45 วันพนัน(ไม่)รัก.........วันแห่งความสุข(จบแล้วย้ายได้เลย)[18-05-2016]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 45 วันพนัน(ไม่)รัก.........วันแห่งความสุข(จบแล้วย้ายได้เลย)[18-05-2016]  (อ่าน 117218 ครั้ง)

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
มาแบบชนวนชวนเข้าใจผิดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เลย

รักจะบริโภคข้างหลังก็ต้องเลิกลาชะนีให้เด็ดขาดนะเชษฏ์

Happy New Year ด้วยค่ะ   เที่ยวให้สนุกนะคะ  :bye2:

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
เห้อเชษฐร์เคลียร์ตัวเองซะ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
Happy new Year 2015
ตอนนี้หน่วงอีกตามเคย :hao4:
สงสารทั้งคู่ล่ะ
แหม๋วมีเรื่องไรล่ะเนี่ย
รอตอนต่อไปน้าา

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ตี๊ฟอยู่คนเดียวไปเถอะ คิดได้แค่นี้จริงดิ เปิดจายยหน๊อยย~~  :katai1:

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
แฟนเก่าเชษฐ์โทรมาทำไม

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เหมือนเชษฐ์กำลังจะบอกรักตี๊ฟเลยแต่โทรศัพย์แฟนเก่ามาก่อน อดเลย

Happy New Year 2015  นะคะ

ออฟไลน์ Zarch krub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
สุขสันต์วันปีใหม่ครับ หน่วงๆ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ติ๊ฟนี่ขี้เหงาสุดๆไปเลยนะทั้งๆที่เหมือนเป็นพวกไม่ค่อยแคร์อะไร

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อย่าอย่ากังวลอะไรเลยตี๊ฟ
ลองปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ

ออฟไลน์ aiyarin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ชะนี ฉับๆๆ  :beat: :beat:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ขอบคุณครับ เที่ยวให้สนุกนะครับ
HAPPY NEW YEAR :mc4:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
หน่วงจริง

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
มีตัวกระตุ้นมาเพิ่มแล้ว
ติ๊ฟรู้ใจไวไว รอฉากหวานๆๆๆอิอิ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เหลลืออีกตั้ง 45 วัน คนอ่านอาจจะได้กินมาม่ายาว  :katai5:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
วันที่ 26/1

วันนี้แล้วสินะที่ผมจะกลับไปค้างที่บ้านพร้อมกับเพื่อนๆ ผมไม่ได้เอาอะไรติดตัวเลยเพราะ ข้าวของทุกอย่างที่บ้านผมก็มีอยู่แล้ว ผมว่าจะไปรอเพื่อนๆ ที่บ้าน เพราะอธิบายบอกทางกับไอ้การ์ดไปแล้ว น่าจะไปกันถูก ผมมองรอบๆ ห้องอย่างเหงาๆ คนที่อยู่ร่วมคอนโดกับผมไม่ได้กลับมาห้องตั้งแต่เมื่อวาน และวันนี้ทั้งวันก็ไม่ได้โผล่หน้าไปเรียนแต่อย่างใด ผมได้ยินไอ้การ์ดบอกว่า เห็นว่าไอ้เชษฐ์ติดธุรุะสำคัญเลยไม่มาเรียน ผมรู้สึกน้อยใจอยู่พอสมควร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมผมไปรู้สึกเช่นนั้น แต่ผมแค่คิดว่าทำไมมันไม่โทรบอกผมบ้าง ในฐานะคนที่อยู่ร่วมห้องกัน

แล้วก็เห็นว่าไอ้เชษฐ์จะตามไปบ้านผมช้าหน่อย ผมพยายามสะบัดหัวไม่คิดถึงเรื่องของไอ้เชษฐ์อีก ผมออกจากห้องเพื่อเดินทางกลับบ้าน วันนี้เป็นวันศุกร์รถค่อนข้างติดอยู่พอสมควรในช่วงเย็นๆ แบบนี้ แต่ผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร การติดอยู่บนท้องถนนก็เป็นการดีที่เราจะได้อยู่กับตัวเองใช้เวลาคิดทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง แต่ไปๆ มาๆ ยิ่งคิดผมยิ่งจะไปกันใหญ่เลยพยายามไม่คิดอะไรแล้วดีกว่า

“ไงถึงไหนแล้ว”ผมกดรับโทรศัพท์พร้อมกับจัดแจงอุปกรณ์เสริมสำหรับการคุยโทรศัพท์ในระหว่างขับรถ

“กำลังจะออกตัว กว่าจะรวมตัวกันได้ไอ้พวกนี้ก็ชักช้ากันเหลือเกิน แถมไม่รู้ว่าจะขนอะไรไปกันนักหนา ทำยังกะจะไปอยู่บ้านมึงเป็นเดือน”ไอ้การ์ดบ่นไปตามประสา ผมก็ไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่นๆ ขนอะไรไปกันบ้าง แต่ฟังแล้วคงจะมากเกินไปสำหรับการค้างคืน 2 คืนที่บ้านผม

“แล้วตกลงนี่โทรมาบ่นให้กูฟังเฉยๆใช่ไหม”ผมวกกลับเข้าประเด็นใหม่ว่าตกลงไอ้การ์ดโทรมามีเรื่องอะไรอื่นอีกหรือเปล่า

“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่จะถามว่ารถติดไหม กูกลัวรถติดแล้วจะถึงดึก เกรงใจที่บ้านมึงว่ะ”ผมยกแขนมองดูนาฬิกา นี่มันเพิ่งจะ 6 โมงเย็น บ้านผมก็ไม่ได้อยู่ไกลอะไรมากมาย มันจะกังวลขนาดนั้นเลยเหรอ รถก็ใช่ว่าจะติดจนไม่ขยับเสียเมื่อไหร่

“ไม่ถึงดึกหรอกมั้งรถก็ติดพอประมาณแหละ อีกอย่างมึงไม่ต้องเกรงใจใครหรอก เพราะพ่อกับแม่กูคงไม่มาตั้งหน้าตั้งตารอรับเสด็จพวกมึงหรอก”ผมพูดออกไปอย่างอารมณ์ดี ได้คุยกับไอ้การ์ดแบบนี้ทำให้ผมค่อยไม่คิดอะไรไร้สาระเท่าไหร่

“แล้ว...ไอ้เชษฐ์มันมาพร้อมมึงด้วยหรือเปล่า”อ้าวก็มันเป็นคนบอกผมเองไม่ใช่เหรอว่าไอ้เชษฐ์จะตามไปทีหลังแล้วจะมาถามหาไอ้เชษฐ์กับผมอีกทำไมกัน

“ยังไม่เห็นหน้ามันโผล่มาเลย มันคงไม่ไปแล้วมั้ง”ผมตอบออกไป พร้อมกับอารมณ์ที่ผิดหวังหน่อยๆ ก็เพราะไอ้คนต้นคิดที่จะให้เพื่อนๆไปบ้านผม ดันจะเป็นคนสุดท้ายที่จะตามไปหรืออาจจะไม่ไปเลยก็ได้ แต่ช่างเหอะ ยังไงผมก็ต้องกลับไปหาพ่อแม่บ้างอยู่แล้ว อีกอย่างเพื่อนคนอื่นๆ ก็ไปกันหมด ขาดไปสักคนจะเป็นไรไป

ผมคุยกับไอ้การ์ดอีกเล็กน้อย ก่อนจะขับรถต่อ ซึ่งเพียงไม่นานผมก็ถึงที่หมาย ซึ่งพอเดินเข้าบ้านก็เจอพี่ชายที่แสนดีมารอต้อนรับ ไม่รู้คิดจะทำตัวดีหรือเตรียมแผนอะไรไว้อีก

“อ้าวมาคนเดียวเหรอ”ไอ้ต๊าฟมีอาการขัดใจที่เห็นผมมาแค่คนเดียว แสดงว่ามันต้องมีแผนอะไรไว้กลั่นแกล้งผมกับเพื่อนอีกเป็นแน่

“เดี๋ยวก็ตามมา พ่อกับแม่ล่ะ”ผมตอบคำถามอย่างไม่ใส่ใจนักพร้อมกับถามหาบุพการี

“แล้วน้องเขยล่ะ ไม่ได้มาพร้อมกันเหรอ”แทนที่มันจะตอบคำถามผม แต่ดันมาพูดจากวนประสาทผมอีก

“หมายถึงใคร”ผมตีหน้าซื่อไม่เข้าใจความหมายของไอ้คุณพี่ชายหวังว่ามันจะเลิกพูดจาไร้สาระสักที

“ทะเลาะกันเหรอ หรือมึงงอนอะไรอยู่” ดูมันเถอะครับพี่ชายผม ผมเลยไม่สนใจเลิกสนทนาเดินเข้าบ้าน ซึ่งคุณพี่ชายเมื่อเห็นผมเดินหนีก็เดินตามมาติดๆ

“พ่อหวัดดีครับ”ผมยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อที่นั่งดูข่าวอยู่ พ่อยกมือรับไหว้ผมอย่างเหมือนไม่ค่อยเต็มใจนัก พ่อผมก็งี้แหละครับ ฟอร์มเยอะ ที่จริงดีใจนะนั่นที่ผมกลับมาบ้าน แต่ต้องเก๊กขรึมไว้ก่อน

“นึกว่าลืมทางกลับบ้านไปแล้วเสียอีก”พ่อพูดประชดๆ ผมโดยไม่ได้หันมามองหน้าผม ผมหันมองพี่ชายตัวดี พร้อมกับบุ้ยใบ้ถามว่าอารมณ์ของพ่อผมอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่ตอนนี้ ก็ได้รับภาษาใบ้กลับมาว่า นี่ก็มุกเดิมของพ่อนั่นแหละ กำลังแกล้งงอนผมที่ไม่ค่อยกลับบ้าน

“จริงๆ ก็ลืมแล้วแหละพ่อ แล้วนี่ที่มาถูกก็พอดีดูที่อยู่ในบัตรประชาชนนี่แหละ แล้วก็ให้แทกซี่ขับนำมาให้ ตอนมาก็พยายามจำทางให้ได้อยู่เหมือนกัน เพราะกลัวจะหาทางกลับไปคอนโดไม่ถูก”ผมแกล้งพูดเล่นกับพ่อเมื่อคิดว่าท่านไม่ได้โกรธผมอยู่

“จำไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับ อยู่มันเสียที่นี่แหละ”นั่นแน่พ่อผมมีแบบนี้ด้วย

“แต่ที่นี่มันไกลมหา’ลัยนะพ่อ มาอยู่นี่ผมก็ได้ไปเรียนสายทุกวันนะสิ”ผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ พ่อก่อนจะตอบด้วยท่าทาอ้อนๆ ทำตาบ๊องแบ๊วให้ดูน่าสงสาร

“ก็หัดตื่นให้มันเช้าๆ ก็ไม่สายแล้ว ไปๆ ไปไหนก็ไปพ่อจะดูข่าวไม่ต้องมากวนไปหาแม่ในครัวนู่น กำลังบ่นอยู่ว่าไม่พากันมาสักที นี่เข้าครัวรอตั้งแต่บ่ายแล้ว เออไหนว่าเพื่อนจะมาด้วยหลายคนแล้วทำไมมาคนเดียวล่ะ หรือเค้าเลิกคบไปหมดแล้ว”อ้าวพ่อนี่อยู่ดีๆก็มากัดลูกทำไมเนี่ย ต่อปากต่อคำกับพ่อเล็กน้อยก็ถูกไล่อีกเป็นรอบที่สองให้ผมไปหาแม่ในครัว คือต้องทักทายให้ครบทุกคนในบ้านก่อนครับเหมือนเป็นทำเนียมไปแล้ว สงสัยถ้าบ้านผมมีหลายคน กว่าจะได้ทำอย่างอื่นคงจะเหนื่อยก่อน

“สวัสดีครับคุณนาย ทำอะไรเอ่ย”ผมส่งเสียงพร้อมกับเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ที่ยืนหั่นผักอยู่

“มาไม่ให้ตั้งตัวแบบนี้ตกใจหมดเลยเจ้าลูกคนนี้นิ”แม่ผมเบี่ยงตัวมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ยังกะผมเป็นเด็กๆ งั้นแหละ

“โหคุณนายทำอะไรเยอะแยะขนาดนี้ ผมไม่ได้พาเพื่อนมาทั้งมหา’ลัยนะ”แกล้งแซวเสียหน่อยครับทั้งที่ จริงๆ แล้วก็ทำพอเหมาะกับที่ผมบอกไว้นั่นแหละว่ามีเพื่อนมากันกี่คน

“แหมเพื่อนๆ ลูกมาทั้งที เหลือดีกว่าขาด เดี๋ยวทำไว้ไม่พอกันกิน เดี๋ยวหาว่าบ้านเราต้อนรับไม่ดี ขายขี้หน้าหมด ว่าแต่นี่มากันหมดรึยัง”คุณนายผม สอดส่องมองหา แต่ไร้เงาใครก็เพราะยังไม่มีใครมา

“อยู่ที่ห้องรับแขกกันเหรอ หรือเอาข้าวของเก็บอยู่ ไม่มาเรียกแม่ไปทักทายเพื่อนๆ ก่อนล่ะ”ดูคุณนายท่านจะตื่นเต้นเหลือเกินนะครับกับการมาของเพื่อนๆ ผม สงสัยจะเป็นคนแก่ขี้เหงาเสียละมั้งนี่บุพการีผม ก็ทั้งผมทั้งพี่ ไม่ค่อยมีใครกลับบ้านกลับช่อง ปล่อยสองตายายอยู่บ้านกันลำพังประจำ ต่อไปนี้คงต้องพูดกับพี่ชายตัวดีให้ปรับปรุงตัวใหม่แล้ว (ส่วนผมก็ทำตัวเหมือนเดิม ฮา)

“ไม่มีใครมาแล้วแหละแม่”ผมแกล้งตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จอำคนแก่ครับ คุณนายผมสีหน้าตื่นตกใจเป็นที่สุด จะบาปไหมเนี่ยผมหลอกคนแก่

“ทำไมละลูก เค้าเกรงใจหรือว่าไม่มีใครคบลูกแม่เป็นเพื่อนแล้ว หรืออะไร”อ้าวๆ ไปใหญ่เลยครับคุณนาย

“ผมล้อเล่น พวกเพื่อนๆ กำลังตามมาอีกไม่นานน่าจะถึงแล้วแหละ”ผมพูดพร้อมยิ้มกว้างแต่ถูกคุณนายหยิกเข้าให้ โทษฐานอำคนแก่

“หลอกแม่ได้ ตกใจหมด นึกว่าที่เข้าครัว...”

“ตั้งแต่บ่ายแล้วอาหารจะเป็นหมันหมด”ผมแทรกพูดต่อให้คุณนายท่านชอบเข้าครัวทำอาหารนะครับ แต่ไม่ค่อยมีใครมาชิมฝีมือแกเท่าไหร่ ไม่ใช่ไม่อร่อยนะครับ แต่ว่าก็ท่านอยู่กันสองคน เลยไม่ค่อยได้ทำให้คนอื่นทาน พอผมบอกว่าเพื่อนจะมาเลยเป็นแบบที่เห็นนี่แหละครับ

“อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้นครับคุณนาย ไม่เห็นต้องมาตั้งหน้าตั้งตาทำให้พวกทะโมนเพื่อนผมขนาดนั้นก็ได้”ผมพูดไปพร้อมกับหยิบอะไรชิมไปเรื่อย เพราะเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน

“ไม่ให้ตื่นเต้นได้ไง ก็ลูกเข...”คุณนายหยุดพูดจนเป็นที่ผิดสังเกตุ ผมว่าผมได้ยินแว่วๆ ว่าคุณนายจะพูดอะไรเกี่ยวกับผมนะ แต่เหมือนเผลอหลุดปากมากกว่า

“ว่าไงนะครับคุณนาย”ผมหันมองพร้อมด้วยสายตาจับผิดเต็มที่ อยากจะคิดว่าหูฝาดแต่ผมว่ากลิ่นมันเริ่มแปลกๆ ตั้งแต่ไอ้พี่ชายแล้วแหละ มันต้องใส่ไฟอะไรผมไว้แน่ๆ

“ไม่มีอะไรนิ ก็ลูกมาบ้านทั้งทีก็ตื่นเต้นเป็นธรรมด๊า ธรรมดา”ยิ่งพูดยิ่งมีพิรุธเลยนะคุณนายผมเนี่ย

“คุณนาย...โกหกไม่ดีนะ”จี้จุดเลยครับเพราะแม่ผมไม่ชอบคนโกหก แล้วจะมาโกหกเองไม่มีเสียหรอก

“อะๆ บอกก็บอก ไม่ได้จะโกหกอะไรเสียหน่อย แค่พูดไม่หมดแค่นั้นเอง”เหมือนจะบอกแต่ยังชักแม่น้ำทั้ง 5 ครับ

“ครับ”ผมรับคำสั้นๆ แต่จ้องหน้าตาแป๋วรอฟัง


“ก็ลูกเขยจะมาบ้านทั้งที แม่ก็ต้องต้อนรับขับสู้ให้ดีเป็นพิเศษหน่อย”คำพูดของแม่ผมเล่นเอาของที่ผมกำลังเคี้ยวแทบพุ่ง นี่คุณนายท่านไปเอาข้อมูลอะไรแบบนี้มาจากไหน

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
วันที่ 26/2

“ใครบอกแบบนั้นละแม่ ผมบอกแล้วนิว่ามีแต่เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันนั่นแหละที่จะมาค้างด้วย มีใครอะไรแบบนั้นที่ไหนกัน”ผมรีบแก้ตัวพัลวัน หน้าตาไอ้พี่ชายตัวดี ลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไอ้ต๊าฟ นะไอ้ต๊าฟ

“ไม่ต้องเขิน ไม่ต้องเขิน แม่รู้เรื่องหมดแล้ว ที่จริงต๊าฟก็บอกแม่แล้วว่าให้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไว้เพราะกลัวตี๊ฟจะเขิน แต่มาดันเผลอหลุดปากแบบนี้ ก็ไม่เป็นไรเนอะ บอกพ่อลูกเขยทำตัวตามสบายนะ ไม่ต้องเกรง เห็นว่าต๊าฟ สแกนมาแล้วคนนี้พี่เค้าไฟเขียว แม่เชื่อสายตาพี่เรานะ แม่ให้ผ่านอีกหนึ่ง ที่เหลือก็แค่พ่อเราแหละ”ผมละอยากจะเดินออกไปบีบคอไอ้พี่ชายตัวดีให้แดดิ้นมันเสียเดี๋ยวนี้เลย ดูมันทำสิ เอาพูดให้คนอื่นเข้าใจผิดแบบนี้อีก

“อ่ะๆ นั่นเสียงรถมากันแล้วมั้ง ไปๆ เราไปรับเพื่อนดีกว่า แม่จะได้ออกไปดูหน้าว่าที่ลูกเข...เอ๊ย ดูหน้าค่าตาเพื่อนๆ ลูกไง”พอเห็นผมมองตาขวางๆ เลยเปลี่ยนหน้าเลยนะคุณนาย ผมต้องเดินออกมารอรับเพื่อนๆ อย่างเสียไม่ได้

ไอ้การ์ดเดินนำทีมพร้อมข้าวของที่ดูเหมือนจะไปออกค่ายที่ไหน ผมได้แต่มองพร้อมส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายกับพวกมัน ทำยังกะบ้านผมอยู่ในป่าในเขา ไม่มีของกินของใช้ นี่มันประชดอะไรผมกันหรือเปล่า พอมาถึงก็ยืนหน้ากระดานกันเลยทีเดียว ไอ้การ์ดเป็นหัวหน้าทีม พร้อมลูกทีมอีก 4 ชีวิต ฝั่งผมก็ยืนต้อนรับครบทีมเช่นกัน

“การ์ดครับ เบิ้มครับ หมอกครับ วุธครับ ขวดครับ”ซ้อมกันมาเลยใช่ไหมเนี่ยเพื่อนตู

“สวัสดีครับคุณพ่อ สวัสดีครับคุณแม่ สวัสดีครับพี่ต๊าฟ”ประสานเสียงทักทายอย่างพร้อมเพรียงนี่พ่อแม่ผมจะหาว่าผมมีเพื่อนเป็นคนบ้าหรือเปล่าเนี่ย เอ๊ะ ว่าแต่เมื่อกี๊พวกนี้เรียกไอ้พี่ต๊าฟว่าไงนะ พวกมันรู้จักชื่อไอ้ต๊าฟได้ยังไง โดยเฉพาะไอ้การ์ดที่วันก่อนเจอผมกับไอ้ต๊าฟ ตอนนั้นพี่ผมมันแนะนำว่าชื่อจ๋ายนี่นา อีกอย่างดูไม่การ์ดไม่แปลกใจเลยที่เห็นไอ้ต๊าฟ ที่นี่ทั้งที่วันนี้เราเล่นบทให้เข้าใจว่าเป็นคนรักกันนี่นา ไม่ได้บอกว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆเสียหน่อย ผมมองไปยังพี่ชายตัวดีที่ทำลอยหน้าลอยตา อย่างไม่รู้เรื่อง ก่อนจะมองไปที่หัวหน้าทีมลูกเสือชาวบ้าน แต่ไอ้การ์ดเพียงยักคิ้วอย่างกวนๆ ประมาณว่ามันกำลังถือไพ่เหนือกว่าผมอยู่ ชัดเจนครับ ไอ้พี่ตัวดีกับหัวหน้าทีมลูกเสือชาวบ้านนี่เตี๊ยมกันมาแล้วแน่นอน ว่าแต่มันไปรู้จักมักคุ้นกันตั้งกะเมื่อไหร่

“ตามสบายๆ น่ารักกันจริงเชียวลูกๆ เนี่ย ว่าแต่คนไหนละต๊าฟ หือ”คุณนายผมเอาแล้วครับเริ่มสะกิดไอ้พี่ชายตัวแสบแล้ว

“อ่ะแฮ่ม น้อยๆหน่อยนะคุณ อย่าออกนอกหน้ามาก”ฝ่ายคุณพ่อเริ่มปราม นี่แสดงว่าไอ้ต๊าฟ กระจายข่าวทั่วทั้งบ้านไปแล้วว่าวันนี้ผมจะพาว่าที่ลูกเขยของบ้านมาแนะนำ อยากจะบ้าตาย แต่ทำได้แค่มองไอ้คุณพี่ชายด้วยสายตาอาฆาตแค้น ฝากไว้ก่อนเถอะ ทีใครทีมันแล้วกัน

“พ่อว่าพากันเอาของไปเก็บกันก่อนดีไหม เดี๋ยวจะได้มาเตรียมจัดโต๊ะจัดอะไรที่สวน เพราะเห็นว่าจะปาร์ตี้กันนิ ไปตี๊ฟพาเพื่อนไปดูที่หลับที่นอน แม่เค้าจัดเพิ่มไว้ให้สองห้อง รวมห้องเราด้วยก็ เป็นสาม น่าจะพออยู่กันได้นะ”พ่อผมเก๊กมาดขรึมพร้อมกับออกคำสั่งผม แต่มีขยับแว่นเหลือบมองเพื่อนๆ ผมอย่างพิจารณา นี่อย่าบอกนะว่านี่ก็มองหาลูกเขยอีกคน ตูจะบ้าตาย

“พวกเราอยู่ยังไงก็ได้ครับจริงไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้”ไอ้การ์ดออกปากนอบน้อม แหมๆ ทำเป็นพูดดีไปนะใจจริงแอบยิ้มสิที่ไม่ต้องนอนสนามหน้าบ้าน เพราะตอนแรกผมบอกขี้เกียจจัดห้องให้ เลยบอกพวกมันว่าเอาเต้นท์มากางนอนที่สนามกันเองแล้วกัน

“เดี๋ยวขอตัวเอาของไปเก็บก่อนนะคร๊าบบ”ทั้งหมดประสานเสียงอีกรอบ

“อ้าวตกลงคนไหนละ แม่ยังไม่รู้เลย”น่านคุณนายผมคราวนี้ขวางทั้ง 5 หนุ่มไว้เลยครับ ท่าจะสงสัยจัด ไม่มีสงวนท่าทีเลยนะคุณนาย แล้วไอ้ที่คุณนายหานะมันมีที่ไหน แล้วเจ้าคนที่ไอ้ต๊าฟหมายถึงป่านนี้เค้าคงกลับไปคืนดีกับแฟนแล้วมั้ง

“คุณแม่มีอะไรเหรอครับ”ไอ้การ์ดเอ่ยถามอย่างสุภาพ

“ไม่มีอะไรไปพวกเรารีบเอาของไปเก็บเหอะ หิวแล้ว”ผมรีบตัดบทก่อนที่จะไปกันใหญ่

“คนไหนจะมาเป็นลูกเขยแม่”

“แม่/คุณ”เสียงผมและพ่อหลุดออกมาแทบจะพร้อมกัน ส่วนเพื่อนๆ ผมหันมองแม่ผมเป็นตาเดียวกัน มีเพียงไอ้พี่ชายตัวดีเท่านั้นแหละที่ยิ้มชอบอกชอบใจ

“ก็แม่แค่อยากรู้นี่นา”คุณนายผมยิ้มแห้งๆ ให้ทุกคน

“ลูกเขยคุณแม่ยังไม่มาครับ พอดีเค้าติดธุระแต่อีกเดี๋ยวคงตามมา”เอาแล้วไหมล่ะพวกเพื่อนผมยิ่ง สนุกกับเรื่องของผมกับไอ้เชษฐ์อยู่แล้ว มาเจอแม่ผม ออกนอกหน้าเสียขนาดนี้ มีหวังผมซวยแน่ๆ

“มันจะมาอยู่เหรอ”ผมพูดลอยๆ กับพวกเพื่อนๆ แต่คุณนายผมนี่หูผึ่งสงสัยกำลังวิเคราะห์น้ำเสียงผมเป็นแน่แท้

“ไม่ตรงต่อเวลา ไม่รู้จักกาละเทศะ”เสียงพ่อผมดังเรียบๆ และขยับแว่นก่อนจะสนใจข่าวในทีวีต่อไป เอาน่าอย่างน้อยฟังแล้วพ่อนี่แหละที่พอจะเป็นกำบังให้ผมได้บ้างในตอนนี้ ขอบคุณครับพ่อ

“คุณจะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูก นี่เราไม่ได้นัดกันเป็นทางการอะไรขนาดนั้น อีกอย่างเพื่อนๆ ก็บอกแล้วว่าเค้าติดธุระอยู่ คุณนี่ยังไงกัน”ผมได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะรีบลากพวกเพื่อนๆเอาของไปเก็บ

“ห้องละ 2 คน พวกมึงตกลงกันเองใครจะนอนกับใคร ส่วนมึงก็นอนห้องกูแล้วกันไอ้การ์ด”ผมจัดแจงให้เพื่อนทั้ง 5 เลือกที่หลับที่นอน ยกเว้นไอ้การ์ดที่แยกมาไว้ห้องผมจะได้ไม่ต้องไปเบียดอะไรกันมาก รู้หรอกว่าพวกมันต้องพยายามให้ห้องผมเหลือที่ไว้

“แต่กูไม่อยากนอนกับมึงนี่หว่า”ว่าแล้วต้องมามุกนี้

“งั้นก็เปลี่ยนตัว จะได้ไม่ต้องเบียดกัน ใครจะไปนอนห้องกู ถ้าไม่มีใครก็ขนของขึ้นรถกลับบ้านได้เลย”มันต้องเจอไม้นี้ครับพวกนี้ถึงจะอยู่

“เรื่องมากจริง โอเคๆ กูนอนห้องมึงก็ได้”ไอ้การ์ดยอมจำนนแต่โดยดี ว่าง่ายๆ แบบนี้แหละดีแล้ว พอวางข้าวของเสร็จก็พากันลงมาช่วยกันจัดสถานที่ ทยอยยกอาหารเครื่องดื่มออกมาเตรียมพร้อมที่สนาม คาดว่าคืนนี้เพื่อนๆ ผมคงหมดสภาพแน่ๆ เพราะคุณนายผมจัดเครื่องดื่มไว้ซะเหมือนจะเตรียมอาบงั้นแหละ นี่จะเอามาทำไมเยอะแยะขนาดนี้

“นี่คุณแม่เตรียมไว้ให้พวกผมเลยเหรอครับ”ไอ้การ์ดที่ดูจะคุยถูกคอกับแม่ผมเสียเหลือเกินเอ่ยถามขึ้น

“ก็เห็นว่าลูกๆ ชอบดื่มเบียร์ แม่ก็เลยเตรียมไว้ให้ คนอื่นอาจจะมองว่าไม่อยากให้ลูกเต้าดื่มของมึนเมาอะไรเพราะมันไม่เหมาะไม่ควร แต่แม่ว่าเรื่องแบบนี้มันห้ามกันยาก สู้ทำใจยอมรับให้ลูกๆ หลานๆดื่ม แต่ให้รู้จักดูแลตัวเองดีกว่า คือให้ดื่มกันที่บ้านแบบนี้ เมาแล้วก็อย่าไปอาละวาด ก่อเรื่องก่อราวกับใครที่ไหน ไม่ไหวก็นอน ไม่ต้องไปขับรถขับราให้เป็นอุบัติเหตุ”คุณนายผมดูภูมิใจเหลือเกินนะที่เห็นลูกๆ ดื่มแอลกอฮอล์เนี่ย

“คุณแม่นี่นอกจากจะยังสาวยังสวยแล้วยังใจดีอีกนะครับเนี่ย”มึงพลาดแล้วไอ้การ์ด ไปชมอย่างนั้นคุณนายได้ตัวลอยกันพอดียิ่งบ้ายออยู่ด้วย งานนี้ก็รับผิดชอบทั้งอาหารเครื่องนี่ให้หมดแล้วกันนะไอ้การ์ด

“ไม่เท่าไหร่หรอก แม่นะแก่แล้ว ว่าแต่นี่เมื่อไหร่พ่อลูกเขยจะมาสักทีน้า อยากเห็นหน้าว่าสเปคลูกชายแม่นี่ไม่ทิ้งแถวหรือเปล่า”เอาเข้าไปครับงานนี้

“คงเชื้อไม่ทิ้งแถวหรอกครับ คุณแม่ยังเลือกคุณพ่อที่หล่อเหลา สมาร์ทขนาดนี้ ลูกชายคุณแม่ก็ต้องตาถึงเหมือนกันแหละครับ”ไอ้นี่ก็เป็นกับเค้าไปใหญ่เลยนะมึง ไอ้เพื่อนทรยศ แล้วดูคุณนายผมสิ หัวเราะชอบใจใหญ่เลยนะ

“ตี๊ฟ”ผมหันไปตามเสียง ก็พบแสงสว่างในถ้ำอันมืดมิด คุณพ่อนั่นเอง ดีนะที่ยังมีหนึ่งคนที่ไม่มองผมเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ในบททสนทนาของแต่ละคน

“ว่าไงครับพ่อ”ผมรีบเดินไปหาอย่างต้องการที่ยึดหนี่ยวเพราะกำลังจะโดนรุมสกรำทางคำพูดจนจะไม่เหลือชิ้นดีแล้ว

“ไม่โทรเช็คหน่อยเหรอว่าเค้าถึงไหนแล้วเนี่ย จะให้รอ หรือจะให้เราทานกันก่อนเลย”ผมเริ่มชักไม่มั่นใจในตัวพ่อแล้วสิว่าจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้ผมได้ แต่หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิดนะ

“พ่อหมายถึงใครครับ”ขอร้องละครับพ่ออย่าเป็นไปกับเค้าอีกคนเลย แค่นี้ผมก็จะบ้าอยู่แล้ว

“อ้าวก็แฟนเรานั่นแหละ มัวไปเถลไถลที่ไหนหรือเปล่า จะมาหรือไม่มาก็เอาชัดๆไปเลย”เหมือนสายฟ้าฟาดลงมาที่ผมอย่างจัง พ่อครับเอามีดมาแทงผมเลยดีกว่า อุตส่าห์คิดว่าพ่อจะไม่เป็นไปกับเค้า ทำไม ทำไมทุกคนถึงทำเหมือนอยากจะให้ผมลงเอยกับไอ้เชษฐ์นักหนา ทั้งที่เจ้าตัวเค้าอยากให้เป็นแบบนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้

“คุณพ่อกับคุณแม่นี่ หัวสมัยใหม่ดีนะครับ ที่ยอมรับเรื่องความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชายได้แบบนี้”คู่นี้ยังไม่จบอีกครับ ไอ้การ์ดกับคุณนายผม นี่จะยกยอปอปั้นกันไปถึงไหน

“ก็แค่รักในสิ่งที่ลูกๆเป็น แค่นี้พ่อกับแม่ก็มีความสุขแล้ว ลูกทำอะไรแล้วมีความสุข แม่กับพ่อก็มีความสุขด้วยอยู่แล้ว อีกอย่างก็ไม่ต้องกลัวไม่มีหลานเพราะยังมีเจ้าต๊าฟอยู่อีกทั้งคน แม้ตอนนี้จะยังไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพาย แต่อีกไม่นานคงมีหลานให้แม่อุ้มแล้วแหละ”แน่ใจเหรอคุณนาย เจ้าชู้อย่างไอ้ต๊าฟนี่คงจะลงเอยกับใครง่ายๆ หรอกนะกว่าจะได้อุ้มหลานคงอีกนานนะครับคุณนาย

“แล้วถ้าเกิดผมไปชอบผู้ชายเข้าละครับแม่”เสียงพี่ชายตัวดีกระเซ้าคุณนายทำเอาทุกคนเฮ เพราะรู้ว่าไอ้พี่ชายตัวดีก็อำเล่นๆ

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
วันที่ 26/3

“ไม่เห็นจะยาก พ่อกับแม่ก็แค่ปั๊มน้องออกมาให้พวกแกอีกสักคนแค่นั้นเอง”คุณนายผมพูดอย่างสบายอารมณ์ แถมเรียกเสียงเฮได้ดังกว่าพี่ชายผมอีก

“อายุปูนนี้แล้วยังจะอุ้มท้องไหวเหรอคุณนาย”ผมอดไม่ได้ต้องขอแซวเสียหน่อย คุณนายหันขวับมาแทบจะทันทีก่อนจะยิ้มอย่างสบายอารมณ์ก่อนจะพูดเสียงนิ่มๆ

“ไม่เห็นจะยากถ้าอุ้มท้องไม่ไหว ก็ให้พ่อเค้าไปหาอีหนูเอ๊าะๆ สักคน ปล่อยน้ำเชื้อที่น่าจะยังใช้ได้อยู่เข้าไป แค่นี้ก็มี เบบี้มาอยู่ในบ้านเราแล้ว”ทุกคนปรบมือชอบใจกับคำพูดคุณนายผมกันใหญ่ โดยเฉพาะคุณพ่อนั่นเอง

“นี่คุณพูดจริงหรือเปล่า”คราวนี้เป็นตาพ่อบ้างที่แกล้งแหย่

“จริงสิ แต่ต้องรอให้ต๊าฟหันไปชอบผู้ชายก่อนนะ ซึ่งไม่น่าจะมีวันนั้นหรอกมั้ง โฮะๆๆ”พูดจบก็หัวเราะชอบใจตัวเองใหญ่ก็แหง๋ละ พี่ผมจะไปชอบผู้ชายที่ไหนกันเล่า

“ต๊าฟ พ่อขออะไรอย่างสิ”พ่อผมเรียกพี่ชายเสียงเครียด

“อะไรครับ”ไอ้ต๊าฟถามกลับอย่างงงๆ

“เป็นเกย์ให้พ่อหน่อยเหอะ”สิ้นคำพูดพ่อที่ทุกคนต่างใจจดจ่อรอฟัง ต่างก็หลุดขำออกมากันหมดเพราะไม่นึกว่าพ่อจะเล่นมุกนี้

“เพื่อพ่อผมจะพยายามดูนะครับ”เป็นอันว่าสนุกสนานกันเหลือเกินครับ ผมยกนาฬิกาขึ้นดูเวลาอีกครั้ง ไอ้เชษฐ์คงไม่มาแล้วมั้งเนี่ย ช่างเหอะ อย่าไปใส่ใจเลย นี่ขนาดเจ้าตัวไม่มาผมยังต้องรับฟังบทสนทนาขนาดนี้ ถ้าเกิดเจ้าตัวมานี่คงจะยิ่งกว่า พ่อกับแม่ผมก็เหลือเกิน ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตา โดยเฉพาะคุณนายที่ออกอาการปลื้มเกินหน้าเกินตาชาวบ้านไปนิด

“นี่เมื่อไหร่พ่อลูกเขยจะมาสักทีละลูกๆ เดี๋ยวให้รอนานๆ เกิดคุณแม่ไม่ปลื้มขึ้นมาแล้วจะเสียใจนะ”แล้วสายตาทุกคู่ก็เพ่งมาที่ผมเป็นจุดเดียว แม้ไม่มีใครพูดอะไร แต่ทุกคนรวมทั้งผมก็เข้าใจด้วยกระแสจิตว่า ผมต้องเป็นคนโทรตามไอ้เชษฐ์ ทำไมจะต้องไปเซ้าซี้มันด้วยเล่า ถ้ามันมาไม่ได้ก็ปล่อยมันไปเหอะ ผมทำท่าจะเดินห่างออกมาก่อนแล้วค่อยทำทีเป็นโทรศัพท์ แต่ไม่ทันได้ขยับโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นเสียก่อน ผมหยิบขึ้นมามองหน้าจอ ชื่อคนที่ผมกำลังโดนบังคับทางสายตาและกระแสจิตให้โทรหา กำลังเป็นฝ่ายโทรเข้ามาหาผมเสียเอง ทุกคนต่างเงียบและรอฟังผมคุยจนผมชักจะเกร็งๆเสียแล้ว

“ว่าไง...อ๋อ เลี้ยวซ้ายเลย แล้วก็บ้านหลังสุดท้าย ซ้ายมือนั่นแหละขับเข้ามาเลย”ผมบอกทางให้กับปลายสาย ไม่นานนักรถไอ้เชษฐ์ก็วิ่งมาถึงหน้าบ้านผม

“มาแล้วใช่ไหม นี่คุณๆ เราสองคนต้องทำเป็นไม่รู้นะว่าเค้าคือว่าที่ลูกเขย โอเคนะคุณอย่าเผลอแสดงอาการออกนอกหน้าล่ะ เก็บอาการหน่อยนะ”คุณนายผมทำเป็นบอกคุณพ่อ แต่ผมว่าคุณนายน่าจะบอกตัวเองดีกว่านะ ผมโดนทั้งผลักทั้งไส ให้เดินไปรับไอ้เชษฐ์

“มากันครบแล้วเหรอ”คนเพิ่งมาใหม่เอ่ยถามผม แต่ผมเพียงพยักหน้าไม่ได้ตอบและไม่ได้หันไปมอง

“เป็นไร”อีกฝ่ายถามขึ้นเมื่อเห็นผมไม่ตอบ

“ไม่ได้เป็นไร จริงๆ ถ้ามึงไม่สะดวกมาก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกนะ”มันอดที่จะพูดไม่ได้ครับ ไม่รู้ทำไมแต่พอเห็นแล้วผมรู้สึกน้อยใจนิดๆ ที่มันไม่คิดจะโทรบอกอะไรผมเลย ว่าจะมาตอนไหนอะไรยังไง ที่ไม่กลับห้องอีก

“โกรธที่กูมาช้าเหรอ”คนเดินตามหลังพูดน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ผมไม่ได้พูดต่อแต่รีบเดินให้ถึงบริเวณที่เราจัดโต๊ะไว้โดยเร็ว

“เชษฐ์ครับ สวัสดีครับคุณพ่อ”ไอ้เชษฐ์ยกมือไหว้พ่อผมก่อนเป็นคนแรก พ่อผมเพียงรับไหว้ผ่านๆ หันมองหน้าไอ้เชษฐ์แวบนึงก่อนจะเฉไฉมองไปทางอื่น แล้วก็พูดขึ้นมาลอยๆ

“มาช้าไปนะ”เล่นเอาบรรยากาศตึงเครียดไปเล็กน้อยครับงานนี้ หึๆ สมน้ำหน้า สะใจครับสะใจ อย่างน้อยพ่อก็ยังอยู่ข้างผม

“ไม่ช้าไปหรอกจ๊ะพ่อลูกเข...ย..ลูกเชษฐ์”คุณนายผมเอาแล้วไง ดีที่สายตาพิฆาตผมส่งไปทันพอดีนะเนี่ยไม่งั้นไอ้ที่เรียกพ่อลูกเขยนี่คงออกมาเต็มปาดเต็มคำแน่นอน

“สวัสดีครับคุณแม่”ไอ้เชษฐ์ยกมือไว้อีกหนึ่งคน

“ไหว้พระเถอะลูก มาๆ จะได้ทานอาหารกัน”แม่ผมไม่ได้สนใจใครอีกรีบจัดแจงทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ได้สังเกตเลยว่าไอ้พ่อลูกเขยนะชะงักไปแล้ว ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะไอ้เชษฐ์เพิ่งเห็นไอ้ต๊าฟ นั่นเอง จากอาการแล้วแสดงว่าไอ้เชษฐ์ยังไม่รู้ว่าไอ้ต๊าฟคือพี่ชายผม

“นั่นไอ้พี่ต๊าฟพี่ชายกู”ขี้เกียจที่จะต้องอธิบายผมเลยรีบบอกแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะมีอะไรอย่างอื่นเกิดขึ้น

“หวัดดีครับพี่ต๊าฟ”ไอ้เชษฐ์เน้นเสียงตรงชื่ออย่างจงใจ ก็ดันไปหลอกเค้าไว้นี่เนอะพี่ผม อันนี้ผมไม่เกี่ยวนะฝีมือไอ้ต๊าฟคนเดียวล้วนๆ

“หวัดดีไอ้น้อง”ไอ้ต๊าฟทักอย่างกวนๆ ตามสไตล์

“เราคงต้องมีอะไรคุยกันอีกเรื่องแล้วมั้ง...ที่รัก”ไอ้เชษฐ์หันกลับมากระซิบข้างหูผมพร้อมกับล้อเลียนคำพูดที่ไอ้ต๊าฟเคยใช้

“มันก็คงจะมีอีกหลายเรื่องเลยแหละถ้าเราจะคุยกัน”ผมพูดประชดนิดๆ ให้มันสำนึกว่าผมเองก็เคืองมันอยู่เหมือนกันนะที่มันทำเหมือนผมไม่มีตัวตน ไม่บอกกล่าวอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานที่มันออกไป ผมไม่ได้สำคัญตัวขนาดว่าต้องให้มันรายงานทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยๆ น่าจะบอกกันหน่อยว่าจะไม่กลับห้อง หรือจะตามมาที่บ้านนี้ตอนไหน ไหนมันบอกว่ากำลังจีบผมอยู่แล้วคนจีบกันเค้าทำแบบนี้เหรอ

“ลูกเชษฐ์ ตี๊ฟมาเร็วทานข้าวกันก่อน มาชิมฝีมือคุณแม่รับรองต้องติดใจ”ทั้งผมและไอ้เชษฐ์ต้องเดินตามเสียงเรียกและนั่งลงที่เก้าอี้สองตัวติดกัน ที่คนอื่นคงจะจงใจให้เรานั่งติดกันแน่นอน

“เอ้านี่ทานเยอะๆ นะ”คุณนายผมไม่ค่อยจะออกนอกหน้าเลยครับ ตักกับข้าวให้ไอ้เชษฐ์จนจะล้นจานอยู่แล้ว แถมพอไอ้เชษฐ์จะตักเข้าปากก็ทำท่าลุ้นเสียเหลือเกิน

“รสชาดเป็นไงบ้าง แม่อุตส่าห์ทำสุดฝีมือเลยนะเนี่ย”แม่ผมจ้องเสียจนไอ้เชษฐ์เกร็งแทบจะไม่กล้ากลืนแล้วละมั้งนั่น

“อร่อยมากๆ เลยครับ นี่คุณแม่ทำเองหมดเลยเหรอครับ”ไอ้นี่ก็ปากหวานไปเถอะเดี๋ยวจะรู้สึก

“งั้นเดี๋ยวแม่ตักให้อีกนะ”ไอ้เชษฐ์ทำท่าจะปฏิเสธแต่ไม่ทันแล้วแหละ เพราะคุณนายเติมให้ทั้งข้าวทั้งกับจนจะล้นจานอีกแล้ว

“ฝีมือคุณแม่อร่อยแบบนี้ สงสัยผมคงต้องขอมาฝากท้องบ่อยๆ แล้วมั้งครับ”แหมรู้หรอกว่าสองจานนะมึงทานหมด แต่อย่าคิดว่ายอไปแล้วคุณนายท่านจะปราณี งานนี้มีท้องแตกกันไปข้างแน่ๆ

“ถ้าชอบอาหารฝีมือแม่ก็รีบๆ มาเป็นลูกเข...”

“ฮึ่ม แฮ่ม”เสียงพ่อกระแอมปรามๆ คุณนายเข้าแล้วละครับ ดูๆไปแล้วก็ตลกดีนะครับ ผมว่าผมอย่าไปใส่ใจอะไรเสียดีกว่าปล่อยให้เค้าว่ากันต่อไปเถอะ

“คุณแม่ว่าไงนะครับ”ไอ้เชษฐ์เองก็คงจะงงๆ และได้ยินไม่ถนัดแถมไม่ค่อยจะเข้าใจเสียละมั้งนี่

“แม่จะบอกว่าถ้าลูกเชษฐ์ชอบฝีมือแม่ก็มาสมัครเป็นลูกชายแม่อีกคนก็ได้ แม่ยินดีต้อนรับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว”โต้งๆ ขนาดนี้เลยเหรอคุณนาย ไม่รู้ว่าไอ้เชษฐ์มันจะตีความไปยังไง แต่ดูมันไม่ได้คิดอะไรหรือว่ามันไม่ได้คิดอะไร และมันคงไม่ได้คิดอยากจะมาเป็นลูกเขยบ้านนี้หรอกมั้ง แล้วผมละ อยากให้มันมาเป็นแบบนั้นหรือเปล่า

“คุณแม่ครับ พอลูกเชษฐ์มานี่ ลูกการ์ดก็ตกกระป๋องเลยนะครับ”ไอ้การ์ดแกล้งแซว

“พอดีตอนนี้โค้วต้าลูกรักแม่หมดพอดี ถ้าลูกการ์ดสนใจจะสมัครคงต้องรอให้คุณพ่อเค้ามีอีหนูก่อนแล้วกันเนอะ แม่จะให้ต๊าฟมันพิจารณาลูกการ์ดเป็นคนแรก”ผมเกือบจะหลุดขำสำลักข้าวเสียแล้ว ตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจแต่คิดไปคิดมาผมก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าคุณนายแกหมายถึงอะไร ก็ถ้าไอ้ต๊าฟเป็นเกย์พ่อก็จะได้มีอีหนู แล้วคนที่แม่จะจับให้คู่ไอ้ต๊าฟก็คือไอ้การ์ด แค่คิดก็สยองแล้ว

“ผมงงครับคุณแม่”ไอ้การ์ดทำท่าไม่ค่อยเข้าใจพร้อมกับครุ่นคิด อีกคนที่เหมือนจะคิดออกแล้วก็คือไอ้ต๊าฟนั่นเอง

“งั้นนี่เลยลูกการ์ดทานปลานะจะได้ฉลาด เอาไปเยอะๆ เลย แล้วค่อยๆ คิดว่าคุณแม่หมายความว่าไง”ไอ้การ์ดรับปลาเต็มจานไปอย่างงงๆ ก่อนจะตักคำแล้วคำเล่าเข้าปาก ไม่นานนักไอ้การ์ดก็มองหน้าไอ้ต๊าฟทำท่าขนลุก

“คุณแม่ครับ ผมถอนตัว”คนอื่นๆที่น่าจะเข้าใจกันหมดแล้วพากันหัวเราะครืน ยกเว้นไอ้เชษฐ์คนเดียวที่ไม่เข้าใจเลยเอาแต่ทำหน้างงๆ

“เห็นไหมทานปลาแล้วฉลาด เอานี่เอาไปอีก”แล้วไอ้การ์ดก็ต้องรับปลาไปอีก พร้อมกับยังมองหน้าไอ้ต๊าฟอย่างแขยง

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
วันที่ 26/4

“นี่การ์ด ไม่ต้องขนาดนั้นเพราะพี่ก็คงไม่เปิดรับสมัครอยู่แล้ว ไม่ต้องถอนตัวให้มันยุ่งยากหรอก”คนอื่นๆ พากันขำๆ กับท่าทีของไอ้การ์ด

“เค้าคุยเรื่องอะไรกันเหรอ”ไอ้เชษฐ์คงทนไม่ไหวเลยต้องมากระซิบถามผม

“อยากมาช้าเองก็ไม่ต้องรู้หรอก”ผมบอกอย่างนึกหมั่นไส้ สงสัยมัวแต่กลับไปง้องอนคืนดีกับแหม๋วมาแน่ๆเลย ว่าแต่แล้วผมจะไปมีสิทธิ์ว่าอะไรมัน

“คบกันมานานหรือยัง”อยู่ๆ พ่อที่เงียบอยู่ตั้งนานก็หันมาพูดขึ้นพร้อมจ้องมองผมกับไอ้เชษฐ์ เห็นเงียบๆ นี่ออกมาแต่ละคำแทบกระอักเลยนะครับคุณพ่อ นี่จะไม่อ้อมค้อมหน่อยเหรอครับ อีกอย่างคำว่าคบกันนี่ ผมกับไอ้เชษฐ์เคยทำแบบนั้นที่ไหนกันเล่า

“คุณพ่อหมายความว่ายังไงเหรอครับ”ไอ้เชษฐ์ดูเหมือนจะไม่เข้าใจที่พ่อผมพูดแต่ก็ดีแล้วเพราะนี่ผมก็รู้ว่าน่าอายเหลือเกินแล้วที่ครอบครัวผมเหมือนพยายามยัดเยียดผมให้ไอ้เชษฐ์ยังไงไม่รู้ แถมไม่รู้ว่าเจ้าตัวเค้าต้องการหรือเปล่า ที่สำคัญถามผมสักคำไหมที่ทำๆ พูดๆกันอยู่เนี่ย

“รู้จักกันมานานหรือยัง”

“พ่อ...”ผมลากเสียงเรียกเพราะคิดว่าชักจะไปกันใหญ่แล้ว ไอ้เชษฐ์เองก็ดูไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าพอผมกำลังพูดอะไร

“ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนปีแรก นี่ก็ 3-4 ปีแล้วละครับ”นี่ตกลงพ่อผมจะเก็บข้อมูลไปทำวิจัยหรือไงกันนะ

“3-4 ปีแล้ว แต่ไม่ยักกะเคยเห็นตี๊ฟพามาที่บ้านเลยนี่ ว่าไงตี๊ฟ”อ้าวแล้วไหง๋มาลงที่ผมเล่าอยากซักอะไรก็ซักไปสิ ผมจะไม่คิดคัดค้านในใจอีกแล้ว ตามสบายเลย

“แล้วทำไมต้องพามาด้วยละพ่อ”ผมพยายามเลี่ยงที่จะตอบ ตอนนี้ผมว่าไอ้เชษฐ์เริ่มเข้าใจสถานการณ์บ้างแล้วเพราะเห็นมันยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

“ก็...”

“คุณนี่ชวนคุยอยู่นั่นแหละ ปล่อยให้ลูกๆ เค้าทานฝีมือชั้นให้หนำใจก่อนได้ไหม มาๆ สามสี่จานนั่นส่งมาเดี๋ยวแม่เติมให้”ก็มิวายขายฝีมืออีกแล้วครับคุณนายผม แต่ผมว่าตอนนี้ดูทุกคนคงเริ่มหนังท้องตึงจนจะระเบิดอยู่แล้วมั้งนั่น มองแล้วน่าจะต้องอดทนทานอีกคนละหนึ่งจานก็น่าจะหมดแล้วหวังว่าอย่ามีใครชมรสชาดอาหารอีกนะไม่งั้นมีทำต่อแน่ๆ

“อืมแสดงว่าเอร็ดอร่อยกันแน่ๆ เลยทานจนจะเกลี้ยงแล้ว คุณแม่ว่า คุณแม่ไปทำอะไรมาเพิ่มอีกดี”อ้าวคุณนายยังไม่มีใครชมนะอย่าเพิ่งรีบไปทำเซ่เดี๋ยวก็ได้สำรอกกันพอดีหรอก

“ผมว่าขอเป็นกับแกล้มเล็กน้อยดีกว่านะแม่”ไอ้ต๊าฟเริ่มพูดเข้าหูก็ครั้งนี้แหละครับ

“งั้นเดี๋ยวรอไม่นานคุณแม่จะกลับออกมาพร้อมกับแกล้มรสเลิศนะ แต่ก่อนไปต้องชนแก้วกันหน่อย เอ้า เชียร์ส ไม่หมดแก้วห้ามวางนะ”คนอื่นๆนะ แก้วเบียร์แต่คุณนายแก ดื่มไวน์กันสองคนกับสามีครับ

“คุณแม่น่ารักดีนะ”ตอนนี้จานข้าวเริ่มถูกทยอยจัดเก็บหลงเหลือเพียงแต่แก้วประจำกายของแต่ละคนกับจานกับแกล้มที่ทยอยมาแบบไม่ขาดสาย

“ทำไมอยากมาเป็นลูกชายแม่กูอีกคนหรือไง”อดที่จะประชดไม่ได้ครับ ก็คุณนายผมนี่สิ คำก็ลูกเชษฐ์ สองคำก็ลูกเชษฐ์ จะอะไรขนาดนั้น

“ไม่ได้อยากเป็นลูกชาย อยากเป็นลูกเขยต่างหาก”ไอ้นี่ก็พูดมาได้ แม้จะไม่ดังมากแต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นได้ยินบ้างหรือเปล่า

“บ้า”ผมตอบกลับไปอย่างเหวี่ยงๆ ตอนนี้ทุกคนเริ่มคุยกันออกรสออกชาดมากขึ้นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นเอง แถมด้วยเสียงแหกปากร้องคาราโอเกะของแต่ละคนอีก ไม่ได้กลัวว่าบ้านข้างๆ เค้าจะรำคาญกันเลย

“ดูท่ากูจะได้ back up ดีแล้วละมั้ง เพราะแม่ยายก็เปิดไฟเขียวให้กูเต็มที่แล้วนิ เราเปิดตัวไปเลยดีไหมเนี่ย”ไอ้เชษฐ์ขยับมากระซิบที่ข้างหูผม จะได้ไม่ต้องตะโกนแข่งกับเสียงร้องอันโหยหวนของบรรดาเพื่อนๆ คนอื่นๆ

“ใครบอกมึงกัน ด่านสำคัญมันอยู่ที่กูต่างหาก”ผมตอบแบบไม่ใส่ใจพร้อมกับทำท่าจะลุกหนี

“แล้วเมื่อไหร่มึงจะใจอ่อน”คนพูดดึงแขนผมไว้ไม่ให้หนีไปได้ แม้ผมจะได้ยินมันพูดแบบนี้ และผมก็รู้สึกดี แต่ว่าเรื่องแหม๋วละ จากที่ผมเคยเจอมาอย่างมาบเอง ต่อหน้าผมเค้าก็ดีกับผมทุกอย่าง แต่พอหลับหลัง มันทำให้ผมต้องคิดให้นานๆ ว่าไอ้เชษฐ์จะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า หรือผมจะคงความสัมพันธ์กับมันไว้แค่เพื่อนอย่างเดิม

“อาจจะไม่มีวันนั้นก็ได้ กูบอกมึงแล้วนิว่าอยากให้เราเป็นเหมือนเดิม”ผมหยุดพูดแค่นั้นเพราะคุณนายผมเรียกเราทั้งสองผ่านไมโครโฟน เสียดังเลย เราทั้งสองเลยต้องลุกไปสบทบกับคนอื่นๆ

“เดี๋ยวคุณแม่กับคุณพ่อจะขอตัวไปนอนก่อนแล้ว ส่วนหนุ่มๆ ก็สนุกสนานกันต่อได้ มีเพียงข้อแม้เดียวว่า ถ้าเครื่องดื่มไม่หมด ปาร์ตี้ห้ามเลิก ถ้าพรุ่งนี้เช้าคุณแม่ตื่นมาพบว่ามีของเหลือ คุณแม่จะวีนให้บ้านแตกเลย”ว่าแล้วไหมละคุณนายผม พวกเพื่อนๆ ผมมองหน้ากันอย่างปลาบปลื้ม เอาเถอะตูจะคอยดู ว่าพวกเมิงจะดื่มหมดไหม

“พวกผมจะรับผิดชอบไม่ให้เหลือแม้แต่หยดเดียวเลยครับ”ไอ้การ์ดเสนอตัวเป็นหน่วยกล้าตายแล้วครับงานนี้

“ได้ยินแบบนี้คุณแม่ก็ดีใจแล้ว อีกอย่างอันนี้ขอส่วนตัวกับลูกเชษฐ์นิดนึงแล้วกัน คนอื่นๆ ก็รับฟังไว้ก็ได้คุณแม่ไม่ว่าอะไร”จะอะไรอีกละครับคุณนายผม ไอ้เชษฐ์หันมามองผมพร้อมอมยิ้มก่อนจะส่งยิ้มหวานให้คุณนายผม

“เมื่อไหร่ลูกเชษฐ์จะยกขันหมากมาขอลูกชายแม่ละหือ”เหมือนผมถูกสาปกลายเป็นหินในเสี้ยววินาที คุณนายครับเล่นกันแบบนี้เลยเหรอ กะจะมัดมือชกเลยใช่ไหมครับ

“ขอให้เรียนจบก่อนได้ไหมครับ พอจบแล้วอาจจะขอหมั้นไว้ก่อน พอทำงานทำการมั่นคงแล้วค่อยจัดการให้เป็นเรื่องเป็นราว”ไอ้นี่ก็รับมุกดีเหลือเกิน แต่งานนี้เสียงเฮดังลั่นจากทุกคนเลยครับ ไอ้ผมละอยากจะแทรกแผ่นดินหนีจริงๆ เลย

“จะยกลูกให้คนอื่นนี่ถามลูกมันดูหรือยังละ ว่ามันยินยอมพร้อมใจหรือเปล่า”สวรรค์ทรงโปรด ใช่แล้วครับคุณพ่อ ผมรักพ่ออีกแล้วว

“คุณไม่ต้องมาขัดชั้น ไปนอนได้แล้ว ลูกๆ ดื่มต่อให้สนุกนะจ๊ะ ส่วนลูกเชษฐ์ก็รีบๆ ยกขันหมากมานะ คุณแม่ไปแล้ว”แล้วคุณนายก็ลากสามีเข้าบ้านไปอย่างทุลักทุเล

“มีความสุขจังเลย”ผมหันควับมองมือที่มาโอบไหล่ผมไว้ก่อนจะหันมองหน้าเจ้าของมือ และพยายามขยับถอยห่างออก แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะมือนั้นเลื่อนต่ำลงมาเป็นโอบเอวผมไว้ไม่ให้ขยับถอยห่างออกได้

“นี่คู่นั้นนะอย่าหวานให้มันมากนัก หมั่นไส้โว๊ย”เสียงไอ้ต๊าฟ หันมาว่าผมกับไอ้เชษฐ์พร้อมด้วยเสียงโห่จากเพื่อนๆ

“กูไปนอนแล้วนะ พวกมึงรับผิดชอบกันให้หมดแล้วกัน ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน”ผมพูดพร้อมส่งสายตาขวางๆ ให้ทุกคน แถมขู่พวกมันหน่อยๆ ว่าต้องดื่มให้หมดแต่จริงๆ มันก็เหลือไม่มากล้วแหละ ยังไงก็คงหมดอยู่ดี

“เดี๋ยวสิรอกันก่อน”ไอ้เชษฐ์ดึงผมไว้อีกแล้ว

“กูง่วงแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก”ผมหันไปบอกไอ้เชษฐ์ซึ่งทำหน้างงๆ ว่าทำไมต้องตื่นแต่เช้า

“เออใช่พี่ว่าเรารีบจัดการให้หมดดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ากันอีก”ไอ้พี่ต๊าฟที่ได้ยินผมพูดก็คงระลึกขึ้นได้เช่นกัน ว่าพรุ่งนี้มีเรื่องให้พวกเราต้องรับมือกันอีก

“ทำไมพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”ทั้งไอ้เชษฐ์ไอ้การ์ดและที่เหลือต่างถามเป็นเสียงเดียวกัน

“พรุ่งนี้ก็รู้เองแหละ”ผมตอบทิ้งเป็นปริศนาให้พวกมันสงสัยเล่นๆ แม้พวกมันจะยังไม่รู้เหตุผลแต่ภายในพริบตาก็พากันจัดการเบียร์จนเกลี้ยง อะไรจะเชื่อคนง่ายปานนั้นเพื่อนๆ ผม แล้วทุกคนก็พากันจรลีจะไปนอนโดยที่ไม่ต้องจัดการเคลียร์ข้าวของที่กองอยู่ เพราะไอ้ต๊าฟบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยมาจัดการก็ได้ ให้รีบไปนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลุกไม่ไหว เพราะนี่ก็ปาเข้าไปจะตีสามอยู่แล้ว

“ตี๊ฟรอก่อน กูไปเอาของที่รถก่อน”นี่ผมก็เกือบลืมไปแล้วนะว่าไอ้เชษฐ์มันยังไม่ได้เอาสัมภาระ ไปเก็บ แล้วผมก็ยังไม่ได้จัดว่าให้มันนอนห้องไหนด้วยนี่หว่า

“ต๊าฟ มึงเอาไอ้นี่ไปนอนห้องมึงด้วยแล้วกัน ห้องอื่นนอนกันห้องละสองคนหมดแล้ว”สมองผมสั่งการอย่างรวดเร็ว

“มึงตามพี่กูไปแล้วกัน”ผมหันหลังเดินเข้าบ้านทันที

“ได้ไง แล้วใครนอนห้องมึง”ไอ้เชษฐ์เอ่ยถามเสียงเข้ม อย่าบอกนะว่ามันจะมาทำเป็นหึงผมเหมือนตอนที่ผมกอดคอกับไอ้การ์ดอีก

“กูคือผู้เคราะห์ร้าย”ไอ้การ์ดตอบเสียงเนือยๆ

“ไม่ได้โว๊ย”ไอ้เชษฐ์ทำท่าจะไม่ยอม ผมเองก็กำลังจะเถียงว่าไม่ต้องมาเรื่องมาก เพราะไอ้การ์ดก็เอาของไปเก็บห้องผมเรียบร้อยแล้ว

“ไอ้ตี๊ฟไม่ต้องพูด ตอนนี้ดึกแล้วเพื่อความรวดเร็วกูจัดให้นะ มึงมานอนห้องกู จะได้ไม่มีข้อกังขาอีก ส่วนเชษฐ์ การ์ดนอนห้องมึงโอเคไหม ใครมีปัญหาอีกรึเปล่า”ไอ้เชษฐ์ยังทำท่าจะไม่พอใจอยู่เหมือนเดิม แต่คงไม่กล้าเถียงไอ้ต๊าฟละมั้งเป็นอันตกลงตามนั้นครับ

“กูขอแปรงฟันก่อนนะ”ผมบอกไอ้ต๊าฟเมื่อมาถึงห้องนอนมัน แต่ไอ้ต๊าฟโบกมือให้ตามสบายประมาณว่ามันไม่คิดจะแปรง ผมจะทำอะไรก็ทำไปเลย ส่วนมันจะนอน ผมจึงเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เพื่อที่จะได้นอนหลับอย่างสบาย ไม่นานผมก็เสร็จภารกิจออกมาจากห้องน้ำ เห็นไอ้ต๊าฟคลุมโปงไปเรียบร้อย กะว่าจะถามหานาฬิกาปลุกสักหน่อย

ผมสอดส่ายสายตาหาเองเลยแล้วกัน พอเจอแล้วผมก็ต้องสายหน้าอย่างปลงๆ นี่ตีสามกว่าแล้ว ผมหมุนนาฬิกาปลุกที่เวลา 5.45 น.ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกฝั่งของเตียงและดึงผ้าห่มจากไอ้ต๊าฟมาครึ่งนึง

“อะไรของมึงไอ้ต๊าฟ”พอผมหลับตาหลงไอ้พี่ชายตัวดี ดันหันมาดึงผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอดซะงั้น ละเมอหรือเปล่าเนี่ย

“พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไม่ใช่เหรอ รีบนอนเหอะ”เสียงที่มากระซิบข้างหูผมทำให้ผมรู้ว่างานนี้ผมโดนจัดฉากอีกแล้วใช่ไหม



หายไปหลายวัน เลยมาต่อให้ยาวหน่อยเนอะ

ไปเที่ยวปีใหม่กันมาเป็นไงกันบ้างน้อ o13 o13

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ vivisama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังค่ะ พ่อตาแม่ยายและพี่ชายเข้าข้างลูกเขยเต็มทีเลย

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
มาแล้วๆ มาอย่างยาวสะใจ

บ้านติ๊ฟนี่อบอุ่นมากๆ ชอบพ่อกับแม่ แถมแม่ยังพยายามส่งเสริมการ์ดกับพี่ชายอีก ปลื้มมากค่ะ

เปิดตัวไปเลยก็ดีนะ เสียแต่ที่เชษฏ์ยังไม่เคลียร์เรื่องแฟนเก่ากับความรู้สึกที่มีให้กับติ๊ฟเท่านั้นเอง

สวัสดีปีใหม่ด้วยค่ะ  ไม่ได้ไปไหนเพราะว่าป่วยแต่ตามอ่านนิยายเล้าเป็ดก็ช่วยได้เยอะ  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-01-2015 00:24:40 โดย Kano Jou »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ยาวสะใจจจจจจ o13
บ้านนี้อวยลูกเขยสุดชีวิตอะ :hao7:
รีบอธิบายเรื่องชะนีซะนะคะะะะ
เดี๋ยวงอนยิ่งกว่านี้แล้วจะง้อยาก
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
นี่จะจับคู่ต๊าฟการ์ดจริงๆป่ะเนี่ย  :laugh5:

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
อามาลงแบบสะใจกันไปเลย  ชอบคุณแม่ของตี๊ฟน่ารัก

ออฟไลน์ eveniing

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
 :impress2:  :hao5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
แม่ยายนี่ต้อนรับขับสู่ลูกเขยดีจริงๆ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
มาแล้วหรอ กรี๊ดดดดดด
ครอบครัวนี้น่ารักสุดๆๆๆเปิดทางด้วย อิอิ
พรุ่งนี้เช้าจะมีอะไร รอๆๆๆๆ
ชอบจังพี่ชายกอดน้องชาย ดูอบอุ่นดีจัง
สวัสดีปีใหม่จร้า

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
คุนน้องติ๊ฟโดนลุมละ

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
วันที่ 27/1

“กุ๊กกู๊ กุ๊กกู๊ๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงอะไรว่ะ ผมตั้งคำถามขึ้นทันที ทั้งที่ตายังไม่ได้ลืม สมองผมเริ่มประมวลผลอย่างยากลำบาก อาการปวดศีรษะอยู่พอควรทำให้ผมคิดช้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด ผมเริ่มจำได้ลางๆ ว่ากลับมาบ้าน แล้วก็มีการดื่มนิดหน่อย แล้วก็นอน งั้นนี่ก็ต้องเป็น

“เฮ้ย”ผมลืมตาขึ้นและเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ปรากฏว่าขยับตัวไม่ขึ้นเพราะเอวผม หรือจะว่าทั้งตัวถูกรั้งไว้ก็ได้ สองมือของใครบางคนโอบเอวผมไว้ แถมมีสองขาที่เกี่ยวผมไว้อีก ผมนึกได้ทันทีว่าไอ้เสียงประหลาดๆ นั่นมันคือเสียงนาฬิกาปลุกของไอ้ต๊าฟ ซึ่งน่าจะไปเปลี่ยนตัวกับไอ้คนที่นอนกอดผมไว้นี่ ตอนที่ผมล้างหน้าแปรงฟันก่อนนอน ยังดีที่แค่มานอนด้วยกันเฉยๆ เพราะถ้ามันคิดจะมาทำอะไรอย่างอื่นด้วยผมคงไม่ยอม

มัวคิดไปก็เท่านั้น ตอนนี้ผมต้องรีบลุก เพราะถ้าจำไม่ผิดผมตั้งปลุกไว้ที่ ตี 5.45 แสดงว่าเหลืออีกแค่ 15 นาทีก่อนที่คุณนายผมจะมาไล่ปลุกทุกคน อย่าเพิ่งถามนะครับว่าคุณนายผมทำแบบนั้นทำไม ผมพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหลุดจากการเกาะกุมของไอ้เชษฐ์แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล แถมไอ้นาฬิกาปลุกบ้านั่นก็ยังดังต่อไป แล้วไอ้คนที่นอนกอดผมนี่มันไม่รู้สึกตัวบ้างหรือไงนะ

“จะรีบลุกไปไหน”คงเพราะการดิ้นของผมทำให้ไอ้เชษฐ์เริ่มรู้สึกตัว แต่กลับยิ่งกอดผมแน่นกว่าเดิม

“กูจะไปล้างหน้าแปรงฟัน มึงเองก็ลุกได้แล้ว เร็ว”อีกฝ่ายไม่ตอบแต่กลับยิ่งดึงผมเข้าหาอ้อมกอด อากาศภายในห้องตอนนี้เย็นจนเกือบจะเป็นหนาว เพราะเครื่องปรับอากาศที่ตั้งไว้ตั้งแต่ก่อนนอน คงลดลงเองตามปกติ ทำให้การนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มน่าทำกว่าการลุกออกจากเตียงเป็นไหนๆ

“ทำไมต้องรีบตื่นแต่เช้าขนาดนี้ มันมีอะไรเหรอ ว่าจะถามตั้งแต่ก่อนนอนแล้วเห็นพูดเหมือนเป็นเรื่องสำคัญนักหนา”แม้คนถามจะยังมองไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องรีบตื่น แต่เมื่อเห็นผมทำท่าจริงจัง ไอ้เชษฐ์ก็งัวเงียลุกนั่งสะบัดหัวเล้กน้อยและยอมปล่อยให้ผมลุกไปล้างหน้าล้างตาแต่โดยดี

“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ”ผมทิ้งท้ายก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป

“รอด้วยดิ”แล้วจู่ๆ อีกคนก็รีบตามเข้ามาเบียดผมในห้องน้ำ ผมใช้สายตามองอย่างไม่เข้าใจว่าจะตามผมเข้ามาทำไม

“ก็เห็นว่ารีบ เข้าพร้อมกันแบบนี้จะได้เร็วขึ้นไง”คนพูดไม่ได้สนใจสายตาขวางๆ ของผมแต่กลับหยิบแปรงสีฟันขึ้นมาเตรียมแปรงฟัน ผมอดแปลกใจไม่ได้ว่ามันไปเตรียมแปรงสีฟันมาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็ช่างเถอะคิดไปก็เท่านั้น เพราะคิดว่าพี่ชายตัวดีของผมคงร่วมมือกับพวกเพื่อนๆ ของผมมาแล้วแหละ

“อยากตื่นมาพร้อมกันแบบนี้ทุกวันจัง”เสียงคนที่ยืนข้างๆ ผมแปรงฟันไปพร้อมกับพูดและมองมาสบตาผมผ่านกระจกเงาที่อยู่ตรงหน้าของเราทั้งคู่ แววตาของไอ้เชษฐ์มันเหมือนแฝงไว้ด้วยเรื่องราวมากมายที่อยากจะส่งผ่านมายังผม แต่ผมคงไม่เข้าใจ หรือไม่บางทีผมอาจจะตีความผิดไปแล้วก็ได้

“เร็วเข้าเถอะ พล่ามอยู่นั่นแหละ”เมื่ออีกฝ่ายจ้องผมไม่วางตาเลยกลายเป็นผมเองที่ต้องหลบสายตา และแกล้งดุอีกฝ่ายเพื่อกลบเกลื่อน เพราะผมดันรู้สึกหวั่นไหวไปกับสายตาคู่นั้นขึ้นมา

“อ้าวมึงก็ลองคิดดูสิว่าถ้าเราได้ตื่นมา ทำอะไรแบบนี้ร่วมกันทุกวัน ในแต่ละวันมันจะมีความหมายที่ไม่ใช่แค่ให้ผ่านไปวันๆ อีกต่อไป”เพราะไม่ค่อยจะเข้าใจในสิ่งที่มันพูดและขี้เกียจจะทำความเข้าใจกับคำพูดของมันทำให้ผม รีบบ้วนปาก แล้วล้างหน้าล้างตา เดินออกจากห้องน้ำ แล้วก็จัดเสื้อผ้าที่ใส่ให้เรียบร้อย

“ต๊าฟ ลูกตื่นหรือยัง”เสียงคุณนายผมมาเคาะประตูเรียก ผมหยิบนาฬิกาขึ้นดู เร็วกว่าปกตินี่นา สงสัยเพราะวันนี้คนเยอะเลยเผื่อเวลาสำหรับปลุกไว้นิดหน่อยละมั้ง

“ไอ้ต๊าฟไปนอนห้องผมครับแม่”ผมตอบกลับไปเพื่อให้คุณนายท่านทราบว่าห้องนี้ตื่นเรียบร้อยไม่ต้องมาสำแดงอิทธิฤทธิ์ในการปลุก

“ต๊าฟไปนอนห้องตี๊ฟ อ้าวแล้วทำไมตี๊ฟมานอนห้องนี้ล่ะลูก”แล้วไหมล่ะ ผมก็ลืมนึกไปเลยแล้วจะให้ตอบว่ายังไง

“อืม ช่างเหอะ ตื่นแล้วก็ดีเดี๋ยวแม่ไปปลุกคนอื่นๆ ก่อน”ยังไม่ทันที่ผมจะนึกถึงเหตุผลออก คุณนายเค้าก็ไม่ต้องการคำตอบจากผมแล้ว จะเรียกโชคดีหรือเปล่าเนี่ย

“ตกลงว่าเราต้องตื่นไปทำอะไรกันแต่เช้ากันแน่เนี่ย”ไอ้เชษฐ์เริ่มมีความสงสัยเพิ่มยิ่งขึ้น จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากปิดบัง เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องเป็นความลับ แต่อยากแกล้งให้มันรู้สึกว่าเรื่องนี้ลึกลับสักหน่อยแล้วกัน
 
ไม่นานนักผมกับไอ้เชษฐ์ก็ลงมาด้านล่าง ซึ่งพ่อผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รออยู่แล้ว แต่คนอื่นๆ ยังไม่เห็นวี่แวว สงสัยคุณนายผมคงต้องใช้ความพยายามมากหน่อยกว่าจะขุดพวกเพื่อนๆ ผมให้ออกจากเตียงนอนยามเช้าได้

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณพ่อ”ไอ้เชษฐ์เอ่ยทักทาย พ่อผม แต่พ่อผมก็ทำเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อยเหมือนไม่ได้ใส่ใจนัก จนไอ้เชษฐ์เองคงรู้สึกเก้อๆ เสียละมั้ง

ผมมองดูอุปกรณ์สำหรับทุกคนที่จะใช้ในการทำกิจกรรมเช้านี้ ซึ่งวางอยู่เต็มโต๊ะ และไอ้เชษฐ์ก็คงจะรู้แล้วว่าที่คุณนายผมปลุกให้ลุกมาแต่เช้านี่ก็เพราะจะให้ทุกคนมาตักบาตรร่วมกันนั่นเอง

“เดี๋ยวผมเอาของออกไปรอหน้าบ้านนะพ่อ”ผมหันไปบอก ก่อนจะให้ไอ้เชษฐ์ช่วยกันขนทุกอย่างที่คุณนายผมจัดเตรียมไว้ออกไปเตรียมพร้อมรอ พระมาบิณฑบาต บริเวณหน้าบ้าน

“นี่คุณแม่เค้ากะจะให้เราสองคนต้องเป็นเนื้อคู่กันทุกชาติไปเลยใช่ไหม”ระหว่างที่จัดของอยู่ไอ้เชษฐ์ก็พูดบ้าบออะไรออกมาอีก ผมขี้เกียจต่อปากต่อคำเลยทำเพียงส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ

“อ้าวมึงไม่เคยได้ยินเหรอ ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน เกิดชาติหน้าฉันท์ใดจะได้เจอกันอีกไง”ไปสรรหาคำพูดอะไรแบบนี้มาจากไหนกันนะไอ้บ้านี่

“แม่กูเค้าไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก เพราะปกติถ้ากูกลับบ้านเค้าก็จะปลุกมาตักบาตรทุกเช้าอยู่แล้ว เค้าเห็นว่ากูไม่ค่อยได้ทำบุญเท่าไหร่ พอกลับบ้านเลยให้ลุกมาตักบาตรกับเค้าทุกวัน ส่วนนี่ที่พวกมึงมาแม่เค้าก็รู้อยู่แล้วว่าคนบาป อย่างพวกมึงมันไม่ค่อยได้ทำบุญกันหรอก เลยต้องลากมาตักบาตรด้วยกันนี่แหละ ไม่ได้กะจะให้เกิดมาพบกันทุกชาติไปอะไรอย่างที่มึงว่า”ผมอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจเจตนาแม่ผมเสียใหม่

“ว่าแต่ตักบาตรเสร็จแล้วกลับไปนอนต่อได้หรือเปล่า”พอเห็นผมพูดเสียยาวเลยหาวแล้วมาถามเรื่องกลับไปนอนเฉยเลย ไอ้นี่นิ

“ยังไม่ได้”คิดเหรอครับว่าคุณนายผมจะแค่ปลุกมาตักบาตรเฉยๆ

“อ้าวยังต้องทำอะไรต่ออีก หรือต้องไปถวายสังฆทาน ที่วัดต่ออีก”ไอ้นี่ก็เว่อร์ไปไหม

“เอ้าเร็วลูกๆ ตามคุณแม่มา”ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบคำถามไอ้เชษฐ์คุณนายผมก็ตามตัวทุกคนให้ออกมาได้จนครบ แต่ดูสภาพแล้วเหมือนซากศพเดินได้เสียมากกว่า เพราะแต่ละคนเหมือนไม่ได้เอาร่างกายมา แต่ส่งวิญญาน มาแทน ขนาดไอ้ต๊าฟเองที่น่าจะชินแล้วกับเรื่องนี้ ยังดูไม่สดชื่นเท่าไหร่ แต่ไอ้คนที่ออกมาพร้อมผม พอเห็นพ่อกับแม่ผมออกมาก็รีบทำหน้าตาสดชื่นทันทีเชียวทั้งที่เมื่อกี้ยังหาว หวอดๆ อยู่เลย แหลได้อีกนะมึง

“กว่าคุณแม่จะปลุกทุกคนมาได้ นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว มาๆ ลูกเชษฐ์มายืนใกล้ๆ คุณแม่นี่ ตี๊ฟด้วยลูก ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันเกิดชาติหน้าจะได้เป็นคู่ผัวตัวเมียกันอีก”คุณนายครับผมเพิ่งจะอธิบายไอ้เชษฐ์ไปหยกๆ ว่าคุณนายไม่ได้มีเจตนานี้เลยที่ปลุกมาตักบาตรวันนี้ แต่นี่คุณนายทำเอาหน้าผมแหลกละเอียดไปแล้วนะครับ ส่วนไอ้บ้าเชษฐ์นี่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะมึง

“เห็นไหมบอกแล้วก็ไม่เชื่อ”มันยังมีหน้ามากระซิบผมอีกนะครับ ไม่ได้อายพระอายเจ้าที่กำลังจะมาถึงเลย แต่ไอ้ครั้นผมจะแสดงอาการไม่พอใจอะไรมากก็ไม่ได้เพราะต้องสำรวมหน่อย เราใช้เวลาไม่นานก็ปฏิบัติภารกิจที่คุณนายผมมอบหมายให้ได้สำเร็จ

“เสร็จแล้วพวกเราขอกลับไปนอนต่อนะคร๊าบบ”เหล่าวิญญานทั้งห้า ที่โดนกระชากวิญญานมารีบยกมือไหว้ลาพ่อกับแม่ผม เพราะคิดว่าจะสามารถกลับขึ้นไปนอนได้อีกหลังจากตักบาตรเสร็จ

“ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”คุณนายผมพูดเสียงดุจนเพื่อนๆ ผมต้องหันไปมองเป็นตาเดียวกัน

“ภารกิจยังไม่เสร็จสมบูรณ์นะเหล่าทหารทั้งหลาย”ไอ้ต๊าฟ เอื้อมมือไปตบไหล่พวกเพื่อนๆ ผมเบาเป็นการปลอบใจว่าให้อดทนอีกนิด

“รอคุณแม่ที่โต๊ะอาหารนะจ๊ะ”พวกเพื่อนๆ ผมคงจะเข็ดกับการมาบ้านผมไปอีกพักใหญ่แน่ๆ งานนี้ เพราะพวกมันคงไม่ได้คิดว่าจะต้องมาแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าทำอะไรแบบนี้

โจ๊กใส่ใข่พร้อมเสิร์ฟสำหรับทุกคนถูกวางเรียงรายบนโต๊ะอาหาร ซึ่งทุกคนจะต้องรับผิดชอบให้หมดชามของใครของมันก่อนจะสามารถแยกย้ายกลับไปนอนต่อได้ ใช่แล้วละครับ คุณนายผมเค้าเป็นห่วงสุขภาพว่าถ้าหากนอนยาวไป กว่าจะตื่นก็คงเกือบเที่ยงหรืออาจะเลยเที่ยงเสียด้วยซ้ำในบางที จะทำให้เราพลาดมื้อเช้าไป เพราะฉะนั้นคุณนายก็จะบังคับให้ทานก่อนแล้วค่อยกลับไปนอนต่อ แต่ไอ้การให้คนที่ยังไม่ค่อยจะสร่างดีเท่าไหร่มากล้ำกลืนฝืนทนกินนี่มันก็เป็นการยากลำบากอยู่เหมือนกันนะครับ

“ใครทานไม่หมดคุณแม่ไม่ปล่อยกลับไปนอนแน่ๆ”คำพูดที่พูดทีเล่นทีจริงแต่ เชื่อได้เลยว่าคุณนายท่านทำตามคำพูดแน่นอน ทำให้ทุกคนต้องเริ่มลงมือรับผิดชอบในส่วนของแต่ละคน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด