❥Close Friend :: เพื่อนสนิท ||เรื่องเล่าระหว่างทาง 8 ||P.45||12-12-59||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❥Close Friend :: เพื่อนสนิท ||เรื่องเล่าระหว่างทาง 8 ||P.45||12-12-59||  (อ่าน 255927 ครั้ง)

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ผมว่าคุณพ่อพูดผิดไปนิดนึงนะครับ ที่ว่า 'ใหญ่โตคับฟ้าจนพ่อแม่บังคับไม่ได้น่ะ'

คุณน่ะบังคับใครไม่ได้แต่แรกอยู่แล้วครับ

มนุษย์ที่บีบให้คนทำด้วยอารมณ์ตามอำเภอใจ ไม่มีวันล่ามคนให้อยู่ใต้อาณัฐได้ด้วยความรักหรอกครับ ซักวันพอเค้าถึงขีดสุด เค้าก็ไป แล้วถึงตอนนั้นละ... ความเสียใจมันไม่ปราณีปราศัยใครนะครับ

แต่ถ้าเราคุยกันด้วยใจ มีสติในการช่วยกันแก้ปัญหา เราจะสร้างสายสัมพันธ์ที่ทำให้เค้าเข้าใจเรา เต็มใจที่จะทำให้เรา และเค้าจะไม่มีวันทิ้งเราไปครับ และนั่นคือสายสัมพันธ์ที่ไม้ฉากกับปั้นสิบมี เป็นสายสัมพันธ์แรกเริ่มที่สร้างความผูกพันของ 'ครอบครัว'

ผมพูดเรื่องที่ควรพูดกับปั้นสิบและไม้ฉากไปหมดแล้ว หลังจากนี้ก็รอติดตามแล้วนะครับ :)

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
พ่อแบบนี้ อย่าหาว่าอกตัญญูเลย หนีไปจากแกเหอะ รอตั้งตัวได้แล้วค่อยกลับมา

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
นั่นไง...ว่าแระ
รีบเก็บกระเป๋า เข้า กทม. เลย

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
Ch 69  ขอทำผิดอีกได้ไหม? || ปั้นสิบ



หลังจากที่ไม้ฉากเดินออกไปกับแม่  พวกผมก็พากันเก็บของใส่กระเป๋า
เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้เดินทางกลับได้เลย
เป็นการเตรียมพร้อมที่ดีมาก 555+


พวกผมออกไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับไม้ฉากด้วยความรู้สึกแตกต่างจากตอนที่มาถึงครั้งแรกมากครับ
ตอนแรกนี้คือเฮฮากันเต็มที่มากๆ กะไว้ว่าต้องได้เมา ได้เม้าท์กันอย่างเต็มที่แน่ๆ
แต่ตอนนี้แต่ละคนเริ่มคิด เริ่มหวาดกลัวกันไปหมดแล้วว่าจะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นหรือป่าว


พวกผมนั่งทานข้าวกันไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับยกมือไหว้แขกผู้ใหญ่ที่พวกเราคุ้นหน้ากันบ้าง
ป๊าม๊าของผมก็เดินมาหาที่โต๊ะ คอยถามว่าจะเอาอะไรเพิ่มไหม?
เอาจริงๆเหมือนป๊าม๊าเป็นเจ้าภาพร่วมเลยครับ
คอยช่วยบ้านไม้ฉากกับบ้านน้องพิมเตรียมงานและต้อนรับแขก
จนยูโรมันแซวผมอะครับ

“กูบอกแล้วว่าต้องเป็นงานสู่ขอมึงแน่ๆปั้น   ดูม๊ามึงสิต้อนรับแขกคู่กับแม่ของไม้ฉากด้วยอะ
นี้ถ้ามีมึงไปยืนข้างๆไม้ฉากนะ แล้วป้ายบนเวทีเอาชื่อมึงไปแปะข้างๆชื่อไม้ฉาก
ใช่เลยอะมึง ,, งานแต่งเลย 555+”

ยูโรมันคงจะลืมไปละมั้งครับ สายตาพ่อไม้ฉากที่เข้าไปในบ้านพักเมื่อตอนเย็นนั้นอะ
มันไม่ใช่สายตาที่บ่งบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยนะ - -‘


และพอช่วงสักประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ 
พ่อขอกไม้ฉากก็ขึ้นไปขอบคุณแขกที่มาร่วมยินดีกับไม้ฉากในคืนนี้


“ผมต้องกราบขอบคุณทุกๆท่านมากที่ได้มาร่วมยินดีกับลูกชายคนโตของผม
ที่ได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรตำรวจ และหลักสูตรพิเศษจากกรมตำรวจ
ที่ส่งไปให้ฝึกถึงชายแดนภาคใต้ ที่จังหวัดนราธิวาส
วันนี้เด็กชายภาคิน ตัวน้อยๆที่พวกท่านเคยได้เห็นมาตั้งแต่เด็ก ได้เติบโตเป็นหนุ่มแล้วครับ
แต่ถึงไม้ฉากจะเป็น   สิบตำรวจตรีภาคิน   แล้วก็ตาม 
สำหรับพวกเรา เค้ายังเป็นเพียงเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง
ที่จะต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมายในโลก ในสังคมแห่งนี้
อยากฝากให้คุณลุง คุณป้า คุณน้า และคุณอาทุกๆคนในที่นี้
ได้ช่วยกันตักเตือนเมื่อหลานทำผิด  และช่วยกันมอบสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควรให้กับหลานชายคนนี้ด้วยครับ”



พ่อไม้ฉากก็พูดไปเรื่อยๆ คนข้างล่างก็ปรบมือให้พ่อไม้ฉากบ้าง 
หันไปยิ้มให้ไม้ฉาก ให้แม่ของไม้ฉากบ้าง
เพราะแขกส่วนใหญ่ที่มาเป็นญาติของไม้ฉากครับ
และมีลูกค้าที่ดีลงานกับทางครอบครัวไม้ฉากมาด้วย


“และในวันนี้ที่เราจัดงานที่รีสอร์ทธารรัก แห่งนี้
เพราะอยากให้ทุกท่านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดรีสอร์ทที่มาจากสายสัมพันธ์
สายรักระหว่างเพื่อน   ซึ่งเป็นส่วนของผม และคุณพีระพลครับ”

ตอนนี้ลุงพลเดินขึ้นไปยืนข้างๆพ่อของไม้ฉาก 
น้าอร เมียของลุงพล ก็พาน้องพิมมานั่งที่โต๊ะเดียวกับไม้ฉากครับ
ซึ่งตอนแรกน้องพิมไม่ได้ลงมาร่วมงาน

ไม้ฉาก และน้องพิมนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมมาก
ก็คงเคยเจอกันมาแล้วละมั้ง  ?
ผมมองภาพตรงหน้าแล้วก็พลันนึกถึงโพสใน Facebook ของไม้ฉากได้

Pim Pim ที่มาโพสเต็มหน้าวอลตอนนั้น
ใช่หนูพิมคนนี้แน่ๆ

ผมรีบเปิด Facebook ดู .. แล้วสิ่งที่ผมคิดก็ใช่ครับ
หนูพิมคนนี้คือคนเดียวที่มาถล่มหน้าวอลของ Facebook ไม้ฉาก


“ดูอะไรวะ” ไนซ์ก้มลงมากระซิบข้างๆหูผม
ผมเลยยื่นมือถือให้ไนซ์ดู

“ไนซ์มึงว่าน้องพิม กับคนที่โพสเต็มหน้าวอลของไม้ฉากนี้ใช่คนเดียวกันหรือป่าววะ?”
ไนซ์รับมือถือของผมไปดู ก่อนจะตอบผม

“อืม ใช่วะ  ถึงว่าละสนิทกัน”
ไนซ์มันชี้ให้ผมมองไปที่ไม้ฉากกับน้องพิม ที่ตอนนี้นั่งคุยกันอย่างถูกคอครับ
ไม้ฉากเอื้อมมือไปจับที่ท้องน้องพิมด้วย
คงคุยกันเรื่องลูกในท้องของน้องพิมแน่ๆ

“แต่กูว่านะ ไม้ฉากกับพิมเป็นแค่พี่น้องกันแหละ เพราะพิมดูมีความสุขมากนะที่ท้องอะ
จะมองแง่ร้ายว่าเป็นลูกของไม้ฉากก็ไม่น่าใช่ ท้องพิมยังไม่ใหญ่ เหมือนจะท้องไม่กี่เดือน
แล้วไม้ฉากมันจะมาทำลูกตอนไหน ในเมื่อมันไปใต้เพิ่งกลับมา
อีกอย่างนะหน้าไม้ฉากมันก็เหมือนแค่เอ็นดูน้องพิมเฉยๆ คงไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องคิดมาก”

ไนซ์เอามือถือคืนมาให้ผม ก่อนจะลูบหัวผมเล่น


ตอนแรกกูก็ไม่คิดหรอกนะไนซ์ แต่พอมึงพูดมาแค่นั้นแหละ ....
คิดหนักเลยมึงเอ้ยยย !!!


นั่งมองภาพตรงหน้าแล้วก็คิดไปเรื่อย
คิดมากจนไม่ได้ยินว่าพ่อไม้ฉากกับลุงพลพูดอะไรบนเวทีแค่นั้นเองครับ - -‘
มาได้ยินอีกทีตอนที่ลุงพลจะลงจากเวทีแล้ว


“.... ครับ และหวังว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ทุกท่านจะร่วมมาเป็นเกียรติ
ให้กับงานมงคลของรีสอร์ทและครอบครัวเราทั้งคู่ด้วยนะครับ”



พอลุงพลพูดจบ พ่อไม้ฉากกับลุงพลก็คืนไมค์ให้กับนักร้องบนเวที
ก่อนจะเดินลงมานั่งร่วมโต๊ะกับไม้ฉากอีกครั้ง
เออคือ .. งานมงคลของรีสอร์ทคืออะไรวะ??


“เค้าจะเปิดรีสอร์ทเป็นทางการหรอ?” ผมหันไปสะกิดถามคะน้า
เพราะมันน่าจะตั้งใจฟังอยู่แหละนะ เห็นมันปรบมือตลอดเลย

“กูก็คิดแบบนั้นนะ” คะน้าตอบเสร็จแล้วก็หันมานั่งกินอาหารตรงหน้าต่อ
ลดไป 20 โล แต่มาครั้งนี้จะขึ้นไปอีกกี่โลวะเนี้ยย คะน้ากินไม่หยุดเลยครับ 555+


“แต่กูว่ามันแปลกๆนะปั้น  หรือกูคิดไปเองวะ” เปามันหันมาคุยกับผม

“ยังไงวะเปา” ผมหันไปถามมัน

“เอาไว้กลับห้องก่อนนะ กูจะบอก ตอนนี้เสียงดังไม่อยากตะโกน มันเจ็บคอ”

เปาตอบผมเสร็จ ก็หันไปกินอาหารที่พนักงานเอามาเสิร์ฟ
ส่วนไนซ์ตอนนี้โดนดึงไปถ่ายรูปละครับ มันก็ทำได้แต่ยิ้มสู้กล้องไปนั้นแหละครับ
ทำไงได้ พ่อดาราสุดหล่อ 555


ไม้ฉากเดินมาหาผมที่โต๊ะหลายครั้งเหมือนกัน
แต่มาได้แป๊บเดียวพ่อก็มาดึงแขนให้ออกไปต้อนรับแขกโต๊ะอื่น
จนครั้งสุดท้าย แขกเริ่มทยอยกลับไปพักกันหมดแล้ว
แขกบางคนไปพักในตัวเมืองครับ บางคนก็พักที่ห้องรับรอง แต่ส่วนมากจะกลับไปพักในตัวเมือง


“เดี๋ยวไปหานะ”
ไม้ฉากก้มลงมากระซิบบอกผม ก่อนจะดึงแก้มผม แล้วเดินไปส่งแขกกับพ่อ
จะตัดแก้มให้มันแล้วเนี้ย ชอบดึงอยู่ได้ - -‘


“งั้นพวกเรากลับห้องเถอะ”
ไนซ์รีบเดินกลับมาที่โต๊ะ ก่อนจะชวนพวกผมกลับ
เพราะมันไม่อยากโดนลากไปถ่ายรูปอีกครับ 555+


“ปั้นครับ ม๊ากับป๊าขอคุยกับปั้นก่อนได้ไหมลูก”
ม๊าเดินเข้ามาหาพวกผม 
เพื่อนๆผมเลยพยักหน้าให้ 

แล้วยูโรก็บอกกับผม
“มึงคุยกับม๊าเถอะเดี๋ยวกูกลับเข้าบ้านพักก่อน


ผมเลยได้แต่ยิ้มแล้วมองเพื่อนๆเดินกลับไปที่พัก
ตอนเดินกลับพวกมันก็แกล้งกันไปด้วย
คะน้าไล่ตียูโร สงสัยยูโรไปปากเสียใส่คะน้าอีกแน่ๆครับ 555+



“เราไปเดินเล่นกันแล้วคุยกันดีไหม  วันนี้เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ”
ป๊าดึงผมเข้าไปโอบบ่าไว้  แล้วพาเดินไปดูสวนดอกไม้ที่อยู่ข้างๆห้องพักพวกผมนั้นแหละครับ


“ปั้น  ป๊ารู้นะว่าปั้นกับไม้ฉาก รักกันแบบไหน  และป๊าไม่เคยคิดจะห้ามปั้นเลย
เพราะลูกชายของป๊าเป็นเด็กดี  ป๊าเชื่อว่าปั้นจะไม่ทำตัวเหลวไหล และจะไม่ทำให้ป๊ากับม๊าผิดหวัง”

อยู่ๆป๊าก็หยุดเดิน ก่อนจะลงนั่งตรงม้านั่งในสวนดอกไม้นั้น  ม๊าก็ลงไปนั่งข้างๆป๊าด้วย
เอ๊ะ ,, ป๊ากับม๊ามาแนวไหนเนี้ย?


“ครับ  ขอบคุณนะครับป๊า  ปั้นดีใจที่สุดเลยที่ได้เกิดมาเป็นลูกป๊า แล้วก็ม๊าด้วย”
ผมลงไปนั่งกับพื้นตรงข้างหน้าป๊า ก่อนจะโผตัวเข้าไปกอดป๊า
ส่วนม๊าก็เอามือมาลูบที่หัวผม

“ม๊าเองก็ยังไม่เข้าใจหรอกนะว่ารักของปั้นมันเป็นยังไง
แต่ที่ผ่านมาปั้นก็ทำให้ม๊ารู้ว่าการที่ปั้นรักกับไม้ฉาก 
ปั้นไม่ได้เหลวไหลอะไรเลย ปั้นยังตั้งใจเรียน ยังเป็นที่หนึ่งในคณะเหมือนเดิม
ม๊าขอโทษนะลูก ที่เคยทำตัวแย่ๆกับลูกไป   ไม่โกรธม๊านะ”

ม๊าดึงผมเข้าไปกอด แล้วม๊าก็ร้องไห้ด้วยครับ


“ปั้นไม่โกรธม๊าหรอกครับ ปั้นรู้ว่าสิ่งที่ม๊าทำไปเพราะม๊ารักและหวังดีกับปั้น
ไม่เอานะคนสวยของปั้นไม่ร้องไห้นะครับ”

ผมเงยหน้าไปมองหน้าม๊า ก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ม๊า


“อืมม จริงๆแล้วป๊ากับม๊าอยากจะบอกปั้นให้เร็วกว่านี้
และก่อนหน้าจะมาที่นี้ด้วย  แต่ป๊ามัวแต่ยุ่งกับงานจนลืมบอกปั้นไป”


บอก?

ป๊าจะบอกอะไร?

แล้วทำไมต้องบอกก่อนมาที่นี้ด้วยละ?


“ครับป๊า อะไรหรอครับ”
ม๊าดึงผมให้ขึ้นมานั่งตรงกลาง ระหว่างม๊ากับป๊า


“เรื่องของไม้ฉากนะ”

ไม้ฉาก?



“ไม้ฉากมันทำไมครับป๊า”
ผมรีบหันไปถามป๊า แต่ป๊าก็มองหน้าผมนิ่งๆ
แล้วก็ดึงผมไปกอดอีกครั้ง


ป๊า T^T พูดซะทีเถอะ ,, ไม้ฉากมันทำไมวะ?
จะใช่เรื่องเดียวกับที่ไม้ฉากมันบอกไหมว่าได้ยินพ่อแม่มันพูดกับป๊ากับม๊า


“จะยังไงก็แล้วแต่นะปั้นสิบ  ให้ลูกภูมิใจไว้ที่ได้มีวันเวลาดีๆกับไม้ฉากมาเป็นสิบๆปีนะ”
ป๊าผละผมออกจากอ้อมกอด ก่อนจะพูดกับผม
แต่มันไม่เข้าใจอยู่ดีอะ เรื่องอะไรวะ?


“ป๊าม๊า อยากบอกอะไรปั้นก็บอกเถอะครับ “
ผมถามป๊ากับม๊าอีกครั้ง
แต่ป๊ากับม๊า ไม่ได้ตอบผม ม๊าจับมือผมไว้แน่นเลยครับ ส่วนป๊าก็เอามือมาลูบหัวผม



“ให้ผมเป็นคนบอกเถอะครับ”
ไม้ฉากเดินเข้ามาในสวนดอกไม้ มันคงวิ่งมาแน่ๆ หอบมาเชียว
ไอ้หมาป่า .. หอบแบบนี้ยิ่งเหมือนหมา 555+



ป๊าม๊าผมหันไปมองหน้าไม้ฉาก ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืน

“อืมม งั้นลุงฝากด้วยนะไม้”
ป๊าเอามือมาตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะชวนม๊าเดินออกจากสวนดอกไม้ไป


“มีเรื่องอะไรกันป่ะวะ ทำไมป๊าม๊าดูแปลกๆ แล้วมึงมีไรจะบอกกูเนี้ย
วิ่งมาซะลิ้นห้อยเลย  เหนื่อยปะ มานั่งๆก่อน”

ผมดึงไม้ฉากให้มานั่งข้างๆผม


มันก็นั่งเงียบๆครับ ไม่มีคำพูดอะไรออกจากไม้ฉาก
ตอนนี้ผมเองก็เริ่มคิดแล้วละว่า ,, มันคงจะมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ
และคงเป็นเรื่องของผมกับไม้ฉากแน่นอน  ไม่งั้นป๊าม๊าผมคงไม่พูดจาแปลกๆ
และไม้ฉากคงไม่วิ่งเข้ามาเพื่อขอเป็นฝ่ายพูดเองหรอก


หรือจะมาสู่ขอจริงๆ ??
แต่เดี๋ยวก่อนนะปั้นนะ - -‘
รูปการมันใช่หรอออ?? มันดูเศร้าๆ ดูอึดอัดใจแปลกๆ มันจะสู่ขอหรือไงละ?
นี้ก็เอาความคิดของยูโรมามโนตามจนได้  เห้ออ ,, ไอ้ปั้นไอ้บ้า


ระหว่างที่ไม้ฉากมันนั่งเงียบๆ ผมก็คิดอะไรบ้าบอคนเดียวไปเรื่อยๆ
แล้วไม้ฉากก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมา


“ปั้น  หนีไปกับไม้ไหม? ไปใช้ชีวิตด้วยกันที่เชียงใหม่”
อยู่ๆไม้ฉากมันก็ดึงมือผมไปจับไว้
ก่อนจะพูดชวนผมหนี!


เดี๋ยวนะ .. หนีงั้นหรอ???!!



“หนี? ทำไมต้องหนีวะไม้  มีเรื่องอะไรบอกกูมาสิ”
ผมหันไปถามไม้ฉาก ที่ตอนนี้มันจับมือผมไว้แน่นเลยครับ
และมันก็ก้มลงไปเอาหน้าวางบนฝ่ามือของผม
ก่อนที่มันจะ   ร้ อ ง ไ ห้  . . .

เห้ยย ,, ไม้ฉาก .. เป็นไรวะ?



“ไม้ .. เป็นอะไรไม้ ใจเย็นๆนะไม้”
ผมดึงไม้ฉากเข้ามากอด มันก็เอนตัวเข้ามาซุกกับตัวผม

“ไม่เอาไม่ร้องนะไม้  .. มีอะไรเราคุยกันนะ บอกกับปั้นสิ อย่าร้องนะไม้ฉากนะ”
ผมเอามือตบหลังมันเบาๆ มันก็ยังสะอื้นและร้องไห้ต่อ
จนผ่านไปนานมากครับ น่าจะเกือบๆครึ่งชั่วโมงได้ ไม้ฉากก็หยุดร้องไห้


“กูขอโทษ ที่ทำให้มึงต้องรอกูนานๆแบบนี้ ขอโทษที่วันนั้นกูไปสอบตำรวจ
ถ้ากูหนีมาเรียนมหาลัย มาอยู่กับมึงเลยตั้งแต่ตอน จบ ม.6
วันนี้กูก็คงไม่เจ็บปวดแบบนี้หรอก”

ไม้ฉากผละออกจากกอดของผมไปแล้ว และนั่งมองหน้าผมอยู่
ก่อนจะบอกว่าขอโทษผมซ้ำๆ


“ไม้ ไม่ต้องอ้อมค้อมนะ มึงพูดมาตรงๆเลย
เรารู้จักกันมาจะ 14 ปีแล้วนะเว้ยย
กูไม่ใช่คนอ่อนแออะไรขนาดนั้นมึงก็รู้
พูดมาเถอะ ,, กูรับฟังได้ “

ผมจ้องหน้าไม้ฉาก ..

อยากให้มันได้เห็นและอยากให้มันได้เชื่อในตัวผม
ว่าผมเข้มแข็งพอ ไม่ว่าเรื่องราวที่มันเจอจะหนักแค่ไหนก็ตาม
ขอแค่มันพูดกับผม ,,
ผมพร้อมจะฟัง และจะเป็นฝ่ายเข้มแข็งและปกป้องมัน



“พ่อกูจะให้กูแต่งงาน”
ตอนนี้เหมือนมีมีดเป็นพันๆเล่มมาปักอกเลยครับ


แต่งงาน???!!!

กับใคร?

เมื่อไหร่?

เดี๋ยวนะ .. นี้ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมวะ?


“กะ กับ กับใคร”
ผมถามไม้ฉากเสียงสั่นๆ .. ตอนนี้สติผมก็แทบจะไม่มีแล้วครับ
มีแต่คำว่า “ทำไม”


“พิม”
ไม้ฉากตอบออกมาเสียงสะอื้นไม่แพ้กัน ตอนนี้มันเริ่มร้องไห้อีกรอบละครับ
แล้วไม้ฉากก็ดึงผมเข้ากอด 
ตอนนี้ผมเหมือนคนไม่มีวิญญาณเลย
เหมือนมีแค่ร่างกายธรรมดา ที่ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่ามันเจ็บหรือป่าว?



ทำไมอีกหรอ?
การรอคอย การอดทน  ของผมทั้ง 2 คนมันยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดอีกงั้นหรอ?
พวกเราไม่เคยอยากขัดใจพ่อแม่หรือครอบครัวเลย
เรื่องการเรียน เรื่องการประพฤติตัว พวกเราไม่เคยแย่เลยด้วยซ้ำ
มีแต่คำชมจากคนรอบข้าง จากคนที่ได้สัมผัสได้มองเห็นเรา
ว่าเราทั้งคู่เป็นเด็กดี เด็กเรียนดี  . . .

แต่ทำไม ..

ทำไมสุดท้ายแล้วเป็นแบบนี้????




“กูขอโทษปั้น กูขอโทษจริงๆ”
ไม้ฉากร้องไห้ไปก็พูดแต่คำว่าขอโทษผมซ้ำๆ
ผมทำได้เพียงแต่กอดมันกลับไป แล้วตบหลังมันเบาๆ



“ไม่เป็นไรไม้ ค่อยๆคิด  เราผ่านมันไปได้”
สิ่งที่ผมพูดกับไม้ฉากไป ,, เอาจริงๆตัวผมเองก็มองไม่เห็นทาง
ที่จะผ่านมันไปได้เลย

พิมท้องอยู่ไม่ใช่หรอ?
ทำไมต้องให้แต่งงานกับไม้ฉาก
ผมเชื่อใจไม้ฉาก และผมเชื่อว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของไม้ฉากแน่นอน




“ไม้ ปั้น  เข้าไปคุยกันในบ้านเถอะ”
ไนซ์เดินออกมาตามพวกผม
ผมเลยดึงไม้ฉากให้เดินตามไนซ์เข้าไปในบ้าน
แต่.. ไนซ์รู้ได้ไงว่าพวกผมอยู่ตรงนี้?
เอาไว้ค่อยถามละกัน - -‘



พอเดินเข้ามาในบ้านพัก ผมก็เจอกับพิมนั่งร้องไห้อยู่บนเตียงกับคะน้า


“พี่ไม้”

พอพิมหันมาเห็นไม้ฉากก็ลุกขึ้นมา แล้วเดินมากอดไม้ฉาก
เออคือ .. กอด?
เริ่มไม่สบอารมณ์นิดๆแล้วละ เมื่อกี้ไม้เพิ่งบอกว่าต้องแต่งงานกับพิม
แล้วนี้พิมมานั่งรอในบ้าน พอเห็นไม้ฉากก็มากอดไม้ฉากอีก
อดทนเว้ยยปั้น  อดทน!


“คือเรื่องราวเป็นไงวะ กู งง ไปหมดแล้วนะ”
ยูโรเดินเข้ามาถามผม  แต่ผมไม่รู้จะตอบมันยังไงครับ
ผมเองก็ยัง งง ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงแน่

“พี่ไม้ ฮึกกก ,, พิม พิมไม่แต่งนะพี่  พี่ไม้ช่วยบอกกับพ่อแม่หน่อยนะพี่ไม้นะ”
พิมร้องไห้ไปด้วย แล้วก็อ้อนวอนขอให้ไม้ฉากไปช่วยคุยกับพ่อแม่ให้
ไม้ฉากเองก็ร้องไห้เหมือนกัน


ตอนนี้ไม้ฉากค่อยๆผละพิมออก   
ก่อนจะพาพิมไปนั่งบนเตียงที่คะน้านั่งอยู่


“พิมอย่าร้องไห้นะ  พี่จะหาทางแก้ไขเอง  นึกถึงลูกไว้นะพิม  อย่าร้องไห้นะครับ”
ไม้ฉากเอามือไปลูบหัวพิม เพื่อปลอบให้พิมหยุดร้อง
ก่อนจะหันไปมองหน้าคะน้าที่นั่งมองอยู่ข้างๆ

“คะน้า เราฝากพิมก่อนนะ”
คะน้าก็พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปกอดน้องพิมไว้


“พวกมึงมีเรื่องอะไรวะ  กู  งง  ไปหมดแล้ว ช่วยพูดออกมาทีเถอะ
มีหลายคนช่วยกันคิด ยังดีกว่าคิดคนเดียวนะเว้ยย”

ยูโรทนกับเหตุการณ์อึดอัดตรงหน้าไม่ไหว
เลยพูดเสียงดังขึ้นมากลางความเงียบของทุกคน



ไม้ฉากดึงผมให้ไปนั่งข้างๆ บนเตียงที่ว่างข้างเตียงของคะน้า
และมันก็จับมือผมไว้ไม่ยอมปล่อยเลยครับ
ก่อนจะหันไปมองหน้ายูโร กับเพื่อนๆ
ที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้บ้าง นั่งตรงโต๊ะวางทีวีบ้าง


“พ่อกูจะให้กูกับพิมแต่งงานกัน”
ไม้ฉากเอ่ยปากบอกเพื่อนๆ
พอไม้ฉากพูดจบ  เสียงเปาก็พูดแทรกขึ้นมา

“นั้นไง  กูว่าแล้ว!!
กูเอะใจตั้งแต่พ่อมึงขึ้นไปพูดบนเวทีแล้ว  แต่ไม่คิดว่ามันจะจริง
เพราะพิมบอกว่าพิมท้องอยู่ กูเลยคิดแค่ว่าเค้าจะทำบุญเปิดรีสอร์ทเฉยๆ”

เปามันมักจะฉลาดกว่าเพื่อนทุกคนในกลุ่มจริงๆครับ
และสิ่งที่มันสงสัยก็เป็นจริง ..

“แต่กูกับพิมไม่แต่ง  กูมีปั้นแล้ว และกูก็ไม่อยากทำให้ปั้นต้องเสียใจ กูไม่อยากทำร้ายหัวใจกูอีกแล้ว”
ไม้ฉากพูดเสร็จก็หันมามองหน้าผม  มือของเรายังจับมือกันไว้ไม่ปล่อย

“พิมเองก็ไม่แต่ง  พิมจะรอแฟนพิม  ลูกของพิมมีพ่อ และเค้าจะมีพ่อแค่คนเดียวด้วย”
น้องพิมก็ยืนยันเหมือนกันว่าจะไม่แต่งกับไม้ฉาก

“น้องพิมก็ให้แฟนน้องพิมมาสู่ขอสิคะ  คุณพ่อน้องพิมจะได้ไม่ต้องให้แต่งกับไม้ฉากไง”
คะน้าบอกกับน้องพิม  แต่น้องพิมก็ส่ายหัวและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

“แฟนพิมติดคุกคะ  อีก 2 ปีกว่าจะได้ออกมา”
อ้าวว  .. นี้อย่าบอกนะว่าจะให้ไม้มารับเป็นพ่อเด็ก?
ไม่ใช่ละครหลังข่าวนะครับ  ที่จะโบ้ยให้ใครๆมารับผิดชอบให้
พ่อแม่ไม้ฉากยอมได้ไง???


น้องพิมเห็นทุกคนเงียบไป เลยพูดต่อ...
“ตอนแรกพิมหนีออกจากบ้านไปแล้วคะ  หนีไปอยู่บ้านแฟนที่ตรัง  แต่พ่อแม่พิมไปตามตัวพิมขึ้นมา
ตอนนั้นพิมกำลังท้องได้ 4 เดือน  พ่อบอกว่าให้แฟนพิมมาทำงานที่รีสอร์ทด้วยกันก็ได้ พ่อไม่ว่าแล้ว
แฟนพิมเลยตามมาอยู่กับพิมด้วย  เราอยู่ด้วยกันช่วยกันทำงาน ช่วยพ่อทำรีสอร์ท
จนเมื่อเดือนก่อน พ่อใช้ให้แฟนพิมออกไปซื้อของในเมือง  พิมเห็นเค้าหายไปนาน
เลยโทรไปตาม แล้ว....ตำรวจก็เป็นคนรับสาย
บอกว่าแฟนพิมมียาเสพติดไว้ครอบครองต้องโดนจับ     ฮึกก ,, “

พิมพูดถึงตอนนี้ก็สะอื้นหนักขึ้นแล้วครับ  คะน้าเลยเอาผ้าเช็ดหน้ายื่นให้น้องพิม

“ไม่ต้องเล่าแล้วก็ได้นะพิม  อย่าร้องไห้เยอะนะ  เดี๋ยวกระทบไปถึงลูกนะคะ”
คะน้านั่งปลอบน้องพิม    แต่น้องพิมก็ยังร้องไห้และพูดต่อ ..

“เค้าไม่ได้ติดยานะคะพี่   แฟนพิมไม่ใช่คนแบบนั้น  พิมไปขอร้องพ่อให้พ่อช่วย 
พ่อบอกให้พิมรออยู่ที่บ้านกับแม่    เพราะพิมท้องแก่แล้วไม่ควรเดินทาง 
แต่พ่อกลับมาแค่คนเดียว  พ่อบอกว่าแฟนพิมต้องติดคุกอีก 2 ปีถึงจะออกมาได้
ฮึกกก ฮือออ ,, พิมจะรอแฟนพิม  พิมไม่แต่งกับใครทั้งนั้น”

มาถึงตอนนี้คะน้าก็ปลอบพิมไม่อยู่ละครับ
ไนซ์มันเลยเดินเข้าไปดึงพิมมากอด - -‘
ถ้าไม่ติดว่าเครียดจะแซวแล้วละครับ ว่ามันเล่นบทพระเอกจนเคยชินใช่ไหม
แต่ตอนนี้ยังเครียดอยู่ ,, ทุกคนได้แต่มองพิมอย่างสงสาร


ตอนนี้พวกผมกลับมาเงียบกันอีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
มีแต่เสียงแอร์ เสียงธารน้ำข้างๆ เสียงสะอื้นของน้องพิม และเสียงปลอบเบาๆจากไนซ์



ผมมานั่งลำดับเหตุการณ์ดูตั้งแต่พ่อแม่ไม้ฉากโทรตามพวกผมให้มาร่วมงาน
และเรื่องที่ป๊าม๊าพยายามจะบอกผมเมื่อกี้ ,,
นี้สินะที่พ่อของไม้ฉากต้องการ
พ่อของไม้ฉากแค่อยากเอาชนะพวกผมแค่นั้นหรอ?
ถึงขั้นให้ไม้แต่งงานกับน้องพิม ทั้งๆที่น้องพิมกำลังท้องอยู่
พ่อแม่ไม้ฉาก พ่อแม่ของน้องพิม ,, กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
สิ่งที่เค้ากำลังทำ ,, มันไม่เรียกว่ารักลูกแล้วละ
ทำให้ลูกต้องร้องไห้ ต้องทุกข์หนักขนาดนี้ …
มันไม่ใช่แล้วละครับ.



ตอนนี้ไม้ฉากกระชับมือผมแน่นกว่าเดิม  ก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ปั้น หนีกันเถอะนะ”
ไม้ฉากชวนผมหนีอีกครั้ง . . .
แต่เราจะหนีไปตลอดได้ยังไงละไม้?
เรายังเรียน เรายังอายุแค่ 20 กันอยู่เลยนะ ( ผมยังไม่ 20 เต็มครับ)

“ไม้ พวกมึงหนีไปตลอดไม่ได้หรอกนะ อีกสิบกว่าวันมึงต้องเข้าทำงานวันแรกแล้ว
พ่อมึงก็ต้องไปตามที่ทำงานมึงแน่ๆ อย่าหนีเลยวะ”

เลน่อนเตือนสติไม้ฉาก
ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เลน่อนพูดครับ  ยังไงๆพ่อเค้าก็ต้องไปรอที่เชียงใหม่แน่ๆ

“กูขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวได้ไหม ให้กูได้หนีไปทำตามหัวใจกูก่อน
ตอนนี้กูคิดอะไรไม่ออกแล้ว  เมื่อวานกูเพิ่งอยู่ในค่าย
เพราะถือปืนเดินลาดตะเวน  ตอนกูนั่งรถไฟกลับมาบ้าน
คิดว่าจะเจอพ่อแม่ต้อนรับอย่างอบอุ่น ได้กินได้คุยกับพวกมึงแบบสนุกสนาน
แต่พอเอาเข้าจริงๆ  ชีวิตกูทำไมเป็นแบบนี้วะ?
ทำไมกูต้องโดนบังคับ ต้องโดนขีดเส้นทางให้เดิน
ทำไมวะ ,, ทำไมกูไม่มีทางได้คิดเอง ได้มีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างเลยหรอวะ
แม้กระทั่งคนที่กูรัก  กูยังดูแลเค้ายังรักษาเค้าไว้ไม่ได้  กูจะไปดูแลปกป้องใครเค้าได้”

ไม้ฉากมันพูดระบายความรู้สึกในใจของมันออกมาทั้งหมด


ยูโรเองก็ทนเห็นสภาพของไม้ฉากที่อ่อนแอแบบนี้ไม่ได้ ต้องดึงเปามากอดไว้
เลน่อนได้แต่นั่งมองหน้าคะน้า สลับกับมองหน้าไม้ฉาก
ผมดึงตัวมันให้มาซบตรงไหล่ผม
จะดึงมากอดก็ไม่ได้ครับ ไม้ฉากจับมือผมไว้แน่นเลย 
ผมเลยทำได้ให้มันเอนมาซบตรงไหล่

“ไปกันเถอะ  ไปหาความสุขกันข้างหน้า  จะเกิดอะไรก็ปล่อยมันไป
ไปมีความสุขกันเถอะมึง”

ไนซ์พูดแล้วก็เดินมาจับไหล่ไม้ฉากไว้
พวกผมมองหน้าไนซ์อย่าง งงๆ ว่ามันจะทำอะไร


“กูเองก็เบื่อชีวิตดารา   ชีวิตการเสแสร้งมากแล้ววะ
ไปใช้ชีวิตติดเกาะกันสัก 4 – 5 วัน  ปิดมือถือ ปิดทุกอย่างๆ
แล้วจะเอายังไงก็ค่อยคิดกันเหอะ”

ไนซ์พูดเสร็จก็หันมายิ้มให้ผม  แล้วก็หันไปมองหน้าพวกยูโร เปา คะน้า เลน่อน

และสุดท้าย ...
 
“ไปสิวะ  เพื่อนว่าไง พวกกูก็ว่าดีตามทั้งนั้น”
เสียงของเปาก็ตอบคำถามทุกอย่างแทนทุกๆคน


พวกเราต่างยิ้มให้กันอีกครั้ง  ยูโรเดินมาตบบ่าไม้ฉากเบาๆ ก่อนจะหันมายิ้มและหยักหน้าให้ผม
เปากับเลน่อนก็ทำเหมือนที่ยูโรทำเช่นกัน


“ไปด้วยกันนะไม้ ,, จะเกิดอะไรก็ตาม  ห้ามปล่อยมือกูนะ “
ผมก้มลงไปบอกกับไม้ฉาก ที่ซบตรงไหล่ผมอยู่
และกระชับมือที่เราจับกันไว้ให้มันแน่นมากกว่าเดิม.


การ “ ห นี “ ไม่ใช่ทางออกของชีวิตที่ดี
แต่วันนี้ถ้าการได้ยืดระยะเวลาให้เราได้มีกัน
ได้ยิ้มด้วยกัน  และกอดกัน  ได้หัวเราะกันออกไป
อีกเพียงแค่ 4 – 5 วัน

สิ่งที่ผมและไม้ฉากทำ ,, มันคงไม่ผิดใช่ไหม?

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
จริงๆตอนนี้เจเขียนไว้ยาวมากคะ เพราะไม่อยากแบ่งตอนเยอะ
แต่ก็นะ ... เดี๋ยวยอมตัดขึ้นตอนใหม่ดีกว่า


คืนนี้อัพอีกตอนจ๊า ,,


มีคำผิดเดี๋ยวตามแก้ให้นะจ๊ะ
ขอบคุณทุกๆคอมเมนต์มากค่าา ^___^

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยยย ว่าแล้วพ่อไม้ฉากต้องทำแบบนี้ บังคับลูกตลอด ไม่อยากว่าหรอกน่ะว่า

ชีวิตใครชีวิตมันซิค่ะจะมากำหนดกฎเกณฑ์แบบนี้ได้ไงค่ะ จะอยู่บังคับไม้ฉากจนตายเลยเหรอค่ะ

แล้วต่อจากนั้นไม้ฉากจะคิดเองทำเองเป็นเหรอแล้วไม้ฉากจะกล้าตัดสินใจเองเหรอในเมื่อพ่อแม่ตัดสินใจให้ตลอดอ่ะ

ชีวิตลูกก็ต้องให้ลูกเป็นคนตัดสินใจเลือกเองซิค่ะ ตัวคุณพ่อเองก็ไม่ใช่จะอยู่กับเค้าได้ตลอดไปสักหน่อย

ถึงจะมาบังคับกันแบบนี้ เราให้ชีวิตกับเค้าก็จริงแต่เราไม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับเค้านะคะคุณพ่อ

เค้าไม่ใช่ตุ๊กตาที่จะต้องคอยทำตามที่บังคับตลอด ถึงแม้ว่าบางทีตัวไม้ฉากเองจะเต็มใจหรือฝืนทำให้ก็ตาม

แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งไม้ฉากทนไม่ไหวขึ้นมาตัวคุณพ่อเองล่ะค่ะที่จะเสียใจ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เรียกว่าหนีไปตั้งหลักเพื่อจะกำหนดชีวิตตัวเองดีกว่า
เราชอบมิตรภาพและควมรักของเด็กๆนะ ยังไงก็หนีพ่อแม่ไม่พ้นหรอกแต่มันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
จะต้องรอจนอายุเท่าไหร่กันถึงจะเรียกว่าโตแล้ว ลูกนะไม่ใช่ทาส

 :L1:  เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนค่ะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เดาไม่ผิดจิงๆ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อันนี้เขาเรียกไว้ว่าหนีไปตั้งหลัก ถอยไปชาร์จไฟเพื่อสู้ชีวิต   ไม่งั้นก็ไม่ไหวด้วยกันทั้งคู่

มาตอนนี้พ่อแม่ไม้ต้องการแค่เอาชนะไม้กับปั้นเท่านั้นเอง    หลบไปด้วยกันจนกว่าจะถึงวันที่ต้องเข้ารายงานตัวทำงานก็ค่อยไปด้วยกัน    เราไม่คิดหรอกว่าพ่อแม่ไม้จะรับลูกของพิมเป็นหลาน เราคิดว่าที่ทำไปก็แค่เพื่อทำให้ไม้กับปั้นแตกกัน   ทำให้พ่อแม่ปั้นเห็นว่าไม้มีภาระอื่นแล้วพ่อแม่ปั้นก็จะมาขัดขวางไม้กับปั้นเอง เห็นแบบนี้แล้วพ่อแม่ที่ไหนจะมายกลูกให้ไม้เล่า?    ดีนะที่พ่อแม่ 2 คนนี้ไม่ได้มาวางแผนด้วยกัน 

ปัญหาตอนนี้ก็คือเด็ก 2 คนนี้ ยังไม่สามารถอยู่เองได้  ไม้เองก็ไม่สามารถตัดใจแข็งข้อกับพ่อแม่ได้   ทำได้อย่างเดียวก็คือรอเวลาจนกว่าปั้นจะเรียนจบแล้วหางานทำมาอยู่ด้วยกัน   ไม้เองก็ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สามารถอยุ่เองได้   สมัครเรียนเพื่อให้เรียนจบปริญญาตรีช่วงที่รอปั้นเรียนจบ  พ่อแม่ให้ทำอะไรก็เฉย ไม่จำเป็นต้องทำตามหรือปฏิเสธ   เฉยให้เหมือนหิน   อย่ายอมให้เขาบังคับให้ตัวเองทำอะไรอีก   ใจตัวเองต้องเหมือนหินคือมั่นคง ไม่ได้หมายความว่าให้เป็นคนใจดำ

มาป่านนี้แล้วไม้กับปั้นน่าจะเข้าใจได้แล้วว่าพ่อแม่ไม้นั่นผิดปกติจริงๆ     พ่อแม่ที่รักลุกนะ วันหนึ่งลูกนอกคอกนอกกรงไปทำอะไรที่ไม่เห็นด้วยแต่ก็ตัดไม่ขาดหรอก   สิ่งสำคัญที่สุดก็คืออย่าปล่อยมือจากกันแล้ววันหนึ่งที่สามารถอยู่ด้วยกันได้นั้นจะรู้ว่ามันคุ้มค่าขนาดไหน

อยากเล่าเรื่อของหนุ่ม 2 คนอายุ 17 กับ 18 ที่หนีมากจากประเทศมุสลิมกัน 2 คน  ไม่ได้มาด้วยกัน ต้องแยกกันหนี ลี้ภัย เพราะว่าการเป็นรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายสังคมและกฏหมายชาเรีย   ครอบครัวจับได้ก็คือตายอย่างเดียว   สองคนนี้แยกกันหนี ผ่านร่อนเร่มาหลายประเทศจนได้มาเจอกัน 4 ปีให้หลัง  กว่าจะสามารถลี้ภัยและไปรับกันมาได้  สองคนผ่านอะไรต่อมิอะไรมาเยอะมากๆ  ถามสองคนนี้ว่า 4ปีที่ผ่านมาคุ้มค่าไหมกับความทรมาณ? คุ้มค่ามากๆถ้าต้องทำอีกก็จะทำแน่นอนเขาบอกมา  ขอเล่าเท่านี้นะคะมากกว่านี้เล่าไม่ได้แล้วเพราะจะเป็นการละเมิดสิทธิ์    ใจต้องสู้ต้องมั่นนะลูก

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
สงสารพิม การที่แฟนพิมติดคุก พ่อ- แม่พิม กับ พ่อ - แม่ไม้ฉากน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ เลย

ทำไมไม่คิดถึงใจคนเป็นลูกบ้างเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ติดตามอ่านมาหลายตอนแล้วนะ  แต่เม้นท์ไม่ออก  บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง  มันปั่นป่วน  ทุรนทุราย เครียด แค้น หน่วงในใจตลอด
ไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นตัวอักษรว่าอย่างไร  เจ็บปวดใจแทนสองหนุ่มมากๆ  จนต้องย้อนกลับไปอ่านตอนจุดเริ่มต้น  ว่านี่เป็นเรื่องแต่งตัวละครขึ้น  หรือเป็นเรื่องจริงของใครกันแน่  มันอินมากเกินไปซะแล้วเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณืที่เกิดขึ้นจริง   เฮ้อ  เมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงเสียทีนะ ยังไงก็คงต้องติดตามกันต่อไป  ทำได้แค่เพียงส่งกำลังใจและลุ้นไปกับสองหนุ่มต่อไปเท่านั้น  โชคดีและมีความสุขในการหลบภัยไปตั้งหลักครั้งนี้นะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอเป็นกำลังใจให้สองหนุ่มตลอดไปจ้า  ( รักนะ  มูเจ  คนเก่ง )

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ทำแบบนี้ ก้อไม่มีใครมีความสุข  เจ็บทั้งสองฝ่าย
อย่าเรียกว่า หนี เลยไม้ ถอยไปตั้งหลักจะดีกว่าเนอะ
ไปลุยกันโลด ไม้ ปั้น & เดอะแก็งค์

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เข้ามาอ่านหลายตอนเลย
อึดอัดซะจนไปแทบไม่เป็นทางเลย..เป๋ซะ

ความดีงาม อยากถามรู้ อยู่ตรงไหน
ความดีงาม ถามหัวใจ ใช่เพ้อฝัน
ความดีงาม มีจริงหรือ คือไรกัน
พ่อแม่นั้น ทำเพื่อลูก ยังถูกจริง?

ก็ไหนใคร บอกพ่อแม่ มีรักแท้
ก็ไหนใคร ไร้ข้อแม้ แค่ชายหญิง
ก็ไหนใคร ที่พึ่งได้ ให้อุ่นอิง
พ่อแม่ทิ้ง ลูกทุกข์ยาก อยากถามใจ

+1 นะ..มูเจ
เศร้าอ่ะ..โคตรหน่วงเลย

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
Ch 70  ตัดสินใจ||  ปั้นสิบ



ไนซ์จัดการโทรบอกคนรถให้เตรียมเอารถมารับที่หน้าบ้านพัก
ตอนนี้ก็เกือบๆจะเที่ยงคืนแล้วครับ  พ่อแม่ของไม้ฉาก  และพ่อแม่ของพิมน่าจะเข้านอนแล้ว
ส่วนป๊ากับม๊าผม ... เอาไว้ไปถึงที่หมายแล้วผมค่อยบอกก็ได้ครับ
เป็นการทำผิดกับป๊าม๊าอีกครั้ง ,, 
ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยหนีม๊าไปกระบี่ แต่ครั้งนั้นป๊ารับรู้ครับ


“เอาแบบนี้แน่นะ” เลน่อนถามพวกผมอีกครั้งก่อนจะขึ้นรถ

“ถ้ามึงไม่ไป กูส่งมึงที่กรุงเทพแล้วมึงนั่งเครื่องกลับเชียงใหม่ก็ได้นะ”
ยูโรหันไปมองหน้าเลน่อน
แต่หน้ายูโรนี้เหมือนพร้อมจะหาเรื่องมากกว่าครับ - -‘

“กูไปได้ทุกที่แหละ  แต่ที่กูถามนะ
พวกมึงหนีตอนนี้ แล้วพวกมึงพร้อมจะรับกับสิ่งที่จะตามมาแล้วใช่ไหม?”

เลน่อนพูดมาก็ถูกนะครับ  หนีตอนนี้มีความสุขแค่ไม่กี่วัน
แต่กลับมาพวกเราต้องเจออะไรบ้าง?

“น่อน  กูขอละ ให้กูได้มีความสุขแบบที่คนอื่นเค้ามีกันบ้างเถอะนะ
จะเกิดอะไรหลังจากนี้  กูก็พร้อมจะรับมัน 
ตอนนี้กูไม่อยากเผชิญหน้ากับอะไรอีกแล้ววะ  กูอยากมีแค่พวกมึง
อยากมีแค่ปั้นสิบอยู่ข้างๆ  กูอยากมีแค่นั้นจริงๆ”

ไม้ฉากหันไปบอกเลน่อน  แต่มือมันยังจับมือผมไม่ปล่อยเลยครับ
ตั้งแต่เดินออกจากบ้านมา จนมาถึงหน้าประตูรถตู้

“แล้วพิมละ  จะเอาไง น้องจะเจอพ่อแม่ด่าไหมวะ”
คะน้าหันไปมองพิม ที่เดินตามออกมาจากบ้านด้วย

“ไม่ต้องห่วงพิมหรอกค่ะ  พี่ไม้หนีไปเถอะพี่ 
พิมอยู่ที่นี้จะคอยส่งข่าวไปบอกพี่ว่าพ่อแม่จะเอายังไงต่อ
พี่ไม้หาทางออกให้เราทั้งคู่ด้วยนะ  นึกว่าสงสารลูกของพิมที่จะเกิดมาด้วยนะพี่ไม้
พิมอยากให้ลูกของพิมมีพ่อแค่คนเดียว 
และพิมไม่อยากขึ้นชื่อว่าท้องแล้วมาจับพี่ไม้มาเป็นพ่อของลูกพิม”

น้องพิมเดินเข้ามาหาผมกับไม้ฉาก ก่อนที่น้องพิมจะมองหน้าผม


“พิมขอโทษนะพี่ปั้น”
ผมเลยได้แค่ยิ้มบางๆให้พิม เพราะผมรู้ว่าพิมไม่ได้ผิดอะไร
พิมเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับไม้ฉาก

“ไม่เป็นไร พิมต้องอดทนนะเพื่อเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดออกมา”
ผมเอื้อมมืออีกข้างไปจับที่ท้องของพิมเบาๆ

“ไปกันเถอะ เสียงรถมันดัง เดี๋ยวไม่ทันได้หนีไปไหนกันพอดี”
ไนซ์ส่งเสียงมาเรียกพวกผม
เปากับยูโร เลยรีบวิ่งขึ้นรถก่อน เพราะมันนั่งหลังสุด
ส่วนคะน้าก็เดินไปนั่งข้างๆไนซ์แถวที่ 2
เลน่อนไปนั่งข้างๆคนขับ  ผมเลยเดินเข้าไปนั่งในรถตู้ก่อน
ไม้ฉากเอื้อมมือไปดึงพิมมากอดอีกครั้ง
ก่อนจะพูดคำว่า

“ขอบใจนะพิม พี่ขอบใจจริงๆ”
แล้วก็เดินขึ้นรถมานั่งข้างๆผม



ตอนนี้รถตู้ออกจาก รีสอร์ทธารรักแล้วครับ
และเสียงมือถือของผมก็ดังขึ้นมา เป็นเบอร์ของแม่ไม้ฉากที่โทรเข้ามาครับ
ไม้ฉากดึงมือถือจากมือผมไป ก่อนจะกดปิดเครื่อง
แต่แม่ไม้ฉากไม่ได้หยุดแค่เบอร์ผมครับ  ยังโทรเข้าไปหาเบอร์ไนซ์ต่อ

“กูว่าปิดมือถือกันหมดนี้แหละ “
เปาบอกให้พวกผมทุกคนปิดมือถือ 
พวกผมก็เลยปิดมือถือกันหมด

“แล้วพวกเราจะไปไหนกันต่อวะ?”
ยูโรถามขึ้นมา ตอนที่รถเริ่มวิ่งไกลจากรีสอร์ทธารรักแล้ว


“กระบี่”  ไม้ฉากเป็นคนตอบครับ

“ก็ดีนะ ทะเล  กูอยากเล่นน้ำทะเล  อยากไปดำน้ำ
อยู่แต่ป่าแต่ดอย  อุ้ยย ,, น่อนๆ เราใส่บิกินี่ได้ใช่ป่ะ”

คะน้าจีบปากจีบคอทำเสียงแรดๆหน่อยครับ  ถามเลน่อนที่นั่งข้างๆคนขับ

“เอาเลยจ๊ะ ขอเว้าขาเยอะๆนะ  เซลลูไลท์มันเยอะดี เราชอบดู”
เสียงหัวเราะฮาลั่นเลยครับตอนนี้  เลน่อนดันรับมุกของคะน้า 555+

“งั้นไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองนะ  เราคงได้ไฟท์เช้าที่สุด  ไปถึงที่โน้นก็จะได้เที่ยว
ขอเมาๆ ขอเที่ยวแบบให้มันสุดๆไปเลยนะ”

ไนซ์ขอเองเลยครับ  5555+ นี้ถ้าไม่ติดใจว่ามันเป็นดาราที่มีงานเยอะแล้วละก็
จะพาลคิดไปเลยนะว่ามันอกหัก  เพราะอารมณ์มันที่อยากหนีแสงสี
อยากหนีผู้คน แล้วไปใช้ชีวิตเมาสุดๆแบบนั้น
เหมือนตอนที่มันอกหักจากแฟนตอนเรียน ม.ปลาย อะครับ


คนขับรถก็ดีแสนดีครับ สัญญากับพวกเราว่าจะไม่บอกใครว่าส่งเราที่ดอนเมือง
จะบอกว่าเราขอลงกลางทาง 5555 +
ตอนนี้คนขับรถก็ขับไปแบบสบายๆ เพราะไม่เร่งรีบมาก
เรากะว่าน่าจะถึงดอนเมือง ตี 4 ตี 5
จะได้ไม่ต้องรอเครื่องนานๆ


ไม้ฉากหลับไปแล้วครับ  ผมให้ไม้ฉากนอนหนุนตักผม
แล้วก็คอยจับตัวมันไว้ไม่ให้ตกจากที่นั่ง

“สงสารมันเนอะ ไปฝึกมาเหนื่อยแทบตาย
ยังไม่ทันได้พักเลย มาเจอเรื่องราวแบบนี้อีก”

คะน้าที่นั่งข้างหลังผม ลุกขึ้นมาเอาเสื้อกันหนาวมาคลุมให้ไม้ฉาก
ผมเลยหันไปยิ้มขอบใจให้คะน้า

“อืมม  ถ้าไม่มีกู มันจะตัดสินใจได้ง่ายกว่านี้หรือป่าววะ”
ผมถามคะน้า  แต่มีมือจากไนซ์เอื้อมมาตบหัวผมแทน

“มึงคิดแบบนี้ได้ไงวะปั้น  ไอ้ไม้มันทำเพื่อมึงขนาดนี้แล้วนะ
ต่อให้ไม่มีมึง  สิ่งที่พ่อมันทำก็ผิด  การบังคับลูกให้เดินไปทางซ้ายที ทางขวาที
มันอาจจะดีกับลูกนะ แต่มันไม่ดีไปตลอด และไม่ได้ดีไปทุกรายหรอก
ไม้มันเก็บกดมาตั้งนาน  ตอนมันเรียนที่ขอนแก่นนะ แม่มันตามมารับหน้าโรงเรียนทุกวัน
ตรงเวลาด้วยนะมึง  แล้วไปส่งเรียนพิเศษ ไปเรียนเทควันโด ว่ายน้ำ ไหนจะร้องเพลงอีก
แทบจะทุกอย่าง แล้วไม้มันต้องเก่งทุกๆอย่างแบบที่แม่มันสั่ง
มันไม่เคยจะได้เที่ยวเล่นกับเพื่อนในห้องเลยนะมึง  กูเห็นมันนั่งทำการบ้าน
นั่งอ่านหนังสือตอนพักคาบตลอด แต่คนอื่นๆไปวิ่งเล่นเตะบอลกันอย่างสนุกสนาน
กูอยากเห็นมันมีความสุข  เหมือนตอนที่มันอยู่กับมึง
อย่าคิดแบบนั้นอีกนะปั้น  เพราะสิ่งที่ไม้มันทำเพื่อมึง 
มันยิ่งกว่าคำว่ารักที่มึงบอกไม้มันอีกด้วยซ้ำไป”

ไนซ์มันพูดเตือนสติผมครับ แต่สิ่งที่มันพูดมาทำผมเจ็บมาก เพราะมันจริงทุกๆอย่าง
ผมดีแต่พูดว่ารักมัน แต่ผมไม่เคยทำดีๆเพื่อมันเลย


ตอนที่ผมเริ่มบอกว่าชอบมัน ผมก็เอาแต่รอว่ามันจะติดต่อมาไหม
เอาแต่งี่เง่าว่ามันไม่ใส่ใจ
แต่มันกลับพยายามเรียนหนังสืออย่างหนักเพื่อที่จะได้มาเรียนที่เดียวกับผม
มันไม่ใช่คนเรียนเก่ง แต่มันพยายามเพื่อจะเก่งเหมือนที่ผมเก่ง

ยังมีอีกเยอะแยะที่ไม้ฉาก ,, ทำเพื่อผม
ผมไม่ควรคิดแบบนั้นเลย ,, ไม่ควรคิดเลย.



“อืมม กูจะไม่พูดไม่คิดอีกแล้ว  ขอบใจมากนะเว้ยไนซ์”
ผมหันไปยิ้มให้ไนซ์  แต่ตอนนี้ไนซ์มันดันนั่งเหม่อมองแหวนสีดำบนนิ้วมันแทนครับ - -‘



และแล้วพวกเราก็มาถึงกระบี่กันตอน 10 โมงเช้าครับ
ไม่ได้เลือกพักโรงแรมหรูๆใหญ่ๆแบบเดิม
แต่ไนซ์พาผมมาพักบังกะโลของคนที่ไนซ์รู้จัก
จากที่ยูโรมันถามไนซ์นะ เหมือนว่ามารู้จักกันตอนที่ไนซ์มาถ่ายหนังที่นี้
ไนซ์ชอบที่มันเงียบสงบและมีชายหาดที่เป็นส่วนตัวมากๆ


พวกเราก็ใช้ชีวิตกันที่กระบี่ได้สนุกและคุ้มมากครับ
เช่ามอเตอร์ไซต์ไว้ แล้วขับเที่ยวกันตามแผนที่ ตามร้านที่เค้ารีวิวต่างๆ
ตอนนี้ไนซ์มันเปิดซิมเบอร์ใหม่ เอาไว้สำหรับต่อเน็ตเพื่อส่งเมลหาพี่ป๊อกกี้
ผมก็ถามมันแล้วว่า ผู้จัดการส่วนตัวมันไปไหน
แต่ไนซ์ก็ไม่ได้ตอบอะไรผม  มันก็แค่เงียบๆไป
และคำถามถึงเรย์ก็เงียบหายไปจากพวกผมเช่นกันครับ


คะน้ากับเลน่อน  ซื้อทริปดำน้ำกัน 2 คน  ซึ่งเป็นเกาะที่พวกผมไปมาแล้ว
แต่วันนั้นคะน้าไปได้ไปด้วยครับ  พวกผมเลยให้พวกมันไปสวีตกัน 2 คน
เปากับยูโร ก็เอาทริปเที่ยวเกาะอื่นๆมาให้พวกผมเลือก
แต่ไนซ์ขอไม่ไป มันขอเที่ยวในเมืองและเดินเล่นริมชายหาดแถวๆนี้เอา
ไม้ฉากทำตัวติดกับผมมากครับ มันบอกขอนอนพักก่อน 555+
ผมเลยต้องนอนพักกับมันที่บังกะโล
ยูโรกับเปาเลยเป็นอีกคู่ที่ไปดำน้ำสวีตกัน 2 คน

ผมนั่งเฝ้าไม้ฉาก ที่นอนหลับได้ตลอดทั้งวัน - -‘
แต่ก็ไม่เบื่อนะครับ เพราะพี่ที่บังกะโลมีหนังสือวรรณกรรมแปลของเมืองนอกเยอะมาก
ผมเลยได้หนังสืออยู่เป็นเพื่อนครับ


เวลา 5 วันที่กระบี่ผ่านไปไวมากๆ
คืนสุดท้ายก่อนที่พวกเราจะกลับ 
พวกเราก็ขอเจ้าของบังกะโลปิ้งย่างกินที่ชายหาด
ซึ่งเจ้าของบังกะโลก็ใจดีมากครับ เตรียมอุปกรณ์ให้ครบทุกอย่าง
คะน้ากับเลน่อนอาสาไปหาซื้อของสดมาให้
พวกผมที่เหลือเลยช่วยกันจัดสถานที่ครับ

พอเราเริ่มปิ้งย่างและเริ่มกินกันไปแล้ว
ก็เริ่มหาเรื่องมาคุยกันอีกละครับ
5 วันที่ผ่านมาเหมือนจะไม่พอ 555+ ทั้งๆที่คุยกันแทบจะทั้งวัน

“คิดถึงแฝดเนอะ ถ้ามันอยู่นะป่านนี้ต้องหาของแปลกมาให้พวกเราลองอีกแน่ๆเลยวะ”
ยูโรบ่นคิดถึงพู่กันกับจานสี
แต่ดูจากคำพูดแล้วน่าจะคิดถึงพู่กันมากกว่าครับ
รายนั้นมันชอบพกของแปลกๆ  แต่แปลกแบบชั่วๆอะครับ
พวกของมึนเมา แต่พวกผมไม่ได้เล่นยาเสพติดนะครับ

“จะยากอะไรวะคิดถึงก็โทรหาสิวะ  มีมือถืออยู่นี้ไง”
ไนซ์มันเอามือถือขึ้นมาโชว์ ก่อนจะกดโทรหาจานสี
ปิดมือถือกันไปนานจนลืมไปแล้วว่ามีมือถือ - -‘
และก็ไม่ได้โทรหาป๊ากับม๊าเลย ตั้งแต่วันที่ออกจากรีสอร์ทธารรักมา

ไนซ์กดสไกป์ไปหาจานสีครับ  สักพักจานสีก็รับ
พร้อมๆกับคำด่า T^T

จานสี ::  ผีห่าซาตานที่ไหนสั่งให้หนีกันหรือไง ไปไหนเคยบอกกูบ้างไหม
ให้พ่อแม่พวกมึงโทรมาตามที่กูคนเดียวเนี้ยห๊ะ!!!

ไนซ์ :: ใจเย็นๆก่อนนะจานสีจะ คือพวกกูขอโทษ

จานสี :: ไอ้เชรี้ยรู้บ้างไหมว่ากูเป็นห่วงพวกมึงมากแค่ไหนอะ ทำอะไรคิดถึงพวกกูที่นี้บ้างดิวะ
ถ้าที่นี้เป็นเมืองไทยนะ กูตามหาพวกมึงตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าพวกมึงหนีกันไปแล้ว
ทำไมถึงลืมกูวะ

จานสีร้องไห้ใหญ่เลยครับ  มันเป็นพวกค่อนข้างเซนซีทีฟเรื่องเพื่อนมากๆ

ไนซ์ :: พวกกูสบายดี พรุ่งนี้ก็จะกลับเข้ากรุงเทพกันแล้วละ ไม่ร้องนะจานสีนะ กูขอโทษนะมึงนะ

ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพู่กันละครับมาดึงมือถือไป

พู่กัน :: ไม้ไปไหนวะ เอามันมาคุยดิ
ไนซ์เลยยื่นมือถือให้ไม้ฉากถือ  ตอนนี้ผมเห็นหน้าพู่กันชัดเลยครับ 55+
เพราะผมนั่งข้างๆไม้ฉาก
เมื่อกี้ได้ยินแต่เสียงของจานสี ไม่ได้เห็นหน้า

ไม้ฉาก :: ขอโทษนะมึง ตอนนั้นกูไม่ทันคิดจริงๆ

พู่กัน :: ไม่เป็นไรหรอก กูเข้าใจ  กูเคยบอกมึงแล้วไงว่าสิ่งที่มึงเป็นและสิ่งที่พวกมึงเจอ
มันยังน้อยกว่าสิ่งที่กูกับจานสีเคยเจอมาอีก   แล้วมึงจะเอาไงต่อ

ไม้ฉาก :: ยังไม่ได้คิดไว้เลยวะ  แต่คงไม่กลับบ้านแล้วละ ว่าจะไปทำงานที่เชียงใหม่เลย

พู่กัน :: จะเอาเงินก็บอกกูนะ  กูจะรีบส่งไปให้

ไม้ฉาก :: ขอบใจมากมึง แต่กูพอมีเงินเก็บไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวเกาะเตี้ยกินเอา 555+
มันคงเลี้ยงกูไหวอยู่แหละ


ยังจะมากวนตีนได้อีกนะไม้ฉาก - -‘
กูเลี้ยงมึงไหวจริงๆนั้นแหละไม่เป็นปัญหาหรอก แต่มึงจะหนีพ่อมึงพ้นได้ยังไงงงง?

พู่กัน :: กูกับจานสีจองตั๋วกลับไทยไว้แล้ว  อีก 3 วันคงถึง ยังไงค่อยคุยกันอีกที
รักษาตัวเองดีๆ แล้วเดี๋ยวกูสองคนจะรีบไปช่วยอีกแรง

ไม้ฉาก :: ขอบใจวะมึง  มาถึงแล้วยังไงมาเจอกันคอนโดปั้นเลยนะ

พู่กัน :: โอเค แล้วเจอกันเพื่อน

พู่กันกดตัดสายไปแล้วครับ  เป็นอันสรุปว่าพู่กันกับจานสีจะมาเมืองไทย
เพราะเรื่องที่พวกเราหนีออกจากบ้านมาแน่ๆ
พ่อแม่ของไม้ฉากคงจะโทรตามไปที่เพื่อนคนนั้นคนนี้เต็มไปหมดแน่ๆ

“พวกมึงว่า พรุ่งนี้พวกเราจะเป็นยังไงวะ” อยู่ๆเปาก็ถามพวกผมขึ้นมา
จากที่กำลังเฮฮากับการกินอาหารทะเลอยู่ ก็พลันเงียบกันไปหมด

“กูคงต้องกลับเชียงใหม่แล้วละ  กูพาคะน้าหายมาเป็นอาทิตย์แบบนี้
และพ่อแม่ไม้คงโทรหาพ่อแม่คะน้ากับพ่อแม่กูแล้วด้วยละมั้ง
กูคงต้องเข้าไปอธิบายให้พวกเค้าเข้าใจ  ทั้งบ้านกูและบ้านคะน้าด้วย”

เลน่อนหันไปมองหน้าคะน้า  ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือคะน้าไว้

“ไม่เป็นไรหรอกน่อน  พ่อแม่คะน้าไม่ว่าอะไรหรอก
บ้านคะน้าสมัยใหม่  เค้าไม่ด่าอะไรโดยที่ไม่ฟังเหตุผลหรอกนะ”

คะน้าเองก็ยิ้มให้เลน่อน  ก่อนจะชวนเลน่อนกินอาหารทะเลต่อ

“พวกกูก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วละ  กลับไปกรุงเทพแล้วกูคงอยู่เป็นเพื่อนมึงอีก 2-3 วัน
แล้วคงกลับไปเรียนต่อนั้นแหละ  แต่เปาอาจจะกลับก่อน
เพราะมันเรียนหนักกว่ากู”

ยูโรบอกกับไม้ฉาก ก่อนจะหันไปแกะกุ้งให้เปาต่อ

“อืมมกูอาจจะกลับก่อน แต่มีอะไรโทรหากูได้ตลอดนะ
กูมาหามึงได้ทุกเวลา”

เปาก็หันมายิ้มให้ไม้ฉาก ก่อนจะกินกุ้งที่ยูโรแกะให้

“ส่วนกูอยู่กับมึงแน่นอน อาจจะไปถ่ายงานบ้าง หรือไปออกรายการบ้าง
แต่มีอะไรมึงโทรหากูได้เลย กูจะรีบมา
ส่วนเรื่องเงินอะ จะเอาเท่าไหร่ก็บอก กูพอมีเงินเก็บจากการทำงานแล้ว
ไม่ได้เดือดร้อนอะไร  ปัญหาอะมันอยู่ที่ว่ามึงจะหนีพ่อมึงได้แน่หรือป่าวไม้ฉาก”

ไนซ์มันหันมามองไม้ฉาก ก่อนจะถามถึงปัญหาที่ผมเองก็เฝ้าแต่ถามตัวเองมาตลอด


เราจะหนีพ่อของไม้ฉากได้ตลอดไปงั้นหรอ?


“กูคงไม่หนีเค้าหรอก กูก็จะไปทำงานที่เชียงใหม่ทันทีที่ครบกำหนดวันพักผ่อน
อีก 5 – 6 วันนี้แหละ แต่อาจจะไปเตรียมเรื่องบ้านพัก เรื่องเสื้อผ้าก่อน
อาจจะต้องซื้อใหม่ทั้งหมด  แต่กูมีเบี้ยเลี้ยงที่เก็บออมไว้มาตั้งแต่เข้าอบรม
ไม่น่าจะเดือดร้อนอะไร  ยังไงขอบใจพวกมึงทุกคนมากๆ
ที่หนีมาอยู่กับกูที่นี้  ขอโทษพวกมึงด้วยที่ทำให้เดือนร้อน
และฝากขอโทษที่บ้านพวกมึงทุกคนด้วยนะ
ไม่รู้ป่านนี้โดนพ่อแม่กูไปป่วนมากแค่ไหน”

ไม้ฉากยกมือไหว้ขอโทษเพื่อนๆทุกคน  แต่เพื่อนๆก็คงคิดหมือนกันๆ
ว่า.... ไม่เป็นไรหรอก : )


“ไม่เป็นไรมึง  เพื่อนกันต้องช่วยกันดิวะ อีกอย่างนะพวกเราอะคบกันมา 10 กว่าปีละ
ยูกับเปาแล้วก็คะน้าก็รู้จักกันมาเกือบ 10 ปีละเหมือนกัน
มันเกินกว่าคำว่าเพื่อนกินแล้วมึง
พวกเราอะเค้าเรียกว่าเพื่อนตาย
จะสุข จะทุกข์  จะดี จะเลว
กูก็ไม่ทิ้งมึงแน่นอน”

ไนซ์พูดจบก็วางแก้วในมือมันลง
ก่อนจะเดินมากอดไม้ฉาก  ซึ่งไม้ฉากเองก็ยืนขึ้นไปกอดกับไนซ์ครับ
งานน้ำตาก็มาครับ T^T

“ขอบใจวะมึง  ขอบใจที่มาเป็นเพื่อนกัน
ขอบใจพวกมึงด้วย ทุกคนเลย”

ไนซ์ผละออกจากไม้ฉาก ก่อนจะเดินมาโอบไหล่ผมไว้
ตอนนี้คะน้าเดินเข้ามากอดไม้ฉากบ้างละครับ
พวกเราทุกคนได้กอดไม้ฉากหมด
มันเหมือนการกอดให้กำลังใจเพื่อน


เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้พวกเราจะเป็นยังไง . .
วันนี้เรารู้แค่พวกเรายังมีกัน ,, มันก็รู้สึกอุ่นใจมากที่สุดแล้วครับ



พวกเราแยกย้ายกันเข้าห้องนอนเกือบๆจะ ตี 1
บังกะโลที่เราพักเป็นบ้านพักหลังใหญ่
มี  3 ห้องนอน และเราก็แบ่งกันนอนตั้งแต่คืนแรกแล้ว
ผมกับไม้ฉาก / ยูโรกับเปา และคะน้าเลน่อนกับไนซ์นอนด้วยกัน
อาจจะมีบ้างคืนที่พวกเราเอาผ้าห่มมาปูนอนหน้าทีวี
แล้วนอนรวมกันหมดทั้ง 7 คน

พี่เจ้าของบังกะโลบอก วันหลังน้องบอกพี่สิว่าจะนอนรวมกัน
พี่จะให้นอนโรงรถ 5555555+


พอทุกคนกลับเข้าห้องไปหมดแล้ว
ผมอาบน้ำเสร็จแล้วก็มาจัดกระเป๋าเตรียมกลับกรุงเทพ
ไม้ฉากเลยเข้าไปอาบน้ำต่อ

ตอนที่จัดกระเป๋าผมเจอมือถือของตัวเองที่กดปิดเครื่องมาตั้งแต่วันที่หนีออกมาจากรีสอร์ทธารรัก
แล้วนึกถึงป๊ากับม๊าขึ้นมาครับ  ผมยังไม่ได้บอกเค้าเลยว่าผมมาที่นี้
ป่านนี้เป็นห่วงกันแย่แล้วละมั้ง
ไหนๆก็จะกลับแล้ว โทรบอกหน่อยก็ได้
ปกติม๊ากับป๊าจะนอนดึกครับ เพราะรอดีลงานกับลูกค้าที่เมืองนอก
เวลาตี 1 แบบนี้โทรไปหาน่าจะไม่รบกวนมากหรอกมั้ง


ผมเลยหยิบโทรศัพท์มากดเปิดเครื่อง แล้วเดินออกมาคุยข้างนอกห้อง
แค่กดเปิดเครื่องเท่านั้นแหละครับ ยังไม่ได้กดโทรหาม๊าเลย
สายเรียกเข้าจากม๊าก็เข้ามาทันที

เห้ยย ,, ม๊าถือมือถือตลอดเลยหรอเนี้ย?
เวลาเราปิดเครื่องอะครับ แล้วอีกฝ่ายโทรหาเราไม่ติด
พอเราเปิดเครื่องปุ๊บ มันจะมี SMS แจ้งเตือนไปบอกว่าเบอร์เราสามารถติดต่อได้แล้ว

ผม :: ม๊าครับ

ม๊า :: ปั้นสิบลูก สบายดีไหม อยู่ที่ไหน จะกลับเมื่อไหร่ ได้กินข้าวทุกมื้อไหมลูก

ม๊าถามมาเป็นชุดเลยครับ มีแต่คำถามที่เป็นห่วงไม่มีคำด่าเลย
พอได้ยินแบบนี้น้ำตาผมคลอเบ้าเลยครับ
ผมทำให้ม๊าเป็นห่วงมากเลยใช่ไหม?
ปั้นทำบาปกับม๊าอีกแล้ว T^T

ผม :: กลับพรุ่งนี้แล้วครับม๊า  ปั้นกินอิ่มทุกมื้อเลยครับ ม๊ากับป๊าสบายดีไหมครับ ปั้นขอโทษนะครับม๊า

ม๊า :: ไม่เป็นไรลูกสบายใจแล้วก็กลับมานะ ป๊ากับม๊าสบายดีเหมือนเดิมเลย
เอาทีชเชอร์มาอยู่ด้วย 2 วันแล้ว มีความสุขมากๆ

อ้าวเห้ยย ,, ไปขโมยลูกคนอื่นมาได้ไงเนี้ยม๊า
หลงกันเกินไปแล้วนะ 555

ผม :: ม๊าไปขโมยลูกสาวเค้ามาได้ไง

ม๊า :: เค้ามาเที่ยวลาว เลยเอามาฝากไว้ที่บ้าน ไม่ได้ขโมยซะหน่อย แค่ไม่คืน 555

เสียงม๊ายังสดชื่นเหมือนเดิมครับ
แค่นี้ก็สบายใจแล้ว นึกว่าม๊าจะด่า จะเศร้าใจมากกว่านี้ซะอีก

ผม :: พ่อแม่ไม้ฉากว่าไงบ้างไหมครับม๊า

ม๊า :: เงียบๆนะ ไม่แน่ใจว่าคิดอะไรเหมือนกัน  กลับมาแล้วก็รีบให้ไม้ฉากเข้าไปขอโทษพ่อแม่ซะ
ยังไงเราก็หนีไม่ได้หรอกลูก ความเป็นพ่อแม่มันยังติดตัวเราไปจนตาย
ต่อให้เราเติบโตมากแค่ไหน ในสายของพ่อแม่พวกหนูก็ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ
ที่พ่อแม่ยังต้องฟูมฟักกันต่อไปนั้นแหละลูก

ผม :: แต่สิ่งที่พ่อแม่ไม้ฉากทำมันไม่ถูกนะครับ บังคับกันมากเกินไป
แบบนี้ลูกๆอย่างไม้ฉากจะทำยังไงกับชีวิตก็ต้องรอให้พ่อแม่ออกคำสั่งงั้นหรอครับม๊า

ม๊า :: แต่ละครอบครัวพื้นฐานการเลี้ยงดูมันต่างกันนะปั้น
ป๊ากับม๊าเองอาจจะยอมรับในสิ่งที่ปั้นเป็นได้ และให้อิสระปั้นในการเลือกเรียน
หรือใช้ชีวิตแบบที่ปั้นเป็น  นั้นเพราะป๊ากับม๊าเกิดมากับครอบครัวที่ไม่ได้มีชื่อเสียง
ไม่ได้เด่นดังหรือไม่ได้เป็นที่คาดหวังจากใครๆมาก
และม๊าเองก็อยากเลี้ยงปั้น ให้เป็นเด็กธรรมดาๆคนหนึ่ง
ที่ปั้นอยากจะแต่งเติมสียังไงให้ตัวเอง ปั้นก็ทำได้เต็มที่
ขอแค่ปั้นไม่ดื้อ ไม่ติดยา หรือไม่เหลวไหลทำให้ป๊าม๊าเสียใจก็พอ

ผม :: แล้วไม้ฉากทำให้พ่อแม่เค้าเสียใจงั้นหรอครับม๊า


เป็นตำรวจให้สมใจแล้วไง  เรียนจบ ม.ปลายเกรดก็ดี
เป็นนักเรียนดีเด่น  นักกีฬาระดับจังหวัด  ไปประกวดหนุ่มหล่อได้รางวัลจากเมืองนอกมาแล้ว
มีตรงไหนที่ยังทำให้เสียใจอีกงั้นหรอ?

ม๊า :: เพราะเค้าคาดหวังว่าไม้ฉากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น
และมีหลานมีภรรยาที่สามารถเชิดหน้าชูตาได้ไงละปั้น

ผม :: แต่พิมท้องอยู่นะม๊า  แบบนี้จะเป็นภรรยาที่เชิดหน้าชูตาได้ยังไง
ถ้าพิมยังไม่ท้อง ผมก็ว่ามันก็สมควร แต่นี้พิมท้องอยู่ และเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของไม้ฉาก
แบบนี้คนอื่นเค้าไม่นินทาเอาหรอ  พ่อแม่ของไม้ฉากจะเอาหน้าไว้ไหนละ?

ม๊า :: เค้าถึงคิดจะจัดงานที่โคราชไงปั้น  เพราะไม่มีใครรู้ว่าพิมท้อง
ในเมื่อไม่มีใครรู้ ทั้งไม้และพิมก็เหมาะสมกัน
ทั้งทางด้านสังคม ด้านการเงิน และพ่อของพวกเค้ายังเปิดรีสอร์ทร่วมกันอีก
แค่นี้มันก็เชิดหน้าชูตาเค้าได้แล้ว อย่างที่ม๊าบอกนะลูก แต่ละครอบครัว
พื้นฐานความคิดไม่เหมือนกัน  ปั้นรีบไปนอนเถอะลูก
พรุ่งนี้กลับถึงคอนโดแล้วโทรบอกม๊าด้วยนะครับ

ผม :: ครับม๊า  ปั้นรักป๊ากับม๊านะครับ

ม๊า :: ม๊ากับป๊าก็รักลูกจ๊ะ  ฝันดีนะจ๊ะ


ม๊าวางสายไปแล้ว ผมเองยังนั่งนิ่งๆอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวี
พื้นฐานครอบครัวต่างกันงั้นหรอ?
อะไรคือการเชิดหน้าชูตาทางสังคม?
มันจำเป็นถึงขนาดต้องทำร้ายลูกตัวเองขนาดนี้เลยหรอไง?



ผมปิดมือถือก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง
ไม้ฉากนั่งอ่านหนังสือรออยู่บนเตียงครับ
พอผมเดินเข้าไปก็หันมามองหน้าผมเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจหนังสือต่อ


“ม๊าว่าไงบ้างละ”
เอ๊ะ ,, ไอ้บ้านี้เดินออกไปฟังหรือไง รู้ด้วยว่าโทรหาม๊า - -‘

ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสื้อผ้า
ที่ตอนนี้ไม้ฉากมันเก็บต่อให้ผมจนเสร็จแล้วครับ


“อืมม ม๊าสบายดี ม๊าบอกบ้านไม้อะเงียบๆ ไม่รู้เหมือนกันคิดจะทำอะไรอยู่”
ไม้ฉากเอาหนังสือวางไว้ข้างๆที่นอน ก่อนจะเอื้อมไปปิดไฟหัวเตียง
แล้วดึงผมเข้าไปกอด


“ช่างเค้าเถอะ  ไม่อยากคิดอะไรแล้ว
ขอแค่คืนนี้ได้กอดปั้นก็พอแล้วละ  ฝันดีนะครับ”

ไม้ฉากก้มลงมาหอมแก้มผม ก่อนจะนอนกอดผมนิ่งๆโดยไม่มีคำพูดอะไรต่อจากนั้น
ผมรู้ว่าไม้ฉากมันนอนไม่หลับหรอกครับ
พรุ่งนี้มันยังต้องเจออะไรอีก ,, นั้นคือสิ่งที่มันกังวล
และผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใจของไม้ฉากตอนนี้คิดจะทำอะไรต่อไป.


ผมได้แต่ภาวนาว่าขอให้ทุกๆอย่างมันดีขึ้น
และขอให้ไม้ฉากได้มีชีวิตที่เป็นของไม้ฉากเอง
ได้ทำตามใจของไม้ฉาก และขอให้ไม้ฉากได้ยิ้มในทุกๆวัน
ผมขอเท่านี้จริงๆ แม้ผมจะต้องแลกกับอะไรผมก็ยอม.

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z3:   

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
ต่อ ....



เช้าวันรุ่งขึ้น


พวกเรากลับกรุงเทพกันด้วยความเงียบเหงาครับ
ไม่มีเสียงแซวกัน หรือเล่นกันแบบตอนที่มา
มันเหมือนว่าทุกคนแบกความคิด แบกความรู้สึกต่างๆไว้ในใจกันหมด
พอมาถึงดอนเมือง  ไนซ์ก็ขอตัวกลับก่อน เพราะเย็นนี้มันมีงาน

“ยังไงโทรหากู ได้ทุกเวลานะ”
ไนซ์ยังพูดคำเดิมครับ ก่อนจะรีบเดินไปขึ้นรถ Taxi
เพราะเริ่มมีสาวๆตะโกนเรียก พี่ไนซ์ๆ แล้วละครับ
แปลกที่ไม่เห็นเรย์มารอรับ  ผู้จัดการส่วนตัวประสาอะไรวะ?


“งั้นกูกับคะน้าจะจองตั๋วเครื่องกลับบ่ายนี้เลยนะ พวกมึงก็ดูแลกันดีๆ
มีอะไรรีบโทรมา พวกกูมาหาได้ทุกเวลาเหมือนกันนะ”

เลน่อนเดินมาตบบ่าของไม้ฉาก ก่อนจะหันไปร่ำลายูโรกับเปา
และหันมายิ้มให้ผม 

“คะน้า ขอบใจมากนะเว้ย”
ผมกอดคะน้า เพื่อนสาวตัวอ้วนของผมไว้แน่นๆ

“พวกกูอยู่กับมึงตั้งแต่ที่มึงเริ่มรู้ตัวว่าชอบไม้ฉาก
ยังไงๆพวกกูต้องอยู่ดูผลงานสิวะ สู้ๆนะมึง โทรมานะเว้ย”

คะน้าพูดเสร็จก็เดินตามเลน่อนไปซื้อตั๋วกลับเชียงใหม่

เปายังไม่กลับครับ บอกว่าจะอยู่กับพวกผมอีก 1 วัน
พวกผมเลยนั่ง Taxi กลับมาที่คอนโด
กำลังจะเดินขึ้นคอนโด  พี่พนักงานที่ล๊อบบี้ก็เรียกผมไว้ก่อน

“น้องๆ น้องปั้นสิบคะ”
ผมเอาขนมมาฝากพี่เค้าบ่อยๆอะครับ พี่เค้าเลยรู้จักผม

“ครับพี่” ผมเดินเข้าไปหาที่ล๊อบบี้

“มีคนชื่อว่า พี่มิ้ว นะคะมาหาทุกวันเลย มาวันละหลายรอบมากๆ
เค้าฝากบอกว่าให้โทรกลับด่วน  ยังไงรีบโทรนะคะ  ท่าทางจะด่วนจริงๆ
ไม่งั้นไม่มาทุกวันแน่ๆ”

พี่มิ้วมางั้นหรอ?
นี้อย่าบอกนะว่าพ่อแม่ไม้ฉากโทรไปหาพี่มิ้วด้วย?
เห้อออ  วุ่นวายกันไปหมดแล้ว T^T


ผมเดินมาหาพวกไม้ฉากที่ยืนรออยู่ที่หน้าลิฟท์ ก่อนจะขึ้นไปที่ห้องพร้อมกัน
พอถึงห้อง ไม้ฉากก็ถามผม

“มีอะไรหรอ พี่ที่ล๊อบบี้ถึงเรียกไป”
ผมหันไปมองหน้ามันนิดหนึ่ง ก่อนจะเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าต่อ

“พี่มิ้วมาหานะ สงสัยฝากเรื่องไว้ที่ล๊อบบี้มั้ง เดี๋ยวว่าจะโทรหาอยู่เหมือนกัน
ไม่รู้ว่ารู้เรื่องที่เราหนีออกจากบ้านกันหรือป่าว”

ผมเก็บกระเป๋าใส่ตู้เสื้อผ้าไว้ ก่อนจะมานั่งข้างๆไม้ฉากที่ตอนนี้นั่งเหม่ออยู่บนเตียง

“พี่มิ้วเค้าจะเดือดร้อนเพราะไม้อีกหรือป่าวอะปั้น”
ไม้ฉากหันมามองหน้าผม

“อย่าคิดมากนะ ไม้พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวปั้นลงไปหากับข้าวมาให้ 
ไม่รู้พวกยูโรหิวกันหรือยัง  เดี๋ยวมานั่งเล่นวินนิ่งกัน โอเคไหม? “

ไม้ฉากทำหน้านิ่งๆ ไม่ยอมตอบว่าโอเค หรือไม่โอเค
ผมเลยดึงแก้มมันบ้างครับ เหมือนที่มันชอบดึงแก้มผม

“ตอบว่าโอเคเดี๋ยวนี้”
ไม้ฉากมันก็ยังทำหน้านิ่งๆอีกครับ ผมเลยดึงแก้มมันแรงกว่าเดิม

“โอ้ยยๆเจ็บๆ โอเคคร๊าบบโอเค”
ผมปล่อยมือที่ดึงแก้มไม้ฉากออก ก่อนจะนั่งหัวเราะ
ที่มันรีบเอามือมากุมแก้มตัวเองไว้
สมน้ำหน้าจะได้รู้ซะบ้าง ว่าเวลาโดนหยิกแก้มมันเจ็บแค่ไหน
ไอ้ไม้ ไอ้หมาป่า ไอ้บ้า!


“รีบๆมานะ ไม่ต้องซื้ออะไรมาเยอะหรอกนะ กินมาม่าต้มก็ได้”
ไม้ฉากดึงผมไปกอด ก่อนจะเอาหน้ามาซุกอยู่ที่คอผม
อ้อนตลอดเลยนะมึง ,, 5 วันที่กระบี่ก็อ้อนแบบนี้ทั้งวัน
จนคิดว่านี้มีลูกชายแล้วเนี้ย - -‘

“ครับๆ เดี๋ยวรีบมา ไม้จัดหน้าทีวีรอเลยนะ”
ผมเอามือของไม้ฉากที่กอดเอวของผมออก
ก่อนจะหันไปยิ้มให้มัน แล้วก็เดินออกมาบอกยูโรกันเปาว่าจะไปซื้อของกิน

“กูไปด้วยดิวะ อยากได้ผลไม้อะ” เปาขอไปกับผมด้วย
ซึ่งผมก็โอเค พยักหน้าให้มันมากับผม

ผมกับเปาเดินลงมาถึงชั้นล่าง ซึ่งยังไม่ทันได้เดินออกจากคอนโดเลยครับ
แม่ของไม้ฉาก ก็มายืนดักหน้ารอพวกผมอยู่ตรงที่นั่งรอแถวๆล๊อบบี้


“น้าหน่อย!!!”
ผมกับเปาอุทานออกมาพร้อมๆกัน ก่อนจะหันมามองหน้ากัน
คือ แม่ไม้ฉากรู้ได้ไงว่าพวกผมมาถึงคอนโดแล้ว
หรือว่า .....

ผมหันไปมองพี่ๆที่ล๊อบบี้ ซึ่งพี่เค้าก็ยิ้มตอบกลับมาให้ผม
สงสัยพี่ๆพวกนี้แน่เลยครับที่โทรไปบอก T^T
ทำงานกันดีเกินไปแล้วมั้งครับ ,, เอาไงละปั้นเอ้ยยย!


“คุยกันหน่อยได้ไหมปั้นสิบ”
น้าหน่อยยืนมองหน้าผมนิ่ง
สายตาที่ดุและเหมือนกับตาของเสือที่พร้อมจะรุมขย้ำกวางตัวน้อยๆแบบผม

“ครับ ได้ครับ”
เอาไงเอากันวะปั้น หนีไปก็เท่านั้น ,, ยังดีที่เจอข้างล่าง
ถ้าตอนนี้น้าหน่อยไปข้างบน แล้วเจอหน้าไม้ฉาก
เรื่องราวคงแย่กว่านี้แน่ๆ

น้าหน่อยเดินนำผมไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ในคอนโด
เปาเอามือมาจับแขนผมไว้ ก่อนจะมองหน้าผม

“ให้กูโทรบอกพวกยูไหมวะ”

แต่ผมส่ายหน้าให้เปาครับ ไม่จำเป็นต้องโทรหรอก
ถ้าน้าหน่อยบอกจะคุยกับผม 
มันก็แปลว่าน้าหน่อยอาจจะจงใจมาหาแค่ผมเท่านั้น


“ไม่เป็นไร  ถ้ามึงเห็นว่ากูน่าจะไม่ไหว มึงค่อยโทรนะเปา”
ผมหันไปยิ้มให้เปา  ก่อนจะเดินไปนั่งตรงหน้าน้าหน่อย
ส่วนเปาเลือกที่จะนั่งรอตรงโต๊ะตัวถัดไป

“ที่หนีกันไปนะ คิดว่าทำดีแล้วใช่ไหม”
น้าหน่อยถามผม เสียงเรียบๆ แต่แฝงด้วยความน่ากลัวครับ
แล้วเหมือนทั้งร้านจะเป็นใจ ไม่มีแขกเข้ามาในร้านซะคน T^T

“ไม่ดีครับ แต่ตอนนั้นพวกผมแค่อยากหนีไปตั้งสติ ว่าควรจะทำยังไงต่อไปเท่านั้นเอง
ขอโทษนะครับที่พวกเราทำอะไรไปโดยไม่ได้คิดถึงใจของคุณน้า และคุณพ่อ”

ผมยกมือไหว้ขอโทษน้าหน่อย หรือแม่ของไม้ฉาก

“แล้วพวกเธอได้คำตอบไหมว่าเธอจะทำยังไงต่อไป จะหนีต่อไปงั้นหรอ?”
เป็นคำถามที่ผมก็ยังไม่รู้จะตอบตัวเองยังไงเลยครับแม่ TT

“ไม่ครับ พวกเรารู้ว่าหนีต่อไปยังไงก็ต้องเจอคุณพ่อกับคุณน้าแน่นอน
แต่ไม้ฉากไม่ต้องการจะแต่งงานนะครับ  ทำไมต้องบังคับด้วยละครับ”

ผมถามแม่ของไม้ฉากไปตรงๆ  วินาทีอ้อมค้อมไปก็ไม่เกิดประโยชน์หรอกครับ

“เพราะสิ่งที่พวกฉันตัดสินใจไปมันดีที่สุดสำหรับไม้ฉากแล้วไงละ
พวกเธอจะทำยังไง จะใช้ชีวิตคู่รักแบบ ... แบบเนี้ยนะหรอ
พวกเธอจะอยู่ในสังคม จะบอกใครต่อใครเค้ายังไง”

ตรงคำว่า แบบเนี้ย ,,
แม่ไม้ฉากทำหน้าแบบเหมือนผมเป็นตัวเชื้อโรคอะไรซะอย่างนี้แหละครับ
คือมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือไง??


“ก็บอกไปตรงๆสิครับ สมัยนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องหลบซ่อน
แล้วผมกับไม้ฉากก็ไม่ได้ทำเรื่องเสียหายอะไร ไม้ฉากตั้งใจเรียน
ตั้งใจจะเป็นตำรวจเพื่อคุณน้านะครับ ไม้ฉากทำขนาดนี้แล้ว
อย่าบังคับไม้ฉากเลยนะครับ ปั้นขอร้อง”

ผมยกมือไหว้แม่ของไม้ฉาก  แต่ท่านเสไปมองนอกร้านครับ ไม่ได้รับไหว้ผม


แม่ของไม้ฉากนั่งนิ่งๆ นานมากครับ ไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากแม่ไม้ฉากอีก
จนผมกำลังจะเอ่ยปากถามแล้วว่ามีอะไรอีกไหม  แต่แม่ไม้ฉากก็หันมามองหน้าผม
สายตาของท่านเปลี่ยนไปครับ ไม่ได้แข็งกร้าวหรือมองผมแบบดุดัน

“แต่ถ้าไม้ฉากไม่กลับไปหมั้นกับยายหนูพิม  ชีวิตครอบครัวของฉันก็ต้องพังไปด้วยเหมือนกัน”

พัง?
หมายความว่ายังไง?


“คืออะไรครับ พัง? พังยังไงครับ”
ผมถามแม่ของไม้ฉากไปซื่อๆ มันจะพังได้ยังไง?
แค่เรื่องไม้ฉากไม่ไปแต่งงานไม่หมั้นแค่นั้นนะหรอ?


“พ่อของไม้ฉากจะฟ้องหย่า จะยุติการใช้ชีวิตร่วมกันกับฉัน
เพราะฉันทำหน้าที่แม่ไม่ดีพอ ฉันเลี้ยงลูกได้ไม่ดีพอ”

พอพูดมาถึงตรงนี้ แม่ของไม้ฉากก็ร้องไห้
ร้องหนักมากครับ จนเปาต้องเดินเข้ามาปลอบคุณแม่ของไม้ฉาก
แล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้แม่ของไม้ฉาก

“ฉันขอละนะปั้นสิบ  ช่วยพูดกับไม้ฉากให้หน่อย....
แม่ แม่สัญญานะปั้นนะ ว่าไม่เกิน 2 ปี แม่จะทำให้ไม้กลับไปหาปั้นนะลูก
ช่วยแม่หน่อยนะปั้น  ช่วยครอบครัวแม่ด้วยเถอะนะ”

แม่ของไม้ฉากยกมือไหว้ผม อ้อนวอนผม
ผิดกับตอนแรกที่ผมเป็นฝ่ายขอร้องให้แม่ไม้ฉากเข้าใจในสิ่งที่ไม้ฉากเป็น

“ทำไมต้อง 2 ปีละครับ” เปาเป็นฝ่ายเอ่ยถามแม่ของไม้ฉาก

“2 ปีจริงๆลูก แค่รอให้แฟนยายหนูพิมกลับมาแค่นั้น แล้วไม้ฉากก็ไม่ต้องแต่งงานกับพิม
แค่กลับไปทำพิธีหมั้นแค่นั้นลูก ไม่ได้แต่งงานอะไร ไม่มีการจดทะเบียน ไม่มีรับรองบุตร
แค่หมั้นกันเท่านั้นเองนะปั้นนะ ช่วยแม่ด้วย ช่วยครอบครัวของแม่หน่อยนะปั้น”

แม่ของไม้ฉากยังร้องไห้ไม่หยุดเลยครับ
ร้องเหมือนคนจะขาดใจให้ได้


แค่หมั้นงั้นหรอ?
แล้วจะมีอะไรมายืนยันว่าครบ 2 ปีแล้วจะไม่บังคับใจไม้ฉากอีก?
ผมควรจะเชื่องั้นหรอ?

“ขอให้ผมได้คุยกับไม้ก่อนนะครับแม่ แล้วผมจะตอบว่าไม้จะเอายังไง”
ตอนนี้ผมพูดได้เท่านี้จริงๆครับ

ผมสับสนไปหมดแล้วจริงๆ ผมไม่ได้อยากให้ไม้แต่งงานกับพิม
ถึงจะแค่หมั้น ผมก็ไม่อยากครับ
และไม้ฉากเองก็ไม่ต้องการจะแต่งงานกับพิมเช่นกัน
แต่ ... ถ้าไม้ฉากไม่ยอมทำตามที่แม่บอก
พ่อของไม้ฉากจะหย่ากับแม่ แล้วครอบครัวของไม้ฉากก็ต้องพังลง

ผมควรทำไงดี?




“ขอบใจนะลูกนะ แต่ปั้นต้องรีบช่วยคุยกับไม้ให้แม่นะ
พ่อประกาศไปแล้วว่าพรุ่งนี้จะทำพิธีหมั้นพร้อมๆกับพิธีทำบุญรีสอร์ท
แต่ไม้ฉากยังไม่กลับไปที่นั้นเลย แม่กับน้าอร ลำบากมากลูก
น้าอรก็โดนทางลุงพลบีบบังคับให้บังคับยายหนูพิมให้ยอมแต่ง
แม่กับน้าอรพยายามขอร้องคุณพ่อแล้ว  คุณพ่อบอกว่าไม่แต่งก็ได้
ขอแค่มาหมั้น  ขอแค่นั้นจริงๆลูก  แล้วแม่สัญญานะ
ว่าแม่จะไม่ห้ามให้ปั้นกับไม้ฉากมาเจอกัน
นะลูกนะ ช่วยแม่ด้วย ช่วยครอบครัวของแม่ด้วย
มีแค่ปั้นคนเดียวจริงๆที่จะช่วยแม่ได้   แม่ขอร้องละลูก”

แม่ของไม้ฉากลุกขึ้นแล้วเดินมากอดผม
ผมเลยต้องกอดปลอบแม่ไม้ฉากให้หายสะอื้น จนแม่โอเคขึ้นแล้ว
แม่เลยขอตัวกลับโคราชก่อน เพราะต้องกลับไปเตรียมงาน

“โทรหาแม่นะปั้น คืนนี้แม่จะรอคำตอบ”
แม่ไม้ฉากหันมาบอกผมอีกครั้ง ก่อนจะเดินขึ้นรถที่มาจอดรอรับหน้าคอนโด




“มึงจะทำยังไงต่อไปวะปั้น”
เปามันถามผม ตอนที่เราเดินมาซื้อของที่ซุปเปอร์

“ไม่รู้วะเปา  กูสับสนไปหมดแล้ว กูไม่รู้ว่าที่แม่ของไม้ฉากพูดมามันจริงแค่ไหน
ถ้าพรุ่งนี้ไม้ไม่ไปที่งาน  พ่อจะฟ้องหย่ากับแม่ แล้วครอบครัวของไม้ฉากมันก็ต้องพังลง
เพียงเพราะกูกับไม้รักกันแค่นั้นนะหรอ?
ไม้ทีละวะ ไม้ทีจะอยู่ยังไงต่อ?
กูกับไม้หนีมามีความสุขกันแค่ 2 คน แต่ครอบครัวมันต้องพังลงไป
ไม้ทียังต้องอยู่กับแม่ กับพ่อที่อารมณ์รุนแรงแบบนั้น
มึงว่า … กูทำถูกแล้วหรอวะที่เห็นแก่ความสุขของตัวกูเอง
และทำให้ครอบครัวของไม้ฉากมันพังลงแบบนั้น
กูทำถูกหรอวะเปา”

นั้นสิ .. ผมทำถูกแล้วหรอ?
ผมมีความสุข เพราะได้รักและได้คบกับไม้ฉาก
แต่ไม้ฉากละ ,, ครอบครัวมันต้องแตกแยกและต้องพังลงแบบนี้
มันจะมีความสุขจริงๆงั้นหรอ?
ที่เลือกผม แต่บ้านมันต้องพังลงแบบนั้น??


นี้มันใช่ความสุขที่พวกเราต้องการงั้นหรอ?



“ปั้น ,, อย่าคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง มึงต้องถามไม้ฉากด้วยนะ”
เปาเอามือมาตบบ่าผมเบาๆ
ก่อนจะบอกให้ผมรีบซื้อของแล้วกลับไปหาพวกไม้ฉากกับยูโร


ผมกับเปากลับมาถึงห้องก็รีบทำกับข้าว ก่อนจะเรียกไม้ฉากกับยูโรมากินข้าว
พวกมันรีบกินมากครับ เพราะจะรีบไปเล่นเกมส์ต่อ - -‘
ไอ้เด็กติดเกมส์เอ้ยยย !!


ผมก็นั่งดูพวกมันเล่นเกมส์สักพัก
เปาก็เรียกยูโรให้ไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยมาเล่นต่อ
ตอนที่ยูโรเดินเข้าห้องไปอาบน้ำนั้น เปาก็สะกิดบอกผม

“คุยกับไม้ดู เดี๋ยวกูพาตัวยุ่งไปอาบน้ำก่อน”
พอพูดจบเปาก็เดินเข้าไปในห้องที่มีเสียงยูโรตะโกนถามหาเสื้อผ้า


ไม้ฉากมันก็ยังนั่งเล่นเกมส์ต่อไปเรื่อยๆครับ

“ไม้  คิดถึงทีป่าว” ผมเอ่ยถามไม้ฉาก
เพราะไม้ฉากมันรักน้องชายตัวอ้วนของมันมากครับ 555+
มันห่างจากน้องหลายปี และมันเคยบ่นว่าไม่อยากให้น้องโดนแม่บังคับเหมือนที่มันโดน


“คิดถึงดิไม่รู้เป็นไงบ้าง ป่านนี้พ่อจะระเบิดลงใส่มันหรือป่าวไม่รู้”
ไม้ฉากวางจอยส์เกมส์ลง ก่อนจะนั่งเหม่ออีกครั้ง
เดี๋ยวนี้มันเหม่อบ่อยมากครับ

“แล้วสมมตินะ ถ้าเราสองคนได้รักกันได้อยู่ด้วยกัน
แต่พ่อของไม้ไปอาละวาดใส่แม่ตลอดเวลา
หรืออาจจะโกรธที่แม่เลี้ยงไม้ไม่ดีอะไรแบบเนี้ย  ไม้ว่าเราจะมีความสุขไหม?”

พอผมพูดจบไม้ฉากก็หันมามองหน้าผม
ก่อนจะลุกมานั่งบนโซฟาข้างๆผม


“ไม่หรอก พ่อของไม้เป็นคนมีเหตุผล พ่อจะไม่ทำแบบนั้นกับแม่กับน้องแน่นอน
และสักวันพ่อต้องเข้าใจในสิ่งที่ไม้เป็น ไม่ต้องคิดมากหรอกนะปั้น
แค่อดทนและยืนอยู่ข้างๆไม้แบบนี้ก็พอแล้วนะ”

ไม้ฉากดึงผมเข้าไปกอด ก่อนก้มลงมาหอมแก้มผม
แล้วมันก็เดินลงไปนั่งเล่นเกมส์ต่ออีกรอบ


ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นละไม้?
ถ้าพ่อไม้ไม่หยุดแค่นั้นละ?




“ปั้นขอไปโทรหาม๊าหน่อยนะ ยังไม่ได้โทรบอกม๊าเลยว่ามาถึงแล้วอะ”
ไม้ฉากหันมายิ้มให้ผม ก่อนจะหันไปสนใจเกมส์ต่อ
แต่ผมรู้นะมือมันอาจจะกดจอยส์เล่นเกมส์ ตามันอาจจะมองจอทีวี
แต่สมองมันคงคิดและหาทางให้เรื่องราวที่เป็นปัญหาในตอนนี้จบลงอย่างดีที่สุด
และไม่ทำให้ใครเสียใจมากไปกว่านี้แน่ๆ

เพราะไม้ฉากเวลามันทำอะไรมันคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
และสิ่งที่มันนึกถึงก่อนอันดับแรก ก็คือ ครอบครัว
ไม่งั้นมันไม่ยอมแม่มันมาตลอดหรอกครับ

ผมควรทำไงดี??


ผมเดินเข้ามาโทรหาม๊าในห้องนอนคุมะ
เพราะยูโรกับเปามันนอนห้องนอนใหญ่

ม๊า :: ตัดสินใจจะกลับไปโคราชหรอลูก
พอม๊ารับสายปุ๊บ ม๊าก็ถามเลยครับ

ผม :: ยังเลยครับม๊า  ไม้มันยังไม่ยอมกลับไปคุยกับพ่อแม่มันเลย

ม๊า :: แต่วันนี้พ่อของไม้ฉากโทรมาหาป๊า บอกว่าจะจัดงานวันพรุ่งนี้เหมือนเดิม
มันยังไงแน่ลูก

ผม :: วันนี้แม่ของไม้ก็มาหาผมครับ

ม๊า :: ห๊า .. แล้วเค้าทำร้ายลูกไหม? เจ็บตรงไหนไหมลูก

ม๊าตกใจมากเลยครับที่ได้ยินว่าแม่ของไม้ฉากมาหาผม

ผม :: ไม่ได้ทำร้ายครับ เค้ามาขอร้องผมให้ช่วยคุยกับไม้
น้าหน่อยบอกว่าไม่ได้แต่งงานครับ แค่หมั้น แล้วอีก 2 ปีจะยกเลิกหมั้นให้
แค่รอเวลาให้แฟนของพิมออกจากคุกนะครับแม่

ม๊า :: เห็นบอกกับม๊าแบบนั้นเหมือนกันลูก  แล้วที่น่าตกใจไปกว่านั้นนะปั้น
พ่อของไม้ฉากจะฟ้องหย่ากับแม่ของไม้ฉาก ถ้าไม้ไม่ยอมมาหมั้นวันพรุ่งนี้
เห็นว่าจะฟ้องให้แม่ไม้ฉากไม่ได้อะไรติดตัวเลยละ
เพราะสินสมรสต่างๆก็มาจากธุรกิจของพ่อของไม้ฉากทั้งนั้น
ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ ครอบครัวไม้ต้องแย่มากๆเลยลูก


จะฟ้องหย่าจริงๆงั้นหรอ?
เห้ยย ,, ตอนแรกคิดว่าพูดเล่นนะ
นี้เอาจริงๆงั้นหรอ??


ผมนึกถึงหน้าคนที่นั่งเล่นเกมส์อยู่นอกห้องเลยครับ
ตอนที่มันพูดถึงครอบครัวของมัน แววตาของมันมีประกายวิ้งวับมากๆครับ
ความสุขของครอบครัว
ทุกๆความทรงจำของมัน
ถ้ามันจะต้องจบลงเพียงเพราะไม้ฉากเลือกผม
มันก็คงไม่ใช่.

ผมคงมีความสุขกับไม้ฉาก
แต่ครอบครัวไม้ฉากต้องแตกแยกกันขนาดนั้น
ผมก็ทำไม่ได้จริงๆครับ


ผม :: ม๊าครับ ,, ปั้นควรทำยังไงครับ ปั้น
ฮึกกก .. ปั้นไม่รู้แล้วว่าควรจะทำยังไงต่อจากนี้
ม๊าช่วยปั้นหน่อยสิครับ



ผมไม่ไหวแล้วจริงๆครับ ผมรับกับปัญหาตอนนี้เองไม่ไหวแล้ว
ทำไมมันอึดอัด ทำไมมันหนักแบบนี้
ผมควรต้องทำยังไง?


ผมรักไม้ฉาก และผมก็อยากทำให้ไม้ฉากมีความสุข
การเห็นไม้ฉากไปหมั้นกับพิม มันก็พอยอมรับได้
เพราะแค่หมั้น ไม่ได้แต่งงานไม่ต้องใช้ชีวิตกับไม้ฉาก
แต่ถ้าครบ 2 ปีแล้วแม่ของไม้ฉากไม่ทำตามที่สัญญาไว้ละ
ผมต้องทำยังไงงั้นหรอ??

แต่การฝืนให้ไม้ฉากมีแค่ผมไปเรื่อยๆแบบนี้
ผมเชื่อว่ามันก็ยิ้มให้ผมครับ และผมเชื่อว่าเราจะยิ้มด้วยกันเวลาเราอยู่ด้วยกัน
แต่ไม้ฉากมันจะไม่คิดเรื่องครอบครัวของมัน ,, ผมว่าเป็นไปไม่ได้

ม๊า :: ปั้นครับ ส่งไม้ให้ถึงฝันเถอะลูก
การปล่อยไม้ฉากให้กลับไปหาพ่อแม่ของเค้า ไม่ใช่การยอมแพ้นะลูก
แต่เป็นการทำในสิ่งที่ลูกควรกระทำ
ให้ไม้กลับไปก่อน กลับไปเจอหน้าพ่อแม่ก่อน
จะหมั้นหรือจะทำอะไรก็ให้มันผ่านพิธีนั้นไปก่อน
มันไม่ใช่งานเล็กๆ ไม่ใช่แค่การเล่นขายของนะ
ที่ว่าเจ้าบ่าวไม่มา เก็บงานแล้วจบ
แต่มันหมายถึงหน้าตา หมายถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวเค้า
ถ้าไม้ฉากหนักแน่นและรักลูกจริงๆ  ม๊าเชื่อนะลูกว่าไม้ฉากต้องหาทาง
และทำทุกๆอย่างเพื่อจะได้กลับมายืนข้างๆลูกอีกครั้ง
ไม่ใช่การจากกันครั้งแรกนิลูก เมื่อตอน ป.4 พวกลูกทั้งสองก็เคยแยกกันไป
เพื่อตามหาความฝันเพื่ออนาคตของตัวเอง
แต่ดูสิ มีอะไรมาห้ามลูกสองคนได้ไหม ไม่มีใช่ไหมลูก
ลูกก็ยังติดต่อกันมาเสมอ และก้าวผ่านความรักแบบเพื่อน มารักกันแบบคนรัก
ลูกใช้เวลา 14 ปีในการก่อสร้างความรักนี้ขึ้นมา
กับแค่เวลา 2 ปีลูก ,, มันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย
ไม่แน่นะ ,, อีก 2 ปี ทั้งไม้ทั้งปั้นโตมากกว่านี้แล้ว
และมีหน้าที่การงานที่มั่นคงกว่านี้ และพิสูจน์ให้พ่อแม่ของไม้เห็นว่าพวกลูก
รักกันด้วยหัวใจจริงๆ ม๊าเชื่อนะลูกว่าพ่อแม่ของไม้ฉากต้องเข้าใจ
และต้องยอมรับลูกๆได้  เหมือนที่ป๊ากับม๊ายอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นได้

ไปส่งไม้นะลูกนะ ไปส่งไม้ให้ถึงมือของพ่อแม่ไม้ ,, ทำในสิ่งที่ถูกลูก
อย่าวิ่งหนีความจริงเลย ลูกหนีกันไม่ได้ตลอดทั้งชีวิตหรอกลูก

ยังไงๆม๊ากับป๊าก็จะอยู่ข้างๆปั้นนะลูกนะ  พรุ่งนี้ม๊ากับป๊าจะไป
จะไปกอดปั้น ไปกอดลูกชายคนเก่งของม๊า
ม๊าภูมิใจนะลูก .. ที่ปั้นจะได้ทำสิ่งดีๆ และสิ่งที่ถูกต้อง


ม๊าพูดมายาวมากครับ และสิ่งที่ม๊าพูดมาทั้งหมดมันก็เป็นความจริงทั้งนั้น
มันเป็นสิ่งที่ผมควรทำจริงๆ

ผม :: ครับม๊า ขอบคุณมากๆครับ

ตอนนี้ผมวางสายจากม๊าไปแล้วครับ
ทุกๆคำที่ม๊าพูดออกมาทั้งหมด ,, ผมคิดและผมรู้แล้วว่าผมควรทำยังไง

ผมเดินออกจากห้องนอนมายืนดูไม้ฉากที่นั่งเล่นเกมส์กับยูโร
ไม้ฉากมันยิ้มครับ แต่ไม่ใช่รอยยิ้มที่มันเคยมี


ผมตัดสินใจกดโทรไปหาพู่กัน 
ไม่รู้ว่ามันเดินทางอยู่ไหม แต่โชคดีที่ผมโทรหามันติด

พู่กัน :: ว่าไงครับ จะให้ซื้อของฝากกูคงซื้อให้ไม่ได้นะกำลังจะไปขึ้นเครื่องแล้วเนี้ย

ผม :: ป่าว กูแค่มีเรื่องจะถามมึงอะ

พู่กัน :: มีอะไรวะ ทำไมทำเสียงเครียดๆแบบนั้นอะ

ผม :: มีแต่มึงเท่านั้นแหละที่ช่วยกูได้.


ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
พรุ่งนี้มาติดตามกันนะ ว่าปั้นสิบอยากให้พู่กันช่วยอะไร?

ขอบคุณจริงๆนะคะที่ติดตามกันมาจนเราใกล้จะถึงบทส่งท้ายแล้ว
อยู่เป็นกำลังใจให้เด็กๆกันต่อไปนะ : )

มีคำผิดเดี๋ยวเจตามแก้เดือนหน้านะคะ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ,,

แล้วพรุ่งนี้พบกันคะ '

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ปั้นพยายามพูดกับพ่อแม่ไม้ก็คือ สีซอให้ควายฟัง

สินสมรส คือสินที่ได้มาตอนที่ยังสมรสอยู่ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายหามาก็เถอะ   การมีทะเบียนสมรสก็ดีตรงนี้เอง  พ่อกับแม่ของไม้ก็อยู่ด้วยกันตอนที่เงินมาสมบัติมี ฉะนั้นจะมาบอกก็ไม่ได้หรอกว่าเป็นสินเดิม หรือกรูหามาเอง ยังไงก็ต้องแบ่ง   แค่นี้ก็รู้แล้วว่าแม่ไม้วางแผนมาบีบไม้อีกที

หลังจากนี้ไม้หนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอกเพราะว่าพ่อจะเอาแม่กับน้องมาขู่ไม้ให้ทำตามตลอดเวลา    สองปีก็ไม่มีทางปล่อยแน่ถ้าหากว่าไม้ไม่แข็งขึ้นมาเอง   แต่กว่าจะถึงวันนั้นไม้ต้องสร้างฐานะเพื่อรองรับแม่กับน้อง    ต่อให้พ่อเลิกกับแม่ซึ่งเราว่ามีสิทธิ์แน่ๆเพราะว่าคนแบบพ่อไม้ต้องคิดเสมอว่าตัวเองสามารถมีครอบครัวใหม่ได้ ที่ไม้เป็นแบบนี้เพราะคนอื่น   

นอกเรื่องนิดนะ - ในชีวิตการทำงานของเรานะเจอผู้ชายแบบพ่อไม้มาแบบนับครั้งไม่ถ้วนที่พยายามเอาเปรียบเมียต่างชาติ  หลายครั้งที่ช่วยอะไรไม่ได้ หลายครั้งที่สามารถพลิกสถาณการณ์ได้ ขอบอกเลยนะว่าเราสะใจเป็นการส่วนตัวทุกครั้ง

ป.ล รักแม่ปั้นตอนนี้มากๆ   กลัวว่าปั้นจะให้พู่กันซื้อยาอะไรให้หรือเปล่า วางยาไม้ให้หลับแล้วส่งไม้กลับบ้าน?   อย่าทำนะปั้น  คุยกันก่อนดีที่สุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2015 00:19:56 โดย Freja »

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อีก  สี่สิบนาทีก็จะเป็นพรุ่งนี้  งั้นเราคอยมูเจอยู่หน้าคอมต์เลยละกัน  มาเร็วๆน๊า

ออฟไลน์ desiderata

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทรัพย์สินที่งอกเงยขึ้นมาหลังแต่งงาน ยังไงก็ต้องแบ่งมั้งไม่น่าจะเกี่ยวว่ามาจากธุรกิจของฝืายไหน

นี่ถ้าปั้นทำอะไรโดยไม่บอกไม้ก่อน มัดมือชกให้ไม้ไปหมั้นเหมือนที่พ่อแม่ไม้ทำกับไม้
บอกเลยว่าจะโกรธปั้นมาก ที่ผ่านมา. ไม้ยังโดนกระทำไม่พอเหรอ ปั้นจะตัดสินใจยังไง ควรบอกไม้ดีๆ ให้ไม้มีส่วนตัดสินใจด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
คุณเฟรจาพูดได้เป๊ะมากครับ พูดได้ยอดเยี่ยม

ถูกต้องเลยครับ ในการฟ้องหย่า สินทรัพย์ทุกอย่างที่ได้มาหลังแต่งงานด้วยทะเบียนสมรส ต้อง 'แบ่งครึ่ง' ทั้งหมด ยกเว้นมีกรณีค่าใช้จ่ายคดีความ พินัยกรรมระบุเป้าหมาย หรือมีหนี้ฟ้องล้มละลายเป็นรายบุคคล

หรือต่อให้คุณแม่ไม้ฉากไม่ได้เตี้ยมมาจริงๆ ผมขอล่ะ ขอสักครั้ง ไม่ใช่แค่กับคุณแม่ไม้ฉาก แต่กับพ่อแม่ของคนทั้งโลกนี้.... ทำเพื่อ 'ลูก' สักครั้ง... ไม่ต้องทำเพื่อเห็นแก่ 'ตัวเอง' ไม่ต้องทำเพื่อเห็นแก่ภาพพจน์ 'ครอบครัว' คุณเห็นแล้วว่าลูกคุณมีความสุข มีความมั่นคงแค่ไหนกับปั้นสิบ

....ลองทำ 'เพื่อลูก' ดูสักครั้ง ดีไหม?

หย่าเถอะครับ อยู่ไปแบบนี้ไม่มีอะไรดีขึ้น ยิ่งอยู่ครอบครัวก็ยิ่งแตกสลาย มันเหมือนตะปูที่เคยตอกไปแล้ว ถอนออกมา คนที่ขยันจดจำอย่างคุณพ่อไม้ฉากคงไม่มีวันคิดจะลืมรอยร้าวอันนี้หรอกครับ คิดถึงไม้ทีเอาไว้ คุณจะยอมให้ลูกคนที่สอง ต้องมารองรับการบงการ การกีดกันทางความคิดแบบนี้อีกคนไหม?

'ครอบครัว' ประกอบขึ้นจาก 'ความรัก' นะครับ

ปราศจากความรักความห่วงใย มีแต่การบังคับ กีดกัน แม้จะอยู่บนความหวังดี ...มันก็ไม่ใช่ครอบครัว มันเป็นเพียงแค่การอยู่ร่วมกันโดยไร้ความรู้สึก เป็นเพียงสถาบันที่แตกสลายและรอวันพังพินาศด้วยความไม่เข้าใจ

...เพราะถ้าเข้าใจ มันจะไม่มีการบังคับและกีดกัน มันจะมีแต่ความรักและการสนับสนุนอย่างไร้ข้อแม้ครับ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ไม่มีอะไรจะเอ่ย ไม่มีอะไรจะกล่าว นอกจากจะพูดว่าเป็นพ่อแม่ประสาอะไรไม่คิดถึงความสุขของลูกเลยเหรอ เห็นแก่ตัวไปหรือเปล่าไม่เห็นเหรอว่าสิ่งที่พวกคุณทำอยู่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกตัวเองไม่มีความสุขน่ะ

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
วันนี่มีเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย,, เจมาอัพนิยายให้ไม่ได้นะคะ
ต้องขอโทษด้วยจริงๆคะ

คืนนี้ฝันดีนะคะทุกคน
รักษาสุขภาพกันด้วยน๊าา~

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ไม่เป็นไรค่ะรอคุณเจได้ค่ะ แล้วคุณเจรักษาสุขภาพด้วยนะคะ เห็นเข้ารพ.บ่อยๆ เป็นห่วงค่ะ

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
Ch 71  กลัว.  || ไม้ฉาก




“มึงตัดสินใจแบบนี้แน่หรอวะปั้น

“มึงถามไม้ก่อนดีกว่านะ”

“แล้วถ้ามันไม่ยอมมึงเอาไง”

“อย่าเสียงดังดิวะมันยังนอนอยู่”




เสียงใครวะมาโวยวายในห้องนอนเนี้ย?
คุยเรื่องอะไร?
ทำไมมีชื่อผม กับปั้นสิบด้วย?


ผมพยายามจะลืมตาขึ้นมามอง ว่าไอ้เพื่อนๆตัวแสบของผมมารวมกันในห้องได้ยังไง
แต่พยายามลืมตาแล้วครับ มันหนักมาก ลืมตาไม่ขึ้นเลย
รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด
นี้เป็นอะไรวะเนี้ย? เมื่อคืนก็ไม่ได้ทำอะไรนะ
เอ๊ะ ,, หรือปั้นสิบมันลักหลับผม o__O



ผมพยายามคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืน

ผมนั่งเล่นเกมส์กับยูโร  ส่วนเปากับปั้นสิบเดินออกจากห้องนอนใหญ่มา

"ไม้ๆ ปั้นจะลงไปเอาของที่เจ๊มิ้วนะ  เจ๊จะเอามาให้อะ"
พอพูดเสร็จแล้วปั้นสิบกับเปาก็เดินไปที่ประตูห้อง

“ทำไมไม่ให้เจ๊ขึ้นมาอะ จะได้มาคุยกันไม่ได้เจอกันนานแล้ว คิดถึง”
ผมบอกกันปั้นสิบ ตอนที่มันกำลังจะเปิดประตูออกไป

“เจ๊มิ้วบอกว่าต้องรีบกลับอะ พอดีเจ๊ผ่านมาเลยเอาขนมมาฝาก เอาไว้วันหลังเราไปหาเจ๊ที่บ้านก็ได้”
ปั้นสิบมันตอบผมเสร็จ แล้วก็รีบเดินออกจากห้องไป

อืมม ก็คงรีบๆแหละมั้ง เดี๋ยวเจ๊แกบ่น
ผมยังจำได้เลยตอนที่รู้ความจริงหมดแล้ว จากสาวน้อยเสียงสวยที่แสนดี
กลายเป็นป้าขี้บ่น  เจ๊มิ้วบ่นผมกับปั้นได้ทุกเรื่องอะครับ 555+


ปั้นสิบกับเปาลงไปข้างล่างประมาณครึ่งชั่วโมงก็ขึ้นห้องมา
เปาถือถุงใส่พิซซ่า กับถุงโดนัท
ส่วนปั้นสิบมันถือถุงหนังสือขึ้นมาครับ

“ไม้ๆ เจ๊มิ้วซื้อการ์ตูนมาฝาก เจ๊บอกว่าไม้เคยพูดว่าอยากอ่าน เจ๊ไปซื้อมาให้ ครบชุดเลย”
ผมยื่นมือไปรับหนังสือจากปั้นสิบมา
โหววว นี้มันการ์ตูนที่ผมอยากได้จริงๆครับ 42 เล่มจบ
เจ๊มิ้วววววววววว .. ขอบพระคุณมากครับ >/////<

“ยูเลิกเล่นเกมส์เถอะมาอ่านการ์ตูนกัน เรื่องนี้มันส์มากเลยนะเว้ย”
ผมหันไปบอกยูโร ที่ตอนนี้มันปิดเกมส์ละครับ
จะไม่ปิดได้ไงละ หน้าตาของพี่เปาท่านแทบจะแดกหัวอยู่ละครับ 555+
เล่นกันตั้งแต่เที่ยง จนตอนนี้จะเที่ยง(คืน)อีกรอบละครับ

“ไปกินกันก่อนเลยแล้วค่อยมาอ่านหนังสือการ์ตูน   เดี๋ยวพิซซ่ามันเย็นซะก่อน”
เปากับปั้นสิบไปจัดโต๊ะอาหารละครับ มีพิซซ่า สปาเก็ตตี้   ไก่ทอด
โหยยย ของชอบทั้งนั้นเลย : )

ผมกินพิซซ่ากันจนหมด แล้วก็ถึงเวลาอ่านการ์ตูน 555+
ชีวิตช่วงนี้คือโคตรไร้สาระไปวันๆมาก
เมื่ออาทิตย์ก่อน ยังถือปืนเดินลาดตะเวน ยังต้องระวังกลัวระเบิดกลัวโดนลอบยิง
แต่อาทิตย์นี้ผมโคตรใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆมาก
ไปกระบี่ ผมก็นอนทั้งวัน  นอนอ่านหนังสือกับปั้นสิบ
นอนฟังเพลง  ไปเดินเล่นริมทะเล  เล่นน้ำ ดำน้ำตื้นใกล้ๆกับเกาะที่เราพัก
ในสมองไม่ได้คิดอะไรเลยครับ 

จริงๆมันก็คิดนะ คิดตลอดว่าจะเอาไงดีต่อจากนี้
แต่ผมแค่พยายามจะลืมมันไป ..
และหวังว่า 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา พ่อแม่ผมจะใจเย็นขึ้นและจะรับฟังการตัดสินใจของผม



“มึงอ่านเล่มไหนแล้วอะ”
ยูโรเดินเข้ามาเลือกการ์ตูนไปอ่าน
ผมซื้อเองไป 4 เล่มละครับ  เดี๋ยวเริ่มอ่านเล่ม 5 เลยดีกว่า

“กูจะอ่านเล่ม 5  มึงเอาเล่ม 1 ไปอ่านเลย  สนุกมาก”
ผมยื่นการ์ตูนเล่ม 1 ให้ยูโร
มันก็ยื่นมือมาหยิบเล่ม 1 จากผมไป ก่อนจะเอาเล่ม 2 , 3 และเล่ม 4 ไปด้วย

“กูไปอ่านการ์ตูนแล้วนอนกอดแฟนในห้องดีกว่า พรุ่งนี้มันจะกลับขอนแก่นแล้ว”
พูดเสร็จยูโรก็เดินไปลากแขนเปาที่ยืนคุยกับปั้นสิบอยู่ในห้องครัวเข้าห้องนอน
เอาที่มึงสบายใจเถอะครับ - -‘

“อ่ะนี้กินน้ำผลไม้ก่อน  กินพิซซ่าหนักๆตอนก่อนนอนแบบนี้ ลำไส้ทำงานหนักแย่”
ปั้นสิบยื่นน้ำส้มให้ผมกิน  ก่อนจะหยิบการ์ตูนมาเปิดดู
ผมก็รีบดื่มน้ำส้มที่ปั้นสิบเอามาให้ 
พอดื่มน้ำส้มหมดแล้วปั้นสิบให้ผมเข้าไปรอในห้องก่อน
เดี๋ยวมันปิดไฟข้างนอกเสร็จจะตามเข้าไป

ผมก็รีบเอาการ์ตูนเข้ามาอ่านในห้อง  สักพักปั้นสิบก็เข้ามา
ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆผม แล้วเอาหน้ามาซุกไว้ตรงคอผม

“สนใจเค้าหน่อยดิ “
เห้ยยย อารมณ์ไหนครับเนี้ย แทนตัวเองว่า เค้า ด้วยย
น่ารักกก ^///////^


ผมเลยวางการ์ตูนไว้ข้างๆที่นอน แล้วพลิกตัวไปกอดปั้นสิบ

“ครับๆ สนใจแล้ว อ้อนจะเอาอะไร ช่วงนี้พี่จนนะครับ ห้ามอ้อนขอของแพงๆ”
พูดจบผมก็หอมแก้มปั้นสิบ หอมแรงๆแบบที่ผมชอบหอมมันนั้นแหละครับ
แต่ครั้งนี้มันไม่ด่า  555+ 

“ไม่ขออะไรแพงหรอกนะ  แค่อยากให้กอดเท่านั้นเอง”
ปั้นสิบพูดจบก็ซุกตัวมาหาอกของผม แล้วก็กอดผมซะแน่นเลยครับ
นี้.. มึงเป็นไรหรือป่าวเตี้ย?

“เป็นไรครับ งอแงอะไร  ไหนบอกป๊าสิ”
ผมถามปั้นสิบอีกรอบ แต่มันก็ไม่ยอมตอบว่ามันเป็นอะไร
ไม่บอกก็ไม่บอกเนอะ ผมก็นอนกอดปั้นสิบไปแบบนั้นแหละครับ
ดึงแก้มมันบ้าง แอบหอมแก้มมันแรงๆ กัดแก้มมันบ้าง
แต่มันด่านะตอนที่กัดแก้มมันอะ 555+

“ไม้”
อยู่ๆปั้นสิบก็เรียกชื่อผม  …
ผมเลยก้มหน้าไปมองปั้นสิบ  มันก็เงยหน้ามามองหน้าผมเหมือนกันครับ


“หื้มม”

“ปั้นรักไม้นะ”

เป็นคำบอกรักที่น่ารักมากๆครับ เพราะปั้นสิบยิ้มให้ผมด้วย
ปั้นสิบเป็นคนที่ยิ้มแล้วดูน่ารักมากๆ
ตาของมันก็จะสดใส แล้วเหมือนจะยิ้มตามรอยยิ้มของมัน

“ไม้ก็รักปั้นนะ  อดทนอีกนิดเนอะ เดี๋ยวอะไรๆก็ดีขึ้น”

ผมกอดปั้นสิบไว้แนบอก 
ผมรู้ว่าปั้นมันเหนื่อย และมันอึดอัดแค่ไหนกับสิ่งที่เรากำลังเผชิญ


ปั้นสิบเป็นเด็กดีครับ ครอบครัวปั้นสิบไม่เคยบังคับปั้นสิบเลย
ป๊าม๊าปั้นสิบให้อิสระกับปั้นสิบแทบทุกอย่าง
และตัวปั้นสิบเองก็ไม่เคยทำให้คนที่บ้านต้องผิดหวัง

ปั้นสิบมันเหมือนผ้าสีขาว มันบริสุทธิ์และขาวสะอาด
มันรู้สึกยังไงมันก็แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตาได้ชัดเจน
ผมถึงรู้ว่ามันกำลังอึดอัด และมันก็พยายามอดทนเพื่อผม

ผมไม่อยากทำให้ปั้นสิบต้องเสียใจอีกแล้วครับ
และไม่อยากให้ปั้นสิบต้องอดทนรอผม
มันรอผมมามากพอแล้ว

ตั้งแต่ผมเข้าอบรมตำรวจ
1 ปีเต็มๆที่พวกเราเจอกันน้อยมาก
ไม่ได้โทรหากัน ไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยๆแบบคู่ไหนๆ
แต่ปั้นสิบไม่เคยจะงอแง ไม่เคยจะร้องขอเวลา
มันได้แต่บอกผมว่า ..... 

“รีบกลับไปหาพ่อแม่เถอะไม้  ใช้เวลากับท่านเยอะๆ
แล้วพาทีไปเที่ยวบ้าง น้องคงคิดถึงไม้แย่เลย”


ปั้นสิบจะบอกผมแบบนี้ทุกครั้งที่ผมได้พัก แล้วมาหาปั้นสิบ
บางทีมาเจอหน้ากัน 1 ชั่วโมง แล้วผมต้องขึ้นเครื่องกลับขอนแก่น
มันก็บอกให้ไปเจอกันที่ดอนเมือง
เรานั่งคุยกันนั่งกินข้าวกล่อง 7-11 ด้วยกันที่ดอนเมืองนั้นแหละครับ
จนผมต้องขึ้นเครื่อง ปั้นสิบถึงยอมให้ผมกอด 
พอจบจากอบรมแล้วนึกว่าการรอคอยมันสิ้นสุด
แต่แล้วผมก็ต้องไปที่นราธิวาสอีก 6 เดือน
ปั้นสิบมันเป็นห่วงผมจนไม่เป็นอันกินอันนอน
แก้มของมันนี้ดึงไม่สนุกละครับ มันไม่มีแก้มเยอะๆแบบเมื่อก่อนแล้ว

ผมไม่อยากให้ปั้นสิบต้องอดทน ต้องรอผมอีกแล้ว
ผมอยากกลับไปหาพ่อแม่ อยากไปอธิบายให้เค้าเข้าใจ
แต่ผมจะทำได้ไหม?
ผมจะแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ไหม?

นั้นคือสิ่งที่ผมเองก็ไม่รู้ และไม่มั่นใจเลยว่าผมจะปฏิเสธคำสั่งพ่อแม่ได้ยังไง


ตั้งแต่เล็กจนโต ,, พ่อแม่สั่งยังไง คำตอบจากผมมีเพียงแค่คำว่า “ครับ”
ผมไม่เคยพูดคำว่า “ไม่ทำครับ” กับพ่อแม่เลย
เพราะผมระลึกเสมอว่า ,,

 “บุญคุณของพ่อแม่  ต่อให้เราบวชให้ท่านแล้ว หรือเราได้ทำทุกๆอย่างเพื่อท่านแล้ว
ยังไงเราก็ชดใช้พระคุณของท่านไม่หมด
ท่านให้ชีวิต ให้การศึกษา ให้ทุกๆอย่างจนผมเป็น นายภาคิน คนนี้
ผมจะไม่ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ  และผมจะเป็นลูกชายที่พ่อแม่ภาคภูมิใจ
เป็นพี่ชายที่ดีให้กับน้องชายของผม”


เพราะผมคิดแบบนี้มาตลอด ,, ผมเลยไม่เคยขีดเส้นทางเดินของตัวเอง



“ไม้ไม่ต้องทำอะไรเพื่อปั้นหรอกนะ  แค่เท่าที่ผ่านมา มันก็ดีที่สุดแล้ว
ปั้นรักที่ไม้เป็นแบบนี้  รักที่ไม้รักพ่อรักแม่  ไม่ต้องถึงขนาดตัดพ่อตัดแม่
แล้วมาใช้ชีวิตกับปั้นหรอกนะ”

ปั้นสิบมันบอกกับผม ก่อนที่จะลุกขึ้นมานั่ง แล้วมองหน้าผม

“ไม้ไม่ได้ตัดพ่อตัดแม่ ยังไงซะมันก็ตัดกันไม่ได้หรอก
ไม้แค่อยากให้เวลามันพิสูจน์ว่าไม้โตแล้ว และไม้รับผิดชอบชีวิตไม้ได้
และทางที่ไม้เลือก มันดีที่สุดสำหรับไม้แล้วแค่นั้นเอง 
ไม้รู้ไม่ว่าไม้จะตัดสินใจยังไง  ปั้นก็จะอยู่ข้างๆไม้ใช่ไหม”

ผมเอื้อมมือไปจับมือของปั้นสิบ
ซึ่งมันก็บีบกระชับมือผมให้ผมอุ่นใจว่าปั้นสิบมันจะอยู่ข้างๆผม

“อยู่สิ  ต่อให้เราต้องแยกจากกันอีกครั้ง  ปั้นก็จะอยู่ตรงนี้
รอไม้แบบนี้แหละ  ปั้นรักแค่ไม้นะ  แค่ไม้ฉาก  ภาคินคนนี้คนเดียว”

พอปั้นสิบมันพูดจบ มันก็ก้มมาจูบผม
หื้มม ,, เจ้าตัวเล็กมันพูดจาหวานๆใส่ผม
แล้วยังจูบผมด้วย ^/////^

ตั้งแต่กลับมาจากใต้ยังไม่ได้ทำการบ้านครับ 5555+
เว้นระยะมา 6 เดือนกว่าละ
สงสัยคืนนี้ต้องได้กินอาหารญี่ปุ่นก่อนนอนแน่ๆ
แต่ ... ทำไมง่วงจังวะ - -‘

“ง่วงก็นอนซะนะไม้ฉาก  ,, ปั้นจะนอนกอดไม้อยู่ตรงนี้แหละ
หลับตาเถอะ ไม้เหนื่อยมาเยอะแล้ว
เดี๋ยวปั้นจะจัดการทุกอย่างเอง  “

อยู่ๆผมก็ง่วง แล้วไม่มีแรงจะตอบปั้นสิบเลยครับ
เห็นแค่ปั้นสิบมันยิ้มให้ผม  และสุดท้ายผมก็หลับไป.
นั้นคือสิ่งที่ผมจำว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องราวอะไรบ้างก่อนที่ผมจะหลับ



“เห้ยยๆ ไม้มันขยับแล้วอะ  ยาแรงไปปะวะ ทำไมมันยังไม่ตื่น
นี้มันเสียงยูโรนี้?
ยาแรง? ยาอะไรวะ?

อยู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆมาสัมผัสที่หน้าผม

“ตื่นแล้วหรอไม้  เดี๋ยวปั้นเช็ดหน้าให้นะ จะได้รู้สึกสบายตัวขึ้น”
เสียงปั้นสิบครับ ,, อ่ออ  นี้ปั้นสิบกำลังเช็ดตัวให้ผมอยู่
สงสัยผมจะไม่สบายแน่ๆ ถึงว่าสิผมเมื่อยตัวไปหมด

พอปั้นสิบเช็ดหน้าให้ผมเสร็จแล้วค่อยสบายตัว ค่อยสดชื่นมาหน่อยครับ
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆ
เจอยูโร เปา แล้วก็ไนซ์ยืนอยู่ที่ปลายเตียง
และปั้นสิบที่นั่งอยู่ข้างๆผม

“พวกมึงมาทำไรกันในห้องกูเนี้ย”
ผมถามพวกเพื่อนๆอย่างแปลกใจ  หรือผมไม่สบายหนักจนเพื่อนๆมาช่วยดูแล?
แต่เมื่อคืนผมก็สบายดีนะ .. อืมม ยิ่งคิดยิ่งปวดหัววะ


เอ๊ะ ,, ห้องนี้มันไม่ใช่ห้องคุมะนี้?
ผมมองไปรอบๆห้อง  นี้มันเหมือน ...

รีสอร์ทธารรัก?!!!!!!


ผมหันไปมองหน้าปั้นสิบ  มันหน้าซีดๆไม่ได้สดใสแบบเมื่อวานครับ
อย่าบอกนะว่าพ่อผมเป็นคนไปพาผมมา?
พอคิดได้แบบนั้น,, ผมเป็นห่วงปั้นสิบขึ้นมาเลยครับ


“ปั้นเจ็บตรงไหนหรือป่าว”
ผมดึงปั้นสิบเข้ามาใกล้ๆ เพื่อหาดูรอยช้ำต่างๆ
มันจะโดนพ่อผมตีอีกไหม?  หรือโดนทำร้ายอะไรมาหรือป่าว?

“ไม่ได้เจ็บตรงไหนหรอกไม้” ปั้นสิบบอกกับผม
ก่อนจะค่อยๆดันตัวออกไปนั่งข้างๆผมเหมือนเดิม

“พ่อกูเป็นคนพามาที่นี้หรอ?” ผมหันไปถามพวกยูโร
แต่พวกมันส่ายหน้าครับ  ส่ายหน้าพร้อมกันทุกคนเลย

“แล้วพวกเรามาที่นี้กันทำไม?  กลับคอนโดกันเถอะ”
ผมพยายามลุกจากที่นอน แต่มันยังมึนๆอยู่เลยครับ
เลยลุกไม่ไหว - -‘
ช้าไม่ได้นะเว้ยยไม้ฉาก ,, เดี๋ยวพ่อเข้ามาเจอ ไม่รู้จะทำร้ายอะไรปั้นอีก

“ไม้ .. เราจะไม่กลับไปที่คอนโดแล้วละ”
ปั้นสิบจับแขนผมไว้

อะไรนะ?

เราจะไม่กลับคอนโด?

หมายความว่าไง??


“พวกกูไปรอข้างนอกนะ เดี๋ยวอีกสักพักคะน้ากับเลน่อนคงจะมาถึงแล้วละ”
ไนซ์พายูโรกับเปาออกไปรอข้างนอก
ตอนนี้เหลือแค่ผมกับปั้นสิบแล้วละครับ
มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมเพื่อนๆผมถึงมาที่นี้กันหมด
คะน้ากับเลน่อนเพิ่งกลับไปเมื่อวานเองนะ จะมาทำไม
แล้วทำไมต้องมาที่นี้ด้วย??


“ปั้น มันเกิดอะไรขึ้นวะ? กูจำอะไรไม่ได้เลย มึงบอกกูทีเถอะ”
ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวครับ  ผมหลับจนไม่รู้เรื่องขนาดว่าโดนพามาโคราชเนี้ยนะ
เห้ยยย ,, ไม่น่าจะใช่แล้วละนะ - -‘


“ไม้ ... กูเป็นคนพามึงมาที่นี้เอง”
เดี๋ยวนะปั้น .. มึงบอกว่ามึงพากูมาที่นี้?!!

“ทำไมวะปั้น  มึงพากูมาที่นี้ทำไม  มึงก็รู้ว่าพ่อแม่กูอยู่ที่นี้
มึงอยากให้กูแต่งงานมากงั้นหรอวะ”

ปั้นสิบมันคิดอะไรของมันอยู่?
ในเมื่อวันนั้นพวกเราหนีกันแทบตาย
แล้ววันนี้ทำไมมันต้องพาผมกลับมาที่นี้อีก??

ปั้นสิบมันก้มหน้านิ่งเลยครับ ไม่พูดอะไรต่อเลย

“ปั้น เงียบทำไมวะ พูดมาดิ!!   มึงพากูมาทำไม”
ตอนนี้ผมแทบจะกระชากตัวปั้นสิบเข้ามาถาม
ผมไม่เข้าใจมันว่ามันทำแบบนี้ทำไม?

“กูพามึงมาส่งหาครอบครัวมึงไงไม้  ที่นี้คือครอบครัวมึง
กูแค่ทำทุกอย่างเพื่อมึง”

ปั้นสิบตอบผม แล้วก็สะอื้นร้องไห้ไปด้วย

“เพื่อกูงั้นหรอ?  ถ้ามึงทำเพื่อกูมึงต้องไม่พากูมาที่นี้
กูอยากอยู่กับมึง  กูทำทุกอย่างเพื่อมึง
เพื่อให้เรามีกัน  ไม่ใช่ให้มึงมาหักหลังกูแบบนี้
ทำไมวะปั้น  กูมันไม่น่าเชื่อถือพอหรอมึงถึงไม่เชื่อในตัวกู!?
มึงไม่เชื่อว่ากูจะยืนด้วยตัวเองได้งั้นหรอ กูดูแลมึงได้ กูปกป้องมึงได้นะปั้น”

ปั้นสิบไม่ตอบอะไรผมออกมาซักคำ มันเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้

เจ็บ ,, ผมโคตรจะเจ็บในใจมากๆครับ

ผมสู้ทนทำทุกอย่างเพื่อเราสองคนจะได้อยู่ด้วยกัน
แต่มันกลับเอาผมมาส่งให้พ่อกับแม่
ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าเค้าจะให้ผมแต่งงานกับพิม

“ก็ดีที่มึงพากูมา  กูจะได้ไปคุยกับพ่อกับแม่กูให้มันจบๆไปซะที
มึงไปรอกับพวกไนซ์ข้างนอกเลย เดี๋ยวกูคุยกับพ่อแม่เสร็จแล้ว เราจะได้กลับกรุงเทพกัน”

ผมลุกขึ้นกำลังจะเดินออกจากห้อง แต่ปั้นสิบมันวิ่งมาดึงแขนผมไว้

“มึงต้องอยู่ที่นี้  วันนี้มึงต้องทำพิธีแล้วไม้
ทุกคนเตรียมงานหมดแล้ว มึงทำลายงานไม่ได้”


พิธี?

นี้ปั้นสิบมันคิดอะไรของมันอยู่กันแน่วะ?


ผมเริ่มโกรธปั้นสิบมากขึ้นเรื่อยๆ
14 ปีที่รู้จักกันมา ผมไม่เคยโกรธปั้นสิบแบบนี้มาก่อนเลยครับ
ผมไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยว่ามันคิดอะไร?!


“ปล่อยกู!!!!”
ผมพยายามดึงแขนออก แต่ปั้นสิบมันก็ดึงแขนผมไว้แน่นเลยครับ
ผมเลยตวัดแขนออก จนปั้นสิบเซล้มลงไปกับพื้น

“กูบอกให้มึงปล่อยไงปั้น  ถ้ามึงทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี้ กูจะไปคุยกับพ่อแม่กูเอง
จะไม่มีงานอะไรทั้งนั้น   กูจะไม่ยอมแต่งงาน
กูไม่เข้าใจมึงเลยวะ กูรักมึงแทบตาย กูอุตส่าห์สู้ทนเพื่อมึงมาตลอด
ทำไมวะ ทำไมมึงมายอมแพ้ง่ายๆแบบนี้วะปั้น”

ผมมองปั้นสิบที่นั่งร้องไห้กับพื้น ก่อนจะรีบหันหน้าหนี
ไม่อยากจะมองเห็นน้ำตาของมัน
กูเองก็มีน้ำตาเหมือนกันปั้น  กูเองก็เจ็บ
และเจ็บมากกว่าที่มึงเจ็บอีก!!


ผมหันหลังให้ปั้นสิบ แล้วเดินไปเปิดประตู แต่ปั้นสิบมันลุกขึ้นมากอดเอวผมไว้

“ไม้ เชื่อกูเหอะนะ อย่าออกไปเลย
กูขอร้องละ  ทำตามที่พ่อแม่มึงบอกเถอะนะ”

ณ วินาทีนั้นคำพูดของปั้นสิบมันเหมือนคมหอกคมดาบที่เข้ามาทิ่มแทงใจผมมากๆ
มันเจ็บมากๆครับ เจ็บจนผมเองกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
ในใจผมมีแต่คำถาม 

“ทำไม ทำไม ทำไมมึงถึงยอมแพ้ ทำไมถึงอยากทิ้งเรื่องของเราแบบนี้”



ผมสะบัดตัวเพื่อให้ปั้นสิบปล่อยผม แต่มันไม่ยอมปล่อย
ผมออกแรงสะบัดตัวมากกว่าเดิม  แรงผมมันเยอะกว่าปั้นสิบอยู่แล้วครับ
ปั้นสิบกระเด็นไปชนกับประตูหน้าห้อง  จนทรุดนั่งลงไปกับพื้น

“โอ้ยยย .. “
ปั้นสิบร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
สักพักพวกไนซ์ก็เปิดประตูห้องเข้ามา

“เห้ยย ปั้น”
ไนซ์รีบประคองปั้นสิบไว้ ก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ไม้ มึงทำร้ายปั้นทำไมวะ ไอ้เชรี้ยย คุยกันดีๆไม่ได้หรือไง”

ทำร้าย?!


“ไนซ์ มึงด่าแต่กู หน้าอย่างกูนี้นะทำร้ายปั้น
กูรักมันจะตายมึงก็รู้  มีแต่มันที่ทำร้ายกู”

แต่พวกไนซ์ไม่มีใครฟังผมเลยครับ
มันช่วยกันประคองพาปั้นสิบมานั่งที่เตียง

“เป็นไรมากไหมปั้น”
เปาเอามือไปจับตรงข้างหลังปั้นสิบ
เพราะปั้นสิบเอามือจับไว้

“ถอดเสื้อมันออกดิ จะได้ทายา 
เมื่อเช้าเพิ่งโดนพ่อไอ้ไม้เอาไม้ฟาดหลังมา นี้โดนไรมาอีกวะถึงกับล้มเลย”

ยูโรเดินเข้าไปช่วยเปาถอดเสื้อของปั้นสิบ
ปั้นสิบมันคงเจ็บมากครับ มันพยายามเอามือปัดป้องไม่ให้เพื่อนถอดเสื้อ
แต่มันก็ทำได้แค่นั้นแหละครับ ตอนนี้พวกเปากับยูโร ก็รุมไปทำแผลให้มัน

“มึงสติแตกหรือไงวะไม้  มึงโทษแต่ปั้นว่าปั้นทำร้ายมึง
กว่าปั้นจะพามึงมาที่นี้ได้ มันต้องเจออะไรบ้างมึงรู้บ้างไหม
มึงดูแผลมันดิ  พ่อมึงเอาไม้กวาดฟาดใส่หลังมัน
ตอนที่มันเดินเข้าไปบอกว่าเอามึงมาส่งแล้ว
แล้วไอ้ปั้นนี้แหละ ที่กราบแทบเท้าพ่อมึง บอกกับพ่อมึงว่าให้ฟังคำของไม้ฉากด้วย
มันกราบเท้าแม่มึง กราบลุงพลกราบคนแทบทั้งบ้าน  เพื่อขอโทษที่พามึงหนี
ไอ้เชรี้ยย!! มึงอย่านึกถึงแต่ตัวเองดิวะ หัดฟังคนอื่นบ้าง”

ไนซ์มันเดินมาผลักอกผม    แล้วก็พูดในสิ่งที่ผมไม่เคยได้รู้ออกมา


ตอนที่ผมหลับ ,, ปั้นมันทำขนาดนั้นเพื่อผมงั้นหรอ??



“ตะ..  แต่.....  แต่มันพากูกลับมาทำไมละ ในเมื่อคุยกันแล้วว่ากูจะไม่กลับ
กูยืนด้วยตัวกูได้ ขอแค่มันอยู่ข้างๆกู”

อยากเข้าไปกอดไอ้ตัวเล็กข้างหน้าจับใจแล้วครับ
แต่มันก็ยังมีอีกคำถามที่ผมอยากรู้คำตอบ .. ทำไมปั้นต้องพาผมกลับมา?

“ก็แม่มึงอะ ..”
เปาหันมามองหน้าผม แต่เปาพูดได้แค่นั้น   ปั้นสิบก็ดึงเสื้อเปาไว้

“ไม่เอาเปามึงอย่าพูด”
เสียงของปั้นสิบ เบามาก และเสียงมันแหบมากๆครับ
นี้มึงไม่สบายหรือป่าว? 

“พูดไปเถอะเปา  กูว่านะยังไงๆไม้มันควรได้รู้
ไม่ใช่มาด่าแต่ปั้นแบบนี้    ถึงมึงจะเป็นคนดีมากแค่ไหนก็เถอะนะไม้ฉาก
แต่ถ้ามึงทำร้ายเพื่อนกู   โดยที่มึงไม่ฟังเชรี้ยอะไรเลยแบบนี้
กูก็ไม่ยอมเหมือนกัน”

ยูโรมันพูด แล้วมันจ้องหน้าผม เป็นสายตาที่แปลกไปจากทุกที
แววตาขี้เล่นของมันไม่เหลืออยู่เลยครับ

“แม่มึงมาหาปั้นที่คอนโดเมื่อวาน ตอนที่พวกกูลงไปซื้อข้าวมาทำให้มึงกินอะ
เค้ามาขอคุยกับปั้น  กูก็เดินไปนั่งฟังด้วยเนี้ยแหละ
เค้าบอกว่าถ้ามึงไม่กลับมาหมั้นวันนี้อะ พ่อมึงอะจะฟ้องหย่ากับเค้า
แล้วครอบครัวมึงอะจะต้องพังลงเพียงเพราะมึงหนี  อละไม่ยอมทำตามที่เค้าบอก”


ฟ้องหย่า?
นี้ปั้นมันแบกรับปัญหาพวกนี้ไว้เนี้ยนะหรอ??
แบกรับปัญหาของที่บ้านผมไว้คนเดียว  โดยที่ไม่บอกให้ผมรับรู้นี้อะนะ?
มึงทำได้ไงปั้นสิบ ,, มึงทำได้ยังไง?

“แล้วแม่มึงเค้าก็บอกว่าไม่ได้แต่งงาน แค่หมั้นเฉยๆ
เค้าสัญญากับปั้นว่าแค่ 2 ปี รอให้แฟนพิมมันกลับมา
เค้าจะให้ยกเลิกเรื่องหมั้นให้   แล้วเค้าจะไม่ห้ามเรื่องของมึง 2 คน
เค้าจะให้มึงกับปั้นมาเจอกันได้  แม่ของมึงร้องไห้แล้วมากอดปั้นด้วยนะ”

เปามันยังพูดต่อครับ   พูดในสิ่งที่ผมไม่เคยได้รับรู้
ผมกินอิ่ม นอนหลับ เล่นเกมส์ อ่านหนังสืออย่างสุขสบายใจ
แต่ปั้นสิบ … กลับต้องมารับรู้ปัญหาของบ้านผม
และมันเลือกจะเก็บไว้ในใจมันเพียงลำพัง.

ผมเข้าใจปั้นสิบผิดใช่ไหม?
มันไม่ได้หักหลังผม มันไม่ได้ยอมแพ้
แต่ที่มันทำ .. มันทำเพื่อผม?
มันทำเพื่อครอบครัวผม



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2015 17:09:03 โดย moujay »

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
ต่อ .....


ผมเดินเข้าไปหาปั้นสิบ  ที่ตอนนี้มันใส่เสื้อไว้เหมือนเดิมละครับ
ปั้นสิบมันก็ยังเป็นไอ้เตี้ยคนเดิมของผม ทั้งๆที่ร้องไห้สะอื้นแทบตาย
แต่มันยังยิ้มเพื่อผมเหมือนเดิม

“ปั้น  กู … กูขอโทษ” ผมนั่งลงกับพื้นก่อนจะกอดปั้นสิบไว้
ปั้นสิบมันก็กอดผม แล้วเอามือมาลูบหลังผมเบาๆ

“ไม่เป็นไร กูขอโทษนะที่ไม่ได้บอกมึง   ไม่ได้ปรึกษามึงก่อน”
ปั้นสิบมันบอกกับผมครับ

ยิ่งมันพูดแบบนี้ ผมเองยิ่งละอายใจ
เมื่อกี้ผมโกรธมัน ผมด่ามัน ผมทำร้ายมันจนมันเจ็บตัว
แต่มันไม่โกรธผม และยังขอโทษผมอีก

ผมทำร้ายปั้นสิบได้ยังไงกัน T^T
 

“มึงทำตามที่พ่อแม่มึงขอเถอะนะไม้  กูมาส่งมึงแล้ว 
กูจะอยู่ร่วมงานของมึง  ร่วมพิธีของมึงจนจบ กูสัญญาจะอยู่ข้างๆมึง
แล้ววันที่มึงไปประจำการที่เชียงใหม่ กูก็สัญญาว่ากูจะไปส่งมึงเหมือนกันนะ”


“แล้วมึงจะอยู่ยังไงปั้น  ตั้ง 2 ปีนะเว้ย
มึงจะรอกูได้หรอ?  กูไม่อยากเห็นแก่ตัวอีกแล้ว
กูไปคุยกับพ่อแม่ก็ได้นะ เค้าอาจจะไม่ให้กูหมั้นหรอก
นะปั้นนะ อย่าทำแบบนี้เลย  กูไม่หมั้นกับพิม   ไม่ไปไหนแล้ว
มึงอย่าให้กูต้องไปทำแบบนั้นเลยนะ   กูอยู่ไม่ได้อะ  กูทำไม่ได้จริงๆ
กูกลัว ,, กูกลัวชีวิตที่ไม่มีมึง “

ผมสุดจะกลั้นน้ำตาแล้วครับ  ร้องไห้กับปั้นสิบไปอีกรอบ

ผมไม่ต้องการให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้
ผมไม่อยากมีชีวิตโดยไม่มีปั้นสิบ


2 ปีงั้นหรอ?
ถ้าแม่ไม่ยอมละ?
คำสัญญาจากแม่ผม   มันเชื่อไม่ได้ครับ
ผมไม่ได้เป็นลูกที่เลวขนาดที่ไม่เชื่อในคำพูดของแม่ตัวเองนะ
แต่แม่เคยสัญญากับผมหลายครั้งแล้ว  และเค้าก็ไม่ทำตามสัญญา
ผมจะเชื่อแม่ได้ยังไงว่า 2 ปี ....
พ่อแม่จะยอมให้ผมเป็นอิสระจากสิ่งที่พ่อแม่เอาโซ่มาพันธนาการตัวผมไว้


“แล้วถ้าเค้าไม่หยุดแค่นั้นละ ถ้า 2 ปีเค้ายังไม่หยุดละ
มึงจะทำยังไงปั้น  มึงจะยอมปล่อยมือกูไปงั้นหรอ
กูไม่อยากเสียมึงไป   กูขอร้องละปั้น
ให้กูไปคุยกับพ่อแม่อีกทีนะ  แล้วค่อยตัดสินใจนะปั้น”

ผมกอดปั้นสิบไว้ ไม่อยากปล่อยให้ปั้นสิบออกไปจากอ้อมกอดของผม
ผมกลัว .. กลัวในสิ่งที่ปั้นสิบกำลังคิด

ปั้นสิบเป็นเด็กดี  เป็นผ้าขาว ..
ปั้นสิบจะไม่ยอมให้ใครมาทำให้ผมเสียใจ ยิ่งถ้าแม่ผมบอกว่าพ่อจะฟ้องหย่า
นั้นมันยิ่งเป็นแรงผลักที่ทำให้ปั้นสิบพาผมมาที่นี้
เพราะปั้นสิบมันยอม ยอมที่จะเจ็บ ยอมที่จะเหงา และยอมที่จะรอผม
เพื่อให้ครอบครัวผมยังอยู่ เพื่อพ่อแม่ผม.

“ไม้  เราไม่มีเวลาแล้วนะ งานจะเริ่มแล้ว
ทำพิธีหมั้นให้มันผ่านไปก่อนนะ แล้วค่อยคุยกันอีกทีนะไม้นะ
แขกมาเต็มแล้ว  ไม้ทำให้พ่อเสียหน้าไม่ได้   
ไม่งั้นพ่อของไม้อาจจะตามมาทำร้ายพวกเราอีกก็ได้”

ปั้นสิบบอกกับผม พร้อมๆทั้งดันตัวเองออกจากกอดของผม

ทำไม...  รู้สึกใจหายยังไงไม่รู้ตอนที่ปั้นสิบดันตัวออกจากผม
ผมกลัว .. กลัวว่าจะไม่ได้กอดคนตรงหน้าอีก.

“เราหนีไม่ได้แล้ววะไม้  พ่อมึงยึดรถพวกกูไปหมดแล้ว
ตอนนี้ถ้าจะหนี มึงทำได้แค่เดินออกไป  แล้วมึงคิดว่าเราจะหนีพ่อมึงพ้นหรอ?”

ไนซ์บอกในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าพ่อผมจะทำครับ
ถึงขนาดยึดรถเพื่อนผมไว้?

แล้วคำสัญญากับคำพูดที่พ่อพูดละครับ .. มันเชื่อได้งั้นหรอ?

“แต่งตัวกันหรือยัง”
เสียงพ่อดังขึ้นมา  พร้อมๆกับเสียงเปิดประตูบ้านพัก
และตัวของพ่อผม ที่ยืนทำหน้านิ่งๆ ยืนมองหน้าผมอยู่

“นี้อะไรกัน งานจะเริ่มอยู่แล้วนะ ทำไมแกยังไม่แต่งตัวอีกไม้ฉาก
ไหนแกบอกว่าไม้มันจะยอมไง แกโกหกฉันหรอไอ้เด็กปั้นสิบ”

พ่อผมจะหันไปเอาเรื่องกับปั้นสิบ ที่นั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆผม

“พ่อสัญญาใช่ไหมครับว่าอีกแค่ 2 ปี แล้วพ่อจะปล่อยตัวผมไป
ไปตามทางที่ผมเลือกจะเดินเอง  และในระยะเวลา 2 ปีนี้ ผมกับปั้นสิบสามารถเจอกันได้
โดยที่พ่อจะไม่ห้ามผม”

ผมดึงปั้นสิบเข้ามากอด โดยไม่สนใจสายตาของพ่อ ที่มองมาจนแทบจะฆ่าผมอยู่แล้ว

“แก ไป แต่ง ตัว เดี๋ยว นี้!”
พ่อไม่ตอบ แต่พ่อออกคำสั่งให้ผมไปแต่งตัว
พร้อมๆกับเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น

“คุณลุงครับ ออกไปก่อนเถอะครับ
พวกผมจะพาไม้ฉากออกไปตามเวลาที่คุณลุงสั่งมาแน่นอนครับ”

ไนซ์เดินเข้ามาขวางหน้าพ่อผมไว้   ซึ่งถ้าไนซ์ไม่เข้ามา
ผมว่านะ ไม่ผม ก็ปั้นสิบ ที่อาจจะโดนพ่อกระชากออกไปแน่นอน

“อย่าให้มันมากไปไม้ฉาก  ตอนนี้แกอยู่ในพื้นที่ของฉัน พวกแกต่อรองอะไรฉันไม่ได้
ถ้าแกออกช้าไปแค่วินาทีเดียว ฉันกับแม่แกก็จะจบกัน 
อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวล่มจมมากใช่ไหม
ก็ดี!!!   แม่แกจะได้แบกหน้าไปบอกตระกูลของยายแก
ว่าหลานชายคนโตที่น่าภาคภูมิใจมันทำร้ายครอบครัวตัวเองแค่ไหน
แกอยากเป็นลูกชั่วๆมากใช่ไหม”

พ่อของผมพูดออกมาได้แบบว่า ..
เห้ยย นี้พ่อกูแน่หรอ?

พ่อที่คอยยิ้ม คอยอนุญาตให้ผมไปนอนบ้านปั้นสิบ
คอยรับส่งผมกับเพื่อนๆไปเที่ยวตามร้านเหล้าเวลาปิดเทอม
นี้ใช่พ่อคนเดิมของผมแน่ๆงั้นหรอ??


“คุณลุงครับ  ผมขอละครับ  ผมจะพาไม้ฉากออกไปตามเวลาที่คุณลุงบอกครับ
ได้โปรด ... ออกไปก่อนเถอะครับ”

ปั้นสิบผลักตัวผมออก ก่อนจะหันไปยกมือไหว้ขอร้องกับพ่อผม
เป็นภาพที่ผมไม่อยากเห็นเลยครับ
เพื่อนๆของผมทุกคนเบนสายตาหนีภาพตรงหน้ากันหมด
ภาพที่ปั้นสิบมันหันไปยกมือไหว้พ่อผม  หน้ามันนองไปด้วยน้ำตา

ผมไม่อยากคิดเลยที่พวกมันบอกว่าปั้นสิบก้มกราบพ่อแม่ผมและทุกๆคน
มันกราบขอโทษ  ที่มันพาผมหนีไป
ภาพนั้นมันสะเทือนใจแค่ไหน .. ผมไม่อยากคาดคิดเลยครับ

“ทำให้ได้อยากที่ปากพูดด้วยละ”
พ่อผมพูดจบก็เดินออกจากบ้านพักไป ก่อนจะปิดประตูเสียงดัง

“ไม้  มึงแต่งตัวเถอะวะ อย่าทำให้ปั้นสิบมันดูแย่ไปกว่านี้เลย
ปั้นมันทำเพื่อมึง เพื่อครอบครัวมึงแล้วนะ
มึงทำเพื่อปั้นบ้างเถอะ”

ยูโรยืนถือชุดพิธีสีขาว  ที่เป็นชุดที่ข้าราชการชอบใส่กันเวลาจัดงานต่างๆ
จริงๆแล้วยศอย่างผมยังไม่สามารถใส่ได้ครับ
แต่ในพิธีมงคลต่างๆ  พ่อแม่จะให้ใส่ เพื่อเป็นเกียรติกับครอบครัวที่ลูกไปรับราชการได้มา
(อันนี้ตามคำบอกเล่าจากน้องนะคะ  เดี๋ยวข้อเท็จจริงเจตามสืบให้อีกทีค่ะ)

ปั้นสิบหันมายิ้มให้ผม 
ตอนนี้ผมเกลียดรอยยิ้มของมัน 
รอยยิ้มที่มันมีแต่น้ำตาแบบนี้ของปั้นสิบมากที่สุด
เพราะมันเหมือนการตอกย้ำให้ผมรู้
ว่าจริงๆแล้ว …

ผมดูแลปั้นสิบไม่ได้เลย
ผมเข้มแข็งไม่พอที่จะปกป้องปั้นสิบ
ผมไม่แกร่งพอที่จะโอบกอดปั้นสิบไว้ได้
ผมเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
ฝากไว้อีก 1 ตอนนะคะ :)

พยายามจะยิ้มทุกๆครั้งที่ได้พิมพ์บทต่อๆไป
แต่บางที ... มันก็ยิ้มไม่ค่อยออกจริงๆค่ะ '

ขอบคุณทุกๆคอมเมนต์นะคะ และทุกๆกำลังใจสำหรับเด็กๆด้วย
ขออภัยสำหรับคำผิดด้วยนะคะ เดี๋ยวตามแก้ให้จ๊า

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ม่ายยยยยยยยยยยย


ถ้าไม้ฉากแต่งงานก็จบกันเลยนะ

 :z3: :z3: :z3: :z3:

ทำไงดีๆๆ  :katai1:

ปล้นรถแขกในงานแม่มเลย  :katai4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew5:  โคตรปวดตับกับพ่อไม้ฉากเลย

เอาเถอะยังไงก้อตัดไม่ขาด ค่อยๆเดินเกมไป

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
เฮ่อ....เหนื่อย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด