ตอนที่ 3
“พี่เสือ พาคุณขึ้นไปด้วยสิ”
เด็กชายตัวน้อยเอ่ยขอร้องพี่ชายที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้ที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็สูงเกินกว่าเขาจะขึ้นไปด้วยตนเอง
“คุณต้องจับดีๆนะ”
คนโดนขอร้องกระโดดลงมาอุ้มเด็กชายขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้แล้วพาตัวเองขึ้นไปนั่งด้วยกัน
“ว้าว...”
นพคุณมองทะเลสาบเบื้องหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจ เสือเองมองรอยยิ้มอีกฝ่ายแล้วอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
“ปีหน้าคงไม่ได้มาแล้ว”
นพคุณเอ่ยกับเสือด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ทำไมล่ะ”
เสือเองก็ดูท่าทางอยากให้นพคุณมาเหมือนกันจึงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ หากมีอะไรที่ตนทำได้ก็จะทำเพื่อให้นพคุณได้มาเที่ยวปิดเทอมกับครอบครัวเขาอีก
“ปีหน้าต้องเข้าโรงเรียนประจำ คงไม่ได้มา”
“โรงเรียนไหน”
“โรงเรียนเอกวิทย์ พี่เสือรู้จักไหม”
เสือพยักหน้า เขารู้จักโรงเรียนนั้น แม้จะไม่ได้เข้าเรียนเพราะเขากับพี่ชายไปเรียนโรงเรียนที่มุ่งสอนทางธุรกิจแทน
“พ่อบอกว่าให้ไปอยู่ประจำ ถึงจะต้องทำเรื่องวุ่นวายก็อยากให้ไปอยู่ ปิดเทอมได้กลับบ้านไม่กี่วันคงไม่ได้มาหาพี่เสือ”
โรงเรียนเอกวิทย์ปกติจะสงวนสิทธิ์เด็กประจำไว้สำหรับเด็กกำพร้าเท่านั้น แต่หากคนมีเงินอยากให้ลูกอยู่ประจำก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มหลายเท่า
“อืม ถ้างั้น เดี๋ยวคุณรอพี่ตรงนี้นะ”
“พี่เสือจะไปไหน...”
“พี่ไปไม่นาน รอตรงนี้”
เสือว่าแล้วลงจากต้นไม้ วิ่งฉิวไปทางตัวบ้านอย่างเร่งรีบ แต่มันก็ยังช้ากว่าโชคชะตา ในตอนที่กำลังรอพี่เสือของตนอยู่นั้น นพคุณตัวน้อยก็มองเห็นคนๆหนึ่งที่กำลังตะกุยผิวน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย
“หัดว่ายน้ำหรือ?”
นพคุณถามตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจว่าไม่ใช่ เจ้าตัวกระโดดลงจากต้นไม้ แต่เพราะตัวเล็กและลงผิดท่าข้อเท้าจึงพลิก หากแม้ข้อเท้าจะเจ็บก็ยังฝืนตัววิ่งไปทางคนที่กำลังจะจมน้ำและกระโดดลงไปช่วย ทั้งๆที่เจ็บขา ทั้งๆที่ตัวเล็กกว่า และทั้งๆที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
เสือวิ่งมาถึงตอนนพคุณลากอีกฝ่ายขึ้นมาบนฝั่งได้พอดี
“พี่กร!”
เจ้าตัวรีบวางของที่ถือมาลงแล้วเดินมาปฐมพยาบาลพี่ชายจนอีกฝ่ายกลับมาเป็นปกติ
“ขอบใจนายเสือ”
มังกรลืมตามาเห็นน้องชายก็เอ่ยหอบๆ ก่อนจะมองไปทางเด็กชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆน้องชาย
“ขอบใจคุณด้วย”
มังกรไม่ได้สนิทกับนพคุณเท่าเสือ แต่ก็พอรู้จักกัน ตอนนี้เองที่นพคุณเพิ่งรู้สึกโล่งใจจริงๆ เจ้าตัวทรุดลงแล้วร้องไห้โฮ ทั้งเหนื่อยเพราะการช่วยคนอื่นขึ้นจากน้ำทั้งที่ตัวเองตัวเล็กกว่ามาก ทั้งเจ็บขาแล้วยังตกใจมากด้วย เสือผละไปกอดปลอบนพคุณไว้ ถามจนแน่ใจว่านพคุณเจ็บแค่ที่ขาแล้วก็ให้อีกฝ่ายขี่หลังกลับบ้าน
“พี่ให้”
หลังจากอาบน้ำและประคบที่ขา เสือก็ยื่นสมุดวาดภาพของตัวเองให้นพคุณ ข้างในมีรูปนพคุณในอิริยาบถต่างๆเต็มไปหมด เจ้าตัวเห็นแล้วก็ยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
“คุณจะเก็บอย่างดีเลย ขอบคุณมากนะพี่เสือ”
เสือเองก็ยิ้มกว้างไม่ต่างกัน ใครจะรู้เลยว่าหลังจากนั้นทุกๆอย่างจะเปลี่ยนไป
มังกรเริ่มเข้ามาคลุกคลีกับนพคุณมากขึ้น ทางเสือกลับคล้ายจะถอยห่างแล้วพาตัวเองไปสนิทกับนพเก้าแทน นพคุณไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เสือไม่มาชวนตัวเองไปเที่ยวเล่นแต่กลับไปนั่งอ่านหนังสือกับนพเก้า แต่เพราะไม่อยากอิจฉาน้องจึงทำเฉยๆและเลือกไปเที่ยวเล่นคนเดียว
เด็กชายตัวน้อยวิ่งเล่นไปโน่นมานี่คนเดียว พยายามปีนต้นไม้ที่ปกติจะอ้อนพี่เสือให้อุ้มขึ้น ได้แผลมากมายแต่ก็ไม่ได้บอกใครเพราะไม่มีพี่เสือให้อ้อนอีกแล้ว เจ้าตัวเล่นต่อสู้กับต้นไม้ เล่นไล่จับกับลมกับผีเสื้อ นอนคุยกับต้นหญ้า เล่นน้ำกับปลา และร้องเพลงกับตัวเองคนเดียว เดินเล่นจนไปเจอที่เหมาะจึงหากิ่งก้านต้นไม้มาสร้างฐานทัพเอาไว้ ตั้งใจจะอวดพี่เสือ... แต่พี่เสือก็ไม่เคยออกมาด้วยอีก บางครั้งที่ออกมาก็จะจูงมือนพเก้ามาด้วย นพคุณได้แต่เดินตามหลังอยู่ห่างๆ จึงไม่ได้โอกาสบอกพี่เสือสักที
เขาเข้าไปเล่นในฐานทัพลับคนเดียวจนชิน บางครั้งก็ร้องไห้น้อยใจพี่เสือ แต่นพคุณก็ไม่เคยเอ่ยให้ใครฟัง เขาไม่ชอบเป็นตัวอิจฉาและนพเก้าก็เป็นน้องชาย
หลายวันเข้าเขาก็เข้าใจและเลิกหวัง พี่เสือมีน้องชายคนใหม่แล้ว นพคุณไม่สำคัญอีก แต่เพราะรักทั้งพี่เสือและนพเก้า แม้จะเหมือนน้องมาแย่งพี่เสือไป นพคุณก็ไม่โวยวายเขาได้แต่เสียใจอยู่เงียบๆ
ช่วงเวลาหน้าร้อนที่เหลือ นพคุณพาตัวเองออกจากบ้านแต่เช้าไปนั่งในฐานทัพลับ นั่งดูสมุดภาพที่พี่เสือวาดให้อยู่คนเดียว ยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อคิดถึงคนที่วาดรูปพวกนั้นให้ บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง ไม่เป็นไรถ้าพี่เสือจะรักน้องมากกว่าเพราะนพคุณได้สมุดภาพนี้มาแล้ว
ทั้งๆที่บอกตัวเองอย่างนั้นแต่นพคุณก็ยังเผลอร้องไห้ออกมาทุกที
และหลังจากหน้าร้อนครั้งนั้น นพคุณกับเสือก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย
.................................................
“บ้าจริง!”
นพคุณด่าตัวเองเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วน้ำตานองหน้า เรื่องในวัยเด็กนพคุณไม่อยากจะจำแต่กลับไม่เคยลืมได้เลย
“ฝันถึงอีกแล้ว หรือจะคิดผิดที่มาที่นี่”
ฐานทัพลับของนพคุณ ตอนนี้กลายเป็นกระท่อมหลังน้อยๆที่สามารถพักอยู่ได้แม้ไม่สะดวกสบายเท่าที่คอนโดแต่ก็สามารถพักอาศัยอยู่ได้ ที่ดินตรงนี้ที่จริงเป็นของตระกูลเทพไทย แต่เพราะนพคุณไปอ้อนขอแม่ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับแม่ของมังกรและเสือ ทำให้เขาได้ที่ดินตรงนี้มาอย่างง่ายดาย
‘ของหมั้น’
จำได้ว่าแม่ของมังกรเคยบอกไว้อย่างนั้นเพราะคิดจับคู่นพคุณกับมังกรมานานแล้ว แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายพูดเล่นๆ ประมาณว่าถ้ารักกันได้ก็ดี แต่ถ้าไม่รักกันก็ไม่เป็นไร เป็นแม่นพคุณเสียอีกที่จริงจังกับเรื่องนี้มาก ถึงขั้นโทรไปวานให้มังกรเอาโน่นเอานี่ไปให้นพคุณบ่อยๆที่โรงเรียนเอกวิทย์
ตอนนั้นพอเริ่มโตนพคุณก็เริ่มอคติกับแม่ เขาคิดไปเองว่าแม่ชอบมังกรเพราะมังกรรวย มีชื่อเสียง แต่ความจริง แม่เขียนไว้ในไดอารี่ว่าอยากให้นพคุณรักกับมังกรเพราะมั่นใจว่ามังกรต้องสามารถดูแลนพคุณได้ไปตลอดชีวิต และมังกรก็เป็นลูกของเพื่อนสนิทของแม่ด้วย
แต่คิดไปตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้วทั้งเรื่องของแม่และเรื่องของมังกร...รวมไปถึงเรื่องของเสือ
นพคุณลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปล้างหน้า เขากินอาหารเช้าอย่างเหม่อลอย โทรทัศน์ที่เปิดไว้เป็นเพื่อนฉายการ์ตูนเก่าตั้งแต่สมัยเขายังไม่เกิดแต่นพคุณก็ไม่ได้สนใจ
หลังจากเขี่ยข้าวไปมาอยู่นานสองนาน นพคุณก็ตัดสินใจเลิกกิน เจ้าตัวเดินเอาจานไปล้างก่อนจะไปนอนบนโซฟา บอกตัวเองให้เลิกหดหู่ เลิกเสียใจ แต่มันก็ทำไม่ได้
“ใครมาเห็นคงได้หัวเราะเยาะ”
นพคุณว่าตัวเอง บนฝาผนังบ้านเต็มไปด้วยกรอบรูปซึ่งเป็นสำเนารูปวาดที่เสือเคยวาดให้เมื่อตอนเด็กอยู่เต็มไปหมด ตอนมาถึงนพคุณอยากเอาลงมาทิ้ง แต่เมื่อคิดได้ว่า รูปเหล่านี้เป็นความทรงจำที่สวยงามระหว่างตนเองกับพี่เสือที่แสนดีเมื่อครั้งเก่าเขาก็ตัดใจทิ้งไม่ลง แม้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่อดีตมันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“บ้าจริงๆ”
ด่าตัวเองเสร็จก็เดินขึ้นห้องนอน นพคุณนอนเพื่อให้เวลามันหมดไป แม้การนอนจะทำให้ฝันถึงเรื่องไม่ดีบ้าง แต่บางครั้งเขาก็ฝันดีเหมือนกัน ยามเมื่อหลับตาลงนอน เขาก็ได้แต่หวังว่าคราวนี้จะฝันดีอีกสักครั้ง
.................................
“พี่คุณไม่ได้มาที่บ้านนะครับ”
นพเก้าบอกเสือพร้อมทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ เมื่อวันก่อนเสือยังเป็นคนพาเขาไปห้องของนพคุณเองแท้ๆ ทำไมวันนี้กลับมาถามหานพคุณที่นี่
หลายวันนี้นพเก้ายุ่งๆกับแม่เพราะท่านเข้าโรงพยาบาลจึงไม่ได้แวะไปคอยนพคุณอย่างเคย
“พี่คุณไม่อยู่ที่ห้องหรือครับ”
เสือส่ายหน้า ไม่รู้ควรบอกดีไหมว่านพคุณหายไปตั้งแต่เมื่อสามวันที่แล้ว
“มีที่ไหนที่เขาจะไปได้บ้างไหม”
นพเก้าคิดก่อนจะจดสถานที่ทั้งหมดที่คาดว่านพคุณจะไปให้เสือ
“ทะเลาะกันหรือครับ”
นัตย์ตาหรี่ลงอย่างจับผิด เสือไม่ได้ตอบเพียงแค่กล่าวขอบใจแล้วตั้งใจจะกลับ เสือไม่อยากเจอใคร ไม่อยากตอบคำถาม แต่ก็ยังเจอกับน้องชายคนเล็กของบ้านก่อนขึ้นรถขับออกไปอยู่ดี
“คุณมาทำไม”
นพสินไม่เคยญาติดีกับเสือมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายจึงตั้งแง่กับตนทั้งที่ตนก็เอ็นดูเจ้าตัวไม่ต่างจากที่เอ็นดูนพเก้า
“พี่เสือมาหาพี่คุณน่ะสิน”
นพเก้าที่เดินตามมาส่งเสือบอกน้องชาย เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องชายคนเล็กถึงได้ทำท่าเหมือนไม่ค่อยชอบเสือ
“พี่คุณไปไหน”
นพสินไม่ได้ถามพี่ตัวเอง เขาจ้องหน้าเสืออย่างเอาเรื่อง...ราวกับรู้ หากเสือก็ไม่ได้กลัวท่าทางคุกคามของอีกฝ่ายเลยสักนิด เขายังไม่ทันตอบอะไรพ่อกับแม่ของนพเก้าก็พากันออกมาดูพอดี
“อ้าวตาเสือ มาหาน้องเก้าเหรอลูก”
เสือไหว้ผู้อาวุโสทั้งสอง ก่อนจะตอบคนถาม
“ผมมาตามหานพคุณครับคุณป้า ไม่ทราบว่าคุณป้ากับคุณลุงเห็นบ้างไหม”
“คงไปเที่ยวเล่นตามประสาเขาแหละ เสือมีอะไรหรือเปล่า”
เป็นพ่อของนพคุณที่เอ่ยตอบ ท่าทางไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจใดๆกับคำถามที่เหมือนว่าลูกชายคนโตหายไป
“ไม่ครับ ผมติดต่อไม่ได้ เลยมาถามดู”
“เดี๋ยวเบื่อๆเขาก็กลับมาเอง ถ้าไม่มีอะไรด่วนเสือก็รอสักพักแล้วกัน”
เสือยิ้มบางๆแม้จะแอบไม่พอใจกับการไม่เอาใจใส่ของพ่อที่ควรมีต่อลูก แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออก
“วันนี้กินข้าวด้วยกันนะตาเสือ ฉลองป้าออกจากโรงพยาบาล”
จากที่ตั้งใจกลับ เสือจึงต้องรับปากอยู่รับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวของนพคุณเสียแทน
อาหารมื้อนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศของครอบครัวสุขสันต์ ทั้งที่ไม่มีนพคุณอยู่แต่เหมือนกับว่าจะไม่มีใครสนใจ ครอบครัวดูเป็นครอบครัว...สมบูรณ์แบบราวกับสมาชิกครบถ้วน แล้วนพคุณเล่า เสือคิดแล้วก็ยอกในอกนัก ที่นี่ไม่ใช่ที่ของนพคุณเลย เขาชักไม่แปลกใจที่นพคุณต่อต้านและไม่ยอมกลับมาบ้านเสียแล้ว
..............................
“คุณทำอะไรพี่ชายผม”
วันถัดมาคนที่บุกมาหาเสือถึงที่ทำงานคือน้องชายคนเล็กของบ้าน นพสินมีท่าทางร้อนใจและเหมือนจะโทษเสือเต็มที่ เจ้าตัวยืนจ้องเขาเขม็ง รูปร่างที่สูงใหญ่ผิดจากพี่ๆทั้งสองทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าใครในบรรดาพี่น้องทั้งที่อายุน้อยที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ดูน่าเกรงขามพอในสายตาเสือ
“ทำไมไม่ถามพี่เสียตั้งแต่เมื่อวาน”
เสือไม่ไว้ใจอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย เมื่อวานนี้นพสินไม่ได้มีท่าทีสนใจในเรื่องของนพคุณนัก อย่างน้อยๆเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อกับแม่ก็ไม่ได้เอ่ยถึงอีกฝ่ายเลยสักคำ
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“งั้นพี่คงบอกสินไม่ได้”
“งั้นก็อย่าหวังจะรู้เลยว่าพี่คุณอยู่ที่ไหน”
เสือหัวเราะในลำคอ
“อย่ามาลักไก่เลย สินไม่รู้จริงๆหรอก ถ้ารู้คงไม่มาถามเอากับพี่ สินคงไปถามเอากับคุณเขาแล้ว”
นพสินได้แต่เจ็บใจที่อีกฝ่ายดันพูดถูก
“ถ้าพี่คุณเป็นอะไรไป ผมไม่เอาคุณไว้แน่”
ว่าแค่นั้นแล้วเจ้าตัวก็ถอยกลับไป นพสินไม่ได้ความอะไร เสือเองก็ไม่ได้ความอะไรเหมือนกัน
“ห่วงจริงหรือแค่มีแผนก็ไม่รู้”
เสือพูดเมื่อเห็นสายตาหลุกหลิกระวังตัวแจของนพสินเมื่อครู่นี้ ท่าทางคล้ายไม่มั่นใจ คล้ายกำลังทำผิดหรือปกปิดอะไรสักอย่างไว้ เสือพลิกเอกสารที่ต้องจัดการแผ่นเดิมอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะยอมรับว่าสมาธิไม่มี เขาต่อโทรศัพท์ไปยังคนสนิทเพื่อให้ช่วยสืบเรื่องราวให้ บางที...คนที่มองไม่ลึกพออาจจะไม่ใช่แค่มังกรคนเดียว...
........................................
มังกรเข้าพักที่โรงเรียนเอกวิทย์ได้หลายวันแล้ว เจ้าตัวแค่โทรไปบอกน้องชายว่าสบายดีและให้ยกเลิกงานแต่งอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้น แล้วก็ไม่เคยติดต่ออีกฝ่ายอีกเลย ใช่ว่าไม่รู้ว่าจะทำให้น้องเป็นห่วง แต่มังกรยังไม่มีใจจะพูดหรือชี้แจงอะไรกับใครทั้งนั้น
“อุ้มแบบนั้นลูกก็คอหักพอดีสิครับคุณมังกร”
เพียวว่าเมื่อเห็นท่าทางอุ้มลูกน้อยของมังกร เนื่องจากมังกรไม่ได้มาลงทะเบียนคอร์สอบรมการเป็นคุณพ่อมือใหม่ตามระยะเวลาที่กำหนด เมื่อเกิดอยากจะเรียนขึ้นมา เพียวจึงกลายเป็นครูจำเป็นให้อีกฝ่ายแทนอย่างช่วยไม่ได้
“ผมไม่เคยอุ้มเด็ก”
ไม่ต้องบอกเพียวดูก็รู้อยู่แล้ว เขาจึงสาธิตการอุ้มให้ดูใหม่อีกครั้ง
“คุณน่าจะชวนแฟนคุณมาเรียนด้วยกัน”
“เขาจบจากที่นี่ ผมคิดว่าเขาน่าจะอุ้มเป็นอยู่แล้ว”
เพียวพยักหน้า ส่งตุ๊กตาให้มังกรหัดอุ้มอีกครั้ง เขาคิดว่าถ้าหากจบจากที่นี่จริงก็คงจะอุ้มและเลี้ยงเด็กเป็นจริงๆอย่างที่มังกรว่า มังกรไม่ได้ขยายความ เพียวจึงคิดเองเออเองว่าแฟนของมังกรคงเป็นเด็กเอกวิทย์ที่ไม่ใช่แผนกตั้งครรภ์ เพราะถ้าอีกฝ่ายท้องได้คงไม่มาจ้างเขา อีกอย่างเขาก็คุ้นหน้าแฟนมังกรแต่จำไม่ได้ ถ้าไม่ใช่นักเรียนแผนกเดียวกันแต่เรียนโรงเรียนเดียวกันก็สามารถอธิบายได้พอดี
“ขอตัวสักครู่”
มังกรเอ่ยกับเพียวเมื่อโทรศัพท์เบอร์ฉุกเฉินของเขาดังอยู่ที่อีกฟากของห้อง
“ว่าไง”
มังกรถามเพราะคนที่โทรเข้ามาคืออินท์เลขาและลูกน้องคนสนิท
“คุณเสือท่าทางแปลกๆ แถมยังตามหาตัวคุณนพคุณให้ควั่ก คำสั่งคุณกรหรือเปล่าครับ”
มังกรนิ่วหน้า เสือตามหานพคุณ เท่ากับว่านพคุณหายตัวไป
“แล้วนพคุณเขาหายไปไหน”
“ไม่ทราบนะครับ เห็นว่าหายไปเมื่อสามวันที่แล้ว คุณเสือท่าทางร้อนรนมาก นี่เพิ่งสั่งให้พ่อผมสืบประวัติของบ้านนั้นอย่างละเอียดด้วยนะครับ”
มังกรพิจารณาเรื่องอยู่เงียบๆ น้องชายของเขาไม่ได้ชอบพอกับนพคุณมากพอจะต้องเป็นห่วงเป็นใย ถ้าเป็นนพเก้าก็ว่าไปอย่าง
“เพราะนพเก้าขอร้องหรือเปล่า”
“ไม่น่าใช่นะครับ เท่าที่ผมทราบ คุณเสือไม่ได้ติดต่อคุณเก้าเลยยกเว้นเมื่อวานที่ดูท่าจะไปตามหาคุณนพคุณที่บ้าน”
“คุณเขาเหมือนตัวคนเดียว หายไปแบบนี้คงตามหาลำบากหน่อย”
ไม่ใช่ไม่ร้อนใจ แต่มังกรกำลังคิดเรื่องน้องชายมากกว่าอดีตคนรัก นพคุณแม้จะชอบทำตัวประชดประชัน แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยทำร้ายตัวเอง หากการหายไปนี้เป็นไปตามความต้องการของเจ้าตัว นพคุณก็คงยังสบายดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก แต่ถ้าหายไปเพราะโดนคนอื่นทำร้ายก็คงแย่
“เดี๋ยวฉันจะโทรหานายเสือเอง”
“ครับคุณกร”
ท่าทางอินท์โล่งอกอย่างเห็นได้ชัด มังกรไม่อยู่เพราะหลบไปทำใจเรื่องนพคุณ เสือก็เอาแต่ตามหานพคุณจนแทบไม่ทำงานทำการ...อินท์ไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนโลกจะหมุนรอบตัวคนๆนั้น เขาอดรู้สึกไม่ได้ว่านพคุณเป็นอิทธิพลด้านลบ
“อินท์ คุณเค้าน่าสงสารมากนะ อย่าคติกับเขานักเลย”
คนโดนรู้ทันความคิดแอบกลั้นหายใจ มังกรต้องรู้แน่ๆว่าที่เขาโทรมาเพราะกลัวว่าเสือจะตกหลุมนพคุณถัดจากมังกร
“ครับ ผมจะพยายามไม่อคติแล้วกัน”
มังกรก็ได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆ แต่ก็คงยากเพราะในสายตาอินท์ นพคุณไม่ใช่คนดีและไม่น่าคบ ด้วยอินท์เพิ่งรู้จักนพคุณและนพคุณก็ไม่ได้ทำตัวดีนักต่ออีกฝ่าย อันที่จริงต้องบอกว่ากับอินท์แล้วนพคุณร้ายใส่มากๆเลยด้วยซ้ำ...ซึ่งมังกรก็ไม่รู้ว่าทำไม
เขาวางโทรศัพท์จากเลขาแล้วต่อสายหาน้องชาย ...โทรไปสามครั้งสายไม่ว่างทั้งสามครั้ง มังกรคิดว่าเสือคงกำลังคุยธุระ ที่คงหนีไม่พ้นเรื่องนพคุณ เขากำลังจะต่อสายหาเสืออีกครั้งอีกฝ่ายก็โทรกลับมาเสียก่อนแล้ว
“พี่มังกรมีอะไรหรือเปล่าครับ”
น้ำเสียงของเสือเหมือนตั้งความหวังและก็เหมือนไม่อยากหวังไปด้วยพร้อมๆกัน เสืออยากให้มังกรโทรมาเพื่อบอกข่าวนพคุณ แต่อีกใจก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเพราะมันเท่ากับนพคุณไว้ใจมังกรมากกว่าเขา
“เห็นว่านายตามหาคุณเขา มีอะไรหรือเปล่า”
เสือไม่แปลกใจที่พี่ชายรู้เรื่อง เครือข่ายของเขาก็เป็นเครือข่ายของพี่ชายด้วย
“เขาหายไป”
“นายรู้ได้ยังไงนายเสือว่าคุณเขาหายไป ไม่ใช่ไปเที่ยวเล่น”
เสือถอนหายใจ เขาไม่อยากเล่าให้พี่ชายฟังเพราะเรื่องของพี่ชายกับนพคุณจะว่าจบกันแล้วก็พูดได้ไม่เต็มปาก เสืออยากมั่นใจเสียก่อนแล้วค่อยเล่า
“ถ้านายพร้อมมาหาพี่โรงเรียนเอกวิทย์ เสือ...ถ้านายไม่บอกพี่ พี่ก็ไม่สามารถช่วยนายได้”
มังกรกดวางโทรศัพท์ เขาเดินไปทางสวนไม่ได้กลับเข้าไปเรียนอย่างที่ควร
สวนตอนสายมีคนเล็กน้อยเพราะยังไม่ถึงเวลาพัก คนส่วนใหญ่จึงยังทำงานกันอยู่ มังกรทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งที่อยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ เขามองไปทางน้ำพุแล้วนึกถึงตอนสมัยที่เขาเจอนพคุณครั้งแรก
เด็กผู้ชายตัวน้อยที่ตอนแรกเขากับเสือนึกว่าเป็นเด็กผู้หญิง ท่าทางเขินอายยามต้องแนะนำตัวเองกับพวกเขา มังกรไม่ได้คิดอะไรแค่คิดว่าน่ารักดี ต่างจากเสือที่ดูจะถูกใจน้องคนนี้มาก จากนั้นตลอดเวลาที่พักอยู่ที่บ้านพัก เขาก็จะได้เห็นนพคุณเดินตามเสือต้อยๆชนิดที่ว่าเห็นเสือที่ไหนเป็นต้องเห็นนพคุณที่นั่น ทั้งสองคนสนิทกันมาก จนกระทั่งมีนพเก้าเข้ามา...แล้วเสือก็หันไปให้ความสนใจกับน้องชายคนใหม่แทน...
ไม่สิ
มังกรหยุดคิดเพราะบางสิ่งไม่ถูกต้อง
เขาลองนึกทบทวนดูใหม่แล้วก็นึกได้ว่าตอนที่นพเก้าเข้ามาแรกๆ เสือกับนพคุณก็ยังสนิทกับเหมือนเดิม...จนกระทั่ง...จนกระทั่งเขาตกน้ำแล้วนพคุณมาช่วย!
มังกรหงุดหงิดตัวเองที่ลืมเรื่องพวกนี้ไป บางทีใจเขาคงรู้อยู่แล้วแต่ทำเป็นไม่รู้และลืมมันไปเพราะอยากให้เรื่องมันเป็นเพราะเสือหันไปสนใจนพเก้า ไม่ใช่เพราะตนเองมีทีท่าสนใจนพคุณจนเสือยอมหลีทางให้! ไม่ว่าจะเพราะเจ้าตัวเต็มใจหลีกทางหรือเป็นเพราะแม่ขอร้องเขาก็ทำเป็นไม่รับรู้และรับความหวังดีเหล่านั้นมา
มังกรยอมรับว่าตัวเองเห็นแก่ตัว ตอนนั้นเขายังเด็ก เสือก็ยังเด็ก นพคุณยิ่งเด็กมากๆ เขาไม่มองไม่คิดว่าความรู้สึกของทั้งสองคนจะมีอะไรกว้างไกลไปกว่าพี่น้องหรือเพื่อนเล่น...ซึ่งในตอนนั้นมันก็เป็นเพียงแค่นั้นจริงๆ เพียงแต่ว่ามันยังเป็นความผูกพันที่พร้อมจะพัฒนาหากไม่มีใครเข้าไปแทรก
‘นายคงไม่ได้รักเขาหรอกนะเสือ’
มังกรยังจำได้ วันนั้นก่อนเสือจะเอาเอกสารเรื่องของนพคุณให้เขาดู เขาถามน้องชายไปอย่างนั้น
เขาจำได้ว่าเสือหัวเราะ...แต่หลบตาและไม่ตอบเขากลับมาว่ารักหรือไม่รัก
นี่หรือเปล่าคือเหตุผลที่เสือมักว่ากระทบกระเทียบนพคุณทุกครั้งเวลาเจอหน้า ว่าๆนพคุณไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้...ไม่ใช่เพราะไม่พอใจหรือรังเกียจ แต่เพราะโกรธและผิดหวังที่นพคุณเกเรอย่างนั้นใช่หรือเปล่า
“คุณมังกร”
มังกรหันกลับมามองคนที่แตะบ่าเขาเบาๆและส่งเสียงเรียก
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
มังกรไม่ตอบ เขาจับมือของอีกฝ่ายแล้วประคองกลับเข้าไปในอาคาร แดดร้อนๆไม่เหมาะกับคนท้องหกเดือน และเรื่องของเขาก็ไม่เหมาะจะเล่าให้เพียวฟัง
“ปัญหาของน้องผมนิดหน่อย เมื่อครู่นี้คุณสอนถึงไหนนะ”
มังกรบอกตัวเองว่าเขาไม่ใช่เจ้าของนพคุณอีกแล้ว และเขาต้องทำใจให้กว้างมากๆ
มันคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องถอยออกมาและเป็นฝ่ายหลีกทาง...หลีกทางให้คนที่ควรอยู่เคียงข้างนพคุณมาตั้งแต่แรก เขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าเขาจะยอมหลีกทางให้หากเสือกล้าพอจะมาพูดกับเขาตรงๆ
...........................
มีต่อค่ะ