ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่22
มินกลับมาจากโรงพยาบาลหลังจากทำแผลเสร็จ มินเดินขากะเผลกเข้าบ้านโดยมีครามประคองอยู่ข้างๆ ระหว่างเดินเข้ามาในบ้านมีแม่บ้านเดินเข้ามาหา
“น้องซันอยู่กับใคร” ครามเป็นฝ่ายถามแม่บ้านขึ้นมาก่อน
“อยู่กับแป้นคะ”
คำตอบของแม่บ้านทำเอามินสบายใจขึ้น เขากลัวว่าน้องซันจะอยู่กับอาคม
“คุณพาฉันไปหาลูกหน่อย” มินหันไปหาคราม
“ผมไปส่งคุณที่ห้องก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมจะไปรับลูกที่ห้องของลูกเอง” ครามหันไปมองมินด้วยความเป็นห่วง แม้มินจะไม่เป็นอะไรมากนัก แต่เขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเดินมาก
“ก็ได้ คุณไปรับลูกเถอะ เดี๋ยวฉันขึ้นบนห้องเองได้”
“จะดีเหรอ ให้ผมไปส่งคุณไหม”
“ไม่ต้องหรอก ฉันเดินไหว” มินหันไปพยักหน้าให้ครามเพื่อความมั่นใจ ครามเลยพยักหน้าตอบและเดินไปที่ห้องของน้องซัน
มินเดินเบาๆมาที่ห้องของตัวเอง แต่ไม่ทันจะเปิดประตูก็เจอคิมที่ยืนพิงผนังอยู่ไม่ไกล
“คุณเป็นไงบ้าง” คิมยืดตัวและถามมินทันทีที่เห็น มินสบตากับคิม เขามองออกว่าลึกๆแววตาที่ดุนั้นมีแววของความเป็นห่วงอยู่
“ฉันโอเค ไม่เป็นอะไรมาก” มินเดินเขย่งมาเรื่อยๆ คิมเห็นแบบนั้นจึงเดินเข้าไปประคองอีกฝ่ายไว้
มินสบตากับคิมที่เดินเข้ามาประคอง หน้าของเขาสองคนใกล้มากแต่คนสองคนกลับไม่ละสายตาออกจากกัน มินเป็นฝ่ายเบี่ยงหน้ามองอย่างอื่นแทนคิมที่ยังจ้องอย่างไม่ลดละ
“ขอบใจ แต่ฉันว่าอย่าดีกว่า” มินพยายามถอยห่างคิมที่เริ่มจับตัวเขา
“ทำไมละ”
“มันไม่ดีหรอก”
“มันจะไม่ดีได้ยังไง ฉันแค่ช่วยประคอง” คิมพูดนิ่งๆไม่มีแววกวนอย่างเคยทำให้มินอดที่จะหันไปมองหน้าอีกฝ่ายไม่ได้
“งั้นก็ตามใจนาย” มินเบื่อที่จะต่อล้อต่อเถียง วันนี้เขาเหนื่อยมากพอแล้ว
คิมประคองมินมาจนถึงหน้าประตู จังหวะนั้นเอง ครามก็เดินอุ้มน้องซันมาที่ห้องพอดี
ครามจ้องมองคนสองคนที่กำลังประคองกันเข้าห้อง ก่อนจะเม้มปากอย่างไม่พอใจ ครามอดไม่ได้ที่จะทักขึ้น
“ขอบใจนะคิมที่มาส่งเมียพี่ถึงห้อง” ครามพูดนิ่งๆแต่ชัดเจนทำให้มินและคิมหันไปมอง
ครามเดินเข้ามาในห้องและมองคิมที่ประคองมินนั่งลงบนโซฟาก่อนที่คิมจะหันมาตอบ
“ไม่เป็นไรพี่” คิมยิ้มน้อยๆแต่สายตากลับจ้องครามอย่างไม่ลดละ
“งั้นก็เชิญ ฉันดูแลเมียฉันเองได้”
“ครับ” คิมรับคำก่อนจะหันไปมองมินอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ทันทีที่เสียงประตูปิดลงบรรยากาศในห้องกลับนิ่งเงียบเต็มไปด้วยความอึดอัด มินมองครามนิ่งๆไม่พูดอะไรทั้งนั้น ครามก็มองอีกฝ่ายอยู่ สุดท้ายครามยอมแพ้ ส่งลูกให้มินอุ้ม
มินรับน้องซันมาอุ้มไว้ มินก้มลงมองน้องซันก่อนจะเกลี่ยแก้มยุ้ยๆของทารกน้อยเบาๆ น้องซันหลับนิ่งคงจะเหนื่อยที่วันนี้ร้องไห้มากไป มินยิ้มหวานให้น้องซันและสูดลมหายใจเพื่อเพิ่มกำลังใจ แค่เห็นหน้าลูกก็ทำให้เขามีกำลังใจที่จะเผชิญกับอะไรต่อ
“ผมไม่ชอบให้คุณเข้าใกล้คิม” ครามนั่งลงข้างๆมินและเปิดประเด็นขึ้น
“ฉันไม่ได้อยากจะเข้าใกล้น้องคุณ แค่บังเอิญเจอกัน และคิมก็ช่วยประคองฉันมาส่งที่ห้องเพราะเห็นว่าฉันเดินไม่ถนัด” มินอธิบายเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงปกติ
“ผมรู้ แต่ผมไม่ไว้ใจความคิดมัน” ระหว่างที่ครามพูด มินลุกขึ้นอุ้มน้องซันไปวางบนเตียง และกลับมานั่งข้างคราม
“คนที่คุณพูดถึงคือน้องชายคุณ คุณควรไว้ใจเขาไม่ใช่เหรอ” มินสบตาอีกฝ่าย นั่งนิ่งจ้องมอง
“ผมรู้ แต่คุณก็รู้ว่ามันชอบคุณ” ครามสบตาตอบอีกฝ่ายและพูดอย่างจริงจัง
“ฉันรู้ว่าคิมชอบฉันก็จริง แต่มันไม่สำคัญไปกว่าปัจจุบันฉันเป็นเมียใครไม่ใช่เหรอ”
“ผมรู้ ผมถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม” คามพูดพร้อมจับมือทัง้สองข้างของมินมากุมไว้
มินพยักหน้าให้อีกฝ่าย ครามเลยพูดต่อ
“คุณเคยคิดว่าตัวเองเป็นเมียผมจริงๆบ้างไหม เมียจริงๆที่ไม่ใช่แค่เมียที่โดนบังคับมาแต่งงานและต้องอยู่กันเพราะลูก”
คำถามของครามทำเอามินชะงัก มินมองอีกฝ่ายก่อนจะหลบตาเล็กน้อยและยิ้มให้อีกฝ่าย
“คำถามคุณไม่ต่างจากถามว่า ฉันรักคุณบ้างไหมเลยนะ” มินพูดติดตลก แต่ครามยังนิ่งไม่ตลกด้วย
“ผมอยากรู้คำตอบ” ครามพูดเน้นเสียงกดดันมิน มินสบตาครามอย่างไม่เกรง
“นายอยากรู้คำตอบไปเพื่ออะไร”
“ผมแค่อยากรู้ว่าผมเป็นอะไรในสายตาคุณ” แววตาครามมีแววเจ็บปวดจนมินรู้สึกได้
“แล้วคุณละ คิดยังไงกับฉัน”
“ผมถามคุณก่อน คุณตอบก่อนสิ อย่าเบี่ยงประเด็น”
“ก็ได้..... ในสายตาฉัน คุณคือพ่อของลูกฉัน” มินตอบยิ้มๆ แต่ครามกลับไม่พอใจกับคำตอบ
“ผมจะถามคุณตรงๆ คุณห้ามเล่นลิ้นกับผมอีก ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมาปีกว่า คุณเคยรักผมบ้างไหม คุณเคยรู้สึกว่าผมเป็นคนรักของคุณบ้างไหม คนรักที่ไม่ใช่โดนบังคับเพื่อแต่งงาน” มินถึงกับนิ่งเมื่อเจอคำถามตรงๆของอีกฝ่าย มินไม่คิดว่าผู้ชายอย่างครามจะมาพูดอะไรกับเขาแบบนี้ ครามที่จ้องมองเขาตอนนี้เต็มไปด้วยแววตาอ้อนวอน
“ถามว่าฉันเคยรู้สึกบ้างไหมเหรอ เคยสิ ฉันเคยหวั่นไหวกับสิ่งที่นายทำให้ฉันมาตลอดหนึ่งปี หวั่นไหวกับความดี การดูแลเอาใจใส่ของนาย แต่นายอย่าลืมสิคราม ว่าเรื่องของเราเกิดขึ้นยังไง เรื่องของเราไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนคนอื่นๆ เรื่องของเราสองคนเกิดขึ้นเพราะนายข่มขืนฉัน นายทำลายศักดิ์ศรีความเป็นคนของฉัน พ่อนายบีบให้ฉันแต่งงานกับนาย ฉันก็ต้องแต่ง แล้วนายจะให้ฉันรักนายเหรอคราม เวลาหนึ่งปีมันอาจจะดูเยอะสำหรับผู้ชายอย่างนาย แต่สำหรับฉันเวลาหนึ่งปีที่นายดีกับฉันมันเทียบไม่ติดเลยกับนาทีเดียวที่จะต้องจมอยู่กับความรู้สึกที่โดนข่มขืน โดนบีบบังคับแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก” มินพูดจบปล่อยมือที่ครามกุมไว้และหันหน้าหนี เชิดหน้ามองเพดาน กระพริบตาเพื่อไล่ความรู้สึกร้อนที่กระบอกตา เขาจะอ่อนแอตอนนี้ไม่ได้
“ผมรู้ว่าผมเคยทำไม่ได้กับคุณไว้ แต่คุณช่วยลืมมันไปได้ไหม แล้วเริ่มต้นใหม่กับผม เพื่อครอบครัวของเรา เพื่อลูกของเรา” มินลุกขึ้นทันทีที่ครามจะกอดเอวเขา ครามมองมินด้วยแววตาอ้อนวอน มินสบตาครามและพยายามสะบัดหน้าหนี เขาไม่อยากจะใจอ่อน
“ถ้าเรื่องทุกอย่างมันลืมง่ายอย่างที่นายพูดก็ดีสิคราม” มินสูดลมหายใจก่อนจะหันหน้ามาประจันหน้ากับคราม ครามลุกขึ้นยืนและก้าวเข้าไปใกล้มินมากขึ้น
“ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วไปที่ผมมาคาดคั้นเรื่องนี้กับคุณ แต่ผมทนไม่ไหว ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณมากขึ้นทุกวัน แต่ผมไม่รู้ถึงความรู้สึกของคุณเลย บางครั้งคุณก็เหมือนจะมีใจแต่บางครั้งกลับเย็นชา และวันนี้ผมมาเห็นไอ้คิมประคองคุณทำให้ผมกลัว กลัวว่าคุณจะรู้สึกอะไรกับมัน และผมจะต้องเสียคุณไป”
“ทำไมนายถึงกลัวว่าฉันจะรักคิม”
“เพราะคุณรู้ความจริงแล้วไม่ใช่เหรอว่าไอ้คิมมันแอบชอบคุณมานาน”
มินขมวดคิ้วสงสัยกอดอกมองหน้าคราม
“แปลว่าคุณรู้มาตลอดว่าคิมแอบชอบฉันมาตั้งนานแล้ว” ครมชะงักหลบตามองทางอื่นไม่สบตามิน
“ใช่ผมรู้”
“แต่นายก็ยังยอมแต่งงานกับฉันทั้งๆที่นายก็รู้ว่าน้องชายนายรักฉัน นายเป็นพี่แบบไหนที่แย่งคนที่น้องชอบได้ลงคอ” มินถามเสียงเครียด ผู้ชายคนนี้นิ่งและร้ายกว่าที่เขาคิด ไม่งั้นอาคมคงไม่ไว้ใจให้ครามบริหารงานบางส่วนหรอก
“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง ผมต้องทำตามคำสั่งพ่อ” ครามพยายามจะจับมือมิน แต่มินเบี่ยงตัวหนี เขารู้ว่ามันไม่ดีแต่เขาขัดพ่อไม่ได้ เขามองแววตามินที่มองมาก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสับสนกับตัวตนของเขา เขาไม่ใช่คนดีมากหรอก เพียงแต่เขาอยากจะลองเป็นคนดีเพื่อมินและลูก
“นายทำตามคำสั่งพ่อทุกอย่างเลยงั้นเหรอ รวมถึงที่ต้องข่มขืนฉันด้วยหรือเปล่า” มินมองครามอย่างคาดคั้น ตอนนี้เขาเริ่มปะติปะต่อเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว
“ฉัน เอ่อ”
“บอกฉันมา!!” มินขึ้นเสียงใส่อีกฝ่ายทันทีที่เห็นครามอ้ำอึ้ง
“ใช่” ครามตอบเสียงแผ่วเบา มินเบ้หน้าด้วยความเกลียดทันทีที่ได้ยินคำตอบ มินกำหมัดตัวเองแน่น เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้ระเบิดในตอนนี้
“คุณอย่าไปโกรธคุณพ่อเลยนะ ......” ยังไม่ทันที่ครามจะแก้ตัวเสร็จมินพูดเสียงเฉียบและดังขัดขึ้นมา
“หุบปาก!”
ครามเงียบและมองหน้ามินที่ตาแดงกล่ำไปด้วยความโกรธ
“นายบอกฉันได้ไหมว่าพ่อของนายสั่งให้นายไปข่มขืนฉันทำไม” มินพูดต่อพร้อมเดินไปนั่งบนโซฟา มินนั่งไขว้ห่างมองครามที่ยืนอยู่
“ผมว่าเรื่องมันแล้วไปแล้วก็ให้จบไปเถอะ”
“เล่ามา!”
ครามถอนหายใจและเดินไปนั่งข้างมิน ครามพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มและเย็นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ถ้าผมเล่าให้คุณฟังแล้ว คุณสัญญาได้ไหมว่าจะให้เรื่องทุกอย่างมันจบแล้วเราจะเดินหน้า ไม่มองอดีตอีก”
มินสูดลมหายใจเข้าลึกๆกับคำถามของคราม เขาต้องแกล้งลืมให้อีกฝ่ายตายใจ ต้องแกล้งเล่นบทแสนดีเพื่อให้ครามสงสารมากขึ้นสินะ เขาต้องดึงครามมาเป็นพวก
“ได้สิ ถ้านายเล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง ฉันจะพยายามลืมมัน”
“และคุณจะไม่โกรธแค้นพ่อของผม”
“ได้สิ ฉันจะพยายาม” มินหันไปมองหน้าครามพร้อมยิ้มหวาน
ครามถอนหายใจเบาๆเมื่อเห็นท่าทีของมิน แม้ว่าเขาจะยังไม่เชื่อในรอยยิ้มหวานอาบยาพิษของมินแต่เขาก็จะลองเชื่ออีกฝ่ายดู
“พ่อสั่งให้ผมไปข่มขืนคุณเพราะอยากจะให้คุณท้อง ท่านอยากมีหลาน และอยากผูกมัดคุณเพื่อให้คุณไม่สามารถที่จะปฏิเสธการแต่งงานไม่ได้”
ครามพูดจบมินพยักหน้าให้อีกฝ่าย
“เพราะแบบนี้นี่เอง แต่พ่อคุณก็ใจร้อนเนอะ แทนที่จะรอให้เราแต่งงานกันแล้วมีลูกกลับใจร้อน ต้องไปข่มขืนก่อนแต่ง” มินจ้องตาครามอย่างไม่ลดละ ก่อนจะยิ้มหวานแล้วพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
“ฉันจะพยายามลืมก็แล้วกัน”
มินลุกขึ้นจะไปอาบน้ำแต่โดนครามจับมือรั้งไว้
“แล้วคุณจะพยายามรักผมได้ไหม”
มินชะงักเม้มปากแน่น ไม่หันไปมองหน้าคราม ก่อนจะกระตุกยิ้มหวานและหันไปยิ้มให้
“ได้สิ ฉันจะพยายาม” มินพูดจบเดินเข้าห้องน้ำไปทันที
“ปึก !!” มินทุบเคาเตอร์อ่างล้างหน้า เขากำหมัดแน่นมองตัวเองในกระจก
“คิดว่าฉันจะเชื่อในสิ่งที่นายพูดเหรอคราม นายพูดแต่นายพูดไม่หมด ฉันเชื่อหรอกว่าอาคมจะคิดแค่นั้น ฉันว่ามันต้องการทำลายศักดิ์ศรีฉันมากกว่าที่ให้นายไปข่มขืนฉัน ต้องการให้ฉับอับอายว่าท้องไม่มีพ่อ และต้องบากหน้าไปหามัน”
มินสะแหยะยิ้มร้ายให้ตัวเองในกระจก
“ฉันจะไม่ยอมให้แกทำฉันได้ฝ่ายเดียว” มินพูดเสร็จเดินไปอาบน้ำเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์
มินตื่นแต่เช้า เขากำลังจัดการน้องซันอยู่ครามก็อาบน้ำเสร็จพอดี ครามนั่งลงใกล้มินก่อนจะพูดขึ้น
“มินผมอยากให้คุณขอโทษคุณพ่อได้ไหมเรื่องเมื่อวาน”
มินชะงักหยุดแต่งตัวให้น้องซันทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายพูด ครามเมื่อเห็นว่ามินนิ่งไปเลยพูดต่อ “
“การที่เราขอโทษก่อนไม่ได้แปลว่าเราผิดหรอกนะมิน แต่ผมแค่อยากให้ทุกอย่างจบ เพราะยังไงก็ยังต้องอยู่ด้วยกันในบ้านเดียวกัน ผมไม่อยากให้บาดหมางกัน เราเป็นเด็กขอโทษผู้ใหญ่ก่อนก็ไม่เสียหน้าหรอก” ครามพยายามพูดกล่อมมิน เขาเป็นคนกลางรู้สึกลำบากใจไม่อยากให้เมื่อรอยร้าว
มินขบคิดในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดและเงยหน้ายิ้มหวานให้อีกฝ่าย
“ได้สิ”
ครามรู้สึกโล่งอกที่มินยอม แม้ว่าแอบฉงนที่แอบฝ่ายยอมง่ายเกินไป
“ผมดีใจนะมินที่คุณพยายามเหมือนที่คิดบอกผมไว้”
มินได้แต่ยิ้มหวานไม่พูดอะไรต่อ
บนโต๊ะอาหารวันนี้ดำเนินไปเรียบๆทุกคนมาทานกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อาคมที่ดูนิ่งเหมือนทุกวันและไม่ได้จ้องมินหรือพูดแขวะมินแต่อย่างใด
“คุณพ่อครับ มินมีอะไรจะคุยด้วย” ครามเปิดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าทุกคนทานอาหารเสร็จหมดแล้ว
“อะไรเหรอ” อาคมพูดนิ่งๆอย่างไว้ท่าที
ครามพยักหน้าให้มินและแอบบีบมือให้กำลังใจใต้โต๊ะ มินยิ้มตอบครามและลุกขึ้นไปนั่งคุกเข่าข้างๆอาคม
“มินกราบขอโทษเรื่องเมื่อวานนะครับ มินเป็นเด็กมินเลยมาขอโทษคุณพ่อที่ทำไม่ดีใส่ หวังว่าคุณพ่อจะให้อภัยมิน” มินกราบลงที่ตักอาคมก่อนจะเงยหน้ายิ้มหวานให้
อาคมยิ้มตอบและลูบหัวมินเบาๆ
“ฉันให้อภัยหนูมินอยู่แล้ว ฉันก็มีส่วนผิดที่เอาเรื่องในอดีตมาพูด ตอนนี้ฉันรู้แล้วละว่าอดีตก็คืออดีต ฉันไม่เอามันมาคิดมากแล้วละ”
มินแอบแปลกใจกับท่าทีของอาคมที่ง่ายเกินไป แต่ก็ยิ้มตอบอาคมไป
“ถือว่าจบไปนะครับเรื่องเมื่อวาน ผมขอบคุณคุณพ่อมากนะครับ” ครามพูดสรุปและยกมือไว้อาคม อาคมพยักหน้าให้ มินเลยลุกขึ้นมานั่งที่เดิม
“เอาละ ฉันขอตัวนะ ต้องเข้าบริษัทแต่เช้า” อาคมลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารไป
“ฉันก็ต้องไปแล้วนะมิน เจอกันตอนเย็นนะ” ครามลุกขึ้นพร้อมจูบหน้าผากมินเบาๆแล้วออกไปทำงาน
มินนั่งนิ่งบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะเห็นว่าคิมมองเขาอยู่
“นายไม่ไปเรียนเหรอคิม”
“วันนี้ไม่มีเรียน”
มินพยักหน้าให้ก่อนจะลุกขึ้นยืนกำลังเดินออกไปด้านนอก
“เท้าคุณเป็นไงบ้าง” คิมถามขึ้น
“ก็ดีขึ้นแล้ว ขอบใจที่เป็นห่วงนะคิม” มินยิ้มหวานตบท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
__________________________________________________________________
มาต่อให้แล้วครับ ตอนที่ผ่านมาหลายคนบอกว่าอาคมดูเจ๊ไป ฮ่าๆ จริงๆอาคมเป็นผู้ชายหวานๆนะ แต่เพียงเพราะประสบการณ์และหน้าที่ที่ต้องมาอยู่ ณ จุดนี้ทำให้ต้องมีมาด แต่เมื่อวานสติหลุดเลยเอานิสัยเก่าๆมาใช้บ้าง อิอิ
ตอนนี้เฉลยเรื่องอีกแล้ว มีใครพอจะเดาอะไรได้บ้างไหม
ช่วงนี้คนเขียนติดละครสุดแค้นแสนรักมาก แซ่บจริงๆชอบ ฮ่าๆ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ
