Ch 60 เปิดเทอมอลเวง 2 || ปั้นสิบกูคิดถึงมึง ,, ภาคินแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ T^T
ทำไมแต่ละวันแม่งมันนานแบบนี้ ,,
ผมนอนคิดถึงไม้ฉากไปเรื่อยๆจนเกือบ ห้าทุ่มม๊าก็โทรมาหา
ม๊า :: ว่าไงครับเปิดเทอมวันแรก สนุกไหมลูก
ผม :: ก็สนุกดีครับม๊า แล้วนี้ม๊าจะกลับมาวันไหน ไม่คิดถึงบ้านเราหรอครับม๊ากับป๊าไปอยู่สิงคโปร์ไม่กลับบ้านที่อีสานเลยครับ
ทิ้งงานให้ลูกน้องทำ - -‘
ม๊า :: อีก 2 วันม๊ากับป๊าจะกลับไปละครับ เออนี้ เดี๋ยวคุยกับป๊านะลูกเสียงม๊าผมเรียกให้ป๊ามาคุยโทรศัพท์กับผม
ป๊ากับม๊าก็ยังเป็นคู่รักที่สวีตกันเหมือนเดิมครับ
ปกติม๊าชอบเรียกป๊าว่าเฮียหมู แต่คือป๊าผมไม่ได้ชื่อหมูนะครับ ป๊าผมแค่อ้วนเหมือนหมู 555+
ส่วนป๊าก็จะเรียกม๊าว่าเจ๊ไก่ และม๊าผมก็ไม่ได้ชื่อไก่ครับ แต่ม๊าผมชอบบ่น ชอบจิก ชอบกัดเหมือนไก่
สักพักป๊าก็มาพูดสายแทนม๊า
ป๊า :: ว่าไงตัวแสบ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม
ผม :: เรียบร้อยสิครับ นี้ผมปั้นสิบนะครับพ่อ เก่งทุกอย่างอยู่แล้ว
ป๊า :: เจอหลานเราบ้างหรือยังลูก ลุงธีระกำลังกลับเมืองไทยนะ พรุ่งนี้บ่ายๆน่าจะถึง
ผม :: เจอครับ วันนี้ก็เจอ ตัวใหญ่ ผิวขาวเชียวครับ ปั้นว่าจะไปหาที่ห้อง แต่ปั้นเพลียๆเลยไม่ได้ไป
ป๊า :: ยังไงปั้นช่วยดูหลานเราดีๆนะ เห็นลุงธีระบอกว่าพวกลูกน้องทางเมืองไทยแจ้งมาว่า
ทีชเชอร์มีอาการป่วยเหมือนโชกุนตอนเด็กๆ
ผม :: งั้นก็ต้องผ่าตัดนะสิครับป๊า ปั้นสงสารหลานจังเลยครับ
ป๊า :: เรื่องนี้ป๊าก็ยังไม่ทราบรายละเอียดเท่าไหร่ แต่ยืนยันจากทางโรงพยาบาลบอกว่าเป็นโรคเหมือนโชกุนนะ
ยังไงปั้นก็ลองดูห่างๆนะลูกนะ
ผม :: ได้ครับป๊า ตอนนี้ปั้นก็เริ่มจะสนิทกับแฟรงค์มากขึ้นละครับ ได้คุยเรื่องหลานบ้างแล้ว
ป๊า :: แล้วทางนั้นเค้าดูรักหลานเราไหม
ผม :: เค้ารักทีชเชอร์มากเลยครับป๊า อะไรๆก็พูดถึงลูกตลอด
แล้วทีชเชอร์เองก็ร่าเริงมากๆครับ พวกเค้าจะเป็นแบบที่ลุงธีระบอกเราหรอครับ
ไม่ใช่ว่าพวกเราเข้าใจผิดมาตลอดนะครับป๊า
ป๊า :: ไม่หรอกลูก ลุงธีระไม่โกหกเราหรอก ก็ดูไปเรื่อยๆ แล้วนี้คนของลุงธีระเอาของใช้ไปให้บ้างไหม
ผม :: เอามาให้ครับ ของกินของใช้ผมมีครบเลยครับป๊าไม่ต้องห่วงนะ
ป๊า :: โอเคลูก ดูแลตัวเองดีๆ แล้วอีก 2-3 วัน ป๊าจะไปหานะ ส่วนลุงธีระพรุ่งนี้คงจะไปหาปั้น
ยังไงคอยดูโทรศัพท์ไว้ละเผื่อลุงเค้าโทรหาจะได้รับสายทัน
ผม :: ครับป๊า งั้นปั้นขอไปอาบน้ำนอนก่อนนะครับ
ป๊า :: ฝันดีนะลูก ป๊ากับม๊ารักปั้นนะครับ
ผม :: ปั้นก็รักป๊ากับม๊าที่สุดเลยครับ
ป๊าส่งเสียงหัวเราะออกมานิดหน่อยก่อนจะวางสายไป
เห้อออ ,, ลุงธีระจะมาหางั้นหรอ?
ก็ดีนะมีเรื่องให้คิดเยอะดี จะได้ไม่ต้องคอยแต่คิดถึงไม้ฉาก แล้วเอาแต่ร้องไห้
ช่วงที่รอไม้ฉากมาหา ก็มาเคลียร์ปัญหาให้โชกุนดีกว่า : )
พอคิดได้แบบนั้นผมก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะรีบเข้านอน
พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาละไปเล่นกับหลานที่ห้องข้างๆ
เช้าวันต่อมา ลุงธีระโทรมาปลุกผมแต่เช้าเลยครับ T^T
ทั้งๆที่วันนี้ผมมีเรียนสายแท้ๆ ,, ผมงัวเงียตื่นมารับสาย
ผม :: สวัสดีครับลุงธีระ
ลุงธีระ :: เจ้าปั้น ลุงกำลังกลับเมืองไทยนะ ลุงซื้อรถให้เราไว้ขับไปมหาลัย เราขับรถเป็นใช่ไหมรถ?!!
ตาโตเลยสิครับได้ยินคำนี้
ผม :: เป็นครับลุง
ลุงธีระ :: คนของฉันเอากุญแจรถมาฝากไว้ที่ล๊อบบี้ข้างล่าง
รีบตื่นแล้วลงไปดูรถละ เป็นของขวัญจากลุงนะขอให้ตั้งใจเรียน อย่าทำให้พ่อแม่ต้องผิดหวังนะลูก
ผม :: ขอบคุณครับลุง
ลุงธีระ :: แล้วเย็นๆลุงโทรหาลูก
ผม :: ครับพอลุงธีระวางสายไป ผมก็รีบไปล้างหน้าล้างตาเลยครับ
ไม่ต้องอาบหรอกน้ำอะ 55 ขอลงไปดูรถก่อนละกัน >////<
ผมลงมายังล๊อบบี้ข้างล่าง พี่พนักงานประจำเค้าท์เตอร์ก็ส่งกุญแจรถ
และบอกว่ารถจอดชั้นไหนตรงไหนให้ผมทราบ
ผมก็ตรงดิ่งไปที่จอดรถเลยครับ แล้วก็เห็นรถ honda brio amaze สีเงินเมทัลลิก
อยากจะร้องตะโกนดังๆ ,, มันสวยมากครับ
ราคาไม่แพงเว่อร์มาก และไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป
ถ้ามีรถแบบนี้แล้ว ผมขับไปโคราชก็ได้
ใช่ไหม??การไปเยี่ยมไม้ฉากที่โรงเรียนตำรวจ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้ว >/////<
ขอบคุณครับคุณลุง ..
ผมยืนชื่นชมรถใหม่ของผมอยู่สักพักก่อนจะขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเรียน
แต่ก็ไม่ได้เอารถคันใหม่ออกไปนะครับ 5555+ ขอลองขับให้ชินก่อนดีกว่า
ที่จอดรถที่มหาลัยยังไม่รู้ว่าอยู่ตึกไหน กลัววนหาที่จอดไม่เจอ
วันนี้ผมก็ไปเรียนและร่วมรับน้องตามปกติ
แต่รับน้องไม่นานครับ เพราะพี่ว๊ากปี 3 ไม่มา
ทำให้พี่ๆปี 2 ไม่ได้เข้มงวดกับพวกผมมากนัก
พอพี่ๆปล่อยตัวจากรับน้องแล้ว แฟรงค์ก็รีบกลับห้องก่อน เพราะทีชเชอร์งอแง
พี่เลี้ยงโทรมาบอกว่าให้รีบกลับไปดูหน่อย เวลาทีชเชอร์งอแงจะไม่เอาใครเลย
นอกจากพี่เจกับแฟรงค์
หื้มมม ,, ท่าทางติดพ่อมากๆเหมือนกันนะเนี้ยทีชเชอร์
ถ้าโชกุนหายแล้วมาเลี้ยงลูกได้เอง ,, คงดีเหมือนกันนะ
ได้อยู่กับทีชเชอร์ทั้งวัน ,, โชกุนคงมีความสุขมากแน่ๆ : )
ผมนั่งรถกลับมาถึงห้อง ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมจะออกไปลองขับรถเล่น
คิดว่าจะไปหาไนซ์ที่ห้องซะหน่อย เพราะไม่เคยไปห้องใหม่ของไนซ์เลย
แต่ระหว่างที่กำลังเตรียมกระเป๋าเงินอยู่ แฟรงค์ก็มาเคาะประตูห้อง
“ปั้นสิบ อยู่ไหม ปั้นสิบ”หื้มม ,, แปลกแหะ อยู่ข้างห้องกันมานานแล้วแท้ๆไม่เคยมาเคาะห้อง
หรือว่าทีชเชอร์เป็นอะไรหรือป่าวนะ?
“อยู่ๆ รอเดี๋ยวนะแฟรงค์”ผมพูดเสร็จก็รีบหยิบกระเป๋าเงิน นาฬิกา กุญแจรถ โทรศัพท์ แล้ววิ่งไปเปิดประตูให้แฟรงค์
“มีอะไรหรือป่าว .. ว่าไงครับตัวเล็ก งอแงหรอครับ”แฟรงค์อุ้มทีชเชอร์มายืนอยู่หน้าห้องผม
ท่าทางทีชเชอร์งอแงจริงๆครับ หน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้มเลยครับ
“งอแงมากเลยละปั้น เรากำลังจะพยายามเอานอนนะ
แต่เราต้องไปรับอุ่นที่หน้าคณะบัญชี ปั้นไปรับให้เราหน่อยได้ไหม เราไหว้ละนะ ช่วยเราหน่อย”ไปรับทำไมวะ? พี่ยิมก็อยู่นี้
เอ๊ะ ,, แต่จะว่าไปวันนี้ไม่เห็นพี่ยิม - -‘
“อ่อๆได้สิ หน้าคณะใช่ไหม งั้นแฟรงค์พาทีชเชอร์กลับห้องเถอะ เดี๋ยวเราไปรับให้”แฟรงค์รีบยกมือขอบใจผมใหญ่เลยครับ ก่อนจะพาทีชเชอร์ที่เริ่มร้องไห้โยเยกลับเข้าห้อง
ไหนๆก็อยากลองรถใหม่อยู่แล้ว ,, ไปรับอุ่นที่มหาลัยก็ดีเหมือนกันนะ : )
ผมขับรถเข้ามารับอุ่นที่มหาลัย ก็เจอกับพี่ยิมที่มารอรับอุ่นเหมือนกันครับ
เอ๊ะ ,, พี่ยิมก็มาแล้ว จะให้ผมมาทำไมวะเนี้ยย?
หรือว่าทะเลาะกัน ,, สงสัยทะเลาะกันชัวร์
เพราะท่าทางปั้นปึงใส่กันมาก
พออุ่นขึ้นมาบนรถผมก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไรครับ
ตอนแรกกะว่าจะส่งแค่หน้าคอนโดแล้วผมจะไปหาไนซ์ต่อ
แต่ลุงธีระบอกจะเข้ามาหาที่คอนโด ผมเลยเดินตามอุ่นกลับมาที่ห้องด้วย
ตลกมากครับ อุ่นมันคิดว่าผมเดินมาส่งมัน
นี้ผมดูเป็นคนแสนดีขนาดนั้นเลยหรอเนี้ย 55555+
พอเข้ามาในห้องได้ก็จัดห้องเก็บของสักพัก ก็เลยมานั่งเล่นที่โซฟาดูทีวีรอลุงธีระ
ที่นั่งตรงนี้ ,, มันเคยมีคนๆนึงมานั่งข้างๆด้วย
ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง?
เหนื่อยมากไหม ,, ไม้?
ผมพยายามจะทำตัวให้สนุก พยายามจะสนใจเรื่องราวรอบๆตัวให้มากที่สุด
จะได้ไม่ต้องนึกถึงมัน ไม่ต้องนั่งนับวันรอวันที่มันจะมาหา
แต่สุดท้าย ,, ผมก็แพ้ครับ แพ้ความคิดถึง แพ้หัวใจตัวเอง
ยิ่งกลับมาเจอห้องที่เคยอยู่ด้วยกัน ,, ยิ่งคิดถึงมันสุดหัวใจ T^T
“อ๊อดดดดด”เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น
สงสัยลุงธีระจะมาแล้วแน่ๆ ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูให้ลุงธีระ
และก็เป็นลุงธีระจริงๆครับ ที่มายืนอยู่หน้าห้อง
“สวัสดีครับลุงธีระ”ลุงธีระยิ้มให้ผม ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง ส่วนคนของลุงธีระยืนรอข้างนอก
ทำไมต้องมีคนเดินตามประกบขนาดนี้ครับลุง - -‘
“ทีชเชอร์อยู่ห้องไหมตอนนี้” ลุงธีระนั่งลงที่โซฟาก่อนจะเอ่ยปากถามผม
“อยู่ครับ ท่าทางจะไม่สบาย งอแงน่าดูเลยครับ” ผมเอาน้ำมาให้ลุงธีระดื่ม ก่อนจะนั่งลงตรงที่นั่งข้างๆลุงธีระ
“หายใจไม่สะดวกแน่ๆ เด็ก 2 คนนั้นมันจะรู้กันไหมเนี้ย ว่าจะดูแลกันแบบไหน
เห้ออ ฉันละหนักใจจริงๆ จะมีทางไหนที่พวกมันจะคืนหลานให้เราไหมปั้นสิบ”ลุงธีระมีสีหน้าที่กังวลได้อย่างชัดเจนเลยครับ พอบอกว่าทีชเชอร์ไม่สบาย
“เราก็ไปบอกเค้าตรงๆดีไหมครับว่าเราเป็นญาติของโชกุน
เค้าคงจะให้เราดูแลหลานแน่ๆครับ เพราะเท่าที่ผมสัมผัสมาพี่เจกับแฟรงค์ก็เป็นคนดีนะครับ”“คนดีที่ไหนมาพรากพ่อพรากลูกคนอื่นละปั้น เรานะมองคนในแง่ดีตลอดเลยนะ
พวกมันแย่งทีชเชอร์ไปจากโชกุน จนทำให้โชกุนป่วยหนักขนาดนี้ไง
ยังไงๆลุงก็จะเอาทีชเชอร์กลับมา ปั้นช่วยลุงนะลูก ถือซะว่าช่วยโชกุน น้องน่าสงสารนะลูกนะ”ลุงธีระทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เวลาพูดถึงโชกุน
ก็ลูกชายคนเดียวนี้ครับ ,, ไม่รักก็ไม่รู้จะพูดยังไงเนอะ
“เดี๋ยวลุงจะกลับแล้วละ นี้เอาไว้ใช้นะปั้น แล้วก็ซื้อของมาฝากหลานด้วย ลุงฝากด้วยนะ”ลุงธีระหยิบเงินจากกระเป๋ามาให้ผม มันเป็นจำนวนที่เยอะเหมือนกันครับ
“เยอะไปครับลุง ปั้นมีเงินส่วนตัวอยู่บ้างแล้ว ขอบคุณมากๆครับ”ผมยกมือขอบคุณลุงธีระ แต่ไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบเงินที่ลุงวางไว้ให้เลย
“ไม่เป็นไรลูก มีเยอะก็เก็บไว้เยอะๆ เผื่ออยากได้อะไร ลุงไปละนะ”พูดจบลุงธีระก็เดินไปที่ประตูหน้าห้อง แต่ก่อนจะออกจากห้องไปลุงธีระยืนมองหน้าผมนิ่งๆ
“นี้ปั้นสิบ ผู้ชายที่เราพามาอยู่ที่ห้องด้วยนะ ถ้าเลิกได้ก็เลิกนะ อย่าเดินทางสายนี้ลูก
ไม่มีวันที่พ่อแม่จะยอมรับหรือเข้าใจหรอกนะ พ่อแม่เราช่วยเหลือลุงไว้เยอะมากเลย
อย่าให้ลุงต้องลงไปจัดการเรื่องราวของลูกเพื่อตอบแทนให้กับพ่อแม่ปั้นเลยนะ
ถ้ามันยังมาวนเวียนใกล้ๆคอนโดอีก ลุงจะบอกให้คนของลุงจัดการมันให้”ผู้ชายที่มาที่ห้อง?
เห้ยยย ลุงธีระรู้ได้ไงวะ??
“เพื่อนปั้นเองครับลุง ไม่มีอะไรหรอกครับ ขอบคุณมากครับ”ผมยิ้มให้ลุงธีระ แต่ในใจนี้คิดมากไปเยอะละครับ
“นายร้อยนั้นนะหรอเพื่อน ตามเฝ้าตลอดเลย เอาละให้จบเรื่องของโชกุนก่อน เราค่อยมาคุยกัน”ลุงธีระพูดจบก็เดินออกจากห้องผมไป ทิ้งให้ผมต้องยืนคิดตามในสิ่งที่ลุงธีระพูด
นายร้อย?ลุงธีระรู้เรื่องอะไรพวกนี้มามากน้อยแค่ไหนกันวะ?
ผมเก็บเอาคำพูดของลุงธีระมาคิดมากจนนอนไม่หลับเลยครับ
T^T ลุงจะทำอะไรของลุงกันแน่
แล้วคนที่ลุงพูดมันหมายถึงไม้ฉาก หรือไอ้พี่อุ้มกันแน่
โอ้ยยยย เครียดนะเว้ยยย !!!
คืนนั้นผมเก็บเอาเรื่องเครียดๆไปนอนฝันร้ายเลยครับ
ตื่นมาโคตรปวดหัวเลยจริงๆ - -‘
เช้าวันต่อ..ผมตื่นมาก็ล้างหน้าล้างตา อาบน้ำแต่งตัวตามปกติของผม
ถึงจะมีเรียนบ่ายๆ แต่ผมก็ตื่นมาทานมื้อเช้าก่อนครับ มันติดเป็นนิสัยละครับ 555
ระหว่างที่ผมนั่งดูข่าวและกินโอวันตินอยู่ แฟรงค์ก็โทรเข้ามาหาผม
“ปั้นๆ นี้แฟรงค์นะ”เออกูรู้ - - ชื่อขึ้นมาหราเต็มหน้าจอขนาดนี้ละ
“อืมม มีอะไรหรือป่าวแฟรงค์ โทรมาแต่เช้าเลย”
“วันนี้เราไม่ไปเรียนนะ ยังไงช่วยจดงานเผื่อเราด้วยละ ลาอาจารย์ให้เราด้วย”เอ๊ะ ,, เพิ่งเปิดเทอม ทำไมจะโดดละวะ
“มีอะไรหรือป่าว ทำไมไม่ไปเรียนอะ” ผมถามไปด้วยความแปลกใจ
ก็มันเป็นคาบแรกๆ เราไม่น่าจะโดดเรียนกันใช่ไหมครับ
หรือคนอื่นไม่คิดเหมือนผม - -‘
“ทีชเชอร์ตัวรุมๆนะ ก็ไม่รุมๆอะนะร้อนเลยแหละ เราเลยจะหยุดอยู่เฝ้าลูกที่ห้องนะ”
“งั้นเดี๋ยวเราไปหาที่ห้องได้ไหม อยากไปดูอาการทีชเชอร์ เผื่อเราจะช่วยอะไรแฟรงค์ได้บ้าง”ทีชเชอร์เอ้ยย ไม่สบายจนได้นะยายหนูน้อย
“อ่อๆมาสิ”พอแฟรงค์บอกให้ไปหาได้ ผมก็รีบวางสายแล้วรีบไปที่ห้องแฟรงค์เลยครับ
แฟรงค์มาเปิดประตูรออยู่แล้วครับ เดินเข้ามาในห้องแล้วก็คือแบบว่า
แน่ใจไหมว่าห้องผู้ชาย ห้องจัดได้สะอาดมากครับ ทุกอย่างจัดสรรได้เป็นสัดส่วน
เรียบง่าย แต่สวยหรูมากครับ
ผมไปนั่งที่โซฟาดูแฟรงค์กำลังอุ้มปลอบเจ้าหนูทีชเชอร์ ที่งอแงร้องไห้อยู่
“จะเอาอะไรลูกสาวป๊า อย่างอแงสิลูก”คือทีชเชอร์ร้องไห้ เหมือนเด็กทั่วๆไปที่เค้าไม่สบายตัวนะครับ
เหมือนเราที่เวลาป่วยจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ทีชเชอร์คงเป็นแบบนั้น
เพราะร้องไห้อย่างเดียวเลย ผมนั่งมองทีชเชอร์สักพักพี่เจก็เดินออกมาจากห้องนอน
พี่เจมองหน้าผมนิดหน่อย ก่อนจะบอกแฟรงค์กับทีชเชอร์ว่าจะไปทำงานแล้วเย็นๆจะรีบกลับ
มองภาพนี้แล้วผมมโนไปถึงผมกับไม้ฉากเลยครับ 555+
ไม้ใส่ชุดตำรวจกำลังจะไปทำงาน ผมใส่ชุดช๊อปวิศวะ กำลังอุ้มลูกอยู่
แต่เดี๋ยวๆลูกใครวะปั้น - -‘
(คิดเองมโนเองเครียดเอง ,, ไม่ปกติแล้วเจ้าปั้นสิบ)
พอทีชเชอร์ร้องไห้หนักเข้าผมเลยบอกให้แฟรงค์เอาน้องนอนตักดีๆ ผมจะลองฟังเสียงหายใจ
เพราะปากทีชเชอร์จะออกม่วงๆคล้ำๆเหมือนคนขาดอ๊อกซิเจน
แฟรงค์ก็เอาลูกวางไว้ที่ตัก ผมก็เอนหัวไปฟังที่หัวใจของทีชเชอร์
เสียงมันดังแปลกๆครับ น่าจะพาไปโรงพยาบาลได้แล้ว
แต่แฟรงค์ก็ยังไม่ยอมพาไป แฟรงค์พยายามอุ้มแล้วกล่อมให้ทีชเชอร์นอน
เดินวนไปวนมาในห้อง จนตอนนี้ม๊าของแฟรงค์มาอยู่ที่ห้องด้วย มาช่วยเลี้ยงทีชเชอร์
แต่ทีชเชอร์ไม่เอามือใครเลยครับ ติดแฟรงค์คนเดียว
ทีชเชอร์ไม่ยอมนอน และยังร้องไห้ตลอด จนผมสงสารหลานครับ
เลยขอแฟรงค์ลองอุ้มน้องหน่อยได้ไหม
เวลาที่โชกุนมันร้องไห้แบบนี้ตอนเด็กๆ เพราะมันหายใจไม่ออก
ผมจะเห็นพี่เลี้ยงโชกุน อุ้มโชกุนพาดบ่า แล้วค่อยๆเอามือลูบตรงท้ายทอยของโชกุน
สักพักโชกุนจะสงบลง แล้วก็หลับครับ
อืมม ลองใช้กับทีชเชอร์ดูได้ไหมนะ? พ่อลูกกันน่าจะมีอะไรคล้ายๆกันบ้างแหละนะ
แฟรงค์มีท่าทีลังเลนิดหน่อย แต่ก็ยื่นทีชเชอร์มาให้ผมอุ้ม
ตอนแรกเจ้าหนูทีชเชอร์ก็ดิ้นครับ แต่พอผมค่อยๆลูบที่ท้ายทอย และร้องเสียงกล่อมเด็กเบาๆ
ทีชเชอร์ก็ยอมให้ผมอุ้มดีๆ และก็หลับบนอกผม
แฟรงค์ทำหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นครับ 5555
“เชื่อไหมว่าทีชเชอร์จะไม่หลับง่ายๆเลยนะเวลาป่วยอะ นี้นายทำได้ไงเนี้ย”ผมวางทีชเชอร์ลงบนที่นอนที่แฟรงค์จัดไว้ให้
“น้องเราป่วยบ่อยนะ เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วแบบทีชเชอร์เลย เราเลยพอรู้วิธีปลอบน้อง”แฟรงค์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะนั่งมองทีชเชอร์ที่หลับอยู่ สายตาแฟรงค์มีแต่ความเป็นห่วงครับ
ผมก็แปลกใจว่าคนแบบนี้นะหรอที่จะแย่งลูกของโชกุน ?
พอเวลาผ่านไปสักพัก ผมว่าจะออกไปเรียนแล้ว เลยเดินมาจับตัวทีชเชอร์ดู
แต่ทีชเชอร์ตัวเย็นมากครับ ไม่ใช่ว่าอุ่นนะ มันเย็นเลยละ
ผมเห็นท่าว่าไม่ดีแน่ๆ เลยบอกให้แฟรงค์พาทีชเชอร์ไปโรงพยาบาลดีกว่า
เพราะว่าเวลาคนป่วยนะไข้ต้องค่อยๆลด แค่นี้จากร้อนจัดๆกลายมาเย็นแบบนี้ไม่ปกติแน่ๆครับ
ม๊าของแฟรงค์ก็เห็นควรว่าน่าจะพามาโรงพยาบาล แฟรงค์พยายามโทรหาพี่เจก็โทรไม่ติด
แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้ไปเรียนครับ เพราะพาแฟรงค์ ทีชเชอร์ แล้วม๊าของแฟรงค์มาที่โรงพยาบาล
เป็นไปอย่างที่คิดครับ ทีชเชอร์ต้องนอนโรงพยาบาล
เพราะระบบหายใจผิดปกติ พอเห็นว่าทีชเชอร์ได้ห้องพักเรียบร้อยแล้ว
ผมเลยขอแฟรงค์เดินออกมาข้างนอก เพื่อที่จะโทรบอกลุงธีระเรื่องอาการของทีชเชอร์
สักพักลุงธีระก็รีบมาที่โรงพยาบาล ก่อนจะเข้าไปคุยกับหมอที่เป็นคนดูแลอาการของทีชเชอร์
เจ้าหนูน้อยของผมมีอาการโรคลิ้นหัวใจรั่วที่หนักมากครับ ต้องรีบทำการตรวจอย่างละเอียด
มีเปอร์เซ็นต์จะต้องผ่าตัดสูงมากครับ พอลุงธีระได้ฟังที่หมอพูดแบบนั้นก็ยิ่งเครียดอยากได้หลานคืนให้ไวที่สุด
เห้อออ จะเอาทีชเชอร์ไปได้ยังไง หลานติดพี่เจกับแฟรงค์ขนาดนั้น
แล้วม๊าแฟรงค์ก็ดูแลดีมากๆด้วย เค้าคงจะยอมอะนะลุงธีระ - -‘
หลังจากเดินลงไปส่งลุงธีระกลับ ผมก็เดินกลับเข้ามาในห้องพักทีชเชอร์
เจอพี่เชน กับม๊าของแฟรงค์นั่งอยู่ในห้อง
“พี่เชน สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้พี่เชน ก่อนจะไปนั่งข้างๆเตียงของทีชเชอร์
“อ่อปั้นสิบใช่ไหม มากับแฟรงค์หรอ”พี่เชนทำเสียงอึกอักๆ เอออ พี่มีพิรุธนะพี่เชน - -‘
“ครับ ปั้นมากับแฟรงค์ครับ แล้วนี้แฟรงค์ไปไหนครับ”ผมไม่เห็นแฟรงค์ตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วครับ เลยหันไปถามพี่เชน
“ไปคุยกับอาหมอนะ ไปกับพี่เจ” ม๊าของแฟรงค์เป็นฝ่ายตอบผมแทนครับ
ผมพยักหน้ารับรู้ ก็ดีนะพากันไปคุยกับหมอจะได้รีบรักษาทีชเชอร์
ดูสิน่าสงสารจังเลย ผมเอื้อมไปจับมือทีชเชอร์ มือเล็กมากๆ
เด็กน้อยๆแบบนี้ ดีจังเนอะ ไม่ต้องมาเครียดมาคิดมากอะไรให้เหนื่อยใจ
สักพักลุงธีระก็โทรตามผมบอกให้ลงไปเอาของกับคนของลุงธีระ เค้ารออยู่ตรงชั้นล่างของโรงพยาบาล
ผมก็รีบลงไปเอาครับ ไม่อยากให้ใครเห็นว่าผมอยู่กับคนหน้าโหดๆ
คนของลุงธีระมีแต่หน้าโหดๆครับ เห็นละผมยังกลัวเลย
พอผมไปเอาของเสร็จแล้ว ขึ้นมาที่ห้องอีกทีก็เจอกับกลุ่มเพื่อนๆของพี่เจกับแฟรงค์เต็มห้องพักเลยครับ
บางคนก็นั่งคุยกัน บางคนก็ทำการบ้าน
เออคือ ที่นี้มันโรงพยาบาลนะครับ - -‘
และสักพักพี่เจก็บอกให้ทุกคนกลับ แต่ไม่ได้พูดถึงผมเลย
ผมสังเกตตั้งแต่ตอนเข้าห้องมาละครับ พี่เจเอาแต่มองหน้าผม
ที่บอกให้ทุกคนกลับ คือ ต้องการจะคุยกับผมใช่หรือป่าวนะ?
และก็เป็นอย่างที่ผมคิดครับ พี่เจต้องการคุยกับผม
ตอนแรกที่พี่เจถามผมว่าผมเข้ามาวุ่นวายในชีวิตพี่เจ ,, ผมต้องการอะไร
ถ้าบอกต้องการทีชเชอร์ได้ไหมละครับพี่ - -‘
ผมก็ตอบไปตามที่ผมรู้นี้แหละครับ แต่ไม่ได้บอกว่าผมเป็นอะไรกับโชกุนนะ
จนที่สุดแล้วความอดทนที่ผมพยายามพูดดีๆกับพี่เจก็จบลง
เพราะพี่เจหาว่าโชกุนไปข่มขืนคนที่ชื่อเบลล์ และพยายามทำร้ายเบลล์ทำให้เบลล์แท้งลูก
ผมไม่เชื่อครับว่าคนอย่างโชกุนจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นได้
ผมเลยตะโกนใส่หน้าพี่เจไปว่า
“โชกุนไม่ใช่คนอย่างนั้น อย่าใส่ร้ายโชกุน!!!!!"ก่อนจะวิ่งหนีออกจากห้องมา
โชกุนเป็นแบบนั้นหรอ?
โชกุนทำแบบนั้นจริงๆงั้นหรอ?
ไม่จริงใช่ไหมวะ?
ผมเดินร้องไห้ลงมาจนเจอกับคนของลุงธีระ ที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์
“คุณธีระให้มารับกลับครับ”ผมยืน งง ๆ อยู่สักพัก คนของลุงธีระก็ดันตัวผมให้เดินออกจากโรงพยาบาล
แล้วมาที่รถที่จอดรอไว้แล้ว
“ลุงธีระให้มารับผมไปที่ไหนครับ”ผมเช็ดน้ำตา แล้วก็ถามคนติดตามของลุงธีระ
“ไปอยู่ที่บ้านครับ”บ้าน?“ส่งผมที่คอนโดดีกว่าครับ ผมต้องไปเรียน”
“ไม่ได้ครับ ตอนนี้ของใช้ส่วนตัวของคุณอยู่ที่บ้านหมดแล้วครับ
ต่อจากนี้ไปคุณปั้นจะมีพวกผมคอยรับส่งตอนเรียน และรับกลับบ้านครับ
ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากคุณธีระ คุณปั้นไม่มีสิทธิ์ออกนอกเส้นทางที่กำหนดครับ”เห้ยย แบบนี้คืออะไรวะ?
“งั้นผมขอคุยกับคุณลุงก่อนนะครับ”ผมกดมือถือหาลุงธีระ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เห้ยยย นี้มันอะไรวะเนี้ยยย
“คุณธีระมีธุระด่วนครับ ตอนนี้บินไปเมืองนอกแล้ว
ขอให้คุณปั้นอยู่กับพวกผมด้วยความสงบด้วยนะครับ เพราะผมได้รับคำสั่งมาอีกอย่างหนึ่ง
ถ้าคุณปั้นดื้อโวยวาย คุณธีระให้ผมจัดการกับเพื่อนคุณปั้นที่ชอบมาวุ่นวายใกล้ๆตัวคุณปั้นทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นนายตำรวจที่นครปฐม หรือจะโคราช หรือจะดาราคนไหนก็ตาม ไม่มีข้อยกเว้นครับ”เห้ยย นี้ลุงธีระขมขู่ผมใช่ไหม?
ไม่ใช่สิ ไม่ใช่แบบนี้สิ
ผมต้องโทรหาป๊ากับม๊า ใช่แล้ว ป๊ากับม๊าต้องช่วยผม
ผมพยายามโทรไปหาป๊ากับม๊าแต่ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน
โอ้ยย นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตวะเนี้ยย!!!!!!!
ผมนั่งนิ่งๆเงียบๆจนมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของลุงธีระ
คนติดตามของผม (ตอนนี้เป็นของผมแทนลุงธีระละครับ) มาเปิดประตูให้แต่ผมไม่ยอมลง
“ลงมาเถอะครับคุณปั้น คุณทำแบบนี้คุณยิ่งไม่ได้กลับไปที่ห้องของคุณนะครับ”มึงจะพูดสุภาพทำไมครับ? ถ้ายังจะข่มขู่กูไปด้วยเนี้ยห๊ะ!!??
“ถ้าคุณไม่ดื้อ พวกผมจะพาคุณไปโคราช คุณอยากไปใช่ไหมคุณปั้น”โคราช?? ไม้ ,, ไม้ฉาก!!“นายจะพาฉันไปจริงๆงั้นหรอ?”ผมหันไปถามอย่างไม่แน่ใจ มันอยู่ในข้อตกลงด้วยงั้นหรอ?
“ครับผมพาไปได้ เพราะเรื่องของคุณหนูทีชเชอร์จะจบไม่เกิน 1 เดือนแน่ๆ
และเรื่องต่อไปเป็นเรื่องของคุณที่คุณธีระจะจัดการ ผมเลยอยากพาคุณไปเจอกับเพื่อนสนิทของคุณก่อน
พวกผมเข้าใจคุณนะครับคุณปั้น ฉะนั้นได้โปรดเข้าใจในงานของผมด้วยเถอะครับ”เรื่องของผมต่อจากนี้งั้นหรอ?
ลุงธีระ ลุงจะทำอะไรครับ?
ผมเดินลงมาจากรถ ก่อนจะเดินตามผู้ชายที่บอกว่าจะเป็นคนดูแลผมจากนี้ไปอีก 1 เดือนเข้าไปในบ้าน
วันนี้กูเจอเรื่องราวอะไรมากไปหรือป่าววะ?
ทีชเชอร์ป่วย
ทะเลาะกับพี่เจเรื่องโชกุน
ลุงธีระบังคับมาอยู่ที่บ้าน
เรื่องของคนรอบข้างผมที่ลุงธีระจะจัดการแทนป๊าม๊าผมเดี๋ยวก่อนนะ ,, ชีวิตวัยรุ่นผมอยู่ไหน?
เห้ยยย มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิวะ
ชีวิตมหาลัยของผมไม่สนุกแบบที่เคยคิดฝันไว้เลย T^T
ไม้ ,, ช่วยปั้นด้วยย !!...............................................................................
เอามาฝากแล้วนะจ๊ะ
อาจจะมีตอนของทางพี่เจน้องแฟรงค์โผล่มาแจมด้วย
ใครตามไม่ทัน หรือยัง งงๆ ว่ามาจากไหน
ไปอ่านตามลิงค์นี้เลย >>
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44296.0มีคำผิดยังไงขออภัยนะค่ะ
และขอบคุณทุกๆคอมเมนต์จริงๆ
เจอกันตอนหน้าค่า : )