Lv.พิเศษ ไวไวหัวใจมุ้งมิ้ง อันดับแรก ผมขอท้วงหน่อย ทั้งที่ตอนนี้จะเป็นตอนสุดแสนพิเศษสำหรับผม แล้วไอชื่อตอนนั้นอะไร ไวไวชื่อผมถูก แต่ไอมุ้งมิ้งหนิสยองมากบอกเลย
มาย้อนความกันหน่อย บ้านผมย้ายมาอยู่หมู่บ้านเดียวกับวัตตอนผมจบม.3 เข้าม.ปลายพอดี แถวนั้นมีโรงเรียนใกล้ๆอยู่แค่ที่เดียว ผมกับวัตเลยได้รู้จักกันที่โรงเรียน ผมเป็นเด็กใหม่ พอแนะนำตัวเพื่อนแต่ละคนเข้ามารุมถามสารพัด จะบอกว่าวัตไม่มาถามด้วย?
ผิด! มันนั้นแหละตัวดี ถามผมตั้งแต่เรียนยันเลิกกลับบ้านมันก็ยังถาม ผมตอบมั้งไม่ตอบมั้ง จนมันรู้ ว่าผมเป็นคนที่ย้ายมาอยู่บ้านใกล้ๆมัน มันเลยรั้งตัวผมไว้ไม่ยอมให้กลับ บอกให้ไปกับมันไม่ต้องนั่งรถไปเอง ผมพ่อแม่สอนมาดี นึกเกรงใจปนระแวง ท่าทางมันเหมือนคนเฟรนลี่จัดๆ จนคล้ายจะไม่เต็ม กลัวเหลือเกินว่ารถที่มารับมันจะเป็นรถมุ่งสู่หลังคาแดง
ผมเลยตอบปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด พอจะเดินหนี ดันซวยไปชนเข้ากับคนหนึ่งเข้า
“ขอโทษครับ ผมเดินไม่ดูทาง” บอกแล้วครับบ้านผมสอนมาดี ผมเลยขอโทษขอโพยคนที่บังเอิญเดินไปชน เพราะเขาเดินมาตามทางปกติ ผมหักเลี้ยวกะทันหัน เลยประสานงา แต่มีแค่ฝ่ายผมที่เซนะ ทางนั้นยืนนิ่งๆ
พอผมเงยหน้ามอง ตาโตอ้าปากค้าง
“วัต! อยากให้ฉันกลับบ้านด้วยถึงขนาดเพิ่มอายุเพื่อขับรถเองเลยเรอะ!”
ชายตรงหน้าคือ ชายร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตฟ้าอ่อน กางเกงสแล็คสีดำ ไม่มีเครื่องประดับอะไรสักชิ้นอยู่บนตัว ขนาดนาฬิกาข้อมือก็ยังไม่มี ที่สำคัญ สวมรองเท้าแตะตราช้างดาว ยืนล้วงกระเป๋าเลิกคิ้วมองหน้า เรือนผมสีทองอ่อน กับดวงตาสีเทา มาดแบบผู้ใหญ่ผสมพี่ชาย วัต นายโตไวไปนะ
“พี่วิน พี่ชิน สวัสดีครับ นี้เพื่อนใหม่ผม ชื่อไวภพ วันนี้เขาจะกลับบ้านกับเราด้วยนะพี่”
วัดเดินเข้าไปหาสองชายร่างสูง ผมเงยหน้ามอง(สมัยนั้นผมยังเตี้ยเหมือนวัตอยู่) คนที่ชื่อวิน น่าจะเป็นคนที่ผมเข้าไปชน ส่วนอีกคน ยกยิ้มกวนๆส่งมาให้ผม ไอผมก็กวนกลับตามสไตล์
“ไวไว คนนี้พี่ชายฉันเอง ส่วนอีกคนก็พี่ชาย จะว่าไงดี พี่ชายบุญธรรม? ไม่สิ พ่อทูนหัว เอ๊ะ หรือเสี่ยเลี้ยงนะ”
ยิ่งวัดพูด ผมยิ่งตาโต ส่วนไอผู้ใหญ่สองคนหัวเราะขำๆ กับท่าทางครุ่นคิดอย่างหนักของวัต และหน้าเหวอๆของผม ฉุกใจคิดได้อย่าง
“ใครชื่อไวไว ฉันชื่อไวภพ!”
“เรียกยากอะ ไวไวน่ารักออก เนอะพี่วิน” ไม่ต้องไปเนอะเน้อะกับพี่ชายตัวเองเลย ต่อให้ผมเป็นเด็กสามขวบก็ดูออก พี่ชายสองคนนี้โคตรรสปอยน้องแน่ๆ ดูของกินในมือคนข้างหลังนั้นสิ เตรียมมาให้น้องชายผู้หิวโหยหลังเลิกเรียนชัวร์ๆ
“ไวไว ตอนนี้เย็นแล้ว กลับกับพวกพี่แล้วกัน เดี๋ยวไปส่งบ้าน”
ไม่ตอบ แต่เหมาเองเสร็จสรรพ เออ! ชื่อไวไวก็ได้ ใช่สิ ผมมันลูกคนเดียว หัวเดียวกระเทียบลีบ ไม่มีพี่มาสปอยหนุนหลัง
“ทำหน้าตาตลกดีไวไว หรือยังไม่ไว้ใจพี่ชายฉัน ไม่ต้องห่วง ครูยันภารโรง โรงเรียนนี้จำหน้าพี่ชายฉันได้หมด ต่อให้ลักตัวนายไปขายชายแดน เขาก็ตามไปเอาเรื่องพี่ฉันถึงบ้านได้”
วัตทำสีหน้าจริงจัง ตบบ่าทำให้ผมเชื่อมั่น ส่วนคนที่ถูกปลอบ อยากจะร้องไห้ นายช่วยหันกลับไปมองพี่ชายที่ยิ้มแต่คิ้วกระตุกของนายหน่อยได้มั้ย ไม่นับอีกคนที่ยืนคุมเชิงอย่างกับบอดี้การ์ดมาเฟีย หรือเพราะเมื่อเช้า ผมลืมไหว้แม่ก่อนมาเรียนหรือไง ถึงซวยขนาดนี้
“อ่า...รบกวนหน่อยนะครับ”
ผมไหว้สองพี่เขาที่ยกมือรับไหว้ สุดท้าย ถูกลากขึ้นรถไปด้วย ขนมที่พี่ชายทั้งสองซื้อมาให้วัต ในฐานะเพื่อนแบบงงๆ เลยได้รับอนิสงไปด้วย แต่ละอย่างอร่อยทั้งนั้น จนผมสงสัย ทำไมไอวัตไม่อ้วน
นั่นคือเหตุการณ์ครั้งพบแรกอันแสนน่าจดจำไปจนวันตาย พอรู้จักกันไปนานๆเข้า แลกเปลี่ยนพูดคุย เลยทำให้รู้ว่าพวกเรามีหลายอย่างชอบเหมือนกัน โดยเฉพาะเกม! พวกเราชวนกันเลิกเกมบ่อยมาก ส่วนใหญ่เล่นๆเลิกๆไม่เคยได้เล่นเกมไหนยาวสักที
อยู่ๆไป เนียนจนฝากตัวเป็นน้องชายอีกคน ที่พวกพี่ใช้งานเยี่ยงอิเย็น ให้ดูแลคุณหนูวัตอีกที บางครั้งอยากจะถามนะ ว่าเอ็นดูผม เพราะผมเป็นเพื่อนที่ทนนิสัยแปลกๆของวัตได้ใช่รึเปล่า แล้วยังเรื่องที่ไอวัตชอบก่อโดยไม่รู้ตัวอีก
ครั้งแรก ตอนเรียน อาจารย์มีสอนให้เขียนโค้ดเล่นๆ ไอวัตเขียนก็พอได้ แต่แก้ได้ดีกว่าจนอาจารย์ทึ่ง เกือบจะส่งมันไปแข่งขันกับพวกเด็กโต ดีพี่วินยื่นมือออกมาขอไว้ วัตมันเลยยังไม่ดัง
ต่อมา เกมเริ่มเปลี่ยนเป็นระบบ ให้คนใส่ที่ครอบหัว จนไปถึงหูฟัง เพื่อเข้าไปเล่นเกมในช่วงที่หลับอยู่ วัตมันดันไปเผลอแก้ไขข้อมูลไอเทมที่เขาล็อคไว้ เขาหาตัวใหญ่ ผมรีบแจ้นโทรไปบอกพี่วินกับพี่ชินทันทีหลังออกจากเกม ตามที่ถูกสั่งไว้ ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น หรือวัตไปทำอะไรแปลกๆให้แจ้งได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชกาล
“พี่วิน แย่แล้ว วัตมันไปแก้ข้อมูลในเกมเขา เขากำลังหาตัวมันใหญ่แล้ว ทำไงดีพี่” ผมพูดเข้าเรื่องทันที ไม่ต้องมีฮัลลงฮัลโหลอะไรแล้ว งานนี้เหมือนจะเล็ก แต่ใหญ่เลยนะ บริษัทเกมไม่ใช่พวกกิ๊กก๊อกด้วย ถึงไม่เท่ากับบริษัทที่พวกพี่เขาทำงานอยู่ก็ตาม
“เกมอะไร” เสียงพี่วินถามกลับมาปกติเหมือนจะชิน ผมเลยบอกชื่อเกมไป
“ขอบใจนะไวไว ที่คอยดูวัตให้พี่”
“ไม่เป็นไรครับพี่ ยังไงมันก็เพื่อนผม งั้นผมไปก่อนนะ มันเรียกหาแล้ว”
พี่วินหัวเราะวางสายไป วันนั้นเหมือนวัตจะถูกพี่วินเตือนอะไรสักอย่าง เจ้าตัวเลยระวังตัวมากขึ้น เกมไหนทำท่าอาจจะมีปัญหา พากันชิ่งหนีไปเล่นเกมอื่นต่อ แม้จะเล่นไม่ได้เทพสักเกม แต่ก็สนุกดี จนกระทั่งวันหนึ่ง วัตมันป่วยเลยไม่ได้มาด้วยกัน ผมไปโรงเรียนคนเดียว
บังเอิญเจอกับนักกีฬาโรงเรียนที่ผมไปแข่งบอลชนะมาเมื่ออาทิตย์ก่อน พวกมันหาว่าพวกผมโกง ทั้งที่พวกมันเล่นแรงชิบหาย จนเพื่อนผมแขนเดาะไปคน เจอมันกระแทกจนคว่ำนี้แหละ
ตามประสาเด็กสมัยนั้นครับ แม่งแพ้แล้วพาล มาหาเรื่องผม เพราะเห็นว่าผมอยู่คนเดียว ผมก็สู้ไม่ถอย ดีมาดีตอบ เลวมามีเตะ กระทืบมาผมกระทืบกลับ แถมหมัดให้หนึ่งทีด้วยเอ้า!
ถึงจะใจสู้แค่ไหน ผมมันตัวคนเดียว มันรุมหมาหมู่กันห้าคน สุดท้าย กลายเป็นผมยกแขนป้องกันหัวให้พวกมันรุมตืบคลุกฝุ่น รอยเท้างี้เต็มเสื้อนักเรียน ผมกัดฟัน ฝากไว้ก่อนเถอะมึง รอดไปได้ จะขนไปทั้งโรงเรียน ตืบจนมารดาจำหน้าไม่ได้เลยคอยดู
“เฮ้ย แม่งหงอเป็นลูกหมาเลยวะ ตะกี้ยังทำเป็นเก่ง ถุ้ย!”
มันถ่มน้ำลายเฉียดหัวผมไปนิดเดียว ผมคว้าเท้าไอเบือกนั้น กระชากจนมันหงายหลัง แล้วกระโดดคร่อมซัดไม่ยั้ง เพื่อนมันตกใจ รีบแยกผมออก มันจับแขนผมไว้เตรียมอัดซ้ำ
“บังอาจมาต่อยกู ไม่ได้ตายดีแน่มึง” ผมไม่สน แขนโดนจบ เท้ายังว่าง ให้สองคนรับน้ำหนัก กระโดดยันสองทีนสิครับ รออะไร จนมันหงายหลังทับเพื่อนที่ช่วยพยุง สถานการณ์โคตรทุลักทุเล ซัดนัวยิ่งกว่าหมา อยู่แถวซอยไม่มีคนด้วย ไร้คนสาดน้ำใส่
เพิ่งคิดอยู่แปบๆว่าไม่มีคน หางตาผมเหลือบเห็นไอหัวทองท่าทางคุ้นๆยืนดูดชานมเย็นอยู่ตรงหน้าซวย มันขมวดคิ้วเพ่งมองเข้ามา คงสงสัยว่าใครมาต่อยกันแถวนี้ พอมันเห็นว่าเป็นผมเท่านั้นแหละ กระโดดถีบไอคนที่ล็อคแขนผมคนหนึ่งจนหน้าทิ่ม ขว้างถุงนมเย็นใส่หน้าอีกคน อวดฝีไม้ลายมือเตะต่อยไม่ยั้ง
“ไอพวกเวร บังอาจทำร้ายเพื่อนไวไวของกู”
“เชี่ยยยย เย็น เหนียว”
“ซัดมัน!”
“เข้ามาเลย ไอพวกกระจอก” วัตดูเครื่องติด กวักมือเรียกแบบพระเอกในหนัง แล้วใส่กันนัวต่อ กลายเป็นสองต่อห้า ที่นี้ซวยหนัก มีชาวบ้านแถวนั้นเห็น เลยแอบเรียกตำรวจมา พวกผมหนีไม่ทัน ปัจจุบัน เลยนั่งรับแอร์เย็นอยู่ในสถานีตำรวจ พร้อมไอเย็นเชือดเฉือนจากพี่วิน ส่วนพี่ชินไปคุยอะไรบางอย่างกับตำรวจอยู่
พวกเด็กห้าคนเหมือนมีแบล็คใหญ่ เลยถูกปล่อยตัวไป เหลือแค่ผมกับวัต เด็กตัวน้อยๆสองคน ยังดีที่ไม่มีการใช้อาวุธอะไร แค่การต่อยตีของเด็กธรรมดา และไม่ทำให้ใครเสียหาย นอกจากหน้าหล่อๆของผมที่บวมปูดพอๆกับวัต
พอขึ้นรถ พี่วินไม่พูดอะไรสักคำ ทั้งที่ควรจะโกรธเวลาเห็นน้องชายหัวแก้วหัวแหวนบาดเจ็บ กลับดูนิ่งจนน่ากลัว กระทั่งถึงบ้าน ผมกับวัตถูกจับมานั่งคุกเข่าอยู่หน้าพี่วิน แผลอะไรก็ยังไม่ได้ทำ เนื้อตัวมอมแมมไปหมด
“ทำไมถึงไปมีเรื่อง”
พี่วินถามนิ่งๆ พวกเราก้มหน้าคางชิดอก ผมเป็นคนตอบเอง เพราะต้นเหตุมาจากผม เล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่วินฟังจนหมด มีวัตมาเสริมตอนหลังว่าตัวเองอยู่บ้านเบื่อเลยว่าจะออกไปหาซื้อไรกินแล้วเดินแถวนั้นเผื่อเจอผมจะได้ชวนกลับบ้านมาเล่นเกม ดันเกิดเรื่องซะนี้
ท่านพี่ชายถอนหายใจหนัก เริ่มเทศนายาวเหยียด
“ทั้งที่วัตมีโอกาส ทำไมไม่หาวิธีอื่นมาช่วยเพื่อน ถ้าเกิดพวกนั้นมีอาวุธ ถ้าไม่มีคนแจ้งความถูกทำร้ายจนบาดเจ็บหนักขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง เราด้วยไวไว การหนีไม่ใช่คนไม่เก่ง เราต้องรู้จักประมานตนเอง ไม่ใช่โง่ให้เขาซัด เรื่องนี้พี่จะบอกพ่อกับแม่ของเรา”
ผมรับเสียงอ่อย อย่างน้อยก็ดีกว่าให้พ่อแม่ผมไปพาผมออกจากสถานีตำรวจ
“ที่พูดเพราะเป็นห่วง วัตเป็นน้องชายพี่ ไวไวเองก็เหมือนกัน พ่อแม่เราฝากฝังกับพี่มา วันหลังอย่าทำอะไรโดยไม่คิดอีก เข้าใจมั้ย”
“ครับ” ทำไมมีผมรับอยู่เสียงเดียวหว่า
“ชินออกรถ! เราจะไปโรงพยาบาลกัน”
“ไปโรงบาล!?” ผมตาโต ถึงกับต้องไปโรงบาลเลยเรอะ แค่บาดเจ็บเป็นแผลถลอก พกช้ำดำเขียวเอง
“ใช่” ได้ยินแบบนั้นผมเพิ่งมามองข้างตัว วัตหน้าแดงก่ำ ตัวเหมือนจะโงนเงน ก่อนหน้าทิ่ม พี่วินย่อตัวลงมาคว้าอุ้มได้ก่อน พลางเดินนำผมไปที่รถที่พี่ชินจอดรอไว้ก่อนแล้ว
“วัตเป็นอะไรไปพี่ หรือจะมีโรคประจำตัว” ผมถามด้วยความเป็นห่วง แต่คงไม่เท่าพี่วินที่กอดน้องชายแนบอก กับพี่ชินแทบฝ่าทุกไฟแดง
“ไม่มีโรคประจำตัวอะไรทั้งนั้น เจ้าตัวเป็นไข้ ยังไม่ทันหายดี ออกไปตากแดดข้างนอก คงแอบซื้อน้ำเย็นกินด้วยสินะไอน้องตัวดี แล้วยังไปมีเรื่องชกต่อย นั่งตากแอร์ในสถานีตำรวจอีก ที่น่าโมโหที่สุด เจ้าตัวดันเก็บเงียบ จนพี่เพิ่งสังเกตเห็นเมื่อกี้!”
พี่วินร่ายยาว มือคอยเช็ดเหงื่อบนหน้าวัต ผมว่าไอเรื่องชกต่อยคงปลิวหายออกจากหัวพี่วินหมดแล้วแน่ๆ เหลือแค่สายตาเป็นห่วง กังวล ปนเอ็นดูที่มองน้องชายทำเป็นใจแข็งไม่แสดงอาการเพื่อจะได้รับโทษที่ได้รับ
วัตถูกส่งตัวเข้ามือหมอ พี่วินโดนหมอสวดยาวเรื่องสังเกตอาการของน้องชาย ผมเห็นแววตาพี่เขามีความอ่อนเพลียแฝงอยู่ รวมถึงพี่ชิน คงจะทำงานเหนื่อย ไม่รู้ได้นอนบ้างรึเปล่า
ผมเคยอิจฉาวัต ที่มีพี่ชายแสนดี แถมเก่งไปหมดซะทุกอย่าง มาตอนหลัง ผมกลับเฉยๆ เพราะผมเข้าใจ วัตเป็นคนสำคัญสำหรับผมเหมือนกัน ครั้งนี้ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มแต่มีส่วนผิด ทำให้วัตต้องป่วยหนักจนเข้าโรงบาล ผมคงทำหน้าเศร้าชัดเจนไปหน่อย พี่วินเลยคว้าผมเข้าไปกอดแล้วลูบหัวเบาๆ
“ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น รวมถึงไวไวด้วย วัตไม่เจียมสังขารเอง ถ้ารู้สึกผิด วันหลังระวังตัวให้ดี ทั้งคู่เลย ถ้าใครมันมีปัญหา จัดการยาก มาบอกพี่ได้ เดี๋ยวจัดการให้”
พี่วินยักคิ้วให้ผม ผมหลุดหัวเราะ ชกกำปั้นกัน พี่ชินเดินมาวางมือผมหัวผมสองสามปุ
“เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้าน ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมวัตแล้วกัน วันนี้ค่ำแล้ว” พี่ชินชูกุญแจรถ ผมว่าพี่เขาเป็นคนขับรถประจำบ้านนี้ไปแล้วล่ะ
เรื่องราวครั้งนี้ผมสรุปได้หนึ่งอย่าง พี่น้องหัวทองตาเทา ช่างมีเสน่ห์เหลือร้ายจริงๆ พี่วินเป็นรุ่นใหญ่ วัตเป็นรุ่นเล็ก เวลาใครคุย หรืออยู่ใกล้ จะเกิดความรู้สึกวางใจโดยไม่รู้ตัว ผมสนิทกับวัตอย่างกับรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน คนที่เข้ามาคุยกับผมก่อนก็คือวัต คนที่ทำให้ผมไม่เหงากับการต้องย้ายโรงเรียนใหม่ อยู่ในที่ๆไม่มีใครรู้จัก ก็คือเขา
สำหรับบางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ แต่สำหรับเด็กคนหนึ่ง ต้องย้ายบ้าน สภาพแวดล้อมที่อยู่มาตั้งแต่จำความได้ จากเพื่อนทุกคน มาอยู่บ้านใหม่ที่ผมไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับที่นี้เลย มันเคว้งคว้างไม่มีใคร จะไปไหนก็กลัวจะหลงจนกลับบ้านไม่ถูก ที่นี้คนเยอะ รถเยอะไม่เหมือนต่างจังหวัดบ้านเก่าผม
มีวัตคอยพาผมทัวร์ มาตอนนี้ ต่อให้ปิดตายังรู้เลยที่ไหนเป็นที่ไหน
คิดๆดูแล้ว ไม่แน่ ผมอาจจะชอบวัตก็ได้นะ ถ้าให้เลือกระหว่างแฟนกับวัต ผมคงเลือกวัตโดยไม่ต้องสงสัย อยากอยู่ใกล้ อยากเล่นเกมเที่ยวเล่นด้วยกันแบบนี้ตลอดไป แอบนึกขำๆ ขอมันแต่งงานเลยดีมะ ดูเข้าท่าดี อะไรครับ วัตเป็นของกลน่ะเหรอ
รู้แล้วๆ ผมล้อเล่น ความสัมพันธ์ของผมกับวัตมันพิเศษ ไม่ได้เป็นแค่เพื่อน และไม่ได้ไปเชิงอย่างนั้น เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าเขาทุกข์ ผมก็ทุกข์ด้วย ถ้ามีความสุข ผมก็มีความสุขด้วย วัตเคยบอกผม เขาคิดเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ เหมือนได้พี่ชาย ไม่ก็แม่เพิ่มอีกคน เจอคำนี้ ผมตบมันหัวทิ่มไอติมทันที
ส่วนเรื่องวัตมากกว่าแฟน คุณคิดดูเอาแล้วกัน กับคนที่เพิ่งเจอกันไม่เท่าไหร่ หรืออาจจะเจอกันนาน คบเป็นแฟน สักวันเลิกกันไปคือจบ ถึงเวลานั้น คนที่อยู่กับคุณไม่ใช่ใครอื่น คนๆนั้นคือเพื่อนรัก และครอบครัว แฟนน่ะหาง่าย แต่เพื่อนตายน่ะหายาก ถ้ามีก็ควรจะรักษาไว้อย่างดี
จะบอกว่าผมคิดขึ้นคาน ส่งวัตเข้าเรือนหอ? ฝันครับ ผมก็ผู้ชาย มีความฝัน ผมจะทำงานฐานะมั่นคง ไม่ต้องรวยแต่มีเงินผลาญเกมกับของกิน และมีภรรยาสาวที่ผมรัก สร้างครอบครัวด้วยกัน ปั้มทายาทตัวน้อยๆไปเยาะเย้ยไอวัตมันเล่น
ตอนนี้ ผมแอบเห็นคนๆนั้นแล้ว คนที่เข้ากับผมและเพื่อนผมได้ คนที่เข้าใจความบ้าเกมของผม ติดแต่สาวเจ้าเขามิใช่ภรรยาสาวแสนดี แต่ริทำตัวเป็นสามีทั้งที่มีนม ปัญหานี้ผมคงต้องแก้เองต่อไป อรุณสวัสดิ์ สวัสดี ราตรีสวัสดิ์ จบครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้เกิดจาก ผลของการอยากหาอะไรแต่งเล่นชิลๆ แล้วให้นักอ่านในเพจลองรีเควสเข้ามาครับ