“คุณคีย์ คุณคีย์เล่นกีต้าร์เป็นไหมคะ?” จู่ๆเด็กสายใจก็เข้ามานั่งแอบข้างเก้าอี้แล้วกระซิบถามขณะที่คีตกาลกำลังนั่งจดรายกายสิ่งที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้และกำหนดอัตราพนักงาน ตำแหน่งงานต่างๆที่ต้องจัดจ้างหลังทำรีสอร์ทเสร็จ เขาเลิกคิ้วมองเด็กสาวที่หันซ้ายหันขวาราวกับหลบใครมาก็ให้นึกขำ
“ทำไมหรือ?”
“คุณคีย์เล่นเป็นหรือเปล่า?” สายใจถามย้ำ
“เป็น แล้วยังไง เราอยากฟังหรือไง แต่ฉันไม่มีกีต้าร์หรอกนะ” คีตกาลหัวเราะขันกับท่าทางตาโตเป็นประกายของเด็กสาว
“แต่หนูมี” แล้วสายใจก็วิ่งปรู๊ดเข้าไปในบ้านไม่รอให้เขาทักท้วงสักนิด ก่อนจะออกมาพร้อมกีต้าร์โปร่งสีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่ง
“สายใจไปเอาของใครเขามาน่ะ?” ชายหนุ่มรับเอากีต้าร์ที่เด็กสาวส่งให้มาสำรวจ กีต้าร์ตัวนี้กลางเก่ากลางใหม่หากสายยังคงตึงดีอยู่ เขาค่อยหมุนปรับสายบางสายแล้วลองดีดเบาๆ
“ของคุณสิงห์ค่ะ”
“?” นิ้วเรียวชะงักนิ่ง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแล้ววางกีต้าร์ในมือลง “ไปเอาของเขามาได้ยังไง สายใจนี่ชักจะเหลวไหลใหญ่แล้วนะ!” คีตกาลเอ็ดเด็กสาวเสียงขุ่น หากเจ้าหล่อนกลับยิ้มกว้าง
“โธ่ คุณคีย์ขา กีต้าร์ตัวนี้คุณสิงห์ไม่ได้แตะมาเป็นปีแล้วค่ะ อีกอย่างถ้ามันไม่ได้ใช้เลยจะน่าสงสารเอานะคะ”
“มันก็ไม่ควร มันมีเจ้าของจะหยิบมาสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง” ชายหนุ่มยังดุไม่เลิก แต่สายใจคว้ากีต้าร์ขึ้นมาส่งให้ร่างโปร่งอีกครั้ง
“คุณสิงห์ไม่ว่าหรอกค่ะหนูขออนุญาตแล้ว”
“......”
“นะคะคุณคีย์ เล่นให้หนูฟังหน่อย คุณสิงห์น่ะไม่เคยเล่นให้ได้ยินสักที” สายใจทำหน้ามุ่ยพลางเขย่าขาคีตกาลอย่างออดอ้อน
“...แค่เพลงเดียวนะ” สายใจพยักหน้า คีตกาลขยับปลายนิ้วทดสอบและตั้งสายสายอยู่สามสี่ครั้ง ก่อนจะเริ่มดีด...
Please don’t see just a boy caught up in dreams and fantasies
Please see me reaching out for someone I can’t see
.
.
.
I thought I saw you out there crying
I thought I heard you call my name
I thought I heard you out there crying
Just the same
.
.
เสียงทุ้มนุ่มคลอเคล้าเสียงหวานเศร้าจากกีต้าร์โปร่งแผ่วเบา เจ้าของแขนขาวกอดกีต้าร์สีน้ำตาลไว้ รอยสักบนแขนขยับไหวตามการเคลื่อนไปของท่วงทำนอง สายใจนั่งฟังด้วยสีหน้าเคลิ้มฝัน เจ้าหล่อนไม่เข้าใจความหมายเพลงที่คีตกาลร้อง หากสีหน้าละมุน ริมฝีปากสีสด เปลือกตาที่พริ้มรวมทั้งเสียงนุ่มไพเราะที่เปล่งออกมาก็ทำเอาเธอแทบลอยไม่ติดพื้น จนเมื่อจบเพลงเจ้าหล่อนก็ยังเคลิ้มไม่หยุด
“คุณคีย์ร้องเพลงเพ้าะเพราะค่ะ ถึงหนูจะฟังไม่รู้เรื่องก็เถอะ”
“เอ้า ซะงั้น” คีตกาลหัวเราะ
“เพลงของใครหรือคะ?”
“บอกไปเราจะรู้จักหรือ?”
“ฮื่อ!”
“Maroon5”
“มะรุมไฝว้?”
“วุ้ย บอกไปก็ไม่รู้จักหรอก” คีตกาลหัวเราะ ดูเอาเถอะสายใจมาเปลี่ยนชื่อนักร้องในดวงใจเขาเฉยเลย
“หนูรู้จักแต่ Bodyslam อ่ะ แหะ แหะ” คีตกาลส่ายหัวเมื่อได้ฟัง “แล้วเพลงไทยคุณคีย์ร้องได้ไหมคะ?”
“ไหนว่าเพลงเดียว”
“อีกเพลงเถอะนะคะ นะคะคุณคีย์ คุณคีย์ร้องเพลงเพราะขนาดนี้จะให้ร้องเพลงเดียวได้ยังไงกัน?” สายใจยิ้มกว้างอย่างเอาใจ เยินยอเสียจนชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังอย่างชอบอกชอบใจโดยไม่เห็นว่าสายใจแอบขยิบตาให้ใครอีกคนที่มายืนแอบฟังตั้งแต่แรก เจ้าของร่างสูงกออกมองนักร้องจำเป็นแล้วยกยิ้ม นึกถึงเมื่อคราวตอนเจ้าตัวร้องเพลงของวงโปรดแล้วไปถอดเสื้อเต้นท่าทางเซ็กซี่ครั้งเมื่อประกวดดาว- เดือนมหา’ลัย เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากทั้งสาวๆหนุ่มๆไปทั่ว
“อีกเพลงเดียวแล้วไปนอนนะพรุ่งนี้ฉันต้องไปทำธุระที่ตัวจังหวัดตั้งแต่เช้า” สายใจพยักหน้าหงึกหงักแล้วทำท่าตั้งอกตั้งใจฟังจนคีตกาลหัวเราะขำอีกรอบ
ใบไม้มันยังผลัดใบ เปลี่ยนผันตามฤดูกาล
แต่ชีวิตยังไม่เปลี่ยนไป ยังเหมือนเดิมอยู่อย่างนั้น
เข็มของนาฬิกาไม่เคยบอกเวลา
นานแค่ไหนก็เหมือนเดิมเสมอ
ตั้งแต่เราจากกัน จนในวันนี้ก็มีเพียงเธอ
ยังเก็บรักนั้น อยู่ในหัวใจ เธอจะรู้ไหม ฉันยังคงพร่ำเพ้อ
หลับตาทุกครั้ง ก็ยังเห็นเพียงแต่เธอ
ฉันยังคิดถึงเธอเสมอ ไม่เคยลบเลือน
อยากรู้เธอเป็นอย่างไร จากครั้งที่เราแยกทาง
อธิฐานไปอย่างเลื่อนลอย ก็อยากพบเธออีกครั้ง
.
.
“......” เขาไล่ให้สายใจไปนอน บอกว่าเขาจะเอากีต้าร์ไปเก็บเองแล้วก็ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น กีต้าร์ตัวนี้เขาจำได้ ดังนั้นเมื่อครู่ตอนที่รับมันมาจากมือของสายใจเขาจึงรู้สึกแปลกแปร่ง กีต้าร์ตัวนี้เคยเป็นของเขามาก่อน.... ไม่มีใครรู้เว้นเสียแต่คนที่ครอบครองปัจจุบัน
“ลืมถามเลยแฮะว่าเอาเก็บไว้ที่ไหน” ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนเต็มความสูงบิดเอวไล่ความเมื่อยขบ พลางถอนหายใจขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านในหัวให้หมดไป สุดท้ายเพราะไม่รู้ว่าตำแหน่งเดิมของกีต้าร์ตัวนี้อยู่ที่ไหนคีตกาลเลยเอาเข้าไปเก็บไว้ในห้องตัวเอง
ท่ามกลางความมืด เขานอนมองกีต้าร์ตัวนั้นแล้วนึกถึงคำพูดของสายใจขึ้นมา สายใจไม่เคยได้ยินเจ้าของปัจจุบันเล่นกีต้าร์ตัวนี้อย่างนั้นหรือ?
สี่ปี?
อาจจะลืมไปแล้วละมั้งว่ามีกีต้าร์ตัวนี้อยู่ในบ้าน...
**********
“เดี๋ยวจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูที่อาทิตย์หน้านะครับ” ร่างโปร่งพยักหน้ารับเมื่อได้คำตอบ สุดท้ายเรื่องเอกสารก็ไม่เสร็จภายในอาทิตย์นี้อย่างที่ตั้งใจ ตลอดวันคีตกาลพูดกับคนข้างๆแทบนับคำได้ ไม่ใช่ว่าเกิดทะเลาะกันหรืออะไร หากเพียงแต่ตะกอนขุ่นมันถูกกวนตั้งแต่เมื่อคืนจนทำเอานอนไม่หลับและเช้านี้เขาไม่รู้สึกสดชื่นอย่างที่ควรจะเป็น
“หายเจ็บก้นหรือยัง?” จู่ๆคนตัวสูงกว่าก็เอ่ยถามขณะก้าวลงจากรถ
“ก็ดีขึ้นแล้ว ทำไม?”
“พร้อมจะฝึกขี้ม้าต่อไหม?” คีตกาลพยักหน้ารับ พลางนึกสงสัย หรือที่สองสามวันนี้มานี้เขาไม่ถูกบังคับให้ขี่ม้าต่อเพราะฝ่ายนั้นรู้ว่าเขาเจ็บก้นก็เลยพัก...โดยการให้จัดการเรื่องเอกสาร? เขาสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะเดินเข้าไปหยิบเสื้อแขนยาวมาสวมพร้อมหมวกคาวบอยที่เพิ่งซื้อจากในตัวเมืองเมื่อวานก่อน
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้าต้นแขนเขาไว้แล้วร้องเรียกหาสายใจ
“?”
“ซื้อโกเต๊กให้คุณคีย์หรือยัง?”
“เฮ้ย! บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิง แล้วไอ้โกเต๊กเนี่ย....” ใบหน้าใสแดงเรื่อทั้งโมโหทั้งอาย ยิ่งคนหน้าเข้มมาตีคิ้วขมวดใส่ยิ่งทำให้เขาอยากต่อยนัก
“อยากก้นแตกอีกหรือไง?”
“?”
“ที่ให้เอาโกเต๊กมาใส่เนี่ยเพราะก้นจะได้ไม่แตก”
“หมายถึง...ใส่โกเต็กตอนขี่ม้าเพื่อป้องกันก้นแตก?” สีหราชพยักหน้ารับ “แล้ว....นายใส่ไหมตอนฝึก?”
“...อะแฮ่ม” ร่างสูงพยักหน้าอีกรอบ หากคราวนี้ไม่สบตาคนถาม คนจ้องอยู่ถึงกับยิ้มกว้างอย่างชอบใจ
“งั้นเหรอๆ นายเองก็เคยใส่ซินะ?” คีตกาลพยักหน้าหงึกหงักแล้วหัวเราะแผ่ว
“ไปใส่ได้แล้ว ให้สายใจสอน!” สีหราชกระแอมไอเสียงเข้มแล้วรุนหลังให้ร่างโปร่งเดินตามสายใจเข้าห้อง “อ้อ ใส่ไว้นอกกางเกงในล่ะ เพราะนายไม่ใช่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเหมือนขนาดนั้น”
“ไอ้บ้าเอ้ย!” คีตกาลยกแขนขึ้นสูงเตรียมจะขว้างโกเต๊กใส่คนปากเสีย ติดเสียว่าสายใจรั้งแขนเขาเข้าห้องไปเสียก่อน
“....ให้ฉันขี่เองคนเดียวได้แล้วมั้ง?”
“ไม่”
“นายกวนตีนฉันอยู่เหรอ?” คนด้านหน้าเอ่ยถาม เขาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคนด้านหลังกระชับแขนรั้งสายบังเหียนบังคับให้เจ้า Music เริ่มเดิน แล้วกระตุกอีกครั้งเบาๆให้มันวิ่งเหยาะๆ
“กวนที่ไหน กำลังสอนขี่ม้าอยู่นี่”
“.....” อยากจะด่าแต่ก็กลัวคนด้านหลังจะแกล้งเอาคืน สุดท้ายก็ต้องปล่อยเลยตามเลยให้คนอยากสอนแบบไหนก็ทำไปอย่างที่ตั้งใจแล้วกัน
ในที่สุด! ในที่สุดเขาก็ขี่ม้าเองได้เสียทีถึงแม้จะยังไม่สามารถควบวิ่งห้อตะบึงได้เต็มที่ เพียงแค่วิ่งเหยาะๆก็พอแล้ว! จะได้ไม่ต้องโดนซ้อนหลังมาสอนให้หวาดเสียวเล่นอีก คีตกาลดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอกสายใจว่าเขาต้องไปรีสอร์ทเพราะนัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไว้ถ้าหากสีหราชกลับจากฟาร์มเมื่อไหร่ให้ตามไปทันที
“สวัสดีครับ คุณคีตกาลหรือเปล่า?” ร่างโปร่งหันไปมองผู้มาเยือนก่อนจะยกยิ้ม
“สวัสดีครับ ผมคีตกาล”
“ผมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่แจ้งไว้ว่าจะเข้ามาครับ ชื่ออดิศร” คีตกาลมองคนตรงหน้า ฝ่ายนั้นคงจะสูงเท่ากันกับเขา หากผิวเข้มอย่างคนทำงานกลางแดด ใบหน้าจัดว่าดูดีมากทีเดียว “จากเอกสารที่แจ้งไว้ ขอบเขตพื้นที่.....”
คีตกาลเดินนำอีกฝ่ายสำรวจพร้อมอธิบายว่าตรงไหนทำอะไรบ้าง มีการตัดโค่นต้นไม้ตรงไหนและมีแนวโน้มจะตัดเพิ่มมากแค่ไหน อดิศรพยักหน้ารับแล้วจดลองสมุดบันทึก จนบ่ายคล้อยก็ยังไม่เห็นทีท่าสีหราชจะตามมาคีตกาลก็ยิ่งขมวดคิ้วเพราะยังมีบางจุดที่จะต้องปรึกษาฝ่ายนั้นว่าจะมีทำอะไรเพิ่มเติมบ้างหรือไม่
“เอาอย่างนี้แล้วกันครับ พรุ่งนี้ผมจะเข้ามาใหม่ก็แล้วกัน”
“เกรงใจจังครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับผมเต็มใจ อ้อ ผมขอเบอร์ติดต่อคุณคีย์เอาไว้ได้ไหมครับ เพราะพรุ่งนี้ผมอาจเข้ามาไม่ตรงเวลามากนักยังไงจะได้โทร.มาบอกคุณคีย์ก่อน”
อดิศรกลับไปแล้วคีตกาลจึงตรงดิ่งกลับเรือนด้วยความโมโห เพราะสีหราชไม่ยอมโผล่หน้าไปช่วยเขาอย่างที่รับปากเอาไว้ พอเห็นว่าร่างสูงลงมาจากรถเขาก็ปรี่เข้าไปกระชากไหล่หนาให้หันมา
“นี่! วันนี้นัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาทำไมนายไม่ไป... ไปโดนอะไรมา?” ถ้อยคำต่อว่าชะงักค้างไม่จบประโยคเมื่อเห็นใบหน้าอีกฝ่ายชัดๆ คิ้วเข้มด้านขวามีเลือดซึมเป็นทาง เมื่อกวาดสายตามองจึงเห็นว่าร่างสูงอยู่ในสภาพมอมแมม ทั้งฝุ่นทั้งหญ้าเต็มหัวเต็มตัวไปหมด
“ม้าพยศน่ะ” ชายหนุ่มตอบแล้วยกมือขึ้นจะเช็ดเลือดที่ไหลซึมออกมา
“อย่า! มือนายสกปรกเดี๋ยวจะติดเชื้อ ขึ้นบ้านก่อนไป”
“....” สีหราชมองหน้าซีดขาวของคนสั่งแล้วยกยิ้มก่อนจะเดินขึ้นเรือนตามคำสั่งแต่โดยดี
“สายใจ!สายใจ! เอากล่องยามาที!” เด็กสายใจวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นว่าคนเป็นนายเจ็บตัวได้แผลมาก็รีบวิ่งไปเอากล่องยามาทันที พร้อมทั้งกะละมังน้ำพร้อมผ้าให้สีหราชเช็ดหน้าเช็ดตา
“......คุณคีย์ไม่ทำแผลให้คุณสิงห์เหรอคะ?” เด็กสายใจเงยหน้าถามเมื่อเห็นคนสั่งให้เอากล่องยามาเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสีหราช
“เจ้านายสายใจสายใจก็ทำซิ” คีตกาลเลิกคิ้วแล้วสังเกตสีหน้าเด็กสาว
“คุณคีย์ขา สายใจกลัวเลือด ไม่เอาอ่ะ หนูทำไม่ได้หรอก” ยิ่งเมื่อหันไปเห็นว่าเลือดที่ถูกเช็ดไปก่อนหน้าเริ่มไหลซึมมาอีกครั้ง เด็กสาวก็ส่ายหน้าหวือทำหน้าซีดจะเป็นลม
“แต่...”
“เอาล่ะ ไม่ต้องเถียงกันเดี๋ยวฉันทำเอง” สีหราชถอนหายใจ ชายหนุ่มวางผ้าแล้วเลื่อนกะละมังออกไปก่อนจะหยิบสำลีชุบแอลกอฮอล์ขึ้นแตะหางคิ้วตัวเอง ด้วยเพราะมองไม่เห็นสำลีจึงถูกแปะตรงตำแหน่งที่ไม่ใช่แผล ร้อนให้คนฝั่งตรงข้ามถอนหายใจแล้วขยับกายมานั่งแหย่งไม้สักตัวเดียวกัน
“เอามานี่ เดี๋ยวสำลีแปะเข้าตาหรอก” คีตกาลแย่งสำลีออกมาจากมือใหญ่ก่อนจะค่อยๆเช็ดให้อย่างเบามือ
“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอกน่า แผลนิดเดียวเอง” กลายเป็นคนเจ็บต้องมาปลอบเมื่อคีตกาลยังคงคิ้วขมวดพลางขบริมฝีปากแน่น
“ทำหน้ายังไงไม่ทราบ?” ร่างโปร่งจ้องคนเจ็บตาขวาง
“ก็ทำหน้าแบบว่าเป็นห่วง โอ๊ย!”
“ไม่ได้เป็นห่วง แค่สมเพช!” มือขาวกดสำลีเช็ดแผลแรงๆทำเอาสีหราชสะดุ้งโหยงเผลอร้องโอดโอยเพราะความเจ็บ
“เหรอ?”
“เออ! แล้วไปทำโง่อีท่าไหนให้ม้ามันดีดมาล่ะ?”
“ท่านอนมั้ง” ป้าบ !
“โอ๊ย!” มือขาวตบป้าบเข้ากลางแผลแบบไม่ออมแรงเล่นเอาสีหราชเกือบหน้าหงายเลยทีเดียว
“กวนตีน” ถึงจะโดนด่าโดนตบกระนั้นสีหราชก็ยังคงหัวเราะแผ่วจนเมื่อร่างโปร่งตวัดสายตาแข็งๆมาให้นั่นแหละเขาจึงกระแอมไอสงบปากสงบคำ รอให้สายใจเอากล่องยาไปเก็บจึงมองหน้าคนที่ลุกหนีไปยืนกอดอกอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“...พอดีได้ม้ามาใหม่น่ะ ตอนเอาลงจากรถกระดานที่ใช้รองให้มันเดินเกิดหล่น มันตกใจก็เลย...” สีหราชยักไหล่สองข้าง
“แล้วไม่มีคนอื่นเข้าช่วยเลยหรือไง?”
“ก็ช่วยกันหลายคนอยู่ แต่ฉันต้องเป็นคนรับผิดชอบก่อนคนแรก เป็นเจ้านายเป็นหัวหน้าเขาถ้าไม่ทำเป็นตัวอย่างลูกน้องจะเชื่อฟังได้ยังไงล่ะ จริงไหม?”
“......”
“เดี๋ยวขอไปอาบน้ำก่อนนะ นายไปกินข้าวเถอะไป เสร็จก็นอนเลยนะเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่” คีตกาลไม่ได้หันไปมองคนพูด จนเมื่อมีสัมผัสบางอย่างบนศีรษะนั่นแหละ
“......” สีหราชเข้าห้องไปแล้วหากร่างโปร่งยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ มือขาวยกขึ้นจับศีรษะตัวเอง เมื่อครู่สีหราชยีหัวเขาอย่างนั้นหรือ? ทำไม?
“คุณคีย์ขา คุณคีย์”
“หืม ว่ายังไง?”
“คุณคีย์เอายาไปทาให้คุณสิงห์หน่อยได้ไหมคะ? โดนม้าฟัดมาขนาดนั้นคงช้ำทั้งตัว”
“เฮ้ย!ไม่เอา”
“แต่ว่า...”
“สายใจก็ไปทำเองซิ เจ้านายสายใจนะ มาใช้ฉันทำไม อีกอย่างไม่มีเลือดแล้วสายใจคงไม่เป็นลมหรอก”
“แต่หนูเป็นผู้หญิงนะ เป็นสาวด้วย”
“.....”
“สวยด้วย....”
“ไอ้ประโยคท้ายนี่มันอะไรกัน” คีตกาลหลุดขำเมื่อเด็กสาวม้วนผมตัวเองพลางทำท่าเขินอาย
“คุณคีย์จะบอกว่าหนูไม่สวยเหรอคะ?”
“เปล่าๆ สวยจ้า สายใจสวยอยู่แล้ว” คีตกาลยกยิ้มแกล้งทำตาเจ้าชู้ใส่
“คุณคีย์ล่ะก็... ถ้าอย่างนั้นคุณคีย์เข้าไปทายาให้คุณสิงห์นะคะ”
“ไหงวกกลับเข้ามาเรื่องนี้ล่ะเนี่ย แล้วทุกทีใครทำให้อ่ะเวลาเกิดอะไรแบบนี้” คิ้วเรียวขมวดกันอย่างนึกสงสัย
“แม่ค่ะ แม่ของสายใจแต่ตอนนี้แม่ไม่อยู่เพราะไปเยี่ยมน้าที่ใต้โน่น”
“แต่...”
“นะ นะ นะคุณคีย์ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้คุณสิงห์ลุกไม่ไหวแน่ๆค่ะ” สุดท้ายนอกจากยานวดยังมียากินคลายกล้ามเนื้อยัดใส่มือมาด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” คนเอ่ยปากอนุญาตสวมกางเกงนอนเพียงตัวเดียวเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จซ้ำยังไม่หันมามองอีกว่าใครเดินเข้ามา
“นี่ถ้าสายใจเดินเข้ามาเห็นคงกรี๊ดลั่นบ้าน”
“คีตกาล!”
“คนอื่นมั้ง จะตกใจอะไรนักหนา?”
“ก็....”
“มานั่งนี่” ร่างโปร่งชี้ไปยังเตียงนอน เจ้าของห้องเลิกคิ้วสงสัยไม่ยอมทำตาม “ฉันไม่ปล้ำนายหรอกน่า!” คีตกาลแยกเขี้ยวใส่เมื่อร่างสูงทำท่าทางกลัวเขาเสียเหลือเกินจนน่าหมั่นไส้
“อ้าว เหรอ? น่าเสียดายจัง” สีหราชยกยิ้มกว้างก่อนจะเดินมานั่งปลายเตียงหันหลังให้ตามคำสั่ง
“......ทำไมไม่พูดคำนี้ตั้งแต่ตอนนั้นล่ะ?” ถามพลางบีบยาลงบนฝ่ามือแล้วนวดลาดไหล่แกร่ง
“......”
“ทำตอนนี้ซะเลยดีไหม? ประสบการณ์ฉันก็เยอะพอใช้ได้อยู่นะ”
“พูดจริงเหรอ?”
“!” คีตกาลชะงักเมื่อมือแกร่งแตะทาบทับลงบนมือขาวที่กำลังนวดไหล่อยู่
“พูดจริงหรือเปล่า?”
“อะไร?” คีตกาลพยายามดึงมือกลับหากอีกฝ่ายก็จับไว้แน่น บีบกระชับจนเจ็บ หัวใจเต้นแรงเสียจนได้ยินเสียง
“เรื่องมีประสบการณ์เยอะ”
“...ฮึ ใช่” คีตกาลพ่นลมหายใจ ไม่รู้ว่าความรู้สึกเมื่อครู่คืออะไรไอ้ที่ใจเต้นแรงเมื่อครู่พลันเจ็บแปลบขึ้นมา
“.......” มือแกร่งปล่อยให้คนด้านหลังเป็นอิสระก่อนจะนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น
“กินยานี่ด้วยแล้วกัน สายใจบอกว่าเป็นยาคลายกล้ามเนื้อ” ร่างโปร่งโยนซองยาใส่ตักอีกฝ่ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“........”
โปรดติดตามตอนต่อไป
เช่นเคย อ่านให้สนุกนะคะ ติ-ชมกันได้ค่ะ
คำถามท้ายช่วง
สายใจ - คุณสิงห์ คุณสิงห์เคยใส่โกเต๊กจริงเหรอคะ?
สีหราช – (คิ้วเข้มกระตุก พลางกอดอกตีสีหน้านิ่ง) เคยที่ไหน
สายใจ – อ้าว ก็ที่บอกคุณคีย์...
สีหราช – ฉันโกหกไปอย่างนั้นแหละ ขืนถ้าคุณคีย์ของสายใจรู้ว่าตัวเองใส่อยู่คนเดียวก็จะไม่ยอมใส่น่ะซิ ต้องมีคนเคยหน้าม้านอับอายมาก่อนอย่างเท่าเทียมกันเท่านั้นแหละถึงจะยอมทำ (ว่าแล้วก็ถอนหายใจกับนิสัยของอีกคน)
เผื่อใครอยากฟังน้องเพลงร้อง lost star นะคะ ^^
https://youtu.be/cL4uhaQ58Rk