✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒๕ [๒๑.๐๔.๒๕๖๓]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒๕ [๒๑.๐๔.๒๕๖๓]  (อ่าน 262141 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2020 14:44:31 โดย Ellette »

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทนำ + บทที่ 1 [24.01.2558]
«ตอบ #1 เมื่อ24-01-2015 22:11:47 »

ซ่อนรัก
   บทนำ

   
แรกสบกับดวงตาสีเข้มนั้นเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บและเย็นเยือกราวกับจะเชือดเฉือนให้เขาช้าๆ แต่เมื่อได้สัมผัสจริงๆ แล้วกลับพบว่าคนๆ นั้นไม่ต่างอะไรจากเปลวไฟที่ถูกลมโหมกระพือยากจะดับ


   ‘หลง’ เผลอคิดว่ารอยยิ้มตามมารยาทนั้นแฝงด้วยความเย็นชาจนสัมผัสได้ อะไรที่ทำให้คนๆ นี้มีบุคลิกยากจะเข้าถึงและเป็นที่น่าหวั่นเกรง แท้จริงแล้วเป็นเพียงหน้ากากที่เจ้าตัวสวมใส่อยู่เท่านั้น ทั้งที่ตัวตนคือภูเขาไฟที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ


   ความน่าหวั่นเกรงที่ว่าไม่ใช่ความน่ากลัวเรื่องพละกำลังแต่เป็นเพราะรอยสัมผัสเจือจางที่ฝ่ามือ เพียงได้สัมผัสความร้อนผ่าวก็แล่นลามไปทั่วเนื้อผิว ยิ่งฝังแน่นความรู้สึกที่ไม่คู่ควรในใจของหลง


   แล้วเขาเหมาะสมอะไรถึงได้กล้ามีความรู้สึกแบบนั้น


   ทว่ายิ่งหลีกเลี่ยงยิ่งพบเจอ ต่อให้เขาหาหนทางหนีไปได้แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้พบเจอกันอยู่เรื่อย จนบางครั้งเขาเองยังสงสัยว่านี่เป็นความบังเอิญหรือจงใจกันแน่ แต่คนอย่างนี้หรือจะจงใจพบเจอเขา..ไม่มีทางเสียหรอก


   แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ดวงตาเย็นเยียบคู่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่..เขาเองก็เช่นเดียวกัน

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทนำ + บทที่ 1 [24.01.2558]
«ตอบ #2 เมื่อ24-01-2015 22:12:34 »

ซ่อนรัก
บทที่ ๑


เสียงรถจอดหน้าบ้านทำให้เขาละสายตาจากการบ้านมาสนใจผู้ใหม่ด้วยความสนใจ แม่กลับมาแล้ว แต่กลับมาพร้อมคนแปลกหน้าที่เขานึกชิงชัง


   “กรณ์อยากได้อะไรอีกไหม”


   “ไม่แล้วครับ แค่นี้ผมก็ต้องทำงานใช้พ่อไปตลอดชีวิตแล้ว”


   หลงอดเหลือบตามองเจ้าของเสียงสดใสไม่ได้ คนๆ นั้นมีรอยยิ้มเหมือนแสงตะวันในยามเช้าที่แจกจ่ายไปทั่ว น่าหมั่นไส้..นั่นคือความรู้สึกของเขาที่มีต่อผู้ชายคนนั้น


   ทว่าเหตุผลที่แท้จริงมีอยู่อย่างเดียว..เขาก็แค่ ‘อิจฉา’


   ถ้านับดูแล้วนี่ก็เป็นปีที่ห้าที่เขาได้เข้ามาอยู่กับครอบครัวนี้เพราะแม่แต่งงานใหม่ ความจริงหล่อนคิดว่าพ่อจะเป็นคนเอาหลงไปเลี้ยงด้วยซ้ำ แต่ทุกอย่างกับผิดพลาดไปหมดเมื่อสามีใหม่ของแม่บอกจะรับเลี้ยงเขาเอง แน่นอนว่าพ่อก็เห็นด้วยที่ไม่ต้องเอาเขาไปเป็นภาระ


   ภาระหรือ..นั่นเป็นสิ่งที่พ่อกับแม่ไม่ควรพูดกับเขาก็จริง ทว่ามันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้วที่เขาจะได้ยินทั้งคู่พูดถึงเขาในทางไม่ดี


   แม้ว่าครอบครัวใหม่ของแม่จะดีกับหลงมาก แต่เขาก็ยังนึกชิงชังอยู่ดี โดยเฉพาะเวลาที่ได้ยินเสียงหัวเราะของคนๆ นั้น มันแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าครอบครัวสมบูรณ์แบบแค่ไหนแม้ว่าแม่จะเป็นคนเข้ามาใหม่ก็เถอะ ทว่าช่องว่างระหว่างกันแทบไม่มีให้เห็น แตกต่างจากหลง..เขาอาจจะหลงมาเกิดอย่างที่แม่เคยพูดไว้ก็ได้


   “คุณกรณ์เก่งจังเลยนะคะ เรียนจบก็ได้เป็นอาจารย์เลย ดิฉันล่ะอยากให้หลงเป็นแบบคุณกรณ์บ้างจริงๆ”


   “ผมยังต้องเรียนรู้อีกมากครับ และนี่ก็ยังเป็นแค่อาจารย์พิเศษ คงจะอีกนานเลยครับกว่าจะได้เป็นอาจารย์ประจำ”


   “ภูมิใจแทนคุณพฤทธิ์จริงๆ ค่ะ”


   หล่อนพูดเสียงหวาน ต่างจากตอนพูดกับหลงอย่างสิ้นเชิง ก็ถูกต้องแล้วล่ะ..เขามันแค่ลูกติดไม่ใช่ลูกรักเหมือนคุณกรณ์อะไรนั่น ถึงแม้จะถูกเลี้ยงดูเหมือนกันก็เถอะ


   “ขอบคุณครับ”


   คนๆ นั้นแต้มรอยยิ้มที่ใบหน้า ก่อนจะหันมองมาทางเขา


   ให้ตายเถอะ..เวลาแอบทำอะไรแบบนี้เขามักถูกจับได้ทุกที หนำซ้ำผู้ชายคนนั้นยังโปรยยิ้มบางๆ มาให้อีกต่างหาก เขารู้ว่ามันเป็นยิ้มทักทาย แต่ความรู้สึกของหลงคืออีกฝ่ายกำลังเยาะเย้ยเขา


   หลงไม่อยากอยู่ตรงนี้นานเกินไปก่อนที่คุณกรณ์จะเข้ามาทักทาย เขาจึงรีบกวาดของทุกอย่างบนโต๊ะใส่กระเป๋าผ้าแล้วย้ายไปทำการบ้านที่ห้องครัวกับป้าแม่บ้าน ทว่าเรื่องนี้คงไม่พ้นหูพ้นตาแม่ของเขาอีกเช่นเคย หล่อนถึงได้ตะโกนตามหลังมาด้วยน้ำเสียไม่สบอารมณ์ที่สุด


   “หลง! เสียมารยาทจริงๆ”


   “ช่างเถอะครับ”


   เขาหันมองข้างหลังทั้งแม่และผู้ชายคนที่เขาเกลียดก่อนจะรีบวิ่งไปโดยไม่รู้สึกอะไร


   ช่างสิ..จะรู้สึกอย่างไรก็ช่าง เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น


   “ดิฉันเลี้ยงลูกไม่ดี ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของคุณกรณ์ด้วยซ้ำ”


   “ไม่ใช่หรอกครับ”


   ทุกประโยคเข้าหูเขาก็เพราะห้องครัวมันไม่ได้อยู่ไกลจากห้องโถงจริงๆ แม้ว่าหลงจะบอกตัวเองว่าไม่รู้สึกอะไร แต่ความจริงเขาก็เสียใจไม่น้อย เพราะอะไรแม่ถึงชอบเปรียบเทียบเขากับคุณกรณ์ทั้งที่รู้ว่าหลงดีได้ไม่เท่า


   “ผมขอตัวไปทำงานต่อนะครับ”


   เจ้าตัวเดินไปยังห้องทำงานทางปีกขวา และหลังจากนั้นไม่นานแม่ก็เดินเข้ามาต่อว่าเขาด้วยเรื่องเดิมๆ


   “ทำไมแกไม่รู้จักเอาอกเอาใจคุณกรณ์กับคุณวุฒิบ้าง”


   “แล้วทำไมต้องทำ มันเป็นหน้าที่ผมหรือไง” เขาโต้ตอบ ยิ่งทำให้แม่โมโหมากยิ่งขึ้น


   “สันดานเลวเหมือนพ่อแกไม่มีผิด”


   “อย่ามาว่าพ่อนะ แล้วแม่ดีนักหรือไง!” หลงโกรธจนคุมสติไม่อยู่และแม่ก็เช่นเดียวกัน หล่อนง้างมือตบแก้มเขาเต็มแรง ความรู้สึกแรกคือเจ็บ..ไม่ได้เจ็บที่แก้มแต่เจ็บที่ใจ ถูกล่ะ..แม่ลงมือกับเขาบ่อยๆ และเขาควรจะชินกับมันได้แล้ว ทว่าความเป็นจริงเขายังรู้สึกปวดใจอยู่ดี


   “แกนี่ไม่น่าเกิดมาเลยไอ้หลง!”


   แม่ทำท่าจะต่อว่าเขาอีก แต่เสียงทุ้มๆ กลับดังขึ้นข้างหลังก่อนที่คุณกรณ์จะเดินเข้ามาในห้องครัว หลงรู้ว่าอีกฝ่ายเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและคงจะเข้ามาขัดจังหวัดเพื่อยุติทุกอย่างเช่นกัน ทว่าเขาไม่ต้องการความเห็นใจอะไรทั้งนั้น

   “ขอโทษนะครับ ผมอยากจะขอกาแฟสักแก้ว”


   “อ่อ..ไม่เห็นต้องเข้ามาในนี้เลยค่ะ” หล่อนพูดเสียงตะกุกตะกักก่อนหันมามองเขาด้วยแววตาเกรี้ยวกราด แม่เกลียดเขา..เขาน่าจะรู้ตั้งนานแล้วเพราะเขามันเป็นภาระ


   น้ำตาหยดหนึ่งกำลังไหล แต่หลงเกลียดต้องมาร้องไห้ให้คนอื่นเห็น และเขาก็ไม่ลังเลจะเดินออกไปจากที่นี่โดยทิ้งการบ้านทั้งหมดเอาไว้


   
   หลงสนิทกับคุณป้าแม่บ้านมากที่สุด เพราะหล่อนรักหลงและเอาใจใส่หลงยิ่งกว่าแม่เสียอีก ถึงจะพูดอย่างนั้น..แต่หล่อนก็มักบอกว่าไม่มีใครรักหลงได้เท่าแม่ของเขาอีกแล้ว


   “คุณป้า แม่เกลียดหลง ไม่อยากให้หลงเกิดมา” เขากอดหล่อนแน่นแล้วปล่อยน้ำตาไหลออกมาเงียบๆ แม่ของเขา..หล่อนจะรู้บ้างไหมว่าทำให้หลงร้องไห้ไปกี่ครั้ง


   “เธอไม่ได้เกลียดหรอกค่ะ อาจจะพูดไปเพราะอารมณ์”


   ถึงหล่อนจะพูดว่าแม่ทำด้วยอารมณ์ แต่ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ..จะมีใครบ้างที่พร่ำบอกว่าเกลียดลูกตัวเองตั้งแต่หลงจำความได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรมันก็ฝังลึกในหัวใจของหลงว่าพ่อกับแม่ไม่ต้องการให้เขาเกิดมา “หลงได้ยินมาตั้งแต่เด็กว่าเขาเกลียดหลง”


   “อย่าร้องไห้เลยค่ะ เดี๋ยวไม่หล่อป้าไม่เลี้ยงนะคะ”


   “ป้าจะไม่เลี้ยงหลงจริงๆ เหรอครับ” เขาเริ่มสะอึกพลางเงยหน้าถามทั้งหน้าเปรอะน้ำตา ดูน่าหยอกไม่ใช่เล่น


   “จริงค่ะ”


   “หลง..ฮึก..จะไม่ร้องไห้แล้ว” หลงนอนบนตักคุณป้าแม่บ้าน เขากลั้นสะอื้นจนจมูกแดงก่ำก่อนจะเผลอหลับไป


   ในความฝัน..เขากำลังนอนบนตักของแม่


      
   “หลับไปแล้วหรือครับ”


   คุณป้าแม่บ้านสะดุ้งก่อนหันไปทางต้นเสียง เห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนพิงกรอบประตูอยู่


   ถ้าให้พูดถึงความจริงคุณกรณ์ดูแลหลงพอๆ กับหล่อนหรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ทว่าด้วยทิฐิของหลงความหวังดีของกรณ์จึงไม่ต่างอะไรกับสายลมพัดผ่าน เบาหวิวไม่รู้สึกจนเผลอมองข้าม


   “คุณกรณ์เหรอคะ ป้าตกใจหมด”


   “ผมมายืนตั้งนาน แต่ไม่กล้าเข้ามา” เขานั่งลงข้างคุณป้าแม่บ้าน แล้วก้มมองเด็กหนุ่มที่นอนบนตักหล่อน “ป้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวผมช่วยดูแลเอง”


   “แต่เดี๋ยวคุณเธอมาเห็นจะอาละวาดเอานะคะ” วีรกรรมของแม่หลงเป็นที่รู้ดีว่าร้ายกาจแค่ไหน ซึ่งหล่อนก็เข้าใจเหมือนกันว่าจะอะไรนักหนากับลูกตัวเอง ไม่ใช่ว่ารักจนหวงแต่เพราะห่วงว่าคนอื่นจะเดือดร้อนเพราะลูกชายตัวเอง


   “ผมอยู่ทั้งคน”


   “เพราะคุณกรณ์อยู่นี่แหละค่ะป้าถึงห่วง เธอเทิดทูนคุณยิ่งกว่าลูกในไส้เสียอีก” หล่อนอดกระแนะกระแหน ‘คุณผู้หญิงคนใหม่’ ไม่ได้ ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าตัวรักความสุขสบายยิ่งกว่าอะไร ไม่เช่นนั้นจะยอมแต่งงานกับคนอายุราวหกสิบหรือ ทั้งที่ตัวเองอายุไม่ถึงสี่สิบด้วยซ้ำ..ไม่มีทางเสียหรอก


   “ไม่ใช่หรอกครับ”


   “ป้าไม่อยากจะพูดร้ายใส่ใครนะคะ แต่ใครๆ ก็ทราบดีค่ะ” หล่อนอยากบอกวีรกรรมแม่ของหลงใจจะขาด แต่หล่อนก็อดใจไม่พูดเพราะไม่อยากทำลายภาพแม่เลี้ยงแสนดีของคุณกรณ์ “ป้าฝากหลงด้วยนะคะ”


   “ครับ” กรณ์ตอบรับสั้นๆ เขาก้มมองนางที่ยังนอนบนตักป้าพลางยิ้มบางๆ


   ครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าพ่อจะแต่งงานใหม่เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดในชีวิต เพราะกรณ์ยังยึดติดว่าไม่มีใครคู่ควรกับพ่อได้เท่าแม่อีกแล้ว แต่หากมองดีๆ พ่อของเขาอายุมากขึ้น ส่วนเขาก็โตขึ้นและมีหน้าที่รับผิดชอบมากยิ่งขึ้น เวลาที่จะดูแลพ่อน้อยลง..สมควรแล้วที่พ่อควรมีใครอยู่ข้างๆ


   ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ตัวคนเดียวแต่ยังมีลูกติดอีกคนหนึ่ง นั่นยิ่งทำให้เขานึกไม่พอใจมากขึ้น แต่เมื่อได้สบตากับเจ้าของนัยน์ตาหม่นหมองนั่น..ความคิดเขาก็เปลี่ยน


   น่าสงสาร..เขาคิดว่าหลงเป็นอย่างนั้น


   เมื่อได้สัมผัสจริงๆ แล้วมันก็เป็นอย่างที่เขาคิด แม่เลี้ยงของอาจจะรักหลงน้อยกว่าแม่คนอื่นๆ ทำ แต่หล่อนก็รักในแบบของหล่อน แน่นอนว่าเขาไม่รู้และไม่มีทางเดาได้เมื่อเห็นพฤติกรรมของหล่อนที่ทำกับหลง แม้ว่ากรณ์จะทำเป็นมองไม่เห็นแต่ความจริงแล้วเขารับรู้ทุกเหตุการณ์ ทั้งจากคนในบ้านและจากตาตัวเอง


   พอเขาโตขึ้นเขาถึงได้รู้ว่าควรมองหลงเป็นน้องชายไม่ใช่คนอื่นอย่างที่ตอนเด็กๆ เคยฝันเอาไว้ แต่เพราะแม่ของเขามีลูกอีกไม่ได้ ทุกอย่างจึงเป็นได้เพียงฝันลมๆ แล้งๆ ทว่าเมื่อมีหลง..เขาควรจะดีใจไม่ใช่หรือ


   “ป้าครับ..เดี๋ยวผมจะยกหลงไปนอนที่ห้อง”


   “แต่ว่าหลงตัวไม่เล็กเหมือนแต่ก่อนแล้วนะคะ”


   กรณ์หลุบตามองน้อง ความจริงหลงโตขึ้นมาก แต่สำหรับกรณ์แล้วก็ไม่ได้จัดว่าหลงอยู่ในกลุ่มพวกตัวใหญ่จนอุ้มไม่ไหว “ป้าอย่าลืมสิครับว่าผมไม่แก่ขนาดยกเด็กไม่ขึ้น”


   “ป้าเชื่อแล้วค่ะ”


   เขาอุ้มหลงอย่างเบามือไปยังห้องนอนของเจ้าตัวที่อยู่ในเรือนหลังใหญ่   


   “เจ็บหรือเปล่าหลง” กรณ์ถามร่างเล็กข้างใบหู หวังว่าน้ำเสียงนี้เจ้าตัวจะได้ยินได้ฟังบ้าง  “พี่..ขอโทษที่ดูแลไม่ดี”



   เขาละสายตาจากเอกสารตรงหน้าแล้วเหลือบตามองนาฬิกาโบราณข้างฝาผนัง พบว่าเวลาล่วงเลยมาจนถึงสามทุ่มแล้ว คงจะได้เวลาที่ ‘พฤทธิ์’ เข้านอนให้เต็มที่เพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาในวันรุ่งขึ้น ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับดึงความสนใจของเขาจากเตียงนอน


   “ครับ” พฤทธิ์กรอกเสียงใส่โทรศัพท์สั้นๆ แล้วมองไปยังนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่เมฆบดบังแสงจันทร์และดวงดาวจนมองเห็นแสงไฟเล็กๆ ตรงริมถนน


   ‘คุณพฤทธิ์จะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่คะ’


   “อีกสองวันผมจะกลับเมืองไทย ไม่ต้องส่งคนมารับนะครับ”


   ‘จะเอาอย่างนั้นเหรอคะ' ปลายสายเอ่ยถามเจือด้วยน้ำเสียงห่วงใย


   “ครับ กลับมาผมจะไปทำงานเลย”


   ‘คุณพฤทธิ์จะไม่เหนื่อยแย่หรือคะ ให้แม่ส่งคนไปรับนะคะ’


   เขาอมยิ้มน้อยๆ เมื่อหล่อนทำเสียงหวานกึ่งบังคับ แม่เป็นแบบนี้เสมอ..ทั้งที่เขามีประสบการณ์ในต่างประเทศและสามารถดูแลตนเองได้พอสมควร ทว่าความเป็นห่วงเป็นใยจากหล่อนก็ไม่เคยลดน้อยถอยลงตามกาลเวลา เผลอๆ อาจจะมีมากกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ “ผมจะสามสิบแล้วนะครับ”


   ‘แม่รู้ค่ะ แต่วันกลับแม่จะส่งคนไปรับนะคะ’


   “ครับ” พฤทธิ์จำยอมต่อคำขอของหล่อน ไม่ว่าแม่จะมาไม้ไหนเขายอมรับว่าไม่เคยต่อต้านดื้อดึงกับหล่อนได้สักครั้ง อาจจะเป็นเพราะเขามีผู้หญิงคนนี้คนเดียวในชีวิตก็เป็นได้ “ผมต้องตื่นแต่เช้า ไว้พรุ่งนี้จะโทรหาอีกที”


   “ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”


   พฤทธิ์หรืออาจารย์พฤทธิ์เข้าสัมมนาในฐานะอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัย หลายคนสบประมาทเขาเพราะอายุยังน้อยและด้อยประสบการณ์ เขารู้ตัวและเก็บคำเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันดีดตัวเองให้อยู่ในจุดที่สูงที่สุดที่ไม่เคยมีใครทำได้ แน่นอนว่าเขาทำมันสำเร็จอย่างไร้ข้อกังขาจากคนอื่น


   เขาจบจากประเทศอังกฤษด้วยทุนของมหาวิทยาลัยทั้งที่ครอบครัวสามารถส่งเสียเขาได้อย่างสบายๆ แต่พฤทธ์คิดว่ามันทำให้เขาไม่เติบโตและรักสบายจนไม่เห็นคุณค่าของการรอคอย ความผิดหวัง และน้ำตา


   “คุณพฤทธิ์จะไม่อยู่เที่ยวก่อนหรือครับ” พชรเป็นอาจารย์คนหนึ่งที่เข้าร่วมสัมมนาเช่นกัน เจ้าตัวเอ่ยถามเขาเมื่อการประชุมเสร็จสิ้นลง


   “ไม่ล่ะครับ ผมจะกลับคืนนี้เลย”


   “มาทุกทีอาจารย์ก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเหมือนพวกผมสักครั้ง”


   พฤทธิ์ยิ้มบางๆ เขารู้ว่าควรใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่า แต่จะคุ้มค่าแบบไหนก็แล้วแต่มุมมองของคน สำหรับเขาแล้วเวลาคือสิ่งมีค่าจะใช้ให้เสียเปล่าไม่ได้เด็ดขาด “ผมมีสอน ถ้าไม่ได้สอน..ผมอาจจะสอนไม่ทัน และไม่อยากไปเร่งสอนช่วงท้ายๆ ด้วยครับ”


   ประโยคนั้นทั้งเอาหลายคนสะอึกไปพร้อมกัน เพราะเวลาสอนไม่ทันก็ไปเร่งเอาช่วงท้ายๆ ชนิดที่เรือด่วนยังตามไม่ทัน และนั่นก็ทำให้ทั้งอาจารย์และนิสิตลมจับไปตามๆ กัน


   สำหรับพฤทธิ์..เขาวางแผนดีและหาหนทางแก้ไขอยู่เสมอ การเร่งสอนช่วงท้ายจึงไม่ใช่เรื่องที่สมควรทำ แต่เป็นเรื่องที่ควรจัดเวลาให้เหมาะสม


   “เที่ยวให้สนุกนะครับอาจารย์” น้ำเสียงทุ้มต่ำกล่าวสั้นๆ ก่อนเก็บเอกสารลงกระเป๋าหนังและเดินจากไป ทิ้งความคลางแคลงใจไว้เบื้องหลังด้วยสีหน้าเฉยชา


   ในช่วงที่เขามาเป็นอาจารย์ใหม่ๆ หลายคนชื่นชอบรูปโฉมของเขาและประเมินว่าเขาหน้าตาดีแต่สอนไม่ได้เรื่อง สำหรับเขาไม่ได้ตอบโต้แต่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีเพียงหน้าตาแต่ความสามารถก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน ตำแหน่งอาจารย์สุดฮอทที่นิสิตตั้งให้จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับเขา แล้วทำไมพฤทธิ์จะไม่รู้ว่าเขาหลายคนชอบแต่เขาเลือกจะไม่สนใจมากกว่า


   “ผมจะกลับถึงเจ็ดโมงเช้า”


   ‘แม่จะส่งคนไปรอตั้งแต่ตีห้าเลยค่ะ กลัวคุณพฤทธิ์ไปสอนหนังสือเด็กๆ ไม่ทัน’


   “คุณแข อย่าพูดอย่างนั้นสิ”


   พฤทธิ์กดเสียงทุ้มต่ำเจือน้ำเสียงไม่พอใจเล็กๆ และนั่นยิ่งทำให้เจ้าหล่อนอยากแกล้งลูกชายมากกว่าเดิม ‘ก็มันจริงนี่คะ คนอะไรไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย’


   “แค่นี้นะครับ”


   ถึงหล่อนจะพูดอย่างนั้นแต่ลึกๆ ก็ห่วงเขาไม่น้อย แม้เขาไม่เคยแสดงสีหน้าอ่อนล้าหรือเหนื่อยหน่ายให้ใครเห็น แต่แม่ของเขาทราบดีว่ากว่าเขาจะพิสูจน์ตัวเองได้ขนาดนี้ย่อมไม่ธรรมดาและรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ ถึงเขาไม่เคยพูดเรื่องนี้กับหล่อน..แต่คนเป็นแม่มีหรือจะมองไม่เห็น แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยพูดเรื่องนี้เพราะรู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมรับง่ายๆ


   แม่อาจจะเป็นคนเดียวที่รู้จุดอ่อนของเขา



   พระอาทิตย์สาดแสงตามรอยแยกม่านหน้าต่างลามเลียมาจนถึงปลายเท้า หลงขยับหนีเมื่อสัมผัสถึงความร้อนของแดดยามสายก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้น สำรวจรอบกายอย่างมึนงง เขาจำได้..ว่านอนบนตักคุณป้าแม่บ้านและหล่อนก็คงไม่ทางยกเขามาถึงเรือนใหญ่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่ามีคนช่วย..แต่จะเป็นใครกัน หลงขี้เกียจคิดให้ปวดสมอง เพราะอย่างน้อยเขาก็ได้มานอนบนเตียงนิ่มๆ แล้ว


   ตอนนี้หลงเรียนอยู่ปีสุดท้ายจึงต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แน่นอนว่าเขาหวังกับตัวเองไว้มากแม้จะรู้ว่าต่อให้พยายามอย่างไรพ่อกับแม่ก็ไม่มีทางสนใจใยดีเขา ถึงกระนั้นอนาคตก็ไม่ควรมาจมอยู่กับความเศร้าโศก หลงควรจะทำเพื่อตัวเองให้ดีกว่าเดิม


   เด็กหนุ่มไม่อยากคิดถึงพ่อแม่ให้มากความ เขาตัดสินใจลุกขึ้นไปหาอะไรกินก่อนจะขึ้นมาอ่านหนังสือเตรียมสอบ ทว่าทุกอย่างในบ้านไม่ได้เป็นอย่างที่หลงคิดเสมอไป เมื่อเขาเริ่มต้นจับหนังสือ เสียงแม่ก็ดังขึ้นหน้าห้องอย่างไม่สบอารมณ์


   “ไอ้หลง คุณวุฒิเรียกแกลงไปหา เร็วๆ อย่าช้า”


   มันช่างเป็นบ่ายที่ไม่สงบจริงๆ..เขากลอกตาอย่างหงุดหงิดก่อนจะโต้ตอบด้วยน้ำเสียงเดียวกัน “ผมไม่ว่าง อ่านหนังสืออยู่ และถ้าจะให้ผมรีบมันคงเป็นไปไม่ได้เพราะผมยังไม่ได้อาบน้ำ”


   ตอนนี้แม่คงทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างที่สุดหน้าประตูห้อง แต่เชื่อเถอะ..พอลงไปหาคุณวุฒิพ่อเลี้ยงของเขา อะไรๆ ก็คงพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากนางมารเป็นนางฟ้า “ฉันให้เวลาแกสิบนาที รีบลงมา อย่าช้า!”


   บ้านหลังใหญ่นี้ควรเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่าและห้องนอนของหลงก็อยู่เกือบสุดทาง ต่อให้แม่ตะโกนเสียงดังแค่ไหน บางทีอาจจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำ


   “เฮอะ!”


   ความหงุดหงิดเกาะกุมจิตใจจนสมองของเขาไม่สามารถรับข้อมูลใดๆ ได้อีก แม้แต่ตัวหนังสือตรงหน้าก็กลายเป็นเรื่องไม่สบอารมณ์ชนิดที่สามารถใช้ไฟเผาให้เป็นจุลได้


   สุดท้ายแล้วหลงก็ไม่มีทางเลือกอยู่ดีเพราะเขายังเห็นแก่หน้าผู้หญิงคนนั้น เด็กหนุ่มจึงก้าวไปกระชากผ้าเช็ดตัวระบายความหงุดหงิดก่อนจะเดินลงส้นเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ หวังว่าสายน้ำจะชโลมจิตใจอันมัวหมองเขาของได้

   ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรแต่หลงก็ยังเดินเข้ามาในวงสนทนาด้วยสีหน้าเรียบเฉย


   “มาแล้วหรือ นั่งก่อนสิ”


   “ครับ”


   วุฒิเป็นพ่อเลี้ยงที่ดูแลเขาดียิ่งกว่าแม่ของเขาเสียอีก แต่เรื่องนั้นมันอยู่นอกขอบเขตความรู้สึกดีของหลง ต่อให้ดีแค่ไหนเขาก็ยังไม่ซาบซึ้งอยู่ดี และเจ้าตัวก็สัมผัสถึงช่องว่างระหว่างกันจึงแทบไม่ก้าวก่ายชีวิตหลงนัก


   “ฉันอยากแนะนำให้รู้จักญาติอีกคนหนึ่งของเรา”


   ชั่วขณะหนึ่งที่หลงรู้สึกว่าการสนทนาแบบผู้ใหญ่น่าเบื่อแต่เขาไม่ได้มีทางเลือกนัก จึงเหลือบตาขึ้นมองพร้อมยกมือไหว้แบบขอไปที ทว่าสายตาคู่นั้นกลับเย็นเยียบและจริงจังจนหลงไม่กล้าทำตามใจตัวเองนัก


   “สวัสดีครับ”


   “สวัสดีครับ” อีกฝ่ายยกมือรับไหว้ กิริยามารยาทน่ามองไปทุกส่วน โดยเฉพาะเวลาคุยกับคุณกรณ์แล้วหลงเหมือนทาสรับใช้ก็ไม่ปาน เขาไม่ได้คิดไปเอง..แต่สองคนนี้ดูเหมือนคุณชายหลุดจากนิยายจริงๆ มิน่าล่ะ..แม่ของเขาถึงชมนักชมหนา


   ทุกการกระทำมีเหตุผลรองรับ หลงเข้าใจ..แต่ส่วนลึกก็อดต่อต้านไม่ได้


   “คุณพฤทธิ์ นี่ลูกชายอีกคนของอา ชื่อหลง..อยากจะฝากฝังเสียหน่อย”


   ใบหน้าของพฤทธิ์ประดับรอยยิ้มเสมอ  นั่นทำให้ใครต่อใครชื่นชมว่าเขารู้จักวางตัว แม้แต่ตอนไม่พอใจเขายังยิ้มได้ราวกับไม่มีเรื่องขุ่นมัว “ถ้าคุณอาพูดแบบนี้ผมคงไม่ปฏิเสธ”


   หากความรู้สึกของพฤทธิ์ไม่ผิด เด็กคนนี้ไม่มีอะไรพิเศษหรือหน้ามองสักนิด ออกจะกระด้างกระเดื่องด้วยซ้ำ


   “ขอบใจมากพฤทธิ์ เผื่อหลงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจะได้ช่วยอาดูอีกแรง”


   “ผมดูแลตัวเองได้”


   วุฒิหัวเราะชอบใจ เขาเอ็นดูหลงเพราะเด็กคนนี้พูดอย่างที่คิด ไม่มีปิดบัง แม้จะหยาบกร้านไปหน่อยแต่ถ้าถูกขัดเกลาคงเหมือนกรณ์นั่นแหละ “ฉันรู้ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้”


   “คุณพฤทธิ์เป็นอาจารย์ประจำใช่ไหม”


   “ใช่ครับ ผมทำงานมาเกือบสามสี่ปีแล้ว”


   น้ำเสียงของคุณพฤทธิ์นุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความหนักแน่น  ทว่าประกายตาที่หลงเห็นทุกครั้งที่สบมองก็ชวนให้เสียวสันหลังวาบอย่างบอกไม่ถูก ทว่าเขาก็พอจะรู้ว่าผู้ใหญ่หลายคนไม่ได้เอ็นดูหลงเหมือนคุณกรณ์เพราะความกระด้างของเขานี่แหละ


   “ผมไปอ่านหนังสือได้หรือยัง”


   “อ้อ..คุยกันเสียเพลิน เอาสิ..จะได้สอบติดที่อยากเข้า”


   หลงลุกขึ้นยืน เขาไม่พูดอะไรก่อนเดินกลับห้อง ทว่าเสียงคุณกรณ์กลับดังขึ้นดึงให้หันมองด้วยความสงสัย “อ่านหนังสือหรือ หยิบอะไรไปกินด้วยสิ เผื่อหิว”


   เขาเหลือบตามองไม่สบอารมณ์พี่ชายต่างบิดา ทว่าแววตาของพ่อเลี้ยงก็เจือความหวังว่าเขาจะสร้างไมตรีกับพี่ชายคนนี้ได้หรือไม่ และหลงก็ไม่ชอบทำร้ายจิตใจคนอายุมากด้วยสิ “ครับ”


   รอยยิ้มที่มุมปากคุณวุฒิปรากฏขึ้นจางๆ แต่มีใครบางคนมองเขาด้วยแววตาต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง


   อาจจะไม่ชอบ รังเกียจ หรือกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง..หลงไม่มีทางรู้และเขาก็ไม่สนใจเช่นกัน


   พฤทธิ์คุยได้ไม่นานเพราะร่างกายของเขาเริ่มแสดงออกว่าอยากพักผ่อนเต็มทีแล้ว


   “พี่พฤทธิ์กลับเร็วจริงๆ ถ้าอยู่ต่อกว่านี้จะได้เป็นลูกชายอีกของพ่อผมแน่ๆ”


   “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”


   กรณ์เดินมาส่งพฤทธิ์ถึงรถ ทว่าก่อนเจ้าตัวจะขึ้นรถเขาก็รีบเอ่ยถาม “พี่ว่าน้องผมคนนี้เป็นอย่างไร”


   “ผมคงตัดสินใครไม่ได้ทั้งที่เพิ่งพบกันครั้งแรกหรอกครับ อีกอย่าง..คุณก็รู้ว่าผมเป็นอาจารย์คงพูดเรื่องแย่ๆ ของคนอื่นไม่ได้”


   “พี่ว่าน้องผมเป็นคนไม่ดีหรือ”


   “ผมยังไม่ได้บอกสักคำ” พฤทธิ์ยิ้มบางๆ “อีกอย่างถ้าจะตัดสินกันได้ขนาดนั้นคงต้องศึกษาอย่างละเอียด คุณก็เป็นอาจารย์เหมือนกันน่าจะรู้ข้อนี้ดี”


   “อีกอย่างผมไม่เห็นความจำเป็นต้องรู้จักเด็กคนนี้” หลงไม่มีอะไรน่าดึงดูดใจจริงๆ ถึงแม้จะมีศักดิ์เป็นญาติกัน แต่สายเลือดก็คนละสาย ต่อให้พยายามผูกใจกันก็คงยาก


   “คุณพ่อคงอยากให้หลงประสบความสำเร็จล่ะมั้งครับ เลยอยากได้ผู้ปรึกษาที่ดีแบบอาจารย์พฤทธิ์ อีกอย่างถ้านับจริงๆ พวกเราก็เป็นญาติๆ กัน ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็เถอะ”


   “คุณกรณ์เองก็รู้เหตุผลลึกๆ ของผม”


   กรณ์ถอนหายใจเบาๆ เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกว่าญาติผู้พี่เหนือกว่าตนเสมอ เรื่องนั้นเขายอมรับโดยดุษฎี แต่ใครจะคิดว่าเจ้าตัวจะมีวาจาเชือดเฉือนได้ขนาดนี้ จนเป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายยอมแพ้ “โอเค..ผมจะไม่ถามคุณประเด็นนี้อีกแล้วครับอาจารย์พฤทธิ์”


   “ไว้เจอกันคราวหน้า”


   “ครับ”


      
   พฤทธิ์รักสงบ การได้พักผ่อนโดยการหลับตาเงียบๆ ทำให้พลังของเขากลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง ทว่าความสงบนั้นกลับซ่อนคลื่นลูกใหญ่ไว้อย่างประณีต ต่อให้เขาทำตัวแสนดีอย่างไรก็ย่อมมีด้านมืดที่ไม่อาจเปิดเผย แม้เขาจะรักในศีลธรรมแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาทำทุกข้อ


   “อาจารย์พฤทธิ์..คุณอายุขนาดนี้ไม่คิดจะสร้างครอบครัวบ้างหรือไง” หล่อนทาบมือบนไหล่เขาแล้วลูบอย่างยั่วเย้า แต่อารมณ์ของพฤทธิ์ตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากตอไม้..เขาเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรๆ ที่หล่อนต้องการ และไม่สนว่าหล่อนจะคิดอย่างไรหากเขาปฏิเสธ


   “คิด..แต่คงไม่ใช่คุณ”


   “ผู้หญิงแบบไหนจะเหมาะกับคุณเท่ากับฉัน” หล่อนกระซิบ “เรารู้จักกันตั้งแต่เรียนปีหนึ่งจะครบสิบปีแล้ว ใครจะรู้จักคุณดีเท่าฉัน”


   “คุณแน่ใจว่ารู้จักผมดี ขนาดคบกันมาหลายปียังหักหลังกันได้ นับประสาอะไรกับเราที่เป็นแค่..เซ็กส์เฟรนด์”


   เขากับหล่อนเป็นอาจารย์เหมือนกันทั้งคู่และรู้จักกันมานานพอสมควร หลายคนยุยงให้พฤทธิ์คบกับหล่อนแม้กระทั่งแม่ยังสนับสนุน ทว่าพฤทธิ์กลับเกิดคำถามในว่าผู้หญิงแบบนี้หรือเหมาะจะสร้างครอบครัวด้วย ถูกล่ะเขาอาจจะตีค่าหล่อนในแบบของเขา แต่พฤทธิ์ก็ไม่สนว่าใครจะคิดอย่างไรในเมื่อหล่อนจงใจทำตัวเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ


   “คิดดูดีๆ นะคะ ถ้าเราเริ่มคบกันตอนนี้มันก็ยังไม่สาย”


   “คุณอยากจะสร้างครอบครัวหรือ”


   “อายุของเรามากขึ้นทุกวัน ฉันต้องการความมั่นคงในชีวิตเหมือนกัน”


   อายุขนาดเขาก็คิดเรื่องครอบครัวอยู่เช่นเดียวกัน แต่พฤทธิ์มักถามตัวเองบ่อยครั้งว่าเขาจะไม่เสียดายชีวิตแบบนี้หรือหากต้องกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวที่รับภาระเพิ่มขึ้น


   “สถานะของคุณกับผมตอนนี้มันก็ได้แค่นี้ และผมยังรักในอิสระอยู่” เขาเปิดตาขึ้น มองท้องฟ้าที่โรยราด้วยความมืดมิด “ผมคงไม่หาเรื่องเอาตรวนมาล่ามตัวเองไว้หรอก”


   หล่อนยักไหล่ ไม่ยี่หระต่อคำพูดของเขาก่อนหยิบเสื้อผ้ามาใส่และออกจากห้องไป ทั้งที่หล่อนรู้ว่ากำลังเล่นกับไฟ ทั้งแสบทั้งร้อนแต่สุขสมในคราเดียวกัน แต่หล่อนก็ยืนกรานความต้องการของตัวเอง


   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกเขาจากภวังค์


   ‘จะกลับมานอนบ้านไหมคุณพฤทธิ์ แม่จัดที่นอนไว้ให้แล้ว’


   เขาถอนหายใจ..หล่อนพูดขนาดนี้ขืนเขาปฏิเสธก็ดูใจไม้ไส้ระกำเกินไปหน่อย “แม่พูดอย่างนี้กะไม่ให้ผมตอบตามใจเลยใช่ไหมครับ”


   ‘กลับบ้านมานอนนะคะ แม่เตรียมมือเย็นเสร็จแล้ว’


   “อีกหนึ่งชั่วโมงน่าจะไปถึงครับ”
   





✒ สวัสดีค่ะ ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะคะ ~
เขียนมาได้มาสักพักเกิดไม่มั่นใจว่าจะลงจบหรือเปล่าเพราะเรื่องที่แล้วๆ มาก็ไปไม่รอดหยุดเขียนไปหลายรอบ เรื่องนี้เลยใส่ความพยายามไปเต็มที่ อาจจะลงช้าบ้างเร็วบ้างตามเวลาว่างที่เริ่มเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ ^_^

Fanpage: https://www.facebook.com/AUTHOR.ELLETTE
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2015 22:18:48 โดย Ellette »

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :mc4: ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า

ออฟไลน์ nooklepper

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สัมผัสได้ถึงความหน่วง และปริศนา 555
สู้ๆค่ะ เค้ารอติดตาม

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มาต่อให้จบเถอะนะครับ เปิดมาดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อยากอ่านต่ออออออ กรณ์หวงน้องแน่ๆ พฤกษ์พระเอกใช่มะ

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ใครเปนพระเอกกกกกกก

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ชอบค่ะ

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ใครเป็นพระเอกตอนนี้ยังไม่แน่ใจเลยยังไม่ด่วนสรุป  กลัวแหกโค้ง   :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2015 21:31:50 โดย MK »

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ใครหนอคือพระเอก :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
 :z2: :z2:อุ้ยๆๆใครเป็นพระเอกน้อออ
#ขอสารภาพค่ะ งงงงกับชื่อตัวละครอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
ติดตามๆๆคัยน๊าจะเป็นพระเอก :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ติดตามค่ะๆ
สงสารน้องหลง แต่มองอีกมุมก็น่าจับมาตีก้นจริงๆ รอให้ใครสักคนมาปรับมุมมองให้น้อง

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รักสามเศร้ารึเปล่าเนี่ยยยย

ออฟไลน์ แก้วเจ้าจอม

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เย้ๆ เรื่องใหม่ แบบนี้ต้องฉลอง :mc4:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ลุ้นใครเป็นพระเอก

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #16 เมื่อ01-02-2015 18:01:23 »

ซ่อนรัก
บทที่ ๒


ความพยายามของหลงนับว่าเป็นผลสำเร็จเมื่อผลการสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ


   “ป้าครับ หลงสอบติดมหาวิทยาลัยแล้วนะ” หลงเดินมายังเรือนเล็กหลังบ้านเพื่อมาบอกข่าวดีกับคุณป้าแม่บ้าน เขารู้ว่าคนงานหลายคนก็สงสัยไม่แพ้กันว่าทำไมหลงถึงไม่บอกแม่ คุณกรณ์หรือแม้กระทั่งคุณวุฒิ แน่นอนว่าหลงมีเหตุผลแต่เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟัง


   “ดีใจด้วยนะคะ คุณหลงไม่เคยทำให้ป้าผิดหวังจริงๆ” รอยยิ้มของหล่อนอ่อนโยนเหมือนลมในฤดูร้อนพัดผ่าน ชโลมใจเขาให้หลุดจากความคิดชั่วขณะ


   “ขอบคุณครับ”


   “แล้วบอกคนอื่นหรือยังคะ”


   เขาส่ายหน้า ถ้าคุณป้าแม่บ้านจะหมายถึงคนอื่นก็มีเพียงคนเดียวที่หลงมีความเกี่ยวข้องนั่นคือแม่ ทว่าอย่างหล่อนหรือจะสนใจความเป็นไปของหลง ขนาดวันที่หลงสอบเข้ายังไม่เห็นหล่อนแม้แต่ปลายเส้นผม แบบนี้หรือที่เรียกว่าสนใจใส่ใจ “ผมไม่ได้บอกใคร”


   “อย่างน้อยก็น่าจะบอกคุณวุฒิให้ทราบนะคะ”


   “ป้ารู้คนเดียวก็พอแล้วครับ”


   
   หลงเดาไม่เคยผิด เมื่อช่วงเย็นคุณวุฒิเรียกเขาลงมานั่งกินข้าวเย็นพร้อมกัน และพูดเรื่องที่เขาสอบติดมหาวิทยาลัยต่อหน้าแม่และลูกชายตัวเอง เรื่องนี้คงเป็นฝีมือของคนที่ยืนยิ้มอ่อนโยนอยู่ไกลๆ พอเห็นแบบนั้นหลงก็โกรธไม่ลงจริงๆ


   คนที่มีปฏิกิริยามากที่สุดคงหนีไม่พ้นคุณวุฒิและคุณกรณ์ ส่วนแม่ก็ยังไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขารู้ว่ามันเป็นการเสแสร้ง แม่ไม่ได้รู้สึกยี่หระกับเขาสักเท่าไหร่ บางครั้งหลงก็ไม่เข้าใจตัวเองว่ายังจะหวังอะไรจากผู้หญิงคนนี้ได้อีกทั้งที่อีกฝ่ายก็แสดงชัดเจนว่าไม่ต้องการเขาเพราะเขามันเป็นภาระของหล่อน


   “สอบติดแล้วทำไมไม่บอกฉันให้รู้บ้างล่ะ”


   “เพราะผมรู้ว่าเป็นแบบนี้ ผมเลยไม่มีความจำเป็นต้องบอก” หลงตอบห้วนๆ


   “ฉันรู้จากปากคนอื่นก็สู้รู้ไม่เท่าจากปากเธอหรอกนะ”


   วุฒิตักอาหารให้เขา สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนจากการกระทำและน้ำเสียงอบอุ่น แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่กำแพงที่หลงสร้างไว้กลับสูงเกินไปจนไม่อาจสัมผัสได้


   “คุณพฤทธิ์ก็เป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ จะได้ฝากให้ดูแลหลงด้วย” น้ำเสียงของกรณ์เจือความยินดีจนปิดไม่มิด ยิ่งยามเจ้าตัวมองเขา..ประกายตาอบอุ่นยิ่งทำให้หลงอยากกอบโกยมากขึ้นทุกที แต่ส่วนลึกของจิตใจกลับประท้วงว่าไม่มีใครหวังดีกับเขาอย่างใจจริงหรอก


   “ต้องการให้ฉันเป็นผู้ปกครองเธอไหม”


   “ผม..” หลงอึกอัก แต่เขาก็อดดีใจไม่ได้ แต่เพราะไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่อบอวลไปด้วยคำว่าครอบครัว อะไรๆ จึงดูแปลกสำหรับเขาไปเสียหมด


   “วันที่ต้องไปมหาวิทยาลัยตื่นเช้าๆ ด้วยล่ะ รถคงติดน่าดู”


   หลงไม่ตอบแต่ก้มหน้ากินอาหารตรงหน้าต่อไป ทำไมนะ..อาหารมื้อนี้ถึงดูอร่อยกว่าทุกครั้ง
   


   หลายเดือนก่อนนับว่าเป็นช่วงที่พฤทธิ์ได้ใช้เวลากับตัวเองและครอบครัวมากที่สุด และเวลาแห่งความสุขก็มักผ่านไปเร็วเสมอ เขาเชื่อว่าหลายคนย่อมโหยหาเวลาแห่งการพักผ่อนและมีความคิดไม่อยากตื่นเช้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง เขาก็คนหนึ่งที่รู้สึกอยากเพิ่มวันหยุดเสียดื้อๆ


   “คุณพฤทธิ์ใส่สูทแบบนี้แม่เห็นแล้วนึกถึงพ่อตอนสมัยหนุ่มๆ เลยค่ะ หล่อทุกระเบียดนิ้ว” แม่จัดเสื้อให้เขาพลางลูบไหล่อย่างชื่นชม “เห็นแบบนี้แล้วพวกเด็กๆ ที่เรียนด้วยคงไม่เป็นอันเรียนหนังสือแน่ๆ เพราะอาจารย์หล่อเกินไป”


   “คุณแม่ก็พูดเกินไป”


   “แม่พูดความจริงนี่คะ ลูกชายของแม่หล่อจนต้องเหลียวหลัง แบบนี้แม่ก็อดหวงไม่ได้”


   “ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะครับ”


   เขาทราบดีว่าลับหลังใครพูดอะไรถึงเขาอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะในแง่ดีหรือแง่ร้าย พฤทธิ์ก็ไม่อยากเอามาใส่ใจ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เป็นทำอะไรเพราะคอยแต่ฟังคำของคนอื่น


   “ผมไปทำงานก่อนนะครับ”


   “เปิดเทอมแล้วคุณพฤทธิ์ก็ไม่ค่อยมาหาแม่สิคะ”


   ชายหนุ่มยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินน้ำเสียงน้อยใจของมารดา ต่อให้เวลาผ่านไปกี่ปี..หล่อนก็มักเป็นอย่างนี้เสมอเวลาเขาไม่ค่อยมาเยี่ยมเยียนหรืองานรัดตัวจนแทบไม่โทรศัพท์หา “คุณแม่ก็รู้ว่าผมอยากอยู่บ้านใจจะขาด แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามความเหมาะสม”


   “คุณพฤทธิ์ก็พูดอย่างนี้ทุกครั้ง”


   “ผมจะมาเยี่ยมบ่อยๆ นะครับคุณแข”


   วันนี้เป็นกิจกรรมของนิสิตใหม่เท่านั้น เขาจึงอยากกลับมาซึมซับบรรยากาศเมื่อสมัยยังเรียนอยู่บ้าง ทว่าเหตุผลที่แท้จริงคงหนีไม่พ้นหน้าที่อาจารย์ที่ต้องมาดูแลความเรียบร้อยและอีกอย่างคือคุณอาพฤทธิ์ของเขามาทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองให้ลูกบุญธรรมเองเสียด้วย ถ้าเขาไม่มาดูแลช่วยเหลือก็คงไร้น้ำใจเกินไป


   “สวัสดีครับคุณอา” เขายกมือไหว้เมื่อเห็นผู้สูงอายุเดินมาพร้อมกรณ์และเด็กคนนั้น ดูก็พอจะทราบว่าวุฒิเองดีใจไม่น้อย เผลอๆ อาจจะดีกว่าใจตอนที่กรณ์สอบติดด้วยซ้ำ นั่นยิ่งทำให้เขากังขามากยิ่งขึ้นว่าเด็กคนนี้มีอะไรดีหนักหนา คุณอาของเขาถึงให้ความรักได้ขนาดนี้


   “สวัสดีครับอาจารย์พฤทธิ์” กรณ์ทักเขาพลางหันไปบอกเด็กหนุ่มที่ดูตื่นตาตื่นใจจนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น “หลง..ยังจำคุณพฤทธิ์ได้ไหม”


   “จำได้ครับ” เจ้าตัวยกมือไหว้แล้วหันมองรอบกายอย่างตื่นเต้น ในตอนแรกเขาเกือบขุ่นมัวเพราะการไหว้แบบส่งๆ ของอีกฝ่าย ทว่าเมื่อระลึกถึงตอนที่เข้ามาเรียนใหม่ๆ ก็เป็นแบบนี้ไม่ต่างกัน ความหม่นหมองจึงมลายหายไปแทนด้วยความเฉยชาแบบเดิม


   “ไม่ได้มานาน ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ” วุฒิมองรอบกายไม่ต่างจากหลง ทว่าในบริบทที่แตกต่างกัน สำหรับเขาทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ทุกอย่างเปลี่ยนไปจนเกือบลืมไปเลยว่าที่นี่เขาก็เคยร่ำเรียนเหมือนกัน แต่สำหรับหลง..ทุกอย่างคือความแปลกใหม่


   “เวลาเปลี่ยนอะไรๆ ก็ต้องเปลี่ยนครับคุณอา”


   “นั่นสิ อ้อ..อาลืมอีกอย่าง ถ้าเสร็จจากตรงนี้ไปกินข้าวกับอาหน่อยไหมอาจารย์พฤทธิ์”


   “ครับ”


   การประชุมผู้ปกครองผ่านไปด้วยดี ตอนบ่ายพวกเขาจึงพากันไปร้านอาหารใกล้ๆ มหาวิทยาลัย บอกตามตรงว่าหลงไม่ต่างจากเป็ดหลงฝูง ท่ามกลางผู้ชายสามคน..เขาแปลกและแตกต่างได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือหน้าตาก็หาส่วนเหมือนกับคนอื่นไม่ได้ แม้แต่วุฒิเองถึงอายุมากแต่เค้าความหล่อเหลาก็ยังเทียบเคียงกับอีกสองคนได้สบายๆ


   “หลงอยากทานอะไรบอกพี่ได้นะ” กรณ์เห็นเขาเดินเงียบๆ ตั้งแต่ออกจากหอประชุมมาจึงชวนคุย เพราะรู้ว่าลึกๆ แล้วน้องคงรู้สึกแปลกและอึดอัดน่าดู


   “อะไรก็ได้ ผมได้ทั้งนั้น”


   “ฉันอยากให้เธอเลือกนะหลง เพราะวันนี้เป็นวันของเธอ”


   หลงเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว แม้ว่าเขาจะไม่เจนอาหารแบบนี้นัก


   เขายอมรับว่าทั้งคุณวุฒิและคุณกรณ์ต่างดีกับตัวเองมาก แต่หลงยังคงเชื่อว่าไม่มีใครดีกับเด็กแบบเขาได้อย่างบริสุทธิ์ใจ อย่างเช่นอาจารย์พฤทธิ์คนหนึ่ง ในแววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นเยียบมักมองเขาด้วยความไม่สบอารมณ์เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แม้ไม่ได้เห็นชัดเจนแต่เขาสัมผัสได้ถึงไอความไม่พอใจอยู่เจือจาง


   “คุณพฤทธิ์ช่วยดูแลให้อาอีกแรงนะ อาไม่อยากเป็นห่วง”


   “ครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” เขาเหลือบตามองหลงเพียงเสี้ยววินาทีแล้วขบคิดถึงเรื่องที่ถามตัวเองมาตลอดหลายสัปดาห์ เพราะอะไรถึงต้องให้ความสำคัญขนาดนี้และเด็กคนนี้มีอะไรโดดเด่นถึงต้องเป็นหูเป็นตา อีกเหตุผลหนึ่งคือพฤทธ์ยอมรับว่าความเป็นญาติโดยพฤตินัยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ได้อภิสิทธิ์มากยิ่งขึ้น ทว่านิสัยของเขาแล้วไม่ชอบเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปน


   คำถามของเขามักผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ยามได้มองหลง ทั้งที่เป็นคนไร้มนุษย์สัมพันธ์และออกจะไม่มีมารยาททางสังคมด้วยซ้ำ คนแบบนี้หรือที่คู่ควรกับความรักของวุฒิและกรณ์


   ระหว่างมื้ออาหารคนทั้งคู่ก็มักชวนเด็กคนนี้คุยบ่อยๆ เพื่อไม่ให้รู้สึกเป็นส่วนเกิน ทั้งที่เจ้าตัวก็ถามคำตอบคำเสียส่วนใหญ่จนเป็นเขาเองที่เริ่มหงุดหงิดแต่แสดงออกไม่ได้


   “คุณพฤทธิ์ไม่ทราบว่าคุณป้าแขเป็นอย่างไรบ้างครับ” กรณ์ถาม


   “เหมือนเดิมนั่นแหละ สบายดี แต่อยากให้กรณ์ไปเยี่ยมบ้างเท่านั้นแหละ”


   “นั่นมันต้องเป็นคุณต่างหากที่ไปหาคุณแขบ่อยๆ ไม่ใช่หรือครับ ผมกับพ่อไปมาเกือบทุกอาทิตย์”


   พฤทธิ์หัวเราะน้อยๆ ไม่ว่าจะทำอะไรผู้ชายคนนี้ก็ดึงดูดให้หลงแอบมองอยู่เรื่อย แม้ว่ารอยยิ้มจะเป็นรอยยิ้มปั้นแต่งเท่านั้น


   น่าอิจฉา..มุมไหนใครก็อดชื่นชนไม่ได้ ไม่เหมือนเขาที่มักอยู่ใต้เงาใครคนหนึ่งเสมอ


   “ขอบใจพฤทธิ์มากที่มากับอา”


   “ผมต่างหากล่ะครับที่ต้องขอบคุณคุณอา นานแล้วที่พวกเราไม่ได้ร่วมโต๊ะกัน”


   “มาบ้านอาบ่อยๆ สิจะได้จัดอาหารที่ชอบให้”


   “ครับ”


   หลงแทบไม่มีปากมีเสียงเท่าที่ควร เพราะเขารู้สึกแปลก..ไม่ใช่ว่าหน้าตาแปลกประหลาดหรืออะไร แต่เมื่ออยู่ในกลุ่มคนที่ลึกๆ แล้วต่างมีฐานะทางสังคมที่ต่างจากหลงย่อมทำให้เขารู้สึกอึดอัดได้ไม่ยาก แม้บรรยากาศกดดันจะมีเพียงเล็กน้อยก็ตาม


   เย็นวันนี้วุฒิซื้อนาฬิกาเรือนหนึ่งให้หลงเป็นของขวัญ



   หลายอาทิตย์ก่อนเปิดเรียน หลงใช้เวลากับตัวเองในห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นว่าจะออกไปช่วยคุณป้าแม่บ้านทำงานทำให้เขาแทบไม่ได้เจอหน้าใครอื่นอีกเลย โดยเฉพาะกับแม่เพราะตั้งแต่หลงไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัย ก็ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนจะหายตัวไปดื้อๆ ทั้งที่ความจริงเขาพอจะรู้ว่าหล่อนไม่มีความจำเป็นต้องเจอหน้าเขา


   ช่วงเวลานี้ทำให้หลงลืมคิดไปถึงเจ้าของดวงตาคมที่พบเจอกันเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนเสียสนิท ทั้งที่เขาไม่เห็นต้องสนใจอะไรเลย ทว่าหลังจากอาหารมื้อนั้นจบลง เจ้าของดวงตาคมที่มองเขาคล้ายจะเยาะเย้ยอยู่ในทีกลับตามหลอกหลอนจนเขานอนไม่หลับไปหลายวัน ทั้งที่เขาพยายามหาเหตุผลแต่แล้วมันก็จบลงที่ช่างมันเถอะ


   “คุณพฤทธิ์ของป้าไม่ชอบหลง” เขาเปรยขึ้นหลังจากอาสามาช่วยทำอาหารในครัว


   “ตั้งแต่ป้ารู้จักคุณพฤทธิ์มายังไม่เห็นเธอจะแสดงออกว่าไม่ชอบใครเลยนะคะ” หล่อนพูด น้ำเสียงเจือแววชื่นชมคุณพฤทธิ์อยู่เต็มเปี่ยม “อีกอย่างคุณพฤทธิ์ของป้าเป็นคนมีเหตุผล ลองไม่ชอบใครแล้วน่าจะร้ายแรงเชียวค่ะ”


   “ก็นั่นแหละ เขาไม่ชอบหลง”


   “คุณหลงคิดมากเกินไปหรือเปล่าคะ คุณพฤทธิ์จะไม่ชอบคุณได้อย่างไรในเมื่อไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ”


   หล่อนรักใครแล้วไม่เคยพูดถึงคนนั้นในแง่ร้าย ยิ่งกับคุณพฤทธิ์ที่หล่อนบอกว่าเห็นตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะบอกว่าคนๆ นี้ไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะเรื่องที่เที่ยวไม่ชอบคนนั้นคนนี้โอกาสแทบจะเป็นศูนย์ หลงเองก็ไม่อยากจะพูดโต้ตอบให้เสียอารมณ์จึงยอมแพ้หั่นผักไปเงียบๆ ดีกว่า


   “ป้าคอยดูสิครับ”


   “คอยดูอะไรคะ คุณหลงนี่ไม่ชอบคุณพฤทธิ์หรือเปล่าถึงพูดจาให้ร้ายเธอน่ะ”


   หลงขมวดคิ้ว ไม่ชอบหรือ..เขาไม่ใช่คนแบบนั้นเสียหน่อยที่จะเกลียดใครพร่ำเพร่อ ทว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่เริ่มก่อนหรอกหรือ แม้จะแสดงออกทางสายตาเพียงชั่วขณะหนึ่งแต่หลงก็สัมผัสความรู้สึกขุ่นหมองจากคุณพฤทธิ์ได้ไม่ยาก


   “เปล่าครับ”


   “เปิดใจกว้างๆ นะคะคุณหลง คุณพฤทธิ์น่ะถ้าได้รู้จักแล้วจะเกลียดไม่ลงเลยค่ะ”


   เขาไม่ตอบแต่หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง สำหรับเขาและคุณพฤทธิ์ก็อาจจะเรียกว่ารู้จักกันในระดับหนึ่งแล้ว ทว่าอีกฝ่ายก็มักส่งสายตาไม่พอใจเขาอยู่ดี


   “หลงไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะครับถ้าเป็นอย่างนั้น”


   บทสนทนาระหว่างเขากับหล่อนจบลงเพราะใกล้ถึงอาหารเย็นแล้ว และที่สำคัญเมื่อหลงเหลือบตามองไปพบคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด ความขุ่นมัวก็เพิ่มพูนขึ้นอีกครั้ง


   คุณพฤทธิ์..เขาเกลียดจริงๆ ที่อีกฝ่ายมีแต่คนห้อมล้อมรวมทั้งแม่ของเขาด้วย


   “หลงไปก่อนนะครับ”


   “เดี๋ยวสิคะ..วันนี้คุณวุฒิบอกให้คุณอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันค่ะ”


   เขาเม้มปาก บรรยากาศอึดอัดแบบเดิมกลับมาอีกครั้งทั้งที่โต๊ะอาหารก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทว่าหลงกลับรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก “ผมไม่หิว”


   “ไม่ได้นะคะ คุณหลงจะเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้ ก็วันนี้มีคุณพฤทธิ์มาด้วย..ถือว่าเป็นการทำความคุ้นเคยกันก็ดีนะคะ”


   ดวงตาของหลงฉายแววดื้อดึง ทว่าเมื่อเขามองกลับไปอีกครั้งก็พบกับสายตาท้าทายจากคุณพฤทธิ์ราวกับจะบอกว่ากล้าเผชิญหน้ากับเจ้าตัวหรือเปล่า


   “ตกลงครับ”


   ความผิดพลาดอย่างหนึ่งของหลงคือการชอบเอาชนะ และมันเป็นการกระทำที่ดูโง่มากเมื่อเขามานั่งที่โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ห้อมล้อมไปด้วยความอึดอัดที่ตกอยู่บนหัวของหลงคนเดียว


   “คุณพฤทธิ์งานยุ่งก็ยังอุตส่าห์มาหา”


   “ผมสัญญาไว้แล้วนี่ครับว่าจะมา”


   หลงนั่งกินเงียบๆ จนอิ่มก่อนจะเอ่ยปากขอตัวกลับห้อง “ผมขอตัวกลับห้องนะครับ”


   “อิ่มเร็วจริงๆ วันนี้ยังไม่ได้กินอะไรไม่ใช่หรือ” กรณ์ถามน้องด้วยน้ำเสียงเจือความเป็นห่วงอย่างชัดเจน


   “อิ่มแล้วครับ”


   “มีแขกมาทำไมไม่ทำตัวดีๆ บ้าง” นับเป็นประโยคแรกที่แม่พูดกับเขาหลังจากที่เขาสอบติดมหาวิทยาลัย นอกจากไม่มีคำยินดีแล้วยังจะตำหนิเขาให้อับอายคนอื่นอีกหรือ แม้หลงจะพยายามควบคุมความน้อยใจไว้ส่วนลึก ทว่าเมื่อสบตากับผู้ให้กำเนิด ความรู้สึกอัดอั้นก็คล้ายพังทะลายออกมาจนหมด


   เด็กหนุ่มยืนขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้ยินเสียงเก้าอี้ขูดพื้น หนำซ้ำจานและช้อนตรงหน้าเขายังกระทบกันเสียงดังอีก “ถ้าอยากให้ดีเหมือนคนอื่นก็ไปหาเด็กมาเลี้ยงสิ จะได้ไม่ต้องเที่ยวตำหนิคนอื่นแบบนี้!”


   หลงเชื่อว่าสายตาแต่ละคู่มองหลงด้วยความรู้สึกแตกต่างกัน แม่มองหลงด้วยความเกรี้ยวกราด ความรู้สึกโกรธของหล่อนไม่ได้เจือความรักอยู่เลย วุฒิกับกรณ์อาจจะมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังเพราะทำให้อีกฝ่ายขายหน้า ส่วนพฤทธิ์..แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่ชอบใจอย่างเห็นได้ชัด


   พอกันที..เขาเป็นแค่เด็กตัว ทำไมต้องแบกรับความรู้สึกของคนอื่นมากมายขนาดนี้


   “เธอคงอิ่มแล้วจริงๆ” ประโยคสั้นๆ ของวุฒิเหมือนระลอกคลื่นที่สาดซัดเข้ามาไม่ทันตั้งตัว


   “ผม..”


   เขาอยากพูดขอโทษ แต่กาลเวลาเหมือนหยุดไปชั่วขณะ หลงจำเป็นต้องขอโทษอะไรด้วยหรือทั้งที่เป็นคนถูกกระทำ คิดได้ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลจะเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมาอีกเลย


   “ขอโทษพฤทธิ์ด้วย อาผิดที่ดูแลเขาไม่ดี”


   “คุณพ่ออย่าพูดอย่างนั้นสิ ไม่อย่างนั้นผมก็ผิดด้วยที่ไม่ดูน้อง”


   พฤทธิ์ใช้ความคิดเงียบๆ นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกับกระแสความไม่พอใจของเขาก็เหมือนจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ แม้เพียงสบตา..เขาก็ไม่อาจควบคุมความรู้สึกตัวเองที่มีต่อเด็กคนนั้นได้ เกลียดหรือ..เขาพร่ำบอกตัวเองว่าไม่ควรเกิดความรู้สึกแบบนั้น


   “ไม่เป็นไรครับ” เขาพูดออกไปทั้งที่ในใจอยากจับเด็กคนนั้นมาสั่งสอนเสียให้เข็ดหลาบ แม้ว่าทั้งอาและน้องชายต่างก็รักใคร่หลงเหลือเกิน แต่เด็กคนนั้นมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้


   “ทานต่อเถอะ เดี๋ยวอาหารจืดหมด”


   ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของพฤทธิ์ล้วนต้องการให้จดจำภาพอันสวยงาม ทว่าหลงกลับก้าวผ่านประสบการณ์ของเขาอย่างสิ้นเชิง


   
   หลงไม่ได้คุยกับใครกระทั่งก่อนเปิดเทอมได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ที่จริงก็อาจจะนับว่าคุยไม่ได้เพราะมันเป็นแค่เพื่อนทำความรู้จักกันเท่านั้น


   เวลาตีห้าครึ่งของทุกวัน เขามักตื่นขึ้นมาและพิจารณาตัวเองเป็นอันดับแรกก่อนจะจำใจลุกจากเตียงไปจัดการตัวเอง ไม่ใช่ว่าการไปเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่อ..แน่นอนว่ามันน่าสนุกกว่าการอยู่บ้านทั้งที่อะไรๆ ไม่เหมือนเดิม ทว่าความเบื่อหน่ายที่เริ่มเกาะกุมจิตใจของเขาก็ยังหาทางขจัดออกไม่ได้เสียที


   แต่วันนี้คงจะเป็นวันที่แปลกอีกวันสำหรับหลง เขาตื่นขึ้นมาพบว่าเวลาหกโมงครึ่งแล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะเข้าเรียนสายเกือบสิบนาที หลงอยากสบถด่าตัวเองเป็นร้อยเป็นพันครั้งทว่าไม่มีเวลาแล้ว


   “จะไปเรียนหรือหลง” เขามองทางต้นเสียง เห็นคนในบ้านกำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่


   “ครับ”


   “พี่ไปส่งไหม” หลงลังเลเล็กน้อย เพราะเขาแทบไม่คุยกับกรณ์เลย การจะไปนั่งอึดอัดในรถย่อมเป็นเรื่องที่หลงหลีกเลี่ยง “ถ้าไปรถเมล์มันต้องสายแน่ๆ ให้พี่ไปส่งอย่างน้อยก็เข้าเรียนสายไม่เกินครึ่งชั่วโมง”


   หลงเม้มปากพลางใช้ความคิด แต่เมื่ออีกฝ่ายล้วงกุญแจรถออกมา เขาก็ไม่ตัดสินใจติดรถไปด้วย


   “ไปเรียนเช้าบ่อยๆ พอพี่ตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นหลงที่โต๊ะอาหารแล้ว”


   “ผมไม่ชอบรถติด”


   กรณ์ยิ้มบางๆ เหตุผลที่แท้จริงของหลงมีไม่กี่อย่าง อย่าหาว่าเขาอวดฉลาดหรือสู่รู้เลย..เจ้าตัวน่ะแค่จะหลบหน้าพ่อกับเขาก็เท่านั้น อาจจะเป็นเพราะเรื่องที่ผ่านมาเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนทำให้หลงรู้สึกผิดจนต้องเก็บตัวอยู่ในห้องบ่อยๆ ทว่าความเป็นจริงแล้วทั้งพ่อและเขาต่างก็ไม่คิดติดใจอะไรเสียด้วยซ้ำ


   “ขอบคุณที่มาส่งครับ”


   “อืม..กลับบ้านพร้อมกันหรือเปล่า”


   หลงใช้ความคิด บางอย่างผุดขึ้นจากส่วนลึกของจิตใจ การมีคนดูแลมันดีแบบนี้นี่เอง ทว่าชั่วขณะหนึ่งที่หลงกลับมามองความเป็นจริงอีกครั้ง..มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำดีกับเขาทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน “ไม่ดีกว่า ผมกลับดึก”


   เขายกมือไหว้คุณกรณ์แล้ววิ่งเข้าไปในตึกเรียน


   มันเป็นช่วงเวลาช่วงสายๆ ที่น้อยครั้งเขาจะวิ่งกระหืดกระหอบมายังอาคารเรียน แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ตื่นสาย แต่ยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมอื่นอีกเป็นสิบ ทว่าเรื่องนั้นมันไม่ดีเสมอไปหรอก เพราะการจราจรหน้าลิฟต์นั้นติดขัดจนแทบจะสิงร่างกันได้


   ทางเลือกเดียวของเขาคือการวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นห้าของอาคารเรียน แต่ใครๆ ก็รู้กิตติศัพท์ของอาคารนี้ว่าบันไดแต่ละชั้นนั้นยาวเหยียดแค่ไหน เขาเองถ้าเป็นไปได้คงเลือกแออัดอยู่ในลิฟต์มากกว่าวิ่งกระหืดกระหอบขึ้นไป


   “สายแล้ว ทำไงดี” เขาพึมพำแล้วชะเง้อคอมองคนที่ยืดต่อแถวกันอยากเหยียด เอาล่ะ..มันเป็นความผิดของเขาที่ไม่รับผิดชอบจนตื่นสายแล้วต้องมายืนเบียดๆ กันเพื่อขึ้นลิฟต์ และกว่าจะถึงเขาอาจารย์ไปกดล็อคประตูห้องหรอกหรือ


   เด็กหนุ่มก้มหน้าครุ่นคิดพลางเม้มปาก ไหนๆ กลิ่นเหงื่อของเขาก็กลบกลิ่นสบู่ไปหมดแล้ว ขืนเข้าไปอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ คงทำให้คนอื่นแตกตื่นอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะฉะนั้นทางเลือกจึงมีอยู่ทางเดียวคือกัดฟันวิ่งขึ้นบันไดนับร้อยขั้น


   ทว่าเมื่อหลงมองเห็นบันไดแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าต่อให้เขามีปัญญาวิ่งขึ้นไปแต่ก็ใช่ว่าจะเร็วกว่าคนที่อยู่ในลิฟต์แน่นอนว่าอีกทางหนึ่งคือการขึ้นลิฟต์ของอาจารย์ ทั้งที่เขารู้ว่าไม่สมควรทำ แล้วอย่างไรเล่า..เขาคงไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องยืนหน้าจ๋อยหน้าห้องบรรยายหรอกนะ


   เขาวิ่งไปอีกฟากของอาคารเรียน ไม่รีรอจะกดปุ่มรอลิฟต์กระทั่งประตูเปิดออก ชั่วขณะหนึ่งที่หลงคิดว่าหากมีอาจารย์ท่านใดท่านหนึ่งยืนรอบนชั้นถัดไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ใครมันจะโชคร้ายแบบนั้น..ที่แน่ๆ หลงไม่ยอมเป็นหนึ่งในนั้นเด็ดขาด


   ทว่าในความเป็นจริงแม้ความน่าจะเป็นจะมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้น และมันเป็นสิ่งที่หลงไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อน


   เขาเหลือบตามองตัวเลขที่วิ่งเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่ชั้นสาม หัวใจของเขากระตุกวาบ พยายามคิดเข้าข้างว่าคงจะมีคนประสบเหตุการณ์แบบเขามากกว่าเป็นอาจารย์แน่นอน แต่ชีวิตไม่เรียบง่ายขนาดนั้น เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก..เหมือนโลกทั้งใบของหลงพังพินาศไม่มีชิ้นดี


   หลงยังจำดวงตาคมสีเข้มที่เจือด้วยความไม่พอใจได้ดี


   อาจารย์พฤทธิ์..


   อีกฝ่ายยืนอยู่หน้าลิฟต์เพียงครู่เดียวก่อนจะก้าวเข้ามาและกดปุ่มปิดประตูเอง


   ตอนนี้เขาเหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วโดนจับได้คาหนังคาเขา แม้ว่าหลงจะหาเหตุผลมาหักล้างเรื่องที่แอบใช้ลิฟต์อาจารย์แต่ก็ไม่มีอะไรฟังขึ้นนอกจากเขาไม่รับผิดชอบ


   ภายในห้องสี่เหลี่ยมแทบไม่มีเสียงใดๆ กระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก พร้อมกับอาจารย์พฤทธิ์ที่ก้าวออกไป คล้ายกับนำหินลูกใหญ่ออกจากหลังของหลง ทว่าเขายังไม่ลืมว่าต้องรีบไปให้ถึงห้องก่อนอาจารย์ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่ออีกฝ่ายเดินนำเขาอยู่และก็มีทางเดินเดียวที่เขาจะไปถึงห้องเรียนได้เร็วที่สุด


   หัวใจของเขาเต้นรัวจนรู้สึกปวดหนึบๆ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีกฝ่ายไปถึงห้องเรียนก่อน ความคิดของหลงตีกันมั่วไปหมดเพราะอีกไม่กี่ก้าวจะถึงประตูไม้บานใหญ่แล้ว


   เอาล่ะ..หลงต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเองว่าเมื่ออาจารย์พฤทธิ์เข้าไปในห้องแล้วต้องกดล็อคประตูอย่างไม่ต้องสงสัยตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง และเขาก็ต้องเสียเวลาเปล่าในเช้าวันนี้


   “เชิญครับ”


   หลงเงยหน้ามอง สบกับดวงตาคมที่เจือแววรำคาญอยู่เนืองๆ


   “ผมไม่ใจร้ายขนาดปล่อยให้คุณเข้าทีหลังผม”


   “ขอบคุณครับ” เขายกมือไหว้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้อง ทว่าภาพที่เห็นทำเอาหลงแทบจะร้องไห้เมื่อที่ว่างที่เหลืออยู่มีเพียงด้านหน้าซึ่งติดกับบริเวณที่ใช้บรรยายเท่านั้น แน่นอนว่าหลายคนที่มาก่อนเลือกไปนั่งข้างหลัง เพราะเหตุผลเดียวคือไม่อยากตั้งใจเรียน ‘เกินไป’ หลงก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เลือกนั่งข้างหลัง


   เสียงรองเท้าย่ำพื้นดังไล่มาติดๆ พร้อมกับเสียงกดล็อคประตูห้อง ก่อนที่อาจารย์หนุ่มจะเดินมายังกระดานไวท์บอร์ด


   “ผมหวังว่าคุณจะหาที่นั่งทันก่อนผมเริ่มบรรยาย” เจ้าของเสียงกดเสียงต่ำข้างหลังเขา


   “ครับ”


   หลงมองไปยังที่นั่งว่างๆ ตรงนั้น เขาคงไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งตรงกับที่อาจารย์พฤทธิ์ยืนบรรยายอยู่แน่ๆ


   แม้กฎกติกาในการเข้าชั้นเรียนของอาจารย์พฤทธิ์จะมากมายเสียจนใครหลายคนอดโอดครวญไม่ได้ เพราะนอกจากจะเช้าเกินไปแล้วยังกดล็อคประตูทันทีที่แปดนาฬิกา สำหรับเด็กปีหนึ่งที่ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ย่อมฉายแววต่อต้านออกเล็กน้อย แต่เมื่ออีกฝ่ายยิ้มบางๆ เสียงประท้วงที่ดังเนืองๆ กลับเบาลงจนกลายเป็นเงียบสงบในที่สุด


   หลงอยากประท้วงใจจะขาด ถ้าเป็นอาจารย์คนอื่นมีหรือจะยอมง่ายๆ แบบนี้มันลำเอียงชัดๆ


   “ผมหวังว่าทุกคนจะปฏิบัติได้ตามนี้นะครับ”


   “ถ้าไม่เคยสายเลยมีคะแนนเพิ่มไหมคะ”


   “ไม่มีครับ” ปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม ‘ตามมารยาท’ และเจ้าหล่อนที่เอ่ยปากถามก็เคลิ้มเสียด้วย เขาล่ะอยากประกาศก้องให้ทุกคนรู้ว่ารอยยิ้มแบบนี้หรือที่เรียกว่าจริงใจ มีแต่การปั้นแต่งให้ตัวเองดูดีเท่านั้นแหละ และที่สำคัญสำหรับหลง..เขาไม่เคยได้รอยยิ้มแบบนั้นเลย


   “อาทิตย์แรกพวกคุณคงไม่ได้เข้าเรียน แต่สำหรับคาบแรกของวิชานี้ผมจะขอบรรยายเลยแล้วกัน”


   การบรรยายของอาจารย์พฤทธิ์ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ออกจะสนุกเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าหลงจะมีทิฐิอยู่เต็มเปี่ยมแต่เขาก็ยอมรับว่าคนๆ นี้ทำหน้าที่อาจารย์ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง แม้ความจริงหลงจะรู้อยู่แก่ใจก็เถอะ
   







สวัสดีค่ะะะะะะะ บทที่สองมาแล้วเนาะ ไม่ช้าเกินไปใช่ไหมคะะะ อยากอัพให้ได้ทุกอาทิตย์แต่ว่าต้องมีบทต่อไปก่อน ส่วนบทที่สามเริ่มเขียนแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จเมื่อไหร่  :hao5: ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะะะ อาจจะไม่ได้พูดคุยมากมาย แต่อยากบอกไว้ว่าถ้ามาต่อช้าาาา แสดงว่าพายุงานพัดมานะคะ ไม่ได้ทิ้งไปไหนนน
ขอบคุณค่ะ  :mew1:



Fanpage: https://www.facebook.com/AUTHOR.ELLETTE?ref=bookmarks
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2015 18:57:48 โดย Ellette »

ออฟไลน์ แก้วเจ้าจอม

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #17 เมื่อ01-02-2015 18:53:00 »

ตกลงพระเอกคือคุณพฤทธิ์สินะ
ผ่านไปสองตอนหลงก็ยังน่าสงสารเหมือนเดิม
สู้ๆนะหลง :katai2-1:

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #18 เมื่อ01-02-2015 19:00:47 »

ตั้งแง่ดีนักอย่าหลงน้องแล้วกันนะ อ.พฤทธิ์. :katai3:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #19 เมื่อ01-02-2015 19:30:26 »

แต่หลงก็ดื้อ และที่สำคัญ ออกจะไม่ค่อยมีมารยาทจริง ๆ นั่นแหละนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
« ตอบ #19 เมื่อ: 01-02-2015 19:30:26 »





ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #20 เมื่อ01-02-2015 20:11:35 »

แม่หลงนี่ยังไง
ไม่ไหวๆ

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #21 เมื่อ01-02-2015 20:48:01 »

รอติดตามนะคะ   :hao6:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #22 เมื่อ01-02-2015 21:00:02 »

หลงมีโลกส่วนตัวสูงมากกกกกก

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #23 เมื่อ01-02-2015 21:42:45 »

เรื่องใหม่ๆ ติดตามค่ะะะ :)

ออฟไลน์ 1212312121

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #24 เมื่อ01-02-2015 22:01:31 »

กรี๊ด เห็นชื่อคนแต่งก็คลิกมาอ่านเลย ชอบจัง
เด็กดื้ออย่างหลงมันน่าจับมาสั่งสอน งื้อออออ
รออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #25 เมื่อ01-02-2015 23:07:02 »

ไม่เชิงไม่มีมารยาท แต่ไม่กล้าไว้ใจใครเลย
ก็นะ กระทั่งแม่ยังไม่เคยแสดงออกว่ารัก  ไม่น่าจะรักใครเป็น
เรื่องมารยาทมันเล็กน้อยมาก  คนที่มองไม่ออกว่าทำไมหลงทำตัวแบบนี้นี่โคตรตื้นเลย
เป็นถึงอาจารย์แต่อคติท่วมหัวบังตาหมด สงสารนักเรียนนะ

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #26 เมื่อ01-02-2015 23:16:13 »

หลงนิสัยไม่ดีจริงๆ
สงสารคุณวุฒิคุณกรณ์ อุส่าเอ็นดู

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #27 เมื่อ02-02-2015 00:54:41 »

เย่ อยากรู้ใครรับใครรุก ห้าๆ

ออฟไลน์ pedchara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #28 เมื่อ02-02-2015 01:13:23 »

หลงน่ะน่าสงสาร ควรจะมีสักคนที่รักอย่างจริงใจบ้าง
ทุกคนในบ้านแมรโคตรปลอมเลย
ขนาดแม่แท้ๆๆๆ :z3:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: ✾ ซ่อนรัก ✾ บทที่ ๒ [๐๑.๐๒.๒๕๕๘]
«ตอบ #29 เมื่อ02-02-2015 02:15:07 »

ใจหลงนี่เหมือนกับสัตว์ที่ถูกรังแก
เจ็บ เชื่อใจใครไม่ได้ เพราะว่าไม่มีเหตุผลที่ให้เชื่อ
คิดแบบนี้สิ เด็กที่โตมาโดจทำร้ายจิตใจจนเชื่อใครไม่ได้
มีอย่างเดียวที่ยึดถือมาตลอดก็คือ ความกระด้างที่ยึดมาเป็นเกราะที่ใช้ป้องกันตัวเอง

พ่อเลี้ยงกับกรณ์นี่ก็พยายามแต่ยังไม่พอที่จะรักษาเยียวยาใจของหลงได้
คิดว่าน่าจะเพระาว่าไม่มีโอกาสได้ทำเต็มที่ โดยเฉพาะพ่อเลี้ยง
กรณ์เองก็รู้ทุกอย่างว่าหลงเจออะไรจากแม่ตัวเองแต่กรณ์ก็ทำเป็นไม่รู้
ความผิดหรือบาปไม่จำเป็นจะต้องเข้าร่วมกระทำ
การที่รู้แต่ไม่ทำอะไรก็ถือเป็นบาปเหมือนกันนะ
ภาษาอังกฤษเรียก omission

ส่วนคุณพฤทธิ์นี่เท่าที่อ่านมานะคะ ป้าไม่ปลื้มค่ะ
ุืถือดีมากๆ คือประมาณคิดว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแล้วทุกคนจะต้องอยากทำให้ตัวเองประทับใจ
หยิ่ง ยโสมาก ถ้าหากว่ากรณ์รู้แต่ไม่ทำอะไร
ตานี่ก็คือกรูไม่รู้และไม่แคร์แล้วกรูก้ไม่ชอบ ตัดสินจากสิ่งที่เห็นไปเลย

ขอติดตามต่อไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด