Chapter 29หลังจากธนากรกลับออกไป ภายในห้องทำงานก็เหลือเพียงแค่นภเกตน์กับหญิงสาวผู้มาเยือนเท่านั้น ชายหนุ่มยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ใบหน้าอ่อนเยาว์หันออกไปทิศทางตรงกันข้ามกับที่หญิงสาวยืนอยู่
ปิ่นหยกเองก็รู้สึกอึดอัด เธอชำเลืองมองคนที่มีสีหน้าเรียบเฉย ดูน่าหวั่นเกรง พลางประสานสองมือเข้าไว้ด้วยกัน “เอ่อ... ดิฉันมารบกวน... คุณ... เอ่อ...”
“...นภเกตน์ ผมเป็นผู้จัดการแผนกนี้ เชิญนั่งสิ” ร่างโปร่งหันหน้ามาสบสายตากับหญิงสาว จากนั้นก็ผายมือไปทางชุดโซฟาภายในห้อง เขารอให้เธอนั่งลงก่อน จึงเดินไปนั่งลงบนโซฟาอีกตัว “คุณตฤณออกไปทำงานข้างนอก คิดว่าคงจะกลับเย็นๆ”
“ค่ะ”
“...รู้สึกดีขึ้นบ้างรึยัง”
ปิ่นหยกพยักหน้า “ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ เอ่อ... ถ้างั้น... ดิฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ ขอโทษที่มารบกวนเวลาทำงานของคุณนภเกตน์นะคะ” ใบหน้าของปิ่นหยกซีดเผือด เธอชักหวั่นใจว่าเธอมาผิดเวลามากจริงๆ หากด้วยความร้อนใจ บวกกับความกังวลใจที่สั่งสมมากจนนอนไม่หลับ ส่งผลให้ร่างกายและเด็กในท้องของเธออ่อนแอ เธอจึงจำเป็นต้องมาพบกับตฤณเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่ทำให้เธอเป็นกังวลมากเหลือเกิน
นภเกตน์ถอนหายใจหนักๆ “...คุณปิ่นหยกมาอีกครั้งตอนเย็นสิ คุณตฤณคงจะกลับมาที่นี่หลังเลิกงานนะ”
แววตาหมองหม่นของหญิงสาวสั่นระริก “...ดิฉัน... คงมาไม่ได้หรอกค่ะ นี่ก็แอบออกจากบ้านมา”
“มีธุระสำคัญมากเลยเหรอ ทำไมไม่โทรไปคุยกับเขาล่ะ”
ปิ่นหยกพยักหน้าหงึกหงัก “...ดิฉันไม่กล้า กลัวเขาไม่รับสายค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว ดวงตาเริ่มมีน้ำใสๆ เอ่อคลอ “ถ้าพบกันซึ่งๆ หน้า อาจจะดีกว่าด้วยน่ะค่ะ”
ในสถานการณ์เช่นนี้ ร่างโปร่งเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี โดยเฉพาะเมื่อตัวเขา... เป็นเพียงคนนอกเท่านั้น... คำถามผุดขึ้นมามากมายในศีรษะ แต่จะถามอะไรออกไป ก็กลัวว่าจะเป็นการละลาบละล้วง ถ้าอย่างนั้นแล้ว...
“ถ้าอย่างนั้น ผมโทรหาเขาให้เอามั้ย” นภเกตน์เอ่ยถามพลางล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ เขาหยุดชะงักไปเล็กน้อย เมื่อสังเกตเห็นว่าปลายนิ้วของตนสั่นจนเห็นได้ชัด
“...ยะ... อย่าเลยค่ะ... เขาจะยอมคุยกับดิฉันเหรอคะ ดิฉันทำให้เขาเจ็บปวด... ถึงขนาดนั้น”
“คุณปิ่นหยก เอ่อ... คุณกับคุณตฤณ...” ร่างโปร่งเม้มริมฝีปาก เขานึกเกลียดตัวเองที่หลุดถามคำถามแบบนั้นออกไป “ไม่มีอะไรครับ คุณไม่จำเป็นต้องตอบคำถามผม”
หญิงสาวลูบท้องของเธออย่างแผ่วเบา พร้อมกับตอบคำถาม “เราเคยคบกันน่ะค่ะ”
หัวใจดวงน้อยร่วงวูบ ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บหน่วงในอก คนรัก... ผู้หญิง... ถ้าอย่างนั้นแล้วตฤณก็ไม่ได้เป็นเกย์จริงๆ น่ะสิ เพราะงั้น... เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับตฤณ... ก็คงเป็นความเข้าใจผิดของเขาเอง เป็นความเข้าใจผิด... ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาออกมาในรูปแบบนี้
...แล้วเด็กในท้องนั่น บางที... นภเกตน์รู้สึกเหมือนโดนภูเขาล้มทับ ในสมองมึนงงจนเบลอไปหมด ชายหนุ่มลุกขึ้นพรวดแล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานของตน เขาไม่อยากรับรู้ ไม่อยากได้ยินเรื่องของตฤณกับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
“เดี๋ยวผมจะตามคุณตฤณมาให้ รออีกสักพักนะ”
ปิ่นหยกยิ้มกว้าง หากน้ำตาไหลเปื้อนแก้ม “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ”
มือขาวไล่หาเบอร์บนโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง แล้วกดโทรออกไป
ภายในห้องทำงานชั่วคราวที่ทางสำนักงานใหญ่ดาต้าโปรจัดไว้ให้ ชายหนุ่มผิวสีแทนเพิ่งวางหูโทรศัพท์ไปหลังจากที่ทดสอบระบบกับวิศวกรที่อยู่ไซต์งานต่างจังหวัดเสร็จเรียบร้อย เขาส่ายหน้ารัวๆ เพราะวันนี้รู้สึกว่าหางตากระตุกแบบแปลกๆ อยู่หลายครั้ง
...จะดีหรือร้ายวะเนี่ย เขาพึมพำพลางยกมือขึ้นสัมผัสบริเวณหางตาทั้งสองข้าง หากในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เมื่อร่างสูงเห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามา เขาก็ยิ้มกว้าง รีบกดรับสายและกรอกเสียงกระดี๊กระด๊าใส่หูโทรศัพท์ไปทันที
“คุณนภ! คิดถึงผมเหรอคร้าบ!”
นภเกตน์เงียบไปสักพัก เขาสูดหายใจเข้าปอดลึก เพื่อให้น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเป็นปกติมากที่สุด “...คุณตฤณกลับเข้ามาที่บริษัทหน่อย มีเรื่องด่วนนะ”
“หือ? มีอะไรครับ?”
“ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” หลังจากพูดจบผู้เป็นนายก็กดตัดสายไปทันที ปล่อยให้ตฤณนั่งหน้ามึนต่อไปด้วยความงุนงง
“เรื่องด่วนอะไรวะ... ด่วนขนาดที่คุณนภจัดการเองไม่ได้ ต้องเรียกกำลังเสริมให้เข้าไปช่วยรับมือเลยเหรอวะเนี่ย” ตฤณลุกขึ้นเก็บของอย่างรวดเร็ว เขาหอบกระเป๋าใส่แล็ปท็อปและแฟ้มเอกสารไว้ในมือ ทว่าพอเปิดประตูห้องออก ก็เจอกันกับธนากรเข้าพอดี
“อ้าว! ไอ้แหลม เจอพอดี เดี๋ยวบ่ายกูกลับมานะ ต้องรีบกลับบริษัทก่อน”
“อ้อ มึงรู้แล้วเหรอ งั้นมึงก็รีบกลับไปเคลียร์ให้เรียบร้อยละกัน” ธนากรตั้งใจแวะมาแจ้งข่าว แต่พอเห็นว่าตฤณรู้แล้ว เขาก็หมุนตัวเดินออกไป
“เฮ้ย! เดี๋ยวๆ ไอ้แหลม! มึงบอกกูมาก่อน ที่บริษัทมีอะไรวะ”
“อ้าว! กูก็นึกว่ามึงรู้แล้ว ก็แฟนเก่ามึงอะ ปิ่นหยก อุ้มท้องมารอมึงอยู่ที่บริษัทไง”
“ฮะ?!” ตฤณเบิกตาโพลง ขนลุกตั้งแต่บนศีรษะจรดปลายเล็บขบ แวบแรกที่เขานึกเป็นห่วงคือ... ความรู้สึกของนภเกตน์ เจ้านายจะคิดยังไงเนี่ย “...ชิบหาย!”
“ลูกมึงรึเปล่าวะ ในท้องปิ่นอะ” ธนากรถอนหายใจ
“เปล่าเว้ย ไม่ใช่! นั่นลูกของปิ่นกับแฟนใหม่... โธ่ว้อยยยย! กูสังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียว!”
“มึงไม่ต้องกลุ้มใจไป ที่บริษัทไม่มีใครอยู่นอกจากคุณนภเกตน์ ไม่มีใครเห็นหรอก”
ร่างสูงแทบจะล้มทั้งยืน... “ไอ้ห่า... กูยอมให้ทั้งบริษัทเห็นดีกว่าให้คุณนภเห็นคนเดียวอีก”
ธนากรขมวดคิ้ว “ทำไมวะ”
“กูไปแล้วโว้ย” ตฤณไม่อยู่รอตอบคำถามของเพื่อนรักที่กำลังอ้าปากพะงาบๆ เป็นปลาทองเลยด้วยซ้ำ เขาปราดออกไปยังลานจอดรถเพื่อเดินทางกลับไปยังบริษัททันที
บริษัทดาต้าโปร กับ NS นั้นอยู่ห่างกันไม่มาก ในภาวะการจราจรปกติใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น หากตฤณรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามากเหลือเกิน ใจเขาพะวง กังวลถึงแต่ความรู้สึกของผู้เป็นนาย
...นภเกตน์จะคิดยังไงที่เจอแฟนเก่าของตนอุ้มท้องมารอพบแบบนั้น ไม่เข้าใจผิดคิดว่าปิ่นหยกท้องกับเขาไปแล้วหรือเนี่ย!
ยิ่งคิดไปก็ยิ่งเป็นกังวล จนชายหนุ่มต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ หลายๆ ครั้ง
เมื่อรถยนต์ที่เขาใช้โดยสารเคลื่อนเข้ามาจอดในลานจอดรถของบริษัท ร่างสูงก็เปิดประตูผางแล้วกระโดดแผล็วออกไปทันทีโดยไม่รอให้รถจอดสนิทเลยด้วยซ้ำ เขาวิ่งอย่างเต็มกำลังตรงไปยังห้องทำงานของตน
“คุณตฤณมาแล้ว...” หลิน... เลขาสาวประจำหน้าห้องรอรับด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ก็เจอเหตุการณ์แบบนั้นเข้าไป จินตนาการอันสวยงามของเธอพังพินาศหมดเลย คุณตฤณนะคุณตฤณ เห็นอี๋อ๋อกับเจ้านายอยู่ดีๆ ดันไปทำผู้หญิงท้องซะได้! “มีคนมาพบคุณตฤณ อยู่ข้างในห้องกับคุณนภเกตน์น่ะค่ะ”
ตฤณยิ้มแห้งๆ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ แล้วเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง
ผู้เป็นนายนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำตำแหน่ง เขากำลังคุยโทรศัพท์พร้อมกับเปิดดูข้อมูลบนจอแล็ปท็อปไปด้วย ส่วนบนโซฟาทางด้านซ้ายของห้องนั้น หญิงสาวที่มีใบหน้าคุ้นเคยกำลังนั่งรอร่างสูงอยู่อย่างเงียบๆ
“ตฤณ!” ปิ่นหยกเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงประตูและเห็นว่าเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเดินเข้ามา เธอรีบลุกขึ้นยืน รูปร่างของเธอบอบบางเฉกเช่นวันเก่าๆ ทว่าท้องของเธอนั้นโตขึ้นจนเห็นได้ชัดเจนเวลาที่ใส่ชุดคลุมท้องแบบนี้
“ปิ่น...” ตฤณชาวาบ เขาหันขวับไปหาเจ้านาย “คุณนภ เอ่อ...”
นภเกตน์พูดกับคนที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์รัวๆ แล้วจึงวางหูพร้อมกับปิดแล็ปท็อปลง “ผมจะออกไปประชุมที่ไซต์แทนให้” เขาเอ่ยเสียงเรียบ โดยไม่มองหน้าผู้ช่วยของตนเลยแม้แต่น้อย “วันนี้ลางานไปก็แล้วกัน พาคุณปิ่นหยกไปส่งให้เรียบร้อยด้วยนะ”
“คุณนภ! เดี๋ยวสิครับ!” มือหยาบคว้าแขนเรียวไว้ทันทีที่ร่างโปร่งเดินสวนกับตนออกไป
“...มีอะไรไว้คุยกันทีหลัง” นภเกตน์บิดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุม เขาหันไปผงกศีรษะให้กับหญิงสาวเล็กน้อยเพื่อกล่าวขอตัว แล้วจ้ำอ้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ร่างสูงหันรีหันขวาง เขาควรจะทำยังไงดี จะวิ่งตามเจ้านายออกไป หรือจะเคลียร์ธุระกับปิ่นหยกก่อนดีวะเนี่ย แต่ในขณะที่กำลังลังเล ปิ่นหยกก็เดินมายืนอยู่ตรงหน้าตนแล้วรั้งแขนแกร่งไว้
“ตฤณคะ ปิ่นขอเวลาแค่แป๊บเดียวเท่านั้น”
ปัง ประตูห้องปิดลงสนิท
ตฤณถอนหายใจ เขาหันไปสบสายตากับหญิงสาวซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นคนรักของตน “ไปนั่งคุยที่โซฟาแล้วกัน”
ปิ่นหยกพยักหน้า ก่อนจะกลับไปนั่งลงบนโซฟาที่เดิม “ปิ่นขอโทษจริงๆ ที่มารบกวนตฤณแบบนี้”
“ตฤณนึกว่าปิ่นจะไม่มาเจอตฤณแล้วซะอีก”
“...ปิ่นขอโทษ ขอโทษทุกเรื่องที่ทำผิดพลาดไป ขอโทษที่ทำให้ตฤณเสียใจ...”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วนะปิ่น...”
..
......
..........
ฝ่ายผู้เป็นนายที่เดินออกมาจากห้องเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้พูดคุยกันตามลำพังย้ายไปนั่งทำงานต่อที่โต๊ะลูกน้องซึ่งว่างอยู่ เมื่อครู่ก่อนที่บานประตูห้องจะปิดลง วินาทีที่นภเกตน์เห็นปิ่นหยกเดินเข้าไปเกาะท่อนแขนแกร่งนั้นเขาก็เข้าใจ...
ตัวเขาเป็นส่วนเกิน... หัวใจที่เจ็บจนเหมือนถูกมีดกรีดแบบนี้ เป็นเพราะว่าเขา... เผลอมอบใจให้ตฤณไปแล้วงั้นสินะ
แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว เขาเป็นเพียงคนที่ผ่านเข้ามาเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น เมื่อสองคนนั้นได้พูดคุยปรับความเข้าใจกัน... พวกเขาก็จะเป็นครอบครัวที่เหมาะสม
...และที่สำคัญที่สุด เพราะตฤณไม่ได้ชอบผู้ชายมาแต่แรก ดังนั้นเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ก็คงไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าการเล่นตลกใส่กันเท่านั้น
ปลายนิ้วเรียวที่กำลังเคาะแป้นพิมพ์รัวๆ หยุดนิ่ง... นั่นสินะ ตั้งแต่แรกตฤณก็ไม่ชอบขี้หน้าเขา แล้วตัวเขาก็แกล้งอีกฝ่ายเอาไว้เยอะ... นี่คงเป็นแค่การเอาคืนกันเท่านั้น เขาไม่น่าเผลอใจเลย ทั้งๆ ที่เคยเข้มแข็ง ไม่ยอมให้ใครๆ ผ่านเข้ามาในกำแพงสูงที่ตนสร้างขึ้นเพื่อกีดกั้นและป้องกันตนเองจากคนที่อยู่รอบๆ กายได้
...คุณตฤณ... คุณนี่มันใจร้ายที่สุด
“คุณนภเกตน์ คุณนภเกตน์คะ?” หลินเดินเข้ามาหยุดยืนข้างเจ้านาย เธอเรียกชื่อเขาอยู่หลายหน หากเจ้านายก็เอาแต่นิ่งเฉย
...โถ คงจะเฮิร์ตมากสินะคะเนี่ย... “คุณนภเกตน์ค้า!!!”
“อ๊ะ! ครับ” ร่างโปร่งสะดุ้งตัวเบาๆ
“รถที่คุณนภเกตน์จะใช้เดินทางไปสำนักงานใหญ่ของดาต้าโปรพร้อมแล้วค่ะ”
“อืม” นภเกตน์พยักหน้า ก่อนจะหันไปปิดแล็ปท็อปแล้วเก็บใส่กระเป๋า เขาเอื้อมไปหยิบแฟ้มงานแล้วเดินไปอย่างเร็วที่สุด แต่ขณะที่ก้าวออกไปจากลิฟต์โดยสารเมื่อมาถึงที่ชั้นหนึ่ง ผู้จัดการฝ่ายเซลส์เพิ่งเดินทางมาถึงบริษัทพอดี พวกเขาจึงหยุดพูดคุยกันสักครู่ถึงความคืบหน้าของโพรเจกต์ดาต้าโปร จากนั้นร่างโปร่งจึงเดินไปยังรถที่จอดรอตนอยู่
หลังจากเข้าไปนั่งในรถได้สักพัก รถคันที่เขานั่งเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถช้าๆ หากพอนภเกตน์เงยหน้าขึ้น เขาก็ได้พบกับภาพที่ไม่ได้อยากรู้เห็นเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่าไม่ทันเสียแล้ว นัยน์ตากลมใสจ้องมองภาพชายหญิงที่เดินออกมาจากตึกพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หัวใจเจ็บแปลบก็เพราะคนที่ตฤณยืนอยู่เคียงข้างนั้น ไม่ใช่เขาอีกต่อไป และพอหญิงสาวจะก้าวลงบันได ร่างสูงก็ขยับเข้าไปช่วยประคอง ดูตฤณจะประคบประหงมเธออยู่ไม่น้อย พวกเขาคงเข้าใจกันดีแล้ว
มือยาวยกขึ้นกุมแผ่นอกด้านซ้าย ซึ่งภายในมันเจ็บ... เจ็บจนทรมาน
“คุณนภเกตน์เป็นอะไรรึเปล่าครับ” คนขับรถถามขึ้นเมื่อเห็นว่าท่าทางและสีหน้าของเจ้านายดูไม่ค่อยดีนัก
นภเกตน์วางมือลงบนตักแล้วเชิดหน้าขึ้นเหมือนอย่างเคย “เปล่า รีบไปเถอะ”
TBC~*ดราม่านิดเดียวค่า เรื่องนี้มาแนวเฮฮา เพราะงั้นฮัสกี้ต้องขออภัยคอมาม่าด้วยนะค้า แฮ่...
ความรักมันก็ต้องมีอุปสรรคกันบ้างนะพี่ตฤณ ก็ไปหลอกเขาไว้เยอะนี่นา อิอิ
แต่ว่าสงสารน้องนภจังเลย ฮืออออ...
มาดูกันว่าพี่ตฤณจะทำยังไงต่อไปดีนะคะ จะง้ออีท่าไหน น้องนภถึงจะเห็นจัยยย์ 55555
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆ ค่า จุ๊พพพพ