Chapter 36วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นภเกตน์หนีปัญหากลับไปใช้เวลาร่วมกับครอบครัวของตนที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของอาพีรพัฒน์ หากตลอดเวลาจิตใจไม่ได้อยู่กับเนื้อตัว เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูหลายครั้ง ทว่าคนที่รอคอยดูสงบนิ่ง นภเกตน์จึงพยายามคิดว่าตฤณอาจจะยังไม่กล้าโทรศัพท์มาขอปรับความเข้าใจ เขาถอนหายใจหนักๆ ปลายนิ้วเรียวกดเบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่ายคาไว้ แต่เพราะทิฐิ ก็เลยทำให้เจ้าตัวไม่กล้ากดโทรศัพท์ออกไป
สำหรับเขาก็น่าจะรู้สึกว่าแปลกอยู่หรอก เพราะตฤณไม่รีบมาตามตื๊อขอปรับความเข้าใจเหมือนทุกครั้ง
ทางด้านตฤณ หลังจากที่โดนไล่ออกมาจากห้องพักของเจ้านาย เขาก็บึ่งรถคันหรูของธนากรกลับไปบ้านหลังเล็กของตนที่ชานเมือง ในสมองมึนตึ้บ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรต่อไป ควรจะไปขอโทษและอธิบายให้เจ้านายฟังมั้ย แต่อีกใจก็คิดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดนี่หว่า ก็คนรักกัน...
...รัก... งั้นเหรอ
นภเกตน์ไม่เคยบอกเขาสักหน่อยว่ารัก
คิดแล้วก็เจ็บเสียเอง ร่างสูงส่ายหน้าแรงๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวเล็กๆ ภายในบ้านตน โชคดีที่เขามีเบียร์ตุนไว้เยอะ มือหยาบปัดฝุ่นหนาออกจากแพ็กเบียร์กระป๋องแล้วประคองขึ้นไปบนห้องนอน ในเมื่อตัวเขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแถมยังกลุ้มใจขนาดนี้ เมาหลับไปถึงวันจันทร์เลยก็คงจะดี ชายหนุ่มคลานขึ้นไปบนเตียงแล้วเปิดกระป๋องเบียร์ดื่มไปเรื่อยๆ พลางพ่นลมหายใจออกหนักๆ เป็นระยะๆ
ใจนึกว่าควรจะถามความรู้สึกของอีกฝ่ายให้แน่ใจไปเลย เขาคิดว่าเจ้านายก็น่าจะพอมีใจให้ตนอยู่บ้าง แต่ทำไม ลึกๆ ลงไปเขากลับกลัวกับคำตอบที่จะได้รับ ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นกังวล... ยิ่งกังวลก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเป็นฝ่ายเดียวที่หลงรักเจ้านาย ร่างสูงเอนหลังนอนราบไปบนเตียง แล้วเหม่อมองเพดานห้องไปอย่างอ่อนใจ
ในวันเริ่มต้นของสัปดาห์ใหม่ ชั้นสิบสามกลับมาคึกคักเต็มไปด้วยพนักงานอีกครั้ง เพราะเหล่าวิศวกรที่ไปออกไซต์งานต่างจังหวัดกลับมากันครบหมดแล้ว และเมื่อทุกคนเห็นเจ้านายมาถึง ต่างก็กรูกันเข้าไปรุมล้อมถามไถ่เรื่องข่าวลือที่ได้ยินมา
“หัวหน้าจะย้ายเหรอครับ อย่าย้ายเลยนะครับ”
“พวกผมจะตั้งใจทำงานมากกว่านี้”
“เดี๋ยวๆ พวกคุณไปได้ยินมาจากไหนกัน ผมไม่ได้จะย้ายไปไหนนะ” นภเกตน์หัวเราะ แล้วปลอบทุกคนอย่างใจเย็นอยู่พักใหญ่ จนทุกคนยอมถอยกลับไปทำงานได้ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญหรือไม่พอใจ กลับดีใจซะอีกที่ลูกน้องยอมรับตนมากถึงขนาดนี้
“หลินดีใจจังค่ะที่คุณนภเกตน์ไม่ได้จะย้ายแผนก” เลขาสาวก็ยืนระริกระรี้อยู่เคียงข้างเจ้านายด้วย
ร่างโปร่งยิ้มบาง ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงาน หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวอย่างบอกไม่ถูก “เอ่อ... คุณหลิน... คุณตฤณมารึยัง”
“มาแล้วค่า มาถึงก็ตรงดิ่งเข้าห้องทำงานไปเลยค่ะ หลินทักยังไม่สนหลินเลย” หลินพึมพำ พลางส่งเอกสารในมือให้ “นี่ตารางงานของวันนี้นะคะ”
“อื้ม” นภเกตน์ก้าวเข้าไปในห้องทำงานด้วยหัวใจตุ้มต่อม เขาไม่รู้จะสู้หน้าตฤณยังไงดี
เมื่อบานประตูเปิดออก ผู้เป็นนายได้ยินเสียงก๊อกแก๊กของปลายนิ้วกระทบคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนตฤณจะกำลังวุ่นอยู่กับการแก้ไขงานชิ้นหนึ่ง เขาจึงเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตน
บรรยากาศภายในห้องเงียบกริบจนน่าอึดอัด แม้นภเกตน์จะทำเป็นไม่สนใจ เขาหยิบเอกสารขึ้นมาตรวจดูไปพลาง พร้อมกับเปิดแล็ปท็อปขึ้นดู นัยน์ตาสีอ่อนชำเลืองมองคนที่นั่งตรงข้ามกันอยู่เป็นระยะๆ หากร่างสูงก็ไม่เงยหน้าขึ้นมองมาทางเขาเลยแม้เพียงนิดเดียว
จู่ๆ ตฤณก็ลุกพรวดจากเก้าอี้ แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดไม่จาอะไร นั่นทำให้ผู้เป็นนายเริ่มกังวลใจ... ทำไมตฤณทำท่าเหมือนกำลังโกรธหรืองอนเขาแบบนั้น ทั้งที่จริงมันต้องเป็นเขาที่ทำแบบนั้นไม่ใช่เรอะ!
...แล้วถ้างั้น... ทำไมเขาต้องกังวลใจด้วยล่ะ เขาเป็นผู้ถูกกระทำนะ ไอ้หน้าแมวหื่นนั่นต้องเป็นฝ่ายเข้ามาขอโทษเขาสิ
หลังจากผู้ช่วยหายออกไปจากห้องสักพักใหญ่ ก็มีเสียงดังฮือฮาแว่วมาจากทางด้านนอก เรียกความสนใจจากร่างโปร่งให้ลุกขึ้นไปเปิดประตูดู
หญิงสาวร่างอ้อนแอ้นที่นภเกตน์รู้จักดีอยู่ในชุดรัดรูปกำมะหยี่สีดำ ชายกระโปรงสั้นเสมอหูถึงต้นขา เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีแดงเป็นเงาวับ ทุกก้าวย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจ สะโพกงอนตึงส่ายเป็นจังหวะตามการก้าวเดิน สะกดทุกสายตาของเหล่าวิศวกรไว้ให้ส่ายซ้ายขวาตามสะโพกของเธอ
“นภ!” หญิงสาวตะโกนลั่นพลางกระโดดกอดคอร่างโปร่ง แล้วสัมผัสริมฝีปากกันเบาๆ
“นีนี่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่เวลาทำงานของนภนะ” นภเกตน์เอ่ยเสียงดุ
“ก็มาตั้งแต่เช้าแล้ว จะมารอดูนภทำงานไง”
...มิน่า เมื่อเช้าเธอถึงได้ไม่มาร่วมโต๊ะอาหารเช้าด้วย คงรู้ว่าถ้าจะตามมาในเวลางาน เขาคงจะไม่ให้มาแน่ๆ ...ร่างโปร่งมองไปทางด้านหลังของหญิงสาว วิศวกรของเขาบางคนเริ่มมีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกแล้ว ชายหนุ่มจึงดึงข้อมือเล็กให้เธอตามเข้าไปในห้องทำงานด้วยทันที
“นีนี่ นภบอกแล้วว่าอย่าแต่งตัวแบบนี้”
“ทำไมอะ นีนี่ก็เป็นของนีนี่แบบนี้ นภหึงรึไง”
นั่นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตฤณเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง เขาชะงักกึก แต่ก็รีบค้อมศีรษะให้กับทั้งสองคนเป็นเชิงขออนุญาต จากนั้นจึงเดินตรงไปหยิบแล็ปท็อปกับแฟ้มเอกสารสองสามแฟ้ม แล้วถอยกลับออกไป
“คนที่ว่าของนภน่ะ...” นีนี่ชี้ไปยังผู้ช่วยของนภเกตน์ “ท่าทางเนิร์ดชะมัด”
ร่างโปร่งถอนหายใจ แล้วเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตน “มาเพื่อดูตัวโดยเฉพาะเลยใช่มั้ย”
นีนี่หัวเราะ ขณะที่เดินตามไปนั่งลงบนตักของชายหนุ่มอย่างถือวิสาสะ “ก็อยากเห็น... แต่ทำไมทำหน้าบึ้งตึงกันจัง ไม่เห็นคุยอะไรกันเลย ทะเลาะกันเหรอ”
“นีนี่ มานั่งตักนภแบบนี้ ใครเห็นเข้าจะเข้าใจผิดได้นะ” ชายหนุ่มพูดเสียงขรึม
“เข้าใจผิดอะไร นีนี่กับนภน่ะ แก้ผ้านอนกอดกันยังทำมาแล้ว” หญิงสาวแกล้งพูดเสียงดัง อย่างต้องการให้คนที่นั่งเอาหูแนบประตูทางด้านนอกได้ยิน ซึ่งก็ได้ผล หลินเบิกตากว้าง พร้อมกับยกมือขึ้นกัดเล็บรัวๆ
“นภตอบก่อน ทะเลาะกันเรื่องอะไร ทำไมล่ะ”
“เรื่องของผู้ใหญ่นะ”
“แก่กว่ากันแค่ปีเดียวไม่เรียกว่าผู้ใหญ่หรอก” นีนี่เถียง “นีนี่เดาเอาเองก็ได้... อืม... ถ้าไม่ใช่เรื่องความเย็นชาของนภ ก็คงจะเป็นเรื่องบนเตียงแหง”
นภเกตน์พ่นลมหายใจออกแรงๆ อย่างอ่อนใจ “ยัยแก่แดด!”
หญิงสาวหัวเราะชอบใจ ก่อนหน้าที่เธอจะเดินทางมายังกรุงเทพฯ เธอได้ยินทั้งอาพีรพัฒน์และคุณย่าเล่ามาแล้วว่านภเกตน์เปลี่ยนไป แต่ถ้าไม่ได้มาพบด้วยตนเอง เธอก็คิดว่าคงจะเชื่อได้ยาก จนกระทั่งเมื่อกี้ ที่ได้มาซุ่มแอบดูรอยยิ้มน่ารักของนภเกตน์กับลูกน้อง รอยยิ้มซึ่งเธอเองยังมีโอกาสได้เห็นน้อยมากเหลือเกิน เธอจึงเชื่อสนิทใจว่านภเกตน์เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งนภเกตน์ย้ายไปพักที่บ้านของอาพีรพัฒน์ นีนี่สังเกตเห็นว่าชายหนุ่มมีท่าทีแปลกๆ ไป เขาเอาแต่นั่งมองโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา แล้วยังหายใจทิ้งทั้งวัน พอเธอแซวว่าเขาทะเลาะกับแฟนมาหรือไง เขาก็ไม่ยอมตอบคำถาม หากใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ด เพียงแค่นั้นหญิงสาวก็พอจะเดาอะไรๆ ได้ไม่ยาก นีนี่เค้นถามร่างโปร่งอยู่นานจนอีกฝ่ายยอมเล่าให้ฟัง เธอยอมรับว่าตกใจในตอนแรก ที่นภเกตน์ยอมรับว่าเขามีใจให้กับผู้ช่วยที่ทำงานร่วมกัน แถมยังเป็นผู้ชายซะด้วย แต่เธอเองก็รู้ ว่านภเกตน์รักและไว้ใจเธอมากขนาดไหน ถึงยอมให้เธอเป็นที่ปรึกษาคนเดียวของเขา
“เขาดูซื่อดีนะนภ เขาเป็นคนเดียวที่ไม่สนใจคนสวยอย่างนีนี่เลยอะ”
“หืม?”
“ก่อนหน้าที่นภจะมา นีนี่นั่งรอนภอยู่ในห้องทำงานนี่ ตอนเขาเข้ามาในห้องนะ หน้าตาตกใจยังกะเห็นผี ชวนคุยด้วยก็ไม่คุย จนนีนี่เบื่อ ต้องออกไปนั่งเม้าท์กับคุณขจรแทน” นีนี่เล่าไปพลางหัวเราะคิก แต่เธอไม่ได้เล่าว่าเธอแกล้งยั่วเย้าตฤณไปด้วย ก็แบบว่าเธออยากรู้นี่ ว่าผู้ชายคนนี้จะจริงจังกับนภเกตน์ของเธอมากขนาดไหน เธอนั่งไขว่ห้าง สลับขาซ้ายขวาแบบในเรื่อง Basic Instinct อยู่หลายครั้ง ก้มใส่ๆ ถอดๆ รองเท้าโชว์ร่องอกอยู่นับสิบหน ตฤณยังไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเธอเลย สรุปว่าผลที่ได้รับก็น่าพอใจอยู่ ตฤณดูเป็นคนซื่อตรงและซื่อสัตย์มากพอควรเลยทีเดียว “ก็สอบผ่านอยู่นะ”
“เฮ้อ...” ร่างโปร่งถอนหายใจอย่างอ่อนใจกับยัยตัวป่วนบนตักตน
ก๊อกๆ
“เข้ามาเลยค่า” นีนี่ชิงตะโกนบอกก่อนนภเกตน์จะได้อ้าปากเสียอีก
“อะ... เอ่อ...” หลินแทบตาถลน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งอยู่บนตักเจ้านาย แถมกอดซะแนบแน่นอีก คุณพระคุณเจ้าช่วยหลินด้วย กรี๊ดดดด! “นะ... น้ำผลไม้... ที่คุณนีนี่สั่งค่ะ”
“อื้อ ขอบคุณค่ะ วางไว้บนโต๊ะนู้นนะคะ” นีนี่กรีดนิ้วชี้ไปยังโต๊ะเล็กหน้าโซฟา แล้วหันไปออเซาะชายหนุ่มต่อ “นภ... วันนี้เราไปเลือกแหวนกันน้า... นภสัญญากับนีนี่แล้วอ้า...”
หลินหูผึ่ง แต่สองขาก็ถอยกรูดออกไปจากห้อง และทันทีที่บานประตูปิดลง เธอก็กระโจนเข้าไปนั่งตรงกลางกลุ่มวิศวกรที่กำลังสุมหัวพูดถึงนีนี่กันอยู่ โดยที่หนึ่งในกลุ่มนั้น ก็มีตฤณนั่งหน้าขรึมรวมอยู่ด้วย
“กรี๊ดดดดด! สงสัยเขากำลังจะหมั้นกันแน่แล้วค่า!” หลินโวยวาย เธอหันไปเหล่ร่างสูงแล้วครวญครางต่อ “โธ่ คุณนภเกตน์... สาวๆ หนุ่มๆ อกหักครึ่งโลกแน่ๆ”
“อะไรยังไง เล่าๆ” กิตติกระโดดเข้ามาแจม
“ฝรั่งจ๋ามากๆ เลยอะ จูบกันแบบโป้มๆ” บวรวิทย์ก็ถลามาร่วมด้วย
“ถ้าเขาเป็นคู่หมั้นกันมันก็เรื่องธรรมดานะค้า หลินได้ยินว่าเย็นนี้เขาจะไปซื้อแหวนกันด้วยค่า” เลขาสาว(วาย)แกล้งพูดดังๆ อย่างจงใจให้ตฤณได้ยิน
“เขาเป็นใคร... คุณหลินรู้มั้ย” ตฤณถามเสียงเข้ม
“ได้ยินว่าเป็นหลานสาวของประธานบริษัท SE Interior ค่า หูย... สมกันเนอะ ทั้งฐานะ ทั้งรูปร่างหน้าตา” ...หึงล่ะซี... หึงชิมิล่า! หึงก็ทำอะไรหน่อยซิโว้ย! หลินนึกด่าอยู่ในใจ
นัยน์ตาคมกริบเสหลบ เขาพยายามวางตัวเป็นปกติไม่ให้ใครสงสัยอะไรได้ เขาได้พบผู้หญิงคนที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจนี่ในห้องทำงานเมื่อเช้า เธอทักทายเขาเป็นภาษาอังกฤษ แล้วบอกว่ามารอพบนภเกตน์ วินาทีนั้นเขาเย็นวูบไปทั้งร่าง ใจสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องที่ทำให้กลุ้มใจหนักกว่าเดิม แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
“เอาล่ะ พอแล้ว แยกย้ายกันไปทำงานเถอะ” ร่างสูงไม่อาจทนฟังทุกคนพูดถึงเจ้านายที่รักกับหญิงสาวคนสวยต่อไปได้ เขาปลีกตัวเข้าไปในห้องน้ำของบริษัท ด้วยความหวังที่ว่าน้ำเย็นๆ อาจจะช่วยทำให้ความหงุดหงิดจางหายไปได้บ้าง
TBC~*ลงช้าแล้วยังสั้นอีก กรี๊ดดดด ลงโทษตัวเองแรงๆ อาทิตย์ที่แล้วยุ่งมากเลยค่า ขอโทษด้วยนะคะ
แถมความสัมพันธ์น้องนภกับพี่ตฤณก็ย่ำแย่ 555555 งานนี้พระเอกของเราจะไหวมั้ย โปรดติดตามมมม~
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆ ค่า