ต่อ ....
“ทำไมถึงไปกับพิมละ”
ผมเอ่ยถามไม้ฉาก ซึ่งมันเองก็นอนมองหน้าผมอยู่
แววตาที่มั่นคงของไม้ฉาก ,, แววตาแบบนี้ที่ผมคุ้นเคย’
“กูไม่อยากทำให้มึงเดือดร้อน แล้วก็ไม่อยากขัดคำสั่งป๊ามึง”
“แต่มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูพร้อมที่จะยืนข้างๆมึง และพร้อมที่จะเดือดร้อนหรือจะทุกข์ทนไปกับมึง”
ไม้ฉากพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือผมไว้
“กูรู้ว่ามึงพร้อมจะเดินเคียงข้างกู ไม่ว่าจะโดนพ่อแม่กู หรือป๊าม๊ามึงกีดกันแค่ไหน
กูก็รู้และมั่นใจว่ามึงจะจับมือกูไว้แบบนี้ไม่ปล่อยไปไหน”
ไม้ฉากตอบผมไปก็ยิ้มให้ผมไปด้วย ,, รอยยิ้มจางๆของมันแฝงไปด้วยความมั่นใจในคำตอบ
“แล้วมึงทิ้งกูไปทำไมละตั้งหลายวัน มึงรู้ไหมว่ากูเสียใจมากแค่ไหน?”
เอาวะ,, ของอแงงี่เง่าหน่อยเถอะ ก็มันดันทำตัวเป็นพระเอกหนีไปคนเดียว
ทิ้งให้ผมต้องนอนร้องไห้ตั้งหลายคืน
“ไม่รู้สิในตอนนั้นกูคิดอะไรไม่ออก แค่สิ่งที่พ่อแม่กูทำกับมึง มันก็ทำให้กูรู้สึกแย่มากพอแล้วว่ะ
พอมาเจอป๊ามึงพูดแบบนั้นอีก มันยิ่งทำให้กูเริ่มคิด เริ่มคล้อยตามไปในสิ่งที่ป๊ามึงบอก
ยิ่งรอยยิ้มของมึงกับบีมในวันนั้น มันยิ่งทำให้กู …… รู้สึกแย่
มันทำให้กูรู้สึกเหมือนกูไม่ดีพออะ เหมือนกูทำให้มึงยิ้มแบบนั้นไม่ได้”
ไม้ฉากตอบผมมาแล้วก็หลบสายตาผม มันแกล้งเสมองไปทางอื่นแทน
“มึงหึงกูกับบีมใช่ไหม?”
“แฟนทั้งคน ไม่หึงแล้วให้ทำไงละ ถามไม่คิดนะมึง”
คราวนี้แม่งกระชากผมเข้าไปกอดเลยครับ คนเพิ่งออกโรงพยาบาลแรงก็ไม่มี
โดดดึงเข้าทีล้มลงไปนอนทับตัวมันเลย
“กูก็หึงมึงนะที่มึงไปอยู่กับพิมอะ”
ผมบอกความรู้สึกของผมให้มันได้รู้
“กูรู้ ,, กูขอโทษนะ”
ไม้ฉากมันกอดผมไว้แนบชิดกับอกมัน
แล้วบทสนทนาของเราก็เงียบไป
มีแต่เสียงหายใจ เสียงหัวใจของผม และของไม้ฉากที่ต่างคนต่างใจเต้นแรงเหมือนๆกัน
คือ ,, คบกันเป็นแฟนก็หลายปีละครับ พอเจอกันวันนี้แล้วมากอดกันแบบนี้
ใจเต้นแรงแปลกๆ เหมือนหน้าจะร้อนๆผ่าวอีก
นี้อาย? เขิน? หรือยังไงกันวะเนี้ยย - -‘
“แล้วต่อจากนี้ไป ,, พวกเราจะทำยังไง”
ผมถามไม้ฉาก ,, มันก็ก้มมาสบตากับผม ก่อนจะยิ้มให้ผมบางๆ
“ตอนแรกที่กูเห็นเตตัสไลน์มึงขึ้นรูปกับพิม แล้วยังตั้งตัสว่า พีบีไปด้วยกันนะ
ตอนนั้นกูกำลังจะโทรมาหามึง จะบอกมึงว่ากูขอโทษ จะบอกกับมึงว่าเรามาอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่ไหม
พอกูเห็นแบบนั้น กูช๊อควะ ,, มันเหมือนสิ่งที่สำคัญในชีวิตกูกำลังหายไป
มันเจ็บข้างในใจแปลกๆ .. กูทำอะไรต่อไปไม่ได้เลย
นั่งนิ่งไปหลายชั่วโมงเลย ,, ตอนนั้นกูบอกตัวเองว่ากูคงต้องยอมปล่อยมึงไปแล้วละ
เพราะมึงเลือกทางเดินนั้นไปแล้ว จนกระทั่งจานสีโทรมาบอกกูว่ามึงร้องไห้จนน๊อคไป
เพราะมึงรู้เรื่องที่ป๊ามึงบอกกับกู ในเวลานั้นกูลืมไปหมดแล้วว่ามึงเลือกทางเดินใหม่กับบีม
กูลืมแม้กระทั่งพิม ที่กำลังนอนโรงพยาบาลอยู่ กูรู้แค่กูต้องมาหามึง แล้วก็ก็ทิ้งพิมให้อยู่ที่เชียงใหม่คนเดียว
กูมานั่งเฝ้ามึงที่โรงพยาบาล กูเห็นหน้าซีดๆของมึงแล้วใจกูจะร้องไห้
ยิ่งได้ฟังในสิ่งที่จานสี ไนซ์ พู่กัน หรือบีมบอกกับกูมา มันยิ่งทำให้กูรู้เลยว่า … กูทิ้งมึงไปไม่ได้
กูเสียมึงไปไม่ได้ ... กูรักมึงนะปั้น รักจนกูไม่รู้จะพูดมันออกมายังไง
รักจนแบบ .. หื้มมม กูก็อธิบายให้ใครเข้าใจในความรักของกูไม่ได้ แต่มึงรู้ใช่ไหม มึงรับรู้ได้ใช่ไหวว่ากูรักมึงมากแค่ไหน?”
ไม้ฉากพูดไปก็น้ำตาคลอไป ผมขยับตัวขึ้นไปนอนหนุนหมอนใบเดียวกับไม้ฉาก
แล้วเอื้อมมือไปซับน้ำตาให้มัน ..
“ทำไมกูจะไม่รู้ละว่ามึงรักกูมากแค่ไหน .. กว่าเราจะมานอนกอดกันแบบนี้ กว่าเราจะกล้าพูดคำว่าเรารักกัน
มันไม่ใช่แค่วันหรือสองวัน หรือแค่ปีสองปี แต่ความรักของเรามันใช้เวลามามากกว่าสิบปี
ที่ผ่านมากูเองก็ยอมรับว่ากูก็ผิดที่บางเรื่องบางอย่างกูตัดสินใจไปเองโดยไม่ได้ถามมึง ไม่ได้มาปรึกษามึง
แต่กูอยากให้มึงรู้นะไม้ ,, ไม่ว่ากูจะต้องโดนพ่อมึงตีอีกกี่ร้อยรอบ
หรือโดนป๊าม๊ากูเมินใส่หรือเจออะไรที่มันแย่มากกว่าที่เราเจอมา กูก็พร้อมจะเจอว่ะ
กูพร้อมที่จะแก้ปัญหาพร้อมที่จะผ่านมันไป ,, ขอแค่มึงอยู่ข้างๆกูแบบนี้
คอยกอดปลอบกูเวลาที่กูร้องไห้ หรือเวลาที่กูเหนื่อยล้า
ขอแค่มึงไม่ทิ้งกูไปไหน .. กูก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วจริงๆ”
ไม้ฉากดึงผมเข้าไปกอด ,, มันเป็นการกอดที่แน่นมากครับ แต่ไม่อึดอัด
เพราะนี้มันเป็นการกอดที่จะปลอบโยนความรู้สึกของผมและไม้ฉาก
และเป็นการกอดที่จะชดเชยวันเวลาต่างๆที่พวกผมได้ทิ้งมันไป
เพราะการตัดสินใจด้วยตัวเอง เพราะคิดไปเองว่าสิ่งที่ผมทั้งคู่ทำมันดีกับอีกฝ่าย
โดยเราทั้งสองลืมคิดไปว่า ,,
จริงๆแล้วความสุขของเราทั้งคู่ไม่ใช่การมองดูอีกคนไปมีความสุขในอีกเส้นทาง
หรือมองดูอีกคนประสบความสำเร็จตามลำพัง
แต่ความสุขของผมและไม้ฉาก .. คือการได้ผ่านเรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะทุกข์ไม่ว่าจะสุข
หรือมันจะมีแต่น้ำตาหรือจะมีรอยยิ้มก็ตาม .. ขอแค่ให้พวกผมทั้งสองคนได้เดินผ่านมันไปด้วยกัน
ช้าๆและมั่นคง ,, ด้วยความรักความผูกพันที่พวกผมมี .. เท่านั้นมันก็คือความสุขที่พวกผมต้องการ.
“ปั้น ,, กูขอเวลามึงหน่อยได้ไหม? กูขอทำหน้าที่ที่กูแบกรับตอนนี้ให้เสร็จก่อน
แล้วกูจะกลับมา?”
ไม้ฉากผละตัวผมออก ก่อนจะนอนมองหน้าผม ,, ตอนนี้ตามันแดงกล่ำและน้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มแล้ว
จะกลับมา? คือไม้ฉากจะทิ้งผมอีกแล้วงั้นหรอ?
“มึงจะทิ้งกูงั้นหรอไม้?”
ผมถามมันกลับไป แต่มันก็ส่ายหน้ากลับมาให้ผม
“กูไม่ได้ทิ้งมึง แต่ตอนนี้พิมไปอยู่กับกูที่เชียงใหม่แล้ว และพิมก็อยู่โรงพยาบาล
พิมมีโอกาสแท้งสูงมาก หมอให้นอนโรงพยาบาลจนกว่าจะคลอด กูต้องทำหน้าที่ที่พ่อแม่พิมได้ฝากพิมไว้กับกู
แค่รอเวลาให้พัชแฟนของพิมกลับมา ,, กูก็จะคืนพิมให้กับคนที่พิมรักจริงๆแล้วละ
มึงรอกูได้ไหมวะ ,, 2 ปี ที่กูต้องดูแลพิม กูจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน แล้วพอกูกับพิมหย่ากันแล้ว
กูจะไม่สนใจในสิ่งที่พ่อกูพูดอีกเลย กูจะไม่สนใจอีกแล้วไม่ว่าเค้าจะสั่งกูให้ทำอะไร หรือเค้าจะขู่กูอะไรอีก
อีก 2 ปีกูจะมีแค่มึง .. เราจะสร้างครอบครัวของเราด้วยกันนะปั้น”
ไม้ฉากเอื้อมมือมาจับที่แก้มผมไว้
ก่อนจะใช้นิ้วเช็ดน้ำตาของผม ที่มันเริ่มจะไหลลงมาอาบแก้มอีกครั้ง
“ไม่เห็นแก่ตัวไปหรอวะไม้ ,, มึงบอกให้กูรออีกแล้วนะ
เมื่อก่อนก็ให้กูรอ พอวันที่กูรอมึงมันสิ้นสุดแล้ว
มึงก็ทำให้กูเสียใจเหมือนเดิม ,,
คราวนี้มึงมั่นใจแค่ไหนว่าการรอคอยของกูจะไม่สิ้นสุดด้วยความเจ็บปวดอีก”
จริงๆผมไม่ได้คิดว่ามันเห็นแก่ตัวหรอกครับ ทุกๆสิ่งที่ไม้ฉากพูดมาผมเข้าใจทุกๆอย่าง
มันจดทะเบียนสมรสกับพิมแล้ว และพิมก็ไปอยู่เชียงใหม่กับมัน
คนใจดีแบบมัน ยังไงก็ต้องสงสารน้องสาวแบบพิม
มันต้องดูแลพิมจนกว่าแฟนพิมจะกลับมาแน่นอน
และผมก็มั่นใจ ,,ว่าไม้ฉากคิดกับพิมแค่น้องสาว
“ปั้น .. เอ่อกูไม่ได้อยากให้มึงรอ แต่กูไม่รู้จะหาทางออกยังไงแล้วจริงๆ
กูรักมึง กูอยากให้มึงไปอยู่กับกูที่เชียงใหม่ กูอยากไปไหนมาไหนกับมึงแบบเมื่อก่อน
แต่กูมีพิมที่ต้องรับผิดชอบ ,, กูขอโทษนะมึง กูขอโทษ”
ไม้ฉากร้องไห้หนักเลยครับทีนี้ ,, มันคงอึดอัดใจจริงๆแหละครับ
เพราะพิมก็อยู่กับมัน แล้วถ้ามันฝืนขัดคำสั่งพ่อมันตอนนี้
มันอาจจะเลวร้ายลงไปก็ได้ .. เพราะคนที่ไม้ห่วงที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่แค่พิมหรอกครับ
แต่เป็นไม้ที .. ที่อยู่กับพ่อแม่มากกว่า
ถ้าไม้ขัดใจพ่อแม่ … แน่นอนว่าพ่อแม่ต้องไปลงกับไม้ที
ทุกคนต้องไปบังคับไม้ทีต่อแน่นอน
ไม้มันคงไม่อยากเห็นไม้ทีต้องมาเจอชีวิตแบบมัน
“เอางี้ไหม ,, วันนี้เรายุติความรักของเราลงก่อน”
พอผมพูดจบปุ๊บ ไม้ฉากเอามือมาปิดปากผมไว้ไม่ให้ผมพูดต่อเลยครับ
“ไม่ ,, ไม้ไม่เลิก! นี้ปั้นไม่รักไม้แล้วหรอ ถึงบอกให้เราเลิกกันก่อนแบบนี้อะ”
เอากับมันสิ ,, งอแงขึ้นมาอีกละ - -‘
“ป่าว,, กูแค่บอกให้เรายุติความรักของเราลงก่อน เราไม่ต้องมาโฟกัสในเรื่องความรักของเรา
เรากลับไปเป็นเพื่อนกัน ไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มเหมือนเดิม เฮไหนเฮนั้นกันแบบเมื่อก่อน
แล้วพอครบ 2 ปี ,, ไม้กลับมาหาปั้นนะ กลับมาขอปั้นเป็นแฟนอีกครั้ง ตกลงไหม?”
“ปัญญาอ่อนวะปั้น”
เอิ่มม ,, นอกจากมันจะไม่เห็นด้วยแล้วมันยังด่าผมอีกครับ
“แล้วให้ปั้นทำไงละ? ใครถามว่าแฟนปั้นไปไหน .. อ่ออ แฟนปั้นไปอยู่กับเมียที่เชียงใหม่งั้นหรอ?
เวลา 2 ปีมันเหมือนการพิสูจน์ของเรานะไม้ ถ้าเรารักกันไม่เปลี่ยนแปลงแบบนี้
ไม่ว่ามันจะยืนในสถานะไหนก็ตาม ,, เราก็ยังจะรักกัน และเราก็จะเป็นความสุขของกันและกัน
คำว่าแฟน .. ไม่ได้บ่งบอกหรอกนะว่าเราจะรักกันตลอดไป
มันเป็นแค่สถานะทางสังคม ที่พ่อแม่ของไม้ และป๊าม๊าของปั้นไม่ชอบใจในสิ่งที่เราเป็น
อีก 2 ปีนะไม้ ,, พิสูจน์ตัวเองเพื่อปั้น เพื่อครอบครัวของเรา
ไม้กลับมาขอปั้นเป็นแฟน ,, แล้วเรามาสร้างครอบครัวด้วยกัน
เรามาเริ่มต้นคบกันใหม่ และชีวิตความรักของเราจะไม่ต้องมีน้ำตาแบบที่ผ่านมาอีก”
ผมรู้ครับว่ามันเป็นเหตุผลโง่ๆ มันเป็นเหตุผลที่ปัญญาอ่อนมากๆ
แต่ถ้าไม้ฉากไปใช้ชีวิตที่เชียงใหม่กับพิม โดยที่ไม่ต้องมีชนักติดหลังว่า ไม้ฉากแฟนปั้นสิบนะ
ไม้ฉากมีแฟนแล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกน่ะ ,,
ผมไม่อยากให้ใครเอาไม้ฉากไปพูดในทางที่ไม่ดี
ต่อให้คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักพวกผมก็เถอะ ,, แต่สมัยนี้สื่อของเรามันเยอะครับ
Facebook , Line , IG อะไรอีกมากมาย
แค่เราโพสรูปๆเดียว หรือแค่สถานะอันเดียว ,, คนนับร้อยนับพันก็สามารถรับรู้ได้ทั่วไปแล้ว
ผมอยากให้ไม้ฉากเริ่มต้นครอบครัวด้วยความบริสุทธิ์ ไม่อยากให้ใครต้องด่าว่าไม้ฉาก
และไม้ฉากไม่ได้ทิ้งผม ,, ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือความเต็มใจของผม
“ปั้นจะรอไม้ใช่ไหม?”
“อย่าใช้คำว่ารอเลย ,, แต่ปั้นจะอยู่ข้างๆไม้แบบนี้
ไม่ทิ้งไม้ไปไหน ,, และจะไม่ทำให้ไม้ต้องเป็นห่วง เราเลิกกันแค่สถานะ
แต่ปั้น .. รักไม้ไม่เปลี่ยนแน่นอน
ปั้นรักไม้นะ “
ผมบอกรักผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง และอีกครั้ง
ก่อนที่ไม้ฉากจะดึงผมเข้าไปจูบ
เป็นจูบที่เหมือนสัญญา … ว่าเราจะต้องมีกันและกันแบบนี้ตลอดไป.
อีก 2 ปี ,, จะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้างผมไม่ทราบจริงๆ
ระยะทาง ,, เวลา ,, ใจคน ,, ครอบครัว ,, สังคม ฯลฯ
ตัวแปรต่างๆมากมายจะทำให้ความรักของผม และไม้ฉากเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน
คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กันต่อไป.