❥Close Friend :: เพื่อนสนิท ||เรื่องเล่าระหว่างทาง 8 ||P.45||12-12-59||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❥Close Friend :: เพื่อนสนิท ||เรื่องเล่าระหว่างทาง 8 ||P.45||12-12-59||  (อ่าน 256264 ครั้ง)

ออฟไลน์ desiderata

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฟินจานสีกะอุ้มไม่ลงนะ

มากสุดสำหรับอุ้มที่จานสีควรให้ คือให้อภัยกันและเป็นเพื่อนที่รู้สึกดีต่อกันเท่านั้นแหละ
คนเรามันเปลี่ยนไม่ได้ในชั่วข้ามคืนหรอก. ไม่ใช่ละครน้ำเน่าไทยที่ตอนจบอยู่ๆ นางร้ายก็กลายเป็นคนดีอยากบวชชีขึ้นมา
ด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านมา ณ ตอนนี้ เรายังไม่เชื่อว่าอุ้มจะเปลี่ยนได้
แต่ถ้าต่อไปมีเหตุการณ์บางอย่างที่เป็นจุดเปลี่ยนของอุ้มที่มีน้ำหนักมากพอจะให้เชื่อได้ว่าอุ้มเป็นคนใหม่แล้ว อิชั้นก็ยินดีถอนคำพูด ฮา

ปล1 สงสารไม้ฉาก ทำไมชีวิตต้องมาเจออะไรขนาดนี้ ฝึกจบได้รับยศแล้วก็ยังไม่จบเรื่อง ยังจะอะไรอีกนักหนา
ปล2 ทุกวันนี้ก็ยังค้างคาใจความสัมพันธ์ของพู่กันจานสี.  เหมือนกับคนเขียนโปรยมาว่าจะให้มีอะไรบางอย่างแต่แล้วก็กลับไม่มี กลายเป็นอิอุ้มรักเข้ามาเกี่ยวพันแทน

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ไม้ฉากโดนแกล้งอีกแน่เลย
ขอให้อุ้มไม่สมหวัง ไม่ชอบจริงๆผู้ชายคนนี้

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
Ch 65  รู้และเข้าใจ || ปั้นสิบ



พวกผมแวะถ่ายรูปกันที่ดรีมเวิร์ด
อันนี้พู่กันกับจานสีขอครับ
มันบอกว่าเดี๋ยวต้องกลับไปเรียนต่อแล้ว
คราวนี้คงอีกนานกว่าจะกลับมา
เลยขอเล่นเครื่องเล่นหน่อย

“แวะทำไมวะ เมืองนอกเครื่องเล่นน่าจะดีกว่าที่นี้อีก”
ยูโรหันไปถามเจ้าแฝด

“ก็ที่นี้มีเพื่อน  ที่โน้นไม่มีไง”
เอาสิครับ เจอจานสีตอบแบบนี้ พร้อมทำตาปริบๆ เป็นใครก็ยอมครับ 555+


พวกเราเน้นถ่ายรูปครับ ไม่ค่อยเล่นเครื่องเล่นเท่าไหร่
ไม้ฉากโดนเพื่อนๆบังคับให้ใส่ชุดตำรวจลงไปถ่าย 555+
ตอนแรกมันถอดเสื้อออกแล้ว ใส่แต่เสื้อยืดสีขาวข้างใน


พอพวกเราถ่ายรูปกันจนพอใจแล้ว
และมันก็เริ่มค่ำแล้วด้วย เลยชวนกันกลับ

“ซื้ออะไรไปกินที่ห้องกูเอาไหม” ไนซ์หันไปถามเพื่อนๆ
ซึ่งแต่ละคนเริ่มหมดแรงครับ หลับกันไปบ้างแล้วบางส่วน

“ห้องปั้นดีกว่า เสื้อผ้ากูอยู่ที่นั้นอะ ไปกินห้องมึงเดี๋ยวเมาไม่ได้ ไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน”
พู่กันออกความคิดเห็น ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นของพู่กัน
เลยตกลงว่าจะไปกินข้าวและฉลองให้ไม้ฉากกันที่ห้องผม

“งั้นเดี๋ยวกูมา เอารถไปเก็บที่บ้านก่อน  กับข้าวไม่ต้องซื้อนะแม่กูบอกว่าทำไว้ให้แล้ว
พวกมึงซื้อแต่เครื่องดื่มขึ้นไปรอเลยละกัน”
ไนซ์มาส่งพวกผมที่หน้าคอนโด ก่อนจะกลับไปเอาของกินที่บ้าน
เดี๋ยวนี้แม่ของไนซ์มาอยู่บ้านคุณตาคุณยายละครับ
ชีวิตการเป็นอยู่ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ ไนซ์เองก็ดูมีความสุขมากขึ้นด้วย


“งั้นกูกับเปาจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์ พวกมึงขึ้นไปจัดสถานที่ก่อนเลย”
ยูโรพูดจบก็เดินออกไปซุปเปอร์กับเปา  ผมเลยพาเพื่อนๆขึ้นไปบนห้อง
แต่ก็บอกพี่ยามไว้แล้วครับว่า ถ้าเพื่อนผมมาให้ไปส่งที่ห้องด้วย
555+ จะได้ไม่ต้องลงมารับพวกมันอีกรอบ


พอขึ้นมาถึงบนห้อง ไม้ฉากมันก็ดึงผมเข้าไปในห้องคุมะ
ก่อนจะหันไปบอกพวกคะน้า

“พวกมึงไปจัดห้องนอนใหญ่เลยนะ เดี๋ยวคืนนี้กูกับปั้นนอนห้องนี้
เดี๋ยวกูเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึง เดี๋ยวออกมา”

มึงจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ผลักกูเข้ามาในห้อง
คืออะไร??

“แล้วเอาปั้นเข้าไปทำไม  ชุดตำรวจมันถอดยากหรอวะเลยต้องหาคนช่วย”
พู่กันพูดแล้วก็มองหน้าผมกับไม้ฉาก แบบยิ้มๆแซวๆ

“ชุดมันแน่นมากเลยมึง ต้องมีคนช่วย 555+ เดี๋ยวกูออกมา”
ไม้ฉากพูดตอบกลับพู่กันไป แล้วก็ปิดประตูห้อง

“อะไร มึงมองอะไรของมึง”
ไม้ฉากมันปิดประตูห้องเสร็จแล้ว ก็เดินเข้ามาหาผม
แต่สายตาของมันที่มองมาที่ผมนี้คือแบบ ,, อร๊ายยย กูเขิน >//////<

“มองแฟน”
ไม้ฉากตอบแค่นั้นแหละครับ
แล้วมันก็เดินเข้ามาประชิดตัวผม ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด

“ขอบใจนะที่อดทน   ขอบใจมากๆที่มึงรอกู”
ไม้ฉากก้มลงมาหอมที่หน้าผากผม และกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม

มันไม่ใช่การกอดแน่นๆที่ทำให้รู้สึกอึดอัด
แต่มันเป็นการกอด ที่เหมือนการเติมเต็มให้กันและกัน
เป็นการกอดที่ทำให้รู้สึกเหมือนลดช่องว่าง ลดระยะห่าง
ที่ตลอดเวลา 1 ปี พวกเราต้องเจอเรื่องราวต่างๆมามากมาย
มันเป็นกอดที่อบอุ่น  และเป็นกอดที่เรารู้ว่า ....
มันมีแค่เรา 2 คนที่เข้าใจ ,,
ว่ากอดครั้งนี้มันมีค่ามากแค่ไหน
และกอดครั้งนี้แลกมากับความเหงา  น้ำตา  และความอดทนมากมายเท่าไหร่
มีแค่ผมกับไม้ฉากเท่านั้นที่รับรู้ได้


กอด ….. ของคนที่ผมรัก
ยังอบอุ่นเสมอ : )


“ขอบใจมึงเหมือนกันที่กลับมา”
ผมบอกกับไม้ฉาก แล้วก็กอดมันกลับไปเหมือนกัน
เรายืนกอดกันนิ่งๆแบบนั้นนานเหมือนกันครับ
จนไม้ฉากผละตัวออกไป

“อาบน้ำกันเหอะ เดี๋ยวเพื่อนๆรอนาน”
มันพูดเสร็จแล้วก็ยืนยิ้มแล้วมองหน้าผม

“ก็ไปอาบดิ”
นี้ก็แปลกคน จะอาบน้ำแต่ยืนนิ่งๆเฉยๆ ไม่ยอมเดินเข้าไปในห้องน้ำ

“ถอดชุดให้หน่อยดิ นะน๊านะครับเตี้ย”
หื้อออ อ้อน? นี้มึงอ้อนใช่ไหมไอ้ตำรวจบ้า!!

“ไม่เอา ถอดเองเลย จะอาบไหม ถ้าไม่อาบก็ออกไปรวมกับเพื่อนๆกัน
ป่านนี้แม่งแซวกันสนุกปากแล้วละมั้ง”

ผมว่าไม่เหลืออะครับ พู่กันจานสีคะน้าเลน่อน ,, เม้าท์กันมันส์แน่ๆ
ดีไม่ดี เจ้าบ้าแฝดอาจจะเอาหูมาแนบติดกับประตูห้องคุมะก็ได้ 5555+

“ไม่ ไม่ถอดก็ไม่อาบ  และถ้าไม่อาบก็ไม่ออกไปเหมือนกัน”
หื้มมม ,, เล่นแบบนี้เลย
แล้วมันทำหน้าบึ้งๆ  เบะปากใส่ผมนิดๆ
นี้มึงคิดว่าน่ารักใช่ไหม?
หึหึ  ยอมใจมันเลยครับ  น่ารักจนผมเขินทำอะไรไม่ถูกเลยละ

“อืมๆ ถอดให้ก็ได้”
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆตัวไม้ฉาก  ก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมตรงคอเสื้อ
ไม่ทันจะถอดเสื้อให้มันเลยครับ ไม้ฉากจับมือผมไว้ก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้ๆหน้าผม

“เหมือนภรรยากำลังแต่งตัวให้สามีเลยเนอะ”
พอพูดจบมันก็หอมแก้มผมไปอีกฟอดใหญ่

“ภรรยาอะไรของมึง  ไม่เอาแล้ว ไปอาบน้ำเองเลยป่ะ”
ผมรีบผลักตัวมันออกไป แล้วเดินไปนั่งดูทีวีรอมันบนเตียง
ไม้ฉากมันก็หัวเราะผมนิดหน่อย แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ

ภรรยาแต่งตัวให้สามีงั้นหรอ?

ถ้าทุกๆเช้าเรา 2 คน เรานั่งทานมื้อเช้าด้วยกัน
ไม้ฉากไปทำงาน ส่วนผมก็ไปเรียน

“ปั้นครับ ติดกระดุมตรงคอให้หน่อย”
เสียงไม้ฉากอ้อนผมในตอนเช้าทุกเช้าให้แต่งตัวให้
ผมก็เดินเข้าไปแต่งตัวให้ไม้ฉาก
ก่อนจะดูความเรียบร้อยของเครื่องแบบต่างๆบนชุดให้  นายตำรวจภาคิน'

ถ้าเป็นแบบนี้ทุกๆวันคงมีความสุขมากเลยเนอะ : )




“ปั้น  ปั้น  ปั้นครับ”
เสียงของไม้ฉากเรียกผมให้ตื่นจากภวังค์
โหวว นี้มึงคิดอะไรเนี้ยปั้น .. มโนเป็นนิยายรักหวานแหววเลย 5555+


“ห๊ะ  อาบน้ำเสร็จละหรอ”
ผมหันไปมองไม้ฉากที่ใช้ผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเดินออกมาจากห้องน้ำ
เออคือพี่ไม้ครับ  เช็ดตัวก่อนดิวะ - -‘

“เห้ยย ทำไมไม่เช็ดตัวเนี้ย  พื้นเปียกหมดแล้ว”
ผมบ่นไม้ฉาก ที่มันเดินตัวเปียกๆแบบนั้นออกมาจากห้องน้ำ
แต่ไม้ฉากมันไม่ได้สลดอะไรกับคำด่าคำบ่นของผมหรอกครับ
มันวางชุดตำรวจของมันลงบนเก้าอี้ข้างๆที่นอน
ก่อนจะโถมตัวลงมานอนกอดผมบนเตียง

“ก็จะได้มากอดคนไม่ยอมอาบน้ำไง 5555+”
จะเหลือหรอปั้นสิบ เปียกสิครับ - -‘

“ไม้ อ่ะ.. ปล่อยดิ อย่ากอดแน่น  เห้ยยย ,,, เปียกหมดแล้วอะ”
ผมดิ้นๆจะให้มันปล่อยตัวผม แต่มันกลับหัวเราะชอบใจ

“ยิ่งดิ้น ยิ่งกอดนะ”
คือมึงไม่ต้องพูดเลย ถึงกูไม่ดิ้นมึงก็กอด
ผมเลยนอนนิ่งๆไม่ดิ้นครับให้มันกอด 555+
มันก็นอนกอดผมไปแบบนั้นแหละ  หอมแก้มผมบ้าง ดึงหู ดึงแก้มผมเล่น
ร้องเพลงอะไรของมันไม่รู้ จนมันพอใจนั้นแหละครับ

“ป่ะ ไปกินข้าวกัน”
ตามอารมณ์มันทันไหม? ผมนี้เริ่มจะปวดหัวละ
อยากกอดก็กอดซะแน่น พอจะไปกินข้าวก็ลุกออกไปแต่งตัวซะงั้น

“นี้มึงแค่มานอนกอด แค่นั้นอะนะ”
ผมลุกขึ้นมานั่ง แล้วมองไปที่ไม้ฉากอย่าง งงๆ

“อะไร คิดอะไรหรอ อยากให้ทำอะไรมากกว่ากอดหรอครับ”
มันหันมายิ้มแบบกรุ้มกริ่มๆ  แล้วก็หันไปแต่งตัวต่อ

“ปะ ป่าวเว้ยไม่ได้อยากให้ทำอะไรซะหน่อย  แต่งตัวเสร็จละตามออกมาละกันนะ”
ผมรีบลุกจากเตียงนอน แล้วเดินออกไปหาเพื่อนๆที่ห้องรับแขกข้างนอก

“เสื้อผ้ายับ  เสื้อเปียกเล็กน้อย  หน้าแดงๆ ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ฟันธง!!!”
เสียงพู่กันมันพูดครับ มันเดินเข้ามาหาผมก่อนจะมองผมแบบพิจารณาทั้งตัว
แล้วก็พูดอะไรของมันนั้นแหละ ก่อนจะทำท่าฟันธงเลียนแบบหมอดูชื่อดัง

“ฟันธงบ้าอะไรของมึงเนี้ย  ไนซ์มายัง หิวแล้วนะเว้ยยย”
ผมผลักพู่กันออกไป ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัว

“มันหิวด้วยเว้ย สงสัยใช้พลังงานเยอะ”
นี้เสียงยูโรครับ มึงวิเคราะห์หาสสารอะไรกันอยู่วะ - -‘

“กูว่าเราไปสัมภาษณ์นายตำรวจใหม่กันดีกว่า ป่านนี้แม่งนอนสบายตัวอยู่ในห้องแน่ๆ”
พอพู่กันพูดเสร็จก็เดินเข้าไปหาไม้ฉากในห้องนอน  ส่วนยูโรก็วิ่งตามเข้าไปด้วย
เห้ออ เพื่อนแต่ละคน - -‘

“มึงควรจะชินนะ เพื่อนมึงไม่มีใครมีสติดีหรอกนะ”
เปาที่กำลังเทอาหารใส่จานอยู่หันมาบอกผม
ไนซ์กับจานสีเดินออกจากห้องนอนใหญ่ออกมา
ก่อนที่จานสีจะเดินมาช่วยผมกับเปาตั้งโต๊ะ และไนซ์ก็เดินเข้าห้องคุมะไปหาพวกไม้ฉาก

“แล้วคะน้ากับเลน่อนไปไหนวะ”
ผมหันไปถามเปา

“แม่คะน้าบอกว่าผู้ชายอยู่กันเยอะ ไม่ดูไม่เหมาะนะถ้าจะนอนรวมกับพวกเรา
เลยให้ไปนอนบ้านป้า แถวๆดินแดงมั้ง เลน่อนมันเลยไปส่ง”

เออแม่ครับ เอาจริงๆนะครับแม่ พวกผมนี้แหละควรจะกลัวคะน้า
555+ ไม่รู้มันจะลุกมาปล้ำพวกผมเมื่อไหร่

“จัดโต๊ะเสร็จละ  เปาไปตามพวกมันดิ”
จานสีนั่งประจำที่แล้วครับ คือพวกผมยังไม่ได้ทานมื้อเย็นเลย
ตอนนี้ก็ 3 ทุ่มแล้วด้วย

เปาเดินไปตาม หรือเดินไปด่าอันนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะ
แต่รู้ว่าเสียงดังมาก 555+

“จะแดกไหม”

“มึงเปิดเกมส์เล่นกันทำไม”

“พวกกูรอ รู้ตัวบ้างว่าตอนนี้ต้องทำอะไร”

“ยังช้าอีกนะยู  ไวๆเลยมึงนะ”


อะครับ ,, ผมคิดถูกแล้วละที่ให้มันไปตาม 555+



สักพักพวกมันก็วิ่งออกจากห้องมานั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารจนพร้อมหน้าพร้อมตา
พวกเรานั่งทานข้าวไป ก็แกล้งกันไปด้วย
จนกินข้าวกันอิ่มหมดเลย  พวกพู่กันมันก็ไปตั้งวงดื่มกินและเล่นเกมส์กันต่อที่หน้าทีวี
ผมกับเปาต้องไปยืนล้างจานครับ - -‘

“มึงๆดูสมาคมแม่บ้าน 5555 ปรึกษาปัญหาสามีกันอยู่หรอจ๊ะ”
เสียงพู่กันตะโกนมาแซวผม 2 คน

“แหม่ ,, แม่บ้านอย่างพวกกูบางทีก็อาจจะไปเป็นผัวคนอื่นก็ได้นะ
ถ้าคนที่บอกว่าเป็นสามีไม่มาแบ่งเบาภาระการงานกูนะ”

พอเปาพูดจบแค่นั้นแหละครับ
ยูโรวิ่งมาประชิดตัวพวกผมทันที ก่อนจะช่วยเปาเช็ดจานแล้วเก็บใส่ตู้

“เหนื่อยไหมจ๊ะเปา ไปนั่งตรงโซฟาก่อนนะ”
ยูโรมันแทบจะประคองเปาให้เดินไปนั่งที่โซฟาอะครับ
เหมือนกับสามีประคองเมียท้องแก่เดิน 5555

“กูละเบื่อพวกกลัวเมีย  สู้ไม้ฉากก็ไม่ได้ ชายชาติตำรวจ ไม่กลัวเมียใช่ไหม
ถึงไม่ไปช่วยปั้นสิบล้างจาน”

พู่กันก็ยังคุยต่อครับ  ตอนนี้ผมมานั่งข้างๆจานสี
เพราะจานสีมันไม่ได้กินเหล้า  แต่มันนั่งอ่านการ์ตูนอยู่บนโซฟา

“แฟนกูเค้าไม่อยากให้กูเหนื่อยหรอก เพราะคืนนี้เค้าต้องใช้แรงกูอีกเยอะ”
หื้อออพ่อตำรวจ พ่อยอดชายของพี่ พูดออกมาได้
แทบจะสำลักเบียร์ที่กำลังกินเข้าไป

“เยดดดดดดดดดดด  มันต้องยังงี้สิวะ 55555+”
ยูโร เปา ไนซ์ พู่กัน จานสี ตบมือ ร้องโห่เสียงดังมากครับ
ชอบอกชอบใจกับคำตอบของไม้ฉากกันใหญ่

ไอ้บ้านั้นก็นั่งยิ้มแล้วหันมามองหน้าผม
ใช้แรงงานบ้าอะไรของมึง ^////////^
ผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แก้เขินไป 
นั่งกินเบียร์ไปกับพวกมันนั้นแหละครับ

ตอนนี้ทุกคนเริ่มสนใจกับเกมส์แล้วครับ
กินเหล้าไปด้วย คุยกันบ้าง เล่นเกมส์กันบ้าง
จนเกือบๆเที่ยงคืน ไนซ์มันขอตัวไปคุยโทรศัพท์ในห้องนอนใหญ่
จานสีนั่งเล่นไลน์อยู่ข้างๆพู่กัน  ไม่รู้เหมือนกันว่าคุยกับใคร
เปานั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบ เพราะมันเรียนเภสัชครับ มันบอกว่ายากมาก
ตอนนี้เปานั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว มียูโรคอยเดินไปกวนใจบ่อยๆ 555+
และเปาก็ด่ายูโรบ่อยๆว่า ...

“มึงไปเมาไกลๆเลยป่ะ  จะอ่านหนังสือ อย่ามายุ่งไอ้เชรี้ยยู”
ยูโรก็จะเดินมายิ้มๆกับพวกผมแล้วหันไปเล่นเกมส์ต่อ
พอสักพักมันก็จะเดินไปกวนใจเปาต่อ
555+ คือมึงเมา หรือมึงจะแกล้งแฟนตัวเองวะยู
เดินไปให้เปาด่าได้ตลอดเวลาจริงๆ
ส่วนเลน่อนไม่ได้กลับมาครับ เพราะป้าของคะน้าให้นอนที่บ้านด้วย


“เตี้ยมานั่งนี้ๆ”
ไม้ฉากเรียกให้ผมไปนั่งข้างๆ
แต่ไอ้ลักษณะท่าทางตอนเรียกนี้เค้าเอาไว้เรียกแฟนแน่หรอวะ?
มันเรียกชื่อผม แล้วตบตรงขามันเบาๆ แล้วก็ตบตรงที่ว่างข้างๆตัว
เหมือนเรียกหมาให้ไปหาเลยนะมึง - -‘

แต่ผมก็เดินไปนั่งข้างๆมันนะครับ 5555+
มันก็เอามือมากอดเอวผมไว้ ก่อนจะหันไปคุยกับพวกเพื่อนๆเรื่องเกมส์ต่อ



พวกผมนั่งกินเบียร์กันจนเกือบๆตี 2
ตอนนี้เปายอมแพ้เข้าไปนอนกับจานสีแล้ว
ส่วนไนซ์นอนอยู่บนโซฟา ยังไม่หลับมั้งครับเห็นเอาโทรศัพท์มาแนบหูไว้
ไอ้ดารานี้อีกคนต้องมีแฟนแล้วแน่ๆ ติดโทรศัพท์ซะเหลือเกิน

พวกผมนั่งอยู่ตรงพื้นหน้าทีวีครับ ไม้ฉาก ยูโร พู่กัน ยังเมามันส์กับการเล่นเกมส์
เบียร์หมดไปตั้งเยอะละ มันก็ยังไม่มีใครจะมึนจะเมาเลย
ยังกินต่อได้อีก - -‘ จะหลับจะนอนกันกี่โมงวะเนี้ยย

“ง่วงยัง” ไม้ฉากหันมาถามผม

“อืมม ง่วงแล้ว” ผมหันไปบอกไม้ฉาก
คิดว่ามันจะเลิกเล่นแล้วบอกให้ผมไปนอนในห้องคุมะ หรือมันเข้าไปนอนกับผมในห้อง
แต่ผมคิดผิดครับ มันลุกเข้าไปหยิบหมอนกับผ้าห่มในห้องนอนมาให้ผม

“เอาหัวมาหนุนตรงตักไม้นี้แหละ”
มันดึงผมให้ลงไปนอนแล้วเอาหัวไปหนุนไว้ที่ตักมัน แล้วก็ห่มผ้าให้ผม
เออคือ พี่ไม้ครับ - -‘
ผมอยากนอนบนเตียงสบายๆครับพี่ ไม่ได้อยากนอนบนพื้นเย็นๆแบบนี้
เห้ออ ไอ้บ้า ไอ้แฟนบ้า ไอ้ตำรวจติดเกมส์!!!!

ก็ได้แค่ด่ามันในใจเท่านั้นแหละครับ
นานๆทีมันจะได้มาเจอเพื่อนๆ
ผมก็เลยปล่อยให้มันเล่นเกมส์กับพู่กัน และยูโรต่อ



ผมนอนตักไม้ฉาก แล้วดูมันเล่นเกมส์ไปเรื่อยๆ
ไม้ฉากก็เอามือมาลูบหัวผมบ้าง เกาหูให้ผมบ้าง (เริ่มเหมือนหมาอีกรอบ 555+)
ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ละครับ จำได้แค่ว่าก่อนจะหลับ
ไม้ฉากกำลังจะเตะบอลเข้าประตูของพู่กัน (พวกมันเล่นวินนิ่งกัน )


“ไม้ มึงไปแน่หรอวะ”
เอ๊ะ ,, นี้มันเสียงยูโรนี้หว่า
ไม้จะไปไหนอะ?

“จะดังทำไมละ เดี๋ยวปั้นตื่น”
นี้ผมจำได้ว่าเป็นเสียงของไม้ฉาก 
ทำไมอะทำไมไม่อยากให้ผมตื่น
แล้วนี้มันความฝันหรือความจริงวะเนี้ย
ผมพยายามจะลืมตา แต่รู้สึกตามันหนักๆ

“กูก็เห็นจดหมายอันนั้นแล้วเหมือนกัน มึงจะไปอยู่ที่นั้นจริงๆหรอ”
เสียงพู่กันถามไม้ฉาก... 
ทำไมพวกมันได้อ่านจดหมาย
แต่ผมไม่ได้อ่าน ,, จดหมายที่ครูฝึกคนนั้นเอามาให้ใช่ไหมวะ?
โอ้ยย อะไรอะอยากรู้นะเว้ยย!!

“ปั้นมันกินเบียร์เยอะขนาดนั้น ไม่ตื่นง่ายๆหรอกะ
เมื่อคืนมันก็ไม่ค่อยนอน มัวแต่จัดห้องต้อนรับมึงนั้นแหละ”

เสียงยูโรบอกกับไม้ฉาก แล้วอีกสักพักผมเหมือนรู้สึกว่ามีมืออุ่นๆมาลูบหัวผม
ก็คงเป็นมือของไม้ฉากนั้นแหละ ผมจำสัมผัสนี้ได้ : )


“มันอดทนเพื่อกูเยอะเลยละ  กูไม่รู้จะบอกกับมันยังไงเลยวะมึง 
ไม่อยากให้มันต้องอดทนรอกู  ไม่อยากให้มันต้องร้องไห้อีกแล้ว”


อดทนรอ?
ไม้ฉากจะไปไหนอีกงั้นหรอ?

อยากจะตื่นขึ้นมาถามให้รู้เรื่อง แต่แกล้งนอนหลับไปก่อนก็ได้ - -‘

“นราธิวาสเลยนะมึง  3 จังหวัดชายแดนใช่ไหมที่ว่ายังมีระเบิดยังมียิงกันอยู่นะ”
พู่กัน !! มึงพูดว่าอะไรนะ

นราธิวาส?

เห้ยย อย่าบอกนะว่า ......


“ใช่ที่นั้นแหละ กูต้องไปฝึกที่นั้นอีก 6 เดือน”
ไม้ฉากต้องไปนราธิวาสอีก 6 เดือน
นี้มันอะไรกับชีวิตกูวะเนี้ย!!!!!

รอมา 1 ปี นึกว่าจะได้อยู่ใกล้ๆกัน
หรือจะอยู่คนละจังหวัดแต่ได้ติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์บ้าง
ได้นัดเจอกันได้ทานข้าวด้วยกันบ้าง
แต่นี้ไม้ฉากจะไปนราธิวาส!

นั้นมันพื้นที่สีแดง ที่ใครๆก็ไม่อยากไป
ทำไม  !!  ทำไม  !!  ทำไม  !!  ทำไม  !!



“กูไม่อยากบอกปั้นมันตอนนี้ กูอยากใช้เวลากับมันให้มากๆ
อยากพามันไปซื้อของ ไปกินอาหารญี่ปุ่น ไปทะเล ไปน้ำตก แบบที่มันอยากไป
กูไม่อยากเห็นหน้าเศร้าๆของมันอีก
กูไม่อยากเห็นมันต้องฝืนยิ้ม หรือต้องฝืนเข้มแข็งเพื่อให้กูสบายใจ”

ไม้ฉากพูดกับยูโร และพู่กันไปเรื่อย
เสียงก็เริ่มสั่น ปนกับเสียงสะอื้นเล็กน้อย
แต่ก็ยังเอามือมาลูบหัวผมตลอดเวลา

“แต่กูว่าปั้นมันเข้าใจนะเว้ยไม้ พวกมึงคบกันมา 13 ปีแล้วนะ
เรื่องแค่นี้ปั้นมันไม่งี่เง่าหรอกนะ”
ยูโรบอกกับไม้ฉาก
ซึ่งมึงเข้าใจถูกแล้วยูโร
กูไม่งี่เง่าหรอก '


“งั้นพรุ่งนี้พวกเราเก็บกระเป๋าแล้วไปทัวร์กันเถอะ
ไปตะเวนไหว้พระที่อยุธยากัน แล้วขับรุไปเชียงใหม่กันไหมมึง
กูอยากไปดูสาวๆเจียงใหม่ เปิ้นบอกว่างามขนาด”

เสียงพู่กันออกความคิดเห็น
เอาจริงๆนะตอนแรกกูกำลังจะดีใจที่มันชวนทำบุญ
พอเจอคำว่าสาวๆงามขนาด นี้เริ่มจะมองไม่เห็นความหวังดีในตอนแรกแล้วละครับ - -


“ก็ดีเหมือนกัน ปั้นมันชอบภาคเหนือ แต่กูได้พักแค่ 3 วันนะ
เราไปเชียงใหม่เลยได้ปะวะ อยุธยาเดี๋ยววันหลังค่อยไปกัน”

ไม้ฉากบอกกับพู่กัน

“มึงว่าไงกูก็ว่างั้นแหละ แต่นี้ตี 4 กว่าแล้ว กูว่าเราไปนอนเถอะ
หรือไม่นอนดีวะ เดี๋ยวตื่นสาย กูไปปลุกจานสีมาทำกับข้าวดีกว่า”

ผมว่านะพอพู่กันพูดเสร็จแล้วมันต้องไปตามจานสีแน่ๆ
เพราะได้ยินเสียงเปิด-ปิดประตูห้อง

“งั้นกูพาปั้นไปนอนในห้องนะ  แล้วจะมาช่วยมึงเก็บของ”
ไม้ฉากพูดเสร็จแล้ว  ก็อุ้มผมเข้ามานอนในห้องนอน



“ได้ยินหมดแล้วใช่ไหม”
ไม้ฉากล้มตัวมานอนใกล้ๆผม ก่อนจะถามผมออกมา

“รู้ด้วยหรอว่าปั้นตื่นแล้ว”
ไม้ฉากยิ้มให้ผม ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด

“รู้สิ นอนทำตายุกยิกแบบนั้น จะไม่รู้ได้ไงกัน”
ไม้ฉากพูดเสร็จแล้วก็เอามือมาหยิกแก้มผม
เออคือ มึงจะหยิกแก้มกูทำไม T^T เจ็บนะเว้ยย
หรือว่าผมอ้วนขึ้น แก้มเลยออก มันถึงชอบหยิกแก้ม

“ต้องไปจริงๆงั้นหรอไม้”
ผมนอนซบอยู่บนอกของไม้ฉาก เอามือกอดเอวของไม้ฉากไว้

“ไม่ต้องกังวลนะ ไปแค่ 6 เดือน”
ทำไมมึงพูดดูชิวๆ สบายๆแบบนั้นละครับ
6 เดือน ,, กูจะนอนหลับไหม?
ยิ่งกว่าฝึกในโรงเรียนอีกนะเว้ยย
นั้นมันสถานที่จริงนะไม้ !!!

“จะกลับมาใช่ไหม?”
ผมเงยหน้าไปมองหน้าไม้ฉาก
ซึ่งมันก็ก้มมามองหน้าผมเหมือนกัน


“สัญญา จะกลับมาแน่นอน”
ไม้ฉากให้สัญญากับผม พร้อมกับรอยยิ้มที่มันมั่นใจ
ว่ามันจะกลับมาแน่นอน

“ไม่เป็นไรหรอกนะ กูไปแค่ 6 เดือน แล้วหลังจากนั้นกูมาประจำที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่
ปั้นชอบเมืองเหนือนิ คราวนี้ไม้จะพาเที่ยวทุกที่เลย ไปกินสตอร์เบอร์รี่กัน ของชอบปั้นไง”

ไม้ฉากมันพูดแล้วก็หันมายิ้มบอกผม


ผมรู้ว่าไม้ฉากพยายามพูดให้ผมสบายใจ
คบกันมา 13 ปีแล้วทำไมจะดูไม่ออก
ว่ามันเองก็กังวลเหมือนกัน

“อืมม งั้นหน้าหนาวคราวหน้ากูไปอยู่กับมึงที่เชียงใหม่นะ”
ผมทำได้แค่ยิ้มกลับไปให้มัน
และบอกกับตัวเองว่าจะทำตัวให้เข้มแข็ง
ไม่ทำให้มันต้องห่วง.


ผมเงยหน้าไปมองหน้าไม้ฉากอีกครั้ง

“ยินดีกับมึงด้วยนะ ที่มึงสำเร็จในเรื่องการเรียนในวันนี้
โตขึ้นอีกก้าวแล้วนะ  สิบตำรวจตรีภาคิน”


พอไม้ฉากมันได้ยินสิ่งที่ผมพูดกับมันไป มันก็ยิ้มให้ผม
ก่อนจะโน้มหน้าลงมาจูบผม
เป็นจูบแรกในรอบ 3 เดือนของผมกับไม้ฉาก
จูบที่มีรสหวานของความรักและรสหวานของความคิดถึง
ที่พวกเราจะจดจำกันไปอีกนานแสนนาน ’




อีกกี่ปัญหาก็ตามแต่ เข้ามาเหอะ ,,
ตอนนี้พร้อมรับมือหมดทุกอย่าง
ขอแค่รอยยิ้มของไม้ฉาก จะยังมีแบบนี้ตลอดไป
ผมยอม : )

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
วันนี้อัพไวเนอะ 555+
ช่วงนี้อาจจะขยันอัพทุกวัน ยังไงฝากติดตามและให้กำลังใจเด็กๆด้วยนะค่ะ
คำผิดเดี๋ยวเจตามแก้ให้นะ

ขอบคุณทุกๆคอมเมนต์ที่ให้กันนะคะ
ขอบคุณคำแนะนำดีๆ คำติคำชมต่างๆเจน้อมรับเสมอค่ะ

ตอนนี้ไม้ฉากของเราต้องไปฝึกแล้ว สถานที่จริง
และการไกลกันอีกครั้งของทั้ง 2 คน
ขอแอบสปอยว่า ... ครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนตอนเรียนแน่นอนค่ะ

^____^ มาให้กำลังใจน้องๆกันนะคะ'

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เฮ้อออ อุปสรรคมากจริงคู่นี้ สู้ๆ กันต่อไปนะไม้ฉาก ปั้นสิบ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
บททดสอบมันเยอะเหลือเกิน.  :hao5:   

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จ้ะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
บททดสอบมันจะมีค่าก้ต่อเมื่อผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยกันโดยไม่ว่อกแว่ก
แต่ทุกอย่างที่ทำ+ทนมาจะสิ้นค่าทันทีที่ปล่อยมือออกจากกัน
หนทางอยู่ด้วยกันไม่ง่าย ไม่ลื่นไหล แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
อย่ามัวคิดถึงแต่ความสุขของคนอื่นจนลืมนึกถึงความสุขของตัวเอง
สั้นๆนะ อย่าปล่อยมือกัน   แค่นั้นค่ะแล้วจะรู้ว่าทุกอย่างมันยิ่งกว่าคุ้มค่า

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
Ch 66   ในวันที่เราต้องไกล || ไม้ฉาก



หลังจากที่พู่กันเข้าไปปลุกจานสีให้มาทำมื้อเช้าให้ทาน
เปาก็เลยตื่นมาช่วยยูโรเก็บของด้วย
ผมนอนคุยกับปั้นสิบแป๊บหนึ่งก็ออกมารวมกับเพื่อนๆข้างนอก

ตอนนี้หกโมงเช้าละครับ พวกผมนั่งทานมื้อเช้าง่ายๆกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร

“ไม่เอารถตู้ไปนะ ไม่ทันแน่ๆ นั่งเครื่องกันเถอะ”
ไนซ์ที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่หันมาบอกพวกผม
มันกำลังขอเลื่อนคิวงานครับ จริงๆมีถ่ายแบบวันพรุ่งนี้

“แต่ถ้าเอารถตู้ไปเราแวะเที่ยวกลางทางได้นะ” พู่กันก็ยังอยากจะแวะเทียวต่อครับ

“เอาไว้วันหน้า กูจะพามึงเที่ยวจนครบ 77 จังหวัดเลย
แต่คราวนี้ขอไปเชียงใหม่ก่อน  ตกลงไหมแฝด”
ไนซ์หันไปต่อรองกับพู่กัน

พู่กันมันก็ต้องยอมครับ เพราะพวกผมทุกคนก็เห็นด้วยว่านั่งเครื่องไปดีกว่า
แต่ละคนมีเวลากันแค่ไม่กี่วันด้วย

“งั้นกูจองตั๋วเครื่องบินให้เอง พวกมึงไปเก็บเสื้อผ้าเถอะ
แล้วไปเจอกันที่ดอนเมืองไม่เกินแปดโมงเช้านะ”

พูดเสร็จไนซ์ก็เดินออกจากห้องไป  มันต้องกลับไปเตรียมเสื้อผ้าที่คอนโดมันก่อน

“แล้วนี้ใครโทรบอกคะน้ายัง เผื่อมันจะกลับพร้อมเรา”
เปาหันมาถามพวกผม  ซึ่งเอาจริงๆนะ ผมว่าทุกคนลืม 555+

“เค้าไลน์ไปบอกแล้ว คะน้าบอกว่ามันจะตามกลับไปรอบเที่ยง
ยังไงให้พวกเราไปเที่ยวกันก่อนเลย  แล้วมันจะโทรหาอีกที”

อ่ออ  ยังมีจานสีที่นึกถึงคะน้าครับ

“ไม้ สรุปมึงไปใต้ใช่ปะวะ” จานสีหันมาถามผม
เจ้าเตี้ยที่กำลังกินโอวันตินอยู่ หันมามองหน้าผม
ถึงจะคุยกันเข้าใจแล้ว แต่ปั้นสิบมันก็ยังเป็นปั้นสิบที่ชอบงอแงเหมือนเดิมนั้นแหละครับ

“อือไปดิ แต่ไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ ขอไม่พูดถึงละกันนะมึง
ถือซะว่าพวกเราไปเที่ยวไปทำบุญกันก็พอ”

ผมพูดแล้วพยายามยิ้มให้เจ้าเตี้ย ที่มันเริ่มเบ้ปากใส่ผมเล็กน้อย
มันไม่ด่ากลับก็ดีแล้วละครับ เพราะตอนที่นอนเล่นกันในห้อง
ผมไปแกล้งมันไว้ 5555
ก็หลังจากที่มันจูบผมแล้วใช่ไหมครับ คนเรามันก็นะ ห่างกันไปนาน
ผมก็ไม่ได้หยุดแค่จูบ  แอบสานต่อเล็กน้อย 555+
(เล็กน้อยจริงๆ อันนี้ยืนยันด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง กองที่ 3)


“งั้นรีบกินรีบเก็บของเถอะ จะได้ไปนั่งพักผ่อนเอาแรงกันที่ดอนเมือง
ไปเชียงใหม่ทั้งทีมันต้องไปเที่ยวผับอะไรนะที่มันดังๆอะ”

พู่กันหันไปถามจานสี 
จานสีทำหน้าเบื่อๆใส่เล็กน้อย
ก่อนจะหันไปเอาทิชชู่เช็ดปากที่เปื้อนไปด้วยแยมส้มให้พู่กัน

“กินให้หมดก่อนค่อยพูดได้ไหม  วอร์มอัพ แถวนิมมาน ไอ้เรื่องเที่ยวๆนี้อยากจะไปจริงๆนะ”
จานสีเริ่มติดเชื้อบ่นเก่งมาจากเปา  หรือปกติมันบ่นเก่งอยู่แล้ววะ 555+

“หือออ เค้าอะอยากเที่ยว แต่ตัวอะรู้จักชื่อที่เที่ยว ใครมันคิดแต่เรื่องเที่ยวๆพูดดิ”
พู่กันหันไปยิ้มให้จานสี ก่อนจะนั่งกินขนมปังต่อ

“งั้นกูเก็บของก่อนเลยละกันนะ”
ปั้นสิบวางแก้วโอวัลตินไว้บนโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนใหญ่
ซึ่งเป็นห้องนอนของปั้นสิบเอง

“มันงอนอะไรมึงหรือป่าว ดูมันตาแดงๆช้ำๆ” ยูโรหันมาถามผม

“ไม่รู้ดิ เดี๋ยวกูตามไปดูก่อนละกัน” ผมรีบเดินตามปั้นสิบเข้าไปในห้อง
เห็นปั้นสิบกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
ผมเลยไปนอนข้างๆปั้นสิบ แล้วดึงมันมากอด

“เป็นไรครับ หื้มม หน้าตาไม่สดชื่นเลย”
ปั้นสิบเงยหน้ามามองผมเล็กน้อย ก่อนจะผลักตัวผมออก

“มึงลองเป็นฝ่ายโดนทำบ้างดิจะได้รู้ว่ามันเจ็บ  กูปวดตัวปวดขามากๆด้วย”
หื้มมม บ่นๆแต่ก็ขยับตัวมาซุกอกผม นี้จะอ้อน หรือจะด่า เอาไงแน่เตี้ยยยย

“โอ๋ๆขอโทษนะ ก็ปั้นอะยั่วเอง มาจูบไม้ก่อนทำไมละ ใครจะอดใจไหว”
ผมก้มลงไปหอมแก้มปั้นสิบ ก่อนจะดึงแก้มมันเล่น
ไม่รู้ทำไม แก้มมันน่าดึง น่าหยิกมากๆ

“คือพวกมึงครับ กูให้เก็บเสื้อผ้าไม่ใช่มานอนกอดกัน ไอ้เชรี้ยยยเดี๋ยวไปไม่ทันเครื่อง”
ยูโรเดินมานอนเบียดข้างๆผม ส่วนพู่กันก็มาเบียดข้างๆปั้นสิบ
เออ ,, ไม่น่าลืมปิดประตูห้องเลย T^T

“จะนอนเบียดกันไปถึงไหนวะ กูก็ง่วงนะ”
จานสีเดินมานอนทับตัวผมกับปั้นสิบเลยครับ

“พวกมึงเลิกเล่นกันซะที นึกว่าอยู่ ป.4 หรือไง เก็บของเดี๋ยวนี้!”
พอเปาพูดจบเท่านั้นแหละครับ ทุกคนรีบลุกออกจากที่นอนแล้วไปเก็บเสื้อผ้ากันทันที
55+ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องกลัวเปา
รู้แต่ว่าถ้าเปามันเริ่มบ่นเมื่อไหร่ .. ให้รีบลุกแล้วรีบห่างให้ไกลจากมันที่สุด



พวกผมเก็บของกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่ง Taxi มาดอนเมืองกัน
ต้องนั่ง Taxi  2 คันครับ ยัดกันไม่ไหว คนเยอะเกิน แล้วแต่ละคนก็ไม่ใช่จะตัวเล็กๆ

มาถึงดอนเมืองก็เจอกับไนซ์มายืนรออยู่แล้ว

“มาช้ากันเนอะพวกมึง เอาบัตรประชาชนมาเร็วๆ”
ไนซ์ยื่นมือมาขอบัตรประชาชนพวกผม เพื่อจะเอาไปเช็คอินที่เค้าท์เตอร์ให้

“สวัสดีครับทุกคน  ฝากไนซ์ด้วยนะครับ”
ชายหนุ่มสุดหล่อ นัยน์ตาสีฟ้า ผิวขาว ขาวแบบขาวซีดเลยละครับ
ส่งเสียงทักทายพวกผม
ผมจำได้นะว่าคนนี้คือคนที่อยู่กับไนซ์ที่คอนโด

“อ่ออ คุณนั้นเอง สวัสดีครับ”
ผมหันไปยิ้มทักทายให้กับชายนัยน์ตาสีฟ้าคนนั้น

“ผม เรย์ นะครับ ยินดีด้วยนะครับที่ติดยศตำรวจเรียบร้อยแล้ว”
เรย์ยื่นมือมาจับมือผม  ก่อนจะหันไปยิ้มให้เพื่อนๆผมต่อ

“มึงๆ ใครวะ”
พู่กันมากระซิบถามผม
แต่ผมไม่ทันตอบพู่กันหรอกครับ  เรย์ก็ส่งเสียงมาทักพู่กันซะก่อน


“ผมผู้จัดการส่วนตัวของไนซ์ครับ ยินดีที่ได้เจอนะครับ พู่กัน จานสี  twins secret”
เรย์พูดจบก็ขยิบตาให้พู่กันกับจานสี ก่อนจะหันไปทักทายยูโรกับเปา
ส่วนพู่กันกับจานสี กำลังยืนมองหน้ากัน  งงๆ

twins secret งั้นหรอ? 
เรย์รู้อะไรเกี่ยวกับแฝด 2 คนนี้กันแน่?


“เห้ยย มาได้ไง”
ไนซ์เดินออกมาเห็นเรย์ก็ร้องตกใจ ที่เรย์ยืนอยู่กับพวกผม
ผู้จัดการส่วนตัวมาส่ง ทำไมมึงต้องตกใจวะไนซ์ - -'

“ก็มาส่งไนซ์ไง เดี๋ยวกลับละ นี้กำลังทักทายเพื่อนของไนซ์อยู่”
เรย์หันไปมองไนซ์นิดหนึ่ง แล้วหันมาทักทายปั้นสิบต่อ

“เฮ้ ,, ปั้นสิบ  ยินดีที่ได้เจอนะ “
เจ้าเตี้ยข้างๆผมทำหน้าตกใจนิดหน่อยที่อยู่ๆเรย์ก็ทักทายเสียงดัง

“อ่ะ อ่อครับๆ ยินดีครับ”
ปั้นสิบตอบไปเสียงสั่นๆ  มันก็คง งง กับคนแปลกหน้านั้นแหละครับ
ใครจะไม่ งง บ้างละ อยู่ๆก็ทักทายพวกผมเหมือนรู้จักกันมานาน
หรือว่าไนซ์เอาเรื่องพวกผมไปเล่าให้ผู้จัดการส่วนตัวฟัง?
แต่ถ้าเป็นคนของพี่ป๊อกกี้ ผมน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาบ้างสินะ
เพราะผมก็เคยทำงานกับพี่ป๊อกกี้เหมือนกัน

“อดทนนะตัวเล็ก เก็บเกี่ยวความสุขให้มากๆ และท้ายที่สุดถึงจะเกิดเรื่องราวอะไรก็ตาม
ยิ้มรับมันไว้ แล้วบอกตัวเองไว้เสมอว่า คุณทำมันดีแล้ว 
แล้วคุณจะผ่านเรื่องราวทุกอย่างไปได้แน่นอน You can do it! “

เอาอีกแล้ว ,, เรย์พูดจาแปลกๆกับปั้นสิบอีกแล้ว - -‘

“เห้ยยเรย์พูดมากนะ   รีบกลับไปเลยปะ”
ไนซ์รีบไล่เรย์ให้กลับไป แต่เรย์ก็ไม่ยอมไปครับ ยังยืนหัวเราะก่อนจะมองมาที่พวกผม

“ครับๆ จะกลับแล้วครับนายท่าน  ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ และขอให้สนุกกับทริปนี้นะครับ”
ไนซ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่เห็นเรย์เดินออกไป

“อย่าไปฟังคำมันมากเลย ไม่ค่อยจะเต็มเท่าไหร่นักหรอก”
ไนซ์พูดจบก็ยื่นเอกสารและบัตรประชาชนให้พวกผม

แต่คำของเรย์ที่พูดกับปั้นสิบก็ทำให้ผมคิดมากอยู่ดีครับ
ทำไมเรย์พูดแบบนั้น??



พวกเรามาถึงเชียงใหม่กันก็เกือบๆจะเที่ยงแล้วครับ
เลือกที่พักกันไม่ยากเลย  พักกันแถว นิมมาน นั้นแหละครับ
ใกล้ที่กิน ใกล้ที่เที่ยว

ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่มีการวางแผน ทานข้าวเสร็จถามกันว่าอยากไปไหน
ถ้าเพื่อนๆลงความเห็นว่าโอเค ก็ไป ไม่ต้องคิดวางแผนการเดินทางให้เสียเวลาครับ
เหมารถสองแถวยอดฮิตในเชียงใหม่ไว้เลย 
อยากไปไหนบอกพี่เค้าเท่านั้นแหละ  ได้ไปทุกที่ครับ
ไนซ์ซาฟารี  ไนซ์บาซาร์  สวนสัตว์เชียงใหม่
ดอยสุเทพ ดอยปุย  ฯลฯ
เป็นช่วงเวลา 2 วัน 1 คืน ที่อยู่เชียงใหม่ได้แบบคุ้มค่ามากๆ


และแล้ววันเวลาที่เที่ยวเล่นมันก็ต้องมีวันหมดครับ
ตอนนี้พวกผมมาอยู่ที่ สนามบินเชียงใหม่ เตรียมตัวกลับกรุงเทพแล้ว

“ไม้ ดูแลตัวเองดีๆนะเว้ย อีก 6 เดือนนะ กูกับคะน้าจะรอรับมึงที่เชียงใหม่
แล้วพวกเราจะมาฉลองต้อนรับมึงอีกรอบ  กูรักมึงนะเพื่อน

เลน่อนดึงผมเข้าไปกอด  ก่อนจะตบหลังผมเบาๆ

“อืมม กูก็รักมึง ขอบใจมาก ตั้งใจเรียนละ ดูแลคะน้าดีๆ แล้วเจอกัน”
ผมผละออกจากมัน ก่อนจะหันไปยิ้มให้คะน้า

“ฝากเพื่อนตัวยักษ์ของไม้ด้วยนะคะน้าคนสวย”

“อร๊ายยยยตาถึงนะเรานะ  ได้เลยคะน้าจะดูแลน่อนให้เป็นอย่างดี
ไม้ดูแลตัวเองดีๆ แล้วรีบๆกลับมานะ
คนแถวนี้จะได้ไม่งอแงจนเตี้ยลงไปกว่าเดิม”

คะน้าพูดเสร็จก็หัวเราะชอบใจ ที่ปั้นสิบมันเดินเข้าไปเขกหัวคะน้า
โทษฐานที่เอาความเตี้ยของมันมาล้อเล่น

“โอเค แล้วเจอกันนะเว้ยย” พวกผมโบกมือลาเลน่อนกับคะน้า
ก่อนจะขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพกัน


พอมาถึงดอนเมือง ผมก็ต้องลากับไนซ์อีกครั้ง
วันนี้มีแต่บอกลาเพื่อนจริงๆ - -'

“งั้นกูลามึงตรงนี้เลยนะไม้  โชคดีเว้ยเพื่อน อีก 6 เดือนมาฉลองกันอีกรอบนะ”
ไนซ์ไม่ได้ดึงผมไปกอดเหมือนที่เลน่อนทำ แต่ตบบ่าผมเบาๆ
ก่อนจะหันไปบอกพู่กันจานสีให้เดินทางกลับอังกฤษปลอดภัย
แล้วสักพักเรย์ก็เดินมาช่วยไนซ์หิ้วกระเป๋า แล้วเดินออกไป

“เหลือพวกเรา 6 คนแหละ กลับกันเถอะวะ ง่วงแล้ว”
ยูโรชวนพวกผมกลับคอนโดปั้นสิบ ก่อนจะลากกระเป๋าแล้วไปเรียก Taxi
พวกเราเหนื่อยกับการเดินทาง แล้ววันนี้ทั้งวันก็เที่ยวกันมาทั้งวัน
เลยแยกย้ายกันเข้านอน  ซึ่งผมกับปั้นสิบนอนห้องคุมะเหมือนเดิม

“พรุ่งนี้ไปกี่โมง” ปั้นสิบอาบน้ำเสร็จแล้ว เดินมานั่งข้างๆเตียง
ส่วนผมอาบน้ำก่อนปั้นสิบอีกครับ 555+ ตอนนี้กำลังนอนเล่นเกมส์ในมือถือปั้นสิบ

“ตามหนังสือสั่งให้ไปรวมพลที่สำนักงานตำรวจ  พ่อกับแม่บอกว่าจะไปรอส่งที่นั้นเหมือนกัน”
ผมวางมือถือไว้ข้างๆตัว ก่อนจะดึงปั้นสิบให้ลงมานอนข้างๆ

“พ่อแม่ไปส่ง งั้นปั้นไม่ไปนะ”
อ้าววเจ้าเตี้ยเอ้ยย ถ้าไม่ไปแล้วผมจะเอากำลังใจที่ไหนไปทำงานละครับ

“ไปสิ ถ้าปั้นไม่ไป แล้วไม้จะมีกำลังใจไปทำงานหรอ”
ผมหันหน้าไปมองปั้นสิบ  ต้องอ้อนหน่อยครับ 555

“ก็เดี๋ยวพ่อไม้เห็นหน้าปั้นแล้วจะโมโหใส่อีก
ไม่อยากให้พ่อของไม้โมโหบ่อยๆ เดี๋ยวท่านจะความดันขึ้น”

อยากจะให้รางวัลแฟนที่แสนดีจริงๆ
เป็นห่วงพ่อของผม ทั้งๆที่พ่อของผมต่อยตีปั้นตั้งหลายครั้ง

“ขอบใจนะที่เป็นห่วงพ่อของไม้  แต่ไปส่งไม้เหอะนะ 
ยูโร เปา พู่กัน จานสีก็ไป พ่อไม่ทำอะไรหรอก”

ผมยังหันไปอ้อนปั้นสิบต่อ จนปั้นสิบยิ้มออกมาให้ผม

“อืมม ไปส่งก็ได้ งั้นไม้รีบนอนเหอะนะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางเช้า”
พูดจบปั้นสิบก็เดินไปปิดไฟ ก่อนจะล้มตัวนอนข้างๆผม

“คืนนี้ให้แค่นอนกอดนะ ถ้ามากกว่านั้นละมีถีบตกเตียงแน่ๆ”
เอากับเค้าสิครับ แทนที่จะฝากรักให้ได้คิดถึงกันตอนห่าง
นี้ขู่ว่าจะถีบด้วย 5555+ แต่เชื่อผมเถอะ ว่าผมเก่งกว่าปั้นสิบเยอะ : )

“ครับๆ นอนเถอะนะ ฝันดีนะปั้นสิบ”
ปั้นสิบเห็นท่าทางผมแล้วว่าคงจะยอมนอนหลับจริงๆ
เลยขยับมาซุกตรงอกผม  ผมก็เริ่มแกล้งปั้นสิบไปทีละนิดทีละหน่อย
แล้วเตี้ยตัวน้อยๆก็เสร็จหมาป่าสุดหล่อแบบผมจนได้ครับ



เช้าวันต่อมา
เสียงปั้นสิบบ่นผม ดังไปทั้งห้องคุมะเลยครับ 555+


“เก็บเสื้อผ้าไปเลย ไม่ต้องหันมายิ้ม ไอ้เชรี้ยย บอกให้นอนไม่นอน เล่นซะเกือบเช้า
เสื้อผ้าก็ไม่ยอมเก็บ เครื่องแบบอยู่ไหนก็ไม่เตรียม”

ตอนนี้มันกำลังเดินท่าทางแปลกๆไปรอบห้องเพื่อหาเครื่องแบบตำรวจให้ผม
มันเอาไปซัก แล้วมันลืมว่ามันเอาเข็มขัด เอาของๆผมวางไว้ตรงไหน
5555+ จะขำมันก็ตรงท่าเดินนี้แหละ

“แม่กูเตรียมกระเป๋าให้แล้ว นี้แค่ใส่ชุดเครื่องแบบไปเท่านั้นเอง
ต้องเตรียมอะไรมากมายที่ไหนละ แล้วจะเดินหาทำไม เข็มขัดอยู่ตรงโต๊ะข้างห้องน้ำไง”

คือจริงๆผมเตรียมไว้แล้ว แต่เมื่อเช้าผมแกล้งเดินหาไปมารอบห้อง
เพื่อจะให้ปั้นสิบวุ่นวายกับการหาของให้ผม
มันจะได้ไม่บ่นผมเรื่องที่ผมแกล้งมันเมื่อคืน

“ก็รีบแต่งตัวสิวะ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนนะ”
พูดเสร็จแล้วมันก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ผมเลยรีบแต่งตัว
เพราะถ้ามันออกมาแล้วผมยังนั่งเอ้อระเหยลอยชายอยู่
ผมคงโดนมันด่าอีกแน่ๆ

“ก๊อก ก๊อก”

“ไม้ ไม้ ตื่นยัง”
เสียงของพู่กันตะโกนเรียกผม
ผมเลยเดินออกไปเปิดประตูห้องให้มัน

“อืมม แต่งตัวอยู่ มีไรวะ นี้พวกมึงตื่นกันหมดละหรอ”
ผมมองไปที่โต๊ะอาหาร ตอนนี้ยูโร เปา จานสีกำลังนั่งทานข้าวอยู่

“พวกกูตื่นนานละ แต่ไม่อยากมาปลุกมึงเช้า เพราะเมื่อคืนกูคิดว่าห้องมึงคงมีสงคราม 5555+”
พู่กันมันพูดแซวๆผม ก่อนจะยิ้มทำหน้าทะเล้นตามประสามันนั้นแหละครับ

“กวนตีนนะมึง อย่าไปพูดให้ปั้นมันได้ยิน เดี๋ยวมันด่ากูอีก”
พอผมพูดจบพู่กันมันก็หัวเราะ ก่อนจะดึงมือผมให้เดินไปที่ห้องนอนใหญ่

“มัวแต่อยู่ห้องคุมะ มึงมาดูนี้ๆ ปั้นมันทำให้มึง”
ผมเดินตามพู่กันไปที่ห้องนอนใหญ่ ก็เห็นที่ผนังห้องฝั่งหนึ่ง
มีแต่รูปผมกับรูปปั้นสิบแปะอยู่เต็มผนังเลยครับ
แต่ละรูปก็จะมีโฟสอิสแปะไว้ เขียนอธิบายว่าวันนั้นเราไปทำอะไรกันมาบ้าง

“วันนี้ทะเลสวยมาก มึงนอนอยู่หัวเรือ แต่กูนั่งเกาะขอบเรือแน่นเลย
กูกลัวตกทะเล มึงก็บอกว่า ปลาทะเลไม่กินคนเตี้ย
ฟังแล้วอยากจะถีบมึงให้ตกทะเลจริงๆ

แต่กูชอบนะที่เราได้ไปทะเลด้วยกัน”


เป็นรูปตอนที่ผมนอนมองปั้นสิบ ที่นั่งเกาะขอบเรือแน่นเลยครับ
ตรงกลางเรือมีให้นั่งไม่ยอมนั่ง ดันไปนั่งซะขอบเรือแบบนั้น
ไม่กลัวก็แปลกแล้วละ
ในรูปหน้ามันตลกมาก กลัวก็กลัวแต่ยิ้มสู้กล้อง 5555+


ผมยืนดูรูปแต่ละรูปไป แล้วก็อ่านข้อความพวกนั้นไปด้วย
น้ำตาก็คลอออกมา ,,

ปั้นสิบไม่ใช่แค่แฟน ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท
แต่ปั้นสิบมันเหมือนชีวิตผม
ทุกๆความทรงจำ มันมีปั้นสิบอยู่ในนั้นเสมอ


“จะร้องไห้ทำไมละ รีบๆกลับมา แล้วมาช่วยกันแปะรูปให้เต็มห้องเลยนะ”
ปั้นสิบเดินมายืนข้างๆผม ก่อนจะจับมือผมไว้

“อืมม รอใช่ไหม”

“ไม่รอหมาป่าอย่างไม้ แล้วจะให้ปั้นไปรอหมาขี้เรื้อนที่ไหนละ”

โหยยย ไอ้เตี้ย ,, มึงน่ารักอะ >////<
แต่ถ้าไม่มีคำว่า หมาขี้เรื้อนนะ มึงจะน่ารักกว่านี้มากกกก.

ผมดึงปั้นสิบมากอด ปั้นสิบก็กอดผมกลับมา
ก่อนจะเอามือตบหลังผมเบาๆ

“ดูแลตัวเองดีๆ รักษาสุขภาพให้มากๆ หัวหน้าสั่งอะไรก็ปฏิบัติตามนะ
อย่าดื้อ อย่าโมโหง่าย และอดทนให้มากๆ   กูรออยู่ที่นี้เหมือนเดิม”


พอปั้นสิบพูดจบ ผมก็ผละตัวปั้นสิบออก ก่อนจะมองหน้าปั้นสิบอีกครั้ง

อีก 6 เดือนกว่าผมจะได้กลับมากอดมันอีก
อีก 6 เดือนกว่าจะได้มองหน้ามันแบบนี้



“กูรักมึงนะปั้น”

“อืมม กูก็รักมึง”

ปั้นสิบยิ้มให้ผม ก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาให้
อายไหมละ ใส่ชุดตัวรวจเต็มที่เลย ร้องไห้ให้แฟนตัวเองซับน้ำตาให้
ไอ้ไม้เอ้ยยยย T^T



“กูไม่อยากขัดหรอกนะ แต่แม่มึงโทรมาวะไม้”
ยูโรเดินเข้ามายื่นมือถือให้ผม
ผมก็หันไปยิ้มให้ยูโร ก่อนจะยื่นมือไปรับมือถือมาถือไว้

“รับสายแม่เถอะ เดี๋ยวปั้นไปรอข้างนอก”
ปั้นสิบพูดเสร็จก็เดินออกไปกับยูโร

ผม :: ครับแม่

แม่ :: มาเจอกันตอน 10 โมงนะ ไม่ต้องให้เพื่อนมาส่ง
เพราะเค้าจะให้ขึ้นรถเดินทางตอนบ่ายเลย
มาคนเดียวก็พอ ไม่อยากให้พ่อเราโมโห

ผม :: ครับ



แม่พูดจบก็กดตัดสายไป ,,
ทำไมต้องห้ามให้เพื่อนไปส่ง?
ทำไมพ่อจะต้องไม่พอใจอะไรอีก?

ผมเรียนตำรวจจบแล้ว ติดยศแล้ว
เพื่อนที่เรียนด้วยกันมา ก็รอเวลาเข้าประจำการตามสถานีตำรวจหมดแล้ว
และผมเองก็กำลังจะลงไปฝึกที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผมตามใจพ่อหมดแล้ว ,, ทำไมพ่อยังไม่พอใจอีก?


“พ่อครับ ผมไปฉลองกับเพื่อนนะครับ”
ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อน ที่ผมเดินเข้าไปขออนุญาตพ่อมานอนกับเพื่อนๆในกรุงเทพ

“ไปสิ แต่อีก 3 วันไปเจอกันที่กรมนะ”
3 วัน ไปทำไมวะ? หรือผมได้ลงส่วนกลาง
เพราะตอนที่ได้เลือกสถานที่ลงทำงาน ผมเป็นคนเดียวในรุ่นที่ไม่ได้เลือก
เพราะเหตุใดนั้นผมไม่อยากคาดคิดครับ ตั้งแต่มาเรียนที่นี้ผมโดนแกล้งให้วิ่ง
โดนลงโทษทั้งๆที่ไม่ผิดบ่อยมาก
ก็พอรู้ว่ามาจากพ่อของพี่อุ้มที่สั่งมาแน่นอน 
พวกราฟก็บอกว่าคนของพ่อพี่อุ้มมีเยอะเลยที่นี้
ผมก็อดทนมาตลอด คิดแค่ว่าจบไปแล้วพ่อคงยอมรับในตัวผม
แต่สุดท้าย... พ่อก็ยังไม่ยอมรับในสิ่งที่ผมเป็นอยู่ดี


“ไปทำไมครับพ่อ ผมได้ลงส่วนกลางหรอครับ”
ผมหันไปมองหน้าแม่ที่นั่งหน้าเครียดๆอยู่ข้างๆพ่อ

“ป่าว แกได้ไปฝึกที่ใต้”
ห๊ะ ,, ตอนแรกผมได้ยินคำว่า ใต้ ผมตัวเย็นเฉียบเลยครับ
ก็ทราบกันดีว่าที่นั้นอันตรายมากแค่ไหน
แต่พ่อพูดได้ด้วยสีหน้าที่ยิ้มๆ ว่าผมต้องไปฝึกที่ใต้
พ่อไม่ห่วงผม? หรือเพราะอะไรทำไมพ่อถึงยิ้ม

“จังหวัดไหนครับพ่อ”

“นราธิวาส”

พอพ่อพูดจบ แม่ก็เริ่มจะสะอื้นขึ้นมาอีกรอบ จนพ่อต้องหันไปมอง

“จะไปกับเพื่อนก็ไปสิ เพราะหลังจาก 6 เดือนนี้แกต้องกลับมาทำงาน
และแกจะไม่มีเวลามาทำตัวไร้สาระกับเพื่อนวัยเด็กของแกแล้ว”

พอสิ้นคำของพ่อ ผมก็เดินมาหาเพื่อนที่รถตู้เลย
โดยไม่หันไปมองหน้าพ่อกับแม่ด้วยซ้ำว่าท่านทำหน้ายังไง
ผมอาจจะดูเลวนะที่ไม่สนใจความรู้สึกท่านในวันนั้น
ทั้งๆที่มันเป็นวันที่ผมควรอยู่กับครอบครัวเพื่อฉลองกับยศกับการที่ผมได้รับราชการ
แต่ผมไม่มีความรู้สึกว่าผมอยากกลับไปกับพ่อแม่เลย

ผมอยากอยู่กับเพื่อนๆ เพราะอย่างน้อยพวกเค้าก็ยินดีกับความสำเร็จของผม
ด้วยความรู้สึกที่มาจากใจ พู่กันกับจานสีมาจากอังกฤษเพื่อยินดีกับผมในวันนี้
ทุกคนพูดแต่คำดีๆ และยิ้มกลับมาให้ผม
แต่รอยยิ้มจากพ่อ และแม่ .. ผมแทบไม่ได้เห็นเลยด้วยซ้ำตอนอยู่ในห้องประชุม
ตอนที่พิธีติดยศ หน้าพ่อกับแม่นิ่งเฉยมาก ทั้งๆที่รอบข้างมีแต่คนยิ้มยินดี

พ่อมายิ้มให้ผม ตอนที่พ่อบอกว่าผมต้องไปฝึกที่ภาคใต้
สิ่งที่ผมทำตอนนี้ ผมผิดมากไหม?
ผิดมากไหมที่มาอยู่กับเพื่อนๆ แทนที่จะกลับไปกับพ่อแม่



ผมเดินถือมือถือของยูโร ออกมาที่หน้าห้องนอน
ยืนมองดูเพื่อนๆที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่เศร้าใจ...
ผมจะมีโอกาสได้เจอพวกมันอีกเมื่อไหร่?
6 เดือนกลับจากฝึกแล้ว พ่อแม่จะบังคับให้ผมไปทางไหนต่อ?
ผมต้องอยู่ภายใต้การบังคับของพ่อและแม่ไปอีกนานแค่ไหน?

ผมจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง …. บ้างไหม?



“เห้ยยไม้ ไปกันยังวะ สายแล้วนะ”
เสียงเปาเรียกผมให้ตื่นจากความคิด

“เออไปได้แล้ว แม่กูโทรตามแล้วละ”
ผมเดินเข้าไปหาเพื่อน ก่อนจะยื่นมือถือคืนให้ยูโร

“แต่พวกมึงไม่ต้องไปหรอก แม่กูบอกว่าพ่อกูมารอแล้ว  .....พวกมึงเข้าใจใช่ไหม”

ผมหันไปมองหน้าปั้นสิบ ที่ตอนนี้รอยยิ้มของมันเริ่มหายไป
แต่สักพักมันก็หันมามองหน้าผม


“อืมม งั้นมึงไปถึงแล้วรีบไปไหว้พ่อไหว้แม่ แล้วขอพรจากเค้านะ
พรจากพ่อแม่อะประเสริฐกว่าสิ่งใดๆในโลกนี้อีก”

ปั้นสิบพูดเสร็จก็ยิ้มกลับมาให้ผม

“เอางี้ละกัน กูกับพู่กันจะไปส่ง แล้วยังไงจะกดโทรมาหา เพราะยังไงๆพ่อแม่เค้าคงไม่กล้าด่ากูหรอก”
จานสีเสนอความคิดเห็น ส่วนพู่กันก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดจานสี

“อืมม เอางั้นก็ได้” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับพวกแฝด
อย่างน้อยๆก็จะได้โทรหาปั้นสิบได้

จานสีกับพู่กันเลยลุกไปเตรียมตัว ยูโรกับเปาก็เข้ามาคุยกับผมต่อ

“หัดพูดยาวีไว้เยอะๆ”

“ห้ามกินหมูนะมึง”

“จะกลับมาก็เอาของฝากมาให้ด้วย


แต่ละอย่างที่ยูโรพูดกับผม  เปามันสรุปได้คำเดียวว่า “ปัญญาอ่อน”

“มึงบ้าปะยู ภาคใต้ไม่ใช่อีกประเทศนะมึง จะทำอะไรก็ทำตามปกตินั้นแหละ
แต่เคารพสถานที่ เคารพชุมชนที่มึงเข้าไปอยู่ก็พอ ส่วนของฝากไม่ต้องหรอก
แค่มึงกลับมาอย่างปลอดภัย นั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกกูแล้ว”

พูดจบเปาก็ดึงผมเข้าไปกอด
ก่อนที่ยูโรจะงัดเอาเปาออกจากตัวผม
ต้องใช้คำว่างัดครับ เพราะเปากอดผมแน่นมาก 555


“เผลอไม่ได้เลย ชอบคนในเครื่องแบบว่างั้น
กลับขอนแก่นกูจะใส่ชุดลูกเสือให้มึงดู”

555555+ เอากับมันสิครับ ไอ้ยูไอ้บ้าเอ้ยย


สักพักพวกแฝดก็พร้อมจะเดินทางแล้วครับ
ยูโร เปา และปั้นสิบออกมาส่งผมที่หน้าห้อง

“กูไปรอที่หน้าลิฟท์นะ” พู่กันบอกกับผม ก่อนจะเดินออกไปกับจานสี

“งั้นกูไปล้างจานนะ” เปาก็ดึงยูโรออกไป


“เพื่อนเรานี้โคตรดีเลยเนอะ เปิดทางให้เราสวีตกัน”
ปั้นสิบมันหันมามองหน้าผม ก่อนจะพูดถึงพวกไอ้แสบทั้งหลาย
ที่ต่างก็รู้เห็นเป็นใจเปิดทางให้ผมได้คุยกัน ก่อนที่จะจากกัน

“กูไปละนะ อยู่ได้ใช่ไหมเตี้ย”
ผมถามปั้นสิบ ผมพยายามจะพูดให้ติดตลกไว้ก่อน
ไม่อยากพูดซึ้งๆ เดี๋ยวมันจะร้องไห้
เออ....ไม่ใช่แค่มันหรอก ผมด้วยนี้แหละ - -

“สบายมาก ถึงกูจะเตี้ย แต่กูอดทนเก่งนะ  และกูก็รอเก่งด้วย”
เอาละไง ไอ้เตี้ยแม่งง ยิ้มแล้วน้ำตาไหลทำไมละ
กูจะไม่ร้องไห้ละนะ  ผมต้องฝืนยิ้มให้มัน
ก่อนจะค่อยๆเอามือไปเช็ดน้ำตาให้เจ้าเตี้ยขี้แงตรงหน้า

“แล้วกูจะรีบกลับนะ”
ผมพูดได้แค่นั้นแหละครับ ก็หันหลังรีบเดินมาหาพู่กันกับจานสี
เพราะถ้ายืนมองหน้าปั้นสิบต่อไป
ผมอาจจะร้องไห้หนักกว่านี้ก็ได้


พอ 2 แฝดมันเห็นผมเดินมาก็กดปิดลิฟท์
เพราะเมื่อกี้พวกมันกดลิฟท์ค้างไว้รออยู่แล้ว

“จะร้องไห้ก็ได้นะ เพราะถ้าไปถึงที่กรมแล้ว มึงอ่อนแอไม่ได้แล้วนะไม้”
เสียงของจานสีบอกกับผม
พอเพื่อนบอกมาแค่นั้นแหละครับ ,, น้ำตาไหลมาเต็มที่เลยครับ
ร้องไห้จนมาขึ้น Taxi ก็ยังสะอื้นไม่หาย
โคตรจะอายเลย ใส่เครื่องแบบตำรวจโคตรจะเท่ห์
ต้องร้องไห้สะอื้นไม่หยุด
ตอนนั้นมันหลายๆความรู้สึก ทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจตัวเอง
ทั้งน้อยใจพ่อแม่ด้วย หลายๆอย่าง

“จะถึงแล้ว เลิกร้องไห้เถอะไม้” พู่กันยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ผม
ผมก็รับมาแต่โดยดีครับ ไม่เช็ดหน้าคงไม่ไหวมั้งครับ
มีแต่รอยน้ำตา - -‘

“ไม้ มึงระวังตัวดีๆนะไปใต้ครั้งนี้อะ
รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ มันหนักกว่าตอนที่มึงฝึกแน่ๆ”

จานสีหันมาบอกกับผม
ตอนนี้จานสีมันนั่งข้างหน้าครับ
ผมนั่งกับพู่กันข้างหลัง

“อืมม กูก็คิดไว้เหมือนกัน ว่ามันน่าจะหนักกว่า
อย่างว่าแหละตอนฝึกกับตอนทำจริงมันคงต่างกันเยอะ”

ผมเช็ดน้ำตาเสร็จแล้ว กำลังก้มลงไปมองชุดของตัวเองว่าเรียบร้อยหรือยัง

“ไม่ใช่แค่นั้นสิ  คนที่จะไปใต้กับมึงอะ มีพี่อุ้มด้วย”

หื้มมมมม ..

พี่อุ้ม!!!!!!!


--------------------------------------------------------------------------------------

เอาละสิ ,, ท่าทางไปใต้รอบนี้จะหนักแล้วละไม้ฉาก
มีพี่อุ้มรักตามไปด้วย เอ๊ะ ,, หรือพี่อุ้มมันจงใจให้ไม้ฉากไปด้วยกันแน่นะ
ฝากติดตามตอนหน้าด้วยนะคะ

ตอนนี้ไม่มีอะไรมากเลยเนอะ เล่าเรื่องทั่วไปปกติ
พยายามจะสื่อให้เห็นว่าเด็กๆต้องลาจากกันอีกครั้ง
แล้วมันทรมานแค่ไหน .. แต่เหมือนตัวเองสื่ออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่
ยังไงฝากไว้ด้วยนะค่ะ
คำผิดยังไงเจจะรีบตามแก้ให้จ๊า ขออภัยไว้ด้วยนะ
และขอบคุณทุกๆคอมเมนต์เลย

ใกล้จะถึงบทสรุปของทั้งคู่แล้ว ,, ฝากติดตามและให้กำลังใจด้วยนะคะ
ส่วนใครที่รอลุ้นคู่พี่แฝดนั้น มีแน่นอนจ๊า
แต่ขอลงในตอนพิเศษแทนเนอะ : )
ตอนพิเศษ มีของ ราฟ และเพื่อนๆด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2015 23:12:26 โดย moujay »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เรย์นายขโมยซีนอะ. ชอบๆอยากอ่านเรื่องเรย์กับไนซ์ด้วย
แล้วนี่ไอ้พี่อุ้มมันคิดจะทำอะไรอีกเนี่ย
ไปแยกแฝดเค้าไม่ได้หรอกอย่าหวังเลย ชอบทำแต่เรื่องไม่เข้าท่า
ขอบคุณเจค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ desiderata

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอิ่ม พ่อของไม้ จิตใจทำด้วยอัลไล
ดีใจที่ลูกถูกส่งไปในที่อันตราย  o22

ในชีวิตจริง เราก็เคยเห็นนะ  แม่ที่สาปแช่งให้ลูกล่มจมเพราะลูกไม่ได้ดั่งใจ (ทั้งที่ลูกก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แค่ทำไม่ถูกใจแม่)
แล้วเมื่อไหร่ไม้จะหลุดพ้นซะที  :hao5:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เจ็บแทนไม้เพราะว่าไม้ไม่ได้มีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางใจเลย   ครอบครัวก็ไม่ได้มีอะไรให้ไม้ยึดเหนี่ยวเลย   ที่เรย์พูดก็ถูกนะ

เรากลัวจริงๆที่ไปฝึกภาคใต้แล้วอุ้มลงไปด้วย   คนของพ่ออุ้มมียั้วเยี้ยไปหมด  เรากลัวว่าไม้จะโดนส่งตรงไปยังจุดที่อันตราย   เราเชื่อว่าคนอย่างไม้สามารถที่จะตร่าชีวิตคนได้จริงๆ เพราะว่าสามารถทำได้

อยากให้ไม้กับปั้นมาเติบโตที่ๆเราอยู่จริงๆ  เราจะได้ช่วยได้  เอาใจช่วยนะลุกเอ๋ย ทั้งสองคนเลย

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ให้มันโดนระเบิดตายโล้ดดด

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
Ch 67  ชายแดนใต้ || ไม้ฉาก



“ไม่ใช่แค่นั้นสิ  คนที่จะไปใต้กับมึงอะ มีพี่อุ้มด้วย”

หื้มมมมม ..

พี่อุ้ม!!!!!!!


“กูว่านะพี่อุ้มมันต้องเป็นคนขอให้มึงไปแน่ๆเลยวะไม้”
ทำไมมึงคิดเหมือนกูวะพู่กัน
แต่เดี๋ยวก่อนนะ .. จานสีรู้ได้ไง?

“แล้วมึงรู้ได้ไงจานสี”
พอผมถามจานสีปุ๊บ  คราวนี้พู่กันดึงตัวจานสีมาติดกับเบาะรถเลยครับ

“โอ้ยย พู่กัน มันเจ็บนะเว้ย จะดึงทำไมเนี้ย”
จานสีก็โวยวายใหญ่เลยครับ เพราะพู่กันรัดคอมันไว้เลยอะ
นี้ก็โหดร้ายเกินไปแล้วมึง T^T

“ก็ตอบมาว่ามึงรู้ได้ไง กูห้ามอะไรเชื่อกูบ้างไหม นี้สินะที่มึงขอแม่ย้ายไปเรียนอีกยูอะ”
เรื่องเริ่มจะไปกันใหญ่ละ ไอ้บ้าพู่กันก็เกิดอยากจะอาละวาดใส่น้องมันขึ้นมาซะงั้น

“ไม่เกี่ยวกันเลย ที่กูย้ายเพราะมึงนั้นแหละ ปล่อยได้แล้ว” จานสีก็โวยวายกลับ
ก่อนจะดิ้นจนหลุดออกจากแขนของพู่กัน

ที่บอกว่ารัดคอ หรือดิ้นจนหลุดนั้น คือ พู่กันนั่งเบาะหลังจานสีนะครับ
พู่กันมันเลยเป็นฝ่ายกระทำอยู่ฝ่ายเดียว - -‘

“มันไลน์มาหากู แต่กูไม่ได้อะไรกับมันซะหน่อย”
พูดจบจานสีก็ส่งมือถือมาให้ผมดู
ผมเปิดดูเป็นไลน์จากพี่อุ้มจริงๆครับ

เ ช รี้ ย อุ้ ม :: จะมาส่งไหมเนี้ย

โหวว มึงเมมชื่อพี่อุ้มได้แบบว่า .. ไม่เกรงใจหน้าตาพี่อุ้มเลยนะ 5555+

เ ช รี้ ย อุ้ ม :: เป็นอะไรวะอ่านไม่ตอบ

เ ช รี้ ย อุ้ ม :: จะไปใต้นะเว้ยตั้ง 6 เดือน มาให้เห็นหน้าบ้างดิวะ

เ ช รี้ ย อุ้ ม :: ไม่จับปล้ำหรอกนะ มาเหอะ อยากเจอ



มีอีกเยอะครับ แต่ผมไม่ได้อ่านต่อ
เพราะพู่กันดึงมือถือไป ก่อนจะลบแชตพี่อุ้มทิ้ง
แล้วจัดการบล็อกไลน์พี่อุ้ม . .

“กูว่าไม่เกี่ยวกับพี่อุ้มหรอก  ถ้ามันจะแกล้งกูนะ มันจะเอาตัวเองลงใต้ด้วยทำไม”
ผมบอกกับพู่กันและจานสี

“เออนั้นดิ” พู่กันก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดผม
เราไม่ทันได้คุยกันต่อครับ เพราะรถมาจอดที่หน้ากรมตำรวจพอดี

“มึงไม่ต้องเข้าไปก็ได้นะ เดี๋ยวเจอพี่อุ้ม” ผมหันไปบอกจานสี
แต่จานสีมันดันส่ายหัว แล้วบอกกับผมว่า

“ช่างมันเถอะ กูจะต้องหนีมันไปทำไมวะ ก็แค่คนๆหนึ่งเท่านั้นเอง”
เออ ,, ถ้ามันคิดแบบนี้ผมก็เบาใจ เพราะยังจำคลิปที่พี่อุ้มมันส่งมาให้ปั้นสิบได้
เลยคิดว่ามันอาจจะไม่กล้าเจอหน้าพี่อุ้ม

ผมยืมมือถือจานสีโทรหาแม่ ถามว่าแม่อยู่ตรงไหน
เดินมาจนเจอพ่อกับแม่ครับ และเจอลุงพลกับน้าอรด้วย(พ่อแม่ของพิม)

“สวัสดีครับพ่อ แม่ ลุงพล น้าอร”
ผมยกมือสวัสดี แล้วพวกพู่กันกับจานสีมันก็เลยยกมือไหว้ตาม

“เป็นตำรวจแล้วไม่ยกมือไหว้แล้วลูก ต้องทำท่าตะเบ๊ะแบบตำรวจสิ”
ลุงพลทำท่าตะเบ๊ะให้ผมดู ก่อนจะหันไปหัวเราะกับพ่อผม
วันนี้พ่อผมหน้าตาสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใสมากครับ
เหอๆ ลูกจะไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นะครับพ่อ
ไม่ได้ไปเมืองนอกจะยิ้มทำไมกันครับ - -‘

“อ้าวบอกแล้วว่าไม่ต้องให้เพื่อนมาส่ง ไปรบกวนเค้ามาตั้งหลายวันละยังจะให้ตามมาทำไม”
พ่อหันไปเห็นพู่กันกับจานสี เลยหันมามองหน้าผม

“ไม่เป็นไรครับ พอดีผมมาจากอังกฤษนะครับ อยากมาส่งเพื่อน
เพราะอีกหลายเดือนกว่าจะได้กลับมาเมืองไทย”

จานสีรีบบอกกับพ่อผม

“เอานะ เพื่อนกันรักกันมันก็ดีแล้ว เหมือนพวกเราไง ผ่านมากี่สิบปีก็ยังเหมือนเดิม
เดี๋ยวก็ได้ดองกันจนรุ่นลูกอีก  เผื่ออนาคตลูกสาวลูกชายของพวกนี้มันจะมาดองกันแบบบ้านเรา”

ลุงพลพูดจาแปลกๆนะครับ
อะไรดองอะไร?

“พ่อมึงกับลุงพลจะทำยาดองหรอ”
พู่กันขยับมาใกล้ๆผมก่อนจะกระซิบถาม
เอ่อพู่กัน ,, กูได้ยินคำว่าจะมาดองกัน
ไม่ใช่ยาดองเว้ยย!

“เอาไว้ไม้ฉากกลับมาจากใต้ก่อนค่อยพูดเรื่องนี้ดีกว่าค่ะ” น้าอรพูดกับพวกพ่อๆ
ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม

“เดินทางปลอดภัยนะลูกนะ แล้วอีก 6 เดือนพวกน้าจะมารับนะจ๊ะ”
น้าอรเป็นผู้หญิงที่ใจดีมากครับ พูดจาเพราะด้วย : )

“จะแทนตัวว่าน้าทำไมกันละอร  แทนตัวว่าแม่ก็ได้”
พ่อผมหันไปบอกน้าอร แต่น้าอรก็หัวเราะเบาๆ

“ไปรวมตัวได้แล้ว อย่าทำตัวให้มีปัญหาละ อีก 6 เดือนพ่อจะมารับ
ถ้าเค้ามีพักให้กลับก็ไม่ต้องกลับมาหรอก  มันไกล เดินทางมันเหนื่อย”

พ่อผมเอื้อมมือมาตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะผลักตัวผมให้เดินออกไปนิดหน่อย

ผมหันไปมองหน้าพู่กันกับจานสี พวกมันก็ทำได้แค่ยิ้มให้ผมนิดๆ
ก่อนจะพยักหน้าให้ผม แล้วพู่กันก็หยิบโทรศัพท์มาแนบหู
สงสัยจะบอกปั้นสิบให้ผมละมั้ง ว่าผมกำลังจะเดินทาง

ผมยิ้มให้เพื่อนของผมทั้ง 2 คน ก่อนจะหันไปทำความเคารพพ่อแม่และลุงพลกับน้าอร

“ดูแลตัวเองนะลูกนะ”
แม่ยื่นกระเป๋าให้ผม ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด
แปลกไหม ,, ผมไม่รู้สึกถึงไออุ่นของอ้อมกอดนี้เลย
ทำไมกัน?


ผมหิ้วกระเป๋าเดินเข้าไปรายงานตัวตรงซุ้มที่ทางกรมจัดไว้ให้

“สิบตำรวจตรีภาคิน จากภาค 3 ครับ”
ผมทำความเคารพนายร้อยตรงหน้า
(น่าจะยศนายร้อยเพราะติดดาว 3 ดวงที่บ่า)

“นราธิวาสสินะ หนักหน่อยนะเรา อดทนไว้ละ ไปรวมกันเพื่อนๆตรงรถบัสหมายเลข 3 นะ”
ผมทำความเคารพอีก 1 ครั้งก่อนจะเดินไปที่รถบัสหมายเลข 3
ก่อนจะขึ้นรถบัส ผมหันไปมองพ่อแม่อีกครั้ง แต่ท่านทั้ง 2 กลับไปแล้ว
เหลือแต่พู่กันกับจานสีที่ยังโบกมือให้ผมอยู่

เอาวะ ,, อย่างน้อยยังมีเพื่อนมาส่งจนวินาทีสุดท้าย : )


ผมเดินขึ้นไปบนรถบัส ก็เจอกับตำรวจยศดาบตำรวจ
ที่ผมจะต้องเรียกว่า ครูฝึก ตลอด 6 เดือน
ครูฝึกถามชื่อผม ก่อนจะให้ไปนั่งที่
ผมได้นั่งแถวที่ 4 ริมหน้าต่าง ที่นั่งตรงนี้ยังมองเห็นพู่กันกับจานสีอยู่เลยครับ
ผมวางกระเป๋าไว้บนชั้นวางบนหัว แล้วนั่งมองเพื่อนผมทั้ง 2 คน
พวกมันยังคุยโทรศัพท์อยู่ สงสัยยังคุยกับปั้นสิบอยู่แน่ๆ
ป่านนี้หยุดร้องไห้หรือยังวะไอ้เตี้ยเอ้ยย!?

“ทีเพื่อนมาส่งได้ แต่มาส่งกูมาไม่ได้”
เสียงพี่อุ้มดังขึ้นมาข้างๆตัวผม ผมเลยหันไปดู
เป็นพี่อุ้มจริงๆครับ ใส่เครื่องแบบตำรวจแล้วทำให้พี่อุ้มดูหล่อและสง่ามากจริงๆ

“สวัสดีครับ” ผมหันไปพูดว่าสวัสดี แต่ไม่ได้ยกมือไหว้นะครับ

“อืม ดี” พี่อุ้มเอากระเป๋าวางไว้บนที่วางของ
ก่อนจะมานั่งที่ว่างข้างๆผม
อย่าบอกนะว่าต้องนั่งข้างๆกันจนนราธิวาส?

“เพื่อนมึงอะ ทำไมไม่รับสายกูวะ”
พี่อุ้มกดโทรหาจานสีครับ แล้วก็บ่นว่าทำไมจานสีไม่รับสาย

“มันไม่อยากคุยอะครับพี่ มันเลยบอกว่าไม่อยากรับ”
ผมหันไปตอบพี่อุ้ม ซึ่งผมคงพูดไม่ผิดหรอกมั้ง
ถ้ามันอยากคุยมันก็ต้องรับสายใช่ไหมละ?

“มึงต่อสายให้หน่อยดิ กูอยากคุย”
โอ๊ะ ,, ไอ้พี่อุ้มนี้อะไรของมึงวะครับ มาให้กูต่อสายให้
แต่เบอร์มึงเนี้ยนะมันจะรับไหมละ?

“เบอร์พี่มันไม่รับหรอกครับ ใครโทรมันก็ไม่รับ”
ผมบอกกับพี่อุ้มไป ก่อนจะหันไปมองตรงหน้ารถ
เพราะตอนนี้รถเริ่มเคลื่อนตัวออกแล้ว


“ก็มือถือมึงไง โทรให้กูหน่อย”
หึหึ มือถือกู?
ถามกูว่ากูมีมือถือไหมดีกว่านะไอ้พี่อุ้ม
1 ปีแล้วที่ไม่มีมือถือเนี้ย จะเอามือถือที่ไหนมาโทรให้วะ?

“ผมไม่มีครับ”
พี่อุ้มกำลังจะอ้าปากมาด่าผม
ซึ่งคิดว่าน่าจะด่าแหละเพราะพี่แกทำหน้าโหดๆใส่ผม

ครูฝึกก็พูดขึ้นมาก่อน

“เอ้าละสวัสดีนายตำรวจทุกนาย   จากนี้ไปพวกเราไม่มีการแบ่งภาค แบ่งรุ่น
เพราะพวกเราทุกนายจะเป็นนักเรียนฝึกอบรมรุ่นพิเศษ รุ่นที่ 5
ขอให้ทำความรู้จักกันไว้  เพราะเพื่อนที่นั่งข้างๆเรา
เค้าอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับบ้านมาพร้อมเราก็ได้
ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท  อดทนอดกลั้นให้ได้มากที่สุด
อย่าลืมว่าพวกคุณคือคนของประชาชน คือข้าของพระบาท
ทำงานทุกอย่างให้คุ้มค่ากับเงินภาษีที่คุณได้รับ
เดี๋ยวเราจะไปต่อรถไฟกัน กรุณานั่งรถไปด้วยความสง่างาม
เพื่อประชาชนทุกคนที่เค้าขี่รถผ่านมาจะได้เห็นว่าพวกคุณสง่าและงดงามมากแค่ไหน
จะทำอะไร จะพูดอะไร ให้เกียรติเครื่องแบบที่พวกคุณสวมใส่ด้วยนะครับ”

พอครูฝึกพูดจบ พวกผมก็ตอนรับพร้อมกันว่า

"ครับ”



“เพราะเพื่อนที่นั่งข้างๆเราอาจจะไม่ได้กลับมาพร้อมเราก็ได้”
คำๆนี้ทำไมมันดูรู้สึกแปลกๆในความรู้สึกวะ?
นี้กูกำลังจะไปไหนกันแน่วะ?

ผมกำลังไปดินแดนที่อันตรายที่สุดประเทศไทย
ผมกำลังไปทำหน้าที่ตำรวจของประชาชนที่นั้น
และผมอาจจะไม่ได้กลับมาเจอคนที่ผมรักอีกแล้วก็ได้...


เห้ออ ผมเหม่อมองออกไปนอกรถ
ตอนนี้รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากกรมตำรวจ  รถติดมากครับ

“กลัวหรอวะ” เสียงพี่อุ้มถามผม
คือเอาจริงๆนะมึงไปคุยกับคนอื่นเถอะ กูไม่อยากคุย - -‘

“ไม่ครับ” ผมก็ต้องตอบครับ ตามมารยาท

“อืมม ขอให้มึงเก่งอย่างที่พวกลูกน้องพ่อกูบอกละกันนะ
หึ โดนฝึกขนาดนั้น โดนแกล้งสารพัดเสือกผ่านมาได้
เก่งจริงๆ ทำให้ลูกน้องพ่อกูเปลี่ยนใจไปเอ็นดูไปรักมึงกันทั้งนั้น
ดีเนอะใครๆก็รุมรักมึง รวมทั้งปั้นสิบด้วย”

เห้ออ วกมาปั้นสิบจนได้
นั้นมันแฟนกูครับพี่อุ้ม

ผมไม่อยากเถียงครับ เลยไม่ได้ตอบอะไรพี่อุ้มไป
จนมาถึงหัวลำโพง  พวกเราเดินทางต่อด้วยรถไฟ
กทม-สุไหงโกลก  เป็นรถนอนครับ  ออกบ่ายๆ ถึงที่นั้นก็สายๆของวันพรุ่งนี้พอดี


ผมเดินขึ้นไปโดยไม่สนใจว่าพี่อุ้มมันจะตามมาไหม หรือยังไง
โชคดีที่ผมได้คนนั่งข้างๆเป็นผู้ชายจากอีสานเหมือนกัน
พูดกันพอถูกคอครับ  พี่อุ้มมันได้นั่งอีกที ซึ่งก็ไม่ไกลจากผมเท่าไหร่
แต่เท่าที่เห็นพี่อุ้มไม่ได้อภิสิทธิ์อะไรจากการฝึกอบรมครั้งนี้ครับ

พอมาถึงที่สุไหงโกลก พวกเราก็โดนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มละ 20 คน ซึ่งคนที่เข้าอบรมในครั้งนี้มีทั้งหมด 45 คน
อีกกลุ่มมี 25 คน ซึ่งเป็นกลุ่มของพี่อุ้มครับ

ผมได้ไปประจำที่เขตเทศบาลครับ เพราะพวกผมเพิ่งเรียนจบมาใหม่
ไม่ได้ออกตะเวนเหมือนทหารตามแนวเขตที่อันตราย

กิจวัตรที่อยู่ที่นี้ก็ไม่ต่างจากตอนที่อยู่ในโรงเรียนเท่าไหร่
เพียงแต่พวกเราจะไม่มีเวลาพัก และไม่มีเวลาที่จะได้เดินเที่ยวเล่นเหมือนในโรงเรียน
และที่นี้ต้องมีเวรยามตลอดเวลา มีการตั้งด่านคอยตรวจหาระเบิดตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย
แต่ตลอดเวลา 6 เดือนที่มาอยู่ที่นี้ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นนะครับ
ที่นี้ไม่ใช่ดินแดนที่อันตรายอย่างที่ใครๆพูดและเข้าใจ
ผู้คนที่นี้เป็นมิตรครับ ยิ้มแย้มให้กับตำรวจและทหารทุกนาย
เอาผัก ผลไม้ อาหารมาให้ตำรวจ และทหารตลอดเวลา
และเวลาเราขอตรวจค้นตามบ้าน เค้าก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีครับ
แต่อย่าเดินเข้าไปในบ้านที่มีผู้หญิงอยู่ตามลำพังนะครับ
ไม่งั้นเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่ๆ

ชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิมที่นี้รักใคร่กันดี
ผมมาอยู่ที่นราธิวาสได้เจอเหตุการณ์ลอบยิง 2 ครั้ง
และการวางระเบิด 3 ครั้ง
ซึ่งออกข่าวอยู่เหมือนกันครับ โชคดีที่หน่วยผมไม่มีใครได้รับอันตรายอะไร
ที่นี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นทุกวัน และบางครั้งไม่ได้ออกข่าวครับ

ผมหลงรักดินแดนแห่งนี้มาก
อยากให้เรื่องราวร้ายๆที่นี้สงบลงไวๆ
แล้วผมจะชวนปั้นสิบกับเพื่อนๆมาเที่ยวที่นี้อีกครั้งแน่นอน

เห้ออ พูดถึงปั้นสิบแล้วคิดถึงมันมากครับ
พวกผมไม่ได้ติดต่อใครเลยครับ
เพราะการโทรศัพท์ครั้งหนึ่งก็เท่ากับการเสี่ยงของทั้งกอง
เราไม่รู้ว่าจะมีใครดักฟังสัญญาณโทรศัพท์ของเราหรือป่าว
พี่อุ้มก็โดนยึดมือถือตั้งแต่วันแรกที่ลงรถไฟแล้วครับ

ผมกับพี่อุ้มได้เจอกันบ้าง ถึงจะประจำคนละที่ก็ตาม
พี่อุ้มอยู่กับกองแพทย์เคลื่อนที่ครับ
ส่วนผมอยู่กองกำลังลาดตะเวน

พวกผมได้รับการฝึกและได้ร่วมกันทำกิจกรรมกับชาวบ้านที่นี้
จนเวลาผ่านมา 6 เดือนแล้วครับ และอีก 1 อาทิตย์พวกเราจะได้กลับบ้าน
แต่ก็มาเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน

วันเกิดเหตุ

“เห้ยย เราจะได้กลับบ้านกันแล้ว ไปซื้อของฝากกันเถอะ”
เชษ หรือ พ่อมหาของเพื่อนๆ เพราะนำสวดมนต์ทุกคืนครับเลยได้ฉายาพ่อมหา
มาชวนเพื่อนๆไปเดินตลาดกัน เพื่อจะหาของฝากไปให้ลูกชาย
รู้สึกว่าจะอายุแค่ 6 เดือน ตอนที่พ่อมหามาอบรมนะครับ

“ไปดิๆ” เสียงของเพื่อนๆในกองอีก 4 – 5 คนส่งเสียงมาว่าจะไปด้วย
พ่อมหาเลยพาเพื่อนๆไปตลาดตอน 8 โมงเช้าครับ
พอตอนสิบโมงก็มีเสียงวิทยุแจ้งเข้ามา

“มีตำรวจโดนลอบยิงที่ตลาด  ไปดูที่เกิดเหตุ และให้ติดต่อทีมแพทย์ด้วย”
(จริงๆเป็นการส่งสัญญาณแบบตำรวจนะคะ
มี ว 9  / ว 19 แต่ขอไม่ลงรายละเอียดในส่วนนี้)

พอได้ยินคำว่าเกิดเหตุลอบยิง
พวกผมที่นอนพักกันอยู่ที่ค่าย ถึงกับตัวเย็นเฉียบเลยครับ
เพราะตลาดนั้นคือตลาดที่พ่อมหากับเพื่อนๆพากันไปหาซื้อของฝาก

พวกผมรีบแต่งชุดตำรวจพร้อมอาวุธ เข้าไปดูที่เกิดเหตุ
แต่พวกผมก็ไปช้าเกินครับ พวกเราสูญเสียพ่อมหาไปแล้ว
พ่อมหาโดนยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด กระสุนปืนเข้าไปโดนตรงขั้วหัวใจของพ่อมหาพอดี
ในมือของพ่อมหายังถือรถของเล่นที่เตรียมจะซื้อไปให้ลูกชาย
มันเป็น 1 อาทิตย์ที่พวกเราโศกเศร้ากันมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดกับเพื่อนๆในกองของเรา
เราส่งร่างไร้วิญญาณของพ่อมหาขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพไปก่อน
และอีก 2 วันพวกเราจะนั่งรถไฟตามกลับไปร่วมงานศพของพ่อมหา



วันนี้มีการประชุมรวมกอง คือรวมทั้งกลุ่มของผมและพี่อุ้ม
เพื่อจะประกาศปิดการอบรมพิเศษนี้ ก่อนจะให้พวกเราแยกย้ายกลับ
ไปประจำยังสถานีตำรวจที่พวกเราได้เลือกไว้

“พวกเราผ่านเรื่องราวต่างๆกันมา 6 เดือน
ซึ่ง 6 เดือนนี้พวกคุณได้รับการอบรมได้รับการฝึกฝนมาทุกอย่างแล้ว
คุณได้เห็นแล้วว่าที่นี้เป็นยังไง ชาวบ้านที่นี้เค้าอยู่กันแบบไหน
กลับไปแล้ว ผมอยากให้พวกคุณไปอธิบายกับคนที่นั้น
จังหวัดที่พวกคุณอยู่ อธิบายให้เค้าเข้าใจ
ว่าพวกเราอยู่ในดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุด
มา 6 เดือน แล้วได้เห็นสิ่งสวยงามอะไรบ้าง
และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกคุณจะใช้ความรู้ทุกอย่างที่ได้รับจากพื้นแผ่นดินนี้
ไปทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในพื้นที่ที่คุณได้ดูแล
จงภูมิใจไว้เถิดพวกคุณทุกคน คือผู้กล้า ที่พวกเราทุกคนที่นี้จะจดจำตลอดไป”

พอสิ้นเสียงของนายตำรวจใหญ่ประจำนราธิวาส
ก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วหอประชุมที่พวกผมนั่งอยู่

พวกเราหันไปมองหน้ากัน และล่ำลากันทั้งน้ำตา
ผ่านทุกข์ผ่านสุขด้วยกันมาตั้ง 6 เดือน
มันทรหดมากครับ มากจนผมไม่สามารถจะอธิบายออกมาได้
แต่รู้เลยว่า ,, ชีวิตตำรวจมันคุ้มมากจริงๆที่ได้มาฝึกที่นี้

“เรายังเปิดรับอาสาสมัครที่อยากทำงานที่ชายแดนภาคใต้
ที่ดินแดนแห่งนี้อยู่นะครับ  นายตำรวจท่านไหนเต็มใจ
และพร้อมใจจะอยู่ ดูแลปกป้องคนไทยที่นี้
สามารถยื่นความจำนงกับครูฝึกได้
ผมหวังว่าเราจะกลับมาพบกันอีกครั้งในวันข้างหน้า
ขอให้เดินทางกลับโดยปลอดภัยครับ”

เป็นการกล่าวปิดการประอบรมที่รู้สึกขนลุกที่สุดที่เคยผ่านมาเลยครับ
รู้สึกถึงแรงฮึกเหิมในใจ ไฟที่อยากทำงานเพื่อประชาชนมีมาเต็มที่
แต่ผมยังไม่ถึงเวลาที่จะมาอยู่ที่แห่งนี้ครับ
ผมยังอยากกลับไปเรียน เพื่อต่อยอดการเป็นนายร้อย
เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอยู่
แต่ผมสัญญา ... ว่าผมจะกลับมาประจำที่นี้อีกแน่นอน
นราธิวาส .. ดินแดนที่มีมนต์ขลัง : )



วันต่อมาพวกเราก็นั่งรถไฟกลับกรุงเทพกัน
แต่แบ่งเป็นสายนะครับ ไม่ได้กลับพร้อมกันทั้งหมด
เพราะกลัวจะมีการลอบวางระเบิดกลางทาง
ผมได้กลับพร้อมกับพี่อุ้มครับ

พี่อุ้มเดินมานั่งข้างๆผม

“ฝึกหนักเนอะ”
อยู่ๆพี่อุ้มก็ชวนผมคุย
ผมเลยหันไปมองหน้าพี่อุ้ม

“ครับ หนักมาก”
คิดในใจว่า พี่อยู่แต่หน่วยพยาบาลปะครับ - -
หนักตรงไหนวะพี่?

พี่อุ้มนั่งเงียบๆไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมา

“กูลงชื่อกลับมาภาคใต้”
เห้ยย พี่อุ้มจะกลับมาภาคใต้?

“พ่อพี่ยอมหรอ”
ผมถามถึงพ่อพี่อุ้ม ซึ่งผมคิดว่าท่านไม่น่ายอมนะ

“กูได้กลับไปพักแค่ 1 เดือน แล้วต้องมาประจำที่นราธิวาสเลย
พ่อกูไม่ยอมหรอก แต่กูอยากเป็นตำรวจที่น่าภาคภูมิใจมากกว่านี้
แต่อย่าดีใจไปละ กูไม่ได้ยอมแพ้มึงหรอกนะไม้ฉาก
ไปเป็นนายร้อยให้ได้ แล้วมาทำผลงานแข่งกัน
นายตำรวจหัวเมืองเหนือ กับนายตำรวจเมืองใต้
ใครจะเก่ง ใครจะแน่กว่ากัน  วันนั้นถ้ามึงพลาดเพียงครั้งเดียว
กูเหยียบมึงไม่ให้ได้ลุกขึ้นมาอีกแน่”

พี่อุ้มมองหน้าผม สายตาพี่อุ้มมีแต่ความมั่นใจถึงสิ่งที่พี่อุ้มตัดสินใจทำลงไป
บางทีผมก็อิจฉานะครับ พี่อุ้มสามารถตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองได้
แต่ผมต้องรอให้พ่อแม่อนุญาต
ทั้งๆที่พวกเราขึ้นชื่อว่าเป็นตำรวจด้วยกันแล้วทั้งคู่

“งั้นผมขอให้พี่โชคดีครับ”
ผมยื่นมือไปจับมือพี่อุ้ม 
พี่อุ้มทำท่าลังเลนิดหน่อย แต่ก็ยื่นมือมาจับมือผม

“อืมม” พี่อุ้มตอบกลับมาแค่นั้นครับ
ก่อนจะลุกไปหาครูฝึกเพื่อขอมือถือคืน
แล้วผมก็ได้ยินพี่อุ้มบ่นถึงจานสีอีกทั้งคืน จนมาถึงกรุงเทพ
ไอ้เชรี้ยพี่อุ้ม เมื่อกี้มึงแสดงละครหลอกกูใช่ไหมมมมมม
นึกว่าจะดีได้นาน ตามตื้อเพื่อนกูอีกแล้ว - -‘


พอลงรถไฟที่หัวลำโพงแล้ว เราต้องต่อรถบัสเข้าไปกรมตำรวจอีกครั้ง
เพื่อรับใบประกาศนียบัตร และรับเหรียญ ก่อนจะได้แยกย้ายกันไปประจำตามสถานที่ที่เราได้เลือกไว้
ซึ่งจะมีเวลาพักผ่อน 15 วันก่อนเริ่มทำงาน
ผมจะได้ไปเชียงใหม่  ซึ่ง 15 วันจะเป็นวันที่ผมต้องเตรียมตัว
และเป็น 15 วันที่ผมต้องใช้มันกับปั้นสิบให้คุ้มที่สุด : )


“ไม้ ไม้ทางนี้ลูก” เสียงแม่เรียกชื่อผม
ผมรีบวิ่งไปหาแม่ ก่อนจะก้มลงไปกราบเท้าพ่อและแม่
ตอนนี้ผมลืมไปหมดแล้วครับว่าพ่อแม่ท่านเมินเฉยกับผมแค่ไหน
การไปใช้ชีวิตเสี่ยงตายที่นั้นทำให้ผมรู้ว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอน
ผมไม่อยากตายไปทั้งๆที่ต้องโกรธและไม่เข้าใจกับพ่อแม่

“แม่ดีใจจริงๆที่ไม้กลับมาอย่างปลอดภัย แม่ดูข่าวทุกคืนเลยลูก
กลัวสารพัดอย่าง   แต่ไม้ของแม่เก่งจริงๆลูก”

แม่กอดผมไปก็ร้องไห้ไป  ส่วนพ่อยังมีทีท่าเมินเฉยใส่ผมเล็กน้อยครับ
ไม่เป็นไรหรอก ผมบอกกับตัวเอง
เดี๋ยวพ่อก็คงดึงผมเข้าไปกอดแหละนะ ,,
แต่ ... พ่อไม่ได้กอดผมครับ T^T

“ไปกันได้หรือยัง  ลุงพลรอเลี้ยงต้อนรับเราที่บ้าน”
ลุงพลรอ?
ทำไมต้องลุงพลอีก?

“เราไม่กลับขอนแก่น หรือกลับร้านหรอครับพ่อ แล้วไม้ทีไม่ได้มาด้วยหรอครับ”
ผมหันไปมองรอบๆก็ไม่เห็นเจ้าหมูน้อย น้องชายผม
นี้ผมไม่ได้เจอมันมานานแล้วนะ

“อยู่ที่บ้านลุงพลรอแล้ว  เพื่อนเราก็อยู่กันที่นั้น พ่อโทรชวนให้มาร่วมฉลองกับเราด้วย”
เพื่อนผม?
เห้ยยย  พ่อเนี้ยนะชวนเพื่อนผมไปทานข้าวฉลองด้วยกัน
ผมหันไปมองหน้าแม่อีกครั้ง เพื่ออยากจะถามว่าสิ่งที่ผมได้ยินมามันจริงใช่ไหม?
แม่พยักหน้าให้ผม ก่อนจะบอกในสิ่งที่ผมแทบจะไม่เชื่อว่าพ่อผมจะทำ

“ปั้นสิบ และครอบครัวปั้นสิบก็มา”
พ่อชวนครอบครัวปั้นสิบมา?
หรือว่าพ่อยอมรับเรื่องของผมแล้ว
ตอนนี้ใจของผมกลับมาเบิกบานอีกรอบแล้วครับ
นี้สิ ,, พ่อของผม >////<


ผมเดินเข้าไปกอดพ่อ ก่อนจะบอกขอบคุณพ่อ
“ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณที่เข้าใจไม้  ขอบคุณจริงๆครับ”

พ่อหันมายิ้มให้ผมนิดหน่อย
ก่อนจะเดินนำไปที่รถตู้ที่คนขับรถมาจอดรอไว้
“รีบไปเถอะ ,, เพื่อนๆรอ”


โอ้ยยไอ้เตี้ยย จะได้กอดแล้วเว้ย
จะได้คบกันแบบเปิดเผยแล้ว
ป่านนี้มันต้องยิ้มดีใจแล้วแน่ๆ 555+
ครอบครัวเราทั้งคู่ยอมรับแล้วเว้ยย


ไม่เสียใจเลยที่ยอมตามใจพ่อแม่
ถึงจะต้องโดนพ่อแม่ตี หรือโดนให้ห่างกันมาเกือบ 2 ปี
แต่มันก็คุ้มวะ ,, ที่วันนี้พ่อและครอบครัวของเราเข้าใจและยอมรับ



รออีกแป๊บนะเจ้าเตี้ย ,, ไม้กำลังกลับไปหาแล้ว : )


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2015 11:31:20 โดย moujay »

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
เรื่องราวมันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?
พี่อุ้มเนี้ยนะจะเป็นคนดีได้?

ติดตามกันตอนหน้านะค่ะ
อาจจะอัพทันในคืนนี้ : )


ถ้ามีคำผิดต้องขออภัยด้วยนะคะ
เดี๋ยวตามแก้ให้เดือนหน้าเนอะ ,,
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจที่ให้เด็กๆนะคะ

^___^
ฝนตกในหลายๆที่ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

ออฟไลน์ desiderata

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอิ่ม.  อย่าบอกนะว่าจะโดนมัดมือชกให้แต่งงานกะพิม

ไม้ไม่โกรธพ่อแม่ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ให้อภัยได้ก็ดีต่อสุขภาพจิตของเราเอง
แต่ก็ยืนยันอีกทีว่า ความกตัญญูไม่ใช่การยอมตามโดยไม่ลืมหูลืมตา เรามีสิทธิ์ปฏิเสธถ้ามันไม่ถูกต้อง
เราเคารพพ่อแม่แล้ว.    ก็ต้องเคารพความคิดความรู้สึกของตัวเองบ้าง

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เอิ่ม.  อย่าบอกนะว่าจะโดนมัดมือชกให้แต่งงานกะพิม

ไม้ไม่โกรธพ่อแม่ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ให้อภัยได้ก็ดีต่อสุขภาพจิตของเราเอง
แต่ก็ยืนยันอีกทีว่า ความกตัญญูไม่ใช่การยอมตามโดยไม่ลืมหูลืมตา เรามีสิทธิ์ปฏิเสธถ้ามันไม่ถูกต้อง
เราเคารพพ่อแม่แล้ว.    ก็ต้องเคารพความคิดความรู้สึกของตัวเองบ้าง

เห็นด้วยทุกอย่างค่ะ ความกตัญญูไม่ใช่การยอมพ่อแม่ไปซะทุกอย่าง ยังไงเราก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินด้วยตัวเอง

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ได้แต่หวังให้ทุกอย่างดีขึ้น
เด็กดีมีพ่อแม่เข้าใจและเห็นแก่ความสุขของลูกบ้าง   :เฮ้อ: 

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
เกลียดอิพ่อแม่เรื่องนี้ว่ะ  รักลูกหรือรักหน้าตาตัวเองกันแน่  เฮ่อ 

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
กลับไปงานแต่งสินะ เหอะๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ไม่มีทางพ่อแม่ไม้ไม่มีทางรับเรื่องของไม้-ปั้นได้หรอก    โดนมัดมือชกแล้วจับแยกจากปั้นแน่ๆ

จะกตัญญูรู้คุณก็สมควรรักตัวเองด้วย   คนไทยสอนลูกว่าพ่อแม่สร้างลูกขึ้นมาฉะนั้นลูกก็สมควรที่จะต้องตอบแทนบุญคุญพ่อแม่  ไม่มีพ่อแม่ไม่มีเรา

สมัยใหม่นี้ฝรั่งสอนมาว่าลูกคือผลผลิตจากความรักของพ่อแม่   ลูกไม่ได้มาขอเกิด  พ่อแม่ทำให้เกิดฉะนั้นพ่อแม่ต้องรับผิดชอบ ส่งเสริมลูก ให้ลูกสามารถใช้ชีวิตอย่างที่ลูกต้องการได้

การสอนลูกให้กตัญญูพ่อแม่ทำตามที่พ่อแม่ต้องการ ไม่คิดบ้างว่ากว่าลูกจะหลุดพ้นก็ไม่แคล้วเข้าวัยเป็นพ่อเป็นแม่แล้วก็มาทำกับลุกเหมือนกับที่ตัวเองโดน   

ไม้กับปั้นต้องรักตัวเองด้วยนะ   ชีวิตตัวเองยังต้องอยู่อีกนาน  ยังมีเวลามากพอที่จะทดแทนพระคุณพ่อแม่ในแบบที่สมควร  เป็นผู้ใหญ่แล้วก็คือการรู้จักคิดและแยกแยะ นะ  การเป็นพ่อแม่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นฝ่ายถูกเสมอไป  แต่บ่อยครั้งทำให้ไม่สามารถรับได้ว่าพ่อแม่เป็นฝ่ายผิดเพราะว่าสวมหัวโขนไว้    อันนี้จากใจคนเป็นพ่อแม่นะ


ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โดนจับหมั้นกับพิมแน่เลย

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
Ch 68  ยินดี ?  || ปั้นสิบ



จากที่พ่อแม่ของไม้ฉาก แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบผม
มาวันนี้มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากๆ
ที่พ่อของไม้ฉากโทรชวนครอบครัวผมมาร่วมฉลองต้อนรับไม้ฉาก


ม๊าผมโทรเข้ามาในเย็นวันหนึ่ง

ม๊า ::  ปั้น อยู่ห้องไหมลูก

ผม :: กำลังกลับครับม๊า เพิ่งรับน้องเสร็จครับ

ตอนนี้ผมเป็นพี่ปี 2 แล้วครับ กำลังสนุกกับการรับน้องใหม่
ถึงจะเฉลยสายรหัสแล้วก็เหอะครับ
แต่การที่น้องๆเดินผ่านหน้าผมไปแล้วยกมือไหว้
มันเป็นอะไรที่แบบว่า ,, กูเคยเป็นเหมือนมึงเมื่อปีก่อน 555+
เหมือนส่องกระจกมองตัวเองครับ ปีก่อนพวกผมก็เป็นแบบมันนี้แหละ

ม๊า ::   พ่อแม่ของไม้เค้าโทรมาชวนป๊ากับม๊าให้ไปงานเลี้ยงฉลองต้อนรับไม้ฉากที่โคราชนะ
ปั้นว่างไหมลูก  จะได้ไปด้วยกัน

ห๊ะ ,, พ่อแม่ไม้ฉากเนี้ยนะจะโทรชวนป๊าม๊าและผมไป
ม๊าได้ยินอะไรมาผิดหรือป่าว?

ผม ::  ม๊าพูดอีกทีสิครับ พ่อแม่ใครนะ
ผมถามม๊าอีกทีเพื่อความชัวร์  เดี๋ยวจะดีใจเก้อ 5555+

ม๊า ::   ไม้ฉากนะ เห็นว่าพ่อของไม้ฉากหุ้นกับเพื่อนที่โคราชจะเปิดรีสอร์ทกัน
เลยชวนพวกเราไปกินเลี้ยงที่นั้น ลูกจะไปไหมครับ ม๊ากับป๊าแล้วแต่ลูก

ม๊าถามผมอีกครั้ง ..

จริงๆแล้วม๊าผมก็ไม่ได้ยอมรับเรื่องของผมกับไม้ฉากหรอกครับ
แต่ป๊าบอกกับม๊าว่า

“ถ้าคุณรักลูก คุณแค่คอยเฝ้าดูลูกอยู่ห่างๆ ให้เค้าเดินตามทางที่เค้าอยากเป็น
วันไหนเค้าเดินคดเคี้ยว หรือล้มลงคุณค่อยเข้าไปประคองลูก
ลูกไม่ใช่สิ่งของที่คุณอยากจับไปวางไว้ตรงไหนได้ตามใจคุณ
และลูกไม่ใช่หุ่นยนต์ที่คุณจะไปรันโปรแกรมให้เค้าเดิน
ให้เค้าเลือกเส้นทางเดินของเค้าเถอะ  เราไม่ได้อยู่กับเค้าไปจนวันตายซะเมื่อไหร่”


คำที่ป๊าบอกกับม๊าในวันนั้น ผมยังจำได้ดี
และหลังจากวันนั้นมา ม๊าก็พยายามจะเข้าใจผมมากขึ้น
ไมได้ด่าว่าผม หรือโกรธที่เห็นรูปไม้ฉากแปะตามผนังห้องนอน
หรือเวลาเพื่อนๆมาแซวผมต่อหน้า 
ม๊าก็ไม่ได้มีท่าทีปั้นปึงแบบเมื่อก่อนแล้วครับ

ผม :: เดี๋ยวปั้นขอถามพวกยูโรก่อนนะครับ แล้วปั้นจะโทรบอกม๊าอีกที
พ่อแม่ของไม้ฉากเนี้ยนะ?
ผมว่าผมถามเพื่อนก่อนดีกว่าครับ เกิดหลอกให้ผมไปแล้วลวงผมไปฆ่าละ
(อันนี้ก็มองโลกแง่ร้ายไปละลูกเอ้ยย)

ม๊า ::    จ๊ะ งั้นคืนนี้เราคุยกันอีกทีนะลูก ขับรถกลับห้องดีๆ
แล้วแวะไปเล่นกับหลานด้วยนะปั้น  ถ่ายรูปมาเยอะๆ ม๊าคิดถึงยายหนูทีชเชอร์แย่แล้ว

หลงรักกันให้หมด ,, ยายหนูทีชเชอร์เนี้ย 5555+
พูดแล้วอยากจะฟัด เดี๋ยววันหยุดนี้ไปหาดีกว่า : )

ผม :: ครับม๊า
พอผมวางสายจากม๊าแล้ว ก็รีบหันไปบอกเพื่อนๆว่าวันนี้จะรีบกลับ
คือ จะรีบกลับไปคุยโทรศัพท์ที่บ้านครับ ไม่ชอบคุยตอนอยู่มหาลัย
เพราะเพื่อนๆมันชอบเรียกเวลาคุย ทำให้คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง


“ปั้นๆ แฟนมึงมา”
เพื่อนในคณะของผมสะกิดเรียกผม

“แฟนไหนของมึง”
แฟนกูไปเป็นตำรวจที่ใต้เว้ย อยากจะตะโกนใส่หน้าพวกมัน
555+ ผมไม่เคยปิดนะเรื่องที่คบกับไม้ฉาก
แต่มันไม่ค่อยมาให้เพื่อนๆเห็นเท่าไหร่  ก็เลยไม่มีใครรู้ว่าผมกับไม้คบกัน

“เด็กบัญชีไง โน้นเดินมาแล้ว”
ผมหันไปมองเด็กบัญชีที่เพื่อนบอก  ก็จะใครที่ไหนละครับ
คุณบีมมี่ครับ  ยายจุ้นเอ้ยย มากวนใจได้ทุกวัน
บีมมี่จะแวะมาหาผมที่คณะบ่อยมาก ไม่มายืมเงิน ก็มายืมรถ
บางทีมานั่งกินขนมด้วยเฉยๆ พอถึงคาบเรียนมันก็ไป
จะว่าไม่มีเพื่อนไม่น่าจะใช่ เพราะบางทีเธอก็พาเพื่อนมาด้วยครับ
ทำซะเหมือนกับว่าใต้คณะผมเป็นคณะบัญชีไปแล้ว

“เพื่อนก็พอนะ”
ผมหันไปตบกลาลเพื่อนข้างๆ ก่อนจะลุกเดินไปหาบีมมี่
ที่หยุดยืนอยู่แถวๆโต๊ะว่างๆ ใต้คณะ
มันไม่กล้าเดินเข้ามาหรอกครับ
เพราะเพื่อนผมปากหมามาก ชอบแซวบีมมี่มัน

“มาเอาไรอีกวันนี้”
ผมลงไปนั่งที่โต๊ะว่างๆ ก่อนที่บีมมี่จะเดินไปนั่งฝั่งตรงกันข้าม

“มานั่งเฉยๆ เบื่อเพื่อนที่คณะ”
เบื่อเพื่อนที่คณะ - -‘ แล้วนี้เธอคิดว่าฉันจะเบื่อเธอบ้างไหมมม 5555+

“ถามปั้นบ้างไหมว่าเบื่อบีมหรือปาว”
ผมแกล้งหันไปมองหน้าบีมแล้วยิ้มๆ

“อย่าเบื่อเราเลย เรามีแค่ปั้นคนเดียวนะ”
เอ๊ะ ,, มาแปลกนะวันนี้ ปกติต้องด่าแล้วละถ้าผมบอกว่าผมเบื่อ

“เป็นไรไหนพูดมา” ผมถามบีมมี่อีกครั้ง แต่บีมมี่ก็ส่ายหัวไปมา

“ไม่มีไรอะ เบื่อก็เบื่อเท่านั้นจบ”
อืมม เบื่อจ๊ะเบื่อ ไม่กวนละก็ได้
ผมเลยปล่อยให้บีมมันนั่งทำมิวสิคเพลงเศร้าๆของมันไป


ผมหยิบมือถือมาโทรหายูโร จะถามมันเรื่องไม้ฉาก

ผม :: เฮ้,,  ยู
พอยูรับสายผมก็ทักมันก่อน

ยูโร ::  ว่าไงมึง กูกำลังเรียนอยู่
มึงเรียนอยู่แล้วจะรับสายทำไมครับ - -‘

ผม ::  อ้าวว แล้วมึงรับสายทำไมละ  ทำไมไม่ปิดเครื่อง

ยูโร :: เผื่อเปาโทรมานะ กูเลยไม่กล้าปิดเครื่อง ไม่รับก็ไม่ได้สั่นซะไข่จะตื่น มีไรพูดมา

บรรยายซะกูเห็นภาพเลย  ไข่ตื่น - -‘

ผม :: ไปงานฉลองของไม้ปะวะ
พอผมพูดชื่อไม้ฉาก  ยายบีมมี่จอมยุ่งก็หันมาจ้องหน้าผม  ก่อนจะทำเป็นยิ้มแซวๆ

ยูโร ::  มึงได้รับเชิญด้วยหรอ  พวกกูนึกว่ามึงไม่ได้รับเชิญ
เลยกะจะปิดไม่บอกมึงนะเนี้ย  ว่าพ่อแม่ไม้ฉากโทรมาชวนพวกกู

โหยย เป็นเพื่อนที่ดีมาก กะจะไปเลี้ยงกันแต่พวกมึงสินะ

ผม ::  นี้กูน้อยใจได้ไหมวะ ทำไมไม่คิดบอกกูละ
ผมเริ่มทำเสียงงอแงใส่ยูโร

ยูโร :: ก็พวกกูกลัวมึงน้อยใจอะ เลยจะไปกันเงียบๆ
หื้มม ไปกันเงียบๆนี้แหละกูยิ่งน้อยใจ

ผม :: แล้วใครไปบ้างวะ
ผมหยิบขนมในกระเป๋า ที่มีน้องๆซื้อมาฝากยื่นให้บีมมี่กิน
เหมือนให้อาหารลิงครับ  ยื่นให้ปุ๊บ บีมมี่มันก็รับไปกินเลย
ไม่ได้ดูเลยว่ามันหมดอายุไหม หรือมันคือขนมอะไร

ยูโร :: ไปครบทุกคน แต่พู่กันจานสียังไม่กลับมา มันจะมาอีกทีก็สิ้นปีอะ แล้วค่อยฉลองอีกรอบ
พ่อแม่มันจัดงานใหญ่เหมือนกันนะครับ เล่นชวนพวกผมครบทุกคน
ก็แน่ละเนอะลูกชายกลับมาจากฝึกตำรวจที่ใต้ ใครๆก็น่าจะดีใจทั้งนั้นแหละ

ผม :: พวกมึงไปกันวันไหนวะ กูจะได้ไปด้วย

ยูโร :: มึงแน่ใจนะปั้นว่าจะไป  ไม่กลัวพ่อมันจะกระทืบเอาหรอวะ?

ยูโรแม่งไม่พูดให้กำลังใจเลยอะ T^T

ผม :: เค้าเชิญป๊าม๊ากูด้วย เค้าจะกล้ากระทืบกูได้ไงละ
บีมมี่ลุกขึ้นยืนก่อนจะโบกมือบ๊ายบายผมแล้วเดินกลับคณะไป
ผมชินละครับ บทจะไปก็ไป บทจะมาก็มาของบีมมี่

ยูโร :: เออๆ กูนัดเจอกันที่กรุงเทพวันเสาร์นี้วะ  แล้วไนซ์จะเอารถตู้ไป มึงไปกับพวกกูดิ
แล้วให้ป๊ากับม๊ามึงไปรอที่โคราชเลย

อืมม เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน ป๊าม๊าจะได้ไม่ต้องขับรถมาถึงกรุงเทพ

ผม ::  ได้ แล้วมึงมาถึงกรุงเทพก็โทรหากูนะ

ยูโร :: โอเค เสาร์นี้เจอกัน


พอวางสายจากยูโร  ผมก็ส่งไลน์ไปหาไนซ์
พ่อดาราสุดหล่อ ผมไม่กล้าโทรครับ 555+ กลัวมันไม่ว่างรับสาย
ไลน์ไปบอกมันก็พอแล้วละ

เ ตี้ ย แ ฟ น ห ล่ อ  :: กูไปหาไม้ด้วยนะ 

ชื่อไลน์ผมเปลี่ยนละนะครับ 555 ไม่ใช่แบบเดิมแล้ว
ไม้ฉากมันเปลี่ยนให้ก่อนมันไปใต้ครับ

เตี้ยแฟนหล่อ - -‘ 

ผมโดนรุ่นน้อง โดนเพื่อนๆ โดนรุ่นพี่แซวหนักมาก
แต่แซวแค่แป๊บเดียวแหละครับ 555+
และทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ได้เปลี่ยนกลับไปใช้ปั้นสิบแบบเดิมเลย
รอไม้ฉากมันเปลี่ยนให้อีกรอบ : )


และแล้ววันเดินทางของพวกผมก็มาถึงครับ
ยูโรเปานั่งเครื่องมาถึงเย็นวันศุกร์
ส่วนคะน้ากับเลน่อนมาถึงเช้าวันเสาร์ และไนซ์ก็ไปรับที่สนามบิม
ก่อนจะมารับพวกผมที่คอนโด

ป๊าและม๊าผมก็ออกเดินทางเช้าวันนี้เหมือนกันครับ
จากที่แม่ไม้ฉากบอกมาก็คือไม้ฉากจะถึงกรุงเทพวันนี้ช่วงบ่ายๆ
และจะมีงานเลี้ยงต้อนรับไม้ฉากในคืนนี้เลย
>//////< โคตรจะตื่นเต้นครับ
จะได้เจอมันแล้ว
รอมันมา 6 เดือนกว่าๆ
เป็น 6 เดือนที่จะเรียกว่าทรมานก็ได้นะ
เพราะติดต่อมันไม่ได้เลย ไม่ได้ยินเสียงมัน
และไม่ได้เจอมันมา 6 เดือน

ผมนี้อยู่กับภาวะซึมเศร้าเลยก็ว่าได้
ดีหน่อยที่ช่วงนั้นผมปิดเทอม ผมกลับไปอยู่ที่บ้าน
พวกยูโรกับเปามันก็แวะมานอนเล่น มาหาที่บ้านผม
พอกลับมาเรียน ก็มาเจอบทหนักเรื่องรับน้อง
เลยทำให้ 6 เดือนที่รอไม้ฉาก ไม่ได้ทรมานมากเท่าไหร่นัก
แต่ก็คิดถึงมันจนร้องไห้ทุกวันครับ.
เพิ่งรู้จริงๆนะว่าการคิดถึงใครซะคน จนน้ำตาไหลมันเป็นยังไง
บางทีไมได้เศร้าหรอกครับ แต่แค่ได้คิดถึงน้ำตามันก็มาคลอแล้ว


“ตื่นเต้นแทนมึงวะ”
ยูโรบอกกับผมตอนที่พวกเรากำลังลงลิฟท์มารอไนซ์

“เออ กูไม่รู้เหมือนกันว่าเจอหน้ามันแล้วกูจะทำยังไง”
ผมคิดภาพไม่ออกเลยครับ
จะวิ่งเข้าไปกอดแบบในหนัง หรือจะยืนยิ้มให้กันเฉยๆดี?

“เจอหน้ากันก็รู้เองแหละ” เปาบอกกับผม
เปาตอนนี้ใส่แว่นละครับ ดูเป็นเด็กเรียนขึ้นเยอะมาก
ผิวมันขาวกว่าเดิมมากๆด้วย เพราะอยู่แต่ในตึกเรียน
และพอกลับห้องมาก็อยู่แต่ในห้อง ไม่ค่อยได้ออกไปไหน
ส่วนยูโร มันยังดำคล้ำเหมือนเดิม 555+ เพราะมันออกแดดบ่อย
มันแรดบ่อยครับ มันชอบปั่นจักรยานจากคณะมันไปหาเปาที่คณะ
เอาน้ำ เอาผลไม้ไปส่งให้เปากิน จนสาวๆ ม.ขอนแก่น อิจฉาเปากันหมดละครับ


พวกผมเดินมารอไนซ์ได้แป๊บเดียว รถตู้ของไนซ์ก็มาจอดที่หน้าคอนโด
ไนซ์เปิดประตูให้พวกผม ก่อนที่ยูโรกับเปาจะเดินเข้าไปนั่งข้างในสุด
และทักทายคะน้ากับเลน่อนไปด้วย

“เห้ยย ผอมลงปะวะคะน้า”
พอผมขึ้นรถ และรถเริ่มออกตัวแล้ว
ผมหันไปทักทายเลน่อนและคะน้า
แต่ที่แปลกตาไปกว่าเดิม คือ คะน้ามันผอมลงครับ เลน่อนก็ด้วย
โอ้ยยย เพื่อนสาวสวยมากก >/////<

“อืมม ลงไป 20 โล ในรอบ 6 เดือนอะ”
เห้ยย 20 โลเลยหรอวะ?

“มึงเป็นโรคปะคะน้า”
ยูโรเอามือไปจิ้มๆแขนคะน้า แล้วทำหน้าแบบกลัวๆ

“กูเป็นคนนะยู ไม่ใช่เชื้อโรค มาจงมาจิ้มอะไรของมึง”
คะน้าหันไปด่ายูโร แต่ยูโรมันไม่ได้สลดลงหรอกครับ
ดันหัวเราะชอบใจที่โดนคะน้าด่า

“กูเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน หมอเลยให้ลดน้ำหนัก
นี้ลดกับหมอที่โรงพยาบาลนะ มันเลยลงไว”

อ่อ คะน้าอธิบายให้พวกผมเข้าใจว่าทำถึงน้ำหนักลงไว

“แล้วเลน่อนอะ อย่าบอกนะว่าคะน้าไม่ให้กินข้าวเลยผอม”
ยูโรยังหันไปกวนตีนเลน่อนต่อ 555+
เดี๋ยวคงได้โดนตีนจากคะน้าจนได้แน่ๆ


“ป่าวว กูเป็นนักรักบี้ ร่างกายเลยเหมือนจะฟิตกว่าเดิม แต่น้ำหนักไม่ลด”
เลน่อนตอบยูโร แต่จริงๆนะครับ เลน่อนดูล่ำขึ้นเยอะ
ไม่ได้อ้วนลงพุงแบบเดิม 


เพื่อนผมแต่ละคนต่างเปลี่ยนแปลงกันไปหมด
ที่บอกว่าเปลี่ยนแปลงนั้นเพียงแค่สภาพร่างกายภายนอกนะครับ
พวกเราโตขึ้นกันหมดแล้ว ผอมลง สูงขึ้น ฟิตขึ้น แข็งแรงขึ้น
และพวกเรารักและเข้าใจกันมากขึ้นด้วยครับ : )

“แต่มีคนหนึ่งวะที่ยังไม่เปลี่ยน”
เสียงยูโรอีกแหละครับพูดเสร็จละหันมามองหน้าผม

“เตี้ยยังไงก็ยังคงเดิม”
พอยูโรพูดจบก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ
เอาละไง ,, เอาความเตี้ยผมมาแซวกันอีกจนได้ - -‘

“เห้ยๆอย่าว่ามันนะเว้ยย เพราะว่าเตี้ยแฟนหล่ออะ แฟนมันกลับมาวันนี้”
คะน้าก็แซวผมด้วยอีกคน 555+
เอาเลยเพื่อน ,, แซวกันให้เต็มที่ครับ
คิดถึงพู่กันกับจานสี ถ้าตอนนี้พวกมันอยู่ในรถด้วย
ผมคงโดนมันแซวจนอายม้วนไปแล้วครับ


“ป่านนี้กูว่ามาถึงกรุงเทพแล้วแน่ๆ”
ไนซ์ก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะหันมาบอกผม
ก็มันเที่ยงกว่าแล้วนี้ครับ น่าจะมาถึงแล้วแหละนะ


“ตื่นเต้นวะพวกมึง เลิกแซวเถอะ” ผมหันไปบอกเพื่อนๆ
คือมันตื่นเต้นจริงๆครับ ไม่ใช่แค่ว่าจะได้เจอไม้ฉากนะ
วันนี้มันเหมือนวันรวมครอบครัวของมันและของผมเลยก็ว่าได้


“หรือว่าวันนี้พ่อไม้ฉากจะสู่ขอปั้นสิบให้ไม้มันวะ 5555
เอาไปเป็นศรีภรรยาคอยดูแลที่เชียงใหม่”

พอยูโรพูดจบ เพื่อนๆผมก็โห่ฮิ้ววกันยกใหญ่
พวกมึงงงงง!!!

กูเขินน >///////<



พวกเราก็นั่งคุยกันไป นั่งแซวกันไปจนมาถึงโคราช
ไนซ์เลยโทรหาแม่ไม้ฉากเพื่อถามทางไปที่รีสอร์ทของบ้านไม้ฉาก
แม่ไม้ฉากก็บอกทางให้พวกเราเรียบร้อยละครับ
ก่อนที่ไนซ์จะยืนมือถือมาให้ผม

“อะเตี้ย  มีคนจะคุยด้วย”
พอไนซ์ยื่นมือถือมาให้ผม  คือ ตอนนั้นอะคิดว่าไม้ฉากแน่ๆครับ
555+ ผมยื่นมือไปรับโทรศัพท์แล้วคือมือผมสั่น
มันตื่นเต้น ใจนี้เต้น ตึก ตึก ตึก
หัวใจผมเต้นดังมาก เต้นแรงมากจนแทบจะหลุดออกมา

“ฮิ้ววว มือสั่นเลยเว้ยย”
ยูโรก็ยังจะแซวผมอีก แต่เปามันจัดการยูโรให้ผมไปละครับ
เพี๊ยะ ดังสนั่นลั่นรถเลยละครับ 555+

ผม :: สวัสดีครับ
พูดไพเราะไว้ก่อน เผื่อเป็นแม่ของไม้ฉาก

ไม้ฉาก :: สวัสดีครับ ใช่ปั้นสิบหรือป่าวครับ
เสียงไม้ฉาก T^T
ไม่ได้ยินมาตั้ง  6 เดือนกว่า
ตอนนี้น้ำตาผมคลอเบ้าเลยละครับ
อยู่ๆก็ตื้นตันในใจยังไงไม่รู้

ผม :: ครับ ใช่ครับ
ไม้ฉากมันหัวเราะนิดหนึ่ง ก่อนจะเก็กเสียงเข้มคุยกับผมต่อ

ไม้ฉาก :: กำลังจะไปไหนหรอครับ

ผม :: ไปรอรับแฟนครับ


ตอนนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่าคนในรถมันโห่ฮิ้ว มันแซวผมมากแค่ไหน

ไม้ฉาก :: 555 เดี๋ยวเจอกันนะเตี้ย
ไม้ฉากมันหัวเราะชอบใจใหญ่เลยครับ
ก่อนจะหลุดใช้เสียงแบบเดิมที่ชอบใช้กับผมออกมา

ผม :: บ้า!  เดี๋ยวรอนะ เอาไรป่าว

ไม้ฉาก :: ไม่เอาแล้ว แค่นี้ก็ดีใจที่สุดแล้ว


^_________^ แค่นี้ก็ดีใจที่สุดแล้ว

ผม :: เหมือนกัน
สักพักแม่ไม้ฉากก็บอกให้ไม้ฉากวางสาย
มันเลยมาบอกผมกับคำเดิมๆก่อนวางสายนั้นแหละครับ

ไม้ฉาก :: บ๊ายบาย


ผมเลยยื่นมือถือคืนให้ไนซ์ ไม่กล้ามองหน้าเพื่อนคนไหนเลยครับ
แต่ละคนจ้องจะแซวผมทั้งทางสีหน้า ทั้งคำพูดกันทั้งนั้น
ไนซ์บอกทางกับคนขับรถ 
พวกเรานั่งรถออกจากตัวเมืองโคราชกันอีกประมาณ 40 นาทีก็มาถึงทางเข้ารีสอร์ทของไม้ฉาก
เป็นรีสอร์ทเล็กๆครับ ไม่ใหญ่มาก มีบ้านพักประมาณ 5 ห้องเอง

“เห้ยย สวยอะ”
คะน้ารีบสะกิดให้เลน่อนดูซุ้มดอกไม้ ตรงทางเข้ารีสอร์ท

“สวยจริงๆด้วยอะ “ เลน่อนก็เออออตามคะน้าไป
ผมไม่เคยเห็นเลน่อนขัดใจคะน้าเลยนะครับ 555+

“รถบ้านมึงอะปั้น” ยูโรชี้ๆให้ผมดู
ใช่จริงๆด้วยครับ รถที่บ้านผม ทำไมป๊ากับม๊ามาถึงไวจัง - -‘

พวกผมเอารถตู้มาจอดข้างๆรถของป๊ากับม๊า
ป๊าม๊าเดินออกมารับผมที่หน้าบ้าน

“ป๊า ม๊า สวัสดีครับ”
ผมเดินเข้าไปกอดม๊า ส่วนป๊าก็รับไหว้คะน้าลูกสาวที่รักอยู่
ป๊าผมอยากมีลูกสาวครับ แล้วคะน้ามันช่างพูด
ป๊าผมเลยรักคะน้าเหมือนลูกสาวคนหนึ่งเลย

“สวัสดีๆลูก เดินทางกันเหนื่อยแย่เลย 
เดี๋ยวคุณพลเค้าจัดบ้านพักให้พวกเรา 1 หลังนะ
พ่อจะพาไป ส่วนรถตู้เอาไปจอดตรงโรงจอดรถตรงโน้นนะลูก
ให้คนขับรถไปนอนที่โน้นได้เลย เค้าจัดห้องไว้ให้แล้วละ”

ป๊าผมบอกกับไนซ์ และพวกผม ก่อนที่จะชี้ให้ผมดูบ้านพักหลังหนึ่ง
ซึ่งอยู่ติดๆกับธารน้ำ   โหวว รีสอร์ทของบ้านไม้ฉาก มีธารน้ำไหลผ่านด้วยอะ สุดยอดดด!

“มากันละหรอครับเพื่อนๆของไม้ฉาก สวัสดีครับๆ ทำตัวตามสบายเลยนะ”
ผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมาหาพวกผม คนนี้น่าจะชื่อลุงพลหรือป่าวนะ
เห็นป๊าพูดถึงเมื่อกี้

“นี้ลุงพลที่ป๊าบอก  สวัสดีกันก่อนสิลูก”
ป๊าบอกกับพวกผม 
ผมกับเพื่อนๆเลยวางกระเป๋าลง ก่อนจะหันไปยกมือสวัสดีลุงพล

“เข้าที่พักกันก่อนนะ แล้วเย็นๆมาทานข้าวกัน ตอนนี้เห็นว่ากำลังพากันกลับมา
พวกลุงละตื่นเต้นน่าดูเลยละ ไม่ได้เห็นเจ้าไม้มาตั้งหลายเดือน”

แววตาของลุงพลตอนที่พูดถึงไม้ฉาก ฉายแววว่าปลาบปลื้มมากๆครับ
เป็นคุณลุงที่รักหลานมากๆเลยเนอะ
เออแต่ว่า .. เค้าเป็นลุงของไม้ฉากใช่ไหมวะ 555+


พวกผมเลยเดินกันเอาของไปเก็บที่บ้านพัก
ก่อนจะจัดที่นอนให้พอกับพวกเราทั้ง 6 คน
ถ้าไม้มานอนด้วยจะเป็น 7 คนครับ
มันเป็นฟูกนอนยาวๆเรียงกัน
เหมือนบ้านพักรองรับสำหรับการพักกันเป็นกลุ่ม


คะน้าชวนเลน่อนออกไปยืนถ่ายรูปที่ระเบียงหลังห้อง
เปาจัดเสื้อผ้าของตัวเองและของยูโรใส่ตู้เสื้อผ้า
ส่วนไนซ์ก็ล้มตัวลงไปนอนพัก เพราะเพิ่งถ่ายงานเสร็จเมื่อเช้า มันยังไม่ได้นอน
ผมเลยล้มตัวลงไปนอนข้างๆไนซ์ เอามือถือมาเช็คอินว่าอยู่ที่นี้กับเพื่อนๆ
สักพักบีมมี่ก็เข้ามากดไลค์สถานะในเฟสบุ๊คผม
ก่อนจะโพสกัดๆกวนๆมาตามแบบของมันนั้นแหละครับ

B B e e m Y ‘ ::
ไปไม่เคยชวน อะไรวะทิ้งกันตลอด ถ้าไม่มีของฝากแม่งโกรธจริงๆ



เห้อยายเพี้ยนเอ้ยย ! ผมกดไลค์ข้อความของบีมมี่ แต่ไม่ได้กดตอบอะไรครับ
เปิดดูรูปในไอจีไปเรื่อยๆ สักพักก็มีคนมาเคาะประตูหน้าบ้านพัก



ก๊อก  ก๊อก


เลน่อนเป็นคนออกไปเปิดประตูครับ

“สวัสดีค่ะ เห็นคุณแม่บอกว่ามีพี่ผู้หญิงมาด้วย 1 คน
หนูเลยจะมาถามว่าพักที่นี้สะดวกไหมค่ะ
หรือจะขึ้นไปพักกับหนูบนบ้านได้นะ”

เด็กสาวหน้าตาน่ารัก น่าจะอยู่ ม.ปลาย ได้แหละครับ
เดินเข้ามาถามพวกผม 
เธอใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ๆ และกางเกงขาสั้น
แต่ก็ไม่ได้สั้นมากจนน่าเกลียด

“อ่อไม่เป็นไรค่ะ พี่พักที่นี้ได้ นานๆเจอเพื่อนที จะได้เม้าท์กัน
ขอบใจมากนะจ๊ะน้อง ... เอ่ออ ชื่อน้องอะไรจ๊ะ”

คะน้าหันไปยิ้มให้กับสาวน้อยที่เดินเข้ามาหาพวกผม

“ชื่อพิมค่ะ ที่นี้จะเรียกว่าหนูพิม แต่เรียกพิมเฉยๆก็ได้
หนูเป็นลูกสาวของพ่อพลกับแม่อรนะค่ะ”

น้องพิมแนะนำตัวกับพวกผม ก่อนจะมองมาทางไนซ์ ที่ตอนนี้มันลุกมานั่งแล้วครับ


“อ้าววไนซ์มึงตื่นมาแย่งซีนพวกกู น้องพิมเค้าจ้องมึงเลย
ฮาโหลลพิม ฮัลโหลลน้องพิม”

ยูโรแกล้งเอามือไปปัดๆตรงหน้าน้องพิม
น้องพิมก็หัวเราะชอบใจที่ยูโรพูดแซว ก่อนจะขอตัวกลับขึ้นบ้าน

“งั้นพิมขอตัวก่อนนะคะ พี่ๆอยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกพิมได้เลยนะคะ”
พิมกำลังจะเดินออกจากห้องไป เปาก็ส่งเสียงถามขึ้นมา

“ธารน้ำข้างๆนี้พวกพี่เล่นได้ไหมครับ หรือมีตรงไหนเป็นจุดเล่นน้ำหรือป่าว”
น้องพิมหันกลับมายิ้มแล้วตอบพวกผม

“พี่ๆต้องเดินไปอีกค่ะ ประมาณ 300 เมตร คุณพ่อทำเป็นจุดเล่นน้ำไว้
ตรงนั้นมีเชือกให้โหนลงไปเล่นน้ำ มีชิงช้าให้นั่งแช่ในน้ำได้ด้วยค่ะ”

น้องพิมหน้าตาน่ารักมากครับ พูดจาชัดถ้อยชัดคำ และยิ้มแย้มตลอดเวลาเลย

“อ่องั้นน้องพิมไปเล่นน้ำด้วยกันไหมคะ”
คะน้าหาเพื่อนไปเล่นน้ำละครับ
เพราะมันเป็นผู้หญิง(??) ที่มากับกลุ่มผู้ชายเพียงคนเดียว


“พิมเดินไม่สะดวกนะคะพี่ ทางมันลื่นพิมกลัวล้ม
ขอโทษทีนะคะ พอดีตอนนี้พิมกำลังมีน้องนะคะ
ถ้าล้มไปละแย่แน่ๆ”

พิมพูดเสร็จก็เอามือลูบที่ท้อง 
แววตาของพิมที่จับท้องตัวเอง
มีแต่ความอบอุ่ม และมีรอยยิ้มเล็กๆอยู่ด้วย

เห้ยยยย!! น้องพิมคนนี้อะนะกำลังท้อง
ไม่ใช่แล้วละ ,, อายุน่าจะน้อยกว่าพวกผมด้วยซ้ำไป


คะน้าเดินเข้าไปเอามือลูบที่ท้องของน้องพิม

“งั้นน้องพิมขึ้นบ้านเถอะคะ ขอบใจมากนะจ๊ะ”
น้องพิมหันมายิ้มให้พวกผมอีกครั้ง ก่อนจะเดินขึ้นบ้านใหญ่ไป


“สมัยนี้ยังมีโสดๆ ซิงๆเหลืออยู่ไหมวะ
กูว่านะน้องพิมคนนี้ อายุน่าจะน้อยกว่าพวกเรานะเว้ยย
มีน้องในท้องซะแล้วว โอ้วว โลกหมุนไวจนพี่ตามไม่ทันแล้วบัวลอย”

ยูโรมันออกอาการเพ้ออะไรของมันไม่รู้ครับ
เปาเลยจัดการ เพี้ยะ ไปเต็มๆกบาล ยูโรมันเลยหยุดเพ้อ 555+

“กูไงยังซิง”
คะน้าพูดด้วยความมั่นใจ และสีหน้าที่ภาคภูมิใจสุดๆครับ

“เพื่อนกูทำไม่เป็นต่างหาก เลยปล่อยช้างให้ยังซิง ใช่ป่ะวะน่อน”
คราวนี้ไม่ต้องรอให้เปาได้ทำร้ายครับ คะน้าพุ่งชนใช้งวงฟาดใส่ยูโร
พวกผมก็ได้แต่ขำพวกมัน ทั้งๆที่โตกันขนาดนี้แล้ว
ยังจะเล่นกันแบบเด็กๆอยู่อีก


สักพักพวกผมก็ชวนกันเดินไปเล่นน้ำ
มันสวยมากๆครับ ยังกับในหนังสือท่องเที่ยวเลย
มีไม้ตอกๆไว้ตามต้นไม้ทำเหมือนบันไดให้เราปีนขึ้น
ไปเพื่อโหนเชือก แล้วทิ้งตัวลงมาในน้ำ
และมีชิงช้ามัดไว้กลางน้ำ ให้เราว่ายน้ำไปแล้วปีนขึ้นไปนั่งเล่น

พวกผมเล่นน้ำกันเกือบๆ 1 ชั่วโมงก็ชวนกันเดินกลัวไปที่บ้านพัก
เพราะมันเริ่มจะเย็นแล้ว
ป่านนี้ไม้ฉากน่าจะมาถึงแล้วละครับ
เพราะลุงพล กับป๊าผมเริ่มลองแสงสี และเสียงเพลงแล้วครับ


“ไปไหนกันมาวะ ไม่เคยจะรอกูหรอกนะ”
พอพวกผมเดินมาถึงหน้าห้องพัก ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหูมากๆ

“ไม้ฉาก!!”
ยูโร เปา คะน้า เลน่อน ไนซ์ ที่เห็นไม้ฉากยืนอยู่
ร้องเรียกชื่อไม้ฉากพร้อมๆกันเลยครับ


“เออกูเอง”
ไม้ฉากเดินเข้ามากอดพวกผม แล้วยิ้มให้เพื่อนๆ ก่อนจะทักทายเพื่อนๆทุกคน
ผมยืนอยู่ข้างหลังสุดครับ มันเลยเดินมาถึงผมเป็นคนสุดท้าย


“กลับมาแล้วนะครับ”

เป็นคำแรกที่ไม้ฉากบอกกับผม T__T
น้ำตามาเต็มอีกละครับ แค่คำว่า กลับมาแล้วนะครับ
น้ำตาผมไหลออกมาเต็มที่เลย
มันเหมือนก้อนที่มันจุกอยู่ในอกมันได้หายไปแล้ว
การรอคอยของผมมันสิ้นสุดลงแล้ว
ไม่ต้องนอนผวาอีกแล้ว
ไม่ต้องนอนกังวลอีกแล้วว่าที่ชายแดนใต้จะมีเรื่องราวอะไร
ไม่ต้องคอยตามอ่านชื่อนายตำรวจที่ต้องเสียชีวิตรายวันที่นั้นอีกแล้ว



ไม้ฉากกลับมาแล้ว!!!


“กลับมาแล้วหรอ?”
ผมเงยหน้าไปมองหน้าไม้ฉาก
ไม้ฉากมันยิ้มให้ผม ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด


“ขอบใจนะปั้น”
เป็นกอดที่ ..

ร อ ค อ ย


มานานมาก


ผมไม่ได้สนใจเลยครัวว่าตรงจุดที่เรายืน
จะมีเพื่อนของเรามองแบบแซวๆ
หรือจะมีป๊าม๊าของผม หรือพ่อแม่ของไม้ฉากมองอยู่หรือป่าว


ณ เวลานั้นคือ ผมอยากมีแค่ไม้ฉาก.


“ฮัชชิ้วว”
ไอ้เชรี้ยยกำลังสวีตกัน จามออกมาได้นะ
ผมสบถด่าตัวเอง แต่ไม้ฉากมันหัวเราะผม
ก่อนจะผละตัวผมออก

“ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ตัวเปียกแบบนี้เดี๋ยวไม่สบาย”
ผมเพิ่งไปเล่นน้ำมาครับ ตัวเปียกไปหมดทั้งตัว
แล้วไม้ฉากกอดผมไปเมื่อกี้ ตอนนี้มันก็ตัวเปียกเหมือนกันครับ 555+


“อืม ไม้ไปเปลี่ยนชุดด้วยดิ เปียกหมดแล้ว เดี๋ยวคืนนี้ไม่หล่อนะ”
ไม้ฉากเอามือมาขยี้หัวผมเล่น ก่อนจะดึงแก้มผม
ดึงอีกแล้วว  มึงมีปัญหาอะไรกับแก้มกูหรือป่าวว? 

“ครับผม งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ  แล้วก็ . . .”
ไม้ฉากหันไปมองรอบๆตัว  ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างๆหูผม

“คืนนี้นอนกอดกันนะ”
แล้วเงยหน้ามายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม
หึหึ ไอ้หมาป่าเอ้ยยย!!!


“รีบๆไปเปลี่ยนชุดเลยปะ”
ผมผลักไม้ฉากออก ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านพัก
ส่วนไม้ฉากก็เดินแยกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า



ไม่ต้องบอกก็คงพอจะเดากันได้นะครับ
ว่าผมเดินเข้าบ้านพักไป โดนเพื่อนๆแซวขนาดไหน
ยูโรกับเปา นี้ทำท่าเลียนแบบผมกับไม้ฉากเลยครับ
ส่วนไนซ์ กับ คะน้าและเลน่อน ก็พูดเลียนแบบไม้ฉาก
แต่ละคน ,, เอาซะกูเขินจนเดินไม่เป็นเลยไงละ




ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
ต่อ //



ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ออกมานั่งเล่นที่ระเบียงห้องกับเพื่อนๆ
เพราะกะว่าจะเข้าไปร่วมงานกันตอนค่ำๆกว่านี้หน่อย
ไม่รู้ว่าพ่อไม้ฉากเชิญแขกมาเยอะไหม 
เมื่อกี้ก่อนเดินเข้าห้องก็เห็นรถยนต์ทยอยเข้ามาหลายคันแล้ว

“จัดงานใหญ่มากเลยอะ”
เลน่อนเดินออกไปข้างนอก เพื่อดูว่างานเริ่มหรือยัง
เดินกลับมาบอกพวกผม


“ก็กูบอกแล้วว่างานนี้เป็นงานสู่ขอปั้นสิบ มันต้องจัดใหญ่สิวะ”
ยูโรพูดแซวผมอีกละครับ พวกเพื่อนๆก็หัวเราะกันใหญ่


แต่สักพักเสียงหัวเราะของพวกเราต้องเงียบลง
เพราะไม้ฉากเดินหนีพ่อเข้ามาหาพวกผมในบ้านพัก


“พวกมึงไปกรุงเทพกัน”
ไม้ฉากฉุดแขนผมให้ลุกขึ้นยืน
ตอนนี้ผมนั่งที่เตียงกับคะน้า
ส่วนเพื่อนๆคนอื่นยืนอยู่ตรงระเบียงห้อง


“ไปไหนวะไม้ เดี๋ยวก่อนดิคุยกันก่อน”
ผมพยายามดึงไม้ฉากให้หยุดเดิน


“ไนซ์โทรบอกคนขับรถของมึงให้ออกรถ  เราจะกลับกรุงเทพกัน”
ไม้ฉากหยุดเดินแล้วครับ แต่มันหันมาสั่งไนซ์
แล้วยังจับแขนผมไว้แน่นเลยครับ


“ไม้ฉาก มึงจะไปไหน กล้าฉีกหน้าพ่อกลางงานนี้หรือไง
กลับขึ้นไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้นะ”

เสียงพ่อไม้ฉากดังเข้ามาในบ้าน
พร้อมๆกับพ่อไม้ฉากที่เดินเข้ามา


พวกผมทุกคนเริ่มขยับมายืนรวมกันไว้  เลน่อนยืนบังตัวผมไว้ครับ
ส่วนไม้ฉากก็ยังจับมือผมไว้ไม่ยอมปล่อย


“ถ้าพ่อบอกว่างานนี้เป็นแค่งานเลี้ยงฉลองที่ผมกลับมาจากใต้แค่นั้น
ผมจะกลับไป  แต่ถ้ามันเป็นเหมือนที่พ่อพูดกับป๊าม๊าของปั้นสิบ ผมไม่กลับ”

ไม้ฉากตอบพ่อไปด้วยเสียงที่ดังมากครับ
พ่อไม้ฉากมองพวกผมด้วยสายตาที่ผมเองก็บอกไม่ได้ว่ามันหมายถึงอะไร
จะว่าเอ็นดู? ก็ไม่น่าใช่ครับ
มันเหมือนจะเกลียด .. แต่ก็ไม่ใช่อีกนั้นแหละครับ
เอาเป็นว่าเป็นสายตาที่ไม่ได้มองมาด้วยความรู้สึกที่ดีๆแน่นอน


สักพักแม่ไม้ฉากก็วิ่งเข้ามาจับแขนพ่อไม้ฉากไว้

“คุณคะ แขกมางานเยอะแล้ว อย่าเสียงดังเลยคะ
ค่อยๆพูดกับลูกนะคะ”

พ่อของไม้ฉากตวัดแขนออก
ก่อนจะชี้หน้าไม้ฉากและอาจจะรวมถึงผมด้วยก็ได้ - -‘


“วันนี้จะแค่เลี้ยงฉลองให้แกก็ได้ แต่อย่ามาอวดเก่ง
เป็นแค่นายสิบตำรวจ ไม่ได้ใหญ่โตคับฟ้า
ที่พ่อแม่จะบังคับไม่ได้นะไม้ฉาก ไปแต่งตัวแล้วเตรียมออกไปรับแขก”

พ่อไม้ฉากพูดเสร็จก็เดินออกไป ส่วนแม่ไม้ฉากร้องไห้อีกละครับ

“ไม้ ,, แม่ขอร้องละลูก กลับไปแต่งตัวแล้วไปรับแขกกับแม่นะ
แม่สัญญาว่าคืนนี้เป็นแค่งานเลี้ยงธรรมดา แล้วเราค่อยคุยกันนะลูกนะ”

ผมไม่รู้หรอกครับว่าเรื่องอะไร  แต่ก็จับแขนไม้ฉากไว้


“ไปเถอะไม้ วันนี้ต้องเป็นวันที่ดี
มีอะไรค่อยคุยกันคืนนี้  กูอยู่ข้างๆมึงตรงนี้แหละ”

ไม้ฉากหันมาสบตากับผม
ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด


“สัญญานะว่าอย่าหนีไปไหน ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
มึงอย่าหนีกูไปไหนนะปั้น”


เรื่องอะไรเกิดขึ้น?
จะมีเรื่องอะไรอีกงั้นหรอ?


“อืมม สัญญา”
ผมผละตัวออกจากกอดของไม้ฉาก ก่อนจะยิ้มให้มัน
สักพักมันก็ยอมเดินตามแม่ออกไป


“กูว่านะ เรื่องเริ่มไม่ดีแล้ววะ เก็บกระเป๋ารอเลยได้ไหมเนี้ย”
เปามันเสนอความคิดเห็นครับ แต่คะน้าอะเก็บของใส่กระเป๋าแล้ว - -‘

“เห้ยย เก็บกระเป๋ากันทำไมวะ” ผมหันไปถามคะน้า

“เตรียมพร้อมไงมึง เผื่อต้องกลับกรุงเทพด่วน”
คะน้ามันตอบผม แล้วก็หันไปบอกให้เลน่อนมาเก็บของ

“เออเตรียมไว้ก็ดีนะ ไนซ์บอกคนขับรถด้วยให้เตรียมพร้อมไว้ กูว่ามันแปลกๆยังไงไม่รู้วะ”
ยูโรบอกกับไนซ์ ก่อนจะเดินไปช่วยเปาเก็บกระเป๋า
ซึ่งไนซ์มันก็เดินมาตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะยกมือถือขึ้นมาโทรหาคนขับรถ


เดี๋ยวก่อนนะ ,, นี้มันงานยินดี งานฉลองที่ไม้ฉากกลับมาใช่ไหม?
ทำไม ,, ไม้ฉากกับพ่อทะเลาะกันอีกแล้วละ?



โอ้ยยย .. ชีวิตกูยังเจอวิบากกรรมไม่พอใช่ไหมเนี้ยย!!!



ไม้ .. เกิดอะไรขึ้นวะ?
พ่อแม่ไม้บอกอะไรกับป๊าม๊าของปั้นกันแน่?
มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีของเราทั้งคู่หรอ?
การรอคอยของเรามันยังไม่สิ้นสุดอีกหรอไม้?

ตอบปั้นทีเถอะ ....

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
อัพแล้วนะจ๊ะ ตอนที่ 68 : )
จริงๆเนื้อเรื่องไม่เยอะมากหรอกค่ะ เจแบ่งตอนเยอะเอง 555+


ฝากเด็กๆด้วยนะคะ
แล้วยังไงจะรีบมาต่อให้น๊า '

ต้องขออภัยกับคำผิดด้วยนะคะ
เจตามแก้เดือนหน้าน่ะ '
และขอบคุณทุกๆคอมเมนต์ด้วยนะคะ

คอมเมนต์ของทุกๆคน มีประโยชน์และมีคุณค่ากับเด็กทั้งคู่มาก
ขอบคุณมากๆค่า : )

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
พกหินนะลุกปั้น  อย่าพกนุ่น   อย่าปล่อยมือกัน

พ่อแม่ไม้จัดฉากยัดเยียดพิมกับลูกในท้องแน่ๆเลย    จัดฉากให้ไม้ฉากรับต่อหน้าคนอื่น พ่อแม่ปั้น ตัดไฟแต่ต้นลม   นี่สินะความเป็นเพื่อนที่พ่อไม้บอกไม้  เป็นแค่นายสิบแต่อายุเกินแล้วก็อยู่เองได้   เมืองไทยอยู่ไม่ได้เดี๋ยวหาทุนเรียนนอกก็ได้ลูก

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao5:    อย่าถอยนะปั้น

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เจอคนแบบพ่อไม้  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
พ่อกับแม่บังคับกันเกินไปนะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ทำไมพ่อไม้ฉากเป็นคนแบบนี้เนี่ย ก็รู้ว่ารักลูกและรับไม่ได้ที่ลูกรักผู้ชาย

แต่แบบเปิดใจหน่อยได้ไหม ทำไมไม่ดูว่าที่ทำอยู่ตอนนี้เนี่ยลูกมีความสุขไหม

ทำไมต้องบังคับกันซะขนาดนี้ด้วย เราไม่เข้าใจความคิดของพ่อไม้ฉากเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด