-รักพัดหวน- ตอนพิเศษ [11/09/59]+ แจ้งข่าว หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -รักพัดหวน- ตอนพิเศษ [11/09/59]+ แจ้งข่าว หน้า14  (อ่าน 170302 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ไลออนกับมิวสิค55555

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
555แก้แค้นหรือยังคิดถึงกันแน่
ถึงตั้งชื่อว่า lion เหมือนๆ music เลยเนอะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ชอบเรื่องนี้จัง เป็นกำลังใจให้นะเจ้าคะ กอดดดดดด
Lion กับ Music เหอะๆ นิเสียเซลฟ์เลยนะคุณสิงห์ กลายเป็นหมาน้อยไปซะได้
ทั้งที่เพลงก็เป็นม้าตัวใหญ่โต สวย สง่า

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
น่ารักจัง ครอบครัวสุขสันต์นะเนี่ย
พ่อสิงห์ แม่เพลง พี่มิวสิค กับน้องเล็กไลออน  :-[
ปรกติเรื่องนี้ก็น่ารักอยู่แล้ว ยิ่งมีสมาชิกใหม่เป็นหนูไลออน
ยิ่งถูกใจคนรักมะหมาอย่างเรามาก ๆ เลย ชอบ ๆ
สิงห์ ต้องดีใจนะถึงจะถูก คนที่เรารัก ตั้งชื่อสิ่งที่ตัวเองชอบ
เหมือนกับชื่อของเราเนี่ย แสดงว่าเรามีความสำคัญกับเขามากเลยนะ
ก็เหมือนกับที่สิงห์ ตั้งชื่อให้มิวสิคนั่นแหละ จริงไหมล่ะ

สิงห์กับเพลงเนี่ย ให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งเริ่มจีบกันใหม่ ๆ เลยเนอะ
มาตกหลุมรักกันใหม่อีกรอบ ก็น่ารักไปอีกแบบนะ  :m1:

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่าร้ากกกกก มุ้งมิ้งจังหนุ่มชาวไร่

ออฟไลน์ kkmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
รอต่อค้าบ

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
~ แมกไม้  ไอดิน กลิ่นหมอก ~

รักพัดหวน

ตอนที่5








แสงสีทองสาดเข้ามาในห้องให้คนบนเตียงหยีตาหนี  คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ

“คุณคีย์  เป็นยังไงบ้างคะ?  ปวดหัวอยู่ไหม?”

“สายใจ?”   คนบนเตียงยันกายลุกขึ้นนั่ง   เขาไอโขลกจนสายใจต้องวิ่งเข้ามายื่นแก้วน้ำอุ่นให้

“ยังปวดหัวอยู่ไหมคะ?”  คีตกาลส่ายหัว  ก่อนยันกายลุกลงเตียง  ร่างโปร่งเซเล็กน้อยจนสายใจต้องเข้ามาประคอง  “อย่าเพิ่งอาบน้ำเลยนะคะ  ทานข้าวทานยาแล้วค่อยกลับมานอน  เดี๋ยวให้แม่มาเช็ดตัวให้คุณคีย์นะคะ”

“แม่?”

“ค่ะ  แม่ของสายใจเอง  นี่ทำข้าวต้มรอคุณคีย์อยู่ค่ะ”

คีตกาลยกมือไหว้คนสูงวัยอย่างนอบน้อม   ฝ่ายนั้นตกใจพลางบอกว่าไม่ต้องไหว้เธออย่างนั้นก่อนจะยกชามข้าวต้มทรงเครื่องมาวางตรงหน้า   สีหราชที่วันนี้เข้ามาในห้องอาหารช้ากว่าเขาตีหน้านิ่งเหมือนโกรธใครมาสิบชาติทำเอาในห้องเงียบกริบ   

“อยากกินส้ม”

“ส้ม?”  สายใจถามย้ำเมื่อจู่ๆคนป่วยก็นั่งหน้าง้ำหลังทานข้าวเสร็จ

“อยากกินส้ม”  คราวนี้เด็กสายใจหันไปมองหน้าคนเป็นนายแล้วยิ้มแหย

“หน้านี้ไม่มีส้มหรอกค่ะคุณคีย์”

“อยากกินส้ม”  คนป่วยเริ่มงอแงพูดอยู่ประโยคเดียวทำเอาสายใจไม่รู้จะบอกอย่างไร  ฤดูกาลนี้ไม่มีส้มออกมาขายหรอกนะคะคุณคีย์สุดหล่อ!

“ไม่มีส้ม  แต่มีน้ำมะพร้าว  กินไหม?”  ในที่สุดวีรบุรุษขี่ม้าขาวมาช่วยสายใจก็คือสีหราช   ชายหนุ่มวางหนังสือพิมพ์ในมือลงแล้วเอ่ยพลางจ้องหน้าคนฝั่งตรงข้าม

“กิน”   ในที่สุดเด็กดื้อก็ยอมสงบเสียที   สายใจยกยิ้มก่อนจะวิ่งเข้าไปในครัว  มะพร้าวน้ำหอมลูกโตถูกเฉาะเปิดด้านบนมีหลอดเสียบไว้เรียบร้อย   คีตกาลอ้าปากดูดน้ำมะพร้าวไปอึกใหญ่ก่อนจะขมวดคิ้วเงยหน้ามองสายใจ

“ไม่เย็น”

“เอ่อ....”  สายใจอึกอัก  ทำไมคุณคีย์เวลาป่วยถึงงอแงราวกับเด็กน้อยอย่างนี้หนอ

“เป็นหวัดอยู่จะดื่มน้ำเย็นได้ยังไง?”

“แต่....”

“ถ้างอแง   จะเอาน้ำมะพร้าวไปต้มให้ดื่มแบบอุ่นๆ!”   สีหราชชี้หน้าขู่คนป่วยทำเอาคีตกาลเม้มปากแน่นอย่างขัดใจ   กระนั้นก็ไม่งอแงจะดื่มน้ำมะพร้าวเย็นๆอย่างเมื่อครู่นี้อีก

“จริงซิคะ  เมื่อเช้าหนูเห็นหมาน้อยบนบ้านด้วย  หมาใครหรือคะ?”  สายใจถามขณะยื่นยาแก้ไอและยาลดไข้ให้ร่างโปร่ง  เมื่อเช้าก่อนเข้ามาสีหราชโทรศัพท์ไปสั่งให้เด็กสาวซื้อยาแก้ไอกับยาลดไข้จากในเมืองมาด้วย  ตอนแรกก็สงสัยว่าใครเป็นอะไร พอรู้ว่าคุณคีย์ของเธอป่วยสายใจเลยวิ่งไปร้านขายยาคว้ายาแก้แพ้กับยาแก้อักเสบมาเพิ่ม   ซ้ำพอมาถึงก็เห็นคุณสิงห์แบกมะพร้าวน้ำหอมมาทั้งทลาย  ไม่รู้ว่าใครจะกินมากมายขนาดนั้น  เพิ่งรู้ว่าว่าคนป่วยจอมงอแงมักจะเรียกร้องหาส้มหามะพร้าวเวลาไม่สบาย

“หมาฉันเอง  น่ารักไหม?”  คีตกาลที่สดชื่นขึ้นยิ้มแฉ่ง  โมเมว่าเจ้าลูกหมาขนปุยสีน้ำตาลเป็นหมาของตัวเองทันที

“น่ารักค่ะ  แล้วมันชื่ออะไรหรือคะ?”

“อืม  ยังไม่มีชื่ออ่ะ”  สีหราชที่แอบเงี่ยหูฟังผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก

“งั้นชื่อเจ้าน้ำตาลดีไหมคะ?”  สายใจเสนออย่างนึกสนุก

“เอ.....”  คีตกาลกอดอกทำท่านึก   สายตาพลันเหลือบมองไปยังคงฝั่งตรงข้ามแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์  “รู้แล้วว่าจะให้ชื่ออะไร!”   สีหราชเหลือบสายตาขึ้นมองแล้วใจกระตุกเมื่อเห็นสายตานั้น

“ชื่ออะไรคะ?”

“Lion!”

“นี่!”   สีหราชลุกพรวด   ชายหนุ่มจ้องหน้าคนตั้งชื่อหมาอย่างไม่ชอบใจ

“ทำไม?”  คีตกาลเลิกคิ้วยียวน  พอไม่มีไข้เขาก็มีแรงกวนโมโหเจ้าของบ้านต่ออย่างสนุกสนาน

“เปลี่ยนชื่อซะ!”

“ไม่!”  ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนประจันหน้าอย่างไม่ยอมแพ้

“ฉันบอกว่าให้เปลี่ยน”   เสียงทุ้มเอ่ยลอดไรฟันอย่างคนที่พยายามสะกดกั้นอารมณ์เพื่อไม่ให้เข้าไปบีบคอขาวๆของอีกฝ่าย

“ก็บอกว่าไม่เปลี่ยน!”

ปัง! มือใหญ่ตบโต๊ะเสียงดัง  ทำเอาสายใจที่ยืนดูอยู่ถึงกับสะดุ้งมองหน้าคนสองคนสลับกันไปมาอย่างไม่เข้าใจ

ปัง!  เสียงตบโต๊ะครั้งที่สองจากคีตกาลดังขึ้นทำเอาเด็กสาวสะดุ้งอีกรอบ  คราวนี้แม่แช่มโผล่หน้าออกจากในครัวมาดูด้วยความตกใจอีกคน

สีหราชกับคีตกาลจ้องหน้ากันอย่างไม่ยอมแพ้  จนในที่สุดริมฝีปากก็เอ่ยออกมาก่อน

“ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนฉันจะเอามันไปปล่อย”

“....ไอ้คนใจแคบ  ไอ้คนอำมหิต  ไอ้คนใจร้าย...”   คีตกาลกำหมัดแน่น   รู้ว่าเขาไม่ชอบอะไรยังจะมาขู่เขาอยู่นั้นแหละ!  “....ถ้างั้นนายต้องเปลี่ยนชื่อม้าก่อน”

“?”

“เปลี่ยนชื่อเจ้า Music ซะซิ”

“ไม่!”

“งั้นฉันก็จะให้เจ้าหมาน้อยชื่อLion”

“คีตกาล!”  เขาแค่ตั้งชื่อม้าเองนะ  นี่ฝ่ายนั้นเล่นตั้งชื่อหมาเลยงั้นรึ!

“โหย  ฉันจำชื่อตัวเองได้น่า  ไม่ต้องเรียกซะเต็มยศซะขนาดนี้ก็ได้”  เพิ่มความกวนโมโหด้วยการแคะหูเพิ่มอีกหน่อย

“ฮึ่ย!  คอยดูไว้ดีๆล่ะกัน  ไม่งั้นฉันจะเผลอเตะมันตายสักวัน!”

“หูย   ใจร้ายมาก  กล้าเตะหมาที่ชื่อเหมือนตัวเองตายเลยเหรอ?”   หางเสียงแกล้งลากยาวอ่อนอ่อยให้น่าสงสาร    สีหราชโกรธควันออกหู  มือใหญ่ยกขึ้นคล้ายเตรียมพุ่งเข้ามาบีบคอคนที่ยืนลอยหน้าลอยตา  คีตกาลเห็นท่าทางนั้นก็วิ่งเข้าไปหลบหลังป้าแช่มแล้วโผล่หน้ามาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่   สีหราชสบถก่อนจะเดินออกไปอย่างโมโห    ร่างโปร่งหัวเราะเสียงดังกับท่าทางนั้น

“คุณคีย์ขา  แล้วชื่อเจ้า Lion มันแปลว่าอะไรอ่ะคะ?”

“Lion ก็แปลว่าสิงโตไง  ฮ่าๆๆ”    คีตกาลหัวเราะอย่างสะใจ  ไม่เห็นว่าสายใจกับป้าแช่มหันไปมองหน้ากันอย่าตกใจ

ยกนี้เขาชนะแล้ว!

วะฮ่าฮ่าฮ่า !

.
.



เจ้าหมาน้อย Lion จอมซน  ซนและดื้อเหมือนคนที่เก็บมันมาเลี้ยงไม่มีผิด!   สีหราชถอนหายใจเมื่อเจ้าตัวดีอึเรี่ยราดข้างกล่องนอนของตัวเอง 
เมื่อเช้าเขาเห็นถ้วยนมของมันว่างเปล่าและเจ้าขนปุยทำท่าทางน่าสงสาร   ชายหนุ่มเลยเดินเข้าครัวเพื่อหานมมาให้มันกิน  ออกมาอีกทีก็พบเข้ากับวัตถุระเบิดขนาดย่อมซึ่งเขาเกือบจะเหยียบเข้าเสียด้วย   สีหราชโมโหจนขมับเต้นตุบเลยทีเดียว

“พ่อแกไปไหนฮึ?  ทำไมไม่หานมให้แกกินแล้วก็พาไปอึ”  ร่างสูงทรุดกายลงนั่งก่อนจะเทนมให้เจ้าขนปุย  มันส่ายหางสั้นๆอย่างดีอกดีใจวิ่งดุ๊กๆไปที่ชามของตัวเอง  พอกินหมดก็เงยหน้าเอาดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วคู่นั้นจ้องคนถือกล่องนม

‘ขออีก ขออีก’  เหมือนสีหราชจะได้ยินเสียงของมันร้องว่าอย่างนั้น   ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วเทนมลงไปเพิ่ม

“ตะกละจริงเชียว  ท้องจะแตกแล้วนั่น”   มือใหญ่ยื่นแตะท้องเป่งใสของเจ้าตัวน้อยก็ให้เผลอยิ้มออกมา

‘ขออีก’

“พอแล้ว  ถ้าเกิดพ่อแกมาเห็นจะหาว่าฉันวางแผนฆาตกรรมแกโดยให้ท้องแตกตายนะ”  สีหราชหัวเราะ   เจ้าขนปุยวิ่งถลาเข้ามาหา   ก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วใช้สองขาหน้าเกาะขากางเกงเขา

‘อุ้มหน่อย  อุ้มหน่อย’

“เอ้า”  มือใหญ่คว้าเจ้าขนปุยขึ้นอุ้ม  ท่าทางเขาจะประสาทเสียแล้ว  ดูซิ  แค่มันแสดงท่าทีเขาก็นึกว่าตัวเองได้ยินมันพูดอย่างนั้นอย่างนี้ไปยกใหญ่   เจ้าขนปุยมีกลิ่นหอมของนมติดตัวมาด้วย   สีหราชยีหัวเจ้าตัวเล็กก่อนจะเอามันวางลงในกล่องตามเดิมเมื่อเหลือบเห็นใครอีกคน

“Lion~  เจ้าหมาน้อยของพ่อ~”   คีตกาลซึ่งวันนี้ตื่นสายพาหน้าตาที่ยังไม่ได้ล้างออกมาจากห้องแล้วตรงดิ่งมาหาเจ้าขนปุยทันที   มือขาวคว้าเจ้าตัวเล็กขึ้นมากอดมาหอมแล้วหัวเราะเสียงใส  “มีกลิ่นนมด้วย?”

“วันนี้นายตื่นสาย”

“หูย   มันก็ต้องมีบ้างแหละน่า  ใครมันจะตื่นก่อนไก่เหมือนนายทุกวัน”    สีหราชขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง  เขานึกอยากจะเขกกะโหลกคนตรงหน้าสักทีสองทีค่าที่ยอกย้อนเขาเสียทุกคำ

“...เออ  นายมายืนตรงนี้ซิ”  คีตกาลเหลือบมองร่างสูงอย่างไม่ไว้ใจเมื่อฝ่ายนั้นชีนิ้วลงไปข้างกล่องนอนเจ้า Lion

“ไม่อ่ะ  นายต้องหาเรื่องแกล้งฉันแน่ๆ”   แหม่   รู้ทันอีก!

“...ฉันจะให้นายดูไงว่ากล่องนี่มันดีพอหรือยัง  ลูกชายนายมันจะอยู่ได้ไหม?”

“ดูตรงนี้ก็ได้นี่  กล่องนี้มันก็ใหญ่พอแล้วนะ”

“....งั้น”  สีหราชจู่ๆก็ยื่นมือมาแย่งเจ้าขนปุยออกจากอกของคีตกาลมากอดไว้เอง

“เฮ้ย!  นายจะโยนมันทิ้งเรอะ!”

“จะบ้ารึไง! ถ้าฉันคิดจะโยนมันทิ้งฉันไม่เอานมมาให้มันกินหรอกนะ”  คีตกาลก้มลงมองชามนมของเจ้าตัวเล็กเมื่อได้ฟัง  ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังพุงกลมๆใสๆของหมาน้อย  “ตะกละจนท้องจะแตกด้วย”  สีหราชจิ้มนิ้วลงบนพุงป่องตึงนั้นเบาๆ

“นายจะแกล้งมันน่ะซิ”

“ให้มันน้อยๆหน่อยพ่อคุณ  ฉันไม่ได้เป็นคนใจร้ายขนาดนั้นเสียหน่อย”

“เหรอ?  น่าเชื่อมาก”  คีตกาลเบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้   เมื่อวันก่อนโน้นใครกันที่ทำท่าจะโยนมันลงระเบียงน่ะ ห้ะ!

“โธ่~  ลูกพี่สิงห์ใจดีจริงๆนะ  ลูกพี่เอานมมาให้ป๋มกินทุกวันเลย”  สีหราชจับเท้าเล็กๆของเจ้าหมาน้อยขึ้นขยับ  พร้อมบีบเสียงให้เล็กคล้ายเด็กน้อย   แสร้งว่าเสียงพูดเมื่อครู่นี้เป็นของเจ้าขนปุยสีน้ำตาลนี่   คีตกาลกอดอกหรี่ตามองเม้มริมฝีปากแน่น  ผู้ชายตัวโตอย่างกับยักษ์บีบเสียงจนฟังดูตลก 

“ลูกพี่สิงห์?”

“อ่าฮะ”

“เอา Lion มานี่”  ร่างโปร่งขยับเท้าหมายจะแย่งเจ้าตัวเล็กมาจากอีกคน  สีหราชหัวเราะพลางขยับเท้าหนีให้คีตกาลขยับตาม

“พ่อคีย์ตื่นสาย  ป๋มหิวนะ”  สีหราชยังคงบีบเสียงเล็กเสียงน้อยต่อไป  จับขาหน้าเจ้าขนปุยขยับไปมา

“พรืด!  หยุดเลย”  ในที่สุดคีตกาลก็หลุดขำออกมาจนได้  ใบหน้าใสแต้มรอยยิ้มกว้าง

“แน่จริงก็จับป๋มให้ได้ซิ”  สีหราชขยับเท้าก้าวถอยหลัง  คีตกาลเท้าเอวอย่างนึกหมั่นไส้ก่อนจะขยับทีเดียวไปหยุดตรงหน้าร่างสูง  มือขาวแย่งเจ้าหมาน้อยมากอดได้สำเร็จ   อันที่จริงสีหราชยอมปล่อยให้อีกคนคว้าไปต่างหาก

“จับได้แล้ว~”

“.....”   สีหราชทำท่าจะมาแย่งคืน   คีตกาลเมื่อเห็นดังนั้นจึงขยับเท้าหนี  พอร่างสูงเบี่ยงซ้ายเขาก็ขยับขวา  พอฝ่ายนั้นขยับขวาคีตกาลก็ขยับซ้าย

“โอ๊ะ!”  เผละ!   ร่างโปร่งชะงักเท้าไม่ขยับเมื่อรู้สึกเหมือนเหยียบโดนอะไรเละๆบางอย่าง

“หึ  หึๆๆๆๆๆ”  สีหราชที่เห็นดังนั้นก็หัวเราะลงคออย่างชอบใจ   คิ้วเรียวของคีตกาลขมวดมุ่นเมื่อเห็นฝ่ายนั้นหัวเราะก่อนจะก้มลงมองเท้าของตัวเอง   เขาค่อยๆยกเท้าขึ้นดูว่าตัวเองเหยียบอะไร

“....อี๋!”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ”  คราวนี้ร่างสูงหัวเราะสะใจเสียงดังให้คีตกาลเงยหน้าขึ้นขวับอย่างไม่ชอบใจ

“นายแกล้งฉัน!”

“ฉันแกล้งนายตรงไหน?”

“นายแกล้งให้ฉันเดินมาเหยียบขี้หมา!”

“ขี้หมา?”

“นี่ไง!  โธ่โว้ย!”  อยากจะสะบัดเท้าก็กลัวว่ามันจะกระเด็นไปที่อื่นๆ

“อ๋อ~~  ขี้เจ้า Lion นี่เอง”

“ไอ้!”

“ถ้าอย่างนั้นนายก็เก็บขี้เจ้า Lion มันด้วยนะ  เป็นพ่อมันนี่”   ว่าแล้วร่างสูงก็เดินจากไป  ทิ้งให้
คีตกาลเก็บขี้หมาคนเดียว

จากนั้นคีตกาลก็เรียนรู้แล้วว่า  ตื่นเช้ามาเขาต้องพาเจ้า Lion ไปปลดทุกข์ก่อนเป็นอันดับแรก  อย่าให้มันได้อึได้ฉี่เรี่ยราดบนบ้านเชียว  เพราะเขาจะต้องตามมาเก็บเองคนเดียว!


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2015 02:02:39 โดย sine »

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
.
.
.
“คุณคีย์ขา  สายใจขอโทษนะคะ”  เด็กสาวหน้าซีดนั่งลงข้างเตียงคนป่วย  ในมือยังคงมีผ้าเช็ดตัวเปียกชื้นถือไว้

“ขอโทษเรื่องอะไรน่ะเรา”

“ก็...หนู...หนูทำรอยสักคุณคีย์หายไปนี่คะ!”

“............”

“ฮือ”  พอเห็นคนบนเตียงไม่ตอบรับเด็กสาวก็ยิ่งใจเสีย

“ไม่เอาน่า  อย่าร้องไห้ซิ”

“แต่..”

“มันหายก็ช่างมันซิ”

“?”  สายใจเงยหน้าขึ้นมองอย่างนึกสงสัย  เธอทำรอยสักคุณคีย์หาย   คุณคีย์ไม่โกรธหรือ?

“นี่มันTattoo  ไม่ใช่รอยสักถาวรมันจะหายก็ไม่แปลกหรอก”

“หา?”

“ฮ่าๆ  ไม่ต้องตกใจหรอก  ถึงเวลามันก็หลุดลอกเองแหละ  ไม่เป็นเป็นไรเดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง”  ชายหนุ่มก้มลงมองริ้วรอยขาดๆหายๆบนท่อนแขนตัวเองแล้วส่ายหัว  พอแหว่งแล้วดูน่าเกลียดชะมัด!

ดวงตาคมดุเหลือบขึ้นมองคนที่ทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วก็ให้เลิกคิ้วแปลกใจกับสิ่งที่เห็น   ริมฝีปากยกยิ้มอย่างชอบใจเพียงครู่ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็วไม่ให้ใครสังเกต


ท่อนแขนเรียวขาวไร้ซึ่งริ้วรอยใดๆนั้นน่ามองเสียยิ่งกว่าการที่มีรอยสักหรือTattooบ้าๆบอๆนั่นเสียอีก!



**********


“วันนี้ฉันจะเข้ากรุงเทพนะ  นายจะฝากซื้ออะไรไหม?”  คีตกาลเอ่ยถามเพื่อนร่วมโต๊ะ  ฝ่ายนั้นเงยหน้าขึ้นมอง  ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยปฏิเสธว่าไม่ต้องการอะไร
รถคันงามเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว  บรรดาสาวใช้ต่างก็วิ่งเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

“คุณเพลง  คิดถึงจังเลยค่ะ”

“ผมก็คิดถึงพี่จิตเหมือนกันครับ”   ชายหนุ่มกอดสาวใช้สูงอายุร่างท้วมอย่างออดอ้อน “คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ไหนครับ”

“ห้องหนังสือค่ะ”  ชายหนุ่มผละขึ้นชั้นบน
.
.

“คุณพ่อ  คิดถึงจังฮะ”    ร่างโปร่งทรุดลงคุกเข่ากอดเอวบิดาที่นั่งอยู่เก้าอี้โยกในห้องหนังสือ

“พ่อก็คิดถึงเรา”  คุณพีรพลกดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มของบุตรชายแล้วผละออกมองใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้ดูเข้มคร้ามขึ้นจากการออกทำงานกลางแดด

“แล้วเป็นไงฮะ  เดินทางเหนื่อยไหม?  งานทางฝั่งนู้นเรียบร้อยหรือเปล่า?”  บุตรชายยิงคำถาม  ทำเอาคนสูงวัยหัวเราะอย่างชอบใจ

“เอาคำถามไหนก่อนดี  หืม  เจ้าตัวแสบ”

“คำถามไหนก่อนก็ได้ฮะ”  คีตกาลยกยิ้ม  มือยังไม่ละออกจากเอวบิดา

“ฮ่ะๆ เดินทางไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอก  แล้วก็งานทางฝั่งโน้นเรียบร้อยดี”  คุณพีรพลลูบหัวบุตรชายอย่างรักใคร่  คุณยุวดีเองก็มองภาพตรงหน้าแล้วยิ้มกว้าง  “ลูกล่ะ  ที่รีสอร์ทเป็นยังไง?”

“....”  คีตกาลเหลือบมองหน้ามารดาก่อนจะยิ้มแผ่วตอบบิดา  “ก็ดีฮะ”  ชายหนุ่มหรุบตาก่อนจะเอ่ยขอตัวกับบุพการีทั้งสองเพื่อไปอาบน้ำโดยไม่ทันเห็นแววตาเศร้าหมองของบิดาที่มองตามหลังมา

“ผม.....ตัดสินใจแล้วนะคุณ”   คุณยุวดีจับมือสามีบีบเบาๆอย่างให้กำลังใจ

ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับตานิ่ง  บิดาของเขาคงไม่รู้ว่าหุ้นส่วนรีสอร์ทเป็นใครไม่อย่างนั้นคงไม่ใจดียอมให้เขาไปทำงานที่นั่นหรอก   เอาเถอะ  ยังไงสักวันก็ต้องรู้แหละนะ   อย่าเพิ่งเครียดไปเลย..



**********


ร่างโปร่งถอดหมวกบนศีรษะตัวเองมาพัดเนื่องจากวันนี้แดดแรง ซ้ำยังอบอ้าวเสียเหลือเกิน   เขาอยากจะถามว่าพระอาทิตย์ว่าเคยนึกอยากจะพักงานบ้างหรือเปล่า?  แวะกินน้ำแข็งไสไหม  เดี๋ยวเลี้ยงเอง   

โอ๊ย  ร้อนอย่างกับโดนเผา!

คนงานไถเกลี่ยพื้นดินบริเวณที่จะสร้างบ้านพักและส่วนรับรอง   อาทิตย์หน้าคงเริ่มลงมือสร้าง   เกียรติศักดิ์เองก็มาช่วยดูทุกวันพลางตะโกนสั่งลูกน้องว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้าง

“ผมว่าเริ่มลงต้นไม้ไว้ก็ดีนะครับพอเสร็จต้นไม้ก็รากแข็งแรงพอดี”

“เอ  พวกต้นไม้กับไม้ดอกโบราณคุณศักดิ์พอจะแนะนำได้บ้างไหมครับ?”

“อืม  ถ้าต้นโตเลยคงไม่กี่ชนิดครับ   คุณคีย์อยากได้ต้นอะไรบ้าง?”

“คุณแม่ท่านชอบพวกดอกลำดวนดอกจำปีอะไรพวกนี้น่ะครับ  พวกไม้หอมประมาณนั้น”

“อย่างนั้นสัปดาห์หน้าผมจะลองเข้าไปดูให้นะครับ”

“เออ  คุณศักดิ์ครับ  ผมอยากได้ต้นกันเกราด้วยคุณศักดิ์พอจะ…”

“อ้อ  มีครับ  พอดีคนรู้จักผมเขาปลูกขายอยู่   ต้นโตแล้วครับ  ถ้ายังไงพรุ่งนี้ผมจะให้เขาเอามาส่งแล้วกันนะครับ”  คีตกาลพยักหน้ายกยิ้มกว้างเมื่อได้ฟัง   อันที่จริงเขาเองนั่นแหละที่ชอบไม้หอม   เอาคุณแม่มาอ้างเพราะกลัวจะโดนเกียรติศักดิ์มองแปลกๆ   สมัยนี้ไม้โบราณหาค่อนข้างยากและเด็กสมัยใหม่ก็แทบไม่รู้จักด้วยซ้ำ  ส่วนหนึ่งเพราะโรงเรียนไม่สอนและเด็กสมัยใหม่ไม่สนใจต้นไม้ใบหญ้าแบบนี้นัก

คีตกาลหันไปมองเมื่อรถจี้ปเคลื่อนเข้ามาใกล้    เมื่อเช้าสีหราชบอกว่าจะเข้าฟาร์มไปดูม้า   ช่วงสายๆไปดูส่วนที่สั่งไถเกลี่ยดินอีกฟาก   เห็นบอกว่าจะทำอะไรสักอย่างเขาก็ไม่ได้ใส่ใจถาม    ร่างสูงกระโดดลงมาก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างคีตกาล
   
“เดี๋ยวให้นายพวงมาช่วยทางนี้อีกคัน”  ชายหนุ่มหมายถึงให้นายพวงเอารถมาช่วยทางฝั่งนี้เมื่อเขาเห็นพื้นที่ไถไปได้หนึ่งในสามส่วน

   “แล้วนายพวงทำฝั่งนู้นเสร็จแล้วหรือ?”

   “เสร็จแล้ว”

   “แล้วนายเกลี่ยพื้นที่ฝั่งโน้นทำอะไรอ่ะ?”

   “ทุ่งดอกไม้”

   “ห้ะ?”

   “ทุ่งดอกไม้”  คีตกาลเบิกตากว้างมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา

   “ทุ่งดอกไม้?  เอาจริงดิ?  ทำไมทำทุ่งดอกไม้?”

“เอาไว้สำหรับให้ลูกค้าขี่ม้าไง”   ร่างโปร่งหัวเราะเมื่อได้ฟัง

“ฮ่าๆๆ  ใครคิดให้เนี่ย?”

“ฉันคิดเอง  ถ้ามีม้าแต่ไม่มีที่ให้ขี่ก็ไม่มีความหมายใช่ไหมล่ะ?”  คีตกาลพยักหน้ารับเมื่อคิดตามอีกฝ่าย  ทุ่งดอกไม้สุดลูกหูลูกตาคงทำให้สาวๆชอบกันมากพอดู

“เจ๋งดีนี่”  ริมฝีปากหยักยกยิ้ม  ในอกพองฟูคล้ายมีบางอย่างบินวนอยู่ในนั้น  ยิ่งคนตรงหน้ายิ้มกว้างพร้อมดวงตาหยียิ่งทำให้สีหราชใจเต้น   ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับไปพลางเล่าว่าทุ่งดอกไม้นั้นเขาจะปลูกอะไรบ้าง  ทำอะไรบ้าง  คนฟังก็ทำหน้าที่ได้ดี   คีตกาลเสนอความคิดสอดแทรกบ้างเป็นระยะอย่างเผลอตัว

“จริงซิ  ตอนเย็นเราจะมีแขกนะ”

“แขก?”

“ไปเถอะ  บ่ายมากแล้ว  ทางนี้ให้คุณศักดิ์เขาดูไป”

“เฮ้ย  ไหนว่าแขกจะมาตอนเย็นไง?  จะรีบกลับไปไหน?”

“จะพาไปขี่ม้าเล่น”  เท่านั้นแหละ  ไม่ต้องรอให้ร่างสูงบอกซ้ำคีตกาลก็วิ่งขึ้นรถทันที

บนยอดเนินสูงและแรงลมทำเอาคีตกาลต้องพยายามพยุงตัวเองไม่ให้ปลิวไปเสียก่อน   ตอนนี้เขาอยู่บนหลังเจ้า Music ส่วนสีหาชอยู่บนหลังเจ้าสายฟ้าตัวเดิม     ทั้งสองคนเอาม้าผูกไม้กับต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง   คีตกาลยิ้มกว้างเมื่อมายืนตรงจุดซึ่งคาดว่าน่าจะสูงที่สุดของเนินนี้  เบื้องล่างที่มองเห็นคือฟาร์มม้าของสีหราชและพื้นที่ว่างเปล่าที่ฝ่ายนั้นบอกว่าจะทำเป็นทุ่งดอกไม้  นี่ถ้าลงมือปลูกเมื่อไหร่คงสวยมากแน่ๆ

“วิวสวยมาก”  คีตกาลเอ่ยปากชม

“ยิ่งถ้าปลูกดอกไม้เมื่อไหร่...”

“ก็จะยิ่งสวยมากกว่านี้”   ร่างโปร่งเอ่ยต่อประโยคของสีหราช  “พื้นที่ส่วนตรงนี้เป็นของนายด้วยหรือเปล่า?”  สีหราชพยักหน้ารับก่อนจะชี้นิ้วไปรอบๆบริเวณ

“จากตรงนั้นถึงตรงนั้น...”

“...กว้างพอดูเลยนะนี่”

“อืม”

“....นายถูกรางวัลที่หนึ่งมาหรือไง?”  คีตกาลเอ่ยถามกลั้วหัวเราะเย้าแหย่  เขาสงสัยตั้งแต่คราวรู้ว่าอีกฝ่ายมีฟาร์มม้าแล้ว  เพราะก่อนหน้านี้สี่ปีคนตรงหน้าเขายังมีแค่ตัวเปล่าอยู่เลย

“เปล่า  ค้ายา”  เสียงทุ้มเอ่ยนิ่งๆ สีหน้าไม่บ่งบอกว่าล้อเล่นสักนิด

“นายโกหกใช่ไหม?”  คีตกาลมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อ  คิ้วเรียวขมวดฉับเมื่อร่างสูงเอ่ยจบประโยค

“ก็โกหกน่ะซิ”

“....ไอ้!”   คีตกาลอยากเตะให้อีกคนตกเนินตกเขาเสียเหลือเกิน  ทำให้เขาตกใจทำไมกัน!

“ถูกรางวัลที่หนึ่งอย่างนายว่านั่นแหละ”

“......”  คราวนี้คีตกาลขมวดคิ้วมองเหมือนไม่เชื่ออีก

“จริงๆ”

“......โกหกป่ะเนี่ย?”

“52ล้านอ่ะ”

“เฮ้ย!”  สีหราชเท้าเอวยักคิ้วมองคนที่ตกใจจนเซถอยก็ให้นึกขำ

“โกหกดันเชื่อ  พอพูดความจริงแล้วไม่เชื่อ   คนอะไร”  ร่างสูงส่ายหัวอย่างขำๆ

“....อะแฮ่ม   แล้วที่ตรงนี้จะทำเป็นจุดชมวิวไหม?”   คีตกาลเสเปลี่ยนเรื่อง   สีหราชยืนนิ่ง  ใบหน้าเข้มคร้ามเรียบเฉยมองลงไปด้านล่างคล้ายคิดบางอย่างอยู่ในใจ   ครู่ใหญ่กว่าจะตอบคำถามของอีกคน

“ไม่”

“ทำไมล่ะ?  ถ้าทำเป็นจุดชมวิวล่ะก็ลูกค้าต้องชอบมากแน่ๆ” 

“เพราะฉันไม่ต้องการให้ลูกค้าหรือใครๆมาชอบ”  ดวงตาเข้มดุหันมองคนถาม   มองนิ่งเข้าไปในดวงตาเรียวสีดำขลับคู่นั้นของคีตกาล      นิ่งเนิ่นนาน...

สถานที่ตรงนี้...เขาไม่ได้อยากสร้างมันให้ลูกค้าหรือใครคนไหนมาชื่นชอบ   แค่อยากเก็บเอาไว้...เพื่อ....

“ก็ตามใจละกัน”   ร่างโปร่งเสหลบตาก่อนจะเดินไปปลดเชือกเจ้า Music แล้วขึ้นควบออกไป

“.....แค่...คนเดียว”   เสียงทุ้มพึมพำแผ่วกับตัวเอง  ชายหนุ่มยืนมองแผ่นหลังของคีตกาลค่อยๆห่างออกไปแล้วถอนหายใจ










   



โปรดติดตามตอนต่อไป




แถมท้ายช่วง


“คุณคีย์นี่เวลาไม่สบายงอแงมากๆเลย  ยังกะคนแพ้ท้อง”

“พรวด!  แค่กๆๆๆ”  คนโดนนินทาสำลักน้ำมะพร้าวที่ดูดเข้าไปอย่างกระหาย  ไอเสียจนหน้าดำหน้าแดง  ร้อนให้เด็กสายใจต้องวิ่งมาลูบหน้าลูบหลัง

“อะไรของเราน่ะ?”  สีหราชขมวดคิ้วฉับ  มองเด็กสาวอย่างไม่ใคร่ชอบใจเพราะประโยคนั้นนัก  หากเจ้าหล่อนก็ยังไม่รู้ตัวเอ่ยเจื้อยแจ้วต่อ

“เอ้า  ก็คุณคีย์ร้องจะกินส้มเอย  น้ำมะพร้าวเอย  นี่ถ้าคุณคีย์เป็นผู้หญิงนะ  หนูนึกว่าแพ้ท้องชัวร์” 

“เด็กบ้า!”  คีตกาลตวาดเสียงขุ่นพลางไอไม่หยุด

“จริงนะคะ  แล้วคุณสิงห์ก็เป็นคุณพ่อมือใหม่  วิ่งไปแบกมะพร้าวมาทั้งทลายให้เมียกิน  คริๆๆๆ”

“สายใจ!”  คราวนี้คนดุเป็นสีหราชเสียเอง   สายใจถึงกับหน้าซีดเอ่ยปากขอโทษคีตกาลที่ลามปามเล่นเลยเถิดมากเกินไป


หากไม่มีใครเห็น....ใบหน้าเข้มคร้ามของสีหราชขึ้นสีแดงเรื่อ...กับประโยคเหล่านั้นของสายใจ




.
.
.



สวัสดีค่ะ  วันนี้มาสั้นๆเนอะ 
ฝากดูคำผิดด้วยนะคะ  มึนๆ ฮา..
มีอะไรติ-ชมกันได้นะคะ ไม่ว่ากันเนอะ  จะได้พัฒนาปรับปรุงกันไปค่ะ


ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ  แม้จำนวนไม่มากแต่ทุกกำลังใจที่ให้กันมานั้นยิ่งใหญ่และมีค่าเสมอ..
เป็นทั้งแรงกระตุ้น  แรงบันดาลใจให้นิยายเรื่องนี้นั้นดำเนินต่อและลื่นไหล...
อยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านได้สิ่งที่ดีที่สุดกลับไป..
จะพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิมนะคะ^^

กอดสามที  + หอมแก้มซ้ายขวา
 :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2015 23:36:12 โดย sine »

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
หลบตาไปก่อนทำไม ไม่อยากรู้หรือไม่กล้ารับรู้



 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
รอต่อคับบ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ยังรักเค้าอยู่ก็เดินหน้าลุยต่อไปค่ะคุณสิงห์

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
น่ารักอะ

ละเเทตทูละเป็นไง

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่ารักอ่ะ ต่างคนต่างยังมีเยื่อใย แต่แล้วทำไมเป็นแบบนี้น้า
รอตอนต่อนะคะ สู้ๆน้า

ออฟไลน์ kkmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ชอบมากๆเลยครับ

ออฟไลน์ s.mosis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เวลาเราป่วยเราก็อยากกินแบบคีย์นะ แต่หากินเองค่ะไม่มีคนหาให้  :hao5:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณพ่อต้องมีส่วนรู้เห็นในการเลิกกันของสิงห์กับเพลงแน่เลยนะคะ ถึงได้พูดประโยคน่าสงสัยออกมาแบบนั้นน่ะค่ะ ^^ ..

ส่วนเจ้า Lion ช่วยเป็นตัวเชื่อมสายสัมพันธ์ให้สิงห์กับเพลงได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นแบบนี้ดีจังเลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะต้องแลกมันมาด้วยการที่เพลงได้สัมผัสกับความหยุ่น(?)...ของ Lion ก็เถอะนะค้าา :laugh:

ออฟไลน์ feoh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักมากเลยค่ะ ขอฉากสิงห์หึงเพลงเยอะๆ นะคะ ชอบ^^ :z1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ถูกหวย 52 ล้านจริงดิ ... เลขไรอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pemiko2012

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่ารักกกกกกกกกก :katai2-1: :katai2-1:
เวลาเพลงอยู่กับสิงห์แล้วดูเด็กน้อยอ่ะ
น่าแกล้ง 5555555

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มีมองตา หลบตากันด้วย

พ่อเพลงเศร้าอะไร ตัดสินใจอะไร

แล้วใครจะมาเป็นแขกที่ฟาร์มของสีหราช

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชอบบบเราชอบเรื่องที่แบบเคยเป็นแฟนกันและเลิกไป เหมือนยังมีความรักอยู่และมาเจอกันงี้
น่ารักมากกกกกค่ะ

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
น่ารักมากกกกกเลยค่ะ กดติดตามเลยย 5555

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
~  แมกไม้  ไอดิน  กลิ่นหมอก ~

รักพัดหวน

ตอนที่ 6



เสียงรถเคลื่อนมาจอดทำให้คีตกาลละมือจากกีต้าร์โปร่งสีน้ำตาลอ่อนเหลียวไปมอง





“ไอ้สิงห์โว้ย ไอ้สิงห์!”   เสียงตะโกนร้องเรียกหาเจ้าของบ้านทำเอาคีตกาลขมวดคิ้ว   เรียกหากันแบบนี้คงเป็นเพื่อนมากกว่าแขกทางธุรกิจกระมัง?   

“เฮ้ย  ขึ้นมาบนนี้เลย”  สีหราชที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องนอนหลังอาบน้ำเสร็จเท้าแขนกับระเบียงบ้านขานรับคนเรียก   เสียงย่ำบันไดดังเอี๊ยดเนื่องจากผู้มาเยือนนั่นร่างสูงใหญ่ระรัวเท้าวิ่งขึ้นมา

“ไง  ไม่เจอกันนาน  กูโคตรคิดถึงมึงเลยว่ะ”  ผู้มาใหม่ถลาเข้ากอดเจ้าของบ้านเต็มแขนบ่งบอกว่าคิดถึงมากอย่างปากว่าจริงๆ

“มึงก็เว่อร์ไปไอ้เอม  เดือนก่อนเพิ่งไปกินเหล้าด้วยกันมาเอง”  สีหราชยิ้มกว้างพลางตบหลังเพื่อนเสียงดังป้าบ  คนบ่นว่าคิดถึงหัวเราะเสียงดังแล้วผละอ้อมกอดออก

“เอ้า  ก็กูคิดถึงมึงจริงๆนี่หว่า”

“ไปๆ  กินข้าวมาหรือยัง  นี่ป้าแช่มเตรียมของโปรดไว้รอมึงเลยนะ”  เจ้าของบ้านถามหากไม่รอคำตอบเพราะบังคับไปแล้วว่า  ถึงอีกฝ่ายจะกินข้าวมาแล้วก็ต้องกินอีกเพราะป้าแช่มเตรียมอาหารไว้แล้ว

“แหม่  เล่นพูดแบบนี้ใครจะกล้าบอกว่ากินมาแล้ว”  เอมหัวเราะพลางเดินไปทางห้องทานอาหาร  หากต้องชะงักเท้าเมื่อเห็นใครบางคนนอกเหนือเจ้าของบ้านนั่งอยู่ตรงแหย่งไม้สักตัวเขื่องในห้องรับแขก

“หวัดดี”  คีตกาลเอ่ยทักก่อนเมื่อเห็นหน้าอีกฝ่าย  อิ่มเอม  เพื่อนของสีหราช   อิ่มเอม  ชื่อที่ดูละมุนหากตรงข้ามกับรูปลักษณ์ยิ่งนัก  เพราะอิ่มเอมเป็นชายร่างสูงใหญ่เกือบร้อยเก้าสิบเซน  หน้าคมคิ้วเข้มเพราะมีเชื้อแขก

“หวะ  หวัดดี”  อิ่มเอมยิ้มแหยก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าของบ้าน  “เฮ้ย  นี่มันเรื่องอะไรกันวะ?  ทำไมเขามาอยู่ที่นี่?”  สีหน้าซีดเผือดของเพื่อนสนิททำเอาสีหราชขมวดคิ้ว  หากไม่ได้คิดอะไรมากเพราะอิ่มเอมนั้นเป็นเพื่อนสนิทและรู้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับคีตกาลช่วงก่อนที่จะเลิกกันว่าเป็นอย่างไร  แต่จะว่าไป...ตั้งแต่เขามาเจอกับคีตกาลอีกครั้งเขาก็ไม่ได้บอกอิ่มเอมนี่นะ  เอาเถอะ   เพราะมัวแต่ยุ่งๆน่ะ
แหละเลยไม่ได้บอก

“ก็...มันมีอะไรหลายอย่างน่ะ”  สีหราชตอบไม่เต็มเสียง  เขารู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกเพื่อนว่าคีตกาลอยู่ที่นี่  อิ่มเอมเป็นเพื่อนในไม่กี่คนที่อยู่ปลอบใจเขาตอนเลิกกันกับคีตกาล  เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอด

“อย่าบอกนะว่ากลับมาคบกันอีก?”

“.......”

“ไอ้สิงห์!

“เอาน่ากินข้าวกันก่อนเถอะ  ป้าแช่มเตรียมไว้แล้ว  ประเดี๋ยวอาหารจะชืดไปเสียก่อน”  สีหราชเดินนำอีกฝ่ายไป   อิ่มเอมขมวดคิ้วถอนหายใจ

“.....”   คีตกาลวางกีต้าร์ในมือลงแล้วตามทั้งสองคนเข้าไปยังโต๊ะทานข้าว   กีต้าร์ตัวนี้เขาไม่ได้คืนให้สีหราช  อีกฝ่ายเองก็ไม่ได้ทวงคืน
สงสัยจะโดนทิ้งเสียแล้วกระมัง?



“เออ  จริงซิ  มึงจำแป้งได้ไหม?”

“แป้ง?”

“ใช่  คนที่นั่งข้างกูตอนเรียนวิชา....ตลอดอ่ะ”

“หมวยๆ?”

“ใช่  วันก่อนกูเจอเขาที่สนามบิน  ถามถึงมึงด้วยนะ”

“ถามหากูทำไมวะ?”   สีหราชนึกถึงเด็กสาวที่มักจะนั่งข้างอิ่มเอมตลอดทุกวิชาหนึ่ง   เธอยิ้มเก่งคุยเก่งจนเขาพลอยรู้จักสนิทสนมกับเธอไปโดยปริยาย

“อย่ามาๆ  เขาถามถึงมึงจะแปลกอะไร  ก็เขาชอบมึงนี่”

“.......”  มือขาวที่กำลังเขี่ยข้าวในจานชะงักไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะขยับต่อราวกับไม่ได้ยินบทสนทนาของสองเพื่อนซี้

“มึงก็พูดไปไอ้เอม”  สีหราชปรามเพื่อนเสียงนิ่ง  หากสายตากลับเหลือบมองคีตกาลไม่วาง   และนั่นทำเอาอิ่มเอมถึงกับหงุดหงิด

“มึงก็รู้ไอ้สิงห์ว่าเขาชอบมึง  ไอ้ที่หาเรื่องมานั่งข้างกูตลอดเพราะกะจะให้กูช่วยจีบมึงไง”  อิ่มเอมผละจากจานข้าวกอดอกมองเพื่อนที่เอาแต่จ้องหน้าคีตกาลนิ่ง

“พอเหอะน่ามึง”

“นี่กูชวนเขามาเที่ยวที่ฟาร์มมึงด้วยนะ”

“ไอ้เอม!”  คราวนี้สีหราชละสายตาจากคนที่ก้มหน้านิ่งได้เสียที  ชายหนุ่มถลึงตามองเพื่อนสนิทอย่างไม่ชอบใจ

“อ้าว  ทำไมล่ะ?  ตอนนี้มึงก็ไม่ได้คบใครนี่”

“....ขอตัวก่อนนะ”  คีตกาลรวบช้อนพลางเอ่ยขอตัวลุกออกไปโดยไม่มองหน้าเพื่อนร่วมโต๊ะสักคน   ร่างโปร่งจึงไม่เห็นว่าอิ่มเอมทำท่าไม่สบอารมณ์ยามเมื่อเขาเดินผ่าน

“ไอ้เอม!”

“ทำไม?  มึงตะคอกกูทำไมห้ะไอ้สิงห์?  โกรธกูเหรอ?”

“......”  สีหราชกำมือแน่น  เขาโกรธเพื่อนแต่ก็ไม่อยากจะโกรธ  เขารู้ว่าเพื่อนทำไปทำไม

“มึงโกรธกูเรื่องอะไร?”  อิ่มเอมกอดอกจ้องหน้าไม่ยอมแพ้

“ไอ้เอม  กูขอ  อย่าพูดถึงแป้งอีกได้ไหม?”

“ทำไม?”

“.....”

“เพราะไอ้เพลงเหรอ?”

“เอม....กู...”

“มึงนั่นแหละที่ต้องหยุดพูดไอ้สิงห์”

“......”

“อย่ามาพูดเรื่องไอ้เพลงกับกู”   สีหราชมองหน้าเพื่อนที่กำลังจ้องตอบกลับมา  อิ่มเอมโกรธคีตกาลมากเขารู้

“....มันคงยาก”

“หมายความว่ายังไง?  แล้วนี่มึงอธิบายเรื่องที่เขามาอยู่ที่นี่ด้วยเลยนะ”   อิ่มเอมคาดคั้น

“เพลงเขาอยู่ที่นี่”

“พวกมึงกลับมาคบกัน?”

“เปล่า”

“แล้ว?”

“กูกับแม่เขาเป็นหุ้นส่วนกัน   รีสอร์ทที่กูขอให้มึงมาช่วยไง”

“มึงไม่เห็นบอกกูว่านั่นเป็นแม่ไอ้เพลง!”

“ก็นี่ไง  พอบอกมึงก็จะโกรธแบบนี้”   สีหราชถอนหายใจ

“ก็มันสมควรให้กูโกรธไหม?  มันทิ้งมึงไปนะ!”

“เพลงเขามีเหตุผลของเขานะไอ้เอม”  สีหราชปรามเพื่อนที่เริ่มเสียงดังขึ้น   ดวงตาคมดุจ้องหน้าเพื่อนสนิทนิ่ง

“แต่....”

“ไอ้เอม!”  สีหราชเอ่ยเสียงเข้ม  เขารู้ว่าเพื่อนสนิทโกรธคีตกาล  เขายอมให้โกรธแต่จะไม่ยอมให้ใครว่าพูดเรื่องนี้อีก
   .
   .

ร่างโปร่งเดินวนไปวนมาพลางกัดเล็บไปพลาง   ประเดี๋ยวนั่งประเดี๋ยวลุก  เรื่องในหัวตีกันจนวุ่นไปหมด   นายอิ่มเอมนั่นทำอย่างกับเขาไม่มีตัวตนทั้งๆที่ฝ่ายนั้นก็เคยสนิทสนมด้วยกันกับเขามาก่อนแท้ๆ  คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อมีเสียงหมาหอนดังระงมขึ้น    สายใจบอกว่าพรุ่งนี้วันพระคืนนี้อย่าลืมสวดมนต์ก่อนนอน   เขาเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงคืนแล้วถลาไปปิดหน้าต่าง    สายลมเย็นเอื่อยพร้อมกลิ่นดอกราตรีทำเอาเขาขมวดคิ้วคำรบสอง   คีตกาลยังนึกแคลงใจว่าทำไมสายใจต้องบอกให้เขาสวดมนต์ก่อนนอน  หรือว่า....   ร่างโปร่งเหลียวมองรอบห้องก่อนจะคว้าหมอนแล้ววิ่งออกไป

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

มือขาวระรัวเคาะประตูห้องคนติดกันพลางเหลียวมองรอบเรือน  บ้านนี้นอนกันตั้งแต่หัวค่ำดังนั้นตอนนี้ทั่วทั้งบ้านจึงมืดสนิทชนิดที่แทบมองไม่เห็นนิ้วตัวเอง   ยิ่งเมื่อเจ้าของห้องไม่มีทีท่าว่าจะเปิดประตูคีตกาลยิ่งระรัวเคาะราวกับจะให้มันพัง

“มีอะไร?”   ร่างสูงใหญ่ของสีหราชปรากฎขึ้นตรงหน้าพร้อมไฟฉายในมือ   ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองคีตกาลที่กอดหมอนอยู่หน้าห้องอย่างสงสัย

“นอนด้วยคน”

“ห้ะ?”  ไม่รอให้เจ้าของตอบรับร่างโปร่งของคีตกาลก็พุ่งขึ้นไปบนเตียงแล้วเรียบร้อย

“เฮ้ย  อะไรวะ?”  อิ่มเอมสะดุ้งกายลุกขึ้นนั่งร้องโวยวาย

“คีตกาล!”  สีหราชกวาดไฟฉายใส่ผู้มาเยือน

“นอนด้วย”

“เห้ย  ไอ้เพลง  มึงไปนอนห้องโน้นซิวะ”  อิ่มเอมโวยวาย

“ไม่ไป”   

“ไอ้เพลง!

“มีอะไรหรือเปล่า?”  สีหราชเป็นฝ่ายถาม

“กลัวผี”

“ห้ะ?/ห้ะ?”   พอได้คำตอบสีหราชจึงได้ยินเสียงหมาหอนที่ขานรับกันเป็นทอดๆแล้วยกยิ้ม

“หมามันติดสัดหรอกมึง  มึงกลับไปนอนห้องโน้นเลยนะ”  คนอีกฝั่งดันไหล่คีตกาลให้ลงไปจากเตียง

“หมาบ้านมึงติดสัดฤดูนี้หรือไง?”  มึงมาก็กูไป   เรื่องอะไรต้องมาสุภาพใส่

“แต่เตียงมันแคบ!”

“งั้นมึงลงไปนอนบนพื้น”

“ไอ้เพลง!”

“พอๆ  ทั้งสองคนนั่นแหละ   สรุปพวกนายนอนที่นี่กันสองคนฉันจะไปนอนอีกห้องเอง”

“กูไม่นอนกับไอ้เพลงสองคนหรอกนะ”  อิ่มเอมโวยวายอีกคำรบทำเอาเจ้าของห้องถึงกับกุมขมับ

“กูก็ไม่นอนกับมึงสองคนเหมือนกัน”  นี่ก็ไม่ยอมแพ้

“โอเคๆ  นอนด้วยกันที่นี่ทั้งหมดนี่แหละ”  สีหราชถอนหายใจ  ไม่รู้ว่าคีตกาลเกิดนึกกลัวผีอะไรขึ้นมาตอนนี้  นอนบ้านนี้มาเป็นเดือนแล้วแท้ๆ

“ฉันนอนตรงกลาง”  คีตกาลวางหมอนแล้วล้มตัวลงนอนยึดพื้นที่ทันที   ปล่อยให้คนตัวโตขนาบข้างซึ่งไม่รู้ว่านอนๆไปจะเผลอตกเตียงไปตอนไหน
ท่ามกลางความมืด    แม้จะอึดอัดไปบ้างเพราะผู้ชายตัวโตๆสามคนนอนเบียดกันจนแทบขยับตัวไม่ได้หากคีตกาลก็ยังคงยกยิ้มมุมปาก   ไอ้เรื่องกลัวผีน่ะเหรอ   โกหกทั้งเพ! เขาก็แค่อยากแกล้งนายอิ่มเอมเท่านั้น   โถ   คิดจะทำเหมือนคีตกาลคนนี้ไม่มีตัวตนอย่างนั้นหรือ?   ฝันไปเถอะ!
.
.



อิ่มเอมบิดกายไล่ความเมื่อยขบก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อได้ยินเสียงกระดูกตัวเองลั่นกร๊อบ   ชายหนุ่มเหลือบไปมองตัวต้นเหตุที่นั่งจิบกาแฟสบายอารมณ์แล้วให้นึกหมั่นไส้

“หมั่นไส้จริงโว้ย  ทำตัวยังกับเจ้าของบ้าน”

“สายใจ  วันนี้กาแฟของสายใจอร๊อยอร่อย”  คีตกาลทำหูทวนลมแล้วพูดกับเด็กสาวข้างตัวที่ยิ้มแก้มแตก

“คุณคีย์ขา  รับขนมปังเพิ่มไหมคะ?” เด็กสาวเอาใจก่อนจะเอ่ยถามอิ่มเอมที่จ้องมองมาอย่างไม่ชอบใจ  “คุณเอมรับกาแฟด้วยไหมคะ?”

“ไปดูแลคุณคีย์ขาของสายใจเถอะ!”

สีหราชขมวดคิ้วมองคนหนึ่งที่นั่งจิบกาแฟ  อีกคนที่ยืนกอดอกหน้าบึ้งก็ส่ายหัวแล้วเรียกเพื่อนสนิทให้มานั่ง  นั่นแหละอิ่มเอมชายตัวโตแต่ขี้ใจน้อยจึงยอมเดินมานั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน

“วันนี้กูเข้าฟาร์มด้วยนะ”

“อืม  งั้นเดี๋ยวเอารถไปละกัน”

“แต่กูอยากขี่ม้า”

“วันนี้นายเขียวไม่ได้เอาสายฟ้ามาให้”

“ก็เจ้าตัวที่อยู่ตรงต้นจำปีนั่นล่ะ?”

“....นั่นเจ้า Music ของคีตกาล”

“มึงว่าอะไรนะ?”  อิ่มเอมมองหน้าเพื่อนก่อนจะหันไปจ้องอีกคนอย่างไม่ชอบใจ

“เจ้า Music เป็นม้าของคีตกาล”

“Music?”    อิ่มเอมถามเพื่อนอย่างไม่เชื่อหู  “นี่มึง....”

“เอาล่ะไอ้เอม   ถ้ามึงจะไปฟาร์มกับกูกับรีบกินซะ”  สีหราชตัดบท   อิ่มเอมฮึดฮัดอย่างขัดใจหากไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก  คีตกาลที่ดื่มกาแฟหมดแก้วแล้วหันไปทางสายใจ

“สายใจ  เจ้า Lion กินข้าวหรือยัง”  อิ่มเอมที่พยายามสงบจิตสงบใจถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง  อะไรวะ?  มีทั้งMusicทั้งLionเลยเหรอวะ?

“ยังค่ะ  ประเดี๋ยวสายใจจะเอานมไปให้ค่ะ”

“งั้นเดี๋ยวฉันเอาไปให้เอง”  ว่าแล้วร่างโปร่งก็ลุกออกไปทันที   อิ่มเอมหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างขอคำตอบ  หากสีหราชกลับทำเพียงยิ้มมุมปากไม่ตอบอะไร

“Lion~”   อิ่มเอมขมวดคิ้วเมื่อเห็นคีตกาลนั่งยองๆตรงหน้ากล่องสีน้ำตาลบังเจ้า Lionเสียมิด   ไหนดูซิว่าเจ้าLionนี่มันตัวอะไร
ลูกหมาขนปุยสีน้ำตาลกระดิกหางดีใจ  หลังกินนมหมดก็ตะกายขาคนให้อาหารทันทีอย่างออดอ้อน  คีตกาลหัวเราะอย่างเอ็นดูก่อนจะยีหัวเจ้าตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว  เจ้าขนปุยเหลือบมาเห็นผู้มาใหม่ก็กระดิกหางผละออกจากคีตกาลแล้ววิ่งไปยังคนคนนั้นทันที   อิ่มเอมเบิกตากว้าง  มองเจ้าขนปุยตัวเล็กสลับกับร่างโปร่งของคีตกาล

“Lion?”  อิ่มเอมชี้เจ้าตัวเล็กที่ตะกายขาเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย 

“นี่แหละLion  หมาฉันเอง”  คีตกาลยิ้มตาหยีโอ้อวด

“ไอ้เพลง!”  อิ่มเอมตะโกนลั่นบ้าน   นิ้วเรียวยาวชี้หน้าคีตกาลสั่นระริก  ขายาวยกขึ้นสูง  เป้าหมายคือเจ้าLionสีน้ำตาลตรงหน้า    กูจะเหยียบให้ตาย!

“ไอ้เอม! มึงไปกับกู”  สีหราชคว้าคอเสื้อเพื่อนสนิทแล้วลากลงบันไดไป

“ไอ้สิงห์  แม่งมันตั้งชื่อหมาให้เหมือนมึงนะ!”

“เออน่า  มึงค่อยเหยียบมันวันหลัง!”   สีหราชลากคอเพื่อนขึ้นรถ  ขืนให้อยู่ต่อมีหวังมันกระทืบคีตกาลไปพร้อมเจ้าLionแหงๆ
คีตกาลมองคนร่างสูงใหญ่ของสองเพื่อนซี้ไปจบลับตาก่อนจะหัวเราะเสียงดัง    เล่นกับใครไม่เล่น  เล่นกับไอ้เพลงเหรออิ่มเอม~


**********


คีตกาลเงยหน้าจากเจ้า  Lion ขึ้นมองรถไม่คุ้นตาที่เข้ามาจอดใต้ร่มต้นจำปี   วันนี้เลิกงานเร็วเพราะเกียรติศักดิ์เอาต้นไม้มาให้  เห็นว่าอีกสองสามวันจะหาลูกน้องมาลงต้นให้อีกทีเขาเลยกลับมาเล่นกับลูกหมา  ส่วนเจ้าของบ้านพาเพื่อนสนิทไปขี่ม้าถึงไหนเขาเองก็คร้านจะสนใจ   ร่างเพรียวสะโอดสะองในชุดเข้ารูปสีอ่อนก้าวลงมาจากรถคันหรู   คีตกาลเลิกคิ้วเมื่อรู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่าย

“สวัสดีค่ะ  ฉันมาหาคุณสิงห์กับคุณเอม”   หญิงสาวแย้มยิ้มน่ามองเอ่ยบอกเขาที่ยังคงอุ้มลูกหมาเอาไว้บนตัก

“ไม่อยู่”

“แต่คุณเอมบอกว่า....”

“ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่  จะรอไหม?”   เจ้าหล่อนพยักหน้ารับ  คีตกาลกัดริมฝีปากนึกอยากทึ้งหัวตัวเองนัก  ทำไมเขาทำตัวได้น่าเกลียดแบบนี้นะ  ปรกติแล้วเขาจะเป็นสุภาพบุรุษกับเพศหญิงแทบทุกคน   บางครั้งยังลามไปถึงหนุ่มน้อยน่ารักอีกด้วย   เพียงแค่นายอิ่มเอมบอกว่า....อ้อ  จำได้แล้ว  ผู้หญิงตรงหน้าเขาชื่อแป้งซินะ  บอกว่าคุณแป้งจะมาเขาก็ทำตัวแย่ใส่อีกฝ่ายตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรกเลย

“เอ่อ   คุณ?”

“เพลง”  ไม่รู้ทำไม   เขาถึงบอกชื่อนี้ออกไป  ตลอดสี่ปีมานี้ไม่ว่าใครถามเขาว่าชื่ออะไร  เขาจะบอกว่าชื่อ คีย์ตลอดแท้ๆ

“เพลง?”  หญิงสาวจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง  ก่อนคิ้วเรียวจะขมวดมุ่น   ใบหน้าสวยเริ่มซีดเผือด   

“คุณไม่สบายหรือเปล่า?”   คีตกาลวางเจ้า Lion ลงก่อนจะเช็ดมือแล้วเข้าไปแตะแขนขาวของหญิงสาวแผ่วเบาเพื่อให้เธอนั่งพัก

“ฉัน....”

“สายใจ   ขอน้ำเย็นให้แขกหน่อย”  สายใจที่เยี่ยมหน้ามามองตั้งแต่ได้ยินเสียงรถพยักหน้ารับก่อนจะออกมาพร้อมน้ำเย็นลอยดอกมะลิกับผ้าเย็น

“เอ่อ  ฉันขอแก้วใหม่ได้ไหมจ๊ะ   มันมีกลิ่นมะลิฉันไม่ชอบน่ะ”  สายใจกลับเข้าไปเอาน้ำแก้วใหม่มาอีกครั้งก็พอดีที่สีหราชและอิ่มเอมกลับมาถึงพอดี   แป้งลุกขึ้นยืนก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้ทั้งสองคน

“แป้ง  มาถึงนานหรือยัง?”  อิ่มเอมเอ่ยทักก่อนคนแรก  ส่วนสีหราชพอเห็นว่าใครมาเยือนก็ชะงักเท้า   เพียงครู่จึงเดินเข้ามาสมทบกับเพื่อน

“สักครู่นี้เองจ้ะ  สิงห์  สวัสดีค่ะ”  เธอยิ้มสวยให้เจ้าของบ้าน   ชายหนุ่มเอ่ยสวัสดีแล้วแยกตัวออกมาหาคนที่ยืนนิ่งอยู่กับเจ้า Lion

“ทำไมวันนี้กลับเร็วล่ะ?”

“คุณศักดิ์เอาต้นไม้มาส่งแล้วกลับไปหาลูกน้องที่จะมาลงต้นไม้น่ะ”

“อืม”

“.....”  คีตกาลเหลือบมองใบหน้าเข้มคร้ามที่มองเขาอยู่ก่อนแล้วก็ให้เสหลบตา  ก่อนจะเดินขึ้นเรือนพร้อมลูกหมาตัวน้อย

“ไอ้สิงห์  ใจคอมึงจะทิ้งแขกไว้ให้กูคุยคนเดียวหรือไง?”

“เอ้า  ก็แขกมึง”  สีหราชตอบกลับ  ทำเอาหญิงสาวหน้าซีดคำรบสอง   เธอมาที่นี่ตามคำชวนของอิ่มเอม    เจ้าของบ้านเขาไม่ได้ชวนเลยสักนิด

“เอ่อ  เดี๋ยวแป้งกลับดีกว่า”

“เฮ้ย  จะกลับยังไง  นี่ก็เย็นมากแล้วนะ  อีกอย่างขับรถไปมืดกลางทางละอันตรายแย่  เป็นผู้หญิงคนเดียวอีกต่างหาก   หรือมึงว่าไงสิงห์”  ท้ายประโยคอิ่มเอมมัดมือชกให้สีหราชต้องพยักหน้ารับ

“แป้งพักที่นี่ก่อนสักคืนก็ได้นะ”

“แต่แป้งเกรงใจ”   หญิงสาวยิ้มแหย   สีหราชถอนหายใจก่อนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร  แล้วบอกให้สายใจเตรียมอาหารเย็นเพิ่ม


“จะให้คุณแป้งเธอพักห้องไหนคะคุณสิงห์ ?”

“....ไปตามไอ้เขียวมาเก็บของออกจากห้องนั้นไป”   สีหราชหมายถึงห้องนอนแขกอีกห้องที่เขาดันใช่เก็บของเพราะไม่คิดว่าจะมีแขกเกินสองคนมาพัก   ปรกติอิ่มเอมจะพักห้องที่คีตกาลพัก  แต่ตอนนี้กลับต้องการห้องเพิ่มเสียแล้ว

“แป้งหางานใหม่ได้หรือยัง   เห็นว่าลาออกจากงานเก่าหรือ  ทำไมล่ะ?”  ส่วนใหญ่อิ่มเอมจะเป็นคนครองบทสนทนาแทบทั้งหมด  เพราะสีหราชเอาแต่เงียบ  คีตกาลก็นั่งเล่นแต่กับหมา

“ยังเลย  เอมมีงานแนะนำแป้งไหมล่ะ?”   อิ่มเอมเหลือบมองหน้านิ่งเรียบของเพื่อนแล้วยกยิ้ม

“ไอ้สิงห์  มึงว่าตำแหน่งผู้จัดการนี่แป้งจะทำได้ไหมวะ?”

“ก็คงได้มั้ง”  สีหราชละสายตาจากแก้วน้ำขึ้นมองเพื่อนแล้วยิ้มอ่อนส่งให้หญิงสาว

“ถ้างั้น....ก็ให้แป้งมาเป็นผู้จัดการที่ฟาร์มมึงเลยซิ”

“ไอ้เอม”   สีหราชเอ่ยปรามเพื่อนเสียงเข้ม

“ทำไมคะ  สิงห์คิดว่าแป้งทำไม่ได้เหรอ?”  หญิงสาวยิ้มกว้างถาม

“คือ....”

“แป้งชอบม้านะ  ชอบบรรยากาศที่นี่ด้วย  เคยฝันอยากทำงานแบบนี้มาตลอดเลย  ถ้ายังไงสิงห์จะรับแป้งไว้พิจารณาหน่อยได้ไหมคะ  เดี๋ยวแป้งเขียนใบสมัครทิ้งไว้”   หญิงสาวเอ่ยยืดยาว   เมื่อตอนหัวค่ำอิ่มเอมเข้ามากระซิบกับหล่อนว่าอย่าเพิ่งถอดใจยอมแพ้  ที่เห็นคีตกาลอยู่ที่นี่ไม่ได้หมายความว่าสีหราชและคีตกาลเป็นคนรักกันอย่างในอดีต  เธอยังมีหวัง   และยิ่งเพื่อนสนิทอย่างอิ่มเอมเข้าข้างและเชียร์เธอแบบนี้เธอเลยเดินหน้าเต็มที่

“ผมไม่อยากรับผู้หญิงเข้าทำงาน”

“แต่...”

“ที่นี่เป็นฟาร์มม้า  ด้านหลังและรอบด้านเป็นไร่สวน  คนงานส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น  มันอันตรายเกินไปสำหรับผู้หญิงอย่างแป้งนะ”  สีหราชพยายามอธิบายเหตุผล

“เฮ้ย  มีมึงอยู่ทั้งคนใครจะกล้าทำอะไรแป้งวะ?”  อิ่มเอมเองก็ไม่ยอมแพ้   ตลอดเวลาที่นั่งคุยกันเขาแอบสังเกตคีตกาลอยู่ตลอด  ฝ่ายนั้นเหลือบมองมาทางพวกเขาเป็นบางครั้ง  หากส่วนมากก็เอาแต่เล่นกับหมาแต่เชื่อเถอะว่าทุกประโยคคงเข้าหูแน่นอน   อิ่มเอมกระหยิ่มอยู่ในใจ

“เอาอย่างนี้แล้วกัน  รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนค่อยมาคุยกันอีกทีนะ”  สีหราชไม่อยากหักหน้าเพื่อนแต่ก็ไม่อยากยอมรับเลยเอ่ยยุติเรื่องนี้เสีย

อิ่มเอมเห็นมือของคีตกาลกระตุกเมื่อสีหราชเอ่ยประโยคนั้น  เขาขมวดคิ้วแล้วเหลือบมองเพื่อนตัวเองที่พยายามจ้องแต่แก้วไวน์ตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย  น้อยครั้งที่จะเงยขึ้นมามองหน้าสาวแป้ง  อิ่มเอมถอนหายใจ
เอาไงดีวะ?

**********

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3

คีตกาลชะงักมือที่กำลังเทนมให้เจ้า Lion ก่อนจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจคนที่เพิ่งเดินเข้ามา

“ถามจริง  คิดว่าไอ้สิงห์มันจะกลับไปคบกับมึงอีกป่ะ?”

“.....”   ลมหายใจสะดุดชั่วครู่  แม้จะเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร  หากพอได้ยินจริงๆกลับไม่ง่ายนักที่จะทำใจให้นิ่งเหมือนไม่รู้สึก

“กูว่านะ...”  อิ่มเอมทรุดตัวลงนั่งข้างกัน  ก่อนมือใหญ่จะแย่งถ้วยนมของเจ้าหมาน้อยออกห่าง  เจ้าขนปุยสีน้ำตาลครางหงิงเมื่อโดนแย่งอาหาร  มันขยับกายวิ่งไปเกาะขาคนแกล้งเพื่อขอนมคืน  “มึงถอยออกไปเหอะ”

“ถอยอะไร?”

“...ไม่เอาน่าไอ้เพลง  มึงก็รู้ว่ากูหมายถึงอะไร?”

“กูไม่รู้”

“....เรื่องแป้ง”  น้ำเสียงขี้เล่นเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง   อิ่มเอมจ้องใบหน้าด้านข้างของคีตกาลอย่างไม่สบอารมณ์ “กับไอ้สิงห์”

“แล้วไง?”

“ถ้ามึงยังอยู่ใกล้ไอ้สิงห์แบบนี้มันจะมีตาไปมองคนอื่นได้ยังไง”  อิ่มเอมเอ่ยเสียงห้วน   มือใหญ่วางถ้วยนมคืนให้เจ้าLion แล้วยืดกายขึ้นยืนเต็มความสูงทำให้คีตกาลลุกตามแล้วจ้องหน้าอิ่มเอมกลับ

“กูก็ไม่ได้ปิดตาเขานี่  เขาจะมองใครหรืออะไรยังไงก็ได้ตามใจเขา”

“มึงไม่ได้ปิดตาแต่มึงปิดใจมัน!”

“....”

“มึงทิ้งมัน  แล้วมึงกลับมาทำไมไอ้เพลง!”

“....กูแค่มาทำงาน”   คีตกาลตอบเสียงแผ่วไม่กล้าสบตาอิ่มเอมอย่างเมื่อครู่

“กูไม่เชื่อ”

“....”

“ถ้ามึงจะกลับมาทำให้มันเจ็บอีกก็อย่ากลับมาเลย  ให้มันได้มีสิ่งดีๆวิ่งเข้ามาในชีวิตมันบ้าง  มันโดนทิ้งมาทั้งชีวิตแล้วนะ...” 

“...กู”

“มึงมันเห็นแก่ตัว!”  อิ่มเอมสบถด่า ก่อนจะเดินชนไหล่ให้อีกคนเซถอยแล้วกลับเข้าห้องไป   ทิ้งให้คีตกาลยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...



เขาไม่ได้อยากเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ทิ้งอีกฝ่ายไปเสียหน่อย...
ถ้าย้อนกลับไปได้เขาก็อยากจะ....
อยากจะ...อะไร?
เขาจะเลือกยืนอยู่ข้างอีกฝ่ายอย่างนั้นหรือ?

ร่างโปร่งเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าลึก  โพรงจมูกแสบร้อน...ปลายนิ้วเรียวกดคลึงหัวตา...พยายามให้น้ำอุ่นร้อนที่เตรียมจะรินหยดให้ไหลกลับคืนไป...กลับคืนลงไปในหัวใจของเขา
อย่าร้องไห้เด็ดขาด....
.
.


“แป้งว่าสิงห์น่าจะปลูกทุ่งทิวลิปนะคะ  สาวๆคงจะชอบมากแน่ๆถ้าได้ขี่ม้าในทุ่งทิวลิป”

“เหมือนเจ้าหญิงเลยซินะครับ”

“ใช่ค่ะ”

คีตกาลถอยหายใจ  ดวงตาเรียวเหลือบมองร่างสูงของอีกคนที่ยิ้มแย้มอย่างชอบใจแล้วให้เบ้หน้า  โถ  พ่อสื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว  สาวแป้งอยู่โยงที่ฟาร์มมาหลายวันแล้ว  ปาเข้าไปวันที่ห้า สาวเจ้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับบ้านกลับช่องแต่อย่างใด  เจ้าของไร่ไม่กล้าเอ่ยปากเพราะเพื่อนสนิทเอามือปิดปากเขาไว้  แล้วผู้ที่เปรียบเสมือนแขกอีกคนอย่างเขาหรือจะกล้าเอ่ยปากอะไรได้  มีแต่นั่งเงียบๆมองหญิงสาวหน้าแฉล้มเอาอกเอาใจเจ้าของอยู่ทุกวี่วัน

“วันนี้คุณศักดิ์จะเอาต้นไม้มาลง  ยังไงฉันคงกลับค่ำ  บอกสายใจว่าให้เอาข้าวไปส่งที่โน่นที  ฉันคงไม่กลับมาทานข้าวที่นี่”  คีตกาลเอ่ยลอยๆหวังว่าเจ้าของบ้านจะตอบกลับ  ฝ่ายนั้นเงยหน้าขึ้นมองแล้วทำเพียงพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจหญิงสาวที่นั่งข้างๆอีกครั้ง

สีหารถอนหายใจเมื่อร่างโปร่งของคีตกาลพ้นสายตา   ชายหนุ่มผละกายออกห่างสาวแป้งแล้วยืดกายบิดไล่ความเมื่อยขบให้หญิงสาวที่เมื่อครู่ได้รับความสนใจจากร่างสูงถึงกับเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไป

“กูจะเข้าฟาร์ม”

“แป้งไปด้วยได้ไหมคะ?”  หญิงสาวเอ่ยถามเมื่ออิ่มเอมพยักหน้าให้

“คุณแป้งไม่ต้องไปหรอก  วันนี้มีม้ามาลง  อีกส่วนก็ต้องเอาม้าจัดขึ้นรถ  วุ่นวายมาก”

“แต่...”

“คุณจะรำคาญเสียเปล่าๆ”  อันที่จริงสีหราชเกือบหลุดปากว่า คุณน่ะน่ารำคาญ  หากเพราะบางอย่างทำให้เขาเปลี่ยนคำพูด

“มึงไปเหอะ  เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อนแป้งเอง”  อิ่มเอมบอกเพื่อน  เขาเห็นสีหน้าของสีหราชแล้วถอนหายใจก่อนจะเอ่ยตัดปัญหา


สีหราชควบเจ้าสายฟ้าวิ่งตัดผ่านเนินทุ่งว่างเปล่าที่เพิ่งไถแล้วเสร็จตรงไปยังเนินสูงอีกฝากอย่างรวดเร็ว   ก่อนจะหยุดนิ่งเมื่อถึงจุดหมาย   ชายหนุ่มทอดสายตาไปยังฝั่งของรีสอร์ทที่เห็นลิบๆอยู่อีกฝาก     คำพูดของอิ่มเอมเมื่อหลายวันก่อนยังคงก้องอยู่ในหัว

‘มึงยังรักเพลงมันอยู่ใช่ไหม?’

‘ไม่มีวันไหนที่กูจะเลิก...รักเขา’

‘………….แล้วเขายังรักมึงอยู่ไหม?’

‘...กูไม่รู้’

‘กูมีวิธีที่จะทำให้มึงรู้นะ’  อิ่มเอมยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

‘วิธีอะไร?’  ถึงแม้ท่าทางของเพื่อนจะดูไม่น่าไว้ใจแต่เพราะบางสิ่งมันเรียกร้องเลยทำให้สีหราชพยักหน้ารับ  เมื่อเพื่อนตัวดีเสนออะไรบางอย่างออกมาก  เขาไม่อยากทำ..แต่...เขาก็อยากรู้

อยากรู้ว่าใจจริงของคีตกาลจะยังมีเขาอยู่เหมือนที่เขาไม่เคยลบอีกฝ่ายออกไปจากใจเหมือนกันหรือเปล่า

.
.


คีตกาลยืนเหม่อจนเกียรติศักดิ์ถอนหายใจเมื่อเขาต้องสะกิดเรียกอีกฝ่ายเป็นรอบที่สิบ

“คุณคีย์ไม่สบายหรือเปล่า?  จะไปพักก่อนไหม?”

“ไม่  ผมไม่เป็นไร”   ชายหนุ่มปฏิเสธแล้วยกยิ้มให้  พลางแสร้งเดินเข้าไปดูคนงานยกต้นไม้ลงจากกระบะรถ   เกียรติศักดิ์ขนต้นไม้มาให้พร้อมรถอีกคัน  นับรวมได้เกือบสิบต้นเลยทีเดียว

“แปลกจังที่วันนี้คุณศักดิ์ใส่แว่น”  คีตกาลเอ่ยเย้ากับความแปลกตาของอีกฝ่าย  เพราะทุกทีเกียรติศักดิ์จะมาด้วยมาดชายหนุ่มใบหน้าหมดจด กับเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแลคแลดูภูมิฐาน   ผิดกับคราวนี้ที่อีกฝ่ายใส่แว่น  หัวยุ่ง สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืด

“พอดีผมรีบไปหน่อยน่ะครับ แฮะๆ”

“ลุคแบบนี้ก็ดูเข้ากับคุณศักดิ์ดีนะครับ  ดูเด็กไปเยอะเลย”

“ไม่เด็กหรอกครับ  ปีนี้ผม31แล้วนะ”  คีตกาลตาโตเมื่อได้ฟัง

“เห  หน้าตาเด็กเกินอายุนะครับเนี่ย”  เกียรติศักดิ์ยิ้มเขินเมื่อร่างโปร่งเอ่ยชม  โธ่  คุณคีย์นะคุณคีย์  อย่ามาทำให้ผมใจเต้นซิ  อุตส่าห์ตัดใจจะไม่จีบคุณแล้วนะ!

“อะแฮ่ม   วันนี้ผมว่าจะลงให้หมดทีเดียวเลย  นี่ก็เพิ่งรับคนงานเข้ามาใหม่พอดี”

“ครับ”  คีตกาลยิ้มให้ก่อนจะเข้าไปชี้ว่าเขาอยากลงต้นอะไรตรงบริเวณใดบ้าง

“...เอ   เหมือนจะไม่มีต้นกันเกราแฮะ?”  เกียรติศักดิ์ยกมือชี้ๆไปยังต้นไม้ที่เริ่มลงดินก่อนเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อเห็นว่าต้นกันเกราที่คีตกาลอยากได้นั้นไม่อยู่ในนี้

“มีอะไรหรือคุณศักดิ์?”

“ต้นกันเกราครับ  ดูเหมือนผมจะลืมขนมาให้คุณคีย์เสียแล้ว”

“...ไม่เป็นไรครับ  วันหลังก็ได้”  คีตกาลยิ้มกว้างอย่างไม่ถือสา   ก่อนจะเห็นเด็กสายใจปั่นจักรยานเข้ามาพร้อมปิ่นโตเถาใหญ่   ด้านหลังเป็นอิ่มเอมที่ควบม้าตามมาและมีใครบางคนที่ซ้อนหลังมาด้วย

“คุณเพลง  แป้งกับเอมมาทานข้าวด้วยนะคะ”  หญิงสาวที่ลงจากหลังม้าโดยมีอิ่มเอมคอยจับเอวรับอยู่ด้านล่าง

“เพลง?”  เกียรติศักดิ์ที่ได้ยินหญิงสาวเรียกขานคีตกาลด้วยอีกชื่อหนึ่งเลิกคิ้วแปลกใจ

“ชื่อเก่าผมน่ะ”  ร่างโปร่งเอ่ยบอก  ก่อนจะหันมายกยิ้มให้สาวแป้ง  “ทำไมไม่อยู่ทานที่บ้านล่ะครับ?”

“เจ้าของบ้านเขาแวะเข้าฟาร์มค่ะ  เราเลยมาเที่ยวหาคุณเพลง”   เราที่สาวแป้งว่ารวมถึงนายอิ่มเอมด้วย  คีตกาลเหลือบมองฝ่ายนั้นอย่างไม่เข้าใจ  ในเมื่อเกลียดเขาแล้วจะมาทานข้าวด้วยกันทำไมถึงนี่       สายใจปูเสื่อแล้วจัดสำรับให้ทั้งสี่คนอย่างคล่องแคล่ว  พลางรินกาแฟดำให้คีตกาลอย่างรู้ใจ 

“จริงซิ   คุณเพลงคะ  ช่วยพูดกับสิงห์ให้แป้งหน่อยซิคะ”  จู่ๆหญิงสาวก็เอ่ยออกมาหลังทานอาหารเสร็จ

“ครับ?”

“บอกให้สิงห์รับแป้งเข้าทำงานที่นี่ด้วยนะคะ”

“แต่ว่า...”

“แป้งน่ะ  อยากอยู่ใกล้ๆสิงห์ค่ะ”

“....”

“แป้งชอบเขามานานนะคะ  ตั้งแต่ตอนเรียนปีหนึ่งแล้ว...ทั้งๆที่รู้ว่าเขาอาจจะมีใครอยู่ในใจก็ตาม”

“ผม...”

“ตอนนี้สิงห์มันโสดครับ  ผมรับรอง”  อิ่มเอมเอ่ยแทรกขึ้น  คีตกาลมองหน้าฝ่ายนั้น

“หืม?  แต่คุณสิงห์กับคุณคีย์เป็นแฟนกันนี่ครับ?”  เกียรติศักดิ์ผู้ร่วมวงทานข้าวเอ่ยพลางชี้ไปยังคีตกาลเมื่อได้ยินคำพูดของอิ่มเอม

“ใครบอกคุณ!”  อิ่มเอมหันขวับมามองคนที่พูดแทรกอย่างไม่ชอบใจ  ดวงตาคมดุจ้องอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง  แต่มีหรือที่คนอย่างเกียรติศักดิ์จะกลัว 

“คุณยุวดี  คุณแม่ของคุณคีย์บอกครับ”  นี่ก็ตอบหน้าซื่อ

“?”  อิ่มเอมขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง  เขาเหลือบมองใบหน้าซีดขาวของแป้งอย่างนึกสงสาร

“สายใจ  เก็บสำรับเถอะ  ฉันจะไปทำงานต่อแล้ว”  คีตกาลลุกขึ้นโดยไม่รอให้เพื่อนร่วมเสื่อทักท้วง  เขาหยิบหมวกขึ้นสวมแล้วเดินห่างออกไป   ทิ้งให้อิ่มเอมขู่ฟ่อใส่เกียรติศักดิ์

“คุณอย่ามามั่ว  ไอ้สิงห์มันไม่ได้เป็นแฟนกับไอ้เพลงแล้ว”

“คุณนั่นแหละอย่ามามั่ว  ผมเห็นมากับตาว่าคุณสิงห์กับคุณเพลงน่ะเขารักกันดี  อย่ามายุแยงให้คนรักเขาแตกกันซิ  มันบาปนะ”  เกียรติศักดิ์เอ่ยสอนยืดยาว  เขาน่ะเป็นพวกไม่ชอบให้มีเรื่องผิดทำนองคลองธรรมในครัวเรือนนะจะบอกให้   ไม่งั้นเขาคงไม่ยอมตัดใจจากคุณคีย์ง่ายๆหรอกถ้าไม่เห็นมากับตา!

“หุบปากไปเลยไอ้แว่น!”  อิ่มเอมชี้หน้า  วันนี้เกียรติศักดิ์กลายเป็นไอ้แว่นเพราะรีบขนต้นไม้มาให้คีตกาลแต่เช้าตรู่เลยลืมใส่คอนแทคเลนส์เช่นทุกที

“นายนั่นแหละหุบปากไปซะ   เจ้ายักษ์!”

“ไอ้!”

“เอม...พาแป้งกลับเถอะ”  หญิงสาวเอ่ยรั้งให้ร่างสูงหยุดชะงัก  อิ่มเอมมองใบหน้าสวยแล้วถอนหายใจ

“เดี๋ยวผมมา  แป้งรออยู่นี่แป๊บนะ    ส่วนนายอยู่เป็นเพื่อนเธอ!”   อิ่มเอมชี้หน้าเกียรติศักดิ์ที่ทำท่าจะเดินตามเขามา

.
.


“กูจะถามอีกรอบ  มึงกลับมาคบกับไอ้สิงห์งั้นเหรอ?”

“...........”  เขารู้ว่าอิ่มเอมจะตามมา  ตามมาคาดคั้นหรือเอาเรื่องล่ะ?  คีตกาลถอนหายใจหากไม่ตอบอีกง่าย

“เฮ้ย  ตอบมา!”  อิ่มเอมกระชากไหล่ให้ร่างโปร่งหันกลับมาเผชิญหน้า

“เปล่า”

“แล้วที่ไอ้แว่นมันพูดน่ะหมายความว่าไง?”

“.....”

“ถ้าไม่ได้กลับมาคบกันก็หลีกทางให้แป้งซะ  แป้งเขาชอบไอ้สิงห์มาก่อนมึงอีก!”

“.....”

“หลีกทางไปซะ  ถ้าไม่อยากจะทำให้ไอ้สิงห์มันเสียใจอีกครั้ง”
.
.




“......”

อิ่มเอมกลับไปนานแล้ว...
หากเขาที่โดนคำพูดของอีกฝ่ายตีกลางแสกหน้านั้นไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลยสักนิด   จะให้เขาหลีกทาง?

หลีกทางเพื่อให้แป้ง    ให้ผู้หญิงคนนั้นก้าวเข้ามาในชีวิตของสีหราชอย่างนั้นหรือ?
เขาจะทำได้หรือ?
ในเมื่อ....








.
.






“คุณสิงห์!  คุณสิงห์!”  เสียงร้องเรียกทำให้ร่างสูงผละออกจากแม่ม้าหันไปมองมาผู้มาใหม่  เกียรติศักดิ์กระโจนลงจากรถทันทีที่จอดสนิท  ร่างสูงโปร่งของฝ่ายนั้นวิ่งถลาเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“คุณศักดิ์  มีอะไรหรือเปล่า?”

“เห็นคุณคีย์ไหม?”

“เขาอยู่กับคุณไม่ใช่หรือ?”

“เมื่อบ่ายๆเขาขอตัวกลับไปที่เรือนบอกว่าตอนเย็นๆจะกลับไปหาผมที่รีสอร์ท  แต่ผมรอเท่าไหร่ก็ไม่เห็นมาเลยตามที่ไปเรือนเห็นรถยังจอดอยู่แต่ไม่เจอคุณคีย์เลย”

“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่นะครับ”

“แล้วอีกอย่าง...”

“อีกอย่างอะไร?”

“รถกระบะของผมหายไป  พร้อมกับคนงานใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงาน”

“คุณหมายความว่ายังไง?”

“ผมกลัวคุณคีย์จะไปกับคนงานคนนั้น”สีหราชสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อได้ฟัง

“ถ้าอย่างนั้นคงไม่ต้องไปตามหาแล้วมั้ง  หมอนั่นอาจจะอยากกลับบ้านก็ได้”   อิ่มเอมที่ตามเกียรติศักดิ์มาจากเรือนใหญ่เดินเข้ามาสมทบอย่างใจเย็นพร้อมเอ่ยแทรก

“......หมายความว่ายังไง?”  สีหราชกำมือแน่น  สบตาเพื่อนอย่างค้นหา   

“กูก็ขอแค่ให้มันหลีกทาง”

“...เอม..”

“หลีกทางให้แป้งถ้ามันไม่ได้รักมึงแล้ว”

“....”

“ทีนี้มึงรู้คำตอบที่อยากจะรู้แล้วใช่ไหม?”

“..................”

“แต่คุณคีย์จะไปยังไง  รถก็ยังอยู่ที่นี่”  เกียรติศักดิ์ค้าน

“นายไม่ได้เข้าไปดูล่ะซิ  น้ำมันรถหมอนั่นแห้งจนติดก้นถังคงขับกลับไปถึงบ้านหรอก”

“แต่....”

“ถ้าเขาอยากกลับก็ปล่อยเขาไปเถอะ”  สีหราชเอ่ยเสียงเบาพลางหันหลังให้คนทั้งคู่

“แต่ผมกลัวคุณคีย์เป็นอันตราย”

“เป็นอันตรายอะไร๊  หมอนั่นเป็นผู้ชายนะ”  อิ่มเอมหัวเราะลงคอกับความวิตกของเกียรติศักดิ์หากอีกฝ่ายเพียงปรายตามองอย่างดูแคลนแล้วหันไปทางสีหราชอีกครั้งด้วยสีหน้ากังวล

“คนงานนั่นผมเพิ่งรับเข้ามาใหม่  เป็นชาวพม่า...”

“....”

“และผมว่า...รถของผมโดนขโมยนะครับ!”

“บ้าจริง!”  สีหราชสบถก่อนพุ่งออกไปตะโกนร้องเรียกคนงานให้วุ่น  มีนายเขียว  นายพวงวิ่งขึ้นหลังรถตามเจ้านายทันทีเมื่อสีหราชกระโจนขึ้นรถ   อิ่มเอมเห็นดังนั้นก็วิ่งตาม

“มึงจะไปไหน?”

“ตามเพลง!”

“แต่เขาอาจจะกลับบ้าน”

“เพลงจะได้กลับบ้านเก่าแน่ถ้ากูไม่รีบตามเขาไปตอนนี้!”   สีหราชตะโกนใส่หน้าเพื่อนสนิทอย่างโมโห  ก่อนจะบึ่งรถกลับบ้านเพื่อไปเอาปืน    เกียรติศักดิ์เองก็ขับตามสีหราชมาพร้อมทั้งอิ่มเอม   


ท้องฟ้าเริ่มดำมืดพร้อมดวงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว...พร้อมกับความร้อนใจของคนทั้งหมด





**********



คำถามท้ายช่วง


ถูกหวย52ล้านจริงเหรอ?  ทำไงถึงถูก 
สีหราช =  ถูกจริงซิ  52ล้านนั่นแหละ  เยอะใช่ไหม  ตอนที่ถูกก็ตกใจเหมือนกันนะ  เกือบหัวใจวายแน่ะ โชคยังดีที่หัวใจฉันแข้งแรงพอเลยยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้   ส่วนไอ้เรื่อง...ไปถูกยังไงน่ะ  ก็พอดี...วันนั้น...วันที่อกหักครบรอบหนึ่งเดือน  เงินที่ทำงานพิเศษที่เคยเก็บไว้ใกล้หมดเพราะก่อนหน้านั้นเอาไปซื้อเหล้ากินทุกวัน  เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่  ชั่งใจอยู่นานเลยนะระหว่างเหล้ากับล๊อตตารี่น่ะ
สุดท้ายก็เลือกล๊อตตารี่?
สีหราช = แหงซิ  อันที่จริงเพราะสงสารยายหรอก  เหลือชุดสุดท้ายกับอีกไม่กี่ใบเลยเหมามาหมดประชดชีวิตน่ะ
แล้วเอาเงินไปทำอะไรมั่งอ่ะ?
สีหราช = ก่อนอื่นก็เอาไปให้บ้านเด็กกำพร้าที่ตัวเองโตมาไง  หลายล้านอยู่นะ  แล้วตอนกลับไปเจอครูครูบอกว่าไหนๆมีเงินแล้วก็สร้างอาชีพที่เป็นนายตัวเองไปเลย  ชอบอะไรก็ให้ทำอันนั้น
ชอบม้า?
สีหราช = ..........เพราะใครบางคนชอบต่างหาก
ใครล่ะ?
สีหราช = อย่าถามมากน่า!  น่ารำคาญเป็นบ้า!





โปรดติดตามตอนต่อไป







ปล.เช่นเคย  อ่านให้สนุกนะคะ  ติ-ชมกันได้เสมอเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้น  หากมีข้อผิดพลาดอะไรก็ขอโทษไว้ด้วยนะคะ  แนะนำกันได้ตลอดค่ะ ^^

ปลล. ฝากเรื่อง อสงไขย ไว้ด้วยนะคะ  เป็นแนวพีเรียด  หากใครชอบก็ฝากติดตามด้วยค่ะ^^   จบแล้วด้วย^^
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34231.0



กอดแน่นๆด้วยความรู้สึกขอบคุณ :กอด1:

ออฟไลน์ kkmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
สนุกมากครับมาต่อไวๆนะครับ เป็นกำลังใจให้

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ไม่ชอบอิ่มเอมเลยค่ะ จุ้นจ้านเหลือเกิน ให้มาเป็นเพื่อนนะคะไม่ใช่ให้มาเป็นพ่อ รู้สึกว่าจะบงการชีวิตของสิงห์เขาอยู่นั่นล่ะ น่ารำคาญที่สุดเลย รู้ตัวหรือยังคะเนี่ยว่าตัวเองน่ะน่ารำคาญมากกกกกกกกก

เป็นเพื่อนแต่ก้าวก่ายชีวิตกันขนาดนี้นี่ก็ไม่ไหวนะคะเนี่ย เชื่อสิงห์เขาเลย ทนได้ยังไงก็ไม่รู้!!! :serius2: เวลาที่ปรามเพื่อนก็ช่วยหนักแน่นหน่อยค่ะสิงห์ เหยาะแหยะเสียขนาดนี้อิ่มเอมถึงได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ไงคะ

ยัยแป้งนั่นก็อีกคนค่ะ ถ้าตัวดีจริงๆ จะต้องมาแพล่มกับเพลงทำไมว่าให้หลีกทางให้กับตัว? อยากได้สิงห์นักก็หาทางเอาเองสิ เคารพกติกาของความรักหน่อยนะคะ เพราะของแบบนี้มันต้องใช้ความพยายามของตัวเองล้วนๆ ไม่ใช่ใช้วิธีสกปรกโดยการกดดันคนอื่นให้พ้นทาง

o12 ..

ปล. ตอนนี้เป็นห่วงเพลงจังเลยค่าา ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรมั่งน้าา :hao5:

รอตอนต่อไปนะค้าา..^^

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
หึ อย่กถีบเอม เป็นเพื่อนนะไม่ใช่พ่อ เรื่องความรักให้เขาตัดสินใจไหม ยุ่งมากๆๆมันไม่ใช่ เข้าว่าห่วงเพื่อนกลัวเพื่อนเจ็บ แล้วถามสิงห์กับเพลงหรือยังว่าเหตุผลอะไรทำให้เลิกกัน เพราะทั้งสองคนยังคาใจอยู่ แล้วอีกอย่าง สิงห์บอกแล้วว่า "ไม่มีวันไหนที่เลิกรักเพลง" มันยังชัดไม่พอเหรอ ถ้าเพลงเป็นอะไรนะเราจะเกลียดเอม
 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด