ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่23
เวลาผ่านไป3เดือนกว่า สถานการณ์ในบ้านดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มินและอาคมไม่ได้มีสีหน้าที่บึ้งตึงใส่กันอีก การพูดคุยแต่ละครั้งมักจะมีรอยยิ้มประดับเล็กน้อย แม้เขาจะรู้ก็เถอะว่าทุกอย่างนั้นเป็นแค่ละครฉากหนึ่ง ตลอดสามเดือนกว่าที่ผ่านมา มินและครามมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ครามดูแลมินอย่างดี เอาอกเอาใจมินทุกอย่าง แต่มินก็รู้สึกได้ถึงสายตาของคิมที่คอยมองเขาตลอด อีกฝ่ายไม่ค่อยได้พูดคุยกับเขามากนักตั้งแต่วันนั้น แต่เขามักเจอคิมอยู่เสมอ ทั้งสองได้แค่ยิ้มให้กันและกัน อีกอย่างช่วงนี้เหมือนคิมใกล้จะเรียนจบและมาทำงานในบริษัทมากขึ้น อีกฝ่ายจังต้องดูแลอะไรหลายๆอย่าง ไม่ได้ตัวเปล่าเล่าเปลือยเหมือนแต่ก่อน แต่ก็นั้นแหล่ะ การที่คิมมาช่วยงานในบริษัททำให้ครามดูผ่อนคลายลง ไม่ทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อน
“แอ๊ แอ๊” เสียงน้องซันที่ตอนนี้เข้าหกเดือนแล้วดังขึ้น ทารกน้อยอวบอ้วนน่าฟัดที่สุด ตอนนี้พูดเก่ง อ้อแอ้ตลอดเวลา มินโชคดีที่น้องซันเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ไม่ร้องไห้บ่อย
“ว่าไงครับน้องซัน” มินเดินเข้าไปหาน้องซันที่นอนคว่ำอยู่ อีกฝ่ายเรียกเขาเพราะกำลังเหนื่อยจากการนอนคว่ำมากไป
มินยิ้มหวานให้ลูกชายก่อนจะช้อนอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมา ทารกน้อยยิ้มกว้างทันที่เห็นผู้เป็นแม่ รอยยิ้มของทารกน้อยทำเอาผู้เป็นแม่อดที่จะยิ้มตามไม่ได้
“หิวแล้วเหรอครับ” มินพูดกับลูกชายตัวน้อยก่อนหยิบขวดนมที่ตั้งไว้ป้อนให้กับทารกน้อย
น้องซันดูดนมอย่างรวดเร็ว มินยิ้มเบาๆ บางทีเขาอาจจะคิดผิดว่าทารกน้อยเหนื่อย แต่จริงๆอีกฝ่ายอาจจะหิวก็ได้
“มิน” เสียงเรียกดังขึ้นจากประตุทำให้มินหันไปมองเจอครามยืนอยู่
“กลับมาแล้วเหรอครับ ทำไมวันนี้เลิกไวจัง” มินหันไปพูดยิ้มๆให้กับอีกฝ่าย
“รีบกลับเพราะคิดถึงมินและลูกไง” ครามยิ้มพร้อมส่งสายตาเจ้าชู้ให้มิน มินส่ายหน้าเบาๆ ตลอดเวลาสามเดือนที่ผ่านมาครามดูจะแสดงอารมณ์มากขึ้น มากกว่าที่รู้จักกันตอนแรกๆ
ครามเดินเข้ามากอดมินจากด้านหลังพร้อมหอมแก้มมินเบาๆ ครามก้มลงมองทารกน้อยในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่แล้วยิ้ม นี่แหล่ะสิ่งที่เขาปรารถนา ครอบครัวเล็กๆที่มีความสุขเต็มไปด้วยความอบอุ่น
“ก็อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ครามผละออกจากในและเดินไปเปิดประตู
“ว่าไงไอ้คิม” ครามเรียกน้องชายขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
“คุณพ่อให้ผมมาบอกพี่ว่างานการกุศลพรุ่งนี้ให้พี่ไปแทน”
“ทำไมละ ไหนตอนแรกท่านบอกจะไปเอง”
“ผมก็ไม่รู้ พ่อให้มาบอกแค่นี้ แล้วอีกอย่างวันนี้พ่อชวนออกไปทานข้างนอกบ้าน 6โมงเย็นเจอกันข้างล่าง”
“โอเคๆ” ครามพยักหน้ารับคำ
คิมเมื่อมาส่งสารเสร็จก็อดที่จะมองมินที่ยืนอุ้มน้องซันอยู่ไม่ได้ คิมเลยก้าวเข้ามาในห้องพร้อมหันไปพูดกับคราม
“ผมขอเข้าไปดูหลานหน่อย”
คิมเดินเข้ามาใกล้มิน มินที่รับรู้ตั้งแต่คิมยืนอยู่หน้าห้องแล้วหันไปส่งยิ้มให้กับอีกฝ่าย
“ผมขออุ้มหลานหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ” มินส่งน้องซันให้กับคิม ทารกน้อยที่ทานนมจนอิ่มแล้วหันมายิ้มให้กับผู้เป็นอา
คิมมองน้องซันก่อนจะยิ้มตาม เขารู้สึกรักและผูกพันกับน้องซันอย่างบอกไม่ถูก คิมอุ้มน้องซันก่อนจะหอมแก้มน้งซันเบาๆ ทารกน้อยที่โดนหอมแก้มร้องเอิ๊กอ๊ากทันทีเพราะโดนหนวดที่เพิ่งขึ้นหน่อยๆของคราม
“เอิ๊ก เอิ๊ก”
“น้องซันคงจะจั๊กจี้หนวดนาย” มินพูดขึ้นเมื่อเห็นคิมยังฟัดแก้มน้องซันต่อ
“ฮ่าๆ ผมก็ว่างั้น” คิมพูดพร้อมยกมือที่ว่างลูบคางตัวเองเบาๆ
“ทำไมถึงไว้หนวด ไว้เคราละ” มินถามขึ้นอย่างสงสัย เมื่อก่อนคิมหน้าเกลี้ยงใส แต่เดี๋ยวกลับเริ่มไว้หนวดไว้เครา เขาไม่ปฏิเสธเลยว่าการที่อีกฝ่ายไว้หนวดไว้เคราทำให้อีกฝ่ายดู หล่อ เข้ม ดิบไปกว่าเดิม
“เปลี่ยนลุคบ้าง” คิมตอบยิ้มๆ
ครามที่ยืนมองคนทั้งสองคนสนทนากันทำให้เขารู้สึกหวิวในใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งน้องซันที่ดูเหมือนจะมีปฏิกิริยาที่ดีกับคิม
“จะเปลี่ยนลุคเอาใจสาวที่ไหนหรือเปล่าไอ้คิม” ครามกดความรู้สึกตัวเองไว้ก่อนจะพูดขึ้นอย่างล้ออีกฝ่าย
“เปล่าหรอกพี่” คิมตอบยิ้มๆพร้อมช้อนตามองมิน แต่กระพริบตาก่อนพยายามปั้นยิ้มเมื่อเห้นสายตาของคิม
“พี่คิดว่าแกไปชอบสาวหรือหนุ่มที่ไหนซะอีก ใกล้จบแล้วมองๆไว้บ้างก็ดี” ครามพูดพร้อมเดินเข้าไปใกล้คนทั้งสามมากขึ้น ครามเลือกที่จะยืนใกล้มินอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
คิมมองพี่ชายแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพี่ชายคิดอะไรอยู่
“ผมมีคนที่สนใจอยู่แล้วพี่ สนใจมาตลอด แต่ไม่น่าโดนแย่งไปเลย” คิมพูดขึ้นก่อนจะมองมินอย่างมีความหมาย
คำพูดของคิมทำเอามินตัวแข็ง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหมายความว่าไง ส่วนครามที่ยืนอยู่ข้างๆหน้ากระตุกทันทีแต่ก็พยายามที่จะไม่แสดงสีหน้า
บรรยากาศในห้องนิ่งเงียบไป และดูกดดันอย่างบอกไม่ถูก ครามเลยยิ้มขึ้นก่อนจะพูดขึ้น
“พี่ว่าอะไรที่มันไม่เป็นไปไม่ได้แกก็ควรที่จะปลงและเดินหน้าใหม่เถอะ”
“พี่อย่ารีบสรุปสิ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร” คิมพูดยิ้มๆ ก่อนจะก้มลงไปฟัดแก้มน้องซันต่อ
“เอิ๊ก อ๊าก”
ครามยืนมองคิมที่เล่นกับน้องซัน เขารู้สึกหวั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกเขาเหมือนกำลังจะถูกแย่งอะไรบางอย่างไป
“เอาละ พ่อแค่นี้ อาค่อยมาเล่นกับน้องซันอีกนะ” คิมพูดกับน้องซันเบาๆ ก่อนจะจุ๊บแก้มน้องซันส่งท้ายและส่งน้องซันคืนให้มิน
มินที่ยืนฟังทุกอย่างอยู่ตลอดได้แต่ส่งยิ้มให้คิมและรับน้องซันมาอุ้มไว้
“ผมไปก่อนนะพี่ อย่าลืมที่นัดกันไว้ละ” คิมพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
คิมออกไปครามทิ้งตัวลงบนโซฟาทันที มินหันไปมองครามที่มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“คุณคิดมากเรื่องที่คิมพูดเหรอ” มินนั่งลงข้างๆครามพร้อมมองอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง ถึงยังไงครามก็ดีกับเขามาตลอด เขาก็อดที่จะห่วงไม่ได้
“ไม่มีอะไรหรอก” ครามพยายามยิ้มให้มินและทำเหมือนไม่สนใจ
“คุณจะแบกทุกอย่างไว้คนเดียวไม่ได้หรอกนะคราม เราสองคนเป็นสามีภรรยากันนะ อะไรที่ฉันแบ่งเบาคุณได้ฉันก็อยากทำ”
มินวางน้องซันไว้บนที่นอนก่อนจะมานั่งใกล้ๆครามและจับมืออีกฝ่ายให้กำลังใจ
“ผมแค่กังวลอะไรที่ไร้สาระ”
“มันไม่ไร้สาระหรอกถ้าคุณกังวลมัน” ครามหันมาสบตากับมินพร้อมกอดมินไว้แน่น
“ผมกลัวว่าผมจะเสียคุณและลูกไป” ครามกระซิบบอกมินแผ่วเบา
“ฉันจะไปไหนได้ละ คุณอย่าคิดมากเลย” มินพยายามปลอบอีกฝ่าย แต่สมองกำลังคิดปะติปะต่อเรื่องราวต่างๆ
“ผมกลัวว่าคุณจะรักไอ้คิม”
“ทำไมละ ฉันพยายามห่างเขานะ ทำไมคุณกลัวว่าฉันจะรักเขา”
“เพราะว่าคิมมันรักคุณมากไงละมิน ผมกลัวว่าคุณจะใจอ่อนให้กับมัน ความรักของมันมั่นคงเพราะมันรักคุณมานานมาก”
“แล้วความรักที่คุณให้ฉันไม่มั่นคงเหรอ” มินถามครามขึ้นมาจากส่วนลึกของหัวใจ
“มันมั่งคงสิ ผมรักคุณมาก รักคุณไม่แพ้ไอ้คิมแน่” ครมผละออกจากมินและสบตาอีกฝ่ายอย่างมีความหมาย
“แล้วคุณจะไปกลัวอะไร คุณรักฉันไม่แพ้คิมและคุณก็อยู่ใกล้ฉัน อยู่ในฐานะของสามีฉัน”
“นั้นสิเนอะ” ครามตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะจูบหน้าผากมินเบาๆ
มินยิ้มหวานตอบคราม แต่เขายังรับรู้ได้ถึงสายตากังวลของอีกฝ่าย กังวลอะไรบางอย่างที่ยังไม่บอกเขา
ค่ำของวันนั้นพวกเขามากินข้าวนอกบ้านกันที่ร้านอาหารบรโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา วิวสวยงามติดแม่น้ำพร้อมลมที่พัดเบาๆทำให้บรรยากาศอาหารเย็นวันนี้ดูโรแมนติกไม่น้อย
“อิ่มไหมหนูมิน” อาคมถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามินหยุดทานแล้ว
“อิ่มแล้วครับคุณพ่อ” มินพูดขึ้นยิ้มๆพร้อมจับน้องซันที่นั่งบนตักเขาให้นั่งให้ดีเพราะอีกฝ่ายเริ่มซนจับนู้นนี้
“เหนื่อยไหม ท่าทางตาหนูจะซนไม่น้อย”
“ก็เหนื่อยครับ แต่มันก็เป็นหน้าที่ของแม่” มินพูดยิ้มๆก่อนจับมือทารกน้อยที่เริ่มเล่นผ้าเช็ดปาก
“น้องซันแค่ซนครับพ่อ แต่ไม่ค่อยงองแง” ครามที่นั่งข้างมินพูดขึ้นพร้อมลูบหัวทารกน้อยเบาๆ
“น้องซันหกเดือนแล้วสินะ หย่านมแล้วสิ” อาคมยังชวนคุยไปเรื่อยระหว่างรอของหวาน
“ใช่ครับ ตอนนี้กินนมผงจุไม่น้อยเลย” มินเป็นฝ่ายตอบขึ้น
“แบบนี้ก็ห่างแม่ได้แล้วสิ” อาคมพูดพร้อมหัวเราะขึ้นเบาๆแล้วพูดต่อ “ปู่จะได้พาไปออกงานบ้าง”
ประโยคหลังของอาคมไม่ได้ทำให้มินรู้สึกดีขึ้น แต่เขาก็ต้องแสร้งหัวเราะไปตามบท
เขารู้และระวังตังมาตลอด เขารู้และไม่เชื่อว่าเรื่องของเขาและอาคมจะจบลงง่ายๆ
สถานการณ์ของเขาและอาคมตอนนี้เหมือนไฟใต้น้ำที่นิ่ง รอวันจะปะทุมากกว่า
และเขาจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำอะไรเขาฝ่ายเดียวแน่
“เอ้า ไอ้คิม” เกมส์เพื่อนของคิมทักขึ้น เกมส์กำลังเดินมาที่โต๊ะไม่ไกลนักจากโต๊ะของคิม
“เอ้า ไอ้เกมส์ มากับใครวะ” คิมที่นั่งข้างอาคมทักเพื่อนขึ้น
“มากับเด็ก” เกมส์พูดยิ้มๆทำให้เพื่อนทั้งสองหัวเราะออกมาอย่างเข้าใจกันและกัน ไม่นานนักคิมก็เห็นผู้หญิงเดินตามเกมส์มา
“สวัสดีครับคุณพ่อ สวัสดีครับพี่คราม และสวัสดีครับพี่มิน ” เกมส์หันไปไหว้ทุกคนบนโต๊ะและหันไปสนใจกับทารกน้อย
“นี่น้องซันใช่ไหมครับ”
“ใช่ ลูกฉันเอง” ครามเป็นฝ่ายตอบขึ้นมา เกมส์ที่ได้ยินคำตอบเลยพูดขึ้นเสียงสูง
“อ๋อครับ น่ารักดีนะครับ อ้วนน่าฟัดเชียว” เกมส์พูดเสร็จหันมามองหน้าคิม คิมทำหน้าเข้มใส่เพื่อนทำให้เกมส์หัวเราะขึ้นมาและขอตัวไปที่โต๊ะ
อาคมนั่งมองคิมและครามสลับกันก่อนจะหันไปทานของหวานต่อ เขาเหลือบมองมินเล็กน้อยก่อนจะคิด คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นไปตามที่เขาวางไว้ใช่ไหม
มินขอตัวมาเข้าห้องน้ำ ครามจะตามาด้วยแต่เขาให้ครามอยู่กับลูกที่โต๊ะ ระหว่างที่มินกำลังล่างมืออยู่ก็เหลือบไปเห็นเกมส์ที่ยืนพิงประตูห้องน้ำอยู่ มินหันไปสบตาอีกฝ่าย เขาอยากรู้ถึงท่าทีของอีกฝ่ายในเมื่อกี้เหมือนกัน
“มีอะไรหรือเปล่า” มินถามเกมส์ขึ้น
“คุณดูมีความสุขดีกับครอบครัวของคุณนะ” เกมส์เปิดฉากทันที แค่มองก็รู้ว่าพี่ครามและมินดูมีความสุข และอบอุ่นเพราะมีเจ้าตัวเล็กมาคอยเต็ม
“ใช่ ครามเขาดูแลฉันดีมาก”
“แต่คุณคงลืมเหตุการณ์ในวันนั้นไปแล้วสินะ”
“เหตุการณ์อะไร” มินถามพร้อมขมวดคิ้ว
“ที่คุณโดนข่มขืนไง” เกมส์กระตุกยิ้มมองมิน มินเชิดหน้าก่อนจะเบ้ปากอย่างสมเพชเกมส์
“เลิกเอาเรื่องนี้มาขู่ฉันสักที ฉันรู้ความจริงหมดแล้วว่าคืนนั้นฉันไม่ได้โดนข่มขืน ฉันได้กับครามคนเดียว”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เกมส์หัวเราะลั่นห้องน้ำ ทำให้มินรู้สึกแปลกทันที
“คุณรู้ความจริงว่าคุณไม่โดนข่มขืน แต่คุณอาจจะรู้ความจริงไม่หมดนะครับ” เกมส์ล็อคประตูห้องน้ำพร้อมเดินเข้ามาใกล้มินเรื่อยๆ
“นายหมายความว่าไง” มินพูดขึ้นเสียงเฉียบและเริ่มกังวลกับสิ่งที่เกมส์พูด
“หึ ความจริงนี่มีเพียงผม ไอ้ต่อและไอ้คิมเท่านั้นที่รู้ แม้แต่พี่ครามยังไม่รู้ ถ้าพี่ครามเป็นคนบอกความจริงกับคุณก็คงบอกหมด แต่ถ้าไอ้คิมบอกแปลว่ามันบอกไม่หมด”
“แล้วที่ฉันยังไม่รู้คืออะไร”
“คืนนั้นพี่ครามได้กับคุณจนพอใจก็นอนพักด้านนอก แต่ใครจะรู้ว่ากลางคืนมีคนแอบย่องไปมีอะไรกับคุณอีกจนถึงเช้าและผมเป็นคนดูต้นทางให้”
คำพูดของเกมส์เหมือนฟ้าผ่ากลางใจเขา งั้นแปลว่าน้องซันอาจจะเป็นลูกของทั้งคิมและครามได้เหรอ
“พวกนายมันเลว” มินด่าออกไปอย่างเกลียดชัง ตามินแดงกล่ำไปด้วยความโกรธ โกรธที่โง่โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ถ้าคืนนั้นมืนทบทวนดีดีเขาโนข่มขืนสักพักก็หยุดไปจนเขาเกือบหลับแต่ก็โดนปลุกขึ้นมาอีกและรสรักนั้นเปลี่ยนไป
“ใช่ มันเลวกันหมด พี่ครามก็เลวที่เอาคนที่น้องชายตังเองชอบได้อย่างหน้าตาเฉย ไอ้คิมมันก็เลวที่ย่องไปเอาว่าที่คู่หมั้นของพี่ชาย”
“ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ไปมากกว่านี้ใช่ไหม” มินพยายามสะกดความเกลียดชังทั้งหมดไว้และหันไปพูดกับเกมส์
“ใช่ ผมคันปากอยากจะพูดเรื่องนี้มานานแต่ไอ้คิมมันห้ามผมเอาไว้ เพราะมันไม่อยากให้คุณเสียใจ ก็อุตส่าห์วาดฝันครอบครัวที่อบอุ่นกับพี่ครามไว้แล้วนิ แต่วันนี้ผมต้องพูด ผมไม่ทนที่จะเห็นเพื่อนของผมต้องเสียใจเพราะเห็นพี่ชายของคุณและคุณรักกัน บนความทุข์ของเพื่อนผม เพื่อนผมแอบมองคุณมานาน ผมอยากให้มันได้สมหวังบ้าง”
เกมส์เว้นช่วงก่อนจะเดินเข้ามาใกล้มินมากขึ้นและพูดต่อ
“สุดท้ายคนที่ผมสงสารที่สุดก็คงเป็นคุณ คุณสงสารที่ไม่รู้ความจริงสักทีว่าพ่อของลูกเป็นใคร”
มินกระตุกไปทันทีที่เกมส์พูดจบ เขาเม้มปากแน่น ความรุ้สึกตอนนนี้มันตีรวนกันไปหมด
“ฉันขอบใจนายก็แล้วกัน” มินเดินกระแทกเกมส์ออกไป แต่ไม่ทันจะเปิดประตูออกไปก็โดนอีกฝ่ายขัดขึ้นซะก่อน
“ผมหวังว่าคุณจะพิสูจน์ความจริงสักทีว่าน้องซันเป็นลูกของใคร ผมก็รอลุ้นอยู่เหมือนกัน”
มินหยุดเดินและชะงักไป ก่อนจะเชิดหน้าเปิดประตูออกจากห้องน้ำไป
เกมส์ที่มองมินเดินออกไปหัวเราะกับตัวเองขึ้นมาเบาๆก่อนจะเดินออกไปที่จุดสูบบุหรี่ เขาหยิบบุหรี่ขึ้นสูบและเหม่อมองแม่น้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ
เขาทนมาที่จะต้องจะปกปิดเรื่องนี้ เขาสงสารคิมเพื่อนเขาที่ต้องมาทนเห็นพี่ชายของตัวเองรักกับคนที่คิมรักมาตลอด เขาไม่เคยเห็นน้ำตาของเพื่อนก็ได้เห็นในวันที่คนทั้งสองแต่งงานกัน เพื่อนเขาทั้งเมามายและน้ำตาอาบแก้ม คิมมันพยายามลืมมิน พยายามคั่วทั้งผู้หญิงและผู้ชายไม่ซ้ำหน้าแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ คิมต้องหยุดและพยายามช่วยงานในบริษัทเพื่อให้ลืมเรื่องราวของมิน แต่คิมก็ไม่เคยลืมมินได้เลย คิมถือไพ่ใบสุดท้ายไว้แต่ก็ไม่เลือกที่จะใช้ คิมรักมินมากเกินไปที่จะเห็นมินเสียใจถ้าทุกอย่างที่วาดฝันครอบครัวที่สมบูรณ์ต้องพังทลาย และสุดท้ายคิมก็รักพี่ชายไม่แพ้กัน เลยเลือกที่จะไม่ทำลายความสุขของพี่ชายตนเองที่มีความสุขกับครอบครัวของตน
เกมส์ถอนหายใจก่อนจะขยี้บุหรี่ลงในกระบะสำหรับทิ้งบุหรี่ หมดหน้าที่ของตัวประกอบอย่างเขาและสินะ เขานึกถึงหน้าเพื่อนรักของเขา เขาและคิมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ม.1 เขายินดีที่จะเห็นเพื่อนที่เขารักมีความสุขสักที แม้ว่าผลน้องซันยังไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร แต่อย่างน้อยเขาก็ยังได้จุดความหวังสุดท้ายของเพื่อนที่เขารัก และรักที่สุด
รักมาตลอด
“ไอ้ต่อ กูบอกความจริงกับมินไปแล้ว” เกมส์ยกโทรศัพท์ขึ้นพูดกับเพื่อนของเขาอีกคน อีกฝ่ายมีน้ำเสียงตกใจ เกมส์เลยกดวางโทรศัพท์และดูภาพหน้าจอที่ปรากฏขึ้น
ภาพของเขา คิม ต่อ แต่ในรูปคิมกอดคอเขาไว้และเขาเผลอมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นมาตลอด
____________________________________________________________________
มาต่อละครับ มาดึกมากกกกก ฮ่าๆ ไม่สิจะเช้าละ
เรื่องน้องซันใกล้จะถึงบทเฉลยแล้วนะหลังจากเดากันมาตลอด
เกมส์ดูเป็นพระเอกเนอะตอนนี้ สงสารเกมส์เล็กน้อย

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ

ปล. ฝากเพจของคนเขียนหน่อยนะครับ ไปกดไลค์กันได้ มีอะไรพูดคุยกันในเพจได้ ทวงนิยายได้ ถ้ามีอะไรคนเขียนจะแจ้งผ่านเพจ มีอะไรติชมได้นะครับ
https://www.facebook.com/pages/Tanyapuech/1448764075422477คนเขียนชื่อพืชนะครับ พอ อือ ชอ พืช