Ch 66 ในวันที่เราต้องไกล || ไม้ฉาก
หลังจากที่พู่กันเข้าไปปลุกจานสีให้มาทำมื้อเช้าให้ทาน
เปาก็เลยตื่นมาช่วยยูโรเก็บของด้วย
ผมนอนคุยกับปั้นสิบแป๊บหนึ่งก็ออกมารวมกับเพื่อนๆข้างนอก
ตอนนี้หกโมงเช้าละครับ พวกผมนั่งทานมื้อเช้าง่ายๆกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“ไม่เอารถตู้ไปนะ ไม่ทันแน่ๆ นั่งเครื่องกันเถอะ”
ไนซ์ที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่หันมาบอกพวกผม
มันกำลังขอเลื่อนคิวงานครับ จริงๆมีถ่ายแบบวันพรุ่งนี้
“แต่ถ้าเอารถตู้ไปเราแวะเที่ยวกลางทางได้นะ” พู่กันก็ยังอยากจะแวะเทียวต่อครับ
“เอาไว้วันหน้า กูจะพามึงเที่ยวจนครบ 77 จังหวัดเลย
แต่คราวนี้ขอไปเชียงใหม่ก่อน ตกลงไหมแฝด” ไนซ์หันไปต่อรองกับพู่กัน
พู่กันมันก็ต้องยอมครับ เพราะพวกผมทุกคนก็เห็นด้วยว่านั่งเครื่องไปดีกว่า
แต่ละคนมีเวลากันแค่ไม่กี่วันด้วย
“งั้นกูจองตั๋วเครื่องบินให้เอง พวกมึงไปเก็บเสื้อผ้าเถอะ
แล้วไปเจอกันที่ดอนเมืองไม่เกินแปดโมงเช้านะ”
พูดเสร็จไนซ์ก็เดินออกจากห้องไป มันต้องกลับไปเตรียมเสื้อผ้าที่คอนโดมันก่อน
“แล้วนี้ใครโทรบอกคะน้ายัง เผื่อมันจะกลับพร้อมเรา”
เปาหันมาถามพวกผม ซึ่งเอาจริงๆนะ ผมว่าทุกคนลืม 555+
“เค้าไลน์ไปบอกแล้ว คะน้าบอกว่ามันจะตามกลับไปรอบเที่ยง
ยังไงให้พวกเราไปเที่ยวกันก่อนเลย แล้วมันจะโทรหาอีกที”
อ่ออ ยังมีจานสีที่นึกถึงคะน้าครับ
“ไม้ สรุปมึงไปใต้ใช่ปะวะ” จานสีหันมาถามผม
เจ้าเตี้ยที่กำลังกินโอวันตินอยู่ หันมามองหน้าผม
ถึงจะคุยกันเข้าใจแล้ว แต่ปั้นสิบมันก็ยังเป็นปั้นสิบที่ชอบงอแงเหมือนเดิมนั้นแหละครับ
“อือไปดิ แต่ไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ ขอไม่พูดถึงละกันนะมึง
ถือซะว่าพวกเราไปเที่ยวไปทำบุญกันก็พอ”
ผมพูดแล้วพยายามยิ้มให้เจ้าเตี้ย ที่มันเริ่มเบ้ปากใส่ผมเล็กน้อย
มันไม่ด่ากลับก็ดีแล้วละครับ เพราะตอนที่นอนเล่นกันในห้อง
ผมไปแกล้งมันไว้ 5555
ก็หลังจากที่มันจูบผมแล้วใช่ไหมครับ คนเรามันก็นะ ห่างกันไปนาน
ผมก็ไม่ได้หยุดแค่จูบ แอบสานต่อเล็กน้อย 555+
(เล็กน้อยจริงๆ อันนี้ยืนยันด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง กองที่ 3)
“งั้นรีบกินรีบเก็บของเถอะ จะได้ไปนั่งพักผ่อนเอาแรงกันที่ดอนเมือง
ไปเชียงใหม่ทั้งทีมันต้องไปเที่ยวผับอะไรนะที่มันดังๆอะ”
พู่กันหันไปถามจานสี
จานสีทำหน้าเบื่อๆใส่เล็กน้อย
ก่อนจะหันไปเอาทิชชู่เช็ดปากที่เปื้อนไปด้วยแยมส้มให้พู่กัน
“กินให้หมดก่อนค่อยพูดได้ไหม วอร์มอัพ แถวนิมมาน ไอ้เรื่องเที่ยวๆนี้อยากจะไปจริงๆนะ”
จานสีเริ่มติดเชื้อบ่นเก่งมาจากเปา หรือปกติมันบ่นเก่งอยู่แล้ววะ 555+
“หือออ เค้าอะอยากเที่ยว แต่ตัวอะรู้จักชื่อที่เที่ยว ใครมันคิดแต่เรื่องเที่ยวๆพูดดิ”
พู่กันหันไปยิ้มให้จานสี ก่อนจะนั่งกินขนมปังต่อ
“งั้นกูเก็บของก่อนเลยละกันนะ”
ปั้นสิบวางแก้วโอวัลตินไว้บนโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนใหญ่
ซึ่งเป็นห้องนอนของปั้นสิบเอง
“มันงอนอะไรมึงหรือป่าว ดูมันตาแดงๆช้ำๆ” ยูโรหันมาถามผม
“ไม่รู้ดิ เดี๋ยวกูตามไปดูก่อนละกัน” ผมรีบเดินตามปั้นสิบเข้าไปในห้อง
เห็นปั้นสิบกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
ผมเลยไปนอนข้างๆปั้นสิบ แล้วดึงมันมากอด
“เป็นไรครับ หื้มม หน้าตาไม่สดชื่นเลย”
ปั้นสิบเงยหน้ามามองผมเล็กน้อย ก่อนจะผลักตัวผมออก
“มึงลองเป็นฝ่ายโดนทำบ้างดิจะได้รู้ว่ามันเจ็บ กูปวดตัวปวดขามากๆด้วย”
หื้มมม บ่นๆแต่ก็ขยับตัวมาซุกอกผม นี้จะอ้อน หรือจะด่า เอาไงแน่เตี้ยยยย
“โอ๋ๆขอโทษนะ ก็ปั้นอะยั่วเอง มาจูบไม้ก่อนทำไมละ ใครจะอดใจไหว”
ผมก้มลงไปหอมแก้มปั้นสิบ ก่อนจะดึงแก้มมันเล่น
ไม่รู้ทำไม แก้มมันน่าดึง น่าหยิกมากๆ
“คือพวกมึงครับ กูให้เก็บเสื้อผ้าไม่ใช่มานอนกอดกัน ไอ้เชรี้ยยยเดี๋ยวไปไม่ทันเครื่อง”
ยูโรเดินมานอนเบียดข้างๆผม ส่วนพู่กันก็มาเบียดข้างๆปั้นสิบ
เออ ,, ไม่น่าลืมปิดประตูห้องเลย T^T
“จะนอนเบียดกันไปถึงไหนวะ กูก็ง่วงนะ”
จานสีเดินมานอนทับตัวผมกับปั้นสิบเลยครับ
“พวกมึงเลิกเล่นกันซะที นึกว่าอยู่ ป.4 หรือไง เก็บของเดี๋ยวนี้!”
พอเปาพูดจบเท่านั้นแหละครับ ทุกคนรีบลุกออกจากที่นอนแล้วไปเก็บเสื้อผ้ากันทันที
55+ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องกลัวเปา
รู้แต่ว่าถ้าเปามันเริ่มบ่นเมื่อไหร่ .. ให้รีบลุกแล้วรีบห่างให้ไกลจากมันที่สุด
พวกผมเก็บของกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่ง Taxi มาดอนเมืองกัน
ต้องนั่ง Taxi 2 คันครับ ยัดกันไม่ไหว คนเยอะเกิน แล้วแต่ละคนก็ไม่ใช่จะตัวเล็กๆ
มาถึงดอนเมืองก็เจอกับไนซ์มายืนรออยู่แล้ว
“มาช้ากันเนอะพวกมึง เอาบัตรประชาชนมาเร็วๆ”
ไนซ์ยื่นมือมาขอบัตรประชาชนพวกผม เพื่อจะเอาไปเช็คอินที่เค้าท์เตอร์ให้
“สวัสดีครับทุกคน ฝากไนซ์ด้วยนะครับ”
ชายหนุ่มสุดหล่อ นัยน์ตาสีฟ้า ผิวขาว ขาวแบบขาวซีดเลยละครับ
ส่งเสียงทักทายพวกผม
ผมจำได้นะว่าคนนี้คือคนที่อยู่กับไนซ์ที่คอนโด
“อ่ออ คุณนั้นเอง สวัสดีครับ”
ผมหันไปยิ้มทักทายให้กับชายนัยน์ตาสีฟ้าคนนั้น
“ผม เรย์ นะครับ ยินดีด้วยนะครับที่ติดยศตำรวจเรียบร้อยแล้ว”
เรย์ยื่นมือมาจับมือผม ก่อนจะหันไปยิ้มให้เพื่อนๆผมต่อ
“มึงๆ ใครวะ”
พู่กันมากระซิบถามผม
แต่ผมไม่ทันตอบพู่กันหรอกครับ เรย์ก็ส่งเสียงมาทักพู่กันซะก่อน
“ผมผู้จัดการส่วนตัวของไนซ์ครับ ยินดีที่ได้เจอนะครับ พู่กัน จานสี twins secret”
เรย์พูดจบก็ขยิบตาให้พู่กันกับจานสี ก่อนจะหันไปทักทายยูโรกับเปา
ส่วนพู่กันกับจานสี กำลังยืนมองหน้ากัน งงๆ
twins secret งั้นหรอ?
เรย์รู้อะไรเกี่ยวกับแฝด 2 คนนี้กันแน่?
“เห้ยย มาได้ไง”
ไนซ์เดินออกมาเห็นเรย์ก็ร้องตกใจ ที่เรย์ยืนอยู่กับพวกผม
ผู้จัดการส่วนตัวมาส่ง ทำไมมึงต้องตกใจวะไนซ์ - -'
“ก็มาส่งไนซ์ไง เดี๋ยวกลับละ นี้กำลังทักทายเพื่อนของไนซ์อยู่”
เรย์หันไปมองไนซ์นิดหนึ่ง แล้วหันมาทักทายปั้นสิบต่อ
“เฮ้ ,, ปั้นสิบ ยินดีที่ได้เจอนะ “
เจ้าเตี้ยข้างๆผมทำหน้าตกใจนิดหน่อยที่อยู่ๆเรย์ก็ทักทายเสียงดัง
“อ่ะ อ่อครับๆ ยินดีครับ”
ปั้นสิบตอบไปเสียงสั่นๆ มันก็คง งง กับคนแปลกหน้านั้นแหละครับ
ใครจะไม่ งง บ้างละ อยู่ๆก็ทักทายพวกผมเหมือนรู้จักกันมานาน
หรือว่าไนซ์เอาเรื่องพวกผมไปเล่าให้ผู้จัดการส่วนตัวฟัง?
แต่ถ้าเป็นคนของพี่ป๊อกกี้ ผมน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาบ้างสินะ
เพราะผมก็เคยทำงานกับพี่ป๊อกกี้เหมือนกัน
“อดทนนะตัวเล็ก เก็บเกี่ยวความสุขให้มากๆ และท้ายที่สุดถึงจะเกิดเรื่องราวอะไรก็ตาม
ยิ้มรับมันไว้ แล้วบอกตัวเองไว้เสมอว่า คุณทำมันดีแล้ว
แล้วคุณจะผ่านเรื่องราวทุกอย่างไปได้แน่นอน You can do it! “
เอาอีกแล้ว ,, เรย์พูดจาแปลกๆกับปั้นสิบอีกแล้ว - -‘
“เห้ยยเรย์พูดมากนะ รีบกลับไปเลยปะ”
ไนซ์รีบไล่เรย์ให้กลับไป แต่เรย์ก็ไม่ยอมไปครับ ยังยืนหัวเราะก่อนจะมองมาที่พวกผม
“ครับๆ จะกลับแล้วครับนายท่าน ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ และขอให้สนุกกับทริปนี้นะครับ”
ไนซ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่เห็นเรย์เดินออกไป
“อย่าไปฟังคำมันมากเลย ไม่ค่อยจะเต็มเท่าไหร่นักหรอก”
ไนซ์พูดจบก็ยื่นเอกสารและบัตรประชาชนให้พวกผม
แต่คำของเรย์ที่พูดกับปั้นสิบก็ทำให้ผมคิดมากอยู่ดีครับ
ทำไมเรย์พูดแบบนั้น??
พวกเรามาถึงเชียงใหม่กันก็เกือบๆจะเที่ยงแล้วครับ
เลือกที่พักกันไม่ยากเลย พักกันแถว นิมมาน นั้นแหละครับ
ใกล้ที่กิน ใกล้ที่เที่ยว
ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่มีการวางแผน ทานข้าวเสร็จถามกันว่าอยากไปไหน
ถ้าเพื่อนๆลงความเห็นว่าโอเค ก็ไป ไม่ต้องคิดวางแผนการเดินทางให้เสียเวลาครับ
เหมารถสองแถวยอดฮิตในเชียงใหม่ไว้เลย
อยากไปไหนบอกพี่เค้าเท่านั้นแหละ ได้ไปทุกที่ครับ
ไนซ์ซาฟารี ไนซ์บาซาร์ สวนสัตว์เชียงใหม่
ดอยสุเทพ ดอยปุย ฯลฯ
เป็นช่วงเวลา 2 วัน 1 คืน ที่อยู่เชียงใหม่ได้แบบคุ้มค่ามากๆ
และแล้ววันเวลาที่เที่ยวเล่นมันก็ต้องมีวันหมดครับ
ตอนนี้พวกผมมาอยู่ที่ สนามบินเชียงใหม่ เตรียมตัวกลับกรุงเทพแล้ว
“ไม้ ดูแลตัวเองดีๆนะเว้ย อีก 6 เดือนนะ กูกับคะน้าจะรอรับมึงที่เชียงใหม่
แล้วพวกเราจะมาฉลองต้อนรับมึงอีกรอบ กูรักมึงนะเพื่อน”
เลน่อนดึงผมเข้าไปกอด ก่อนจะตบหลังผมเบาๆ
“อืมม กูก็รักมึง ขอบใจมาก ตั้งใจเรียนละ ดูแลคะน้าดีๆ แล้วเจอกัน”
ผมผละออกจากมัน ก่อนจะหันไปยิ้มให้คะน้า
“ฝากเพื่อนตัวยักษ์ของไม้ด้วยนะคะน้าคนสวย”
“อร๊ายยยยตาถึงนะเรานะ ได้เลยคะน้าจะดูแลน่อนให้เป็นอย่างดี
ไม้ดูแลตัวเองดีๆ แล้วรีบๆกลับมานะ
คนแถวนี้จะได้ไม่งอแงจนเตี้ยลงไปกว่าเดิม”
คะน้าพูดเสร็จก็หัวเราะชอบใจ ที่ปั้นสิบมันเดินเข้าไปเขกหัวคะน้า
โทษฐานที่เอาความเตี้ยของมันมาล้อเล่น
“โอเค แล้วเจอกันนะเว้ยย” พวกผมโบกมือลาเลน่อนกับคะน้า
ก่อนจะขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพกัน
พอมาถึงดอนเมือง ผมก็ต้องลากับไนซ์อีกครั้ง
วันนี้มีแต่บอกลาเพื่อนจริงๆ - -'
“งั้นกูลามึงตรงนี้เลยนะไม้ โชคดีเว้ยเพื่อน อีก 6 เดือนมาฉลองกันอีกรอบนะ”
ไนซ์ไม่ได้ดึงผมไปกอดเหมือนที่เลน่อนทำ แต่ตบบ่าผมเบาๆ
ก่อนจะหันไปบอกพู่กันจานสีให้เดินทางกลับอังกฤษปลอดภัย
แล้วสักพักเรย์ก็เดินมาช่วยไนซ์หิ้วกระเป๋า แล้วเดินออกไป
“เหลือพวกเรา 6 คนแหละ กลับกันเถอะวะ ง่วงแล้ว”
ยูโรชวนพวกผมกลับคอนโดปั้นสิบ ก่อนจะลากกระเป๋าแล้วไปเรียก Taxi
พวกเราเหนื่อยกับการเดินทาง แล้ววันนี้ทั้งวันก็เที่ยวกันมาทั้งวัน
เลยแยกย้ายกันเข้านอน ซึ่งผมกับปั้นสิบนอนห้องคุมะเหมือนเดิม
“พรุ่งนี้ไปกี่โมง” ปั้นสิบอาบน้ำเสร็จแล้ว เดินมานั่งข้างๆเตียง
ส่วนผมอาบน้ำก่อนปั้นสิบอีกครับ 555+ ตอนนี้กำลังนอนเล่นเกมส์ในมือถือปั้นสิบ
“ตามหนังสือสั่งให้ไปรวมพลที่สำนักงานตำรวจ พ่อกับแม่บอกว่าจะไปรอส่งที่นั้นเหมือนกัน”
ผมวางมือถือไว้ข้างๆตัว ก่อนจะดึงปั้นสิบให้ลงมานอนข้างๆ
“พ่อแม่ไปส่ง งั้นปั้นไม่ไปนะ”
อ้าววเจ้าเตี้ยเอ้ยย ถ้าไม่ไปแล้วผมจะเอากำลังใจที่ไหนไปทำงานละครับ
“ไปสิ ถ้าปั้นไม่ไป แล้วไม้จะมีกำลังใจไปทำงานหรอ”
ผมหันหน้าไปมองปั้นสิบ ต้องอ้อนหน่อยครับ 555
“ก็เดี๋ยวพ่อไม้เห็นหน้าปั้นแล้วจะโมโหใส่อีก
ไม่อยากให้พ่อของไม้โมโหบ่อยๆ เดี๋ยวท่านจะความดันขึ้น”
อยากจะให้รางวัลแฟนที่แสนดีจริงๆ
เป็นห่วงพ่อของผม ทั้งๆที่พ่อของผมต่อยตีปั้นตั้งหลายครั้ง
“ขอบใจนะที่เป็นห่วงพ่อของไม้ แต่ไปส่งไม้เหอะนะ
ยูโร เปา พู่กัน จานสีก็ไป พ่อไม่ทำอะไรหรอก”
ผมยังหันไปอ้อนปั้นสิบต่อ จนปั้นสิบยิ้มออกมาให้ผม
“อืมม ไปส่งก็ได้ งั้นไม้รีบนอนเหอะนะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางเช้า”
พูดจบปั้นสิบก็เดินไปปิดไฟ ก่อนจะล้มตัวนอนข้างๆผม
“คืนนี้ให้แค่นอนกอดนะ ถ้ามากกว่านั้นละมีถีบตกเตียงแน่ๆ”
เอากับเค้าสิครับ แทนที่จะฝากรักให้ได้คิดถึงกันตอนห่าง
นี้ขู่ว่าจะถีบด้วย 5555+ แต่เชื่อผมเถอะ ว่าผมเก่งกว่าปั้นสิบเยอะ : )
“ครับๆ นอนเถอะนะ ฝันดีนะปั้นสิบ”
ปั้นสิบเห็นท่าทางผมแล้วว่าคงจะยอมนอนหลับจริงๆ
เลยขยับมาซุกตรงอกผม ผมก็เริ่มแกล้งปั้นสิบไปทีละนิดทีละหน่อย
แล้วเตี้ยตัวน้อยๆก็เสร็จหมาป่าสุดหล่อแบบผมจนได้ครับ
เช้าวันต่อมา
เสียงปั้นสิบบ่นผม ดังไปทั้งห้องคุมะเลยครับ 555+
“เก็บเสื้อผ้าไปเลย ไม่ต้องหันมายิ้ม ไอ้เชรี้ยย บอกให้นอนไม่นอน เล่นซะเกือบเช้า
เสื้อผ้าก็ไม่ยอมเก็บ เครื่องแบบอยู่ไหนก็ไม่เตรียม”
ตอนนี้มันกำลังเดินท่าทางแปลกๆไปรอบห้องเพื่อหาเครื่องแบบตำรวจให้ผม
มันเอาไปซัก แล้วมันลืมว่ามันเอาเข็มขัด เอาของๆผมวางไว้ตรงไหน
5555+ จะขำมันก็ตรงท่าเดินนี้แหละ
“แม่กูเตรียมกระเป๋าให้แล้ว นี้แค่ใส่ชุดเครื่องแบบไปเท่านั้นเอง
ต้องเตรียมอะไรมากมายที่ไหนละ แล้วจะเดินหาทำไม เข็มขัดอยู่ตรงโต๊ะข้างห้องน้ำไง”
คือจริงๆผมเตรียมไว้แล้ว แต่เมื่อเช้าผมแกล้งเดินหาไปมารอบห้อง
เพื่อจะให้ปั้นสิบวุ่นวายกับการหาของให้ผม
มันจะได้ไม่บ่นผมเรื่องที่ผมแกล้งมันเมื่อคืน
“ก็รีบแต่งตัวสิวะ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนนะ”
พูดเสร็จแล้วมันก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ผมเลยรีบแต่งตัว
เพราะถ้ามันออกมาแล้วผมยังนั่งเอ้อระเหยลอยชายอยู่
ผมคงโดนมันด่าอีกแน่ๆ
“ก๊อก ก๊อก”
“ไม้ ไม้ ตื่นยัง”
เสียงของพู่กันตะโกนเรียกผม
ผมเลยเดินออกไปเปิดประตูห้องให้มัน
“อืมม แต่งตัวอยู่ มีไรวะ นี้พวกมึงตื่นกันหมดละหรอ”
ผมมองไปที่โต๊ะอาหาร ตอนนี้ยูโร เปา จานสีกำลังนั่งทานข้าวอยู่
“พวกกูตื่นนานละ แต่ไม่อยากมาปลุกมึงเช้า เพราะเมื่อคืนกูคิดว่าห้องมึงคงมีสงคราม 5555+”
พู่กันมันพูดแซวๆผม ก่อนจะยิ้มทำหน้าทะเล้นตามประสามันนั้นแหละครับ
“กวนตีนนะมึง อย่าไปพูดให้ปั้นมันได้ยิน เดี๋ยวมันด่ากูอีก”
พอผมพูดจบพู่กันมันก็หัวเราะ ก่อนจะดึงมือผมให้เดินไปที่ห้องนอนใหญ่
“มัวแต่อยู่ห้องคุมะ มึงมาดูนี้ๆ ปั้นมันทำให้มึง”
ผมเดินตามพู่กันไปที่ห้องนอนใหญ่ ก็เห็นที่ผนังห้องฝั่งหนึ่ง
มีแต่รูปผมกับรูปปั้นสิบแปะอยู่เต็มผนังเลยครับ
แต่ละรูปก็จะมีโฟสอิสแปะไว้ เขียนอธิบายว่าวันนั้นเราไปทำอะไรกันมาบ้าง
“วันนี้ทะเลสวยมาก มึงนอนอยู่หัวเรือ แต่กูนั่งเกาะขอบเรือแน่นเลย
กูกลัวตกทะเล มึงก็บอกว่า ปลาทะเลไม่กินคนเตี้ย
ฟังแล้วอยากจะถีบมึงให้ตกทะเลจริงๆ
แต่กูชอบนะที่เราได้ไปทะเลด้วยกัน”
เป็นรูปตอนที่ผมนอนมองปั้นสิบ ที่นั่งเกาะขอบเรือแน่นเลยครับ
ตรงกลางเรือมีให้นั่งไม่ยอมนั่ง ดันไปนั่งซะขอบเรือแบบนั้น
ไม่กลัวก็แปลกแล้วละ
ในรูปหน้ามันตลกมาก กลัวก็กลัวแต่ยิ้มสู้กล้อง 5555+
ผมยืนดูรูปแต่ละรูปไป แล้วก็อ่านข้อความพวกนั้นไปด้วย
น้ำตาก็คลอออกมา ,,
ปั้นสิบไม่ใช่แค่แฟน ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท
แต่ปั้นสิบมันเหมือนชีวิตผม
ทุกๆความทรงจำ มันมีปั้นสิบอยู่ในนั้นเสมอ
“จะร้องไห้ทำไมละ รีบๆกลับมา แล้วมาช่วยกันแปะรูปให้เต็มห้องเลยนะ”
ปั้นสิบเดินมายืนข้างๆผม ก่อนจะจับมือผมไว้
“อืมม รอใช่ไหม”
“ไม่รอหมาป่าอย่างไม้ แล้วจะให้ปั้นไปรอหมาขี้เรื้อนที่ไหนละ”
โหยยย ไอ้เตี้ย ,, มึงน่ารักอะ >////<
แต่ถ้าไม่มีคำว่า หมาขี้เรื้อนนะ มึงจะน่ารักกว่านี้มากกกก.
ผมดึงปั้นสิบมากอด ปั้นสิบก็กอดผมกลับมา
ก่อนจะเอามือตบหลังผมเบาๆ
“ดูแลตัวเองดีๆ รักษาสุขภาพให้มากๆ หัวหน้าสั่งอะไรก็ปฏิบัติตามนะ
อย่าดื้อ อย่าโมโหง่าย และอดทนให้มากๆ กูรออยู่ที่นี้เหมือนเดิม”
พอปั้นสิบพูดจบ ผมก็ผละตัวปั้นสิบออก ก่อนจะมองหน้าปั้นสิบอีกครั้ง
อีก 6 เดือนกว่าผมจะได้กลับมากอดมันอีก
อีก 6 เดือนกว่าจะได้มองหน้ามันแบบนี้
“กูรักมึงนะปั้น”
“อืมม กูก็รักมึง”
ปั้นสิบยิ้มให้ผม ก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาให้
อายไหมละ ใส่ชุดตัวรวจเต็มที่เลย ร้องไห้ให้แฟนตัวเองซับน้ำตาให้
ไอ้ไม้เอ้ยยยย T^T
“กูไม่อยากขัดหรอกนะ แต่แม่มึงโทรมาวะไม้”
ยูโรเดินเข้ามายื่นมือถือให้ผม
ผมก็หันไปยิ้มให้ยูโร ก่อนจะยื่นมือไปรับมือถือมาถือไว้
“รับสายแม่เถอะ เดี๋ยวปั้นไปรอข้างนอก”
ปั้นสิบพูดเสร็จก็เดินออกไปกับยูโร
ผม :: ครับแม่
แม่ :: มาเจอกันตอน 10 โมงนะ ไม่ต้องให้เพื่อนมาส่ง
เพราะเค้าจะให้ขึ้นรถเดินทางตอนบ่ายเลย
มาคนเดียวก็พอ ไม่อยากให้พ่อเราโมโห
ผม :: ครับ
แม่พูดจบก็กดตัดสายไป ,,
ทำไมต้องห้ามให้เพื่อนไปส่ง?
ทำไมพ่อจะต้องไม่พอใจอะไรอีก?
ผมเรียนตำรวจจบแล้ว ติดยศแล้ว
เพื่อนที่เรียนด้วยกันมา ก็รอเวลาเข้าประจำการตามสถานีตำรวจหมดแล้ว
และผมเองก็กำลังจะลงไปฝึกที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผมตามใจพ่อหมดแล้ว ,, ทำไมพ่อยังไม่พอใจอีก?
“พ่อครับ ผมไปฉลองกับเพื่อนนะครับ”
ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อน ที่ผมเดินเข้าไปขออนุญาตพ่อมานอนกับเพื่อนๆในกรุงเทพ
“ไปสิ แต่อีก 3 วันไปเจอกันที่กรมนะ”
3 วัน ไปทำไมวะ? หรือผมได้ลงส่วนกลาง
เพราะตอนที่ได้เลือกสถานที่ลงทำงาน ผมเป็นคนเดียวในรุ่นที่ไม่ได้เลือก
เพราะเหตุใดนั้นผมไม่อยากคาดคิดครับ ตั้งแต่มาเรียนที่นี้ผมโดนแกล้งให้วิ่ง
โดนลงโทษทั้งๆที่ไม่ผิดบ่อยมาก
ก็พอรู้ว่ามาจากพ่อของพี่อุ้มที่สั่งมาแน่นอน
พวกราฟก็บอกว่าคนของพ่อพี่อุ้มมีเยอะเลยที่นี้
ผมก็อดทนมาตลอด คิดแค่ว่าจบไปแล้วพ่อคงยอมรับในตัวผม
แต่สุดท้าย... พ่อก็ยังไม่ยอมรับในสิ่งที่ผมเป็นอยู่ดี
“ไปทำไมครับพ่อ ผมได้ลงส่วนกลางหรอครับ”
ผมหันไปมองหน้าแม่ที่นั่งหน้าเครียดๆอยู่ข้างๆพ่อ
“ป่าว แกได้ไปฝึกที่ใต้”
ห๊ะ ,, ตอนแรกผมได้ยินคำว่า ใต้ ผมตัวเย็นเฉียบเลยครับ
ก็ทราบกันดีว่าที่นั้นอันตรายมากแค่ไหน
แต่พ่อพูดได้ด้วยสีหน้าที่ยิ้มๆ ว่าผมต้องไปฝึกที่ใต้
พ่อไม่ห่วงผม? หรือเพราะอะไรทำไมพ่อถึงยิ้ม
“จังหวัดไหนครับพ่อ”
“นราธิวาส”
พอพ่อพูดจบ แม่ก็เริ่มจะสะอื้นขึ้นมาอีกรอบ จนพ่อต้องหันไปมอง
“จะไปกับเพื่อนก็ไปสิ เพราะหลังจาก 6 เดือนนี้แกต้องกลับมาทำงาน
และแกจะไม่มีเวลามาทำตัวไร้สาระกับเพื่อนวัยเด็กของแกแล้ว”
พอสิ้นคำของพ่อ ผมก็เดินมาหาเพื่อนที่รถตู้เลย
โดยไม่หันไปมองหน้าพ่อกับแม่ด้วยซ้ำว่าท่านทำหน้ายังไง
ผมอาจจะดูเลวนะที่ไม่สนใจความรู้สึกท่านในวันนั้น
ทั้งๆที่มันเป็นวันที่ผมควรอยู่กับครอบครัวเพื่อฉลองกับยศกับการที่ผมได้รับราชการ
แต่ผมไม่มีความรู้สึกว่าผมอยากกลับไปกับพ่อแม่เลย
ผมอยากอยู่กับเพื่อนๆ เพราะอย่างน้อยพวกเค้าก็ยินดีกับความสำเร็จของผม
ด้วยความรู้สึกที่มาจากใจ พู่กันกับจานสีมาจากอังกฤษเพื่อยินดีกับผมในวันนี้
ทุกคนพูดแต่คำดีๆ และยิ้มกลับมาให้ผม
แต่รอยยิ้มจากพ่อ และแม่ .. ผมแทบไม่ได้เห็นเลยด้วยซ้ำตอนอยู่ในห้องประชุม
ตอนที่พิธีติดยศ หน้าพ่อกับแม่นิ่งเฉยมาก ทั้งๆที่รอบข้างมีแต่คนยิ้มยินดี
พ่อมายิ้มให้ผม ตอนที่พ่อบอกว่าผมต้องไปฝึกที่ภาคใต้
สิ่งที่ผมทำตอนนี้ ผมผิดมากไหม?
ผิดมากไหมที่มาอยู่กับเพื่อนๆ แทนที่จะกลับไปกับพ่อแม่
ผมเดินถือมือถือของยูโร ออกมาที่หน้าห้องนอน
ยืนมองดูเพื่อนๆที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่เศร้าใจ...
ผมจะมีโอกาสได้เจอพวกมันอีกเมื่อไหร่?
6 เดือนกลับจากฝึกแล้ว พ่อแม่จะบังคับให้ผมไปทางไหนต่อ?
ผมต้องอยู่ภายใต้การบังคับของพ่อและแม่ไปอีกนานแค่ไหน?
ผมจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง …. บ้างไหม?
“เห้ยยไม้ ไปกันยังวะ สายแล้วนะ”
เสียงเปาเรียกผมให้ตื่นจากความคิด
“เออไปได้แล้ว แม่กูโทรตามแล้วละ”
ผมเดินเข้าไปหาเพื่อน ก่อนจะยื่นมือถือคืนให้ยูโร
“แต่พวกมึงไม่ต้องไปหรอก แม่กูบอกว่าพ่อกูมารอแล้ว .....พวกมึงเข้าใจใช่ไหม”
ผมหันไปมองหน้าปั้นสิบ ที่ตอนนี้รอยยิ้มของมันเริ่มหายไป
แต่สักพักมันก็หันมามองหน้าผม
“อืมม งั้นมึงไปถึงแล้วรีบไปไหว้พ่อไหว้แม่ แล้วขอพรจากเค้านะ
พรจากพ่อแม่อะประเสริฐกว่าสิ่งใดๆในโลกนี้อีก”
ปั้นสิบพูดเสร็จก็ยิ้มกลับมาให้ผม
“เอางี้ละกัน กูกับพู่กันจะไปส่ง แล้วยังไงจะกดโทรมาหา เพราะยังไงๆพ่อแม่เค้าคงไม่กล้าด่ากูหรอก”
จานสีเสนอความคิดเห็น ส่วนพู่กันก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดจานสี
“อืมม เอางั้นก็ได้” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับพวกแฝด
อย่างน้อยๆก็จะได้โทรหาปั้นสิบได้
จานสีกับพู่กันเลยลุกไปเตรียมตัว ยูโรกับเปาก็เข้ามาคุยกับผมต่อ
“หัดพูดยาวีไว้เยอะๆ”
“ห้ามกินหมูนะมึง”
“จะกลับมาก็เอาของฝากมาให้ด้วย”
แต่ละอย่างที่ยูโรพูดกับผม เปามันสรุปได้คำเดียวว่า “ปัญญาอ่อน”
“มึงบ้าปะยู ภาคใต้ไม่ใช่อีกประเทศนะมึง จะทำอะไรก็ทำตามปกตินั้นแหละ
แต่เคารพสถานที่ เคารพชุมชนที่มึงเข้าไปอยู่ก็พอ ส่วนของฝากไม่ต้องหรอก
แค่มึงกลับมาอย่างปลอดภัย นั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกกูแล้ว”
พูดจบเปาก็ดึงผมเข้าไปกอด
ก่อนที่ยูโรจะงัดเอาเปาออกจากตัวผม
ต้องใช้คำว่างัดครับ เพราะเปากอดผมแน่นมาก 555
“เผลอไม่ได้เลย ชอบคนในเครื่องแบบว่างั้น
กลับขอนแก่นกูจะใส่ชุดลูกเสือให้มึงดู”
555555+ เอากับมันสิครับ ไอ้ยูไอ้บ้าเอ้ยย
สักพักพวกแฝดก็พร้อมจะเดินทางแล้วครับ
ยูโร เปา และปั้นสิบออกมาส่งผมที่หน้าห้อง
“กูไปรอที่หน้าลิฟท์นะ” พู่กันบอกกับผม ก่อนจะเดินออกไปกับจานสี
“งั้นกูไปล้างจานนะ” เปาก็ดึงยูโรออกไป
“เพื่อนเรานี้โคตรดีเลยเนอะ เปิดทางให้เราสวีตกัน”
ปั้นสิบมันหันมามองหน้าผม ก่อนจะพูดถึงพวกไอ้แสบทั้งหลาย
ที่ต่างก็รู้เห็นเป็นใจเปิดทางให้ผมได้คุยกัน ก่อนที่จะจากกัน
“กูไปละนะ อยู่ได้ใช่ไหมเตี้ย”
ผมถามปั้นสิบ ผมพยายามจะพูดให้ติดตลกไว้ก่อน
ไม่อยากพูดซึ้งๆ เดี๋ยวมันจะร้องไห้
เออ....ไม่ใช่แค่มันหรอก ผมด้วยนี้แหละ - -
“สบายมาก ถึงกูจะเตี้ย แต่กูอดทนเก่งนะ และกูก็รอเก่งด้วย”
เอาละไง ไอ้เตี้ยแม่งง ยิ้มแล้วน้ำตาไหลทำไมละ
กูจะไม่ร้องไห้ละนะ ผมต้องฝืนยิ้มให้มัน
ก่อนจะค่อยๆเอามือไปเช็ดน้ำตาให้เจ้าเตี้ยขี้แงตรงหน้า
“แล้วกูจะรีบกลับนะ”
ผมพูดได้แค่นั้นแหละครับ ก็หันหลังรีบเดินมาหาพู่กันกับจานสี
เพราะถ้ายืนมองหน้าปั้นสิบต่อไป
ผมอาจจะร้องไห้หนักกว่านี้ก็ได้
พอ 2 แฝดมันเห็นผมเดินมาก็กดปิดลิฟท์
เพราะเมื่อกี้พวกมันกดลิฟท์ค้างไว้รออยู่แล้ว
“จะร้องไห้ก็ได้นะ เพราะถ้าไปถึงที่กรมแล้ว มึงอ่อนแอไม่ได้แล้วนะไม้”
เสียงของจานสีบอกกับผม
พอเพื่อนบอกมาแค่นั้นแหละครับ ,, น้ำตาไหลมาเต็มที่เลยครับ
ร้องไห้จนมาขึ้น Taxi ก็ยังสะอื้นไม่หาย
โคตรจะอายเลย ใส่เครื่องแบบตำรวจโคตรจะเท่ห์
ต้องร้องไห้สะอื้นไม่หยุด
ตอนนั้นมันหลายๆความรู้สึก ทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจตัวเอง
ทั้งน้อยใจพ่อแม่ด้วย หลายๆอย่าง
“จะถึงแล้ว เลิกร้องไห้เถอะไม้” พู่กันยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ผม
ผมก็รับมาแต่โดยดีครับ ไม่เช็ดหน้าคงไม่ไหวมั้งครับ
มีแต่รอยน้ำตา - -‘
“ไม้ มึงระวังตัวดีๆนะไปใต้ครั้งนี้อะ
รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ มันหนักกว่าตอนที่มึงฝึกแน่ๆ”
จานสีหันมาบอกกับผม
ตอนนี้จานสีมันนั่งข้างหน้าครับ
ผมนั่งกับพู่กันข้างหลัง
“อืมม กูก็คิดไว้เหมือนกัน ว่ามันน่าจะหนักกว่า
อย่างว่าแหละตอนฝึกกับตอนทำจริงมันคงต่างกันเยอะ”
ผมเช็ดน้ำตาเสร็จแล้ว กำลังก้มลงไปมองชุดของตัวเองว่าเรียบร้อยหรือยัง
“ไม่ใช่แค่นั้นสิ คนที่จะไปใต้กับมึงอะ มีพี่อุ้มด้วย”
หื้มมมมม ..
พี่อุ้ม!!!!!!!
--------------------------------------------------------------------------------------
เอาละสิ ,, ท่าทางไปใต้รอบนี้จะหนักแล้วละไม้ฉาก
มีพี่อุ้มรักตามไปด้วย เอ๊ะ ,, หรือพี่อุ้มมันจงใจให้ไม้ฉากไปด้วยกันแน่นะ
ฝากติดตามตอนหน้าด้วยนะคะ
ตอนนี้ไม่มีอะไรมากเลยเนอะ เล่าเรื่องทั่วไปปกติ
พยายามจะสื่อให้เห็นว่าเด็กๆต้องลาจากกันอีกครั้ง
แล้วมันทรมานแค่ไหน .. แต่เหมือนตัวเองสื่ออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่
ยังไงฝากไว้ด้วยนะค่ะ
คำผิดยังไงเจจะรีบตามแก้ให้จ๊า ขออภัยไว้ด้วยนะ
และขอบคุณทุกๆคอมเมนต์เลย
ใกล้จะถึงบทสรุปของทั้งคู่แล้ว ,, ฝากติดตามและให้กำลังใจด้วยนะคะ
ส่วนใครที่รอลุ้นคู่พี่แฝดนั้น มีแน่นอนจ๊า
แต่ขอลงในตอนพิเศษแทนเนอะ : )
ตอนพิเศษ มีของ ราฟ และเพื่อนๆด้วย