งเสียงนุ่มไพเราะที่เปล่งออกมาก็ทำเอาเธอแทบลอยไม่ติดพื้น  จนเมื่อจบเพลงเจ้าหล่อนก็ยังเคลิ้มไม่หยุด

“คุณคีย์ร้องเพลงเพ้าะเพราะค่ะ   ถึงหนูจะฟังไม่รู้เรื่องก็เถอะ”

“เอ้า  ซะงั้น”  คีตกาลหัวเราะ

“เพลงของใครหรือคะ?”

“บอกไปเราจะรู้จักหรือ?”

“ฮื่อ!”

“Maroon5”

“มะรุมไฝว้?”

“วุ้ย  บอกไปก็ไม่รู้จักหรอก”  คีตกาลหัวเราะ  ดูเอาเถอะสายใจมาเปลี่ยนชื่อนักร้องในดวงใจเขาเฉยเลย

“หนูรู้จักแต่ Bodyslam อ่ะ  แหะ แหะ”   คีตกาลส่ายหัวเมื่อได้ฟัง     “แล้วเพลงไทยคุณคีย์ร้องได้ไหมคะ?”

“ไหนว่าเพลงเดียว”

“อีกเพลงเถอะนะคะ   นะคะคุณคีย์  คุณคีย์ร้องเพลงเพราะขนาดนี้จะให้ร้องเพลงเดียวได้ยังไงกัน?”  สายใจยิ้มกว้างอย่างเอาใจ  เยินยอเสียจนชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังอย่างชอบอกชอบใจโดยไม่เห็นว่าสายใจแอบขยิบตาให้ใครอีกคนที่มายืนแอบฟังตั้งแต่แรก  เจ้าของร่างสูงกออกมองนักร้องจำเป็นแล้วยกยิ้ม  นึกถึงเมื่อคราวตอนเจ้าตัวร้องเพลงของวงโปรดแล้วไปถอดเสื้อเต้นท่าทางเซ็กซี่ครั้งเมื่อประกวดดาว- เดือนมหา’ลัย  เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากทั้งสาวๆหนุ่มๆไปทั่ว

“อีกเพลงเดียวแล้วไปนอนนะพรุ่งนี้ฉันต้องไปทำธุระที่ตัวจังหวัดตั้งแต่เช้า” สายใจพยักหน้าหงึกหงักแล้วทำท่าตั้งอกตั้งใจฟังจนคีตกาลหัวเราะขำอีกรอบ


   ใบไม้มันยังผลัดใบ     เปลี่ยนผันตามฤดูกาล
แต่ชีวิตยังไม่เปลี่ยนไป    ยังเหมือนเดิมอยู่อย่างนั้น
เข็มของนาฬิกาไม่เคยบอกเวลา
นานแค่ไหนก็เหมือนเดิมเสมอ
ตั้งแต่เราจากกัน  จนในวันนี้ก็มีเพียงเธอ
   
   ยังเก็บรักนั้น อยู่ในหัวใจ     เธอจะรู้ไหม ฉันยังคงพร่ำเพ้อ
หลับตาทุกครั้ง  ก็ยังเห็นเพียงแต่เธอ
ฉันยังคิดถึงเธอเสมอ  ไม่เคยลบเลือน
   
   อยากรู้เธอเป็นอย่างไร   จากครั้งที่เราแยกทาง
อธิฐานไปอย่างเลื่อนลอย  ก็อยากพบเธออีกครั้ง
.
.

“......”   เขาไล่ให้สายใจไปนอน  บอกว่าเขาจะเอากีต้าร์ไปเก็บเองแล้วก็ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น  กีต้าร์ตัวนี้เขาจำได้  ดังนั้นเมื่อครู่ตอนที่รับมันมาจากมือของสายใจเขาจึงรู้สึกแปลกแปร่ง  กีต้าร์ตัวนี้เคยเป็นของเขามาก่อน.... ไม่มีใครรู้เว้นเสียแต่คนที่ครอบครองปัจจุบัน
   
“ลืมถามเลยแฮะว่าเอาเก็บไว้ที่ไหน”  ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนเต็มความสูงบิดเอวไล่ความเมื่อยขบ  พลางถอนหายใจขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านในหัวให้หมดไป  สุดท้ายเพราะไม่รู้ว่าตำแหน่งเดิมของกีต้าร์ตัวนี้อยู่ที่ไหนคีตกาลเลยเอาเข้าไปเก็บไว้ในห้องตัวเอง
   
ท่ามกลางความมืด  เขานอนมองกีต้าร์ตัวนั้นแล้วนึกถึงคำพูดของสายใจขึ้นมา   สายใจไม่เคยได้ยินเจ้าของปัจจุบันเล่นกีต้าร์ตัวนี้อย่างนั้นหรือ?
   สี่ปี?
อาจจะลืมไปแล้วละมั้งว่ามีกีต้าร์ตัวนี้อยู่ในบ้าน...


**********

“เดี๋ยวจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูที่อาทิตย์หน้านะครับ”   ร่างโปร่งพยักหน้ารับเมื่อได้คำตอบ  สุดท้ายเรื่องเอกสารก็ไม่เสร็จภายในอาทิตย์นี้อย่างที่ตั้งใจ   ตลอดวันคีตกาลพูดกับคนข้างๆแทบนับคำได้  ไม่ใช่ว่าเกิดทะเลาะกันหรืออะไร  หากเพียงแต่ตะกอนขุ่นมันถูกกวนตั้งแต่เมื่อคืนจนทำเอานอนไม่หลับและเช้านี้เขาไม่รู้สึกสดชื่นอย่างที่ควรจะเป็น

“หายเจ็บก้นหรือยัง?”  จู่ๆคนตัวสูงกว่าก็เอ่ยถามขณะก้าวลงจากรถ

“ก็ดีขึ้นแล้ว  ทำไม?”

“พร้อมจะฝึกขี้ม้าต่อไหม?”   คีตกาลพยักหน้ารับ  พลางนึกสงสัย   หรือที่สองสามวันนี้มานี้เขาไม่ถูกบังคับให้ขี่ม้าต่อเพราะฝ่ายนั้นรู้ว่าเขาเจ็บก้นก็เลยพัก...โดยการให้จัดการเรื่องเอกสาร?    เขาสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะเดินเข้าไปหยิบเสื้อแขนยาวมาสวมพร้อมหมวกคาวบอยที่เพิ่งซื้อจากในตัวเมืองเมื่อวานก่อน

“เดี๋ยว   อย่าเพิ่งไป”  มือใหญ่คว้าต้นแขนเขาไว้แล้วร้องเรียกหาสายใจ

“?”

“ซื้อโกเต๊กให้คุณคีย์หรือยัง?”

“เฮ้ย! บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิง  แล้วไอ้โกเต๊กเนี่ย....”   ใบหน้าใสแดงเรื่อทั้งโมโหทั้งอาย  ยิ่งคนหน้าเข้มมาตีคิ้วขมวดใส่ยิ่งทำให้เขาอยากต่อยนัก

“อยากก้นแตกอีกหรือไง?”

“?”

“ที่ให้เอาโกเต๊กมาใส่เนี่ยเพราะก้นจะได้ไม่แตก”

“หมายถึง...ใส่โกเต็กตอนขี่ม้าเพื่อป้องกันก้นแตก?”   สีหราชพยักหน้ารับ   “แล้ว....นายใส่ไหมตอนฝึก?”

“...อะแฮ่ม”  ร่างสูงพยักหน้าอีกรอบ  หากคราวนี้ไม่สบตาคนถาม   คนจ้องอยู่ถึงกับยิ้มกว้างอย่างชอบใจ

“งั้นเหรอๆ  นายเองก็เคยใส่ซินะ?”  คีตกาลพยักหน้าหงึกหงักแล้วหัวเราะแผ่ว

“ไปใส่ได้แล้ว   ให้สายใจสอน!”  สีหราชกระแอมไอเสียงเข้มแล้วรุนหลังให้ร่างโปร่งเดินตามสายใจเข้าห้อง  “อ้อ  ใส่ไว้นอกกางเกงในล่ะ  เพราะนายไม่ใช่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเหมือนขนาดนั้น”

“ไอ้บ้าเอ้ย!”  คีตกาลยกแขนขึ้นสูงเตรียมจะขว้างโกเต๊กใส่คนปากเสีย  ติดเสียว่าสายใจรั้งแขนเขาเข้าห้องไปเสียก่อน




“....ให้ฉันขี่เองคนเดียวได้แล้วมั้ง?”

“ไม่”

“นายกวนตีนฉันอยู่เหรอ?”  คนด้านหน้าเอ่ยถาม  เขาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคนด้านหลังกระชับแขนรั้งสายบังเหียนบังคับให้เจ้า Music เริ่มเดิน  แล้วกระตุกอีกครั้งเบาๆให้มันวิ่งเหยาะๆ

“กวนที่ไหน  กำลังสอนขี่ม้าอยู่นี่”

“.....”  อยากจะด่าแต่ก็กลัวคนด้านหลังจะแกล้งเอาคืน  สุดท้ายก็ต้องปล่อยเลยตามเลยให้คนอยากสอนแบบไหนก็ทำไปอย่างที่ตั้งใจแล้วกัน



ในที่สุด!  ในที่สุดเขาก็ขี่ม้าเองได้เสียทีถึงแม้จะยังไม่สามารถควบวิ่งห้อตะบึงได้เต็มที่   เพียงแค่วิ่งเหยาะๆก็พอแล้ว! จะได้ไม่ต้องโดนซ้อนหลังมาสอนให้หวาดเสียวเล่นอีก   คีตกาลดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอกสายใจว่าเขาต้องไปรีสอร์ทเพราะนัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไว้ถ้าหากสีหราชกลับจากฟาร์มเมื่อไหร่ให้ตามไปทันที

“สวัสดีครับ  คุณคีตกาลหรือเปล่า?”   ร่างโปร่งหันไปมองผู้มาเยือนก่อนจะยกยิ้ม

“สวัสดีครับ  ผมคีตกาล”

“ผมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่แจ้งไว้ว่าจะเข้ามาครับ   ชื่ออดิศร”   คีตกาลมองคนตรงหน้า  ฝ่ายนั้นคงจะสูงเท่ากันกับเขา  หากผิวเข้มอย่างคนทำงานกลางแดด  ใบหน้าจัดว่าดูดีมากทีเดียว   “จากเอกสารที่แจ้งไว้  ขอบเขตพื้นที่.....”

คีตกาลเดินนำอีกฝ่ายสำรวจพร้อมอธิบายว่าตรงไหนทำอะไรบ้าง  มีการตัดโค่นต้นไม้ตรงไหนและมีแนวโน้มจะตัดเพิ่มมากแค่ไหน  อดิศรพยักหน้ารับแล้วจดลองสมุดบันทึก  จนบ่ายคล้อยก็ยังไม่เห็นทีท่าสีหราชจะตามมาคีตกาลก็ยิ่งขมวดคิ้วเพราะยังมีบางจุดที่จะต้องปรึกษาฝ่ายนั้นว่าจะมีทำอะไรเพิ่มเติมบ้างหรือไม่

“เอาอย่างนี้แล้วกันครับ  พรุ่งนี้ผมจะเข้ามาใหม่ก็แล้วกัน”

“เกรงใจจังครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับผมเต็มใจ อ้อ ผมขอเบอร์ติดต่อคุณคีย์เอาไว้ได้ไหมครับ  เพราะพรุ่งนี้ผมอาจเข้ามาไม่ตรงเวลามากนักยังไงจะได้โทร.มาบอกคุณคีย์ก่อน”

อดิศรกลับไปแล้วคีตกาลจึงตรงดิ่งกลับเรือนด้วยความโมโห  เพราะสีหราชไม่ยอมโผล่หน้าไปช่วยเขาอย่างที่รับปากเอาไว้  พอเห็นว่าร่างสูงลงมาจากรถเขาก็ปรี่เข้าไปกระชากไหล่หนาให้หันมา

“นี่! วันนี้นัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาทำไมนายไม่ไป...  ไปโดนอะไรมา?”  ถ้อยคำต่อว่าชะงักค้างไม่จบประโยคเมื่อเห็นใบหน้าอีกฝ่ายชัดๆ  คิ้วเข้มด้านขวามีเลือดซึมเป็นทาง   เมื่อกวาดสายตามองจึงเห็นว่าร่างสูงอยู่ในสภาพมอมแมม  ทั้งฝุ่นทั้งหญ้าเต็มหัวเต็มตัวไปหมด

“ม้าพยศน่ะ”  ชายหนุ่มตอบแล้วยกมือขึ้นจะเช็ดเลือดที่ไหลซึมออกมา

“อย่า!  มือนายสกปรกเดี๋ยวจะติดเชื้อ  ขึ้นบ้านก่อนไป”

“....”  สีหราชมองหน้าซีดขาวของคนสั่งแล้วยกยิ้มก่อนจะเดินขึ้นเรือนตามคำสั่งแต่โดยดี

“สายใจ!สายใจ! เอากล่องยามาที!”   เด็กสายใจวิ่งเข้ามา  เมื่อเห็นว่าคนเป็นนายเจ็บตัวได้แผลมาก็รีบวิ่งไปเอากล่องยามาทันที  พร้อมทั้งกะละมังน้ำพร้อมผ้าให้สีหราชเช็ดหน้าเช็ดตา

“......คุณคีย์ไม่ทำแผลให้คุณสิงห์เหรอคะ?”  เด็กสายใจเงยหน้าถามเมื่อเห็นคนสั่งให้เอากล่องยามาเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสีหราช

“เจ้านายสายใจสายใจก็ทำซิ”   คีตกาลเลิกคิ้วแล้วสังเกตสีหน้าเด็กสาว

“คุณคีย์ขา   สายใจกลัวเลือด  ไม่เอาอ่ะ  หนูทำไม่ได้หรอก”  ยิ่งเมื่อหันไปเห็นว่าเลือดที่ถูกเช็ดไปก่อนหน้าเริ่มไหลซึมมาอีกครั้ง  เด็กสาวก็ส่ายหน้าหวือทำหน้าซีดจะเป็นลม

“แต่...”

“เอาล่ะ  ไม่ต้องเถียงกันเดี๋ยวฉันทำเอง”  สีหราชถอนหายใจ  ชายหนุ่มวางผ้าแล้วเลื่อนกะละมังออกไปก่อนจะหยิบสำลีชุบแอลกอฮอล์ขึ้นแตะหางคิ้วตัวเอง  ด้วยเพราะมองไม่เห็นสำลีจึงถูกแปะตรงตำแหน่งที่ไม่ใช่แผล  ร้อนให้คนฝั่งตรงข้ามถอนหายใจแล้วขยับกายมานั่งแหย่งไม้สักตัวเดียวกัน

“เอามานี่  เดี๋ยวสำลีแปะเข้าตาหรอก”  คีตกาลแย่งสำลีออกมาจากมือใหญ่ก่อนจะค่อยๆเช็ดให้อย่างเบามือ

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอกน่า  แผลนิดเดียวเอง”  กลายเป็นคนเจ็บต้องมาปลอบเมื่อคีตกาลยังคงคิ้วขมวดพลางขบริมฝีปากแน่น

“ทำหน้ายังไงไม่ทราบ?”  ร่างโปร่งจ้องคนเจ็บตาขวาง

“ก็ทำหน้าแบบว่าเป็นห่วง  โอ๊ย!”

“ไม่ได้เป็นห่วง แค่สมเพช!”  มือขาวกดสำลีเช็ดแผลแรงๆทำเอาสีหราชสะดุ้งโหยงเผลอร้องโอดโอยเพราะความเจ็บ

“เหรอ?”

“เออ!  แล้วไปทำโง่อีท่าไหนให้ม้ามันดีดมาล่ะ?”

“ท่านอนมั้ง”  ป้าบ !

“โอ๊ย!”  มือขาวตบป้าบเข้ากลางแผลแบบไม่ออมแรงเล่นเอาสีหราชเกือบหน้าหงายเลยทีเดียว

“กวนตีน”  ถึงจะโดนด่าโดนตบกระนั้นสีหราชก็ยังคงหัวเราะแผ่วจนเมื่อร่างโปร่งตวัดสายตาแข็งๆมาให้นั่นแหละเขาจึงกระแอมไอสงบปากสงบคำ  รอให้สายใจเอากล่องยาไปเก็บจึงมองหน้าคนที่ลุกหนีไปยืนกอดอกอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง

“...พอดีได้ม้ามาใหม่น่ะ  ตอนเอาลงจากรถกระดานที่ใช้รองให้มันเดินเกิดหล่น   มันตกใจก็เลย...”  สีหราชยักไหล่สองข้าง

“แล้วไม่มีคนอื่นเข้าช่วยเลยหรือไง?”

“ก็ช่วยกันหลายคนอยู่  แต่ฉันต้องเป็นคนรับผิดชอบก่อนคนแรก   เป็นเจ้านายเป็นหัวหน้าเขาถ้าไม่ทำเป็นตัวอย่างลูกน้องจะเชื่อฟังได้ยังไงล่ะ  จริงไหม?”

“......”

“เดี๋ยวขอไปอาบน้ำก่อนนะ   นายไปกินข้าวเถอะไป เสร็จก็นอนเลยนะเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่”  คีตกาลไม่ได้หันไปมองคนพูด  จนเมื่อมีสัมผัสบางอย่างบนศีรษะนั่นแหละ

“......”   สีหราชเข้าห้องไปแล้วหากร่างโปร่งยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ  มือขาวยกขึ้นจับศีรษะตัวเอง     เมื่อครู่สีหราชยีหัวเขาอย่างนั้นหรือ?   ทำไม?
   
“คุณคีย์ขา  คุณคีย์”

   “หืม  ว่ายังไง?”
   
“คุณคีย์เอายาไปทาให้คุณสิงห์หน่อยได้ไหมคะ?  โดนม้าฟัดมาขนาดนั้นคงช้ำทั้งตัว”
   
“เฮ้ย!ไม่เอา”
   
“แต่ว่า...”
   
“สายใจก็ไปทำเองซิ  เจ้านายสายใจนะ  มาใช้ฉันทำไม  อีกอย่างไม่มีเลือดแล้วสายใจคงไม่เป็นลมหรอก”
   
“แต่หนูเป็นผู้หญิงนะ  เป็นสาวด้วย”
   
“.....”
   
“สวยด้วย....”
   
“ไอ้ประโยคท้ายนี่มันอะไรกัน”   คีตกาลหลุดขำเมื่อเด็กสาวม้วนผมตัวเองพลางทำท่าเขินอาย
   
“คุณคีย์จะบอกว่าหนูไม่สวยเหรอคะ?”
   
“เปล่าๆ  สวยจ้า  สายใจสวยอยู่แล้ว”  คีตกาลยกยิ้มแกล้งทำตาเจ้าชู้ใส่
   
“คุณคีย์ล่ะก็...  ถ้าอย่างนั้นคุณคีย์เข้าไปทายาให้คุณสิงห์นะคะ”
   
“ไหงวกกลับเข้ามาเรื่องนี้ล่ะเนี่ย   แล้วทุกทีใครทำให้อ่ะเวลาเกิดอะไรแบบนี้”  คิ้วเรียวขมวดกันอย่างนึกสงสัย
   
“แม่ค่ะ  แม่ของสายใจแต่ตอนนี้แม่ไม่อยู่เพราะไปเยี่ยมน้าที่ใต้โน่น”
   
“แต่...”
   
“นะ นะ นะคุณคีย์  ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้คุณสิงห์ลุกไม่ไหวแน่ๆค่ะ”   สุดท้ายนอกจากยานวดยังมียากินคลายกล้ามเนื้อยัดใส่มือมาด้วย


   ก๊อก ก๊อก ก๊อก
   
“เข้ามา”   คนเอ่ยปากอนุญาตสวมกางเกงนอนเพียงตัวเดียวเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จซ้ำยังไม่หันมามองอีกว่าใครเดินเข้ามา
   
“นี่ถ้าสายใจเดินเข้ามาเห็นคงกรี๊ดลั่นบ้าน”
   
“คีตกาล!”
   

“คนอื่นมั้ง  จะตกใจอะไรนักหนา?”


   “ก็....”

   “มานั่งนี่”  ร่างโปร่งชี้ไปยังเตียงนอน  เจ้าของห้องเลิกคิ้วสงสัยไม่ยอมทำตาม  “ฉันไม่ปล้ำนายหรอกน่า!”   คีตกาลแยกเขี้ยวใส่เมื่อร่างสูงทำท่าทางกลัวเขาเสียเหลือเกินจนน่าหมั่นไส้

   “อ้าว เหรอ?  น่าเสียดายจัง”  สีหราชยกยิ้มกว้างก่อนจะเดินมานั่งปลายเตียงหันหลังให้ตามคำสั่ง

   “......ทำไมไม่พูดคำนี้ตั้งแต่ตอนนั้นล่ะ?”  ถามพลางบีบยาลงบนฝ่ามือแล้วนวดลาดไหล่แกร่ง

   “......”

   “ทำตอนนี้ซะเลยดีไหม?  ประสบการณ์ฉันก็เยอะพอใช้ได้อยู่นะ”

   “พูดจริงเหรอ?”

   “!”  คีตกาลชะงักเมื่อมือแกร่งแตะทาบทับลงบนมือขาวที่กำลังนวดไหล่อยู่

   “พูดจริงหรือเปล่า?”

   “อะไร?”   คีตกาลพยายามดึงมือกลับหากอีกฝ่ายก็จับไว้แน่น   บีบกระชับจนเจ็บ  หัวใจเต้นแรงเสียจนได้ยินเสียง

   “เรื่องมีประสบการณ์เยอะ”

   “...ฮึ ใช่”  คีตกาลพ่นลมหายใจ  ไม่รู้ว่าความรู้สึกเมื่อครู่คืออะไรไอ้ที่ใจเต้นแรงเมื่อครู่พลันเจ็บแปลบขึ้นมา

   “.......”   มือแกร่งปล่อยให้คนด้านหลังเป็นอิสระก่อนจะนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น

   “กินยานี่ด้วยแล้วกัน  สายใจบอกว่าเป็นยาคลายกล้ามเนื้อ”  ร่างโปร่งโยนซองยาใส่ตักอีกฝ่ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป

   “........”
   










โปรดติดตามตอนต่อไป

เช่นเคย  อ่านให้สนุกนะคะ  ติ-ชมกันได้ค่ะ






คำถามท้ายช่วง
สายใจ - คุณสิงห์  คุณสิงห์เคยใส่โกเต๊กจริงเหรอคะ?
สีหราช – (คิ้วเข้มกระตุก  พลางกอดอกตีสีหน้านิ่ง) เคยที่ไหน
สายใจ – อ้าว  ก็ที่บอกคุณคีย์...
สีหราช – ฉันโกหกไปอย่างนั้นแหละ  ขืนถ้าคุณคีย์ของสายใจรู้ว่าตัวเองใส่อยู่คนเดียวก็จะไม่ยอมใส่น่ะซิ  ต้องมีคนเคยหน้าม้านอับอายมาก่อนอย่างเท่าเทียมกันเท่านั้นแหละถึงจะยอมทำ  (ว่าแล้วก็ถอนหายใจกับนิสัยของอีกคน)














เผื่อใครอยากฟังน้องเพลงร้อง lost star นะคะ ^^

https://youtu.be/cL4uhaQ58Rk


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2015 21:12:25 โดย sine »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
กำลังจะถามพอดีว่าเมืองไทยเรียนขี่ม้าต้องใส่ผ้าอนามัยด้วยหรือ?  ไม่เห็นลูกเราตอนไปเรียนต้องใส่เลย

ท่าทางสิงห์ยังไม่ได้แอ้มเพลงสินะ  พอมาได้ยินว่าอีกฝ่ายเชี่ยวถึงได้เงียบไป

ออฟไลน์ akumapuyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพลงตั๊ลล๊าคคคคคคคคคคคค ถึงเพลงจะง้องแง้งใส่สิงห์แต่เพลงก็น่ารักอ่ะ สิงห์นี่ก็ทันเพลงไปซะทุกเรื่องเลยนะ ไงๆเพลงก็เถียงไม่ชนะอ่ะ
ก็ยังเดาไม่ออกอยู่ดีว่าเลิกกันเพราะไร แต่ดูแล้วทั้งสองคนมีเยื่อใยเส้นโตๆต่อกันแน่นอน อะไรที่ไม่พูดแต่ตอนนั้นน้าอยากรู้ชิงๆ

สนุกๆๆๆๆ มาต่ออีกเร็วๆน้าาาาาา :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ pemiko2012

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่ารักอ่ะะะะะะะะะ   พ่อแง่แม่งอนดีจุง
อยากรู้เรื่องราวในอดีต ทำไมเพลงถึงเลิกกะสิง
 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อานม้าแข็งอ่ะดิ เลยก้นแตก
ส่วนมากถลอกที่ขาหนีบอีกอย่าง

แต่ขี่ม้านี่ดีนะ เอวพริ้ว เอวคอด มาพร้อมกล้ามท้องด้วย อิอิ


เรื่องนี้สนุกมากเลยค่า อ่านรวดเดียว 3 ตอนเลย

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
รอต่อค้าบ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
รออ่านต่อ ฟินนนน เพลงน่ารัก

ออฟไลน์ daadaadaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องนี้สนุกกก รอต่อนะ
อยากรู้มากเลยว่าทำไมถึงเลิกกัน
เพราะทั้งคู่ยังรักกันอยู่แน่นอน
 :katai5:

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
สายใจ กับคุณแม่ จิ้นไปถึงไหนต่อไหนจ้ะ จิ้นเก่งกันอย่างนี้ มาเข้าสมาคมสาววายเร็ว ๆ เข้า 555
ยิ่งคุณแม่เนี่ย โหย ถูกใจมากเลยค่ะ  o13 พูดกันท่าคุณศักดิ์ไว้ให้เรียบร้อยเชียว
ดีใจกับสิงห์จริง ๆ ที่ได้เป็น(ว่าที่)ลูกเขยคนโปรดของคุณแม่ ถ้าเพลงรู้ จะเป็นยังไงเนี่ย ฮาาาา
เพลงก็ยังคงดื้อแสนดื้อเหมือนเดิม แต่ก็ทำพี่สิงห์อารมณ์ดี๊ดีอ่ะนะ เอาเพลงซะอยู่หมัดจริง ๆ
แต่ตอนสุดท้าย ก็เข้าสู่อารมณ์หม่นอีกจนได้อ่ะนะ เหมือนต่างฝ่ายต่างน้อยใจในคำพูดอีกฝ่าย
แล้วก็แยกกันไป ไม่ยอมพูดกันให้เข้าใจ นี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ครั้งนั้นต้องเลิกกันก็ได้
แต่ยังไง ก็ยังรักกันอยู่แล้ว ยังต้องใช้เวลาจูนกันต่อไปอ่ะนะ ทิฐิแรงทั้งคู่ซะขนาดนี้
ตัวละครใหม่ที่น่าสนใจตอนนี้คือ คุณอดิศร มีแววว่าจะมาตกหลุ่มเสน่ห์น้องเพลงหรือเปล่าน้า
แหม่ แต่ถ้ามาปิ๊งพี่สิงห์คงจะดี อยากรู้ว่าเพลง จะอาการออกขนาดไหนน้อ

ชอบเด็กสายใจจริง ๆ หนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่องเลยนะเนี่ย น่ารักมาก
ชอบคำถามท้ายเรื่องของสายใจ ทั้งฮาทั้งน่ารัก เคลียร์คำตอบให้คนอ่านด้วย ดีจัง
ชอบเรื่องนี้มาก ๆ จ้า ขอบคุณคนเขียนนะจ้ะ  :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ชอบสายใจ น่าร้ากกกกก

ออฟไลน์ yearrayoeng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
รออ่านต่อ เพลงเหมือนผู้หญิงก่อนมีประจำเดือนมาก 55555 สงสัยขาดแคลเซี่ยม

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
น่าจะ มีใครบังคับให้สิงห์เลิกกับเพลง แล้วสิงห์ก็ไม่บอกเหตุผลกับเพลง แน่ๆ (มโนไปงั้น)
อยากให้สิงห์เห็นตอนที เพลงทำตัวเพลย์บอย ท่าทางจะหึงโหด แต่อ๊ะๆ เลิกกันไปแล้ว หึงไม่ได้นะ พี่แกคงอกแตกตาย
เรื่องหลอกให้ใส่โกเต๊กฝึกขี่ม้า สิงห์เล่นแรง หยามกันไปหน่อยนะคะ แม้จะกวนประสาทก็เหอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2015 15:11:37 โดย kdds »

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
สายใจน่ารักอะ 5555

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
คีย์เหมือนแมวชอบขู่ฟ่อๆเลย น่ารักที่ซู๊ดดดด   :m3:

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อีกคนก็ขี้โวยวายแต่ก็น่ารัก
อีกคนก็ช่างแกล้งเหลือเกิน

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
สนุกๆๆๆๆๆรอจร้าาาาา

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
สนุกค่า รอๆ

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกมากๆ รอติดตามตอนต่อไปอยู่น้า :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
สายใจน่าร๊ากกกก~ :m3: สนุกมากๆ เลยจ้า ^^ อยากรู้แล้วสิคะเนี่ยว่าเพลงกับสิงห์เลิกกันเพราะอะไร แต่หวังว่าคงไม่ใช่ฝีมือของคุณพ่อหรอกน้าา~

ออฟไลน์ mek_it

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สนุกดี ลุ้นๆ / ตามอ่านจ้าาาา

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
โอ่วภาษายอดเยี่ยม พล็อตลื่นไหลน่าติดตาม
อยากอ่านจะแย่แว้ว
 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ smmikie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
รีบมาต่อน้า

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
มารอจ้าาา  :กอด1:

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
~ แมกไม้  ไอดิน กลิ่นหมอก ~

รักพัดหวน

ตอนที่4










“ตื่นแล้วหรือคะ?”
   
“อื้อ”

   “คุณสิงห์คะ  เดี๋ยวเย็นนี้หนูไม่อยู่นะคะจะไปรับแม่ที่กรุงเทพฯ”   สีหราชพยักหน้ารับรู้พลางกวาดสายตามองไปรอบเรือน

   “สายใจ  คุณคีย์ล่ะ?”

   “ออกไปที่รีสอร์ทแล้วค่ะ”   สายใจหันมาตอบคนเป็นนายพลางยกชามข้าวต้มมาวางไว้ให้

   “แล้วทานข้าวเช้าหรือเปล่า?”

   “เรียบร้อยค่ะ  สายใจจัดให้ตามคำสั่งคุณสิงห์เลยค่ะ”  สีหราชพยักหน้ารับ

   “คุณคีย์บอกว่าวันนี้คุณสิงห์ไม่ต้องตามไปที่รีสอร์ทก็ได้  เดี๋ยวจะคุยกับทางเจ้าหน้าที่เอง  ให้คุณสิงห์พักผ่อนอยู่บ้านค่ะ”   สายใจรายงานเพิ่มเติม   ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง

   “แล้วนี่ไปยังไง?”

   “ขี่เจ้า music ไปค่ะ”

   “?”  สุดท้ายสีหราชก็ต้องตามไปอยู่ดี  เขาให้เหตุผลว่าบางทีคีตกาลอาจจะคุยกับเจ้าหน้าที่ไม่รู้เรื่องซึ่งเขาไม่ได้เป็นห่วงอะไรทั้งนั้น








   “แล้วคุณคีย์จะจัดการถางที่ไปถึงขอบเขตไหนครับ?”คีตกาลอธิบายพลางบอกถึงเรื่องเครื่องเล่นทางน้ำที่จะสร้างแล้วถามว่าต้องแจ้งหรือใช้เอกสารอะไรเพิ่มเติมอีกไหม  อดิศรให้คำปรึกษาเพิ่มแล้วจดบันทึกลงในสมุดของตนเอง

   “พักหน่อยไหมครับ  เหงื่อคุณศรออกเต็มเลย”   คีตกาลชวนอีกฝ่ายเข้าร่มก่อนจะหยิบขวดน้ำส่งให้

   “ขอบคุณครับ”  อดิศรยิ้มกว้าง รับขวดน้ำจากมือขาวแล้วตัดสินใจเอ่ยถาม “เย็นนี้คุณคีย์ว่างไหมครับ?”

   “เอ  ยังไม่แน่ใจเลยครับ  คุณศรมีอะไรหรือเปล่า?”

   “คือผม...”  คีตกาลเลิกคิ้วรอฟัง  หากเมื่อแว่วได้ยินเสียงรถเขาจึงหันไปมองผู้มาใหม่   ร่างโปร่งเบ้หน้าก่อนจะหมุนตัวออกไป   จังหวะที่หมุนตัว  อาจเป็นเพราะดินที่เพิ่งปรับใหม่  หินก้อนเล็กก้อนใหญ่รวมทั้งหลุมๆเล็กก็ทำให้คีตกาลเซหงายหลังทันที  “คุณคีย์!”  อดิศรผวาคว้าแขนขาวไว้ข้างหนึ่ง  อีกข้างตวัดรั้งเอวสอบของคีตกาลอย่างรวดเร็ว

   “....ขอบคุณครับ”  ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณด้วยใบหน้าซีดขาว  เมื่อครู่คิดว่าจะล้มหงายหลังหัวฟาดพื้นเสียแล้ว  ตกใจหมดเลย...

   “สวัสดีครับ”  สีหราชก้าวฉับมายังคนทั้งคู่ก่อนเอ่ยแทรกให้อดิศรหันมามองอย่างงงๆว่าผู้มาใหม่เป็นใคร

   “สวัสดีครับ” 

   “ผมมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า?”  แม้ใบหน้าเข้มคร้ามจะยกยิ้มหากแววตากลับดุดัน  ซ้ำน้ำเสียงยังแข้งกระด้างจนคนฟังรู้สึก  อดิศรที่เพิ่งรู้ตัวว่าโอบเอวคีตกาลเอาไว้ถึงกลับปล่อยมือแทบไม่ทัน  ถึงแม้ในใจลึกๆจะแอบเสียดายอยู่มากก็ตามที

   “เอ่อ  คุณศร  นี่คุณสีหราชหุ้นส่วนรีสอร์ท”  ทั้งคู่ทำความรู้จักกัน  ท่ามกลางอากาศร้อนคีตกาลรู้สึกหนาวสันหลังแปลกๆ  อดิศรแจ้งถึงขอบเขตการจัดการรอบๆรีสอร์ท   สิ่งที่ต้องทำและแจ้งทางการเพิ่มเติมให้รับทราบ  สีหราชเพียงพยักหน้ารับ

   “คุณสิงห์! คุณสิงห์!”  เสียงร้องเรียกตะโกนอย่างเร่งรีบทั้งๆที่รถมอเตอร์ไซค์เก่าๆยังจอดไม่สนิทดี  ร่างแกร็นๆของชายวัยกลางคนวิ่งเข้ามาหาสีหราชด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

   “มีอะไรลุงปั่น?”

   “ไอ้พวงครับ  ไอ้พวงมันตกรถไถ!”  ร่างสูงผละออกไปยังรถทันที  คีตกาลเมื่อได้ยินก็วิ่งตามมา

   “ฉันไปด้วย!”  ถ้าจำไม่ผิดทั้งลุงปั่นทั้งนายพวงคือคนที่ไปช่วยเขาวันที่รถลงข้างทางนั่น  พอได้ยินว่ามีใครบาดเจ็บเขาจึงรู้สึกตกใจ   ทั้งๆที่บอกแบบนั้นแต่ร่างโปร่งก็ลังเลหันซ้ายหันขวาเพราะเขาขี่เจ้า music มา

   “ถ้าจะไปก็ขึ้นรถ  เดี๋ยวให้ลุงผันมาเอาเจ้า music กลับ”  สีหราชเอ่ยเร่ง  ร่างโปร่งหันไปยังแขกของตนพลางเอ่ยขอตัวแล้วกระโดดขึ้นรถไปกับสีหราช  อดิศรเกาหัวแกรก  ไอ้ที่จะชวนคีตกาลไปทานข้าวในเมืองเห็นทีต้องเลื่อนไปคราวหน้าเสียแล้ว


   “ไปทำอีท่าไหนถึงตกรถลงมา?”  สีหราชถาม  คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อเห็นนายพวงซึ่งตอนนี้มีแผลแตกที่ศีรษะเลือดอาบ  อีกทั้งดูเหมือนแขนข้างหนึ่งจะบิดผิดรูปด้วย  “พาไปขึ้นรถ”  เสียงเข้มสั่งให้คนงานคนอื่นๆหิ้วปีกคนเจ็บขึ้นรถ

“มันเห็นนายไม่เข้ามาดูงานวันนี้เลยแอบกินเหล้าครับนาย  พอดีว่าใต้ดินที่รถมันไถนั่นมีไม้ใหญ่ผุอยู่ข้างใต้  ดินมันเลยทรุด”   สีหราชพยักหน้ารับก่อนจะบ่นขรมถึงความสะเพร่าและนิสัยเสียของคนในปกครอง   พร้อมคาดโทษไว้ว่าจะกลับมาจัดการหลังพาคนเจ็บไปโรงพยาบาลแล้ว   คีตกาลวิ่งตามเข้ามาดู  พอเห็นเลือดเท่านั้นจากหน้าซีดอยู่แต่เดิมก็แทบเป็นลมร้อนให้สีหราชที่หันมาดูรีบคว้าแขนเอาไว้ทันทีเพราะกลัวฝ่ายนั้นจะล้มลงไป

“เลือดออกเยอะจัง”

“รู้ว่าตัวเองแพ้เลือดยังจะวิ่งมาดูอีก”   ร่างสูงเอ่ยดุให้เจ้าของใบหน้าซีดเผือดเงยขึ้นถลึงตามองอย่างไม่เจียมสังขาร

“ก็อยากมาช่วย”

“อยากมาช่วยหรืออยากมาเสือกกันแน่?”

“ไอ้!”   ปากหมา!   อยากจะด่าอยู่หรอกแต่ไม่มีแรง

“ไปนั่งข้างหน้าไป  เดี๋ยวให้คนอื่นช่วยดูนายพวงเอง”  สีหราชรั้งแขนขาวให้เดินไปที่รถก่อนจะจัดแจงให้ร่างโปร่งนั่งข้างคนขับแล้วขับออกไป

แผลแตกที่ศีรษะเย็บไปแปดเข็มกับต้องเข้าเฝือกเพราะแขนหัก  คีตกาลถอนหายใจโล่งอกที่นายพวงไม่ได้เป็นอะไรหนักมากอย่างที่นึกกลัว  แต่คนเป็นเจ้านายชี้หน้าคาดโทษเนื่องจากคราวนี้เจ็บเพราะนายพวงทำตัวเอง  ดังนั้นจึงถูกตัดเงินเดือนไปโดยปริยาย
สีหราชไปส่งนายพวงถึงบ้านพักพร้อมกำชับให้กินยาตามหมอสั่ง  คีตกาลเหลือบมองคนหน้าดุซึ่งเอ่ยด่าคนในปกครองกลบเกลื่อนความเป็นห่วงก็ให้ยกยิ้ม
ฟ้าแล่บแปลบปลาบให้ร่างโปร่งเงยหน้าขึ้นมองขณะเดินขึ้นเรือน   ช่วงนี้ร้อนจัดสงสัยพายุโซนร้อนจะเข้ากระมัง   เขาแทบไม่ได้ตามข่าวเลยเพราะมัวแต่ยุ่งทุกวัน

“ท่าทางจะมีพายุ  เข้าห้องแล้วปิดหน้าต่างดีๆล่ะ”   สีหราชกำชับ  พลางยกมือขึ้นนวดไหล่ตัวเอง  บิดเอวซ้ายทีขวาที  ถ้าหูไม่ฝาดคีตกาลเหมือนได้ยินเสียงกระดูกลั่นกร๊อบด้วย

“เดี๋ยว!”   เขาร้องเรียกเจ้าของบ้านที่กำลังเข้าห้องเอาไว้ก่อนจะเดินไปยังตู้ยาสามัญที่สายใจแบกกล่องยามาเมื่อวานแล้วหยิบซองยามาดูๆ  พยักหน้ากับตัวเองสองสามทีแล้วเดินกลับมาหาร่างสูงซึ่งยืนรอตามคำรั้ง

“?”

“ยาคลายกล้ามเนื้อ  สายใจบอกว่าให้กินอีกวัน”  คีตกาลเหลือบมองหางคิ้วอีกฝ่ายที่ติดพลาสเตอร์เอาไว้ “แล้วยังปวดแผลอยู่ไหม?”

“.......”   สีหราชส่ายหน้า   มองยาในมือขาวแล้วยืนนิ่ง
   
“เอาไปซิ”

   “ยังไม่ได้กินข้าว   เดี๋ยวยากัดกระเพาะ”

   “......”  ยืนนิ่งคว้างกลางอากาศกันทั้งคู่   คีตกาลกระแอมไอพลางร้องเรียกหาสายใจก่อนสาวเท้าเข้าไปห้องอาหารเลยไปทางห้องครัวเมื่อไม่เห็นสำรับข้าววางอยู่บนโต๊ะเช่นทุกที

   “สายใจไม่อยู่   ไปรับป้าแช่มที่กรุงเทพฯ”

   “ป้าแช่ม?”

   “แม่ของสายใจน่ะ”   คีตกาลพยักหน้ารับรู้แล้วยืนนิ่ง   ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะเบียดอีกคนเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นก้มเงยๆคว้านู่นหยิบนี่ออกมาวางบนเค้าท์เตอร์   “หุงข้าวเป็นไหม?”   สีหราชหันมาถามคนที่ยืนเอ๋อ

   “เป็น”

   “งั้นนายจัดการหุงข้าวไป”    คีตกาลพยักหน้ารับงงๆ   กว่าจะรู้ว่าคนที่ทำอาหารเย็นวันนี้คือเจ้าของบ้านร่างสูงใหญ่ก็ตอนที่ได้กลิ่นไข่เจียวโชยมาแตะจมูกนั่นแหละ

   จ๊อกกกกกกก

   สีหราชหันขวับมาทางต้นเสียงพลางเลิกคิ้วมองคนที่เอามือกุมท้องแล้วยกยิ้มมุมปาก    คีตกาลได้แต่ถลึงตามองคนยกยิ้มเพราะท้องเจ้ากรรมดันส่งเสียงน่าอายขายหน้าเจ้าของ
   กระเพราหมูสับ  ไข่เจียว  อาหารสิ้นคิดและจานด่วนที่อร่อยที่สุดสำหรับคนหิวสองคนพร้อมข้าวหนึ่งหม้อที่พอสีหราชเปิดฝาหม้อข้าวถึงกับแสร้งเบิกตาโตเอ่ยปากชมคนหุงข้าวว่าเก่งมากที่สามารถหุงได้ไม่แฉะไม่ดิบ  และสามารถกินได้   จนคีตกาลแทบอยากจะเอาช้อนขว้างอยู่รอมร่อถ้าไม่ติดว่าตอนนี้หิวจนท้องเขาแสบไปหมดแล้ว
   น่าแปลกใจที่อาหารง่ายๆแค่ไม่กี่อย่างกลับอร่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อ   คีตกาลให้เหตุผลกับตัวเองว่านั่นเป็นเพราะว่าเขาหิวมาก  อะไรเข้าปากก็เลยอร่อยไปเสียทุกอย่าง   ต่างกับอีกคนที่ค่อยๆละเลียดกินราวกับกลัวว่าข้าวในจานจะหมด

   “ราตรีสวัสดิ์  แล้วก็อย่าลืมกินยาด้วยล่ะ”   วันนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะเล่นแง่   คีตกาลจึงเอ่ยปากราตรีสวัสดิ์ให้เจ้าของบ้านแปลกใจเล่น  เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ร่างโปร่งไม่เคยพูดคำนี้กับเขาสักที

   “ราตรีสวัสดิ์   แล้วก็....”

   “?”

“ห่มผ้าหนาๆนะ  คืนนี้ฝนคงตก”    ร่างสูงเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้าห้องไปก่อน    ทิ้งให้คีตกาลประมวลผลกับคำพูดนั้น 

...ฝนตกอากาศเย็น  แล้วเขาก็ขี้หนาว....ผ้าห่มหนาๆ....
   
แปลก....  ทั้งๆที่เขามั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ยิ้ม  แต่ไม่รู้ทำไมถึงปวดแก้มขึ้นมาก็ไม่รู้



**********




หยดน้ำบนยอดหญ้ากระเซ็นเปียกเมื่อเท้าของใครบางคนเหยียบลงย่ำ  คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนกระชับเสื้อแขนยาวของตัวเองพลางยู่หน้าอย่างไม่ชอบใจ   พื้นดินเฉอะแฉะเป็นสิ่งที่คีตกาลไม่ใคร่ชอบใจนักเพราะดินเปียกชื้นมักจะติดรองเท้าทำให้เดินลำบาก    กระนั้นเขาก็ยังต้องไปรีสอร์ทเพราะนัดกับอดิศรเอาไว้   และเช้านี้สายใจไม่อยู่เขาจึงคิดว่าไปทำงานเลยคงดีกว่า    หากเสียงทุ้มจากบนเรือนเอ่ยรั้งไว้ก่อน

   “ขึ้นมากินอาหารเช้าก่อน”

   “?”   ถึงจะแน่ใจว่าเจ้าของบ้านทำอาหารเป็นแต่เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตื่นเช้าขึ้นมาทำอาหารเลยนะนี่

   “ให้คุณอดิศรมาคุยงานที่นี่เสีย   ฝนตกเมื่อคืนที่รีสอร์ทคงเละน่าดู  มาคุยกันที่นี่แหละสะดวกดี”   คีตกาลพยักหน้ารับก่อนจะตักเนยถั่วมาทาขนมปังปิ้ง    ไอ้อาหารเช้าที่ร่างสูงว่าก็คือ ไข่ดาว   ขนมปังปิ้งและไส้กรอกทอดเท่านั้น   และเมื่ออีกฝ่ายลงมือทำอาหารให้หน้าที่ชงกาแฟจึงตกเป็นของคีตกาลโดยปริยาย   
   
   “จะเข้าฟาร์ม   จะไปด้วยไหม?”   จู่ๆสีหราชที่นั่งเฝ้าก็โพล่งขึ้นมาให้คีตกาลเลิกคิ้วมอง   ย้ำว่านั่งเฝ้าจริงๆ  เพราะมีแค่เขาที่คุยธุระอยู่คนเดียว  ชายหนุ่มหันไปยิ้มแหยกับอดิศรก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเอ่ยขอตัวกับอีกฝ่าย  อันที่จริงเขานึกขอบคุณสีหราชด้วยซ้ำ  เพราะตั้งแต่เช้าที่เขาโทรศัพท์บอกให้อดิศรมาคุยงานที่เรือนนี้   จนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปเที่ยงแล้วฝ่ายนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปสักนิดทั้งๆที่คุยจนไม่มีอะไรจะคุยแล้วแท้ๆ


ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3

สีหราชจูงเจ้า Music  ออกมาให้คีตกาลกับอีกตัวที่เขารู้ชื่อทีหลังว่าชื่อเจ้าสายฟ้า    ทั้งคู่ค่อยขี่ม้าลัดเลาะไปทางพื้นที่ที่กำลังไถกลบเมื่อวานที่นายพวงตกรถไถนั่นเอง

   “ไหนว่าไปฟาร์ม?”   

   “เปลี่ยนใจแล้ว”

   “กวนตีน”   คีตกาลเบ้หน้าใส่แผ่นหลังกว้างของคนข้างหน้า  ฝ่ายนั้นหันมาหัวเราะใส่  ทำเอาเขาปรับสีหน้าแทบไม่ทัน

   “....กลับเถอะ  ฝนทำท่าจะตก”

   “ห้ะ?”  อะไรของมันวะ!  คีตกาลอยากกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายมาเขย่าๆถาม   นี่คุณมึงกวนตีนตูอยู่ใช่ม้ายยยยยยย!

   “ฝนพายุลมมักจะแรง...ลุงปั่น!  บอกคนงานให้หยุดได้แล้ว  แล้วบอกไอ้เขียวตามผมไปที่ฟาร์มด้วย!”   ท้ายประโยคสีหราชตะโกนสั่งคนงานเสียงดัง  เสร็จแล้วจึงค่อยหันมาหาคีตกาลอีกครั้ง  “กลับบ้านไปไป๊!”

   “อ้าว?”  ร่างโปร่งเลิกคิ้วรอบที่ร้อย   วันนี้กะว่าจะไม่รวนอีกฝ่ายแล้วนะ  ไหงกลายเป็นว่าเขาต้องโดนโจมตีอยู่เรื่อย!

   “ฝนจะตกแล้ว  ลมแรงเนี่ยเห็นไหม?”  สีราชเอ่ยเสียงดุ

   “เห็น  ไม่ได้ตาบอดนี่”

   “....ไม่ได้ตาบอดแต่หูตึงซินะ  บอกให้กลับบ้าน!”

   “ไม่กลับ!”   ไอ้ฝนไอ้พายุเนี่ยเขาเห็นนะ  อยากกลับบ้านด้วยแต่โมโหคนออกคำสั่งไง  เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!

   “......”   สีหราชชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ   ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้มากเพราะฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล   ชายหนุ่มบังคับเจ้าสายฟ้าให้ออกวิ่งไปทางฟาร์ม  พร้อมกับลุงปั่นที่ควบม้ามาทางคีตกาลพอดี

   “คุณคีย์  ทำไมไม่กลับบ้านไปครับ  พายุเข้าแบบนี้พวกม้าจะตกใจง่ายนะ”

   “แล้วยังไง?”  เขาไม่เข้าใจ  ลุงปั่นบอกว่าพายุเข้าแบบนี้มักจะมีฟ้าร้องฟ้าผ่า  พวกสัตว์จะตื่นตกใจง่ายไม่ควรขี่มันออกมาข้างนอก ทางที่ดีชายหนุ่มควรจะพาเจ้า Music กลับบ้านไปเสีย   หากแต่ตอนนี้ฝนเริ่มโปรยลงมาแล้ว  เจ้า Music ยังคงอยู่ในโอวาทดี  เขาเหลียวหน้าเหลียวหลังจนลุงปั่นชวนเขาไปที่ฟาร์มเพราะระยะทางใกล้กว่า   

   “ไปที่ฟาร์มเถอะครับ  กว่าจะถึงบ้านพอดีฝนคงลงหนัก”  ลุงปั่นบอก   คีตกาลค่อยควบม้าตามอีกฝ่ายไป  โชคดีมาถึงฟาร์มช่วงที่ฟ้ากระหน่ำร้องเปรี้ยงปร้างพอดี   บรรดาม้าทั้งหลายต่างตื่นตกใจ  คีตกาลเห็นสีหราชวิ่งเข้าจับเชือกลูกม้าตัวเขื่องพยายามเอาเจ้าตัวเล็กเข้าคอกไปอยู่กับแม่  พลางร้องสั่งให้คนงานลั่นกลอนคอกม้าให้แน่นหนาเสียงเอ็ดตะโรแข่งกับเสียงฝนให้วุ่น  ส่วนเจ้า Music ของเขาลุงปั่นพาเข้าคอกไปแล้ว

   สายฝนกระหน่ำสาดซัดพร้อมทั้งลมกรรโชกแรงเล่นเอาคนที่เสื้อชื้นอยู่ก่อนหน้าถึงกับหนาวสั่น   คีตกาลยกแขนขึ้นกอดอกเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ตัวเอง  ใบหน้าใสเบ้แล้วขยับก้มจนคางชิดอกเมื่อแสงสีเงินสว่างวาบจนต้องหลับตาหนีก่อนเสียงสะเทือนลั่นจะตามมา

   หงิง~   เสียงร้องครวญครางของสัตว์บางชนิดทำเอาคนกลัวฟ้ากลัวฝนเงยหน้าขึ้นทันที    คีตกาลเหลียวมองรอบกายหากไม่เห็นที่มาของเสียงร้องครางเมื่อครู่    หรือเขาจะหูฝาด?

   หงิง~  คราวนี้แน่ชัดแล้วว่าไม่ได้หูฝาดไปเอง  ร่างโปร่งจึงออกเดินก้มๆเงยๆหาต้นเสียง   พลันสายตาจึงเห็นก้อนกลมสีน้ำตาลก้อนหนึ่งสั่นระริกอยู่ตรงมุมด้านในสุด   คีตกาลเลิกคิ้ว  เหลียวหาว่าเจ้าก้อนกลมๆตัวเล็กๆนี่เข้ามาจากทางไหน

   “เจ้าหมาน้อย   ทำไมมาอยู่ที่นี่ตัวเดียวล่ะ  แม่แกไปไหน?”  เขาถามราวกับมันจะตอบรู้เรื่อง  เจ้าก้อนกลมๆสีน้ำตาลเงยหน้าที่ซุกซบหลบเสียงฟ้าร้องขึ้นมองผู้มาเยือนแล้วเบียดตัวเข้ามามุมกำแพง  ตัวสั่นมากขึ้นกว่าเดิม

   “มาทำอะไรตรงนี้?”   เสียงทุ้มเอ่ยถาม  หลังเอาม้าเข้าคอกหมดแล้วเขาจึงเดินตามร่างโปร่งของคีตกาลมาเมื่อลุงปั่นบอกว่าคุณคีย์อยู่ที่ฟาร์มด้วย     ชายหนุ่มส่ายหัวให้กับความดื้อของอีกคนก่อนจะเห็นหลังไวๆของฝ่ายนั้นเดินไปอีกทาง

   “ลูกหมา”

   “หืม  มาจากไหนกัน?”  ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ  “ไอ้พวกนี้นี่ต้องตัดเงินเดือนกันเสียให้หมด  ปล่อยให้แม่หมามาคลอดลูกอยู่ในฟาร์มได้ยังไง”  ร่างสูงเท้าเอวมองก้อนสีน้ำตาลนั่นก่อนสาวเท้าเข้าไปหิ้วหลังคอเจ้าตัวนั้นยกขึ้นสูง 

   “เฮ้ย!  นายจะทำอะไรน่ะ!”  คีตกาลร้องโวยเมื่อร่างสูงทำท่าจะหิ้วลูกหมาออกไป  มันร้องเสียงหลงอย่างตกใจกลัว

   “เอาไปปล่อย”   

   “ปล่อยที่ไหน?” 

   “ข้างนอก”

   “ตอนนี้?  กลางฝนเนี่ยนะ?”   สีหราชไม่ตอบหากทำท่าจะเดินออกไป    คีตกาลผวาเข้ากางแขนกั้นแล้วชิงเจ้าก้อนสีน้ำตาลนั้นไปจากมือร่างสูงอย่างรวดเร็ว

   “ตอนนี้มันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ”

   “แต่มันก็ไปอยู่กลางฝนกลางพายุไม่ได้เหมือนกัน  ไอ้คนใจร้ายเอ้ย!”  คีตกาลสบถด่าอย่างโมโห   มีที่ไหนจะเอาลูกหมาตาดำๆออกไปโยนทิ้งกลางฝนแบบนี้  ใจดำอำมหิตเกินไปแล้ว!

   คีตกาลกอดเจ้าก้อนสีน้ำตาลนั้นแน่น  ไม่สนว่ามันจะดิ้นจะข่วนเขาจนได้แผลมากน้อยแค่ไหน  ขอแค่มันไม่ถูกจับโยนทิ้งก็พอ   สีหราชมองท่าทางนั้นแล้วถอนหายใจ  อธิบายอะไรไปตอนนี้คนตรงหน้าคงไม่ฟังแน่ๆ    สุดท้ายเขาจึงปล่อยให้อีกฝ่ายกอดเจ้าลูกหมาสีน้ำตาลเอาไว้ไม่ปล่อย    คีตกาลถอดเสื้อแขนยาวของตัวเองมาห่อมันไว้  ไม่ใส่ใจว่าเสื้อผ้าราคาแพงของตัวเองจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนหรือไม่

   “รออยู่ที่นี่”  สีหราชชี้หน้าคนดื้อแล้วออกจากฟาร์มไป  ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยอมเชื่อฟังเขาแค่ไหน

   คีตกาลไม่ได้ตามออกไป   เขารออยู่ที่ฟาร์มตามคำสั่งของฝ่ายนั้น  ถึงแม้ว่าตอนนี้จะหนาวและอยากกลับไปอาบน้ำซุกตัวใต้ผ้าห่มอุ่นหนามากสักแค่ไหนก็ตาม   เขากอดเจ้าลูกหมาตัวน้อยเอาไว้เพื่อความอบอุ่นให้ทั้งมันและตัวเองจนกระทั่งเห็นรถจี้ปคุ้นตาเข้ามาจอด  ร่างสูงของสีหราชกระโดดลงมาแล้วตรงมาทางคีตกาลทันที  ชายหนุ่มเปียกโชกไปทั้งตัวเพราะฝ่าฝนไปกับเจ้าเขียวเพื่อเอารถจี้ปกลับมาที่ฟาร์ม

   “ขึ้นรถไป  ท่าทางฝนจะยังไม่หยุดง่ายๆแน่”   

   “แล้วเจ้าตัวนี้ล่ะ?”

   “ก็เอามันไปด้วยซิ”

   “?”   คีตกาลเอียงคอมองคนที่เอ่ยปากอนุญาตแล้วให้ยืนนิ่ง  ก่อนจะยกยิ้มกว้างอย่างดีใจแล้ววิ่งขึ้นรถ
ดวงตาเรียวเหลือบมองคนขับที่ตีหน้าดุแล้วก้มลงมองตัวเอง  เขาน่ะชื้นไปทั้งตัวเพราะละอองฝนแต่อีกฝ่ายน่ะเปียกตั้งแต่หัวยันกางเกงในเชียวนะนั่น   อันที่จริงรอให้ฝนหยุดแล้วปล่อยให้เขาขี่เจ้า Music กลับเองก็สิ้นเรื่องแล้วแท้ๆ...

   เสียงวิ่งตึงตังลั่นเรือนเพราะใครบางคนหาผ้ามาให้เจ้าลูกหมาซึ่งยืนตัวสั่นอยู่ตรงระเบียง   คีตกาลเกาหัวแกรกพลางขมวดคิ้วเนื่องจากไม่มีเสื้อผ้าตัวไหนเก่าพอจะเสียสละเป็นที่นอนให้เจ้าหมาน้อยได้เลย

   “เอาผ้านี่ไปซิ”   ร่างสูงยื่นผ้าขนหนูสีตุ่นมาให้ก่อนจะเดินห่างออกไปอีกทาง  ทิ้งให้คีตกาลมองแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างนึกขอบคุณ

   “เจ้าหมาน้อย  ฉันมีผ้าให้แกนอนแล้วนะ”   เขาเช็ดตัวให้มันก่อนจะห่อมันไว้เพื่อเพิ่มความอบอุ่น  ผ่านไปครู่ใหญ่สีหราชกลับมาหลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า   ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองคนที่ยังอยู่ในชุดเดิมแล้วขมวดคิ้วรอบที่พันของวันอย่างไม่ชอบใจ

   “ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดอีก?”

   “เช็ดตัวให้เจ้าหมาก่อน”

   “......ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”

   “....”  คีตกาลไม่ตอบรับ  หากฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีพลางเช็ดตัวให้ลูกหมาไปด้วย

   “นับหนึ่งถึงสาม  ถ้าไม่ลุกขึ้นมาฉันจะจับเจ้าหมานี่โยนออกนอกบ้าน  หนึ่ง!”

   “เฮ้ย  อะไรวะ?  ทำแบบนี้ไม่ได้นะโว้ย”  ร่างโปร่งผุดลุกขึ้นเต็มความสูงทันที

   “สอง!”

   “ไอ้คนโหดเหี้ยม   ไอ้อำมหิต  มันอย่างเด็กอยู่เลยนะนายจะทำกับมันแบบนี้ไม่ได้!”

   “สาม!”  มือใหญ่คว้าเจ้าขนปุยสีน้ำตาลเตรียมจะโยนลงระเบียงอย่างปากว่า  คีตกาลผวายึดแขนแกร่งเอาไว้แน่นทั้งสองมือ

   “สิงห์!  อย่านะ!”

   “..........ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อเสีย  เปียกไปหมดทั้งตัวแบบนี้มันไม่ดี  เสร็จแล้วค่อยออกมาดูมันต่อก็ได้”

   “นายจะไม่จับมันโยนทิ้งใช่ไหม?”

   “ไม่หรอก         ....ถ้านายไม่ดื้อ”

   “OK.  ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้แหละ!”    ร่างโปร่งวิ่งปรู๊ดกลับห้องไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจจับเจ้าหมาโยนทิ้งนอกบ้านจริงๆ  โดยไม่ทันเห็นรอยยิ้มอ่อนแต้มลงบนริมฝีปากหยักของคนขู่
เพียงแค่สิบนาทีคีตกาลก็ออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่แห้งสนิท  หากเส้นผมยังคงเปียกชื้นเพราะไม่ยอมเช็ดให้แห้ง  ร่างโปร่งวิ่งออกมาเพราะเป็นห่วงว่าคนใจร้ายจะทำอะไรไม่ดีกับลูกหมา    หากสิ่งที่เห็นคือร่างสูงใหญ่กำลังปูผ้าขนหนูลงในกล่องใบเขื่องที่ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นไปหามาจากไหน  ก่อนจะอุ้มเจ้าขนปุยสีน้ำตาลวางลงไปในกล่องอย่างเบาเมือ   ใบหน้าเข้มคร้ามแต้มรอยยิ้มกว้างให้คนมองชะงักนิ่ง   ...รอยยิ้มที่ทำให้ใบหน้าดุแลดูอ่อนโยนขึ้น    หากเจ้าตัวยิ้มบ่อยๆก็คงดี...

“อยู่ในนี้นะเจ้าหมาเด็ก”   เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบแผ่วเบา

“ฮัดชิ้ว!”  สีหราชหุบยิ้มหันไปมองต้นเสียง   ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดลำลองขาสั้นหากหัวยังเปียกมีน้ำหยดติ๋งๆเดินเข้ามาหา   ร่างสูงคว้าหมับเจ้าขนปุยมาอุ้มแล้วเขม้นมองอีกคน

“ทำไมไม่เช็ดหัวให้แห้ง?”

“เดี๋ยวมันก็แห้งน่า”

“ไปเช็ดผม”  คนหน้าดุเอ่ยเสียงเข้ม   คีตกาลจิ๊ปากอย่างไม่ชอบใจและไม่ยอมทำตามคำสั่ง

“ขอเล่นกับเจ้าลูกหมาก่อน  เฮ้ย!”  คีตกาลร้องเสียงหลงเมื่อสีหราชยื่นแขนที่อุ้มลูกหมายื่นไปตรงระเบียง

“คราวนี้จะไม่นับหรอกนะ”

“รู้แล้วๆ!  ขู่ได้ขู่ดีนะแก!”   คีตกาลวิ่งกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็ว  มือขาวคว้าขนหนูติดมือมาแล้วเช็ดลวกๆก่อนคลุมผมเอาไว้ทั้งอย่างนั้นแล้วกลับออกมาใหม่เพราะไม่ไว้ใจให้เจ้าของบ้านอยู่กับลูกหมาตามลำพัง

สีหราชส่ายหัวอย่างระอากับคนที่ดื้อเหมือนเด็ก   ร่างสูงเดินเข้าไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมนมหนึ่งกล่องและถ้วยพลาสติกใบเล็ก   ชายหนุ่มทรุดนั่งเบียดกับอีกคนก่อนวางถ้วยพลาสติกลงพลางเทนมใส่    คีตกาลตอนแรกที่ไม่พอใจเพราะโดนเบียดจนเกือบล้มเลิกคิ้วมองแล้วขยับตัวออกเล็กน้อย

“ฉันให้เองๆ”  มือขาวคว้ากล่องนมมาเทแล้วอุ้มลูกหมาออกมาจากกล่อง

หงิง~  เจ้าหมาน้อยสีน้ำตาลขนฟูครางหงิง  เดินเตาะแตะมาดมถ้วยนม   จมูกสีน้ำตาลดมกลิ่นก่อนจะแลบลิ้นเลียอย่างกลัวๆกล้าๆ  พอได้ลองลิ้มรสแล้วจึงค่อยเลียกินอย่างรวดเร็วด้วยความหิว

“ฮัดชิ้ว!”  คีตกาลจามออกมาอีกครั้ง  คราวนี้มีเสียงสูดน้ำมูกตามมา  สีหราชมองคนข้างตัวแล้วดึงต้นแขนให้อีกฝ่ายลุกขึ้น

“ฮื่อ!  ทำอะไรเนี่ย?”  เสียงใสอู้อี้ขึ้นจมูกถามกลับ

“เช็ดหัวให้แห้ง”

“....”

“เดี๋ยวนี้!”

“..............”

“ถ้าหัวไม่แห้งก็ไม่ต้องไปเล่นลูกหมา!”   สุดท้ายคีตกาลก็ต้องมานั่งเช็ดผมตัวเองให้แห้งตามคำสั่งแต่โดยดี


ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปนานแค่ไหน  หากท้องฟ้าด้านนอกนั่นมืดสนิทไปแล้ว  ฝนยังตกไม่หยุดตั้งแต่บ่าย  อากาศเย็นชื้นทำให้เขาต้องห่อตัวแล้วตวัดผ้าห่มขึ้นคลุม

“หืม?”  คิ้วเรียวขมวดมุ่นมองผ้าห่มที่คลุมกายก่อนจะลุกขึ้นนั่ง    อาการปวดตุบตรงขมับลามไปถึงกระบอกตาทั้งสองข้าง  ในคอก็ระคายเคืองเหมือนกลืนทราย

“ตื่นแล้วก็ลุกมากินข้าว”  เสียงทุ้มเอ่ยสั่ง  เขาเหลือบมองร่างสูงที่กำลังจัดโต๊ะกินข้าว

“สายใจ...แค่กๆ ล่ะ?”   เอ่ยได้เพียงเท่านั้นก็ไอออกมาอีกชุดใหญ่  สีหราชขมวดคิ้วแล้วเดินเข้ามาหาแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ  มือใหญ่ยกแตะหน้าผากเนียน  เท่านั้นแหละใบหน้าที่ดุอยู่แต่เดิมยิ่งดุหนักขึ้นไปอีก

“เห็นไหม  ไม่สบายจนได้!”

“ฮื่อ! ไม่เป็น  แค่ก  อะไร แค่ก  สักหน่อย”  คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าป่วยเถียงกลับกระท่อนกระแท่น

“เพราะดื้อน่ะซิถึงได้เป็นแบบนี้!”  ไม่วายสีหราชจะเอ่ยดุอีกรอบ   ชายหนุ่มหันมามองอาหารบนโต๊ะก่อนจะลุกมาจัดการเอาข้าวสวยเทใส่หม้อแล้วเติมน้ำตั้งเตาใหม่อีกครั้ง

ข้าวต้มกุ๊ยพร้อมไข่เค็มหนึ่งลูกถูกยกมาตรงหน้า  คีตกาลเลิกคิ้วมอง  อาการปวดหัวเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นซ้ำยังเวียนหัวด้วย  ร้อนออกกระบอกตาและลำคอจนรู้สึกเลยว่าตัวเองกำลังมีไข้

“กินข้าวซะจะได้กินยา”

“สายใจล่ะ?”

“คงมาถึงพรุ่งนี้เช้า”   สีหราชบังคับให้อีกฝ่ายกินข้าวต้มจนเกือบหมดถ้วยแล้วตามด้วยยาลดไข้กับยาลดน้ำมูก  คีตกาลไม่ใช่พวกกินยายาก  เวลาป่วยจึงไม่ค่อยเรื่องมากนักหากต้องกินยา   เหตุเพราะเขาไม่ชอบไปโรงพยาบาล  ดังนั้นถ้ากินยาแล้วอาการทุเลาหรือหายป่วยเขาเลือกกินยาดีกว่าไปหาหมอ

“นี่”

“?”  สีหราชเงยหน้าขึ้นมอง

“ทำไมนายไม่ยอมให้เจ้าลูกหมามันอยู่ที่ฟาร์มล่ะ?  แค่ก”

“ให้มันอยู่ที่ฟาร์มมันจะได้โดนม้าดีดตายเอาน่ะซิ  ตัวเล็กเท่านั้น”   คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อได้ฟัง “แล้วฉันก็บอกว่าตอนนี้อยู่ไม่ได้  นั่นหมายความว่าถ้ามันตัวโตก็นี้มันก็เข้าไปที่ฟาร์มได้ต่างหาก”

“แต่....นายจะโยนมันทิ้ง”  ตาคนถามเริ่มปรือปรอยเพราะยาเริ่มออกฤทธิ์

“ก็เพราะมีคนดื้อน่ะซิถึงต้องขู่แบบนั้น”

“.....”

“คีตกาล?”

“.....”  ไม่มีเสียงตอบรับเนื่องจากคนที่ถามจ้อยๆเมื่อครู่นั่งคอพับหลับไปเป็นที่เรียบร้อย

“คีตกาล  ลุกไปนอนในห้อง”

“อือ~”  ตอบรับในลำคอเมื่อแขนขาวโดนสะกิด

“ลุกก่อนเร็ว   นอนตรงนี้ไม่ได้นะ”

“อืม~”  เปลือกตาบางพยายามขยับลืมหากมันก็หนักอึ้งเกินกว่าจะทำได้   สีหราชถอนหายใจ

“คีตกาล?”

“....”

“.....เพลง?”    คิ้วเรียวขมวดมุ่นเหมือนรับรู้  กระนั้นก็ยังไม่ลืมตา  ลมหายใจร้อนผ่าวทำเอาร่างสูงกระสับกระส่ายแล้วค่อยเลื่อนกายมาคว้าแขนขาวขึ้นคล้องไหล่  “นี่  เดินไหวไหม?”

กว่าจะหอบเอาคนป่วยเข้าห้องได้ก็เล่นเอาหืดขึ้นคอ  ถึงคีตกาลจะตัวเล็กกว่าเขาหากก็ไม่ได้มากมายนัก  ด้วยส่วนสูงเกือบร้อยแปดสิบของอีกฝ่ายกับเขาที่เกือบร้อยเก้าสิบก็ไม่สามารถแบกอีกฝ่ายได้ง่ายดายเท่าไหร่    สีหราชหาผ้าผืนเล็กชุบน้ำวางบนหน้าผากเนียนและซอกคอร้อนผ่าวของคนบนเตียงหลังพบว่าไข้ขึ้นเพราะยายังไม่ออกฤทธิ์

“ดื้อจนได้เรื่อง”  ถึงปากจะบ่นหากร่างสูงกลับทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง  ดวงตาคมทอดมองคนที่หลับตาพริ้มแล้วถอนหายใจ

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี  ใบหน้านี้ก็ยังคงเหมือนเดิม  อาจจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นตามวัยหากตรงกันข้ามกับนิสัยอย่างสิ้นเชิง  อันที่จริงแล้ว...นิสัยแบบนี้...ดูเหมือนจะดื้อขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเสียด้วยซ้ำ
ริมฝีปากหยักยกยิ้มอย่างนึกเอ็นดู  ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่คีตกาลจะไม่มีวันเห็นแน่นอนหากตื่นอยู่  มือใหญ่เกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าผากออกแผ่วเบา  ปลายนิ้วละเลื่อยสัมผัสสันจมูกโด่งก่อนหยุดลงไม่กล้าแตะแต้มริมฝีปากสีสดนั่น...ริมฝีปากที่เอ่ยเรียกชื่อของเขาเมื่อบ่าย...
ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมานอกอกยามได้ยินชื่อของตัวเองเหมือนครั้งนี้
ชื่อของเขาจากริมฝีปากของคีตกาล...
อยากให้เรียกชื่อเขาอีกครั้ง...

“เพลง”

เขาเอ่ยเรียก  เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ยินเขาจึงเอื้อนเอ่ย  แม้เพียงเบาดังสายลมเขาก็อยากจะเรียก 

“เพลง...”

เบาดุจสายลมกระซิบ
.
.
.

สุดท้ายสีหราชก็แบกผ้าห่มมาเฝ้าคนป่วยที่ห้อง    ซ้ำยังจัดแจงให้นอนคนละฝั่งกับอีกฝ่ายเพราะเขาไม่มีทางนอนบนพื้นแน่นอน   ท่ามกลางความมืดเขาลืมตามองอีกคนอยู่อย่างนั้น

“Lion”

“หืม?”  สีหราชขมวดคิ้วเมื่อจู่ๆคนน่าจะหลับไปแล้วกลับเอ่ยประโยคขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“รู้แล้วว่าจะให้เจ้าหมาน้อยชื่อว่าอะไร”  สีหราชหัวเราะขำเพราะคนป่วยพูดทั้งๆที่ยังหลับตา  นั่นหมายความอีกฝ่ายกำลังละเมอ  เพราะถ้าตื่นอยู่คงไม่มีทางมานอนคุยกับเขาบนเตียงอย่างนี้แน่

“จะให้ชื่อว่าอะไร?”  เขาถาม  มีคนบอกว่าอยากรู้ความลับอะไรให้ถามตอนละเมอ

“Lion   ให้เจ้าหมาน้อยชื่อ Lion”

สีหราชเบิกตาโพลง   เขาอยากจะจับคนป่วยขึ้นมาเขย่าๆเหลือเกิน!




โปรดติดตามตอนต่อไป




ตอบคำถาม
คุณ Freja  และคุณ kdds




-เรื่องใส่โกเต๊กหรือผ้าอนามัยตอนฝึกขี่ม้า...ในตอนนี้ไม่มีเห็นแล้วนะคะสำหรับกรณีใส่ผ้าอนามัยในการฝึกขี่ม้าเพื่อป้องกันก้นแตก  หากยังมีใช้อยู่ค่ะ  เป็นการประยุกต์ใช้หรือเพียงแค่บางคนบางกลุ่มเท่านั้นที่นำมาใช้ค่ะ และได้ผลดีเสียด้วย   ในกรณีที่สิงห์ให้เพลงใส่นั้นไม่ใช่การกลั่นแกล้งแต่อย่างใดนะคะ  ไม่ใช่การหยามศักดิ์ศรีหรืออะไรเลยค่ะ   เหตุผลข้อเดียวที่สิงห์ให้เพลงใส่เพราะ...แค่ห่วงเพลงเท่านั้นค่ะ  ไม่อยากให้เพลงเจ็บ...แม้เพียงปลายก้อยด้วยซ้ำถ้า...เพลงไม่ทำตัวเองน่ะนะ...
สรุป...สิงห์มันก็แค่เป็นห่วงแล้วไม่รู้จะแสดงออกยังไงเท่านั้นเอ๊ง...





ขอบคุณทุกท่านสำหรับกำลังที่แสนงดงามนี้นะคะ
อ่านเม้นท์ไปบางเม้นท์ก็ก่อเกิดแรงบันดาลใจให้คิดพล๊อตตอนต่อไปได้...
ขอบคุณค่ะ^^
กอดแรงๆสามที!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2015 08:17:14 โดย sine »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เพลงตั้งชื่อเจ้าตัวน้อยได้น่ารักมากๆ เลยค่าา ^^ ที่สิงห์โวยวายนี่เพราะความสง่างามของทั้งสองตัวต่างกันใช่ไหมล่ะค้าา~ :laugh: และถึงแม้ว่าเจ้าตัวน้อย(Lion)จะสง่าได้ไม่เท่ากับเจ้าตัวใหญ่(music) แต่ตาแป๋วๆ เวลาจ้องกลับมาทีนี่พลังทำลายล้างสูงนะคะสิงห์บอกเลย แถม 'Lion' ยังมีอิทธิพลจนถึงขนาดที่ว่า สามารถทำให้เด็กดื้ออย่างเพลงยอมทำตามคำสั่งของสิงห์ได้เลยเชียวน้าา~ :mew3:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
ละเมอหรือหลอกด่าคะ
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :กอด1:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
สิงห์เป็นคน หวง ห่วง หึงแรง
และที่สำคัญ ยังรักเพลง
ติดตามเงื่อนงำต่อไป ว่าเลิกกันทำไม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด