Ch 73.1 คำ สัญ ญา . . || ปั้นสิบ
“ป๊า ,, ไม้ ไม้ไปไหนครับ ป๊า ไม้ฉากไปไหน”
ผมพยายามถามป๊า แต่ป๊าก็ไม่ตอบผม
หันไปถามม๊า ม๊าก็หลบหน้าผมไม่ยอมสบตากับผม
ไม้ .. ไม้ฉากไปไหน?
หรือว่าที่ผมเห็นบนเวทีจะเป็นเรื่องจริง??
ผมรีบลุกออกจากเตียง ก่อนจะวิ่งไปบนบ้านใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานหมั้นเมื่อเช้า
ตอนนี้ยังมีบางคนนั่งทานข้าว และนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะจีนตรงสนาม และบางคนก็อยู่บนบ้านใหญ่
ผมรีบเดินเบียดผู้คนที่ยืนออกันอยู่ตรงประตูเข้าไป
เสียงป๊ากับม๊า เรียกชื่อผมดังมาจากข้างหลัง
“ปั้น ไม่เข้าไปลูก! ปั้นสิบ หยุดก่อน!”
แต่ในวินาทีนั้นผมหยุดไม่ได้แล้วครับ
มันต้องไม่ใช่อย่างที่ผมเห็นสิ ต้องไม่ใช่
แม่ของไม้ฉากสัญญาแล้ว!!!!
พอผมแทรกคนที่ยืนอยู่หน้าประตูเข้าไปได้แล้ว
ผมแทบจะล้มทั้งยืน
มันเป็นแบบที่ผมเห็นจริงๆครับ
ก่อนที่ผมจะเป็นลมล้มไปนั้น
ผมหันไปมองบนเวทีพร้อมๆกับไม้ฉาก
เพราะยูโรกับเปามันพูดจาแปลกๆ ด้วยความสงสัยผมก็เลยหันไป
บนเวทีมีคนงานกำลังปลดป้ายคำว่า “งานหมั้น” ลง
และติดคำว่า “ งานมงคลสมรส” แทน
ผมเห็นแค่นั้นครับ แล้วผมก็เป็นลมล้มไปเลย
แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้า ,, ทำให้ผมรู้สึกหน้าชากว่าตอนเป็นลมอีกครับ
ไม้ฉาก กับน้องพิม กำลังนั่งอยู่บนตั่งหลั่งน้ำสังข์
เจิมแป้งที่หน้าผากแล้ว และมีมงคลแฝดอยู่บนหัวของไม้ฉากและน้องพิม
ตอนนี้มีแขกผู้ใหญ่ทยอยขึ้นไปหลั่งน้ำสังข์และอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว
ผมใช้คำนี้ได้แล้วสินะ ,, คู่บ่าวสาว!!!
ผมพลาดอะไรไป ,, ผมเป็นลมไปนานขนาดนั้นเลยงั้นหรอ??!!
“ทำไมละ ทำไมเป็นแบบนี้”
ผมเริ่มสะอื้นออกมา จนคนในงานเริ่มหันมามองผม
จะไม่ให้มองได้ยังไงละครับ อยู่ๆมายืนร้องไห้ในงานแต่งงาน
ถึงจะร้องไม่ดัง แต่ก็สะอื้นจนตัวโยนเลยละครับ
รองเท้าผมก็ไม่ได้ใส่ วิ่งออกจากบ้านพักมาทั้งที่เท้าเปล่าแบบนั้นเลย
เท้าผมเลอะไปหมด ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง
แล้วเสื้อที่ใส่ก็ปลดกระดุมออกมาเกือบหมด
สภาพดูไม่ได้มากๆ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแขกๆในงานถึงหันมามองผม
รวมทั้งไม้ฉากที่นั่งอยู่บนเวทีด้วย มันมองเห็นผมแล้ว
มันทำท่าจะลุกขึ้นยืน แต่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังไม้ฉาก
เค้าเรียกว่าเพื่อนเจ้าบ่าวมั้งครับ เอามือกดไหล่ไม้ฉากให้นั่งลงเหมือนเดิม
เพื่อนเจ้าบ่าวคนนั้นไม่ใช่เพื่อนผมแน่นอนครับ หน้าไม่คุ้นเลย
คงเป็นคนของทางลุงพล หรือทางคุณพ่อไม้ฉากนั้นแหละ
“ปั้น กลับบ้านพักกันเหอะมึง”
ไนซ์เดินเข้ามาดึงแขนผมให้เดินออกจากห้องจัดงาน
ตอนนี้ผมเองแทบไม่มีแรงจะต้านทานแรงดึงของเพื่อนละครับ
เลยเดินตามเพื่อนๆกลับบ้านพักไป
พอเดินเข้ามาในบ้านพักแล้ว ยูโรก็ถามขึ้นมา
“กลับกรุงเทพกันเลยดีไหมวะ”
“ยัง ไม่กลับ กูไม่กลับ กูต้องคุยกับแม่ของไม้ฉากก่อน
ไหนบอกว่าไม่แต่งไงวะ แล้วเมื่อกี้บนเวทีคืออะไรวะมึง
พวกมึงบอกกูที ฮึกกก .. ฮือออ คืออะไรวะ ทำไมเป็นแบบนี้วะมึง”
ผมหมดเรี่ยวแรงที่จะเดินแล้วครับ
นั่งฟุบลงไปกับพื้น ก่อนจะปล่อยโฮร้องไห้ออกมา
ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมต้องโกหก ทำไมต้องหลอกกันด้วย
พวกเพื่อนๆไม่มีใครเดินเข้ามาปลอบหรือมาบอกให้ผมหยุดร้องไห้
ทุกคนปล่อยให้ผมได้ร้องไห้ออกมา ... ซึ่งมันก็ดีแล้วครับ
เพราะผมเองก็เก็บความเจ็บ ความอึดอัดนี้ไว้ในใจไม่ได้แล้วจริงๆ
“พอเถอะปั้น มึงอย่าร้องเลยนะมึงร้องมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ
แล้วนี้มึงยังไม่ได้นอนเลย อย่าร้องเลยนะมึง พวกกูขอ”
เปาดึงผมเข้าไปกอด ก่อนจะเอามือตบหลังผมเบาๆ
“มึง เอาไม้คืนมาให้กูเถอะ มึงไปตามไม้กลับมาหากูได้ไหม
ฮืออ มึงเอาไม้กลับมา ไม่เอาแล้วกูไม่ให้หมั้นแล้ว”
ผมร้องไห้ และไม่ยอมฟังคำปลอบจากเพื่อนๆครับ
ผมร้องไห้หนักมากจริงๆ ไม่อยากยอมรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้น
ถ้าแต่งงานแล้ว แปลว่า ผมกับไม้ต้องจบลงแล้วใช่ไหม?
ตอนนี้ไม้ไม่ใช่คนรักของผมอีกแล้วงั้นหรอ?
“ปั้น ไม่เอาลูกใจเย็นๆ เดี๋ยวจะหายใจไม่ออก”
ม๊าพูดเสร็จก็ดึงผมเข้าไปกอด ก่อนจะเอามือมาลูบหัวผม
“ฮึกก ,, ม๊าครับ ฮืออ ทำ ทำไมเป็นแบบนี้ละครับม๊า
ทำไมไม้ต้องแต่งงานครับ ฮืออออ ไหน บอกว่าไม่แต่งไงครับม๊า”
ผมสะอื้นไปก็ถามม๊าไป ..
ตอนนี้ผมหายใจไม่ออกละครับ มันร้องไห้หนักจนหายใจไม่ทัน
“มันเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่เค้าเห็นว่ามันสมควร เราห้ามไม่ได้หรอกลูก
เพราะเราแค่คนนอก ปั้นเข้าใจไหมลูก อย่าร้องไห้แบบนั้นสิปั้น ค่อยๆหายใจก่อน”
ป๊าขึ้นเสียงดุผม เพราะผมร้องไห้แล้วหายใจไม่ทัน
ตอนเด็กๆผมเคยเป็นหอบครับ เวลาหายใจไม่ทันทีไรต้องเข้าโรงพยาบาลทุกทีครับ
ตอนนี้ม๊าเริ่มผละตัวออกจากผม แล้วค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตออกให้ผม
“ไนซ์ไปเอาผ้าชุบน้ำมาให้ปั้นหน่อยลูก
ยูโรครับเปิดระเบียงห้องให้ลมเข้ามาในห้องหน่อย
น้องปั้นหายใจไม่ออกลูก ช่วยม๊ากันหน่อย”
ตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าเพื่อนๆผมจะทำตัววุ่นวาย
วิ่งไปมากันเต็มห้องแค่ไหน
ผมรู้แค่ผมเสียใจ และอยากให้ไม้ฉากมายืนตรงหน้าผม
ผมอยากได้ไม้ฉากกลับคืนมา!
ม๊าเช็ดตัวให้ผมเสร็จแล้ว
ก็ให้ยูโรช่วยหาเสื้อผ้าใส่สบายๆมาให้ผมเปลี่ยน
แต่ผมไม่ยอมขยับตัว จนยูโรมันด่าผมครับ
“ถ้ามึงทำตัวงี่เง่าแบบนี้นะปั้น อย่าว่าแต่ไม้ฉากเลยที่จะไปจากมึง
พวกกูก็จะไป ไอ้เชรี้ย! ลุกมาไวๆเลย มาเปลี่ยนชุด
จะทำตัวอ่อนแอให้พ่อแม่มึงเป็นห่วงอะไรหนักหนาวะ
มันแต่งไปแล้วมึงจะกลับไปแก้ไขได้ยังไงละ
อาบน้ำแต่งตัวแล้วหยุดร้องไห้ได้แล้ว
เดี๋ยวไม้มันมาจะได้คุยกันว่าจากนี้พวกมึงสองคนจะเอาไงต่อ
ร้องไห้จนมึงตาย มึงก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว”
ยูโรมันด่าผมมาเป็นชุดเลยครับ T^T
ผมหันไปมองหน้ายูโร แววตามันไม่ได้ดุอะไรผมเลยครับ
แต่เป็นแววตาของความเป็นห่วง
“ยู .. มึงไปตามไม้มาให้กูหน่อย นะยูนะ
มึงบอกไม้ว่ากูรอมันอยู่ที่นี้
มันต้องรีบมาแน่ๆ แล้วเราจะกลับกรุงเทพกัน
ไนซ์ๆ มึงไปเอารถออกเลย กูจะพาไม้กลับกรุงเทพ”
ผมขยับตัวไปหาไนซ์ ก่อนจะเขย่าๆแขนไนซ์ให้มันรีบลุกไปเตรียมรถ
แต่มันกลับนั่งมองหน้าผมเฉยๆ ยูโรก็ยืนอยู่เหมือนเดิม
ไม่มีใครไปตามไม้ฉากให้ผม
“ฮึกกก ฮืออ ,, ทำไมพวกมึงไม่ทำละ ทำไมม่ช่วยกู
มึงไปตามไม้กลับมาให้กูเถอะ ฮืออออ โอ้ยย เจ็บ”
ผมร้องไห้มากไปจบเจ็บหน้าอก
ต้องเอามือมาบีบนวดไว้ให้มันหายปวด
“ปั้นสิบ!!! ป๊าบอกแล้วไงลูกอย่าร้องไห้แบบนั้น หัวใจจะทำงานหนัก
ถ้าปั้นเป็นอะไรไป ป๊ากับม๊าจะอยู่ยังไงละครับ
ไม่เอานะลูกนะ หยุดร้องก่อนนะครับ”
ป๊าเดินมาบีบนวดตรงไหล่ให้ผม ก่อนจะนวดแขนให้ผมหายเกร็ง
“ป๊า แต่ปั้นรักไม้นะครับ รักจริงๆ ไม้ก็รักปั้น
ฮึกกก ,, ป๊าตามไม้กลับมาให้ผมนะครับ”
ผมหันไปขอร้องป๊า แต่ป๊าก็ได้แต่ยิ้มบางๆให้ผม โดยไม่ได้พูดอะไร
“ม๊าฝากปั้นด้วยนะลูก เดี๋ยวป๊ากับม๊าขอขึ้นไปในงานก่อน
ถ้าไม่มีอะไรแล้ว อีกสักพักพวกเราก็กลับบ้านกันนะ”
ม๊าเห็นว่าเพื่อนๆผมอยู่ดูแลผมได้ ม๊าเลยขอไปดูงานข้างนอก
พอม๊าผมพูดจบแล้วก็ชวนป๊าเดินออกจากห้องไป
ไนซ์มาประคองตัวผมให้ลุกขึ้นยืน ก่อนมันจะยิ้มหล่อๆให้ผม
“อาบน้ำกันมึง จะได้สบายตัว”
พูดจบไนซ์ก็ผลักผมเข้าไปในห้องน้ำ
“อาบน้ำนะมึง ถ้ายังชักช้าอีก กูจะเข้ามาอาบให้”
มันพูดเสร็จก็ยิ้มกวนๆมาให้ผม
แต่ในเวลานี้ผมไม่ได้กลัวไม่ได้อายอะไรหรอกครับ ถ้ามันจะเข้ามาอาบให้ผมก็ยอม
ผมยืนนิ่งๆอยู่ในห้องน้ำ มองหน้าตัวเองในกระจก
นี้หรอคือหน้าตาของคนที่ทำเพื่อคนรัก
ทำเพื่อครอบครัวของคนที่มันรัก
สุดท้ายมึงก็แค่คนโง่ๆคนหนึ่งแหละปั้นสิบ
พ่อแม่ไม้ฉากมาหลอกใช้ความรักของผม เพื่อให้ไม้ฉากได้ทำในสิ่งที่ท่านต้องการ
ผมทำร้ายตัวเองไม่พอ ผมยังทำร้ายไม้ฉากด้วย
แล้วจะทำยังไงต่อไปละปั้นสิบ?
เค้าแต่งงานกันแล้ว คนรู้กันหมดแล้ว
เค้าจะมาคบมึงหรอไง?
มึงมันแค่ผู้ชาย ที่เป็นผู้ชายเหมือนกับไม้ฉาก
พ่อแม่เค้าจะยอมรับมึงหรอ จะมีวันยอมรับงั้นหรอ?
ผมเสียใจครับ เสียใจมากๆ
ไม่ได้เสียใจที่พาไม้กลับมานะครับ เสียใจที่แม่ไม้ฉากผิดสัญญา
คำสัญญาของผู้ใหญ่ไม่มีความหมายหรอครับ?
ผมอยากรู้จริงๆ
ผมยืนมองตัวเองในกระจก ยืนคิดอะไรไปเรื่อยๆ
เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่มันรุมเร้าผมมานาน
ผมอยู่ในความอึดอัดใจ อยู่กับความทรมานใจแบบนี้มาหลายปีแล้ว
ตอนนั้นสมองส่วนดีที่เคยคิดแต่สิ่งดีๆ มองโลกในแง่ดีๆมันไม่ทำงานแล้วครับ
คนในกระจก .. นั้นมันคือผม คือ ปั้นสิบ
ปั้นสิบ ,, ถ้ามึงไม่รู้สึกชอบไม้ฉากเกินกว่าเพื่อนละ
ถ้าวันนั้นมึงไม่ทำเกินเลยไม่ก้าวข้ามคำว่าเพื่อน
ถ้ามึงไม่ดื้อดึงจนมาถึงวันนี้
ไม้ฉากจะต้องไปแต่งงานแบบนี้ไหม?
ทุกอย่างเพราะมึงนะปั้น
เพราะมึงรักมัน เพราะมึงล้ำเส้นของคำว่าเพื่อน
เรื่องราวเลยเป็นแบบนี้!!!
แต่ถ้า ...
ไม่มีผมอีกแล้วละ?
ไม้ฉากก็ไม่ต้องแต่งงานใช่ไหม?
เรื่องการแต่งงานจะยุติลงหรือป่าว?
พ่อของไม้ฉากทำไปเพียงแค่อยากชนะผมเท่านั้น
ถ้าผมหายไปจากโลกนี้แล้วละ…
พ่อแม่ของไม้ฉากก็ไม่ต้องหย่ากัน
ครอบครัวของไม้ฉากก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมใช่ไหม?
ไม้ฉากก็จะมีชีวิตเป็นของตัวเองโดยไม่ต้องห่วงผมใช่ไหม?
ความคิดชั่ววูบมันทำให้ผมตัดสินใจ ..
เดินไปยังกองเสื้อผ้าที่ผมใส่มาจากกรุงเทพ
เมื่อตอนเช้าไม้ฉากมันถอดเสื้อผ้าผมแล้วโยนทิ้งไว้ในห้องน้ำ
ผมเดินไปหยิบกางเกงขึ้นมาล้วงเอาของในกระเป๋า
พอเจอสิ่งที่ผมอยากได้แล้ว ผมก็เดินไปเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำจนเต็ม
ก่อนจะถอดเสื้อผ้าแล้วกำลังจะลงไปนั่งแช่ในน้ำ
แต่เสียงไนซ์ตะโกนดังขึ้นมาก่อน ผมเลยหยุดยืนนิ่งๆอยู่ข้างๆอ่างอาบน้ำ
“เห้ยย เสร็จยังวะมึง กูจะเปิดเข้าไปดูละนะ ปั้น ปั้นสิบ!!”
ไนซ์มันไม่ได้รอคำตอบจากผมครับ เปิดประตูห้องน้ำเข้ามา
“อ้าวยังไม่อาบอีกหรอวะมึง แล้วมึงเปิดน้ำใส่อ่างทำไมเนี้ย
อย่าบอกนะว่าจะแช่น้ำอะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
ไนซ์ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ พอมันเห็นผมยืนอยู่ข้างๆอ่างอาบน้ำ และถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว
มันกลับหันหน้าหนี ไอ้เชรี้ยย คนที่ควรอายนะ คือกูต่างหาก - -‘
มึงจะอายแล้วหลบหน้าไปทำไมกันวะไอ้บ้าไนซ์
“อืมม เมื่อยๆตัววะ อยากแช่น้ำอุ่นให้สบายตัวหน่อย มึงรอข้างนอกเถอะ
กูขอแช่น้ำสักพัก แล้วจะออกไป”
“เออๆ อย่าแช่นานนะมึง เดี๋ยวไม่สบาย”
พอไนซ์พูดจบก็ปิดประตูห้องน้ำ
ผมเดินลงไปนั่งแช่ในอ่างอาบน้ำ
ในมือของผมยังกำของสิ่งหนึ่งที่เพิ่งไปหยิบมาจากกางเกง
พอลงไปนอนแช่น้ำแล้ว ผมแบมือที่กำไว้ออก มันเป็นห่อกระดาษทิชชู่ครับ
ข้างในมียาเม็ดสีขาว ขนาดกลมๆ เล็กๆ อยู่ 2 เม็ด
ครับ ,, ยานอนหลับที่สั่งจากเพื่อนของพู่กัน
ผมใช้กับไม้ฉากไป 1 เม็ด และมันเหลืออยู่ในมือผมตอนนี้ 2 เม็ด
ไม่ได้นอนพักมาหลายวันแล้ว ไม่ได้นอนหลับสนิทมาตั้งนาน
ตั้งแต่ไม้ฉากทะเลาะกับพ่อกับแม่
ตั้งแต่ไม้ฉากเข้าเรียนในโรงเรียนตำรวจ
แล้วไหนจะตอนที่มันไปใต้อีก ...
ผมนอนหลับไม่สนิทมาเกือบจะ 2 ปีแล้วครับ
นอนคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้มาตลอด ,,
ผมตัดสินใจกินยานอนหลับทั้ง 2 เม็ดในมือ
ก่อนจะค่อยๆเอนตัวนอนในอ่างอาบน้ำ
น้ำอุ่นๆกำลังสบายตัว ,,
แต่น้ำตาที่กำลังไหลลงมาอาบแก้มของผม มันอุ่นกว่าน้ำในอ่างเสียอีก
ผมนอนแช่น้ำไปสักพัก น่าจะไม่ถึง 5 นาที
ผมรู้สึกใจของผมเต้นแรงมากๆ
และรู้สึกเหมือนมีน้ำอุ่นๆไหลออกมาจากจมูกผม
ผมเอื้อมเอามือไปเช็ดออก ,,
เลือด ?
เลือดกำเดาไหล?
ผมเอามือเช็ดเลือดกำเดาที่ไหลออกมา แต่เช็ดยังไงก็ไม่ยอมหยุดสักที
น้ำในอ่างอาบน้ำเริ่มมีสีเลือดจางๆ
ตอนนี้ผมเริ่มมึนหัว และตาผมเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ
ผมเงยหน้าพิงกับพนักพิงของอ่างอาบน้ำ
เพราะหวังว่าเลือดกำเดาจะหยุดไหล
หายใจไม่ออก!
ใจผมเต้นแรงมากๆ จนผมรู้สึกหายใจไม่ออก
อืมม ทรมาน .
แต่ผมไม่มีแรงที่จะขยับตัว หรือจะลุกไปไหนได้อีกแล้วครับ
ยานอนหลับคงออกฤทธิ์แล้ว ..
ผมยิ้มให้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
คงถึงเวลาแล้วละ .. ผมคงจะได้พักแล้ว
“ป๊า ม๊า ,, ปั้นขอโทษครับ.. ไม้ กูขอโทษ”
แล้วทุกสิ่งก็ดับวูบไป.