Ch 69 ขอทำผิดอีกได้ไหม? || ปั้นสิบ
หลังจากที่ไม้ฉากเดินออกไปกับแม่ พวกผมก็พากันเก็บของใส่กระเป๋า
เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้เดินทางกลับได้เลย
เป็นการเตรียมพร้อมที่ดีมาก 555+
พวกผมออกไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับไม้ฉากด้วยความรู้สึกแตกต่างจากตอนที่มาถึงครั้งแรกมากครับ
ตอนแรกนี้คือเฮฮากันเต็มที่มากๆ กะไว้ว่าต้องได้เมา ได้เม้าท์กันอย่างเต็มที่แน่ๆ
แต่ตอนนี้แต่ละคนเริ่มคิด เริ่มหวาดกลัวกันไปหมดแล้วว่าจะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นหรือป่าว
พวกผมนั่งทานข้าวกันไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับยกมือไหว้แขกผู้ใหญ่ที่พวกเราคุ้นหน้ากันบ้าง
ป๊าม๊าของผมก็เดินมาหาที่โต๊ะ คอยถามว่าจะเอาอะไรเพิ่มไหม?
เอาจริงๆเหมือนป๊าม๊าเป็นเจ้าภาพร่วมเลยครับ
คอยช่วยบ้านไม้ฉากกับบ้านน้องพิมเตรียมงานและต้อนรับแขก
จนยูโรมันแซวผมอะครับ
“กูบอกแล้วว่าต้องเป็นงานสู่ขอมึงแน่ๆปั้น ดูม๊ามึงสิต้อนรับแขกคู่กับแม่ของไม้ฉากด้วยอะ
นี้ถ้ามีมึงไปยืนข้างๆไม้ฉากนะ แล้วป้ายบนเวทีเอาชื่อมึงไปแปะข้างๆชื่อไม้ฉาก
ใช่เลยอะมึง ,, งานแต่งเลย 555+”
ยูโรมันคงจะลืมไปละมั้งครับ สายตาพ่อไม้ฉากที่เข้าไปในบ้านพักเมื่อตอนเย็นนั้นอะ
มันไม่ใช่สายตาที่บ่งบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยนะ - -‘
และพอช่วงสักประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ
พ่อขอกไม้ฉากก็ขึ้นไปขอบคุณแขกที่มาร่วมยินดีกับไม้ฉากในคืนนี้
“ผมต้องกราบขอบคุณทุกๆท่านมากที่ได้มาร่วมยินดีกับลูกชายคนโตของผม
ที่ได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรตำรวจ และหลักสูตรพิเศษจากกรมตำรวจ
ที่ส่งไปให้ฝึกถึงชายแดนภาคใต้ ที่จังหวัดนราธิวาส
วันนี้เด็กชายภาคิน ตัวน้อยๆที่พวกท่านเคยได้เห็นมาตั้งแต่เด็ก ได้เติบโตเป็นหนุ่มแล้วครับ
แต่ถึงไม้ฉากจะเป็น สิบตำรวจตรีภาคิน แล้วก็ตาม
สำหรับพวกเรา เค้ายังเป็นเพียงเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง
ที่จะต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมายในโลก ในสังคมแห่งนี้
อยากฝากให้คุณลุง คุณป้า คุณน้า และคุณอาทุกๆคนในที่นี้
ได้ช่วยกันตักเตือนเมื่อหลานทำผิด และช่วยกันมอบสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควรให้กับหลานชายคนนี้ด้วยครับ”
พ่อไม้ฉากก็พูดไปเรื่อยๆ คนข้างล่างก็ปรบมือให้พ่อไม้ฉากบ้าง
หันไปยิ้มให้ไม้ฉาก ให้แม่ของไม้ฉากบ้าง
เพราะแขกส่วนใหญ่ที่มาเป็นญาติของไม้ฉากครับ
และมีลูกค้าที่ดีลงานกับทางครอบครัวไม้ฉากมาด้วย
“และในวันนี้ที่เราจัดงานที่รีสอร์ทธารรัก แห่งนี้
เพราะอยากให้ทุกท่านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดรีสอร์ทที่มาจากสายสัมพันธ์
สายรักระหว่างเพื่อน ซึ่งเป็นส่วนของผม และคุณพีระพลครับ”
ตอนนี้ลุงพลเดินขึ้นไปยืนข้างๆพ่อของไม้ฉาก
น้าอร เมียของลุงพล ก็พาน้องพิมมานั่งที่โต๊ะเดียวกับไม้ฉากครับ
ซึ่งตอนแรกน้องพิมไม่ได้ลงมาร่วมงาน
ไม้ฉาก และน้องพิมนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมมาก
ก็คงเคยเจอกันมาแล้วละมั้ง ?
ผมมองภาพตรงหน้าแล้วก็พลันนึกถึงโพสใน Facebook ของไม้ฉากได้
Pim Pim ที่มาโพสเต็มหน้าวอลตอนนั้น
ใช่หนูพิมคนนี้แน่ๆ
ผมรีบเปิด Facebook ดู .. แล้วสิ่งที่ผมคิดก็ใช่ครับ
หนูพิมคนนี้คือคนเดียวที่มาถล่มหน้าวอลของ Facebook ไม้ฉาก
“ดูอะไรวะ” ไนซ์ก้มลงมากระซิบข้างๆหูผม
ผมเลยยื่นมือถือให้ไนซ์ดู
“ไนซ์มึงว่าน้องพิม กับคนที่โพสเต็มหน้าวอลของไม้ฉากนี้ใช่คนเดียวกันหรือป่าววะ?”
ไนซ์รับมือถือของผมไปดู ก่อนจะตอบผม
“อืม ใช่วะ ถึงว่าละสนิทกัน”
ไนซ์มันชี้ให้ผมมองไปที่ไม้ฉากกับน้องพิม ที่ตอนนี้นั่งคุยกันอย่างถูกคอครับ
ไม้ฉากเอื้อมมือไปจับที่ท้องน้องพิมด้วย
คงคุยกันเรื่องลูกในท้องของน้องพิมแน่ๆ
“แต่กูว่านะ ไม้ฉากกับพิมเป็นแค่พี่น้องกันแหละ เพราะพิมดูมีความสุขมากนะที่ท้องอะ
จะมองแง่ร้ายว่าเป็นลูกของไม้ฉากก็ไม่น่าใช่ ท้องพิมยังไม่ใหญ่ เหมือนจะท้องไม่กี่เดือน
แล้วไม้ฉากมันจะมาทำลูกตอนไหน ในเมื่อมันไปใต้เพิ่งกลับมา
อีกอย่างนะหน้าไม้ฉากมันก็เหมือนแค่เอ็นดูน้องพิมเฉยๆ คงไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องคิดมาก”
ไนซ์เอามือถือคืนมาให้ผม ก่อนจะลูบหัวผมเล่น
ตอนแรกกูก็ไม่คิดหรอกนะไนซ์ แต่พอมึงพูดมาแค่นั้นแหละ ....
คิดหนักเลยมึงเอ้ยยย !!!
นั่งมองภาพตรงหน้าแล้วก็คิดไปเรื่อย
คิดมากจนไม่ได้ยินว่าพ่อไม้ฉากกับลุงพลพูดอะไรบนเวทีแค่นั้นเองครับ - -‘
มาได้ยินอีกทีตอนที่ลุงพลจะลงจากเวทีแล้ว
“.... ครับ และหวังว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ทุกท่านจะร่วมมาเป็นเกียรติ
ให้กับงานมงคลของรีสอร์ทและครอบครัวเราทั้งคู่ด้วยนะครับ”
พอลุงพลพูดจบ พ่อไม้ฉากกับลุงพลก็คืนไมค์ให้กับนักร้องบนเวที
ก่อนจะเดินลงมานั่งร่วมโต๊ะกับไม้ฉากอีกครั้ง
เออคือ .. งานมงคลของรีสอร์ทคืออะไรวะ??
“เค้าจะเปิดรีสอร์ทเป็นทางการหรอ?” ผมหันไปสะกิดถามคะน้า
เพราะมันน่าจะตั้งใจฟังอยู่แหละนะ เห็นมันปรบมือตลอดเลย
“กูก็คิดแบบนั้นนะ” คะน้าตอบเสร็จแล้วก็หันมานั่งกินอาหารตรงหน้าต่อ
ลดไป 20 โล แต่มาครั้งนี้จะขึ้นไปอีกกี่โลวะเนี้ยย คะน้ากินไม่หยุดเลยครับ 555+
“แต่กูว่ามันแปลกๆนะปั้น หรือกูคิดไปเองวะ” เปามันหันมาคุยกับผม
“ยังไงวะเปา” ผมหันไปถามมัน
“เอาไว้กลับห้องก่อนนะ กูจะบอก ตอนนี้เสียงดังไม่อยากตะโกน มันเจ็บคอ”
เปาตอบผมเสร็จ ก็หันไปกินอาหารที่พนักงานเอามาเสิร์ฟ
ส่วนไนซ์ตอนนี้โดนดึงไปถ่ายรูปละครับ มันก็ทำได้แต่ยิ้มสู้กล้องไปนั้นแหละครับ
ทำไงได้ พ่อดาราสุดหล่อ 555
ไม้ฉากเดินมาหาผมที่โต๊ะหลายครั้งเหมือนกัน
แต่มาได้แป๊บเดียวพ่อก็มาดึงแขนให้ออกไปต้อนรับแขกโต๊ะอื่น
จนครั้งสุดท้าย แขกเริ่มทยอยกลับไปพักกันหมดแล้ว
แขกบางคนไปพักในตัวเมืองครับ บางคนก็พักที่ห้องรับรอง แต่ส่วนมากจะกลับไปพักในตัวเมือง
“เดี๋ยวไปหานะ”
ไม้ฉากก้มลงมากระซิบบอกผม ก่อนจะดึงแก้มผม แล้วเดินไปส่งแขกกับพ่อ
จะตัดแก้มให้มันแล้วเนี้ย ชอบดึงอยู่ได้ - -‘
“งั้นพวกเรากลับห้องเถอะ”
ไนซ์รีบเดินกลับมาที่โต๊ะ ก่อนจะชวนพวกผมกลับ
เพราะมันไม่อยากโดนลากไปถ่ายรูปอีกครับ 555+
“ปั้นครับ ม๊ากับป๊าขอคุยกับปั้นก่อนได้ไหมลูก”
ม๊าเดินเข้ามาหาพวกผม
เพื่อนๆผมเลยพยักหน้าให้
แล้วยูโรก็บอกกับผม
“มึงคุยกับม๊าเถอะเดี๋ยวกูกลับเข้าบ้านพักก่อน”
ผมเลยได้แต่ยิ้มแล้วมองเพื่อนๆเดินกลับไปที่พัก
ตอนเดินกลับพวกมันก็แกล้งกันไปด้วย
คะน้าไล่ตียูโร สงสัยยูโรไปปากเสียใส่คะน้าอีกแน่ๆครับ 555+
“เราไปเดินเล่นกันแล้วคุยกันดีไหม วันนี้เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ”
ป๊าดึงผมเข้าไปโอบบ่าไว้ แล้วพาเดินไปดูสวนดอกไม้ที่อยู่ข้างๆห้องพักพวกผมนั้นแหละครับ
“ปั้น ป๊ารู้นะว่าปั้นกับไม้ฉาก รักกันแบบไหน และป๊าไม่เคยคิดจะห้ามปั้นเลย
เพราะลูกชายของป๊าเป็นเด็กดี ป๊าเชื่อว่าปั้นจะไม่ทำตัวเหลวไหล และจะไม่ทำให้ป๊ากับม๊าผิดหวัง”
อยู่ๆป๊าก็หยุดเดิน ก่อนจะลงนั่งตรงม้านั่งในสวนดอกไม้นั้น ม๊าก็ลงไปนั่งข้างๆป๊าด้วย
เอ๊ะ ,, ป๊ากับม๊ามาแนวไหนเนี้ย?
“ครับ ขอบคุณนะครับป๊า ปั้นดีใจที่สุดเลยที่ได้เกิดมาเป็นลูกป๊า แล้วก็ม๊าด้วย”
ผมลงไปนั่งกับพื้นตรงข้างหน้าป๊า ก่อนจะโผตัวเข้าไปกอดป๊า
ส่วนม๊าก็เอามือมาลูบที่หัวผม
“ม๊าเองก็ยังไม่เข้าใจหรอกนะว่ารักของปั้นมันเป็นยังไง
แต่ที่ผ่านมาปั้นก็ทำให้ม๊ารู้ว่าการที่ปั้นรักกับไม้ฉาก
ปั้นไม่ได้เหลวไหลอะไรเลย ปั้นยังตั้งใจเรียน ยังเป็นที่หนึ่งในคณะเหมือนเดิม
ม๊าขอโทษนะลูก ที่เคยทำตัวแย่ๆกับลูกไป ไม่โกรธม๊านะ”
ม๊าดึงผมเข้าไปกอด แล้วม๊าก็ร้องไห้ด้วยครับ
“ปั้นไม่โกรธม๊าหรอกครับ ปั้นรู้ว่าสิ่งที่ม๊าทำไปเพราะม๊ารักและหวังดีกับปั้น
ไม่เอานะคนสวยของปั้นไม่ร้องไห้นะครับ”
ผมเงยหน้าไปมองหน้าม๊า ก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ม๊า
“อืมม จริงๆแล้วป๊ากับม๊าอยากจะบอกปั้นให้เร็วกว่านี้
และก่อนหน้าจะมาที่นี้ด้วย แต่ป๊ามัวแต่ยุ่งกับงานจนลืมบอกปั้นไป”
บอก?
ป๊าจะบอกอะไร?
แล้วทำไมต้องบอกก่อนมาที่นี้ด้วยละ?
“ครับป๊า อะไรหรอครับ”
ม๊าดึงผมให้ขึ้นมานั่งตรงกลาง ระหว่างม๊ากับป๊า
“เรื่องของไม้ฉากนะ”
ไม้ฉาก?
“ไม้ฉากมันทำไมครับป๊า”
ผมรีบหันไปถามป๊า แต่ป๊าก็มองหน้าผมนิ่งๆ
แล้วก็ดึงผมไปกอดอีกครั้ง
ป๊า T^T พูดซะทีเถอะ ,, ไม้ฉากมันทำไมวะ?
จะใช่เรื่องเดียวกับที่ไม้ฉากมันบอกไหมว่าได้ยินพ่อแม่มันพูดกับป๊ากับม๊า
“จะยังไงก็แล้วแต่นะปั้นสิบ ให้ลูกภูมิใจไว้ที่ได้มีวันเวลาดีๆกับไม้ฉากมาเป็นสิบๆปีนะ”
ป๊าผละผมออกจากอ้อมกอด ก่อนจะพูดกับผม
แต่มันไม่เข้าใจอยู่ดีอะ เรื่องอะไรวะ?
“ป๊าม๊า อยากบอกอะไรปั้นก็บอกเถอะครับ “
ผมถามป๊ากับม๊าอีกครั้ง
แต่ป๊ากับม๊า ไม่ได้ตอบผม ม๊าจับมือผมไว้แน่นเลยครับ ส่วนป๊าก็เอามือมาลูบหัวผม
“ให้ผมเป็นคนบอกเถอะครับ”
ไม้ฉากเดินเข้ามาในสวนดอกไม้ มันคงวิ่งมาแน่ๆ หอบมาเชียว
ไอ้หมาป่า .. หอบแบบนี้ยิ่งเหมือนหมา 555+
ป๊าม๊าผมหันไปมองหน้าไม้ฉาก ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืน
“อืมม งั้นลุงฝากด้วยนะไม้”
ป๊าเอามือมาตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะชวนม๊าเดินออกจากสวนดอกไม้ไป
“มีเรื่องอะไรกันป่ะวะ ทำไมป๊าม๊าดูแปลกๆ แล้วมึงมีไรจะบอกกูเนี้ย
วิ่งมาซะลิ้นห้อยเลย เหนื่อยปะ มานั่งๆก่อน”
ผมดึงไม้ฉากให้มานั่งข้างๆผม
มันก็นั่งเงียบๆครับ ไม่มีคำพูดอะไรออกจากไม้ฉาก
ตอนนี้ผมเองก็เริ่มคิดแล้วละว่า ,, มันคงจะมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ
และคงเป็นเรื่องของผมกับไม้ฉากแน่นอน ไม่งั้นป๊าม๊าผมคงไม่พูดจาแปลกๆ
และไม้ฉากคงไม่วิ่งเข้ามาเพื่อขอเป็นฝ่ายพูดเองหรอก
หรือจะมาสู่ขอจริงๆ ??
แต่เดี๋ยวก่อนนะปั้นนะ - -‘
รูปการมันใช่หรอออ?? มันดูเศร้าๆ ดูอึดอัดใจแปลกๆ มันจะสู่ขอหรือไงละ?
นี้ก็เอาความคิดของยูโรมามโนตามจนได้ เห้ออ ,, ไอ้ปั้นไอ้บ้า
ระหว่างที่ไม้ฉากมันนั่งเงียบๆ ผมก็คิดอะไรบ้าบอคนเดียวไปเรื่อยๆ
แล้วไม้ฉากก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมา
“ปั้น หนีไปกับไม้ไหม? ไปใช้ชีวิตด้วยกันที่เชียงใหม่”
อยู่ๆไม้ฉากมันก็ดึงมือผมไปจับไว้
ก่อนจะพูดชวนผมหนี!
เดี๋ยวนะ .. หนีงั้นหรอ???!!
“หนี? ทำไมต้องหนีวะไม้ มีเรื่องอะไรบอกกูมาสิ”
ผมหันไปถามไม้ฉาก ที่ตอนนี้มันจับมือผมไว้แน่นเลยครับ
และมันก็ก้มลงไปเอาหน้าวางบนฝ่ามือของผม
ก่อนที่มันจะ ร้ อ ง ไ ห้ . . .
เห้ยย ,, ไม้ฉาก .. เป็นไรวะ?
“ไม้ .. เป็นอะไรไม้ ใจเย็นๆนะไม้”
ผมดึงไม้ฉากเข้ามากอด มันก็เอนตัวเข้ามาซุกกับตัวผม
“ไม่เอาไม่ร้องนะไม้ .. มีอะไรเราคุยกันนะ บอกกับปั้นสิ อย่าร้องนะไม้ฉากนะ”
ผมเอามือตบหลังมันเบาๆ มันก็ยังสะอื้นและร้องไห้ต่อ
จนผ่านไปนานมากครับ น่าจะเกือบๆครึ่งชั่วโมงได้ ไม้ฉากก็หยุดร้องไห้
“กูขอโทษ ที่ทำให้มึงต้องรอกูนานๆแบบนี้ ขอโทษที่วันนั้นกูไปสอบตำรวจ
ถ้ากูหนีมาเรียนมหาลัย มาอยู่กับมึงเลยตั้งแต่ตอน จบ ม.6
วันนี้กูก็คงไม่เจ็บปวดแบบนี้หรอก”
ไม้ฉากผละออกจากกอดของผมไปแล้ว และนั่งมองหน้าผมอยู่
ก่อนจะบอกว่าขอโทษผมซ้ำๆ
“ไม้ ไม่ต้องอ้อมค้อมนะ มึงพูดมาตรงๆเลย
เรารู้จักกันมาจะ 14 ปีแล้วนะเว้ยย
กูไม่ใช่คนอ่อนแออะไรขนาดนั้นมึงก็รู้
พูดมาเถอะ ,, กูรับฟังได้ “
ผมจ้องหน้าไม้ฉาก ..
อยากให้มันได้เห็นและอยากให้มันได้เชื่อในตัวผม
ว่าผมเข้มแข็งพอ ไม่ว่าเรื่องราวที่มันเจอจะหนักแค่ไหนก็ตาม
ขอแค่มันพูดกับผม ,,
ผมพร้อมจะฟัง และจะเป็นฝ่ายเข้มแข็งและปกป้องมัน
“พ่อกูจะให้กูแต่งงาน”
ตอนนี้เหมือนมีมีดเป็นพันๆเล่มมาปักอกเลยครับ
แต่งงาน???!!!
กับใคร?
เมื่อไหร่?
เดี๋ยวนะ .. นี้ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมวะ?
“กะ กับ กับใคร”
ผมถามไม้ฉากเสียงสั่นๆ .. ตอนนี้สติผมก็แทบจะไม่มีแล้วครับ
มีแต่คำว่า “ทำไม”
“พิม”
ไม้ฉากตอบออกมาเสียงสะอื้นไม่แพ้กัน ตอนนี้มันเริ่มร้องไห้อีกรอบละครับ
แล้วไม้ฉากก็ดึงผมเข้ากอด
ตอนนี้ผมเหมือนคนไม่มีวิญญาณเลย
เหมือนมีแค่ร่างกายธรรมดา ที่ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่ามันเจ็บหรือป่าว?
ทำไมอีกหรอ?
การรอคอย การอดทน ของผมทั้ง 2 คนมันยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดอีกงั้นหรอ?
พวกเราไม่เคยอยากขัดใจพ่อแม่หรือครอบครัวเลย
เรื่องการเรียน เรื่องการประพฤติตัว พวกเราไม่เคยแย่เลยด้วยซ้ำ
มีแต่คำชมจากคนรอบข้าง จากคนที่ได้สัมผัสได้มองเห็นเรา
ว่าเราทั้งคู่เป็นเด็กดี เด็กเรียนดี . . .
แต่ทำไม ..
ทำไมสุดท้ายแล้วเป็นแบบนี้????
“กูขอโทษปั้น กูขอโทษจริงๆ”
ไม้ฉากร้องไห้ไปก็พูดแต่คำว่าขอโทษผมซ้ำๆ
ผมทำได้เพียงแต่กอดมันกลับไป แล้วตบหลังมันเบาๆ
“ไม่เป็นไรไม้ ค่อยๆคิด เราผ่านมันไปได้”
สิ่งที่ผมพูดกับไม้ฉากไป ,, เอาจริงๆตัวผมเองก็มองไม่เห็นทาง
ที่จะผ่านมันไปได้เลย
พิมท้องอยู่ไม่ใช่หรอ?
ทำไมต้องให้แต่งงานกับไม้ฉาก
ผมเชื่อใจไม้ฉาก และผมเชื่อว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของไม้ฉากแน่นอน
“ไม้ ปั้น เข้าไปคุยกันในบ้านเถอะ”
ไนซ์เดินออกมาตามพวกผม
ผมเลยดึงไม้ฉากให้เดินตามไนซ์เข้าไปในบ้าน
แต่.. ไนซ์รู้ได้ไงว่าพวกผมอยู่ตรงนี้?
เอาไว้ค่อยถามละกัน - -‘
พอเดินเข้ามาในบ้านพัก ผมก็เจอกับพิมนั่งร้องไห้อยู่บนเตียงกับคะน้า
“พี่ไม้”
พอพิมหันมาเห็นไม้ฉากก็ลุกขึ้นมา แล้วเดินมากอดไม้ฉาก
เออคือ .. กอด?
เริ่มไม่สบอารมณ์นิดๆแล้วละ เมื่อกี้ไม้เพิ่งบอกว่าต้องแต่งงานกับพิม
แล้วนี้พิมมานั่งรอในบ้าน พอเห็นไม้ฉากก็มากอดไม้ฉากอีก
อดทนเว้ยยปั้น อดทน!
“คือเรื่องราวเป็นไงวะ กู งง ไปหมดแล้วนะ”
ยูโรเดินเข้ามาถามผม แต่ผมไม่รู้จะตอบมันยังไงครับ
ผมเองก็ยัง งง ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงแน่
“พี่ไม้ ฮึกกก ,, พิม พิมไม่แต่งนะพี่ พี่ไม้ช่วยบอกกับพ่อแม่หน่อยนะพี่ไม้นะ”
พิมร้องไห้ไปด้วย แล้วก็อ้อนวอนขอให้ไม้ฉากไปช่วยคุยกับพ่อแม่ให้
ไม้ฉากเองก็ร้องไห้เหมือนกัน
ตอนนี้ไม้ฉากค่อยๆผละพิมออก
ก่อนจะพาพิมไปนั่งบนเตียงที่คะน้านั่งอยู่
“พิมอย่าร้องไห้นะ พี่จะหาทางแก้ไขเอง นึกถึงลูกไว้นะพิม อย่าร้องไห้นะครับ”
ไม้ฉากเอามือไปลูบหัวพิม เพื่อปลอบให้พิมหยุดร้อง
ก่อนจะหันไปมองหน้าคะน้าที่นั่งมองอยู่ข้างๆ
“คะน้า เราฝากพิมก่อนนะ”
คะน้าก็พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปกอดน้องพิมไว้
“พวกมึงมีเรื่องอะไรวะ กู งง ไปหมดแล้ว ช่วยพูดออกมาทีเถอะ
มีหลายคนช่วยกันคิด ยังดีกว่าคิดคนเดียวนะเว้ยย”
ยูโรทนกับเหตุการณ์อึดอัดตรงหน้าไม่ไหว
เลยพูดเสียงดังขึ้นมากลางความเงียบของทุกคน
ไม้ฉากดึงผมให้ไปนั่งข้างๆ บนเตียงที่ว่างข้างเตียงของคะน้า
และมันก็จับมือผมไว้ไม่ยอมปล่อยเลยครับ
ก่อนจะหันไปมองหน้ายูโร กับเพื่อนๆ
ที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้บ้าง นั่งตรงโต๊ะวางทีวีบ้าง
“พ่อกูจะให้กูกับพิมแต่งงานกัน”
ไม้ฉากเอ่ยปากบอกเพื่อนๆ
พอไม้ฉากพูดจบ เสียงเปาก็พูดแทรกขึ้นมา
“นั้นไง กูว่าแล้ว!!
กูเอะใจตั้งแต่พ่อมึงขึ้นไปพูดบนเวทีแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะจริง
เพราะพิมบอกว่าพิมท้องอยู่ กูเลยคิดแค่ว่าเค้าจะทำบุญเปิดรีสอร์ทเฉยๆ”
เปามันมักจะฉลาดกว่าเพื่อนทุกคนในกลุ่มจริงๆครับ
และสิ่งที่มันสงสัยก็เป็นจริง ..
“แต่กูกับพิมไม่แต่ง กูมีปั้นแล้ว และกูก็ไม่อยากทำให้ปั้นต้องเสียใจ กูไม่อยากทำร้ายหัวใจกูอีกแล้ว”
ไม้ฉากพูดเสร็จก็หันมามองหน้าผม มือของเรายังจับมือกันไว้ไม่ปล่อย
“พิมเองก็ไม่แต่ง พิมจะรอแฟนพิม ลูกของพิมมีพ่อ และเค้าจะมีพ่อแค่คนเดียวด้วย”
น้องพิมก็ยืนยันเหมือนกันว่าจะไม่แต่งกับไม้ฉาก
“น้องพิมก็ให้แฟนน้องพิมมาสู่ขอสิคะ คุณพ่อน้องพิมจะได้ไม่ต้องให้แต่งกับไม้ฉากไง”
คะน้าบอกกับน้องพิม แต่น้องพิมก็ส่ายหัวและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“แฟนพิมติดคุกคะ อีก 2 ปีกว่าจะได้ออกมา”
อ้าวว .. นี้อย่าบอกนะว่าจะให้ไม้มารับเป็นพ่อเด็ก?
ไม่ใช่ละครหลังข่าวนะครับ ที่จะโบ้ยให้ใครๆมารับผิดชอบให้
พ่อแม่ไม้ฉากยอมได้ไง???
น้องพิมเห็นทุกคนเงียบไป เลยพูดต่อ...
“ตอนแรกพิมหนีออกจากบ้านไปแล้วคะ หนีไปอยู่บ้านแฟนที่ตรัง แต่พ่อแม่พิมไปตามตัวพิมขึ้นมา
ตอนนั้นพิมกำลังท้องได้ 4 เดือน พ่อบอกว่าให้แฟนพิมมาทำงานที่รีสอร์ทด้วยกันก็ได้ พ่อไม่ว่าแล้ว
แฟนพิมเลยตามมาอยู่กับพิมด้วย เราอยู่ด้วยกันช่วยกันทำงาน ช่วยพ่อทำรีสอร์ท
จนเมื่อเดือนก่อน พ่อใช้ให้แฟนพิมออกไปซื้อของในเมือง พิมเห็นเค้าหายไปนาน
เลยโทรไปตาม แล้ว....ตำรวจก็เป็นคนรับสาย
บอกว่าแฟนพิมมียาเสพติดไว้ครอบครองต้องโดนจับ ฮึกก ,, “
พิมพูดถึงตอนนี้ก็สะอื้นหนักขึ้นแล้วครับ คะน้าเลยเอาผ้าเช็ดหน้ายื่นให้น้องพิม
“ไม่ต้องเล่าแล้วก็ได้นะพิม อย่าร้องไห้เยอะนะ เดี๋ยวกระทบไปถึงลูกนะคะ”
คะน้านั่งปลอบน้องพิม แต่น้องพิมก็ยังร้องไห้และพูดต่อ ..
“เค้าไม่ได้ติดยานะคะพี่ แฟนพิมไม่ใช่คนแบบนั้น พิมไปขอร้องพ่อให้พ่อช่วย
พ่อบอกให้พิมรออยู่ที่บ้านกับแม่ เพราะพิมท้องแก่แล้วไม่ควรเดินทาง
แต่พ่อกลับมาแค่คนเดียว พ่อบอกว่าแฟนพิมต้องติดคุกอีก 2 ปีถึงจะออกมาได้
ฮึกกก ฮือออ ,, พิมจะรอแฟนพิม พิมไม่แต่งกับใครทั้งนั้น”
มาถึงตอนนี้คะน้าก็ปลอบพิมไม่อยู่ละครับ
ไนซ์มันเลยเดินเข้าไปดึงพิมมากอด - -‘
ถ้าไม่ติดว่าเครียดจะแซวแล้วละครับ ว่ามันเล่นบทพระเอกจนเคยชินใช่ไหม
แต่ตอนนี้ยังเครียดอยู่ ,, ทุกคนได้แต่มองพิมอย่างสงสาร
ตอนนี้พวกผมกลับมาเงียบกันอีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
มีแต่เสียงแอร์ เสียงธารน้ำข้างๆ เสียงสะอื้นของน้องพิม และเสียงปลอบเบาๆจากไนซ์
ผมมานั่งลำดับเหตุการณ์ดูตั้งแต่พ่อแม่ไม้ฉากโทรตามพวกผมให้มาร่วมงาน
และเรื่องที่ป๊าม๊าพยายามจะบอกผมเมื่อกี้ ,,
นี้สินะที่พ่อของไม้ฉากต้องการ
พ่อของไม้ฉากแค่อยากเอาชนะพวกผมแค่นั้นหรอ?
ถึงขั้นให้ไม้แต่งงานกับน้องพิม ทั้งๆที่น้องพิมกำลังท้องอยู่
พ่อแม่ไม้ฉาก พ่อแม่ของน้องพิม ,, กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
สิ่งที่เค้ากำลังทำ ,, มันไม่เรียกว่ารักลูกแล้วละ
ทำให้ลูกต้องร้องไห้ ต้องทุกข์หนักขนาดนี้ …
มันไม่ใช่แล้วละครับ.
ตอนนี้ไม้ฉากกระชับมือผมแน่นกว่าเดิม ก่อนจะหันมามองหน้าผม
“ปั้น หนีกันเถอะนะ”
ไม้ฉากชวนผมหนีอีกครั้ง . . .
แต่เราจะหนีไปตลอดได้ยังไงละไม้?
เรายังเรียน เรายังอายุแค่ 20 กันอยู่เลยนะ ( ผมยังไม่ 20 เต็มครับ)
“ไม้ พวกมึงหนีไปตลอดไม่ได้หรอกนะ อีกสิบกว่าวันมึงต้องเข้าทำงานวันแรกแล้ว
พ่อมึงก็ต้องไปตามที่ทำงานมึงแน่ๆ อย่าหนีเลยวะ”
เลน่อนเตือนสติไม้ฉาก
ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เลน่อนพูดครับ ยังไงๆพ่อเค้าก็ต้องไปรอที่เชียงใหม่แน่ๆ
“กูขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวได้ไหม ให้กูได้หนีไปทำตามหัวใจกูก่อน
ตอนนี้กูคิดอะไรไม่ออกแล้ว เมื่อวานกูเพิ่งอยู่ในค่าย
เพราะถือปืนเดินลาดตะเวน ตอนกูนั่งรถไฟกลับมาบ้าน
คิดว่าจะเจอพ่อแม่ต้อนรับอย่างอบอุ่น ได้กินได้คุยกับพวกมึงแบบสนุกสนาน
แต่พอเอาเข้าจริงๆ ชีวิตกูทำไมเป็นแบบนี้วะ?
ทำไมกูต้องโดนบังคับ ต้องโดนขีดเส้นทางให้เดิน
ทำไมวะ ,, ทำไมกูไม่มีทางได้คิดเอง ได้มีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างเลยหรอวะ
แม้กระทั่งคนที่กูรัก กูยังดูแลเค้ายังรักษาเค้าไว้ไม่ได้ กูจะไปดูแลปกป้องใครเค้าได้”
ไม้ฉากมันพูดระบายความรู้สึกในใจของมันออกมาทั้งหมด
ยูโรเองก็ทนเห็นสภาพของไม้ฉากที่อ่อนแอแบบนี้ไม่ได้ ต้องดึงเปามากอดไว้
เลน่อนได้แต่นั่งมองหน้าคะน้า สลับกับมองหน้าไม้ฉาก
ผมดึงตัวมันให้มาซบตรงไหล่ผม
จะดึงมากอดก็ไม่ได้ครับ ไม้ฉากจับมือผมไว้แน่นเลย
ผมเลยทำได้ให้มันเอนมาซบตรงไหล่
“ไปกันเถอะ ไปหาความสุขกันข้างหน้า จะเกิดอะไรก็ปล่อยมันไป
ไปมีความสุขกันเถอะมึง”
ไนซ์พูดแล้วก็เดินมาจับไหล่ไม้ฉากไว้
พวกผมมองหน้าไนซ์อย่าง งงๆ ว่ามันจะทำอะไร
“กูเองก็เบื่อชีวิตดารา ชีวิตการเสแสร้งมากแล้ววะ
ไปใช้ชีวิตติดเกาะกันสัก 4 – 5 วัน ปิดมือถือ ปิดทุกอย่างๆ
แล้วจะเอายังไงก็ค่อยคิดกันเหอะ”
ไนซ์พูดเสร็จก็หันมายิ้มให้ผม แล้วก็หันไปมองหน้าพวกยูโร เปา คะน้า เลน่อน
และสุดท้าย ...
“ไปสิวะ เพื่อนว่าไง พวกกูก็ว่าดีตามทั้งนั้น”
เสียงของเปาก็ตอบคำถามทุกอย่างแทนทุกๆคน
พวกเราต่างยิ้มให้กันอีกครั้ง ยูโรเดินมาตบบ่าไม้ฉากเบาๆ ก่อนจะหันมายิ้มและหยักหน้าให้ผม
เปากับเลน่อนก็ทำเหมือนที่ยูโรทำเช่นกัน
“ไปด้วยกันนะไม้ ,, จะเกิดอะไรก็ตาม ห้ามปล่อยมือกูนะ “
ผมก้มลงไปบอกกับไม้ฉาก ที่ซบตรงไหล่ผมอยู่
และกระชับมือที่เราจับกันไว้ให้มันแน่นมากกว่าเดิม.
การ “ ห นี “ ไม่ใช่ทางออกของชีวิตที่ดี
แต่วันนี้ถ้าการได้ยืดระยะเวลาให้เราได้มีกัน
ได้ยิ้มด้วยกัน และกอดกัน ได้หัวเราะกันออกไป
อีกเพียงแค่ 4 – 5 วัน
สิ่งที่ผมและไม้ฉากทำ ,, มันคงไม่ผิดใช่ไหม?