ตอนที่ 21 ไปด้วยกันไหม ชินพัตน์วางสายจากพี่สายก็ขับรถกลับบ้าน เกือบ 4 ทุ่ม เพราะมั่วแต่ไปเสียเวลาที่แคมป์ พอมานั่งนึกว่าไม่ได้เสียลูกค้าไปเพราะความคิดมากของตนเอง แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า คนคนนั้นเอาเบอร์โทรศัพท์ของตนเองมากจากใหน ลองโทรไปเบอร์พี่ชาย สายก็ไม่ว่างเลยลองโทรไปถามต้น สายก็ไม่วางเหมือนกัน ดึกขนาดต้นกล้าคุยกับใครทำไหมยังไม่นอน สิ่งที่อยากรู้แต่ยังไม่ได้คำตอบ มันยังคาใจ
หรือจะโทรไปถามดีไหม ว่าเอาเบอร์มาจากใหน
ไม่ดีกว่า
แต่ก็ยังคงนั่งมองโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
" 5 ทุ่ม กว่าแล้วเหรอเนี้ย" ชินพัตน์มองนาฬิกาที่แขวนอยู่ในห้อง เลยพาร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันเข้าไปอาบน้ำ
Rrrrrrr Rrrrrrr Rrrrrrrr
"ครับ ครับ ใครโทรมาดึกขนาดนี้ เอ๊ะหรือพี่ใหญ่ หรือ ต้นโทรกลับมาหว่า" ชินพัตน์ที่พึ่งอาบน้ำเสร็จได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังมาจากนอกห้องน้ำเลยรีบออกมารับ
"ว่าไง" รับสายโดยที่ไม่มองเบอร์
"คุณถึงบ้านแล้วเหรอ"ชินพัตน์ได้ยินเสียงรีบมองดูเบอร์ทันที
"คุณโทรมาทำไม"
"ก็ผมเป็นห่วงว่าคุณขับรถกลับบ้านอย่างปลอดภัยหรือเปล่า"
"รู้แล้วก็ว่างสายไปสิ นี้มันดึกแล้วนะคุณ"
"ครับ ครับ ฝันดีนะครับ"
"ฮื่ย!!!! เออ ใช่นี้คุณ!!! อย่าพึงว่างสายนะ"
"อยากคุยกับผมต่อเหรอครับ"
"ไม่ใช่!!! คุณเอาเบอร์โทรศัพท์ผมมาจากใหน"
"ผมมีเวทมนต์ คุณไม่รู้เหรอ"
"ไม่ตลก ตอบคำถามมา"
"บอกไปคุณก็ไม่เชื่อผมหรอก"
"ไม่บอกใช่ไหม ได้ งั้นก็ว่างสายไปเลย ไม่ต้องมาคุยกันอีก ฮื่ย!!!!"
"โอเค โอเค ผมบอกแล้ว ๆ ก็ถามจากน้องผู้ชายที่ช่วยคุณขายลูกชิ้นไงครับ"
"ถามจากต้นเหรอ "ชินพัตน์นึกตามเลยเผลอพูดชื่อออกมา
"อ้อ ชื่อน้องต้น เหรอครับ"นนทนัฐถามกลับทันทีนึกว่าคุยกับต้นเอง
"ผมไม่ได้บอกคุณ" ชินพัตน์รีบเบรกคนที่อยู่ปลายสาย
"หึหึ แต่ผมได้ยินนี้ครับ" นนทนัฐอยากแกล้งกวนกลับบาง
"สรุปคุณจะโทรมากวนกันใช่ไหม?" ชินพัตน์เริ่มเสียงแข็ง
"เปล่าๆ คุณอย่าเข้าใจผมผิดแบบนั้นอีกสิครับ ผมแค่อยากโทรมา เพราะเป็นห่วงคุณจริงๆ" นนทนัฐรีบแก้ตัวกลัวคนปลายสายไม่ให้ไปซื้อลูกชิ้นที่ร้านอีก
"โอเค ตอนนี้ผมถึงบ้านแล้วอย่างปลอดภัย วางสายได้หรือยัง" ชินพัตน์ทำน้ำเสียงเรียบตอบกลับไป
"ครับๆ ฝันถึง........"
"นี้คุณ!!! ถ้าจะเล่นมุกเก่าผมไม่อยากฟัง แค่นี้นะ" ชินพัตน์รับรู้ได้ทันทีรีบพูดตัดบทแล้ววางสาย
"ใครจะไปฝันถึงกัน บ้าหรือเปล่า???!!!!" ชินพัตน์พูดใส่หน้าจอโทรศัพท์ที่วางสายไปนานแล้ว แต่ก็ไม่รู้ตัวเองที่หน้าร้อน ใจเต้นแรง สงสัยต้องไปหาหมอให้ตรวจดูสักหน่อยแล้ว สงสัยจะไม่สบาย????
ตลาดนัดวันจันทร์พ่อค้าแม่ค้าเริ่มทยอยเจ้ามาจัดตั้งร้านอาจจะดูบางตาไปบาง เพราะมีแม่ค้าบางส่วนเลือกที่จะไปลงร้านที่งานวัดงานใหญ่ประจำปี ที่มีจัดขึ้น 7 วัน 7 คืน ให้เช่าพื้นที่ขายของ เพราะที่การแสดงจากดารา นักร้องมาแสดง ตลอดคืนทั้ง 7 วัน แม้ค้าพ่อค้าต่างๆหวังว่าจะได้รายได้เยอะมากกว่าการมาขายของตลาดนัด เพียงไม่กี่วัน เพราะคนเดินเที่ยวงานกลางคืนเยอะมากเหมือนทุกๆปี
ต่างจาก ร้านลูกชิ้นปิ้งและร้านผักสดที่ยังคงเลือกที่ตั้งร้านพร้อมกันประจำที่ตลาดนัด นพคุณยังคงมาช่วยชินพัตน์เช่นเดิม และดูเหมือนจะกระตือรื้อล้นจนน่าแปลกใจ ในสายตาน้องชาย เห็นพี่ชายตนเองเร่งให้ไปช่วยยายเก็บผักตั้งแต่เช้า เลยได้ผักเยอะมาก ช่วงพักเที่ยงก็เห็นปรีกตัวไปยืนคุยโทรศัพท์เป็นนาน 2 นาน กว่าจะกลับขึ้นมาทานข้าวแล้วตรงไปยังตลาดนัด ยังไม่วายกระวีกระวาด ช่วยยายจัดร้านอย่างคล่องแคล้ว ยายแถบจะไม่ต้องหยิบจับอะไร นพคุณทำให้เสียทุกอย่าง
"วันนี้พี่ดูอารมณ์ดีจัง มีเรื่องดีๆไม่เห็นเล่าให้ฟังมั้งเลย" ชินพัตน์ที่เห็นพี่ชายเดินเข้ามาช่วยจัดของที่ร้าน ก็เริ่มถามขึ้น
"เปล่านี้ พี่ก็เป็นแบบนี้ตลอด ตลอด "พูดจบก็ผิวปากตามเพลงที่ร้านขาย ซีดีเพลงเปิดเรียกลูกค้า
"เหรอ ผมเห็นพี่อารมณ์แปรป่วนเหมือนสภาพอากาศ หึหึ" แซวไม่ได้จริงจัง
"พูดมากน่า จัดร้านไปลูกค้าเริ่มเดินแล้ว" นพคุณไม่อยากใส่ใจ ผลักหัวไหล่น้องชายตนเองเบาๆ
ลูกชิ้นและผักสดขายดีเช่นเคย หมดก่อนร้านอื่นๆภายในตลาดนัด มีลูกค้าที่เดินเข้ามาซื้อก็ต้องผิดหวังกลับไปก็หลายราย
"อ้าวคุณ ลูกชิ้นหมดแล้วเหรอครับ" ลูกค้าประจำของชินพัตน์มารอบที่ 3 ของวันนี้
"งานการไม่มีทำเหรอครับ " ชินพัตน์ที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าเป็นใครก็พูดขึ้นให้ได้ยินกันแค่ 2 คน
"งานนะมีครับ แต่ใจมันอยากมาแถวนี้ " นนทนัฐพูดล้อเจ้าของร้านลูกชิ้น
"ลูกชิ้นคุณก็ชื้อไปแล้ว ออเดอร์ที่สั่งก็รับไปแล้ว แล้วคุณจะมาทำไมอีก" ชินพันต์ไม่สนใจคำพูดเสี่ยวๆนั้นของคนตรงหน้าแต่ถามหาเหตุผล
"ผมก็เห็นว่าขายหมดแล้วเลยจะมาช่วยเก็บร้านไงครับ"ยิ้มตอบกลับมา
"ผมเก็บเองได้ ขอบคุณ"ชินพัตน์เริ่มไม่อยากใส่ใจหันไปเก็บของต่อ
"เก็บร้านเสร็จแล้วคุณก็กลับเลยเหรอครับ"
"อืม ต้องไปส่งยายที่บ้านก่อน ทำไมเหรอ"
"ไม่ไปเดินเที่ยวงานที่วัดเหรอครับ?"
"....!!!!?????......" ชินพัตน์หยุดมือและหันมาฟังเหมือนไม่เข้าใจคำถาม
"ผมหมายถึง คุณไม่อยากไปเดินดูงาน หรือไปทำบุญที่วัดบางหรือครับ?" นนทนัฐเห็นชินพัตน์ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ
"งานวัดที่หน้าถนนใหญ่เหรอ? อ้อผมรอต้นมาก่อนแล้วว่าค่อยไปเดินเที่ยวพร้อมกันนะครับ"
"ต้น อ้อ น้องคนที่เขาช่วยคุณขายลูกชิ้นใช่มั้ยครับ?"นนทนัฐทำท่านึก
"อืมนั้นแหละ น้องเขาจะกลับมาจากเรียนวันศุกร์ และคงได้ไปจริงๆคืนวันเสาร์นะ" บอกเล่าคนคนตรงหน้าฟังว่ามีแผนการในใจแล้ว
"เหรอครับ" นนทนัฐทำท่าทางคิดตาม
"คุณจะไปด้วยกัน ก็ได้นะ" มองหน้าลูกค้าพูดชวนขึ้นแต่คิดว่าคนตรงหน้าอาจอยากจะไปวันเปิดงานวันแรกก็ได้
"หรือจะไปก่อนก็แล้วแต่คุณ " ชวนไปตามมารยาทอย่างนั้นไม่ได้จริงจังและหันกลับไปสนใจเก็บร้านของตนเองต่อ
"ผมรอได้ วันเสาร์ใช่มั้ยครับ?" นนทนัฐยิ้มกว้างเพราะไม่ได้เดินเที่ยวแบบนี้นานมากแล้ว และที่สำคัญเพื่อนๆรุ่นเดียวกันก็อยู่กรุงเทพทั้งหมด ยิ่งคนตรงหน้าาเอ่ยชวน ทำให้อยากไปเที่ยวมีมากขึ้นเป็นเท่าตัว ถึงแม้จะเป็นงานวัดต่างจังหวัดธรรมดา
"อืม......"ชินพัตน์มองเห็นรอยยิ้มบนหน้าของลูกค้าเจ้าประจำอย่างสับสน ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ?
"ผมช่วยยกไปให้นะ" นนทนัฐยื้อลังใส่ของในมือชินพัตน์และเดินไปที่ลานจอดทันที เพราะยังเอารถเข้ามาในตลาดไม่ได้เพราะร้านค้าและลูกค้ายังมีอยู่
"นี้คุณ คุณรู้เหรอว่ารถจอดตรงใหน" ตะโกนถามไล่หลัง
" ผม จำ รถ คุณ ได้ " หันกลับมาพูดแต่ไม่ได้ออกเสียง ชินพัตน์กลับอ่านปากคนพูดได้อย่างเข้าใจ จำได้เหรอ ทำไม?
นพคุณช่วยยายเก็บร้านเสร็จเร็วแล้วพายายเดินตลาด เพื่อซื้อของใช้เข้าบ้าน อาศาช่วยถือของให้ยายและออกเงินซื้อให้ด้วย ยายเกรงใจ แต่นพคุณก็ไม่อยากให้ยายปฎิเสธและพูดกลับไปว่ารบกวนอาหารเที่ยงมาหลายมื้อแล้ว ซื้อของได้ครบทุกอย่างแล้ว ยายเดินเข้าไปคุยกับเพื่อนแม่ค้าวัยเดียวกัน นพคุณเลยขอแยกตัวเอาของไปเก็บที่รถ ระหว่างเดินเห็นเสื้อผ้าลายน่ารักสดใส เลยนึกถึงต้นกล้าเลยซื้อติดมือมาหลายตัว รวมถึงของตนเองด้วย ใส่ไปเที่ยวงานคู่กันที่งานวัด นพคุณยิ้มชอบใจกับการเตรียมตัวของตนเอง
"เก็บของเสร็จเร็ว หรือว่าพี่เดินตลาดนาน?" เดินกลับมาที่ร้านเห็นข้าวของเก็บเสร็จหมดแล้ว น้องชายยืนรออยู่แล้ว
"อืม เก็บเสร็จเร็วนะ อ้าวแล้วยายล่ะ"ชินพัตน์ละใบหน้าออกจากหน้าจอมือถือขึ้นมาตอบพี่ชาย แล้วมองหายาย
"ยายคุยกับแม่ค้าขายขนมตรงใกล้ลานจอดรถนะ ไปกลับเลยไหม"
"อืม พี่ไปรับยายด้วยนะ เดี่ยวผมแวะเอาลูกชิ้นให้ลุงยามก่อน" ชินพัตน์ยกถุงลูกชิ้นปิ้งที่เตรียมไว้ให้พี่ชายตนเองดู
"ได้ๆ ลุงยามใหนว่ะ?" พี่ชายตอบรับ แต่หันกลับมาถามเมื่อสงสัย
"ก็ตรงแคมป์ก่อสร้าง ตรงหน้าถนนใหญ่แปบเดียวพี่ เดี๋ยวผมมา" ชินพัตน์ผละเดินออกจากตลาดไปตามทางเดินไปยังแคมป์
"คุณ คุณ เดินเร็วจัง ไม่รอผมเลย" นนทนัฐที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อให้ทันคนตรงหน้า
"ผมไม่ได้บอกให้คุณตามมาสักหน่อย" ชินพัตน์ไม่ใส่ใจหันกลับไปมองหน้าจอโทรศัพท์ต่อ
"แต่ผมก็ต้องเดินกลับมาที่นี้อยู้แล้วคุณก็รู้ ใช่มั้ย หืม" นนทนัฐพยายามเดินเข้ามาใกล้เพื่อจะก้มดูว่าชินพัตน์ดูอะไรที่หน้าจอโทรศัพท์ ชินพัตน์รับรู้ถึงเสียงที่ถาม ใกล้จนรู้สึกที่ลมหายใจจึงเงยหน้าขึ้น
"เฮ้ยคุณ!!!! ทำอะไร!!!???" ใช้มือข้างที่ถือถุงลูกชิ้ปิ้งผลักคนตรงหน้าออก
"ก็ผมเห็นคุณเอาแต่มองหน้าจอ ไม่มองทางเลย เลยอยากรู้ว่าคุณดูอะไรอยู่" จริงๆแล้วอยากถามว่าทำไมไม่สนใจคนที่เดินมาด้วยกันต่างหาก
"มันเรื่องของผม เอานี้ไปให้ลุงยามด้วย ผมจะกลับแล้ว" ไม่ตอบคำถามของคนตรงหน้าแต่ยื่นถุงลูกชิ้นปิ้งให้ไปแทน และเดินกลับเข้าไปยังตลาด ไม่สนใจคนที่ยืนมองด้านหลัง
"เดี๋ยวสิคุณ คุณโกรธอะไรผมอีกหรือเปล่า" นนทนัฐรีบเดินมาดึงแขนชินพัตน์ให้หันกลับมาคุยกันก่อน
"อะไรของคุณ โกรธเกิดอะไร ผมจะกลับบ้านแล้ว ผมฝากของนี้ให้ลุงยามด้วย แค่นี้แหละผมรีบ" ชินพัตน์หันมาตามแรงดึง ตอบกลับตนตรงหน้าแบบงง แต่ก็อยากรีบกลับไปทำธุระตนเองจริงๆ
"คุณไม่พอใจอะไรผมหรือเปล่า บอกผมหน่อยเถอะ นะ" ดึงคนตรงหน้าเข้ามาใกล้ " ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผมผิดอีก" มองลึกลงไปในตาของคนตรงหน้า ที่มองกลับมาอย่างไม่เข้าใจ
"ผมไม่ได้ไม่พอใจอะไรจริงๆนะคุณ แต่พอดีผมมีเรื่องสำคัญต้องรีบกลับไปทำจริงๆ และผมก็เลยวานคุณให้เอาลูกชิ้นไปให้ลุงยามแทนไง คุณเป็นอะไรมากป่ะเนี้ย " ชินพัตน์รีบบอกว่าตนเองรีบจริงๆ และไม่เข้าใจคนตรงหน้าที่ทำท่าที่แบบนั้นด้วย
"คุณไม่ได้โกรธผมจริงๆใช่มั้ย" นนทนัฐถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจ
"อืม ผมกลับได้ยัง" ชินพัตน์มองแขนตนเองที่โดนยึดไว้ทั้งสองข้างเหมือนขอให้คนตรงหน้าปล่อย
"งั้นคุณกลับถึงบ้าน แล้วผมโทรหาคุณได้ไหม นะ" นนทนัฐปล่อยแขนแต่จับที่มือของชินพัตน์แล้วบีมมือนั้นเบาๆเป็นเชิงขอ เหมือนจะอยากรู้ธุระนั้นคืออะไรทำให้คนตรงหน้าถึงดูเร่งรีบแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามต่อ
"อืม" ชินพัตน์ตอบกลับ คิดว่าคงโทรมาเพราะเป็นห่วงอย่างเคยมั้ง เอ๊ะ เป็นห่วงเหรอ??? ไม่ใช่มั้ง
"ขอบคุณครับ" นนทนัฐค่อยๆปล่อยมือชินพัตน์อย่างเสียดาย มองตามหลังชินพพัตน์ที่เดินหายเข้าไปในตลาดอย่างรวดเร็ว
"เฮ้อ เป็นอะไรของเขาว่ะ?" ชินพัตน์หันกลับไปมองทางแคมป์อย่างไม่เข้าใจ และเดินกลับมาภายในตลาดเพื่อตรงไปยังลาดจอดรถที่ ให้นพคุณและยายรออยู่
ชินพัตน์กลับมาถึงบ้าน โทรหาผู้เป็นพ่อและแม่ที่ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เพราะคนงานที่โรงงานเกิดอุบัติเหตุ ต้องพากันไปดูแล เรื่องค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ตนเองบอกว่าจะตามไป แต่ผู้เป็นพ่อบอกทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องให้ชินพัตน์มา รอฟังข่าวที่บ้านเพราะดึกมากแล้ว เกินเวลาเยี่ยมแล้ว ทำให้ ชินพัตน์และนพคุณเบาใจ ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน นพคุณก็กลับไปดูที่ร้านของตนเอง
Rrrrrr Rrrrrr Rrrrrrrr
"สวัสดีครับ" ชินพัตน์รับสายอย่างมึนๆงงๆ เพราะเผลอหลับไปตอนใหนก็ไม่รู้ เพราะก่อนหน้านี้นั่งอ่านการ์ตูนรอพ่อกับแม่กลับมาจากโรงพยาบาล อยู่บนเตียงนอน
"คุณนอนแล้วเหรอ"
"อืม อืม" พอรู้ว่าเป็นใครโทรมาก็ปิดเปลือกตาลง แต่หูก็ยังฟังอยู่
"แปลว่าคุณถึงนานแล้วใช่ไหม"
"อืม" ความง่วงมีมากกว่าที่จะพูดตอบได้ยาวกว่านี้
"ชิน ผมดีใจนะ ที่คุณไม่ได้โกรธผม ยังรับโทรศัพท์ผมแบบนี้"
"..............................."
"ชินครับ ชินฟังผมอยู่หรือเปล่า?" เอ๊ะหรือว่าไม่ชอบให้เรียกแบบนี้ นนทนัฐรีบร้อนร้น
"................................"
"คุณ คุณเจ้าของร้าน ฮัลโล ฮัลโล"
".............................."
"คุณ คุณลูกชิ้น คุณ!!!!"
"................................ฟี้ ฟี้ " นนทนัฐพยายามเงียบเสียงรอฟังเสียงตอบรับจากปลายสายแต่กลับได้ยิน เสียงหายใจเข้าออกเบาๆ
"หึ หึ ฮ่าๆๆๆๆ นี้คุณหลับเหรอ คุณลูกชิ้น หึหึ" นนทนัฐอยากเห็นหน้าคนนอนหลับขึ้นมาทันที
"ฝันดีนะครับ คุณลูกชิ้นของผม " นนทนัฐมองโทรศัพท์ตนเองแทนใบหน้าของใครบางคนที่หลับอย่างสบายใจแต่ทำให้หัวใจของใครบางคนฟองโต
ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆ หมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!!

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนิยายของมินมินนะคะ +เป้ดให้ทุกคนค่า

น้ำจิ้มวันนี้อาจจะหวานไปหน่อย แอบเผ็ดเล็กๆนะคะ อิอิ

คิดว่าทุกคนคงจะชอบรสหวานอมเผ็ดนี้นะคะ
