45 วันพนัน(ไม่)รัก.........วันแห่งความสุข(จบแล้วย้ายได้เลย)[18-05-2016]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 45 วันพนัน(ไม่)รัก.........วันแห่งความสุข(จบแล้วย้ายได้เลย)[18-05-2016]  (อ่าน 116703 ครั้ง)

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
อยากรู้อ่ะว่าจริงๆแล้วเชษฐ์อ่ะคิดยังไงเพราะเหมือนมันคลุมเคลือไม่ชัดเจนในความคิดนะเราว่า

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ต้องรักกันมากกว่าเดิมสิคะ  เพราะว่าเพิ่งผ่านอะไรมาด้วยกัน

ดีแล้วที่ไปแจ้งความนะคะ แจ้งเป็นพยายามฆ่าได้เลยนะเนี่ย  คนเลวๆแบบนั้นต้องเอาให้เข็ดหลาบ ไม่งั้นก็ไปทำกับคนอิ่นต่อ

คิดว่าเชษฏ์น่าจะได้เกริ่นๆกับที่บ้านไว้มั่งหรือเปล่าเอ่ย?

พี่มาศ - ม.ม้าอีกแล้วนะคะ มาบ, มันส์, มาศ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
ตกลงเชษฐ์รักติ๊ฟป่ะ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ดีแล้วๆ แจ้งความไว้เลยค่ะ
เผื่อมันแค้นยกพวกมารุม
เปิดใจให้เชษฐ์หน่อยนะติ๊ฟ หวังว่านี่คงไม่ใช่เกมส์
บอกตามตรง เราก็แอบระแวงเหมือนติ๊ฟอะ :katai1:
รอตอนต่อไปปปป

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
สะใจจมตีนเชรษฐ์ไปเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ
ติ๊ฟเริ่มเปิดใจแล้วน่ะเออ เชรษฐ์ล่ะทางบ้านยังไงๆๆ
รักกันแล้วซิ หรือเปล่า งงเย้ย ฮ่าๆๆๆๆ
ลุ้นต่อๆๆๆๆ


ออฟไลน์ Zarch krub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มีหลายคำถามที่เชษยังไม่เคลียร์นะ

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ทำกับคนที่เรารักขนาดนี้ไม่กระทืบให้ตายก็บุญแล้วได้พวกโรคจิตรกโลก :katai1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
วันที่ 30

ผมรู้สึกได้ถึงอาการปวดบริเวณหน้าและปาก รู้สึกด้วยว่าตอนนี้หน้าผมอาจจะบวมอยู่หน่อยๆ ก็เป็นได้ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ อย่างยากลำบาก ใช่แล้วตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันปวดระบมไปหมด นี่คงเป็นผลมาจากเมื่อวานที่โดนพวกนั้นทำร้ายมาอย่างแน่นอน แบบนี้นี่เองที่เค้าว่าตอนแรกมันจะไม่เจ็บพอวันต่อมามันจะเจ็บหรือปวดสุดๆ

แล้วแบบนี้คนที่นอนอยู่ข้างๆ ผมละมันจะปวดแผลหรือเปล่า ผมค่อยๆ หันหน้ามองอีกคนซึ่งยังคงหลับอยู่ ผมค่อยๆลุกจากเตียงอย่างค่อนข้างจะติดขัดเล็กน้อย

“จะรีบลุกไปไหน...อย่าบอกนะว่าคิดจะไปเรียน”น้ำเสียงของอีกคนที่ยังไม่ลืมตาตื่นเสียด้วยซ้ำ

“ไม่ไปหรอก”สภาพอย่างที่เป็นอยู่ใครจะอยากไปเรียนกันเล่า ขนาดสภาพปกติผมเองก็ไม่ค่อยจะตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่อยู่แล้ว อีกอย่างขืนไปเรียนในสารรูปแบบนี้มีหวังได้ฮือฮากันทั้งมหาวิทยาลัยเป็นแน่แท้

“จะไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาหน่อยนะ มึงเองก็เหมือนกันลุกได้แล้ว จะได้ล้างหน้าล้างตา กินข้าว กินยา แล้วก็ล้างแผลด้วย”พอนึกขึ้นได้ผมก็ต้องปลุกอีกคนให้ลุกตามด้วยเพราะจำได้ว่า น้าหมอของไอ้เชษฐ์ เสนอทางเลือกให้หากว่าขี้เกียจไปล้างแผล ก็ให้ทำเอง เพราะน้าหมอบอกว่าไอ้เชษฐ์เองก็อยู่กับน้าหมอมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยเรื่องแค่นี้ ต้องทำเองได้อยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ก็สอนให้เพื่อนอย่างผมทำให้แล้วกัน

เพื่อน ใช่สินะตอนนี้ผมก็ยังเป็นได้แค่ฐานะเพื่อน สำหรับมุมมองของคนภายนอก คนที่มองว่าผมไม่ใช่เพื่อนกับไอ้เชษฐ์ก็คงมีแต่ที่บ้านผมกับพวกเพื่อนๆ เท่านั้นแหละ

“มึงจะเป็นคนทำความสะอาดแผลให้กูใช่ไหม”เจ้าของเสียงพูดยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกแต่อย่างใด ทำเพียงขยับตัวพร้อมกับพูดทั้งที่ตาปิดลงอีก เห็นแล้วก็ไม่รู้จะหมั่นไส้หรือสงสารดี แต่เอาเถอะยกให้มันสักพักก็มันอุตส่าห์ไปช่วยผมไว้นี่นาเนอะ

“งั้นเดี๋ยวกูล้างหน้าล้างตาแล้วจะออกไปซื้อโจ๊กแล้วกัน มึงก็ลุกมาจัดการตัวเองให้เรียบร้อยรอเลย”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบดีไอ้เชษฐ์ก็ดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนเป็นผลทำให้

“โอ๊ย”ใช่แล้วครับสงสัยว่ามันลืมว่าตัวเองมีแผลอยู่ นี่เล่นลุกยังกะตัวเองไม่ได้เป็นอะไร ขนาดของผมแผลเล็กน้อย แผลฟกช้ำยังปวดระบมอยู่อย่างที่ผมเป็นแล้วของมันจะไม่ปวดยิ่งกว่าผมเหรอ

“ระวังหน่อยสิ มึงนิทำยังกะเด็กๆไปได้”ผมตรงเข้าไปหาอีกคนเพื่อสำรวจดูว่ามันทำให้แผลเปิดมากขึ้นหรือเปล่า แต่ก็โชคดีที่ไม่ได้มีอะไรมาก ผ้าที่ปิดแผลก็ดูแห้งดีไม่ได้มีเลือดที่ออกมาใหม่

“ก็กลัวมึงจะทิ้งกูไปนี่นา”คำพูดของมันทำให้ผมต้องหันมองหน้าไอ้คนพูด กลัวถูกทิ้ง ทิ้งไปไหน ทิ้งไปซื้อโจ๊กที่ผมพูดเมื่อสักครู่เนี่ยนะ

“อีกทีนะ กูจะไปซื้อโจ๊กแล้วที่มึงบอกว่ากูจะทิ้งนี่หมายถึง...”ผมทำหน้าเซ็งโลกใส่มัน จริงๆ ก็เซ็งมันนั่นแหละครับ ทำยังกะลูกไม่อยากให้พ่อแม่ไปทำงาน (ที่รู้เพราะเด็กๆ เคยเป็นครับอ้อนแม่ไม่อยากให้แม่ไปทำงาน อิอิ)

“ไม่เห็นต้องไปซื้อก็ได้ ของในครัวเราก็มีไงเดี๋ยวกูทำเองก็ได้ไม่ยากหรอก”นั่นปะไร แล้วใครจะยอมให้มันทำกันละตัวเองก็ยังถือว่าป่วยอยู่จะมาทำอะไรแบบนั้นได้ยังไงกัน ผมส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธที่จะให้มันได้ทำตามที่พูด แต่ได้เจ้าของความคิดเหมือนไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่ผมพยายามจะบอกสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ผมดันเข้ามาอยู่ในวงแขนของมันได้ยังไงกันละเนี่ย วงแขนที่ล้อมผมไว้อย่างหลวมๆ พร้อมกับคางของเจ้าของวงแขนที่มาวางอยู่ตรงไหล่ผม แถมด้วยการพ่นลมหายใจเล่นรดต้นคอผม ถ้าเป็นตอนปกติที่มันไม่ได้เจ็บอยู่แบบนี้ ผมคงถีบมันตกเตียงไปแล้ว แต่นี่เห็นแก่ที่มันยังเจ็บอยู่หรอกนะ

“ถ้าไม่ให้ทำเองงั้นเราออกไปซื้อโจ๊กด้วยกันก็ได้”อันนี้พอจะน่ายอมรับได้อยู่บ้าง เพราะแม้จะไม่อยากให้มันทำอะไร แต่ผมก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นง่อยที่ออกไปไหนไม่ได้ แค่ออกไปซื้อโจ๊ดด้วยกันคงไม่เป็นไรมากหรอกมั้ง

แต่ตอนนี้ถ้าผมไม่รีบหาทางออกจากอ้อมแขนไอ้เชษฐ์ ผมว่าผมคงได้กลายเป็นโจ๊กให้มันแทนอาหารเช้าแน่ๆ แล้ว ไม่ใช่ว่ามันพยายามทำอะไรมากมายหรอกนะครับ แต่ผมกลัวผมห้ามใจตัวเองไม่ได้เสียมากกว่า ก็ดูมันมาคลอเคลียผมยังกะลูกแมวแบบนี้ จริงๆ มันก็คงหวังผลแหละครับ แต่จากที่เมื่อคืนผมเป็นคนสั่งห้ามว่าเราจะไม่มีอะไรกันจนกว่าแผลมันจะหาย ซึ่งถ้ามันเกิดผิดข้อตกลงผมก็จะไม่นอนห้องเดียวกับมัน แต่ผมว่ามันคงกะจะมาเหนือผมโดยการแกล้งทำให้ผมเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวเอง

“กูไปเข้าห้องน้ำที่ห้องนอนกูนะ”ผมรีบชิ่งออกก่อนที่มันจะเลยเถิดกันไปใหญ่ ซึ่งไอ้ตัวบนเตียงนั่นก็กระฟัดกระเฟียดเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ยังไงผมก็หลุดมาได้แหละน่า

เป็นอันว่าเราทั้งสองต้องไปซื้อโจ๊กกันด้วยสภาพที่แม่ค้าเห็นแล้วคงนึกว่าไอ้สองตัวนี่มันเพิ่งต่อยกันมาแน่ๆ เพราะคนนึงก็ทั้งรอยฟกช้ำ ส่วนอีกคนก็สะบักสะบอมไม่แพ้กัน แต่ช่างเหอะเพราะเดี๋ยวเจ๊แม่ค้าขายโจ๊กแกก็คงลืม แต่ถ้าแกเป็นคนลืมยากผมก็จะไม่ซื้อโจ๊กร้านแกอีกจนกว่าแกจะลืมโน่นแหละ

พอจัดการกับโจ๊กเรียบร้อยก็เข้าสู่กระบวนการเตรียมทำความสะอาดแผลให้ไอ้เชษฐ์มันซึ่งก่อนทำผมก็ต้องเข้าคอร์สเรียนวิธีการปฏิบัติก่อนซึ่งผู้สอนก็ไอ้เชษฐ์เองนั้นแหละ ทั้งที่จริงๆ คล่องขนาดมันทำเองเสียก็สิ้นเรื่อง แต่นี่ก็คะยั้นคะยอผมที่ยังทำเก้ๆ กังๆ อยู่ให้เป็นคนทำให้อยู่นั่นแหละ

“โอ๊ย!!!”

“เจ็บเหรอ”ผมรีบถามอย่างทันควันหลังจากที่เปิดผ้าที่ปิดแผลของไอ้เชษฐ์ออกเพราะว่าจะทำความสะอาดแผล แต่เจ้าตัวกลับร้องยังกะจะโดนเชือดทั้งที่ผมก็ว่าผมไม่ได้ทำอะไรรุนแรงนี่นา

“เจ็บตรงนี้”คนพูดทำหน้าเจ้าเล่ห์พร้อมกับเอามือผมไปจับที่หน้าอกข้างซ้ายมัน นี่จะมาไม้ไหนอีกละ

“สำออย”ผมว่ามันไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสนใจกับแผลเหมือนเดิม

“ก็หัวใจกูมันเต้นแรงเกินไปมันก็เจ็บดิ มึงดูดิมันเต้นแรงจนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว มันจะเก็บไว้กับตัวไม่อยู่นะเนี่ย ไม่รู้จะมีใครเก็บไว้ให้หรือเปล่า”แม้จะฟังดูเสี่ยวไม่ใช่น้อย แต่ผมก็อดที่จะแอบยิ้มกับคำพูดนั้นไม่ได้ ไอ้บ้าเอ้ย อย่ามาทำเป็นพูดเล่นแถวนี้นะ เกิดผมเอาจริงขึ้นมาละก็....

“เฉยๆ ได้ไหม”ก่อนที่จะได้ทันทำอะไรต่อ ไอ้นี่ก็ดูจะวุ่นวายมือไม้ไม่อยู่สุขเสียเหลือเกิน ไม่รู้ว่านี่กว่าจะครบกำหนดไปตัดไหมเย็บ ผมต้องสู้รบปรบมือกับไอ้เชษฐ์ในระหว่างที่ทำความสะอาดแผลให้มันเนี่ยเหนื่อยขนาดไหน เหนื่อยที่ไม่ใช่เปลืองแรงนะครับ แต่เหนื่อยใจกับมันมากกว่า

“มึงว่ามันจะเป็นแผลเป็นไหมว่ะ”ทั้งที่เมื่อสักครู่ผมบอกให้มันอยู่เฉยๆ แต่ตอนนี้มันก็เหมือนจะอยากมาแย่งผมทำความสะอาดแผลเสียแล้ว จริงๆที่ผมทำมันก็เป็นคนสอนซึ่งดูมันก็คล่องกว่าผมตั้งเยอะ แต่มันไม่ยอมทำเอง

“ถ้าเป็นแผลเป็นแล้วมึงจะกลัวอะไร ยังไงมันก็อยู่ใต้เสื้อผ้าอยู่แล้วหรือมึงจะไปเปิดโชว์ใคร”แผลเป็นตรงที่แบบนี้ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรเลย เพราะมันไม่ได้เป็นจุดเด่นที่จะเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าคงไม่มีใครเห็นถ้าไม่ถอดเสื้อ

“ไม่เอาไปโชว์ใครหรอกเพราะนี่ถ้ามันจะเป็นแผลเป็นจริงๆ ก็จะเป็นแผลเป็นสำหรับมึงคนเดียว”ผมไม่รู้มันจะหมายความว่ายังไงแต่ผมฟังแล้วมันเหมือนตอกย้ำว่าแผลนี่ต้นเหตุมันมาจากผมเสียมากกว่านะเนี่ย

“กูว่ามึงทำเองเลยดีไหม จะได้เสร็จเร็วๆ”เมื่อได้รับการรบกวนหนักเข้าผมเลยกะจะพาลไม่ทำต่อให้เสร็จเอาเสียดื้อๆ

“ได้กูทำเองก็ได้”แม้คำพูดจะออกมาแบบนั้น แต่น้ำเสียงที่ผมจับใจความได้คาดว่ามันคงไม่ชอบมาพากลสักเท่าไหร่หรอก ฟังแล้วมันแปร่งๆ อยู่เพราะตอนแรกที่มันสอนผม แล้วผมบอกว่าให้มันทำเองน่าจะง่ายกว่าแต่มันก็จะให้ผมทำให้ได้

“แต่ถ้ากูทำเองมึงต้องมีข้อแลกเปลี่ยนให้กู ตกลงไหม”ว่าแล้วไหมละ

“งั้นกูทำให้ก็ได้”ผมแทบไม่ต้องคิดเลยครับ ไม่ต้องรอฟังข้อตกลงของมันหรอกเพราะคาดการณ์จากสีหน้าและแววตาแล้ว ข้อแลกเปลี่ยนน่าจะมีอยู่แค่เรื่องเดียว ซึ่งผมก็คงเดาไม่ผิดหรอกน่า

“ไม่สนใจอยากรู้ข้อเสนอก่อนเหรอ”รู้สึกไอ้เชษฐ์จะยังไม่ละความพยายาม แต่ผมไม่หลงกลมันง่ายๆ หรอกน่า

“อยู่เฉยๆ ไปเลยเดี๋ยวก็เรียบร้อยแล้วเนี่ย...เออน้าหมอนัดไปตัดไหมวันไหนนะ”ผมก็จำไม่ค่อยได้เพราะน้าหมอของไอ้เชษฐ์ก็ไม่ได้แจ้งอะไรให้ผมทราบ น้าหมอเค้าก็บอกแค่หลานชายเค้าเท่านั้นเอง

“ก็น่าจะประมาณอีกสิบวันอยากไปวันไหนก็ไปได้หมดแระ หรือไม่เดี๋ยวน้าชาก็โทรมาตามเองแหละ”เออเนอะมีน้าเป็นหมอก็ดีแบบนี้นี่เองไม่ต้องกังวลเรื่องวันที่หมอนัด เพราะจริงๆ หมอคงมาดูให้ได้ถึงบ้านอยู่แล้ว

“เออนี่มึงบอกว่าเราจะไม่มีอะไรกันจนกว่าแผลกูจะหายใช่ไหม”น่านๆ ไอ้นี่การตัดไหมก็ไม่ได้หมายความว่าแผลหายดีหายสนิทแล้วนะเฟ้ย

“ใช่...ทำไม”ผมต้องตอบแบบไว้เชิงนิดนึงต้องรอฟังก่อนว่ามันจะเอาไม้ไหนมาเล่นอีก

“ก็มึงว่าเราจะนอนห้องเดียวกันถ้าเราไม่มีอะไรกันในระหว่างที่แผลกูยังไม่หาย...งั้นถ้ากูไม่นอนห้องเดียวกับมึงก็...”น้ำเสียง มือไม้กริยาอาการมาหมด จัดเต็มครับ ไม่มีสงวนท่าทีแม้แต่น้อย

“ยังไงเราก็ยังอยู่ในคอนโดเดียวกัน”แม้จะเป็นการแถแต่ผมก็จะเอาสีข้างเข้าสู้เต็มที่ ดูสิมันจะแก้เกมนี้กับผมได้ยังไง

“โหไรอ่ะ...มึงนิไม่เห็นใจกันบ้างเลย จริงๆมึงต้องให้รางวัลกูบ้างนะ”ดูๆ ครับตอนนี้ทำแกล้งงอนยังกะสาวน้อยวัยแรกแย้ม เอากับมันสิครับ ผมไม่ตอบโต้แบบตีเนียนนิ่งน่าจะดีที่สุด ปล่อยให้มันบ้าไปคนเดียวเหอะ

“หอมแก้มกูหน่อย นะ นะๆๆ”อ้าวมีงี้ด้วย ไม่พูดเปล่านะครับมีการทำแก้มป่องยื่นหน้ามาให้ผมด้วย ไอ้ผมก็ด้วยอารมณ์เขินๆ นิดหน่อยบวกกับไม่รู้จะทำไงอีกนิดๆ เลยหอมแก้มมันไปอย่างเสียไม่ได้ แต่ไอ้เจ้าของแก้มนี่สิยิ้มจนแทบปากจะฉีกถึงหู แหมทำยังกะตัวเองน่าหอมนักงั้นแหละ

“แบบนี้กูคงจะยกขันหมากไปขอมึงได้ไม่ยากแล้วใช่ไหม แถมพ่อตาแม่ยายก็ออกจะไฟเขียว”ไอ้เชษฐ์พูดพร้อมกับดึงผมเข้าไปทำแบบเดียวกับที่ผมเพิ่งทำเมื่อสักครู่เพียงแต่เปลี่ยนตำแหน่งกัน แต่สำหรับผมกลับมีสิ่งหนี่งผุดขึ้นมาให้หัว เมื่อกี้ไอ้เชษฐ์พูดถึงพ่อแม่ผม

ใช่แล้ว พ่อ แม่ มันละไม่เห็นมันจะพูดถึงบ้าง ผมรู้สึกว่าจะได้ยินจากน้าหมอของมันว่ามันอยู่กับน้าหมอมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วแบบนี้พ่อแม่ของมันไปอยู่ไหนกันละ ผมก็ยังไม่รู้เรื่องครอบครัวของมันอยู่ดี นี่ถ้ามันไม่โดนมีดแบบนี้ผมจะได้รู้หรือเปล่าว่ามันมีน้าเป็นหมอ หรือที่จริงแล้วมันไม่ต้องการให้ผมรับรู้เรื่องราวชีวิตทางฝั่งครอบครับของมันเลย

“นี่เชษฐ์มึงอยู่กับน้าชามาตั้งแต่เด็กเลยเหรอ”ผมตัดสินใจถามออกไป ซึ่งคนถูกถามก็ชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรมากไปกว่านั้น

“ก็ช่าย...ประมาณนั้นแหละมั้ง อืมวันนี้ไหนๆ เราก็ว่างแล้วเอา DVD มาดูกันดีกว่า”แล้วก็เหมือนมันพยายามจะเปลี่ยนเรื่องไปเป็นอย่างอื่นเสียอย่างนั้น แต่ผมก็คงไม่เซ้าซี้ถามต่อหรอกครับ ในเมื่อเหมือนเจ้าตัวเค้าไม่อยากพูด ไม่อยากให้เรารับรู้ เราก็ไม่ควรที่จะไปละลาบละล้วงอีก

จริงๆแล้วผมไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวมันเลยนะเนี่ย เมื่อก่อนเป็นเพื่อนกันก็เจอกันรู้จักกันแค่เป็นเพื่อนไม่ได้รู้จักทางครอบครัวว่าเป็นยังไง ตอนนี้ผมยอมรับว่าก็มีความอยากรู้บ้างว่าครอบครัวมันเป็นยังไง และเค้าจะมีความเห็นอย่างไรกับการที่ลูกชายเค้ามามีความสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน แต่ถ้าไอ้เชษฐ์มันไม่อยากให้ผมรู้ ก็เป็นไปได้ว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้ต้องการที่จะคบกับผมแบบยืนยาว



สุขสันต์วันเด็กกันทุกคนนะครับ

แม้น่าจะเลยวัยกันแล้ว หุหุ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ปากบอกชอบแต่ก็ไม่ชัดเจนนะเชษฐ์นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆๆๆ แต่เกิดต่อมอยากรู้ครอบครัวเชรษฐ์อย่างแรง ลุ้นต่อๆๆๆๆ

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เชษฐ์เน่าได้อีก..... :o10:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เชษฐ์เลี่ยงอีกแล้ว :m16: :m16:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อ้าว เมียคิดมากละนะพี่เชษฐ์
มีอะไร พูดให้เคลียร์เลยนะ :เฮ้อ:
เหลืออีก 15 วันเองน้าาาาาาาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2015 21:11:13 โดย Min*Jee »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ตีฟคิดแค่ปัจจุบันพอนะคะขุ่นลูก.เครนะ. :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตี้ฟเริ่มใจอ่อนแล้ว :katai2-1:

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
วันที่  31

ผมรู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆ ที่กำลังเอ่อล้นในดวงตาของผม แล้วมันก็ค่อยๆ ไหลรินออกมา ผมไม่ได้พยายามจะสกัดกั้นมันไว้แม้แต่น้อย ทำเพียงปล่อยให้มันไหลออกมาอย่างอิสระ ไม่มีอาการสะอื้น ไม่มีเสียงประกอบ มีเพียงหยดน้ำใสๆ เท่านั้นที่ออกมาจากตา

“เฮ้ย....มึงเป็นไรตี๊ฟ ร้องไห้ทำไม”คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมหันมาถามผมด้วยท่าทีตกใจเป็นอย่างมาก สองมือของเค้าปาดเช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าของผม

“กูไม่เป็นไร”ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเห็นเพื่อยืนยันว่าผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ แต่ดูอีกฝ่ายยังมีสีหน้ากังวลอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว อาจเพราะเค้าไม่เคยเห็นผมเป็นแบบนี้ก็เป็นได้ วันนี้ผมกับไอ้เชษฐ์ก็ยังไม่ได้ไปเรียนอีกเช่นเคย ซึ่งอาจจะลากยาวทั้งสัปดาห์นี้ก็เป็นไปได้ ซึ่งก็โชคดีที่การเรียนของพวกผมไม่ค่อยมีการเช็คชื่อที่เคร่งครัดเท่าใดนัก เพราะถือว่าเราต้องมีความรับผิดชอบในตัวเอง ถ้าจะไม่เข้าเรียนก็ต้องขวนขวายหรือตามคนที่เข้าเรียนให้ทัน

เมื่อไม่ได้ไปเรียนก็ไม่มีอะไรทำ นอกจากทำการรื้อกรุบรรดา VCD DVD ต่างๆ ออกมานั่งดู และตอนนี้ผมกับไอ้เชษฐ์ก็กำลังดูหนังอยู่เรื่องนึง หนังเรื่องนี้ผมเคยดูมาแล้วหลายรอบ เพราะแผ่นที่เปิดอยู่ก็เป็นแผ่นของผมเอง หนังไม่ได้ซึ้งจนน้ำตาท่วมอย่างที่ผมกำลังเป็นหรอก เพราะจริงๆ หนังเรื่องนี้เมื่อดูจบมันจะให้ความรู้สึก หนักๆ อึ้งๆ จุก เหมือนมันตื้ออยู่ข้างในไปหมด แต่รอบนี้ที่ผมมีอาการอย่างที่เป็นอาจเป็นเพราะว่า การดูในครั้งนี้มันมากระตุ้นความรู้สึกบางอย่างของผมนั่นเอง

หนังที่เราสองคนกำลังดูอยู่ตอนนี้คือเรื่อง “My Own Private Idaho” นำแสดงโดย River Phoenix และ Keanu Reeves เรื่องราวความสัมพันธ์ของชายหนุ่มสองคน ที่มาจากพื้นฐานทางครอบครัวที่ต่างกัน และต่างคนต่างมีสิ่งที่ขาด และเมื่อต้องมาเดินทางไปด้วยกันฝ่ายหนึ่งคิดว่าอีกฝ่ายคือส่วนที่เติมเต็ม แต่อีกฝ่ายคิดเช่นไรนั่นมันยากที่จะคาดเดา

“อินกับหนังขนาดนั้นเลยเหรอ”ไอ้เชษฐ์พูดยิ้มๆ อย่างล้อเลียนผม แต่ผมก็ไม่ได้อะไรกับมันหรอกครับ คงเพราะปกติเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ก็มีแต่พากันไปดูหนังผีบ้าง สยองขวัญบ้างไม่ก็พวกหนังแอ๊คชั่นหนังตลกใครที่ไม่เคยเห็นผมดูหนังแนวนี้ก็ต้องแปลกใจเป็นธรรมดา

“ก็แค่ดูแล้วกลับมานึกย้อนถึงตัวกูเองแค่นั้นแหละ ว่าคนเรามันก็ต้องพบเจอกับความผิดหวังกันทุกคน กูเองก็เคยพบเจอกับความผิดหวังมาเยอะและก็คิดว่ายังจะต้องเจอกับความผิดหวังอะไรอีกมาก”ผมพูดเสียงราบเรียบ แต่จะค่อนไปในทางหม่นๆ เสียมากกว่า เพราะรู้สึกเริ่มไม่มั่นใจในอะไรอีกหลายอย่าง การคาดหวังในใครสักคน เราก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับกับความผิดหวังอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ผมได้ตัดสินใจที่จะเสี่ยงอีกสักครั้งก็แล้วกัน แม้จะไม่มั่นใจเลยก็ตาม

“ชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้พบเจอแต่ความผิดหวังไปเสียหมด นี่นา อย่าคิดมากเลย อันนี้ก็แค่หนัง”มันก็จริงว่านี่เป็นแค่ภาพยนตร์เพียงเรื่องนึงเท่านั้น แต่ชีวิตจริงบางทีมันอาจจะยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้ใครมันจะไปรู้

“การที่เราคาดหวังให้คนอื่นเป็นอย่างที่เราหวัง หรือการที่คนอื่นคาดหวังจะให้เราเป็น มันย่อมมีโอกาสที่จะผิดหวังกันได้ในทุกฝ่ายแหละ เพราะเราเป็นอย่างที่คนอื่นเค้าหวังไม่ได้ทั้งหมด และคนอื่นเค้าก็คงเป็นอย่างใจเราต้องการทั้งหมดไม่ได้อยู่ดี”ใช่แล้วตอนนี้ผมกำลังคาดหวังกับไอเชษฐ์เข้าให้เสียแล้ว และผมก็รู้ว่าหวังไว้สูงทีเดียว แล้วแบบนี้ผมจะเป็นเหมือนที่เคยมีคนเค้าพูดกันหรือเปล่านะ ยิ่งเราหวังไว้มาก เกิดไม่เป็นแบบที่เราคาดหวังเราก็จะยิ่งเจ็บหนัก

“อินมากนะเนี่ยเรา”เสียงไอ้เชษฐ์ยังคงพูดเหมือนเป็นการที่ไม่ได้จริงจังมากนัก แน่นอนมันคงไม่รู้ว่าในตอนนี้ผมกำลังคิดอะไรอยู่ และผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าตัวมันคิดยังไงเช่นกัน วันนี้เรายังอยู่ด้วยกัน ติดกับเกมส์ที่บรรดาเพื่อนๆ สร้างขึ้นมา แล้ววันข้างหน้ามันจะเป็นยังไงต่อไป เมื่อครบ 45 วัน ตามที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก มันจะเกิดอะไรขึ้น หรือถ้าเกิดว่าเราเล่นเกมส์นี้ไม่ครบกำหนดล่ะ

“เชษฐ์...”ผมหันหน้าเข้าหาอีกคน พร้อมเรียกชื่อของคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง และเป็นการให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้กำลังจะพูดเรื่องที่มันดูจริงจังหน่อย

“ท่าทางเครียดชียว...มีอะไรหรือเปล่า”ไอ้เชษฐ์ขยับเข้ามาใกล้ผม พร้อมกับมือที่ไล้ไปตามใบหน้าของผม

“ตอนนี้เรายังอยู่ในเกมส์ใช่หรือเปล่า”อีกฝ่ายมีอาการชะงักไปเล็กน้อยในสิ่งที่ได้ยินจากผม แม้ว่าเกมส์ที่เราเล่นมันยังเดินมาไม่ถึงครึ่งทางเสียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ผมเริ่มคิดว่าผมตัดสินใจ เล่นเกมส์นี้ลงไปได้ยังไงกัน แต่มันก็เลยเถิดมาไกลเกินกว่าจะย้อนกลับได้แล้วละตอนนี้ มีแต่จะทำยังไงต่อจากนี้ไปมากกว่า

“ถ้านับวันนี้ก็ วันที่ 31 แล้ว ทำไมเหรอ...”ไอ้เชษฐ์เชิงตอบและตั้งคำถามกลับมาที่ผมว่าผมต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

“จำได้ใช่ไหมว่าข้อตกลงของเกมส์นี้ มันคืออะไร”ที่ผมต้องถามแบบนี้ เพราะตอนนี้เหมือนทั้งผมและไอ้เชษฐ์จะทำตัวสวนทางกับสิ่งที่ตั้งปณิธานไว้ในตอนแรก เราเคยคุยเรื่องนี้กันมาบ้างแล้ว ซึ่งไอ้เชษฐ์กลับให้เหตุผลว่าความรู้สึกคนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ และเคยบอกว่าเราสองคนควรยอมแพ้ในเกมส์นี้

“แล้วตอนนี้มึงต้องการให้มันเป็นยังไง”ตอนนี้เหมือนต่างฝ่ายต่างตั้งคำถามเข้าหากันยังไงไม่รู้เนอะ

“มันไม่ใช่กูแค่คนเดียว...ตอนนี้เราทั้งสองคงต้องมาทบทวนกันแล้วว่า เรายังจะเล่นเกมส์นี้ต่อไป หรือจะล้มเลิก”ใช่แล้วสำหรับผม ผมว่าตอนนี้ผมอยากจะจบเกมส์นี้เสียแล้ว

“งั้นเราก็ต้องเปิดใจคุยกันแล้วละตี๊ฟว่าตอนนี้เรารู้สึกต่อกันเช่นไร”เหมือนไอ้เชษฐ์จะอ่านใจผมออกหรือไงไม่รู้ เพราะมันเสนอในสิ่งที่ผมกำลังคิดเลย

“แล้วมึงรู้สึกยังไงกับกู”แม้ว่าผมจะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่บ้าง แต่มันก็ยังอยากได้ยินจากปากของไอ้เชษฐ์อยู่ดี เพื่อความมั่นใจและเป็นการตัดสินใจ สำหรับเกมส์นี้ว่าผมจะยุติมันแล้ว...แต่การจบเกมส์นี้ผมจะเป็นฝ่ายแพ้พนันไอ้การ์ดหรือเปล่า เท่านั้นเอง

“จริงๆ กูยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องบอกต้องอธิบายกับมึง แต่ไม่ว่ายังไงให้มึงจำไว้เลยว่า...”ไอ้เชษฐ์ค้างคำพูดไว้แค่นั้น แต่สองมือของไอ้เชษฐ์ยื่นมาประคองหน้าผมพร้อมกับใบหน้าของมันที่ใกล้เข้ามาหาผม ริมฝีปากของเราสองคนสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ หนักหน่วงขึ้น ผมปล่อยให้อีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นผมอย่างไม่ได้ขัดขืน เนิ่นนานเสียจนจะขาดใจให้ได้

“กูรักมึง”สายตาของเจ้าของคำพูดนั้นเพ่งมองมาที่ผม มันเป็นสายตาที่แน่วแน่ และไม่มีแววของการเสแสร้งแกล้งทำ สายตาที่ดูจริงใจนั่นเล่นเอาผมต้องหลบตาต่ำลงเพราะมันเหมือนเจ้าของสายตาจะแอบแฝงความหื่นกระหายที่อยากจะกลืนกินผมลงไปเสียให้ได้

“งั้นเหรอ”ผมหลุดปากออกเพียงเบาๆ เหมือนไม่ได้ยินดียินร้ายกับคำตอบที่ได้ยิน แต่ความจริงแล้ว ในใจผมตอนนี้มันลิงโลดอย่างบอกไม่ถูก แม้นี่จะเป็นเพียงคำโกหกหลอกลวง ผมก็ยินดีจะเชื่อ อย่างน้อยมันก็ยังให้ผมได้มีความสุขกับความรู้สึกนี้ได้ไปอีกหน่อยแหละน่า

“อะไรอ่ะ...ทำยังกะไม่ใยดีในความรู้สึกที่กูมีให้เลย”ไอ้เชษฐ์มีอาการเหมือนจะโกรธอยู่เล็กน้อยที่เห็นผมทำเหมือนไม่ได้ยินดีกับสิ่งที่มันเพิ่งบอก

“อ้าวแล้วจะให้กูทำยังไง”ไอ้นี่ก็นะ...ไม่เข้าใจเลยหรือไงว่าคนมันเขิน จะให้ดีใจกระโดดโลดเต้นให้ดูเลยไหมว่าดีใจเสียเต็มประตา

“กูรักมึง แล้วมึงรักกูไหมอ่ะ”นั่นสินะผมรักมันไหม หรือว่าแค่หวั่นไหวไปเท่านั้น หรือแค่ชอบยังไม่ได้รัก ความรักมันคืออะไร แต่ถ้าถามความรู้สึกที่ผมมีต่อมันตอนนี้ ผมก็อธิบายออกมาได้ไม่หมดหรอก ว่าแต่ความรู้สึกที่ผมมีให้มันคือความรักหรือเปล่า

“กูรู้แค่ว่า เราควรจะจบเกมส์ที่เรากำลังพนันกับไอ้การ์ดนี่เสียที”ผมหันหน้าสบตากับไอ้เชษฐ์อีกครั้ง ด้วยสายตาที่แน่วแน่ แต่อีกฝ่ายกลับดูไม่ค่อยจะยินดีในสิ่งที่ผมพูดเลย แต่กลับมีสีหน้าไม่พอใจอยู่เสียด้วยซ้ำ

“ทำไม”สั้นๆ และห้วนๆ อย่างพร้อมจะเอาเรื่องผมเต็มที่กับคำที่หลุดออกมาจากปากของอีกฝ่าย

“กูคิดว่ากูแพ้เกมส์นี้แล้ว...มันก็ควรจะจบเกมส์เสียทีถูกไหม”ผมกลั้นใจพูดออกไป หวังว่ามันคงเข้าใจในสิ่งที่ผมบอกนะ

“อะไรนะ...มึงหมายความว่าไง”จากหน้าเป็นตูดเมื่อสักครู่คราวนี้หน้าเหมือนจะเป็นจานไปเลยนะเนี่ย ไอ้นี่มันอารมณ์แปรปรวนจริงๆ นะผมว่า

“ก็หมายความว่าเลิกเกมส์นี้ได้แล้ว เพราะเราแพ้ไอ้การ์ดมันแล้ว”ใช่แล้วก็ในเมื่อไอ้เชษฐ์มันบอกว่ารักผม และผมเองก็คิดว่าผมคงตกหลุมรักมันเข้าให้เสียแล้ว ผมหวังว่าครั้งนี้จะเป็นรักครั้งสุดท้ายของผมนะ ไม่อยากจะผิดหวังอีกแล้ว แม้จะยืนยันไม่ได้ 100% ว่าผมจะไม่ผิดหวังอีก แต่ผมก็ขออยู่กับความหวังนี้อีกแล้วกัน

“มึงพูดให้มันชัดๆ กว่านี้หน่อยสิ”อ้าวนี่ผมยังพูดไม่ชัดตรงไหนอีกเหรอ ผมว่าผมก็พูดอธิบายทุกอย่างแล้วนะ แต่ทำไมไอ้นี่มันยิ้มแบบนี้กันนะ

“ก็บอกไปแล้วไงว่าเราแพ้ไอ้การ์ดมันแล้ว มึงก็จำได้ไม่ใช่เหรอว่าเราพนันกับมันว่ายังไง”ผมยังคงอธิบายในสิ่งที่คิดว่าไอ้เชษฐ์น่าจะรู้อยู่แก่ใจดี

“มันไม่ใช่แบบนั้น...ก็ทีกูยังบอกมึงเลย แล้วทำไมมึงไม่บอกกูบ้างล่ะ”ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันต้องการอะไรจากผม แต่ตอนนี้ผมอยากให้ตัวเองมั่นใจกว่านี้ก่อนค่อยบอกมันน่าจะดีกว่า เอาแบบที่ผมมั่นใจเต็ม 100 ว่าผมรักมันเมื่อไหร่ผมจะบอกให้มันฟังแน่นอน

“ก็บอกไปแล้วไง หมายความอย่างที่กูพูดนั่นแหละ กูว่าตอนนี้เรามาเตรียมรับมือกับไอ้การ์ดดีกว่าว่ามันจะขออะไรเป็นรางวัลกับการที่มันชนะพนันครั้งนี้”ผมพยายามบ่ายเบี่ยง แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังเกิดอาการประท้วงผมเล็กๆ เข้าให้แล้ว เพราะมันทำเหมือนไม่สนใจในสิ่งที่ผมพูด ไม่มองผม

“ทำเป็นเด็กๆ ไปได้ โกรธเหรอ”ผมขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายที่พยายามถอยออกห่างผม พร้อมกับเอื้อมมือไปจับมืออีกฝ่ายไว้ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้หันมามองผม

“ไม่ได้โกรธ...แค่งอน”แนะ มีแบบนี้ด้วยผมแทบจะหลุดขำกับอาการของมันนะเนี่ย

“งั้นไม่ง้อนะ”ปากก็พูดไปแต่ไอ้ที่ผมทำอยู่เนี่ย คือการง้อมันชัดๆ เลยนะนั่น

“ถ้าไม่ง้อ...หายเองก็ได้”อ้าวมันงอนแล้วหายง่ายขนาดนั้นเลย ไอ้นี่ก็แปลกเหลือเกิน

“ดีมาก”และยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบดีนัก ตัวผมก็ถูกดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของไอ้เชษฐ์เสียแล้ว สายตากรุ้มกริ่มที่มันมองผม ทำให้อดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ เลยเอานิ้วสะกิดแผลมันเบา

“โอ๊ย...แกล้งกันเหรอ”แทนที่มันจะปล่อยผมแต่ผมกลับถูกกอดแน่นขึ้น เราสองคนเงียบกันไปสักพักผมกำลังคิดทบทวนอีกนิดหน่อยกับสิ่งที่ผมตัดสินใจลงไป แม้ว่าเกมส์นี้ผมจะแพ้ แต่ไม่ได้เสียใจเลยสักนิด และแม้ว่าเกมส์จะยุติลงผมก็จะยังอยู่ที่นี่กับไอ้เชษฐ์เหมือนเดิม

“ถึงเกมส์จบแต่เราก็ยังจะอยู่ด้วยกันต่อไปใช่ไหม”ไอ้เชษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยถามออกมา ผมเพียงพยักหน้าเป็นการตอบรับ

“กูมีความสุขจังเลย”ตอนนี้แก้มผมเป็นเป้าหมายให้ไอ้เชษฐ์จนผมรู้สึกว่าแก้มผมเริ่มจะช้ำเสียแล้ว

“แบบนี้คงต้องขอบคุณไอ้การ์ดที่ช่วยคิดแผนนี้นะเนี่ย”

“แผนเหรอ”ผมสะดุดกับคำพูดของไอ้เชษฐ์เล็กน้อย กับคำว่า “แผน”

“ก็เกมส์นี้ไง กูหมายความว่าต้องขอบคุณไอ้การ์ดที่คิดไอ้เกมส์ที่เรากำลังเล่นอยู่นี่ขึ้นมา”อีกฝ่ายไม่ได้แสดงอะไรที่เป็นพิรุธใดๆ ออกมาว่ามีลับลมคมใน หรือว่าผมคิดมากไปเอง

“นี่ตี๊ฟ...กูมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้บอกมึง”น้ำเสียงแผ่วเบาแต่ก็แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนแสดงให้เห็นว่ามันยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ยังไม่พร้อมจะเล่าให้ผมฟัง และเรื่องครอบครัวของมันเป็นเรื่องแรกที่ผุดเข้ามาในสมองของผม

“ถ้ามันเยอะมากจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก็เอาไว้ก่อนก็ได้นะ”ผมเปิดโอกาสให้มันคิดทบทวนก่อน และเป็นการรอให้มันพร้อมที่จะเล่าให้ผมฟังเองดีกว่าการจะมาซักไซ้ แต่ผมก็หวังว่าครอบครัวของไอ้เชษฐ์คงไม่ทำให้ความรักของผมจบลงเหมือนคราวผมกับมันส์นะ



เปิดใจกันแล้ว

แต่ แต่ แต่ มันยังดูมีลับลมคมในอ่ะเนอะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
จิ้มก่อนเน้อ.เย้เย้. :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
นั่นซิ หรือเชษฐ์กลัวติ๊ฟจะรับไม่ได้
กับปมปัญหาในครอบครัวของตน

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ทำไมมันยังลึกลับซับซ้อนอยู่น่อออออ :hao4:
รอตอนต่อไปน้าาาาาา

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
บอกรักแล้วยังมีอะไรใต้พรมอีกเล่า? :serius2:

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
เปิดใจกันแล้ว

ออฟไลน์ auntreory

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อีก 14 วัน อมความลับ ไว้วันที่ 45 ก็จบเรื่องพอดี หรือยังไง ดูแล้วกเป็นเรื่องที่ไม่น่าพูดยากน่ะ จากที่ผ่านอะไรมา การแก้ปัญหาควรแก้ให้จบในครั้งเดียวหรือเปล่า

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
กำลังมีความสุขอยู่เลย แต่ ประโยคสุดท้ายที่เชรษฐ์พูดมา มันทำให้ค้างงงงงงง จะมีเรื่องอะไรวิ่งเข้ามาไหมเนี่ย ลุ้นต่อๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
จะมาแนวมีคู่หมั้นแล้วแต่ไม่ได้รักรึเปล่านะ  :hao3:

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
วันที่ 32

“อะไรนะ พวกมึงยอมแพ้กูแล้ว...มันหมายความว่ายังไง ยังไง”ไอ้การ์ดพูดด้วยอารมณ์ยียวนกวนประสาทสุดชีวิต นี่ขนาดว่าผมเตรียมใจมาแล้วว่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่ยังอดที่จะเคืองๆ ไอ้เพื่อนตัวดีนี่ไม่ได้

“ก็หมายความอย่างที่กูบอกไป กูแพ้แล้ว”ผมย้ำออกไปอย่างเสียไม่ได้ ตอนนี้เราอยู่ที่คอนโดของผมกับไอ้เชษฐ์โดยที่ตามเพื่อนๆ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เริ่มการเล่นเกมส์นี้ของพวกผม หรือตามที่ไอ้การ์ดมันบอกว่าสักขีพยานผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั่นแหละครับ

“เอะใครกันน้า...ที่เมื่อเดือนที่แล้วยังเถียงกันคอเป็นเอ็นว่าไม่มีทางอย่างนั้น ไม่มีทางอย่างนี้”เสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนๆ สนุกสนานกันใหญ่ รวมถึงไอ้คนข้างๆ ผมที่ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวเอาเสียเลย

“หยุด พอเลยมึง...ตกลงมึงชนะมึงมีสิทธิ์ที่จะขออะไรจากพวกกูได้ทั้งนั้น จะเอาไรว่ามา”หวังว่ามันจะขออะไรที่สมเหตุสมผลไม่เวอร์จนเกินไปนะ แต่ถึงไงผมก็คงต้องยอมรับก็เราเป็นฝ่ายแพ้นี่นา อีกอย่างงานนี้ผมก็ไม่ได้แพ้คนเดียว ยังมีผู้ร่วมชะตากรรมอีก 1 คน ที่ยังคงหน้าระรื่นอยู่ข้างๆ ผม

“งั้นกูขอเป็นรายคนดีกว่า พวกมึงแพ้กันสองคนกูก็ต้องขอได้สองอย่างจริงไหม เริ่มจากใครก่อนดี”อ้าวทำไมมันกลายมาเป็นแบบนี้ละเนี่ย สรุปว่าไอ้การ์ดมันจะต้องการอะไรจากพวกผมกันละเนี่ย


แล้วสิ่งที่ผมได้ยินจากไอ้การ์ดและเพื่อนๆ ทุกคนทำเอาผมมึนงงไปพอสมควร เพราะสิ่งที่มันต้องการจากไอ้เชษฐ์คือการเลี้ยงเบียร์ฟรี 5 ทริป เอาง่ายๆ คือจัดให้พวกมันคนละครั้ง เพราะทั้งทีมมีกันอยู่ 5 คน ตอนแรกผมจะแอบเคืองเล็กน้อยที่พวกมันเอาไอ้เกมบ้าๆ นี่มาเล่นกับความรู้สึกผมเพียงเพราะไอ้เรื่องเหล้าเรื่องเบียร์แบบนี้ แต่สิ่งที่ไอ้การ์ดมันพูดต่อก็ทำให้ผมต้องเปลี่ยนความคิดใหม่

“ส่วนมึงนะตี๊ฟ เราสองคนก็รู้จักกันมานาน กูไม่อยากให้มึงคิดว่ากูเอาเกมบ้าๆ นี่มาเล่นตลกอะไรกับความรู้สึกของเพื่อน กูรู้ว่าตอนนี้มึงอาจจะกำลังคิดแบบนั้นอยู่ แต่ให้มึงรู้ไว้ว่ากูเป็นเพื่อนมึง และหวังดีกับมึงเสมอมา และจะเป็นเพื่อนที่ดีกับมึงตลอดไป ทุกอย่างที่กูทำลงไปอาจจะดู บ้าๆ บอๆ แต่มันก็เป็นในแบบของกู และก็มีแต่ความหวังดีเท่าที่เพื่อนอย่างกูจะมีให้มึงได้”ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาไอ้การ์ดเองเพิ่งจะเคยพูดอะไรแบบนี้กับผมนะเนี่ย จริงๆ ผมก็รู้ว่ามันเป็นเพื่อนที่ดี แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่ามันแค่ห่ามๆ กวนๆ ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกเพื่อนมากมาย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกดีใจนะที่มีมันเป็นเพื่อน

“ซึ้งว่ะ...มึงพูดแบบนี้ก็เป็นด้วย ขอกอดที”ผมแกล้งพูดกระเซ้าเพราะรู้ว่าไอ้การ์ดเองก็เขิน พร้อมกับเดินเข้าไปกอดมันจริงๆ จนไอ้คนขี้หึงข้างๆ ผมต้องดึงตัวผมให้ถอยออก

“กูแค่ขอให้มึงรักไอ้เชษฐ์มันตลอดไปไม่เปลี่ยนใจไปชอบใครอีกแล้วนะ”คำขอของไอ้การ์ดทำเอาผมอึ้งไปเหมือนกัน สิ่งที่มันต้องการจากผมมีเพียงแค่นี้เองเหรอ แค่ขอให้ผมรักไอ้ผู้ชายที่ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่ารักมันอยู่แล้วตลอดไปอย่างนั้นหรือ ซึ่งผมก็หวังอยากให้มันเป็นเช่นนั้น แล้วทำไมมันไม่ขอให้ไอ้เชษฐ์รักผมตลอดไปบ้าง อยากจะถามมันเหลือเกิน

“เท่านี้ใช่ไหม”ผมถามกลับออกไปสั้นๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ สถานการณ์ตอนนี้มันก็แปลกๆ อยู่นะ ที่ต้องมาประกาศให้เพื่อนๆ ทุกคนได้รับรู้ว่าผมกับไอ้เชษฐ์ตกลงปลงใจกันแล้ว ส่วนนึงก็อายอยู่นะที่ตอนแรกเริ่มเดิมที มันไม่ควรจะมาลงเอยแบบนี้ แต่กลับมาเป็นแบบนี้เสียได้

“ทำได้ใช่ไหม”ไอ้เชษฐ์เป็นฝ่ายถามผมถึงการปฏิบัติตามคำขอของไอ้การ์ด ผมเบ้ปากให้มันอย่างหมั่นไส้  ก็จะไม่ให้หมั่นไส้ได้ยังไงกันทีผมต้องรักมันไปตลอด แต่มันไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลย

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน อีกไม่กี่วันอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”ผมบอกออกไปอย่างกวนๆ

“ได้ไงกัน รักแล้วรักเลยนะ ห้ามเปลี่ยนใจด้วย”ไอ้นี่ก็ไม่ได้อายเพื่อนๆ เลย เดี๋ยวก็ได้เก็บไปล้อกันพอดี

“พอเลยๆ ทั้งสองคน เห็นแล้วหมั่นไส้ พวกกูไปดีกว่า ขนาดอยู่กันตั้งหลายคนพวกมึงยังไม่เห็นหัว นี่ถ้าอยู่กันสองคน คงเสร็จไปแล้ว”คำพูดแซวอย่างไม่ได้คิดอะไรของไอ้การ์ดทำเอาพวกเพื่อนๆ เฮตามอย่างสนุกสนาน

“แล้วไม่เห็นมึงขอให้มันรักกูตลอดไปบ้างล่ะ”ผมถามในสิ่งที่ยังสงสัยออกไป พร้อมกับส่งสายตาหมั่นไส้ให้อีกคนที่อยู่ข้างๆ ผม

“ก็กูประเมินแล้วว่ามึงน่าจะเป็นคนที่เปลี่ยนใจง่ายกว่าไอ้เชษฐ์มันเยอะเลยไงเล่า”ฟังคำตอบมันแล้วแทบอยากจะตบกะโหลกมันสักที มันเอาอะไรมาวัดกันว่าผมเป็นคนเปลี่ยนใจง่าย จริงๆ ผมเป็นคนจริงจังนะ ไม่ทิ้งใครก่อนถ้าไม่เหลืออดจริงๆ อิอิ แต่ดูไอ้เชษฐ์จะชอบอกชอบใจกับคำพูดของไอ้การ์ดเหลือเกิน

“มั่นใจได้ยังไงว่าไอ้นี่มันจะไม่เปลี่ยนใจจากกู”คำถามของผมทำเอาคนที่ถูกอ้างถึงในบทสนทนา เอื้อมมือมากุมมือผมไว้ แม้มันไม่ได้พูดอะไรแต่ผมกลับรู้สึกได้ว่ามันกำลังยืนยันกับผม ว่าจากนี้ไปจะเป็นเช่นไร นี่ผมกำลังคาดหวังมากไปหรือเปล่านะ ผมหวังอยากให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้ของผมมันเป็นครั้งสุดท้าย

“ดูจากสถิติการมีแฟนของมึงสองคนตั้งแต่รู้จักมันมาก็พอจะรู้แล้วแหละ ว่าใครเป็นยังไง ไอ้คุณชายตี๊ฟ”แม้จะอยากจะเถียงออกไปว่าผมไม่ใช่คนเปลี่ยนใจอะไรง่ายขนาดนั้น แต่นี่คุณเพื่อนเล่นยกหลักฐานมาดักคอชัดเจนขนาดนี้ผมก็คงปฏิเสธไม่ได้แล้วละ มันก็จริงอย่างที่ไอ้การ์ดมันว่า ตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ก็ใกล้จบเต็มที ผมเองมีแฟนมาแล้วหลายคนเหมือนกัน ในขณะที่ไอ้เชษฐ์เองตั้งแต่ผมรู้จักกับมันมา มันก็เคยคบกับแหม๋ว แค่คนเดียวเท่านั้นเอง

ผมหันหน้าสบตากับไอ้เชษฐ์ อยากรู้เหมือนกันว่ามันมีความคิดยังไงกับการที่ก่อนจะมาเหมือนจะคบกันกับมันตอนนี้ ผมคบกับใครอื่นมาแล้วหลายคน แต่มันก็ไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกมา ซึ่งความจริงมันก็รู้จักผมอยู่แล้วนี่นาเนอะ ความจริงก็คงอย่างที่ไอ้เชษฐ์มันเคยบอกผมว่าระหว่างผมกับมันคงยังมีอะไรที่ต้องคุยกันอีกเยอะ

“งั้นสรุปว่ากูก็ไม่ต้องให้อะไรมึงเลยใช่ไหมการ์ด”ผมต้องถือว่านี่เป็นผลดีกับผมหรือเปล่านะ ที่คุณเพื่อนๆ ที่แสนดี ดันร้องขอให้สิ่งที่ผมไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติมอีกเลย หุหุ

“อย่าดีใจไป อย่าลืมสิว่าที่รักมึงยังต้องเลี้ยงพวกกูอีก มึงจะไม่ช่วยเหลือที่รักมึงบ้างเลยเหรอ”แหมมาพูดที่รักอะไรกัน พวกนี้นิได้ทีนี่เอาใหญ่เลย แต่ผมก็ลอยหน้าลอยตาทำไม่รู้ไม่ชี้

พวกเราคุยกันอย่างสนุกสนาน นี่ละมั้งผลดีของการได้เพื่อนเป็นแฟน คือไม่ต้องให้แฟนมาเสียเวลาปรับเข้ากับเพื่อนเรา เอะแล้วตกลงผมเป็นแฟนกับไอ้เชษฐ์แล้วงั้นเหรอ

พวกเพื่อนอยู่กับพวกผมอีกพักใหญ่ก็แยกย้ายกันกลับ แต่ละคนก็บอกให้พวกผมหายเร็วๆ จะได้ไปเลี้ยงเบียร์พวกมันสักที ตกลงพวกมันหวังดีจริงๆ หรือหวังแดรกฟรีกันแน่นะเนี่ย

“อย่ามัวแต่จู๋จี๋กันละ พักผ่อนเยอะๆ จะได้หายไวๆ”ไม่วายก่อนกลับยังมีการมาแซวอีกครับ สภาพที่พวกมันเห็นผมกับไอ้เชษฐ์เป็นอยู่ขนาดนี้ ยังคิดว่าผมสองคนจะทำอะไรกันอีกเหรอ แต่จะว่าไปไอ้ผมนะไม่เท่าไหร่ แต่อีกคนนี่ชักไม่แน่ใจเหมือนกันแล้วสิ




“เพื่อนๆ ก็กลับไปหมดแล้ว ทีนี้เราทำอะไรดี”ตัวของคนพูดเริ่มเบียดผมเข้ามาเรื่อยๆ จนผมต้องถอยห่างออกจนติดขอบโซฟาแล้ว ทั้งที่เราสองคนเองก็เคยถึงไหนต่อไหนกันมาแล้ว แต่ทำไมตัวผมเองกลับยังเกร็งๆ อยู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะเขินมันเนี่ยสิ ทั้งๆ ที่ผมควรจะเลยจุดนี้มาแล้วนะ

“อืม...”ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยอะไรออกมา ปากผมก็ถูกประกบด้วยปากของอีกคน รสจูบที่ผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด เมื่อเห็นผมไม่ได้ขัดขืนอะไร อีกฝ่ายก็เหมือนได้ใจดันลิ้นเข้ามาให้ปากผม ตามมาด้วยมือที่ไม่อยู่สุข เริ่มสอดเข้าใต้เสื้อ และสัมผัสบริเวณท้องผมไล่ขึ้นไปยังบริเวณหน้าอก

“พ...พอ ก่อน”ผมพยายามหักห้ามอีกฝ่าย และใจตัวเองด้วย ไม่อยากให้มันเลยเถิดไปมากกกว่านี้ เพราะสภาพร่างกายเราทั้งคู่มันยังต้องการพักฟื้นอีกพอสมควร อยากให้หายดีกันก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

“โทษที กูห้ามใจไม่ค่อยได้ว่ะ อยู่ใกล้มึงทีไรใจกูก็พาลแต่จะคิดเรื่องนี้ทุกที”ไอ้หื่นเอ้ย...ผมแอบด่ามันในใจ อะไรในสมองจะคิดแต่เรื่องนี้ท่าเดียวเลยหรือไงเนี่ย

“คิดเรื่องอื่นบ้างก็ได้ ไม่ใช่จ้องแต่เรื่องอย่างว่า”ผมว่าล้อๆ พร้อมผลักอีกคนให้ถอยห่างออก พร้อมกับจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง

“ก็มึงอยากน่ากินทำไมเล่า ดูสิ ตรงนี้ก็น่ากิน ตรงนี้ก็ด้วย ตรงนี้อีก ตรงนี้ ตรงนี้ อยากจะกินมึงไปทั้งตัวเลย ฮ่าๆๆ” ไอ้เชษฐ์พูดพร้อมกับชี้ตามส่วนต่างๆ บนตัวผม ทำยังกะผมเป็นของกินจริงๆ ไปได้ นี่ตูก็คนนะเฟ้ย

“ถามไรหน่อยสิ”อยู่ๆ ผมก็นึกถึงเรื่องเกี่ยวกับตัวผมเองขึ้นมาอีก ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก ก็เรื่องที่ผมเคยมีแฟนมาแล้วนับไม่ถ้วนนี่แหละ เอาเท่าที่ตั้งแต่รู้จักกับไอ้เชษฐ์ก็เท่าไหร่แล้ว ไหนจะก่อนหน้ารู้จักกันอีกล่ะ

“ว่ามาเลยคร๊าบบบ...ที่รัก”ดูเอาเถอะครับ น่าหมั่นไส้เสียจริงๆ แต่จะว่าไปไอ้เชษฐ์มันก็ดูน่ารักดีนะเนี่ย มันก็ดีกับผมหมดทุกอย่าง ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยจะทำอะไรให้มันเลย

“มึงรู้สึกยังไงบ้าง ที่กูเคยคบกับใครๆ มาแล้วตั้งหลายคน”ผมถามออกไปอย่างตื่นเต้น แม้จะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่พอสมควรว่า มันคงไม่ใส่ใจอะไรเพราะมันก็เรื่องราวในอดีตทั้งนั้น ตัวมันเองก็รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วใช่ว่าผมจะปิดบังเสียเมื่อไหร่ อีกอย่างผมก็กลับไปแก้ไขไม่ได้

“เอาจริงๆ เลยใช่ไหม”ผมพยักหน้าให้กับคำถามนั้น ส่วนเจ้าของคำถามก็มีทีท่าเคร่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไอ้เชษฐ์นิ่งไปพักนึงเหมือนกำลังใช้ความคิดบางอย่าง ผมก็ได้แต่ลุ้นในใจ ที่ผมต้องถามคำถามนี้เพราะผมจำได้เมื่อตอนเริ่มแรกก่อนที่จะเกิดเกมระหว่างผมสองคนกับไอ้การ์ดขึ้น ไอ้เชษฐ์มันเคยว่าผมในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

“กูว่าจะไปตามเก็บทุกคนที่เคยเป็นแฟนมึง”คำตอบของมันเล่นเอาผมเหวอไปเลยทีเดียว ก่อนคนพูดจะหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจที่เหมือนจะอำผมได้ ผมเลยค้อนควับเข้าให้ พร้อมกับตีหน้าบึ้งใส่

“เว้นมันส์ไว้คนนึงได้ไหม”ผมแกล้งแหย่ ซึ่งเหมือนจะได้ผล เพราะคนฟังออกอาการ ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แหม๋จะอะไรนักหนาเชียว

“ไม่เอาๆ เลิกเล่นแล้ว”แล้วคนที่เริ่มอำก่อนก็เป็นฝ่ายเปลี่ยนประเด็นเสียเอง

“เอาจริงๆ กูก็ไม่คิดอะไรหรอก มันเป็นเรื่องของอดีต ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก กูก็แค่เสียดายนิดหน่อยที่เราน่าจะเป็นแฟนกันเร็วกว่านี้แค่นั้นเอง”แฟนงั้นเหรอ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม

“เราเป็นแฟนกันแล้วเหรอ”ผมถามออกไปอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ในคำพูดของอีกฝ่ายทำเอาอีกฝ่ายทำตาโต เหมือนกำลังโมโหผม

“จริงๆ ก็ไม่ใช่แฟนแล้วม้าง...คนที่มีอะไรกันแล้ว เค้าเรียกว่าอะไรน้า คนนึงเป็นสามี อีกคนก็เป็นภรรยา ถูกไหม”น่านไงล่ะวนมาแนวนี้อีกจนได้ แถมไอ้นี่พอพูดเรื่องนี้ก็โถมเข้ามาทั้งตัวเชียว มือไม้จัดเต็มมาเลยนะ ว่าแต่นี่ผมเป็นผู้ชายแต่ต้องอยู่ในฐานะภรรยาเหรอเนี่ย

“ขอแค่คำว่าแฟนได้ไหม ภรรยาสำหรับกูมันจั๊กกะเดียมว่ะ”ผมทำท่าขนลุก กับคำนั้น ทำเอาอีกคนหัวเราะชอบใจใหญ่

“ทำไม เราเป็นของกันและกันแล้วมันก็ต้องเรียกแบบนั้นสิ...มามะเมียจ๋ามาให้ผัวจูบหน่อย ฮ่าๆๆ”



สวัสดีวันจันทร์นะครับ

วันทำงานวันแรกของสัปดาห์สำหรับหลายๆ คน :katai5:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อิพี่เชษฐ์หื่นนนนนนนนนนนน
เอะอะจับ เอะอะตอด :hao7:
รักันนานๆ มีไรก็รีบเคลียร์กันนะ
รอตอนต่อไปปปปปป

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เชษฏ์เนี่ยทีเล่นทีจริงตลอดเลย  เราอยากมโนนะว่าการ์ดมันรู้มานานแล้วว่าเชษฏ์แอบชอบตี๊ฟก็เลยวางแผนเกมส์นี้ขึ้น ตอนนี้เหลือครอบครัวเชษฏ์แหละ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด