Lv.19 รับน้อง สยองหลังII
ผมคงกลายเป็นหมอดูแม่นๆ แล้วครับ เมื่อสิ่งที่ผมกังวลเกิดขึ้นจริง...
เพื่อนผมที่บอกจะตามมาตอนหลัง มันมาถึงโดยสวัสดิภาพ พร้อมร่วมกิจกรรมเต็มที่ คึกกว่าพวกรุ่นน้องปีหนึ่งปีสองเจ้าของค่ายซะอีก สงสัยจะเป็นเพราะอัดอั้นกับงานมานาน เลยกะปล่อยผี ขอให้น้องๆ โชคดีนะครับ อาเมน
กิจกรรมแรกของเรา คือการรวมรุ่นน้องปีหนึ่งนั่งเป็นวงกลมใหญ่ตรงลานโล่งเพื่อเล่นเกมกับพี่สัน รอพี่ปีสองกับพี่สามบางส่วนไปจัดฐาน
ผมยืนกลางวง พร้อมโทรโข่งในมือ สลัดมาดเกือบจะว้ากทิ้ง กลับมาทำหน้าที่ ที่แท้จริง เป็นพี่สันเต็มตัว โดยมีไวไวคอยตีกลองเป็นลูกคู่กับเพื่อนสามสี่คนแจกอุปกรณ์การเล่น ของชิ้นแรกที่นำออกมาเป็นถังเล็กใส่ดินสอพอง ผสมสีอาหาร เขียว เหลือง แดง ปานไฟจารจร
“เอาล่ะครับน้อง สีที่อยู่ในมือท่าน ก่อนอื่นเลย ใครอยู่ด้านข้าง ป้ายครับ ป้าย เอาให้ครบทุกคน ใครไม่มี เดี๋ยวพี่จะส่งน้ำฟ้าคนสวยไปป้ายให้”
อารมณ์คึกคักเต็มเปี่ยม ผมผายมือไปทางคุณเทยถึกเพื่อนร่วมรุ่นผมเอง จะถามว่าถึกแบบไหน มองหน้าไวไวครับ แล้วเพิ่มไปอีกเท่านึง ปรับผิวเข้มสักสองระดับ ท่าทางสะดีดสะดิ้งเหมือนอยากจะป้ายเต็มแก่ ยิ่งหนุ่มๆ เหล่าเด็กปีหนึ่งทั้งหลาย เจ้าตัวทำท่าจกมือเลียริมฝีปากแผล็บ พวกผู้ชายพากันป้ายให้กันเองราวกับสีในมือเป็นยันกันผี ขนาดกลเห็นนิ่งแบบนั้น มันยังขอถังสีจากคนข้างๆ มาป้ายหน้าตัวเอง ผมงี้หัวเราะก๊ากเลย
“ทาแป้งกันกระเทยกันเสร็จแล้วใช่มั้ยครับน้องๆ” ประโยคนี้ผมโดนน้ำผู้ถูกพาดพิง เขม้นตาใส่ทันที ผมทำเนียนฟังเสียงขานรับของน้องไม่รู้ไม่ชี้
“เกมแรกของเราคือเจ้าถังแป้งพวกนี้แหละครับ โดยมีกติกาอยู่ว่า ให้น้องๆ ส่งถังแป้งให้กันจนกว่าเพลงจะจบ คนไหนโดน พี่มีฉลากให้จับ และต้องทำตามนั้น ใครไม่ทำตาม ไอแมน เอ๊ย น้องน้ำฟ้าจะช่วยอนุเคราะห์ให้” รีบแก้คำแทบไม่ทัน หวิดจะโดนรองเท้าแตะตราช้างดาวขว้างหัวแล้ว
“พร้อมนะครับ เอ้า เริ่ม!” เสียงกลองดังขึ้น ส่วนผมเป็นคนร้องเพลงแดนซ์กระจายอยู่กลางวง มีเพื่อนๆ บางคนเข้ามาแจมด้วยความมัน
“หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มีผมคนเดียว รูปหล่อจริง ๆ นะเนี่ย
เมื่อวาน แว้นไปปากเกร็ด เมื่อวาน แว้นไปปากเกร็ด
สาว ๆ สังเกต ถามณเดชน์ ใช่ไหมเนี่ย!”
(แว้นฟ้อ หล่อเฟี้ยว – วง 3.50)
“กรี๊ดดดดดด/โห่วววววว”
เสียงตอบรับดังจนพวกทำฐานต้องหันมามอง ผมกำลังเต้นท่าแบบต้นฉบับเป๊ะๆ ปล่อยความรั่วไม่มีกั๊ก พอเพลงหยุด น้องที่ซวยได้ถัง ลุกออกมากลางวง ล้วงถุงดำที่ผมถือ จับฉลากกันไป น้องผู้หญิงคนแรกโดนสั่งให้ป้ายหน้าตัวเองยังคุยกันได้
คนที่สองถูกสั่งให้ไปไหว้ต้นไม้ขอหวย ท่าทางเด็กเรียนใส่แว่นหนาเป็นนิ้ว หลายคนเดาว่ามันคงจะไม่กล้า ที่ไหนได้... เหลือเชื่อ! น้องคว้าถังเดินตรงไปหาต้นไม้แถวนั้น จัดการป้ายแป้งถูอย่างมัน พร้อมยกมือไหว้ท่วมหัว
“เฟี้ยง งวดหน้าขอสามตัวตรง หรือจะรางวัลที่หนึ่ง แจ็คพอตได้ยิ่งดี ถ้าผมถูกหวย ผมจะเอาโคโยตี้มาเต้นสามวันสามคืน แถมระบำเปลื้องผ้าชายอีกเจ็ดวันเจ็ดคืน สาธุ”
อันหลังหนิ ไอแมนกรี๊ดอัด แทบอยากวิ่งไปเล่นของให้น้องถูกหวย เพื่อนๆ แต่ละคน คว้าโทรศัพท์ถ่ายกันรัวๆ ไอ้น้องคนนี้มีแววจะสืบทอดเจตนารมณ์ต่อจากผมและไอ้ดาลี่ ก่อนน้องจะกลับที่ ผมเลยคว้าตัวไว้
“น้องเดี๋ยว อย่าเพิ่งไป พี่เห็นแววรุ่งจากน้องแล้ว น้องชื่อไรครับ” ผมกอดคอ จ่อโทรโข่งให้ ขอจองตัวไว้เลยคนนี้
“ชื่อหนึ่งเดียวครับ เพราะผมคือ หนึ่งเดียวในใจคุณ” น้องหนึ่งทำท่าซารังเฮใส่ ผมหัวเราะท้องแข็ง
“แจ่มมากน้อง จบงานหลังไมค์ พี่มีอะไรให้” หนึ่งยกมือไหว้ผมงามๆ
คนที่สามโคตรโชคดีจนเพื่อนโห่แซว ให้ปะแป้งเพศตรงข้ามให้ครบห้าคน มันจัดเลย ลุกขึ้นมาปะแป้งสาว เน้นแต่หน้าตาน่ารัก ลามมายันรุ่นพี่ ผลเลยโดนเพื่อนรุมตบหัวแทบทิ่มดิน คนที่สี่โคตรน่าสงสาร น้องดันจับเจอระเบิดร้ายแรงที่สุดในถุง ให้คุกเข่าขอไอแมนแต่งงาน!
เห็นน้องลีลาไม่อยากทำ ผมก็จัดสิครับ
“สปิริต! สปิริต! สปิริต!”
“ไม้โว้ย สู้ๆ อย่ายอมน้อยหน้าไอหนึ่งมัน”
น้องไม้เงยหน้าเหมือนด่าชะตาฟ้า พอถูกกระตุ้นจากรุ่นพี่กับเพื่อนมากๆ เข้า เลยกัดฟันจำใจลุกจากที่ไปหาแมนถึก กำลังยืนพ้อยท่าอย่างกับนางแบบ ยื่อมือประดุจหนังควายรอน้องจับ
“แต่งงานกับผมนะครับ” พูดรัวเร็วยิ่งกว่าปืน M16 แตะปากไวๆ แล้วลุกหนี แต่ไม่รอดเจ้าแม่อย่างไอแมนไปได้ ถูกมันคว้ามากอด ทำท่าจะหอม จนผมต้องไปแยกเพราะกลัวน้องมันช็อคตายน้ำลายฟูมปากคาค่าย
“น้องน้ำฟ้า เก็บอาการหน่อย เดี๋ยวขายไม่ออกนะคุณลูกขา”
“อ๊ายยย คุณแม่ขา อย่าขัดลาภลูกสิคะ ไม่มีผู้ชายตกถึงท้องมาหลายวันแล้ว” มันเลียปากอีกรอบ บอกเลยโคตรสยอง กว่ามันจะปล่อยน้องได้ คืนนี้ไม้คงฝันร้ายแหงๆ
“ทุกคนทำลืมๆ ภาพเมื่อกี้ไปนะครับ เรามาเริ่มเกมรอบสุดท้ายก่อนเข้าฐานกันดีกว่า”
น้องพากันเฮรับ ผมเริ่มร้องเพลงต่อ คราวนี้ถังเจ้ากรรมดันไปหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อหมาป่าของผม เจ้าตัวเลิกคิ้วมอง หยิบถุงเดินดุ่มๆ เข้ามาใกล้ จนผมต้องเป็นฝ่ายขยับถอยเอง เก็บอาการหน่อยพี่น้อง ท่ามกลางสายตาประชาชี สงสารหัวใจคนอื่นบ้าง
กลล้วงเข้าไปในถุงดำ ควานสักพัก หยิบกระดาษออกมา ผมเป็นคนเปิดอ่านให้
“ให้ปะแป้งคนที่....เอ่อ....” ผมตาโตอ้ำอึ้ง กลเหมือนไม่ได้ดั่งใจ ความไปอ่านแทน ด้วยความที่ทุกคนกำลังลุ้น ว่าหัวโจกประจำรุ่นจะได้อะไร เลยพากันเงียบกริบ ถึงกลจะพูดน้ำเสียงธรรมดาก็ได้ยินโดยทั่วกัน
“ให้ปะแป้งคนที่ชอบ...หืม ง่ายๆ”
ชายร่างสูง มุ่งตรงหน้าไปหาผู้หญิงคนหนึ่ง ทำท่าเหมือนจะละลาย หมาป่า ‘ของผม’ หล่อน้อยซะที่ไหน ว่ากันตามจริง หล่อที่สุดในรุ่นเลยด้วยซ้ำ เอ้า นี่ผมไม่ได้ลำเอียงนะเนี่ย
“แลกถังหน่อย”
ประโยคสั้นง่ายได้ใจความ พร้อมการกระทำชัดเจน สุดจะดับความฝันของสาวน้อย กลเปลี่ยนจากถังแป้งสีเขียว เป็นสีแดง เดินกลับมาหาผมที่เตรียมใจรับชะตากรรม
ใบหน้าหล่อร้าย สลัดมาดนิ่ง ยกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ จุ่มนิ้วในถัง ป้ายตรงหน้าผากผมอย่างดี ถึงไม่เห็นว่าเป็นรูปอะไร สัมผัสมันชัดเจนสุดๆ รูปหัวใจแน่ๆ เจ้าตัวยังก้มลงมาพูดใส่โทรโข่งในมือผม
“คนที่ชอบไม่มี มีแต่คนที่รัก อยากได้เป็นแฟน สนใจเป็นแฟนผมมั้ยครับพี่วัต”
ความร้อนพุ่งปรี๊ดขึ้นหน้า เกิดเสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม เป่าปากกันสนุกสนาน เสียงเชียร์บอกให้ตอบรับ ไม่หนักเท่าโดนย้อนด้วยคำนี้เล้ย!
“สปิริต! สปิริต! สปิริต!”
ฮว๊ากกกกก เด็กสมัยนี้ร้ายกาจ ผมฮึดเชิดหน้าโต้กลับ
“ฐานะแฟนคงไม่ต้อง คืนนี้เข้าห้องเดี๋ยวรู้เอง” ผมยักคิ้วแถม กลยิ้มรับ ดวงตาพราวระยับจนหมดหวั่นๆ เฮ้ คงไม่เอาจริงหรอกนะ นอกเกมไม่เหมือนในเกมซะด้วย อุแม่เจ้า กลับคำตอนนี้ทันไหม
“กลับคำตอนนี้ไม่ทันแล้วนะ ผมเป็นรุ่นน้องฟังคำสั่งรุ่นพี่ คืนนี้เจอกันครับ”
ไม่ติดว่าตัวเองต้องรักษาภาพพจน์เอาไว้ ผมคงกรี๊ดแข่งไอแมนแล้ว หมาแม่งอ่านใจได้ นอกเกมมีสกิลนี้ด้วยเรอะ แล้วนั่นอะไร ทุกคนหยิบมือถือขึ้นมาทำไม ที่สำคัญ ที่เอ็งพูด มันออกโทรโข่งหมดเลยเว้ย
“พอๆ มดขึ้นค่าย น้องๆ ทุกคนตั้งแถวตามกลุ่มที่แบ่งไว้ครับ หลังเข้าฐานครบทั้งหมดแล้ว เราจะกินข้าวเที่ยงกันในอาคาร ช่วงบ่ายปล่อยตามสบาย คืนนี้มีนั่งรอบกองไฟ ใส่ขายาวทายากันยุงมาให้เรียบร้อย”
ไวไวโผล่มาแย่งบท ก่อนจะกลายเป็นค่ายรักของผมกับกลแทน ตารางกิจกรรมต่อจากนี้เป็นแบบที่ไวไวบอก ผมโบกมือไล่ให้กลกลับเข้ากลุ่มเพื่อน เจอพวกเดียวกันกับรุ่นน้องมองแซวๆ ผมเลยเหวี่ยงโทรโข่งไล่แก้เขินแม่ง
ตอนนี้พวกปีสามที่ทำกิจกรรมตรงลานกว้าง ประจำอยู่ที่ฐานของตัวเอง ใต้ต้นไม้ร่มรื่น ด้านหน้าเป็นเขื่อนเย็นสบาย ฐานผมไม่มีอะไรมากครับ เพราะเวลาเตรียมตัวน้อย ถ้าพวกเพื่อนมันไม่แวะซื้อก่อนเข้ามาคงไม่มี
เกมนี้เล่นไม่ยาก มีเชือกฟางกับลูกโป่งอย่างละอัน ให้เอาลูกโป่งร้อยกับเชือกฟางมามัดไว้ตรงเอว จับลูกโป่งให้อยู่ตรงก้น แล้วให้อีกคนกระแทกจนแตก เห็นมั้ยครับง่ายๆ แต่เร้าใจโคตร แต่ละกลุ่มที่มาฐานผม จะชายหญิง โดนหมดทุกคน แบ่งทีมสามแถว ใครลูกโป่งแตกหมดก่อนชนะ พวกแพ้ต้องออกมาเต้นด้านหน้าให้เพื่อนดู
ที่ผ่านมาราบรื่นทุกกลุ่ม จนกระทั่งถึงกลุ่มตัวหลัก ในทีมนี้มีหนึ่ง ไม้ และกลที่ดูสามคนนี้จะเป็นเพื่อนกัน
“ขอตัวอย่างได้มั้ยครับพี่” น้องหนึ่งมันเริ่มแล้ว ยกมือขอรีเควสรุ่นพี่แบบไม่กลัวเกรงสิ่งใด ระดับพวกผม จะน้อยหน้าไม่ได้
“จัดไปน้อง ขอตัวแทนจากน้องหนึ่งคน มาเล่นสาธิตกับรุ่นพี่หน่อย” ผมเงียบหลบมุมอยู่หลังต้นไม้ เพื่อนไวไวมันขายผม ลากแขนผมออกมายืนต่อหน้าน้อง! พอเห็นว่าใครเป็นตัวแทนรุ่นพี่ เจ้าโฮ่งบางตัวลุกพรึบขึ้นมาทันที พวกเพื่อนโห่ฮิ้วกันสนุก วันนี้พวกเอ็งใช้เสียงไปเยอะ ไม่คิดเก็บไว้เผื่อตอนกลางคืนเลยรึไง
“วิธีการเล่นคือ เอาเชือกฟางร้อยลูกโป่ง มัดไว้ตรงเอว จับลูกโป่งให้อยู่แบบนี้ น้องกลมาครับมายืนด้านหลัง นั้นแหละ กระแทกเลยน้อง!”
ผมเหงื่อแตกผลั่กๆ ดันอกคนที่มายืนซ้อนด้านหลัง
“เดี๋ยว ใจเย็น ขอเบาๆ นะ”
“ฮืมมม จะพยายาม”
“มือไม่ต้องมาจับตรงสะโพกก็ได้”
“อย่าขยับหนีสิ”
“มันเสี่ยวหนิ ใกล้แตกยัง”
“เพิ่งเริ่มเอง จะแตกไวขนาดนั้นได้ยังไง”
“เร็วๆ หน่อย จะค้างนานทำไม”
“วัตบอกให้ช้าๆ เองนะ”
“พอโว้ย! ฐานจะกลายเป็นที่ถ่ายหนังอิโรติกอยู่แล้ว จะกระแทกก็รีบๆ ทำ เสียเวลาเล่นฐาน”
ไวไวโวยวาย กลเลยต้องขยับเบาๆ แอบใช้เล็บจิกนิดหน่อยลูกโป่งก็แตก ยังจะก้มลงมากระซิบข้างคู่ให้ได้ยินกันสองคน ไม่ได้สนใจบรรดาผู้หญิงที่มองกันหน้าแดงก่ำ พวกผู้ชายกลืนน้ำลายอึกจนจะอิ่มแทนข้าว
“ของจริง ไว้ทำสองต่อสอง”
“อย่ามโน วางถุงกาวลงเจ้าหมาป่า” ได้ยินเสียงกลหัวเราะในลำคอ ผมยกมือลูบหน้าพรืด ค่ายครั้งนี้ไม่ปลอดภัยกับหลังของผมจริงๆ ด้วย
บรรยากาศชมพูอมม่วงเมื่อสักครู่ ถูกเปลี่ยนเป็นความเฮฮาอย่างที่ควรจะเป็นอีกครั้ง ผมย้ายตัวเองไปหลบหลังต้นไม้ตามเดิม หน้าหนาขนาดไหน เจอดาเมจรัวๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน รอจนกลุ่มของกลไป ผมถึงค่อยโผล่หัวออกมาเล่นกับน้องอีกรอบ
จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ถูกแซวลูกเดียวน่ะสิ! ไม่ว่าจะรุ่นน้อง หรือรุ่นเดียวกัน ถึงเวลากินข้าวเที่ยง แยกย้ายพักก็ยังไม่เลิก เจ้าหมายังทำตัวตามติดผม อย่างกับว่าเป็นคนรักที่พลัดพรากจากกันมาแรมปี ทั้งที่เพิ่งเจอกันในเกมไปเมื่อคืนก่อน
ผมกับกลมาเดินเล่นสบายๆ กันแถวริมเขื่อน เห็นคนอื่นบ้างประปราย มีหลายคนเข้ามาหาผมเหมือนกัน แม้จะแอบเกร็งๆ กับเจ้าหมาป่าตีหน้านิ่งข้างตัว รุ่นน้องผู้หญิงใจกล้า สะกิดเรียกผม
“พี่วัต เสียงเรียกรวมตัวก่อนขึ้นรถ เอ่อ...พี่เป็นคนพากย์เสียงให้เกม Charm Online ใช่มั้ยคะ”
ดูน้องแต่ละคนจะตื่นเต้นมาก เจ้าดาลี่กับเพื่อนรุ่นเดียวกับผมที่ได้ยิน ทำท่าเหมือนไม่สน แต่หูผึ่งรอฟังเต็มที่ อันที่จริงก็ไม่ใช่ความลับอะไร ไม่งั้นผมจะเอาเสียงนี้มาดึงความสนใจรุ่นน้องทำไม ผมเลยพยักหน้ารับไป
“เฮ้ยจริงดิพี่ ตอนแรกไหนบอกว่าไม่เล่นเบื่อเกมไง พี่เวลอะไรแล้วเนี่ย อยู่เมืองไหน” ดาลี่กอดคอผู้สืบทอดคนใหม่ เข้ามาร่วมวง ไม้เลยจำใจต้องเดินตามเพื่อนเข้ามาด้วย แต่อยู่ห่างไอแมนเป็นโยช คงฝังใจน่าดู ฮ่าๆๆ
“เลเวลไม่บอก ตอนนี้อยู่เมืองหลวง ไวไวมันก็เล่นด้วยนะไปด้วยกัน”
“งกอะพี่ จริงสิ กลบอกตัวเองก็เล่น ปาร์ตี้อยู่กับเพื่อน ใช่พี่วัตกับพี่ไวไวรึเปล่า”
หนึ่งถามอย่างสนใจ ผมหันไปมองหน้ากล เจ้าตัวไม่มีทีท่าอะไร ผมโมเมเอาว่าบอกได้แล้วกัน
“ใช่ อยู่ปาร์ตี้เดียวกัน จบค่ายคงเข้าไปแข่งกิลด์พอดี ไปรอลุ้นเจอกันในสนามนะน้องๆ ทั้งหลาย”
ไปๆ มาๆ จากวงแค่ไม่กี่คน กลายเป็นวงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเป็นมีทติ้งเกมขนาดย่อม พากันพูดแต่เรื่องเกมอย่างเดียว คนที่ไม่เคยเล่นก็ถามด้วยความสนใจ ส่วนพวกที่เล่นอยู่แล้ว จะถามเรื่องไอเท็ม คำสาป พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ เทคนิคการตีบอสในดันเจี้ยน ยาวไปจนถึงคำบ่นเรื่องโดนคำสาปซ้ำซ้อนจนกลายเป็นตัวอะไรแล้วก็ไม่รู้
งานนี้กลนิ่งเงียบ ผมเข้าใจว่าเขาไม่ชอบพูดมากเท่าไหร่ เลยไม่ดึงเจ้าตัวเข้าบทสนทนา ไม่งั้น ถ้าพวกนี้รู้ว่าหมาป่าของผมเป็นคู่มือเกมขนาดย่อม ได้ถามจนไม่เป็นอันทำอะไรแน่ ของอย่างงี้ ผมขออุบไว้คนเดียวดีกว่า หึหึ
สรุป ช่วงพักว่าง กลายเป็นการนั่งคุยกันเรื่องเกมยกค่าย น้องขวัญใจเป็นคนเตือนให้พวกเราแยกย้ายกันไปอาบน้ำมาทานข้าวเย็นรอบกองไฟกันตอนค่ำ
แต่ละอาคารแยกชายหญิง จะมีห้องอาบน้ำรวมอยู่ในตัว พวกปีสามไปแจมๆ เอากับพวกรุ่นน้อง ผมโดนกลลากไปอยู่อาคารเดียวกัน ส่วนไวไว ไม่รู้มันหายหัวไปไหน เห็นตะกี้เหมือนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ ได้ยินแว่วๆ ว่า พูดถึงชื่อลินด้วย สงสัยผมจะหูฝาดไปเอง
ตอนอาบน้ำ พ่อหมาป่าให้ผมนั่งรอเป็นเพื่อนจนกว่าคนอื่นจะอาบน้ำเสร็จ ตอนแรกผมไม่คิดอะไร คงตามประสาพวกโลกส่วนตัวสูง เลยนั่งรื้อกระเป๋ากลเล่น ของในกระเป๋าทุกอย่างถูกจัดเรียบร้อยมาก เสื้อผ้ากางเกงส่วนใหญ่เป็นโทนเรียบสีทึบ ที่โกนหนวด โคโลญจ์มีแต่แบบผู้ใหญ่
“ว่างแล้ว ไปอาบน้ำกัน” กลวางหนังสือ หยิบอุปกรณ์อาบน้ำ ผมหยิบบ้าง ของผมมีแค่ขัน สบู่ ผ้าขนหนู กับเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนเท่านั้นแหละ
ในห้องน้ำโล่งสุดๆ ไม่มีใครเลยสักคน ดีที่ยังเปิดไฟสว่างโร่ ไม่งั้นมีสยองกันบ้างล่ะ กับห้องน้ำแบบอ่างยาวอ่างเดียว มีขันใครไม่รู้ลอยตุบป่อง ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำที่ไร้คน
ผมจัดการถอดเสื้อผ้าพาดไว้ตรงราวด้านบนที่เขาเตรียมไว้ให้ ใส่กางเกงในตัวเดียวตักน้ำราดตัว เย็นเจี๊ยบอย่าบอกใคร
“กล ฉันว่าเรารีบอาบกันดีกว่า น้ำเย็นเป็นบ้า”
“อย่าเพิ่ง ถูสบู่ยังไม่ทั่วเลย” เจ้าตัวพูดพลางถูสบู่จนเกิดฟองแล้วช่วยถูหลังให้ผม ไอผมก็ชินปล่อยให้ถูไป ปกติอยู่ในเกมเวลาอาบน้ำ มักไปอาบด้วยกันเป็นปกติ เพราะตั้งแต่ลินโดนคำสาปเป็นผู้ชาย เจ้าตัวลากไวไวไปอาบด้วยทุกที แบบ มันต้องแบ่งคนไว้เฝ้าของน่ะครับ เลยต้องแบ่งกันไป
ถูไปถูมา ชักเริ่มยังไง มือหนาไม่ได้ถูแค่หลัง ชักลามมาที่เอว อก สะโพก แผ่นหลังรู้สึกชัดเจนถึงกล้ามเป็นสัดส่วนของคนที่ยืนแนบชิด
“หอม ยังไงตัวจริงก็ดีกว่าในเกม” เจ้าหมายื่นหน้ามาคลอเคลียข้างแก้ม ผมสะดุ้งโหยง สัมผัสร้อนจากฝ่ามือหนา เนียนถูแถวโคนขาด้านใน พอผมจะโวยวาย กลับถูกจูบปิดเสียง ลิ้นชื้นสอดเข้ามาเหมือนตอนอยู่ในเกม แต่ความรู้สึกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เหมือนความร้อนในตัวมันพุ่งสูงขึ้น จนเผลอตอบกลับอย่างลืมตัว
ร่างสูงผละริมฝีปากออก ก่อนจะจูบซ้ำจนคนโดนขโมยจูบแทบหายใจไม่ทัน เลยต้องหันหน้าหนีหอบหายใจ
“อย่า เดี๋ยวใครมาเห็น”
“ฉันล็อกประตูไว้แล้ว วัต เป็นแฟนกันนะ” เขากระซิบเสียงทุ้มพร่าพลางงับหูเบาๆ ผมสะท้านขนลุกซู่ เอ่ยประท้วงแบบไม่จริงจังนัก
“นายมาขอในสถานการณ์แบบนี้ได้ไง”
“อืมม แบบนี้ดีที่สุดแล้ว นะ วัต...เป็นแฟนกับกลเถอะ” เสียงออดอ้อน ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำให้ผมใจอ่อนทุกที ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าความจริง ผมเองก็รู้สึกดีๆ กับกลอยู่เหมือนกัน ไม่งั้นคงไม่มีทางยอมปล่อยให้ทำอะไรแบบนั้นในเกม แม้ว่าความจริงจะเพิ่งเคยเจอหน้า แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเรารู้จักกันมาแล้วเป็นเดือน
“ขอคิดดูก่อน อะ จับอะไรน่ะ!”
กลไม่ตอบ แต่หัวเราะแบบที่ชอบทำเวลาคิดแผนชั่วร้าย มือยืนขาสั่น ถูกรวบข้อมือทั้งสองข้างด้วยมือเดียว มือหนาล้วงเข้ามาในกางเกง สัมผัสส่วนอ่อนไหวจนผมระทวย ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งรู้สึกไว โดนรั้งรูดเคล้าคลึงซะจนเกือบจะถึงสุดหมาย แต่คนใจร้ายดันหยุดมือกำไว้เฉยๆ
“เป็น-แฟน-กัน” คำขอพร้อมริมฝีปากงับลงบนลำคอ เชื่อเลยว่าถ้าผมไม่ตอบตกลง ได้ค้างคากันอยู่แบบนี้แน่ ผมโอดครวญใจใน
“ยะ...ยอมแล้ว อะ อือ อืออ...” จู่ๆ ก็เร่งจังหวะ จากอารมณ์ที่เริ่มลงๆ ไต่ระดับสูงเฉียดเพดาน ผมถูกช้อนตัวนั่งตรงอ่าง เขาสอดตัวมาอยู่ตรงหว่างขา รั้งขาผมให้หนีบเอวไว้ ผมจับบ่ากว้างเพื่อพยุงตัวไม่ให้หงายลงไปในน้ำ บางทีเผลอจิกเล็บเพราะความรู้สึกวูบวาบตรงท้องน้อย
เขารวบทั้งของผมและของตัวเองเสียดสีกัน ปากคอยก้มลงมาซุกไซร้แถวอกกับลำคอ
“วัต พร้อมกันนะ”
เสียงร้องรับคำในคอไม่รู้ว่าเป็นคำพูดหรือเสียงครางกันแน่ กระทั่งถึงที่หมาย ของเหลวอุ่นร้อนไหลรดจนเลอะหน้าท้อง กลอุ้มผมที่เข่าอ่อนลงจากอ่างมาพยุงอาบน้ำให้ใหม่อีกรอบ เหมือนได้ยินเสียงเขาถอนหายใจหนักๆ คล้ายกับยังไม่สุดดี
“อย่ามองด้วยสายตาเย้ายวนวัต ยังไม่ใช่ตอนนี้ ฉันอยากให้วัตพร้อมก่อน” เขาพูดพลางจูบที่ขมับหนักๆ แล้วปล่อยตัวผมให้ไปเช็ดตัวใส่เสื้อผ้า ส่วนตัวเองรีบอาบน้ำใส่เสื้อตามมา ผมเห็นขนาดแวบๆ แอบกลืนน้ำลายเอื้อก นึกขอบคุณที่ยังไม่คิดเผด็จศึกตอนนี้
กลจับมือผมเดินออกจากห้องน้ำ ความรู้สึกตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าแปลกๆ อธิบายไม่ถูก มันก่ำกึ่งระหว่างพึงพอใจกับยังไงก็ไม่รู้ ผมยอมรับว่าตัวเองเขินจนไม่กล้าเงยหน้ามองกล ถึงเราจะเคยจูบ กอด อาบน้ำด้วยกัน เห็นตัวเปลือยกันมาแล้ว แต่ยังไม่เคยทำถึงขั้นนี้ แถมยังเป็นแบบของจริง ไม่ใช่โลกจำลองแบบในเกม
มืออุ่นกระชับมือผมอย่างเข้าใจ เจ้าตัวหยิบของบางอย่างออกจากกระเป๋า ผมขมวดคิ้วตาโต ลืมความเขินไปชั่วคราว
“อย่าบอกนะว่านายจะออกไปสูบบุหรี่” ผมอึ้งจริงๆ นะ ไม่คิดว่ากลจะสูบบุหรี่ด้วย ส่วนตัวผมไม่ได้อคติกับคนที่สูบบุหรี่ แค่แปลกใจเท่านั้นเอง
“อ่า สงบสตอารมณ์น่ะ ปกติไม่สูบ จะสูบเฉพาะตอนทำงานกับตอนเครียดๆ วัตไปรวมกลุ่มก่อน เดี๋ยวฉันตามไปที่หลัง”
ถือว่านี้เป็นประโยคที่ยาวที่สุดในวันนี้ของกล เจ้าตัวยังดูเหมือนจะรีบๆ หันมายิ้มให้ผม ขโมยหอมแก้มฟอดนึง ถึงเดินหายออกจากอาคาร หลบมุมไปสูบบุหรี่อยู่ตรงไหนไม่รู้ ผมไม่คิดตาม เจ้าตัวบอกจะไปสงบสติอารมณ์จากผม ขืนผมไปอาจมีเอ้าดอร์เกิดขึ้นก็เป็นได้
ผมไปหาพวกเพื่อนที่โหวกเหวกกันอยู่รอบกองไฟ พอไวไวเห็นผม กวักมือเรียกให้ไปนั่งที่ๆถูกเว้นไว้อยู่สองที่ มันช่างรู้ใจจริงๆ
“อ้าว ไหงโผล่มาคนเดียว ไปไหนแล้วล่ะเจ้านั้น”
“สูบบุหรี่” อย่าว่าแต่ผมเลย ขนาดไวไวได้ยินยังเลิกคิ้วแปลกใจ แค่แปบเดียวเท่านั้นแหละ เจ้าตัวก็สูบเหมือนกัน เฉพาะตอนเครียดเรื่องงาน ปกติเลยไม่เห็น
ผมนั่งเล่นตลบมือร่วมขำกับน้องๆ ที่โชว์ฮา ผ่านไปสักพัก รู้สึกมีคนมานั่งข้างๆ ได้กลิ่นบุหรี่ปนมาด้วย หัวใจเต้นตึกตัก ความรู้สึกเหมือนแบดบอยนี่มันอะไร
“รอนานมั้ยพี่วัต ยังไม่กินข้าวเหรอ วันหลังไม่ต้องรอก็ได้ เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ”
กลเอี้ยวตัวไปด้านหลังผม รับข้าวจากไวไวมาให้ผมก่อน ค่อยเอาของตัวเอง ผมไม่ตอบ จวกข้าวหนีอาการใจเต้นอยู่ พอติดคอ ก็ได้คนข้างๆ หยิบน้ำมาส่งให้ ข้าวติดปาก เจ้าตัวก็หยิบไปใส่ปากตัวเอง ระดับการดูแลเอาใจใส่ เปิดเผยชัดเจนยิ่งกว่าก่อนเป็นแฟนหนึ่งร้อยยี่สิบเปอร์
คืนนี้กลดันเลือกเสื้อคอกว้างมา เลยเห็นรอยเล็บจิกบนผิวเข้มตรงบางจางๆ ส่วนทางผมไม่มีปัญหา กลไม่ทำรอยไว้เลย นับได้ว่ารอบคอบสุดๆ เข้าค่ายแบบนี้ แล้วยังเป็นผู้ชาย มีโอกาสโดนเห็นสูงลิบลิ่ว ไวไวเหมือนรอจังหวะ พอหมาป่าเดินไปหาเพื่อน เพราะถูกเรียก เจ้าตัวคว้าคอผมเข้าไปกระซิบทันที
“เฮ้ย เป็นแฟนกันแล้วเหรอ”
“ไม่รู้เว้ย ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”
“อย่ามาๆ ขอบอกว่าไม่เนียน ไปทำอะไรกันมา ฉันเห็นรอยที่บ่ากลนะเพื่อนวัต ไหนดูซิ วันหลังหัดตัดเล็บซะด้วย อย่ามัวแต่เล่นเกมจนขี้เกียจ หรือกลมันชอบแบบซาดิส อ็อก อย่าล็อคคอ ไม่พูดแล้วๆ”
“ลองพูดอีกคำสิ เข้าเกมรอบหน้า เตรียมเจอกันลินได้เลยเพื่อน เออ! คบกันแล้ว มีปัญหาอะไรรึไง”
เหมือนจะพูดเล่น ผมแอบหวั่นใจนิดๆ นะ ไวไวมันจะคิดมากเรื่องผู้ชายคบกันรึเปล่า ก่อนหน้านี้เห็นมันปกติ แถมยังยุยงเพราะมันคงเห็นแค่ว่าเล่นกัน ยังไงมันก็เป็นเพื่อนรักผม ผมไม่มีทางเลือกระหว่างฝั่งไหนฝั่งหนึ่งได้แน่ มันถอนหายใจ เลิกลูบคอตัวเองแล้วตบบ่าผมเบาๆ
“ทำหน้าเครียดเชียวมึง อย่าห่วงเลย ฉันมันคนหัวสมัยใหม่ ไม่อคติกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว สบายใจได้เลยเพื่อน ไม่ว่านายจะเป็นตัวอะไร หรือเป็นเห็บเหา เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ขอแค่อย่ามาโดดกัดกันเป็นพอ”
เกือบซึ้งระ อีกนิด ผมส่ายหัวไม่รู้จะขอบคุณ หรือเตะมันโทษฐานแอบหลอกด่าผมตอนท้ายดี เลยเปลี่ยนเป็นหัวเราะ แหย่มันเรื่องของลินแทน ดูท่าจะเป็นจุดอ่อนของมันไปแล้ว จังหวะเดียวกับที่กลกลับมาพอดี จนผมแอบคิดไปว่า บางทีกลคงจะเปิดโอกาสให้ผมกับไวไวคุยกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะหลังจากนี้ คงไม่ได้มีแค่บรรยากาศชมพูอมม่วง แต่มันม่วงอร่ามเลยล่ะ