man and child ซีรี่ส์*Hard For Heart (แนวM-Preg) ตอนที่18+ส่งท้าย p.11 (14/4/58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: man and child ซีรี่ส์*Hard For Heart (แนวM-Preg) ตอนที่18+ส่งท้าย p.11 (14/4/58)  (อ่าน 147602 ครั้ง)

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ่า เรื่องมันชักจะวุ่นวายยิ่งกว่าเดิมแล้ว
เสือจะยอมหมั้นเหรอ  :katai1:

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
สงสารนพคุณ

ออฟไลน์ HamsteR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
สงสารคุณอ่ะ... ชีวิตนางช่างรันทดอะไรอย่างนี้

 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
นพคุณ ลืมพวกนั้ไปให้หมดลูก

ไม่ต้องไปนึกถึงใคร

คิดถึงตัวเองกับลูก หางานทำ แล้วอยู่ให้ได้

ไม่ต้องติดต่อใคร  ครอบครัวที่ไม่เคยเห็นเราอยู่ในสายตาแบบนั้น

ลืมไปให้หมด 

ออฟไลน์ Deery

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ดราม่าไปอีก  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
เฮ้อ!!! สงสารน้องคุณ
ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะมีกันแค่สองคนแม่ลูก ก็ต้องเข้มแข็งนะ ร้กตัวเองกับลูกมากๆ ด้วย

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
เครียดแทนคุณเลยค่ะ
มันรันทดยังไงไม่รู้ TT

ออฟไลน์ JUPJIB

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +218/-0



ตอนที่9

“เมื่อไหร่ผมจะกลับบ้านได้ครับ”

นพคุณอยากกลับบ้าน ไม่ใช่ว่าโรงพยาบาลน่าเบื่อ เขารู้สึกดีมากด้วยซ้ำที่ได้อยู่ที่นี่ แต่นพคุณจำได้ว่านพเก้าต้องมาตรวจร่างกายในอีกสองสามวันนี้ เจ้าตัวยังไม่อยากเจอน้องชาย และกลัวที่จะได้เห็นว่าน้องชายมากับใคร

“เบื่อหน้าหมอแล้วหรือครับ”

“เปล่านะครับ ผมแค่ เอ่อ ไม่ชิน อีกอย่างมันก็ค่อนข้างเปลืองเงิน”

แม้จะอยู่ห้องรวมแต่ก็ยังต้องจ่ายค่าห้องทุกวัน ถ้ากลับไปอยู่บ้านได้ก็จะไม่ต้องใช้เงินส่วนนี้ ตั้งแต่หลบมาอยู่คนเดียว นพคุณก็รู้ตัวว่าจะใช้เงินตามใจตัวเองไม่ได้อีกแล้วจึงคิดหาทางประหยัดตลอดเวลา

“ขอหมอแน่ใจก่อนว่าครรภ์แข็งแรง แล้วจะให้กลับเลยครับ”

ถ้าเป็นเพราะเรื่องนี้นพคุณก็ไม่โต้แย้ง ถึงจะอยากประหยัดเงิน แต่ถ้าเกิดอันตรายขึ้นกับตัวเองและลูกก็คงไม่คุ้ม

“ไม่ทราบว่าที่บ้านมีคนดูแลหรือเปล่าครับ หมอกลัวจริงๆว่าจะเป็นลมอีก”

“ไม่เป็นแล้วล่ะครับ ช่วงก่อนผมละเลยตัวเองไปหน่อยเลยหน้ามืด ตอนนี้รู้แล้วว่าต้องดูแลตัวเอง”

เมื่อตัวของตนเองมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ข้างใน นพคุณก็รู้ว่าต้องดูแลตัวเองมากขึ้น อย่างไรนพคุณก็จบจากเอกวิทย์ เรื่องการดูแลตัวเองเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องเรียนกันทุกคนก็ได้เรียนอยู่แล้ว

“จริงด้วย วันนี้ที่โรงอาหารมีรายการอาหารมาใหม่ ไปลองด้วยกันนะครับ”

นพคุณรับคำชวนโดยไม่ได้คิดอะไรมาก เขาเดินตามคุณหมอไปช้าๆ เดินกันไปคุยกันไปจนกระทั่งถึงโรงอาหาร

“คนเยอะจัง”

หมอบ่น สายตาก็สอดส่องหาโต๊ะว่างไปด้วย

“นั่นไงๆ เพียวๆ พี่นั่งด้วยนะ”

หมอโบกมือให้รุ่นน้องพร้อมแตะข้อศอกนพคุณให้เดินตามไปที่โต๊ะ

“ฝากหน่อย เดี๋ยวพี่มา”

นพคุณยิ้มให้คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ เบนจามินเดินไปซื้อของไม่นานก็มีคนตามมาสมทบอีก

“นี่เบนถึงขนาดลากคนไข้มาช่วยกินแล้วเหรอเดี๋ยวนี้”

เสียงพึมพำจากมาใหม่ นพคุณคุ้นหน้าอีกฝ่ายแต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน

“คุณนพคุณเขาสนิทกับพี่เบนน่ะครับ ใช่ไหมครับ”

เพียวหันมาขอความเห็นซึ่งนพคุณก็พยักหน้ารับอย่างเต็มใจยืนยันว่าคือเรื่องจริง

“นพคุณ?”

คนฟังพึมพำคนเดียวพร้อมกับหรี่ตามองสำรวจ ก่อนจะเหลือบไปมองเพียวที่ชวนนพคุณคุยด้วยความเป็นมิตร

“อัง กรีน มาแล้วเหรอ นี่ไงๆเมนูใหม่”

คุณหมอกลับมาพร้อมอาหารจานใหญ่หลายจาน ชี้ชวนให้คนบนโต๊ะกินนั่นกินนี่ บรรยากาศบนโต๊ะอาการเป็นไปด้วยความครื้นเครง แต่ใครคนหนึ่งในโต๊ะดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม แม้จะไม่ได้สดงออกจนคนอื่นจับได้ แต่เจ้าตัวก็ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา...

...........................

“คุณมังกร”

มังกรหันไปมองคนเรียก ก่อนจะยิ้มให้เพราะจำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

“มีอะไรหรือเปล่าคุณอังคาร”

“ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย”

ท่าทางจริงจังของอีกฝ่ายทำเอามังกรสงสัย

“ทางนี้ครับ”

มังกรเดินตามไปแต่โดยดี ใจคิดเอาเองว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการว่าจ้างเพียว

“คุณ...เลิกกับแฟนแล้วหรือครับ”

คนฟังนิ่วหน้า ไม่ชอบใจที่โดนถามเรื่องซึ่งถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว มังกรลุกขึ้น  เขาไม่อยากจะคุยต่อเสียแล้ว

“ผมจำเป็นต้องตอบคุณหรือ”

“เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องที่ผมจะพูด คุณควรจะฟัง เป็นเรื่องสำคัญมาก”

ก่อนจะมาคุยกับมังกร อังคารชั่งใจอยู่นานว่าจะมาดีไหม อะไรหลายๆมันไม่ถูกต้องและไม่สมควร แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าต้องมาคุย รู้ว่ามันไม่ดีที่เข้ามายุ่ง รู้ว่าเรื่องที่ตนเองกำลังจะพูดเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอามาพูดต่อ แต่เขาจะไม่ยอมให้เพียวซึ่งเขาเห็นเป็นน้องคนหนึ่งเจ็บโดยไม่จำเป็น

“ผมไม่จำเป็นต้องตอบคุณ”

“ก็คงไม่จำเป็นหรอกครับ ถ้าคุณจะแค่จ้างเพียว ไม่ได้ทำท่าเหมือนจะให้เพียวไปเป็นแม่ของลูกจริงๆอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้”

มังกรชะงัก เขามองคนตรงหน้าที่ทำท่าจริงจังและคงไม่ยอมให้เรื่องจบแค่การที่เขาเดินจากไปโดยไม่ให้ความกระจ่างแน่

“เฮ้อ...ผมยกเลิกงานแต่งไปแล้ว”

มังกรกับนพคุณไม่ได้หมั้นกันอย่างเป็นทางการ ทั้งสองคนเห็นตรงกันว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น เมื่อตกลงใจกันก็คิดจะแต่งกันเลย...แต่ก็ไม่ได้แต่ง

“ผมทราบเรื่องนั้น แต่ที่ผมถามคือคุณเลิกกับเขาแล้วหรือเปล่า”

กับนพคุณมังกรไม่แน่ใจสักนิดว่าพวกเขาเคยเป็นคนรักกันจริงๆไหม หากตอนนี้มันก็ไม่สำคัญแล้ว

“เรายกเลิกงานแต่ง ก็คือเลิกกันนั่นแหละครับ”

 “ดี ...งั้นมันคงไม่เป็นไรถ้าผมจะบอกว่าตอนนี้คุณนพคุณอยู่ที่นี่”

“คุณอยู่ที่นี่?”

มังกรมีท่าทางประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะนึกได้ว่าที่นี่คือที่ไหน ใจคอสั่นไหวน้ำเสียงที่ถามออกไปจึงค่อนข้างแหบแห้ง

“เขา...เป็นอะไร”

“คุณนพคุณกำลังตั้งครรภ์...”

................................

คำบอกเล่าจากปากอังคารทำเอามังกรมึนงงคิดอะไรไม่ออก นาทีแรกที่รู้ว่าเจอนพคุณแล้วเขาดีใจ แต่นาทีถัดมาเมื่อรู้ว่านพคุณมาทำอะไรที่นี่ความดีใจมันกลับกลายเป็นความกลัดกลุ้ม

มังกรควรทำอย่างไรต่อไปดี?

ความกลุ้มใจของมังกรไม่ใช่เพราะนพคุณท้อง ไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้องนพคุณ แต่เพราะรู้และมั่นใจนี่แหละที่ทำให้เขายิ่งไม่สบายใจ

เขาควรบอกดีไหม บอกน้องชายที่กำลังจะหมั้นกับคนอื่น มังกรยังไม่ได้คุยกับเสือ แต่ที่ช่วงนี้เสือไปมาหาสู่บ้านนั้นบ่อยๆก็เป็นเรื่องจริง แต่เสือก็ยังตามหานพคุณแบบเอาเป็นเอาตายอยู่เหมือนเดิม

หากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เสือ มังกรคงไม่สนใจจะบอกและหากนพคุณต้องการมังกรก็พร้อมจะดูแลทั้งตัวนพคุณรวมถึงเด็กในท้องอย่างไม่ลังเล แต่นี่อีกฝ่ายคือน้องชายของเขา มังกรจะทำไม่สนใจได้อย่างไร

มังกรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ เขาหยิบแล้วก็วาง หยิบแล้วก็วางหลายต่อหลายครั้งก็ยังตัดใจโทรออกไปไม่ได้เสียที

แต่เขาจะยื้อเพื่ออะไร

มังกรถามตัวเองเมื่อวางโทรศัพท์ลงอีกครั้ง

ยื้อเพื่อให้เรื่องมันยุ่งเหยิง ยื้อเพื่อให้ทุกคนต้องจมอยู่กับความทุกข์และความกังวลใจไม่เลิกอย่างนั้นน่ะหรือ ยื้อแล้วมันทำให้เขามีความสุขขึ้นหรือก็ไม่ มังกรถอนหายใจเบาๆ สุดท้ายก็เลือกที่จะต่อสายถึงน้องชายตัวเอง

“ครับพี่กร”

“ฟังให้ดีนะนายเสือ...”

สุดท้ายมังกรก็มีแต่ต้องยอมรับความจริง

........................

นพคุณกลับจากอาบน้ำตอนที่เห็นแผ่นหลังคุ้นตานั่งอยู่ข้างเตียง...เตียงที่ตอนนี้นพคุณใช้นอน

“พี่กร...”

เสียงเบาหวิวหากแต่เพราะในห้องเงียบมากคนที่นั่งอยู่จึงได้ยิน เจ้าตัวหันมามองก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหาเมื่อนพคุณไม่มีทีท่าว่าจะเดินมาตรงที่ตนเองนั่ง

“อย่าหนีพี่”

คนที่ก้าวถอยหลังเม้มปากแน่น นพคุณไม่คิดว่าจะเจอมังกรที่นี่ ไม่คิดว่ามังกรจะรู้เรื่องที่ตนเองเข้าโรงพยาบาล ไม่คิดและไม่นึกอยากให้มังกรรู้ รองจากเสือ ก็คงเป้นมังนี่แหละที่นพคุณไม่อยากให้รู้

“พะ...พี่มาได้ยังไง”

“มานั่งเถอะ”

ร่างกายนพคุณสั่นไหว คล้ายจะประคองตัวไม่อยู่ด้วยความตกใจ มังกรจึงเดินเข้าใกล้แล้วแตะแผ่นหลังให้นพคุณเดินไปนั่งบนเตียง ขณะที่ตนเองนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเตียงที่เดิน

“พี่มาได้ยังไง”

มังกรจับมือที่สั่นระริกของนพคุณมากุมไว้ ลูบเบาๆอย่างปลอบประโลม

“พี่อยู่ที่นี่ พักอยู่ที่นี่”

การที่อังคารนำเรื่องนพคุณไปบอกมังกรไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ มังกรจึงไม่คิดจะพูดไปตามตรงว่าเขารู้ได้อย่างไร

“บะ...บังเอิญจังนะครับ”

“คุณ...”

มังกรไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไร นพคุณต้องมาอยู่ที่นี่ ต้องมามีสภาพอย่างนี้ หากจะบอกว่าเป็นเพราะตัวมังกรก็ไม่ผิด ทั้งเขาและเสือ พวกเขาพี่น้องทำร้ายนพคุณไม่จบไม่สิ้นจริงๆ

“พี่คงรู้แล้วว่าผมมาอยู่ที่นี่เพราะอะไร”

นพคุณไม่โง่พอจะโกหก ห้องที่นพคุณพักเป็นห้องสำหรับคนที่ตั้งครรภ์เข้าพักฟื้น มังกรคงรู้ได้โดยไม่ต้องบอก

“พี่ไม่ต้องห่วง ผมไม่คิดจะโกหกว่าเป็นลูกของพี่หรอก”

เหมือนนพคุณจะตั้งตัวได้ เขาดึงมือออกจากการกอบกุม เมินหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นสายตาของมังกร นพคุณไม่รู้ว่ามังกรกำลังมองตนเองอย่างไร สงสาร สมเพช สังเวช หรือสมน้ำหน้า เขาไม่อยากรู้และไม่อยากเห็น

“พี่รู้ว่าคุณไม่ทำแบบนั้น”

นพคุณยิ้มขื่น บีบมือตัวเองแน่นจนเจ็บ

“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมทำตัวเอง โง่ที่พลาดให้ท้อง พี่กรอย่าห่วงเลย ถึงจะจำหน้าพ่อเด็กไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่ผมก็มั่นใจว่าดูแลลูกได้”

นพคุณไม่รู้ว่ามังกรรู้เรื่องของตนเองและเสือแล้วจึงเอ่ยคล้ายจะบอกว่าเด็กในท้องเกิดขึ้นมาเพราะตนเองมีใครหลายคน มังกรเองก็ไม่กล้าพูดไปว่าเขารู้เรื่องทั้งหมด ด้วยกลัวว่าถ้าพูดออกไปนพคุณจะหนีไปอีก

“ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะ”

“ผมขอแค่พี่อย่าบอกใครเรื่องที่เจอผมที่นี่ก็พอ”

“ได้สิ หลังจากนี้พี่จะไม่บอกใคร”

นพคุณมัวแต่กังวลจนพลาดคำพูดของมังกร พลาดคำว่าหลังจากนี้ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่คนที่เขาไม่อยากเจอหน้ามากที่สุดปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าแล้ว

....................

หลังจากวางโทรศัพท์กับพี่ชายเสือก็แทบจะพุ่งมาที่โรงเรียนเอกวิทย์ในทันที

มันมากกว่าข่าวว่าเจอตัวนพคุณแล้ว มังกรยังบอกข่าวเรื่องนพคุณท้องด้วย

เสือทั้งแปลกใจ ดีใจ กังวลใจ สับสน ตีกันมั่วไปหมด แต่ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไรสิ่งแรกที่เสือทำคือรีบมาหานพคุณ ก่อนที่เจ้าตัวจะหายไปอีก และเป็นโชคดีของเสือที่นพคุณไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ตามใจชอบอย่างใจอยาก ไม่อย่างนั้นเสือก็คงพลาดไม่ได้เจอนพคุณอย่างนี้หรอก

เสือยืนอยู่ที่ประตู ขณะมองนพคุณซึ่งนั่งเหม่ออยู่บนเตียงท่าทางนพคุณมีเรื่องให้คิดหนัก เสืออยากจะเข้าไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้ กอดให้สมกับความกังวลในหลานวันที่ผ่านมา แต่เพราะมังกรรั้งเขาเอาไว้ เสือจึงทำได้แค่ยืนมองอยู่ตรงนี้

“คุณขอออกจากโรงพยาบาล แล้วหมอก็ให้ออกได้พรุ่งนี้”

มังกรบอกน้องชายที่ไม่ละสายตาจากนพคุณเลย คล้ายกับกลัวว่าหากคลาดสายตานพคุณจะหายไปอีกอย่างไรอย่างนั้น

“ผมจะรับคุณกลับบ้าน”

“ไม่ได้”

มังกรไม่เห็นด้วย

“นายคิดว่าแค่เดินเข้าไปคุณก็จะเดินตามนายกลับบ้านง่ายๆหรือนายเสือ”

เสือถอนสายตาจากนพคุณหันกลับมามองพี่ชาย เขาต้องยอมรับว่าที่พี่ชายพูดมานั้นถูกต้อง นพคุณไม่มีทางจะยอมตามเขากลับไปง่ายๆ

“แล้วพี่จะให้ผมทำยังไง ให้ปล่อยคุณไปทั้งที่ผมเจอเขาแล้วงั้นหรือครับ”

“นายเสือ”

มังกรถอนหายใจ น้องชายเขาที่เคยมีไหวพริบคิดอะไรได้รวดเร็วหายไปทันทีเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับนพคุณ...คนที่เสือรัก

“พรุ่งนี้นายให้คนคอยตามคุณไว้ หรือนายจะตามเองก็ตามใจ รอจนรู้ว่าเขาพักที่ไหนแน่ค่อยไปหาเขา”

“จริงด้วย ขอบคุณครับพี่”

มังกรตบบ่าเสือเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากเตือน

“อย่าใจร้อน พูดกับน้องดีๆ นายคงไม่อยากให้คุณหนีหายไปอีกใช่ไหม คราวนี้ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้นที่นายจะไม่ได้เจอ แต่มันรวมถึงหลานพี่ด้วย”

เสือไม่ได้ตอบอะไร แต่เก็บคำพูดของพี่ชายมาใส่ใจทุกคำ คราวนี้ไม่ใช่แค่นพคุณ แต่มันรวมถึงลูกด้วยอย่างที่มังกรพูดมาจริงๆ เขาคงต้องพยายามใจเย็นให้มากๆ คิดและทำอะไรให้รอบคอบมากขึ้นจริงๆ

......................



มีต่อค่ะ

ออฟไลน์ JUPJIB

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +218/-0
ตอนที่ 10

 

นพคุณไม่เอะใจสักนิดว่ามีคนตามมาตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล

เจ้าตัวนั่งรถประจำทางมาลงที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อขอบคุณพนักงานของร้านที่ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล ซื้อของใช้ที่จำเป็นแล้วจึงขึ้นรถโดยสารอีกครั้ง จากนั้นก็ลงที่ถนนใหญ่ตรงปากทาง ก่อนจะขับรถของตนเองที่จอดทิ้งไว้เข้าบ้าน เสือมองดูอยู่ห่างๆเพราะแค่มาถึงที่เขาก็รู้แล้วว่านพคุณพักอยู่ที่ไหน เป็นสถานที่ที่เขามองข้ามไปทั้งที่ไม่น่าจะมองข้ามเลยจริงๆ เสือเห็นนพคุณไปแล้วจึงขับรถวนไปอีกทางเพื่อไปยังที่ตัวบ้านพักตากอากาศของครอบครัวตนเอง

“คุณเสือ? โธ่ จะมาก็น่าจะโทรมาบอกผมก่อน”

ลุงที่ดูแลบ้านทักด้วยความแปลกใจ ด้วยไม่รู้ว่าเจ้านายจะมาเขาจึงไม่ได้เตรียมการรับรองไว้

“ไม่ต้องยุ่งยากหรอกครับลุง ว่าแต่ บ้านเล็กนั่นเขามาพักนานหรือยังครับ”

บ้านเล็กที่ว่าคือบ้านที่นพคุณพัก ตั้งห่างจากตัวบ้านพักตากอากาศหลังนี้พอประมาณ มีรั้วกั้นแยกชัดเจน แม้จะไม่ใกล้มากแต่ก็ไม่ไกล จากบ้านหลังนี้ยังพอสามารถมองเห็นตัวบ้านนั้นได้

“อ้อ คุณนพคุณมาอยู่ได้สักพักแล้วครับ”

เสือถามเพื่อให้มั่นใจว่านพคุณพักอยู่ที่นี่จริงๆไม่ใช่แค่นึกมาแวะชั่วคราวเฉยๆ

“ลุงช่วยเปิดห้องสักสามห้องนะครับ เอาห้องที่มีเตียงคู่ ผมจะให้คนมาพักชั่วคราว”

เมื่อมั่นใจว่านพคุณพักที่นี่แน่แล้ว เสือก็คิดจะจัดการวางคนไว้เพื่อดูแลและติดตามนพคุณทันที ก่อนจะกลับขึ้นรถอีกครั้ง คราวนี้เขาขับตรงไปยังบ้านของนพคุณเลย...ถึงเวลาเผชิญหน้ากันเสียที

........................

นพคุณนอนนิ่งมองเพดานเมื่อได้ยินเสียงคนกดกริ่งที่หน้าประตูรั้ว เขาชะโงกหน้าขึ้นดูทางหน้าต่างด้วยคิดว่าเป็นลุงที่ดูแลบ้านพักตากอากาศซึ่งจะแวะมาหาเขาบ้างเป็นบางครั้ง

...แต่คราวนี้กลับไม่ใช่

รั้วบ้านที่สูงแค่เอวทำให้มองเห็นได้ชัดว่าใครที่อยู่ข้างนอกนั้น นพคุณก้าวถอยหลังอย่างลืมตัว อีกฝ่ายเห็นเขาแล้วและกำลังมองมาทางนี้

นพคุณชะงักเท้าที่กำลังก้าวถอยหลัง เขาตั้งสติก่อนจะเดินไปดึงม่านปิด

มือคู่สวยสั่นเทาจนต้องจับกุมกันไว้เพื่อบรรเทาอาการ

ทำไมอีกฝ่ายถึงมาที่นี่

ทำไมถึงรู้

นพคุณว้าวุ่นจนคิดอะไรแทบไม่ออก เขายังไม่พร้อมเจอ และไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันพร้อม

เสือยังคงยืนรออยู่ที่เดิม คนในบ้านไม่มีท่าทีว่าจะขยับตัวมาเปิดประตูหรือรั้วให้ รั้วบ้านสูงแค่ช่วงเอวหากเสือจะปีนเข้าไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก  แต่เขาก็ยังเลือกที่จะยืนคอย

หนึ่งนาทีผ่านไปเป็นสิบนาทีล่วงเลยจนกลายเป็นชั่วโมงเสือก็ยังยืนรออยู่อย่างนั้น

นพคุณที่แอบมองเม้มริมฝีปากอย่างสะกดกลั้น พอเกี่ยวกับเสิอทีไรนพคุณก็เอาแต่ทำเรื่องที่ไม่สมกับการเป็นตัวเอง การที่หนีมาหรือแม้แต่ที่หลบเลี่ยงอยู่ตอนนี้ไม่ใช่แบบของนพคุณเลยสักนิด ถึงอย่างนั้นนพคุณก็มองไม่เห็นว่าทางไหนจะดีกว่า ระหว่างนพคุณและเสือ ไม่ต้องพบต้องเจอกันย่อมดีกว่าแน่นอน

..... ถึงจะคิดว่าอย่างนั้นดีที่สุด....แต่หลังจากผ่านสองชั่วโมงไปแล้วคนข้างนอกยังคงยืนนิ่งรออยู่ที่เดิม นพคุณก็เริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้จะบอกตัวเองว่าปล่อยเขา ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสนใจ แต่สมองก็ยังคงวกกลับไปคิดอยู่ทุกที

“ทำไมไม่ไปสักที”

คนบ่นเลิกม่านขึ้นเล็กน้อย พยายามระวังไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าตนเองแอบมอง

“อย่างน้อยๆก็เข้าไปนั่งในรถสิ จะมายืนตากแดดทำไม”

เจ้าตัวว่าอย่างหงุดหงิด

“ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวก็มีคนมาโทษเราอีก”

นพคุณเดินวนไปวนมาในบ้าน พึมพำบอกเหตุผลกับตนเอง

เขายังโกรธและไม่พอใจในตัวเสือเหมือนเดิม เพียงแต่...เพียงแต่...นพคุณไม่อยากมีปัญหาเพิ่มก็เท่านั้น บอกกับตัวเอง ย้ำกับตัวเอง เขาแค่ไม่อยากมีปัญหา ไม่ได้ห่วงอีกฝ่าย ไม่ได้ห่วงเลยจริงๆ

...................

“คุณ”

เสือเอ่ยเรียกอย่างมีความหวังเมื่อประตูบ้านที่ปิดสนิทมานับชั่วโมงเปิดออกพร้อมร่างของคนที่เขาเฝ้าตามหามาในหลายวันนี้กำลังสาวเท้าเข้ามาหาอย่างช้าๆ

“กลับไป!”

นพคุณเอ่ยปากไล่โดยไม่ทักทาย ทำเป็นมองไม่เห็นใบหน้าอิดโรยและซูบผอมลงของอีกฝ่าย ทำเป็นไม่เห็นแววตายินดีนั่นด้วย

“คุณ...”

“กลับไปแล้วอย่ามาที่นี่อีก!”

เสือจับรั้วเตี้ยที่กลางกั้นซึ่งอันที่จริงไม่ได้เป็นอุปสรรค์เลย แต่เมื่อนพคุณยังคงท่าทางไม่ยินยอม เสือก็ไม่อาจหักหาญ...ไม่อาจทำได้อีก...เขาเคยทำการข่มเหงนพคุณมาแล้วครั้งหนึ่ง เสือไม่คิดจะทำแบบนั้นอีก แม้จะอยากเดินเข้าไปใกล้ อยากโอบกอดนพคุณเอาไว้ เขาก็มีแต่ต้องหักห้ามใจเพราะนพคุณคงไม่มีทางเต็มใจและยินยอมง่ายๆ

“กลับไป!”

เมื่อเห็นคนที่ตนเองไล่ยังอยู่เฉย นพคุณจึงใช้เสียงที่ดังกว่าเดิม เสือปล่อยมือจากรั้วยกแขนสองข้างชูขึ้นคล้ายยอมแพ้

“โอเค พี่ไปก่อน ไว้จะมาใหม่”

นพคุณชะงักไปชั่วอึกใจ...สรรพนามแทนตัวที่เสือไม่ได้ใช้มานานแล้วทำให้คิดว่าตนเองหูฝาด แล้วก็เพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องนั้นจนพลาดฟังคำของอีกฝ่าย เสือเดินขึ้นรถแล้วขับออกไปง่ายๆจนนพคุณแอบคิดว่ารู้แบบนี้ออกมาไล่เสียตั้งนานแล้ว

“เดี๋ยวนะ”

นพคุณหยุดเท้าที่กำลังเดินเข้าบ้านแล้วหันไปมองรถที่กำลังแล่นจากไป

“ไว้จะมาใหม่อย่างนั้นหรือ?”

ในที่สุดนพคุณก็นึกได้ว่าเสือทิ้งท้ายคำพูดอะไรเอาไว้ คิ้วสวยขมวดมุ่น

“หรือว่าเขาจะรู้อะไร”

ว่าแล้วก็ยกมือนาบท้องตัวเองไว้ทันที พร้อมทั้งภาวนาขอให้เสืออย่ารู้เลย

.........................

เสือกลับเข้าไปพักที่บ้านตากอากาศ เขาสั่งให้คนมาเพิ่มและให้คอยดูแลนพคุณ แน่นอนว่าเพื่อดูแลนพคุณ ขณะเดียวกันก็เพื่อป้องกันไม่ให้นพคุณหนีหายไปอีกด้วย

“ของที่คุณเสือสั่งให้ซื้อมาซื้อมาครบแล้วนะครับ”

“ขอบใจ”

เสือหันไปพูดกับคนของตนก่อนจะบอกให้อีกฝ่ายเอาไปเก็บไว้ในรถของเสือ...ข้าวของเครื่องใช้ที่ซื้อมาจากโรงเรียนเอกวิทย์อัดแน่นอยู่ที่เบาะหลังและท้ายรถ ของสำหรับนพคุณ มีทั้งของกินและของใช้ที่จำเป็นสำหรับคนท้อง

เสือยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ก่อนจะเปลี่ยนเป็นใบหน้าหนักใจเมื่อโทรศัพท์ดังแล้วชื่อคนที่โทรเข้ามาปรากฏที่หน้าจอ

“พี่เสือ...”

“ครับ”

เสือนั่งลงพิงโซฟา แหงนหน้ามองเพดานขณะถอนหายใจ

“คือ เย็นนี้พี่เสือว่างไหมครับ”

“พี่อยู่ต่างจังหวัด”

“อ้อ”

ปลายสายรับคำ น้ำเสียงที่ร้องรับติดจะคล้ายคนกำลังโล่งใจจนเสืออดส่ายหน้าอย่างระอาไม่ได้ ถ้านพคุณเป็นคนที่ทุกคนเฝ้าคอยดูแล นพเก้าก็เป็นเหมือนคนที่คอยทำตามใจคนอื่นๆ เสือจึงเห็นใจนพเก้า เห็นใจ เอ็นดู สงสาร แต่ไม่เคยรักเกินไปกว่าน้องชาย เหมือนกันกับที่นพเก้าไม่เคยเห็นเสือเป็นอย่างอื่นนอกจากพี่ชายอีกคน...แต่ดูเหมือนคนอื่นๆจะไม่คิดอย่างที่พวกเขาสองคนคิด เรื่องการหมั้นบ้าบอนั่นถึงได้ถูกคิดขึ้นมา

“เก้าควรพูดกับพ่อนะ”

ปลายสายเงียบไปคล้ายไม่กล้าจะพูดอะไร หรือไม่ก็พูดไม่ออก

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าเก้า นี่มันชีวิตทั้งชีวิตของเก้านะ จะเอาแต่ตามใจคนอื่นไม่ได้”

“พี่เสือ...”

นพเก้าเรียกเสียงอ่อย เขาก็อยากเข็มแข็ง แต่ไม่เคยทำได้ นพเก้าอ่อนแอ ตัวเองยังรำคาญตัวเองมากเหมือนกันแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกับนิสัยที่เหมือนจะหยั่งรากลึกได้

“มันไม่ใช่แค่เรื่องของผม”

เสียงพูดเบาหวิว คล้ายพูดกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับเสือ

“เรื่องของใครก็ปล่อยให้คนนั้นจัดการเอง เก้าไม่ต้องไปจัดการแทนคนอื่นหรอก”

นพเก้ายิ้มอย่างขมขื่น ใครที่เสือว่าไม่ใช่คนอื่นที่นพเก้าจะละเลยได้น่ะสิ เขาถึงต้องทนเก็บกดและทำทุกอย่างทั้งที่ไม่เต็มใจอยู่นี่

“เอาเป็นว่าพี่เสือก็อย่าเพิ่งกลับมาซักพักแล้วกันนะครับ”

เสือถอนหายใจ นพเก้าไม่เคยเล่าความจริงหรือสิ่งที่อยู่ในใจ ไม่เคยอธิบายเหตุผลของการกระทำของตนเอง เสือแม้จะรู้อยู่บ้างและยินดีที่จะช่วยเต็มที่ แต่เมื่อนพเก้าไม่บอกอะไรเขา ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากขอให้ช่วยแล้วเสือจะสามารถช่วยได้อย่างไร

“แล้วได้ข่าวพี่คุณบ้างหรือยังครับ”

นพเก้าเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากถกประเด็นกับเสืออีก อีกอย่างนพเก้าก็เป็นห่วงนพคุณมาก

“ก็เหมือนเดิม”

เสือเลือกที่จะไม่บอกว่าเขาเจอนพคุณแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าหากบอกไปนพเก้ารวมถึงนพสินต้องรีบมาหานพคุณแน่ เสือยังไม่อยากให้น้องๆของนพคุณมา

คิดแล้วเสือก็หัวเราะขึ้นจมูก ขำกับความกลับไปกลับมาของตนเอง ก่อนหน้านี้เขาเองไม่ใช่หรือที่พยายามให้นพคุณเข้าใจนพเก้า เขาเองที่พยายามฝืนให้นพคุณพบเจอ เข้าใจ ยอมรับ และเลิกทำตัวดื้อด้านกับที่บ้าน...เป็นเสือเองนี่แหละที่กดดันนพคุณมากกว่าใคร  แล้วดูตอนนี้สิ

“พี่เสือ?”

“เอาเป็นว่าถ้าเก้าได้ข่าวคุณก็มาบอกพี่ด้วยแล้วกันนะ พี่ต้องทำธุระแล้ว”

นพเก้ารับคำก่อนจะวางสาย เสือทิ้งโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วไปทำธุระที่ว่า...ซึ่งก็คือการนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับคนท้องและการดูแลคนท้อง

...ช่างเป็นธุระที่สำคัญมากจริงๆ...

.......................

โลกนี้มีคนอยู่หลายประเภท มีทั้งคนดีและคนไม่ดี นพเก้าเรียนโรงเรียนเอกวิทย์มาตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยรู้เลยว่าคนไม่ดีหน้าตาเป็นอย่างไร ใช่ว่าโรงเรียนเอกวิทย์จะไม่บอกไม่สอน แต่เป็นตัวนพเก้าเองต่างหากที่คิดว่าตนเองคงไม่มีทางได้เจอคนประเภทนั้น จนกระทั่งเรียนจบกลับมา เขาถึงเพิ่งรู้ว่าคนไม่ดี คนร้ายกาจ คนเห็นแก่ตัวและคิดถึงแต่ตัวเองนั้นอยู่ใกล้ตัวเขามากเหลือเกิน

“มาหาใครครับ”

หลังวางสายจากเสือนพเก้าได้รับแจ้งว่ามีคนมาหาเขา ชายหนุ่มออกจะแปลกใจเพราะตนเองไม่ได้นัดใครไว้และพูดกันตามตรง นพเก้าไม่ได้เป็นคนที่จะมีเพื่อนฝูงมาหาถึงบ้าน ยิ่งลงมาและเจอคนที่บอกว่ามาหาเขา นพเก้าก็ยิ่งสงสัย

“มาหาคุณนพเก้า”

อีกฝ่ายตอบพร้อมถอดแว่นตาดำที่สวมอยู่

นพเก้าพิจารณาคนตรงหน้า ดวงตาสีฟ้า ใบหน้าคมเข้ม ผิวเนียนสีแทน รูปร่างสูงใหญ่ จากที่เคยเรียนรู้ด้านการแพทย์มาบ้าง นพเก้าเดาได้เลยว่าผู้ชายตรงหน้านี้มีเชื้อสายไม่ต่ำกว่าสามเชื้อสายในตัว

“ผมไม่รู้จักคุณ”

แต่ไม่ว่ารูปร่างหน้าตาอีกฝ่ายจะดีแค่ไหน นพเก้าก็ไม่เคยรู้จัก ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวความทรงจำว่าเคยเห็น รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ หากเคยได้พบ นพเก้ามั่นใจว่าจะต้องไม่มีทางลืม

“ใช่ครับ คุณไม่รู้จักผม”

อีกฝ่ายพูดแล้วยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ทำเอานพเก้าต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างลืมตัว

สัญญาณเตือนว่าอันตรายดังขึ้นในหัว กรี๊ดร้องว่าผู้ชายตรงหน้าอันตราย

“หึ ท่าทางโรงเรียนเอกวิทย์จะสอนมาดีจริงๆ”

การมองคนเป็นพื้นฐานที่ทุกคนต้องเรียน บางคนทำได้ดี แต่บางคนก็ทำได้ไม่ดี นพคุณทำบททดสอบเกี่ยวกับการมองคนได้ไม่ดีนัก ต่างจากนพเก้าที่เป็นที่หนึ่งของชั้นเกือบทุกครั้ง เพียงแต่คะแนนการมองคนที่สูงลิ่วของนพเก้า กลับถูกทอนลงด้วยแบบทดสอบการรับมือคนแต่ละประเภทที่นพเก้าตกได้ตกเอามาตลอด

มองคนออกแต่กลับไม่สามารถรับมือได้จะมีประโยชน์อะไร...

อย่างตอนนี้ สิ่งที่นพเก้าควรทำคือสงบนิ่ง อีกฝ่ายมาคนเดียวและยังไม่มีท่าทีคุกคาม นพเก้าควรรับมืออย่างใจเย็น ไม่ใช่ลนลานแสดงให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าไม่ไว้ใจและออกจะตื่นกลัวแบบนี้

“คะ...คุณเป็นใคร”

“เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก มันสำคัญที่ว่าผมมีธุระอะไรกับคุณมากกว่า จริงไหมครับคุณนพเก้า”

นพเก้าชักรู้ตัว ที่อีกฝ่ายจะพูดต้องไม่ใช่เรื่องดี เขามองหาคนอื่นๆที่พอจะเป็นตัวช่วย แต่กลับไม่มีใคร บรรดาแม่บ้านไม่อยู่แถวนี้ และวันนี้ครอบครัวของเขาก็ออกไปข้างนอกกันหมด

“หมายความว่ายังไงครับ”

คนถามถอยหลังไปอีกหนึ่งก้าว ทั้งที่ผู้มาเยือนก็ไม่ได้ก้าวตาม แต่นพเก้ากลับรู้สึกเหมือนยังออกห่างจากอีกฝ่ายได้ไม่มากพอเสียที

“ผมมาเช็คดูของกำนัลว่ายังอยู่ดีอยู่ไหม”

“ของกำนัล?”

เขาถามอย่างไม่เข้าใจ เท้าที่กำลังจะก้าวถอยต่อชะงัก

“ครับ เพราะมีข่าวว่าคุณจะหมั้น ผมเลยต้องมาแสดงตัวและตรวจดูของกำนัลเสียหน่อย”

คำพูด แววตา สีหน้า ทุกอย่างเต็มไปด้วยการจาบจ้วงดูแคลน  นพเก้าพยายามเรียบเรียงความคิด ก่อนจะเข้าใจมันในที่สุด ผู้ชายตรงหน้ามาหาเขาและบอกว่ามาตรวจดูของกำนัล มันแปลได้ว่านพเก้าคือของกำนัลที่ว่า...

“คุณเพ้อเจ้ออะไร”

ร่างกายของนพเก้าสั่นเทา ความหวาดหวั่นแผ่ไปทั่วร่างกาย ทั้งหวาดหวั่นเพราะคนตรงหน้า และเพราะความจริงที่อีกฝ่ายกำลังตั้งท่าจะพูด

“หึ”

แต่แทนที่จะพูดอีกฝ่ายกลับทำเพียงหัวเราะขึ้นจมูก

“มันยังไม่ถึงเวลา แต่รู้ไว้เถอะ คุณต้องมาเป็นของผม ของกำนัลแสนสวย...”

กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะกลับออกไปโดยไม่ได้เรียกร้องให้นพเก้าต้องออกไปส่ง ผู้มาเยือนจากไป ทิ้งให้นพเก้าทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงอยู่ตรงนั้น

มันเกิดอะไรขึ้น

นพเก้าพยายามเรียบเรียงความคิดตัวเอง ผู้ชายคนนั้นมาถูกบ้าน มาหาคนถูกคน และพูดเรื่องข่าวเกี่ยวกับนพเก้าได้ถูกต้อง เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายจำคนผิดแน่ แล้วคำพูดหรือการกระทำก็ไม่มีตรงไหนที่พอจะบอกได้ว่ามันเป็นเรื่องตลกหยอกกันเล่นหรือเป็นคำโกหก

มือเล็กเย็นเฉียบ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา หรือว่าผลกรรมที่ครอบครัวของเขาได้กระทำกำลังจะย้อนกลับมาสู่ตัวเขาแล้วอย่างนั้นใช่ไหม



TBC

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
นพคุณอย่าเพิ่งใจอ่อนเชียวน้าา~ :sad4:
ต้องทรมานพี่เสือเยอะๆ เลยนะคะ เท่านี้ยังไม่สาแก่ใจหรอกค่าา...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ Deery

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เจอกันจนได้ :ling1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย

ออฟไลน์ amisezmin

  • 最愛の人
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ใครมาหานพเก้า :m28:

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
กรีดร้อง คู่เสือกำลังจะดี(รึเปล่า) มีคู่ใหม่(?)เพิ่มมาให้ลุ้นอีก มาต่อด่วนเลย ~

ขอบคุณจ้า

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ภาคนี้ท่าจะมีหลายคู่ดีนะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
น่าสงสัยแม่เล็กอ่ะ ว่าเป็นคนดีจริงๆรึป่าว

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ทำอะไรกันนะ หรือว่าเรื่องแม่ขอนพคุณ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เจ้าหนี้เก้าเหรอ  :hao4:

ออฟไลน์ leefever

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารคุณ แต่ทุกอย่างคงจะดีขึ้น 
นพเก้า กับของกำนัลนี่ยังไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
นพคุณจะใจแข็งได้นานไหมนะ? แล้วผู้ชายที่มาหานพเก้าเป็นใคร!?

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
เรื่องวุ่นวายมาก

รอต่อนะครับ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แล้วเก้าทำผิดอะไรทำไมต้องเจอดราม่า แอบสงสารน้องเบาๆ
ไปจัดหนักที่แม่แทนได้มั้ย ดูท่าทางแม่คงมีอะไรซุกไว้แน่ๆ

ส่วนพี่เสือดูแลคุณดีๆ นะ คนท้องเครียดไม่ดี
แค่นนี้น้องก็เครียดจะแย่อยู่แล้ว

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
มันพัวพันอีรุงตุงนังกันไปหมด
และเราก็ยังสงสารนพคุณไม่จบไม่สิ้น เฮ้ออออ

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คุณอย่าใจอ่อนให้เสือง่ายๆนะ        :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:

ท่าทางเก้าจะงานเข้านะ     :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ดันๆ ^^

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เรื่องกำลังมีตัวละครเข้ามาให้วุ่นวายอีกแล้ว

ออฟไลน์ JUPJIB

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +218/-0
ตอนที่ 11

 

“มาอีกแล้ว”

นพคุณบ่นอย่างไม่พอใจเมื่อคนที่เขาเพิ่งไล่ไปเมื่อวานปรากฏอยู่ที่หน้าประตูรั้วอีกครั้ง เขาทำเป็นไม่สนใจอยู่ได้ไม่นานก็ทนไม่ได้ ตั้งใจจะออกมาไล่ให้กลับไป แต่ยังไม่ทันได้ออกปากเสือกลับพูดขึ้นมาเสียก่อน

“พี่ซื้อของมาให้”

ว่าพลางชี้มือไปที่รถเพื่อให้นพคุณเห็นว่าตนเองซื้อของมาจริงๆ

“ไม่จำเป็น กลับไปซะ”

จะมาหวังดีหรืออะไรตอนนี้นพคุณบอกเลยว่าไม่ต้องการ

“คุณ...”

นพคุณมองเสือแล้วเอ่ยปากไล่อีกครั้ง

“กลับไปสักทีเถอะ ผมไม่อยากเกี่ยวข้องกับคุณอีก”

“โอเค พี่กลับก่อน”

วันนี้เสือยอมถอยแค่นี้ แค่ยอมถอยแต่ไม่มีวันยอมแพ้

“แล้วก็ไม่ต้องมาอีก”

เสือทำประหนึ่งว่าไม่ได้ยินที่นพคุณพูด เขาเดินขึ้นรถ ก่อนขับออกไปยังส่งยิ้มบางๆมาให้นพคุณทิ้งท้าย

“พี่เสือ กวนประสาท!”

นพคุณว่าด้วยความหมั่นไส้และลืมตัว ก่อนจะทำหน้าบึ้งแล้วส่ายหน้าให้ตนเอง

“ไม่ ไม่ได้”

นพคุณกำลังจะใจอ่อน ความโกรธ ความน้อยใจกลับแทบไม่ปรากฏ แค่สองวันที่เสือทำท่าเหมือนมาง้อ นพคุณก็อ่อนลงมากขนาดนี้แล้ว เขาพยายามนึกถึงเรื่องไม่ดีที่เสือทำไว้ นึกถึงความเจ็บช้ำและเจ็บปวดในตอนนั้น นึกถึงนพเก้า... อีกไม่นานเสือจะกลายมาเป็นคู่หมั้นของน้อง หมั้น แต่งงาน กลายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน มาเป็นน้องเขย เป็นผู้ชายต้องห้าม

นพคุณย้ำกับตนเองว่าใจอ่อนได้ หายโกรธได้ แต่ห้ามแสดงออกมา ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด

 
...............................................

                                         

เพียวนั่งลูบท้องตัวเองเมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวภายใน

“อีกไม่นานก็จะได้เห็นกันแล้ว”

เพียวยอมรับว่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นเด็กคนแรกที่ตนเองอุ้มท้อง แม้จะรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นของผู้ว่าจ้าง แต่อย่างไรเขาก็อุ้มท้องมาจะไม่สนใจใยดีหรือเห็นว่าเด็กเป็นคนอื่นไปเลยก็ทำได้ยาก

“คุณเพียวดื่มนี่หน่อย”

มังกรวางแก้วน้ำขิงไว้บนโต๊ะ ช่วงนี้เพียวรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นเยอะ ไม่ใช่แค่เพราะสรีระที่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติของการตั้งครรภ์อย่างเดียว แต่ยังเพราะมังกรเอาแต่จะสรรหาของมาให้ตนเองกิน อะไรที่ใครว่าดี มังกรหามาให้เพียวได้ลองหมด

“ผมเพิ่งกินข้าวเที่ยงไปเองนะครับ”

มังกรยิ้ม วางฝ่ามือลงบนท้องที่นูนขึ้นโดนไม่ต้องเอ่ยขอก่อนเพราะเพียวเคยอนุญาตไว้แล้ว เจ้าตัวทาบมือนิ่งเหมือนต้องการจะสัมผัสกับลูก

“ผมอยากให้ลูกแข็งแรง”

เพียวถอนหายใจ อันที่จริงเพียวกินข้าวเที่ยงไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน จะว่าอิ่มจนยังกินอะไรไม่ลงอยู่ก็ไม่ใช่ แต่เพียวไม่ชอบน้ำขิง รู้นะว่าดี แต่ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ!

น้ำขิงดีกับคนท้อง เป็นเครื่องดื่มแนะนำอย่างหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่เพียวกินน้อยถึงน้อยมากๆ เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ดีต่อคนท้องแล้วเพียวละเลย โชคดีที่เพียวไม่มีอาการแพ้ท้องจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งน้ำขิงมากมายนัก

“ดื่มหน่อยเถอะครับ”

พอเห็นคนเอามาให้ว่าพลางลูบท้องอย่างรักใคร่ต่อสิ่งมีชีวิตน้อยๆในท้องเพียวก็ยอมฝืนใจกิน เด็กในท้องเป็นลูกมังกร เขาต้องอยากให้ลูกได้สิ่งดีๆอยู่แล้ว เพียวพยายามมองข้ามสัมผัสอบอุ่นที่ส่งผ่านเนื้อผ้ายามมือหน้าวางบนหน้าท้องตัวเอง  เพียวเป็นแค่ลูกจ้างและมังกรเป็นนายจ้าง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเกินกว่านี้

“ผมต้องไปบริษัท คุณเพียวจะไปออกกำลังกายตามตารางใช่ไหม”

เนื่องจากเพียวตั้งครรภ์เข้าช่วงเดือนที่เจ็ดตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพียวจึงต้องพักงานไว้ชั่วคราว เพื่อเตรียมตัวสำหรับการคลอดและการเลี้ยงดูเด็กเบื้องต้น มังกรเป็นคนเอ่ยปากขอจ้างให้เพียวรับหน้าที่ดูแลลูกให้ เพียวยอมรับข้อเสนอ แม้จะโดนอังคารคัดค้านเนื่องจากไม่อยากให้เพียวผูกพันกับมังกรและลูกมากเกินไป แต่เมื่อเพียวตัดสินใจแล้ว อังคารก็ทำอะไรไม่ได้

เพียวรู้แล้วว่านพคุณที่เขารู้สึกคุ้นหน้านั้นเป็นใคร ในใจเพียวสงสัยในหลายสิ่ง แต่มันไม่ใช่เรื่องของตนเอง ถึงมังกรจะให้ความสนิทสนมด้วยมากแค่ไหน เพียวก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม ทั้งที่อยากรู้ว่าลูกในท้องของนพคุณเป็นลูกของมังกรใช่หรือไม่

แต่เพียวจะต้องรู้ไปทำไม เป็นธุระที่เพียวจะต้องรู้หรือก็เปล่า

มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ได้เกี่ยวกับเพียว

“คุณกรจะไปกี่โมงครับ”

เพียวหันเหความคิดตัวเองมาสนใจเหตุการณ์ตรงหน้า เรื่องที่คิดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพียวก็พยายามไม่คิด

“เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่ห้องออกกำลังก่อน”

มังกรดูแลเพียวอย่างดีจริงๆ จนเพียวต้องย้ำกับตนเองเพื่อไม่ให้เหลิงเกินไปว่าที่มังกรทำทั้งหมดนั้นเพราะลูกของมังกรที่อยู่ในท้องนี้ ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่น

“ฝากดูแลคุณเพียวด้วยนะ”

มังกรเดินมาส่งเพียวที่ห้องออกกำลังกายก่อนตนจะออกไปบริษัท ระหว่างที่มังกรไม่อยู่จะมีคนของเขาสองคนช่วยดูแลเพียวอยู่ห่างๆ คอยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย

เบนจามินเคยมากระซิบบอกเพียวว่านอกจากสองคนนี้ยังมีอีกสี่คนคอยเฝ้าระวังรอบๆ เรื่องนี้มังกรได้ขออนุญาตทางโรงเรียนไว้แล้ว ที่เบนจามินมาบอกก็แค่นึกอยากล้อเพียวที่ตอนนี้กลายเป็นคนสำคัญขนาดที่ต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแลก็เท่านั้น ไม่ได้นึกขวางหรือไม่ชอบใจแต่อย่างใด

เพียวอยากแย้งนักว่าที่เป็นคนสำคัญคือเด็กในท้องต่างหากไม่ใช่ตัวเพียว แต่กลัวพูดไปแล้วจะถูกหาว่ากำลังน้อยใจ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกเกินกว่าที่สมควรตามฐานะเลยเลือกจะยิ้มรับคำแซวของเบนจามินเงียบๆแทน

 
.............................................................

 

มังกรต้องกลับเข้าบริษัทหลังจากที่ไม่ได้เข้าไปมานานเพราะเสือยืนยันจะปักหลักที่บ้านพักตากอากาศซึ่งนพคุณอยู่ตอนนี้

แม้ทั้งสองจะสามารถทำงานผ่านโครงข่ายได้แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีการเข้าบริษัทบ้างไม่คนใดก็คนหนึ่ง จะหายหน้าหายตากันไปทั้งคู่ย่อมไม่เกิดผลดีต่อความน่าเชื่อถือในตัวพวกเขา

“นี่เป็นเอกสารที่ต้องเซ็นครับ”

อินน์เลขาคนสนิทของมังกรวางเอกสารให้ เสร็จแล้วก็ยังยืนรีรอเหมือนมีเรื่องจะพูดแต่ไม่กล้า มังกรอ่านเอกสารได้ครู่หนึ่งก็เงยหน้าขึ้นมองคนสนิท

“มีอะไรนายอินน์”

“คือ...เรื่องหมั้นของคุณเสือกับคุณนพเก้า...”

มังกรวางปากกาแล้วถอนหายใจ เขายังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับเสืออย่างจริงจัง เพราะพอพูดเกริ่นขึ้นมา เสือก็เอาแต่บอกว่ามันไม่มีอะไร ที่สำคัญดูเหมือนเสือจะสนใจเรื่องของนพคุณกับลูกในท้องมากกว่าจะเสียเวลามาอธิบายว่าไม่มีอะไรของเสือคืออย่างไรกันแน่

“มีอะไรหรือเปล่าอินน์”

เพราะยังไม่ได้คำตอบชัดจากน้องชาย มังกรจึงไม่คิดว่าจะมีอะไรสำคัญ แต่การที่อินน์ถึงขั้นยกเรื่องนี้มาถาม ต้องมีเหตุผล

“ทางบ้านคุณนพเก้าเริ่มดำเนินการจัดงานแล้วครับ”

“ทั้งที่ฝ่ายเรายังเงียบอยู่แบบนี้เนี่ยนะ”

มังกรไม่ค่อยอยากเชื่อ หากมีการจัดงานไปแล้วทางเขาออกมาพูดทีหลังว่าไม่รู้เรื่อง ฝ่ายที่จะเสียหน้าย่อมเป็นฝ่ายนั้น พนพไม่น่าจะทำอะไรที่เสี่ยงจะทำให้ชื่อเสียงตนเองและคนในครอบครัวเสื่อมเสียแบบนั้น

“โทรไปถามนายเสือรึยัง”

“ถามแล้วครับ คุณเสือบอกว่าฝ่ายนั้นอยากทำอะไรก็ปล่อยให้เขาทำไป เราอยู่เฉยๆก็พอ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะครับคุณกร ทั้งสื่อ ทั้งคู่ค้า แล้วยังญาติๆกับเพื่อนๆของพวกคุณทั้งคู่ ใครๆก็อยากรู้ว่าคุณเสือจะหมั้นจริงไหมและเพราะอะไรฝั่งเราถึงเงียบสนิทอยู่แบบนี้ บางคนก็มาแสดงความยินดีด้วยเพราะเชื่อไปแล้วว่าจะเกิดงานขึ้น ผมนี่ไม่รู้จะพูดยังไงดี”

การเงียบไม่ใช่ทางที่จะแก้ปัญหาได้ เสือย่อมรู้ดี แต่เจ้าตัวกลับไม่ออกมาทำอะไรแล้วปล่อยให้ทางบ้านนพเก้าจัดการทุกอย่างไม่ต่างกับการยอมรับว่าจะหมั้น

มังกรขมวดคิ้ว

ถ้าเสือหมั้นกับนพเก้าแล้วนพคุณล่ะ?

“ในเมื่อนายเสือบอกว่าไม่ต้องทำอะไรก็ไม่ต้องทำอะไร ส่วนคนอื่น ถ้าใครมาถามหรือแสดงความยินดี นายก็ไม่ต้องไปตอบรับหรือปฏิเสธเขา ทำได้ไหม”

อินน์ได้แต่รับคำ ถามว่าทำได้ไหมน่ะมันทำได้แน่อยู่แล้ว เพราะอินน์ก็ทำอย่างนั้นมาตลอด แต่ยิ่งผ่านไป การไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธมันก็ใช้ได้ผลน้อยลงไปทุกที

และไม่ใช่แค่อินน์เท่านั้นที่เจอเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้

เมื่อไม่สามารถตามตัวเสือได้ แพนเพื่อนสนิทของเสือเป็นอีกคนที่โดนใครต่อใครถามไถ่ด้วยคิดว่าเจ้าตัวรู้ ยิ่งแพนเป็นเจ้าของโรงแรมขนาดใหญ่ หากจะเกิดงานสำคัญของเสือขึ้นมาจริงๆสถานที่จัดงานย่อมไม่พ้นโรงแรมของแพน แต่กำหนดการณ์ในตารางกลับไม่มีงานของเสือ แพนได้แต่ยิ้มการค้าแล้วเลี่ยงไปว่าเรื่องนี้แพนขอให้เสือกลับมาตอบทุกคนเอง

พูดครั้งสองครั้งแรกยังพอช่วยให้เลี่ยงได้บ้าง แต่พอครั้งที่สามสี่ห้าแน่นอนว่ามันย่อมไม่ได้ผลแล้ว

แพนได้แต่ด่าเพื่อนในใจเพราะโทรไปด่าจนหลังๆเสือเริ่มรู้ทันไม่รับโทรศัพท์แพนแล้ว

ไม่ว่าฝั่งเสือจะลำบากใจหรือคลุมเครือเพียงใด ฝั่งนพเก้าก็ยังดำเนินการเรื่องงานหมั้นต่อไปราวกับไม่รับรู้หรือสนใจท่าทีของฝั่งเสือเลย

 
....................................

 

เสือมาอีกแล้ว...

นพคุณถอนหายใจ วันนี้เขาตัดสินใจจะใจแข็งและไม่สนใจ ถ้าเสืออยากจะตากแดด นพคุณก็จะปล่อยให้อีกฝ่ายตากแดดจนพอใจ หากอยากจะยืนก็จะปล่อยให้ยืนจนขาแข็ง

แต่เอาเข้าจริงๆกลับมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น

เสือมาถึงยังไม่ทันถึงยี่สิบนาที ท้องฟ้าที่เคยแจ่มใสก็กลายเป็นมืดครึ้ม หลังจากนั้นไม่นานฝนก็เทลงมา

นพคุณแอบมองลอดผ้าม่านออกไปก็เห็นเสือยังคงยืนอยู่ที่หน้ารั้ว แม้ไม่ได้ตากฝนเพราะเจ้าตัวมีร่มถือเอาไว้แต่จะบอกว่าไม่เปียกก็ไม่ใช่เพราะฝนตกหนักมาก ร่มไม่ได้ช่วยกันฝนได้สักเท่าไหร่

ฝนตกหนักขึ้นทุกที นพคุณก็เริ่มกระสับกระส่าย เขาเดินวนไปวนมาอย่างใช้ความคิด พอนึกได้ว่าสนใจเสือมากเกินไปก็นั่งลงบนโซฟาพร้อมเตือนตัวเองว่าไม่ต้องไปสน แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นเดินไปเดินมาอีก

หลอกใครหลอกได้แต่หลอกใจตัวเองมีหรือมันจะได้ผล หลังจากคิดกลับไปกลับมา นพคุณก็ยอมแพ้แล้วไปหยิบร่ม ปากก็บ่นพึมพำในความใจอ่อนของตัวเอง เบื่อที่ตัวเองแพ้ทางเสือจริงๆ

“เข้ามาก่อนสิครับ”

นพคุณเดินมาเปิดรั้วบ้านให้เสือแล้วเดินนำเข้ามาโดยไม่ดูว่าอีกฝ่ายได้เข้ามาตามคำเชื้อเชิญหรือไม่...แน่นอนว่าเสือไม่มีทางยอมพลาดโอกาสนี้

“ห้องน้ำอยู่ทางนั้น เดี๋ยวผมจะไปเอาผ้าขนหนูกับชุดเปลี่ยนมาให้”

พูดโดยไม่มองหน้าแล้วผละขึ้นบันไดมาข้างบน พอเปิดตู้ถึงเพิ่งนึกได้ว่าไม่มีเสื้อผ้าขนาดใหญ่พอให้เสือใส่ได้เสียหน่อย หลังจากรื้อๆค้นๆจึงได้เสื้อคลุมอาบน้ำตัวใหญ่มาใช้แก้ขัด

“ผมเอาชุดวางไว้หน้าห้องน้ำนะ ชุดเปียกเอาใส่เครื่องซักไว้เลยนะครับ”

นพคุณวางของไว้ให้แล้วเลี่ยงไปอยู่ที่ส่วนรับแขก เตรียมใจกับการต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย

เสือออกมาในชุดคลุมที่แทบปิดอะไรไม่มิด นพคุณเงยหน้ามองเห็นแผ่นอกและเอวที่ปรากฏตามรอยแยกของชุดคลุมเพียงแวบเดียวก็รีบมองไปทางอื่นทันที ริ้วแดงจางๆทำให้เสือยิ้มที่อย่างน้อยๆตัวเขายังมีอิทธิพลต่อนพคุณอยู่บ้าง

เสือไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีอิทธิพลต่อนพคุณมากกว่าที่ตนเองคิดไว้เยอะ

“ขอบใจสำหรับชุดเปลี่ยน”

นพคุณไม่พูดอะไร เดินเลี่ยงไปชงกาแฟ เสือได้กลิ่นแล้วเอ่ยถามเรียบๆ

“คุณคงไม่ได้ชงมาดื่มเองหรอกใช่ไหม”

นพคุณชะงักมือที่กำลังจะเทกาแฟลงในแก้วของตน นพคุณไม่ได้ชอบดื่มกาแฟ  ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะดื่มบ่อยนัก แต่วันนี้เป็นเพราะเสือมาอยู่ตรงนี้  ในบ้านที่แม้ไม่แคบแต่ก็ไม่กว้างพอสำหรับนพคุณในการเผชิญหน้ากับเสือ เขาเลยต้องหาอะไรทำ

นพคุณวางกากาแฟไว้ที่เดิม ยกแก้วหนึ่งมาให้เสือขณะที่ของตนเองเป็นแค่น้ำอุ่นธรรมดา ในใจวูบไหวเมื่อนึกขึ้นได้ว่าการที่เสือเตือนมาแบบนี้ แปลว่าเสือรู้เรื่องสภาพร่างกายเขาแล้วอย่างนั้นใช่หรือเปล่า

“ผมไม่อยากให้คุณมาอีก”

นพคุณเลือกที่จะเอ่ยความต้องการของตัวเองมากกว่าที่จะถามสิ่งที่สงสัย เขาพยายามสงบใจ แต่เสียงก็ยังสั่นจนเจ้าตัวนึกรำคาญ แถมยังไม่กล้าสบสายตาคู่คมที่มองมาเลยสักนิด

“คุณก็รู้ว่าพี่ทำอย่างนั้นไม่ได้”

เสือตอบด้วยใบหน้าจริงจัง

“คุณกำลังจะหมั้นกับน้องชายผม”

นพคุณย้ำให้ทั้งเสือและตนเองตระหนักถึงสถานะของทั้งคู่

เป็นเสือบ้างที่หลบสายตา เจ้าตัวเม้มริมฝีปากอย่างไม่ค่อยชอบใจ เสือไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้และไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ แต่เขามีแต่ต้องแบกรับมันไว้อย่างไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า

“เรื่องนั้นไม่เกี่ยว”

นพคุณไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดไร้ความผิดชอบจากปากเสือ ทั้งที่ตั้งใจจะต่อว่าแต่เมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดใจของอีกฝ่าย คำพูดที่ต้องการจะพูดก็เหมือนคิดไม่ออกเสียดื้อๆ

ไม่ใช่นพเก้าแต่พลาดมากอดเขา ไม่ใช่นพเก้าแต่พลาดมาทำให้เขาท้อง เสือเองก็คงไม่อยากให้ออกมาในรูปแบบนี้ แม้นพคุณจะไม่ได้ตั้งใจและไม่ใช่คนก่อเรื่อง หากก็เพราะตัวตนของเขาที่ทำให้เสือกับนพเก้าต้องยุ่งยากใจอย่างนั้นใช่ไหม

“ผมขออยู่ส่วนผม”

ใช่ว่าเสือจะไม่เข้าใจเจตนาของคำพูดนี้ นพคุณไม่ต้องการให้เสือเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของเสือ

นพคุณไม่เสียเวลาโกหกเพราะการหาความจริงสำหรับเสือแล้วมันง่ายแสนง่าย เสือมาถึงนี่และแสดงตัวแบบนี้เจ้าตัวต้องมีความมั่นใจ

นพคุณอยากให้เสือแกล้งทำเป็นไม่รับรู้แล้วก็ไม่ต้องสนใจ แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเสือคนที่อยู่ตรงหน้านี้หรือพี่เสือในอดีตก็ไม่มีทางปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ

“เรื่องเก้าคุณไม่ต้องคิดมาก”

เสือไม่สามารถจะพูดอะไรออกไปได้มากกว่านี้ เขาทำได้แค่บอกให้นพคุณอย่าไปคิดถึงเรื่องนั้น

“รู้แค่ว่าพี่เลือกที่จะทำเพื่อคุณเสมอก็พอ”

 
............................................

 

หลังจากประโยคนั้นของเสือทั้งสองคนก็คล้ายจะไม่อยากวกกลับไปคุยเรื่องเครียดๆกันอีก

เสือกางร่มออกไปขับรถเข้ามาจอดข้างในรั้วแล้วขนของที่ซื้อเข้ามาในบ้านด้วยความกระตือรือร้น ถือวิสาสะโดยไม่ขอเจ้าของบ้านเลยสักนิด

“อันนี้เป็นเครื่องนวดเท้า ถ้าคุณเมื่อยก็เอามาใส่แบบนี้แล้วกดปุ่ม”

ท่าทางเสือจะศึกษาวิธีใช้ของทุกชิ้นมาเป็นอย่างดีจึงแนะนำได้อย่างคล่องแคล่ว

“นั่นมันสำหรับคนท้องหลายเดือนแล้วนะครับ”

นพคุณก็ไม่อยากจะขัดเสือหรอก แต่ตั้งแต่ยกของเข้ามาเสือก็รื้อของไปแนะนำของไป เสร็จแล้วก็คะยั้นคะยอให้นพคุณทดลองใช้มาหลายชิ้นแล้ว  บางชิ้นอย่างเครื่องนวดเท้าที่เสือกำลังถืออยู่นี่มันยังไม่จำเป็นสำหรับคนตั้งท้องไม่กี่เดือนอย่างนพคุณ แต่เสือเหมาซื้อมาหมด คงจะซื้อทุกอย่างที่มีขายที่โรงเรียนเอกวิทย์เลยแน่ๆ

“คุณควรย้ายลงมานอนห้องด้านล่างนะ”

จากที่เมื่อครู่นพคุณขึ้นไปหยิบของให้จากชั้นบน เสือก็พอจะอนุมานได้ว่านพคุณคงนอนอยู่ที่ห้องบนชั้นสอง

“มันไม่...”

“พี่เป็นห่วง คุณอยู่คนเดียว ขึ้นบันไดแล้วเกิดหน้ามืดขึ้นมาจะทำยังไง”

“....อืม”

นพคุณไม่ได้ยอมเชื่อฟัง แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนเองเป็นลมที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อคราวก่อน ตัวนพคุณเองก็เห็นด้วยว่ามันเป็นไปได้และเขาไม่อยากเสี่ยง

ก็ขนาดเสือยังเป็นห่วงลูก แล้วนพคุณที่เป็นคนอุ้มท้องลูกจะไม่ห่วงได้อย่างไร

“พี่ซื้อแผ่นยางกันลื่นในห้องน้ำมาด้วย อยู่ไหนนะ”

เสือว่าพลางรื้อๆค้นๆกองข้าวของ

เขาเห็นว่านพคุณคล้อยตามแล้วจึงไม่คิดจะย้ำอีกเพราะกลัวนพคุณจะต่อต้านประชดเขาจนไม่ยอมลงมานอนชั้นล่าง

“คุณไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้”

มือที่กำลังค้นหาของหยุดชะงัก เสือหันมามองนพคุณแล้วถอนหายใจ

“พี่เสือสิ ไม่ใช่คุณ แต่เป็นพี่เสือ”

“คุณคงยังไม่ลืมหรอกนะว่าเด็กในท้องผมเกิดขึ้นมาจากสถานการณ์แบบไหน”

“...”

“...”

“ขอโทษที พี่คงได้ใจมากไป”

คำพูดของนพคุณตอกย้ำความจริงที่เสือเหมือนจะลืมไป เขามัวแต่ดีใจเรื่องลูกจนลืมเสียสนิท หากให้พูดกันตามตรงลูกคนนี้ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจไม่ว่าจะของเสือหรือของนพคุณ

สำหรับเสือเมื่อมีลูกขึ้นมาเขาก็ดีใจ แต่สำหรับนพคุณอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ เมื่อลูกในท้องเป็นเหมือนเครื่องเตือนให้นพคุณนึกถึงเรื่องไม่ดีที่เสือทำ

“เฮ้อ...”

นพคุณก็พอรู้ตัวว่าตนเองพูดให้เกิดบรรยากาศอึมครึมขึ้นอีกแล้ว แต่เขาก็คิดว่าตนเองจะต้องพูดเพื่อไม่ให้เสือลืม และก็เพื่อไม่ให้ตนเองลืมด้วยเหมือนกัน

“คุณไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้ไม่ต้องการลูกคนนี้ ผมเต็มใจอุ้มท้องและเต็มใจเลี้ยงดู เต็มใจจะรัก”

นพคุณไม่อยากให้เสือหรือแม้แต่ลูกคิดว่าเขาจำใจต้องยอมรับลูก แม้จะก่อเกิดจากเหตุการณ์ไม่น่านึกถึงแต่อย่างไรลูกก็คือลูก เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนพคุณไม่เปลี่ยนแปลง

“พี่รู้”

ความกระตือรือร้นของเสือเหมือนจะลดหายไปจนแทบไม่มีเหลือ

“เอาเถอะ แค่คุณยอมให้พี่เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”

คนตัวโตกว่าพึมพำกับตัวเอง

นพคุณรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนใจร้าย ทั้งที่เขาก็แค่ไม่ลืมความเจ็บช้ำที่เคยได้รับก็เท่านั้น

“เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บที่ให้ดีกว่า”

นพคุณเลือกที่จะเงียบและทำเป็นว่าไม่เห็นความเสียใจและรู้สึกผิดในดวงตาของเสือยามที่มองมา เขาปล่อยให้เสือจัดการเก็บและติดตั้งของต่างๆโดยไม่ได้เอ่ยปากห้าม  ทางเสือเองก็ไม่ได้ชวนนพคุณพูดคุยอีก

ทั้งสองต่างก็ทำอะไรของตนเองไปเงียบๆ ในบ้านที่ไม่มีเสียงพูดคุย

อดีตคอยถ่วงความรู้สึกในปัจจุบันและอนาคตเองก็เหมือนจะมีแต่ความเจ็บช้ำ พวกเขาจะก้าวผ่านมันไปได้หรือต้องล้มลงกลางทางก็ไม่มีใครรู้ สำหรับทั้งสองคนแล้ว สิ่งที่เรียกว่าความสุขช่างแลดูห่างไกล

 
......................................................

 

เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สองและย่อมต้องมีครั้งที่สามที่สี่ ดังนั้นในหลายวันมานี้เสือจึงสามารถเข้ามาในบ้านนพคุณได้เกือบทุกครั้งโดยที่ตัวเจ้าของบ้านก็บอกไม่ได้ว่าตนเองเต็มใจหรือไม่เต็มใจกันแน่

“ติดตรงนั้นเลย”

เสือชี้ไปที่ต้นไม้หน้าบ้าน เขาให้ช่างมาติดกล้องวงจรปิด แถมยังให้คนมาคอยเฝ้าอยู่รอบๆเพิ่มมากขึ้นจนนพคุณอดประท้วงไม่ได้

“คุณไม่ต้องกลัวผมหนีหรอก ผมไม่มีที่ให้ไปแล้ว”

เสือหันมายิ้มให้นพคุณที่ออกมาดูว่าเสือกำลังทำอะไร

“พี่เป็นห่วง”

นพคุณขมวดคิ้ว

“จะห่วงอะไรนัก ผมแค่ท้องนะ”

แถมไม่ว่าจะคนหรือกล้องที่มาติดก็อยู่นอกบ้านทั้งนั้น เหมือนเอาไว้เฝ้านพคุณมากกว่าจะมาคอยช่วยเหลือดูแลคนท้อง

“ตรงนี้แดดแรง เข้าบ้านเถอะ”

เสือหันไปพยักหน้าให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยเงียบๆเป็นเชิงให้มาดูแลการติดกล้องวงจรปิดต่อ  คล้ายจะเลี่ยงคำถามหรือความสงสัยของนพคุณไปเสีย

“ปล่อยเลย”

นพคุณตีแขนเสือที่ถือวิสาสะโอบตนเองแล้วเดินหนีเข้าบ้าน ปากก็บ่นว่าคนมือไวไปเรื่อยโดยลืมไปเสียสนิทว่าตนเองกำลังคุยเรื่องอะไรกับอีกฝ่ายเมื่อครู่นี้

เสือยิ้มอย่างไม่ถือสาที่โดนตี

นพคุณไม่ทันเห็นว่าเมื่อตนเองไม่ได้มอง รอยยิ้มของเสือก็ค่อยๆเลือนหาย ความไม่สบายใจและกังวลเข้ามาแทนที่ ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น

แม้ความรู้สึกของนพคุณที่มีต่อเสือจะยังดูลุ่มๆดอนๆ สถานการณ์ระหว่างพวกเขาเองก็ยังไม่ค่อยดีมากนัก แต่เสือก็สัญญากับตัวเองว่าจะดูแลปกป้องนพคุณกับลูกในท้องให้ดีที่สุด แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้วนพคุณจะยังคงไม่ให้อภัยต่อสิ่งเลวร้ายที่เสือได้ทำลงไป เสือก็ยังยืนยันจะดูแลปกป้องอีกฝ่ายอยู่ดี

ไม่ใช่แค่เพราะนพคุณมีลูกของเขาอยู่ในท้อง แต่เป็นเพราะนพคุณคือคนสำคัญ

ครั้งหนึ่งเขาได้พลาดที่ปล่อยคนสำคัญคนนี้ไป และอีกครั้งที่เขาพลาดทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของอีกฝ่ายเพราะความโมโห ครั้งนี้เสือจะไม่ยอมพลาดอีก เพราะหากพลาดมันอาจหมายถึงการต้องเสียคนสำคัญคนนี้ไปตลอดกาล...

“มองอะไร”

และเพราะมัวแต่คิด เลยเผลอจ้องอีกฝ่ายนานเกินไปเสียจนโดนจับได้

“คุณไม่เห็นอ้วนขึ้นเลย ไม่เหมือนคนท้องสักนิด”

เสือเฉไฉไปเรื่องอื่น

“ยังไม่สองเดือนเลย จะให้ท้องโตไปไหน”

นพคุณว่าเสียงขุ่น ยกมือขึ้นกอดอกคล้ายจะปกป้องร่างกายตัวเองจากสายตาของเสือ

“แต่พี่ว่าคุณก็ยังผอมไปอยู่ดี”

เสือมองไปตามร่างกายนพคุณขึ้นๆลงๆเหมือนตั้งใจสำรวจ

“ผอมไปจริงๆนั่นแหละ เท่าที่พี่จำ...โอ๊ย!”

คราวนี้ไม่ใช่แค่ตี นพคุณเตะหน้าแข้งอีกฝ่ายโดยไม่สนว่าเสือตั้งใจจะพูดอะไรต่อ ก็เสือเล่นมองนพคุณอย่างไม่มีเกรงใจกันเลยสักนิด นพคุณจึงต้องลงมือทำร้ายโดยให้ข้อแก้ตัวกับตนเองว่าที่ทำไปก็เพื่อเตือนสติเสือ ไม่ใช่เพราะความโมโหหรือหมั้นไส้สักนิดเลยจริงๆ

ใช่ว่านพคุณไม่รู้ว่าตนเองน้ำหนักลด แต่อย่าลืมว่าเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาล เรียกว่าเพิ่งฟื้นจากไข้ไม่นานก็ว่าได้ นี่ยังไม่นับที่ทุกวันนี้นพคุณยังคงมีอาการคลื่นไส้อาเจียนจนแทบจะกินอะไรไม่ลงอยู่ทุกเช้า ดีว่าหลังจากสายๆแล้วนพคุณก็ไม่ค่อยมีอาการอีกจึงพอกินอะไรได้บ้าง แต่มันก็เพิ่งดีมาไม่กี่วันนี้จะให้เขาน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติได้อย่างไร

“เจ็บนะเนี่ย”

“ทำให้เจ็บ”

“โอเคๆ”

เสือยกมือขึ้นสองข้างอย่างยอมแพ้ก่อนที่จะโดนนพคุณเตะให้อีกที

“จะเที่ยงแล้ว วันนี้มีอะไรกินบ้าง”

นพคุณทำอาหารกินเองทุกวัน แม้จะไม่ได้อร่อยมากแต่ด้วยพอมีพื้นฐานมาจากการเรียนที่โรงเรียนเอกวิทย์รสชาติจึงอยู่ในขั้นใช้ได้ และตั้งแต่ยอมให้เสือเข้ามาในบ้านได้ นพคุณก็ต้องทำอาหารเผื่ออีกฝ่ายตลอด

คราวแรกๆไม่ใช่เพราะเต็มใจ แต่ใครจะไปทนได้เมื่อในขณะที่เรานั่งกิน  กลับมีคนมานั่งทำหน้าอยากกินอยู่ใกล้ๆ  แถมยังทำท่าลูบท้องประกอบให้รู้ว่าหิวเสียอีก  สุดท้ายนพคุณก็ใจอ่อนอีกตามเคย

“ต้มจืด”

กับข้าวที่นพคุณทำมีหนึ่งอย่างบ้าง สองอย่างบ้าง นพคุณทำอะไรง่ายๆเพื่อที่จะไม่ต้องยุ่งยากและยังช่วยประหยัด ถึงเสือจะมากินด้วยและเป็นฝ่ายซื้อของสดเข้ามานพคุณก็ยังเลือกทำแต่อะไรง่ายๆเข้าว่าเหมือนเดิม

มีครั้งหนึ่งนพคุณเคยเห็นพวกหน่วยรักษาความปลอดภัยกินอะไรที่มันดูน่ากินกว่าอาหารที่เขาทำเสียอีก ไม่เข้าใจจริงๆว่าเสือจะมาทนกินของที่เขาทำอยู่ทำไม

“ดีจัง ลูกจะได้ไม่เผ็ด”

เห็นเสือพึมพำแบบนั้นนพคุณก็ทำหน้าเบื่อๆใส่เสือแล้วเดินหนีไปตักต้มจืดใส่ถ้วย เสือเองก็ตามมาช่วยตักข้าว รินน้ำ และจัดโต๊ะเหมือนทุกวัน

“คุณไม่ไปทำงานบ้างหรือไง”

ตอนที่อยู่โรงพยาบาลนพคุณฟังจากมังกรว่าเจ้าตัวมาอยู่ที่โรงเรียนเอกวิทย์เพราะอยากดูแลใกล้ชิดกับลูกที่กำลังจะเกิด มังกรอยู่ที่นั่นเป็นส่วนใหญ่ก็เลยทำให้ไม่ค่อยได้เข้าบริษัทไปแล้วคนหนึ่ง มาตอนนี้เสือยังมาขลุกอยู่ที่นี่เสียอีกคน แถมยังมาอยู่ทั้งวันเหมือนคนว่างงาน นพคุณเห็นเสือดูโทรทัศน์บ้าง อ่านหนังสือบ้าง ไม่เห็นเจ้าตัวจะเอางานมาทำบ้างเลย

“พี่ทำตอนกลับบ้านไง”

“ดึกขนาดนั้น...”

นพคุณเผลอตัวจะท้วงเพราะกว่าเสือจะกลับออกไปจากที่นี่ก็ค่อนข้างดึก แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ควรแสดงให้เห็นว่าตนเองเป็นห่วง...แต่ดูท่าจะไม่ทันเสียแล้ว

เสือทำท่าว่าไม่ทันฟังที่นพคุณพูด หากก็แอบดีใจอยู่ข้างใน ความเป็นห่วงของนพคุณแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวไม่ได้ถึงขั้นเกลียดชังหรือตัดขาดความรู้สึกดีๆไปเลยอย่างที่เสือนึกกลัว

อันที่จริงแค่ที่นพคุณปล่อยให้เสือเข้ามาในบ้านได้แบบนี้ก็นับเป็นสัญญาณที่ดีว่าเสือยังพอจะมีความหวัง

“พรุ่งนี้คุณไม่ต้องมาหรอกนะ”

นพคุณว่าแล้วเงียบไปเหมือนลังเลนิดหน่อยก่อนจะพูดต่อ

“พรุ่งนี้ผมจะไปโรงพยาบาล”

“มีอะไรผิดปกติตรงไหน...”

“ไม่ๆ แค่หมอนัดเฉยๆ”

เห็นเสือตื่นตูมแล้วนพคุณจึงรีบเฉลย

“ไปกี่โมง เดี๋ยวพี่มารับ”

“ผมไปเองได้”

นพคุณปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด แถมน้ำเสียงยังออกตึงๆอยู่สักหน่อยเพราะเหมือนเสือชักจะเข้ามามีส่วนในชีวิตตนมากขึ้นทุกที

“พี่เป็นห่วง ไม่อยากให้คุณขับรถ”

“ผมนั่งรถประจำทางไป”

เสือนิ่งคิด จำได้อยู่เหมือนกันว่าตอนแอบตามนพคุณมาก็เห็นอีกฝ่ายขึ้นรถประจำทางจริงๆ

“อืม ก็ดีเหมือนกันนะ แล้วคุณจะไปกี่โมงล่ะ”

นพคุณแปลกใจเล็กน้อยที่เหมือนเสือยอมถอยง่ายๆ แต่ก็คิดว่าดีแล้วจึงยอมบอกเวลาออกไป

เขาไม่รู้หรอกว่าเสือไม่ได้ยอมถอย เจ้าตัวก็แค่เปลี่ยนจากจะขับรถไปส่งเป็นนั่งรถประจำทางไปด้วยกันกับนพคุณแทนต่างหาก

 

 

TBC

 

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เสือไปเคลียร์เรื่องงานหมั้นให้จบๆ ไปก่อนดีกว่าไหมคะ? เรื่องใหญ่ขนาดนั้นทำเป็นหลับหูหลับตาอยู่นั่นล่ะ แล้วค่อยกลับมาหานพคุณก็ยังไม่สายนะคะ แต่ถ้ายังปล่อยให้เรื่องเรื้อรังอยู่แบบนี้จะเสียมันหมดทุกทางเลยน้า
จิบอกให้...~ o18

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับคุณ ถ้าคนอื่นๆ ที่บ้านคุณรู้ว่าคุณท้อง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด